Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประมวลกฎหมายที่ดิน

ประมวลกฎหมายที่ดิน

Description: ประมวลกฎหมายที่ดิน

Search

Read the Text Version

242 (ฑ) คา่ จดทะเบยี นสิทธิและนิตกิ รรมไม่มีทุนทรัพย์ แปลงละ 50 บาท (8) คา่ ธรรมเนียมการขอใหไ้ ด้มาซง่ึ ทด่ี ินของคนต่างด้าว รายละ 500 บาท ค่าอนญุ าต ไร่ละ 100 บาท เศษของไร่ให้คิดเป็นหน่ึงไร่ (9) ค่าธรรมเนยี มการขอให้ได้มาซงึ่ ทดี่ ินเพื่อการคา้ ที่ดนิ รายละ 500 บาท คา่ อนญุ าต ไรล่ ะ 20 บาท เศษของไรใ่ ห้คดิ เป็นหน่งึ ไร่ ( (10) ค่าธรรมเนียมเบ็ดเตล็ด (ก) คา่ คาขอ แปลงละ 5 บาท (ข) ค่าคัดสาเนาเอกสารต่างๆ รวมทั้งคา่ คดั สาเนา เอกสารเป็นพยานในคดีแพ่ง โดยเจา้ หนา้ ท่เี ปน็ ผู้คดั ร้อยคาแรกหรอื ไมถ่ ึงรอ้ ยคา 10 บาท รอ้ ยคาต่อไป รอ้ ยละ 5 บาท เศษของร้อยใหค้ ดิ เปน็ หน่ึงร้อย (ค) ค่ารบั รองเอกสารทีค่ ดั ฉบบั ละ 10 บาท (ง) คา่ ตรวจหลักฐานทะเบียนทดี่ ิน แปลงละ 10 บาท (จ) คา่ รับอายดั ทดี่ ิน แปลงละ 10 บาท (ฉ) ค่ามอบอานาจ เร่อื งละ 20 บาท (ช) คา่ ออกใบแทนโฉนดทดี่ ินหรอื หนงั สือแสดงสทิ ธิในทดี่ นิ อยา่ งอ่ืน ฉบบั ละ 50 บาท (ซ) คา่ ประกาศ แปลงละ 10 บาท (ณ) ค่าหลกั เขตทด่ี นิ หลกั ละ 15 บาท ถ้าเปน็ การเดินสารวจหรอื สอบเขตทงั้ ตาบล สาหรบั กรณีออกโฉนดคิดเปน็ รายแปลง แปลงละ 60 บาท) (ความใน (10) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541)ฯ ถกู ยกเลิกโดย กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 53 (พ.ศ. 2549)ฯ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน) (10) ค่าธรรมเนยี มเบ็ดเตล็ด (ก) คา่ คาขอ แปลงละ 5 บาท (ข) คา่ คดั สาเนาเอกสารต่างๆ รวมทง้ั คา่ คดั สาเนา เอกสารเปน็ พยานในคดีแพง่ โดยเจ้าหน้าที่ เปน็ ผู้คดั รอ้ ยคาแรกหรือไม่ถึงรอ้ ยคา 10 บาท

243 ร้อยคาต่อไป รอ้ ยละ 5 บาท เศษของร้อยใหค้ ิดเปน็ หนง่ึ ร้อย (ค) คา่ รบั รองเอกสารท่ีคดั ฉบบั ละ 10 บาท (ง) คา่ ตรวจหลักฐานทะเบยี นทดี่ ิน แปลงละ 10 บาท (จ) คา่ รับอายัดทดี่ นิ แปลงละ 10 บาท (ฉ) คา่ มอบอานาจ เร่อื งละ 20 บาท (ช) ค่าออกใบแทนโฉนดที่ดินหรือหนังสือ แสดงสิทธิในทดี่ นิ อยา่ งอ่ืน ฉบบั ละ 50 บาท (ซ) คา่ ประกาศ แปลงละ 10 บาท (ฌ) คา่ หลกั เขตที่ดนิ หลกั ละ 15 บาท ถา้ เปน็ การเดนิ สารวจหรอื สอบเขตทง้ั ตาบล สาหรบั กรณอี อกโฉนดคดิ เปน็ รายแปลง แปลงละ 60 บาท (ญ) ค่าตรวจสอบขอ้ มูลดา้ นงานรังวดั ดา้ นทะเบยี นทด่ี นิ ดา้ นประเมนิ ราคา หรอื ขอ้ มลู อน่ื คร้ังละ 100 บาท (ฎ) คา่ สาเนาจากสอื่ บันทึกข้อมูลทางคอมพวิ เตอร์ หรอื สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ น่ื หรอื สาเนาขอ้ มลู อน่ื แผน่ ละ 50 บาท” ข้อ ๓ ราคาประเมินทุนทรัพย์เพอ่ื เรียกเกบ็ คา่ ธรรมเนียมจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม หรือราคาทุนทรพั ยท์ ีผ่ ูข้ อจดทะเบียนแสดงในการขอจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมตามขอ้ 2 (7) ถ้ามเี ศษตา่ กว่าหนงึ่ รอ้ ยบาทให้คิดเปน็ หน่ึงร้อยบาท การเรียกเกบ็ ค่าธรรมเนียมตามข้อ 2 เศษของหนง่ึ บาทให้คดิ เป็นหนึง่ บาท (ข้อ 4 ค่าใช้จ่าย ให้จา่ ยเท่าท่ีจาเป็น (1) ค่าพาหนะเดินทาง ให้แก่เจ้าพนักงาน ให้จ่ายเทา่ ทจ่ี าเป็น พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ และคนงานท่จี า้ งไป และใชจ้ า่ ยไปจรงิ ทาการรังวัดเก่ยี วกับโฉนดท่ดี ิน หรือ พสิ จู นส์ อบสวนหรอื ตรวจสอบเนื้อท่ี เก่ยี วกับหนังสอื รับรองการทาประโยชน์ตามคาขอ (2) คา่ เบีย้ เลี้ยง ใหแ้ ก่เจ้าพนักงาน พนกั งานเจ้าหนา้ ที่ และค่าจา้ งคนงาน ตามระเบียบของ ท่จี ้างไปทาการรงั วัดเกย่ี วกับโฉนดท่ดี นิ ทางราชการแก่ผ้ไู ปทางาน

244 หรอื พิสจู นส์ อบสวนหรอื ตรวจสอบเนอ้ื ที่ เทา่ อตั ราของทางราชการ เกย่ี วกับหนงั สอื รบั รองการทาประโยชนต์ ามคาขอ (3) ค่าป่วยการ ให้แก่เจา้ พนกั งานผ้ปู กครองท้องที่ หรอื ผ้แู ทนทไี่ ปในการรงั วัดเกย่ี วกับโฉนดท่ดี นิ หรอื พิสจู นส์ อบสวนหรอื ตรวจสอบเนอ้ื ทเี่ กย่ี วกับ หนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ คนหนง่ึ วันละ 30 บาท (4) คา่ ปดิ ประกาศ ใหแ้ ก่ผปู้ ิดประกาศ แปลงละ 10 บาท (5) คา่ พยาน ใหแ้ ก่พยาน คนละ 10 บาท) (ความในขอ้ 4 ถกู ยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 48 (พ.ศ. 2542)ฯ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนีแ้ ทน) ขอ้ 4 ค่าใชจ้ ่าย (1) ค่าพาหนะเดนิ ทางใหแ้ กเ่ จา้ พนักงาน ใหจ้ ่ายในลกั ษณะ พนักงานเจา้ หน้าท่ี และคนงานทจ่ี ้างไป เหมาจ่ายตามระเบียบ ทาการรังวดั เกย่ี วกับโฉนดที่ดิน หรอื กระทรวงมหาดไทย พสิ จู นส์ อบสวน หรอื ตรวจสอบเนื้อที่ ดว้ ยความเหน็ ชอบของ เกี่ยวกับหนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ กระทรวงการคลงั ตามคาขอ (2) ค่าเบย้ี เลย้ี งใหแ้ ก่เจา้ พนกั งาน ใหจ้ ่ายในลกั ษณะ พนกั งานเจา้ หน้าท่ี และค่าจา้ งคนงาน เหมาจา่ ยตามระเบยี บ ท่ีจ้างไปทาการรังวดั เกยี่ วกับโฉนดท่ีดิน กระทรวงมหาดไทย หรือพสิ ูจน์สอบสวน หรอื ตรวจสอบเน้อื ท่ี ด้วยความเหน็ ชอบของ เกย่ี วกบั หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ กระทรวงการคลงั ตามคาขอ (3) ค่าป่วยการใหแ้ ก่เจ้าพนักงานผู้ปกครองทอ้ งที่ หรือผแู้ ทนทไี่ ปในการรังวดั เกย่ี วกับโฉนดที่ดนิ หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเน้ือที่เกีย่ วกบั หนังสือรบั รองการทาประโยชน์ คนหน่ึง วนั ละ 50 บาท (4) คา่ ใชจ้ ่ายอนื่ ๆ ในการรังวดั ใหจ้ ่ายในลกั ษณะ เกีย่ วกับโฉนดทีด่ นิ หรือพสิ ูจน์ เหมาจา่ ยตามระเบียบ สอบสวน หรือตรวจสอบเนื้อที่ กระทรวงมหาดไทย เก่ยี วกับหนังสือรับรอง ดว้ ยความเห็นชอบของ การทาประโยชน์ กระทรวงการคลงั

245 (5) คา่ ปดิ ประกาศให้แกผ่ ปู้ ิดประกาศ แปลงละ 10 บาท (6) คา่ พยานให้แก่พยาน คนละ 10 บาท ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2541 วัฒนา อศั วเหม รฐั มนตรีชว่ ยว่าการฯ ปฏิบตั ริ าชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 115 ตอนท่ี 76 ก วันที่ 26 ตุลาคม 2541) หมายเหต:ุ - เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คอื โดยทีร่ ัฐบาลมนี โยบายปรบั ลดคา่ ธรรมเนียมการจานอง อสังหาริมทรพั ย์เพื่อสนบั สนนุ การขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ ขององค์การเพอ่ื การปฏริ ูประบบสถาบันการเงนิ ให้ได้รับ ความสนใจมากยง่ิ ขึน้ อันจะมีผลทาให้ราคาประมูลซื้อดขี นึ้ นอกจากน้เี พ่ือกาหนดค่าธรรมเนียมการจด ทะเบยี น จานองเพ่ือประกนั การกูย้ ืมเงนิ เพอื่ ฟน้ื ฟคู วามเสยี หายอนั เกิดจากอุทกภยั อคั คีภัย หรอื มหนั ตภัยอน่ื การจด ทะเบียนโอนอสังหารมิ ทรพั ย์ในกรณที ี่องคก์ ารบรหิ ารสินเช่ืออสังหารมิ ทรพั ยห์ รือบรษิ ัทจากัดทส่ี ถาบันการเงนิ ตาม พระราชกฤษฎกี าจดั ตัง้ องค์การบริหารสนิ เชอื่ อสงั หาริมทรพั ย์ พ.ศ. 2540 จดั ตงั้ ขน้ึ เพอื่ ดาเนนิ การบรหิ ารสินเชื่อ อสงั หาริมทรัพย์โดยความเห็นชอบของธนาคารแหง่ ประเทศไทยเปน็ ผู้โอนคนื ให้แก่ผโู้ อน การจดทะเบียนยกทีด่ ิน ให้แกศ่ าสนสถานของศาสนาต่างๆ และการจดทะเบียนทรัพยสทิ ธิท่ีมีค่าตอบแทน การกาหนดราคาประเมินทนุ ทรพั ย์ คา่ จดทะเบยี นการจานองหรือบรุ ิมสทิ ธิทีจ่ ดทะเบยี น ค่าจดทะเบียนทรัพยสทิ ธทิ ี่มคี า่ ตอบแทน และค่าจดทะเบยี น การเช่า และการกาหนดคา่ ธรรมเนียมสาหรับกรณีท่คี ณะรัฐมนตรมี ีมติใหล้ ดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน สทิ ธิและนิติกรรมเป็นพเิ ศษเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือความม่ันคงในทางเศรษฐกจิ ของประชาชน ประกอบกบั กฎกระทรวงวา่ ด้วยอตั ราค่าธรรมเนยี มออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 ได้ใชบ้ ังคับมาตัง้ แต่ พ.ศ. 2522 และไดม้ ีการแก้ไขเพิ่มเตมิ หลายคร้งั สมควรปรับปรุงเปน็ ฉบบั เดียวกนั เพอื่ ประโยชน์ ในการตรวจสอบและอา้ งองิ ของพนกั งานเจา้ หน้าทีแ่ ละประชาชนทั่วไป จงึ จาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงนี้

246 กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 48 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหน่งึ แห่งประมวลกฎหมายทีด่ ิน ซง่ึ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดย พระราชบญั ญัติแก้ไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2521 รัฐมนตรวี า่ การ กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ให้ยกเลกิ ความในขอ้ 4 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความใน พระราชบัญญัตใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และให้ใช้ความต่อไปนแ้ี ทน “ขอ้ 4 ค่าใชจ้ า่ ย (1) คา่ พาหนะเดนิ ทางให้แก่เจา้ พนักงาน ใหจ้ า่ ยในลกั ษณะ พนกั งานเจ้าหนา้ ที่ และคนงานทีจ่ ้างไป เหมาจา่ ยตามระเบียบ ทาการรังวัดเกีย่ วกับโฉนดทีด่ นิ หรอื กระทรวงมหาดไทย พิสจู นส์ อบสวน หรอื ตรวจสอบเน้ือที่ ดว้ ยความเหน็ ชอบของ เกีย่ วกับหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ กระทรวงการคลัง ตามคาขอ (2) คา่ เบยี้ เลีย้ งใหแ้ ก่เจา้ พนักงาน ให้จา่ ยในลกั ษณะ พนกั งานเจ้าหนา้ ที่ และค่าจ้างคนงาน เหมาจา่ ยตามระเบียบ ทีจ่ ้างไปทาการรังวัดเกีย่ วกับโฉนดทีด่ นิ กระทรวงมหาดไทย หรอื พิสจู นส์ อบสวน หรอื ตรวจสอบเน้ือที่ ดว้ ยความเหน็ ชอบของ เกีย่ วกับหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ กระทรวงการคลัง ตามคาขอ

247 (3) ค่าปว่ ยการใหแ้ ก่เจา้ พนกั งานผ้ปู กครองท้องที่ 50 บาท หรอื ผูแ้ ทนทีไ่ ปในการรังวัดเกีย่ วกับโฉนดทีด่ นิ หรอื พิสจู นส์ อบสวน หรอื ตรวจสอบเน้ือทีเ่ กีย่ วกับ หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ คนหน่งึ วันละ (4) ค่าใช้จา่ ยอืน่ ๆ ในการรงั วดั ใหจ้ า่ ยในลกั ษณะ เกีย่ วกับโฉนดทีด่ นิ หรอื พิสจู น์ เหมาจา่ ยตามระเบียบ สอบสวน หรอื ตรวจสอบเน้ือที่ กระทรวงหมาดไทย เกีย่ วกับหนงั สอื รับรอง ด้วยความเหน็ ชอบของ การทาประโยชน์ กระทรวงการคลัง (5) ค่าปดิ ประกาศให้แก่ผู้ปดิ ประกาศ แปลงละ 10 บาท (6) ค่าพยานใหแ้ ก่พยาน คนละ 10 บาท ให้ไว้ ณ วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 วฒั นา อศั วเหม รัฐมนตรีชว่ ยว่าการฯ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 116 ตอนที่ 43 ก วนั ท่ี 1 มถิ ุนายน 2542) หมายเหต:-ุ เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื โดยทีส่ มควรปรับปรงุ คา่ ใชจ้ า่ ยในการรงั วดั เก่ียวกับโฉนดทด่ี นิ หรอื การพสิ ูจนส์ อบสวน หรือตรวจสอบเนื้อทเี่ ก่ยี วกับหนงั สอื รับรองการทาประโยชนใ์ หจ้ า่ ยในลักษณะเหมาจ่าย ตามระเบยี บกระทรวงมหาดไทยด้วยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลัง ทง้ั นี้ เพือ่ ให้สอดคลอ้ งกับการแก้ไขเพ่มิ เตมิ บัญชีอัตราคา่ ธรรมเนยี มและคา่ ใชจ้ ่ายทา้ ยประมวลกฎหมายท่ดี นิ ในสว่ นท่เี กี่ยวกับค่าใช้จา่ ย ตลอดจนปรับปรุง ค่าปว่ ยการเจ้าพนักงานปกครองท้องทีใ่ ห้เหมาะสมกบั สภาวะเศรษฐกจิ ในปจั จุบัน จึงจาเปน็ ต้อง ออกกฎกระทรวงนี้

248 กฎกระทรวง* กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการต้ังคณะกรรมการสอบสวน การสอบสวน การแจง้ ผมู้ สี ว่ นได้เสียเพอ่ื ใหโ้ อกาสคัดค้าน และการพจิ ารณาเพกิ ถอน หรือแกไ้ ขการออกโฉนดที่ดินหรือหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ การจดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรมเกีย่ วกับอสังหาริมทรพั ย์ หรือการจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบยี นอสงั หารมิ ทรัพย์ โดยคลาดเคลอ่ื นหรอื ไมช่ อบด้วยกฎหมาย พ.ศ. 2544 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัติใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซงึ่ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิ ให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบบั ที่ 9) พ.ศ. 2543 อันเปน็ พระราชบัญญัติและประมวลกฎหมาย ท่มี ีบทบญั ญตั บิ างประการเกี่ยวกบั การจากดั สทิ ธแิ ละเสรีภาพของบคุ คล ซ่ึงมาตรา 29 ประกอบ กบั มาตรา 35 และมาตรา 48 ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย บญั ญัตใิ ห้กระทาไดโ้ ดย อาศัยอานาจตามบทบัญญัตแิ หง่ กฎหมาย รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง ไว้ดงั ต่อไปน้ี หมวด 1 การตั้งคณะกรรมการสอบสวนและการสอบสวน ขอ้ 1 เมอ่ื ความปรากฏวา่ ได้มกี ารออกโฉนดท่ดี นิ หรอื หนงั สือรับรองการทาประโยชน์ หรอื การจดทะเบยี นสทิ ธิและนิติกรรมเกีย่ วกับอสังหาริมทรพั ย์ หรือการจดแจ้งเอกสารรายการ จดทะเบยี นอสงั หาริมทรพั ย์ให้แก่ผูใ้ ด โดยคลาดเคลอ่ื นหรือไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย ใหอ้ ธบิ ดหี รอื รองอธบิ ดซี ึ่งอธบิ ดีมอบหมายตงั้ คณะกรรมการสอบสวนขน้ึ คณะหนง่ึ ดังน้ี * กฎกระทรวงฉบับนถ้ี ูกยกเลกิ โดย กฎกระทรวงกาหนดหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการในการสอบสวนและการพิจารณา เพกิ ถอนหรอื แก้ไขการออกโฉนดท่ีดินหรอื หนงั สือรับรองการทาประโยชน์การจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรม หรอื การ จดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบยี นโดยคลาดเคล่ือนหรอื ไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย พ.ศ. 2553

249 (1) กรณกี ารออกโฉนดทีด่ นิ หรือหนงั สือรับรองการทาประโยชนโ์ ดยคลาดเคลือ่ นหรอื ไมช่ อบด้วยกฎหมาย (ก) สาหรบั กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยเจ้าพนักงานท่ีดนิ กรุงเทพมหานคร หรอื เจ้าพนักงานทด่ี นิ กรุงเทพมหานครสาขา หรือข้าราชการสงั กัดกรมทดี่ ินท่อี ธบิ ดีหรือ รองอธิบดีซ่ึงอธบิ ดมี อบหมายเหน็ สมควร เป็นประธาน ผ้วู ่าราชการกรงุ เทพมหานครหรอื ผแู้ ทน ผอู้ านวยการเขตซง่ึ ท่ดี นิ นั้นต้ังอย่หู รอื ผแู้ ทน และผแู้ ทนสว่ นราชการอื่นที่เกยี่ วขอ้ งตามท่เี ห็นสมควร เปน็ กรรมการ และข้าราชการตัง้ แต่ระดับห้าขนึ้ ไปในสานักงานท่ดี นิ จงั หวดั หรือสานักงานท่ดี นิ จงั หวัดสาขา เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร (ข) สาหรบั จังหวดั อ่ืน ประกอบดว้ ยเจ้าพนักงานท่ดี นิ จังหวัดหรอื เจา้ พนักงานทด่ี ิน จังหวัดสาขา หรอื ข้าราชการสงั กดั กรมทด่ี ินทอ่ี ธบิ ดีหรือรองอธิบดซี ึ่งอธบิ ดมี อบหมายเหน็ สมควร เปน็ ประธาน นายอาเภอหรอื ปลัดอาเภอผ้เู ป็นหัวหน้าประจากง่ิ อาเภอซง่ึ ที่ดนิ นั้นตัง้ อยหู่ รอื ผแู้ ทน ตวั แทนคณะผู้บริหารท้องถ่นิ หรือผบู้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ ซงึ่ ที่ดินนั้นต้งั อยูห่ รอื ผ้แู ทน และผแู้ ทน สว่ นราชการอนื่ ทีเ่ กย่ี วข้องตามท่เี ห็นสมควร เป็นกรรมการ และขา้ ราชการตัง้ แต่ระดบั หา้ ข้ึนไป ในสานกั งานที่ดินจงั หวดั หรอื สานกั งานทีด่ นิ จงั หวดั สาขา เป็นกรรมการและเลขานุการ ในกรณที ี่ท่ีดนิ นนั้ มีอาณาเขตติดตอ่ ค าบเกยี่ ว หรืออยู่ในเขตปา่ สงวนแหง่ ชาติ เขตอทุ ยานแห่งชาติ เขตรกั ษาพนั ธุ์สตั วป์ า่ เขตหา้ มลา่ สตั ว์ปา่ หรือเขตทไ่ี ด้จาแนกให้เป็น เขตปา่ ไมถ้ าวรตามมติคณะรฐั มนตรี ให้แตง่ ต้งั ผู้แทนกรมปา่ ไม้ เป็นกรรมการดว้ ย (2) กรณกี ารจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรมเกี่ยวกบั อสังหารมิ ทรพั ย์หรอื การจดแจง้ เอกสาร รายการทะเบยี นอสังหาริมทรัพยโ์ ดยคลาดเคลือ่ นหรอื ไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย (ก) สาหรับกรงุ เทพมหานคร ประกอบด้วยเจา้ พนกั งานท่ีดินกรงุ เทพมหานครหรือ เจ้าพนกั งานทดี่ นิ กรงุ เทพมหานครสาขา หรือข้าราชการสงั กดั กรมที่ดนิ ทอี่ ธบิ ดหี รอื รองอธิบดี ซึ่งอธบิ ดมี อบหมายเหน็ สมควร เป็นประธาน และกรรมการซ่ึงเปน็ ข้าราชการตั้งแต่ระดบั ห้าขนึ้ ไปในสานกั งานทีด่ ินกรงุ เทพมหานครหรือสานกั งานทด่ี ินกรงุ เทพมหานครสาขาอกี สองคน โดยให้กรรมการคนหนึง่ เป็นเลขานกุ าร (ข) สาหรบั จงั หวัดอนื่ ประกอบดว้ ยเจ้าพนักงานท่ีดนิ จงั หวดั หรือเจา้ พนักงานท่ดี นิ จังหวดั สาขา หรอื ข้าราชการสงั กัดกรมทีด่ ินทีอ่ ธิบดีหรอื รองอธิบดีซึ่งอธบิ ดีมอบหมายเห็นสมควร เปน็ ประธาน และกรรมการซ่ึงเป็นข้าราชการตัง้ แต่ระดับห้าขึ้นไปในสานกั งานที่ดนิ จงั หวัดหรือ สานกั งานทีด่ ินจงั หวัดสาขาอกี สองคน โดยใหก้ รรมการคนหนงึ่ เป็นเลขานกุ าร ข้อ 2 ใหค้ ณะกรรมการสอบสวนดาเนนิ การสอบสวนพยานหลกั ฐานใหไ้ ดค้ วามวา่ ได้มี การออกโฉนดท่ดี ินหรอื หนังสอื รับรองการทาประโยชนห์ รอื การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม เก่ยี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย์หรือการจดแจง้ เอกสารรายการทะเบยี นอสงั หารมิ ทรัพย์ทส่ี อบสวนน้นั คลาดเคล่ือนหรอื ไมช่ อบด้วยกฎหมายหรอื ไม่

250 การนัดสอบสวน การนัดพจิ ารณาหรอื การอย่างอื่นทีค่ ณะกรรมการสอบสวนต้องแจ้งให้ ผู้มีส่วนได้เสยี ทราบ ใหก้ ระทาเปน็ หนังสอื ขอ้ 3 ในการสอบสวน ให้คณะกรรมการสอบสวนมอี านาจเรยี กโฉนดทด่ี นิ หนงั สอื รบั รอง การทาประโยชน์ เอกสารที่ได้จดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรม เอกสารทไี่ ดจ้ ดแจง้ รายการทะเบียน อสงั หาริมทรพั ยห์ รอื เอกสารอ่ืนท่ีเก่ยี วขอ้ งจากผู้ยดึ ถือมาประกอบการพจิ ารณาพรอ้ มท้ังแจ้งให้ ผู้มสี ว่ นไดเ้ สียทราบเพอ่ื ให้โอกาสคดั คา้ น เมือ่ คณะกรรมการไดร้ ับเอกสารมาตามวรรคหนึง่ แลว้ ให้ออกใบรับไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีคณะกรรมการสอบสวนไมอ่ าจเรยี กเอกสารมาตามวรรคหนึ่งได้ ให้บันทกึ เหตุผล ไวใ้ นสานวนการสอบสวนทเ่ี สนออธบิ ดหี รอื รองอธบิ ดีซึ่งอธบิ ดมี อบหมายด้วย ข้อ 4 เมอื่ ดาเนินการสอบสวนเสร็จแล้ว ให้คณะกรรมการสอบสวนรายงานผลการสอบสวนนน้ั ตอ่ อธบิ ดีหรอื รองอธบิ ดีซ่งึ อธบิ ดีมอบหมาย ในรายงานผลการสอบสวนตามวรรคหน่ึง ให้สรุปขอ้ เทจ็ จรงิ และเหตุท่มี ีการออกโฉนดท่ดี นิ หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์หรอื การจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ กิ รรมเกี่ยวกบั อสังหารมิ ทรพั ย์ หรือการจดแจ้งเอกสารรายการทะเบียนอสังหารมิ ทรัพย์โดยคลาดเคลือ่ นหรือไมช่ อบด้วย กฎหมายนน้ั รวมท้ังให้เสนอความเหน็ ต่ออธบิ ดหี รือรองอธิบดซี ่งึ อธิบดีมอบหมายดว้ ยว่าสมควร ส่งั เพิกถอนหรือแก้ไขความคลาดเคลอื่ นหรือไมช่ อบด้วยกฎหมายนั้นหรือไม่อยา่ งไร กรรมการสอบสวนผู้ใดมีความเหน็ แย้ง ให้ทาความเห็นแย้งตดิ ไวก้ ับสานวนการสอบสวน โดยให้ถอื เปน็ สว่ นหนึ่งของสานวนการสอบสวนน้ันดว้ ย ข้อ 5 ในกรณีทคี่ ณะกรรมการสอบสวนไม่สามารถดาเนินการสอบสวนใหแ้ ล้วเสร็จ ภายในกาหนดหกสิบวนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดม้ คี าส่งั ให้ดาเนินการสอบสวน ให้คณะกรรมการสอบสวน รายงานเหตุทท่ี าให้การสอบสวนนนั้ ไม่แลว้ เสร็จต่ออธิบดหี รือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมาย เพ่อื ขอขยายระยะเวลาการสอบสวนกอ่ นครบกาหนดระยะเวลาดงั กล่าว ข้อ 6 ภายในสิบหา้ วนั นับแตว่ นั ทไี่ ด้รบั รายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวน ถ้าอธบิ ดหี รือรองอธิบดีซึง่ อธบิ ดมี อบหมายเหน็ สมควรใหม้ กี ารสอบสวนเพม่ิ เติม ให้กาหนดประเดน็ พร้อมท้งั ส่งเอกสารท่เี ก่ยี วขอ้ งไปใหค้ ณะกรรมการสอบสวนคณะเดมิ เพอ่ื ดาเนินการสอบสวน เพ่ิมเตมิ ตอ่ ไป ใหค้ ณะกรรมการสอบสวนดาเนินการสอบสวนเพิ่มเตมิ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้ส่งผล การสอบสวนเพ่ิมเตมิ น้ันไปให้อธิบดหี รือรองอธบิ ดีซ่ึงอธิบดีมอบหมาย

251 หมวด 2 การแจง้ ผูม้ ีสว่ นได้เสียเพื่อให้โอกาสคดั คา้ น ขอ้ 7 ในการสอบสวน ใหค้ ณะกรรมการสอบสวนส่งหนงั สือแจง้ ผ้มู สี ่วนได้เสียเพอ่ื ให้ โอกาสคัดคา้ นการเพกิ ถอนหรอื แกไ้ ขการออกโฉนดท่ดี นิ หรือหนงั สอื รบั รองการทาประโยชนห์ รือ การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมเก่ยี วกบั อสงั หาริมทรัพย์ หรือการจดแจง้ เอกสารรายการ ทะเบียน อสงั หาริมทรพั ย์ที่คลาดเคลื่อนหรือไมช่ อบด้วยกฎหมายนนั้ ข้อ 8 การแจง้ ผ้มู ีส่วนได้เสียเพอ่ื ให้โอกาสคัดคา้ นใหก้ ระทาเปน็ หนงั สโอื ดยส่งทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนตอบรับตามทอ่ี ยทู่ ี่ผมู้ ีส่วนได้เสียได้ให้ไวแ้ กพ่ นกั งานเจา้ หน้าท่ใี นสารบบทดี่ นิ แปลงนั้น ขอ้ 9 ในกรณที ีไ่ มอ่ าจแจง้ ผมู้ สี ว่ นได้เสียเพอ่ื ให้โอกาสคัดคา้ นได้ ใหค้ ณะกรรมการสอบสวน แจง้ ผู้มสี ่วนได้เสียโดยปดิ หนังสือแจง้ ไวใ้ นที่เปิดเผยสามารถเห็นได้ชดั เจน ณ สานักงานทด่ี นิ สานักงานเขต ท่ีวา่ การอาเภอหรอื ทวี่ ่าการกิ่งอาเภอ ทที่ าการแขวงหรือท่ที าการกานนั ท้องท่ี สานักงานหรอื ท่ที าการองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ซ่ึงทดี่ นิ นั้นตั้งอยู่ และในบริเวณทดี่ นิ นน้ั แห่งละหนง่ึ ฉบับ ใหถ้ อื วา่ ผูม้ ีสว่ นได้เสยี ไดร้ ับแจง้ เมื่อลว่ งพ้นระยะเวลาสบิ ห้าวนั นบั แต่วันปดิ หนงั สือแจง้ ขอ้ 10 เมอื่ ผู้มสี ่วนไดเ้ สยี ไดร้ บั แจ้งหรือถือว่าไดร้ ับแจ้งเพอื่ ใหม้ ีโอกาสคดั คา้ นแล้ว และมี ความประสงค์ทจ่ี ะคดั ค้านการเพิกถอนหรือแก้ไขการออกโฉนดที่ดนิ หรือหนังสอื รับรอง การทาประโยชน์หรือการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเกีย่ วกบั อสังหารมิ ทรพั ย์ หรือการจดแจ้ง เอกสารรายการทะเบียนอสงั หาริมทรัพยท์ ีค่ ลาดเคลือ่ นหรอื ไม่ชอบด้วยกฎหมายนัน้ ใหท้ าหนงั สือ คัดค้านยน่ื ต่อประธานคณะกรรมการสอบสวนภายในกาหนดสามสิบวนั นบั แต่วันท่ไี ด้รบั แจ้ง โดยให้ระบเุ หตผุ ลที่คัดคา้ นพร้อมทงั้ แสดงพยานหลกั ฐานท่ีเกี่ยวขอ้ งดว้ ย ถา้ ผ้มู ีสว่ นไดเ้ สยี ไม่คัดคา้ นภายในกาหนดเวลาตามวรรคหน่ึง ให้ถือว่าไมป่ ระสงคท์ จ่ี ะ คดั คา้ น หมวด 3 การส่งั เพกิ ถอนหรือแกไ้ ข ขอ้ 11 เม่ือได้รับรายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนตามข้อ 4 หรือขอ้ 6 แลว้ อธิบดหี รอื รองอธิบดีซ่ึงอธบิ ดมี อบหมายจะพจิ ารณาสง่ั เพิกถอนหรือแกไ้ ข การ ออกโฉนดทีด่ ินหรอื หนังสือรบั รองการทาประโยชน์ หรือการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม

252 เกี่ยวกับอสงั หาริมทรัพย์ หรอื การจดแจง้ เอกสารรายการทะเบยี นอสงั หาริมทรพั ย์ที่คลาดเคลอ่ื น หรอื ไม่ชอบด้วยกฎหมายนนั้ ได้ ต่อเม่ือปรากฏชดั แจง้ ว่าไดม้ กี ารออกโฉนดทด่ี ินหรือหนังสือรับรอง การทาประโยชน์ หรือการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกย่ี วกับอสงั หารมิ ทรัพย์ หรอื การจดแจง้ เอกสารรายการทะเบียนอสังหารมิ ทรพั ยน์ ้ันโดยคลาดเคลือ่ นหรอื ไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย ข้อ 12 ในการออกคาสง่ั เพิกถอนหรือแกไ้ ขการออกโฉนดทด่ี ินหรือหนงั สอื รับรอง การทาประโยชน์หรือการจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรมเกย่ี วกบั อสังหาริมทรพั ย์ หรือการจดแจ้ง เอกสารรายการทะเบยี นอสงั หารมิ ทรัพย์ท่ีคลาดเคล่อื นหรือไมช่ อบดว้ ยกฎหมายตามขอ้ 11 ให้อธิบดีหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายแจ้งคาสั่งดงั กล่าวพรอ้ มดว้ ยเหตุผลให้ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ทราบด้วย ทัง้ นใี้ ห้นาความในขอ้ 7 ขอ้ 8 และข้อ 9 มาใช้บังคบั โดยอนุโลม ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 9 สงิ หาคม พ.ศ. 2544 สมบตั ิ อุทัยสาง รฐั มนตรชี ่วยวา่ การฯ ปฏบิ ตั ิราชการแทน รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 118 ตอนที่ 65 ก วนั ที่ 16 สงิ หาคม 2544) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบบั นี้ คือ โดยทม่ี าตรา 61 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน ซ่ึงแก้ไข เพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2543 บัญญตั ใิ ห้การตง้ั คณะกรรมการสอบสวน การสอบสวน การแจ้งผู้มีสว่ นได้เสยี เพ่อื ให้โอกาสคัดค้าน และการพิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไข ในกรณีท่ีอธิบดหี รือรองอธบิ ดีซึง่ อธบิ ดมี อบหมายสง่ั เพกิ ถอนหรือแกไ้ ขการออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนงั สือรบั รองการทา ประโยชนก์ ารจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมเกยี่ วกับอสงั หาริมทรพั ย์ หรือการจดแจง้ เอกสารรายการจดทะเบยี น อสงั หารมิ ทรัพย์โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่กี าหนดในกฎกระทรวง จึงจาเปน็ ตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี

253 กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 49 (พ.ศ. 2544) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 65 แห่งประมวลกฎหมายที่ดนิ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ให้ยกเลกิ ความใน (1) ของขอ้ 1 แห่งกฎกระทรวง ฉบับท่ี 6 (พ.ศ. 2497) ออกตาม ความในพระราชบญั ญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. 2497 และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน “(1) แผนท่ชี น้ั หน่งึ กระทาโดยการใช้กลอ้ งธโี อโดไลท์และเครื่องมอื วัดระยะโยงยึดหลกั เขต วดั งา่ มมุม ภาคของทศิ หรือใช้กลอ้ งสารวจแบบประมวลผล หรือการรงั วัดดว้ ยเครื่องรบั สัญญาณ ดาวเทียมหรอื ดว้ ยเคร่ืองมอื สารวจประเภทอน่ื ที่มีความละเอยี ดถกู ต้องไมต่ า่ กวา่ เกณฑ์มาตรฐาน ทีก่ รมทดี่ นิ กาหนด โดยคานวณเป็นคา่ พกิ ดั ฉากสืบเน่ืองจากหมุดหลักฐานแผนที่ของกรมทดี่ นิ และคานวณพื้นทโี่ ดยวธิ ีคณติ ศาสตร์จากค่าพิกดั ฉากของแต่ละมุมเขต” ให้ไว้ ณ วนั ที่ 16 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2544 นายสมบตั ิ อุทัยสาง รัฐมนตรีชว่ ยว่าการฯ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 118 ตอนท่ี 108 ก วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื โดยทปี่ ัจจบุ ันหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารรังวดั ทาแผนท่ี ชัน้ หน่ึงเพ่ือออกโฉนดที่ดินตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 6 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 ยงั ไมส่ อดคล้องกบั การนาเทคโนโลยสี มัยใหมม่ าใช้ในการปฏิบตั งิ านด้านการรงั วดั สมควรแกไ้ ขเพ่มิ เติมหลักเกณฑ์และวิธกี ารรังวดั ทาแผนทชี่ ้นั หน่ึงเพ่ือออกโฉนดทดี่ ินให้เหมาะสมและรองรับกับ สภาพการณใ์ นอนาคต จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงน้ี

254 กฎกระทรวง กาหนดหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงอื่ นไข การได้มาซึง่ ที่ดินเพอื่ ใช้เปน็ ท่ีอยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ. 2545 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัติใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ซ่งึ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิ แกไ้ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ท่ี 8) พ.ศ. 2542 อนั เป็นพระราชบัญญัตทิ ี่มบี ทบญั ญัติ บางประการเก่ยี วกบั การจากดั สิทธแิ ละเสรีภาพของบคุ คล ซ่งึ มาตรา 29 ประกอบกบั มาตรา 35 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย บญั ญัตใิ ห้กระทาไดโ้ ดย อาศัยอานาจตามบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ขอ้ 1 คนตา่ งด้าวซง่ึ ประสงค์จะได้มาซง่ึ ทดี่ นิ เพ่ือใช้เป็นที่อยอู่ าศยั โดยไม่ต้องอาศยั บทสนธสิ ญั ญาซึง่ บัญญตั ใิ หม้ ีกรรมสทิ ธ์ิในอสงั หารมิ ทรพั ย์ ต้องนาเงนิ มาลงทนุ ในธรุ กจิ หรอื กิจการประเภทหนง่ึ ประเภทใดดงั ตอ่ ไปนี้ (1) การซอ้ื พนั ธบตั รรัฐบาลไทย พันธบตั รธนาคารแห่งประเทศไทย พนั ธบตั รรัฐวสิ าหกิจ หรอื พันธบตั รทกี่ ระทรวงการคลังคา้ ประกันต้นเงินหรอื ดอกเบยี้ (2) การลงทุนในกองทุนรวมอสงั หาริมทรพั ย์ กองทนุ รวมอสงั หารมิ ทรัพยเ์ พ่ือแก้ไขปญั หา ในระบบสถาบนั การเงนิ หรอื กองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบนั การเงนิ ทจี่ ดั ตั้งขึ้นตาม กฎหมายว่าดว้ ยหลักทรพั ย์และตลาดหลกั ทรัพย์ (3) การลงทุนในทนุ เรือนหนุ้ ของนิติบคุ คลทไ่ี ด้รบั การส่งเสริมการลงทนุ ตามกฎหมาย ว่าดว้ ยการส่งเสรมิ การลงทนุ (4 ) การลงทุนในกิจการทีค่ ณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศให้เป็นกิจการ ท่ีสามารถขอรับการส่งเสริมการลงทนุ ได้ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการสง่ เสริมการลงทนุ จานวนเงินท่ีลงทนุ ในธรุ กจิ หรือกจิ การตามวรรคหนึง่ ต้องมีจานวนไมต่ ่ากวา่ ส่สี ิบล้านบาท และตอ้ งดารงการลงทุนไวไ้ ม่น้อยกวา่ หา้ ปี ขอ้ 2 ท่ดี นิ ทคี่ นต่างดา้ วจะไดม้ าตามข้อ 1 ต้องอยภู่ ายในเขตกรงุ เทพมหานคร เขตเมอื งพทั ยา หรือเขตเทศบาล หรืออยภู่ ายในบรเิ วณท่กี าหนดเปน็ เขตที่อย่อู าศัยตามกฎหมาย ว่าด้วยการผังเมือง และตอ้ งอยนู่ อกเขตปลอดภยั ในราชการทหารตามกฎหมายวา่ ด้วยเขตปลอดภยั ในราชการทหาร

255 ขอ้ 3 การขออนุญาตให้ได้มาซ่ึงทีด่ นิ ตามข้อ 1 ให้ย่นื คาขอตามแบบ ต. 4 ทา้ ย กฎกระทรวงนต้ี อ่ พนกั งานเจ้าหน้าทตี่ ามมาตรา 71 พรอ้ มท้ังเอกสารหลักฐานตามทีก่ าหนด ในแบบ ต. 4 ข้อ 4 เมอื่ พนักงานเจา้ หนา้ ท่ีตามมาตรา 71 ได้รับคาขอพร้อมทง้ั เอกสารหลักฐาน ตามขอ้ 2 และตรวจสอบเอกสารหลกั ฐานดังกลา่ วแลว้ เห็นว่าเป็นเอกสารทถ่ี ูกตอ้ ง และผขู้ ออนุญาต เปน็ คนตา่ งดา้ วซง่ึ อยูใ่ นหลกั เกณฑท์ ี่จะได้มาซึง่ ท่ดี นิ ตามข้อ 1 ได้ ใหส้ ่งเอกสารหลกั ฐานท่เี กย่ี วขอ้ ง ไปยงั อธบิ ดเี พื่อพจิ ารณาเสนอรัฐมนตรตี อ่ ไป ขอ้ 5 เมื่อรฐั มนตรีพิจารณาแล้วมีคาส่ังเปน็ ประการใด ใหพ้ นกั งานเจ้าหนา้ ท่ตี าม มาตรา 71 แจ้งผลการพจิ ารณาเปน็ หนังสือให้ผู้ขออนญุ าตทราบ โดยสง่ ไปยงั ทอี่ ยู่ในประเทศไทย ตามทีแ่ จง้ ไว้ในแบบ ต. 4 ขอ้ 6 ผ้ไู ด้รบั อนุญาตต้องใช้ที่ดนิ นัน้ เพอื่ เป็นท่อี ยู่อาศยั สาหรับตนเองและครอบครวั โดยไมข่ ัดต่อศลี ธรรม จารตี ประเพณี หรอื วิถชี ีวติ อันดีของชมุ ชนในทอ้ งถิ่นนน้ั ข้อ 7 ผไู้ ดร้ บั อนุญาตตอ้ งแจ้งการใช้ท่ีดินนน้ั เพื่อเปน็ ทอี่ ยูอ่ าศยั ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 71 ทราบภายในหกสิบวันนับแตว่ ันทีเ่ รมิ่ ใชท้ ดี่ นิ นั้น ข้อ 8 เมือ่ ไดร้ ับแจ้งเปน็ หนังสือจากพนักงานเจา้ หนา้ ท่ตี ามมาตรา 71 ผู้ได้รับอนุญาต ตอ้ งอานวยความสะดวกแก่พนักงานเจา้ หนา้ ทตี่ ามสมควรในการกากับดูแลการใชท้ ดี่ ินน้ันใหเ้ ป็นไป ตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขที่กฎหมายกาหนด ขอ้ 9 ถ้าผู้ได้รับอนุญาตถอนการลงทนุ ในธรุ กิจหรอื กิจการตามข้อ 1 กอ่ นครบกาหนด เวลาการดารงทุนตามข้อ 1 วรรคสอง ตอ้ งแจ้งเป็นหนังสอื ให้พนักงานเจ้าหน้าทต่ี ามมาตรา 71 ทราบภายในหกสิบวนั นบั แต่วนั ทถี่ อนการลงทุน ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2545 สมบัติ อุทยั สาง รัฐมนตรีชว่ ยว่าการฯ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 119 ตอนท่ี 7 ก วันท่ี 18 มกราคม 2545) หมายเหต:ุ - เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คือ โดยที่มาตรา 96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายท่ดี ินซงึ่ แกไ้ ข เพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบับท่ี 8) พ.ศ. 2542 บญั ญตั ใิ ห้คนต่างด้าวซึง่ นาเงิน มาลงทุนตามจานวนทกี่ าหนดในกฎกระทรวง ซงึ่ ตอ้ งไม่ต่ากวา่ สีส่ บิ ล้านบาท อาจไดม้ าซ่ึงท่ดี นิ เพอ่ื ใชเ้ ป็นทอี่ ยู่อาศยั ได้ โดยไมต่ อ้ งอาศัยบทสนธิสญั ญา ซงึ่ บัญญตั ิให้มีกรรมสิทธ์ใิ นอสังหาริมทรัพย์ และการได้มาซ่งึ ที่ดินของคนตา่ งด้าว ดงั กล่าวตอ้ งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงนี้

256

257

258

259

260 กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 50 (พ.ศ. 2548) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนง่ึ แห่งประมวลกฎหมายทดี่ ิน ซ่งึ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดย พระราชบัญญตั ิแก้ไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. 2521 อนั เป็นพระราชบญั ญัติ ที่มบี ทบญั ญตั บิ างประการเกย่ี วกับการจากัดสิทธแิ ละเสรภี าพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกบั มาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย บญั ญัติให้กระทาได้โดยอาศยั อานาจตามบทบัญญตั แิ ห่งกฎหมาย รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปน้ี ใหย้ กเลกิ ความใน (ค) ของ (๗) ในขอ้ ๒ แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 47 (พ.ศ. 2541) ออกตาม ความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้แี ทน “(ค) คา่ จดทะเบียนโอนอสงั หารมิ ทรพั ย์ เฉพาะในกรณที ี่ มูลนธิ ิชัยพัฒนา มูลนธิ ิส่งเสรมิ ศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ มูลนธิ ิสายใจไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์ หรอื สภากาชาดไทย เปน็ ผรู้ ับโอนหรอื ผูโ้ อน เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ตามท่คี ณะกรรมการกาหนดราคาประเมนิ ทุนทรัพย์กาหนด รอ้ ยละ 0.00*01” ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 12 มกราคม พ.ศ. ๒548 โภคิน พลกุล รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 122 ตอนท่ี 5 ก วนั ท่ี 14 มกราคม 2548) * (แก้คาผดิ ตามราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 122 ตอนท่ี 25 ก วันที่ 18 มีนาคม 2548) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ โดยท่สี ภากาชาดไทยเป็นองค์กรท่ีจัดต้งั ข้ึนตาม พระราชบญั ญัติวา่ ดว้ ยสภากาชาดไทย พระพทุ ธศกั ราช 2461 โดยมีวตั ถปุ ระสงค์ในการสาธารณกุศลเพ่ือกระทากิจ ในทางเมตตาการณุ สมควรกาหนดให้เรยี กเก็บค่าธรรมเนยี มการจดทะเบยี นโอนอสังหาริมทรพั ย์ เฉพาะในกรณี สภากาชาดไทยเปน็ ผรู้ บั โอนหรอื ผ้โู อน ในอตั ราร้อยละ 0.0001 จงึ จาเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

261 กฎกระทรวง ฉบับท่ี 51 (พ.ศ. 2549) ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายทีด่ ิน ซ่งึ แกไ้ ขเพมิ่ เติมโดย พระราชบญั ญัติแก้ไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. 2521 อนั เป็นพระราชบัญญัติ ทม่ี ีบทบญั ญัตบิ างประการเกยี่ วกบั การจากัดสทิ ธิและเสรภี าพของบุคคล ซ่งึ มาตรา 29 ประกอบกบั มาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย บัญญตั ใิ หก้ ระทาไดโ้ ดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปน้ี ข้อ ๑ ให้เพ่ิมความตอ่ ไปนเี้ ปน็ (ฎ/๑) ของ (๗) ในขอ้ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบับท่ี 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิให้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. 2497 “(ฎ/๑ คา่ จดทะเบยี นโอนอสงั หารมิ ทรพั ย์ เฉพาะ ในกรณที ่ีธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โอนอสงั หาริมทรัพย์ใหแ้ ก่ผ้รู ับโอน เนอ่ื งจาก การใหเ้ ชา่ ซ้ืออสงั หารมิ ทรัพยข์ องธนาคารอิสลาม แหง่ ประเทศไทย ให้เรียกตามราคาประเมนิ ทนุ ทรัพย์ตามทีค่ ณะกรรมการกาหนดราคา ประเมนิ ทุนทรพั ย์กาหนด ร้อยละ ๑” ขอ้ 2 ใหย้ กเลิกความใน (ฏ) ของ (๗) ในขอ้ ๒ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนีแ้ ทน

262 “(ฏ) ค่าจดทะเบยี นทรัพยสทิ ธิทม่ี ีคา่ ตอบแทน ยกเว้นการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม ท่ีมีทนุ ทรพั ย์ตาม (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) (ฎ) และ (ฎ/๑) รอ้ ยละ ๑” ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 24 มกราคม พ.ศ. ๒549 พลอากาศเอก คงศักด์ิ วนั ทนา รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 123 ตอนท่ี 10 ก วนั ที่ 31 มกราคม 2549) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยท่ธี นาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทยเป็นธนาคารท่ีตง้ั ขึน้ ตามพระราชบญั ญตั ธิ นาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. 2545 มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจทางการเงินและ ประกอบกิจการอ่นื ใหส้ อดคล้องกับหลักการของศาสนาอสิ ลามซง่ึ ห้ามมใิ ห้ดาเนนิ ธรุ กิจทางการเงินทีผ่ ูกพนั กบั ดอกเบี้ย ธนาคารจึงต้องดาเนนิ การจดั หาส่งิ ที่ลูกค้าต้องการทัง้ สนิ ทรพั ยห์ มุนเวียนและอสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ทนการให้เปน็ ตวั เงนิ ทาใหก้ ารทาธุรกรรมการให้สนิ เชอื่ เพือ่ การซอื้ อสงั หาริมทรพั ยเ์ กิดภาระภาษีธุรกจิ เฉพาะและคา่ ธรรมเนยี มการโอน กรรมสทิ ธิถ์ งึ สองคร้งั เป็นเหตุให้คา่ ใช้จ่ายโดยรวมสงู กว่าการให้สินเช่อื ของธนาคารพาณิชยท์ ่วั ไป ดงั น้ัน เพ่ือเป็นการ ลดภาระค่าใช้จ่ายของลกู ค้าอนั เป็นการส่งเสรมิ ให้ประชาชนมที อ่ี ย่อู าศยั เป็นของตนเอง และเปน็ การสง่ เสริมการดาเนิน ธุรกิจของธนาคารอสิ ลามแห่งประเทศไทย สมควรกาหนดให้เรยี กเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบยี นโอนอสงั หารมิ ทรพั ย์ เฉพาะในกรณีท่ธี นาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทยโอนอสังหารมิ ทรัพยใ์ หแ้ กผ่ ู้รับโอนเน่ืองจากการใหเ้ ช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ของธนาคารอสิ ลามแห่งประเทศไทย ในอตั รารอ้ ยละหน่งึ จงึ จาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงนี้

263 กฎกระทรวง ฉบับที่ 52 (พ.ศ. 2549) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา77 แห่งประมวลกฎหมายท่ดี นิ อันเปน็ กฎหมายทม่ี ีบทบญั ญตั ิบางประการ เก่ยี วกบั การจากดั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คล ซงึ่ มาตรา 29 ประกอบกบั มาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ิให้กระทาได้ โดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญตั แิ ห่งกฎหมาย รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๑ ให้ยกเลกิ ความในขอ้ ๑ แห่งกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๗ (พ.ศ. 2497) ออกตาม ความในพระราชบัญญตั ิให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 ซง่ึ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 42 (พ.ศ. 2536) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน “ขอ้ ๑ ภายใตบ้ ังคบั ขอ้ 8 และข้อ 9 บคุ คลใดมีความประสงค์จะขอทาการจดทะเบยี น สทิ ธิและนิติกรรม ให้บุคคลนั้นยนื่ คาขอตามแบบ ท.ด. ๑ สาหรบั ที่ดินท่มี ีโฉนดทด่ี นิ หรอื แบบ ท.ด. ๑ ก สาหรบั ทด่ี ินท่ยี ังไมม่ โี ฉนดทดี่ ินและอสังหารมิ ทรพั ยอ์ ยา่ งอนื่ พรอ้ มทัง้ แนบหนังสือ แสดงสิทธใิ นท่ดี นิ หรอื หลักฐานอยา่ งอ่นื ต่อพนักงานเจา้ หน้าที่ แบบ ท.ด. 1 และแบบ ท.ด. ๑ ก ตามวรรคหน่งึ ให้เป็นไปตามทอ่ี ธิบดปี ระกาศกาหนด” ขอ้ ๒ ให้ยกเลกิ แบบคาขอจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม ท.ด. ๑ และ ท.ด. ๑ ก ทา้ ยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๗ (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ้ ชป้ ระมวล กฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ซ่ึงแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 42 (พ.ศ. 2536) ออกตาม ความในพระราชบัญญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ขอ้ ๓ แบบคาขอจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม ท.ด. ๑ และ ท.ด. ๑ ก ทา้ ยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 7 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497 ซึง่ แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี 42 (พ.ศ. 2536) ออกตามความในพระราชบญั ญัติ

264 ให้ใช้ประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497 ให้ใช้ต่อไปได้จนกว่าอธบิ ดีจะไดป้ ระกาศกาหนด แบบคาขอใหม่ ข้อ ๔ กฎกระทรวงนใี้ หใ้ ช้บังคับเมอ่ื พน้ กาหนดหกสิบวันนับแตว่ ันประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป ให้ไว้ ณ วนั ที่ 21 มิถนุ ายน พ.ศ. ๒549 พลอากาศเอก คงศกั ด์ิ วนั ทนา รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 123 ตอนที่ 70 ก หนา้ 28 วนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2549) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั น้ี คอื โดยท่เี ปน็ การสมควรกาหนดใหอ้ ธิบดกี รมทด่ี นิ เปน็ ผปู้ ระกาศกาหนดแบบคาขอจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ ิกรรมสาหรับที่ดนิ ทม่ี โี ฉนดท่ดี นิ (แบบ ท.ด.๑) และสาหรับ ท่ดี ินที่ยงั ไม่มโี ฉนดทด่ี ินและอสงั หารมิ ทรัพย์อย่างอ่นื (แบบ ท.ด.๑ ก) เพอื่ ใหก้ ารเปลยี่ นแปลงแบบคาขอจดทะเบียน สทิ ธิและนติ ิกรรมดงั กล่าวกระทาไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและสอดคล้องกบั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศที่นามาใช้กบั ระบบ ทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรมในการใหบ้ รกิ ารแก่ประชาชน สมควรแกไ้ ขหลักเกณฑ์การกาหนดแบบคาขอจดทะเบยี น สิทธิและนิตกิ รรมในกรณดี ังกลา่ ว จงึ จาเป็นต้องออกกฎกระทรวงน้ี

265 กฎกระทรวง ฉบับที่ 53 (พ.ศ. 2549) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหน่ึง แห่งประมวลกฎหมาย ทีด่ นิ ซง่ึ แกไ้ ขเพิม่ เตมิ โดย พระราชบัญญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. 2521 อันเป็นกฎหมาย ทมี่ บี ทบญั ญตั บิ างประการเก่ยี วกับการจากดั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คล ซงึ่ มาตรา 29 ประกอบกับ มาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บัญญัตใิ หก้ ระทาไดโ้ ดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัตแิ ห่งกฎหมาย รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้ ใหย้ กเลกิ ความใน (10) ของข้อ ๒ แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 47 (พ.ศ. 2541) ออกตาม ความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497 และให้ใชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน “(10) คา่ ธรรมเนียมเบด็ เตลด็ (ก) ค่าคาขอ แปลงละ 5 บาท (ข) คา่ คดั สาเนาเอกสารตา่ งๆ รวมทงั้ ค่าคดั สาเนา เอกสารเปน็ พยานในคดแี พ่งโดยเจ้าหนา้ ที่ เป็นผูค้ ัด ร้อยคาแรกหรอื ไม่ถึงร้อยคา 10 บาท ร้อยคาตอ่ ไป รอ้ ยละ 5 บาท เศษของร้อยให้คิดเป็นหน่ึงร้อย (ค) ค่ารบั รองเอกสารทคี่ ัด ฉบบั ละ 10 บาท (ง) ค่าตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี ิน แปลงละ 10 บาท (จ) คา่ รับอายัดที่ดนิ แปลงละ 10 บาท (ฉ) ค่ามอบอานาจ เร่ืองละ 20 บาท (ช) ค่าออกใบแทนโฉนดทดี่ ินหรอื หนังสือ แสดงสิทธิในทีด่ นิ อยา่ งอืน่ ฉบบั ละ 50 บาท (ซ) คา่ ประกาศ แปลงละ 10 บาท

266 (ฌ) คา่ หลกั เขตทดี่ ิน หลกั ละ 15 บาท ถ้าเป็นการเดนิ สารวจหรอื สอบเขตทัง้ ตาบล สาหรบั กรณีออกโฉนดคิดเป็นรายแปลง แปลงละ 60 บาท (ญ) คา่ ตรวจสอบข้อมูลดา้ นงานรังวดั ดา้ นทะเบียนทีด่ นิ ด้านประเมินราคา หรอื ข้อมูลอืน่ ครงั้ ละ 100 บาท (ฎ) คา่ สาเนาจากสื่อบนั ทึกขอ้ มลู ทางคอมพวิ เตอร์ หรอื สือ่ อิเล็กทรอนกิ ส์อืน่ หรอื สาเนาข้อมูลอืน่ แผ่นละ 50 บาท” ใหไ้ ว้ ณ วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. ๒549 พลอากาศเอก คงศกั ด์ิ วนั ทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 123 ตอนที่ 89 ก วันท่ี 1 กันยายน 2549) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบบั นี้ คือ โดยท่ีเป็นการสมควรกาหนดคา่ ธรรมเนียมเบด็ เตลด็ เกี่ยวกับคา่ ตรวจสอบขอ้ มลู ดา้ นงานรงั วัด ด้านทะเบียนทด่ี นิ ดา้ นประเมนิ ราคา หรือขอ้ มูลอื่น และคา่ สาเนาจาก ส่ือบนั ทกึ ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์หรือสอื่ อิเล็กทรอนิกส์อ่นื หรอื สาเนาข้อมลู อื่น เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับ การแกไ้ ข เพ่ิมเตมิ บญั ชีอตั ราคา่ ธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายท้ายประมวลกฎหมายทีด่ ิน ซ่ึงแก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิ แกไ้ ข เพ่มิ เติมประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบบั ท่ี 9) พ.ศ. 2543 และใหเ้ หมาะสมกบั สภาวการณ์ในปจั จบุ นั ทมี่ ีการนา เทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ในการใหบ้ ริการแกป่ ระชาชน จงึ จาเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

267 กฎกระทรวง ฉบับท่ี 54 (พ.ศ. 2553) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัติให้ใชป้ ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ ซ่งึ แก้ไขเพ่ิมเติมโดย พระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2521 อันเป็นกฎหมาย ที่มีบทบัญญตั บิ างประการเกี่ยวกับการจากดั สทิ ธแิ ละเสรีภาพของบคุ คล ซ่ึงมาตรา 29 ประกอบกับ มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 และมาตรา 43 ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ิให้กระทาได้โดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ให้ยกเลิกความใน (ค) ของ (7) ในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 ซึง่ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 50 (พ.ศ. 2548) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิให้ใช้ประมวล กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน “(ค) คา่ จดทะเบียนโอนอสงั หาริมทรพั ย์ เฉพาะในกรณที ่ี มูลนธิ ิชัยพัฒนา มูลนธิ ิส่งเสรมิ ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ มูลนธิ ิสายใจไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์สภากาชาดไทย หรอื มูลนธิ ิสงเคราะห์เดก็ ของสภากาชาดไทยเปน็ ผรู้ ับโอนหรอื ผูโ้ อน เรยี กตามราคาประเมินทุนทรัพยต์ ามทีค่ ณะกรรมการ กาหนดราคาประเมินทุนทรัพยก์ าหนด ร้อยละ 0.001” ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553 ถาวร เสนเนยี ม รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ปฏิบตั ริ าชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 127 ตอนท่ี 7 ก วนั ท่ี 28 มกราคม 2553)

268 หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับน้ี คอื โดยทมี่ ลู นิธสิ งเคราะหเ์ ดก็ ของสภากาชาดไทย เป็นมลู นิธทิ จี่ ดั ตง้ั โดยมลี ักษณะพเิ ศษเฉพาะดงั ปรากฏจากวตั ถุประสงคข์ องมูลนิธิ สมควรกาหนดให้เรยี กเก็บ ค่าธรรมเนยี มการจดทะเบยี นโอนอสังหารมิ ทรพั ย์ เฉพาะในกรณมี ูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เป็นผรู้ บั โอน หรอื ผโู้ อนอตั รารอ้ ยละ 0.001 เช่น เดยี วกับท่ีกาหนดไว้สาหรับมลู นิธิชัยพฒั นา มลู นธิ ิส่งเสริมศลิ ปาชพี ในสมเดจ็ พระ นางเจ้าสริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ และมูลนิธสิ ายใจไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ จงึ จาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงนี้

269 กฎกระทรวง กาหนดหลักเกณฑ์และวธิ กี ารในการสอบสวน และการพิจารณาเพกิ ถอนหรือแก้ไขการออกโฉนดทด่ี ินหรอื หนังสือรบั รองการทาประโยชน์ การจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรม หรือการจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียน โดยคลาดเคลอ่ื นหรอื ไมช่ อบด้วยกฎหมาย พ.ศ. 2553 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบญั ญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 และมาตรา 61 วรรคเกา้ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซ่ึงแก้ไขเพ่มิ เตมิ โดย พระราชบัญญตั แิ ก้ไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ท่ี 11) พ.ศ. 2551 อันเป็นกฎหมาย ทีม่ ีบทบญั ญัตบิ างประการเก่ียวกับการจากัดสทิ ธแิ ละเสรีภาพของบุคคล ซึง่ มาตรา 29 ประกอกบบั มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 และมาตรา 43 ของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บญั ญัตใิ ห้กระทาได้โดยอาศยั อานาจตามบทบญั ญัติแห่งกฎหมาย รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ใหย้ กเลกิ กฎกระทรวงกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารในการต้งั คณะกรรมการ สอบสวน การสอบสวน การแจง้ ผู้มสี ว่ นไดเ้ สียเพ่อื ให้โอกาสคัดค้าน และการพิจารณาเพกิ ถอน หรอื แก้ไขการออกโฉนดที่ดนิ หรือหนังสอื รับรองการทาประโยชน์ การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรม เก่ียวกับอสงั หารมิ ทรัพย์ หรอื การจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนอสงั หาริมทรัพยโ์ ดยคลาดเคล่อื น หรอื ไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย พ.ศ. 2544 หมวด 1 การต้ังคณะกรรมการสอบสวนและการสอบสวน ข้อ 2 เมอื่ ความปรากฏว่าไดม้ ีการออกโฉนดที่ดินหรอื หนังสอื รับรองการทาประโยชน์ หรือจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเกยี่ วกบั อสงั หาริมทรพั ย์ หรือการจดแจ้งเอกสารรายการ จดทะเบยี นอสงั หาริมทรพั ยใ์ หแ้ กผ่ ้ใู ดโดยคลาดเคล่อื นหรือไมช่ อบด้วยกฎหมาย ใหอ้ ธบิ ดีหรือ

270 ผู้ซึ่งอธบิ ดีมอบหมายซึ่งดารงตาแหนง่ รองอธบิ ดีหรือผูต้ รวจราชการกรมที่ดินตง้ั คณะกรรมการ สอบสวนขึน้ คณะหน่ึงดงั ต่อไปน้ี (1) กรณีการออกโฉนดท่ดี ินหรือหนงั สือรับรองการทาประโยชน์โดยคลาดเคลื่อน หรอื ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ก) สาหรบั กรงุ เทพมหานคร ประกอบดว้ ย เจา้ พนักงานท่ดี นิ กรงุ เทพมหานคร หรอื เจา้ พนักงานทด่ี ินกรุงเทพมหานครสาขา หรอื ข้าราชการสังกดั กรมทีด่ ินที่อธิบดีหรอื ผูซ้ ึ่งอธบิ ดมี อบหมายซง่ึ ดารงตาแหนง่ รองอธบิ ดีหรือผตู้ รวจราชการกรมท่ดี นิ เหน็ สมควร เป็น ประธานกรรมการ ผวู้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานคร ผ้อู านวยการเขตซึง่ ทด่ี นิ นนั้ ต้ังอยู่ และ ผ้แู ทนสว่ นราชการอน่ื ทเ่ี ก่ียวข้องตามทเ่ี หน็ สมควร เป็นกรรมการ และให้อธิบดีหรือผซู้ งึ่ อธิบดี มอบหมายซ่งึ ดารงตาแหนง่ รองอธิบดหี รอื ผ้ตู รวจราชการกรมท่ีดินแต่งตั้งขา้ ราชการซง่ึ ดารงตาแหนง่ ประเภทท่วั ไปต้งั แตร่ ะดับชานาญงานข้ึนไปหรอื ขา้ ราชการซ่งึ ดารงตาแหน่งประเภท วชิ าการต้ังแตร่ ะดบั ชานาญการขึน้ ไปในสานกั งานที่ดนิ กรุงเทพมหานครหรอื สานักงานทดี่ นิ กรงุ เทพมหานครสาขา เปน็ กรรมการและเลขานุการ (ข) สาหรบั จงั หวัดอื่น ประกอบด้วย เจ้าพนักงานทดี่ นิ จงั หวดั หรือเจ้าพนกั งานที่ดนิ จงั หวดั สาขา หรือข้าราชการสังกดั กรมท่ดี ินทอ่ี ธิบดหี รอื ผซู้ ง่ึ อธิบดีมอบหมายซ่งึ ดารงตาแหน่ง รองอธิบดีหรือผู้ตรวจราชการกรมทดี่ นิ เหน็ สมควร เป็นประธานกรรมการ นายอาเภอหรือปลัดอาเภอ ผเู้ ปน็ หัวหน้าประจาก่งิ อาเภอซ่งึ ท่ีดนิ นนั้ ตงั้ อยู่ ตวั แทนคณะผู้บรหิ ารท้องถ่ินหรอื ผ้บู ริหารท้องถิน่ ซง่ึ ทด่ี ินนนั้ ตัง้ อยู่ และผูแ้ ทนสว่ นราชการอนื่ ที่เก่ยี วข้องตามที่เห็นสมควร เปน็ กรรมการ และ ให้อธบิ ดีหรือผู้ซึง่ อธบิ ดมี อบหมายซึง่ ดารงตาแหน่งรองอธิบดหี รอื ผู้ตรวจราชการกรมทดี่ ินแต่งต้ัง ขา้ ราชการซึ่งดารงตาแหน่งประเภททวั่ ไปต้ังแตร่ ะดบั ชานาญงานขนึ้ ไปหรอื ข้าราชการซ่ึงดารง ตาแหน่งประเภทวิชาการตัง้ แตร่ ะดับชานาญการขึ้นไปในสานกั งานทดี่ ินจังหวดั หรือสานกั งานท่ีดนิ จังหวัดสาขา เป็นกรรมการและเลขานุการ ในกรณีทท่ี ดี่ นิ น้นั มีอาณาเขตติดต่อ คาบเกย่ี ว หรอื อยใู่ นเขตทีไ่ ดจ้ าแนก ให้เปน็ เขตป่าไม้ถาวรตามมตคิ ณะรัฐมนตรี เขตปา่ สงวนแหง่ ชาติ เขตอุทยานแหง่ ชาติ เขตรักษา พนั ธุ์ สตั ว์ปา่ หรอื เขตหา้ มล่าสัตว์ป่า ใหแ้ ตง่ ต้ังผแู้ ทนกรมพฒั นาท่ีดิน ผูแ้ ทนกรมปา่ ไม้ หรือ ผ้แู ทน กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั ว์ปา่ และพันธุ์พชื เปน็ กรรมการด้วย แลว้ แต่กรณี (2) กรณีการจดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรมเกยี่ วกบั อสังหาริมทรัพย์ หรือการจดแจ้ง เอกสารรายการจดทะเบยี นอสังหาริมทรพั ยโ์ ดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย (ก) สาหรบั กรงุ เทพมหานคร ประกอบด้วย เจา้ พนกั งานท่ีดินกรุงเทพมหานคร หรือ เจ้าพนกั งานทดี่ นิ กรุงเทพมหานครสาขา หรอื ขา้ ราชการสงั กัดกรมทด่ี ินทอ่ี ธบิ ดหี รือผูซ้ ่ึงอธบิ ดี

271 มอบหมายซึง่ ดารงตาแหน่งรองอธิบดหี รือผูต้ รวจราชการกรมทดี่ ินเหน็ สมควร เป็นประธานกรรมการ และให้อธิบดีหรือผู้ซงึ่ อธบิ ดีมอบหมายซ่งึ ดารงตาแหน่งรองอธิบดีหรือผตู้ รวจราชการกรมที่ดิน แตง่ ตั้งขา้ ราชการซงึ่ ดารงตาแหน่งประเภททัว่ ไปตง้ั แตร่ ะดบั ชานาญงานข้นึ ไปหรือข้าราชการ ซง่ึ ดารงตาแหนง่ ประเภทวชิ าการตง้ั แตร่ ะดบั ชานาญการขน้ึ ไปในสานักงานทด่ี นิ กรงุ เทพมหานคร หรอื สานักงานที่ดินกรงุ เทพมหานครสาขาจานวนสองคน เปน็ กรรมการ โดยใหก้ รรมการคนหนึง่ เปน็ เลขานุการ (ข) สาหรบั จงั หวัดอืน่ ประกอบดว้ ย เจา้ พนักงานท่ดี ินจังหวัดหรือเจ้าพนกั งานท่ดี นิ จงั หวัดสาขา หรือขา้ ราชการสังกดั กรมทดี่ นิ ท่อี ธบิ ดหี รอื ผูซ้ ่ึงอธบิ ดมี อบหมายซึง่ ดารงตาแหน่ง รองอธบิ ดหี รอื ผตู้ รวจราชการกรมที่ดนิ เห็นสมควร เปน็ ประธานกรรมการ และให้อธิบดีหรอื ผซู้ งึ่ อธบิ ดมี อบหมายซ่งึ ดารงตาแหนง่ รองอธบิ ดหี รือผตู้ รวจราชการกรมที่ดินแต่งต้ังข้าราชการ ซง่ึ ดารงตาแหน่งประเภทท่ัวไปตง้ั แต่ระดบั ชานาญงานข้ึนไปหรือข้าราชการซงึ่ ดารงตาแหน่ง ประเภทวิชาการตั้งแตร่ ะดับชานาญการขนึ้ ไปในสานักงานท่ีดินจงั หวัดหรอื สานักงานท่ีดินจังหวัด สาขาจานวนสองคน เป็นกรรมการ โดยให้กรรมการคนหนึ่งเป็นเลขานุการ ข้อ 3 ให้คณะกรรมการสอบสวนดาเนนิ การสอบสวนพยานหลักฐานให้ไดค้ วามวา่ ได้มี การออกโฉนดที่ดินหรอื หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ หรือการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ กิ รรม เกย่ี วกับอสงั หาริมทรัพย์ หรือการจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบยี นอสังหาริมทรพั ยท์ ส่ี อบสวนนน้ั คลาดเคลื่อนหรือไมช่ อบด้วยกฎหมายหรือไม่ การนัดสอบสวน การนัดพิจารณาหรือการอยา่ งอืน่ ท่ีคณะกรรมการสอบสวนตอ้ งแจ้ง เป็นหนังสอื ใหผ้ ูม้ สี ว่ นไดเ้ สียทราบ ขอ้ 4 ในการสอบสวน ใหค้ ณะกรรมการสอบสวนมอี านาจเรียกโฉนดทด่ี ิน หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ เอกสารทีไ่ ดจ้ ดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรม เอกสารท่ีได้จดแจ้งรายการ ทะเบียนอสังหารมิ ทรพั ยห์ รอื เอกสารอน่ื ที่เก่ยี วขอ้ งจากผยู้ ดึ ถอื มาประกอบการพจิ ารณา พรอ้ มท้งั แจง้ ให้ผมู้ ีส่วนไดเ้ สียทราบเพอ่ื ใหโ้ อกาสคัดคา้ น เม่อื คณะกรรมการไดร้ ับเอกสารมาตามวรรคหนง่ึ แล้ว ให้ออกใบรบั ไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีท่ีคณะกรรมการสอบสวนไม่อาจเรยี กเอกสารมาตามวรรคหน่งึ ได้ ใหบ้ ันทึก เหตุผลไว้ในสานวนการสอบสวนที่เสนออธบิ ดีหรอื ผซู้ ่ึงอธิบดมี อบหมายซงึ่ ดารงตาแหน่งรองอธบิ ดี หรอื ผตู้ รวจราชการกรมที่ดนิ ดว้ ย ข้อ 5 เมอื่ ดาเนนิ การสอบสวนเสร็จแล้ว ให้คณะกรรมการสอบสวนรายงานผล การสอบสวนนนั้ ต่ออธบิ ดหี รือผซู้ ่งึ อธิบดีมอบหมายซ่ึงดารงตาแหน่งรองอธบิ ดีหรอื ผตู้ รวจราชการ กรมท่ดี ิน

272 ในรายงานผลการสอบสวนตามวรรคหน่ึง ใหส้ รุปขอ้ เทจ็ จริงและเหตุทีม่ ีการออก โฉนด ท่ดี นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ หรอื การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกยี่ วกบั อสังหาริมทรัพย์หรือการจดแจง้ เอกสารรายการจดทะเบียนอสงั หารมิ ทรัพย์โดยคลาดเคลอ่ื น หรือไม่ชอบดว้ ยกฎหมายนั้น รวมทง้ั ใหเ้ สนอความเหน็ ตอ่ อธบิ ดีหรอื ผูซ้ ง่ึ อธิบดมี อบหมาย ซง่ึ ดารงตาแหนง่ รองอธบิ ดหี รอื ผู้ตรวจราชการกรมทด่ี นิ ดว้ ยวา่ สมควรสัง่ เพกิ ถอนหรอื แกไ้ ข ความคลาดเคล่อื นหรือไมช่ อบด้วยกฎหมายน้ันหรอื ไม่อย่างไร กรรมการสอบสวนผูใ้ ดมีความเห็นแย้ง ให้ทาความเห็นแย้ง ตดิ ไวก้ ับสานวนการสอบสวน โดยให้ถือเป็นสว่ นหนง่ึ ของสานวนการสอบสวนน้ันด้วย ขอ้ 6 ในกรณีท่ีคณะกรรมการ สอบสวน ไม่สามารถดาเนินการสอบสวนใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายในกาหนดหกสิบวันนบั แตว่ นั ที่ได้มีคาสง่ั ให้ดาเนินการสอบสวน ให้คณะกรรมการสอบสวน รายงานเหตุทท่ี าใหก้ ารสอบสวนนั้นไมแ่ ล้วเสร็จต่ออธบิ ดหี รือผ้ซู ่ึงอธิบดีมอบหมายซึ่งดารง ตาแหน่งรองอธิบดหี รือผูต้ รวจราชการกรมท่ีดินเพือ่ ขอขยายระยะเวลาการสอบสวนก่อน ครบกาหนดระยะเวลาดงั กลา่ ว ขอ้ 7 ภายในสิบห้าวนั นับแตว่ ันท่ีไดร้ บั รายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวน ถา้ อธิบดหี รอื ผ้ซู ่ึงอธบิ ดมี อบหมายซึง่ ดารงตาแหน่งรองอธบิ ดหี รือผตู้ รวจราชการกรมที่ดิน เหน็ สมควรใหม้ กี ารสอบสวนเพมิ่ เตมิ ใหก้ าหนดประเด็นพรอ้ มท้งั สง่ เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ งไปให้ คณะกรรมการสอบสวนคณะเดมิ เพอ่ื ดาเนินการสอบสวนเพิม่ เติมตอ่ ไป ใหค้ ณะกรรมการสอบสวนดาเนนิ การสอบสวนเพม่ิ เติมให้แลว้ เสร็จโดยเร็วและใหส้ ่งผล การสอบสวนเพ่ิมเตมิ นัน้ ไปใหอ้ ธิบดีหรอื ผู้ซงึ่ อธบิ ดมี อบหมายซง่ึ ดารงตาแหน่งรองอธบิ ดหี รือ ผูต้ รวจราชการกรมที่ดนิ หมวด 2 การแจง้ ผู้มสี ว่ นได้เสยี เพอื่ ให้โอกาสคดั ค้าน ขอ้ 8 ในการสอบสวน ให้คณะกรรมการสอบสวนส่งหนงั สือแจ้งผูม้ ีส่วนได้เสยี เพือ่ ให้ โอกาสคดั คา้ นการเพิกถอนหรือแกไ้ ขการออกโฉนดท่ดี นิ หรือหนังสอื รับรองการทาประโยชน์ หรือการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมเกย่ี วกบั อสงั หาริมทรพั ย์ หรือการจดแจง้ เอกสารรายการ จดทะเบยี นอสงั หารมิ ทรพั ยท์ คี่ ลาดเคลอ่ื นหรือไมช่ อบด้วยกฎหมายนั้น

273 ข้อ 9 การแจง้ ผมู้ ีสว่ นไดเ้ สียเพอ่ื ให้โอกาสคัดคา้ นใหก้ ระทาเป็นหนังสือโดยส่งทาง ไปรษณีย์ลงทะเบยี นตอบรบั ตามทอี่ ยู่ที่ผ้มู สี ว่ นไดเ้ สยี ได้ให้ไว้แก่พนักงานเจา้ หน้าทีใ่ นสารบบท่ีดนิ แปลงนนั้ ขอ้ 10 ในกรณที ไี่ มอ่ าจแจ้งผู้มีส่วนได้เสยี เพ่อื โอกาสคดั ค้านได้ ใหค้ ณะกรรมการสอบสวน แจ้งผูม้ สี ว่ นไดเ้ สยี โดยปดิ หนังสือ แจง้ ไว้ในท่เี ปิดเผยสามารถเหน็ ได้ชัดเจน ณ สานกั งานทดี่ ิน สานกั งานเขต ท่วี า่ การอาเภอหรือท่วี ่าการกิง่ อาเภอ ทที่ าการแขวงหรอื ท่ีทาการกานันทอ้ งที่ สานักงานหรือที่ทาการองค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ ซงึ่ ท่ดี นิ นั้นต้ังอยู่ และในบริเวณท่ดี นิ น้ัน แห่งละหน่งึ ฉบบั ใหถ้ อื วา่ ผูม้ สี ่วนไดเ้ สียได้รบั แจ้งเมื่อลว่ งพ้นระยะเวลาสบิ ห้าวันนับแต่วนั ปดิ หนังสอื แจ้ง ขอ้ 11 เมอื่ ผมู้ ีสว่ นไดเ้ สยี ไดร้ ับหนังสอื แจง้ หรือถอื วา่ ไดร้ บั แจง้ เพอ่ื ให้มีโอกาสคัดคา้ น แล้วและมีความประสงค์ท่ีจะคัดคา้ นการเพกิ ถอนหรือแกไ้ ขการออกโฉนดที่ดนิ หรือหนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ หรือการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ กิ รรมเก่ยี วกับอสังหารมิ ทรพั ย์ หรือ การจดแจง้ เอกสารรายการจดทะเบยี นอสงั หาริมทรัพยท์ คี่ ลาดเคลือ่ นหรือไมช่ อบดว้ ยกฎหมายนัน้ ใหท้ าหนังสอื คัดค้านย่ืนตอ่ ประธานคณะกรรมการสอบสวนภายในกาหนดสามสิบวันนบั แต่ วันท่ไี ดร้ ับแจ้ง หรือถอื ว่าได้รับแจง้ โดยให้ระบเุ หตผุ ลท่คี ดั คา้ นพรอ้ มทงั้ แสดงพยานหลักฐาน ที่เกยี่ วขอ้ งดว้ ย ถ้าผูม้ สี ว่ นได้เสียไมค่ ัดคา้ นภายในกาหนดเวลาตามวรรคหนงึ่ ให้ถอื วา่ ไม่ประสงค์ ทจี่ ะ คดั ค้าน หมวด 3 การสัง่ เพกิ ถอนหรอื แก้ไข ขอ้ 12 เม่ือไดร้ บั รายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนตามข้อ 5 หรอื ข้อ 7 แล้ว อธิบดีหรอื ผูซ้ ึ่งอธบิ ดมี อบหมายซ่งึ ดารงตาแหนง่ รองอธบิ ดีหรอื ผตู้ รวจราชการ กรมทดี่ นิ จะพจิ ารณาสั่งเพิกถอนหรือแกไ้ ขการออกโฉนดทดี่ นิ หรือหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ หรือการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมเกี่ยวกบั อสังหาริมทรัพย์ หรอื การจดแจ้งเอกสารรายการ จดทะเบยี นอสงั หารมิ ทรัพย์ทีค่ ลาดเคลอ่ื นหรือไมช่ อบด้วยกฎหมายนน้ั ได้ ต่อเมอื่ ปรากฏชัดแจง้ ว่าได้มกี ารออกโฉนดท่ดี ินหรือหนังสือรบั รองการทาประโยชน์ หรอื การจดทะเบยี นสิทธแิ ละ นติ ิกรรมเกย่ี วกับอสงั หารมิ ทรัพย์ หรือการจดแจง้ เอกสารรายการจดทะเบียนอสังหารมิ ทรพั ยน์ ้ัน โดยคลาดเคลอ่ื นหรอื ไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย

274 ขอ้ 13 ในการออกคาสัง่ เพิกถอนหรือแกไ้ ขการออกโฉนดที่ดินหรอื หนงั สือรับรอง การทาประโยชน์ หรือการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรมเกย่ี วกับอสงั หาริมทรัพย์ หรือการจดแจ้ง เอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรพั ยท์ ่ีคลาดเคลื่อนหรอื ไมช่ อบดว้ ยกฎหมายตามขอ้ 12 ใหอ้ ธิบดหี รือผูซ้ ึง่ อธิบดีมอบหมายซงึ่ ดารงตาแหน่งรองอธบิ ดหี รือผูต้ รวจราชการกรมท่ดี นิ แจง้ คาส่ังดงั กลา่ วพรอ้ ม ด้วยเหตผุ ลให้ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สียทราบด้วย ทั้งน้ี ให้นาความในข้อ 8 ข้อ 9 และขอ้ 10 มาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ถาวร เสนเนยี ม รฐั มนตรชี ว่ ยว่าการฯ ปฏบิ ตั ริ าชการแทน รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 127 ตอนท่ี 45 ก วนั ที่ 22 กรกฎาคม 2555) หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยท่ีเปน็ การสมควรปรบั ปรงุ หลักเกณฑแ์ ละวธิ กี าร ในการตัง้ คณะกรรมการสอบสวน การสอบสวน การแจ้งผมู้ สี ่วนได้เสียเพ่ือให้โอกาสคดั ค้านและ การพิจารณา เพกิ ถอนหรือแก้ไขการออกโฉนดที่ดนิ หรือหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ การจดทะเบยี นสิทธิ และนติ กิ รรม เก่ียวกบั อสงั หารมิ ทรัพย์ หรอื การจดแจง้ เอกสารรายการจดทะเบียนอสงั หาริมทรพั ย์โดยคลาดเคลอื่ นหรือ ไมช่ อบ ด้วยกฎหมาย เพอ่ื ให้สอดคล้องกับมาตรา 61 แหง่ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ ซึง่ แกไ้ ขเพิม่ เติมโดย พระราชบัญญัตแิ กไ้ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 ท่บี ญั ญตั ิใหอ้ ธิบดีหรือผ้ซู ่งึ อธิบดี มอบหมายซง่ึ ดารงตาแหน่งรองอธบิ ดีหรือผูต้ รวจราชการกรมทีด่ ินเปน็ ผู้มีอานาจหน้าทใ่ี นการสั่งเพกิ ถอนหรอื แก้ไขได้ ทัง้ น้ี เพอ่ื ให้การดาเนนิ การดังกลา่ วเปน็ ไปด้วยความรวดเรว็ และสอดคล้องกับหลกั การปฏิรูประบบราชการ ที่มุ่งเนน้ ให้มีการกระจายภารกิจและการกระจายอานาจการตดั สินใจ จงึ จาเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

275 กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 55 (พ.ศ. 2556) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 15 แหง่ พระราชบญั ญัติใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 และมาตรา 103 วรรคหนง่ึ แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน ซง่ึ แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดย พระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2521 อันเป็นกฎหมาย ท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกย่ี วกบั การจากดั สิทธแิ ละเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบ กับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 และมาตรา 43 ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย บัญญตั ใิ หก้ ระทาได้โดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้เพิ่มความต่อนี้เป็น (ข/1) ของ (7) ในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. 2497 “(ข/1) ค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ เฉพาะในกรณีท่ี กองทุนรวมโครงสร้างพนื้ ฐานทจ่ี ัดตงั้ ข้นึ ตามกฎหมายวา่ ด้วยหลกั ทรพั ย์และตลาดหลักทรพั ย์ เปน็ ผู้รบั โอนหรือผ้โู อนอสงั หารมิ ทรพั ย์ ทง้ั นี้ โดยมีสญั ญาการรบั โอนอสังหาริมทรพั ยน์ ั้น กลับคืนจากกองทุนรวมโครงสร้างพ้นื ฐาน หรอื มสี ญั ญาการโอนอสงั หารมิ ทรัพยน์ น้ั ต่อให้ส่วนราชการหรอื องคก์ ารของรฐั บาล ตามประมวลรัษฎากร ให้เรียกตามราคา ประเมนิ ทนุ ทรพั ยต์ ามทีค่ ณะกรรมการ กาหนดราคาประเมินทนุ ทรัพย์กาหนด ร้อยละ 0.01 แตอ่ ยา่ งสงู ไม่เกิน 100,000 บาท”

276 ขอ้ 2 ให้เพมิ่ ความตอ่ ไปนเ้ี ป็น (ซ/1) ของ (7) ในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 “(ซ/1) คา่ จดทะเบยี นการจานอง เฉพาะในกรณีที่ กองทนุ รวมโครงสร้างพ้ืนฐานท่ีจดั ต้งั ข้นึ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ เปน็ ผู้ขอจดทะเบยี น ร้อยละ 0.01 แต่อยา่ งสงู ไมเ่ กนิ 100,000 บาท” ขอ้ 3 ให้ยกเลิกความใน (ฏ) ของ (7) ในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับท่ี 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. 2497 ซึง่ แก้ไขเพ่ิมเติม โดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 51 (พ.ศ. 2549) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ช้ประมวล กฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และให้ใช้ความตอ่ ไปนแี้ ทน “(ฏ) คา่ จดทะเบยี นทรพั ยสิทธิท่ีมคี า่ ตอบแทน ยกเว้นการจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรม ทีม่ ีทุนทรัพยต์ าม (ก) (ข) (ข/1) (ค) (ง) (จ) (ฎ) และ (ฎ/1) รอ้ ยละ 1” ขอ้ 4 ให้เพ่มิ ความตอ่ ไปนี้เปน็ (ฐ/1) ของ (7) ในข้อ 2 แหง่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. 2497 “(ฐ/1) คา่ จดทะเบียนการเชา่ เฉพาะในกรณที ี่ กองทุนรวมโครงสรา้ งพืน้ ฐานที่จดั ตงั้ ข้นึ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ เป็นผู้เชา่ ผู้เชา่ ชว่ ง ผใู้ ห้เช่า หรอื ผใู้ หเ้ ชา่ ช่วง รอ้ ยละ 0.01 แต่อย่างสงู ไม่เกนิ 100,000 บาท” ให้ไว้ ณ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556 ประชา ประสพดี รฐั มนตรีช่วยวา่ การกระทรวงมหาดไทย ปฏบิ ตั ิราชการแทน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 130 ตอนท่ี 30 ก วนั ท่ี 29 มนี าคม 2556)

277 หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชก้ ฎกระทรวงฉบับน้ี คือ โดยทรี่ ฐั บาลมีนโยบายสนับสนุนให้มีการจดั ตั้ง กองทนุ รวมโครงสร้างพน้ื ฐานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลักทรพั ย์และตลาดหลกั ทรพั ย์ เพื่อเปน็ ชอ่ งทาง ระดมทนุ สาหรับกิจการโครงสร้างพื้นฐานทม่ี คี วามจาเปน็ ต่อการพัฒนาประเทศ สมควรกาหนดค่าธรรมเนยี มการจดทะเบียน สิทธิและนติ ิกรรมเกย่ี วกับอสงั หาริมทรพั ยท์ ่ีกองทุนรวมโครงสรา้ งพน้ื ฐานเปน็ ผู้ขอจดทะเบยี นเป็นกรณีพเิ ศษ เพอ่ื ลดภาระคา่ ใช้จา่ ยในการดาเนินการของกองทนุ รวมโครงสร้างพ้นื ฐาน อันเปน็ การสรา้ งแรงจูงใจให้มีการจดั ตั้ง กองทุนรวมดงั กล่าวในประเทศไทย จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรงนี้

ระเบยี บของคณะกรรมการ จัดท่ดี นิ แห่งชาติ

278 ระเบียบว่าดว้ ยการจัดทดี่ ินเพอื่ ประชาชน อาศยั อานาจตามความในมาตรา 20 (6) มาตรา 27 และมาตรา 33 แห่งประมวล กฎหมายท่ดี ิน คณะกรรมการจดั ทด่ี ินแหง่ ชาตวิ างระเบียบว่าด้วยการจดั ที่ดนิ เพ่อื ประชาชน ดังตอ่ ไปน้ี หมวด 1 ข้อความท่ัวไป ขอ้ 1 ระเบียบน้เี รียกว่า “ระเบยี บว่าด้วยการจดั ทีด่ ินเพ่ือประชาชน” ข้อ 2 ให้ใชร้ ะเบยี บน้ี ตงั้ แต่บดั น้เี ปน็ ต้นไป หมวด 2 ลกั ษณะของท่ดี ินทจี่ ะจดั ใหป้ ระชาชน ข้อ 3 ทด่ี ินทจี่ ะจัดให้ประชาชนอยู่อาศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชพี ตาม ความในมาตรา 20 (๑) และมาตรา 27 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ ตอ้ งเป็นทด่ี นิ ของรฐั ซง่ึ อยู่ในลกั ษณะดังต่อไปนี้ คือ (๑) ที่ดนิ ซง่ึ มไิ ดม้ ีบคุ คลใดมีสิทธิครอบครอง และมิใช่สาธารณสมบตั ขิ องแผ่นดิน อันราษฎรใชป้ ระโยชน์รว่ มกัน หรือมิใช่ทสี่ งวนหวงหา้ ม หรอื มิใชท่ ีเ่ ขา ที่ภูเขา (๒) ทดี่ นิ อันเปน็ สาธารณสมบตั ิของแผ่นดนิ ทร่ี าษฎรเคยใชป้ ระโยชน์ร่วมกนั แตป่ รากฏวา่ ราษฎรมิได้ใช้ประโยชน์ต่อไปแล้ว หรอื รัฐหาทดี่ ินอืน่ ให้ราษฎรใชป้ ระโยชน์รว่ มกันแทน และไดม้ ี พระราชกฤษฎีกาถอนสภาพทส่ี าธารณประโยชน์นน้ั แลว้ (๓) ท่ดี ินซึง่ มผี ูเ้ วนคืนสิทธใิ นท่ีดนิ ให้แกร่ ัฐ หรือทอดท้ิงไม่ทาประโยชน์ หรือปล่อยให้ เปน็ ทีร่ กร้างวา่ งเปลา่ จนตกเปน็ ของรัฐตามประมวลกฎหมายท่ีดิน

279 หมวด 3 คุณสมบัตขิ องบุคคลทจ่ี ะจัดให้เขา้ อยอู่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเลี้ยงชีพ ข้อ 4 บุคคลทจ่ี ะจัดใหเ้ ข้าอยู่อาศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ จะตอ้ งเปน็ บคุ คลธรรมดาซง่ึ มคี ณุ สมบตั แิ ละอยู่ในลกั ษณะข้อกาหนดโดยครบถว้ นดงั นี้ คอื (1) มสี ัญชาตไิ ทย (2) บรรลุนติ ิภาวะแลว้ หรอื เปน็ หัวหน้าครอบครัว (3) มรี ่างกายสมบูรณ์ ไมท่ ุพพลภาพ หรอื ไรค้ วามสามารถ หรือมสี ติฟัน่ เฟอื น ไมส่ มประกอบหรือเปน็ โรคติดต่ออันนา่ รงั เกียจ เว้นแตจ่ ะเปน็ หัวหนา้ ครอบครวั ท่อี ย่ใู นลักษณะ มคี วามจาเปน็ ซึง่ ทางการพิจารณาเหน็ สมควรยกเวน้ (4) มคี วามขยนั ขนั แข็งในการประกอบอาชพี (๕) มีความประพฤติดี ไมเ่ ป็นคนเสเพลหรืออนั ธพาล (๖) มีความสามารถประกอบการอาชีพเก่ยี วกับท่ดี นิ ทจี่ ัดให้ได้ (๗) ไม่มีทดี่ ินเป็นของตนเอง หรือมีอยแู่ ลว้ แต่เป็นจานวนนอ้ ยไมพ่ อเลยี้ ง ชีพ (8) ต้องรับปฏบิ ตั ติ ามขอ้ บงั คับ ระเบียบ ข้อกาหนดและเงื่อนไขทีค่ ณะกรรมการจัดทดี่ นิ แห่งชาติกาหนด หมวด 4 การดาเนนิ การจัดทดี่ ินให้ประชาชน (ขอ้ 5 ในการจดั ท่ีดินใหร้ าษฎรอยอู่ าศัย หรอื ประกอบการทามาหาเล้ยี งชีพให้เปน็ ไปตามโครงการ ที่คณะกรรมการจัดทด่ี นิ แห่งชาติกาหนด) (ความในข้อ 5 ถกู ยกเลกิ โดยระเบียบของคณะกรรมการฯ ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. 2521) และ ใหใ้ ช้ ความตอ่ ไปนแี้ ทน) ข้อ 5 ในการจัดท่ดี นิ ให้ราษฎรอยอู่ าศัย หรอื ประกอบการทามาหาเล้ียงชีพ ให้เป็นไป ตามโครงการทค่ี ณะกรรมการจัดที่ดินแหง่ ชาติกาหนด และใหก้ รมพฒั นาท่ดี นิ ดาเนินการ สารวจดิน การวนิ ิจฉยั คุณภาพของทดี่ ิน จาแนกสมรรถนะทดี่ ิน และวางแผนการใชท้ ดี่ นิ ให้ถูกต้องตามหลักวชิ าการกอ่ นที่จะดาเนินโครงการจดั ที่ดนิ ใหป้ ระชาชน

280 ขอ้ 6 โดยปกติให้จัดแบง่ ทดี่ ินใหแ้ ตล่ ะครอบครัวตามสมควรแกอ่ ัตภาพ ทัง้ นภี้ ายใต้ กาหนดสิทธิการมที ี่ดินของบคุ คลตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ ขอ้ 7 ก่อนท่ีจะจัดท่ีดินใหป้ ระชาชนอยูอ่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชพี ใหเ้ จา้ หน้าที่ในการจัดที่ดินตามโครงการของคณะกรรมการจดั ท่ดี ินแหง่ ชาติ หรอื อธบิ ดกี รมที่ดิน ซึง่ เปน็ เจ้าหน้าท่ีในการจัดที่ดนิ ตามมาตรา 27 แห่งประมวลกฎหมายทีด่ ิน แล้วแต่กรณีประกาศ กาหนดเขตและท่ตี ัง้ ของท่ีดนิ ท่จี ะจัดใหป้ ระชาชนอยอู่ าศยั หรอื ประกอบการทามาหาเลีย้ งชพี ตลอดจนวธิ ีการรับบุคคลเขา้ อยูอ่ าศยั ให้ประชาชนทราบตามแบบ จ.ด. 1 ท้ายระเบยี บน้ี ข้อ 8 ประกาศตามความในข้อ 7 นนั้ ใหป้ ดิ ไว้ในทเ่ี ปดิ เผย ณ ที่ว่าการอาเภอหรอื กงิ่ อาเภอ 1 ฉบับ ท่ีบา้ นกานันหรอื ผูใ้ หญ่บา้ น 1 ฉบับ และในท่ีดนิ ทจ่ี ัด 1 ฉบบั หากเป็นการสมควรจะประกาศโดยวธิ ีอื่นดว้ ยกไ็ ด้ ข้อ 9 การกาหนดวันรับสมคั รบคุ คลเขา้ อย่อู าศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ยี งชพี ต้องประกาศใหป้ ระชาชนทราบล่วงหน้ามกี าหนดไมน่ อ้ ยกว่าหนึ่งเดือน ขอ้ 10 บคุ คลใดประสงค์จะเขา้ อยู่อาศัยหรอื ประกอบการทามาหาเลี้ยงชพี ในท่ีดิน ที่จัดไว้ ให้ยนื่ คารอ้ งต่อเจ้าหน้าท่ใี นการจดั ที่ดนิ นนั้ ภายในกาหนดประกาศของเจ้าหน้าทต่ี าม แบบ จ.ด. ๒ ท้ายระเบียบน้ี ขอ้ 11 เม่อื ครบกาหนดประกาศรับบคุ คลเข้าอย่อู าศัยหรือประกอบการทามาหาเลย้ี งชีพ แลว้ ให้เจ้าหน้าที่ในการจดั ท่ีดินแตง่ ตั้งคณะกรรมการขนึ้ คณะหนง่ึ มีจานวนไม่น้อยกว่าสามนาย เรยี กว่าคณะกรรมการคัดเลือกบคุ คล และให้คณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คลมหี น้าท่พี ิจารณา คดั เลอื กบคุ คลตามหลกั เกณฑแ์ ห่งระเบยี บน้ี (ขอ้ 12 บุคคลใดประสงค์จะได้รับการจดั ให้เข้าอยอู่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเลี้ยงชพี ในทด่ี ิน แปลงใด ให้จดั เข้าอยอู่ าศัยหรือประกอบการทามาหาเล้ียงชพี ในทด่ี ินแปลงนนั้ แตถ่ า้ มบี คุ คลหลายคนประสงค์ ท่ีดนิ แปลงเดยี วกันก็ใหใ้ ช้วธิ จี ับสลาก) (ความในขอ้ 12 ถูกยกเลกิ โดยระเบียบของคณะกรรมการฯ ฉบบั ท่ี 5 (พ.ศ. 2521) และใหใ้ ช้ ความต่อไปน้แี ทน) ขอ้ 12 บคุ คลใดประสงค์จะไดร้ บั การจัดให้เขา้ อยอู่ าศยั หรอื ประกอบการทามาหาเล้ยี งชพี ในท่ดี ินแปลงใด ให้จัดเข้าอยู่อาศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชพี ในทด่ี นิ แปลงนั้น แต่ถา้ มบี ุคคลหลายคนประสงคท์ ด่ี นิ แปลงเดยี วกนั ก็ให้ใช้วิธีจับสลาก เว้นแตใ่ นกรณีท่มี คี วามจาเป็น เพอ่ื ประโยชน์ ความมนั่ คงและความปลอดภัยของประเทศชาติ คณะกรรมการคัดเลือก อาจจะพิจารณาคดั เลอื กบคุ คลให้อยู่ในทด่ี ินตามที่เห็นสมควรก็ได้

281 ขอ้ 13 ในกรณที ที่ ี่ดนิ ที่จะจดั ใหเ้ ขา้ อยอู่ าศัยหรือประกอบการทามาหาเลย้ี งชพี มไี มพ่ อ กบั จานวนบคุ คลซึง่ คณะกรรมการคัดเลอื กบุคคลไดค้ ัดเลือกไว้แลว้ ใหค้ ณะกรรมการคัดเลอื ก บุคคลพิจารณาคัดเลือกอกี ชั้นหน่ึงตามหลกั เกณฑ์ดังน้ี (1) ให้พจิ ารณาใหบ้ ุคคลท่ีมีภมู ิลาเนาอยูใ่ นท้องทนี่ ้ันได้เขา้ อย่อู าศัยหรือประกอบการ ทามาหาเล้ียงชีพก่อน เมอ่ื มที ด่ี ินเหลืออยจู่ ึงจัดให้บุคคลทมี่ ภี ูมิลาเนาอยใู่ นทอ้ งท่อี ่ืนตอ่ ไป (2) ถา้ ทีด่ ินที่จะจดั แบ่งมนี ้อย ไมพ่ อแกก่ ารจดั แบ่งใหท้ ั่วถงึ อกี ก็ให้คณะกรรมการ คัดเลอื กบุคคลจัดใหม้ ีการจบั สลาก เพื่อให้ไดจ้ านวนบุคคลพอดกี ับจานวนทด่ี ินที่จะแบ่ง สว่ นบุคคลท่เี หลอื กใ็ ห้สอบถามความประสงค์วา่ ถ้ามีที่ดนิ เหลือจากการจัดแบ่ง ในทอ้ งท่ี อื่นแล้ว ทางการจะจัดใหเ้ ขา้ อยู่อาศยั หรือประกอบการทามาหาเล้ียงชพี จะขดั ขอ้ งหรอื เตม็ ใจหรือไม่ แล้วบันทกึ ถ้อยคาไว้เป็นหลักฐานเพ่อื พจิ ารณาต่อไป หมวด 5 การออกใบจอง ข้อ 14 เมื่อไดจ้ ัดให้บุคคลใดเข้าอยูอ่ าศยั หรือประกอบการทามาหาเลี้ยงชีพในท่ดี นิ แปลงใด และบคุ คลนน้ั ไดป้ ฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดนิ แห่งชาติแล้ว ใหเ้ จ้าหน้าที่ ในการจัดท่ีดินดาเนินการติดต่อให้นายอาเภอท้องท่หี รอื ปลัดอาเภอผเู้ ปน็ หัวหนา้ ประจากิง่ อาเภอ ซ่ึงทีด่ นิ น้ันตง้ั อยู่ ซ่งึ เปน็ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีตามความในมาตรา 30 แห่งประมวลกฎหมายที่ดนิ ออกใบจองใหบ้ ุคคลนน้ั ยดึ ถือไว้เปน็ หลกั ฐาน หมวด 6 การทาประโยชนใ์ นท่ีดนิ และการสิน้ สทิ ธใิ นท่ดี นิ ตามใบจอง ข้อ 15 ใหผ้ ถู้ ือใบจองเรม่ิ ทาประโยชน์ในท่ดี นิ ที่จดั แบ่งภายในหกเดือน นบั แต่วันได้รบั ใบจอง ข้อ 16 ถา้ ผถู้ อื ใบจองไมเ่ รมิ่ ทาประโยชน์ในท่ีดินทจ่ี ัดแบ่งให้ภายในหกเดือนนับแต่ วันได้รับใบจอง ใหเ้ จา้ หน้าทใ่ี นการจดั ท่ดี ินสอบสวนรายงานตามลาดับไปยงั อธบิ ดกี รมทด่ี ิน เพื่อพจิ ารณาสัง่ ใหผ้ ู้น้นั ออกไปจากทด่ี ิน ตามมาตรา 32 แห่งประมวลกฎหมายทีด่ นิ เม่ือผนู้ ้นั ได้รบั ทราบคาสั่งหรอื ควรจะได้รับทราบคาส่งั อธิบดีกรมทด่ี ินแลว้ เปน็ อนั ขาดสทิ ธิในการอยู่อาศัย หรอื ประกอบการทามาหาเลี้ยงชีพในทีด่ นิ ท่จี ดั แบ่งตามใบจองนั้น เวน้ แตจ่ ะมเี หตผุ ลสมควร

282 กใ็ ห้เจ้าหนา้ ที่ในการจัดที่ดนิ สอบสวนช้แี จงเหตผุ ลไปยงั พนักงานเจ้าหนา้ ทผี่ ้อู อกใบจองพิจารณา เมอ่ื พนกั งานเจ้าหนา้ ทีพ่ ิจารณาอนุมตั แิ ล้ว ใหม้ สี ทิ ธิในทีด่ นิ ตามใบจองนน้ั ต่อไปได้ และใหถ้ อื เสมือนว่าเป็นผู้รับใบจองใหม่ ซง่ึ จะต้องปฏบิ ตั ติ ามนยั ขอ้ 15 ข้อ 17 ผู้ถือใบจองต้องทาประโยชน์ให้แลว้ ภายใน 3 ปี นับต้ังแตว่ ันทไี่ ด้รับใบจอง แตถ่ า้ ในท้องทใ่ี ดมีความจาเปน็ ซ่งึ ไมส่ ามารถจะทาประโยชนใ์ ห้แลว้ ภายใน 3 ปีได้ ก็ให้เสนอเหตผุ ล ให้พนกั งานเจ้าหน้าทเ่ี สนอให้คณะกรรมการจดั ที่ดนิ แหง่ ชาติพจิ ารณากาหนดอายุการทาประโยชน์ เกินกว่า 3 ปไี ด้ การทาประโยชนใ์ หแ้ ล้วเสรจ็ ตามความหมายในขอ้ นี้ ใหห้ มายถงึ การทาประโยชปนร์ ะมาณ 3 ใน ๔ สว่ น ขอ้ 18 ถา้ ผูถ้ ือใบจองทาประโยชน์ไม่แล้วเสร็จภายใน 3 ปี นบั ตั้งแต่วันท่ไี ดร้ ับใบจอง หรอื ภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการจัดทีด่ นิ แห่งชาติกาหนดไว้แลว้ แต่กรณี ให้เจ้าหนา้ ท่ีในการ จดั ที่ดนิ สอบสวนรายงานตามลาดบั เสนอไปยังอธบิ ดกี รมทด่ี ินเพอื่ พจิ ารณาสง่ั ใหผ้ นู้ ้นั ขาดสิทธิ อนั จะพึงไดต้ ามมาตรา 32 แห่งประมวลกฎหมายทด่ี นิ เมอื่ ผู้น้นั ไดร้ ับทราบคาส่งั หรือควรจะได้ รับทราบคาสัง่ อธิบดีกรมทด่ี นิ แลว้ ให้ผถู้ ือใบจองน้นั เปน็ อันขาดสทิ ธใิ นการครอบครองและ ทาประโยชนใ์ นทีด่ นิ เฉพาะสว่ นทยี่ งั ไม่ไดท้ าประโยชนต์ ามสมควรแกเ่ นือ้ ที่ หมวด 7 การสงั่ ใหอ้ อกจากที่ดิน ข้อ 19 บคุ คลใดท่ีไดร้ บั การจดั แบง่ ที่ดนิ จากทางการแลว้ ปรากฏวา่ ไมป่ ฏิบตั ติ าม ข้อบงั คบั ระเบยี บ ข้อกาหนด หรอื เงื่อนไขของคณะกรรมการจัดทดี่ ินแหง่ ชาติ ให้เจา้ หน้าทใี่ นการ จดั ที่ดนิ สอบสวน รายงานตามลาดบั ไปยังอธิบดีกรมท่ดี ินเพื่อพจิ ารณาส่ังใหบ้ ุคคลนั้นออกไปจาก ท่ดี ินตามความในมาตรา 32แห่งประมวลกฎหมายทด่ี นิ ตอ่ ไป ขอ้ 20 เมอ่ื อธิบดกี รมท่ดี นิ ส่ังให้ผใู้ ดออกไปจากที่ดินทคี่ รอบครองแล้ว ใหบ้ คุ คลนั้น พร้อมดว้ ยบรวิ ารออกไปจากทด่ี ินทคี่ รอบครองภายในกาหนดตามคาส่ัง เวน้ แตจ่ ะไดม้ ีการ อุทธรณ์คาสั่ง ตามมาตรา 32 วรรค 2 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ จึงให้ปฏบิ ัตติ ามคาส่งั ของ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป

283 หมวด 8 การรับรองการทาประโยชน์ ขอ้ 21 เม่อื ผ้ถู อื ใบจองไดท้ าประโยชน์ในท่ีดนิ น้นั โดยปฏบิ ัตติ ามขอ้ บังคบั ระเบียบ ขอ้ กาหนด หรอื เงอื่ นไขของคณะกรรมการจดั ที่ดินแหง่ ชาติ และไดช้ ดใช้เงนิ คา่ บรกิ ารในการ จัดที่ดนิ ด้วยวธิ ผี ่อนส่งเสร็จส้ินแล้ว ใหย้ น่ื คาขอหนงั สือรบั รองการทาประโยชน์ ตามกฎกระทรวง มหาดไทย ฉบับท่ี 5 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 ในการยื่นคาขอดังกลา่ วใหย้ ่ืนผ่านเจ้าหน้าท่ีในการจัดทีด่ ิน หมวด 9 การจับจองทด่ี นิ ขอ้ 22 ในกรณีท่ใี หร้ าษฎรไดจ้ บั จองท่ีดนิ ตามนยั มาตรา 33 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ ใหน้ าระเบยี บหมวด 2 ถงึ หมวด 8 มาใชบ้ ังคับโดยอนุโลม ในการประกาศให้ประชาชนทราบถึงเขตและทต่ี ้งั ของที่ดินทจี่ ะจัดใหป้ ระชาชน จับจอง สาหรับท่ดี ินแปลงเล็กแปลงนอ้ ยดงั กล่าวนี้ ให้เจ้าหนา้ ท่ปี ระกาศเปน็ รายตาบลหรอื ราย อาเภอ แลว้ แต่จะเหน็ สมควร ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี 24 สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙8 จอมพล ป. พิบูลสงคราม ประธานคณะกรรมการจัดทีด่ นิ แห่งชาติ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗2 ตอนท่ี 6๘ วนั ที่ 6 กันยายน ๒๔๙8)

284

285

286

287

288 ระเบยี บของคณะกรรมการจดั ท่ดี นิ แหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 2 (พ.ศ. 2515)* วา่ ดว้ ยหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขการออกโฉนดท่ดี ิน และออกหนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ อาศยั อานาจตามความในมาตรา 20 มาตรา 58 ทวิ มาตรา 59 ทวิ และมาตรา 59 ตรี แห่งประมวลกฎหมายทด่ี ิน ซงึ่ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 96 ลงวนั ที่ 29 กุมภาพนั ธ์ พุทธศักราช 2515 คณะกรรมการจัดทด่ี นิ แห่งชาตกิ าหนดหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขการออกโฉนดทีด่ ิน และออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ดงั ตอ่ ไปนี้ หมวด 1 บทท่ัวไป ขอ้ 1 ระเบียบน้เี รยี กว่า “ระเบยี บของคณะกรรมการจดั ที่ดนิ แหง่ ชาติ ฉบับท่ี 2 (พ.ศ. 2515) วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงอ่ื นไขการออกโฉนดทด่ี ิน และออกหนังสือรับรอง การทาประโยชน์” ขอ้ 2 ให้ใชร้ ะเบยี บนีต้ ัง้ แต่วนั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป (ข้อ 3 การออกโฉนดทดี่ นิ ใหก้ ระทาได้ในบรเิ วณท่ดี นิ ที่ไดส้ รา้ งระวางแผนทีเ่ พ่ือการออกโฉนดท่ดี ิน ไว้แล้ว นอกจากน้ีใหอ้ อกเปน็ หนงั สอื รับรองทาประโยชน์) (ความในขอ้ 3. น้ีถกู ยกเลิกและใช้ความใหมแ่ ทนแล้ว โดยระเบียบของคณะกรรมการฯ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2515) ฯ) ขอ้ 3 การออกโฉนดทีด่ ินให้กระทาได้ในบรเิ วณทดี่ ินทีไ่ ด้สร้างระวางแผนที่ เพ่อื การออกโฉนดที่ดนิ ไวแ้ ลว้ เว้นแต่อธบิ ดีกรมท่ีดนิ จะเหน็ เป็นการสมควรให้ออกหนงั สือ รบั รองการทาประโยชน์ในท่ีดนิ ทไ่ี ดส้ ร้างระวางแผนทไี่ ปพลางก่อนได้ นอกจากนีใ้ หอ้ อกเป็น หนังสอื รบั รองการ ทาประโยชน์ * ระเบียบฉบบั น้ถี กู ยกเลกิ โดยระเบยี บของคณะกรรมการจัดทดี่ นิ แห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2532)ฯ

289 หมวด 2 การออกโฉนดท่ดี ินหรือหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ ให้แก่ผคู้ รอบครองและทาประโยชนใ์ นทด่ี นิ กอ่ น วนั ท่ีประมวลกฎหมายท่ดี นิ ใชบ้ ังคบั แตไ่ มไ่ ด้แจง้ การครอบครอง ข้อ 4 การออกโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สือรับรองการทาประโยชนใ์ หแ้ กผ่ ู้ครอบครองและ ทาประโยชน์ในทดี่ นิ อยู่ก่อนวันทป่ี ระมวลกฎหมายทด่ี นิ ใชบ้ งั คบั แต่ไมไ่ ด้แจ้งการครอบครอง ตอ้ งอยู่ในหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่อื นไข ดงั นี้ (1) เปน็ ผซู้ งึ่ ไดค้ รอบครองและทาประโยชนใ์ นทดี่ นิ นั้นมาก่อนวันที่ประมวลกฎหมายท่ดี ิน ใชบ้ งั คบั ตดิ ตอ่ กันมาจนถึงวันนาทาการสารวจ โดยมหี ลกั ฐานแสดงได้วา่ ได้มีการปลูกสรา้ ง อาคารบ้านเรือน ได้ปลกู ต้นไมย้ นื ตน้ มาก่อนวนั ที่ประมวลกฎหมายที่ดนิ ใช้บงั คบั หรือได้ทานา ทาไร่ หรือทาประโยชน์อย่างอน่ื อันมีหลักฐานควรเชอ่ื ได้ว่าไดท้ าติดต่อกันมาก่อนวนั ท่ปี ระมวล กฎหมายทีด่ ินใชบ้ ังคบั ( ๒) การไมแ่ จ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญตั ิใหใ้ ช้ประมวล กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 มีเหตผุ ลอันสมควร และไมม่ ีเจตนาจะฝา่ ฝนื กฎหมาย ข้อ 5 ผ้วู ่าราชการจังหวดั จะอนุมัตใิ ห้ออกโฉนดทด่ี ินหรอื หนงั สอื รับรองการทาประโยชน์ เกนิ กว่าหา้ สิบไร่ แตไ่ ม่เกนิ หนึ่งร้อยไร่ได้ เมอื่ ปรากฏว่า (1) ผคู้ รอบครองไดท้ าประโยชน์หรอื อานวยการทาประโยชนใ์ นท่ีดินนน้ั ดว้ ยตนเอง (2) ผู้ครอบครองแสดงให้เห็นวา่ มีความสามารถทาประโยชน์ในท่ดี ินนน้ั ได้อยา่ งจริงจัง และ (3) สภาพการทาประโยชนใ์ นที่ดินนั้นเปน็ หลกั ฐานมน่ั คง และมผี ลผลติ อันเปน็ ประโยชน์ ในทางเศรษฐกจิ ขอ้ 6 ผู้ใดไดค้ รอบครองทดี่ นิ เกินกว่าห้าสบิ ไร่ แตไ่ มไ่ ด้รบั อนุมตั จิ ากผู้วา่ ราชการจงั หวัด หรอื ไดค้ รอบครองและทาประโยชน์เกินกว่าหนงึ่ รอ้ ยไร่ ใหก้ ันสว่ นท่ีผู้วา่ ราชการจงั หวดั ไมอ่ นุมตั ิ หรอื ส่วนท่ีเกนิ หนงึ่ ร้อยไร่ แล้วแต่กรณี ออก และใหผ้ ูค้ รอบครองและทาประโยชนเ์ ลอื กเอาวา่ จะให้ ออกโฉนดท่ดี ินหรอื หนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ในทีด่ ินตอนใด ถ้าไม่เลอื ก ใหพ้ นักงานเจา้ หน้าท่ี พิจารณาออกโฉนดท่ีดนิ หรือหนงั สือรบั รองการทาประโยชน์ สาหรบั ท่ดี นิ ท่ไี ดม้ ีการทาประโยชน์ เป็นหลกั ฐานมั่นคง แล้ว

290 หมวด 3 การออกโฉนดท่ดี นิ หรอื หนังสือรับรองการทาประโยชน์ ใหแ้ กผ่ ้คู รอบครองและทาประโยชน์ในทด่ี ิน ภายหลังวันท่ปี ระมวลกฎหมายทดี่ นิ ใชบ้ งั คับ ข้อ 7 การออกโฉนดที่ดินหรือหนงั สอื รบั รองการทาประโยชนใ์ หแ้ กผ่ คู้ รอบครอง และทาประโยชน์ในท่ีดนิ ของรฐั ภายหลังวนั ทีป่ ระมวลกฎหมายท่ดี นิ ใชบ้ งั คบั ตอ้ งอย่ใู นหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงอ่ื นไข ดังนี้ (1) เป็นผู้ครอบครองและทาประโยชน์ในทีด่ ินตดิ ต่อกนั อยู่กอ่ นวันที่ประกาศของ คณะปฏวิ ตั ิ ฉบับที่ 96 ลงวันท่ี 29 กมุ ภาพันธ์ พทุ ธศักราช 2515 ใชบ้ งั คับ เป็นเวลา ไม่น้อย กวา่ 3 ปี (2) ท่ดี ินทีค่ รอบครองและทาประโยชน์ อยนู่ อกเขตท่ที างราชการจาแนกไวเ้ ปน็ เขต ป่าไมถ้ าวร (3) ไดม้ ีการครอบครองและทาประโยชนต์ ดิ ตอ่ กันมาจนถึงวนั นาทาการสารวจ โดยมี หลักฐานแสดงได้ว่า ไดม้ ีการปลูกสรา้ งอาคารบ้านเรอื น ได้ปลูกตน้ ไม้ยนื ตน้ มาก่อนวันทีป่ ระกาศ ของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ท่ี 96 ลงวนั ท่ี 29 กุมภาพันธ์ พุทธศกั ราช 2515 ใชบ้ ังคบั เปน็ เวลา ไม่นอ้ ยกว่า 3 ปี หรือไดท้ านา ทาไร่ หรอื ทาประโยชนอ์ ยา่ งอน่ื อันมีหลักฐานควรเชอ่ื ได้วา่ ไดท้ าติดตอ่ กันมากอ่ นวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี 96 ลงวันที่ 29 กมุ ภาพนั ธ์ พุทธศักราช 2515 ใช้บังคบั เปน็ เวลาไมน่ อ้ ยกวา่ 3 ปี ขอ้ 8 ใหน้ าความในขอ้ 5 และ ขอ้ 6 มาใชบ้ ังคับแกก่ ารออกโฉนดท่ดี ิน หรอื หนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ตามข้อ 7 โดยอนุโลม หมวด 4 การขอออกโฉนดที่ดนิ หรือหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ เฉพาะรายโดยมิไดแ้ จ้งการครอบครอง ข้อ 9 การออกโฉนดทดี่ นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ใหแ้ กผ่ ูค้ รอบครอง และทาประโยชน์ในทด่ี ินเฉพาะรายโดยมไิ ดแ้ จ้งการครอบครองทีด่ ินตามมาตรา 5 แหง่ พระราชบัญญตั ิ ใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 ต้องอย่ใู นหลกั เกณฑ์ วิธีการ และ เงอ่ื นไข ดังนี้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook