วิชา กม. (LA) ๒๒๒๐๕ พระราชบญั ญตั ทิ ม่ี โี ทษทางอาญา
ตาํ ÃÒàÃÕ¹ ËÅÑ¡ÊÙμà ¹¡Ñ àÃÂÕ ¹¹ÒÂÊºÔ ตาํ ÃǨ ÇªÔ Ò ¡Á. (LA) òòòðõ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ·èÕÁÕâ·É·Ò§ÍÒÞÒ เอกสารนี้ “໚¹¤ÇÒÁÅºÑ ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÔ หา มมิใหผหู นึ่งผใู ดเผยแพร คัดลอก ถอดความ หรอื แปลสว นหนงึ่ สว นใด หรอื ทง้ั หมดของเอกสารนเี้ พอื่ การอยา งอน่ื นอกจาก “à¾Íè× ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒͺÃÁ” ของขาราชการตํารวจเทานั้น การเปดเผยขอความแกบุคคลอื่นท่ีไมมีอํานาจหนาท่ีจะมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ¡Í§ºÞÑ ªÒ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ สํา¹Ñ¡§Ò¹ตําÃǨá˧‹ ªÒμÔ ¾.È.òõöó
1
คาํ นาํ หลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจ (นสต.) เปนหลักสูตรการศึกษาอบรมท่ีมีเปาหมาย เพื่อเสริมสรางใหบุคคลภายนอกผูมีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๖) หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเทา ท่ีเขารับการฝกอบรมมีความรู ความสามารถ และ ทักษะวิชาชีพตํารวจ รวมถึงพัฒนาบุคลิกภาพรางกายใหเหมาะสมสําหรับการปฏิบัติงานตํารวจ ในกลุมสายงานปองกันปราบปราม ตลอดจนเตรียมความพรอมทางดานจิตใจและวุฒิภาวะใหมี จติ สํานึกในการใหบ ริการเพื่อบําบัดทกุ ขบ าํ รุงสขุ ของประชาชนเปน สาํ คัญ กองบัญชาการศึกษา ไดรวมกับ ครู อาจารย และครูฝก ในสังกัดกองบังคับการ ฝก อบรมตาํ รวจกลาง และกลมุ งานอาจารย กองบญั ชาการศกึ ษา ศนู ยฝ ก อบรมตาํ รวจภธู รภาค ๑ - ๙ และกองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน ตลอดจนผูทรงคุณวุฒิจากภายนอก จัดทําตําราเรียน หลกั สตู รนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจชดุ นี้ ซงึ่ ประกอบดว ยองคค วามรตู า งๆ ทจี่ าํ เปน ตอ การพฒั นาศกั ยภาพ ของนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจใหเ ปน ขา ราชการตาํ รวจทพ่ี งึ ประสงคข องประชาชน เพอ่ื ใชส าํ หรบั ประกอบ การเรียนการสอนนักเรียนนายสิบตํารวจใหมีความพรอมทั้งดานความรู ความสามารถ กําลังกาย และจติ ใจ จนสามารถเปน ขา ราชการตาํ รวจทป่ี ฏบิ ตั งิ านใหบ รกิ ารสงั คมและประชาชนไดอ ยา งตรงตาม ความตอ งการอยา งแทจรงิ และมคี วามพรอมในการเขา สปู ระชาคมอาเซยี น ขอขอบคุณครู อาจารย ครูฝก และผูทรงคุณวุฒิทุกทาน ที่ไดรวมกันระดมความคิด ใหคําปรึกษา คําแนะนํา ประสบการณท่ีเปนประโยชน รวมถึงการถายทอดองคความรู ท่ีเปนประโยชน จนทําใหการจัดทําตําราเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจสําเร็จลุลวงไดดวยดี ซึ่งกองบัญชาการศึกษาหวังเปนอยางย่ิงวาตําราเรียนชุดนี้คงเปนประโยชนตอการจัดการเรียน การสอนและการจดั การฝกอบรมของครู อาจารย และครฝู ก รวมตลอดถึงใชเปนคูมือการปฏบิ ัตงิ าน ของขาราชการตํารวจ อันจะสงผลทําใหสํานักงานตํารวจแหงชาติสามารถสรางความเชื่อม่ัน ศรัทธา และความผาสุกใหแกประชาชนไดอ ยา งแทจ รงิ พลตํารวจโท ( อภิรตั นยิ มการ ) ผูบ ัญชาการศกึ ษา
1
ÊÒúÑÞ ÇªÔ Ò ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ·Ô èÕÁâÕ ·É·Ò§ÍÒÞÒ Ë¹ŒÒ º··èÕ ñ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ¡Òþ¹Ñ¹ ¾.È.òô÷ø ñ - ความรูท ่วั ไปเก่ยี วกับพระราชบัญญัติการพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ ๒ - ความผิดตามพระราชบญั ญตั ิการพนัน ๓ - บทกําหนดโทษ ๘ º··Õè ò ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ÔÍÒÇ¸Ø »„¹ à¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ ÇÑμ¶ÃØ ÐàºÔ´ ñù ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§ ʧèÔ à·ÕÂÁÍÒÇظ»„¹ ¾.È.òôùð ๒๐ - ความรทู ั่วไปเกย่ี วกับพระราชบัญญัตอิ าวธุ ปน เคร่ืองกระสนุ ปน ๒๗ วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สง่ิ เทียมอาวธุ พ.ศ.๒๔๙๐ ๔๓ - ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน ôù วตั ถุระเบดิ ดอกไมเ พลิง สง่ิ เทียมอาวธุ พ.ศ.๒๔๙๐ ๕๐ - บทกาํ หนดโทษ ๕๑ ๕๑ º··Õè ó ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ÊÔ ¶Ò¹ºÃ¡Ô Òà ¾.È.òõðù ๕๒ - ความรทู ั่วไปเกย่ี วกบั พระราชบญั ญตั ิสถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ๕๒ - ฐานความผิด ๕๒ - คณุ สมบตั ิ ๕๓ - สถานท่ี ๕๓ - ใบอนญุ าต ๕๕ - ใบอนญุ าตชาํ รดุ ๕๖ - การปฏบิ ัติกบั พนกั งาน ๕๙ - ขอปฏบิ ตั ิของสถานบริการ - อํานาจของเจาพนกั งาน - โทษตาม พ.ร.บ.สถานบรกิ าร - ความผดิ ตามพระราชบัญญตั สิ ถานบรกิ าร พ.ศ.๒๕๐๙
˹ŒÒ º··Õè ô ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ÔÊØÃÒ ¾.È.òôùó öñ - ความรูท วั่ ไปเก่ียวกบั พระราชบญั ญัตสิ รุ า พ.ศ.๒๔๙๓ ๖๒ - ความผดิ ตาม พระราชบญั ญตั ิสุรา พ.ศ.๒๔๙๓ ทีม่ กี ารจบั กมุ ดําเนินคดี ๖๓ º··èÕ õ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¤Ô Ǻ¤ÁØ à¤ÃÍè× §´×èÁáÍÅ¡ÍÎÍÅ ¾.È.òõõñ ÷÷ - ความรูทัว่ ไปเก่ยี วกับพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๗๘ - การควบคมุ เครื่องดื่มแอลกอฮอลตามพระราชบญั ญัติควบคมุ ๗๙ เครือ่ งดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๙๓ - ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิควบคุมเครอื่ งด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ º··èÕ ö ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ »Ô ‡Í§¡Ñ¹áÅлÃÒº»ÃÒÁ¡ÒäŒÒ»ÃÐàÇ³Õ ¾.È.òõóù ù÷ - ความรทู ่วั ไปเก่ียวกับพระราชบญั ญัตปิ อ งกนั ปราบปราม ๙๘ การคา ประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๑๐๒ - นยิ าม ๑๐๒ - ฐานความผิด ๑๐๔ - มาตรการตามพระราชบัญญัติปองกนั และปราบปราม ๑๐๖ การคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๑๐๘ - อาํ นาจหนา ที่ของพนักงานเจา หนาที่ - ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ิปองกันและปราบปรามการคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ º··Õè ÷ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ Ô¡Ò÷íÒ§Ò¹¢Í§¤¹μÒ‹ §´ŒÒÇ ¾.È.òõõñ ñðù - ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกับพระราชบญั ญัติการทํางานของคนตางดา ว ๑๑๐ พ.ศ.๒๕๕๑ ๑๑๑ - การทํางานของคนตา งดา ว ๑๑๖ - บทกําหนดโทษ ๑๑๗ - ความผิดตามพระราชบญั ญัติการทาํ งานของคนตา งดา ว พ.ศ.๒๕๕๑
º··èÕ ø ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ μÔ ÃǨ¤¹à¢ÒŒ àÁ×ͧ ¾.È.òõòò ˹ŒÒ - ความรทู วั่ ไปเก่ยี วกับพระราชบญั ญัตติ รวจคนเขาเมอื ง พ.ศ.๒๕๒๒ ññù - ความผิดตามพระราชบญั ญัตติ รวจคนเขาเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ ๑๒๐ ที่มีการจับกมุ ดําเนินคดี ๑๒๑ ñóó º··Õè ù ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô»†ÒäÁŒ ¾.È.òôøô ๑๓๕ - ความรูทว่ั ไปเก่ียวกบั พระราชบญั ญตั ิปาไม พ.ศ.๒๔๘๔ ๑๓๖ - การทาํ ไมแ ละเกบ็ หาของปา ๑๓๘ - การทาํ ไมห วงหาม ๑๔๐ - ไมท ่ีมใิ ชไมห วงหาม ๑๔๑ - ของปาหวงหาม ๑๔๒ - ตราประทับไม ๑๔๒ - ไมแ ละของปาระหวางเคล่อื นที่ ๑๔๔ - การควบคุมไมใ นลํานํ้า ๑๔๔ - การควบคุมการแปรรูปไม ๑๔๖ - แผวถางปา ๑๔๗ - เบด็ เตลด็ ๑๔๙ - บทกําหนดโทษ ๑๕๒ - การรกั ษาการพระราชบัญญัติ ñõó ๑๕๔ º··èÕ ñð ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÔÀҾ¹μÃá ÅÐÇ´Õ Ô·Ñȹ ¾.È.òõõð ๑๕๕ - ความรูทวั่ ไปเกย่ี วกบั พระราชบัญญัตภิ าพยนตรและวีดทิ ัศน พ.ศ.๒๕๕๐ ๑๕๙ - การประกอบกจิ การภาพยนตร ๑๕๙ - คณุ สมบตั ขิ องผูขออนญุ าตโรงภาพยนตร ๑๖๐ - ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงภาพยนตร ๑๖๐ - การประกอบกิจการวดี ทิ ศั น ๑๖๑ - คณุ สมบตั ิผขู ออนุญาต ๑๖๒ - ใบอนญุ าตประกอบกิจการวีดทิ ศั น ๑๖๕ - อาํ นาจเจา พนกั งาน - ความผิดตามพระราชบญั ญตั ิภาพยนตรแ ละวดี ทิ ศั น พ.ศ.๒๕๕๑
º··èÕ ññ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¤Ô ÇÒÁ¼Ô´à¡ÕèÂǡѺ¤ÍÁ¾ÔÇàμÍà ¾.È.òõõð ˹Ҍ - ความรทู ่วั ไปเกีย่ วกบั พระราชบัญญัตฯิ ñö÷ - ความผิดเกีย่ วกับคอมพิวเตอร พ.ศ.๒๕๕๐ ๑๖๙ - พนักงานเจา หนาที่ ๑๖๙ ๑๗๔ º··èÕ ñò ¡®ËÁÒ·èÕà¡ÂÕè Ç¢ŒÍ§¡Ñº¡ÒäŒÒÁ¹ØÉ ñøñ - ความรูทวั่ ไปเก่ยี วกับกฎหมายทีเ่ กยี่ วขอ งกบั การคามนษุ ย ๑๘๓ - บททัว่ ไป ๑๘๔ - ความผดิ ตามกฎหมายท่ีเกี่ยวของกบั การคา มนษุ ย ๑๙๐ - อํานาจพนกั งานเจาหนา ที่ ๑๙๒ - บทกําหนดโทษ ๑๙๓ ñù÷ º··Õè ñó ¡®ËÁÒ·èàÕ ¡ÕÂè Ç¢ŒÍ§¡ºÑ ÂÒàʾμ´Ô ๑๙๙ - ความรทู วั่ ไปเกี่ยวกบั กฎหมายที่เกย่ี วขอ งกบั ยาเสพติด ๒๐๑ - ความผิดตามกฎหมายท่เี กยี่ วขอ งกับยาเสพตดิ
๑ º··Õè ñ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¡Ô Òþ¹Ñ¹ ¾.È.òô÷ø ñ. ÇμÑ ¶Ø»ÃÐʧ¤¡ ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒ»Ù ÃШӺ· ๑.๑ เพ่อื ใหนกั เรยี นมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ ๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ ๑.๓ เพื่อใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ò. ÊÇ‹ ¹¹Ó การพนันนับเปนปญหาแกสังคมปญหาหน่ึงเพราะเปนการมอมเมาประชาชนและเปน บอเกิดของปญหาสังคม หรือปญหาอาชญากรรม ดังนั้น เพ่ือเปนการควบคุมมิใหการเลนการพนัน แพรหลายจนเกินไปจนสรางปญหาใหสังคมจึงมีการตรา พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ เพ่ือควบคุม การเลนการพนนั ใหอยใู นกรอบไมกอ ใหเกิดปญ หาแกส งั คม ó. à¹éÍ× ËÒμÒÁËÇÑ ¢ŒÍ ๓.๑ ความรูทั่วไปเกยี่ วกับ พ.ร.บ.การพนนั ๓.๒ ความผดิ ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ๓.๓ บทกาํ หนดโทษ ô. ÊÇ‹ ¹ÊÃØ» พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ เปนกฎหมายท่ีมีความสําคัญฉบับหน่ึง เพราะเปน กฎหมายท่ีคอยควบคุมดูแลไมใหประชาชนในสังคมถูกมอมเมาจากอบายมุข ซ่ึงถาผูบังคับใช กฎหมายไดมีการบังคับใชกฎหมายอยางเครงครัดก็จะทําใหปญหาสังคมไดรับการแกไข อันจะนําไปสู ความสงบสุขในสงั คมตอไป õ. ¡¨Ô ¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการพนันที่มีการจับกุมในปจจุบันวามีลักษณะอยางไรและรวมกัน วเิ คราะหอ ภปิ รายในชนั้ เรียน
๒ การพนันเปนสิ่งท่ีพบเห็นกันอยูทั่วไปและเปนคดีความมาสูศาลมากที่สุดอยางหนึ่ง ซง่ึ เชอ่ื กนั วา มกี าํ เนดิ มาจากประเทศจนี ลกุ ลามแพรข ยายเขา ไปในนานาประเทศ รวมทงั้ ประเทศไทยดว ย เมอื่ ประชาชนมวั เมาอยกู บั การเลน การพนนั ยอ มไมค ดิ ทาํ มาหากนิ คอยแตเ ลน การพนนั เพราะไดเ สยี รวดเร็วทําใหมีผูหวังรวยทางลัดอยูตลอดเวลา แตย่ิงเลนก็ย่ิงยากจนทุกที การพนันจึงเปนเหตุ อยา งหนงึ่ ทก่ี อ ใหเ กดิ อาชญากรรมขนึ้ ในประเทศ ดงั นน้ั รฐั จงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชบญั ญตั กิ ารพนนั ขน้ึ อยา งไรก็ตาม ไมว าจะไดม ีการปราบปรามการเลน การพนันอยา งไร ก็ปรากฏวาการเลน การพนันยงั คงระบาดแพรห ลายอยตู ลอดเวลา ñ. ¤ÇÒÁÌٷèÇÑ ä»à¡èÕÂÇ¡ºÑ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¡Òþ¹Ñ¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷ø แยกเปน ๒ ประการ คอื ๑.๑ ลกั ษณะของการพนนั ๑.๒ สาระสําคัญของพระราชบัญญัติการพนนั ñ.ñ ÅѡɳТͧ¡Òþ¹Ñ¹ พระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ มิไดแยก วิเคราะหศัพท “การพนนั ” ไวโ ดยเฉพาะ คงมเี พยี งมาตรา ๔ ทวิ บญั ญัตขิ ยายความหมายของคําวา การเลน ในพระราชบญั ญตั กิ ารพนนั ใหห มายความรวมตลอดถงึ การเขา เลน เสย่ี งโชคซงึ่ ตอ งใชไ หวพรบิ และฝมือมาพนันเอาทรัพยสินกัน จะโดยชอบหรือมิชอบดวยกฎหมายก็ได เชน การเลนพนัน ไพป อก ไพผอ ง ไพนกกระจอก หรอื การท่บี คุ คล ๒ ฝายขน้ึ ไปถอื เอาเหตกุ ารณท ่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคต อันไมแนนอนมาเปนเกณฑตัดสินแพชนะวา ถาเหตุการณเกิด ฝายหน่ึงจะแพและอีกฝายหน่ึง จะชนะ ฝายแพจ ะตองเสียเงินใหฝา ยชนะตามท่ตี กลงกัน (โดยทง้ั ๒ ฝายไมม สี วนไดเสียแตอ ยางใด) เชน ใครจะเปน นายกรัฐมนตรคี นตอ ไป เปนตน ñ.ò ÊÒÃÐÊÓ¤ÞÑ ¢Í§¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¡Òþ¹¹Ñ ¾·Ø ¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷ø การพนนั มี ๒ ประเภท คือ ประเภท ก. หมายถึง การพนันซึ่งเจาพนักงานตามพระราชบัญญัติฉบับน้ี จะอนุญาตใหผูใดเลน หรือจัดใหมีการเลน หรือการพนันในการเลนไมไดเลย เวนไวแตรัฐบาลจะ ออกกฎหมายอนญุ าตโดยเฉพาะ ประเภท ข. หมายถึง การเลนจะตองไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานกอน มฉิ ะน้นั มคี วามผดิ ตามพระราชบัญญตั กิ ารพนนั การจัดใหมีรางวัลแถมพก หรือรางวัลดวยการเส่ียงโชคในการประกอบกิจการคา แมไ มใ ชการพนนั กต็ องขออนุญาตจากเจา พนกั งานตามพระราชบัญญตั ิการพนนั สลากกินแบง สลากกินรวบ และสวีป หรือการเลนอยางใดที่เสี่ยงโชค ตองขอ อนุญาตจากเจา พนักงานตามพระราชบัญญตั กิ ารพนนั เชนกัน
๓ การฝาฝนพระราชบัญญัติการพนัน มีโทษคือจําคุก ปรับและริบทรัพยสิน และ ผูนาํ จับตามพระราชบญั ญัติการพนนั มีสิทธิไดรับสนิ บนหรอื รางวลั นําจับตามกฎหมาย ò. ¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¡Ô Òþ¹Ñ¹ พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มีท้ังหมด ๑๗ มาตรา แตจะขอยกเพียงบาง มาตราที่สาํ คญั มาอธบิ าย ดงั น้ี ÁÒμÃÒ ô หา มมใิ หอ นญุ าตจดั ใหม หี รอื เขา เลน หรอื เขา พนนั ในการเลน อนั ระบไุ วใ นบญั ชี ก. ทายพระราชบัญญตั ินี้ หรือการเลนซง่ึ มีลกั ษณะคลา ยกนั หรอื การเลนอนั รา ยแรงอ่ืนใด ซึง่ รฐั มนตรี เจาหนาท่ีออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมหามไว แตเมื่อรัฐบาลพิจารณาเห็นวา ณ สถานท่ีใดสมควร จะอนญุ าตภายใตบังคับเง่อื นไขใดๆ ใหมกี ารเลนชนดิ ใด กอ็ นญุ าตไดโดยออกพระราชกฤษฎีกา การเลนอันระบุไวในบัญชี ข. ทายพระราชบัญญัตินี้หรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายกัน หรือการเลนอ่ืนใดซึ่งรัฐมนตรีเจาหนาที่ไดออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไวจะจัดใหมีขึ้นเพื่อเปนทาง นํามาซ่ึงผลประโยชนแกผูจัดโดยทางตรงหรือทางออมได ตอเม่ือรัฐมนตรีเจาหนาท่ีหรือเจาพนักงาน ผูออกใบอนุญาตเห็นสมควรและออกใบอนุญาตให หรือมีกฎกระทรวงใหจัดข้ึนไดโดยไมตองมี ใบอนญุ าต ในการเลนอันระบุไวในวรรค ๒ ขางตนน้ัน จะพนันกันไดเฉพาะเมื่อไดมีใบอนุญาตให จัดมีขนึ้ หรือมกี ฎกระทรวงอนุญาตใหจดั ขึน้ ไดโ ดยไมต องมีใบอนญุ าต การเลนหมายเลข ๕ ถึง ๑๕ ในบัญชี ข. หรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายกัน หรือการเลนอ่ืนใดซ่ึงรัฐมนตรีเจาหนาท่ีไดออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไวน้ัน จะใหรางวัลตีราคา เปนเงินไมได และหามมิใหผูใดรับรางวัลที่ใหไปแลวกลับคืนหรือรับซ้ือหรือแลกเปล่ียนรางวัลนั้น ในสถานงานหรือการเลน หรือบริเวณตอ เน่อื งในระหวางมงี าน หรอื การเลน ÁÒμÃÒ ô ·ÇÔ ในการเลน อ่ืนใดนอกจากทีก่ ลาวใน มาตรา ๔ จะพนันกันหรอื จะจัดใหม ี เพอ่ื ใหพ นนั กันไดเ ฉพาะการเลนทีร่ ะบชุ ื่อและเงือ่ นไขไวในกฎกระทรวง คาํ วา “การเลน” ในวรรคกอ น ใหหมายความรวมตลอดถึงการทายและการทาํ นายดวย ¤Ó͸ºÔ Ò การพนันที่ไมไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานแบงออกเปน ๒ ประเภทคือ การพนัน ประเภทที่กฎหมายหามมิใหมีการเลนโดยเด็ดขาด และการพนันท่ีจะเลนไดตอเม่ือไดรับอนุญาตจาก เจาพนกั งาน ๑) การพนนั ประเภททกี่ ฎหมายหา มมใิ หม กี ารเลน โดยเดด็ ขาด เวน แตเ มอ่ื รฐั บาลเหน็ วา ณ ท่ีใดสมควรจะอนุญาตภายใตบังคับเงื่อนไขใดๆ ใหมีการเลนชนิดใด ซ่ึงการอนุญาตใหมีการเลน การพนนั ประเภทน้ีตองออกเปนพระราชกฤษฎกี า
๔ ๒) การพนันที่จะเลนไดตอเม่ือไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน เปนการพนันประเภท ที่หามมิใหมีการเลน จนกวาจะไดใบอนุญาตใหจัดมีข้ึน หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตใหจัดขึ้น โดยไมตองมีใบอนุญาตคือ การเลนการพนันซึ่งระบุไวในบัญชี ข. ทายพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ หรือการเลน ซึ่งมลี กั ษณะคลา ยคลงึ กัน หรอื การเลน อืน่ ใด ซึ่งรัฐมนตรเี จา หนา ที่ ไดออกกฎกระทรวงระบุเพ่ิมเติมไว สําหรับการพนันประเภทนี้ยังมีเงื่อนไขเฉพาะตามกฎหมาย กลา วคือ ก. การเลน การพนันตามบัญชี ข. จะพนนั กันไดเ ฉพาะเม่อื ไดม ใี บอนุญาตใหม ขี ้นึ หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตใหจัดขึ้นโดยไมตองมีใบอนุญาต จะเห็นไดวาการเลนตามบัญชี ข. นั้น กฎหมายมีวัตถุประสงคจะบังคับเฉพาะผูจัดใหมีข้ึน เพื่อเปนทางนํามาซ่ึงผลประโยชนแกผูจัดจะโดย ทางตรงหรือทางออมก็ตอเมื่อไดรับอนุญาตเทาน้ัน แมวาการเลนน้ันจะมีการพนันหรือไมไมสําคัญ ถาปรากฏขอเท็จจริงวาไดรับผลประโยชนก็จะตองไดรับอนุญาตกอนจึงจะเปดใหมีการพนันได ถาไมไดรับอนุญาตถือวาเปนความผิดแลว เวนแตการเลนที่มีกฎกระทรวงอนุญาตไวเปนการเฉพาะ วาไมต องขออนญุ าต เชน การเลน บริดจ วง่ิ ววั คน ข. การเลนตามบัญชี ข. หมายเลข ๕ ถึง ๑๕ ตามบัญชี ข. คือชี้รูป โยนหวง โยนสตางค ตกเบด็ จับสลาก ยงิ เปา ปาหนาคน เตาขา มดา น หมากแกว หมากหัวแดง บิงโก เหลานี้ จะใหร างวลั ตรี าคาเปน เงนิ ไมไ ดแ ละหา มมใิ หผ ใู ดรบั รางวลั ทใ่ี หไ ปแลว กลบั คนื หรอื รบั ซอ้ื หรอื แลกเปลย่ี น รางวลั นั้นในสถานงานหรอื การเลน หรอื บริเวณตอเน่อื งในระหวา งมงี านหรอื การเลน ÁÒμÃÒ ñó “ผใู ดฝาฝน บทบญั ญตั มิ าตรา ๔ อันวา ดว ยการรับกลับคนื หรอื รบั ซ้อื หรือ แลกเปลี่ยนรางวัลน้นั มคี วามผิดตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ ๓ เดอื น หรอื ปรับไมเ กิน ๕๐๐ บาท หรอื ท้ังจําทัง้ ปรับ” ¤Ó͸ºÔ Ò ผูใดไมวาจะเปนผูจัดใหมีการเลน หรือบุคคลอื่นใดก็ตามจะรับรางวัลท่ีใหไปแลวกลับคืน หรือรับซื้อ หรือแลกเปล่ียนรางวัลท่ีไดจากการเลนตามบัญชี ข. (ดูการพนันประเภท ข. ในความผิด ตามมาตรา ๑๒) กลบั คนื ในสถานงานหรอื การเลน หรือบรเิ วณตอเน่ืองในระหวา งมงี าน หรือการเลน ไมได เชน ในงานปใหม งานกาชาด มีการออกรานเลนการพนันประเภท ข. มากมาย อาทิ การจับสลากพฤกษากาชาด การขายสลากกาชาดชิงรางวัลรถยนตญี่ปุน ปาเปา ยิงธนูเอารางวัล หากมกี ารรบั ซ้ือแลกเปลยี่ นรางวัลทีล่ กู คา ไดไ ปแลว คนื ยอมมีความผิดตามมาตราน้ี μÑÇÍ‹ҧ การหามรับซ้ือของซึ่งเลนไดจากการพนันในสถานท่ีเลนการพนันนั้น กฎหมายหาม ตลอดถงึ บุคคลท่วั ไปดวยหาไดหามเฉพาะเจาของรา นเทา นน้ั ไม (ฎ. ๑๐๘๐/๒๔๘๐) ÁÒμÃÒ õ ผูใดจัดใหมีการเลน ซ่ึงตามปกติยอมพนันเอาเงินหรือทรัพยสินอยางอ่ืน แกกัน ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูน้ันจัดใหมีขึ้นเพ่ือนํามาซึ่งผลประโยชนแหงตน และผูใดเขาเลน อยดู ว ยก็ใหสันนิษฐานไวกอนวา ผูนั้นพนันเอาเงินหรอื ทรพั ยสนิ อยา งอนื่
๕ ÁÒμÃÒ ö ผูใดอยูในวงการเลนอันขัดตอบทแหงพระราชบัญญัติน้ี หรือขัดตอ ขอความในกฎกระทรวงหรือใบอนุญาตซึ่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูน้ัน เลน ดว ย เวน แตผ ซู งึ่ เพยี งแตด กู ารเลน ในงานรนื่ เรงิ สาธารณะ หรอื งานนกั ขตั ฤกษห รอื ในทสี่ าธารณสถาน ¤Ó͸ԺÒ การเขาเลนหรือเขาพนันในการเลน หมายถึง การเขาเส่ียงภัยโดยมีสวนไดเสียนั่นเอง การพนันขันตอซ่ึงการเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนน้ี แมผูนั้นจะมิไดเขาเลนดวย หากแตกระทํา การใดอันเขาขอสันนิษฐานของกฎหมายก็ใหถือวาเปนผูเลนดวย ผูนั้นยอมมีความผิดตามกฎหมาย บญั ญัติ เวน แตจ ะนําสืบใหเ หน็ เปนอยา งอน่ื ได ขอสันนิษฐานของกฎหมายตามพระราชบัญญัติการพนัน พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ไดว างขอ สนั นิษฐานไว ๒ มาตราคือ มาตรา ๕ และมาตรา ๖ ขางตน ขอ สนั นษิ ฐานของกฎหมาย ๒ มาตรานเี้ กดิ จากการทเี่ จา หนา ทตี่ าํ รวจซง่ึ มหี นา ทร่ี กั ษาการ ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้และยังมีหนาที่รักษาการตามกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติความผิดทางอาญา ทุกประเภท บางคร้ังแมจับตัวผูตองหาไดแตหาหลักฐานฟองรองคดีไมไดเพราะเร่ืองที่จะจับได ในขณะกระทําความผิดเปนไปไดยาก นักพนันสวนใหญจะเลนในหมูพวกตน เมื่อถูกจับก็ไมมีพยาน ฝายเจาหนาท่ี คงมีแตต ัวผตู อ งหา สว นของกลางก็เปนของซ่งึ ไมใ ชของทม่ี ีไวเ ปน ความผิด หากจบั มา ไดแลวขาดพยานหลักฐานกไ็ มอาจเอาผิดแกต ัวนกั การพนนั เหลา นนั้ ได ฉะนัน้ จึงจาํ ตองมีบทบญั ญตั ิ ท้ัง ๒ มาตราน้ีไว เพ่ือประโยชนในการปองกันและปราบปรามผูกระทําความผิด เมื่อกรณีเขา ขอสันนษิ ฐานของกฎหมายแลว ศาลยอ มลงโทษผนู นั้ ได μÇÑ ÍÂÒ‹ § ๑) ยนื อยูใ นวงการพนนั โดยยืนชิดหรือหันหนาเขาวงเลน เขา ขอ สันนิษฐานวาเลน ดว ย ๒) เพยี งแตอ ยใู นหองเลนการพนนั ไมเขา ขอสันนิษฐานวา เลนดวย ๓) สําหรับผูจัดใหมีการเลนพนัน จะลงโทษฐานเปนผูจัดใหมีการเลนไดจะตองได ความวาจาํ เลยเกย่ี วขอ งในการเลนพนนั นน้ั ในฐานะเปน ผจู ดั ใหม กี ารเลน ขึ้น และอยา งไรเปนความผิด ตามขอ น้ี โปรดพิจารณาจากตัวอยา งตอ ไปนี้ - ผดู ูตน ทางมฐี านะเปน ผูจัดใหมีการเลน ดว ย - จัดใหมีการเลนการพนันแลวไมมีความผิดฐานเปนผูสนับสนุนตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ อกี - การจัดใหมีการเลนการพนันหลายวงในสถานท่ีเดียวกันและวาระเดียวกัน เปนความผิดกรรมเดยี ว - เจาของบานรูเห็นเปนใจในการเลนการพนันโดยเรียกเก็บคาตง ผิดตาม มาตรา ๑๒ ดวย
๖ ÁÒμÃÒ ÷ ใบอนุญาตทุกฉบับตองกาํ หนด (๑) ลกั ษณะขอ จํากัดและเงอ่ื นไขของการเลนพนันโดยชดั แจง (๒) สถานท่ี วัน เดือน ป และกําหนดเวลาท่ีอนุญาตใหเลน ถาเปนใบอนุญาต สลากกนิ แบง สลากกนิ รวบ และสวปี ใหร ะบจุ าํ นวนสลากทจี่ ะขายกบั สถานที่ วนั และเวลาทจ่ี ะออกดว ย (๓) จาํ นวนบคุ คลผจู ะเขา เลน มกี าํ หนดหรอื ไมแ ละไมใ หบ คุ คลอายตุ าํ่ กวา ๒๐ ปบ รบิ รู ณ หรอื ไมบ รรลุนิตภิ าวะเขา เลน ดว ย เวน แตการเลน ตามบญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ ÁÒμÃÒ ø การจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเส่ียงโชคโดยวิธีใดๆ ในการ ประกอบกจิ การคาหรอื อาชีพ จะตอ งไดรับอนญุ าตจากเจาพนกั งานผูออกใบอนญุ าตกอนจงึ ทําได ÁÒμÃÒ ñô “ผูใดฝาฝนบทบัญญัติมาตรา ๘ มีความผิดตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑ ป หรอื ปรับตั้งแต ๕๐ บาทข้ึนไปจนถงึ ๒,๐๐๐ บาท หรือทง้ั จําทัง้ ปรับ” ¤Ó͸ԺÒ การจัดแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคโดยวิธีการใดๆ ทางการคา ตองไดรับ อนุญาตจากเจาพนักงานกอนจึงจะทําได หากทําไปโดยไมไดรับอนุญาตยอมมีความผิดท่ีกฎหมาย บญั ญัติมาตรานข้ี ้นึ มจี ุดมงุ หมาย ๒ ประการ คอื ๑) การจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคดวยวิธีใดๆ ในการประกอบ กิจการคาหรืออาชีพนี้ ปกติผูเลนก็ซ้ือสินคาอยูแลว มีโอกาสไดเส่ียงโชคโดยไมตองเสียอะไรเพิ่มเติม อีกเลย ถาพิจารณาโดยเครงครัดก็ไมถือวาเปนการเลนการพนัน เปนทางออกของผูจัดใหมีการเลน อาจจะจัดใหมีการเลนเส่ยี งโชคทีก่ ฎหมายหา มเด็ดขาดคอื การเลนตามบญั ชี ก. ได ๒) เพ่ือเปดทางใหเจาหนาที่ควบคุมการจัดใหมีการเลนแถมพกหรือรางวัลดวยการ เส่ียงโชค โดยวิธีใดๆ น้ีจัดใหมีการเลนอยูในขอบเขตแหงความยุติธรรม ไมเปนการเอาเปรียบ หวังหลอกลวงประชาชนจนเกินไป และการจดั น้ีเจาหนา ทส่ี ามารถควบคมุ ไดดว ย อยางไรจึงจะถือวาเปนการจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคท่ีมีความผิด ซง่ึ ผูซ้ือ อาจไดหรอื ไมไ ดข องแถมหรอื รางวลั μÑÇÍÂÒ‹ § ๑) ขายของทสี่ อดธนบตั รไวข า งใน (บางหอ ) ในราคาสงู กวา ทอ งตลาด (ฎ. ๑๕๒/๒๔๙๓) ๒) ขายของโดยแถมรูปภาพ หากผูซื้อสะสมรูปภาพไดครบจํานวนท่ีกําหนดจะนําไป แลกของมีคา ได (ฎ. ๔๕๓/๒๔๘๓) ๓) ขายของโดยแถมบตั รสมนาคุณ ซึ่งมตี ัวเลขเหมอื นสลากกินแบงรฐั บาล หากใครได บัตรตรงกบั เลขรางวลั สลากกนิ แบงทอ่ี อกจะไดร างวัล (ฎ. ๗๓๓/๒๔๙๘) แตถาผูซื้อทุกคนมีสิทธิไดเหมือนกันหมดโดยไมตองเส่ียงโชค หรือเปนการใหเปลา โดยไมตองซื้อยอมไมเปนความผิด เชน แจกบัตรแกทุกคนท่ีเขารานสําหรับทายสลากกินแบง ผทู ายถกู จะไดรางวลั โดยไมจํากดั วาตอ งซ้ือสนิ คา หรือไมย อมไมมคี วามผดิ (ฎ. ๑๔๙๓/๒๔๗๙)
๗ ÁÒμÃÒ ù สลากกนิ แบง สลากกินรวบ และสวีป หรือการเลน อยา งใดทเ่ี สยี่ งโชคใหเ งนิ หรือประโยชนอยางอ่ืนแกผูเลนคนหน่ึงคนใดนั้น ตองสงสลากใหเจาพนักงานผูออกใบอนุญาต ประทบั ตราเสยี กอ น จงึ นําออกจําหนา ยได ถายังมิไดรับอนุญาตใหมีการเลนที่กลาวไวในวรรคกอน หามมิใหประกาศโฆษณา หรอื ชกั ชวน โดยทางตรงหรือทางออ มใหบุคคลใดๆ เขารวมในการเลนนัน้ ÁÒμÃÒ ù ·ÇÔ หา มมใิ หผ ใู ดเสนอขายหรอื ขายสลากกนิ แบง ทอี่ อกจาํ หนา ยตามมาตรา ๙ และท่ยี ังมิไดออกรางวลั เกนิ ราคาทก่ี าํ หนดในสลาก ÁÒμÃÒ ù μÃÕ ผใู ดฝาฝน มาตรา ๙ ทวิ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเกิน ๑ เดอื น หรือปรับ ไมเ กนิ หนึ่งพนั บาท หรือทงั้ จาํ ทั้งปรับ ¤Ó͸ºÔ Ò การเสนอขายหรอื ขายสลากกนิ แบง ทอ่ี อกจาํ หนา ยตามมาตรา ๙ หมายถงึ การเสนอขาย สลากกินแบง สลากกินรวบและสวีป หรือการเลนอยางใดท่ีเส่ียงโชคดวยการใหเงินหรือประโยชน อยางอื่นแกผูเลน เชน สลากกาชาดของกรมอัยการหรือจังหวัด สลากคุมเกลา เปนตน การขาย สลากเหลาน้ีจะตองไดรับอนุญาตจากพนักงานเจาหนาที่กอน และการอนุญาตนั้น เจาพนักงาน จะประทับตราอนุญาตลงในสลากนั้นๆ หรือประทับตราอนุญาตลงที่ตนขั้วสลาก และถายังไมไดรับ อนุญาตดังกลาวกฎหมายหามมิใหมีการประกาศโฆษณาหรือชักชวนไมวาจะโดยทางตรง หรอื ทางออ มใหบคุ คลใดๆ เขารวมในการเลน ดวย สวนการขายสลากกินแบงเกินราคานั้น จะตองเปนกรณีท่ีสลากกินแบงน้ันยังมิไดออก รางวัลจะเปนความผิดฐานน้ี เชน ขายสลากกินแบงรัฐบาลที่ยังไมออกรางวัลใบละ ๒๐ บาท ไปใน ราคา ๒๒ บาท เปน ตน ถา สลากออกรางวลั แลว ไมว า จะถกู รางวลั หรอื ไม หากขายไปเกนิ ราคาทกี่ าํ หนด มากนอยเทาใดยอ มไมเ ปน ความผดิ อกี ÁÒμÃÒ ñð ทรัพยสินพนันกันซ่ึงจับไดในวงการเลนอันขัดตอบทแหงพระราชบัญญัตินี้ หรือขัดตอขอความในกฎกระทรวง หรือใบอนุญาตซ่ึงออกตามพระราชบัญญัติน้ีใหริบเสียท้ังส้ิน เวนแตทรพั ยสนิ ซ่ึงมไิ ดเอาออกพนัน เครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ นการเลนน้นั ใหศาลมอี าํ นาจริบไดต ามกฎหมายลกั ษณะอาญา ¤Ó͸ºÔ Ò ทรพั ยส นิ ทจ่ี บั ไดใ นวงการเลน ซง่ึ เปน ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ี กฎหมายบงั คบั ไววาใหริบเสียทรพั ยสนิ ดังกลา ว แยกพจิ ารณาไดดงั นีค้ ือ ๑) ทรัพยสินพนัน หากจับไดในวงการเลนยอมเปนทรัพยสินที่ตองริบเสียท้ังสิ้น โดยเด็ดขาด เชน เงินทอง ขาวของที่ใชเปนทรัพยสินพนัน แตถาทรัพยสินน้ันมิไดเอาออกพนัน หากจับไดท ี่ตวั ผูตอ งหาในภายหลงั ยอมริบไมได
๘ ๒) เครอื่ งมอื ท่ีใชใ นการเลนพนนั อยูในดลุ พนิ จิ ของศาลทีจ่ ะริบหรอื ไม อาทเิ ชน - เส่ือและตะเกียงเปนของใชธรรมดา ไมมีสภาพเปนเคร่ืองมือเครื่องใชในการเลน จะรบิ ไมได - โทรทัศนที่ผูดูใชทาพนันผลการแขงขันชกมวยไมใชเครื่องมือเคร่ืองใชในการเลน พนันชกมวย จะริบไมไ ด - เสื่อที่ใชปูรองการเลนพนัน เปนเครื่องมือเครื่องใชในการกระทําผิดในการเลน การพนัน ถือไดวาเปนทรัพยที่ใชในการกระทําผิด ศาลริบไดในฐานะท่ีใชเปน เคร่ืองมอื ท่ีใชในการเลน - โตะบิลเลียดไฟฟา ริบเปนอุปกรณใชในการเลนพนัน สล็อตแมชชีนที่จับไดใน วงพนัน ศาลรบิ ได การกระทาํ ความผดิ ฐานน้แี มไมม เี จตนาก็เปนความผดิ ó. º·¡Ó˹´â·É การกระทาํ ความผดิ ฐานนต้ี อ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ ๑ เดอื น หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจําท้งั ปรับ ÁÒμÃÒ ñò “ผูใดจัดใหมีการเลน หรือทําอุบายลอชวยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยตรงหรือออมใหผูอ่ืนเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนซ่ึงมิไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน หรือรับ อนุญาตแลวแตเลนพลิกแพลง หรือผูใดเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนอันขัดตอบทแหงพระราช บญั ญัตินีห้ รอื กฎกระทรวง หรอื ขอ ความในใบอนุญาต ผนู น้ั มีความผดิ ดงั ตอ ไปนี้ ๑. ถาเปนความผดิ ในการเลน ตามบัญชี ก. หมายเลข ๑ ถึงหมายเลข ๑๖ หรอื การเลน ตามบัญชี ข. หมายเลข ๑๖ เฉพาะสลากกนิ รวบ หรอื การเลน ซ่งึ มีลกั ษณะคลายกันน้ี ตอ งระวางโทษ จาํ คุกต้งั แต ๓ เดอื นขน้ึ ไป จนถงึ ๓ ป และปรับต้ังแต ๕๐๐ บาทขนึ้ ไปจนถึง ๕,๐๐๐ บาท ดว ยอกี โสดหนงึ่ เวน แตผ เู ขา เลน หรอื เขา พนนั ทเ่ี รยี กวา ลกู คา ใหจ าํ คกุ ไมเ กนิ ๓ ป หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๕,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ๒. ถาเปนความผิดในการเลนอื่นใดตามพระราชบัญญัตินี้ ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๒ ป หรอื ปรบั ไมเ กิน ๒,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรบั เวน แตค วามผดิ ตามมาตรา ๔ ทวิ ตอ งระวางโทษ จาํ คุกไมเกิน ๑ ป หรอื ปรบั ไมเกนิ ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจําท้ังปรับ ¤Ó͸ºÔ Ò การจัดใหผูอื่นเขาเลนการพนัน หรือพนันในการเลน หมายถึง การเปนหัวหนาหรือ ผนู ําในการเลนทีเ่ รียกกันท่ัวๆ ไปวาหัวหนาบอ นการพนนั หรอื นายวงการพนัน หรอื เจา มือ การทําอุบายลอใหผูอ่ืนเขาเลนการพนันหรือพนันในการเลน ไดแก การใชอุบายดวย วิธีใดๆ ก็ไดเพ่ือชักชวนใหผูอ่ืนเขาเลนการพนันดวย พวกทําอุบายลอน้ีรูจักกันดี ในช่ือวา หนามา
๙ เชน ก. จัดใหมีการเลนการพนัน ข. ตองการชวย ก. หาลูกคาในการเลนการพนัน จึงทําอุบายเปน ลูกคาเลนการพนันกับ ก. เปนทํานองวาการเลนนั้นมีโอกาสจะไดมากกวาเสีย เพ่ือใหนาย ค. กับ นาย ง. ซ่ึงผานไปมาเขาเลนดวย ที่พบเห็นกันทั่วไป เชน การเลนพนันไพสามใบบนรถประจําทาง มักจะมีหนามาทําอุบายชักชวนเสมอ และการเลนลูกเตา ไฮโล ก็มักจะมีผูกระทําตนเปนหนามา หรือนกตอแกลง ทาํ เปน ชนะการพนนั โดยรูก ันกบั เจามือเพ่อื หลอกใหล ูกคา หลงเชอื่ เขา พนันดว ย การชว ยประกาศโฆษณาหรอื ชกั ชวนโดยทางตรงทางออ ม กม็ ที าํ นองเดยี วกนั กบั ทาํ อบุ าย ดงั กลาวมาแลว ÁÒμÃÒ ñõ นอกจากโทษทม่ี บี ญั ญตั ไิ วแ ลว ในพระราชบญั ญตั นิ ้ี ถา เปน กรณที ม่ี ผี นู าํ จบั ผูกระทําผิด ใหพนักงานอัยการรองขอตอศาลใหจายสินบนแกผูนําจับดวย และใหศาลส่ังไวใน คําพิพากษาใหผูกระทําผิดใชเงินสินบนแกผูนําจับก่ึงหน่ึงของจํานวนเงินคาปรับดวยอีกโสดหน่ึง ถา ผกู ระทาํ ผดิ ไมช าํ ระสนิ บนดงั กลา วใหจ า ยจากเงนิ ทไี่ ดจ ากของกลางซงึ่ ศาลสง่ั รบิ เมอ่ื คดถี งึ ทส่ี ดุ แลว หรอื จา ยจากเงนิ คาปรับทไ่ี ดช าํ ระตอศาล ®Õ¡Ò·Õ¹è Ò‹ ʹ㨠®¡Õ Ò·Õè õõ/òõñð ในคดีท่ีเจาพนักงานตํารวจซ่ึงเปนพยานโจทกเบิกความวา ผูประสงคเงินสินบนนําจับมาแจงวา ที่บานจําเลยลักลอบเลนการพนัน ไดระบุถึงผูเลนและเลนอยู ตรงสวนไหนของบาน ผูแจงบอกใหเขาทางหลังบาน เจาพนักงานตํารวจอีกผูหน่ึงก็ไดสอบถามผูมา แจง ตามขอ เท็จจริง เชนน้ี ถือไดวาผูที่มาแจงนัน้ เปน ผนู ําจบั ตามความใน พ.ร.บ.การพนนั แลว ®Õ¡Ò·èÕ ó÷ø/òõñö ศาลชนั้ ตน พพิ ากษาลงโทษจาํ เลยฐานเปน ผจู ดั ใหม กี ารเลน พนนั โดยเปนเจา มือ จําคกุ ๔ เดือน และปรับ ๖๐๐ บาท ศาลอุทธรณฟ ง วา จาํ เลยเปนผูเ ขา เลนในฐานะ ลูกคาเทาน้ัน พิพากษาแก ลงโทษปรับสถานเดียว ๖๐๐ บาท ดังน้ี แมจะเปนการแกไขมากก็อยูใน บงั คับแหงมาตรา ๒๒๐ ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา ฎีกาในปญ หาขอเท็จจรงิ ไมได ®¡Õ Ò·Õè ñòóø/òõñ÷ เส่ือ แมโดยสภาพจะใชรองน่ังนอนก็ดี แตเมื่อจําเลยไดใช ปูรองเลนการพนัน ก็เปนเครื่องมือที่ใชในการกระทําผิดในวงเลนการพนัน ถือไดวาเปนทรัพยท่ีไดใช เปนเคร่ืองมือประกอบในการกระทําผิด ศาลยอมมีอํานาจริบได ตาม พ.ร.บ.การพนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๑๐ ประกอบกับ ป.อ.มาตรา ๓๓(๑) ®Õ¡Ò·èÕ òöôö/òõòñ การที่ผูดูโทรทัศนทาพนันผลของการแขงขันชกมวย หาได ทําใหเคร่ืองรับโทรทัศนเปนเครื่องมือเครื่องใชในการเลนการพนันการชกมวยตามความหมายแหง พระราชบัญญตั ิการพนันโดยแทจริงไม จึงไมร บิ เครือ่ งรับโทรทัศนข องกลาง ®Õ¡Ò·Õè ñøõù/òõò÷ ผูรองเปนเจาของรานคา ในวันเสารวันอาทิตยจะยก เคร่ืองรับโทรทัศนของกลางจากชั้นบนลงมาเปดบริการลูกคาที่ช้ันลาง เพ่ือใหลูกคาดูรายการมวย จะฟงวาเพ่ือสนับสนุนใหจําเลยเลนการพนันกันหาไดไม ผูที่ดูมวยโดยไมเลนการพนันมีอยูไมนอย โทรทศั นข องกลางจงึ ไมเ ปน เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ นการทา พนนั ผลการแขง ขนั การชกมวย ตอ งคนื แกผ รู อ ง
๑๐ ®¡Õ Ò·Õè òù/òõóñ เครื่องรับโทรทัศนซึ่งใชในการถายทอดรายการมวยท่ีจําเลยท่ี ๑ จัดใหจําเลยอ่ืนเลนการพนันนั้น มิใชอุปกรณที่มีสภาพหรือลักษณะที่ใชในการเลนการพนัน ดังน้ัน การที่มีผูตกลงใชรายการใดรายการหนึ่งในการเผยแพรภาพทางเครื่องรับโทรทัศนมาใชเส่ียงทาย หรือเปนเง่ือนไขในการเลนการพนัน จึงไมทําใหเครื่องรับโทรทัศนเปนเคร่ืองมือเคร่ืองใชในการเลน การพนันไปดวย ®¡Õ Ò·èÕ ñðòø/òõóñ ขณะเลนการพนันบิลเลียดเพ่ือความรื่นเริงในสมาคมท่ีสมาคม ผูรองซ่ึงมีโตะบิลเลียดทั้งหมด ๕ โตะเรียกเก็บคาเกมตามสมควร ยอมอยูในบังคับของกฎกระทรวง ทใ่ี หจ ดั ขนึ้ ไดโ ดยไมต อ งมใี บอนญุ าตอนั สามารถเลน การพนนั กนั ได ตามบทบญั ญตั แิ หง พระราชบญั ญตั ิ การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๔ วรรคสาม โตะบิลเลียด ลูกบิลเลียด และไมคิวของกลางท่ีผูรอง ขอคืน จึงไมเปนเคร่ืองมือที่ใชในการเลนการพนัน โดยขัดตอบทแหงพระราชบัญญัติดังกลาว ซง่ึ มาตรา ๑๐ วรรคสอง บัญญัติใหศาลมอี าํ นาจรบิ ได ®Õ¡Ò·Õè øõò/òõóò จําเลยสั่งจายเช็คพิพาทใหโจทกเพื่อชําระหน้ีการเลนพนัน สลากกนิ รวบเปนหนท้ี ไ่ี มส มบรู ณ ฟอ งบังคับไมไ ด ®¡Õ Ò·èÕ ó÷ó÷/òõóò คาํ ฟอ งของโจทกท บ่ี รรยายวา จาํ เลยทงั้ หมดกบั พวกไดร ว มกนั เลนการพนันปอกแปดเกาหรือการเลนซึ่งมีลักษณะคลายปอก มีวิธีการเลนซึ่งดัดแปลงมาจาก การเลนแปดเกา อันระบไุ วใ นบัญชี ก. อันดบั ท่ี ๕ และการเลน ปอกอนั ระบุไวใ นบัญชี ก. อันดับท่ี ๑๑ ยอมเปนท่ีเขาใจไดแลววา จําเลยทั้งหมดกับพวกเขาพนันในการเลนอยางเดียว โดยมีวิธีการเลน ทพ่ี ลกิ แพลงนาํ เอาการเลน แปดเกา กบั การเลน ปอ กเขา มารวมกนั แลว เรยี กชอื่ ใหมว า ปอ กแปดเกา จาํ เลย ใหการรับสารภาพตลอดขอหา แสดงวาเขาใจในวิธีการเลนการพนันตามที่โจทกกลาวในฟองแลว เปนอยางดี คาํ ฟอ งของโจทกกไ็ มเ คลือบคลุม ®Õ¡Ò·èÕ ø÷ô/òõòò จําเลยที่ ๑ เปนเจามือผูจัดใหมีการเลนการพนันสลากกินรวบ ซึ่งเปนการพนันที่มอมเมาประชาชน เปนอบายมุขที่กอใหเกิดความเสียหายแกเศรษฐกิจของชาติ บานเมือง ของกลางที่ยึดไดเปนเงินสด ๑,๖๕๐ บาท และใบโพย ๑๓ แผน คิดเปนจํานวนเงินถึง ๒๐,๐๐๐ บาทเศษ แสดงวาจาํ เลยที่ ๑ เปน เจา มือรายใหญ ศาลยอมไมร อการลงโทษจาํ เลย ®Õ¡Ò·Õè ñóù/òõóó ฟองวา จําเลยบังอาจจัดใหมีการเลนเครื่องเลนไฟฟาจักรกล (วี.ดี.โอ.เกม) อนั เปน การพนนั ตามทร่ี ะบไุ วใ นบญั ชี ข. ลําดับที่ ๒๘ ทาย พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ โดยจาํ เลยเกบ็ เงินจากผเู ขา เลน ในอตั ราชวั่ โมงละ ๑๐ บาท อนั เปนทางนํามาซ่ึงผลประโยชนแ กจําเลย ผจู ดั โดยมไิ ดร บั อนญุ าตจากเจา พนกั งาน ดงั นฟ้ี อ งของโจทกไ ดบ รรยายถงึ การกระทาํ ทงั้ หลายทอ่ี า งวา จําเลยไดกระทําผิด อีกท้ังบุคคลและสิ่งของที่เก่ียวของพอสมควรที่จะใหจําเลยเขาใจขอหาไดดีแลว ฟอ งโจทกจ ึงสมบรู ณชอบดว ย ป.ว.ิ อ. มาตรา ๑๕๘(๕) แลว เม่ือจําเลยเปนผูจัดใหมีการเลนเครื่องเลนไฟฟาจักรกล (วี.ดี.โอ.เกม) อันเปนการพนัน ตามที่ระบุไวในบัญชี ข. ลําดับท่ี ๒๘ เพื่อนํามาซ่ึงผลประโยชนแกจําเลยโดยไมไดรับอนุญาตจาก
๑๑ เจาพนักงานจําเลยยอมมีความผิดตามที่โจทกฟอง โดยไมจําตองบรรยายฟองใหปรากฏวาผูเลน จะไดเลนพนันเอาทรัพยสินกันหรือไม เพราะแมผูเลนจะไมไดเลนพนันเอาทรัพยสินกัน การกระทํา ของจาํ เลยก็เปนความผดิ ®¡Õ Ò·èÕ òðôù/òõóó การพนันสลากกินรวบเปนสิ่งท่ีมอมเมาประชาชน และเปน อบายมุขท่ีกอใหเกิดความเสียหายแกเศรษฐกิจของชาติบานเมือง สมควรแกการกําราบปราบปราม มิใหมีการเลนอีกตอไป เจาพนักงานจับจําเลยได พรอมดวยสมุดจดหมายเลขสลากกินรวบ ๒ เลม แตละเลมจดรายการเลนการพนันดังกลาวหลายรายการ ถือไมไดวาจําเลยเปนผูเลนรายยอย จึงยัง ไมสมควรที่จะรอการลงโทษจําคุกจําเลย เมื่อศาลไมไดลงโทษปรับจําเลย จึงไมอาจสั่งใหจําเลย จายสินบนนําจบั ได
๑๒ ºÞÑ ªÕ ¡. ๑. หวย ก. ข. ๑๗. การเลน ซงึ่ มกี ารทรมานสตั วเชน เอามอื หรอื ๒. โปปน หนามผูกหรือวางยาเบื่อยาเมาใหสัตวชน ๓. โปกํา หรือตอสูกัน หรือสุมไฟบนหลังเตาใหว่ิง ๔. ถั่ว แขงขันหรือการเลนอ่ืนๆ ซ่ึงเปนการ ๕. แปดเกา ทรมานสัตว อันมีลักษณะคลายกับท่ีวา ๖. จับยก่ี ี มานี้ ๗. ตอ แตม ๘. เบี้ยโบก หรอื คคู ี่ หรอื อโี จง ๑๘. บลิ เลยี ดรู ตีผี ๙. ไพส ามใบ ๑๙. โยนจม่ิ ๑๐. ไมส ามอัน ๒๐. สเ่ี หงาลัก ๑๑. ชางงา หรอื ปอ ก ๒๑. ขลุกขลกิ ๑๒. ไมด ํา ไมแ ดง หรอื ปลาดาํ ปลาแดง หรือ ๒๒. นํา้ เตาทุกๆ อยาง ๒๓. ไฮโล อีดาํ อีแดง ๒๔. อกี อย ๑๓. อโี ปงครอบ ๒๕. ปนแปะ ๑๔. กําตดั ๒๖. อโี ปงซดั ๑๕. ไมหมุน หรอื ลอหมุนทกุ ๆ อยา ง ๒๗. บาการา ๑๖. หวั โตทายภาพ ๒๘. สลอ็ ตแมชชีน
๑๓ ºÑÞªÕ ¢. ๑. การเลนตา งๆ ซ่งึ ใหสัตวตอ สูหรอื แขง ขัน ๑๗. โตแตไลเซเตอร สําหรับการเลนอยางใด เชน ชนโค ชนไก กัดปลา แขงมา ฯลฯ อยางหนง่ึ นอกจากท่กี ลา วไวใ นหมายเลข ๑๗ แหง บญั ชี ก. ๑๘. สวีป สาํ หรบั การเลนอยางใดอยา งหนึ่ง ๑๙. บกุ เมกงิ สาํ หรบั การเลน อยา งใดอยา งหนงึ่ ๒. วง่ิ วัวคน ๒๐. ขายสลากกินแบง สลากกินรวบหรือสวีป ๓. ชกมวย มวยปล้ํา ๔. แขง เรือพุง แขง เรือลอ ซ่ึงไมใชออกในประเทศไทย แตไดจัดใหมี ๕. ช้ีรูป ข้ึนโดยชอบดวยกฎหมายของประเทศที่ ๖. โยนหว ง จัดนนั้ ๗. โยนสตางคห รอื วัตถใุ ดๆ ลงในภาชนะ ๒๑. ไพนกกระจอก ไพตอ แตม ไพตางๆ ๒๒. ดวด ตางๆ ๒๓. บิลเลียด ๘. ตกเบ็ด ๒๔. ของออ ย ๙. จบั สลากโดยวิธใี ดๆ ๒๕. สะบา ทอย ๑๐. ยิงเปา ๒๖. สะบาชุด ๑๑. ปาหนาคน ปาสตั ว หรอื ส่ิงใดๆ ๒๗. ฟุตบอลโตะ ๑๒. เตา ขามดา น ๒๘. เครื่องเลนซ่ึงใชเคร่ืองกล พลังไฟฟา ๑๓. หมากแกว พลังแสงสวาง หรือพลังอ่ืนใดท่ีใชเลน ๑๔. หมากหัวแดง โดยวธิ สี มั ผสั เลอ่ื น กด ดดี ดงึ ดนั ยงิ โยน ๑๕. บงิ โก โยก หมุน หรือวิธีอ่ืนใดซ่ึงสามารถทําให ๑๖. สลากกนิ แบง สลากกนิ รวบ หรอื การเลน แพชนะกันได ไมวาจะโดยมีการนับแตม หรอื เครอ่ื งหมายใดๆ หรือไมก ็ตาม อยางใดท่ีเสี่ยงโชคใหเงินหรือประโยชน อยา งอื่น แกผ เู ลน คนใดคนหนึง่
๑๔ ¤Ó¢Í͹ØÞÒμ¨Ñ´ãËÁŒ Õ¡ÒÃàŹ‹ ¡Òþ¹Ñ¹ เขยี นท่ี.......................................... วันที.่ ............เดอื น...............................พ.ศ................. ขา พเจา ..............................................................อาย.ุ ...............ป สญั ชาต.ิ ...................... บา นเลขท.ี่ ..................หมทู .่ี ........ตาํ บล.......................อาํ เภอ........................จงั หวดั ......................... ย่ืนคาํ ขอตอ เจา พนกั งานผูออกใบอนุญาต....................................................................................... ดว ยขา พเจา มคี วามประสงคข อรบั ใบอนญุ าตจดั ใหม กี ารเลน การพนนั ............................ จาํ นวน...................มกี าํ หนด..................ณ ทหี่ รอื บา นเลขท.่ี ............................หมทู .ี่ ....................... ตาํ บล.......................................อาํ เภอ.......................................จงั หวัด......................................... ขาพเจาจะปฏิบัติตามกฎหมายวาดวยการพนันกับลักษณะขอจํากัด และเงื่อนไขของ การเลนการพนนั ดังระบุไวหลังใบอนญุ าต ลายมือช่อื .........................................ผูร องขอ ลายมือชื่อ.........................................ผเู ขียน
๑๕ รับคาํ ขอวันท่.ี ............/............../.............. ลายมือชื่อ........................................................ผูรบั คาํ ขอ ตําแหนง ................................................. คาํ ส่ัง.................................................... ลายมือช่ือ........................................................ชอ่ื เจา พนกั งานผอู อกใบอนญุ าต วันท.ี่ ............./............../.............. ตาํ แหนง.......................................... กรณีการอนญุ าตตอ งไดรับอนุมัติจากผูบ ัญชาการตํารวจนครบาล ผวู า ราชการจังหวดั หรือกระทรวงมหาดไทย ๑. เสนอ................................................................................................................. .......................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ลายมือชือ่ ........................................................เจา พนกั งานออกใบอนุญาต วันท่.ี ............./............../.............. ตาํ แหนง .......................................... ๒. เสนอ................................................................................................................ .......................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ลายมอื ชอ่ื ............................................ วนั ที่............../............../.............. ตําแหนง......................................... ๓. คาํ สงั่ .................................................................................................................. ...................................................................................................................................................... ลายมือช่อื ..............................................ผสู ั่ง วันท.ี่ ................/................./.................. ตาํ แหนง .................................................
¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇÒ‹ ´ÇŒ ¡Òþ¹¹Ñ ๑๖ ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๑. (๑) ผจู ดั ใหมกี ารเลน โดยไมไดรับอนญุ าต ๑.๑ บญั ชี ก. หมายเลข ๑-๑๖ มาตรา ๑๒(๑) - จําคุกตั้งแต ๓ เดือนข้ึนไป จนถึง (๒) ผูทําอุบายลอ ชวยประกาศโฆษณา หรือ บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ ๓ ป และปรับต้ังแต ๕๐๐ บาท ชกั ชวนโดยตรง หรอื โดยออ มใหผ อู นื่ เขา เลน (เฉพาะสลากกนิ รวบ) ข้นึ ไป จนถึง ๕,๐๐๐ บาท หรือเขาพนันในการเลนทีไ่ มไดร ับอนุญาต หรอื การเลน ซง่ึ มลี กั ษณะคลา ยกนั (๓) ผูไดรบั อนญุ าตแลวแตเ ลน พลกิ แพลง ๑.๒ การเลนอ่นื ใดใน มาตรา ๑๒(๒) - จําคุกไมเกิน ๒ ป หรอื ปรับไมเกนิ บญั ชี ก. นอกจากหมายเลข ๑-๑๖ ๒,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จาํ ทัง้ ปรบั บัญชี ข. นอกจากหมายเลข ๑๖ หรอื การเลน ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั ยกเวน การเลนในขอ ๑.๓ ๑.๓ การเลนอื่นใดนอกจากการเลน มาตรา ๑๒(๒) - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑ ป หรือปรบั ไมเ กนิ ในบัญชี ๑,๐๐๐ บาท หรอื ทง้ั จาํ ทง้ั ปรบั ก. และบัญชี ข. ที่มิไดระบุช่ือ และเงอื่ นไขไวใ นกฎกระทรวง (มาตรา ๔ ทว)ิ ๒. ผเู ขาเลน หรอื เขาพนนั ทีเ่ รียกวา “ลกู คา ” บญั ชี ก. หมายเลข ๑-๑๖ มาตรา ๑๒(๑) - จาํ คกุ ไมเกิน ๓ ป หรอื ปรับไมเกิน บญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ ๕,๐๐๐ บาท หรือทงั้ จําทั้งปรับ (เฉพาะสลากกินรวบ) หรอื การเลน ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั
¤ÇÒÁ¼Ô´μÒÁ¡®ËÁÒÂÇÒ‹ ´ÇŒ ¡Òþ¹Ñ¹ ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๓. ผูเขาเลน หรอื เขา พนนั ในการเลน ที่ขัดตอ ๓.๑ การเลนอน่ื ใดใน มาตรา ๑๒(๒) - จาํ คุกไมเ กนิ ๒ ป หรือปรบั ไมเ กนิ - บทบญั ญตั ิแหง พระราชบัญญตั นิ ้ี หรือ บญั ชี ก. นอกจากหมายเลข ๑-๑๖ ๒,๐๐๐ บาท หรือท้ังจําทงั้ ปรับ - กฎกระทรวง หรือ บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ (เฉพาะ - ขอความในใบอนญุ าต สลากกินรวบ) หรือการเลนซึ่งมี - จําคกุ ไมเ กิน ๒ ป หรอื ปรับไมเกนิ ลกั ษณะคลายกัน ยกเวน การเลน ๑,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จาํ ทงั้ ปรบั ในขอ ๓.๒ ๓.๒ การเลนอ่ืนใดนอกจากการเลน มาตรา ๑๒(๒) บญั ชี ก. และบัญชี ข. ที่มีไดร ะบุ ช่ือและเง่ือนไขไวในกฎกระทรวง (มาตรา ๔ ทวิ) ๔. ผูฝา ฝน มาตรา ๔ วรรคสี่ โดย บญั ชี ข. หมายเลข ๕-๑๕ หรอื การเลน มาตรา ๔ วรรคสี่ - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๓เดอื นหรอื ปรบั ไมเ กนิ (๑) ใหร างวลั ตีราคาเปน เงิน หรือ ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั หรอื การเลน อนื่ ใด และมาตรา ๑๓ ๕๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรบั (๒) รับกลบั คนื รางวัล หรือ ซ่ึงรัฐมนตรีฯ ไดออกกฎกระทรวงระบุ (๓) รบั ซ้ือรางวัล หรอื เพิม่ เตมิ ไว (๔) แลกเปลี่ยนรางวัล ในสถานงาน หรอื การเลน หรอื บรเิ วณตอ เนอ่ื ง ในระหวางมีงาน หรอื การเลน ๕. ผเู สนอขาย หรอื ขายสลากกนิ แบง ทยี่ งั มไิ ดอ อก บญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ สลากกนิ แบง มาตรา ๙ ทวิ - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑เดอื นหรอื ปรบั ไมเ กนิ รางวัลเกินกวา ราคาทีก่ าํ หนดในสลาก และมาตรา ๙ ตรี ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจาํ ท้งั ปรับ ๑๗
¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇ‹Ò´ÇŒ ¡Òþ¹Ñ¹ ๑๘ ÅÓ´ºÑ ¢ÍŒ ËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍμÑ ÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๖. ผจู ดั ใหม กี ารแถมพก หรอื รางวลั ดว ยการเสย่ี งโชค แถมพก หรอื ใหร างวลั ดว ยการเสย่ี งโชค มาตรา ๘ และ - จําคุกไมเกิน ๑ ป หรือปรับต้ังแต โดยวธิ ใี ดๆในการประกอบกจิ การคา หรอื อาชพี โดยวธิ ใี ดๆ มาตรา ๑๔ ๕๐ บาท ถึง ๒,๐๐๐ บาท หรือ โดยไมไ ดร ับอนญุ าต ทง้ั จําท้งั ปรับ
๑๙ º··èÕ ò ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÍÔ ÒÇظ»¹„ à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊع»¹„ ÇμÑ ¶ØÃÐàº´Ô ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§ ÊèÔ§à·ÂÕ ÁÍÒÇظ»¹„ ¾.È.òôùð ñ. ÇÑμ¶»Ø ÃÐʧ¤¡ÒÃàÃչ̻٠ÃШӺ· ๑.๑ เพ่ือใหนักเรียนมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วตั ถุระเบดิ ดอกไมเพลงิ สิง่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผดิ ตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ สงิ่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๑.๓ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครือ่ งกระสุนปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลิง ส่งิ เทียมอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ò. ʋǹ¹Ó พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สิ่งเทียมอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ เปนกฎหมายที่มีความสําคัญ เพราะเปนกฎหมายที่ควบคุม วัตถุท่ีใชประกอบ อาชญากรรมท่ีมีความรายแรง โดยการนําเอาสิ่งเหลาน้ันเขามาสูระบบเพื่อควบคุมผูท่ีมีสิทธิที่จะถือ อาวธุ หรอื ควบคมุ ความรา ยแรงของอาวธุ ซงึ่ จะทาํ ใหร ะดบั ความรนุ แรงของอาชญากรรมทเี่ กดิ ขนึ้ ลดลง ó. à¹é×ÍËÒμÒÁËÑÇ¢ŒÍ ๓.๑ ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกบั พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเพลิง ส่ิงเทยี มอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๓.๒ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สิ่งเทียมอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๓.๓ บทกาํ หนดโทษ ô. ʋǹÊÃØ» เปนกฎหมายที่มีความสําคัญฉบับหนึ่ง เพราะเปนกฎหมายท่ีคอยควบคุมความรายแรง ของอาชญากรรม เพราะหากความรายแรงของอาวุธขางตนถูกนํามาใชในการประกอบอาชญากรรม กจ็ ะทาํ ใหเ กดิ ความสญู เสยี แกส งั คมอยา งมาก หากผบู งั คบั ใชก ฎหมายเขม งวดในการบงั คบั ใชก ฎหมายนี้ ก็เทากับไดควบคุมระดับความรุนแรงของสังคมไปในตัว ซ่ึงเปนหนาที่อันพึงปฏิบัติของพนักงาน ฝา ยปกครองหรือตํารวจ õ. ¡¨Ô ¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการจับกุมตาม พ.ร.บ.อาวุธปนฯ และนําขอมูลมาวิเคราะหอภิปราย รวมกันในชนั้ เรยี น
๒๐ ¤ÇÒÁÃÙŒ·ÑèÇä»à¡ÂèÕ Ç¡Ñº ¾.Ã.º.ÍÒÇظ»¹„ Ï โดยท่ีความผิดเก่ียวกับ พ.ร.บ.อาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปนเปนความผิดท่ีกระทบกระเทือนตอชีวิตและทรัพยสินตลอดจนความสงบ เรียบรอยของประชาชน รัฐบาลจึงใหความสนใจเปนพิเศษ จะเห็นไดจากการที่กระทรวงมหาดไทย ไดเนนถึงการปราบปรามเก่ียวกับอาวุธปน เครื่องกระสุนปน ฯลฯ ที่ใชในราชการสงครามตลอดถึง การปกปองอาชญากรรมในรูปแบบตางๆ ที่ไดใชอาวุธรายแรงเขาทําการประหัตประหารจนเกิด อันตรายตอ ชวี ติ และทรพั ยสินของประชาชน จงึ จาํ เปน ที่จะตองมกี ฎหมายดงั กลาวบัญญตั ิขนึ้ º·¹ÂÔ ÒÁ ÁÒμÃÒ ô (ñ) ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÁÒ¤ÇÒÁÃÇÁμÅÍ´¶§Ö ÍÒÇ¸Ø ·¡Ø ª¹´Ô «§èÖ ãªÊŒ §‹ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ â´ÂÇÔ¸ÕÃÐàºÔ´ËÃ×ÍกําÅѧ´Ñ¹¢Í§á¡ÊËÃ×ÍÍÑ´ÅÁËÃ×Íà¤Ã×èͧ¡Åä¡Í‹ҧ㴫èÖ§μŒÍ§ÍÒÈÑÂอํา¹Ò¨¢Í§ ¾Åѧ§Ò¹áÅÐʋǹ˹èÖ§ÊÇ‹ ¹ã´¢Í§ÍÒÇظ¹¹éÑ æ «èÖ§Ã°Ñ Á¹μÃàÕ Ë¹ç Ç‹Òสํา¤ÞÑ áÅÐä´ÃŒ кØänj㹡®¡ÃзÃǧ สวนของอาวุธปนท่ีใหถือวาเปนอาวุธปนน้ัน ไดแก สวนใดสวนหน่ึงของอาวุธปน ตามขอ ๑ แหงกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ.๒๔๙๑ ดงั น้ี ก. ลาํ กลอ ง ข. เครอ่ื งลูกเล่ือน หรอื สวนประกอบสาํ คัญของเครือ่ งลกู เล่อื น ค. เคร่อื งล่นั ไกหรอื สวนประกอบสาํ คญั ของเคร่อื งลนั่ ไก และ ง. เคร่อื งสง กระสุน ซองกระสุนหรือสวนประกอบสําคญั ของส่งิ เหลาน้ี สวนใดสวนหนึ่งที่กําหนดไวในกฎกระทรวงน้ีเปนอํานาจของรัฐมนตรีวาการกระทรวง มหาดไทย ®Õ¡Ò·èÕ ñùðó/òõòð ปนท่ีไมอาจใชยิงทําอันตรายแกชีวิตและวัตถุไดก็เปนอาวุธปน ตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปนฯ และเปนอาวธุ โดยสภาพ พาไปในเมืองเปน ความผิดตาม ม.๓๗๑ ®Õ¡Ò·èÕ ñôõù/òõòó อาวุธปนไมมีลูกโมและแกนลูกโม ไมสามารถใชยิงได เปนอาวุธโดยสภาพตาม ป.อ.ม.๑ (๕) จําเลยพาไปในทางสาธารณะโดยไมมีเหตุสมควร เปน ความผดิ ตาม ป.อ. ม.๓๗๑ และ พ.ร.บ.อาวธุ ปนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ ม.๘ ทวิ แกไขโดย ป.ร. ฉบบั ที่ ๔๔ ลงวนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ขอ ๓ ซึ่งเปนบทมโี ทษหนกั ÁÒμÃÒ ô (ò) à¤ÃèÍ× §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ หมายความรวมตลอดถึง กระสนุ โดด กระสนุ ปราย กระสนุ แตก ลกู ระเบิด ตอรป โด ทุน ระเบดิ และจรวดท้งั ชนิดทม่ี หี รอื ไมมกี รด แกส เช้ือเพลิง เชื้อโรค ไอพิษ หมอกหรอื ควนั หรือกระสนุ ระเบดิ ตอรปโด ทนุ ระเบิดและจรวด ที่มคี ณุ สมบตั คิ ลา ยคลึงกัน หรือเครอื่ งหมายสง่ิ สําหรับอดั หรอื ใชป ระกอบเครื่องกระสนุ ปน à¤ÃèÍ× §¡ÃÐÊع»¹„ ตามมาตรา ๔ (๒) หมายความดังนี้ (๑) เปนเครื่องหรือสิ่งสําหรับอัดหรือทําหรือใชประกอบเคร่ืองกระสุนปน อันไดแก ดินปนและลูกกระสุนปน และเคร่ืองจุดระเบิดของดินปน เปนสาระสําคัญของเคร่ืองกระสุนปน
๒๑ ดงั จะเหน็ ไดจ ากลกั ษณะของปน แกป ในยคุ แรกๆ จนกระทงั่ ไดพ ฒั นาเปน กระสนุ ลกู อดั เชน ขนาด .๓๘ หรือ ๑๑ มม. (๒) เครอื่ งกระสนุ ปน ยงั หมายความรวมตลอดถงึ กระสนุ โดด กระสนุ ลกู ปราย กระสนุ แตก ลูกระเบิด ตอรปโด ทุนระเบิดและจรวด ซ่ึงใชเปนเคร่ืองมือประหารหรือทําลายดวยแรงปะทะของ กระสุนปน (๓) เครื่องกระสุนปนดงั กลาวในขอ (๒) ทีม่ ีกรดแกส เชอื้ เพลงิ เชือ้ โรค ไอพิษ หมอก หรอื ควัน เชน ปน แกส น้ําตา ปนเพลิง ท่ใี ชใ นการปราบจลาจล หรอื ปนทีใ่ ชย งิ หมอกควันหรอื แกส พิษ สําหรับใชในการสงคราม เปนตน (๔) กระสุนของลูกระเบิด ตอรปโด ทุนระเบิดและจรวดที่มีคุณสมบัติคลายคลึงกัน ซึง่ ตามขอ นไี้ ดแ ก กระสุนปน รถถังหรือตอรปโดทย่ี ิงไปจากเรอื ดาํ นํ้า หรือจรวดทย่ี ิงจากฐานบนพ้ืนดนิ หรอื จากเครอ่ื งบนิ หรอื ทนุ ระเบดิ ทถ่ี กู ยงิ จากเรอื รบไปปลอ ยไวใ นนา นนา้ํ ใดนา นนาํ้ หนง่ึ เพอื่ ดกั ทาํ ลาย ฝา ยขา ศกึ เหลา นเ้ี ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน ทยี่ งิ มาจากอาวธุ ปน แลว ไประเบดิ ดว ยตวั ของมนั เองอกี ชนั้ หนงึ่ ®Õ¡Ò·èÕ òö÷/òõò ปลอกกระสุนปนตามสภาพอาจเปนเครื่องหรือส่ิงสําหรับอัด หรือทําหรือใชประกอบเครื่องกระสุนไดแตการมีอยูเพียง ๒ ปลอก และไดความวามีไวใชสวมปลอก ไมตะพด ปลอกกระสุนปนน้ันก็ไมมีสภาพเปนเคร่ืองหรือสิ่งสําหรับอัดหรือทําหรือใชประกอบ เครอ่ื งกระสนุ ปนเสียแลว ®¡Õ Ò·èÕ óõõó/òõòù ลูกระเบิดของกลางอยูในสภาพที่ใชทําการระเบิดไมได เพราะ ชนวนถูกทาํ ลายและวัตถุระเบิด ที.เอ็น.ที ท่ีบรรจุอยภู ายในลูกถกู สาํ รอกออกหมดแลว และตวั เปลือก ถูกตดั ออกเปน ชอ งส่ีเหลย่ี มจึงไมเปน วัตถรุ ะเบิด ยอ มไมเ ปนเครอ่ื งกระสนุ ปนดว ย ÁÒμÃÒ ô (ó) ÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´ คือ วัตถุท่ีสามารถสงกําลังดันอยางแรงตอส่ิงหอมลอม โดยฉับพลัน ในเมื่อระเบิดขึ้นโดยมีสิ่งเหมาะมาทําใหเกิดกําลังดัน หรือโดยการสลายตัวของ วัตถุระเบิดน้ัน ทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหาร กับหมายความรวมตลอดถึงเชื้อปะทุตางๆ หรือ วัตถุอ่ืนใด อันมีสภาพคลายคลึงกันซึ่งใชหรือทําขึ้นเพื่อทําใหเกิดการระเบิด ซึ่งรัฐมนตรีไดประกาศ ระบุไวในราชกิจจานุเบกษา วัตถรุ ะเบิด ตามมาตรา ๔ (๓) หมายความดังน้ี (๑) คือวัตถุท่ีสามารถสงกําลังดันอยางแรงตอส่ิงหอมลอมโดยฉับพลันในเมื่อเกิด ระเบดิ ขน้ึ โดยมสี ง่ิ เหมาะมาทาํ ใหเ กดิ กาํ ลงั ดนั อนั เปน ระเบดิ ทท่ี าํ ใหเ กดิ กาํ ลงั ดนั เชน เครอื่ งระเบดิ หนิ ระเบิดตึกทใ่ี ชใ นการกอสรา ง เปน ตน (๒) วัตถุระเบิดท่ีทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหาร โดยการสลายตัวของวัตถุระเบิด นนั้ เอง เชน ลูกระเบดิ มือ กบั ระเบดิ หรือระเบิดเวลา เปน ตน (๓) วัตถุระเบิดดังกลาวในขอ (๑) และ (๒) น้ัน สวนมากเกิดระเบิดขึ้นจากการปะทุ ของดินระเบิดทํานองเดียวกับเครื่องกระสุนปน แตพระราชบัญญัติน้ียังเห็นวาไมเพียงพอกับ ความกา วหนา ทางวทิ ยาศาสตรใ นปจ จบุ นั จงึ ไดก าํ หนดใหห มายความรวมตลอดถงึ เชอ้ื ปะทตุ า งๆ หรอื
๒๒ วัตถุอ่ืนใดอันมีสภาพคลายคลึงกัน (กับเช้ือปะทุเหลาน้ัน) ซึ่งใชหรือทําขึ้นเพื่อใหเกิดการระเบิด ซึ่งรัฐมนตรีจะไดประกาศระบุไวในราชกิจจานุเบกษา ในขอน้ีเปนการบัญญัติเผ่ือไวเพราะอาจมี การคิดคนระเบิดแบบใหมๆ ข้ึนมา เมื่อรัฐมนตรีเห็นวาจําเปนตองควบคุมก็จะไดประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษาใหอ ยใู นบงั คบั ของพระราชบญั ญตั นิ ้ี เชน ลกู ระเบดิ ทเ่ี กดิ จากนา้ํ มนั เชอื้ เพลงิ เปน ตน จากบทบัญญัติดังกลาววัตถุท่ีสลายตัวทําใหเกิดการระเบิดจะตองใหมีแรงทําลายหรือ แรงประหารเกดิ ข้ึนดวย ดังน้นั ในกรณที ไ่ี มถึงขนาดแรงทาํ ลายไดก็ไมใชว ัตถรุ ะเบดิ เชน แกป กระดาษ เปนเม็ดเล็กๆ ติดกับกระดาษโตขนาดหัวไมขีดไฟบาง เล็กกวาบาง อยูหางๆ กัน เม่ือมีจํานวน ไมมากพอจะทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหารขึ้นไดขณะระเบิดแลว ก็ยังไมถึงขนาดท่ีจะถือวาเปน วัตถรุ ะเบิดได (ฎกี าท่ี ๑๕๖๐/๒๕๐๕) ®¡Õ Ò·Õè ñôóõ-ñôóö/òõðö ดินดําของกลางในคดีน้ีซ่ึงฟงไดเพียงวาเปนวัตถุที่มี สารเคมีผสมอยู คือ โปแตสเซียมไนเตรท กํามะถัน และถาน เทานั้น ไมปรากฏวามีอํานาจหรือ คณุ สมบัตติ ามท่ีกฎหมายกําหนดไวเก่ียวกบั ความหมายของวัตถุระเบิด จึงมใิ ชวัตถรุ ะเบดิ ®¡Õ Ò·èÕ õøø/òõòò ลูกระเบิดของกลางมีเรือนชนวนถูกทําลาย ใชขวางจะไมเกิด ระเบิดไมทาํ ใหม ีแรงทําลายหรอื แรงประหาร จึงไมเปน วัตถรุ ะเบิด ´Í¡äÁŒà¾ÅÔ§ ตามมาตรา ๔(๔) ไดยกตัวอยางวาไดแก พลุ ประทัดไฟ ประทัดลม ซ่ึงมีใชกันอยูท่ัวไป นอกจากนั้นยังใหหมายความรวมตลอดถึงวัตถุอื่นใดอันมีสภาพคลายคลึงกันกับ ท่ีกลา วมานี้ เชน ลูกหนหู รือลูกรอกที่ใชจดุ เลนตามงานวดั ก็เปน ดอกไมเ พลงิ ตามนัยน้ี ʧèÔ à·ÕÂÁÍÒÇ¸Ø »„¹ ตามมาตรา ๔(๕) หมายความวาสง่ิ ซึ่งมีรูปและลกั ษณะอันนา จะทาํ ให “หลงเช่ือ” วาเปนอาวุธปน เชน ปนเด็กเลนท่ีมีขนาดและลักษณะเทาและเหมือนอาวุธปนจริงๆ ทีค่ นรา ยใชในการจแ้ี ละปลน ทรัพย เปนตน ÁÒμÃÒ ô(ö) มหี มายความวา มีกรรมสทิ ธิห์ รอื มีไวในครอบครอง แตไมหมายความถึง การมอี าวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ทม่ี ไี วโ ดยชอบดว ยกฎหมาย และตกอยใู นความครอบครอง ของบคุ คลอน่ื ซงึ่ ไมต อ งหา มมาตรา ๑๓ แหง พระราชบญั ญตั นิ ี้ เทา ทจี่ าํ เปน เพอื่ รกั ษาสง่ิ ทวี่ า นมี้ ใิ หส ญู หาย ¡ÒÃÁÕäÇŒ ตามมาตรา ๔(๖) ใหหมายความวา (๑) มีกรรมสทิ ธหิ์ รอื มีไวในครอบครอง (๒) การมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครองตาม (๑) น้ัน ใชบังคับเฉพาะอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน และวัตถุระเบิดเทานั้น (มาตรา ๗ และ ๓๘) ไมรวมถึงดอกไมเพลิงและสิ่งเทียม อาวธุ ปน ดว ย (มาตรา ๔๗ และ ๕๒) (๓) ขอยกเวน การมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครองดังกลาวใน (๑) และ (๒) ไมหมายความรวมถึงการท่ีอาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิดที่มีไวโดยชอบดวยกฎหมาย และตกอยูในความครอบครองของบุคคลอื่นซ่ึงไมตองหามตามมาตรา ๑๓ แหงพระราชบัญญัติน้ี เทา ท่ีจาํ เปน เพ่ือรักษาสิ่งทว่ี าน้มี ิใหส ูญหาย
๒๓ บุคคลตามมาตรา ๑๓ คือบุคคลทต่ี อ งหามมิใหอ อกใบอนญุ าตใดๆ ตามพระราชบญั ญตั ิ อาวุธปน ฯ ตอนน้ีหมายความวา อาวุธปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรอื วัตถรุ ะเบดิ ทีม่ ที ะเบียนหรือไดรบั อนุญาตใหบุคคลใดบุคคลหนึ่งมีไวแลว ตกไปอยูในความครอบครองของบุคคลท่ีไมตองหามตาม มาตรา ๑๓ และบุคคลน้ันไดครอบครองอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดน้ันไวเทาที่ จําเปนเพื่อรักษาส่ิงที่วาน้ีไวมิใหสูญหาย เชน เก็บปนตกไดแลวถูกจับระหวางนําไปแจงตํารวจท่ี โรงพักอยา งนีไ้ มผดิ เปน ตน ¡Ã³μÕ ÍŒ §ËŒÒÁ แยกกลาวดงั นี้ º¤Ø ¤ÅμÍŒ §ËÒŒ ÁÁãÔ ËÍŒ Í¡ãºÍ¹ÞØ Òμ เกย่ี วกบั อาวธุ ปน และเครอื่ งกระสนุ ปน สว นบคุ คล คอื หามมิใหออกใบอนุญาตทํา ซ้ือ มี ใช สั่งหรือนําเขา ใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว ใบอนุญาตให มีอาวุธปนไวเพื่อเก็บ (มาตรา ๑๑) ใบอนุญาตใหบุคคลอื่นมีและใชอาวุธปนหรือเครื่องกระสุนปน เพ่ือรักษาทรัพยสินของตน (มาตรา ๑๔) ไดแก บุคคลที่มีลักษณะและพฤติการณดังตอไปน้ี (มาตรา ๑๓) ๑. บุคคลซึ่งตอ งโทษจาํ คกุ สาํ หรบั ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาดังตอ ไปนี้ (ก) มาตรา ๕๗ ถึงมาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๗๗ ถึง มาตรา ๑๘๓ มาตรา ๒๔๙ มาตรา ๒๕๐ หรอื มาตรา ๒๙๓ ถงึ มาตรา ๓๐๓ (ข) มาตรา ๒๕๔ ถึงมาตรา ๒๕๗ และพน โทษ ยังไมเกนิ ๕ ป นับแตว นั พน โทษ ถึงวันย่ืนคําขอใบอนุญาต เวนแตในกรณีความผิดท่ีกระทําโดยความจําเปน หรือเพื่อปองกันหรือ โดยถูกย่วั โทสะ บทกฎหมายลักษณะอาญาดงั กลาว ตงั้ แตป พ.ศ.๒๕๐๐ เปน ตน มา ไดเ ปล่ียนเปน ประมวลกฎหมายอาญาตามขอความท่ีเปนทํานองเดียวกัน กลาวคือในขอ (ก) ตรงกับประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๗๔-๑๑๑ ๑๓๘ ๒๐๙ ๒๑๕ ๒๘๘ ๒๘๙ ๓๓๕ ๓๔๐ ในขอ (ข) ตรงกบั ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕-๒๙๘ ๒. บคุ คลซงึ่ ตอ งโทษจาํ คกุ สาํ หรบั ความผดิ อนั เปน การฝา ฝน ตอ พระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิด และดอกไมเพลิง พุทธศักราช ๒๔๗๗ มาตรา ๑๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๙ หรือมาตรา ๓๓ หรือพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๗ มาตรา ๒๔ มาตรา ๓๓ หรือ มาตรา ๓๘ ๓. บุคคลซึ่งตองโทษจําคุกต้ังแตสองคร้ังข้ึนไป ในระหวางหาปนับยอนขึ้นไปจาก วนั ยน่ื คาํ ขอสําหรับความผดิ อยา งอน่ื นอกจากทีบ่ ญั ญัติไวใน (๑) และ (๒) เวนแตความผิดที่ไดกระทาํ โดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ ๔. บุคคลซ่ึงยังไมบรรลุนิติภาวะ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยตามปกติอายุ ย่สี บิ ปบรบิ รู ณ แตบ คุ คลอาจบรรลนุ ิตภิ าวะโดยสมรส หากชายอายุ ๑๗ ป หญิงอายุ ๑๗ ป
๒๔ ๕. บุคคลซึ่งไมสามารถจะใชอาวุธปนไดโดยกายพิการหรือทุพพลภาพ เวนแตจะมีไว เพ่ือเก็บตามมาตรา ๑๑ ๖. บุคคลซ่ึงเปนคนไรความสามารถหรือเปนคนเสมือนไรความสามารถหรือปรากฏวา เปนคนวิกลจรติ หรือจิตฟน เฟอ นไมส มประกอบ ๗. บุคคลซง่ึ ไมม ีอาชีพและรายได ๘. บุคคลซ่ึงไมม ที อี่ ยูเปนหลักแหลง ๙. บุคคลซึ่งมีความประพฤติช่ัวอยางรายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบ เรียบรอ ยของประชาชน ๑๐. สําหรับใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปน หามมิใหออกใหแกบุคคลซ่ึงมีชื่อใน ทะเบียนบาน ตามกฎหมายวาดวยการทะเบียนราษฎร และมีถ่ินท่ีอยูประจําในทองที่ท่ีบุคคลนั้น ขออนุญาตนอยกวาหกเดือน หมายความวาจะตองมีชื่อในทะเบียนบานและอยูประจําในทองที่ ท่ขี อรบั ใบอนุญาตเกนิ กวา หกเดอื น จึงจะออกใบอนุญาตใหมแี ละใชอ าวธุ ปน ใหได จากคําวามี มาตรา ๔ (๖) น้ี กฎหมายเนนหนักการมีกรรมสิทธิ์หรือมีไวในครอบครอง แตคาํ วา ครอบครอง เปนอยางไรนน้ั กฎหมายไมไ ดบ ัญญัติไว จึงเปน เรอ่ื งทต่ี องอาศัยแนวคาํ พพิ ากษา ของศาลฎกี าเปน ตวั อยา งในการพจิ ารณาปญ หาดังกลาว ซึง่ ศาลฎกี าไดวินิจฉัยไวว า เมื่อกฎหมายไมไดบัญญัติความหมายของการครอบครองไวเปนพิเศษ ตองถือวามี ความหมายท่ัวไปคอื ตองมีเจตนายึดถือเพื่อตน ดังนนั้ การยึดถือปน อยูขณะหนงึ่ ไมไดย ึดถอื เพอื่ ตน ไมเปน การครอบครอง (ฎกี าท่ี ๗๑๑/๒๕๐๙, ๒๒๖๔/๒๕๒๑) μÇÑ ÍÂÒ‹ §คาํ ¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò ®Õ¡Ò·èÕ ôðô/òôøù เก็บอาวุธปนได และตั้งใจจะสงแกเจาหนาท่ีไมมีความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปน ฯลฯ ถือวา ไมม ีความผิดเพราะไมมีเจตนา ®¡Õ Ò·Õè ñó÷ö/òôùó ผูไดรับอนุญาตใหคาอาวุธปน รับซ้ือจากเจาของผูไดรับ อนุญาตใหมีไวโดยชอบดวยกฎหมายแลว เมื่อชําระเงินกันเสร็จแลว ก็รับปนท่ีซ้ือนั้นไวในราน แลวดําเนินการทําคํารองขออนุญาตโอนตอนายทะเบียน แตถูกเจาพนักงานจับปนรายนี้เสียกอน ตอมาจึงไดรบั อนุมตั ิจากอธิบดีกรมตํารวจใหโ อนได ดังนี้ ยอ มถอื วาผรู บั ซอื้ “ม”ี ปน ไวในครอบครอง โดยมไิ ดร บั อนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งทกี่ อ นมคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ และมคี วามผดิ ฐานมปี น ไวน อกบญั ชีตามที่กาํ หนดไวในกฎกระทรวง ตามมาตรา ๒๘, ๘๑ ดวย ®Õ¡Ò·Õè ñöòô/òôùô บิดาไดรับอนุญาตใหมีอาวุธปน ๑ กระบอก เม่ือบิดาตาย บุตรจึงไปแจงตอนายทะเบียนและขออนุญาตมีอาวุธปนกระบอกน้ัน แตนายทะเบียนไมอนุญาต กลับสัง่ ใหขายปน น้ันเสียภายใน ๖ เดอื น แตบ ุตรขายปนน้ันไมไ ด นายทะเบยี นกม็ ิไดเ รียกเอาปนน้ัน ไปขายทอดตลาดเสียเอง และมิไดส่ังอยางไรอีก ปนน้ันจึงคงอยูกับบุตรอยางเดิม ดังน้ี จะวาบุตร มีอาวุธปน โดยไมรับอนญุ าต เปน การผดิ กฎหมายไมได
๒๕ ®¡Õ Ò·èÕ ñõ÷ø/òôùõ ใชใหคนไปหยิบอาวุธปนและกระสุนปนมาจากบานใหนํามา สงใหแกตน ณ ท่ีแหงหนึ่งอันอยูหางกันประมาณ ๑๐ เสน เพ่ือมอบคืนใหแกเจาของผูมีไวโดยชอบ ดวยกฎหมาย เชนนี้ ยังถือไมไดวาคนที่ไปหยิบอาวุธปนและกระสุนไดมีอาวุธและกระสุนปนนั้นไว ในความครอบครอง จึงยังไมเปนผิดฐานมีอาวุธปนและเคร่ืองกระสุนปนไวโดยไมไดรับอนุญาตตาม พระราชบญั ญตั ิอาวุธปน ฯ และผูใ ชใ หไ ปหยิบกไ็ มม คี วามผดิ ดวย ®Õ¡Ò·èÕ ùøù/òõòù ความผิดฐานมีอาวุธปนท่ีนายทะเบียนไมอาจออกใบอนุญาต ใหไดกับความผิดฐานมีเคร่ืองกระสุนปนท่ีนายทะเบียนไมอาจออกใบอนุญาตใหได เปนความผิด มาตราเดียวกันเปนวัตถุประเภทเดียวกัน การมีอาวุธปน และเครื่องกระสุนปนดังกลาวในขณะ เดียวกันจงึ เปน ความผดิ กรรมเดยี ว ÁÒμÃÒ ô (÷) Êèѧ หมายความวา ใหบุคคลใด สงหรือนําเขามาจากภายนอก ราชอาณาจกั ร (ø) นําà¢ŒÒ หมายความวา นําเขามาจากภายนอกราชอาณาจักรไมวา โดยวธิ ใี ดๆ (ù) Ã°Ñ Á¹μÃÕ หมายความวา รฐั มนตรีผรู ักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้
๒๖ »ÃСÒÈ¡ÃзÃǧÁËÒ´ä·Âñ àÃ×Íè § á싧μ§éÑ ¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ à¨ÒŒ ¾¹¡Ñ §Ò¹áÅÐà¨ÒŒ ˹ŒÒ·èÕ μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÔÍÒÇ¸Ø »„¹ à¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊع»¹„ ÇÑμ¶ÃØ Ðàº´Ô ´Í¡äÁŒà¾ÅÔ§ áÅÐʧÔè à·ÂÕ ÁÍÒÇظ»¹„ ¾.È.òôùð อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติอาวุธปน เครื่องกระสุนปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ และสงิ่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ซงึ่ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปน ฉบับที่ ๗ (พ.ศ.๒๕๒๒) รัฐมนตรี วาการกระทรวงมหาดไทยออกประกาศกระทรวงมหาดไทยไว ดงั ตอไปนี้ ¢ÍŒ ñ ใหยกเลิกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ ง แตง ต้ังนายทะเบียน เจา พนักงาน และเจา หนา ทอ่ี นื่ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ และสงิ่ เทยี ม อาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ ¢ŒÍ ò ใหแตง ตงั้ ผูด าํ รงตาํ แหนง ตอ ไปน้ี เปน นายทะเบียน (๑) อธิบดกี รมการปกครอง ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู า ราชการจังหวดั ในเขตจงั หวัดอ่ืน (๓) นายอาํ เภอ ในเขตอําเภอ (๔) ปลัดอําเภอผเู ปน หวั หนา ประจําก่ิงอาํ เภอ ในเขตก่งิ อาํ เภอ ¢ŒÍ ó ใหแตงต้ังผูดํารงตําแหนงตอไปนี้ เปนเจาพนักงานผูมีอํานาจอนุมัติการออก หนังสืออนุญาตพเิ ศษตามมาตรา ๑๔ (๑) ปลดั กระทรวงมหาดไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู า ราชการจังหวดั ในเขตจงั หวดั อื่น ¢ÍŒ ô ใหแ ตง ตงั้ ผดู าํ รงตาํ แหนง ตอ ไปน้ี เปน เจา พนกั งานผมู อี าํ นาจออกหนงั สอื อนญุ าต ตามมาตรา ๗๐ (๑) ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู าราชการจงั หวดั ในเขตจงั หวัดอื่น ¢ÍŒ õ ใหผูดํารงตําแหนงตอไปนี้เปนเจาหนาที่ตรวจสอบ จํานวนอาวุธปน เคร่อื งกระสุนปน วัตถุระเบดิ ดอกไมเ พลิง และสิง่ เทียมอาวธุ ปน ในรา นคาและรา นประกอบซอม (๑) อธิบดีกรมการปกครอง หรือผูซึ่งอธิบดีกรมการปกครองแตงตั้ง ในเขต กรุงเทพมหานคร (๒) ผวู าราชการจังหวดั ในเขตจงั หวัดอน่ื (๓) นายอาํ เภอ หรอื ปลดั อาํ เภอผเู ปน หวั หนา ประจาํ กง่ิ อาํ เภอและปลดั อาํ เภอ แหง ทองที่ในเขตอําเภอ หรอื เขตก่ิงอาํ เภอ ๑ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ โภคนิ พลกลุ รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
๒๗ ¤ÇÒÁ¼´Ô ·èÁÕ ¡Õ ÒèºÑ ¡ÁØ ดําà¹Ô¹¤´Õ ñ. ทาํ «Í×é ÁÕ ãªŒ ʧèÑ ËÃÍ× นาํ à¢ÒŒ ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃÍ× à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ºÑ ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ·ŒÍ§·Õè ÁÒμÃÒ ÷ หามมใิ หผ ูใดทาํ ซอื้ มี ใช สัง่ หรอื นาํ เขา ซึ่งอาวธุ ปนหรอื เครือ่ งกระสุนปน เวนแตจะไดร บั ใบอนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งที่ ÁÒμÃÒ ÷ò ÇÃäáá ผูใดฝาฝน มาตรา ๗ ตอ งระวางโทษจําคุกตัง้ แตห นึง่ ป ถึงสบิ ป และปรบั ตง้ั แตสองพันบาทถงึ สองหมื่นบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม จะทํา ซื้อ มี ใช ส่ังหรือนําเขาซ่ึงอาวุธปนหรือเคร่ือง กระสุนปนจะตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่เสียกอน หากผูใดฝาฝนผูน้ันมีความผิดและ ตองระวางโทษตามกฎหมาย สําหรับกรณีที่สิ่งของดังกลาว เปนเพียงสวนหน่ึงสวนใดของอาวุธปน หรือเครื่อง กระสุนปนผูฝาฝนตองไดรับโทษนอยลง หรือกรณีเปนเพียงการมีอาวุธปนท่ีเปนของผูอ่ืนซ่ึงไดรับ อนุญาตใหมีและใชตามกฎหมายหรือเปนการทําเคร่ืองกระสุนปนที่ทําดวยดินปนสําหรับใชเอง โดยไมไดรบั อนุญาตจากนายทะเบียนทองท่ผี ฝู าฝน ตองระวางโทษนอยลง ò. ÁàÕ ¤Ã×Íè §¡ÃÐÊعª¹Ô´Í×蹫Öè§ÁÔ㪋สําËÃºÑ ãªŒ¡ºÑ ÍÒÇظ»¹„ ·èμÕ ¹ä´ŒÃºÑ ͹ÞØ ÒμãËŒÁáÕ ÅÐ㪌 ÁÒμÃÒ ø หามมิใหผูใดมีเคร่ืองกระสุนปน ซึ่งมิใชสําหรับใชกับอาวุธปนที่ตนไดรับ ใบอนญุ าต ใหม ีและใช หมายความวา ไดร บั อนญุ าตใหม แี ละใชอ าวธุ ปน ชนดิ ประเภทใด จะตอ งมเี ครอื่ งกระสนุ ปน ชนิดประเภทนั้นควบคูกันไป หากมีเครื่องกระสุนปนชนิดประเภทอ่ืน ดังน้ี ใบอนุญาตใหมีและ ใชอาวุธปน ไมคุมครอง เชน นาย ก. มีปนพกขนาด .๓๘ ไดรับใบอนุญาตใหมีและใชแลว แตกลับมีกระสุนปน ขนาด ๑๑ มม. ไวอกี ดว ย ดังน้ถี ือวา ผิดมาตรา ๘ เปนตน ÁÒμÃÒ õ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμÔ¹Õé àǹŒ áμ‹ÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ ÁÔãË㌠ªºŒ ѧ¤ºÑ á¡‹ (๑) อาวธุ ปน เคร่อื งกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบิด ดอกไมเ พลิง และสง่ิ เทยี มอาวุธปน ของ (ก) ราชการทหารและตาํ รวจท่มี หี รอื ใชใ นราชการ (ข) หนวยราชการท่ีมีหรือใชเพื่อปองกันประเทศหรือรักษาความสงบเรียบรอย ของประชาชน (ค) หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีและใชในการปองกันและรักษาทรัพยสิน อนั สาํ คญั ของประชาชน (ง) ราชการทหารและตํารวจตาม (ก) หรือหนวยราชการตาม (ข) ที่มอบให ประชาชนมีและใชเพื่อชวยเหลอื ราชการของทหารและตํารวจ หรอื ของหนวยราชการแลว แตก รณี (๒) อาวธุ ปนและเครือ่ งกระสนุ ปน ประจําเรอื เดนิ ทะเล รถไฟ และอากาศยานตามปกติ ซ่ึงไดแ สดงและใหพ นักงานศุลกากรตรวจตามกฎหมายแลว
๒๘ (๓) ดอกไมเ พลงิ สัญญาณประจําเรือเดินทะเล อากาศยาน และสนามบินตามปกติ หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามวรรคหนึ่ง (๑) (ข) หรือ (ค) รวมท้ังชนิด ขนาดและ การกําหนดจํานวน ตลอดจนการมีและใช การเก็บรักษา การพาติดตัว การซอมแซมหรือเปล่ียน ลกั ษณะและการอยา งอื่นท่จี ําเปนเพ่ือการรกั ษาความปลอดภัยอันเกีย่ วกบั อาวุธปน เครือ่ งกระสนุ ปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และส่ิงเทียมอาวุธปน ที่ใหหนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจดังกลาวมีและใช หรอื มอบใหป ระชาชนมีและใชเ พ่อื ชวยเหลอื ราชการน้นั ใหเ ปนไปตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง ó. ¾ÒÍÒÇ¸Ø »¹„ ä»ã¹·Ò§ÊÒ¸ÒóÐâ´ÂäÁä‹ ´ŒÃºÑ ͹ÞØ ÒμãËÁŒ ÕÍÒÇ¸Ø »„¹μÔ´μÇÑ áÅÐäÁ‹ÁàÕ ËμÍØ Ñ¹¤Çà ¡ÒÃÁÍÕ ÒÇ¸Ø »¹„ μ´Ô μÇÑ โดยขอ ๓ แหง คาํ สง่ั ของคณะปฏริ ปู การปกครองแผน ดนิ ฉบบั ที่ ๔๔ ลงวนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ใหเพิม่ มาตรา ๘ ทวิ ขึน้ ในพระราชบญั ญตั ิอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ดังน้ี “ÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ หามมิใหผูใดพาอาวุธปนติดตัวไปในเมือง หมูบานหรือทางสาธารณะ โดยไมไ ดร ับใบอนญุ าตใหม ีอาวุธปนติดตวั เวน แตเปน กรณีที่ตองมตี ิดตวั เมื่อมีเหตจุ าํ เปน และเรง ดว น ตามควรแกพ ฤตกิ ารณ ไมวากรณีใด หามมิใหพาอาวุธปนไปโดยเปดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนท่ีไดจัดใหมีขึ้น เพือ่ นมัสการ การรน่ื เริง การมหรสพ หรือการอ่นื ใด” สวนความในวรรคสามของมาตรา ๘ ทวิ น้ีไดถูกยกเลิกและแกไขใหมโดยมาตรา ๕ แหง พระราชบญั ญตั ิอาวุธปน ฯ (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ.๒๕๒๒ ดงั นี้ “ความในมาตราน้ี มใิ หใ ชบงั คับแก (๑) เจาพนักงานผูมีหนาท่ีรักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ทหารและตํารวจ ซึ่งอยใู นระหวา งปฏิบัตหิ นา ท่ี (๒) ขาราชการ พนักงานหรอื ลกู จา งของหนว ยราชการหรือรัฐวสิ าหกิจ ตามมาตรา ๕ วรรคหน่ึง (๑) (ข) หรือ (ค) ซ่ึงอยูในระหวางปฏิบัติหนาท่ีเพื่อปองกันประเทศ หรือรักษาความสงบ เรียบรอ ยของประชาชน หรือรักษาทรัพยส นิ อนั สําคญั ของรัฐ (๓) ประชาชนผูไดรับมอบใหมีและใชตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ง) ซึ่งอยูใน ระหวา งการชวยเหลือราชการและมเี หตุจาํ เปนตอ งมีและใชอาวธุ ปนในการน้ัน” สวนผูมีอํานาจอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว มีบัญญัติไวในมาตรา ๒๒ ซ่ึงแกไขเพ่ิมเติม โดยขอ ๕ แหง คาํ สงั่ ของคณะปฏิรปู การปกครองแผน ดนิ ฉบับท่ี ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ดังน้ี “ÁÒμÃÒ òò ใหเจาพนักงานตอไปน้ี มีอํานาจออกใบอนุญาตใหแกบุคคลที่ไดรับ ใบอนญุ าตใหม แี ละใชอ าวธุ ปน มีอาวธุ ปนติดตัวไปไดตามความทบ่ี ญั ญตั ไิ วใ นพระราชบญั ญัตนิ ้ี (๑) อธิบดีกรมตาํ รวจ สําหรับในเขตกรงุ เทพมหานคร และท่ัวราชอาณาจกั ร (๒) ผูวาราชการจังหวัด เฉพาะภายในเขตจังหวัดของตน และเฉพาะผูที่มีถ่ินที่อยูใน เขตจังหวดั นัน้
๒๙ ËÅ¡Ñ สํา¤ÑޢͧÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ ¤×Í (๑) การไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวตามมาตรา ๘ ทวิน้ัน มิใชวาจะคุมครอง ผพู กพาไดใ นทกุ เวลาและสถานท่ี กห็ าไม เพราะการพกพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในปา หรอื โดยสารเครอ่ื งบนิ อาจไมต องรับอนุญาตตามมาตรา ๘ ทวิกไ็ ด (๒) มาตรา ๘ ทวิ วรรคสอง ยังไดบัญญัติวา ไมวากรณีใด ซึ่งหมายความวาไมวา เปนกรณีไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวหรือไมก็ตาม การพกอาวุธปนไปโดยเปดเผย โดยไมจํากัดวาเปนเวลาและสถานที่ใดก็ดี การพาไปในชุมชนท่ีไดจัดใหมีข้ึนเพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพหรือการอื่นใดก็ดี ท้ังสองกรณีนี้ถือเปนการตองหามโดยเด็ดขาด แมผูไดรับใบอนุญาต ใหม ีอาวธุ ปน ติดตวั ก็จะพาอาวุธปน เขาไปในชุมชนท่จี ดั ใหมีเพ่อื นมสั การ การรน่ื เรงิ การมหรสพ หรือ การอื่นใดมิได และนอกจากในสถานท่ีดังกลาวแลว ยังหามพาอาวุธปนไปโดยเปดเผยในสถานที่ใดๆ อีกดวย หมายความวาการพกพาอาวุธปนโดยเปดเผยหรือประเจิดประเจอในท่ีสาธารณะหรือ ในสภาพที่จะปรากฏแกสายตาของสาธารณะไดโดยงาย เปนการตองหามท้ังสิ้น ใบอนุญาตใหมี อาวุธปนติดตัวไมค มุ ครองดวย (๓) ขอยกเวนตามมาตรา ๘ ทวิ มีสองประการคือ ๓.๑ ขอยกเวนใหมีอาวุธปนติดตัวได หากเปนกรณีที่ตองมีติดตัวเม่ือมีเหตุ จําเปนและเรงดวนตามสมควรแกพฤติการณ หมายความวาตองเปนกรณีที่จําเปนตองมีอาวุธปน ตดิ ตวั อยา งเรง ดว น คาํ วา จาํ เปน และเรง ดว นจะตอ งใชค วบคกู นั ไปในทกุ กรณี บางกรณมี แี ตค วามจาํ เปน แตไมถึงกับรีบดวน เชน นาย ก. ตองขับรถสิบลอบรรทุกสินคาไปสงตางจังหวัด อยางน้ีอาจถือวา จําเปนตองมีอาวุธปนติดตัวไปได แตไมถือวาเปนกรณีเรงดวน เพราะการท่ีนาย ก. อางวา เพ่ือปองกันการปลนรถบรรทุกของตนซ่ึงเปนการจําเปนน้ัน เปนกรณีที่จําเปนที่มีอยูตลอดไป กลาวคอื การปลน รถบรรทุกสนิ คา อาจมหี รือไมมเี ม่ือใดกไ็ ด จงึ ไมถ อื เปนกรณีเรง ดว น บางกรณีเปนการเรงดวน แตไมจําเปน เชน นาย ก. ตองนําภรรยา ซ่ึงเจ็บทองจะคลอดลูกไปสงโรงพยาบาลในตอนดึก อยางน้ีเปนกรณีเรงดวน แตไมมีความจําเปน ถึงกับตองพกพาอาวุธปนไปดวย เพราะตามปกติไมมีเหตุผลใดท่ีจะอางไดวาจําเปนตองพกพาไป เพอ่ื ปองกันตัวและทรพั ยสนิ ในกรณเี ชนนี้ กรณีท่จี ําเปน และเรง ดวนตามความหมายของมาตรา ๘ ทวิ กเ็ ชน “นาย ก. เพิ่งขายขาวไดเงินมาเกือบแสนบาท และจําเปนตองนําไปฝากธนาคารซึ่งอยูหางจากบานไปราว สิบกิโลเมตร ในวันน้ัน เพ่ือความปลอดภัยจากโจรปลน ซึ่งในทองที่ของนาย ก. มีอยูบอยๆ ดังนั้น การทีน่ าย ก. นาํ ปนท่ีไดร ับใบอนญุ าตใหมีและใชแลว แตย งั มิไดร บั ใบอนุญาตใหพ กติดตวั ติดตัวไป พรอ มกับเงินทจี่ ะตองนําไปฝากธนาคารในวนั นั้น ดังน้ถี ือวา “จําเปน และเรงดวน” ได อยางไรก็ดี “กรณีจําเปนและเรงดวน” ในที่นี้ยังจะตองคํานึงอีกดวยวา เปนการสมควรแกพฤติการณแหงความจําเปนและเรงดวนน้ันดวยหรือไม กลาวคือจะตองคํานึงถึง
๓๐ พฤตกิ ารณเ ปนเรอื่ งๆ ไป อยา งกรณี นาย ก. พาปน ติดตัวพรอ มดวยเงนิ แสนเพอื่ นําไปฝากธนาคาร ใหทันกอนธนาคารปดในวันน้ัน เพราะมีพฤติการณการจี้ปลนในทองที่นั้นอยูเปนประจํา ดังนี้ถือวา พฤตกิ ารณแ หง การจปี้ ลน ในทองทีท่ ่ีมเี ปน ประจาํ เปน พฤตกิ ารณท ่ีสมควรสําหรบั กรณีของนาย ก. ๓.๒ ขอยกเวนเกี่ยวกับเจาพนักงาน ลูกจาง หรือผูชวยเจาพนักงานเกี่ยวกับ งานของรัฐ ซึ่งใหมีสิทธิพกพาอาวธุ ปนไดโ ดยมติ อ งมีใบอนญุ าตใหมีอาวุธปน ติดตัว ดงั น้ี (๑) เจาพนักงานผูมีหนาที่รักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ทหาร และตาํ รวจซง่ึ อยูในระหวา งการปฏิบตั หิ นา ที่ (๒) ขาราชการ พนักงานหรือลูกจางของหนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ข) หรือ (ค) ซ่ึงอยูในระหวางการปฏิบัติหนาที่เพื่อการปองกัน ประเทศหรอื รักษาความสงบเรยี บรอยของประชาชน หรือรกั ษาทรพั ยสนิ อนั สาํ คัญของรฐั บคุ คลตามมาตรา ๕ วรรคหนง่ึ (๑) (ข) หรอื (ค) ไดแ กบคุ คลทีส่ ังกัด ก. หนวยราชการท่ีมีหรือใชอาวุธปน เพื่อปองกันประเทศหรือ รักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ข. หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีและใชอาวุธปน ปองกันและ รักษาทรพั ยสินอนั สาํ คัญของรฐั (๓) ประชาชนผูไดรับมอบหมายใหมีและใชตามมาตรา ๕ วรรคหน่ึง (๑) (ง) ซึ่งอยใู นระหวางการชว ยเหลือราชการและมเี หตุจําเปน ตอ งมีและใชอ าวธุ ปน ในการนน้ั ประชาชนตามขอ นี้ ไดแก บุคคลท่ที างราชการทหารและตํารวจ หรอื หนว ยราชการอน่ื ทม่ี หี นา ทป่ี อ งกนั ประเทศและรกั ษาความสงบเรยี บรอ ยของประชาชน มอบอาวธุ ปน ใหมีและใชเ พือ่ ชว ยเหลอื ราชการของทหารและตาํ รวจ หรอื ของหนวยราชการนั้นๆ แลว แตก รณี การใหพกพาอาวุธปนโดยมิตองมีใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว ในกรณีน้ีจํากัดเฉพาะกรณี “ซึ่งอยูในระหวางการชวยเหลือราชการและมีเหตุจําเปนตองมีและใช อาวุธปนในการน้ัน” เทานั้น หากไมอยูในระหวางชวยเหลือราชการก็ดี หรืออยูในระหวางชวยเหลือ ราชการแตยังไมมเี หตุจําเปน ตองมีและใชอาวธุ ปน กย็ งั ไมไดร ับการคุมครองตามนยั น้ี (๔) การออกใบอนุญาตใหมอี าวธุ ปน ตดิ ตวั ตามมาตรา ๒๒ มีขอจาํ กดั ดงั น้ี ๔.๑ ออกใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวไดเฉพาะแกบุคคลที่ไดรับใบอนุญาต ใหมแี ละใชอ าวุธปน จากนายทะเบียนทองที่แลวเทาน้ัน ตามนัยนี้ทําใหเห็นไดวา “ใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปน” ไมคุมครองถึง การพาอาวธุ ปน ติดตวั ไปใน “เมอื ง หมบู า นหรือทางสาธารณะ” หากผูรับใบอนุญาต “ใหมีและใชอาวุธปน” ตองการพาอาวุธปนติดตัวไป “ในเมือง หมูบานหรือทางสาธารณะ” ผูไดรับใบอนุญาตนั้นจะตองไดรับ “ใบอนุญาตใหมีอาวุธปน ตดิ ตวั ” อีกชั้นหนึง่
๓๑ ในทางกลับกัน ผูมีอาวุธปนโดยไมไดรับอนุญาตพกพาอาวุธปนนั้นไปตาม มาตรา ๘ ทวิ ก็มคี วามผดิ ฐานพกพาดว ย ๔.๒ ขอบเขตอาํ นาจการอนญุ าตของอธบิ ดกี รมตาํ รวจ มอี ยา งกวา งขวางในเขตพนื้ ท่ี คือ การขอใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวในเขตกรุงเทพมหานครก็ดี หรือตองการมีอาวุธปนติดตัว ไปท่ัวราชอาณาจักรก็ดี จะตองขอตออธิบดีกรมตํารวจแตผูเดียว ในกรณีนี้ทําใหเห็นไดวาหากผูใด ไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวจากอธิบดีกรมตํารวจแลว บุคคลน้ันไมจําเปนตองขอรับ ใบอนญุ าตใหมอี าวุธปนตดิ ตวั จากผูว า ราชการจังหวัดทีต่ นมีถ่ินท่ีอยใู นจงั หวดั นัน้ อกี ชั้นหนึง่ ๔.๓ ขอบเขตอํานาจของผูวาราชการจังหวัดมีเฉพาะออกใหไดภายในเขต จังหวัดของตนและออกใหไดแตเฉพาะแกบุคคลที่มีถิ่นท่ีอยูในเขตจังหวัดท่ีตนเปนผูวาราชการจังหวัด นน้ั เทา นั้น ®¡Õ Ò·Õè ñõøò/òõóñ (»ÃЪÁØ ãËÞ)‹ ความผดิ ฐานพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในเมอื ง หมบู า น และทางสาธารณะโดยมไิ ดร ับอนุญาตเปน ความผดิ ทรี่ วมกระทาํ ดวยกนั ได จาํ เลยที่ ๒ รวมกับคนราย ๗-๘ คน ไปปลน ทรพั ยโดยมอี าวุธปน ตดิ ตวั ไป ๖ กระบอก แมจะฟงไมไดวาจําเลยที่ ๒ มีอาวุธปนติดตัวไปดวยก็ตาม แตการท่ีจําเลยท่ี ๒ รวมกับคนรายอื่น ไปปลน ทรพั ยแ ละพยายามฆา เจา ทรพั ยโ ดยใชป น ยงิ เสรจ็ แลว กห็ ลบหนไี ปดว ยกนั แสดงวา จาํ เลยท่ี ๒ มเี จตนากบั คนรา ยอนื่ มอี าวธุ ปน และเครอ่ื งกระสนุ ปน ไวใ นครอบครอง และพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในเมอื ง หมบู า น และทางสาธารณะโดยไมไดรับอนุญาตดว ย ®Õ¡Ò·èÕ ñøó÷/òõóñ จาํ เลยกบั ร. ขบู งั คบั ผเู สยี หายใหย อมรว มประเวณี โดยจาํ เลย ใชอาวุธปนไมมีทะเบียนของจําเลยจี้ผูเสียหาย เมื่อสามีผูเสียหายไปตามพลตํารวจ ส. มาจับกุม ส. เอาปนดังกลาวจากเอว ร. มาเก็บไวโดยถอดอาวุธปนออกหมดแลวจําเลยเขาแยงเอาปนคืนจาก ส. ยกข้ึนจองยิงท่ีหนาอก ส. ดังแชะสามคร้ัง ดังนี้ พฤติกรรมที่จําเลยกับ ร. ผลัดกันใชอาวุธปน ของกลางเชนน้ี ถือวารวมกันมีอาวุธปนของกลางไวในครอบครอง และการกระทําของจําเลยเปน ความผิดฐานพยายามฆาเจาพนักงานซึ่งกระทําการตามหนาที่โดยไมสามารถบรรลุผลอยางแนแท เพราะเหตุปจ จยั ท่ใี ชใ นการกระทําผดิ อกี กระทงหนง่ึ ¢ŒÍÊѧà¡μ ในกรณีท่ีเปนอาวุธปนของทางราชการมอบใหครอบครอง กรณีนี้ไมเปน ความผิด เพราะมาตรา ๕ ไดบัญญัติยกเวนไว แตถาหากผูครอบครองไมมีอํานาจหนาท่ีดังกลาว กเ็ ปน ความผิด ®Õ¡Ò·Õè ñùõø/òôùò จําเลยซึ่งรับราชการทหาร มีอาวุธปนของทางราชการทหาร เพื่อนําไปปฏิบัติหนาท่ีสารวัตรน้ัน ถือวาจําเลยมีไวทางราชการทหาร ไมมีความผิดฐานมีอาวุธปน และเครอื่ งกระสนุ ปน ไวใ นความครอบครองโดยมไิ ดร บั อนญุ าต แมจ ะเอาปน นน้ั ไปเพอ่ื กอ การรา ยกต็ าม ®Õ¡Ò·èÕ ñõõñ/òõñö ของกลางซงึ่ เปนอาวุธปน ท่ีใชเ ฉพาะในการสงครามเปน ของทาง ราชการทหาร แตไดหายไป จําเลยเปนทหารแตไมมีอํานาจหรือหนาท่ีครอบครองอาวุธปนของกลาง
๓๒ การครอบครองของจาํ เลยไมใ ชก ารครอบครองในราชการทหาร จาํ เลยจงึ มคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิ อาวธุ ปนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ®¡Õ Ò·èÕ ñùöñ/òõòø จําเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปนของกรมตํารวจซ่ึงจําเลยมีสิทธิ พาอาวุธปนไดท่ัวราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน ไมอยูในบังคับแหง พ.ร.บ.อาวุธปนฯ มาตรา ๘ ทวิ จําเลยยอมไมมีความผิดตาม มาตรา ๗๒ ทวิ เมื่อปรากฏแกศาลฎีกาวาการกระทํา ของจาํ เลย ไมเ ปนความผิดศาลฎีกายอมมีอํานาจยกฟอ งไดตาม ป.ว.อ.มาตรา ๑๘๕, ๒๑๕, ๒๒๕ ®Õ¡Ò·Õè ñóöñ/òõóð จําเลยเปนสมาชิก อพป. มีหนาที่รักษาความสงบเรียบรอยใน หมูบานไดรับแจกอาวุธปนคารบินและกระสุนปนของกลาง ซึ่งเปนของทางราชการไวใชประจําตัว เพอื่ ปฏบิ ตั หิ นา ทร่ี กั ษาความสงบเรยี บรอ ยในหมบู า น จาํ เลยจงึ ไมม คี วามผดิ ฐานมอี าวธุ ปน กระสนุ ปน ที่นายทะเบียนไมสามารถออกใบอนุญาตไวในครอบครอง และไมมีความผิดฐานพาอาวุธปนไปใน หมบู านและทางสาธารณะ ¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ มาตรา ๑๒ ยงิ อาวธุ ปน ทไี่ ดร บั อนญุ าตใหม ไี วเ พอ่ื เกบ็ และมเี ครอื่ งกระสนุ ปน สาํ หรับอาวธุ ปนท่ไี ดร บั อนุญาตใหมไี วเ พือ่ เกบ็ การมีอาวุธปนไวเพื่อเก็บ ตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองท่ีตามมาตรา ๗ ภายใตขอ บังคบั ตอ ไปน้ี (๑) ใบอนุญาตใหมีอาวุธปนไวเพ่ือเก็บ ใหออกไดสําหรับ (ก) อาวุธปนที่ นายทะเบียนเห็นวาชํารุดจนใชยิงไมได หรือ (ข) อาวุธปนแบบพนสมัย หรือ (ค) อาวุธปนซึ่งไดรับ เปนรางวัลจากการแขง ขันยิงปนในทางราชการ (มาตรา ๑๑) (๒) อาวุธปนซึ่งไดรับอนุญาตใหมีไวเพื่อเก็บน้ันตอง (ก) หามมิใหยิง และ (ข) หามมิใหมเี ครือ่ งกระสุนปนไวส าํ หรบั อาวุธปนนั้นดว ย (มาตรา ๑๒) ô. äÁá‹ ¨Œ§àËμؼÅáÅÐÊ‹§ÁͺãºÍ¹ØÞÒμÍÒÇظ»¹„ ¶Ù¡·íÒÅÒ ËÃ×ÍÊÞÙ ËÒÂμÍ‹ ¹Ò·ÐàºÕ¹ ÁÒμÃÒ òñ ถาอาวุธปนที่ไดรับอนุญาตแลวถูกทําลายหรือสูญหายโดยเหตุใดๆ ก็ดี ใหผูรับใบอนุญาตแจงเหตุและผลสงมอบใบอนุญาตตอนายทะเบียนทองท่ีซ่ึงตนอยูหรือที่เกิดเหตุ ภายในสิบหาวนั นับแตว นั ทราบเหตุ ÁÒμÃÒ øó ผูใดฝาฝน มาตรา ๒๑ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกนิ หนึ่งพันบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่อาวุธปนของตนท่ีไดรับอนุญาตนั้นสูญหายหรือ ถูกทําลายโดยเหตุใดๆ ก็ตาม ใหผูรับใบอนุญาตแจงเหตุและสงมอบใบอนุญาตตอนายทะเบียน ทองที่ภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ทราบถึงเหตุการณ บุคคลใดฝาฝนตองมีความผิด และตอง ระวางโทษตามกฎหมาย õ. ทาํ »ÃСͺ «Í‹ Áá«Á à»ÅÂèÕ ¹Å¡Ñ ɳРʧèÑ นาํ à¢ÒŒ ÁËÕ ÃÍ× จาํ ˹ҋ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ สาํ ËÃºÑ ¡ÒÃทําâ´ÂäÁ‹ä´ŒÃºÑ ͹ØÞÒμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ òô หามมิใหผใู ด ทาํ ประกอบ ซอ มแซม เปลี่ยนลกั ษณะ ส่งั นําเขา มีหรือ
๓๓ จําหนายซึ่งอาวุธปนหรือเครื่องกระสุนปนสําหรับการคา เวนแตจะไดรับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ทองที่ ÁÒμÃÒ ÷ó ผูใดฝาฝน มาตรา ๒๔ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสองปถึงย่ีสิบป และปรบั ตง้ั แตส ีพ่ นั บาทถึงสีห่ ม่ืนบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่จะทํา ประกอบ ซอม มี หรือจําหนายอาวุธปน เครื่องกระสุนปนเพื่อการคาจะตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่ หากบุคคลใดฝาฝน ไมป ฏิบตั ติ ามมคี วามผิดและตองระวางโทษตามกฎหมาย ใบอนุญาตใหทํา ประกอบ ซอมแซม เปล่ียนลักษณะ มี หรือจําหนายอาวุธปนหรือ เครอ่ื งกระสุนปนสาํ หรับการคา นั้น เม่ือไดร บั อนุมัติจากรัฐมนตรีแลว จึงใหน ายทะเบยี นทองทีอ่ อกให ใบอนญุ าตน้ี มอี ายุ ๑ ป นับแตว นั ออก ö. ÃÒŒ ¹¤ÒŒ ÍÒÇ¸Ø »¹„ จาํ ˹ҋ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃÍ× à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ ãËጠ¡¼‹ ·ŒÙ äèÕ Áä‹ ´ÃŒ ºÑ ãºÍ¹ÞØ ÒμãË«Œ Í×é ËÃÍ× ÁÕ áÅÐ㪌 ÁÒμÃÒ óô หามมิใหจําหนายอาวุธปน หรือเคร่ืองกระสุนปนแกผูที่ไมไดรับ ใบอนญุ าตใหซ อื้ หรือมีและใชอาวธุ ปน และเคร่ืองกระสนุ ปน ÁÒμÃÒ ÷ó ·ÇÔ ผใู ดฝา ฝน มาตรา ๓๔ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตห กเดอื นถงึ สบิ ป และ ปรับต้งั แตหนงึ่ พนั บาทถงึ สองหมืน่ บาท เจา ของรา นคา อาวธุ ปน หมายถงึ บคุ คลซงึ่ เปน เจา ของรา นคา อาวธุ ปน จะจาํ หนา ยอาวธุ ปน และกระสุนปนไดเฉพาะกับบุคคลที่ไดรับใบอนุญาตใหซ้ือหรือมีและใชเทาน้ัน หากบุคคลซ่ึงเปน เจา ของรา นคา อาวธุ ปนฝา ฝน ตอ งถือวา บุคคลนนั้ มคี วามผดิ และตองระวางโทษตามกฎหมาย ÷. ทาํ «Í×é ÁÕ Ê§Ñè นาํ à¢ÒŒ ÁÒ¤ÒŒ ËÃÍ× จาํ ˹ҋ ÂÇμÑ ¶ÃØ Ðàº´Ô â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ºÑ ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹·ÍŒ §·Õè ÁÒμÃÒ óø หามมิใหผูใด ทํา ซ้ือ มี ใช สั่ง นําเขา คาหรือจําหนายดวยประการใด ซง่ึ วัตถุระเบิด เวน แตไดร ับใบอนญุ าตจากนายทะเบียนทองท่ี ÁÒμÃÒ ÷ô ผูใดฝาฝนมาตรา ๓๘ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหน่ึงปถึงย่ีสิบป และ ปรบั ตงั้ แตสองพันบาทถึงส่หี มนื่ บาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม ในการที่จะ ทํา ซ้ือ มี ใช ส่ัง นําเขามา หรือคาวัตถุ ระเบิดตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองท่ีกอน ผูใดฝาฝนตองมีความผิดและตองรับโทษตาม กฎหมาย ø. ÂŒÒÂÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´¨Ò¡·áèÕ Ë‹§Ë¹§Öè ä»Í¡Õ á˧‹ ˹§Öè â´ÂÁäÔ ´ŒÃºÑ ͹ØÞÒμ ÁÒμÃÒ ôó หามมิใหยายวัตถุระเบิดจากที่แหงหนึ่ง เวนแตไดรับหนังสืออนุญาตจาก เจา พนักงานซงึ่ รัฐมนตรีกําหนดให และในการยา ยตองปฏิบัตติ ามเงอื่ นไขในหนงั สืออนญุ าตน้นั แลว ÁÒμÃÒ øð ผูใดฝา ฝน มาตรา ๔๓ ตอ งระวางโทษปรับต้งั แตหา รอ ยบาทถงึ หาพนั บาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม ถาจะทําการยายวัตถุระเบิดจะตองขออนุญาตจาก เจาพนักงาน ซ่ึงรัฐมนตรีกําหนดไว ในกรณีที่ยายโดยไดรับอนุญาต จะตองปฏิบัติตามเงื่อนไขท่ี
๓๔ กําหนดไวในหนังสืออนุญาตนั้นดวย ซ่ึงถาหากผูใดฝาฝน ถือวาบุคคลนั้นมีความผิด และตอง ระวางโทษตามท่กี ฎหมายกาํ หนด ù. ทํา Êè§Ñ นําࢌÒËÃ×ͤҌ ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§â´ÂäÁ‹ä´ŒÃºÑ ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÕ¹·ÍŒ §·Õè ÁÒμÃÒ ô÷ หา มมใิ หผ ใู ดทาํ สง่ั นาํ เขา หรอื คา ซง่ึ ดอกไมเ พลงิ เวน แตจ ะไดร บั ใบอนญุ าต จากนายทะเบยี นทองที่ ÁÒμÃÒ ÷÷ ผูใดฝาฝนมาตรา ๔๗ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหน่ึงเดือน หรือ ปรับไมเกนิ หนึ่งพันบาทหรือทั้งจาํ ทง้ั ปรับ ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม จะทํา ส่ัง นําเขาหรือคาดอกไมเพลิง จะตองไดรับ อนุญาตจากนายทะเบียนทองที่เสียกอ น บคุ คลใดฝาฝน บุคคลน้ันตอ งมคี วามผิดและตองระวางโทษ ตามกฎหมายกําหนด ñð. ãËŒ¼ÙÍŒ è¹× 㪌ãºÍ¹ÞØ ÒμÍÒÇ¸Ø »¹„ ¢Í§μ¹ ÁÒμÃÒ õø ใบอนุญาตท่ีออกใหตามความในพระราชบัญญัตินี้ ใหใชไดเฉพาะตัวผูรับ ใบอนญุ าต ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผใู ดฝาฝน มาตรา ๕๘ ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเ กินสิบปห รอื ปรับไมเกนิ สองหม่นื บาทหรอื ท้งั จําทั้งปรบั ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่มีใบอนุญาต ยินยอมใหผูอ่ืนนําใบอนุญาตอาวุธปน ของตนไปใชโ ดยเจตนา บุคคลน้นั มีความผดิ ตองระวางโทษตามกฎหมาย ññ. â͹ÍÒÇظ»¹„ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊع»„¹ ËÃ×ÍÇÑμ¶ØÃÐàº´Ô ãËጠ¡¼‹ ·ÙŒ ÕÁè äÔ ´ÃŒ ѺãºÍ¹ÞØ Òμ ÁÒμÃÒ õù หามมิใหโอนอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดใหแกผูท่ีมิไดรับ ใบอนุญาต ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผูใดฝาฝนมาตรา ๕๙ ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑๐ ป หรือ ปรบั ไมเ กินสองหมื่นบาทหรือท้ังจําท้ังปรบั ¼ŒÙã´ หมายถงึ บคุ คลใดก็ตามที่จะโอนอาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน หรือวตั ถุระเบิดใหกับ ผูใดนั้นผูรับโอนจะตองเปนบุคคลท่ีไดรับใบอนุญาตเทาน้ัน ถาหากบุคคลใดโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปนหรือวัตถุระเบิดใหกับบุคคลที่ไมมีใบอนุญาต การกระทําของผูน้ันถือวาเปน ความผิดตอ งระวางโทษตามกฎหมาย ñò. ¼·ÙŒ Õèä´ÃŒ ѺãºÍ¹ÞØ ÒμãËŒÁÕáÅÐãªÍŒ ÒÇظ»„¹ÂÒŒ ¶èÔ¹·èÍÕ Âã‹Ù ˌᨌ§ÂÒŒ Âá¡‹¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ öò ผูที่ไดรับอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดยายถ่ินที่อยูใหแจงการยายแก นายทะเบียนทองท่ี ภายในสิบหาวันนับแตวันยาย และถายายไปอยูในตางทองที่ ใหแจงการยายแก นายทะเบยี นทองท่ีใหมใหท ราบภายในสิบหาวนั นบั แตวันท่ยี า ยไปถงึ อกี ดวย ÁÒμÃÒ øó ผใู ดฝาฝน ตอ งระวางโทษปรับไมเกนิ หน่งึ พันบาท
๓๕ ñó. äÁä‹ »Â¹è× ¤íÒ¢ÍÃѺãºá·¹ãºÍ¹ØÞÒμ·èÊÕ ÞÙ ËÒÂËÃÍ× ÅºàÅÍ× ¹Í‹Ò¹äÁÍ‹ Í¡μÍ‹ ¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ öù เม่ือใบอนุญาตสูญหาย เปนอันตราย หรือลบเลือนอานไมออก ใหผูรับ ใบอนญุ าตยนื่ คาํ ขอรบั ใบแทนใบอนญุ าตตอ นายทะเบยี นทอ งทภ่ี ายในสามสบิ วนั ทนี่ บั แตท ราบเหตนุ น้ั ถานายทะเบียนเห็นวามีเหตุผลเปนที่เชื่อถือไดใหออกใบแทนใหตามเงื่อนไขของใบอนุญาตเดิม แตถาใบอนุญาตท่ีสูญหายไดคืนในภายหลัง ก็ใหสงใบแทนน้ันแกนายทะเบียนทองท่ีภายในกําหนด สิบหาวันนบั แตว นั ที่ไดค นื ÁÒμÃÒ øó ผูใดฝาฝน มาตรา ๖๙ ตองระวางโทษปรับไมเ กินหนึ่งพันบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม เมื่อใบอนุญาตสูญหายหรือลบเลือนอานไมออกตอง ยื่นขอใบแทนตอนายทะเบียนทองที่ภายใน ๓๐ วัน นับแตวันทราบเหตุ ถาหากไมย่ืนขอรับใบแทน จนพนกําหนด ผูนัน้ มคี วามผิดตอ งระวางโทษตามกฎหมาย แตถาใบอนุญาตที่สูญหายแลวน้ันไดคืนภายหลัง ผูนั้นจะตองสงใบแทนท่ีเจาหนาท่ี ออกใหคืนแกนายทะเบียนทองที่ภายในกําหนด ๑๕ วัน นับแตวันไดคืน ผูใดละเลยมีความผิด และตอ งรบั โทษตามกฎหมาย
๓๖ ẺãºÍ¹ÞØ ÒμμÒ‹ §æ ¼¹Ç¡ ¡. Ẻ ».ñ เรอื่ ง....................................................................... เขยี นที.่ ................................................... วนั ที.่ .........เดือน..............................พ.ศ.................. ขาพเจา.......................................................................................อายุ......................ป เชอื้ ชาต.ิ ..........................สญั ชาต.ิ ..........................ภมู ลิ าํ เนาบา นเลขท.่ี ........................หมทู .่ี ............ ตาํ บล.......................................อาํ เภอ.......................................จงั หวดั ........................................... ยนื่ คาํ ขอตอ นายทะเบยี นทอ งทป่ี ระจาํ ............................................................................................... ดว ยขา พเจา มคี วามประสงค. ........................................................................................... ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... (ลงชอื่ ).......................................................... ผขู ออนุญาต
๓๗ ¼¹Ç¡ ¢. Ẻ ». ò ãºÍ¹ÞØ ÒμãËŒÊѧè ËÃÍ× ¹Òí à¢ÒŒ «§èÖ ÍÒÇظ»¹„ à¤Ã×èͧ¡ÃÐÊع»„¹ ÇμÑ ¶ØÃÐàºÔ´ ´Í¡äÁŒà¾Å§Ô ËÃ×ÍÊÔ§è à·ÕÂÁÍÒÇ¸Ø »¹„ ใบอนุญาตท่ี สถานท่อี อกใบอนุญาต วัน เดอื น ป ท่ีออก วนั เดือน ป ที่ส้ินอายุ ชอื่ อายุ ผูรับใบอนุญาต เช้ือชาติ สญั ชาติ ภมู ลิ าํ เนาบา นเลขท่ี หมูที่ ตําบล อําเภอ จังหวดั ชนดิ ขนาด จํานวน ทไี่ ดรับอนุญาต ใหส ่ัง หรือนําเขา ส่งั หรือนาํ เขาจาก คาธรรมเนยี ม ................................................................. นายทะเบียนทอ งท่ี ประทับตราประจําตาํ แหนง
๓๘ ¼¹Ç¡ ¤. Ẻ ». ó ãºÍ¹ØÞÒμãË«Œ Í×é ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃ×Íà¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊع»¹„ ÊÇ‹ ¹ºØ¤¤Å ãËÁŒ ÍÕ ÒÇ¸Ø »„¹ ËÃÍ× à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ÊíÒËÃѺ¡ÒäŒÒ ใบอนญุ าตท่ี สถานที่ออกใบอนญุ าต วนั เดอื น ป ท่อี อก วัน เดอื น ป ท่สี ิน้ อายุ ช่อื อายุ ผรู ับใบอนญุ าต เชือ้ ชาติ สัญชาติ ภูมิลาํ เนาบา นเลขที่ หมทู ี่ ตําบล อาํ เภอ จังหวดั ชนิด ขนาด จํานวน ทีไ่ ดรบั อนญุ าต หรือมี จาก คาธรรมเนยี ม ................................................................. (แบบนม้ี ี ๓ ตอน) นายทะเบียนทองท่ี ประทับตราประจาํ ตําแหนง
๓๙ ¼¹Ç¡ §. Ẻ ». ô ãºÍ¹ØÞÒμãËŒÁáÕ ÅÐ㪌ÍÒÇظ»„¹ ãËÁŒ ÕÍÒÇظ»¹„ äÇàŒ ¾Í×è ࡺç ãËÁŒ áÕ ÅÐ㪌ÍÒÇ¸Ø »¹„ áÅÐà¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ ªÑèǤÃÒÇ ใบอนญุ าตที่ สถานทอ่ี อกใบอนุญาต วนั เดือน ป ทอี่ อก วนั เดือน ป ทีส่ ้ินอายุ ชือ่ อายุ ผรู ับใบอนุญาต เชอ้ื ชาติ สญั ชาติ ภูมลิ าํ เนาบา นเลขท่ี หมูท่ี ตําบล อําเภอ จังหวดั ชนิด ขนาด อาวุธปน เลขหมายประจาํ ปน และช่อื ผูทาํ ปน เคร่อื งหมายทะเบียน ไดมาโดยซือ้ สง่ั นาํ เขา หรือมี โดยซอื้ หรอื รับโอนจากใคร ทีใ่ ด คา ธรรมเนียม .................................................. นายทะเบียนทองท่ี ประทบั ตราประจําตาํ แหนง
๔๐ àºç´àμÅç´ *ÁÒμÃÒ õõ “ประเภท ชนดิ และขนาดของอาวธุ ปน เคร่อื งกระสนุ ปนหรือวัตถุระเบิดท่ี นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตใหไดตามมาตรา ๗ มาตรา ๒๔ หรือ มาตรา ๓๘ ใหเปนไปตามท่ี กําหนดในกฎกระทรวง” ÁÒμÃÒ õö รฐั มนตรมี อี าํ นาจหา มมใิ หอ อกใบอนญุ าตอาวธุ ปน หรอื เครอ่ื งกระสนุ ปน เฉพาะบางชนิดในบางทองทีห่ รือทัว่ ราชอาณาจกั รตามที่กําหนดไวใ นกฎกระทรวง ÁÒμÃÒ õ÷ ในคราวมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจําเปนเพ่ือรักษาความสงบเรียบรอย ของประชาชน รัฐมนตรีมีอํานาจออกคําส่ังหามหรือจํากัดการออกใบอนุญาตทุกประเภท หรือ บางประเภทในช่ัวระยะเวลาที่กําหนดจะออกคําสั่งโดยประกาศ หรือแจงเปนหนังสือ ใหผูรับ ใบอนุญาตสงมอบอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดแกเจาพนักงาน เพ่ือเก็บรักษาไวหรือ จะสั่งใหจําหนายเสียก็ได ในกรณีท่ีส่ังใหจําหนายใหนํามาตรา ๖๗ มาใชบังคับโดยอนุโลมและ ถาไมอ าจปฏิบัติตามทกี่ ลาวแลว จะส่งั ใหจ าํ หนา ยแกทางราชการในราคาอนั สมควรกไ็ ด คาํ สั่งนจ้ี ะกาํ หนดใหใ ชบ งั คบั ในบางทอ งท่ีหรอื ท่ัวราชอาณาจักรกไ็ ด ÁÒμÃÒ õø ใบอนุญาตที่ออกใหตามความในพระราชบัญญัติน้ี ใหใชเฉพาะตัวผูรับ ใบอนุญาต ÁÒμÃÒ õù หามมิใหโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดใหแกผูที่มิไดรับ ใบอนญุ าต ÁÒμÃÒ öð เมอื่ ผรู บั ใบอนญุ าตไดร บั อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ หรือสิ่งเทียมอาวุธปน ซึ่งไดสงเขามาตามใบอนุญาตใหส่ัง ฉบับใดพนจากอารักขาของเจาพนักงาน ศุลกากรแลว แมวา ผูรับใบอนุญาตจะมิไดส ง่ั อาวุธปน เคร่ืองกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลิง หรือ สิ่งเทียมอาวุธปนเชนวาน้ีเขามาครบตามที่อนุญาตไวในใบอนุญาตก็ดี ใบอนุญาตฉบับนั้นเปนอัน ใชสง่ั ไมไ ดอีกตอไป ÁÒμÃÒ öñ อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ หรอื สง่ิ เทยี มอาวธุ ปน ท่ีสั่งเขามาในราชอาณาจักรโดยไมมีผูรับใบอนุญาต ใหสั่งใหตกเปนของแผนดินแตถาภายในสี่เดือน นับแตวันท่ีของเขามาถึง ผูสั่งไดยื่นคํารองขอสงกลับออกนอกราชอาณาจักร รัฐมนตรีวาการ กระทรวงการคลงั จะสง่ั อนญุ าตก็ได เมือ่ เปน ที่พอใจวา ผสู ัง่ ไมม ีสวนในการกระทาํ ผิดกฎหมาย ÁÒμÃÒ öò ผูที่ไดรับอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดยายถ่ินที่อยูใหแจงการยายแก นายทะเบียนทองที่ภายในสิบหาวันนับแตวันยาย และถายายไปอยูในตางทองที่ใหแจงการยายแก นายทะเบียนทอ งที่ใหมใ หท ราบภายในสบิ หา วนั นบั แตว ันทีย่ ายไปถึงอกี ดว ย *มาตรา ๕๕ น้ี แกไ ขหลงั สุดโดย พ.ร.บ.อาวธุ ปน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๒๒ นัย ม.๖ สวนของอาวุธปน ซง่ึ ถอื วา เปน “อาวุธปน” ตาม ม.๕๖ ดกู ฎกระทรวง ฉ.๓ การแจง ยา ยถนิ่ ที่อยู ตาม ม.๖๒ ดกู ฎกระทรวง ฉ.๑ ขอ ๑๐
๔๑ ÁÒμÃÒ öó ถานายทะเบียนทองท่ีปฏิเสธการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ผูย่ืนคําขออนุญาตอาจอุทธรณตอรัฐมนตรีภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวันท่ีไดรับแจง การปฏเิ สธเปน หนงั สอื คาํ อทุ ธรณใ หย น่ื ตอ นายทะเบยี นทอ งท่ี และใหน ายทะเบยี นเสนอคาํ อทุ ธรณน น้ั ตอ รฐั มนตรี โดยมิชักชา คาํ วินจิ ฉัยของรฐั มนตรีใหแจงเปนหนังสือไปยงั ผูย ่ืนคําขอใบอนุญาต ในกรณีท่ีมีการอุทธรณ ระยะเวลาที่กําหนดไวในพระราชบัญญัติน้ี เพื่อการปฏิบัติตาม คําสั่งของนายทะเบียนทองที่ใหสงกลับออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งอาวุธปนหรือเคร่ืองกระสุนปน ตามมาตรา ๑๗ หรือใหจัดการจําหนายอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดตามมาตรา ๖๔ ใหนับแตวันที่ผูยื่นคําขอใบอนุญาตไดรับหนังสือแจงคําวินิจฉัยของรัฐมนตรีและเมื่อไดยื่นอุทธรณตอ รฐั มนตรีแลว การปฏบิ ัติตามคําสัง่ ของนายทะเบยี นทอ งทนี่ น้ั ใหพ กั ไวจ นถึงวันท่ผี ูย ื่นคําขอใบอนุญาต ไดร บั หนังสือแจง คําวนิ จิ ฉยั ของรัฐมนตรี คําวนิ จิ ฉัยของรัฐมนตรใี หเ ปน ทสี่ ดุ ÁÒμÃÒ öô ถา ผไู ดร บั อนญุ าตตาย ใหผ ซู ง่ึ มอี าวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ หรือใบอนุญาตของผูตายอยูในความครอบครอง แจงการตายตอนายทะเบียนทองท่ีซ่ึงตนอยู หรือ นายทะเบียนทองที่ท่ีออกใบอนุญาตหรือนายทะเบียนทองท่ีท่ีผูรับใบอนุญาตตายภายในกําหนด สามสบิ วนั นบั แตว ันท่ีทราบการตายของผูร ับใบอนญุ าต นายทะเบียนมีอํานาจส่ังใหเก็บรักษาอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดของ ผรู ับใบอนุญาตที่ตายไวอ ยางไร และ ณ ท่ีใดก็ไดต ามควรแกกรณีและถามีขอ โตเ ถยี งถงึ เรอื่ งสิทธขิ อง ทายาท กใ็ หเก็บรักษาไวจนกวา ขอโตเ ถียงนน้ั ถึงทสี่ ดุ ภายในกําหนดหกเดือนนับแตวันที่ผูรับใบอนุญาตตาย หรือถามีขอโตเถียงถึงเร่ืองสิทธิ ของทายาทนับแตวันท่ีขอโตเถียงน้ันถึงท่ีสุด ผูจัดการมรดกหรือทายาทในกรณีที่ไมมีผูจัดการมรดก อาจขอใบอนญุ าตใหมไ ด เมอื่ นายทะเบยี นไดอ อกใบอนญุ าตใหแ ลว ใหม อบอาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน หรือวัตถุระเบิดนั้นแกผูรับใบอนุญาตใหม ถาไมออกใบอนุญาตใหใหม ก็ใหแจงความใหผูขอ ทราบและสั่งใหผูจัดการจําหนายส่ิงเหลานั้นภายในกําหนดหกเดือน นับแตวันรับคําส่ัง มิฉะน้ัน ใหนายทะเบียนทองท่ีมีอํานาจจัดการขายทอดตลาดสิ่งเหลาน้ัน ไดเงินจํานวนสุทธิเทาใดใหสงมอบ แกผ มู ีสทิ ธิ ÁÒμÃÒ öõ ผูรับใบอนุญาตคนใดตกเปนผูซึ่งจะออกใบอนุญาตใหไมไดตามความใน พระราชบญั ญตั นิ ้ี ใหแ จงพฤตกิ ารณน ัน้ และสง มอบอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวตั ถรุ ะเบิด และ ใบอนุญาตใหแกนายทะเบียนทองที่โดยไมชักชา และใหนายทะเบียนทองที่หรือรัฐมนตรีส่ังเพิกถอน ใบอนุญาตนนั้ เสยี ถา ผรู บั ใบอนุญาตเปนคนไรค วามสามารถ หรอื เปน คนเสมอื นไรค วามสามารถ หรือเปน คนวิกลจริต หรือจิตฟนเฟอนไมสมประกอบ ใหผูอนุญาต ผูพิทักษ หรือผูควบคุมดูแล แลวแตกรณี มหี นา ที่ตองปฏิบัติตามความในวรรคกอ น ÁÒμÃÒ öö ถาปรากฏวาผูที่ไดรับใบอนุญาตตามความในพระราชบัญญัติน้ีเปนผูซ่ึง จะออกใบอนญุ าตใหไ มไ ด ใหน ายทะเบยี นทอ งทห่ี รอื รฐั มนตรสี ง่ั เพกิ ถอนใบอนญุ าตนนั้ เสยี เมอื่ ไดร บั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236