Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 2

แผนการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 2

Published by toongtoongpang, 2022-08-29 05:43:25

Description: แผนการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 2

Search

Read the Text Version

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ ภำคเรียนท่ี ๒ รหัส ท๒๒๑๐๒ เวลำ ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ การศึกษาวเิ คราะห์และจาแนกขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ มูลสนับสนุนและขอ้ คิดเห็นจากบทความท่ีอ่าน ระบุ ขอ้ สงั เกตการชวนเช่ือ การโนม้ นา้ วหรือความสมเหตุสมผลของงานเขียน อ่านหนงั สือบทความหรือคาอยา่ ง หลากหลาย เป็ นการประเมินคุณค่าหรือแนวคิดที่ไดจ้ ากการอ่าน เพอื่ นาไปใชแ้ กป้ ัญหาชีวติ มีมารยาทใน การอ่าน เขียนยอ่ ความ เขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ เขียนจดหมายธุรกิจ เขียนวจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เห็นหรือโตแ้ ยง้ เร่ืองทอี่ ่านอยา่ งมีเหตผุ ล พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ ตรงตามวตั ถุประสงค์ พูดรายงาน เรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาคน้ ควา้ จากเร่ืองที่ฟัง การดูและการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดูและการ สนทนา ใชค้ าราชาศพั ทร์ วบรวมและอธิบายความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย วเิ คราะห์ วรรณคดี วรรณกรรมที่อ่าน พร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดเห็นจากการอ่าน เพอื่ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ท่องจาบทอาขยานท่ีกาหนดและบทร้อย กรองทีม่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการฟังดูพูด กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการศึกษาค้นควา้ การประเมินค่าเพ่ือให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจและทกั ษะในการใชภ้ าษาท้งั การอ่าน การเขียน การฟัง การพูด การใชห้ ลกั ภาษา วรรณคดีและ วรรณกรรม สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ มีความรักและภาคภูมิใจในภาษา ประจาชาติ ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ม.๒ /๑ ม.๒ /๒ ม.๒ /๓ ม.๒ /๔ ม.๒ /๕ ม.๒ /๖ ม.๒ /๗ ม.๒ /๘ ท ๒.๑ ม.๒ /๑ ม.๒ /๒ ม.๒ /๓ ม.๒ /๔ ม.๒ /๕ ม.๒ /๖ ม.๒ /๗ ม.๒ /๘ ท ๓.๑ ม.๒ /๑ ม.๒ /๒ ม.๒ /๓ ม.๒ /๔ ม.๒ /๕ ม.๒ /๖ ท ๔.๑ ม.๒ /๑ ม.๒ /๒ ม.๒ /๓ ม.๒ /๔ ม.๒ /๕ ท ๕.๑ ม.๒ /๑ ม.๒ /๒ ม.๒ /๓ ม.๒ /๔ ม.๒ /๕ รวมท้งั หมด ๓๒ ตวั ชี้วดั

รำยวชิ ำภำษำไทย โครงสร้ำงรำยวชิ ำภำษำไทย เวลำ ๖๐ ช่ัวโมง ระดบั ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ สัดส่วนคะแนน ๗๐ : ๓๐ รหัส ท๒๒๑๐๒ ภำคเรียนท่ี ๒/๒๕๖๔ ลำดบั ชื่อหน่วย มำตรฐำน/ สำระสำคญั เวลำ น้ำหนัก ชิ้นงำน/ กำรเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ช่ัวโมง คะแนน ภำระรวบยอด ๑ กาพยห์ อ่ โคลง ท๑.๑ ม.๒/๑ -อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ย ๑๒ ๑๕ สมุดเล่มเล็ก เรื่อง ประพาสธาร ม.๒/๒ กรองได้ถูกต้อง กาพยห์ ่อโคลง ทองแดง ประพาสธาร ม.๒/๓ -จบั ใจความสาคญั สรุปความ และอธบิ าย รายละเอียดจากเรือ่ งทอี่ ่าน ทองแดง ม.๒/๔ -เขยี นผงั ความคิดเพื่อแสดงความเขา้ ใจใน ม.๒/๗ บทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน ม.๒/๘ -อภิปรายแสดงความคิดเหน็ และขอ้ โตแ้ ยง้ เกี่ยวกับเรอื่ งทีอ่ ่าน ท๒.๑ ม.๒/๑ -อ่านหนงั สอื บทความ หรือคาประพันธ์ ม.๒/๒ อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรอื แนวคิดที่ไดจ้ ากการอ่านเพอื่ นาไปใช้ ม.๒/๘ แก้ปญั หาในชีวติ ท๓.๑ ม.๒/๑ -มีมารยาทในการอ่าน ม.๒/๒ -คัดลายมือตัวบรรจงครึง่ บรรทัด ม.๒/๓ -เขยี นบรรยายและพรรณนา ม.๒/๔ -มีมารยาทในการเขยี น ม.๒/๖ -พดู สรุปใจความสาคัญของเรือ่ งที่ฟงั และดู ท๔.๑ ม. ๒/๓ -วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ขอ้ คิดเหน็ และความ นา่ เชื่อถือของขา่ วสารจากสือ่ ต่าง ๆ ท๕.๑ ม.๒/๑ -วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟงั และดอู ย่าง ม.๒/๒ มีเหตุผลเพื่อนาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการ ดาเนนิ ชีวติ ม.๒/๓ -พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ตรงตาม

ม.๒/๔ วตั ถุประสงค์ ม.๒/๕ -มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู -แต่งบทร้อยกรอง -สรปุ เน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ ่าน ในระดบั ที่ยากขนึ้ -วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิน่ ที่อ่าน พร้อมยก เหตผุ ลประกอบ -อธบิ ายคุณค่าของวรรณคดแี ละ วรรณกรรมที่อ่าน -สรปุ ความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านไป ประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง -ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบท ร้อยกรองทีม่ ีคณุ ค่าตามความสนใจ ๒ โคลงสุภาษติ ท๑.๑ ม.๒/๑ -อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ย ๑๗ ๑๕ ป๊ อปอพั โคลง พระราชนิพนธ์ ม.๒/๒ กรองได้ถูกต้อง สุภาษติ ม.๒/๓ -จับใจความสาคญั สรปุ ความ และอธบิ าย -โสฬสไตรยางค์ รายละเอียดจากเรื่องทอี่ ่าน ม.๒/๔ -เขยี นผังความคิดเพื่อแสดงความเขา้ ใจใน -นฤทุมนาการ ม.๒/๗ บทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน -หนงั สือเล่มเลก็ ม.๒/๘ -อภิปรายแสดงความคิดเหน็ และขอ้ โตแ้ ยง้ (นิทานอีสป) เกี่ยวกับเรอื่ งที่อ่าน ท๒.๑ ม.๒/๓ -วิเคราะห์และจาแนกขอ้ เท็จจริง ขอ้ มลู ม.๒/๘ สนับสนุน และข้อคิดเหน็ จากบทความที่อ่าน ท๓.๑ ม.๒/๔ -อ่านหนงั สอื บทความ หรือคาประพันธ์ อย่างหลากหลาย และประเมินคณุ ค่า หรือ ม.๒/๖ แนวคิดที่ไดจ้ ากการอ่าน เพือ่ นาไปใช้ ท๔.๑ ม. ๒/๒ แก้ปญั หาในชีวติ ม.๒/๕ -มีมารยาทในการอ่าน -เขยี นเรียงความ

ท๕.๑ ม.๒/๑ -มีมารยาทในการเขยี น ม.๒/๒ -พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ตรงตาม ม.๒/๓ วตั ถปุ ระสงค์ -มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ม.๒/๔ -วิเคราะห์โครงสร้างประโยคสามัญ ม.๒/๕ ประโยครวม และประโยคซ้อน -รวบรวมและอธบิ ายความหมายของคา ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย -สรปุ เน้ือหาวรรณคดี และวรรณกรรมที่ อ่านในระดับทีย่ ากขนึ้ -วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นทีอ่ ่าน พร้อมยก เหตผุ ลประกอบ -อธบิ ายคุณค่าของวรรณคดแี ละ วรรณกรรมทีอ่ ่าน -สรปุ ความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านไป ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง -ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบท ๑ ๒๐ ร้อยกรองที่มีคณุ ค่าตามความสนใจ สอบกลางภาค ๓ กลอนดอกสรอ้ ย ท๑.๑ ม.๒/๑ -อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ย ๑๔ ๑๐ สมุดเล่มเลก็ ราพงึ ในป่าชา้ ม.๒/๒ กรองได้ถูกต้อง เรื่อง กลอนดอกสร้อย ม.๒/๓ -จบั ใจความสาคญั สรุปความ และอธบิ าย รายละเอียดจากเรื่องทอี่ ่าน ม.๒/๔ -อภิปรายแสดงความคิดเหน็ และขอ้ โตแ้ ยง้ ราพงึ ในป่ าชา้ ม.๒/๕ เกีย่ วกบั เรอื่ งที่อ่าน ม.๒/๗ -อ่านหนงั สอื บทความ หรือคาประพนั ธ์ อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรอื ม.๒/๘ แนวคิดทีไ่ ดจ้ ากการอ่าน เพือ่ นาไปใช้ แก้ปญั หาในชีวติ

ท๒.๑ ม.๒/๗ -มีมารยาทในการอ่าน ม.๒/๘ -เขยี นวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ท๓.๑ ม.๒/๔ ความคิดเหน็ หรือโตแ้ ยง้ ในเรื่องทีอ่ ่านอย่าง มีเหตุผล ม.๒/๕ -มีมารยาทในการเขยี น ม.๒/๖ -พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ตรงตาม ท๔.๑ ม. ๒/๕ วัตถปุ ระสงค์ ท๕.๑ ม.๒/๑ -พูดรายงานเรือ่ งหรือประเดน็ ทีศ่ ึกษา ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา ม.๒/๒ -มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด ม.๒/๓ –รวบรวมและอธบิ ายความหมายของคา ม.๒/๔ -ภาษาต่างประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย ม.๒/๕ -สรปุ เน้อื หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ ่าน ในระดับที่ยากขนึ้ -วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นที่อ่าน พร้อมยก เหตผุ ลประกอบ -อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละ วรรณกรรมทีอ่ ่าน -สรปุ ความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านไป ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง -ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบท ร้อย กรองที่มคี ณุ ค่าตามความสนใจ ๔ เรียบเรียงส่ือสาร ท ๓.๑ ม.๒/๑ การพูดสรุปใจความสาคัญ การ ๑๗ ๑๐ -ป๊ อปอพั ม.๒/๓ วเิ คราะห์และวจิ ารณ์เร่อื งท่ฟี ังและดู เพ่อื คาราชาศพั ท์ ม.๒/๖ นาข้อคดิ มาประยุกตใ์ ช้ในการดาเนินชวี ติ ท ๓.๑ ม.๒/๔ ต้องมีความรู้เร่อื งหลกั การฟัง การดู และ -แตก่ ลอนสุภาพ ม.๒/๕ การพูด และมีมารยาทในการฟัง การดู

ม.๒/๖ และการพูด ท ๔.๑ ม.๒/๑ การพูดในโอกาสต่าง ๆ และการพูด ม.๒/๒ รายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้า ม.๒/ จากการฟัง การดู และการสนทนา ต้องพูด ๓ ให้ถกู ต้องตามหลักการพูด และมีมารยาทใน การฟัง การดู และการพูด ม.๒/๔ ม.๒/๕ การศึกษาหลักภาษาไทย ต้องมีความรู้ เรื่องการสร้างคา สามารถรวบรวมและ อธบิ ายความหมายของคาภาษาต่างประเทศ ที่ใช้ในภาษาไทย รวมถึงการวิเคราะห์ โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยครวม และ ประโยคซ้อน ได้ถูกต้อง คาราชาศัพท์เป็นระเบียบแบบแผนใน การใช้ภาษาที่ต้องใช้ให้ถูกต้องตามระดับ ของบคุ คล การแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอน ต้องมีความรู้เรื่องฉันทลักษณ์และรู้จักสรร คามาใช้ให้เหมาะสม คะแนนเก็บ ๗๐ สอบปลายภาค ๑ ๓๐ รวม ๖๐ ๑๐๐

กลมุ่ สาระภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคิดเพื่อนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ ตัวชี้วัด คาสาคญั ๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง - อา่ นออกเสยี ง ให้ผู้เรยี ไดถ้ ูกตอ้ ง - บทรอ้ และบท - บทร้อ ละคร ๒. จับใจความสาคัญ สรุปความ และอธิบาย - จับใจความสาคญั สรุป ใหผ้ เู้ รีย รายละเอยี ดจากเร่ืองทอี่ า่ น ความ และอธิบาย สื่อตา่ ง รายละเอยี ด การเรีย ๓. วเิ คราะห์และจาแนกข้อเท็จจริง ข้อมูล -วเิ คราะห์และจาแนก ใหผ้ ้เู รยี สนับสนนุ และข้อคิดเหน็ จากบทความท่อี า่ น ข้อเท็จจริง ขอ้ เทจ็ ข้อคดิ เ ๔. ระบุข้อสังเกตการชวนเชื่อ การโน้มน้าว หรือ -ระบขุ ้อสังเกตการชวน ให้ผู้เรยี ความสมเหตุสมผลของงานเขียน เช่ือ การโนม้ น้าว การโน สมเหต

แก้ปญั หาในการดาเนินชวี ิต และมีนิสัยรกั การอา่ น แนวทางการประเมิน หลักฐานการเรียนรู้ การประเมิน วิธกี าร เคร่อื งมอื ยนการอา่ นออกเสียง ผลการประเมินการอ่าน - ประเมิน - แบบ อยแกว้ ทเี่ ปน็ บทบรรยาย ออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และ การอ่าน ประเมิน ทพรรณนา บทรอ้ ยกรอง ออกเสียง การอา่ น อยกรอง เชน่ กลอนบท ออกเสียง และกาพย์ห่อโคลง ยนการอ่านจับใจความจาก ผลการอา่ นจบั ใจความ - การตรวจ - แบบ งๆ (รายละเอยี ดตามสาระ สาคัญและสรปุ ความจาก ผลงาน ตรวจสอบ ยนรแู้ กนกลาง) สอ่ื ต่างๆ รายการ ยนวิเคราะหแ์ ละจาแนก ผลการวเิ คราะห์และ - การตรวจ - แบบ จจรงิ ขอ้ มลู สนบั สนนุ และ จาแนกข้อเทจ็ จรงิ เห็นจากบทความทอ่ี ่าน ผลงาน ตรวจสอบ รายการ ยนระบขุ ้อสงั เกตการชวนเช่ือ ผลการระบุขอ้ สังเกตการ - การตรวจ - แบบ ผลงาน ตรวจสอบ ม้ น้าว หรอื ความ ชวนเชื่อ การโนม้ นา้ ว รายการ ตุสมผลของงานเขยี น

๕. อ่านหนังสือ บทความ หรือคาประพันธ์อย่าง -อ่านหนังสอื และประเมิน ใหผ้ เู้ รยี หลากหลาย และประเมินคณุ ค่าหรือแนวคิดที่ได้ คณุ ค่า เช่น- ห จากการอ่าน เพือ่ นาไปใช้แก้ปญั หาในชีวติ -ห เหม ๖. มีมารยาทในการอา่ น -มีมารยาทในการอ่าน ผเู้ รียน มารยา

ยนการอ่านตามความสนใจ ผลการประเมินการอา่ น - การตรวจ - แบบ ผลการประเมินการอ่าน ผลงาน ตรวจสอบ หนงั สอื อ่านนอกเวลา รายการ หนังสอื ที่นักเรียนสนใจและ - ประเมนิ - แบบ มาะสมกบั วัย การอ่าน ประเมิน นสามารถอา่ นอย่างมี การอ่าน าท

กลุ่มสาระภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเข คน้ คว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตัวชว้ี ัด คาสาคญั แน ๑. คดั ลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทดั - คดั ลายมอื ใหผ้ เู้ รยี นคัดลายม รปู แบบการเขยี น ๒. เขียนบรรยายและพรรณนา - เขียนบรรยาย ให้ผเู้ รียนเขยี นบร และพรรณนา เขยี น ๓. เขยี นยอ่ ความ -เขียนยอ่ ความ ให้ผเู้ รยี นการเขยี ๔. เขยี นจดหมายกิจธรุ ะ (รายละเอยี ดตาม -เขยี นจดหมาย ให้ผเู้ รยี นการเขีย กจิ ธุระ - จดหมายเชญิ วิท - จดหมายขอควา

ขียนเรอ่ื งราวในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษา นวทางการประเมนิ หลกั ฐานการเรียนรู้ การประเมนิ วธิ ีการ เครอื่ งมอื มือตัวบรรจงครงึ่ บรรทดั ตาม ผลการคัดลายมอื ตวั - การตรวจ - แบบ นตัวอักษรไทย บรรจงคร่งึ บรรทดั ผลงาน ตรวจสอบ รายการ รรยายและพรรณนาตามหลกั การ ผลการเขียนบรรยาย - การตรวจ - แบบ และพรรณนา ผลงาน ตรวจสอบ รายการ ยนยอ่ ความจากส่ือต่างๆ ผลการเขียนยอ่ ความ - การตรวจ - แบบ มสาระการเรียนรแู้ กนกลาง) ผลงาน ตรวจสอบ ยนจดหมายกจิ ธรุ ะ ทยากร รายการ ามอนุเคราะห์ ผลการเขียน - การตรวจ - แบบ จดหมายกจิ ธรุ ะ ผลงาน ตรวจสอบ รายการ

๕. เขยี นวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ -เขยี นวิเคราะห์ ใหผ้ ู้เรยี นเขียนวิเค ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ย้ง ในเร่ืองทีอ่ า่ น วจิ ารณ์ ความคดิ เหน็ หรอื อยา่ งมีเหตุผล เหตุผล -มมี ารยาทใน ๖. มมี ารยาทในการเขียน การเขียน ให้ผู้เรียนมีมารยา กลมุ่ สาระภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความ ตวั ช้ีวัด คาสาคญั แนวทา ๑. พูดสรุปใจความสาคัญของเรื่องท่ีฟัง -พูดสรุปใจความ ใหผ้ ้เู รียนพูดสรปุ ใ และดู สาคัญ ฟงั และดู ๒. วเิ คราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และ - วิเคราะห์ ให้ผเู้ รยี นวิเคราะห และความนา่ เชื่อถ ความน่าเชือ่ ถือของขา่ วสารจากสื่อตา่ งๆ ขอ้ เทจ็ จริง ตา่ งๆ ขอ้ คิดเห็น ใหผ้ ู้เรียนวิเคราะห ๓. วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองท่ีฟังและดู - วเิ คราะห์และ และดูอย่างมเี หตผุ อ ย่ า ง มี เ ห ตุ ผ ล เ พื่ อ น า ข้ อ คิ ด ม า วิจารณ์เรอ่ื งทฟี่ ัง ประยุกต์ใชใ้ นการ ประยุกต์ใช้ในการดาเนินชวี ติ และดู

คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ผลการเขยี น - การตรวจ - แบบ อโต้แย้ง ในเรอ่ื งทีอ่ ่านอย่างมี วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ผลงาน ตรวจสอบ าทในการเขียน ผลการประเมนิ การ รายการ เขยี น - การตรวจ - แบบ ผลงาน ตรวจสอบ รายการ มรู้ ความคดิ และความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ างการประเมิน หลักฐานการเรยี นรู้ การประเมนิ วิธกี าร เครอื่ งมือ ใจความสาคญั ของเรอื่ งท่ี ผลการประเมนิ การพดู สรุป - ประเมนิ - แบบ ความสาคญั ของเรอ่ื งที่ฟงั การพดู ประเมิน และดู สรุปความ หข์ ้อเทจ็ จรงิ ขอ้ คิดเห็น ผลการวเิ คราะหข์ ้อเทจ็ จริง - การตรวจ - แบบ ถอื ของขา่ วสารจากสื่อ ข้อคิดเห็น ผลงาน ตรวจสอบ รายการ หแ์ ละวิจารณ์เรอื่ งทฟ่ี ัง ผลการวเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์ - การตรวจ - แบบ ผลเพื่อนาขอ้ คิดมา เร่ืองท่ีฟังและดู ผลงาน ตรวจสอบ รดาเนินชีวติ รายการ

๔. พูดรายงานเรื่องหรอื ประเด็นท่ีศึกษา -พูดรายงาน ให้ผ้เู รยี นพูดรายง คน้ คว้า ศกึ ษาคน้ คว้า ๕. มีมารยาทในการฟงั การดู และการ - มมี ารยาทในการ ให้ผู้เรยี นมีมารยา พูด การพดู ฟงั การดู และการ พูด กลุ่มสาระภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภา ไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ ตวั ชว้ี ัด คาสาคัญ แนวทางก ๑. สรา้ งคาในภาษาไทย -สร้างคา ให้ผเู้ รยี นสร้างคาในภ ๒. วเิ คราะหโ์ ครงสร้างประโยค - วิเคราะหโ์ ครงสรา้ ง ใหผ้ ้เู รยี นวเิ คราะหล์ กั สามัญประโยครวม และประโยค ประโยค สามัญ ประโยครวม แ ซอ้ น

งานเรื่องหรอื ประเด็นที่ ผลการพดู รายงาน - ประเมิน - แบบ การพดู ประเมนิ าทในการฟัง การดู และ ผลการประเมนิ การฟัง การพูด การดู และการพูด - ประเมนิ การฟัง - แบบ การดู และ ประเมนิ การพูด การฟงั การดู และ การพูด ภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย การประเมิน หลกั ฐานการเรยี นรู้ การประเมิน ภาษาไทย คาสมาส ผลการสรา้ งคาสมาส วิธกี าร เครอื่ งมือ กษณะโครงสร้างประโยค ผลการวิเคราะห์ลักษณะ - การตรวจ - แบบ และประโยคซ้อน โครงสรา้ งประโยคสามัญ ผลงาน ตรวจสอบ ประโยครวม และประโยค รายการ - การตรวจ - แบบ ผลงาน ตรวจสอบ รายการ

๓. แต่งบทร้อยกรอง - แตง่ บทรอ้ ยกรอง ใหผ้ ้เู รียนแต่งบทร้อยก ๔. ใช้คาราชาศพั ท์ -ใชค้ าราชาศพั ท์ ใหผ้ เู้ รียนใช้คาราชาศพั บคุ คล ๕. รวบรวมและอธบิ ายความหมาย -รวบรวมและอธบิ าย ให้ผเู้ รยี นรวบรวมและ ของ คาภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ใน ความหมายของ คาภาษาตา่ งประเทศท ภาษาไทย คาภาษาตา่ งประเทศ กลุ่มสาระภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย ตัวช้ีวัด คาสาคญั แนวทางกา ๑. สรปุ เน้อื หาวรรณคดีและ -สรุปเน้อื หา ใหผ้ ู้เรยี นสรุปเนอื้ หาว วรรณกรรมทอ่ี ่านในร วรรณกรรมที่อา่ นในระดับทยี่ ากขึน้ (รายละเอยี ดตามสาร แกนกลาง)

กรอง กลอนสุภาพ ซ้อน - การตรวจ - แบบ ผลการแตง่ กลอนสภุ าพ ผลงาน ตรวจสอบ พท์ไดเ้ หมาะสมกบั ผลการใชค้ าราชาศพั ท์ รายการ ะอธิบายความหมายของ ผลการรวบรวม คา - การตรวจ - แบบ ผลงาน ตรวจสอบ ที่ใช้ในภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ใน รายการ ภาษาไทย - การตรวจ - แบบ ผลงาน ตรวจสอบ รายการ ยอยา่ งเหน็ คุณค่าและนามาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจรงิ ารประเมนิ หลกั ฐานการเรียนรู้ การประเมิน วรรณคดแี ละ ผลการสรปุ เนอ้ื หาวรรณคดีและ วิธกี าร เคร่อื งมอื ระดบั ท่ยี ากขึ้น วรรณกรรม ระการเรียนรู้ - การตรวจ - แบบ ผลงาน ตรวจสอบ รายการ

๒. วเิ คราะหแ์ ละวิจารณว์ รรณคดี -วเิ คราะหแ์ ละ ใหผ้ ู้เรยี นวิเคราะหแ์ ล วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถน่ิ วิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณ ทีอ่ ่าน พร้อมยกเหตผุ ลประกอบ วรรณกรรม พรอ้ มยกเหตผุ ลประก ๓. อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดีและ - อธิบายคุณคา่ ใหผ้ ู้เรียนอธิบายคุณค วรรณกรรมท่ีอ่าน วรรณกรรมทีอ่ า่ น ๔. สรปุ ความรูแ้ ละข้อคดิ จากการอ่าน - สรุปความรูแ้ ละ ใหผ้ เู้ รียนสรปุ ความรูแ้ ไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง ข้อคดิ อา่ น ไปประยุกต์ใชใ้ น ๕. ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนด -ทอ่ งจาบท ใหผ้ เู้ รียนทอ่ งจาบทอ และบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคณุ ค่าตามความ อาขยาน และบทรอ้ ยกรองที่มคี สนใจ สนใจ

ละวจิ ารณว์ รรณคดี ผลการให้ผเู้ รยี นวิเคราะหแ์ ละ - การตรวจ - แบบ ณกรรมท้องถิ่นที่อา่ น วจิ ารณว์ รรณคดีวรรณกรรม และ ผลงาน ตรวจสอบ กอบ วรรณกรรมท้องถน่ิ รายการ ค่าของวรรณคดแี ละ ผลการอธบิ ายคณุ ค่าของ - การตรวจ - แบบ วรรณคดีและวรรณกรรมท่อี ่าน ผลงาน ตรวจสอบ รายการ และข้อคิดจากการ ผลการสรุปความรแู้ ละข้อคิดจาก - การตรวจ - แบบ นชีวิตจรงิ การอ่าน ผลงาน ตรวจสอบ รายการ อาขยานตามทีก่ าหนด ผลการทอ่ งจาบทอาขยาน -แบบ -แบบ คุณค่าตามความ ประเมนิ ประเมิน การทอ่ งจา

หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๖ กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง รำยวชิ ำภำษำไทย ท ๒๒๑๐๒ ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ ๒ เวลำ ๑๒ ช่ัวโมง โรงเรียนชุมชนประชำธิปัตย์วิทยำคำร มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วดั มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหา ในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ม. ๒/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ท ๑.๑ ม. ๒/๒ จบั ใจความสาคญั สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเร่ืองท่ีอ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๓ เขียนผงั ความคดิ เพอ่ื แสดงความเขา้ ใจในบทเรียนต่าง ๆ ทอ่ี ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๔ อภิปรายแสดงความคิดเห็นและขอ้ โตแ้ ยง้ เกี่ยวกบั เรื่องทอ่ี ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๗ อ่านหนงั สือ บทความ หรือคาประพนั ธอ์ ยา่ งหลากหลาย และประเมินคุณคา่ หรือแนวคดิ ที่ไดจ้ ากการอ่าน เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวติ ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ม. ๒/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั ท ๒.๑ ม. ๒/๒ เขียนบรรยายและพรรณนา ท ๒.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการเขยี น มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรูส้ ึกใน โอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ท ๓.๑ ม. ๒/๑ พดู สรุปใจความสาคญั เรื่องท่ฟี ังและดู ท ๓.๑ ม. ๒/๒ วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ คดิ เห็น และความน่าเช่ือถือของข่าวสารต่าง ๆ ท ๓.๑ ม. ๒/๓ วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์เรื่องท่ีฟังและดูอยา่ งมีเหตผุ ลเพอ่ื นาขอ้ คิดมาประยกุ ตใ์ ช้

ในการดาเนินชีวติ ท ๓.๑ ม. ๒/๔ พดู ในโอกาสต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ ตวั ชี้วัด ท ๔.๑ ม. ๒/๓ แต่งบทรอ้ ยกรอง มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น คุณค่าและนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตวั ชี้วัด ท ๕.๑ ม. ๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านในระดบั ท่ยี ากข้นึ ท ๕.๑ ม. ๒/๒ วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถิ่นทีอ่ ่าน พรอ้ มยกเหตุผลประกอบ ท ๕.๑ ม. ๒/๓ อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี ่าน ท ๕.๑ ม. ๒/๔ สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ท ๕.๑ ม. ๒/๕ ท่องจาบทอาขยานตามทกี่ าหนดและบทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณคา่ ตามความสนใจ สำระสำคญั ๑. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลง นอกจากจะตอ้ งรูค้ วามหมายของคาแลว้ ยงั ตอ้ ง เขา้ ใจลกั ษณะพเิ ศษของคาทใี่ ชบ้ างคา คือ คาเอกโทษและคาโทโทษ เม่ือเราไม่สามารถหาคาเอกคาโทไดจ้ งึ ใชค้ าเอก โทษโทโทษแทน ๒. การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง ผอู้ ่านตอ้ งเขา้ ใจลกั ษณะคาประพนั ธแ์ ละจงั หวะการอ่าน ท้งั กาพยย์ านี ๑๑ และโคลงส่ีสุภาพ เนื่องจากคาประพนั ธป์ ระเภทน้ีจะแตง่ ดว้ ยกาพยย์ านีสลบั กบั โคลงส่ี สุภาพอยา่ งละ ๑ บท การอ่านบทร้อยกรองนบั วา่ เป็ นการช่วยอนุรักษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง ๓. การคดั ลายมือตวั บรรจงตอ้ งเขียนใหถ้ ูกตอ้ ง สวยงามและอ่านง่าย เพราะจะทาใหก้ ารส่ือสาร สมั ฤทธิผล และการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมแลว้ สามารถจบั ใจความสาคญั จนสรุปเน้ือหาทอี่ ่านได้ จะทาให้ ไดร้ ับความรู้จากเรื่องท่ีอ่านไดเ้ ป็นอยา่ งดี ๔. การอ่านบทร้อยกรองแลว้ สามารถถอดความไดจ้ ะทาใหไ้ ดร้ บั ความรูจ้ ากเร่ืองทอ่ี ่านได้ ๕. การเขยี นผงั ความคดิ จากเร่ืองทีอ่ ่านทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือเรื่องไดช้ ดั เจน และการประเมินแนวคดิ จาก เรื่องท่ีอ่านทาใหส้ ามารถนาแนวคิดไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ ๖. การอภปิ รายเกี่ยวกบั เรื่องท่ีอ่านประกอบดว้ ยขอ้ ความสาคญั ของเรื่องทอ่ี ่าน คาอธิบายแสดง

เหตุผลประกอบความคิดเห็นวา่ คลอ้ ยตามเร่ืองทอี่ ่าน หรือไม่เห็นดว้ ยกบั เร่ืองที่อ่าน และขอ้ สรุปในการแสดงความ คดิ เห็นน้นั ควรเป็นการแสดงความคิดเห็นทปี่ ระกอบดว้ ยเหตุผลทีถ่ ูกตอ้ ง มีคุณธรรม ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ผรู้ ับ สารและสงั คม ไม่ก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ๗. การวเิ คราะห์ วิจารณ์จะตอ้ งแยกแยะเน้ือหาให้เขา้ ใจในส่วนตา่ ง ๆ แลว้ จึงอธิบายเหตุผล ประกอบการแสดงความคดิ ท่เี ห็นดว้ ยกบั เร่ืองเพื่อสรุปความคิดเห็นทคี่ ลอ้ ยตามและโตแ้ ยง้ จากเร่ืองท่ีอ่าน และการ อ่านหนงั สือหลายประเภทแลว้ ประเมินค่าหรือแนวคิดทไ่ี ดเ้ พอื่ นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาชีวติ เป็ นการอ่านท่ี ก่อใหเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ต่อตนเองและสงั คม ๘. การสรุปความรูแ้ ละการนาขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงจะทาใหก้ ารอ่าน วรรณคดีเร่ืองน้นั ๆ เกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวติ และรูจ้ กั แกป้ ัญหาท่ีเกิดข้ึน ๙. การเขยี นพรรณนาเป็นการเขยี นรายละเอียดเพอ่ื เพม่ิ คุณค่าของเรื่องใหน้ ่าอ่าน ในการเขียนตอ้ ง รูจ้ กั เลือกใหถ้ อ้ ยคาใหส้ ละสลวย ใชก้ ารเปรียบเทยี บจะทาใหผ้ อู้ ่านเกิดภาพพจนต์ ามไปดว้ ย ๑๐. การรับรู้ข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ เป็นส่ิงท่ีตอ้ งใหค้ วามสาคญั เพราะในโลกยคุ ขอ้ มูลขา่ วสารเช่นน้ี ตอ้ งรู้จกั วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็น และสามารถเชื่อมโยงความสมั พนั ธโ์ ดยใชพ้ น้ื ฐานของความคดิ อยา่ งมี เหตผุ ล สามารถประเมินค่าและปฏิบตั กิ ารข่าวสารเหล่าน้นั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม อนั จะก่อใหเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ตอ่ ตนเอง และผอู้ ื่น ๑๑. การพดู โฆษณาเป็นการพดู โนม้ นา้ วรูปแบบหน่ึง เป็ นการส่งสารใหผ้ ฟู้ ังมีความคิดเห็นและ รู้สึกคลอ้ ยตามผพู้ ดู ดงั น้นั ผพู้ ดู จึงตอ้ งมีคุณธรรม รบั รูค้ วามตอ้ งการพน้ื ฐานของผฟู้ ัง และรูจ้ กั วธิ ีการพดู โฆษณา ใหเ้ หมาะสมตามลกั ษณะของสินคา้ หรือบริการ และสอดคลอ้ งกบั กลุ่มเป้าหมายการพดู จึงจะประสบผลสาเร็จ ๑๒. กลอนสุภาพเป็นคาประพนั ธป์ ระเภทหน่ึงท่ีนิยมนามาแตง่ เป็ นวรรณคดี หรือวรรณกรรม และการแต่งกลอนสุภาพยงั เป็ นการอนุรักษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง ๑๓. การอ่านหนงั สือหลายประเภทแลว้ ประเมินคา่ หรือแนวคดิ ทไ่ี ดเ้ พอื่ นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาชีวติ เป็ น การอ่านทกี่ ่อใหเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ตอ่ ตนเองและสงั คม ๑๔. ความรูม้ ีอยทู่ วั่ ไปไม่เฉพาะแต่ในหอ้ งเรียน การแสวงหาความรู้ทีม่ ีประโยชนด์ ว้ ยตนเองอยู่ เสมอทาใหเ้ รามีความรู้กวา้ งข้นึ ทนั สมยั และเป็นผใู้ ฝ่เรียนรู้ ความเข้าใจทค่ี งทน นกั เรียนสามารถสรุปไดว้ า่ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลงนอกจากจะตอ้ งรู้ความหมายของ คาแลว้ ยงั ตอ้ งเขา้ ใจลกั ษณะพเิ ศษของคาทีใ่ ชบ้ างคา คอื คาเอกโทษและคาโทโทษ เมื่อเราไม่สามารถหาคาเอกคาโท

ไดจ้ งึ ใชค้ าเอกโทษโทโทษแทน การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง ผูอ้ ่านตอ้ งเขา้ ใจลกั ษณะคาประพนั ธแ์ ละจงั หวะ การอ่าน ท้งั กาพยย์ านี ๑๑ และโคลงสี่สุภาพ เน่ืองจากคาประพนั ธ์ประเภทน้ีจะแต่งดว้ ยกาพยย์ านีสลบั กบั โคลงสี่ สุภาพอยา่ งละ ๑ บท การอ่านบทร้อยกรองนบั วา่ เป็นการช่วยอนุรักษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวิธีหน่ึง การคดั ลายมือ ตวั บรรจงตอ้ งเขียนใหถ้ ูกตอ้ ง สวยงามและอ่านงา่ ยเพราะจะทาใหก้ ารส่ือสารสมั ฤทธิผล และการอ่านวรรณคดีและ วรรณกรรมแลว้ สามารถจบั ใจความสาคญั จนสรุปเน้ือหาทอี่ ่านได้ จะทาใหไ้ ดร้ บั ความรู้จากเรื่องที่อ่านไดเ้ ป็ นอยา่ ง ดี การอ่านบทรอ้ ยกรองแลว้ สามารถถอดความไดจ้ ะทาใหไ้ ดร้ ับความรู้จากเรื่องที่อ่านไดเ้ ป็ น อยา่ งดี การเขียนผงั ความคิดจากเร่ืองท่ีอ่านทาให้เขา้ ใจเน้ือเรื่องได้ชดั เจน และการประเมินแนวคิดจากเร่ืองท่ีอ่านทาใหส้ ามารถนา แนวคิดไปใช้ในชีวิตจริงได้ การอภิปรายเก่ียวกบั เรื่องท่ีอ่านประกอบด้วยข้อความสาคญั ของเร่ือง ท่ีอ่าน คาอธิบายแสดงเหตผุ ลประกอบความคดิ เห็นวา่ คลอ้ ยตามเรื่องที่อ่าน หรือไม่เห็นดว้ ยกบั เรื่องทีอ่ ่าน และขอ้ สรุปใน การแสดงความคิดเห็นน้นั ควรเป็ นการแสดงความคิดเห็นท่ีประกอบดว้ ยเหตุผลที่ถูกตอ้ ง มีคุณธรรม ก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อผรู้ บั สารและสงั คม ไม่ก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ การวเิ คราะห์ วิจารณ์จะตอ้ งแยกแยะเน้ือหาให้เขา้ ใจใน ส่วนตา่ ง ๆ แลว้ จึงอธิบายเหตุผลประกอบ การแสดงความคิดที่เห็นดว้ ยกบั เร่ืองเพ่อื สรุปความคิดเห็นที่คลอ้ ยตาม และโตแ้ ยง้ จากเร่ืองท่ีอ่าน และการอ่านหนังสือหลายประเภทแลว้ ประเมินค่าหรือแนวคิดที่ไดเ้ พื่อนาไปใชใ้ นการ แกป้ ัญหาชีวติ เป็นการอ่านทกี่ ่อใหเ้ กิดประโยชน์ท้งั ต่อตนเองและสงั คม การสรุปความรู้และการนาขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการ อ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงจะทาให้การอ่านวรรณคดีเรื่องน้ัน ๆ เกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวิตและรู้จัก แกป้ ัญหาที่เกิดข้ึน การเขียนพรรณนาเป็ นการเขียนรายละเอียดเพ่อื เพ่มิ คุณค่าของเรื่องให้น่าอ่าน ในการเขียน ตอ้ งรู้จกั เลือกใช้ถ้อยคาให้สละสลวย ใช้การเปรียบเทียบ จะทาให้ผูอ้ ่านเกิดภาพพจน์ตามไปด้วย การรับรู้ ข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ เป็ นสิ่งที่ต้องให้ความสาคัญ เพราะในโลกยุคขอ้ มูลข่าวสารเช่นน้ีต้องรู้จกั วิเคราะห์ ขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น และสามารถเช่ือมโยงความสมั พนั ธ์โดยใชพ้ ้นื ฐานของความคิดอยา่ งมีเหตุผล สามารถ ประเมินค่าและปฏิบตั ิการข่าวสารเหล่าน้ันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม อนั จะก่อให้เกิดประโยชน์ท้งั ต่อตนเองและผูอ้ ื่น การพูดโฆษณาเป็ นการพดู โน้มน้าวรูปแบบหน่ึง เป็ นการส่งสารให้ผูฟ้ ังมีความคิดเห็นและรู้สึกคลอ้ ยตามผูพ้ ูด ดงั น้ันผูพ้ ดู จึงตอ้ งมีคุณธรรม รับรู้ความตอ้ งการพ้ืนฐานของผฟู้ ัง และรู้จกั วิธีการพูดโฆษณาให้เหมาะสมตาม ลกั ษณะของสินคา้ หรือบริการ และสอดคลอ้ งกบั กลุ่มเป้าหมายการพดู จึงจะประสบผลสาเร็จ กลอนสุภาพเป็ นคา ประพนั ธป์ ระเภทหน่ึงที่นิยมนามาแต่งเป็ นวรรณคดี หรือวรรณกรรม และการแต่งกลอนสุภาพยงั เป็ นการอนุรักษ์ วฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง การอ่านหนงั สือหลายประเภทแลว้ ประเมินค่าหรือแนวคิดที่ไดเ้ พ่ือนาไปใชใ้ นการ แกป้ ัญหาชีวติ เป็นการอ่านท่กี ่อใหเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ต่อตนเองและสงั คม ความรู้มีอยทู่ วั่ ไปไม่เฉพาะแต่ในห้องเรียน การ แสวงหาความรู้ท่มี ีประโยชน์ดว้ ยตนเองอยเู่ สมอทาใหเ้ รามีความรู้กวา้ งข้นึ ทนั สมยั และเป็นผใู้ ฝ่ เรียนรู้ สำระกำรเรียนรู้ ๑. คาศพั ทจ์ ากเรื่อง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๒. คาเอกโทษ โทโทษ ๓. การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง ๔. การคดั ลายมือ

๕. การถอดความบทร้อยกรอง ๖. การการเขยี นผงั ความคดิ ๗. การประเมินแนวคดิ จากเรื่องท่อี ่าน ๘. การอภิปรายเกี่ยวกบั เรื่องที่อ่าน ๙. การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และอธิบายคุณค่าของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๑๐. การสรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการอ่าน ๑๑. การเขียนพรรณนา ๑๒. การวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น และความน่าเช่ือถือของขา่ วสารจากส่ือต่างๆ ๑๓.การพดู โฆษณา ๑๔.การแตง่ กลอนสุภาพ ๑๕.การประเมินคุณคา่ หรือแนวคดิ ที่ไดจ้ ากการอ่าน ๑๖. พระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี ๑๗.ธารทองแดง ๑๘.สตั วป์ ่ า สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การวิเคราะห์ - การสงั เคราะห์ - การจดั ระบบความคดิ เป็นแผนภาพ - การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่

๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ มงุ่ ม่นั ในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม มจี ติ สาธารณะ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๘.๒ เขา้ รว่ มกิจกรรมท่เี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) ๑. การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง ๒. ใบงาน เรื่อง การคดั ลายมือกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๓. การทอ่ งจาบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ ๔. ใบงาน เรื่อง การถอดความกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๕. ใบงาน เร่ือง การเขียนผงั ความคิดและประเมินแนวคิดจากบทความท่ีอ่าน ๖. ใบงาน เร่ือง การอภิปรายแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การรกั ษาแหล่งน้า ๗. ใบงาน เรื่อง คุณคา่ ของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๘. ใบงาน เร่ือง การสรุปความรู้และขอ้ คดิ จากกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง

๙. ชิ้นงาน เรื่อง การเขยี นพรรณนา ๑๐. การพดู วเิ คราะห์และประเมินค่าข่าวท่ีฟังและดู ๑๑. การพดู โฆษณา ๑๒. ช้ินงาน เรื่อง การแต่งกลอนสุภาพ การประเมนิ ผล ๑. การประเมนิ ผลตวั ชีว้ ดั เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ระดับคะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมิน การอ่านออกเสียง อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง บทร้อยกรอง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ได้ ถูกตอ้ ง ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี เสียงดงั ชดั เจน เสียงดงั ชดั เจน เสียงดงั ชดั เจน เสียงดงั ชดั เจน เวน้ จงั หวะเหมาะสม เวน้ จงั หวะเหมาะสม เวน้ จงั หวะเหมาะสม แต่ยงั ตอ้ งปรบั ปรุง สามารถทอดเสียง มีการทอดเสียง พยายามทอดเสียง เร่ืองการเวน้ จงั หวะ เอ้ือนเสียง เอ้ือนเสียง เอ้ือนเสียง และทว่ งทานอง และใชน้ ้าเสียง และใชน้ ้าเสียง และใชน้ ้าเสียง ในการอ่าน แสดงอารมณ์ แสดงอารมณ์ แสดงอารมณ์ ไดไ้ พเราะ ในบางจงั หวะไดด้ ี ในบางจงั หวะ แต่ยงั ทาไดไ้ ม่ดีนกั ใบงาน เรื่อง การคดั ลายมือ ระดับคะแนน ๔ ๓๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมิน การคดั ลายมือ เขยี นตวั อกั ษร เขียนตวั อกั ษร เขียนตวั อกั ษร เขียนตวั อกั ษร ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ชดั เจน ถูกตอ้ ง ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี และผลงานสะอาด ขนาดตวั อกั ษร ขนาดตวั อกั ษร แตย่ งั ตอ้ งพฒั นา ตามอกั ขรวธิ ี บางตวั ผดิ สดั ส่วน หลายตวั ผดิ สดั ส่วน การควบคุมขนาดของ บา้ ง แต่ผลงาน จงึ ไม่คอ่ ยเป็น ตวั อกั ษรและอตั ราเร็ว ขนาดตวั อกั ษร มีสดั ส่วนเหมาะสม และเสมอกนั

ผลงานสะอาด สะอาดเรียบรอ้ ย ระเบยี บ แต่ผลงาน ในการเขยี น เรียบร้อย สะอาด เร่ือง การท่องจาบทรอ้ ยกรอง ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมิน ท่องจาบทร้อยกรอง ทอ่ งจาบทร้อยกรอง ทอ่ งจาบทรอ้ ยกรอง ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา การทอ่ งจา ท่องจาบทร้อยกรอง ไม่ติดขดั ตกหล่น ไม่ติดขดั ตกหล่น แต่มีติดขดั บา้ ง ออกเสียงคา ออกเสียงคา ออกเสียงคาบางคา บทร้อยกรอง ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา ถูกตอ้ งชดั เจน ถูกตอ้ งชดั เจน ยงั ไม่ชดั เจน ทกุ คา เวน้ จงั หวะ ทุกคา เวน้ จงั หวะ เวน้ จงั หวะ ไม่ตดิ ขดั ตกหล่น วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกตอ้ ง ทุกวรรค ใชร้ ะดบั - เป็ นส่วนใหญ่ เป็ นบางวรรค ออกเสียงคา เสียงแสดงอารมณ์ ใชร้ ะดบั เสียง ระดบั เสียง ตามบทประพนั ธ์ แสดงอารมณ์ตาม ราบเรียบ ถูกตอ้ งชดั เจน ไดด้ ี บทประพนั ธ์ ไม่แสดงอารมณ์ ไดด้ ีพอใช้ ทกุ คา เวน้ จงั หวะ วรรคตอนถูกตอ้ ง ทุกวรรค ใชร้ ะดบั - เสียงแสดงอารมณ์ ตามบทประพนั ธ์ ไดด้ ีมาก ใบงาน เร่ือง การถอดความบทรอ้ ยกรอง ระดับคะแนน ๔๓ ๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ ถอดความบทรอ้ ย ถอดความ กรองไดถ้ ูกตอ้ ง บทร้อยกรองได้ การถอดความ ถอดความ ถอดความ ขาดสาระสาคญั เพยี งส้นั ๆ บางส่วนแต่ แตส่ ามารถ บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง เน้ือความโดยรวม จบั ประเดน็ ตรงตามบทร้อย ไดต้ รงตาม ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง กรองตอ้ งปรับปรุง บทร้อยกรอง มีสาระสาคญั มีสาระสาคญั ครบถว้ น ครบถว้ น ใชภ้ าษาเรียบเรียง แต่พยายาม สละสลวย อธิบายรายละเอียด

มากเกินไปจน เรื่องการใชภ้ าษา ทาใหข้ อ้ ความ ใหก้ ระชบั มากข้นึ ไม่กระชบั ใบงาน เร่ือง การเขียนผงั ความคิดและประเมินแนวคดิ จากบทความทอ่ี ่าน ระดบั คะแนน ๔๓๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ เขยี นผงั ความคิด วเิ คราะห์สาเหตุ การเขียน เขยี นผงั ความคิด เขียนผงั ความคิด เขยี นผงั ความคิด ของมลพษิ ทางน้าไดถ้ ูกตอ้ ง ผงั ความคดิ วเิ คราะหส์ าเหตุ วเิ คราะหส์ าเหตุ วเิ คราะห์สาเหตุ เกือบทกุ ประเด็น แตอ่ ธิบาย ของมลพษิ ของมลพษิ ของมลพษิ ไม่ชดั เจน ประเมินแนวคิด ทางน้าไดถ้ กู ตอ้ ง ทางน้าไดถ้ ูกตอ้ ง ทางน้าไดถ้ ูกตอ้ ง ท่เี ป็นประโยชน์ ชดั เจนทกุ ประเด็น ทกุ ประเดน็ ทกุ ประเดน็ ไดเ้ พยี ง ประเดน็ เดียว แต่บางประเดน็ แตอ่ ธิบาย ๑ อธิบายไม่ชดั เจน ไม่ชดั เจน แสดงความรู้ การประเมิน ประเมินแนวคิด ประเมินแนวคิด ประเมินแนวคิด ความคดิ เห็น ไดต้ รงประเดน็ แนวคดิ ที่ได้ ไดห้ ลายประเด็น ไดห้ ลายประเดน็ ทีเ่ ป็นประโยชน์ แต่ยงั ไม่เชื่อมโยง ถึงส่วนรวม จากการอ่านบทความ ทุกประเดน็ ทกุ ประเด็น ได้ ๒-๓ ประเดน็ แสดงเหตุผล ส้นั ๆ และตอ้ ง เป็ นประโยชน์ เป็ นประโยชน์ และบางประเดน็ ปรบั ปรุงการใชภ้ าษา และสามารถ และบางประเดน็ สามารถนาไปใช้ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง สามารถนาไปใช้ ไดจ้ ริง ใบงาน เร่ือง การอภิปรายแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การรักษาแหล่งน้า ระดบั คะแนน ๔ ๓๒ เกณฑ์กำรประเมนิ การอภปิ ราย แสดงความรู้ แสดงความรู้ แสดงความรู้ แสดงความคิดเห็น ความคิดเห็นได้ ความคิดเห็น ความคิดเห็น เกี่ยวกบั การรกั ษา น่าสนใจเป็น ไดน้ ่าสนใจ ไดต้ รงประเด็น แหล่งน้า ประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นประโยชน์ เชื่อมโยงถึง ส่วนรวม มีเหตุผล และมีเหตุผลที่ ตอ่ ส่วนรวม น่าเชื่อถือใชภ้ าษา และมีเหตุผล ประกอบพอสมควร กระชบั ส่ือความหมาย ประกอบชดั เจน การใชภ้ าษา ชดั เจน ใชภ้ าษาไดด้ ี ไม่กระชบั

ใบงาน เรื่อง การอธิบายคุณค่าของวรรณคดี ระดับคะแนน ๔๓ ๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การอธิบายคุณคา่ อธิบายคุณค่า อธิบายคุณค่า อธิบายคุณค่า อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดี ของวรรณคดี ของวรรณคดี ของวรรณคดี ของวรรณคดี ไดถ้ ูกตอ้ งทกุ ดา้ น ไดถ้ ูกตอ้ งทุกดา้ น แต่อธิบาย แต่อธิบาย ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดค้ รอบคลมุ อยา่ งส้นั ๆ บางดา้ น ครอบคลุมทกุ ดา้ น ครอบคลุม อธิบาย ชดั เจน เกือบทกุ ดา้ น เขา้ ใจง่าย มีการยกตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ ง ประกอบ ประกอบ ใบงาน เร่ือง การสรุปความรู้และขอ้ คิดจากเรื่องที่อ่าน ระดับคะแนน ๔๓ ๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ สรุปความรู้ สรุปความรู้ และขอ้ คิดได้ และขอ้ คิด การสรุปความรู้และ สรุปความรู้ สรุปความรู้ หลายประเด็น ไดเ้ ฉพาะ แมบ้ างประเดน็ ประเดน็ หลกั ขอ้ คิดจากเร่ืองที่อ่าน และขอ้ คดิ ได้ และขอ้ คิดได้ จะไม่ชดั เจนนกั การวเิ คราะห์ นาขอ้ คดิ มา ขอ้ คิดและ หลากหลายประเดน็ หลากหลายประเดน็ วเิ คราะห์ได้ การเสนอแนวทาง ตามท่ีกาหนด การปฏบิ ตั ิ นาขอ้ คิดไป นาขอ้ คิดไป และเสนอแนวทาง ยงั ทาไดไ้ ม่ชดั เจน การปฏบิ ตั หิ ลายขอ้ แต่กพ็ ยายาม วเิ คราะห์ วเิ คราะห์ อยา่ งละเอียด อยา่ งละเอียด เสนอแนวทาง เสนอแนวทาง การปฏบิ ตั ิ การปฏบิ ตั ิ ที่ทาไดจ้ ริง ทีท่ าไดจ้ ริง ทกุ ขอ้ และเป็น เป็นส่วนใหญ่

ประโยชนต์ อ่ และเป็นประโยชน์ แต่บางขอ้ ไม่ตรงกบั เสนอใหส้ มั พนั ธ์ ส่วนรวม ต่อส่วนรวม จดุ ประสงค์ กบั ชีวติ จริง อยา่ งชดั เจน ช้ินงาน เรื่อง การเขยี นพรรณนา ระดับคะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การเขียนพรรณนา เขยี นพรรณนาได้ เขียนพรรณนาไดด้ ี เขยี นพรรณนาไดด้ ี เขยี นความเรียง น่าอ่าน เน้ือหามี เน้ือหามีเอกภาพ เน้ือหามีเอกภาพ ตามทีก่ าหนด เอกภาพ ใชภ้ าษา บางช่วงใชภ้ าษา เขียนรายละเอียด แต่สานวน สละสลวยสานวน อยา่ งสละสลวย ถึงสิ่งท่ีตอ้ งการ พรรณนาไม่ชดั เจน พรรณนาลึกซ้ึง ใช้ มีการเปรียบเทียบ พรรณนาอยา่ งชดั เจน การเปรียบเทยี บ ช่วยเสริมเน้ือความ ใชก้ ารเปรียบเทียบ อยา่ งเหมาะสม ใหผ้ อู้ ่านเห็นภาพ หลายแห่ง แต่บาง ทาใหผ้ อู้ ่าน หรือเขา้ ใจอารมณ์ แห่งไม่เขา้ กบั เห็นภาพชดั เจน ชดั เจนยงิ่ ข้นึ เน้ือความ เกิดอารมณ์คลอ้ ยตาม เรื่อง การพดู วเิ คราะห์และประเมินค่าข่าวทีฟ่ ังและดู ระดับคะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การพดู วเิ คราะห์ วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จริง วเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จริง วเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง และประเมินคา่ และขอ้ คิดเห็น และขอ้ คดิ เห็น และขอ้ คดิ เห็น และขอ้ คิดเห็น ข่าวที่ฟังและดู ของขา่ วไดถ้ กู ตอ้ ง ของข่าวไดถ้ ูกตอ้ ง ของขา่ วไดถ้ กู ตอ้ ง ของข่าวไดถ้ ูกตอ้ ง มีเหตุผลชดั เจน มีเหตผุ ลชดั เจน มีเหตุผลในการ วเิ คราะห์ ในการวเิ คราะห์ ในการวเิ คราะห์ วเิ คราะห์ความ ความน่าเช่ือถือได้ ความน่าเช่ือถือ ความน่าเชื่อถือ น่าเช่ือถือ แต่อธิบาย ของขา่ ว ของขา่ ว ของขา่ ว เหตุผลไม่ชดั เจน และอธิบาย ประเมินคา่ ขา่ ว ประเมินคา่ ขา่ ว ประเมินคา่ ขา่ ว อยา่ งหนกั แน่น ไดห้ ลายแง่มุม ใหเ้ ห็นประโยชน์ ใหเ้ ห็นประโยชน์ ประเมินคา่ ขา่ ว แสดงใหเ้ ห็น ท้งั ตอ่ ตนเอง ในภาพรวม ไดห้ ลายแง่มุม ประโยชน์ท้งั ตอ่ และผอู้ ื่นได้

แสดงให้เห็น ตนเองและผอู้ ่ืน แตป่ ระเด็น ประโยชน์ท้งั ต่อ ไม่หลากหลาย ตนเองและผอู้ ื่น และสามารถ อธิบายให้ เชื่อมโยงกบั ชีวติ จริง เร่ือง การพดู โฆษณา ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ เตรียมการพดู มาเป็ นอยา่ งดี การพดู โฆษณา เตรียมการพดู ลาดบั การพดู เตรียมการพดู เตรียมการพดู ตอ่ เน่ือง นาเสนอ มาเป็นอยา่ งดี จุดเด่นของสินคา้ ไม่ดีเทา่ ทีค่ วร ยงั ไม่ดี หรือบริการอยา่ ง ลาดบั การพดู ชดั เจน ใชภ้ าษา ลาดบั การพดู พดู ติด ๆ ขดั ๆ กระตนุ้ ความสนใจ ต่อเน่ือง นาเสนอ ของผฟู้ ังไดด้ ี ติดขดั เล็กนอ้ ย การนาเสนอ แตข่ าดลีลา จดุ เด่นของสินคา้ และน้าเสียง นาเสนอจุดเด่น จุดเด่นของสินคา้ บุคลิกภาพตอ้ ง หรือบริการอยา่ ง ของสินคา้ หรือบริการ หรือบริการ ชดั เจน วธิ ีการ ไดแ้ ตย่ งั ไม่น่าสนใจ ไม่ชดั เจน นาเสนอน่าสนใจ ตอ้ งปรบั ปรุง การใชภ้ าษา ใชภ้ าษาและน้าเสียง เร่ืองการใชภ้ าษา และน้าเสียง กระตนุ้ ความสนใจ และน้าเสียง ราบเรียบ ของผฟู้ ังไดด้ ี ในการพดู ไม่น่าสนใจ การพดู เป็น

ธรรมชาติและมี ปรับปรุงเล็กนอ้ ย บคุ ลิกภาพทด่ี ี ช้ินงาน เรื่อง การแต่งกลอนสุภาพ ระดับคะแนน ๔ ๓๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ ฉนั ทลกั ษณ์ ถูกตอ้ ง การแต่ง ฉนั ทลกั ษณ์ ฉนั ทลกั ษณ์ ฉนั ทลกั ษณ์ เน้ือหาสมั พนั ธ์ ถูกตอ้ ง เน้ือหา ถูกตอ้ ง เน้ือหาดี กบั หวั ขอ้ แต่ กลอนสุภาพ ถูกตอ้ ง เน้ือหา ลึกซ้ึงกินใจ ส่ือความหมาย บางวรรคไม่สื่อ สื่อความหมาย สอดคลอ้ งกนั ความหมาย ลึกซ้ึงกินใจ สอดคลอ้ งกนั ท้งั บท ท้งั บท แตล่ ะวรรค มีสมั ผสั ในบางแห่ง ส่ือความหมาย ชดั เจน เลือกใช้ คาไพเราะ มีสมั ผสั ใน หลายแห่ง ๒. การประเมนิ ผลคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้

ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ดเี ย่ยี ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๔.๑.๑ ตงั้ ใจเรยี น เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา ไม่ตงั้ ใจเรยี น ๔.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ มีความเพยี รพยายาม และมีความเพียร- และมีความเพยี ร- ในการเรยี น พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการเรยี นรู้ มีสว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ ในการเรยี นรู้ มีสว่ นรว่ มในการเรียนรู้ มีสว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรม ๔.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ ม และเขา้ รว่ มกิจกรรม และเขา้ รว่ มกิจกรรม การเรยี นรูต้ า่ ง ๆ กิจกรรมการเรยี นรู้ การเรยี นรูต้ า่ ง ๆ การเรยี นรูต้ า่ ง ๆ บางครงั้ ทงั้ ภายในและภายนอก บอ่ ยครงั้ ตา่ ง ๆ โรงเรยี นเป็นประจา ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยีย่ ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐) ๔.๒.๑ ศกึ ษาคน้ ควา้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ไม่ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู ้ หาความรูจ้ ากหนงั สอื หาความรูจ้ ากหนงั สอื หาความรูจ้ ากหนงั สอื หาความรู้ จากหนงั สอื เอกสาร ส่งิ พิมพ์ เอกสาร ส่งิ พมิ พ์ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ เอกสาร ส่งิ พิมพ์ ส่อื เทคโนโลยี สอ่ื เทคโนโลยี ส่อื เทคโนโลยี ส่อื เทคโนโลยีตา่ ง ๆ และสารสนเทศ และสารสนเทศ แหลง่ เรยี นรูท้ งั้ ภายใน และภายนอกโรงเรยี น แหลง่ เรยี นรูท้ งั้ แหลง่ เรยี นรูท้ งั้ ภายใน แหลง่ เรยี นรูท้ งั้ ภายใน เลอื กใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ ง ภายในและภายนอก และภายนอกโรงเรยี น และภายนอกโรงเรยี น เหมาะสม มีการบนั ทกึ โรงเรยี น และเลอื ก เลอื กใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ ง เลอื กใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ ง ความรู้

ใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม มีการบนั ทกึ เหมาะสม มีการบนั ทกึ เหมาะสม ความรู้ วิเคราะหข์ อ้ มลู ความรู้ วิเคราะหข์ อ้ มลู ๔.๒.๒ บนั ทกึ ความรู้ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบ แลกเปล่ยี นเรยี นรูด้ ว้ ย แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ จากสง่ิ ท่เี รยี นรู้ วิธีการท่หี ลากหลาย กบั ผอู้ ่ืนได้ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ และนาไปใช้ ในชีวิตประจาวนั ได้ ๔.๒.๓ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ เพ่อื นาไปใชใ้ น ชีวิตประจาวนั มุ่งม่ันในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารงาน พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยยี่ ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ อ่ การ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ไมต่ งั้ ใจปฏิบตั ิ ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ี หนา้ ท่กี ารงาน ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ี ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ใหส้ าเรจ็ มีการ ใหส้ าเรจ็ ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ปรบั ปรุงและพฒั นา การทางานใหด้ ขี นึ้ ๖.๑.๒ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ใหส้ าเรจ็ มีการ ในการทางานใหส้ าเรจ็ ปรบั ปรุงและพฒั นา ๖.๑.๓ ปรบั ปรุงและพฒั นา การทางานใหด้ ขี นึ้ การทางานดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐) ๖.๒.๑ ทมุ่ เททางาน อดทน ทางานดว้ ยความขยนั ทางานดว้ ยความขยนั ทางานดว้ ยความขยนั ไม่ขยนั อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ ตอ่ ปัญหา อดทน ไม่ยอ่ ทอ้ อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ อดทน พยายาม ในการทางาน และ ตอ่ ปัญหา พยายาม ตอ่ ปัญหาในการ ใหง้ านสาเรจ็ ตาม อุปสรรคในการทางาน แกป้ ัญหาอปุ สรรค ทางาน พยายาม เปา้ หมาย ๖.๒.๒ พยายามแกป้ ัญหาและ ในการทางาน ใหง้ านสาเรจ็ ตาม อปุ สรรคในการทางาน ใหง้ านสาเรจ็ ตาม เปา้ หมาย ช่ืนชม ใหส้ าเรจ็ เปา้ หมายภายใน ผลงานดว้ ยความ ๖.๒.๓ ช่ืนชมผลงานดว้ ยความ เวลาท่กี าหนด ภาคภมู ิใจ ภาคภมู ิใจ ช่ืนชมผลงาน ดว้ ยความภาคภมู ิใจ รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๗.๒.๑ ใชภ้ าษาไทยและ ใชภ้ าษาไทย เลขไทย ใชภ้ าษาไทย เลขไทย ใชภ้ าษาไทย เลขไทย ไม่สนใจใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการสอ่ื สาร ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ในการส่อื สารไดถ้ กู ตอ้ ง ในการส่อื สารไดถ้ กู ตอ้ ง ในการสอ่ื สารไดถ้ กู ตอ้ ง อยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม เหมาะสมแนะนา เหมาะสมแนะนา เหมาะสมแนะนา ให้ ๗.๒.๒ ชกั ชวน แนะนาให้ ผอู้ ่ืนเหน็ คณุ คา่ ชกั ชวนใหผ้ อู้ ่ืน ชกั ชวนใหผ้ อู้ ่ืน ผอู้ ่ืน ของการใชภ้ าษาไทย ท่ถี กู ตอ้ ง ใชภ้ าษาไทยท่ถี กู ตอ้ ง ใชภ้ าษาไทยท่ถี กู ตอ้ ง ใชภ้ าษาไทยท่ถี กู ตอ้ ง เป็นประจา เป็นแบบอยา่ งท่ดี ี ดา้ นการใชภ้ าษาไทย มีจติ สาธารณะ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๘.๒ เขา้ รว่ มกิจกรรมท่เี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ ่าน (๐) ๘.๒.๑ ดแู ล รกั ษาสาธารณ- ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั ิ ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั ิ ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั ิ ไมส่ นใจดแู ล รกั ษา

สมบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ส่งิ แวดลอ้ มของ สง่ิ แวดลอ้ มของ ส่งิ แวดลอ้ มของ ทรพั ยส์ มบตั แิ ละ ส่งิ แวดลอ้ มของ ดว้ ยความเต็มใจ หอ้ งเรยี น โรงเรยี น หอ้ งเรยี น โรงเรยี น หอ้ งเรยี น โรงเรยี น โรงเรยี น ๘.๒.๒ เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี ชมุ ชน เขา้ รว่ มกิจกรรม ชมุ ชน เขา้ รว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม เป็นประโยชนต์ อ่ เพ่อื สงั คมและสา เพ่อื สงั คมและสา เพ่อื สงั คมและ โรงเรยี น ชุมชน ธารณ- ธารณ- สาธารณประโยชน์ และสงั คม ประโยชนข์ องโรงเรยี น ประโยชนข์ องโรงเรยี น ของโรงเรยี น ๘.๒.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื และชุมชน ดว้ ยความเต็มใจ ดว้ ยความเตม็ ใจ แกป้ ัญหา หรอื ดว้ ยความเต็มใจ รว่ มสรา้ งส่งิ ท่ดี งี าม ของสว่ นรวม ตามสถานการณ์ ท่เี กิดขนึ้ ดว้ ย ความกระตือรอื รน้ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนอ่านบทนาเรื่องกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง แลว้ สรุปสาระสาคญั โดยครูอธิบาย เพมิ่ เตมิ ๒. ใหน้ กั เรียนดูแผนภูมิโคลงสี่สุภาพแลว้ สงั เกตวา่ มีคาใดบา้ งท่ีเขียนแตกตา่ งไปจากปกติ (เหย้ยี ง = เยย่ี ง, ควา่ ง = ขวา้ ง, ซนั่ = ส้นั , เหนา้ = เน่า) ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ๓. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน แลว้ สงั เกตคาเอกโทษหรือคาโทโทษที่ขีดเสน้ ใตแ้ ลว้ เขยี นให้ ถูกตอ้ ง กลมุ่ ใดเสร็จก่อนใหย้ นื ข้ึน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๔. ใหก้ ลุ่มทีท่ าเสร็จก่อนแลว้ ถูกตอ้ งเฉลยคาตอบ ครูชมเชยใหก้ าลงั ใจ ๕. ใหน้ กั เรียนนาตวั อกั ษรหนา้ ความหมาย มาเขียนลงในช่องวา่ งใหต้ รงกบั คาศพั ทท์ ่กี าหนดให้ โดยใชพ้ จนานุกรมประกอบการคน้ หาความหมาย ๖. ครูเฉลยคาตอบและอธิบายเพมิ่ เติม ๗. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ดงั น้ี • การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทโคลง นอกจากจะตอ้ งรูค้ วามหมายของคาแลว้ ยงั ตอ้ งเขา้ ใจ ลกั ษณะพเิ ศษของคาทีใ่ ชบ้ างคา คือ คาเอกโทษและคาโทโทษ เม่ือเราไม่สามารถหาคาเอกคาโทไดจ้ ึงใชค้ าเอกโทษ โทโทษแทน ๘. ครูเลือกนกั เรียน ๑๐ คน อ่านออกเสียงคาและบอกความหมายของคาน้นั ครูและเพอื่ น ๆ ช่วยกนั เฉลย และอธิบายเพมิ่ เติม ๙. ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพอ่ื น ศกึ ษาและสรุปความรู้ เร่ือง การอ่านกาพยห์ ่อโคลง เม่ือเสร็จแลว้ ครูเลือกบางคูส่ รุปใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง ครูอธิบายเพม่ิ เติม

๑๐. ใหน้ กั เรียนฟังตวั อยา่ งการอ่านทานองเสนาะกาพยห์ ่อโคลงจากแถบบนั ทึกเสียง หรือครูอ่านใหฟ้ ัง ๑๑. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ฝึกอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ท้งั แบบธรรมดาและ แบบทานองเสนาะใหถ้ ูกตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ของคาประพนั ธ์ ๑๒. ใหน้ กั เรียนออกมาอ่านใหเ้ พอ่ื นฟังหนา้ ช้นั เรียน ครูติชมใหก้ าลงั ใจและแนะนาเพม่ิ เตมิ ๑๓. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรูด้ งั น้ี • การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง ผอู้ ่านตอ้ งเขา้ ใจลกั ษณะคาประพนั ธแ์ ละจงั หวะการอ่าน ท้งั กาพยย์ านี ๑๑ และโคลงสี่สุภาพ เน่ืองจากคาประพนั ธป์ ระเภทน้ีจะแต่งดว้ ยกาพยย์ านีสลบั กบั โคลงสี่สุภาพ อยา่ งละ ๑ บท การอ่านบทร้อยกรองนบั วา่ เป็นการช่วยอนุรักษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง ๑๔. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรม “คนดีของฉนั ” ครูใหน้ กั เรียนลงคะแนนใหก้ บั เพอ่ื นในช้นั เรียน ๑ คนโดยให้ เขยี นชื่อเพอ่ื น และบอกเหตผุ ลวา่ ชอบเพอื่ นคนน้ีเพราะเหตุใด จากน้นั ครูเขยี นชื่อเพอ่ื นทไี่ ดร้ บั คะแนนเสียงจนครบ ทุกชื่อแลว้ รวมคะแนน นกั เรียนคนทีไ่ ดร้ ับคะแนนเสียงมากที่สุดใหย้ นื ข้ึนรับคาช่ืนชมจากเพอ่ื นและครู ครูสรุป คุณสมบตั ิของคนท่ผี อู้ ่ืนช่ืนชอบ เพอื่ เป็นตวั อยา่ งในการทาความดี ๑๕. ใหน้ กั เรียนทบทวนการคดั ลายมือ จากน้นั ใหเ้ ลือกกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดงท่ชี อบ ๑ บท นามาคดั ลายมอื ตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั ใหส้ วยงาม ทาลงใบงานที่ ๒๔ ๑๖. ใหน้ กั เรียนท่องจาบททน่ี กั เรียนเลือกมาคดั ลายมือ โดยผลดั กนั ท่องใหเ้ พอ่ื นฟังพรอ้ มท้งั บอกเหตุผลทช่ี อบ เลือกนกั เรียนท่องใหเ้ พอ่ื นฟังหนา้ ช้นั เรียน ครูชมเชยพร้อมท้งั อธิบายเพมิ่ เติม ๑๗. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การคดั ลายมือตวั บรรจงตอ้ งเขยี นใหถ้ ูกตอ้ ง สวยงามและอ่านงา่ ยเพราะจะทาใหก้ ารส่ือสาร สมั ฤทธิผล และการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมแลว้ สามารถจบั ใจความสาคญั จนสรุปเน้ือหาที่อ่านได้ จะทาให้ ไดร้ ับความรู้จากเรื่องท่อี ่านไดเ้ ป็นอยา่ งดี ๑๘. ใหน้ กั เรียนดูภาพพชื และสตั ว์ แลว้ ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ภาพ ๑๙. ใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี ๒๕ เรื่อง การถอดความกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง จากน้นั ครูจบั ฉลากหมายเลขบทแลว้ สุ่มนกั เรียนอ่านสรุปความใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง ครูอธิบายเพมิ่ เติม ๒๐. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การอ่านบทร้อยกรองแลว้ สามารถถอดความไดจ้ ะทาใหไ้ ดร้ บั ความรูจ้ ากเรื่องที่อ่านไดเ้ ป็นอยา่ งดี ๒๑. ใหน้ กั เรียนตอบคาถามอะไรเอ่ย แลว้ สงั เกตธรรมชาติของสตั วจ์ ากปริศนาคาทาย ๒๒. ใหน้ กั เรียนทบทวนเรื่องการเขยี นผงั ความคดิ ดว้ ยการสนทนาแลกเปล่ียนและตอบขอ้ ซกั ถาม ๒๓. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มอ่านขอ้ ความในใบงานท่ี ๒๖ แลว้ เขียนผงั ความคิด เม่ือเสร็จแลว้ ใหน้ าเสนอหนา้ ช้นั เรียน จากน้นั ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ๒๔. ใหน้ กั เรียนเขียนแนวคดิ ที่ไดจ้ ากบทความในการอนุรกั ษแ์ หล่งน้าเพอื่ ใหใ้ ชไ้ ดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื เม่ือเสร็จแลว้ ร่วมกนั เฉลยคาตอบ ๒๕. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี •

การเขยี นผงั ความคิดจากเรื่องทีอ่ ่านทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือเรื่องไดช้ ดั เจน และการประเมินแนวคิดจาก เร่ืองที่อ่านทาใหส้ ามารถนาแนวคิดไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ ๒๖. ใหน้ กั เรียนอ่านแผนภมู ิปริศนาคาทาย แลว้ แบง่ กลุ่มหาคาตอบ กลุ่มใดหาไดก้ ่อนใหล้ ุกข้ึน รอ้ งเพลงประจากลุ่มทแ่ี ตง่ ข้ึน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง และใหก้ ลุ่มท่ีเสร็จก่อนเฉลย ครูชมเชยกลุ่มทช่ี นะ ๒๗. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นดว้ ยเหตผุ ล แลว้ บนั ทกึ การอภิปรายลงในใบ งานที่ ๒๗ โดยเขียนเป็นแผนภาพความคดิ ๒๘. ใหต้ วั แทนกลุ่มนาเสนอใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ แลว้ นาผลงานของนกั เรียนจดั ป้ายนิเทศ ๒๙. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การอภิปรายเก่ียวกบั เรื่องที่อ่านประกอบดว้ ยขอ้ ความสาคญั ของเรื่องทอี่ ่าน คาอธิบายแสดงเหตผุ ล ประกอบความคิดเห็นวา่ คลอ้ ยตามเร่ืองที่อ่าน หรือไม่เห็นดว้ ยกบั เร่ืองทีอ่ ่านและขอ้ สรุป ในการแสดงความคิดเห็นน้นั ควรเป็นการแสดงความคิดเห็นทีป่ ระกอบดว้ ยเหตผุ ลทถี่ ูกตอ้ ง มีคุณธรรม ก่อใหเ้ กิด ประโยชน์ต่อผรู้ บั สารและสงั คม ไม่ก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ๓๐. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม ๘ กลุ่ม แลว้ ออกมาจบั ฉลากเพอื่ ทากิจกรรม ดงั น้ี กลุ่มที่ ๑,๒ ให้วเิ คราะห์วา่ กวมี ีความรู้สึกอยา่ งไรในขณะทีแ่ ต่งกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เพราะอะไรจึงคิดเช่นน้นั กลุ่มที่ ๓,๔ นกั เรียนมีความรูส้ ึกอยา่ งไรในขณะทอ่ี ่านกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง กลุ่มที่ ๕,๖ อธิบายคุณค่ากาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ดา้ นเน้ือหา กลุ่มที่ ๗,๘ อธิบายคุณค่ากาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ดา้ นวรรณศลิ ป์ ๓๑. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยครูอธิบายเพม่ิ เติม ๓๒. ใหน้ กั เรียนนาความรูบ้ นั ทกึ ในใบงานที่ ๒๘ เร่ืองคุณคา่ ของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๓๓. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์จะตอ้ งแยกแยะเน้ือหาให้เขา้ ใจในส่วนตา่ งๆ แลว้ จึงอธิบายเหตุผล ประกอบการแสดงความคดิ ท่เี ห็นดว้ ยกบั เร่ืองเพ่อื สรุปความคดิ เห็นท่ีคลอ้ ยตามและโตแ้ ยง้ จากเรื่องทีอ่ ่าน และการ อ่านหนงั สือหลายประเภทแลว้ ประเมินค่าหรือแนวคดิ ท่ไี ดเ้ พอ่ื นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาชีวติ เป็ นการอ่านที่ ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ท้งั ตอ่ ตนเองและสงั คม ๓๔. ใหน้ กั เรียนคดิ กิจกรรมท่เี ป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คนละ ๑ กิจกรรม โดยครูสุ่มนกั เรียนแสดง ความคิดใหเ้ พอื่ น ๆ ฟัง ๓๕. ใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี ๒๙ เร่ือง การสรุปความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ครูเลือกนกั เรียนนาเสนอใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง และอธิบายเพม่ิ เตมิ ๓๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การสรุปความรู้และการนาขอ้ คิดทไ่ี ดจ้ ากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง จะทาใหก้ ารอ่าน วรรณคดีเร่ืองน้นั ๆ เกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวติ และรูจ้ กั แกป้ ัญหาท่เี กิดข้ึน ๓๗. ใหน้ กั เรียนทบทวนการเขยี นพรรณนา โดยครูใหน้ กั เรียนออกมาเขียนสรุปเป็นผงั ความคดิ

บนกระดาน ครูอธิบายเพมิ่ เติม ๓๘. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน โดยร่วมกนั อภปิ รายตามประเด็นตอ่ ไปน้ี • นกั เรียนชอบธรรมชาตแิ บบใด ธรรมชาตแิ บบน้นั ทาใหน้ กั เรียนรู้สึกอยา่ งไร • นกั เรียนไดช้ มธรรมชาติแบบน้นั จากสถานท่ใี ด • นกั เรียนประทบั ใจสิ่งใดจากสถานที่น้นั ๓๙. เม่ือนกั เรียนทาเสร็จแลว้ ใหส้ ่งตวั แทนออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน เพอ่ื นและครูร่วมสนทนาซกั ถาม ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ๔๐. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี ๙ เขียนพรรณนาธรรมชาตติ ามประสบการณ์ ความรู้สึกหรือจินตนาการ ความยาวไม่นอ้ ยกวา่ ๑๕ บรรทดั พรอ้ มท้งั ต้งั ช่ือเร่ือง เมื่อเสร็จแลว้ ส่งครูประเมินผลงาน ๔๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การเขียนพรรณนาเป็นการเขียนรายละเอียดเพอื่ เพม่ิ คุณคา่ ของเร่ืองใหน้ ่าอ่าน ในการเขยี นตอ้ งรูจ้ กั เลือกใหถ้ อ้ ยคาใหส้ ละสลวย ใชก้ ารเปรียบเทยี บจะทาใหผ้ อู้ ่านเกิดภาพพจนต์ ามไปดว้ ย ๔๒. ใหน้ กั เรียนฟังหรือดูขา่ วสารจากส่ือตา่ ง ๆ แลว้ บนั ทึกเน้ือหาเพอ่ื นามาใชใ้ นการเรียนคราวต่อไป ๔๓. ใหน้ กั เรียนศึกษาเรื่องการวิเคราะห์ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น และความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากสื่อตา่ ง ๆ จากน้นั สรุปความรูเ้ ป็นผงั ความคิด โดยครูเลือกนกั เรียนเขยี นผงั บนกระดาน ๔๔. ใหน้ กั เรียนดูตวั อยา่ งการวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น และความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากข่าว เรื่อง เฟซบุก๊ โรคใหม่ยคุ ดิจิทลั แลว้ สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ครูตอบขอ้ ซกั ถามและอธิบายเพม่ิ เตมิ ๔๕. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน เลือกขา่ วท่คี รูสง่ั ใหน้ ามาเมื่อคราวทแี่ ลว้ เพอื่ นามาพจิ ารณา ร่วมกนั ตามประเด็นตอ่ ไปน้ี ๑) สรุปใจความสาคญั ของเร่ือง ๒) วเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นของเร่ือง ๓) พจิ ารณาความน่าเชื่อถือของเร่ืองโดยใชค้ วามคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล ๔) ประเมินค่าข่าวสารทไี่ ดร้ บั ในเชิงประโยชนแ์ ละคุณคา่ ท้งั ต่อตนเองและตอ่ ผอู้ ื่น ๔๖. ใหน้ กั เรียนส่งตวั แทนนาเสนอหนา้ ช้นั เรียนเรียน ครูชมเชยและอธิบายเพม่ิ เติม ๔๗. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การรับรูข้ า่ วสารจากสื่อตา่ ง ๆ เป็นสิ่งท่ตี อ้ งให้ความสาคญั เพราะในโลกยคุ ขอ้ มูลขา่ วสารเช่นน้ี ตอ้ งรูจ้ กั วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็น และสามารถเชื่อมโยงความสมั พนั ธโ์ ดยใชพ้ ้นื ฐานของความคิดอยา่ งมี เหตุผล สามารถประเมินคา่ และปฏิบตั กิ ารข่าวสารเหล่าน้นั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม อนั จะก่อใหเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ตอ่ ตนเอง และผอู้ ื่น ๔๘. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มเพอื่ เล่นเกม “ตอ่ สานวนชวนสนุก” ซ่ึงมีวิธีการเล่น คอื ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มร่วมกนั คดิ สานวน สุภาษิต คาพงั เพย ทเี่ ก่ียวกบั การพดู ให้ไดม้ ากท่ีสุด ครูจะเริ่มก่อน ๑ สานวน กลุ่มใดจะตอ่ ใหย้ กมือ แลว้ ยกสานวนที่ไม่ซ้ากนั ตอ่ เร่ือย ๆ จนไม่มีกล่มุ ใดสามารถตอ่ ไดแ้ ลว้ กลุ่มทีบ่ อกสานวนสุดทา้ ยจะเป็นผชู้ นะ จะไดร้ ับ รางวลั ตามความเหมาะสม

๔๙. ใหน้ กั เรียนเขา้ หอ้ งสมุดหรือหอ้ งคอมพวิ เตอร์เพอื่ คน้ หาขา่ วท่สี นใจกลุ่มละ ๑ ข่าว ๕๐. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง ขอ้ คดิ เห็น และความน่าเช่ือถือของข่าว ตามประเดน็ ท่ี เคยปฏิบตั ิเมื่อชวั่ โมงที่แลว้ ๕๑. ใหน้ กั เรียนส่งตวั แทนนาเสนอหนา้ หอ้ งเรียน ครูประเมินการพดู และใหข้ อ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ ๕๒. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การรบั รู้ข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ เป็นส่ิงที่ตอ้ งใหค้ วามสาคญั เพราะในโลกยคุ ขอ้ มูลขา่ วสารเช่นน้ี ตอ้ งรู้จกั วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็น และสามารถเชื่อมโยงความสมั พนั ธโ์ ดยใชพ้ น้ื ฐานของความคดิ อยา่ งมี เหตผุ ล สามารถประเมินคา่ และปฏิบตั กิ ารข่าวสารเหล่าน้นั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม อนั จะก่อใหเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ตอ่ ตนเอง และผอู้ ื่น ๕๓. ใหน้ กั เรียนศกึ ษาการพดู โฆษณา แลว้ ตอบคาถาม ๕๔. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม จากน้นั แจกสินคา้ ใหน้ กั เรียนกลุ่มละ ๑ ชนิด ใหน้ กั เรียนทาความเขา้ ใจใน จุดเด่นของสินคา้ แลว้ วางแผนโฆษณาสินคา้ ชนิดน้นั ๕๕. ใหน้ กั เรียนส่งตวั แทนออกมาโฆษณาสินคา้ โดยเพอ่ื นและครูประเมินการพดู และติชมใหข้ อ้ เสนอแนะเพอ่ื นกั เรียนจะไดน้ าไปพฒั นาการพดู คร้ังต่อไป ๕๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การพดู โฆษณาเป็นการพดู โนม้ นา้ วรูปแบบหน่ึง เป็นการส่งสารใหผ้ ฟู้ ังมีความคดิ เห็นและรูส้ ึก คลอ้ ยตามผพู้ ดู ดงั น้นั ผพู้ ดู จึงตอ้ งมีคุณธรรม รบั รู้ความตอ้ งการพน้ื ฐานของผฟู้ ัง และรูจ้ กั วธิ ีการพดู โฆษณาให้ เหมาะสมตามลกั ษณะของสินคา้ หรือบริการ และสอดคลอ้ งกบั กลุ่มเป้าหมาย การพดู จึงจะประสบผลสาเร็จ ๕๗. ใหน้ กั เรียนเล่นเกม “ใช่หรือไม่” โดยใหน้ กั เรียนต้งั คาถามจากเรื่องการพดู โฆษณา แต่คาถามน้นั จะตอ้ งมีคาตอบวา่ ใช่หรือไม่เทา่ น้นั โดยเลือกเพอื่ นคนใดตอบกไ็ ด้ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมจนครอบคลุมเน้ือหา ครู อธิบายเพมิ่ เติม ๕๘. ใหน้ กั เรียนดูแถบบนั ทกึ ภาพการโฆษณาสินคา้ หรือบริการที่ครูบนั ทึกไวจ้ ากน้นั สนทนาตอบ ขอ้ ซกั ถาม ๕๙. ใหน้ กั เรียนเตรียมการพดู โฆษณาสินคา้ หรือบริการ จากน้นั ครูเลือกนกั เรียน ๔-๕ คน นาเสนอใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง ครูตชิ มและอธิบายเพม่ิ เติม ๖๐. ใหน้ กั เรียนออกมาพดู โฆษณาสินคา้ หรือบริการหนา้ ช้นั เรียน โดยสมมุติช่ือสินคา้ หรือบริการเอง จากน้นั ใหเ้ พอื่ น ๆ ร่วมกนั วจิ ารณ์และประเมินผล ๖๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การพดู โฆษณาเป็นการพดู โนม้ นา้ วรูปแบบหน่ึง เป็นการส่งสารใหผ้ ฟู้ ังมีความคิดเห็นและรู้สึก คลอ้ ยตามผพู้ ดู ดงั น้นั ผพู้ ดู จงึ ตอ้ งมีคุณธรรม รับรู้ความตอ้ งการพน้ื ฐานของผฟู้ ัง และรูจ้ กั วธิ ีการพดู โฆษณาให้ เหมาะสมตามลกั ษณะของสินคา้ หรือบริการ และสอดคลอ้ งกบั กลุ่มเป้าหมายการพดู จงึ จะประสบผลสาเร็จ ๖๒. ใหน้ กั เรียนทบทวนฉนั ทลกั ษณ์ของกลอนสุภาพดว้ ยการสนทนาซกั ถาม ๖๓. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มเพอ่ื เล่นเกม “จบั ผดิ ภาพ” โดยครูมีภาพ ๒ ภาพทค่ี ลา้ ยกนั จะมีจุดท่ีแตกต่างกนั

๘-๑๐ จุด ใหแ้ ต่ละกลุ่มหาจดุ ที่ต่างกนั ในเวลาทก่ี าหนด กลุ่มใดทที่ าเสร็จก่อนเป็นฝ่ ายชนะ ครูสรุปกิจกรรมวา่ การ เป็ นคนช่างสงั เกตจะทาใหน้ กั เรียนเป็นคนละเอียดรอบคอบ ๖๔. ใหน้ กั เรียนอ่านกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง จากน้นั ใหน้ กั เรียนเลือกกาพย์ ๑ บททน่ี กั เรียน ชอบ แลว้ แตง่ กลอนสุภาพ ๑ บททม่ี ีเน้ือความเกี่ยวกบั กาพยบ์ ทน้นั โดยทาเป็นช้ินงานที่ ๑๐ ๖๕. เมื่อทาเสร็จใหอ้ าสาสมคั รออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและเพอ่ื น ๆ ช่วยกนั ติชม แนะนาเพม่ิ เติม ครูตรวจสอบผลงานของนกั เรียนเป็นรายบุคคล ๖๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • กลอนสุภาพเป็นคาประพนั ธป์ ระเภทหน่ึงทีน่ ิยมนามาแต่งเป็นวรรณคดี หรือวรรณกรรม และ การแตง่ กลอนสุภาพยงั เป็ นการอนุรักษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง ๖๗. ครูนาภาพธรรมชาติรูปแบบต่างๆ ท้งั สวยงาม และแหง้ แลง้ มาใหน้ กั เรียนดู แลว้ สนทนาเกี่ยวกบั ภาพ ๖๘. ใหน้ กั เรียนออกมาเล่าประสบการณ์ตรง หรือจากการชมรายการสารคดีเก่ียวกบั ธรรมชาติและชีวติ สตั ว์ โดยครูคอยใหค้ าแนะนาและชมเชยนกั เรียน ๖๙. ใหน้ กั เรียนทไ่ี ดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านวรรณกรรมท่นี ่าสนใจและมีคุณคา่ ซ่ึงมีเร่ืองราวเกี่ยวกบั การ เดินทาง การใชช้ ีวติ อยทู่ ่ามกลางธรรมชาติ เช่น กล่องไปรษณียส์ ีแดง บงึ ใหญป่ ่ าใหญ่ นกั เรียนคนใดอ่านเร่ือง เดียวกนั ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั ๗๐. ให้ร่วมกนั สนทนาแลกเปล่ียนความคดิ เห็นและเสนอแนวทางการนาขอ้ คดิ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ๗๑. ใหน้ กั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง โดยครูอธิบายเพม่ิ เตมิ และชมเชย การทางานของนกั เรียน ๗๒. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การอ่านหนงั สือหลายประเภทแลว้ ประเมินคา่ หรือแนวคดิ ทไ่ี ดเ้ พอ่ื นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาชีวติ เป็ นการอ่านทก่ี อ่ ใหเ้ กิดประโยชน์ท้งั ต่อตนเองและสงั คม ๗๓. ใหน้ กั เรียนเขา้ หอ้ งคอมพวิ เตอร์เพอื่ สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั พระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี ธารทองแดงหรือ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สตั วป์ ่ าท่นี ่าสนใจจากแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ แลว้ บนั ทึกช่ือเวบ็ ไซตแ์ ละรายละเอียดลงในบตั รขอ้ มูล เมื่อเสร็จแลว้ ใหน้ าความรู้มาแลกเปล่ียนหนา้ ช้นั เรียน ๗๔. ใหน้ กั เรียนเขียนความรู้ ความคดิ และความรูส้ ึกอยา่ งอิสระ จากการเรียนรูแ้ ละฝึกฝนทกั ษะ ในหน่วยการเรียนรูน้ ้ีเป็ นช้ินงานที่ ๑๑ เรื่อง บนั ทกึ การเรียนรู้ ครูตรวจสอบผลงานของนกั เรียนเป็นรายบุคคล ๗๕. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • ความรูม้ ีอยทู่ วั่ ไปไม่เฉพาะแต่ในหอ้ งเรียน การแสวงหาความรู้ทีม่ ีประโยชน์ดว้ ยตนเองอยเู่ สมอ ทาใหเ้ รามีความรูก้ วา้ งข้นึ ทนั สมยั และเป็นผใู้ ฝ่ เรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ ๑. แผนภูมิ ๒. บตั รขอ้ มูล

๓. ภาพ ๔. คาถามอะไรเอ่ย ๕. ตวั อยา่ งการวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น และความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากข่าว ๖. ข่าว ๗. สินคา้ ๘. แถบบนั ทกึ ภาพ แถบบนั ทกึ เสียง ๙. อินเทอร์เน็ต ๑๒. ใบงาน แบบบนั ทึกสรุปผลการเรียนรู้สาหรับผูเ้ รียน ช่ือ-นามสกลุ ...............................................................เลขท่.ี .....................ชนั้ .......................

วนั ท่.ี ...............................................เดือน.............................................พ.ศ. ......................... คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ สรุปผลการเรยี นรูจ้ ากหน่วยการเรยี นรูน้ ี้ นกั เรียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจเรื่องใดอีกบา้ ง นกั เรียนมีความรูส้ กึ อยา่ งไร หลงั จากท่ี นกั เรียนไดร้ บั ความรูเ้ รือ่ งใดบา้ ง เรียนหนว่ ยการเรียนรูน้ ีแ้ ลว้ จากหนว่ ยการเรยี นรูน้ ี้ ที่เกี่ยวกบั หนว่ ยการเรยี นรูน้ ี้ ...................................................... ......................................................... ...................................................... ซ่งึ ตอ้ งการใหค้ รูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ ......................................................... ...................................................... ......................................................... ...................................................... .................................................... ......................................................... ...................................................... .................................................... ......................................................... .................................................... ......................................................... นกั เรยี นไดท้ ากจิ กรรมอะไรบา้ ง .................................................... ในหน่วยการเรยี นรูน้ ี้ ...................................................... หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี.............. ...................................................... ........................................ ...................................................... ...................................................... นกั เรยี นจะสามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจ ผลงานท่ีนกั เรยี นชอบและตอ้ งการ ...................................................... จากหน่วยการเรียนรูน้ ีไ้ ปใชป้ ระโยชน์ คดั เลอื กเป็นผลงานดเี ดน่ จาก หน่วยการเรียนรูน้ ีค้ ือผลงาน ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ใดบา้ ง ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ ๒ เพราะอะไร ............................................................. .................................................. เวลา ๑๒ ชว่ั โมง ............................................................. จานวน ๑ ชวั่ โมง ............................................................. ............................................................. ............................................................. แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ ความเป็นมาและประวตั ิผแู้ ต่ง

ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ท่สี อน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจแกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน ตัวชี้วัด ม.๒/๒ จบั ใจความสาคญั สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเร่ืองทอ่ี ่าน ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน สำระสำคญั การอ่านเร่ือง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง จะตอ้ งศึกษาความเป็ นมาและประวตั ิผูแ้ ต่ง รวมท้งั การ จบั ใจความสาคญั สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องทอี่ ่าน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. ทราบประวตั ิผแู้ ตง่ เรื่อง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง (K) ๒. สามารถจบั ใจความสาคญั และบอกประวตั ิผแู้ ตง่ ได้ (P) ๓. เห็นคุณคา่ ของวรรณกรรม และมีมารยาทในการอ่าน (A) สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการเช่ือมโยง 2) ทกั ษะการสรุปยอ่ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ข้อท่ี ๗ รักควำมเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ท่ี .๒ เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ชิ้นงำน/ภำระงำน ใบงานที่ ๕.๑ ความเป็ นมาและประวตั ผิ แู้ ต่งเรื่อง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ข้ันนำเข้ำสู่บทเรียน ๑.ส่ง Google Meet ใหน้ กั เรียนผา่ นกลุ่ม Facebook และ กลุม่ Line ครูทกั ทายนกั เรียนและแจง้ จดุ ประสงค์ การเรียนรู้ ๒.ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั เรื่อง ธรรมชาติ ในทศั นะของกวี แลว้ ให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น อยา่ งอิสระ

ข้นั สอน ๑. นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับความเป็ นมาและประวตั ิผแู้ ต่ง รวมถึงลกั ษณะคาประพนั ธ์เรื่อง กาพยห์ ่อโคลง ประพาสธารทองแดง จาก Power point ทีค่ รูนาเสนอ ๒.ถามคาถามกระตุน้ ความรู้ เกี่ยวกบั ประวตั คิ วามเป็ นมาของเรื่อง ๓. นกั เรียนแตล่ ะคนร่วมกนั ทาใบงานที่ 5.1 เร่ือง ความเป็ น มาและประวตั ิผแู้ ต่งเรื่อง กาพยห์ ่อโคลงประพาส ธารทองแดง ในเวลาท่ีกาหนด ๔. ตวั แทนนกั เรียนอธิบายเน้ือหาใหเ้ พอื่ นฟัง ข้นั สรุป ๑. นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายสรุปองคค์ วามรู้เรื่อง ความเป็ นมา ประวตั ิผแู้ ตง่ และลกั ษณะคาประพนั ธ์ เร่อื ง กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง สื่อ/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑)หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.๒ ๒)ใบงานท่ี ๕.๑ เรอ่ื ง ความเป็นมาและประวตั ผิ แู้ ตง่ เร่อื ง กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง ๓) Power point กำรวดั และประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี ๕.๑ ใบงานท่ี ๕.๑ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ใบงานท่ี ความเป็นมาและประวตั ิผแู้ ต่งเรอื่ ง กาพยห์ ่อโคลง 5.1 ประพาสธารทองแดง คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรปุ และอธบิ ายความรใู้ นประเดน็ ทก่ี าหนด  ความเป็นมาและประวตั ิผแู้ ต่งเร่ือง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง

…………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………  รปู แบบของลกั ษณะคาประพนั ธเ์ ร่อื ง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ ๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๑๒ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖.๒ คาโคลง คาเขยี น จานวน ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ที่สอน................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ดั สนิ ใจแกป้ ัญหา

ตัวชีว้ ัด ในการดาเนินชีวิต และมีนสิ ยั รกั การอ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอา่ น จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของคาศพั ทจ์ ากเร่ืองกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง (K) ๒. เขียนคาเอกโทษ คาโทโทษ (P) ๓. เห็นความสาคญั ของคาศพั ทจ์ ากเรื่องกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง คาเอกโทษ คาโทโทษ เพอ่ื จะนาไปใชใ้ นการอ่านวรรณคดี และมีมารยาทในการอ่าน (A) สาระสาคัญ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลงนอกจากจะตอ้ งรูค้ วามหมายของคาแลว้ ยงั ตอ้ งเขา้ ใจ ลกั ษณะพเิ ศษของคาทใี่ ชบ้ างคา คือ คาเอกโทษและคาโทโทษ เมื่อเราไม่สามารถหาคาเอกคาโทได้ จงึ ใชค้ าเอกโทษโทโทษแทน สาระการเรียนรู้ ๑. คาศพั ทจ์ ากเรื่อง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๒. คาเอกโทษ โทโทษ สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การวิเคราะห์ - การสรุปความรู้ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook