Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประมวลกฎหมายที่ดิน

ประมวลกฎหมายที่ดิน

Description: ประมวลกฎหมายที่ดิน

Search

Read the Text Version

192 กฎกระทรวง* ฉบบั ท่ี 39 (พ.ศ. 2533) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบัญญตั ิให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้ ใหย้ กเลิกความใน (๔) ของขอ้ ๑๑ แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. 2497) ออกตาม ความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนแ้ี ทน “(๔) ในกรณีเจา้ พนกั งานผู้มีอานาจในการยดึ และขายทอดตลาดทด่ี ินของผ้ทู คี่ ้างชาระ ภาษีอากรหรอื เงินคา้ งจา่ ยใดๆ ตามที่กฎหมายบัญญัตไิ ว้ ขอใหอ้ อกแทนโฉนดท่ดี นิ สาหรับทดี่ นิ ดังกลา่ วซ่งึ เจา้ พนกั งานผู้มีอานาจได้ยดึ มาขายทอดตลาดแลว้ แตไ่ มไ่ ดโ้ ฉนดท่ีดนิ มา หรอื โฉนดทดี่ ิน สูญหายหรอื ชารดุ ใหถ้ อื หนังสือของเจา้ พนักงานดังกลา่ วเปน็ คาขอ และดาเนินการทานองเดียวกัน กบั ทกี่ าหนดไว้ใน (๓)” ให้ไว้ ณ วันท่ี 26 กันยายน พ.ศ. ๒๕33 บรรหาร ศลิ ปอาชา รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 107 ตอนท่ี 198 วนั ท่ี 8 ตลุ าคม 2533) หมายเหตุ:- เหตผุ ลในการออกกฎกระทรวงนี้ คือ โดยท่ีเป็นการสมควรกาหนดให้เจ้าพนกั งานผ้มู ีอานาจในการยดึ และขายทอดตลาดที่ดนิ ของผ้ทู คี่ า้ งชาระภาษีอากรหรอื เงินคา่ งจ่ายใดๆ ตามทก่ี ฎหมายบญั ญตั ไิ ว้ สามารถขอให้ออก ใบแทนโฉนดทีด่ นิ สาหรับที่ดนิ ดังกล่าวซ่ึงเจ้าพนักงาน ผูม้ ีอานาจได้ยึดมาขายทอดตลาดแล้วแต่ไม่ไดโ้ ฉนดที่ดินมา หรือโฉนดที่ดินสญู หายหรอื ชารดุ จึงจาเปน็ ตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี * กฎกระทรวงฉบบั นถ้ี ูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 43 (พ.ศ. 2537)ฯ

193 กฎกระทรวง* ฉบบั ที่ 40 (พ.ศ. 2534) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิให้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญตั ิให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหน่งึ แห่งประมวลกฎหมายทดี่ ิน ซ่งึ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดย พระราชบัญญัตแิ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. 2521 รฐั มนตรวี ่าการ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ใหย้ กเลิกความใน (ค) ของ (๗) ขอ้ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 32 (พ.ศ. 2522) ออกตาม ความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนแี้ ทน “(ค) คา่ จดทะเบียนการจานอง หรือบุริมสทิ ธิ ทีจ่ ดทะเบียน รอ้ ยละ 1 แตอ่ ยา่ งสูงไม่เกิน 200,000 บาท ค่าจดทะเบียนการจานอง หรือบรุ ิมสิทธิ สาหรบั การให้สนิ เชื่อเพือ่ การเกษตร ของสถาบนั การเงนิ ทกี่ ระทรวงมหาดไทย กาหนด* รอ้ ยละ 0.5 แต่อยา่ งสงู ไมเ่ กนิ 100,000 บาท” ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 19 มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕34 พลเอกอสิ ระพงศ์ หนุนภกั ดี รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 108 ตอนที่ 112 (ฉบับพเิ ศษ) วนั ที่ 25 มถิ นุ ายน 2534) หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คือ เน่อื งจากในปัจจบุ ันคา่ ธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิ และนติ กิ รรมเกยี่ วกับการจดทะเบยี นการจานองหรือบรุ มิ สิทธิ กาหนดเปน็ อัตรารอ้ ยละของราคาทุนทรพั ยโ์ ดยมิได้ กาหนดใหม้ ีวงเงนิ สงู สดุ ในการเรียกเก็บ ซึง่ ทาให้การเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนยี มดังกล่าวมจี านวนสงู เกินสมควร กอ่ ใหเ้ กดิ การหลีกเลีย่ งการจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรม หรอื มีการจดทะเบียนโดยการแสดงราคาทนุ ทรพั ย์ท่ตี า่ กวา่ ทเี่ ปน็ จริง อันเปน็ ผลเสยี หายแกร่ ฐั และไม่เอ้อื อานวยแก่การขยายตัวของสินเชอ่ื ในระบบเศรษฐกจิ ปจั จบุ ัน นอกจากนัน้ เพ่อื ช่วยเหลือ เกษตรกร สมควรลดค่าธรรมเนียมสาหรบั การจดทะเบยี นการจานองหรือบุริมสทิ ธสิ าหรับสนิ เชอ่ื การเกษตรของสถาบัน การเงินที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด จงึ จาเปน็ ตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี * กระทรวงมหาดไทยไดก้ าหนดในประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี 19 มถิ ุนายน 2534 * กฎกระทรวงฉบบั น้ถี กู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 46 (พ.ศ. 2540)ฯ

194 กฎกระทรวง* ฉบบั ที่ 41 (พ.ศ. 2534) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซึ่งแก้ไขเพ่มิ เตมิ โดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. 2531 รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ใหย้ กเลกิ ความใน (ก) ของ (๗) ในขอ้ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 ซึง่ แกไ้ ขเพิ่มเติมโดย กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 38 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2497 และให้ใช้ความต่อไปนแี้ ทน “(ก) คา่ จดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมมที นุ ทรพั ย์ เรยี กตามราคาประเมินทุนทรัพยเ์ พือ่ เรยี กเก็บ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียน สิทธิและนติ กิ รรม รอ้ ยละ 2 ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ เฉพาะในกรณีทีม่ ูลนธิ ิชัยพัฒนาหรือ มูลนธิ ิส่งเสรมิ ศิลปาชีพในสมเด็จ พระนางเจ้าสิรกิ ิต์ พระบรมราชนิ นี าถ เป็นผูร้ ับโอนหรอื ผูโ้ อน เรยี กตามราคาประเมินทุนทรัพยเ์ พือ่ เรยี กเก็บ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียน สิทธแิ ละนติ ิกรรม รอ้ ยละ 0.001” * กฎกระทรวงฉบับนถี้ ูกยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ

195 ข้อ 2 ใหย้ กเลิกความใน (ข) ของ (๗) ในข้อ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 และใหใ้ ชค้ วาม ตอ่ ไปน้แี ทน “(ข) คา่ จดทะเบียนโอนมรดกหรือให้ ทั้งนี้ เฉพาะในระหว่างผู้บุพการกี ับ ผูส้ ืบสันดาน หรอื ระหว่างคูส่ มรส เรยี กตามราคาประเมินทุนทรัพย์ เพือ่ เรยี กเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียน สิทธิและนติ กิ รรม ร้อยละ 0.5” ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 26 สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕34 พลเอก อิสระพงศ์ หนนุ ภักดี รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ 108 ตอนท่ี 165 วนั ที่ 19 กันยายน 2534) หมายเหตุ:- เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบบั นี้ คอื โดยที่ไดม้ กี ารปรับปรงุ บทบญั ญัติในประมวลกฎหมายทดี่ ิน ว่าด้วยการคิดคา่ ธรรมเนยี มจดทะเบียนสทิ ธิและนติ กิ รรมมีทุนทรพั ย์เพอ่ื ให้เกิดความสะดวกและรวดเรว็ แกป่ ระชาชน ผขู้ อจดทะเบยี นมากยง่ิ ข้นึ โดยได้เปลยี่ นหลกั เกณฑก์ ารคิดค่าธรรมเนียมใหค้ ดิ จากราคาประเมนิ ทุนทรัพยแ์ ทนการคิด จากจานวนทนุ ทรัพย์ สมควรปรับปรุงหลกั เกณฑก์ ารคิดคา่ ธรรมเนยี มจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรมท่กี าหนดไว้ใน กฎกระทรวง ฉบับท่ี 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 ใหส้ อดคล้องกบั การปรบั ปรุงบทบัญญตั ิดงั กลา่ วข้างต้น จึงจาเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

196 กฎกระทรวง ฉบับที่ 42 (พ.ศ. 2536) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญตั ิให้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 77 แห่งประมวลกฎหมายทีด่ ิน รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้ ให้ยกเลกิ ความในขอ้ ๑ แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. 2497) ออกตามความใน พระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ช้ความต่อไปนแี้ ทน “ข้อ ๑ ภายใต้ข้อบงั คบั ขอ้ ๘ และข้อ ๙ บุคคลใดมคี วามประสงค์จะขอทาการจดทะเบียน สทิ ธแิ ละนิติกรรม ใหบ้ ุคคลน้นั ยื่นคาขอตามแบบ ท.ด. ๑ สาหรับทด่ี นิ โฉนดท่ีดิน หรอื แบบ ท.ด. ๑ ก. สาหรับท่ีดนิ ทย่ี ังไม่มโี ฉนดท่ีดินและอสงั หารมิ ทรพั ย์อย่างอื่น ทา้ ยกฎกระทรวงน้ี พรอ้ มท้งั แนบหนังสือแสดงสิทธใิ นที่ดินหรอื หลักฐานอยา่ งอ่ืนตอ่ พนักงานเจ้าหนา้ ที่” ให้ไว้ ณ วนั ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕3๖ เดน่ โตะ๊ มนี า รฐั มนตรชี ่วยการฯ ปฏิบตั ิราชการแทน รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ 110 ตอนที่ 168 (ฉบับพเิ ศษ) วันที่ 22 ตุลาคม 2536) หมายเหตุ : เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับน้ี คือ โดยทแ่ี บบคาขอจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม (แบบ ท.ด. ๑) ท้ายกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมาย ท่ดี นิ พ.ศ. 2497 มรี ปู แบบและรายละเอียดไมเ่ หมาะสมกบั บทบญั ญตั แิ หง่ ประมวลกฎหมายท่ดี ินในปจั จุบัน สมควรปรับปรุงแบบคาขอดังกล่าวโดยกาหนดใหใ้ ช้แบบ ท.ด. 1 สาหรับคาขอทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรมสาหรับทีด่ ิน ที่มีโฉนดทดี่ นิ และกาหนดแบบ ท.ด. ๑ ก เพม่ิ ขึ้นสาหรับทด่ี ินทย่ี งั ไมม่ โี ฉนดท่ีดนิ และอสงั หารมิ ทรพั ยอ์ ย่างอนื่ โดยเฉพาะ จึงจาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงนี้

197

198

199

200

201 กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๖ มาตรา 8 และมาตรา 15 แหง่ พระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 56 แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ให้ยกเลกิ (๑ ) กฎกระทรวง (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใชป้ ระมวล กฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 (๒) กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 (3) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 5 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 (๔) กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๑๖ (พ.ศ. 2514) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 (5) กฎกระทรวง ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใช้ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 (6) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 22 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 (7) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 23 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 (๘) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 28 (พ.ศ. 251๖) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 (9) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 30 (พ.ศ. 251๘) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิให้ใช้ ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497

202 (10) กฎกระทรวง ฉบับท่ี 34 (พ.ศ. 2529) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 (11) กฎกระทรวง ฉบับที่ 39 (พ.ศ. 2533) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 หมวด 1 ใบจอง ขอ้ 2 แบบใบจองมี 2 แบบ คือ แบบ น.ส. 2 และ น.ส. 2 ก. ท้ายกฎกระทรวงนี้ การออกใบจองในทอ้ งท่ีซ่ึงรฐั มนตรียังไม่ได้ประกาศยกเลกิ อานาจหน้าทใ่ี นการ ปฏบิ ัติการตามประมวลกฎหมายท่ีดนิ ของหวั หนา้ เขต นายอาเภอ หรอื ปลดั อาเภอผเู้ ปน็ หวั หนา้ ประจากิง่ อาเภอ ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติแกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายทดี่ ิน (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2528 ให้ใชแ้ บบ น.ส. 2 ส่วนในท้องท่อี ่ืนให้ใช้แบบ น.ส. 2 ก. ข้อ 3 ใบแทนใบจองให้ใชแ้ บบ น.ส. 2 หรอื น.ส. 2 ก. แลว้ แตก่ รณี การออกแ บบใบแทนใบจอง ให้พนกั งานเจ้าหนา้ ทีด่ าเนนิ การตามวิธกี ารออก ใบแทน โฉนดท่ดี ินโดยอนโุ ลม หมวด 2 หนังสอื รับรองการทาประโยชน์ ขอ้ 4 แบบหนงั สือรับรองการทาประโยชน์มี 3 แบบ คอื แบบ น.ส. 3 น.ส. 3 ก. และ น.ส. 3 ข. ทา้ ยกฎกระทรวงน้ี การออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ในท้องที่ท่ีมรี ะวางรูปถ่ายทางอากาศใหใ้ ช้แบบ น.ส. 3 ก. ในทอ้ งทที่ ่ไี ม่มรี ะวางรูปถ่ายทางอากาศซึง่ รัฐมนตรีไดป้ ระกาศยกเลกิ อานาจหนา้ ที่ ในการปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายที่ดนิ ของหัวหนา้ เขต นายอาเภอ หรอื ปลดั อาเภอผู้เปน็ หัวหนา้ ประจากงิ่ อาเภอ ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญตั แิ ก้ไขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2528 แลว้ ให้ใชแ้ บบ น.ส. 3 ข. สว่ นในทอ้ งทอี่ ื่นใหใ้ ช้แบบ น.ส. 3 ข้อ 5 ทดี่ ินท่ีจะออกหนังสือรับรองการทาประโยชนต์ อ้ งเป็นทดี่ นิ ท่ีผูม้ ีสิทธิในทดี่ นิ ไดค้ รอบครองและทาประโยชนแ์ ลว้ และเป็นทด่ี ินที่สามารถออกโฉนดท่ดี ินได้ตามทกี่ าหนดไวใ้ น ขอ้ 14

203 ข้อ 6 ในการนาพนกั งานเจา้ หน้าทท่ี าการสารวจพิสจู นส์ อบสวนการทาประโยชน์ ตาม มาตรา 58 แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซึง่ แกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญัตแิ กไ้ ขเพ่ิมเติม ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2528 ใหผ้ มู้ สี ทิ ธิในทีด่ นิ หรือตวั แทนปกั หลกั ตาม มุมเขตท่ดี นิ ของตนและให้ถ้อยคาต่อพนกั งานเจ้าหนา้ ท่หี รอื ผู้ซ่งึ พนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมาย ตามแบบ น.ส. 1 ก. ทา้ ยกฎกระทรวงน้ี กอ่ นออกหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ ใหพ้ นักงานเจา้ หน้าทป่ี ระกาศการออก หนงั สอื รับรองการทาประโยชนใ์ ห้ทราบมกี าหนดสามสบิ วัน ประกาศนั้นให้ปดิ ไว้ในท่เี ปดิ เผย ณ สานักงานท่ดี ินทอ้ งที่ สานักงานเขตหรอื ทวี่ ่าการอาเภอหรือทวี่ า่ การกง่ิ อาเภอท้องที่ ทีท่ าการ แขวงหรอื ทีท่ าการกานันทอ้ งทแ่ี ละในบริเวณทีด่ ินนัน้ แห่งละหนงึ่ ฉบับ ในเขตเทศบาลให้ปิดไว้ ณ สานักงานเทศบาล อีกหน่งึ ฉบับ ข้อ 7 การขอออกหนงั สือรบั รองการทาประโยชนต์ ามมาตรา 59 และมาตรา 59 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ ซงึ่ แก้ไขเพิม่ เติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 96 ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 ให้ดาเนนิ การดงั น้ี (1) ให้ผขู้ อยื่นคาขอตามแบบ น.ส. 1 ข. ทา้ ยกฎกระทรวงนี้ ตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ที่ (2) ในการยนื่ คาขอตาม (1) ถา้ ผ้ขู อมีใบจอง ใบเหยียบยา่ ตราจอง หลกั ฐานการแจง้ การครอบครองทด่ี ิน หลกั ฐานว่าเป็นผมู้ สี ทิ ธติ ามกฎหมายว่าด้วยการจัดทดี่ ินเพอื่ การครองชพี หรอื พยานหลักฐานอื่นที่แสดงว่าได้สิทธใิ นทด่ี นิ โดยชอบด้วยกฎหมาย ให้แนบหลักฐานดังกล่าว มาประกอบการพิจารณาด้วย ขอ้ 8 เม่อื ไดร้ ับคาขอแลว้ ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าทไี่ ปพสิ ูจนส์ อบสวนการทาประโยชน์ ยังทดี่ ินตามแบบ น.ส. 1 ค. ท้ายกฎกระทรวงน้ี ในการนี้ จะมอบใหเ้ จ้าหน้าท่ไี ปทาการแทนก็ได้ ข้อ 9 ในการนาพนักงานเจา้ หนา้ ทพี่ ิสจู นส์ อบสวนการทาประโยชนใ์ หผ้ ู้มีสิทธใิ นทดี่ นิ หรือตัวแทนปกั หลกั ตามมมุ เขตท่ีดินของตนและใหถ้ ้อยคาต่อพนักงานเจ้าหนา้ ทห่ี รอื ผ้ซู ึ่งพนักงาน เจ้าหนา้ ท่ีมอบหมายตามแบบ น.ส. 1 ค. ท้ายกฎกระทรวงน้ี ในการคานวณจานวนเนอ้ื ทีเ่ พ่ือออกหนังสอื รบั รองการทาประโยชนต์ ามแบบ น.ส. 3 ก. ให้คานวณโดยวิธคี ณติ ศาสตรห์ รือโดยมาตราส่วน ทงั้ น้ี ใหถ้ อื วา่ จานวนเนือ้ ที่ทค่ี านวณเไปด็น้ จานวน เนอ้ื ทโ่ี ดยประมาณ ข้อ 10 เม่อื ได้พิสจู นส์ อบสวนการทาประโยชน์แล้ว ปรากฏว่าได้มกี ารครอบครองและ ทาประโยชน์ตามสมควรแก่สภาพที่ดนิ ในทอ้ งถ่นิ ตลอดจนสภาพของกิจการทไ่ี ด้ทาประโยชน์ ให้พนักงานเจ้าหน้าทด่ี าเนนิ การดังนี้

204 (1) ประกาศการออกหนังสือรบั รองการทาประโยชนใ์ หท้ ราบมีกาหนด สามสิบวนั ประกาศนนั้ ใหป้ ิดไวใ้ นท่ีเปดิ เผย ณ สานกั งานท่ีดนิ ทอ้ งที่ สานักงานเขตหรือที่วา่ การอาเภอหรือ ทว่ี ่าการก่งิ อาเภอท้องท่ี ทีท่ าการแขวงหรอื ท่ีทาการกานันท้องทแี่ ละในบรเิ วณทีด่ นิ นน้ั แหง่ ละ หนึ่งฉบบั ในเขตเทศบาลให้ปดิ ไว้ ณ สานกั งานเทศบาลอกี หน่ึงฉบบั (2) ถา้ ปรากฏวา่ ที่ดนิ นัน้ ไมอ่ ยใู่ นเขตปา่ สงวนแหง่ ชาติ เขตอุทยานแหง่ ชาติ เขตรักษา พนั ธุ์สัตวป์ ่า เขตหา้ มล่าสัตว์ป่าหรอื เขตที่ไดจ้ าแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวรตามมตคิ ณะรฐั มนตรี และที่ดินนนั้ ไม่เป็นท่ีดินซ่ึงตอ้ งหา้ มมิใหอ้ อกหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ตามข้อ 5 และไมม่ ี ผคู้ ัดค้านภายในกาหนดเวลาทปี่ ระกาศตาม (1) ให้พนักงานเจา้ หน้าท่ีออกหนงั สือรับรองการทา ประโยชนใ์ หไ้ ด้ (3) ถา้ ปรากฏว่าทดี่ นิ นัน้ ตงั้ อยู่ในตาบลทมี่ ีป่าสงวนแหง่ ชาติ อุทยานแหง่ ชาติ พ้ืนทร่ี กั ษา พันธ์สุ ตั ว์ป่า พื้นทห่ี า้ มลา่ สตั ว์ป่าหรือพืน้ ทีท่ ี่ได้จาแนกใหเ้ ป็นเขตป่าไมถ้ าวรตามมติคณะรฐั มนตรี และกรมปา่ ไมห้ รือกรมพฒั นาทดี่ ินยงั ไม่ไดข้ ดี เขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ เขตรกั ษาพนั ธุส์ ตั วป์ ่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหรอื เขตที่ได้จาแนกใหเ้ ปน็ เขตปา่ ไมถ้ าวร ตามมติ คณะรัฐมนตรี ลงในระวางรูปถา่ ยทางอากาศเพือ่ การออกหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ หรือกรณีทีข่ ดี เขตแลว้ แต่ที่ดนิ ท่ีขอออกหนังสือรบั รองการทาประโยชนม์ อี าณาเขตตดิ ต่อคาบเกีย่ ว หรืออยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแหง่ ชาติ เขตรักษาพันธสุ์ ตั ว์ป่า เขตห้ามลา่ สัตว์ปา่ หรือเขตที่ไดจ้ าแนกให้เปน็ เขตปา่ ไมถ้ าวรตามมตคิ ณะรัฐมนตรี ให้ผู้ว่าราชการจงั หวัดแต่งต้งั คณะกรรมการร่วมกนั ออกไปตรวจพิสูจน์ท่ีดนิ ประกอบดว้ ยปา่ ไมอ้ าเภอหรอื ผทู้ ป่ี ่าไมจ้ งั หวดั มอบหมายสาหรบั ทอ้ งท่ที ไ่ี มม่ ีปา่ ไมอ้ าเภอ เจ้าหนา้ ท่บี ริหารงานทด่ี นิ อาเภอ ปลัดอาเภอ (เจ้าพนักงานปกครอง) และกรรมการอน่ื ตามทเ่ี หน็ สมควร เมอ่ื คณะกรรมการดังกลา่ วไดท้ าการ ตรวจพิสจู น์เสรจ็ แลว้ ให้เสนอความเหน็ ต่อผู้วา่ ราชการจังหวดั ว่าสมควรออกหนังสือรบั รอง การ ทาประโยชนใ์ หไ้ ด้หรือไม่ เพียงใด สาหรบั ท่ดี ินท่ีได้จาแนกให้เป็นเขตปา่ ไมถ้ าวรตามมติ คณะรัฐมนตรี แตย่ งั ไมไ่ ดข้ ดี เขตหรือขีดเขตแลว้ แตท่ ีด่ ินดังกล่าวมอี าณาเขตคาบเก่ียวกับเขตทีไ่ ด้ จาแนกใหเ้ ปน็ เขตปา่ ไม้ถาวร ใหแ้ ตง่ ต้ังผู้แทนกรมพฒั นาทด่ี นิ เป็นกรรมการด้วย ขอ้ 11 เม่ือผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ได้พิจารณาผลการตรวจพสิ ูจนท์ ีด่ นิ ของคณะกรรมการ ตามข้อ 10 (3) แลว้ ปรากฏวา่ ทีด่ ินน้ันไม่อย่ใู นเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอทุ ยานแห่งชาติ เขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่า เขตหา้ มล่าสตั วป์ ่าหรือเขตที่ไดจ้ าแนกให้เปน็ เขตปา่ ไม้ถาวรตามมติ คณะรฐั มนตรี หรือปรากฏว่าท่ดี ินนนั้ อยใู่ นเขตป่าสงวนแหง่ ชาติ เขตอทุ ยานแหง่ ชาติ เขตรกั ษา พนั ธ์ุสตั วป์ ่า เขตหา้ มลา่ สัตวป์ ่าหรอื เขตท่ไี ดจ้ าแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวรตามมตคิ ณะรฐั มนตรี แต่ผขู้ อได้ครอบครองและทาประโยชน์ในท่ีดินดังกลา่ วโดยชอบด้วยกฎหมายมาก่อนวนั ท่ี

205 ทางราชการกาหนดใหท้ ีด่ ินนั้นเปน็ ป่าสงวนแหง่ ชาติ อุทยานแห่งชาติ เขตรกั ษาพนั ธุส์ ัตว์ปา่ เขตห้ามลา่ สัตว์ป่าหรือเขตทีไ่ ดจ้ าแนกให้เปน็ เขตป่าไม้ถาวรตามมตคิ ณะรัฐมนตรี และไม่มผี ู้คัดค้าน ภายในกาหนดเวลาทปี่ ระกาศตามขอ้ 10 (1) ให้ผ้วู ่าราชการจงั หวดั สัง่ การใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ี พจิ ารณาดาเนนิ การตามข้อ 10 (2) ข้อ 12 ใบแทนหนังสือรับรองการทาประโยชนใ์ ห้ใช้แบบ น.ส. 3 น.ส. 3 ก. หรือ น.ส. 3 ข. แลว้ แตก่ รณี การออกใบแทนหนังสือรบั รองการทาประโยชน์ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ดี าเนินการ ตาม วิธีการออกใบแทนโฉนดท่ดี ินโดยอนุโลม หมวด 3 โฉนดท่ีดนิ ขอ้ 13 โฉนดที่ดินใหใ้ ชแ้ บบ น.ส. 4 จ. ท้ายกฎกระทรวงนี้ ในกรณีโฉนดท่ีดินทอี่ อกเป็นโฉนดตราจองหรอื ตราจองท่ตี ราวา่ “ไดท้ าประโยชน์แลว้ ” ให้มีคาวา่ “โฉนดตราจอง” หรือ “ตราจองทต่ี ราว่า “ได้ทาประโยชนแ์ ลว้ ” ” แล้วแตก่ รณี ไวใ้ ต้ ตราครฑุ ข้อ 14 ที่ดินท่จี ะออกโฉนดท่ดี นิ ตอ้ งเปน็ ทีด่ ินที่ผมู้ ีสทิ ธิในท่ีดนิ ได้ครอบครองและทา ประโยชนแ์ ลว้ และเปน็ ที่ดินทส่ี ามารถออกโฉนดทด่ี นิ ได้ตามกฎหมายแต่ห้ามมใิ ห้ออกโฉนดท่ีดิน สาหรับทดี่ ิน ดังตอ่ ไปนี้ (1) ทด่ี ินทร่ี าษฎรใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกัน เชน่ ทางน้า ทางหลวง ทะเลสาบ ทช่ี ายตลิง่ (2) ท่เี ขา ที่ภเู ขา และพนื้ ท่ีที่รัฐมนตรปี ระกาศหวงห้ามตามมาตรา 9 (2) แหง่ ประมวล กฎหมายท่ีดนิ แตไ่ มร่ วมถึงทีด่ ินซง่ึ ผ้คู รอบครองมสี ิทธคิ รอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายท่ีดนิ (3) ทเี่ กาะ แตไ่ ม่รวมถึงทด่ี นิ ของผซู้ ึง่ มีหลกั ฐานแจ้งการครอบครองท่ีดนิ มีใบจอง ใบเหยียบย่า หนังสือรับรองการทาประโยชน์ โฉนดตราจอง ตราจองท่ตี ราวา่ “ไดท้ าประโยชนแ์ ล้ว” หรือเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายวา่ ด้วยการจัดทดี่ นิ เพื่อการครองชีพ หรือทีด่ ินท่คี ณะกรรมการ จดั ที่ดนิ แห่งชาตไิ ด้อนมุ ัตใิ หจ้ ดั แกป่ ระชาชน หรือท่ดี นิ ซ่ึงได้มกี ารจัดหาผลประโยชนต์ าม มาตรา 10 และมาตรา 11 แห่งประมวลกฎหมายทดี่ นิ โดยคณะกรรมการจดั ท่ีดินแห่งชาติ ได้อนุมัติแล้ว

206 (4) ทส่ี งวนหวงหา้ มตามมาตรา 10 แหง่ พระราชบัญญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. 2497 มาตรา 20 (3) และ (4) แห่งประมวลกฎหมายที่ดนิ ซง่ึ แกไ้ ขเพิ่มเติมโดย พระราชบญั ญัติแกไ้ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2526 หรอื กฎหมายอ่นื ( 5) ทดี่ นิ ท่คี ณะรฐั มนตรีสงวนไว้เพอื่ รักษาทรพั ยากรธรรมชาตหิ รอื เพื่อประโยชน์ สาธารณะอย่างอ่ืน ขอ้ 15 การออกโฉนดท่ดี ินตามมาตรา 58 แหง่ ประมวลกฎหมายทีด่ ินซ่ึงแก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2528 ให้ดาเนนิ การ ดังนี้ (1) ให้มีการรังวดั ทาแผนทต่ี ามวิธกี ารรังวดั เพือ่ ออกโฉนดที่ดนิ โดยใหเ้ จ้าของทีด่ นิ ปกั หลักหมายเขตทดี่ นิ ไว้ทกุ มุมที่ดนิ ของตน (2) ให้เจา้ ของทด่ี ินหรอื ผแู้ ทนให้ถ้อยคาตามแบบ น.ส. 5 ท้ายกฎกระทรวงน้ี (3) กอ่ นแจกโฉนดทดี่ นิ ให้เจา้ พนักงานท่ีดินประกาศการแจกโฉนดทดี่ นิ ใหท้ รามบกี าหนด สามสบิ วัน ประกาศนนั้ ให้ปดิ ไว้ในท่ีเปดิ เผย ณ สานักงานท่ดี นิ ท้องท่สี านักงานเขตหรือ ท่ีว่าการ อาเภอหรอื ทีว่ า่ การกง่ิ อาเภอทอ้ งที่ ทท่ี าการแขวงหรอื ทท่ี าการกานนั ทอ้ งที่ และในบรเิ วณที่ดินนน้ั แห่งละหน่ึงฉบบั ในเขตเทศบาลใหป้ ิดไว้ ณ สานกั งานเทศบาล อกี หน่งึ ฉบับ ขอ้ 16 ในกรณีออกโฉนดทดี่ ินเฉพาะรายตามมาตรา 59 และมาตรา 59 ทวิ แห่ง ประมวลกฎหมายท่ีดิน ซึ่งแก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบับที่ 96 ลงวนั ท่ี 29 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2515 ให้ผู้มสี ทิ ธคิ รอบครองทด่ี นิ ย่ืนคาขอตามแบบ น.ส. 1 ข. ทา้ ยกฎกระทรวงนี้ และให้นาขอ้ 7 (2) ขอ้ 10 (2) และ (3) ข้อ 11 และข้อ 15 มาใชบ้ ังคบั โดยอนุโลม ขอ้ 17 ในการออกใบแทนโฉนดที่ดินให้ดาเนินการดังน้ี (1) ในกรณโี ฉนดท่ดี ินเปน็ อนั ตรายหรอื สูญหาย ใหเ้ จา้ ของทด่ี ินย่นื คาขอและ ปฏิญาณ ตนต่อเจ้าพนักงานทีด่ ินโดยใหน้ าพยานหลักฐานมาให้เจา้ พนกั งานท่ดี นิ ทาการสอบสวน จนเป็นทเ่ี ชือ่ ถอื ได้ และให้เจ้าพนักงานที่ดินประกาศใหท้ ราบมกี าหนดสามสิบวัน ประกาศนน้ั ใหป้ ิดไวใ้ นทเ่ี ปดิ เผย ณ สานกั งานทดี่ ินทอ้ งท่ี สานกั งานเขตหรือที่วา่ การอาเภอหรือทีว่ า่ การ กิ่งอาเภอท้องท่ี ทีท่ าการแขวงหรอื ที่ทาการกานนั ทอ้ งท่ี และในบรเิ วณทีด่ นิ นัน้ แหง่ ละหนงึ่ ฉบับ ในเขตเทศบาลใหป้ ดิ ไว้ ณ สานักงานเทศบาล อกี หนง่ึ ฉบับ ถา้ มีผู้คัดค้านภายในเวลาท่ีกาหนด และนาพยานหลักฐานมาแสดง ใหเ้ จ้าพนักงานทดี่ นิ สอบสวนแลว้ สง่ั การไปตามควรแก่กรณี ถ้าไมม่ ีผ้ใู ดคัดคา้ นภายในเวลาท่ีกาหนด ใหอ้ อกใบแทนให้ไปตามคาขอ (2) ในกรณโี ฉนดท่ดี นิ ชารดุ ถ้าเจ้าของที่ดนิ นาโฉนดทด่ี ินท่ชี ารดุ น้ันมามอบ และ โฉนดทด่ี ินทช่ี ารดุ น้นั ยังมีตาแหน่งที่ดิน เลขทโี่ ฉนดท่ีดนิ ชื่อและตราประจาตาแหน่งของ

207 ผู้ว่าราชการจังหวัด และหรือชอื่ และตราประจาตาแหนง่ ของเจ้าพนักงานท่ีดนิ ตามแบบโฉนดทด่ี นิ ปรากฏอยซู่ ึ่งสามารถตรวจสอบได้ ใหอ้ อกใบแทนให้ไปได้ ถา้ ขาดขอ้ ความสาคญั ดงั กลา่ วให้นา ความใน (1) มาใชบ้ งั คบั (3) ในกรณศี าลมคี าสงั่ หรอื มคี าพิพากษาอันถงึ ท่สี ุดเกีย่ วกบั โฉนดท่ดี ินหรอื ผ้ใู ดมีสิทธิ จดทะเบยี นตามคาพิพากษาของศาล แตไ่ ม่ไดโ้ ฉนดทีด่ นิ มาหรือโฉนดท่ดี ินเดมิ เปน็ อนั ตราย ชารดุ หรอื สูญหายด้วยประการใด ใหผ้ ้มู สี ิทธิจดทะเบียนย่นื คาขอใบแทนแล้วให้ดาเนนิ การตามท่ี กาหนดไว้ใน (1) หรอื (2) แล้วแตก่ รณี (4 ) ในกรณีเจา้ พนักงานผูม้ อี านาจในการยดึ และขายทอดตลาดทดี่ ินของผทู้ ี่คา้ ง ชาระ ภาษอี ากรหรอื เงนิ ค้างจ่ายใด ๆ ตามที่กฎหมายบญั ญัตไิ ว้ ขอใหอ้ อกใบแทนโฉนดทดี่ ินสาหรับ ที่ดนิ ดงั กล่าวซ่ึงเจา้ พนักงานผู้มีอานาจได้ยึดมาขายทอดตลาดแลว้ แต่ไมไ่ ด้โฉนดทีด่ นิ มาหรอื โฉนดท่ดี ินเดมิ เปน็ อันตราย ชารดุ หรอื สูญหายดว้ ยประการใด ให้ถอื หนังสอื ของเจ้าพนกั งาน ดงั กลา่ วเป็นคาขอและดาเนนิ การทานองเดยี วกับท่กี าหนดไว้ใน (3) แตไ่ ม่ตอ้ งสอบสวน (5) ในกรณอี ธบิ ดจี ะใชอ้ านาจจาหนา่ ยทด่ี ินตามประมวลกฎหมายทีด่ ิน แต่ไม่ได้ โฉนดท่ดี นิ มาหรอื โฉนดทด่ี นิ เดมิ เป็นอนั ตราย ชารุด หรอื สญู หายด้วยประการใด ใหด้ าเนนิ การ ทานองเดยี วกับท่ีกาหนดไว้ใน (4) แตไ่ มต่ ้องสอบสวน (6) ในกรณอี ธบิ ดีหรือผ้วู ่าราชการจังหวัดใชอ้ านาจเพิกถอนหรอื แกไ้ ขโฉนดท่ีดินเพิกถอน หรอื แกไ้ ขรายการจดทะเบียนตามมาตรา 61 แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดนิ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2528 แตไ่ มไ่ ด้ โฉนดทด่ี นิ มาหรือโฉนดที่ดนิ เป็นอันตราย ชารุดหรอื สญู หายด้วยประการใด ใหด้ าเนินการ ทานองเดียวกบั ท่ีกาหนดไว้ใน (4) แตไ่ มต่ ้องสอบสวน ในกรณที ่ีไม่ไดโ้ ฉนดทีด่ ินมาตาม (3) (4) (5) และ (6) ใหถ้ ือวา่ โฉนดทด่ี นิ สญู หาย ข้อ 18 ใบแทนโฉนดที่ดินใหใ้ ช้แบบ น.ส. 4 จ. การออกใบแทนโฉนดทีด่ ิน ใหเ้ จ้าพนกั งานท่ดี ินจงั หวัดหรือเจ้าพนกั งานทดี่ นิ จังหวัดสาขา คนปัจจุบนั หรอื เจา้ พนักงานท่ีดินซงึ่ อธบิ ดมี อบหมายลงลายมอื ช่อื และประทบั ตราประจาตาแหนง่ ของเจ้าพนกั งานทีด่ ินเปน็ สาคญั ใหม้ คี าว่า “ใบแทน” ดว้ ยหมึกสีแดงไว้ด้านหน้าของโฉนดทดี่ ิน ในสารบัญจดทะเบยี นให้ระบวุ ัน เดอื น ปี ท่ีออกโฉนดท่ีดินฉบับเดิมดว้ ยหมึกสีแดง ถา้ มีรายการ จดทะเบยี นใหค้ ัดรายการด้วยหมกึ สแี ดงและให้เจ้าพนักงานที่ดนิ ลงลายมอื ช่อื และประทบั ตราใต้ รายการสดุ ทา้ ย ถ้าไม่มรี ายการจดทะเบยี น ให้เจ้าพนกั งานท่ีดินลงลายมือช่ือและประทับตราใต้ วัน เดือน ปี ทอ่ี อกโฉนดทีด่ นิ ฉบบั เดมิ

208 สว่ นโฉนดทด่ี ินฉบับสานักงานท่ีดิน ในสารบัญจดทะเบยี นให้มีคาวา่ “ได้ออกใบแทน โฉนดทีด่ นิ แลว้ ” และวัน เดอื น ปี ทีอ่ อกดว้ ยหมกึ สีแดงกบั ใหเ้ จ้าพนักงานทีด่ นิ ลงลายมือชื่อ กากับไว้ ข้อ 19 ในกรณอี อกโฉนดท่ดี นิ ใหก้ บั บคุ คลตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 ซึ่งไดแ้ จ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 ไว้แล้ว ใหด้ าเนนิ การตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการ ที่กฎกระทรวงนกี้ าหนดไวโ้ ดยอนุโลม ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 22 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2537 เด่น โตะ๊ มนี า รัฐมนตรชี ว่ ยวา่ การฯ ปฏบิ ตั ริ าชการแทน รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 111 ตอนที่ 12 ก วนั ที่ 1 เมษายน 2537) หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับน้ี คือ เนอ่ื งจากไดม้ ีประกาศกระทรวงมหาดไทย ตาม มาตรา 19 แหง่ พระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2528 ยกเลิกอานาจ หนา้ ทข่ี องนายอาเภอเก่ยี วกับการปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายที่ดินในบางทอ้ งทีแ่ ลว้ สมควรปรับปรุงแบบ หลักเกณฑ์ และวิธกี ารออกหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ รวมทั้งใบแทนของหนงั สือแสดงสิทธิในทด่ี ินดังกล่าว เพอ่ื ให้เจ้าพนักงานทด่ี ินสามารถปฏิบตั ิการตามประมวลกฎหมายท่ดี ินได้ นอกจากนี้ หลักเกณฑ์การออกหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์และโฉนดท่ดี ินไดใ้ ชบ้ งั คับมาเปน็ เวลานานแลว้ สมควรปรับปรงุ ใหเ้ หมาะสมกับสภาวการณ์ ในปัจจบุ นั โดยเฉพาะการขอออกหนงั สือรบั รองการทาประโยชนใ์ นพน้ื ที่ปา่ สงวนแห่งชาติ อุทยานแหง่ ชาติ เขต รกั ษาพันธ์สุ ตั วป์ า่ เขตห้ามล่าสตั วป์ า่ และเขตทไี่ ดจ้ าแนกใหเ้ ป็นเขตปา่ ไม้ถาวรตามมตคิ ณะรฐั มนตรี ยังไม่มี มาตรการทีร่ ัดกุมเหมาะสม จงึ สมควรกาหนดใหม้ กี ารตรวจสอบรบั รองจากกรมปา่ ไม้และกรมพฒั นาท่ดี นิ ก่อนออก หนังสือรบั รองการทาประโยชน์ดว้ ย และพร้อมกันน้ี สมควรกาหนดหลักเกณฑก์ ารออกโฉนดทดี่ นิ สาหรับท่เี กาะ เพื่อป้องกันการบกุ รกุ ของราษฎรกบั เพอื่ อนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงน้ี

209

210

211

212

213

214

215

216

217

218

219

220

221

222

223

224

225

226

227

228

229 กฎกระทรวง* ฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนึง่ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ ซ่ึงแกไ้ ขเพิม่ เติมโดย พระราชบญั ญัตแิ ก้ไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2521 รฐั มนตรีวา่ การ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ให้ยกเลกิ ความใน (ก) ของ (7) ในขอ้ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับท่ี 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. 2497 ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 41 (พ.ศ. 2534) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวล กฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้แี ทน “(ก) คา่ จดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรมมีทนุ ทรัพย์ เรียกตามราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยเ์ พ่อื เรียกเก็บ คา่ ธรรมเนยี มจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ร้อยละ 2 * กฎกระทรวงฉบับน้ีถูกยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 46 (พ.ศ. 2540)ฯ

230 ค่าจดทะเบียนโอนอสงั หารมิ ทรพั ยเ์ ฉพาะในกรณีท่ี มูลนิธชิ ัยพฒั นา มลู นิธสิ ่งเสริมศิลปาชพี ในสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ หรอื มลู นิธิ สายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปน็ ผู้รับโอนหรอื ผู้โอน เรียกตามราคาประเมินทนุ ทรพั ย์เพอ่ื เรียกเก็บ คา่ ธรรมเนียมจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิตกิ รรม รอ้ ยละ 0.001” ใหไ้ ว้ ณ วันที่ 30 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2537 พลเอกชวลติ ยงใจยทุ ธ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 111 ตอนที่ 57 ก วนั ที่ 15 ธันวาคม 2537) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยท่ีมูลนธิ สิ ายใจไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์ เป็นมลู นิธิ ทจ่ี ัดต้ังขึน้ โดยมลี ักษณะพิเศษเฉพาะดงั ปรากฏจากวตั ถุประสงคข์ องมลู นิธิ การได้มาซง่ึ ทุนเร่ิมแรก ตลอดจนการ ดารง ตาแหน่งของคณะกรรมการมูลนธิ ิ สมควรกาหนดให้เรียกเกบ็ ค่าธรรมเนียมการจดทะเบยี นโอน อสงั หารมิ ทรัพย์ เฉพาะในกรณที ี่มูลนธิ ิสายใจไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์เป็นผรู้ ับโอนหรือผ้โู อนในอตั ราร้อยละ 0.001 เช่นเดียวกับ ที่กาหนดไวส้ าหรบั มลู นธิ ชิ ยั พัฒนาและมูลนธิ ิส่งเสรมิ ศิลปาชีพ ในสมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ จงึ จาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงนี้

231 กฎกระทรวง ฉบับที่ 45 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญัตใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา8 ตรี วรรคสอง แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน ซ่งึ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยประกาศ ของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ 334 ลงวันท่ี 13 ธนั วาคม พ.ศ. 2515 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ให้ยกเลกิ ความในขอ้ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 26 (พ.ศ. 2516) ออกตามความใน พระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “ ขอ้ 2 เมอ่ื ได้รับคาขอตามขอ้ 1 ใหอ้ ธบิ ดจี ัดให้มกี ารสอบสวนและรงั วดั ทาแผนที่ ตามวธิ ีการรังวดั เพอ่ื ออกหนงั สอื แสดงสทิ ธิในท่ดี นิ และประกาศการออกหนังสอื สาคัญสาหรบั ท่ีหลวง ให้ประชาชนทราบมีกาหนดสามสิบวัน โดยปิดไว้ในทเี่ ปิดเผย ณ สานกั งานทด่ี ินจงั หวดั หรอื สานักงานทด่ี นิ สาขาหน่ึงฉบบั ณ ท่วี ่าการอาเภอหรอื กง่ิ อาเภอท้องท่ีหรือท่ีทาการเขต หนงึ่ ฉบบั ณ ที่ทาการกานนั หน่ึงฉบับ และในบรเิ วณที่ดินน้ันหน่งึ ฉบับ สาหรบั ในเขตเทศบาล ใหป้ ดิ ไว้ ณ สานักงานเทศบาลอกี หนงึ่ ฉบับดว้ ย ในประกาศดังกลา่ วใหม้ แี ผนทแี่ สดงแนวเขตทดี่ นิ ท่ีจะออกหนังสือสาคญั สาหรบั ทหี่ ลวง และกาหนดระยะเวลาทผี่ ูม้ ีส่วนได้เสยี จะคัดค้านไว้ด้วย ซง่ึ ตอ้ งไมน่ อ้ ยกวา่ สามสบิ วนั นับแต่วนั ประกาศ ถา้ ไม่มผี คู้ ดั คา้ น ให้ดาเนนิ การออกหนงั สือสาคญั สาหรับทหี่ ลวงตอ่ ไป ในกรณที มี่ ผี ู้คัดคา้ น ให้อธบิ ดีรอการออกหนังสอื สาคญั สาหรบั ที่หลวงไวแ้ ลว้ ดาเนนิ การ ดงั น้ี (1) ในกรณีทผี่ คู้ ดั ค้านไมม่ หี ลักฐานแสดงสทิ ธิในทดี่ นิ ตามประมวลกฎหมายท่ดี นิ และไมไ่ ปใช้สทิ ธทิ างศาลภายในหกสบิ วนั นบั แตว่ นั ท่ีคัดคา้ น ให้ออกหนงั สอื สาคัญสาหรับท่ีหลวงได้ หากผคู้ ดั ค้านไปใช้สิทธิทางศาลใหร้ อการออกหนงั สอื สาคญั สาหรบั ทห่ี ลวงเฉพาะสว่ นทคี่ ัดคา้ น จนกว่าจะได้มคี าพิพากษาถงึ ทีส่ ุดของศาลแสดงวา่ ผู้คัดค้านไม่มีสิทธใิ น ทดี่ นิ น้นั

232 (2) ในกรณที ผ่ี คู้ ัดคา้ นมีหลกั ฐานแสดงสทิ ธิในทด่ี นิ ตามประมวลกฎหมายที่ดนิ ให้รอการออกหนังสอื สาคญั สาหรับที่หลวงเฉพาะส่วนทคี่ ัดคา้ นไว้ก่อน และใหผ้ ูว้ ่าราชการ จงั หวัดตรวจสอบสทิ ธิในทด่ี ินของผคู้ ดั ค้านวา่ ได้มาโดยชอบดว้ ยกฎหมายหรอื ไม่ ถ้าปรากฏวา่ ได้มาโดยไมช่ อบ ใหอ้ อกหนงั สอื สาคัญสาหรบั ทหี่ ลวงและแจง้ ใหผ้ ู้คดั ค้านทราบภายใน เจ็ดวันนบั แตว่ ันทท่ี ราบผลการตรวจสอบ และถา้ ปรากฏว่าไดม้ าโดยชอบ ให้แจ้งให้ผคู้ ัดคา้ น ทราบโดยเรว็ แล้วระงับการออกหนังสอื สาคญั สาหรบั ทีห่ ลวงเฉพาะส่วนนนั้ ” ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 พลเอกชวลติ ยงใจยทุ ธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 111 ตอนที่ 57 ก วนั ที่ 15 ธันวาคม 2537) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื โดยที่กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 26 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 ไดก้ าหนดหลกั เกณฑ์และวธิ ีการ ออกหนงั สอื สาคัญสาหรับทีห่ ลวงไว้ไมเ่ หมาะสม สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และวธิ ีการดังกลา่ วใหเ้ หมาะสมยิ่งขน้ึ จึงจาเป็นตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี

233 กฎกระทรวง* ฉบับที่ 46 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมาย ทดี่ ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนงึ่ แหง่ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ ซ่งึ แก้ไข เพ่มิ เติมโดย พระราชบัญญตั ิแก้ไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2521 รฐั มนตรีวา่ การ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ 1 ให้ยกเลิกความใน (ก) ของ (7) ในขอ้ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ซึง่ แกไ้ ขเพม่ิ เติม โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิให้ใชป้ ระมวล กฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และให้ใชค้ วามต่อไปนแี้ ทน “(ก) ค่าจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรมมที นุ ทรพั ย์ เรยี กตามราคาประเมินทุนทรัพยต์ ามที่ คณะกรรมการกาหนดราคาประเมินทุนทรัพยก์ าหนด ร้อยละ 2 ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพยเ์ ฉพาะในกรณีที่ องค์การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ บรษิ ัทจากัดทีส่ ถาบันการเงนิ ตามพระราชกฤษฎีกา จัดต้ังองค์การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2540 จัดตัง้ ข้นึ เพื่อดาเนนิ การบริหารสินเชอื่ อสังหาริมทรัพยโ์ ดยความเหน็ ชอบของธนาคาร * กฎกระทรวงฉบับนถี้ กู ยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541) ฯ

234 แห่งประเทศไทย หรอื กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทีไ่ ดร้ ับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. เป็นผูร้ ับโอน ให้เรียกตามราคาประเมิน ทุนทรัพยต์ ามทีค่ ณะกรรมการกาหนดราคา ประเมินทุนทรัพยก์ าหนด ร้อยละ 0.01 แตอ่ ยา่ งสูงไม่เกิน 100,000 บาท ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพยเ์ ฉพาะในกรณีที่ มูลนธิ ิชัยพัฒนา มูลนธิ ิส่งเสรมิ ศิลปาชีพในสมเด็จ พระนางเจ้าสิรกิ ิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ หรอื มูลนธิ ิ สายใจไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์ เป็นผูร้ ับโอนหรอื ผูโ้ อน เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพยต์ ามที่ คณะกรรมการกาหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ กาหนด ร้อยละ 0.001 เศษของหน่ึงบาท ให้คิดเป็นหน่ึงบาท” ขอ้ 2 ให้ยกเลิกความใน (ค) ของ (7) ในขอ้ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. 2497 ซง่ึ แกไ้ ขเพ่ิมเติม โดย กฎกระทรวง ฉบับท่ี 40 (พ.ศ. 2534) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497 และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนแ้ี ทน “(ค) ค่าจดทะเบียนการจานอง หรอื บรุ มิ สทิ ธิ ทีจ่ ดทะเบียน รอ้ ยละ 1 แตอ่ ยา่ งสูงไม่เกิน 200,000 บาท ค่าจดทะเบียนการจานอง หรือบรุ ิมสิทธิ สาหรบั การให้สนิ เชื่อเพือ่ การเกษตรของ สถาบันการเงนิ ทีร่ ัฐมนตรีกาหนด ร้อยละ 0.5 แตอ่ ยา่ งสูงไม่เกิน 100,000 บาท ค่าจดทะเบียนการจานองหรือบรุ ิมสิทธิ สาหรบั กรณีทีอ่ งค์การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ บรษิ ัทจากัดทีส่ ถาบันการเงนิ ตามพระราชกฤษฎีกา จัดต้ังองค์การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2540 จัดต้ังขึน้ เพือ่ ดาเนนิ การบรหิ ารสินเชอ่ื อสังหาริมทรัพยโ์ ดยความเหน็ ชอบของธนาคาร

235 แห่งประเทศไทย หรอื ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เฉพาะส่วนทีเ่ กีย่ วกับการดาเนินงานของ สานกั งานตลาดรองสนิ เชื่อทีอ่ ยู่อาศัย เป็นผูร้ ับจานอง ให้เรียกตามราคาประเมิน ทุนทรัพยท์ ีค่ ณะกรรมการกาหนด ราคาประเมินทุนทรัพยก์ าหนด ร้อยละ 0.01 แตอ่ ยา่ งสูงไม่เกิน 100,000 บาท” ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย เสนาะ เทยี นทอง (ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 114 ตอนท่ี 16 ก วันท่ี 21 พฤษภาคม 2540) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คือ โดยท่ีรฐั บาลมีนโยบายปรบั ลดค่าธรรมเนียมการโอน และการจานองอสังหารมิ ทรพั ย์ เพ่อื สนับสนุนและส่งเสริมการดาเนินการขององค์การบริหารสนิ เชอื่ อสงั หาริมทรัพย์ บริษัทจากัดท่สี ถาบนั การเงนิ ตามพระราชกฤษฎกี าจดั ตั้งองคก์ ารบรหิ ารสนิ เชอื่ อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2540 จัดตงั้ ข้ึน เพ่อื ดาเนินการบริหารสนิ เชอื่ อสังหาริมทรัพย์ กองทนุ รวมอสงั หารมิ ทรัพย์ และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เฉพาะส่วน ที่เกยี่ วกับการดาเนนิ งานของสานกั งานตลาดรองสนิ เชื่อทีอ่ ยูอ่ าศยั ซ่ึงเปน็ มาตรการหนึ่งในการฟ้ืนฟู เศรษฐกิจของประเทศโดยรวม จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงน้ี

236 กฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนงึ่ แห่งประมวลกฎหมายทด่ี ิน ซ่งึ แกไ้ ขเพิ่มเตมิ โดย พระราชบัญญตั ิแก้ไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2521 รฐั มนตรีวา่ การ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ 1 ใหย้ กเลิก (1) กฎกระทรวง ฉบับที่ 32 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 (2) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 37 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ ห้ใช้ ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 (3) กฎกระทรวง ฉบับที่ 41 (พ.ศ. 2534) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 (4) กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 46 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 ข้อ 2 ใหเ้ รยี กเก็บค่าธรรมเนียมดังน้ี (1) ค่าธรรมเนยี มในการขอสมั ปทาน รายละ 500 บาท (2) ค่าสมั ปทานตอ่ ปี ไรล่ ะ 20 บาท เศษของไร่ให้คิดเป็นหน่ึงไร่ (3) ค่าธรรมเนยี มออกหนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ (ก) ท่ดี นิ เนอื้ ทีไ่ ม่เกนิ 20 ไร่ แปลงละ 30 บาท (ข) ทด่ี ินเนือ้ ที่เกิน 20 ไร่ สว่ นที่เกนิ ไรล่ ะ 2 บาท เศษของไร่ให้คิดเป็นหน่ึงไร่

237 (4) ค่าธรรมเนียมการพสิ จู นส์ อบสวนหรอื ตรวจสอบ เนื้อที่เกย่ี วกบั หนังสอื รับรองการทาประโยชน์ (ก) ถ้าเรียกเปน็ รายแปลง แปลงละ 30 บาท (ข) ถา้ เรียกเปน็ รายวัน วนั ละ 30 บาท (ค) คา่ คดั หรอื จาลองแผนท่ี แปลงละ 30 บาท (ง) คา่ คานวณเน้อื ที่หรอื สอบแส แปลงละ 30 บาท (จ) ค่าจบั ระยะ แปลงละ 10 บาท (๕) คา่ ธรรมเนยี มออกโฉนดที่ดนิ (ก) ท่ดี นิ เน้อื ทไี่ มเ่ กิน 20 ไร่ แปลงละ 50 บาท (ข) ท่ดี นิ เนื้อท่ีเกนิ 20 ไร่ สว่ นทีเ่ กนิ ไรล่ ะ 2 บาท เศษของไร่ให้คิดเป็นหน่ึงไร่ (6) คา่ ธรรมเนยี มรังวัดเกย่ี วกับโฉนดทดี่ นิ (ก) ถา้ เรยี กเปน็ รายแปลง แปลงละ 40 บาท (ข) ถ้าเรียกเปน็ รายวัน วันละ 40 บาท (ค) ค่าคัดหรอื จาลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท (ง) ค่าคานวณเนือ้ ทีห่ รอื สอบแส แปลงละ 30 บาท (จ) ค่าจับระยะ แปลงละ 10 บาท (7) ค่าธรรมเนยี มจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรม (ก) ค่าจดทะเบยี นสทิ ธิและนิติกรรมมที ุนทรัพย์ เรยี กตามราคาประเมินทุนทรัพยต์ ามทีค่ ณะกรรมการ กาหนดราคาประเมินทุนทรัพยก์ าหนด ร้อยละ 2 (ข) ค่าจดทะเบยี นโอนอสังหาริมทรพั ย์ เฉพาะในกรณที ี่ องค์การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ หรอื บรษิ ัทจากัด ทีส่ ถาบันการเงนิ ตามพระราชกฤษฎีกาจดั ตัง้ องค์การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2540 จัดต้ังขึน้ เพือ่ ดาเนนิ การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ โดยความเหน็ ชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผูร้ ับโอนหรอื โอนคืน หรอื กรณีทีก่ องทุนรวม อสังหาริมทรัพยท์ ีไ่ ดร้ ับความเหน็ ชอบจาก คณะกรรมการ ก.ล.ต. เปน็ ผู้รบั โอน ใหเ้ รยี กตาม

238 ราคาประเมินทุนทรัพยต์ ามทีค่ ณะกรรมการกาหนด ราคาประเมินทุนทรัพยก์ าหนด รอ้ ยละ 0.01 แตอ่ ยา่ งสูงไม่เกิน 100,000 บาท (มคี วามเพม่ิ ขนึ้ เป็น (ข/1) ของ (7) ในขอ้ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2556)ฯ ดงั ต่อไปนี้) (ข/1) คา่ จดทะเบยี นโอนอสงั หาริมทรัพย์ เฉพาะในกรณีที่ กองทุนรวมโครงสรา้ งพนื้ ฐานทีจ่ ดั ต้งั ขน้ึ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ เปน็ ผู้รบั โอนหรอื ผู้โอนอสังหารมิ ทรัพย์ ท้งั น้ี โดยมีสัญญาการรับโอนอสังหารมิ ทรัพย์น้นั กลับคนื จากกองทนุ รวมโครงสร้างพ้นื ฐาน หรือมีสญั ญาการโอนอสังหาริมทรพั ยน์ ั้น ตอ่ ให้สว่ นราชการหรือองคก์ ารของรฐั บาล ตามประมวลรษั ฎากร ใหเ้ รียกตามราคา ประเมนิ ทนุ ทรพั ยต์ ามท่ีคณะกรรมการ กาหนดราคาประเมินทุนทรัพยก์ าหนด ร้อยละ 0.01 แต่อยา่ งสูงไมเ่ กนิ 100,000 บาท” ((ค) คา่ จดทะเบียนโอนอสงั หารมิ ทรัพย์ เฉพาะในกรณที ี่ มลู นธิ ชิ ัยพฒั นา มลู นธิ สิ ง่ เสรมิ ศิลปาชพี ในสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ์พิ ระบรมราชนิ นี าถ หรอื มลู นธิ ิ สายใจไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ เปน็ ผ้รู ับโอนหรอื ผู้โอน เรยี กตามราคาประเมินทุนทรพั ยต์ ามที่ คณะกรรมการกาหนดราคาประเมนิ ทุนทรัพยก์ าหนด รอ้ ยละ 0.001) (ความใน (ค) ของ (7) ในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ ถูกยกเลกิ โดย กฎกระทรวง ฉบับท่ี 50 (พ.ศ. 2548)ฯ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนแี้ ทน) ((ค) ค่าจดทะเบียนโอนอสงั หารมิ ทรพั ย์ เฉพาะในกรณที ี่ มูลนธิ ชิ ัยพฒั นา มูลนิธิสง่ เสรมิ ศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ มลู นธิ สิ ายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรอื สภากาชาดไทย เปน็ ผูร้ บั โอนหรอื ผู้โอน เรยี กตามราคาประเมินทนุ ทรพั ย์ ตามที่คณะกรรมการกาหนดราคาประเมินทุนทรพั ย์กาหนรด้อยละ 0.001”)

239 (ความใน (ค) ของ (7) ในขอ้ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ ซึง่ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 50 (พ.ศ. 2548)ฯ ถกู ยกเลิกโดยกฎกระทรวงฉบบั ท่ี 54 (พ.ศ. 2553)ฯ และ ให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน (ค) ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรพั ย์ เฉพาะในกรณที ่ี มูลนธิ ิชัยพัฒนา มูลนธิ ิสง่ เสรมิ ศลิ ปาชีพในสมเด็จพระนางเจา้ สริ ิกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มลู นิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์สภากาชาดไทย หรอื มลู นิธิสงเคราะห์เดก็ ของสภากาชาดไทยเปน็ ผู้รบั โอนหรือผโู้ อน เรียกตามราคาประเมนิ ทนุ ทรัพย์ตามที่คณะกรรมการ กาหนดราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยก์ าหนด รอ้ ยละ 0.001 (ง) ค่าจดทะเบยี นโอนมรดกหรือให้ ทงั้ นี้ เฉพาะในระหว่าง ผูบ้ พุ การกี ับผูส้ ืบสันดาน หรอื ระหว่างคูส่ มรส เรยี กตามราคาประเมินทุนทรัพยต์ ามทีค่ ณะกรรมการ กาหนดราคาประเมินทุนทรัพยก์ าหนด รอ้ ยละ 0.5 (จ) ค่าจดทะเบยี นเฉพาะในกรณีที่วดั วาอาราม วัดบาทหลวงโรมันคาธอลิค หรอื มัสยดิ อิสลาม เป็นผูร้ ับให้ เพือ่ ใช้เป็นทีต่ ้ังศาสนสถาน ทัง้ นี้ ในส่วนทีไ่ ดม้ ารวมกับทีด่ นิ ทีม่ ีอยู่ก่อนแล้วไม่เกิน 50 ไร่ เรียกตามราคาประเมินทนุ ทรัพยต์ ามท่ี คณะกรรมการกาหนดราคาประเมินทุนทรัพยก์ าหนด ร้อยละ 0.01 (ฉ) คา่ จดทะเบียนการจานองหรือบรุ ิมสทิ ธิ ร้อยละ 1 แตอ่ ยา่ งสูงไม่เกิน 200,000 บาท (ช) คา่ จดทะเบียนการจานองหรอื บรุ ิมสทิ ธิสาหรับ การให้สนิ เชื่อเพือ่ การเกษตรของสถาบันการเงนิ ทีร่ ัฐมนตรีกาหนด ร้อยละ 0.5 แตอ่ ย่างสูงไมเ่ กิน 100,000 บาท (ซ) คา่ จดทะเบยี นการจานองหรอื บรุ มิ สทิ ธิ เฉพาะในกรณีทีอ่ งค์การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ หรอื บรษิ ัทจากัดทีส่ ถาบันการเงนิ ตามพระราชกฤษฎีกา จัดต้ังองค์การบริหารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2540 จดั ต้ังข้นึ เพือ่ ดาเนินการบริหารสนิ เช่ือ

240 อสังหาริมทรัพยโ์ ดยความเหน็ ชอบของธนาคาร แห่งประเทศไทย เปน็ ผขู้ อจดทะเบียน รอ้ ยละ 0.01 แตอ่ ย่างสงู ไมเ่ กนิ 100,000 บาท (มคี วามเพม่ิ ขึน้ เปน็ (ซ/1) ของ (7) ในข้อ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 47 (พ.ศ. 2541)ฯ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 55 (พ.ศ. 2556)ฯ ดังตอ่ ไปนี้) (ซ/1) คา่ จดทะเบียนการจานอง เฉพาะในกรณที ี่ กองทุนรวมโครงสร้างพน้ื ฐานที่จัดตัง้ ข้นึ ตามกฎหมายว่าดว้ ยหลักทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ เปน็ ผขู้ อจดทะเบยี น ร้อยละ 0.01 แต่อย่างสงู ไม่เกนิ 100,000 บาท” (ฌ) คา่ จดทะเบียนโอนสทิ ธิการรับจานอง เฉพาะในกรณที ี่ สถาบันการเงนิ รบั โอนสิทธิเรียกร้อง จากการขายทรัพยส์ ินเพือ่ ชาระบญั ชีของบริษัท ทีถ่ ูกระงบั การดาเนินกิจการตามมาตรา 30 แห่งพระราชกาหนดการปฏิรปู สถาบันการเงนิ พ.ศ. 2540 เป็นผขู้ อจดทะเบยี น รอ้ ยละ 0.01 แตอ่ ย่างสงู ไมเ่ กิน 100,000 บาท (ญ) ค่าจดทะเบียนการจานอง สาหรับการให้สินเชอ่ื เพือ่ ฟืน้ ฟูความเสยี หายจากอุทกภัย อัคคีภัย วาตภัย หรอื มหันตภัยอืน่ ทัง้ นี้ ตามหลักเกณฑ์ทีร่ ัฐมนตรีกาหนด รอ้ ยละ 0.01 (ฎ) คา่ จดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ และค่าจดทะเบียนการจานอง เฉพาะในกรณีที่ คณะรัฐมนตรีมีมตใิ ห้ลดหยอ่ นค่าธรรมเนียมเป็นพิเศษ เพือ่ ประโยชน์สาธารณะ หรอื ความมัน่ คง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ ทัง้ นี้ ตามหลักเกณฑ์ทีค่ ณะรัฐมนตรีกาหนด ร้อยละ 0.01 (มคี วามเพ่มิ ขึ้นเป็น (ฎ/1) ของ (7) ในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับท่ี 47 (พ.ศ. 2541)ฯ โดย กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 51 (พ.ศ. 2549)ฯ ดังต่อไปน้ี)

241 (ฎ/๑) คา่ จดทะเบียนโอนอสงั หาริมทรพั ย์ เฉพาะ ในกรณที ีธ่ นาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทย โอนอสังหาริมทรัพยใ์ หแ้ ก่ผ้รู ับโอน เนอ่ื งจาก การใหเ้ ชา่ ซือ้ อสงั หารมิ ทรพั ย์ของธนาคารอสิ ลาม แห่งประเทศไทย ใหเ้ รยี กตามราคาประเมนิ ทุนทรัพย์ตามทีค่ ณะกรรมการกาหนดราคา ประเมินทนุ ทรพั ยก์ าหนด ร้อยละ ๑ ((ฏ) ค่าจดทะเบียนทรัพยสิทธิทมี่ ีคา่ ตอบแทน ยกเว้นการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรม ท่มี ที ุนทรพั ยต์ าม (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) และ (ฎ) ร้อยละ 1 ) (ความใน (ฏ) ของ (7) ในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ ถกู ยกเลิกโดย กฎกระทรวง ฉบับที่ 51 (พ.ศ.2549)ฯ และให้ใช้ความตอ่ ไปนีแ้ ทน) ((ฏ) ค่าจดทะเบยี นทรัพยสทิ ธิทม่ี คี ่าตอบแทน ยกเวน้ การจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรม ทีม่ ีทุนทรัพยต์ าม (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) (ฎ) และ (ฎ/๑) ร้อยละ ๑”) (ความใน (ฏ) ของ (7) ในข้อ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ ซง่ึ แกไ้ ขเพิม่ เตมิ โดยกระทรวง ฉบบั ท่ี 51 (พ.ศ. 2549)ฯ ถูกยกเลกิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 55 (พ.ศ. 2556)ฯ และให้ ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน (ฏ) ค่าจดทะเบียนทรพั ยสทิ ธิทมี่ ีคา่ ตอบแทน ยกเวน้ การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม ท่ีมีทนุ ทรพั ย์ตาม (ก) (ข) (ข/1) (ค) (ง) (จ) )(ฎ และ (ฎ/1) รอ้ ยละ 1 (ฐ) ค่าจดทะเบยี นการเชา่ ร้อยละ 1 (มคี วามเพิ่มข้นึ เป็น (ฐ/1) ของ (7) ในขอ้ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ โดย กฎกระทรวง ฉบับท่ี 55 (พ.ศ. 2556)ฯ ดงั ตอ่ ไปน้ี) (ฐ/1) คา่ จดทะเบียนการเช่า เฉพาะในกรณที ี่ กองทนุ รวมโครงสร้างพ้ืนฐานทีจ่ ัดตัง้ ข้นึ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ เป็นผู้เช่า ผ้เู ช่าชว่ ง ผใู้ ห้เชา่ หรอื ผใู้ หเ้ ชา่ ช่วง ร้อยละ 0.01 แต่อย่างสงู ไม่เกิน 100,000 บาท


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook