๑๖๑ องเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ ความสัมพนั ธ์ของดาราศาสตรก์ บั มนุษย์ มท้ังการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยี อวกาศในการดารงชีวิต ตวั ชีว้ ดั ชว่ งชั้น ม.๔ ม.๕ ม.๖ -- ๑. อธบิ ายการกานดิ ละ การปลยี่ นปลงพลงั งาน สสาร ขนาดอุณหภูมขิ อง อกภพหลังกดิ บิกบง฿น ชวํ งวลาตาํ ง ๆ ตาม วิวัฒนาการของอกภพ ๒. อธบิ ายหลกั ฐานที่ สนับสนุนทฤษฎีบกิ บง จากความสมั พนั ธร์ ะหวาํ ง ความรว็ กับระยะทางของ กาล็กซี รวมท้งั ข๎อมูล การค๎นพบเมครวฟพนื้ หลงั จากอวกาศ ๓. อธบิ ายครงสร๎างละ องค์ประกอบของกาลก็ ซี ทางชา้ งผือก ละระบุ
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ตัวช้ีวดั ชั้นปี ม.๑ ม.๒
๑๖๒ ตวั ชี้วดั ชว่ งชัน้ ม.๔ ม.๕ ม.๖ ตาหนงํ ของระบบสุรยิ ะ พร๎อมอธิบายช่อื มยงกบั การสังกตหน็ ทางชา๎ ง ผือกของคนบนลก ๔. อธบิ ายกระบวนการกดิ ดาวฤกษ์ ดยสดงการ ปลยี่ นปลงความดนั อุณหภมู ิ ขนาด จากดาว ฤกษ์กอํ นกดิ จนป็นดาว ฤกษ์ ๕. อธบิ ายกระบวนการสรา๎ ง พลังงานของ ดาวฤกษ์ ละผลท่ี กดิ ขน้ึ ดย วิ คราะหป์ ฏกิ ริ ยิ าลกู ซํ ปรตอน-ปรตอน ละวฏั จกั รคาร์บอน เนตรจน ออกซิ จน ๖. ระบปุ จั จยั ทส่ี งํ ผลตอํ ความสอํ งสวาํ งของ ดาว ฤกษ์ ละอธิบาย
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ตัวช้ีวดั ชั้นปี ม.๑ ม.๒
๑๖๓ ตวั ชี้วดั ชว่ งชัน้ ม.๔ ม.๕ ม.๖ ความสัมพันธร์ ะหวาํ ง ความสํองสวํางกับชติ มาตรของดาวฤกษ์ ๗. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ ระหวํางสี อณุ หภมู ผิ ิว ละสปกตรมั ของดาว ฤกษ์ ๘. อธบิ ายวิธกี ารหา ระยะทางของดาวฤกษ์ ด๎วยหลกั การพรลั ลกซ์ พร๎อมคานวณหา ระยะทางของดาวฤกษ์ ๙. อธบิ ายลาดับวิวัฒนาการ ทีส่ ัมพนั ธ์กบั มวลต้งั ต๎น ละวิคราะห์การ ปลย่ี นปลงสมบตั ิบาง ประการของดาวฤกษ์฿น ลาดับวิวัฒนาการ จาก ผนภาพฮริ ์ซปรงุ -รัส ซลล์
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ตัวช้ีวดั ชั้นปี ม.๑ ม.๒
๑๖๔ ตวั ชี้วดั ช่วงชั้น ม.๔ ม.๕ ม.๖ ๑๐. อธบิ ายกระบวนการกิด ระบบสรุ ิยะ การบํงขต บริวารของดวงอาทิตย์ ละลักษณะของดาว คราะหท์ ี่อื้อตํอการ ดารงชวี ติ ๑๑. อธบิ ายการคจรของดาว คราะห์ รอบดวงอาทติ ย์ ดว๎ ยกฏคพลอร์ ละ กฎ ความนม๎ ถํวงของนิวตนั พรอ๎ มคานวณคาบการ คจรของดาวคราะห์ ๑๒. อธบิ ายครงสรา๎ งของดวง อาทิตย์ การกิดลมสรุ ยิ ะ พายสุ ุริยะ ละวิ คราะห์ นาสนอปรากฏการณ์ หรอื หตุการณ์ที่ ก่ยี วขอ๎ ง กับผลของลมสุรยิ ะ ละ พายสุ รุ ยิ ะทม่ี ีตอํ ลก รวมท้งั ประทศเทย
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ตัวช้ีวดั ชั้นปี ม.๑ ม.๒
๑๖๕ ตวั ชี้วดั ชว่ งชัน้ ม.๔ ม.๕ ม.๖ ๑๓. สร๎างบบจาลองทรงกลม ฟูา สังกต ละช่อื มยง จดุ ละส๎นสาคญั ของ บบจาลอง ทรงกลมฟาู กบั ทอ๎ งฟูาจรงิ ละ อธบิ ายการระบพุ กิ ัดของ ดาว฿นระบบขอบฟาู ละ ระบบ ศนู ยส์ ูตร ๑๔. สงั กตทอ๎ งฟาู ละอธิบาย สน๎ ทางการขึ้น การตก ของดวงอาทติ ย์ละดาว ฤกษ์ ๑๕. อธบิ ายวลาสุรยิ คติ ปรากฏ ดยรวบรวม ข๎อมูล ละปรียบทยี บ วลาขณะทีด่ วงอาทติ ย์ ผํานมริ ดยี นของผูส๎ ังกต ฿นตํละวัน
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ตัวช้ีวดั ชั้นปี ม.๑ ม.๒
๑๖๖ ตวั ชี้วดั ชว่ งชัน้ ม.๔ ม.๕ ม.๖ ๑๖. อธบิ ายวลาสุรยิ คตปิ า้ นก ลาง ละ การ ปรียบทยี บวลาของตํ ละขตวลา บนลก ๑๗. อธบิ ายมุมห่างทส่ี มั พันธ์ กบั ตาหนํง ฿นวงคจร ละอธิบายชอื่ มยงกบั ตาหนํงปรากฏของดาว คราะห์ที่สังกตเด๎จาก ลก ๑๘. สบื คน๎ ข๎อมลู อธบิ ายการ สารวจอวกาศ ดย฿ช๎ กลอ๎ งทรทรรศน์฿นชํวง ความยาวคลื่นตาํ ง ๆ ดาวทยี ม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ ละ นาสนอนวคิดการนา ความรู๎ทางด๎านทคนลยี อวกาศมาประยุกต฿์ ช๎฿น ชวี ติ ประจาวนั หรอื ฿นอนา คต
หลักสูตรโรงเรียนเข่ือนผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ตัวชี้วัดช้นั ปี ม.๑ ม.๒ หมายเหตุ: มาตรฐาน ว ๗.๑ – ว ๗.๓ สาหรับผ๎ู รียน฿นระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ – ๖ ทเ่ี น้นวทิ ย
ม.๔ ตวั ชว้ี ัดชว่ งช้ัน ๑๖๗ ยาศาสตร์ ม.๕ ม.๖ ๑๙. สบื ค๎นขอ๎ มลู ออกบบ ละนาสนอกิจกรรมการ สังกตดาวบนทอ๎ งฟาู ด๎วย ตาปลาํ ละ/หรอื กล๎อง ทรทรรศน์
หลกั สูตรโรงเรียนเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระท่ี ๘ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๘.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชีวติ ในสังคมทมี่ กี า และศาสตรอ์ นื่ ๆ เพือ่ แก้ปัญหา หรอื พัฒนางานอย่างมีความคดิ สรา้ งสรรค์ด้วยกระ ผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสง่ิ แวดล้อม ตวั ชี้วัดช้นั ปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ๑. อธบิ ายนวคดิ หลักของ ๑. คาดการณ์นวนม๎ ๑. วิ คราะหส์ าหตุหรอื ทคนลยี ฿น ทคนลยีทจ่ี ะกดิ ข้ึนดย ปจั จัยทส่ี งํ ผลตอํ ชีวิตประจาวนั ละ พิจารณาจากสาหตุหรอื ปลี่ยนปลงของ วิคราะหส์ าหตุ หรือ ปัจจยั ทสี่ งํ ผลตอํ การ ทคนลยี ปัจจยั ท่สี งํ ผลตํอการ ปลี่ยนปลงของ ความสัมพันธ์ของ ปลีย่ นปลงของ ทคนลยี ละวิ คราะห์ ทคนลยีกบั ศาสตร ทคนลยี ปรยี บทยี บ ตัดสิน฿จ ดยฉพาะวทิ ยาศาส ๒. ระบปุ ญั หาหรือความ ลอื ก฿ช๎ ทคนลยี ดย หรอื คณติ ศาสตร์ พ ต๎องการ฿นชวี ติ ประจาวนั คานงึ ถึงผลกระทบที่ นวทางการก๎ปัญห รวบรวม วิ คราะหข์ อ๎ มูล กิดขน้ึ ตอํ ชวี ติ สังคม ละ หรือพัฒนางาน ละนวคิดที่ กย่ี วข๎องกับ สิ่งวดล๎อม ปญั หา ๒. ระบุปญั หาหรอื ความ ต๎องการ฿นชุมชน หรอื ทอ๎ งถนิ่ สรุปกรอบของ ปญั หา รวบรวม วิ คราะห์ ข๎อมลู ละนวคิดท่ี กยี่ วข๎องกบั ปญั หา
๑๖๘ ารเปล่ยี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ะบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคานงึ ถึง ตัวชวี้ ัดช่วงช้ัน ม.๔ ม.๕ ม.๖ อ ๑. วิ คราะห์ นวคิดหลักของ ๑. ประยุกต฿์ ชค๎ วามร๎ู ละ การ ทคนลยี ความสมั พนั ธ์ ทักษะจากศาสตร์ กับศาสตร์อ่ืนดยฉพาะ ตาํ ง ๆ รวมท้งั ทรพั ยากร ละ วิทยาศาสตร์ หรอื ฿นการทาครงงานพือ่ คณติ ศาสตร์ รวมทั้ง ก๎ปญั หา หรอื พฒั นางาน รอ์ ืน่ ประมนิ ผลกระทบท่ีจะ สตร์ กดิ ขึ้นตํอมนษุ ย์ สงั คม พ่ือป็น ศรษฐกจิ ละส่ิงวดล๎อม หา พื่อป็นนวทาง ฿นการ พฒั นาทคนลยี
หลักสูตรโรงเรียนเขอ่ื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตัวชี้วัดช้ันปี ม.๓ ๓. ออกแบบวิธีการ ม.๒ ๒. ระบปุ ัญหาหรอื ค แก้ปัญหา โดย ๓. ออกบบวธิ ีการกป๎ ญั หา ต๎องการของชุมช วเิ คราะห์ ดยวิ คราะห์ ปรยี บทยี บ หรอื ท๎องถนิ่ เปรียบเทยี บ และ ละตดั สนิ ฿จลือกข๎อมลู ที่ พฒั นางานอาชพี ตดั สนิ ใจเลอื กข้อมลู จาป็นภาย฿ต๎ งอื่ นเขละ สรปุ กรอบของป ทีจ่ าเป็ น นาเสนอ ทรพั ยากรทม่ี ีอยํู นาสนอ รวบรวม วิค แนวทางการ นวทางการกป๎ ัญหา฿ห๎ ข๎อมลู ละนวค แก้ปัญหาให้ผ้อู นื่ ผอ๎ู ืน่ ข๎า฿จ วางผน กย่ี วขอ๎ งกับปญั เข้าใจ วางแผนและ ข้ันตอนการทางานละ ดยคานงึ ถึง ดาเนนิ การแก้ปัญหา ดานนิ การกป๎ ญั หาอยําง ถูกต๎องด๎านทรัพ ปน็ ข้ันตอน ทางปัญญา ๔. ทดสอบ ประมนิ ผล ละ อธิบายปัญหา หรอื ขอ๎ บกพรอํ งท่ี กิดขนึ้ ภาย ฿ต๎กรอบง่ือนเข พรอ๎ มท้ัง หานวทางการปรับปรุง กเ๎ ข ละนาสนอผลการ กป๎ ัญหา หมายเหตุ: มาตรฐาน ว ๘.๑ สาหรับผ๎ู รียน฿นระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ – ๕
ม.๔ ตวั ชี้วดั ชว่ งชน้ั ๑๖๙ ๒. ระบปุ ัญหาหรือความ ม.๕ ม.๖ ต้องการทม่ี ี ความ ผลกระทบตอ่ สงั คม ชน รวบรวม วเิ คราะห์ ข้อมลู และแนวคดิ ที่ พอ่ื เก่ียวข้องกบั ปัญหาท่ี พ มคี วามซบั ซ้อนเพ่ือ ปัญหา สงั เคราะห์วิธีการ คราะห์ เทคนิคในการ คดิ ที่ แก้ปัญหา โดย ญหา คานงึ ถงึ ความ ความ ถกู ต้องด้านทรัพย์สนิ พยส์ ิน ทางปัญญา
หลกั สูตรโรงเรยี นเขื่อนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตัวชีว้ ัดช้นั ปี ม.๓ ๔. ทดสอบ ประมินผล ละ ม.๒ ๓. ออกบบวธิ ีการ ระบขุ อ๎ บกพรํอง ที่ กิดข้ึน ๕. ฿ช๎ความร๎ู ละทกั ษะ กป๎ ญั หา ดย พร๎อมท้ังหานวทางการ กย่ี วกับวสั ดุ อุปกรณ์ วิคราะห์ ปรยี บ ปรบั ปรุงก๎เข ละ ครื่องมอื กลเก ละตดั สิน฿จลอื นาสนอผลการกป๎ ญั หา เฟฟูา ละ ข๎อมลู ที่จาป็นภ ๕. ฿ช๎ความร๎ูละทกั ษะ อิ ลก็ ทรอนิกส์ พือ่ ง่อื นเขละ ก่ยี วกับวัสดุ อุปกรณ์ ก๎ปญั หาหรือพัฒนา ทรัพยากรทม่ี อี ย ครื่องมอื กลเก เฟฟาู งานเดอ๎ ยาํ งถูกตอ๎ ง นาสนอนวทาง หรอื อิล็กทรอนกิ ส์ พอื่ หมาะสม ละ กป๎ ญั หา฿ห๎ผูอ๎ ืน่ ก๎ปญั หาเดอ๎ ยํางถูกต๎อง ปลอดภัย ขา๎ ฿จด๎วยทคน หมาะสมละปลอดภยั วธิ กี ารทหี่ ลากห วางผนขน้ั ตอน การทางานละ ดานินการก๎ปญั อยาํ งปน็ ขั้นตอน
ม.๔ ตวั ชี้วดั ช่วงช้นั ๑๗๐ ๓. ออกบบวธิ ีการ ม.๕ ม.๖ กป๎ ัญหา ดย ร วิ คราะห์ ปรยี บทียบ ละตดั สิน฿จลือก บทยี บ ข๎อมลู ทจี่ าป็นภาย฿ต๎ อก ง่ือนเขละ ภาย฿ต๎ ทรพั ยากรท่ีมีอยํู นาสนอนวทางการ ยูํ ก๎ปัญหา฿หผ๎ ๎อู ื่น งการ ข๎า฿จด๎วยทคนิคหรอื น วิธกี ารทหี่ ลากหลาย นิคหรอื ดย฿ชซ๎ อฟต์วร์ หลาย ชํวย฿นการออกบบ น วางผนขน้ั ตอน การ ทางานละ ญหา ดานนิ การกป๎ ญั หา น
หลกั สูตรโรงเรยี นเขือ่ นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ๕. ทดสอบ ประมิน ตวั ชีว้ ดั ชนั้ ปี ม.๑ ม.๒ วิคราะห์ละ฿ห หตุผลของปญั ห หรือข๎อบกพรํอง กิดขนึ้ ภาย฿ต๎ ก งือ่ นเข พร๎อมท นวทางการปรบั กเ๎ ข ละนาสน การก๎ปญั หา ๖. ฿ช๎ความร๎ูละทัก ก่ยี วกบั วสั ดุ อุป ครอ่ื งมอื กลเก เฟฟาู ละ อิล็กทรอนกิ ส฿์ ห ถกู ตอ๎ งกับลกั ษณ ของงาน ละ ปลอดภัย พือ่ กป๎ ัญหาหรือพัฒ งาน
ม.๔ ตัวชีว้ ัดชว่ งชั้น ๑๗๑ นผล ๕. ทดสอบ ประมินผล ม.๕ ห๎ วิ คราะห์ละ฿ห๎ ม.๖ หา หตผุ ลของปัญหา งท่ี หรือข๎อบกพรอํ งที่ กรอบ กิดขึน้ ภาย฿ตก๎ รอบ ท้ังหา ง่อื นเข หานวทาง บปรุง การปรับปรุงกเ๎ ข นอผล ละนาสนอผลการ กป๎ ัญหา พรอ๎ มท้งั กษะ สนอนวทางการ ปกรณ์ พฒั นาตํอยอด ๖. ฿ช๎ความรู๎ ละทักษะ กีย่ วกบั วัสดุ อปุ กรณ์ ห๎ ครื่องมอื กลเก ณะ เฟฟาู ละ อิ ล็กทรอนิกส์ ละ ทคนลยที ่ซี ับซอ๎ น ฒนา ฿นการก๎ปัญหาหรอื พฒั นางาน เดอ๎ ยําง ถูกตอ๎ ง หมาะสม ละปลอดภยั
หลกั สูตรโรงเรียนเขื่อนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระท่ี ๘ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๘.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาทพี่ บในชวี ติ จริง การทางาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม ตัวช้ีวัดช้ันปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ๑. ออกบบอัลกอริทมึ ท฿ี่ ช๎ ๑. ออกบบอลั กอริทมึ ท่฿ี ช๎ ๑. พัฒนาอพพลิ คชนั ท นวคดิ ชิงนามธรรมพอื่ นวคดิ ชิงคานวณ฿นการ การบรู ณาการกบั วิช กป๎ ัญหาหรอื อธบิ ายการ กป๎ ัญหา หรือการทางาน อยาํ งสรา๎ งสรรค์ ทางานทพี่ บ ฿นชีวติ จริง ทีพ่ บ ฿นชวี ติ จรงิ ๒. รวบรวมขอ๎ มลู ประมวลผล ประม ๒. ออกบบละขียน ๒. ออกบบละขยี น ปรกรมอยํางงําย พ่อื ปรกรมท฿่ี ช๎ตรรกะละ นาสนอข๎อมลู ละ กป๎ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ ฟังกช์ ัน฿นการก๎ปัญหา สารสนทศ หรอื วิทยาศาสตร์ ๓. อภิปรายองคป์ ระกอบ วตั ถุประสงค์ ดย฿ช๎ ละหลกั การทางานของ ซอฟต์ วร์ หรือบ ระบบคอมพิวตอร์ ละ บนอินทอร์ นต็ ท่ี ทคนลยี การสื่อสาร หลากหลาย พ่อื ประยุกต์฿ช๎งาน หรือ ๓. ประมินความนาํ ชอ่ื กป๎ ัญหาบื้องตน๎ ของข๎อมลู วิ ครา ละผลกระทบจากก ขาํ วสารทผ่ี ดิ พอื่ ก งานอยาํ งรู๎ ทาํ ทนั
๑๗๒ งอย่างเปน็ ขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ ตวั ช้ีวัดช่วงชัน้ ม.๔ ม.๕ ม.๖ ทม่ี ี ๑. ประยุกต์฿ช๎ นวคิดชิง ๑. รวบรวม วิ คราะห์ขอ๎ มลู ๑. ฿ช๎ ทคนลยสี ารสนทศ ชาอ่นื คานวณ฿นการพฒั นา ละ฿ช๎ความร๎ู ดา๎ น ฿นการนาสนอ ละ ครงงานท่ีมกี ารบรู ณา วิทยาการคอมพวิ ตอร์ บงํ ปนั ข๎อมลู อยําง การกบั วชิ าอื่น อยําง ส่ือดจิ ิทลั ทคนลยี ปลอดภยั มีจริยธรรม มินผล สร๎างสรรค์ ละชอื่ มยง สารสนทศ฿นการ ละวิ คราะห์การ กับชีวติ จริง ก๎ปญั หา หรอื พม่ิ มลู คํา ปลีย่ นปลงทคนลยี ตาม ฿ห๎กับบริการหรอื สารสนทศท่ีมผี ลตอํ การ ผลิตภณั ฑท์ ฿่ี ช๎ ฿นชีวิตจรงิ ดานินชวี ติ อาชีพ สงั คม บริการ อยาํ งสร๎างสรรค์ ละวัฒนธรรม อถอื าะหส์ ื่อ การ฿ห๎ การ฿ช๎
หลักสูตรโรงเรยี นเขือ่ นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตวั ช้ีวดั ชน้ั ปี ม.๓ ม.๒ ๔. ฿ช๎ทคนลยสี ารสน ๓. รวบรวมขอ๎ มลู ปฐมภมู ิ ๔. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อยํางปลอดภยั ประมวลผล ประมินผล อยา่ งปลอดภยั มคี วาม ความรับผิดชอบตํอส รับผิดชอบ สร้างและ ปฏบิ ัติตามกฎหมาย นาสนอข๎อมลู ละ แสดงสทิ ธิ ในการ ก่ยี วกบั คอมพวิ ตอร เผยแพร่ผลงาน ลิขสทิ ธข์ิ องผู๎อน่ื ดย สารสนทศ ตาม ธรรม วตั ถปุ ระสงค์ดย฿ช๎ ซอฟต์ วร์ หรือบริการบน อินทอร์ นต็ ท่หี ลากหลาย ๔. ฿ช๎ทคนลยสี ารสนทศ อยาํ งปลอดภยั ฿ช๎สอ่ื ละ หลํงขอ๎ มูลตาม ข๎อกาหนดละขอ๎ ตกลง
ม.๔ ตัวชี้วัดชว่ งชนั้ ๑๗๓ ทศ ม.๕ ละมี ม.๖ สงั คม ร์ ฿ช๎ ยชอบ
หลกั สูตรโรงเรยี นเขื่อนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศ ทาไมต้องเรียนสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม กลุมํ สาระการรียนรส๎ู งั คมศึกษา ศาสนาละวฒั นธรรม ชํวย฿หผ๎ ๎ู รยี นมีความ ปรบั ตวั ตามสภาพวดล๎อม การจัดการทรพั ยากรท่ีมีอยูํอยํางจากดั ขา๎ ฿จถงึ การพฒั นา ผอู๎ น่ื มคี วามอดทน อดกล้นั ยอมรับ฿นความตกตาํ ง ละมีคุณธรรม สามารถนาความ เรยี นรู้อะไรในสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลมํุ สาระการรยี นร๎ูสงั คมศึกษา ศาสนา ละวฒั นธรรมวาํ ดว๎ ยการอยรูํ วํ มกัน สามารถปรับตนองกับบรบิ ทสภาพวดล๎อม ปน็ พลมืองดี มีความรับผิดชอบ มคี วา ศาสนา ศลี ธรรม และจรยิ ธรรม นวคดิ พ้นื ฐานกย่ี วกบั ศาสนา ศีลธรรม เปปฏิบตั ิ฿นการพฒั นาตนอง ละการอยูรํ วํ มกันอยํางสันติสขุ ป็นผู๎กระทาความดี มีค หนา้ ทพี่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวติ ระบบการมอื งการปกคร ลกั ษณะละความสาคัญ การปน็ พลมืองดี ความตกตํางละความหลากหลายทา ปน็ ประมุข สทิ ธิ หนา๎ ท่ี สรภี าพการดานนิ ชีวิตอยําง สนั ตสิ ุข฿นสังคมเทยละสงั คม เศรษฐศาสตร์ การผลติ การจกจําย ละการบริภคสินค๎าละบรกิ าร กา ภาพ ละการนาหลักศรษฐกิจพอพียงเป฿ช฿๎ นชวี ิตประจาวัน
๑๗๔ ศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มรู๎ ความข๎า฿จ การดารงชวี ติ ของมนษุ ยท์ ้งั ฿นฐานะปจั จกบคุ คลละการอยรูํ ํวมกัน฿นสังคม การ า ปลย่ี นปลงตามยคุ สมัย กาลวลา ตามหตปุ ัจจัยตํางๆ กิดความข๎า฿จ฿นตนอง ละ มรู๎เปปรบั ฿ช๎฿นการดานนิ ชวี ิต ป็นพลมอื งดีของประทศชาติ ละสังคมลก น฿นสงั คม ที่มคี วามช่ือมสัมพนั ธ์กัน ละมคี วามตกตํางกนั อยํางหลากหลาย พื่อชวํ ย฿ห๎ ามร๎ู ทักษะ คุณธรรม ละคาํ นยิ มท่ีหมาะสม ดยเด๎กาหนดสาระตํางๆเว๎ ดังน้ี ม จริยธรรม หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถือ การนาหลักธรรมคาสอน คํานยิ มทด่ี ีงาม พัฒนาตนองอยํู สมอ รวมท้ังบาพ็ญประยชนต์ ํอสังคมละสวํ นรวม รอง฿นสังคมปัจจุบันการปกครองระบอบประชาธิปเตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงปน็ ประมุข างวัฒนธรรม คาํ นิยม ความชือ่ ปลกู ฝังคํานิยมด๎านประชาธปิ เตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรง มลก ารบริหารจดั การทรัพยากรที่มีอยํูอยํางจากัดอยํางมปี ระสิทธภิ าพ การดารงชวี ติ อยํางมดี ุลย
หลกั สูตรโรงเรยี นเขือ่ นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ประวัติศาสตร์ วลาละยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศ หตกุ ารณต์ ํางๆ ผลกระทบท่ีกดิ จากหตกุ ารณ์สาคัญ฿นอดีต บุคคลสาคัญที่มีอิทธิพล หลงํ อารยธรรมที่สาคัญของลก ภูมิศาสตร์ ลักษณะของลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ หลํงท ครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์ ความสมั พนั ธก์ ันของสิง่ ตาํ งๆ ฿นระบบธรรมชาติ ความสัมพนั ธ สารสนทศ การอนุรักษ์สิง่ วดล๎อมพ่ือการพัฒนาทยี่ ่งั ยนื คุณภา จบชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ มคี วามร๎ู กีย่ วกบั ความปน็ เปของลก ดยการศกึ ษาประทศเทยปรยี บทยี บ มีทกั ษะทีจ่ าป็นตอํ การปน็ นกั คิดอยาํ งมีวิจารณญาณเดร๎ บั การพฒั นานวคดิ ลก เด๎กํ อชีย ออสตรลีย อชียนีย อฟริกา ยุรป อมริกาหนือ อมริกา฿ต๎ ฿น การมอื งการปกครอง ประวัติศาสตร์ละภูมศิ าสตร์ ดว๎ ยวิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ละ ร๎ูละขา๎ ฿จนวคดิ ละวิ คราะห์ หตกุ ารณ์฿นอนาคต สามารถนามา฿ช๎ปน็ ปร จบช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ มคี วามรู๎ก่ยี วกับความป็นเปของลกอยํางกว๎างขวางละลึกซ้งึ ยงิ่ ข้ึน ป็นพลมืองท่ีดี มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนาท่ีตน ความสขุ รวมทั้งมศี กั ยภาพพ่อื การศกึ ษาตํอ฿นช้ันสูงตามความประสงคเ์ ด๎
๑๗๕ ศาสตร์ พัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ละปลี่ยนปลงของ ลตํอการปล่ียนปลงตํางๆ฿นอดีต ความป็นมาของชาติเทย วัฒนธรรมละภูมิปัญญาเทย ทรัพยากร ละภูมิอากาศของประทศเทย ละภูมิภาค ตํางๆ ของลก การ฿ช๎ผนท่ีละ ธข์ องมนษุ ยก์ ับสภาพวดล๎อมทางธรรมชาติ ละส่ิงท่มี นษุ ย์สร๎างข้ึน การนาสนอข๎อมูลภูมิ าพผ้เู รียน บกับประทศ฿นภูมภิ าคตํางๆ ฿นลก พือ่ พฒั นานวคดิ ร่ืองการอยูํรํวมกนั อยาํ งสันตสิ ขุ ด ละขยายประสบการณ์ ปรียบทียบระหวํางประทศเทยกับประทศ฿นภูมิภาคตํางๆ ฿น นดา๎ นศาสนา คุณธรรม จริยธรรม คํานิยม ความชื่อ ขนบธรรมนียม ประพณี วัฒนธรรม ะสงั คมศาสตร์ ระยชน์฿นการดานินชวี ติ ละวางผนการดานินงานเดอ๎ ยํางหมาะสม นนับถือ รวมท้ังมีคํานิยมอันพึงประสงค์ สามารถอยํูรํ วมกับผู๎อ่ืนละอยํู฿นสังคมเด๎อยํางมี
หลักสูตรโรงเรียนเข่อื นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ มคี วามรู๎ รื่องภูมปิ ญั ญาเทย ความภมู ิ฿จ฿นความป็นเทย ประวัติศาสตร์ของช ปน็ ประมุข มนี สิ ัยทดี่ ฿ี นการบริ ภค ลอื กละตดั สนิ ฿จบริ ภคเดอ๎ ยาํ งหมาะสม มจี ิตสานกึ ละประทศชาติ มุํงทาประยชน์ ละสร๎างส่ิงท่ดี งี าม฿ห๎กับสังค ม มีความร๎ูความสามารถ฿นการจดั การรยี นรูข๎ องตนอง ช้ีนาตนองเด๎ ละสาม
๑๗๖ ชาติเทย ยึดม่ัน฿นวิถีชีวิต ละการปกครองระบอบประชาธิปเตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง ก ละมีสวํ นรวํ ม฿นการอนุรักษ์ประพณีวัฒนธรรมเทย ละสิ่งวดล๎อม มีความรักท๎องถิ่น มารถสวงหาความรจู๎ ากหลงํ การรยี นร๎ูตาํ งๆ฿นสังคมเด๎ตลอดชีวติ
หลักสูตรโรงเรยี นเขอื่ นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระท่ี ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสาคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธ หลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกนั อย่างสันติสขุ ตวั ชี้วัดชน้ั ปี ม. ๑ ม. ๒ ๑. อธิบายการผยผํพระพทุ ธศาสนาหรอื ๑. อธิบายการผยผพํ ระพทุ ธศาสนาหรือ ๑. ศาสนาท่ตี นนบั ถือสูํประทศเทย ศาสนาที่ตนนบั ถอื สปูํ ระทศพ่ือนบ๎าน ๒. วิ คราะหค์ วามสาคัญของ ๒. วิคราะหค์ วามสาคัญของพระพทุ ธ พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนับถือท่ี ศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนบั ถือท่ชี วํ ย ๒. มตี อํ สภาพวดล๎อม฿นสังคมเทย รวมทั้ง สรมิ สร๎างความข๎า฿จอันดีกบั ประทศ การพัฒนาตนละครอบครวั พอื่ นบา๎ น ๓. วิ คราะห์พทุ ธประวัตติ ้งั ตปํ ระสูตจิ น ๓. วิคราะหค์ วามสาคัญของพระพทุ ธศาสนา ถึงบาพญ็ ทุกรกิรยิ าหรือประวตั ศิ าสดาที่ หรอื ศาสนาทตี่ น นับถอื ฿นฐานะท่ี ป็น ๓. ตนนับถือตามท่กี าหนด รากฐานของวัฒนธรรมอกลกั ษณข์ อง ๔. วิคราะห์ ละประพฤตติ นตามบบอยําง ชาติ ละมรดกของชาติ การดานินชีวติ ละข๎อคิดจากประวัติ ๔. อภิปราย ความสาคญั ของพระพทุ ธ สาวก ชาดก รอื่ งลาํ ละศาสนิกชน ศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี น นับถือกบั การ ๔. ตวั อยํางตามทกี่ าหนด พฒั นาชมุ ชนละการจดั ระบยี บสงั คม ๕. อธิบายพทุ ธคุณ ละขอ๎ ธรรมสาคัญ฿น ๕. วิคราะห์พุทธประวัตหิ รือประวัตศิ าสดา กรอบอริยสจั ๔ หรือหลกั ธรรมของ ของศาสนาทีต่ นนับถอื ตามที่กาหนด ๕. ศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามที่กาหนด ห็น ๖. วิ คราะห์ ละประพฤตติ นตามบบอยาํ ง คณุ คาํ ละนาเปพฒั นา กป๎ ัญหาของ การดานนิ ชวี ติ ละขอ๎ คิดจากประวัติ ตนองละครอบครวั สาวก ชาดก รือ่ งลําละศาสนิกชน ๖. หน็ คณุ คาํ ของการพัฒนาจิตพื่อการ ตัวอยํางตามท่ีกาหนด ๖.
๕๘ ธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนบั ถือและศาสนาอื่น มีศรทั ธาทถ่ี ูกต้อง ยึดม่นั และปฏบิ ตั ิตาม ตัวชวี้ ัดชว่ งช้ัน ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ อธิบายการผยผํพระพทุ ธ ศาสนาหรอื ๑. วิคราะหส์ ังคมชมพูทวีป ละคตคิ วามชื่อทาง ศาสนาที่ตนนบั ถอื สปํู ระทศตํางๆ ทวั่ ศาสนาสมยั กํอนพระพทุ ธจ๎าหรือสงั คมสมัยของ ลก ศาสดาทตี่ นนับถือ วิ คราะหค์ วามสาคัญของ ๒. วิ คราะห์พระพทุ ธจ๎า฿นฐานะปน็ มนุษยผ์ ฝ๎ู กึ ตนเด๎ พระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี นนับถอื อยาํ งสูงสุด฿นการตรสั รู๎ การกํอต้ัง วธิ กี ารสอนละ ฿นฐานะทช่ี ํวยสร๎างสรรค์ อารยธรรมละ การผยผพํ ระพุทธ ศาสนาหรอื วิ คราะห์ประวตั ิ ความสงบสุขกํ ลก ศาสดาทตี่ นนับถอื ตามทกี่ าหนด อภิปรายความสาคญั ของ ๓. วิ คราะหพ์ ทุ ธประวัตดิ ๎านการบรหิ าร ละการธารง พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถอื รักษาศาสนาหรอื วิคราะห์ประวตั ศิ าสดาทต่ี นนับ กบั ปรชั ญาของศรษฐกิจพอพยี งละ ถือตามที่กาหนด การพัฒนาอยํางยงั่ ยืน ๔. วิ คราะห์ขอ๎ ปฏิบัติทางสายกลาง฿น วิคราะห์ พทุ ธประวัติจากพระพุทธรูป พระพทุ ธศาสนา หรอื นวคดิ ของศาสนาท่ตี นนับ ปางตํางๆ หรือประวัตศิ าสดาท่ตี นนบั ถือ ถือตามท่กี าหนด ตามทีก่ าหนด ๕. วิคราะหก์ ารพฒั นาศรัทธาละปญั ญาทถ่ี กู ตอ๎ ง฿น วิ คราะห์ละประพฤตติ นตามบบอยําง พระพทุ ธศาสนา หรอื นวคดิ ของศาสนาที่ตนนับ การดานนิ ชวี ิตละขอ๎ คิดจากประวตั ิ ถอื ตามที่กาหนด สาวก ชาดก ร่อื งลาํ ละศาสนกิ ชน ๖. วิ คราะห์ ลกั ษณะประชาธปิ เตย฿น ตัวอยํางตาม ทีก่ าหนด พระพทุ ธศาสนาหรอื นวคิดของศาสนาท่ตี นนับถือ อธบิ าย สังฆคณุ ละข๎อธรรมสาคัญ฿น ตามทกี่ าหนด
หลักสูตรโรงเรยี นเขื่อนผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตัวชี้วดั ชัน้ ปี ม. ๑ ม. ๒ รยี นร๎ูละการดานนิ ชีวิตดว๎ ยวธิ คี ดิ บบ ๗. อธบิ ายครงสร๎างละสาระ สงั ขปของ ยนิสมนสกิ ารคอื วิธีคดิ บบคณุ คาํ ท-๎ พระเตรปฏิ ก หรือคมั ภรี ์ของศาสนาทีต่ น ๗. คณุ คาํ ทียม ละวิธีคดิ บบคณุ -ทษละ นบั ถอื ๘. อธิบายธรรมคณุ ละขอ๎ ธรรมสาคญั ฿น ทางออก หรือการพัฒนาจิตตามนวทาง กรอบอรยิ สจั ๔ หรือหลักธรรมของศาสนา ๗. ของศาสนาทีต่ นนับถือ ท่ีตนนบั ถอื ตามที่กาหนดห็นคณุ คาํ ละ ๘. สวดมนต์ ผํมตตา บรหิ ารจิตละจรญิ นาเปพัฒนา ก๎ปัญหาของชุมชนละ ปัญญาดว๎ ย อานาปานสตหิ รอื ตาม สังคม นวทางของศาสนาทีต่ นนบั ถอื ตามที่ ๙. หน็ คณุ คาํ ของการพฒั นาจติ พ่อื การ กาหนด รียนร๎ู ละดานนิ ชีวติ ดว๎ ยวธิ คี ดิ บบ ๘. วิคราะห์ละปฏบิ ตั ิตนตาม หลกั ธรรมทาง ยนิสมนสิการ คือ วธิ ีคดิ บบอบุ าย ศาสนาที่ตน นับถือ฿นการดารงชีวิตบบ พอพียงละดูลรักษาสิง่ วดล๎อมพ่ือ ปลุกร๎าคุณธรรม ละวธิ ีคิดบบอรรถ การอยรูํ ํวมกันเดอ๎ ยาํ งสันตสิ ุข ๙. วิ คราะห์ หตผุ ลความจาปน็ ทท่ี กุ คนตอ๎ ง ธรรมสัมพันธ์ หรือการพฒั นาจิตตาม ๙. นวทางของศาสนาที่ตนนบั ถอื ศกึ ษารยี นร๎ูศาสนาอื่นๆ ๑๐. สวดมนต์ ผํมตตา บริหารจติ ละจรญิ ๑๐. ปฏบิ ัตติ นตํอศาสนกิ ชนอืน่ ฿นสถานการณ์ ปญั ญาด๎วยอานาปานสติหรือตาม ๑๐. ตํางๆ เดอ๎ ยาํ งหมาะสม นวทางของศาสนาทีต่ นนับถือ ๑๑. วิคราะหก์ ารกระทาของบคุ คลท่ี ป็น ๑๑. วิคราะห์การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมทาง บบอยํางด๎าน ศาสนสมั พันธ์ ละ ศาสนาทตี่ นนับถือพือ่ การดารงตนอยาํ ง หมาะสม฿นกระสความปล่ยี นปลง นาสนอนวทางการปฏิบตั ิของตนอง ของลก ละการอยํรู วํ มกนั อยาํ งสนั ติสุข
๕๙ ตัวชี้วัดช่วงชนั้ ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ กรอบอริยสจั ๔ หรอื หลกั ธรรมของ ๗. วิ คราะหห์ ลกั การของพระพุทธศาสนากบั หลกั ศาสนาที่ตน นับถอื ตามทก่ี าหนด วทิ ยาศาสตร์หรอื นวคดิ ของศาสนาท่ีตนนับถอื หน็ คณุ คาํ ละวิ คราะห์การปฏบิ ตั ติ น ตามทกี่ าหนด ตามหลกั ธรรม฿นการพัฒนาตนพื่อ ๘. วิ คราะห์การฝกึ ฝนละพฒั นาตนอง การ ตรียม พรอ๎ มสาหรับการทางานละการ พ่งึ ตนอง ละการมงุํ อสิ รภาพ฿นพระพุทธศาสนา มีครอบครวั หรอื นวคดิ ของศาสนาทต่ี นนบั ถือตามที่กาหนด ห็นคุณคาํ ของการพฒั นาจติ พ่อื การ ๙. วิคราะหพ์ ระพุทธศาสนาวําปน็ ศาสตร์ หํง การศึกษา ซงึ่ น๎น ความสมั พันธ์ของหตุปัจจัยกับ รยี นรู๎ละดานนิ ชีวิตด๎วยวธิ คี ิดบบ วธิ กี ารก๎ปญั หาหรือนวคดิ ของศาสนาทต่ี น นบั ยนิ ส-มนสกิ ารคอื วธิ ีคดิ บบอรยิ สัจ ละวิธคี ดิ บบสืบสาวหตปุ ัจจัยหรือการ ถอื ตามทก่ี าหนด พัฒนาจติ ตามนวทางของศาสนาทต่ี น ๑๐. วิคราะหพ์ ระพุทธศาสนา฿นการฝกึ ตน เมํ฿ห๎ นับถือ ประมาท มํงุ ประยชน์ ละสนั ตภิ าพบุคคล สังคม สวดมนต์ ผํ มตตา บรหิ ารจติ ละ ละลกหรอื นวคดิ ของศาสนาทต่ี นนบั ถือตามที่ จรญิ ปญั ญาด๎วยอานาปานสติหรอื ตาม กาหนด นวทางของศาสนาทต่ี น นับถือ ๑๑. วิ คราะห์พระพุทธศาสนากับปรชั ญาของศรษฐกิจ . วิคราะหค์ วามตกตํางละยอมรบั วถิ ี พอพียงละการพฒั นาประทศบบยัง่ ยืน หรือ การดานนิ ชวี ิตของศาสนกิ ชน฿นศาสนา นวคดิ ของศาสนาทีต่ นนับถอื ตามที่กาหนด อ่นื ๆ ๑๒. วิ คราะหค์ วามสาคญั ของพระพทุ ธศาสนากย่ี วกับ การศึกษาท่ีสมบรู ณ์ การมอื งละสนั ตภิ าพหรอื นวคดิ ของศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามทีก่ าหนด ๑๓. วิ คราะหห์ ลกั ธรรม฿นกรอบอรยิ สจั ๔ หรอื หลกั คา สอนของศาสนาทตี่ นนบั ถือ ๑๔. วิคราะหข์ อ๎ คดิ ละบบอยาํ งการดานินชวี ติ จาก
หลกั สูตรโรงเรียนเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตวั ช้วี ัดช้ันปี ม. ๑ ม. ๒
๖๐ ตัวชี้วัดชว่ งชน้ั ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ ประวัตสิ าวก ชาดก รื่องลําละศาสนกิ ชน ตวั อยาํ งตามท่ีกาหนด ๑๕. วิ คราะหค์ ุณคาํ ละความสาคญั ของการสงั คายนา พระเตรปิฏกหรอื คมั ภรี ข์ องศาสนา ทีต่ นนบั ถือ ละการผยผํ ๑๖. ชอ่ื มั่นตอํ ผลของการทาความดี ความช่วั สามารถ วิ คราะหส์ ถานการณท์ ต่ี อ๎ งผชญิ ละตดั สิน฿จ ลือกดานนิ การหรอื ปฏบิ ตั ติ นเด๎อยํางมี หตผุ ล ถกู ตอ๎ งตามหลกั ธรรม จริยธรรม ละกาหนด ปาู หมาย บทบาทการดานนิ ชวี ติ พื่อการอยูํ รํวมกนั อยาํ งสันตสิ ุข ละอยรํู ํวมกนั ป็นชาติอยําง สมานฉนั ท์ ๑๗. อธบิ ายประวัติศาสดาของศาสนาอนื่ ๆ ดยสังขป ๑๘. ตระหนกั ฿นคณุ คําละความ สาคัญของคาํ นิยม จรยิ ธรรมท่ี ปน็ ตวั กาหนดความชอ่ื ละพฤตกิ รรม ท่ี ตกตํางกนั ของ ศาสนกิ ชนศาสนาตํางๆ พื่อ ขจดั ความขัดย๎งละอยรํู ํวมกนั ฿นสงั คมอยาํ งสันติ สุข ๑๙. หน็ คุณคาํ ช่อื มั่นละมุํงม่นั พฒั นาชีวติ ดว๎ ยการ พฒั นาจติ ละพฒั นาการรียนรดู๎ ๎วยวธิ ีคิดบบ ยนิส-มนสกิ าร หรอื การพฒั นาจิตตามนวทาง ของศาสนาทต่ี นนบั ถอื ๒๐. สวดมนต์ ผํ มตตาละบรหิ ารจติ ละจรญิ
หลักสูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตวั ชว้ี ดั ชั้นปี ม. ๑ ม. ๒ สาระท่ี ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏิบตั ติ นเปน็ ศาสนิกชนที่ดี และธารงรกั ษา ตวั ชว้ี ดั ช้นั ปี ม. ๑ ม. ๒ ๑. บาพ็ญประยชน์ตํอศาสนสถานของ ๑. ปฏิบัติตนอยํางหมาะสมตํอบุคคลตํางๆ ๑. ศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนับถอื ตามที่กาหนด ๒. อธิบาย จริยวัตรของสาวกพ่ือป็น ๒. มีมรรยาทของความป็นศาสนิกชนท่ีดี ๒. บบอยําง฿นการประพฤติปฏิบัติละ ตามท่กี าหนด ปฏิบัติตนอยํางหมาะสมตํอสาวกของ ๓. วิคราะห์คุณคําของศาสนพิธีละปฏิบัติ ๓. ศาสนาท่ีตน นับถอื ตนเดถ๎ กู ต๎อง ๔. ๓. ปฏิบัติตนอยํางหมาะสมตํอบุคคลตํางๆ ๔. อธิบาย คาสอนท่ีกี่ยวนื่องกับวันสาคัญ ๕.
๖๑ ตัวชวี้ ัดช่วงช้ัน ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ ปัญญาตามหลกั สตปิ ฏั ฐาน หรอื ตามนวทางของ ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ๒๑. วิ คราะหห์ ลกั ธรรมสาคญั ฿นการอยํรู ํวมกันอยําง สันตสิ ุขของศาสนาอ่ืนๆ ละชกั ชวน สํงสรมิ สนบั สนุน฿ห๎บคุ คลอนื่ หน็ ความสาคญั ของการทา ความดตี ํอกัน ๒๒. สนอนวทางการจดั กจิ กรรม ความรวํ มมอื ของทกุ ศาสนา฿นการกป๎ ญั หาละพัฒนาสงั คม าพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ตี นนับถอื ตวั ชว้ี ัดชว่ งช้นั ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ . วิ คราะห์หนา๎ ที่ละบทบาทของสาวกละ ๑. ปฏิบัติตนป็น ศาสนิกชนท่ีดีตํอสาวก สมาชิก ปฏบิ ัตติ นตํอสาวกตามท่ีกาหนดเด๎ถูกต๎อง ฿นครอบครัว ละคนรอบข๎าง . ปฏิบัติตนอยํางหมาะสมตํอบุคคลตํางๆ ๒. ปฏิบัติตนถูกต๎องตามศาสนพิธี พิธีกรรมตาม ตามหลักศาสนาตามที่กาหนด หลกั ศาสนาท่ีตนนบั ถอื . ปฏิบตั ิหน๎าทข่ี องศาสนิกชนท่ีดี ๓. สดงตนป็นพุทธมามกะหรือสดงตนป็นศา . ปฏิบัติตน฿นศาสนพิธี พธิ ีกรรมเด๎ถูกตอ๎ ง สนิกชนของศาสนาท่ีตนนบั ถือ . อธิบาย ประวัตวิ นั สาคัญทางศาสนาตามท่ี ๔. วิ คราะห์หลักธรรม คตธิ รรม ท่ี กี่ยวนื่องกับวัน
หลักสูตรโรงเรียนเขือ่ นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตัวช้วี ดั ชั้นปี ม. ๑ ม. ๒ ตามหลกั ศาสนา ทต่ี นนับถือตามท่ีกาหนด ทางศาสนาละปฏบิ ตั ติ นเด๎ถกู ต๎อง ๔. จัดพิธีกรรมละปฏิบัติตน฿นศาสนพิธี ๕. อธิบายความตกตํางของศาสนพิธี ๖. พธิ ีกรรมเดถ๎ กู ต๎อง พิธีกรรม ตามนวปฏิบัติของศาสนาอ่ืนๆ ๕. อธิบาย ประวัติความ สาคัญละปฏิบัติ พื่อนาเปสูํการยอมรับ ละความข๎า฿จ ๗. ตน฿นวันสาคัญทางศาสนาที่ตนนับถือ ซง่ึ กนั ละกัน ตามทีก่ าหนดเด๎ถูกต๎อง
๖๒ ตัวชว้ี ัดช่วงชัน้ ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ กาหนดละปฏิบตั ติ นเดถ๎ ูกต๎อง สาคญั ทางศาสนาละทศกาลท่สี าคญั ของศาสนา . สดงตน ป็นพุทธมามกะหรือสดงตน ทีต่ นนับถอื ละปฏบิ ัตติ นเดถ๎ ูกต๎อง ปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาที่ตนนับถือ ๕. สัมมนาละสนอนะนวทาง฿นการธารงรักษา . นาสนอนวทาง฿นการธารงรักษาศาสนา ศาสนาที่ตนนับถืออันสํงผลถึงการพัฒนาตน ที่ตนนับถอื พัฒนาชาติ ละลก
หลกั สูตรโรงเรียนเขื่อนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระท่ี ๒ หน้าทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนนิ ชวี ติ ในสงั คม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าทีข่ องการเป็นพลเมืองดี มีค่านยิ มท่ีด และสงั คมโลกอย่างสันติสขุ ตวั ชี้วัดช้ันปี ม. ๑ ม. ๒ ๑. ปฏิบัติตามกฎหมาย฿นการคุ๎มครองสิทธิของ ๑. อธิบายละปฏิบัติตนตามกฎหมายที่ ๑. บุคคล กย่ี วข๎องกบั ตนอง ครอบครัวชุมชนละ ๒. ระบุความสามารถของตนอง฿นการทา ประทศ ๒. ประยชน์ตํอสังคมละประทศชาติ ๒. ห็นคุณคํา฿นการปฏิบัติตนตาม สถานภาพ ๓. อภปิ รายกี่ยวกับคณุ คาํ ทางวัฒนธรรมท่ีป็น บทบาทสิทธิ สรีภาพ หน๎าท่ี฿นฐานะ ๓. ปั จ จั ย ฿ นก า ร ส ร ๎า ง ค ว า ม สั มพั นธ์ พลมืองดีตามวถิ ีประชาธปิ เตย ทด่ี ี หรอื อาจนาเปสคํู วามข๎า฿จผดิ ตอํ กัน ๓. วิ ค ร า ะ ห์ บ ทบ า ทค วา ม ส า คั ญ ละ ๔. ๔. สดงออก ถึงการคารพ฿นสิทธิ สรีภาพ ความสมั พันธ์ของสถาบันทางสังคม ของตนองละผอู๎ น่ื ๔. อธบิ ายความคล๎ายคลึงละความตกตําง ของวัฒนธรรมเทยละวัฒนธรรม ของ ๕. ประทศ ฿นภูมิภาคอชีย พอื่ นาเปสํูความ ขา๎ ฿จอันดีระหวํางกัน
๖๓ ดงี าม และธารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยูร่ ่วมกันในสังคมไทย ตัวชว้ี ัดชว่ งช้นั ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ . อธิบายความตกตํางของการกระทา ๑ วิคราะห์ ละปฏิบัติตนตามกฎหมายที่กี่ยวข๎อง ความผิดระหวํางคดอี าญาละคดี พงํ กับตนอง ครอบครวั ชุมชน ประทศชาติละ . มีสํวนรํวม฿นการปกปูองคุ๎มครองผู๎อ่ืนตาม สังคมลก หลกั สิทธมิ นุษยชน ๒ วิคราะห์ความสาคัญของครงสร๎างทางสงั คม การขัด . อนุรักษ์วัฒนธรรมเทยละลือกรับ กลาทางสงั คม ละการปลีย่ นปลงทางสงั คม วฒั นธรรมสากลที่ หมาะสม ๓ ปฏิบัติตนละมีสํวนสนับสนุน ฿ห๎ผู๎อื่นประพฤติ . วิคราะห์ปัจจัยท่ีกํอ฿ห๎กิด ปัญหาความ ปฏิบัติพื่อป็นพลมืองดีของประทศชาติ ละ ขัดย๎ง฿นประทศละสนอนวคิด฿นการ สังคมลก ลดความขัดยง๎ ๔ ประมินสถานการณ์ สิทธิมนุษยชน฿นประทศ . สนอนวคิด฿นการดารงชีวิตอยํางมี เทย ละสนอนวทางพัฒนา ความสขุ ฿นประทศละสงั คมลก ๕ วิคราะห์ความจาป็นท่ีจะต๎องมีการปรับปรุง ปลี่ยนปลงละอนุรักษ์วัฒนธรรมเทย ละ ลอื กรบั วัฒนธรรมสากล
หลกั สูตรโรงเรยี นเขอื่ นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระที่ ๒ หนา้ ทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชวี ิตในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจุบัน ยึดมนั่ ศรทั ธา ทรงเปน็ ประมขุ ตัวชว้ี ัดชนั้ ปี ม. ๑ ม. ๒ ๑. อธิบายหลักการ จตนารมณ์ ครงสร๎าง ๑. อธิบายกระบวนการ฿นการตรากฎหมาย ๑. ละสาระสาคัญของรัฐธรรมนูญหํงราช ๒. วิ คราะห์ขอ๎ มลู ขําวสาร ทางการมืองการ อาณา-จกั รเทยฉบับปจั จุบันดยสงั ขป ปกครอง ท่ีมีผลกระทบตํอสังคมเทยสมัย ๒. ๒. วิคราะห์บทบาท การถํวงดุลอานาจ ปัจจุบัน อ ธิ ป เ ต ย ฿ น รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ หํ ง ร า ช - อาณาจักรเทยฉบับปัจจุบนั ๓. ๓. ปฏิบัติตนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หํงราชอาณา-จักรเทยฉบับปัจจุบันที่ กีย่ วข๎องกบั ตนอง ๔.
๖๔ า และธารงรกั ษาไวซ้ ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ ตวั ชว้ี ัดช่วงช้ัน ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ . อธิบายระบอบการปกครอง บบตํางๆ ๑. วิคราะห์ปัญหาการมืองท่ีสาคัญ฿นประทศ ท่ี฿ช๎฿นยคุ ปัจจุบนั จากหลํง ข๎อมูลตํางๆ พร๎อมท้ังสนอนว . วิคราะห์ปรียบทียบระบอบ การ ทางก๎เข ปกครองของเทยกับประทศอื่นๆ ท่ีมี ๒. สนอนวทาง ทางการมือง การปกครองท่ี การปกครองระบอบประชาธปิ เตย นาเปสูํความข๎า฿จละการประสานประยชน์ . วิคราะห์รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน฿น รํวมกันระหวํางประทศ มาตราตํางๆ ท่ีก่ียวข๎องกับการลือกตั้ง ๓. วิคราะห์ความสาคัญละความจาป็นที่ต๎อง การมีสํวนรํวมละการตรวจสอบการ฿ช๎ ธารงรักษาเว๎ซึ่งการปกครองตามระบอบ อานาจรัฐ ประชาธิปเตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงป็น . วิคราะห์ประด็นปัญหา ท่ีป็นอุปสรรค ประมขุ ตํอการพัฒนาประชาธิปเตยของประทศ ๔. สนอนวทางละมีสํวนรํวม฿นการตรวจสอบ เทยละสนอนวทางกเ๎ ข การ฿ช๎อานาจรฐั
หลักสูตรโรงเรียนเข่อื นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบร หลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่ือการดารงชวี ิตอย่างมีดลุ ยภา ตวั ช้วี ัดชน้ั ปี ม. ๑ ม. ๒ ๑. อธิบายความหมายละความสาคัญของ ๑. วิคราะห์ปัจจัยท่ีมีผลตํอการลงทุนละ ๑. ศรษฐศาสตร์ การออม ๒. ๒. วิคราะห์คํานิยมละพฤติกรรมการ ๒. อธิบายปัจจัยการผลิตสินค๎าละบริการ บริ ภ ค ของค น ฿นสังคมซึ่ งสํ งผลตํ อ ละปัจจัยที่มี อิทธิพลตํอการผลิตสินค๎า ๓. ศรษฐกจิ ของชุมชนละประทศ ละบริการ ๓. อธิบ า ย ค วา ม ป็ นม า ห ลั กกา ร ล ะ ๓. สนอนวทางการพัฒนาการผลิต฿น ความสาคัญของปรัชญาของศรษฐกิจ ทอ๎ งถ่นิ ตามปรชั ญาของศรษฐกิจพอพียง พอพียงตํอสังคมเทย ๔. อภิปรายนวทางการค๎ุมครองสิทธิของ ตนอง฿นฐานะผู๎บริ ภค
๖๕ รโิ ภค การใชท้ รพั ยากรทมี่ ีอยู่จากดั ได้อย่างมีประสิทธภิ าพและคุ้มค่า รวมทัง้ เข้าใจ าพ ตัวชี้วัดชว่ งชัน้ ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ . อธบิ ายกลเกราคา฿นระบบศรษฐกิจ ๑. อภิปรายการกาหนดราคาละคําจ๎าง฿นระบบ . มีสํวนรํวม฿นการก๎เขปัญหาละพัฒนา ศรษฐกิจ ทอ๎ งถ่นิ ตามปรัชญาของศรษฐกจิ พอพียง ๒. ตระหนักถึงความสาคัญของปรัชญาของ ศรษฐกิจพอพียงท่ีมีตํอศรษฐกิจสังคมของ . วิคราะห์ความสัมพันธ์ระหวํางนวคิด ประทศ ศรษฐกิจพอพียงกับระบบสหกรณ์ ตระหนักถงึ ความสาคญั ของระบบสหกรณ฿์ นการ ๓. พัฒนาศรษฐกิจ฿นระดับชุมชนละประทศ ๔. วิ คราะหป์ ญั หาทางศรษฐกจิ ฿นชุมชนละสนอ นวทางก๎เข
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่างๆ ความสัมพันธ์ทางเศ ตัวช้ีวัดช้ันปี ม. ๑ ม. ๒ ๑. วิคราะหบ์ ทบาทหน๎าท่ี ละความตกตาํ ง ๑. อภิปรายระบบศรษฐกิจ บบตาํ งๆ ๑. ของสถาบันการงินตํละประภทละ ๒. ยกตัวอยํางที่สะท๎อน฿ห๎ห็นการพึ่งพา ธนาคารกลาง อาศัยกนั ละการขํงขันกันทางศรษฐกิจ ๒. ๒. ยกตัวอยํางท่ีสะท๎อน฿ห๎ห็นการพ่ึงพา ฿นภูมิภาคอชีย อา ศั ย กัน ล ะ กา ร ขํ งขั น กัน ท า ง ๓. วิคราะห์การกระจายของทรัพยากร฿น ศรษฐกิจ฿นประทศ ล ก ท่ีสํ งผ ล ตํ อค วา ม สั ม พั นธ์ ทา ง ๓. ๓. ระบุปัจจัยท่ีมีอิทธิพลตํอการกาหนด ศรษฐกจิ ระหวาํ งประทศ ๔. วิ ค ร า ะ ห์ ก า ร ขํ ง ขั น ท า ง ก า ร ค๎ า ฿ น อปุ สงค์ละอปุ ทาน ป ร ะ ท ศ ล ะ ตํ า ง ป ร ะ ท ศ ท่ี สํ ง ผ ล ตํ อ ๔. ๔. อภิปรายผลของการมีกฎหมายกี่ยวกับ คุณภาพสินค๎าปริมาณการผลิตละราคา ทรพั ยส์ ินทางปญั ญา ๕. สนิ ค๎า ๖.
๖๖ ศรษฐกจิ และความจาเปน็ ของการรว่ มมอื กันทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ตวั ชี้วัดช่วงช้ัน ม. ๓ ม. ๔ – ม. ๖ . อธิบายบทบาทหน๎าท่ีของรัฐบาล฿นระบบ ๑. อธิบายบทบาทของรัฐบาลกี่ยวกับนยบาย ศรษฐกิจ การงิน การคลัง฿นการพัฒนาศรษฐกิจของ . สดงความคิดห็นตํอนยบายละ ประทศ กิจกรรมทางศรษฐกิจของรัฐบาลท่ีมีตํอ ๒. วิคราะห์ผลกระทบของการปิดสรีทาง บคุ คล กลํุมคนละประทศชาติ ศรษฐกิจ฿นยคุ ลกาภิวัตน์ที่มผี ลตํอสังคมเทย . อภิปรายบทบาทความสาคัญของการ ๓. วิคราะห์ผลดีผลสียของความรํวมมือทาง รวมกลมุํ ทางศรษฐกจิ ระหวาํ งประทศ ศรษฐกิจระหวาํ งประทศ฿นรูปบบตาํ งๆ . อภิปรายผลกระทบที่กิดจากภาวะงิน ฟูอ งินฝดื . วิคราะห์ผลสียจากการวํางงานละ นวทางก๎ปญั หา . วิคราะห์สาหตุละวิธีการกีดกันทาง การคา๎ ฿นการค๎าระหวาํ งประทศ
หลักสูตรโรงเรยี นเข่อื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ อยา่ งเปน็ ระบบ ตวั ชี้วดั ช้นั ปี ม. ๑ ม. ๒ ๑. วิ ค รา ะ ห์ ควา ม สา คั ญ ของ วล า ฿น ๑. ประมินความนําชื่อถือของหลักฐานทาง ๑. การศึกษาประวัตศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์฿นลักษณะตาํ งๆ ๒. ทียบศักราชตามระบบตํางๆ ที่฿ช๎ศึกษา ๒. วิ คราะห์ความตกตํางระหวํางความจริง ประวัตศิ าสตร์ กั บ ข๎ อ ท็ จ จ ริ ง ข อ ง หตุ การณ์ ท า ง ๒. ๓. นาวิธีการทางประวัติศาสตร์มา฿ช๎ศึกษา ประวัติศาสตร์ หตุการณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ ๓. หน็ ความสาคัญของการตีความ หลักฐาน ทางประวตั ศิ าสตร์ทนี่ ําชอื่ ถือ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 586
Pages: