สูตรสำเร็จ บาลีไวยากรณ์

สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ ์ พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๑๐ หนงึ่ ในโครงการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ การศกึ ษา พระปรยิ ตั ธิ รรมแกพ่ ระภกิ ษสุ ามเณรทว่ั ประเทศ โดย พระราชภาวนาวสิ ทุ ธ์ิ (ไชยบลู ย์ ธมมฺ ชโย) วดั พระธรรมกาย จ.ปทมุ ธานี

(ก) คณะผจู้ ดั ทำ ISBN : 974-90103-5-3 ทป่ี รกึ ษา พระมหาสมชาย €านวฑุ โฺ ฒ (Ph.D) พระมหาสธุ รรม สรุ ตโน ป.ธ.๙ พระมหาสมบตั ิ อนิ ทฺ ปญโฺ  ป.ธ.๙ บรรณาธกิ ารบรหิ าร นภาพร วรสายณั ห์ บ.ศ. ๙ รปู เลม่ พระมหาสมพร พทุ ธฺ ธิ โร ป.ธ.๙ พระมหาอดเิ รก อตชิ โย ป.ธ.๖ ปก/ภาพวาด วลั ลภ นลิ ถนอม, จนั ทนา พรหมกสกิ ร พมิ พค์ รงั้ ที่ ๑๐ : มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ ๑๕,๐๐๐ เลม่ ลขิ สทิ ธิ์ มลู นธิ ธิ รรมกาย พมิ พท์ ่ี โรงพมิ พเ์ ลยี่ งเชยี ง ๐๒-๒๒๑-๑๐๕๐, ๐๒-๒๒๑-๔๔๔๖

(ข) โครงการสง่ เสรมิ สนนั สนนุ การศกึ ษาพระปรยิ ตั ธิ รรม โดย พระราชภาวนาวสิ ทุ ธิ์ (หลวงพอ่ ธมั มชโย) “ผู้ที่สอบได้เปรียญธรรม ถือว่าเป็น วรี บรุ ษุ กองทพั ธรรม เปน็ ผนู้ ำความภาคภมู ใิ จ มาสวู่ งการคณะสงฆ์ หลวงพอ่ รสู้ กึ ชน่ื ชมยนิ ดี เป็นอย่างยิ่งและปรารถนาจะให้กำลังใจแก่ผู้ที่ สอบได้ และผู้ที่กำลังจะสอบได้ตามมาให้เห็น ความสำคัญและรับรู้ว่า ส่ิงที่ท่านท้ังหลาย กำลงั มงุ่ พากเพยี รศกึ ษาอยนู่ ม้ี คี วามสำคญั มาก และยงั มผี คู้ นทงั้ หลายรอคอยและปรารถนาจะ เห็นความสำเร็จของทุกท่านผู้จะเป็นกำลัง สำคัญในการทำงาน พระศาสนาเพ่ือความ เจรญิ ยงิ่ ยนื นานของพระพทุ ธศาสนา สบื ตอ่ ไป ในอนาคต”

(ค) ด้วยตระหนักและเห็นความสำคัญอย่าง ยิ่งยวดของการศึกษาพระปริยัติธรรมของพระ ภิกษุสามเณรดังคำกล่าวยืนยันของพระเดช พระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธิ์ (หลวงพอ่ ธมั มชโย) ซ่ึงได้กล่าวไว้ในโอกาสที่ได้จัดงานแสดงมุทิตา สกั การะแกพ่ ระภกิ ษสุ ามเณรผสู้ อบไดเ้ ปรยี ญธรรม ๙ ประโยค เมอ่ื ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๔๓ อนั เปน็ ปที ่ี ๑๓ ของการจัดงานมุทิตาสักการะแก่พระภิกษุ สามเณรเปรยี ญธรรม ๙ ประโยค โครงการส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาพระ ปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศ ภายใต้การริเริ่มของท่านน้ีก็เช่นกัน ได้ถือ กำเนดิ ขน้ึ ตงั้ แตป่ พี ทุ ธศกั ราช ๒๕๓๑ โดยมี วัตถุประสงค์หลักเพ่ือให้การส่งเสริม สนับสนุน เป็นกำลังใจ อีกทั้งมุ่งหมายจะก่อให้เกิดการ ต่ืนตัวด้านการศึกษาพระปริยัติธรรมของพระ

(ง) ภกิ ษสุ ามเณรทว่ั ประเทศ รวมถงึ เปน็ สอื่ กลาง ให้คณะสงฆ์ผู้บริหารการศึกษาท่ัวสังฆมณฑล ไดม้ ารว่ มปรกึ ษาเพอ่ื การพฒั นาการศกึ ษาพระ ปริยัติธรรมให้ก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกัน โดยเรมิ่ ตน้ จากการถวายทนุ การศกึ ษา การจดั งานมุทิตาสักการะแก่พระภิกษุสามเณรผู้สอบ ไดเ้ ปรยี ญธรรม ๙ ประโยค การจดั พมิ พต์ ำรา คมู่ อื บาลถี วายแกส่ ำนกั เรยี นทส่ี นใจ และอน่ื ๆ ทจ่ี ะไดร้ เิ รมิ่ จดั ทำในโอกาสตอ่ ไป เฉพาะในเรอื่ งถวายทนุ การศกึ ษา จากจดุ เร่ิมต้น ทางโครงการได้มีการพัฒนาข้อ กำหนด การถวายทุนเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ สงู สดุ โดยรวมอยา่ งตอ่ เนอื่ งเสมอมา เปน็ ทนี่ า่ ยินดียิ่งว่า การจัดงานมุทิตาสักการะแก่พระ ภกิ ษสุ ามเณรเปรยี ญธรรม ๙ ประโยคในทกุ ๆ ปี นั้นเป็นการนำมาซึ่งโอกาสพบปะสนทนา

(จ) ของพระสังฆาธิการ เจ้าสำนักเรียนและครู อาจารย์ในแวดวงการศึกษาพระปริยัติธรรม ก่อให้เกิดการแลกเปล่ียนความคิดและจุด ประกายการพฒั นาการศึกษาอยา่ งกว้างขวาง ดงั ปรากฏผลวา่ มสี ำนกั เรยี นทมี่ ผี สู้ อบไดเ้ กนิ กว่า ๑๐๐ รูปขึ้นไป หลายสำนัก ทั้งสำนัก เรียนท่ีมีช่ือเสียงแต่เดิม และสำนักเรียนดาว รงุ่ ใหมๆ่ ทเี่ ตบิ โตทงั้ ปรมิ าณและคณุ ภาพอยา่ ง รวดเร็ว นับเป็นท่ีน่าปีติยินดีแก่เหล่าสาธุชน และเป็นนิมิตหมายแห่งความเจริญรุ่งเรือง ของพระพทุ ธศาสนาในอนาคต พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธ์ิ (หลวงพ่อธัมมชโย) ได้น้อมรับคำแนะนำของ พระเถรานุเถระผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมและความ สามารถด้านบริหารการศึกษามาปฏิบัติ

(ฉ) พัฒนากติกาการถวายรางวัลทุนการศึกษาอยู่ เสมอ ไมว่ า่ จะเปน็ รางวลั สำนกั เรยี นทมี่ ผี สู้ อบ ได้จำนวนสูงสุดในส่วนกลาง ระดับจังหวัด จนกระทั่ง ปีพุทธศักราช ๒๕๔๘ ที่ผ่านมา ทางโครงการไดพ้ ฒั นาเพมิ่ รางวลั สำนกั เรยี นที่ มีนักเรียนสอบได้จำนวนสูงสุดในแต่ละระดับ ชน้ั (แตล่ ะประโยค) กอ่ ใหเ้ กดิ การถวายทนุ ไป ยังสำนักเรียนต่างๆ อย่างทั่วถึง และเป็น กำลังใจแก่สำนักเรียนท่ีมีความโดดเด่น เฉพาะระดบั ชน้ั นน้ั ๆ อกี ดว้ ย อน่ึง หน่ึงในโครงการส่งเสริมสนับสนุน การศึกษาพระปริยัติธรรมของพระภิกษุ สามเณรท่ีโดดเด่นไม่แพ้งานมุทิตาสักการะ เปรียญธรรม ๙ ประโยคซ่ึงจัดข้ึนในวัน อาทิตย์แรกของเดือนสงิ หาคมของทกุ ปี ก็คือ

(ช) การจดั พมิ พห์ นงั สอื สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ เลม่ ทท่ี า่ นถอื อยใู่ นขณะน้ี เพราะจากการพมิ พ์ ถวายแก่พระภิกษุสามเณรและสำนักเรียนท่ี สนใจจากท่ัวประเทศตั้งแต่การพิมพ์คร้ังแรก จนถึงปัจจุบัน มีสถิติการพิมพ์ซ้ำมาแล้ว ๘ ครงั้ ดว้ ยจำนวน ๘๐,๐๐๐ เลม่ จดั พมิ พค์ รงั้ ที่ ๙ ๓๐,๐๐๐ เล่ม จัดพิมพ์ครั้งท่ี ๑๐ น้ี ๑๕,๐๐๐ เลม่ รวมเปน็ ๑๒๕,๐๐๐ เลม่ และมี แนวโนม้ วา่ จะไดร้ บั ความนยิ มจากนกั เรยี นและ สำนักเรียนทั่วประเทศมากข้ึนไปอีก ซ่ึงพระ เดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อ ธัมมชโย) มีความยินดีท่ีจะสนับสนุนและขอ ปวารณาที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการ ศึกษาพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร ตลอดไป ตราบนานเทา่ นาน

(ซ) คำนำ การเรยี นบาลีไวยากรณ์ ในสมัยแรกเรม่ิ นั้นมีเนื้อหาที่เรียนมาก ทั้งมีนัยวิจิตรพิสดาร ยงิ่ นกั ผเู้ รยี นตอ้ งใชเ้ วลาเปน็ แรมปี และตอ้ ง มคี วามพากเพยี รอยา่ งสงู สง่ จงึ จะสำเรจ็ สมยั ต่อมาเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสได้ทรงปรับเข้าสู่ ระบบใหม่ โดยรจนาใหเ้ หลอื เพยี งเนอื้ หาสาระ ในส่วนที่จำเป็นและเหมาะสำหรับเป็นพ้ืนฐาน ทจี่ ะแปลภาษาบาลขี นั้ เรมิ่ ตน้ ตอ่ ไป ทำใหก้ าร เรียนบาลีไวยากรณ์ในปัจจุบันใช้เวลาน้อยลง มาก

(ฌ) หนังสือสูตรสำเร็จ บาลีไวยากรณ์เล่มน้ี คณะผู้จัดทำได้เรียบเรียงตามแบบฉบับ ของ เจ้าประคุณสมเด็จฯ โดยคงเนื้อหาสาระท่ี เหมาะแก่การท่องจำไว้เท่าน้ัน จะยังไม่มุ่ง อธบิ ายความมากนกั ไดเ้ พม่ิ หลกั การแปลมคธ เปน็ ไทย หลกั สมั พนั ธแ์ ละกลอนชว่ ยจำไวท้ า้ ยเลม่ ไดจ้ ดั พมิ พค์ รง้ั แรกในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ โดยใช้ ชอ่ื วา่ “สตู รสคู่ วามสำเรจ็ บาลไี วยากรณ”์ ต่อมาได้เปล่ียนชื่อเป็น “สูตรสำเร็จ บาลี ไวยากรณ์” ซ่ึงก็ได้รับความสนใจจากสำนัก เรียนต่างๆ อย่างกว้างขวาง จากการพิมพ์ ครง้ั แรกจำนวน ๒,๐๐๐ เลม่ ครงั้ ตอ่ ๆ มาอกี รวมท้ังสิ้น ๕๐,๐๐๐ เล่มแล้ว โครงการ ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม โดย พระราชภาวนาวสิ ทุ ธ์ิ (ไชยบลู ย์ ธมมฺ ชโย)

(ญ) วดั พระธรรมกาย หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ จะเพยี งพอ ตอ่ ความตอ้ งการของนกั เรยี นในปกี ารศกึ ษานี้ อน่ึง หากหนังสือเล่มนี้ยังมีการขาดตก บกพรอ่ งประการใด หรอื มขี อ้ เสนอแนะทเ่ี ปน็ ประโยชน์ ขอความอนุเคราะห์โปรดแจ้งให้ ทางโรงรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย ทราบดว้ ย จะเปน็ พระคณุ ยง่ิ เพอ่ื จะไดน้ ำมา ปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหบ้ รบิ รู ณย์ ง่ิ ขนึ้ ในการจดั พมิ พ์ ครงั้ ตอ่ ไป โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย จ.ปทมุ ธานี

(ฎ) ประวตั ยิ อ่ โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย นบั แตพ่ ระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (ช่วง วรปุญฺโ) ปัจจุบันดำรงสมณศักด์ิที่ สมเดจ็ พระมหารชั มงั คลาจารย์ เจา้ อาวาสวดั ปากนำ้ ภาษเี จรญิ ฯ เปน็ พระอปุ ชั ฌาย์ เมอ่ื วนั ท่ี ๒๗ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เปน็ ตน้ มา พระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธ์ิ นอกจาก มีมโนปณิธานมั่นในการเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ตามพระเดชพระคณุ พระมงคลเทพมนุ ี (สด จนทฺ สโร)

(ฏ) แลว้ ยงั ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของการศกึ ษา พระปรยิ ตั ธิ รรม จงึ ใหก้ ารสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ตลอดมา ในสว่ นของวดั พระธรรมกายนนั้ ได้ จัดให้มีการเปิดเรียนบาลีปีแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยคณะผู้บุกเบิกสร้างวัด และส่ง สอบบาลสี นามหลวงครงั้ แรกในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ เปน็ ตน้ มา ตอ่ มาปี พ.ศ. ๒๕๒๘ วดั พระธรรมกายมี การเปิดรับสามเณร รวมท้ังมีพระภิกษุอยู่จำ พรรษามากขนึ้ จงึ ไดจ้ ดั ใหม้ กี ารเรยี นการสอน ทเี่ ปน็ ระบบโดยไดเ้ ชญิ คณาจารย์ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ดา้ นพระปรยิ ตั ธิ รรมมาชว่ ยสอน จนกระทั่งพระภิกษุสามเณรรุ่นแรกๆ ได้ ศกึ ษาจนมคี วามรรู้ ะดบั หนง่ึ จงึ เกดิ ระบบพส่ี อน นอ้ ง ซงึ่ ไดใ้ ชร้ ะบบการเรยี นการสอน อยา่ งนี้

(ฐ) เรอื่ ยมา จนถงึ ปี พ.ศ. ๒๕๓๔-๒๕๓๕ ทางวดั เห็นว่าจำนวนพระภิกษุสามเณรเพ่ิมมากขึ้น ควรท่ี จะจัดให้มีที่ศึกษาเล่าเรียน พร้อมท้ังวางระบบการ ศกึ ษาของวดั ใหช้ ดั เจน จงึ ไดจ้ ดั สรา้ งอาคารเรยี นมงุ ดว้ ยจาก จำนวน ๑๒ หลงั โดยเหลา่ นกั เรยี นรวม พลังเร่งสร้างกันท้ังกลางวันกลางคืนจนเสร็จ สมบูรณ์ และเปิดดำเนินการเรียนการสอนใน อาคารใหม่อย่างเป็นทางการคร้ังแรก เมื่อวันท่ี ๒๒ เมษายน ๒๕๓๔ ซง่ึ ตรงกบั วนั คลา้ ยวนั เกดิ ของพระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธ์ิ ในปีเดียวกันน้ัน วัดพระธรรมกายได้ส่งพระ ภิกษุสามเณรเป็นจำนวนมาก เข้าสอบบาลี สนามหลวง ตงั้ แตป่ ระโยค ๑-๒ ถงึ ป.ธ.๙ และ สอบไดม้ ากทส่ี ดุ เปน็ อนั ดบั ๑ ของประเทศ ตง้ั แตน่ นั้ มาถอื วา่ เปน็ ยคุ ทองของการศกึ ษา พระปรยิ ตั ธิ รรม ของวดั พระธรรมกาย ทง้ั แผนก

(ฑ) บาลี นกั ธรรมและธรรมศกึ ษา ดงั มผี ลการสอบได้ ในลำดบั สงู สดุ เสมอมา และเมอ่ื วนั ที่ ๒๐ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๔๒ โรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดพระ ธรรมกาย ได้รับประกาศจัดตั้งเป็นโรงเรียน พระ ปรยิ ตั ธิ รรมแผนกบาลปี ระจำจงั หวดั ปทมุ ธานี แหง่ ที่ ๒ ในจำนวน ๒๙ แหง่ ทวั่ ประเทศ จากมหาเถร- สมาคม ผลการสอบบาลีสนามหลวงเป็นท่ีน่ายินดี ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน มีนักเรียนสอบผ่านมาก รวมพระภิกษุเปรียญธรรม ๙ ประโยค ๕๗ รูป เปน็ พระภกิ ษุ ๔๙ รปู นาคหลวง ๕ รปู และนาค ในพระบรมราชานุเคราะห์ ๓ รูป โดยในปีพ.ศ. ๒๕๔๗ มผี สู้ อบไดเ้ ปรยี ญธรรม ๙ ประโยค จำนวน ๙ รปู ซงึ่ เปน็ สถติ สิ งู สดุ ของวงการคณะสงฆท์ เี่ คยมี มานอกจากนั้น ยังสอบได้ทุกชั้นประโยครวมกัน เปน็ อนั ดบั หนง่ึ ของประเทศมาแลว้ ๙ ปี

(ฒ) ในด้านสถานที่อาคารเรียน ได้มีการ พัฒนาปลูกสร้างอาคารคอนกรีตถาวรตามคำ แนะนำของพระเถรานุเถระ เสร็จสมบูรณ ์ ในปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๔๕ และใชเ้ ปน็ สถานศกึ ษา จนถงึ ปจั จบุ นั วัดพระธรรมกาย ไม่เพียงมุ่งมั่นที่จะ สนับสนุนส่งเสริมนักเรียนบาลีของวัดเท่าน้ัน ยังปรารถนาจะเห็นความสำเร็จทางการศึกษา พระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณรท่ัวท้ัง สังฆมณฑล และยินดีที่จะสนับสนุนส่งเสริม ตามกำลงั ความสามารถตลอดไป

(ณ) อกั ษรยอ่ อ.ุ อทุ าหรณ ์ ปญ. ปญั จมวี ภิ ตั ติ ป.ํ ปลุํ งิ ค ์ ฉ. ฉฏั ฐวี ภิ ตั ติ อติ . อติ ถลี งิ ค ์ ส. สตั ตมวี ภิ ตั ต ิ นป.ุํ นปสํุ กลงิ ค ์ อา. อาลปนะ เอก. เอกวจนะ ท. ทง้ั หลาย พห.ุ พหวุ จนะ ป. ปฐมบรุ ษุ ป. ปฐมาวภิ ตั ต ิ ม. มธั ยมบรุ ษุ ท.ุ ทตุ ยิ าวภิ ตั ต ิ อ.ุ อตุ ตมบรุ ษุ ต. ตตยิ าวภิ ตั ต ิ ว.ิ วเิ คราะห ์ จ. จตตุ ถวี ภิ ตั ติ

(ด) ๑ ๓ สารบญั ๕ ๘ ๑๔ บาลไี วยากรณ ์ ๑๔ วจวี ภิ าค ภาคที่ ๒ ๑๖ นาม ๑๗ ลงิ ค ์ ๑๗ วจนะ ๑๘ วภิ ตั ต ิ ๑๘ อายตนบิ าต ๒๔ วธิ แี จกนามนาม ๓๑ การนั ต ์ ๓๕ แบบแจกการนั ตใ์ นลงิ คท์ ง้ั ๓ ๔๘ แจกปลุํ งิ ค ์ แจกอติ ถลี งิ ค ์ แจกนปสุ กลงิ ค ์ กตปิ ยศพั ท ์ มโนคณศพั ท ์

(ต) สงั ขยา ๕๕ วธิ แี จกปกตสิ งั ขยา ๖๐ สพั พนาม ๖๘ วธิ แี จกปรุ สิ สพั พนาม ๗๐ วธิ แี จกอนยิ มวเิ สสนสพั พนาม ๗๕ วธิ แี จกนยิ มวเิ สสนสพั พนาม ๘๒ อพั ยยศพั ท ์ ๙๑ อปุ สคั มี ๒๐ ตวั ๙๑ นบิ าต ๙๓ ปจั จยั ในอพั ยยศพั ท ์ ๑๐๐ อาขยาต ๑๐๕ วภิ ตั ต ิ ๑๐๕ กาล ๑๐๘ บท ๑๑๔ วจนะ ๑๑๕ บรุ ษุ ๑๑๖ ธาตุ ๑๑๗ วาจก ๑๒๖

(ถ) ๑๒๙ ๑๓๑ ปจั จยั ๑๔๖ ปจั จยั พเิ ศษ ๕ ตวั ๑๔๘ อสฺ ธาต ุ ๑๔๘ กติ ก ์ ๑๔๙ นามกติ ก ์ ๑๕๓ สาธนะ ๑๕๓ รปู วเิ คราะหแ์ หง่ สาธนะ ๑๗๔ ปจั จยั แหง่ นามกติ ก ์ ๑๗๔ กริ ยิ ากติ ก ์ ๑๗๕ วภิ ตั ตแิ ละวจนะ ๑๗๘ กาล ๑๗๙ วาจาก ๑๘๐ ปจั จยั แหง่ กริ ยิ ากติ ก ์ ๑๘๑ กติ ปจั จยั ๑๘๒ กจิ จปจั จยั ๑๙๑ กติ กจิ จปจั จยั ๑๙๓ สมาส กมั มธารยสมาส

(ท) ๒๐๐ ๒๐๑ ทคิ สุ มาส ๒๐๖ ตปั ปรุ สิ สมาส ๒๐๙ ทวนั ทวสมาส ๒๑๒ ยพั ยยภี าวสมาส ๒๒๖ พหพุ พหิ สิ มาส ๒๒๘ ตทั ธติ ๒๓๒ โคตตตทั ธติ ๒๓๔ ตรตั ยาทติ ตั ธติ ๒๓๕ ราคาทติ ทั ธติ ๒๓๘ ชาตาทติ ทั ธติ ๒๔๐ สมหุ ตทั ธติ ๒๔๒ ฐานตทั ธติ ๒๔๓ พหลุ ตทั ธติ ๒๕๐ เสฏฐตทั ธติ ๒๕๑ ปกตติ ทั ธติ ๒๕๔ ปรู ณตทั ธติ ๒๕๔ สงั ขยาตทั ธติ วภิ าคตทั ธติ

(ธ) ๒๕๕ ๒๖๑ ภาวตทั ธติ ๒๖๒ อพั ยยตทั ธติ ๒๖๒ ตทั ธติ นอกแบบ มี ๒ คอื ๒๖๒ อปุ มาตทั ธติ ๒๖๔ นสิ สติ ตทั ธติ ๒๖๔ อกั ขรวธิ ี ๒๖๕ สมญั ญาภธิ าน ๒๖๗ สระ ๒๖๙ พยญั ชนะ ๒๗๒ ฐานกรณข์ องอกั ขระ ๒๗๕ เสยี งของอกั ขระ ๒๗๗ พยญั ชนะสงั โยค ๒๗๗ อฑั ฒสระ ๒๗๙ ลำดบั อกั ขระ ๒๘๐ ลำดบั การเรยี งอกั ขระ มดี งั น ี้ ๒๘๐ สนธ ิ ๒๘๑ การตอ่ มี ๒ อยา่ ง คอื สนธกิ ริ โิ ยปกรณ ์

(น) ๒๘๒ ๒๘๙ สระสนธ ิ ๒๙๔ พยญั ชนะสนธ ิ ๒๙๘ นคิ คหติ สนธ ิ ๓๒๐ หลกั สมั พนั ธ ์ ๓๒๑ หลกั การแปลมคธเปน็ ไทย ๓๒๑ กลอนชว่ ยจำ ๓๒๒ กลอนสงั ขยา ๓๒๕ กาพยว์ ภิ ตั ตอิ าขยาต กาพยจ์ ำนวนธาตุ ๙ หมวด

คณะผจู้ ดั ทำครงั้ ท่ี ๑-๑๐ โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย พระมหาประดษิ ฐ์ สริ ภี าโส พระมหาศริ ศิ กั ดิ์ เหมมโู ล พระมหาธนา เตชธมโฺ ม พระมหาธรี ะยทุ ธ์ สริ คิ ตุ โฺ ต คณะพระภกิ ษ-ุ สามเณรเปรยี ญธรรม พระพทุ ธศาสตรบณั ฑติ สถาบนั ธรรมกายนานาชาติ อ.สเุ ทพ นากดุ นอก ศริ มิ าส พฒั นะศรี ระเบยี บ พลราษฎร์ นภาพร วรสายณั ห ์ ละอองดาว นนทะสร กราบขอบพระคณุ ขอบพระคณุ และอนโุ มทนา ผมู้ สี ว่ นชว่ ยให้ “สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ”์ ฉบบั พมิ พค์ รงั้ ที่ ๑๐ สำเรจ็ บรบิ รู ณ ์ พระสมหุ อ์ ำนวยศกั ดิ์ มนุ สิ กโฺ ก และคณะกรรมการสอื่ ฯ พระมหาอดศิ กั ด์ิ สตตฺ ชิ โน พระมหาสอน พทุ ธฺ สิ าโร พระสชุ าติ สโุ รจโน, กองรบั บรจิ าค พระอนนั ต์ ตโมนโุ ท พระชยั กาญจน์ กาญจฺ นชโย อ.สเุ ทพ นากดุ นอก คณุ วนิ ชิ พนั ธวุ์ ริ ยิ รตั น์ และคณะ คณุ อรนชุ ฐติ ญิ าณพร คณุ ศรกี านดา เบญจพลสริ จิ ติ ต ์ คณุ ละอองดาว นนทะสร คณุ เสาวรส ปทั มะลางคลุ คณุ สายชล สายทอง คณุ พรรณ ี โอษฐน์ ภาพร คณุ ประไพศรี สภุ โี พธ ์ิ คณุ วไิ ล ทาปญั ญา และผมู้ คี ณุ ปู การทกุ ทา่ น

วดั พระธรรมกาย 1 บาลไี วยากรณ ์

2 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ บาลไี วยากรณน์ แี้ บง่ เปน็ ๔ ภาค กอ่ น คอื อกั ขรวธิ ี วจวี ภิ าค วากยสมั พนั ธ์ ฉนั ทลกั ษณะ ๑. อกั ขรวธิ ี วา่ ดว้ ยอกั ษร จดั เปน็ ๒ คอื สมญั ญาภธิ าน แสดงชอ่ื อกั ษร ทเ่ี ปน็ สระ และพยญั ชนะ พรอ้ มทง้ั ฐานกรณ์ สนธิ ตอ่ อกั ษรทอ่ี ยใู่ นคำอน่ื ใหเ้ นอ่ื ง เปน็ อนั เดยี วกนั ๒. วจวี ภิ าค แบง่ คำพดู ออกเปน็ ๖ สว่ น คอื นาม, อพั ยยศพั ท,์ สมาส, ตทั ธติ , อาขยาต, กติ ก์ ๓. วากยสมั พนั ธ์ วา่ ดว้ ยการก และประพนั ธ ์ ผูกคำพูดที่แบ่งไว้ในวจีวิภาค ให้เข้าเป็น ประโยคเดยี วกนั ๔. ฉนั ทลกั ษณะ แสดงวธิ แี ตง่ ฉนั ท์ คอื คาถา ทเ่ี ปน็ วรรณพฤทธ์ิ และมาตราพฤทธ์ิ

วดั พระธรรมกาย 3 วจวี ภิ าค ภาคท่ี ๒

4 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ การศกึ ษานนั้ สามารถเปลยี่ นชวี ติ ผศู้ กึ ษา ใหส้ งู กวา่ พน้ื เดมิ คนทมี่ กี ารศกึ ษาดี จะไดอ้ ะไรกด็ กี วา่ ประณตี กวา่ ผอู้ น่ื คนมวี ชิ าเทา่ กบั ไดส้ มบตั จิ กั รพรรดิ กนิ ใชไ้ มห่ มด พระมงคลเทพมนี (สด จนทฺ สโร) หลวงพอ่ วดั ปากนำ้ ภาษเี จรญิ

วดั พระธรรมกาย 5 นาม (๓๗) นามศัพท์นั้น แบ่งเป็น ๓ คือ นามนาม ๑ คณุ นาม ๑ สพั นาม ๑ นามทเ่ี ปน็ ชอ่ื ของคน, สตั ว,์ ท,ี่ สง่ิ ของ, เปน็ นามนาม นามนามนแ้ี บง่ ออกเปน็ ๒ คอื สาธารณนาม ๑ อสาธารณนาม ๑ นามทที่ ว่ั ไปแกค่ น, สตั ว,์ ท,ี่ อนื่ ได้ เหมอื น คำวา่ มนสุ โฺ ส มนษุ ย,์ ตริ จฉฺ าโน สตั วด์ ริ จั ฉาน, นครํ เมอื ง เปน็ ตน้ เปน็ สาธารณนาม

6 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ นามทไ่ี มท่ ว่ั ไปแกส่ ง่ิ อน่ื เหมอื นคำวา่ ทฆี าวุ กมุ ารชอ่ื ทฆี าว,ุ เอราวโณ ชา้ งชอื่ เอราวณั , สาวตถฺ ี เมอื งชอ่ื สาวตั ถี เปน็ ตน้ เปน็ อสาธารณนาม นามทแี่ สดงลกั ษณะของนามนาม สำหรบั หมายให้รู้ว่านามนามนั้นดีหรือชั่ว เป็นต้น เป็น คุณนาม เหมือนคำว่า ปญฺวา มี ปญั ญา, ปรุ โิ ส บรุ ษุ ถอื เอาความตามภาษา ของเราวา่ บรุ ษุ มปี ญั ญา ปรุ โิ ส เปน็ นามนาม, ปญฺ วา เปน็ คณุ นาม คณุ นาม นแ้ี บง่ เปน็ ๓ ชน้ั คอื ปกติ ๑ วเิ สส ๑ อตวิ เิ สส ๑ คุณนามที่แสดงความดีหรือช่ัวเป็นปกติ เหมือนคำว่า ปณฺฑิโต เป็นบัณฑิต, ปาโป เปน็ บาป ชอ่ื ปกต ิ

วดั พระธรรมกาย 7 คุณนามท่ีแสดงความดีหรือชั่ว มากหรือ นอ้ ยกวา่ ปกติ เหมอื นคำวา่ ปณฑฺ ติ ตโร เปน็ บณั ฑติ กวา่ , ปาปตโร เปน็ บาปกวา่ ชอื่ วเิ สส คณุ นามทแี่ สดงความดหี รอื ชวั่ มากทสี่ ดุ หรอื นอ้ ยทส่ี ดุ เหมอื นคำวา่ ปณฑฺ ติ ตโม เปน็ บณั ฑติ ทสี่ ดุ ปาปตโม เปน็ บาปทสี่ ดุ ชอ่ื อตวิ เิ สส วเิ สส นน้ั ใช้ ตร อยิ ปจั จยั ในตทั ธติ ตอ่ ปกตบิ า้ ง ใชอ้ ปุ สคั อติ (ยงิ่ ) นำหนา้ บา้ ง อตวิ ิเสส ใช้ ตม อิฏฺ€ ปัจจยั ในตัทธติ ต่อปกติบ้าง ใช้อุปสัคและนิบาต คือ อติวิย (เกนิ เปรยี บ) นำหนา้ บา้ ง สพั พนาม เปน็ ชอ่ื สำหรบั ใชแ้ ทนนามนาม ทอี่ อกชอ่ื มาแลว้ เพอื่ จะไมใ่ หซ้ ำ้ ๆ ซากๆ ซง่ึ ไมเ่ พราะห ู นามทงั้ ๓ นนั้ ตอ้ งประกอบดว้ ย ลงิ ค์ วจนะ วภิ ตั ต ิ

8 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ ลงิ ค ์ (๓๘) นามศพั ทใ์ นบาลภี าษานน้ั ทา่ นแบง่ เปน็ ลงิ ค์ ๓ คอื ปลุํ งิ คฺ ํ เพศชาย ๑ อติ ถฺ ลี งิ คฺ ํ เพศหญงิ ๑ นปสํุ กลงิ คฺ ํ มใิ ชเ่ พศชาย มใิ ชเ่ พศหญงิ ๑ นามนามเปน็ ลงิ คเ์ ดยี ว คอื จะเปน็ ปลุ งิ ค์ อติ ถี ลงิ ค์ หรอื นปสุํ กลงิ คก์ อ็ ยา่ งเดยี วบา้ ง เปน็ ๒ ลงิ ค์ คอื ศพั ทอ์ นั เดยี วมรี ปู อยา่ งเดยี ว เปน็ ไดท้ งั้ ๒ ลงิ ค์ หรอื มลู ศพั ทเ์ ปน็ อนั เดยี ว เปลย่ี น แตส่ ระทสี่ ดุ ใหแ้ ปลกกนั พอเปน็ เครอื่ งหมายใหต้ า่ ง ลงิ คก์ นั บา้ ง คุณนามและสัพพนามเป็นได้ทั้ง ๓ ลิงค์ ลงิ คน์ น้ั จดั เปน็ ๒ คอื จดั ตามสมมตขิ องภาษาบา้ ง จดั ตามกำเนดิ บา้ ง

วดั พระธรรมกาย 9 ท่ี จดั ตามสมมติ นน้ั เหมอื นหนงึ่ กำเนดิ สตรี สมมตใิ หเ้ ปน็ ปลํุ งิ ค์ และของทไ่ี มม่ วี ญิ ญาณ สมมติ ใหเ้ ปน็ ปลุํ งิ คแ์ ละอติ ถลี งิ ค์ เหมอื นคำวา่ ทาโร (เมยี ) สมมตใิ หเ้ ปน็ ปลํุ งิ ค,์ ปเทโส (ประเทศ) สมมตใิ หเ้ ปน็ ปลํุ งิ ค,์ ภมู ิ (แผน่ ดนิ ) สมมตใิ หเ้ ปน็ อติ ถลี งิ ค ์ ท่ี จดั ตามกำเนดิ นน้ั เหมอื น ปรุ โิ ส (ชาย) เปน็ ปลุํ งิ ค,์ อติ ถี (หญงิ ) เปน็ อติ ถลี งิ ค์ เปน็ ตน้ ตอ่ ไปนจี้ ะแสดงอทุ าหรณ์ ศพั ทท์ เ่ี ปน็ ลงิ คเ์ ดยี ว ๒ ลงิ ค์ ๓ ลงิ ค์ พอเปน็ ตวั อยา่ ง (๓๙) นามนามเปน็ ลงิ คเ์ ดยี ว ปลุํ งิ ค ์ คำแปล ปลํุ งิ ค ์ คำแปล อมโร เทวดา โอโฆ หว้ งนำ้ อาทจิ โฺ จ พระอาทติ ย ์ กณโฺ ณ หู อนิ โฺ ท พระอนิ ทร ์ จนโฺ ท พระจนั ทร ์ อโี ส คนเปน็ ใหญ ่ ตร ุ ตน้ ไม ้ อทุ ธ ิ ทะเล ปพพฺ โต ภเู ขา เอรณโฺ ฑ ตน้ ละหงุ ยโม พระยม

10 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ อติ ถลี งิ ค ์ คำแปล อติ ถลี งิ ค ์ คำแปล อจฉฺ รา นางอปั สร โอชา โอชา อาภา รศั ม ี กฏ ิ สะเอว อทิ ธฺ ิ ฤทธ ิ์ จม ู เสนา อสี า งอนไถ ตารา ดาว อฬุ ุ ดาว ปภา รศั มี เอสกิ า เสาระเนยี ด ยาค ุ ขา้ วตม้ นปสํุ กลงิ ค ์ คำแปล นปสํุ กลงิ ค ์ คำแปล องคฺ ํ องค ์ โอก ํ นำ้ อารมมฺ ณ ํ อารมณ ์ กมมฺ ํ กรรม อณิ ํ หน ี้ จกขฺ ุ นยั นต์ า อรี ณิ ํ ทงุ่ นา เตล ํ นำ้ มนั อทุ ก ํ นำ้ ปณณฺ ํ ใบไม้ เอฬาลกุ ํ ฟกั เหลอื ง ยาน ํ ยาน

วดั พระธรรมกาย 11 (๔๐) นามนามศพั ทเ์ ดยี วมรี ปู อยา่ งเดยี ว เปน็ ๒ ลงิ ค ์ ปลุํ งิ ค ์ นปสํุ กลงิ ค ์ คำแปล อกขฺ โร อกขฺ ร ํ อกั ษร อคาโร อคาร ํ เรอื น อตุ ุ อตุ ุ ฤด ู ทวิ โส ทวิ ส ํ วนั มโน มน ํ ใจ สวํ จฉฺ โร สวํ จฉฺ ร ํ ป ี (๔๑) นามนามมมี ลู ศพั ทเ์ ปน็ อยา่ งเดยี ว เปลยี่ นแตส่ ระทส่ี ดุ เปน็ ๒ ลงิ ค ์ ปลุํ งิ ค ์ อติ ถลี งิ ค ์ คำแปล อรหา, อรห ํ อรหนตฺ ี พระอรหนั ต์ อาชวี โก อาชวี กิ า นกั บวช (ชาย-หญงิ ) อปุ าสโก อปุ าสกิ า อบุ าสก, อบุ าสกิ า กมุ าโร กมุ าร,ี กมุ ารกิ า เดก็ (ชาย-หญงิ )

12 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ ขตตฺ โิ ย ขตตฺ ยิ าน,ี ขตตฺ ยิ า กษตั รยิ ์ โคโณ คาว ี โค โจโร โจร ี โจร าตโก าตกิ า ญาต ิ ตรโุ ณ ตรณุ ี ชายหนมุ่ , หญงิ สาว เถโร เถรี พระเถระ, พระเถรี ทารโก ทารกิ า เดก็ ชาย, เดก็ หญงิ เทโว เทวี พระเจา้ แผน่ ดนิ , พระราชเทว ี นโร นาร ี คน (ชาย, หญงิ ) ปรพิ พฺ าชโก ปรพิ พฺ าชกิ า นกั บวช (ชาย-หญงิ ) ภกิ ขฺ ุ ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ษ,ุ ภกิ ษณุ ี ภว ํ โภต ี ผเู้ จรญิ มนสุ โฺ ส มนสุ สฺ ี มนษุ ย์ (ชาย-หญงิ ) ยกโฺ ข ยกขฺ นิ ี ยกั ษ,์ ยกั ษณิ ี ยวุ า ยวุ ต ี ชายหนมุ่ , หญงิ สาว ราชา ราชนิ ี พระเจา้ แผน่ ดนิ , พระราชนิ ี

วดั พระธรรมกาย 13 สขา สข ี เพอื่ น (ชาย,หญงิ ) หตถฺ ี หตถฺ นี ี ชา้ งพลาย, ชา้ งพงั (๔๒) คณุ นามเปน็ ๓ ลงิ ค์ ปลุํ งิ ค ์ อติ ถลี งิ ค ์ นปสํุ กลงิ ค ์ คำแปล กมมฺ กาโร กมมฺ การนิ ี กมมฺ การํ ทำการงาน คณุ วา คณุ วต ี คณุ ว ํ มคี ณุ จณโฺ ฑ จณฑฺ า จณฑฺ ํ ดรุ า้ ย เชฏโฺ € เชฏ€ฺ า เชฏ€ฺ ํ เจรญิ ทส่ี ดุ ตาโณ ตาณา ตาณ ํ ตา้ นทาน ถโิ ร ถริ า ถริ ํ มนั่ ทกโฺ ข ทกขฺ า ทกขฺ ํ ขยนั ธมมฺ โิ ก ธมมฺ กิ า ธมมฺ กิ ํ ตงั้ ในธรรม นาโถ นาถา นาถ ํ ทพ่ี งึ่ ปาโป ปาปา ปาป ํ บาป โภค ี โภคนี ี โภค ิ มโี ภคะ มตมิ า มตมิ ต ี มตมิ ํ มคี วามคดิ

14 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ ลาภ ี ลาภนิ ี ลาภ ิ มลี าภ สทโฺ ธ สทธฺ า สทธฺ ํ มศี รทั ธา วจนะ (๔๓) คำพดู ในบาลภี าษาจดั เปน็ วจนะ ๒ คอื เอกวจนํ คำพดู สำหรบั ออกชอื่ ของสง่ิ เดยี ว ๑ พหวุ จนํ คำพดู สำหรบั ออกชอื่ ของมากกวา่ สงิ่ เดยี ว คอื ตงั้ แต่ ๒ สงิ่ ขน้ึ ไป ๑ วจนะทั้ง ๒ น้ีมีเคร่ืองหมายให้แปลกกันที่ ทา้ ยศพั ท์ เหมอื นคำวา่ ปรุ โิ ส ชายคนเดยี ว เปน็ เอกวจนะ ปรุ สิ า ชายหลายคน เปน็ พหวุ จนะ วภิ ตั ต ิ (๔๔) คำพดู ทท่ี า่ นจดั เปน็ ลงิ ค์ และวจนะดงั นน้ี นั้ ตอ้ งอาศยั วภิ ตั ตชิ ว่ ยอปุ ถมั ภ์ เหมอื นภาษาของ เรา ซ่ึงนักปราชญ์บัญญัติเรียกว่า อายตนิบาต เหมอื นคำวา่ ซง่ึ , ดว้ ย, แก,่ จาก, ของ, ใน

วดั พระธรรมกาย 15 เป็นต้น ต้องใช้วิภัตติข้างหลังศัพท์บอกให้รู้ เน้ือความเหล่าน้ีท้ังส้ิน วิภัตติน้ันมี ๑๔ ตัว แบง่ เปน็ เอกวจนะ ๗ พหวุ จนะ ๗ ดงั น ้ี เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา ที่ ๑ ส ิ โย ทตุ ยิ า ท่ี ๒ อ ํ โย ตตยิ า ที่ ๓ นา ห ิ จตตุ ถฺ ี ที่ ๔ ส นํ ปญจฺ ม ี ท ี่ ๕ สมฺ า หิ ฉฏ€ฺ ี ท ี่ ๖ ส นํ สตตฺ ม ี ท ่ี ๗ สมฺ ึ ส ุ (อาลปน ส ิ โย) ปฐมาวภิ ตั ตทิ ตี่ น้ นน้ั แบง่ เปน็ ๒ คอื เปน็ ลงิ คฺ ตโฺ ถ หรอื กตตฺ า ทเ่ี ปน็ ตวั ประธานอยา่ ง ๑ เปน็ อาลปนํ คำสำหรบั รอ้ งเรยี กอยา่ ง ๑

16 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ อายตนบิ าต (๔๕) อายตนบิ าต แปลวา่ คำเชอ่ื มเนอ้ื ความให้ติดกัน ใช้เป็นคำแปลประจำหมวด วภิ ตั ตทิ ง้ั ๗ ดงั น้ ี เอกวจนะ (พหวุ จนะ เตมิ ท. (ทงั้ หลาย)) ป. ท ่ี ๑ อ. (อนั วา่ ) ท.ุ ท ี่ ๒ ซงึ่ , ส,ู่ ยงั , สน้ิ , ตลอด, กะ, เฉพาะ ต. ท ี่ ๓ ดว้ ย, โดย, อนั , ตาม, เพราะ, ม,ี ดว้ ยทงั้ จ. ท ่ี ๔ แก,่ เพอ่ื , ตอ่ ปญ.ฺ ท ี่ ๕ แต,่ จาก, กวา่ , เหตุ ฉ. ท ่ี ๖ แหง่ , ของ, เมอ่ื ส. ท ่ี ๗ ใน, ใกล,้ ท,่ี ครน้ั เมอ่ื , ในเพราะ, เหนอื , บน, ณ อาลปน แนะ่ , ดกู อ่ น, ขา้ แต ่

วดั พระธรรมกาย 17 วธิ แี จกนามนาม การนั ต ์ (๔๖) สระทส่ี ดุ แหง่ ศพั ทเ์ รยี กวา่ การนั ต ์ ใน ปลํุ งิ ค ์ มกี ารนั ต์ ๕ คอื อ อิ อี อุ อู ใน อติ ถลี งิ ค์ มกี ารนั ต์ ๕ คอื อา อิ อี อุ อ ู ใน นปสุํ กลงิ ค ์ มกี ารนั ต์ ๓ คอื อ อิ อุ (นามท่ียังมิได้ประกอบด้วยวิภัตติ เรียกว่า ศัพท์ ส่วนนามที่ประกอบด้วยวิภัตติแล้ว เรยี กวา่ บท)

18 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ แบบแจกการนั ตใ์ นลงิ คท์ ง้ั ๓ แจกปลุํ งิ ค ์ (๔๗) อ การนั ตใ์ นปลุํ งิ ค์ แจกอยา่ ง ปรุ ส (บรุ ษุ ) ดงั น ้ี เอก. พห.ุ ป. ปรุ โิ ส ปรุ สิ า ท.ุ ปรุ สิ ํ ปรุ เิ ส ต. ปรุ เิ สน ปรุ เิ สหิ ปรุ เิ สภ ิ จ. ปรุ สิ สสฺ ปรุ สิ าย ปรุ สิ ตถฺ ํ ปรุ สิ านํ ปญ.ฺ ปรุ สิ สมฺ า ปรุ สิ มหฺ า ปรุ สิ า ปรุ เิ สหิ ปรุ เิ สภิ ฉ, ปรุ สิ สสฺ ปรุ สิ านํ ส. ปรุ สิ สมฺ ิํ ปรุ สิ มหฺ ิ ปรุ เิ ส ปรุ เิ สส ุ อา. ปรุ สิ ปรุ สิ า

วดั พระธรรมกาย 19 ศพั ทท์ เี่ ปน็ อ การนั ตเ์ ชน่ น้ี แจกเหมอื น ปรุ สิ อาจรยิ อาจารย ์ ปาวก ไฟ กมุ าร เดก็ ผลกิ แกว้ ผลกึ ขตตฺ ยิ กษตั รยิ ์ พก นกยาง คณ หม ู่ ภว ภพ โจร โจร มนสุ สฺ มนษุ ย์ ฉณ มหรสพ ยกขฺ ยกั ษ์ ชน ชน รกุ ขฺ ตน้ ไม ้ ตรุ ค มา้ โลก โลก เถน ขโมย วานร ลงิ ทตู ทตู สหาย เพอ่ื น ธช ธง หตถฺ มอื นร คน

20 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ (๔๘) อิ การนั ต์ ในปลุํ งิ ค์ แจกอยา่ ง มนุ ิ (ผรู้ )ู้ ดงั น ี้ เอก. พห.ุ ป, มนุ ิ มนุ โย มนุ ี ท.ุ มนุ ึ มนุ โย มนุ ี ต. มนุ นิ า มนุ หี ิ มนุ ภี ิ จ. มนุ สิ สฺ มนุ โิ น มนุ นี ํ ปญ.ฺ มนุ สิ มฺ า มนุ มิ หฺ า มนุ หี ิ มนุ ภี ิ ฉ, มนุ สิ สฺ มนุ โิ ส มนุ นี ํ ส. มนุ สิ มฺ ึ มนุ มิ หฺ ิ มนุ สี ุ อา. มนุ ิ มนุ โย มนุ ี ศพั ทท์ เี่ ปน็ อิ การนั ตเ์ ชน่ นี้ แจกเหมอื น มนุ ิ อคคฺ ิ ไฟ ปต ิ เจา้ , ผวั อร ิ ขา้ ศกึ มณ ิ แกว้ มณี อห ิ ง ู วธิ ิ วธิ ี ถปต ิ ชา่ งไม ้ วหี ิ ขา้ วเปลอื ก นธิ ิ ขมุ ทรพั ย ์ สมาธ ิ สมาธิ

วดั พระธรรมกาย 21 (๔๙) อี การนั ตใ์ นปลุํ งิ ค์ แจกอยา่ ง เสฏ€ฺ ี (เศรษฐ)ี ดงั นี้ เอก. พห.ุ ป. เสฏ€ฺ ี เสฏ€ฺ โิ น เสฏ€ฺ ี ท.ุ เสฏ€ฺ ํิ เสฏ€ฺ นิ ํ เสฏ€ฺ โิ น เสฏ€ฺ ี ต. เสฏ€ฺ นิ า เสฏ€ฺ หี ิ เสฏ€ฺ ภี ิ จ. เสฏ€ฺ สิ สฺ เสฏ€ฺ โิ น เสฏ€ฺ นี ํ ป. เสฏ€ฺ สิ มา เสฏ€ฺ มิ หฺ า เสฏ€ฺ หี ิ เสฏ€ฺ ภี ิ ฉ. เสฏ€ฺ สิ สฺ เสฏ€ฺ โิ น เสฏ€ฺ นี ํ ส. เสฏ€ฺ สิ มฺ ํิ เสฏ€ฺ มิ หฺ ิ เสฏ€ฺ สี ุ อา. เสฏ€ฺ ิ เสฏ€ฺ โิ น เสฏ€ฺ ี ศพั ทท์ เี่ ปน็ อี การนั ตเ์ ชน่ น้ี แจกเหมอื น เสฏ€ฺ ี กร ี ชา้ ง มนตฺ ี คนมคี วามคดิ ตปส ี คนมตี บะ เมธาว ี คนมปี ญั ญา ทณฑฺ ี คนมไี มเ้ ทา้ สขิ ี นกยงู ภาณ ี คนชา่ งพดู สขุ ี คนมสี ขุ โภค ี คนมโี ภคะ หตถฺ ี ชา้ ง

22 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ (๕๐) อุ การนั ตใ์ นปลุํ งิ ค์ แจกอยา่ ง ครุ (คร)ู ดงั น ี้ เอก. พห.ุ ป. คร ุ ครโว คร ู ท.ุ คร ุํ ครโว ครู ต. ครนุ า ครหู ิ ครภู ิ จ. ครสุ สฺ ครโุ น ครนู ํ ปญ.ฺ ครสุ มฺ า ครมุ หฺ า ครหู ิ ครภู ิ ฉ, ครสุ สฺ ครโุ น ครนู ํ ส. ครสุ มฺ ํิ ครมุ หฺ ิ ครสู ุ อา. คร ุ ครเว ครโว ศพั ทท์ เ่ี ปน็ อุ การนั ตเ์ ชน่ นี้ แจกเหมอื น คร ุ เกต ุ ธง ภกิ ขฺ ุ ภกิ ษุ ชนตฺ ุ สตั วเ์ กดิ รปิ ุ ขา้ ศกึ ปส ุ สตั วข์ องเลย้ี ง สตตฺ ุ ศตั รู พนธฺ ุ พวกพอ้ ง เสต ุ สะพาน พพพฺ ุ เสอื ปลา, แมว เหต ุ เหต ุ

วดั พระธรรมกาย 23 (๕๑) อู การนั ตใ์ นปลํุ งิ คแ์ จกอยา่ ง วญิ ญฺ ู (ผวู้ เิ ศษ) ดงั น ี้ เอก. พห.ุ ป, วญิ ญฺ ู วญิ ญฺ โุ น วญิ ญฺ ู ท.ุ วญิ ฺ ํุ วญิ ญฺ โุ น วญิ ญฺ ู ต. วญิ ญฺ นุ า วญิ ญฺ หู ิ วญิ ญฺ ภู ิ จ. วญิ ญฺ สุ ส วญิ ญฺ โุ น วญิ ญฺ นู ํ ป. วญิ ญฺ สุ มฺ า วญิ ญฺ มุ หฺ า วญิ ญฺ หู ิ วญิ ญฺ ภู ิ ฉ. วญิ ญฺ สุ สฺ วญิ ญฺ โุ น วญิ ญฺ นู ํ ส. วญิ ญฺ สุ มฺ ิํ วญิ ญฺ มุ หฺ ิ วญิ ญฺ สู ุ อา. วญิ ญฺ ุ วญิ ญฺ โุ น วญิ ญฺ ู ศพั ทท์ เ่ี ปน็ อู การนั ตเ์ ชน่ น้ี แจกเหมอื น วญิ ญฺ ู อภภิ ู พระผเู้ ปน็ ยง่ิ กตญญฺ ู ผรู้ อู้ ปุ การะทคี่ นอน่ื ทำแลว้ ปารค ู ผถู้ งึ ฝงั่ เวทค ู ผถู้ งึ เวท สยมภฺ ู พระผเู้ ปน็ เอง

24 สตู รสำเรจ็ บาลไี วยากรณ์ แจกอติ ถลี งิ ค์ (๕๒) อา การนั ตใ์ นอติ ถลี งิ ค์ แจกอยา่ ง กญฺ า (นางสาวนอ้ ย) ดงั น ้ี เอก. พห.ุ ป. กฺ า กฺ าโย กฺ า ท.ุ กฺ ํ กฺ าโย กฺ า ต. กฺ าย กฺ าห ิ กฺ าภิ จ. กฺ าย กฺ านํ ป.ฺ กฺ าย กฺ าห ิ กฺ าภิ ฉ. กฺ าย กฺ าน ํ ส. กฺ าย กฺ าย ํ กฺ าสุ อา. กเฺ  กฺ าโย กฺ า

วดั พระธรรมกาย 25 ศพั ทท์ เี่ ปน็ อา การนั ตเ์ ชน่ นี้ แจกเหมอื น กญฺ า อจฉฺ รา นางอปั สร ตารา ดาว อาภา รศั ม ี ถวกิ า ถงุ อกิ ขฺ ณกิ า หญงิ แมม่ ด ทารกิ า เดก็ หญงิ อสี า งอนไถ โทลา ชงิ ชา้ อกุ กฺ า คบเพลงิ ธารา ธารนำ้ อกู า เลน็ นารา รศั ม ี เอลกิ า เสาระเนยี ด ปญฺ า ปญั ญา โอชา โอชา พาหา แขน กจฉฺ า รกั แร ้ ภาสา ภาษา คทา ตะบอง มาลา ระเบยี บ ฆฏกิ า ลมิ่ ลาขา ครงั่ เจตนา เจตนา สาลา ศาลา ฉรุ กิ า กฤช สลิ า สลิ า ชปา ชะบา หนกุ า คาง