Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ สังคม ม4 - ครูภาณี แสนเดช

แผนการจัดการเรียนรู้ สังคม ม4 - ครูภาณี แสนเดช

Published by dlit_sm037, 2021-04-06 04:03:49

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ สังคม ม4 - ครูภาณี แสนเดช

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช การเปลี่ยนแปลงทน่ี า่ สนใจขณะนีไ้ ดแ้ กค่ วามเปน็ สากลของภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาหลัก (Mother Language) ใช้กันท่ัวโลก ในประเทศไทยผ่านธุรกิจ ปูายชื่อร้าน อาคาร ส่วนใหญ่ก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษ แมแ้ ตด่ ารา นกั แสดง ก็ไดน้ าเสนอดาราลกู ครงึ่ เป็นตวั หลกั การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเราจะมองเห็นว่าก้าวหน้าเด่นชัด การขยายตัวของประชากรของเมือง และการสอื่ สารและเทคโนโลยีกเ็ หมอื นกนั แตผ่ ลรา้ ยทีต่ ามมา คอื สภาพแวดล้อมทดี่ งี ามถูกทาลาย มีการตัดไม้ ทาลายปาุ สัตว์ พชื แหลง่ นา้ แรธ่ าตุถกู ทาลายมากขน้ึ การใช้รถยนต์ใช้พลังงาน ใช้ตู้เย็น แอร์ สเปรย์ จะมีการ ปล่อยสารพิษไปทาลายโอโซนมากขน้ึ คณุ ภาพชีวิตลดลงมากกว่าจะทาให้ชีวิตมีความสุขขึ้น ย่ิงการส่งเสริมการ ท่องเทย่ี วมากกย็ งิ่ มโี สเภณี มีโรคเอดส์มากตามมา พฤติกรรมทางวัฒนธรรม สังคม ประเพณี ศีลธรรม จริยธรรม แม้แต่ภาษาซึ่งล้วนเป็นเอกลักษณ์ของ ชาติ เราต้องดูแลไม่ให้สูญสลายไป การดารงชีวิตของคนเป็นส่ิงท่ีดีงาม อุปถัมภ์เก้ือกูลกัน มีจิตใจดีมีความ อ่อนโยนออ่ นน้อม และมีชวี ติ ทีเ่ รยี บงา่ ย ซงึ่ หาได้ยากในสังคมขนึ้ การเปล่ยี นแปลงที่เกิดข้ึนเราไม่อาจต้านกระแสโลกได้ และการเปล่ียนแปลงก็ไม่ใช่สื่อเลวร้ายเสมอไป เราคงขวางกระแสใหญ่ของโลกาภิวัตน์ท้ังหมดไม่ได้ ในแง่ดีผลกระทบจากโลกาภิวัตน์ให้ประโยชน์ต่อคนไทย เป็นความทันสมยั ไมโ่ ง่เขลา ลา้ หลัง เมืองไทยนับจาก ค.ศ.2000 เราจะก้าวสสู่ หสั วรรษใหม่ที่มีการแข่งขันกันสูง เกิดปัญหาหลายประการตามมา ขณะเดียวกันเราก็ต้องช่วยกันประคับประคองให้แก้ปัญหาต่างๆ ตลอดจน กาหนดแนวทางบารงุ รักษาดลุ ยภาพแหง่ ชีวติ ของคนไทยใหด้ ารงความเปน็ ไทยในสังคมยุคโลกาภวิ ัตน์ใหไ้ ด้ 44

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 1. สาเหตุของ 2. ประเภทของการ 3. ผลดีของการ 4. ผลเสียของ 5. ปจั จัยท่ีทาใหเ้ กิด การเปล่ยี นแปลง การเปลีย่ นแปลง เปล่ยี นแปลง เปลยี่ นแปลง การ ภายใน ภายนอก สังคม วฒั นธรรม เปลี่ยนแปลง (หมายเหตุ พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน ให้อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครผู ูส้ อน) 45

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ปญั หาสงั คมไทย คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ ชว่ ยกนั คดิ ว่า เร่อื งใดบ้างที่เป็นปัญหาสังคมอยู่ในขณะนัน้ แล้วเลือกปัญหา สาคัญ 1 ปัญหา มาวิเคราะห์และตอบคาถามตามหวั ขอ้ ที่กาหนด ลาดบั ปัญหาสงั คม ผลเสียตอ่ สังคม วิธกี ารแกไ้ ข ที่ 1. ปัญหาทสี่ ่งผลกระทบทาให้เกิดความเสียหายต่อสังคมมากที่สดุ คือ 2. กลมุ่ นักเรียนมีความสนใจในการมสี ่วนรว่ มปูองกันแก้ไขปญั หาไดโ้ ดยการจดั ทาโครงงานเรื่อง 3. แนวทางการพฒั นาสงั คมตามแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ทีก่ ลุม่ นักเรียนนามาปรับใช้ ในการทาโครงงานได้แก่เร่ืองใด 46

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานที่ 2.2 เรือ่ ง ปญั หาสังคมไทย คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มช่วยกันคดิ ว่า เร่อื งใดบ้างท่ีเป็นปัญหาสงั คมอยู่ในขณะนนั้ แลว้ เลอื กปัญหา สาคัญ 1 ปญั หา มาวเิ คราะห์และตอบคาถามตามหวั ขอ้ ที่กาหนด ลาดบั ปัญหาสังคม ผลเสยี ตอ่ สงั คม วธิ ีการแกไ้ ข ท่ี 1. ปญั หาทส่ี ง่ ผลกระทบทาใหเ้ กิดความเสยี หายตอ่ สงั คมมากที่สุด คอื 2. กล่มุ นกั เรียนมีความสนใจในการมีส่วนร่วมปอู งกนั แก้ไขปัญหาไดโ้ ดยการจัดทาโครงงานเรื่อง 3. แนวทางการพัฒนาสงั คมตามแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ที่กลมุ่ นักเรยี นนามาปรับใช้ ในการทาโครงงานได้แก่เร่ืองใด (หมายเหตุ พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน ให้อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 47

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ลาดับ ช่ือ – สกลุ ความร่วมมือ การแสดง การรับฟัง การตัง้ ใจ การร่วม รวม ท่ี ของผ้รู บั การ 4321 ความคดิ เห็น ความคิดเห็น ทางาน ปรบั ปรุง 20 ผลงานกล่มุ คะแนน ประเมิน 4321 4321 4321 4321 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ ดีมาก = 4 3 หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กลมุ่ ดี = 2 เป็ นผปู้ ระเมิน หรือใหต้ วั แทนกล่มุ ผลดั กนั ประเมิน 1 หรือใหม้ ีการประเมนิ โดยเพือ่ น โดยตวั นกั เรียนเอง พอใช้ = ตามความเหมาะสมกไ็ ด้ ปรับปรุง = เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5 – 8 ปรับปรุง 48

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 2 หน้าที่พลเมอื ง วัฒนธรรม และการดาเนินชวี ิตในสังคม กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลาเรียน 6 ช่วั โมง ผู้สอน นางภาณี แสนเดช  มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั ส 2.1 ม.4-6/5 วเิ คราะห์ความจาเป็นทจี่ ะต้องมีการปรับปรงุ เปลยี่ นแปลงและอนุรักษว์ ฒั นธรรมไทย และเลอื กรบั วฒั นธรรมสากล  สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด วัฒนธรรมไทย มีคณุ คา่ และความสาคัญต่อการดาเนินชีวิตของชาวไทย ซึ่งจะต้องร้จู ักการปรบั ปรุง เปล่ียนแปลง และอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทย และเลือกรับวฒั นธรรมสากลอย่างเหมาะสม  สาระการเรียนรู้ 3.1สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 1. ความหมาย และความสาคัญของวฒั นธรรม 2. ลกั ษณะและความสาคัญของวฒั นธรรมไทยทสี่ าคัญ 3. การปรับปรงุ เปล่ียนแปลง และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย 4. ความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกับวฒั นธรรมสากล 5. แนวทางการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทยท่ีดงี าม 6. วิธีการเลอื กรบั วัฒนธรรมสากล 3.2สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น -  สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ - ทกั ษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 4.3ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - กระบวนการปฏบิ ตั ิ - กระบวนการทางานกล่มุ 49

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช  คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน  ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) บทความ เรอ่ื ง การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทยและการเลือกรับวัฒนธรรมสากล  การวดั และการประเมนิ ผล 7.1การประเมนิ ก่อนเรยี น - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรู้ 2 เรื่อง วฒั นธรรมไทย 7.2การประเมินระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ความสาคัญของวัฒนธรรม 2. ใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง ลกั ษณะของวัฒนธรรมไทย 3. ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง วัฒนธรรมท้องถ่ินภาคเหนอื 4. ใบงานท่ี 1.4 เรอ่ื ง วัฒนธรรมทอ้ งถิน่ ภาคกลาง 5. ใบงานที่ 1.5 เรื่อง วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 6. ใบงานที่ 1.6 เรอ่ื ง วฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ภาคใต้ 7. ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง วเิ คราะห์วัฒนธรรม 8. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 7.3การประเมินหลงั เรยี น - แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง วัฒนธรรมไทย 7.4การประเมนิ ชิน้ งาน / ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินบทความ เรอื่ ง การอนรุ ักษ์วัฒนธรรมไทยและการเลอื กรบั วฒั นธรรมสากล 50

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช การประเมนิ ช้ินงาน / ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ บทความ เรื่อง การอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทยและการเลอื กรับวัฒนธรรมสากล รายการประเมิน คาอธิบายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน 1. ความจาเป็นท่ี ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) จะต้องมีการ ปรับปรุง เขียนวิเคราะหค์ วาม เขยี นวเิ คราะห์ความ เขยี นวิเคราะหค์ วาม เขียนวิเคราะหค์ วาม เปล่ยี นแปลง จาเปน็ ท่จี ะต้องมกี าร จาเปน็ ทีจ่ ะต้องมกี าร วัฒนธรรม ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง จาเป็นทีจ่ ะต้องมีการ จาเป็นทจ่ี ะต้องมกี าร ปรับปรงุ เปล่ยี นแปลง วัฒนธรรมอยา่ งมี วัฒนธรรมอย่างมี 2. แนวทางการ เหตผุ ลเหมาะสม ปรับปรุงเปลย่ี นแปลง ปรับปรงุ เปล่ยี นแปลง เหตุผลเหมาะสม อนุรกั ษ์ 4 ประเด็นข้นึ ไป 1 ประเด็น วัฒนธรรม ไทย วฒั นธรรมอยา่ งมี วฒั นธรรมอยา่ งมี เขียนแนวทางการ เขียนแนวทางการ อนรุ ักษ์วัฒนธรรมไทย 3. การเลอื ก อนรุ ักษว์ ัฒนธรรมไทย เหตผุ ลเหมาะสม เหตผุ ลเหมาะสม ไดถ้ ูกต้องเหมาะสม รบั วัฒนธรรม ไดถ้ ูกต้องเหมาะสม พร้อมยกตัวอยา่ ง สากล พรอ้ มยกตัวอย่าง 3 ประเดน็ 2 ประเดน็ ประกอบ 1 แนวทาง ประกอบอยา่ งน้อย 4. การนาเสนอ 6 แนวทางข้ึนไป เขยี นแนวทางการ เขียนแนวทางการ เขียนเสนอวิธกี ารเลือก ผลงาน รับวฒั นธรรมสากล เขยี นเสนอวิธกี ารเลอื ก อนุรักษว์ ฒั นธรรมไทย อนรุ ักษว์ ฒั นธรรมไทย พร้อมยกตวั อยา่ ง รับวฒั นธรรมสากล ประกอบอย่างมเี หตุผล พรอ้ มยกตวั อยา่ ง ไดถ้ กู ต้องเหมาะสม ไดถ้ กู ต้องเหมาะสม เหมาะสม 1 วิธกี าร ประกอบอยา่ งมเี หตุผล เหมาะสม อยา่ งนอ้ ย พรอ้ มยกตวั อย่าง พร้อมยกตวั อย่าง การนาเสนอได้ถูกตอ้ ง 4 วธิ กี าร ตรงตามประเดน็ ประกอบ 4-5 แนวทาง ประกอบ 2-3 แนวทาง เรยี งลาดบั ข้ันตอนได้ การนาเสนอไดถ้ กู ต้อง เหมาะสมเป็นบางตอน ตรงตามประเด็น เขยี นเสนอวธิ กี ารเลือก เขยี นเสนอวิธีการเลอื ก วิธกี ารนาเสนอไม่ เรียงลาดบั ขั้นตอนได้ รบั วฒั นธรรมสากล รับวัฒนธรรมสากล เรา้ ใจใหต้ ดิ ตามฟง๎ อยา่ งเหมาะสม วิธกี าร พรอ้ มยกตวั อย่าง พร้อมยกตัวอยา่ ง นาเสนอเรา้ ใจให้ ประกอบอยา่ งมีเหตผุ ล ประกอบอยา่ งมเี หตผุ ล ติดตามฟง๎ เหมาะสม 3 วิธกี าร เหมาะสม 2 วิธกี าร การนาเสนอได้ถกู ตอ้ ง การนาเสนอได้ถกู ต้อง ตรงตามประเด็น ตรงตามประเดน็ เรยี งลาดับขน้ั ตอนได้ เรยี งลาดบั ขัน้ ตอนได้ เหมาะสมเป็นสว่ นใหญ่ เหมาะสมเปน็ บางตอน วธิ กี ารนาเสนอเร้าใจให้ วธิ ีการนาเสนอเร้าใจให้ ติดตามฟ๎ง ติดตามฟง๎ เป็น บางตอน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 13-16 ดมี าก 9-12 ดี 5-8 พอใช้ 1-4 ปรบั ปรุง 51

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช  กิจกรรมการเรยี นรู้  นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง วฒั นธรรมไทย รักวัฒนธรรมไทย กจิ กรรมที่ 1 วิธสี อนโดยการจดั การเรยี นรูแ้ บบร่วมมอื : เทคนิคค่คู ิดสสี่ หาย, เวลา 3 ชัว่ โมง เทคนคิ การตอ่ เรอ่ื งราว (Jigsaw) 1. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะคนยกตวั อยา่ งวฒั นธรรมไทยทน่ี ักเรยี นชอบ พรอ้ มบอกเหตุผลประกอบ 2. ครอู ธบิ ายเช่ือมโยงให้นกั เรยี นเหน็ ความสาคญั ของวัฒนธรรมไทย 3. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเกง่ ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน (ครแู บ่งกล่มุ ไว้ล่วงหนา้ ) นักเรียนแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แตล่ ะคชู่ ว่ ยกนั ศกึ ษาความรู้ เรือ่ ง ความสาคัญของวัฒนธรรมไทย ลักษณะของวัฒนธรรมไทย จากหนงั สอื เรยี น หรือหนังสือคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ หรอื แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศตามความเหมาะสม และช่วยกนั ทาใบงาน ดังนี้ - คทู่ ี่ 1 ทาใบงานที่ 1.1 เร่ือง ความสาคัญของวฒั นธรรมไทย - คู่ที่ 2 ทาใบงานที่ 1.2 เรื่อง ลักษณะของวฒั นธรรมไทย 4. นักเรียนแตล่ ะคู่ตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน แลว้ ผลัดกนั ถ่ายทอดความรู้ใหเ้ พื่อนอกี คหู่ น่ึงฟง๎ 5. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานตอ่ ช้นั เรยี น แล้วครูและนกั เรียนช่วยกันสรปุ ความร้เู ก่ยี วกบั ความหมาย ความสาคญั ประเภทของวฒั นธรรม และลักษณะของวัฒนธรรมไทย 6. สมาชกิ กลุ่มเดิม เรียกวา่ กลุ่มบา้ น (Home Groups) แตล่ ะกลุม่ เลอื กหมายเลขประจาตัว 1-4 ตามลาดบั แล้วแยกย้ายกนั ไปหาสมาชกิ ทมี่ หี มายเลขเดียวกันในกลมุ่ ใหม่ 7. สมาชกิ กลุ่มใหม่ เรียกวา่ กล่มุ ผเู้ ช่ยี วชาญ (Expert Groups) ในแตล่ ะหมายเลขรว่ มกนั ศึกษาความรู้ เรือ่ ง วัฒนธรรมในภูมภิ าคต่างๆ ของไทย จากหนงั สอื เรยี น และแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ ตามความ เหมาะสม จากนน้ั ช่วยกนั ทาใบงาน ดงั นี้ - สมาชิกหมายเลข 1 ทาใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง วัฒนธรรมทอ้ งถิ่นภาคเหนือ - สมาชกิ หมายเลข 2 ทาใบงานท่ี 1.4 เรอ่ื ง วฒั นธรรมทอ้ งถิน่ ภาคกลาง - สมาชกิ หมายเลข 3 ทาใบงานที่ 1.5 เรอ่ื ง วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ - สมาชกิ หมายเลข 4 ทาใบงานที่ 1.6 เรอ่ื ง วัฒนธรรมทอ้ งถิ่นภาคใต้ 8. สมาชิกกลมุ่ ผเู้ ช่ยี วชาญแต่ละหมายเลขตรวจสอบความถกู ตอ้ งของใบงาน แลว้ แยกย้ายกนั กลับไปกลมุ่ เดมิ ซึง่ เรียกว่า กลมุ่ บา้ น (Home Groups) แล้วผลัดกันเลา่ ความร้ทู ี่ได้จากการทาใบงานที่ตนทาใหแ้ ก่ เพอ่ื นสมาชกิ หมายเลขอื่นๆ และผลดั กันซกั ถามจนมีความเข้าใจกระจา่ งชัดเจน 9. ครูสมุ่ เรยี กนักเรยี นบางคนในกลมุ่ ออกมาเฉลยคาตอบของใบงาน แลว้ ครูและนักเรยี นช่วยกันสรปุ ความรู้เกีย่ วกับ ลักษณะสาคัญของวฒั นธรรมไทยในแต่ละภมู ิภาค 52

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช กจิ กรรมท่ี 2 การอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทย เวลา 3 ชว่ั โมง วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความ ตระหนกั , กระบวนการกลมุ่ 1. ครนู าภาพเก่ียวกบั วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล มาให้นักเรยี นดู แลว้ ใหช้ ว่ ยกันวเิ คราะห์ ความแตกตา่ ง และสาเหตุของความแตกต่าง 2. ครูอธิบายเช่ือมโยงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจถงึ ปจ๎ จัยสาคัญท่ีทาใหเ้ กดิ ความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม และการ เผยแพร่วฒั นธรรมสากลไปยังภูมภิ าคต่างๆ ในโลก 3. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศึกษาความร้เู ร่อื ง การปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงวฒั นธรรมไทย และความแตกตา่ ง ระหวา่ งวัฒนธรรมไทยกับวฒั นธรรมสากล และชว่ ยกนั ทาใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง วเิ คราะหว์ ัฒนธรรม 4. ครูและนักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบในใบงาน และร่วมกันสรปุ เกี่ยวกับการปรับปรุงเปลีย่ นแปลง วฒั นธรรมไทย อิทธิพลของชาติตะวนั ตกที่มีต่อวัฒนธรรมไทย การพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมทีม่ ีผล ต่อการเปล่ียนแปลงวฒั นธรรมไทย ความแตกตา่ งระหว่างวัฒนธรรมไทยกับวฒั นธรรมสากล 5. ครใู หน้ กั เรียนเล่าความประทับใจในวัฒนธรรมทีด่ งี ามของไทย มาคนละ 1 อยา่ ง และให้อธิบาย เหตุผลว่าเหตุใดจงึ ประทับใจ ซึ่งนักเรยี นจะมเี หตผุ ลแตกต่างกันออกไป 6. ครอู ธบิ ายเชอื่ มโยงใหน้ กั เรยี นเหน็ คุณคา่ ของวัฒนธรรมไทย และความจาเปน็ ของการอนุรักษ์ วฒั นธรรมไทย และการเลือกรบั วัฒนธรรมสากลทด่ี ีงาม 7. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มศึกษาความรู้เร่ือง แนวทางการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทยที่ดีงาม และวธิ กี ารเลอื กรับ วัฒนธรรมสากล จากหนงั สอื เรยี นและจากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ และนาความรู้ที่ไดจ้ ากการศกึ ษา ไปเขียนเป็นบทความ เรื่อง การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทยและการเลือกรับวัฒนธรรมสากล โดยเขยี น เปน็ บทความวเิ คราะห์และเสนอความคดิ เห็น ในประเดน็ ต่อไปนี้ 1) ความจาเปน็ ท่จี ะตอ้ งมกี ารปรับปรุงเปลยี่ นแปลงวฒั นธรรมไทย 2) แนวทางการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทย 3) การเลอื กรับวฒั นธรรมสากล 8. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียนดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลายตามความเหมาะสม 9. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรุปถงึ ความจาเปน็ ทต่ี ้องมีการปรบั ปรุงเปลยี่ นแปลงวฒั นธรรมไทย การอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมไทย และการเลือกรับวัฒนธรรมสากล  นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง วัฒนธรรมไทย 53

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช  ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น หนา้ ท่พี ลเมืองฯ ม.4-ม.6 2. หนงั สือคน้ ควา้ เพ่มิ เติม 1) ชลุ พี ร สุสวุ รรณ และสชุ ริ าภรณ์ บรสิ ุทธ.ิ์ ความรรู้ อบตวั : ขนบธรรมเนียมและประเพณไี ทย. กรงุ เทพฯ : บริษทั อักษราพพิ ัฒน์ จากดั , 2544. 2) สมชัย ใจดี และยรรยง ศรีวิริยาภรณ.์ ประเพณีและวฒั นธรรมไทย. กรุงเทพฯ : บริษทั สานักพิมพ์ ไทยวัฒนาพานิช จากัด, 2528. 3. เอกสารประกอบการสอนเรือ่ ง วัฒนธรรมไทย 4. ตวั อย่างส่ือประกอบการสอน 5. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ความสาคัญของวฒั นธรรมไทย 6. ใบงานที่ 1.2 เรื่อง ลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย 7. ใบงานท่ี 1.3 เรื่อง วฒั นธรรมทอ้ งถ่ินภาคเหนือ 8. ใบงานท่ี 1.4 เรอ่ื ง วฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ภาคกลาง 9. ใบงานที่ 1.5 เร่อื ง วฒั นธรรมท้องถิน่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 10. ใบงานท่ี 1.6 เร่ือง วฒั นธรรมท้องถ่นิ ภาคใต้ 11. ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง วิเคราะห์วัฒนธรรม 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ห้องสมดุ 2. สานักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ 3. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ www.prapayneethai.com/th/culture/ th.wikipedia.org/wiki/หมวดหม่:ู วฒั นธรรมไทย guru.sanook.com/encyclopedia/สงั คมและวฒั นธรรมไทย/ 54

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน ประจาหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องทสี่ ดุ เพียงขอ้ เดียว 1. “คนไทยที่อยรู่ มิ น้าจะสร้างบา้ นใต้ถุนสงู ชาวไทยจะรู้จักนาสมุนไพรมาใช้เป็นอาหาร และยารักษา โรค นอกจากน้ันยังมีการสรา้ งสรรค์ศิลปะการวาดภาพลายไทย” ขอ้ ความดงั กลา่ วแสดงถงึ ประโยชน์ ของวฒั นธรรมในข้อใด ก. ตอบสนองความต้องการทางด้านรา่ งกายและจิตใจ ข.เป็นเปา้ หมายหรือวตั ถุประสงคใ์ นการดารงชวี ติ ค.การกาหนดส่ิงท่ีดีงามและเหมาะสมกบั ชีวติ ง. การปรบั ตนให้เข้ากับสภาพแวดล้อม 2. การแสดงออกของคนในสังคมตะวันตกจะมคี วามแตกต่างจากสงั คมไทย ข้อความนแ้ี สดงถงึ ประโยชนข์ อง วฒั นธรรมในข้อใด ก. เป็นส่งิ หลอ่ หลอมบุคลิกภาพ ข.ความประพฤติของคนในสงั คม ค.ความแตกต่างทางสภาพความเปน็ อยู่ ง. เปน็ ตัวกาหนดความสมั พันธ์หรือพฤตกิ รรมของมนษุ ย์ 3. “เกริกเกียรติเปน็ คนท่ีอยู่ทางภาคเหนอื เขาจึงเป็นคนที่มคี วามสภุ าพ พูดจาน่มุ นวล หน้าตายิ้มแยม้ เปน็ ไมตรีกับคนทั่วไป” ข้อความน้แี สดงถงึ ความสาคญั ของวฒั นธรรมอย่างไร ก. มีผลต่อคณุ ภาพชีวติ ของคนภาคเหนือ ข.อุดมการณ์ ค่านิยม และทศั นคติของบุคคล ค.ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสถานภาพของคนในสังคม ง. หล่อหลอมบุคลิกภาพให้สมาชิกของสังคมให้มีลักษณะแบบเดยี วกนั 4. “ประชาชนในจังหวดั ยโสธรจะรว่ มมือกันจัดประเพณบี ญุ บ้ังไฟเปน็ ประจาทุกปี” ขอ้ ความน้ีแสดงถึง ความสาคญั ของวฒั นธรรมอย่างไร ก. มจี ดุ หมายปลายทาง ข.สงั คมมคี วามเป็นระเบียบ ค.ก่อให้เกิดความเปน็ อันหนึ่งอันเดียวกนั ง. การเรียนรรู้ ะเบียบทางสงั คมและวฒั นธรรมไทย 55

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 5. เริงชัยเปน็ ผทู้ ีม่ ีมารยาทในการพบผใู้ หญ่ มมี ารยาทในการเข้าสงั คม เขาปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมในข้อใด ก. คตธิ รรม ข.วัตถธุ รรม ค.เนตธิ รรม ง. สหธรรม 6. ชาวไทยไดร้ บั วฒั นธรรมมาจากชาตใิ ด ก. จนี ลาว ข.พม่า จีน ค.จนี อินเดยี ง. เขมร ลาว 7. ข้อความเก่ียวกบั พ้นื ฐานของวัฒนธรรมไทยข้อใดไม่ถูกต้อง ก. ภาษาขอม มอญ ละว้าเป็นพ้ืนฐานของวัฒนธรรมทางด้านภาษาของไทย ข.สภาพแวดลอ้ มทางภูมิศาสตร์กอ่ ใหเ้ กดิ ประเพณีและวัฒนธรรม ค.พระพุทธศาสนาเปน็ บ่อเกดิ ของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ง. วนั สาคัญและเทศกาลสาคัญถือว่าเป็นวฒั นธรรมหลักของชาติ 8. คนไทยส่วนใหญจ่ ะมีวถิ ีชีวิตและบคุ ลกิ ภาพท่ีออ่ นน้อม และให้ความเคารพผู้ใหญ่ บคุ ลกิ ภาพดงั กลา่ วนน้ั ไดม้ าอย่างไร ก. การสอ่ื สารระหว่างกนั ข.สภาพแวดลอ้ มทางสังคม ค.เชอ้ื ชาตแิ ละสภาพแวดล้อม ง. การขัดเกลาทางสังคมและวฒั นธรรม 9. วนั นักขัตฤกษแ์ ละประเพณีในข้อใด ท่ีแสดงถึงความรัก ความเคารพ และความผูกพันของคนในชาติ ก. วนั วสิ าขบูชา วันเด็ก วันเขา้ พรรษา ข.วนั สงกรานต์ วันลอยกระทง วันครู ค.วันข้นึ ปใี หม่ วันปยิ มหาราช ง. วันจักรี วันเดก็ วันธรรมะสวนะ 10. งานทาบุญตานกว๋ ยสลากหรอื งานบญุ สลากภัต มคี ตสิ อนใจสาคญั ในเรอ่ื งใด ก. ความรกั ใคร่ สามัคคีกัน ข.ความเสียสละ ค.ความรับผิดชอบ ง. ความเมตตา 11. งานประเพณีการสบื ชะตาหรือการต่ออายุ มผี ลดใี นเรือ่ งใด ก. การต่ออายุคน ข.การทาบญุ อันย่งิ ใหญ่ ค.การใหก้ าลงั ใจ และการรวมญาตพิ ี่น้อง ง. การสรา้ งความเชื่อมนั่ ให้แก่ผู้ที่ชะตาขาด 12. ข้อใดจดั เปน็ วฒั นธรรมท้องถิ่นภาคกลาง ข.การทาขวญั ข้าว ก. งานบญุ คนู หลาน ง. ประเพณลี ากพระ ค.งานแห่ผีตาโขน 56

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 13. ประเพณใี นข้อใดแสดงถงึ ความกตัญํูกตเวทีต่อบรรพบรุ ุษ ก. ประเพณีเล้ยี งข้าวแลงขนั โตก ของภาคเหนือ ข.ประเพณแี หผ่ ตี าโขน อาเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ค.ประเพณสี ารทเดือนสบิ ของจังหวัดนครศรธี รรมราช ง. ประเพณรี บั โยนบัว อาเภอบางพลี จงั หวัดสมุทรปราการ 14. การปฏริ ูปประเทศไทยตั้งแตส่ มัยรชั กาลใดท่ีก่อให้เกิดการเปลยี่ นแปลงวัฒนธรรมและชวี ิตความเปน็ อยู่ ของคนไทยในด้านตา่ ง ๆ ก. สมัยรัชกาลที่ 1 ข.สมัยรัชกาลท่ี 2 ค.สมัยรชั กาลท่ี 3 ง. สมัยรัชกาลท่ี 4 15. การพฒั นาเศรษฐกจิ ทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปอยา่ งรวดเรว็ กว่าการเปลี่ยนแปลงทางวฒั นธรรมจะเกดิ ป๎ญหาใด ตามมา ก. ปญ๎ หาสังคม ข.ป๎ญหาเศรษฐกิจ ค.ปญ๎ หาวฒั นธรรม ง. ปญ๎ หาสง่ิ แวดลอ้ ม 16. วฒั นธรรมสากล มลี กั ษณะในขอ้ ใด ก. วัฒนธรรมทางทวปี ยโุ รป และทวีปอเมรกิ า ข.วัฒนธรรมทม่ี คี วามเจริญก้าวหน้ากวา่ วฒั นธรรมอนื่ ค.วฒั นธรรมทมี่ คี วามผสมผสานระหวา่ งหลายวัฒนธรรม ง. วฒั นธรรมทกุ สงั คมมีความคล้ายคลงึ กันและมีวัฒนธรรมพน้ื ฐานทเ่ี หมอื นกัน 17. ข้อใดจดั ว่าเป็นความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมสากลกับวฒั นธรรมไทย ก. วฒั นธรรมสากลมคี วามหลากหลาย วฒั นธรรมไทยเนน้ การผสมผสาน ข.วัฒนธรรมสากลเนน้ การอนุรักษ์วฒั นธรรมเดิม วฒั นธรรมไทยเนน้ การเปลย่ี นแปลง ค.วฒั นธรรมสากลมีความเจรญิ ทางดา้ นจิตใจ วฒั นธรรมไทยเนน้ ความเจริญทางดา้ นวตั ถุ ง. วัฒนธรรมสากลเนน้ ปรชั ญาวา่ มนษุ ยเ์ ป็นนายธรรมชาติ วฒั นธรรมไทยเนน้ ปรชั ญาว่า มนษุ ย์ควรอยู่ แบบผสมกลมกลืนกบั ธรรมชาติ 18. แนวทางการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมมีหลายประการยกเวน้ ในข้อใด ก. ร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ กบั องค์กรระหว่างประเทศ ข.คน้ ควา้ รวบรวมวัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมท้องถน่ิ ค.การบรกิ ารความรู้ทางด้านวชิ าการและกจิ กรรมทางวฒั นธรรม ง. มกี ารแลกเปลยี่ นศิลปวฒั นธรรมทง้ั ภายในประเทศและระหว่างประเทศ 57

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 19. การเลอื กรับวัฒนธรรมสากลน้นั ควรพจิ ารณาจากป๎จจยั ในขอ้ ใด ก. รบั วัฒนธรรมจากประเทศทเี่ จริญแล้ว ข.สามารถผสมผสานกบั วัฒนธรรมไทยได้ ค.การตอบสนองความตอ้ งการของชาวไทย ง. วฒั นธรรมสากลตอ้ งมผี ลประโยชนท์ างเศรษฐกิจ 20. ขอ้ ใดจัดว่าเปน็ เหตุผลของการปรับปรุงเปล่ียนแปลงวัฒนธรรมไทย ก. สงั คมมีการเปล่ยี นแปลงไป ข.วฒั นธรรมไทยเปน็ สง่ิ ทีม่ ีมาช้านานแลว้ ค.การปรบั ปรงุ ใหเ้ ข้ากับการเมืองการปกครอง ง. ใหส้ อดคล้องกบั แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ เฉลย 1. ก 2. ง 3. ง 4. ค 5. ง 6. ค 7. ก 8. ง 9. ข 10. ก 11. ค 12. ข 13. ค 14. ง 15. ก 16. ง 17. ง 18. ก 19. ข 20. ก 58

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 หนา้ ที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชวี ติ ในสังคม หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 วฒั นธรรมไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เรื่อง รกั วฒั นธรรมไทย เวลา 3 ชัว่ โมง  สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ประเทศไทย มวี ัฒนธรรมซ่ึงใชเ้ ป็นแนวทางและวิถีปฏิบตั ติ ่อกนั ในสังคมไทย สง่ ผลต่อบุคลิกลกั ษณะของ คนไทยและความเปน็ เอกลักษณข์ องชาตไิ ทย  ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1ตวั ชวี้ ัด ส 2.1 ม.4-6/5 วเิ คราะหค์ วามจาเป็นที่จะตอ้ งมีการปรบั ปรุงเปล่ยี นแปลงและอนรุ ักษ์ วฒั นธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมสากล 2.2จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมาย ความสาคัญของวฒั นธรรมได้ 2. อธบิ ายลกั ษณะและความสาคัญของวฒั นธรรมไทยได้  สาระการเรยี นรู้ 3.1สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1. ความหมาย และความสาคัญของวฒั นธรรม 2. ลักษณะและความสาคัญของวัฒนธรรมไทยทสี่ าคัญ 3.2สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน -  สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1ความสามารถในการสื่อสาร 4.2ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 4.3ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต - กระบวนการปฏบิ ัติ - กระบวนการทางานกลุ่ม  คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 59

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน  กิจกรรมการเรียนรู้ (วิธสี อนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมือ : เทคนิคค่คู ิดสส่ี หาย, เทคนิคการตอ่ เรื่องราว (Jigsaw))  นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง วฒั นธรรมไทย ชั่วโมงที่ 1 1. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละคนยกตวั อยา่ งวฒั นธรรมไทยทีช่ อบ พรอ้ มบอกเหตผุ ล ซ่ึงนกั เรียนอาจจะ ยกตวั อยา่ งหลากหลาย เช่น - ประเพณีลอยกระทง - การแต่งกายชุดไทย - การแห่เทยี นพรรษา - อาหารไทย - ราไทย - ดนตรไี ทย - ภาษาไทย 2. ครอู ธบิ ายเชอื่ มโยงให้นักเรียนเหน็ ความสาคัญของวฒั นธรรมไทย 3. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเกง่ ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน (ครแู บ่งกลุ่มนักเรียนไวล้ ว่ งหน้า) นักเรียนแตล่ ะกล่มุ จับคู่กนั เป็น 2 คู่ ให้แต่ละคชู่ ่วยกันศึกษาความรเู้ ร่ือง ความสาคญั ของวฒั นธรรมไทย ลักษณะของวัฒนธรรมไทย จากหนังสือเรยี น และให้แตล่ ะคชู่ ่วยกันทาใบงาน ดังน้ี - ค่ทู ่ี 1 ทาใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ความสาคัญของวฒั นธรรมไทย - คู่ที่ 2 ทาใบงานท่ี 1.2 เร่ือง ลักษณะของวฒั นธรรมไทย 4. นกั เรียนแต่ละคู่ตรวจสอบความถกู ต้องสมบูรณ์ของใบงานทต่ี นรับผิดชอบ แล้วแต่ละคผู่ ลดั กนั อธิบาย ถ่ายทอดความรู้จากการทาใบงานให้เพ่ือนอีกคหู่ น่ึงฟ๎ง สมาชิกทกุ คนในกลมุ่ ผลัดกนั ซักถามและ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของใบงาน 5. ครใู หต้ ัวแทนกลุ่มนาเสนอผลงาน ประมาณ 2-3 กลมุ่ และใหก้ ลมุ่ อ่ืนที่มผี ลงานแตกต่างกัน ออกไปนาเสนอเพ่ิมเติม 6. ครแู ละนักเรียนช่วยกนั สรปุ ความรเู้ กยี่ วกับ ความหมาย ความสาคัญ ประเภทของวัฒนธรรม และ ลกั ษณะของวัฒนธรรมไทย ชั่วโมงที่ 2-3 1. ครทู บทวนความรูเ้ ดิมของนักเรียนด้วยการตั้งคาถามใหน้ ักเรียนตอบ ดงั นี้ 1) วัฒนธรรมมคี วามหมายวา่ อย่างไร 2) วัฒนธรรมมคี วามสาคญั อยา่ งไร 60

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 3) วฒั นธรรมมกี ปี่ ระเภท อะไรบ้าง 4) วัฒนธรรมไทยมลี กั ษณะสาคัญอย่างไร 2. นกั เรียนกลุ่มเดิมเรียกว่า กลมุ่ บ้าน (Home Groups) และให้สมาชิกในกลุม่ เลือกหมายเลข ประจาตวั ต้งั แต่หมายเลข 1-4 ตามลาดบั แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มแยกย้ายกนั ไปหาสมาชิกทม่ี ีหมายเลข เดยี วกนั เรียกว่า กลมุ่ ผเู้ ชยี่ วชาญ (Expert Groups) 3. สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแต่ละหมายเลขร่วมกนั ศึกษาความรู้เรือ่ ง วัฒนธรรมในภูมิภาคตา่ งๆ ของไทย จากหนังสือเรยี นและแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ และทาใบงาน ดังน้ี - หมายเลข 1 ทาใบงานท่ี 1.3 เร่ือง วัฒนธรรมทอ้ งถิ่นภาคเหนือ - หมายเลข 2 ทาใบงานท่ี 1.4 เรือ่ ง วัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ ภาคกลาง - หมายเลข 3 ทาใบงานที่ 1.5 เร่อื ง วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื - หมายเลข 4 ทาใบงานท่ี 1.6 เรื่อง วัฒนธรรมท้องถิน่ ภาคใต้ 4. สมาชิกกล่มุ ผ้เู ช่ยี วชาญชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของใบงานท่ีกลุ่มรบั ผิดชอบ และทาความ เขา้ ใจจนกระจ่างชดั เจนแลว้ แยกยา้ ยกนั กลบั ไปกล่มุ เดิม ซ่งึ เรียกว่า กลมุ่ บ้าน (Home Groups) 5. สมาชกิ กลมุ่ บ้านแต่ละหมายเลขผลดั กันเล่าความรูจ้ ากใบงานทต่ี นศกึ ษามาใหแ้ ก่สมาชิกหมายเลขอ่ืน ฟ๎ง และผลัดกนั ซกั ถามจนมีความเขา้ ใจชัดเจนดีทุกคน 6. ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี นบางคนในกลุ่มออกมาเฉลยคาตอบของใบงาน ทกุ ใบงานตามความเหมาะสม จากนน้ั ชว่ ยกันสรุปความรู้เกย่ี วกับ ลักษณะสาคญั ของวฒั นธรรมไทยในแตล่ ะภมู ิภาค  การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ แบบทดสอบกอ่ นเรียน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ วธิ กี าร หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรอื่ ง ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น วัฒนธรรมไทย รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วัฒนธรรมไทย ใบงานท่ี 1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.2 ใบงานที่ 1.4 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.3 ใบงานท่ี 1.5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.4 ใบงานท่ี 1.6 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.5 แบบประเมินการนาเสนอผลงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.6 แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ประเมินการนาเสนอผลงานกลมุ่ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่  สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1สือ่ การเรียนรู้ 61

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 1. หนงั สอื เรยี น หน้าท่ีพลเมอื งฯ ม.4-ม.6 2. หนังสือคน้ ควา้ เพมิ่ เติม 1) ชุลีพร สุสวุ รรณ และสุชิราภรณ์ บรสิ ุทธ.์ิ ความรู้รอบตัว : ขนบธรรมเนยี มและประเพณีไทย. กรงุ เทพฯ : บริษัท อักษราพพิ ัฒน์ จากดั , 2544. 2) สมชัย ใจดี และยรรยง ศรีวิริยาภรณ.์ ประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท สานกั พิมพ์ ไทยวฒั นาพานชิ จากัด, 2528. 3. เอกสารประกอบการสอนเรอื่ ง วฒั นธรรมไทย 4. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความสาคัญของวัฒนธรรมไทย 5. ใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง ลักษณะของวฒั นธรรมไทย 6. ใบงานที่ 1.3 เรื่อง วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคเหนอื 7. ใบงานที่ 1.4 เรอ่ื ง วัฒนธรรมท้องถ่นิ ภาคกลาง 8. ใบงานที่ 1.5 เรอ่ื ง วฒั นธรรมทอ้ งถ่ินภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 9. ใบงานที่ 1.6 เรื่อง วฒั นธรรมทอ้ งถ่ินภาคใต้ 8.2แหลง่ การเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. สานกั หอจดหมายเหตุแห่งชาติ 3. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ www.prapayneethai.com/th/culture/ th.wikipedia.org/wiki/หมวดหม:ู่ วัฒนธรรมไทย guru.sanook.com/encyclopedia/สังคมและวฒั นธรรมไทย/ 62

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช เอกสารประกอบการสอน เรื่อง วฒั นธรรมไทย ความหมายของวฒั นธรรม คาว่า วฒั นธรรม เป็ นภาษาบาลีและสันสกฤต “วฒั น” เป็ นภาษาบาลี แปลว่า “เจริญ งอกงาม” ส่วนคาวา่ “ธรรม” เป็นภาษาสนั สกฤต หมายถึง “ความดี” ซ่ึงถา้ แปลตามรากศพั ทก์ ็คือ “สภาพอนั เป็นความเจริญงอกงามหรือลกั ษณะที่แสดงถึงความเจริญงอกงาม” วฒั นธรรมเป็ นวิถีชีวิตหรือการดาเนินชีวิตของกลุ่มใดกลุ่มหน่ึง ซ่ึงหมายรวมถึง ความคิด ศิลปะ วรรณคดี ดนตรี ปรัชญา ศีลธรรม จรรยา ภา ษา กฎหมาย ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณีและส่ิงต่างๆ ท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน ซ่ึงไดถ้ ่ายทอดให้กบั คนรุ่นต่อๆ มา เป็ น เร่ืองของการเรียนรู้จากคนกลุ่มหน่ึงไปยงั คนอีกกลุ่มหน่ึง ซ่ึงถา้ ส่ิงใดดีก็เก็บไว้ สิ่งใดควรแกก้ ็ แกไ้ ขกนั ใหด้ ีข้ึน เพื่อจะไดส้ ่งเสริมใหม้ ีลกั ษณะท่ีดีประจาชาติต่อไป ในลกั ษณะน้ี วฒั นธรรมจึง เป็นการแสดงออกซ่ึงความเจริญงอกงาม ความเป็ นระเบียบเรียบร้อย และศีลธรรมอนั ดีงามของ ประชาชน สรุปแลว้ วฒั นธรรม หมายถึงการดาเนินชีวิตของคนกลุ่มใดกลุ่มหน่ึงท่ีแสดงออกถึง ความเจริญงอกงาม ความเป็ นระเบียบเรียบร้อย ความกลมเกลียว ความกา้ วหน้า และศีลธรรม ของประชาชน ความเป็ นมาของวฒั นธรรมไทย ชาติไทยเป็ นชาติท่ีมีวฒั นธรรมอนั ดีงามมาแต่โบราณ วฒั นธรรมไทยท่ีเรามีและปฏิบตั ิ กนั อยสู่ ่วนหน่ึงเป็นเรื่องของคนรุ่นก่อนๆ หรือบรรพบุรุษของเราไดถ้ ่ายทอดมายงั อนุชนรุ่นหลงั ทาให้เรามีความประพฤติและการปฏิบัติอยา่ งท่ีเราเป็ นอยู่ อีกส่วนหน่ึงจากการท่ีเราไดม้ ีการ ติดตอ่ กบั คนชาติอื่นๆ เพ่ือเชื่อมสัมพนั ธไมตรี หรือเพ่ือคา้ ขาย หรือดว้ ยเหตุใดก็ตาม วฒั นธรรม ของชาติที่เราเกี่ยวขอ้ งดว้ ย มีผลตอ่ วฒั นธรรมไทยไม่นอ้ ย และชนชาติท่ีมีอิทธิพลต่อวฒั นธรรม ไทย คือ มอญ ขอม อินเดีย จีน และชาติตะวนั ตก หากมองยอ้ นสู่อดีต เราไดต้ ิดต่อสมาคมกบั ชาวพ้ืนเมือง คือ มอญ และขอม มอญและ ขอมรับอิทธิพลจากอินเดียเช่นกัน โดยคนไทยเห็นว่าสิ่งใดดีมีประโยชน์ก็นามาดัดแปลง กลายเป็นวฒั นธรรมไทย 63

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช โดยเฉพาะอิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย ปรากฏได้ในด้านศาสนา การปกครอง ขนบธรรมเนียมประเพณี วรรณคดี ศิลปกรรมอยา่ งกวา้ งขวาง แตใ่ นระยะหลงั อิทธิพลของอารย- ธรรมตะวนั ตกและจีนมีมากข้ึน ศาสนา เรารับศาสนาพุทธมาจากอินเดีย ซ่ึงอิทธิพลของศาสนาพุทธมีต่อคนไทยอย่าง มาก ท้งั ในดา้ นการปกครอง และในดา้ นกิริยามารยาทและความเป็ นอย่จู นกลายเป็ นธรรมเนียม ไทยไป ส่วนคติความเช่ือในการประกอบพิธีกรรมตา่ งๆ ของพราหมณ์ ไทยนามาปฏิบตั ิไม่นอ้ ย เช่น การโกนจุก การหม้นั ฯลฯ การปกครอง สมยั สุโขทยั เรามีการปกครองแบบของตนเอง คือ แบบพ่อปกครองลูก แต่ ปลายสมยั สุโขทยั และสมยั อยุธยา มีอิทธิพลของขอมเขา้ มาแทรกแซง ทาใหร้ ูปการปกครองได้ เปลี่ยนจากแบบพ่อปกครองลูกมาเป็ นขา้ กบั เจา้ หรือบ่าวกบั นาย ซ่ึงขอมก็รับการปกครองจาก อินเดียอีกทอดหน่ึง โดยถือวา่ กษตั ริยเ์ ป็ นสมมติเทพ ภายหลงั เรารับอารยธรรมของตะวนั ตก จึง เปลี่ยนการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตยมีพระมหากษตั ริยเ์ ป็นประมุข ศิลปกรรม สมยั สุโขทยั มีศิลปกรรมเป็ นของตนเอง งดงาม และค่อนขา้ งเป็ นแบบไทย แท้ แตเ่ ม่ือไทยไดร้ ับพระพุทธศาสนาลทั ธิหินยานนิกายลงั กาวงศ์ ศิลปกรรมของลงั กาจึงเขา้ มามี อิทธิพลในศิลปะของสุโขทัย โดยเฉพาะ “เจดีย์” ส่วนคติการสร้าง “วดั ” หรือการสร้าง พระพุทธรูปเรารับมาจากอินเดีย พอถึงสมยั อยธุ ยาอิทธิพลของขอมมีมากในรูปการสร้าง “พระปรางค”์ วรรณกรรม วรรณกรรมของอินเดียมักเก่ียวกับศาสนาหรื อยกย่องเทิดทูน พระมหากษตั ริย์ ซ่ึงคติความเช่ือในเรื่องน้ีมีอิทธิพลต่อวรรณกรรมหรือพ้ืนฐานความเช่ือของ ไทย เช่น การมีใจเมตตาเอ้ือเฟ้ื อให้ทาน ความจงรักภกั ดีต่อกษตั ริย์ การเช่ือฟังผปู้ กครอง ความ กตญั ํูกตเวทีต่อผมู้ ีพระคุณ การใหอ้ ภยั ตอ่ กนั เป็นตน้ ภาษา สมยั สุโขทยั พ่อขุนรามคาแหงประดิษฐ์อกั ษรไทยข้ึน โดยไดร้ ับอิทธิพลจาก ตวั อกั ษรขอม นอกเหนือจากภาษาขอมแลว้ เรายงั นิยมใชภ้ าษาบาลีและสันสกฤต ซ่ึงเป็ นผลจาก การเผยแผศ่ าสนาพุทธ และศาสนาพราหมณ์ เม่ือเรารับศาสนาเขา เราก็รับภาษาของเขามาใชใ้ น ภาษาไทยดว้ ย สมยั อยุธยาเรารับการปกครองแบบสมมติเทพจากขอม เราจึงรับภาษาขอมมาใช้ มากข้ึน โดยเฉพาะคาราชาศพั ท์ ส่วนชาวจีนเราตอ้ งอาศยั ในการเดินเรือค้าขายและรับเอา ภาษาจีนมาใชใ้ นการเรียกตาแหน่งต่างๆ เช่น จุน้ จู๊ นายสาเภา ไตก้ ๋ง เป็ นตน้ ปัจจุบนั เรายอมรับ ภาษาชาติอ่ืนๆ มาใชบ้ า้ ง เพ่ือความเขา้ ใจต่อกนั และเพ่ือความรู้ เช่น ภาษาองั กฤษ (สไตรค์ หรือ ศพั ทท์ างการแพทยบ์ างอยา่ ง เช่น วคั ซีน ฯลฯ) เป็นตน้ 64

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช หัตถกรรม สมยั พ่อขุนรามคาแหง มีช่างมาสอนทาเครื่องป้ันดินเผา สมยั อยุธยา บาง ท่านกล่าวว่า เราคงไดค้ วามคิดในการประดิษฐ์ลายประดบั มุกจากจีน แต่ปัจจุบนั เรานิยมทา เคร่ืองถว้ ยชามดว้ ยเครื่องจกั รแบบตะวนั ตกไม่นอ้ ย ขนบธรรมเนียมประเพณี ไทยในสมยั อยธุ ยาไดค้ ติความเช่ือจากขอมที่ถือวา่ กษตั ริยเ์ ป็ น สมมติเทพ ทาใหม้ ีการใชร้ าชาศพั ทแ์ ละพธิ ีการตา่ งๆ ในราชสานกั นอกจากน้นั ประเพณีไม่นอ้ ย ไดม้ าจากอินเดีย เช่น การแต่งงาน เผาศพ ปลูกบา้ น การต้งั ศาลพระภูมิ แต่อารยธรรมตะวนั ตกก็ ไดเ้ ขา้ มาผสมผสานในหลายเร่ือง เช่น การแต่งงานแบบไทยแต่เล้ียงแบบฝรั่ง หรือการจบั มือกนั แทนการไหวใ้ นบางโอกาส ระยะหลงั สังคมไทยมีการติดต่อกบั ประเทศที่เจริญกว่ามากข้ึน โดยเฉพาะประเทศ ตะวนั ตก และย่งิ เราติดต่อมากข้ึนเท่าไรเราก็ยิ่งรับอารยธรรมจากเขามากข้ึนเท่าน้นั ไม่ว่าจะใน ดา้ นความเช่ือลทั ธิ อุดมการณ์ การปกครอง การศึกษา สังคม เป็ นตน้ วิถีชีวิตที่เคยเป็ นอยู่จึง เปลี่ยนไปจากเดิมในหลายดา้ น เช่น ในดา้ นการปกครอง ดา้ นความเป็ นอยู่ (ชายหญิงก็เท่าเทียม กนั มากกวา่ แต่ก่อน หญิงสามารถทางานเคียงบ่าเคียงไหล่กบั ชายได)้ ดา้ นการแต่งกาย ดา้ นการ ปลูกสร้าง (มีการใชว้ สั ดุใหมๆ่ เช่น อะลูมิเนียม ซีเมนต์ เป็นตน้ ) สรุปแลว้ วฒั นธรรมไทยในอดีตและปัจจุบนั มีอิทธิพลของอารยธรรมต่างชาติไม่มากก็ นอ้ ย โดยเราไดเ้ ลือกสรรสิ่งท่ีเป็ นประโยชน์ และเขา้ กบั สภาพความเป็ นอยขู่ องคนไทย เป็ นการ ผสมผสานกบั วฒั นธรรมของเราเองท่ีมีมาแต่ด้งั เดิม คือ เรายอมรับเอาวฒั นธรรมท่ีดีของชาติอ่ืน ท่ีเราติดต่อดว้ ยมาเป็นของเราบา้ ง ดดั แปลงบา้ ง ใหเ้ ขา้ กบั ความเช่ือแบบไทยๆ จนเป็ นวฒั นธรรม ที่มีลกั ษณะแบบของเราเองท่ีแตกต่างกบั ชาติอ่ืนๆ โดยในแต่ละยุคแต่ละสมยั ได้พยายาม ส่งเสริมและรักษาวฒั นธรรมที่ดีงามเหล่าน้ีตลอดมา ปัจจัยทเ่ี กอื้ หนุนและบ่ันทอนวฒั นธรรม วฒั นธรรมมีท้งั เจริญและเสื่อมสูญไปได้ ซ่ึงข้ึนอยู่กบั สภาพของสังคม ความเช่ือและ ปัจจยั ส่ิงแวดลอ้ มอื่นๆ ก. ปัจจัยท่ีเกือ้ หนนุ วฒั นธรรม ในท่ีน้ีจะขอยกเพียงบางปัจจยั ท่ีสาคญั ดงั ตอ่ ไปน้ี คือ 1. สอดคล้องหรือเขา้ กบั ความประพฤติท่ีมีอยู่เดิม เช่น ศาสนาพุทธแพร่หลายในไทย มากกวา่ ศาสนาพราหมณ์ ซ่ึงอาจเป็ นไดว้ า่ เพราะเราไม่นิยมการแบ่งคนออกเป็ นชนช้นั ตา่ งๆ เหมือนระบบวรรณะในศาสนาพราหมณ์ 65

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 2. อิทธิพลของศาสนา คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ดังน้ัน พระพุทธศาสนามี อิทธิพลต่อชีวิตของคนไทยมาก เช่น ความกตญั ํูกตเวที การมีสัมมาคารวะ ความ สุภาพเรียบร้อย ความโอบออ้ มอารีมีใจเมตตา ฯลฯ ซ่ึงเป็ นวฒั นธรรมของไทยเรามาแต่ โบราณจนถึงปัจจุบนั 3. การเห็นคุณประโยชน์ หากประชาชนส่วนใหญ่เห็นวา่ ทาแลว้ ไดป้ ระโยชน์ ประชาชน จะรักษาและปฏิบตั ิตามวฒั นธรรมน้นั ๆ เช่น ในเทศกาลตรุษสงกรานตเ์ ราก็สรงน้าพระ รดน้าและขอพรจากผูใ้ หญ่ ทาความสะอาดบา้ นเรือน หรือการแรกนาขวญั เป็ นพิธีที่ บอกวา่ ถึงฤดูทานาแลว้ และขา้ วจากพิธีจะช่วยใหก้ ารปลูกขา้ วไดผ้ ลข้ึน ซ่ึงเป็ นกาลงั ใจ แก่ชาวนา หรือการยอมรับเทคโนโลยใี หม่ๆ เพอ่ื ความเป็นอยทู่ ี่สุขสบายข้ึน เป็นตน้ 4. กลุ่มผลประโยชน์ เป็ นกลุ่มท่ีต้องการรักษาวฒั นธรรมของตน เช่น กลุ่มอนุรักษ์ วฒั นธรรม กลุ่มดนตรีไทย ฯลฯ บุคคลเหล่าน้ีเห็นวา่ วฒั นธรรมไทยเป็ นของดีอยแู่ ลว้ พยายามส่งเสริมและคดั คา้ นการเปล่ียนแปลงใดๆ ท่ีทาลายวฒั นธรรมที่ตนเห็นวา่ ดี และ สนบั สนุนส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่ทาใหว้ ฒั นธรรมท่ีตนส่งเสริมน้นั ดีข้ึน 5. ตวั แทนของวฒั นธรรม ตวั แทนใดก็ตามท่ีมีอิทธิพลหรือมีอานาจจะเป็ นเคร่ืองช่วย ส่งเสริมวฒั นธรรมได้มากยิ่งข้ึน เช่น ในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจา้ อยหู่ วั เจา้ นายและขา้ ราชการช้นั ผูใ้ หญ่ ไดแ้ ต่งกายแบบยโุ รป ทาให้ประชาชนนิยม เลียนแบบแตง่ กายตามแบบยโุ รปดว้ ยไมน่ อ้ ย หรือในรัชกาลน้ีไดม้ ีการเปลี่ยนแปลงการ ปกครองใหท้ นั สมยั ข้ึน เป็นตน้ 6. สภาพทางเศรษฐกิจ หากสภาวะเศรษฐกิจรุ่งเรือง ไม่ขาดแคลน คนจะมีจิตใจสบาย ความปกติสุขจะเกิดข้ึน คนจะอยอู่ ยา่ งสงบสุขหรือพยายามอยใู่ หด้ ีข้ึน โดยส่ิงใดดีมกั จะ รับไว้ วฒั นธรรมจึงดารงอยไู่ ดแ้ ละอาจจะมีวฒั นธรรมที่ใหม่และดีเพิม่ ข้ึน 7. สภาพทางการเมือง ประเทศใดภาวะทางการเมืองมนั่ คงประเทศน้นั จะมีแต่ความปกติ สุข สถาบนั ตา่ งๆ กส็ ามารถดารงอยไู่ ดอ้ ยา่ งมน่ั คง ข. ปัจจัยท่ีบัน่ ทอนวฒั นธรรม 1. ความรู้สึกหรืออารมณ์ เป็นความรู้สึกผกู พนั กบั ส่ิงเก่าๆ ตามความเคยชิน เช่น คนแก่มกั กลวั โรงพยาบาล ไม่อยากไปถ้าไม่จาเป็ นจริงๆ เพราะคิดว่าเป็ นสถานท่ีท่ีจะไปตาย หรือชาวเขาไมช่ อบอาบน้าบ่อยๆ เป็นตน้ 66

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 2. กลุ่มผลประโยชน์ เป็ นกลุ่มที่ต่อตา้ นวฒั นธรรมใดก็ตามที่ทาให้ตนเสียผลประโยชน์ เช่น คนเขา้ ทรงนิยมให้คนเชื่อเร่ืองไสยศาสตร์เพ่ือตนจะไดม้ ีรายได้ คนขายควายก็ไม่ ชอบใหม้ ีการทาควายเหล็กเพราะจะทาใหช้ าวนาซ้ือควายทานานอ้ ยลง ซ่ึงทาใหต้ นขาด รายได้ เป็นตน้ 3. ทศั นคติหรือเจตคติ แมจ้ ะเห็นว่าวฒั นธรรมน้นั ดี แต่ไม่เต็มใจรับเพราะเห็นว่ายุ่งยาก ลาบากหรือไม่คุน้ เคย เช่น ชาวชนบทไม่นอ้ ยนิยมเก็บเงินไวก้ บั บา้ นหรือซ้ือเป็ นทอง ไม่นิยมฝากไว้กับธนาคาร จึงทาให้ถูกปล้นสะดมได้ง่าย และทาให้เงินทองไม่ หมุนเวยี น เป็นตน้ 4. การไม่เห็นคุณประโยชน์ของวฒั นธรรม เพราะไม่เห็นผลทนั ตา วฒั นธรรมหลายๆ อย่างจึงตอ้ งใชเ้ วลา ทาให้ปฏิบตั ิวฒั นธรรมไม่ไดผ้ ลเท่าท่ีควร เช่น ชาวเขายินดีรับปื น ไปใชแ้ ตไ่ มน่ ิยมรับยาไปรักษา เพราะยาไม่เห็นผลทนั ตาเท่ากบั ปื น เป็นตน้ 5. ความเจริญกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี เช่น การแพทยเ์ จริญทาให้มีคนเพ่ิมมากข้ึน ในขณะ ท่ีทรัพยากรเพ่ิมไม่ทนั กับจานวนคน ทาให้คนต้องดิ้นรนเห็นแก่ตวั หรือคิดอาวุธ ประหตั ประหารกนั ฯลฯ เป็ นการทาลายลา้ งวฒั นธรรมที่ใหม้ ีเมตตาต่อกนั เอ้ือเฟ้ื อต่อกนั เป็ นตน้ 6. สภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสภาพความแร้นแคน้ ยากจนที่ก่อให้เกิดปัญหาเสื่อมโทรม ทางดา้ นศีลธรรม เช่น อาชญากรรม โสเภณี ยาเสพติด ฯลฯ เป็ นการทาลายวฒั นธรรม อนั ดีงามที่มีอยแู่ ต่เดิม 7. สภาพทางการเมือง หากประเทศแตกแยกไม่มนั่ คง มีการต่อสู้ทางลทั ธิต่างๆ ไม่วา่ จะ เป็ นการต่อสู้กนั เองหรือจากฝ่ ายตรงกนั ขา้ ม (คอมมิวนิสต)์ วฒั นธรรมก็จะถูกบน่ั ทอน เช่น เรารักเคารพพระมหากษตั ริยแ์ ต่คอมมิวนิสตอ์ าจจะมองไปในทางตรงกนั ขา้ ม เป็ นตน้ สรุปแล้ว ปใัจบจงยั าทน่ีเกท้ือ่ีห1น.1ุนหเรรือือ่บงน่ั ทคอวนาวมฒั สนาธครญัรมขข้ึอนงอวยู่กัฒบั นสธภราพรสมังไคทมยเศรษฐกิจแต่ละ ประเทศ วา่ มีควใาบมงมาน่ั นคงทแี่ล1ะ.เ1สื่อมเโรทื่อรงมเคพวยี งาไมรสาคญั ของวฒั นธรรมไทย ตอนที่ 1 ทม่ี า : สมชยั ใจดี และยรรยง ศรีวิริยาภรณ์. ประเพณีและวัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ : คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นบเรขิษยี ทันแสผานนผกั ังพคิมวาพม์ คไดิทยเรวอ่ืฒั งนคาวพาามนสิชาคจัญากขดั อ,ง2ว5ัฒ28นธรรม 67

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใช้ประโยชน์ ก่อให้เกดิ ความเป็ น ต่อการดารงชีวติ อันหน่ึงอันเดียวกนั ความสาคัญ ของวฒั นธรรม ทาหน้าทหี่ ล่อหลอม บุคลิกภาพ ตอนที่ 2 คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งประเภทของวฒั นธรรมในกรอบทว่ี า่ ง 68

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ประเภทของวฒั นธรรม การจัดประเภทตามลกั ษณะ การจัดประเภทตามเนือ้ หา ทม่ี องเห็นหรือสัมผสั ได้       ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง 69

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ความสาคญั ของวฒั นธรรมไทย ตอนท่ี 1 คาชแี้ จง ให้นกั เรียนเขยี นแผนผงั ความคิด เร่อื ง ความสาคัญของวัฒนธรรม เป็ นเป้ าหมาย กาหนดพฤติกรรม ในการดารงชีวิต ของมนษุ ย์ ใช้ประโยชน์ ควบคุมสังคม ร่ วมมือกันอนุรั กษ์ ต่อการดารงชีวิต วฒั นธรรม ตอบสนองความต้องการ ด้านร่ างกายและจิตใจ ความผูกพนั ความสาคญั ก่อให้เกดิ ความเป็ น ของวฒั นธรรม อันหนึ่งอันเดียวกัน ทาหน้าทห่ี ล่อหลอม บุคลกิ ภาพ ความเชื่อ กิริยาท่าทาง ความสนใจ การแต่งกาย การพ่ึงพา จิตสานึกเป็ น อาศัยกนั พวกเดียวกนั ทัศนคติ ความคิดสร้ างสรรค์ ความรู้ ตอนที่ 2 คาชี้แจง ให้นกั เรยี นยกตัวอย่างประเภทของวัฒนธรรมในกรอบที่วา่ ง ประเภทของวฒั นธรรม 70

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช การจัดประเภทตามลกั ษณะ การจัดประเภทตามเนือ้ หา ทมี่ องเห็นหรือสัมผสั ได้ วฒั นธรรม วฒั นธรรม คติธรรม วตั ถธุ รรม เนติธรรม สหธรรม ทางวตั ถุ ทางอวตั ถุ       ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง  ความเมตตา  บ้าน  กฎหมาย  มารยาทใน  หนังสือ  ค่านิยม  ความกรุณา  รถยนต์  กฎศีลธรรม  แว่นตา  มารยาท  ความกตญั ํู  โทรทัศน์  จารีต การพบ  รถยนต์  ปรัชญา  ความขยนั ผู้ใหญ่  โทรทัศน์  ความเชื่อ  ความอดทน  หนังสือ  เคร่ืองแต่ง  มารยาทใน กาย การเข้าสังคม  ถนน 71

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง ลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย คาชี้แจง ให้นกั เรียนวเิ คราะห์ภาพแลว้ เขียนบรรยายใตภ้ าพ ให้เหน็ ความสอดคล้องของภาพกับลกั ษณะ ของวัฒนธรรมไทย 72

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช 73

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานที่ 1.2 เรื่อง ลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหภ์ าพแลว้ เขียนบรรยายใตภ้ าพ ใหเ้ ห็นความสอดคล้องของภาพกบั ลักษณะ ของวฒั นธรรมไทย แนวความคิด ความเช่ือของคนไทย จะอยู่ ภาษาไทยเปน็ ส่ือกลางในการติดตอ่ สมั พันธ์ บนพื้นฐานของพระพุทธศาสนา กนั ขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทย สภาพทางภมู ิศาสตร์ ทาให้เกิดประเพณี สว่ นใหญจ่ ะเกยี่ วข้องกบั พระพทุ ธศาสนา วัฒนธรรม 74

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช พระมหากษัตรยิ ์เปน็ ศนู ย์รวมจติ ใจ มีการทาพธิ ีกรรมในวันสาคญั ของชาติ เป็นเคร่ืองยดึ เหนี่ยวจติ ใจของประชาชน การปรงุ อาหารมคี วามประณีตพิเศษ เป็น วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา เปน็ วันท่ี อยา่ งหน่ึงของวัฒนธรรมหลัก ชาวไทยมาร่วมพธิ ีกรรมอย่างพร้อมเพรยี ง การขดั เกลาทางสังคม ส่งผลต่อบุคลิกภาพ มีประเพณีท่ีแสดงถงึ ความรกั ความกตัญํู ในวันสาคญั ตา่ งๆ เช่น วันสงกรานต์ วนั ลอยกระทง (หมายเหตุ นักเรยี นอาจบรรยายภาพตามความคิดเหน็ ของนักเรียน ให้อยู่ในดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน) ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง วฒั นธรรมท้องถิน่ ภาคเหนือ 75

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช คาชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. วัฒนธรรมท้องถ่ินภาคเหนือที่สาคัญเกีย่ วกับอาหารคืออะไร มลี กั ษณะสาคัญอยา่ งไร จงอธบิ าย 2. วัฒนธรรมดา้ นศาสนาและลทั ธคิ วามเช่อื ของชาวไทยภาคเหนอื ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง มลี ักษณะสาคัญ อย่างไร จงอธบิ าย 76

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง วฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ภาคเหนอื คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1. วัฒนธรรมทอ้ งถิ่นภาคเหนือที่สาคัญเกย่ี วกับอาหารคืออะไร มลี ักษณะสาคัญอย่างไร จงอธิบาย ประเพณีเลีย้ งข้าวแลงขนั โตก หรือก๋นิ ข้าวแลงขันโตก มีการแหน่ าขบวนขันโตก มสี าวงามชา่ งฟ้อน มดี นตรีประกอบ เมื่อถึงงานเล้ียงจะนากระติบหลวงไปวางกลางงาน แลว้ นาข้าวน่งึ แบ่งใส่กระตบิ เล็กๆแจกไปตามโตกตา่ งๆ อาหารท่ีเล้ยี งทเ่ี ป็นกบั ข้าว คอื แกงฮงั เล แกงอ่อม แกงแค ไส้อ่ัว นา้ พริก อ่อง น้าพริกหนุ่ม แคบหมู ผักสด ของหวาน เช่น ขนมปาด ข้าวแตน๋ 2. วัฒนธรรมดา้ นศาสนาและลัทธคิ วามเชือ่ ของชาวไทยภาคเหนอื ได้แกอ่ ะไรบา้ ง มลี ักษณะสาคญั อย่างไร จงอธิบาย 1. งานทาบุญ ทอดผ้าปา่ แถว ในบริเวณรอบนอกของจงั หวัดกาแพงเพชร ซง่ึ ทาในคนื วัน ลอยกระทง ชาวบา้ นจะนาองค์ผา้ ป่าไปไวใ้ นลานวดั นาพาดบนกิง่ ไม้ เครื่องไทยธรรมก็จะนาวางใต้ ก่งิ ไม้ เจา้ ของผา้ ปา่ ไปจบั สลากรายช่ือพระภิกษุ พระภิกษจุ ะไปชักผา้ ปา่ แล้วน่ังรวมกนั ให้ศีล เจรญิ พระพทุ ธมนต์ให้พร 2. งานทาบญุ ตานก๋วยสลาก หรือการทาบญุ สลากภตั (ทานสลาก) ทาในวนั เพญ็ เดือน 12 แต่ ละครอบครัวจะเตรียมงานเรยี กวา่ “วนั ตา” ผหู้ ญิงไปซื้อของ ผูช้ ายจะเหลาตอกสานก๋วยไวห้ ลายๆ ใบ นามากรดุ ว้ ยใบตอง หรือกระดาษสี เพ่ือบรรจขุ องกินของใช้ แลว้ นาใบตองหรอื กระดาษปิดมัด กว๋ ยรวมกันเป็นมัดๆ สาหรบั เป็นทจ่ี ับ ส่วนตรงที่รวบไวน้ ี้ ชาวบา้ นจะเสียบไม้ไผ่และสอดเงินไว้ เป็นเสมอื นยอด 3. งานประเพณกี ารสืบชะตา หรือการตอ่ อายุ กระทาขน้ึ เพอ่ื ยืดชีวิตด้วยการทาพิธี เพอ่ื ให้ เกิดพลังรอดพน้ ความตายได้ แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเพณีการสืบชะตาคน ประเพณกี าร สืบชะตาบา้ น และสบื ชะตาเมือง การสบื ชะตาคนจะกระทาขน้ึ เมื่อเกิดการเจ็บปว่ ย หรือหมอดูทกั ว่าชะตาไมด่ ี การสืบชะตา บ้านและการสบื ชะตาเมือง เปน็ อบุ ายใหญ้ าตพิ ่ีน้องและผูเ้ ก่ยี วขอ้ งมารวมกัน เพ่ือให้กาลงั ใจและ ปรึกษาหารือในการแก้ป๎ญหาบา้ นเมือง (หมายเหตุ นักเรียนอาจตอบเปน็ อย่างอน่ื ตามความเหมาะสมได้ ให้อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 77

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานที่ 1.4 เรอื่ ง วฒั นธรรมท้องถิ่นภาคกลาง คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี 1. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ภาคกลางดา้ นศาสนา และลทั ธิความเช่ือท่ี สาคญั ไดแ้ 1ก.่อะไรบา้ ง จงยกตวั อยา่ ง 2. วฒั นธรรมเก่ียวกบั การดารงชีวติ ทาง การเกษตรของภาค กลางไดแ้ ก่อะไรบา้ ง จงยกตวั อยา่ ง 3. วฒั นธรรมดา้ นยาและ การรักษาพ้นื บา้ น ท่ีสาคญั คืออะไร จงยกตวั อยา่ ง 78

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานท่ี 1.4 เรอ่ื ง วฒั นธรรมท้องถ่นิ ภาคกลาง คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี 1. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น 1. ประเพณีรับบัวโยน ท่ีอาเภอบางพลี จังหวดั สมทุ รปราการ ภาคกลางดา้ นศาสนา เป็นประเพณีนิมนต์หลวงพ่อโตขึน้ เรือแล่นไปให้ชาวบ้าน และลทั ธิความเชื่อที่ นมสั การ ชาวบ้านจะคอยอย่รู ิมคลอง และเดด็ ดอกบวั สาคญั ไดแ้ 1ก.่อะไรบา้ ง ริมนา้ โยนเบาๆขึน้ ไปบนเรือของหลวงพ่อ จงยกตวั อยา่ ง 2. การบชู ารอยพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบุรี ประชาชนจะ 2. วฒั นธรรมเก่ียวกบั พากันไปนมสั การรอยพระพทุ ธบาทในพระมณฑป ซ่ึง การดารงชีวติ ทาง เป็นปูชนียสถานที่สาคัญท่ีเชื่อว่าเป็นรอยพระพทุ ธบาท การเกษตรของภาค ของพระพทุ ธเจ้า กลางไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 3. ประเพณีตักบาตรเทโว จังหวดั อุทัยธานี จงยกตวั อยา่ ง 4. ประเพณีก่อพระเจดีย์ทราย จังหวดั ฉะเชิงเทรา การทาขวญั ข้าว ซึ่งนิยมในหม่ขู องคนไทยภาคกลาง ไทยยวน ไทยอีสาน จะทากนั เป็นระยะ คือ ก่อนข้าวออกรวง หลงั นวดข้าว และขนข้าวขึน้ ย้งุ 3. วฒั นธรรมดา้ นยาและ ตารายาไทยแผนโบราณ รวม 318 ขนาน เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้ การรักษาพ้ืนบา้ น ท้องเสีย ยาขบั โลหิต ยาแก้ไอ ยาแก้ท้องขึน้ ท้องเฟ้ อ ยาแก้ ท่ีสาคญั คืออะไร ลม ยาส่วนใหญ่เป็นพืชสมนุ ไพรและแร่ธาตุ จงยกตวั อยา่ ง (หมายเหตุ นกั เรียนอาจตอบเปน็ อย่างอ่นื ตามความเหมาะสมได้ ให้อยใู่ นดุลยพินิจของครผู ู้สอน) 79

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื ง วฒั นธรรมทอ้ งถิน่ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ 1. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน ดา้ นอาหารของภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ อะไรบา้ ง 1. 2. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน ดา้ นศาสนาและลทั ธิ ความเช่ือของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือท่ีสาคญั ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 3. วฒั นธรรมดา้ นท่ีเกี่ยว กบั การดารงชีวติ ทาง การเกษตรของภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 80

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานท่ี 1. 5 เรื่อง วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น มีการปรุงอาหารโดยเกบ็ พืชผกั มาประกอบรวมกับเนือ้ สัตว์ ดา้ นอาหารของภาค แล้วทาให้สุก เช่น นึ่ง ต้ม ย่าง อาหารท่ีประกอบแล้ว เช่น ตะวนั ออกเฉียงเหนือ แกงอ่อม อ๋อ หมกยา ส่า ค่ัว หลู้ ป่ น หลน เหนียน ซุป ลาบ ที่สาคญั ไดแ้ ก่ ก้อย แจ่ว มีการถนอมอาหารโดยนามาตากแห้งและใช้วิธี อะไรบา้ ง 1. หมกั ตามธรรมชาติ 2. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น 1. บญุ บัง้ ไฟ เป็นการเตรียมไถนาและจัดบูชาพิธีบูชาพญา ดา้ นศาสนาและลทั ธิ แถนทุกปี ด้วยการทาบั้งไฟ โดยมีความเชื่อว่าของสิ่งลีล้ บั ความเช่ือของภาคตะวนั และเทวดาหรือพญาแถนท่ีอย่บู นสวรรค์สามารถบันดาล ออกเฉียงเหนือท่ีสาคญั ให้ ฝนตกได้ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 2. การแห่ผีตาโขนที่อาเภอด่านซ้าย จังหวดั เลย ผ้เู ล่นจะนารูป 3. วฒั นธรรมดา้ นท่ีเกี่ยว หน้ากากที่มีลักษณะน่าเกลียดมาใส่ แต่งตัวมิดชิด เข้า กบั การดารงชีวติ ทาง ขบวนแห่ มีการรวมบุญประเพณี บุญพระเวสและบุญ การเกษตรของภาค บง้ั ไฟเข้าด้วยกัน มีการทาพิธีอัญเชิญพระอุปคุตเข้ามา ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ประดิษฐานในวดั โพนชัย เพราะเชื่อว่าจะสามารถป้ องกัน ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง เหตุเภทภัยต่างๆที่จะเกิดในงานได้ งานบุญคูนลาน เป็นประเพณีอย่างหน่ึงในฮีตสิบสอง หรืองาน ทาบญุ สาคัญในรอบปี คือ งานทาขวญั ข้าวก่อนขนข้าวมาสู่ ย้งุ ฉาง เป็นสิริมงคล เพิ่มความมง่ั มีศรีสุขแก่ตนและครอบครัว เป็นการอัญเชิญขวญั ข้าว คือ พระแม่โพสพ ให้มาอย่ปู ระจา ข้าว การทานาจะได้อุดมสมบูรณ์ 81

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานท่ี 1. 6 เรอ่ื ง วฒั นธรรมทอ้ งถิ่นภาคใต้ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ภาคใตด้ า้ นอาหาร ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 1. 2. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน ภาคใตด้ า้ นศาสนาและ ลทั ธิความเช่ือที่สาคญั ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 3. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน ภาคใตด้ า้ นศิลปะ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 82

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ใบงานท่ี 1. 6 เรือ่ ง วฒั นธรรมท้องถ่นิ ภาคใต้ คาช้แี จง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ประเพณีกินผกั ของชาวภเู กต็ มีการนาผกั ไปใช้ประโยชน์ใน ภาคใตด้ า้ นอาหาร การเป็นอาหาร คือ ใช้ปรุงอาหาร ใช้รับประทานสด ใช้ลวก ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ดอง และใช้ได้ท้ังปรุงอาหารและรับประทานสด การบริโภค 1. ผกั ทาให้ร่างกายแขง็ แรง ควบคุมภาวะธาตุในร่างกายให้อยู่ ในภาวะสมดลุ 2. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ภาคใตด้ า้ นศาสนาและ 1. ประเพณีลากพระ ชักพระ หรือแห่พระ ชาวบ้านจะอัญเชิญ ลทั ธิความเช่ือท่ีสาคญั พระพทุ ธรูปจากวดั ขึน้ รถล้อเลื่อนหรือเรือ แล้วลากหรือ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ชักแห่ไปตามถนน หรือตามแม่นา้ ลาคลอง ประชาชนจะ นาภตั ตาหารไปใส่บาตรท่ีเรียงไว้ตรงหน้าพระลาก เรียกว่า 3. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ตักบาตรหน้าล้อ ชาวบ้านจะนิยมนาต้ม(ข้าวเหนียวห่อใบ ภาคใตด้ า้ นศิลปะ กะพ้อทาเป็นรูปสามเหลี่ยม) มาแขวนท่ีล้อเลื่อนเพ่ือทาบุญ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 2. ประเพณีสารทเดือนสิบของจังหวดั นครศรีธรรมราช เพ่ือ อุทิศส่วนบญุ กศุ ลให้แก่ผ้ลู ่วงลบั 1. ประเพณีการราโนรา มีความสัมพนั ธ์กับวิถีชีวิตของ ชาวบ้าน เป็นความเช่ือทางพระพุทธศาสนาผสมผสานกบั ลทั ธิพราหมณ์-ฮินดู และความเช่ือในเรื่องไสยศาสตร์หรือ ผีสางเทวดา เซ่นไหว้บรรพบุรุษ 2. ประเพณีตักบาตรธูปเทียน เป็นการทาบุญด้วยธูปเทียน และดอกไม้ เน่ืองในเทศกาลเข้าพรรษา เพ่ือให้พระสงฆ์ท่ี จาพรรษานาธูปเทียนใช้บูชาพระรัตนตรัยตลอดพรรษา (หมายเหตุ นกั เรียนอาจตอบเป็นอยา่ งอ่ืนตามความเหมาะสมได้ ให้อยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน) 83

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช แบบประเมินการนาเสนอผลงานกลุ่ม กลุ่มท.่ี ................................................. .............................................................................. 2. .............................................................................. สมาชกิ ของกลมุ่ 1. .............................................................................. 4. .............................................................................. .............................................................................. 6. .............................................................................. 3. 5. คณุ ภาพผลงาน 432 ลาดั รายการประเมนิ 1 บท่ี 1 นาเสนอเนอื้ หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง 2 การนาเสนอมีความน่าสนใจ 3 ความเหมาะสมกับเวลา 4 ความกลา้ แสดงออก 5 บคุ ลิกภาพ นา้ เสยี งเหมาะสม รวม ลงชอื่ ..............................................................................ผู้ประเมิน / /....................... ........................... ........................ เกณฑ์การให้คะแนน การปฏิบตั ิงานสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน การปฏิบตั ิงานยงั มีขอ้ บกพร่องเล็กนอ้ ย ให้ 3 คะแนน การปฏิบตั ิงานยงั มีขอ้ บกพร่องเป็ นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน เกณฑ์กกาารรตปัดฏสิบินตั คิงาุณนภมาีขพอ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17-20 ดีมาก 13-16 ดี 9-12 พอใช้ 5-8 ปรับปรุง 84

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ลาดับ ช่ือ – สกลุ ความร่วมมอื การแสดง การรับฟัง การตงั้ ใจ การร่วม รวม ท่ี ของผู้รบั การ 4321 ความคดิ เห็น ความคิดเห็น ทางาน ปรับปรุง 20 ผลงานกลุม่ คะแนน ประเมิน 4321 4321 4321 4321 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ ดีมาก = 4 3 หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กลุ่ม ดี = 2 เป็ นผปู้ ระเมิน หรือใหต้ วั แทนกลุ่มผลดั กนั ประเมิน 1 หรือใหม้ ีการประเมินโดยเพอื่ น โดยตวั นกั เรียนเอง พอใช้ = ตามความเหมาะสมก็ได้ ปรับปรุง = เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5 – 8 ปรับปรุง 85

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 หนา้ ทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนินชีวิตในสงั คม หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 วัฒนธรรมไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรือ่ ง การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทย เวลา 3 ช่วั โมง  สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด วัฒนธรรมไทย มกี ารเปลยี่ นแปลงไปตามกาลเวลาอันมีผลมาจากป๎จจัยหลายประการ ดงั นั้น ทุกคนจึง ควรร่วมมือกันอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทยที่ดีงามและเลือกรบั วัฒนธรรมสากลอยา่ งเหมาะสม  ตวั ชีว้ ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตัวชว้ี ดั ส 2.1 ม.4-6/5 วิเคราะห์ความจาเป็นที่จะตอ้ งมกี ารปรบั ปรงุ เปลีย่ นแปลงและอนรุ ักษ์ วฒั นธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมสากล 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. วเิ คราะหค์ วามจาเป็นในการปรับปรุงเปลยี่ นแปลงและอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทยได้ 2. วิเคราะหค์ วามแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมไทยกับวฒั นธรรมสากลได้ 3. เสนอแนวทางการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ดงี ามได้ 4. อธบิ ายวิธีการเลือกรบั วฒั นธรรมสากลได้  สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1. การปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลง และอนรุ ักษ์วัฒนธรรมไทย 2. ความแตกตา่ งระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกับวัฒนธรรมสากล 3. แนวทางการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมไทยท่ีดีงาม 4. วธิ ีการเลือกรบั วัฒนธรรมสากล 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ -  สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 86

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช - กระบวนการปฏบิ ตั ิ - กระบวนการทางานกลุ่ม  คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน  กจิ กรรมการเรียนรู้ (วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนกั , กระบวนการกลมุ่ ) ช่ัวโมงที่ 1 1. ครนู าภาพต่อไปนี้มาให้นกั เรียนช่วยกนั วเิ คราะหค์ วามแตกต่าง และสาเหตุของความแตกต่าง 1) อาหาร เช่น อาหารไทย อาหารจีน อาหารญป่ี ุ่น อาหารยุโรป 2) การแต่งกาย เช่น การแต่งกายของชาวไทย การแต่งกายของชาวญ่ปี นุ่ การแต่งกายของชาว ยโุ รป 3) อาคารบา้ นเรือน เช่น บา้ งทรงไทย บา้ นทรงตะวันตก 4) ยารกั ษาโรค เช่น ยาแผนป๎จจุบนั ยาแผนโบราณ สมนุ ไพร 2. ครอู ธิบายเชอื่ มโยงใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า ภาพต่างๆทคี่ รนู ามาให้นักเรยี นดูและชว่ ยกนั วเิ คราะหน์ น้ั เป็นสว่ นหนงึ่ ของความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมไทยกบั วัฒนธรรมสากล ซึ่งแตล่ ะประเทศหรือ แตล่ ะสังคมจะสรา้ งวฒั นธรรมของตนเองขึน้ มา และมีเอกลกั ษณ์เฉพาะที่ขน้ึ อยู่กบั สภาพแวดล้อม ทางกายภาพและสังคมนั้นๆ ทกุ สังคมจะมวี ฒั นธรรมพืน้ ฐานที่เหมือนกัน เรยี กว่า วฒั นธรรม สากล และมีการกระจายวัฒนธรรมสากลไปยังภมู ิภาคต่างๆ 3. ครใู หน้ ักเรยี นกลุ่มเดมิ (ในแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1) ศึกษาความรู้เรอื่ ง การปรับปรุงเปลีย่ นแปลง วัฒนธรรมไทย และความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกบั วัฒนธรรมสากล จากหนงั สือเรยี น แลว้ ช่วยกันทาใบงานท่ี 2.1 เร่ือง วิเคราะหว์ ัฒนธรรม 4. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันเฉลยคาตอบในใบงาน และร่วมกันสรปุ เกย่ี วกับการปรบั ปรุงเปลย่ี นแปลง วฒั นธรรมไทย อิทธพิ ลของชาตติ ะวันตกที่มตี ่อวฒั นธรรมไทย การพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมที่มี ผลต่อการเปลยี่ นแปลงวฒั นธรรมไทย ความแตกต่างระหวา่ งวัฒนธรรมไทยกบั วฒั นธรรมสากล 87

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ช่ัวโมงที่ 2-3 1. ครใู ห้นกั เรยี นเล่าความประทับใจในวัฒนธรรมท่ีดีงามของไทย มาคนละ 1 อย่าง และให้อธบิ าย เหตผุ ลว่า เพราะเหตใุ ดจึงประทับใจ ซง่ึ นักเรยี นจะมเี หตุผลหลากหลายแตกตา่ งกันออกไป 2. ครูอธบิ ายเชือ่ มโยงใหน้ ักเรียนเหน็ คุณคา่ ของวฒั นธรรมไทยทไี่ ด้สร้างและสงั่ สมกนั มาเปน็ เวลานาน จน เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มรดกทางวฒั นธรรมล้วนมคี วามสาคัญตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตของคนไทย มีประโยชน์ต่อคนรนุ่ หลังไม่วา่ จะเป็นวัฒนธรรมทางดา้ นวตั ถุ และวัฒนธรรมทางด้านจติ ใจ หรือจะเปน็ วัฒนธรรมตามเน้อื หา คือ ทางคตธิ รรม วตั ถุธรรม เนตธิ รรม หรือสหธรรม จึงเปน็ หนา้ ท่ีของ ชาวไทยทุกคนจะต้องร่วมมือกันอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทยท่ีดงี ามไว้ และยงั ต้องรจู้ ักเลอื กรบั วัฒนธรรมสากล ทด่ี งี ามเชน่ เดยี วกนั 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มศึกษาความรู้ เรือ่ ง แนวทางการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยทด่ี งี าม และวิธกี ารเลอื ก รบั วัฒนธรรมสากล จากหนงั สือเรยี น หรือแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ 4. ครมู อบหมายงานให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ นาความรูท้ ี่ได้จากการศกึ ษามาเขยี นเป็นบทความ เร่ือง การอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและการเลือกรับวฒั นธรรมสากล โดยเขียนเป็นบทวิเคราะห์และนาเสนอความ คดิ เห็น ในประเด็นตอ่ ไปน้ี 1) ความจาเป็นที่จะตอ้ งมีการปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงวัฒนธรรมไทย 2) แนวทางการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย 3) การเลือกรับวฒั นธรรมสากล 5. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานทห่ี น้าช้ันเรียน ซึ่งอาจจะใชว้ ธิ หี ลากหลาย เช่น - การอภิปราย - การถามตอบ - การแสดงบทบาทสมมุติ - การบรรยาย - การบรรยายสลับการแสดงสถานการณ์จาลอง 6. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ ถึงความจาเปน็ ทตี่ ้องมีการปรับปรงุ เปลย่ี นแปลงวฒั นธรรมไทย การอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทย และเลือกรับวัฒนธรรมสากล  นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง วฒั นธรรมไทย 88

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช  การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ บทความเร่ือง การอนรุ ักษ์ แบบประเมินบทความเร่ือง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ วัฒนธรรมไทย และการเลือกรบั การอนุรักษว์ ฒั นธรรมไทยและการ วัฒนธรรมสากล เลอื กรบั วัฒนธรรมสากล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงานกลุ่ม แบบประเมินการนาเสนอผลงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่อื ง เรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง วฒั นธรรมไทย วัฒนธรรมไทย  สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น หน้าท่ีพลเมืองฯ ม.4-ม.6 2. หนังสอื ค้นควา้ เพม่ิ เติม 1) ชลุ พี ร สสุ วุ รรณ และสุชิราภรณ์ บริสุทธิ.์ ความรู้รอบตัว : ขนบธรรมเนยี มและประเพณไี ทย. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท อักษราพิพัฒน์ จากดั , 2544. 2) สมชัย ใจดี และยรรยง ศรวี ิรยิ าภรณ์. ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย. กรงุ เทพฯ : บริษัท สานักพิมพ์ ไทยวฒั นาพานิช จากดั , 2528. 3. ตวั อย่างสื่อประกอบการสอน 4. ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง วเิ คราะห์วัฒนธรรม 8.2แหล่งการเรยี นรู้ 1. ห้องสมดุ 2. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ www.prapayneethai.com/th/culture/ th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู:่ วัฒนธรรมไทย guru.sanook.com/encyclopedia/สังคมและวฒั นธรรมไทย 89

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ตวั อย่างสื่อประกอบการสอน อาหารไทย อาหารจีน อาหารญ่ีป่ ุน อาหารยโุ รป 90

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ตวั อย่างสื่อประกอบการสอน การแต่งกายของชาวไทย การแตง่ กายของชาวญี่ป่ ุน การแตง่ กายของชาวยโุ รป 91

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ตวั อย่างส่ือประกอบการสอน บ้านทรงไทย บา้ นทรงตะวนั ตก 92

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า ส31101 สงั คมศึกษา1 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผสู้ อน นางภาณี แสนเดช ตวั อย่างส่ือประกอบการสอน ยาแผนปัจจุบนั ยาแผนโบราณ สมุนไพร 93


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook