เครื่องล่างร R ถยนต์-01

2.ปลอกรดั แหวนลกู สบู (Piston Ring Compressor) °

3.เหลก็ ดดู (Pullers) 10

4.คีมถ่างแหวนลกู สบู (Piston Ring Expander)

o 11

iv %÷ฮํ๋

v. ÷๋

ภื่ ฟุ๋

ุ๋ฟ ่

i

☒±

3

ระบบบังคบั เลยี้ ว (Steering system) 1

หน้าทแี่ ละความส ระบบบงั ค ควบคุมก ต้องการ โ ระบบต่าง และระบบ ในทุกๆ ระบบบงั ค

สําคญั ของระบบบังคบั เลยี้ ว คบั เลี้ยว เป็ นระบบกลไกที่ทําหน้าที่ การเลี้ยวให้ รถเลี้ยวไปในทิ ศทางที่ โดยจะทาํ หน้าที่ควบค่สู มั พนั ธ์ไปกบั งๆ เช่น ระบบรองรบั ระบบส่งกาํ ลงั บเบรก ช่วยให้ผ้ขู บั ขี่มีความเช่ือมนั่ ย่ า น ค ว า ม เ ร็ว ที่ ร ถ ไ ด้ เ ค ลื่ อ น ที่ ไ ป คบั เลี้ยวที่ดีต้องมีลกั ษณะดงั นี้ 2

ความเหมาะสมในการ บงั คบั เลีย้ ว รบั การถ่ายทอดอาการ เต้นจากพนื้ ถนนได้น้อย - ~

มีความคล่องตวั ดีในการ บงั คบั เลีย้ ว มีการคืนกลบั ของล้อ หลงั จากการเลีย้ ว ต้อง กระทาํ ได้อยา่ ง คล่องตวั และสมาํ่ เสมอ มีการสญู เสียการ ควบคมุ และการส่ง กาํ ลงั ของพวงมาลยั จะต้องมีน้อย 3

ระบบบัง ระบบบงั คบั เลี้ยวของรถยนต ปัจจุบนั เพื่อให้การบงั คบั เล สะดวก นุ่มนวล แบ่งวิธีบงั คบั 1 ระบบจดุ หมนุ จดุ เดียว (Sing 2 แบบอัคเ (Ackerma 3 ก้า

งคบั เลยี้ ว ์ได้รบั การพฒั นามาเป็นลาํ ดบั จนถึง ลี้ยวของล้อหน้าเป็ นไปด้วยความ บเลีย้ วได้ดงั นี้ gle Pivot System) เคอร์มันน์ หรือแบบจุดหมุนสองจุด ann or Double Pivot System) านต่อบงั คบั เลี้ยว (Steering Linkages) 4

ส่ วนประกอบข ก้านต่อบงั คบั เลี้ยวใช้ในการบงั คบั ส่วนที่สาํ คญั ดงั นี้ 1. ขาไก่ (Pitman Arm) หน้าที่ส่ง เคล่ือนจากกระปุกเกียร์พวงม ยงั คนั ชกั ขาไก่

ของก้านต่อบังคบั เลยี้ ว บเลี้ยวของรถยนต์ จะประกอบด้วย งถ่ายแรง มาลยั ไป 5

2. แ ก น บั ง คั บ เ ลี้ ย ว (Steering Knuckle) เป็น 3. ตวั รองรบั ภาระงานที่มา กระทาํ กบั ล้อหน้า

. แหนบแขนบงั คบั เลีย้ ว (Knuckle Arm) แขนบงั คบั เลีย้ วเป็นแขนที่ยึด ติดกบั ข้อบงั คบั เลีย้ ว จะทาํ หน้าท่ีส่ง ถ่ายการเคล่ือนท่ีของคนั ส่งไปยงั ล้อ หน้า โดยผา่ นทางแกนบงั คบั เลี้ยว 6

4. คนั ชกั (Drag Link) คือ แขน ต่อระหว่างกระปุกพวงมาลยั กบั แขนบงั คบั เลี้ยว ลกู หมากปลายคนั สง่ ปลายเฟืองสะพาน ปลอกคนั สง่ (ปรบั ระยะ) ลกู หมากคนั สง่ กา้ นลกู หมากคนั สง่

สลกั ปลกั � สปรงิ เบาะรองสปรงิ ตาํ แหน่งตดิ ตงั� หวั อดั จาระบี สปรงิ ตวั เรอื น ขาไก่ ซลี คนั ส่ง (Tie Rod) คนั ส่งอาจจะ 5. อยู่ด้านหลงั หรือด้านหน้าของ เพลาหน้า 7

6. ลูกหมาก (Tie-Rod End or Ball Socket Joint) ท่ีส่วนปลายคนั ส่งจะมีลูกหมากเป็ น ตวั ต่อกบั แขนบงั คบั เลี้ยวและก้านต่ออ่ืน 7.

แกนลกู หมาก แกนลกู หมาก ยางกนั ฝ่นุ ยางกนั ฝ่นุ เบา้ รองรบั เบา้ รองลกู หมาก สปรงิ ปรบั ระยะ แขนประคอง (Idler Arm) หรือ แขนพา เป็ นตัวบังคับให้การ เ ค ลื่ อ น ที่ ข อ ง แ ข น บ ัง ค ับ เ ลี้ ย ว เป็นรปู ส่ีเหล่ียมด้านขนาน 8

โช้กอปั กนั สะเทือนพวงมาลยั (S จะถกู ติดตัง้ ไว้ระหว่าง ก้านต โช้กอปั พวงมาลยั จะทําหน้าที่ล จากล้อส่งถ่ายมายงั พวงมาลยั ขรขุ ระหรือไม่ราบเรียบ มีใช้ใน เพ่ือใส่ล้อขนาดใหญ่

Steering Damper) โช้กอปั 8. ต่อบงั คบั เลี้ยวและโครงรถ ลดอาการสนั่ สะเทือนท่ีเกิด เน่ื องจากสภาพพื้นผิ วถนน นรถยนต์ที่ยกระดบั ตวั ถงั สูง 9

โครงสร้างของ กระปุกพวงมาลยั (Steering Box) เพื่อให้เหมาะสมกบั ชนิ ดของรถ ใน ต่างๆ อาจแบ่งหน้าที่ของกระปกุ พวง ลดรอบการหมนุ ของพวงมาลยั เปล่ียนแปลงอาการหมนุ หน้าทงั้ ด้านซ้ายและด้า ช่วยผอ่ นแรงในการบงั คบั เลี้ยว

งกระปุกพวงมาลยั โดยทวั่ ไปได้ออกแบบไว้หลายชนิ ด นการทํางานร่วมกบั กลไก ก้านต่อ งมาลยั ได้ดงั นี้ ย น (Rotary Motion) ของพวงมาลยั ให้ล้อ านขวาเคล่ือนท่ีหนั ไปหนั มา ว ลดการสะเทือน 10

แบบของกร แ บ บ ข อ ง ก ร ะ ปุ ก 1.แบบเฟื อ พ ว ง ม า ลัย แ บ่ ง 2. แบบเฟื อ ออกได้ดงั นี้ 3. แบบลกู 4. แบบเฟื 5. แบบลกู ปื นหมนุ

ระปุกพวงมาลยั องตวั หนอนและลกู กลิ้ง (Worm and Rnoller) องตวั หนอนและเซกเตอร์ (Worm and Sector) กเบยี้ วและลีเวอร์ (Cam and Lever) ฟองสะพาน (Rack and Pinion) นเวียน (Recirculating Ball or Worm and Nut) 11

แกนพวงม แกนพวงมาลยั (Steering Column) เ กบั กระปุกพวงมาลยั ประกอบด้วยเพ การหมุนพวงมาลยั ให้ไปยงั กระปกุ พ โดยทวั่ ไปมีดงั นี้ 1. แบบใช้ข้อต่ออ่อน แกนพวงมาลยั แ แบ่งเป็น 2 ท่อนอย่เู ยือ้ งกนั โดยมีข ตวั เชื่อม

มาลยั เป็ นแกนเพลาที่ต่อระหว่างพวงมาลยั พลาหลกั ซึ่งทาํ หน้าท่ีส่งถ่ายแรงจาก พวงมาลยั แกนพวงมาลยั ท่ีใช้กบั รถ แบบนี้จะ ข้อต่อเป็ น 12

แกนพวง2. แบบทาํ เป็น 2 ท่อน ลกั ษณะนี้จะ กับแบบข้อต่ออ่อน แต่ใช้สลักเ พิเศษต่อไว้ 3. แ บ บ เ ห ล็ ก ต พวงมาลยั แบบน เป็นเหลก็ เหมือน

งมาลยัะคล้าย แป้นยดึ พวงมาลยั แคปซูล เกลียว ตวั ถงั แป้นยดึ งอตวั แกนพวงมาลยั (ตวั บน) สลกั พลาสตกิ แกนพวงมาลยั (ตวั ล่าง) ะแกรง แกน นี้จะทาํ ปลอกแกน นตะแกรง 13

4. แบบท่อและลูกปื นปลอกแ ต่อกนั ด้วยลกู ปื นซึ่งอดั แน่น ปลอกพว หมดุ พลาสตกิ บรเิ ว

แกนพวงมาลยั จะทาํ เป็ นท่อสองชนั้ นอย่รู ะหว่างท่อทงั้ สอง วงมาลยั ลกู ปืน ปลอกเพลาพวงมาลยั สว่ นล่าง วณทเ�ี สยี หาย ปลอกลกู ปืน ปลอกเพลาพวงมาลยั สว่ นบน 14

การถอดประกอ ภายหลงั จากการตรวจสอบก้านต่อบงั สึกหรอ ให้ปฏิบตั ิตามขนั้ ตอนดงั นี้ ถอดขาไก่ คนั ชกั และคนั ส่ง การถอดแขนประคอง

อบก้านต่อบังคบั เลยี้ ว งคบั เลี้ยวแล้ว ถ้าเกิดการหลวมหรอื ประกอบก้านต่อบงั คบั เลี้ยว มีการประกอบแขน ประคอง 15

การถอดประกอบก หมุนเวยี น ภายหลังก่ อนทําการถอดแล ะ ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของกระปุก พวงมาลัยแบบนี้ นั้น ควรจะต้อง ศึกษาโครงสร้างการทํางานและ ส่วนประกอบของมนั ก่อน เมื่อทํา การถอดจะได้ไม่ทําความเสียหาย ให้กบั ชิ้นส่วนต่างๆ

กระปุกพวงมาลยั แบบลูกปื น 16

การถอดประกอบ แบบเฟื องสะพาน ก ก ป โค ป

บกระปุกพวงมาลยั นและเฟื องขบั การถอดและประกอบกจ็ ะคล้ายคลึง กัน ก่อนท่ีจะทําการถอดแยกและ ประกอบจําเป็ นจะต้ องศึกษาถึง ครงสร้างให้เข้าใจก่อน เพ่ือที่จะได้ ปฏิบตั ิงานได้อย่างถกู ต้อง 17

งาน เ ยงบอก ห า ง บwos ระบบ เ ยประกอบวนบอก ของ ระบบ ง บ บอก ประเภท พวงมา ย กระ กของ บอก น ตอน ถอน ประกอบ ยก หมาก บอก เป ยนงตอน การ ใน เพาเวอ µ÷%t /าง- _ ้ร์รำน่ีลับัขัลุปีลัคับ่สีสัคับ่ัท้น

4 (Po

พวงมาลยั กาํ ลงั ower Steering Wheel) 1

ประเภทขอ พวงม Whee เป็ นพ ช่ ว ย การ หลัก คือ ก (Boo ทาํ งา

องพวงมาลยั กาํ ลงั มาลยั กาํ ลงั (Power Steering el) หรือพวงมาลยั เพาเวอร์ พวงมาลยั ที่ติดตงั้ อุปกรณ์ท่ี ในการบังคับเลี้ยว เพ่ือให้ ร ห มุ น พ ว ง ม า ลัย น้ อ ย ล ง กการของพวงมาลยั กําลัง ก็ การจัดอุปกรณ์ เพิ่ มกําลัง oster) อุปกรณ์เพิ่มกาํ ลงั จะ านเม่ือมีการหมนุ พวงมาลยั 2

เมื่อหมนุ พวงมาลยั จะเปิ ดลิ้นให้แรง น้ํามนั จะดนั ลูกสูบให้ไปบงั คบั กลไก ช่วยในการบงั คบั เลีย้ วภายในระบบ ใช้เครื่องยนต์ควบ ปัม๊ น้ํามนั ไฮดรอลิก ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ าค ของปัม๊ นํ้ามนั