Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลงานนำเสนอใน PULINET 9th ที่น่าสนใจ

ผลงานนำเสนอใน PULINET 9th ที่น่าสนใจ

Published by Naresuan University Archive, 2019-01-24 02:26:54

Description: ผลงานนำเสนอใน PULINET 9th Selected
ทั้งผลงานนำเสนอแบบวาจาและโปสเตอร์

Keywords: PULINET,PULINET 9th

Search

Read the Text Version

- กรณี OAR-DCMS เดมิ และใหม่ ให้ใช้ URL ของชือ่ เร่ืองน้ันในระบบ OPAC เน่ืองจำก เอกสำรฉบับเตม็ ถกู แบ่งย่อยออกเป็นบทจำนวนหลำยไฟล์ - กรณี TDC และ PSU Knowledge Bank ให้ใช้ URL จำกเขตข้อมูลย่อย u ได้เลย เน่ืองจำกจะต้องเชื่อมโยงไปยังระบบฐำนข้อมูลที่จัดเก็บต้นฉบับของชื่อเรื่องนั้นอีกทีหนึ่ง ในที่น้ีก็คือ ระบบ TDC และระบบ PSU Knowledge Bank 2. กำรพฒั นำระบบสำรสนเทศ ทมี งำนประชุมหำรือเพื่อรวบรวมและวเิ ครำะห์ควำมต้องกำรของระบบ Full Paper Access ทต่ี อ้ งกำรให้จดั ส่ง URL จำกขัน้ ตอนท่ี 1 ไปยังอีเมลของผใู้ ชบ้ ริกำรได้ ควำมสำมำรถทัว่ ไป ของระบบ ได้แก่ 1) รองรบั กำรนำเขำ้ (Import) ข้อมลู บรรณำนุกรมของวิทยำนิพนธ์และงำนวิจัย จำกระบบห้องสมุดอัตโนมัติในขอบเขตข้อมูลเลขท่ีบรรณำนุกรม ชื่อเรื่อง เลขเรยี ก ผู้แต่ง และ URL จำกเขตข้อมูล 856 (เขตข้อมูลย่อย u) ได้ 2) เพมิ่ ลบ แก้ไข ขอ้ มูลวทิ ยำนพิ นธ์และงำนวจิ ัยใหม่ได้ 3) สร้ำงสญั ลักษณ์ QR Code ประจำช่ือเร่อื งวทิ ยำนพิ นธ์และงำนวิจยั ได้ 4) สง่ URL สำหรับดำวน์โหลดเอกสำรฉบับเตม็ ของวิทยำนิพนธ์และงำนวิจัยแตล่ ะชือ่ เรอื่ ง ไปยงั อีเมลหรือ Social network ท่ผี ใู้ ชต้ อ้ งกำรได้ 5) ตรวจสอบและนบั จำนวนกำรเข้ำถงึ เพ่ือดำวน์โหลดเอกสำรฉบับเต็มของวทิ ยำนิพนธ์ และงำนวิจัยแตล่ ะช่ือเร่ืองได้ ผพู้ ัฒนำได้ใชแ้ นวทำงในกำรออกแบบระบบตำมหลักกำรของวงจรกำรพัฒนำระบบ (SDLC) ตั้งแตก่ ำรวำงแผน กำหนดขอบเขตควำมเป็นไปได้และข้อจำกัดของระบบ สู่กำรออกแบบและ พัฒนำระบบ กำรควบคุมกำรเข้ำถงึ ขอ้ มูล หน้ำที่และควำมสำมำรถในแตล่ ะระดับชนั้ ของผใู้ ชง้ ำน ระบบกำรพฒั นำระบบโดยใชเ้ ทคโนโลยเี วบ็ แอพพลิเคช่ัน (Web-based application technology) ผู้พฒั นำไดเ้ ลือกใชโ้ ปรแกมภำษำ PHP และ JavaScript ทำงำนรว่ มกบั ระบบจดั กำรฐำนข้อมลู MySQL และซอฟตแ์ วร์สำหรับบริกำรเครื่องแม่ข่ำย Apache ซึ่งทัง้ หมดเปน็ Open source software ท่ไี ม่มลี ิขสิทธแ์ิ ละค่ำใชจ้ ่ำย

ภำพที่ 1 แสดง Context diagram ของระบบ Full Paper Access ภำพท่ี 2 แสดงหนำ้ จอ Back office ของระบบ Full Paper Access 3. กำรจดั กำรข้อมูลตวั เลม่ และจดั เตรียมตัวเลม่ เพ่อื ใหบ้ รกิ ำร ในครงั้ แรกจะทำกำรนำเข้ำข้อมลู บรรณำนุกรมของวิทยำนิพนธแ์ ละงำนวิจัยจำกระบบ หอ้ งสมุดอัตโนมตั ิเข้ำสฐู่ ำนข้อมลู ระบบ Full Paper Access หลังจำกนั้นจงึ จะเปน็ กำรบันทกึ ข้อมลู ตัวเล่มใหม่ตำมปกติ ขั้นตอนกำรทำงำนมดี งั นี้ 3.1 บรรณำรักษ์ได้รบั ตวั เลม่ วทิ ยำนพิ นธแ์ ละงำนวจิ ยั พร้อมไฟล์อเิ ล็กทรอนิกส์ ทำกำรบันทึกข้อมูลเข้ำสู่ระบบฐำนขอ้ มลู PSU Knowledge Bank (หรือ TDC) ระบบห้องสมุด อัตโนมัติ และระบบ Full Paper Access ตำมลำดับ

3.2 ระบบ Full Paper Access ทำกำรแจง้ เตือนให้ผู้ปฏิบตั งิ ำนหอ้ งสมุดทรำบวำ่ ขณะน้ีได้มีตวั เลม่ ใหม่เข้ำมำ 3.3 ผูป้ ฏบิ ัตงิ ำนห้องสมดุ รบั ตัวเลม่ จำกบรรณำรักษ์ จดั พิมพ์และตดิ สัญลกั ษณ์ QR Code ท่ไี ด้จำกระบบ Full Paper Access ไว้บนปกหนำ้ ของตัวเล่มแล้วนำขึ้นช้นั เพ่ือใหบ้ รกิ ำร 3.4 ผู้ปฏบิ ตั ิงำนหอ้ งสมุดปรับเปลีย่ นสถำนะกำรติดสัญลักษณ์ QR Code ประจำตวั เล่ม ภำพที่ 3 แสดงกำรบนั ทึกข้อมลู ตวั เลม่ ใหม่

ภำพท่ี 4 แสดงหน้ำจอกำรสร้ำง QR Code ตำมลำดับเลขเรียก ภำพที่ 5 แสดงข้นั ตอนกำรพิมพ์และตดิ QR Code ท่ีปกหน้ำของตัวเลม่

4. กำรประชำสมั พนั ธแ์ ละประเมินควำมพึงพอใจต่อกำรใช้บรกิ ำร ทำกำรประชำสัมพนั ธ์ผ่ำนทำงช่องทำงต่ำง ๆ ได้แก่ เวบ็ ไซต์ อีเมล หนำ้ จอประชำสมั พันธ์ ดจิ ิทลั และ Social network ของห้องสมดุ รวมถึงจดั ทำป้ำยโฆษณำในลักษณะโฟมบอร์ดวำงไวใ้ น ตำแหนง่ ทมี่ ผี ู้ใช้บริกำรสญั จรไปมำและภำยในห้องวิทยำนิพนธ์ฯ เพอ่ื ดึงดูดควำมสนใจและเชิญชวนให้ เขำ้ ใช้บรกิ ำร ทีมงำนได้เชญิ กล่มุ ตวั อยำ่ งซ่ึงเปน็ นักศกึ ษำสำขำวชิ ำกำรจดั กำรสำรสนเทศ คณะมนุษยศำสตรแ์ ละสงั คมศำสตร์ จำนวน 30 คน มำทดลองใช้บรกิ ำรระบบ Full Paper Access พรอ้ มทำกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจตอ่ กำรใช้บริกำรในประเด็นตำ่ ง ๆ ได้ผลตำมตำรำงท่ี 1 ภำพท่ี 6 แสดงกำรจัดทำกรำฟิกประกอบกำรประชำสมั พันธ์และบรรยำกำศกำรทดลองใช้งำนระบบ สรุปผล อภปิ รายผล ข้อเสนอแนะและการนาไปใชป้ ระโยชน์ กำรพัฒนำระบบ Full Paper Access บรกิ ำรชว่ ยกำรเขำ้ ถึงเอกสำรฉบับเตม็ วิทยำนิพนธ์ และงำนวิจัยผำ่ น QR Code ของหอสมุดจอหน์ เอฟ เคนเนดี้ ผใู้ ช้บรกิ ำรจะสำมำรถเขำ้ ถงึ เอกสำร ฉบบั เต็มของวิทยำนิพนธแ์ ละงำนวิจยั ดว้ ยควำมสะดวกรวดเร็ว เพรำะไม่ตอ้ งผำ่ นกำรสืบคน้ OPAC หรือทำกำรยมื -คืน เพื่อนำไปถ่ำยสำเนำ เกิดกำรใช้งำนวทิ ยำนิพนธ์และงำนวจิ ยั อย่ำงเต็มทแ่ี ละ ไมจ่ ำกัดเพียงแค่เฉพำะผู้ใดผู้หนง่ึ

ผลประเมินจำกกำรทดลองให้บริกำรกับกลุ่มตัวอย่ำงจำนวน 30 คน ในประเด็น ควำมพึงพอใจด้ำนต่ำง ๆ (ตำรำงท่ี 1) พบว่ำได้รับกำรแปลผลอยู่ในระดับมำกท่ีสุดทุกประเด็น โดยคำถำมในหัวข้อบรกิ ำรน้ีมสี ่วนชว่ ยในกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ งำนวจิ ัย มคี ำ่ เฉล่ียสูงที่สุด (4.89) ตำรำงท่ี 1 สรุปผลประเมินควำมพงึ พอใจในกำรใชบ้ ริกำร Full Paper Access ของผใู้ ช้บริกำร ความพึงพอใจในการใช้บริการ Full Paper Access สรุปผลการประเมิน X SD แปลผล 1. กำรสแกน QR Code ทตี่ วั เลม่ 4.70 0.15 มำกทส่ี ดุ 2. กำรแสดงข้อมูลท่ีหน้ำจออปุ กรณ์ 4.85 0.11 มำกท่ีสดุ 3. กำรระบุที่อย่อู เี มลเพ่ือจัดสง่ ลงิ ค์ดำวน์โหลด Full paper 4.82 0.12 มำกที่สุด 4. กำรแชร์ขอ้ มูลไปยัง Social network 4.67 0.17 มำกทสี่ ุด 5. กำรได้รบั อีเมลเพื่อดำวน์โหลด Full paper มีควำมรวดเรว็ 4.81 0.12 มำกท่ีสุด ถูกต้อง และครบถ้วน 6. บริกำรน้มี ีสว่ นชว่ ยในกำรศกึ ษำค้นควำ้ งำนวจิ ัย 4.89 0.10 มำกท่สี ุด 4.79 0.13 มากทสี่ ุด เฉลย่ี รวม นอกจำกน้ียงั มีข้อเสนอแนะจำกกล่มุ ผู้ทดลองใชง้ ำนระบบหลำยทำ่ น คิดเห็นว่ำอยำกให้ ห้องสมุดขยำยขอบเขตกำรดำวนโ์ หลดเนือ้ หำฉบบั เต็มของทรัพยำกรสำรสนเทศประเภทอื่น ๆ ที่สำมำรถเผยแพร่ได้เพิม่ เติมอีกดว้ ย ผลประเมนิ จำกกำรใชง้ ำนระบบ Full Paper Access ของผู้ให้บรกิ ำร (บรรณำรักษ์ และผปู้ ฏบิ ัตงิ ำนห้องสมดุ ) จำนวน 2 คน ในประเด็นควำมพึงพอใจดำ้ นกระบวนกำรและข้ันตอน กำรทำงำนต่ำง ๆ (ตำรำงท่ี 2) พบวำ่ ได้รบั กำรแปลผลอย่ใู นระดบั มำกท่สี ดุ ทุกประเดน็

ตำรำงท่ี 2 สรุปผลประเมนิ ควำมพงึ พอใจในกำรใช้งำนระบบ Full Paper Access ของผใู้ ห้บริกำร ความพงึ พอใจในการใชง้ านระบบ Full Paper Access สรุปผลการประเมิน X SD แปลผล 1. กำร Login เข้ำใช้งำนระบบ 5.00 0.00 มำกท่สี ดุ 2. กำรเข้ำถึงเมนเู พ่ือทำงำนตำ่ ง ๆ 5.00 0.00 มำกที่สุด 3. กำรบนั ทกึ และจัดกำรข้อมูลตัวเลม่ 5.00 0.00 มำกที่สุด 4. กำรสร้ำง QR-Code ประจำตัวเลม่ 5.00 0.00 มำกท่ีสดุ 5. กำรค้นหำข้อมูลตวั เลม่ 5.00 0.00 มำกทส่ี ุด 6. ควำมถกู ต้อง ครบถ้วน สมบรู ณข์ องข้อมลู ตัวเล่ม 4.50 0.50 มำกทีส่ ุด 7. ประสทิ ธิภำพและเสถียรภำพในกำรทำงำนของระบบ 4.50 0.50 มำกทส่ี ุด 8. ควำมพงึ พอใจทม่ี ีต่อระบบในภำพรวม 5.00 0.00 มำกที่สดุ 4.88 0.13 มากท่สี ุด เฉล่ียรวม ประโยชน์ทคี่ ำดว่ำจะได้รับ 1. เพมิ่ ช่องทำงในกำรเขำ้ ถึงเอกสำรฉบบั เตม็ ของวิทยำนิพนธ์และงำนวิจยั ทม่ี บี รกิ ำรอยใู่ น หอ้ งวทิ ยำนพิ นธ์ฯ ชัน้ 3 หอสมดุ จอห์น เอฟ เคนเนด้ี 2. ผ้ใู ชบ้ รกิ ำรสำมำรถเข้ำถงึ เอกสำรฉบบั เต็มของวิทยำนิพนธแ์ ละงำนวจิ ยั ด้วย ควำมสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องผ่ำนกำรสบื ค้น OPAC หรอื ทำกำรยืม-คนื เพ่ือนำไปถ่ำยสำเนำ 3. วทิ ยำนิพนธ์และงำนวิจัยถูกใช้งำนอย่ำงเตม็ ที่ ไมจ่ ำกัดเพียงแค่เฉพำะผู้ใดผู้หนงึ่ 4. ผใู้ ชบ้ รกิ ำรมรี ะดับควำมพึงพอใจโดยรวมตอ่ กำรใหบ้ รกิ ำรของห้องสมุดมำกยง่ิ ขึ้น กำรนำไปใชป้ ระโยชน์ในงำนห้องสมดุ บริกำร Full Paper Access จะสำมำรถช่วยเหลอื นักวจิ ัยหรอื ผ้ใู ชบ้ ริกำรท่ีต้องกำรเข้ำถงึ วิทยำนิพนธแ์ ละงำนวิจัยจำนวนมำก โดยกำรดำวน์โหลดเอกสำรฉบับเตม็ จำกกำรสแกน QR Code ทต่ี ัวเลม่ แทนกำรถ่ำยสำเนำ หรอื ยืมออกซึ่งอำจถูกจำกดั สิทธจ์ิ ำนวนกำรยมื ถอื เป็นอีกหนีง่ บริกำร เชงิ รุกทชี่ ว่ ยเพมิ่ ประสิทธิภำพกำรใหบ้ ริกำรทรพั ยำกรประเภทวิทยำนพิ นธแ์ ละงำนวิจัยของห้องสมุด สร้ำงมลู คำ่ เพิ่มและช่วยขับเคลือ่ นงำนหอ้ งสมดุ ใหส้ ำมำรถดำเนินภำรกิจไปได้อย่ำงรำบรนื่ และ เกดิ ประโยชน์สงู สดุ ตอ่ ผู้ใช้บริกำร

บริการ Journal Current Contents ศนู ยบ์ รรณสารและสอ่ื การศึกษา มหาวทิ ยาลัยแมฟ่ า้ หลวง Journal Current Contents Service: Learning Resources and Educational Media Center, Mae Fah Luang University ดนทั ธ์ ไชยสทิ ธ์ิ, เบญจวรรณ บุญพัวพันธ์, รกั เผ่า เทพปนั ศนู ย์บรรณสารและส่ือการศกึ ษา มหาวิทยาลัยแม่ฟา้ หลวง e-mail: [email protected], [email protected], [email protected] บทคัดยอ่ การใหบ้ รกิ าร Journal Current Contents ของศูนย์บรรณสารและสอื่ การศึกษา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นบรกิ ารที่ช่วยให้ผู้ใช้บรกิ ารสามารถเข้าถึงบทความวารสารฉบับเตม็ ของวารสารที่บอกรับในรปู แบบตัวเล่ม (Print) ได้ผา่ นระบบบริการออนไลน์ ซง่ึ ระบบไดร้ ับ การออกแบบและพฒั นาโดยใช้โปรแกรม WordPress ซง่ึ เป็นซอฟตแ์ วร์บรหิ ารจดั การเน้ือหา บนเว็บไซต์แบบเปิดเผยรหสั (open source) โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพอื่ เปน็ การอานวยความสะดวก ใหแ้ ก่ผใู้ ชบ้ รกิ ารสามารถเข้าถึงบทความวารสารฉบับเต็มได้อยา่ งตรงตามความตอ้ งการ ท้ังเปน็ การสง่ เสรมิ การใช้วารสาร ไดอ้ ย่างคุม้ ค่ามากยิง่ ข้นึ ศนู ย์บรรณสารและส่ือการศึกษา ได้นาระบบการใหบ้ ริการ Journal Current Contents ไปใช้งานจริงพรอ้ มกบั ศึกษาความพึงพอใจของผู้ใชบ้ รกิ ารโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ (GoogleForms) ในการเก็บรวบรวมข้อมลู พบวา่ ผใู้ ช้บริการมีความพึงพอใจในระดบั มากที่สดุ อาจารย์ นกั วิจยั และ เจา้ หน้าท่บี ุคลากรของมหาวิทยาลยั ซงึ่ เปน็ กลุ่มเปา้ หมายหลกั มีความสนใจใช้บรกิ ารดังกล่าว เพ่มิ มากข้ึน ผใู้ ชบ้ รกิ ารไดร้ ับบรกิ ารท่สี ะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และตรงตามความตอ้ งการ ทาให้การใช้ วารสารมีประสิทธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ คาสาคญั : วารสารฉบับปจั จุบนั , ระบบบริการวารสารฉบบั ปัจจบุ ัน, บทความวารสาร

ABSTRACT Journal Current Contents is an online service of the Learning Resources and Educational Media Center, Mae Fah Luang University. It is for users who need to reach subscribed printed version of journals in electronic format through online. The system was designed and developed using WordPress which is open-source content management system. The purpose is to facilitate users to get access to full-text journal article which meet their needs; both promote the use of journals to make our journal subscriptions more cost-effective. The user satisfaction of using Journal Current Contents service was studied using online Google form. The highest level of satisfaction was found among faculty, researchers and staff of the university who are the main target group. They are more interested in using this service because it is convenient, rapid and accurately meet their needs. The use of journals is more effective. Keywords: Journal Current Contents, Journal Current Contents Service, Journal article บทนา ศูนย์บรรณสารและส่ือการศึกษา มหาวิทยาลยั แม่ฟ้าหลวง เป็นหน่วยงานบรกิ าร ทางวชิ าการทสี่ นบั สนุนการจัดการเรยี นการสอนของมหาวิทยาลยั มภี าระหน้าท่ใี นการจัดหา และให้บริการทรัพยากรสารนิเทศทุกประเภท ทุกรูปแบบ (มหาวิทยาลยั แม่ฟา้ หลวง, 2558) วารสาร เป็นหน่งึ ในทรพั ยากรสารนเิ ทศทท่ี างศนู ยบ์ รรณสารฯ จดั หา และใหบ้ ริการ ซ่ึงเปน็ สิง่ พิมพท์ ่มี ี กาหนดการพมิ พ์ และเผยแพร่อย่างต่อเนอื่ ง โดยศูนย์บรรณสารฯ ได้บอกรับวารสารในรปู แบบตัวเล่ม (Print) และอิเลก็ ทรอนิกส์ (Online) ท่มี ีเน้อื หาครอบคลมุ หลกั สูตรการเรยี นการสอนทุกสานักวิชา ของมหาวทิ ยาลัย ทง้ั น้ีวารสารในรูปแบบตวั เลม่ (Print) จดั เกบ็ และใหบ้ ริการคน้ ควา้ ภายในห้องสมุด เท่านน้ั ด้วยเทคโนโลยี และรปู แบบการดาเนนิ ชวี ิตท่ีเปล่ยี นไปทาให้ผใู้ ชบ้ ริการมชี ่องทางการเข้าใช้ บรกิ ารของห้องสมดุ ที่หลากหลายมากข้นึ การใชบ้ ริการวารสารในรูปแบบตัวเล่มจึงถูกลดบทบาทลง อยา่ งน่าเสยี ดาย ดังนนั้ เพอื่ เป็นการสง่ เสริมการใช้วารสารในรปู แบบตวั เล่มให้เกิดความคุม้ คา่ และอานวย ความสะดวกไปยงั ผู้ใช้บริการทเี่ ป็นกลุ่มเป้าหมายให้มากท่สี ดุ ศูนย์บรรณสารและสื่อการศกึ ษา จงึ ได้ให้บริการ Journal Current Contents เพอ่ื ให้ผู้ใช้บรกิ ารสามารถรับทราบ และเข้าถึงวารสาร และบทความได้อยา่ งตรงตามความต้องการ ผ่านระบบบริการออนไลน์ บนเวบ็ ไซต์ศนู ยบ์ รรณสารฯ ทาใหส้ ามารถใชป้ ระโยชน์จากวารสารได้ตามวัตถปุ ระสงค์ และมีประสทิ ธิภาพสงู สดุ

การให้บรกิ าร Journal Current Contents ดงั กล่าว พบวา่ ผ้ใู ชบ้ ริการสามารถเขา้ ถงึ บทความ จากวารสารในรูปแบบตวั เลม่ (Print) ทม่ี ีใหบ้ รกิ ารได้อย่างสะดวก รวดเรว็ ถูกต้อง และตรงกับความต้องการ โดยไม่จากัดเวลา โอกาส และสถานที่ ทาใหผ้ ูใ้ ช้บริการได้ใช้บรกิ ารวารสาร อยา่ งคุ้มค่าและมปี ระสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขน้ึ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อเปน็ การส่งเสริมการใช้วารสารในรปู แบบตวั เล่ม (Print) ใหเ้ กดิ ความคมุ้ ค่า และมีประสิทธภิ าพสงู สดุ 2. เพื่อใหผ้ ูใ้ ช้บรกิ ารสามารถเขา้ ถึงวารสารในรูปแบบตัวเล่ม (Print) และบทความวารสาร ทตี่ ้องการ ได้อยา่ งสะดวก รวดเร็ว ถกู ต้อง และตรงกับความตอ้ งการ โดยไมจ่ ากดั เวลาและสถานที่ ข้นั ตอนและวิธีการดาเนนิ งาน 1. งานบริการเอกสารและวารสาร ทาการจัดหา และตรวจรับวารสารแลว้ เสร็จ ทาการ ลงรายการและบันทึกข้อมลู ในระบบหอ้ งสมุดอัตโนมัติ ตดิ บาร์โคด้ เลขหมู่ และลงิ คส์ ถานะวารสาร 2. เจ้าหน้าที่งานวารสาร คดั แยกวารสาร ออกเป็นหมวดหมู่เนือ้ หา 3 สาขา คือ 2.1) ดา้ นมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ 2.2) ด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.3) ดา้ นการแพทย์และวิทยาศาสตรส์ ขุ ภาพ 3. เจ้าหน้าทงี่ านวารสารทาการสแกนหน้าปก และสารบัญ วารสารฉบับปัจจุบัน โดยใช้ เครอื่ งสแกนเนอร์ Laser Jet (hp/ Model: GRLYB-0206) โดยกาหนดให้เป็นไฟล์ .jpg หรือ .jpeg เท่าน้ัน พร้อมทัง้ กาหนดขนาดความละเอียดของไฟล์ คือ 1200 x 1606 Pixel ด้วยโปรแกรม Photoshop เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะสมเมอื่ แสดงบนเวบ็ ไซต์ ภาพที่ 1 หน้าจอแสดงสแกนหน้าปกและปรบั ขนาดที่ดว้ ยโปรแกรม Photoshop

4. เจา้ หนา้ ที่งานวารสาร เขา้ สู่หน้าเวบ็ ไซต์สาหรับผดู้ ูแลระบบ (WordPress) เพ่ือนา รูปภาพหนา้ ปก หนา้ สารบญั พร้อมรายละเอียดปีพิมพ์และฉบบั พมิ พ์ของวารสาร ขน้ึ แสดงยงั เว็บไซต์ บริการออนไลน์ “Journal Current Contents Service” เวบ็ ไซต์/ ระบบของบริการ Journal Current Contents ออกแบบและพัฒนาโดย เจ้าหนา้ ทวี่ เิ คราะห์ระบบ ประจาศูนยบ์ รรณฯ โดยนาโปรแกรม WordPress ซ่ึงเป็นซอฟตแ์ วร์บริหาร จดั การเนอ้ื หาบนเว็บไซต์ (CMS) แบบเปดิ เผยรหสั (open source) มาใช้ในการจัดแสดงขอ้ มูล ของวารสารท่ีบอกรบั และสร้างแบบฟอรม์ ออนไลนส์ าหรับรบั คาขอใชบ้ รกิ าร ใช้ภาษาโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ PHP ร่วมกบั HTML5 และ JAVA Script (JQuery Library) ในการพัฒนาระบบ และใช้ MySQL ในการจดั เก็บข้อมูล ทางานบนเคร่ืองแม่ข่ายท่ตี ดิ ตง้ั ระบบปฏบิ ตั ิ CentOS Linux 7.5 ภาพที่ 2 หนา้ จอแสดงการเข้าระบบปฏิบัตกิ ารสาหรบั เจา้ หนา้ ท่ี (admin) 5. ผ้ใู ช้บรกิ ารสามารถเข้าใช้บรกิ ารได้ที่ เว็บไซตศ์ นู ย์บรรณสารฯ หัวข้อบรกิ ารออนไลน์: Journal Current Contents Service

ภาพที่ 3 หนา้ จอแสดงเวบ็ ไซต์ศนู ยบ์ รรณสารฯ และช่องทางการใชบ้ ริการ JournalCurrent Contents Service 6. เมือ่ ผูใ้ ชบ้ ริการคลิกเลือกบรกิ ารออนไลน์: Journal Current Contents Service จะแสดงหน้าจอหลักของบริการ จะปรากฏหน้าปกวารสารใหเ้ ลอื ก ดงั ภาพ ภาพท่ี 4 หนา้ จอหลักบรกิ าร JournalCurrentContentsService 7. ผูใ้ ช้บรกิ าร สามารถขอใชบ้ รกิ ารโดยคลิกเลอื ก Request Article และกรอก รายละเอียดวารสาร และบทความวารสารทต่ี ้องการให้ครบ ดงั ภาพ

ภาพท่ี 5 หน้าจอ Request Article เพือ่ ขอบทความวารสารฉบับเต็ม 8. เมื่อผ้ใู ช้บริการ กรอกรายละเอียดวารสาร และบทความวารสารท่ตี ้องการครบถ้วน และคลกิ Submit ระบบจะทาการส่งคาร้องขอบทความไปยังอเี มลข์ องเจ้าหน้าที่ เพ่ือรับทราบ และดาเนินการจัดสง่ บทความวารสารฉบับเต็มใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการในลาดับต่อไป ดังภาพ ภาพท่ี 6 หน้าจออีเมลแ์ จง้ เตือนการขอใชบ้ ริการของเจ้าหน้าท่ี

9. หลงั จากเจ้าหนา้ ทีไ่ ด้รับการแจ้งเตอื นคารอ้ งขอบทความฉบับเต็มจากผใู้ ช้บริการทาง อเี มลแ์ ล้ว เจ้าหนา้ ที่จะทาการสแกนบทความวารสารฉบับเตม็ เป็น PDF ไฟล์ ใหต้ รงตามความ ต้องการของผ้ใู ช้ แลว้ ทาการจัดสง่ ไฟล์บทความ พร้อมแบบสอบถามความพงึ พอใจต่อบริการ Journal Current Contents ไปยังผู้ขอใช้บรกิ ารทางอีเมล์ท่รี ะบไุ วใ้ นแบบคาร้องขอใชบ้ รกิ าร สรปุ ผล อภปิ รายผล ขอ้ เสนอแนะและการนาไปใช้ประโยชน์ ศูนยบ์ รรณสารและสื่อการศึกษา ไดท้ ดลองเปิดใช้งานบริการออนไลน์: Journal Current Contents Service เม่อื เดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ในเบ้ืองต้น ให้บริการเฉพาะอาจารย์ นักวิจยั และเจา้ หน้าที่บุคลากรของทางมหาวิทยาลยั เท่านั้น โดยผู้ใช้บริการสามารถเขา้ ใช้บรกิ าร ไดจ้ ากหน้าเวบ็ ไซต์ศนู ย์บรรณสารและสอ่ื การศึกษา พบว่า มีผู้เขา้ มาทดลองใชบ้ รกิ ารและ ตอบแบบประเมินความพึงพอใจ จานวนท้งั สนิ้ 20 คน เม่ือจาแนกตามประเภท พบวา่ ผู้ใช้บริการ ประเภทอาจารย์ มากทส่ี ดุ จานวน 9 คน (ร้อยละ 45) รองลงมาได้แก่ เจา้ หนา้ ที่ บุคลากรอืน่ ๆ จานวน 6 คน (ร้อยละ 30) และนกั วจิ ัย จานวน 5 คน (รอ้ ยละ 25) ตามลาดบั 6 30.00% 9 45.00% 5 25.00% อาจารย์ นกั วิจัย เจ้าหน้าท่ี บุคลากรอื่นๆ ภาพท่ี 7 ความพงึ พอใจของผู้ใชง้ านบรกิ ารออนไลน์: Journal Current Contents Service ผู้ทดลองใชบ้ ริการ ตอบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจต่อบรกิ ารออนไลน์: Journal Current Contents Service โดยลาดบั ท่ี 1 มีความพงึ พอใจตอ่ การบริการในภาพรวม เฉล่ีย 4.90 ระดับ รองลงมาคือ ไดร้ บั ข้อมลู ถูกต้องตรงตามความต้องการ เฉลี่ย 4.80 และลาดับสุดทา้ ยคือ ระยะเวลา ในการดาเนินการมคี วามเหมาะสม เฉลี่ย 4.70 ตามลาดับ ดังตารางที่ 1

ตารางท่ี 1 ความพึงพอใจผู้ใชต้ อ่ บริการออนไลน์: Journal Current Contents Service ข้อมูล X SD ระดบั ความพงึ พอใจ 1. ได้รบั ขอ้ มลู ถูกต้องตรงตามความ 4.80 0.41 มากท่ีสุด ตอ้ งการ 2. ระยะเวลาในการดาเนินการมคี วาม 4.70 0.47 มากที่สดุ เหมาะสม 3. การอานวยความสะดวกและการ 4.75 0.44 มากท่สี ดุ ประสานงานของเจ้าหน้าที่ 4. ข้ันตอนและรปู แบบบริการมีความ 4.75 0.44 มากที่สดุ เหมาะสม 5. ท่านมคี วามพึงพอใจต่อการบริการ 4.90 0.30 มากท่ีสุด ในภาพรวมระดับใด รวม 4.78 0.43 มากที่สดุ ขอ้ เสนอแนะ เพ่ือให้บริการ Journal Current Contents ใชป้ ระโยชน์ให้เกิดประสทิ ธิภาพสูงสุดน้ัน หากหอ้ งสมุดมบี ุคลากรท่เี พยี งพอ สามารถรับผิดชอบบริการ Journal Current Contents ได้ โดยไมก่ ระทบภาระหน้าที่รบั ผิดชอบอนื่ ๆ ในลาดับต่อไปควรให้บรกิ ารครอบคลุมสมาชกิ ทกุ ประเภท ของห้องสมดุ เพ่ือให้เกิดการใชท้ รพั ยากรสารนเิ ทศประเภทวารสารในรปู แบบตัวเล่ม (Print) ให้เกดิ ความค้มุ คา่ และอานวยความสะดวกไปยงั ผู้ใชบ้ ริการให้มากทีส่ ดุ การนาไปใชป้ ระโยชน์ 1. เปน็ ประโยชนต์ อ่ ผใู้ ชบ้ รกิ ารทีไ่ ดร้ ับบทความวารสาร จากวารสารในรปู แบบตวั เลม่ (Print) ถกู ต้อง ตรงตามความตอ้ งการ 2. เป็นการอานวยความสะดวกแก่ผใู้ ช้บรกิ ารท่ไี ม่สะดวกในการเดินทางมาใชบ้ รกิ ารดว้ ย ตนเองเพอื่ เปน็ การให้บริการเชิงรุก ทาให้เกิดความพึงพอใจต่อการใช้บรกิ าร 3. เป็นการใช้ทรพั ยากรสารนเิ ทศ ประเภทวารสารในรูปแบบตัวเลม่ (Print) อย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ รายการอ้างอิง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง. (2558). แผนพฒั นาศนู ย์บรรณสารและสอ่ื การศึกษา มหาวิทยาลยั แมฟ่ า้ หลวง พ.ศ. 2558. เชียงราย: ศนู ยบ์ รรณสารและสอ่ื การศกึ ษา มหาวิทยาลัย แม่ฟ้าหลวง.

รหสั (ไม)่ ลับ QR Code สำหรบั กำรเข้ำใช้บริกำรวำรสำรฉบับออนไลน์ QR Code for Accessing Online Journal Service เสำวภำ เพช็ รรัตน์ สำนกั หอสมุด มหำวิทยำลัยทักษณิ วทิ ยำเขตพัทลุง e-mail: [email protected] บทคัดยอ่ QR Code สำหรบั กำรเขำ้ ใช้บรกิ ำรวำรสำรฉบับออนไลน์ จัดทำขนึ้ โดยมีวตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื อำนวยควำมสะดวกแกผ่ ู้ใช้บริกำรสำมำรถเข้ำถึงขอ้ มลู วำรสำรท่ียกเลกิ ฉบับพมิ พแ์ ละเผยแพร่ เน้ือหำเฉพำะในรูปแบบฉบับออนไลน์ รวมถงึ วำรสำรท่เี ผยแพร่ในรปู แบบฉบบั พิมพ์ควบคกู่ ับรูปแบบ ฉบบั ออนไลน์ได้ โดยผใู้ ช้บริกำรสแกน QR Code ผำ่ นอุปกรณส์ มำร์ทโฟน (Smart Phone) เพือ่ ดำเนินกำรส่งเสริมกำรใช้วำรสำรฉบบั ออนไลน์และสร้ำงควำมพึงพอใจให้แกผ่ ใู้ ช้บริกำรเพม่ิ ขน้ึ จำกกำรนำเทคโนโลยี QR Code ท่กี ำลังเป็นทนี่ ยิ มเปน็ อย่ำงสูงในปจั จบุ ันมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรบริกำร วำรสำรฉบบั ออนไลน์ ซง่ึ เริ่มดำเนินกำรจดั กจิ กรรมตง้ั แต่เดือน มกรำคม 2561 เปน็ ต้นมำ โดยมี กลุ่มเป้ำหมำยเป็นผู้ใช้บริกำรห้องสมดุ ได้แก่ นสิ ิต อำจำรย์ บุคลำกรภำยในและบุคคลภำยนอก ห้องสมุด ผลกำรจดั กจิ กรรมพบว่ำ กำรนำเทคโนโลยี QR Code มำประยุกตใ์ ช้ชว่ ยส่งเสรมิ กำรใช้ วำรสำรฉบับออนไลน์ให้แก่ผใู้ ช้บริกำรมำกยง่ิ ขึน้ โดยมีผลกำรประเมินควำมพึงพอใจต่อกำรจัด กจิ กรรม QR Code สำหรับกำรเข้ำใช้บริกำรวำรสำรฉบบั ออนไลน์ ควำมพึงพอใจอย่ใู นระดับ มำกท่ีสดุ ค่ำเฉลยี่ 4.57 และผใู้ ช้บริกำรตอ้ งกำรให้มีกำรจัดกิจกรรมน้ีต่อไปอีก คำสำคัญ เทคโนโลยี QR Code, บรกิ ำรวำรสำรฉบับออนไลน์ ABSTRACT QR Code for Accessing Online Journal Services” is the new service of Library Center of Thaksin University. The main purpose of this service is to provide convenient accessibility for users to online journals that are in both online-only and online-and-print journal types. The users can quickly access to online journals by scanning QR codes via smartphones. Consequently, the service supports promoting and using online journals. Moreover, the users are satisfied by the new library service approach integrating smartphone and QR code technologies. The service has been started since January 2018. The target users are students and lectures of Thaksin

University and public users. Hence, more users access online journals and they continue to use this service to access the online journals via this service. The level and average of satisfaction assessment are at the highest level and 4.57 respectively. Keyword QR Code Technology, Online Journal Service บทนำ เทคโนโลยีในปจั จุบนั มกี ำรก้ำวหนำ้ อย่ำงก้ำวกระโดดอีกทงั้ กระแสดจิ ิทัลทก่ี ำลงั ขบั เคลื่อน วงกำรส่ือทสี่ อดคล้องกับกำรเปลย่ี นไปตำมพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ส่งผลกระทบตอ่ ส่ือสง่ิ พมิ พ์ ประเภทวำรสำร นิตยสำร ที่จะต้องปรบั ตวั เพ่ือควำมอยรู่ อดเช่นกัน โดยกำรเปลี่ยนรูปแบบ กำรเผยแพรเ่ น้ือหำเป็นแบบออนไลน์มีมำกขน้ึ ตง้ั แต่ปลำยปี พ.ศ.2559 เปน็ ตน้ มำ นติ ยสำรหลำยชอ่ื เช่น ขวญั เรือน ครัว ดิฉนั บำงกอกรำยสปั ดำห์ พลอยแกมเพชร และสกลุ ไทย ได้ทยอยยุตกิ ำรจัดทำ ตวั เล่มลง ตลอดจนวำรสำรวิชำกำรหลำยชื่อได้เปลยี่ นรูปแบบกำรเผยแพรเ่ น้ือหำจำกฉบับพมิ พเ์ ปน็ รปู แบบออนไลน์แทน เช่น วำรสำรสำนกั หอสมุด มหำวิทยำลัยทักษณิ วำรสำรวิจยั ระบบสำธำรณสขุ วำรสำรวชิ ำกำรสำธำรณสุข วำรสำรอำหำร วำรสำรกำรประมง วำรสำรหำดใหญ่วิชำกำร เปน็ ต้น เพอ่ื กำรปรบั ตัวใหเ้ ข้ำกับเทคโนโลยีทท่ี นั สมยั ตำมกำรเปลยี่ นแปลงของผ้บู ริโภคทีน่ ิยมเขำ้ ถงึ ส่ือออนไลนม์ ำกขน้ึ ในยุคปัจจุบัน สำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลัยทักษิณ วิทยำเขตพัทลงุ มีพนั ธกจิ หนงึ่ ทส่ี ำคญั ในกำรแสวงหำ พัฒนำระบบจัดเกบ็ และเผยแพร่ทรพั ยำกรสำรสนเทศทุกประเภทเพื่อสนบั สนนุ ภำรกจิ ของ มหำวิทยำลัย งำนจดั หำวำรสำรเป็นกระบวนกำรจดั หำวำรสำรมำให้บรกิ ำรในสำนักหอสมุด ซง่ึ จะ ดำเนินกำรจัดหำวำรสำรปลี ะ 1 คร้งั ตอ่ ปีงบประมำณ โดยมบี รรณำรกั ษ์เปน็ ผูร้ ับผดิ ชอบตั้งแต่ กำรสำรวจรำยชอ่ื วำรสำรจำกผูใ้ ช้บรกิ ำร กำรสำรวจควำมซ้ำซอ้ นของวำรสำรท่ีมีใหบ้ ริกำร กำรรวบรวมข้อมูลใบสมัครสมำชิกวำรสำรเพ่อื ต่ออำยุสมำชิกวำรสำรกับทำงสำนักพิมพ์ ซ่ึงจำก กำรดำเนินงำนจัดหำวำรสำรต้ังแต่ ปี พ.ศ. 2559 เปน็ ต้นมำ พบว่ำผ้จู ัดทำวำรสำรทที่ ำงสำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลยั ทกั ษณิ วิทยำเขตพทั ลงุ บอกรับเป็นสมำชิกได้ทยอยยตุ ิกำรจดั ทำตวั เล่ม และหลำย รำยชือ่ ผ้จู ัดทำวำรสำรไดแ้ จง้ เปล่ียนแปลงรปู แบบกำรเผยแพร่เนื้อหำวำรสำรจำกฉบับพิมพ์เป็น รูปแบบฉบบั ออนไลน์ เพ่อื ลดต้นทุนกำรผลิต และลดปริมำณกระดำษของผจู้ ดั ทำวำรสำร จึงเป็น สำเหตทุ ท่ี ำใหว้ ำรสำรฉบับพิมพ์ค่อย ๆ ทยอยหำยไปจำกช้ันวำรสำรไปเรอื่ ย ๆ และทำงผู้จัดทำ วำรสำรหลำยรำยชื่อมนี โยบำยเผยแพร่เน้อื หำวำรสำรในรูปแบบฉบบั พิมพ์ควบคู่กบั รปู แบบ ฉบับออนไลนผ์ ำ่ นทำงเว็บไซต์ จำกเหตุผลทก่ี ล่ำวมำขำ้ งตน้ บรรณรกั ษ์ได้ตระหนักและเล็งเห็นควำมสำคญั ของ สถำนกำรณ์ทเี่ กดิ ขึน้ ของสื่อสิ่งพมิ พ์ประเภทวำรสำร จึงได้นำเทคโนโลยี QR Code (Quick Response Code) ซึง่ เปน็ เทคโนโลยกี ำรเขำรหัสแบบสองมติ โิ ดยนำข้อควำมมำเขำรหสั เปนภำพ ท่สี ำมำรถใช้งำนผ่ำน อุปกรณสมำรท์ โฟน (Smart Phone) ในกำรสแกนเพ่ือถอดรหัสในกำรเข้ำถึง ขอมลู ท่ีไดนำมำเขำรหสั ในรปู แบบอืน่ หรอื กำรทำงำนอนื่ เชน ขอควำม กำรโหลดสูหนำเว็บเพจ

กำรสงอเี มลและอื่น ๆ QR Code เปนเทคโนโลยที เี่ ริ่มใชในประเทศสหรฐั อเมริกำในกำรทำกำรตลำด และไดถูกนำมำใช้อยำงแพรหลำยในหลำยกระบวนกำรทำงธรุ กจิ เชน กำรติดตำมกำรผลิต กำรสงตอและกำรใหขอมลู กำรเช็คอินกำรเดนิ ทำงของสำยกำรบนิ (Hampton, Peach, & Rawlins, 2012, pp. 404-407) โดยนำมำประยุกตใ์ ช้สำหรับบริกำรวำรสำรฉบับออนไลน์ ในสองลักษณะคือ 1) วำรสำรท่ยี กเลกิ ฉบบั พิมพ์และเผยแพร่เนื้อหำเฉพำะในรูปแบบฉบับออนไลน์ และ 2) วำรสำร ทเ่ี ผยแพรใ่ นรูปแบบฉบบั พิมพค์ วบคู่กับรปู แบบฉบับออนไลน์ เพื่อเพมิ่ ควำมสะดวกและรวดเร็ว ในกำรเขำ้ ถงึ ข้อมลู วำรสำรฉบับออนไลนโ์ ดยกำรสแกน QR Code ผ่ำนอุปกรณ์สมำรท์ โฟน (Smart phone) รวมทัง้ ส่งเสรมิ กำรใช้งำนวำรสำรฉบับออนไลนผ์ ำ่ น QR Code ตลอดจนสรำ้ ง ควำมพงึ พอใจให้แกผ่ ู้ใช้บริกำรจำกกำรนำเทคโนโลยี QR Coad มำประยุกตใ์ ชใ้ นกำรบริกำรวำรสำร ฉบับออนไลน์ วตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ผ้ใู ช้บริกำรสำมำรถเขำ้ ถึงข้อมูลวำรสำรท่ียกเลิกฉบับพิมพแ์ ละเผยแพรเ่ นื้อหำ เฉพำะในรปู แบบฉบบั ออนไลน์ และวำรสำรทเี่ ผยแพรใ่ นรูปแบบฉบบั พิมพ์ควบค่กู ับรปู แบบ ฉบบั ออนไลน์ได้ 2. เพ่อื เพ่ิมควำมสะดวก รวดเรว็ ในกำรเขำ้ ถึงข้อมลู วำรสำรฉบบั ออนไลน์โดยกำรสแกน QR Code ผ่ำนอุปกรณ์สมำร์ทโฟน (Smart Phone) 3. เพอื่ ส่งเสรมิ กำรใช้งำนวำรสำรฉบบั ออนไลน์ผ่ำน QR Coad 4. เพ่อื สรำ้ งควำมพงึ พอใจให้แก่ผูใ้ ช้บรกิ ำรในกำรใช้งำน QR Coad สำหรบั บรกิ ำร วำรสำรฉบบั ออนไลน์ ขนั้ ตอนและวิธกี ำรดำเนนิ กำร กำรนำเทคโนโลยี QR Code มำประยุกตใ์ ช้สำหรบั บริกำรวำรสำรออนไลนท์ ดแทนวำรสำร ฉบบั พิมพ์ท่ยี กเลิกตีพิมพ์ มขี ั้นตอนและวธิ ีกำรดำเนนิ กำร ดังน้ี ขน้ั ตอนท่ี 1 บรรณำรักษ์แลกเปล่ียนเรยี นรู้ข้อมลู กบั นกั วิชำกำรคอมพิวเตอรเ์ กี่ยวกบั กำรนำเทคโนโลยี QR Code มำประยุกตใ์ ชส้ ำหรบั บริกำรวำรสำรฉบบั ออนไลน์ ขัน้ ตอนท่ี 2 รวบรวมรำยชอื่ วำรสำรพร้อม URL ทอี่ ยเู่ วบ็ ไซต์ของวำรสำรที่เปลี่ยนรปู แบบ จำกวำรสำรฉบับพิมพ์มำเปน็ วำรสำรฉบบั ออนไลน์ ตวั อย่ำงวำรสำร 10 ชอื่ ท่นี ำมำทำ QR Code สำหรับบรกิ ำรวำรสำรฉบับออนไลน์

ตำรำงที่ 1 ตวั อย่ำงวำรสำร 10 ชอ่ื ท่ีนำมำทำ QR Code สำหรับบริกำรวำรสำรฉบับออนไลน์ ลำดับ ชอื่ วำรสำร URL กำร เผยแพร่ เนอ้ื หำ 1 วำรสำรสำนักหอสมดุ http://libapp.tsu.ac.th/OJS/index.php/Journals_li ออนไลน์ มหำวทิ ยำลยั ทกั ษิณ brary/issue/current 2 วำรสำรวจิ ยั ระบบ https://www.hsri.or.th/researcher/media/e- ออนไลน์ สำธำรณสุข journal/e-journal 3 วำรสำรวิชำกำร http://thailand.digitaljournals.org/tdj/ ออนไลน์ สำธำรณำสขุ 4 วำรสำรควบคมุ โรค http://irem.ddc.moph.go.th/content/index/47 ออนไลน์ 5 วำรสำรพฤตกิ รรม http://bsris.swu.ac.th/journal/index_thai.html ออนไลน์ ศำสตร์ 6 วำรสำรพฤตกิ รรม http://bsris.swu.ac.th/jbsd/ ออนไลน์ ศำสตร์เพื่อกำรพัฒนำ 7 วำรสำรเภสัชศำสตร์ https://tci-thaijo.org/index.php/IJPS/issue/archive ออนไลน์ อีสำน 8 วำรสำรวิจยั เทคโนโลยี http://www.fishtech.mju.ac.th/FishNew1/Journal ออนไลน์ กำรประมง _FT/main/index.php?select=journal&&set=main 9 วำรสำรกำรพัฒนำชมุ ชน https://tci- ออนไลน์ และคุณภำพชีวติ thaijo.org/index.php/JCDLQ/issue/view/1139 10 For Quality http://www.tpa.or.th/publisher/fqm.php ออนไลน์ ขน้ั ตอนที่ 3 ศกึ ษำโปรแกรมท่ีจะนำมำสรำ้ ง QR Code โดยเลอื กสรำ้ ง QR Code จำก บริกำรสร้ำงรหัส QR Code ฟรี จำกเว็บ http://www.qr-code-generator.com

ข้ันตอนที่ 4 เลอื กแถบเมนู URL และนำ URL ท่อี ย่เู ว็บไซตข์ องวำรสำรฉบบั ออนไลน์ มำวำงไว้ใตข้ ้อควำม Enter URL ภำพที่ 1 ภำพข้ันตอนท่ี 4 ขั้นตอนที่ 5 คลิกทป่ี ุ่ม “SHORTEN URL” ระบบจะทำให้ URL สน้ั กระชับ เปน็ https://goo.gl/ORZZhF ซึ่งสำมำรถสแกนไปยังเวบ็ ไซต์ URL ทน่ี ำมำวำงไดด้ ังเดิม ภำพท่ี 2 ขน้ั ตอนที่ 5

ข้ันตอนท่ี 6 คลิกปุ่ม SAVE ปรำกฏกลอ่ งขอ้ ควำมใหต้ ง้ั ชื่อ QR Code และเลือกรปู แบบ (Format) เปน็ PNG และคลิก SAVE ระบบจะทำกำรสรำ้ ง QR Code ให้โดยอัตโนมัติ ภำพที่ 3 ข้นั ตอนท่ี 6 ขนั้ ตอนท่ี 7 นำรหสั QR Code พร้อมหน้ำปกวำรสำรมำออกแบบตกแต่งให้สวยงำม (ดังภำพ) ภำพท่ี 4 ขั้นตอนท่ี 7

ข้นั ตอนท่ี 8 จดั วำงป้ำยรหสั QR Code ท่จี ดั ทำเสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้วไวท้ ่ีชนั้ ตดิ ผนัง เพ่ือใหผ้ ู้ใช้บรกิ ำรสำมำรถเขำ้ ถึงข้อมูลวำรสำรทีย่ กเลิกฉบับพมิ พแ์ ละเผยแพรเ่ นื้อหำเฉพำะในรูปแบบ ฉบับออนไลน์ ผ่ำนสมำร์ทโฟน (Smart Phone) ได้อยำ่ งสะดวกรวดเรว็ ภำพท่ี 5 ขนั้ ตอนท่ี 8 ข้ันตอนที่ 9 จัดวำงปำ้ ยรหสั QR Code ทชี่ ้นั วำรสำรทเี่ ผยแพรใ่ นรูปแบบฉบบั พมิ พ์ควบคู่ กบั รูปแบบฉบบั ออนไลน์ เพ่อื ใหผ้ ใู้ ช้บริกำรสำมำรถเข้ำถงึ ข้อมลู ฉบับย้อนหลังของวำรสำรผำ่ น สมำร์ทโฟน (Smart Phone) ไดอ้ ยำ่ งสะดวกรวดเรว็ ภำพท่ี 6 ข้ันตอนที่ 9

ขน้ั ตอนท่ี 10 ตดิ ป้ำยประชำสมั พันธ์แนะนำขนั้ ตอนกำรใช้ QR Code สำหรับบริกำร วำรสำรออนไลน์ ภำพที่ 7 ขน้ั ตอนที่ 10 ข้ันตอนท่ี 11 ตดิ ปำ้ ยประชำสัมพนั ธ์กิจกรรม Journal Big Points เพื่อสง่ เสริม กำรใช้ QR Code สำหรับบริกำรวำรสำรออนไลน์เพยี ง “สแกน QR Code ปบุ๊ รับรำงวลั ป๊บั ” โดยสะสมแต้มครบ 10 แต้มผ่ำน TSULib Line Official Account รับของรำงวลั จำกบรรณำรักษ์ฟรี ภำพท่ี 8 ขน้ั ตอนท่ี 11

ขนั้ ตอนท่ี 12 จัดทำแบบประเมนิ ควำมพึงพอใจต่อกำรใช้งำน QR Code สำหรบั วำรสำร ฉบับออนไลน์ และใหผ้ ูใ้ ช้บรกิ ำรประเมนิ และสรุปผลควำมพึงพอใจ ภำพท่ี 9 ข้ันตอนท่ี 12 ตัวอยำ่ ง QR Code แบบประเมินควำมพึงพอใจต่อกำรใช้งำน QR Code สำหรบั วำรสำร ออนไลน์ ภำพท่ี 10 ตัวอย่ำงแบบประเมินควำมพึงพอใจต่อกำรใช้งำน QR Code สำหรับวำรสำรออนไลน์ ผำ่ น Google Form

ภำพที่ 11 ผ้ใู ช้บรกิ ำรกำลงั สแกน QR Code วำรสำรฉบบั ออนไลน์ สรปุ ผล อภิปรำยผล ขอ้ เสนอแนะและกำรนำไปใชป้ ระโยชน์ สรุปผล จำกกำรกำรนำเทคโนโลยี QR Code มำประยุกต์ใช้ทำให้ผใู้ ชบ้ ริกำรสำมำรถเข้ำถึงขอ้ มูล วำรสำรที่ยกเลิกฉบบั พิมพแ์ ละเผยแพรเ่ น้ือหำเฉพำะในรูปแบบฉบบั ออนไลน์ และเข้ำถึงข้อมูลวำรสำร ท่เี ผยแพร่ในรูปแบบฉบบั พิมพ์ควบคู่กบั รูปแบบฉบับออนไลนไ์ ด้อย่ำงสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลำ เพรำะเขำ้ ถึงข้อมูลวำรสำรฉบับออนไลนผ์ ่ำนอปุ กรณส์ มำร์ทโฟน (Smart phone) และสง่ เสริม กำรใชง้ ำนวำรสำรฉบับออนไลน์จำกกำรสแกน QR Code ตลอดจนสร้ำงควำมพึงพอใจใหแ้ ก่ ผใู้ ชบ้ ริกำร ผลกำรประเมินควำมพึงพอใจของผใู้ ช้บริกำรอยู่ในระดบั มำกทส่ี ดุ ค่ำเฉลีย่ 4.57 อภิปรำยผล ขอ้ เสนอแนะ จำกผลกำรสำรวจแบบประเมินควำมพึงพอใจของผู้ใช้บริกำร ในกำรใช้ QR Code สำหรับ บรกิ ำรวำรสำรฉบับออนไลน์ ไดผ้ ลจำกกำรวิเครำะห์ข้อมลู ทัว่ ไปของผูต้ อบประเมนิ ควำมพงึ พอใจ จำกจำนวน 125 คน อยใู่ นระดับมำกทสี่ ดุ จำกกำรดำเนินกำรจัดกิจกรรมไดผ้ ลกำรตอบรับเปน็ อย่ำงดี บรรณำรักษ์เหน็ ควรดำเนินกำรจัดทำ QR Code สำหรับบริกำรวำรสำรภำษำอังกฤษฉบบั ออนไลน์ ขน้ึ มำเพ่อื เพิ่มช่องทำงกำรเข้ำถึงที่หลำกหลำยและตอบสนองควำมตอ้ งกำรของผู้ใช้บรกิ ำรเพมิ่ มำกยิง่ ข้นึ กำรนำไปใช้ประโยชน์ในงำนหอ้ งสมดุ 1. ประโยชน์ตอ่ ผใู้ ช้บริกำร 1.1 ผู้ใชบ้ รกิ ำรสำมำรถเขำ้ ถึงขอ้ มูลวำรสำรทยี่ กเลกิ ฉบับพิมพ์และเผยแพร่เนื้อหำ เฉพำะในรูปแบบฉบับออนไลน์ และสำมำรถเข้ำถงึ ขอ้ มูลวำรสำรท่ีเผยแพรใ่ นรูปแบบฉบับพิมพค์ วบคู่ กบั รูปแบบฉบบั ออนไลนไ์ ด้ 1.2 ผ้ใู ชบ้ ริกำรไดร้ ับควำมสะดวกรวดเรว็ ในกำรเข้ำถึงข้อมูลวำรสำรฉบับออนไลน์ ฉบับย้อนหลงั โดยกำรสแกน QR Code ผำ่ นอปุ กรณ์สมำร์ทโฟน (Smart phone)

2. ประโยชน์ตอ่ บรรณำรักษ์ 2.1 มีแหลง่ สำรสนเทศรวบเก่ียวกับวำรสำรทย่ี กเลิกฉบับพิมพแ์ ละเผยแพรเ่ น้ือหำ เฉพำะในรปู แบบฉบับออนไลน์ และวำรสำรทเี่ ผยแพรใ่ นรูปแบบฉบับพิมพ์ควบคกู่ ับรูปแบบ ฉบบั ออนไลน์ 2.2 ประหยดั เวลำในกำรให้ข้อมลู เกี่ยวกบั URL ของวำรสำรทย่ี กเลิกฉบบั พิมพ์มำเป็น แนะนำให้ผใู้ ชบ้ รกิ ำรสแกน QR Code ผ่ำนอุปกรณส์ มำร์ทโฟน (Smart phone) 3. ประโยชน์ต่อห้องสมุด 3.1 หอ้ งสมดุ มีบริกำรเชงิ รกุ โดยกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยี QR Code เพอื่ ตอบสนองควำมต้องกำรของผูใ้ ช้บริกำร 3.2 เกดิ กำรแลกเปลย่ี นเรียนร้รู ะหว่ำงห้องสมดุ สำมำรถนำข้อมูลไปปรบั ประยุกตใ์ ช้ให้ เหมำะสมกบั บริบทของห้องสมดุ อื่น ๆ ได้ รำยกำรอ้ำงอิง ทรงพนั ธ์ เจมิ ประยงค์. (2557). การใหบ้ รกิ ารห้องสมุดยุคใหม่ : แนวโนม้ ในปัจจบุ ันและความทา้ ทาย ในอนาคต. เขำ้ ถงึ ไดจ้ ำก http://203.131.219.180/km/wpcontent/uploads/2015/ 03/New-Library.pdf ปำริชำติ แสงระชัฎ. (2559). บรกิ ำรสำรสนเทศในห้องสมุดยคุ ดิจิทัล. วารสารวจิ ยั และพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภฏั เลย, 11(38), 1-10. Hampton, D., Peach, A., & Rawlins, B. (2012). Extending library services with QR Codes. Journal The reference librarian, 53(4), 403-414. 10.1080/02763877.2012.704576.

ผลงานนาเสนอใน PULINET 9th เน้อื หาดา้ นบรกิ าร

การศกึ ษาการใช้แอปพลเิ คชันไลน์แอดเพื่อยกระดบั คุณภาพบรกิ าร หอสมดุ แห่งมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ The Study of Using Line@ Application for Improving Service Quality of Thammasat University Library กรวรรณ ดวี าจา, พิษณุ ใจกลา้ หอสมุดแหง่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ e-mail: [email protected] บทคดั ย่อ หอสมุดแหง่ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ นาแอปพลเิ คชันไลน์แอด (Line@) ซ่งึ เปน็ สอ่ื สังคมออนไลนล์ ักษณะเดียวกับเฟซบุ๊กเพจ มาประยกุ ต์ใชก้ ับการใหบ้ ริการห้องสมดุ ดว้ ยคณุ สมบตั ิ ท่สี ามารถเขา้ ถงึ ผ้ใู ชบ้ ริการได้แบบกลมุ่ และเฉพาะเจาะจง ไลน์แอดจึงถูกนามาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อการส่อื สารและประชาสมั พันธ์ของห้องสมุด จากผลการดาเนินงานท่ผี า่ นมา ห้องสมดุ ได้เก็บรวบรวมข้อคาถามและนามาวเิ คราะห์ดว้ ยโปรแกรม TABLEAU พบวา่ คาถามทีถ่ ามบ่อย (ร้อยละ 78.8) คือคาถามเกีย่ วกบั ท่ีต้ังของทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด ชว่ งเวลาทีผ่ ู้ใชบ้ รกิ าร สง่ คาถามผา่ นไลนแ์ อดมากท่ีสุดคอื เวลา 12.00 น. และ 16.00 น. ดา้ นระยะเวลาการตอบกลบั ของเจา้ หนา้ ท่ีผูใ้ หบ้ รกิ าร สว่ นใหญใ่ ช้ระยะเวลา การตอบกลบั อยูท่ ่ี 0-5 นาที ซงึ่ จากผลการศกึ ษาน้ี หอ้ งสมดุ สามารถนาข้อมลู มากาหนดแผนการส่ือสารและประชาสมั พันธบ์ ริการเพื่อให้ครอบคลุม และสอดคลอ้ งกับพฤตกิ รรมของผู้รบั บรกิ ารตลอดจนการออกแบบและพฒั นาบริการผา่ นไลนแ์ อด ใหต้ อบสนองตามความต้องการของผรู้ บั บริการและผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี ทจ่ี ะเกิดขึน้ ในอนาคตได้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ คาสาคญั : สือ่ สงั คมออนไลน์, การสอื่ สารและประชาสมั พนั ธ์, แอปพลิเคชันไลน์, ไลนแ์ อด, หอ้ งสมดุ ทุกท่ี ทุกเวลา, หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ Abstract Thammasat University Library implemented Line @ application, a social media similar to Facebook page, into its services. With the features that can reach users individually and in groups, this application was used as a tool for communication and public relations of the library. The data calculated through TABLEAU program suggested that most popular enquiries (78.8%) from the library

users were concerning the locations of information resources in the library. The enquiries were usually submitted around 12.00 am and 4.00 pm. The response times of the librarian were within 0 to 5 minutes. The results of this study can be used to redefine communication plans and public relations services of the library, as well as to effectively design and develop its services given through Line@ to meet the needs of the library users and other related stakeholders. Keywords: Social Media, Communication and Public Relations, Line Application, Line@, Library Anywhere Anytimes, Thammasat University Library บทนา หอสมุดแหง่ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ เป็นหน่วยงานสนบั สนุนการเรียนการสอนและ การวจิ ยั แก่ประชาคมของมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย นกั ศึกษา อาจารย์ นักวิจยั บคุ ลากร รวมท้ังบุคคลภายนอก มีภารกิจในการจดั หาทรพั ยากรสารสนเทศ สรา้ งเคร่ืองมอื ช่วย การค้นควา้ สงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศ โดยการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดาเนนิ งาน เพอ่ื เพ่มิ ประสิทธภิ าพในการใหบ้ ริการ รวมทั้งนาพาองคก์ รไปสูม่ าตรฐานระดับสากล เพื่อสามารถ ตอบสนองตอ่ พฤติกรรม ความตอ้ งการ และความคาดหวงั ของผู้รับบริการและผมู้ สี ว่ นได้สว่ นเสีย ทงั้ ยังสนบั สนนุ ต่อนโยบายและวสิ ยั ทศั น์ของมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตรท์ ีว่ า่ ด้วย การสรา้ งผนู้ า ดว้ ยการศึกษาและการวิจยั ระดบั โลก (หอสมุดแห่งมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, 2560) จากบริบทความเปลี่ยนแปลงดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศในปัจจบุ นั สง่ ผลกระทบต่อ ห้องสมุดอย่างมากในแงข่ องการปรบั รูปแบบบรกิ ารให้มคี วามสอดคล้องกับพฤตกิ รรมผรู้ ับบริการ ทีม่ แี นวโน้มใชอ้ ปุ กรณเ์ คล่ือนที่ (Smart devices) ในการเขา้ ถงึ บริการต่าง ๆ ของห้องสมดุ ไม่ว่า จะเป็นบริการสบื คน้ จองหนงั สอื ยมื ต่อ รวมถึงบรกิ ารตอบคาถามและชว่ ยการคน้ ควา้ ผา่ นเครือข่าย สงั คมออนไลน์ทีก่ ลายเปน็ ช่องทางหลักในการให้บริการออนไลนข์ องหอ้ งสมุดในระยะ 2-3 ปที ผ่ี า่ นมา ซ่งึ สอดคล้องกับรายงานผลการสารวจพฤติกรรมผูใ้ ช้อินเทอรเ์ น็ตของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2560 ที่พบวา่ จานวนช่ัวโมงการใชอ้ ินเทอร์เน็ตของคนไทยมีอตั ราสงู ข้นึ อยา่ งต่อเน่ือง (สานักงานพฒั นา ธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์, 2560) ถือเป็นโอกาสและความท้าทายของห้องสมุดในการเปล่ยี นบทบาท จาก Library as place มาเป็น Library as platform เน่อื งจากการใหบ้ รกิ ารห้องสมุดในรูปแบบ ด้ังเดมิ (Traditional library services) ได้แก่ บริการตอบคาถามและช่วยค้นคว้า บริการแนะนา หนงั สือใหม่ บริการคมู่ ือช่วยการสบื ค้น รวมถึงการประชาสัมพนั ธข์ ้อมูลข่าวสารผา่ นโปสเตอร์ตาม พนื้ ทต่ี ่าง ๆ ไมส่ ามารถเขา้ ถึงกลุ่มเปา้ หมายเหมือนอยา่ งเดิม สอ่ื สงั คมออนไลนจ์ งึ กลายเป็นเครอ่ื งมือ ท่ที รงพลังท่ีได้รบั ความนิยมสาหรับห้องสมุด ในการนามาสนบั สนนุ ใหบ้ รรณารกั ษส์ ามารถเข้าถึง สร้างปฎิสมั พนั ธก์ ับผูใ้ ชบ้ ริการ สร้างความผูกพนั (Carr & Hayes, 2015) และร่วมสง่ ต่อคณุ ค่า ของสังคมแห่งการเรยี นรู้และแบ่งปัน (Shared economy)

ในสว่ นของหอสมุดแหง่ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ไดน้ าผลการสารวจพฤติกรรมผใู้ ช้ อนิ เทอร์เน็ตของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2560 ด้านประเภทสื่อสังคมออนไลนท์ ี่คนไทยใชม้ ากท่ีสุด ในลาดับท่ี 3 ได้แก่ Line (รอ้ ยละ 95.8) รองจาก Facebook (รอ้ ยละ 96.6) และ YouTube (ร้อยละ 97.1) (สานักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์, 2560) มาประยกุ ต์ใช้กับการบริการห้องสมดุ แบบออนไลน์ ผา่ นแอปพลิเคชันไลน์แอด (Line@ application) ซึ่งเป็นแอปพลเิ คชันสาหรบั การสนทนาบนอปุ กรณ์การส่ือสารรูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ สมารท์ โฟน คอมพวิ เตอร์ และแท็บเล็ต ลกั ษณะการใชง้ านคล้ายเฟซบุ๊กเพจ ห้องสมดุ สร้างช่อื บัญชีเพ่ือประชาสัมพันธบ์ ริการและขา่ วสาร ตา่ ง ๆ และดว้ ยคุณสมบัติทโี่ ดดเด่นของแอปพลิเคชนั ไลน์แอดที่ไม่วา่ ผู้ใช้บริการห้องสมุดจะอยูท่ ี่ไหน หรือทาอะไร เพยี งแค่กดตดิ ตามบญั ชีของหอ้ งสมดุ กส็ ามารถทราบข่าวสารและบรกิ ารต่าง ๆ ได้ทันที (Thaipradit & Treeratanaporn, 2016) วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ศึกษาการนาแอปพลเิ คชันไลนแ์ อดมาเป็นเคร่ืองมือในการให้บริการหอ้ งสมุด 2. เพอื่ ใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพฒั นาการใหบ้ ริการหอ้ งสมุดผ่านแอปพลิเคชัน ไลน์แอด 3. เพื่อส่งเสริมภาพลักษณห์ ้องสมุดยคุ ใหม่ ขั้นตอนและวิธกี ารดาเนินงาน แนวคิด ไลนแ์ อด (Line@) เปน็ เวบ็ ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social networking) พัฒนาขึ้นเพอื่ ให้การประชาสมั พนั ธ์ ข่าวสาร กจิ กรรม สินค้าและบริการขององคก์ ร เข้าถึงผตู้ ดิ ตาม (Follow) บญั ชขี ององคก์ รได้ทนั ที การทห่ี ้องสมุดพจิ ารณานาไลนแ์ อดมาประยกุ ตใ์ ช้เพื่อพัฒนา บริการ เกดิ จากการประเมินสมรรถนะของแอปพลเิ คชนั ว่าสามารถตอบโจทย์การให้บริการห้องสมดุ ยคุ ใหม่ เพ่ิมประสิทธิภาพการรบั ร้บู รกิ ารห้องสมุด โดยเฉพาะบรกิ ารใหม่ ๆ ทตี่ ้องการเข้าถึงกล่มุ ผรู้ บั บรกิ ารอยา่ งเฉพาะเจาะจง ทันเวลา อีกทง้ั ช่วยประหยัดเวลาในการดาเนนิ กระบวนงาน เนือ่ งจาก 1. การสง่ ขอ้ ความ (Broadcast) ในแตล่ ะคร้ังสามารถเข้าถงึ ผ้รู ับบรกิ ารทุกคนท่ตี ิดตาม บัญชขี องห้องสมุด 2. สามารถตงั้ ระบบตอบกลับอัตโนมตั ิได้ โดยกาหนดคยี ์เวริ ด์ ของคาถามไว้ สอดคล้อง กับพฤติกรรมผ้รู บั บริการห้องสมดุ ทต่ี อ้ งการการตอบกลับในทนั ที ส่วนผใู้ หบ้ ริการก็ไมต่ ้องตอบคาถาม เดมิ ซา้ ๆ 3. ตงั้ เวลาส่งขอ้ ความได้ ผูใ้ ห้บริการมีความคล่องตวั ในการส่ือสารตามเวลาทต่ี ้องการได้ 4. ไลน์แอดเปน็ สือ่ สงั คมออนไลนท์ ไี่ ด้รับความนิยมในการใชง้ านสงู การดาเนินการ 1. ตดิ ต้งั โปรแกรม LINE@ บนอุปกรณ์บริการ ไดแ้ ก่ คอมพวิ เตอร์และสมารท์ โฟน 2. กาหนดเจ้าหน้าผูใ้ ห้บริการ 3. กาหนดแนวทางในการให้บริการตอบคาถามและชว่ ยค้นควา้

4. ประชาสัมพนั ธบ์ ริการ LINE@ ใหผ้ ใู้ ชก้ ดตดิ ตาม ผา่ นช่องทางตา่ ง ๆ เชน่ ปา้ ย เวบ็ ไซต์ อีเมล์ และ Facebook ภาพท่ี 1 ปา้ ยขอ้ ความประชาสมั พันธ์บรกิ าร การใช้งาน LINE@ กับการบริการของห้องสมุด 1. บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้า บรกิ ารตอบคาถามและช่วยค้นคว้า เพ่ือให้ความช่วยเหลอื ผู้ใช้ในการคน้ คว้าคาตอบ ที่ตอ้ งการและชแี้ หลง่ ทรพั ยากรสารสนเทศทีห่ ้องสมุดมใี ห้นักศกึ ษาเขา้ ถึงไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและรวดเร็ว โดยผู้ใช้บรกิ ารสามารถสอบถามไดโ้ ดยส่งข้อความผ่านแอปพลเิ คชนั ไลน์ ภาพท่ี 2 ตวั อย่างคาถาม

2. การประชาสมั พันธข์ ่าวสารและบริการ การประชาสัมพนั ธ์ขา่ วสารและบรกิ ารของห้องสมดุ ไดแ้ ก่ การแนะนาหนังสอื ใหม่ การแจง้ เวลาเปิดปิดบริการ การแจง้ ตารางกิจกรรมสง่ เสรมิ การรู้สารสนเทศ แนะนาฐานข้อมลู และบรกิ ารใหม่ ฯลฯ ผ่านแอปพลเิ คชนั ไลน์ สามารถส่งข้อมลู ไดใ้ นลักษณะของรูปภาพ ขอ้ ความ และวิดีโอ โดยขอ้ มูล ที่ประชาสมั พนั ธ์จะถูกสง่ ถึงผู้ท่ีตดิ ตามบัญชีของห้องสมดุ ทุกคนในการส่งเพยี งครง้ั เดยี ว ซ่งึ เจา้ หน้าท่ี ผูด้ ูแลระบบสามารถตั้งเวลาในการสง่ ข้อความและเลือกกลุ่มเปา้ หมายท่ีต้องการตามเพศและชว่ งอายุ ได้ ขัน้ ตอนการประชาสัมพันธ์ข้อมลู (Broadcast) 1) เมอ่ื เข้าสู่ Line@ แลว้ ใหไ้ ปกดทปี่ มุ่ Manage 2) กดทีป่ ุ่ม Broadcast เพื่อเขา้ ไปใชง้ าน 3) กดทป่ี ุ่ม + เขียนข้อความใหม่ (Create new message) 4) จากนั้นกดที่ปุ่ม แกไ้ ขข้อความ (Edit message) 5) พิมพข์ ้อความที่ตอ้ งการ ใสเ่ ป็นข้อความหรือรปู ภาพ เม่ือพิมพ์เสรจ็ แล้วกดปุ่ม ส่ง (โดยการสง่ แตล่ ะครัง้ ส่งไดไ้ ม่เกนิ 3 รายการ) 6) เมือ่ ไดข้ ้อความทต่ี ้องการแล้วให้กดปมุ่ เสรจ็ (Done) (ด้านขวาบน) 7) ข้นั ตอนน้ี ขอ้ ความ Broadcasts ยังไม่ถกู สง่ ออก สามารถตัง้ คา่ เพิ่มเติม คือ - ตง้ั เวลาสง่ ขอ้ ความ สามารถตง้ั เวลา ในการส่งข้อความได้ โดยกาหนดเป็นวนั เวลา ทีต่ อ้ งการใหส้ ง่ ข้อความ - โพส (Post to home) หากกาหนดสเี ขยี ว เม่ือ Broadcasts ออกไป จะทาการ โพสขอ้ ความบน Timeline แตส่ ามารถทาได้ในกรณีท่ีทาการ ส่งข้อความเพยี ง 1 ขอ้ ความเทา่ นนั้ 8) เมื่อกาหนดเรียบร้อยแลว้ ใหก้ ดปุ่ม สง่ ข้อความ (Submit) 3. บรกิ ารนาสง่ -รับคนื ทรพั ยากรสารสนเทศ จัดขน้ึ เพื่ออานวยความสะดวกในการนาสง่ และรบั คืนทรัพยาการสารสนเทศแก่คณาจารย์ และนักวจิ ยั สังกดั คณะท่ีตั้งอยู่ภายในมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ศนู ย์รงั สติ โดยส่งขอ้ ความแจง้ ขอ้ มลู หนังสอื ที่ต้องการ วนั ที่ เวลาและสถานทีใ่ นการจัดส่ง ผ่านช่องทางไลน์แอด จากนนั้ เจา้ หนา้ ที่ จะดาเนนิ การยืมทรัพยากรสารสนเทศและนาส่งตามที่ร้องขอ ผลการดาเนินงาน จากการนาโปรแกรมไลนแ์ อดมาประยุกตใ์ ชก้ ับงานบริการห้องสมดุ และนาผล การดาเนินงานระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2561 มาวิเคราะหด์ ว้ ยโปรแกรม TABLEAU พบข้อมูลทนี่ า่ สนใจ ดังน้ี ภาพท่ี 3 จานวนผ้ตู ดิ ตามในแต่ละห้องสมุด (ข้อมูล ณ วันที่ 20 กนั ยายน 2561)

ภาพที่ 4 ผลการดาเนนิ งานการใช้แอปพลเิ คชนั ไลนแ์ อดของหอสมุด ฯ 1. ประเภทของคาถามทีผ่ ู้ใช้บรกิ ารสอบถามมากทีส่ ดุ 5 อันดบั แรก ลาดับท่ี 1 คาถามอ่ืน ๆ (Others) รอ้ ยละ 35.8% คือ คาถามทพี่ บความถจ่ี านวนนอ้ ยคร้ัง ไมส่ ามารถระบุกลุ่มของคาถามได้อยา่ งชัดเจน ได้แก่ การบริจาคหนังสือ การลงทะเบยี นกิจกรรม การปฐมนิเทศห้องสมุด ส่งิ อานวยความสะดวกต่าง ๆ การแจง้ ปัญหาการใชบ้ ริการ เปน็ ต้น ลาดับที่ 2 ทตี่ ั้งของทรัพยากรสารสนเทศ (Resources location) 28.11% ลาดับท่ี 3 การชว่ ยคน้ ควา้ (Reference service) 17.16% ลาดบั ที่ 4 เวลาเปิด-ปิดบริการ (Library hours) 9.47% ลาดบั ท่ี 5 บริการยืม-คนื (Circulation service) 5.62% ภาพท่ี 5 ประเภทของคาถามทผี่ ู้ใชบ้ รกิ ารสอบถามมากที่สุด 2. ช่วงเวลาทีผ่ ้ใู ช้บรกิ ารสอบถามมากทีส่ ดุ ลาดบั ที่ 1 เวลา 12.00 น. คดิ เป็น 12.72% ลาดบั ที่ 2 เวลา 13.00 น. คิดเป็น 12.13% และ ลาดบั ท่ี 3 เวลา 11.00 น. และ 16.00 น. คิดเป็น 10.36% ตามลาดบั ภาพที่ 6 ช่วงเวลาทผ่ี ้ใู ช้บริการสอบถามมากทีส่ ดุ

โดยแตล่ ะช่วงเวลา สามารถแบ่งประเภทของคาถาม ได้ดงั นี้ ชว่ งเวลา ประเภทของคาถาม จานวนคาถาม (%) ที่ตัง้ ของทรพั ยากร 5.33 เวลา 12.00 น. การช่วยค้นคว้า 2.37 (12.72%) คาถามอ่ืน ๆ 2.37 เวลาเปิด-ปิดบริการ 1.18 เวลา 13.00 น. บริการสนับสนุนการวจิ ยั 0.89 (12.13%) บริการยืม-คืน 0.59 คาถามอื่น ๆ 4.14 เวลา 11.00 น. ที่ตง้ั ของทรพั ยากร 3.85 (10.36%) การชว่ ยคน้ ควา้ 2.07 บรกิ ารยมื -คืน 1.18 เวลา 16.00 น. เวลาเปิด-ปิดบรกิ าร 0.59 (10.36%) ขอ้ เสนอแนะ/ ข้อร้องเรียน 0.30 คาถามอ่ืน ๆ 4.44 ทต่ี ั้งของทรัพยากร 2.96 การช่วยค้นควา้ 2.07 เวลาเปิด-ปิดบริการ 0.59 บรกิ ารสนับสนุนการวจิ ยั 0.30 ท่ตี ั้งของทรพั ยากร 3.55 การชว่ ยคน้ คว้า 2.96 คาถามอื่น ๆ 2.96 เวลาเปิด-ปิดบริการ 0.59 ข้อเสนอแนะ/ ขอ้ ร้องเรียน 0.30 จากตาราง จะเห็นไดว้ ่า คาถามท่ถี ามบอ่ ยทสี่ ุดในชว่ งเวลาทม่ี ีผใู้ ชบ้ ริการสอบถามมากทีส่ ุด คือ ทต่ี ัง้ ของทรัพยากรสารสนเทศ การชว่ ยค้นคว้า และคาถามอน่ื ๆ 3. ระยะเวลาทใ่ี ช้ในการตอบกลับผูใ้ ช้บริการ เม่อื มีผ้ใู ชบ้ ริการสอบถามผ่านทางไลน์แอด โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 0-5 นาที ในการตอบกลับ คิดเป็น 72.78% ระยะเวลา 10-60 นาที คิดเปน็ 13.61% ระยะเวลามากกวา่ 60 นาที คดิ เปน็ 7.99% ภาพที่ 7 ระยะเวลาทใี่ ช้ในการตอบกลับผู้ใชบ้ ริการ

การสารวจความพงึ พอใจของกลมุ่ ผใู้ ช้บรกิ ารผา่ นไลนแ์ อด หลงั จากทีห่ อสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไดม้ ีการนาไลนแ์ อดมาเป็นส่วนหนึ่ง ในการใหบ้ ริการมาระยะหนง่ึ แลว้ จึงได้มีการสารวจความพึงพอใจของผู้ใชบ้ รกิ ารเพอื่ เปน็ แนวทาง ในการพัฒนาต่อไป โดยผลสารวจความพงึ พอใจมาจากกลมุ่ ผู้ใชบ้ ริการไลนแ์ อดของหอ้ งสมดุ 5 แห่ง ไดแ้ ก่ หอสมุดป๋วย อ๊งึ ภากรณ์, หอสมดุ ปรดี ี พนมยงค์, ห้องสมดุ สญั ญา ธรรมศกั ดิ์, ห้องสมุดนงเยาว์ ชยั เสรี และหอ้ งสมดุ ศาสตราจารย์ดิเรก ชัยนาม ดา้ นความรวดเรว็ ในการใหบ้ ริการ ผ้ใู ช้บริการมีความพึงพอใจในระดบั มากทสี่ ุด มีค่าเฉล่ีย (������̅) = 4.46 ดา้ นผู้ใหบ้ รกิ ารมีความรู้ความสามารถในการตอบขอ้ ซักถาม ใหก้ ารช่วยเหลอื และแก้ไข ปญั หาไดเ้ ปน็ อย่างดี ผู้ใช้บริการมคี วามพึงพอใจในระดบั มากทสี่ ุด มคี ่าเฉลี่ย (������̅) = 4.42 และ ความพึงพอใจโดยภาพรวม อย่ใู นระดับมากท่ีสุด มีค่าเฉลยี่ (������̅) = 4.49 สรปุ ผล การอภปิ รายผล ข้อเสนอแนะและการนาไปใชป้ ระโยชน์ การอภิปรายผล 1. จานวนผ้ตู ิดตาม จากจานวนผู้ติดตาม Line@ ของห้องสมดุ ต่าง ๆ พบวา่ จานวนผ้ตู ิดตามบัญชไี ลน์แอด ของหอสมุดปว๋ ย อ๊ึงภากรณ์ มากที่สดุ โดยคาดวา่ ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ซ่งึ เป็นกลุม่ ผรู้ บั บรกิ ารหลกั ของหอสมุดป๋วย และสอดคล้องกบั ผลการสารวจพฤตกิ รรมการใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ของ เจนเนอเรชัน่ Y (Gen Y) ของสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (2560) ทพี่ บว่าบคุ คล ช่วงอายุ 17-37 ปี เป็นกลุ่มที่มีความนยิ มใชส้ ่ือสงั คมออนไลน์ ประเภท Line มากที่สุด (รอ้ ยละ 97.9) ตามมาดว้ ย เฟซบุ๊ก (รอ้ ยละ 97.8) 2. ประเภทของคาถาม จากผลการวิเคราะห์ข้อมลู พบว่าคาถามเกยี่ วกบั ที่ตง้ั ของทรัพยากรสารสนเทศเปน็ คาถาม ที่พบบ่อย (ร้อยละ 28.11) ทั้งนอ้ี าจเน่ืองมาจากแผนผงั และปา้ ยบง่ ชี้ทรัพยากรสารสนเทศ ไม่ชัดเจน เพียงพอสาหรบั การสอื่ สารให้ผู้ใช้บริการเข้าใจได้ สอดคลอ้ งกบั ผลการสารวจความพงึ พอใจ ผรู้ ับบรกิ าร ปงี บประมาณ 2561 พบว่าผู้ใช้บรกิ ารประสบปัญหาในเรื่องของป้ายบอกทิศทาง แผนผงั ทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดไม่ชัดเจน (หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร,์ 2561) นอกจากน้ี คาถามในกลมุ่ อ่นื ๆ สามารถนาข้อมูลมาวิเคราะหเ์ พ่ือปรบั วธิ กี ารส่ือสารกบั ผู้ใช้ตาม ช่วงเวลาท่จี าเป็น เช่น คาถามเกีย่ วกบั การชาระค่าปรับ เม่ือดูจากชว่ งเวลาร่วมดว้ ยแล้ว พบว่าสาเหตุ ท่ผี ้ใู ช้สง่ คาถามเขา้ มามาก เป็นเพราะอยู่ในระหวา่ งใกล้สน้ิ สุดภาคเรยี นทนี่ กั ศึกษาจะแจ้งจบการศึกษา ในส่วนนกี้ ารให้ข้อมลู ข่าวสารเร่อื งการชาระค่าปรบั อาจยงั ไมท่ ั่วถึง จึงต้องมาปรับวธิ ีการส่ือสาร และอธิบายให้ผูใ้ ชบ้ ริการได้รับทราบต่อไป 3. ช่วงเวลาทีถ่ าม เมอ่ื พจิ ารณาจากผลการวิเคราะหข์ ้อมูล พบว่าชว่ งเวลาทีผ่ ใู้ ชส้ อบถามข้อมูล คอื เวลา 12.00 น. และเวลา 16.00 น. ซ่งึ คาดวา่ นา่ จะเป็นช่วงทผ่ี ู้ใช้บรกิ ารสว่ นใหญ่ (นกั ศึกษาระดับ ปรญิ ญาตร)ี วา่ งเว้นจากการเข้าชั้นเรยี น จงึ มเี วลาสาหรับการค้นคว้าข้อมูลและสอบถามบรกิ ารกับ เจา้ หนา้ ทห่ี ้องสมุด โดยจากข้อมูลนี้ หอ้ งสมุดสามารถนามากาหนดแนวทางการใหบ้ ริการโดยการเพมิ่

เจ้าหน้าทผ่ี ้ใู หบ้ รกิ ารเพื่อใหส้ ามารถตอบกลับผูใ้ ชไ้ ด้อยา่ งรวดเรว็ รวมทงั้ ใชร้ ะยะเวลานี้เปน็ ช่วงเวลา สาหรับการสง่ ข้อความประชาสัมพนั ธ์ขอ้ มูลขา่ วสารและบริการต่าง ๆ เพ่ือมิให้ข้อความท่ีสง่ นนั้ รบกวนเวลาในช้ันเรยี นของนักศึกษา นอกจากน้ีอาจใช้เปน็ แนวทางในการกาหนดช่วงเวลาในการจัด กิจกรรมตา่ ง ๆ ของหอ้ งสมุดได้อกี ดว้ ย 4. เวลาท่ีใช้ในการตอบกลับ จากผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าเจ้าหน้าทผ่ี ู้ใหบ้ ริการส่วนใหญ่ (รอ้ ยละ 72.78) ใช้เวลา ในการตอบกลับผใู้ ช้ อยทู่ ี่ 0-5 นาที ซึ่งสอดคล้องกับคา่ เป้าหมายตวั ชว้ี ัดบริการทหี่ ้องสมุดกาหนด ระยะเวลาในการตอบกลบั อยู่ท่ภี ายในไมเ่ กิน 30 นาทีหลงั จากไดร้ ับขอ้ คาถามจากผู้รับบริการ โดย เมอ่ื พิจารณาจากคาถามท่ีใช้เวลาในการตอบกลับในระยะเวลา 10-60 นาที และมากกว่า 60 นาที มกั จะเป็นคาถามท่ผี ู้ใช้ถามในชว่ งนอกเวลาราชการ เช่น เวลา 6.00-7.00 น. หรอื เปน็ คาถามเฉพาะ ด้านทเ่ี จา้ หน้าทผ่ี ้ใู หบ้ ริการบางคนอาจไม่ทราบข้อมลู จงึ ทาให้ตอบคาถามช้ากว่าเกณฑ์เวลาทก่ี าหนด ท้งั นจี้ านวนบุคลากรทีร่ ับผดิ ชอบไลน์แอดของแตล่ ะห้องสมุดกเ็ ป็นปจั จยั หนง่ึ ท่ีมผี ลตอ่ เวลาท่ีใชใ้ น การตอบกลบั ซึ่งหอ้ งสมดุ ท่ีมีการตอบกลบั ไดเ้ ร็วทสี่ ุดคือ หอสมุดปว๋ ย อึ๊งภากรณ์ เนอื่ งจากมีจานวน ผใู้ ห้บริการไลน์แอด 16 คน การนาไปใชป้ ระโยชน์ ประโยชน์ต่อหอ้ งสมุด 1. หอ้ งสมดุ มีช่องทางในการสื่อสารและประชาสัมพนั ธ์ท่เี ขา้ ถึงผู้ใชบ้ รกิ ารได้มากขนึ้ 2. มกี ารนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสง่ เสริมในการให้บรกิ ารห้องสมดุ สนบั สนนุ ภาพลักษณ์ ความเป็นห้องสมุดยุคใหม่ บรกิ ารทกุ ที่ ทุกเวลา 3. สามารถสง่ ขอ้ มลู แบบรอดคาสตร์ข้อมูลได้พรอ้ ม ๆ กัน โดยผู้ใช้สามารถเห็นข้อความได้ รวดเรว็ กว่าการสง่ แบบอเี มล 4. บรรณารกั ษ์และเจ้าหน้าที่มีการทางานรว่ มกนั เป็นทีม ได้ฝกึ ฝนทักษะในการตอบ คาถาม ประโยชน์ต่อผใู้ ช้บริการ มชี ่องทางในการแสดงความคิดเห็น สอบถาม หรือให้ข้อแนะนาตา่ ง ๆ ได้อยา่ งรวดเรว็ มากขึ้น ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรนาข้อคาถามมาวิเคราะหค์ วามถี่ของคาที่พบบ่อย (Word analytics) และ สรา้ งระบบตอบกลับอตั โนมัติใหก้ บั คาถามเหล่าน้ัน เพือ่ ชว่ ยประหยดั เวลาในการพิมพ์ข้อความ ตอบกลับของเจ้าหน้าท่ี 2. ควรมีการศึกษาความพงึ พอใจในการใชบ้ รกิ ารไลนแ์ อดของ หอสมดุ แหง่ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ เพอื่ ทราบปัญหา อุปสรรคและขอ้ เสนอแนะในการพัฒนาบริการต่อไป 3. Line@ จดั เก็บข้อมูลสว่ นบุคคลของผตู้ ิดตามเฉพาะในด้านเพศและอายุ ทาให้ ไมส่ ามารถวเิ คราะห์ความสัมพันธข์ องพฤตกิ รรมและสถานะสว่ นบุคคลได้อยา่ งชดั เจน ดังน้นั ควรมี การหาแนวทางในการจัดเก็บข้อมูลสว่ นบคุ คลเพ่ิมเติม

รายการอา้ งอิง Carr, C. T., & Hayes, R. A. (2015). Social media: Defining, developing, and divining. Atlantic Journal of Communication, 23(1), 46-65. Thaipradit, K., & Treeratanaporn, T. (2016). Social commerce: The comparative selective different characteristics among facebook, line, and instagram. Executive Journal, 36(2), 24-38. สานกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส.์ (2560). รายงานผลการสารวจพฤตกิ รรมผู้ใช้ อนิ เทอรเ์ นต็ ในประเทศไทยปี 2560. กรงุ เทพฯ: หนว่ ยยุทธศาสตร์ สานักงานพฒั นา ธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส.์ หอสมุดแหง่ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร.์ (2560). รายงานประจาปี 2560. กรุงเทพฯ: หอสมดุ แห่งมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. หอสมดุ แหง่ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. (2561). ผลสารวจความพงึ พอใจผู้รบั บริการหอ้ งสมุดปี การศึกษา 2560. เข้าถงึ ได้จาก https://drive.google.com/file/d/ 14nIGzxBM22q0WcLbs_KHC12cOrI3aBHn/view?usp=sharing

การใชเ้ ครือขา่ ยสังคมออนไลน์ในการเข้าถงึ ผู้ใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมดุ Using Social Networking Sites for Library Outreach ชมพนู ชุ สราวเุ ดชา, เสรี คาเปล่ียน, สภุ าลยั สิงคะตา หอ้ งสมดุ คณะแพทยศาสตร์ สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ e-mail: [email protected] บทคัดย่อ ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ตระหนักถงึ พฤตกิ รรมการเข้าถงึ สารสนเทศทีเ่ ปลยี่ นแปลงไปอยา่ งรวดเร็ว จงึ มกี ารศกึ ษาการใชเ้ ฟซบกุ๊ (Facebook) และไลน์ (Line) ในการเผยแพร่บริการและสารสนเทศถึงผใู้ ช้บริการ โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือพฒั นาการใช้เครอื ข่าย สงั คมออนไลน์ในการเข้าถึงผู้ใชบ้ ริการหอ้ งสมุดอย่างมปี ระสิทธภิ าพ และเพ่ือพฒั นาทกั ษะการสืบค้น ขอ้ มูล กลั่นกรอง และประเมินสารสนเทศของบุคลากรหอ้ งสมดุ ให้สามารถนาไปใช้ในการปฏิบัติงาน ได้อย่างเหมาะสม มขี นั้ ตอนการศกึ ษาคือรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมลู จานวนผูใ้ ชบ้ ริการท่ีเพ่ิมเข้าและ ออกจากเครือข่ายสงั คมออนไลน์ (Line, Facebook) รวมท้ังการมีปฏกิ ริ ยิ าต่อโพสต์ ไดแ้ ก่การแสดง ความรู้สกึ การแสดงความคิดเหน็ การแชรต์ อ่ การคลกิ ดูเพ่ิมเตมิ และการเข้าถึงโพสต์เฟซบกุ๊ ห้องสมดุ ของกลุ่มประชากรผเู้ ขา้ ใชบ้ ริการเครือข่ายสงั คมออนไลน์ ในช่วงเวลา 20 เดือน นบั จากวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 ถึง วันท่ี 31 สงิ หาคม พ.ศ. 2561 ผลการศึกษาพบว่าผใู้ ช้บรกิ ารมอี ตั ราการเพิ่มเข้ากลุม่ ไลน์ผ้ใู ชบ้ ริการหอ้ งสมดุ 15 คนต่อ เดอื น อตั ราการออกจากกลมุ่ 1 คนตอ่ เดือน และในการโพสต์ขอ้ ความบนเฟซบกุ๊ เฉลีย่ 25 ครั้งตอ่ เดือน มีอตั ราการกดถูกใจเพจเฟซบุ๊ก 17 คนต่อเดือน อัตราการเลิกถูกใจเพจเฟซบุ๊ก 10 คนต่อเดือน อตั ราการแสดงปฏิกิรยิ าต่อโพสต์ 3,646 คนต่อเดอื น และอัตราการเข้าถึงโพสต์ 26,710 คนตอ่ เดือน จากการศึกษาแสดงวา่ การใช้เครอื ข่ายสังคมออนไลน์ของห้องสมุดสามารถเขา้ ถงึ ผูใ้ ช้บริการจานวน มาก และมผี ลตอบรับด้วยการแสดงปฏิกิรยิ าตอบกลบั ต่อโพสตใ์ นปรมิ าณสูง รวมท้ังมีแนวโนม้ การคง อยู่ และเพ่ิมขน้ึ ของสมาชกิ เครือข่ายสังคมออนไลนอ์ ย่างต่อเน่อื ง นับเปน็ เคร่ืองมือท่ีมีประสิทธภิ าพสงู สาหรับห้องสมดุ ในการสง่ ผ่านสารสนเทศและบริการไปยังผใู้ ชบ้ ริการ อีกทงั้ ยงั เป็นช่องทางการพัฒนา ความสามารถของบคุ ลากรให้เปน็ ผูม้ คี วามใฝร่ ู้ และมีทักษะการประเมินสารสนเทศเปน็ อยา่ งดอี ีกด้วย คาสาคญั : เครอื ข่ายสังคมออนไลน์, การเผยแพรส่ ารสนเทศ, การเขา้ ถึงผูใ้ ช้บริการหอ้ งสมุด, เฟซบุ๊ก, ไลน์แอปพลเิ คชัน

Abstract The format of the diffusion of knowledge has been changed rapidly in the 21st century. Library of the Faculty of Medicine, Chiang Mai University has embraced the essence of social media inclusion such as Facebook and Line to increase the efficacy of service engagement to the library’s users. In order to further enhance the library outreach via continuously improvement through identification, collection and evaluation, this report discusses the usage of the library’s social network sites (LINE and Facebook) in the form of number of users, reaction to post, comments received, Post sharing, Other Clicks and Post Views in the period of 20 months from January 1st 2017 to August 31st 2018. It is found that the user joined the library Line group in the rate of 15 person per month while the rate of leaving the group was 0.5 person per month. Moreover, per monthly 25 posts on Facebook, Like was received 17 times, Unlike 10 times, Reaction to post 3,646 times and Post views 26,720 times. As can be seen from the study, the application of social media has greatly enhanced the access of users to the information of library service. In addition to the high number of responses received, the number of users was in constant with direction of steadily increasing. It can be concluded that social media as a user’s engagement and library outreach tool has proved to be highly efficient. Furthermore, academic librarian could improve and gain new skills on social media sites engagement and management to promote library’s service. Keywords: Social Networking Sites, Information Distribution, Library Outreach, Facebook, Line บทนา การได้รับการนึกถงึ เปน็ ท่ีแรก เม่อื ต้องการสารสนเทศ หรอื ความช่วยเหลอื (First stop) และการเปน็ ทย่ี อมรับ หรอื ไว้วางใจในบรกิ ารท่ีจะไดร้ บั (Recognition) ของผู้ใชบ้ ริการ เปน็ พ้นื ฐาน สาคญั ของพันธกิจตามยุทธศาสตรด์ า้ นบริการสารสนเทศสนับสนุนการวจิ ัย และดา้ นบรกิ ารทเี่ ป็นเลิศ ของสานักหอสมุด มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ หอ้ งสมดุ คณะแพทยศาสตรจ์ งึ มงุ่ สง่ เสรมิ ใหเ้ กิดการเรยี นรู้ และสนบั สนุนการทาวิจยั อยา่ งเข้มแขง็ ใหแ้ ก่ผ้ใู ชบ้ ริการ ซึ่งเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะ Facebook และ Liine นับเปน็ ชอ่ งทางสาคัญสาหรบั ใหผ้ ู้ใชบ้ รกิ ารเข้าถึงสารสนเทศ และบรกิ ารของ หอ้ งสมดุ ไดอ้ ย่างรวดเร็ว รวมท้งั ช่วยสรา้ งความเชอ่ื ม่นั ให้เกิดกับองคก์ รได้เปน็ อยา่ งดี (Klassen, 2018) และดว้ ยการใช้งานอย่างกวา้ งขวางในกลมุ่ คนรนุ่ ใหม่ จงึ มีการศึกษาความเข้าใจของนกั ศกึ ษา

ทม่ี ตี ่อโซเชียลมีเดยี ประเภทเฟซบุก๊ ถงึ ประสทิ ธิภาพการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Students' self-efficacy in learning) และพบวา่ เฟซบุ๊กเปน็ เคร่ืองมือที่มีศกั ยภาพในการขยายการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง และ สามารถพัฒนาไปสูก่ ารเรยี นระดับเข้มขน้ มากยงิ่ ข้นึ ได้ (Tower, et al., 2014) ตลอดจนมีหน่วยงาน ทางการแพทย์นาเฟซบุ๊กมาใชเ้ ปน็ สอ่ื กลางการเรียน การสอนของนักศึกษาแพทย์ในห้องฉุกเฉิน ของโรงพยาบาล พร้อมกับตดิ ตาม ประเมินประสิทธภิ าพ พบวา่ นกั ศกึ ษาแพทยม์ ผี ลตอบรบั ทดี่ ี มกี ารเข้าถึงบทความวิชาการมากขน้ึ แมว้ า่ จะมีปฏกิ ริ ิยาตอบกลับด้วยการแสดงความคิดเห็น ไมม่ ากนักกต็ าม (Yuksen & Siricharoen, 2014) ในปัจจุบนั ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ใช้สื่อสงั คม ออนไลน์เปน็ เคร่ืองมือ (Social Networking Tools) ในการเผยแพรบ่ ริการ และสง่ ต่อสารสนเทศ ไปยังผใู้ ช้บริการ จานวน 4 ชอ่ งทาง คอื Line, Facebook, Twitter และ YouTube channel’ ซ่งึ ท้งั 4 ชอ่ งทางนนี้ บั เป็นเครื่องมือการส่ือสารทไ่ี ดร้ ับความนยิ มอย่างสูงในปัจจบุ นั เนอ่ื งจากข้อความ ท่ีส่ือมลี กั ษณะสัน้ กระชับ ได้ใจความสาคัญ ใช้ได้ในทุกอุปกรณ์ ไม่มีค่าใช้จา่ ย และประชากร กลมุ่ เปา้ หมายมีการใช้งานเคร่ืองมือส่ือสารเหล่านก้ี นั เปน็ ประจา สาหรับการศึกษานี้ ห้องสมุด คณะแพทยศาสตรค์ ัดเลือกส่ือสงั คมออนไลน์ ที่มีความเคลื่อนไหว และใช้งานมากทส่ี ดุ จานวน 2 ช่องทางคือ Line และ Facebook ในการวิเคราะหป์ ระสทิ ธิผลในการเขา้ ถึงผู้ใช้บรกิ ารของ ห้องสมดุ เพ่ือพฒั นาการดาเนินงานดว้ ยข้อมลู และหลักฐานเชิงประจักษ์ทถ่ี ูกต้อง ชัดเจนมากทสี่ ุด วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพฒั นาการใชเ้ ครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ในการเขา้ ถึงผใู้ ช้บรกิ ารห้องสมุดอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 2. เพือ่ พฒั นาทกั ษะการสบื ค้นขอ้ มูล กลั่นกรอง และประเมนิ สารสนเทศของบุคลากร ห้องสมุด ให้สามารถนาไปใช้ในการปฏบิ ัตงิ านได้อย่างเหมาะสม ขน้ั ตอนและวิธดี าเนนิ งาน 1. วางแผนการดาเนนิ งาน 1.1 ประเมนิ และคดั เลอื กเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูง โดยพจิ ารณา จากสถติ ิการเขา้ ถึง 2 อันดับแรก ไดแ้ ก่ Line และ Facebook 1.2 กาหนดกลุม่ ประชากร คือผู้ใชบ้ ริการเครือขา่ ยสังคมออนไลน์หอ้ งสมุดในระหว่าง วนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ.2560 ถงึ วันท่ี 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561 1.3 กาหนดหลักการในการดาเนนิ งาน ดังน้ี 1) ประกาศวตั ถุประสงค์ และแนวปฏบิ ัติการให้บริการอย่างชัดเจน เพ่อื เป็นขอ้ มูล ใหผ้ ูใ้ ชบ้ รกิ ารพจิ ารณาก่อนสมัครเข้ากลมุ่ 2) มกี ารโพสต์ขอ้ ความเปน็ ประจาทุกวัน ๆ ละไม่เกนิ 1 โพสต์สาหรับกลมุ่ Line และเฉลย่ี 1-2 โพสต์ สาหรบั Facebook ยกเวน้ วนั หยุดราชการ และนกั ขตั ฤกษ์ 3) ท้งั Line และ Facebook หอ้ งสมุดใชแ้ อปพลิเคชั่นที่ไมม่ ีคา่ ใช้จา่ ย จึงต้อง ระมดั ระวงั ดแู ลการส่งข้อความเขา้ กลุ่มอย่างเครง่ ครัด เพื่อความเป็นระเบียบเรยี บร้อย และไมร่ บกวน สมาชกิ ของกลมุ่ โดยรวม หากฝ่าฝนื ห้องสมดุ จะใชม้ าตรการตกั เตอื น และบล็อกตามลาดับ

2. สรา้ งทีมงาน Social media team ผู้ปฏิบตั ิงานดา้ นโซเชยี ลโดยตรงประกอบด้วยหัวหนา้ ทีม และลกู ทมี จานวน 3-5 คน โดยคดั เลือกจากผู้ทมี่ ีทักษะการแสวงหาและสร้างส่ือสารสนเทศใหน้ า่ สนใจ มีความรู้ ความเขา้ ใจใน การดูแลสมาชิกกลมุ่ รวมทง้ั มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี Social media เปน็ อยา่ งดี ทาหน้าท่ี รบั ผดิ ชอบในการประชาสมั พันธ์ สรา้ งการรับรู้ในบรกิ าร เข้าใจการดาเนินงานตามบริบทของห้องสมุด สง่ เสรมิ ภาพลักษณท์ ีด่ ีของหน่วยงาน รวมถึงการมบี ทบาทสาคัญในการสร้าง และรักษาความผกู พนั ระหวา่ งผูใ้ ช้บรกิ ารและองค์กรให้มน่ั คง ยาวนานมากที่สดุ 3. ให้บรกิ ารสารสนเทศผ่านเครอื ข่ายสังคมออนไลน์ 3.1 บริการสารสนเทศทางการแพทย์ผ่านไลน์: Medical library line users group หอ้ งสมดุ คณะแพทยศาสตร์ ดาเนนิ การส่งข้อมลู ข่าวสาร สาระความรรู้ วมถึงเทคนิค วิธีการที่มปี ระโยชน์ต่อการเรียนรู้ และการวจิ ัยให้แก่ผู้ใช้บรกิ ารกล่มุ เป้าหมาย คือ นกั ศึกษาแพทย์ พยาบาล อาจารย์ และบคุ ลากรของคณะแพทยศาสตร์ทส่ี นใจ โดยมีหลกั การว่า ต้องเป็นความสมคั ร ใจในการรบั ข้อความอยา่ งแท้จริงเริม่ เปิดให้บรกิ ารตงั้ แตว่ นั ท่ี 15 มกราคม พ.ศ 2559 เปน็ ต้นมาจนถึง ปัจจุบนั โดยเร่มิ ตน้ มีสมาชกิ จานวน 15 คน ผู้รับผดิ ชอบในการสร้างหรอื ค้นคว้าสารสนเทศ ไดแ้ ก่บรรณารกั ษ์ นักเอกสารสนเทศ นกั วิชาการศกึ ษา นกั วชิ าการคอมพิวเตอร์ของห้องสมุด ทาการค้นควา้ ความรู้ หรอื บรกิ ารที่จะเปน็ ประโยชนห์ ากผ้ใู ช้บริการได้ทราบ หรือการค้นพบใหม่ นวตั กรรมทมี่ ีผลกระทบ นโยบายท่มี ี ความสาคัญ แลว้ จงึ คดั เลือก ประเมินความถกู ต้องของสารสนเทศ และสง่ เป็นข้อความในไลนก์ ลุม่ วนั ละ 1 ขอ้ ความเปน็ ประจาทกุ วัน ยกเวน้ วนั เสาร์ วันอาทติ ย์ และวนั หยุดนักขัตฤกษ์ พรอ้ มรปู ภาพประกอบเพ่อื ความน่าสนใจใน 5 ดา้ นคือ วันจนั ทรด์ า้ นการศึกษา วนั องั คารด้านบรกิ าร วันพุธดา้ นเทคโนโลยี/ เทคโนโลยีสารสนเทศ วนั พฤหสั บดีดา้ นการวจิ ัย และวนั ศกุ รด์ ้านกายภาพ/ สง่ิ อานวยความสะดวก เพ่ือส่งเสริมการเรยี นรภู้ ายในหอ้ งสมดุ ดังตวั อยา่ งขอ้ ความในภาพท่ี 1 สวสั ดีค่ะ หลงั จากหยุดยาว ทุกท่านคงจะสดช่ืนจากการพกั ผอ่ นหรือท่องเท่ียวกนั มาแลว้ นะคะ ������ ��� สาหรับวนั น้ี ห้องสมุดขอแจง้ ให้ทราบถึงบริการใหม่ของเราค่ะ ตอนน้ีเรามี เครื่องคอมพิวเตอร์โนต้ บุ๊ค รุ่น MacBook Air 13 นิ้ว ������ ให้ยมื ใชภ้ ายในห้องสมุดค่ะ เหมาะ สาหรับการใชพ้ รีเซนทง์ านแบบกลมุ่ หรือแสดง Keynote หากตอ้ งการยมื ใช้ สามารถติดต่อท่ีเคานเ์ ตอร์บริการไดเ้ ลยคะ่ ภาพที่ 1 ตวั อยา่ งข้อความที่เตรยี มไว้สาหรับทมี โซเชียลนาไปใชง้ าน

เนื้อหาของข้อความสาหรับโพสต์จะถูกนาไปเก็บรวบรวมไว้บนไฟล์ (Google docs) ชอ่ื “ขอ้ ความไลน์กลุ่ม ห้องสมดุ คณะแพทยศาสตร์” สาหรับผปู้ ฏิบัติงานในโซเชียลทมี พิจารณาคัดเลือก และปรบั ข้อความเพื่อนาโพสตใ์ นไลนก์ ล่มุ ต่อไป ตามปกติ ทุกข้อความท่สี ่งจะมีภาพประกอบด้วย เสมอ เพ่ือให้เขา้ ใจง่าย น่าสนใจ และไมอ่ นุญาตให้ผใู้ ชบ้ ริการสง่ ข้อความใด ๆ หากมีข้อคาถาม สามารถใช้บริการไลน์สาหรับถาม-ตอบ หรือ Ask a librarian หรือ Chat box (Messenger) ของห้องสมดุ ไดต้ ลอดเวลา ท้ังน้ีเพ่ือไม่ให้รบกวนผใู้ ชบ้ ริการอ่ืนในกล่มุ 3.2 บริการสารสนเทศผา่ นเฟซบุก๊ ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ หอ้ งสมดุ เปดิ บริการเฟซบุ๊ก ช่ือ ห้องสมดุ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ขึ้นเป็นคร้งั แรก เม่อื วันท่ี 13 ตลุ าคม พ.ศ. 2554 ด้วยวัตถปุ ระสงค์เพ่ือเพ่ิมชอ่ งทางเผยแพร่บริการ ขา่ วสารห้องสมดุ สู่ สังคมสาธารณะในวงกว้างให้มากยิง่ ข้นึ รวมทงั้ เป็นโอกาสรับฟังความคดิ เห็นของผู้ใชบ้ รกิ ารดว้ ย โดยให้บริการตอ่ เนื่องมาถึงปัจจบุ นั ดว้ ยจานวนผ้ตู ิดตามเพจ 4,125 คน (ขอ้ มูลวันที่ 31 สงิ หาคม พ.ศ. 2561) ผ้ดู ูแลเพจ คือ โซเชียลทมี ทาหน้าที่คน้ ควา้ สรรหา คัดกรอง และประเมินสารสนเทศเพ่ือ นาโพสต์เฉล่ีย 1-2 เรอ่ื งต่อวัน โดยจะใช้ขอ้ ความสารสนเทศเดยี วกบั ท่ีใช้โพสตใ์ นไลนก์ ลุ่มผูใ้ ชบ้ รกิ าร หรอื สรา้ งขน้ึ ใหม่ก็ได้ นอกจากนีท้ มี งานผดู้ ูแลเฟซบุ๊กห้องสมดุ ยังทาหน้าท่ีตอบคาถาม หรือแสดง ความรู้สึกตอบสนองต่อความคดิ เห็นของผู้ใช้บรกิ ารด้วยความเอาใจใส่ รวดเร็ว ทนั ท่วงที เพื่อสรา้ ง ความประทับใจ ซ่งึ ส่งผลต่อภาพลกั ษณ์ และความผกู พนั ที่มตี อ่ องค์กรโดยตรง ตวั อย่างข้อความที่ โพสต์ดงั แสดงในภาพท่ี 2 ภาพที่ 2 ข้อความทโ่ี พสต์ในเฟซบุ๊ก 4. รวบรวม และวเิ คราะห์ข้อมลู การเขา้ ถึงบรกิ าร และสารสนเทศหอ้ งสมุดผา่ นเครือขา่ ย สังคมออนไลน์ของผใู้ ชบ้ รกิ าร ในช่วงเวลา 20 เดือน (1 มกราคม 2560-31 สิงหาคม 2561) ดงั นี้ 4.1 อัตราการเพิม่ เขา้ และออกจากกล่มุ ไลนผ์ ้ใู ช้บริการหอ้ งสมดุ 4.2 อัตราการกดถูกใจ และเลกิ ถกู ใจเพจเฟซบุ๊ก

4.3 อัตราการแสดงปฏกิ ิริยา (จานวนการแสดงความรสู้ ึก การแสดงความคิดเห็น การแชร์ตอ่ และการคลกิ ดเู พ่ิมเติม) 4.4 อัตราการเขา้ ถงึ โพสต์ 4.5 อตั ราการโพสต์เฟซบุ๊ก สรปุ ผล อภิปรายผล ขอ้ เสนอแนะและการนาไปใช้ประโยชน์ ผลการศกึ ษา ผลการศึกษาข้อมลู การให้บริการสารสนเทศห้องสมดุ ผา่ นเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์เฟซบุ๊ก และไลนแ์ กผ่ ้ใู ชบ้ รกิ าร ระหวา่ ง วนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2560-วนั ท่ี 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561 รวมระยะเวลา 20 เดอื น ดว้ ยสถติ ิการวเิ คราะหข์ ้อมลู เปน็ ร้อยละ มีดังน้ี 1. อตั ราการเพิ่มเขา้ และออกจากกลุ่มไลน์ผใู้ ช้บริการห้องสมุด Medical library line users group ห้องสมุดคณะแพทย์ ฯ เปดิ ใหบ้ ริการ Medical library line users group มาตงั้ แต่ วนั ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559 โดยเร่ิมต้นมีสมาชิกจานวน 15 คน มีจานวนผู้ใชบ้ ริการแอดไลน์ เพิ่มเข้า และออกจากกลมุ่ จนถงึ วนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 มจี านวน 198 คน ตอ่ มาห้องสมดุ มกี ารพฒั นากระบวนการแสวงหา ประเมิน และคดั เลือกเพื่อปรับปรุงเนื้อหาสาหรับนาให้บรกิ าร อย่างต่อเนือ่ ง ซงึ่ ตลอดชว่ งเวลานบั จากวันท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2660 จนถึงวนั ท่ี 31 สงิ หาคม พ.ศ. 2561 สมาชิกของกลมุ่ ได้ขยายเพ่ิมมากขน้ึ เปน็ จานวน 486 คน มีอัตราการเพม่ิ เข้ากล่มุ 15 คน ตอ่ เดือน และอัตราการออกจากกลมุ่ เฉลีย่ 1 คนต่อเดือน 2. อัตราการกดถูกใจ และเลิกถูกใจเพจเฟซบุ๊กห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ หอ้ งสมุดคณะแพทยศาสตร์เปิดใหบ้ รกิ ารเฟซบุ๊กในช่อื ห้องสมดุ คณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ @MEDLIBCMU มาต้งั แตป่ ี 2554 จนถงึ ปจั จบุ นั รวม 7 ปี (ในวนั ท่ี 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561) มจี านวนสมาชิกทกี่ ดถูกใจเพจเพ่ิมมากข้นึ อย่างต่อเนื่อง ซ่งึ จาก การศกึ ษาพบว่ามีอัตราเฉลีย่ การกดถูกใจเพจจานวน 17 คนต่อเดือน และอตั ราเฉล่ียการเลกิ ถูกใจเพจ จานวน 10 คนต่อเดือน มีอัตราเฉล่ียการเพิ่มข้นึ ของสมาชิก 7 คนต่อเดอื น คดิ เป็นร้อยละ 41.18 ดังแสดงในภาพที่ 3 ภาพท่ี 3 จานวนคนกดถูกใจ และเลิกถูกใจเพจเฟซบ๊กุ ในแตล่ ะเดอื น

3. อตั ราการแสดงปฏิกิรยิ า (จานวนการแสดงความรู้สึก การแสดงความคิดเหน็ การแชร์ ตอ่ และการคลกิ ดูเพิ่มเติม) ผใู้ ชบ้ ริการที่เป็นสมาชิกเฟซบุ๊กห้องสมุดมีอตั ราการแสดงปฏิกริ ิยาต่อ โพสตด์ ้วยการคลิกแสดงความรู้สึก (Like, Love, Ha ha, Sad, Angry) การแสดงความคิดเหน็ การแชร์ต่อ หรอื คลกิ ท่ีองคป์ ระกอบเพื่อดรู ายละเอยี ดของโพสต์เพ่ิมเติม จานวน 3,646 คนตอ่ เดือน (สูงสดุ 23,051 คน ตา่ สดุ 119 คนตอ่ โพสต์) ดังแสดงในภาพท่ี 4 ภาพที่ 4 จานวนการมปี ฏกิ ริ ิยาตอ่ การโพสตบ์ นเพจเฟซบุ๊กในแต่ละเดือน 4. อตั ราการเข้าถงึ โพสต์ ผู้ใช้บริการท้งั ท่ีเป็นสมาชิก และไม่ได้เป็นสมาชิกเพจเขา้ ถงึ โพสตเ์ ฉล่ยี จานวน 26,710 คน ต่อเดือน (สงู สุด 57,041 คน ต่าสุด 6,688 คนต่อเดือน) ดังแสดงในภาพท่ี 5 กราฟแสดงจานวนการเขา้ ถึงโพสต์ 57,041 46,606 37,69421,676 38,872 38,283 41,98339,519 27,074 29,842 27,542 17,437 16,2846,68811,6297,45115,71161,3126,81614,746 ม.ค. ก.พ. ีม.ค. เม.ย. พ.ค. ิม.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ีม.ค. เม.ย. พ.ค. ิม.ย. ก.ค. ส.ค. 2017 2018 ภาพท่ี 5 จานวนการเขา้ ถึงโพสต์

5. อตั ราการโพสต์เฟซบกุ๊ หอ้ งสมดุ โดยโซเชียลทีมมีการค้นควา้ และประเมนิ คดั กรองสารสนเทศสาหรับโพสต์เผยแพร่ เป็นประจาทุกวัน ๆ ละ 1-2 ขอ้ ความ (ยกเวน้ วนั หยุดราชการ และวันนกั ขัตฤกษ์) พบวา่ มีการโพสต์ ขอ้ ความโดยเฉลีย่ ของหอ้ งสมุดจานวน 25 ครั้งตอ่ เดอื น (สูงสดุ 39 ครัง้ ตา่ สุด 14 คร้งั ตอ่ เดือน) ในชว่ งเวลา 20 เดือน ดังแสดงในภาพท่ี 6 กราฟแสดงจานวนโพสตใ์ นแตล่ ะเดือน 20 20 22 14 20 20 20 21 37 39 22 20 27 21 30 28 21 34 37 32 ม.ค. ก.พ. ีม.ค. เม.ย. พ.ค. ิม.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ีม.ค. เม.ย. พ.ค. ิม.ย. ก.ค. ส.ค. 2017 2018 ภาพท่ี 6 จานวนคร้งั ของการโพสต์ในแต่ละเดือน สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะการนาไปใช้ประโยชน์ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ให้ความสาคญั กับการใช้เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์เปน็ เคร่อื งมือ ในการเขา้ ถงึ บริการ และสารสนเทศของผู้ใช้บรกิ ารอย่างต่อเน่อื ง ดว้ ยการรักษาระดบั จานวนการ โพสต์ขอ้ มูลไวอ้ ย่างสม่าเสมอ ซึ่งทาใหเ้ กิดความคุ้นเคย การยอมรับ และความผูกพันระหวา่ ง ผูใ้ ชบ้ ริการและห้องสมุด นอกจากนี้หอ้ งสมุดยงั มีการพฒั นาด้านคุณภาพของข้อความ ด้วยการคดั กรอง ประเมินสารสนเทศก่อนนาเผยแพร่ในเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์อย่างเข้มข้นอยู่เสมอ เพ่ือรักษา กลุ่มของผูใ้ ช้บรกิ ารเดิมไว้ และขยายจานวนกลุ่มผใู้ ช้บรกิ ารใหม่ใหม้ ากยงิ่ ขึน้ และจากผลการศกึ ษา พบวา่ การดาเนินงานมผี ลตอบรับท่ีดี เครือขา่ ย ฯ มีจานวนสมาชกิ เพม่ิ มากข้นึ อย่างตอ่ เน่ือง แสดงถึง การได้รบั ความนยิ ม และเชอ่ื มัน่ จากผ้ใู ชบ้ รกิ าร อกี ท้ังยงั มีการแสดงปฏิกิรยิ าตอบกลับโพสตข์ ้อความ ของห้องสมุดอยูเ่ ป็นประจา แสดงถึงความผูกพัน และประสิทธิภาพของการใชเ้ ครือขา่ ยสังคมออนไลน์ ในการเขา้ ถงึ ผใู้ ชบ้ รกิ ารห้องสมดุ รวมท้งั ยงั เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพ การเปน็ ผู้นาดา้ นข้อมูล สารสนเทศของห้องสมุด สรา้ งความน่าเช่ือถอื และการยอมรบั จากผู้ใชบ้ รกิ ารอยา่ งต่อเนื่อง นอกจากนี้ บุคลากรผู้ปฏิบตั งิ านทีเ่ ก่ียวข้อง โดยเฉพาะโซเชียลทมี มีโอกาสได้ฝกึ ทักษะ การคน้ ควา้ หาความรู้ การพิจารณาคดั กรอง และประเมินสารสนเทศท่เี ป็นประโยชน์สาหรับการเรยี น

การสอน และการวจิ ัยของผ้ใู ช้บรกิ าร ตลอดจนไดฝ้ ึกฝนศิลปะการมีปฏิสมั พันธ์ทดี่ กี ับผ้ใู ช้บรกิ าร บนเครือข่ายสังคมออนไลน์อีกด้วย อยา่ งไรกต็ าม พฤติกรรมผูใ้ ช้บริการบนเครือขา่ ยสงั คมออนไลนม์ ีความหลากหลาย และ เคล่ือนไหวรวดเรว็ เสมอ ห้องสมดุ จาเป็นต้องมีความตน่ื ตวั พร้อมรับการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถงึ แม้วา่ ปจั จุบนั เครอื ข่ายสังคมออนไลน์ประเภทไลน์ และเฟซบุ๊ก จะยังคงได้รับความนิยมมากท่ีสดุ 2 อันดบั แรก จากการสารวจความพร้อมดา้ นเทคโนโลยสี าหรับนกั ศกึ ษาชนั้ ปที ี่ 1 ปีการศึกษา 2561 ของมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ คือ อันดบั 1 Line (98%) อนั ดับ 2 Facebook (96%) แต่อาจจะมี เครือข่ายสังคมออนไลนใ์ หมเ่ ข้ามาแทนที่เฟซบุ๊ก และไลน์ในอนาคตอนั ใกล้ ซ่ึงหอ้ งสมุดต้องสามารถ ปรับตวั ไดท้ ันทว่ งที จากผลการศึกษาพบประเด็นที่นา่ สนใจซง่ึ ผู้วจิ ัยสามารถต่อยอดการศกึ ษาเพ่ิมเติมเพื่อ ประโยชน์ต่อหนว่ ยงาน และผู้ใช้บริการได้ โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อหา (Contents) มีความสาคัญ มากต่อความนา่ เช่ือถือของหนว่ ยงาน การศึกษาเจาะลึกในดา้ นน้ี เชน่ การศกึ ษาความสัมพันธ์ระหว่าง รปู แบบขอ้ ความทโ่ี พสต์ กบั ปฏิกรยิ าตอบกลับ หรือความเกี่ยวข้องกนั ระหวา่ งเนื้อหา สารสนเทศที่ เผยแพรก่ บั ผลตอบรบั ดา้ นต่าง ๆ เปน็ ต้น ซง่ึ จะเป็นข้อมลู ให้ห้องสมุดใช้วางแผน และปรับปรุง พัฒนาการใช้เครอื ข่ายสังคมออนไลนส์ าหรับการเขา้ ถึงบริการห้องสมุดให้มีประสทิ ธิภาพมากยงิ่ ข้นึ ได้ ต่อไป การนาไปใช้ประโยชน์ ประโยชนต์ ่องานห้องสมดุ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ 1. ดา้ นการบรหิ าร 1.1 การใชเ้ ครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ในการเข้าถงึ ผใู้ ช้บริการห้องสมุดอยา่ งมี ประสิทธภิ าพสามารถสร้างความน่าเชื่อถือ การยอมรับ และเกิดภาพลกั ษณท์ ่ีดีแก่หนว่ ยงาน สง่ ผลให้ การดาเนนิ งานของห้องสมุดไดร้ บั ความไวว้ างใจจากผบู้ รหิ ารระดบั สูงทดี่ แู ลหน่วยงาน และไดร้ บั ความรว่ มมอื จากผปู้ ฏิบัตงิ านในหน่วยงานทเี่ กย่ี วข้องมากย่ิงข้ึน 1.2 ผู้บริหารสามารถใชก้ ารดาเนนิ งานของเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ในการประเมนิ ผล การปฏิบตั ิงาน และสมรรถนะของบุคลากรไดเ้ ปน็ อย่างดี เนื่องจากสามารถตดิ ตามประสิทธิภาพของ การปฏบิ ัติงาน และประสิทธิผลของงานท่ีเกิดข้นึ ได้อยา่ งชัดเจน 1.3 หอ้ งสมดุ สามารถสร้างความสัมพนั ธ์ทด่ี ีกับห้องสมุดหรือหนว่ ยงานอ่นื ได้โดยใช้ เครือข่ายสงั คมออนไลน์ของหนว่ ยงานเปน็ เครื่องมือในการส่งผา่ นขา่ วสาร และกิจกรรมท่ีเกือ้ กลู ระหวา่ งกัน 2. ดา้ นการบริการ 2.1 ขอ้ มลู สารสนเทศห้องสมุดสามารถเผยแพร่ไปส่ผู ูใ้ ช้บริการได้อยา่ งรวดเรว็ และ เขา้ ถงึ ผใู้ ช้บริการจานวนมากไดท้ ุกกลุ่มในวงกวา้ ง นบั เป็นช่องทางที่ทรงประสทิ ธิภาพมากในปัจจุบนั สาหรับการเผยแพรบ่ ริการและสารสนเทศของห้องสมุดไปสู่ผูใ้ ชบ้ รกิ าร 2.2 ใชเ้ ป็นช่องทางการรับฟงั ความคิดเหน็ และประเมินปฏกิ ริ ิยาการตอบรับที่ ผ้ใู ช้บริการมตี ่อห้องสมุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกับข้อเทจ็ จรงิ อย่างย่ิง เนอ่ื งจากผู้ใชบ้ รกิ าร มีอิสระในการแสดงความคิดเห็นไดอ้ ยา่ งเปน็ เต็มที่

3. ดา้ นบคุ ลากร 3.1 บคุ ลากรผ้ปู ฏิบัติงานทเ่ี ก่ียวข้องกับการดาเนนิ งานได้ฝึกฝนการเปน็ ผู้กระตือรอื รน้ ใฝเ่ รยี นร้ตู ลอดชีวติ (Life-long learning) มีความภาคภูมิใจ และมคี วามสุขได้ดว้ ยตนเอง เนื่องจาก ต้องมีการค้นคว้า หาขอ้ มลู สารสนเทศทท่ี ันสมัยอยู่เสมอ รวมทง้ั ได้พัฒนาความสามารถใน การประเมิน และคัดกรองสารสนเทศสาหรบั เผยแพร่ ซึง่ มีความสาคญั อยา่ งย่งิ ในยุคข้อมลู ข่าวสาร จานวนมหาศาล 3.2 บุคลากรได้พฒั นาความสามารถดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สารอยา่ ง ถูกต้อง เกิดความชานาญในการใชเ้ ครือข่ายสงั คมออนไลน์ใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง และหนว่ ยงาน 3.3 บคุ ลากรเกิดทกั ษะที่พึงประสงค์ในโลกออนไลน์ สามารถควบคุมตนเอง รู้จัก วธิ ีการรับมอื กับความคดิ เหน็ ที่หลากหลายของผ้ใู ชบ้ รกิ ารได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม ซึง่ เป็นทกั ษะ ที่มีความสาคัญอย่างมากตอ่ ภาพลักษณท์ ่ดี ีของหน่วยงาน 4. ประโยชนต์ ่อห้องสมดุ อนื่ ห้องสมุดคณะตา่ ง ๆ ทงั้ ภายใน และภายนอกมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมส่ ามารถนาขั้นตอน การใช้เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลนใ์ นการเขา้ ถึงผใู้ ช้บริการห้องสมุดไปปรับใชด้ าเนนิ งานตามบริบทของ ห้องสมุดแต่ละแหง่ ได้ รวมทั้งสามารถนาผลการศึกษาไปใช้เป็นแนวทางในการพฒั นาการบรหิ ารงาน การใหบ้ ริการ พฒั นาบุคลากร และพจิ ารณาตอ่ ยอดความรู้ หรือขยายความเขา้ ใจในประเดน็ อื่น ๆ ตอ่ ไป รายการอ้างอิง Klassen, K. M., Borleis, E. S., Brennan, L., Reid, M., McCaffrey, T. A., & Lim, M. S. (2018). What people “Like”: Analysis of social media strategies used by food industry brands, lifestyle brands, and health promotion organizations on facebook and instagram. Journal of Medical Internet Research, 20(6), e10227. Kuss, D. J., & Griffiths, M. D. (2017). Social networking sites and addiction: Ten lessons learned. International Journal of Environmental Research and Public Health, 14(3), 311. Tower, M., Latimer, S., & Hewitt, J. (2014). Social networking as a learning tool: nursing students' perception of efficacy. Nurse Education Today, 34(6), 1012-1017. Yuksen, C., & Sricharoen, P. (2014). The study in utilization of social networking website Facebook in educational training of medical students in the emergency room. Thammasat Medical Journal, 14(2), 197-205.

การเพ่มิ สถติ ิการยมื หนงั สอื ด้วยทฤษฎกี ารตลาดหางยาว Circulation Stats increasing with Long Tail Marketing Theory ธนะพันธุ์ การคนซ่อื สำนกั หอสมดุ มหำวทิ ยำลัยเชยี งใหม่ e-mail: [email protected] บทคัดย่อ ห้องสมดุ คณะสัตวแพทยศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั เชียงใหม่ ได้นำทฤษฎีกำรตลำดหำงยำว มำใชใ้ นกำรส่งเสริมกำรยืม-คืนทรพั ยำกรสำรสนเทศของห้องสมุด โดยมีวตั ถุประสงค์หลักเพื่อเพ่ิมสถติ ิ กำรใหบ้ รกิ ำรยืมหนงั สือ และสง่ เสริมให้หนงั สอื ที่มีสถิติกำรใชน้ อ้ ยหรอื ไมม่ ีกำรใชไ้ ด้ถูกยืมมำกยิ่งขน้ึ ซ่งึ ได้ดำเนนิ กำรจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ สถิติกำรยืมหนงั สอื ตำมแนวคิดทฤษฎกี ำรตลำดหำงยำว มำอยำ่ งตอ่ เน่ือง ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2556 จนถงึ ปัจจุบนั โดยได้นำหลกั กำร ADLI ตำมแนวทำงเกณฑ์ คณุ ภำพกำรศึกษำเพอื่ กำรดำเนินงำนทเี่ ปน็ เลิศ EdPEx มำใช้ในกำรควบคุมคณุ ภำพของกระบวนกำร ทำงำนดงั กลำ่ ว ซง่ึ มีข้ันตอนในกำรดำเนนิ งำน ดงั นี้ 1) Approach กำรวำงแผน กำหนดเป้ำหมำย วตั ถปุ ระสงค์ วธิ ีกำรดำเนนิ งำนทเี่ ปน็ ระบบ (Systematic approach) กำหนดผูร้ บั ผดิ ชอบ ในกำรดำเนินงำน ตัวช้วี ดั กระบวนกำร (Work process) และกระบวนกำรย่อย (Sub process) 2) Deployment ดำเนินงำนสง่ เสริมสถติ ิกำรยมื หนังสือโดยใชแ้ นวคิดทฤษฎกี ำรตลำดหำงยำว ไดแ้ ก่ กำรจัดกจิ กรรมยอดนักอำ่ น กำรประชำสัมพนั ธ์หนังสือใหม่ กำรจัดนทิ รรศกำรแนะนำหนังสือ กำรแนะนำหนังสือที่มกี ำรใชน้ อ้ ยและไม่มีกำรใช้ กจิ กรรมสมัครสมำชกิ ใหม่ กจิ กรรมแจ้งเตอื นกำหนด คนื ทรพั ยำกรสำรสนเทศ และกำรจดั ชน้ั หนังสอื ที่สง่ เสริมกำรยืม 3) Learning ทบทวนและ ประเมนิ ผลกระบวนกำรดำเนินงำน เพอ่ื ให้เกดิ กระบวนกำรเรียนรู้ และ 4) Integration บรู ณำกำร กำรดำเนินกำรให้สอดคล้องกับแผนปฏบิ ตั ิกำร และวัตถปุ ระสงค์ของกำรดำเนินกำรร่วมกนั ตำมที่กำหนดไว้ จำกกำรใช้ทฤษฎหี ำงมำยำวมำใช้ในกำรส่งเสรมิ กำรยืมหนงั สือและใชห้ ลกั ADLI มำใช้ ในกำรประเมินผลกำรดำเนนิ งำนทำให้สถิติกำรยืมหนังสือต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2556-ปัจจบุ ัน เพ่ิมขึน้ อย่ำงต่อเนื่อง จำกกำรประเมินสถิตกิ ำรใหบ้ ริกำรยมื หนงั สือที่มีกำรยืมและไมม่ ีกำรยืมของห้องสมดุ คณะสัตวแพทยศำสตร์ ทำให้ทรำบถึงหนงั สือรำยช่ือใด ท่ีมีกำรใชม้ ำกหรือใชน้ อ้ ย รวมถึงไดว้ ิธกี ำร ในกำรจัดกิจกรรมในกำรส่งเสรมิ ให้มกี ำรยืมหนงั สอื และแนวทำงในกำรพัฒนำกำรจัดกจิ กรรม ที่มีประสิทธิภำพตอ่ ไป คาสาคัญ: หอ้ งสมุดและบรกิ ำรของห้องสมุด, กลยทุ ธล์ องเทล, ทฤษฎีกำรตลำดหำงยำว, บรกิ ำรสำรสนเทศ, ทรพั ยำกรสำรสนเทศ

Abstract Veterinary Medicine Library Chiang Mai University used long tail marketing theory to promotion circulation Statistic. The main objective was to increase circulation Statistic and increase circulation Statistic of Books with little or no usage statistics through the promotion circulation Statistic in accordance with the theory of long tail marketing from 2013 to the present. The ADLI Principles have been adopted in accordance with the EdPEx Guidelines for Quality of education used to control the quality of work processes. The steps are as follows 1) Approach planning, objectives, systematic approach 2) Deployment works to promote circulation statistic of books using the concept of long tail theory by Top reader activities, Introducing new book, Book exhibition, Recommended books are less used and not used, New Member Activities, Alert date of return book and the book shelves that promote borrowing. 3) Learning, reviewing and evaluating operational processes. To achieve the learning process. 4) Integration, implementation in accordance with the action plan. The use of long tail theory has been used to circulation Statistic and use ADLI principles to evaluate the performance make circulation Statistic from year 2556-present continuous increase. The evaluation from circulation Statistic found that which book name list use more or less In addition, the methods of organizing activities to increase circulation Statistic and effective ways of organizing activities. Keyword: Library Services, Long Tail Strategies, Long Tail Marketing Theory, Information Services, Information Resources บทนา กำรส่งเสริมกำรใช้สำรสนเทศนับเป็นภำรกจิ ทมี่ ีควำมสำคญั ของกำรดำเนินงำนห้องสมดุ เน่อื งดว้ ยในยคุ ปจั จุบันเปน็ ยคุ สังคมสำรสนเทศ มีสำรสนเทศจำนวนมำกมำยมหำศำลทแี่ พร่หลำย และกำ้ วหน้ำไปอย่ำงรวดเรว็ ในกำรดำเนนิ ชีวติ ของมนุษยจ์ ำเปน็ ต้องมีควำมรู้ และทกั ษะในกำรเขำ้ ถึง ควำมรู้และสำรสนเทศทุกประเภท และนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นกำรศกึ ษำ กำรทำงำน ตลอดจน กำรใชช้ วี ติ อยใู่ นยคุ สงั คมสำรสนเทศ หอ้ งสมุดในฐำนะท่เี ป็นแหลง่ บริกำรสำรสนเทศจงึ มีสว่ นสำคัญ ในกำรสนบั สนนุ กำรเรยี นร้ขู องมนุษย์ โดยเฉพำะอยำ่ งยง่ิ ห้องสมุดมหำวิทยำลัยทม่ี ีหน้ำที่สนบั สนุน กำรเรียนกำรสอนและกำรวจิ ัยในสถำบันกำรศึกษำ จงึ ตอ้ งปรบั บทบำทกำรให้บรกิ ำรเป็นแบบเชงิ รุก ทำหน้ำท่ีในกำรแสวงหำทรัพยำกรสำรสนเทศท่ีมคี ุณภำพและเปน็ ประโยชน์ และมงุ่ จัดกิจกรรม ที่จะส่งเสรมิ ให้ผูใ้ ช้บริกำรสำมำรถใช้สำรสนเทศทกุ ประเภทให้ได้ประโยชน์มำกทส่ี ุด ซึ่งปัญหำ ในปจั จุบันทพี่ บคือ ห้องสมดุ มหำวทิ ยำลัยไทยมีขอ้ จำกัดจำกสภำวะที่เงินงบประมำณในกำรจัดหำ และให้บรกิ ำรทรพั ยำกรสำรสนเทศท่ีไม่ได้รับงบประมำณเพ่ิมขึน้ แต่มีค่ำใช้จำ่ ยจำกกำรจัดซ้อื ทรพั ยำกรสำรสนเทศ ตลอดจนกำรจัดกิจกรรมทีส่ ง่ เสรมิ กำรใช้บรกิ ำรเพม่ิ ข้ึนอย่ำงมำก ตำมพฤติกรรมและควำมต้องกำรท่ผี ้ใู ชบ้ รกิ ำรห้องสมดุ ยุคใหม่คำดหวัง ดังน้นั กำรดำเนินงำน

ของห้องสมุดมหำวทิ ยำลัยไทยในปจั จบุ นั ควรมีกำรนำแนวคิดกำรตลำดมำปรับใช้ โดยมีกำรวำงแผน กำรตลำดสำหรบั ห้องสมดุ อย่ำงรอบคอบ พร้อมสง่ มอบบริกำรทีม่ ีควำมถูกตอ้ งและมคี ณุ ภำพถึง ระดบั ท่ลี ูกคำ้ ใหค้ วำมเช่อื ม่นั และมคี วำมภกั ดตี ่อหอ้ งสมุด เช่นเดยี วกับควำมสำเร็จขององค์กรธุรกิจ ทีใ่ ชแ้ นวคิดกำรตลำด แนวคดิ กำรตลำดทเ่ี ปน็ ท่ีนยิ มในปจั จบุ นั เป็นทนี่ ำ่ สนใจและเชอื่ ไดว้ ่ำสำมำรถนำมำปรบั ใช้ ในกำรดำเนนิ กำรให้บรกิ ำรของห้องสมุดได้ คือ ทฤษฎีกำรตลำดหำงยำว (Long tail marketing) ซง่ึ เป็นแนวคิดของคริส แอนเดอร์สัน นักฟิสิกส์และนักเศรษฐศำสตร์ ทฤษฎีกำรตลำดหำงยำว เป็นแนวควำมคิดที่สวนทำงกับทฤษฎี 80/ 20 โดยมีหลกั คิดคือเม่ืออินเทอรเ์ นต็ เข้ำมำเป็นส่วนหนงึ่ ของชวี ิตประจำวัน กลำยเปน็ วัฒนธรรมทำงสงั คมและวถิ ชี ีวิตของคนยุคใหม่ ทำให้ผูบ้ รโิ ภคสำมำรถ เข้ำถึงผลิตภัณฑ์ตำ่ ง ๆ ได้ดีย่ิงขึ้น ตวั อย่ำงเช่น กำรขำยสนิ ค้ำประเภทใดประเภทหน่งึ จะมีสนิ ค้ำ ส่วนหน่งึ ขำยดตี ดิ อันดบั คดิ เปน็ ร้อยละ 20 สนิ ค้ำประเภทอ่ืนสว่ นใหญน่ ั้นยอดขำยจะไม่ดมี ำกนัก ซ่ึงในกฎ 80/ 20 ของพำเรโตนนั้ จะเนน้ ขำยที่ตวั สนิ ค้ำท่ีขำยดี (รอ้ ยละ 20) ตรงกนั ขำ้ มกับทฤษฎี กำรตลำดหำงยำว ท่มี องว่ำในส่วนของสินค้ำทย่ี อดขำยไม่ดีมำกนัก (ร้อยละ 80) จะมกี ำรส่งเสรมิ กำรขำยให้ลูกคำ้ เข้ำมำซื้อสนิ คำ้ ได้อยำ่ งไร ทำใหส้ ินคำ้ โดยภำพรวมขำยได้ (Anderson, 2009) ทฤษฎกี ำรตลำดหำงยำวไมไ่ ด้ใชไ้ ดเ้ ฉพำะกบั \"สินคำ้ \" เท่ำน้ัน นอกจำกสินค้ำแล้ว ยงั มีทฤษฎี กำรตลำดหำงยำวของ 'ลกู คำ้ ' (Customer) และ 'กำรใหบ้ ริกำร' (Service) ดว้ ย ห้องสมุดสำมำรถ นำแนวคิด ทฤษฎีกำรตลำดหำงยำวมำประยุกตใ์ ชก้ ับกำรใหบ้ ริกำรและกำรจัดกำรทรพั ยำกร สำรสนเทศของห้องสมุด รวมท้ังกำรประชำสมั พันธ์กิจกรรมและบริกำรทีย่ ังไมเ่ ปน็ ที่รู้จัก กำรส่งเสริม กำรใช้ทรัพยำกรท่ีมสี ถติ ิกำรใชน้ อ้ ย กำรจัดแสดงทรัพยำกรประเภทอืน่ ๆ ทหี่ ้องสมุดมีให้บริกำร ใหผ้ ู้ใช้ไดเ้ ห็นเพ่ิมเติมจำกกำรสืบค้น เปน็ ตน้ (Genoni, 2007) ภำพที่ 1 ทฤษฎกี ำรตลำดหำงยำว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook