1
การสรา้ งเสรมิ ปญั ญา ผา่ นกระบวนการสอื สารสขุ ภาพ เพอื ปลกู ฝงั พฤตกิ รรมสง่ เสรมิ สขุ ภาพทดี ี ใหน้ กั ศกึ ษาไทย Enhancing Intelligence through the Health Communication Processes to Educate Thai Undergraduate Students for Promoting Good Health Behaviors 2
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการส่อื สารสขุ ภาพ ก เพื่อปลกู ฝงพฤติกรรมสง เสริมสุขภาพท่ีดีใหน ักศึกษาไทย ชือหนังสือ: การสร้างเสริมปัญญาผา่ นกระบวนการสือสารสุขภาพเพอื ปลูกฝังพฤติกรรม ส่งเสริมสุขภาพทีดีใหน้ กั ศึกษาไทย Enhancing Intelligence through the Health Communication Processes to Educate Thai Undergraduate Students for Promoting Good Health Behaviors ผู้นิพนธ์: ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ณฐั นนั ท์ ศิริเจริญ บรรณาธิการ: ผทู้ รงคุณวฒุ ิทีกรุณาตรวจสอบความถูกตอ้ งดา้ นวชิ าการและอกั ขระ รองศาสตราจารย์ ดร.กมลรัฐ อินทรทศั น์ อาจารยป์ ระจาํ สาขาวชิ านิเทศศาสตร์ มสธ. ผอู้ าํ นวยการ ศูนยว์ จิ ยั การจดั การความรู้การสือสารและการพฒั นา มสธ. ผ้สู นับสนุนทางวชิ าการและเผยแพร่: ศูนยว์ จิ ยั การจดั การความรู้การสือสารและการพฒั นา มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช: The Research Center of Communication and Development Knowledge Management (CCDKM) Sukhothai Thammathirat Open University ศูนยว์ จิ ยั เฉพาะทางทีอยภู่ ายใตก้ ารกาํ กบั ดูแลของสถาบนั วจิ ยั และพฒั นา มสธ. ทีอยู่: มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช อาคารสัมมนา 1 ชนั 4 ตาํ บลบางพดู อาํ เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี 11120 โทรศพั ท:์ 02-984-0025 โทรสาร: 02-984-0026 พมิ พ์ครังที 1 : จาํ นวน 100 เล่ม ปี ทีพมิ พ์: พ.ศ. 2562 จํานวนหน้า: 306 หนา้ ISBN: 978-616-478-870-1 (หมายเลขมาตรฐานสากลของหนงั สือ: International Standard Book Number-ISBN) CIP ขอ้ มูลทางบรรณานุกรมของสาํ นกั หอสมดุ แห่งชาติ : National Library of Thailand Cataloging in Publication Data ณฐั นนั ท์ ศิริเจริญ. การสร้างเสริมปัญญาผา่ นกระบวนการสือสารสุขภาพเพอื ปลูกฝังพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทีดีใหน้ กั ศึกษาไทย-- นนทบุรี: ศูนยว์ จิ ยั การ จดั การความรู้การสือสารและการพฒั นา มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช, 2562 1. นกั ศึกษา--การดูแลและสุขวทิ ยา สงวนลขิ สิทธิ: ลิขสิทธิของผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐนนั ท์ ศิริเจริญ ก
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการสื่อสารสขุ ภาพ ข เพื่อปลกู ฝงพฤติกรรมสงเสริมสุขภาพท่ีดใี หน กั ศึกษาไทย การสงวนลขิ สิทธิ: ถือเป็นทรัพยส์ ินทางปัญญาของผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ณฐั นนั ท์ ศิริเจริญ โดยสามารถคดั ลอกและนาํ ไปเผยแพร่ต่อได้ ในกรณีเพอื การศึกษา การคน้ ควา้ การทาํ งานทีเกียวขอ้ งกบั การสือสารสุขภาพหรือเพอื ประโยชน์ต่อสาธารณะ ทงั นีขอใหอ้ า้ งองิ แหล่งทีมาของขอ้ มูลทีนาํ ไปใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามหลกั สากลต่อ เจา้ ของลิขสิทธิหนงั สือเล่มนีดว้ ย จกั ขอบคุณยงิ วิธีเผยแพร่: - เผยแพร่เป็นรูปเล่ม ดว้ ยวธิ ีการพิมพโ์ ดยโรงพิมพ์ และจดั ส่งใหห้ อ้ งสมุดของมหาวทิ ยาลยั ต่างๆ ทงั ของรัฐและเอกชน องคก์ รสือสารมวลชน/หน่วยงาน/สาํ นกั งาน ทีมภี ารกิจเกียวขอ้ งกบั เนือหาในหนงั สือเล่มนี - เผยแพร่โดยสือออนไลน์ ไดแ้ ก่ ResearchGate, Blog, Website และ facebook ของผเู้ ขียน -รายการวทิ ยุ สถานีคลืนความคิด อสมท.FM. 96.5 MHz. ทีผเู้ ขียนจดั รายการอยู่ พมิ พ์ที: ห้างหุน้ ส่วนจาํ กดั โรจนพรินทต์ ิง 25/90 ถ.กาญจนาภิเษก แขวง/เขตคนั นายาว กรุงเทพฯ 10230 ข
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการส่ือสารสขุ ภาพ ค เพ่ือปลกู ฝงพฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพท่ีดีใหนกั ศึกษาไทย ผเู้ ขียนทาํ งานสอนหนงั สือใกลช้ ิดกบั นกั ศึกษาในมหาวทิ ยาลยั ของรัฐและ เอกชน มาตงั แต่ปี พ.ศ.2542 จนถึงปัจจุบนั จึงไดร้ ับรู้และสัมผสั วิถีชีวิตของกลุ่ม นกั ศึกษาทงั ชายและหญิงเป็ นอยา่ งดี รวมทงั ยงั ไดร้ ับทราบปัญหาดา้ นสุขภาพที เกิดขึนจากปัจจยั แวดลอ้ มตา่ งๆ ของกลุ่มนกั ศึกษามาเนินนาน จึงมีความตงั ใจทีจะ เขียนหนังสือเพือเผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆ ทีเกียวข้อง เพือกระตุ้นเตือนและ ปรับเปลียนทศั นคติ พฤติกรรมให้กลุ่มนกั ศึกษาโดยทวั ไปไดต้ ระหนกั และหันมา ใส่ใจในการดูแลป้องกนั สุขภาพของตนเอง เพือสร้างเสริมคุณภาพชีวิตทีดีสาํ หรับ นกั ศึกษาไทย โดยแบ่งออกเป็ น 5 บท ซึงแต่ละบทจะมีประเด็นสําคญั ทีมุ่งเนน้ แตกต่างกนั ออกไป ดงั นี คือ บทที 1 มุ่งเนน้ ใหผ้ อู้ า่ นไดท้ ราบถึงสถานการณ์ปัญหาสุขภาพของ นกั ศึกษาไทย รวมทงั ปัจจยั ทีเป็นสาเหตุสําคญั และส่งผลต่อสุขภาพของนกั ศกึ ษา ไทยและความสาํ คญั ของการปลูกฝังพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทีดีให้นกั ศึกษาไทย ทีตอ้ งวางแผนใหช้ ดั เจน บทที 2 มุ่งเน้นให้ผูอ้ ่านไดท้ ราบถึงปัญหาดา้ นผลกระทบจากการเรียน และดาํ เนินชีวติ ในมหาวทิ ยาลยั ของนกั ศึกษาไทย บทที 3 มุ่งเน้นให้ผูอ้ ่านได้ทราบถึงปัญหาด้านสุขภาพร่างกายและ สุขภาพจิตใจทีสาํ คญั ของนกั ศกึ ษาไทย บทที 4 มุ่งเนน้ ให้ผูอ้ ่านไดท้ ราบถึงปัญหาสุขภาพของนกั ศึกษาไทยจาก สิงแวดลอ้ มรอบตวั บทที 5 มุ่งเนน้ ใหผ้ อู้ า่ นไดท้ ราบถึงขอ้ มูลความคิดเห็นดา้ นสุขภาพ ร่างกาย สุขภาพจติ ใจ การดูแลสุขภาพของนกั ศึกษาและขอ้ เสนอแบบจาํ ลอง โดยเมืออา่ นทงั 5 บทครบถว้ นแลว้ จะทาํ ใหม้ องเห็นความสาํ คญั และ แนวทางสาํ หรับการสร้างเสริมปัญญาผา่ นกระบวนการสือสารสุขภาพเพือปลูกฝัง พฤตกิ รรมส่งเสริมสุขภาพทีดีให้นกั ศึกษาไทยจากทกุ ครอบครัวไดอ้ ยา่ งแน่นอน ณฐั นันท์ ศิริเจริญ 2562 ค
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการสื่อสารสุขภาพ ง เพื่อปลูกฝงพฤติกรรมสง เสริมสุขภาพที่ดีใหนกั ศึกษาไทย ผู้เขียนต้องขอขอบพระคุณคณาจารย์ ผูท้ รงคุณวุฒิ ผู้เชียวชาญจาก หลากหลายสถาบนั ไดแ้ ก่ 1) รองศาสตราจารย์ ดร.กมลรฐั อนิ ทรทศั น์ อาจารยป์ ระจาํ สาขานิเทศศาสตร์ ผูอ้ าํ นวยการศูนยว์ ิจยั การจดั การความรู้การสือสารและการพฒั นา [CCDKM] มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช 2) รองศาสตราจารยป์ ัญญา ดีเจริญโชติ อดีตรองคณบดี คณะมณั ฑนศิลป์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร 3) พ.ต.ท.หญิง ปรียา นาคเพช็ รพูล นักเทคนิคการแพทย์ (สบ.3) งานจุลชีววิทยา กลุ่มงานชีวเคมี โรงพยาบาลตาํ รวจ 4) นางรศั มิมาลย์ เกียวศรีกุล ผจู้ ดั การส่วนพฒั นาหลกั สูตรและฝึ กอบรม MCOT Academy บมจ.อสมท. วิทยากรเรืองการสือสารองคก์ รและการประชาสัมพนั ธ์ นกั จดั รายการวทิ ยแุ ละโปรดิวเซอร์รายการโทรทศั น์ โดยทุกท่านได้ให้ความอนุเคราะห์สําหรับการตรวจสอบความถูกต้อง เหมาะสมทางด้านวิชาการและในทางการนาํ ไปประยุกต์ใชป้ ฏิบัติจริง รวมทงั ความครบถว้ นสอดคลอ้ งในการเขียนหนงั สือเล่มนี พร้อมทงั ให้ขอ้ เสนอแนะและ แนวทางการปรับเปลียนแกไ้ ขจนสําเร็จลุล่วงไปไดต้ ามทีปรากฏออกมาเป็ นเล่ม สมบูรณ์ ผเู้ ขียนตงั เป้าหมายไวว้ า่ หนงั สือเล่มนี จะมีส่วนช่วยใหน้ กั ศึกษาไทย ได้ ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของตนเองอย่างจริงจงั และปรับปรุงเปลียนแปลง พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทีดีใหก้ บั ตนเองได้อยา่ งยงั ยืน อนั จะเป็ นการส่งผลดี ต่อเนืองไปถึงครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติอยา่ งทีผูเ้ ขียนตงั ใจไวท้ ุก ประการ ณฐั นนั ท์ ศิริเจริญ (เมษายน 2562) ง
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสอ่ื สารสขุ ภาพ จ เพื่อปลูกฝงพฤติกรรมสง เสริมสุขภาพที่ดใี หน กั ศึกษาไทย สารบัญ หน้า คาํ นาํ ค กิตตกิ รรมประกาศ สารบญั ง สารบญั ตาราง สารบญั ภาพ จ บทที 1 ช บทที 2 ซ บทที 3 สถานการณ์ปัญหาสุขภาพของนกั ศึกษาไทย 1 บทที 4 1.1 ปัจจยั ทีเป็ นสาเหตสุ าํ คญั และส่งผลตอ่ สุขภาพของ 2 นกั ศึกษาไทย 1.2 เหตุใดการปลกู ฝังพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทีดี 32 ใหน้ กั ศึกษาไทยจึงมีความสาํ คญั ทีตอ้ งวางแผนให้ ชดั เจน ปัญหาด้านผลกระทบจากการเรียนและดาํ เนนิ ชีวติ 45 ในมหาวทิ ยาลยั ของนักศึกษาไทย 2.1 ขอ้ มูลจริงจากนกั ศึกษาเขียนบรรยายดว้ ยตนเอง 46 2.2 สรุปปัญหาทีเกิดขึน 81 ปัญหาด้านสุขภาพร่ างกายและสุขภาพจิตใจที 98 สําคญั ของนักศึกษาไทย 3.1 ปัจจยั เชิงลบดา้ นพฤติกรรมการใชช้ ีวติ 99 3.2 อาการเจ็บป่ วยทางร่างกายส่วนใหญ่ 109 ของนกั ศึกษาไทย 3.3 ปัจจยั เชิงลบทีส่งผลกระทบตอ่ สุขภาพจิตใจ 117 ของนกั ศึกษาไทย 3.4 อาการเจบ็ ป่ วยทางสุขภาพจิตของนกั ศึกษาไทย 123 ปัญหาสุขภาพของนกั ศึกษาไทย 146 จากสิงแวดล้อมรอบตวั จ
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการส่อื สารสขุ ภาพ ฉ เพื่อปลูกฝงพฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดใี หนกั ศึกษาไทย สารบญั หน้า 4.1 ปัจจยั ดา้ นสิงแวดลอ้ มทีส่งผลกระทบตอ่ 147 พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทีดีของนกั ศึกษาไทย 4.2 ผลกระทบจากปัญหาสุขภาพของนกั ศึกษาไทย 151 4.3 ความคิดเห็นของนกั ศึกษาไทยกบั ขอ้ เสนอแนว 160 ทางการปลกู ฝังพฤติกรรมสุขภาพทีดี 4.4 การใชก้ ระบวนการสือสารสุขภาพเพอื ปลกู ฝัง 166 พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทีดีใหน้ กั ศึกษาไทย บทที 5 ข้อมูลความคดิ เหน็ ด้านสุขภาพร่างกาย- 187 บรรณานุกรม สุขภาพจติ ใจและการดแู ลสุขภาพโดยรวมของ ดชั นี นกั ศึกษา ประวตั ผิ ้เู ขยี น 5.1 เนือหาสาระจากความคิดเห็นของนกั ศึกษาไทยทีมี 188 ตอ่ สุขภาพร่างกายและจิตใจ 5.2 สรุปองคค์ วามรู้ทีไดจ้ ากความคิดเห็นของ 260 นกั ศึกษาไทย 277 284 289 ฉ
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการสื่อสารสุขภาพ ช เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสงเสริมสุขภาพที่ดีใหนักศึกษาไทย สารบัญตาราง หน้า ตารางที 1.1 แสดงขอ้ มูลเป้าหมายสําคญั ตาม 2 ตารางที พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ ตารางที พ.ศ. 2542 มาตรา 6 ตารางที ตารางที 1.2 แสดงขอ้ มลู ปัจจยั ทีเป็นสาเหตุสาํ คญั 3 ตารางที และส่งผลต่อสุขภาพของนกั ศึกษาไทย 1.3 แสดงประเด็นทีควรตอ้ งรณรงค์ 9 ดา้ นพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และเครืองดืมของนกั ศึกษา 1.4 พฤติกรรมเสียงร่วม 3อ.2ส. 14 1.5 แสดงความสาํ คญั ของสาเหตุทีตอ้ ง 34 ดาํ เนินการปลูกฝังพฤติกรรมส่งเสริม สุขภาพทีดีให้นกั ศึกษาไทย 2.1 จาํ นวนชวั โมงของการนอนหลบั พกั ผอ่ นที 84 เหมาะสมตามวยั ทีแตกตา่ งกนั ช
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการสือ่ สารสุขภาพ ซ เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสงเสริมสุขภาพท่ีดีใหนักศึกษาไทย สารบัญภาพ หน้า ภาพที 3.1 สร้าง Playlist “เสริมกาํ ลงั ใจ-คลายเศร้า” 131 ดว้ ยตวั เอง ตามทฤษฎีของ \"ดนตรีบาํ บดั \" ภาพที 3.2 แอปพลิเคชนั “สบายใจ” 135 ตวั ช่วยเชก็ สถานะทางใจ ภาพที 4.1 โลโก้ ชมรมคนรักสุขภาพ 173 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร ภาพที 4.2 พธิ ีเปิ ดโครงการออกกาํ ลงั กาย 174 Zumba Happy ณ หอประชุมราชพฤกษ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล (23 มีนาคม 2560) ภาพที 4.3 ภาพประชาสัมพนั ธ์ ชมรมแบดมินตนั 175 มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ ภาพที 4.4 โครงการ “การส่งเสริมสุขภาพจิตวยั รุ่น” 176 มหาวทิ ยาลยั ชินวตั ร ภาพที 4.5 ชมรมแบดมินตนั มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพ 177 ภาพที 4.6 Ru Gym – ชมรมสุขภาพ 178 และพลานามยั มหาวทิ ยาลยั รามคาํ แหง ภาพที 4.7 กีฬาสานสมั พนั ธ์สองวทิ ยาเขต ครังที 4 179 ฝ่ ายกีฬาและนนั ทนาการ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษิณ วิทยาเขตพทั ลุง ภาพที 4.8 ส่งเสริมให้นกั ศึกษาเล่นกีฬาเป็ นหมู่คณะ 181 ภาพที 4.9 ส่งเสริม สนบั สนุนการจดั กิจกรรมกีฬา 182 ขนั พืนฐาน ซ
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการสือ่ สารสขุ ภาพ ฌ เพื่อปลกู ฝง พฤติกรรมสงเสริมสุขภาพที่ดใี หน ักศึกษาไทย สารบญั ภาพ หน้า ภาพที 4.10 จดั สถานทีรองรับการเขา้ มาออกกาํ ลงั กาย 183 ใหน้ กั ศึกษา ภาพที 4.11 จดั หาอุปกรณ์เล่นกีฬาตามความสนใจของ 184 นกั ศึกษา ภาพที 4.12 Fitness SU.ED Center ศูนยอ์ อกกาํ ลงั กาย 185 คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร และป้ายใหค้ วามรู้ 8 นิสยั ทีทาํ ให้อว้ น อว้ น และอว้ น ภาพที 5.1 ขอ้ เสนอแบบจาํ ลองที 1 272 การสร้างเสริมปัญญาผา่ นกระบวนการ สือสารสุขภาพเพอื ปลูกฝังพฤติกรรม ส่งเสริมสุขภาพทีดีให้นกั ศึกษาไทย ภาพที 5.2 ขอ้ เสนอแบบจาํ ลองที 2 275 การสร้างเสริมปัญญาผา่ นกระบวนการ สือสารสุขภาพเพอื ปลูกฝังพฤติกรรม ส่งเสริมสุขภาพทีดีใหน้ กั ศึกษาไทย ฌ
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการส่อื สารสขุ ภาพ ญ เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพที่ดีใหนักศึกษาไทย ญ
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการสือ่ สารสขุ ภาพ ฎ เพื่อปลกู ฝง พฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพที่ดใี หนักศึกษาไทย นักศกึ ษาไทย ตอ้ งใสใ่ จ ดแู ลสขุ ภาพตนเอง อยา่ ละเลยจนเจ็บป่ วย ฎ
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการสอื่ สารสขุ ภาพ 1 เพ่ือปลูกฝงพฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพท่ีดีใหน กั ศึกษาไทย จุดมุ่งหมายของเนือหาสาระในบทนี เมือได้อ่านหนังสือในบทนีแล้ว จะทาํ ให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงข้อมูลต่างๆ ดังนีคือ 1.1 ปัจจยั ทีเป็นสาเหตสุ าํ คญั และส่งผลต่อสุขภาพของนกั ศกึ ษาไทย 1.2 เหตุใดการปลูกฝังพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทีดีให้นกั ศึกษา ไทยจงึ มีความสาํ คญั ทีตอ้ งวางแผนใหช้ ดั เจน 1
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการสื่อสารสุขภาพ 2 เพื่อปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสริมสุขภาพท่ีดใี หนกั ศึกษาไทย …………………………………………………………………………………… นักศึกษาทีกําลังเรียนอยู่ในรัวมหาวิทยาลัย ถือเป็ นช่วงชีวิตที สําคญั ของบุคคลทีมีโอกาสได้ศึกษาในระดบั อุดมศึกษา นกั ศึกษาเหล่านีถือ ว่าเป็ นทรัพยากรบุคคลทีสําคัญของประเทศ เพราะเป้ าหมายสําคัญตาม พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 6 ไดก้ ล่าวไวว้ ่า (เบญจพร อรุณประภารตั น์, โชติกา วงศเ์ จริญ และรชั ดาภรณ์ แมน้ ศิริ 2559) การศึกษามุ่งเนน้ ใหผ้ เู้ รียนมีความสมบูรณ์ในดา้ นต่างๆ ไดแ้ ก่ ตารางที 1.1 แสดงข้อมูลเป้าหมายสําคัญตามพระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 6 1. ดา้ นร่างกาย 2. ดา้ นจิตใจ 3. ดา้ นสติปัญญา ความรู้ 4. ดา้ นคุณธรรม มีจริยธรรม 5. ด้านวฒั นธรรมในการดาํ รงชีวิต สามารถอยู่ ร่วมกบั ผูอ้ ืนได้ อยา่ งมีความสุข ทีมา: เบญจพร อรุณประภารัตน์, โชติกา วงศเ์ จริญ และรชั ดาภรณ์ แมน้ ศิริ (2559) 2
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการสอื่ สารสขุ ภาพ 3 เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพท่ีดใี หนกั ศึกษาไทย ซึงการทีนกั ศึกษาจะสามารถเรียนและใชช้ ีวติ ไดอ้ ยา่ งมีความสุขนนั ปัจจยั ทีสําคญั ประการหนึง คือ การมีสุขภาพดี อนั จะส่งผลให้ผูเ้ รียนมีความพร้อมใน การเรียนหรือการทาํ กิจกรรมอืนๆ ได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมกบั ช่วงวยั รุ่นหรือ ตลอดช่วงเวลาของการศึกษาเล่าเรียนอยใู่ นระดบั อุดมศึกษาหรือระดบั มหาวทิ ยาลยั อยา่ งนอ้ ยโดยเฉลียทวั ไปคอื 4 ปี สําหรับปัจจัยทีเป็ นสาเหตุสําคัญและส่งผลต่อสุขภาพของนักศึกษาไทย มกั จะเกิดจากสาเหตุดา้ นพฤติกรรมและแบบแผนวิถีการดาํ เนินชีวิต (Lifestyle) ของแตล่ ะคนทีมีความแตกตา่ งกนั ไป ดงั นี ตารางที 1.2 แสดงข้อมูลปัจจยั ทเี ป็ นสาเหตุสําคญั และส่งผลต่อสุขภาพของนกั ศึกษาไทย สาเหตุ สาเหตุสําคญั ด้านพฤติกรรมและแบบแผนวถิ ีการดาํ เนนิ ชีวติ (Lifestyle) ของแต่ละคน 1. พฤติกรรมความเคร่งเครียดจากการเรียน 2. พฤติกรรมการนอนหลบั พกั ผอ่ นทีไมเ่ พยี งพอ 3. พฤติกรรมการออกกาํ ลงั กาย 4. พฤติกรรมการสูบบุหรี 5. พฤติกรรมการดืมแอลกอฮอล์ (Alcohol) และเมรัยทุกชนิด เมือดืมเขา้ ไปจะ ออกฤทธิทาํ ใหม้ ีอาการมึนเมา ทาํ ใหร้ ่างกายทรุดโทรมและทาํ ลายสมอง 6. พฤติกรรมการใชย้ าทีไม่เหมาะสมหรือการใชส้ ารเสพติดต่างๆ 7. พฤติกรรมทางเพศทีเสียงต่อการติดเชือโรคร้ายทางเพศสมั พนั ธ์ 8. พฤติกรรมการรับประทานอาหารทีไม่ถูกหลกั โภชนาการส่งผลใหเ้ กิดภาวะ ความเจ็บป่ วยจากโรคภยั ไขเ้ จบ็ ต่างๆ ทีมาจากพฤติกรรมการบริโภคทีไมใ่ ส่ใจ หรือละเลยการดูแลสุขภาพจากการกินสารพดั อาหารในแต่ละวนั จึงเกิดเป็ น การสะสมของเสียของทีเป็ นพิษเขา้ ไปในร่างกายทุกวนั จนถึงวนั หนึงที ภูมิคุม้ กนั ของร่างกายตา้ นทานและป้องกนั ไม่ไหวแลว้ จึงสาํ แดงฤทธิเดชทาํ ใหเ้ กิดการเจบ็ ป่ วยขึนมา บางรายส่งผลมากจนถึงกบั เสียชีวติ ทีมา: เบญจพร อรุณประภารัตน,์ โชติกา วงศเ์ จริญ และรัชดาภรณ์ แมน้ ศิริ (2559) 3
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการส่ือสารสุขภาพ 4 เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพที่ดีใหน กั ศึกษาไทย ปัจจัยทเี ป็ นสาเหตสุ ําคัญต่างๆ เหล่านีทสี ่งผลให้สุขภาพของกล่มุ นักศึกษา ไทย ต้องเจ็บป่ วยและร้ายแรงจนถึงขันเสียชีวิต ถือเป็ นเรืองทีน่าเสียดายและ เสี ยใจสํ าหรั บคุ ณพ่ อ คุณแม่ ผู้ป กค รอง ทีต้ อ งสู ญเสี ยบุ ตรหล า นไปก่ อนวัยอัน สมควร ทงั นีผูเ้ ขียนมีความคิดเห็นว่า ปัจจยั ทีเป็ นสาเหตุส่วนหนึงของปัญหาที เกิดขึน คือ มิไดม้ ีการสร้างความตระหนกั รู้ในปัญหาใหญ่ทีจะเกิดขึนกบั สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของตวั นักศึกษาเองให้มากเพียงพอต่อการกระตุน้ ให้นักศึกษา ทงั หลายตืนตวั รู้ระมดั ระวงั พฤติกรรมการดาํ เนินชีวิตของตนเองในทุกๆ ดา้ นให้มี ความสมดุลเหมาะสมอยา่ งทีควรเป็น เพอื เป็นการป้องกนั มใิ หส้ ุขภาพร่างกายเสือม โทรมเร็วเกินไป พร้อมกนั นนั ยงั ควรตอ้ งช่วยกนั รณรงคเ์ พือใหก้ ลุ่มวยั รุ่นนกั ศึกษา มีความรอบรู้เท่าทนั พฤติกรรมเสียงดา้ นสุขภาพทีตอ้ งระมดั ระวงั มากนอ้ ยแตกตา่ ง กนั ไปในแต่ละคน เป็ นการปลูกฝังพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทดี ีให้นักศึกษาไทย และสร้างความรู้ความเข้าใจกบั ปัจจัยแวดล้อมสําคัญ 3 ประการทสี ่งผลต่อปัญหา สุขภาพของนักศึกษา คือ 1) ครอบครัว 2) อาจารย์ในมหาวิทยาลัยและ 3) กลุ่ม เพือน องคก์ ารอนามยั โลกไดก้ ล่าวเตือนประเทศสมาชิกถึงภยั จากโรคไม่ติดต่อที จะมีความรุนแรงทงั ปัญหาในดา้ นความพิการและการตายก่อนวยั อนั ควรในช่วง ศตวรรษที 20-21 โดยกล่าวถึงกลุม่ พฤติกรรมสาํ คญั ทีควรตระหนกั ไดแ้ ก่ การบริโภคอาหาร ยาสูบ สุราและสารเสพตดิ การออกกาํ ลงั กาย ความเครียด เพศสัมพนั ธ์ ความปลอดภัย 4
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสือ่ สารสขุ ภาพ 5 เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสริมสุขภาพที่ดใี หน ักศึกษาไทย การอนุรักษ์และฟื นฟูสิงแวดลอ้ มในกลุ่มประชาชนทุกกลุ่มอายุและเพศ โดยเด็กและเยาวชนเป็ นกลุ่มเป้าหมายสําคญั กลุ่มหนึงทีควรได้รับการพฒั นา พฤติกรรมสุขภาพ วิธีการหนึงทีสามารถปรับปรุงแก้ไขและพฒั นาพฤติกรรม สุขภาพของบุคคล คือ ก า ร ดํ า เ นิ น ก า ร ผ่ า น ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า ใ น สถาบันการศึกษาระดบั ต่าง ๆ อนั เป็ นสถานทีทีเยาวชนใช้ชีวติ อยู่ในแต่ละ วันเป็ นเวลานาน หากสถาบันการศึกษาให้ความเอาใจใส่ ในการจัด กา รศึ กษ าหรื อจัด สุ ขภ า พแวดล้ อมใ ห้ เ อื ออํา นวย ต่ อก า รป รั บเ ป ลีย น พฤติกรรมสุขภาพของเยาวชนได้ จะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพของประเทศ ได้เป็ นอย่างมาก (สราวฒุ ิ พงษพ์ พิ ฒั น์ 2548) ผ้เู ขียนได้ทบทวนวรรณกรรมต่างๆ ทีเกียวข้องซึงทาํ ให้ทราบถึงทีมาและ ความสําคัญของปัญหาต่างๆ ทังด้านสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจของกลุ่ม วยั รุ่นทเี ป็ นนักศึกษาในระดับมหาวทิ ยาลยั ดงั นี จากงานวิจยั ของ ณัฐวัฒิ อรินทร์ (2558) ได้ทาํ การศึกษาถึงสภาวะ ปัญหาสุขภาพจิตและทศั นคติต่อการขอรับความช่วยเหลือทางดา้ นจิตใจจากนัก วิชาชีพสุขภาพจิตของนกั ศึกษามหาวิทยาลยั เพือสํารวจสภาวะปัญหาสุขภาพจิต ของนกั ศึกษามหาวทิ ยาลยั โดยณฐั วฒุ ิ อรินทร์ ไดน้ าํ เสนอแนวคิดไวว้ า่ การอยใู่ น วยั นิสิตนกั ศึกษาเป็ นช่วงเปลียนผ่านทีตอ้ งปรับตวั กบั วิธีการเรียนทีตอ้ งขวนขวาย เรียนรู้ดว้ ยตนเองดว้ ย ตอ้ งปรับตวั กบั เพือนใหม่ ส่วนใหญต่ อ้ งใชช้ ีวติ ห่างไกลพ่อ แม่ ตอ้ งบริหารค่าใช้จ่าย เหล่านีลว้ นเป็ นจุดวิกฤตทีนักศึกษาตอ้ งเผชิญ ทาํ ให้มี โอกาสเกิดความไม่สบายใจและมีปัญหาสุขภาพจิตได้สูง โดยพบข้อมูลจาก ประเทศออสเตรเลีย ทีชีให้เห็นวา่ วยั รุ่นช่วงอายุ 12 – 26 ปี เป็ นช่วงวยั ทีมีปัญหา ดา้ นสุขภาพจิตสูงและอาการทีพบเป็นจาํ นวนมาก (Rickwood, D., Deane, F. P., Wilson, C. J. & Ciarrochi, J. V., 2005) ไดแ้ ก่ -อาการซึมเศร้า 5
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการสื่อสารสุขภาพ 6 เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพที่ดใี หน ักศึกษาไทย -ปัญหาจากการใชส้ ารเสพติด -ความวติ กกงั วล และโรคจิต แมว้ า่ เพอื นสนิทจะคอยใหก้ าํ ลงั ใจ ทาํ ใหบ้ างปัญหาสามารถผา่ นพน้ ไปได้ แต่บางปัญหาทีซบั ซอ้ นเพือนไม่สามารถช่วยเหลือไดท้ งั หมด โดยธรรมชาติของ มนุษยห์ ากรู้สึกไมส่ บายใจตึงเครียดในระดบั ทีรุนแรง ควรจะขอรับความช่วยเหลือ ทางดา้ นจิตใจกบั นกั วิชาชีพดา้ นสุขภาพจิต แต่พบวา่ ผลกลบั เป็ นตรงกนั ขา้ ม คือ ความ รุ นแรงของ ปั ญ หาสุ ขภาพ จิ ตไ ม่มีผลโดย ตรง ต่อก า รขอ คว าม ช่ วย เหลื อ (Tishby, O., Turel, M., Gumpel, O., Pinus, U., Lavy, S. B., Winokour, M., et al., 2001) ดงั นนั จะเห็นไดว้ า่ วยั รุ่นบางรายมีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงและไม่ไดร้ ับการ ช่วยเหลือจนถึงขนั ฆ่าตวั ตาย ตามทีเป็ นข่าวในสือสารมวลชนต่างๆ เป็ นระยะๆ เป็นตน้ ซึงเป็ นเรืองทีป้องกนั ไดย้ าก จากงานวิจัยของณัฐวัฒิ อรินทร์ สามารถพิจารณาได้ถึงความซับซ้อน ของปัญหาสุขภาพจิตทีเกิดขึนกับกลุ่มนักศึกษาได้ว่า ต้องมีการศึกษาและจัดทํา กร ะบวน การสื อสาร สุ ขภพทีเหมาะส มกับผู้ทีคาดว่ าจ ะมีปั ญหาสุ ข ภาพ จิต ให้ ถูกต้อง เพราะการจะเข้าไปช่วยเหลือเพือบําบัดปัญหาทางจิตใจให้ผ่อนคลายลง จากหนักเป็ นเบานัน ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่าจําเป็ นต้องใช้ วิธีการสังเกตทัง พฤติกรรมการแสดงออก รวมทังทัศนคติในการสือสารต่างๆ ของผู้ทีคาดว่าเป็ น ผู้ป่ วยหรือมีปัญหาทางจิตใจอย่างใกล้ชิดก่อนสักระยะหนึง จึงจะสามารถเข้าไป ช่วยเยยี วยาสุขภาพจติ ใจให้ผ่อนคลายความเครียดลงได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ขอ้ มูลจากงานวิจยั ทีเกียวข้องอีกเรืองหนึงของ สราวุฒิ พงษ์พพิ ัฒน์, ภัทร ยันตรกร และธชั กร พุกกะมาน (2560) ทีได้ทาํ การศึกษาประเด็นเรือง พฤติกรรมสุขภาพของนกั ศึกษามหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ทีกาํ ลงั เรียนในปี การศึกษา 2559 ใช้กลุ่มตวั อยา่ งแบบเจาะจง จาํ นวน 396 คน ใชแ้ บบสอบถามพฤติกรรม สุขภาพเป็ นเครืองมือเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้การวิเคราะห์ขอ้ มูลเชิงปริมาณแบบ อุปนยั ผลการศึกษาโดยสรุปพบวา่ 6
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสื่อสารสุขภาพ 7 เพ่ือปลูกฝงพฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพที่ดีใหนกั ศึกษาไทย นักศึกษามีพฤติกรรมการบริโภคอาหารและเครืองดืมทไี ม่เหมาะสม ได้แก่ การรับประทานอาหารไม่ครบ 3 มือ ส่วนใหญ่ไม่รับประทาน อาหารมือเช้า การเตมิ นําตาลและนําปลา เพือเพมิ รสชาตอิ าหารมากเกนิ ไป การรับประทานอาหารทีมีไขมันสูง อาหารจานด่วนและดืม นําอดั ลมเป็ นประจํา การรับประทานขนมกรุบกรอบ/ ขบเคียว ซึงจะส่ งผลเสียต่อ สุขภาพในทางใดทางหนึงได้ในระยะยาว นักศึกษาส่วนใหญ่มีการออกกาํ ลังกายอย่างสมาํ เสมอ เพือสร้างเสริม สุขภาพและผ่อนคลายความเครียด นักศึกษาทีมีภาวะความเครียด ส่วนใหญ่ สามารถจดั การไดอ้ ย่างเหมาะสม แต่ยงั มีบางส่วนทีมีพฤติกรรมการจดั การกบั ความเครียดของตนเองทีเสียงตอ่ สุขภาพ เช่น -การดืมสุราหรือเครืองดืมแอลกอฮอล์ -การสูบบุหรี -การไปเทยี วแหล่งบริการ โดยนกั ศึกษาส่วนใหญไ่ มส่ ูบบุหรีแตใ่ นส่วนทียงั สูบอยมู่ ีความคิดทีจะเลิก สูบบุหรีในอนาคต อย่างไรก็ตามนักศึกษาส่วนใหญ่ยงั มีพฤติกรรมในการดืม เครืองดืมแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะการดืมก่อนขบั ขียานพาหนะทีเป็ นพฤติกรรมเสียง ตอ่ การเกิดอุบตั ิเหตุอีกดว้ ย โดยมีการใชแ้ บบสอบถามใน 4 ประเดน็ ไดแ้ ก่ 1) พฤตกิ รรมการบริโภคอาหารและเครืองดืม 2) พฤตกิ รรมการออกกาํ ลงั กาย 3) พฤตกิ รรมการจดั การภาวะเครียด 4) พฤติกรรมการสูบบุหรีและเครืองดืมทีมีแอลกอฮอล์ 7
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการส่อื สารสุขภาพ 8 เพื่อปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดีใหน ักศึกษาไทย สรุปผลการวจิ ยั มีรายละเอียด ดงั นี 1) ด้านพฤตกิ รรมการบริโภคอาหารและเครืองดืม นกั ศึกษามี พฤตกิ รรมการบริโภคอาหารและเครืองดืมทีไม่เหมาะสม ไดแ้ ก่ การรับประทานอาหารไม่ครบ 3 มือ เนืองดว้ ยภาวะเร่งรีบต่างๆ การนอน ตืนสาย การทาํ การบา้ นทาํ งานเรียนดึก จึงไม่สามารถรับประทานอาหารไดค้ รบ 3 มือในแต่ละวนั โดยเฉพาะนกั ศึกษาส่วนใหญ่ไม่รับประทานอาหารมือเช้า ซึงเป็ น มือทีสาํ คญั ของแต่ละวนั พฤติกรรมการรับประทานอาหารทีชอบเติมนําตาลและนําปลาลงใน อาหารต่างๆ เพือเพิมรสชาติอาหารในปริมาณทีมาก เกินไป การชอบดืมนาํ อดั ลม และกินอาหารจานด่วน รวมทงั ชอบกินขนมกรุบกรอบหรือขนมประเภทขบเคียว ซึงจะส่งผลเสียตอ่ สุขภาพในระยะยาว เนืองดว้ ยในขนมเหล่านีมีสารปรุงแตง่ ผสม อยมู่ ากพอสมควร ดงั นนั ผวู้ ิจยั จึงมีขอ้ เสนอแนะวา่ มหาวิทยาลยั ควรตอ้ งรณรงค์ในประเด็น ต่างๆ ดงั นีคือ 8
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการสอื่ สารสขุ ภาพ 9 เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสงเสริมสุขภาพท่ีดีใหนักศึกษาไทย ตารางที 1.3 แสดงประเด็นทคี วรต้องรณรงค์ด้านพฤตกิ รรมการบริโภคอาหารและ เครืองดืมของนักศึกษา 1. ส่งเสริมให้ความรู้นักศึกษาเพือให้เห็นความสําคัญและสร้าง ทัศนคติทีถูกต้องเกยี วกับการรับประทานอาหารให้ครบ 3 มือ โดยเฉพาะควรต้องรับประทาน มือเช้า เพราะเป็ นมือทีต้องกิน ไว้เพือเป็ นพลังงานทีต้ องนําไปใช้ ในตลอดทังวัน ซึงผล การศึกษาพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่นิยมรับประทานอาหาร มือเช้า 2. สร้างความตระหนักรู้ให้นักศึกษาระมัดระวังในการบริโภคผกั ผลไม้สด ทีผ่านการล้างอย่างถูกวิธี โดยการล้างผัก ผลไม้ก่อน บริโภค เนืองจากผลการศึกษาพบว่านักศึกษาส่วนใหญ่ ใช้นํา ล้างผ่านแล้วรับประทานเลย ซึงอาจยังไม่สะอาดเพียงพอต่อ การนําไปรับประทาน 3. ให้ความรู้นักศึกษาถึงการระมัดระวงั การรับประทานอาหารรส จดั โดยเฉพาะการเติมนําตาลและนําปลาเพือปรุงรสชาติอาหาร มากเกนิ ไป ซึงจะส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยะยาว 4. ให้ความรู้และความเข้าใจแก่นักศึกษาเพือระมัดระวังการ รับประทานอาหารทีไม่มีประโยชน์ต่อร่ างกาย เนืองจากผล การศึกษาพบว่านักศึกษาส่วนใหญ่ยงั มีความนิยมบริโภคอาหาร ไขมันสูง นําอัดลม อาหารจานด่วนและขนมกรุบกรอบ/ขบ เคียว 5. ส่ งเสริมนักศึกษาในการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพ โดยการ ตรวจสอบเบืองต้น เช่ น การชังนําหนัก วัดความดันอย่าง สมําเสมอ+ ทีมา: สราวฒุ ิ พงษพ์ ิพฒั น์, ภทั ร ยนั ตรกร และธชั กร พุกกะมาน (2560) 9
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการสอื่ สารสขุ ภาพ 10 เพื่อปลกู ฝง พฤติกรรมสงเสริมสุขภาพที่ดใี หน ักศึกษาไทย 2) ด้านพฤติกรรมการออกกําลังกาย นักศึกษาส่วนใหญ่มีการออก กาํ ลงั กายอยา่ งสมาํ เสมอ เพอื สร้างเสริมสุขภาพและผอ่ นคลายความเครียด เป็ นการ ใชเ้ วลาวา่ งอย่างเป็ นประโยชน์ ดงั นนั มหาวทิ ยาลยั ควรสนบั สนุนพฤติกรรมการ ออกกาํ ลงั กายของนกั ศึกษาอยา่ งสมาํ เสมอตอ่ เนือง สิงสาํ คญั ทีควรทาํ ควบคู่กบั การ รณรงคใ์ ห้เห็นวา่ การออกกาํ ลงั กายเป็ นสิงจาํ เป็นในการดาํ รงชีวิตแลว้ ควรจะมีการ เผยแพร่ขอ้ มูลของการออกกาํ ลงั กายทีถูกตอ้ งเหมาะสม โดยเฉพาะอยา่ งยิงในการ จดั หา อุปกรณ์ สถานที และบรรยากาศในมหาวิทยาลยั ให้เอือต่อพฤติกรรมการ ออกกาํ ลงั กายต่อไป 3) ด้านพฤติกรรมการจัดการกับความเครียด นักศึกษามีภาวะ ความเครียด โดยสาเหตุส่วนใหญ่เนืองจากปัญหาเรืองเรียน เรืองงานและยงั มี บางส่วนทีมี พฤติกรรมการจดั การกบั ความเครียดทีเสียงต่อสุขภาพ เช่น การดืม สุราหรื อเครื องดืมแอลกอฮอล์ สู บบุหรี และไปเทียวแหล่งบริ การ ดังนัน มหาวิทยาลยั ควรให้ส่วนงานทีเกียวขอ้ งจดั ดาํ เนินโครงการเกียวกบั การแนะแนว ให้คาํ ปรึกษา โดยเฉพาะอยา่ งยิงระบบอาจารยท์ ีปรึกษาของมหาวิทยาลยั ซึงควร ตอ้ งมีการจดั อบรมสัมมนาให้คณาจารยไ์ ดเ้ พิมศกั ยภาพของตนเองในดา้ นการให้ คาํ ปรึกษาหรือมีการเสวนาเพือทบทวนปัญหาและแกไ้ ขปัญหาทีแตล่ ะท่านประสบ มาเล่าสู่กนั ฟังเพือแบ่งปันประสบการณ์และนาํ ไปสู่การแก้ปัญหาและแนะแนว ใหก้ บั นกั ศึกษาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตรงประเดน็ 4) ด้านพฤติกรรมการสูบบุหรีและดืมเครืองดืมทีมีแอลกอฮอล์ นกั ศึกษาส่วนใหญ่ไม่สูบบุหรี อยา่ งไรก็ตาม นกั ศึกษาส่วนใหญ่ยงั มีพฤติกรรมใน การดืมเครืองดืม แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะการดืมก่อนขับขียานพาหนะ ทีเป็ น พฤติกรรมเสียงต่อการเกิดอุบตั ิเหตุดงั นนั มหาวิทยาลยั ควรจดั กิจกรรมรณรงค์ให้ นกั ศึกษาและบุคลากรไดท้ ราบถึงอนั ตรายและปัญหาทีตามมาหลังจากการดืม เครืองดืม แอลกอฮอล์ โดยทวั ถึงและต่อเนือง ด้วยการจดั กิจกรรมสร้างสรรค์ เพือให้มีแนวร่วมในการเฝ้าระวงั ป้องปราม อาทิ เพือนเตือนเพือนและเน้นเรือง ของการเขา้ ไปมีส่วนร่วมของคณาจารยท์ ีปรึกษา ผปู้ กครองซึงตอ้ งใกลช้ ิด ติดตาม 10
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการส่อื สารสุขภาพ 11 เพ่ือปลูกฝงพฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพท่ีดใี หน กั ศึกษาไทย ฟื นฟูสุขภาพปัญหาทีมีอยูอ่ ยา่ งจริงจงั หลากหลาย และกิจกรรมเหล่านนั ตอ้ งเป็ น กิจกรรมทีน่าสนใจ นกั ศึกษาเป็ นผูม้ ีส่วนร่วม ทงั ดา้ นการคิดและการปฏิบตั ิเพือ ชีใหเ้ ห็นประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวมอยา่ งแทจ้ ริงต่อไป ขอ้ มูลจากงานวจิ ยั ของ สายสวาท เผ่าพงษ์ อไุ รรักษ์ คมั ภิรานนท์และ สิริเพญ็ โสภา จนั ทรสถาพร (2554) ไดท้ าํ การศึกษาเรือง พฤติกรรมสุขภาพ ของนกั ศึกษาพยาบาล วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา โดยนิยามศพั ท์ เชิงปฏิบตั ิการในการวจิ ยั ครังนี ไดแ้ ก่ สุขภาพ หมายถึง ภาวะทีบุคคลมีความสมดุลทงั ทางร่างกายและจิตใจ สามารถปฏิบตั ิหนา้ ทีไดต้ ามปกติ พฤตกิ รรมสุขภาพ หมายถึง การปฏิบตั ิหรือไมป่ ฏิบตั ิของบุคลหนึงบุคคล ใด ในสิงทีมีผลต่อสุขภาพ โดยใชค้ วามรู้ความเขา้ ใจและเจตคติและการปฏิบตั ิที เกียวขอ้ งสมั พนั ธ์กนั ผลการศึกษาพบข้อมูลว่า ปัจจัยทีมีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพสุขภาพ แวดลอ้ มทางกายภาพในหอพกั ค่อนขา้ งแออดั การทีนกั ศึกษาแต่ละคนตอ้ งพกั อยู่ ในหอพกั ตลอดระยะเวลาตงั แต่เข้ามาจนเรียนจบ จึงทาํ ให้มีอุปกรณ์เครืองใช้ ค่อนขา้ งมาก และไม่คอ่ ยไดท้ าํ ความสะอาดและจดั ใหเ้ ป็ นระเบียบ จึงส่งผลทาํ ให้ เป็ นแหล่งอาศยั ของสัตว์ทีเป็ นพาหะของโรคต่างๆ เช่น แมลงสาบ ยุงและหนู ปัจจยั เหล่านีอาจเป็นสาเหตุส่วนหนึงในการป่ วยของนกั ศึกษาได้ อีกส่วนหนึง คือ นักศึกษาจะบริโภคอาหารทีเป็ นอาหารสําเร็จรูป ซึงผลิตออกมาขายแบบปรุง สาํ เร็จมาแลว้ และพร้อมนาํ มารับประทานมาบริโภคไดท้ นั ทีเพือความสะดวก แต่ ในทางตรงกนั ขา้ ม คือ เป็ นการสะสมส่งทีไม่ดีต่อสุขภาพเขา้ ไปในร่างกาย จน ส่งผลร้ายต่อสุขภาพในระยะยาว ไดแ้ ก่ การเกิดโรคจากการบริโภคอาหารทีไม่ เหมาะสม เช่น โรคอว้ น เบาหวาน ไขมนั ในเลือดสูง (ผอ่ งศรี ศรีมรกต และคณะ 2551) ในดา้ นสุขภาพทางจิตนนั นกั ศึกษาส่วนมากมีวิธีคลายเครียดในรูปแบบ ต่างๆตามความชอบของแต่ละคน เช่น 11
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการส่ือสารสขุ ภาพ 12 เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดใี หน ักศึกษาไทย -การฟังเพลง -การดูภาพยนตร์ -การคุยกบั เพือนทสี นิท -การปรึกษาผู้ปกครอง รวมทงั การปฏิบตั ิตามความเชือทางศาสนา เช่น การสวดมนต์และนัง สมาธิ เพราะหากเกิดภาวะเครียด จะส่งผลทาํ ให้เกิดโรคทีเกียวข้องต่างๆ เช่น ปวดศีรษะ ไมเกรน แผลในกระเพาะอาหารและความดนั โลหิตสูง เป็นตน้ (เพียงใจ ขจรนิพทั ธ์, สุรีย์ จินเรืองและวภิ าศิริ นราพงษ์ 2551) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์กฤษณะ สุวรรณภูมิ ผูช้ ่วยคณบดี ฝ่ าย การศึกษา คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ไดแ้ สดงทศั นะถึงความ ห่วงใยทีมีตอ่ นกั ศึกษาในกรณีการมีพฤติกรรมสุ่มเสียงตอ่ สุขภาพและจะส่งผลต่อ คุณภาพชีวิตของนักศึกษาเอง เมือจบการศึกษาออกไปทาํ งาน โดยไดน้ าํ เสนอ ขอ้ มูลจากงานวิจยั ของอาจารยส์ ุนันทา ยังวนิชเศรษฐ (2549) คณะพยาบาล ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์โดยพบว่าปัจจุบันนักศึกษาส่วนใหญ่มี พฤติกรรมสุขภาพและพฤติกรรมเสียงต่อสุขภาพค่อนข้างน่าเป็ นห่วง สรุปผล โดยรวม ไดด้ งั นีคือ พฤติกรรมเสียงต่อสุขภาพไดแ้ ก่ -ไม่สวมหมวกนิรภยั เมือนงั ซ้อนทา้ ยรถจกั รยานยนต์ (ร้อยละ 86.3) -การดืมแอลกอฮอล์ (ร้อยละ 61.3) -การไมไ่ ดอ้ อกกาํ ลงั กายอยา่ งสมาํ เสมอ (ร้อยละ 29.2) -การสูบบุหรี (ร้อยละ 22.6) -นงั ซอ้ นทา้ ยรถจกั รยานยนตห์ รือรถยนตท์ ีผขู้ บั ขีดืม แอลกอฮอล์ (ร้อยละ 14.7) -การใชส้ ารเสพติด (ร้อยละ 1.6) 12
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการส่อื สารสขุ ภาพ 13 เพื่อปลกู ฝงพฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดใี หนักศึกษาไทย พฤติกรรมเสียงทางเพศของนักศึกษาไดแ้ ก่ -การไมส่ วมถุงยางอนามยั (ร้อยละ 14.7) -เคยมีเพศสมั พนั ธ์ (ร้อยละ11.6) -มีเพศสัมพนั ธห์ ลงั ดืมแอลกอฮอล์ (ร้อยละ 2.4) -นกั ศึกษาร้อยละ 2.1 เคยถูกบงั คบั ใหม้ ีเพศสมั พนั ธ์ -ไม่ไดใ้ ชว้ ธิ ีใดๆในการป้องกนั การติดเชือและการตงั ครรภ์ (ร้อยละ 0.8) จากข้อมูลทีค้นพบ จึงมีคําถามว่า “จะทําอย่างไรทีจะแก้ปัญหา เหล่านีได้ทังหมด เพือทีจะช่วยให้นักศึกษาสามารถเรียนจบออกไปอย่าง มีคุณภาพในทุกด้าน” มิใช่เรียนจบออกไปดว้ ยการมีความรู้และทกั ษะทีเต็ม ประสิทธิภาพ แต่พฤติกรรมสุขภาพไม่ดี มีปัญหาสุขภาพตามมาและติดตวั ไป มากมาย จึงเป็นขอ้ มูลทีทาํ ใหท้ ุกฝ่ ายผเู้ กียวขอ้ งไดพ้ งึ ตระหนกั ไวว้ า่ มหาวทิ ยาลยั ได้ทาํ การผลิตบณั ฑิตหรือปัญญาชนออกไปสู่สังคมอย่างไม่ครบพร้อมสมบูรณ์ อย่างทีควรดาํ เนินการในประเด็นทีพบปัญหาซึงเกิดขึนกบั กลุ่มนักศึกษาอย่าง ชดั เจน โดยการใหค้ วามใส่ใจอยา่ งจริงจงั เพือป้องกนั ปัญหาดา้ นสุขภาพตา่ งๆ ของ กลุ่มนกั ศึกษาไดต้ งั แตเ่ ริมตน้ เขา้ มาเป็ นนกั ศึกษานอ้ งใหม่ชนั ปี ที 1 แลว้ เพราะถา้ ได้ดาํ เนินการอย่างจริงจงั จะเป็ นการช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวและสังคม รวมไปถึงงบประมาณของประเทศชาติไดอ้ ีกเป็นจาํ นวนมาก กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (มกราคม 2561) ได้ นาํ เสนอขอ้ มูลดา้ นสุขภาพทีเป็ นความรู้เกียวกบั พฤติกรรมสุขภาพของคนไทยทุก กลุ่มวยั ซึงตอ้ งเผชิญกบั ภยั คุกคามจากโรคไม่ติดต่อเรือรัง โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดนั โลหิตสูง มะเร็ง โรคหวั ใจและหลอดเลือด อนั มีแนวโน้มเพิมขึนอย่าง รวดเร็ว ดว้ ยสาเหตุสําคญั จากการมีพฤติกรรมสุขภาพไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะ “พฤติกรรมเสียงร่วม 3อ.2ส.” ไดแ้ ก่ 13
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการสือ่ สารสุขภาพ 14 เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพที่ดใี หนักศึกษาไทย ตารางที 1.4 “พฤติกรรมเสียงร่วม 3อ.2ส.” พฤตกิ รรมเสียงร่วม 3อ.2ส. 1อ. อ = อาหาร พฤตกิ รรมการรับประทานอาหาร 2อ. อ = ออกกาํ ลงั กาย พฤตกิ รรมการออกกาํ ลงั กาย 3อ. อ= อารมณ์ พฤตกิ รรมการบริหารจดั การอารมณ์ 1ส. ส=สูบบุหรี พฤตกิ รรมการสูบบุหรี 2ส. ส=สุรา พฤติกรรมการการดืมสุรา ทีมา: กองสุขศึกษา กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ (มกราคม 2561) ซึงเป็นพฤติกรรมสุขภาพในการดาํ เนินชีวติ ของประชาชนทีเสียงตอ่ สุขภาพ โดยมีปัจจยั หลกั ทีเกียวขอ้ งเชือมโยงจากพนื ฐานตา่ งๆ ซึงส่งผลต่อคุณภาพ ชีวติ เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ดงั นี 1) ปัจจัยแวดล้อมทางด้านวฒั นธรรม 2) ปัจจัยแวดล้อมทางด้านความเชือ 3) ปัจจัยแวดล้อมทางด้านค่านิยม 4) ปัจจัยแวดล้อมทางด้านสังคมและทางด้านกายภาพ โดยปัจจยั แวดลอ้ มตา่ งๆ เหล่านี เป็ นสิงทีหล่อหลอมใหบ้ ุคคลตา่ งๆ ใน สังคมนนั ๆ มีวถิ ีการดาํ รงชีวติ ทีบางสิงบางอย่างอาจไม่ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั การมี สุขภาพดี เช่น วฒั นธรรมการตอ้ งนงั ดืมสุราหรือเครืองดืมแอลกอฮอลด์ ว้ ยกนั เมือพบปะ กนั ทุกครัง เพราะจะทาํ ใหเ้ กิดความสนิทสนมคุน้ เคยกนั มากยงิ ขึน 14
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการส่อื สารสขุ ภาพ 15 เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสงเสริมสุขภาพที่ดีใหนักศึกษาไทย ความเชือเรืองการกินของดิบของสดทีไม่ไดผ้ า่ นการทาํ ให้สุกก่อนแลว้ จะ ไดค้ วามรู้สึกเอร็ดอร่อยจากรสชาติอาหารนนั ๆ อยา่ งเตม็ ที ซึงอาหารทีดิบนนั อาจ มีเชือโรคหรื อพยาธิปะปนอยู่ก็ได้ จึงต้องพิจารณาความเชือดังกล่าวอย่าง ระมดั ระวงั ค่านิยมของการเลียนแบบคนมชี ือเสียงในสงั คมหรือเพอื นๆ ทีมีพฤติกรรม เสียงตอ่ สุขภาพ อาทิ ไม่กินอาหารเชา้ เพราะตอ้ งการควบคุมนาํ หนกั ในดา้ นสังคมและกายภาพ อนั เกียวขอ้ งกบั ฐานะทางสังคมดา้ นเศรษฐกิจ ความยากดีมีจน สุขภาพแวดลอ้ มความเป็ นอยขู่ องแต่ละบุคคลทีแตกตา่ งกนั ไป ผู้ ทีอยูใ่ นสังคมและสิงแวดลอ้ มรอบตวั ทีเป็ นไปในทางลบ จึงอาจถูกโน้มนา้ วจิตใจ ทงั ทางตรงและทางออ้ มให้มีพฤติกรรมเสียงต่อสุขภาพไดม้ ากกว่าผูท้ ีอยูใ่ นสงั คม และกายภาพทีดีเหมาะสม ดังนันสิงทีจะช่ วยให้กลุ่มนักศึกษาวัยรุ่นหนุ่มสาวรุ่นใหม่มี สุขภาพร่ างกายทีดี มีสุขภาพจิตใจทีเข้มแข็ง รอบรู้เท่าทนั ต่อสรรพสิง รอบตวั โดยเฉพาะพฤติกรรมเสียงต่อสุขภาพต่างๆ คือ การให้ความใส่ใจในเรือง พฤติกรรมสุขภาพ (Health Behavior) ของตนเองให้มากยิงขึน มิเช่นนนั จะส่งผล ถึงสุขภาพทีทรุดโทรมลงในอนาคต จนลุกลามไปถึงการเจ็บป่ วย ซึงจะส่งผล กระทบเชือมโยงไปยงั การสร้างภาระให้กบั สมาชิกในครอบครัวคนอืนๆ ทีตอ้ งใช้ เวลามาดูแลยามเจ็บป่ วยของผูท้ ีไม่สนใจดูแลรักษาสุขภาพของตนเองตงั แต่เป็ น วยั รุ่นหนุ่มสาว โดยกลุ่มนกั ศึกษาซึงอยู่ในช่วงของวยั ทีมีพฒั นาการต่างๆ ดงั นี ( teenage1519.blogspot.com 2556) 1. ด้านสุขภาพร่างกาย ทเี ปลยี นแปลงไปอย่างรวดเร็วพอสมควร เช่น 1) ความรู้สึกวติ กกงั วลเกียวกบั การเปลียนแปลงของร่างกาย 2) ความรู้สึกวติ กกงั วลกบั อารมณ์เพศทีสูงขึน 3) ความรู้สึกวติ กกงั วลกลวั การเป็นผใู้ หญ่ 4) ความรู้สึกวติ กกงั วลในความงดงามทางร่างกาย 15
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการสอ่ื สารสขุ ภาพ 16 เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดใี หนกั ศึกษาไทย 2. ด้านสภาวะจิตใจอารมณ์ความรู้สึกทีทาํ ให้เกดิ ความคดิ ว้าว่นุ ฟุ้งซ่าน 1) ความรู้สึกอยากทีจะถูกรกั และอยากไดร้ ับความเอาใจใส่ 2) ความรู้สึกอยากมีอิสระอยากทาํ อะไรไดด้ ว้ ยตวั ของ ตวั เอง เพราะคิดวา่ สามารถดูแลตวั เองไดแ้ ลว้ อยากทาํ ในสิงทีตวั เองคิดแลว้ ว่าดี อยากมีส่วนในการตดั สินใจ อยากทีจะทาํ ตวั ห่างจากพอ่ แม่ 3) ความรู้สึกตอ้ งการเป็ นตวั ของตวั เอง 4) ความรู้สึกอยากรู้ อยากเห็น อยากลอง และคอยสงั เกตดูจาก ปฏิกิริยาของคนรอบขา้ ง เพือตดั สินว่าสิงทีทาํ นัน ถูก หรือผดิ อยา่ งไร 5) การใหค้ วามสาํ คญั อยา่ งจริงจงั กบั ความถูกตอ้ ง ยตุ ธิ รรมตาม ทศั นะของตนเองเป็นอยา่ งสูง 6) ความรู้สึกตืนเตน้ ทา้ ทาย ตอ้ งการหาประสบการณ์แปลกใหม่ ไม่ชอบความจาํ เจซาํ ซาก 7)ความสึกตอ้ งการการยอมรบั วา่ เป็ นส่วนหนึงของครอบครัว ของสถาบนั การศึกษาทีตนเองเรียนอยู่ ของกลุ่มเพือนๆ ในประเดน็ ทีสําคัญอกี ประการหนึงเกยี วกบั พฤติกรรมสุขภาพของ กล่มุ นักศึกษา อนั เกียวขอ้ งกบั การใชช้ ีวติ ทีมีพฤตกิ รรมสุขภาพไมส่ มดุล ทงั เรือง การกิน การนอน การออกกาํ ลงั กาย และการทาํ งาน จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของ นักศึกษาอย่างแน่นอน โดยข้อมูลจากนายแพทยท์ กั ษพล ธรรมรังสี ผูจ้ ดั การ แผนงานเครือขา่ ยควบคุมโรคไม่ติดต่อ กล่าววา่ “โรค NCDs” ยอ่ มาจากคาํ วา่ Non- communicable diseases หมายถึง กลุม่ โรคไม่ติดตอ่ ทีไมส่ ามารถแพร่กระจายโรค จากคนสู่คนได้ (ฉัตร์ชยั นกดี 2557) โดยทวั ไปอาจเรียกวา่ กลุ่มโรคเรือรัง ซึง หมายถึงโรคทีเกิดต่อเนืองยาวนาน และมีการดาํ เนินของโรคเป็ นไปอยา่ งชา้ ๆ ซึง แตกตา่ งจากโรคติดเชือส่วนใหญ่ ทีมกั มีการดาํ เนินโรคอยา่ งรวดเร็ว 16
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสอ่ื สารสุขภาพ 17 เพ่ือปลูกฝงพฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดีใหน กั ศึกษาไทย ข้อมูลทีเกียวข้องอีกส่ วนหนึง คือ บทสรุปจากงานสัมมนา ASEAN Healthcare Consultation 2012 ของในแต่ละประเทศเห็นพ้องต้องกันว่าโรคไม่ ติดต่อ (Non-Communicable Diseases) หรือ NCDs เป็ นปัญหาทกี าํ ลังลกุ ลามและ สร้างความกงั วลให้แก่ประชากรของประเทศเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เป็ นโรคทีไม่ ควรละเลย (นิตยสารวงการแพทย์ 2558) โดยปัจจุบนั ประเทศไทยและประเทศ เพือนบา้ นมีจาํ นวนผูเ้ สียชีวติ จากโรคไม่ติดต่อรวมกนั ทงั หมดเป็นจาํ นวนมาก จน ทาํ ให้โรคไมต่ ิดตอ่ นี มีชือเรียกอีกชือหนึงวา่ “โรคแห่งศตวรรษที 21” โดยขอ้ มูลทางสถิติพบวา่ โรคไม่ติดต่อหรือกลุ่มโรค NCDs ทีประชาชน ส่วนใหญ่ประสบปัญหา ประกอบดว้ ย 4 กลุ่มโรค ไดแ้ ก่ 1) กล่มุ โรคระบบหวั ใจและหลอดเลือด (รวมถงึ โรคหวั ใจและโรคหลอดเลือดสมอง) 2) กล่มุ โรคเบาหวาน 3) กล่มุ โรคมะเร็ง 4) กล่มุ โรคระบบทางเดินหายใจเรือรัง (รวมถึงโรคปอดอุดกนั เรือรังและโรคหอบหืด) โรค NCDs จัดเป็ นฆาตกรอันดับหนึง ทีคร่าชีวติ ประชากรโลก มากกว่าสาเหตุการตายอืนๆ ทุกสาเหตุรวมกนั มากถึง 36.2 ล้านคนต่อปี หรือคิดเป็ นร้อยละ 66 ของการเสียชีวิตของประชากรโลกทังหมดในปี 2554 ขณะทีสถานการณ์ในประเทศไทย กลุ่มโรค NCDs เป็นสาเหตุการเสียชีวิต ถึงประมาณ 3.1 แสนคน หรือ ร้อยละ 73 ของการเสียชีวิตของประชากรไทย ทงั หมดในปี 2552 17
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการส่ือสารสขุ ภาพ 18 เพื่อปลูกฝงพฤติกรรมสง เสริมสุขภาพที่ดใี หน ักศึกษาไทย สถิติการเสียชีวติ ของประชากรไทยดงั กล่าว แสดงใหเ้ ห็นวา่ ประเทศไทยมี ผเู้ สียชีวติ มากกวา่ คา่ เฉลียของทงั โลกและมีแนวโนม้ จะสูงขึนเรือยๆ ในอนาคต ซึง โรคในกลุม่ โรค NCDs ทีมีอตั ราผูป้ ่ วยและผเู้ สียชีวิตสูงสุด 6 โรค ไดแ้ ก่ 1. โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) 2. โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ (Cardiovascular & Cerebrovascular Diseases ) 3. โรคถุงลมโป่ งพอง (Emphysema) 4. โรคมะเร็ง (Cancer) 5. โรคความดนั โลหติ สูง (Hypertension) 6. โรคอ้วนลงพงุ (Obesity) นอกจากผลกระทบทางดา้ นสุขภาพแลว้ โรค NCDs ยงั ส่งผลกระทบต่อ สังคม โดยมีข้อมูลยืนยันว่า เป็ นปัญหาและอุปสรรคทีสําคัญต่อการพฒั นา เศรษฐกิจและสังคมของประเทศอีกด้วย โดยเฉพาะดา้ นคุณภาพของทรัพยากร มนุษย์ เพราะโรค NCDs ทาํ ให้ประชากรเสียชีวิตก่อนวยั อนั ควร เกิดการสูญเสีย ศกั ยภาพในการประกอบอาชีพและผูป้ ่ วยมีความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่ วย รวมถึงมีโรคแทรกซอ้ น ซึงนอกจากจะเพิมภาระแก่คนรอบขา้ งแลว้ ยงั สร้างภาระ แก่สงั คมโดยรวม โดยเฉพาะอยา่ งยงิ มูลค่าของคา่ ใชจ้ ่ายทางดา้ นสุขภาพในแต่ละปี ทีมีมูลค่ามหาศาล นายแพทยท์ กั ษพล ธรรมรังสี ให้ขอ้ มูลเพิมเติมวา่ โดยทวั ไปคนมกั มีความ เขา้ ใจกนั วา่ โรค NCDs เป็นโรคของผูส้ ูงอายุ แต่จากขอ้ มูลพบวา่ ประมาณ 1 ใน 4 ของการตายดว้ ยโรค NCDs นนั เป็ นการเสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี อาการของโรคที เกิดขึนตอนสูงอายุ มกั เกิดจากพฤติกรรมเสียงสะสม ในช่วงวยั หนุ่มสาว เหมือนเรา สะสมดินระเบิดเอาไวเ้ รือยๆ จนถึงวนั ทีร่างกายรับไม่ไหวแล้ว จนตอ้ งปรากฏ อาการออกมา……เนืองจากสาเหตุของโรค NCDs มกั เกียวขอ้ งกบั การกินอยูแ่ ละ 18
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสื่อสารสุขภาพ 19 เพื่อปลูกฝงพฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพท่ีดีใหนกั ศึกษาไทย วิถีชีวิต ส่วนใหญ่จึงเชือว่าโรคเหล่านี เช่น โรคหวั ใจ โรคเบาหวาน มกั เป็ นโรค ของความอยดู่ ีกินดี และมกั เกิดขึนเฉพาะกบั คนในสังคมเมืองหรือคนรวยเท่านนั ซึงในความเป็ นจริง คนยากจนเสียงตอ่ การเป็ นโรค NCDs มากกวา่ คนรวย เพราะมีพฤติกรรมสุขภาพทีเสียงมากกว่า เช่น การสูบบุหรีและการดืมสุรา เป็ น ต้น ทีสําคัญเมือเป็ นโรคแล้ว คนยากจนจะมีความสามารถในการดูแลรักษา สุขภาพทีน้อยกวา่ จึงมกั ควบคุมอาการไม่ไดแ้ ละเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ มากกวา่ ……เนืองจากโรค NCDs มีความสัมพนั ธ์กบั พฤติกรรมเสียงทางสุขภาพ ต่างๆ เช่น สูบบุหรี ดืมสุรา กินอาหารหวาน มนั เคม็ และการขาดการออกกาํ ลงั กาย ดงั นันการจดั การวิกฤต โรค NCDs และปัจจยั เสียงหลกั จึงเป็ นเรืองที ภาครัฐและผูท้ ีเกียวขอ้ ง ควรมีหนา้ ทีจดั การสิงแวดลอ้ มในสังคม ทงั ทางกายภาพ และทางวฒั นธรรมใหเ้ อือต่อพฤติกรรมทีดีต่อสุขภาพง่ายมากขึน เช่น การควบคุม การขายและการทาํ การตลาดของสินคา้ ทาํ ลายสุขภาพหรือสร้างสุขภาพแวดลอ้ มที ส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายมากขึน เป็ นตน้ จากขอ้ มูลทีนาํ เสนอมา สามารถพิจารณาไดว้ า่ แมร้ ูปแบบการดาํ เนินชีวติ ทีวยั รุ่นหนุ่มสาวซึงเป็ นนกั ศึกษา จะเคยปฏิบตั ิกนั มาจนเคยชินและสามารถทาํ ให้ เกิดโรคร้ายแรงไดม้ ากมายนนั ยงั มีวธิ ีการป้องกนั วธิ ีการลดความเสียงต่อสุขภาพที ทรุดโทรมเกิดอาการเจ็บป่ วยตามมาไดอ้ ย่างไม่ยุ่งยากนัก คือ การปรับเปลียน ทศั นคติและพฤติกรรมในการดาํ รงชีวิตให้มีความสมดุลในทุกด้านทงั สุขภาพ ร่างกาย จากการเลือกรับประทานทีมีคุณภาพ ครบทุกหมู่สารอาหารและดูแล สุขภาพจิตใจ ไม่ให้เคร่งเครียดหรือฟุ้งซ่านไปในทางใดทางหนึงมากเกินไป รวมทงั การหมนั ออกกาํ ลงั กายอย่างสมาํ เสมอตามความเหมาะสมของสุขภาพ ร่างกาย เพียงเทา่ นีก็จะสามารถดูแลให้สุขภาพของนกั ศึกษาดีทงั ร่างกายและจิตใจ ไดอ้ ยา่ งยาวนาน 19
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการสอ่ื สารสขุ ภาพ 20 เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสริมสุขภาพท่ีดีใหนักศึกษาไทย ในด้านสถติ โิ ลก องคก์ ารอนามยั โลกไดท้ าํ นายไวว้ า่ ในปี พ.ศ. 2573 ประชากรโลกจาํ นวน 23 ล้านคนจะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและ หวั ใจ โดยร้อยละ 85 อยูใ่ นประเทศกาํ ลงั พฒั นา (สํานกั งานกองทุนสนบั สนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ 2561) ในปี 2005 ประชากรทงั โลก จาํ นวน 17.5 ลา้ นคน เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ ซึงร้อยละ 80 อยใู่ นประเทศกาํ ลงั พฒั นาและเป็นประชากรกลุ่มวยั แรงงาน ประชากรโลกเสียชีวติ จากโรคหลอดเลือดหวั ใจถึง 17 ลา้ นคน หรือ คิด เป็นร้อยละ 48 ของการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อทงั หมด รองลงมา คือ โรคมะเร็ง ร้อยละ 21 โรคถุงลมโป่ งพอง รวมโรคปอดเรือรังและหอบหืด ร้อยละ 12 (4.2 ลา้ น คน) และโรคเบาหวาน ร้อยละ 4 (1.3 ลา้ นคน) สถติ ปิ ระเทศไทย ประเทศไทยมีภาระจากกลุ่มโรค NCDs ในสัดส่วนทีสูงกว่านานาชาติ โดยสาเหตุของการเสียชีวติ ถึง 300,000 กวา่ ราย ในปี พ.ศ. 2552 หรือ คิดเป็ นร้อย ละ 73 ซึงแสดงให้เห็นวา่ ประเทศไทยมีสถิติการเสียชีวิตและผลกระทบจาก กลุ่ม โรค NCDs มากกวา่ ทงั โลก ผลการสํารวจในปี พ.ศ. 2552 ประชากรไทยเกือบ 1 ใน 3 เขา้ ข่ายภาวะ นาํ หนกั เกิน ส่วนอีกร้อยละ 8.5 เขา้ ข่ายโรคอว้ น โดยขอ้ มูลการสาํ รวจสุขภาพและ พฤติกรรมเสียงของคนไทยทีอายุ 15 ปี ขึนไป พบว่ามีสัดส่วนผูท้ ีเป็ นโรคอว้ น ในช่วง 20 ปี ทีผา่ นมา ในเพศชายเพมิ ขึนอยา่ งต่อเนือง (ปี 2535-2552) ถึง 4 เท่า คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล ร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สมาคมส่ งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพไทย (สครท.) และศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพือการควบคุมยาสูบ (ศจย.) จดั การประชุมวชิ าการสาธารณสุขแห่งชาติ ครังที 16 เรือง “ความรอบรู้สุขภาพเพือ เป้าหมายการพฒั นาทียงั ยนื : มิติการพฒั นาทรัพยากรมนุษย”์ (Health Literacy for Sustainable Development Goal: Human Resource Development) ระหวา่ งวนั ที 20
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการสอื่ สารสขุ ภาพ 21 เพ่ือปลกู ฝงพฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดีใหนักศึกษาไทย 31 พ.ค. - 1 มิ.ย. 2561 (สาํ นกั ข่าวอิศรา 2561) เพือใหผ้ ูเ้ ขา้ ร่วมประชุมมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกียวกบั การพฒั นาความรอบรู้สุขภาพ โดยเป็ นเครืองมือสําคญั ยิงใน การทีจะนาํ ความรู้ดา้ นสาธารณสุข ความปลอดภยั และสิงแวดลอ้ ม ไปประยุกตใ์ ช้ ในการดูแลสุขภาพทงั บุคคล ชุมชนและสงั คม ศาสตราจารย์นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลยั มหิดล แสดงความคิดเห็นไวว้ ่า ประเทศไทย 4.0 เป็ น โมเดลเศรษฐกิจทีจะนาํ พาประเทศไทยให้หลุดพน้ จากกบั ดกั ประเทศรายได้ปาน กลาง ความเหลือมลาํ ของความมงั คงั และกบั ดกั ความไม่สมดุลในการพฒั นา ไป พร้อมๆกบั เปลียนผ่านประเทศไทยไปสู่ประเทศทีมีความมนั คง มงั คงั และยงั ยืน อยา่ งเป็ นรูปธรรม ตามแนวทางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ดว้ ยการสร้างความ เขม้ แขง็ จากภายในควบคูไ่ ปกบั การเชือมโยงกบั ประชาคมโลกตามแนวคิดปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy: SEP) โดยขบั เคลือนผ่าน กลไกประชารัฐ ซึงสิงสาํ คญั ในการเตรียมคนไทย 4.0 คือการพฒั นาคนไทยให้เป็ นมนุษย์ ทีสมบูรณ์ คือ คนไทยทีมีปัญญาเฉียบแหลม (Head) มีทกั ษะทีเห็นผล (Hand) มี สุขภาพแข็งแรง (Health) และมีจิตใจงดงาม (Heart) ควบคู่ไปกบั การปรับเปลียน กรอบความคิด (Mindset) ทกั ษะ (Skill-Set) และพฤติกรรม (Behavior Set) ของคน ไทยทงั ระบบ “ความรอบรู้ด้านสุขภาพและการสือสารสุขภาพของบุคคล ในการ กลนั กรอง ประเมินและตดั สินใจทีจะปรับเปลียนพฤติกรรมสุขภาพ การเลือกใช้ บริการและผลิตภณั ฑ์สุขภาพไดอ้ ย่างเหมาะสมมีความสามารถในการจัดการ สุขภาพได้ด้วยตนเอง (Self - Management) และอยู่ในสังคมรอบรู้ (Literate Society) โดยเริมจากประชาชนเป็ นหลกั ให้สามารถเขา้ ถึงและเขา้ ใจขอ้ มูลความรู้ สุขภาพ มีการโต้ตอบ ซักถาม แลกเปลียน นําไปสู่การตดั สินใจปรับเปลียน พฤติกรรมตนเองและปรับสุขภาพแวดล้อมได้และบอกต่อเพือสร้างสังคมรอบรู้ สุขภาพอยา่ งยงั ยนื ” 21
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสอ่ื สารสขุ ภาพ 22 เพ่ือปลกู ฝงพฤติกรรมสงเสริมสุขภาพท่ีดใี หนักศึกษาไทย ด้านนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนมีความเสียงต่อการเกิดโรคเพิมขึนทุกกลุ่มวยั โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ ติดตอ่ มีแนวโนม้ สูงขึนและพบในคนทีมีอายนุ อ้ ยลง ซึงจากการสาํ รวจสถานการณ์ ความรอบรู้ดา้ นสุขภาพของประชาชนไทยกองสุขศึกษา กรมสนบั สนุนบริการ สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ในปี 2559 พบวา่ วยั ทาํ งาน อายุ 15-59 ปี ร้อยละ 49 มีระดบั ความรอบรู้ดา้ นสุขภาพตาม หลกั เรือง 3อ 2ส ไดแ้ ก่ อาหาร ออกกาํ ลงั กาย อารมณ์ สูบบุหรี สุรา ยงั อยใู่ น ระดบั ไม่ดี โดยเฉพาะการสือสารเพือเพิมความเชียวชาญดา้ นสุขภาพ การเขา้ ถึง ขอ้ มูลและบริการทางสุขภาพ ความรู้เท่าทนั สือและสารสนเทศ การจดั การเงือนไข ทางสุขภาพของตนเอง รวมทงั ประชาชนยงั ประสบปัญหาสุขภาพต่างๆทีเกิดจาก การเลือกใชผ้ ลิตภณั ฑด์ า้ นสุขภาพทีไมถ่ ูกตอ้ ง “ทงั นี ความรอบรู้ด้านสุขภาพจึงเป็ นปัจจยั สําคญั ทีสร้างความแตกต่าง ระหว่างคนทีสามารถจดั การสุขภาพของตนเองและครอบครัวได้ และคนทีมี ข้อจํากัดในการจัดการสุขภาพ โดยเฉพาะในยุคของข้อมูลดิจิทัลและสังคม ออนไลนข์ ณะนี ประชาชนจาํ เป็ นตอ้ งมีความสามารถในการเขา้ ถึง เขา้ ใจ ประเมิน ความน่าเชือถือของขอ้ มูล มีการกลนั กรองและเลือก โดยนาํ ไปใชใ้ นการตดั สินใจ เพือจดั การสุขภาพของตนเองและครอบครัวให้เหมาะสมและถูกตอ้ ง การทีจะทาํ ให้ประชาชนมีความสามารถขา้ งตน้ จาํ เป็ นตอ้ งอาศยั ความร่วมมือจากหน่วยงาน ในภาคส่วนตา่ งๆ อาทิ ภาคการศึกษา ภาคสาธารณสุข ภาคการสือสารมวลชน ภาค สวสั ดิการสังคมและสังคมโดยรวม ในการสร้างสุ ขภาพแวดล้อมทีเอือให้ ประชาชนมีความรอบรู้สุขภาพ” 22
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการส่ือสารสขุ ภาพ 23 เพื่อปลูกฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดใี หน กั ศึกษาไทย ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.ชะนวนทอง ธนสุ กาญจน์ คณบดีคณะ สาธารณสุขศาสตร์มหาวทิ ยาลยั มหิดล (สาํ นกั ขา่ วอิศรา 2561) กล่าววา่ ความรอบรู้ ดา้ นสุขภาพ ไดถ้ ูกประกาศให้เป็ นหนึงในสามของกิจกรรมหลกั ในการทาํ งาน สร้างเสริมสุขภาพในมหานครเซียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Shanghai Declaration) และเป็ นรากฐานทีสําคัญเพือให้เกิดการพฒั นาทียงั ยืน ดังนันการ พฒั นาทกั ษะในการใหข้ อ้ มูลข่าวสารสุขภาพแก่บุคคลและการสร้างสิงแวดลอ้ มใน สังคม องคก์ ร ทีมีการเนน้ ความสําคญั ของการใชข้ อ้ มูล การประเมินความถูกตอ้ ง ของข้อมูล และตดั สินใจด้วยข้อมูล จึงเป็ นประเด็นใหม่สําหรับบุคลากรด้าน สาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล จึงถือเป็ นบทบาทหนา้ ทีใน ฐานะสถาบนั การศึกษาทีจะมีส่วนร่วมในการขบั เคลือน และพฒั นาบุคลากรของ ประเทศ ทงั ทีเป็ นบุคลากรวิชาชีพต่างๆ ดา้ นสุขภาพบุคลากรของทุกภาคส่วนใน สงั คม เพอื ใหส้ ามารถปฏิบตั ิรูปแบบตวั วี (V Shape) คือเขา้ ถึง เขา้ ใจขอ้ มูลสุขภาพ และบริการสุขภาพ และประยุกต์ใช้ได้ สามารถตดั สินใจดูแลสุขภาพของตนเอง และครอบครัวไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และผลกั ดนั ให้เกิดการพฒั นาองคก์ รรอบรู้ดา้ น สุขภาพในทุกกลุ่มของสังคมไทย ตามทีมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา วนั ที 6 เมษายน พุทธศกั ราช 2561 โดยคณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ ได้กล่าวไวว้ ่า “การจัดประชุมวิชาการครังนี มีวัตถุประสงค์ เพือให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีความรู้ ความเข้าใจ เกยี วกบั การพฒั นาความรอบรู้สุขภาพ ซึงเป็ นเครืองมือสําคัญ ทจี ะนํา ความรู้ด้านสาธารณสุข ความปลอดภัยและสิงแวดล้อม ไปประยุกต์ใช้ในการดูแล สุขภาพของบุคคล ชุมชน และสังคม เพือเป้าหมายการพฒั นาทียงั ยืน โดยเฉพาะ ประเด็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของ หน่วยงานและองค์กรทีมีการขบั เคลือนสู่องค์กรรอบรู้สุขภาพ สังคมรอบรู้สุขภาพ แนวทางการพัฒนานักวจิ ัยด้านการรอบรู้สุขภาพ และการพัฒนางานวจิ ัยด้านการ รอบรู้สุขภาพ” 23
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการสือ่ สารสขุ ภาพ 24 เพื่อปลูกฝง พฤติกรรมสง เสริมสุขภาพท่ีดีใหนักศึกษาไทย โรคภัยทีต้องระมัดระวังให้มากยิงขึนในกลุ่มของนักศึกษา ยุคนี คือ “โรคซึมเศร้า” โดยนายแพทยเ์ จษฎา โชคดาํ รงสุข ปลดั กระทรวง สาธารณสุข กล่าวว่า องคก์ ารอนามยั โลก คาดการณ์ว่าในปี 2020 โรคซึมเศร้าจะ เป็ นสาเหตุการสูญเสียปี สุขภาพสูงเป็ นอันดับ 2 รองจากโรคหัวใจหลอด เลือด (สถานีโทรทศั น์ไทยพีบีเอส 25 ธันวาคม 2560) โดยวดั จากปี สุขภาพที สูญเสียไปจากโรคและการบาดเจ็บของประชากร (Disability-Adjusted Life Years- DALYs) จากปัจจยั ทางเศรษฐกิจและสังคม สําหรับประเทศไทยถือเป็ นปัญหาที เฝ้าจบั ตามองอนั ดบั 4 เป็ นเรืองทีสังคมตอ้ งให้ความสําคญั เพราะมีผลกระทบต่อ เศรษฐกิจและสงั คมอยา่ งมาก เนืองจากผปู้ ่ วยโรคนีหากมีอาการรุนแรงจะเสียงต่อ การฆ่าตวั ตาย หรือมีชีวิตคลา้ ยคนพิการทางสมอง ไม่สามารถทาํ งานได้ โดย กระทรวงสาธารณสุข ไดเ้ ร่งแกไ้ ขปัญหาดงั กล่าวมาโดยตลอด โดยกรมสุขภาพจิต ไดใ้ ห้ขอ้ มูลความรู้เกียวกบั โรคนีแก่ประชาชนและเพิมการเขา้ ถึงบริการต่างๆ ทาํ ใหผ้ ปู้ ่ วยโรคซึมเศร้าสามารถเขา้ ถึงบริการไดเ้ พิมขึนจากร้อยละ 20 เป็ นร้อยละ 50 พร้อมกาํ ชบั ให้เจา้ สาธารณสุขและอาสาสมคั รสาธารณสุข เร่งให้ความรู้ประชาชน ครอบครวั เพือให้สามารถสังเกตอาการและเฝ้าระวงั ความผดิ ปกติของตนเอง หรือ ผูใ้ กลช้ ิด โดยเฉพาะผูส้ ูงอายุ วยั รุ่น ผูม้ ีโรคประจาํ ตวั และส่งเขา้ รับคาํ ปรึกษากบั เจา้ หนา้ ที นกั จิตวทิ ยาหรือจิตแพทยท์ ีโรงพยาบาลใกลบ้ า้ น….และขอใหป้ ระชาชน ใช้เวลากับครอบครัวอย่างอบอุ่น สร้างความสัมพนั ธ์ ความผูกพนั ในครอบครัว กลบั ไปอยูก่ บั พอ่ แม่ ผูส้ ูงอายุ อยา่ ให้รู้สึกโดดเดียวหรือถูกทอดทิง นอกจากนีอาจ ใชส้ ือสังคมออนไลน์เป็ นตวั ช่วยสร้างความเขม้ แขง็ ของสายใยครอบครัว เช่น ไลน์ กลุ่มครอบครัว ซึงจะทาํ ใหผ้ สู้ ูงอายเุ ห็นขอ้ มูลข่าวสารของลูกหลานและขอ้ มูลอืนๆ ทีเป็ นประโยชนด์ ว้ ย 24
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสื่อสารสุขภาพ 25 เพื่อปลกู ฝงพฤติกรรมสง เสริมสุขภาพที่ดีใหนกั ศึกษาไทย ดา้ นแพทยห์ ญิงพรรณพิมล วิปุลากร รองปลดั กระทรวงสาธารณสุข และ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สําหรับผูท้ ีเริมมีอาการจะสามารถสังเกต ตนเองได้ แต่หากมีอาการรุนแรง สมาชิกในครอบครัวผูใ้ กลช้ ิดจะตอ้ งช่วยกนั สงั เกตวา่ มีอาการดงั ตอ่ ไปนีหรือไม่ 1) มีอารมณ์ซึมเศร้า 2) ความสนใจในกจิ กรรมต่างๆ แทบทงั หมดลดลงอย่างมาก 3) นําหนกั ลดลง หรือเพมิ ขึนมาก เบืออาหาร หรือเจริญอาหารมาก 4) นอนไม่หลบั หรือหลบั มากเกนิ ไป 5) กระวนกระวายอยู่ไม่สุข หรือเชืองช้าลง 6) อ่อนเพลยี ไร้เรียวแรง 7) รู้สึกตนเองไร้ค่า 8) สมาธิลดลง ใจลอย หรือลงั เลใจไปหมด 9) คิดเรืองการตาย หรือคดิ อยากตาย หากพบอาการในขอ้ 1 หรือ 2 อยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ หรือมีอาการ 5 ขอ้ หรือ มากกวา่ เป็ นอยูน่ าน 2 สัปดาห์ขึนไป และมีอาการตลอดเวลาแทบทุกวนั หมายถึง มีภาวะซึมเศร้า ควรไดร้ ับบริการปรึกษาจากผูเ้ ชียวชาญ หรือพบแพทยเ์ พือการ บาํ บดั รักษา โดยโรคนีจะไม่ทราบสาเหตุทีแน่ชดั ส่วนใหญ่มาจากปัญหา “กาย จิต สังคม” -ทางกาย เช่น ผปู้ ่ วยมีความผดิ ปกติของระดบั สารเคมีทีเซลล์สมองสร้าง ขึนเพือรักษาสมดุลยของอารมณ์ มีประวตั ิโรคซึมเศร้าในครอบครัว ซึงการรักษา จะใชย้ าช่วยปรับระดบั สารเคมีในสมอง -ทางจิตใจ ผูป้ ่ วยจะมีความคิดด้านลบกับทุกสิง ในการแก้ไขจะใช้ พฤตกิ รรมบาํ บดั โดยนกั จิตวทิ ยาหรือจิตแพทย์ 25
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสือ่ สารสุขภาพ 26 เพื่อปลูกฝงพฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพท่ีดีใหน ักศึกษาไทย -ทางสังคม จากปัญหาครอบครัว การทาํ งาน การเรียน ยาเสพติด เป็นตน้ ประชาชนสามารถประเมินตนเองดว้ ยแบบประเมินโรคซึมเศร้าได้ ทางเวบ็ ไซต์ กรมสุขภาพจิต http://www.dmh.go.th/ และแอปพลิเคชัน smilehub หรือปรึกษา สายดว่ นกรมสุขภาพจติ 1323 ตลอด 24 ชวั โมง ปัญหาสุขภาพร่างกายและสุขภาพจติ ใจทีสําคัญอกี ประการ หนึงในยุคปัจจุบัน ซึงเชือมโยงสัมพันธ์กัน จนก่อให้เกิดปัญหากับ นักศึกษาจนต้องให้ความสนใจมากยงิ ขนึ รวมทงั สาเหตุอืนๆ อกี ดว้ ย ไดแ้ ก่ 1) ความคาดหวังจากครอบครัว ในสังคมไทยจะมีการแข่งขนั ทีสูง เพอื ใหต้ นเองเรียนจบให้ไดส้ ูงทีสุดหรืออยา่ งนอ้ ยอยใู่ นระดบั ปริญญาตรี จึงส่งผล ให้นักศึกษาเกิดความเคร่งเครียดสูง และกลายเป็ นสาเหตุสําคญั อีกประการหนึง ของปัญหาสุขภาพในด้านนี และครอบครัวเป็ นปัจจยั สําคญั ในการกระตุน้ ให้ นกั ศึกษาเกิดความเครียด เนืองจากมีแรงกดดนั ทีมาจากคุณพ่อคุณแม่และสมาชิก อืนๆ ในครอบครัวค่อนขา้ งสูง อาทิ ความคาดหวงั ให้ลูกหลานตอ้ งเรียนสูงๆ ตอ้ ง ไดค้ ะแนนในระดบั ทีดี ตอ้ งเรียนจบในระดบั ทีเทา่ กบั คนอืนหรือสูงกวา่ คนอืนหรือ เพือจะไดห้ างานทาํ ไดง้ ่ายมากขึน ทาํ ให้ชือเสียงวงศ์ตระกูลภาคภูมิใจ เป็ นทีเชิด หนา้ ชูตาของญาติๆ และคนรู้จกั สาเหตุเหล่านีทาํ ใหเ้ ป็ นแรงกดดนั ทีแอบซ่อนอยู่ ลึกๆ ภายในจิตใจของนกั ศึกษาและสะสมจนส่งผลกระทบถึงสุขภาพทางจิตใจทาํ ใหน้ กั ศึกษามีความเครียดมากขึน 2) การเลือกคบเพือน ในสถาบนั การศึกษา การคบเพือนถือเป็ นปัจจยั สาํ คญั มากในการใช้ชีวติ อยู่ในรัวมหาวทิ ยาลยั แต่เพือนมีหลายประเภททีจะเลือก คบ ถา้ คบเพือนดี รักเรียน ชกั ชวนกนั ตงั ใจเรียนก็จะนาํ พาชีวิตไปสู่ผลการเรียนที น่าพึงพอใจ แต่ถา้ เลือกคบเพือนไม่ดี ไม่ตงั ใจเรียน ชอบชกั ชวนให้ไปทาํ อยา่ งอืน ในเวลาเรียน จนเราเสียสมาธิ ส่งผลใหผ้ ลการเรียนตกตาํ ไปเรือยๆ สุดทา้ ยตวั เองก็ จะเกิดความเครียด และนาํ ตวั เองไปเปรียบเทียบกบั คนอืนๆ ส่งผลให้เกิดปัญหากบั สุขภาพของจิตใจตามมา หลายรายตอ้ งออกจากการเรียนไปกลางคนั ก็มี หลายราย 26
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการสื่อสารสุขภาพ 27 เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดใี หน กั ศึกษาไทย คิดสันก็มี ซึงปรากฏเป็นข่าวตามสือต่างๆ เป็นระยะๆ ดว้ ยเหตุทีเลือกคบเพือนผิด ดงั นนั หากนกั ศึกษาคิดจะคบเพือนกลุ่มใดคนใด ให้พิจารณาดว้ ยวา่ เพือนคนนนั กลุ่มนนั เป็ นผูท้ ีจะนาํ พาชีวติ ของเราไปในทิศทางทีถูกตอ้ งเหมาะสมหรือไม่ หาก เจอเพือนไม่ดี จงพยายามปลีกตวั ให้ห่างออกมาจากเพือนคนนนั กลุ่มนนั เพราะมิ เช่นนนั ตวั เราจะตอ้ งเกิดปัญหาตามมาอยา่ งค่อนขา้ งเป็ นไปไดส้ ูง ซึงไม่คุม้ กบั เวลา ทีเราจะตอ้ งเสียไปรวมทงั สุขภาพทางจิตใจทีไม่เป็นปกติ เช่น วา้ วนุ่ ใจ นอ้ ยใจ เศร้า ใจ เสียใจ ฯลฯ กบั การคบเพอื นทีไม่ดี 3) ปัจจยั แวดล้อม ส่งผลใหเ้ กิดความคิดคาํ นึงตา่ งๆ ภายในจิตใจของ นกั ศึกษาทีมีทงั เชิงบวกและเชิงลบ โดยสามารถทาํ ใหน้ กั ศึกษาเกิดความเคร่งเครียด ขึนได้ เพราะสิงทีจะก่อให้เกิดความเครียดนนั ส่วนหนึงมาจากตวั นกั ศึกษาเองที นาํ ปัญหาตา่ งๆ รอบตวั ทุกสิงทุกอยา่ งเขา้ มาคิดในหัวสมองทาํ ใหเ้ กิดความฟ้งุ ซ่าน เกิดความวติ กกงั วลและเกิดความเครียดสะสมตามมา จนส่งผลไปถึงสุขภาพทาง จิตใจทีตกตาํ หมกมุน่ มากขึนเรือยๆ และอาจจะลุกลามส่งผลกระทบไปถึงสุขภาพ ร่างกายทีทรุดโทรมตามมาไดด้ ว้ ย ดงั นนั วธิ ีการสร้างเสริมปัญญาผา่ นกระบวนการสือสารสุขภาพเพอื ปลูกฝังพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทีดีให้นกั ศึกษาไทย จึงมีความสาํ คญั เป็นอยา่ ง มากในยุคปัจจบุ นั นีทีทงั ครอบครัว มหาวทิ ยาลยั และตวั นกั ศึกษาเอง ตอ้ งให้ ความสาํ คญั และพยายามหาวธิ ีป้องกนั หรือแกไ้ ขปัญหาดา้ นนีอยา่ งจริงจงั ไมใ่ ช่ เรืองทีจะละเลยหรือมองขา้ มไปวา่ เป็ นเรืองปกติธรรมดาเล็กนอ้ ยของกลุ่มวยั รุ่นที อยใู่ นวยั ของการเป็นนกั ศึกษาระดบั มหาวทิ ยาลยั วธิ ปี ้องกนั และแก้ไขปัญหานี หากพบว่าบุตรหลานทีเป็ นนักศึกษา เครียด หรืออาจเป็ นโรคซึมเศร้า สามารถใช้วธิ ีการป้องกนั และแก้ปัญหานันได้ ดงั นี 27
การสรางเสรมิ ปญญาผา นกระบวนการส่ือสารสขุ ภาพ 28 เพื่อปลกู ฝงพฤติกรรมสงเสริมสุขภาพที่ดใี หนกั ศึกษาไทย 1) พยายามทําจติ ใจให้สบาย ไม่คดิ ซําคดิ ยาํ วธิ ีการนีเป็ นการยอมรับกบั เหตุการณ์ทีเกิดขึนและคิดทบทวนกบั ปัญหาทีเกิดขึนแลว้ หรืออาจจะเกิดขึนได้ จงึ ตอ้ งฝึกใจให้รู้จกั ยอมรับในในสิงทีจะตามมา เพราะปัญหาไมส่ ามารถหนีจากตวั เราไปได้ ถา้ ตวั เราเป็ นคนทาํ ใหป้ ัญหานนั ๆ เกิดขึนมา 2) หลกี เลยี งจากสถานทีทอี าจทาํ ให้เกดิ ปัญหา โดยวธิ ีนีคือเป็ นการหนี ปัญหานนั เอง แตว่ ธิ ีนีถา้ จาํ เป็ นจริงๆถึงจะแนะนาํ ใหใ้ ช้เพราะการหนีปัญหามนั ไม่ อาจทาํ ใหเ้ ราหยดุ คิดเรืองราวเหล่านีไดแ้ ต่จะเป็นการเลียงเวลาในการเผชิญกบั ปัญหาใหม้ นั ยาวขึน พูดงา่ ยๆกเ็ หมือนกบั การซือเวลาในการคิดทีจะแกไ้ ขปัญหา นนั เอง 3) การหากจิ กรรมทตี นเองชอบทํา โดยพยายามคิดถึงกิจกรรมทีทาํ แลว้ ก่อใหเ้ กิดความสุขวิธีนีอาจจะใชไ้ ดผ้ ล แตส่ ่งผลไดไ้ ม่นานเพราะปัญหามนั กย็ งั อาจจะเกิดขึนได้ เพราะปัจจยั หลายๆ อยา่ งรุมลอ้ ม 4) เลือกทจี ะเผชิญกบั ปัญหาและลองเปิ ดใจในการแกไ้ ขปัญหากบั สิงทีมนั กาํ ลงั จะเกิดขึนวธิ ีการนีสามารถทาํ ใหข้ จดั ความเครียดออกไปได้ แต่อาจจะมีความ กงั วลในการเผชิญอยูก่ บั ปัญหาตอ้ งทาํ ใจให้เยน็ ๆหา้ มใจร้อน ใชส้ ตใิ หม้ ากหา้ มใช้ อารมณ์และห้ามคิดทีจะทาํ ร้ายตวั เอง 28
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการสอ่ื สารสุขภาพ 29 เพ่ือปลูกฝง พฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพท่ีดใี หน กั ศึกษาไทย โดยผเู้ ขียน (ณฐั นนั ท์ ศิริเจริญ 2562) ไดท้ าํ การวจิ ยั เชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กบั กลุ่มนกั ศึกษาทีผเู้ ขียนเป็นผสู้ อนบรรยายในแต่ละ รายวชิ า ดว้ ยวธิ ีการเก็บขอ้ มูลหลากหลายวธิ ี ไดแ้ ก่ วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) เพราะการวิจยั เชิงคุณภาพ นนั มนุษยเ์ ป็ นเครืองมือในการเก็บรวบรวมขอ้ มูลทีสาํ คญั ทีสุด ซึงผเู้ ขียนในฐานะ นกั วจิ ยั ไดว้ างแผนเก็บขอ้ มูลทงั ในดา้ นขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ มูลความคิดเห็นและทศั นคติ ของกลุ่มนกั ศึกษา โดยใชร้ ูปแบบการสัมภาษณ์และการพูดคุยอยา่ งเป็ นกนั เอง เพือ ค้นหาความหมาย ความจริ งจากนักศึกษาอย่างลึกซึงในประสบการณ์จริงที นกั ศึกษาพรังพรูมากจากความอึดอดั คบั ขอ้ งใจและไม่สามารถพูดระบายให้คนอืน ฟังไดอ้ ยา่ งจริงจงั เพราะนกั ศึกษาเกรงวา่ จะทาํ ให้ผูอ้ ืนรําคาญ และคิดเสมอว่าพ่อ แม่ก็จะไม่อยากรับฟังปัญหาทีเกิดขึนดว้ ย เพราะมกั จะตงั ความหวงั กบั ลูกๆ ทีกาํ ลงั เรียนอยวู่ า่ ตอ้ งตงั ใจเรียน ตอ้ งไดเ้ กรดสูงๆ เป็ นตน้ ดังนันเมือผูเ้ ขียนได้นังคุยแบบเปิ ดใจกับนกั ศึกษา ใช้เวลาสําหรับการ พดู คุยถามตอบปัญหาคาใจแลกเปลียนกนั ครังละ 3 ชวั โมง มีช่วงสลบั กนั สอบถาม โดยเปิ ดโอกาสให้นกั ศึกษาไดถ้ ามผเู้ ขียนเพือแลกเปลียนมุมมองซึงกนั และกนั ใน ฐานะทีผู้เขียนก็มีลูกและหลาน ซึงอยู่ในช่วงวยั ทีเกิดปัญหาคล้ายๆ กับกลุ่ม นักศึกษาผูใ้ ห้ข้อมูลเช่นกัน โดยอาศยั ความสามารถพิเศษของผูเ้ ขียนทีเป็ นผู้ สมั ภาษณ์เพอื การคน้ หารายละเอียดในประเด็นทีศึกษาอยา่ งลึกซึง และมิไดม้ ุ่งหวงั วา่ จะให้นกั ศึกษาทีเป็ นผูถ้ ูกสัมภาษณ์เลือกคาํ ตอบทีผูเ้ ขียนคิดไวก้ ่อน แต่ตอ้ งการ 29
การสรางเสรมิ ปญญาผานกระบวนการสอื่ สารสขุ ภาพ 30 เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดีใหนักศึกษาไทย ให้นกั ศึกษาผูถ้ ูกสัมภาษณ์แสดงความคิดเห็น ให้คาํ อธิบายรายละเอียดเกียวกับ ความสําคญั ของเรืองและสถานการณ์ ตลอดจนความเชือ ความหมายต่างๆ อยา่ ง ลึกซึงในแงม่ มุ ตา่ งๆ วธิ ีการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ดว้ ยการรวบรวมขอ้ มูล จากการสนทนากับกลุ่มนกั ศึกษาผูใ้ ห้ข้อมูลในประเด็นทีเฉพาะเจาะจง โดยมี ผเู้ ขียนเป็นผดู้ าํ เนินการสนทนา (Moderator) เป็ นผูค้ อยจุดประเด็นในการสนทนา เพือชกั จูงให้กลุ่มนักศึกษาเกิดแนวคิดและแสดงความคิดเห็นอย่างทีตนเองมี ประสบการณ์แบบละเอียดลึกซึง โดยผูเ้ ขียนกาํ หนดจาํ นวนนักศึกษาเขา้ ร่วมการ สนทนาในแต่ละกลุ่มประมาณ 6-10 คน ซึงมาจากกลุ่มนกั ศึกษาเป้าหมายทีกาํ หนด ไว้ โดยใชม้ ีวิธีการเก็บขอ้ มูลหลากหลาย คือ การระดมสมอง (Brian Storming) การสัมภาษณ์กลุ่ม (Group interview) และการประชุมกลุม่ (Group Meeting) วิธีการสังเกตแบบมีส่ วนร่วม (Participant Observation) ผูเ้ ขียนไดใ้ ช้ วิธี การนี เก็บข้อมู ลจากกลุ่มนักศึกษาเรื อยมาในช่ วงระยะ เวลารวมหลายภาค การศึกษา เพือตรวจสอบให้ไดข้ อ้ มูลนาํ ทางจากการวิจยั เชิงคุณภาพทีชดั เจนและ เป็ นปรากฏการณ์ทีมนั ใจได้ว่าเกิดปัญหานีขึนอย่างแน่นอนในกลุ่มประชากรนี โดยผเู้ ขียนทาํ งานในฐานะเป็ นอาจารยพ์ ิเศษและอาจารยป์ ระจาํ อยูใ่ นมหาวิทยาลยั มารวมระยะเวลาราว 20 ปี จึงมีความคุน้ เคยทาํ ให้มองเห็นภาพไดอ้ ย่างลึกซึง ดงั นนั ขอ้ มูลสาํ คญั ทีไดร้ ับมาจึงบาเอาสิงทีรับรู้จากประสบการณ์จริงมาเขียน การแก้ไขปัญหาปัญหาสุ ขภาพร่ างกายและสุ ขภาพจิตใจทีสํ าคัญของกลุ่ม นักศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับมหาวทิ ยาลยั นัน มขี ้อเสนอสรุปประเด็นสําคัญ ได้ว่า ทงั บุคลากรต่างๆ ในมหาวทิ ยาลยั และครอบครัวควรต้องเข้ามามีส่วนร่วมใน การร่วมมือกนั เพือทําให้ลูกหลานของเรารู้จักเผชิญหน้ากับปัญหาและแก้ไขอย่าง ถูกวธิ ีโดยมกี าํ ลงั ใจจาก ครู อาจารย์และครอบครัว 30
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการสือ่ สารสขุ ภาพ 31 เพื่อปลูกฝงพฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพที่ดใี หน ักศึกษาไทย โดยวธิ ีการตา่ งๆ ทีควรนาํ มาใช้ ไดแ้ ก่ 1) ในส่ วนของมหาวิทยาลัย ควรดําเนินการจัดตงั “ชมรมผ่อนคลาย ความเครียด” เป็ นชมรมทีเกียวกบั การขจดั ความเครียด การบอกกล่าวเล่ากนั ฟัง การรู้จกั เปิ ดใจทีจะอธิบายปัญหาทีนกั ศึกษาไดป้ ระสบกบั ตวั เอง เพือแลกเปลียน แนวคิดและวธิ ีการในการช่วยแกไ้ ขปัญหานนั (สุทธิชยั อมรวฒั นานุกูล 2562) 2) ในส่วนของครูอาจารย์และนักศึกษา ควรหนั หน้าเขา้ มาปรึกษาหารือ พูดคุยกนั อยา่ งเปิ ดใจวา่ สิงทีนกั ศึกษามีปัญหาดา้ นพฤติกรรมทีไม่เหมาะสมหรือมี ทศั นคติทีไม่ดีกบั สิงแวดลอ้ มรอบๆ ตวั นัน มาจากสาเหตุอะไร อาทิ มาจากการ เรียนในสาขาวชิ าทีไม่เหมาะสมกบั ตนเองหรือมาพบวา่ ไม่ชอบทีจะเรียนในคณะ หรือสาขาวชิ านนั ๆ หรือยงั มีสาเหตุจากเรืองอืนๆ พอรู้ถึงสาเหตุของปัญหาแลว้ ครู อาจารยก์ บั นกั ศึกษา ควรทีจะแลกเปลียนความคิดและช่วยกนั คน้ หาแนวทางแกไ้ ข ปัญหาดว้ ยกนั ไดด้ ีและง่ายมากขึน 3) ในส่วนของครอบครัว ควรสนใจและใส่ใจในบุตร หลาน ของตนเอง ไม่ใช่เลียงโดยการให้เงินอยา่ งเดียว ควรรับฟังปัญหาและปลอบโยนเขาในเวลาที เขามีเรืองภายในใจเพราะกาํ ลงั ใจจากครอบครัวเป็ นสิงสําคญั มาก ถา้ ทาํ เช่นนีแลว้ ปัญหาเดก็ นกั ศึกษาฆ่าตวั ตายในสงั คมน่าจะลดนอ้ ยลง ……………………………………………………………….. 31
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการส่ือสารสุขภาพ 32 เพ่ือปลกู ฝงพฤติกรรมสงเสริมสุขภาพที่ดใี หนกั ศึกษาไทย …………………………………………………………………………… การปลูกฝังพฤติกรรมส่ งเสริมสุขภาพทีดีให้นักศึกษาไทยมี ความสําคญั ทตี ้องวางแผน เนืองมาจากสาเหตุต่างๆ ดังนี 1. เพราะนักศึกษาเป็ นวัยทีมีความเปลียนแปลงมาก ทงั เพศชายและเพศ หญิงซึ งอยู่ในช่วงอายุทีเรี ยกว่า “วัยรุ่ น” หรื อในภาษาอังกฤษ เรี ยกว่า Adolescence หมายถึง เจริ ญสู่วุฒิภาวะ (Grow into Maturity) และวุฒิ ภาวะ (Maturation) โดยการเปลียนแปลงต่างๆ เกิดขึนสืบเนืองมาจากความ เจริญเติบโตทางดา้ นร่างกาย (วราภรณ์ ตระกูลสฤษดิ 2547) ดงั นนั นกั ศึกษาจึงเป็ น วยั รุ่นทีกาํ ลงั เจริญเติบโต มีการเปลียนแปลงของร่างกายหลาย ๆ ดา้ น ลว้ นเป็ นสิง ทีเขาเหล่านนั ไม่คาดฝันมาก่อนและจะเกิดความวา้ วุ่นใจ สับสน หมกมุ่น อาจไม่ กลา้ จะปรึกษาใคร เพราะรู้สึกอาย โดยเฉพาะนกั ศึกษาทีโตช้าหรือโตเร็วกวา่ คน อืน ๆ จะเกิดความวิตกกงั วลเป็ นปมด้อย ดังนันจึงต้องหาทางช่วยเหลือหรื อ ส่งเสริมใหน้ กั ศึกษาไดเ้ ขา้ ใจถึงการเปลียนแปลงทงั ดา้ นสรีระและสภาวะจิตใจของ ตนเอง เพราะหากไดเ้ กิดความเขา้ ใจในปัญหาทีเกิดขึนแลว้ ก็จะช่วยขจดั ปัญหา ความสงสัยขอ้ งใจกงั วลใจของนกั ศึกษาออกไปไดบ้ า้ งบางส่วน 32
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการสอ่ื สารสุขภาพ 33 เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสงเสริมสุขภาพที่ดีใหนกั ศึกษาไทย 2. เพือหาทางช่วยเหลอื นักศึกษา เพราะมีปัญหาหลายดา้ นและเกิดความ ขดั แยง้ ภายในใจเสมอ เช่น ควรทาํ ตามเพือนหรือทาํ ตามผูใ้ หญ่ดี จนอาจส่งผล กระทบต่อทงั การเรียน การใช้ชีวิตประจาํ วนั ลุกลามไปถึงสุขภาพร่างกายและ จิตใจ ทียาํ แยล่ งไปเรือยๆ เป็นตน้ 3. เพือเป็ นแนวทางให้นักศึกษามีแนวคิดมีทัศนคติทีดี มีวิจารณญาณ ในการตดั สินใจเพือสร้างปรัชญาในชีวิตทีถูกตอ้ ง เป็ นประโยชน์ต่อสังคม วยั นีจึง เป็นวยั ทีสาํ คญั และควรใหค้ วามสนใจมากเป็ นพเิ ศษ 4. เพือช่วยลดปัญหาสังคม เช่น อาชญากรรม ความเสือมเสียจากการ กระทาํ ของนกั ศึกษาทีมีปัญหาอนั เนืองมาจากการปรับตวั ในช่วงวยั รุ่นซึงเป็ นวยั ที มีความเปลียนแปลงอยา่ งมากและรวดเร็วในหลายดา้ น 5. เพือเป็ นแนวทางชีแนะทางออกของปัญหาให้แก่นักศึกษา เพราะบาง คนอาจมีความคิดเพอ้ ฝัน คิดฟุ้งซ่านและอาจมีวิธีการแกป้ ัญหาทีไม่ถูกตอ้ ง ดงั นนั ผูป้ กครองครูอาจารยห์ รือผูใ้ หญ่จึงตอ้ งควรหาข้อมูลเอาไวช้ ีแนะสังสอนหรือ ยกตวั อยา่ งกรณีศึกษาให้นักศึกษาเห็นเป็ นรูปธรรมจนคิดหาทางออกของปัญหา ตนเองไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม 6. เพือช่วยให้ผู้ใหญ่ทังพ่อ แม่ ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง เข้าใจนักศึกษาที เป็ นวัยรุ่น และส่งผลไปถึงการช่วยขจดั ปัญหาความไม่เข้าใจกันและกันใน ครอบครัว ระหวา่ งผปู้ กครองกบั นกั ศึกษาไดอ้ ีกทางหนึง 33
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการสอ่ื สารสุขภาพ 34 เพ่ือปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพที่ดีใหน ักศึกษาไทย ตารางที 1.5 แสดงความสาํ คญั ของสาเหตุทีตอ้ งดาํ เนินการปลูกฝังพฤติกรรม ส่งเสริมสุขภาพทีดีใหน้ กั ศึกษาไทย ข้อ สาเหตุ 1. เพราะนกั ศึกษาเป็นวยั ทีมีความเปลียนแปลงมาก 2. เพอื หาทางช่วยเหลือนกั ศึกษา 3. เพอื เป็นแนวทางใหน้ กั ศึกษามีแนวคิดมีทศั นคติทีดี 4. เพอื ช่วยลดปัญหาสงั คม 5. เพอื เป็นแนวทางชีแนะทางออกของปัญหาใหแ้ ก่นกั ศึกษา 6. เพือช่วยใหผ้ ใู้ หญ่ทงั พอ่ แม่ ครูอาจารย์ ผปู้ กครอง เขา้ ใจนกั ศึกษา ทีเป็ นวยั รุ่น ทีมา: วราภรณ์ ตระกูลสฤษดิ (2547) ทังนีการปลูกฝังพฤติกรรมส่ งเสริมสุ ขภาพทีดีให้ นักศึกษาไทยมี ความสําคัญทีต้องวางแผน เพราะมีองค์ประกอบทีสัมพนั ธ์กนั อย่างชนิดทีเรียกว่า แยกจากกันมิได้ และต้องบริ หารจัดการไปพร้อมๆ กัน จึงจะทําให้เกิด ประสิทธิภาพจากการวางแผนดาํ เนินงาน อนั ประกอบดว้ ย 1. ตวั นกั ศึกษา 2. พฤติกรรมการเรียนทงั ในสถาบนั การศึกษาและทีอืนๆ 3. พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ทีมีความเสียงดา้ นสุขภาพของนกั ศึกษา ไทยและนักศึกษาทัวโลกซึงย่อมมีความเป็ นไปทีคล้ายคลึงกันและสามารถ เชือมโยงอา้ งอิงถึงกนั ไดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล 34
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการส่อื สารสุขภาพ 35 เพื่อปลูกฝงพฤติกรรมสงเสรมิ สุขภาพที่ดใี หน ักศึกษาไทย หากเราจะใช้มมุ มองด้วยหลกั การแนวคดิ ทีเป็ นพืนฐานสําคัญและ มองโลกตามความเป็ นจริง จะพบว่า นักศึกษาซึงยังเป็ นคนหนุ่มสาว ถ้ามี สุขภาพดีย่อมมีแนวโน้ มทีจะเรียนรู้สิงต่างๆ ได้ ดีมากยิงขึน การส่ งเสริม พฤติกรรมสุขภาพสามารถช่ วยให้นักศึกษาบรรลุเป้าหมายทางการศึกษาและ สามารถเรียนจบออกไปเป็ นกําลังสําคัญของสังคมได้อย่างทีมีสุขภาพเข้มแข็ง สามารถทาํ งานให้กบั ผ้คู นและสังคมได้อกี เป็ นระยะเวลายาวนาน การส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพในสถาบนั การศึกษา ได้แก่ การบรรยาย สอนชีแนะบอกสอน การจดั กิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพทีดีต่างๆ โดยดาํ เนินการเพอื ป้องกนั และปกป้องรักษาสุขภาพของนกั ศึกษาวยั รุ่นทงั ชายและ หญิงให้ความปลอดภยั จากโรคภยั จากอาการบาดเจ็บ จากปัญหาสุขภาพทางกาย และสุขภาพทางจิตใจใหเ้ กิดขึนนอ้ ยทีสุดเท่าทีจะเป็ นไปได้ อนั เป็ นมาตรการทีทุก ฝ่ ายต้องให้ความร่วมมือกัน เช่น ตัวนักศึกษา ผูป้ กครอง ครูอาจารย์ ผูบ้ ริหาร ระดบั สูงทีมีอาํ นาจในการตดั สินใจของสถาบนั การศึกษานนั ๆ ซึงจะสามารถนาํ ให้ ภารกิ จ นี สํา เ ร็ จลุ ล่ วง ไ ป ได้อย่าง ยังยืน จา กรุ่ นสู่ รุ่ น ที เข้า ม าศึก ษาใ น สถาบนั การศึกษาตา่ งๆ จากขอ้ มูลหลกั ฐานทางวิทยาศาสตร์สุขภาพทวั ทุกมุมโลก สามารถแสดง ให้เห็นวา่ ปัญหาสุขภาพส่วนบุคคลของตวั นกั ศึกษา เช่น การกิน การพกั ผอ่ น การ ออกกาํ ลงั กายและความเครียด การเสพสารเสพติดและอารมณ์ความรู้สึกทีส่งผล ต่อสุขภาพจิต ฯลฯ มีความเกียวขอ้ งกบั มุมมองแบบองค์รวมของสุขภาพและการ ส่งเสริมสุขภาพ ดงั นนั ภารกิจนี คือ การส่งเสริมสุขภาพ การพฒั นาองคค์ วามรู้ดา้ น การดูแลป้องกนั และรกั ษาสุขภาพ จึงเป็ นเรืองทีดีทีตอ้ งมุ่งมนั ทีจะสร้างแรงบนั ดาล ใจให้กบั องคป์ ระกอบทุกภาคส่วนทีเกียวขอ้ งให้ทาํ งานทีสําคญั ในการแสวงหา แนวทางการปรับปรุงการใชช้ ีวิตประจาํ วนั ของนกั ศึกษาไทยให้ถูกตอ้ งเหมาะสม ตอ่ ไปอยา่ งยงั ยนื 35
การสรางเสริมปญญาผานกระบวนการส่อื สารสขุ ภาพ 36 เพื่อปลกู ฝง พฤติกรรมสง เสรมิ สุขภาพท่ีดีใหน ักศึกษาไทย มีดงั นี 1. การเข้าใจในพฒั นาการของวยั นกั ศึกษาเป็ นช่วงของการเป็ นวยั รุ่น ซึงเป็นวยั ทีมีการเปลียนแปลงเกิดขึน หลายดา้ น ทาํ ให้ตอ้ งมีการปรับตวั หลายดา้ นพร้อมๆกนั จึงเป็ นวยั ทีจะเกิดปัญหา ต่างๆ ในช่วงวยั นีไดม้ าก การปรับตวั ไดส้ าํ เร็จจะช่วยให้วยั รุ่นพฒั นาตนเอง จนทาํ ใหเ้ กิดการสร้างบุคลิกภาพทีดีอีกดว้ ย ดงั นนั การเรียนรู้พฒั นาการของนกั ศึกษาซึง อยูใ่ นช่วงวยั รุ่นจึงมีประโยชน์ทงั ต่อการส่งเสริมให้นกั ศึกษาเติบโตเป็ นผูใ้ หญ่ทีมี สุขภาพดีทงั ทางดา้ นสุขภาพร่างกายและสภาวะจิตใจ พัฒนาการของวยั รุ่น (Adolescent Development) หรือวยั ของ นักศึกษาไทยโดยทวั ไป โดยวยั รุ่นเพศหญิงจะเขา้ สู่วยั รุ่นเร็วกวา่ วยั รุ่นเพศชายประมาณ 2 ปี และจะเกิดการพฒั นาไปจนถึงอายปุ ระมาณ 18 ปี จึงจะเขา้ สู่วยั ผใู้ หญ่ โดยจะ เกิดการเปลียนแปลงมากมายในพฒั นาการดา้ นต่างๆ ดงั นี (พนม เกตุมาน 2556) 1.1 พฒั นาการทางร่างกาย (Physical Development) ประกอบด้วยการเปลียนแปลงทาง ร่างกายทวั ไป และการเปลียนแปลงทางเพศ เนืองจากวยั นีมีการ สร้างและหลงั ฮอร์โมนเพศ (Sex hormones) และฮอร์โมนของ การเจริญเติบโต (Growth hormone) อยา่ งมากและรวดเร็ว โดย การเปลียนแปลงทางร่างกาย (Physical changes) จะเติบโตขึน อย่างรวดเร็ว เพศหญิงจะมีไขมันมากกว่าชายทีมีกล้ามเนือ มากกวา่ ทาํ ให้เพศชายแขง็ แรงกวา่ ในดา้ นการเปลียนแปลงทาง 36
การสรางเสริมปญญาผา นกระบวนการสื่อสารสขุ ภาพ 37 เพ่ือปลูกฝงพฤติกรรมสง เสริมสุขภาพที่ดีใหน ักศึกษาไทย เพศ (Sexual changes) วยั รุ่นเพศชายจะเป็ นหนุ่มขึน มีหนวด เคราขึน เสียงแตกและเริมมีฝันเปี ยก ( Nocturnal ejaculation คือ ฝันเกียวกบั เรืองทางเพศและมีการหลงั นาํ อสุจิในขณะหลบั ) การ เกิดฝันเปี ยกครังแรกเป็ นสัญญานของการเข้าสู่วยั รุ่นของเพศ ชาย ส่วนวยั รุ่นหญิงจะเป็ นสาวขึน คือ เตา้ นมมีขนาดโตขึน มี ทรวดทรง สะโพกผายออกและเริ มมีประจําเดือนครัง แรก ( Menarche) การมีประจาํ เดือนครังแรก เป็ นสัญญานบอก การเขา้ สู่วยั รุ่นในหญิง 1.2 พัฒนาการทางจิตใจ (Psychological Development) ไดแ้ ก่ ด้านสติปัญญา (Intellectual Development) วัยนีจะมี ความสามารถในการเรียนรู้ เขา้ ใจเหตุการณ์ต่างๆ ไดล้ ึกซึงขึน แบบ มีความสามารถในการคิด วเิ คราะห์ และสังเคราะห์สิง ต่างๆ ทีพบเจอไดม้ ากขึนตามลาํ ดบั แต่ในช่วงระหว่างวยั รุ่น นี ยงั อาจขาดความยงั คิด ขาดการไตร่ตรองให้รอบคอบ มี ลกั ษณะของความใจร้อน หรือมีความคึกคะนองหรือทีเรียกกนั โดยทวั ไปวา่ หุนหนั พลนั แล่น 1.3 พัฒนาการทางสังคม (Social Development) จะเริมห่างจาก ทางบ้าน ไม่ค่อยคลุกคลีตีโมงสนิทสนมกับพ่อแม่พีน้อง เหมือนเดิม แต่จะสนใจเพือนมากกว่า จะใช้เวลากบั เพือน นานๆ ไม่อยากไปไหนกบั ทางบา้ น เริมมีความสนใจเพศตรง ขา้ ม สนใจสังคมสิงแวดลอ้ ม ปรับตวั เองให้เขา้ กบั กฎเกณฑ์ กติกาของกลุ่ม ของสงั คมไดด้ ีขึน มีความสามารถในการสือสาร เจรจา ทกั ษะสังคม การแกป้ ัญหา การประนีประนอม การ ยืดหยุ่นโอนอ่อนผ่อนตามกัน และการทํางานร่ วมกับ ผูอ้ ืน พฒั นาการทางสังคมทีดีจะเป็ นพืนฐานมนุษยสัมพนั ธ์ที ดี และบุคลิกภาพทีดี การเรียนรู้สังคมจะช่วยให้ตนเองหาแนว 37
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319