เครื่องล่างร R ถยนต์-01

งดนั น้ํามนั เข้าไปยงั ลกู สบู แรงดนั กบงั คบั เลี้ยวให้ทาํ งาน อปุ กรณ์ที่ บมี 2 แบบ คือ บคุมการทาํ งานของ ก ควบคุมการทํางาน 3

โครงสร้างขอ พวงมาลยั กาํ ลงั หรือพวงมาลยั เพาเว ดงั นี้ ปัม๊ นํ้ามนั ไฮดรอลิก ปัม๊ นํ้าม 1 ต้องการแรงดันในการใช้งา นํามาใช้กบั พวงมาลยั เพาเวอร ปัม๊ น้ํามนั ไฮดรอลิกแบบเวน ปัม๊ น้ํามนั ไฮดรอลิกแบบ ปัม๊ นํ้ามนั ไฮดรอลิก

องพวงมาลยั กาํ ลงั วอรป์ ระกอบด้วยส่วนประกอบท่ีสาํ คญั มนั เป็ นกลไกของระบบไฮดรอลิกที่ านที่สูงมาก ปัม๊ น้ํามันไฮดรอลิกท่ี รม์ ีอย่หู ลายแบบ คือ น (Vane Type) บสลิปเปอร์ (Slipper Type) กแบบโรลเลอร์ (Roller Type) 4

2 ลิ้นควบคมุ ปริมาณการไหลของน จ่ายออกของปัม๊ จะเพิ่มขึน้ เป็นสดั เคร่ืองยนต์ กาํ ลงั ท่ีใช้ในการบงั ค น้ํามนั ที่จ่ายออกจากปัม๊ ไปกระท ทาํ งานเพิ่มขึน้ ปริมาณน้ํามนั ที่จ่า ไปปัม� ดา้ นดดู น�ํามนั จากปัม� ดา้ นจ่ายน�ํามนั ลน�ิ ควบคมุ การไหลของน�ํามนั สปรงิ B ไปยงั กระปกุ พวงมาล สปรงิ A สปรงิ ดา้ นใน ลน�ิ สพลู ลน�ิ ระบายแรงดนั

น้ํามนั และลิ้นสพลู ปริมาณนํ้ามนั ท่ี ดส่วนโดยตรงกบั ความเรว็ รอบของ คบั เลี้ยวจะถกู กาํ หนดจากปริมาณ ทาํ ต่อลูกสบู กาํ ลงั เม่ือปัม๊ มีรอบการ ายออกมาจะช่วยในการบงั คบั เลี้ยว กเกยี ร์ ลยั 5

3 ลิ้นระบายแรง ลิ้นควบคุมปร น้ํามนั สูงกว่า 1,138 ปอนด/์ ต เพ่ือให้แรงดนั ลิ้นควบคมุ ปร ไปทางด้านซ้า ไปปัม� ดา้ นดดู ลน�ิ ควบคุมการไหลของน�ํามนั ลน�ิ ระบาย

งดนั (Relief Valve) จะติดตงั้ อย่ภู ายใน ริมาณการไหลของนํ้ามนั เม่ือแรงดนั 80 กิโลกรมั /ตารางเซนติเมตร (หรือ ตารางนิ้ว) ลิ้นระบายแรงดนั จะถกู เปิ ด นน้ํามนั ลดลง เม่ือแรงดนั น้ํามนั ลดลง ริมาณการไหลของนํ้ามนั จะเคลื่อนตวั าย และควบคมุ แรงดนั สงู สดุ ดน�ํามนั จากปัม� ดา้ นจา่ ยน�ํามนั ไปกระปกุ เกยี ร์ ยแรงดนั สปรงิ ดา้ นใน 6

4 4 ก ร ะ ปุก พ ว ง ม า ลัย เพ า เว อ ร (Power Steering Box) ภายใน กระปุกพวงมาลยั ประกอบด้วย ลูกสูบท่ีอยู่ในกระบอกสูบกําล ติดตงั้ อยู่กบั เฟื องสะพาน เฟื อ ส ะ พ า น จ ะ เ ค ลื่ อ น ท่ี ไ ป ด้ ว ย แรงดนั น้ํามนั จากปัม๊ ท่ีผลกั ดัน ให้ไปในทิศทางที่ต้องการ

ร์ น ย งั ง ย น 7

5 ลิ้นควบคมุ (Control Valve) ภ ควบคุมทิ ศทางและปริ มาณการ จากปัม๊ น้ํามนั เพลาลิ้นควบคมุ ที่ และเฟื องขับจะต่อกันด้วยทอร พวงมาลยั เพาเวอรใ์ นปัจจบุ นั มี 3 ลิ้นควบคมุ แบบโรตารี (Rotary ลิ้นควบคมุ แบบสพลู (Spool V ลิ้นควบคมุ แบบแฟลปเปอร์ (F

ภายในกระปุกพวงมาลยั จะทาํ หน้าท่ี ไหลของน้ํามนั ไฮดรอลิกท่ีถกู ส่งมา ได้รบั แรงบิดจากการหมุนพวงมาลยั ร์ชันบาร์ ลิ้นควบคุมที่ใช้ในกระปุก แบบ y Valve) Valve Type) Flapper Valve Type) 8

อปุ กรณ์เพิ่มรอบเดินเบา (Idle-up De ปัม๊ จะสร้างแรงดนั น้ํามนั เพ่ิมมากขึน้ ขึน้ ความเรว็ รอบเดินเบาของเครื่องย พ ว ง ม า ลัย เ พ า เ ว อ ร์ จึ ง ต้ อ ง มี อุ ป ก เครื่องยนต์ อุปกรณ์เพ่ิมรอบเดินเบา เรอื นปัม๊ กรองอากาศ หอ้ งประจุไอดี ท่อรวมไอดี ลน�ิ ควบคมุ อากาศ ลน�ิ ควบคุม กระปกุ พวงม

evice) เมื่อหมนุ พวงมาลยั เตม็ ท่ี 6 เป็ นผลให้ปัม๊ ต้องรบั โหลดมาก ยนตต์ กลง รถยนตส์ ่วนมากที่ใช้ กรณ์ เพิ่ มรอบเดิ นเบาให้กับ าจะมีลิ้นควบคมุ อากาศติดตงั้ ท่ี มอากาศ มาลยั 9

ถอดและประกอบ การถอดแยกชิ้ นส่วน ของกระปุกพวงมาลัย กําลัง มีลําดับขนั้ ตอน ดงั นี้

บกระปุกพวงมาลยั กาํ ลงั 10

ยึดกระปกุ พวงมาลยั ด้วยปากกาจ แบบของกไหลกลบั ด้านซ้ายและด้านขวา ถอดคนั ส่งโดยการคลายน และข้อต่อคนั ส่ง ถอดยางกนั ฝ่ นุ ออกโดยใช้ไขควง ถอดข้อต่อคนั ส่งโดยกา ใช้เคร่ืองมือถอดข้อต่อคนั ส่งโ ด้านขวาของข้อต่อคนั ส่ง

กระปุกพวงมาลยัจบั ชิ้นงานและใช้ประแจถอดท่อน้ํามนั นอตล็อก และทําเครื่องหมายท่ีคนั ส่ง งงดั คลิปและปลอกรดั ยางกนั ฝ่ นุ ารตอกรอยพบั ของแหวนเฟื องสะพาน ดยทาํ เคร่ืองหมายทงั้ ด้านซ้ายและ 11

ถอดนอตลอ็ กตวั ครอบสปริงและ แบบของกถอดฝาครอบเรือนเฟื องส และลกู ปื นตวั ล่าง ถอดทําเคร่ืองหมายท่ีเรือนลิ้น โบลตย์ ึดทงั้ สองตวั และ ดึงลิ้นคว ใช้ ค้ อนพลาสติ กตอกลิ้ นคว กระปกุ เกียร์ แล้วใช้เคร่ืองมือ ถอดบุชเฟื องสะพานและเฟื องส พวงมาลยั และถอดซีลนํ้ามนั และป

ะสปริงบงั คบั เฟื องสะพาน กระปุกพวงมาลยัสะพานออกแล้วถอดนอตลอ็ กตวั ใน นควบคุมและเรือนเฟื องสะพาน ถอด วบคมุ วบคุมพร้อมซีลนํ้ามนั ออกจากเรือน อถอดตวั กนั ปลายกระบอกสบู ออก สะพานออกจากเรือน ปลอกรอง 12



13



14

5

การเกาะยดึ ถนน (Road Holding) 1

กากรเากราเะกยา การเกาะยึดถนน (Road Holding) ห ของรถและการทรงตวั ที่ดีในทกุ ระด การขบั ข่ี นอกจากนัน้ รถยงั สามาร พืน้ ฐานความปลอดภยั

ยาดึ ะถยนดึ นถนน หมายถึง สมรรถนะการเกาะยึดถนน ดบั ความเรว็ ของรถและในทกุ สภาพ รถเลี้ยวโค้งได้ด้วยความเรว็ สูงบน 2

การออกแบบรูป อปุ กรณ์ทช่ี ่วยให การออกแบบรถยนต์ได้มีการ ตลอดเวลา เพื่อการแข่งขนั ใน บริษทั จะม่งุ เน้นที่รปู ทรงและสม ให้รถแหวกอากาศไปได้ง่าย ด้า บริเวณหน้ากระจกหรือทาํ หน้าเ อากาศ

ปทรงของรถยนต์และ ห้รถเกาะยดึ ถนน รพฒั นาและปรบั ปรุงเปล่ียนแปลง นด้านธุรกิจ การปรบั แต่งของแต่ละ มรรถนะในการขบั เคล่ือน โดยมุ่งเน้น านหน้าของรถยนต์จึงมกั จะตดั เฉียง เอียง (Slant Nose) เพ่ือลดแรงต้าน 3

อุปกรณ์ ที่ช่วยให้ รถยึดเกาะถนน 3. สป

1. แอรแ์ ดม (Air - Dam) 2. แพนอากาศ (Air Foil) ปอยเลอร์ (Spoiler) 4

การเกาะยดึ ถนน การเกาะยึดถนนของระบบรองรบั นํ้า เกาะยึดถนนและจะทาํ งานสมั พนั ธก์ เลี้ยว ระบบรองรบั นํ้าหนักที่ใช้อยู่มี และข้อเสียแตกต่างกนั ไป บริษัทผ ระบบรองรบั น้ําหนักให้เหมาะสมกบั การใช้งานท่ีตงั้ ไว้ ระบบรองรบั นํ้า ไปแบ่งออกได้ดงั นี้

นของระบบรองรับนํา้ หนัก าหนัก มีผลต่อการ กนั กบั ระบบบงั คบั มหลายแบบ มีข้อดี ผู้ผลิ ตจะพิ จารณา บจุดประสงค์ และ าหนักท่ีใช้กนั ทวั่ ๆ 5

แ บ บ ล้ อ อิ ส ร ะ (Independent Suspension) ระบบรองรบั แบบ นี้ ล้อแต่ละล้อจะ เ ต้ น ขึ้น -ล ง เ ป็ น อิสระ ไม่ส่งผลไป ยัง ล้ อ ที่ อ ยู่ ต ร ง ข้าม หรือถ้าจะมี บา้ งกน็ ้อยมาก

6

แบบคานแขง็ (Solid Axle Suspension) เป็ นระบบ รองรบั แบบดงั้ เดิมที่ใช้กนั มาจนถึงปัจจุบนั มกั จะใช้ กบั รถบรรทกุ ขนาดใหญ่

7

จุดศูนย์กล จดุ ศนู ยก์ ลางการโคลง (Roll Ce ดงั กล่าวนี้ เม่ือได้รบั แรงกระทาํ ทาง ร ะ บ บ ร อ ง รับ ที่ ล้ อ ห น้ า แ ล ะ ล การโคลงแยกจากกนั เส้นที่ลากผ่า ล้อหลงั เรียกว่า แนวแกนการโคลง ระหว่างจุดศูนย์กลางการโคลงข ลกั ษณะอาการเลี้ยวแบบต่างๆ เช่ ความเรว็ สงู ฯลฯ

ลางการโคลง enter) คือ จุดที่โครงรถเอียงรอบจุด งด้านข้าง เช่น แรงหนีศนู ยก์ ลาง ฯลฯ ล้ อ ห ลัง ต่ า ง ก็จ ะ มี จุ ด ศู น ย์ก ล า ง านจุดศนู ยก์ ลางการโคลงล้อหน้าและ ง (Roll Axis) การจดั ความสมั พนั ธ์ ของล้อหน้ าและล้อหลัง ทําให้เกิ ด ชน ล้อยก ล้อรถลื่นไถลขณะเลี้ยวด้วย 8

สมรรถนะของย ยางรถยนต์ (Tire) เป็ น 2 อปุ กรณ์สาํ คญั อย่างหนึ่งของ 3 รถ การเลือกใช้ชนิ ดของยาง กําลังดันลมยางและสภาพ ของดอกยางเป็นสิ่งสาํ คญั ใน การขบั ขี่ ซ่ึงปัจจยั ที่จะมีส่วน เกี่ยวข้องในการเกาะยึดถนน ของรถ ได้แก่

ยางกบั การเกาะยดึ ถนน 1 แรงดนั ลมยาง (Tire) 2 ชนิดของยาง 3 ชนิดของดอกยาง 9

ข้อควรระวงั เพิ่ม ขบั รถด้วยความเรว็ ตาํ่

อย่าใช้ยางที่ดอกยางสึก มแรงดนั ลมยาง 10

ข้อควรระวงั เพิ่ม ขบั รถด้วยความเรว็ ตาํ่

อย่าใช้ยางที่ดอกยางสึก มแรงดนั ลมยาง 10

1 นตอน ตอด ประกอบ พวงมา ย ง 2 จย ผล อ การ ดเกาะ ถนน 10 อ ้ขึย่ตีม่ีทัจัปัลำกัลัข



6

ระบบเบรก (Brake System) 1

เบรกรถ เบรกรถยนต์ (Automotive Brake) กลไกที่อาศยั ความฝื ดของวสั ดุเพื่อ หรือชะลอความเรว็ ของรถเพื่อหยุดร หน้าที่เปล่ียนพลงั งานจลน์ของรถเป ร้อน โดยอาศัยความฝื ดระหว่างผ กบั ดรมั (Drum) หรือจานเบรก(Disc) กบั รถขนาดเลก็ ซ่ึงนิยมใช้กนั อยู่ 2 แบ แบบกลไกและเบรกแบบไฮดรอลิก