Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประมวลกฎหมายที่ดิน

ประมวลกฎหมายที่ดิน

Description: ประมวลกฎหมายที่ดิน

Search

Read the Text Version

142

143

144 กฎกระทรวง* ฉบับที่ 16 (พ.ศ. 2514) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดนิ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 2 (พ.ศ. 2497) ออกตามความใน พระราชบัญญัติใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนแี้ ทน “ ข้อ 6 ในกรณที ี่มีผ้โู ต้แย้ง ให้นายอาเภอหรอื ปลัดอาเภอผเู้ ปน็ หวั หน้าประจากิง่ อาเภอ มีอานาจสอบสวนเปรยี บเทยี บ เมอ่ื ตกลงกนั ได้กใ็ หด้ าเนนิ การไปตามขอ้ ตกลงนนั้ หากตกลง กนั ไมไ่ ด้ ให้มีคาสงั่ ว่าจะออกหนงั สอื รับรองการทาประโยชนใ์ หแ้ ก่ฝ่ายใด และใหผ้ า่ ยท่ีไม่พอใจไป ดาเนินการฟอ้ งร้องตอ่ ศาลภายในกาหนดหกสบิ วนั นับแต่วันทราบคาสง่ั ในกรณีท่ีมกี ารฟ้องรอ้ งตอ่ ศาลแล้ว ใหร้ อเรอ่ื งไว้จนกว่าศาลจะพิพากษาหรือมีคาส่งั ประการใด ถ้ามไิ ดม้ กี ารฟอ้ งร้องภายในกาหนดดังกลา่ ว หรือศาลได้วินจิ ฉยั แลว้ ก็ให้ดาเนินการ ไปตามควรแก่กรณี” ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 พลเอก ป. จารุเสถียร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 88 ตอนที่ 79 วันที่ 27 กรกฎาคม 2514) หมายเหต:-ุ เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบบั นี้ คือ เนอื่ งจากวิธีดาเนนิ การในกรณีทีม่ กี ารโตแ้ ย้งเก่ยี วกบั การออก หนังสอื รับรองการทาประโยชน์ (น.ส. 3) ตามท่ีกาหนดไวใ้ นกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 2 (พ.ศ. 2497) ออกตามความใน พระราชบญั ญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 ยังไมร่ ดั กุม เปน็ เหตุให้คู่กรณีได้รับความเดือดรอ้ น เน่ืองจาก การออกหนงั สือรบั รองการทาประโยชนต์ อ้ งลา่ ช้าไป สมควรแกไ้ ขปรบั ปรงุ วิธีดาเนนิ การเสยี ใหม่ จงึ จาเป็นตอ้ งออก กฎกระทรวงฉบับนี้ * กฎกระทรวงฉบับนี้ถกู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 43 (พ.ศ. 2537)ฯ

145 กฎกระทรวง* ฉบับท่ี 17 (พ.ศ. 2514) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ดังตอ่ ไปนี้ ข้อ 1 ให้กาหนดแบบโฉนดท่ีดินข้ึนอกี แบบหนง่ึ ตามแบบ น.ส. 4 ง. ทา้ ยกฎกระทรวงนี้ (ขอ้ 2 ใบแทนแบบโฉนดที่ดนิ จะจัดทาตามแบบ น.ส. 4 ง. กไ็ ด้ การออกใบแทนโฉนดทีด่ ินใหผ้ ู้วา่ ราชการจงั หวดั และเจ้าพนักงานที่ดนิ คนปจั จบุ ันลงลายมอื ช่อื และประทับตราใหม้ ีคาว่า “ใบแทน” ด้วยหมกึ สีแดงไว้ดา้ นหนา้ ของโฉนดทด่ี ิน ในสารบัญจดทะเบียนให้ระบุ วนั เดอื น ปี ทีอ่ อกโฉนดท่ีดินฉบบั เดิมด้วยหมึกสแี ดง ถ้ามรี ายการจดทะเบยี นให้คดั รายการด้วยหมกึ สีแดง และให้เจ้าพนกั งานทีด่ ินลงลายมอื ช่อื และประทับตราใตร้ ายการสดุ ทา้ ย ถ้าไม่มรี ายการจดทะเบียนให้ เจา้ พนกั งานทด่ี นิ ลงลายมอื ชอื่ และประทบั ตราใตว้ ัน เดอื น ปีทอ่ี อกโฉนดท่ดี นิ ฉบับเดมิ สว่ นโฉนดที่ดนิ ฉบบั สานกั งานท่ีดิน ในสารบัญจดทะเบียนให้มีความวา่ “ไดอ้ อกใบแทน โฉนดทดี่ ินไปแล้ว” และวัน เดือน ปี ทอ่ี อกด้วยหมึกสแี ดง กับให้เจ้าพนักงานท่ดี ินลงลายมือชอ่ื กากับ ไว)้ (ความในขอ้ 2 ถกู ยกเลิก โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 29 (พ.ศ. 2517)ฯ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน) ขอ้ 2 ใบแทนโฉนดทีด่ ินจะจดั ทาตามแบบ น.ส. 4 ง. ก็ได้ การออกใบแทนโฉนดทีด่ นิ ใหผ้ ู้ว่าราชการจงั หวัดหรือผู้ซ่ึงรฐั มนตรีมอบหมาย ให้ลงลายมอื ชื่อแทนผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และเจ้าพนกั งานทีด่ นิ คนปัจจุบนั ลง ลายมอื ชื่อ และประทบั ตราประจาตาแหนง่ ของผู้ลงลายมือชื่อ ให้มคี าว่า “ใบแทน” ดว้ ยหมกึ สแี ดง ไว้ด้านหน้าของโฉนดท่ดี นิ ในสารบญั จดทะเบยี นใหร้ ะบุ วนั เดอื น ปี ทอี่ อกโฉนดทด่ี ิน ฉบบั เดิมดว้ ยหมึกสแี ดง ถ้ามีรายการจดทะเบยี นให้คัดรายการดว้ ยหมกึ สีแดง และให้ เจา้ พนักงานที่ดินลงลายมอื ชื่อและประทบั ตราใต้ วัน เดอื น ปี ที่ออกโฉนดท่ดี ินฉบบั เดมิ * กฎกระทรวงฉบับน้ถี ูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 34 (พ.ศ. 2529)ฯ

146 ส่วนโฉนดท่ดี นิ ฉบบั สานกั งานทีด่ ิน ในสารบัญจดทะเบยี นให้มคี าวา่ “ไดอ้ อก ใบแทน โฉนดที่ดินไปแลว้ ” และวนั เดือน ปี ท่ีออกดว้ ยหมึกสีแดง กบั ให้เจา้ พนกั งานทดี่ ินลงลายมือชื่อ กากับไว้ ไหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 พลโท ป. จารุเสถยี ร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 88 ตอน 79 วันท่ี 27 กรกฎาคม 2514) หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับน้ี คอื เน่ืองจากแบบพมิ พโ์ ฉนดที่ดนิ ที่ใช้อยเู่ ดมิ มีหลายหน้า สมควรปรับปรงุ ใหเ้ หลือเพยี งสองหนา้ โดยกาหนดแบบโฉนดท่ดี นิ ขึ้นอีกแบบหนงึ่ เพอ่ื ใหจ้ าลอง โฉนดทด่ี ิน ฉบับท่ีเกบ็ ไว้ ณ สานักงานท่ดี นิ ไดโ้ ดยวิธถี า่ ยรปู ดว้ ยเครอ่ื งถา่ ยเอกสาร อันจะทาให้สะดวกรวดเรว็ และประหยัด และสมควรปรบั ปรงุ วิธกี ารออกใบแทนโฉนดท่ีดนิ ให้รัดกุมยิง่ ขึน้ จึงจาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงฉบับนี้

147

148

149 กฎกระทรวง* ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวล กฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไวด้ ังตอ่ ไปน้ี ขอ้ 1 แบบหนังสือรับรองการทาประโยชน์ นอกจากจะทาตามแบบทา้ ยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 5 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 ใหท้ าตามแบบ น.ส. 3 ก. ท้ายกฎกระทรวงน้ไี ดด้ ว้ ย (มคี วามเพมิ่ ขนึ้ เป็นวรรคสองของขอ้ 1 โดยข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 23 (พ.ศ. 2515)ฯ ดังต่อไปน้ี) แบบ น.ส. 3 ก. ให้ใช้เมื่อมกี ารออกหนังสือรบั รองการทาประโยชนโ์ ดยวิธีกาหนด ตาแหนง่ ทีด่ ินในระวางรูปถา่ ยทางอากาศ ขอ้ 2 ในการนาพนักงานเจา้ หนา้ ทีท่ าการสารวจพิสูจนส์ อบสวนการทาประโยชน์ ตามมาตรา 58 แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 96 ลงวนั ที่ 29 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2515 ให้ผู้มีสทิ ธิในทดี่ นิ หรอื ตวั แทนปกั หลักตาม มุมเขตทีด่ นิ ของตนและใหถ้ อ้ ยคาต่อพนักงานเจา้ หน้าที่ หรือผซู้ ึง่ พนกั งานเจา้ หน้าท่ีมอบหมาย ตามแบบที่ทางราชการกาหนด ขอ้ 3 ก่อนออกหนังสอื รบั รองการทาประโยชนใ์ ห้นายอาเภอหรือปลัดอาเภอผ้เู ป็น หวั หน้าประจากง่ิ อาเภอประกาศการออกหนงั สือรับรองการทาประโยชนม์ กี าหนดสามสิบวนั ประกาศน้ันให้ปดิ ไวใ้ นทเี่ ปิดเผย ณ ที่ว่าการอาเภอ หรอื กงิ่ อาเภอท้องท่ี 1 ฉบบั ทีท่ าการกานัน 1 ฉบบั และในบรเิ วณที่ดนิ ทีท่ าการเดินสารวจ 1 ฉบับ ในเขตเทศบาลใหป้ ดิ ไว้ ณ สานกั งานเทศบาล อกี 1 ฉบับ * กฎกระทรวงฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 43 (พ.ศ. 2537)ฯ

150 ขอ้ 4 ในกรณีที่มผี ู้โตแ้ ยง้ ใหน้ ายอาเภอหรือปลดั อาเภอผ้เู ปน็ หวั หน้าประจาก่งิ อาเภอ มอี านาจสอบสวนเปรียบเทียบ เมอ่ื ตกลงกันไดก้ ็ให้ดาเนนิ การไปตามข้อตกลงนั้น หากตกลงกัน ไมไ่ ดใ้ ห้มคี าสัง่ ว่าจะออกหนงั สือรบั รองการทาประโยชนใ์ หแ้ ก่ฝา่ ยใด และใหฝ้ ่ายทไ่ี มพ่ อใจ ไปดาเนินการฟ้องรอ้ งต่อศาลภายในกาหนดหกสิบวนั นับแตว่ นั ทราบคาส่ัง ในกรณที ม่ี ีการฟอ้ งร้องตอ่ ศาลแลว้ ใหร้ อเร่ืองไว้จนกว่าศาลจะพิพากษาหรือมี คาสัง่ ประการใด ถา้ มไิ ด้มกี ารฟ้องร้องภายในกาหนดดังกล่าว หรอื ศาลได้วนิ ิจฉัยแล้วก็ให้ดาเนนิ การไป ตามควรแก่กรณี ข้อ 5 ถา้ ปรากฏวา่ การออกหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์นัน้ ได้กระทาไปโดย ความผิดหลงกด็ ี เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายกด็ ี ไมถ่ ูกต้องโดยประการอนื่ ก็ดี เม่อื ไดส้ อบสวนแล้วให้ ผ้วู า่ ราชการจังหวดั มีอานาจเพิกถอนหนังสอื รบั รองการทาประโยชน์เสยี ได้ แลว้ แจง้ ให้ผู้ไดร้ บั หนงั สอื รับรองการทาประโยชนท์ ราบ (มีความเพิ่มขึน้ เป็นขอ้ 6 โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 28 (พ.ศ. 2516) ฯ ดงั ตอ่ ไปน้ี) ข้อ 6 ในการออกหนังสือรบั รองการทาประโยชน์ตามแบบ น.ส. 3 ก. ให้คานวณ จานวนเนอื้ ทโ่ี ดยวธิ ีคณติ ศาสตร์ หรือโดยมาตราส่วน ทั้งน้ี ใหถ้ อื วา่ จานวนเนือ้ ทที่ ี่คานวณได้ เปน็ จานวนเนื้อท่ีโดยประมาณ ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๕ พว่ ง สวุ รรณรฐั ปลดั กระทรวงมหาดไทย ผใู้ ช้อานาจของ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 89 ตอนที่ 95 (ฉบับพเิ ศษ) วันท่ี 22 มถิ นุ ายน 2515) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คือ เนอ่ื งจากคณะปฏิวตั ิมคี วามมุ่งหมาย ท่ีจะ เร่งรดั การ ออกหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ ใหแ้ กป่ ระชาชนโดยรวดเรว็ ยง่ิ ขึ้น สาหรับการออกหนงั สอื รบั รองการทา ประโยชนจ์ ะใช้วิธีการ เดินสารวจโดยใชร้ ะวางรูปถ่ายทางอากาศกาหนดตาแหน่งทด่ี นิ จงึ จาเป็นต้องกาหนดแบบ หนังสอื รับรองการทาประโยชนข์ ้ึนอีกแบบหนงึ่ และกาหนดหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารในเรอื่ งน้ี

151

152

153 กฎกระทรวง* ฉบับท่ี 19 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ ซงึ่ แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยประกาศของ คณะปฏิวตั ฉิ บับท่ี 96 ลงวนั ท่ี 29 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2515 รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ดังตอ่ ไปนี้ ใหเ้ พม่ิ ความตอ่ ไปนีเ้ ป็นขอ้ 10. แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๑๐ (พ.ศ. 2497) ออกตาม ความในพระราชบญั ญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 ข้อ 10 คา่ ธรรมเนยี มการออกหนงั สือรบั รองการทาประโยชน์ ตามมาตรา 58 ก. เนอื้ ที่ไม่เกนิ 20 ไร่ แปลงละ 20 บาท ข. เน้ือทเ่ี กนิ 20 ไร่ ส่วนทีเ่ กนิ ไรล่ ะ 1 บาท เศษของไรใ่ หค้ ดิ เปน็ หน่ึงไร่ ใหไ้ ว้ ณ วันที่ ๑๙ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๑๕ พว่ ง สวุ รรณรฐั ปลดั กระทรวงมหาดไทย ผใู้ ช้อานาจของ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 89 ตอนท่ี 95 (ฉบบั พเิ ศษ) วนั ท่ี 22 มถิ นุ ายน 2515) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คอื เนือ่ งจากทางราชการจะทาการเดนิ สารวจออกหนังสอื รับรองการทาประโยชนใ์ หแ้ ก่ผูค้ รอบครองและทาประโยชน์ในที่ดนิ ที่ยงั ไม่มีหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ แตย่ ังไมไ่ ด้ กาหนดอตั ราค่าธรรมเนียมในเรื่องน้ีไว้ * กฎกระทรวงฉบับนีถ้ ูกยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 32 (พ.ศ. 2522)ฯ

154 กฎกระทรวง ฉบับท่ี 20 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 10 และมาตรา 11 แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน รัฐมนตรวี า่ การ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไวด้ ังตอ่ ไปนี้ ขอ้ 1 ให้เพิม่ ความต่อไปนเ้ี ปน็ ข้อ 3 ทวิ แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 11 (พ.ศ. 2500) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 “ ขอ้ 3 ทวิ ในกรณีให้เช่าที่ดนิ ซ่งึ ถกู กันออกจากท่ดี นิ ท่ที างราชการไมอ่ อกหนงั สือ แสดงสิทธิในทด่ี นิ ถ้าผขู้ อเช่าเป็นผู้ได้ครอบครองทดี่ นิ นั้น ให้กาหนดตามอัตราค่าเชา่ ปานกลาง ท่ีมกี ารเชา่ อย่ใู นทอ้ งที่นัน้ ในวนั ทาสัญญาเชา่ และมใิ ห้มกี ารเชา่ ช่วง หรอื โอนสิทธกิ ารเช่าใหแ้ ก่ บคุ คลอนื่ ” ขอ้ 2 ให้เพม่ิ ความต่อไปนเี้ ปน็ ขอ้ 4 ทวิ ข้อ 4 ตรี และขอ้ 4 จตั วา แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 11 ( พ.ศ. 2500) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2497 “ ขอ้ 4 ทวิ ในกรณีใหเ้ ชา่ ซื้อทดี่ นิ ซงึ่ ถูกกันออกจากท่ดี ินที่ทางราชการไม่ออกหนังสอื แสดงสิทธใิ นทีด่ ิน ถ้าผู้ขอเชา่ ซอ้ื เปน็ ผไู้ ด้ครอบครองท่ดี นิ นน้ั ใหถ้ ือเอาราคาประเมินทนุ ทรัพย์ ในการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมเกยี่ วกับที่ดนิ ในวันทาสญั ญาเชา่ ซ้อื เป็นราคาใหเ้ ชา่ ซ้ือ การชาระค่าเช่าซื้อจะแบง่ เป็นก่ีงวด แตล่ ะงวดจะชาระเป็นรายปีหรอื หลายปตี อ่ งวดกไ็ ด้ แต่ตอ้ ง ชาระใหเ้ สรจ็ สน้ิ ภายในย่สี บิ ปี ขอ้ 4 ตรี คา่ เช่าและค่าเช่าซ้ือที่ไดจ้ ากท่ีดินรายใด ให้เป็นรายได้ของราชการบริหาร ส่วนทอ้ งถิ่นท่ีทดี่ ินนัน้ ตัง้ อยู่ และให้นาไปบารุงทอ้ งถิ่นน้ัน

155 ขอ้ 4 จัตวา การพิจารณาให้เชา่ ตามขอ้ 3 ทวิ หรือใหเ้ ช่าซ้อื ตามข้อ 4 ทวิ ให้ ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั เป็นผ้พู จิ ารณาตามควรแกก่ รณี” ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๑๕ พว่ ง สวุ รรณรฐั ปลดั กระทรวงมหาดไทย ผใู้ ช้อานาจของ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 89 ตอนท่ี 95 (ฉบับพเิ ศษ) วนั ท่ี 22 มิถนุ ายน 2515) หมายเหตุ:- เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คอื เน่อื งจากเห็นสมควรกาหนดหลกั เกณฑ์ และวิธกี าร ในการใหเ้ ช่า และให้เช่าซอ้ื ท่ดี นิ ซงึ่ ถูกกนั ออกจากทด่ี นิ ท่ที างราชการไมอ่ อกหนังสอื แสดงสทิ ธิในทด่ี นิ ให้แก่ ผู้ซ่ึงครอบครองโดยมไิ ดป้ ฏบิ ัติตามกฎหมาย

156 กฎกระทรวง ฉบับที่ 2๑ (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 1๒ แห่งประมวลกฎหมายทีด่ นิ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ให้เพิ่มความตอ่ ไปนี้เปน็ วรรคสอง ของขอ้ 1 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ. 2500) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 “ในกรณขี อสัมปทานทดี่ นิ ซึ่งถกู กันออกจากทีด่ ินท่ที างราชการไมอ่ อกหนังสอื แสดงสิทธิ ในทีด่ นิ ผู้ขอสัมปทานจะต้องเปน็ ผ้ซู ึ่งได้ครอบครองท่ีดินน้ัน” ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๑๕ พว่ ง สวุ รรณรฐั ปลดั กระทรวงมหาดไทย ผใู้ ช้อานาจของ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 89 ตอนที่ 95 (ฉบับพิเศษ) วันที่ 22 มิถุนายน 2515) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับนี้ คอื เน่ืองจากเหน็ สมควรกาหนดหลกั เกณฑ์และวธิ ีการ ในการใหส้ มั ปทานทีด่ ินซ่ึงถูกกนั ออกจากทดี่ นิ ทท่ี างราชการไม่ออกหนังสือแสดงสทิ ธิในท่ดี ินให้แกผ่ ู้ซ่งึ ครอบครอง โดยมิไดป้ ฏิบตั ิตามกฎหมาย

157 กฎกระทรวง* ฉบบั ที่ 2๒ (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบัญญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายทีด่ ิน รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ให้ยกเลิกความใน (๒) ของข้อ 11 แห่งกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. 2497) ออกตาม ความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และให้ใชค้ วามต่อไปน้ีแทน “(๒) ในกรณโี ฉนดทด่ี ินชารุด ถ้าเจ้าของทีด่ ินนาโฉนดทด่ี ินทช่ี ารดุ นั้นมามอบ และโฉนดทด่ี ิน ที่ชารดุ นั้นยังมีตาแหนง่ ทดี่ ิน เลขท่ีโฉนดทด่ี นิ ชื่อและตราประจาตาแหน่งของผวู้ า่ ราชการจังหวดั และหรอื ชื่อและตราประจาตาแหน่งของเจา้ พนักงานที่ดนิ ตามแบบโฉนดทดี่ ินปรากฏอยู่ซง่ึ สามารถ ตรวจสอบได้ ให้ออกใบแทนใหไ้ ปได้ ถ้าขาดข้อความสาคัญดงั กล่าวใหน้ าความใน (๑) มาใชบ้ ังคับ” ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๑๙ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๑๕ พว่ ง สวุ รรณรฐั ปลดั กระทรวงมหาดไทย ผใู้ ช้อานาจของ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 89 ตอนท่ี 95 (ฉบบั พเิ ศษ) วันที่ 22 มถิ ุนายน 2515) หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับน้ี คือ เนื่องจากวธิ กี ารออกใบแทนโฉนดทีด่ ินกรณีโฉนดทีด่ ิน ชารดุ ซง่ึ กาหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 ยงั ไมร่ ัดกุมเปน็ เหตใุ หม้ กี ารทุจรติ ในการขอใบแทนโฉนดทด่ี นิ * กฎกระทรวงฉบบั นีถ้ กู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 43 (พ.ศ. 2537)ฯ

158 กฎกระทรวง* ฉบบั ท่ี 2๓ (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 มาตรา 77 และมาตรา 78 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑. ใหเ้ พิม่ ความต่อไปนีเ้ ปน็ ข้อ ๖ ทวิ แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 (ขอ้ 6. ทวิ การจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรมเกีย่ วกับที่ดนิ ท่มี หี นงั สือรับรองการทาประโยชน์ ตามแบบ น.ส. ๓ ก. ไม่ตอ้ งประกาศตามความในขอ้ 5) ( ความในมาตรา 6 ทวิ ถกู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 33 (พ.ศ. 2526)ฯ ) ข้อ 2. ให้เพิ่มความตอ่ ไปนี้เปน็ วรรคสองของข้อ 1 แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 1๘ (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 “แบบ น.ส. ๓ ก. ใหใ้ ช้เมอ่ื มีการออกหนังสือรับรองการทาประโยชนโ์ ดยวิธีกาหนด ตาแหนง่ ทีด่ นิ ในระวางรปู ถ่ายทางอากาศ” ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 6 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ พว่ ง สวุ รรณรฐั ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ใชอ้ านาจของ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 89 ตอนที่ 197 (ฉบับพิเศษ) ลงวันท่ี 21 ธันวาคม 2515) * กฎกระทรวงฉบบั นถ้ี กู ยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537)ฯ

159 หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนอื่ งจากกฎกระทรวงฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. 2497) ออกตาม ความในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. 2497 ได้กาหนดว่าในการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิตกิ รรม เกี่ยวกับทด่ี ินซง่ึ ต้องจดทะเบียน ณ ท่ีว่าการอาเภอหรือกิง่ อาเภอจะตอ้ งประกาศการขอจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรม มีกาหนดเวลา 30 วนั บดั นี้ ทางราชการไดด้ าเนนิ การออกหนังสอื รับรองการทาประโยชน์ในทอ้ งท่บี างแห่งดว้ ยวธิ ีใช้ ระวางรปู ถา่ ยทางอากาศกาหนดตาแหนง่ ที่ดนิ ซึง่ ทาให้สามารถตรวจสอบได้แน่นอนกวา่ วธิ ีการที่ใช้อยใู่ นปัจจบุ ัน และ ตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 18 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 ได้กาหนดแบบหนังสือรบั รองการทาประโยชน์ (น.ส. ๓ ก.) ขึ้นใหมแ่ ตย่ งั ไมไ่ ดก้ าหนดกรณีท่ีจะให้ใช้แบบดงั กล่าว สมควรแก้ไขเพิ่มเตมิ กฎกระทรวงทง้ั สองฉบบั นนั้ ให้การขอจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมเก่ยี วกบั ทีด่ ิน โดยมหี นงั สอื รับรองการทาประโยชนต์ ามแบบ น.ส. ๓ ก. กระทาได้โดยไมต่ ้องมีการประกาศ และใหใ้ ช้แบบ น.ส. ๓ ก. เมื่อมกี าร ออกหนงั สือรบั รองการทาประโยชนใ์ นกรณที ่มี กี ารกาหนดตาแหน่งท่ีดนิ โดยใชร้ ะวางรูปถ่ายทางอากาศ จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงฉบับนี้

160 กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 24 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 81 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายทดี่ ิน ซง่ึ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยประกาศ ของคณะปฏิวตั ิ ฉบับท่ี 334 ลงวันที่ 13 ธนั วาคม พ.ศ. 2515 รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ เมื่อมีผมู้ าขอจดทะเบยี นสทิ ธิเก่ยี วกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไดม้ าโดยทางมรดก ใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ท่ีสอบสวนพยานหลักฐานแล้วบนั ทึกลงในเร่ืองราวขอจดทะเบียนสิทธิ และนติ ิกรรม (ท.ด. ๑) และในแบบบนั ทึกการสอบสวนขอจดทะเบียนโอนมรดก (ท.ด. ๘) ด้วย ข้อ ๒ มรดกมพี นิ ยั กรรม ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทีส่ อบสวนพยานหลกั ฐานและวันตาย ของเจ้ามรดกตลอดจนสทิ ธิในการรับมรดกตามพินยั กรรมดว้ ย ขอ้ ๓ มรดกไม่มีพนิ ยั กรรม ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ทส่ี อบสวนพยานหลกั ฐานและพิจารณา การเปน็ ทายาท สิทธิในการรบั มรดก และวนั ตายของเจ้ามรดก โดยให้ผู้ขอแสดงบญั ชเี ครือญาติ และหลกั ฐานอน่ื ประกอบดว้ ย ข้อ ๔ การจดทะเบยี นสิทธิเก่ียวกับอสงั หารมิ ทรพั ยซ์ งึ่ ไดม้ าโดยทางมรดกไม่มี พินัยกรรม และมที ายาทซ่งึ มสี ิทธไิ ดร้ ับมรดกหลายคน นอกจากจะตอ้ งดาเนนิ การตามข้อ ๓ แลว้ ให้พนักงานเจา้ หนา้ ท่ีดาเนินการดังต่อไปน้ดี ้วย (๑) ในกรณีทีท่ ายาทบางคนมาขอจดทะเบยี นรบั มรดกตามสิทธขิ องตนหรอื ขอให้ลงชือ่ ทายาทอน่ื ทม่ี ีสทิ ธไิ ด้รบั มรดกทกุ คนตามที่ผูข้ อแสดงไว้ในบัญชีเครือญาติ เม่อื ไมม่ ีผ้โู ตแ้ ย้งภายใน กาหนดเวลาท่ีประกาศ ให้พนกั งานเจ้าหนา้ ท่จี ดทะเบียนให้ตามทผ่ี ขู้ อแสดงหลกั ฐานการมีสทิ ธิ ตามกฎหมาย (๒) ในกรณที ี่ทายาทบางคนมาขอจดทะเบียนรับมรดกทั้งหมด ถ้าผู้ขอนาทายาทท่แี สดง ไว้ในบญั ชีเครือญาติทกุ คนมาใหถ้ อ้ ยคายนิ ยอม หรอื นาหลักฐานการไมร่ บั มรดกของทายาท ดังกล่าวนนั้ มาแสดงต่อพนักงานเจา้ หน้าทไี่ ดภ้ ายในกาหนดเวลาทปี่ ระกาศ ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ท่ี

161 จดทะเบยี นให้ตามที่ผ้ขู อแสดงหลกั ฐานการมีสิทธิตามกฎหมาย แตถ่ า้ ผขู้ อไมส่ ามารถนาทายาท ทแ่ี สดงไว้ในบญั ชเี ครือญาติทุกคนมาให้ถ้อยคายินยอม หรือไมส่ ามารถนาหลักฐานการไม่รบั มรดกของทายาทดังกลา่ วนน้ั มาแสดงตอ่ พนักงานเจ้าหน้าทีภ่ ายในกาหนดเวลาท่ปี ระกาศได้ ก็ให้ พนกั งานเจ้าหน้าท่ยี กคาขอเสยี ในกรณีทจี่ ะต้องมคี าสงั่ ศาลเพ่ือเป็นหลักฐานการไมร่ บั มรดกของทายาท ใหผ้ ูข้ อนา คาส่งั ศาลทถ่ี งึ ทส่ี ุดแลว้ มาแสดงต่อพนกั งานเจ้าหนา้ ท่ีพรอ้ มกบั การใหถ้ ้อยคายนิ ยอมของทายาท นัน้ ดว้ ย แต่ถ้ายังไมม่ คี าสั่งศาลดงั กลา่ ว ให้พนักงานเจ้าหนา้ ทรี่ อเรอ่ื งไวจ้ นกวา่ จะมคี าส่ังศาล ถึงทีส่ ดุ ในกรณีเชน่ น้ี ให้ผ้ขู อนาหลักฐานการดาเนนิ การทางศาลมาแสดงตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ ภายในกาหนดสามสิบวนั นบั แต่วันทท่ี ายาทนัน้ มาใหถ้ อ้ ยคายินยอม ถา้ ผขู้ อไมน่ าหลักฐาน การดาเนนิ การทางศาลมาแสดงตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ทภ่ี ายในกาหนดดังกลา่ ว ก็ใหพ้ นักงาน เจา้ หนา้ ท่ียกคาขอนัน้ เสยี ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒516 พลเอก ป. จารเุ สถยี ร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 90 ตอนที่ 22 วันท่ี 6 มนี าคม 2516) หมายเหตุ : - เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื เน่ืองจากมาตรา 81 วรรคสาม แห่งประมวล กฎหมายทด่ี ิน ซ่งึ แก้ไขเพ่มิ เติมโดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับท่ี 334 ลงวนั ท่ี 13 ธนั วาคม พ.ศ. 2515 ได้บญั ญตั ใิ ห้กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการดาเนินการจดทะเบียนสิทธเิ กี่ยวกบั อสงั หารมิ ทรพั ย์ซึ่งได้มาโดยทางมรดก ไวใ้ นกฎกระทรวง จงึ จาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงฉบบั นี้

162 กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 25 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 8 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซงึ่ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของ คณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 334 ลงวนั ท่ี 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ การขึ้นทะเบียนท่ีดินของรฐั ซึ่งมิได้มบี ุคคลใดมีสทิ ธิครอบครองหรือทด่ี ินสาหรับ พลเมืองใช้ร่วมกัน ซ่งึ ได้ถอนสภาพตามมาตรา 8 (๑) แห่งประมวลกฎหมายท่ดี นิ ซึ่งแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี 334 ลงวันท่ี 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 แล้ว เพอ่ื ให้ ทบวงการเมอื งใช้ประโยชน์ในราชการให้กระทาไดเ้ ท่าท่รี ฐั มนตรีเหน็ ว่าจาเป็นแก่การใชป้ ระโยชน์ ในราชการของทบวงการเมอื งทขี่ อให้จัดขน้ึ ทะเบยี น ข้อ ๒ การขอขน้ึ ทะเบยี นตามขอ้ ๑ ใหท้ บวงการเมืองผ้ขู อข้นึ ทะเบยี นทด่ี ินช้ีแจงเหตุผล ความจาเป็น และส่งแผนทีแ่ สดงอาณาเขตบรเิ วณท่ีดนิ โดยสงั เขปตอ่ อธบิ ดี ข้อ ๓ เมอื่ ไดร้ ับคาขอข้นึ ทะเบยี นตามข้อ 2 แลว้ ใหอ้ ธบิ ดีทาการสอบสวนข้อเท็จจรงิ เกย่ี วกบั คาขอนั้น และเม่ือได้ประกาศจดั ขนึ้ ทะเบียนใหร้ าษฎรทราบตามความในมาตรา 8 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซงึ่ แก้ไขเพิม่ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ท่ี 334 ลงวนั ท่ี 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 แลว้ ใหอ้ ธิบดีเสนอเรื่องตอ่ รัฐมนตรีเพ่ือมีคาสั่งใหข้ น้ึ ทะเบียน หรือไมเ่ พียงใด ตามท่ีรฐั มนตรเี ห็นสมควร ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 3 สิงหาคม พ.ศ. ๒516 จอมพล ป. จารเุ สถียร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 90 ตอนท่ี 106 วนั ท่ี 21 สงิ หาคม 2516) หมายเหตุ : - เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คือ เนอื่ งจากมาตรา 8 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายท่ดี นิ ซ่งึ แกไ้ ขเพิ่มเตมิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ท่ี 334 ลงวันที่ 13 ธนั วาคม พ.ศ. 2515 บัญญัตวิ ่าหลักเกณฑ์ และวิธกี ารในการจดั ท่ีดินข้ึนทะเบียนเพอ่ื ให้ทบวงการเมอื งใชป้ ระโยชน์ในราชการ ให้กาหนดโดยกฎกระทรวง จงึ จาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงฉบบั น้ี

163 กฎกระทรวง ฉบับท่ี 26 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 8 ตรี แห่งประมวลกฎหมายท่ดี ิน ซ่งึ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยประกาศของ คณะปฏวิ ัติ ฉบับที่ 334 ลงวนั ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ ทบวงการเมอื งผูม้ ีอานาจหนา้ ที่ดูแลรกั ษาที่ดินอนั เป็นสาธารณสมบัตขิ องแผน่ ดนิ สาหรบั พลเมืองใช้ร่วมกนั หรอื ใชเ้ พอื่ ประโยชนข์ องแผ่นดนิ โดยเฉพาะประสงคจ์ ะใหม้ หี นังสือ สาคัญสาหรับทหี่ ลวง สาหรับท่ีดินแปลงใด ให้แสดงความประสงคต์ ่ออธิบดี (ขอ้ ๒ เมอื่ ไดร้ ับคาขอตามข้อ ๑ แลว้ ใหอ้ ธบิ ดีจดั ให้มีการสอบสวนและรังวัดทาแผนทต่ี ามวธิ กี าร รงั วัด เพ่ือออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน และประกาศการออกหนังสือสาคัญสาหรบั ทีห่ ลวงใหป้ ระชาชนทราบ มกี าหนดสามสบิ วัน โดยปิดไวใ้ นท่ีเปิดเผย ณ สานักงานท่ดี ินจงั หวดั หรือสานักงานท่ดี ินสาขาหนงึ่ ฉบบั ณ ทว่ี า่ การอาเภอหรือก่ิงอาเภอท้องที่ หรอื ท่ีทาการเขตหนึง่ ฉบับ ท่ที าการกานนั หนง่ึ ฉบบั และในบริเวณ ทีด่ ินนนั้ หนง่ึ ฉบับ ในเขตเทศบาลให้ปิดไว้ ณ สานักงานเทศบาลอกี หนึ่งฉบบั ในประกาศดังกล่าวใหม้ แี ผนที่ แสดงแนวเขตท่ดี นิ ท่ีจะออกหนังสอื สาคัญสาหรับท่ีหลวงและกาหนดระยะเวลาทีผ่ มู้ ีส่วนไดเ้ สียจะคัดคา้ นไว้ด้วย ซ่ึงตอ้ งไมน่ ้อยกว่าสามสบิ วัน นบั แต่วนั ประกาศ ถา้ ไมม่ ีผคู้ ัดค้านใหด้ าเนนิ การออกหนงั สือสาคญั สาหรบั ทีห่ ลวง ต่อไป ถา้ มีผู้คดั คา้ นให้อธิบดรี อการออกหนังสือสาคัญสาหรบั ทีห่ ลวงไว้จนกวา่ จะไดม้ คี าพิพากษาถงึ ทส่ี ดุ ของศาล แสดงวา่ ผคู้ ัดค้านไม่มีสทิ ธิในทีด่ ินนน้ั ) (ความในขอ้ ๒ ถูกยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 45 (พ.ศ. 2537)ฯ และใหใ้ ช้ความต่อไปนีแ้ ทน) ขอ้ ๒ เมื่อไดร้ บั คาขอตามข้อ ๑ ให้อธิบดจี ดั ให้มีการสอบสวนและรังวดั ทาแผนท่ี ตามวธิ ีการรงั วดั เพ่ือออกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ และประกาศการออกหนงั สอื สาคัญสาหรบั ทีห่ ลวงให้ประชาชนทราบมีกาหนดสามสบิ วัน โดยปิดไว้ในที่เปดิ เผย ณ สานักงานที่ดินจังหวัด หรอื สานักงานทด่ี นิ สาขาหนง่ึ ฉบบั ณ ท่ีวา่ การอาเภอหรอื กิ่งอาเภอท้องท่ีหรือท่ีทาการเขต หนงึ่ ฉบับ ณ ท่ที าการกานนั หนง่ึ ฉบบั และในบรเิ วณทดี่ นิ นัน้ หน่ึงฉบับ สาหรบั ในเขตเทศบาล ให้ปดิ ไว้ ณ สานกั งานเทศบาลอีกหนึ่งฉบับดว้ ย ในประกาศดงั กล่าวใหม้ แี ผนที่แสดงแนวเขต

164 ทีด่ ินทีจ่ ะออกหนงั สอื สาคญั สาหรบั ท่หี ลวง และกาหนดระยะเวลาท่ีผมู้ สี ว่ นได้เสยี จะคดั คา้ น ไว้ด้วย ซงึ่ ตอ้ งไม่น้อยกวา่ สามสิบวนั นบั แตว่ นั ประกาศ ถ้าไมม่ ีผู้คดั คา้ น ใหด้ าเนินการออก หนงั สอื สาคญั สาหรับที่หลวงตอ่ ไป ในกรณที ี่มีผคู้ ดั ค้าน ให้อธบิ ดรี อการออกหนงั สือสาคญั สาหรับทหี่ ลวงไว้แล้วดาเนินการ ดงั น้ี (๑) ในกรณที ีผ่ ูค้ ัดคา้ นไมม่ หี ลักฐานแสดงสิทธใิ นที่ดนิ ตามประมวลกฎหมายทีด่ นิ และไมไ่ ปใช้สิทธทิ างศาลภายในหกสิบวันนับแตว่ นั ท่ีคัดคา้ น ให้ออกหนังสือสาคัญสาหรับ ที่หลวงได้ หากผูค้ ัดคา้ นไปใชส้ ิทธทิ างศาลใหร้ อการออกหนงั สือสาคัญสาหรับ ท่ีหลวง เฉพาะสว่ นที่คดั คา้ นจนกวา่ จะได้มีคาพิพากษาถงึ ทสี่ ุดของศาลแสดงวา่ ผคู้ ดั ค้านไม่มี สิทธิ ในท่ดี นิ นัน้ (๒) ในกรณที ีผ่ ูค้ ดั คา้ นมีหลกั ฐานแสดงสิทธใิ นท่ดี นิ ตามประมวลกฎหมายทีด่ ิน ใหร้ อ การออกหนังสือสาคญั สาหรับทหี่ ลวงเฉพาะส่วนทีค่ ดั ค้านไว้กอ่ น และใหผ้ ู้วา่ ราชการ จังหวัด ตรวจสอบสทิ ธใิ นท่ดี ินของผู้คัดค้านวา่ ไดม้ าโดยชอบด้วยกฎหมายหรอื ไม่ ถา้ ปรากฏว่าไดม้ า โดยไม่ชอบ ใหอ้ อกหนังสอื สาคญั สาหรบั ทห่ี ลวงและแจง้ ให้ผคู้ ัดค้านทราบภายในเจ็ดวนั นับแต่วนั ที่ทราบผลการตรวจสอบ และถา้ ปรากฏวา่ ไดม้ าโดยชอบ ให้แจ้งให้ผู้ คัดค้าน ทราบโดยเรว็ แลว้ ระงับการออกหนงั สอื สาคญั สาหรบั ท่หี ลวงเฉพาะส่วนนน้ั ขอ้ ๓ หนงั สอื สาคัญสาหรับทห่ี ลวงให้ใช้แบบ ส.ธ. ๑ ท้ายกฎกระทรวงน้ี ข้อ ๔ หนังสอื สาคญั สาหรับทีห่ ลวงใหท้ าข้ึนสามฉบบั มอบใหผ้ ูด้ ูแลรกั ษาถือไว้หนงึ่ ฉบับ และเก็บไว้ ณ สานกั งานทีด่ ินจงั หวดั หรือสานักงานทดี่ นิ สาขาหนง่ึ ฉบับและเกบ็ ไว้ ณ กรมทดี่ นิ หน่ึงฉบบั สาหรับฉบับทีเ่ กบ็ ไว้ ณ สานกั งานที่ดินหรอื กรมที่ดนิ จะจาลองเป็นรปู ถ่ายก็ได้ และให้ ถอื เสมือนเป็นต้นฉบับ ขอ้ ๕ ถา้ หนังสอื สาคัญสาหรับที่หลวงชารดุ หรือสญู หายใหอ้ ธิบดอี อกใบแทนให้ ให้ไว้ ณ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. ๒516 จอมพล ป. จารเุ สถยี ร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 90 ตอนท่ี 106 วันที่ 21 สิงหาคม 2516) หมายเหตุ : เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนือ่ งจากมาตรา 8 ตรี แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซึ่งแก้ไขเพิม่ เติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 334 ลงวนั ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 บญั ญตั ิว่า แบบ หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารออกหนังสอื สาคญั สาหรับทีห่ ลวง ใหเ้ ป็นไปตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง ซ่งึ จาเป็นตอ้ งออก กฎกระทรวงฉบับนี้

165

166

167 กฎกระทรวง* ฉบับที่ 27 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 แห่งประมวลกฎหมายทดี่ ิน ซ่งึ แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยประกาศของ คณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 96 ลงวนั ที่ 29 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2515 รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้ ให้ยกเลกิ ความในขอ้ ๕ (๑) (๒) และ (๓) แหง่ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๐ (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ชค้ วาม ต่อไปน้แี ทน “(๑) คา่ จดทะเบยี นสิทธิและนิตกิ รรมมที นุ ทรพั ย์ คิดตามจานวนทุนทรัพย์ ร้อยละ 2.00 บาท (๒) ค่าจดทะเบยี นการโอนมรดก หรอื ให้ ทัง้ นีเ้ ฉพาะในระหว่างบุพการี กับผูส้ ืบสันดาน หรอื ระหว่างคูส่ มรส คิดตามจานวนทุนทรัพย์ ร้อยละ 0.50 บาท (๓) คา่ จดทะเบยี นการจานอง หรอื บรุ ิมสิทธิ คิดตามราคา ทีจ่ านองหรือบรุ ิมสิทธิ ทีจ่ ดทะเบียน รอ้ ยละ 1.00 บาท ค่าจดทะเบียนการเช่า คิดตามค่าเช่าตลอดเวลาทีเ่ ช่า หรอื เงินกินเปล่า หรอื ทัง้ สองอยา่ งรวมกัน ร้อยละ 1.00 บาท * กฎกระทรวงฉบับน้ถี ูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 32 (พ.ศ. 2522) ฯ

168 ในกรณีเช่าตลอดชีวติ ให้คานวณ ค่าเช่าเท่ากับ ระยะเวลาการเชา่ สามสิบปี คา่ ธรรมเนยี มตาม (๑) (๒) และ (๓) อยา่ งต่าตอ้ งไม่น้อยกว่า 5.00 บาท เศษของร้อยนบั เปน็ รอ้ ย” ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 12 ธนั วาคม พ.ศ. ๒516 กมล วรรณประภา รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 90 ตอนท่ี 167 วันท่ี 18 ธนั วาคม 2516)

169 กฎกระทรวง* ฉบบั ที่ 28 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ประมวล กฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปน้ี ให้เพม่ิ ความต่อไปนเ้ี ป็นขอ้ ๖ แห่งกฎกระทรวง ฉบับท่ี 18 (พ.ศ. 2515) ออกตาม ความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 “ขอ้ ๖ ในการออกหนังสอื รบั รองการทาประโยชนต์ ามแบบ น.ส. ๓ ก. ให้คานวณจานวน เน้อื ทโี่ ดยวิธีคณติ ศาสตรห์ รือโดยมาตราส่วน ท้งั น้ี ใหถ้ อื วา่ จานวนเนือ้ ทท่ี ่คี านวณได้เป็นจานวน เนอื้ ที่โดยประมาณ” ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 21 ธนั วาคม พ.ศ. ๒516 กมล วรรณประภา รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 91 ตอนท่ี 9 วนั ที่ 22 มกราคม 2517) หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบบั น้ี คือ เนอ่ื งจากกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 18 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 ยังมิได้กาหนดวธิ ีการคานวณจานวนเนื้อที่ ในการออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ตามแบบ น.ส. ๓ ก. จึงจาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงฉบบั น้ี * กฎกระทรวงฉบบั นถี้ ูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 43 (พ.ศ. 2537) ฯ

170 กฎกระทรวง* ฉบบั ที่ 29 (พ.ศ. 2517) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัตใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้ ใหย้ กเลิกความในข้อ ๒ แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 17 (พ.ศ. 2514) ออกตามความใน พระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ช้ความต่อไปนี้แทน “ ขอ้ 2 ใบแทนโฉนดที่ดนิ จะจดั ทาตามแบบ น.ส. ๔ ง. ก็ได้ การออกใบแทนโฉนดที่ดินให้ผวู้ ่าราชการจงั หวดั หรอื ผูซ้ ง่ึ รฐั มนตรีมอบหมายใหล้ งลายมือชอื่ แทนผวู้ ่าราชการจังหวัดและเจ้าพนักงานทีด่ นิ คนปจั จบุ ันลงลายมอื ช่อื และประทับตราประจา ตาแหน่งของผลู้ งลายมือชอื่ ใหม้ คี าวา่ “ใบแทน” ด้วยหมึกสแี ดงไว้ด้านหนา้ ของโฉนดท่ดี ิน ในสารบัญจดทะเบียนให้ระบุวนั เดอื น ปี ทอี่ อกโฉนดทดี่ ินฉบับเดิมดว้ ยหมึกสีแดง ถา้ มีรายการ จดทะเบียนใหค้ ัดรายการดว้ ยหมึกสแี ดง และให้เจ้าพนักงานทีด่ ินลงลายมอื ชอื่ และประทับตราใต้ วัน เดอื น ปี ทอ่ี อกโฉนดทีด่ ินฉบับเดมิ สว่ นโฉนดท่ีดนิ ฉบับสานักงานทดี่ ิน ในสารบัญจดทะเบยี นใหม้ ีคาว่า “ได้ออกใบแทน โฉนดที่ดนิ ไปแลว้ ” และวัน เดือน ปี ที่ออกด้วยหมึกสแี ดง กบั ใหเ้ จา้ พนักงานทด่ี นิ ลงลายมอื ชื่อ กากบั ไว”้ ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 30 สงิ หาคม พ.ศ. ๒517 พลตารวจตรี อรรถสิทธิ์ สทิ ธสิ ุนทร รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 91 ตอนที่ 156 (ฉบับพเิ ศษ) วันท่ี 19 กันยายน 2517) หมายเหตุ: - เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับน้ี คือ เพอ่ื กาหนดใหร้ ฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอานาจ มอบหมายใหผ้ ู้ที่เห็นสมควรลงลายมอื ชื่อแทนผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ในการออกใบแทนโฉนดทด่ี นิ ไดท้ านองเดยี วกับ การออกโฉนดทดี่ ิน จงึ จาเปน็ ตอ้ งออกกฎกระทรวงฉบบั น้ี * กฎกระทรวงฉบบั นี้ถูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 34 (พ.ศ. 2529)ฯ

171 กฎกระทรวง* ฉบับท่ี 30 (พ.ศ. 2518) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ให้เพ่มิ ความตอ่ ไปนเี้ ป็น (6) ของข้อ 11 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2497 แทน (6) ของขอ้ 11 ซึง่ ยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2510) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 “(6) ในกรณอี ธิบดใี ช้อานาจเพกิ ถอนรายการจดทะเบียนหรอื แกไ้ ขโฉนดที่ดินตาม มาตรา 61 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับที่ 334 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 แต่ไม่ได้โฉนดท่ีดินมา หรือโฉนดท่ดี นิ ชารุด ให้พนักงานเจ้าหนา้ ท่ี ออกใบแทนโฉนดท่ดี นิ ให้โดยดาเนนิ การทานองเดียวกับท่ีกาหนดไว้ใน (3) โดยอนุโลม” ใหไ้ ว้ ณ วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2518 บญุ เท่ง ทองสวสั ด์ิ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 92 ตอนท่ี 82 (ฉบบั พิเศษ) วนั ท่ี 25 เมษายน 2518) หมายเหตุ : - เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากการออกใบแทนหนังสอื แสดงสิทธใิ นทดี่ ิน ตามมาตรา 61 แหง่ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ ซงึ่ แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 334 ลงวันท่ี 13 ธนั วาคม พ.ศ. 2515 ยังมิไดก้ าหนดหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการไวใ้ นกฎกระทรวง จงึ จาเปน็ ตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี * กฎกระทรวงฉบบั นถี้ กู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ฯ

172 กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 31 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัติใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 69 ทวิ แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดนิ ซ่งึ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2520 รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ออก กฎกระทรวงไว้ดังต่อไปนี้ การตดิ ตอ่ หรือการแจ้งผมู้ ีสิทธิในท่ีดินข้างเคยี งใหม้ ารับรองแนวเขตหรือคดั ค้าน การรงั วัดตามความในมาตรา 69 ทวิ วรรคสามและวรรคหก แหง่ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญตั แิ กไ้ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2520 ใหป้ ฏิบตั ิ ดงั น้ี (1) ในกรณที ผ่ี มู้ ีสทิ ธิในที่ดินข้างเคยี งได้รับการติดต่อจากพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ให้มาระวงั แนวเขตแล้ว แตไ่ ม่มาหรอื มาแตไ่ มย่ อมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คดั คา้ นการรังวัดใหพ้ นกั งาน เจา้ หน้าท่ีทาหนังสอื แจ้งใหม้ าลงชอ่ื รบั รองแนวเขตหรอื คดั คา้ นการรังวดั โดยส่งทางไปรษณยี ์ ลงทะเบียนตอบรบั ไปยงั ผู้มสี ิทธใิ นทดี่ ินข้างเคียงตามทีอ่ ย่ทู เี่ คยติดต่อหรอื ตามที่อย่ทู ่ผี ู้มสี ทิ ธิ ในที่ดินข้างเคียงนัน้ ไดแ้ จ้งเป็นหนังสือไวต้ ่อพนักงานเจา้ หน้าที่ (2) ในกรณีที่ไม่อาจติดต่อผ้มู ีสิทธใิ นท่ดี นิ ข้างเคียงใหม้ าระวงั แนวเขตได้ ใหพ้ นักงาน เจ้าหน้าท่ปี ดิ หนงั สือแจง้ ให้ผมู้ สี ทิ ธใิ นที่ดนิ ขา้ งเคียงนนั้ มาลงชอ่ื รบั รองแนวเขตหรอื คัดค้านการ รังวดั ไวใ้ นที่เปดิ เผย ณ บริเวณทด่ี ินของผมู้ ีสทิ ธิในทดี่ ินข้างเคียงและ ณ ที่ว่าการเขตหรอื ท่วี ่าการ อาเภอหรอื กิ่งอาเภอในทอ้ งทอ่ี นั เปน็ ทตี่ ้งั ของทดี่ ินน้ันแห่งละหนงึ่ ฉบบั พร้อมกบั ใหส้ ่งหนังสือ แจ้งนนั้ ทางไปรษณยี ล์ งทะเบียนตอบรบั ไปยังผูม้ สี ทิ ธใิ นท่ดี ินข้างเคยี งตามท่อี ยทู่ พ่ี นักงาน

173 เจ้าหน้าทส่ี อบถามได้ความจากนายทะเบยี นอาเภอหรือนายทะเบียนท้องถน่ิ หรอื ถา้ สอบถาม แล้วยังไมท่ ราบทีอ่ ยูข่ องผู้มสี ทิ ธใิ นทีด่ นิ ข้างเคียง ก็ให้ส่งไปยงั ผมู้ สี ทิ ธิในทด่ี ินข้างเคยี งตามทอ่ี ย่ทู ่ี ปรากฏหลกั ฐานทส่ี านักงานท่ีดิน ให้ไว้ ณ วนั ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 ดาริ นอ้ ยมณี รัฐมนตรีชว่ ยว่าการฯ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 95 ตอนที่ 64 วนั ท่ี 20 มถิ นุ ายน 2521) หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับน้ี คอื เพอ่ื ปฏิบตั ิการใหเ้ ป็นไปตามมาตรา 69 ทวิ วรรคส่ีและวรรคหก แห่งประมวลกฎหมายท่ดี นิ ซึ่งแกไ้ ขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไ้ ขเพ่ิมเตมิ ประมวล กฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2520 จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงน้ี

174 กฎกระทรวง* ฉบบั ท่ี 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 แห่งประมวลกฎหมายทีด่ ิน ซึง่ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญัติ แก้ไขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2521 รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ 1 ใหย้ กเลกิ (1) กฎกระทรวง ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 (2) กฎกระทรวง ฉบับท่ี 19 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ้ ช้ ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 (3) กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 27 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 2 ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมดงั น้ี (1) คา่ ธรรมเนียมในการขอสมั ปทาน รายละ 200 บาท (2) คา่ สัมปทานปหี น่งึ ไร่ละ 10 บาท เศษขอไรใ่ ห้คดิ เปน็ หนึง่ ไร่ (3) คา่ ธรรมเนียมออกหนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ (ก) ทีด่ นิ เน้อื ท่ีไมเ่ กนิ 20 ไร่ แปลงละ 20 บาท (ข) ท่ีดินเนื้อท่เี กิน 20 ไร่ สว่ นทเ่ี กิน ไรล่ ะ 1 บาท เศษของไรใ่ หค้ ดิ เปน็ หน่ึงไร่ * กฎกระทรวงฉบับนี้ถูกยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ

175 (4) คา่ ธรรมเนยี มการพสิ จู นส์ อบสวนหรอื ตรวจสอบ เน้ือท่เี ก่ียวกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์ (ก) ถ้าเรียกเปน็ รายแปลง แปลงละ 20 บาท (ข) ถ้าเรยี กเป็นรายวัน วันละ 15 บาท (ค) คา่ คัดหรอื จาลองแผนที่ แปลงละ 15 บาท (ง) ค่าคานวณเนือ้ ทห่ี รือสอบแส แปลงละ 20 บาท (จ) ค่าจบั ระยะ แปลงละ 5 บาท (5) คา่ ธรรมเนียมออกโฉนดท่ีดิน (ก) ที่ดนิ เนอื้ ทไ่ี มเ่ กนิ 20 ไร่ แปลงละ 50 บาท (ข) ทีด่ ินเนื้อที่เกิน 20 ไร่ ส่วนทีเ่ กนิ ไร่ละ 2 บาท เศษของไรใ่ หค้ ดิ เปน็ หนง่ึ ไร่ (6) ค่าธรรมเนยี มรังวัดเก่ยี วกับโฉนดทีด่ นิ (ก) ถ้าเรยี กเป็นรายแปลง แปลงละ 30 บาท (ข) ถา้ เรยี กเป็นรายวนั วนั ละ 20 บาท (ค) คา่ คัดหรือจาลองแผนท่ี แปลงละ 20 บาท (ง) ค่าคานวณเน้ือท่ีหรอื สอบแส แปลงละ 20 บาท (จ) คา่ จบั ระยะ แปลงละ 10 บาท (7) คา่ ธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรม ((ก) คา่ จดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมมีทุนทรัพย์ เรยี กตามจานวนทุนทรพั ย์ รอ้ ยละ 2 (ข) ค่าจดทะเบียนโอนมรดกหรอื ให้ ท้งั นี้ เฉพาะในระหวา่ ง ผูบ้ ุพการกี บั ผู้สืบสันดาน หรือระหวา่ งคสู่ มรส เรียกตามจานวนทุนทรพั ย์ ร้อยละ 0.5) (ความใน (ก) และ (ข) ของ (7) ถกู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 41 (พ.ศ. 2534)ฯ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนแ้ี ทน) ((ก) คา่ จดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมมที ุนทรัพย์ เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์เพอื่ เรยี กเก็บ คา่ ธรรมเนียมจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรม รอ้ ยละ 2

176 ค่าจดทะเบยี นโอนอสังหารมิ ทรัพยเ์ ฉพาะในกรณที ่ี มลู นิธชิ ยั พฒั นาหรอื มูลนธิ ิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ เปน็ ผู้รับโอนหรอื ผ้โู อน เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพยเ์ พื่อเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนียมจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม ร้อยละ 0.001) (ความใน (ก) ของ (7) นถ้ี ูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับนี้ 44 (พ.ศ. 2537)ฯ และให้ ใช้ความต่อไปนแี้ ทน) ((ก) ค่าจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมมที ุนทรัพย์ เรยี กตามราคาประเมนิ ทนุ ทรัพย์เพอ่ื เรียกเก็บ คา่ ธรรมเนยี มจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ กิ รรม รอ้ ยละ 2 ค่าจดทะเบียนโอนอสังหารมิ ทรพั ยเ์ ฉพาะในกรณที ่ี มูลนิธิชยั พฒั นา มูลนธิ สิ ่งเสริมศิลปาชพี ในสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ หรือมูลนธิ ิ สายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผรู้ บั โอน หรือผโู้ อน เรียกตามราคาประเมินทนุ ทรัพย์เพ่อื เรียกเก็บ ค่าธรรมเนยี มจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ กิ รรม ร้อยละ 0.001) (ความใน (ก) ของ (7) นี้ ถกู ยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 46 (พ.ศ. 2540)ฯ และให้ ใชค้ วามตอ่ ไปนแ้ี ทน) (ก) ค่าจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรมมที ุนทรัพย์ เรียกตามราคาประเมนิ ทุนทรัพยต์ ามที่ คณะกรรมการกาหนดราคาประเมนิ ทนุ ทรัพยก์ าหนด ร้อยละ 2 คา่ จดทะเบยี นโอนอสังหาริมทรัพยเ์ ฉพาะในกรณีท่ี องค์การบรหิ ารสนิ เชือ่ อสงั หารมิ ทรัพย์ บริษัทจากดั ท่สี ถาบันการเงนิ ตามพระราชกฤษฎีกา จดั ตัง้ องคก์ ารบรหิ ารสินเชือ่ อสงั หารมิ ทรัพย์ พ.ศ. 2540 จัดตัง้ ขึน้ เพอื่ ดาเนนิ การบริหารสนิ เชอ่ื อสงั หารมิ ทรพั ย์โดยความเห็นชอบของธนาคาร แห่งประเทศไทย หรือกองทุนรวมอสงั หาริมทรพั ย์ ท่ีได้รับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. เปน็ ผู้รับโอน ให้เรยี กตามราคาประเมนิ ทุนทรพั ยต์ ามท่ีคณะกรรมการกาหนดราคา

177 ประเมนิ ทุนทรัพยก์ าหนด รอ้ ยละ 0.01 100,000 บาท แตอ่ ยา่ งสงู ไมเ่ กนิ ร้อยละ 0.001 ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรพั ย์เฉพาะในกรณที ่ี มูลนธิ ชิ ยั พัฒนา มูลนิธิสง่ เสรมิ ศิลปาชพี ในสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ิต์ิ พระบรมราชนิ นี าถ หรือมลู นธิ ิ สายใจไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์ เป็นผรู้ ับโอน หรือผ้โู อน เรยี กตามราคาประเมนิ ทุนทรัพย์ตามที่ คณะกรรมการกาหนดราคาประเมินทนุ ทรพั ย์ กาหนด เศษของหนง่ึ บาท ใหค้ ดิ เปน็ หนง่ึ บาท (ข) คา่ จดทะเบียนโอนมรดกหรอื ให้ ท้งั น้ี เฉพาะในระหว่างผบู้ พุ การีกบั ผสู้ บื สนั ดาน หรือระหว่างคูส่ มรส เรียกตามราคาประเมนิ ทุนทรัพย์เพือ่ เรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรม ร้อยละ 0.5 ((ค) คา่ จดทะเบียนการจานอง หรือบุรมิ สทิ ธิคิดตามราคาทจ่ี านอง หรอื บรุ มิ สิทธทิ ีจ่ ดทะเบียน รอ้ ยละ ๑) (ความใน (ค) ของ (7) น้ีถกู ยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 40 (พ.ศ. 2534)ฯ และให้ ใช้ความตอ่ ไปนแ้ี ทน) ((ค) คา่ จดทะเบียนการจานอง หรอื บรุ ิมสทิ ธิ ที่จดทะเบียน ร้อยละ 1 แตอ่ ย่างสงู ไมเ่ กนิ 200,000 บาท ค่าจดทะเบยี นการจานอง หรือบรุ มิ สิทธิ สาหรับการให้สินเชอื่ เพื่อการเกษตรของ สถาบนั การเงนิ ทกี่ ระทรวงมหาดไทยกาหนด ร้อยละ 0.5 แตอ่ ย่างสูงไมเ่ กิน 100,000 บาท) (ความใน (ค) ของ (7) น้ี ถกู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 46 (พ.ศ. 2540)ฯ และให้ ใชค้ วามตอ่ ไปนแ้ี ทน) (ค) ค่าจดทะเบยี นการจานอง หรือบรุ ิมสิทธิ รอ้ ยละ 1 ทจี่ ดทะเบียนแตอ่ ย่างสงู ไม่เกิน 200,000 บาท

178 ค่าจดทะเบียนการจานอง หรือบุรมิ สทิ ธิ สาหรับการให้สินเชื่อเพือ่ การเกษตรของ สถาบันการเงนิ ทร่ี ัฐมนตรกี าหนด รอ้ ยละ 0.5 แต่อยา่ งสงู ไม่เกนิ 100,000 บาท คา่ จดทะเบยี นการจานองหรือบรุ มิ สิทธิ สาหรบั กรณที ีอ่ งคก์ ารบรหิ ารสินเชอ่ื อสงั หาริมทรพั ย์ บริษัทจากดั ทส่ี ถาบนั การเงินตามพระราชกฤษฎกี า จัดต้งั องคก์ ารบริหารสนิ เชอ่ื อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2540 จดั ต้งั ขึ้นเพือ่ ดาเนนิ การบริหารสินเชื่อ อสงั หาริมทรพั ย์โดยความเหน็ ชอบของธนาคาร แห่งประเทศไทย หรอื ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เฉพาะส่วนทีเ่ กี่ยวกบั การดาเนนิ งานของ สานักงานตลาดรองสินเชอื่ ท่อี ยูอ่ าศยั เปน็ ผ้รู ับจานอง ใหเ้ รียกตามราคาประเมิน ทนุ ทรัพยท์ ่ีคณะกรรมการกาหนด ราคาประเมินทนุ ทรัพยก์ าหนด รอ้ ยละ 0.01 แต่อยา่ งสงู ไมเ่ กิน 100,000 บาท (ง) ค่าจดทะเบียนการเช่า คดิ ตามค่าเช่าตลอดเวลาทเี่ ชา่ หรือเงินกนิ เปลา่ หรอื ทงั้ สองอย่างรวมกนั ร้อยละ 1 ในกรณีเช่าตลอดชีวิต ให้คานวณคา่ เชา่ กับระยะเวลา การเชา่ สามสิบปี เศษของร้อย ตาม (ก) (ข) (ค) และ (ง) ใหค้ ิดเปน็ หนึง่ รอ้ ย (จ) ค่าจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมไมม่ ที ุนทรพั ย์ แปลงละ 40 บาท (8) คา่ ธรรมเนยี มการขอให้ได้มาซ่ึงท่ดี นิ ของคนตา่ งดา้ ว รายละ 400 บาท ค่าอนญุ าต ไร่ละ 50 บาท เศษของไร่ให้คิดเป็นหน่ึงไร่ (9) คา่ ธรรมเนยี มการขอให้ไดม้ าซึ่งที่ดิน เพือ่ การค้าทีด่ นิ รายละ 200 บาท ค่าอนญุ าต ไร่ละ 10 บาท เศษของไร่ให้คิดเป็นหน่ึงไร่

179 (10) คา่ ธรรมเนยี มเบ็ดเตล็ด (ก) ค่าคาขอ แปลงละ 5 บาท (ข) ค่าคัดสาเนาเอกสารตา่ งๆ รวมทง้ั คา่ คดั สาเนาเอกสาร เปน็ พยานในคดแี พง่ โดยเจ้าหนา้ ทีเ่ ป็นผ้คู ดั ร้อยคาแรกหรือไม่ถึงร้อยคา 10 บาท รอ้ ยคาตอ่ ไป รอ้ ยละ 5 บาท เศษของรอ้ ยใหค้ ดิ เปน็ หนึง่ ร้อย (ค) คา่ รับรองเอกสารทค่ี ดั ฉบับละ 10 บาท (ง) คา่ ตรวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ีดนิ แปลงละ 10 บาท (จ) ค่ารบั อายัดทด่ี ิน แปลงละ 10 บาท (ฉ) คา่ มอบอานาจ เรือ่ งละ 20 บาท (ช) คา่ ออกใบแทนโฉนดท่ดี ิน ฉบบั ละ 50 บาท หนังสอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี ินอยา่ งอน่ื ฉบับละ 30 บาท (ซ) คา่ ประกาศ แปลงละ 10 บาท ((ฌ) คา่ หลกั เขตท่ีดนิ หลักละ 10 บาท ถ้าเป็นการเดนิ สารวจหรอื สอบเขตทง้ั ตาบล สาหรับกรณอี อกโฉนดท่ดี ินคดิ เป็นรายแปลง แปลงละ 40 บาท) ( ความใน (ฌ) ของ 10 ถกู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 37 (พ.ศ. 2532)ฯ และให้ใช้ ความตอ่ ไปนี้แทน) (ฌ) คา่ หลกั เขตท่ีดนิ หลกั ละ 15 บาท ถา้ เปน็ การเดนิ สารวจหรอื สอบเขตทง้ั ตาบล สาหรบั กรณอี อกโฉนดทด่ี นิ คดิ เปน็ รายแปลง แปลงละ 60 บาท ข้อ 3 คา่ ใชจ้ ่าย (1) ค่าพาหนะเดนิ ทางใหแ้ ก่เจ้าพนักงาน พนักงานเจา้ หนา้ ที่ ให้จา่ ยเทา่ ทีจ่ าเป็น และคนงานท่จี า้ งไปทาการรังวดั เกย่ี วกับโฉนดทด่ี นิ และใชจ้ ่ายไปจรงิ หรอื พสิ ูจนส์ อบสวนหรอื ตรวจสอบเน้ือทเี่ กย่ี วกับ หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ตามคาขอ (2) ค่าเบี้ยเลยี้ งให้แก่เจา้ พนกั งาน พนกั งานเจ้าหน้าที่ ให้จา่ ยเทา่ ทีจ่ าเปน็ และค่าจ้างคนงานทีจ่ ้างไปทาการรังวัด ตามระเบียบของ เกี่ยวกับโฉนดท่ดี ินหรอื พิสูจน์สอบสวนหรอื ทางราชการแก่

ตรวจสอบเน้ือทีเ่ กีย่ วกับหนงั สอื รับรอง 180 การทาประโยชน์ตามคาขอ (3) คา่ ปว่ ยการใหแ้ กเ่ จา้ พนกั งานผปู้ กครองทอ้ งที่ ผไู้ ปทางานเทา่ อตั รา หรอื ผูแ้ ทนทีไ่ ปในการรังวัดเกีย่ วกับโฉนดทีด่ นิ ของทางราชการ หรอื พิสจู นส์ อบสวนหรอื ตรวจสอบเน้ือทีเ่ กีย่ วกับ หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์คนหน่งึ วันละ 30 บาท (4) คา่ ปิดประกาศให้แก่ผูป้ ิดประกาศ แปลงละ 10 บาท (5) คา่ พยานใหแ้ ก่พยาน คนละ 5 บาท ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี 16 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2522 ดาริ นอ้ ยมณี รัฐมนตรีชว่ ยว่าการฯ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ 96 ตอนท่ี 25 วนั ท่ี 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2522) หมายเหตุ: - เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบบั นี้ คอื เนอื่ งจากกฎกระทรวงว่าด้วยอตั ราค่าธรรมอเอนกยี ตมามความ ในพระราชบัญญัติใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 ได้ประกาศใช้คร้งั แรกเม่อื ปี พ.ศ. 2497 และได้มกี าร แกไ้ ขต่อมาอีก 2 ครง้ั ในปี พ.ศ. 2515 และ พ.ศ. 2516 และบัดน้ี ได้มีการปรับปรุงอตั ราค่าธรรมเนียมท้ายประมวล กฎหมายที่ดนิ ตามพระราชบัญญตั แิ ก้ไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2521 แล้ว สมควรยกเลิก กฎกระทรวงท้งั สามฉบบั และบัญญัติข้ึนใหม่ให้สอดคลอ้ งกบั อตั ราค่าธรรมเนียมท่ปี รบั ปรุงใหม่ดว้ ย จึงจาเป็นต้องออก กฎกระทรวงนี้

181 กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 33 (พ.ศ. 2526) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 77 แห่งประมวลกฎหมายทด่ี ิน รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ 1 ใหย้ กเลิกความในข้อ 6 แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 7 (พ.ศ. 2497) ออกตาม ความในพระราชบัญญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ช้ความต่อไปนแี้ ทน “ข้อ 6 การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมดังตอ่ ไปนี้ ไม่ตอ้ งประกาศตามความในข้อ 5 คือ (1) การจดทะเบยี นเลิกสิทธิและนิติกรรม เชน่ เลกิ เชา่ เลกิ ภารจายอม เปน็ ต้น (2) การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรมทเ่ี ก่ยี วเน่อื งกับการจานอง เชน่ การไถ่ถอน การขึน้ เงิน การผ่อนต้น การโอนสิทธิ การโอนหลดุ เป็นสทิ ธิ การโอนชาระหนี้จานอง การแกไ้ ข เปลีย่ นแปลงจานองหรือหนีอ้ ัน จานองเป็นประกนั เปน็ ตน้ (3) การไถถ่ อนจากการขายฝาก การปลดเง่ือนไขการไถ่หรือการโอนสิทธิการไถ่จาก การขายฝาก (4) การจดทะเบียนการไดม้ าจากการขายทอดตลาดโดยมกี ารบงั คับคดที างศาล (5 ) การจดทะเบยี นตาม (2) (3) หรอื (4) แลว้ จดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมประเภทอน่ื ต่อไปในวนั เดียวกัน (6) เมื่อมกี ารประกาศการขอจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรมประเภทหนง่ึ ประเภทใดไว้ ครบกาหนดแล้ว ต่อมามีการตกลงเปลย่ี นประเภทการจดทะเบียนหรือเปลี่ยนคูก่ รณีฝ่ายผ้รู ับสญั ญา (7) การจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรมประเภทหนงึ่ ประเภทใดซึง่ ไดก้ ระทาติดตอ่ ในวนั เดียวกัน เมอื่ การจดทะเบียนลาดับแรกนนั้ มกี ารประกาศตามขอ้ 5 แลว้ (8) การจดทะเบียนการโอนตามคาสัง่ ศาล

182 (9) การจดทะเบยี นการโอนตามคาสง่ั พนักงานเจ้าหนา้ ทผ่ี ้มู ีอานาจตามกฎหมายอน่ื (10) การจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรมเกยี่ วกบั ท่ีดินที่มีหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ ตามแบบ น.ส. 3 ก. หรืออสงั หารมิ ทรพั ยอ์ ยา่ งอ่ืนในทด่ี นิ ดงั กลา่ วรวมกบั ท่ีดิน” ข้อ 2 ใหย้ กเลกิ ขอ้ 6 ทวิ แหง่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2497) ออกตามความใน พระราชบญั ญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 ซ่งึ แกไ้ ขเพ่มิ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 23 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 11 มกราคม พ.ศ. 2526 พลเอกสิทธิ จิรโรจน์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 100 ตอนที่ 11 วันท่ี 11 กมุ ภาพันธ์ 2526) หมายเหตุ:– เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบบั น้ี คือ เนื่องจากการกาหนดประเภทการจดทะเบียนสทิ ธิ และนติ ิกรรม ซงึ่ ไมต่ อ้ งประกาศการขอจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรมตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 7 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ยงั ไมเ่ หมาะสม สมควรแก้ไขเพมิ่ เติม การกาหนดประเภทการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรมดงั กล่าว ใหเ้ หมาะสมยิง่ ขึ้น เพ่ือให้ประชาชนผ้ขู อจดทะเบียน สทิ ธแิ ละนติ ิกรรมเกี่ยวกับทดี่ ินได้รับความสะดวกขึ้น ประกอบกบั การจดทะเบียนสทิ ธิและนิตกิ รรมดังกล่าวไม่มผี ล เปน็ การเปลยี่ นแปลงสิทธิในทีด่ นิ หรือกระทบกระเทือนสทิ ธิของผ้มู ีส่วนได้สว่ นเสีย จึงจาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี

183 กฎกระทรวง ฉบับที่ 34 (พ.ศ. 2529) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แหง่ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ขอ้ 1 ใหย้ กเลกิ (1) ขอ้ 2 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 15 (พ.ศ. 2510) ออกตามความใน พระราชบัญญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 (2) กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 17 (พ.ศ. 2514) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ ห้ใช้ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 (3) กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 29 (พ.ศ. 2517) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 ขอ้ 2 โฉนดท่ดี ินให้ใช้แบบ น.ส. 4 จ. ทา้ ยกฎกระทรวงน้ี ในกรณีโฉนดที่ดนิ ท่อี อกเปน็ โฉนดตราจองหรอื ตราจองท่ตี ราว่า “ไดท้ าประโยชน์แล้ว” ใหม้ คี าว่า “โฉนดตราจอง” หรือ “ตราจองท่ีตราว่า “ได้ทาประโยชน์แลว้ ” แล้วแตก่ รณี ไวใ้ ต้ตราครฑุ ขอ้ 3 ใบแทนโฉนดทดี่ ินให้ใช้แบบ น.ส. 4 จ. การออกใบแทนโฉนดที่ดนิ ใหเ้ จ้าพนกั งานทดี่ ินจงั หวดั หรือเจ้าพนกั งานที่ดนิ จงั หวัดสาขา คนปัจจบุ ัน หรอื เจา้ พนักงานทด่ี นิ ซึง่ อธบิ ดมี อบหมาย ลงลายมือชือ่ และประทบั ตราประจาตาแหน่ง ของเจา้ พนกั งานที่ดนิ เป็นสาคัญ ใหม้ คี าวา่ “ใบแทน” ดว้ ยหมึกสแี ดงไว้ด้านหน้าของโฉนดท่ีดิน * กฎกระทรวงฉบับนถ้ี ูกยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537)ฯ

184 ในสารบัญจดทะเบียนใหร้ ะบุวนั เดือน ปี ทอี่ อกโฉนดที่ดินฉบบั เดิมด้วยหมกึ สแี ดง ถา้ มรี ายการ จดทะเบยี นใหค้ ัดรายการด้วยหมกึ สแี ดง และใหเ้ จา้ พนกั งานท่ีดนิ ลงลายมอื ชอ่ื และประทับตรา ใตร้ ายการสุดทา้ ย ถา้ ไมม่ รี ายการจดทะเบยี นให้เจ้าพนักงานที่ดินลงลายมอื ชอ่ื และประทับตรา ใตว้ นั เดือน ปี ที่ออกโฉนดท่ดี นิ ฉบับเดมิ สว่ นโฉนดทดี่ นิ ฉบบั สานกั งานทดี่ ิน ในสารบัญจดทะเบียนให้มคี าวา่ “ไดอ้ อกใบแทน โฉนดทีด่ นิ ไปแลว้ ” และวนั เดอื น ปี ท่ีออกดว้ ยหมึกสีแดง กบั ใหเ้ จา้ พนักงานทีด่ ินลงลายมอื ชื่อ กากบั ไว้ ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2529 พลเอกสิทธิ จริ โรจน์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 103 ตอนท่ี 1 (ฉบบั พเิ ศษ) วันท่ี 1 มกราคม 2529) หมายเหตุ:- เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับนี้ คอื เนอ่ื งจากมาตรา 57 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน ซงึ่ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญัตแิ ก้ไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2528 บัญญตั ใิ ห้ เจา้ พนกั งานทด่ี ินจังหวัด เจ้าพนกั งานทดี่ นิ จงั หวัดสาขา หรอื เจา้ พนกั งานท่ดี นิ ซง่ึ อธบิ ดีมอบหมาย เป็นผลู้ งลายมือช่อื และประทบั ตราประจาตาแหนง่ ของเจ้าพนกั งานท่ีดนิ ในโฉนดทด่ี ิน สมควรปรับปรงุ แบบโฉนดที่ดนิ และแบบใบแทน โฉนดท่ดี ินเสียใหม่ให้เป็นไปตามบทบญั ญตั แิ หง่ ประมวลกฎหมายท่ดี ินดังกลา่ ว จงึ จาเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

185

186

187 กฎกระทรวง ฉบับที่ 35 (พ.ศ. 2531) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 77 แหง่ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลกิ ความในขอ้ 5 แหง่ กฎกระทรวง ฉบับท่ี 7 (พ.ศ. 2497) ออกตามความ ในพระราชบญั ญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 และให้ใช้ความต่อไปนแ้ี ทน “ข้อ 5 การจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรมเกีย่ วกับทดี่ ินท่ียังไม่มีโฉนดท่ีดิน ใบไตส่ วน หรอื หนังสือรบั รองการทาประโยชนต์ ามแบบ น.ส. 3 ก. หรือเกีย่ วกบั อสังหาริมทรพั ยอ์ ย่างอน่ื ในที่ดินดงั กลา่ ว หรือเกย่ี วกบั อสงั หาริมทรพั ยอ์ ย่างอืน่ ในทดี่ นิ ท่มี โี ฉนดที่ดนิ ใบไต่สวน หรือหนังสอื รบั รองการทาประโยชนต์ ามแบบ น.ส. 3 ก. ในกรณีไม่รวมกับที่ดนิ ดงั กล่าว ใหป้ ระกาศการขอ จดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมมีกาหนดสามสบิ วนั ประกาศตามวรรคหน่ึงให้ปดิ ไวใ้ นทีเ่ ปดิ เผย ณ สานกั งานทดี่ นิ ทอ้ งทซี่ ึง่ ท่ีดิน หรอื อสังหารมิ ทรัพยอ์ ย่างอ่ืนต้งั อยู่ สานกั งานเขตหรือทวี่ ่าการอาเภอหรอื ท่วี ่าการกิ่งอาเภอทอ้ งที่ ทีท่ าการแขวงหรือที่ทาการกานันทอ้ งท่ี และบรเิ วณท่ดี ินหรอื อสงั หาริมทรัพย์น้ัน แหง่ ละหน่งึ ฉบบั ” ขอ้ 2 ให้ยกเลกิ ความใน (10) ของขอ้ 6 แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 7 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 ซง่ึ แกไ้ ขเพม่ิ เติม โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 33 (พ.ศ. 2526) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวล กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 3 ในทอ้ งท่ซี ่ึงรัฐมนตรียังมิไดป้ ระกาศยกเลิกอานาจหน้าทใ่ี นการปฏิบตั ิการตาม ประมวลกฎหมายท่ดี ินของหัวหนา้ เขต นายอาเภอหรอื ปลัดอาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจากิง่ อาเภอ ตามมาตรา 19 แหง่ พระราชบัญญตั แิ กไ้ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2528 ให้ปดิ ประกาศขอจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรมตามข้อ 5 วรรคหนงึ่ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 7

188 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 ซ่ึงแก้ไข เพิ่มเตมิ โดยกฎกระทรวงฉบบั น้ไี ว้ในทีเ่ ปดิ เผย ณ สานักงานเขตหรือทว่ี ่าการอาเภอ หรอื ที่ว่าการ กิ่งอาเภอท้องท่ี ที่ทาการแขวงหรือท่ีทาการกานนั ท้องที่ และบรเิ วณท่ดี นิ หรืออสงั หารมิ ทรัพยน์ ั้น แหง่ ละหนง่ึ ฉบับ และในเขตเทศบาลให้ปดิ ประกาศดังกลา่ วไวใ้ นที่เปิดเผย ณ สานกั งานเทศบาล อีกหนง่ึ ฉบบั ดว้ ย ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 29 กนั ยายน พ.ศ. 2531 เสนาะ เทยี นทอง รัฐมนตรีชว่ ยว่าการฯ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 105 ตอนท่ี 160 วนั ท่ี 1 ตลุ าคม 2531) หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับนี้ คอื เน่ืองจากได้มกี ารแกไ้ ขเพิม่ เตมิ มาตรา 71 แหง่ ประมวล กฎหมายท่ีดนิ โดยพระราชบัญญัติแกไ้ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2528 ใหเ้ จา้ พนกั งานท่ดี ิน เปน็ พนักงานเจ้าหนา้ ทจ่ี ดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ สาหรบั อสงั หาริมทรัพยท์ ี่อยู่ในเขตทอ้ งทส่ี านกั งานท่ีดินจังหวดั หรือสานกั งานทดี่ ินสาขา สมควรแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ หลักเกณฑ์ และวธิ ีการในการประกาศการจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรมเกย่ี วกับทดี่ นิ หรืออสังหารมิ ทรพั ย์อยา่ งอนื่ เสยี ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกบั บทบัญญตั ิดังกลา่ ว จึงจาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี

189 กฎกระทรวง ฉบับที่ 36 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 แห่งประมวลกฎหมายทดี่ นิ ซ่งึ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญตั ิ แก้ไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2521 รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ใหย้ กเลกิ ความใน (ก) ของขอ้ 2 (7) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ช้ความ ต่อไปน้แี ทน “(ก) ค่าจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรมมีทุนทรัพย์ เรยี กตามจานวนทุนทรัพย์ ร้อยละ 2 ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพยเ์ ฉพาะ ในกรณีทีม่ ูลนธิ ิชัยพัฒนา เปน็ ผรู้ ับโอนหรอื ผูโ้ อน เรยี กตามจานวนทุนทรัพย์ ร้อยละ 0.001” ให้ไว้ ณ วนั ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2532 เสนาะ เทยี นทอง รัฐมนตรีชว่ ยว่าการ ปฏิบตั ริ าชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 106 ตอนท่ี 39 (ฉบบั พิเศษ) วันที่ 13 มีนาคม 2532) หมายเหตุ:- เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คอื โดยทมี่ ูลนิธชิ ยั พฒั นา เปน็ มูลนิธทิ ่จี ัดต้ังข้นึ โดยมี ลกั ษณะพเิ ศษเฉพาะดังปรากฏจากวัตถุประสงคข์ องมูลนธิ ิ การได้มาซึ่งทุนเร่มิ แรก ตลอดจนการดารงตาแหน่งของ คณะกรรมการมูลนธิ ิ เป็นการสมควรกาหนดอัตราคา่ ธรรมเนยี มการจดทะเบยี นโอนอสังหาริมทรัพย์เฉพาะในกรณีท่ี มลู นธิ ิชัยพัฒนาเปน็ ผรู้ ับโอนหรอื ผโู้ อนข้นึ ใหม่ จึงจาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงฉบบั น้ี * กฎกระทรวงฉบบั น้ถี กู ยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 38 (พ.ศ. 2532)ฯ

190 กฎกระทรวง ฉบับท่ี 37 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนึง่ แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดินซงึ่ แกไ้ ขเพม่ิ เติม โดย พระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2521 รัฐมนตรวี ่าการ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปน้ี ให้ยกเลิกความใน (ฌ) ของ (10) ในขอ้ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ช้ความ ต่อไปน้แี ทน “(ฌ) คา่ หลักเขตที่ดนิ หลกั ละ 15 บาท ถ้าเป็นการเดนิ สารวจหรอื สอบเขตทัง้ ตาบล สาหรบั กรณีออกโฉนดคิดเป็นรายแปลง แปลงละ 60 บาท ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 11 สิงหาคม พ.ศ. 2532 พลตารวจเอก ประมาณ อดเิ รกสาร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 106 ตอนที่ 169 วันที่ 5 ตุลาคม 2532) หมายเหต:ุ - เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับนี้ คอื เน่ืองจากกฎกระทรวง ฉบับท่ี 32 (พ.ศ. 252อ2อ)กตาม ความในพระราชบญั ญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 ได้กาหนดคา่ ธรรมเนียมหลักเขตท่ดี นิ ไว้ไมเ่ หมาะสม กบั สภาวะทางเศรษฐกิจและค่าของเงนิ ในปัจจบุ ัน สมควรแกไ้ ขคา่ ธรรมเนยี มหลกั เขตท่ดี ินเสยี ใหมใ่ หเ้ หมาะสมยง่ิ ขึ้น จึงจาเป็นต้องออกกฎกระทรวงน้ี * กฎกระทรวงฉบบั นถ้ี กู ยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 47 (พ.ศ. 2541) ฯ

191 กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 38 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหน่งึ แห่งประมวลกฎหมายท่ดี ิน ซึง่ แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดย พระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2521 รฐั มนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ใหย้ กเลกิ ความใน (ก) ของ (7) ในขอ้ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 ซ่ึงแก้ไขเพิม่ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 36 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ ห้ใช้ประมวล กฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปน้แี ทน “(ก) ค่าจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรมมีทุนทรัพย์ เรยี กตามจานวนทุนทรัพย์ ร้อยละ 2 ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพยเ์ ฉพาะ ในกรณีทีม่ ูลนธิ ิชัยพัฒนา หรือมูลนธิ ิส่งเสรมิ ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิต์ พระบรมราชนิ นี าถ เป็นผูร้ ับโอนหรอื ผูโ้ อน เรยี กตามจานวนทุนทรัพย์ ร้อยละ 0.001” ให้ไว้ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2532 พลตารวจเอก ประมาณ อดิเรกสาร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ 107 ตอนที่ 6 วันที่ 9 มกราคม 2533) หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คือ โดยทม่ี ลู นิธิส่งเสริมศลิ ปาชีพในสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกติ ์ พระบรมราชนิ นี าถ เปน็ มลู นิธิท่จี ดั ตงั้ ขน้ึ โดยมลี ักษณะพเิ ศษเฉพาะดงั ปรากฏจากวตั ถปุ ระสงค์ของมลู นิธิ การได้มาซง่ึ ทุนเริม่ แรก ตลอดจนการดารงตาแหน่งของคณะกรรมการมลู นธิ ิ สมควรกาหนดอัตราค่าธรรมเนยี มการจดทะเบยี นโอน อสังหารมิ ทรพั ย์ เฉพาะในกรณีทม่ี ูลนธิ สิ ง่ เสรมิ ศลิ ปาชพี ในสมเด็จพระนางเจา้ สิริกิต์ พระบรมราชินีนาถเปน็ ผูร้ ับโอน หรือผ้โู อนเช่นเดยี วกบั กรณีของมลู นธิ ชิ ยั พฒั นา จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงนี้ * กฎกระทรวงฉบบั น้ถี ูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 41 (พ.ศ. 2534)ฯ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook