เครื่องล่างร R ถยนต์-01

ect-Acting Shock Absorber) หรือ ) ลกั ษณะสําคญั คือ จะหน่วงการ ตวั ส (Gas-Filled Cell Shock Absorber) ป็ นโช้กอปั ที่ได้รบั การปรบั ปรุงให้มี ลือกของโช้กอปั จะมีกระบอกสบู หรือ นลงอย่ภู ายใน 8

การตรวจโ การตรวจโช้กอป ให้โช้กอปั อยู่ใน เป็ นไปด้วยคว ปลอดภยั โช้กอ จะช่วยควบคมุ ก สปริง โช้กอปั ถ้า ให้ตัวถงั รถไม่ส หมนั่ คอยตรวจโ

โช้กอปั ปั (Checking Shock Absorber) เพ่ือ นสภาพพร้อมใช้งาน ทําให้การขบั ขี่ วามนุ่มนวล สะดวกสบาย และ อปั จะต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีซึ่ง การเต้น การยืด และการอดั ตวั ของ าได้รบั การติดตงั้ ในมมุ ที่ถกู ต้องจะทาํ ส่าย และรถไม่เอียง ดงั นั้น จึงต้อง โช้กอปั ให้อย่ใู นสภาพท่ีดี 9

การถอดตรวจชิ้น แบบแมก็ เฟอร์สัน ตามปกติ บริ ษัทผู้ผลิ ตรถยนต แนะนําให้ผู้ใช้รถซ่อมโช้กอปั เม่ือ หรือชํารุดแต่จะแนะนําให้เปลี่ยน ตามสภาพความเป็ นจริ งนั้นถ เสียหายไม่มากนักผู้ใช้รถมกั จะน หรือปรบั โช้กอัปให้อยู่ในสภาพท เพราะประหยดั ค่าใช้จ่ายกว่ามากโ โช้กอปั แบบแมก็ เฟอรส์ นั สตรตั

นส่ วนและประกอบโช้ กอปั นสตรัต ต์ ม ัก จ ะ ไ ม่ อเสียหาย นใหม่ แต่ ถ้าโช้ กอัป นิ ยมซ่อม ที่ใช้งานได้ โดยเฉพาะ 10

แ ส ด ง ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ของโช้กอปั แบบแม็ก เฟอรส์ นั สตรตั

11

การตดิ ต้งั โช้กอปั การติดตงั้ โช้กอปั คาํ้ หน้า

ปคาํ้ หน้าและโช้กอปั คาํ้ หลงั 12

การติดตงั้ โช้กอปั คา้ํ หลงั

13

อส ปค ป โงาน ของ า/ ห กอาย การ - บ บอก ประกอบ ใน การ กอด ัอีธิวัฮ็รำทัลีฮ­โีดีวิลุร

10

ศูนย์ล้อรถยนต์ (Wheel Alignment) 1

มุมล้อหน มุ ม ล้ อ ห น้ า (Front-End ความสมั พนั ธ์ระหว่างมุมต่างๆ ของ และชิ้นส่วนท่ีเก่ียวข้องกบั มุมล้อหน ล้อหน้าอาจจะไม่ได้อยู่ในแนวดิ่ง สล เรียกว่า ลูกหมากปี กนก อาจเอียงไป มองจากด้านหน้ าหรือด้านข้างขอ ทางตรงยางอาจหบุ เข้าด้านใน สิ่งเหล เก่ียวข้องกบั มมุ ล้อหน้าทงั้ สิ้น

น้า Geometry) คื อ งล้อหน้ ารถยนต์ น้าและโครงรถ ) ลกั ล้อหน้าหรือท่ี ปจากแนวด่ิง เมื่อ อ ง ร ถ ข ณ ะ ร ถ ว่ิ ง ล่านี้ล้วนแล้วแต่ 2

มุมคาสเต มุมคาสเตอร์ (Caster Angle) คือ มุม แนวดิ่ง ซ่ึงจะวดั ค่าออกมาเป็ นองศา ที่ใช้ลกู หมากปี กนกแทนสลกั ล้อหน้า แสดงมมุ คาสเตอร์

ตอร์ มท่ีเกิดจากสลกั ล้อหน้าเอียงไปจาก า เม่ือมองทางด้านข้างรถหรือในกรณี 3

มุมแคม มุมแคมเบอร์ (Camber Angle) คือ ม ทาํ มมุ กบั แนวดิ่งซ่ึงจะวดั ค่าออกมาเป ลบ-0+บวก แ แคมเบอร์ เ เ 90 ◌ํ

มเบอร์ มุมท่ีแนวศูนยก์ ลางของหน้ายางเอียง ป็ นองศา แสดงตาํ แหน่งมมุ แคม เบอรบ์ วกและมมุ แคม เบอรล์ บ 4

มุมแกนบ มุมแกนบงั คบั เลี้ยว (King-Pin Inclin หรือแนวของลูกหมากปี กนกเอียงเข้า มมุ ท่ีมีผลเกี่ยวกบั การบงั คบั ทิศทางขอ แ ส ด ง มุ ม แ ก น บ ัง ค ับ เ ลี้ ย ว แ ล ะ ระยะเยือ้ งศนู ย์

บงั คบั เลยี้ ว nation) คือ มุมท่ีเกิดจากสลกั ล้อหน้า าข้างในรถ มุมแกนบงั คบั เลี้ยวนี้เป็ น องรถ และเป็นมมุ ที่ปรบั ไม่ได้ 5

โทอนิ โทอิน (Toe-In) คือ ระยะด้านหน้าข ยางเอียงเข้าหากนั เป็ นมุมล้อที่สาํ มาก ยางจะสึกอย่างรวดเรว็ ถ้าโท ผิดไปจากท่ีกําหนด จําเป็ นท่ีจะต ดูแ ล อ ยู่ต ล อ ด เ ว ล า ย า ง ร ถ ย มากกว่า 90% สึกเพราะโทอินผิด

ของ 7L าคญั ทอิน ← 1# #> ต้อง ยนต์ 11 #m¥n ดา้ นหน้า โทอนิ 6

โทเอาต์อ โทเอาต์อ มุมที่มีผล ปรบั ไม่ได เลี้ยวรถน จะต้องกว ของโทเอา

ออนเทริ ์น ออนเทิร์น (Toe-Out on Turn) เป็ น ลต่อการสึกหรอของยาง เป็ นมุมท่ี ด้ มมุ ล้อหน้ามุมนี้แสดงถึงว่าขณะท่ี นัน้ ระยะห่างทางด้านหน้าของยาง ว้างกว่าทางด้านหลงั เป็ นลกั ษณะ าต์ 7

เคร่ืองมือต้งั ม การตงั้ มุมล้อหน้า (Front Wheel Alig มี 5 มุม คือ มุมแคมเบอร์ มุมคาสเต และมุมโทเอาต์ออนเทิรน์ มุมเหล่านี้ส เบอร์ และโทอิน มุมทงั้ สามเป็นมมุ ที่ม นานๆ ชิ้นส่วนในระบบมมุ ล้อหน้า ย่อ จากมาตรฐาน จาํ เป็นต้องทาํ การปรบั

มุมล้อหน้า gnment) มุมท่ีเก่ียวข้องกบั มุมล้อหน้า ตอร์ มุมเอียงสลกั ล้อหน้า มุมโทอิน สามารถปรบั ได้กค็ ือ คาสเตอร์ แคม มีผลต่อการสึกของยาง เมื่อใช้งานไป อมสึกหรอ และทาํ ให้มมุ ต่างๆ ผิดไป บให้ถกู ต้อง 8

การบริการศูน การบริการศนู ยล์ ้อรถยนต์เป็ นการ งานไปนานๆ แล้วเกิดอาการผิดปกติเก จะต้องพิจารณาถึงส่ิงต่อไปนี้ 1. ก่อนการใช้เครื่องมือทดสอบศนู งานของเครือ่ งมือทดสอบ 2. ตรวจสภาพช่วงล่างของรถเสีย 3. การทดสอบการขบั บนถน

นย์ล้อรถยนต์ รตรวจสอบและแก้ไขศนู ยล์ ้อเม่ือรถใช้ กิดขึน้ การตรวจสอบแก้ไขศนู ยล์ ้อควร นยล์ ้อ ควรจะต้องศึกษาวิธีการใช้ ยก่อนท่ีจะทาํ การตรวจวดั ทกุ ครงั้ นน 9

วธิ ีการปรับแก้ไข และศูนย์ล้อหลงั รถยนต์โดยทวั่ ไปจะมีกลไกไว้ปรบั ไ ด้ เ พ่ื อ จ ะ นํ า ม า เ ป รี ย บ เ ที ย บ ก ับ ค มาตรฐานของรถยนต์แต่ละรุ่น ด ปรบั ตงั้ ศูนย์ล้อหน้าและการปรบั ต หลงั จึงถือว่ามีความสาํ คญั ไม่น้อยกว

ขศูนย์ล้อหน้า บตงั้ ค่าที่วดั ค่าของมุม ดังนั้น การ ตงั้ ศูนย์ล้อ ว่างานอ่ืน 10

การตรวจวดั แล การตรวจวัดศูนย์ล้อมีจุดประสง ตรวจวดั มุมของล้อหน้า เช่น มุมแค คาสเตอร์ มุมเอียงสลกั ล้อหน้า มุมโ มุมโทเอาต์ออนเทิรน์ ซึ่งมุมต่างๆ เ ผลโดยตรงต่อการบงั คบั เลีย้ วของรถ การตรวจวดั และป เกจแบบระดบ

ละปรับต้งั มุมล้อหน้า ค์เพื่อการ คมเบอรม์ ุม โทอิน และ เหล่านี้จะมี ถ ปรบั ตงั้ มมุ ล้อหน้าสามารถใช้ บั น้ําวดั มมุ ต่างๆ ซึ่งมีขนั้ ตอนดงั นี้ 11

ตรวจวดั แรงดนั ลมยาง การหลวม เบีย้ วของล้อ \" ตรวจสอบระบบรองรบั ก้า ถอดฝาครอบล้อและติดตงั้ ตวั ต่อเ ลอ็ กแท่นวดั ไว้ด้วยสลกั ลอ็ ก ปรบั ระดบั ความสูงของรถให้ล้อด แท่นวดั ท่ีล้อหน้า ใช้ก้านดนั เบรกกดแป้นเหย รถเคลื่อนที่ในขณะทาํ การต วดั ระยะห่างข

มคลอนของลูกปื นล้อหน้าและการบิด านต่อบงั คบั เลี้ยวและโช้กอพั E.17เกจวดั ท่ีดมุ ล้อ จากนัน้ จึงให้เคล่ือนรถเข้าท่ีแท่น ด้านหลงั ทงั้ สองล้อมีระดบั เท่ากบั ยียบเบรกเอาไว้เพื่อป้องกนั ตรวจวดั ศนู ยล์ ้อ ของโครงรถกบั พืน้ 12

การวดั และวธิ มุมโทอินเป็ นมุมล้ออีกมุมหนึ่งท อินมีความผิดพลาดไปจากค่าท่ีก ด้านหน้าและด้านหลงั สึกผิ ตรวจวดั ภายหลงั จากการวดั ม สลกั ล้อหน้า

ธีการปรับต้งั มุมโท ที่มีความสําคญั ถ้ามุมโท กาํ หนดไว้จะทาํ ให้ยาง ดปกติ จําเป็ นต้องมีการ มุมคาสเตอร์และมุมเอียง 13

- t.LI 1 Tt 4 klen

แสดงลําดับขัน้ ตอน ในการวดั และปรบั ตงั้ มมุ โทอิน 4 14

โนตอน1 การ กอด ประกอบ ง2 ป บตอน การ ง ญม อ ห ก3 การ ใด พ งาน ของ 4 หา อ ของ เมล ่ีท้นัอำทัล้ลิตัรัขัข

โดย พ

11

ล้อ ดุมล้อ ยาง (Wheel, Hub, Tire) 1

โครงสร้าง โครงสร้างของล้อ (Wheel S โดยทวั่ ไปจะประกอบด้วยส่วนท่ีเป็ น ล้อจะทาํ หน้าที่รองรบั ยางและส่วนต Member) ซึ่งส่วนตรงกลางนี้เรีย หรือสไปเดอร์ (Spider) จานหรือสไ รปู เช่ือมต่อเข้าด้วยกนั กบั ขอบล้อ ความแขง็ แรงเพียงพอที่จะรบั นํ้าหน แนวตงั้ และแนวนอน

งของล้อ Structure) ล้อรถ นขอบ (Rim)ขอบ ตรงกลาง (Center ยกว่า จาน (Disc) ไปเดอรจ์ ะอดั ขึ้น จานล้อจะต้องมี นักท่ีเกิดขึน้ ได้ใน 2

การยดึ ล้อเข ล้ อรถจะยึดติ ดกับดุมล้ อโดยกา ร (Lug Bolt) ซ่ึงจะสอดผา่ นรทู ่ีล้อและ กบั ดมุ ล้อหรือโดยการใช้สตดั (Stud ออกมาจากดุมล้อ และใช้นอตหมุน ในสตดั รถบางร่นุ จะใช้เกลียวซ้ายท ล้อซ้าย และใช้เกลียวขวาทางด้าน แต่รถส่วนมากจะใช้เกลียวขวาทงั้ สอ

ข้ากบั ดุมล้อ รใช้สลัก ะขนั เข้า d) ที่ย่ืน นเข้าไป ทางด้าน นล้อขวา องด้าน 3

โครงสร้างขอ ยางรถยนต์ (Tire) ยางมีความสาํ หน้าท่ีหลายประการเช่น รบั น้ําห Thrust) แรงจากการห้ามล้อ แรงกระแทกจากพืน้ ผิวถนนที่ขร

องยางรถยนต์ าคญั มากต่อการขบั ข่ี เพราะจะต้องทาํ หนักของรถ แรงดนั ด้านข้าง (Side และยงั ต้องทาํ หน้าที่เป็นสปริงรองรบั รขุ ระ 4