๓๒ ม.๔ ตัวชว้ี ดั ชว่ งชนั้ ม.๖ ม.๕ มรู๎ทาง ไม่เน้นวิทยาศาสตร์ ไม่เนน้ วิทยาศาสตร์ อ- ไม่เน้นวทิ ยาศาสตร์ ๑. ข๎า฿จละ฿ชค๎ วามรู๎ทาง ลจาก เนน้ วิทยาศาสตร์ - สถิติ฿นการนาสนอ ละ - เนน้ วิทยาศาสตร์ ขอ๎ มลู ละปล ลลพั ธ์ - ความหมายของคําสถิติ ป฿ช฿๎ น พอื่ ประกอบ การ ตดั สิน฿จ ะสม เน้นวทิ ยาศาสตร์ ๑. ข๎า฿จละ฿ชค๎ วามร๎ูทา สถติ ิ฿นการนาสนอ ข๎อมูล ละปล ความหมายของคําสถติ ิ พ่ือประกอบการ ตดั สนิ ฿จ
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่อื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนับเบื้องต้น ความน่าจะเป็น และนาไปใช้ ตัวช้ีวัดช้นั ปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ - - ๑. ขา๎ ฿จกย่ี วกับการทดลอง สํุมละนาผลท่เี ด๎ เปหา ความนําจะป็นของ หตุการณ์
๓๓ ม.๔ ตัวช้วี ดั ชว่ งชนั้ ม.๖ ม.๕ ไมเ่ นน้ วิทยาศาสตร์ ไมเ่ น้นวทิ ยาศาสตร์ ๑. ข๎า฿จละ฿ชห๎ ลักการบวก ไม่เนน้ วิทยาศาสตร์ - - เน้นวทิ ยาศาสตร์ ละการคูณ การรยี ง เนน้ วิทยาศาสตร์ สับปลย่ี น ละการจัดหมูํ ๑. หาความนาํ จะป็นของ ฿นการก๎ปญั หา ๑. ข๎า฿จละ฿ช๎หลกั การบวก หตุการณท์ ี่ กดิ จากตัวปร ๒. หาความนําจะป็นละนา ละการคูณ การรยี ง สุํมที่มีการจกจงอกรปู ความร๎ู ก่ยี วกับ ความ สับปล่ียน ละการจัดหมูํ การจกจง ทวนิ าม ละ นาํ จะปน็ เป฿ช๎ ฿นการกป๎ ัญหา การจกจงปกติ ละ นาเป฿ช๎฿นการกป๎ ัญหา เนน้ วทิ ยาศาสตร์ ๒. หาความนําจะป็นละนา - ความร๎ู ก่ยี วกบั ความ นาํ จะปน็ เป฿ช๎
หลักสูตรโรงเรยี นเข่อื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระที่ ๔ แคลคูลสั มาตรฐาน ค ๔.๑ เขา้ ใจลมิ ติ และความต่อเนื่องของฟังกช์ ัน อนุพนั ธข์ องฟังก์ชนั และปรพิ ตัวช้วี ัดชนั้ ปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ---
๓๔ พันธ์ของฟังกช์ นั และนาไปใช้ ตัวชี้วดั ชว่ งช้ัน ม.๔ ม.๕ ม.๖ ไมเ่ น้นวิทยาศาสตร์ ไม่เนน้ วิทยาศาสตร์ ไมเ่ นน้ วทิ ยาศาสตร์ - -- เนน้ วทิ ยาศาสตร์ ๑. ตรวจสอบความตอํ นือ่ ง เนน้ วิทยาศาสตร์ เน้นวทิ ยาศาสตร์ ของฟงั กช์ ันที่กาหนด฿ห๎ -- ๒. หาอนพุ นั ธข์ องฟงั ก์ชนั พชี คณิตท่กี าหนด฿ห๎ ละ นาเป฿ช๎ ก๎ปัญหา ๓. หาปรพิ ันธเ์ มจํ ากดั ขตละ จากัดขตของฟงั กช์ นั พีชคณิตท่ีกาหนด฿ห๎ ละ นาเป฿ช๎ก๎ปัญหา
หลักสูตรโรงเรยี นเข่อื นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓๕ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ทาไมต้องเรยี นวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์มีบทบาทสาคัญย่ิง฿นสังคมลกปัจจุบันละอนาคต พราะวิทยาศาสตร์ก่ียวข๎องกับทุกคนท้ัง ฿นชีวิตประจาวันละการงานอาชพี ตาํ งๆ ตลอดจนทคนลยี ครื่องมือครื่อง฿ช๎ละผลผลิตตํางๆ ท่ีมนุษย์เด๎฿ช๎ พ่ืออานวยความสะดวก฿นชีวิตละการทางาน หลําน้ีล๎วนป็นผลของความรู๎วิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิด สร๎างสรรค์ละศาสตร์อ่ืนๆ วิทยาศาสตร์ชํวย฿ห๎มนุษย์เด๎พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดป็นหตุป็นผล คิดสร๎างสรรค์ คิดวิคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะสาคัญ฿นการค๎นคว๎าหาความร๎ู มีความสามารถ฿นการก๎ปัญหาอยํางป็นระบบ สามารถตดั สิน฿จดย฿ชข๎ อ๎ มูล ทหี่ ลากหลายละมีประจักษ์พยานทตี่ รวจสอบเด๎ วิทยาศาสตร์ป็นวัฒนธรรมของลก สมัย฿หมํซึ่งป็นสังคมหํงการรียนรู๎ (knowledge-based society) ดังนั้นทุกคนจึงจาป็นต๎องเด๎รับการพัฒนา฿ห๎ร๎ู วทิ ยาศาสตร์ พือ่ ท่จี ะมคี วามร๎คู วามขา๎ ฿จ฿นธรรมชาติ ละทคนลยที ่ีมนษุ ย์สร๎างสรรค์ขึ้น สามารถนาความรู๎เป฿ช๎ อยาํ งมี หตุผล สรา๎ งสรรค์ ละมคี ณุ ธรรม เรียนรอู้ ะไรในวทิ ยาศาสตร์ กลุํมสาระการรียนรู๎วิทยาศาสตร์มํุงหวัง฿ห๎ผู๎รียนเด๎รียนร๎ูวิทยาศาสตร์ที่น๎นการช่ือมยงความรู๎ กับ กระบวนการ มีทักษะสาคัญ฿นการค๎นคว๎าละสร๎างองค์ความรู๎ ดย฿ช๎กระบวนการ฿นการสืบสาะหาความรู๎ ละ ก๎ปัญหาท่ีหลากหลาย ฿ห๎ผู๎รียนมีสํวนรํวม฿นการรียนร๎ูทุกขั้นตอน มีการทากิจกรรมด๎วยการลงมือปฏิบัติจริง อยาํ งหลากหลาย หมาะสมกบั ระดบั ชัน้ ดยกาหนดสาระสาคญั ดงั นี้ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ รียนร๎ูกี่ยวกบั ชวี ิต฿นสิง่ วดลอ๎ ม องคป์ ระกอบของส่ิงมชี วี ติ การดารงชีวิตของ มนุษย์ ละสตั ว์ การดารงชีวติ ของพืช พันธกุ รรม ความหลากหลายทางชีวภาพละววิ ฒั นาการของสิง่ มชี วี ิต วิทยาศาสตร์กายภาพ รียนรู๎ก่ยี วกบั ธรรมชาติของสาร การปล่ียนปลงของสาร การคลอ่ื นท่ี พลงั งาน ละคล่ืน วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ รียนรู๎ก่ียวกับลก฿นอกภพ ระบบลก ละมนุษย์กับ การปลยี่ นปลง ของลก ชีววทิ ยา รียนร๎ูก่ียวกับ การศึกษาชวี วิทยา สารคมี฿นสิ่งมชี ีวติ ซลลข์ องสง่ิ มีชีวิต พนั ธกุ รรมละการ ถํายทอด วิวัฒนาการ ความหลากหลายทางชวี ภาพ ครงสรา๎ งละการทางานของสวํ นตาํ ง ๆ ฿นพชื ดอก ระบบละ การทางาน฿นอวยั วะตาํ ง ๆ ของสัตว์ ละมนุษย์ ละส่ิงมชี วี ิตละสง่ิ วดลอ๎ ม เคมี รียนร๎ู กย่ี วกบั ปริมาณสาร องค์ประกอบละสมบตั ขิ องสาร การปลยี่ นปลงของสาร ทกั ษะละ การก๎ปัญหาทางคมี ฟสิ ิกส์ รียนรู๎ กย่ี วกับ ธรรมชาติละการค๎นพบทางฟิสิกส์ รงละการคลื่อนที่ ละพลังงาน โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รียนร๎ูกี่ยวกับ ลกละกระบวนการปลย่ี นปลงทางธรณวี ิทยา ข๎อมูล ทางธรณีวิทยาละการนาเป฿ช๎ประยชน์ การถํายอนพลังงานความร๎อนของลก การปลีย่ นปลงลกั ษณะ ลมฟาู อากาศกับการดารงชีวิตของมนษุ ย์ ลก฿นอกภพ ละดาราศาสตรก์ ับมนุษย์ เทคโนโลยี
หลักสูตรโรงเรียนเขือ่ นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓๖ การออกแบบและเทคโนโลยี รียนร๎ูก่ียวกับการพัฒนาผ๎ูรียน฿ห๎มีความร๎ูความข๎า฿จกี่ยวกับ ทคนลยีพื่อดารงชีวิต฿นสังคมที่มีการปล่ียนปลงอยํางรวดร็ว ฿ช๎ความร๎ูละทักษะทางด๎านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ละศาสตร์อื่น ๆ พ่ือก๎ปัญหา หรือพัฒนางานอยํางมีความคิดสร๎างสรรค์ด๎วยกระบวนการออกบบ ชิงวศิ วกรรม ลือก฿ช๎ ทคนลยอี ยาํ งหมาะสมดยคานึงถงึ ผลกระทบตํอชวี ิต สังคม ละส่งิ วดล๎อม วทิ ยาการคานวณ รยี นรู๎ กีย่ วกบั การพฒั นาผ๎ูรยี น฿ห๎มีความร๎ูความข๎า฿จ มีทักษะการคิด ชิงคานวณ การคิดวิ คราะห์ ก๎ปัญหาป็นขนั้ ตอนละปน็ ระบบ ประยุกต์฿ช๎ความร๎ูด๎านวิทยาการคอมพิวตอร์ ละทคนลยี สารสนทศส่ือสาร฿นการก๎ปัญหาท่ีพบ฿นชีวิตจริงเด๎อยํางมีประสิทธิภาพ ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื สาะหาความรู๎ การกป๎ ัญหา ละจิตวิทยาศาสตร์ คุณภาพผูเ้ รียน จบชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ข๎า฿จลักษณะละองค์ประกอบที่สาคัญของซลล์สิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของการทางานของระบบ ตําง ๆ ฿นรํางกายมนุษย์ การดารงชีวิตของพืช การตอบสนองตํอส่ิงร๎าของสิ่งมีชีวิต การถํายทอดลักษณะ ทาง พันธุกรรม การปลี่ยนปลงของยีน หรือครมซมละตัวอยํางรคท่ีกิดจากการปลี่ยนปลงทางพันธุกรรม ประยชน์ละผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดปรพันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ การถํายทอดพลังงาน ฿น สิง่ มชี วี ิต ข๎า฿จองคป์ ระกอบละสมบัติของธาตุ สมบัตขิ องสารละลาย สารบริสทุ ธิ์ สารผสม หลกั การ ยกสาร การปลี่ยนปลงของสาร฿นรูปบบของการปลยี่ นสถานะ การกิดสารละลาย ละการกดิ ปฏกิ ิริยาคมี ข๎า฿จรงลัพท์ละผลของรงลัพท์กระทาตํอวัตถุ รงสียดทาน การหมุนของวัตถุ มมนต์ของรง รงท่ีปรากฏ฿นชีวิตประจาวัน ความสัมพันธ์ระหวํางงาน พลังงานจลน์ พลังงานศักย์ กฏการอนุรักษ์พลังงาน การ ถํายอนพลังงาน สมดุลความร๎อน ความสัมพันธ์ระหวํางปริมาณทางเฟฟูา หลักการตํอวงจรเฟฟูา฿นบ๎าน พลังงาน เฟฟูา ละหลักการบ้ืองตน๎ ของวงจรอิ ลก็ ทรอนิกส์ ข๎า฿จสมบัติของคล่ืน ละลักษณะของคลื่นบบตําง ๆ สียง การสะท๎อน การหักห ละความข๎ม ของสง ข๎า฿จตาหนงํ ของกลํุมดาวฤกษบ์ นท๎องฟูา สมบัติละองค์ประกอบของดาวคราะห์ ตํละดวง ฿น ระบบสรุ ยิ ะ ละปรากฏการณ์ที่กดิ ขึ้นบนลก ความสาคัญละประยชน์฿นการ฿ช๎งานของทคนลยีอวกาศ สมบัติ ละประยชนข์ องบรรยากาศตลํ ะชัน้ ทีม่ ตี ํอสิ่งมีชวี ิต ข๎า฿จระบบลก ครงสร๎างของลก กระบวนการปล่ยี นปลงทางธรณวี ทิ ยาบนลกละ฿ตผ๎ วิ ลก กระบวนการกดิ ซากดึกดาบรรพ์ การปลยี่ นปลงของลมฟาู อากาศทีท่ า฿ห๎ กดิ ปรากฏการณ์ตาํ ง ๆ กระบวนการ กิดธรณพี ิบตั ภิ ยั ละปรากฏการณ์ รือนกระจกท่ีมีผลกระทบตํอสงิ่ มชี วี ติ ละส่ิงวดลอ๎ ม ข๎า฿จนวคิดหลกั ของทคนลยี เด๎กํ ระบบทางทคนลยี การปลี่ยนปลงของทคนลยี ความสัมพันธร์ ะหวาํ งทคนลยีกับศาสตรอ์ ืน่ ดยฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื คณติ ศาสตร์ วิ คราะห์ ปรียบทียบ ละ ตัดสิน฿จพ่ือลือก฿ช๎ ทคนลยี ดยคานึงถึงผลกระทบตํอชีวติ สงั คม ละสิง่ วดล๎อม ประยุกต์฿ช๎ความรู๎ ทักษะ
หลักสูตรโรงเรียนเขือ่ นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓๗ ละทรัพยากรพอ่ื ออกบบละสรา๎ งผลงานสาหรับการก๎ปัญหา฿นชวี ติ ประจาวัน หรือการประกอบอาชพี ดย฿ช๎ กระบวนการออกบบชงิ วิศวกรรม รวมท้ังลือก฿ช๎วสั ดุ อุปกรณ์ ละคร่อื งมอื เด๎อยาํ งถูกต๎อง หมาะสม ปลอดภัย รวมทง้ั คานงึ ถึงทรัพยส์ นิ ทางปัญญา นาข๎อมูลปฐมภูมิ ข๎าสูรํ ะบบคอมพวิ ตอร์ วิคราะห์ ประมนิ นาสนอข๎อมูลละสารสนทศ เดต๎ าม วัตถปุ ระสงค์ ฿ช๎ทักษะการคิดชิงคานวณ฿นการก๎ปัญหาท่ีพบ฿นชีวิตจรงิ ละขยี นปรกรมอยํางงําย พือ่ ชวํ ย฿น การก๎ปัญหา ฿ช๎ ทคนลยีสารสนทศละการส่อื สารอยาํ งร๎ู ทาํ ทันละรับผิดชอบตํอสังคม ต้งั คาถาม หรือกาหนดปญั หาที่ ชื่อมยงกับพยานหลักฐาน หรอื หลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ทม่ี ี การ กาหนดละควบคุมตัวปร คิดคาดคะนคาตอบหลายนวทาง สร๎างสมมตฐิ านทส่ี ามารถนาเปสูํการสารวจ ตรวจสอบ ออกบบละลงมอื สารวจตรวจสอบดย฿ชว๎ สั ดุละคร่ืองมือท่ี หมาะสม ลอื ก฿ช๎ ครื่องมือละ ทคนลยีสารสนทศที่ หมาะสม฿นการก็บรวบรวมข๎อมลู ท้ัง฿นชงิ ปริมาณละคุณภาพท่ีเด๎ผลที่ยงตรงละ ปลอดภยั วิคราะห์ละประมินความสอดคล๎องของข๎อมูลท่ีเด๎จากการสารวจตรวจสอบจากพยานหลักฐาน ดย ฿ช๎ความร๎ูละหลักการทางวิทยาศาสตร์฿นการปลความหมายละลงข๎อสรุป ละสื่อสารความคิด ความรู๎ จากผล การสารวจตรวจสอบหลากหลายรูปบบ หรือ฿ช๎ทคนลยีสารสนทศพือ่ ฿ห๎ผ๎ูอ่ืนขา๎ ฿จเดอ๎ ยํางหมาะสม สดงถึงความสน฿จ มํุงม่ัน รับผิดชอบ รอบคอบ ละซ่ือสัตย์ ฿นส่ิงท่ีจะรียนร๎ู มีความคิดสร๎างสรรค์ ก่ียวกับร่ืองท่ีจะศึกษาตามความสน฿จของตนอง ดย฿ช๎คร่ืองมือละวิธีการท่ี฿ห๎เด๎ผลถูกต๎อง ชี่อถือเด๎ ศึกษา ค๎นคว๎าพิ่มติมจากหลํงความรู๎ตําง ๆ สดงความคิดห็นของตนอง รับฟังความคิดห็นผ๎ูอ่ืน ละยอมรับ การ ปลยี่ นปลงความรท๎ู ี่คน๎ พบมอ่ื มีขอ๎ มลู ละประจกั ษ์พยาน฿หมํพิ่มขึน้ หรอื ต๎ ยง๎ จากดิม ตระหนัก฿นคุณคําของความร๎ูวิทยาศาสตร์ละทคนลยีท่ี฿ช๎฿นชีวิตประจาวัน ฿ช๎ความร๎ูละ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ละทคนลยี฿นการดารงชีวิต ละการประกอบอาชีพ สดงความชื่นชม ยกยํอง ละคารพสิทธิ฿นผลงานของผ๎ูคิดค๎น ข๎า฿จผลกระทบท้ังด๎านบวกละด๎านลบของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ตํอ สิง่ วดล๎อมละตํอบรบิ ทอ่ืน ๆ ละศึกษาหาความรู๎พ่มิ ติมทาครงงานหรอื สรา๎ งช้ินงานตามความสน฿จ สดงถึงความซาบซึ้ง หํวง฿ย มีพฤติกรรมกี่ยวกับการ฿ช๎ ละรักษาทรัพยากรธรรมชาติละ สง่ิ วดล๎อมอยาํ งรคู๎ ุณคํา มีสํวนรํวม฿นการพทิ ักษ์ ดู ลทรัพยากรธรรมชาติละสงิ่ วดลอ๎ ม฿นทอ๎ งถิน่ จบชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ (สาหรบั ผู้เรียนท่ีไม่เน้นวทิ ยาศาสตร์) ข๎า฿จการการลาลียงสารข๎าละออกจากซลล์ กลเกการรักษาดุลยภาพของมนุษย์ ภูมิคุ๎มกัน ฿น รํางกายของมนุษย์ละความผิดปกติของระบบภูมิค๎ุมกัน การถํายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การปล่ียนปลงทาง พันธุกรรม วิวัฒนาการท่ีทา฿ห๎กิดความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ความสาคัญละผลของทคนลยีทางดีอ็นอตํอ มนุษย์ สงิ่ มีชวี ติ ละส่ิงวดลอ๎ ม ข๎า฿จความหลากหลายของเบอม฿นขตภมู ิศาสตร์ตําง ๆ ของลก การปลยี่ นปลงทนท่ี฿นระบบ นิวศ ปัญหาละผลกระทบที่มีตํอทรัพยากรธรรมชาติละส่ิงวดล๎อม นวทาง฿นการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ ละการก๎เขปญั หาสิ่งวดลอ๎ ม
หลักสูตรโรงเรยี นเข่อื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓๘ ข๎า฿จชนิดของอนุภาคสาคญั ท่ีป็นสํวนประกอบ฿นครงสรา๎ งอะตอม สมบัติบางประการของธาตุ การ จัดรยี งธาตุ฿นตารางธาตุ ชนิดของรงยดึ หนี่ยวระหวาํ งอนุภาคละสมบตั ิตําง ๆ ของสารที่มีความสมั พันธ์กบั รง ยึดหน่ยี ว พนั ธะคมี ครงสรา๎ งละสมบตั ิของพอลิมอร์ การกดิ ปฏกิ ิริยาคมี ปัจจยั ทีม่ ผี ลตอํ อัตรา การ กดิ ปฏิกริ ิยาคมี ละการขยี นสมการคมี ข๎า฿จปริมาณท่ี กี่ยวกับการคลือ่ นท่ี ความสมั พนั ธ์ระหวาํ งรง มวลละความรํง ผลของความรํงที่มี ตอํ การคลอ่ื นที่บบตาํ ง ๆของวัตถุ รงนม๎ ถวํ ง รงมํ หลก็ ความสัมพันธ์ระหวํางสนามมํ หลก็ ละกระสเฟฟูา ละรงภาย฿นนวิ คลียส ข๎า฿จพลังงานนวิ คลยี ร์ ความสมั พันธ์ระหวํางมวลละพลงั งาน การปล่ยี นพลงั งานทดทน ป็น พลังงานเฟฟูา ทคนลยีดา๎ นพลังงาน การสะท๎อน การหักห การลีย้ วบนละการรวมคลืน่ การเด๎ยนิ ปรากฏการณ์ที่กีย่ วข๎องกับสยี ง สีกับการมองหน็ สี คล่นื มํ หลก็ เฟฟูาละประยชนข์ องคล่ืนมํ หลก็ เฟฟูา ข๎า฿จการบงํ ชน้ั ละสมบัตขิ องครงสร๎างลก สาหตุ ละรปู บบการคล่ือนทข่ี องผํนธรณที ีส่ ัมพนั ธ์ กับการกดิ ลกั ษณะธรณสี ัณฐาน สาหตุ กระบวนการกดิ ผํนดนิ เหว ภู ขาเฟระบิด สึนามิ ผลกระทบ นวทาง การฝาู ระวงั ละการปฏิบัตติ น฿หป๎ ลอดภยั ข๎า฿จผลของรงนื่องจากความตกตาํ งของความกดอากาศ รงคอริออลิส ที่มีตอํ การหมุนวียนของ อากาศ การหมนุ วียนของอากาศตามขตละตจิ ูดละผลที่มตี ํอภมู ิอากาศ ความสัมพันธ์ของการหมุนวยี นของ อากาศละการหมุนวียนของกระสนา้ ผิวหน๎า฿นมหาสมทุ ร ละผลตํอลักษณะลมฟูาอากาศ สิ่งมีชวี ติ ละ สง่ิ วดลอ๎ ม ปัจจยั ตาํ ง ๆ ทมี่ ีผลตํอการปลี่ยนปลงภูมิอากาศลก ละนวปฏบิ ัติ พ่ือลดกิจกรรมของมนษุ ย์ท่ีสงํ ผล ตอํ การปลย่ี นปลงภมู อิ ากาศลก รวมท้ังการปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟูาอากาศทสี่ าคญั จากผนที่อากาศ ละข๎อมูลสารสนทศ ขา๎ ฿จการกานิดละการปลย่ี นปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภมู ิของอกภพ หลักฐานที่สนับสนุน ทฤษฎบี กิ บง ประภทของกาล็กซี ครงสรา๎ งละองคป์ ระกอบของกาล็กซีทางช้างผอื ก กระบวนการกดิ ละ การสร๎างพลังงาน ปัจจัยที่สงํ ผลตํอความสํองสวาํ งของดาวฤกษ์ ละความสัมพนั ธร์ ะหวํางความสํองสวํางกับชติ มาตรของดาวฤกษ์ ความสมั พันธร์ ะหวาํ งสี อณุ หภูมิผวิ ละสปกตรัมของดาวฤกษ์ ววิ ฒั นาการละ การ ปล่ียนปลงสมบตั ิบางประการของดาวฤกษ์ กระบวนการกิดระบบสรุ ยิ ะ การบํงขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลกั ษณะของดาวคราะห์ท่ี อ้ือตํอการดารงชวี ิต การกดิ ลมสรุ ยิ ะ พายสุ ุริยะละผลท่มี ีตอํ ลก รวมท้ังการสารวจ อวกาศละการประยุกต์฿ช๎ทคนลยีอวกาศ ระบุปัญหา ต้ังคาถามท่ีจะสารวจตรวจสอบ ดยมีการกาหนดความสมั พันธร์ ะหวาํ งตัวปรตาํ ง ๆสืบค๎น ขอ๎ มลู จากหลายหลงํ ตง้ั สมมติฐานที่ ปน็ เปเดห๎ ลายนวทาง ตัดสนิ ฿จลอื กตรวจสอบสมมติฐานท่ี ป็นเปเด๎ ตง้ั คาถาม หรือกาหนดปัญหาทอ่ี ยูบํ นพืน้ ฐานของความร๎ู ละความขา๎ ฿จทางวิทยาศาสตร์ ที่ สดง ฿ห๎ ห็นถึงการ฿ช๎ความคดิ ระดบั สูงที่สามารถสารวจตรวจสอบ หรอื ศึกษาคน๎ คว๎าเด๎อยํางครอบคลมุ ละช่ือถือเด๎ สร๎าง สมมตฐิ านทม่ี ีทฤษฎีรองรบั หรอื คาดการณส์ ิ่งทีจ่ ะพบพื่อนาเปสํูการสารวจตรวจสอบ ออกบบวิธีการสารวจ ตรวจสอบตามสมมตฐิ านทกี่ าหนดเว๎เด๎อยาํ งหมาะสม มีหลกั ฐานชงิ ประจักษ์ ลอื กวัสดุ อปุ กรณ์ รวมทงั้ วิธีการ ฿น การสารวจตรวจสอบอยํางถูกต๎องท้ัง฿นชิงปริมาณละคุณภาพ ละบันทึกผลการสารวจตรวจสอบอยํางปน็ ระบบ
หลักสูตรโรงเรยี นเขอื่ นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓๙ วิคราะห์ ปลความหมายข๎อมลู ละประมินความสอดคล๎องของข๎อสรปุ พื่อตรวจสอบกบั สมมติฐาน ทตี่ ง้ั เว๎ ฿ห๎ข๎อสนอนะพ่อื ปรับปรงุ วิธีการสารวจตรวจสอบ จดั กระทาข๎อมูลละนาสนอข๎อมลู ดว๎ ยทคนิควธิ ี ท่ี หมาะสม ส่ือสารนวคิด ความรจ๎ู ากผลการสารวจตรวจสอบ ดยการพดู ขยี น จดั สดง หรอื ฿ช๎ทคนลยี สารสนทศพ่ือ฿ห๎ผูอ๎ ่ืนข๎า฿จดยมีหลักฐานอา๎ งองิ หรอื มีทฤษฎีรองรับ สดงถึงความสน฿จ มํงุ ม่ัน รบั ผดิ ชอบ รอบคอบ ละซ่ือสตั ย์ ฿นการสบื สาะหาความร๎ู ดย฿ช๎ ครื่องมือ ละวธิ ีการท฿่ี ห๎เด๎ผลถกู ต๎อง ชอื่ ถอิ เด๎ มีหตุผลละยอมรบั เด๎วําความรทู๎ างวทิ ยาศาสตร์อาจมี การปลีย่ นปลงเด๎ สดงถึงความพอ฿จละหน็ คุณคาํ ฿นการคน๎ พบความรู๎ พบคาตอบ หรือก๎ปัญหาเด๎ ทางานรํวมกับ ผอู๎ ่ืนอยาํ งสรา๎ งสรรค์ สดงความคดิ ห็นดยมีข๎อมลู อา๎ งอิงละหตุผลประกอบ กย่ี วกบั ผลของการพฒั นาละ การ ฿ชว๎ ิทยาศาสตร์ ละทคนลยีอยาํ งมีคุณธรรมตํอสังคมละสิง่ วดล๎อม ละยอมรับฟงั ความคิดหน็ ของผ๎ูอ่ืน ข๎า฿จความสมั พันธ์ของความร๎วู ทิ ยาศาสตรท์ ่ีมผี ลตํอการพัฒนาทคนลยีประภทตาํ ง ๆ ละ การ พฒั นาทคนลยีท่สี ํงผล฿ห๎มีการคดิ ค๎นความรท๎ู างวิทยาศาสตร์ที่ก๎าวหน๎า ผลของทคนลยีตํอชวี ติ สงั คม ละ สิ่งวดลอ๎ ม ตระหนักถึงความสาคญั ละหน็ คุณคําของความรู๎วทิ ยาศาสตร์ละทคนลยีท่ี฿ช๎฿นชวี ิตประจาวัน ฿ช๎ ความรู๎ละกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ละทคนลยี฿นการดารงชวี ิต ละการประกอบอาชีพ สดงความชืน่ ชม ภูมิ฿จ ยกยํอง อา๎ งองิ ผลงาน ช้นิ งานที่ ปน็ ผลมาจากภมู ปิ ัญญาท๎องถิ่นละการพฒั นาทคนลยีที่ทันสมยั ศกึ ษา หา ความรู๎ พม่ิ ติม ทาครงงาน หรือสรา๎ งช้ินงานตามความสน฿จ สดงความซาบซึ้ง หํวง฿ย มีพฤติกรรมก่ียวกับการ฿ช๎ละรักษาทรัพยากรธรรมชาติละส่ิงวดล๎อม อยาํ งร๎ูคณุ คํา สนอตวั องรวํ มมือปฏบิ ัตกิ ับชุมชน฿นการปูองกัน ดู ลทรพั ยากรธรรมชาติละส่ิงวดลอ๎ มของท๎องถนิ่ จบช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ (สาหรับผู้เรยี นท่ีเนน้ วทิ ยาศาสตร์) ข๎า฿จวธิ ีการทางวิทยาศาสตร์฿นการค๎นหาคาตอบกีย่ วกบั ส่ิงมีชวี ติ สารที่ปน็ องคป์ ระกอบของส่งิ มชี ีวิต ละปฏกิ ิริยาคมภี าย฿นซลล์ การ฿ชก๎ ลอ๎ งจลุ ทรรศน์ ครงสรา๎ งละหนา๎ ท่ีของซลล์ การลาลียงสารข๎าละออก จากซลล์ การบํงซลล์ ละการหาย฿จระดับซลล์ ข๎า฿จหลักการถํายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต การถํายทอดยีนบนออตซมละ ครมซมพศ ครงสร๎างละองค์ประกอบทางคมีของดีอ็นอ การจาลองดีอ็นอ กระบวนการสังคราะห์ปรตีน การกิดมิวทชัน฿นสิ่งมีชีวิต หลักการละการประยุกต์฿ช๎ทคนลยีทางดีอ็นอ หลักฐานละข๎อมูลที่฿ช๎ ฿น การศกึ ษาววิ ัฒนาการของส่งิ มีชวี ิต นวคดิ กย่ี วกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต งื่อนเขของภาวะสมดุลของ ฮาร์ดี-เวน์ บิร์ก กระบวนการกดิ สปชี สี ฿์ หมขํ องสิง่ มชี ีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ กานิดของสิ่งมีชีวิต ลักษณะสาคัญของ ส่ิงมีชีวิตกลํุมบคทีรีย พรทิสต์ พืช ฟังเจ ละสัตว์ การจานกส่ิงมีชีวิตออกป็นหมวดหมํู ละวิธีการขียนช่ือ วิทยาศาสตร์ ขา๎ ฿จครงสรา๎ งละสํวนประกอบของพชื ทงั้ ราก ลาต๎น ละ฿บ การลกปลีย่ นก๏ส การคายนา้ การ ลาลยี งน้าละธาตอุ าหาร การลาลยี งอาหาร การสงั คราะห์ดว๎ ยสงของพชื กระบวนการสรา๎ งซลลส์ ืบพันธ์ุ ละ การปฏิสนธิของพชื ดอก การกดิ ผลละมลด็ บทบาทของสารควบคุมการจริญตบิ ตของพืชละ การประยุกต์฿ช๎ ละการตอบสนองของพืช
หลักสูตรโรงเรยี นเขือ่ นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๔๐ ขา๎ ฿จกลเกการรกั ษาดลุ ยภาพของสง่ิ มชี ีวิต ครงสร๎าง หน๎าที่ ละกระบวนการตําง ๆ ของสัตว์ ละ มนุษย์ เด๎ กํ การยอํ ยอาหาร การลกปลย่ี นกส๏ การคล่อื นท่ี การกาจดั ของสียออกจากราํ งกายของสงิ่ มชี วี ติ ระบบหมนุ วยี นลอื ด ระบบภูมิคม๎ุ กนั ฿นรํางกายของมนุษย์ การทางานของระบบประสาท ละอวยั วะรบั ความร๎ูสกึ ระบบสบื พันธ์ุ การปฏิสนธิ การจริญติบต ฮอร์ มน ละพฤติกรรมของสตั ว์ ขา๎ ฿จกระบวนการถาํ ยทอดพลงั งานละการหมนุ วยี นสาร฿นระบบนิ วศ ความหลากหลายของเบอม การปลี่ยนปลงทนท่ี บบตําง ๆ ฿นระบบนิ วศ การปล่ยี นปลงจานวนประชากรมนุษย์฿นระดบั ทอ๎ งถน่ิ ระดับประทศ ละระดบั ลก นวทางการปูองกันละกเ๎ ขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติละสง่ิ วดล๎อม ขา๎ ฿จการศึกษาครงสรา๎ งอะตอมของนกั วิทยาศาสตร์ การจดั รียงอิ ล็กตรอน฿นอะตอม สมบัติ บาง ประการของธาตุละการจดั รียงธาตุ฿นตารางธาตุ พนั ธะคมี สมบัติของสารทีม่ ีความสัมพนั ธก์ บั พนั ธะคมีกฎตาํ ง ๆ ของกส๏ ละสมบัติของกส๏ ประภทละสมบตั ขิ องสารประกอบอนิ ทรีย์ ละประภทละสมบตั ขิ อง พอลิมอร์ ขา๎ ฿จการขยี นละการดุลสมการคมี การคานวณปริมาณสารตําง ๆ ท่ี กยี่ วข๎องกับปฏิกิริยาคมี อตั รา การกิดปฏกิ ริ ิยาคมีละปจั จยั ทีม่ ีผลตอํ อัตราการกิดปฏกิ ิริยาคมี สมดลุ ฿นปฏิกริ ิยาคมี ละปจั จัยท่มี ผี ลตํอ สมดุลคมี ทฤษฎีกรด – บส สมบัติละปฏิกิริยาของกรด–บส สารละลายบฟั ฟอร์ ปฏกิ ริ ิยารีดอกซ์ ละซลล์ คมเี ฟฟาู ขา๎ ฿จข๎อปฏิบตั ิ บ้ืองต๎นกยี่ วกับความปลอดภยั ฿นการทาปฏบิ ัติการคมี การลอื ก฿ช๎อปุ กรณ์หรือ ครื่องมือ฿นการทาปฏบิ ตั ิการ หนวํ ยวดั ละการปลย่ี นหนํวยวดั ดว๎ ยการ฿ช๎ ฟกตอร์ปล่ียนหนํวย การคานวณ ก่ียวกับมวลอะตอม มวลมลกุล ละมวลสูตร ความสัมพันธข์ องมล จานวนอนภุ าค มวล ละปริมาตรของก๏ส ที่ STP การคานวณสตู รอยํางงํายละสตู รมลกลุ ของสาร ความขม๎ ขน๎ ของสารละลาย การตรียมสารละลาย ละ การบูรณาการความร๎ู ละทักษะ฿นการอธิบายปรากฏการณ์฿นชีวิตประจาวันละการก๎ปัญหาทางคมี ขา๎ ฿จธรรมชาติของฟิสิกส์ กระบวนการวดั ความสัมพันธ์ระหวาํ งปริมาณท่ี ก่ียวข๎องกับการคล่ือนท่ี การคลือ่ นท่ี฿นนวตรง รงลัพธ์ กฎการคลื่อนที่ รงสยี ดทาน กฎความน๎มถํวงสากล สนามน๎มถํวง งาน กฎการ อนุรักษ์พลังงานกล สมดุลกลของวตั ถุ คร่อื งกลอยํางงําย มมนตัมละการดล กฎการอนรุ กั ษ์ มมนตมั การชน ละการคล่อื นท่ี฿นนวคง๎ ข๎า฿จการคล่ือนที่บบคลน่ื ปรากฏการณ์คลืน่ การสะทอ๎ น การหักห การลยี้ วบนละการทรก สอด หลกั การของฮอยกนส์ การคลื่อนท่ขี องคลน่ื สียง ปรากฏการณ์ท่ีก่ยี วข๎องกบั สยี ง ความข๎มสยี งละระดับ สียง การเดย๎ ิน ภาพที่ กดิ จากกระจกงาละลนส์ ปรากฏการณท์ ่ีกย่ี วขอ๎ งกับสงละการมองหน็ สงสี ข๎า฿จสนามเฟฟูา รงเฟฟาู กฎของคูลอมบ์ ศกั ยเ์ ฟฟูา ตัวกบ็ ประจุ ตวั ต๎านทานละกฎของอห์ม พลังงานเฟฟาู การปล่ียนพลังงานทดทนป็นพลงั งานเฟฟาู ทคนลยีดา๎ นพลังงาน สนามมํ หล็ก ความสมั พนั ธ์ ระหวาํ งสนามมํหล็กกบั กระสเฟฟาู การหนี่ยวนามํ หล็กเฟฟาู เฟฟาู กระสสลบั คลื่นมํ หล็กเฟฟูา ละ ประยชนข์ องคลน่ื มํหลก็ เฟฟาู ข๎า฿จผลของความร๎อนตํอสสาร สภาพยืดหยนํุ ความดัน฿นของเหล รงพยุง ของเหลอุดมคติ ทฤษฎี จลนข์ องกส๏ นวคดิ ควอนตัมของพลงั งาน ทฤษฎอี ะตอมของบร์ ปรากฏการณ์ ฟตอิลก็ ทรกิ ทวิภาวะของคล่ืน ละอนุภาค การสลายของนวิ คลียสกมั มนั ตรังสี กัมมันตภาพ ปฏกิ ิรยิ านิวคลียร์ พลังงานนวิ คลียร์ ความสมั พนั ธ์ ระหวาํ งมวลละพลงั งาน รงภาย฿นนิวคลยี ส ละการค๎นควา๎ วิจัยดา๎ นฟิสกิ ส์อนุภาค
หลักสูตรโรงเรยี นเขอ่ื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๔๑ ขา๎ ฿จการบํงชั้นละสมบตั ขิ องครงสรา๎ งลก สาหตุ ละรูปบบการคลื่อนท่ีของผํนธรณที ี่สัมพันธ์ กับการกดิ ลักษณะธรณีสัณฐานละธรณีครงสร๎างบบตําง ๆ หลักฐานทางธรณีวทิ ยาที่พบ฿นปจั จบุ ัน ละ การ ลาดบั หตุการณ์ทางธรณีวทิ ยา฿นอดีต สาหตุ กระบวนการกดิ ผนํ ดนิ เหว ภู ขาเฟระบดิ สนึ ามิ ผลกระทบ นว ทางการฝูาระวัง ละการปฏบิ ตั ติ น฿ห๎ปลอดภยั สมบัติละการจานกชนดิ ของรํ กระบวนการกดิ ละ การ จานกชนิดหนิ กระบวนการกดิ ละการสารวจหลํงปิตรลยี มละถํานหนิ การปลความหมายจากผนที่ ภูมิ ประทศละผนท่ธี รณีวิทยา ละการนาขอ๎ มูลทางธรณวี ิทยาเป฿ชป๎ ระยชน์ ขา๎ ฿จปจั จยั สาคัญทมี่ ีผลตอํ การรับละปลดปลอํ ยพลงั งานจากดวงอาทติ ย์ กระบวนการที่ทา฿ห๎ กดิ สมดุลพลงั งานของลก ผลของรงนอื่ งจากความตกตาํ งของความกดอากาศ รงคอริออลสิ รงสศูํ นู ย์กลาง ละ รงสยี ดทานที่มตี อํ การหมนุ วยี นของอากาศ การหมนุ วียนของอากาศตามขตละติจดู ละผลทีม่ ตี ํอภูมิอากาศ ปจั จัยท่ีทา฿ห๎กิดการบํงชนั้ น้าละการหมนุ วียนของนา้ ฿นมหาสมทุ ร รปู บบการหมุนวยี นของน้า ฿นมหาสมุทร ละผลของการหมนุ วียนของน้า฿นมหาสมุทรท่ีมีตํอลักษณะลมฟาู อากาศ สง่ิ มีชีวติ ละสิ่งวดล๎อม ความสัมพันธ์ ระหวาํ งสถียรภาพอากาศละการกิดมฆ การกดิ นวปะทะอากาศบบตาํ ง ๆ ละลกั ษณะลมฟูาอากาศที่ กี่ยวขอ๎ ง ปจั จัยตาํ ง ๆ ท่มี ีผลตอํ การปล่ยี นปลงภูมิอากาศของลก รวมทั้งการปลความหมายสญั ลักษณล์ มฟูา อากาศละการพยากรณล์ ักษณะลมฟูาอากาศบอื้ งต๎นจากผนท่ีอากาศละข๎อมูลสารสนทศ ข๎า฿จการกานิดละการปล่ียนปลงพลงั งาน สสาร ขนาดอุณหภูมขิ องอกภพ หลักฐานที่สนับสนนุ ทฤษฎีบกิ บง ประภทของกาล็กซี ครงสรา๎ งละองค์ประกอบของกาลก็ ซีทางช๎างผอื ก กระบวนการเกิดดาว ฤกษ์ และการสร้างพลงั งานของดาวฤกษ์ ปัจจยั ที่สง่ ผลตอ่ ความส่องสวา่ งของดาวฤกษ์ และความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งความสอ่ งสวา่ งกบั โชตมิ าตรของดาวฤกษ์ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสี อณุ หภมู ิผวิ และสเปกตรัมของดาว ฤกษ์ วธิ ีการหาระยะทางของดาวฤกษ์ด้วยหลกั การแพรัลแลกซ์ วิวฒั นาการและการเปล่ียนแปลงสมบตั บิ าง ประการของดาวฤกษ์ กระบวนการเกิดระบบสรุ ิยะ การแบง่ เขตบริวารของดวงอาทติ ย์ ลกั ษณะของดาวเคราะห์ท่ี เอือ้ ตอ่ การดารงชีวติ การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ด้วยกฏเคพเลอร์ และกฎความโน้มถว่ งของนิวตนั โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสรุ ิยะ พายสุ รุ ิยะและผลท่ีมีตอ่ โลก การระบพุ ิกดั ของดาวในระบบขอบฟ้ า และระบบ ศนู ย์สตู ร เส้นทางการขนึ ้ การตกของดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์ เวลาสรุ ิยคตแิ ละการเปรียบเทียบเวลา ของแตล่ ะเขตเวลาบนโลก การสารวจอวกาศและการประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ ระบปุ ญั หา ตง้ั คาถามทจ่ี ะสารวจตรวจสอบ ดยมีการกาหนดความสมั พันธ์ระหวาํ งตัวปรตําง ๆสืบค๎น ขอ๎ มลู จากหลายหลงํ ต้งั สมมติฐานที่ ป็นเปเด๎หลายนวทาง ตดั สนิ ฿จลอื กตรวจสอบสมมติฐานท่ี ปน็ เปเด๎ ตงั้ คาถาม หรอื กาหนดปัญหาทีอ่ ยบํู นพ้ืนฐานของความรู๎ ละความข๎า฿จทางวิทยาศาสตร์ท่ี สดง ฿ห๎ หน็ ถึงการ฿ชค๎ วามคดิ ระดับสูงที่สามารถสารวจตรวจสอบ หรอื ศึกษาค๎นคว๎าเด๎อยํางครอบคลุมละชื่อถือเด๎ สรา๎ ง สมมตฐิ านท่ีมที ฤษฎีรองรบั หรือคาดการณส์ ่งิ ทจ่ี ะพบพื่อนาเปสํูการสารวจตรวจสอบ ออกบบวธิ ีการสารวจ ตรวจสอบตามสมมตฐิ านท่กี าหนดเว๎เด๎อยาํ งหมาะสม มีหลักฐานชิงประจักษ์ ลือกวัสดุ อปุ กรณ์ รวมทัง้ วิธีการ ฿น การสารวจตรวจสอบอยาํ งถูกต๎องท้งั ฿นชิงปริมาณละคณุ ภาพ ละบันทึกผลการสารวจตรวจสอบอยาํ งป็นระบบ วิคราะห์ ปลความหมายขอ๎ มูล ละประมนิ ความสอดคล๎องของข๎อสรุปพ่ือตรวจสอบกับ สมมติฐาน ท่ีตั้งเว๎ ฿ห๎ข๎อสนอนะพื่อปรับปรุงวิธีการสารวจตรวจสอบ จัดกระทาข๎อมูลละนาสนอข๎อมูลด๎วยทคนิควิธีที่
หลักสูตรโรงเรียนเข่อื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ๔๒ หมาะสม สื่อสารนวคิด ความรู๎จากผลการสารวจตรวจสอบ ดยการพูด ขียน จัดสดง หรือ฿ช๎ทคนลยี สารสนทศพ่อื ฿หผ๎ ๎ูอนื่ ขา๎ ฿จดยมีหลักฐานอ๎างองิ หรอื มีทฤษฎรี องรับ สดงถึงความสน฿จ มงํุ ม่นั รบั ผิดชอบ รอบคอบ ละซอื่ สตั ย์ ฿นการสบื สาะหาความรู๎ ดย฿ช๎ครื่องมือ ละวิธีการท฿ี่ ห๎เด๎ผลถกู ตอ๎ ง ช่ือถือเด๎ มี หตุผลละยอมรบั เด๎วําความรทู๎ างวทิ ยาศาสตรอ์ าจมี การปลี่ยนปลงเด๎ สดงถึงความพอ฿จละห็นคุณคํา฿นการค๎นพบความรู๎ พบคาตอบ หรือก๎ปัญหาเด๎ ทางานรํวมกับ ผูอ๎ นื่ อยาํ งสร๎างสรรค์ สดงความคิดห็นดยมีข๎อมูลอ๎างอิงละหตุผลประกอบกี่ยวกับผลของการพัฒนาละ การ ฿ช๎วทิ ยาศาสตร์ ละทคนลยีอยาํ งมีคุณธรรมตอํ สังคมละส่ิงวดล๎อม ละยอมรบั ฟังความคิดหน็ ของผอู๎ น่ื ข๎า฿จความสัมพันธ์ของความรู๎วิทยาศาสตร์ที่มีผลตํอการพัฒนาทคนลยีประภทตําง ๆ ละ การ พัฒนาทคนลยีที่สํงผล฿ห๎มีการคิดค๎นความร๎ูทางวิทยาศาสตร์ท่ีก๎าวหน๎า ผลของทคนลยีตํอชีวิต สังคม ละ สิ่งวดล๎อม ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ละหน็ คุณคําของความรู๎วิทยาศาสตร์ละทคนลยีท่ี฿ช๎฿นชีวิตประจาวัน ฿ช๎ ความรู๎ละกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ละทคนลย฿ี นการดารงชีวติ ละการประกอบอาชีพ สดง ความช่ืนชม ภมู ิ฿จ ยกยํอง อา๎ งอิงผลงาน ชิ้นงานท่ีป็นผลมาจากภมู ปิ ญั ญาท๎องถนิ่ ละการพัฒนาทคนลยี ท่ีทันสมัย ศึกษาหา ความรู๎ พิม่ ติม ทาครงงานหรือสรา๎ งชน้ิ งานตามความสน฿จ สดงความซาบซ้ึง หํวง฿ย มีพฤติกรรมกี่ยวกับการ฿ช๎ละรักษาทรัพยากรธรรมชาติละสิ่งวดล๎อม อยาํ งรค๎ู ณุ คํา สนอตวั องรํวมมือปฏิบตั ิกบั ชุมชน฿นการปอู งกัน ดูลทรพั ยากรธรรมชาติละสง่ิ วดลอ๎ มของท๎องถิน่ จบชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ (สาหรบั ผู้เรยี นทุกคน) วิคราะห์นวคิดหลักของทคนลยี เด๎กํ ระบบทางทคนลยีท่ีซับซ๎อน การปล่ียนปลงของ ทคนลยี ความสัมพันธ์ระหวํางทคนลยีกับศาสตร์อื่น ดยฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ วิคราะห์ ปรียบทียบ ละตัดสิน฿จพื่อลือก฿ช๎ทคนลยี ดยคานึงถึงผลกระทบตํอชีวิต สังคม ศรษฐกิจ ละสิ่งวดล๎อม ประยุกต฿์ ชค๎ วามรู๎ ทกั ษะ ทรัพยากรพื่อออกบบ สร๎าง หรือพัฒนาผลงานสาหรับก๎ปัญหาที่มีผลกระทบตํอสังคม ดย฿ช๎กระบวนการออกบบชิงวิศวกรรม ฿ช๎ซอฟต์วร์ชํวย฿นการออกบบละนาสนอผลงาน ลือก฿ช๎วัสดุ อุปกรณ์ ละครอ่ื งมือเดอ๎ ยํางถูกต๎อง หมาะสม ปลอดภยั รวมทง้ั คานึงถึงทรพั ย์สนิ ทางปัญญา ฿ชค๎ วามรท๎ู างด๎านวิทยาการคอมพิวตอร์ สื่อดิจิทัล ทคนลยีสารสนทศละการส่ือสาร พ่ือรวบรวม ข๎อมูล฿นชีวิตจริงจากหลํงตําง ๆ ละความรู๎จากศาสตร์อ่ืน มาประยุกต์฿ช๎ สร๎างความรู๎฿หมํ ข๎า฿จ การ ปล่ยี นปลงของทคนลยที ่ีมีผลตอํ การดานินชวี ิต อาชพี สงั คม วัฒนธรรม ละ฿ช๎อยํางปลอดภยั มจี รยิ ธรรม
หลกั สูตรโรงเรยี นเขือ่ นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระที่ ๑ วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสัมพนั ธ์ระหว่างส นิเวศ การถ่ายทอด พลังงาน การเปลยี่ นแปลงแทนทใ่ี นระบบนิเวศ ความหมายข ในการอนรุ ักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปญั หาสิ่งแวดล้อมรวมท้งั นาความ ตวั ช้ีวดั ชั้นปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ - - ๑. อธิบายปฏิสมั พนั ธข์ อ องคป์ ระกอบของระบ นิวศทเ่ี ด๎จากการสาร ๒. อธบิ ายรูปบบ ความสัมพนั ธร์ ะหวาํ ง ส่ิงมชี วี ิตกับส่งิ มชี ีวิต รูปบบตาํ ง ๆ ฿น อยํู ดยี วกนั ทเี่ ดจ๎ า สารวจ ๓. สร๎างบบจาลอง฿นกา อธิบายการถํายทอด พลังงาน฿นสาย฿ยอาห ๔. อธิบายความสัมพนั ธ ผผ๎ู ลิต ผู๎บริ ภค ละ สลายสารอนิ ทรยี ฿์ นระ นิ วศ
๔๓ ส่ิงไม่มีชวี ติ กับสิง่ มชี ีวิต และความสมั พนั ธร์ ะหว่างสง่ิ มชี ีวติ กับส่ิงมีชีวติ ตา่ ง ๆ ในระบบ ของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม แนวทาง มรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชว้ี ดั ชว่ งชั้น ม.๔ ม.๕ ม.๖ อง ๑. สืบค๎นข๎อมลู ละอธิบาย - - บบ ความสัมพันธข์ องสภาพ รวจ ทางภูมศิ าสตรบ์ นลกกบั ความหลากหลายของเบ ง อม ละยกตัวอยาํ งเบอม ชนดิ ตําง ๆ หลงํ ท่ี ๒. สืบคน๎ ข๎อมลู อภิปราย ากการ สาหตุ ละยกตัวอยาํ งการ ปลี่ยนปลงทนที่ของ าร ระบบนิ วศ ๓. สืบค๎นข๎อมูล อธบิ ายละ หาร ยกตัวอยํางกีย่ วกบั การ ธข์ อง ปลย่ี นปลงของ ะผย๎ู อํ ย ะบบ
หลกั สูตรโรงเรียนเขอ่ื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตวั ชีว้ ดั ชน้ั ปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ - - ๕. อธบิ ายการสะสมสารพ สิ่งมีชีวิต ฿นซอํ าหาร ๖. ตระหนักถงึ ความสมั พ ของสง่ิ มีชีวติ สิ่งวดลอ๎ ม฿นระบบน ดยเมํทาลายสมดลุ ขอ ระบบนิ วศ
ม.๔ ตัวชี้วดั ช่วงชัน้ ๔๔ ม.๕ พษิ ฿น องค์ประกอบทางกายภาพ - ม.๖ ร และทางชวี ภาพทีม่ ีผลตอ่ - พนั ธ์ การเปลย่ี นแปลงขนาด ละ ของประชากรสง่ิ มชี ีวติ ใน นิ วศ ระบบนิเวศ อง ๔. สืบค๎นขอ๎ มลู ละอภปิ ราย กยี่ วกับปญั หาละ ผลกระทบทมี่ ตี ํอ ทรัพยากรธรรมชาติ ละ สิ่งวดล๎อม พร๎อมทง้ั นาสนอนวทาง฿นการ อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ
หลกั สูตรโรงเรยี นเขอ่ื นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวติ หน่วยพืน้ ฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลยี มนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ทีข่ องอวัยวะตา่ ง ตัวชวี้ ัดช้ันปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ๑. ปรียบทยี บรปู รํางละ ๑. ระบุอวัยวะละบรรยาย - ครงสรา๎ งของซลล์พชื ละ หนา๎ ทีข่ องอวัยวะ ท่ี ซลลส์ ตั ว์ รวมทงั้ บรรยาย กยี่ วขอ๎ ง฿นระบบหาย฿จ หน๎าท่ีของผนงั ซลล์ ยือ่ ๒. อธิบายกลเกการหาย฿จข๎า หมุ๎ ซลล์ เซทพลาซึม ละออก ดย฿ช๎ นิวคลยี ส วคิวอล เมท บบจาลอง รวมทง้ั อธบิ าย คอนดรีย ละคลอร กระบวนการลกปลยี่ น พลาสต์ ก๏ส ๒. ฿ชก๎ ลอ๎ งจุลทรรศน์฿ช๎สง ๓. ตระหนักถงึ ความสาคญั ศกึ ษาซลล์ ละครงสร๎าง ของระบบหาย฿จ ดยการ ตาํ ง ๆ ภาย฿นซลล์ บอกนวทาง฿นการดู ล ๓. อธิบายความสมั พนั ธ์ รักษาอวัยวะ฿นระบบ หาย฿จ฿หท๎ างานป็นปกติ ระหวาํ งรปู ราํ ง กับการทา หนา๎ ทีข่ องซลล์ ๔. ระบุอวัยวะละบรรยาย ๔. อธิบายการจัดระบบของ หน๎าทข่ี องอวยั วะ ฿นระบบ สิ่งมชี วี ิต ดยรม่ิ จากซลล์ ขบั ถาํ ย฿นการกาจดั ของ น้อื ยอื่ อวัยวะ ระบบ สียทางเต อวัยวะ จนปน็ ส่งิ มชี วี ติ
๔๕ ยงสารผา่ นเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละ ๆ ของพืชท่ีทางานสมั พนั ธ์กัน รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชี้วดั ชว่ งช้นั ม.๔ ม.๕ ม.๖ ๑. อธบิ ายครงสร๎างละ - - สมบัติของยื่อหม๎ุ ซลล์ท่ี สัมพันธ์กับการลาลยี งสาร ละปรียบทยี บการ ลาลียงสารผํานยอื่ หม๎ุ ซลล์ บบตําง ๆ ๒. อธบิ ายการควบคุมดลุ ย ภาพของนา้ ละสาร฿น ลือดดยการทางานของเต ๓. อธบิ ายการควบคมุ ดุลย ภาพของกรด-บสของ ลือดดยการทางานของเต ละปอด ๔. อธิบายการควบคุมดุลย ภาพของอณุ หภูมภิ าย฿น รํางกายดยระบบ หมุนวียนลอื ด ผวิ หนัง ละกลา้ มนือ้ ครงราํ ง
หลกั สูตรโรงเรียนเขื่อนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตัวชีว้ ัดชั้นปี ม.๓ ๕. อธบิ ายกระบวนการพรํ ม.๒ - ละออสมซสิ จาก ๕. ตระหนักถึงความสาคญั หลักฐานชงิ ประจักษ์ ละ ของระบบขับถําย ฿นการ ยกตัวอยํางการพรํละ กาจัดของสียทางเต ดย ออสมซสิ ฿นชวี ติ ประจาวัน การบอกนวทาง฿นการ ๖. ระบุปัจจยั ทจ่ี าปน็ ฿นการ ปฏบิ ตั ิตนทชี่ วํ ย฿หร๎ ะบบ สังคราะห์ ดว๎ ยสงละ ขบั ถาํ ยทาหน๎าที่เดอ๎ ยาํ ง ผลผลติ ท่ีกดิ ข้นึ จากการ ปกติ สังคราะหด์ ว๎ ยสง ดย฿ช๎ หลกั ฐานชิงประจกั ษ์ ๖. บรรยายครงสรา๎ งละ ๗. อธบิ ายความสาคญั ของ หนา๎ ทขี่ องหัว฿จ หลอด การสังคราะห์ ดว๎ ยสง ลือด ละลือด ของพืชตํอสง่ิ มีชีวติ ละ ส่งิ วดลอ๎ ม ๗. อธบิ ายการทางานของ ๘. ตระหนกั ฿นคณุ คาํ ของพชื ที่ ระบบหมุนวยี นลอื ด ดย มีตํอสิง่ มีชวี ิตละ ฿ช๎ บบจาลอง สงิ่ วดลอ๎ ม ดยการ รวํ มกันปลกู ละดูลรักษา ๘. ออกบบการทดลองละ ตน๎ เม๎฿นรงรยี นละ ทดลอง ฿นการ ชมุ ชน ปรยี บทยี บอตั ราการต๎น ของหัว฿จ ขณะปกติ ละ หลงั ทากิจกรรม
ม.๔ ตัวชี้วดั ชว่ งชั้น ๔๖ ๕. อธิบายละขยี นผนผงั ม.๕ - ม.๖ ก่ยี วกบั การตอบสนอง - ของรํางกายบบเมจํ าพาะ ละบบจาพาะตํอสิง่ ปลกปลอมของราํ งกาย ๖. สืบคน๎ ขอ๎ มูล อธบิ ายละ ยกตวั อยาํ งรคหรอื อาการ ท่ี กิดจากความผิดปกตขิ อง ระบบภมู คิ ุ๎มกัน ๗. อธบิ ายภาวะภมู คิ มุ๎ กัน บกพรํองทมี่ ีสาหตุ มาจาก การตดิ ช้ือ HIV ๘. ทดสอบละบอกชนิดของ สารอาหารทีพ่ ืชสงั คราะห์ เด๎ ๙. สืบค๎นข๎อมูล อภปิ ราย ละ ยกตวั อยาํ งกยี่ วกบั การ฿ช๎ประยชน์จากสาร ตําง ๆ ทีพ่ ชื บางชนดิ สรา๎ ง ข้นึ
หลักสูตรโรงเรยี นเขือ่ นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตวั ชี้วัดชนั้ ปี ม.๓ ๙. บรรยายลกั ษณะละ ม.๒ - หนา๎ ทข่ี องเซลม็ ๙. ตระหนักถึงความสาคญั ละฟลอม็ ของระบบหมุนวยี นลือด ๑๐. ขยี นผนภาพที่ ดยการบอกนวทาง฿น บรรยายทศิ ทาง การ การดู ลรักษาอวัยวะ฿น ลาลยี งสาร฿นเซลม็ ระบบหมนุ วยี นลือด฿ห๎ ละฟลอ็มของพชื ทางาน ป็นปกติ ๑๑. อธบิ ายการสบื พันธุ์ บบอาศยั พศ ละ เมอํ าศัยพศของพืช ดอก ๑๒. อธิบายลักษณะ ครงสรา๎ งของดอกท่ี มสี วํ นทา฿ห๎ กดิ การ ถํายรณู รวมท้ัง บรรยาย การปฏสิ นธิ ของพชื ดอก การ กดิ ผลละมล็ด การ กระจายมลด็ ละ การงอกของมล็ด
๔๗ ตวั ชี้วดั ชว่ งชั้น ม.๔ ม.๕ ม.๖ ๑๐. ออกบบการทดลอง - - ทดลองละอธิบาย กีย่ วกบั ปัจจยั ภายนอกทม่ี ีผลตอํ การจรญิ ตบิ ตของ พืช
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตวั ชว้ี ดั ช้ันปี ม.๓ ๑๓. ตระหนกั ถึง ม.๒ - ความสาคญั ของสตั ว์ ๑๐. ระบอุ วัยวะละ ท่ชี วํ ย ฿นการถํายรณู บรรยายหน๎าทขี่ อง ของพืชดอก ดยการ อวัยวะ฿นระบบ เมํทาลายชวี ิตของ ประสาทสํวนกลาง สตั ว์ทีช่ วํ ย฿นการถาํ ย ฿นการควบคมุ การ รณู ทางานตาํ ง ๆ ของ ๑๔. อธิบายความสาคญั ราํ งกาย ของธาตอุ าหารบาง ชนดิ ทม่ี ีผลตอ่ การ ๑๑. ตระหนกั ถงึ เจริญเตบิ โตและการ ความสาคญั ของ ดารงชีวติ ของพชื ระบบประสาท ดย ๑๕. ลอื ก฿ชป๎ ุย๋ ทีม่ ีธาตุ การบอกนวทาง฿น อาหารหมาะสมกับ การดูลรักษา รวมถงึ พชื ฿นสถานการณท์ ี่ การปอู งกนั การ กาหนด กระทบ กระทอื น ละอนั ตรายตํอสมอง ละเขสันหลงั ๑๒. ระบอุ วยั วะละ บรรยายหนา๎ ทขี่ อง อวัยวะ฿นระบบ สบื พนั ธขุ์ องพศชาย ละพศหญิง ดย฿ช๎ บบจาลอง
ม.๔ ตัวชี้วัดช่วงชัน้ ๔๘ ๑๑. สบื คน๎ ข๎อมลู กย่ี วกบั ม.๕ - ม.๖ สารควบคมุ การจรญิ - ติบตของพืชทีม่ นุษย์ สังคราะห์ขน้ึ ละ ยกตวั อยํางการนาม ประยุกต฿์ ช๎ทางดา๎ น การกษตรของพชื ๑๒. สงั กตละอธบิ าย การตอบสนองของพชื ตอํ สิง่ ร๎า฿นรปู บบ ตําง ๆ ทม่ี ีผลตํอการ ดารงชวี ิต
หลกั สูตรโรงเรียนเขื่อนผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตัวช้วี ัดชัน้ ปี ม.๓ ๑๖. ลอื กวิธีการ ม.๒ - ขยายพนั ธ์พุ ชื ฿ห๎ ๑๓. อธบิ ายผลของ หมาะสมกับความ ฮอร์มนพศชายละ ตอ๎ งการของมนุษย์ พศหญงิ ที่ควบคุม ดย฿ชค๎ วามรู๎ กย่ี วกับ การปลย่ี นปลงของ การสบื พันธ์ขุ องพชื ราํ งกาย มอื่ ข๎าสวํู ยั ๑๗. อธบิ ายความสาคญั หนํมุ สาว ของทคนลยี การ พาะล้ียงนอ้ื ยอื่ พชื ๑๔. ตระหนกั ถึงการ ฿นการ฿ช๎ประยชน์ ปลยี่ นปลงของ ดา๎ นตาํ ง ๆ รํางกายมื่อข๎าสวํู ยั ๑๘. ตระหนักถึงประยชน์ หนุํมสาวดยการดู ล ของการขยายพนั ธพ์ุ ชื รกั ษาราํ งกายละ ดยการนาความรเู๎ ป จิต฿จของตนอง ฿ช๎฿นชวี ิตประจาวนั ฿นชวํ งที่มกี าร ปลย่ี นปลง ๑๕. อธบิ ายการตกเขํ การ มีประจาดือน การ ปฏิสนธิ ละการ พัฒนาของเซกต จน คลอดปน็ ทารก ๑๖. ลอื กวิธีการคุม กานิดที่หมาะสมกบั สถานการณท์ ี่กาหนด
๔๙ ตวั ชว้ี ัดช่วงชั้น ม.๔ ม.๕ ม.๖ -- -
หลกั สูตรโรงเรียนเขอื่ นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ - ตวั ชีว้ ดั ชัน้ ปี ม.๑ ม.๒ - ๑๗. ตระหนักถึง ผลกระทบของการ ต้งั ครรภ์ กอํ นวยั อนั ควร ดยการ ประพฤติตน฿ห๎ หมาะสม
๕๐ ตวั ชวี้ ัดช่วงชั้น ม.๔ ม.๕ ม.๖ ---
หลักสูตรโรงเรยี นเขอื่ นผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสาคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทาง หลากหลาย ทางชวี ภาพและวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโย ตัวช้วี ัดชั้นปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ -- ๑. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ ระหวําง ยีน ดี อ็นอ ครมซมดย฿ช๎ บบจาลอง ๒. อธบิ ายการถํายทอด ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การผสมดยพิจารณา ลักษณะดียวที่ ลดํนขํมอลลลี ดอ๎ ยอ สมบรู ณ์ ๓. อธบิ ายการกดิ จีนเท ละฟี นเทป์ของลูก คานวณอตั ราสวํ นการ นเทป์ ละฟี นเท รนุํ ลูก
๕๑ งพันธกุ รรม สารพันธุกรรม การเปลย่ี นแปลงทางพนั ธุกรรมท่มี ผี ลต่อสิ่งมชี ีวติ ความ ยชน์ ตวั ชี้วดั ชว่ งชน้ั ม.๔ ม.๕ ม.๖ ๑. อธิบายความสมั พันธ์ อ ละ ระหวาํ งยนี การสงั คราะห์ ปรตนี ละลกั ษณะทาง พันธกุ รรม ๒. อธิบายหลักการถํายทอด มจาก ลักษณะทถ่ี กู ควบคมุ ดว๎ ย า ยนี ที่อยบูํ นครมซมพศ อลลี ละ มัลติ ปลิ อลลีล อยําง ๓. อธิบายผลที่ กดิ จากการ ปลี่ยนปลงลาดับนิวคลี อ ทป์ เทด฿์ นดี อน็ อตํอการ ละ สดงลักษณะของสิง่ มชี ีวิต รกดิ จี ๔. สบื ค๎นขอ๎ มูลละ ทปข์ อง ยกตัวอยํางการนา มวิ ท ชนั เป฿ชป๎ ระยชน์
หลักสูตรโรงเรยี นเข่อื นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตวั ชี้วดั ชนั้ ปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ๔. อธบิ ายความตกตาํ ง การบํงซลล์ บบเม ละเมอซสิ ๕. บอกเดว๎ าํ การ ปลยี่ นปลงของยีน ครมซมอาจทา฿ห๎ ก รคทางพันธุกรรม พ ทง้ั ยกตัวอยํางรคทาง พนั ธกุ รรม ๖. ตระหนักถึงประยชน ความร๎ู ร่อื งรคทาง พันธกุ รรม ดยรู๎ว ตํงงานควรปรึกษา พอ่ื ตรวจละวนิ ิจฉยั ส่ยี งของลูกท่ีอาจกดิ ทางพันธกุ รรม หมายเหตุ: มาตรฐาน ว ๑.๑ – ว ๑.๓ สาหรับผู๎ รียน฿นระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ถงึ ระดบั ชน้ั ม
ม.๔ ตวั ชี้วดั ชว่ งชนั้ ๕๒ งของ ๕. สบื ค้นข้อมลู และอภิปราย ม.๕ ทซสิ ผลของเทคโนโลยีทางดี ม.๖ เอ็นเอทม่ี ตี อ่ มนษุ ย์และ สง่ิ แวดล้อม หรือ ๖. สบื ค้นข้อมลู อธิบาย และ กิด ยกตวั อยา่ ง ความ พรอ๎ ม หลากหลายของสงิ่ มชี ีวติ ง ซงึ่ เป็ นผลมาจาก นข์ อง วิวฒั นาการ วํากอํ น พทย์ ยภาวะ ดรค มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ละผู๎รียน฿นระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ – ๖ ทไ่ี มเ่ นน้ วทิ ยาศาสตร์
หลกั สูตรโรงเรียนเขอื่ นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตัวชวี้ ัดชั้นปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ๗. อธบิ ายการ฿ช๎ประยช จากสง่ิ มีชีวติ ดดั ปร พันธุกรรมละผลกระ อาจมีตํอมนษุ ย์ ละ ส่งิ วดล๎อม ดย฿ชข๎ อ๎ รวบรวมเด๎ ๘. ตระหนักถงึ ประยชน ผลกระทบของสงิ่ มชี วี ปรพนั ธกุ รรมที่อาจม มนษุ ย์ละสิ่งวดล๎อม การผยพรํความรูท๎ เ่ี จากการต๎ย๎งทาง วิทยาศาสตรซ์ ึ่งมีขอ๎ ม สนบั สนนุ ๙. ปรียบทยี บความ หลากหลายทางชีวภา ระดับชนิดส่ิงมีชีวิต฿น ระบบนิ วศตําง ๆ
ม.๔ ตวั ชีว้ ัดช่วงช้นั ๕๓ ชน์ ม.๕ ม.๖ ะทบที่ อมลู ที่ น์ละ วิตดดั มตี อํ ม ดย เด๎ มลู าพ ฿น น
หลกั สูตรโรงเรียนเขอ่ื นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตัวชีว้ ัดชั้นปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ๑๐.อธบิ ายความสาคญั ขอ ความหลากหลายทาง ชีวภาพที่มีตอํ การรักษ สมดลุ ของระบบนิ วศ ตอํ มนษุ ย์ ๑๑.สดงความตระหนกั ฿น คุณคําละ ความสาคญั ความหลากหลายทาง ชีวภาพ ดยมสี วํ นร การดู ลรักษาความ หลากหลาย ทางชีวภา
ม.๔ ตัวช้ีวัดชว่ งชนั้ ๕๔ ม.๕ ม.๖ อง ษา ละ น ญของ รํวม฿น าพ
หลกั สูตรโรงเรยี นเขื่อนผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะห ธรรมชาติของการเปล่ียนแปลง สถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดป ตัวช้ีวัดชั้นปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ๑. อธิบายสมบตั ิทางกายภาพ ๑. อธบิ ายการยกสารผสม ๑. ระบุสมบตั ิทางกายภา บางประการของธาตุลหะ ดยการระหยห๎ง การตก ละการ฿ช๎ประยชน์ว อลหะ ละกึ่งลหะ ดย ผลกึ การกลนั่ อยาํ งงาํ ย ประภทพอลิ มอร์ ฿ช๎หลักฐานชิงประจกั ษท์ ่ี ครมาทกราฟีบบกระ มกิ ส์ ละวัสดผุ สม เด๎จากการสงั กตละ การ ดาษ การสกดั ดว๎ ยตวั ทา หลักฐานชิงประจกั ษ ทดสอบ ละ฿ช๎สารสนทศ ละลาย ดย฿ช๎หลักฐานชิง สารสนทศ ทเี่ ด๎จากหลํงข๎อมูลตาํ ง ๆ ประจกั ษ์ ๒. ตระหนักถึงคณุ คําของ รวมทงั้ จดั กลมุํ ธาตุปน็ ๒. ยกสารดยการระหย ฿ช๎วัสดุประภทพอลิ ม ลหะ อลหะ ละก่ึงลหะ หง๎ การตกผลึก การกล่นั ซรามกิ ส์ ละวสั ๒. วิคราะหผ์ ลจากการ฿ช๎ อยํางงําย ครมาทกราฟี ดย สนอ นะน ธาตุลหะ อลหะ กึง่ ลหะ บบกระดาษ การสกดั ด๎วย การ฿ชว๎ ัสดอุ ยาํ งประห ละธาตุกมั มนั ตรังสี ทมี่ ี ตัวทาละลาย ละค๎มุ คํา ตํอส่งิ มีชวี ิต สง่ิ วดล๎อม ศรษฐกจิ ละสงั คม จาก ขอ๎ มลู ท่ีรวบรวมเด๎
๕๕ หว่างสมบัติของสสารกับ โครงสรา้ งและแรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนภุ าค หลักและ ปฏิกริ ิยาเคมี ตัวช้ีวดั ชว่ งชน้ั ม.๔ ม.๕ ม.๖ าพ - ๑. ระบุวําสารป็นธาตุหรือ - วัสดุ สารประกอบ ละอยูํ฿นรปู ซรา อะตอม มลกลุ หรอื ดย฿ช๎ เอออน จากสตู รคมี ษ์ ละ ๒. ปรียบทยี บความหมือน ละความตกตาํ งของ งการ บบจาลองอะตอมของบร์ มอร์ กับบบจาลองอะตอมบบ ดผุ สม กลํุมหมอก นวทาง ๓. ระบจุ านวนปรตอน หยัด นิวตรอน ละอิลก็ ตรอน ของอะตอม ละเอออนท่ี กิดจากอะตอมดยี ว ๔. ขยี นสัญลกั ษณน์ วิ คลยี ร์ ของธาตุละระบุการป็น เอซทป
หลกั สูตรโรงเรียนเขื่อนผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตัวชี้วัดชน้ั ปี ม.๑ ม.๒ ม.๓ ๓. ตระหนกั ถงึ คณุ คําของการ ๓. อธิบายการกดิ ปฏกิ ริ ย ๓. นาวธิ ีการยกสารเป฿ช๎ ฿ช๎ธาตุลหะ อลหะ ก่ึง คมี รวมถงึ การจดั ร ลหะ ธาตุกัมมันตรงั สี ดย ก๎ปญั หา ฿น ฿หมํของอะตอมม่ือก สนอ นวทางการ฿ช๎ธาตุ กดิ ปฏิกิริยาคมี อยาํ งปลอดภัย คุ๎มคาํ ชวี ิตประจาวนั ดยบรู ณา บบจาลองละสมกา ๔. ปรียบทยี บจุดดอื ด จุด ข๎อความ หลอมหลวของสารบริสุทธ์ิ การวิทยาศาสตร์ ๔. อธบิ ายกฎทรงมวล ละสารผสม ดยการวัด หลกั ฐานชงิ ประจกั ษ อณุ หภูมิ ขียนกราฟ ปล คณติ ศาสตร์ ทคนลยี ๕. วิคราะหป์ ฏิกิรยิ าดดู ค ความหมายข๎อมลู จาก ร๎อน ละปฏกิ ริ ิย กราฟ หรอื สารสนทศ ละวิศวกรรมศาสตร์ ความร๎อน จา ๕. อธบิ ายละปรยี บทียบ ปลย่ี นปลงพลังงาน ความหนานนํ ของสาร ๔. ออกบบการทดลองละ รอ๎ นของปฏกิ ิรยิ า บริสทุ ธิ์ละสารผสม ๖. ฿ช๎คร่อื งมอื พื่อวัดมวล ทดลอง฿นการอธบิ ายผล ละปรมิ าตรของสาร บริสทุ ธ์ิ ละสารผสม ของชนดิ ตัวละลาย ชนิดตวั ทาละลาย อณุ หภมู ิ ท่มี ีตอํ สภาพละลายเดข๎ องสาร รวมท้งั อธบิ ายผลของความ ดนั ทม่ี ีตอํ สภาพละลายเด๎ ของสารดย฿ชส๎ ารสนทศ
๕๖ ม.๔ ตัวชีว้ ดั ช่วงชน้ั ม.๖ ม.๕ ยิ า รยี งตัว ๕. ระบหุ มูํ ละคาบของธาตุ การ ละระบุวาํ ธาตุ ปน็ ลหะ ดย฿ช๎ อลหะ ก่ึงลหะ กลมุํ ธาตุ าร รพรี ซนททีฟ หรอื กลุํม ธาตุ ทรนซิชัน จากตาราง ดย฿ช๎ ธาตุ ษ์ ความ ๖. ปรยี บทยี บสมบัติการนา ยาคาย เฟฟาู การ฿ห๎ละรบั ากการ อิลก็ ตรอนระหวํางธาตุ฿น นความ กลมํุ ลหะกับอลหะ ๗. สบื ค๎นข๎อมูลละนาสนอ ตวั อยํางประยชน์ละ อันตรายท่ี กดิ จากธาตุ รพรีซนททีฟละธาตุ ท รนซชิ นั
หลักสูตรโรงเรียนเข่อื นผากวทิ ยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตัวช้ีวัดชั้นปี ม.๓ ๗. อธิบายก่ียวกบั ม.๒ ๖. อธบิ ายปฏิกิริยาการก ความสมั พันธร์ ะหวาํ ง ๕. ระบปุ รมิ าณตวั ละลาย฿น สนมิ ของหลก็ ปฏ อะตอม ธาตุ ละ สารละลาย ฿นหนํวยความ ของกรดกบั ลหะ ปฏ สารประกอบ ดย฿ช๎ ขม๎ ข๎นปน็ รอ๎ ยละ ของกรด กับบส บบจาลองละสารสนทศ ปริมาตรตํอปรมิ าตร มวล ปฏกิ ิริยาของบสกับล ตอํ มวล ละมวลตอํ ดย฿ช๎หลักฐานชิง ปริมาตร ประจักษ์ ละอ ปฏกิ ิริยาการผาเหม๎ ๖. ตระหนักถึงความสาคญั กิดฝนกรด การสังค ของการนาความร๎ู รือ่ ง ด๎วยสง ดย฿ช๎สารส ความขม๎ ขน๎ ของสารเป฿ช๎ รวมทัง้ ขียนสมการ ดยยกตัวอยํางการ฿ช๎ ขอ๎ ความสดงปฏกิ ริ ิย สารละลาย฿น ดังกลาํ ว ชวี ติ ประจาวนั ที่อยําง ถกู ต๎องละปลอดภัย
๕๗ ม.๔ ตวั ช้วี ดั ช่วงช้ัน ม.๖ กดิ - ม.๕ ฏกิ ิริยา ฏกิ ริ ิยา ๗. ระบุวําพนั ธะควลนต์ปน็ พนั ธะดย่ี ว พันธะคํู หรอื ละ พนั ธะสาม ละระบุจานวน ลหะ คูํอิล็กตรอนระหวําง อะตอมครูํ ํวมพันธะ จาก อธิบาย สตู รครงสร๎าง การ คราะห์ สนทศ ยา
หลกั สูตรโรงเรียนเขื่อนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๑ ตัวช้ีวดั ชนั้ ปี ม.๓ ๘. อธบิ ายครงสรา๎ งอะตอม ม.๒ ๗. ระบปุ ระยชน์ ละท ที่ประกอบด๎วยปรตอน ปฏิกริ ิยาคมีทม่ี ตี อํ นวิ ตรอน ละอิล็กตรอน สิ่งมชี วี ิตละส่งิ วดล ดย฿ช๎ บบจาลอง ละยกตัวอยํางวิธกี าร ๙. อธบิ ายละปรยี บทียบ ปูองกนั ละกป๎ ญั หา การจดั รยี งอนุภาค รง จากปฏิกิริยาคมีทพ่ี บ ยดึ หนีย่ วระหวาํ งอนุภาค ชีวิตประจาวนั จา ละการคลอื่ นท่ขี อง สืบค๎นข๎อมลู อนุภาคของสสารชนิด ๘. ออกบบวิธีก๎ปญั หา ดียวกนั ฿นสถานะ ชวี ิตประจาวนั ของขง็ ของหลว ละ ความรู๎ก่ียวกบั ปฏิกริ กส๏ ดย฿ช๎บบจาลอง คมี ดย บรู ณ ๑๐. อธบิ ายความสมั พันธ์ วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศ ระหวาํ งพลงั งานความ ทคนลยี รอ๎ นกับการปลีย่ นสถานะ วิศวกรรมศาสตร์ ของสสาร ดย฿ชห๎ ลกั ฐาน ชงิ ประจกั ษ์ ละ บบจาลอง
ม.๔ ตวั ชว้ี ัดช่วงชน้ั ๕๘ ม.๕ ม.๖ ๙. ระบสุ ภาพขั้วของสารที่ ทษของ - มลกุลประกอบด๎วย ๒ อะตอม ล๎อม ร ๑๐. ระบุสารที่ กิดพนั ธะ าท่ี กดิ เฮดรจนเด๎จากสูตร บ฿น ครงสร๎าง ากการ ๑๑. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ า฿น ระหวาํ งจุดดอื ดของสาร ดย฿ช๎ ควลนตก์ ับรงดงึ ดูด รยิ า ระหวํางมลกลุ ตาม ณาการ สภาพขัว้ หรือการกิด ศาสตร์ พนั ธะเฮดรจน ละ ๑๒. ขียนสูตรคมีของเอออน ละสารประกอบเอออนกิ ๑๓. ระบุวําสารกดิ การละลาย บบตกตวั หรอื เมํ ตก ตัว พรอ๎ ม฿ห๎หตผุ ล ละ ระบุวําสารละลายทเ่ี ด๎ป็น สารละลายอิลก็ ทรเลต์ หรือนอนอิลก็ ทรเลต์
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ตัวช้ีวดั ชั้นปี ม.๑ ม.๒
๕๙ ตัวชว้ี ดั ช่วงชัน้ ม.๖ ม.๔ ม.๕ ๑๔. ระบุสารประกอบอินทรยี ์ ประภทเฮดรคารบ์ อนวํา อม่ิ ตวั หรอื เมอํ ิ่มตัวจากสตู ร ครงสร๎าง ๑๕. สบื คน๎ ข๎อมูลละ ปรยี บทยี บสมบตั ิ ทาง กายภาพระหวาํ งพอลิ มอร์ ละมอนอมอร์ของพอลิ ม อรช์ นิดน้นั ๑๖. ระบุสมบตั ิความป็นกรด- บส จากครงสรา๎ งของ สารประกอบอนิ ทรีย์ ๑๗. อธบิ ายสมบตั ิการละลาย฿น ตวั ทาละลายชนดิ ตําง ๆ ของสาร ๑๘. วิคราะห์ละอธบิ าย ความสัมพนั ธร์ ะหวาํ ง ครงสร๎างกบั สมบตั ิทอร์ มอพลาสติกละทอร์มอ ซตของพอลิมอร์ ละ การนา พอลิมอรเ์ ป฿ช๎ ประยชน์
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ม.๓ ตัวช้ีวดั ชั้นปี ม.๑ ม.๒
๖๐ ตวั ชว้ี ดั ช่วงชนั้ ม.๔ ม.๕ ม.๖ ๑๙. สบื คน๎ ข๎อมลู ละนาสนอ ผลกระทบของการ฿ช๎ ผลิตภณั ฑพ์ อลิมอร์ทีม่ ี ตํอสิ่งมชี ีวิตละ สง่ิ วดล๎อม พรอ๎ ม นวทางปูองกันหรอื กเ๎ ข ๒๐. ระบสุ ูตรคมขี องสารตัง้ ตน๎ ผลติ ภณั ฑ์ ละปล ความหมายของสญั ลักษณ์ ฿นสมการคมขี อง ปฏิกริ ิยาคมี ๒๑. ทดลองละอธิบายผลของ ความขม๎ ขน๎ พนื้ ทผ่ี วิ อุณหภูมิ ละตวั รํง ปฏิกริ ิยา ที่มีผลตอํ อัตรา การกดิ ปฏิกิริยาคมี ๒๒. สบื ค๎นข๎อมลู ละอธิบาย ปัจจัยที่มีผลตอํ อตั ราการ กดิ ปฏิกริ ิยาคมีที฿่ ช๎ ประยชน฿์ น ชวี ติ ประจาวนั หรอื ฿นอตุ สาหกรรม
หลกั สูตรโรงเรยี นเข่ือนผากวิทยา พ.ศ. ๒๕๖๑ ตัวช้ีวดั ชั้นปี ม.๓ ม.๑ ม.๒
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 586
Pages: