บวรธรรมบพิธ รวมภาพ

บวรธรรมบพติ ร 200

บวรธรรมบพติ ร 201

บวรธรรมบ ิพตร 202 ทรงเป็นประธานสงฆ์เปิดวัดพุทธปทีป กรงุ ลอนดอน สหราชอาณาจกั ร พ.ศ. ๒๕๐๙

เสดจ็ ทอดพระเนตรกรงุ โรม บวรธรรมบ ิพตร 203ประเทศอติ าลี พ.ศ. ๒๕๐๙

เสดจ็ เยอื นนครเจนวี า ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ ระหว่างวันท่ี ๒๘ เมษายน-๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๓บวรธรรมบ ิพตร 204

๑๒๑. เสด็จเย่ยี มชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ลฟู วร์ (LouvreMuseum) ประเทศฝร่ังเศส ๒๗ เมษายนพ.ศ. ๒๕๒๓๒. เสด็จเย่ียมชมห้องกระจก พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส ๒๖ เมษายนพ.ศ. ๒๕๒๓ บวรธรรมบ ิพตร 205

บวรธรรมบพติ ร 206

๑ ๓ ๒๑. เสด็จเย่ียมชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม (Museum of Scienceand Industry) นครชิคาโก สหรัฐอเมริกาวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓๒. เสด็จเยีย่ มชมพพิ ธิ ภัณฑอ์ วกาศ (SpaceMuseum) กรุงวอชงิ ตนั ดซี ี สหรัฐอเมริกาวนั ท่ี ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓๓. เสด็จเย่ียมชมวัดพุทธแห่งนครชิคาโก(Buddhist Temple of Chicago) ซงึ่ เปน็ วดัญ่ปี ุน่ ทต่ี ง้ั อยใู่ นนครแห่งน้ี วันท่ี ๒๑ เมษายนพ.ศ. ๒๕๒๓ บวรธรรมบ ิพตร 207

บวรธรรมบ ิพตร 208 ตามเสด็จสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐฺ าย)ี ดกู าร พระศาสนาในประเทศศรลี งั กา พ.ศ. ๒๕๑๐

ทรงนมัสการพระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ บวรธรรมบ ิพตร 209ประเทศอนิ โดนเี ซยี ในคราวเสดจ็ ประทานบรรพชาแก่กุลบุตร ๔๓ คน ณ เมืองสมารงั พ.ศ. ๒๕๒๐

บวรธรรมบพติ ร 210

๑ บวรธรรมบ ิพตร 211 ๒๑. เสดจ็ ประกอบศาสนกจิ ณ ประเทศฟลิ ิปปินส์พ.ศ. ๒๕๑๑๒. เสดจ็ ประกอบศาสนกจิ ณ ประเทศออสเตรเลยีพ.ศ. ๒๕๑๑ เสดจ็ เยอื นปอ้ มอคั รา (Agra Fort) เมอื งอคั รา ประเทศ อินเดีย ในคราวได้รับมอบหมายจากมหาเถรสมาคม ให้นำ�จตุปัจจัยและสมณบริขารไปมอบให้แก่พระภิกษุ สามเณรในประเทศปากีสถานตะวันออก (ปัจจุบันคือ บงั คลาเทศ) จากเหตวุ าตภยั พรอ้ มทงั้ ดกู ารพระศาสนา ในปากสี ถานตะวนั ตก อินเดยี และเนปาล ระหว่างวนั ที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ ถึง ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔

บวรธรรมบพติ ร 212

๑ ๓๒๑. มหาราชคชสิงห์แห่งโจธปุระและมาร์วาร์ ๓. ทรงเวยี นเทยี น ณ ลุมพินี สถานทีป่ ระสูติและมหารานีเฮมลตา ราชเย ให้การรับรอง ของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ วนั ท่ี ๒๖ พฤศจกิ ายนณ พระราชวงั อุมเมท ภวัน ในโอกาสที่เสดจ็ พ.ศ. ๒๕๒๘รว่ มงานประชุมคีตาสากล ครง้ั ท่ี ๕ ทเ่ี มืองโชธปรุ ะ รฐั ราชสถาน ประเทศอนิ เดยี ระหวา่ งวันที่ ๑๔-๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๓๒. พิธีต้อนรับในคราวเสด็จเยือนเนปาลเพอื่ เปน็ พระอุปชั ฌายใ์ นการบรรพชากลุ บุตรชาวศากยะ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๓-๒๘ พฤศจกิ ายนพ.ศ. ๒๕๒๘ บวรธรรมบ ิพตร 213

บวรธรรมบ ิพตร 214 ๑๒ ๑. เสด็จไปทอดพระเนตรก�ำ แพงเมืองจีน ๓ บรเิ วณด่านปาตา๋ หลงิ ทางตอนเหนือของ กรงุ ปกั กง่ิ วนั ท่ี ๒๓ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ ๒. เสด็จเย่ียมชมจัตุรัสเทียนอันเหมิน กรงุ ปกั กงิ่ วนั ท่ี ๒๑ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ ๓. เสดจ็ เขา้ พบประธานาธบิ ดเี จยี งเจอ๋ หมนิ ณ ท�ำ เนยี บรฐั บาลจนี วันที่ ๒๔ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖

บวรธรรมบพติ ร 215

บวรธรรมบ ิพตร 216 เสดจ็ ทอดพระเนตรวดั โตไดจิ เมอื งนาระ ประเทศญี่ปุ่น วนั ที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑

บวรธรรมบพติ ร 217

บวรธรรมบพติ ร 218

เกยี รติคุณยอ่ มไมล่ ะบุคคลนั้น ผู้เป็นพหสู ตู บวรธรรมบ ิพตร 219 มอี รรถและธรรมได้สดบั มาก ประกอบด้วยศีลาจารวัตร สถิตในธรรม

บวรธรรมบ ิพตร 220 เถรธรรม ๔ สวาคตปาฏิโมกโข ทรงปาตโิ มกข์ รู้หลักแห่งวินัย ชำ�นิช�ำ นาญ และสามารถวนิ ิจฉยั ไดด้ ว้ ยดี

วิสุทธิกรณธรรมพระวนิ ยั ให้สวดสิกขาบทบญั ญตั ิอนั เปน็ หลกั ปฏบิ ตั ิ ดงั ทเ่ี รยี กวา่‘สกิ ขาบทมาในพระปาตโิ มกข’์ ซงึ่ พระสงฆก์ ไ็ ดส้ วดพระปาตโิ มกข์คือสวดพระวินัยบัญญัติของพระพุทธเจ้า ซ่ึงบัดนี้ก็มี ๒๒๗สิกขาบท ดังทีป่ ฏบิ ตั ิกนั อยู่จนทกุ วันน้ี การท�ำ อโุ บสถสงั ฆกรรมของพระภิกษสุ งฆ์ คอื การสวดพระปาฏิโมกข์ ได้แก่ สกิ ขาบทส่วนท่ีส�ำ คัญอนั พระผู้มพี ระภาคทรงบัญญัติไว้ขึ้นสู่กันฟัง พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติให้ทำ�ทุกกึ่งเดอื น พระธรรมเทศนาเรอ่ื ง วสิ ทุ ธกิ รณธรรมกถา ๒๖ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๙๓

บวรธรรมบ ิพตร 222 ภายหลงั สดบั พระปาตโิ มกขแ์ ลว้ พระภกิ ษุ สงฆว์ ดั บวรนเิ วศวหิ ารทกุ รปู จะถวายความ เคารพเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ดว้ ยทรงมพี รรษา มากที่สุดในวัด

ทรงปลงอาบัติ ก่อนสดับพระปาติโมกข์ บวรธรรมบ ิพตร 223ในคราวเสด็จประกอบพิธีฝังลูกนิมิตและสมมติสีมาวัดวงั พุไทร วนั ที่ ๘ มถิ นุ ายนพ.ศ. ๒๕๓๗

บวรธรรมบพติ ร 224

วดั วงั พไุ ทร วนั ท่ี ๘ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๗ บวรธรรมบ ิพตร 225

บวรธรรมบพติ ร 226

ทรงสดับพระปาติโมกข์ ณ อุโบสถวัดป่า บวรธรรมบ ิพตร 227ดาราภริ มย์ จังหวัดเชยี งใหม่ ในคราวเสด็จไปประกอบศาสนกิจในพื้นท่ีภาคเหนือปี พ.ศ. ๒๕๔๒

บวรธรรมบ ิพตร 228 ทรงสดับพระปาติโมกข์ ณ อุโบสถ วดั พระรามเกา้ กาญจนาภเิ ษก ในคราวเสดจ็ ประกอบพธิ ฝี งั ลกู นมิ ติ และสมมตสิ มี า วนั ที่ ๒๕ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓

เจา้ พระคุณสมเด็จฯ ทรงรับส่ังกบั พระอุปัฏฐากเมอ่ื คร้ังทป่ี ระชวรเขา้ รบั การรกั ษา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณไ์ ว้วา่“...ท่ีน่ีต้องการ ๒ อย่างเท่าน้ัน อย่าให้สตรีถูกต้องตัวที่นี่ เพราะท่ีน่ีแสดงอาบัติไม่ได้แล้วอ ย่ า ใ ห้ อ า ห า ร ล่ ว ง ลำ � ค อ ที่ นี่ เ กิ น ก ว่ า เ ท่ี ย งเพราะที่นี่ไม่รู้เวลาอีกแล้ว”

บวรธรรมบ ิพตร 230 ทรงสดับพระปาติโมกข์ ณ พระอุโบสถ วัดบวรนเิ วศวหิ าร เม่อื ปี พ.ศ. ๒๕๔๖

ทรงสดับพระปาติโมกข์ ณ พระอโุ บสถวดับวรนเิ วศวิหาร เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ตราบจนไปประทับรักษาพระองค์ ณ บวรธรรมบ ิพตร 231 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็เสด็จกลับมา สดับพระปาติโมกข์ ณ พระอุโบสถวัด บวรนเิ วศวหิ าร ทกุ วนั ธรรมสวนะเดอื นเพญ็ และเดือนดับ กระท่ังพระพลานามัย ไม่อำ�นวย คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา พยาบาล จงึ กราบทลู ใหง้ ดการเสดจ็ ไปสดบั พระปาตโิ มกขด์ งั กลา่ ว ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นต้นมา

บวรธรรมบพติ ร 232

เอวํ สวํ ฑฒฺ า หิ ตสสฺ ภควโต ปรสิ า บวรธรรมบ ิพตร 233 ยททิ ํ อญฺญฺมญฺญวฺ จเนน อญฺญมฺ ญฺญวฺ ุฏฺฐาปเนน บรษิ ทั ของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เจรญิ อยา่ งน้ี คือในการทวี่ า่ กลา่ วซง่ึ กนั และกัน ยงั กันและกนั ให้ออกจากโทษ

เถรธรรม ๕ อธกิ รณสมปุ ปาทวูปสมกสุ โล ฉลาดในการระงบั อธิกรณท์ เ่ี กิดขึ้นบวรธรรมบ ิพตร 234

บวรธรรมบพติ ร 235

บวรธรรมบ ิพตร 236 พระผู้ยังอธิกรณ์ให้สงบ ระงับด้วยดี ในฐานะที่เป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ซึ่งมีภาระหลัก ในการศกึ ษา ปฏบิ ตั ิ เผยแผศ่ าสนธรรม และแกไ้ ขปญั หาต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนแก่พระพุทธศาสนา อันเป็นหน้าท่ีโดยการบรรพชา อปุ สมบทกด็ ี ในฐานะของพระสงั ฆาธกิ าร สงั ฆปาโมกข์ ซง่ึ มภี าระ หน้าที่ในการป้องกัน บำ�บัด บำ�รุง รักษา พระพุทธศาสนา ทั้งศาสนบุคคล ศาสนธรรม ศาสนสถาน ศาสนพิธี ตามสมควร แก่กรณีก็ดี ในฐานะท่ีเป็นพระครู พระราชาคณะชั้นต่างๆ ซึ่งได้รับอาราธนาจากสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า องค์เอกอัครศาสนูปถัมภกว่า “ขอพระคณุ จงรบั ธรุ ะพระพทุ ธศาสนา เปน็ ภาระสงั่ สอน ชว่ ยระงบั อธกิ รณ์ และอนเุ คราะหพ์ ระภกิ ษสุ ามเณรในพระอาราม โดยควร” ประกาศพระบรมราชโองการใหญส่ ถาปนาสมเด็จพระญาณสงั วร สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ทรงปฏิบัติหน้าทก่ี รรมการตรวจบาลีสนามหลวงกองที่ ๑ (ป.ธ. ๙)วัดสามพระยา ระหวา่ งวันท่ี ๑๐-๑๕ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๑๗ บวรธรรมบ ิพตร 237

บวรธรรมบพติ ร 238

ช่วยคลี่คลายวิกฤตของชาติในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ โปรดให้เผยแพร่คำ�เตือนสติจากคณะสงฆ์ในชอื่ วา่ ‘สมั มาสต’ิ โดยโปรดใหน้ �ำ ไปแจกแกผ่ ทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งทุกฝา่ ย วนั ที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ บวรธรรมบ ิพตร 239

พระโอวาทเนอ่ื งในวนั ขน้ึ ปใี หม่ พ.ศ. ๒๕๓๖ ทรงประทานข้อคิดท่ีมีเน้ือหาระงับความ ขดั แยง้ ทางการเมอื งบวรธรรมบ ิพตร 240

บวรธรรมบพติ ร 241

บวรธรรมบพติ ร 242

๑ ช่วยบำ�ราศวกิ ฤตพระศาสนา บวรธรรมบ ิพตร 243 ๓ ตง้ั แตพ่ ระองคไ์ ดท้ รงรบั ภาระในการคณะสงฆ์ เจา้ พระคณุ ๒ สมเดจ็ ฯ ไดท้ รงเอาพระทยั ใสใ่ นการบรหิ ารการคณะสงฆ์ ทั้งในด้านปกครองดูแลและการระงับอธิกรณ์น้อยใหญ่๑. เป็นประธานการประชุมเจา้ ที่เกิดขึ้นในสังฆมณฑลให้ลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งเรียกได้ว่าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เป็นการอนุเคราะห์ คือจัดการให้ผ่านพ้นไปเป็นท่ีณ พุทธมณฑล ประจำ�ปี พ.ศ. เรียบรอ้ ยด้วยพระเมตตาธรรมและยุติธรรม๒๕๓๕๒. เปน็ ประธานการประชมุ คณะกรรมการบริหารคณะธรรมยุตณ ตึก สว ธรรมนเิ วศ วัดบวร-นเิ วศวหิ าร พ.ศ. ๒๕๔๒๓. เป็นประธานในการประชุมมหาเถรสมาคม ณ พระต�ำ หนกัเพ็ชร วัดบวรนเิ วศวหิ าร พ.ศ.๒๕๔๔

บวรธรรมบพติ ร 244

เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทอดพระเนตรบริเวณ บวรธรรมบ ิพตร 245ทเี่ กดิ อัคคีภัยหลงั วัดบวรนเิ วศวิหาร บริหารการพระอาราม ทรงดูแลการบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามให้งดงาม ทรงปรับปรุงแก้ไขระเบียบปฏิบัติ ท้ังในส่วนพระภิกษุ สามเณร และในส่วนผู้อาศัยเกี่ยวข้องกับพระอาราม ให้เรียบร้อยเหมาะสมกับยุคสมัย พร้อมท้ังทรงวินิจฉัย ตัดสินภาระธุระเกี่ยวกับพระอารามในทุกด้านให้ผ่านพ้น ไปด้วยดี

บวรธรรมบพติ ร 246

ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ในการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณร บวรธรรมบ ิพตร 247วัดบวรนิเวศวิหาร เปน็ เวลากว่า ๕๐ ปี

บวรธรรมบ ิพตร 248 พธิ อี ุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศ- วิหาร เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ในขณะยงั ด�ำ รง สมณศกั ดทิ์ พ่ี ระสาสนโสภณ ภายหลงั จาก ทรงไดร้ บั แตง่ ตงั้ เปน็ พระอปุ ชั ฌายม์ าตง้ั แต่ ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ทรงเป็นพระอุปัชฌายใ์ นการ อุปสมบทนาคหลวง ณ พระอโุ บสถ วัดพระศรีรตั นศาสดาราม

สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ บวรธรรมบ ิพตร 249เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงกล่าวถึงพระคติของสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯไวใ้ นพระธรรมเทศนาคราวหนง่ึ วา่ “ในสมยั หลงั เมอ่ื พระวรกายถงึ ทพุ พลภาพไม่อาจประทานพระโอวาทได้ตลอด ก็ทรงพยายามประทานแม้น้อยคร้ังเพราะทรงเหน็ ตามสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรสทเี่ คยตรัสไว้แก่พระองค์ว่า เป็นอุปัชฌาย์แล้ว ไม่ได้สอนพระที่บวชใหม่เองก็เหมือนเปน็ มารดาแล้วมไิ ดเ้ ลยี้ งบตุ รด้วยขโี รทกของตนเอง” พระธรรมเทศนา เย ธัมมาติ ปภูติกถา ทรงแสดงเมื่อครั้งดำ�รงสมณศักดิ์ที่พระธรรมวราภรณ์