๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี วี ิตและงาน ของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจินดา พ.อ.ถนดั คอมนั ตร์ คณะรฐั บาลหาทนายคนไทยที่ไหนไมไ่ ด้ อธบิ ายสถานการณ์ เพราะไม่มีใครรับ จงึ ขอให้ ม.ร.ว.เสนยี ์ใหบ้ ารอนเบ็คฟรีสฟัง ปราโมช เปน็ หวั หนา้ คณะทนายฝ่ายไทย ม.ร.ว.เสนยี ์ ปราโมช ตอ้ งเดนิ ทางไปสำ� รวจ ปราสาทเขาพระวหิ ารดว้ ยและถา่ ยรปู กับสงิ ห์พ.ท.พนู พล อาสนะจนิ ดา อ�ำนวยการถ่ายรปู ท่เี ป้ยตาดี ในฐานะกรรมการผู้แทนกรมแผนท่ที หารเขาพระวิหาร จงั หวดั ศรสี ะเกษ เพอ่ื เตรียมการแก้คดขี องทนายฝ่ายไทยตอ้ งเดนิ ทาง ไปส�ำรวจ อำ� นวยการถา่ ยรูปและภาพยนตร์ และ หาข้อมูลกับหลกั ฐานต่างๆ ทางภูมศิ าสตร์ อ�ำนวยการถา่ ยภาพยนตร์และภาพนงิ่ ทางเฮลิคอปเตอร์ ภายหลังเคร่ืองบนิ ตก ช่างภาพ และผู้ชว่ ยบาดเจบ็ นักบินเสียชวี ิต 47
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชงัต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา สร้างห่นุ จ�ำลอง เขาพระวิหาร เพ่ือให้ คณะกรรมการฝา่ ยไทย คณะรฐั มนตรีและคณะทนายศึกษาใหเ้ หน็ สภาพทแี่ ท้จริงพระยาอรรถการยี น์ พิ นธส์ วมพวงมาลยั ให้ เมอ่ื ไปสง่ ที่ คณะทนายความฝ่ายกัมพชู า ซ่ึงมี ดีน ฮันชีสัน เปน็ หวั หน้าอากาศยานดอนเมอื ง ก่อนออกเดินทาง ร่วมกับคณะทนาย เมื่อชนะความแลว้ เจ้าสหี นุอยู่ในกัมพชู าไม่ได้ฝ่ายไทยไปแถลงตอบโต้ท่ีศาลยตุ ธิ รรมระหว่างประเทศท่กี รงุ เฮก เจา้ กรมแผนท่กี มั พชู าตาย และประธานศาลโลกตายคณะผพู้ พิ ากษาศาลโลกกำ� ลงั ฟังการแถลงของทางฝ่ายกัมพูชา และ คณะทนายฝ่ายไทยและผ้เู ข้าฟงั คำ� แถลง ขา้ งหลังมีลา่ มกำ� ลงั แปลเป็นอีกภาษาหนึ่ง คอื ถา้ ผูแ้ ถลงๆ เป็นภาษาฝร่งั เศส มีแผนทขี่ นาดใหญ่ ซ่ึง ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช สง่ั ให้ทำ�ล่ามของศาลจะแปลเปน็ ภาษาองั กฤษทันทแี ละสลับกนั เพอ่ื ใชป้ ระกอบคำ� แถลง ไดเ้ ขยี นข้นึ เอง โดยปจั จุบัน 48 ใช้พืน้ ทีภ่ ายในบา้ นพักทคี่ อ่ นขา้ งจำ� กดั แตแ่ ผนที่ มนั ใหญ่จน ม.ร.ว.เสนยี ์ พูดล้อว่า “โปรเฟสเซอร์ ท�ำแผนทไ่ี ดใ้ หญ่โตมาก” กเ็ ปน็ วาจาสิทธิ์ของทา่ น เพราะภายหลังไดร้ ับโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตั้งเป็น “ศาสตราจารย”์ เมอื่ ยา้ ยมาอยมู่ หาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี ีวิตและงาน ของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดาพนั โท พนู พล อาสนะจนิ ดา ทศี่ าลยตุ ธิ รรมระหวา่ งประเทศ แผนที่ฉบับที่ถกู แตก่ มั พูชาไมย่ อมรับ อา้ งวา่ ได้ปกั ปันกรงุ เฮก ประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ ซ้ายสดุ พ.อ.จนิ ดา เขตแดนกันมาแลว้ ตามแผนทซี่ ึ่งผดิ แม้เขตแดนจะไม่มีณ สงขลา, พลโท บศุ รินทร์ ภักดีกุล เจ้ากรมแผนท่ีหม่อมเจ้าวงษม์ หิป ชยางกูร เอกอคั รราชทูตไทยประจ�ำ ปรากฏจริงตามธรรมชาตแิ ละข้อสัญญาเนเธอร์แลนด์แผนทซี่ ึง่ ผดิ เขยี นปราสาทเขาพระวหิ ารไว้ในเขตกมั พชู า แผนที่ฉบับนมี้ ันยาวมาก กนิ เน้ือทเ่ี กอื บหนึง่ ในสามดงั นั้นกัมพูชาจึงเอามาเปน็ ข้อมลู ฟอ้ ง ของห้องฟงั คดีของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ จนผู้เขยี นได้รบั สมญาว่าเปน็ “โปรเฟสเซอร์” จาก ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และก็โดยบังเอญิ ที่บริษัท แมค็ มลิ แลนด์ ลอนดอน ขอให้รว่ มทำ� สมุดแผนทเ่ี ลม่ (แอตลาส) บริเวณเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ขณะท่ี ยังไมก่ ลบั จากศาลโลก เม่อื ประเทศไทยแพค้ ดี จงึ เห็นว่าตอ้ งพยายามเผยแพรค่ วามรทู้ าง ภูมศิ าสตร์และแผนทใ่ี ห้มาก มฉิ ะน้ัน จะเสยี เปรยี บเขาอกี 49
๕๐ชีวิตและงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจินดา ครง้ั ตามเสดจ็ สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี บริเวณเขาพระวิหาร จงั หวดั ศรสี ะเกษ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจินดา ครง้ั ตามเสดจ็ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ บริเวณปรางค์กู่ จังหวัดศรสี ะเกษ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ 50
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี วี ติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจินดา๒. คำ� ไวอ้ าลยั ของบคุ คลท่ีเคยรว่ มงานกับ ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา๒.๑ ค�ำไว้อาลัยจากบคุ คลในตระกลู “ปราโมช” กรณีเขมรฟ้องไทยเปน็ คดีที่ศาลโลก ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หวั หน้าคณะฝา่ ยไทย (๑๐ เมษายน ๒๕๓๔) เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๒ เขมรฟ้องไทยเป็นคดีที่ศาลโลก อ้างอธิปไตย เหนือปราสาทหินบนเขาพระวหิ าร ก่อนนั้นเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน รัฐบาลตั้งกรรมการคณะหน่ึง มีหน้าท่ีเตรียมส�ำนวนต่อส้คู ดี พนั โทพูนพล อาสนะจินดา ระหวา่ งนน้ั เป็นผู้เชยี่ วชาญทางแผนที่สังกัดกรมแผนที่ทหารบก ก่อนมาเป็นอาจารย์สอนวิชาแผนท่ี ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม ่ไดร้ บั แตง่ ตง้ั ใหเ้ ปน็ กรรมการเตรยี มคดดี ว้ ยคนหนงึ่ มหี นา้ ทเ่ี ตรยี มสำ� นวนเกย่ี วกบั แผนที่ โดยสรุป เขมรฟ้องอ้างสิทธิตามสนธิสัญญาท่ีไทยท�ำไว้กับฝร่ังเศสเม่ือ พ.ศ.๒๔๔๗ซ่ึงให้แบ่งเขตแดนท่ีเขาพระวิหารตามแนวสันปันน�้ำ มีแผนท่ีซ่ึงฝร่ังเศสท�ำไว้ แสดงว่า ปราสาทหินตั้งอยู่ในเขตแดนเขมร ไทยตอ่ สู้วา่ ตามแนวสนั ปันน้ำ� ปราสาทต้งั อยูใ่ นเขตแดนไทย แผนท่ซี ง่ึ ฝร่งั เศสท�ำไว้ลากเส้นเขตแดนผิดเพราะไม่ได้ลากเส้นตามแนวสันปันน�้ำบนยอดเขา อันเป็นท่ีต้ังของปราสาท แตล่ ากลงเขาไปทางตนี เขา บางจดุ หา่ งจากสนั ปนั น้�ำตงั้ ๒ กโิ ลเมตร จงึ ทำ� ใหด้ เู ป็นเส้นโอบล้อมปราสาทไว้ในเขตแดนเขมร เม่ือคดีข้ึนศาล รัฐบาลตั้งชาวต่างประเทศผู้เช่ียวชาญทางว่าความศาลโลก เป็นทนายไทย ๓ ทา่ น ข้าพเจ้าไดร้ ับแต่งตง้ั เปน็ หัวหนา้ ทนายความตามประเพณนี านาชาติกรรมการเตรียมคดีมอบสำ� นวนแก่คณะทนาย ประกอบด้วยข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเอกสาร รวมผลงานทางด้านแผนที่ของอาจารย์พูนพลดว้ ย ต่อมาเมื่อรัฐบาลต้ังศาสตราจารย์สเกเมอฮอนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางแผนท่ี และส�ำนักงานของท่านส่งเจ้าหน้าท่ีมาเดินสำ� รวจท�ำแผนท่ี ณ ท้องท่ีเขาพระวิหาร ก็ได้ความตามผลงานของอาจารย์พูนพลว่าแผนท่ีเขมรลากเส้นสันปันน�้ำผิด ดังที่ผู้เชี่ยวชาญ ไดไ้ ปใหก้ ารที่ศาล กลา่ วโดยทวั่ ไป สนั ปนั นำ้� คอื ยอดเขาซง่ึ เมอ่ื ฝนตก จะปนั นำ�้ ฝนลงไปสองขา้ งทางลาดของเขา สมมติว่ามีการใช้สันปันน้�ำเป็นเส้นเขตแดนระหว่างชาติ ชาติหน่ึงอยู่ทางเหนือ อีกชาติหน่ึงอยู่ทางใต้ พื้นที่ตลอดจนส่ิงปลูกสร้างตามลาดน�้ำฝนไหลทางเหนือจะเป็นของชาติทางเหนอื พ้นื ที่และสิ่งปลูกสร้างตามลาดน้�ำฝนไหลทางใต้ จะเป็นของชาตทิ างใต้ 51
๕๐ชีวิตและงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา แต่ที่เขาพระวิหาร ลาดเขาทางทิศเหนืออันเป็นที่ต้ังของปราสาทหิน ลาดลงสู่ พ้นื แผ่นดนิ ไทยข้างเดยี ว ทางใต้เปน็ หนา้ ผาสงู ชันด่งิ ลงไปสแู่ ผ่นดินเขมร ไมม่ ลี าดเขา ทจี่ ะมีสง่ิ ปลูกสรา้ งใดๆ ตั้งอยไู่ ด้ จึงเห็นได้ชดั จากภูมิประเทศวา่ “ปราสาทหินตงั้ อยู่ ในเขตแดนไทย” ส�ำหรับแผนที่ ตามข้อกฎหมาย แผนที่เป็นเพียงพยานบอกเล่าของผู้เดินส�ำรวจ ท�ำแผนที่ ๒-๓ คน เป็นที่รับกันในวงวิชาการแผนท่ีว่า แผนท่ีซึ่งท�ำผิดจากความเป็นจริง ใช้ไม่ได้ สนธิสัญญาแวร์ไซ ค.ศ.๑๙๑๙ ซึ่งเป็นกฎหมายนานาชาติ บัญญัติไว้ด้วยว่า เมอื่ แผนทเ่ี ขตแดนระหวา่ งชาตผิ ดิ จากความเปน็ จรงิ ตามภมู ปิ ระเทศ ตอ้ งใชค้ วามจรงิ ตามภมู ปิ ระเทศเปน็ เขตแดน แต่ในที่สุด เม่อื เดือนมถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๐๕ ศาลโลกตดั สินนอกประเดน็ ว่า แผนท่ี ซึ่งเขมรอ้างจะท�ำไว้ผิดความจริงหรือไม่ก็ตาม เมื่อไทยรับแผนที่นั้นไว้โดยไม่ทักท้วง ไทยต้องถูกปิดปากห้ามเถียงว่าปราสาทไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตแดนเขมร จึงพิพากษาเป็น ยุติไม่มีอุทธรณ์ฎีกา ให้ไทยมอบปราสาทหินกับพ้ืนที่อาณาบริเวณให้เขมร เป็นผล ให้ไทยเสยี เนือ้ ท่ีล้อมร้ัวท่ีดินบริเวณประมาณ ๑๕๐ ไร่ (๐.๒๒ ตารางกโิ ลเมตร) มผี พู้ พิ ากษา ๓ ทา่ น ทำ� ความเหน็ วา่ ไทยควรชนะคดี มรี ายงานกรรมการผเู้ ชยี่ วชาญ ทางกฎหมายและอรรถคดีท่ีรัฐบาลต้ังขึ้น วิจารณ์ว่าศาลตัดสินผิด รายงานส่งรัฐบาล ตามหนังสือของประธานกรรมการลงวนั ที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๕ รายละเอียดของการฟ้อง ค�ำให้การแถลงการณ์ของคู่ความ ค�ำพิพากษาและ ความเห็นแย้งรัฐบาล รวบรวมเป็นหนังสือพิมพจ์ �ำหน่าย โรงพิมพร์ ฐั บาลเป็นผูพ้ ิมพ์ ปลายปากกาศาลโลกจะเขยี นไวเ้ ปน็ ประการใดกต็ าม ดงั ไดก้ ลา่ วมา ความเปน็ จรงิ ตามภูมิประเทศและผลงานของอาจารย์พูนพลด้านแผนท่ี จะเป็นประจักษ์ตลอดไป ในอนาคตว่า ปราสาทหนิ บนเขาพระวิหารต้ังอยู่ในเขตแดนไทย แมต้ ัวอาจารยพ์ นู พล จะจากไปไมม่ ีวันกลับ ผลงานของท่านจะยังอยไู่ มส่ ญู ทา่ นผ้หู ญิงอศุ นา ปราโมช ศาสตราจารย์ พันเอก พนู พล อาสนะจนิ ดา เปน็ สภุ าพบุรุษ เปน็ มิตรที่ดแี ละมคี วาม สนิทสนมกับดิฉันดุจเป็นน้องชาย ความสนิทสนมนี้เริ่มแต่การไปอยู่บ้านเดียวกัน ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในระหว่างการว่าความเขาพระวิหาร ณ ศาลโลก เธอเป็นผู้เช่ียวชาญการท�ำแผนที่ มีความช�ำนาญและมีความละเอียดเป็นอย่างยิ่ง นา่ เสียดายทศ่ี าลไมส่ นใจรับพจิ ารณา 52
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี ีวติ และงานของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจินดา เม่ือใดท่ีดิฉันข้ึนไปเชียงใหม่ ไม่ว่าจะไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระต�ำหนัก ภูพงิ คราชนิเวศน์หรือไปจบั จ่ายซ้อื อาหารท่ตี ลาดวโรรส เธอจะเปน็ สารถขี บั รถให้โดยตลอดบางครงั้ ถึงกับลาราชการเพือ่ พาไปดูนำ้� ตกและทิวทัศนอ์ นั งดงามนอกเมอื งเชียงใหม่ การจากไปโดยกะทนั หนั และรวดเรว็ ทำ� ใหเ้ ราทง้ั หลายใจหายและเศรา้ โศกอาลยั เปน็อันมาก แต่ก็สำ� นึกได้วา่ คณุ ความดขี องเธอมีมากมาย ฉะนนั้ ไม่วา่ วิญญาณของเธอจะสถิตอย่แู ห่งใด บุญกศุ ลท่ีได้บ�ำเพญ็ จงตอบสนองใหไ้ ดร้ ับความสุขอยชู่ ่วั นิรนั ดร์ หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช องคมนตรี ผมรู้จักกับอาจารย์พูนพล เพราะคดีเขาพระวิหาร ตอนน้ันท่านเป็นนายทหาร กรมแผนท่ียศพันโท ผมเป็นนายทหารกรมพระธรรมนูญยศร้อยเอก หน้าท่ีของเราคือการเตรียมรวบรวม และพิมพ์เอกสารพร้อมแผนที่เพื่อน�ำส่งศาลโลก ผมจึงมีโอกาส ไดท้ �ำงานใกลช้ ดิ กับอาจารยพ์ ูนพลเป็นเวลาหลายเดอื น และไดเ้ รยี นรเู้ ร่อื งภูมศิ าสตร์และแผนทจี่ ากทา่ นมากพอสมควร ทา่ นเป็นผทู้ มี่ ีความรู้ลึกซง้ึ อยา่ งแท้จริง จนกระท่งัเพื่อนร่วมงานต้ังสมญาท่าน ว่า “โปรเฟสเซอร์” แม้พ่ีเล็กเผลอๆ ก็พลอยเรียก “โปรเฟสเซอร์” ไปดว้ ย นอกจากวิชาภูมิศาสตร์และแผนที่ ผมยังได้เรียนรู้เทคนิคการท�ำงานจากท่าน อีกหลายอย่าง ท่านเป็นคนท่ีท�ำงานละเอียดรอบคอบ กล้าออกความเห็นโดยมีหลักวิชา เปน็ พ้ืนฐานที่ม่ันคง สามารถนำ� วิชาการมาแกป้ ัญหาท่ตี ้องเผชิญอยู่ แต่ทส่ี ำ� คญั ทสี่ ดุ อาจารยพ์ ูนพลเปน็ คนดี เปน็ คนน่ารกั และเม่ือนำ� คุณสมบตั ิต่างๆของท่านมารวมอยู่ในบุคคลคนเดียวแล้ว ก็ต้องสรุปว่าท่านเป็นบุคคลที่หาผู้อื่นมาเปรียบ ไดย้ าก ผมจงึ ถอื เปน็ บญุ ของผมทไี่ ดม้ โี อกาสรจู้ กั ใกล้ชดิ กับท่าน๒.๒ พลโทชุมพร กุลเกษม เจา้ กรมแผนทท่ี หาร กระทรวงกลาโหม (๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๔) “ขอคารวะครดู ว้ ยความรักและอาลัยย่งิ ” .... ผมได้เป็นลูกศิษย์ของครูในขณะที่เป็นนักเรียนเทคนิคทหารบก เหล่าแผนที่ชั้นปีท่ี ๔ และ ๕ อายุของครูในขณะน้ันมากกว่าพวกผมซึ่งเป็น ลูกศิษย์ประมาณ ๒-๓ ปี ท่านสอนวิชา “การท�ำแผนที่จากรูปถ่าย ทางอากาศ” (Photogrammetry) ความที่ครูและศิษย์มีอายุใกล้เคียงกัน จึงท�ำให้ลูกศิษย์และครูมีความสัมพันธ์กันโดยใกล้ชิดกันเป็นอันมาก แต่ศิษย์ ทุกคนก็ได้ให้ความเคารพนับถือต่อท่านโดยสม่�ำเสมอ และที่จะลืมหรือ อดชมเชยเสยี มไิ ด้ กค็ อื ทา่ นไดม้ กี ารเตรยี มตวั ในดา้ นการสอนอยใู่ นขนั้ ทดี่ เี ลศิ 53
๕๐ชีวติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจินดา หลงั จากจบการศึกษาแลว้ พวกลกู ศษิ ยก์ ็แยกย้ายกนั ไปรบั ราชการในกองต่างๆ ของ กรมแผนท่ที หารบก (ปจั จบุ นั คือ กรมแผนท่ที หาร และในขณะนน้ั “กอง” เป็นส่วนราชการ ท่ีอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ “แผนก”) ส�ำหรับผมได้รับการบรรจุให้ปฏิบัติงานใน “กองดาราศาสตร”์ สว่ นครไู ดป้ ระจำ� อยใู่ น “กองทำ� แผนทจี่ ากรปู ถา่ ยและแมเ่ หลก็ พภิ พ” ซงึ่ ทง้ั สองกองนนั้ อยใู่ นแผนกเดยี วกนั และในระยะเวลาตอ่ มาครกู ไ็ ดร้ บั การบรรจใุ หไ้ ปเปน็ อาจารย์ของโรงเรียนแผนท่ี กรมแผนที่ทหาร (บก) เป็นเวลาค่อนข้างนาน จึงท�ำให้ครู มีลกู ศิษยท์ ่ีเปน็ ข้าราชการของกรมแผนทท่ี หารบกเปน็ จ�ำนวนมาก ส่วนผมน้ัน เม่ือได้รับราชการอยู่ประมาณ ๓ ปี ก็ได้รับความกรุณาจากกองทัพบก ไปศึกษาวิชาแผนท่ีช้ันสูงที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ณ U.S. Coast and Geodetic Survey ซ่ึงอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ส่วนครูได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ University of Philippines แล้วได้รับทุนจากกองทัพบกให้ไปศึกษาต่อ ณ สหรัฐอเมริกาในระยะเวลาหลังผมเพียง เล็กน้อย โดยไดไ้ ปศึกษา ณ University of Chicago .... ต่อมาในระยะเวลาเริ่มเกิดสงครามเกาหลี และประเทศไทย ไดต้ กลงจดั สง่ กองกำ� ลงั ไปรว่ มปฏบิ ตั กิ ารสงครามดว้ ย ทางเจา้ หนา้ ทก่ี ระทรวง กลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้มีความเป็นห่วงในเรื่องความคุ้นเคยกับการ อ่านแผนทีข่ องทหารไทย จงึ ไดส้ อบถามมาทางส�ำนกั งานทูตทหารบก ซึ่งอยู่ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า มีนายทหารไทยท่ีก�ำลังศึกษาวิชาแผนท่ีอยู่ใน สหรฐั อเมรกิ าบา้ งหรอื ไม่ ท่านทูตทหารบกได้แจ้งว่ามี ๒ นาย คือ ครูและผม ฝ่ายสหรัฐอเมริกาจึงได้ท�ำหนังสือขอยืมตัวครูและผมให้ไปช่วยจัดท�ำ คำ� แนะนำ� ในการใชแ้ ผนที่ ณ สำ� นกั งาน U.S. Army Map Service (ปจั จบุ นั คือ Defense Mapping Agency Topographic Center) นานประมาณ ๔๕ วัน ซ่ึงท่านทูตทหารบกได้รับอนุมัติให้ตอบตกลง จึงท�ำให้ครูและผม ไดม้ โี อกาสปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั โดยครไู ดเ้ ดนิ ทางมาจากชคิ าโกแลว้ มาพกั รวมอยู่ กับผม .... เม่ือผมเดินทางกลับถึงประเทศไทย กรมแผนที่ทหารบก ก�ำลัง เริ่มได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในเร่ืองการจัดท�ำแผนท่ี ภูมิประเทศมาตราส่วนใหญ่จากรูปถ่ายทางอากาศให้ครอบคลุมหมดทั่วท้ัง ประเทศ ครไู ดร้ บั มอบใหท้ ำ� งานวเิ คราะหค์ วามละเอยี ดของหมดุ หลกั ฐาน แผนท่ีร่วมกับเจ้าหน้าท่ีแผนที่ของสหรัฐอเมริกา และต่อมาท่านอดีต เจา้ กรมแผนทที่ หารบกไดม้ อบใหค้ รเู ปน็ ผเู้ ดนิ ทางไปปฏบิ ตั งิ าน “การศกึ ษา ภูมิประเทศทางทหาร” (Military Terrain Study) และ “งานวิเคราะห์ ภมู ปิ ระเทศ” (Area Analysis) กบั เจา้ หนา้ ทแ่ี ผนทสี่ หรฐั อเมรกิ า เปน็ เวลา 54
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจินดา นานหลายปี เพราะครูเป็นผู้ที่มีความรู้ทางภูมิศาสตร์อยู่ในเกณฑ์ท่ ี กวา้ งขวางดีมาก ราชการพิเศษของครูที่ควรน�ำมาเล่าในท่ีนี้ก็คือ “งานกรณีพิพาท เร่ืองเขาพระวหิ าร งานนคี้ รูไดเ้ ขา้ ไปมบี ทบาทในด้านวิชาการอยู่เปน็ อยา่ งมาก ขณะใดท่ีมีผู้สงสัยปัญหาทางด้านเทคนิค หรือวิชาการ ครูก็สามารถเรียนช้ีแจงได้อย่างละเอียดแม่นย�ำ และอยู่บนพ้ืนฐานทางวิชาการ ครูกับผมได้มีโอกาสปฏิบัติงานร่วมกันกับผู้ช�ำนาญทางกิจการแผนท่ีของประเทศเนเธอร์แลนด์ เพ่ือจัดท�ำแผนที่ครอบคลุมบริเวณเขาพระวิหารขึ้นใหม่ ตามสภาพของลักษณะภูมิประเทศที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเพื่อน�ำไปใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงว่า “เขาพระวิหารอยู่ในเขตไทย” และการท่ีจ�ำเป็นต้องมีผู้ช�ำนาญทางกิจการแผนที่ของประเทศเนเธอร์แลนด์มาร่วมด้วยนั้น ก็เพ่ือให้คณะกรรมการของศาลโลกและประเทศเขมรไดเ้ หน็ วา่ แผนที่ท่ีไดจ้ ดั ท�ำขึ้นมาใหมน่ ้ันฝ่ายไทยมิได้จัดท�ำข้ึนฝ่ายเดียว หากแต่ยังมีผู้ช�ำนาญทางแผนที่ของประเทศที่เป็นกลางเขา้ มารว่ มดำ� เนนิ การดว้ ย และถา้ หากไดพ้ จิ ารณาจากแผนทที่ ไี่ ดจ้ ดั ทำ� ขน้ึ ใหมแ่ ลว้ก็จะเห็นได้โดยชัดเจนว่า เขาพระวิหารอยู่ในเขตของประเทศไทย แต่คณะกรรมการของศาลโลกได้พิจารณาโดยอาศัยแผนท่ีแนบท้ายสัญญา (ผมขอเรียกว่าภาพสเก๊ตซ์มากกว่าแผนที่) ท่ีได้ท�ำและลงนามกันไว้ เดิมก่อนผมเกิดมาเป็นหลักในการตัดสินโดยไม่ค�ำนึงถึงความสอดคล้องกับลักษณะภูมิประเทศท่ีเป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงท�ำให้เขาพระวหิ ารตอ้ งตกไปเปน็ ของประเทศเขมร และดว้ ยเหตนุ จี้ งึ ทำ� ใหผ้ มมคี วามรสู้ กึ ลกึ ๆบางประการตอ่ ประมุขของประเทศเขมรในขณะนน้ั มาจนตราบเท่าทุกวันนี้” ในการเดินทางออกไปส�ำรวจทางพ้ืนดิน เพื่อหาข้อมูลมาจัดท�ำแผนท่ีบริเวณ เขาพระวหิ ารขน้ึ ใหม่ คณะเจา้ หนา้ ทไ่ี ดอ้ อกเดนิ ทางจากกรงุ เทพมหานครไปยงั จงั หวดัศรีสะเกษ จากน้ันได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเขาพระวิหาร โดยแบ่ง เจ้าหน้าท่ีออกเป็นชุดๆ ครูและผมกับเจ้าหน้าที่เนเธอร์แลนด์อยู่ในชุดเดียวกัน พอไปถึงก็เร่ิมท�ำงานกันเลย จนกระท่ังประมาณ ๑๗.๐๐ น. ชาวบ้านได้มาติดต่อว่าเฮลคิ อปเตอรป์ ระสบอบุ ตั เิ หตุตก เน่ืองจากเคร่อื งยนต์ขัดข้อง เมอ่ื ตรวจสอบจ�ำนวนเจ้าหน้าที่ส�ำรวจที่เดินทางมาถึงเขาพระวิหารแล้ว ก็ทราบว่าเท่ียวบินท่ีตกน้ันเป็น เที่ยวสุดท้าย ผู้โดยสารคงมีนายทหารท่ีท�ำหน้าท่ีเป็นช่างถ่ายภาพกับนักบิน ๒ นายความสูญเสียปรากฏว่า เฮลิคอปเตอร์ท่ีตกมีสภาพชำ� รุดใช้งานไม่ได้ นักบินเสียชีวิตสว่ นชา่ งภาพบาดเจบ็ สาหสั ตอ้ งใชเ้ วลารกั ษานานเปน็ แรมปี ในขณะทที่ ราบวา่ เครอื่ งบนิเฮลคิ อปเตอรต์ กพวกเราทก่ี ำ� ลงั ทำ� งานอยตู่ า่ งซมึ กนั ไปหมด และเพอ่ื มใิ หง้ านตอ้ งหยดุชะงกั ครไู ดบ้ อกใหผ้ มอยทู่ ำ� งานตอ่ ไปกบั เจา้ หนา้ ทเี่ นเธอรแ์ ลนด์ สว่ นครเู ปน็ ผขู้ ออาสาข่ีม้า ร่วมไปกับคนน�ำทางไปยังต�ำบลท่ีเฮลิคอปเตอร์ตก โดยออกจากบริเวณ 55
๕๐ชีวิตและงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจินดา เขาพระวิหารในตอนใกล้ค่�ำ ระยะทางก็ค่อนข้างไกลต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ ๔ ชั่วโมงเศษ เพราะลักษณะภูมิประเทศเป็นป่ารกทึบ ส่ิงนี้คือการมีความเสียสละ การมนี �้ำใจ และการมสี ามญั ส�ำนกึ ในความรบั ผดิ ชอบของครทู ผ่ี มรกั ซงึ่ จะอยใู่ นความ ทรงจำ� ร�ำลึกของผมต่อไปเท่านานแสนนาน ครูได้รับราชการอยู่กับกรมแผนที่ทหาร จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายทหาร ฝา่ ยเทคนคิ ยศพนั เอกและไดร้ บั เงนิ เดอื นในอตั ราพนั เอกพเิ ศษ แลว้ จงึ ขอโอนไปเปน็ อาจารย์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องจากว่าบิดามารดาของครูได้ตั้งหลักฐานอยู่ท่ีนั่น และมีอายุ มากแลว้ ……… ……….ในฐานะทผี่ มไดม้ โี อกาสรจู้ กั และคนุ้ เคยกบั ครโู ดยใกลช้ ดิ ดมี าเปน็ เวลานาน ท้ังในสภาพที่ผมเป็นลูกศิษย์และเพื่อนร่วมงาน เคยทุกข์และสุข ร่วมกันมาท้ังในและนอกประเทศ ผมได้มีความรู้สึกอยู่เสมอว่า ครูเป็น สุภาพบุรุษ ใจเย็น ไม่เคยใช้ค�ำพูดหนักๆ กับผู้ใต้บังคับบัญชา สามารถ ปรับตนเองให้เข้ากับสังคมได้อย่างแนบเนียน เป็นสามีที่ดีของคุณเล็ก และเปน็ พอ่ ทนี่ ่ารักของลกู ๆ ทุกคน ………….และสุดท้ายนี้ผมและภรรยาขอร่วมกันอัญเชิญอ�ำนาจของคุณพระศรี- รัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธ์ิทั้งปวงได้โปรดประทานพรแด่ดวงวิญญาณของครู-ศาสตราจารย์ พันเอก พนู พล อาสนะจินดา ได้ไปสถติ อยู่ ณ สถานอนั สุขสงบตลอดไปชัว่ นริ นั ดร ๓. ตวั อยา่ งบทความทางวชิ าการ “ความรบั ผดิ ชอบของบคุ คลในชาตติ อ่ การรกั ษาเขตแดนของประเทศ” บทความนี้ ศาสตราจารยพ์ นั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา เขยี นทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามที่ได้รับพระราชทานพระบรม- ราชานุญาตให้รับผิดชอบจัดท�ำข้ึน ซึ่งมีลักษณะเป็นภูมิรัฐศาสตร์ หรือภูมิศาสตร์การเมือง เพ่ือให้เยาวชนรุ่นหลังมีความส�ำนึกในสมบัติอันล�้ำค่า คือแผ่นดินไทยท่ีบรรพบุรุษได้เสีย เลือดเน้ือไปเป็นอันมากท่ีจะรักษาไว้ให้เรา ว่าจะต้องพยายามทุกวิถีทางร่วมกันดูแลรักษา ใหม้ ั่นคงถาวรสืบไป สำ� หรบั เนอ้ื หาในบทความน้ี เปน็ การแนะนำ� ใหร้ จู้ กั ทำ� เลทต่ี ง้ั ของประเทศ รปู รา่ งและ เขตแดนในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ และต่อท้ายด้วยข้อเสนอแนะให้การร่วมรักษาดินแดนและ เขตแดนของประเทศไทย ดงั นี้ 56
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดาลกั ษณะเบอื้ งตน้ ทางภมู ิศาสตร์๑. ทีต่ ั้งทางภมู ิศาสตร์ เพอ่ื ความเขา้ ใจอนั ดี ในการพจิ ารณาทต่ี งั้ ทางภมู ศิ าสตร์ จะขอแยกกลา่ วเปน็ ๒ ตอนคือ ประวตั ิความเปน็ มา และทำ� เลท่ตี ง้ั ของประเทศไทยตงั้ แตใ่ นอดตี ถงึ ปัจจบุ ัน ๑.๑ ประวัติทตี่ ั้งประเทศ เม่ือพิจารณาโดยทั่วไป ในเร่ืองท่ีตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยบนผิวโลกจะทราบวา่ ประเทศไทยตงั้ อยบู่ นแผน่ ดนิ สว่ นตะวนั ออกเฉยี งใตข้ องทวปี เอเชยี ตามหลกั ฐานในสมัยน้ีเจาะจงว่าอยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน ตามหลักฐานภูมิศาสตร์สมัยโบราณ เรียกคาบสมุทรนวี้ ่า “แหลมทองหรือสุวรรณภมู ”ิ ปโตเลมี ซง่ึ เป็นนกั ภมู ิศาสตร์ชาวเมืองอเลก็ ซานเดรยี และเขยี นตำ� ราภมู ศิ าสตรห์ ลายเลม่ รวมทงั้ แผนทโี่ ลกและแผนทปี่ ระเทศตา่ งๆได้เขียนบรรยายเร่ืองของแหลมทองไว้ด้วย ขณะน้ันเป็นเวลาต้นคริสตกาล ปโตเลมีเรียกแหลมทองตามภาษาของเขาวา่ “ออเรยี เคอรโ์ ซนสี ” ซงึ่ ถา้ แปลตามความหมายของค�ำแลว้ออเรยี แปลว่าทอง และเคอร์โซนีส แปลวา่ แหลม นกั เรยี นทเี่ รยี นวชิ าเคมยี อ่ มจะทราบดวี ่าออเรียนั้นเป็นช่ือของแร่ทองค�ำ ส่วนที่เรียกว่าสุวรรณภูมินั้นมีหลักฐานปรากฏมาแต ่ครั้งพุทธกาลแล้ว เพราะในหนังสือชาดกยืนยันว่าที่สุวรรณภูมิน้ันมีทองค�ำมาก ผู้ที่อยากรำ่� รวยมเี งนิ ทองมากก็ใหไ้ ปท�ำการค้าขายทีส่ วุ รรณภูมิ แมใ้ นสมยั รัตนโกสินทรก์ ย็ งั มปี รากฏในประวตั ศิ าสตร์ วา่ ทต่ี ำ� บลบางสะพานใหญแ่ ละทจ่ี งั หวดั ปราจนี บรุ มี คี นสามารถขดุ แรท่ องค�ำได้รวมกันวันละเท่าลูกมะพร้าว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าท�ำไมในสมัยโบราณประเทศไทยสามารถสร้างพระพุทธรูปทองคำ� ได้มากมายหลายองค์ จนถึงขนาดท่ีพม่ามักจะยกทัพมาตีประเทศไทย และหลอมเอาทองค�ำจากพระพทุ ธรูปไป (ดูแผนทห่ี มายเลข ๑) การศึกษาภมู ิศาสตรก์ ายภาพประเทศไทย จะเปน็ ความรู้ประกอบทดี่ ยี งิ่ ในการหาความเข้าใจในเรื่องการต้ังถิ่นฐานของมนุษย์ การท่ีจะสืบสวนหาข้อเท็จจริงย้อนหลังว่า คนไทยโบราณอยู่ในแหลมทองนานเท่าใดแล้ว คงจะต้องกระท�ำต่อไปอีกนานกว่าจะหา ข้อยุติได้ เพราะหลักฐานทางอักษรศาสตร์ของไทยมอี ย่เู พือ่ ใหค้ น้ ควา้ น้อยมาก มแี ต่ภาษาของประเทศอื่น ท่ีว่าเป็นประเทศอ่ืนน้ันก็หาใช่ประเทศของคนเช้ือชาติอื่นไม่ เพียงแต่เป็นคนพดู ไทยทตี่ อ้ งอาศยั อยใู่ นเขตของประเทศอน่ื นน่ั เอง เชน่ คนไทยในสบิ สองปนั นาทอี่ ยทู่ างตอนใตข้ องประเทศจนี คนไทยเปน็ นกั พฒั นามาแตโ่ บราณ ขอยกตวั อยา่ งการปรบั ปรงุ พฒั นาลายสือไทยของพ่อขุนรามค�ำแหง เพราะรูปร่างเดิมของลายสือไทอาจเรียนได้ยาก เช่น ภาษาจีน แต่เมื่อได้พัฒนาแล้วสามารถผสมตัวอักษรได้ และที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันคือ เอาเขา้ พมิ พใ์ นเครอ่ื งคอมพวิ เตอรไ์ ดเ้ ชน่ เดยี วกบั ภาษาองั กฤษ เมอื่ ใชข้ องใหมแ่ ทนของเกา่ แลว้คนที่ไม่ทราบเร่ืองจึงสรุปเอาง่ายๆ ว่า คนไทยไม่มีอักษรใช้มาก่อน หาคิดไม่ว่าคนท่ีไม่ม ี 57
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชงัต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา พื้นฐานทางอักษรศาสตร์อย่างดีแล้วจะออกแบบตัวอักษรใหม่ได้อย่างไร ดังน้ัน เป็นเรื่อง ธรรมดาที่อักษรไทยเดิมอาจตกเปน็ สมบตั ิของเจ้าของประเทศในปัจจบุ ันนกี้ ไ็ ด้ คนไทยสมยั โบราณคงจะไม่ได้มีถ่ินฐานเฉพาะในลุ่มแม่น้�ำแยงซีเกียง ดังที่เอกสารของจีนได้บันทึกไว ้ เม่ือประมาณ ๒,๐๐๐ ปีก่อนเนื่องจากคนทุกเช้ือชาติไม่เคยอยู่นิ่ง มักอพยพโยกย้ายเป็น การประจำ� เพอื่ หาท�ำเลทด่ี ีกว่าอยอู่ าศยั ดังน้ัน เดิมทเี ดียวไทยจะเกิดข้นึ ทไี่ หน กม็ โี อกาส อพยพทงั้ ขน้ึ เหนอื และลอ่ งใต้ ไปทางตะวนั ตกและตะวนั ออกไดท้ กุ เมอื่ สว่ นประเทศทอ่ี ยใู่ น ปจั จุบนั เปน็ สทิ ธอิ ันชอบธรรมทีเ่ ราสามารถปกครองกันอยไู่ ด้ และเปน็ ทต่ี ้ังของประเทศไทย ปจั จบุ นั ๑.๒ ท่ตี ั้งของประเทศไทยปัจจุบนั ประเทศไทยมีตำ� แหน่งอยรู่ ะหวา่ งละติจูด ๕ องศา กับ ๒๑ อาศาเหนอื และ ระหว่างลองจิจูด ๙๙ องศา กับ ๑๐๖ องศาตะวนั ออก มีประเทศเพอ่ื นบา้ นลอ้ มรอบดงั นี้ คอื ๑.๒.๑ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ประเทศลาว ๑.๒.๒ ทางตะวนั ออก ไดแ้ ก่ ประเทศกัมพูชา ๑.๒.๓ ทางใต้ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย ๑.๒.๔ ทางตะวนั ตก ไดแ้ ก่ ประเทศพมา่ แผนทหี่ มายเลข ๑ แผนท่ีฉบบั นี้ขยายจาก แผนทม่ี าตราส่วนของ ปโตเลมี เพื่อใหเ้ หน็ แหลมทองและเมือง ในแหลมทองชัดเจนข้ึน เมืองเหล่าน้ีมีข้อมลู ปรากฏ ในหนงั สอื ภูมิศาสตร์ 58
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี วี ติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจินดา ส่วนของประเทศที่เป็นฝั่งทะเลสามารถติดต่อกับน่านนำ้� สากลได้คือ ทางตะวันตกสว่ นใตต้ ดิ ตอ่ กบั ทะเลอนั ดามนั ซงึ่ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของมหาสมทุ รอนิ เดยี และทางฝง่ั ตะวนั ออกมีฝั่งทะเลตดิ กับอา่ วไทย ซึง่ สามารถผ่านเข้าสทู่ ะเลจนี ใตแ้ ละมหาสมุทรแปซฟิ ิกได้๒. ท�ำเลทต่ี ้ัง การพิจารณาท�ำเลท่ีต้ังของประเทศเป็นเร่ืองที่ส�ำคัญอย่างหน่ึง เพราะความเจริญก้าวหน้าของประเทศและความมั่นคงของประเทศมีส่วนที่เก่ียวเน่ืองอยู่ด้วย ตัวอย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ท่ีเป็นประเทศเล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับบางประเทศที่ใหญ่กว่ามาก ไม่มีทรัพยากรทสี่ �ำคญั ทจ่ี ะหาได้ในประเทศ แตก่ ม็ คี วามเจริญมาก และมกี จิ การคา้ ทสี่ ำ� คญัเทยี บกบั ประเทศใหญๆ่ ได้ เพราะประเทศสงิ คโปรม์ ที �ำเลทตี่ งั้ เออ้ื อ�ำนวยตอ่ การคา้ ระหวา่ งประเทศ เป็นชุมทางของสายการเดินเรือท่ีมาจากเมืองท่าใหญ่ๆ ของโลก เป็นชุมทาง ของสายการบนิ ระหวา่ งประเทศ และมบี รกิ ารทดี่ เี ยย่ี มในดา้ นการตดิ ตอ่ การคา้ การธนาคารและการสื่อสารระหวา่ งประเทศ เหล่านร้ี วมกันเป็นปัจจัยส่งเสรมิ ให้ประเทศสิงคโปร์มีความเจริญได้ และก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากท�ำเลที่ตั้งของประเทศน่ันเอง ส่วนประเทศไทยน้ัน อาจจะแยกพิจารณาทำ� เลท่ตี ้ังได้ตามลำ� ดบั ดังนี้ คือ ๒.๑ ทำ� เลที่ติดต่อกับทะเลใต้ ท�ำเลท่ีติดต่อกับทะเลได้ถือว่าเป็นปัจจัยทางฝ่ายดีและได้เปรียบกว่า บางประเทศที่ไม่มีฝั่งทะเลของประเทศเลย ประเทศไทยมีแม่น้�ำหลายสายท่ีไหลลงสู่ทะเล ท้ังทางอ่าวไทยและทางด้านทะเลอันดามัน แม่น�้ำบางสายสามารถใช้เรือขนส่งสินค้าได้ แมจ้ ะเปน็ แมน่ ำ้� ทมี่ ขี นาดไมใ่ หญโ่ ตเหมอื นบางประเทศ เชน่ แมน่ ำ�้ เจา้ พระยา แมน่ ำ้� แมก่ ลองแมน่ ำ้� ท่าจีน และแมน่ ้�ำบางประกง เปน็ ตน้ แผ่นดินภายในประเทศซง่ึ เรียกอีกอยา่ งหน่ึงว่าแผน่ ดนิ เบอ้ื งหลัง จงึ มที างตดิ ต่อขนสง่ ทางเรือกับทะเลหลวงได้ ความสะดวกเช่นนจ้ี งึ ท�ำให้ได้รับประโยชน์จากการค้าระหว่างประเทศมาแล้วต้ังแต่สมัยโบราณ ประเทศไทยมีท่าเรือสำ� หรับจอดเรอื สนิ ค้าท่มี าจากตา่ งประเทศหลายแหง่ แตท่ ี่ใหญท่ ่สี ดุ ไดแ้ ก่ ท่าเรือกรงุ เทพฯซึ่งอยู่ท่ีคลองเตย ท่าเรือสัตหีบ และท่าเรือเกาะสีชังเป็นท่าเรือส�ำหรับเรือท่ีกินน�้ำลึก และ ไม่สามารถจะเข้าไปจอดท่ีท่าเรือกรุงเทพฯ ได้ ท้ังสองท่านี้อยู่ที่จังหวัดชลบุรี นอกจากน ้ียังมีท่าเรือท่ีอยู่ตามฝั่งทะเลโดยรอบอ่าวไทยอีกหลายแห่ง เช่น ที่จังหวัดระยอง จันทบุรีตราด ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร บา้ นดอน สุราษฎรธ์ านี นครศรีธรรมราช ปัตตานี สงขลา และนราธิวาส ซึ่งล้วนแต่เป็นจังหวัดชายทะเลท้ังส้ิน ส่วนทางด้านฝั่งทะเลอันดามันก็มีท่าเรือ ทจ่ี งั หวดั ระนอง พงั งา ภเู กต็ กระบี่ ตรงั และสตลู เปน็ ตน้ ประเทศไทยจงึ จดั เขา้ อยใู่ นประเทศชายทะเลของโลกประเทศหนึง่ เพราะตง้ั อย่ทู ข่ี อบของทวีป 59
๕๐ชีวติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจินดา แม้ว่าจะมีทางติดต่อกับทะเลได้ และเป็นส่วนที่ได้เปรียบของประเทศก็จริง แตส่ ว่ นดอ้ ยยงั มอี ยไู่ มน่ อ้ ยทจี่ �ำเปน็ จะตอ้ งหาทางแกไ้ ข ทา่ เรอื กรงุ เทพฯ ทคี่ ลองเตยนน้ั เปน็ ท่าเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับปากแม่น�้ำเจ้าพระยา แต่น่าเสียดายที่มิได้อยู่บนเส้นทาง เดนิ เรอื ระดบั โลก เชน่ ทา่ เรอื ของประเทศสงิ คโปร์ ทา่ เรอื กรงุ เทพฯ เปน็ ทา่ เรอื ยอ่ ยทเ่ี รอื เดนิ ทะเลระหว่างประเทศต้องแล่นแยกออกจากเส้นทางสายใหญ่ และต้องแล่นย้อนทางกลับ ออกไปสู่สายใหญ่อีกคร้ังแสดงว่าเรือเดินทะเลจะต้องเสียเวลาที่ต้องแล่นในเส้นทางเดิมถึง สองครง้ั ในการขนสง่ สนิ คา้ เปน็ การเพม่ิ คา่ ใชจ้ า่ ยมากขน้ึ หากไมม่ สี นิ คา้ สำ� คญั จรงิ ๆ ในการ ที่จะตอ้ งล�ำเลียงแล้ว เรอื เดินทะเลก็จะไมแ่ วะเข้ามา ผิดกับประเทศสิงคโปร์ซง่ึ มที ำ� เลอยูบ่ น เสน้ ทางเดนิ เรอื ทส่ี น้ั ทส่ี ดุ ระดบั โลก และเรอื จะตอ้ งผา่ นดว้ ยความจำ� เปน็ เพราะไมม่ ที างเลอื ก นบั วา่ ท่าเรือกรุงเทพฯ ยังสามารถเอาตวั รอดได้ เนอื่ งจากมีสินคา้ ที่ส�ำคัญหลายอย่างท่ีเป็น วัตถุดิบท่ีต่างประเทศต้องการ จึงพอจะแก้ปัญหาในเรื่องความด้อยของต�ำแหน่งท่าเรือ ได้บา้ ง มีผู้คิดที่จะแก้ปัญหาในเร่ืองท�ำเลที่เก่ียวกับเส้นทางเดินเรือ หากท�ำส�ำเร็จ คงจะต้องจารึกไว้ในประวัติการพัฒนาอย่างหนึ่งของโลกแน่นอน น่ันก็คือการพิจารณา ขุดคอคอดกระ หรือการขุดคลองให้เรือเดินทะเลผ่านระหว่างอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน ผลที่ได้รับก็คือประเทศไทยจะต้ังอยู่บนทำ� เลการขนส่งระดับโลกท่ีดีที่สุด แต่ประเทศไทย จะต้องมีหลักประกันอย่างดีต่อความมั่นคงของประเทศ ถ้าสามารถพิจารณาตัดปัญหา ในเรื่องความม่ันคงได้แล้ว การขุดคลองก็จะเป็นไปได้ เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่น�ำมาใช ้ ในการขุดคลองโดยไม่ยากนกั เรอ่ื งราวของคอคอดกระน้ีมีมาแต่โบราณ เพราะทค่ี อคอดกระเคยเปน็ ชุมทาง การคา้ ขายทางทะเลระหวา่ งพอ่ คา้ ทเี่ ดนิ เรอื ขนสง่ สนิ คา้ จากทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนยี นกบั พอ่ คา้ ทเ่ี ดนิ เรอื มาจากประเทศจนี พอ่ คา้ ทผี่ า่ นมาทางมหาสมทุ รอนิ เดยี สว่ นมากจะเปน็ ชาวอาหรบั แต่ก่อนนักเดินเรือไม่สู้จะนิยมผ่านไปทางตอนใต้ของแหลมมลายู แต่จะมาพบกันที่บริเวณ คอคอดกระ ทงั้ พอ่ คา้ อาหรบั และพอ่ คา้ จนี และแลกเปลย่ี นสนิ คา้ กนั โดยการเดนิ ทางบกผา่ น คอคอดกระ หรือมิฉะน้ันก็ใช้เรือล�ำเลียงขนาดเล็กเดินทางข้ามที่คอคอดกระ ในเรื่องนี้ นักภูมิศาสตร์ปโตเลมี ได้สืบทราบจากพ่อค้าอาหรับ และเขียนไว้ในต�ำราภูมิศาสตร์ว่ามี ตลาดใหญ่อยู่ท่ีคอคอดกระหลายแห่ง ตลาดใหญ่นี้ใช้ค�ำว่า “เอ็มโพเรียม” เช่นตะโกลา เอ็มโพเรียม เป็นต้น ดังนั้น อาจจะกล่าวว่า ภาคใต้ของประเทศไทยเป็นชุมทางของการ เดินเรอื ระหวา่ งประเทศมาต้ังแต่โบราณอย่างไมข่ าดตอน (ดแู ผนทห่ี มายเลข ๒) 60
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี วี ิตและงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา แผนท่หี มายเลข ๒ สว่ นตะวนั ออกของแผนท่ี ปโตเลมี แสดงอนิ เดีย และแหลมทอง ปจั จบุ นั นเี้ รอื ขนาดใหญ่ที่กนิ น้�ำลึกมากตอ้ งจอดทอดสมออยูท่ ่ีทา่ เรือเกาะสชี ังและที่ท่าเรือสัตหีบ การขนถ่ายสินค้าจึงต้องใช้เรือล�ำเลียงขนาดเล็ก เข้ามาสู่ท่าเรือ ในกรงุ เทพฯ อกี ทอดหน่งึ นับว่าเปน็ การเพิม่ ค่าใช้จ่ายในการขนสง่ มากขน้ึ รวมทั้งการขนสง่สินค้าจากกรุงเทพฯ ออกไปสู่เรือใหญ่ด้วย นอกจากนั้น ส่วนด้อยอีกประการหน่ึงคือ ท่ีปากแม่น้�ำเจ้าพระยามีตะกอนท่ีแม่น�้ำพัดพามาจากทางต้นน�้ำทุกปี เมื่อมาถึงปากอ่าว จะโดนน้�ำทะเลหนุนไว้ เนื่องจากมีน�้ำข้ึนและน้�ำลงเป็นประจ�ำ การไหลของน�้ำจึงชะงัก เป็นเหตุให้เกิดตะกอนทับถมพอกพูนข้ึนปีละมากๆ ท�ำให้แม่น้�ำเจ้าพระยาตื้นเขินและ ปากอ่าวมีสันดอนขวางอยู่ เรือที่กินน�้ำลึกจะต้องระวังการติดสันดอน เรือต่างประเทศ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการน�ำร่องโดยนักเดินเรือไทยอีก และทางราชการเองก็ต้อง ตั้งงบประมาณให้กรมเจ้าท่าท�ำการขุดลอกสันดอนเป็นการประจ�ำ การเดินเรือที่บริเวณ ปากแม่น�้ำเจ้าพระยาจึงมีปัญหาในเร่ืองความปลอดภัยด้วย เคยมีอุบัติเหตุเกิดข้ึนคร้ังหนึ่งในเมอ่ื เรอื สนิ คา้ แลน่ หลบสนั ดอนและพลาดไปชนเรอื บรรทกุ น้�ำมนั ดบิ ทำ� ใหน้ �้ำมนั กระจายไปท่ัวปากแม่น้�ำ ต้องท�ำการพ่นสารเคมีท�ำลายน�้ำมัน ป้องกันมิให้น้�ำสกปรกเป็นอันตรายตอ่ ต้นไมแ้ ละสตั วน์ ำ�้ 61
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจินดา ผลประโยชน์อย่างอื่นที่ประเทศไทยได้รับจากการมีท่ีตั้งอยู่ติดกับทะเลยังมี อกี มาก ทส่ี ำ� คญั และตอ้ งไดร้ บั อยา่ งแนน่ อนกค็ อื ทรพั ยากรสตั วน์ ำ�้ ดงั นนั้ ประชาชนทอี่ าศยั อยตู่ ามจงั หวดั ชายทะเลจงึ เปน็ ชาวประมงกนั เปน็ สว่ นมาก เนอื่ งจากชาวประมงไทยมคี วาม สามารถในการจบั ปลาและสตั วม์ านานพอสมควร เมอื่ ปลาและสตั วน์ ้�ำในอา่ วไทยลดนอ้ ยลง ชาวประมงไทยจึงพยายามใช้ความรู้ความสามารถออกไปทำ� การประมงในเขตน่านนำ�้ ของ ตา่ งประเทศโดยการทำ� สัญญากับประเทศท่ีเปน็ เจา้ ของนา่ นนำ้� อีกอย่างหน่ึงคือ การขุดค้นทรัพยากรแร่ธาตุที่มีอยู่ในทะเล จังหวัดชายทะเล มีการท�ำนาเกลือเป็นอาชีพส�ำคัญมานานแล้ว เมื่อการขุดแร่ดีบุกบนแผ่นดินร่อยหรอไป ก็มีการปรับปรุงวิธีการให้สามารถขุดแร่ในทะเลได้ด้วยโดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้ท่ีอยู่ติดกับ ฝง่ั ทะเลอนั ดามนั และเมอื่ ไมน่ านมานเี้ องกไ็ ดม้ กี ารขดุ หาแหลง่ น�้ำมนั ปโิ ตรเลยี มในอา่ วไทย ได้พบแล้วหลายแห่ง และได้ท�ำการผลิตออกใช้เพ่ือลดค่าใช้จ่ายที่จะต้องส่ังซื้อน้�ำมัน จากต่างประเทศ ท้ังน้ีก็เพราะประเทศไทยมีน่านน้�ำเศรษฐกิจท่ีจะขุดค้นหาทรัพยากรตาม กฎหมายระหว่างประเทศได้ ๒.๒ ทำ� เลทีเ่ ปน็ ชุมทางสายการบนิ เน่ืองจากประชากรของโลกที่กระจายกันอยู่ในทวีปยุโรปกับเอเชีย โดยเฉพาะ ตามเมืองใหญ่ต่างๆ บังเอิญส่วนมากอยู่ในแนวเดียวกับสายการบินท่ีสั้นท่ีสุดของโลกด้วย พอดีกับประเทศไทยอยู่ตรงกับชุมทางสามแพร่งของสายการบินระหว่างยุโรปกับเอเชีย ซ่ึงทั้งสองทางนี้สามารถติดต่อไปได้ถึงอเมริกาเหนือและใต้ด้วย ส่วนอีกแพร่งหน่ึงนั้นคือ ลงไปทางใตส้ ู่ประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ โดยทั่วไปท่าอากาศยานกรุงเทพฯ เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศท ี่ เหมาะสมสำ� หรบั การขนึ้ ลงของเครอ่ื งบนิ ขนาดใหญ่ เพราะตง้ั อยบู่ นพน้ื ทร่ี าบกวา้ งขวาง ไมม่ ี ภูเขาทจี่ ะเปน็ อันตรายตอ่ เครอ่ื งบิน ตลอดปีจะมีอากาศดมี ีทัศนวิสยั อ�ำนวยให้นักบนิ บังคับ เคร่ืองบินขึ้นลงได้โดยสะดวกและปลอดภัย นอกจากบางวันในฤดูหนาวเท่านั้นท่ีอาจมี หมอกมากแต่จะมีอยู่เฉพาะเวลาเช้าเท่านั้น พอถึงเวลาสายก็จะจางหายไป ทั้งน้ีเน่ืองจาก อยใู่ กลก้ บั อา่ วไทย จงึ มกี ระแสลมหมนุ เวยี นทำ� ใหห้ มอกหายไปไดโ้ ดยเรว็ สว่ นวนั ทม่ี พี ายฝุ น อย่างแรงนั้น ในรอบปีหน่ึงจะมีน้อยครั้งมาก และมักจะเกิดข้ึนเร็วและหายไปโดยเร็ว บางครง้ั เครอ่ื งบนิ อาจจะเสยี เวลาบนิ วนอยใู่ นระดบั สงู คอยความวปิ รติ ของอากาศ (สนิ้ สดุ ลง) เพยี งระยะเวลาอนั สน้ั เมอ่ื พายฝุ นผา่ นไปแลว้ กส็ ามารถบนิ ขนึ้ ลงทส่ี นามบนิ ไดโ้ ดยปลอดภยั ส�ำหรับส่วนด้อยที่อาจจะปรากฏได้คือ พฤติกรรมของประชาชนชาวไทยท่ีมี ผลประโยชนจ์ ากอตุ สาหกรรมทอ่ งเท่ยี ว ซึง่ ถา้ หากเราขาดความรูค้ วามสามารถท่ีจะแข่งขัน กับประเทศเพื่อนบ้านของเราแล้ว เราก็อาจเสียตำ� แหน่งอันดีเช่นนี้ได้ เพราะทำ� เลของการ 62
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดาเปน็ ศนู ยก์ ลางของประเทศเพอ่ื นบา้ นอยใู่ กลก้ บั ของเรา สง่ิ ทเ่ี ราจะตอ้ งปรบั ปรงุ อยา่ งมากคอืคณุ ภาพของสนิ คา้ ในวงการอตุ สาหกรรมทอ่ งเทยี่ ว และอกี ประการหนง่ึ ทสี่ ำ� คญั คอื การบรกิ ารอยา่ งดแี กน่ กั ทอ่ งเทย่ี ว ทเี่ ราพดู กนั เสมอวา่ “ยมิ้ ของคนไทยดงึ ดดู นกั ทอ่ งเทย่ี วนนั้ ไมเ่ ปน็ความจรงิ เสมอไป การบรกิ ารอยา่ งดกี บั ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ตา่ งหากทเี่ ปน็ ยอดปรารถนาของนักท่องเที่ยว” โดยสรุปแล้วจะเห็นว่าท่าอากาศยานกรุงเทพฯ มีสภาพทางกายภาพ ดีมาก แต่เราจะต้องมีสภาพทางสังคมที่ดีให้การสนับสนุนด้วย การเป็นศูนย์กลางการบินระหวา่ งประเทศจึงจะสมบรู ณไ์ ด้ ๒.๓ ทำ� เลท่ีมภี มู อิ ากาศเปน็ ประโยชน์ ประเทศไทยมีอากาศร้อนและฝนตกมาก ความร้อนมิได้ท�ำให้คนไทยขาดประสทิ ธิภาพการทำ� งานอยา่ งสนิ้ เชิงดงั ทนี่ กั ภมู ศิ าสตรต์ ่างประเทศมีความเข้าใจกนั เพราะนักภูมิศาสตร์เหล่าน้ันมักจะใช้ความล�ำเอียงไม่น้อยในการลงความเห็นเร่ืองภูมิอากาศ กับการท�ำงานของคนแต่ละเช้ือชาติ นักภูมิศาสตร์ชาวตะวันตกท่ีมีท�ำเลท่ีอยู่ในเขตอบอุ่น มักจะเข้าใจว่าคนที่อยู่ในเขตร้อนมีความเกียจคร้านในการท�ำงาน ชอบพักผ่อนนอนหลับมากกวา่ ทำ� งาน แตพ่ อชาวตะวนั ตกมาอยใู่ นทางเขตรอ้ นบา้ งกไ็ มส่ ามารถทำ� งานได้ กลบั ตอ้ งพักผ่อนเล่นน้�ำและนอนอาบแดดกันเป็นส่วนมากเพราะการท�ำงานกลางแสงแดดท�ำให้เหนอื่ ยเรว็ และตอ้ งหยดุ พกั บอ่ ย หากชาวตา่ งประเทศจะใชค้ วามสงั เกตสกั เลก็ นอ้ ย จะเหน็ วา่ชาวนาไทยออกทำ� งานแตเ่ ชา้ มืดไม่ว่าจะเป็นการไถนาหรือท�ำไร่ เช้าจะเร่ิมทำ� ประมาณตีหา้หรือ ๕.๐๐ น. เขาจะหยุดพักรับประทานอาหารเช้าประมาณไม่เกินคร่ึงช่ัวโมงแล้ว จะท�ำงานต่อไปอกี จนถงึ ๑๐.๐๐ น. จงึ หยุดพกั และอาจจะกลบั บ้านไปนอนพักก็ได้ เพราะแดดขนึ้ สงู มากแลว้ นอกจากทอ้ งฟา้ จะมดื หรอื ครมึ้ ฝนจงึ จะท�ำงานตอ่ ไป เชน่ ดำ� นา เปน็ ตน้ซึ่งเป็นช่วงเวลาท่ีท้ิงงานไม่ได้และต้องรีบท�ำให้เสร็จ แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวโอกาสท ่ีชาวต่างด้าวจะได้เห็นชาวนาชาวสวนท�ำงานน้อยมากเพราะพวกเขายังไม่ตื่น แต่กลับไปพบเห็นในช่วงท่ีพวกชาวนาชาวสวนก�ำลังพักผ่อนและท�ำงานที่บ้านรวมท้ังเลี้ยงเด็ก พอตกบ่ายพวกชาวต่างด้าวกลับโรงแรมที่พัก รับประทานนำ�้ ชาและพักผ่อน ชาวนาชาวไร่ของไทยจะออกท�ำงานอีกคร้ังหนึ่งเพราะแสงแดดน้อยลงแล้ว เขาจะท�ำงานตั้งแต่ ๑๕.๐๐ น. ไปจนประมาณ ๑๙.๐๐ น. จึงเลิก อย่างไรก็ดีในช่วงเวลางานเร่งด่วน ชาวไร ่ชาวนาไทยทำ� งานมากเปน็ กรณพี เิ ศษ บางทอี าจจะทำ� ทงั้ วนั โดยหยดุ พกั เพยี งเลก็ นอ้ ยเทา่ นนั้ เช่นการลงแขกเกี่ยวข้าว เป็นต้น ดังน้ัน โดยเฉล่ียแล้วการท�ำงานของชาวนาไทยก็คง ไมต่ ำ่� กวา่ ๘ ชว่ั โมงตอ่ วนั ซง่ึ กไ็ มแ่ ตกตา่ งกบั ทชี่ าวตา่ งประเทศในเขตอบอนุ่ ทำ� คอื ๘ ชวั่ โมงเชน่ เดยี วกนั แตผ่ ดิ กนั ทกี่ ารจดั ชว่ งเวลาทำ� งานเทา่ นนั้ เพราะในเขตอบอนุ่ นน้ั สามารถใชเ้ วลาท�ำงานต่อเน่ืองกันได้ ตั้งแต่เช้าจรดเวลาบ่าย ส่วนในประเทศไทยนั้นต้องจัดเวลาที่พระอาทติ ยข์ น้ึ สงู เปน็ เวลาพกั เพราะรอ้ นจดั มากเมอื่ ภมู อิ ากาศทงั้ สองท�ำเลคอื ในเขตอบอนุ่ 63
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชงัต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา กบั ในเขตรอ้ นอยา่ งประเทศไทยเออ้ื อ�ำนวยใหค้ นท�ำงานไดเ้ ทา่ ๆ กนั เชน่ น้ี จะถอื ภมู อิ ากาศ ของเราไมเ่ อ้อื อ�ำนวยต่อการทำ� งานนั้นเห็นวา่ จะไม่ถกู ต้องนัก ในทางตรงกันข้าม อากาศร้อนในประเทศไทยกลับให้ประโยชน์หลายประการ ถ้าหากจะท�ำการประเมินอย่างแท้จริง การอุตสาหกรรมบางอย่างต้องอาศัยความร้อน จากแสงแดด ไดแ้ ก่ การท�ำนาเกลือ การตากปลา การตากเนอ้ื การตากข้าว การตากพืชผล เช่น พริก กล้วย และล�ำไย เป็นต้น ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังได้พัฒนาใช้พลังงาน แสงอาทติ ยผ์ ลติ ไฟฟา้ โดยใชอ้ ปุ กรณเ์ ซลลแ์ สงอาทติ ยแ์ ละกำ� ลงั นยิ มใชก้ นั ในชนบทหา่ งไกล ซึ่งสายไฟฟ้ายังไปไม่ถึงไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ให้ได้ทั้งแสงสว่าง ต้มน�้ำให้ร้อน ใช้กับ เครือ่ งวิทยุและโทรทศั น์ ฝนท่ตี กหนักอย่างมากนั้น เปน็ ประโยชน์ตอ่ การเกษตรของประเทศโดยเฉพาะ การทำ� นา การเลี้ยงสตั ว์ การเลย้ี งปลาน�ำ้ จดื ตลอดจนการคมนาคมขนสง่ ในแมน่ �ำ้ ล�ำคลอง และการผลติ พลงั งานไฟฟา้ ลว้ นแตต่ อ้ งใชน้ ้�ำปรมิ าณมากครง้ั หนงึ่ เราเคยกลา่ ววา่ ภาคอสี าน หรอื ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื แลง้ มาก ฝนตกลงมาแลว้ มกั จะซมึ ลงใตด้ นิ หมด เพราะพน้ื ดนิ เปน็ ทราย ปจั จบุ นั จงั หวดั ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื หลายจงั หวดั ไดก้ ลายเปน็ ทซ่ี ง่ึ มคี วาม ชุ่มชื้นมาก มีการสร้างอ่างเก็บน้�ำกันโดยทั่วไป เล็กบ้างหรือใหญ่บ้างตามแต่ภูมิประเทศ จะอ�ำนวย และพฒั นาการเลย้ี งปลาในอ่างเก็บนำ้� เหลา่ นน้ั ดว้ ย ผลกค็ อื เปน็ แหล่งเพาะพันธ์ุ ปลาอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้น น้�ำยังช่วยถ่ายเทของเสียและสารท่ีเป็นพิษได้ดีด้วย โดยซึมลงในดินแล้วกลายสภาพเป็นสารละลายท่ีไม่เป็นอันตราย โดยการกระท�ำของ แบคทีเรียและอากาศในดิน โดยทั่วไปแล้วฝนที่ตกชุกมากในประเทศไทย เป็นผลดีต่อการ ครองชพี ของประชากรมากกวา่ ผลเสยี แตจ่ ะเปน็ สว่ นดอ้ ยอยบู่ า้ งในบางโอกาสและท�ำเล เชน่ ตกมากจนเกดิ นำ�้ ทว่ มอยา่ งฉบั พลนั ซงึ่ นานๆ จะปรากฏสกั ครง้ั หนงึ่ หรอื ตกมากในกรงุ เทพฯ จนน้�ำท่วมนับเป็นเวลาแรมเดือน ซ่ึงจะโทษธรรมชาติท้ังหมดไม่ได้ เนื่องจากประชาชนก็มี ส่วนในการรับผิดชอบ คือการถางป่าจนไม่มีต้นไม้ท่ีจะรักษาต้นนำ้� ล�ำธาร เม่ือฝนตกมาก น้�ำจะท่วมในท่ีต�่ำอย่างรวดเร็ว ชาวกรุงเทพฯ ไม่ร่วมมือในการรักษาความสะอาดของท่อ ระบายน�้ำ คือทิ้งขยะลงในท่อน�้ำและล�ำคลอง ท�ำให้การระบายน้�ำไม่คล่องตัวเท่าที่ควร หรอื ไมร่ ะบายเลย จงึ เปน็ เหตใุ หน้ ำ้� ทว่ มเปน็ เวลานานได้ เรอื่ งเชน่ นย้ี อ่ มจะปรกั ปรำ� ธรรมชาติ ไม่ได้ (ดูแผนทีห่ มายเลข ๓) ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีสินค้าที่ขายไม่หมดอีกอย่างหน่ึงคือ ภูมิอากาศ โปรดสงั เกตดทู เี่ มอื งชายทะเลและเกาะตา่ งๆ ของประเทศไทยวา่ ไดจ้ ดั ใหเ้ ปน็ ท�ำเลทพี่ กั ผอ่ น ตากอากาศกันเป็นจ�ำนวนมาก ทุกๆ ปีเมื่อถึงฤดูหนาวทางทวีปยุโรปและอเมริกาจะม ี นกั ทอ่ งเทยี่ วชาวตา่ งประเทศไปพกั ผอ่ นกนั จ�ำนวนมาก จนกระทง่ั โรงแรมทกุ แหง่ แนน่ ไปดว้ ย นกั ทอ่ งเทย่ี ว พวกนจ้ี ะมาหาความสำ� ราญจากการเลน่ นำ�้ ทะเล ชมทวิ ทศั นต์ ามชายทะเลและ 64
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี วี ติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจินดาเกาะต่างๆ เลน่ กีฬาทางน�ำ้ และดำ� น้�ำเพ่ือชมสตั ว์น�ำ้ ใต้ทะเล ดงั นั้น ส่ิงที่เราควรจะปรบั ปรงุสง่ เสรมิ คือการจดั การอนุรักษ์ทรพั ยากร ภูมอิ ากาศ ทีเ่ ปน็ ประโยชนน์ ้ีให้อย่ใู นสภาพทด่ี แี ละดึงดูดนักท่องเท่ียวตลอดไป เช่น อย่าท้ิงสิ่งของที่สกปรกลงในทะเล อย่าท�ำหาดทรายชายทะเลให้สกปรก และอย่ารบกวนนักท่องเที่ยวด้วยวิธีการต่างๆ เพราะเขาต้องการพักตากอากาศ ไม่ต้องการถูกรบกวน หากพวกเราคนไทยสามารถร่วมมือกันได้ในเร่ืองนี้แล้วเราจะขายสนิ ค้าที่ไมต่ ้องลงทุนซอื้ ได้ตลอดไป ๒.๔ ท�ำเลทมี่ ีความปลอดภัยทางธรรมชาติ ประการแรกท่ีจะพิจารณาในเรื่องความปลอดภัยทางธรรมชาติคือ ภัยจาก แผน่ ดนิ ไหว ประเทศไทยนบั วา่ อยหู่ า่ งจากเขตแผน่ ดนิ ไหว ยกเวน้ ภาคตะวนั ตกและภาคเหนอืบางส่วนที่อยู่ใกล้ชิดกับเขตแผ่นดินไหว และมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในภาคด้วย เม่ือมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในบริเวณทางด้านตะวันตกของประเทศไทย ซ่ึงส่วนใหญ่ มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ทะเลอันดามันและประเทศพม่า ความสั่นสะเทือนจะแผ่กระจายมาถึงประเทศไทย ตามขนาดความรุนแรงของการไหวแต่ละครั้ง ความรุนแรงของแผ่นดินไหว ท่ีจะท�ำให้เกิดอันตรายต่อทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนนับว่ามีน้อย ท่ีเคยปรากฏว่า รุนแรงมากในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเม่ือ พ.ศ.๒๐๘๘ ซึ่งพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ซ่ึงสูง ๘๖ เมตร ได้พังทลายลงมา และเม่ือ พ.ศ.๒๕๒๒ เกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดกาญจนบุรีความรุนแรงได้แผ่กระจายตามช่วงคล่ืนถึงกรุงเทพฯ ท�ำให้ตึกสูงหลายชั้นแกว่งไกวอย่างน่ากลัว ภายหลังพบว่ามีตึกสูงบางแห่งแตกร้าวและ เสยี หายบา้ ง (ดูแผนทีห่ มายเลข ๔) สำ� หรบั ภยั ธรรมชาตอิ ยา่ งอน่ื เชน่ พายไุ ตฝ้ นุ่ ซงึ่ มกั จะเกดิ ในประเทศเพอ่ื นบา้ นใกล้เคียง คอื ที่ฮอ่ งกง ไตห้ วนั และฟิลปิ ปินส์ เปน็ ต้น ไมป่ รากฏวา่ ให้ความเสยี หายอยา่ งรุนแรงดังท่ีเกิดในต่างประเทศ มีแต่หางไต้ฝุ่นท่ีพัดเข้ามาถึงประเทศไทย และท�ำความ เสียหายให้แก่ประชาชนและทรัพย์สินบ้าง อย่างไรก็ดี เคยมีพายุรุนแรงผ่านทางภาคใต้ ของประเทศไทยที่บริเวณแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราชคร้ังหน่ึง เป็นเหตุให้ น�้ำทะเลพัดบ้านเรือนและประชาชนที่อาศัยอยู่ท่ีแหลมแห่งน้ันจมน�้ำทะเลเสียชีวิต ในขณะหลับนอนตอนกลางคืนเป็นจ�ำนวนหลายร้อยคน เหตุการณ์เช่นน้ีไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยมาก่อนตั้งแต่หลายปีมาแล้ว ตอนต้นฤดูฝนมักจะมีพาย ุอย่างแรงกอ่ นท่ฝี นจะตก ซงึ่ แตก่ ่อนไม่ปรากฏว่ามีบ่อยคร้งั สาเหตสุ �ำคัญคงจะเนอื่ งมาจากการตัดไม้ท�ำลายปา่ เม่ือป่าไมข้ าดต้นไมข้ นาดใหญส่ ำ� หรบั รกั ษาต้นนำ้� ล�ำธาร นอกจากน้ันยังขาดเคร่ืองกีดขวางกระแสลมด้วย จึงท�ำให้เกิดลมพัดอย่างแรงและเสียหายมากทั้งชีวิต และทรพั ยส์ นิ เพอื่ ใหม้ คี วามปลอดภยั ทางธรรมชาตมิ ากขนึ้ ควรรว่ มกนั รกั ษาตน้ ไม้ ปลกู ตน้ ไม้เพม่ิ เติมอยู่เสมอ หากรว่ มมือกนั ทำ� เช่นนีไ้ ด้ ภยั ธรรมชาติดังกลา่ วยอ่ มจะลดลง 65
๕๐ชวี ิตและงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา แผนทห่ี มายเลข ๓ แผนทห่ี มายเลข ๔ การกระจายของฝนรายปี การกระจายของฝนรายปี ๒.๕ ท�ำเลชมุ ทางของการคมนาคมทางบก ภายหลังท่ีสงครามโลกครั้งท่ี ๒ ผ่านไปแล้ว ประเทศไทยได้เร่งรัดพัฒนา เส้นทางขนสง่ ทางบกอยา่ งกว้างขวางท่ัวประเทศ ได้แก่ เส้นทางขนาดใหญ่ระดบั ทางหลวง แผ่นดิน ลงไปจนถึงทางหลวงจังหวัด และเส้นทางท่ีท�ำขึ้นเพ่ือแก้ปัญหาความขาดแคลน ตามชนบทเรียกว่า ทางเร่งรัดพัฒนาชนบท หรือทาง ร.พ.ช. ทางท่ีสำ� คัญอีกประเภทหน่ึง คอื ทางรถยนตเ์ ชือ่ มตอ่ ระหว่างประเทศ คือทางใต้เชือ่ มกับประเทศมาเลเซีย ทางตะวนั ตก และทางเหนือเชื่อมกับประเทศพม่า ทางตะวันออกเฉียงเหนือเช่ือมกับประเทศลาวและ ประเทศกัมพูชา การสร้างทางเชื่อมกับประเทศพม่านั้นเพ่ือตอบสนองนโยบายของ สหประชาชาตทิ จ่ี ะใหม้ เี สน้ ทางสายเอเชยี ผา่ นตง้ั แตส่ งิ คโปรไ์ ปจนถงึ ประเทศตา่ งๆ ในทวปี ยุโรปได้ แต่น่าเสียดายที่จนบัดนี้ทางรถยนต์สายเอเชียยังไม่สามารถเปิดใช้ได้ตลอด เพราะประเทศเพื่อนบ้านยังไม่ยอมเปิดให้ใช้ในประเทศของเขา ปัจจุบันมีถนนให้ใช้ได้จริง เพยี งระหวา่ งประเทศไทย ประเทศมาเลเซยี และประเทศสงิ คโปรเ์ ทา่ นน้ั เสน้ ทางจงึ ขาดตอน ท่ปี ระเทศพมา่ หากประเทศเพอื่ นบา้ นยตุ ิการรบพ่งุ กนั เองแล้วประเทศไทยก็จะเปน็ ชุมทาง รถยนต์สายเอเชียอยา่ งสมบรู ณ์66
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี วี ติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา๓. ขนาดและเน้ือที่ ประเทศไทยมีเนื้อท่ี ๕๑๓,๑๑๕.๐๒๘ ตารางกิโลเมตร เน้ือท่ีซึ่งวัดได้น้ีเป็นเน้ือท่ี ในทางราบ ซ่ึงต้องรวมท้ังเน้ือที่ของเกาะต่างๆ ที่มีอยู่ภายในเขตแดนของประเทศทั้งหมดเนอ่ื งจากประเทศไทยใชข้ นาดของโลกซง่ึ เรยี กวา่ “เอเวอเรสทส์ เฟยี รอยด”์ ในการทำ� แผนที่มาต้ังแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ดังน้ัน การค�ำนวณเน้ือที่จริงต้องอ้างถึงขนาดของโลกชุดนี้ ปัจจุบันได้มกี ารสำ� รวจท�ำแผนท่ีจากดาวเทียม และองค์การดาวเทยี มสหรฐั อเมรกิ าได้รังวัดขนาดของโลกอกี ครงั้ ดว้ ยเครอื่ งมอื ทท่ี นั สมยั และใหค้ วามถกู ตอ้ งสงู มาก จงึ ไดข้ นาดของโลกทีแ่ ตกตา่ งจากที่เราใช้ท�ำแผนท่ี ดังนั้น จึงไม่ตอ้ งสงสัยวา่ ถา้ หากมกี ารค�ำนวณเนือ้ ทีก่ ันใหม่อกี ครงั้ ตามผลการรังวดั ขนาดของโลกใหมน่ ้ี เน้ือที่ของประเทศไทยจะต้องเปล่ียนไปเป็นอีกขนาดหนงึ่ อยา่ งแนน่ อน เนอื่ งจากประเทศไทยเปน็ สมาชกิ สภาสากลยอี อเดซแี ละยอี อฟสิ คิ ส์และสภาฯ ได้ตกลงรับรองขนาดของโลกที่ได้รังวัดใหม่แล้ว ประเทศคงต้องรับรองด้วย แต่เราจะเปลี่ยนหลักฐานมาใช้ขนาดใหม่นี้เม่ือใด ท้ังน้ีย่อมข้ึนอยู่กับทางราชการและ หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งวา่ จะดำ� เนนิ การเมอื่ ใด อยา่ งไรกด็ ี เนอื้ ทซี่ ง่ึ ไดใ้ หต้ วั เลขไวน้ ้ี เปน็ ขอ้ ยตุ ิเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๑๖ เท่าน้ัน หากมีการสอบเน้ือที่กันอีกเม่ือใดก็จะต้องแจ้ง ใหท้ ราบวนั ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงดว้ ย เหตผุ ลการเปลยี่ นเนอ้ื ทป่ี ระเทศดงั ไดก้ ลา่ วแลว้ ขา้ งตน้เป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่าน้ัน นอกจากน้ัน เนื้อที่ประเทศเปลี่ยนได้ตามกาลเวลาเนื่องจาก การสึกกร่อนและการทับถมของตะกอน และเรียกรวมๆ ว่ากษัยการ การตกตะกอน ทปี่ ากอา่ วไทย เปน็ ตน้ ทำ� ใหพ้ น้ื ทแี่ ผน่ ดนิ งอกออกไปในทะเลได้ เชน่ เดยี วกบั การตกตะกอนตามปากแม่น้�ำหลายสายท่ีไหลลงสู่อ่าวไทยและทะเลอันดามัน แต่ก็มีหลายแห่งท่ีแผ่นดินถกู นำ้� เซาะเว้าแหว่งโดยเฉพาะรมิ แมน่ �้ำโขง เราก็ยอ่ มเสียพืน้ ท่ี นอกจากน้ันแล้ว ในการจดัเน้ือท่ีแต่ละครั้ง อุปกรณ์ท่ีใช้วัดและวิธีการก็เปลี่ยนไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ดังน้ันจึงได้เนื้อท่ีแต่ละคร้ังไม่เหมือนกัน แต่การที่จะใช้หลักฐานของหน่วยงานไหน ก็ต้องเลือกใช้ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ น่ันคือของกรมแผนท่ีทหาร กระทรวงกลาโหม เพราะมหี นา้ ทโ่ี ดยตรงในการทำ� แผนที่ประเทศไทย สว่ นยาวทสี่ ดุ ของประเทศไทย ยาวประมาณ ๑,๖๒๐ กโิ ลเมตร คอื จากอำ� เภอแมส่ ายจังหวัดเชียงราย ถงึ อำ� เภอเบตง จังหวัดยะลา ส่วนกว้างท่ีสุดกวา้ งประมาณ ๗๕๐ กิโลเมตร คือจากดา่ นพระเจดยี ์สามองค์ อำ� เภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบรุ ี ถงึ ชอ่ งเม็ก อำ� เภอพิบูลมังสาหาร จงั หวัดอุบลราชธานี ส่วนแคบที่สุด แคบประมาณ ๑๐.๖ กิโลเมตร คือที่ละติจูด ๑๑ องศา ๔๒.๔ ลปิ ดาเหนอื จากพรมแดนประเทศพมา่ ถงึ ปากหว้ ยหวา้ โทน ในตำ� บลคลองวาฬ อำ� เภอเมอื งจงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ 67
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชงัต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจินดา ๔. รูปรา่ ง นักศึกษาส่วนมากดูแผนที่แล้วจะเปรียบเทียบรูปร่างของประเทศว่าเหมือนขวาน โบราณ แตก่ ม็ บี างคนเหน็ วา่ คลา้ ยกบั หวั ชา้ งทำ� ปา่ ไม้ โดยสมมตุ วิ า่ หวั ของชา้ งตรงกบั ทร่ี าบสงู ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาคเหนอื เปน็ เหมอื นควานชา้ ง ทบี่ งั คบั ชา้ งทำ� ปา่ ไมใ้ นภาคเหนอื อ่าวไทยได้แก่ปากของช้าง ภาคตะวันออกตรงกับปากล่างของช้าง ส่วนภาคตะวันตกและ ภาคใต้แทนงวงและงาช้าง ที่ปากช้างตรงกับบริเวณที่มีการปลูกผลไม้หลายชนิด ส่วนทาง งวงช้างมีการทำ� ยางพาราทย่ี ดื หย่นุ ได้เหมือนกัน การเปรยี บเทียบรปู รา่ งแผนทขี่ องประเทศ เช่นนี้ มีประโยชน์ในการช่วยให้จดจำ� ขอบเขตของประเทศได้ และช่วยในการเขียนแผนท่ ี โดยไม่ตอ้ งใช้แบบ ๕. ดรรชนีรูปร่าง การพิจารณารูปร่างโดยไม่มีปริมาณวิเคราะห์ ย่อมเป็นการยากที่จะบอกว่ารูปร่าง ของประเทศดีมากน้อยเพียงใด ในเม่ือเปรียบเทียบกับประเทศอ่ืน โดยเฉพาะในเร่ืองที ่ เกี่ยวกับภูมิศาสตร์การเมือง ถ้ามีวิธีค�ำนวณดรรชนีรูปร่างของประเทศแล้วก็มีทางที่จะ เปรยี บเทียบกันได้ รูปร่างท่ีกะทัดรัดที่สุดของประเทศน่าจะเป็นวงกลมเพราะสะดวกต่อการบริหาร ประเทศ การทจี่ ะสรา้ งทางคมนาคมตดิ ต่อ ยอ่ มจะทำ� ไดง้ า่ ย โดยจัดใหเ้ ปน็ แนวรัศมีออกไป จากจุดศูนย์กลางการรักษาความปลอดภัยของประเทศย่อมท�ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากท�ำเลของประเทศอยกู่ ลางทะเลเปน็ เอกเทศกย็ งิ่ ดี เพราะไมม่ ใี ครจะมาบกุ รกุ ไดโ้ ดยงา่ ย นอกจากน้ันการติดต่อทางทะเลก็ได้เปรียบกว่าประเทศท่ีอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะต้องถูก ประเทศเพือ่ นบา้ นแย่งทางออกทะเลไปใช้ด้วย การค�ำนวณดรรชนีรูปร่างอาศัยหลักเกณฑ์อย่างง่ายดังนี้ คือ สมมุติว่าประเทศ ๒ ประเทศมีเนื้อที่เท่ากัน แต่ประเทศหนึ่งเป็นวงกลมและอีกประเทศหน่ึงเว้าแหว่งคล้าย ปลาดาว ประเทศท่ีมีความเว้าแหว่งมากย่อมจะมีความยาวของเขตแดนมากกว่าเขตแดน ที่เป็นเส้นรอบวง การบริหารประเทศและการรักษาความมั่นคงย่อมทำ� ได้ยากกว่า ดังนั้น การค�ำนวณหาดรรชนีรูปร่างก็คือการหาเรโชระหว่างความยาวของเขตแดนจริง ในเน้ือท่ ี เท่ากนั หรอื เน้อื ทขี่ องประเทศนั้น สตู รท่ใี ช้ คอื ดรรชนรี ปู รา่ งของประเทศ = [(๔ x PI x เนอ้ื ทข่ี องประเทศ)1/2] / ความยาวของเขตแดน เคร่ืองหมายท่ีใช้ในสตู ร: X แทนเครือ่ งหมายคูณ PI แทนค่าพายของวงกลม (PI = ๓.๑๔๑๕๙๒๗) / แทนเครือ่ งหมายหาร ดรรชนีรูปรา่ งของประเทศไทย = ๐.๓๑๖๑๘๖ 68
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา ถ้ารูปร่างของประเทศเป็นวงกลมจริง สูตรนี้จะให้ค่าของดรรชนีเป็น ๑ แต่ถ้าเป็น รปู อืน่ จะไดค้ า่ น้อยกว่า ๑ น่ันคอื ๑ เป็นค่าทีด่ ีท่ีสดุ ส�ำหรบั รูปรา่ ง (ดูตาราง ๑) โปรดสงั เกตวา่ ดรรชนตี ารางของประเทศไทยกบั ประเทศสหภาพโซเวียตวา่ เกอื บเท่ากัน เพราะประเทศท้ังสองแม้จะมีเน้ือท่ีต่างกันมาก แต่มีฝั่งทะเลเว้าแหว่งในอัตราส่วนเกือบเท่ากัน ประเทศ ท่ีมีรูปร่างดีกว่าประเทศอ่ืนในตารางนี้ได้แก่ประเทศโบลิเวีย ถัดไปคือประเทศบราซิล และออสเตรเลยี ประเทศมรี ปู รา่ งไมด่ คี อื ประเทศกรซี เพราะมขี อบเขตประเทศเวา้ แหวง่ มากนอกจากน้นั ยงั มีเกาะอีกเปน็ จ�ำนวนมากด้วย๖. ดรรชนคี วามสันโดษ ความสันโดษเป็นปัจจัยท่ีส�ำคัญต่อความม่ันคงของประเทศ การอยู่ในทะเลท่ีเป็นเอกเทศในมหาสมุทรไม่มพี รมแดนติดกับประเทศใด ย่อมมีความเป็นอสิ ระ ไมต่ อ้ งเปน็ ห่วงการรุกรานจากประเทศอ่ืน เพราะมีมหาสมุทรล้อมรอบ แต่ประเทศจะต้องแข็งแรงและ มีก�ำลังทหารท่ีดีพอท้ังทางบกและทางทะเล ประเทศที่มีคุณสมบัติเช่นนี้มีไม่มากนัก ส่วนมากมักจะไม่สันโดษบริบูรณ์ ดังนั้น หากมีทางออกทะเลได้บ้างก็นับว่ามีความสันโดษเป็นบางสว่ น สำ� หรับประเทศทีถ่ กู ล้อมรอบทุกดา้ นไม่มที างติดต่อกบั ทะเล ถือว่าไมม่ ีความสันโดษเลย ตัวอย่างเช่นประเทศโบลิเวียในทวีปอเมริกาใต้ ดังนั้น การค�ำนวณดรรชนีเพื่อหาความสันโดษอาจใช้อัตราส่วนระหว่างความยาวของฝั่งทะเลกับความยาวของเขตแดน ของประเทศทงั้ หมด ดงั ตอ่ ไปน้ี ดรรชนีความสันโดษ = (ความยาวของฝ่ังทะเล)/(ความยาวของเขตแดนทัง้ หมด) ดรรชนีความสันโดษของประเทศไทย = ๐.๓๓๖๘๒๐ ค่าท่ีมากท่ีสุดของดรรชนีความสันโดษ คือ ๑ ซึ่งได้แก่ประเทศท่ีน้�ำล้อมรอบ เช่นประเทศออสเตรเลีย เปน็ ต้น ประเทศโบลเิ วียมคี ่าดรรชนีความสนั โดษเปน็ ๐ เพราะตกอยู่ในท่หี อ้ มลอ้ มของประเทศอน่ื โดยไมม่ เี ขตแดนตดิ กบั ทะเลเลย เนื่องจากรูปร่างประเทศมีความเกี่ยวข้องกับฝั่งทะเลด้วย ดังน้ัน การท่ีจะพิจารณาความสมบูรณ์ทางต�ำแหนง่ อาจน�ำเอาดรรชนีรูปร่างรวมเข้ากบั ดรรชนีความสันโดษดว้ ยก็ได้เมื่อตรวจดูดรรชนีในตารางท่ี ๑ จะเห็นว่าดรรชนีแสดงความสมบูรณ์ทางต�ำแหน่งของประเทศไทยมีขนาดน้อยมากเม่ือเทียบกับต่างประเทศบางประเทศ ประเทศออสเตรเลีย มีดรรชนีความสมบูรณ์ทางต�ำแหน่งสูงกว่าทุกประเทศ ดังนั้น ประเทศออสเตรเลียจึงไม่ ประสบปัญหาทางการเมอื งระหวา่ งประเทศ 69
๕๐ชีวิตและงาน ศ าม สสชงัต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา ๗. ดรรชนที รพั ยากรเน้อื ที่ ประเทศท่ีมีเน้ือท่ีมากท่ีสุดในโลกได้แก่สหภาพโซเวียต และประเทศนี้เป็นประเทศ มหาอ�ำนาจท่ีสำ� คัญของโลก ดังน้ัน จึงเอาเนื้อท่ีของสหภาพโซเวียตเป็นเน้ือที่ฐาน เพื่อใช้ ในการเปรยี บเทยี บทรพั ยากรเนอ้ื ทขี่ องประเทศไทยและประเทศอนื่ ๆ การทป่ี ระเทศมเี นอื้ ที่ มากน้ันย่อมเป็นการได้เปรียบในภาวะฉุกเฉินและภาวะสงคราม ประชากรของประเทศ มีโอกาสมากในการขยายการใช้ท่ีดินเพ่ือการเกษตร อุตสาหกรรม และการค้นหา ทรัพยากรธรณี สูตรที่ใช้ในการค�ำนวณดรรชนีเนื้อท่ีจึงเป็นอัตราส่วนระหว่างเนื้อท่ีของ ประเทศกับเนอ้ื ทีข่ องสหภาพโซเวียต ดงั นี้ คอื ดรรชนที รัพยากรเน้อื ที่ = (เนอ้ื ทีข่ องประเทศ)/(เนอื้ ทขี่ องประเทศสหภาพโซเวยี ต) ดรรชนีทรพั ยากรเน้อื ทข่ี องประเทศไทย = ๐.๐๒๒๙๐๖ ดรรชนีทรัพยากรเนือ้ ท่จี ะมีค่ามากทสี่ ุดไมเ่ กนิ ๑ และท่ีจะมีคา่ เป็น ๑ พอดไี ด้อยา่ ง แนน่ อนก็คอื ประเทศสหภาพโซเวยี ต นน่ั เอง ๘. ดรรชนีแสดงความเป็นเลศิ ทางอาณาบริเวณ เพื่อสรุปให้เห็นเด่นชัดอาจรวมดรรชนีทุกรายการที่หาค่าได้แล้ว และเรียกว่าดรรชนี ทางอาณาบรเิ วณ ถา้ มคี า่ มากแสดงวา่ อยใู่ นทำ� เลทตี่ ง้ั ทด่ี ี แตจ่ ะดกี วา่ ประเทศใดตอ้ งคำ� นวณ เปรียบเทียบเอาเอง ดรรชนีความสมบรู ณท์ างตำ� แหน่งประเทศไทย = ๐.๖๕๓๐๐๖ ดรรชนคี วามเปน็ เลิศทางอาณาบริเวณของประเทศไทย = ๐.๖๗๕๙๑๒ จากตารางตัวอย่างจะเห็นว่า ประเทศไทยมีดรรชนีความเป็นเลิศทางต�ำแหน่ง นอ้ ยที่สุด และท่สี ูงกวา่ ของประเทศไทยเพียงเล็กน้อย ไดแ้ ก่ ประเทศโบลเิ วีย จากผลของ การค�ำนวณหาดรรชนีต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว ย่อมจะท�ำให้มีแนวทางในการเปรียบเทียบ ระหว่างส่วนดีและส่วนด้อยได้ง่าย และแน่นอนข้ึน ถ้าไม่ท�ำดังนี้ ก็จ�ำเป็นจะต้องใช้วิธี คาดคะเน ซึ่งนอกจากท�ำให้เสียเวลาตัดสินแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าผลของการพิจารณาจะยุต ิ ได้หรือไม่70
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดาตารางท่ี ๑ ตารางเปรียบเทียบดรรชนีรูปร่าง ดรรชนีความสันโดษ ดรรชนีความสมบูรณ ์ ทางต�ำแหน่ง ดรรชนีทรัพยากรเน้ือที่ และดรรชนีความเป็นเลิศทางอาณา บริเวณของประเทศไทยกบั บางประเทศ เขตแดน ฝ่งั ทะเล เน้อื ที่ ดรรชนี ยาว ยาว ๑,๐๐๐ ช่อื ประเทศ (ตาราง รูปรา่ ง สันโดษ ต�ำแหน่ง เนื้อท่ี บริเวณ (กโิ ลเมตร) (กโิ ลเมตร) กโิ ลเมตร)ไทย ๐.๐๑๒ ๐.๖๗๖กรซี ๘,๐๓๑ ๒,๗๐๕ ๕๑๓ ๐.๓๑๖ ๐.๓๓๗ ๐.๖๕๓ ๐.๐๐๖ ๑.๐๔๒โบลเิ วยี ๐,๐๑๘ ๐.๙๕๔ ๑.๐๓๖ ๐.๐๔๙ ๐.๗๗๐อาร์เจนตินา ๑๕,๘๒๘ ๑๕,๑๐๔ ๑๓๑ ๐.๗๒๑ ๐.๐๐๐ ๐.๗๒๑ ๐.๑๒๓ ๑.๐๐๗ออสเตรเลยี ๐.๕๕๖ ๐.๓๒๗ ๐.๘๘๔ ๐.๓๔๒ ๑.๙๖๕บราซลิ ๕,๑๕๐ ๐ ๑,๐๙๘ ๐.๖๒๓ ๑.๐๐๐ ๑.๖๒๓ ๐.๓๘๐ ๑.๔๔๓โซเวียต ๐.๖๔๙ ๐.๔๑๔ ๑.๐๖๓ ๑.๐๐๐ ๑.๙๒๘ ๑๐,๕๗๓ ๓,๔๖๐ ๒,๗๕๘ ๐.๓๒๑ ๐.๖๐๘ ๐.๙๒๘ ๑๕,๗๗๒ ๑๕,๗๗๒ ๗,๖๘๒ ๑๕,๙๓๓ ๖,๕๙๘ ๘,๕๑๑ ๕๒,๓๐๔ ๓๑,๗๘๕ ๒๒,๔๐๐๙. เส้นเขตแดนบนแผน่ ดิน เส้นเขตแดนทจี่ ะกลา่ วถงึ ในทนี่ ี้ จะได้แยกออกเป็นเส้นเขตแดนบนแผน่ ดินอยา่ งหนงึ่และเส้นเขตแดนในทะเลอีกอย่างหน่ึง ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีผลประโยชน์ทางทะเล อยู่มาก ดังน้ัน ควรจะพิจารณาเส้นก้ันอาณาเขตทางเศรษฐกิจในทะเลด้วย เพ่ือจะได้เป็นความรู้และร่วมกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศ การพิจารณาเรื่องเขตแดนในต�ำราน้ี เปน็ เพยี งหลกั การเทา่ นนั้ ส่วนรายละเอยี ดทแ่ี ท้จรงิ ยงั มอี กี มาก ๙.๑ เสน้ เขตแดนทอี่ ยู่บนทิวเขา เส้นเขตแดนบนทวิ เขาทีส่ ำ� คญั อาจสรปุ ไดด้ ังนี้ คือ ๙.๑.๑ เขตแดนบนสันปันน�้ำของทิวเขาตะนาวศรี กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกบั ประเทศพมา่ ตงั้ แตจ่ งั หวดั ชมุ พรถึงจงั หวดั กาญจนบุรี ๙.๑.๒ เขตแดนบนสันปันน้�ำของทิวเขาถนนธงชัย ก้ันพรมแดนระหว่างประเทศไทยกบั ประเทศพม่า ตัง้ แตจ่ ังหวดั กาญจนบรุ ไี ปจนถงึ จงั หวดั ตาก ๙.๑.๓ เขตแดนบนสันปันน�้ำของทิวเขาแดนลาว ก้ันพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ตัง้ แต่จงั หวัดแมฮ่ อ่ งสอนไปจนถึงจงั หวัดเชียงราย ๙.๑.๔ เขตแดนบนสันปันน�้ำของทิวเขาหลวงพระบาง กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกบั ประเทศลาวตอนจงั หวัดน่าน 71
๕๐ชวี ิตและงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจินดา ๙.๑.๕ เขตแดนบนสันปันน้�ำของทิวเขาเพชรบูรณ์ กั้นพรมแดนระหว่าง ประเทศไทยกับประเทศลาว ต้ังแต่จงั หวดั นา่ นถงึ จังหวดั อุตรดติ ถ์ ๙.๑.๖ เขตแดนบนสันปันน�้ำของทิวเขาภูแดนเมือง กั้นพรมแดนระหว่าง ประเทศไทยกบั ประเทศลาวทจี่ งั หวัดอุบลราชธานี ๙.๑.๗ เขตแดนบนสันปันน�้ำของทิวเขาบรรทัด ก้ันพรมแดนระหว่าง ประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ต้ังแต่จงั หวดั จันทบรุ จี นถึงจงั หวัดตราด และ ๙.๑.๘ เขตแดนบนสันปันน้�ำของทิวเขาสันกาลาคีรี กั้นพรมแดนระหว่าง ประเทศไทยกับประเทศมาเลเซยี ต้ังแต่จงั หวัดสตูลจนถงึ จงั หวัดนราธิวาส ๙.๒ เส้นเขตแดนในแมน่ ้ำ� เสน้ เขตแดนในแม่นำ�้ อาจสรุปไดด้ งั นี้ คือ ๙.๒.๑ ร่องน�้ำลึกของแม่น�้ำกระบุรี (แม่น้�ำปากจั่น) เป็นเขตแดนระหว่าง ประเทศไทยกบั ประเทศพม่า ที่จงั หวดั ระนอง ๙.๒.๒ ร่องน�้ำลึกของแม่น้�ำเมย เป็นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับ ประเทศพม่าทจี่ งั หวดั ตาก ๙.๒.๓ ร่องน้�ำลึกของแม่น�้ำสาละวิน (คง) เป็นเขตแดนระหว่างประเทศไทย กบั ประเทศพมา่ ทจี่ ังหวัดแมฮ่ ่องสอน ๙.๒.๔ ร่องน�้ำลึกของแม่น้�ำสายและแม่น�้ำรวก เป็นเขตแดนระหว่าง ประเทศไทยกบั ประเทศพม่า ทีจ่ ังหวดั เชียงราย ๙.๒.๕ ร่องน้�ำลึกของแม่น�้ำโขง เป็นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับ ประเทศลาวที่จังหวัดเชียงรายตอนหนึ่งและตั้งแต่จังหวัดเลยจนถึงปากแม่น�้ำมูลท ี่ จงั หวัดอบุ ลราชธานอี ีกตอนหนงึ่ ๙.๒.๖ ร่องน�้ำลึกของแม่น�้ำเหือง เป็นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับ ประเทศลาวทจ่ี งั หวัดเลย และตรงข้ามกบั เมอื งแก่นทา้ วในประเทศลาว และ ๙.๒.๗ ร่องน�้ำลึกของแม่น้�ำโก-ลก เป็นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับ ประเทศมาเลเซีย ท่จี งั หวัดนราธวิ าส นอกจากนี้แล้วเขตแดนอาจจะผ่านไปตามยอดเขาสูงบ้างต่�ำบ้าง หรือแม่น้�ำ ระยะสั้นๆ หรือส่วนใดส่วนหน่ึงของแม่น้�ำบางสาย และอาจเป็นเส้นเขตแดนที่ก�ำหนดขึ้น และหลกั ปกั เขตแดนเป็นทีห่ มาย ๙.๓ ความยาวของเขตแดน เมื่อสรุปความยาวของเส้นเขตแดนระหว่าง ประเทศไทยกบั ประเทศเพอื่ นบา้ นแลว้ อาจไดข้ ้อสรปุ ดังนี้ คือ ๙.๓.๑ ความยาวของเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ยาวประมาณ ๒,๒๐๒ กโิ ลเมตร 72
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี ีวิตและงาน ของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา ๙.๓.๒ ความยาวของเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ยาวประมาณ ๗๙๘ กโิ ลเมตร ๙.๓.๓ ความยาวของเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว ยาวประมาณ ๑,๗๕๐ กิโลเมตร และ ๙.๓.๔ ความยาวของเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ยาวประมาณ ๕๗๖ กโิ ลเมตร๑๐. ต�ำแหนง่ เขตแดนระหวา่ งประเทศไทยกับประเทศพม่า เพื่อความสะดวกในการพิจารณาแนวเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่าจะเร่ิมต้นชี้ให้เห็นเขตแดนจากทางเหนือลงมาทางใต้ จากจุดร่วมของเขตแดนระหว่าง สามประเทศ คอื ประเทศไทย ประเทศพมา่ และประเทศลาวซ่งึ เปน็ จุดรวมของรอ่ งนำ�้ ลกึของแม่น้�ำรวกและแม่น�้ำโขง จุดนี้เรียกอีกอย่างหน่ึงว่าสบรวก ปัจจุบันนักท่องเที่ยวให้ ฉายาวา่ “สามเหลยี่ มทองคำ� ” จากจดุ สบรวกเขตแดนระหวา่ งประเทศไทยกบั ประเทศพมา่จะตามรอ่ งนำ้� ลกึ ของแมน่ ำ้� รวกไปทางตะวนั ตกเขา้ สลู่ ำ� นำ�้ แมส่ ายผา่ นอำ� เภอแมส่ าย จงั หวดัเชยี งราย กบั ทา่ ขเ้ี หลก็ ในประเทศพม่าท่อี �ำเภอแมส่ าย มสี ะพานคอนกรตี ขา้ มลำ� น�้ำแมส่ ายเข้าไปสู่บ้านท่าขี้เหล็กได้ และกลางสะพานนี้มีป้ายแบ่งเขตแดนระหว่างสองประเทศไว้ด้วยสะพานนี้สร้างให้รถยนต์ข้ามได้ แต่ทางการของทั้งสองประเทศยังไม่ตกลงให้เปิดใช้ต่อจากสะพานไปเล็กน้อยเขตแดนเปล่ียนทิศไปทางตะวันตกเฉียงใต้จากร่องนำ้� ลึกของน�้ำแม่สายเขตแดนไต่ขึ้นจมูกเขาที่ดอยตุงข้ึนไป ตามสันปันน�้ำทางด้านเหนือของพระธาตุดอยตุง มงุ่ ไปทางตะวนั ตกจนถงึ ดอยตงุ แลว้ จงึ เลย้ี วลงทางใตส้ ดู่ อยสามเสา้ ทางตะวนั ตกของอำ� เภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ผ่านทางเหนืออ�ำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ไปทางตะวันตก ตัดข้ามแม่น้�ำกกใกล้กับบ้านท่าตอน อ�ำเภอแม่อาย เล้ียวลงมาทางใต้ ผ่านสันปันน�้ำของดอยม่อนอ่างขาง ทางตะวันตกของอ�ำเภอฝาง และทางตอนเหนือของอ�ำเภอเชียงดาว ไปตามสันปันน้�ำของทิวเขาแดนลาว ทางเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตัดผ่านช่องเขา ดอยผาเวียงจนสุดทิวเขาแดนลาว เลี้ยวลงมาทางใต้ตามสันปันน�้ำของทิวเขาถนนธงชัย ทางตะวันตกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตัดผ่านช่องเขาที่ส�ำคัญ ซึ่งเป็นทางผ่านระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า เช่น ช่องบ้านนาป่าจาค ช่องบ้านนาป่าแผก ช่องน้�ำออกฮู ช่องแม่สลิน ช่องขุนแม่งาว อ�ำเภอขุนยวม ช่องเสาหิน เขตแดนเล้ียวไปทางตะวันตก ผา่ นเขาทา่ ผาแดง แลว้ ลงสรู่ อ่ งนำ�้ ลกึ ของแมน่ ำ�้ สาละวนิ (คง) ตามรอ่ งนำ้� ลกึ ลงไปทางใตจ้ นถงึสบแม่เมย แล้วเข้าร่องน้�ำลึกของแม่น้�ำเมย ทางด้านตะวันตกของบ้านน้อยอินต๊ะ อ�ำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านทางตะวันตกของอำ� เภอท่าสองยาง อ�ำเภอแม่ระมาดและอ�ำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เปลี่ยนเข้าสู่ร่องน�้ำกอลีซ่ึงเป็นสาขาหน่ึงของแม่น้�ำเมย 73
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจินดา แลว้ ขนึ้ สนั ปนั นำ�้ ของทวิ เขาถนนธงชยั อกี ครง้ั หนง่ึ ผา่ นชอ่ งกอลอทอ เขาทจี ะคมู้ กุ ะตุ ซงึ่ เรยี ก เพย้ี นไปเปน็ เขากระดกู หมบู า้ ง โมกระดกบา้ ง และมกู ะดกบา้ ง ผา่ นพระเจดยี ส์ ามองค์ จงั หวดั กาญจนบรุ ี เขตแดนออ้ มลงใตแ้ ละตะวนั ตกเฉยี งใตผ้ า่ นเขาสองแขวะ เขาเราะแระ ชอ่ งบอ้ งต้ี เขาวายอ เขาหวายน้อย ทางตะวันตกของจังหวัดราชบุรี เขามุนี ใกล้กับจุดต่อเขตจังหวัด เพชรบรุ ี ตามสนั ปนั นำ้� ของทวิ เขาตะนาวศรไี ปทางตะวนั ตกของจงั หวดั เพชรบรุ ี ผา่ นตะวนั ตก ของอ�ำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผ่านเขาใหญ่ เขาแดน ช่องสันพร้าว (ช่องสิงขร) ทางตะวันตกของอ�ำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผ่านช่องหนองหอย เขาเตยใหญ่ ผา่ นตะวันตกของจงั หวัดชุมพร เขาชัมญา เขากะทะครอบ เขาวังน้อย เขาแคน เขาขาหมู แลว้ ลงรอ่ งนำ�้ ลกึ ของแมน่ ำ้� กระบรุ ี (แมน่ ำ�้ ปากจน่ั ) ซงึ่ ไหลระหวา่ งจงั หวดั ระนอง ประเทศไทย กบั เมอื งวคิ ตอเรยี พอยท์ (มะลวิ นั ) ประเทศพมา่ แลว้ เขตแดนจะตกถงึ ทะเลอนั ดามนั ระหวา่ ง หมู่เกาะเซนท์แมททวิ ในประเทศพมา่ กับหมูเ่ กาะสุรินทรป์ ระเทศไทย (ดแู ผนที่หมายเลข ๕) ๑๑. ตำ� แหนง่ เขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซยี เขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ผ่านจากชายฝั่งทะเลอันดามัน ไปจนถึงฝั่งทะเลของอ่าวไทยดังจะได้ชี้เขตแดนนี้จากตะวันตกไปทางตะวันออก ดังนี้ คือ เส้นเขตแดนในทะเลอยู่ระหว่างหมู่เกาะตะรุเตาในประเทศไทยกับเกาะลังกาวีในประเทศ มาเลเซยี เขตแดนผา่ นเกาะปรศั มานา ซงึ่ อยใู่ นเขตจงั หวัดสตลู แล้วขน้ึ ฝ่ังผ่านจมกู เขาของ ทิวเขาสันกาลาคีรีข้ึนไปถึงสันปันน�้ำแล้วตามสันปันน้�ำไปทางเหนือผ่านเขาชีนา (จีน) เล้ียวลงมาทางตะวันตกเฉียงใต้ ตดั ขา้ มทีร่ าบติดกบั อำ� เภอสะเดา ใกลก้ ับสถานรี ถไฟปาดัง- เบซาร์ แล้วผ่านเขาเม็ด ตรงกับอ�ำเภอนาทวีกับอ�ำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ผ่านไป ทางใต้ ด้านตะวันตกของจังหวัดยะลา ข้ึนเขาบูบูส ซาห์ ผ่านช่องคีตะ เขามูคินเบอร์ซาห์ เขาลาตาปา ปาลัง เขากูบงั บาคกั (เขาเปรงงนั ) แล้วเบนไปทางตะวนั ออกเฉยี งใต้ ผ่านเขา กอแบะ (โกเบะหรอื ลาแบ) หกั ขนึ้ ทางตะวนั ออกเฉียงเหนอื ผา่ นเขาฮันกสู ชอ่ งลังชคั ไปจน ถึงเขาฮูลูมะระ (กุนุงเมเราะ) แล้วอ้อมลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านช่องลูอัตลันไต เขาอูลูกาโอ เขาพารู เบนไปทางตะวนั ออก ผา่ นเขาเยลี (ยาล)ี แลว้ หันไปทางตะวันออก- เฉียงเหนือ ผ่านเขาลีแป แล้วลงตามร่องน้�ำลึกของแม่น�้ำโก-ลก ไปจนถึงปากแม่น้�ำโก-ลก ท่บี า้ นเจะ๊ เห อำ� เภอตากใบ แลว้ เขตแดนกถ็ งึ ทะเลในอ่าวไทย (ดแู ผนทีห่ มายเลข ๖) 74
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจินดา แผนที่หมายเลข ๕ แสดงแนวพรมแดน ไทย-พมา่ แผนท่ีหมายเลข ๖ แสดงแนวพรมแดน ไทย-มาเลเซีย๑๒. ต�ำแหน่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว ต�ำแหน่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว อาจช้ีให้เห็นได้จากจุดร่วมเขตแดนทส่ี บรวกระหวา่ งประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศพมา่ ทางฝง่ั ของประเทศไทยมีบ้านสบรวกเป็นที่หมาย เม่ือยืนอยู่ท่ีจุดซึ่งนักท่องเท่ียวเรียกกันว่า สามเหล่ียมทองค�ำ จะมองเห็นฝั่งของประเทศพม่าอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และฝั่งของประเทศลาว 75
๕๐ชวี ิตและงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา ทางทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ บา้ นสบรวกทีอ่ ย่ทู อี่ ำ� เภอเชียงแสน จังหวัดเชยี งราย เขตแดน จะตามร่องน�้ำลึกของแม่น�้ำโขงไปทางตะวันออกของอ�ำเภอเชียงแสน แล้วเลี้ยวขึ้นไป ทางเหนอื เพอื่ จะออ้ มปลายทางเหนอื ของทวิ เขาผปี นั น้�ำในอำ� เภอเชยี งของ จงั หวดั เชยี งราย เขตแดนจะลงมาทางใต้ผ่านหน้าอ�ำเภอเชียงของ ผ่านปากน�้ำอิง ไปจนถึงจมูกเขาภูผาได เขตแดนไต่จมูกเขาไปจนถึงสันปันน�้ำ จากน้ันตามสันปันน�้ำของทิวเขาหลวงพระบาง ลงไปทางใต้ ผ่านยอดเขาปาหมืน่ หว้ ยลาว เขาผาแล เขาภผู ง้ึ กาด เขามุน ทั้งสย่ี อดน้อี ยู่ทาง ตะวันออกของจังหวัดเชียงราย เขตแดนผ่านยอดดอยขุนยวม หักมุมไปทางเหนือของ จงั หวดั นา่ น ตามสันปนั นำ้� ของทิวเขาหลวงพระบางผา่ นชอ่ งก่ิวศาลา ทางเหนือของอ�ำเภอ ทุ่งช้าง เล้ียวลงสู่ทิศใต้ ผ่านภูจาม ยอดดอยหลวงพระบาง ช่องภูดาด ทางตะวันออก อ�ำเภอปัว ชอ่ งยอดห้วยตอง ชอ่ งศาลาตีนตก ภหู ลักหมืน่ เปน็ สุดเขตจงั หวดั น่าน ผ่านไป ทางตะวนั ออกของจังหวดั อุตรดติ ถ์ ตามทวิ เขาหลวงพระบางต่อไป ผา่ นยอดภูดู่ ภทู องแอน และภูเมีย่ งมชี ่องทางข้ามพรมแดนอยบู่ นสันเขาดว้ ย คอื ชอ่ งภูสอยดาว พ้นภเู มี่ยงไปแลว้ เขตแดนเลยี้ วลงสรู่ อ่ งลกึ ของแมน่ ้�ำเหอื ง ทางตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ของจงั หวดั เลย ผา่ นอำ� เภอ ท่าลี่ จนเข้าบรรจบกับแม่น้�ำโขงท่ีสบเหืองใกล้กับบ้านนาปอน เขตแดนตามร่องลึกของ แม่น้�ำโขง ผ่านปากเลยหรือปากแม่น�้ำเลยท่ีหน้าอ�ำเภอเชียงคาน ไปทางตะวันออกและ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ออ้ มทิวเขาทีอ่ ยทู่ างตะวันออกของจังหวดั เลย วกไปทางตะวันออก- เฉียงใต้ผ่านด้านเหนือของอ�ำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ท่ีตรงนี้อยู่ตรงข้ามกับ เมอื งเวยี งจนั ทน์ ประเทศลาว เขตแดนเบนไปทางตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ผา่ นอำ� เภอโพนพสิ ยั เบนไปทางเหนือผา่ นบา้ นหนองเซง็ หรอื หนองเขียง วกไปทางตะวนั ออกผ่านอำ� เภอบึงกาฬ เล้ียวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านตัวจังหวัดนครพนม เลี้ยวลงใต้ผ่านอ�ำเภอธาตุพนม เบนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านอ�ำเภอเขมราฐ วกลงใต้สู่บ้านด่านที่ปากแม่น�้ำมูล (ปากมูล) ถึงปากห้อยโคนหรือสบโคน เขตแดนจึงหักมุมจากร่องนำ้� ลึกของแม่นำ้� โขงข้ึนไป จนสุดรอ่ งน�ำ้ ลกึ ของห้วยโคน ซง่ึ มตี น้ น้�ำอยทู่ สี่ นั ปันน�้ำของทิวเขาภูแดนเมือง เขตแดนตาม สันปันน�้ำของภูแดนเมืองไปจนบรรจบเข้ากับทิวเขาพนมดงรัก ซ่ึงเป็นจุดร่วมกับเขตแดน ของประเทศกมั พชู า (ดูแผนท่ีหมายเลข ๗) ๑๓. ตำ� แหนง่ เขตแดนระหว่างประเทศไทยกบั ประเทศกมั พชู า เพอื่ ความสะดวกจะไดช้ เ้ี ขตแดนระหวา่ งประเทศไทยกบั ประเทศกมั พชู า เรม่ิ ทจี่ ดุ รวม ของเขตแดนระหวา่ งสามประเทศ คอื ประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา จดุ นี้ อยู่ที่ต้นน้�ำเซล�ำเภาซึ่งไหลลงแม่น�้ำโขง และร่องน้�ำลึกเป็นเขตแดนระหว่างประเทศลาวกับ ประเทศกัมพูชา เขตแดนตอนนี้อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านกระโดนหรือแข้ค่อน ใกล้กับช่องบก อ�ำเภอนาจะหลวย ตามสันปันน�้ำลงไปทางใต้ ผ่านยอดสูงสุดของทิวเขา 76
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี วี ิตและงาน ของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจินดาพนมดงรกั จากน้ันวกขึน้ ไปทางเหนือ ผ่านชอ่ งอานม้า ช่องโพย เขาพนมสำ� โบ่ว เลี้ยวไปทางตะวันตก ผ่านยอดเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นท่ีต้ังปราสาทพระวิหาร และโดยค�ำพิพากษาของศาลยตุ ธิ รรมระหวา่ งประเทศ เขตแดนเลย่ี งจากสนั ปนั นำ�้ ไปทางเหนอื ของปราสาทพระวิหาร แล้วเลี้ยวกลับไปสู่เขตแดนบนสันปันน�้ำของทิวเขาพนมดงรักต่อไปอีก ผ่านเขาพนมดอนแพง พนมตาเหมือน และยอดเขาหลายยอด รวมท้ังช่องเขาอีกเป็น จ�ำนวนมาก เช่น ช่องโพย ช่องด�ำผกา ช่องดอนโตน ช่องตาเฒ่า ช่องพระวิหาร ชอ่ งโนนอาว ชอ่ งเชงิ พระพุทธ ช่องพระพะลยั ช่องแมงเจ ชอ่ งหวั เสา ช่องเปร๊ียะจำ� บร๊อกชอ่ งสำ� โรง ชอ่ งเกล และช่องดาระกา เป็นต้น แสดงว่าในอดตี มีการติดต่อระหวา่ งชาวไทยและชาวกมั พชู าอยเู่ สมอ (ดแู ผนทห่ี มายเลข ๘) ชอ่ งจอมนน้ั มที างรถยนตจ์ ากอำ� เภอปราสาทจงั หวดั สรุ นิ ทร์ จนถงึ เขตแดน แตก่ อ่ นทางรถยนตเ์ สน้ นี้ เคยใชต้ ดิ ตอ่ ไดถ้ งึ จงั หวดั พระตะบองประเทศกัมพูชา ทางตอนใต้ของจงั หวดั บุรีรัมย์ เขตแดนผ่านภูเขายอดเดน่ คือ พนมแมไ่ ก่อำ� เภอประโคนชยั ชอ่ งจนั ทนก์ ระฮอม ชอ่ งตาเพด็ ซงึ่ เปน็ ทส่ี ดุ ของสนั ปนั นำ�้ บนทวิ เขาดงรกัเขตแดนเลี้ยวไปทางทิศใต้ ผา่ นทางตะวนั ออกของจังหวดั ปราจนี บุรี ซ่ึงส่วนใหญเ่ ปน็ ทรี่ าบมีหลักเขตแดนปักไว้เป็นที่หมาย เขตแดนจะผ่านท่ีหมายท่ีเห็นได้ชัดเป็นบางจุด เช่น เขาพนมฉตั ร แลว้ ไปตามรอ่ งนำ้� ลกึ ของคลองลกึ สาขาของแมน่ ำ�้ สตงึ ศรโี สภณหรอื สตงึ สำ� โรงซ่ึงไหลลงสู่ทะเลสาบ เขตแดนเลี้ยวไปทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ เข้าสู่ร่องน้�ำของ แผนท่หี มายเลข ๗ แผนท่หี มายเลข ๘แสดงแนวพรมแดนไทย-ลาว แสดงแนวพรมแดนไทย-กมั พูชา 77
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา คลองน�้ำใส สาขาของสตึงส�ำโรง ผ่านบ้านโนนสาวเอ้ ไปทางใต้จนสุดต้นน้�ำคลองน�้ำใส ไปเข้าร่องน้�ำคลองด่านสาขาของสตึงมงคลบุรี ไปจนถึงปากน�้ำคลองด่าน เข้าสู่คลอง โป่งน้�ำร้อนไปจนถึงต้นน�้ำที่อยู่บนเขาตะแบงใหญ่ ทางตะวันตกของเมืองไพลินซ่ึงอยู่ใน กัมพูชา ต่อจากนั้นเขตแดนเดินตามสันปันน้�ำของทิวเขาบรรทัดทางตะวันออกของจังหวัด จนั ทบรุ ี และจงั หวดั ตราด ผา่ นเขาปลายคลองปนู เปยี ก เขาปลายคลองปนู แหง้ จนถงึ ฝง่ั ทะเล ที่แหลมสารพัดพิษที่บ้านหาดเล็ก อ�ำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เม่ือเส้นเขตแดน ลงถึงทะเลแล้วจะอยรู่ ะหว่างเกาะกดู กบั เกาะกง ๑๔. เขตทะเลหลวงและทะเลอาณาเขต ก่อนท่ีจะทราบว่าประเทศไทยควรมีสิทธิในการก�ำหนดเขตแดนในทะเลอย่างไรน้ัน ควรจะทราบความหมายของทะเลหลวง และทะเลอาณาเขตก่อน ทะเลหลวงหมายถึง สว่ นทง้ั หมดของทะเลซง่ึ ไมร่ วมอยใู่ นทะเลอาณาเขตหรอื นา่ นน�้ำภายในของรฐั ตามกฎหมาย ระหวา่ งประเทศ ทะเลหลวงจะตอ้ งเป็นอาณาบรเิ วณท่ีตอ้ งเปดิ ให้แกท่ กุ ประเทศใชไ้ ด้ รฐั ใด จะอ้างสิทธิครอบครองหรืออธิปไตยในทะเลหลวงไม่ได้ รัฐในโลกไม่ว่าจะต้ังอยู่ท่ีฝั่งทะเล หรือภายในทวปี ตา่ งกม็ เี สรีภาพในการใช้ทะเลหลวงเทา่ กันคอื ได้เสรีภาพ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑๔.๑ ในการเดินเรือ ๑๔.๒ ในการประมง ๑๔.๓ ในการวางสายและทอ่ ใต้ทะเล และ ๑๔.๔ ในการเดนิ เรืออากาศเหนอื ทะเลหลวง ทะเลอาณาเขต คอื ทะเลท่ตี อ่ เนื่องจากชายฝงั่ ของรัฐ วดั จากจุดท่นี �ำ้ ทะเลลงต�่ำสดุ ตรงออกไปในทะเลไกลตามที่รัฐนั้นจะก�ำหนด ระยะของทะเลอาณาเขตของแต่ประเทศ ไมเ่ หมอื นกนั เชน่ ของสหภาพโซเวยี ต ๑๒ ไมล์ นอรเ์ วยแ์ ละสวเี ดน ๔ ไมล์ สเปนและโปรตเุ กส ๖ ไมล์ เม็กซิโก ๙ ไมล์ ประเทศในเอเชียประมาณ ๖ ถึง ๑๒ ไมล์ ยกเว้นเวียดนาม ๒๐๐ ไมล์ และประเทศลาตินอเมริกา ๒๐๐ ไมล์ การประกาศเขตทะเลอาณาเขตไกล ออกไปมากเช่น ๒๐๐ ไมล์น้ีย่อมจะล้�ำเข้าไปในเขตของประเทศอ่ืน ซ่ึงเขายอมรับไม่ได้ จึงท�ำให้เกิดปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศเรือประมงไทยท่ีท�ำการหาปลาอยู่ใน น่านน้�ำของประเทศไทย หรือทะเลหลวง มักจะถูกเรือรบของเวียดนามจับไปเสมอตั้งแต ่ พ.ศ.๒๔๔๓ เกอื บทกุ ประเทศในโลกยอมรบั ให้ทะเลอาณาเขตอยู่ห่างจากฝ่งั ไม่เกนิ ๓ ไมล์ เน่ืองจากในสมัยน้ันถือเอากฎปืนใหญ่เป็นส�ำคัญ ระยะขนาดนี้เท่ากับ ๕,๕๕๖ เมตร เรียกอีกอย่างหน่ึงว่า ๑ เกณฑ์ระยะทะเล ซ่ึงเป็นระยะที่กระสุนปืนใหญ่สามารถไปได้ไกล ที่สดุ ปจั จบุ ันการรกั ษาอธปิ ไตยทางทะเลกระทำ� ไดโ้ ดยเรือรบ เคร่ืองบินและจรวดนำ� วิถีไกล 78
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี วี ิตและงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจินดาจึงท�ำให้หลายประเทศต้องการขยายทะเลอาณาเขต เพ่ือจะได้แสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมอื งจากทะเลมากข้ึน๑๕. การก�ำหนดเขตแดนระหวา่ งประเทศในทะเล ยอ่ มเปน็ ทท่ี ราบกนั โดยทวั่ ไปแลว้ วา่ ทะเลเปน็ พน้ื ทซี่ งึ่ มปี ระโยชนม์ าก ดงั นน้ั มกั จะมีการแย่งชิงผลประโยชน์ในทะเลกันอยู่เสมอ ก่อให้เกิดการขัดแย้งระหว่างประเทศในการจบั จองพน้ื ท่ี ความขดั แยง้ แตล่ ะแหง่ จะไมเ่ หมอื นกนั ทงั้ นเ้ี พราะภมู ปิ ระเทศในโลกนไี้ มเ่ หมอื นกันเลย บางประเทศไม่มีแผ่นดินติดฝั่งทะเลเลย เช่น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แต่ก็ม ีเรือเดินทะเล ดังนั้น จึงต้องมีกฎเกณฑ์ในการพิจารณาก�ำหนดเขตแดนในทะเลเพื่อให้เกิดความเปน็ ธรรมระหวา่ งประเทศ และเม่อื เกดิ ปญั หาขัดแยง้ คู่กรณคี วรจะมแี นวทางตกลงกนัด้วยสันติวิธี ศาสตราจารย์ ฟิลลิป ซี. เจสลับ ซึ่งเป็นผู้เช่ียวชาญในเร่ืองกฎหมายระหว่างประเทศ ไดส้ รปุ หลักเกณฑใ์ นการก�ำหนดเขตแดนในทะเลไว้ ๘ ประการ คือ ๑๕.๑ ให้ก�ำหนดเขตแดนในทะเล โดยการต่อเส้นเขตแดนบนบกตามแนวเดิมออกไปในทะเล ถ้าฝั่งทะเลเป็นเส้นตรง เขตแดนที่ต่อออกไปจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าฝั่งทะเล มรี อยเวา้ หรอื ยนื่ ออกไปในทะเล การตอ่ เสน้ เขตแดนตรงออกไปยอ่ มจะทำ� ไมไ่ ดใ้ นบางกรณี ๑๕.๒ ให้ก�ำหนดเขตแดนในทะเล โดยการลากเส้นตั้งได้ฉากกับฝั่งทะเลตรงน้ัน ไมต่ อ้ งคำ� นงึ วา่ เสน้ เขตแดนบนบกจะท�ำมมุ ขนาดใดกบั ฝง่ั ทะเล ทท่ี ำ� เชน่ นเี้ พราะถอื หลกั การวา่ ประเทศคกู่ รณคี วรจะไดร้ บั ผลประโยชนใ์ นทะเลเทา่ กนั ตวั อยา่ งของการกำ� หนดเขตแดนเชน่ นีไ้ ดแ้ ก่ เขตแดนระหว่างประเทศสหรฐั อเมรกิ ากับประเทศเม็กซิโก และเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ซ่งึ ตอ่ ออกไปจากปากแม่นำ�้ โก-ลก ต้ังแต่ พ.ศ.๒๕๑๖ ๑๕.๓ ใหก้ ำ� หนดเขตแดนในทะเล โดยการลากเสน้ ตงั้ ฉากกบั ทศิ ทางทว่ั ไป (ถวั เฉลย่ี )ของขอบฝั่งทะเล การก�ำหนดเขตแดนเช่นนี้จะมีปัญหา ในเมื่อเป็นการยากที่จะตกลงกัน เรือ่ งแนวทิศทางท่ัวไปของขอบฝง่ั ทะเล โดยเฉพาะประเทศทมี่ ีฝง่ั ทะเลเวา้ แหวง่ มาก ๑๕.๔ ให้ก�ำหนดเขตแดนในทะเล โดยถือเอาเส้นเมอริเดียน (ลองจิจูด) และ เส้นขนาน (ละติจูด) เส้นใดเส้นหนึ่งหรือทั้งสองเส้นโดยต่อเน่ืองกันแล้วแต่กรณี การใช ้เส้นเขตแดนเช่นน้ีจะต้องก�ำหนดต�ำแหน่งทางดาราศาสตร์โดยละเอียด และขนาดของโลก ท่ีใชใ้ นการค�ำนวณพกิ ดั แผนท่ดี ้วย การใช้เขตแดนเชน่ นจี้ ะไดผ้ ลแน่นอนยิง่ ข้ึน เม่ือสามารถก�ำหนดท่ีหมายในภูมปิ ระเทศประกอบไว้ดว้ ย ถา้ ท�ำได้ ๑๕.๕ ให้ก�ำหนดเขตแดนในทะเล โดยถอื เอาเส้นอาซมิ ุททก่ี �ำหนดขึ้น และยอมรับโดยคู่กรณี เส้นอาซิมุทนี้จะก�ำหนดหลายเส้นต่อเน่ืองกันไปในทะเลก็ได้ โดยก�ำหนดทิศ 79
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา และความยาวอย่างละเอียด ตัวอย่างการค�ำนวณเขตแดนเช่นน้ีได้แก่ เขตแดนระหว่าง ประเทศอังกฤษกับประเทศเนเธอร์แลนด์ และระหวา่ งประเทศสวเี ดนกับประเทศฟนิ แลนด์ ๑๕.๖ ใหก้ ำ� หนดเขตแดนในทะเลโดยถอื เอารอ่ งน�้ำลกึ เปน็ เสน้ เขตแดน การกำ� หนด เขตแดนเชน่ นมี้ กั จะปฏบิ ตั อิ ยแู่ ลว้ เพราะประเทศทอ่ี ยตู่ ดิ กนั มคี วามจำ� เปน็ ทจ่ี ะใชร้ อ่ งนำ้� ลกึ ในการเดินเรือเท่ากัน ปัญหาท่ีมักจะเกิดขึ้นในการใช้เขตแดนเช่นนี้ คือ การเปลี่ยนแปลง ร่องน้�ำลึกตามธรรมชาติ ด้วยการกัดเซาะของกระแสน�้ำหรือการตกตะกอนซึ่งจะท�ำให้ ฝ่ายหนึ่งได้พื้นท่ีและอีกฝ่ายหน่ึงเสียพื้นที่ ประเทศไทยกับประเทศพม่าเคยประสบปัญหา เชน่ น้ีทเี่ ขตแดนตรงปากแม่นำ�้ กระบุรีหรือแม่น�ำ้ ปากจน่ั ๑๕.๗ ให้กำ� หนดเขตแดนในทะเล โดยอาศยั ท่หี มายทางภมู ิศาสตร์หรือธรณสี ัณฐาน เปน็ ทส่ี งั เกต การใชเ้ ขตแดนซงึ่ มที หี่ มายทางภมู ศิ าสตรน์ เ้ี ปน็ ทย่ี อมรบั กนั โดยอนสุ ญั ญาเจนวี า พ.ศ.๒๕๐๑ และอาจใชไ้ ดท้ ง้ั ทอ่ี ยบู่ นผวิ น้�ำหรอื ใตผ้ วิ น้�ำ สำ� หรบั ทห่ี มายใตผ้ วิ น�้ำนน้ั สามารถ แสดงไว้ในแผนทท่ี ่วั ไป ๑๕.๘ ใหก้ �ำหนดเขตแดนในทะเล โดยถือเอาเส้นมัธยะเป็นเขตแดน เสน้ มัธยะ คือ เส้นที่อยู่ก่ึงกลางระหว่างฝั่งทะเลของประเทศข้างเคียง หรือเส้นท่ียื่นไกลออกไปจาก ฝง่ั ทะเลในระยะเทา่ กนั จนตกถงึ ทะเลหลวง โดยทว่ั ไปแลว้ เสน้ มธั ยะเปน็ เสน้ เขตแดนในทะเล ทีด่ ที ส่ี ดุ แตค่ วามเวา้ แหว่งของฝัง่ ทะเลมกั จะท�ำใหเ้ ป็นปัญหาสำ� หรบั คกู่ รณีเสมอ ๑๖. ทะเลอาณาเขตของประเทศไทย ทะเลอาณาเขตของประเทศไทยทกี่ ลา่ วถงึ น้ี เปน็ เขตทก่ี ำ� หนดขน้ึ โดยประเทศไทยเอง โดยถือเอาความนยิ มระหว่างประเทศ ผลประโยชน์และสิทธอิ นั ชอบธรรมของประเทศเปน็ หลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังน้ัน ในบางกรณีอาจไม่ตรงตามข้อเสนอของผู้เช่ียวชาญ ทางกฎหมายระหว่างประเทศ โดยสรุปทะเลอาณาเขตของประเทศไทยมอี ยู่ ๔ เขต คือ ๑๖.๑ อา่ วประวัตศิ าสตร์ ๑๖.๒ ทะเลอาณาเขตบนไหล่ทวปี ในอ่าวไทย ๑๖.๓ ทะเลอาณาเขตบนไหล่ทวปี ทางทะเลอนั ดามนั และ ๑๖.๔ ทะเลอาณาเขตเศรษฐกจิ จ�ำเพาะ ทง้ั ๔ เขตนี้ จะไดช้ ้ีใหเ้ หน็ พอเปน็ สังเขป ดังน้ี คอื ๑๖.๑ เขตอา่ วประวตั ศิ าสตร์ ประเทศไทยได้ประกาศเขตอ่าวประวัติศาสตร์ เม่ือวันท่ี ๒๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๒ ว่าอ่าวไทยตอนในเหนือเส้นฐานจากจุดท่ี ๑ ณ แหลมบ้านแสมสาร ละติจูด ๑๒ องศา ๓๕ ลิปดา ๔๕ พลิ ปิ ดาเหนือ ลองจจิ ดู ๑๐๐ องศา ๕๗ ลปิ ดา ๔๕ พิลิปดา 80
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดาตะวนั ออก ตามเสน้ ขนานละติจดู ไปทางทิศตะวนั ตกถึงจดุ ที่ ๒ นบั จากฝง่ั ทะเลตรงกันข้ามละตจิ ดู ๑๒ องศา ๓๕ ลปิ ดา ๔๕ ลปิ ดาเหนอื ลองจจิ ูด ๙๙ องศา ๕๗ ลิปดา ๓๐ พลิ ปิ ดาตะวันออก ส�ำหรับเส้นเขตที่ก�ำหนดขึ้นน้ีเรียกว่า เส้นฐานและใช้เป็นเส้นกั้นอ่าว ประวัติศาสตรด์ ้วย นอกจากน้ัน ยังใช้เป็นเสน้ ก�ำหนดทะเลอาณาเขตอกี อย่างหนง่ึ ตัวอยา่ งของอ่าวประวัติศาสตร์ในต่างประเทศ ได้แก่ อ่าววาราเกอร์ของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งอยู ่ตรงกันข้ามกับทะเลอาณาเขตของประเทศสหภาพโซเวียต ทางทะเลแบเรนดัส (ดูแผนท่ีหมายเลข ๙) แผนทหี่ มายเลข ๙ ภาพแสดงอ่าวประวตั ศิ าสตร์ ๑๖.๒ ทะเลอาณาเขตบนไหลท่ วปี ในอา่ วไทย ประเทศไทยได้ก�ำหนดเขตบนไหล่ทวีปในอ่าวไทย และประกาศให้ทราบ ท่ัวกันเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๖ โดยมีแผนที่ประกอบอย่างชัดเจน เขตไหล ่ทวปี นเี้ รมิ่ ทเ่ี ขตแดนระหวา่ งประเทศไทยกบั ประเทศกมั พชู า ทแ่ี หลมสารพดั พษิ เปน็ แนวเสน้ลงมากงึ่ กลางอ่าวไทย ทางตะวนั ตกเฉียงใต้ ถึงจดุ ประมาณละติจดู ท่ี ๑๐ องศาเหนือ และลองจิจูด ๑๐๒ องศาตะวันออก จากจุดน้ีเส้นอาณาเขตทะเล จะมีลักษณะเป็นเส้นมัธยะระหว่างฝั่งทะเลของประเทศกัมพูชาและประเทศเวียดนาม เส้นมัธยะนี้จะตัดเส้นท่ีลาก จากแหลมของประเทศเวียดนามกับปากแม่นำ�้ โก-ลก ตรงก่ึงกลางของเส้นตรงเส้นนี้พอด ีจดุ นจ้ี ะอยูท่ ่ีละติจดู ๗ องศา ๒๕ ลปิ ดาเหนอื ลองจจิ ดู ๑๐๓ องศา ๒๕ ลิปดาตะวนั ออก 81
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชงัต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา จากจุดกลางอ่าวน้ีเส้นเขตในทะเลจะไปบรรจบกับเส้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับ ประเทศมาเลเซีย ซ่งึ ลากตั้งฉากออกจากแม่นำ้� โก-ลก จังหวดั นราธวิ าส โดยมีฝง่ั ทะเลของ ประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียเป็นเส้นฐานส�ำหรับทะเลอาณาเขตน้ีอยู่ห่างจากฝั่งทะเล ประมาณ ๒๐๐ กิโลเมตร ดังนนั้ เขตส�ำหรบั การส�ำรวจปโิ ตรเลยี มในอ่าวไทย จึงสอดคลอ้ ง กับอาณาเขตทปี่ ระกาศใช้นี้ ๑๖.๓ ทะเลอาณาเขตบนไหลท่ วปี ทางทะเลอันดามัน เสน้ เขตแดนในทะเลอนั ดามนั ซงึ่ เปน็ ไหลท่ วปี ทางตะวนั ตกของประเทศไทยนน้ั ตอ่ จากเสน้ เขตแดนระหวา่ งประเทศไทยกบั ประเทศพมา่ ทแี่ มน่ ำ้� กระบรุ ี (แมน่ ำ้� ปากจน่ั ) แลว้ ขนานกบั เส้นละตจิ ดู ออกไปสู่ทะเลอนั ดามัน ทีล่ ะตจิ ดู ประมาณ ๙ องศา ๓๕ ลิปดาเหนอื เม่ือถึงลองจิจูด ๙๕ องศา ๕๐ ลิปดาตะวันออก เส้นเขตในทะเลจะหักมุมลงใต้ขนานกับ เส้นลองจิจูด ที่จุดประมาณ ๗ องศา ๕๐ ลิปดาเหนือ เส้นเขตในทะเลจะเบนไปทาง ตะวนั ออกเฉียงใต้ และประมาณ ๖ องศาเหนือกบั ลองจจิ ูด ๙๘ องศา ๑๐ ลิปดาตะวนั ออก จึงเบนไปทางทศิ ตะวันตกเฉียงใตเ้ ลก็ นอ้ ย จนถึงละตจิ ดู ประมาณ ๕ องศา ๕๕ ลปิ ดาเหนือ กับลองจิจูด ๙๘ องศาตะวันออก จึงหักมุมไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือต่อเขตแดน ระหว่างประเทศไทยกบั ประเทศมาเลเซีย ซ่งึ ย่ืนออกมาระหว่างเกาะตะรเุ ตากับเกาะลงั กาวี สำ� หรับเขตทางทะเลบนไหล่ทวปี ทางตะวนั ตกนี้ หา่ งจากฝั่งทะเลประมาณ ๒๐๐ กโิ ลเมตร (ดแู ผนท่ีหมายเลข ๑๐) แผนทห่ี มายเลข ๑๐ ทะเลอาณาเขตของ ประเทศไทย 82
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี วี ติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา ๑๖.๔ ทะเลอาณาเขตเศรษฐกจิ จำ� เพาะ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ในทะเลท่ีประเทศไทยควรจะได้รับเช่นเดียวกับประเทศอ่ืน ประเทศไทยจึงได้ประกาศเขตเศรษฐกิจจ�ำเพาะในระยะห่างจาก ฝ่ังทะเล ๒๐๐ ไมล์ เมอื่ พ.ศ.๒๕๒๔๑๗. ขอ้ สงั เกตเกย่ี วกบั เขตแดนและดนิ แดนของประเทศ เนื่องจากดินแดนของประเทศไทย เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเรา แต่โบราณ และเป็นแผ่นดินท่ีเราอาศัยอยู่ ต่อไปก็จะตกเป็นของทายาทของเรา จึงควรหวงแหนและรักษาไว้ เพราะบรรพบุรุษของเราต้องพลีชีวิตกันไปแล้วเป็นจำ� นวนมหาศาลกว่าท่ีแผ่นดินนี้จะตกมาถึงเรา แต่เราก็ได้ครองชีวิตอยู่เป็นไทยอย่างอิสระ ไม่เหมือนกับ หลายประเทศที่ต้องตกไปเป็นเมืองขึ้นของประเทศอ่ืน แม้ว่าเราจะเคยได้ดินแดนและ เสียดินแดนมาแล้วหลายครั้งหลายคราวในประวัติศาสตร์ เราก็ไม่อยากเห็นบุตรหลาน ของเราต้องเจ็บช�้ำด้วยการที่ประเทศอื่นมาแย่งดินแดนของเราไปอีก จากประสบการณ ์ทผี่ เู้ ขยี นเคยรว่ มอยใู่ นคณะกรรมการตอ่ สคู้ ดเี ขาพระวหิ าร ทศี่ าลยตุ ธิ รรมระหวา่ งประเทศทกี่ รงุ เฮก จงึ อยากเตอื นพนี่ ้องไทยดว้ ยกนั วา่ ส่ิงใดท่ีเป็นการนำ� ไปสูค่ วามเสยี เปรียบก็ไม่ควรกระท�ำนนั้ มอี ะไรบา้ ง และเราควรจะกระท�ำสง่ิ ใดตอ่ ไป เพอ่ื เราจะไมต่ อ้ งเสยี ดนิ แดนอกี เราทุกคนจึงมีความรับผิดชอบในการรักษาดินแดนและดูแลเขตแดนของประเทศใหม้ ีสภาพถาวรตลอดกาลนาน๑๘. สิง่ ทีค่ วรกระทำ� เพ่ือรักษาเขตแดนของประเทศ ๑๘.๑ ศึกษาอย่างละเอียดในเร่ืองเขตแดนของประเทศ โดยเฉพาะเขตแดนท่ีอยู ่ใกล้กับภมู ิล�ำเนาของเรา เชน่ สันปันนำ�้ ร่องน้ำ� ลกึ และหลักเขตแดน ว่าอยูใ่ นสภาพปกต ิหรอื ช�ำรดุ หรอื เปล่ยี นแปลง เพอ่ื รายงานให้เจ้าหน้าท่บี า้ นเมอื งทราบโดยดว่ น ๑๘.๒ เม่ือสงสัยว่าจะมีการรุกล้�ำเขตแดนโดยฝ่ายที่มิใช่คนไทย ต้องรายงานให ้เจา้ หน้าท่บี ้านเมอื งทราบโดยดว่ นท่ีสุด ๑๘.๓ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าท่ีบ้านเมือง ต�ำรวจและทหารในการป้องกัน การรุกล�้ำเขตแดนของฝา่ ยตรงข้าม ๑๘.๔ หมน่ั เดนิ ทางไปตรวจตราดแู ลพนื้ ทภ่ี ายในเขตแดนของเราอยเู่ สมอ ในรปู แบบท่ีไม่ท�ำลายทรัพยากรธรรมชาติของพ้ืนท่ีนั้น เช่น การท่องเที่ยว การศึกษาภูมิประเทศ การส�ำรวจทรัพยากรธรรมชาติ และทุกครั้งท่ีไปท�ำการส�ำรวจหรือศึกษา ควรท�ำรายงาน เผยแพร่ในวารสารหรือสง่ิ พิมพเ์ พื่อใหเ้ ปน็ หลักฐาน 83
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชงัต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจินดา ๑๘.๕ เผยแพร่และให้ความรู้ท่ีถูกต้องในเรื่องเขตแดนของประเทศแก่เยาวชนและ บุคคลที่สนใจแต่ยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องเขตแดน ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ของเรายง่ิ กวา่ นนั้ เขตแดนเปน็ สว่ นหนง่ึ ของรฐั ธรรมนญู จงึ จำ� เปน็ ทคี่ นไทยทกุ คนจะตอ้ งรจู้ กั เขตแดนของประเทศไทยอยา่ งละเอยี ดถูกตอ้ ง ๑๘.๖ ทุกครั้งที่จะเดินทางไปศึกษาภูมิประเทศใกล้เขตแดน จะต้องท�ำรายงาน แจ้งความจ�ำนงให้เจ้าหน้าท่ีบ้านเมืองทราบทุกคร้ัง เพ่ือป้องกันความเข้าใจผิดและเพ่ือ ความปลอดภัยแก่ผู้เดินทางด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน กม็ ีความหวงแหนในดินแดนของเขาเชน่ กนั ๑๘.๗ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและฝ่ายประเทศเพ่ือนบ้านควรพบปะกันที่ชายแดน เป็นการประจ�ำเพื่อต่างฝ่ายต่างยืนยันตำ� แหน่งเขตแดนท่ีถูกต้อง และเมื่อมีการเปล่ียนตัว เจ้าหน้าที่ควรจะแนะน�ำและส่งหน้าที่กันให้เป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจ ในเร่ืองเขตแดนตอ่ เนอ่ื งกนั ทง้ั สองฝา่ ย ๑๙. สง่ิ ทไี่ มค่ วรกระทำ� เพราะจะเป็นภัยต่อเขตแดนของประเทศ ๑๙.๑ ท�ำการเปลี่ยนสภาพทางภูมิศาสตร์ของเขตแดนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ท�ำให้ สันปันน�้ำ ร่องน�้ำลึก และหลักเขตแดนช�ำรุดเสียหายหรือเคล่ือนท่ี เช่น ขุดค้นหาแหล่งแร่ บนสันเขาท่ีใช้เป็นเขตแดน ๑๙.๒ ซักถามข้อสงสัยในเร่ืองเขตแดน ในที่ประชุมอย่างเปิดเผย เป็นการแสดง ความไม่รู้ของประชาชนวา่ เขตแดนของประเทศตนอย่ทู ีไ่ หน ท�ำใหฝ้ ่ายตรงข้ามไดเ้ ปรียบว่า เขารู้ต�ำแหน่งเขตแดนและประวัติเขตแดนดีกว่า อาทิเช่น ผู้แทนราษฎรถามเร่ืองเขตแดน ในรัฐสภา เป็นต้น และหากผู้มีหน้าท่ีตอบได้ตอบไปโดยผิดพลาดก็จะเป็นหลักฐานยืนยัน ระดบั ประเทศและทางการเมอื ง หากเป็นคดกี นั ในศาลเรากจ็ ะเสียเปรียบ ๑๙.๓ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต้องไม่ละเลยในการออกเดินตรวจเขตแดนในรอบ ปีหน่ึงไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง เพ่ือส�ำรวจความเรียบร้อยของเขตแดนทางสภาพภูมิศาสตร ์ และป้องกันการสึกกร่อนของสันปันน�้ำโดยการปลูกต้นไม้ให้หนาแน่นอยู่เสมอ เพ่ือยึดดิน ตามสันปันน�้ำ และควรปลูกต้นไม้ตามฝั่งแม่น้�ำที่ใช้เป็นเขตแดนด้วย หากเป็นร่องน�้ำท่ีใช้ ในการเดนิ เรอื ตอ้ งคอยดแู ลขุดลอกสันดอนในร่องน�ำ้ เขตแดนอย่าให้ตน้ื เขินได้ ๑๙.๔ หากไมจ่ ำ� เปน็ ไมค่ วรมอบใหผ้ ชู้ ำ� นาญตา่ งดา้ ว ทำ� แผนทเ่ี ขตแดนของประเทศ แต่ฝ่ายเดียว เพราะนอกจากจะผิดพลาดแล้วอาจมีความล�ำเอียงแฝงอยู่ได้ และถึงแม้ จะไม่ล�ำเอียงแต่ก็อาจผิดพลาดในการเป็นพยานในศาลได้เพราะไม่ทราบสภาพท่ีแท้จริง ในเรื่องของประเทศไทย 84
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา ๑๙.๕ หากไม่จ�ำเป็นไม่ควรให้บริษัทต่างประเทศลงทุนในการอุตสาหกรรมที่ เกย่ี วกบั ทดี่ นิ ภายในประเทศ เพราะอาจใชอ้ ำ� นาจทางเศรษฐกจิ ยดึ ครองทด่ี นิ ภายในประเทศในนามของเอกชนและบริษัทได้ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกจิ ของประเทศในปัจจบุ ันนี้๒๐. การปอ้ งกันการบกุ รุกดนิ แดนในรูปแบบใหม่ เราย่อมทราบกันดีว่าในปัจจุบันนี้ การยึดครองแผ่นดินนั้นมีหลายรูปแบบ หากเรา ไม่เผลอก็จะไม่เป็นอันตรายแต่หากเราเผลอก็จะเป็นอันตรายได้ เราไม่อยากให้การเผลอ ของเราเป็นประวัติศาสตร์ซ้�ำรอย ขอยกตัวอย่างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทา่ นพฒั นาบา้ นเมอื งอยา่ งทนั สมยั มชี นตา่ งดา้ วเขา้ มาอยใู่ นนครหลวงมากมายหลายเชอื้ ชาติแตก่ ็มีชนชาติหน่ึงที่คิดจะครองประเทศ โดยเอาคนไทยทไ่ี ม่ดขี องเราเป็นพวก แต่ไม่สำ� เรจ็เพราะคนไทยที่ดีรู้ทันและป้องกันไว้ได้ ตั้งแต่นั้นประเทศไทย (สยาม) ต้องปิดประเทศ เป็นเวลานาน ความเจริญก้าวหน้าจึงไปปรากฏท่ีประเทศญี่ปุ่น เพราะเขาเปิดประเทศ แทนเราและเขาสามารถคมุ คนของเขาได้ ประเทศญป่ี นุ่ จงึ ขนึ้ หนา้ เราไป บดั นเ้ี ราเปดิ ประเทศของเราอีกคร้ังหนึ่งแล้ว ปัญหาจึงอยู่ที่ความสามารถของเราท่ีจะคุมคนไทยด้วย ไม่ให้เป็นอปุ กรณข์ องนกั ลงทนุ ตา่ งดา้ ว โดยทเ่ี ราจะตอ้ งเปน็ ไทยแทด้ ว้ ยตวั และใจ เราจะตอ้ งมอี ำ� นาจท่จี ะรกั ษากฎหมายใหป้ ฏิบัตกิ ารไดอ้ ย่างแท้จริง ขณะน้ีประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศการเมืองที่มีอ�ำนาจพิเศษ ซึ่งยังไม่เคยกล่าวไว ้ในต�ำราภูมิศาสตร์การเมืองเล่มใด คือ อ�ำนาจทางการเงิน แต่ก่อนเราเคยเรียนต�ำราภมู ศิ าสตรก์ ารเมอื งทว่ี า่ ดว้ ยอ�ำนาจทางอาวธุ แตด่ เู หมอื นประเทศญปี่ นุ่ จะโยนต�ำรานที้ ง้ิ ไปแต่กลับใช้ต�ำราภูมิเศรษฐศาสตร์แทน และได้ผล คือไม่ท�ำให้ประเทศใดตายหรือเจ็บตัว แต่กลับท�ำให้เจ็บทางเศรษฐกิจ เพราะญ่ีปุ่นสามารถซื้อบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกาได้ สามารถซื้อสนามกอล์ฟและโรงแรมในยุโรปและอเมริกาได้หลายแห่ง และทแ่ี ปลกคอื ประเทศญปี่ นุ่ เปน็ ประเทศทไ่ี มม่ หี นเี้ ลยแมแ้ ตเ่ ยนเดยี ว จงึ นา่ จะพจิ ารณาวา่อะไรแนค่ ือความเปน็ มหาอำ� นาจของโลกในปจั จุบนั น้ี ต�ำราภูมิศาสตร์การเมืองแต่ก่อนเน้นว่า หากท�ำสงครามยืดเย้ือแล้ว ประเทศท่ีจะ รอดได้คือประเทศท่ีมีทรัพยากรทางเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้ไม่มีการสงครามด้วยอาวุธ มีแต ่การแขง่ ขนั เพอื่ ความเปน็ ใหญท่ างเศรษฐกจิ และประเทศญป่ี นุ่ ไดค้ รองความเปน็ ใหญน่ แ้ี ลว้ ประเทศไทยเคยถกู ประเทศญปี่ นุ่ บกุ เขา้ มาเมอื่ สงครามโลกครง้ั ท่ี ๒ เราเสยี เลอื ดเนอื้คนไทยไปมากในการปอ้ งกนั ประเทศ รวมทง้ั ยวุ ชนทหารทย่ี งั ไมบ่ รรลนุ ติ ภิ าวะ แตเ่ มอื่ ตกลงกนั ไดใ้ นทางการเมืองเราจึงเลกิ รบกนั และเราตอ้ งยอมให้ประเทศญป่ี ุน่ ใชพ้ ้ืนทข่ี องประเทศบางส่วนเป็นทางผ่านและฐานทัพ เท่ากับประเทศไทยด�ำเนินนโยบายเพ่ือความอยู่รอด 85
๕๐ชวี ิตและงาน ศ าม สสชงัต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา ไดอ้ กี ครง้ั หนงึ่ ในประวตั ศิ าสตรข์ องประเทศเลก็ โดยยอมใหท้ หารตา่ งดา้ วเขา้ มาอยไู่ มใ่ ชน่ อ้ ย คร้ันสงครามสงบลง ประเทศของเราตกเป็นจ�ำเลยสงครามโลกครั้งท่ี ๒ เราก็ต้องด�ำเนิน นโยบายการเมืองเพื่อเอาตัวรอดอีก เพราะทหารของสหประชาชาติได้เข้ามาอยู่เต็ม ประเทศไทยเป็นการคุกคามเอกราชของประเทศอย่างยิ่ง ในฐานะท่ีประเทศไทยเป็นอู่ข้าว อู่น้�ำมาแต่โบราณ เราจึงสามารถเจรจาแลกเปล่ียนความเป็นไทยได้ โดยจะส่งข้าวไปให้ ประเทศทชี่ นะสงคราม แตข่ ณะน้ันขาดอาหารอย่างยิง่ เพราะมวั แตท่ �ำสงคราม ข้าวจึงเปน็ พชื เศรษฐกจิ ทท่ี �ำใหไ้ ทยรอดพน้ อ�ำนาจทางการเมอื งได้ ขณะนน้ี าขา้ วของเราก�ำลงั ลดเนอื้ ท่ี ลงมาก เพราะถกู อำ� นาจทางเศรษฐกจิ อยา่ งอน่ื ทมี่ รี าคาดกี วา่ คกุ คาม จงึ เขา้ ตำ� ราของคนไทย ที่ว่าสิบเบ้ียใกล้มือ ให้ฉวยไว้ก่อน แต่อย่าลืมว่าข้าวเป็นอาหารหลักของเราและของคน ในโลกอกี มาก แมเ้ ราจะเปลย่ี นระบบเศรษฐกจิ ใหเ้ ปน็ อตุ สาหกรรมมากขนึ้ กต็ าม แตอ่ ยา่ ลมื ว่าข้าวเป็นยอดอาหารของคนไทย และครั้งหนึ่งเคยกู้เอกราชให้คนไทยมาแล้ว เหตุน้ีเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้มีพิธีแรกนาขวัญเป็นประจ�ำทุกปี และ พระราชทานรางวัลยกย่องผู้ท่ที ำ� นาไดผ้ ลดี นอกจากน้ัน พระองค์ทา่ นยังทรงศึกษาหาทาง ปรับปรุงพนั ธ์ุข้าวใหด้ ยี ่ิงๆ ข้นึ ทกุ ปี เพ่อื พระราชทานแกช่ าวนา น่ันหมายความวา่ แมเ้ ราจะ พัฒนาประเทศให้มีอุตสาหกรรมมากขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมพัฒนาการเกษตรคู่กันไปด้วย เพราะอำ� นาจทางการเมอื งจะยง่ิ ใหญเ่ พยี งใด หากทอ้ งวา่ งเพราะอดอยากกไ็ ปไมร่ อด ดงั นน้ั ท้องนาของเราจึงยังมคี วามส�ำคัญอยมู่ ากในทางการเมอื ง ประเทศไทยนนั้ คลา้ ยกบั ประเทศเลก็ อนื่ ๆ เชน่ ญปี่ นุ่ ประชากรเพม่ิ รวดเรว็ มาก ทด่ี นิ ทางเกษตรลดลงเพราะถูกเปล่ียนแปลงเป็นท่ีอยู่อาศัย โรงงานอุตสาหกรรมและเส้นทาง คมนาคม ดงั นนั้ จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งใชท้ ดี่ นิ ในเขตจำ� กดั ใหเ้ พม่ิ ผลผลติ ใหม้ ากทส่ี ดุ เทา่ ทจ่ี ะกระทำ� ได้ โดยการศึกษาอย่างละเอียดในเร่ืองคุณภาพของดิน และเลือกการเกษตรให้เหมาะสม กบั ดนิ ท่ีมอี ยู่ หรือปรับปรงุ คุณภาพของดินให้ดียง่ิ ขึ้น จากขอ้ มลู ทไี่ ดก้ ลา่ วมาแลว้ อาจสรปุ ไดว้ า่ เราตอ้ งระวงั อำ� นาจทางการเมอื งในรปู แบบ ใหม่อย่างรอบคอบแม้ว่าเราจะไม่สามารถด�ำรงต�ำแหน่งมหาอ�ำนาจทางการเมืองได้ก็ควร วางแผนหลบหลีกอ�ำนาจทางการเมือง โดยช่วยประเทศให้อยู่รอดได้เสมอจะเป็นการด ี ทุกคนต่างกม็ ีความรับผดิ ชอบในเรื่องนี้ ผทู้ ่ไี ดร้ ับการศกึ ษาดีแลว้ ย่อมจะเข้าใจดกี ว่าคนอน่ื ๒๑. การศกึ ษาเขตแดนของประเทศไทย การศกึ ษาเขตแดนของประเทศไทย อาจแบง่ ออกไดเ้ ปน็ หลายระดบั เชน่ ในชนั้ ประถม และมัธยมน้ัน อาจให้ฝึกหัดอ่านเขตแดนจากแผนที่มาตราส่วนเล็ก แต่ในระดับอุดมศึกษา อาจให้ฝึกหัดอ่านแผนที่มาตราส่วนใหญ่ เช่น ๑/๕๐๐๐๐ และให้มีโอกาสได้เห็นของจริง ในทอ้ งทด่ี ว้ ย คอื การออกไปศกึ ษาในภมู ปิ ระเทศตอ่ ไปน้ี เปน็ ตวั อยา่ งของการหดั อา่ นแผนท่ี 86
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดาชายแดนไทยของนักศึกษาภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากแผนทีม่ าตราสว่ น ๑/๕๐๐๐๐ แบบเก่า คือ L 708 ผลของการหดั อา่ นแผนท่ี เขตแดนนี้จะท�ำใหไ้ ดค้ วามร้ใู นลกั ษณะภูมิประเทศและตำ� แหนง่ ของเขตแดนด้วยเส้นพรมแดน Ban Muang Ma Tai Sheet Numbers 4770-II เส้นพรมแดน ยาวประมาณ ๓๕,๑๕๐ เมตร หรือ ๓๕.๑๕ กิโลเมตร เป็นสันเขาพรมแดนระวางนี้เป็นพรมแดนระหว่างพม่า และประเทศไทยเส้นที่ใช้เป็นเส้นพรมแดน คือ สันเขาโดยเร่ิมต้ังแต่เส้นลองจิจูด ๙๘ องศา ๔๕ ลิปดาตะวันออกถึง ๙๙ องศา ๑๐ ลปิ ดาตะวันออก และเส้นละตจิ ูดท่ี ๑๙ องศา ๔๕ ลปิ ดา ๒๕ พลิ ปิ ดาเหนือ เม่ือเริ่มจากละติจูด ๑๙ องศา ๔๕ ลิปดา ๒๕ พิลิปดา ข้ึนไปทางทิศตะวันออก- เฉียงเหนือประมาณ ๘๕๐ เมตร จนถึงยอดเขาสูง ๑,๑๑๙ เมตร ต่อจากน้ีลงมาทาง ทศิ ตะวนั ออกเฉียงใต้ประมาณ ๕๕๐ เมตร บริเวณทางฝั่งประเทศไทยจะเปน็ บรเิ วณทุง่ นา สว่ นทางพมา่ จะมแี ควของล�ำธารชอ่ื Nam Hta-long จากนเ้ี สน้ พรมแดนจะลงมาอกี ประมาณ๘๐๐ เมตร ทางไทยจะมแี ควนำ�้ ทแี่ ยกมาจากหว้ ยแมแ่ ตง จากบรเิ วณนพ้ี รมแดนจะขนึ้ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ ๔๓๐ เมตร จะถึงบริเวณยอดเขาสูง ๑,๔๐๗ เมตร ทางพม่าจะเป็นบริเวณทุ่งนา และมีล�ำธารแยกมาจาก Mam Hta-long ทางฝั่งไทยจะเป็น ทุ่งนาซึ่งมีบริเวณกว้างน้อยกว่าทางด้านฝั่งพม่า ต่อมาเส้นพรมแดนจะข้ึนไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงเหนืออีกประมาณ ๒,๐๐๐ เมตร ก็จะถึงยอดเขาสูง ๑,๕๖๘ เมตร ทางประเทศไทยจะมลี ำ� ธารแยกมาจากหว้ ยแมแ่ ตง (Huai Mae Taeng) ทางฝง่ั พมา่ จะพบกบัล�ำธารท่ีแยกมาจาก Ham Hta-long ต่อจากบริเวณนี้ขึ้นไปทางทิศเหนืออีกประมาณ ๑,๐๐๐ เมตร จะถึงยอดเขาซ่งึ มีความสงู ๑,๖๖๗ เมตร ทางพม่าจะเหน็ เปน็ สันเขา มีความสูงลาดลงไปทางไทยจะมลี ำ� ธารท่ีแยกมาจากหว้ ยแม่เกยี ง (Huai Mae Kiang) จากนี้ไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๙๕๐ เมตร จะถึงยอดเขาสูง ๑,๗๐๐ เมตร ทางฝั่งไทยจะมีแคว แยกมาจาก Huai Mae Na ทางพมา่ จะมลี ำ� ธารของ Mam Nta-long จากระยะน้ียอดเขา จะลดความสูงลงไปอีก พรมแดนข้ึนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ ๓,๐๑๐ เมตร จะถึงยอดเขาสูง ๑,๖๗๒ เมตร ณ บริเวณนี้ทางประเทศไทยจะมีแนวทางเดินซ่ึงเป็น ทางกวา้ งประมาณ ๑.๕ เมตร ลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ ๒,๖๕๐ เมตร จะเป็นทุง่ นา ต่อจากนไี้ ปลงไปทางใต้อีก ๖,๖๓๐ เมตร ก็จะถงึ บ้านเมอื งนะเหนือ (Ban MuangNa Nua) จากยอดเขาสงู ๑,๖๗๒ เมตร แนวทางเดนิ ขึน้ ไปทางเหนอื ไปตามเส้นพรมแดนประมาณ ๒,๕๐๐ เมตร ชอ่ งทางเดนิ จะติดต่อกบั ช่องทางเดินเข้าไปในพมา่ ถงึ Loi Mtweกอ่ นจะถงึ Loi Mtwe ประมาณ ๔๐๐ เมตร จากพรมแดนจะถึงหมุดหลักฐานท่ี ๑,๘๒๔ จากเส้นพรมแดนน้ีไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เส้นพรมแดนจะลดความสูงลงเรื่อยๆ ได้ระยะ 87
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา ทางประมาณ ๑,๔๐๐ เมตร จะถงึ ยอดเขาสูง ๑,๖๑๕ เมตร ทางพม่าจะมีล�ำธาร Namyum (Hwe Namyum) ทางไทยจะเปน็ สนั เขาลดความสงู ลงเร่อื ยๆ จะเหน็ แควของนำ�้ ห้วยแม่ปิง จากบรเิ วณนลี้ งไปทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใตป้ ระมาณ ๑,๘๐๐ เมตร ทางไทยจะเปน็ ทงุ่ หญา้ เล็กๆ ต่อลงมาทางใต้อีก ๑,๐๐๐ เมตร ทางไทยจะมีแม่น้�ำปิงเส้นพรมแดนลงมาทาง ทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใตอ้ กี ประมาณ ๑,๑๐๐ เมตร จะถึงยอดเขาสูง ๑,๐๔๐ เมตร พรมแดน ตอ่ มาทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ อกี ประมาณ ๒,๔๐๐ เมตร จะถงึ ชอ่ งทางเดนิ กวา้ งประมาณ ๑.๕ เมตร ทางพมา่ ชอ่ งทางเดนิ ขนึ้ ไปทางเหนอื จะตดิ ตอ่ กบั Kim-haang ทางไทยชอ่ งทางเดนิ จะลงมาทางใต้ติดต่อกับ Ban Muang Na Mus ซ่ึงเป็นทุ่งหญ้า ระยะทางต่อไป อกี ประมาณ ๒,๕๐๐ เมตร จะถงึ Ban Muang Ma Tai ต่อจากน้นั พรมแดนกจ็ ะลดความสงู ลงเรื่อยๆ ทั้งเขตแดนในฝั่งไทยและพม่า จะมีพวก Depression มีความลึกประมาณ ๘๐๐ เมตร จากชอ่ งทางผ่านมาลงทางใต้ และวกข้ึนทางทิศตะวนั ออกเฉียงเหนอื ระยะทาง ประมาณ ๕,๑๕๐ เมตร ก็จะถึง Loi Ongkul ทางไทยจะเป็นทีล่ ุ่มทางพมา่ จะมี Depression จากนไ้ี ปพรมแดนจะขน้ึ ไปทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใตป้ ระมาณ ๔,๓๐๐ เมตร จะถงึ ชอ่ งทางเดนิ ติดต่อระหว่างไทยและพม่าพรมแดนจากน้ีไปทางตะวันออกประมาณ ๖๕๐ เมตร จะถึง Loi Aievok จากนี้ต่อไปทางตะวันออกประมาณ ๔๐๐ เมตร จะถึงล�ำธารแยกมาจาก Hwe Namyum ตดั ผา่ นเขตแดนเข้ามาไทย พรมแดนจากน้อี ีก ๔๐๐ เมตร จะถึงช่องทางเดนิ ใช้ติดต่อกันระหว่างไทยและพม่า จากพรมแดนน้ี ๓๕๐ เมตร ถึงล�ำธารแยกมาจาก Hwe Namyum ในพม่าเข้ามาในเขตไทย พรมแดนจากนี้ข้ึนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เร่ือยๆ ประมาณ ๔,๑๕๐ เมตร จะถึงยอดเขาสูง ๑,๒๙๕ เมตรในพม่า ส่วนในไทยถึง ยอดเขาสูง ๑,๑๐๐ เมตร เป็น Depression มีน�้ำขังก็เป็นอันหมดเขตแดนระหว่างไทย และพมา่ ในระวางนี้ รวมเส้นพรมแดนท้งั หมดยาวประมาณ ๓๕,๑๕๐ เมตร หรอื ๓๕.๑๕ กโิ ลเมตร 88
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดาบรรณานุกรมต�ำรา กระทรวงศึกษาธิการ, (๒๔๖๘). : ภูมิศาสตร์ประเทศสยาม, โรงพิมพ์อักษรนิติ, กรุงเทพฯ.กรมแผนที่ทหาร กระทรวงกลาโหม. (๒๕๒๐). : แผนที่เล่มของประเทศไทย, โรงพิมพ์ กรมแผนท่ที หาร, กรุงเทพฯ.กองวางแผนประชากรและกำ� ลงั คน (กผป.). (๒๕๒๐). : เอกสารขอ้ มลู ประชากรและกำ� ลงั คน ในประเทศไทย, ส�ำนกั งานพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ, กรุงเทพฯ.คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยรามค�ำแหง. (๒๕๒๐) : การประชุมทางวชิ าการ, การพทิ กั ษ ์ ผลประโยชน์ในทะเลของไทยกับกฎหมายทะเลแนวใหม่, โรงพิมพ์พิฆเณศ, กรุงเทพฯ.ธนติ อยู่โพธิ์. (๒๕๑๐). : สวุ ัณณภูมิ, กรมศิลปากร, กรุงเทพฯ.ประหยดั ศ.นาคะนาท. (๒๕๐๕). : ความเมอื งเรอ่ื งเขาพระวหิ าร, สำ� นกั พมิ พ์สารสวรรค,์ กรงุ เทพฯ.พนู พล อาสนะจนิ ดา. (๒๕๒๐). : ชนชาตติ า่ งๆ, หนา้ ๓๒๒-๓๔๑, อกั ขรานกุ รมภมู ศิ าสตรไ์ ทย ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน, กรุงเทพฯ, .วิจิตรวาทการ, หลวง. (๒๕๐๔). : งานค้นคว้าเร่ืองชนชาติไทย, กรมประมวลข่าวกลาง, กรุงเทพฯ.อนุมานราชธน, พระยา. (๒๔๘๓). : เร่ืองของชนชาติไทย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.Asanachinta, Phoon Phon. (1974). : Thailand, Encyclopaedia Britannica, Vol. 18, 15th Edition : University Of Chicago Chicago.Far Eastern Association of Tropical Medicine (1930) : Siam, General and Medical Features, The Bangkok Times Press, Ltd, Bangkok.Jumsai M.L. Manich. (1968). : Siam, 16th and Early 17th Century Accounts, Chalermnit, Bangkok.Pound, Norman J.G. (1963). : Political Geography, McGraw-Hill Book Company, Ltd., New York.Smith Harvey H., and Colleagues. (1963). : Area Handbook for Thailand, U.S. Government Printing Office, Washington D.C.Wheatly, Paul. (1966). : The Golden Khersonese, University of Malaya Press, Kuala Lumpur. 89
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา ๒ตอน ศาสตชรีวาิตจแาลรยะง์ าพนปนั รเอะจก�ำ (แพลเิะศงาษน)พพิเศนู ษพตล่างอๆาสขนอะงจินดา ๑. ชีวติ ส่วนตวั ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจินดา เกิดวันจันทร์ที่ ๒๒ มีนาคม ๒๔๖๒ เป็นบุตรคนท่ี ๒ ใน ๕ คน ของอ�ำมาตย์เอกพระยาอนุบาลพายัพกิจ (ปุ่น อาสนะจนิ ดา) อดตี ปลดั มณฑลประจำ� จงั หวดั เชยี งใหม่ และอดตี ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เชยี งใหม่ กับคุณหญิงอนุบาลพายัพกิจ (เยืยน อรรถวรรณา) สมรสกับนางสาววิลาวัณย์ โชตินุชิต เม่ือ ๖ มกราคม ๒๔๙๕ มีบุตรธิดารวม ๔ คน อาจารย์ถึงแก่กรรมด้วยโรคเส้นเลือด หวั ใจตบี ตนั เมือ่ วนั ท่ี ๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๓๔ ณ วชริ พยาบาล กรุงเทพมหานคร การศึกษา ขั้นต้น ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเรียนจบช้ันมัธยมศึกษาตอนปลายจาก โรงเรยี นปรนิ สร์ อยแยลส์ เมอื่ ปี ๒๔๘๐ ศกึ ษาตอ่ ขน้ั อดุ มศกึ ษาในตา่ งประเทศ จบปรญิ ญาตรี ทางวิศวกรรมแผนที่ จากมหาวทิ ยาลยั ฟิลิปปินส์ ประเทศฟิลิปปนิ ส์ ปี ๒๔๘๒ ปริญญาโท ทางภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี ๒๔๙๓ และปริญญา วทิ ยาศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดิ์ สาขาวชิ าภมู ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๒๕ (รับพระราชทานปริญญาฯ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม- ราชกุมารี เม่ือ ๒๔ มกราคม ๒๕๒๖) คุณวุฒิพิเศษ ที่ศาสตราจารย์พูนพล ได้รับตามล�ำดับ คือ ปี ๒๔๘๙ ได้ศึกษา และฝกึ งานพเิ ศษทางการทำ� แผนทจ่ี ากรปู ถา่ ยทางอากาศจากองคก์ ารทำ� แผนทขี่ องกองทหาร สหราชอาณาจกั ร ประเทศสงิ คโปร์ ตอ่ มาในปี ๒๔๙๔ ไดป้ ระกาศนยี บตั รนกั ธรรมตรี ระหวา่ ง อปุ สมบท ณ วัดเบญจมบพติ รดุสติ วนาราม และระหวา่ งปี ๒๕๑๓-๒๕๑๔ ได้วุฒิบัตรอบรม นักบริหารรุน่ ท่ี ๒๓ และอบรมรวมรุ่น พ.ศ.๒๕๑๔ สถาบนั บณั ฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ยศทางทหารและตำ� แหนง่ หนา้ ทก่ี อ่ นและหลงั มาทำ� งานทมี่ หาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ (พ.ศ.๒๔๘๖-๒๕๐๙ และ พ.ศ.๒๕๐๙-๒๕๓๓) ศาสตราจารย์พูนพล ยังได้รับพระราชทานสัญญาบัตรยศทหารบก โดยได้เป็นว่าที่ ร้อยตรี ต้ังแต่ปี ๒๔๘๖ และได้เล่ือนยศตามล�ำดับ (ครั้งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลไทย เป็นคณะกรรมการด้านงานแผนท่ีในกรณีต่อสู้เร่ืองเขาพระวิหารในศาลโลก ปี ๒๕๐๕ 90
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี ีวิตและงาน ของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดามยี ศ “พนั โท”) จนถึงชน้ั สูงสดุ เมอ่ื ปี ๒๕๐๘ คอื พนั เอก (พเิ ศษ) ก่อนหนา้ ท่ีศาสตราจารย์พูนพลจะได้โอนมารับราชการ เป็นข้าราชการพลเรือนช้ันพิเศษ คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อต้นปี ๒๕๐๙ (๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๙) ช่วงรับยศทางทหารศาสตราจารย์พูนพล ได้ประจ�ำการอยู่ ณ กรมแผนท่ีทหารเป็นส่วนใหญ่ และได้ท�ำหน้าที่เป็นอาจารย์โรงเรยี นแผนทีข่ องกรม ตั้งแต่ปี ๒๔๙๓ ใน ๓ ปตี อ่ มา (พ.ศ.๒๔๙๖) ไดร้ ับเชิญเปน็ อาจารยพ์ ิเศษวิชาภูมศิ าสตร์และแผนที่ในสถาบนั อดุ มศกึ ษาต่างๆ ในกรุงเทพมหานครกอ่ นโอนยา้ ยมาประจำ� ทม่ี หาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ไดแ้ ก่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยัธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยครูจันทรเกษม โรงเรียนนายเรืออากาศกองทพั อากาศ โรงเรยี นรงั วดั ที่ดิน กรมทดี่ นิ กระทรวงมหาดไทย โรงเรียนสงครามจติ วทิ ยาและโรงเรยี นเสนาธกิ ารทหาร สว่ นทเ่ี ชยี งใหม่ นอกจากสอนประจำ� ทม่ี หาวทิ ยาลยั เชยี งใหมแ่ ลว้ยังได้รับเชิญเป็นอาจารย์พิเศษท่ีวิทยาลัยเทคนิคภาคพายัพ (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ปัจจบุ นั ) หลังจากที่โอนมารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนชั้นพิเศษ คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในปีถัดมา เมื่อ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๑๐ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ แตง่ ตง้ั ใหด้ �ำรงตำ� แหน่งศาสตราจารย์ประจำ� ภาควิชาภูมศิ าสตร์ และระหวา่ งปี๒๕๑๕-๒๕๑๖ ศาสตราจารยพ์ นู พลไดไ้ ปดำ� รงตำ� แหนง่ รองอธกิ ารบดี มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่จากนั้นระหว่างปี ๒๕๑๘-๒๕๒๒ ได้กลับมาด�ำรงต�ำแหน่งคณบดีคณะสังคมศาสตร์ และอาจารย์ประจำ� ภาควิชาภมู ศิ าสตร์ ในระหวา่ งนี้ (พ.ศ.๒๕๑๙-๒๕๒๑) ศาสตราจารยพ์ นู พล ได้รับเลือกเป็นเอกฉันท์ให้ด�ำรงต�ำแหน่ง นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยคนแรกและเป็นประธานก่อตั้งสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนของสภาวิจัยแหง่ ชาติ และศาสตราจารยพ์ นู พลไดส้ อนประจำ� อยทู่ ภ่ี าควชิ าภมู ศิ าสตรจ์ นครบเกษยี ณอายุราชการ เมือ่ ปี ๒๕๒๓ รวมทงั้ ช่วงท่มี หาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ได้อนมุ ัตกิ ารตอ่ อายรุ าชการอีก๕ ปี คือ จนถึงปี ๒๕๒๘ และได้รับเชิญเป็นอาจารย์พิเศษประจ�ำภาควิชาภูมิศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง จนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต ซึ่งในช่วงสุดท้ายน้ี ทางสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ยังได้มีมติให้ศาสตราจารย์พูนพล ได้รับการแต่งต้ังเป็น “ศาสตราจารย์เกียรตคิ ณุ สาขาวชิ าภมู ิศาสตร”์ ของมหาวิทยาลัย ปีการศึกษา ๒๕๓๒(เข้ารับพระราชทานเกียรติบัตรฯ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเมอื่ ๒๔ มกราคม ๒๕๓๓) ไดร้ บั พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณช์ ั้นสายสะพายสูงสุด : ป.ช., ป.ม. - ประถมาภรณช์ า้ งเผือก (ป.ช.) เม่ือ ๕ ธนั วาคม ๒๕๒๑ - ประถมาภรณม์ งกฎุ ไทย (ป.ม.) เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๘ 91
๕๐ชวี ติ และงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พันเอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา ๒. ผลงานทางวชิ าการในประเทศและต่างประเทศอ่ืนๆ สำ� หรบั ตอน ๒ น้ี ผเู้ ขยี นใครข่ อนำ� เสนอผลงานวจิ ยั ทางแผนที่ ทศี่ าสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา ผรู้ บั ผดิ ชอบตามพระราชดำ� รขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เก่ียวกับโครงการพัฒนาท้องถ่ิน ในภูมิภาคต่างๆ (คัดลอก/ตัดตอนจาก “ประวัติส่วนตัวและประวัติการท�ำงานของ ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา” ในการได้รับพระราชทานปรญิ ญา วทิ ยาศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑิตกติ ติมศกั ด์ิ สาขาวชิ าภูมิศาสตร์คนแรกของมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ และคนแรกของประเทศไทย ปีการศึกษา ๒๕๒๕ ช่วงที่ผู้เขียนในฐานะหัวหน้าภาควิชา ภูมิศาสตร์ได้เป็นตัวแทนริเร่ิมการน�ำเสนอชื่อ และท่านได้รับพระราชทานปริญญาน้ี จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เม่ือวันท่ี ๒๔ มกราคม ๒๕๒๖ วันคลา้ ยวนั สถาปนามหาวิทยาลัยเชียงใหม)่ ได้แก่ ๑. งานแผนทหี่ มบู่ า้ นกะเหรยี่ ง ครบู าวงศ์ อำ� เภอลี้ จงั หวดั ลำ� พนู ในโครงการหลวง พัฒนาชาวเขาตามพระประสงค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพ่ือพิจารณาท�ำเล ท่ีเหมาะสมในการท�ำฝาย และอ่างเก็บน�้ำ เพ่ือการตั้งถ่ินฐานและการใช้ที่ดินท่ีถูกต้อง แต่มีปัญหาเพราะกรมพัฒนาที่ดินเปิดป่าเร็วเกินไป ท�ำให้ป่าท่ีช่วยอุ้มน�้ำไม่สามารถอุ้มน้�ำ ไว้ได้ เลยท�ำให้โครงการฝายและอ่างเก็บน้ำ� ขาดนำ้� ไปด้วย ๒. งานแผนท่ีหมู่บ้านชาวเขา ห้วยน�้ำขุ่น อ�ำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เป็นงานโครงการหลวงพัฒนาชาวเขาตามพระประสงค์ของหม่อมเจ้าภีศเดชรัชนี (ผู้แทน ในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) เพอื่ พิจารณาวางแผนการใช้ทด่ี นิ ตามไหล่เขา โดยเฉพาะการขยายไร่นา เพราะพื้นท่ีส่วนใหญ่มีที่ลาดค่อนข้างชัน แต่มีปัญหาในการท�ำ แผนทย่ี งั ไมเ่ สรจ็ เพราะรปู ถ่ายซ่งึ ได้ถา่ ยจากเครอื่ งบนิ ปีกหมุนมเี มฆบังและมวั เพราะก�ำลัง มีฝน จึงยงั ไมส่ ามารถจะประกอบแผนท่ไี ด้จนเวลาล่วงเลยมา ๒ ปีแล้ว ๓. งานแผนท่หี ม่บู ้านห้วยลกึ กิโลเมตร ๙๕ อ�ำเภอเชียงดาว จงั หวัดเชียงใหม่ ในโครงการหลวงพัฒนาชาวเขา ตามพระกระแสรับส่ังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพ่ือพิจารณาแหล่งน�้ำใต้ดินในหินปูน เพ่ือสร้างอ่างเก็บน้�ำและเจาะน้�ำบาดาล เพ่ือขยาย พน้ื ทที่ �ำไร่ โดยศึกษาจากหลุมจมของหินปูน และทางน�ำ้ ซมึ จากใตด้ ินมีปญั หาทีว่ ่าในฤดฝู น น�้ำมีมากแต่ไหลออกตามผิวดินเป็นส่วนมากไม่มีทางเก็บ พอถึงฤดูแล้งจะมีแต่น�้ำพุ จากหินปนู ทีย่ ังไหลอยู่ในระดับต�่ำเท่านนั้ ส่วนในระดบั สงู เปน็ พืน้ ทแ่ี ห้งแลง้ ทคี่ วรจะท�ำไร่ได้ ถา้ มีน�้ำ ๔. งานในโครงการพระราชประสงค์ระยะยาว ในหัวข้อ “ต�ำแหน่งท่ีปลูกฝิ่น ทยี่ งั คงมเี หลอื อยทู่ ว่ั ภาคเหนอื ” โดยอาศยั ภาพถา่ ยจากดาวเทยี มและภาพถา่ ยทางอากาศ เพอ่ื วางแผนกำ� จัดการปลูกฝิ่นและส่งเสรมิ การปลูกพืชทดแทนทีเ่ หมาะสมกบั ภมู ิประเทศ 92
๕๐ ศ าม สสชังต.ครปม์ชี ีวติ และงาน ของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พิเศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา ๕. งานในโครงการรวบรวมข้อมูลพิเศษเพ่ือทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จ-พระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับ “บริเวณนำ้� พรุ ้อนในจังหวดั เชยี งใหม่” ๖. งานแผนที่เฉพาะกิจตามพระกระแสรับส่ังด่วนของพระบาทสมเด็จ-พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในหวั ขอ้ ตา่ งๆ คอื ๖.๑ แผนท่แี สดงบรเิ วณดนิ ดอนสามเหลยี่ มแมน่ �้ำปงิ ท่ีจังหวัดก�ำแพงเพชร (ใชเ้ วลาทำ� ประมาณ ๒ วัน) เพือ่ ใชพ้ จิ ารณาแหล่งน�ำ้ ๖.๒ แผนที่เส้นทางดอยอินทนนท์ จงั หวดั เชยี งใหม่ (ใชเ้ วลาท�ำ ๑๒ ชั่วโมง) เพ่ือใชใ้ นการเสด็จตรวจงานในเช้าวันร่งุ ขึ้น ๖.๓ แผนท่ีบริเวณชายแดนจังหวัดปราจีนบุรี เฉพาะต�ำบล (ใช้เวลาท�ำ ๒๔ ช่วั โมง) เพือ่ พจิ ารณาปัญหาชายแดน ๖.๔ แผนทบ่ี ริเวณชายแดนจงั หวัดตราดและระยอง (ใช้เวลาท�ำ ๒๔ ชวั่ โมง) เพื่อพจิ ารณาปัญหาชายแดน ๖.๕ แผนที่บริเวณเขาพนมรุ้งแสดงลักษณะธรณีวิทยาและภูมิสัณฐาน (ใช้เวลาทำ� ประมาณ ๓ วัน) เพือ่ พิจารณาประกอบกิจการโบราณคดี ๖.๖ ความรับผิดชอบของบุคคลในชาติต่อการรักษาเขตแดนของประเทศ (เรียบเรียงทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม- ราชกมุ ารี ครัง้ ที่คณาจารยแ์ ละนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ามาศึกษา ภาคเหนอื ตอนบน ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๕-๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ โดยทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรรยายถวายในพ้ืนที่ด้วยตนเอง ณ พื้นท่ี รอยต่อสามประเทศสามเหล่ยี มทองค�ำ) หน้า ๔๗ หนา้ (ยกเป็นตวั อยา่ ง บทความทางวิชาการในสว่ นท้ายของตอน ๑) ทจี่ รงิ แลว้ ผลงานวชิ าการของศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา ทเ่ี ก่ียวข้องกบั พน้ื ฐานความรทู้ ่ีเช่ยี วชาญและมปี ระสบการณม์ าโดยตรง ดังไดอ้ ้างถึงผลงานท่ีท�ำถวายตามพระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตน- ราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารีขา้ งต้น ทไ่ี ดย้ กตัวอย่างมาสดดุ ที า่ นแล้วในตอน ๑ นนั้ ยังมีอกี มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลงานในประเทศและต่างประเทศก็ตาม เช่นเดียวกบั ผลงานอ่ืนๆที่เป็นงานบริการและพัฒนาสังคม/ชุมชน ศาสตราจารย์พูนพลก็ยังได้ริเริ่มหรือสานต่ออีกมากมายเชน่ กนั ดงั จะน�ำมายกตัวอย่าง พอเป็นสงั เขป ดงั น้ี 93
๕๐ชวี ิตและงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารย์อาวุโส ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจินดา สำ� หรบั งานดา้ นการสอนทท่ี า่ นอทุ ศิ ตวั เองมาในชว่ งประมาณ ๓๐ ปหี ลงั ของชวี ติ ไมว่ า่ จะเปน็ การสอนในโรงเรยี นแผนทท่ี หารบก (ปจั จบุ นั คอื โรงเรยี นแผนทท่ี หาร) ในสถาบนั อุดมศึกษาต่างๆ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะในช่วงที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เตรียมการเปิดสอนครั้งแรกในปีการศึกษา ๒๕๐๗ ที่ผู้เขียนจำ� ได้ดี เพราะหัวหน้าภาควิชา ภมู ศิ าสตรค์ นแรกตอนนน้ั (ศาสตราจารยส์ มุ นา คา้ ทอง) ไดม้ อบหมายใหผ้ เู้ ขยี นเปน็ ผตู้ ดิ ตอ่ ประสานงานของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับศาสตราจารย์พูนพล (พันเอก (พิเศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา) เพอ่ื ขออนเุ คราะหใ์ หท้ า่ นชว่ ยรา่ งหรอื จดั ท�ำหลกั สตู รของสาขาวชิ าภมู ศิ าสตร์ ซึง่ จะเปิดสอนเปน็ วิชาเอกแหง่ แรกในมหาวทิ ยาลยั ส่วนภูมิภาค และเป็น ๑ ใน ๕ ภาควชิ า ทว่ี างแผนด�ำเนนิ การในคณะสงั คมศาสตร์ สว่ นตวั ทา่ นเองไดต้ ดั สนิ ใจขอโอนจากกรมแผนที่ ทหารมารับราชการทีภ่ าควชิ าภมู ศิ าสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ในตน้ ปี ๒๕๐๙ ซง่ึ ทา่ นไดม้ าเปน็ สว่ นสำ� คญั ในการสรา้ งและขบั เคลอ่ื นความเจรญิ ใหภ้ าควชิ า จนเปน็ ที่ยอมรับในความเป็นเลิศของภาควิชาหรือของสาขาวิชาภูมิศาสตร์ เม่ือเปรียบเทียบกับ สถาบันอื่นท่ีเปิดสอนสาขาวิชาเดียวกันในประเทศ ย่ิงกว่าน้ันเป็นที่น่าภาคภูมิใจที่ทางกรม แผนที่ทหารก็เปิดรับบรรจุนักศึกษาท่ีจบทางภูมิศาสตร์แผนท่ีของมหาวิทยาลัยเชียงใหม ่ ทผี่ า่ นการสอนและฝกึ ฝนอบรมจากศาสตราจารยพ์ นู พลเพยี งแหง่ เดยี วเขา้ รบั ราชการในกรม เทา่ นน้ั (เท่าที่ผ้เู ขียนรับทราบ) และในยุคแรกๆ ของมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ศาสตราจารย์ พูนพลยังช่วยสอนวิชาทางเทคนิคและการส�ำรวจให้นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ของ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมอ่ กี ดว้ ย โดยอาจารยไ์ ดเ้ นน้ และใหค้ วามส�ำคญั กบั การสอนภาคปฏบิ ตั ิ ในสนามเป็นส่วนประกอบเพื่อให้สามารถน�ำทฤษฎีไปปฏิบัติได้จริง หรืออย่างท่ีอาจารย ์ พูดเสมอวา่ “ต้องสอนให้ศิษยท์ ำ� ได้ด้วย” ผลงานทางวิชาการที่อาจารย์ผลิตมีทั้งที่เป็นต�ำราเรียนเก่ียวกับแผนท่ีและ ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย ตงั้ แตร่ ะดบั ประถม-มธั ยม-และอดุ มศกึ ษา ตำ� ราภมู ศิ าสตรเ์ ศรษฐกจิ ประเทศไทย ร่วมเขียนค�ำอธิบายและบทความในสารานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานและ อักขรานกุ รมภูมิศาสตร์ไทย ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน (พ.ศ.๒๕๐๙-๒๕๓๔) งานวิจัย อาท ิ “The Trail Study of Northern Thailand” (พ.ศ.๒๕๑๒) “High Altitude Photogrammetry in Determination the True Figure of the Earth” (พ.ศ.๒๕๑๕-๒๕๑๘) “Topographic Mapping of Humid Tropical Asia” (พ.ศ.๒๕๑๖-๒๕๑๗) และ “การรงั วดั เพอื่ หาตำ� แหนง่ ทางดาราศาสตร”์ ส่วนบทความทางวชิ าการอนื่ ๆ อกี คือ “THAILAND” (มแี ผนทแี่ ละสถิตปิ ระกอบ) ทีพ่ มิ พ์ เผยแพร่โดย University of Chicago, Chicago, U.S.A. ในวารสาร Encyclopaedia Britannica, XVIII (pp.197-205) “Natural Resources of Humid Tropical Asia, Development of Geography” (พ.ศ.๒๕๑๘) “พัฒนาภาคอีสานโดยการเล้ียงปลา” (พ.ศ.๒๕๑๙) “ดาราศาสตร์ ในกจิ กรรมแผนทแี่ ละการเดนิ เรอื ” (พ.ศ.๒๕๑๙) “ชนชาตติ า่ งๆ ในประเทศไทย” (บทความในอกั ขรานกุ รม ภมู ศิ าสตรไ์ ทย ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๑ พ.ศ.๒๕๒๐) 94
๕๐ ศ าม สสชงัต.ครปม์ชี วี ติ และงาน ของคณาจารย์อาวโุ ส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจินดา“Possibility of Application of Multispectral Sensing in Grassland Study” (พ.ศ.๒๕๒๒)“ประวัติวิวัฒนาการเมืองเชียงใหม่” (พ.ศ.๒๕๓๐) “บทบาทของท้องถิ่นในการส่งเสริมอตุ สาหกรรมทอ่ งเทยี่ ว” “๒๕ ปแี หง่ การพฒั นาทางสาขาวชิ าภมู ศิ าสตร”์ และ “ความรบั ผดิ ชอบของบุคคลในชาติต่อการรักษาเขตแดนของประเทศ” (พ.ศ.๒๕๓๒ เฉพาะบทความเร่ืองหลังนี้ได้น�ำเสนอเป็นตัวอย่าง ในตอน ๑) และสองบทความสุดท้ายของอาจารย์พูนพล ท่ีเขียนในปี ๒๕๓๓ คือ “ค�ำกราบบังคมทูลเฉลิมพระเกียรติคุณ และถวายชัยมงคล”สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสที่ทรงรับพระราชทานปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักด์ิ สาขาวิชาภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม ่วันพฤหัสบดีท่ี ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๓ และ “ถ้ารักรถหมั่นตรวจเคร่ืองยนต์ ถ้ารักตนหมนั่ ตรวจรา่ งกาย” พมิ พเ์ ผยแพรใ่ นลานนาสาร ปที ่ี ๕ ฉบบั ท่ี ๑๕ กรกฎาคม-ธนั วาคม ๒๕๓๓ ท่ีจริงแล้วงานเขียนชิ้นสุดท้ายที่ศาสตราจารย์พูนพล ได้อุทิศตัวทุ่มเทอย่าง เตม็ สตกิ ำ� ลงั รว่ มจดั ทำ� ในฐานะอนกุ รรมการและประธานของคณะบรรณาธกิ าร (นกั วชิ าการภูมิศาสตร์ระดับประเทศ ๒๕ คนที่แต่งตั้งโดยส�ำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๓๔) ก็คือ การจัดท�ำหนังสือท่ีระลึกทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในศุภวาระคล้ายวนั พระราชสมภพครบ ๓ รอบคอื หนงั สอื “จากหว้ งอวกาศสพู่ น้ื แผน่ ดนิ ไทย”-Thailand from Space (งานเขยี นทง้ั หมดได้เสร็จส้ินก่อนที่ศาสตราจารย์พูนพล จะล้มเจ็บในปลายปี ๒๕๕๓ และถึงแก่กรรมต้นปี๒๕๓๔ เหลือเพียงบทบรรณาธิการที่ศาสตราจารย์พูนพลได้เรียกให้ผู้เขียนซ่ึงร่วมเป็นคณะบรรณาธิการไปมอบหมายแนวทางให้ท�ำต่อจนเสร็จสมบูรณ์เท่าน้ัน และสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ ไดท้ รงพระเมตตามพี ระราชวนิ จิ ฉยั ตรวจแกต้ น้ ฉบบั ใหผ้ เู้ ขยี นโดยตรงนบั เป็นพระมหากรุณาธคิ ุณลน้ เกล้าอนั หาทสี่ ดุ มิได)้ งานวิชาการและบริการทางสังคมอื่นๆ ท่ีศาสตราจารย์พูนพลได้อุทิศตัว ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากงานสอนและการท�ำหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้องต่างๆ ตามท่ีได้รับ มอบหมายทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศแลว้ ไดแ้ ก่ งานสง่ เสริมการท่องเทย่ี วในภาคเหนอืโดยได้รับต�ำแหน่งนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเท่ียวภาคเหนือคนแรกระหว่างปี พ.ศ.๒๕๑๘-๒๕๒๒ และ พ.ศ.๒๕๒๗-๒๕๓๐ เปน็ กรรมการสงั คมศาสตร์ ฝ่ายการศึกษาสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ.๒๕๒๑-๒๕๒๓) เป็นประธานไลออนส์เขต ๕ ภาคเหนอื และเปน็ ผวู้ า่ การไลออนสส์ ากลภาค ๓๑๐ เอ (พ.ศ.๒๕๒๔-๒๕๒๕) และกรรมการประสานงานก่อต้ังสโมสรไลออนส์สตรีแห่งแรกของภาคเหนือ (พฤศจิกายน ๒๕๒๙)นอกจากนยี้ งั เปน็ กรรมการอ�ำนวยการเหลา่ กาชาดจังหวัดเชียงใหม่ ๓ สมัย (ไดร้ บั เหรยี ญกาชาดสมนาคุณ ช้นั ๒ พ.ศ.๒๕๒๖) ประธานกรรมการฝา่ ยอาสาสมัครเพอ่ื รณรงคห์ าทุนใหแ้ กก่ องทนุ สงเคราะหช์ มุ ชน จงั หวดั เชยี งใหม่ ประธานกรรมการพฒั นาวดั ฝายหนิ วดั ประจำ� 95
๕๐ชวี ิตและงาน ศ าม สสชังต.ครปม์ ีของคณาจารยอ์ าวุโส ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พูนพล อาสนะจนิ ดา มหาวิทยาลัย และเป็นกรรมการสงเคราะห์ศาลคดีเด็กและเยาวชน จังหวัดเชียงใหม ่ (พ.ศ.๒๕๒๒-๒๕๓๔) เปน็ ต้น ๓. คำ� ไว้อาลยั ของบคุ คลทเี่ คยรว่ มงานกับศาสตราจารยพ์ นู พล ความเป็นปราชญ์ทางวิชาการหลากหลายสาขา และครูผู้อุทิศตัวเพ่ือการสอนและ การอบรมให้ความรู้ศิษย์ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติตลอดชีวิต รวมท้ังการให้บริการชุมชน/ สังคมในด้านต่างๆ ดังท่ีได้ยกตัวอย่างมาพอเป็นสังเขปข้างต้น สามารถยืนยันได้จาก ส่วนหน่งึ ของคำ� ไวอ้ าลยั ของบคุ คลท่ีรว่ มงานทงั้ ระดบั รฐั มนตรี อธิการบดี (องคมนตรีและ นายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบัน) ตัวแทนคณาจารย์ นักศึกษา ข้าราชการ และ เจา้ หน้าที่ภาควิชาภูมิศาสตร์ เพอื่ นนักเรียนโรงเรียนปรนิ ส์รอยแยลส์วทิ ยาลัย และตวั แทน นกั ธุรกิจส่งเสริมการท่องเที่ยว (อดตี กรรมการสง่ เสริมมหาวิทยาลัยเชียงใหม)่ ดงั นี้ ๓.๑ ศาสตราจารย์ ดร.สง่า สรรพศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพลังงาน (ตลุ าคม ๒๕๓๔) ศาสตราจารย์ พนั เอก (พเิ ศษ) พนู พล อาสนะจนิ ดา เปน็ นายกสมาคมภมู ศิ าสตร์ แหง่ ประเทศไทยคนแรกเป็นบุคคลท่มี ีความรู้ความสามารถ และสรา้ งผลงานทางภมู ิศาสตร์ จนเปน็ ทปี่ ระจกั ษใ์ นประเทศและตา่ งประเทศ เยาวชนของประเทศไทยซงึ่ เคยศกึ ษาชนั้ ประถม ช้ันมัธยม ตลอดจนมหาวิทยาลัยเป็นหน้ีบุญคุณท่านผู้น้ี เขาต้องเรียนรู้ศึกษาจากบทเรียน แบบฝกึ หัด สมุดแผนที่ต้งั แต่ชั้นประถมศึกษาต้น ประถมศกึ ษาปลาย มธั ยมต้น มธั ยมปลาย และหลกั สูตรมหาวิทยาลยั ผ้คู นนับลา้ นคนตอ้ งเรียนร้วู ชิ าภมู ิศาสตร์จากปรมาจารย์ผูน้ ้ี ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล เป็นบรมครูที่แท้จริง ท่านได้ประสิทธิ์ ประสาทวชิ า เขยี นตำ� ราใหค้ วามเอาใจใสแ่ กน่ สิ ติ นกั ศกึ ษา เปน็ อาจารยพ์ เิ ศษแกม่ หาวทิ ยาลยั ต่างๆ รวมท้ังเป็นอาจารย์ให้แก่กองทัพและกระทรวงทบวง กรม จนได้รับแต่งต้ังให้เป็น ศาสตราจารยเ์ กียรตคิ ณุ ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล เป็นนักวิจัยตัวอย่าง ได้มีผลงานวิจัย ทพี่ ิมพเ์ ผยแพรท่ งั้ ในประเทศและต่างประเทศ เป็นแบบฉบบั แก่นกั วิจัยรนุ่ นอ้ ง ผลงานของ ทา่ นเปน็ ทยี่ อมรบั ในวงการภมู ศิ าสตร์ จนกระทง่ั ไดร้ บั เชญิ ใหไ้ ปรว่ มจดั ทำ� การออกแบบแผนที่ จัดทำ� สารานกุ รม ทง้ั ในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะทอี่ ังกฤษและอเมริกา ศาสตราจารย์ พันเอก (พิเศษ) พูนพล เป็นผู้ท่ีมีความคิดริเริ่มและประยุกต์ ความรู้เก่ียวกับวิชาภูมิศาสตร์มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ อาทิ การใช้ประโยชน์ท่ีดิน การประมง การพัฒนาชาวเขา การบินพาณิชย์ การท่องเที่ยวและการออกแบบผังเมือง ซงึ่ ผลงานของทา่ นเปน็ ที่ประจักษจ์ นทกุ วันน้ี 96
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362