Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore B00k28_พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

B00k28_พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

Published by thanatphat2606, 2020-04-19 00:16:00

Description: B00k28_พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

Keywords: B00k28_พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

Search

Read the Text Version

วิชา กม. (LA) ๒๒๒๐๕ พระราชบญั ญตั ทิ ม่ี โี ทษทางอาญา

ตาํ ÃÒàÃÕ¹ ËÅÑ¡ÊÙμà ¹¡Ñ àÃÂÕ ¹¹ÒÂÊºÔ ตาํ ÃǨ ÇªÔ Ò ¡Á. (LA) òòòðõ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ·èÕÁÕâ·É·Ò§ÍÒÞÒ เอกสารนี้ “໚¹¤ÇÒÁÅºÑ ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÔ หา มมิใหผหู นึ่งผใู ดเผยแพร คัดลอก ถอดความ หรอื แปลสว นหนงึ่ สว นใด หรอื ทง้ั หมดของเอกสารนเี้ พอื่ การอยา งอน่ื นอกจาก “à¾Íè× ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒͺÃÁ” ของขาราชการตํารวจเทานั้น การเปดเผยขอความแกบุคคลอื่นท่ีไมมีอํานาจหนาท่ีจะมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ¡Í§ºÞÑ ªÒ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ สํา¹Ñ¡§Ò¹ตําÃǨá˧‹ ªÒμÔ ¾.È.òõöó

1

คาํ นาํ หลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจ (นสต.) เปนหลักสูตรการศึกษาอบรมท่ีมีเปาหมาย เพื่อเสริมสรางใหบุคคลภายนอกผูมีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๖) หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเทา ท่ีเขารับการฝกอบรมมีความรู ความสามารถ และ ทักษะวิชาชีพตํารวจ รวมถึงพัฒนาบุคลิกภาพรางกายใหเหมาะสมสําหรับการปฏิบัติงานตํารวจ ในกลุมสายงานปองกันปราบปราม ตลอดจนเตรียมความพรอมทางดานจิตใจและวุฒิภาวะใหมี จติ สํานึกในการใหบ ริการเพื่อบําบัดทกุ ขบ าํ รุงสขุ ของประชาชนเปน สาํ คัญ กองบัญชาการศึกษา ไดรวมกับ ครู อาจารย และครูฝก ในสังกัดกองบังคับการ ฝก อบรมตาํ รวจกลาง และกลมุ งานอาจารย กองบญั ชาการศกึ ษา ศนู ยฝ ก อบรมตาํ รวจภธู รภาค ๑ - ๙ และกองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน ตลอดจนผูทรงคุณวุฒิจากภายนอก จัดทําตําราเรียน หลกั สตู รนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจชดุ นี้ ซงึ่ ประกอบดว ยองคค วามรตู า งๆ ทจี่ าํ เปน ตอ การพฒั นาศกั ยภาพ ของนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจใหเ ปน ขา ราชการตาํ รวจทพ่ี งึ ประสงคข องประชาชน เพอ่ื ใชส าํ หรบั ประกอบ การเรียนการสอนนักเรียนนายสิบตํารวจใหมีความพรอมทั้งดานความรู ความสามารถ กําลังกาย และจติ ใจ จนสามารถเปน ขา ราชการตาํ รวจทป่ี ฏบิ ตั งิ านใหบ รกิ ารสงั คมและประชาชนไดอ ยา งตรงตาม ความตอ งการอยา งแทจรงิ และมคี วามพรอมในการเขา สปู ระชาคมอาเซยี น ขอขอบคุณครู อาจารย ครูฝก และผูทรงคุณวุฒิทุกทาน ที่ไดรวมกันระดมความคิด ใหคําปรึกษา คําแนะนํา ประสบการณท่ีเปนประโยชน รวมถึงการถายทอดองคความรู ท่ีเปนประโยชน จนทําใหการจัดทําตําราเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจสําเร็จลุลวงไดดวยดี ซึ่งกองบัญชาการศึกษาหวังเปนอยางย่ิงวาตําราเรียนชุดนี้คงเปนประโยชนตอการจัดการเรียน การสอนและการจดั การฝกอบรมของครู อาจารย และครฝู ก รวมตลอดถึงใชเปนคูมือการปฏบิ ัตงิ าน ของขาราชการตํารวจ อันจะสงผลทําใหสํานักงานตํารวจแหงชาติสามารถสรางความเชื่อม่ัน ศรัทธา และความผาสุกใหแกประชาชนไดอ ยา งแทจ รงิ พลตํารวจโท ( อภิรตั นยิ มการ ) ผูบ ัญชาการศกึ ษา

1

ÊÒúÑÞ ÇªÔ Ò ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ·Ô èÕÁâÕ ·É·Ò§ÍÒÞÒ Ë¹ŒÒ º··èÕ ñ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ¡Òþ¹Ñ¹ ¾.È.òô÷ø ñ - ความรูท ่วั ไปเก่ยี วกับพระราชบัญญัติการพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ ๒ - ความผิดตามพระราชบญั ญตั ิการพนัน ๓ - บทกําหนดโทษ ๘ º··Õè ò ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ÔÍÒÇ¸Ø »„¹ à¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ ÇÑμ¶ÃØ ÐàºÔ´ ñù ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§ ʧèÔ à·ÕÂÁÍÒÇظ»„¹ ¾.È.òôùð ๒๐ - ความรทู ั่วไปเกย่ี วกับพระราชบัญญัตอิ าวธุ ปน เคร่ืองกระสนุ ปน ๒๗ วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สง่ิ เทียมอาวธุ พ.ศ.๒๔๙๐ ๔๓ - ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน ôù วตั ถุระเบดิ ดอกไมเ พลิง สง่ิ เทียมอาวธุ พ.ศ.๒๔๙๐ ๕๐ - บทกาํ หนดโทษ ๕๑ ๕๑ º··Õè ó ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ÊÔ ¶Ò¹ºÃ¡Ô Òà ¾.È.òõðù ๕๒ - ความรทู ั่วไปเกย่ี วกบั พระราชบญั ญตั ิสถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ๕๒ - ฐานความผิด ๕๒ - คณุ สมบตั ิ ๕๓ - สถานท่ี ๕๓ - ใบอนญุ าต ๕๕ - ใบอนญุ าตชาํ รดุ ๕๖ - การปฏบิ ัติกบั พนกั งาน ๕๙ - ขอปฏบิ ตั ิของสถานบริการ - อํานาจของเจาพนกั งาน - โทษตาม พ.ร.บ.สถานบรกิ าร - ความผดิ ตามพระราชบัญญตั สิ ถานบรกิ าร พ.ศ.๒๕๐๙

˹ŒÒ º··Õè ô ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ÔÊØÃÒ ¾.È.òôùó öñ - ความรูท วั่ ไปเก่ียวกบั พระราชบญั ญัตสิ รุ า พ.ศ.๒๔๙๓ ๖๒ - ความผดิ ตาม พระราชบญั ญตั ิสุรา พ.ศ.๒๔๙๓ ทีม่ กี ารจบั กมุ ดําเนินคดี ๖๓ º··èÕ õ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¤Ô Ǻ¤ÁØ à¤ÃÍè× §´×èÁáÍÅ¡ÍÎÍŏ ¾.È.òõõñ ÷÷ - ความรูทัว่ ไปเก่ยี วกับพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๗๘ - การควบคมุ เครื่องดื่มแอลกอฮอลตามพระราชบญั ญัติควบคมุ ๗๙ เครือ่ งดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๙๓ - ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิควบคุมเครอื่ งด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ º··èÕ ö ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ »Ô ‡Í§¡Ñ¹áÅлÃÒº»ÃÒÁ¡ÒäŒÒ»ÃÐàÇ³Õ ¾.È.òõóù ù÷ - ความรทู ่วั ไปเก่ียวกับพระราชบญั ญัตปิ อ งกนั ปราบปราม ๙๘ การคา ประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๑๐๒ - นยิ าม ๑๐๒ - ฐานความผิด ๑๐๔ - มาตรการตามพระราชบัญญัติปองกนั และปราบปราม ๑๐๖ การคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๑๐๘ - อาํ นาจหนา ที่ของพนักงานเจา หนาที่ - ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ิปองกันและปราบปรามการคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ º··Õè ÷ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ Ô¡Ò÷íÒ§Ò¹¢Í§¤¹μÒ‹ §´ŒÒÇ ¾.È.òõõñ ñðù - ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกับพระราชบญั ญัติการทํางานของคนตางดา ว ๑๑๐ พ.ศ.๒๕๕๑ ๑๑๑ - การทํางานของคนตา งดา ว ๑๑๖ - บทกําหนดโทษ ๑๑๗ - ความผิดตามพระราชบญั ญัติการทาํ งานของคนตา งดา ว พ.ศ.๒๕๕๑

º··èÕ ø ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ μÔ ÃǨ¤¹à¢ÒŒ àÁ×ͧ ¾.È.òõòò ˹ŒÒ - ความรทู วั่ ไปเก่ยี วกับพระราชบญั ญัตติ รวจคนเขาเมอื ง พ.ศ.๒๕๒๒ ññù - ความผิดตามพระราชบญั ญัตติ รวจคนเขาเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ ๑๒๐ ที่มีการจับกมุ ดําเนินคดี ๑๒๑ ñóó º··Õè ù ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô»†ÒäÁŒ ¾.È.òôøô ๑๓๕ - ความรูทว่ั ไปเก่ียวกบั พระราชบญั ญตั ิปาไม พ.ศ.๒๔๘๔ ๑๓๖ - การทาํ ไมแ ละเกบ็ หาของปา ๑๓๘ - การทาํ ไมห วงหาม ๑๔๐ - ไมท ่ีมใิ ชไมห วงหาม ๑๔๑ - ของปาหวงหาม ๑๔๒ - ตราประทับไม ๑๔๒ - ไมแ ละของปาระหวางเคล่อื นที่ ๑๔๔ - การควบคุมไมใ นลํานํ้า ๑๔๔ - การควบคุมการแปรรูปไม ๑๔๖ - แผวถางปา ๑๔๗ - เบด็ เตลด็ ๑๔๙ - บทกําหนดโทษ ๑๕๒ - การรกั ษาการพระราชบัญญัติ ñõó ๑๕๔ º··èÕ ñð ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÔÀҾ¹μÃᏠÅÐÇ´Õ Ô·Ñȹ ¾.È.òõõð ๑๕๕ - ความรูทวั่ ไปเกย่ี วกบั พระราชบัญญัตภิ าพยนตรและวีดทิ ัศน พ.ศ.๒๕๕๐ ๑๕๙ - การประกอบกจิ การภาพยนตร ๑๕๙ - คณุ สมบตั ขิ องผูขออนญุ าตโรงภาพยนตร ๑๖๐ - ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงภาพยนตร ๑๖๐ - การประกอบกิจการวดี ทิ ศั น ๑๖๑ - คณุ สมบตั ิผขู ออนุญาต ๑๖๒ - ใบอนญุ าตประกอบกิจการวีดทิ ศั น ๑๖๕ - อาํ นาจเจา พนกั งาน - ความผิดตามพระราชบญั ญตั ิภาพยนตรแ ละวดี ทิ ศั น พ.ศ.๒๕๕๑

º··èÕ ññ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¤Ô ÇÒÁ¼Ô´à¡ÕèÂǡѺ¤ÍÁ¾ÔÇàμÍÏ ¾.È.òõõð ˹Ҍ - ความรทู ่วั ไปเกีย่ วกบั พระราชบัญญัตฯิ ñö÷ - ความผิดเกีย่ วกับคอมพิวเตอร พ.ศ.๒๕๕๐ ๑๖๙ - พนักงานเจา หนาที่ ๑๖๙ ๑๗๔ º··èÕ ñò ¡®ËÁÒ·èÕà¡ÂÕè Ç¢ŒÍ§¡Ñº¡ÒäŒÒÁ¹Øɏ ñøñ - ความรูทวั่ ไปเก่ยี วกับกฎหมายทีเ่ กยี่ วขอ งกบั การคามนษุ ย ๑๘๓ - บททัว่ ไป ๑๘๔ - ความผดิ ตามกฎหมายท่ีเกี่ยวของกบั การคา มนษุ ย ๑๙๐ - อํานาจพนกั งานเจาหนา ที่ ๑๙๒ - บทกําหนดโทษ ๑๙๓ ñù÷ º··Õè ñó ¡®ËÁÒ·èàÕ ¡ÕÂè Ç¢ŒÍ§¡ºÑ ÂÒàʾμ´Ô ๑๙๙ - ความรทู วั่ ไปเกี่ยวกบั กฎหมายที่เกย่ี วขอ งกบั ยาเสพติด ๒๐๑ - ความผิดตามกฎหมายท่เี กยี่ วขอ งกับยาเสพตดิ

๑ º··Õè ñ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¡Ô Òþ¹Ñ¹ ¾.È.òô÷ø ñ. ÇμÑ ¶Ø»ÃÐʧ¤¡ ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒ»Ù ÃШӺ· ๑.๑ เพ่อื ใหนกั เรยี นมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ ๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ ๑.๓ เพื่อใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ò. ÊÇ‹ ¹¹Ó การพนันนับเปนปญหาแกสังคมปญหาหน่ึงเพราะเปนการมอมเมาประชาชนและเปน บอเกิดของปญหาสังคม หรือปญหาอาชญากรรม ดังนั้น เพ่ือเปนการควบคุมมิใหการเลนการพนัน แพรหลายจนเกินไปจนสรางปญหาใหสังคมจึงมีการตรา พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ เพ่ือควบคุม การเลนการพนนั ใหอยใู นกรอบไมกอ ใหเกิดปญ หาแกส งั คม ó. à¹éÍ× ËÒμÒÁËÇÑ ¢ŒÍ ๓.๑ ความรูทั่วไปเกยี่ วกับ พ.ร.บ.การพนนั ๓.๒ ความผดิ ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ๓.๓ บทกาํ หนดโทษ ô. ÊÇ‹ ¹ÊÃØ» พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ เปนกฎหมายท่ีมีความสําคัญฉบับหน่ึง เพราะเปน กฎหมายท่ีคอยควบคุมดูแลไมใหประชาชนในสังคมถูกมอมเมาจากอบายมุข ซ่ึงถาผูบังคับใช กฎหมายไดมีการบังคับใชกฎหมายอยางเครงครัดก็จะทําใหปญหาสังคมไดรับการแกไข อันจะนําไปสู ความสงบสุขในสงั คมตอไป õ. ¡¨Ô ¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการพนันที่มีการจับกุมในปจจุบันวามีลักษณะอยางไรและรวมกัน วเิ คราะหอ ภปิ รายในชนั้ เรียน

๒ การพนันเปนสิ่งท่ีพบเห็นกันอยูทั่วไปและเปนคดีความมาสูศาลมากที่สุดอยางหนึ่ง ซง่ึ เชอ่ื กนั วา มกี าํ เนดิ มาจากประเทศจนี ลกุ ลามแพรข ยายเขา ไปในนานาประเทศ รวมทงั้ ประเทศไทยดว ย เมอื่ ประชาชนมวั เมาอยกู บั การเลน การพนนั ยอ มไมค ดิ ทาํ มาหากนิ คอยแตเ ลน การพนนั เพราะไดเ สยี รวดเร็วทําใหมีผูหวังรวยทางลัดอยูตลอดเวลา แตย่ิงเลนก็ย่ิงยากจนทุกที การพนันจึงเปนเหตุ อยา งหนงึ่ ทก่ี อ ใหเ กดิ อาชญากรรมขนึ้ ในประเทศ ดงั นน้ั รฐั จงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชบญั ญตั กิ ารพนนั ขน้ึ อยา งไรก็ตาม ไมว าจะไดม ีการปราบปรามการเลน การพนันอยา งไร ก็ปรากฏวาการเลน การพนันยงั คงระบาดแพรห ลายอยตู ลอดเวลา ñ. ¤ÇÒÁÌٷèÇÑ ä»à¡èÕÂÇ¡ºÑ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¡Òþ¹Ñ¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷ø แยกเปน ๒ ประการ คอื ๑.๑ ลกั ษณะของการพนนั ๑.๒ สาระสําคัญของพระราชบัญญัติการพนนั ñ.ñ ÅѡɳТͧ¡Òþ¹Ñ¹ พระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ มิไดแยก วิเคราะหศัพท “การพนนั ” ไวโ ดยเฉพาะ คงมเี พยี งมาตรา ๔ ทวิ บญั ญัตขิ ยายความหมายของคําวา การเลน ในพระราชบญั ญตั กิ ารพนนั ใหห มายความรวมตลอดถงึ การเขา เลน เสย่ี งโชคซงึ่ ตอ งใชไ หวพรบิ และฝมือมาพนันเอาทรัพยสินกัน จะโดยชอบหรือมิชอบดวยกฎหมายก็ได เชน การเลนพนัน ไพป อก ไพผอ ง ไพนกกระจอก หรอื การท่บี คุ คล ๒ ฝายขน้ึ ไปถอื เอาเหตกุ ารณท ่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคต อันไมแนนอนมาเปนเกณฑตัดสินแพชนะวา ถาเหตุการณเกิด ฝายหน่ึงจะแพและอีกฝายหน่ึง จะชนะ ฝายแพจ ะตองเสียเงินใหฝา ยชนะตามท่ตี กลงกัน (โดยทง้ั ๒ ฝายไมม สี วนไดเสียแตอ ยางใด) เชน ใครจะเปน นายกรัฐมนตรคี นตอ ไป เปนตน ñ.ò ÊÒÃÐÊÓ¤ÞÑ ¢Í§¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¡Òþ¹¹Ñ ¾·Ø ¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷ø การพนนั มี ๒ ประเภท คือ ประเภท ก. หมายถึง การพนันซึ่งเจาพนักงานตามพระราชบัญญัติฉบับน้ี จะอนุญาตใหผูใดเลน หรือจัดใหมีการเลน หรือการพนันในการเลนไมไดเลย เวนไวแตรัฐบาลจะ ออกกฎหมายอนญุ าตโดยเฉพาะ ประเภท ข. หมายถึง การเลนจะตองไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานกอน มฉิ ะน้นั มคี วามผดิ ตามพระราชบัญญตั กิ ารพนนั การจัดใหมีรางวัลแถมพก หรือรางวัลดวยการเส่ียงโชคในการประกอบกิจการคา แมไ มใ ชการพนนั กต็ องขออนุญาตจากเจา พนกั งานตามพระราชบัญญตั ิการพนนั สลากกินแบง สลากกินรวบ และสวีป หรือการเลนอยางใดที่เสี่ยงโชค ตองขอ อนุญาตจากเจา พนักงานตามพระราชบัญญตั กิ ารพนนั เชนกัน

๓ การฝาฝนพระราชบัญญัติการพนัน มีโทษคือจําคุก ปรับและริบทรัพยสิน และ ผูนาํ จับตามพระราชบญั ญัติการพนนั มีสิทธิไดรับสนิ บนหรอื รางวลั นําจับตามกฎหมาย ò. ¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¡Ô Òþ¹Ñ¹ พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มีท้ังหมด ๑๗ มาตรา แตจะขอยกเพียงบาง มาตราที่สาํ คญั มาอธบิ าย ดงั น้ี ÁÒμÃÒ ô หา มมใิ หอ นญุ าตจดั ใหม หี รอื เขา เลน หรอื เขา พนนั ในการเลน อนั ระบไุ วใ นบญั ชี ก. ทายพระราชบัญญตั ินี้ หรือการเลนซง่ึ มีลกั ษณะคลา ยกนั หรอื การเลนอนั รา ยแรงอ่ืนใด ซึง่ รฐั มนตรี เจาหนาท่ีออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมหามไว แตเมื่อรัฐบาลพิจารณาเห็นวา ณ สถานท่ีใดสมควร จะอนญุ าตภายใตบังคับเง่อื นไขใดๆ ใหมกี ารเลนชนดิ ใด กอ็ นญุ าตไดโดยออกพระราชกฤษฎีกา การเลนอันระบุไวในบัญชี ข. ทายพระราชบัญญัตินี้หรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายกัน หรือการเลนอ่ืนใดซึ่งรัฐมนตรีเจาหนาที่ไดออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไวจะจัดใหมีขึ้นเพื่อเปนทาง นํามาซ่ึงผลประโยชนแกผูจัดโดยทางตรงหรือทางออมได ตอเม่ือรัฐมนตรีเจาหนาท่ีหรือเจาพนักงาน ผูออกใบอนุญาตเห็นสมควรและออกใบอนุญาตให หรือมีกฎกระทรวงใหจัดข้ึนไดโดยไมตองมี ใบอนญุ าต ในการเลนอันระบุไวในวรรค ๒ ขางตนน้ัน จะพนันกันไดเฉพาะเมื่อไดมีใบอนุญาตให จัดมีขนึ้ หรือมกี ฎกระทรวงอนุญาตใหจดั ขึน้ ไดโ ดยไมต องมีใบอนญุ าต การเลนหมายเลข ๕ ถึง ๑๕ ในบัญชี ข. หรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายกัน หรือการเลนอ่ืนใดซ่ึงรัฐมนตรีเจาหนาท่ีไดออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไวน้ัน จะใหรางวัลตีราคา เปนเงินไมได และหามมิใหผูใดรับรางวัลที่ใหไปแลวกลับคืนหรือรับซ้ือหรือแลกเปล่ียนรางวัลนั้น ในสถานงานหรือการเลน หรือบริเวณตอ เน่อื งในระหวางมงี าน หรอื การเลน ÁÒμÃÒ ô ·ÇÔ ในการเลน อ่ืนใดนอกจากทีก่ ลาวใน มาตรา ๔ จะพนันกันหรอื จะจัดใหม ี เพอ่ื ใหพ นนั กันไดเ ฉพาะการเลนทีร่ ะบชุ ื่อและเงือ่ นไขไวในกฎกระทรวง คาํ วา “การเลน” ในวรรคกอ น ใหหมายความรวมตลอดถึงการทายและการทาํ นายดวย ¤Ó͸ºÔ Ò การพนันที่ไมไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานแบงออกเปน ๒ ประเภทคือ การพนัน ประเภทที่กฎหมายหามมิใหมีการเลนโดยเด็ดขาด และการพนันท่ีจะเลนไดตอเม่ือไดรับอนุญาตจาก เจาพนกั งาน ๑) การพนนั ประเภททกี่ ฎหมายหา มมใิ หม กี ารเลน โดยเดด็ ขาด เวน แตเ มอ่ื รฐั บาลเหน็ วา ณ ท่ีใดสมควรจะอนุญาตภายใตบังคับเงื่อนไขใดๆ ใหมีการเลนชนิดใด ซ่ึงการอนุญาตใหมีการเลน การพนนั ประเภทน้ีตองออกเปนพระราชกฤษฎกี า

๔ ๒) การพนันที่จะเลนไดตอเม่ือไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน เปนการพนันประเภท ที่หามมิใหมีการเลน จนกวาจะไดใบอนุญาตใหจัดมีข้ึน หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตใหจัดขึ้น โดยไมตองมีใบอนุญาตคือ การเลนการพนันซึ่งระบุไวในบัญชี ข. ทายพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ หรือการเลน ซึ่งมลี กั ษณะคลา ยคลงึ กัน หรอื การเลน อืน่ ใด ซึ่งรัฐมนตรเี จา หนา ที่ ไดออกกฎกระทรวงระบุเพ่ิมเติมไว สําหรับการพนันประเภทนี้ยังมีเงื่อนไขเฉพาะตามกฎหมาย กลา วคือ ก. การเลน การพนันตามบัญชี ข. จะพนนั กันไดเ ฉพาะเม่อื ไดม ใี บอนุญาตใหม ขี ้นึ หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตใหจัดขึ้นโดยไมตองมีใบอนุญาต จะเห็นไดวาการเลนตามบัญชี ข. นั้น กฎหมายมีวัตถุประสงคจะบังคับเฉพาะผูจัดใหมีข้ึน เพื่อเปนทางนํามาซ่ึงผลประโยชนแกผูจัดจะโดย ทางตรงหรือทางออมก็ตอเมื่อไดรับอนุญาตเทาน้ัน แมวาการเลนน้ันจะมีการพนันหรือไมไมสําคัญ ถาปรากฏขอเท็จจริงวาไดรับผลประโยชนก็จะตองไดรับอนุญาตกอนจึงจะเปดใหมีการพนันได ถาไมไดรับอนุญาตถือวาเปนความผิดแลว เวนแตการเลนที่มีกฎกระทรวงอนุญาตไวเปนการเฉพาะ วาไมต องขออนญุ าต เชน การเลน บริดจ วง่ิ ววั คน ข. การเลนตามบัญชี ข. หมายเลข ๕ ถึง ๑๕ ตามบัญชี ข. คือชี้รูป โยนหวง โยนสตางค ตกเบด็ จับสลาก ยงิ เปา ปาหนาคน เตาขา มดา น หมากแกว หมากหัวแดง บิงโก เหลานี้ จะใหร างวลั ตรี าคาเปน เงนิ ไมไ ดแ ละหา มมใิ หผ ใู ดรบั รางวลั ทใ่ี หไ ปแลว กลบั คนื หรอื รบั ซอ้ื หรอื แลกเปลย่ี น รางวลั นั้นในสถานงานหรอื การเลน หรอื บริเวณตอเน่อื งในระหวา งมงี านหรอื การเลน ÁÒμÃÒ ñó “ผใู ดฝาฝน บทบญั ญตั มิ าตรา ๔ อันวา ดว ยการรับกลับคนื หรอื รบั ซ้อื หรือ แลกเปลี่ยนรางวัลน้นั มคี วามผิดตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ ๓ เดอื น หรอื ปรับไมเ กิน ๕๐๐ บาท หรอื ท้ังจําทัง้ ปรับ” ¤Ó͸ºÔ Ò ผูใดไมวาจะเปนผูจัดใหมีการเลน หรือบุคคลอื่นใดก็ตามจะรับรางวัลท่ีใหไปแลวกลับคืน หรือรับซื้อ หรือแลกเปล่ียนรางวัลท่ีไดจากการเลนตามบัญชี ข. (ดูการพนันประเภท ข. ในความผิด ตามมาตรา ๑๒) กลบั คนื ในสถานงานหรอื การเลน หรือบรเิ วณตอเน่ืองในระหวา งมงี าน หรือการเลน ไมได เชน ในงานปใหม งานกาชาด มีการออกรานเลนการพนันประเภท ข. มากมาย อาทิ การจับสลากพฤกษากาชาด การขายสลากกาชาดชิงรางวัลรถยนตญี่ปุน ปาเปา ยิงธนูเอารางวัล หากมกี ารรบั ซ้ือแลกเปลยี่ นรางวัลทีล่ กู คา ไดไ ปแลว คนื ยอมมีความผิดตามมาตราน้ี μÑÇÍ‹ҧ การหามรับซ้ือของซึ่งเลนไดจากการพนันในสถานท่ีเลนการพนันนั้น กฎหมายหาม ตลอดถงึ บุคคลท่วั ไปดวยหาไดหามเฉพาะเจาของรา นเทา นน้ั ไม (ฎ. ๑๐๘๐/๒๔๘๐) ÁÒμÃÒ õ ผูใดจัดใหมีการเลน ซ่ึงตามปกติยอมพนันเอาเงินหรือทรัพยสินอยางอ่ืน แกกัน ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูน้ันจัดใหมีขึ้นเพ่ือนํามาซึ่งผลประโยชนแหงตน และผูใดเขาเลน อยดู ว ยก็ใหสันนิษฐานไวกอนวา ผูนั้นพนันเอาเงินหรอื ทรพั ยสนิ อยา งอนื่

๕ ÁÒμÃÒ ö ผูใดอยูในวงการเลนอันขัดตอบทแหงพระราชบัญญัติน้ี หรือขัดตอ ขอความในกฎกระทรวงหรือใบอนุญาตซึ่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูน้ัน เลน ดว ย เวน แตผ ซู งึ่ เพยี งแตด กู ารเลน ในงานรนื่ เรงิ สาธารณะ หรอื งานนกั ขตั ฤกษห รอื ในทสี่ าธารณสถาน ¤Ó͸ԺÒ การเขาเลนหรือเขาพนันในการเลน หมายถึง การเขาเส่ียงภัยโดยมีสวนไดเสียนั่นเอง การพนันขันตอซ่ึงการเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนน้ี แมผูนั้นจะมิไดเขาเลนดวย หากแตกระทํา การใดอันเขาขอสันนิษฐานของกฎหมายก็ใหถือวาเปนผูเลนดวย ผูนั้นยอมมีความผิดตามกฎหมาย บญั ญัติ เวน แตจ ะนําสืบใหเ หน็ เปนอยา งอน่ื ได ขอสันนิษฐานของกฎหมายตามพระราชบัญญัติการพนัน พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ไดว างขอ สนั นิษฐานไว ๒ มาตราคือ มาตรา ๕ และมาตรา ๖ ขางตน ขอ สนั นษิ ฐานของกฎหมาย ๒ มาตรานเี้ กดิ จากการทเี่ จา หนา ทตี่ าํ รวจซง่ึ มหี นา ทร่ี กั ษาการ ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้และยังมีหนาที่รักษาการตามกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติความผิดทางอาญา ทุกประเภท บางคร้ังแมจับตัวผูตองหาไดแตหาหลักฐานฟองรองคดีไมไดเพราะเร่ืองที่จะจับได ในขณะกระทําความผิดเปนไปไดยาก นักพนันสวนใหญจะเลนในหมูพวกตน เมื่อถูกจับก็ไมมีพยาน ฝายเจาหนาท่ี คงมีแตต ัวผตู อ งหา สว นของกลางก็เปนของซ่งึ ไมใ ชของทม่ี ีไวเ ปน ความผิด หากจบั มา ไดแลวขาดพยานหลักฐานกไ็ มอาจเอาผิดแกต ัวนกั การพนนั เหลา นนั้ ได ฉะนัน้ จึงจาํ ตองมีบทบญั ญตั ิ ท้ัง ๒ มาตราน้ีไว เพ่ือประโยชนในการปองกันและปราบปรามผูกระทําความผิด เมื่อกรณีเขา ขอสันนษิ ฐานของกฎหมายแลว ศาลยอ มลงโทษผนู นั้ ได μÇÑ ÍÂÒ‹ § ๑) ยนื อยูใ นวงการพนนั โดยยืนชิดหรือหันหนาเขาวงเลน เขา ขอ สันนิษฐานวาเลน ดว ย ๒) เพยี งแตอ ยใู นหองเลนการพนนั ไมเขา ขอสันนิษฐานวา เลนดวย ๓) สําหรับผูจัดใหมีการเลนพนัน จะลงโทษฐานเปนผูจัดใหมีการเลนไดจะตองได ความวาจาํ เลยเกย่ี วขอ งในการเลนพนนั นน้ั ในฐานะเปน ผจู ดั ใหม กี ารเลน ขึ้น และอยา งไรเปนความผิด ตามขอ น้ี โปรดพิจารณาจากตัวอยา งตอ ไปนี้ - ผดู ูตน ทางมฐี านะเปน ผูจัดใหมีการเลน ดว ย - จัดใหมีการเลนการพนันแลวไมมีความผิดฐานเปนผูสนับสนุนตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ อกี - การจัดใหมีการเลนการพนันหลายวงในสถานท่ีเดียวกันและวาระเดียวกัน เปนความผิดกรรมเดยี ว - เจาของบานรูเห็นเปนใจในการเลนการพนันโดยเรียกเก็บคาตง ผิดตาม มาตรา ๑๒ ดวย

๖ ÁÒμÃÒ ÷ ใบอนุญาตทุกฉบับตองกาํ หนด (๑) ลกั ษณะขอ จํากัดและเงอ่ื นไขของการเลนพนันโดยชดั แจง (๒) สถานท่ี วัน เดือน ป และกําหนดเวลาท่ีอนุญาตใหเลน ถาเปนใบอนุญาต สลากกนิ แบง สลากกนิ รวบ และสวปี ใหร ะบจุ าํ นวนสลากทจี่ ะขายกบั สถานที่ วนั และเวลาทจ่ี ะออกดว ย (๓) จาํ นวนบคุ คลผจู ะเขา เลน มกี าํ หนดหรอื ไมแ ละไมใ หบ คุ คลอายตุ าํ่ กวา ๒๐ ปบ รบิ รู ณ หรอื ไมบ รรลุนิตภิ าวะเขา เลน ดว ย เวน แตการเลน ตามบญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ ÁÒμÃÒ ø การจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเส่ียงโชคโดยวิธีใดๆ ในการ ประกอบกจิ การคาหรอื อาชีพ จะตอ งไดรับอนญุ าตจากเจาพนกั งานผูออกใบอนญุ าตกอนจงึ ทําได ÁÒμÃÒ ñô “ผูใดฝาฝนบทบัญญัติมาตรา ๘ มีความผิดตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑ ป หรอื ปรับตั้งแต ๕๐ บาทข้ึนไปจนถงึ ๒,๐๐๐ บาท หรือทง้ั จําทัง้ ปรับ” ¤Ó͸ԺÒ การจัดแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคโดยวิธีการใดๆ ทางการคา ตองไดรับ อนุญาตจากเจาพนักงานกอนจึงจะทําได หากทําไปโดยไมไดรับอนุญาตยอมมีความผิดท่ีกฎหมาย บญั ญัติมาตรานข้ี ้นึ มจี ุดมงุ หมาย ๒ ประการ คอื ๑) การจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคดวยวิธีใดๆ ในการประกอบ กิจการคาหรืออาชีพนี้ ปกติผูเลนก็ซ้ือสินคาอยูแลว มีโอกาสไดเส่ียงโชคโดยไมตองเสียอะไรเพิ่มเติม อีกเลย ถาพิจารณาโดยเครงครัดก็ไมถือวาเปนการเลนการพนัน เปนทางออกของผูจัดใหมีการเลน อาจจะจัดใหมีการเลนเส่ยี งโชคทีก่ ฎหมายหา มเด็ดขาดคอื การเลนตามบญั ชี ก. ได ๒) เพ่ือเปดทางใหเจาหนาที่ควบคุมการจัดใหมีการเลนแถมพกหรือรางวัลดวยการ เส่ียงโชค โดยวิธีใดๆ น้ีจัดใหมีการเลนอยูในขอบเขตแหงความยุติธรรม ไมเปนการเอาเปรียบ หวังหลอกลวงประชาชนจนเกินไป และการจดั น้ีเจาหนา ทส่ี ามารถควบคมุ ไดดว ย อยางไรจึงจะถือวาเปนการจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคท่ีมีความผิด ซง่ึ ผูซ้ือ อาจไดหรอื ไมไ ดข องแถมหรอื รางวลั μÑÇÍÂÒ‹ § ๑) ขายของทสี่ อดธนบตั รไวข า งใน (บางหอ ) ในราคาสงู กวา ทอ งตลาด (ฎ. ๑๕๒/๒๔๙๓) ๒) ขายของโดยแถมรูปภาพ หากผูซื้อสะสมรูปภาพไดครบจํานวนท่ีกําหนดจะนําไป แลกของมีคา ได (ฎ. ๔๕๓/๒๔๘๓) ๓) ขายของโดยแถมบตั รสมนาคุณ ซึ่งมตี ัวเลขเหมอื นสลากกินแบงรฐั บาล หากใครได บัตรตรงกบั เลขรางวลั สลากกนิ แบงทอ่ี อกจะไดร างวัล (ฎ. ๗๓๓/๒๔๙๘) แตถาผูซื้อทุกคนมีสิทธิไดเหมือนกันหมดโดยไมตองเส่ียงโชค หรือเปนการใหเปลา โดยไมตองซื้อยอมไมเปนความผิด เชน แจกบัตรแกทุกคนท่ีเขารานสําหรับทายสลากกินแบง ผทู ายถกู จะไดรางวลั โดยไมจํากดั วาตอ งซ้ือสนิ คา หรือไมย อมไมมคี วามผดิ (ฎ. ๑๔๙๓/๒๔๗๙)

๗ ÁÒμÃÒ ù สลากกนิ แบง สลากกินรวบ และสวีป หรือการเลน อยา งใดทเ่ี สยี่ งโชคใหเ งนิ หรือประโยชนอยางอ่ืนแกผูเลนคนหน่ึงคนใดนั้น ตองสงสลากใหเจาพนักงานผูออกใบอนุญาต ประทบั ตราเสยี กอ น จงึ นําออกจําหนา ยได ถายังมิไดรับอนุญาตใหมีการเลนที่กลาวไวในวรรคกอน หามมิใหประกาศโฆษณา หรอื ชกั ชวน โดยทางตรงหรือทางออ มใหบุคคลใดๆ เขารวมในการเลนนัน้ ÁÒμÃÒ ù ·ÇÔ หา มมใิ หผ ใู ดเสนอขายหรอื ขายสลากกนิ แบง ทอี่ อกจาํ หนา ยตามมาตรา ๙ และท่ยี ังมิไดออกรางวลั เกนิ ราคาทก่ี าํ หนดในสลาก ÁÒμÃÒ ù μÃÕ ผใู ดฝาฝน มาตรา ๙ ทวิ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเกิน ๑ เดอื น หรือปรับ ไมเ กนิ หนึ่งพนั บาท หรือทงั้ จาํ ทั้งปรับ ¤Ó͸ºÔ Ò การเสนอขายหรอื ขายสลากกนิ แบง ทอ่ี อกจาํ หนา ยตามมาตรา ๙ หมายถงึ การเสนอขาย สลากกินแบง สลากกินรวบและสวีป หรือการเลนอยางใดท่ีเส่ียงโชคดวยการใหเงินหรือประโยชน อยางอื่นแกผูเลน เชน สลากกาชาดของกรมอัยการหรือจังหวัด สลากคุมเกลา เปนตน การขาย สลากเหลาน้ีจะตองไดรับอนุญาตจากพนักงานเจาหนาที่กอน และการอนุญาตนั้น เจาพนักงาน จะประทับตราอนุญาตลงในสลากนั้นๆ หรือประทับตราอนุญาตลงที่ตนขั้วสลาก และถายังไมไดรับ อนุญาตดังกลาวกฎหมายหามมิใหมีการประกาศโฆษณาหรือชักชวนไมวาจะโดยทางตรง หรอื ทางออ มใหบคุ คลใดๆ เขารวมในการเลน ดวย สวนการขายสลากกินแบงเกินราคานั้น จะตองเปนกรณีท่ีสลากกินแบงน้ันยังมิไดออก รางวัลจะเปนความผิดฐานน้ี เชน ขายสลากกินแบงรัฐบาลที่ยังไมออกรางวัลใบละ ๒๐ บาท ไปใน ราคา ๒๒ บาท เปน ตน ถา สลากออกรางวลั แลว ไมว า จะถกู รางวลั หรอื ไม หากขายไปเกนิ ราคาทกี่ าํ หนด มากนอยเทาใดยอ มไมเ ปน ความผดิ อกี ÁÒμÃÒ ñð ทรัพยสินพนันกันซ่ึงจับไดในวงการเลนอันขัดตอบทแหงพระราชบัญญัตินี้ หรือขัดตอขอความในกฎกระทรวง หรือใบอนุญาตซ่ึงออกตามพระราชบัญญัติน้ีใหริบเสียท้ังส้ิน เวนแตทรพั ยสนิ ซ่ึงมไิ ดเอาออกพนัน เครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ นการเลนน้นั ใหศาลมอี าํ นาจริบไดต ามกฎหมายลกั ษณะอาญา ¤Ó͸ºÔ Ò ทรพั ยส นิ ทจ่ี บั ไดใ นวงการเลน ซง่ึ เปน ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ี กฎหมายบงั คบั ไววาใหริบเสียทรพั ยสนิ ดังกลา ว แยกพจิ ารณาไดดงั นีค้ ือ ๑) ทรัพยสินพนัน หากจับไดในวงการเลนยอมเปนทรัพยสินที่ตองริบเสียท้ังสิ้น โดยเด็ดขาด เชน เงินทอง ขาวของที่ใชเปนทรัพยสินพนัน แตถาทรัพยสินน้ันมิไดเอาออกพนัน หากจับไดท ี่ตวั ผูตอ งหาในภายหลงั ยอมริบไมได

๘ ๒) เครอื่ งมอื ท่ีใชใ นการเลนพนนั อยูในดลุ พนิ จิ ของศาลทีจ่ ะริบหรอื ไม อาทเิ ชน - เส่ือและตะเกียงเปนของใชธรรมดา ไมมีสภาพเปนเคร่ืองมือเครื่องใชในการเลน จะรบิ ไมได - โทรทัศนที่ผูดูใชทาพนันผลการแขงขันชกมวยไมใชเครื่องมือเคร่ืองใชในการเลน พนันชกมวย จะริบไมไ ด - เสื่อที่ใชปูรองการเลนพนัน เปนเครื่องมือเครื่องใชในการกระทําผิดในการเลน การพนัน ถือไดวาเปนทรัพยที่ใชในการกระทําผิด ศาลริบไดในฐานะท่ีใชเปน เคร่ืองมอื ท่ีใชในการเลน - โตะบิลเลียดไฟฟา ริบเปนอุปกรณใชในการเลนพนัน สล็อตแมชชีนที่จับไดใน วงพนัน ศาลรบิ ได การกระทาํ ความผดิ ฐานน้แี มไมม เี จตนาก็เปนความผดิ ó. º·¡Ó˹´â·É การกระทาํ ความผดิ ฐานนต้ี อ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ ๑ เดอื น หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจําท้งั ปรับ ÁÒμÃÒ ñò “ผูใดจัดใหมีการเลน หรือทําอุบายลอชวยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยตรงหรือออมใหผูอ่ืนเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนซ่ึงมิไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน หรือรับ อนุญาตแลวแตเลนพลิกแพลง หรือผูใดเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนอันขัดตอบทแหงพระราช บญั ญัตินีห้ รอื กฎกระทรวง หรอื ขอ ความในใบอนุญาต ผนู น้ั มีความผดิ ดงั ตอ ไปนี้ ๑. ถาเปนความผดิ ในการเลน ตามบัญชี ก. หมายเลข ๑ ถึงหมายเลข ๑๖ หรอื การเลน ตามบัญชี ข. หมายเลข ๑๖ เฉพาะสลากกนิ รวบ หรอื การเลน ซ่งึ มีลกั ษณะคลายกันน้ี ตอ งระวางโทษ จาํ คุกต้งั แต ๓ เดอื นขน้ึ ไป จนถงึ ๓ ป และปรับต้ังแต ๕๐๐ บาทขนึ้ ไปจนถึง ๕,๐๐๐ บาท ดว ยอกี โสดหนงึ่ เวน แตผ เู ขา เลน หรอื เขา พนนั ทเ่ี รยี กวา ลกู คา ใหจ าํ คกุ ไมเ กนิ ๓ ป หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๕,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ๒. ถาเปนความผิดในการเลนอื่นใดตามพระราชบัญญัตินี้ ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๒ ป หรอื ปรบั ไมเ กิน ๒,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรบั เวน แตค วามผดิ ตามมาตรา ๔ ทวิ ตอ งระวางโทษ จาํ คุกไมเกิน ๑ ป หรอื ปรบั ไมเกนิ ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจําท้ังปรับ ¤Ó͸ºÔ Ò การจัดใหผูอื่นเขาเลนการพนัน หรือพนันในการเลน หมายถึง การเปนหัวหนาหรือ ผนู ําในการเลนทีเ่ รียกกันท่ัวๆ ไปวาหัวหนาบอ นการพนนั หรอื นายวงการพนัน หรอื เจา มือ การทําอุบายลอใหผูอ่ืนเขาเลนการพนันหรือพนันในการเลน ไดแก การใชอุบายดวย วิธีใดๆ ก็ไดเพ่ือชักชวนใหผูอ่ืนเขาเลนการพนันดวย พวกทําอุบายลอน้ีรูจักกันดี ในช่ือวา หนามา

๙ เชน ก. จัดใหมีการเลนการพนัน ข. ตองการชวย ก. หาลูกคาในการเลนการพนัน จึงทําอุบายเปน ลูกคาเลนการพนันกับ ก. เปนทํานองวาการเลนนั้นมีโอกาสจะไดมากกวาเสีย เพ่ือใหนาย ค. กับ นาย ง. ซ่ึงผานไปมาเขาเลนดวย ที่พบเห็นกันทั่วไป เชน การเลนพนันไพสามใบบนรถประจําทาง มักจะมีหนามาทําอุบายชักชวนเสมอ และการเลนลูกเตา ไฮโล ก็มักจะมีผูกระทําตนเปนหนามา หรือนกตอแกลง ทาํ เปน ชนะการพนนั โดยรูก ันกบั เจามือเพ่อื หลอกใหล ูกคา หลงเชอื่ เขา พนันดว ย การชว ยประกาศโฆษณาหรอื ชกั ชวนโดยทางตรงทางออ ม กม็ ที าํ นองเดยี วกนั กบั ทาํ อบุ าย ดงั กลาวมาแลว ÁÒμÃÒ ñõ นอกจากโทษทม่ี บี ญั ญตั ไิ วแ ลว ในพระราชบญั ญตั นิ ้ี ถา เปน กรณที ม่ี ผี นู าํ จบั ผูกระทําผิด ใหพนักงานอัยการรองขอตอศาลใหจายสินบนแกผูนําจับดวย และใหศาลส่ังไวใน คําพิพากษาใหผูกระทําผิดใชเงินสินบนแกผูนําจับก่ึงหน่ึงของจํานวนเงินคาปรับดวยอีกโสดหน่ึง ถา ผกู ระทาํ ผดิ ไมช าํ ระสนิ บนดงั กลา วใหจ า ยจากเงนิ ทไี่ ดจ ากของกลางซงึ่ ศาลสง่ั รบิ เมอ่ื คดถี งึ ทส่ี ดุ แลว หรอื จา ยจากเงนิ คาปรับทไ่ี ดช าํ ระตอศาล ®Õ¡Ò·Õ¹è Ò‹ ʹ㨠®¡Õ Ò·Õè õõ/òõñð ในคดีท่ีเจาพนักงานตํารวจซ่ึงเปนพยานโจทกเบิกความวา ผูประสงคเงินสินบนนําจับมาแจงวา ที่บานจําเลยลักลอบเลนการพนัน ไดระบุถึงผูเลนและเลนอยู ตรงสวนไหนของบาน ผูแจงบอกใหเขาทางหลังบาน เจาพนักงานตํารวจอีกผูหน่ึงก็ไดสอบถามผูมา แจง ตามขอ เท็จจริง เชนน้ี ถือไดวาผูที่มาแจงนัน้ เปน ผนู ําจบั ตามความใน พ.ร.บ.การพนนั แลว ®Õ¡Ò·èÕ ó÷ø/òõñö ศาลชนั้ ตน พพิ ากษาลงโทษจาํ เลยฐานเปน ผจู ดั ใหม กี ารเลน พนนั โดยเปนเจา มือ จําคกุ ๔ เดือน และปรับ ๖๐๐ บาท ศาลอุทธรณฟ ง วา จาํ เลยเปนผูเ ขา เลนในฐานะ ลูกคาเทาน้ัน พิพากษาแก ลงโทษปรับสถานเดียว ๖๐๐ บาท ดังน้ี แมจะเปนการแกไขมากก็อยูใน บงั คับแหงมาตรา ๒๒๐ ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา ฎีกาในปญ หาขอเท็จจรงิ ไมได ®¡Õ Ò·Õè ñòóø/òõñ÷ เส่ือ แมโดยสภาพจะใชรองน่ังนอนก็ดี แตเมื่อจําเลยไดใช ปูรองเลนการพนัน ก็เปนเครื่องมือที่ใชในการกระทําผิดในวงเลนการพนัน ถือไดวาเปนทรัพยท่ีไดใช เปนเคร่ืองมือประกอบในการกระทําผิด ศาลยอมมีอํานาจริบได ตาม พ.ร.บ.การพนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๑๐ ประกอบกับ ป.อ.มาตรา ๓๓(๑) ®Õ¡Ò·èÕ òöôö/òõòñ การที่ผูดูโทรทัศนทาพนันผลของการแขงขันชกมวย หาได ทําใหเคร่ืองรับโทรทัศนเปนเครื่องมือเครื่องใชในการเลนการพนันการชกมวยตามความหมายแหง พระราชบัญญตั ิการพนันโดยแทจริงไม จึงไมร บิ เครือ่ งรับโทรทัศนข องกลาง ®Õ¡Ò·Õè ñøõù/òõò÷ ผูรองเปนเจาของรานคา ในวันเสารวันอาทิตยจะยก เคร่ืองรับโทรทัศนของกลางจากชั้นบนลงมาเปดบริการลูกคาที่ช้ันลาง เพ่ือใหลูกคาดูรายการมวย จะฟงวาเพ่ือสนับสนุนใหจําเลยเลนการพนันกันหาไดไม ผูที่ดูมวยโดยไมเลนการพนันมีอยูไมนอย โทรทศั นข องกลางจงึ ไมเ ปน เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ นการทา พนนั ผลการแขง ขนั การชกมวย ตอ งคนื แกผ รู อ ง

๑๐ ®¡Õ Ò·Õè òù/òõóñ เครื่องรับโทรทัศนซึ่งใชในการถายทอดรายการมวยท่ีจําเลยท่ี ๑ จัดใหจําเลยอ่ืนเลนการพนันนั้น มิใชอุปกรณที่มีสภาพหรือลักษณะที่ใชในการเลนการพนัน ดังน้ัน การที่มีผูตกลงใชรายการใดรายการหนึ่งในการเผยแพรภาพทางเครื่องรับโทรทัศนมาใชเส่ียงทาย หรือเปนเง่ือนไขในการเลนการพนัน จึงไมทําใหเครื่องรับโทรทัศนเปนเคร่ืองมือเคร่ืองใชในการเลน การพนันไปดวย ®¡Õ Ò·èÕ ñðòø/òõóñ ขณะเลนการพนันบิลเลียดเพ่ือความรื่นเริงในสมาคมท่ีสมาคม ผูรองซ่ึงมีโตะบิลเลียดทั้งหมด ๕ โตะเรียกเก็บคาเกมตามสมควร ยอมอยูในบังคับของกฎกระทรวง ทใ่ี หจ ดั ขนึ้ ไดโ ดยไมต อ งมใี บอนญุ าตอนั สามารถเลน การพนนั กนั ได ตามบทบญั ญตั แิ หง พระราชบญั ญตั ิ การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๔ วรรคสาม โตะบิลเลียด ลูกบิลเลียด และไมคิวของกลางท่ีผูรอง ขอคืน จึงไมเปนเคร่ืองมือที่ใชในการเลนการพนัน โดยขัดตอบทแหงพระราชบัญญัติดังกลาว ซง่ึ มาตรา ๑๐ วรรคสอง บัญญัติใหศาลมอี าํ นาจรบิ ได ®Õ¡Ò·Õè øõò/òõóò จําเลยสั่งจายเช็คพิพาทใหโจทกเพื่อชําระหน้ีการเลนพนัน สลากกนิ รวบเปนหนท้ี ไ่ี มส มบรู ณ ฟอ งบังคับไมไ ด ®¡Õ Ò·èÕ ó÷ó÷/òõóò คาํ ฟอ งของโจทกท บ่ี รรยายวา จาํ เลยทงั้ หมดกบั พวกไดร ว มกนั เลนการพนันปอกแปดเกาหรือการเลนซึ่งมีลักษณะคลายปอก มีวิธีการเลนซึ่งดัดแปลงมาจาก การเลนแปดเกา อันระบไุ วใ นบัญชี ก. อันดบั ท่ี ๕ และการเลน ปอกอนั ระบุไวใ นบัญชี ก. อันดับท่ี ๑๑ ยอมเปนท่ีเขาใจไดแลววา จําเลยทั้งหมดกับพวกเขาพนันในการเลนอยางเดียว โดยมีวิธีการเลน ทพ่ี ลกิ แพลงนาํ เอาการเลน แปดเกา กบั การเลน ปอ กเขา มารวมกนั แลว เรยี กชอื่ ใหมว า ปอ กแปดเกา จาํ เลย ใหการรับสารภาพตลอดขอหา แสดงวาเขาใจในวิธีการเลนการพนันตามที่โจทกกลาวในฟองแลว เปนอยางดี คาํ ฟอ งของโจทกกไ็ มเ คลือบคลุม ®Õ¡Ò·èÕ ø÷ô/òõòò จําเลยที่ ๑ เปนเจามือผูจัดใหมีการเลนการพนันสลากกินรวบ ซึ่งเปนการพนันที่มอมเมาประชาชน เปนอบายมุขที่กอใหเกิดความเสียหายแกเศรษฐกิจของชาติ บานเมือง ของกลางที่ยึดไดเปนเงินสด ๑,๖๕๐ บาท และใบโพย ๑๓ แผน คิดเปนจํานวนเงินถึง ๒๐,๐๐๐ บาทเศษ แสดงวาจาํ เลยที่ ๑ เปน เจา มือรายใหญ ศาลยอมไมร อการลงโทษจาํ เลย ®Õ¡Ò·Õè ñóù/òõóó ฟองวา จําเลยบังอาจจัดใหมีการเลนเครื่องเลนไฟฟาจักรกล (วี.ดี.โอ.เกม) อนั เปน การพนนั ตามทร่ี ะบไุ วใ นบญั ชี ข. ลําดับที่ ๒๘ ทาย พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ โดยจาํ เลยเกบ็ เงินจากผเู ขา เลน ในอตั ราชวั่ โมงละ ๑๐ บาท อนั เปนทางนํามาซ่ึงผลประโยชนแ กจําเลย ผจู ดั โดยมไิ ดร บั อนญุ าตจากเจา พนกั งาน ดงั นฟ้ี อ งของโจทกไ ดบ รรยายถงึ การกระทาํ ทงั้ หลายทอ่ี า งวา จําเลยไดกระทําผิด อีกท้ังบุคคลและสิ่งของที่เก่ียวของพอสมควรที่จะใหจําเลยเขาใจขอหาไดดีแลว ฟอ งโจทกจ ึงสมบรู ณชอบดว ย ป.ว.ิ อ. มาตรา ๑๕๘(๕) แลว เม่ือจําเลยเปนผูจัดใหมีการเลนเครื่องเลนไฟฟาจักรกล (วี.ดี.โอ.เกม) อันเปนการพนัน ตามที่ระบุไวในบัญชี ข. ลําดับท่ี ๒๘ เพื่อนํามาซ่ึงผลประโยชนแกจําเลยโดยไมไดรับอนุญาตจาก

๑๑ เจาพนักงานจําเลยยอมมีความผิดตามที่โจทกฟอง โดยไมจําตองบรรยายฟองใหปรากฏวาผูเลน จะไดเลนพนันเอาทรัพยสินกันหรือไม เพราะแมผูเลนจะไมไดเลนพนันเอาทรัพยสินกัน การกระทํา ของจาํ เลยก็เปนความผดิ ®¡Õ Ò·èÕ òðôù/òõóó การพนันสลากกินรวบเปนสิ่งท่ีมอมเมาประชาชน และเปน อบายมุขท่ีกอใหเกิดความเสียหายแกเศรษฐกิจของชาติบานเมือง สมควรแกการกําราบปราบปราม มิใหมีการเลนอีกตอไป เจาพนักงานจับจําเลยได พรอมดวยสมุดจดหมายเลขสลากกินรวบ ๒ เลม แตละเลมจดรายการเลนการพนันดังกลาวหลายรายการ ถือไมไดวาจําเลยเปนผูเลนรายยอย จึงยัง ไมสมควรที่จะรอการลงโทษจําคุกจําเลย เมื่อศาลไมไดลงโทษปรับจําเลย จึงไมอาจสั่งใหจําเลย จายสินบนนําจบั ได

๑๒ ºÞÑ ªÕ ¡. ๑. หวย ก. ข. ๑๗. การเลน ซงึ่ มกี ารทรมานสตั วเชน เอามอื หรอื ๒. โปปน หนามผูกหรือวางยาเบื่อยาเมาใหสัตวชน ๓. โปกํา หรือตอสูกัน หรือสุมไฟบนหลังเตาใหว่ิง ๔. ถั่ว แขงขันหรือการเลนอ่ืนๆ ซ่ึงเปนการ ๕. แปดเกา ทรมานสัตว อันมีลักษณะคลายกับท่ีวา ๖. จับยก่ี ี มานี้ ๗. ตอ แตม ๘. เบี้ยโบก หรอื คคู ี่ หรอื อโี จง ๑๘. บลิ เลยี ดรู ตีผี ๙. ไพส ามใบ ๑๙. โยนจม่ิ ๑๐. ไมส ามอัน ๒๐. สเ่ี หงาลัก ๑๑. ชางงา หรอื ปอ ก ๒๑. ขลุกขลกิ ๑๒. ไมด ํา ไมแ ดง หรอื ปลาดาํ ปลาแดง หรือ ๒๒. นํา้ เตาทุกๆ อยาง ๒๓. ไฮโล อีดาํ อีแดง ๒๔. อกี อย ๑๓. อโี ปงครอบ ๒๕. ปนแปะ ๑๔. กําตดั ๒๖. อโี ปงซดั ๑๕. ไมหมุน หรอื ลอหมุนทกุ ๆ อยา ง ๒๗. บาการา ๑๖. หวั โตทายภาพ ๒๘. สลอ็ ตแมชชีน

๑๓ ºÑÞªÕ ¢. ๑. การเลนตา งๆ ซ่งึ ใหสัตวตอ สูหรอื แขง ขัน ๑๗. โตแตไลเซเตอร สําหรับการเลนอยางใด เชน ชนโค ชนไก กัดปลา แขงมา ฯลฯ อยางหนง่ึ นอกจากท่กี ลา วไวใ นหมายเลข ๑๗ แหง บญั ชี ก. ๑๘. สวีป สาํ หรบั การเลนอยางใดอยา งหนึ่ง ๑๙. บกุ เมกงิ สาํ หรบั การเลน อยา งใดอยา งหนงึ่ ๒. วง่ิ วัวคน ๒๐. ขายสลากกินแบง สลากกินรวบหรือสวีป ๓. ชกมวย มวยปล้ํา ๔. แขง เรือพุง แขง เรือลอ ซ่ึงไมใชออกในประเทศไทย แตไดจัดใหมี ๕. ช้ีรูป ข้ึนโดยชอบดวยกฎหมายของประเทศที่ ๖. โยนหว ง จัดนนั้ ๗. โยนสตางคห รอื วัตถใุ ดๆ ลงในภาชนะ ๒๑. ไพนกกระจอก ไพตอ แตม ไพตางๆ ๒๒. ดวด ตางๆ ๒๓. บิลเลียด ๘. ตกเบ็ด ๒๔. ของออ ย ๙. จบั สลากโดยวิธใี ดๆ ๒๕. สะบา ทอย ๑๐. ยิงเปา ๒๖. สะบาชุด ๑๑. ปาหนาคน ปาสตั ว หรอื ส่ิงใดๆ ๒๗. ฟุตบอลโตะ ๑๒. เตา ขามดา น ๒๘. เครื่องเลนซ่ึงใชเคร่ืองกล พลังไฟฟา ๑๓. หมากแกว พลังแสงสวาง หรือพลังอ่ืนใดท่ีใชเลน ๑๔. หมากหัวแดง โดยวธิ สี มั ผสั เลอ่ื น กด ดดี ดงึ ดนั ยงิ โยน ๑๕. บงิ โก โยก หมุน หรือวิธีอ่ืนใดซ่ึงสามารถทําให ๑๖. สลากกนิ แบง สลากกนิ รวบ หรอื การเลน แพชนะกันได ไมวาจะโดยมีการนับแตม หรอื เครอ่ื งหมายใดๆ หรือไมก ็ตาม อยางใดท่ีเสี่ยงโชคใหเงินหรือประโยชน อยา งอื่น แกผ เู ลน คนใดคนหนึง่

๑๔ ¤Ó¢Í͹ØÞÒμ¨Ñ´ãËÁŒ Õ¡ÒÃàŹ‹ ¡Òþ¹Ñ¹ เขยี นท่ี.......................................... วันที.่ ............เดอื น...............................พ.ศ................. ขา พเจา ..............................................................อาย.ุ ...............ป สญั ชาต.ิ ...................... บา นเลขท.ี่ ..................หมทู .่ี ........ตาํ บล.......................อาํ เภอ........................จงั หวดั ......................... ย่ืนคาํ ขอตอ เจา พนกั งานผูออกใบอนุญาต....................................................................................... ดว ยขา พเจา มคี วามประสงคข อรบั ใบอนญุ าตจดั ใหม กี ารเลน การพนนั ............................ จาํ นวน...................มกี าํ หนด..................ณ ทหี่ รอื บา นเลขท.่ี ............................หมทู .ี่ ....................... ตาํ บล.......................................อาํ เภอ.......................................จงั หวัด......................................... ขาพเจาจะปฏิบัติตามกฎหมายวาดวยการพนันกับลักษณะขอจํากัด และเงื่อนไขของ การเลนการพนนั ดังระบุไวหลังใบอนญุ าต ลายมือช่อื .........................................ผูร องขอ ลายมือชื่อ.........................................ผเู ขียน

๑๕ รับคาํ ขอวันท่.ี ............/............../.............. ลายมือชื่อ........................................................ผูรบั คาํ ขอ ตําแหนง ................................................. คาํ ส่ัง.................................................... ลายมือช่ือ........................................................ชอ่ื เจา พนกั งานผอู อกใบอนญุ าต วันท.ี่ ............./............../.............. ตาํ แหนง.......................................... กรณีการอนญุ าตตอ งไดรับอนุมัติจากผูบ ัญชาการตํารวจนครบาล ผวู า ราชการจังหวดั หรือกระทรวงมหาดไทย ๑. เสนอ................................................................................................................. .......................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ลายมือชือ่ ........................................................เจา พนกั งานออกใบอนุญาต วันท่.ี ............./............../.............. ตาํ แหนง .......................................... ๒. เสนอ................................................................................................................ .......................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ลายมอื ชอ่ื ............................................ วนั ที่............../............../.............. ตําแหนง......................................... ๓. คาํ สงั่ .................................................................................................................. ...................................................................................................................................................... ลายมือช่อื ..............................................ผสู ั่ง วันท.ี่ ................/................./.................. ตาํ แหนง .................................................

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇÒ‹ ´ÇŒ ¡Òþ¹¹Ñ ๑๖ ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๑. (๑) ผจู ดั ใหมกี ารเลน โดยไมไดรับอนญุ าต ๑.๑ บญั ชี ก. หมายเลข ๑-๑๖ มาตรา ๑๒(๑) - จําคุกตั้งแต ๓ เดือนข้ึนไป จนถึง (๒) ผูทําอุบายลอ ชวยประกาศโฆษณา หรือ บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ ๓ ป และปรับต้ังแต ๕๐๐ บาท ชกั ชวนโดยตรง หรอื โดยออ มใหผ อู นื่ เขา เลน (เฉพาะสลากกนิ รวบ) ข้นึ ไป จนถึง ๕,๐๐๐ บาท หรือเขาพนันในการเลนทีไ่ มไดร ับอนุญาต หรอื การเลน ซง่ึ มลี กั ษณะคลา ยกนั (๓) ผูไดรบั อนญุ าตแลวแตเ ลน พลกิ แพลง ๑.๒ การเลนอ่นื ใดใน มาตรา ๑๒(๒) - จําคุกไมเกิน ๒ ป หรอื ปรับไมเกนิ บญั ชี ก. นอกจากหมายเลข ๑-๑๖ ๒,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จาํ ทัง้ ปรบั บัญชี ข. นอกจากหมายเลข ๑๖ หรอื การเลน ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั ยกเวน การเลนในขอ ๑.๓ ๑.๓ การเลนอื่นใดนอกจากการเลน มาตรา ๑๒(๒) - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑ ป หรือปรบั ไมเ กนิ ในบัญชี ๑,๐๐๐ บาท หรอื ทง้ั จาํ ทง้ั ปรบั ก. และบัญชี ข. ที่มิไดระบุช่ือ และเงอื่ นไขไวใ นกฎกระทรวง (มาตรา ๔ ทว)ิ ๒. ผเู ขาเลน หรอื เขาพนนั ทีเ่ รียกวา “ลกู คา ” บญั ชี ก. หมายเลข ๑-๑๖ มาตรา ๑๒(๑) - จาํ คกุ ไมเกิน ๓ ป หรอื ปรับไมเกิน บญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ ๕,๐๐๐ บาท หรือทงั้ จําทั้งปรับ (เฉพาะสลากกินรวบ) หรอื การเลน ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั

¤ÇÒÁ¼Ô´μÒÁ¡®ËÁÒÂÇÒ‹ ´ÇŒ ¡Òþ¹Ñ¹ ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๓. ผูเขาเลน หรอื เขา พนนั ในการเลน ที่ขัดตอ ๓.๑ การเลนอน่ื ใดใน มาตรา ๑๒(๒) - จาํ คุกไมเ กนิ ๒ ป หรือปรบั ไมเ กนิ - บทบญั ญตั ิแหง พระราชบัญญตั นิ ้ี หรือ บญั ชี ก. นอกจากหมายเลข ๑-๑๖ ๒,๐๐๐ บาท หรือท้ังจําทงั้ ปรับ - กฎกระทรวง หรือ บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ (เฉพาะ - ขอความในใบอนญุ าต สลากกินรวบ) หรือการเลนซึ่งมี - จําคกุ ไมเ กิน ๒ ป หรอื ปรับไมเกนิ ลกั ษณะคลายกัน ยกเวน การเลน ๑,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จาํ ทงั้ ปรบั ในขอ ๓.๒ ๓.๒ การเลนอ่ืนใดนอกจากการเลน มาตรา ๑๒(๒) บญั ชี ก. และบัญชี ข. ที่มีไดร ะบุ ช่ือและเง่ือนไขไวในกฎกระทรวง (มาตรา ๔ ทวิ) ๔. ผูฝา ฝน มาตรา ๔ วรรคสี่ โดย บญั ชี ข. หมายเลข ๕-๑๕ หรอื การเลน มาตรา ๔ วรรคสี่ - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๓เดอื นหรอื ปรบั ไมเ กนิ (๑) ใหร างวลั ตีราคาเปน เงิน หรือ ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั หรอื การเลน อนื่ ใด และมาตรา ๑๓ ๕๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรบั (๒) รับกลบั คนื รางวัล หรือ ซ่ึงรัฐมนตรีฯ ไดออกกฎกระทรวงระบุ (๓) รบั ซ้ือรางวัล หรอื เพิม่ เตมิ ไว (๔) แลกเปลี่ยนรางวัล ในสถานงาน หรอื การเลน หรอื บรเิ วณตอ เนอ่ื ง ในระหวางมีงาน หรอื การเลน ๕. ผเู สนอขาย หรอื ขายสลากกนิ แบง ทยี่ งั มไิ ดอ อก บญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ สลากกนิ แบง มาตรา ๙ ทวิ - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑เดอื นหรอื ปรบั ไมเ กนิ รางวัลเกินกวา ราคาทีก่ าํ หนดในสลาก และมาตรา ๙ ตรี ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจาํ ท้งั ปรับ ๑๗

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇ‹Ò´ÇŒ ¡Òþ¹Ñ¹ ๑๘ ÅÓ´ºÑ ¢ÍŒ ËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍμÑ ÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๖. ผจู ดั ใหม กี ารแถมพก หรอื รางวลั ดว ยการเสย่ี งโชค แถมพก หรอื ใหร างวลั ดว ยการเสย่ี งโชค มาตรา ๘ และ - จําคุกไมเกิน ๑ ป หรือปรับต้ังแต โดยวธิ ใี ดๆในการประกอบกจิ การคา หรอื อาชพี โดยวธิ ใี ดๆ มาตรา ๑๔ ๕๐ บาท ถึง ๒,๐๐๐ บาท หรือ โดยไมไ ดร ับอนญุ าต ทง้ั จําท้งั ปรับ

๑๙ º··èÕ ò ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÍÔ ÒÇظ»¹„ à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊع»¹„ ÇμÑ ¶ØÃÐàº´Ô ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§ ÊèÔ§à·ÂÕ ÁÍÒÇظ»¹„ ¾.È.òôùð ñ. ÇÑμ¶»Ø ÃÐʧ¤¡ÒÃàÃչ̻٠ÃШӺ· ๑.๑ เพ่ือใหนักเรียนมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วตั ถุระเบดิ ดอกไมเพลงิ สิง่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผดิ ตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ สงิ่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๑.๓ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครือ่ งกระสุนปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลิง ส่งิ เทียมอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ò. ʋǹ¹Ó พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สิ่งเทียมอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ เปนกฎหมายที่มีความสําคัญ เพราะเปนกฎหมายที่ควบคุม วัตถุท่ีใชประกอบ อาชญากรรมท่ีมีความรายแรง โดยการนําเอาสิ่งเหลาน้ันเขามาสูระบบเพื่อควบคุมผูท่ีมีสิทธิที่จะถือ อาวธุ หรอื ควบคมุ ความรา ยแรงของอาวธุ ซงึ่ จะทาํ ใหร ะดบั ความรนุ แรงของอาชญากรรมทเี่ กดิ ขนึ้ ลดลง ó. à¹é×ÍËÒμÒÁËÑÇ¢ŒÍ ๓.๑ ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกบั พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเพลิง ส่ิงเทยี มอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๓.๒ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สิ่งเทียมอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๓.๓ บทกาํ หนดโทษ ô. ʋǹÊÃØ» เปนกฎหมายที่มีความสําคัญฉบับหนึ่ง เพราะเปนกฎหมายท่ีคอยควบคุมความรายแรง ของอาชญากรรม เพราะหากความรายแรงของอาวุธขางตนถูกนํามาใชในการประกอบอาชญากรรม กจ็ ะทาํ ใหเ กดิ ความสญู เสยี แกส งั คมอยา งมาก หากผบู งั คบั ใชก ฎหมายเขม งวดในการบงั คบั ใชก ฎหมายนี้ ก็เทากับไดควบคุมระดับความรุนแรงของสังคมไปในตัว ซ่ึงเปนหนาที่อันพึงปฏิบัติของพนักงาน ฝา ยปกครองหรือตํารวจ õ. ¡¨Ô ¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการจับกุมตาม พ.ร.บ.อาวุธปนฯ และนําขอมูลมาวิเคราะหอภิปราย รวมกันในชนั้ เรยี น

๒๐ ¤ÇÒÁÃÙŒ·ÑèÇä»à¡ÂèÕ Ç¡Ñº ¾.Ã.º.ÍÒÇظ»¹„ Ï โดยท่ีความผิดเก่ียวกับ พ.ร.บ.อาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปนเปนความผิดท่ีกระทบกระเทือนตอชีวิตและทรัพยสินตลอดจนความสงบ เรียบรอยของประชาชน รัฐบาลจึงใหความสนใจเปนพิเศษ จะเห็นไดจากการที่กระทรวงมหาดไทย ไดเนนถึงการปราบปรามเก่ียวกับอาวุธปน เครื่องกระสุนปน ฯลฯ ที่ใชในราชการสงครามตลอดถึง การปกปองอาชญากรรมในรูปแบบตางๆ ที่ไดใชอาวุธรายแรงเขาทําการประหัตประหารจนเกิด อันตรายตอ ชวี ติ และทรพั ยสินของประชาชน จงึ จาํ เปน ที่จะตองมกี ฎหมายดงั กลาวบัญญตั ิขนึ้ º·¹ÂÔ ÒÁ ÁÒμÃÒ ô (ñ) ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÁÒ¤ÇÒÁÃÇÁμÅÍ´¶§Ö ÍÒÇ¸Ø ·¡Ø ª¹´Ô «§èÖ ãªÊŒ §‹ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ â´ÂÇÔ¸ÕÃÐàºÔ´ËÃ×ÍกําÅѧ´Ñ¹¢Í§á¡ÊËÃ×ÍÍÑ´ÅÁËÃ×Íà¤Ã×èͧ¡Åä¡Í‹ҧ㴫èÖ§μŒÍ§ÍÒÈÑÂอํา¹Ò¨¢Í§ ¾Åѧ§Ò¹áÅÐʋǹ˹èÖ§ÊÇ‹ ¹ã´¢Í§ÍÒÇظ¹¹éÑ æ «èÖ§Ã°Ñ Á¹μÃàÕ Ë¹ç Ç‹Òสํา¤ÞÑ áÅÐä´ÃŒ кØänj㹡®¡ÃзÃǧ สวนของอาวุธปนท่ีใหถือวาเปนอาวุธปนน้ัน ไดแก สวนใดสวนหน่ึงของอาวุธปน ตามขอ ๑ แหงกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ.๒๔๙๑ ดงั น้ี ก. ลาํ กลอ ง ข. เครอ่ื งลูกเล่ือน หรอื สวนประกอบสาํ คัญของเครือ่ งลกู เล่อื น ค. เคร่อื งล่นั ไกหรอื สวนประกอบสาํ คญั ของเคร่อื งลนั่ ไก และ ง. เคร่อื งสง กระสุน ซองกระสุนหรือสวนประกอบสําคญั ของส่งิ เหลาน้ี สวนใดสวนหนึ่งที่กําหนดไวในกฎกระทรวงน้ีเปนอํานาจของรัฐมนตรีวาการกระทรวง มหาดไทย ®Õ¡Ò·èÕ ñùðó/òõòð ปนท่ีไมอาจใชยิงทําอันตรายแกชีวิตและวัตถุไดก็เปนอาวุธปน ตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปนฯ และเปนอาวธุ โดยสภาพ พาไปในเมืองเปน ความผิดตาม ม.๓๗๑ ®Õ¡Ò·èÕ ñôõù/òõòó อาวุธปนไมมีลูกโมและแกนลูกโม ไมสามารถใชยิงได เปนอาวุธโดยสภาพตาม ป.อ.ม.๑ (๕) จําเลยพาไปในทางสาธารณะโดยไมมีเหตุสมควร เปน ความผดิ ตาม ป.อ. ม.๓๗๑ และ พ.ร.บ.อาวธุ ปนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ ม.๘ ทวิ แกไขโดย ป.ร. ฉบบั ที่ ๔๔ ลงวนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ขอ ๓ ซึ่งเปนบทมโี ทษหนกั ÁÒμÃÒ ô (ò) à¤ÃèÍ× §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ หมายความรวมตลอดถึง กระสนุ โดด กระสนุ ปราย กระสนุ แตก ลกู ระเบิด ตอรป โด ทุน ระเบดิ และจรวดท้งั ชนิดทม่ี หี รอื ไมมกี รด แกส เช้ือเพลิง เชื้อโรค ไอพิษ หมอกหรอื ควนั หรือกระสนุ ระเบดิ ตอรปโด ทนุ ระเบิดและจรวด ที่มคี ณุ สมบตั คิ ลา ยคลึงกัน หรือเครอื่ งหมายสง่ิ สําหรับอดั หรอื ใชป ระกอบเครื่องกระสนุ ปน à¤ÃèÍ× §¡ÃÐÊع»¹„ ตามมาตรา ๔ (๒) หมายความดังนี้ (๑) เปนเครื่องหรือสิ่งสําหรับอัดหรือทําหรือใชประกอบเคร่ืองกระสุนปน อันไดแก ดินปนและลูกกระสุนปน และเคร่ืองจุดระเบิดของดินปน เปนสาระสําคัญของเคร่ืองกระสุนปน

๒๑ ดงั จะเหน็ ไดจ ากลกั ษณะของปน แกป ในยคุ แรกๆ จนกระทงั่ ไดพ ฒั นาเปน กระสนุ ลกู อดั เชน ขนาด .๓๘ หรือ ๑๑ มม. (๒) เครอื่ งกระสนุ ปน ยงั หมายความรวมตลอดถงึ กระสนุ โดด กระสนุ ลกู ปราย กระสนุ แตก ลูกระเบิด ตอรปโด ทุนระเบิดและจรวด ซ่ึงใชเปนเคร่ืองมือประหารหรือทําลายดวยแรงปะทะของ กระสุนปน (๓) เครื่องกระสุนปนดงั กลาวในขอ (๒) ทีม่ ีกรดแกส เชอื้ เพลงิ เชือ้ โรค ไอพิษ หมอก หรอื ควัน เชน ปน แกส น้ําตา ปนเพลิง ท่ใี ชใ นการปราบจลาจล หรอื ปนทีใ่ ชย งิ หมอกควันหรอื แกส พิษ สําหรับใชในการสงคราม เปนตน (๔) กระสุนของลูกระเบิด ตอรปโด ทุนระเบิดและจรวดที่มีคุณสมบัติคลายคลึงกัน ซึง่ ตามขอ นไี้ ดแ ก กระสุนปน รถถังหรือตอรปโดทย่ี ิงไปจากเรอื ดาํ นํ้า หรือจรวดทย่ี ิงจากฐานบนพ้ืนดนิ หรอื จากเครอ่ื งบนิ หรอื ทนุ ระเบดิ ทถ่ี กู ยงิ จากเรอื รบไปปลอ ยไวใ นนา นนา้ํ ใดนา นนาํ้ หนง่ึ เพอื่ ดกั ทาํ ลาย ฝา ยขา ศกึ เหลา นเ้ี ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน ทยี่ งิ มาจากอาวธุ ปน แลว ไประเบดิ ดว ยตวั ของมนั เองอกี ชนั้ หนงึ่ ®Õ¡Ò·èÕ òö÷/òõò ปลอกกระสุนปนตามสภาพอาจเปนเครื่องหรือส่ิงสําหรับอัด หรือทําหรือใชประกอบเครื่องกระสุนไดแตการมีอยูเพียง ๒ ปลอก และไดความวามีไวใชสวมปลอก ไมตะพด ปลอกกระสุนปนน้ันก็ไมมีสภาพเปนเคร่ืองหรือสิ่งสําหรับอัดหรือทําหรือใชประกอบ เครอ่ื งกระสนุ ปนเสียแลว ®¡Õ Ò·èÕ óõõó/òõòù ลูกระเบิดของกลางอยูในสภาพที่ใชทําการระเบิดไมได เพราะ ชนวนถูกทาํ ลายและวัตถุระเบิด ที.เอ็น.ที ท่ีบรรจุอยภู ายในลูกถกู สาํ รอกออกหมดแลว และตวั เปลือก ถูกตดั ออกเปน ชอ งส่ีเหลย่ี มจึงไมเปน วัตถรุ ะเบิด ยอ มไมเ ปนเครอ่ื งกระสนุ ปนดว ย ÁÒμÃÒ ô (ó) ÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´ คือ วัตถุท่ีสามารถสงกําลังดันอยางแรงตอส่ิงหอมลอม โดยฉับพลัน ในเมื่อระเบิดขึ้นโดยมีสิ่งเหมาะมาทําใหเกิดกําลังดัน หรือโดยการสลายตัวของ วัตถุระเบิดน้ัน ทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหาร กับหมายความรวมตลอดถึงเชื้อปะทุตางๆ หรือ วัตถุอ่ืนใด อันมีสภาพคลายคลึงกันซึ่งใชหรือทําขึ้นเพื่อทําใหเกิดการระเบิด ซึ่งรัฐมนตรีไดประกาศ ระบุไวในราชกิจจานุเบกษา วัตถรุ ะเบิด ตามมาตรา ๔ (๓) หมายความดังน้ี (๑) คือวัตถุท่ีสามารถสงกําลังดันอยางแรงตอส่ิงหอมลอมโดยฉับพลันในเมื่อเกิด ระเบดิ ขน้ึ โดยมสี ง่ิ เหมาะมาทาํ ใหเ กดิ กาํ ลงั ดนั อนั เปน ระเบดิ ทท่ี าํ ใหเ กดิ กาํ ลงั ดนั เชน เครอื่ งระเบดิ หนิ ระเบิดตึกทใ่ี ชใ นการกอสรา ง เปน ตน (๒) วัตถุระเบิดท่ีทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหาร โดยการสลายตัวของวัตถุระเบิด นนั้ เอง เชน ลูกระเบดิ มือ กบั ระเบดิ หรือระเบิดเวลา เปน ตน (๓) วัตถุระเบิดดังกลาวในขอ (๑) และ (๒) น้ัน สวนมากเกิดระเบิดขึ้นจากการปะทุ ของดินระเบิดทํานองเดียวกับเครื่องกระสุนปน แตพระราชบัญญัติน้ียังเห็นวาไมเพียงพอกับ ความกา วหนา ทางวทิ ยาศาสตรใ นปจ จบุ นั จงึ ไดก าํ หนดใหห มายความรวมตลอดถงึ เชอ้ื ปะทตุ า งๆ หรอื

๒๒ วัตถุอ่ืนใดอันมีสภาพคลายคลึงกัน (กับเช้ือปะทุเหลาน้ัน) ซึ่งใชหรือทําขึ้นเพื่อใหเกิดการระเบิด ซึ่งรัฐมนตรีจะไดประกาศระบุไวในราชกิจจานุเบกษา ในขอน้ีเปนการบัญญัติเผ่ือไวเพราะอาจมี การคิดคนระเบิดแบบใหมๆ ข้ึนมา เมื่อรัฐมนตรีเห็นวาจําเปนตองควบคุมก็จะไดประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษาใหอ ยใู นบงั คบั ของพระราชบญั ญตั นิ ้ี เชน ลกู ระเบดิ ทเ่ี กดิ จากนา้ํ มนั เชอื้ เพลงิ เปน ตน จากบทบัญญัติดังกลาววัตถุท่ีสลายตัวทําใหเกิดการระเบิดจะตองใหมีแรงทําลายหรือ แรงประหารเกดิ ข้ึนดวย ดังน้นั ในกรณที ไ่ี มถึงขนาดแรงทาํ ลายไดก็ไมใชว ัตถรุ ะเบดิ เชน แกป กระดาษ เปนเม็ดเล็กๆ ติดกับกระดาษโตขนาดหัวไมขีดไฟบาง เล็กกวาบาง อยูหางๆ กัน เม่ือมีจํานวน ไมมากพอจะทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหารขึ้นไดขณะระเบิดแลว ก็ยังไมถึงขนาดท่ีจะถือวาเปน วัตถรุ ะเบิดได (ฎกี าท่ี ๑๕๖๐/๒๕๐๕) ®¡Õ Ò·Õè ñôóõ-ñôóö/òõðö ดินดําของกลางในคดีน้ีซ่ึงฟงไดเพียงวาเปนวัตถุที่มี สารเคมีผสมอยู คือ โปแตสเซียมไนเตรท กํามะถัน และถาน เทานั้น ไมปรากฏวามีอํานาจหรือ คณุ สมบัตติ ามท่ีกฎหมายกําหนดไวเก่ียวกบั ความหมายของวัตถุระเบิด จึงมใิ ชวัตถรุ ะเบดิ ®¡Õ Ò·èÕ õøø/òõòò ลูกระเบิดของกลางมีเรือนชนวนถูกทําลาย ใชขวางจะไมเกิด ระเบิดไมทาํ ใหม ีแรงทําลายหรอื แรงประหาร จึงไมเปน วัตถรุ ะเบิด ´Í¡äÁŒà¾ÅÔ§ ตามมาตรา ๔(๔) ไดยกตัวอยางวาไดแก พลุ ประทัดไฟ ประทัดลม ซ่ึงมีใชกันอยูท่ัวไป นอกจากนั้นยังใหหมายความรวมตลอดถึงวัตถุอื่นใดอันมีสภาพคลายคลึงกันกับ ท่ีกลา วมานี้ เชน ลูกหนหู รือลูกรอกที่ใชจดุ เลนตามงานวดั ก็เปน ดอกไมเ พลงิ ตามนัยน้ี ʧèÔ à·ÕÂÁÍÒÇ¸Ø »„¹ ตามมาตรา ๔(๕) หมายความวาสง่ิ ซึ่งมีรูปและลกั ษณะอันนา จะทาํ ให “หลงเช่ือ” วาเปนอาวุธปน เชน ปนเด็กเลนท่ีมีขนาดและลักษณะเทาและเหมือนอาวุธปนจริงๆ ทีค่ นรา ยใชในการจแ้ี ละปลน ทรัพย เปนตน ÁÒμÃÒ ô(ö) มหี มายความวา มีกรรมสทิ ธิห์ รอื มีไวในครอบครอง แตไมหมายความถึง การมอี าวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ทม่ี ไี วโ ดยชอบดว ยกฎหมาย และตกอยใู นความครอบครอง ของบคุ คลอน่ื ซงึ่ ไมต อ งหา มมาตรา ๑๓ แหง พระราชบญั ญตั นิ ี้ เทา ทจี่ าํ เปน เพอื่ รกั ษาสง่ิ ทวี่ า นมี้ ใิ หส ญู หาย ¡ÒÃÁÕäÇŒ ตามมาตรา ๔(๖) ใหหมายความวา (๑) มีกรรมสทิ ธหิ์ รอื มีไวในครอบครอง (๒) การมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครองตาม (๑) น้ัน ใชบังคับเฉพาะอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน และวัตถุระเบิดเทานั้น (มาตรา ๗ และ ๓๘) ไมรวมถึงดอกไมเพลิงและสิ่งเทียม อาวธุ ปน ดว ย (มาตรา ๔๗ และ ๕๒) (๓) ขอยกเวน การมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครองดังกลาวใน (๑) และ (๒) ไมหมายความรวมถึงการท่ีอาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิดที่มีไวโดยชอบดวยกฎหมาย และตกอยูในความครอบครองของบุคคลอื่นซ่ึงไมตองหามตามมาตรา ๑๓ แหงพระราชบัญญัติน้ี เทา ท่ีจาํ เปน เพ่ือรักษาสิ่งทว่ี าน้มี ิใหส ูญหาย

๒๓ บุคคลตามมาตรา ๑๓ คือบุคคลทต่ี อ งหามมิใหอ อกใบอนญุ าตใดๆ ตามพระราชบญั ญตั ิ อาวุธปน ฯ ตอนน้ีหมายความวา อาวุธปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรอื วัตถรุ ะเบดิ ทีม่ ที ะเบียนหรือไดรบั อนุญาตใหบุคคลใดบุคคลหนึ่งมีไวแลว ตกไปอยูในความครอบครองของบุคคลท่ีไมตองหามตาม มาตรา ๑๓ และบุคคลน้ันไดครอบครองอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดน้ันไวเทาที่ จําเปนเพื่อรักษาส่ิงที่วาน้ีไวมิใหสูญหาย เชน เก็บปนตกไดแลวถูกจับระหวางนําไปแจงตํารวจท่ี โรงพักอยา งนีไ้ มผดิ เปน ตน ¡Ã³μÕ ÍŒ §ËŒÒÁ แยกกลาวดงั นี้ º¤Ø ¤ÅμÍŒ §ËÒŒ ÁÁãÔ ËÍŒ Í¡ãºÍ¹ÞØ Òμ เกย่ี วกบั อาวธุ ปน และเครอื่ งกระสนุ ปน สว นบคุ คล คอื หามมิใหออกใบอนุญาตทํา ซ้ือ มี ใช สั่งหรือนําเขา ใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว ใบอนุญาตให มีอาวุธปนไวเพื่อเก็บ (มาตรา ๑๑) ใบอนุญาตใหบุคคลอื่นมีและใชอาวุธปนหรือเครื่องกระสุนปน เพ่ือรักษาทรัพยสินของตน (มาตรา ๑๔) ไดแก บุคคลที่มีลักษณะและพฤติการณดังตอไปน้ี (มาตรา ๑๓) ๑. บุคคลซึ่งตอ งโทษจาํ คกุ สาํ หรบั ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาดังตอ ไปนี้ (ก) มาตรา ๕๗ ถึงมาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๗๗ ถึง มาตรา ๑๘๓ มาตรา ๒๔๙ มาตรา ๒๕๐ หรอื มาตรา ๒๙๓ ถงึ มาตรา ๓๐๓ (ข) มาตรา ๒๕๔ ถึงมาตรา ๒๕๗ และพน โทษ ยังไมเกนิ ๕ ป นับแตว นั พน โทษ ถึงวันย่ืนคําขอใบอนุญาต เวนแตในกรณีความผิดท่ีกระทําโดยความจําเปน หรือเพื่อปองกันหรือ โดยถูกย่วั โทสะ บทกฎหมายลักษณะอาญาดงั กลาว ตงั้ แตป  พ.ศ.๒๕๐๐ เปน ตน มา ไดเ ปล่ียนเปน ประมวลกฎหมายอาญาตามขอความท่ีเปนทํานองเดียวกัน กลาวคือในขอ (ก) ตรงกับประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๗๔-๑๑๑ ๑๓๘ ๒๐๙ ๒๑๕ ๒๘๘ ๒๘๙ ๓๓๕ ๓๔๐ ในขอ (ข) ตรงกบั ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕-๒๙๘ ๒. บคุ คลซงึ่ ตอ งโทษจาํ คกุ สาํ หรบั ความผดิ อนั เปน การฝา ฝน ตอ พระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิด และดอกไมเพลิง พุทธศักราช ๒๔๗๗ มาตรา ๑๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๙ หรือมาตรา ๓๓ หรือพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๗ มาตรา ๒๔ มาตรา ๓๓ หรือ มาตรา ๓๘ ๓. บุคคลซึ่งตองโทษจําคุกต้ังแตสองคร้ังข้ึนไป ในระหวางหาปนับยอนขึ้นไปจาก วนั ยน่ื คาํ ขอสําหรับความผดิ อยา งอน่ื นอกจากทีบ่ ญั ญัติไวใน (๑) และ (๒) เวนแตความผิดที่ไดกระทาํ โดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ ๔. บุคคลซ่ึงยังไมบรรลุนิติภาวะ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยตามปกติอายุ ย่สี บิ ปบรบิ รู ณ แตบ คุ คลอาจบรรลนุ ิตภิ าวะโดยสมรส หากชายอายุ ๑๗ ป หญิงอายุ ๑๗ ป

๒๔ ๕. บุคคลซึ่งไมสามารถจะใชอาวุธปนไดโดยกายพิการหรือทุพพลภาพ เวนแตจะมีไว เพ่ือเก็บตามมาตรา ๑๑ ๖. บุคคลซ่ึงเปนคนไรความสามารถหรือเปนคนเสมือนไรความสามารถหรือปรากฏวา เปนคนวิกลจรติ หรือจิตฟน เฟอ นไมส มประกอบ ๗. บุคคลซง่ึ ไมม ีอาชีพและรายได ๘. บุคคลซ่ึงไมม ที อี่ ยูเปนหลักแหลง ๙. บุคคลซึ่งมีความประพฤติช่ัวอยางรายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบ เรียบรอ ยของประชาชน ๑๐. สําหรับใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปน หามมิใหออกใหแกบุคคลซ่ึงมีชื่อใน ทะเบียนบาน ตามกฎหมายวาดวยการทะเบียนราษฎร และมีถ่ินท่ีอยูประจําในทองที่ท่ีบุคคลนั้น ขออนุญาตนอยกวาหกเดือน หมายความวาจะตองมีชื่อในทะเบียนบานและอยูประจําในทองที่ ท่ขี อรบั ใบอนุญาตเกนิ กวา หกเดอื น จึงจะออกใบอนุญาตใหมแี ละใชอ าวธุ ปน ใหได จากคําวามี มาตรา ๔ (๖) น้ี กฎหมายเนนหนักการมีกรรมสิทธิ์หรือมีไวในครอบครอง แตคาํ วา ครอบครอง เปนอยางไรนน้ั กฎหมายไมไ ดบ ัญญัติไว จึงเปน เรอ่ื งทต่ี องอาศัยแนวคาํ พพิ ากษา ของศาลฎกี าเปน ตวั อยา งในการพจิ ารณาปญ หาดังกลาว ซึง่ ศาลฎกี าไดวินิจฉัยไวว า เมื่อกฎหมายไมไดบัญญัติความหมายของการครอบครองไวเปนพิเศษ ตองถือวามี ความหมายท่ัวไปคอื ตองมีเจตนายึดถือเพื่อตน ดังนนั้ การยึดถือปน อยูขณะหนงึ่ ไมไดย ึดถอื เพอื่ ตน ไมเปน การครอบครอง (ฎกี าท่ี ๗๑๑/๒๕๐๙, ๒๒๖๔/๒๕๒๑) μÇÑ ÍÂÒ‹ §คาํ ¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò ®Õ¡Ò·èÕ ôðô/òôøù เก็บอาวุธปนได และตั้งใจจะสงแกเจาหนาท่ีไมมีความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปน ฯลฯ ถือวา ไมม ีความผิดเพราะไมมีเจตนา ®¡Õ Ò·Õè ñó÷ö/òôùó ผูไดรับอนุญาตใหคาอาวุธปน รับซ้ือจากเจาของผูไดรับ อนุญาตใหมีไวโดยชอบดวยกฎหมายแลว เมื่อชําระเงินกันเสร็จแลว ก็รับปนท่ีซ้ือนั้นไวในราน แลวดําเนินการทําคํารองขออนุญาตโอนตอนายทะเบียน แตถูกเจาพนักงานจับปนรายนี้เสียกอน ตอมาจึงไดรบั อนุมตั ิจากอธิบดีกรมตํารวจใหโ อนได ดังนี้ ยอ มถอื วาผรู บั ซอื้ “ม”ี ปน ไวในครอบครอง โดยมไิ ดร บั อนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งทกี่ อ นมคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ และมคี วามผดิ ฐานมปี น ไวน อกบญั ชีตามที่กาํ หนดไวในกฎกระทรวง ตามมาตรา ๒๘, ๘๑ ดวย ®Õ¡Ò·Õè ñöòô/òôùô บิดาไดรับอนุญาตใหมีอาวุธปน ๑ กระบอก เม่ือบิดาตาย บุตรจึงไปแจงตอนายทะเบียนและขออนุญาตมีอาวุธปนกระบอกน้ัน แตนายทะเบียนไมอนุญาต กลับสัง่ ใหขายปน น้ันเสียภายใน ๖ เดอื น แตบ ุตรขายปนน้ันไมไ ด นายทะเบยี นกม็ ิไดเ รียกเอาปนน้ัน ไปขายทอดตลาดเสียเอง และมิไดส่ังอยางไรอีก ปนน้ันจึงคงอยูกับบุตรอยางเดิม ดังน้ี จะวาบุตร มีอาวุธปน โดยไมรับอนญุ าต เปน การผดิ กฎหมายไมได

๒๕ ®¡Õ Ò·èÕ ñõ÷ø/òôùõ ใชใหคนไปหยิบอาวุธปนและกระสุนปนมาจากบานใหนํามา สงใหแกตน ณ ท่ีแหงหนึ่งอันอยูหางกันประมาณ ๑๐ เสน เพ่ือมอบคืนใหแกเจาของผูมีไวโดยชอบ ดวยกฎหมาย เชนนี้ ยังถือไมไดวาคนที่ไปหยิบอาวุธปนและกระสุนไดมีอาวุธและกระสุนปนนั้นไว ในความครอบครอง จึงยังไมเปนผิดฐานมีอาวุธปนและเคร่ืองกระสุนปนไวโดยไมไดรับอนุญาตตาม พระราชบญั ญตั ิอาวุธปน ฯ และผูใ ชใ หไ ปหยิบกไ็ มม คี วามผดิ ดวย ®Õ¡Ò·èÕ ùøù/òõòù ความผิดฐานมีอาวุธปนท่ีนายทะเบียนไมอาจออกใบอนุญาต ใหไดกับความผิดฐานมีเคร่ืองกระสุนปนท่ีนายทะเบียนไมอาจออกใบอนุญาตใหได เปนความผิด มาตราเดียวกันเปนวัตถุประเภทเดียวกัน การมีอาวุธปน และเครื่องกระสุนปนดังกลาวในขณะ เดียวกันจงึ เปน ความผดิ กรรมเดยี ว ÁÒμÃÒ ô (÷) Êèѧ หมายความวา ใหบุคคลใด สงหรือนําเขามาจากภายนอก ราชอาณาจกั ร (ø) นําà¢ŒÒ หมายความวา นําเขามาจากภายนอกราชอาณาจักรไมวา โดยวธิ ใี ดๆ (ù) Ã°Ñ Á¹μÃÕ หมายความวา รฐั มนตรีผรู ักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้

๒๖ »ÃСÒÈ¡ÃзÃǧÁËÒ´ä·Âñ àÃ×Íè § á싧μ§éÑ ¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ à¨ÒŒ ¾¹¡Ñ §Ò¹áÅÐà¨ÒŒ ˹ŒÒ·èÕ μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÔÍÒÇ¸Ø »„¹ à¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊع»¹„ ÇÑμ¶ÃØ Ðàº´Ô ´Í¡äÁŒà¾ÅÔ§ áÅÐʧÔè à·ÂÕ ÁÍÒÇظ»¹„ ¾.È.òôùð อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติอาวุธปน เครื่องกระสุนปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ และสงิ่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ซงึ่ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปน ฉบับที่ ๗ (พ.ศ.๒๕๒๒) รัฐมนตรี วาการกระทรวงมหาดไทยออกประกาศกระทรวงมหาดไทยไว ดงั ตอไปนี้ ¢ÍŒ ñ ใหยกเลิกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ ง แตง ต้ังนายทะเบียน เจา พนักงาน และเจา หนา ทอ่ี นื่ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ และสงิ่ เทยี ม อาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ ¢ŒÍ ò ใหแตง ตงั้ ผูด าํ รงตาํ แหนง ตอ ไปน้ี เปน นายทะเบียน (๑) อธิบดกี รมการปกครอง ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู า ราชการจังหวดั ในเขตจงั หวัดอ่ืน (๓) นายอาํ เภอ ในเขตอําเภอ (๔) ปลัดอําเภอผเู ปน หวั หนา ประจําก่ิงอาํ เภอ ในเขตก่งิ อาํ เภอ ¢ŒÍ ó ใหแตงต้ังผูดํารงตําแหนงตอไปนี้ เปนเจาพนักงานผูมีอํานาจอนุมัติการออก หนังสืออนุญาตพเิ ศษตามมาตรา ๑๔ (๑) ปลดั กระทรวงมหาดไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู า ราชการจังหวดั ในเขตจงั หวดั อื่น ¢ÍŒ ô ใหแ ตง ตงั้ ผดู าํ รงตาํ แหนง ตอ ไปน้ี เปน เจา พนกั งานผมู อี าํ นาจออกหนงั สอื อนญุ าต ตามมาตรา ๗๐ (๑) ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู าราชการจงั หวดั ในเขตจงั หวัดอื่น ¢ÍŒ õ ใหผูดํารงตําแหนงตอไปนี้เปนเจาหนาที่ตรวจสอบ จํานวนอาวุธปน เคร่อื งกระสุนปน วัตถุระเบดิ ดอกไมเ พลิง และสิง่ เทียมอาวธุ ปน ในรา นคาและรา นประกอบซอม (๑) อธิบดีกรมการปกครอง หรือผูซึ่งอธิบดีกรมการปกครองแตงตั้ง ในเขต กรุงเทพมหานคร (๒) ผวู าราชการจังหวดั ในเขตจงั หวัดอน่ื (๓) นายอาํ เภอ หรอื ปลดั อาํ เภอผเู ปน หวั หนา ประจาํ กง่ิ อาํ เภอและปลดั อาํ เภอ แหง ทองที่ในเขตอําเภอ หรอื เขตก่ิงอาํ เภอ ๑ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ โภคนิ พลกลุ รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย

๒๗ ¤ÇÒÁ¼´Ô ·èÁÕ ¡Õ ÒèºÑ ¡ÁØ ดําà¹Ô¹¤´Õ ñ. ทาํ «Í×é ÁÕ ãªŒ ʧèÑ ËÃÍ× นาํ à¢ÒŒ ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃÍ× à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ºÑ ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ·ŒÍ§·Õè ÁÒμÃÒ ÷ หามมใิ หผ ูใดทาํ ซอื้ มี ใช สัง่ หรอื นาํ เขา ซึ่งอาวธุ ปนหรอื เครือ่ งกระสุนปน เวนแตจะไดร บั ใบอนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งที่ ÁÒμÃÒ ÷ò ÇÃäáá ผูใดฝาฝน มาตรา ๗ ตอ งระวางโทษจําคุกตัง้ แตห นึง่ ป ถึงสบิ ป และปรบั ตง้ั แตสองพันบาทถงึ สองหมื่นบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม จะทํา ซื้อ มี ใช ส่ังหรือนําเขาซ่ึงอาวุธปนหรือเคร่ือง กระสุนปนจะตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่เสียกอน หากผูใดฝาฝนผูน้ันมีความผิดและ ตองระวางโทษตามกฎหมาย สําหรับกรณีที่สิ่งของดังกลาว เปนเพียงสวนหน่ึงสวนใดของอาวุธปน หรือเครื่อง กระสุนปนผูฝาฝนตองไดรับโทษนอยลง หรือกรณีเปนเพียงการมีอาวุธปนท่ีเปนของผูอ่ืนซ่ึงไดรับ อนุญาตใหมีและใชตามกฎหมายหรือเปนการทําเคร่ืองกระสุนปนที่ทําดวยดินปนสําหรับใชเอง โดยไมไดรบั อนุญาตจากนายทะเบียนทองท่ผี ฝู าฝน ตองระวางโทษนอยลง ò. ÁàÕ ¤Ã×Íè §¡ÃÐÊعª¹Ô´Í×蹫Öè§ÁÔ㪋สําËÃºÑ ãªŒ¡ºÑ ÍÒÇظ»¹„ ·èμÕ ¹ä´ŒÃºÑ ͹ÞØ ÒμãËŒÁáÕ ÅÐ㪌 ÁÒμÃÒ ø หามมิใหผูใดมีเคร่ืองกระสุนปน ซึ่งมิใชสําหรับใชกับอาวุธปนที่ตนไดรับ ใบอนญุ าต ใหม ีและใช หมายความวา ไดร บั อนญุ าตใหม แี ละใชอ าวธุ ปน ชนดิ ประเภทใด จะตอ งมเี ครอื่ งกระสนุ ปน ชนิดประเภทนั้นควบคูกันไป หากมีเครื่องกระสุนปนชนิดประเภทอ่ืน ดังน้ี ใบอนุญาตใหมีและ ใชอาวุธปน ไมคุมครอง เชน นาย ก. มีปนพกขนาด .๓๘ ไดรับใบอนุญาตใหมีและใชแลว แตกลับมีกระสุนปน ขนาด ๑๑ มม. ไวอกี ดว ย ดังน้ถี ือวา ผิดมาตรา ๘ เปนตน ÁÒμÃÒ õ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμÔ¹Õé àǹŒ áμ‹ÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ ÁÔãË㌠ªºŒ ѧ¤ºÑ á¡‹ (๑) อาวธุ ปน เคร่อื งกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบิด ดอกไมเ พลิง และสง่ิ เทยี มอาวุธปน ของ (ก) ราชการทหารและตาํ รวจท่มี หี รอื ใชใ นราชการ (ข) หนวยราชการท่ีมีหรือใชเพื่อปองกันประเทศหรือรักษาความสงบเรียบรอย ของประชาชน (ค) หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีและใชในการปองกันและรักษาทรัพยสิน อนั สาํ คญั ของประชาชน (ง) ราชการทหารและตํารวจตาม (ก) หรือหนวยราชการตาม (ข) ที่มอบให ประชาชนมีและใชเพื่อชวยเหลอื ราชการของทหารและตํารวจ หรอื ของหนวยราชการแลว แตก รณี (๒) อาวธุ ปนและเครือ่ งกระสนุ ปน ประจําเรอื เดนิ ทะเล รถไฟ และอากาศยานตามปกติ ซ่ึงไดแ สดงและใหพ นักงานศุลกากรตรวจตามกฎหมายแลว

๒๘ (๓) ดอกไมเ พลงิ สัญญาณประจําเรือเดินทะเล อากาศยาน และสนามบินตามปกติ หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามวรรคหนึ่ง (๑) (ข) หรือ (ค) รวมท้ังชนิด ขนาดและ การกําหนดจํานวน ตลอดจนการมีและใช การเก็บรักษา การพาติดตัว การซอมแซมหรือเปล่ียน ลกั ษณะและการอยา งอื่นท่จี ําเปนเพ่ือการรกั ษาความปลอดภัยอันเกีย่ วกบั อาวุธปน เครือ่ งกระสนุ ปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และส่ิงเทียมอาวุธปน ที่ใหหนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจดังกลาวมีและใช หรอื มอบใหป ระชาชนมีและใชเ พ่อื ชวยเหลอื ราชการน้นั ใหเ ปนไปตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง ó. ¾ÒÍÒÇ¸Ø »¹„ ä»ã¹·Ò§ÊÒ¸ÒóÐâ´ÂäÁä‹ ´ŒÃºÑ ͹ÞØ ÒμãËÁŒ ÕÍÒÇ¸Ø »„¹μÔ´μÇÑ áÅÐäÁ‹ÁàÕ ËμÍØ Ñ¹¤Çà ¡ÒÃÁÍÕ ÒÇ¸Ø »¹„ μ´Ô μÇÑ โดยขอ ๓ แหง คาํ สง่ั ของคณะปฏริ ปู การปกครองแผน ดนิ ฉบบั ที่ ๔๔ ลงวนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ใหเพิม่ มาตรา ๘ ทวิ ขึน้ ในพระราชบญั ญตั ิอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ดังน้ี “ÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ หามมิใหผูใดพาอาวุธปนติดตัวไปในเมือง หมูบานหรือทางสาธารณะ โดยไมไ ดร ับใบอนญุ าตใหม ีอาวุธปนติดตวั เวน แตเปน กรณีที่ตองมตี ิดตวั เมื่อมีเหตจุ าํ เปน และเรง ดว น ตามควรแกพ ฤตกิ ารณ ไมวากรณีใด หามมิใหพาอาวุธปนไปโดยเปดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนท่ีไดจัดใหมีขึ้น เพือ่ นมัสการ การรน่ื เริง การมหรสพ หรือการอ่นื ใด” สวนความในวรรคสามของมาตรา ๘ ทวิ น้ีไดถูกยกเลิกและแกไขใหมโดยมาตรา ๕ แหง พระราชบญั ญตั ิอาวุธปน ฯ (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ.๒๕๒๒ ดงั นี้ “ความในมาตราน้ี มใิ หใ ชบงั คับแก (๑) เจาพนักงานผูมีหนาท่ีรักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ทหารและตํารวจ ซึ่งอยใู นระหวา งปฏิบัตหิ นา ท่ี (๒) ขาราชการ พนักงานหรอื ลกู จา งของหนว ยราชการหรือรัฐวสิ าหกิจ ตามมาตรา ๕ วรรคหน่ึง (๑) (ข) หรือ (ค) ซ่ึงอยูในระหวางปฏิบัติหนาท่ีเพื่อปองกันประเทศ หรือรักษาความสงบ เรียบรอ ยของประชาชน หรือรักษาทรัพยส นิ อนั สําคญั ของรัฐ (๓) ประชาชนผูไดรับมอบใหมีและใชตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ง) ซึ่งอยูใน ระหวา งการชวยเหลือราชการและมเี หตุจาํ เปนตอ งมีและใชอาวธุ ปนในการน้ัน” สวนผูมีอํานาจอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว มีบัญญัติไวในมาตรา ๒๒ ซ่ึงแกไขเพ่ิมเติม โดยขอ ๕ แหง คาํ สงั่ ของคณะปฏิรปู การปกครองแผน ดนิ ฉบับท่ี ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ดังน้ี “ÁÒμÃÒ òò ใหเจาพนักงานตอไปน้ี มีอํานาจออกใบอนุญาตใหแกบุคคลที่ไดรับ ใบอนญุ าตใหม แี ละใชอ าวธุ ปน มีอาวธุ ปนติดตัวไปไดตามความทบ่ี ญั ญตั ไิ วใ นพระราชบญั ญัตนิ ้ี (๑) อธิบดีกรมตาํ รวจ สําหรับในเขตกรงุ เทพมหานคร และท่ัวราชอาณาจกั ร (๒) ผูวาราชการจังหวัด เฉพาะภายในเขตจังหวัดของตน และเฉพาะผูที่มีถ่ินที่อยูใน เขตจังหวดั นัน้

๒๙ ËÅ¡Ñ สํา¤ÑޢͧÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ ¤×Í (๑) การไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวตามมาตรา ๘ ทวิน้ัน มิใชวาจะคุมครอง ผพู กพาไดใ นทกุ เวลาและสถานท่ี กห็ าไม เพราะการพกพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในปา หรอื โดยสารเครอ่ื งบนิ อาจไมต องรับอนุญาตตามมาตรา ๘ ทวิกไ็ ด (๒) มาตรา ๘ ทวิ วรรคสอง ยังไดบัญญัติวา ไมวากรณีใด ซึ่งหมายความวาไมวา เปนกรณีไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวหรือไมก็ตาม การพกอาวุธปนไปโดยเปดเผย โดยไมจํากัดวาเปนเวลาและสถานที่ใดก็ดี การพาไปในชุมชนท่ีไดจัดใหมีข้ึนเพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพหรือการอื่นใดก็ดี ท้ังสองกรณีนี้ถือเปนการตองหามโดยเด็ดขาด แมผูไดรับใบอนุญาต ใหม ีอาวธุ ปน ติดตวั ก็จะพาอาวุธปน เขาไปในชุมชนท่จี ดั ใหมีเพ่อื นมสั การ การรน่ื เรงิ การมหรสพ หรือ การอื่นใดมิได และนอกจากในสถานท่ีดังกลาวแลว ยังหามพาอาวุธปนไปโดยเปดเผยในสถานที่ใดๆ อีกดวย หมายความวาการพกพาอาวุธปนโดยเปดเผยหรือประเจิดประเจอในท่ีสาธารณะหรือ ในสภาพที่จะปรากฏแกสายตาของสาธารณะไดโดยงาย เปนการตองหามท้ังสิ้น ใบอนุญาตใหมี อาวุธปนติดตัวไมค มุ ครองดวย (๓) ขอยกเวนตามมาตรา ๘ ทวิ มีสองประการคือ ๓.๑ ขอยกเวนใหมีอาวุธปนติดตัวได หากเปนกรณีที่ตองมีติดตัวเม่ือมีเหตุ จําเปนและเรงดวนตามสมควรแกพฤติการณ หมายความวาตองเปนกรณีที่จําเปนตองมีอาวุธปน ตดิ ตวั อยา งเรง ดว น คาํ วา จาํ เปน และเรง ดว นจะตอ งใชค วบคกู นั ไปในทกุ กรณี บางกรณมี แี ตค วามจาํ เปน แตไมถึงกับรีบดวน เชน นาย ก. ตองขับรถสิบลอบรรทุกสินคาไปสงตางจังหวัด อยางน้ีอาจถือวา จําเปนตองมีอาวุธปนติดตัวไปได แตไมถือวาเปนกรณีเรงดวน เพราะการท่ีนาย ก. อางวา เพ่ือปองกันการปลนรถบรรทุกของตนซ่ึงเปนการจําเปนน้ัน เปนกรณีที่จําเปนที่มีอยูตลอดไป กลาวคอื การปลน รถบรรทุกสนิ คา อาจมหี รือไมมเี ม่ือใดกไ็ ด จงึ ไมถ อื เปนกรณีเรง ดว น บางกรณีเปนการเรงดวน แตไมจําเปน เชน นาย ก. ตองนําภรรยา ซ่ึงเจ็บทองจะคลอดลูกไปสงโรงพยาบาลในตอนดึก อยางน้ีเปนกรณีเรงดวน แตไมมีความจําเปน ถึงกับตองพกพาอาวุธปนไปดวย เพราะตามปกติไมมีเหตุผลใดท่ีจะอางไดวาจําเปนตองพกพาไป เพอ่ื ปองกันตัวและทรพั ยสนิ ในกรณเี ชนนี้ กรณีท่จี ําเปน และเรง ดวนตามความหมายของมาตรา ๘ ทวิ กเ็ ชน “นาย ก. เพิ่งขายขาวไดเงินมาเกือบแสนบาท และจําเปนตองนําไปฝากธนาคารซึ่งอยูหางจากบานไปราว สิบกิโลเมตร ในวันน้ัน เพ่ือความปลอดภัยจากโจรปลน ซึ่งในทองที่ของนาย ก. มีอยูบอยๆ ดังนั้น การทีน่ าย ก. นาํ ปนท่ีไดร ับใบอนญุ าตใหมีและใชแลว แตย งั มิไดร บั ใบอนุญาตใหพ กติดตวั ติดตัวไป พรอ มกับเงินทจี่ ะตองนําไปฝากธนาคารในวนั นั้น ดังน้ถี ือวา “จําเปน และเรงดวน” ได อยางไรก็ดี “กรณีจําเปนและเรงดวน” ในที่นี้ยังจะตองคํานึงอีกดวยวา เปนการสมควรแกพฤติการณแหงความจําเปนและเรงดวนน้ันดวยหรือไม กลาวคือจะตองคํานึงถึง

๓๐ พฤตกิ ารณเ ปนเรอื่ งๆ ไป อยา งกรณี นาย ก. พาปน ติดตัวพรอ มดวยเงนิ แสนเพอื่ นําไปฝากธนาคาร ใหทันกอนธนาคารปดในวันน้ัน เพราะมีพฤติการณการจี้ปลนในทองที่นั้นอยูเปนประจํา ดังนี้ถือวา พฤตกิ ารณแ หง การจปี้ ลน ในทองทีท่ ่ีมเี ปน ประจาํ เปน พฤตกิ ารณท ่ีสมควรสําหรบั กรณีของนาย ก. ๓.๒ ขอยกเวนเกี่ยวกับเจาพนักงาน ลูกจาง หรือผูชวยเจาพนักงานเกี่ยวกับ งานของรัฐ ซึ่งใหมีสิทธิพกพาอาวธุ ปนไดโ ดยมติ อ งมีใบอนญุ าตใหมีอาวุธปน ติดตัว ดงั น้ี (๑) เจาพนักงานผูมีหนาที่รักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ทหาร และตาํ รวจซง่ึ อยูในระหวา งการปฏิบตั หิ นา ที่ (๒) ขาราชการ พนักงานหรือลูกจางของหนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ข) หรือ (ค) ซ่ึงอยูในระหวางการปฏิบัติหนาที่เพื่อการปองกัน ประเทศหรอื รักษาความสงบเรยี บรอยของประชาชน หรือรกั ษาทรพั ยสนิ อนั สาํ คัญของรฐั บคุ คลตามมาตรา ๕ วรรคหนง่ึ (๑) (ข) หรอื (ค) ไดแ กบคุ คลทีส่ ังกัด ก. หนวยราชการท่ีมีหรือใชอาวุธปน เพื่อปองกันประเทศหรือ รักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ข. หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีและใชอาวุธปน ปองกันและ รักษาทรพั ยสินอนั สาํ คัญของรฐั (๓) ประชาชนผูไดรับมอบหมายใหมีและใชตามมาตรา ๕ วรรคหน่ึง (๑) (ง) ซึ่งอยใู นระหวางการชว ยเหลือราชการและมเี หตุจําเปน ตอ งมีและใชอ าวธุ ปน ในการนน้ั ประชาชนตามขอ นี้ ไดแก บุคคลท่ที างราชการทหารและตํารวจ หรอื หนว ยราชการอน่ื ทม่ี หี นา ทป่ี อ งกนั ประเทศและรกั ษาความสงบเรยี บรอ ยของประชาชน มอบอาวธุ ปน ใหมีและใชเ พือ่ ชว ยเหลอื ราชการของทหารและตาํ รวจ หรอื ของหนวยราชการนั้นๆ แลว แตก รณี การใหพกพาอาวุธปนโดยมิตองมีใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว ในกรณีน้ีจํากัดเฉพาะกรณี “ซึ่งอยูในระหวางการชวยเหลือราชการและมีเหตุจําเปนตองมีและใช อาวุธปนในการน้ัน” เทานั้น หากไมอยูในระหวางชวยเหลือราชการก็ดี หรืออยูในระหวางชวยเหลือ ราชการแตยังไมมเี หตุจําเปน ตองมีและใชอาวธุ ปน กย็ งั ไมไดร ับการคุมครองตามนยั น้ี (๔) การออกใบอนุญาตใหมอี าวธุ ปน ตดิ ตวั ตามมาตรา ๒๒ มีขอจาํ กดั ดงั น้ี ๔.๑ ออกใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวไดเฉพาะแกบุคคลที่ไดรับใบอนุญาต ใหมแี ละใชอ าวุธปน จากนายทะเบียนทองที่แลวเทาน้ัน ตามนัยนี้ทําใหเห็นไดวา “ใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปน” ไมคุมครองถึง การพาอาวธุ ปน ติดตวั ไปใน “เมอื ง หมบู า นหรือทางสาธารณะ” หากผูรับใบอนุญาต “ใหมีและใชอาวุธปน” ตองการพาอาวุธปนติดตัวไป “ในเมือง หมูบานหรือทางสาธารณะ” ผูไดรับใบอนุญาตนั้นจะตองไดรับ “ใบอนุญาตใหมีอาวุธปน ตดิ ตวั ” อีกชั้นหนึง่

๓๑ ในทางกลับกัน ผูมีอาวุธปนโดยไมไดรับอนุญาตพกพาอาวุธปนนั้นไปตาม มาตรา ๘ ทวิ ก็มคี วามผดิ ฐานพกพาดว ย ๔.๒ ขอบเขตอาํ นาจการอนญุ าตของอธบิ ดกี รมตาํ รวจ มอี ยา งกวา งขวางในเขตพนื้ ท่ี คือ การขอใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวในเขตกรุงเทพมหานครก็ดี หรือตองการมีอาวุธปนติดตัว ไปท่ัวราชอาณาจักรก็ดี จะตองขอตออธิบดีกรมตํารวจแตผูเดียว ในกรณีนี้ทําใหเห็นไดวาหากผูใด ไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวจากอธิบดีกรมตํารวจแลว บุคคลน้ันไมจําเปนตองขอรับ ใบอนญุ าตใหมอี าวุธปนตดิ ตวั จากผูว า ราชการจังหวัดทีต่ นมีถ่ินท่ีอยใู นจงั หวดั นัน้ อกี ชั้นหนึง่ ๔.๓ ขอบเขตอํานาจของผูวาราชการจังหวัดมีเฉพาะออกใหไดภายในเขต จังหวัดของตนและออกใหไดแตเฉพาะแกบุคคลที่มีถิ่นท่ีอยูในเขตจังหวัดท่ีตนเปนผูวาราชการจังหวัด นน้ั เทา นั้น ®¡Õ Ò·Õè ñõøò/òõóñ (»ÃЪÁØ ãËÞ)‹ ความผดิ ฐานพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในเมอื ง หมบู า น และทางสาธารณะโดยมไิ ดร ับอนุญาตเปน ความผดิ ทรี่ วมกระทาํ ดวยกนั ได จาํ เลยที่ ๒ รวมกับคนราย ๗-๘ คน ไปปลน ทรพั ยโดยมอี าวุธปน ตดิ ตวั ไป ๖ กระบอก แมจะฟงไมไดวาจําเลยที่ ๒ มีอาวุธปนติดตัวไปดวยก็ตาม แตการท่ีจําเลยท่ี ๒ รวมกับคนรายอื่น ไปปลน ทรพั ยแ ละพยายามฆา เจา ทรพั ยโ ดยใชป น ยงิ เสรจ็ แลว กห็ ลบหนไี ปดว ยกนั แสดงวา จาํ เลยท่ี ๒ มเี จตนากบั คนรา ยอนื่ มอี าวธุ ปน และเครอ่ื งกระสนุ ปน ไวใ นครอบครอง และพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในเมอื ง หมบู า น และทางสาธารณะโดยไมไดรับอนุญาตดว ย ®Õ¡Ò·èÕ ñøó÷/òõóñ จาํ เลยกบั ร. ขบู งั คบั ผเู สยี หายใหย อมรว มประเวณี โดยจาํ เลย ใชอาวุธปนไมมีทะเบียนของจําเลยจี้ผูเสียหาย เมื่อสามีผูเสียหายไปตามพลตํารวจ ส. มาจับกุม ส. เอาปนดังกลาวจากเอว ร. มาเก็บไวโดยถอดอาวุธปนออกหมดแลวจําเลยเขาแยงเอาปนคืนจาก ส. ยกข้ึนจองยิงท่ีหนาอก ส. ดังแชะสามคร้ัง ดังนี้ พฤติกรรมที่จําเลยกับ ร. ผลัดกันใชอาวุธปน ของกลางเชนน้ี ถือวารวมกันมีอาวุธปนของกลางไวในครอบครอง และการกระทําของจําเลยเปน ความผิดฐานพยายามฆาเจาพนักงานซึ่งกระทําการตามหนาที่โดยไมสามารถบรรลุผลอยางแนแท เพราะเหตุปจ จยั ท่ใี ชใ นการกระทําผดิ อกี กระทงหนง่ึ ¢ŒÍÊѧà¡μ ในกรณีท่ีเปนอาวุธปนของทางราชการมอบใหครอบครอง กรณีนี้ไมเปน ความผิด เพราะมาตรา ๕ ไดบัญญัติยกเวนไว แตถาหากผูครอบครองไมมีอํานาจหนาท่ีดังกลาว กเ็ ปน ความผิด ®Õ¡Ò·Õè ñùõø/òôùò จําเลยซึ่งรับราชการทหาร มีอาวุธปนของทางราชการทหาร เพื่อนําไปปฏิบัติหนาท่ีสารวัตรน้ัน ถือวาจําเลยมีไวทางราชการทหาร ไมมีความผิดฐานมีอาวุธปน และเครอื่ งกระสนุ ปน ไวใ นความครอบครองโดยมไิ ดร บั อนญุ าต แมจ ะเอาปน นน้ั ไปเพอ่ื กอ การรา ยกต็ าม ®Õ¡Ò·èÕ ñõõñ/òõñö ของกลางซงึ่ เปนอาวุธปน ท่ีใชเ ฉพาะในการสงครามเปน ของทาง ราชการทหาร แตไดหายไป จําเลยเปนทหารแตไมมีอํานาจหรือหนาท่ีครอบครองอาวุธปนของกลาง

๓๒ การครอบครองของจาํ เลยไมใ ชก ารครอบครองในราชการทหาร จาํ เลยจงึ มคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิ อาวธุ ปนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ®¡Õ Ò·èÕ ñùöñ/òõòø จําเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปนของกรมตํารวจซ่ึงจําเลยมีสิทธิ พาอาวุธปนไดท่ัวราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน ไมอยูในบังคับแหง พ.ร.บ.อาวุธปนฯ มาตรา ๘ ทวิ จําเลยยอมไมมีความผิดตาม มาตรา ๗๒ ทวิ เมื่อปรากฏแกศาลฎีกาวาการกระทํา ของจาํ เลย ไมเ ปนความผิดศาลฎีกายอมมีอํานาจยกฟอ งไดตาม ป.ว.อ.มาตรา ๑๘๕, ๒๑๕, ๒๒๕ ®Õ¡Ò·Õè ñóöñ/òõóð จําเลยเปนสมาชิก อพป. มีหนาที่รักษาความสงบเรียบรอยใน หมูบานไดรับแจกอาวุธปนคารบินและกระสุนปนของกลาง ซึ่งเปนของทางราชการไวใชประจําตัว เพอื่ ปฏบิ ตั หิ นา ทร่ี กั ษาความสงบเรยี บรอ ยในหมบู า น จาํ เลยจงึ ไมม คี วามผดิ ฐานมอี าวธุ ปน กระสนุ ปน ที่นายทะเบียนไมสามารถออกใบอนุญาตไวในครอบครอง และไมมีความผิดฐานพาอาวุธปนไปใน หมบู านและทางสาธารณะ ¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ มาตรา ๑๒ ยงิ อาวธุ ปน ทไี่ ดร บั อนญุ าตใหม ไี วเ พอ่ื เกบ็ และมเี ครอื่ งกระสนุ ปน สาํ หรับอาวธุ ปนท่ไี ดร บั อนุญาตใหมไี วเ พือ่ เกบ็ การมีอาวุธปนไวเพื่อเก็บ ตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองท่ีตามมาตรา ๗ ภายใตขอ บังคบั ตอ ไปน้ี (๑) ใบอนุญาตใหมีอาวุธปนไวเพ่ือเก็บ ใหออกไดสําหรับ (ก) อาวุธปนที่ นายทะเบียนเห็นวาชํารุดจนใชยิงไมได หรือ (ข) อาวุธปนแบบพนสมัย หรือ (ค) อาวุธปนซึ่งไดรับ เปนรางวัลจากการแขง ขันยิงปนในทางราชการ (มาตรา ๑๑) (๒) อาวุธปนซึ่งไดรับอนุญาตใหมีไวเพื่อเก็บน้ันตอง (ก) หามมิใหยิง และ (ข) หามมิใหมเี ครือ่ งกระสุนปนไวส าํ หรบั อาวุธปนนั้นดว ย (มาตรา ๑๒) ô. äÁá‹ ¨Œ§àËμؼÅáÅÐÊ‹§ÁͺãºÍ¹ØÞÒμÍÒÇظ»¹„ ¶Ù¡·íÒÅÒ ËÃ×ÍÊÞÙ ËÒÂμÍ‹ ¹Ò·ÐàºÕ¹ ÁÒμÃÒ òñ ถาอาวุธปนที่ไดรับอนุญาตแลวถูกทําลายหรือสูญหายโดยเหตุใดๆ ก็ดี ใหผูรับใบอนุญาตแจงเหตุและผลสงมอบใบอนุญาตตอนายทะเบียนทองท่ีซ่ึงตนอยูหรือที่เกิดเหตุ ภายในสิบหาวนั นับแตว นั ทราบเหตุ ÁÒμÃÒ øó ผูใดฝาฝน มาตรา ๒๑ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกนิ หนึ่งพันบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่อาวุธปนของตนท่ีไดรับอนุญาตนั้นสูญหายหรือ ถูกทําลายโดยเหตุใดๆ ก็ตาม ใหผูรับใบอนุญาตแจงเหตุและสงมอบใบอนุญาตตอนายทะเบียน ทองที่ภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ทราบถึงเหตุการณ บุคคลใดฝาฝนตองมีความผิด และตอง ระวางโทษตามกฎหมาย õ. ทาํ »ÃСͺ «Í‹ Áá«Á à»ÅÂèÕ ¹Å¡Ñ ɳРʧèÑ นาํ à¢ÒŒ ÁËÕ ÃÍ× จาํ ˹ҋ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ สาํ ËÃºÑ ¡ÒÃทําâ´ÂäÁ‹ä´ŒÃºÑ ͹ØÞÒμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ òô หามมิใหผใู ด ทาํ ประกอบ ซอ มแซม เปลี่ยนลกั ษณะ ส่งั นําเขา มีหรือ

๓๓ จําหนายซึ่งอาวุธปนหรือเครื่องกระสุนปนสําหรับการคา เวนแตจะไดรับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ทองที่ ÁÒμÃÒ ÷ó ผูใดฝาฝน มาตรา ๒๔ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสองปถึงย่ีสิบป และปรบั ตง้ั แตส ีพ่ นั บาทถึงสีห่ ม่ืนบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่จะทํา ประกอบ ซอม มี หรือจําหนายอาวุธปน เครื่องกระสุนปนเพื่อการคาจะตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่ หากบุคคลใดฝาฝน ไมป ฏิบตั ติ ามมคี วามผิดและตองระวางโทษตามกฎหมาย ใบอนุญาตใหทํา ประกอบ ซอมแซม เปล่ียนลักษณะ มี หรือจําหนายอาวุธปนหรือ เครอ่ื งกระสุนปนสาํ หรับการคา นั้น เม่ือไดร บั อนุมัติจากรัฐมนตรีแลว จึงใหน ายทะเบยี นทองทีอ่ อกให ใบอนญุ าตน้ี มอี ายุ ๑ ป นับแตว นั ออก ö. ÃÒŒ ¹¤ÒŒ ÍÒÇ¸Ø »¹„ จาํ ˹ҋ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃÍ× à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ ãËጠ¡¼‹ ·ŒÙ äèÕ Áä‹ ´ÃŒ ºÑ ãºÍ¹ÞØ ÒμãË«Œ Í×é ËÃÍ× ÁÕ áÅÐ㪌 ÁÒμÃÒ óô หามมิใหจําหนายอาวุธปน หรือเคร่ืองกระสุนปนแกผูที่ไมไดรับ ใบอนญุ าตใหซ อื้ หรือมีและใชอาวธุ ปน และเคร่ืองกระสนุ ปน ÁÒμÃÒ ÷ó ·ÇÔ ผใู ดฝา ฝน มาตรา ๓๔ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตห กเดอื นถงึ สบิ ป และ ปรับต้งั แตหนงึ่ พนั บาทถงึ สองหมืน่ บาท เจา ของรา นคา อาวธุ ปน หมายถงึ บคุ คลซงึ่ เปน เจา ของรา นคา อาวธุ ปน จะจาํ หนา ยอาวธุ ปน และกระสุนปนไดเฉพาะกับบุคคลที่ไดรับใบอนุญาตใหซ้ือหรือมีและใชเทาน้ัน หากบุคคลซ่ึงเปน เจา ของรา นคา อาวธุ ปนฝา ฝน ตอ งถือวา บุคคลนนั้ มคี วามผดิ และตองระวางโทษตามกฎหมาย ÷. ทาํ «Í×é ÁÕ Ê§Ñè นาํ à¢ÒŒ ÁÒ¤ÒŒ ËÃÍ× จาํ ˹ҋ ÂÇμÑ ¶ÃØ Ðàº´Ô â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ºÑ ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹·ÍŒ §·Õè ÁÒμÃÒ óø หามมิใหผูใด ทํา ซ้ือ มี ใช สั่ง นําเขา คาหรือจําหนายดวยประการใด ซง่ึ วัตถุระเบิด เวน แตไดร ับใบอนญุ าตจากนายทะเบียนทองท่ี ÁÒμÃÒ ÷ô ผูใดฝาฝนมาตรา ๓๘ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหน่ึงปถึงย่ีสิบป และ ปรบั ตงั้ แตสองพันบาทถึงส่หี มนื่ บาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม ในการที่จะ ทํา ซ้ือ มี ใช ส่ัง นําเขามา หรือคาวัตถุ ระเบิดตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองท่ีกอน ผูใดฝาฝนตองมีความผิดและตองรับโทษตาม กฎหมาย ø. ÂŒÒÂÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´¨Ò¡·áèÕ Ë‹§Ë¹§Öè ä»Í¡Õ á˧‹ ˹§Öè â´ÂÁäÔ ´ŒÃºÑ ͹ØÞÒμ ÁÒμÃÒ ôó หามมิใหยายวัตถุระเบิดจากที่แหงหนึ่ง เวนแตไดรับหนังสืออนุญาตจาก เจา พนักงานซงึ่ รัฐมนตรีกําหนดให และในการยา ยตองปฏิบัตติ ามเงอื่ นไขในหนงั สืออนญุ าตน้นั แลว ÁÒμÃÒ øð ผูใดฝา ฝน มาตรา ๔๓ ตอ งระวางโทษปรับต้งั แตหา รอ ยบาทถงึ หาพนั บาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม ถาจะทําการยายวัตถุระเบิดจะตองขออนุญาตจาก เจาพนักงาน ซ่ึงรัฐมนตรีกําหนดไว ในกรณีที่ยายโดยไดรับอนุญาต จะตองปฏิบัติตามเงื่อนไขท่ี

๓๔ กําหนดไวในหนังสืออนุญาตนั้นดวย ซ่ึงถาหากผูใดฝาฝน ถือวาบุคคลนั้นมีความผิด และตอง ระวางโทษตามท่กี ฎหมายกาํ หนด ù. ทํา Êè§Ñ นําࢌÒËÃ×ͤҌ ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§â´ÂäÁ‹ä´ŒÃºÑ ͹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÕ¹·ÍŒ §·Õè ÁÒμÃÒ ô÷ หา มมใิ หผ ใู ดทาํ สง่ั นาํ เขา หรอื คา ซง่ึ ดอกไมเ พลงิ เวน แตจ ะไดร บั ใบอนญุ าต จากนายทะเบยี นทองที่ ÁÒμÃÒ ÷÷ ผูใดฝาฝนมาตรา ๔๗ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหน่ึงเดือน หรือ ปรับไมเกนิ หนึ่งพันบาทหรือทั้งจาํ ทง้ั ปรับ ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม จะทํา ส่ัง นําเขาหรือคาดอกไมเพลิง จะตองไดรับ อนุญาตจากนายทะเบียนทองที่เสียกอ น บคุ คลใดฝาฝน บุคคลน้ันตอ งมคี วามผิดและตองระวางโทษ ตามกฎหมายกําหนด ñð. ãËŒ¼ÙÍŒ è¹× 㪌ãºÍ¹ÞØ ÒμÍÒÇ¸Ø »¹„ ¢Í§μ¹ ÁÒμÃÒ õø ใบอนุญาตท่ีออกใหตามความในพระราชบัญญัตินี้ ใหใชไดเฉพาะตัวผูรับ ใบอนญุ าต ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผใู ดฝาฝน มาตรา ๕๘ ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเ กินสิบปห รอื ปรับไมเกนิ สองหม่นื บาทหรอื ท้งั จําทั้งปรบั ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่มีใบอนุญาต ยินยอมใหผูอ่ืนนําใบอนุญาตอาวุธปน ของตนไปใชโ ดยเจตนา บุคคลน้นั มีความผดิ ตองระวางโทษตามกฎหมาย ññ. â͹ÍÒÇظ»¹„ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊع»„¹ ËÃ×ÍÇÑμ¶ØÃÐàº´Ô ãËጠ¡¼‹ ·ÙŒ ÕÁè äÔ ´ÃŒ ѺãºÍ¹ÞØ Òμ ÁÒμÃÒ õù หามมิใหโอนอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดใหแกผูท่ีมิไดรับ ใบอนุญาต ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผูใดฝาฝนมาตรา ๕๙ ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑๐ ป หรือ ปรบั ไมเ กินสองหมื่นบาทหรือท้ังจําท้ังปรบั ¼ŒÙã´ หมายถงึ บคุ คลใดก็ตามที่จะโอนอาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน หรือวตั ถุระเบิดใหกับ ผูใดนั้นผูรับโอนจะตองเปนบุคคลท่ีไดรับใบอนุญาตเทาน้ัน ถาหากบุคคลใดโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปนหรือวัตถุระเบิดใหกับบุคคลที่ไมมีใบอนุญาต การกระทําของผูน้ันถือวาเปน ความผิดตอ งระวางโทษตามกฎหมาย ñò. ¼·ÙŒ Õèä´ÃŒ ѺãºÍ¹ÞØ ÒμãËŒÁÕáÅÐãªÍŒ ÒÇظ»„¹ÂÒŒ ¶èÔ¹·èÍÕ Âã‹Ù ˌᨌ§ÂÒŒ Âá¡‹¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ öò ผูที่ไดรับอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดยายถ่ินที่อยูใหแจงการยายแก นายทะเบียนทองท่ี ภายในสิบหาวันนับแตวันยาย และถายายไปอยูในตางทองที่ ใหแจงการยายแก นายทะเบยี นทองท่ีใหมใหท ราบภายในสิบหาวนั นบั แตวันท่ยี า ยไปถงึ อกี ดวย ÁÒμÃÒ øó ผใู ดฝาฝน ตอ งระวางโทษปรับไมเกนิ หน่งึ พันบาท

๓๕ ñó. äÁä‹ »Â¹è× ¤íÒ¢ÍÃѺãºá·¹ãºÍ¹ØÞÒμ·èÊÕ ÞÙ ËÒÂËÃÍ× ÅºàÅÍ× ¹Í‹Ò¹äÁÍ‹ Í¡μÍ‹ ¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ öù เม่ือใบอนุญาตสูญหาย เปนอันตราย หรือลบเลือนอานไมออก ใหผูรับ ใบอนญุ าตยนื่ คาํ ขอรบั ใบแทนใบอนญุ าตตอ นายทะเบยี นทอ งทภ่ี ายในสามสบิ วนั ทนี่ บั แตท ราบเหตนุ น้ั ถานายทะเบียนเห็นวามีเหตุผลเปนที่เชื่อถือไดใหออกใบแทนใหตามเงื่อนไขของใบอนุญาตเดิม แตถาใบอนุญาตท่ีสูญหายไดคืนในภายหลัง ก็ใหสงใบแทนน้ันแกนายทะเบียนทองท่ีภายในกําหนด สิบหาวันนบั แตว นั ที่ไดค นื ÁÒμÃÒ øó ผูใดฝาฝน มาตรา ๖๙ ตองระวางโทษปรับไมเ กินหนึ่งพันบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม เมื่อใบอนุญาตสูญหายหรือลบเลือนอานไมออกตอง ยื่นขอใบแทนตอนายทะเบียนทองที่ภายใน ๓๐ วัน นับแตวันทราบเหตุ ถาหากไมย่ืนขอรับใบแทน จนพนกําหนด ผูนัน้ มคี วามผิดตอ งระวางโทษตามกฎหมาย แตถาใบอนุญาตที่สูญหายแลวน้ันไดคืนภายหลัง ผูนั้นจะตองสงใบแทนท่ีเจาหนาท่ี ออกใหคืนแกนายทะเบียนทองที่ภายในกําหนด ๑๕ วัน นับแตวันไดคืน ผูใดละเลยมีความผิด และตอ งรบั โทษตามกฎหมาย

๓๖ ẺãºÍ¹ÞØ ÒμμÒ‹ §æ ¼¹Ç¡ ¡. Ẻ ».ñ เรอื่ ง....................................................................... เขยี นที.่ ................................................... วนั ที.่ .........เดือน..............................พ.ศ.................. ขาพเจา.......................................................................................อายุ......................ป เชอื้ ชาต.ิ ..........................สญั ชาต.ิ ..........................ภมู ลิ าํ เนาบา นเลขท.่ี ........................หมทู .่ี ............ ตาํ บล.......................................อาํ เภอ.......................................จงั หวดั ........................................... ยนื่ คาํ ขอตอ นายทะเบยี นทอ งทป่ี ระจาํ ............................................................................................... ดว ยขา พเจา มคี วามประสงค. ........................................................................................... ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... (ลงชอื่ ).......................................................... ผขู ออนุญาต

๓๗ ¼¹Ç¡ ¢. Ẻ ». ò ãºÍ¹ÞØ ÒμãËŒÊѧè ËÃÍ× ¹Òí à¢ÒŒ «§èÖ ÍÒÇظ»¹„ à¤Ã×èͧ¡ÃÐÊع»„¹ ÇμÑ ¶ØÃÐàºÔ´ ´Í¡äÁŒà¾Å§Ô ËÃ×ÍÊÔ§è à·ÕÂÁÍÒÇ¸Ø »¹„ ใบอนุญาตท่ี สถานท่อี อกใบอนุญาต วัน เดอื น ป ท่ีออก วนั เดือน ป ที่ส้ินอายุ ชอื่ อายุ ผูรับใบอนุญาต เช้ือชาติ สญั ชาติ ภมู ลิ าํ เนาบา นเลขท่ี หมูที่ ตําบล อําเภอ จังหวดั ชนดิ ขนาด จํานวน ทไี่ ดรับอนุญาต ใหส ่ัง หรือนําเขา ส่งั หรือนาํ เขาจาก คาธรรมเนยี ม ................................................................. นายทะเบียนทอ งท่ี ประทับตราประจําตาํ แหนง

๓๘ ¼¹Ç¡ ¤. Ẻ ». ó ãºÍ¹ØÞÒμãË«Œ Í×é ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃ×Íà¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊع»¹„ ÊÇ‹ ¹ºØ¤¤Å ãËÁŒ ÍÕ ÒÇ¸Ø »„¹ ËÃÍ× à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ÊíÒËÃѺ¡ÒäŒÒ ใบอนญุ าตท่ี สถานที่ออกใบอนญุ าต วนั เดอื น ป ท่อี อก วัน เดอื น ป ท่สี ิน้ อายุ ช่อื อายุ ผรู ับใบอนญุ าต เชือ้ ชาติ สัญชาติ ภูมิลาํ เนาบา นเลขที่ หมทู ี่ ตําบล อาํ เภอ จังหวดั ชนิด ขนาด จํานวน ทีไ่ ดรบั อนญุ าต หรือมี จาก คาธรรมเนยี ม ................................................................. (แบบนม้ี ี ๓ ตอน) นายทะเบียนทองท่ี ประทับตราประจาํ ตําแหนง

๓๙ ¼¹Ç¡ §. Ẻ ». ô ãºÍ¹ØÞÒμãËŒÁáÕ ÅÐ㪌ÍÒÇظ»„¹ ãËÁŒ ÕÍÒÇظ»¹„ äÇàŒ ¾Í×è ࡺç ãËÁŒ áÕ ÅÐ㪌ÍÒÇ¸Ø »¹„ áÅÐà¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ ªÑèǤÃÒÇ ใบอนญุ าตที่ สถานทอ่ี อกใบอนุญาต วนั เดือน ป ทอี่ อก วนั เดือน ป ทีส่ ้ินอายุ ชือ่ อายุ ผรู ับใบอนุญาต เชอ้ื ชาติ สญั ชาติ ภูมลิ าํ เนาบา นเลขท่ี หมูท่ี ตําบล อําเภอ จังหวดั ชนิด ขนาด อาวุธปน เลขหมายประจาํ ปน และช่อื ผูทาํ ปน เคร่อื งหมายทะเบียน ไดมาโดยซือ้ สง่ั นาํ เขา หรือมี โดยซอื้ หรอื รับโอนจากใคร ทีใ่ ด คา ธรรมเนียม .................................................. นายทะเบียนทองท่ี ประทบั ตราประจําตาํ แหนง

๔๐ àºç´àμÅç´ *ÁÒμÃÒ õõ “ประเภท ชนดิ และขนาดของอาวธุ ปน เคร่อื งกระสนุ ปนหรือวัตถุระเบิดท่ี นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตใหไดตามมาตรา ๗ มาตรา ๒๔ หรือ มาตรา ๓๘ ใหเปนไปตามท่ี กําหนดในกฎกระทรวง” ÁÒμÃÒ õö รฐั มนตรมี อี าํ นาจหา มมใิ หอ อกใบอนญุ าตอาวธุ ปน หรอื เครอ่ื งกระสนุ ปน เฉพาะบางชนิดในบางทองทีห่ รือทัว่ ราชอาณาจกั รตามที่กําหนดไวใ นกฎกระทรวง ÁÒμÃÒ õ÷ ในคราวมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจําเปนเพ่ือรักษาความสงบเรียบรอย ของประชาชน รัฐมนตรีมีอํานาจออกคําส่ังหามหรือจํากัดการออกใบอนุญาตทุกประเภท หรือ บางประเภทในช่ัวระยะเวลาที่กําหนดจะออกคําสั่งโดยประกาศ หรือแจงเปนหนังสือ ใหผูรับ ใบอนุญาตสงมอบอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดแกเจาพนักงาน เพ่ือเก็บรักษาไวหรือ จะสั่งใหจําหนายเสียก็ได ในกรณีท่ีส่ังใหจําหนายใหนํามาตรา ๖๗ มาใชบังคับโดยอนุโลมและ ถาไมอ าจปฏิบัติตามทกี่ ลาวแลว จะส่งั ใหจ าํ หนา ยแกทางราชการในราคาอนั สมควรกไ็ ด คาํ สั่งนจ้ี ะกาํ หนดใหใ ชบ งั คบั ในบางทอ งท่ีหรอื ท่ัวราชอาณาจักรกไ็ ด ÁÒμÃÒ õø ใบอนุญาตที่ออกใหตามความในพระราชบัญญัติน้ี ใหใชเฉพาะตัวผูรับ ใบอนุญาต ÁÒμÃÒ õù หามมิใหโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดใหแกผูที่มิไดรับ ใบอนญุ าต ÁÒμÃÒ öð เมอื่ ผรู บั ใบอนญุ าตไดร บั อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ หรือสิ่งเทียมอาวุธปน ซึ่งไดสงเขามาตามใบอนุญาตใหส่ัง ฉบับใดพนจากอารักขาของเจาพนักงาน ศุลกากรแลว แมวา ผูรับใบอนุญาตจะมิไดส ง่ั อาวุธปน เคร่ืองกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลิง หรือ สิ่งเทียมอาวุธปนเชนวาน้ีเขามาครบตามที่อนุญาตไวในใบอนุญาตก็ดี ใบอนุญาตฉบับนั้นเปนอัน ใชสง่ั ไมไ ดอีกตอไป ÁÒμÃÒ öñ อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ หรอื สง่ิ เทยี มอาวธุ ปน ท่ีสั่งเขามาในราชอาณาจักรโดยไมมีผูรับใบอนุญาต ใหสั่งใหตกเปนของแผนดินแตถาภายในสี่เดือน นับแตวันท่ีของเขามาถึง ผูสั่งไดยื่นคํารองขอสงกลับออกนอกราชอาณาจักร รัฐมนตรีวาการ กระทรวงการคลงั จะสง่ั อนญุ าตก็ได เมือ่ เปน ที่พอใจวา ผสู ัง่ ไมม ีสวนในการกระทาํ ผิดกฎหมาย ÁÒμÃÒ öò ผูที่ไดรับอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดยายถ่ินที่อยูใหแจงการยายแก นายทะเบียนทองที่ภายในสิบหาวันนับแตวันยาย และถายายไปอยูในตางทองที่ใหแจงการยายแก นายทะเบียนทอ งที่ใหมใ หท ราบภายในสบิ หา วนั นบั แตว ันทีย่ ายไปถึงอกี ดว ย *มาตรา ๕๕ น้ี แกไ ขหลงั สุดโดย พ.ร.บ.อาวธุ ปน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๒๒ นัย ม.๖ สวนของอาวุธปน ซง่ึ ถอื วา เปน “อาวุธปน” ตาม ม.๕๖ ดกู ฎกระทรวง ฉ.๓ การแจง ยา ยถนิ่ ที่อยู ตาม ม.๖๒ ดกู ฎกระทรวง ฉ.๑ ขอ ๑๐

๔๑ ÁÒμÃÒ öó ถานายทะเบียนทองท่ีปฏิเสธการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ผูย่ืนคําขออนุญาตอาจอุทธรณตอรัฐมนตรีภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวันท่ีไดรับแจง การปฏเิ สธเปน หนงั สอื คาํ อทุ ธรณใ หย น่ื ตอ นายทะเบยี นทอ งท่ี และใหน ายทะเบยี นเสนอคาํ อทุ ธรณน น้ั ตอ รฐั มนตรี โดยมิชักชา คาํ วินจิ ฉัยของรฐั มนตรีใหแจงเปนหนังสือไปยงั ผูย ่ืนคําขอใบอนุญาต ในกรณีท่ีมีการอุทธรณ ระยะเวลาที่กําหนดไวในพระราชบัญญัติน้ี เพื่อการปฏิบัติตาม คําสั่งของนายทะเบียนทองที่ใหสงกลับออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งอาวุธปนหรือเคร่ืองกระสุนปน ตามมาตรา ๑๗ หรือใหจัดการจําหนายอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดตามมาตรา ๖๔ ใหนับแตวันที่ผูยื่นคําขอใบอนุญาตไดรับหนังสือแจงคําวินิจฉัยของรัฐมนตรีและเมื่อไดยื่นอุทธรณตอ รฐั มนตรีแลว การปฏบิ ัติตามคําสัง่ ของนายทะเบยี นทอ งทนี่ น้ั ใหพ กั ไวจ นถึงวันท่ผี ูย ื่นคําขอใบอนุญาต ไดร บั หนังสือแจง คําวนิ จิ ฉยั ของรัฐมนตรี คําวนิ จิ ฉัยของรัฐมนตรใี หเ ปน ทสี่ ดุ ÁÒμÃÒ öô ถา ผไู ดร บั อนญุ าตตาย ใหผ ซู ง่ึ มอี าวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ หรือใบอนุญาตของผูตายอยูในความครอบครอง แจงการตายตอนายทะเบียนทองท่ีซ่ึงตนอยู หรือ นายทะเบียนทองที่ท่ีออกใบอนุญาตหรือนายทะเบียนทองท่ีท่ีผูรับใบอนุญาตตายภายในกําหนด สามสบิ วนั นบั แตว ันท่ีทราบการตายของผูร ับใบอนญุ าต นายทะเบียนมีอํานาจส่ังใหเก็บรักษาอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดของ ผรู ับใบอนุญาตที่ตายไวอ ยางไร และ ณ ท่ีใดก็ไดต ามควรแกกรณีและถามีขอ โตเ ถยี งถงึ เรอื่ งสิทธขิ อง ทายาท กใ็ หเก็บรักษาไวจนกวา ขอโตเ ถียงนน้ั ถึงทสี่ ดุ ภายในกําหนดหกเดือนนับแตวันที่ผูรับใบอนุญาตตาย หรือถามีขอโตเถียงถึงเร่ืองสิทธิ ของทายาทนับแตวันท่ีขอโตเถียงน้ันถึงท่ีสุด ผูจัดการมรดกหรือทายาทในกรณีที่ไมมีผูจัดการมรดก อาจขอใบอนญุ าตใหมไ ด เมอื่ นายทะเบยี นไดอ อกใบอนญุ าตใหแ ลว ใหม อบอาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน หรือวัตถุระเบิดนั้นแกผูรับใบอนุญาตใหม ถาไมออกใบอนุญาตใหใหม ก็ใหแจงความใหผูขอ ทราบและสั่งใหผูจัดการจําหนายส่ิงเหลานั้นภายในกําหนดหกเดือน นับแตวันรับคําส่ัง มิฉะน้ัน ใหนายทะเบียนทองท่ีมีอํานาจจัดการขายทอดตลาดสิ่งเหลาน้ัน ไดเงินจํานวนสุทธิเทาใดใหสงมอบ แกผ มู ีสทิ ธิ ÁÒμÃÒ öõ ผูรับใบอนุญาตคนใดตกเปนผูซึ่งจะออกใบอนุญาตใหไมไดตามความใน พระราชบญั ญตั นิ ้ี ใหแ จงพฤตกิ ารณน ัน้ และสง มอบอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวตั ถรุ ะเบิด และ ใบอนุญาตใหแกนายทะเบียนทองที่โดยไมชักชา และใหนายทะเบียนทองที่หรือรัฐมนตรีส่ังเพิกถอน ใบอนุญาตนนั้ เสยี ถา ผรู บั ใบอนุญาตเปนคนไรค วามสามารถ หรอื เปน คนเสมอื นไรค วามสามารถ หรือเปน คนวิกลจริต หรือจิตฟนเฟอนไมสมประกอบ ใหผูอนุญาต ผูพิทักษ หรือผูควบคุมดูแล แลวแตกรณี มหี นา ที่ตองปฏิบัติตามความในวรรคกอ น ÁÒμÃÒ öö ถาปรากฏวาผูที่ไดรับใบอนุญาตตามความในพระราชบัญญัติน้ีเปนผูซ่ึง จะออกใบอนญุ าตใหไ มไ ด ใหน ายทะเบยี นทอ งทห่ี รอื รฐั มนตรสี ง่ั เพกิ ถอนใบอนญุ าตนนั้ เสยี เมอื่ ไดร บั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook