Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ไขข้อข้องใจ

Description: ไขข้อข้องใจ

Search

Read the Text Version

ปีญทาช้อ <£ น ฆ® ใr?ชัก?นธ้อ์M'Jiwwfi'JWfiffJwwfl'ffSTW ทfอไม่ s WBll ปิญหาฃ้ธนเllนITองซองพระ แฅ่ก็่น่าทํ่ชาวบ้านกวร^ว้เซ่นกัน กำ ว่า \"อคริมนสธmi\" นั้น กือถาทอ่ยอ้างว่ากัวมกุนiOLPiymuอมนุษย ที๋มนุษยทั่0ไปไม่สามารถจะมหรือเป็นไค้ เซ่น บอกว่ากนไค้บรรลุมรรก บรรลุผส บอกว่าไค้ฌานสมาบักิหรือมอิทธิฤทธิ๋อย่างนั้นอย่างนั้ นั้-Jๆ ทไมไค้บรรลุ ไม่มจริง ไม่เป็นจริงฅามทบอก แก่บอกเพํ่อไหัเขาเข้าใจขิก เพืออาภ เพือบก หรือเพืออะไร ก็่แส้ว การบอกกล่าๆกักษณะนั้เรืยกว่า \"อวคอุตริมนุสธรรม\" เรืยกกันๆ ว่า \"อวคอุตริ\" เมํ่อพระอวกอย่างนั้มโทษหนกมาก กือค้องอาบัติปาราขิก ฃาฅจาก กวานเป็นภิกษุกากยบุคร ถึงจะมจริงกามทอวกก็่บังไม่พ'นขิค ท่านปรับเป็นอาบัติ ปาจิคคย ทากไม่รว?! รงๆ พูฅอ้ธมท้ธมไป แฅ่คน^งเช้าใ'Vตามเจตนาใฅ้ ปรบเป็น อาบัติถุกตัจจัย ช้าเๆน^งไม่แช้าใ'^ปรับเป็นทกกฏ นั้คอโทษฃธงการอวตธุตริมนุสธรรม ชงเท่ากับว่าท่านห้ามพูตห้ามเอ่ย ห้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าโคยตรงหรอโดยอ้อม ไม่ว่าจะมจริงหรือไม่มจริง ทั๋ว่าอวกธุตริเป็นปาราชิกกือเป็นอาบัติร้ายแรง ท่านปรับถึงฃาฅจากกวาม เป็นพระ จะกกับมาอปสมบทใหม่ก็่ไม่เป็นพระไค้ แม้จะอยู่กรองค้าเหสืองกี่จักเป็น \"มหาโจร\" ในกาสนา ทำ นอง \"เอาผ้าเหถึองคลุมตอกี่พอกัน\" นั่นเทยๆ คงนั้น กำ ถามทถามมาข้างค้นนั้นจั้งฅอบไค้ว่าไม่เป็นอาบัติปาราชิก เพราะอะไร เพราะเป็นการพูกกันเล่น เย้ากันเล่นในระหว่างเพิ่อนฝูง ค่างกี่มเจกนาจะพูค เอาขนะกันเท่านั้น มิไค้มเจกนาจะใหอกม่ายหนึ๋งเขื่อจริงจังสงไป เพราะค่างกี่ร้ว่า ถึงอย่างไรกี่ทำไมไค้แน่ คูกำ พูคของอกองกกี่รูไค้ว่า \"นั่นแน่ คุณโกทก\" แสคงว่า ไม่เขื่อนามนค้อยู่แอ้ว พะธรรมกิตติวงศ์ 1 ๑๓<r www.kalyanamitra.org

แฉ้วจร!เป็นอาบัคิอรไร ไฅ้ออบถามท่านยู้รูหลายท่านแล้'ไ ท่านฅอบว่าเป็นอาบัฅิทุกกฏ ฐานทำ เรองทํ่ไม่ถูก ไม่กวร ไม่รรวังปากรรวังกำกัน แต่ในกำราไม่มปงชัคไว้ว่าล้องอากัฅิ อรไร เท่ยบเกํยงเอาจากเรึ๋องทำนองเท่ยวกันนเท่านั้น พรรมหาทองท่ อุรเ?เโช ป.ธ.(ะ^ 6>aib ไชท้อข้อง'^) www.kalyanamitra.org

ไยขอข้อVไๆ จาก \"มงท©ฟ้าร\" เคอนกนยายน ๒๕ร ถามโทย... พรรฟ้มใจ ปญฌาปทโป ถาม กรรนมมความf(ง^ยในวินัยอยV่ข้อหนง สมมติว^'ๆภิกษนิรปหนึ๋งมเจตนา กรรทำอัดวินิบาตกรรมคอฆ่าตัวตายจนติาเรึ๋จ ภิกษุรูปนนจรเปีนอาบติปาราซิก หรอไม่ ถ้าไม่เปีนเหรารเหฅุไร บางอาจารย์วินิจนัยว่าเปีนอาบัติปาราชิก แต่ บางอาจารยว่าไม่เปีนอาบติปาราซิก เพรารผู้กรรทำไถ้ตายไปแถ้ว ไม่รู้ว่าจรไป ปรบตับใคร แค'ก็มผู้แย้งว่าอานัติกคือบาปนนแหตร ถงจรไม่มืใครปร้บตัวเองก็่ รู้เอง จรนั้น ขอใถ้ฟานมหาช่วยวินิจฉยให้แจ่มแจ้งทว่าภิกษุทฆ่าตัวตายนั้น จรปร้บเปีนอาบติปาราซิกไถ้หรอไม่ ปร้บไถ้เพรารเหตุใด ไมไถ้เพรารเหตุใด แสรอกข้อหนึ่ง นักอภิธรรมทั้งหลายถกเถยงตันมากมายคือจิตนั้นม อำ นาจอังไถ้หรือไม่ คือหมายความว่าทกติงทกอย'างทึ๋กรรทำลงไปนั้น จิตอัง หรือสมองอัง เพรารบางคนกี่ว่าหกติง จิฅเปีน^ง แต่บางอาจารย้กี่ว่าจิตไม่ม่ อำ นาจอังไถ้ เปีนแต่เทยงเกิดขนแล้วกี่ตับไปเท่านั้น เปีนไปตามสภาวร จิงขอ ให้มหาช่วยชแจงให้แจ่มแจ้งถ้วยว่าจิตอังไถ้หรือไม่ www.kalyanamitra.org

ตอุ่ร;^ ธญหาของท่านขยแยกคอบเ?!น 1๓ ปรรเก็่น กอ ประเฅื่นแรกทว่า พระฆ่าคัวคายเป็นอาบัคิปาราชิกหรอไม่นั้น ขอคอบ คามทไกสืกษามาและคามที่ไคัใก่ถามท่านผูรูหอายท่านว่า \"ไม่เป็นปาราชิกุ\" ไค้พยายามก้นหาในคำราหลายเล่มรวมทั้งในพระไตรปิฎกแต้ว ก็่ไม่พบ คัวอย่างหรือกำคัครนทํ่แลคงไว้ครงๆ เพยงแค่ว่าคันมาว่าเป็นอาบัคิทุกกฎเท่านั้น เหฅผลทั้ท่านว่าไวกี่กือ เมื่อก่อนจะคายการฆ่านั้นบังไม่ลมบูรโนกึอยังไม่กรบองกํกํล คนจงไม่ก้องปาราชิกขณะมขวิฅอยู่ พอการฆ่าล่าเร็่จกี่คายพอคั๋ ซวิคคับพร้อมคับ ภาวะภิกษุกี่หมคไปค้วย กีอสืนฟ้ภาพกวามเป็นพระไปแต้วพร้อมคับการคาย ฉะนั้น จงกอว่าตายในขณะสินภาวะภิกษุ ปาราชิกจึงไม่มเพราะปาราชิกเป็นอาบัติล่าหรบ ภิกษุ แคทว่าก้องอาบัติทุกกฎ คือเป็นการทำขั่วเพราะประกอบค้วยองกํอื่นๆ เช่นมกวามพยายามและเพราะจับก้องอาวุธทํ่เปีนเกรองประหาร และอาบัติทุกกฏนั้ ก้องในขณะทท่านบังมชิวิตและเป็นพระอยู่ คงคอบไค้แค่นั้ ประเคี่นที่ฟ้อง เรื่องจิฅคับเรํ่องลมองนั้กี่เหมือนคัน เป็นเรื่องที่ถกเถยงคัน มากในวงการคืกษาทั้งทางโลกทางธรรมในปิจจุบันว่าอะไรอยู่เหนืออะไร ใกรใหญ่ กว่าคัน ใกรคังใกร เป็นก้น คามหลักศาลนาพทธท่านว่า จิคเป็นใหญ่ เป็นประธาน คามพระบาลว่า \"มโนษุพพ-^คมา ธมมา มโนเสฎ^า มโนมยา\" นั่นแหละถูกก้องแต้ว ล่วนลมองเป็นเกรื่องมือแห่งจิคจัคเป็น \"สิงซารขันธ\" ในเบญจฃนธ คือ เป็นเกรื่องปรงแต่งจิคอกท หรือจะว่าเป็นผู้ทำใหจิคประณคหรือเลวทรามก็่ไค้ ครง คับภาษาอภิธรรมว่า \"เจคสิก\" นั่นแหละ ไอะออัองรืจ, www.kalyanamitra.org

เจตสิกนั้นมปกติเกิคฃ็้นแลรคับไปพร้อมกับจิฅ ว่าอร!ไรว่าตามกัน ติฅสิอย ห้อยตามจิตอณู่ลมอ แต่ทั้งจิตและ!เจตสิกนั้นแยกส่วนกันออก เพราะ!จิตอยู่เป็น เอกเทศโดยไม่ต้องมเจตสิกไค้ แต่เจตสิกจะ!อยู่เป็นเอกเทศไม่อาคัยจิตไมไต้ ตกลงว่าจิตมอำนาจดกว่าเจตสิก พูดวกไปเวยนมา ผู้อ่านกงนึกถึงหมอน เข้าไปทุกท ลมมติว่ามโรงงานแห่งหนํ่ง เจ้าของโรงงานกังไหหวหน้ากนงานไปทำงาน นั้นๆ ให้เลร็่จ หัวหน้ากนงานกึ๋!ปกังกนงานให้ทำงานอกต่อหนึ่ง กนงานก็่ทำงาน ตามกำกัง พอทำเล่ร็่จแล้วกี่มาบอกหัวหน้า หัวหน้ากี่มารายงานให้เจ้าของโรงงาน ทราบ พูดอย่างนั้ ท่านกงนึกตามออกนะ ว่าใกรใหญ่กว่ากัน ใกรกังใกร จิตเปรยบเหมือนเจ้าของโรงงาน ลมองเปรยบเหมือนหัวหน้ากนงาน มือ เท้าและอวัยวะต่างๆ เปรยบเหมือนกนงาน เปรยบเซ่นนั้กงมองเห็่นแล้วว่าลมองเป็นเกรองมืออันส่ากัญของจิตในการ กังการ จิตเป็นผู้กังก่อนแล้วลมองกำเนินการตามกังอย่างละเอยคอกกรั้ง หากจิต กังให้ทำค ลมองกี่กังอวัยวะต่างๆ ให้ทำค หากจิตกังให้ทำชั่ว ลมองกี่กังให้ลงมือ เซ่นทจิตต้องการ เลร็่จแล้วรายงานจิตอกทํ ตามภาษาอภิธรรมท่านว่า จิตมืสภาพรับ จำ คิด รู้ โดยผ่านทางทวาร ๖ ชั่งสิงทํ่ผ่านทางทวารเข้าไปหาจิตนั้นเรัยกว่า \"อารมณ\" ทํ่ว่าลมองเป็นกังขารขันธหรือผู้ปรุงแต่งอารมณ์นั้นหมายกวามว่า ลมอง จะปรุงหรือกลั่นกรองอารมโน!ห้ละเอยคเถึยทํก่อนแล้วส่งไปทจิต เซ่นปรุงเป็นกวาม คใจ เถึยใจ รัก ขอบ ขัง เป็นต้น ขาดลมอง จิฅกี่หมดลมรรถภาพในการทำงาน ขาดจิต ลมองกี่ตาย ทำ งาน พระธรรมกิตติวงศ์ I ๑๓๙ www.kalyanamitra.org

เปรยบอกครั้ง จิฅเหมือนนายช่าง สมองเหมือนเกรํ่องจักร นายช่างต้องอาจัยเกรองจักร ให้ทำงานแทน เฅรึ๋องจักรกี่ต้องอาจัยนายช่างมากวบกุมเวลาทำงาน หากนายช่าง ป่วยเสืย เกรองจักรกี่หยุคเกิน หากเกรองจักรเสืย นายช่างกี่หมคกวามหมาย เกยทราบมาว่ามืคอกเตอรอังกฤษฆู้หนํ่งในมหาวิทยาลัยมืซอแห่งหนํ่งของ อังกฤษ ไต้ทำการก้นกว้าเกี่ยวกับเรึ๋องจิฅกับสมองนิ้มานานนับสิบปี ฆลสุคท้ายไต้ ผลสรุปออกมาว่า \"จิตมึอำนา'Vเหนือสมอง\" ทำ ให้วงการวิทยากาสครํโคยเฉพาร สาขาสรรกาสตรงุนงงมาก ทั้งนเพรา2เกยเชํ่อกันมาแค่เกิมว่า \"สมองมอำนๆ'Vเหนือ ทุกอย่างในร่างกาย\" ผลของการก้นกว้าทคลองนั้นเอง กลายเปีนเกรํ่องพิสูจนัหลักกำสอนใน พร2พุทธกาสนาทว่า \"มโนปุพพงฺคมา ธมมา\" ไต้เป็นอย่างค แสคงว่าพร2พุทธเว้า ทรงทราบทฤษฎนั้มาก่อนกว่า kD,๕00 ปีแล้ว เรึ๋องจิคกับสมองกงจ2พอยุติไต้บ้างกระมัง พระมหาทองค สรเตโช ป.ธ.(?/ ๑๔0 I ไจอ้อธ้อป๋ www.kalyanamitra.org

พ- ไขขอข้อVใๆ จาก \"มงกรฟ้าร\" เลือนตุลาคม ๒3๕®<๙ กามโกย... ตุณ พ. เร3องฟ้บุทร ถาม จุคบ่รรสงค์ทแท้จรงของวิชาธรรมกายนั้นคืออรไร ผมไค้เคยเห็่นมา ม แม่ชบางคนบอกว่าไค้ธรรมกาย เมอเขาถามว่าพ่อแม่หรอญาติทดายไปเกคทไทน แม่ซั๋จรนั่งธรรมกายแล้วบอกว่าไปอย่ทํ่นั้นทนํ่ เวลานั้กำล้งคกนรกอยู่ลำบากมาก ค้องช่วยเหคือด้วยการบริจาคทร้พ่ยแลรใหับริจาคแก'ผู้ไค้ธรรมกายเท่านั้น อย่างนั้ เราจรเชอไค้หรือไม่ ขอให้ตอบให้หายข้องใจด้วย คอบ วิชาธทมกายนั้นว่ากันเฉพาะทํ่ปฎิบัฅกันไนวัคปาก'นานั้ มจุคนุ่งหมายคือ เพํ่อทำสมาธิใ'^ฅใจฟ้งบระงับ ท่านไซ้กำว่า \"ทำใจให้หยุคค้วย ไห้นั้งค้วย\" นั่น กี่กืกสมถกรรมฐานไนพระพุทธสาสนานั่นเอง โคยสอนกันมาไห้ยึค \"พุทธา'นสติ\" เป็นอารมณ์ ค้วยการภาวนาว่า \"สิ'มมา อรรรห้งๆๆ\" กังรายละเอยฅทํ่ไฅซิ้แจง ไนหนังสิอมงกลสารมาแลัๆโคยลำกับ เมื่อไจหบุคไจนั่งกงระกับไค้ฌานแล้วย'อมไค้ รับนสกือทำไห้จ็คมพลังอำนาจ จิตทมพลังอำนาจนั่แหละ ทอาจนำไปไข้ให้เป็น www.kalyanamitra.org

ประ!โยชน!ค้ ฟน กำ หนค^จชองผู้อึ่น สะ:กดจิฅยูอื่น รักษาโรกภัยไข้เจี่บบางอย่าง ไค้ หรือเป็นฐานไหไค้บรรลุธรรมทสูงฃิ้นไป อื่งมภาษาเรืยกโดยทั่วไปว่า \"ยกขน^ วิปีสสนๆ\" ชงมฆลดือทำให้เกิดปิญญาเหี่นแข้งประ!จักษทเรืยกว่า \"ญาณ\" หรือ \"วิชชา\" เซ่น ระ:ลึกชาคิไค้ รู้ภูมิเกิดภูมิดายชองภัดว่อื่นจนกระทั่งลึงวิธทำให้กิเลส หมดไปจากจิต กราวนิ้มาถงปิญหาทํ่ว่าไค้ธรรมกายน่ะไค้แกไหน ไค้กายไหน เพราะธรรม กายมหลายกายหลายขั้น ธรรมกายขั้นค้นขั้นฅาๆ กี่อาจเกิดไค้กับนักบวชศาสนา อื่นหรือกับศาสดาอื่นหากปฏิบัติให้ถูกวิธ เพราะภาวะจิดเซ่นนิ้เป็นภัจธรรมดือเป็น สภาวะทํ่เป็นจริง เกิดไค้แก่ทุกกนหากประกอบหรือปฏิบัติไค้ถูกวิธ เหมือนธรรมชาติ หากประกอบไค้ถูกส่วนกี่ใค้ผลเหมือนกัน เซ่นการประกอบเกรํ่องวิทยุเกรึ๋องโทรทัศน์ หากประกอบส่วนถูกค้อง ปรับใหรับกอื่นทส่งมาไค้ กี่สามารถรับเลึยงรับภาพไค้ ธรรมกายกี่เหมือนกัน ไม่ว่าผู้ปฏิบัติจะเป็นกนไทย จิน ฝรั่ง แชก หากประกอบ ถูกส่วนดือปฏิบัติไค้ตรงดามวิธกี่ทำให้เกิดให้มืไค้เหมือนกัน จึงเป็นวิชาทมิไค้จำกัด ว่าจะเกิดมืเฉพาะแก'พุทธศาสนิกชนเท่านั้น มิไค้ผูกชาดเฉพาะฆู้ใดผู้หน์ง เป็น สาธารณะทั่วไปทใกรกี่ไค้เมํ่อค้องการกี่สามารถป็กฝนทำให้เกิดมืในตนไค้ทั้งนั้น ธรรมกายทิ่สามารถมองเห็่นภพภูมิชองภัตวผู้ตายแล้วกี่มือยู่ ยูทั่สามารถ ไซ้วิชาธรรมกายมองเหี่นไค้กี่มือยู่ แด่มาติดใจดรงทึ่กุณบอกว่าเห็่นทํไรเป็นบอกว่า ยูนั้นดกนรกทุกทํ ค้องซ่วยเหลือค้วยการบริจากทรัพยทุกทํนํ่ชิ ทำ ไมเป็นอย่างนั้นกี่ไม่รู้ แด่กี่อาจจะเป็นอย่างนั้นจริงกี่ไค้ เพราะคนเราส่วนใหญ่ทำบาปกรรมไว้มาก ดายไปตกนรกกันมาก ว่ากันอย่างนั้น แด่ทมืเบองหน้าเบองหภังอยู่กี่มืไม่น้อย พอพูดถึงเรั่องนั้แล้วกี่กลุ้มใจเหมือนกัน เดึ๋ยวนั้กนเราหากินกันแปลกๆ มากขั้น พอกนนิยมชมชอบอื่งไหนมากๆ กี่พยายามทำเทํยมเลึยนแบบให้ชาวบ้าน ๑๔๒ I ไออ้อจ้อง% www.kalyanamitra.org

เข้าใๆผิคคิคว่าจริง ของเทยมๆงมเกร่อMนท้องฅลาค แม้พรรอรหันฅเอง ปิจจุบัน ก็่ซักมีพรรอรหันฅปรรเภท \"อรหันต์ตุ่ม อรหันต์ย่านไทร\" แบบสมัยพุทธองกเกิค ขนมาเป็นระยรๆ อ้วนแล้วแต่เป็น \"ยู้ว้เศษ\" ทั้งนั้น ปลุกไค้แม้กรรทั่งพรรพุทธเจ้า เมํ่อเป็นอย่างนั้ \"ธรรมกาย\" ซํ่งเป็นวิขซาทั่หถวงพ่อวัคปากนั้าไค้เข้าถึงแล้วนำมา สอนคามแบบเคิมของพรรพุทธเจ้าจรไม่ถูกนำไปเป็นเกรื่องมือหากินไค้อย่างไร ปลงเถึยเลอรคุณเอย! น่าเห็่นใจท่านทั่ไค้ธรรมกายจริงๆ ซึ่งต้องมาพลอยมัวหมองไปค้วยเพราร บุกกลบางกนทั่มุ่งหลอกลวงเพํ่อหวังปรรโยขน่ส่วนคัว สมัยนั้การหากินค้วยการคลบฅรแลง โกหกขาวบ้านโคยใข้เพศภาวรเป็น เกรํ่องมือหากินมีมากมาย ทำ ให้ซาวบ้านไม่รู้ว่าของจริงคืออรไรและเป็นอย่างไร จรไค้ปฏิบัติถูกเซึ่อถึอถูก แคกอั๋กนั่นแหลร ธรรมกายของจริงของแท้ทั่พระท่าน บอกท่านสอนกันคามหลักคามวิธนั้น ผู้กนส่วนมากก!มกอยจรเซึ่อ ไม่ก่อยจรชอบ กันเถึยค้วย ในข้อนั้มีกวามเหี่นว่า การกรรทำอันใคกี่คามทั่เป็นกำสอนของพระพุทธเจ้า หรือเป็นพุทธประสงกทั่แท้จริง การกรรทำอันนั้นย่อมเป็นไปเพํ่อ \"ให้\" มากกว่า \"nj\" หรือเป็นไปแบบ \"รบเพํ่อให้\" เสมอ เพรารพระพุทธเจ้าทรงมีแต่ให้ ทรง ปฏิบัติจัคทำเพื่อประโยซน่เพํ่อกวามสุขของขาวโลกเป็นเกณฑ พรรองกทรงสอน พุทธบริษัทกี่ทำนองนั้ หากจรเป็นผู้รับกี่กวรเป็นผู้สมกวรจะรับ ให้เขาให้ค้วยใจ ศรัทธา มิใช่รับค้วยการบังกับโคยการบอกให้เขาให้ เพราะมันเท่ากับว่า \"ใช้วิชา หากิน\" นั่นเอง แต่ทั้งนั้กี่อยู่พื่ใจของผู้บอกเช่นนั้นจรบริสุทธิ้หรือบุ่งจรหลอกลวง พระท่านว่า \"เจตนาหํ ภิกซเว กมฺมํ วทามิ - ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา กล่าวว่าเจตนานั่นเป็นคัวกรรม\" หมายกวามว่า จรเป็นการโกหกหรือการจริง อย่างไร กนอนไม่ว่าม้ถามหรือผ้ฅอบไม่สามารถร!ค้ แต่ฆ้กรรทำย่อมร้เอง ฅนอํ่น www.kalyanamitra.org พระธรรมกิตติวป๋ศ์ I ๑๔๓

อย่างคฑ็่เพยงแก่ \"พอ!'\" เท่านั้น เพราะถูเหี่นไค้เพยงฑารกระทำซองเซา ค้งทั๋ กล่าวกันว่า \"กา7ก7£ทาเป็นแๆTธงdemuๆ\" ล่ๆนเ'รองจะเขึ่อหรือไม่เชํ่อฅาบกำบอกเล่านั้นเป็นหน้าทซองกุณเอง เพราะ ทแอไกํกมั๋ ที๋เซึ๋อไม่ใ^มาก อันนั้ค้องพิจารณาเอาเอง แก่บิใซ่ว่าจะเชื่อไมไค้กั้งหมอ ก่อนจะเชื่อเๆวรพิจารณาให้รอบ!ๆอบเสืยก่อน ต้องมญาณกือปิญญาพิจารณาเหกุผอ เข้ากำกับ เพราะหากเชื่อโฅบงมงายหรือไม่ระแวงระวังไหค้กื่อาจหองกลเขาไต้ง่ายๆ เท่าม แม่ช \"เมคอัพ\" หนาได้หfธไม่ มมเคยเห็่มทู]แม่ชบางอัตชงถำยด้วย ^ลมด้เหมือนเมคอัพหน้า แลรเวลาเดินอวนทางแม่จบางคนมืกลํ่นนาหอมโชย ออกมาทเคยว ฅอบ เรืองการเมกอัพแอะใซ้นํ้าหอมนั้น ฟิาหรัยนักบวขในกาฟ้นาพุทธไข้!นใค้ แม้ แก่แม่ซเองก็่มสืกห้ามไว้ข้อหนํ่ง คือ ข้อ ctI แท่งคืล ๗ ทํ่ว่า เว้นการฟ้อนรำ ขับรองประโคมคนครืแอะถูการเล่นอบเ!เนข้าสืก แอะเว้นจากการถูบไล้ท้'คทรง ประกับตกแต่งร่างกายค้วยระเบยบคอกไม้ของหอมเครืองย้อมเครืองทา ปิญหา ณี่รยหมคไปฅอนหนํ่งว่า \"ไค้หรือไมไค้\" เพราะขัคเจนอยู่แห้ว ล่วนข้อกวามหห้งเป็นกำรำพิงของคุณ ไมไข่กำถาม เกยไม่มกำคอบ แก่ กำ รำ พิงนั้นก็่อาจจะมคุณก่า เพราะอาจมแม่ฃบางท่านยังรักฟ้วยรักงามอยู่คาม ธรรมขาติของผู้หญิง แม้บวขแห้วกี่อคจะทำอย่างนั้นไมไค้ แม้จะมิคหน่อยก็่ยังสื แก่ก็่มข้อทน่ากิฅอยูไนกำถามข้อนั้ การทํ่เห็่นรูปภาพแห้วกิคเอาว่าน่าจะมการเมกอัพหน้า อาจเป็นการกิคเอง สรุปเองกี๋ใค้ แม่ชท่านนั้นอาจไมไค้ทำอย่างนั้นกี่ไค้ อาจมการแก่งพิสมเพอให้รูป ออกมาคูคึกี่ไต้ หรืออาจแก่งหน้าจริงกี่ไต้ เป็นไต้กั้งนั้น เพราะสมัยนั้จะเสริมเติม แก่งรปภาพอย่างไรย่อมทำไต้!ม'ยากนัก ใรจ้ออ้อง ริจ www.kalyanamitra.org

ส์าหรบกลิ่นนํ้าหอมทโชยธซกมาจนๆณไค้กลั่นนั้น เป็นกลิ่นจากคัวแม่^หรย จากเนั้อผ้าแม่ซ เพรารหากบาจากเนั้คผ้าร็!ไม่ถือว่าธกอะไร แม้จะมาจากคัวกี่ค้ซง แยกแยะอกว่าเป็นกลิ่นนั้าหอมหรอกลิ่นจากซบ่หอม เพราะการใช้อบู่นั้นไม่ถือว่าขิค เป็นการชำระค้างมลทินของร่างกายฅามปกติ และบางอย่างถือเป็นการรักษาโรก ผิวหนังทางหนั้งค้วย แค่ว่าลบู่บางขนิกมกลิ่นทหอมเหมือนนั้าหอม ทึ่กล่าวคังนั้มิไข่เช้าช้างใ!ๆร แค่ว่าไปฅามช้อเที่จจริง ทั้งเพอให้แนวกิ?]ใน เรํ่องอย่างนั้ว่า การทจะคัคสินการกระทำอย่างนั้นอย่างนั้ว่าผิคหรอไม่ขิคนั้นค้องรอบกอบ มืความซคเจนในรายละเอยค ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นผิคไปเสิยเอง ฐานกล่าวร้าย หร้อประทุษร้ายทางใจค่อขู้ทำ แล:;ทิ่^าทัญคึธ เมื่ธตัวเองเข้าใจเธาเธงว่าเขาทํพด ตัวเองmะไม่สบายh ไปดตอค ทัง้ทึ๋ข้อเท็่วจ?งมิไค้เป็นเช่นนั้นเตย เปีนกาทข้าhนิฅแท้ๆ ธย่างนิ้ยถเนิย ย่อมฅกแก่ผู้เข้าhนิฅนั้นเอง MB มมไปติดฅ่อฬ^^องทำบญส^เตารแครๆแา ฟานให้ผมสร้างmiพทรpj ขนาดเท่าดวผมจงจรทมคเครารท เมึ๋อผมสร้างแห้วเครารท่จรทมดจร็งไทม แลร สร้างพรรพทธท]มอานิสงห้อย่างไร ๆณไมไค้บอกเถืยค้วบว่าๆณมืเกราะหอะไร แค่ก็่กงมืเกราะหมากนั่นแหละ จึงถืงกับค้องลร้างพระแทนคัว พอสร้างแค้วกงจะหมกเกราะหจริงๆ เพราะจิตใจ ของๆณกงลบายขน หากยงไม่ลร้างกงจะอั๋กอักไม่สบายใจ กวามไม่สบายใจนแหละ ทํ่ทำ ให้คนเป็นทุกข่ เป็นกังวล พอใจเป็นทุกข่ หน้ากากึ๋ใม่มืนั้ามืนวส เช้าทำนอง หน้ากำกรํ่าเกร้ยกนั่นแหละ ถืงกอนนั้ย่อมจะมืกนทักว่า \"เกราะห้ใม่ค้\" ค้องสะเกาะ เกราะหค้วยการสร้างพระ 4งก็่กึอสร้างกวามสบายใจนั่นเอง กนเราถองใจสบายเถืยแค้ว สง่ารากินันขนมาเองแหละ โกยเจ้าคัวไม่ค้อง ไปเมกอัพให้เปลืองเงินเปลืองทอง www.kalyanamitra.org พระสรรมกิตติวป๋ศ์ || «๔๕

หากจร{ไปเมกอัพในตอนอายุมากๆ ฅ้วยแก้ว ย่านไปทางไหนกนเขากี่จ กอนฃอคเอาว่า \"แก่แล้วไม่เจยม^งชาT\" กลุ้มใจไปเปล่าๆ การส์ร!เคาะ!เกราะ:หแบบนั้กี่กึอการทำบุญแบบหนํ่ง ไค้ขลคค้านจิตใจอังกล่าว และ:การสร้างพระ{พุทธรปนั้ย่อมมอานิสงส์มากมาย เท่าทํ่ผร'เก่าๆ ท่านไค้ จํ ข ฟ้ข้ I เขยนไว้ในทํ่ฅ่างๆ กัน พอจะประมวลไค้อังน (๑) ไค้ซื่อว่าสร้างรูปเปรยบหรือองกแทนพระพุทธองกไว้ให้ปรากฏในโลก หนํ่งองก พระพุทธรูปนั้จัคเป็น \"อุเทสิกเจดย\" กือเจฅยทสร้างอุทิศถวายเป็น พุทธบูขา ผู้สร้างถือว่าเป็นผู้มจิตศรัทธาเกี่มเป็ยมในพระพุทธเจ้าย่อมเป็นบุญตั้งแต่ เรํ่มกิคจะสร้าง (๒) ย่อมไค้บุญเพราะไค้บริจากทรัพย่เป็น ทานมย หากไค้กราบไหว้บูชา กี่เป็นบุญข้อ อปาจายนม'ย (บุญทํ่เกิคจากการเการพอ่อนน้อมถ่อมตน) หากไค้ ขวนขวายคูแลเอาใจใส่สร้างจนล่าเรี่จกี่เป็นบุญข้อ ไวยาวัจมั'ย (บุญทเกิคจากการ ขวนขวายในกิจทํ่ซอบ) และบุญอํ่นๆ อกมากมาย (๓) เมํ่อสร้างเป็นองกพระฃ็้นแก้วนำไปประดิษฐานไว้ ณ ทึ๋ใค ประขาขน ในทํ่นั้นกี่ไค้กราบไหว้บูขา กุศลกี่จะเกิคแก่ผู้สร้างในฐานะทสร้างถือน้อมนำใจให้ พวกเขาเกิคศรัทธาและระลึกถืงพระพุทธกุณ เป็นเหตุให้ผู้สร้างเกิดป็ฅิเบิกบานใจ เกิคความแช่มซึ่นทางใจตลอดไป (<i) พระพุทธรูปทสร้างไว้ย่อมมดิลปะงคงาม นำ ให้เกิดศรัทธาปสาทะทันทิ ทไค้เห็่น ผู้สร้างกี่จะไค้รับผลถือ เกิดเป็นกนรูปงาม มีสง่า มีบุฅลิกน่าเกรงขาม เป็นทรักใกร่ของปวงขนทั่วไป เจริญค้วยทรัพย์ ยศ และบริวาร โดยเฉพาะย่อม เป็นฆูมผิวพรรณงาม มีรูปทรงงาม และไม่วิกลวิการทางอวัยวะ ในทุกภพทุกขาฅิ ตราบเท่าทบุญนั้ยังผลให้อยู่ {๕) เวลาใกก้รันซวิต หากน้อมนึกเอาพระพุทธรูปทั่สร้างมาเป็นนิมิตมา เป็นอารมถแโค้ เมื่อรันซวิตแก้วย่อมมีสุฅติเป็นทํ่ไปเพราะนิมิตปรากฏค I ไขข้อข้องริ'?, www.kalyanamitra.org

0๐) เป็นการขยายสืถปะก้านนิ้ให้กว้างขวาง อันเป็นขลคโคยอ้อม เพราร ทุทธปฏิมาสืลป็นั้จัคเป็นสืลปรตะเอยคอ่อน งดงาม นำ ให้ยู้คูยู้ซมแม้จะไม่นับถือให้ เกิคอารมณ์อ่อนไหว เยือกเย็่น ตงบฅามไปก้วย พร้อมทั้งให้เกิคแนวฅิคก้านปิญญา แก่ผู้คูยู้ซมก้วย จร!เห็่นว่า(เร้างพร^ฬุท]TTปนั้นมอานิสง^มหาflาถอย่างไม่น่าเปีนไปไค้ แต่ ณ็่ปีนไปแล้วอย่างทเห็่นกัน คนเก่าๆ จึงนิยมตร้างพระพุทธรูปก้วยกวามพิถืพิสน ให้1ก?เตปะงคงาม ดังเซ่นทั้เราทราบกันว่าเป็นศนัยๆ คือ ตนัยสุโขทัย ฟ้นัยเจึยงแตน ตนัยอู่ทอง ตนัยรัฅนโกสินทร แตะเขาตร้างไก้ตวยงามจริงๆ มคืตปะงดงามจริงๆ มองแล้วเกิด กวามเยือกเย็่น สงบ และกวามอ่อนไหวในอารมณ์จริงๆ อานิสงส์จะมากหรือน้อยกี่กรงทํ่เป็นกิตปะอย่างนก่วนหนึ่ง น่าเถืยคาย การสร้างพระพุทธรูปปีจจุบันนักทำเป็นรูปแบบการกัาเถืยโดย มาก หากวามงามทางสิตปะไอ้น้อยตงเรอยๆ ผู้สร้างอ่วนใหญ่กึ๋ใน่ก่อยมกวามรู้ มุ่งแค่จะสร้างให้เฟจไป ยั๋งมุ่งสร้างเพอสะเดาะเกราะห้ก้วยแล้ว ยิ่งก้องการความ รวดเรวเร้าว่า สิตปะไม่ก้องพูคถืง ซ่างนึ่ทำกี่ฃอให้!ก้เงินเรืวๆ เหมือนกัน เลย สุกเอาเผากินไปหมด พระพุทธรูปบางองกทส์าเร็่จออกมาแล้วให้สงสารจับใจเพราะ กัดส์วนรูปลักษณ์ของท่านคูไมจดจริงๆ ดังนั้น ท่านทสิดจะสร้างพระพุทธรูปเป็นพุทธบูชาหรือสะเดาะเกราะห้กี่ดาม โปรดพิถืพิกันเรองสิตปะกันหน่อยเถิด เลือกหาซ่างทมืป็มือหรือให้!ก้รูปแบบทนิยม กันอยู่ชงพอหาไค!ม่ยาก แม้จะแพงหน่อยกี่บังคื ทั้งไว้ทไหนกนผ่านไปมาพบเหึ๋น เร้ากี่จะมืแค่กวามสงบเยือกเยี่น แม้กนมืกวามทุกขมา กวามทุกฃกี่แทบจะกลาย หายไปสิน น่ากราบน่าไหว้ กราบแล้วไหว้แล้วกี่ทำให้จดใจสบาย มืแค่กวามอมเอิบ กรงกันร้าม ถ้าสร้างแล้วไอ้พระพุทธรูปทขาดสิตปะทางปฏิมากรรมกี่'าะไม่สบายใจ ก้วยกันทุกผ่าย เป็นแดไม่พฅกันออกมาเพราะกลัวจะเป็นบาปเท่านั้น www.kalyanamitra.org พระธรรมกิตติวงศ์ 1 ๑๙๗

แม้ว่าพรรทเราฟ้ท้งนั้นๆะไม่?โกกสิทธใม่มอิทธิฤทธปาฏิหาริยเหนอนพระ- พุทธรูปส์ากัญ เซ่น หทวงพ่ป็โธรหรอหอวงพ่อวัทไร่ฃิงกึ๋ทาม แค่ขอให้ศวยงาม มอิฅปรแทๆริงเถิค กนเขาก็่แหไปบูชาเองแหอร ก็่คูหลวงพ่อพระพุทธธินราช กังหวัฅพิษณุโลกนั่นไง ท่านสวยงามห้วย อิลปะระกับโลกทเคั๋ยว นมการ'ลักขโมยพr^ตัคเ^ยรพTinนมาก พวกนจ^บาปมากไหม แลรบาปจ£ตามหนในชาตินหรอไม' !สิ'อ!!', ข้อนั้ฅอบไห้ทนทโกยไม่ห้องกิคว่าบาปมากแน่ ไปถามไกร เขาก็่ห้องฅอบ เซ่นนั้ เพราะการกักถือว่าเป็นบาปอยู่แล้ว ไม่ว่ากาศนาไหนในโอกค่างก็่มกำสอน เรื่องห้ามกักทรั'พยฃองผูอนทั้งนั้น แม้การกัคเถืยรพระกี่เหมอนกันเพราะห้องกักกัก เมึ๋อกักกักก็่เป็นบาปและบาปมากห้วย หากไมให้กักกักเซ่นพวกช่างหล่อหรือช่างซ่อม พระพุทธรูป ชงอำเป็นห้องซักแก่งพระให้คั๋ให้สวยงาม ห้องกักก่ออวัยวะเพํ่อให้ให้ รูปทสายงาม บางกรั้งห้องซ่อมเถืยรพระโคยวิธิหล่อใหม่กี่อำห้องกัดเถืยรเก่าทึ่ซ่อม ไมไห้แล้วออก อย่างนั้ใม่ถือว่าเป็นบาป มาว่ากันว่าบาปแกไหนติกว่า ในกำนานทางพระพุทธกาสนาขั้นหลังๆ กอเมํ่อมพระพุทธรูปเกิฅขนแล้ว ท่านว่าใกรทำลายพระพุทธรูปกี่เท่ากับทำลายองกพระพุทธเจ้าเหมือนกัน มืโทษถืง ห้ามสวรรกํห้ามนิพพานทเกยว พิเกราะห้กูกี่เห็่นสม เพราะผูลกขโมยพระหรือกัก เอิยรพระไห้นั้ห้องเป็นกนใๆโหกบาปหนาอยูไนกมลกันกาน ย่อมทำกวามขั่วอย่างอน ไห้ทุกรนิค ไม่เว้นแม้แก่ๆะฆ่าพ่อฆ่าแม่ของกัวเองกี่กงไห้ การทํ่เขาๆะมืแกไๆทำบุญ ทำ กุศลเพื่อกัวเองนั้นเหี่นๆะไม่มื เมึ๋อไม่ทำกกี่หมกหวังทๆะไปสวรรกัหรือนิพพาน ๆะมืกี่แค่ฅกนรกหมกไหมในอเวๆเท่านั้น เรืยกว่าเป็นผู้ \"สวนทางพระนิพพาน\" กันเลย ใธอ้อท้อง% www.kalyanamitra.org

แม้กฎหมายโบฑฌก็่ฅฑไว้ว่า หากใครทำอันตTายพTiพุmรูป เช่น ตัฅแขน เป็นท้น ก็๋ไห้คงโทษท้วนการอัดแชนนู้นั้นทํ้งเ{เย ใครอัดเ^ยร อัดคอพระ ก็่อับมันมา อัดคอเป็ย เรยกว่าลงโทษกันแบบเกลือจมเกลือ ปากต่อปาก อันต่ออันกันเลยล่ะ ทํ่ท่านลงโทษหนักอย่างนั้เห็่นจะ:เป็นเพราะ:ผู้ทำลายพระ:พุทธรูปเท่ากับทำลาย จิฅใจของพุทธบริษัททั่วไป เพราะ:พระ:พุทธรูปเป็นมํ่งฃกัญเป็นปูชนัยวัคถทั่เขากราบ ไหว้บูชากันอยู่ หรือพูคอกทกี่กือว่าเป็นควงใจของซาวพุทธนั่นเอง แค'การลงโทษในปิจจุบันนั่เบาบางมาก พวกทุจริคมิจฉาชพประ:เภท \"หนัก แผ่นดิน\" อย่างนั่ จึงผุคขนงามสะ:พรั่งไม่แพ้ค้นโพธิ้ทั่ขั้นอยู่บนยอคเจคึย่หรือหลัง โบศถวิหารเก่าๆ ยามหน้าฝนทเคยว ประ:กัฅิศาสครพระศาสนาพุทธท่านก็่เฃยนเล่าไว้ว่า คมัยหนึ่ง ประมาณพุทธคดวรรษท (5)<ร) มกษัฅริยอินเคยพระองคหนึ่งเป็น มิจฉาทิฐ ไม'มับถึอพระพุทธคา{{นาจึงคิดทำลายล้างให้หมดนั้นไปเลืยจากอินเคย โดยเรมจัดการทำลายวิหารมหาโพธิ{{ถานดรั{{รู้ก่อน ทราบว่าในวิหารนั้นมิพระ- พุทธรูป{{วยงามมาก พระองคนั้งให้แม่อัพจัดการทำลายพระพุทธรูปองค์นั้นเลืย ล่วนพระองค์เองไปจัดการกับท้นมหาโพธิ้ แม่อัพบู้นั้นแม้จะเป็นมิจฉาทิจั แต่ก็่มิ {{ามัญล่านึกดกว่าพระเจ้าแม่นดิน เขาคิดว่าพระพุทธรูปงดงามเช่นนั้ควรรักษาไว้ เพราะเป็น{{มมัดิของแม่นดินชนหนึ่ง จึงก่ออิฐลือปูนมังพระพุทธรูปไว้เลืยแล้วกลับ มากราบทูลว่าไท้ทำลายพระพุทธรูปเลร็่จแล้ว พระเจ้าแม่นดินองค์นั้นทรงทราบเข้า กี่ทรงพอพระอัยมาก ดำ ริว่าเราโค่นพระพุทธคาลนาลงไท้แล้ว แต่หลังจากนั้นเพยง ๓! วันเท่านั้น พระองค์เกิดโรคพุพองเป็นทุ่มเป็นพองขนทั้งพระองค์ ต่อมาทุ่มพอง นั้นกี่แดกเร่อยเน่าเหมื่นคลุ้งไป ปวดแลบปวดร้อนนึ่งมัก ทรมานอย่างลาอัลลากรรจ- เช่นนั้จนกระทั้งนั้นพระชนมื่ไป นั่เป็นผลของการลังให้ทำลายพระพุทธรูป และทำลายพระศรืมหาโพธค้วย พระองกเองหรืออย่างไร ขอให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายวินิจฉัยคูเอาเองเถิค www.kalyanamitra.org พระธรรมกิตติวงศ์ I ๑๔๙

ส่วนในฌึองไทยเทกี่มเ?องทำนองนเกิคขน เล่าสิบต่อกันมาว่า มชายซททนทนึ๋งเปีบโรกผิวทนังพุพองเน่าเป็ธยไปทั้งทัว แถมเปีนอัมพาฅ เ^ยท้วย ทำ มาหากินไมไค้ ค้องนอนขอทานเขากินไปวับๆ ทุกขทรมานอยู่จนทาย ฟอนทายชายชราคนทั้นสารปาพว่า ปมัยทอังเปีนหนุ่มแน่นอยู่ทั้นไค้หากินทางขโมย ลอกทองจากรงค์พระพุทรรูปบ้าง เทํ่ยวซททุ้ยหาทรัพยไนองค์พระทามวัครางโบราณ บ้าง 4งการทำเช่นนิ้เรนการทำให้พระพุทรรูปขาคทวามสวยงามไป บางทรั้งค้องทัท อวัยวะพระพุทรรูปบ้าง เจาะองค์บ้าง เจาะฐานบ้าง เมึ๋อแกไท้รบทุกขทรมานเช่นน แกกี่ทราบว่ากรรมมาทามทันในชาตินนึ๋เอง แต่กี่สายไปเสิยแอ้ว ๆะเปีนไปไค!หม ยู้ทเกยกัคเสิยรพระทำลายองกี่พระไว้ เมํ่อเกิคมาในซาฅิน วงไม่มแขนไม่มฃาอย่างกนอน ต้องถูกคัคแขนฅัคขาหรอถูกคักกอ เซ่น นั่งรถไปเกิค ธุบัคิเหตุ รถซนกันบ้าง รถกวาบ้าง ทำ ให้แขนขาฃาค แกไม่กาย หรือแขนขาเปีน โรกเน่าเปีอย หรือถูกทำร้ายก้องถูกกักทงไปเพํ่อรักษาซึ๋วิกไว้ พวกนั่ทุกฃทรนาน วิกใวอย่างน่าสงสารเหมือนกัน ทำ อย่างไรไก้ กนอื่นทำไมไม่เปีนอย่างนั้น เฉพาะจะ ก้องมาเป็นกับพวกเขาขึ่งมืวำนวนไม่มากนัก กิกว่ากงเป็นไปไก้ทํเกี่ยว ผมมัความสงอัยว่าผู้ทนั่งเครองปันไปดกคายหมู่ หรอรถชนกนดายหมู่ เปีนผิบเปีนร้อยคพนั้น พวกนั้ทำกรรมอะไรไว้ ในพระพุทรศาสนาบอกไว้หรอไม่ ^ธ1| เรึ๋องการกายหม่นั้ท่านเล่าไว้เหมือนกันในกัมภรพระธรรมบท กิอเรํ่อง พระเว้าวิ*คูฑภะ เรึ๋องมืว่า พระเว้าวิ*กูฑภะนั้เป็นพระราขโอรสของพระเว้าปเสนทิโกกลแห่ง เมืองสากัฅถ ประสูกิแก่พระนางวาสกฃักกิยาซึ่งเป็นเชอสายซองเว้าศากยะแห่ง เมืองถบิสพสกี่ หากวะนับกามลำคับญาติกันแล้ว พระเว้าวิ*กูฑทะกี่กือพระญาติ I ใฃจ้อธ้อง รืว www.kalyanamitra.org

ของพระ!ทุทธเจ้านั่นเอง สมัยทํ่ยังทรงเป็นเจ้าชายอยู่ทรงมกวามเกึ๋ยคแก้นพระ:- ประ!ยูรญาฅิฝ่ายพระ!มารคา โคยถูกพระ!ญาคิเมืองกบิลพัสคุคูหมํ่นเหยยคหยามว่า ฅนมืพระ!มารคาทมืก้กคิเพยงแก่ลูกพระ:สนม เมํ่อไค้ครอบกรองราชสมบัติก่อจาก พระ!ราชบิคาแล้ว พระ!เจ้าวิฑูฑกะ:จึงเสด็่จกรธาทัพไปประ!fคเมืองกบิลพัสคุทันท ทรงรับนั่งให้ฆ่าเจ้าศากยะทุกพระ!องก่ เว้นพระเจ้ามหานามะผู้เป็นพระเจ้ายู่พระองก่ เคยวเท่านั้น แม้พระพุทธเจ้าจะเสคี่จไปทรงแสคงพระอาการห้ามถึงสองกรงก็่ใม่อาจ ก้านทานไว้!ก้ ทหารพระเจ้าวิฑูฑภะผู้ม้ากนั่งจึงคะลุยฆ่าพวกเจ้าศากยะอย่างบ้าเลือค เมืองกบิลพัสคุซํ่งเป็นเมืองเล็่กๆ มืทหารเพยงหยิบมือเคยว ซํ้ายังเป็นรูมกุณธรรม กั้งอยู่ในธรรมอก ก็่ถึงจึงกาลอวสานย่อยยับลงไปก้วยประการฉะนั้ พระประยูรญาติของเจ้าชายสิทธัตถะหรือพระพุทธเจ้าชองเรากี่เลยชาคสูญ มากั้งแก่บัคนั้น และบัคมาอกป็หรือสองป็ พระพุทธองก่กี่เสค็่จปรินิพพาน เจึยนมาถึงครงนั้กี่อยากจะวิจารณเหตุการณพุทธประวัติฅรงนั้ล้กเกี่กน้อย เป็นการแก้ข้อกล่าวหาและข้อข้องใจชองบางกนทํ่ว่าพระพุทธเจ้าออกบวชกนเคยว ไม่พอ ยังพรากลูก พรากพ่อ พรากหลาน ชักชวนประยูรญาติหนุ่มๆ ออกบวชก้วย กือพระมันทะ(พระอนุชา} พระนางรูปมันทา(พระภกิน) พระนางพิมพา พระอนุรุทธะ พระกิมพิละ พระภตุ เป็นก้น ทำ ไห้กบิลพัสคุหมควงก่หมคผู้ลืบสกุลไปมาก พออ่าน เรองพระเจ้าวิฑูฑภะนั้แล้วยังกิคว่าคแล้วหนอคแห้หนอทํ่พระประยูรญาติวัยเยาว้ เหล่านั้นไค้ออกบวชกันเลืยก่อน หากไม่บวช ยังลืบลูกลืบหลานกันอยู่แล้วไซร้ กง ไม่แกล้วเป็นเหยึ๋อกมคาบชองพระเจ้าวิทูฑภะและเหล่าทหารเหมือนเจ้าศากยะองก่ อนๆ ทํ่ไม่บวชเป็นแน่ แล้วจะไค้ประโยชนอันไคเล่า หากสินจึพก้วยกมหอกกมคาบ เซ่นนั้น แก่ทุกท่านทออกบวชก่างกี่ใค้บรรลุมรรกผลนิพพานกันหมค มืนิพพานเป็น ทางไปทุกองก่ เว้นแก่พระเทวทัคผู้ถูกลาภอักการะกรอบงำเพิยงผู้เคยวเท่านั้นทึ๋ บวชแล้วยังก้องไปสูอเวจึมหานรก แถ้วอย่างนั้ยังจรว่าพทพุทธเจ้านิดอกหรือ ชอเล่าก่อ www.kalyanamitra.org พระธรรมกิตติวงศ์ i extra

ฌอพร:!เจ้าวิฑูฑภร:ยูถือกวามแก้มเป็นอารมณ์ ไก้ปฏิบัฅิการๆองเวรอัน โหคเหยมฅ่อเจ้าศากยรเรยบร้อยศมปรรสงกแล้ว ก็่กรธาทัพกลับสาวัคถมหานกร ทหารค่างtกเหิมไชโยโห่ร้องลันมาคลอคทาง รอนแรมมาจนกาจึงหยุคพักทํ่ซ่งแม่นํ้า อจิรวค ทหารค่างก็่แยกลันไปพัก พวกหนํ่งนอนบนบกริมซ่ง พวกหนงนอนบน ชายหาค พอหัวถึงพ็้นค่างก็่หลับไหลก้วยกวามอ่อนเพลย ไม่นานพวกมคเจ้ากรรม ไม่รู้มาจากไหน พาลันขนมาลัคทหารเหล่านั้นเป็นพัลวัน พวกทนอนบนบกริมนั้ง กี่ล่งเล้ยงเอรอรว่ามคครงนั้ซุมจริง ไอ้มคจัญไร ทอํ่นมึเยอรแยรไม่ฃั้นมาฃนฅรงท เรานอนไค้ ว่าแล้วกี่ย้ายทึ๋ลงไปนอนทึ๋หาคทราย พวกทํ่นอนอยู่บนหาคทรายกี่เกิค กวามรำกาญว่ามคพวกนั้!หงมาอยู่ชายหาคไก้ ว่าแล้วกี่ฃนไปนอนบนบก เริยกว่า สลับทํ่ลันนอน ฅกคึกเข้าลมพัคเกี่นสบายจึงหลับค่อแทบสลบไสลลันไป ค่อนแจ้ง แม่นั้ากี่ค่อยๆ เอ่อล้นชน เพรารทางก้นนั้าฝนคกหนักแล้วไหลปาลงมาใก้นั้าอย่าง รวคเร็่ว พัคพาเอาทหารทํ่นอนบนหาฅทรายไปก้วย ทหารเหล่านั้นสุคจรช่วยตัวเอง ทัน กลงไปลับสายนั้าอันบัากถั่ง กรรทบโชคหินคายบ้าง จมนั้าคายบ้าง ไม่เหลือ รอคแม้แค่กนเคยว ในจำนวนนั้น ท่านว่ามพรรเจ้าวิรุ]ฑภรด้วย ล่วนทหารทํ่นอนบนบกริมซ่งเลยรอคตัวไปทั้งหมค สรุปแล้วทหารพวกนั้รอคตัวเพรารมคแท้ๆ แลรพวกทํ่คายกี่คายเพรารมค จัญไรอย่างทตัวสบถออกมาอกเหมือนลัน คอบมาเลืยยืคยาวแบบปากกาพาไ!/!นเรึ๋องบ้าง นอกเรองบ้าง กี่ เพื๋อชั้ให้ เกี่นเป็นว่าการคายหมู่นั้นเกยมืมาแล้วในอฅค แลรเป็นอคคอันน่าสยคสยองถึงลับ มืจารกไว้เป็นหลักฐาน กล้ายลับจรสอนกนรุ่นหลังว่าให้จำเหตุการณ์นั้!ว้เป็นเกรอง สอนใจลันเถิค จุคชองเรองกี่อยู่ทํ่ว่าช่าวนั้แพร่สรพัคไปทั่วชมพูทวปอย่างรวคเรี่วเหมือน ไฟไหม้ป่า ค่างโจษขานลันว่าการคายหมู่ชองกนพวกนั้นน่าสยคสยองใจจริงๆ แม้ ภิกษุพุทธบุครทั้งหลายกี่อคเลืยใจมิไก้ แม้จรทราบว่า \"กร!มุนา วตุตต โลโก ๑(£๒ [ ใฃธ้อธัอง ริจํj www.kalyanamitra.org

สืตว่โลกย่อมฟ้นไปตามกรรม\" กี่ดามเถอร แต่กี่ยังไม่แจ้งชัดว่าเพรารกรรมอันใด เล่าจึงเป็นเช่นนิ้ จึงเข้าเฝัาพรรพุทธองฅทูลถามเพํ่อให้หายข้องใจ พรรพุทธองกี่ จึงมพรรบัณฑูรดรัสว่า พวกเจ้าศากยร!เหล่านั้ทากรรมหนักไว้ คือได้เคยสมคบ ร่วมคิดอันโปรยยาพิษลงในแม่นำ ทำ ให้คนตายอัตวตายเคืยมากต่อมาก ผลกรรม กี่เลยตามมาสนอง ทำ ให้จมนํ้า ตายหฑู่อย่างทเกี่น ส่วนพวกทหารนั้นเล่า พวกรอคฅายแ(^คงว่ายังไม่ถึงทํ่ ฅือมิไค้ทำกรรม หนักไว่ไนอฅฅ วึงม่เหตุให้ลุกจากหาคไบ่นอนบนบกเ^ย ส่วนพวกทํฅายเขาเรยกว่า ถึงทํ่แล้ว นัง้ทน่าจรพ้น ไม่น่าคาย เพรารนอนบนบกอยู่แล้ว แทกค้องถงไปนอน รอความทายบนชายหาค แปคงว่าพวกนเคยทำกรรมหนักคือม่าหมู่เขามาหยกๆ ณถยมาคายหมู่ทำนอง \"คาบนั้นคืนปนอง\" นั้นแหลร หากจร!ถามว่ากี่ทหารหนอนบนบกกี่ฆ่ามาเหมือนอัน แต่ทำไมไม่ตายเล่า ข้อนั้ท่านเล่าเฉลยไว้ว่าทหารพวกรอคทายมิไค้ทำกรรมหนัก เพียงแท่ฆ่า คามรับส่งคือฆ่าเฉพารพวกทึ๋พูศว่าเปีนเจ้าคากยรเท่านัน นอกนันไม'ฆ่า เรยกว่า เปีนทหารอยูไนส่จจรแปรม่ตุณธรรม รักษาวินัยท ส่วนพวกทคายเปีนพวกทเมามัน ทำ เกินรับส่ง ฆ่าหมค ไม่ว่าเจ้าคากยรหfอชาวเมือง ถูกเฅ็่กเลื่กแคง พอเจอเปีน พีนครเหมือนช้างทกนัน กรรมกี่เลยตามปนองเอาทังกล่าว จากเหตุการโน!นอดดดรงนิ้ เราอาจนำมาเปรยบเทํยมได้ว่า พวกทดายหมู่ เพราะ;เกรื๋องบินดกกี่คื รถชนอันกี่คื เรือล่มกี่คื ถูกระเบิดคายกี่คื แฝ็คงว่าเขาเหล่าบัน เกยทำกรรมร่วมอันไว่ในอคืฅซาฅิ อาจจะเกยร่วมอันเป็นทํมโกงบ้านโกงเมือง เช่น อย่างทํ่เรืยกอันในปิจจุบันนั้ว่ากอรัปซั่นเป็นทํม อาจจะเคยสมกบร่วมกิคอันใข!ห้เขา ไปทำลายขาคิอื๋นเมืองอื๋น หรืออาจจะเกยร่วมอันล้อมบ้านล้อมเมืองให้เขาอกอยาก คายไปอย่างเช่นในการทำสงกรามแบบเก่าๆ การกระทำเหล่านั้ล้วนเป็นการทำกรรม หมู่ทั้งนั้น เมื๋อดายจากขาดินั้นไปแล้ว กรรมนั้นกี่ดิดดามไปเรึ๋อยๆ พอทันเข้ากี่อาจ ยังไม่ให้ผลทันทั ด้องรอจังหวะให้มาพร้อมอันก่อน กึอให้กนทำกรรมร่วมอันมา พร้อมหน้าพร้อมดาอันก่อน พอมาพร้อมแล้วกรรมกี่เรั๋มส์าแกงผล พระธรรมกิตติวงศ์ I ๑๔๓ www.kalyanamitra.org

โคฺรมเคยวตายเกยง! (เวน^ม'เคยมส่วพ่วมไปทำกทมกับเขาไว้ แท่เผอิญไปอยูในหมู่นั้นด้วย กี่มักจ;^รอดตัวได้อย่างน่าอัคจTTti เรืองกรรมแฝ็คงผลน็้เราอาจารหาเหตุผลง่ายๆ กึ๋!ค้ว่า กนทํ่คายนั้นมิใซ่ ไม่เกยเดินทางโคยทางเรือ ทางรถ หรือทางเกรํ่องบิน เกยไปมาแล้วอย่างโชกโชน แค่รอคคัวมาไค้เพรารลมาซิกกือผู้ร่วมทำกรรมยังมาไม่พร้อม กรรมกี่ยังไม่ส์าแคงผล บางกนเพั๋งนั่งเกรึ๋องบินกรั้งแรก พอฃั้นฟัากี่เจอคเลยเพรารบังเอิญลมาซิกมากรบ องกี่ไม่ชาคพอค แลรกี่น่าแปลกเหมือนกัน ศมาซิกทํ่ทำกรรมชั่วมาค้วยกัน มิใซ่ อยู่ไกลกันเลย กนลรบ้าน กนลรจังหวัค บางทํกนละประเทศเกี่ยค้วยชํ้า แค่กี่ค้อง ให้มาประจวบคายร่วมกันไค้ บันเป็นเพราะอะไร ถ้ามืใช่กรรมเก่า เทยวบินอํ่นทำไมไมไป รถกันอื่น เรือลำอื่น ทำ ไมไมไป ทำ ไมค้องให้!ป เทยวบินนั้ เรือลำนั้ หรือรถกันนั้ค้วย กี่น่าคิด! อาจแย้งว่าบันบังเอิญกระบัง ทำ ไมจึงบังเอิญเอาคอนนั้ เทยวอื่นทำไมจึงไม่บังเอิญ กนอื่นทำไมจึง ไม่บังเอิญ อาจมืผู้แยังต่ออึกว่าเพราะกวามประมาทของเจ้าหน้าทํ่หรือกนขับกี่ใค้ กี่ต้องย้อนถามว่าทำไมจึงประมาท ถามแย้งและย้อนคอบต่อไปเรึ่อยๆ กี่จะลรุป ครงจุคสุคท้ายว่า บันเป็นเพราะกรรม ยังไม่มืใกรให้เหตุผลทค้ใปกว่านั้ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องเชอพระพุทธพจน่ ทว่า \"กมมนา วตุตต โลโก กัตวัโลกย่อมเป็นไปตามกรรม\" กันไว้ก่อน และจากเรั้องนั้ทำให้เราไค้ข้อกิคว่า กนเรานั้นเมํ่อกรรมยังคามไม่ทันกี่อย่า เพํ่งกิคประมาทว่าเราไมมกรรม กนทํ่เชาไมมกรรมต้องให้คายหมู่กี่จะบังเอิญให้!มไป เทยวบินบัน บังเอิญให้!ปรถกันอื่น ไปเรือลำอื่น หรือไปวันอื่น กือให้พลาคไปเอึย edk๙ ไธขัอข้องรืจ่ไ www.kalyanamitra.org

แต่ผู้มกรรมแลร!ถึงคราวกรรม่ให้ผลมันกึ๋ให้ \"บังเอิญ\" อกแหลร! จร!ต้องไปวันมัน ไหไต้ ต้องไปรถกันนั้น ไปเรือลำนั้นหรือไปเทยวบินนั้นไหไต้ ลุคท้ายกี๋ใปคายอย่างว่า พรร!ท่านว่า อันคนเรานั้นหากทำกรรมซัวไว้ แม้จร!เหาร!ขนไปบนฟ้า หน ไปอยู่ในถํ้าในเขา ฃดหลมหลบลงไปไนดิน ลงเรึอหนไปโนท้องทร!เลหรือคำนำ หนํลงไปใต้มหาสมุทร ทจร!พ้นความชั่วทํ่ตนเคยทำไว้เรี่เนอันไม่มั กรรมททำไว้ เฟ้นปรร!ดุจสุนัขไล่เนั้อวั๋งตามเนั้อสมันไป หากท้นเนั้อสมันเมํ่อไร เฟ้นต้องกด ทนท หากจะเปfยบอย่างdมัยใหม่'หน่ปียกี่ว่า เหมือน^มัขตำTวจไถ่กวฅผู้ร้าย ทันมันเมํ่อไพขยํ้ากันเมํ่อนั้นนั่นแล. พระ!มหาทองค ลฺรเฅโซ ป.ธ. พระธรรมกิตติวงศ์ 1 ๑๕๕ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

FflFTTeFi ไขขอข้อจ จาก \"มงกกสาร'' เกอนพฤฬกายน ไa๕*>«^ ถามโกย... ธ1^ผกา'&4 ภิกฺซุ ijinaj คำ ว่า \"ปฏิทูJ\" ทึ๋เขานำมาใช้ว่า \"ปฏิรูปการบ่กคTองแฝนดิน\" ฅ่างกบ คำ ว่า \"ปฏิวดิ\" อย่างไร ตามทัศนiซองฟาน เหึ่นว่าการปกครองแบบไหนดิทศค 1^^ กำ ฟ้องกำนค่างกันแน่ แค่ค่างกันเพยงเล็่ฑน้อยเท่านั้น แน้แค่การเขยนกี่ ค่างกันเพยงกำท้าย ส่วนกำหน้าเหมือนกัน น้าพูอในเซิงการปฐบัอิแล้วแฅกค่างกัน มากพออูทเอึยว ว่าโคยรปกัพท่หรอฅามคัวอักษรก่อน กำ ว่า \"ปฏิรป\" มืทํ่ใซ!น้ ๒ กวามหมาย กือใช้ข้างหน้ากำอื่นและฅาม หลงกำอื่น น้าใช้นำหน้ากำอื่นแปลว่า เหมาะฟ้ม. ฟ้มกวร. ใช้ใคั. ถูกค้อง เซ่น ปฏิรูปเทฟ้ - ถั่นทเหมาะฟ้ม, ลนอันลมกวร น้าคามหลังกำอื่น แปฟ้ว่า ปลอม. เท่ยม, ไม่แท้, ไม่ถูก, ไม่เหมาะ, ไม่กวร เซ่น ลัทธรรมปฏิรูป - ลัทธรรมปลอม มิตรปฏิรูป - มิครเท่ยม www.kalyanamitra.org

กำ ว่า \"ปฏิวัติ\" หมายกวามว่า เป็นไปกลับ, เป็นไปรอบ, การหมุนกลับ, การเปลึ๋ยนแปลง ถือเอากวามว่าเปลํ่ยนแปลงรูปเดิมจนไม่อาจเหี่นของเติมหรือ เก้าเดิม เซ่น ปฏิวัติการปกครอง แปลอย่างนั้ยู้อ่านกงจร!เวยนหัวพิลึก มันถือย่างนั้แหลร! การเรืยนภาษา มันถืซวนง่วงซวนเบอเซ่นนิ้ เอาเป็นว่ากำลองกำนิ้ฅ่างกันถืแล้วมันและ!ใฟ้,นฐานร!ต่างกันก้วย ถ้าจร! พูคให้เข้าใจง่ายถืไคหังน ปฏิรูป ทั๋ใข้กันทั่วไปหมายถืง การทำบางสิงบางอย่างใหักขั้นให้เหมาะ!สมขั้น กรงกับส์านวนว่า \"ปรับปรุงเพอความเหมาะt ทํ่นิยมใข้กันนั่นเอง โกยเอา ของเก่ามาขักลึฉววรรณใหม่ มาปิฅป๋นเลึยใหม่ หรือนำไป \"เมกอัพ\" เลึยใหม่ เซ่น เหี่นว่ากอนนั้อายุชักจะ;มากขั้น ผิวหนังมันชักจะ:หย่อนยานลงถืใปจักการคักต่อ กึงใหัฅึงเลึยใหม่ คามันชักจร!ล้าฟางถืใปลอกเลึยใหม่ ทรวกทรงองกํเอวมันชักจะ; อ้วนใปถืใปลกกวามอ้วนเลึย หรือมรถยนฅคันหนงเกรื่องมันชักจร;รวนๆ เลยไป เปลยนอร;ไหล่เป็นบางขั้นบางอัน เปลํ่ยนลึ เปลํ่ยนเบาะใหม่เลึย อย่างนั่เข้าซ่ายปฏิรูปทั้งนั่น ล่วน ปฏิวัติ หมายถืงเปลยนแปลงไปเลย โกยแทบจร!หาเก้าเดิมไม่พบ อย่างเซ่นคัวอย่างข้างก้นนั่นแหลร! แต่ทำมากกว่านั่น เซ่นเป็นผู้ชายอยากเป็นผู้หญิง เลยไปฆ่าคักเปลํ่ยนเพศเลึย เกรํ่องยนฅมันรวนถืไปยกเกรึ๋องเลึยใหม่ โละ!ของเก่า ทั้งไป นํ่เป็นเรองของการปฏิวัติ เป็นการเปลยนใหม่หมก พอจะ;เป็นไก้ลางๆ แล้วว่าปฏิรูปนั่นนุ่มนวลกว่าปฏิวัติ ปฏิวัติรุนแรงมาก คังนั่นทั่นำกำว่าปฏิรูปมาไช!นการปกกรองแฆ่นดินถืกงหมายถึงการปรับปรุงการ ปกกรองแฆ่นดินแบบเดิมกือแบบประ;ชาธิปไฅย โกยให้เหมาะ;สมขั้นกว่าเดิม เพราะ! ท่านเห็่นว่าประ;ชาธิปไฅยทั้แล้วๆ มามันชักจร!เปรอะ!ออกนอกลู่นอกทางไปทุกท ถ้าจะ!พูกอกทํกกือว่านำประ!ชาธิปไฅยมา \"เมกอัพ\" กันใหม่ โกยก่อยๆ รกนั่า พรวนดิน กูแลรักษาให้เจริญเติบโกไปทละ!น้อยๆ นั่นเอง ®<ร!๘ I ไอข้อข้อง ริ'V www.kalyanamitra.org

เอาลร! แก่นิ้ณห็่นจะ!พอแล้วกรรมัง ขืนพูดมากไปจร:โดนข้อหาเปีนพระ! การเมืองเสืยเปล่าๆ ทํ่ถามฅ่อไปว่า ฅามทัศนรของฆู้ฅอบเหี่นว่าการปกกรองแบบไหนดทํ่^ร^นั้น ก็่ฃอตอบว่าแบบไหนก!ค้ ดทง'นน นํ่มิใช่ดอมยวนนะ! ดอมดามหลักการทางพระ!พุทธศาศนาทเดยว เพราะ! พุทธเจ้ากี่มิเกยทรงยกย่องว่าการปกกรองแบบไหนคกว่าแบบไพ'พ พระ:องกเพยง ทรงแนะ!แนวทางไว้ว่า การปกกรองกนนั้นจรใข้แบบไหนกี่ใด้ ขอให้ใช!ห้เปีนธรรม ผูใข้เปีนยู้ปรรกอบด้วยธรรม กือมืกวามสุจริต ยุติธรรม ไม่มือกติ ปรรกอบด้วย พรหมวิหารธรรม เท่านันเป็นพอ โดยทรงยกเอาทศพิธราชธรรม (ร)0 liTsimT เป็นตัวอย่าง การปกกรองหมู่กณรทํ่เปีนธรรมย่อมทำให้หมู่กณะ:มืกวามร่มเยี่นได้ ในพรรพุทธศาฝ็นาได้แย่งวิธการปกกรองชองโอกทํ่มืปรากฏในศบัยนั้น ห^อ ทใข้!ค!นอมัยต่อมาเป็น m แบบ ดือ แมบท ๑ ผู้นำ มือำ นาจสิทธิชาดแต่ยู้เคยว ใข้อำนาจตัดสินเพึยงกนเดืยว ไม่ยอมรับฟิงกวามกิดเหี่นของผูอืน แบบนั้เริยกว่า \"อตตาธิปไตย\" หรออมยน เริยกว่า \"เขค็่จการ\" นั่นเอง แมมท 1๓ ผู้นำ ไข้อำนาจโคยกวามเห็่นชอบชองกนหมู่มาก เมํ่อกนหมู่มาก เหี่นว่าอย่างไรก็่ทำตามนั้น จรผิดทำนองกลองธรรมหรือชาดเหตุฆลอย่างไรก็่ด้อง ว่าไปอย่างนั้น แมมนั้เรืยกว่า \"โอกาธิปไตย\" หรือทํ่อมัยนั้เรืยกว่า \"ปรรชาธิปไตย แบบกฎหมู่อยู่เหนอกฎหมาย\" นั่นแหละ: แมมท ๓ ผู้นำ ยึดหลักเหตุผล ไม่มุ่งเข้าหาดน หรือเอนเอยงดามผู้อน โดยไร้เหตุผล ยึดหลักกวามจริงแบบธรรมนิยม เห็่นว่าถูกต้องแล้วก็่ทำ แม้ว่าจร ไม่ถูกใจกนหมู่มาก แบบนั้เรืยกว่า \"ธ้มมาธิปไตย\" ล่วนปิจจุบันจรเรืยกลันว่า อย่างไรยังนกไม่ออก ใกรนึกออกช่วยมอกท พระธรรมกตติวงศ์ I ๑๕๙ www.kalyanamitra.org

แฅ่อย่า?]ปีบว่า \"ก็่แบบ^งกนนิยมนั่นไง\" เข้าเ^ยวนา จะพาลคิฅกุกเปีา เสิยง่ายๆ เคํ่ยวจะหาว่าไม่บอกกล่าวล่วงหน้า สรุปแล้ว ในฐานะของผู้คอบหรือจะพู?]ให้ถูกก็่ในหัสนะของพระพุทธศาสนา นั้น ในเรํ่องการปกสรองนั้มิไคยึสทํ่หลักการหรือรูปแบบของการปกสรอง แค่กำ^ง ถึงฆู้ใข้หลักการอันนั้นมากกว่า เพราะหากนำไป่ไข้ถูกmilนกุณทุกแบบ หากใซขิค กเป็นโทษให้[ทบ มนอยูทยู!ข้ เหมือนมคนแหละ หากใช้ทำหับข้าว หั่นโน่นหั่นน กกอประโยซน้!ห้ยู!ข้และผู้ร่วมใช้ หากนำไปหันไปแทงกนเข้าก็่ก่อกวามเสือคร้อน หันหั่วทงหัวเองและผู้อนนั้นแล ลาม ตักบาคททโวมปrdยชนอย่างไT มปร:!วฅิเปีนมาอย่างไร ^รบ1 คักบาตรเทโว เป็นประเพณคั้งเคิม คูเหมือนว่าจะคั้งเคิมจริงๆ เพราะไมใช่ เหั่งมาทำหันในประเทศไทย แค่เรานำเอาแบบอย่างมาจากประเทศฐนเสืบ ในสมัย พระพุทธเจ้าโน่นเทยว จึงนับว่าเป็นของเก่าแก่ขนิคทั๋ล้านับเป็นวัคถุสิงของทถึงขนาก ทำ ให้นักเล่นหรือนักล้าของเก่ามองมาเป็นมันไคทเสืยๆ ก่อนจะคอบว่าหักบาฅรเทโวมืประโบขนํอย่างไร กื่เห็่นจะค้องเล่าประวัคให้ หังเถึยก่อนเพื่อเรํ่องจะไค้เป็นไปคามสำหับไม่ลับหน้าลับหลัง ว่าเพยงย่อๆ กื่แล้วหัน สมัยหนง เมอพระพุทธเจ้าประหับจำพรรษาอยู่ tu เมืองสาวักถึ ไค้เกิค ลาภลักการะมากมายแก่พระสงฟ้เพราะประซาขนเลอมใสมาก ทำ ให้นักบวซนอก ศาสนาพุทธรึ่เงในคำนานเรืยกว่าพวกเสืยรถึย่ พากนอคอยากปากแห้งไปคามๆ หัน จึงปรารถนาจะแสคงอิทธิฤทธหักคาเคขปีวกชาวบ้านทั้งทไม่มืจริง โคยห้าคๆลแช่ง ฤทธิหับพระทุกรู!โ[นพระพุทธศาสนา ค้วยทราบคอยู่แกใจว่ากงไม'มืใกรริบกำห้า แน่ๆ เพราะพระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้พระสงฟ้แสคงฤทธค่างๆ เข้าไว้ เมปีไม่มืใกร กลาริบกำห้า พวกคนกี่จรไคโมษณาซวนเ4อห้วยการเทยวปลุกระคมขาวบ้านว่า ใฬอข้อง?จ www.kalyanamitra.org

พระ;สงฆีในพรร!พุทธศาศนาไม่มนํ้ายา ไม่มฤทธิ้เคช สัพวกฅนไมไค้ จึงไม่รับกำท้า แข่งฤทธกับพวกตน ลาภสักการรกี่จะ!ไค้เกิคขนแก่พวกตนเหมือนเติม แต่พวกเดยรถยกาดขิคถนัค เพราะพรรพทธเจ้าทรงรับคำท้าเ^ยเอง พระ!พุทธเจ้าทรงแลดงฤทธิทํ่โกนมะ!ม่วงในเมืองลาวัตถ เป็นการแลดงฤทธิ ต่อหน้ามหาชน ทั้งเป็นการแลคงกรั้งแรกและ!กรั้งลุคท้าย เพราะ:เป็นธรรมเนยม ว่าพระ:พุทธเจ้าแต่ละ!พระ!องกํจะ!ต้องแลคงฤทธิ้แบบนกรั้งหนง ฤทธิ้ทํ่แลคงนมืชํ่อ เรยกกันมาว่า \"ยมกปาฏิหาริย์\" เพราะ!ทรงแลคงทึละคู่ๆ ซาวเมืองลาวัฅถและ: ซาวเมืองใกสัเกยงทราบข่าวต่างกี่มาคูจนหาทั้ว่างกันไมไค้ ถ้าจะ!เปรยบกี่เหมือน ประ!ชาซนพากันหลั่งไหลไปคูกี่ฬ'านัคส์ากัญๆ นั่นเทยว เมํ่อเปีนเช่นนั้ พวกเคยรถยจึงชิคซ้ายลงพลองไปตามรรรมเปียม เมํ่อทรงทำปาฏิหาริย์แสัวไค้เลคี่จฃนไปจำพรรษาบนลวรรก์ชั้นคาวคึงส์เพอ เทศนั่อภิธรรม ๗ กัมภรโปรคพระ!พุทธมารคาซงจุติไปเกิคเป็นเทพบุตรอยู่ชั้นคุสิฅ แต่อัญเชิญลงมาฟิงเทศนั่ทิ่ชั้นคาวคึงส์ นั่กี่เป็นธรรมเนยมของพระ!พุทธเจ้าทุก พระ!องกัทค้องทำเข่นน็้ พระ:องค์ทรงเทศนาอยู่ ๓ เดือน ดือจำพรรษาอยู่บน ลวรรค์ชั้นนั้นเลย พอออกพรรษาแสัวกี่เลค็่จลงจากเทวโลกนั้น โคยมืกำหนคว่า จะ!เลกี่จลงมาในวันแรม (ร) (าา เดือน ๑(ร) ทเมืองสังกัลลนกร ชงห่างจากเมือง ลาวัฅถไกลโขอยู่ ข่าวทํ่พระ!พุทธเจ้าจะ;เลค็่จลงจากเทวโลกทํ่เมืองสังกัลลนกรนั้ไค้แพร่ละพัค ไปทั่วทุกเมือง ประชาชนทนับถือพระพุทธศาลนาไมไค้เห็่นไมไค้เฝัาพระพุทธองค์ มาตลอค ๓ เดือนเฅึ๋ม จึงริบรุคไปยังเมืองสังกัลลนกรโคยพร้อมหน้า พอถึงกำหนคพระพุทธองค์เลกี่จลงจากเทวโลก ประชาชนดืไจมากจึงต่าง พากันจัคเตริยมค้อนรับค้วยอาหาร ทำ บุญกักบาตรเป็นการใหญ่ เลั้ยงพระเณรทํ่ จำ พรรษาอยู่ ณ เมืองสังกัลละค้วย เริยกว่าทำบุญค้วยกวามกิคถึงค้วย่ใจศรัทธา พระสรรมกิคติวงศ์ I ๑๖๑ www.kalyanamitra.org

เต็่มเ!!ยมเพราร!ไมไค้ทำอย่างนมาฅั้ง ๓ เฅือนแล้ว การทำบุญฅักบาฅรใหญ่กรงนั้น ไค้เป็นตัวอย่างให้ทำกันสืบมา?)ราบเท่าปีจ'รุบัน ประ:วัติมมาเซ่นนั้ กราวนั้มาว่ากันถึงตัพทํก่อไป กำ ว่า \"ตักบาตรเทโว\" นั้นกร่อนมา'จากกำว่า \"ตักบาตรในวันเทโว- โรหนร!\" เทโวโรหนร: แปอว่า เสด็'จลงจากเหวโลก แก่กำมันยาวไป ไม่ก่อยถูกลน ไทยๆ เลยตักออกเหลือเพยง \"เทโว\" เท่านั้น ตังนั้น การทำบุญตักบาตรในวันนั้ จึงเรยกว่า \"ตักบาตรเทโว\" อย่างทรู้กันอยู่ ประ:โยซนของการตักบาตรเทโว ในสมัยก่อนนั้นมอย่างไร เห็่นจะ:ไม่ค้อง แจงกันอกเพราะในประ:วัติปงชัตแล้ว แก่ทํ่ทำในปีจ'รุบันพอจร:ประ:มวลประ!โยชน!ค้ ตังนั้ (๑) เพํ่อระ:สืกถึงวันนั้ว่าเป็นมาอย่างไร จัคเป็นพุทธานุสฅิกือระลืกถึงพระ- จริยาของพระพุทธเ'จ้าประการหนํ่ง เมํ่อระลืกถึงแล้วจะทำให้เกิคศรัทธาในพระองค์ ยงๆ ขนไป (๒) เพํ่อเป็นพุทธบูขา กือเมื๋อรรลืกและเกิกศรัทธาแล้ว กี่บูขาพระกุณ พระองค์ค้วยอามิสบูขาคืออาหารและตอกไม้ธูปเทยนเป็นค้น (๓) เป็นการทำบุญตักบาตรพิเศษกว่าปกติกือป็หนั้งมกรั้งเคืยว และไค้ ตักบาตรแก่พระเณรทั้งวัค บางแห่งนิมนค์พระมาจากวัคอื๋นค้วย ชงโอกาสจะทำไค้ เซ่นนั้มไม่บ่อยกรั้งนัก แม้จะไก้ตักบาตรทุกวันอยู่แล้ว แก่กี่ม'จำนวนพระน้อยกว่านั้ ทั้งเป็นการตักบาตรแก่พระผู้จำพรรษาแล้วเป็นเช้าแรก และบางรูปอาจจะเป็นเช้า สตห้ายอกค้วย เพราะออกพรรษาแล้วท่านกี่จะแยกย้ายกันไปทำศาสนกิจของท่าน หรือบางท่านกี่จะสืกหาลาเพศไป จึงเป็นการตักบาตรอำลากัน (<1) เป็นการรักษาประเพณึอันคืงามนั้!ว้ เพราะเป็นประเพณคั้งเติมมมาแก่ เก่าก่อนตังเกรั้นไว่ในตอนค้นนั้นแล้ว ๑๖๒ I ไขข้อข้อง% www.kalyanamitra.org

ค้วยเหทุผล?โงน การคักบาฅรเทโ'ว^งยังนิยมทำกันอยูในหยู่ซนซาวพุทธ ทั่วไป นฅกน่าคิงกันหน่ซยก็่กืย'ว่า อาหารทคัฑบาฅรไนวันนกวรจtเป็นของทพระ ท่านเกี่บไว้ฉันไฅ้ประมาณ ๗ วัน เซ่น ข้าวฟ้ก ข้าวฟ้าร เกรํ่ป็งกระป้อง เป็นก้น และส์าหรับวัค หากมอาหารเหลือเทเอกี่อย่าทิ้งให้เสีย เค็่กข้างวัคห'รอผักน คามสลัมค่างๆ ทํ่อคอยากยังมมากนัก กิฅถงและนำไปเส์อแผ่แก่เซาบ้างกี่อะเป็น มหากุศลอย่างยั๋ง เวลาเราอค เรายังกิคลืงฅนอม เวลาเราอํ่มกี่กวรอะนึกถึงกนอคบ้างไซไหม ซอรับ tin# เมอออกพรรษาแล้วมมก็่จร^กเพรารมงานทำรออยู่ช้างทน้า แต่โยมว่า รอใmyกฐนเ^ยท่อนค่อย^ภ จรไดอานิสงล้กฐนแตรได้เน้นพรรสมบูรณ ยม สงล้ยว่าการจรเปีนพรรโคย^มบูรณ์ค้องร้^ก^นท่อนด้วยหรอ แลรการทJก^นนั้น มอานิสงล้ต่อพรรบวชใหม่อย่างยมเซ่นไร ก^่ ^ การเป็นพระโคยฟ้มบูรณนั้นไมไก้อย่ทิ้ก้องอยู่รับกฐนทรอไก้อานิสงส์กฐน แค่กวานเป็นพระสมบูรโนมมาทิ้งแค่พระกู่ฟ้วคสวคอบท่อหน้าฟ้งฟ้ภายในอุโบสถแล้ว แค่ทิ้โยม'ว่าเซ่นนั้นกงมิโซ่หมายกวามอย่างทิ้เข้าใอนแน่ ผัฅอบเองกี่เกยไค้ยนเซ่นน มาบ้างเหมอนกัน กิคว่ากนเก่าๆ ท่านมุ่งประสง(^ห้ผู้บวชนั้นไก้เห็่นพิธกรรมต่างๆ ในวัคทํ่พระท่านทำกันให้กรบ เพราะงานกฐนถึอว่าเป็นงานสุคท้ายซองพระในรอบ ป็หนงๆ ท่านกงก้องการให้พระเราเหนให้สมบูรณ์แบบเลย หรือไม่อกทํอาอเป็นอุบายให้พระอยู่ท่อไป อย่าเพั๋งรบสีก เพราะอะไก้อยู่ รับกฐนกันบ้าง หากไม่บ้องกันไว้ ออกพรรษาแล้วอะลืกกันเสียหมค ถึงเวลางาน ทอคกฐน คัวเองและเว้าภาพอะมพระอยู่รับกฐนน้อยองก หรือหาพระอยู่รับกฐน ไม่กรบ เพราะพระทิ้อะรับกJนไค้นั้นก้อง ๕ รูปซนไป อะทำให้ใก้บุญไม่เคื่มอั๋ม ท่านกี่เลยออกอบายเซ่นนั้ www.kalyanamitra.org พระรรรมกัตตวป้ศ์ I ๑๖๓

กงไม่มเจฅนาหลอกพรร!ว่าถ้าไมไครับกฐนแล้วจร:ไม่เป็นพระสมบูรณ์อย่าง ทํ่ เฃ้าใจเลย ก่อนจะคอบปิญหาถึงเรองอานิสงส์กฐนนั้น ขอทำกวามเข้าใจเกึ่ยวกับกำ ว่า \"อานิสงส์\" เส์ยก่อน เพราะมักมึยู้เข้าใจเขวอยู่เสมอ กำ ว่า \"อานิสงส์\" คามปกติโคยทั่วๆ ไปก็่หมายถึงส่วนกุศลฆลบุญ กวามค กวามสุข หรืออย่างอื่นทิ่เป็นผลมาจากการทำบุญทำกวามค เซ่น ทำ บุญ สร้างโบสถจะมอานิสงส์มากกือไคับุญมากอะไรทำนองนั้ แค'อานิสงส์ทํ่เกิคจาก การรับกฐนของพระนั้น ไมโซ่หมายเซ่นนั้นโคยฅรง อานิสงส์กฐนนั้น หมายถึงสิทธิพิเศษหรือการไครับการยกเว้นบางประการ ในทางพระวินัย กส่าวถึอพระผู้รับกธินแล้วจะไค้รับผ่อนกันในการปฏิบัติพระวินัย บางข้อบางประการ ทำ ให้เกิคกวามสะควกในการไปมา อันเป็นสิทธิพิเศษทคนจะ พึงไค้รับในเมอคนทำคามหน้าททพระวินัยปงไว้ว่าต้องทำกือรับกฐนแล้ว เป็นสิทธิ อันชอบธรรมขอบวินัย มกวามเสมอกากกันหมค สิทธิพิเศษนั้นม & ข้อ เซ่น เข้าบ้านโคยไม่ต้องบอกลาพระรูปใครูปหนั้งไต้ เพราะคามธรรมเนิยมของพระเมํ่อจะ ออกจากวัคเข้าไปในบ้านจะต้องบอกให้พระทํ่อยู่ในวัคทราบเถึยก่อน เป็นการบ้องกัน ข้อกรหาและคามหาคัวหรือเป็นพยาน เป็นต้น หรือจะเดินทางไปไหนมาไหนโคย ไม่ต้องนำไครจวรไปกรบทั้ง ๓ ผืน คือนำไปเพึยงอังฆาฏิหรือจึวรผืนเคยวกี่ไต้ เป็นต้น เหลืออก ๓ ข้อ ผู้สนใจไปหาอ่านเอาเองเทอญ สิทธิพิเศษหรืออานิสงส์นั้พระจะไค้รับ ๒ กรั้งในหนั้งป็ คืออานิสงส์ใน การจำพรรษา ไค้รับสิทธิผ่อนกันพระวินัยเซ่นนั้[ต้ ๑ เคือน หลังจากออกพรรษา รับกฐนแล้วกึ๋ใค้รับสิทธิผ่อนกันเซ่นนั้ฅ่อจากนั้นไปอก d เดือน รวมเป็น ๕ เดือน ต้วยเหคุคังนั้ อานิสงส์กฐนจึงมประโยขนํส์าหรับพระทึ๋จะอยู่ค่อไปเท่านั้น พระทํ่จะถึกนั้นไม่จำเป็นต้องรับกฐนก1ต้ แค่พระทํ่จะถึกหลังกลางเดือน ร)]ร0 กวร รับกฐน เพราะอานิสงส์พรรษาหมคแก่กลางเดือน ๑!๓ เท่านั้น I ไขข้อข้องรื'?. www.kalyanamitra.org

ตอบเท่านก็่พอจรเข้าใ'ๆเรึ๋องราวของพระบ้างไม่มากก็่น้อย ถุๆม ทเธาว่าบวชเ^ยน้าเหลืองนั้นเขาหมายความว่าอย่างไร เปีนคำค่ๆทfธ ค่าผู้^ภไปแล้ว ล้าค่าพnจ บาปหfอ ตอฆ^ กำ ว่า \"บวชเสิยผ้าเหลือง\" นเห็่นจะเป็นกำไซ้กำหรับฅ่อว่าพระมากกว่า เพราะกำต่อว่าฆูลืกไปแล้วมอกกำหนึ่ง กอ \"ลืกก็่เปลืองผ้าลาย\" กำ ศองกำน โคยมากเขาพูคคิคกันว่า \"บวชก็่เลืยผ้าเหลือง ลืกกื่เปลืองผ้าลาย\" แคในกวามหมาย'ทั่วไป กำ นั้เปีนกำที่ไซโคทั่งพระและผูลืกไปแล้ว หากเป็นกำต่อว่าพระ กื่หมายถึงว่าบวชแล้วท่าคัวไม่ค ไม่ถูกฅัอง ท่าให้ มมลทินคิคผ้าเหลือง หรือทำไห้ผ้าเหลืองพลอยเลืยไปห้วย พูคไห้ฃัคก็่กอท่าให้ พระกาศนามัวหมองนั่นเอง และกล้ายกับต่อว่าว่าบวชเข้ามาทำไม ไม่บวชเลืยถึกว่า เพราะบวชแล้วยังท่าคัวเหมือนขาวบ้านหรือเลวกว่าขาวบ้านเลืยอก เรียกว่าบวชแล้วขาตทุน ว่างั้นเถอ^ การที่ไข้กำนั่กับพระ ก็่แศคงว่าพระรปนั้นไมให้เรื่องจริงๆ นอกจากจะไม่ ประพฤคิคามกํกขาวินัยพระ ไม่มืมารยาทชองพระ ไม่ทำคามแบบพระแล้ว ยัง ประพฤคินอกรืคนอกรอยจนท่าให้ชาวบ้านมองพระเหมือนไมใช่พระอย่างที่กนเก่าๆ จคจำบอกเล่ากันต่อๆ มาว่า บวชไปๆ กตาบเปีนเถน (ขโมย) บวชไปๆ กตายเป็นเถนเฒ่าเตธรเทอ:; บวชไปๆ กตายเป็นฟยล้า บวชไปๆ กตายเป็นพ'ธไก'แจ้ บวชไปๆ กตายเป็นทนรี'บใช้ บวชไปๆ กตายเป็นทนเกะกรกควัค บวชไปๆ กตายเป็นทนเกะกะกฅคา(fนา www.kalyanamitra.org พร:ธรรมกิดดิวป้ส์ I «๖(รr

รวมกวามว่า ใช้ผ้าเหลึองบังหน้า เป็นพระหบักวัด หบักศาศนา นานเช้า กื่กลายเป็น \"พรร!หนักแผ่นดิน\" ไปนั่นแหละ! เห็่นจะไม่ต้องขยายให้ยืคเยั้อไปมากกว่านั่ เพราะยั๋งฃยายยั๋งเช้าเนั้อ ไม่ค หากกำนั่ไช้กับผู้^กไปแล้วก็่หมายกวามว่าบุกกลนั้นไม่เอาไหนเตย กวาม เป็นพระและรากํผ้าเหลืองไม่ติดไปบ้างเลย ก่อนบวชเป็นอย่างไร ลืกไปแล้วณป็น อย่างนั้นหรือเลวยั๋งกว่าเก่าอก ช่วยเหลือเขาทำพิธกรรมทางศาฟ้นาบางอย่าง เช่น อาราธนาลืลกึ๋ไมไต้ ถวายทานกื่ไม่เป็น จนขั้นประเกนพระกี่ทำไม่ถูก ไม่รู้ว่าดอน บวชไต้!เกมาบ้างหรือเปล่า พอมพิธบุญบ้านไหน พ่อ \"ทิด\" เราแอบไปนั่งเลืยศุคโด่งริมทางหางแถว โน่นทิเคยว กลัวเขาจะเรืยกมาไห้อาราธนาลืลอาราธนาพระปริดร กนเฒ่ากนแก่เห็่นเช้ารำกาญฅาเฅ็่มทนเลยดอกหน้าเอาว่า \"ไอ้นมันบวช เ^ยน้าเหลือง\" อะไรทำนองนั้ นันเป็นเลืยอย่างนั้แหละพ่อทิดเรา เขาจงว่าเอาได้ ด้วยเหตุนั้แหละ กนลบัยปีจจุบันจึงเหี่นว่าผ้บวชนั้นมักไมไต้เรํ่องเอาเลืย จริงๆ เพราะดอนบวชแกไม่ก่อยจะเอากวามกะไกร มแด่พะวงอยู่กับการฉกปฏิทิน รอวันลืกเท่านั้น กำ ว่า \"บวชเลืยผ้าเหลือง\" นั้จะถือว่าเป็นกำด่ากี่ใม่ถูกมัก มันรุนแรงไป อย่าไห้ถืงขั้นนั้นเลย เอาเป็นว่าเป็นกำด่อว่าเพํ่อไห้รู้ลืกฅัวกี่เห็่นจะพอ เมํ่อเจตนา มแก่นั้ชงเป็นเจดนาทคกี่กงไม่บาปอะไร แด่ถ้าจงไจจะด่าโดยไม่กำนงว่าผ้ถูกด่า เป็นพระ ชึ่งซาวบ้านบังเการพอยู่ แบ้จะประพฤติไม่ชอบธรรมไม่ชอบวิมัยไปบ้าง กี่จัดเป็นบาป เพราะเป็นบาปทางไจและเป็นบาปทางวาจา กือเจดนามันหยาบ เมํ่อเจดนาหยาบ บาปกี่เกิดขั้น เพราะขณะด่ามันมักจะมอารมณโกรธ อารมโน ไม่พอไจกำกับอยู่เบองหลังด้วย I ไขข้อข้อ0 ริจ, www.kalyanamitra.org

ดังนั้น ขอให้รรสืกไว้เสมอว่าพรรกี่เปรยบเศมือนไฟ จะ!ไหม้เอาไห้ทุกเวลา และ!การเฅึอนพระ!นั้นสามารถเตือนไห้ ทั้งเป็นสิงกวรทำหากเห็่นพระ!ทำไม่ตื ไมใช่ปล่อยไว้เป็น \"ชั่วช่างช คช่างสงฆ\" แฅ่อย่าค่าพระ!กี่แล้วกัน กนค่าพระ!ไห้น่ร เขาไม่สรรเสริญว่าเก่งหรอก แค่เขาจะ!มองห้วยกวาม สมเพชว่าเป็น \"คนหมฅยางอาย\" แล้วจึงค่าพรรไห้ แลรเวลาค่าอย่าไปยืนค่า ค่อหน้าท่านเข้าล่ะ! เพรารเท้าของท่านไมไห้ถูกผูกเอาไว้นะ!คุณ ! พระ!มหาทองค สุรเฅโซ ป.ธ.๙ www.kalyanamitra.org พระธรรมก้ฅติวงศ์ 1 ๑๖๗

www.kalyanamitra.org

แ แแ น ■^.\"1■ ' I.JI ไขข้อข้อVใๆ จทก \"มงกflฟ้าr\" เกอนรนวากม ]io๕»๙ ถามโคน... คุฉ]กฉน ยู้อยากJ mrliWดทองลูกนิมิตตามวัดค่างๆ นั้นได้บุญอย่างh เพmเวลาไปโน งานนั้น แด้วเขาจ;!ปTรกๆศว'าปีตทองลูกนิมิต ได้บุญมาก ได้อานิtfงด้มาก แค่ ไม่แจกแจงให้ทrาบว่ๆได้อานิสงด้อย่างไททง จงกราบifยนพรรคณเจ้ามา พอบ มันเป็นกวามบกพร่องอย่างหนํ่งของโฆษกหรอของกนวั'คทั่าไปทึ่ไม่ค่อย ขยายกวามหรือให้รายละ;เอย(ๆของกำพูคหรือค่ามัพทต่างๆ ในทางศาลนาให้ฆู้vlง เข้าใจอย่างฃั'กเๆน ทั้งนอาจจะเข้าใจว่าขาวบ้านทั่วไปรู้กันแล้วเพรารทุกกนเป็น ซาวทุทธ กำ แค่นกัพทธรรมะข้อน็้!ม่จำเป็นห้องอสิบายกึ๋ใค้ เหี่นจะเข้าใจเซ่นนเป็น ส่วนมาก ชาวพุทธเราจึงมกวามลงล้ยอณู่รอย และแย่ทํ่ลุคกี่กํซพอไกํยนพระเทศน แล้วมักจะหลับห้วยรู้ล้กว่า พรรว่าธรไรกึ๋โม่รู้ ไม่เท็่นรู้เรธง www.kalyanamitra.org

กวามจริงแล้วซาวบ้านทั่วไปไมมพ็้นกวามรู้ทางธรรมคพอ มักไม่เหมือนอย่าง ทั่พระ!เข้าใจ พูกอย่างนมิใช่จะ:คูถูกภูมิปิญญาซองซาวบ้าน ทั่ซาวบ้านเก่งกว่าพระ!กี่ มือยู่ แค่จะ!มืล้กกี่กนกันเล่า ถ้ามืกี่ฅัองซออภัยไว้ ณ ทั่นิ้คัวย แค่ทั่วไปแล้วกี่เป็น อย่างว่า แม้จะเป็นกนเข้ากักทุกวัน มาทำบุญทุกกรง หรอทั่สุกแม้จะมากินนอนอยู่ ทกักในกันพระกันอุโบสถกี่ตาม หากจะลองถามไถถงภูมิปิญญาทางธรรมแล้วมักจะ กอบไมไคัทุกกน หรือกอบไก้กี่ไม่ถูกคามทั่คัองการ พูดให้ตรงประ!เกี่นกี่คอเขาไม่รู้เรึ๋องนั่นเอง จะเหมาเอาว่าเซาเรืยนมาบ้างแล้ว เซาฟิงกันมาจนแก่เฒ่าแล้ว ไม่ก้อง อธิบายกี่ไคั อย่างนั่กี่ไม่เหมาะ เพราะทั่ฟิงๆ มานั่นปะกี่ฬงเอาบุญหรือท้!งตาม ประเพณกันมาแทบทั้งนั้น พระว่าอะไรกี่ว่าไก้เท่าพระ ว่าไก!ม่เกินเลยไปกว่านั้น พระ ว่าเป็นทานกี่เป็นทานคัวย พระว่าเป็นกิลกี่ว่าเป็นกิถคัวย พระว่าเป็นภาวนากี่ว่าเป็น ภาวนาคัวย แค่พอถามว่าทานน่ะมืกวามหมายแกไหน กิลภาวนามืกวามหมาย แกไหน ญาติโยมกี่ใคัแค่นั่งมองหน้าพระ ตาปริบๆ ไปเท่านั้น เรองนั้จะโทษญาติโยมซาวบ้านกี่ไม่ถูกนัก เพราะพระเราไม่อธิบายให้เซาฟิง บ่อยๆ จนเขาจำและเข้าใจไคัถูกก้องถ่องแท้ ซาวบ้านเขากี่อยากฟิงธรรมะให้เข้าใจ เหมือนกัน แค่พระไม่ยอมว่าไม่ยอมอธิบายให้เซาท้!ง เรึ๋องนั้มืข้อพิสูจน้!ห้เหี่นไคั คือซาวบ้านเซามักจะยอมองทุนไปนิมนต์พระทั่เทกนเก่ง มืซํ่อเกี่ยงทางเทศน์ มาเทศน์1พ^ง แม้จะก้องเกี่ยปิจจัยติกกัณฑเทศน์แพงๆ (ตามธรรมเนยม) กี่ยอมกัน ทั้งนั้เพราะอยากฬงเทศน์ห้งธรรมะให้รู้เรึ๋องนั่นเอง ถ้าจะตกวามอกบุมหนั้ง การทชาวบ้านไปนิมนต์พระกักอํ่น มาเทศน์ทั่กัค บ้านคัว หรือซอร้องให้ลมภารไปนิมนต์มากี่ตาม เท่ากับว่าซาวบ้านไคัเตือนพระใน กัตนั้นกลายๆ ว่า ๑๗๐ I ไฬอข้อง^^} www.kalyanamitra.org

\"ท่านเทf^^ม'ค่อยทู้รอง โยมจึงต้องทำอย่างน ท่านต้องปพัปรุงตัวนะ โยมจะไต้Iม่นิมนฅพระทอึ๋นมา\" อะไรทำนองนิ้ กือ่ให้พระ!ไค้เปิคหูเปิคฅาบ้างว่าทเขาว่าเทศนคๆ น่ะ! เขาเทศนกันอย่างไร หาตัวอย่างมาให้ท่านคู ทเขยนมาเป็นกุ้งเป็นแกวนอกเรึ๋องนั้ก็่เพยงจ2บอกว่าชาวบ้านทั่วไปมพืนฐาน ธรรมะยังไมคพอทั่จะตังตัพท่ธรรมะล้วนๆ ให้เข้าใจไค้ เป็นหน้าทํ่ของพระจะค้องปูพั้น กวามรู้ทางธรรมให้ซาวบ้าน จากการอธิบายธรรมะง่ายๆ ไปหายาก เซ่นเรํ่องบุญ กี่กวรจะซั้แจงว่าบุญกืออะไร มลักษณะอย่างไร บุญเกิคฅรงไหน เกิกแล้วมผล ประโยชนอย่างไร พอจะมองออกหรือไม่ว่ากนนั้นกนนั้!ค้รับผถบุญแล้ว ทำ อย่างไร จึงจะเป็นบุญบ้าง ยกตัวอย่างบุกกตทั่ไค้รับผลบุญในปิจจุบันให้คู เหล่านั้เป็นค้น จิฅใจของผู้ตังก็่จะกล้อยตามเหี่นฅามไปทํละเลี่กทํละน้อยในทํ่ศุกกี่เข้าใจไค้ วันหลัง กี่ว่าไหตังใหม่อกลักกรั้งลองกรั้ง ต่อไปไม่ค้องว่าให้ละเอยตกี่ไค้ เพยงแต่บอกว่าให้ ท่านรักษาค้ลและเจริญภาวนา ล้วนเป็นปอเกิคบุญทั้งนั้น เท่านั้กี่เข้าใจกันไค้เพราะมพั้นฐานมาบ้างแล้ว กวามบกพร่องของพระเรามกรงนั้ ชงเป็นเหตุให้ขาวบ้านโจมตอปูเลมอว่า พระเทศน้ไม่รู้เรํ่อง จึงไม่ยอมจะมาตังเทศน์กันนัก ถองๆ เบ่ถํ่ยนถถาใหม่คูซฃอรับ รับรองว่าไต้มถ ทํวัฅอํ่นเมึ๋อม่เทfllJ ทำ ไม ทนเฅ็่มf1าถา ทํวัฅเราทำไมทนตังเทสนมน้อยกว่าเปาสาถา หรือในวัคเรานแหถะ พอนิมนต์พระเทสน้ตังๆ มาเทสน้ ทนแน่นสาถาเถย พอเราเทสน้บ้าง คะโกนเรืยก จนคอแทบแตก ชาวบ้านก็่ยังไม่ยอมมาวัคกันเถย มันเป็นเพราะเหตุไร ไม่จำเป็นค้องเฉลย กราวนั้วกมาเข้าประเกี่นปิญหาเสิยทึ ตังไค้เกรั้นไว้ในตอนค้นแล้วว่าเป็นกวามบกพร่องของโฆษกหรือกนวัค (ทั่ เป็นโฆษก) ทั่ไม่พูคให้ละเอยคลงไปว่าปิคทองลูกนิมิตน่ะไค้บุญไค้อานิลงล่เซ่นไร www.kalyanamitra.org พระธรรมกิตติวงศ์ 1 &ฟ&

เพยงแฅ่พูคว่าไค้บุญๆ กนฟิงก็่เซื๋อละ:ว่าไค้บุญ แฅใค้อย่างไร นสิมันลงค้ยค้างใจ อยู่ จึงจำเป็นค้องเฉลยให้หายข้องใจฅามหน้าทฃองโฆษก แต่จะ:หายหมคหรือไม่ ไม่ทราบเหมือนมัน กวามจริงการปิคทองลูกนิมิฅนั้ มิใซ่ว่าจะ:ไค้บุญฅรงทํ่ปิคทองทํ่ลูกนิมิต เท่านั้น กวามเป็นบุญมันเกิคมาตั้งแต่อยู่บ้าน ตอนเตรืยมตัวจะ;ไปวัคนั้นแล้ว ตัวอยู่บ้านหรือกำลังเดินทาง แต่ใจมันไปถึงวัคอยู่ทํ่วัคเสืยแล้ว พอไปถึงถึซั้อธูปเทยนคอกไม้ของวัค ไปประ:จงปิคทองทํ่ลูกนิมิต ลูก แถมปีคพระ:อก (ร) องกหรือมากกว่านั้น เดินทางกลับกี่เบิกบานแจ่มใลว่าไค้ทำบุญ ปิคทองลูกนิมิตซึ่งหาโอกาลทำไค้ยากแล้ว รวมกวามว่าเป็นบุญตั้งก่อนทำ ตั้งขณะ:ทำ ตั้งทํ่ทำแล้ว เป็นบุญทุกระ;ยะ: และ:กี่ไค้รับผลบุญทุกระ:ยะ:เซ่นมัน บุญในทนั้คือความด ผลบุญในทนั้คือความลุฃ ความลบายใจ ความ เบิกบานใจ ทํ่ว่าไค้บุญมากหfออาปิสง^(มลบุญ) มากนั้นเปีนอย่างนั้ ตามปกติงานปิกทองลูกนิมิตนั้เขาจะ:วัคเป็นงานใหtyโตกว่างานอึ๋นๆ ของวัค เรืยกว่าวัคมันจนลุคกวามลามารถ ลงทุนมันจนหมคตัวแหละ; และ:การรับบริจากมิใซ่ จร:มืแต่คอกไม้ธูปเทยนทองปิคทองลูกนิมิตและ:บูชาพระ:เท่านั้น ยังมืบริการบุญท เชิญบริจากอกมากมาย เซ่น ชั้อทดินลร้างโบลถึ ซอกระ:เบองมุงหลังกา ซอเถึอ ปูในโบลถึ ซึ่อโตะเก้าอถวายวัค ซั้อไตรจึวรบวชนาก ตักบาตรนพเกราะห เถึยง ใบเชึยมชิ มืวัฅถุมงกลชองวัคให้เซ่าบูชาหลายสิบชนิค และมืบริการบุญอื่นๆ อก มากมาย ในแต่ละวัคๆ วัคเหมือนมันบ้างต่างมันบ้าง แฅโคยมากจะเหมือนๆ มัน เมํ่อวัควัคทรับบริจากไว้มากจุค กนทไปในงานกี่มักจะทำบุญแทบทุกจุค เดินไปตรงนั้กี่ถูกเชิญใหชื้อทดิน เค้าชื้อ เดินไปอกนิคถูกเชิญให้ลร้างกระเบองมุง ๑๗๒ I ไจซ้อฃ้อ0 ริจ่. www.kalyanamitra.org

หลังกาโบศถ์กรบ เอ้ๆสร้าง กว่าจะ:เกินรอบบริเวณงานก็่หมฅ่ไปหลายเงิน เป็น การลคซ่องว่างระ:หว่างกระ:เป๋าไอ้อย่างค เมึ๋อได้บริจาคมากฑึ๋ใดซึ่อว่าทำบุญมาก เมึ๋อทำบุญมากกึ๋โด้ผลบุญหรือ อานิสงส์มาก เพราะ{การบริจาคของทุกคนนั้นมศร้ฑธาความเรือเป็นพืนฐาน ม ปสาทะ{ความเลํ่อมใสเป็นเครํ่องกรร{ด้น และ{มเจตนาความด้งใจทำเต็่มใจทำเป็น แรงหนุน การบริจาคนั้นๆ จึงเป็นการบริจาคทํปราศจากความตรร{หน ความ หวงแหน ไม่เส์ยดาย ชํ่งเป็นการบริจาคทถูกหลักแห่งการทำบุญ บญนากจงเกิคข็้นฅ้วนบ่รรการฉะนั้ ส่วนผลบุญหรืออานิสงส์ทเกิคนั้น อันหนงกื่กือกวามสุขใจ สบายใจ ทั้ง ก่อนทำ ขณะ;ทำ และหลังจากทำแล้วลังกล่าว ซํ่งเป็นผลรวมในเรํ่อง \"ทานมัย\" บุญทํ่เกิคจากการเส์ยสละทรัพย่เป็นทาน ส่วนผลบุญเฉพาะอย่างๆ กี่แยกออกไป เช่น ลรางทฅินเปีนทาน ฟานว่า เกิดในภพใฅชาติใดจะมึหลักฐานนั่นคง มทตินเปีนของทนเอง ไม่ต้องระเหเร่ร่อน ลร้างกระเบั้องบุงหลังคาจะนความร่มเย็่นเปีนบุข ไม่ม่อุปลรรคในการทำงาน ลร้าง โคะเก้าอจะม่หลักฐาน นงานทำ ครอบครัวนั่นคง ไม่ง่อนแง่น ป็ดทองพระปีดทอง ลูกนิมิตจะนวรรณะผ่องใล รูปร่างค ลนส่วน มเลน่หไนต้ว เปีนต้น นเป็นผลกร่าวๆ เฉพาะอย่างๆ เอาเป็นว่าไอ้บุญมากไอ้อานิสงส์มากอย่างทโฆษกวัคนั้นๆ เขาประกาศ ก็่แล้วกัน ทำ แล้วก่อยพิจารณาไปทํละน้อยๆ ว่าคอนน็้เราไอ้อานิสงส์บ้างหรือกัง ถ้ากังกึ๋ใปทำเพมอ้วยศรัทธาปสาทะและเจตนาลังกล่าวอึก บางทํศรั้งแรกๆ บุญ ของเราจะกังไม่สมบูรณหรือกังทำไม่ศรบกึ๋ไอ้ จึงกังไมไอ้อานิสงส์คามทํ่อ้องการอยู่ พระธรรมกิตติวงศ์ I ๑๗๓ www.kalyanamitra.org

ถาม เคยไค้ปีนเขาพูคกนว่าใคTไค้ปีดทองปีกนํมิค ร)๐ วคในชวํตนํ้ ตายไป จรไม่คกนรกจ?งหfอไม่ ช่วยชแจงค้วยจรเปีนmรคณยั่ง isffl ผู้ฅอบเองกี่เกแไ^นเซ่นนมาเหมือนกัน คอนแรกกี่เหื่นกถ้อยฅามว่าฟ้น ไปไ™เคยว แค่มาคอนหอังๆ พอทู้รํ่องบาปบุญบ้างกึ๋!ม'เชํ่อเอาเสิยงั้นแหอ^ แค่ ก็่ใม่เซิงปฏิเฟ้ธเสืยเอย เพยงไม่เชอเท่านั้น ทไม่เชอเพราะ;มืเหคุผลอยู่ คือช้อเทึ๋จจริงมอยู่ว่า กนทึ่จะคลนรกหรือฃนอารรก มิใช่อยู่ทไดปีคทอง ลูกนิมิคหรือไมไคืไ]ค หากอยู่ทํ่การกระทำของแค่ละกนมากกว่า ไกรทำผลเช่นไคไว้ ย่อมจะไครับผลเช่นนั้นคอบแทน คังทพระท่านว่า น หิ ธฆฺโฆ จ ธุโภ สมวิปากิโน อธบุโม นิรยํ เนติ ธมไม ปาเปคิ สุคุคค ฯ \"ธรรมแตรอธรรมทั้งt^องปรรการ มินตไม่เตมอกันเตย คือ อธรรมย่อมนำไปม่นรก ธรรมย่อมไค้ถึงตุหฅิ\" หรือคังทพระรับรองไว้อกบทหนั้งว่า ยาทิส์ วปเค พชํ คาทิถ้ สภเค ขลํ กสฺยาณฑารื กชุยารน ปาปการ จ ปาปกํ ฯ \"บุกคตหว่านพืชเซ่นไคย่อมไคร้บนตเซ่นทั้น นู้นำ หวามคืเปีน ปกติย่อมไค้รับมตคื ^ทำกรรมชั่วเปีนปกติย่อมไค้รับนตชั่ว\" จากพระพุทธพจนนั้ยึนยันไค้ว่าจะชื้นสารรก!ค้กอยู่ทการประพฤติธรรม ม ธรรมประจำไจ แอะทำกวามคืค้วยกาย วาจา ไจเรนประจำสมํ่าเสมอแอะจะคกนรก กนกี่เพราะประพฤคิสิงฟ้ม่เป็นธรรม {อธรรม) ทำ แค่กวามชั่วทุกเมอเชื้อวน หากว่าอคทกงลูกนิมิต ๑0 วัคแถ้วจะปีตประคุอบายไค้ กนก็่ไม่ค้องมัว พะวงทำกวามคือํ่นๆ กันแถ้ว เพยงแค่รอโอกาสปิคทองลูกนิมิตเท่านั้นกี่พอ หรือกน ททำชั่วมามากๆ กี่กงจะรอคฅากันหมคค้วยการไปป็คทองลูกนิมิคไห้กรบ ๑0 วัค ใขธ้อธ้อง% www.kalyanamitra.org

เท่านั้นเป็นพอ และ!ทํ่ส์ากัญทึ๋อุคกี่กือพระคุณเจ้าทั้งหลายไม่ฅ้องเป็นอันปฏิบัติfเาฝ็น กจอึ๋นๆ กันละ: เพราะ:ถืงป็ก็่จะ!ค้องฃุคลูกนิมิฅมาให้ชาวบ้านปีคกัน หรือวันไหน กืนไหนเกิคกนจะ!คายกันฃั้นมา ลูกหลานกงลงทุนพาพ่อพาแม่ป้ย่าคายายของคน ไปวัคปิคทองลูกนิมิค จะไค้!ปลวรรกทันคาทันไจค วัคต่างๆ กงมภาระเพํ่มฃั้น ส่วนวัคทั้อยูในกรุงเทพฯ กงรวยจมหูไปเลย เพราะมกนมากและการไปมาสะควกค้วยประการทั้งปวง ค้วยเหตุผลนั้จึงไม่เซํ่อไนเรองทํ่ว่าปิคทองลูกนิมิค ๑๐ วัคแล้วจะไม่คก นรก แต่กึ๋ไม่ปฏิเสธเค็่กฃาคว่าเป็นไปไมไค้ เพราะฆู้ทจะชวนขวายอุคส่าหหอบ กังขารไปปิคทองลูกนิมิคกรบถึง ๑๐ วัคนั้น มิไช่ทำง่ายๆ ค้องศรัทธาแก่กล้า จริงๆ และค้องเป็นกนไจบุญจริงๆ ค้วย ลองไค้ใจบุญเป็นทุนเติมแล้วกี่แสคงว่า กงทำบุญมามากและต่อไปกี่จะทำบุญอกมาก ซงกี่เท่ากับไค้ปีกประตูอบาย ไม่ค้อง ไปคกนรกนั้นเอง ทั้พูคมานั้ว่าเฉพาะโบราณ เพราะว่าไนสมัยก่อนนั้นกว่าจะปิคทองลูกนิมิค ไค้กรบ ๑๐ วัคกี่ค้องกินเวลาหลายป็ทเคยว เพราะการสร้างโบสถ์มิไช่สร้างกัน ไค้ง่ายๆ ค้องไช้เวลามาก และวัคต่างๆ กี่ใม่ต่อยไค้รับพระราชทานวิอุงกามถึมา กือสร้างโบสถ์พร้อมกันมากมายเหมือนสมัยนั้ ไนจังหวัคหนั้งๆ บางป็มืแต่ kn-m แห่งเท่านั้น และกี่อยูไกลๆ ทั้งนั้น แถมการไปมากี่ลำบาก รถเรือเข้าไม่ถึง ค้อง เติน เท้าไป ค้างอ้าง แรมกันทั เคยว สมัยก่อนค้องขวนขวายอย่างนั้ จึงทำไค้กรบ ๑๐ วัคเฉพาะผ้มืศรัทธา แรงกล้าเท่ามัน สมัยนั้วัคทจัคงานแบบนั้มืมากมาย ยกบ้ายประกาศโฆษณาคามสามแยก ^แยกเกะกะไปหมค บางจุคยืนอ่านจนกอเกล็่คกี่บังอ่านไม่กรบทุกบ้าย ค้องยกยอค มาอ่านเทยวหกังกี่มื ทั้งนั้เพราะมากค้วยกัน ทั้งเป็นวัคทํ่ไปมาสะควก รถเข้าถึง www.kalyanamitra.org พระธรรมกิตติวงศ์ 1 ©๗๕

เรือเข้าถื้งทั้งนั้น แอรก็่น่าไปเสิยค้วย เพรารไปกอับในวันเคยวไท้ ไม่ต้องเสิยเวอา มากเหมือนฟิมัยก่อน คงนั้น เฅึ๋ยวนั้หากมืรถก่วนคัวกี่ศามารถคระเานไปปิคทองถูกนิมิค วันเคัยว กี่อาจๆรไต้กรม S10 วัค หรือมากกว่านั้นเสิยต้วบซาไป นค่ต้องอยู่ในระยะเวลาช่วงครุษจนนะ พอสรุปไท้ว่า การปิฅทองสูกนิมิคน่ะค แค่กงไม่ถงกบห้ามนรกไคทเคัยว เพราะจะปิคประคนรกไท้ท้วยการทำกวามคอํ่นๆ อกมาก piji' หากจ^ไปงานปีคทองลูกนิมิตควTจ£ท็าบญอiไททง แล ปีคลูกนิมิต ลกไหนก่อน คอในโบ&ก่หรือนอกโบสกก่อน บ ในเรึ๋องนั้กี่ต้องคอบว่าไปปิฅทองถูกนิมิคก่อน เพราะเจคนาเคิมทิ่ไปในงานนั้ ก็่เพออคทองถูกนิมิค จั๋งกวรทำเจฅนาหรือกวามทั้งใจนั้นให้บริบูรณเป็นเบองแรก ก่อน ก่วนจะทำบุญอะไรอํ่นค่อไปกี่ว่ากันทหอัง แสะมืให้ทำมากเสียท้วย คามปกคิในงานผูกสีมาหรือทซาวบ้านเรืยกว่า \"งานชงลูกนิมิค\" นั้น ทางกรรมการผูจคงานมกจะทั้งกองการกุศลเพํ่อรับบริจากจากประซาซนมากมาย หลายกอง เป็นท้นว่ากองรับบริจากขอกระเบองมุงหอังกา กองทั้อทั้กินสร้างโบสถ กองทั้อผ้าไฅรให้นากเพํ่อบวฃพระในโบสกใหม่ และขออปกรณหรือเกรํ่องใซ!นวัค เช่น เบ้าอ เสือ เป็นต้น ซํ่งบางวัคอาจจะมืมากกว่านั้ แค่ทํ่เห็่นมืทุกวัคกี่กือการ คักบาครนพเกราะห การบูชาวัคถุมงกล ซงการรับบริจากทั้งหมคนั้กี่เพอหาซจจัย บำ รุงวัคนั้นนั่นเอง คังนั้น เมื่อปีคทองถูกนิมิคเสร็่จแล้วจะทำบุญอะไรค่อกึ๋โต้คามอัธยาคัยหรือ จรกอับบ้านเลยกี่ไม่มืใกรว่า แค่โคยมากเหนทำบุญอื่นๆ กันกนละหสายรายการ บางกนทำครบทุกรายการเลยเพราะเหี่นว่านานๆ ไต้ทำท แสะมืกวามเลํ่อมใสในวัค นั้นๆ อย่างเฅี่มเป็ยม |. ไะรอธ้อป๋% www.kalyanamitra.org

การฅั้งกองรับบริจากหลายๆ กองเซ่นนั้ก็่นับเป็นอุบายชักชวนให้กนทำบุญ ไค้ทางหนํ่งเพราะ:อัธยานัยชองกนมต่างกัน บางกนค้องการ^อทกินถวายวักอย่าง เคยวก็่ซอ บางกนค้องการเป็นเจ้าภาพข้าไฅรก็่บริจากเฉพาะ!ผ้าไกรเป็นค้น กือเป็น การสนองเจฅนาของทุกกนไคทั่วถึงกัน เปีนความฉถาฅทเทียวถะ! ส่วนกำถามทํ่ว่าจะปีกทองลูกนิมิตลูกไหนก่อนนั้น ก็่ค้องกอบไปกามกรงว่า ยังไม่เกยพบกำราทํ่ใหนท่านบัญญัติเช้าไว้หรือมฃ้อบังนับไว้ว่าค้องปีกลูกนั้นลูกนั้ ก่อน แต่กื่พอจะแนะแนวทางไก[คยอิงหลักวินัยชองพระไนเรํ่องการฆูกถึมาและ หลักกวามจริง กือกวรจะเช้าไ!ไนอุโบสถก่อนเพํ่อนมัสการปีกทองพระพุทธรูปชงเป็นพระ ประธานไนอุโบสถนั้นๆ โคยถึอหลักว่ามิพระพุทธเจ้าเป็นประมุขเป็นประธาน เรยกว่า เป็นหัวไจเป็นหลักของอุโบสถ ต่อจากนั้นก็่ปีกทองลูกนิมิฅเอกหน้าพระประธานแล้ว ออกมานอกอุโบสถค้านหน้า ปีกลูกทํ่อยู่ค้านทิศบูรพาหรือทิศกะวันออกก่อน แล้ว เวิยนขวา (ไห้อิงทํ่เวิยนอยู่ทางชวา) ปีกเรื่อยไปกามลำนับ กือลูกนิมิกค้านทิศ อากเนย ทักษิณ หรก ปิจฉิม พายัพ อุกร อีสาน กรบ ๘ ลูก ๘ ทิศพอก ท่านว่าอย่างนั้ โกยลอกแบบมาจากวิธหักลูกนิมิกชองพระ โกยไหัทกค้านทิศบูรพา ก่อน เรื่อยไปจนกรบแล้วมาหักทางทิศบูรพาชํ้าเพํ่อไห้แนวเชฅถึมาเซํ่อมต่อกัน แกไม่ค้องถึงกับปีกลูกทางกะวันออกซํ้าเหมือนพระหรอก เพราะปีกแล้ว แก'จะปีกอกกึ๋ใม่มิไกรว่า ไหนๆ กี่กล่าวถึงเรื่องนั้แล้วก็่อยากจะแถมไห้อกนิก เพราะเป็นเรื่องทึ่ น่ารู้อยู่เหมือนกัน คือทำไมจึงต้องปีกทองลูกนิมิฅกันค้วย ปีกแล้วไค้ประโยชน้ อะไรฃิ้นมาแก่ขู้ทำ และเวลาปีกกวรจะทำอย่างไรบ้าง พระธรรมกิตติว0ศ์ I ๑๙๗ www.kalyanamitra.org

เรื้องทฅ้องป็คทองลูกนิมิคนั้ ปรรวัฅิคั้งเคิมกึ๋ใม่เกยพบในฅำนานเลย เลย ต้องใช้วิธอนุมานเอาว่ากนโบราณนั้นท่านเลํ่อมใสพระพุทธเจ้าทํ่เรารู้แล:!เข้าใจกัน อยู่ และยังถือกันว่าในทิศทั้ง {ฝ ทิศนั้น มพระอรหันฅกอยปกปีกรักษาคุ้มกรอง อยู่โคยรอบ โคยมพระพุทธเจ้าประทับอยู่ฅรงกลาง พระอรทันฅ ๘ ทิศนั้นมใกรบ้างเหี่นจะต้องยกบาลมาอ้างกัน แค่ท่าน^ค แค่งไวิกใม่ทราบอกเหมือนกัน เป็นแคจ้ากันมา คือ ฟ้มฺพุทฺโธ ทิปทํ เส์ฎโ^ นิสินฺโน เจว มซฺฌิฌ โกณฺฑณโฌ ปุพฺพภาเค จ อาคเณยฺเย จ nfjสโป สารัปุตฺโต จ ทกฺขิเณ หรติเย อุปาลิ จ ปจฺฉิเมปิ จ อานนฺโท วายVjเพ จ ควมฺปติ โมfjคอุลาโน จ อุตฺตเร อิสาเนอ จ ราหุโล ฯ แปลว่า พระสิ'มมาสิ'มพุทธเจ้า ประทับอยู่ครงกลาง พระกัญญาโกณฑัญญะ ประจำทิศคะวันออก พระมหากัสสปะ ประจำทิศคะวันออกเฉยงใต้ พระสารับุฅร ประจำทิศใต้ ประจำทิศคะวันตกเฉยงใต้ พระอุบาล ประจำทิศคะวันคก พระอานนท์ ประจำทิศคะวันคกเฉยงเหนือ พระกวัมปติ ประจำทิศเหนือ ประจำทิศคะวันออกเฉยงเหนือ พระ พระราหุล กังนั้น การปีคทองลูกนิมิคทั้ง ๙ ลูกก็่เท่ากับบูชาพระสิมมากัมพุทธเจ้า และพระอรหันฅทั้ง ๘ องกกังกล่าวนั่นเอง โคยเวลาปิคก็่ให้น้อมนืกถืงท่าน เหล่านั้นไปต้วย เป็นพุทธานุสติและกังฆานุศติคื ๑๗๘ i ไขข้อข้องใ•จ. www.kalyanamitra.org

นตรเกยไค้ยันมาว่าIวลาปิคทองลูกนิมิฅไป?ทมลำคับนั้น พอปิคเฟ้รจแก้วกี่ อธิษฐานขอพทากพระอรหันฅนั้นๆ อานทึ่ท่านไค้รบยกย่องว่าฟ้นเอิศ (เอ?เทักกะ) ไนเรองนั้นๆ สือ - ค้านทิก?เะวันออก ชอใหมอายุยืน - ค้านทิส?!ะวันออกเนยงไค้ ซอใหมกวามก้นโคษ ไม่โลภมาก - ค้านทิสไค้ ขอให้มปิญญามาก - ค้านทิสฅะวันฅกเฉี๋ยงไค้ ขอไห้มมารยาท มวินัย อวัยวะลมม่วน เป็น ระเบยบ - ค้านทิศฅะวันคก ขอไหมกวามทรงจำค้ มลฅิบริบูรณ ไม่นัวเมา - ค้านทิศฅะวันตกเฉยงเหนอ ขอไหมลาภมาก มบริวารแวคก้อม - ค้านทิศเหนึอ ขอไหมเคขมอำนาอ คัฅรูแพ้พ่าย - ค้านทิศตะวันออกเฉยงเหนอ ขอไห้กงแก่เรํ่ยน เริยนเก่ง เขาวนัคั๋ แถมเท่านั้กี่กงอะพอกระนัง เพราะขืนแถมมากไปสะเกินกำก้งหน้ากระตาษ ของมงศลลารฉนับนั้!ป ลาม เวลาใdบาตรพnฅอนเช้าๆ บางทลึมถธครองเท้าจรบาปไทม แลรบางครั้ง ท้พพไปถูกขอบปากบาตรเลยเกิดเ^ยงคงจรเปีนบาปทรอไม่ เพรารไม่เจตนาเลย ตอบ การลวมรองเทาคักบาตรตอนเช้าหรือถวายของพระเวลาอํ่นๆ ถือว่าเป็น การแลกงกวามไม่เการพไนพระศงฟ้ มโทษ โกยถือตามตำนานทเม่ากันมาว่า พระเค้าพิมพิลารพระราชาแห่งกรุงราขกฤห แกค้นมทธ ผู้เป็นเอกอักรศาลนูปกัมกก พระพุทธศาลนาไนลนัยพระพุทสเค้า ไนตอนท้ายพระขนมายุทรงถูกทรมานค้วยการ ถูกกุมฃง ถูกไห้อกพระกระยาหาร ลุกท้ายทรงถูกค้บปานป่าพระบาทค้วยมกโกน กมกริบทั้ง 1๓ ช้าง ทำ ไห้เลคี่สเกินไมไค้ ลุกท้ายกี่จบพระซนม่ลงอย่างทุกขทรมาน ททรงถูกกรรทำเช่นนั้ท่านว่าเปีนกฎแท่งกรรม พระรรรมกิคคํว0ศ์ 1 ๙ www.kalyanamitra.org

คือในชาติปางก่อนพระ:เจ้าพิมพิศารทรงเป็นพร:!เจ้าแข่นดินเหมือนกัน กันหนง ขณะ:ทรงเล'ยงพระ!อยู่ (กงเป็นพระ!ในศาสนาพระ:พุทธเจ้าองกก่อนๆ) พระ!องฅ์ทรง ถือวิสาสะ!เหยยบเคือลำแพนทํ่เขาปูไวิให้พระ:นั่งทั้งททรงสวมรองพระ!บาทคือรองเท้า อยู่โกยถือพระ!องกว่าเป็นพระ!เจ้าแข่นดินย่อมทำไห้ ผลลัพธ์ต่อมาคือถูกฝานฝ่าพระ!บาทเป็นรวๆ จนแตกยับไปหมก โบราณถือกันมาอย่างนั่เพราะ:เซึ๋อในเรํ่องทํ่เล่านิ้ แต่เกยวนเฅี่มทํเพราะ:เราถือประ:เพณกะ!กันกกมากไป จงมองคูไม่งามนัก เมํ่อสวมรองเท้าเข้าโบสถ์ สวมรองเท้าเหยยบอาสนะ:พระ: ฯลฯ ต่อไปจะ:ไครับผลอย่างพระ:เจ้าพิมพิสารไหมหนอ ยังสงลัยอยู่ ส่วนการสวมรองเท้าตักบากรนั้น กงจะ:ไม่บาปถืงกับกกนรกหมกไหม้แน่ อย่างน้อยกี่บาปแกไม่สบายไจ และ!หากผูรู้เห็่นเข้า การทิ่จะ!ถูกเขาจะ!ตำหนิเอานั้น ไม่พ้นแน่ กิกว่าต่อไปกงระ!กังตัวมากขั้นไปกว่านั้ ทำ ไมจึงต้องถอดรองเท้าด้วยในเวลานั้น เพราะ!เป็นการแสกงการวะ:ต่อกัน พระ:ท่านไม่สวมรองเท้าขณะ:ออกบิณฑบาต และ!ขณะ!รับอาหารจากขาวบ้าน เป็นการเการพทานของทายกคือซาวบ้าน ขาวบ้าน ผู้ใส่บากรกี่กวรจะ!เการพปฏิกาหกคือพระ:ขูรับห้วยการถอกรองเท้าเหมือนกันมิไข่หรือ ส่วนทํ่เผลอทำทัพพถูกขอบบากรจนตังนั้นกี่ไม่บาปอันไคหรอก อย่างมาก พระ:ท่านกี่มองหน้าเอา หรือกนทั้ใกยินเข้าเขาจะ:ก่อนขอกเอาว่า \"ข่มข่าม\" เท่านั้น เอง แต่อย่าไปกิกนันเลย เรึ๋องขั้ผง ของมันพลากกันไห้ และ!ไกรจะ!ก่อนขอกอย่างไร กี่เป็นเรองของเขา ต่อไประ!มัครiกังอย่าพลากอก เท่านั้นเป็นไซให้ พระ:มหาทองก สุรเกโข ป.ธ. ๑๘๐ I ไขข้อข้อง% www.kalyanamitra.org

ไขขัอข้อVใๆ ^าก \"มงคลฟ้าร\" เคอนมกราคม ko^lEio ถามโคย... ทุณยู้ป้วนทางจิค นมัสการ พระเมหาทองค ทํ่เการพ ดิฉันมธญหาทางใๆกิฅไม่คก ปรรวัดิโฅยย่อของดิฉันมคังนก่2 กุณพ่อกณแม่มลูก ๒ กน กอพํ่ชายแสรดิฉัน เมํ่อเป็นเกึ่กดิฉันฟ้นกน ร่าเริง ปิจ'รุบันเงยบขริม ซอบอิชฉาริษยาผูอน ดิฉันเริยนไม่เก่งเหมือนพชายชง ตอนนิ้อยู่มหาวิทยาฉับ ไม่ว่ากุณพ่ซจะ;พาพไปสอบทิ่ไหนกึ๋ใต้หมฅ แค่ดิฉันไม่ว่าจะ สอบชิงทุนอะไรสอบเข้าทไหนก็่พถาตหวงทำให้ดิฉันท้อแท้และหมกกำฉังใจ กุณพ่อ ทุณแมกเรมเอาใจพึ๋ขายดิฉัน เวลาเขากฉัฆมาบ้านกุณแม่จะทำอาหารพิเศษให้ทาน ดิฉันกึ่พลอยดิกร่างแหไปท้วย ฅกกํ่าท่านก็่พูกกุยกับบุตรขายเป็นทํ่สนุกสนาน ดิฉันก็่ไม่กล้าออกมาร่วมวง เนื่องจากดิฉันดิกว่า เมื่อกุณพ่อกุณแม่เหี่นดิฉันไม่มืก่าแล้วจะออกมาเสนอหน้าเพอ www.kalyanamitra.org

ปรร{โยซนอันใค ยามทํ่อาหารพร้อมทํ่จะ;ทานนั้น คุณพ่อกี่จะ:เอ่ยเรยกแต่คุณพํ่ ดิฉัน เกยรอคอยกำเรยกจากปากท่าน แต่กี่ไม่เกยไคยิน ค้านกวามเห็่นของเฑฟ้องพึ๋น้อง อ่วนมากกล้ายกัน แต่กี่มักขัคแย้งกันเฝ็มอกับคุณพ่อคุณแม่ เวตาทํ่โกรธกันคุณพ่อ คุณแมกง้อคุณพํ่เพึยงกนเคยว ดิฉันเป็นกนกิคมาก จิฅใจอ่อนไหวง่าย พ่งนิยายบ่อย ดิฉันเป็นเกี่กเหงา ว้าเหว่ขาคเพํ่อน แถวบ้านดิฉันกี่มัอายุรุ่นราวกราวเคยวกันอยู่ ๒ กน ดิฉันกิค ว่าถ้าดิฉันจะ{มเพํ่อนสนิท เขาจะ:ค้องมดิฉันกนเคยวทเป็นเพํ่อนสนิทของเขา แต่ ๒ กนนั้เขาเป็นฝาแฝคกัน เขาย่อมไม่เหี่นดิฉันคกว่าเพึ่อนร่วมแม่เคยวกันของเขา เป็นแน่ เป็นการเหี่นแก'คัวอย่างร้ายกาจของดิฉัน ดิฉันกี่ทราบ แต่ดิฉันแสลงใจ เหลือเกินถ้าเพึ๋อนทํ่ดิฉันไว้วางใจจะ:ไปสนิทกับขู้อึ๋น มเพํ่อนสนิทท ร.ร. อยู่เพ่ยง กนเคยวเท่านั้น อยู่กนละ:ห้อง บ้านกี่ไกลกันมากทึ๋จะ{ไปมาหายู่กัน ในวันหยุคเร้ยน ดิฉันเกยทำงานบ้านมากๆ เพึ๋อให้ตืมเรองทึ๋จะ:กิคมากเลืย แต่ดิฉันกี่ไม่สามารถลืม ไค้เลยและ:ช่วยคัวเองไมไค้เพราะ{ดิฉันเป็นกนเกิยจกร้าน คกอยู่ไค้อารมณของคนเอง ยามทํ่ดิฉันเจอเพํ่อนขายทหน้าคาคแล้ว ใบหน้าของดิฉันจะ:ร้อน ใจเค้นแรง บางทํ สะ:คุ้ง นับว่าเป็นเอามาก ถ้าเพื๋อนกนนั้นหน้าคาธรรมคา ดิฉันกี่จะ:ปกดิเหมือนเขา เป็นเพํ่อนหญิงกนหนึ่ง ในห้องเร้ยนมืเพอนขายกนหนึ่งขอบมองดิฉัน ดิฉันไม่มื สมาธิในการเร้ยนเลย แคไม่เกยหันไปมองเขา เพรารไม่อยากสร้างกวามทุกขแกใจ ของคนเอง ดิฉันจะ:ผิคปกดิเพยงทางใจเท่านั้น แค'ทางกายดิฉันtเนให้อยู่ในกรอบ แห่งสคร้ไค้ พูคง่ายๆ กี่กือสามารถบังคับกายไค้ แต่บังคับใจไมไค้ ดิฉันเป็นกนมืปมค้อยกือไม่เติบโคสมอายุเหมือนเพอนทสูงโย'ง ดิฉันจึงเนึ่อ คังกมเหลือเกิน เวลาดิฉันอ่านหนังลือในห้อง หรืออภิปรายรายงานเรํ่องราวต่างๆ เลืยงจะ:อันแหบ คัวกี่อัน ใจเค้นแรง ทแปลกกี่กือดิฉันมักจะ:ส์าคัญฅนว่าเป็นกน ลืาคัญอยู่เสมอ เวลาเดินไปไหนแต่ละ:ถ้าวจึงไม่มั่นใจ เรํ่องราวของดิฉันทกล่าวมา ยืคยาว ขอถามพระ:คุณเจ้าเป็นข้อๆ คังนั้ค่ะ: (ร)) วิธิแก้กวามอิจฉาริษยา ๑๘๒ I ไขอ้อจ้องริจ้. www.kalyanamitra.org

(๒) วิธึหาเรองคุยฅตกๆ จะไต้นเพื๋อนมากๆ (๓) วิธใ?!ทำให้ใจเข้มแฃี่ง ไม่อ่อนไหวง่าย บงกับใจคนไต้' (<1) เหฅุใคมเพอนน้อย (๕) วิธแกัการเบํ่อเรยน (๖) ทำ อย่างไรจงจะพอใจในสิงทมอยู่ หากเหี่นว่าไม่ฟ้มกวรกื่ตงเพั๋ยงกำกาม ๖ ข้อ กี่จะประหยัคเนอทค ทคินัน เล่าเพยงเพื่อพระกณเจ้าจะไค้อธิบายให้ครงกับไรกทํ่คิฉันเป็นอยู่เท่าน้น ขอบพระกุณล่วงหน้าค่ะ แตะขอให้พระคุณเจ้าจงมกวามสิบายกายสิบายใจ คลอคไปค่ะ นมัสิการมาค้วยกวามเการพ คุณนู้ป่วยทางจิค อ่านปิญหาของคุณหลายเทยวกี่ยงครองไม่คกว่าจะสิงเนท'ใ ญหวบ^รอ่'! ลงทั้งหมค ฅัคสินใจอยู่หลายวันกี่คกลงใจว่าตงทั้งหมคคกว่า ค้วยเหคุลลคังน - เพื่อทบทวนกวามจำของคุณว่าคุณไค้เต่าอะไรแตะถามอะไรไปบ้าง เพราะ จคหมายของคุณล่งไปนานแล้ว กังแค่เกือนคุตากม ๒๕ร)ร^ แค่เพิงมาถงกิวคอบ เอาเคือนมกรากม ๒๕๒0 อาจล่าข้าไปบ้าง ทำ ให้ลืมไค้ - หากคอบเฉพาะปิญหา คุณกี่จะทู้พยงกนเกยว ไม่เป็นประโยซนค่อรูอน เพราะผู้อนมิไต้รัเรองราวรายถะเอยคมาก่อน จู่ๆ กี่มาพบกำกอบเลย จะพาลเบอ ไม่อ่านเอาเลืย - จะเป็นประโบซนแก่กนอํ่นๆ อกมาก เพราะป่ญหาทำนองนกงเกิกข็้นแก่ บุกกลทั่วไปแตะกงมากค้วย เมํ่อทุกกนรู้สิมุฏฐานโรกของกัวเองว่าเหมอนกันแล้ว กี่จรใช้กำคอบนั้นๆ เป็นยาแกโรกซองคนให้ทุเลาเบาบางลงไค้ ค้วยเหทุนลกังกล่าวมาจึ๋งกักสินใจนำข้อกวามทั้งหมกลงพินพื่เป็นหสิกฐาน เพื่อประโยขนํกัง?แจงนั้น หากไม่เป็นการบังกวรกี่ค้องขออกัยคุณเจ้าของปิญหาค้วย พระธรรมกิคติวงส์ 1 ๑๘ฒ www.kalyanamitra.org

ก่อนจะ:ฅอบปีญหาเป็นซ้อๆ ฅามลำกับ ใกร่ขอเวลานอกกักนิค กึอจาก การทไค้อ่านจดหมายฉบับน็้แลัวก็่อยากจะ!พูคกับท'านทึ่เป็นพ่อเป็นแม่ของลูกๆ ไว้ ณ ทํ่นิ้กักเลื่กน้อย จะ:ว่าเป็นการเดือนศดิกี่ไม่เซิง เอาเป็นว่าบอกไหพ่งก็่แล้วกัน คือทามปกฅิฟอแม่ย่อมมทวามพัปีกเaมอเหมือนffuทุกคน ในใจของพ่อ แม่นันไม่เคยถำเอั๋ยง ถูกคนนั้ฉันรักมาก ถูกคนโน้นฉันไม่ค่อยรักเท่าไหT พ่อแม่ มักคิทว่าฉันณปีนถูก นึ๋ก็่เป็นถูกเหมือนกัน ความคิคของพ่อแม่เป็นเช่นน แด่การแลคงออกของพ่อแม่บางกนนั้นไม่เหมือนกังใจกิค ดือบักจะ:เอาใจโอ่ ลูกบางกนเป็นพิเศษกว่าลูกอกกนหรืออกหลายกน ไม่ว่าจะ:ทำจะ:พูดอะ:ไรเป็นค้อง เข้าข้างลูกกนนันเลมอ จริงอยู่ ท่านอาจจะ:แย้งว่าก็่ลูกกนนั้บันเป็นกนเล็่ก อายุบัน น้อยกว่าเขากี่ค้องเอี่นคูบันหน่อย หรือว่าลูกกนนั้นบันหัวคอ ว่าไม่พิง จะ!ไปรัก อะ:ไรบัน หรือว่าลูกกนนั้บันดื ว่านอนลอนง่าย รู้จักเอาอกเอาใจเรา เราก็่ค้องรัก บัน่นะ:สิ อะ:ไรทำนองนั้ กี่จริงกี่ถูกของท่านเมํ่อท่านกิฅอย่างนั้ แด่ท่านทราบหรือไม่ว่าการแลดงออกของท่านอย่างนั้น ทำ ให้ลูกทํ่ไม่ก่อย ไค้รับการเอาใจใอ่เกิดกวามกิคขนมาว่าพ่อแมไม'รักเรา หรือรักเราไม่เท่าลูกอกกน พ่อแม่เกลยดเรา พ่อแม่ซังเรา จึงไมกอยเอาใจใอ่เราเท่าลูกกนนั้น กวามกิดและ: กวามรู้สิกของเค็่กทำนองนั้บันเกิดไค้ง่าย และ:แกกี่กิดไปดามประ!ลาเดี่กๆ ของแก ดือกิดอย่างทไม่กวรคิด แตะ!คิดโดยไม'ค้องการเหฅุผล คิดไปดามทั่!ค้เหี่นพ่อแม่ทำ หรือดามกวามรู้'ว่าพ่อแม่เป็นอย่างทํ่คิด คิดแล้วกี่ลรปยดถือเอาเลยว่าทํ่แกคิดนั้น จริงแห้แน่แล้ว เพราะ:แกเห็่นดำดาทุกวันๆ น้นแหละ! เป็นการลร๚ง \"ปมด้อย\" ให้เกิดในชวิตของลูกท่านลร ท่านกงไม่เจฅนา ไม'กังใจ แด่การกระ:ทำทปราศจากเจดนากี่มืนถเท่าๆ กับ มืเจดนามิใช่หรือ ปมค้อยทํ่เกิดจากกวามคิดซัดแย้งในกัวพ่อแม่4งบังรากถึกอยู่ใน ๑๘๔ ไขธ้อธ้อง'ริจ,^ www.kalyanamitra.org