Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการสอน 3204_2007

เอกสารประกอบการสอน 3204_2007

Published by pornpithak, 2021-11-14 22:12:51

Description: เอกสารประกอบการสอน 3204_2007

Search

Read the Text Version

ชือ่ วิชา การพฒั นาหลักสตู รรายวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า จำนวนหน่วยกติ 3204 - 2007 3 หนว่ ยกิต ชัว่ โมงการสอน หลักสูตร 72 ช่ัวโมง / ภาคเรยี น ประเภทวชิ า หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชน้ั สูง พุทธศกั ราช 2557 ประเภทวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ ผศู้ ึกษา ปที ำการ นายพรพทิ กั ษ์ ศรแี กว้ ปีการศกึ ษา 2563

-2- หลักสูตรรายวชิ าที่กำหนดในหลกั สูตร ชอ่ื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ จำนวน 3 หนว่ ยกิต รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 72 ชัว่ โมง จุดประสงค์รายวิชา เพ่ือให้ 1. เขา้ ใจเก่ียวกับโครงสรา้ งและองคป์ ระกอบของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2. มีทักษะในการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 3. มีทักษะในการตรวจสอบและแก้ไขขอ้ ผลิ พลาดของโปรแกรม 4. มีคุณลกั ษณะนิสัยที่พึ่งประสงค์ และเจตคติที่ดีในวชิ าชพี คอมพิวเตอร์ธรุ กิจ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับหลักการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม 2. ออกแบบและพัฒนาโปรแกรมในงานธุรกจิ คำอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษาและปฏิบัติเก่ียวกับหลกั การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ คำสง่ั รับและแสดง ขอ้ มลู ชนิดของขอ้ มลู โครงสร้างโปรแกรมแบบต่าง ๆ การจัดการแฟม้ ข้อมูลเบอื้ งต้น เครอ่ื งมือช่วย เขียนโปรแกรม การเขียนโปรแกรมขนาดเล็กสำหรบั งานธุรกิจ กรณีศกึ ษา หมายเหตุ จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและคำอธิบายรายวิชา จากหลักสูตร หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ประเภท วิชาบริหารธุรกจิ กระทรวงศึกษาธิการ การจำแนกรายการเนื้อหาวชิ า จากจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายวิชาการเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 สามารถจำแนกเน้ือหาวิชาแบ่งเป็นหนว่ ยการเรียนการสอน โดยยึดตามแนวทางแผนการจัดการเรียนรู้วิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชน้ั สูง พุทธศักราช 2557 รายละเอยี ดการจำแนกหน่วย การเรยี นการสอน ท้งั 7 หน่วย มดี งั นี้ หนว่ ยที่ 1 เรือ่ ง แนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม หน่วยที่ 2 เรื่อง องค์ประกอบของโปรแกรม ภาษาคอมพวิ เตอร์ หนว่ ยที่ 3 เรอ่ื ง ขน้ั ตอนการแก้ปญั หา หน่วยท่ี 4 เรื่อง โปรแกรม Visual Basic หนว่ ยท่ี 5 เร่อื ง กระบวนการเขียนโปรแกรม หนว่ ยที่ 6 เร่ือง คำสั่งควบคุมการทำงานของโปรแกรม หน่วยท่ี 7 เรอ่ื ง การพฒั นาโปรแกรมทางธรุ กจิ อยา่ งงา่ ย

-3- คำอธบิ ายรายวชิ า ท-ป-น 2-2-3 รายวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดบั ชัน้ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสงู คำอธิบายรายวชิ า (เดมิ ) ศกึ ษาและปฏบิ ัตเิ กี่ยวกบั หลกั การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาคอมพวิ เตอร์ คำส่งั รบั และแสดง ข้อมูลชนดิ ของข้อมลู โครงสรา้ งโปรแกรมแบบต่าง ๆ การจัดการแฟ้มข้อมลู เบอ้ื งต้น เครือ่ งมือชว่ ย เขียนโปรแกรม การเขียนโปรแกรมขนาดเล็กสำหรับงานธรุ กจิ กรณีศกึ ษา คำอธิบายรายวชิ า (ปรบั ปรุง) ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ คำสงั่ รบั และแสดง ขอ้ มูลชนิดของข้อมูล โครงสร้างโปรแกรมแบบต่าง ๆ การจัดการแฟ้มข้อมูลเบ้ืองต้น เครื่องมือช่วย เขยี นโปรแกรม การเขยี นโปรแกรมขนาดเล็กสำหรบั งานธรุ กจิ กรณีศกึ ษา ปฏิบตั ิงานตดิ ตง้ั โปรแกรม Visual Studio Express 2015 งานปอ้ นขอ้ มูลและแสดงผล ขอ้ มลู งานประกาศตัวแปร งานเขยี นโค้ดเบ้อื งต้น งานเขยี นโปรแกรมแบบทางเลอื ก งานเขยี น โปรแกรมแบบวนซ้ำและคอนโทรล Timer งานเลือกใช้ฟังกช์ ัน/คลาส ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดจากการ ป้อนข้อมูล งานโปรแกรมสร้างอารเ์ รย์และโปรแกรมยอ่ ย งานจดั การแฟม้ ข้อมลู และงานจัดการกับ เครือ่ งพมิ พ์

-4- ตารางที่ 1 แสดงการวิเคราะห์หัวข้อหลกั หลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นสงู พุทธศกั ราช 2557 ประเภทวิชาบรหิ ารธุรกจิ ช่ือวชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 4 ช่วั โมง 3 หนว่ ยกติ หนว่ ยท่ี หัวข้อหลัก แหลง่ ขอ้ มูล E ABCD 1 แนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม ✓✓✓ 2 องคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ ✓✓✓ 3 ภาษาคอมพวิ เตอร์ ✓✓✓ 4 ขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา ✓✓✓ 5 กระบวนการเขียนโปรแกรม ✓✓✓ 6 คำสงั่ ควบคมุ การทำงานของโปรแกรม ✓✓✓ 7 การพฒั นาโปรแกรมทางธุรกิจอย่างง่าย ✓✓✓ แหลง่ ขอ้ มลู (Sources) A : หลักสตู รรายวชิ า (Course Description) B : ตำราและเอกสาร (Literatures) C : ประสบการณ์ (Experiences) D : ผเู้ ช่ียวชาญ (Experts) E : อื่นๆ (Other)

-5- ตารางที่ 2 แสดงการวเิ คราะหห์ วั ข้อยอ่ ย หลกั สตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้ันสูง พทุ ธศกั ราช 2557 ประเภทวชิ าบริหารธุรกิจ ช่อื วชิ าการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ช่วั โมง 3 หน่วยกิต หน่วยที่ 1 เรอื่ ง แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม ลำดับท่ี หัวข้อย่อย แหล่งข้อมลู E ABCD 1 ความหมายของการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ✓✓✓ ✓✓✓ 2 หลกั การพฒั นาการเขียนโปรแกรม ✓✓✓ 3 หลกั การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้ เครอ่ื งมอื กราฟกิ โหมด แหล่งข้อมลู (Sources) A : หลกั สตู รรายวชิ า (Course Description) B : ตำราและเอกสาร (Literatures) C : ประสบการณ์ (Experiences) D : ผู้เช่ียวชาญ (Experts) E : อน่ื ๆ (Other)

-6- ตารางที่ 2 (ต่อ) แสดงการวเิ คราะหห์ ัวขอ้ ยอ่ ย หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สูง พุทธศกั ราช 2557 ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ ช่ือวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ช่ัวโมง 3 หนว่ ยกติ หนว่ ยที่ 2 เร่ือง องคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ ลำดับท่ี หัวขอ้ ย่อย แหล่งข้อมลู E ABCD 1 คอมพิวเตอรซ์ อฟต์แวร์ ✓✓✓ 2 ระดบั ของภาษาคอมพวิ เตอร์ ✓✓✓ 3 โครงสรา้ งของขอ้ มลู ✓✓✓ แหลง่ ขอ้ มลู (Sources) A : หลกั สตู รรายวชิ า (Course Description) B : ตำราและเอกสาร (Literatures) C : ประสบการณ์ (Experiences) D : ผู้เชย่ี วชาญ (Experts) E : อน่ื ๆ (Other)

-7- ตารางท่ี 2 (ต่อ) แสดงการวิเคราะห์หวั ข้อย่อย หลกั สตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้ันสงู พุทธศกั ราช 2557 ประเภทวิชาบรหิ ารธุรกิจ ช่ือวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ช่ัวโมง 3 หนว่ ยกิต หนว่ ยที่ 3 เร่อื ง ขั้นตอนการแก้ปญั หา ลำดบั ที่ หวั ขอ้ ย่อย แหล่งขอ้ มูล E ABCD 1 ข้ันตอนการแกไ้ ขปัญหา ✓✓✓ 2 อัลกอริทมึ ✓✓✓ 3 รหัสเทยี ม ✓✓✓ 4 การเขยี นผงั งาน ✓✓✓ 5 แผนภูมโิ ครงสร้าง ✓✓✓ แหล่งข้อมูล (Sources) A : หลักสตู รรายวิชา (Course Description) B : ตำราและเอกสาร (Literatures) C : ประสบการณ์ (Experiences) D : ผูเ้ ช่ยี วชาญ (Experts) E : อนื่ ๆ (Other)

-8- ตารางที่ 2 (ตอ่ ) แสดงการวเิ คราะห์หัวขอ้ ย่อย หลักสตู ร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชั้นสูง พทุ ธศักราช 2557 ประเภทวิชาบรหิ ารธรุ กิจ ช่ือวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ชั่วโมง 3 หนว่ ยกติ หนว่ ยที่ 4 เรือ่ ง โปรแกรม Visual Basic ลำดบั ท่ี หวั ข้อยอ่ ย แหลง่ ขอ้ มูล ABCDE 1 การใชง้ านของโปรแกรม Visual Basic ✓✓✓ 2 การเปิดโปรแกรม Visual Basic ✓✓✓ 3 การสรา้ ง Project ใหม่ และเรยี ก Project เดมิ ขึ้นมา ✓ ✓ ✓ ใช้งาน 4 การบันทกึ Form และ Project ✓✓✓ 5 การออกจากโปรแกรม ✓✓✓ 6 การกำหนดสภาวะแวดลอ้ มของโปรแกรม Visual ✓✓✓ Basic 7 การใชเ้ ครือ่ งมอื Toolbar ✓✓✓ 8 การใช้เครื่องมือ ToolBox ✓✓✓ 9 การใชห้ นา้ ตา่ ง Project Explorer ✓✓✓ 10 การใช้ Form Designer ✓✓✓ 11 การใช้หน้าตา่ ง Properties Window ✓✓✓ 12 การกำหนด Properties ใหก้ บั Form ✓✓✓ 13 การเพ่ิมและลบ Form ออกจาก Project ✓✓✓ 14 การส่ังใหโ้ ปรแกรมทำงาน (Run program) ✓✓✓ A : หลกั สตู รรายวิชา (Course Description) B : ตำราและเอกสาร (Literatures) แหล่งข้อมูล (Sources) C : ประสบการณ์ (Experiences) D : ผู้เชยี่ วชาญ (Experts) E : อืน่ ๆ (Other)

-9- ตารางที่ 2 (ต่อ) แสดงการวิเคราะหห์ ัวขอ้ ยอ่ ย หลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สูง พุทธศักราช 2557 ประเภทวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ ชอื่ วชิ าการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ชวั่ โมง 3 หนว่ ยกิต หนว่ ยที่ 5 เรื่อง กระบวนการเขยี นโปรแกรม ลำดบั ท่ี หัวข้อย่อย แหลง่ ขอ้ มูล ABCDE 1 การสร้างและกำหนดคุณสมบัติของ Label บน Form ✓ ✓ ✓ 2 การสร้างและกำหนดคุณสมบตั ขิ อง TextBox บน ✓✓✓ Form 3 การเขยี นคำสงั่ ใน TextBox ใหโ้ ปรแกรมทำงานตาม ✓✓✓ คำสง่ั 4 การสรา้ งและกำหนดคุณสมบัติของ Button บน ✓✓✓ Form 5 การเขียนคำส่งั ใน Button ใหโ้ ปรแกรมทำงานตาม ✓✓✓ คำสง่ั 6 การสรา้ งและกำหนดคุณสมบตั ิของ RadioButton ✓✓✓ CheckBox และ GroupBox บน Form 7 การใชค้ ำสัง่ ในการทำงาน RadioButton CheckBox ✓✓ ✓ ทำงานตามคำส่ัง 8 การสรา้ งและกำหนดคุณสมบตั ิของ ListBox และ ✓✓✓ ComboBox บน Form 9 การเขยี นคำสง่ั ใน ListBox และ ComboBox ให้ ✓✓✓ โปรแกรมทำงานตามคำส่งั A : หลกั สูตรรายวิชา (Course Description) B : ตำราและเอกสาร (Literatures) แหล่งขอ้ มูล (Sources) C : ประสบการณ์ (Experiences) D : ผูเ้ ช่ยี วชาญ (Experts) E : อ่นื ๆ (Other)

- 10 - ตารางที่ 2 (ตอ่ ) แสดงการวิเคราะห์หัวขอ้ ย่อย หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชัน้ สูง พุทธศักราช 2557 ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ ช่ือวชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ช่ัวโมง 3 หนว่ ยกติ หน่วยที่ 6 เร่อื ง คำส่งั ควบคุมการทำงานของโปรแกรม ลำดบั ท่ี หัวขอ้ ย่อย แหล่งขอ้ มูล E ABCD 1 ชนิดของขอ้ มูลและตัวแปร ✓✓✓ 2 ตัวดำเนินการ ✓✓✓ 3 ประโยคคำสัง่ ✓✓✓ แหล่งข้อมูล (Sources) A : หลกั สตู รรายวิชา (Course Description) B : ตำราและเอกสาร (Literatures) C : ประสบการณ์ (Experiences) D : ผเู้ ชี่ยวชาญ (Experts) E : อื่นๆ (Other)

- 11 - ตารางท่ี 2 (ตอ่ ) แสดงการวเิ คราะห์หวั ข้อย่อย หลักสตู ร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้ันสงู พทุ ธศกั ราช 2557 ประเภทวชิ าบริหารธุรกิจ ชอ่ื วชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ชว่ั โมง 3 หนว่ ยกติ หนว่ ยที่ 7 เร่อื ง การพฒั นาโปรแกรมทางธุรกจิ อย่างงา่ ย ลำดบั ที่ หวั ขอ้ ย่อย แหลง่ ขอ้ มูล E ABCD 1 การสรา้ งโปรแกรมท่ีมีหลายฟอร์ม ✓✓✓ 2 โปรแกรมทางธรุ กจิ อยา่ งง่าย ✓✓✓ แหล่งข้อมูล (Sources) A : หลกั สตู รรายวิชา (Course Description) B : ตำราและเอกสาร (Literatures) C : ประสบการณ์ (Experiences) D : ผู้เชีย่ วชาญ (Experts) E : อ่นื ๆ (Other)

- 12 - ความตอ้ งการในอาชพี วิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 หลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 เป็นรายวิชาที่เปิดสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง แก่ ผู้เรียนในสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ซึ่งถือว่าเป็นรายวิชาท่ีผู้เรียนสามารถนำไปใช้ในการประกอบ อาชีพ ตามสาขาวิชาท่ีต้องการได้เป็นอย่างดี โดยการจัดการเรียนการสอนต้องดำเนินไปให้ตรงตาม จุดประสงค์ของหลักสูตรคือผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2557 ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สามารถปฏิบัติงานระดับช่างเทคนิค และผู้ควบคุมงาน มคี วามรู้ ความสามารถ เจตคติ และประสบการณด์ ้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. เพ่ือให้สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะด้านการส่ือสาร ทักษะการคิดและการ แก้ปญั หา และทักษะทางสังคมและการดำรงชวี ิตในการพฒั นาตนเองและวิชาชีพ 2. เพ่ือให้มีความเข้าใจหลักการบริหารและจัดการวชิ าชีพ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ หลกั การของงานอาชพี ทส่ี มั พันธ์เก่ยี วข้องกบั การพัฒนาวิชาชีพคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ ให้ทันต่อการ เปล่ยี นแปลงและความกา้ วหน้าของเศรษฐกจิ สังคมและเทคโนโลยี 3. เพื่อให้มีความเข้าใจในหลักการและกระบวนการทำงานในกลุ่มงานพื้นฐานด้าน คอมพิวเตอร์ธุรกจิ 4. เพือ่ ใหส้ ามารถประยุกตใ์ ชส้ ารสนเทศในการปฏบิ ัตงิ านทางธุรกิจ 5. เพ่ือให้สามารถปฏบิ ตั ิงาน แก้ปญั หา และให้คำแนะนำดา้ นสารสนเทศในธุรกจิ 6. เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ในสถานประกอบการและประกอบ อาชพี อสิ ระรวมท้งั การใช้ความรูแ้ ละทกั ษะเปน็ พ้ืนฐานในการศกึ ษาต่อในระดบั สูงข้นึ ได้ 7. เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่องานอาชีพ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย เปน็ ผ้มู ีความรับผิดชอบตอ่ สงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม ต่อตา้ นความรนุ แรงและสารเสพติด ดังนั้นความต้องการในอาชีพสำหรับผู้เรียน จึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างมาก เพราะ ต้องนำไปใช้ในการประกอบอาชีพและใช้สำหรับเปน็ พ้ืนฐานในการศึกษาขั้นสูงต่อไป เป้าหมายผู้เรียน เป้าหมายผู้เรยี น เกยี่ วกบั คณุ สมบตั ิของผูเ้ รยี นทีจ่ ะตอ้ งมาเรยี นวชิ าการเขยี นโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพชั้นสงู พุทธศกั ราช 2557 มดี ังน้ี 1. คุณลักษณะทางกายภาพ เพศชาย และหญงิ 2. การศกึ ษา จบการศึกษาในระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ 3. การจูงใจ ผู้เรยี นมีความสนใจมีความปรารถนาท่ตี ้องการคะแนนหรอื ผลการเรยี น 4. ความสามารถ ผู้เรยี นมคี วามรู้ในระดบั ปานกลาง ชอบการเรยี นที่สามารถเหน็ หรือรู้ได้ จากสภาพชวี ิตประจำวันหรือสิง่ ท่เี คยผา่ นประสบการณ์ มาก่อน 5. เจตคติ ผู้เรยี นมีความรูส้ ึกไมช่ อบวชิ าการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 โดยทั่วไปอยแู่ ล้วเน่อื งจากมีความวติ กกังวลในกระบวนการเรียนรใู้ นการปฏบิ ตั งิ าน

- 13 - รายวชิ าที่สมั พนั ธ์กัน กกกกกกกรายวชิ าท่ีมีความสมั พนั ธก์ บั วชิ าการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 หลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้ันสูง พทุ ธศักราช 2557 จะเปน็ รายวชิ าท่ีผูเ้ รียนศกึ ษาคอื 1..กลมุ่ ทักษะวชิ าชพี เฉพาะ 3204 - 2001 วิชาการประกอบเครื่องคอมพวิ เตอร์และการติดตัง้ ซอฟต์แวร์ 3204 - 2003 วิชาการสื่อสารข้อมลู และเครือข่าย 3204 - 2004 วิชาระบบจัดการฐานขอ้ มลู วิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 หลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 เป็นวิชาที่ต้องเรียนก่อน จึงนำไปบูรณาการเพ่ือใช้ในการศึกษา และวิชาโครการ รหสั วิชา 2204 - 8501 โดยท้ังนีจ้ ะทำให้ผูเ้ รียนเกดิ การเรียนรู้ มีทักษะความสามารถ และนำไปใชส้ ำหรับการประกอบอาชีพไดอ้ ยา่ งแท้จริง ความต้องการเรยี งลำดับก่อนหลงั รายการพจิ ารณาความต้องการเรยี งลำดับกอ่ นหลังนนั้ ใชข้ อ้ มูลจากจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคำอธบิ ายรายวชิ า ตามหลักสตู รกำหนด ซึง่ สามารถสรุปไดด้ ังนี้ 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับหลกั การออกแบบและพฒั นาโปรแกรม 2. ออกแบบและพัฒนาโปรแกรมในงานธุรกจิ คำอธบิ ายรายวชิ า นักศึกษาแสดงความรู้เก่ยี วกบั หลกั การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาคอมพวิ เตอร์ คำสั่งรับและ แสดงข้อมูลชนิดของข้อมูล โครงสร้างโปรแกรมแบบต่าง ๆ การจัดการแฟม้ ขอ้ มลู เบ้อื งต้น เครือ่ งมอื ช่วยเขียนโปรแกรม การเขียนโปรแกรมขนาดเล็กสำหรับงานธรุ กิจ กรณศี ึกษา

- 14 - ตารางท่ี 3 แสดงการจดั หน่วยการเรยี นรู้ หลักสตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสงู พุทธศกั ราช 2557 ประเภทวิชาบรหิ ารธรุ กจิ ชือ่ วิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 72 ชวั่ โมง หนว่ ยที่ ชือ่ หน่วย เวลา/ช่ัวโมง แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม 1 4 2 องค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 8 3 ข้นั ตอนการแก้ปญั หา 12 โปรแกรม Visual Basic 4 12 กระบวนการเขยี นโปรแกรม 5 12 6 คำสัง่ ควบคมุ การทำงานของโปรแกรม 8 7 การพัฒนาโปรแกรมทางธุรกจิ อย่างงา่ ย 16 รวม 72

- 15 - ตารางที่ 4 แสดงการจัดหน่วยการเรียนรู้ย่อย หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้นั สูง พทุ ธศักราช 2557 ประเภทวิชาบรหิ ารธรุ กจิ ชื่อวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 72 ชว่ั โมง หนว่ ยท่ี หน่วยยอ่ ย เวลา / ชว่ั โมง 1. แนวคิดในการพฒั นา 1. ความหมายของการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ โปรแกรม 2. หลักการพัฒนาการเขยี นโปรแกรม 4 3. หลกั การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้ เครือ่ งมอื กราฟกิ โหมด 2. องคป์ ระกอบของ 1. คอมพิวเตอรซ์ อฟตแ์ วร์ โปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ 2. ระดบั ของภาษาคอมพวิ เตอร์ 8 3. โครงสรา้ งของขอ้ มลู 3. ขนั้ ตอนการแก้ปญั หา 1. ข้ันตอนการแก้ไขปัญหา 2. อลั กอริทมึ 3. รหสั เทียม 12 4. การเขยี นผังงาน 5. แผนภมู โิ ครงสร้าง 4. โปรแกรม Visual Basic 1. การใช้งานของโปรแกรม Visual Basic 2. การเปิดโปรแกรม Visual Basic 3. การสรา้ ง Project ใหม่ และเรียก Project เดิมขนึ้ มา ใชง้ าน 4. การบนั ทึก Form และ Project 5. การออกจากโปรแกรม 12 6. การกำหนดสภาวะแวดล้อมของโปรแกรม Visual Basic 7. การใชเ้ ครือ่ งมือ Toolbar 8. การใชเ้ ครอื่ งมอื ToolBox 9. การใชห้ นา้ ต่าง Project Explorer

- 16 - ตารางที่ 4 (ตอ่ ) แสดงการจัดหน่วยการเรยี นรยู้ อ่ ย หลักสตู ร ประกาศนียบตั รวิชาชีพชัน้ สงู พทุ ธศักราช 2557 ประเภทวิชาบริหารธรุ กจิ ชอ่ื วิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 72 ชว่ั โมง หนว่ ยท่ี หน่วยย่อย เวลา / ช่ัวโมง 4. โปรแกรม Visual Basic 10. การใช้ Form Designer (ต่อ) 11. การใช้หนา้ ต่าง Properties Window 12. การกำหนด Properties ให้กับ Form 13. การเพิม่ และลบ Form ออกจาก Project 14. การสง่ั ใหโ้ ปรแกรมทำงาน (Run Program) 5. กระบวนการเขียน 1. การสรา้ งและกำหนดคุณสมบตั ิของ Label บน โปรแกรม Form 2. การสรา้ งและกำหนดคุณสมบตั ิของ TextBox บน Form 3. การเขยี นคำสัง่ ใน TextBox ให้โปรแกรมทำงานตาม คำสั่ง 4. การสรา้ งและกำหนดคณุ สมบตั ิของ Button บน Form 5. การเขียนคำสัง่ ใน Button ให้โปรแกรมทำงานตาม 12 คำส่ัง 6. การสร้างและกำหนดคุณสมบัติของ RadioButton CheckBox และ GroupBox บน Form 7. การใช้คำสงั่ ในการทำงาน RadioButton CheckBox ทำงานตามคำส่งั 8. การสรา้ งและกำหนดคุณสมบัติของ ListBox และ ComboBox บน Form 9. การเขียนคำสง่ั ใน ListBox และ ComboBox ให้ โปรแกรมทำงานตามคำส่งั

- 17 - ตารางท่ี 4 (ตอ่ ) แสดงการจดั หนว่ ยการเรยี นรู้ย่อย หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพชั้นสงู พทุ ธศกั ราช 2557 ประเภทวิชาบริหารธุรกจิ ชื่อวิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 72 ชวั่ โมง หน่วยที่ หน่วยย่อย เวลา / ชว่ั โมง 6. คำสง่ั ควบคุมการทำงาน 1. ชนดิ ของขอ้ มูลและตวั แปร ของโปรแกรม 2. ตวั ดำเนินการ 8 16 3. ประโยคคำสั่ง 7. การพัฒนาโปรแกรมทาง 1. การสร้างโปรแกรมทีม่ หี ลายฟอรม์ ธุรกจิ อย่างง่าย 2. โปรแกรมทางธุรกิจอยา่ งง่าย

- 18 - การออกแบบการเรยี นการสอน การกำหนดวธิ กี ารเพ่ือให้บรรลุเป้าหมาย หรอื กลยุทธ์การเรยี นการสอน เป็นการเลือกวธิ ีการ จัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมาย โดยการเลือกวิธีการจัดการเรียนการสอนให้ เหมาะสม เช่น การบรรยาย การสาธิต การทดลอง การอภิปรายกลุ่มย่อย ฯลฯ หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สูง พทุ ธศักราช 2557 ได้กำหนดจดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 ไว้เปน็ แนวทางในการสอนเพอื่ แสดงถงึ สิง่ ทผี่ ู้เรียนจะสามารถทำไดห้ ลังจากจบการ เรียนวิชานีแ้ ล้ว ในส่วนของผู้สอนจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม วิธกี ารสอน เพื่อทราบ ขอบข่ายรายละเอยี ดเน้ือหาในการจัดการเรียนการสอนใหบ้ รรลตุ ามทีจ่ ุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะ รายวิชาและคำอธิบายรายวิชาท่ีกำหนดไวใ้ นหลกั สูตรการใช้เอกสารประกอบการสอนเพื่อจัดการเรยี น การสอน โดยต้องวางแผนอย่างเปน็ ระบบ (Process of systematic planning) การออกแบบการ เรียนการสอน (Instructional design) ซ่งึ มอี งคป์ ระกอบท่ีสำคัญ ดังน้ี 1. ผู้เรยี น พจิ ารณาลักษณะของผู้เรยี นเพ่ือออกแบบการเรียนการสอนทีเ่ หมาะสม 2. วัตถปุ ระสงค์ กำหนดวัตถปุ ระสงค์ว่าตอ้ งการจะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อะไรบา้ ง 3. วธิ กี ารและกิจกรรม กำหนดกิจกรรมที่จะจดั กิจกรรมการเรียนการสอน 4. การประเมิน กำหนดวธิ ีการประเมินตามวตั ถุประสงค์ทกี่ ำหนด องค์ประกอบทส่ี ำคัญในการออกแบบการเรยี นการสอนมี 5 องคป์ ระกอบ ดงั นี้ 1. การวิเคราะห์ (Analysis) เป็นกระบวนการของการกำหนดสิ่งท่ีเรียน เชน่ การวเิ คราะห์ ความต้องการจำเป็น การระบปุ ญั หา การวิเคราะหภ์ าระงาน 2. การออกแบบ (Design) เป็นกระบวนการของการกำหนดวิธีเรียน เช่น การเขียน วัตถปุ ระสงค์ การพัฒนาขอ้ สอบ การวางแผนการเรยี นการสอน การระบแุ หล่งทรพั ยากร 3. การพัฒนา (Development) เป็นกระบวนการของการเขียนและผลิตส่ือต่าง ๆ เช่น การทำงานรว่ มกบั ผ้ผู ลติ การพฒั นาหนงั สือเรียน 4. การนำไปใช้ (Implementation) เป็นกระบวนการของการนำไปใช้ในบริบทจริง เช่น ผสู้ อนฝกึ ใช้ ผเู้ รยี นทดลองใช้ 5. การประเมินผล (Evaluation) เป็นกระบวนการของการกำหนดความเหมาะสมของการ เรยี นการสอน เชน่ การบนั ทกึ ขอ้ มูลจากการใชง้ าน ผลการทดสอบ การปรับปรงุ กิจกรรม

- 19 - การวเิ คราะหว์ ัตถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม วัตถุประสงค์การเรียนรู้ถือเป็นส่ิงสำคัญของการเรียนการสอนเพราะจะเป็นสิ่งที่จะนำไป กำหนดเน้ือหาวิชา กิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อนำเสนอเน้ือหาสาระความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ เดิมกับความรู้ใหม่สอดคลอ้ งกัน และกำหนดกลยุทธ์การเรียนการสอนท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน สื่อการ สอน Norman Gronlund ไดแ้ บง่ วัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ เป็น 2 ระดับ คือ 1. วัตถุประสงค์ท่ัวไป (General Objectives) เป็นวัตถุประสงค์ท่ีกล่าวอย่างกว้าง ๆ แต่มี ขอบเขตความหมายเหมาะสมกับเนือ้ หา 2. วัตถุประสงค์เฉพาะหรือจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (Behavioral Objectives) เป็น จดุ ประสงคท์ ีค่ าดหวังเหน็ การเปลีย่ นแปลงพฤตกิ รรมของผเู้ รียนที่สามารถสังเกตเหน็ ได้ ดังน้ันการเขียนวัตถุประสงค์โดยวิเคราะห์วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม จะเป็นส่วนในการ กำหนดแนวทางการจดั การเรยี นการสอนอยา่ งเปน็ รูปธรรม โดยการวเิ คราะหต์ ามพิสยั การเรยี นรตู้ าม แนวคิดของบลมู และคณะ (Bloom et al. 1956) แยกออกตามพิสัย 3 ด้าน คือ พุทธิพิสัย (Cognitive Domain) เป็นวัตถุประสงค์ท่ีเก่ียวกับความรู้ความเข้าใจ การใช้ ความคดิ เป็นการเรียนรู้ทางสติปัญญา โดยแบ่งเปน็ 6 ขน้ั ซ่งึ เรยี งลำดับการเกิดพฤติกรรมจากขั้น ต่ำสุดถงึ ข้นั สงู สุด เปน็ พฤติกรรมการเรียนรูท้ างด้านสติปญั ญา 6 ด้าน คอื ด้านท่ี 1 ความรคู้ วามจำ ดา้ นท่ี 2 ความเข้าใจ ดา้ นท่ี 3 การนำไปใช้ ดา้ นที่ 4 การวิเคราะห์ ดา้ นที่ 5 การสงั เคราะห์ ด้านที่ 6 การประเมินคา่ ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) เป็นวัตถุประสงค์ท่ีเกี่ยวกับการกระทำ การ แสดงออกอย่างมีทักษะในการดำเนินการเก่ียวกับเร่ืองต่าง ๆ เป็นการเรียนรู้ด้านการปฏิบัติ ซึ่ง เรยี งลำดับการเกิดพฤติกรรมจากข้ันต่ำสุดถึงขั้นสูงสุด เป็นพฤตกิ รรมการเรียนรูท้ างทักษะการปฏิบัติ 5 ด้าน คือ ด้านที่ 1 การเลียนแบบ ดา้ นที่ 2 การทำตามแบบ ด้านท่ี 3 การทำถูกต้องแม่นยำ ด้านที่ 4 การทำอย่างผสมผสาน ด้านท่ี 5 การทำอย่างอัตโนมัติ จติ พิสัย (Affective Domain) เปน็ วัตถุประสงค์ท่เี ก่ยี วกับเจตคติ ทัศนคติ มมุ มอง คณุ ค่า ความซาบซึ้ง การปรับตัว เป็นการเรียนรู้ด้านความรู้สึก ซ่ึงเรียงลำดับการเกิดพฤติกรรมจาก ข้นั ตำ่ สดุ ถึงขน้ั สูงสุด เปน็ พฤติกรรมการเรียนรดู้ า้ นจติ สำนึก ทศั นคตแิ ละอารมณ์ 5 ด้าน คือ ด้านที่ 1 การรับรู้ ดา้ นที่ 2 การตอบสนอง ดา้ นท่ี 3 การเห็นคุณค่า

- 20 - ดา้ นท่ี 4 การจดั ระบบการคิด ด้านที่ 5 การมลี กั ษณะเฉพาะตน

- 21 - ตารางที่ 5 แสดงการวิเคราะห์วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม หลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้ันสงู พุทธศกั ราช 2557 ประเภทวิชาบรหิ ารธุรกจิ ช่ือวชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ชว่ั โมง 3 หน่วยกติ กกกกกกกหน่วยท่ี 1 เรอ่ื ง แนวคิดในการพัฒนาโปรแกรม ระดับพฤติกรรมท่ตี อ้ งการ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย ดา้ นทักษะพสิ ยั ด้านจติ พิสยั หน่วย ชือ่ หนว่ ย ความจำ ท่ี หวั ขอ้ การสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ่คา การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโน ัม ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็น ุคณ ่คา การ ัจดระบบการ ิคด การ ีม ัลกษณะเฉพาะตน 1 แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 ✓ ✓✓ 1. อธิบายความหมายของการเขยี น ✓ ✓✓ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ ✓ ✓✓ 2. อธิบายหลกั การพัฒนาการเขียน โปรแกรมได้ 3. อธบิ ายหลักการออกแบบและ พฒั นาโปรแกรมโดยใชเ้ คร่อื งมอื กราฟิกโหมดได้

- 22 - ตารางท่ี 5 (ต่อ) แสดงการวิเคราะห์วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม กกกกกกกหลักสูตร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชัน้ สูง พทุ ธศักราช 2557 ประเภทวชิ าบริหารธุรกิจ ช่ือวิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 4 ชัว่ โมง 3 หนว่ ยกติ กกกกกกกหนว่ ยท่ี 2 เร่อื ง องคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ ระดับพฤติกรรมที่ต้องการ ด้านพทุ ธิพิสยั ดา้ นทักษะพสิ ัย ด้านจติ พสิ ยั หน่วย ชอื่ หนว่ ย ความจำ ท่ี หวั ข้อการสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ่คา การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโน ัม ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็น ุคณ ่คา การ ัจดระบบการ ิคด การ ีม ัลกษณะเฉพาะตน 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 2 องค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับคอมพวิ เตอร์ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ซอฟตแ์ วร์แบบตา่ ง ๆ ได้ 2. อธิบายระดับของ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ภาษาคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. อธิบายโครงสร้างของข้อมลู ได้ ✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓

- 23 - ตารางที่ 5 (ต่อ) แสดงการวเิ คราะหว์ ตั ถุประสงค์เชิงพฤตกิ รรม กกกกกกกหลักสตู ร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชนั้ สูง พุทธศักราช 2557 ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ ช่ือวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 4 ชวั่ โมง 3 หนว่ ยกติ กกกกกกกหนว่ ยที่ 3 เร่อื ง ขน้ั ตอนการแก้ปัญหา ระดบั พฤตกิ รรมที่ต้องการ ดา้ นพุทธพิ ิสยั ดา้ นทกั ษะพิสัย ดา้ นจิตพิสยั หน่วย ชอื่ หนว่ ย ความจำ ท่ี หัวขอ้ การสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ่คา การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโน ัม ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็น ุคณ ่คา การ ัจดระบบการ ิคด การ ีม ัลกษณะเฉพาะตน 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 3 ขั้นตอนการแก้ปัญหา ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 1. บอกขน้ั ตอนการแก้ไขปญั หาได้ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การทำงาน ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ อัลกอริทึมได้ 3. แสดงความรเู้ กีย่ วกับการใช้รหัส ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ เทยี มในการทำงานได้ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 4. เขยี นผังงานได้ 5. เขยี นแผนภมู ิโครงสรา้ งได้

- 24 - ตารางท่ี 5 (ต่อ) แสดงการวเิ คราะหว์ ัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม กกกกกกกหลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ ช่ือวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ชัว่ โมง 3 หน่วยกิต กกกกกกกหน่วยท่ี 4 เรอ่ื ง โปรแกรม Visual Basic ระดับพฤตกิ รรมทีต่ ้องการ ด้านพุทธิพสิ ัย ด้านทกั ษะพิสยั ดา้ นจิตพิสยั หนว่ ย ชอ่ื หน่วย ความจำ ท่ี หัวข้อการสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ่คา การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโน ัม ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็น ุคณ ่คา การ ัจดระบบการ ิคด การ ีม ัลกษณะเฉพาะตน 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 4 โปรแกรม Visual Basic 1. อธิบายการใช้งานของโปรแกรม ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ Visual Basic ได้ 2. เปดิ โปรแกรม Visual Basic เพ่อื ใช้ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ งานได้ 3. สรา้ ง Project ใหม่ และเรยี ก ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ Project เดมิ ขึน้ มาใช้งานได้ 4. บนั ทึก Form และ Project ได้ ✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓ 5. ออกจากโปรแกรมได้ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 6. กำหนดสภาวะแวดลอ้ มของ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ โปรแกรม Visual Basic ได้ 7. ใชเ้ คร่อื งมือ Toolbar ได้ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 8. ใชเ้ ครอื่ งมือ ToolBox ได้ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 9. ใช้หน้าต่าง Project Explorer ได้ ✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓

- 25 - ตารางท่ี 5 (ต่อ) แสดงการวเิ คราะห์วตั ถุประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม กกกกกกกหลกั สตู ร ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2557 ประเภทวชิ าบริหารธุรกิจ ชอื่ วิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ช่วั โมง 3 หน่วยกิต กกกกกกกหนว่ ยท่ี 4 เร่อื ง โปรแกรม Visual Basic (ต่อ) ระดับพฤตกิ รรมท่ีต้องการ ดา้ นพทุ ธพิ ิสัย ดา้ นทกั ษะพิสยั ดา้ นจิตพิสยั หน่วย ชอื่ หนว่ ย ความจำ ท่ี หัวข้อการสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ่คา การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโน ัม ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็น ุคณค่า การ ัจดระบบการ ิคด การ ีมลักษณะเฉพาะตน 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 4 โปรแกรม Visual Basic (ตอ่ ) 10. ใช้ Form Designer ได้ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ 11. ใชห้ นา้ ต่าง Properties Window ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ได้ 12. กำหนด Properties ใหก้ บั Form ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ได้ 13. เพมิ่ และลบ Form ออกจาก ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ Project ได้ 14. สงั่ ให้โปรแกรมทำงาน (Run ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ Program) ได้

- 26 - ตารางที่ 5 (ตอ่ ) แสดงการวเิ คราะห์วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม กกกกกกกหลกั สตู ร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชัน้ สูง พทุ ธศกั ราช 2557 ประเภทวชิ าบริหารธรุ กิจ ช่ือวิชาการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 4 ชวั่ โมง 3 หนว่ ยกิต กกกกกกกหนว่ ยที่ 5 เร่อื ง กระบวนการเขียนโปรแกรม ระดับพฤติกรรมทีต่ อ้ งการ ด้านพทุ ธิพสิ ัย ด้านทักษะพิสัย ด้านจติ พสิ ยั หนว่ ย ชอื่ หนว่ ย ความจำ ท่ี หวั ข้อการสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเ ิมนค่า การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโนมั ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็นคุณค่า การ ัจดระบบการ ิคด การ ีม ัลกษณะเฉพาะตน 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 5 กระบวนการเขียนโปรแกรม 1. สรา้ งและกำหนดคุณสมบัตขิ อง ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ Label บน Form ได้ 2. สร้างและกำหนดคุณสมบัตขิ อง ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ TextBox บน Formได้ 3. เขียนคำสง่ั ใน TextBox ให้ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ โปรแกรมทำงานตามคำส่ังได้ 4. สร้างและกำหนดคุณสมบัติของ ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ Button บน Formได้ 5. เขียนคำสงั่ ใน Button ให้โปรแกรม ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ทำงานตามคำสงั่ ได้ 6. สรา้ งและกำหนดคุณสมบัติของ RadioButton CheckBox และ ✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓ GroupBox บน Formได้

- 27 - ตารางท่ี 5 (ตอ่ ) แสดงการวิเคราะห์วัตถุประสงค์เชิงพฤตกิ รรม กกกกกกกหลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง พุทธศกั ราช 2557 ประเภทวชิ าบริหารธุรกิจ ชื่อวชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 4 ช่ัวโมง 3 หนว่ ยกติ กกกกกกกหนว่ ยที่ 5 เรอ่ื ง กระบวนการเขียนโปรแกรม ระดบั พฤติกรรมทีต่ อ้ งการ ด้านพุทธิพสิ ยั ด้านทกั ษะพิสัย ดา้ นจิตพิสัย หนว่ ย ช่อื หน่วย ความจำ ท่ี หวั ขอ้ การสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ่คา การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโน ัม ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็น ุคณ ่คา การ ัจดระบบการ ิคด การ ีม ัลกษณะเฉพาะตน 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 5 กระบวนการเขียนโปรแกรม (ต่อ) 7. ใชค้ ำสง่ั ในการทำงาน RadioButton CheckBox ทำงาน ✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓ ตามคำสัง่ ได้ 8. สรา้ งและกำหนดคุณสมบัติของ ListBox และ ComboBox บน ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ Formได้ 9. เขียนคำสั่งใน ListBox และ ComboBox ให้โปรแกรมทำงานตาม ✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓ คำสัง่ ได้

- 28 - ตารางที่ 5 (ต่อ) แสดงการวิเคราะหว์ ตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม กกกกกกกหลักสตู ร ประกาศนียบัตรวชิ าชีพชัน้ สูง พทุ ธศกั ราช 2557 ประเภทวชิ าบริหารธุรกิจ ช่อื วิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 จำนวน 4 ชั่วโมง 3 หน่วยกติ กกกกกกกหนว่ ยท่ี 6 เรอื่ ง คำสั่งควบคมุ การทำงานของโปรแกรม ระดับพฤติกรรมที่ต้องการ ด้านพทุ ธพิ สิ ยั ดา้ นทักษะพสิ ยั ดา้ นจิตพิสยั หน่วย ชอ่ื หน่วย ความจำ ท่ี หวั ขอ้ การสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ่คา การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโน ัม ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็น ุคณ ่คา การ ัจดระบบการ ิคด การ ีม ัลกษณะเฉพาะตน 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 6 คำสง่ั ควบคมุ การทำงานของโปรแกรม 1. อธิบายชนดิ ของข้อมูลและตัวแปร ✓✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ได้ 2. เขยี นตวั ดำเนนิ การในโปรแกรมได้ ✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓ 3. ใชป้ ระโยคคำส่งั เขยี นโปรแกรมได้ ✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓

- 29 - ตารางที่ 5 (ต่อ) แสดงการวเิ คราะห์วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม กกกกกกกหลกั สูตร ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ช้นั สูง พทุ ธศกั ราช 2557 ประเภทวิชาบรหิ ารธุรกิจ ชอื่ วชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 จำนวน 4 ช่วั โมง 3 หน่วยกิต กกกกกกกหน่วยท่ี 7 เรอ่ื ง การพัฒนาโปรแกรมทางธรุ กจิ อยา่ งง่าย ระดับพฤติกรรมทต่ี ้องการ ด้านพุทธิพิสยั ดา้ นทักษะพสิ ยั ด้านจติ พสิ ยั หน่วย ชือ่ หน่วย ความจำ ท่ี หัวข้อการสอน ความเข้าใจ การนำไปใช้ การ ิวเคราะห์ การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ่คา การเลียนแบบ การทำตามแบบ การทำ ูถก ้ตองแ ่มนยำ การทำอย่างผสมผสาน การทำอย่างอัตโน ัม ิต การ ัรบ ู้ร การตอบสนอง การเห็น ุคณ ่คา การ ัจดระบบการ ิคด การ ีม ัลกษณะเฉพาะตน 12 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 7 การพัฒนาโปรแกรมทางธรุ กจิ อย่างง่าย 1. สร้างโปรแกรมท่มี ีหลายฟอรม์ ได้ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓✓✓ ✓✓✓ 2. สร้างโปรแกรมทางธรุ กจิ อยา่ งง่าย ✓✓✓✓ ✓✓✓✓ ✓✓✓ ได้

- 30 - โครงการสอนรายวิชาและแผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า การนำหลักสูตรรายวิชาไปใช้ให้เกิดผลตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและ คำอธิบายรายวิชาถอื เป็นหน้าที่อันสำคญั ย่ิงของผู้สอน โดยเฉพาะผู้สอนตอ้ งมคี วามเข้าใจในหลักสูตร รายวชิ า เพ่อื จะไดน้ ำไปวางแผนการจดั การเรียนรู้ให้ผเู้ รยี นเกิดการเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรม บรรลุตาม จดุ ประสงค์และเป้าหมายของหลกั สตู รท่ีมุ่งเป้าให้ผู้เรยี นคิดเปน็ ทำเปน็ และแก้ปัญหาเป็น ดังน้ันใน การเรียนการสอน ผู้สอนจะต้องจัดทำโครงการสอนรายวิชาใหเ้ ป็นไปตามข้ันตอนเหมาะสมกบั เวลาท่ี ใช้ในการเรยี นการสอนและผ้เู รยี น การจัดทำโครงการสอนรายวิชาเปรียบเสมือนเป็นปฏิทินการปฏิบัติงานของผู้สอนในการ กำหนดขอบข่ายการเรียนการสอน เป็นการจัดเตรียมการสอนว่า จะต้องเตรียมเนื้อหาวิชาอะไร ใช้วิธีการสอนแบบไหน เลือกชนิดของสื่อการเรยี นการสอนอย่างไร มีจุดใดที่ต้องทำการวัดผลและ ประเมินผล ซึ่งเป็นการจัดเตรียมและวางแผนในภาพรวมวงกว้างของภาคเรียนน้ัน ๆ การจัดทำ โครงการสอนรายวิชาที่จะก่อให้เกิดผลสมบูรณ์คุ้มค่าท่ีสุด ควรจะแจ้งให้ผู้เรียนทุกคนทราบ เพ่ือใช้ ในการตรวจสอบและปรับเปล่ยี นระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน ส่วนผู้เรียนก็จะทราบว่าในรายวิชานน้ั ต้อง เรยี นเก่ียวกับอะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไร ถือเป็นการเตรียมตัวสำหรบั การเรียน อีกทั้งเป็นการแก้ปัญหา จากการสอนท่ีไม่ตรงตามหลักสูตรหรือสอนไม่ครบตามหลักสูตร สำหรับแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหน่ึงที่ช่วยให้ผู้สอนสามารถดำเนิน การจัดการเรียนการสอน บรรลุเป้าหมายตามหลักสูตรรายวิชา กำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ จะให้รายละเอียดมากกว่า โครงการสอนรายวิชาเพราะประกอบดว้ ยสว่ นต่าง ๆ คอื จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระสำคัญ กจิ กรรมการเรยี นการสอน ส่อื การเรยี นการสอน การวดั ผลและการประเมินผล การจัดทำแผนการจัดการเรียนร้รู ายวชิ าอย่างมรี ะบบ ผสู้ อนจะนำผ้เู รียนสู่จุดหมายของ การ เรียนรู้ประสงค์ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรรายวิชา ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ท่ีสมบูรณ์ สอดคล้องกับเวลาที่ใช้ ท้ังยังช่วยส่งเสริมให้ผู้สอนใฝ่ศึกษาหาความรู้ในเรื่องหลักสูตรการสอน ระบบการสอน การจัดทำ จัดหา และเลือกสื่อประกอบการเรียนการสอน วิธีการวัดผลและ ประเมินผล ช่วยใหผ้ สู้ อนมีความม่นั ใจในการสอนมากยิง่ ขนึ้ ดังน้ัน การนำหลักสูตรไปใช้ เพื่อให้เกิดผลบรรลุตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะ รายวิชาและคำอธิบายรายวชิ า โดยมีการวางแผนการจัดการเรียนรู้ จดั ทำโครงการสอน โดยยึดถือ แนวทางตามขอบข่ายท่ีหลกั สูตรรายวชิ ากำหนด ประโยชน์สูงสุดท่เี กดิ ข้ึนจะส่งผลโดยตรงแกผ่ ู้เรียน อย่าง มีประสิทธิภาพ การศึกษาท่ีมีมาตรฐานเป็นรูปธรรมด้วยการดำเนินการจัดทำเอกสาร ประกอบการสอนรายวิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 เป็นเอกสาร ประกอบการสอน สำหรบั ครผู ู้สอนใช้ในการสอนกบั นกั ศึกษา / นักศกึ ษาทั้งห้อง กิจกรรมและสื่อการ เรียน การสอนในการเรียนรู้ นักศึกษา / นักศึกษาจะต้องประกอบกิจกรรมไปพร้อม ๆ กันโดย เน้อื หาวชิ าจะประกอบดว้ ยเอกสารประกอบการสอนทงั้ สนิ้ 7 หนว่ ย คอื

- 31 - หน่วยท่ี 1 เรอ่ื ง แนวคิดในการพัฒนาโปรแกรม หน่วยที่ 2 เรอ่ื ง องค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ หนว่ ยท่ี 3 เรื่อง ขั้นตอนการแก้ปัญหา หนว่ ยท่ี 4 เรอื่ ง โปรแกรม Visual Basic หน่วยที่ 5 เร่อื ง กระบวนการเขียนโปรแกรม หน่วยที่ 6 เร่ือง คำส่ังควบคุมการทำงานของโปรแกรม หน่วยที่ 7 เรื่อง การพฒั นาโปรแกรมทางธรุ กจิ อยา่ งง่าย แตล่ ะหนว่ ยจะจดั ทำรายละเอียด ซง่ึ มสี ่วนประกอบดงั นี้ 1. สว่ นประกอบเอกสารประกอบการสอน 1.1 โครงการสอนประจำหนว่ ย 1.2 แผนการจดั การเรียนรู้ 1.3 แบบทดสอบก่อน / หลังเรยี น 1.4 ใบมอบงาน 1.5 ใบงาน 1.6 แบบฝึกหัด 1.7 สื่อการสอน 2. คำชแี้ จงสำหรับผู้สอน 2.1 ผู้สอนต้องศึกษาเน้ือหาวิชาและแผนการจัดการเรียนรู้ให้เข้าใจ ก่อนทำการ สอนและตอ้ งเตรียมอุปกรณต์ ่าง ๆ เพ่ือใชใ้ นการเรียนการสอนตามระบุไว้ในแผนการจดั การเรยี นรแู้ ต่ ละหนว่ ยการเรียน 2.2 ผู้สอนต้องดำเนินการสอนตามแผนการจดั การเรยี นรอู้ ย่างเคร่งครัด 2.3 ก่อนทำการสอนผ้สู อนต้องให้ผู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน ซึ่งแบบทดสอบ น้ี จะเป็นแบบทดสอบถึงเกณฑ์ทเ่ี ขียนขน้ึ เพื่อวดั วตั ถปุ ระสงค์เชิงพฤตกิ รรมทผ่ี ูส้ อนหวังว่าผู้เรียน จะเปล่ียนพฤตกิ รรม 2.4 การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน แบ่งออกเปน็ ขั้นตอนดงั นี้ ขั้นที่ 1 ขน้ั ทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) ขน้ั ท่ี 2 ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน (Motivation) ขน้ั ที่ 3 ข้นั ให้เน้ือหา (Information) ข้ันที่ 4 ขน้ั ประกอบกจิ กรรมการเรยี น (Application) ข้ันท่ี 5 ขัน้ สรุปผล (Progress) ข้นั ท่ี 6 ขั้นทดสอบหลังเรียน (Post-test) โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ผู้สอนจะต้องมีทักษะและความชำนาญ ในการใช้ คำถามเปน็ อย่างดีจึงจะสามารถนำการอภปิ รายให้นักศกึ ษาเกดิ การเรียนร้ไู ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิผล 2.5 การสรปุ บทเรยี นเปน็ กจิ กรรมรว่ มระหว่างผสู้ อนกับผเู้ รยี น หรอื จะเป็นกิจกรรม ของผเู้ รยี นท้งั หมดก็ได้ 2.6 หลงั จากเรียนครบหวั ขอ้ เรอ่ื งในแตล่ ะหนว่ ย แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นทำแบบทดสอบ

- 32 - หลังเรยี น ซงึ่ เป็นชุดเดยี วกันกบั แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2.7 หลังจากผู้เรียน เรียนจบครบทุกหน่วยการสอนแล้ว ผู้สอนจะต้องเก็บข้อมูล ผลการเรยี นจดั ทำประวัตกิ ารเรียนของผูเ้ รียนเพ่ือดูการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความก้าวหน้าของ ผู้เรียน 3. บทบาทผู้เรียน เนื่องจากเอกสารประกอบการสอนวิชาน้ีเป็น เอกสารสำหรับครูผู้สอนเป็น ผดู้ ำเนินการโดยใหน้ ักศึกษาปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามบทบาทผูเ้ รยี นดังน้ี 3.1 ผ้เู รียนตอ้ งปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามคำแนะนำของผู้สอนอย่างเคร่งครัด 3.2 ผเู้ รียนต้องพยายามทำแบบฝกึ หดั และปฏิบตั ิตามใบงานอยา่ งเต็มความสามารถ (คำถามท่ีใชเ้ ปน็ เพยี งส่วนหน่งึ ของการเรยี นเทา่ น้ัน) 4. การจัดช้ันเรียน ใช้การจัดช้ันเรียนตามปกติโดยจัดการเรียนการสอนแบบบรรยาย ประกอบการสาธิตหรือถามตอบ สภาพการจัดชั้นเรียนต้องจัด เพือ่ ให้เหมาะสมสามารถจัดกิจกรรม การเรียนและการสอนแก่นกั ศกึ ษา / นักศึกษาอย่างทั่วถึง 5. โครงการสอนและแผนการจัดการเรียนรู้ จัดอยู่ในเอกสารประกอบการสอนโดยจัดแบ่งเป็น โครงการสอน ประจำหน่วย ซ่ึงจะมีแผนการจัดการเรียนรู้ แต่ละหน่วยประกอบอยู่ด้วยทุกโครงการ สอน 6. การประเมินผล ประเมินผลจาการทำแบบฝึกหัด ใบมอบงานท่ีมอบหมาย และการทำ แบบทดสอบสำหรับเฉลยแบบทดสอบจะอยทู่ า้ ยโครงการสอนประจำหนว่ ยแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้

โครงการสอน ท-ป-น 2-2-3 จำนวน 4 ชัว่ โมง รายวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 ชอ่ื หน่วย แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม หน่วยท่ี 1 แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม เรอื่ ง กกกกกก1. ความหมายการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ กกกกกก2. หลกั การพฒั นาการเขียนโปรแกรม กกกกกก3. หลักการออกแบบและพฒั นาโปรแกรมโดยใช้เคร่ืองมือกราฟกิ โหมด จุดประสงค์การสอน รายการสอน 1. อธบิ ายความหมายของการเขียนโปรแกรมได้ 1. ความหมายการเขยี นโปรแกรม 2. อธิบายหลกั การพฒั นาการเขียนโปรแกรมได้ คอมพิวเตอร์ 3. อธิบายหลกั การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้ 2. หลกั การพฒั นาการเขียนโปรแกรม เคร่ืองมือกราฟกิ โหมดได้ 3. หลักการออกแบบและพัฒนา โปรแกรมโดยใช้เคร่ืองมือกราฟิกโหมด 4. ปฏิบตั ิงานตามใบงาน วธิ ีการสอน บรรยาย/ถาม – ตอบ สาธติ การปฏิบัตงิ านตามใบงาน ส่อื การสอน สือ่ Power Point ประกอบการสอน หนงั สืออ้างองิ ใบความรู้ แบบฝกึ หัด ใบงาน แบบทดสอบ หนังสอื แบบเรยี นรายวชิ าการเขียน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำนกั พมิ พ์เอม พนั ธ์ การประเมนิ ผล คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรยี น แบบประเมินผลใบมอบงาน แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรม การเรียนรู้รายบคุ คลและแบบประเมนิ ผลคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

- 34 - แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 รหัสวิชา 3204 - 2007 ชอ่ื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สอนคร้ังท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1 แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม จำนวน 4 ชั่วโมง หัวเรื่อง 1. ความหมายการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2. หลักการพฒั นาการเขยี นโปรแกรม 3. หลักการออกแบบและพฒั นาโปรแกรมโดยใชเ้ ครอื่ งมอื กราฟิกโหมด สาระสำคัญ กกกกกกการศกึ ษาวิชานี้เปน็ วิชาท่เี นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั เพอื่ ปลกู ฝังให้พฒั นาตนเองเข้าสู่อาชีพอย่าง สมำ่ เสมอ และนำไปประยุกต์กบั การใช้คอมพวิ เตอรเ์ พ่อื วางแผนใชใ้ นการทำงานสำหรับชีวติ ประจำวัน ตอ่ ไป และยังเปน็ การให้ผู้เรยี นได้มีโอกาสฝกึ ทกั ษะความชำนาญการเรยี นรดู้ ้านความรู้ ความสามารถ เพื่อมีส่วนร่วมในการเรียนอย่างเต็มที่ในการฝึกทักษะการปฏิบัติจริง เพื่อพัฒนาทักษะ ความรู้ และ ความสามารถรวมทั้งสติปัญญาเพื่อแก้ปัญหาได้ ผู้เรียนวิชานี้นอกจากจะได้ความรู้ที่ถูกต้องแล้วยัง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานเพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเพ่ิ มประสิทธิภาพของงานและ สามารถแก้ปญั หาในชีวติ ประจำวันอีกด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตและการทำงานของคนในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอรท์ ำงานโดยใช้หน่วยประมวลผลกลาง (ซีพียู 8088) และไม่สามารถ ทำงานด้วยตนเองได้ต้องมีโปรแกรมคำสั่ง หรือชุดคำสั่งที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ตามความ ต้องการของผู้ใช้ ชุดคำสั่งที่สัง่ ให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน หรือเรียกว่า “โปรแกรมคอมพิวเตอร์” นั้นเร่ิม ตั้งแต่ชุดคำสั่งของระบบปฏิบัติการโดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อผู้ใช้กับการทำงานของ คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูปต่าง ๆ เป็นชุดคำสั่งที่ใช้ในการทำงานเฉพาะงาน ซึ่งแตกต่างกันไป แล้วแต่งานนั้น ๆ โปรแกรมคอมพิวเตอร์จึงมีความสำคัญมากในการทำงานของคอมพิวเตอร์ การ พัฒนาโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ตามความต้องการถือเป็นหัวใจหลักในการพัฒนา คอมพิวเตอร์ให้ทำงานตามความตอ้ งการของผใู้ ชไ้ ด้มากท่สี ดุ สมรรถนะอาชพี ประจำหน่วย กกกกกก1. แสดงความร้เู กีย่ วกับหลกั การพฒั นาโปรแกรม ขั้นตอนการแก้ไขปัญหา(Algorithm) และ กระบวนการเขียนโปรแกรม กกกกกก2. เขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ ครอื่ งมอื กราฟิกโหมด จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ จุดประสงค์ท่ัวไป นักเรียนแสดงความรู้เกย่ี วกบั แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม

- 35 - จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. ด้านความรู้ ( K ) 1.1 อธบิ ายความหมายการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ได้ 1.2 อธิบายหลกั การพัฒนาการเขียนโปรแกรมได้ 1.3 อธิบายหลกั การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้เครือ่ งมือกราฟิกโหมดได้ 2. ด้านทักษะ ( S ) นกั เรียนมีความรู้ ทักษะการเขยี นแผนภมู ขิ ั้นตอนหรือวธิ ีการพฒั นาโปรแกรมและ ทักษะเขยี นข้ันตอนหลักการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้เครื่องมือกราฟิกโหมดถกู ต้อง 3. ดา้ นคุณธรรมอนั พงึ ประสงค์ ( A ) (อา้ งองิ จากคา่ นยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ) 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายตามระเบียบการปฏิบัติงาน 3.3 ผลงานประณตี เรียบรอ้ ย 3.4 ปดิ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์เมื่อเลิกใช้งาน 3.5 มีน้ำใจช่วยเหลอื ผู้อื่นและการปฏิบัติงานรว่ มกับผู้อน่ื กิจกรรมการเรียนการสอน ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ ผล ข้อตกลงขณะเรยี น และใหน้ กั เรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรยี น ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูนำเข้าสู่บทเรยี นโดยครูกล่าวนำเก่ยี วกบั เนื้อหาแนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม องคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา โปรแกรม Visual Basic กระบวนการเขียนโปรแกรม คำส่ังควบคุมการทำงานของโปรแกรม การพฒั นาโปรแกรมทางธรุ กจิ อยา่ งงา่ ย มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมทด่ี ีในการใชค้ อมพิวเตอร์ ข้นั สอน 1. ครูแจกใบเนอ้ื หาและใหน้ กั เรยี นอ่านทำความเขา้ ใจเน้ือหา เร่ือง แนวคิดในการ พัฒนาโปรแกรม 2. ครูอธบิ ายเนอ้ื หา โดยใช้ส่ือ Power Point สอนประกอบการบรรยาย ในหนงั สอื แบบเรียน รายวชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 สำนักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จำกดั หนา้ 1 - 6 และตัง้ คำถามสลบั การบรรยายเพอื่ ให้นักเรียนมีส่วนร่วมระหวา่ งปฏบิ ตั กิ ารสอน เพื่อใหน้ ักเรยี นเข้าใจเนือ้ หาสาระของการเรยี นรู้เรอ่ื ง 2.1 ความหมายการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 2.2 หลกั การพฒั นาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 2.3 หลักการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้เครอื่ งมอื กราฟกิ โหมด ข้นั ประกอบกิจกรรมการเรยี น 1. ให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ อัตราสว่ น 1 : 3 : 1 โดยคละคนเกง่ ปานกลางและอ่อน

- 36 - ให้นักเรียนเลือกประธาน เลขานกุ าร ปฏิบัตงิ านตามใบงาน โดยปฏิบัตติ ามข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ านตาม ใบมอบงาน 2. นกั เรยี นปฏิบตั งิ านตามใบงานดงั นี้ ใบงานท่ี 1 หลักการพฒั นาการเขียนโปรแกรม 3. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด เรอื่ งแนวคิดในการพัฒนาโปรแกรม จากนนั้ ครแู ละ นักเรยี นรว่ มกนั เฉลย ตรวจคำตอบ เพื่อประเมนิ ผลการเรียนตามใบงาน กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ 1. ครูให้เพื่อนชว่ ยเพอ่ื น ใหน้ ักเรียนกลมุ่ เกง่ และปานกลาง อยูก่ ับกลมุ่ นกั เรยี นที่ เรียนออ่ น ชว่ ยกนั ทำความเข้าใจในเน้อื หา 2. สอนแบบ Active Learning โดยใช้เคร่อื งมือบนอนิ เทอร์เน็ต http://www.linoit.com สอบถามนกั เรยี นวา่ นกั เรียนอยากได้ห้องเรียนอย่างไรเรยี นแล้วมีความสขุ แสดงความคิดเห็นแต่ละคน เพอ่ื เป็นการกระตนุ้ และเตรียมความพร้อมในการเรียน การสอนบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดา้ นความมีภูมิคมุ้ กันทดี่ ี ให้นักเรยี นปฏิบัตติ นตามกฎระเบยี บและข้อบงั คับของสถานศกึ ษา การเข้าใช้งาน ห้องปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ การบำรงุ รักษาเครอื่ งคอมพวิ เตอร์กอ่ นและหลงั การปฏิบัตงิ าน ด้านความรอบรู้ กจิ กรรมการเรียนการสอนให้สบื ค้นขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ น็ตให้มีการปฏบิ ัตงิ านได้ อย่างถูกต้องตรงตามเน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ ข้นั สรุป 1. ครูอธิบายสรุปเนือ้ หา เรื่องแนวคิดในการพัฒนาโปรแกรม 2. ครแู ละนักเรยี นอภปิ รายสรุปปญั หาการปฏิบัติงานและขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ 3. ตรวจประเมินตามใบงาน สรุปผลการตรวจให้นกั เรยี นทราบและกำหนดวันแกไ้ ข ขั้นทดสอบหลังเรยี น นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน สื่อการเรยี นการสอน 1. สอื่ สงิ่ พิมพ์ 1.1 หนงั สือแบบเรียนรายวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำนกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ มนสั ชัย กรี ตผิ จญ หน้า 1 - 6 1.2 ใบมอบงาน และใบงานที่ 1 1.3 แบบประเมนิ ผล 2. สือ่ โสตทศั น์ 2.1 ส่ือ Power Point เรื่อง แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม 2.2 เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 2.3 เครอื่ งคอมพวิ เตอรแ์ บบพกพา (Notebook)

- 37 - การวัดผลประเมนิ ผล วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 1. ทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบก่อนเรยี น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 50 2. อภิปรายกลมุ่ แบบประเมนิ ผลใบมอบงาน ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 50 3. การทำใบงาน แบบประเมินผลการปฏบิ ัติงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 4. การทำแบบฝกึ หดั แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 50 5. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ผ่านเกณฑ์ กิจกรรมกลมุ่ 24 คะแนน 6. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรรู้ ายบุคคล ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60 รายบคุ คล 7. สังเกตพฤตกิ รรมคุณธรรม แบบสรุปผลประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมและ คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8. ทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น งานท่ีมอบหมาย งานทีม่ อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเรจ็ ของผูเ้ รียน 1. ผลการทำใบงานที่ 1 2. แบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ยท่ี 1 แหลง่ การเรยี นรู้เพ่มิ เตมิ 1. ห้องสมุด 2. สถานประกอบการ 3. ขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ กจิ กรรมเสนอแนะ นักเรยี นสบื คน้ ข้อมูลเพมิ่ เตมิ หรอื ทบทวนเน้ือหาจากเวบ็ ไซต์ท่หี อ้ งปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ใช้ เคร่อื งคอมพิวเตอรใ์ นเวลาวา่ ง เรือ่ ง แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม

- 38 - บันทกึ หลังการสอน ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ผลการเรยี นของนักเรียน กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ผลการสอนของครู กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................

- 39 - กระดาษคำตอบ ช่อื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดบั ชน้ั ปวส. หน่วยที่ 1 เรอ่ื ง แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม กระดาษคำตอบ แบบทดสอบก่อนเรยี น กระดาษคำตอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น ขอ้ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10 สรปุ คะแนนสอบก่อนการเรยี น สรปุ คะแนนสอบหลังการเรยี น 10 10

- 40 - แบบทดสอบก่อนเรียน รายวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 ระดบั ชน้ั ปวส. หน่วยที่ 1 เรื่อง แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม คำชแ้ี จง กกก1. ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบทถี่ ูกตอ้ งทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดียวทำเครอื่ งหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ กกก2. แบบทดสอบมีลกั ษณะแบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. ข้อใดคือความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก. คำสง่ั คอมพิวเตอร์ชุดหนึ่งๆที่เขยี นข้นึ เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ ข. วงจรภายในเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ค. การประมวลผลของ CPU ง. ชุดประมวลผล RAM 2. ข้อใดไม่ใช่ภาษาสำหรับเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก. JAVA ข. COBOL ค. ANDROID ง. PASCAL 3. หลักการพัฒนาโปรแกรมขัน้ ตอนใดมุ้งเน้นไปท่ลี ำดับขั้นตอนในการประมวลผลของโปรแกรม ก. ขัน้ ตอนการเขียนโปรแกรม ข. ข้นั ตอนการทดสอบโปรแกรม ค. ขน้ั ตอนการออกแบบโปรแกรม ง. ขั้นตอนการบำรุงรกั ษาโปรแกรม 4. การทำเอกสารประกอบโปรแกรมมีความสำคญั อยา่ งไร ก. ช่วยให้ทราบถึงข้อมลู ท่โี ปรแกรมจะตอ้ งทำการประมวลผล ข. ช่วยให้ทราบถงึ ลำดบั ขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม ค. ตรวจสอบความถูกต้องในการทำงานของโปรแกรม ง. ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจวัตถุประสงค์ของโปรแกรม

- 41 - 5. ขั้นตอนทส่ี ำคัญท่ีสุดในการพฒั นาโปรแกรมคอื ขอ้ ใด ก. การวิเคราะหง์ าน ข. การออกแบบ ค. การเขยี นโปรแกรม ง. การทดสอบโปรแกรม 6. Syntax Error คอื ขอ้ ผิดพลาดชนิดใด ก. ขอ้ ผดิ พลาดจากการทำงานของโปรแกรม ข. ขอ้ ผดิ พลากจากผู้ใช้ ค. ขอ้ ผดิ พลาดจากไวยากรณ์ ง. ข้อผดิ พลาดทางด้านตรรกะ 7. Logical Error คือข้อผิดพลาดชนิดใด ก. ข้อผดิ พลาดจากการทำงานของโปรแกรม ข. ข้อผดิ พลากจากผู้ใช้ ค. ข้อผิดพลาดจากไวยากรณ์ ง. ข้อผิดพลาดทางด้านตรรกะ 8. Runtime Error คือข้อผดิ พลาดชนิดใด ก. ข้อผิดพลาดจากการทำงานของโปรแกรม ข. ขอ้ ผิดพลากจากผู้ใช้ ค. ขอ้ ผิดพลาดจากไวยากรณ์ ง. ข้อผิดพลาดทางด้านตรรกะ 9. จุดประสงคข์ องการ Debugging มีไวเ้ พื่ออะไร ก. เพ่ือดูแลความเรียบร้อยของโปรแกรม ข. เพื่อแกไ้ ขข้อผิดพลาดของโปรแกรม ค. เพื่อกำหนดคุณสมบตั ใิ ห้โปรแกรม ง. เพ่ืออธิบายการทำงานของโปรแกรม

- 42 - 10. ข้อใดคอื ภาษาท่ีใช้ในการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้เคร่อื งมอื กราฟกิ โหมด ก. Python ข. Perl ค. Visual Basic ง. Pascal

- 43 - เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น รายวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดับชั้น ปวส. หนว่ ยท่ี 1 เร่ือง แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม ขอ้ ที่ คำตอบ 1. ก 2. ค 3. ค 4. ง 5. ข 6. ค 7. ง 8. ก 9. ข 10. ค

- 44 - ใบเนอื้ หา สปั ดาห์ท่ี 1 จำนวน 4 ชั่วโมง ชือ่ วชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดับชน้ั ปวส. ชื่อหนว่ ย แนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม สาระสำคัญ คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณท์ างอิเล็กทรอนกิ สอ์ ยา่ งหนง่ึ ซ่ึงไมส่ ามารถทำงานดว้ ยตนเองได้ แต่ จะสามารถทำงานได้ตามชุดคำสั่งในโปรแกรมที่ป้อนเข้าสู่เครื่อง ซึ่งจะทำงานตามคำสั่งทีละคำสั่ง (Step by Step) โดยคำสั่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ จะต้องอยู่ในรูปแบบของ ภาษาเครอื่ ง (Machine Language) แต่ถ้ามีการเขยี นดว้ ยภาษาอ่นื ทีไ่ มใ่ ช่ภาษาเครื่อง หรือที่เรียกว่า ภาษาชั้นสูง (High-level Language) ก็จะต้องมีตัวแปลภาษา เช่น คอมไพเลอร์ (Compiler) หรือ อินเตอรพ์ รีเตอร์ (Interpreter) ทำการแปลภาษาชั้นสูงนั้นให้เป็นภาษาเครื่องอีกทีหนึ่ง ในการเขียน โปรแกรมหรือภาษาคอมพิวเตอร์นี้ โดยทั่วไปแล้วแต่ละภาษาจะมีหลักเกณฑ์ในการเขียนและการ ออกแบบโปรแกรมเหมือนกนั จดุ ประสงคก์ ารเรียนการสอน จดุ ประสงค์ท่ัวไป นกั เรียน มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจแนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความหมายของการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรไ์ ด้ 2. อธบิ ายหลักการพัฒนาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. อธิบายหลักการออกแบบและพฒั นาโปรแกรมโดยใชเ้ คร่ืองมอื กราฟกิ โหมดได้ คุณธรรมจริยธรรม 1. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. การบรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2. หลกั การพฒั นาการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 3. หลกั การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้เครอ่ื งมอื กราฟกิ โหมด เนื้อหาสาระ ความหมายของการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (องั กฤษ: Computer programming) หรือเรยี กให้สน้ั ลงว่า การเขียนโปรแกรม (อังกฤษ: Programming) หรือ การเขียนโค้ด (Coding) เป็นขั้นตอนการเขียน ทดสอบ และดูแลซอร์สโค้ดของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งซอร์สโค้ดนั้นจะเขยี นดว้ ยภาษาโปรแกรม ขั้นตอนการเขยี นโปรแกรมต้องการความรู้ในหลายด้านด้วยกัน เกี่ยวกับโปรแกรมที่ต้องการจะเขยี น และขั้นตอนวิธีที่จะใช้ ซึ่งในวศิ วกรรมซอฟต์แวร์นั้น การเขียนโปรแกรมถอื เปน็ เพยี งขั้นหน่ึงในวงจร ชีวิตของการพัฒนาซอฟต์แวร์การเขียนโปรแกรมจะได้มาซึ่งซอร์สโค้ดของโปรแกรมน้ัน ๆ โดยปกติ

- 45 - แล้วจะอยู่ในรูปแบบของ ข้อความธรรมดา ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้งานได้ จะต้องผ่านการคอมไพล์ตัว ซอร์สโค้ดนัน้ ให้เปน็ ภาษาเครือ่ ง (Machine Language) เสียก่อนจงึ จะได้เป็นโปรแกรมที่พรอ้ มใชง้ าน หลกั การพัฒนาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การพัฒนาโปรแกรมประกอบด้วย 1. การวิเคราะหป์ ญั หา 2. การออกแบบโปรแกรม 3. การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ 4. การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม 5. การทำเอกสารประกอบโปรแกรม 6. การบำรุงรกั ษาโปรแกรม

- 46 - การวิเคราะห์ปัญหา การบำรุงรักษา การออกแบบ โปรแกรม โปรแกรม การทำเอกสาร การเขียนโปรแกรม ประกอบโปรแกรม ด้วยภาษา คอมพวิ เตอร์ การทดสอบ และแกไ้ ขโปรแกรม ภาพข้นั ตอนการพฒั นาโปรแกรม 1. การวิเคราะห์ปญั หา การวเิ คราะห์ปญั หา ประกอบดว้ ยขัน้ ตอนตา่ ง ๆ ดังน้ี 1.1 กำหนดวัตถุประสงค์ของงาน เพื่อพิจารณาว่าโปรแกรมต้องทำการประมวลผล อะไรบา้ ง 1.2 พิจารณาข้อมูลนำเข้า เพื่อให้ทราบว่าจะต้องนำข้อมูลอะไรเข้าคอมพิวเตอร์ ข้อมลู มคี ณุ สมบตั เิ ป็นอยา่ งไร ตลอดจนถึงลักษณะและรปู แบบของขอ้ มลู ท่ีจะนำเขา้ 1.3 พิจารณาการประมวลผล เพื่อให้ทราบว่าโปรแกรมมีขั้นตอนการประมวลผล อยา่ งไรและมีเงอื่ นไขการประมวลผลอะไรบา้ ง 1.4 พจิ ารณาขอ้ มูลสนเทศนำออก เพ่ือให้ทราบวา่ มขี อ้ มลู สนเทศอะไรทจี่ ะแสดง ตลอดจนรูปแบบและส่อื ทจ่ี ะใช้ในการแสดงผล

- 47 - 2. การออกแบบโปรแกรม การออกแบบข้ันตอนการทำงานของโปรแกรมเป็นขัน้ ตอนที่ใช้ เป็นแนวทางในการ ลงรหัสโปรแกรม ผู้ออกแบบขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมอาจใช้เครื่องมือต่าง ๆ ช่วยในการ ออกแบบ อาทิเช่น คำสั่งลำลอง (Pseudocode) หรือ ผังงาน (Flow chart) การออกแบบโปรแกรม นั้นไม่ต้องคำนึงกับรูปแบบคำสั่งภาษาคอมพิวเตอร์ แต่ให้มุ่งความสนใจไปที่ลำดับขั้นตอนในการ ประมวลผลของโปรแกรมเทา่ นั้น 3. การเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาคอมพวิ เตอร์ การเขียนโปรแกรมเปน็ การนำเอาผลลพั ธข์ องการออกแบบโปรแกรม มาเปลี่ยนเป็น โปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอรภ์ าษาใดภาษาหน่ึง ผเู้ ขยี นโปรแกรมจะตอ้ งให้ความสนใจตอ่ รูปแบบคำส่ัง และกฎเกณฑ์ของภาษาที่ใช้ เพื่อให้การประมวลผลเป็นไปตามผลลัพธ์ที่ได้ออกแบบไว้ นอกจากน้ัน ผู้เขียนโปรแกรมควรแทรกคำอธิบายการทำงานต่าง ๆ ลงในโปรแกรมเพื่อให้โปรแกรมนั้นมีความ กระจา่ งชดั งา่ ยตอ่ การตรวจสอบและโปรแกรมนยี้ งั ใช้เป็นส่วนหน่ึงของเอกสารประกอบ 4. การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม การทดสอบโปรแกรมเป็นการนำโปรแกรมที่ลงรหัสแล้วเข้า คอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบ รูปแบบกฎเกณฑ์ของภาษา และผลการทำงานของโปรแกรมนั้น ถ้าพบว่ายังไม่ถูกต้องก็แก้ไขให้ ถกู ตอ้ งต่อไป ข้นั ตอนการทดสอบและแก้ไขโปรแกรม อาจแบง่ ไดเ้ ปน็ 3 ขั้น 4.1 สรา้ งแฟ้มเก็บโปรแกรมซ่งึ สว่ นใหญน่ ยิ มนำโปรแกรมเข้าผ่านทางแป้นพิมพ์โดย ใชโ้ ปรแกรมประมวลคำ 4.2 ใช้ตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์แปลโปรแกรมที่สร้างขึ้นเป็นภาษาเครื่อง โดย ระหว่างการแปลจะมกี ารตรวจสอบความถกู ต้องของรปู แบบและกฎเกณฑใ์ นการใชภ้ าษา ถ้าคำสงั่ ใด มีรูปแบบไมถ่ ูกต้องกจ็ ะแสดงข้อผิดพลาดออกมาเพื่อให้ผู้เขียนนำไป แก้ไขต่อไป ถ้าไม่มีข้อผิดพลาด เราจะได้โปรแกรมภาษาเครื่องท่ีสามารถใหค้ อมพวิ เตอรป์ ระมวลผลได้ 4.3 ตรวจสอบความถูกต้องของการประมวลผลของโปรแกรม โปรแกรมที่ถูกต้อง ตามรูปแบบและกฎเกณฑข์ องภาษา แต่อาจให้ผลลัพธข์ องการประมวลผลไมถ่ ูกต้องก็ได้ ดงั นั้นผู้เขยี น โปรแกรมจำเป็นต้องตรวจสอบว่าโปรแกรมประมวลผลถูกตอ้ งตามตอ้ ง การหรือไม่ วิธีการหน่ึงกค็ ือ สมมติข้อมูลตัวแทนจากข้อมูลจริงนำไปให้โปรแกรมประมวลผลแล้วตรวจสอบผลลัพธ์ ว่าถูกต้อง หรือไม่ ถ้าพบว่าไม่ถูกต้องก็ต้องดำเนินการแก้ไขโปรแกรมต่อไป การสมมติข้อมูลตัวแทนเพื่อการ ทดสอบเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ลักษณะของข้อมูลตัวแทนที่ดีควรจะสมมติทั้งข้อมูลที่ ถูกต้องและขอ้ มูลทีผ่ ิด พลาด เพื่อทดสอบว่าโปรแกรมที่พัฒนาข้ึนสามารถครอบคลุมการปฏิบัติงาน ในเงอ่ื นไขตา่ ง ๆ ไดค้ รบถว้ น นอกจากน้ีอาจตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมดว้ ยการสมมติตัวเอง เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีจะประมวลผล แล้วทำตามคำสั่งทีละคำสั่งของโปรแกรมน้ัน ๆ วิธีการนี้อาจทำได้ ยากถา้ โปรแกรมมีขนาดใหญ่ หรอื มกี ารประมวลผลทซี่ ับซ้อน 5. การทำเอกสารประกอบโปรแกรม การทำเอกสารประกอบโปรแกรมเปน็ งานทส่ี ำคัญของการพฒั นา โปรแกรม เอกสาร ประกอบโปรแกรมช่วยให้ผู้ใชโ้ ปรแกรมเข้าใจวตั ถุประสงค์ ข้อมูลที่จะต้องใช้กับโปรแกรม ตลอดจน ผลลัพธ์ท่ีจะได้จากโปรแกรม การทำโปรแกรมทกุ โปรแกรมจึงควรตอ้ งทำเอกสารกำกบั เพือ่ ใช้สำหรับ

- 48 - การอ้างอิงเมื่อจะใช้งานโปรแกรมและเมื่อต้องการแก้ไขปรับปรุง โปรแกรม เอกสารประกอบ โปรแกรมท่ีจดั ทำ ควรประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ 1. วัตถุประสงค์ 2. ประเภทและชนดิ ของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทีใ่ ช้ในโปรแกรม 3. วิธีการใชโ้ ปรแกรม 4. แนวคดิ เกย่ี วกับการออกแบบโปรแกรม 5. รายละเอยี ดโปรแกรม 6. ขอ้ มูลตัวแทนที่ใช้ทดสอบ 7. ผลลัพธ์ของการทดสอบ 6. การบำรงุ รักษาโปรแกรม เมือ่ โปรแกรมผ่านการตรวจสอบตามขน้ั ตอนเรยี บร้อยแลว้ และถูกนำมาให้ผู้ใช้ได้ใช้ งาน ในช่วงแรกผู้ใช้อาจจะยังไม่คุ้นเคยก็อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง ดังนั้นจึงต้องมีผู้คอย ควบคมุ ดูแลและคอยตรวจสอบการทำงาน การบำรุงรักษาโปรแกรมจึงเปน็ ขั้นตอนท่ีผูเ้ ขียนโปรแกรม ต้องคอยเฝ้าดูและหา ข้อผิดพลาดของโปรแกรมในระหว่างที่ผู้ใช้ใช้งานโปรแกรม และปรับปรุง โปรแกรมเม่อื เกดิ ขอ้ ผดิ พลาดข้นึ หรอื ในการใช้งานโปรแกรมไปนาน ๆ ผใู้ ช้อาจต้องการเปลี่ยนแปลง การทำงานของระบบงานเดิมเพื่อให้เหมาะกับ เหตุการณ์ นักเขียนโปรแกรมก็จะต้องคอยปรับปรุง แกไ้ ขโปรแกรมตามความต้องการของผ้ใู ชท้ ี่ เปล่ียนแปลงไปนัน่ เอง หลักการออกแบบและพฒั นาโปรแกรมโดยใช้เครื่องมือกราฟกิ โหมด GUI ย่อมาจาก Graphical User Interface GUI (อ่านว่า จียูไอ หรือ กุย) คือ การติดต่อกบั ผู้ใช้โดยใช้ภาพสัญลักษณ์ เป็นการออกแบบส่วนของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้มีการโต้ตอบกับผู้ใช้ โดยการใช้ Icon ,รูปภาพ และสัญลักษณ์อื่น ๆ เพื่อแทนลักษณะต่าง ๆ ของโปรแกรม แทนที่ผู้ใช้จะ พิมพค์ ำสัง่ ต่าง ๆ ในการทำงาน ชว่ ยทำใหผ้ ้ใู ช้งานสามารถทำงานไดง้ า่ ย และรวดเร็วข้นึ ไมจ่ ำเป็นตอ้ ง จดจำคำสั่งต่าง ๆ ของโปรแกรมมากนัก ถือเป็นวิธีการให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ให้ ติดต่อสื่อสารกับระบบโดยผ่านทางภาพ เช่น ใช้เมาส์กดเลือก icon แทนการพิมพ์คำสั่งดังแต่ก่อน โดยเฉพาะในบางโปรแกรมที่มีคำสั่งมาก ๆ เช่น โปรแกรม Autocad ที่ใช้ในการวาดแบบ ซึ่งจะมี คำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้ในการสร้างรูปมากมาย ผู้ใช้สามารถใช้เม้าส์ (mouse) เลือกคำสั่งที่ต้องการจะวาด จาก Icons ทป่ี รากฏในโปรแกรมและใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องพิมพ์คำส่ังต่าง ๆ ทางแป้นพิมพ์ ชว่ ยทำ ให้เกิดความรวดเร็วในการทำงาน และไม่ตอ้ งเสียเวลาในการเรียนรู้และจดจำคำสั่งท่ีต้องการมากนกั เพียงดูจาก Icons ที่ปรากฏในโปรแกรมก็สามารถใช้งานได้ทันที ตัวอย่างโปรแกรมที่ช่วยออกแบบ โปรแกรมที่ใช้ GUI เช่น Microsoft Visual Basic เปน็ ตน้ ขนั้ ตอนการเขียนโปรแกรม 1. ขน้ั วเิ คราะห์งาน (Job Analysis) 2. ขั้นการออกแบบลำดับขั้นตอนสำหรับโปรแกรม (Program Design) 3. ขัน้ ดำเนินการเขียนโปรแกรม (Program Coding) 4. ขั้นทดสอบและแก้ไขโปรแกรม (Program Testing and Debugging) 5. ขั้นบำรุงรกั ษาโปรแกรม (Program Maintenance)

- 49 - 6. ขนั้ เขียนเอกสารประกอบ (Documentation) 1. ข้ันวเิ คราะหง์ าน (Job Analysis) ในการวิเคราะหง์ านน้เี ปน็ ขั้นแรกท่ีสำคญั มาก ซงึ่ เราจะต้องกำหนดจุดประสงค์ของ การวิเคราะห์งานและข้ันตอนวิธีการวิเคราะห์งานแตล่ ะอย่างให้ได้ ในการวิเคราะหง์ านแตล่ ะอย่างมี จดุ ประสงคข์ องการวิเคราะหง์ านท่สี ำคัญดงั น้ี 1. เพื่อหาวตั ถปุ ระสงคข์ องการเขียนโปรแกรม 2. เพอ่ื หารูปแบบผลลัพธท์ ตี่ อ้ งการ 3. เพ่ือหาขอ้ มลู นำเขา้ ทีต่ อ้ งใส่เข้าไปในโปรแกรม 4. เพ่อื หาตวั แปรท่ีจำเปน็ ต้องใช้ในโปรแกรมเพ่ือหาขน้ั ตอนวิธกี ารทำงาน ของโปรแกรม 5. เพอ่ื หาขน้ั ตอนวิธีการทำงานของโปรแกรม ในการวิเคราะห์งานแต่ละอย่างมีขัน้ ตอนวิธกี ารวิเคราะหง์ านทส่ี ำคัญดังนี้ 1. การหาวตั ถปุ ระสงค์ของการเขียนโปรแกรม ผ้เู ขียนจะตอ้ งทราบวา่ ตอ้ งการเขียนโปรแกรมเพอื่ แกป้ ัญหาอะไรบา้ งซง่ึ จะทำให้ เขียนโปรแกรมไดต้ รงกบั ความตอ้ งการหรือวตั ถปุ ระสงค์ของงานนัน้ 2. การหารูปแบบผลลัพธ์ท่ีต้องการ รูปแบบผลลพั ธอ์ าจอยู่ในลกั ษณะของขอ้ ความหรือตวั เลขหรอื ตารางหรอื แผนภูมิ หรอื อาจใช้ผสมกัน 3. การหาขอ้ มูลนำเขา้ ที่ตอ้ งใส่เข้าไปในโปรแกรม ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องหาขอ้ มูลนำเข้า โดยคำนงึ ถงึ ขน้ั ตอนวธิ ีการคำนวณ และ ข้อมลู ท่ีจำเป็นตอ้ งใส่เข้าไปเพือ่ ให้ได้ผลลพั ธท์ ี่ตอ้ งการ ตวั อย่างเช่น ตอ้ งการเขียนโปรแกรมคำนวณหาพน้ื ที่สามเหลี่ยม - สูตรคำนวณพื้นท่ีสามเหลี่ยมมุมฉาก = ½ x ฐาน x สูง - ดังน้นั สงิ่ ท่ตี ้องปอ้ นเขา้ ไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์คอื ความยาวของฐานและความสงู ของ รปู สามเหลยี่ ม 4. การหาตัวแปรที่จำเปน็ ตอ้ งใช้ในโปรแกรม ตัวแปร หมายถึง ชื่อที่ผู้เขียนโปรแกรมตั้งขึ้นเองตามหลักการตั้งชื่อตัวแปรของ ภาษาคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการอ้างอิงการเก็บข้อมูลและเรียกใช้ข้อมูลภายในตัวแปรดังน้ันผู้เขียน โปรแกรมจะตอ้ งต้งั ช่ือตวั แปรทใ่ี ช้ในการเกบ็ ข้อมูลทงั้ หมดภายในโปรแกรม ตัวอยา่ งเช่น ตอ้ งการเขยี นโปรแกรมคำนวณหาพื้นทสี่ ามเหลย่ี ม - รปู แบบของการคำนวณ คือ Area=½ x Basex High - ดงั นั้นตัวแปรทีใ่ ช้คอื B (สำหรับเกบ็ ค่าความยาวฐานของสามเหล่ยี ม) H (สำหรบั เก็บค่าความสงู ของสามเหลีย่ ม) Area (สำหรบั เก็บผลลัพธท์ ีไ่ ดจ้ ากการคำนวณ)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook