Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์

ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์

Published by Siripan Saetim, 2020-11-30 17:35:22

Description: ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย

Keywords: ะบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์,สิริพรรณ,สิริพรรณ แซ่ติ่ม,ระบบชำระเงิน,e-payment,payment,electronic payment,siripan saetim,siripan

Search

Read the Text Version

สริ ิพรรณ แซ่ตมิ่ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์

มหาวทิ สยริาลพิ ยั รสงรขณลานแคซรนิ่ตทมิ่ ร์

คำนำ ด้วยความนิยมในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ประชาชนนิยมซื้อสินค้าและบริการจาก เว็บไซต์และส่ือสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพ่ิมมากขึ้น เน่ืองจากสามารถสั่งซ้ือได้ง่ายตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และธุรกิจดังกล่าวยังส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา รูปแบบและช่องทางการชาระเงินท่ีมีความหลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานทั้งภาคประชาชน ภาคธุรกิจและภาครัฐบาล อาทิ การชาระเงินผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต การชาระด้วย เงินอิเล็กทรอนิกส์ การโอนเงินผ่านทางตู้เอทีเอ็ม การชาระเงินด้วยเช็ค การชาระเงินผ่าน อินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น สอดคล้องกับนโยบายการชาระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (National e-Payment) ของรัฐบาลที่ต้องการลดการใช้เงินสด เนื่องจากต้องใช้งบประมาณของ ประเทศในการผลติ และบรหิ ารจดั การในอตั ราท่คี ่อนข้างสงู ปัจจุบันไม่เพียงแค่สถาบันการเงิน แต่ยังมีองค์กรทางเทคโนโลยีอ่ืน ๆ เช่น ผู้ให้บริการ เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ผู้ให้บริการการขนส่งและการสื่อสาร รวมทั้งผู้ประกอบการใหม่ท่ีได้รับ ความสนับสนุนจากรัฐบาล (Fintech) ต่างให้ความสนใจพัฒนารูปแบบการชาระเงินท่ีสามารถ ตอบสนองพฤติกรรมของผบู้ รโิ ภคให้มากท่ีสุด ในการประกอบอาชีพทางด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน มีความจาเป็นที่ผู้ลงทุน ควรประเมินโอกาสความสาเร็จของการประกอบธุรกิจ โดยการวิเคราะห์คานวณทางการลงทุน เพ่ือให้ทราบดัชนีในการทากาไร สัดส่วนของผลกาไร ระยะเวลาคืนทุน และอัตราผลตอบแทน การลงทนุ ทตี่ ้องการ รวมทง้ั วิธีการชาระเงนิ ทีเ่ หมาะสมต่อธรุ กิจและผู้บรโิ ภค ตาราเลม่ น้เี ขยี นขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนรายวชิ า 946-392 การเงินและระบบชาระ เงินอิเล็กทรอนิกส์สาหรับนักศึกษาหลักสูตรการจัดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งนักศึกษา ในหลักสูตรอื่น ๆ ทางด้านธุรกิจและด้านพาณิชยศาสตร์ ซ่ึงเป็นเน้ือหาท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้า ต้ังแต่ พ.ศ. 2557 และเน้ือหาบางส่วนมาจากบทความปริทัศน์และบทความวิชาการของผู้เขียน ท่ีได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร TCI กลุ่มที่ 1 ปี พ.ศ. 2559 – พ.ศ. 2560 จานวน 2 เร่ืองได้แก่

4 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (1) แนวโน้มธนาคารเสมือนในประเทศไทย ( Trends of Virtual Banks in Thailand) ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ (2) PAYMENT GATEWAY: หวั ใจระบบชาระเงินพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ในวารสารปญั ญาภวิ ฒั น์ เนื้อหาในตาราให้ความรู้เก่ียวกับ ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับระบบชาระเงิน การชาระเงิน ด้วยบัตรพลาสติก การชาระเงินด้วยเช็ค การโอนเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจให้บริการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ การชาระเงินเพย์เม้นท์เกตเวย์ การเรียกเก็บเงินและชาระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และการชาระเงินแบบพีทูพี การชาระเงิน ผ่านโทรศพั ทม์ ือถือ ความเส่ยี ง การฉ้อโกงและการฟอกเงินในระบบการชาระเงิน ตาราเล่มน้ีเหมาะสาหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ครูอาจารย์ที่ต้องการนาไปใช้ ประกอบการเรียนการสอน ตลอดจนผู้ท่สี นใจศึกษาหาความรู้ดว้ ยตนเอง ขอขอบคุณ ดร.ธวัทชัย สุวรรณพงค์ และ ผศ.ภัทรพงศ์ เจริญกิจจารุกร ที่อนุเคราะห์ ข้อมูลสาหรับจัดทารูปภาพ รวมทั้งขอบคุณเว็บไซต์ https://publicdomainvectors.org/ เว็บไซต์ https://pixabay.com/ และเว็บไซต์ https://openclipart.org/ ท่ีอนุญาตให้ใช้ ภาพการ์ตูนและภาพถ่ายภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ CC0 นอกจากน้ีขอขอบคุณ เวบ็ ไซต์ https://www.flaticon.com/ ซงึ่ พฒั นาโดย Freepik ท่อี นญุ าตให้ใช้ภาพในเชิงพาณิชย์ โดยตอ้ งอ้างองิ เจ้าของภาพ ขอกราบขอบพระคุณบิดา มารดา ครูอาจารย์ทุกคน รวมทั้งมหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ท่คี อยสนับสนุนและเป็นกาลังใจในการเขียนตาราในครั้งนี้ หากมีขอ้ บกพร่องใด ผเู้ ขียนขอน้อมรับ เพอ่ื ปรับปรงุ ต่อไป สริ พิ รรณ แซ่ติม่ [email protected] กุมภาพนั ธ์ 2562

สารบญั หนา้ คานา ...................................................................................................................3 บทท่ี 1 ความร้เู บ้อื งต้นเก่ียวกบั ระบบชาระเงนิ .............................................. 11 ระบบการชาระเงิน ..................................................................................................... 15 บทบาทของธนาคารแหง่ ประเทศไทยในระบบการชาระเงนิ ........................................ 27 สถาบนั การเงนิ ในประเทศไทย.................................................................................... 29 นโยบายระบบการชาระเงนิ แบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์........................................................... 32 สรปุ ............................................................................................................................ 33 คาถามท้ายบท............................................................................................................ 34 บทที่ 2 การชาระเงนิ ดว้ ยบัตรพลาสติก.......................................................... 39 ประเภทของบัตรพลาสติก .......................................................................................... 41 บตั รเอทเี อม็ ................................................................................................................ 47 บตั รเดบติ ................................................................................................................... 48 บัตรเครดิต.................................................................................................................. 50 บตั รเติมเงิน ................................................................................................................ 56 สรปุ ............................................................................................................................ 58 คาถามท้ายบท............................................................................................................ 59

6 การเงนิ และระบบชาระเงนิ อิเลก็ ทรอนิกส์ สารบญั (ตอ่ ) หน้า บทท่ี 3 การชาระเงินด้วยเชค็ ......................................................................... 63 ความหมายและประเภทของเช็ค................................................................................. 65 การหักบญั ชเี ช็คดว้ ยวิธีอเิ ล็กทรอนกิ ส์......................................................................... 72 การเรยี กเก็บเงินตามเชค็ ภายในเขตสานกั หักบญั ชี...................................................... 76 การเรยี กเกบ็ เงินตามเช็คข้ามเขตสานกั หกั บัญชี.......................................................... 78 การหกั บญั ชีเชค็ ดว้ ยภาพเช็คและระบบการจดั เก็บภาพเช็ค........................................ 80 สรปุ ............................................................................................................................ 88 คาถามท้ายบท............................................................................................................ 89 บทที่ 4 การโอนเงนิ ทางระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ .................................................. 95 การโอนเงนิ ผา่ นไปรษณยี ์............................................................................................ 96 การโอนเงินรายใหญ่ .................................................................................................102 การโอนเงินรายย่อย.................................................................................................. 109 การโอนเงินระหว่างประเทศ .....................................................................................123 สรุป .......................................................................................................................... 129 คาถามทา้ ยบท..........................................................................................................130 บทที่ 5 ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์..................................................................... 133 ธนาคารพาณชิ ย์........................................................................................................134 ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์.............................................................................................. 137 ธนาคารเสมือน .........................................................................................................143 สรุป .......................................................................................................................... 150 คาถามทา้ ยบท..........................................................................................................151

สารบัญ 7 สารบญั (ต่อ) หน้า บทที่ 6 ธรุ กิจให้บริการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ...................................... 153 ข้อกาหนดธุรกิจตามพระราชกฤษฎีกาวา่ ด้วยการควบคุมดูแลธรุ กิจบรกิ าร การชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551..............................................................154 ขอ้ กาหนดธุรกิจตามพระราชบญั ญัตริ ะบบการชาระเงนิ พ.ศ. 2560.........................156 การใหบ้ รกิ ารเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์................................................................................161 การใหบ้ รกิ ารเครือขา่ ยบตั รเครดติ ............................................................................173 การใหบ้ ริการเครอื ขา่ ยอีดีซี ......................................................................................173 การใหบ้ รกิ ารสวิตช์ชงิ่ ในการชาระเงิน.......................................................................174 การให้บริการหักบัญชี ............................................................................................... 176 การให้บริการชาระดุล ............................................................................................... 177 การให้บรกิ ารรับชาระเงินแทน..................................................................................178 การชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกสผ์ า่ นอุปกรณ์อยา่ งหนงึ่ อยา่ งใด หรือผา่ นทางเครอื ข่าย ..............................................................................................183 สรุป .......................................................................................................................... 187 คาถามทา้ ยบท..........................................................................................................188 บทท่ี 7 การชาระเงนิ เพยเ์ ม้นท์เกตเวย์ ......................................................... 191 ความหมายของเพยเ์ ม้นทเ์ กตเวย์..............................................................................192 หลักการทางานของเพย์เมน้ ท์เกตเวย์........................................................................192 เพยเ์ มน้ ท์เกตเวยท์ ่ีดาเนนิ การโดยสถาบนั การเงิน .....................................................195 เพย์เม้นท์เกตเวย์ทีด่ าเนนิ การโดยบรษิ ัทเอกชน ........................................................200 ตวั อยา่ งการชาระคา่ ต๋ัวเคร่ืองบินผ่านระบบเพยเ์ ม้นทเ์ กตเวย์ ...................................205 สรุป .......................................................................................................................... 210 คาถามทา้ ยบท..........................................................................................................211

8 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์ สารบญั (ต่อ) หนา้ บทที่ 8 การเรียกเกบ็ เงินและชาระเงนิ ผา่ นระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการชาระเงินแบบพที พู ี ............................................................. 213 การเรยี กเกบ็ เงินและชาระเงินผ่านระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ ............................................214 การชาระเงนิ แบบพีทูพี .............................................................................................221 สรุป .......................................................................................................................... 230 คาถามทา้ ยบท..........................................................................................................231 บทที่ 9 การชาระเงินผา่ นโทรศพั ทม์ อื ถือ...................................................... 233 การใหบ้ รกิ ารการชาระเงินผา่ นโทรศพั ท์มอื ถอื ..........................................................234 เทคโนโลยีการชาระเงินผ่านโทรศพั ทม์ ือถือ...............................................................240 การชาระเงินโดยใชข้ ้อมูลทางชวี ภาพ........................................................................253 สรปุ ..........................................................................................................................257 คาถามท้ายบท .......................................................................................................... 258 บทท่ี 10 ความเส่ยี ง การฉอ้ โกงและการฟอกเงินในระบบการชาระเงนิ ........... 261 ความเสย่ี ง ................................................................................................................263 การฉอ้ โกง ................................................................................................................265 เงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละการฟอกเงิน...........................................................................277 องค์กรด้านการฟอกเงิน ............................................................................................ 289 สรปุ ..........................................................................................................................297 คาถามทา้ ยบท..........................................................................................................298

สารบัญ 9 สารบญั (ต่อ) หน้า บทท่ี 11 งบลงทนุ .......................................................................................... 301 ความรู้เบื้องตน้ เก่ยี วกบั การลงทนุ .............................................................................303 อัตราผลตอบแทนถวั เฉล่ีย ........................................................................................305 ระยะเวลาคนื ทนุ .......................................................................................................307 มูลค่าปัจจบุ นั สทุ ธิ.....................................................................................................311 ดัชนีในการทากาไร ...................................................................................................314 อตั ราผลตอบแทนภายใน ..........................................................................................317 สรุป .......................................................................................................................... 321 คาถามท้ายบท .......................................................................................................... 322 บรรณานุกรม.................................................................................................................325 ดชั นคี าสาคญั ................................................................................................................339 ภาคผนวก ก ตาราง PVIF ..........................................................................................................345 ข ตาราง PVIFA........................................................................................................349 ค แหล่งข้อมลู รปู ภาพ...............................................................................................353

10 การเงนิ และระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์

บทที่ 1 ความรู้เบื้องตน้ เกย่ี วกับระบบชาระเงนิ หลังจากทีไ่ ดศ้ กึ ษาในบทน้ีแลว้ นักศกึ ษาสามารถ: 1. อธิบายเกย่ี วกับนโยบายระบบการชาระเงินแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ได้ 2. อธิบายเกีย่ วกับองค์ประกอบระบบการชาระเงินได้ 2. อธิบายเก่ียวกบั ววิ ัฒนาการระบบชาระเงินของประเทศไทยได้ 3. อธบิ ายเกี่ยวกับบทบาทของธนาคารแหง่ ประเทศไทยในระบบการชาระเงนิ ได้ 4. อธบิ ายเก่ียวกับหน้าทข่ี องสถาบันการเงินในประเทศไทยได้ 5. อธบิ ายแนวโน้มการพฒั นาระบบชาระเงินของไทยจากปัจจุบนั สู่อนาคตได้

12 การเงนิ และระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์ ในสมัยโบราณ มนุษย์ไม่ได้ใช้เงินซ้ือสินค้า แต่อาศัยใช้สื่อกลาง เช่น ลูกปัด เปลือกหอย เมล็ดพืช เป็นต้น ต่อมาสมัยสุโขทัยจึงมีการนาโลหะเงินมาใช้เป็นเงินตราเรียกว่า “เงินพดด้วง” ซ่ึงมีการพัฒนาในหลายรูปแบบตามยุคสมัยต่าง ๆ ดังภาพที่ 1-1 (กรมธนารักษ์, 2552) กระท่ังปี พ.ศ. 2396 ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) มีการเจริญสัมพันธไมตรี กับต่างชาติและเปิดเสรีทางการค้าทาให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มข้ึน กระทั่งไม่สามารถผลิตเงินพด ด้วงได้ทัน ต่อความต้องการจึงมีการจัดทาเงินกระดาษชนิดแรกข้ึนมาเรียกว่า “หมาย” ดังภาพท่ี 1-2(ก) (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย, 2558ฌ) ก) เงนิ พดด้วงสมัยทวารวดี ข) เงนิ พดดว้ งสมัยศรีวชิ ัย ค) เงินพดด้วงสมยั สโุ ขทยั ง) เงินพดดว้ งสมัยกรงุ ศรีอยุธยา จ) เงนิ พดดว้ งสมัยกรุงธนบุรี ฉ) เงนิ พดดว้ งสมัยรชั กาลท่ี 1 ช) เงนิ พดดว้ งสมัยรชั กาลที่ 2 ซ) เงนิ พดด้วงสมัยรชั กาลที่ 3 ภาพท่ี 1-1 ตวั อย่างเงินพดดว้ ง ทีม่ า: ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2558ฌ

บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับระบบชาระเงิน 13 ต่อมาในปี พ.ศ. 2417 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการผลิต อัฐกระดาษซ่ึงเป็นเงินกระดาษชนิดราคาต่าแต่ไม่ได้รับความนิยม ดังนั้นรัฐบาลจึงได้จัดทาเงิน กระดาษหลวงซ่ึงเป็นตั๋วเงินของกระทรวงพระคลังมหาสมบัติแทน ทาให้รัฐบาลประสบปัญหา การผลิตเหรียญกษาปณ์ท่ีไม่ทันต่อการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ ดังน้ันธนาคารฮ่องกงและ เซี่ยงไฮ้ ธนาคารชาร์เตอร์แห่งอินเดีย ออสเตรเลียและจีน และธนาคารแห่งอินโดจีน จึงได้ขอ อนุญาตผลิตบัตรธนาคารซ่ึงเป็นเงินกระดาษอีกประเภทหนึ่งและถูกนาไปใช้เม่ือปี พ.ศ. 2432 พ.ศ. 2441 และ พ.ศ. 2442 ตามลาดับ ดงั ภาพท่ี 1-2 ก) หมายราคาตาลงึ ข) อฐั กระดาษ ค) บตั รธนาคารชนดิ ราคา ๔๐๐ บาท ของ ง) บตั รธนาคารชนิดราคา ๘๐ บาทของธนาคาร ธนาคารฮ่องกงและเซ่ียงไฮ้ ชาร์เตอรแ์ ห่งอนิ เดยี ออสเตรเลยี และจีน จ) บตั รธนาคารชนิดราคา ๕ บาท ฉ) เงนิ กระดาษหลวงชนิดราคา ๑๐๐ บาท ของธนาคารแห่งอินโดจีน ภาพที่ 1-2 ตัวอย่างธนบตั รไทย ทีม่ า: ธนาคารแหง่ ประเทศไทย, 2558ฌ

14 การเงนิ และระบบชาระเงินอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2445 ได้มีการจัดต้ังกรมธนบัตร ซึ่งสังกัดภายใต้กระทรวงพระคลังมหา สมบัติทาหน้าท่ีผลิตธนบัตรรวมทั้งรับจ่ายเงิน เพ่ือให้ประชาชนแลกเปลี่ยนเงินตราโลหะเป็น ธนบัตรตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2445 จึงนับได้ว่าธนบัตรได้เริ่มมีบทบาทในระบบการเงิน ของประเทศไทยนับแตน่ ั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 ประเทศไทยมีเงินสดที่ใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ มลู ค่า 1,735,299 ล้านบาท ดังภาพที่ 1-3 (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2561ข) ภาพท่ี 1-3 มูลค่าเงินสดในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ทม่ี า: ผเู้ ขยี น เงินสดที่ใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสามารถแบ่งได้เป็นเหรียญกษาปณ์และธนบัตร ซึ่งมีมูลค่า 67,708 ล้านบาท และ 1,668,259 ล้านบาท ตามลาดับ โดยไม่นับรวมธนบัตรและ เหรียญกษาปณ์ท่ีกรมธนารกั ษ์ ดงั ภาพท่ี 1-4 (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย, 2561ข) จากขอ้ มลู เงนิ สดท่ีใช้หมุนเวยี นในระบบเศรษฐกจิ พบว่ามเี งนิ สดจานวนหน่ึงท่ีถูกนาเข้าสู่ ระบบเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้มีการใช้หมุนเวียนในระบบเน่ืองจากการเก็บสะสม หรือมีความเสียหาย ตอ่ สอื่ ชาระเงินดังกล่าวเนอ่ื งจากภัยพบิ ตั ิ เชน่ ไฟไหม้ นา้ ทว่ ม สญู หาย เปน็ ตน้

บทที่ 1 ความร้เู บื้องตน้ เกย่ี วกับระบบชาระเงนิ 15 ภาพท่ี 1-4 มูลค่าเหรยี ญกษาปณ์และธนบตั รประเทศไทย ที่มา: ผู้เขยี น อย่างไรก็ตาม เมื่อปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยเร่ิมมีการใช้งานอินเทอร์เน็ต จึงมีการซื้อ ขายสินค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เกิดข้ึน ส่งผลให้รูปแบบการชาระเงินมีการพัฒนา กลายเป็นระบบอิเล็กทรอนกิ สด์ ังเชน่ ปจั จุบัน 1.1 ระบบการชาระเงนิ 1.1.1 ความหมายระบบการชาระเงิน ระบบการชาระเงิน หมายถึง กระบวนการส่งมอบเงิน จากการดาเนินกิจกรรม ทางเศรษฐกิจจากผู้จ่ายเงินไปยังผู้รับเงิน โดยผู้รับเงินและผู้จ่ายเงินมีสถานะเป็นได้ท้ังบุคคล องคก์ รเอกชนหรือหน่วยงานรฐั บาล นอกจากนร้ี วมถึงตวั กลางซึง่ ทาหน้าทจี่ ่ายเงนิ และรับเงินแทน เจา้ ของเงนิ เชน่ ธนาคารพาณชิ ย์ เปน็ ต้น (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2557ข)

16 การเงนิ และระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ 1.1.2 ระบบการชาระเงินแบบง่าย ระบบการชาระเงินแบบง่ายในชีวิตประจาวัน คือ ผู้จ่ายเงิน (ผู้ซ้ือสินค้า) ส่งมอบเงิน ใหแ้ ก่ผูข้ าย (ผ้รู บั เงนิ ) ดังภาพท่ี 1-5 ภาพท่ี 1-5 องคป์ ระกอบของชาระเงนิ แบบง่าย ทมี่ า: ผ้เู ขียน 1.1.3 ระบบการชาระเงนิ แบบซับซอ้ น ระบบการชาระเงินแบบซับซ้อน ไม่ได้มีเพียงการที่ผู้จ่ายเงินส่งมอบเงินให้ผู้รับเงิน แต่มี องค์ประกอบอน่ื ๆ เพม่ิ เตมิ ได้แก่ ธนาคารผรู้ บั เงิน ธนาคารผู้จา่ ยเงิน ฯ ดงั ภาพที่ 1-6 ภาพที่ 1-6 องคป์ ระกอบของชาระเงินแบบซบั ซ้อน ที่มา: ผู้เขยี น

บทท่ี 1 ความรูเ้ บื้องต้นเก่ยี วกับระบบชาระเงนิ 17 1.1.4 องค์ประกอบของชาระเงนิ (Components of Payment System) ระบบการชาระเงิน มี 5 องคป์ ระกอบ ดังภาพท่ี 1-7 ดังน้ี (1) ผู้จ่ายเงิน คือ ผู้ท่ีซือ้ สินคา้ หรือบรกิ าร (2) ผู้รบั เงนิ คือ ผทู้ ี่ขายสนิ ค้าหรอื บริการ ภาพที่ 1-7 องค์ประกอบของชาระเงิน ท่ีมา: ผเู้ ขียน (3) กิจกรรมการชาระเงิน คือ การชาระเงินเพื่อวัตุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การโอนเงิน การชาระค่าสินค้าหรือค่าสาธารณูปโภค การจ่ายเงินเดือน การผ่อนชาระค่างวด การชาระภาษี ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นการชาระเงินระหว่างบุคคลธรรมดา (Customer to Customer) หรือระหว่างองค์กรธุรกิจ (Business to Business) หรือการชาระเงินระหว่างบุคคล ธรรมดากับองค์กรธุรกิจ (Business to Customer) หรือการชาระเงินระหว่างองค์กรธุรกิจกับ หนว่ ยงานราชการต่าง ๆ (Business to Government) เปน็ ตน้ (4) สอ่ื ชาระเงนิ (Media) หมายถงึ เงนิ สด ตราสาร หรือสื่อชนดิ อ่นื ๆ ที่สามารถเก็บ มูลค่าเงินไว้ได้ ได้แก่ ธนบัตร เช็ค บัตรพลาสติก (บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต บัตรเดบิต

18 การเงินและระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตรคูปอง บัตรเงินสดฯ ) และเงินอิเล็ก ทร อนิ กส์ เป็นต้น รว มถึง การเก็ บ เ งิ น ในโทรศัพท์มอื ถอื ดังภาพท่ี 1-8 ก) ธนบตั ร ข) เช็ค ค) บัตรเอทีเอ็ม ง) บตั รเดบติ /เครดิต จ) เงินอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ภาพที่ 1-8 ส่อื ชาระเงิน ที่มา: ผเู้ ขยี น (5) ช่องทางชาระเงิน (Payment Channels) ประกอบด้วย ช่องทางกายภาพ คอื สานกั งานหรอื สาขาตา่ ง ๆ และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ 1. ช่องทางสานักงานหรือสาขา ได้แก่ สาขาธนาคาร ร้านสะดวกซ้ือ เคาเตอร์เซอร์วิส ท่ที าการไปรษณยี ์ เปน็ ต้น ดังภาพท่ี 1-9 ภาพที่ 1-9 ช่องทางชาระเงินประเภทช่องทางสานักงานหรอื สาขา ท่ีมา: ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2557ข

บทที่ 1 ความรเู้ บ้ืองต้นเก่ยี วกับระบบชาระเงนิ 19 2. ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ คือ ช่องทางที่ผู้ใช้บริการสามารถทาธุรกรรมทางการเงินได้ ด้วยตนเองผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น ตู้เอทีเอ็ม โทรศัพท์มือถือ การโทรศัพท์ไปยัง ศูนยบ์ รกิ ารผา่ นระบบอินเทอรเ์ นต็ ดงั ภาพท่ี 1-10 ภาพที่ 1-10 ชอ่ งทางชาระเงินประเภทชอ่ งทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ทีม่ า: ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2557ข ทั้งน้ีช่องทางชาระเงินอาจะเกิดข้ึนภายในองค์กรด้านการชาระเงินเดียวกัน หรือ ตา่ งองคก์ ร เชน่ การโอนเงนิ ภายในธนาคารเดยี วกนั การโอนเงนิ ข้ามธนาคาร เป็นตน้ สาหรับภาพรวมกิจกรรมการชาระเงินในปัจจุบัน มีความซับซ้อนทางด้านองค์ประกอบ และกระบวนการ คือผู้จ่ายเงินและผู้รับเงิน มีสถานะเป็นบุคคล องค์กรธุรกิจ หรือหน่วยงาน รัฐบาล ซ่ึงดาเนินกิจกรรมการโอนเงิน ชาระเงินค่าสินค้า ตลอดจนการจ่ายเงินเดือน การคืนภาษี เป็นต้น สามารถชาระด้วยส่ือประเภทเงินสด เช็ค บัตรพลาสติก ผ่านช่องทางสาขาธนาคาร อินเทอร์เน็ต ตู้เอทีเอ็ม โทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรืออื่นๆ ซึ่งอาจเป็นบริการจากธนาคารหรือ ผ้ใู หบ้ รกิ ารทางการเงนิ ทไ่ี ม่ใช่ธนาคารก็ได้ ดงั แสดงในภาพท่ี 1-11 ภาพท่ี 1-11 ภาพรวมกิจกรรมการชาระเงิน ทมี่ า: ผู้เขยี น

20 การเงนิ และระบบชาระเงินอิเลก็ ทรอนิกส์ 1.1.5 ววิ ฒั นาการของสือ่ ชาระเงนิ ไทย การชาระเงินของไทยในอดีตมีการแลกเปล่ียนด้วยสินค้ากับสินค้า (Barter System) จากนั้นจึงมีการใช้เงินตรา (Physical Money) ตามด้วยการใช้บัญชีเงินฝาก (Deposit Money) ตอ่ มามีการใช้บญั ชีเงินฝากผสมผสานกบั เงนิ เครดิต (Deposit Money Combined with Credit) กระทั่งปัจจุบันมีการใช้เงินพลาสติก (Plastic Money) อย่างแพร่หลาย รวมทั้งวิธีการชาระเงิน ท่ีสะดวกมากขน้ึ คือการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Funds Transfer) ดงั ภาพท่ี 1-12 (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย, 2557ข) ภาพที่ 1-12 วิวฒั นาการของสือ่ ชาระเงิน ทม่ี า: ผเู้ ขียน

บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกับระบบชาระเงนิ 21 1.1.6 ระบบการชาระเงินของไทย ระบบการชาระเงินของไทยแบ่งตามมูลค่าเงิน สามารถแบ่งเป็นระบบการชาระเงิน มูลคา่ สูงและระบบการชาระเงนิ รายย่อย (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย, 2542) ระบบชาระเงนิ มลู คา่ สงู คอื ระบบบาทเนต็ ทใี่ หบ้ รกิ ารโดยธนาคารแหง่ ประเทศไทย ระบบชาระเงินรายย่อย แบ่งเป็นการชาระเงินแบบกระดาษและการชาระเงินแบบ อิเล็กทรอนกิ ส์ ดงั นี้ (1) การชาระเงินแบบกระดาษ ได้แก่ เงนิ สด ธนบตั รต่างๆ เช็ค และต๋ัวแลกเงิน (2) การชาระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ การชาระเงินรายย่อย การชาระเงินผ่าน ตู้เอทีเอ็ม การชาระเงินด้วยบัตรพลาสติก การชาระด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โดยมี ผู้ให้บริการได้แก่ สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการท่ีไม่ใช่สถาบันการเงิน รวมท้ังผู้ให้บริการระบบ เช่อื มตอ่ ข้อมูลหรอื การสอื่ สารทเ่ี ก่ียวขอ้ งดังภาพที่ 1-13 ภาพท่ี 1-13 ระบบการชาระเงินของไทยแบ่งตามมูลคา่ เงนิ ท่มี า: ผ้เู ขยี น

22 การเงินและระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ท้ังน้ี หากแบ่งระบบการชาระเงินตามลักษณะเงิน สามารถแบ่งเป็นการชาระเงินท่ีเป็น เงนิ สด (Cash Payment) และการชาระเงนิ ที่ไม่ใชเ่ งินสด (Non-Cash Payment) ดังภาพที่ 1-14 ภาพที่ 1-14 ระบบการชาระเงนิ ของไทยแบง่ ตามลักษณะเงิน ท่ีมา: ผู้เขียน 1.1.6.1 การชาระเงินท่ีเป็นเงินสดและตราสาร (Paper-Based Payment) ได้แก่ เงินสดคาส่ังโอนเงิน เช็ค (Cheque) ตว๋ั แลกเงนิ หรอื ดร๊าฟท์ (Bill of Exchange) ตว๋ั สัญญา ใช้เงิน (Promissory Note) สาหรับกระบวนการจัดการเงินสดในปัจจุบัน เร่ิมต้นจากการจัดพิมพ์ธนบัตรและนาไป จัดเก็บในห้องมั่นคง ซ่ึงเป็นห้องที่ใช้เก็บรักษาธนบัตรของประเทศ และเป็นเขตหวงห้ามเฉพาะ ซึ่งอยู่ภายในพ้ืนที่โรงพิมพ์ธนบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย ต่อมามีการนาธนบัตรไปยังศูนย์ จัดการธนบัตร 10 แห่งทั่วประเทศ แล้วจึงทาการกระจายธนบัตรไปยังศูนย์เงินสดของ ธนาคารพาณิชย์และขนส่งต่อไปยังสาขาธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เพ่ือนาเข้าสู่ตู้เอทีเอ็ม เมื่อมีการ เบิกจ่ายและใช้จ่ายเงินในระบบเศรษฐกิจจนกระท่ังธนบัตรมีสภาพชารุด สาขาธนาคารพาณิชย์

บทที่ 1 ความรเู้ บื้องต้นเก่ยี วกับระบบชาระเงิน 23 ก็จะทาหน้าท่ีคัดแยกและจัดส่งธนบัตรสภาพชารุดไปยังศูนย์จัดการธนบัตรเพื่อทาลาย และพิมพ์ ธนบตั รใหม่ขนึ้ มาแทนธนบตั รเกา่ เร่อื ยๆ ดงั ภาพที่ 1-15 ภาพท่ี 1-15 ภาพแสดงตน้ ทุนการจัดการเงินสดในประเทศไทย ท่มี า: ผู้เขยี น ก) ข้อดีของ Paper-Based Payment Systems  ผ้บู ริโภคมคี วามไวว้ างใจในการชาระเงิน  มใี บเสร็จเป็นหลักฐานในการชาระเงนิ ข) ข้อด้อยของ Paper-Based Payment Systems  ตน้ ทุนการผลติ และจัดการธนบตั รโดยรวมของประเทศสูง  ผบู้ รโิ ภคต้องเตรยี มเงินให้พอในการซอื้ สินค้า/บริการ  การถือเงินสดจานวนมากมอี ันตรายจากการโจรกรรม/สญู หาย  สาหรบั รา้ นคา้ อาจถูกพนกั งานในบริษทั ทุจรติ /ยักยอก  การตรวจสอบธุรกรรมทาไดย้ าก 1.1.6.2 การชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) หมายถึง กระบวนการ ชาระเงินระหว่างผู้จ่ายหรือผู้โอนเงินไปยังผู้รับเงินผ่านส่ือและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ การ โอนเงินระหว่างบัญชีตามคาส่ังล่วงหน้า หรือการหักเงินและการนาเงินเข้าบัญชีอัตโนมัติ (Direct

24 การเงนิ และระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์ Debit/Direct Credit) บัตรพลาสติก (Credit Card, Debit Card, Prepaid Card) บริการธนาคาร อิเล็กทรอนิกส์ การโอนเงินผ่านระบบบาทเนต (BAHTNET) ระบบการโอนเงินรายย่อยออนไลน์ (Online Retail Funds Transfer: ORFT) การชาระเงินในธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ดังภาพ ท่ี 1-16 และ ภาพที่ 1-17 ภาพที่ 1-16 การชาระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ในชวี ติ ประจาวนั ในระดบั บคุ คล ที่มา: ผเู้ ขยี น ภาพท่ี 1-17 กระบวนการชาระเงนิ ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ทม่ี า: ผเู้ ขียน

บทท่ี 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบชาระเงิน 25 ก) ข้อดีของการชาระเงินทางอเิ ล็กทรอนิกส์  สามารถชาระเงนิ ได้สะดวก รวดเร็ว ประหยดั เวลา  ช่วยลดภาระค่าเดินทาง เพอื่ ทาธุรกรรม  ช่วยลดความเส่ียงจากการโจรกรรมเงนิ สด  ทกุ ธรุ กรรมการชาระเงนิ มีการบนั ทกึ เป็นหลักฐาน ผู้จา่ ยเงินและผู้รับ เงินสามารถตรวจสอบข้อมูลยอ้ นหลังได้  รูปแบบบรกิ ารชาระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส์ใหเ้ ลือกหลากหลาย  การทาธุรกรรมไม่มีข้อจากดั ด้านสถานท่ี  ชว่ ยลดการใช้ทรัพยากรในการผลิตสือ่ การชาระเงนิ ข) ขอ้ เสยี ของการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์  เกิดข้อสงสยั ดา้ นความเปน็ สว่ นตัว (Privacy)  ส่งผลตอ่ ปญั หาการวา่ งงานของประชากร  อาจมีความเส่ยี ง เม่ือมีการใช้งานโดยไมร่ ะมดั ระวัง  อาจส่งเสรมิ ผลประโยชนแ์ กบ่ างกลุ่ม  ความสามารถในการใช้งานขึ้นอยูก่ บั เทคโนโลยีของอุปกรณ์ และ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ จากข้อมูลปริมาณการชาระเงินผ่านระบบการชาระเงินและช่องทางต่าง ๆ ในประเทศ ไทย ปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2561ข) พบว่ามีแนวโน้มการใช้งาน เงินอเิ ล็กทรอนิกส์ในปรมิ าณสงู สุดจานวน 1,272,968 พนั รายการ รองลงมาคือการโอนเงิน/ชาระ เงินผ่านอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนท่ี และบัตรเครดิตจานวน 1,179,476 พันรายการ และ 489,003 พันรายการตามลาดบั ดงั ภาพท่ี 1-18

26 การเงินและระบบชาระเงนิ อิเลก็ ทรอนิกส์ ภาพที่ 1-18 ปริมาณการชาระเงนิ ผ่านช่องทางตา่ ง ๆ ในประเทศไทย พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 ทมี่ า: ผเู้ ขียน สาหรับมูลมูลค่าการชาระเงินผ่านระบบการชาระเงินและช่องทางต่าง ๆ ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2561ข) พบว่าช่องทางการชาระเงิน ที่มีมูลค่ารวมสูงสุดคือเช็ค คิดเป็น 59,529 พันล้านบาท รองลงมาคือการโอนเงิน/ชาระเงินผ่าน อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์เคล่ือนท่ี และการโอนเงินภายในธนาคารเดียวกัน (Direct Credit) มูลค่า 35,745 พันล้านบาท และ 17,654 พันล้านบาท ตามลาดับดังภาพที่ 1-19 ทั้งนี้ไม่นับรวม การโอนเงินเพือ่ ลูกค้าผ่านระบบบาทเนต (BAHTNET- 3rd Party)

บทท่ี 1 ความรเู้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกับระบบชาระเงิน 27 ภาพที่ 1-19 มลู ค่าการชาระเงนิ ผา่ นช่องทางต่าง ๆ ในประเทศไทย พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 ท่ีมา: ผู้เขียน 1.2 บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยในระบบการชาระเงนิ บทบาทของธนาคารแหง่ ประเทศไทยตาม พรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2485 ที่แก้ไขเพิม่ เติม พ.ศ. 2551 เปน็ ดงั ต่อไปนี้ (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2558ค) 1. เป็นผอู้ อกธนบัตรและจดั การธนบัตรของรัฐบาล รวมทั้งบัตรธนาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยเงินตรา ระบุให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออกธนบัตร ของรฐั บาล นอกจากนย้ี งั ไดร้ ับสทิ ธอิ อกบตั รธนาคารในราชอาณาจักรแต่เพยี งผ้เู ดียว 2. กาหนดและดาเนนิ นโยบายการเงิน คือการดาเนินการตามข้อกาหนดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ได้แก่ การรับ เงินฝาก การกาหนดอัตราดอกเบ้ียในการให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงิน การซื้อขายและกู้ยืม เงินตราต่างประเทศเพื่อรักษาเสถียรภาพเงินตราของไทย การกู้ยืมเงินเพ่ือการดาเนินนโยบาย การเงิน การซื้อขายหลักทรัพย์ตามความจาเป็นและแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดในอนาคตเพื่อ

28 การเงินและระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมปริมาณเงินของประเทศ รวมทั้งยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ตามที่กาหนดโดยมีหรือไม่มี คา่ ตอบแทน 3. บริหารจัดการสินทรพั ยข์ องธนาคารแหง่ ประเทศไทย บริหารจัดการสินทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ไม่รวมสินทรัพย์ในทุนสารอง เงินตราตามกฎหมายว่าด้วยเงินตรา) การนาสินทรัพย์ไปลงทุนหาประโยชน์ โดยคานึงถึง ความม่ันคง สภาพคล่อง ผลประโยชน์ตอบแทนของสินทรัพย์ และความเส่ียงในการบริหาร จดั การ 4. เปน็ นายธนาคารและนายทะเบยี นหลกั ทรัพยข์ องรฐั บาลและรัฐวิสาหกิจ เป็นนายธนาคารของรัฐบาล ทาหน้าที่รับจ่ายเงินเพื่อบัญชีฝากของกระทรวงการคลัง การรบั เกบ็ รักษาเงินและของมีคา่ รวมทัง้ หลักทรัพยเ์ พื่อผลประโยชนข์ องรัฐบาล การเปน็ ตัวแทน รัฐบาลในการซ้ือขายโลหะทองคา เงิน ต๋ัวแลกเงิน หลักทรัพย์และใบหุ้น รวมถึงการโอน การควบคุมและการรวมไว้ในแหล่งกลางซ่ึงเงินปริวรรตต่างประเทศ หรือเป็นนายธนาคาร ของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอ่ืนของรัฐ เป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ของรัฐบาลในการ จัดจาหน่ายหลกั ทรัพย์ของรฐั บาล จ่ายเงนิ ตน้ และดอกเบ้ีย หรือเปน็ นายทะเบยี นหลักทรัพย์ของ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินท่มี ีกฎหมายเฉพาะจดั ต้งั ขนึ้ หรอื หนว่ ยงานอ่นื ของรัฐ 5. เปน็ นายธนาคารของสถาบนั การเงนิ เป็นนายธนาคารของสถาบันการเงิน ทาหน้าท่ีให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สถาบัน การเงิน เช่น การรับเก็บรักษาเงิน หลักทรัพย์หรือของมีค่า หรือให้กู้ยืมเงิน รวมถึงการตรวจสอบ ทรพั ย์สิน หนส้ี ินหรอื ภาระผกู พนั ของสถาบนั การเงิน 6. จดั ตั้งหรอื สนบั สนุนการจดั ต้ังระบบการชาระเงนิ เป็นผู้สนับสนุนหรือจัดต้ัง และบริหารจัดการระบบชาระเงิน ระบบการหักบัญชีระหวา่ ง สถาบนั การเงนิ ให้มีประสทิ ธภิ าพและมคี วามปลอดภยั ต่อผใู้ ชง้ าน 7. กากับและตรวจสอบสถาบันการเงนิ กากับ ตรวจสอบ วิเคราะห์ฐานะและการดาเนินงานของสถาบันการเงิน ตลอดจน การบรหิ ารความเสยี่ งของสถาบนั การเงนิ เพอื่ ใหม้ ีเสถียรภาพ 8. บริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราภายใต้ระบบการแลกเปล่ียนเงินตรา รวมทั้ง บริหารจดั การสินทรัพย์ในทุนสารองเงินตรา ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยเงนิ ตรา 9. ควบคมุ การแลกเปลีย่ นเงนิ ตามกฎหมายว่าดว้ ยการควบคมุ การแลกเปลย่ี นเงนิ

บทที่ 1 ความรเู้ บื้องตน้ เกีย่ วกับระบบชาระเงิน 29 1.3 สถาบนั การเงนิ ในประเทศไทย 1.3.1 สถาบันการเงินในประเทศไทย ท่ีสังกัดภายใต้กระทรวงต่าง ๆ มีดังนี้ (ธนาคาร แหง่ ประเทศไทย, 2542) ก) สถาบันการเงินสังกัดธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพาณิชย์เพ่ือรายย่อย ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศ สาขาของ ธนาคารต่างประเทศ สานักงานผู้แทนธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ บริษัทเงินทุน บริษัท เครดิตฟองซิเอร์ บริษัทบริหารสินทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) บางประเภท ได้แก่ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกากับ ผู้ให้บริการ การชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และผู้ให้บริการด้านการแลกเปล่ียนเงินหรือ โอนเงินตราตา่ งประเทศ ภาพที่ 1-20 ตวั อย่างธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ท่ีมา: ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2557ข ข) สถาบันการเงินสังกัดกระทรวงพาณิชย์ (Ministry of Commerce) ได้แก่ บริษัทประกันชีวิต (Life Insurance Companies) บริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ( Composite Insurance Companies) บ ริ ษั ท ป ร ะ กั น วิ น า ศ ภั ย ( Non- Life Insurance Companies) บรษิ ัทประกนั (Insurance Companies) ค) สถาบันการเงินสังกัดสานักงานคณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (The Office of the Securities and Exchange Commission) ได้แก่ ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Stock Exchange of Thailand) บริษัทหลักทรัพย์ (Securities Companies) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (Mutual Fund Management Companies ) ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงเทพ (Bangkok Stock Dealing Center (BSDC)) ศูนย์ซ้ือขายตรา สารหนี้ (Thai Bond Dealing Center (TBDC))

30 การเงินและระบบชาระเงนิ อิเลก็ ทรอนิกส์ ภาพท่ี 1-21 สานักงานคณะกรรมการกากบั หลักทรัพย์และตลาด ทีม่ า: สานกั งานคณะกรรมการกากับหลกั ทรพั ย์และตลาดหลกั ทรพั ย,์ 2559 ง) สถาบันการเงินสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( Ministry of Agriculture & Cooperatives) ไ ด้ แ ก่ ส ห ก ร ณ์ อ อ ม ท รั พ ย์ ( Savings Cooperatives) สหกรณ์การเกษตร (Agriculture Cooperatives) รวมถึงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน (Credit Union Cooperatives) ภาพท่ี 1-22 สหกรณ์ออมทรัพยม์ หาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ จากัด ท่มี า: สหกรณอ์ อมทรพั ย์มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ จากัด, 2559 ภาพท่ี 1-23 สหกรณก์ ารเกษตรกรงุ เทพมหานคร จากดั ท่มี า: สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลกู ค้า ธ.ก.ส. กรงุ เทพมหานคร จากัด, 2555 จ) สถาบันการเงินสังกัดกระทรวงมหาดไทย (Ministry of Interior) ได้แก่ โรงรับจานา (Pawnshops)

บทท่ี 1 ความรเู้ บื้องตน้ เกย่ี วกับระบบชาระเงิน 31 ฉ) สถาบันการเงินสังกัดกระทรวงการคลัง (Ministry of Finance) ได้แก่ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (The Industrial Finance Corporation of Thailand) บรรษัทประกันสินเช่ืออุตสาหกรรมขนาดย่อม (Small Industry Credit Guarantee Corporation) บรรษทั เงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม (Small Industry Finance Corporation) กองทุนประกันสังคม (Social Security Fund) กองทุนบาเหน็จบานาญ (Pension Fund) กองทุน Funds กองทุนสารองเลยี้ งชีพ (Provident Fund) 1.3.2 สถาบันการเงนิ ในประเทศไทยดา้ นการชาระเงนิ สถาบนั การเงนิ ในประเทศไทยด้านการชาระเงนิ มีดงั ต่อไปน้ี 1) ธนาคารแห่งประเทศไทย ทาหน้าที่ดูแลหน่วยงานในกากับ ได้แก่ ธนาคาร พาณิชย์ ธนาคารเฉพาะกิจ การสื่อสารแห่งประเทศไทย สถาบนั ผอู้ อกบัตร 2) ธนาคารพาณิชย์ ทาหน้าที่ให้บริการการชาระเงินทั้งสื่อที่เป็นตราสาร เช่น เช็ค ดราฟท์ รวมท้ังสื่อท่ีไม่เป็นตราสาร เช่น ระบบโอนเงินทางอิเล็กทรอนกิ ส์และตู้เอทีเอม็ เพ่ือใหบ้ ริการดา้ นการชาระเงนิ แก่บุคคลและนิติบคุ คลโดยทั่วไป 3) ธนาคารเฉพาะกิจ ถูกตั้งข้ึนตามกฎหมายเพื่อดาเนินงานเฉพาะด้าน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารเพ่ือการส่งออกและนาเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ซ่ึงสถาบันดังกล่าว มกี ารให้บริการโอนเงนิ แก่บคุ คลทวั่ ไป รวมทงั้ การออกเช็คแก่ลกู ค้าของธนาคาร 4) การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ทาหน้าท่ีให้บริการด้านการชาระเงิน เช่น ธนาณตั ิ ตัว๋ แลกเงนิ ไปยังผู้รบั ภายในประเทศหรือตา่ งประเทศ ด้วยการสง่ จดหมายแบบปกติ หรือไปรษณีย์ด่วน (EMS) รวมการใช้โทรเลข นอกจากน้ียังให้บริการรับชาระค่าบริการ สาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าไฟฟ้า น้าประปา โทรศัพท์ บริการชาระภาษีรถยนต์ เสียค่าปรับ การทาผดิ กฏจราจร การโอนเงินหรอื ชาระเงนิ ให้แก่ธนาคารพาณิชย์บางแหง่ เปน็ ตน้ 5) สถาบันผู้ออกบัตรในประเทศไทย ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ และ บริษัทบัตรเครดิตท่ีสาคัญ เช่น Visa, Master Card , Diners และ American Express เป็นต้น โดยบัตรเครดิตสามารถใช้ชาระค่าสินค้าและบริการ รวมท้ังใช้ถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม สาหรับ บตั รเงินสด ปัจจบุ ันมีการดาเนินการในระยะเรม่ิ ต้น และมีจานวนรา้ นค้ารบั บตั รจานวนน้อย

32 การเงนิ และระบบชาระเงนิ อิเล็กทรอนิกส์ 1.4 นโยบายระบบชาระเงนิ แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ ระบบการชาระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (National e-Payment) เป็นแผนยุทธศาสตร์ ระบบชาระเงินท่ีได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันท่ี 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558 มจี ดุ มุง่ หมายเพื่อพฒั นาระบบชาระเงนิ ของประเทศไทยให้เปน็ แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ เพอ่ื ให้สามารถ รองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนสามารถ จ่ายเงินได้สะดวก ลดค่าธรรมเนียมในการจ่ายเงินซื้อสินค้าและช่วยผู้มีรายได้น้อยให้สามารถ รับสวัสดิการจากรัฐได้ถูกต้องและรวดเร็ว ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาคธุรกิจ ในการให้บริการลูกค้า และสร้างความม่ันคงให้แก่ระบบการเงินของประเทศไทย รวมทั้งลดภาระ การจัดการด้านการจัดเก็บภาษี โดยแผนยุทธศาสตร์ระบบชาระเงินประกอบด้วยโครงการย่อย 5 โครงการดังนี้ (National-ePayment, 2559) 1.4.1 โ ค ร ง ก า ร Any ID มี เ ป้ า ห ม า ย เ พ่ื อ เ พิ่ ม ค ว า ม ส ะ ด ว ก ใ น ก า ร โ อ น เ งิ น ทางอิเล็กทรอนิกสและลดการใชเงินสด โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการรับเงินกลาง ของประเทศ ให้ประชาชนสามารถโอนเงินระหว่างธนาคารโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนท่ี หรือหมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมลลแทนหมายเลข บัญชีธนาคาร เรียกว่าระบบพร้อมเพย์ (Prompt Pay) ช่วยให้การรับเงินและโอนเงินมีอัตรา คา่ ธรรมเนยี มถกู กวา่ การโอนเงนิ แบบปกติ ซ่ึงระบบนม้ี ีการดาเนนิ การเม่อื ปี พ.ศ. 2559 1.4.2 โครงการขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีเป้าหมายเพ่ือส่งเสริมให้ประชาชน ในพื้นที่หางไกลสามารถใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัตรเดบิต รวมทั้งลดต้นทุนการชาระเงิน ด้วยการใช้บัตร ปัจจุบันมีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์เป็นช่องทางหลักในการจา่ ยเงินสวัสดิการจาก ภาครัฐสู่ประชาชนผ้มู ีรายได้นอ้ ยกว่า 11 ล้านคน (พ.ศ. 2560) 1.4.3 โครงการระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีเป้าหมายเพื่อลด การจัดสงและเก็บเอกสารแบบกระดาษในภาคธุรกิจ และช่วยเช่ือมโยงระบบการชาระเงินกับ ระบบการจัดเก็บภาษี โดยมีการพัฒนาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เพื่อให้องค์กรธุรกิจสามารถนาส่งเป็นรายงานการทาธุรกรรม ทางการเงิน และใช้นาสง่ ภาษีเมอื่ มกี ารชาระเงนิ ผา่ นระบบชาระเงินอเิ ล็กทรอนิกส์ 1.4.4 โครงการ e-Payment ภาครัฐ มีวัตุประสงค์เพ่ือส่งเสริมการรับเงินหรือโอนเงิน จากภาครัฐไปยังประชาชน เช่น เงินสวัสดิการ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุหรือคนพิการ หรืออื่น ๆ ผา่ นช่องทางระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ ช่วยลดความผดิ พลาดและการทุจริตจากการจายเงนิ สดและเช็ค

บทที่ 1 ความร้เู บ้ืองตน้ เกยี่ วกับระบบชาระเงิน 33 1.4.5 การใหความรูและสงเสริมการใชธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีวัตุประสงค์เพ่ือสงเสริม ใหประชาชนมีการทาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกสมากข้ึน และผลักดันประเทศไทยให้เข้าสู่เศรษฐกิจ ดิจิทัลในท่ีสุด โดยการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ผ่านการส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้ง สร้างโปรโมชั่นจูงใจแก่ภาคประชาชนชนและภาคธุรกิจ เช่น การให้ส่วนลด สิทธิพิเศษต่าง ๆ การปรับเปล่ยี นพฤติกรรมและทัศนคติของประชาชนให้มกี ารชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เพิม่ มากข้นึ 1.5 สรปุ ก า ร ช า ร ะ เ งิ น เ ป็ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ที่ ส า คั ญ อ ย่ า ง ห นึ่ ง ใ น ก า ร ด า ร ง ชี วิ ต ข อ ง ม นุ ษ ย์ โดยกระบวนการดังกล่าวมีการกาหนดกติกาไว้อย่างแน่นอนในแต่ละยุคสมัย เริ่มต้น จาก การแลกเปลี่ยนสินค้า เช่น การแลกข้าวสารกับสินค้าทะเล ผลไม้กับเนื้อหมู เกลือกับปลาสด เป็นต้น ต่อมามีการประยุกต์ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ลูกปัด เปลือกหอย เมล็ดพืช ในภายหลังจึงมี การใช้เทคโนโลยีผลิตเงินตรา เช่น เงินพดด้วงแบบโลหะ หมาย อัฐกระดาษ บัตรธนาคาร เงิน กระดาษหลวง ธนบัตร เหรียญกษาปณ์ เชค็ ต๋ัวแลกเงนิ ฯลฯ กระท่ังปัจจุบันท่ีนวัตกรรมทางการเงินมีความรุ่งเรืองมาก ซ่ึงสามารถพบเห็นได้จาก การที่ประเทศไทยมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ รวมทั้งเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ต่างๆ เช่น เคร่ืองถอนเงินสดอัตโนมัติหรือเรียกว่าตู้เอทีเอ็ม (ATM) เคร่ืองรับฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) การใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์และบัตรพลาสติกเป็นต้น โดยเงินตราในปัจจุบันอาจปรากฏใน รูปแบบที่สามารถจับต้องได้หรือจับต้องไม่ได้ แต่ยังคงมูลค่าตามท่ีปรากฏในระบบบัญชีธนาคาร หรือบญั ชีอเิ ล็กทรอนิกส์และสามารถใชช้ าระหน้ที างกฏหมายได้

34 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ คาถามท้ายบท 1. จงอธิบายความแตกต่างของระบบชาระเงินแบบง่ายกบั ระบบชาระเงนิ แบบซบั ซ้อน 2. จงอธิบายข้อดีและข้อเสยี ของระบบชาระเงนิ แบบง่าย 3. จงใหเ้ หตผุ ลวา่ เพราะเหตุใดประเทศไทยจงึ ควรลดการใช้เงินสด และปรบั เปลยี่ นไปใช้เงิน ในรปู แบบอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ทน 4. สถาบนั การเงนิ ที่สงั กัดธนาคารแห่งประเทศไทยมีอะไรบา้ ง จงอธิบาย 5. สถาบนั การเงินทีส่ ังกัดกระทรวงพาณิชย์มีอะไรบา้ ง จงอธบิ าย 6. สถาบันการเงินทส่ี งั กัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีอะไรบ้าง จงอธบิ าย 7. สถาบนั การเงินทีส่ งั กัดกระทรวงการคลงั มอี ะไรบา้ ง จงอธบิ าย 8. จงยกตัวอย่างรปู แบบการชาระเงินท่ไี มใ่ ช่เงนิ สดมาอยา่ งนอ้ ย 5 วธิ ี 9. จากนโยบายระบบชาระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ จงอธบิ ายลักษณะโครงการ Any ID 10. จงอธบิ ายบทบาทของธนาคารแหง่ ประเทศไทยในบริบทต่อไปน้ี 10.1 กาหนดและดาเนินนโยบายการเงนิ 10.2 เปน็ นายธนาคารของสถาบันการเงิน 10.3 จดั ตง้ั หรือสนับสนนุ การจดั ตั้งระบบการชาระเงิน 10.4 กากบั และตรวจสอบสถาบันการเงิน 11. จงอธบิ ายเกี่ยวกับหน้าทขี่ องสถาบนั การเงนิ ตอ่ ไปน้ี 11.1 ธนาคารพาณชิ ย์ 11.2 ธนาคารพาณชิ ยเ์ พอ่ื รายยอ่ ย 11.3 ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบรษิ ัทลกู ของธนาคารตา่ งประเทศ 11.4 สาขาของธนาคารต่างประเทศ 12. จงใส่ตวั เลขหน้าขอ้ ความเพื่อเรยี งลาดับววิ ัฒนาการระบบชาระเงินไทยจากอดตี สู่ปัจจุบัน ________ เงินพดดว้ ง ________ หมาย ________ ลกู ปดั ________ อฐั กระดาษ ________ เงนิ กระดาษหลวง ________ ธนบตั ร

บทที่ 1 ความรเู้ บื้องต้นเกีย่ วกับระบบชาระเงนิ 35 13. ในขอ้ 13.1-13.5 จงตอบดว้ ยขอ้ ความส้นั เพือ่ ระบอุ งค์ประกอบของระบบชาระเงิน 13.1 13.2 13.3 13.4 13.5

36 การเงินและระบบชาระเงินอิเลก็ ทรอนิกส์ 14. จากบทความเร่ือง “สังคมไร้เงินสดในประเทศสวีเดน” จงเปรียบเทียบส่วนเหมือนและ ส่วนต่าง ของการบริการและพฤติกรรมการชาระเงินในประเทศสวีเดนและประเทศไทย ในยุคปัจจบุ นั สงั คมไร้เงนิ สดในประเทศสวเี ดน (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย, 2558ซ) ประเทศสวีเดนตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นสังคมท่ีไม่ใช้เงินสด (Cashless Society) โดยประมาณการว่าจะสามารถทาได้แบบเต็มรูปแบบเป็นประเทศแรกของโลกภายในปี 2573 ปัจจุบันการชาระเงินในชีวิตประจาวันของประชาชนในสวีเดนกว่าร้อยละ 80 เป็นการชาระเงิน ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ผ่านบัตรเดบิต บัตรเครดิต เงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึง การโอนเงินและการชาระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคล่ือนท่ี นอกจากน้ีพฤติกรรมการใช้ เงนิ สดของประชาชนก็มีแนวโน้มลดลงอยา่ งต่อเนื่อง ถงึ กับมีคากล่าวทวี่ า่ “If you have to pay in cash, something is wrong” มี ห ล า ย ปั จ จั ย ส า คั ญ ที่ ช่วย ส่ งเ ส ริม ใ ห้ สวี เด น เ ป็น ป ร ะเ ท ศ ท่ี มี ก า ร ก า ร ชา ร ะเ งิ นทาง อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เช่น การให้บริการเคร่ืองรับบัตร (EDC) ในร้านค้าและภาคธุรกิจ โดยไม่มี การกาหนดมูลค่าข้ันต่าในการรูดซ้ือสินค้าและบริการ การออกกฎหมายท่ีกาหนดให้ลูกค้าต้อง อธิบายเหตุผล สาหรับการนาเงินสดและเหรียญมาทาธุรกรรมท่ีสาขาธนาคาร รวมถึงธนาคารมี นโยบายไม่รับทาธุรกรรมทางการเงินด้วยเงินสดที่สาขา นอกจากน้ียังมีปัจจัยท่ีเป็นแรงผลักดัน

บทท่ี 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบชาระเงนิ 37 ท่ีสาคัญคือ การพัฒนาแอพพลิเคช่ันบนโทรศัพท์เคล่ือนที่ช่ือว่า “Swish” ที่ช่วยให้การโอนเงิน ขา้ มธนาคารเป็นเรอ่ื งท่ที าได้สะดวก รวดเรว็ และปลอดภยั “ Swish” เ ป็ น แ อ พ พ ลิ เ ค ชั่ น บ น โ ท ร ศั พ ท์ เ ค ลื่ อ น ที่ ท่ี พั ฒ น า ขึ้ น ใ น ปี 2555 โดยความร่วมมือของธนาคารพาณิชย์ในสวีเดน 6 แห่ง โดยให้บริการโอนเงินจากบัญชีเงินฝาก ของผโู้ อนไปยังบัญชีของผรู้ บั โอน (Customer to Customer: C2C) แบบมีผลทนั ที (Real-Time) ซึ่งวิธีการโอนเงินจะกรอกเพียงเบอร์โทรศัพท์เคล่ือนท่ี ท่ีได้ผูกบัญชีเงินฝาก ทาให้ผู้ใช้บริการ มคี วามสะดวกไมต่ อ้ งจดหรือจาเลขทบี่ ญั ชอี กี ต่อไป บริการ “Swish” ได้รับความนิยมอย่างสูงจากประชาชนในสวีเดน โดยข้อมูล ณ ส้ินปี 2557 มีผู้ลงทะเบียนใช้บริการนี้มากกว่า 2 ล้านบัญชี มูลค่าโอนเงินรวม 11 พันล้าน โคลนน์สวีดิชท์ (SEK) หรือประมาณ 51.7 พันล้านบาท โดยบริการ “Swish” มีปริมาณธุรกรรม สูงสุดใน 1 วันกว่า 170,000 รายการ นอกจากนี้ช่วงปลายปี 2557 บริการ “Swish” ได้พัฒนา บริการโอนเงินระหว่างบุคคลกับภาคธุรกิจ ( Customer to Business: C2B) เพิ่มเติม และในอนาคตบริการ “Swish” มีแผนการพัฒนา บริการให้ครอบคลุมธุรกิจพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์กับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์เคล่ือนท่ี (e-Commerce และ M-Commerce) ด้วย

38 การเงนิ และระบบชาระเงินอเิ ล็กทรอนิกส์ บันทกึ

บทที่ 2 การชาระเงนิ ด้วยบัตรพลาสตกิ หลงั จากท่ไี ด้ศกึ ษาในบทนี้แลว้ นกั ศกึ ษาสามารถ: 1. อธิบายเกี่ยวกับคณุ สมบตั ิบัตรบัตรเอทีเอ็มได้ 2. อธิบายเกี่ยวกบั คุณสมบัตบิ ัตรเครดิตได้ 3. อธิบายเกยี่ วกับคุณสมบัติบตั รเดบติ ได้ 4. อธิบายเกย่ี วกับคุณสมบัติบตั รสมาร์ทการด์ ได้ 5. อธิบายเกี่ยวกบั คุณสมบตั ิบัตรเตมิ เงินได้ 6. อธิบายวิธีการทางานของบตั รเครดิตได้ 7. อธบิ ายวิธีการทางานของบัตรเดบิตได้ 8. อธบิ ายเกย่ี วกบั ประโยชน์ของบตั รเครดิตได้ 9. อธบิ ายเกีย่ วกับประโยชนข์ องบัตรเดบติ ได้ 10. อธบิ ายเกี่ยวกบั ประโยชน์ของบตั รสมารท์ การด์ ได้ 11. อธบิ ายความแตกตา่ งของบัตรเครดิต บตั รเดบิตได้

40 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์ เมื่อกล่าวถึงวิวัฒนาการของระบบชาระเงิน บัตรพลาสติกถือเป็นสื่อชาระเงินชนิดหน่ึง ที่สามารถใช้ชาระหนี้ที่ผูกพันธ์ตามกฏหมายได้ ณ จุดรับชาระเงินต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม โรงภาพยนต์ หรือใช้ชาระเงินออนไลน์ เป็นต้น บัตรพลาสติกใน ปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเงินสด บัตรเติมเงิน บัตรเอทีเอ็ม บัตรโทรศัพท์ เป็นต้น โดยมีการเก็บมูลค่าเงินไว้ในตัวบัตรหรือเก็บในระบบเครือข่าย ท่ีมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วยการใช้รหัสผ่าน รวมท้ังการเข้ารหัสข้อมูลในบัตร บางประเภท ทั้งน้ีจากสถิติจานวนบัตรพลาสติกในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 (ธนาคาร แห่งประเทศไทย, 2561ข) พบว่าคนไทยใช้งานบัตรเดบติ มากทีส่ ุด โดยปี พ.ศ. 2560 มกี ารใช้งาน จานวน 53,071,782 ใบ รองลงมาคือบัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็มจานวน 20,334,780 ใบ และ 8,758,043 ใบ ตามลาดับ ดงั ภาพที่ 2-1 ภาพท่ี 2-1 จานวนบตั รพลาสติกในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2560 ทีม่ า: ผูเ้ ขียน

บทที่ 2 การชาระเงินดว้ ยบตั รพลาสติก 41 สาหรับมูลค่าการใช้บัตรพลาสติกในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 (ธนาคาร แห่งประเทศไทย, 2561ข) พบว่าการใช้งานบัตรเดบิตมมี ูลคา่ มากท่ีสุด โดยปี พ.ศ. 2560 มีการใช้ งานคิดเป็นมูลค่า 11,373 พันล้านบาท รองลงมาคือบัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม ซ่ึงมีมูลค่า 1,909 พันลา้ นบาท และ 1,032 พนั ลา้ นบาท ดงั ภาพที่ 2-2 ภาพที่ 2-2 มูลค่าการใช้งานบัตรพลาสติกในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2560 ทม่ี า: ผู้เขียน 2.1 ประเภทของบตั รพลาสตกิ 2.1.1 ประเภทของบัตรพลาสติกแบ่งตามลกั ษณะบตั ร ประเภทของบัตรพลาสติกท่ีแบ่งตามลักษณะบัตรมี 2 ประเภท คือ บัตรแถบแม่เหล็ก (Magnetic Stripe Cards) และบตั รอัจฉรยิ ะ (Smart Card) 2.1.1.1 บัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรพลาสติกที่มีแถบแม่เหล็กด้านหลังบัตร ใช้ สาหรับเก็บข้อมูลเจ้าของบัตร ตัวอย่างบัตรแถบแม่เหล็กท่ีมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ในปัจจบุ ัน ได้แก่ บัตรเดบิต บัตรเครดิต บัตรโทรศัพท์ บัตรพนักงาน เป็นต้น สามารถแบ่งย่อยได้ ดงั น้ี

42 การเงนิ และระบบชาระเงินอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ก) บตั รแถบแมเ่ หลก็ แบบออฟไลน์ (Offline Magnetic Stripe Cards) ข้อมูลที่เก็บอยู่ในแถบแม่เหลก็ ของบตั รแถบแม่เหลก็ แบบออฟไลน์ สามารถอา่ นและแกไ้ ข โดยเครื่องอ่านบัตรได้ เช่น บัตรโทรศัพท์ท่ีใช้สาหรับสอดเข้าเคร่ืองโทรศัพท์สาธารณะ กล่าวคือ ในตอนต้นบัตรโทรศัพท์จะมีมูลค่าตามหน้าบัตร เช่น มูลค่า 100 บาท หรือ 300 บาท เป็นต้น เมื่อมีการสอดบัตรเข้าเครื่องโทรศัพท์สาธารณะเพ่ือโทรศัพท์ไปยังบุคคลอื่น เครอื่ งอ่านบัตรจะทา เครื่องหมายลงในแถบแม่เหล็กตามมูลค่าเงินที่มีการใช้งาน ทาให้มูลค่าเงินที่เหลือในโทรศัพท์มี จานวนลดลง ดงั ภาพที่ 2-3 ภาพท่ี 2-3 ดา้ นหน้าและด้านหลัง บตั รแถบแมเ่ หล็กแบบออฟไลน์ (บัตรโทรศัพท์) ของผู้เขียน ทีม่ า: ผู้เขยี น ข) บตั รแถบแม่เหล็กแบบออนไลน์ (Online Magnetic Stripe Cards) ข้อมูลที่เก็บอยู่บนแถบแม่เหล็กของบัตรแถบแม่เหล็กแบบออนไลน์ จะถูกอ่านโดยเครื่อง อ่านบัตร (Magnetic Stripe Reader) แต่ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลที่อยู่บนบัตรได้ เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต บัตรพนักงาน เป็นตน้ ดงั ภาพที่ 2-4 และภาพที่ 2-5

บทท่ี 2 การชาระเงินดว้ ยบัตรพลาสติก 43 ภาพที่ 2-4 ลักษณะแถบแมเ่ หล็กของบัตรเครดิต ท่มี า: ผเู้ ขยี น ภาพท่ี 2-5 ลกั ษณะแถบแมเ่ หลก็ ของบัตรเดบติ ท่มี า: ผ้เู ขียน 2.1.1.2 บัตรสมาร์ทการด์ (Smart Card) บัตรสมาร์ทการ์ดหรือบัตรอัจฉริยะ เป็นบัตรที่มีการฝังชิพคอมพิวเตอร์ ที่สามารถเก็บ ข้อมูลมากกว่าบัตรแถบแมเ่ หลก็ ถึง 80 เท่า สามารถติดต้ังหลาย ๆ ซอฟท์แวร์ในชิพเดียวได้ จึงทา ใหส้ ามารถใชง้ านได้หลากหลายในบัตรเดียวกัน และชพิ บางประเภทสามารถประมวลผลข้อมลู ได้ นอกจากน้ีข้อมูลในบัตรสมาร์ทการ์ดยังถูกเข้ารหัสก่อนถูกบันทึก ข้อมูลในชิพจึงมีความ ปลอดภัย สามารถป้องกนั การลกั ลอบนาขอ้ มลู ของผู้ถอื บัตรไปใช้ในการกระทามิชอบ ดงั ภาพที่ 2-6 ภาพที่ 2-6 บตั รสมาร์ทการด์ ใชส้ าหรับเก็บข้อมูล ที่มา: ผู้เขียน

44 การเงนิ และระบบชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ บัตรสมาร์ทการ์ด แบ่งได้ 3 ประเภท ดังน้ี (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, 2560; Chanwanich Security Printing, 2014) ก) บัตรสมารท์ การ์ดแบบสัมผัส (Contact Smart Cards) เป็นบัตร ท่ีมีการฝังไมโครชิพในตัวบัตร ในการใช้งานจะต้องสอดบัตรให้หน้าสัมผัสของบัตรแตะ กับหน้าสัมผัสเคร่ืองอ่านบัตร เช่น บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม บัตรประจาตัวประชาชน ซิมการ์ด โทรศพั ท์ เปน็ ตน้ ดงั ภาพที่ 2-7 ภาพท่ี 2-7 บตั รสมาร์ทการด์ แบบสมั ผสั (Contact Smart Cards) ทมี่ า: Hans Braxmeier & Simon Steinberger GbR, 2018 ข) บัตรสมาร์ทการ์ดแบบไร้สัมผั55751ส (Contactless Smart Cards) เป็นบัตรสมารท์ การ์ดท่ีมีการฝังชิพและขดลวดสายอากาศไว้ภายใน ดังน้ันบตั รจึงสามารถ ติดต่อกับเครื่องอ่านบัตรผ่านคล่ืนวิทยุได้ในระยะใกล้ โดยบัตรไม่ต้องมีการสัมผัสกับเครื่องอ่าน บัตร ช่วยให้เกิดความคล่องแคล่วและรวดเร็วในการใช้งาน เช่น บัตรเก็บเงินทางด่วน บัตร โดยสาร ของรถไฟฟ้า บีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน บัตร Smart Purse เป็นต้น ดังภาพที่ 2-8 และ ภาพที่ 2-9 ภาพที่ 2-8 โครงสร้างบตั รสมาร์ทการด์ แบบไรส้ มั ผัส

บทท่ี 2 การชาระเงนิ ดว้ ยบตั รพลาสตกิ 45 ทมี่ า: ผู้เขียน ภาพท่ี 2-9 การใชง้ านบัตรสมารท์ การด์ แบบไร้สัมผสั ทมี่ า: ผู้เขยี น ค) บัตรสมาร์ทการ์ดแบบผสม (Dual Smart Cards) เป็นบัตร ท่สี ามารถใชง้ านได้ 2 แบบ คือแบบสมั ผสั และแบบไร้สมั ผัสในบตั รใบเดยี วกัน แบง่ ได้ 2 แบบ คือ  บัตรสมาร์ทการ์ดแบบไฮบริด (Hybrid Smart Card) เป็น บตั รท่ีมหี นว่ ยความจาแยกกนั ระหว่างแบบสมั ผัสและแบบไรส้ ัมผัส ดงั ภาพที่ 2-10 ภาพท่ี 2-10 โครงสร้างบัตรสมาร์ทการด์ แบบสมั ผสั แบบไฮบริด ที่มา: ผูเ้ ขียน  บัตรสมาร์ทการ์ดแบบส่วนต่อประสานคู่ (Dual Interface Card) เป็นบัตรที่มีหน่วยความจาเดียว แต่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ 2 วิธี คือ แบบสัมผัสและไร้ สัมผัส เช่น บัตรเครดิตเคเวฟกสิกรไทย (K-Wave Credit Card) บัตรเครดิต KTC X VISA

46 การเงินและระบบชาระเงนิ อิเลก็ ทรอนิกส์ SIGNATURE เป็ น ต้ น โ ด ย บั ต ร ป ร ะ เภ ท นี้ จ ะ มี สั ญ ลั ก ษ ณ์ ข อ ง NFC (Near Field Communication) บนบตั ร ดงั ภาพที่ 2-11 และภาพท่ี 2-12 ภาพที่ 2-11 โครงสร้างบัตรสมาร์ทการ์ดแบบสัมผสั แบบสว่ นต่อประสานคู่ ทม่ี า: ผเู้ ขยี น ภาพท่ี 2-12 ตวั อย่างบตั รสมารท์ การด์ แบบสว่ นต่อประสานคู่ ของธนาคารต่างๆ ท่มี า: ผ้เู ขียน

บทท่ี 2 การชาระเงินด้วยบัตรพลาสติก 47 บัตรสมาร์ทการ์ด ประยกุ ต์ใชไ้ ด้หลากหลาย เชน่ ธุรกิจส่ือสารไร้สาย ขนสง่ มวลชน การรกั ษา ความปลอดภัย การบริการที่จอดรถ ธรุ กิจการเงินและธนาคาร ฯ เชน่ บัตรแรบบติ บัตรสมารท์ เพริ ส์ เป็นตน้ 2.1.2 ประเภทของบตั รพลาสติกแบ่งตามวิธกี ารเตมิ เงิน ประเภทของบัตรพลาสติกที่แบ่งตามวิธีการเติมเงินมี 3 ประเภท คือบัตรท่ีมีการชาระเงิน แบบจ่ายภายหลงั (Pay Later) บัตรท่ีมกี ารชาระเงินแบบจา่ ยทันที (Pay Now) บัตรที่มกี ารชาระ เงนิ แบบจ่ายไว้ล่วงหน้า (Pay Before) 2.1.2.1 บตั รที่มีการชาระเงินแบบจ่ายภายหลัง (Pay Later) หมายถึง บัตรท่ีใช้ สาหรบั ซือ้ สินคา้ โดยลกู ค้าจะได้รับสนิ ค้า เช่น บัตรเครดิต เป็นตน้ 2.1.2.2 บัตรท่ีมีการชาระเงินแบบจ่ายทันที (Pay Now) หมายถึง บัตรที่ถูกตัด ยอดเงินทนั ทที ่ซี อ้ื สินคา้ หรือบริการ เชน่ บตั รเอทีเอ็ม บัตรเดบติ เป็นต้น 2.1.2.3 บัตรที่มีการชาระเงินแบบจ่ายไว้ล่วงหน้า (Pay Before) หมายถึง บัตรท่ี ตอ้ งเติมเงินก่อน แลว้ จึงนามูลคา่ เงินในบัตรไปใช้ซอ้ื สินค้า ค่าบรกิ าร เช่น บตั รศนู ยอ์ าหาร เป็นต้น 2.2 บัตรเอทีเอ็ม บัตรเอทีเอ็ม หมายถึง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ประกอบธุรกิจออกให้แก่ผู้ใช้บริการ เพื่อใช้ เบิก ถอน โอน หรือทาธุรกรรมอ่ืนใดท่ีเก่ียวกับเงิน ตามมลู ค่าของเงินทผี่ ู้ใช้บรกิ ารได้ฝากไว้กับ ผปู้ ระกอบธุรกิจ (กระทรวงการคลัง, 2561ก) 2.2.1 การใช้งานบตั รเอทีเอม็ บัตรเอทีเอ็ม มีการประยุกต์ใช้ดังน้ี เช่น ใช้ถอนเงินสดท่ีตู้เอทีเอ็ม ใช้สาหรับจ่ายเงิน แก่ร้านค้าท่ีมเี ครอื่ งอ่านบัตรเอทีเอ็ม ใชโ้ อนเงินแบบหักบัญชี (Debit Transfer) คือ การโอนเงินที่ กระทาโดยผู้รับเงินส่งคาส่ังโอนเงินโดยตนเองหรือธนาคารของตน ให้ธนาคารของผู้จ่ายเงินหัก บญั ชขี องผู้จา่ ยเงินเพ่อื โอนเขา้ บญั ชีของผรู้ บั เงิน บตั รเอทเี อ็มมลี ักษณะ ดงั ภาพท่ี 2-13 ภาพที่ 2-13 บัตรเอทีเอ็ม ทีม่ า: ผู้เขยี น

48 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ปจั จบุ นั บัตรเอทเี อ็มไดร้ ับความนิยมลดลงเน่ืองจากมีข้อจากัดในการใช้งานคอื สามารถใช้ สาหรบั ถอนเงนิ จากตเู้ อทีเอม็ ได้ แตไ่ ม่สามารถใชช้ าระค่าสินค้าหรอื บรกิ ารในห้างสรรพสินคา้ หรอื ร้านคา้ ที่รับบัตรเครดิต 2.3 บตั รเดบติ บัตรเดบิตเป็นบัตรพลาสติก ท่ีมีแถบแม่เหล็กด้านหลังบัตรและมีการใส่ชิพอยู่ด้านหน้า บตั ร โดยขอ้ มูลถูกเกบ็ ท้งั ในแถบแมเ่ หลก็ และชิพ บัตรเดบิต หมายถึง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ท่ีผู้ประกอบธุรกิจออกให้แก่ผู้ใช้บริการ เพื่อใช้ ชาระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าอ่ืนใด แทนการชาระด้วยเงินสด หรือเพื่อใช้เบิก ถอน โอน หรือ ทาธุรกรรมอื่นใดท่ีเก่ียวกับเงิน ตามมูลค่าของเงินท่ีผู้ใช้บริการได้ฝากไว้กับผู้ประกอบธุรกิจ (กระทรวงการคลัง, 2561ก) เม่ือลูกค้าธนาคารเปิดบัญชีออมทรัพย์ (Savings Account) หรือบัญชีกระแสรายวัน (Checking Account) สามารถขอใช้บริการบัตรเดบิต เมื่อมีการใช้บัตรเดบิตซื้อสินค้า จะมีการ ตัดยอดเงินในบัญชีลูกค้า และยอดเงินโอนเข้าบัญชีผู้ขายทันที ซึ่งบัตรเดบิตสามารถใช้งานได้ หลายช่องทางดังน้ี - ใช้ถอนเงนิ สดทต่ี ู้เอทเี อม็ (Cash Withdrawal) - ใชโ้ อนเงินแบบหักบญั ชี (Debit Transfer) - ใช้จ่ายค่าสินค้า ในร้านค้าท่ีเป็นเครือข่ายบัตรเครดิต (Electronic Funds Transfer at Point of Sale: EFTPOS) 2.3.1 ประเภทของบตั รเดบติ 2.3.1.1 บตั รเดบติ แบบออฟไลน์ (Offline Debit Card, Signature Debit) บัตรเดบิตแบบออฟไลน์เป็นบัตรที่เมื่อมีการใช้งาน เจ้าของบัตรต้องเซ็นต์ชื่อกากับใน ใบเสรจ็ และเม่อื สิ้นวนั แล้วร้านค้าจะรวบรวมใบเสรจ็ เพอ่ื ส่งเรียกรับเงนิ จากธนาคารลูกคา้ อกี ที 2.3.1.2 บตั รเดบติ แบบออนไลน์ (Online Debit Card, PIN Debit) บัตรเดบิตแบบออนไลน์เป็นบัตรที่เมื่อมีการใช้งาน เจ้าของบัตรต้องกดรหัสผ่าน ทเี่ ครอ่ื งอา่ นบัตรเพอ่ื เช่ือมต่อเขา้ กับธนาคาร และยอดเงินจะถูกหกั เข้าสูบ่ ัญชีผู้ขายทันที ดังภาพท่ี 2-14

บทที่ 2 การชาระเงนิ ดว้ ยบตั รพลาสตกิ 49 ภาพท่ี 2-14 บัตรเดบิตธนาคารธนชาตแิ ละธนาคารไทยพาณิชย์ ทีม่ า: ผู้เขยี น ตัวอย่างเช่น เม่ือลูกค้าซื้อสินค้าจากร้านค้าในห้างสรรพสินค้าและต้องการชาระเงินผ่านบัตร เดบิต รา้ นคา้ จะสง่ ข้อมูลบญั ชธี นาคารของลูกค้าพร้อมข้อมูลใบเสรจ็ สินค้า ไปยังธนาคารของร้านค้า ต่อมาธนาคารของร้านค้าส่งต่อข้อมูลดังกล่าว ไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิต เพื่อตรวจสอบข้อมูลบัตรเดบิต จากน้ันผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิตส่งข้อมูลต่อไปยัง ธนาคารของลูกค้า เม่ือธนาคารของลูกค้าตรวจสอบขอ้ มูลและทาการยนื ยันตัดเงินในบญั ชีธนาคาร ของลูกค้าแล้วจึงชาระเงินให้แก่ธนาคารของร้านค้า จากนั้นธนาคารของร้านค้าทาการโอนเงิน เข้าบัญชีของร้านค้า และสุดท้ายธนาคารของลูกค้าส่งใบเสร็จการตัดเงินหรือข้อมูลการตัดเงิน ในบญั ชธี นาคาร แจ้งให้ลูกค้าทราบ ดงั ภาพที่ 2-15 ภาพที่ 2-15 กระบวนการชาระเงินดว้ ยบัตรเดบติ ที่มา: ผูเ้ ขียน

50 การเงินและระบบชาระเงินอเิ ล็กทรอนิกส์ 2.4 บัตรเครดติ บัตรเครดิตเป็นบัตรพลาสติก ท่ีมีแถบแม่เหล็กด้านหลังบัตรและมีการใส่ชิพที่ด้านหน้า บตั ร โดยขอ้ มลู ถูกเก็บท้ังในแถบแมเ่ หล็กและชิพเชน่ เดยี วกับบัตรเดบิต บัตรเครดิต หมายถึง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ประกอบธุรกิจออกให้แก่ผู้ใช้บริการ เพื่อใช้ ชาระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าอ่ืนใด แทนการชาระด้วยเงินสด หรือเพ่ือใช้เบิก ถอน โอน หรือ ทาธุรกรรมอื่นใดที่เกี่ยวกับเงิน และผู้ประกอบธุรกิจจะเรียกให้ผู้ใช้บริการชาระเงินในภายหลัง (กระทรวงการคลงั , 2561ก) ด้านหน้าบัตรเครดิตประกอบด้วยชิพ หมายเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ รูปภาพเครือข่าย บตั รเครดิตและสัญลักษณ์อ่นื ๆ เชน่ โฮโลแกรมสาหรบั ปอ้ งกันการปลอมแปลงบัตร ดงั ภาพที่ 2-16 ภาพที่ 2-16 โครงสรา้ งดา้ นหน้าบตั รเครดติ ท่มี า: ผู้เขยี น ด้านหลังบัตรเครดิตประกอบด้วยแถบแม่เหล็ก แถบเซ็นต์ช่ือของลูกค้าและรหัสบัตร (ccv) ดงั ภาพที่ 2-17 ภาพที่ 2-17 โครงสร้างด้านหลังบัตรเครดติ ที่มา: ผ้เู ขียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook