การจดั ทำแผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน ค 12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 1หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2564 จดั ทำโดย นางสาวเตชินี หอมนาน ตำแหน่ง พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ ตำบลชา่ งเคง่ิ อำเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชยี งใหม่ สำนักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สำนักงานการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
แผนการจัดการเรียนรู้ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปีการศกึ ษา 2564 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 17 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรื่อง จำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง เตรียมความพร้อม 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดำเนนิ การสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ช้วี ัด ค 1.1 ป.2/1 บอกจำนวนของสงิ่ ตา่ งๆ แสดงสงิ่ ตา่ งๆ ตามจำนวนทีก่ ำหนด อา่ นและเขียนตวั เลข ฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทย ตวั หนังสอื แสดงจำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด บอกจำนวนของส่งิ ตา่ ง ๆ ไดจ้ ากการนับ 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกหลกั การอา่ นและการเขียนจำนวนนับไม่เกิน 1,000 (K) 2) เขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจำนวนนบั ทีก่ ำหนดให้ไดถ้ กู ต้อง (P) 3) อ่านตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ และตวั เลขไทยแสดงจำนวนนบั ท่ีกำหนดให้ได้ถกู ต้อง (P) 4) รบั ผิดชอบต่อหนา้ ทีท่ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การอ่านและการเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตัวหนงั สือแสดงจำนวน 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแก้ปญั หา ✓ การส่อื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ 1. ใช้ขอ้ มูลในหนังสือเรยี นหน้าเปิดบท เพือ่ กระตนุ้ ความสนใจเกยี่ วกับผลไมแ้ ละจำนวนผลไมช้ นิดต่าง ๆ โดยใช้คำถาม เช่น • ในภาพมผี ลไมอ้ ะไรบ้าง • ผลไมแ้ ตล่ ะชนิดมีจำนวนเทา่ ไร • ผลไม้ชนดิ ใดมจี ำนวนมากท่สี ดุ • ผลไม้ชนิดใดมจี ำนวนนอ้ ยทส่ี ดุ 2. สนทนาเกยี่ วกับการนำความร้เู รือ่ งการนับไปใช้ในการบอกจำนวนของส่ิงตา่ ง ๆ ทม่ี จี ำนวนมาก เช่นการนับจำนวนผลไมใ้ นหนา้ เปิดบท เราควรใช้การนบั ทลี ะ 100 ทีละ 10 ทลี ะ 5 หรือทลี ะ 2 เพ่อื นำเขา้ สู่ บทเรยี น ขั้นสอน 3. ใช้หนงั สือเรียนหนา้ เตรยี มความพร้อมเพื่อตรวจสอบความรพู้ ้ืนฐานของนกั เรียนเรอื่ งการนับ การเขียนแสดงจำนวนด้วยตัวเลข ตวั หนงั สือ การเปรียบเทียบ และการเรียงลำดบั จำนวนนบั ไม่เกิน 100 โดยทำกจิ กรรมสนุกกับจำนวน 4. เมอ่ื นกั เรียนทำกจิ กรรมเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอวิธกี ารนบั จากน้นั ครถู ามว่า นกั เรยี นมวี ิธกี ารนบั ผลไม้อยา่ งไร จนไดข้ ้อสรุปเก่ียวกบั การนับทีละ 10 ทำใหน้ ับไดร้ วดเรว็ ขน้ึ เมือ่ ได้ขอ้ สรุป เกีย่ วกับวิธกี ารนับแลว้ ขนั้ สรุป 5. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกันตรวจสอบ โดยการถาม - ตอบ เกี่ยวกับการเขยี นแสดงจำนวน การ เปรียบเทยี บและเรยี งลำดับจำนวนผลไมใ้ นแบบบันทกึ กจิ กรรม หากมนี ักเรียนท่ีมคี วามรู้พนื้ ฐานการนับและ การเขยี นแสดงจำนวนยังไมเ่ พียงพอ ครูอาจให้ทำแบบฝึกหัดเตรียมความพร้อมในหนงั สอื แบบฝกึ หัดหนา้ 2 10. ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่
2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจดั การเรียนรู้ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปกี ารศึกษา 2564 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง จำนวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การนับทลี ะ 2 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดขึน้ จากการดำเนินการสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.2/1 บอกจำนวนของสิ่งต่างๆ แสดงสงิ่ ตา่ งๆ ตามจำนวนที่กำหนด อา่ นและเขียนตวั เลข ฮินดอู ารบกิ ตวั เลขไทย ตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การนับทลี ะ 2 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายหลกั การนบั เพ่มิ ทีละ 2 ได้ (K) 2) อธบิ ายหลักการนับลดทลี ะ 2 ได้ (K) 3) นบั เพิม่ ทลี ะ 2 ได้ (P) 4) นบั ลดทีละ 2 ได้ (P) 5) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ จำนวนนบั ไม่เกิน 1,000 สามารถนับเพ่มิ และนับลดทลี ะ 2 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ การแกป้ ญั หา ✓ การสอื่ สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง การใหเ้ หตุผล การคดิ สร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 8. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. ทบทวนการนับส่ิงของต่าง ๆ ทีละ 1 และทีละ 10 เปน็ รายบคุ คลหรอื รายกลุ่ม โดยใช้สง่ิ ของหรอื บตั รภาพสิง่ ของต่าง ๆ มาใชใ้ นการนับ โดยเรม่ิ นับทลี ะ 1 จาก หนงึ่ สอง สาม ส่ี หา้ ...เกา้ สิบ 2. จากนัน้ ให้นบั จำนวนส่งิ ของหรอื บตั รภาพทเี่ ปน็ กอง กองละ 10 จาก สิบ ย่ีสบิ สามสบิ สสี่ ิบ ห้าสิบ ... สิบสิบ หรอื หนงึ่ รอ้ ย ขน้ั สอน 3. เม่อื นักเรียนทบทวนการนับทีละ 1 และทีละ 10 แล้ว ครูยกตัวอยา่ งการนับสง่ิ ของตา่ ง ๆ ทีละ 2 เชน่ เหรียญบาท 30 เหรียญ ตามหนังสือเรยี นหน้า 5 โดยการนบั ทีละ 2 จาก สอง สี่ หก แปด สบิ สิบสอง ... สามสบิ 4. ครใู ห้นกั เรียนดูภาพโบในหนงั สอื เรียนหนา้ 6 แลว้ ชว่ ยกันนบั ทลี ะ 2 พร้อมกัน จากน้นั ครูให้ นกั เรียนฝึกการนับสิง่ ของตา่ ง ๆ ทีละ 2 โดยใหด้ ูภาพกิ๊บและแก้วนำ้ ในหนังสอื เรยี นทลี ะภาพแลว้ ให้นักเรยี น ชว่ ยกนั นบั ทีละ 2 พรอ้ มกนั 5. หากนกั เรียนคนใดยงั นับไมค่ ลอ่ ง ครูอาจให้ฝึกนับทลี ะ 2เป็นรายบุคคล โดยใชส้ อ่ื ของจริง ครูอาจ เรม่ิ ต้นนบั สอง สี่ ให้ แลว้ ใหน้ กั เรยี นนับตอ่ จนครบ 6. หลงั จากนกั เรยี นฝกึ จนครบทกุ คนแลว้ ครใู หน้ ักเรียนฝึกนบั และบอกจำนวนขนมบ้าบ่นิ ในหนงั สอื เรียนหน้า 7 พรอ้ มกัน ซ่งึ การนับจำนวนขนมบ้าบ่ินจะเป็นการนับทีละ 10 ก่อน แลว้ นับทีละ 2 แล้วบอก จำนวนขนมบ้าบนิ่ ตามทนี่ ับได้ ทำนองเดียวกันครใู ห้นักเรียนฝกึ นบั และบอกจำนวนขนมตาล ซ่งึ การนับจำนวน ขนมตาลจะเปน็ การนบั ทีละ 10 ก่อน สว่ นที่เหลอื จะนับทลี ะ 2 และนับทีละ 1 ตามลำดับ พรอ้ มทง้ั บอก จำนวนขนมตาลที่นบั ได้ 7. จากน้ันครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันนบั จำนวนขนมน้ำดอกไม้แล้วบอกจำนวน โดยครใู ช้คำถามวา่ นักเรียนมีวิธกี ารนับอยา่ งไร ข้ันสรุป 8. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสรุปวา่ การนับขนมนำ้ ดอกไม้อาจนบั ทลี ะ 10 ก่อน สว่ นทเี่ หลือกน็ บั ทลี ะ 2 และนบั ทลี ะ 1 ตามลำดับ หรอื นบั ทลี ะ 10 กอ่ น และสว่ นทเ่ี หลอื ก็นับทีละ 1 9. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนนับขนมทองหยอดพร้อมท้งั วงรอบ ภาพแสดงการนบั ทีละ 2 แลว้ เขียนตัวเลขแสดงจำนวนทนี่ ับได้ หรอื ใหน้ ักเรยี นแสดงการนับทีละ 10 ก่อนแลว้ สว่ นท่เี หลอื จงึ นบั ทีละ 2 จากน้ันครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ที่ได้เรียนรู้
10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3. ส่ิงของทใี่ ช้ในการนบั เชน่ ไมไ้ อศกรมี หลอดกาแฟเมลด็ พืช ดินสอ ปากกา 4. ตวั นับ 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 2. เครื่องมือ 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่ ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจดั การเรียนรู้ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปกี ารศึกษา 2564 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง จำนวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การนับทลี ะ 5 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดขึน้ จากการดำเนินการสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.2/1 บอกจำนวนของสิ่งต่างๆ แสดงสงิ่ ตา่ งๆ ตามจำนวนที่กำหนด อา่ นและเขียนตวั เลข ฮินดอู ารบกิ ตวั เลขไทย ตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การนับทลี ะ 5 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายหลกั การนบั เพ่มิ ทีละ 5 ได้ (K) 2) อธบิ ายหลักการนับลดทลี ะ 5 ได้ (K) 3) นบั เพิม่ ทลี ะ 5 ได้ (P) 4) นบั ลดทีละ 5 ได้ (P) 5) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ จำนวนนบั ไม่เกิน 1,000 สามารถนับเพ่มิ และนับลดทลี ะ 5 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ การแกป้ ญั หา ✓ การสอื่ สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง การใหเ้ หตุผล การคดิ สร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 8. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. ครูให้นกั เรียนทำกจิ กรรม สนุกกับการนับทลี ะ 5ตามรายละเอยี ดในหนงั สอื เรียนหน้า 9 เพือ่ ฝึกการ นบั ทีละ 5 จากลกู อม 100 เม็ด ใหน้ กั เรยี นจดั ลูกอมเปน็ กอง กองละ 5 เม็ด เมอ่ื จดั เสรจ็ แลว้ ให้เริ่มนบั จากกอง แรก 5 เม็ด 2. ครใู ช้คำถามว่ามอี ยู่ 5 เพม่ิ อกี 5 เปน็ เท่าไร นกั เรยี นตอบ 10 ครแู ละนกั เรียนเขยี น 10 ลงในตาราง ครถู ามตอ่ อกี วา่ มอี ยู่ 10 เพ่ิมอกี 5 เป็นเท่าไรแล้วเขียนตวั เลขแสดงจำนวนลงในตารางต่อเนื่องไปเร่ือย ๆ จน ครบทกุ กอง จะได้ หา้ สบิ สบิ หา้ ยี่สบิ ย่ีสิบห้า สามสิบ สามสบิ หา้ สีส่ ิบ ส่ีสบิ ห้า หา้ สบิ ห้าสิบหา้ หกสิบ หก สบิ หา้ เจด็ สิบ เจด็ สบิ หา้ แปดสบิ แปดสิบหา้ เก้าสบิ เก้าสิบห้า หน่งึ รอ้ ย ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ กิจกรรม การนบั สงิ่ ของ ทลี ะ 5 ขั้นสอน 3. ครใู ห้นักเรยี นดูภาพในหนังสือเรียน หนา้ 10 และให้นักเรียนชว่ ยกันนบั ขา้ วโพดอ่อนทลี ะ 5 พรอ้ ม กัน แลว้ บอกจำนวนข้าวโพดอ่อน จากนัน้ ให้นักเรียนช่วยกันนบั บวบทลี ะ 5 พร้อมกนั แลว้ บอกจำนวนบวบ และช่วยกนั นบั มะเขือมว่ งทีละ 5 พรอ้ มกัน แลว้ บอกจำนวนมะเขอื มว่ ง 4. ครูใหน้ ักเรียนดภู าพในหนังสือเรียน หน้า 11 และให้นักเรยี นฝกึ นับแครร์ อต มะเขอื เทศและพริก หยวก ทีละ 5 พรอ้ มทงั้ บอกจำนวนเปน็ รายบุคคลหรอื รายกล่มุ ถา้ พบวา่ นกั เรียนคนใดยังนับทลี ะ 5 ไม่คล่อง ให้ฝึก นบั โดยใชส้ ่ือของจริงเปน็ รายบคุ คลกบั ครู ครอู าจนบั ห้า สิบ นำก่อนเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกิดความม่นั ใจในการนบั ขั้นสรปุ 5. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยใหน้ กั เรียนแต่ละคนนบั หอมหัวใหญ่ มะระขนี้ ก พรกิ ช้ฟี ้า พรอ้ มทง้ั วงรอบภาพแสดงการนับทีละ 5 แล้วเขยี นตวั เลขแสดงจำนวนทนี่ บั ได้ ครอู าจสุ่มนกั เรยี น ใหน้ ับหอมหัวใหญ่ มะระขี้นก พริกชฟ้ี ้า และบอกจำนวนเพื่อเปน็ การตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 6. จากนนั้ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงทไี่ ดเ้ รียนรู้
10. สอ่ื การเรียนรู้ 5. หนงั สือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 6. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 7. ลกู อม บัตรภาพ 11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจัดการเรยี นรู้ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปีการศกึ ษา 2564 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง จำนวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง จำนวนนบั ไม่เกิน 200 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดขนึ้ จากการดำเนินการสมบตั ขิ องการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.2/1 บอกจำนวนของส่งิ ต่างๆ แสดงสงิ่ ต่างๆ ตามจำนวนที่กำหนด อา่ นและเขยี นตวั เลข ฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนงั สอื แสดงจำนวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การอา่ นและการเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจำนวน 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกหลักการอ่านและการเขียนจำนวนนบั ไมเ่ กิน 200 (K) 2) เขียนตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจำนวนนับทีก่ ำหนดใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง (P) 3) อ่านตวั เลขฮินดูอารบกิ และตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ที่กำหนดให้ไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 4) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าทท่ี ไ่ี ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ จำนวนนบั ท่ีไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 สามารถอ่านและเขยี นเปน็ ตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย และ ตัวหนงั สอื 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ การแกป้ ัญหา ✓ การสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอื่ มโยง การให้เหตุผล การคดิ สรา้ งสรรค์
7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครูให้นักเรยี นนับมะพร้าวที่จัดเปน็ กอง กองละ 10 พรอ้ มกัน ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 13 โดยเริ่มนับ ต่อจาก 100 หรอื 10 สิบ จนครบทุกกอง ดังนี้ 11 สิบ 12 สิบ 13 สบิ 14 สิบ 15 สิบ 16 สบิ 17 สิบ 18 สิบ 19 สิบ 20 สบิ 2. ครแู นะนำว่า 11 สิบ คือ 10 สบิ กับ 1 สิบ หรือ 100 กับ 10 หรอื 110 12 สบิ คือ 10 สบิ กับ 2 สบิ หรือ 100 กับ 20 หรือ 120 13 สบิ คอื 10 สิบ กับ 3 สิบ หรือ 100 กบั 30 หรอื 130 20 สิบ คอื 10 สิบ กับ 10 สบิ หรือ 100 กบั 100 หรือ 200 20 สบิ หรือ 200 เขียนแสดงด้วยตวั เลขฮนิ ดูอารบิก 200 ตวั เลขไทย ๒๐๐ และ ตวั หนังสอื สองรอ้ ย 3. ครูอาจใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรมนบั นิว้ มือของนกั เรียนแตล่ ะคนทลี ะ 10 ไปจนครบ 20 สบิ หรือสองร้อย ขัน้ สอน 4. ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพแผน่ ตารางร้อย และแผ่นตารางสบิ ตามหนงั สอื เรียนหน้า 14 และ 15 ให้นกั เรยี นนับและออกเสยี งนบั พร้อมกนั 5. เมอื่ ครูเห็นว่านกั เรียนสามารถนับแผ่นตารางร้อยและแผ่นตารางสบิ ได้คล่องแลว้ ครอู าจให้นักเรียน ทำกจิ กรรมเปน็ กลุม่ กลุ่มละ 4 คน โดยแต่ละกลุม่ ใหน้ ักเรยี นหนึ่งคนออกมาติดแผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสบิ แล้วให้เพอื่ นในกลุ่มอีก 3 คนออกมาเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนงั สอื โดยแขง่ ขนั ครัง้ ละ 2 กลมุ่ กล่มุ ใดสามารถเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนงั สือเสร็จก่อนและถูกตอ้ งเปน็ ผู้ชนะ 6. จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเขยี นตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจำนวนของ แผน่ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ย ในข้อ 1 และ 2 ท้ายหน้า 15 ลงในกระดาษที่ครแู จกให้ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ขั้นสรปุ 7. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรียนแต่ละคนเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนงั สอื แสดงจำนวนของแผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสิบ และแผ่นตารางหน่วยท่กี ำหนดให้ ครแู ละ
นักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ถ้าพบว่านักเรยี นคนใดเขียนตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทยและ ตวั หนังสอื แสดงจำนวนไมถ่ ูกต้อง ใหแ้ ก้ไขใหม่ให้ถกู ตอ้ ง 8. จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ 10. สอื่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3. แผน่ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบ แผน่ ตารางหน่วย 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เครอื่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจดั การเรยี นรู้ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปีการศึกษา 2563 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง จำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0 เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 5 เร่ือง จำนวนนับ 201 ถงึ 1,000 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดข้ึนจากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตวั ชวี้ ัด ค 1.1 ป.2/1 บอกจำนวนของส่ิงต่างๆ แสดงสง่ิ ตา่ งๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขียนตวั เลข ฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสอื แสดงจำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอา่ นและการเขียนตัวเลขฮินดอู ารบกิ ตวั เลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจำนวน 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกหลักการอา่ นและการเขยี นจำนวนนับไม่เกิน 1,000 (K) 2) เขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนังสือแสดงจำนวนนับทกี่ ำหนดใหไ้ ดถ้ กู ต้อง (P) 3) อา่ นตวั เลขฮินดอู ารบิกและตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ทีก่ ำหนดให้ได้ถกู ต้อง (P) 4) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าทที่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ จำนวนนับที่ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 สามารถอ่านและเขยี นเปน็ ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย และ ตวั หนงั สือ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ญั หา ✓ การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอื่ มโยง การใหเ้ หตุผล การคดิ สร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 8. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. จากภาพตน้ กล้าดาวเรืองในหนังสอื เรยี นหน้า 17 ครใู ช้คำถามว่า มีต้นกล้าดาวเรอื งกก่ี ระบะ กระบะละกีต่ น้ นกั เรียนตอบว่า มี 10 กระบะ กระบะละ 100 ตน้ 2. จากนน้ั ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกันนับจำนวนต้นกลา้ ดาวเรอื งทลี ะ 100 ดงั น้ี 1 รอ้ ย 2 ร้อย ... 10 ร้อย ดังนั้น มีต้นกลา้ ดาวเรือง 10 รอ้ ย ตน้ ขนั้ สอน 3. ครูแนะนำว่า 10 ร้อย หรอื หน่ึงพนั เขียนแสดงดว้ ยตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก 1,000 ตวั เลขไทย ๑,๐๐๐ และตัวหนงั สือ หน่ึงพนั และการเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนท่ีมากกวา่ สามหลกั นิยมใช้เคร่ืองหมายจุลภาค ( , ) คั่น 4. จากภาพแผ่นตารางรอ้ ย แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วยในหนงั สอื เรียนหน้า 18 และ 19 ให้ นกั เรยี นนับและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนังสอื แสดงจำนวน เชน่ ภาพแรก นกั เรยี นนับได้ 200 กบั 1 หน่วย เขียนเปน็ ตัวเลขฮินดูอารบิก 201 ตัวเลขไทย ๒๐๑ และตวั หนงั สอื สองร้อยเอด็ จนครบทุก ภาพ 5. ครคู วรเนน้ ตรงภาพสดุ ทา้ ยนบั แผ่นตารางร้อยได้ 10 ร้อย หรอื หนึ่งพนั อาจแสดงด้วยภาพ ดังน้ี ขั้นสรุป 6. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนนบั แผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ และ แผ่นตารางหน่วย แล้วเขยี นตัวเลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจำนวน 7. จากนนั้ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ ส่ิงท่ไี ดเ้ รียนรู้ จากนัน้ ให้นักเรียนทำ แบบฝึกหดั 1.4 หน้า 9 – 10 10. สอื่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3. แผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสิบ แผ่นตารางหนว่ ย
11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจดั การเรยี นรู้ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปีการศึกษา 2564 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่ือง จำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0 เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 6 เร่ือง จำนวนนับ 201 ถงึ 1,000 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดข้ึนจากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตวั ชวี้ ัด ค 1.1 ป.2/1 บอกจำนวนของส่ิงต่างๆ แสดงสง่ิ ตา่ งๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขียนตวั เลข ฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสอื แสดงจำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอา่ นและการเขียนตัวเลขฮินดอู ารบกิ ตวั เลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจำนวน 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกหลักการอา่ นและการเขยี นจำนวนนับไม่เกิน 1,000 (K) 2) เขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนังสือแสดงจำนวนนับทกี่ ำหนดใหไ้ ดถ้ กู ต้อง (P) 3) อา่ นตวั เลขฮินดอู ารบิกและตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ทีก่ ำหนดให้ได้ถกู ต้อง (P) 4) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าทที่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ จำนวนนับที่ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 สามารถอ่านและเขยี นเปน็ ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย และ ตวั หนงั สือ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ญั หา ✓ การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอื่ มโยง การใหเ้ หตุผล การคดิ สร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. ครทู บทวนความรู้เร่อื ง จำนวนนบั ไม่เกิน 100 โดยครเู ขยี นจำนวนนบั ไม่เกิน 100 เป็นตัวเลขฮนิ ดู อารบิกบนกระดาน แล้วสุ่มนกั เรยี น 3-4 คน แล้วใหน้ กั เรียนเขยี นจำนวนท่คี รูกำหนดให้เปน็ ตวั เลขไทยและ ตัวหนงั สือ ขนั้ สอน 2. ครยู กตัวอยา่ งโดยติดบัตรภาพบนกระดาน แล้วครูขออาสาสมัครนักเรยี นออกมาเขยี นตัวเลขฮินดู อารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนงั สือแสดงจำนวนของภาพบนกระดาน เช่น (แนวตอบ 567 ๕๖๗ หา้ รอ้ ยหกสิบเจ็ด) (แนวตอบ 342 ๓๔๒ สามร้อยส่ีสบิ สอง) 3. ครเู ขยี นขอ้ ความบนกระดาน แลว้ ครูสุ่มนักเรียนออกมาอา่ นและเขียนตัวเลขแสดงจำนวนแทน ข้อความที่อยบู่ นกระดาน เช่น - 7 รอ้ ย กบั 7 สิบ กบั 3 หน่วย (แนวตอบ 773 ๗๗๓ เจด็ รอ้ ยเจด็ สบิ สาม) - 5 ร้อย กับ 0 สบิ กับ 5 หนว่ ย (แนวตอบ 505 ๕๐๕ ห้ารอ้ ยห้า) - 9 รอ้ ย กับ 4 สิบ กับ 6 หนว่ ย (แนวตอบ 946 ๙๔๖ เก้ารอ้ ยสี่สิบหก)
4. ครตู ดิ บตั รภาพบนกระดาน แลว้ ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกันอา่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจำนวนตำมรูปภำพ ดงั นี้ ข้นั สรุป 5. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถามและการรว่ มกันทำกิจกรรมกลุ่ม 10. สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3. บตั รภาพ 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 2. เครื่องมือ 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่ ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจัดการเรยี นรู้ 7 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง จำนวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 เวลา 17 ชั่วโมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 7 เรือ่ ง หลัก ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั ของจำนวนนับไม่เกิน 1,000 เวลา 1 ช่ัวโมง 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดำเนนิ การสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ชวี้ ัด ค 1.1 ป.2/1 บอกจำนวนของส่งิ ต่างๆ แสดงส่ิงต่างๆ ตามจำนวนทีก่ ำหนด อ่านและเขียนตัวเลข ฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย ตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั ของจำนวนนบั จะมคี า่ แตกตา่ งกนั ข้นึ อยู่กับว่า เลขโดดนั้นอยูใ่ นหลักใดและ มีค่าประจำหลักเทา่ ใด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกความหมายและความสมั พันธ์ระหวา่ งค่าประจำหลกั และค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั (K) 2) บอกหลกั ค่าประจำหลัก และค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของจำนวนนบั ได้ (P) 3) รับผิดชอบตอ่ หนา้ ที่ทีไ่ ด้รับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั และการเขียนตวั เลขแสดงจำนวนในรปู กระจาย 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ การแก้ปญั หา ✓ การสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่ือมโยง การให้เหตุผล การคดิ สร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 8. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ 1. จากภาพปลาในหนังสือเรยี นหนา้ 21 ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกับภาพ เช่น มีปลานลิ ถงุ ละ 100 ตัว กีถ่ งุ มปี ลานิลทัง้ หมดเท่าไร มปี ลาทองถุงละ 10 ตวั กี่ถงุ มีปลาทองทงั้ หมดเท่าไร มปี ลากดั ขวดละ 1 ตัว กขี่ วด มีปลากัดทง้ั หมดเท่าไร ครถู ามนกั เรยี นวา่ แม่ของขุนซ้อื ปลาทง้ั หมดกตี่ วั โดยนับจำนวนปลาท้งั หมดเปน็ 3 ร้อย กบั 1 สิบ กับ 2 เท่ากับ 312 ตัว ครแู นะนำว่า 312 เป็นจำนวนสามหลัก 3 ในหลักรอ้ ย มีคา่ 300 1 ในหลักสบิ มีคา่ 10 และ 2 ในหลกั หน่วย มีคา่ 2 ขนั้ สอน 2. จากภาพในหนังสือเรยี นหนา้ 22 ให้นักเรียนนบั แผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสิบและแผ่นตาราง หนว่ ย และบอกว่าภาพแตล่ ะภาพ มกี ร่ี ้อย กี่สิบ ก่ีหน่วย พร้อมท้ังบอกคา่ ประจำหลกั ของเลขโดดแต่ละตัว เชน่ ในภาพแรกนับแผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ยได้ 6 รอ้ ย กับ 0 สบิ กับ 7 หน่วย หรือ 607 6 ในหลักรอ้ ย มีคา่ 600 0 ในหลกั สิบมีค่า 0 และ 7 ในหลักหน่วย มีค่า 7 3. จากนัน้ ครแู นะนำจำนวนสี่หลักคือ 1,000 หลกั พันอยู่หลักถัดไปทางซ้ายของหลกั รอ้ ยเลขโดด 0 ใน หลกั ร้อย หลกั สิบ และหลกั หน่วยมีค่าเปน็ 0 และ 1 ในหลักพนั มีค่า 1,000 4. ครูให้นักเรียนบอกคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลักของ 423 ดงั น้ี 4 ในหลักรอ้ ย มีคา่ 400 2 ในหลกั สบิ มีค่า 20 และ 3 ในหลกั หน่วย มคี ่า 3 5. ครูแนะนำการเขยี น 423 ในรปู กระจายได้ 423 = 400 + 20 + 3 วา่ เปน็ การเขียนในรปู การบวก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั 6. จากนนั้ ครใู หน้ กั เรียนเขยี น 590 และ 705ในรปู กระจาย ตามหนังสอื เรียนหน้า 23 และ ครใู ห้สงั เกตวา่ ถ้าเลขโดดในหลกั ใดเป็น 0 อาจละการเขยี นเลขโดดน้ันได้ เช่น 705 = 700 + 5 7. ครยู กตวั อยา่ งจำนวนอื่น ๆ แลว้ ให้นักเรยี นออกมาเขยี นในรปู กระจายบนกระดานจากนัน้ ครูให้ นักเรียนช่วยกนั เขียนแสดงจำนวนในรปู กระจายในกรอบท้ายหนา้ 23 ขั้นสรุป 8. โดยให้นักเรียนเขียนค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและเขียนแสดงจำนวนในรูปกระจาย จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง ถ้าพบวา่ มนี กั เรียนคนใดเขียนค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั หรอื เขียนแสดงจำนวนในรปู กระจายไมถ่ กู ตอ้ ง ครูอาจแก้ไขเป็นรายบุคคลโดยให้ฝึกการเขยี นคา่ ของเลขโดดในแต่ ละหลกั หรอื เขียนแสดงจำนวนในรปู กระจายกับครู
9. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ท่ีได้เรยี นรู้ • จำนวนสามหลัก ถา้ เลขโดด 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 อย่ใู นหลักหนว่ ยมีค่าเปน็ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 อยู่ในหลักสิบมีค่าเป็น 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 และเลขโดด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถา้ อยู่ ในหลกั ร้อยมคี ่าเปน็ 100 200 300 400 500 600 700 800 900 ตามลำดับ • 1,000 เปน็ จำนวนสหี่ ลัก เลขโดด 0 ในหลักรอ้ ย หลักสิบ หลักหนว่ ย มีค่าเปน็ 0 เลขโดด 1 ในหลกั พนั มคี า่ 1,000 • การเขียนแสดงจำนวนในรปู กระจายเปน็ การเขียนในรูปการบวกค่าของเลขโดดในหลกั ต่างๆ ของจำนวนน้นั 10. จากน้ันใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัด 1.5 หนา้ 11 - 13 10. ส่ือการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3. บตั รภาพ 4. แผน่ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบ แผ่นตารางหนว่ ย 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น 3.3 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจัดการเรยี นรู้ 8 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ปีการศึกษา 2564 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง จำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 เรอ่ื ง การเปรียบเทียบจำนวน 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ช้วี ดั ค 1.1 ป.2/2 เปรยี บเทียบจำนวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 โดยใชเ้ ครื่องหมาย = ≠ > < 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เม่อื นำจำนวนสองจำนวนมาเปรยี บเทียบกัน อาจมคี า่ เท่ากันหรือไม่เทา่ กนั ถ้ามคี ่าไม่เทา่ กัน แสดงว่าต้อง มจี ำนวนใดจำนวนหนึง่ มีค่ามากกวา่ หรือนอ้ ยกว่าอีกจำนวนหนึ่ง เราสามารถใช้เครื่องหมาย = ≠ > < แทนคำ วา่ เทา่ กบั ไม่เทา่ กับ มากกวา่ น้อยกว่า เพื่อแสดงการเปรยี บเทยี บ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธบิ ายวิธีการเปรยี บเทียบจำนวนได้ (K) 2) เปรียบเทียบจำนวนสองจำนวนว่า มคี า่ เทา่ กัน ไมเ่ ทา่ กัน มากกว่า หรอื น้อยกวา่ ได้ถูกตอ้ ง (P) 3) เปรยี บเทียบจำนวนสองจำนวน โดยใช้เครื่องหมาย = > < ได้ (P) 4) รบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ีท่ไี ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การเปรียบเทยี บและเรยี งลำดบั จำนวน 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ัญหา ✓ การสือ่ สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่อื มโยง ✓ การใหเ้ หตุผล การคิดสร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. จากภาพในหนังสือเรียนหน้า 25 ครใู ช้คำถามว่า ใบบัวมีเงินในกระปุกออมสนิ เท่าไร และแกว้ ตามี เงินในกระปุกออมสนิ เท่าไร นกั เรียนตอบว่า ใบบัวมีเงินในกระปุกออมสิน 257 บาท แกว้ ตามีเงินในกระปุก ออมสิน89 บาท 2. จากนัน้ ครถู ามว่าใครมีเงินในกระปกุ ออมสนิ มากกว่ากนั ครแู นะนำวธิ กี ารเปรียบเทียบจำนวนเงนิ ดังนี้ 257 เป็นจำนวนสามหลกั 89 เป็นจำนวนสองหลัก ดังนัน้ 257 มากกวา่ 89 เพราะจำนวนสามหลักมีค่า มากกว่าจำนวนสองหลัก ดงั นนั้ ใบบวั มีเงนิ ในกระปุกออมสินมากกว่าแก้วตา ข้นั สอน 3. ครใู หน้ กั เรียนเปรยี บเทียบ 624 กบั 1,000 แล้วถามนักเรยี นว่า 624 เป็นจำนวนกี่หลัก และ 1,000 เปน็ จำนวนกห่ี ลัก นกั เรียนตอบว่า 624 เปน็ จำนวนสามหลกั และ 1,000 เป็นจำนวนส่ีหลกั ดงั นน้ั 624 < 1,000 หรอื 1,000 > 624 เพราะจำนวนสามหลักมคี ่าน้อยกว่าจำนวนสหี่ ลกั 4. จากนน้ั ครใู ห้นกั เรยี นเปรียบเทยี บ 90 กบั 319 จะไดว้ ่า 90 < 319 หรือ 319 > 90 เพราะจำนวน สองหลักมีค่าน้อยกวา่ จำนวนสามหลกั จากการเปรยี บเทยี บจำนวนข้างต้น พบวา่ จำนวนสองหลักมีคา่ น้อยกวา่ จำนวนสามหลัก และจำนวนสามหลักมีค่านอ้ ยกว่าจำนวนสีห่ ลัก 5. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปว่า จำนวนท่มี จี ำนวนหลกั นอ้ ยกกวา่ จะนอ้ ยกวา่ จำนวนทีม่ ีจำนวนหลกั มากกว่า หรอื จำนวนที่มจี ำนวนหลักมากกว่าจะมากกวา่ จำนวนที่มีจำนวนหลกั นอ้ ยกว่า 6. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เปรียบเทียบจำนวนโดยเตมิ เครือ่ งหมาย > หรือ < ตามหนังสือเรียนหน้า 27 และอธิบายเน้นย้ำในการใส่เครอื่ งหมายว่า จำนวนท่ีมีจำนวนหลกั มากกวา่ จะมีคา่ มากกว่าจำนวนที่มีหลักนอ้ ย กว่า หรือจำนวนทีม่ จี ำนวนหลักนอ้ ยกว่าจะมีค่านอ้ ยกวา่ จำนวนทมี่ จี ำนวนหลกั มากกว่า ข้ันสรุป 7. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยให้นกั เรยี นเตมิ เครื่องหมาย > หรือ < ตามหนงั สือเรียนหน้า 28 ครูอาจถามนักเรยี นเปน็ รายบคุ คลถึงวิธกี ารเปรียบเทียบจำนวนสองจำนวนทม่ี ีจำนวนหลกั ไม่เท่ากัน โดยให้ พจิ ารณา จากจำนวนหลกั วา่ ถ้าจำนวนใดมีจำนวนหลักมากกว่าจะมากกว่า หรือจำนวนใดมจี ำนวนหลกั นอ้ ย กว่าจะนอ้ ยกวา่
8. ส่ิงทีไ่ ด้เรียนรู้ • การเปรยี บเทยี บจำนวนสองจำนวนที่มจี ำนวนหลักไม่เทา่ กัน จำนวนท่มี จี ำนวน หลกั มากกวา่ จะมากกวา่ จำนวนที่มจี ำนวนหลักน้อยกวา่ 9. จากน้ันใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัด 1.6 หน้า 14 – 16 10. สอื่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3. บัตรภาพ 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ 2. เคร่อื งมอื 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจัดการเรยี นรู้ 9 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ปีการศึกษา 2564 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่อื ง จำนวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 9 เร่ือง การเปรียบเทียบจำนวน 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกดิ ขน้ึ จากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ชี้วัด ค 1.1 ป.2/2 เปรยี บเทยี บจำนวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0 โดยใช้เครอื่ งหมาย = ≠ > < 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เมื่อนำจำนวนสองจำนวนมาเปรยี บเทียบกัน อาจมีคา่ เท่ากันหรือไม่เทา่ กนั ถา้ มีค่าไม่เทา่ กัน แสดงวา่ ต้องมีจำนวนใดจำนวนหนงึ่ มีคา่ มากกว่าหรอื น้อยกวา่ อกี จำนวนหน่ึง เราสามารถใชเ้ ครื่องหมาย = ≠ > < แทน คำว่า เทา่ กบั ไม่เท่ากบั มากกวา่ น้อยกว่า เพือ่ แสดงการเปรยี บเทียบ 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายวิธีการเปรียบเทยี บจำนวนได้ (K) 2) เปรียบเทยี บจำนวนสองจำนวนว่า มคี า่ เท่ากัน ไมเ่ ท่ากัน มากกว่า หรอื นอ้ ยกว่าได้ถกู ตอ้ ง (P) 3) เปรยี บเทียบจำนวนสองจำนวน โดยใช้เครือ่ งหมาย = > < ได้ (P) 4) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การเปรียบเทยี บและเรียงลำดบั จำนวน 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหา ✓ การส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่ือมโยง ✓ การให้เหตุผล การคิดสร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 8. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. จากภาพในหนังสือเรยี นหนา้ 29 ครูใช้คำถามว่า ตน้ กลา้ สะสมแสตมปไ์ ด้กีด่ วง ขุนสะสมแสตมปไ์ ด้ ก่ีดวง นักเรยี นตอบวา่ ตน้ กล้าสะสมแสตมป์ได้ 368 ดวง ขุนสะสมแสตมป์ได้ 612 ดวง ครูถามตอ่ วา่ ใคร สะสมแสตมปไ์ ด้มากกว่ากัน ข้นั สอน 2. จากน้ันครแู นะนำการหาคำตอบโดยการเปรียบเทียบ 368 กับ 612 พิจารณาจากค่าของเลขโดดใน แตล่ ะหลกั เริ่มจากหลกั ทางซา้ ยสุดคอื หลักร้อยจะได้ 300 นอ้ ยกว่า 600 ดงั น้ัน 368 < 612 หรอื 612 > 368 นกั เรียนตอบคำถามได้ว่า ตน้ กล้าสะสมแสตมปไ์ ด้นอ้ ยกวา่ ขุน 3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั พจิ ารณาวา่ ในการเปรียบเทยี บจำนวนสองจำนวนใหพ้ ิจารณาจำนวนท่มี ีค่า ของเลขโดดในหลกั ซ้ายสุด ถ้าจำนวนใดมีคา่ ของเลขโดดในหลกั ซา้ ยสดุ มากกวา่ จำนวนนั้นจะมากกวา่ 4. จากน้นั ครใู หน้ ักเรียนช่วยกนั เปรียบเทียบ 685 กับ 558 และ 237 กบั 379 โดยใชข้ ้อสรปุ ท่ไี ด้จาก ขา้ งตน้ จะได้ 685 > 558 หรือ 558 < 685 และ 237 < 379 หรือ 379 > 237 5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ วา่ ในการเปรยี บเทียบจำนวนสามหลกั กบั จำนวนสามหลกั ให้ เปรยี บเทียบคา่ ของเลขโดดในหลกั ร้อยกอ่ น ถา้ จำนวนใดมีค่าของเลขโดดในหลกั รอ้ ยมากกว่าจะมากกว่า 6. ครูให้นักเรียนเปรยี บเทยี บ 427 กบั 451 โดยให้นักเรยี นเปรียบเทียบค่าของเลขโดดจากหลัก ทางซ้ายสุดกอ่ น จะไดว้ ่า 400 เท่ากบั 400 ดังน้ันจงึ ต้องพิจารณาคา่ ของเลขโดดในหลักสิบ พบว่า 20 นอ้ ยกว่า 50 จะได้ 427 < 451 หรอื 451 > 427 7. จากนัน้ ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันเปรียบเทยี บจำนวนในข้อ 1 – 4 ในกรอบท้ายหนา้ 30 พรอ้ มทั้ง ช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ วา่ ในการเปรยี บเทยี บจำนวนสามหลกั กับจำนวน สามหลกั ถ้าเลขโดดในหลกั รอ้ ยมีคา่ เท่ากนั ให้เปรียบเทยี บคา่ ของเลขโดดในหลักสบิ ถ้าจำนวนใดมคี า่ ของเลข โดดในหลักสิบมากกวา่ จะมากกวา่ 8. ครแู สดงการเปรียบเทียบ 897 กับ 893 โดยพจิ ารณาเลขโดดในหลักรอ้ ย หลักสิบ ของทง้ั สอง จำนวนว่ามีค่าเท่ากัน ดังนัน้ จงึ ให้พจิ ารณาค่าของเลขโดดในหลกั หน่วยจะได้ 7 มากกวา่ 3 ดงั นนั้ 897 > 893 หรือ893 < 897 จากน้ันครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกันเปรียบเทยี บจำนวนข้อ 1 - 4 ในกรอบทา้ ยหน้า 31 พรอ้ มทัง้ ตรวจสอบความถูกต้อง
ขนั้ สรุป 9. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรุปวา่ ในการเปรียบเทียบจำนวนสามหลกั กับจำนวนสามหลกั ถา้ เลขโดดในหลกั ร้อยมคี า่ เท่ากันและเลขโดดในหลกั สบิ มีค่าเท่ากนั ให้เปรยี บเทยี บค่าของเลขโดดในหลกั หนว่ ย ถา้ จำนวนใดมคี ่าของเลขโดดในหลกั หน่วยมากกว่าจะมากกวา่ 10. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น โดยใหน้ ักเรียนเปรยี บเทยี บจำนวนสามหลักสองจำนวนและ เติมเครือ่ งหมาย > หรอื < ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 32 ครูอาจถามนกั เรยี นเป็นรายบุคคลถงึ วิธีการเปรียบเทียบ จำนวนสามหลักสองจำนวน โดยใหพ้ ิจารณาว่า จำนวนทม่ี ีค่าของเลขโดดในหลกั ร้อยมากกว่าจะมากกวา่ 11. ถ้าเลขโดดในหลกั รอ้ ยมีค่าเท่ากนั จำนวนทม่ี ีคา่ ของเลขโดดในหลักสบิ มากกวา่ จะมากกว่า ถ้าเลข โดดในหลกั รอ้ ยมีคา่ เทา่ กนั และเลขโดดในหลกั สิบมีค่าเท่ากัน จำนวนทม่ี คี า่ ของเลขโดดในหลักหนว่ ยมากกวา่ จะมากกวา่ จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 1.7 หนา้ 17 – 19 10. ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3. บตั รภาพ 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่ ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจดั การเรยี นรู้ 10 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปีการศึกษา 2564 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง จำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 10 เร่อื ง การเรยี งลำดับจำนวน 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตัวช้วี ดั ค 1.1 ป.2/3 เรียงลำดบั จำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จำนวนจากสถานการณต์ า่ ง ๆ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียงลำดับจำนวน ทำได้โดยเปรยี บเทียบจำนวนทุกจำนวน แล้วนำมาเรียงลำดับจากน้อยไปมาก และจากมากไปนอ้ ย 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกหลักการเรยี งลำดับจำนวนจากน้อยไปมากและจากมากไปนอ้ ยได้ (K) 2) เรยี งลำดบั จำนวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อยได้ (P) 3) รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทท่ี ไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การเปรียบเทยี บและเรยี งลำดับจำนวน 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ัญหา ✓ การส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 8. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครูสนทนากบั นักเรยี นเก่ยี วกบั ภาพในหนังสือเรียนหนา้ 33 วา่ เปน็ ภาพอะไร มีหนงั สืออะไรบา้ ง หนังสอื ประวัติศาสตร์มกี ี่เลม่ หนังสอื สารคดีมีกี่เล่ม หนงั สอื ภมู ิศาสตร์มีกี่เล่ม 2. จากนัน้ ครตู ิดบตั รจำนวน 132 214 และ 315 บนกระดาน โดยให้แต่ละหลักตรงกนั แล้วถาม นกั เรียนว่ามีวิธีเรยี งลำดบั จำนวนจากนอ้ ยไปมากไดอ้ ยา่ งไร 3. ให้นกั เรียนพิจารณาเลขโดดในหลักร้อยของท้ังสามจำนวนวา่ จำนวนใดมคี ่าของเลขโดดในหลักร้อย มากทส่ี ุดและจำนวนใดมีค่าของเลขโดดในหลักร้อยน้อยที่สดุ จะได้ 315 มีค่าของเลขโดดในหลกั ร้อยมากทส่ี ดุ และ132 มีค่าของเลขโดดในหลักรอ้ ยน้อยที่สุด ดังนัน้ 315 มากที่สุด และ 132 น้อยท่สี ุดแล้วนำมาเรียงลำดบั จำนวนจากน้อยไปมากไดด้ งั นี้ 132 214 315 ดงั นั้น เรยี งลำดับจำนวน หนงั สอื จากนอ้ ยไปมากได้ 132 เล่ม 214 เล่ม 315 เลม่ ข้นั สอน 4. ครูอธบิ ายการเรียงลำดบั 632 414 475จากมากไปน้อย โดยหาจำนวนทีม่ ากทีส่ ุดและจำนวนที่ นอ้ ยท่สี ุดกอ่ น จากการพจิ ารณาค่าของเลขโดดในหลักร้อย หลักสิบ ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 34 จะได้ 632 มาก ท่สี ุด และ 414 นอ้ ยท่ีสุดดงั นั้น เรยี งลำดับจากมากไปนอ้ ยได้ดงั น้ี 632 475 414 จากนนั้ ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกัน เรียงลำดบั 763 925 796จากมากไปน้อย 5. ครตู ดิ บตั รตัวเลข 862 539 865 บนกระดาน ใหแ้ ตล่ ะหลกั ตรงกนั แล้วถามนกั เรียนว่ามีวธิ ี เรยี งลำดบั จำนวนจากนอ้ ยไปมากอย่างไร 6. ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาค่าของเลขโดดในหลกั รอ้ ย จะได้ 539 นอ้ ยทีส่ ดุ จากนัน้ พิจารณาเลขโดดใน หลักร้อย และเลขโดดในหลกั สิบของ 862 และ 865 พบวา่ เทา่ กนั ดังนน้ั จงึ พจิ ารณาคา่ ของเลขโดดในหลัก หนว่ ย จะได้865 มากกวา่ 862 จงึ ได้วา่ 865 มคี ่ามากทีส่ ดุ 7. ครใู ห้นักเรียนเรยี งลำดบั จำนวนจากน้อยไปมากดังนี้ 539 862 865 จากนั้นครใู ห้นักเรียน ช่วยกนั เรยี งลำดบั 239 182 233 จากนอ้ ยไปมาก โดยใหห้ าจำนวนทมี่ ากท่ีสุดและจำนวนท่นี อ้ ยทส่ี ุดก่อน แล้วจึงนำมาเรียงลำดบั
ขั้นสรุป 8. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรียนเรียงลำดบั จำนวนทีก่ ำหนดให้จากมากไปนอ้ ย และจากน้อยไปมาก ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 36 โดยให้หาจำนวนทมี่ ากทส่ี ุดและจำนวนทนี่ ้อยท่สี ดุ ก่อนแลว้ จงึ นำมาเรยี งลำดบั 9. ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและร่วมกันสรุปสงิ่ ท่ีไดเ้ รียนรู้ ถา้ พบว่า มนี กั เรียน คนใดเรียงลำดับจำนวนไมถ่ กู ตอ้ งใหม้ าฝกึ เรยี งลำดบั จำนวนกบั ครูเปน็ รายบคุ คล ส่งิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ • การเรยี งลำดับจำนวน 3 จำนวน อาจทำไดโ้ ดยหาจำนวนท่มี ากท่ีสุดและน้อยทส่ี ุด กอ่ นจากน้ันนำจำนวนมาเรยี งลำดบั จากมากไปนอ้ ยหรอื จากนอ้ ยไปมาก 10. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝึกหดั 1.8 หนา้ 20 - 21 10. สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3. บัตรตัวเลข 11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจดั การเรยี นรู้ 11 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปีการศึกษา 2564 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง จำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 11 เร่อื ง การเรยี งลำดับจำนวน 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตัวช้วี ดั ค 1.1 ป.2/3 เรียงลำดบั จำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จำนวนจากสถานการณต์ า่ ง ๆ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียงลำดับจำนวน ทำได้โดยเปรยี บเทียบจำนวนทุกจำนวน แล้วนำมาเรียงลำดับจากน้อยไปมาก และจากมากไปนอ้ ย 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกหลักการเรยี งลำดับจำนวนจากน้อยไปมากและจากมากไปนอ้ ยได้ (K) 2) เรยี งลำดบั จำนวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อยได้ (P) 3) รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทท่ี ไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การเปรียบเทยี บและเรยี งลำดับจำนวน 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ัญหา ✓ การส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 8. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกยี่ วกับภาพในหนงั สอื เรียนหนา้ 37 ว่าเปน็ ภาพอะไร นกั เรยี นระดบั ป.2 มี กคี่ น นักเรียนระดบั ป.3 มกี ี่คน นักเรยี นระดบั ป.4 มีกคี่ น นกั เรยี นระดบั ป.5 มกี ่คี น 2. จากนนั้ ครูตดิ บัตรจำนวน 416 342 193 และ 224 บนกระดาน โดยใหแ้ ต่ละหลักตรงกนั แล้วถาม นกั เรยี นว่ามวี ธิ ีเรียงลำดบั จำนวนจากมากไปนอ้ ยไดอ้ ย่างไร ข้ันสอน 3. ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาเลขโดดในหลักรอ้ ยของทัง้ ส่จี ำนวนว่า จำนวนใดมคี ่าของเลขโดดในหลกั ร้อย มากทีส่ ุดและจำนวนใดมีค่าของเลขโดดในหลกั รอ้ ยนอ้ ยทส่ี ดุ จะได้ 416 มีค่าของเลขโดดในหลักร้อยมากทส่ี ุด และ193 มีคา่ ของเลขโดดในหลกั ร้อยนอ้ ยทีส่ ดุ ดงั นน้ั 416 มากท่สี ดุ และ 193 น้อยทสี่ ุด จากนน้ั พจิ ารณา จำนวนท่เี หลอื คือ 342 และ 224 จะได้ 342 มีค่าของเลขโดดในหลกั รอ้ ยมากกวา่ 224 ดงั นนั้ 342 มากกว่า 224 แลว้ นำมาเรยี งลำดับ จำนวนจากมากไปนอ้ ยไดด้ งั น้ี 416 342 224 193 ดังน้ันเรียงลำดบั จำนวนนักเรยี น จากมากไปน้อยได้ 416 คน 342คน 224 คน 193 คน 4. ครตู ดิ บตั รตัวเลข 621 513 645 786 918บนกระดาน โดยให้แตล่ ะหลกั ตรงกนั แล้วถามนักเรียน วา่ มีวธิ เี รยี งลำดับจำนวนจากนอ้ ยไปมากอยา่ งไร 5. ครูแนะนำใหพ้ ิจารณาค่าของเลขโดดในหลักร้อยจะได้ 513 นอ้ ยท่สี ดุ และ 918 มากท่ีสดุ จากนัน้ พจิ ารณา 621 645 786 จะได้ 786 มากที่สดุ พิจารณาค่าของเลขโดดในหลักสิบของ 621 กับ 645 จะได้ 621 มีค่านอ้ ยกว่า 645 แล้วนำมาเรยี งลำดบั จำนวนจากน้อยไปมาก จะได้ 513 621 645 786 918 6. ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั เรียงลำดบั จำนวนจากน้อยไปมากในกรอบทา้ ยหนา้ 38 7. ครตู ิดบัตรตัวเลข 328 963 324 652 970 บนกระดาน โดยใหแ้ ต่ละหลกั ตรงกนั ครูถามนักเรียน วา่ มีวธิ ีเรยี งลำดับจำนวนจากน้อยไปมากอย่างไร ครูแนะนำใหพ้ จิ ารณาค่าของเลขโดดในหลกั รอ้ ยจะได้ 963 กับ 970มคี ่าของเลขโดดในหลกั รอ้ ยเทา่ กนั จึงพจิ ารณาคา่ ของเลขโดดในหลักสิบจะได้ 970 มากกว่า 963 ดงั นน้ั 970มีค่ามากทสี่ ดุ จากน้นั พิจารณาคา่ ของเลขโดดในหลักรอ้ ยท่มี คี ่านอ้ ยทสี่ ดุ จะได้ 328 กบั 324 มีค่า ของเลขโดดในหลักร้อยเท่ากนั ให้พิจารณาคา่ ของเลขโดดในหลักสิบจะไดว้ ่าคา่ ของเลขโดดในหลกั สิบเท่ากัน ดงั น้ันพจิ ารณาค่าของเลขโดดในหลักหน่วย จะได้ 324 นอ้ ยกว่า 328 จึงไดว้ ่า 324 มีคา่ น้อยท่ีสุด แลว้ นำมา เรียงลำดบั จำนวนจากมากไปน้อยได้ดังนี้ 970 963 652 328 324
ขน้ั สรุป 8. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยใหน้ กั เรียนเรยี งลำดับจำนวนทีก่ ำหนดให้จากมากไปน้อย และจากน้อยไปมาก ตามหนังสอื เรียนหนา้ 40โดยให้หาจำนวนทีม่ ากท่ีสดุ และจำนวนที่น้อยทีส่ ดุ ก่อนแลว้ จึง นำมาเรยี งลำดบั ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และรว่ มกนั สรุปส่งิ ท่ไี ด้เรยี นรู้ สงิ่ ที่ไดเ้ รียนรู้ • การเรียงลำดบั จำนวนอาจทำได้โดยหาจำนวนท่มี ากที่สดุ และน้อยทีส่ ดุ กอ่ น จากนั้น นำจำนวนมาเรยี งลำดับจากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมาก 9. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึกหดั 1.9 หน้า 22 – 23 10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3. บัตรตวั เลข 11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจดั การเรยี นรู้ 12 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปีการศึกษา 2564 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 17 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง จำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 12 เร่อื ง การเรยี งลำดับจำนวน 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตัวช้วี ดั ค 1.1 ป.2/3 เรียงลำดบั จำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จำนวนจากสถานการณต์ า่ ง ๆ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียงลำดับจำนวน ทำได้โดยเปรยี บเทียบจำนวนทุกจำนวน แล้วนำมาเรียงลำดับจากน้อยไปมาก และจากมากไปนอ้ ย 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกหลักการเรยี งลำดับจำนวนจากน้อยไปมากและจากมากไปนอ้ ยได้ (K) 2) เรยี งลำดบั จำนวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อยได้ (P) 3) รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทท่ี ไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การเปรียบเทยี บและเรยี งลำดับจำนวน 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ัญหา ✓ การส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 8. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ครทู บทวนความรู้เร่อื ง การเรียงลำดับจำนวน โดยครูยกตวั อย่างสองจำนวนบนกระดาน จากนน้ั ครู ให้นกั เรยี นเปรียบเทียบจำนวน แลว้ ครขู ออาสาสมัครนกั เรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น ดงั นี้ 1) 123 132 2) 389 389 3) 852 784 (แนวตอบ 1) 123 132 2) 389 = 389 3) 852 784) ขั้นสอน 2. ครตู ิดตารางแสดงจำนวนเงินออมของ ตน้ กง่ิ เนย และเหมาบนกระดาน แลว้ ครใู ห้นกั เรียนตอบคำถาม ดงั น้ี รายชือ่ เงนิ ออม (บาท) ต้น 611 ก่ิง 899 เนย 765 เหมา 600 - ใครออมเงนิ ได้มากทีส่ ดุ (แนวตอบ กิง่ ) - ใครออมเงนิ ไดน้ ้อยทส่ี ุด (แนวตอบ เหมา) - เรียงลำดับตามจำนวนเงินออมจากมากไปนอ้ ย (แนวตอบ 899 765 611 600) - เรยี งลำดบั ตามรายชือ่ ทมี่ ีจำนวนเงนิ ออมจากนอ้ ยไปมาก (แนวตอบ เหมา ต้น เนย กิ่ง) 3. ครูติดบัตรตวั เลขแสดงความยาวของเชือก 4 เส้น ดังน้ี 560 เมตร 200 เมตร 150 เมตร 300 เมตร
4. จากน้ันครตู ิดบัตรขอ้ ความบนกระดาน แลว้ ครูขออาสาสมคั รนักเรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอคำตอบ หน้าชนั้ เรยี น เชือกสีแดงยาวท่ีสุด เชือกสเี ขยี วส้ันท่สี ดุ สว่ นเชอื กสดี ำยาวกวา่ เชอื กสสี ม้ เชือกแตล่ ะสยี าว เทา่ ใด จากน้ันเรยี งลำดับสเี ชือกตามความยาวจากน้อยไปมาก (แนวตอบ เชือกสแี ดงยาว 560 เมตร เชอื กสีเขียวยาว 150 เมตร เชือกสดี ำยาว 300 เมตร และ เชอื กสีส้มยาว 200 เมตร เรียงลำดับตามสีเชอื กที่มคี วามยาวจากน้อยไปมากได้ ดงั น้ี สเี ขียว สีสม้ สี ดำ และสีแดง) ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ว่า การเรียงลำดับจำนวน ทำได้โดยเปรียบเทียบจำนวนทุกจำนวน แล้วนำมาเรียงลำดับจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อย 10. ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3. บตั รตัวเลข 4. ตารางแสดงจำนวนเงินออม 5. บตั รข้อความ 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่ 2. เครอ่ื งมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครผู ูส้ อน …………………………….. ตำแหน่ง …………………… เวลาทีใ่ ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทีส่ อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของ ผู้เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชนิ ี หอมนาน) ตำแหน่ง พนักงานราชการ
แผนการจดั การเรยี นรู้ 13 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปกี ารศกึ ษา 2564 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 17 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง จำนวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 13 เร่ือง จำนวนคู่ จำนวนค่ี 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดข้นึ จากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ชว้ี ัด ค 1.1 ป.2/1 บอกจำนวนของสง่ิ ต่าง ๆ แสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขยี นตัวเลข ฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนงั สอื แสดงจำนวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สิง่ ตา่ ง ๆ ที่มีจำนวนค่เู มื่อนำมาจัดเป็นคู่ แล้วครบคพู่ อดหี รือเหลอื เศษ 0 สว่ นส่งิ ต่าง ๆ ที่มีจำนวน คีเ่ ม่อื นำมาจดั เปน็ คู่ แลว้ เหลือเศษ 1 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายลักษณะของจำนวนคู่หรือจำนวนคไ่ี ด้ (K) 2) จำแนกจำนวนทก่ี ำหนดให้ว่าเปน็ จำนวนค่หู รือจำนวนคไี่ ด้ (P) 3) รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ จำนวนคู่ จำนวนคี่ 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ การแก้ปญั หา ✓ การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่อื มโยง ✓ การใหเ้ หตุผล การคิดสร้างสรรค์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420