Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลงานนำเสนอใน PULINET 9th ที่น่าสนใจ

ผลงานนำเสนอใน PULINET 9th ที่น่าสนใจ

Published by Naresuan University Archive, 2019-01-24 02:26:54

Description: ผลงานนำเสนอใน PULINET 9th Selected
ทั้งผลงานนำเสนอแบบวาจาและโปสเตอร์

Keywords: PULINET,PULINET 9th

Search

Read the Text Version

1.Business 2.Acquire Analyst Data 3.Build Analytic Models 5.Make 4.Build Business Analytic Report Decisions ภำพที่ 1 วงจรของกำรทำ Data analytic วธิ กี ารดาเนนิ งาน 1. วิเครำะหข์ อ้ มลู จำกแหลง่ ข้อมูลทำงสถิติต่ำง ๆ ที่มีกำรเกบ็ ไว้ ซง่ึ พบว่ำแหลง่ ข้อมูล มกี ำรกระจดั กระจำยและหลำกหลำย โดยมโี ครสรำ้ งและแหล่งจัดเก็บของข้อมูลที่แตกต่ำงกัน เชน่ SQL, NCSA, W3C, W3C Extended, SUN iPlanet, Custom Log เปน็ ต้น โดยไม่เคยมกี ำรนำ ขอ้ มลู เหล่ำนี้มำประยุกต์ใชง้ ำนด้วยกัน โดยใชเ้ คร่ืองมือในกำรพฒั นำคือภำษำ SQL ในกำรรวบรวม เชือ่ มต่อข้อมูล และทำกำรวิเครำะหข์ ้อมูล SQL SQL ETL Clean Data Model Dev. Classified Results Data Evaluation ภำพที่ 2 ผงั ขน้ั ตอนกำรวิเครำะหข์ ้อมูลจำกแหลง่ ตำ่ ง ๆ 2. ศึกษำเทคโนโลยที ีจ่ ะนำมำพัฒนำ Data Visualization โดยใชโ้ ปรแกรม Tableau ซ่งึ เปน็ โปรแกรมประยุกต์ที่ใช้ในกำรสรำ้ งกำรนำเสนอข้อมูลทไี่ ด้วเิ ครำะห์ออกมำในรูปแบบภำพ โดยมีข้อดีคอื ช่วยกำรแสดงข้อมูลทมี่ ีปริมำณสูง แสดงรำยละเอียดของข้อมลู ใหเ้ หน็ ชัดขึ้น แสดงถึง ปัญหำและกำรคำดคะเนของขอ้ มลู ท่จี ะเกดิ ข้ึนในอนำคต โดยกำรแสงในรูปแบบของรปู ภำพ, กรำฟ

หรอื แผนภำพ ยังชว่ ยใหส้ ำมำรถวิเครำะห์ข้อมูลไดส้ ะดวกขึ้น ผลลพั ธ์คอื ทำให้ข้อมลู ตำ่ ง ๆ ท่ีซอ่ นอยู่ ในตัวของของมลู เองแสดงออกมำสัมผสั ได้ ซึ่งจะเป็นสงิ่ ทีจ่ ำเปน็ ในกำรค้นหำข้อมูลสำหรับวิเครำะห์ วำงแผนกลยุทธต์ ำ่ ง ๆ Data Data Mart Cubes Files Warehouse Data Server Data Connectors Tableau Data SQL Connector MDX Engine Connector Main Components Data Server VizQL Server Application Gateway Server Clients Gateway/Load Balancer ภำพที่ 3 ผังโครงสรำ้ งกำรทำงำนของโปรแกรม Tableau 3. กำรสร้ำง Data Visualization โดยโปรแกรม Tableau เวอร์ชน่ั Public ซึ่งเป็น เวอร์ช่นั ที่เปดิ ทดลองให้ใชง้ ำนได้โดยไม่มีคำ่ ใชจ้ ่ำย โดยจะลดทอนคุณสมบัติบำงอยำ่ งไป เช่น ประเภท ของแหลง่ ขอ้ มูลนำเข้ำ กำรบันทึกไฟลท์ สี่ ร้ำงขึน้ จำกโปรแกรม เปน็ ต้น โดยตวั โปรแกรมสำมำรถ เชอ่ื มตอ่ กับแหลง่ ข้อมลู ทีร่ องรับได้ ไดแ้ ก่ Excel, Text File, JSON File, MS Access เปน็ ตน้ ตวั โปรแกรมสำมำรถจัดกำรกับแหล่งขอ้ มูลได้ คือกำรสรำ้ ง Dimensions ซ่ึงเปน็ ขอ้ มูลที่ใชใ้ น กำรอธบิ ำยควำมหมำยในแตล่ ่ะแงม่ ุม หรือแจกแจงประเภทของขอ้ มลู และ Measures ซง่ึ เปน็ ข้อมูล ท่เี ป็นลักษณะของตัวเลข เชิงปริมำณ สำมำรถนำมำคำนวณและวเิ ครำะหไ์ ด้ กรณีท่ีมีแหลง่ ขอ้ มลู มำกกวำ่ หน่งึ แหล่ง สำมำรถเลือกรปู แบบประเภทกำรเช่ือมโยงได้ (Inner Join, Left Join, Right Join, Full Outer Join) สำมำรถจัดกำรกับประเภทและระดบั ของข้อมลู ได้ ในส่วนของกำรวเิ ครำะห์ ขอ้ มูล สำมำรถทำกำรจัดกล่มุ ของประเภทข้อมูล เรยี งลำดับ กำรหำ Trend, Reference Line กำรพยำกรณ์แนวโนม้ ของขอ้ มูล สำหรบั กำรสรำ้ งรำยงำนกรำฟ ท้งั แบบ Pie Chart, Bar Chart, Area Chart, Lines หรอื รูปแบบภำพ เชน่ Heat Map, Tree Map หรอื แบบแผนท่ี ซง่ึ สำมำรถกำหนดคุณลักษณะของกำรจัด แสดงผลขอ้ มลู ท่ีหลำกหลำยได้ เชน่ กำรกำหนดสี ขนำด รูปร่ำง รำยละเอยี ดต่ำง ๆ ที่ปรำกฏได้

ภำพท่ี 4 กำรแสดงข้อมลู แบบ Packed-bubbles ภำพที่ 5 กำรแสดงข้อมลู แบบ Packed-bubbles

ภำพท่ี 6 กำรแสดงข้อมูลแบบ Pyramid-gantt ภำพท่ี 7 กำรแสดงข้อมลู แบบ Treemaps

ภำพที่ 8 กำรแสดงขอ้ มลู แบบ Bubble & Map ขนั้ ตอนและวิธีการดาเนนิ งาน 1. นำข้อมลู ทต่ี ้องกำรวิเครำะห์ โดยทำกำรแปลงข้อมูลให้ออกมำอย่ใู นรูปแบบท่ีต้องกำร สกัดขอ้ มูลที่ต้องกำรวิเครำะห์ออกมำ และกรองข้อมลู เฉพำะสว่ นท่ีตอ้ งกำรสำหรับวเิ ครำะหเ์ ท่ำน้นั ภำพที่ 9 ข้อมูล Transactional data ทตี่ ้องกำรจะมำวิเครำะห์

ภำพที่ 10 ข้อมูล Transactional data ท่ีผ่ำนกระบวนกำรสกัดขอ้ มลู ทต่ี ้องกำรออกมำ 2. นำเข้ำข้อมลู และเชื่อมตอ่ ขอ้ มลู กบั โปรแกรม Tableau เพ่อื ทำกำรสรำ้ งรปู แบบ กำรวิเครำะห์ขอ้ มลู และจัดกำรข้อมลู ท่ีได้ โดยแจกแจงข้อมูลในมติ ิ ไดแ้ ก่ Dimension หรอื ข้อมูล ทีใ่ ชใ้ นกำรอธบิ ำย และ Measure หรือขอ้ มลู ท่ีสำมำรถใชใ้ นกำรคำนวณ รวมทงั้ ประเภทของข้อมูล ท่ตี ้องกำรใช้งำน ภำพที่ 11 สร้ำงรปู แบบของขอ้ มูลและกำรกำหนดประเภทของข้อมูล

4. สร้ำงรำยงำนในรูปแบบของ Data visualization โดยใชร้ ปู ภำพ กรำฟ ขนำดและสี ของวตั ถุ มำใช้ในกำรอธิบำยข้อมูลตำ่ ง ๆ ได้ รวมทงั้ กำรวเิ ครำะห์ข้อมูลผ่ำนกำรเรยี งลำดับ จัดกลมุ่ หรอื กรองข้อมลู เฉพำะตำมท่ีตอ้ งกำร ภำพที่ 12 กำรสร้ำงรำยงำนกำรนำเสนอข้อมูลดว้ ยรปู แบบตำ่ ง ๆ สรุปผล อภิปรายผล ข้อเสนอแนะและการนาไปใชป้ ระโยชน์ จำกกำรนำข้อมูลทีม่ ีอย่แู ลว้ นำมำวเิ ครำะห์ โดยเลือกชนดิ ของข้อมูลทีส่ ำมำรถหำ ควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งกันได้ เชน่ ควำมสมั พนั ธ์พฤติกรรมกำรใช้งำนและจำนวนควำมถีก่ ำรใช้งำน และนำข้อมลู ที่ได้มำนำเสนอข้อมลู เชิงภำพ โดยได้เป็นข้อมลู ที่เป็นรปู นำมธรรมในรูปแบบแผนภมู ิ หรือภำพ โดยสำมำรถจำแนกประเภทหรือหมวดหมขู่ องข้อมูลโดยใชส้ ี เสน้ หรอื ขนำด ซงึ่ กำรแปลง หรือแทนท่ีข้อมูลด้วยกำรมองเห็นด้วยสำยตำในรปู แบบภำพนำมธรรม ทำให้เกดิ ปฏิสัมพันธ์ และควำมเข้ำใจในขอ้ มูล ทำใหข้ อ้ มูลที่ไดม้ ีควำมน่ำสนใจ และสำมำรถเข้ำใจงำ่ ย ทำให้ผู้บรหิ ำร

หรือผ้ทู ีเ่ ก่ียวข้องสำมำรถนำข้อมูลไปใชใ้ นกำรตัดสินใจ หรือพยำกรณ์ทำนำยแนวโน้มสถำนกำรณ์ ตำ่ ง ๆ ได้ ในอนำคตนั้นจะมีกำรปรับปรุงวิธกี ำรจดั เก็บของแหล่งขอ้ มูลตำ่ ง ๆ ใหม้ มี ำตรฐำนและ รูปแบบเดียวกนั เพ่ือง่ำยต่อกำรรวมรวมข้อมูลเพ่ือมำวเิ ครำะห์ รวมถึงเพม่ิ วิธีกำรจัดเกบ็ ข้อมูล กำรให้บรกิ ำรประเภทตำ่ ง ๆ ทยี่ งั ไม่เคยมีกำรจดั เกบ็ มำก่อน กำรพฒั นำรูปแบบกำรนำเสนอและ ควำมทันสมยั ของข้อมูล ใหต้ อบสนองต่อควำมตอ้ งกำรของผู้ใช้ขอ้ มลู เพื่อใหผ้ ู้ใชข้ ้อมูลสำมำรถ นำข้อมลู ท่ไี ด้ตรงกบั ควำมตอ้ งกำรมำกทสี่ ดุ การนาไปใช้ประโยชน์ในงานห้องสมดุ กำรทำ Data analytic และ Data visualization ผลลัพธ์ของข้อมลู ท่ไี ด้สำมำรถนำไป ประยกุ ต์ใช้ในงำนต่ำง ๆ เชน่ ใชใ้ นกำรประกอบกำรตัดสนิ ใจของผู้บรหิ ำร ชว่ ยเพมิ่ ประสิทธิภำพ ในกำรให้บรกิ ำรตำ่ ง ๆ เพิ่มปริมำณกำรเข้ำถึง-ใชง้ ำนทรัพยำกรสำรสนเทศ หรอื ใช้ข้อมูลประกอบกำร สื่อสำรต่ำง ๆ ให้ดูทันสมยั มีควำมนำ่ สนใน สำมำรถเข้ำถึงรำยละเอยี ดของข้อมูลนน้ั ๆ ได้ ในรูปแบบ ภำพ รายการอ้างอิง Azzam, T., Stephanie, D., & Evergreen, H. (2013). Data visualization. San Francisco: Wiley. Hamauda, E. (2017). Data analytics lifecycle. Retrieved from https://norcalbiostat.github.io Siegel, E. (2013). Predictive Analytics: The Power to predict who will click, buy, lie, or die. USA: Wiley. Server Architecture and High Availability. Retrieved from https://www.tableau.com/learn/webinars/server-architecture-and-high- availability

การประยุกต์ใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอก็ เซลเพ่ือเกบ็ รวบรวมสถิตหิ ้องสมดุ Microsoft Excel’s Fuction Application in Library se Statistics อดนิ นั ท์ เจะตแี ม สำนักหอสมดุ กลำง มหำวิทยำลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ e-mail: [email protected] บทคดั ยอ่ หอ้ งสมดุ สว่ นใหญ่มรี ะบบจัดเก็บข้อมลู สถติ ิและจดั ทำรำยงำนภำยในระบบหอ้ งสมุดอตั โนมัติ ท่ีใช้กนั อยู่แล้ว อน่ึงรำยงำนท่ีไดจ้ ำกระบบมีลักษณะของขอ้ มูลดิบที่ไม่สำมำรถนำไปใช้รำยงำนขอ้ มลู หรือ สถิติในรปู แบบที่ตอ้ งกำรได้ทันที ทำให้บคุ ลำกรห้องสมุดต้องใชเ้ วลำในกำรรวบรวมและสรปุ ข้อมูลสถิติ เกี่ยวกับทรัพยำกรห้องสมุดต่ำง ๆ โดยกำรเกบ็ ข้อมลู เพือ่ นำเสนอเป็นรำยงำนสถิตขิ องห้องสมดุ ดงั กล่ำว เป็นเร่ืองที่ต้องใชเ้ วลำค่อนขำ้ งมำก ผูพ้ ฒั นำจึงเลือกใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลในกำรแก้ไขปัญหำ ดงั กลำ่ ว เนอ่ื งจำกตวั โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อ็กเซลนนั้ ถูกออกแบบมำให้ใชใ้ นงำนสถิติต้งั แตเ่ รม่ิ ตน้ และ เปน็ โปรแกรมประจำสำนักงำนทีส่ ำมำรถทำควำมเข้ำใจและใชง้ ำนไดไ้ ม่ยำก งำนชิน้ นจ้ี ึงมวี ัตถปุ ระสงค์ เพือ่ ศึกษำและพฒั นำฟงั กช์ ั่นของโปรแกรมไมโครซอฟทเ์ อ็กเซลท่ีใชใ้ นกำรสรปุ ขอ้ มูลสถิตกิ ำรใช้ทรพั ยำกร สำรสนเทศของห้องสมุดสำหรับบุคลำกรฝำ่ ยบริกำรทรัพยำกรสำรสนเทศ ผพู้ ัฒนำจงึ นำโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลมำประยกุ ต์ใช้ในกำรเก็บรวบรวมสถิตหิ ้องสมุดท่ึ ตอ้ งกำร โดยเรมิ่ จำกสถติ ิข้อมูลกำรยืม-คืนทรัพยำกรห้องสมดุ ผลทีไ่ ด้พบว่ำโปรแกรมเอ็กเซลสำมำรถใช้ เปน็ เครื่องมอื สำหรบั บุคลำกรในฝ่ำยบริกำรทรัพยำกรสำรสนเทศนำไปใชป้ ระโยชน์ในกำรรวบรวมข้อมลู สถิติ สรปุ ผลและนำเสนอข้อมูลสถิติ นบั เปน็ กำรเพ่ิมประสิทธิภำพในกำรทำงำน และกำรให้บรกิ ำร ตลอดจนยังสำมำรถนำไปใช้นำเสนอรำยงำนสถิติท่เี ป็นประโยชน์ของหน่วยงำน เพ่ือใชใ้ นกำหนดนโยบำย ของผู้บริหำรไดต้ อ่ ไป คาสาคญั : สถติ กิ ำรยมื , สถิตหิ ้องสมุด, ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล

Abstract Most of academic libraries have library resources’ report functions in their own library automation system. Hence, the kind of report does not response the administrative need and how to get the library statistics waste much time of library’s staff. The developer decides to work with Microsoft Excel because it is designed for office statistic and available as well as easy to use. This project aims to investigate and develop Microsoft Excel’s function application for circulation staff to collect and present library resources use’s statistics. The developer initiate Microsoft Excel program’ application at the department of circulation in order to gain library resources’ use by the users in the Central Library. The results reveal that Microsoft Excel program can be used as an efficient tool for staff at the department of circulation in order to collect and summarize the usage data to present at the administrative meeting. This also shows power of program as staff performance and good service and this kind of statistics is benefit for the library as to administrative policy as well Keyword: Loan Statistics, Library Statsitics, Microsoft Excel บทนา พฤติกรรมกำรใชห้ อ้ งสมุดของผใู้ ชไ้ ม่ว่ำจะเป็นกำรสบื คน้ กำรเข้ำมำใช้ หรือกำรยืมทรัพยำกร สำรสนเทศลว้ นเป็นส่ิงท่ีต้องมีกำรบันทกึ ขอ้ มูลไวเ้ ปน็ สถติ ิทั้งสนิ้ เพรำะสถติ ิดงั กล่ำวมีควำมสำคญั ต่อ กำรบรหิ ำรงำนและกำรให้บริกำรของห้องสมุดเป็นอยำ่ งมำก ด้วยข้อมูลในรูปของสถติ เิ หลำ่ นีจ้ ะชว่ ยทำให้ ทรำบถงึ ผลกำรดำเนินงำนหรือกำรให้บริกำรของห้องสมุดไดเ้ ป็นอย่ำงดี โดยผู้บรหิ ำรและหัวหนำ้ ฝ่ำย ตำ่ ง ๆ ท่ีเกีย่ วข้องสำมำรถนำไปใช้เปน็ ข้อมูลในกำรวำงแผนกำรดำเนินงำน หรือเปน็ ข้อมลู สนับสนุน กำรตัดสนิ ใจ ตลอดจนกำรบริหำรงบประมำณ และกำรพัฒนำห้องสมุดในด้ำนต่ำง ๆ ให้ก้ำวหน้ำต่อไปได้ สำนักหอสมดุ กลำง มหำวทิ ยำลัยศรนี ครินทรวิโรฒ จัดเก็บรวบรวมสถติ ิของฝ่ำยตำ่ ง ๆ เพ่ือ นำเสนอผ้บู ริหำรหอ้ งสมุดเปน็ รำยเดือน ได้แก่ กำรเข้ำใชห้ ้องสมดุ กำรยืมและกำรใช้ทรพั ยำกรสำรสนเทศ กำรใชฐ้ ำนข้อมลู อิเล็กทรอนิกสท์ ้ัง ebook และ ejournal กำรจัดหำทรัพยำกรสำรสนเทศประเภทตำ่ ง ๆ เปน็ ตน้ ในสว่ นของฝำ่ ยบริกำรทรัพยำกรสำรสนเทศมีหน้ำทรี่ บั ผดิ ชอบในกำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู ตำ่ ง ๆ ท่ี

เก่ียวขอ้ งกบั ผ้ใู ช้ห้องสมดุ ได้แก่ กำรใชท้ รัพยำกรสำรสนเทศทัง้ ยืมออกนอกห้องสมดุ และกำรยืมใช้ ภำยในหอ้ งสมุด ทรัพยำกรสำรสนเทศที่ต้องรวบรวมนำเสนอได้แก่ หนังสือทั่วไป หนงั สอื อ้ำงอิง หนงั สอื เด็ก ปรญิ ญำนิพนธ์ วำรสำรและหนังสือประเภทอน่ื ๆ สำหรบั กำรจัดเก็บสถิตทิ ่ีผำ่ นมำจะไดร้ ับรำยงำน จำกโมดลู กำรยมื -คนื (Circulation module) ในระบบหอ้ งสมุดอัตโนมัติ ALEPH ซ่งึ รำยงำนในรปู ของ แฟม้ ข้อมลู ไมโครซอฟต์เอ็กเซลกอ่ น จำกนัน้ จึงนำมำรวบรวมและแจกแจงภำยใต้เลขหมวดหมอู่ ีกครั้งหนงึ่ ซงึ่ บุคลำกรท่ที ำหนำ้ ท่ีดงั กล่ำวต้องใช้เวลำในกำรทำงำนประมำณครึ่งวนั ถงึ หนึง่ วัน ดงั นั้น ฝำ่ ยเทคโนโลยี หอ้ งสมดุ จงึ คดิ คน้ พฒั นำฟังก์ชั่นกำรทำงำนของโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อ็กเซลมำใชป้ ระโยชน์เพอ่ื สำมำรถ ทำให้เก็บรวบรวมข้อมลู และนำเสนอเปน็ สถติ ิได้รวดเร็วย่ิงขึน้ วัตถปุ ระสงค์ เพื่อศึกษำและพัฒนำฟงั กช์ ัน่ ของโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซลทีใ่ ช้ในกำรสรุปขอ้ มูลสถิตกิ ำร ใชท้ รพั ยำกรสำรสนเทศของห้องสมุดสำหรบั บคุ ลำกรฝำ่ ยบริกำรทรพั ยำกรสำรสนเทศ ขัน้ ตอนและวิธีการดาเนนิ งาน กำรพฒั นำฟงั กช์ นั ของโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล ประกอบด้วยขั้นตอนดงั นี้ ระยะที่ 1: ศึกษาสภาพปัญหา นักวิชำกำรคอมพวิ เตอร์ไดแ้ ลกเปลีย่ นควำมรู้กบั เจำ้ หนำ้ ท่ีจัดเก็บสถิติของฝำ่ ยบริกำร ทรพั ยำกรสำรสนเทศ เพื่อให้ทรำบถงึ รปู แบบ วิธีกำรทำงำนที่ปฏบิ ัติอยู่ รวมท้ังปญั หำต่ำง ๆ ท่ีเกิดขึน้ จำก กำรเกบ็ ข้อมลู เพื่อกำรนำเสนอ ภำพที่ 1 ตวั อยำ่ งรำยงำนข้อมูลกำรยืมจำกระบบ ALEPH

จำกตัวอย่ำงรำยงำนที่ออกมำจำกระบบ ดังรปู ที่ 1 พบวำ่ มคี วำมหลำกหลำยของหมวดหมู่ (Collection) และเลขหมหู่ นังสอื (Call number) กระจำยตัวอยทู่ ั่วท้ังรำยงำนจำนวนมำก ซึ่งทำใหไ้ ม่ สะดวกต่อกำรรวบรวมและสรุปผล เนื่องจำกมีจำนวนย่อยของเลขหมู่ภำยในหมวดหมู่ทซี่ ับซอ้ น ทำให้ เจ้ำหนำ้ ทใ่ี ชเ้ วลำค่อนข้ำงมำกในกำรจบั กล่มุ และนบั จำนวนเพ่อื นำเสนอเปน็ รำยงำนสถติ ิ ดงั นนั้ จึง ประยกุ ต์กำรสรำ้ งฟังก์ชันในโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อ็กเซลขึ้นเพ่ือให้เปน็ ระบบคำนวณแบบอตั โนมตั ทิ ่ี สำมำรถสรำ้ งเปน็ รำยงำนสถติ ิจำกรำยงำนท่ีออกมำจำกระบบ ไดใ้ นแตล่ ะเดือน ระยะท่ี 2: วิเคราะห์ความต้องการและศกึ ษาความเปน็ ไปได้ 1. ศึกษำลกั ษณะรำยงำนและข้อมลู ท่ีได้จำกระบบ รำยงำนทอ่ี อกมำจำกระบบ ตำมรูปท่ี 1 แสดงหมวดหมู่ (Collection) เลขหมหู่ นังสือ (Call number) และจำนวนกำรใชง้ ำนทรพั ยำกรห้องสมดุ โดยแต่ละกลมุ่ ต้องใช้เวลำหลำยชง่ั โมงในกำร แบ่งกลุ่มและนบั คำนวณ อนง่ึ รำยงำนดังกลำ่ วยงั มีขอ้ ผดิ พลำดทเี่ กิดจำกควำมผิดพลำดของมนษุ ย์ (Human error) ในกระบวนกำรใหห้ มวดหมหู่ นังสือ ซ่งึ จะพบได้ก็ต่อเม่ือมีผู้ใช้บรกิ ำรมำขอยืมหนงั สือเล่ม นนั้ อย่ำงไรกต็ ำม เป้ำหมำยของกำรนำเสนอรำยงำนสถิตจิ ำเป็นตอ้ งมีควำมถูกต้องแม่นยำให้มำกทส่ี ดุ จงึ ตอ้ งมีเจ้ำหนำ้ ที่ท่ีมีควำมร้เู ก่ยี วกับกำรจัดกลมุ่ และนบั คำนวณของกลุ่มน้นั ๆ รว่ มทำรำยงำนสถติ ิ 2. ศึกษำลักษณะกำรรวบรวมขอ้ มูลและนำเสนอสถติ ิ รำยงำนจะแสดงขอ้ มลู สรปุ ที่มีกำรออกแบบไว้ โดยมีเจำ้ หนำ้ ทท่ี ีม่ ปี ระสบกำรณ์ให้คำแนะนำใน กำรสร้ำงรำยงำนอตั โนมัติ และกำรจดั กำร จำแนก และรวบรวมข้อมลู จะเป็นดังรปู ที่ 2 3. ศกึ ษำโปรแกรมท่ีสำมำรถจัดกำรและจำแนกข้อมลู ได้ เมอ่ื ข้อมูลไดร้ ับกำรจัดกลุ่ม จำแนก และรวบรวมแลว้ โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อ็กเซลก็มีฟังกช์ นั ที่สำมำรถจดั เรียงขอ้ มูล จดั กลุ่มตำมเงื่อนไขต่ำง ๆ ตลอดจนรวบรวมและคำนวณผลรวมได้ จึงได้มกี ำร พฒั นำฟังกช์ นั่ ชว่ ยคำนวณและทดสอบ ผลทดสอบในคร้ังแรกน้นั มีควำมผิดพลำดสงู เนื่องจำกข้อมูลท่ไี ด้จำกระบบมีควำมไมถ่ ูกตอ้ ง และฟังก์ชันกำรคำนวณยังไม่สำมำรถครอบคลมุ ไดท้ ั้งหมด จงึ มกี ำรปรับปรุงกำรทำงำนโดยกำรแจ้งไปยัง ฝำ่ ยบรรณำรกั ษ์เพ่ือตรวจสอบข้อมลู แกไ้ ขข้อมลู ของหนงั สอื และแกไ้ ขฟังก์ชันชว่ ยคำนวณเพอื่ ให้ ครอบคลุมเนอื้ หำทงั้ หมด ระยะท่ี 3: ออกแบบและพัฒนา 1. ออกแบบรำยงำนกำรนำเสนอสถิติ ตำมท่ฝี ่ำยบรรณำรักษ์ได้เตรียมไว้ ดังรูปท่ี 2

ภำพที่ 2 รูปแบบกำรนำเสนอรำยงำนสถิติ 2. จดั กำรและจำแนกข้อมลู ตำมรูปแบบรำยงำนท่อี อกแบบไว้โดยจะมกี ำรจำแนกตำมเลขหมู่ เชน่ 000 100 200 ตำมลำดับ ไปพร้อม ๆ กับหมวดย่อย เชน่ 000-999 และหมวดหมู่ เชน่ หนงั สือ อำ้ งอิง หนงั สอื แพทย์ ปริญญำนพิ นธ์ ภำพยนต์ เปน็ ต้น ดงั รปู ท่ี 3 และรปู ที่ 4 ภำพที่ 3 โครงร่ำงข้อมูลของเลขหมหู่ นังสือ (Call number)

ภำพท่ี 4 โครงรำ่ งข้อมลู ของหมวดหมู่ (Collection) 3. โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล มฟี งั ก์ชันทำงคณิตศำสร์ ในกำรจัดกำร จำแนก และรวบรวม ข้อมลู โดยใช้ฟงั ก์ชัน TRIM, SUM, SUMIF, SUMIFS โดยกำรกำหนดแต่ละชอ่ งเซล (Cel) ตวั อย่ำงของ ฟงั ก์ชนั ดงั รูปท่ี 5 1. ฟงั ก์ชัน TRIM ใช้สำหรบั ตัดชอ่ งว่ำงระหว่ำงคำ 2. ฟงั ก์ชัน SUM ใช้สำหรับหำผลรวม 3. ฟังก์ชัน SUMIF ใชส้ ำหรบั หำผลรวมแบบมีเงอื่ นไขเดียว 4. ฟังก์ชัน SUMIFS ใชส้ ำหรบั หำผลรวมแบบมหี ลำยเงอื่ นไข ภำพท่ี 5 สตู รสำหรบั จัดกำร จำแนก และรวบรวมข้อมูล ระยะท่ี 4: ทดสอบการใช้งาน ปรบั ปรงุ แก้ไข 1. คดั ลอกข้อมูลส่วนทต่ี ้องจำกรำยงำนท่ีไดจ้ ำกระบบ ALEPH ดงั รปู ท่ี 6

ภำพที่ 6 รำยงำนที่ได้มำจำกระบบ ALEPH 2. นำมำวำงไว้ในช่องท่ีกำหนดใหต้ รงกบั ประเภทของกำรใชท้ รพั ยำกร ดงั รปู ที่ 7 ภำพท่ี 7 กำรคดั ลอกลงในรำยงำนกำรนำเสนอสถิติทีเ่ ตรยี มไว้ 3. ใช้ฟังก์ชนั TRIM, SUM, SUMIF, SUMIFS ในโปรแกรม EXCEL เพอื่ ทำกำรจัดกำร จำแนก รวบรวมข้อมลู ตำมท่ีออกแบบไว้ ดังรปู ท่ี 8

ภำพท่ี 8 สตู รรวมที่ใช้สำหรบั จัดกำร จำแนก และรวบรวมขอ้ มูล 4. ตรวจสอบควำมถูกต้องของรำยงำนทั้งในดำ้ นกำรจดั กำร กำรจำแนก และกำรรวมจำนวน ขอ้ มูล ดังรูปที่ 9 และรูปที่ 10 ภำพที่ 9 ผลลพั ธ์ทไ่ี ด้จำกกำรคดั ลอกขอ้ มลู ลงในแบบรำยงำนกำรนำเสนอสถติ ิ 1 ภำพที่ 10 ผลลัพธ์ท่ไี ดจ้ ำกกำรคดั ลอกข้อมลู ลงในแบบรำยงำนกำรนำเสนอสถิติ 2

5. ปรับแก้ เพ่มิ เติมฟังก์ชันให้เหมำะสมเพ่ือควำมถูกต้องของข้อมลู และครอบคลมุ หนงั สือให้ มำกทีส่ ุด เชน่ กำรเพม่ิ เติมข้อมลู CLAEC ในหมวดยอ่ ยของ Easy book ท่ีจะกำหนดเป็น E ก, E ข, E ค เปน็ ตน้ และ E A, E B, E C เป็นตน้ ดงั รูปที่ 11 ภำพท่ี 11 ตวั อยำ่ งกำรเพิ่มเตมิ ข้อมูลของ CLAEC ใน หมวด Easy book ระยะท่ี 5: ประเมนิ ผล จำกกำรพัฒนำฟังกช์ นั ชว่ ยกำรทำงำน ทำให้กำรนำเสนอรำยงำนสถิตขิ องฝ่ำยบริกำรทรัพยำกร สำรสนเทศมีควำมชัดเจน และถูกต้องมำกขึ้น นอกจำกนั้น กำรเลือกใชฟ้ งั กช์ ัน TRIM, SUM, SUMIF, SUMIFS ในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ้กเซล ยังชว่ ยทำให้เพิ่มประสทิ ธิภำพของกำรทำงำนมำกขนึ้ อกี ด้วย เชน่ กำรจัดกำร กำรจำแนก และกำรรวบรวมข้อมลู ที่สอดคล้องกับควำมต้องกำร สรุปผล อภปิ รายผล ขอ้ เสนอแนะและการนาไปใช้ประโยชน์ สรุปผล จำกกำรพัฒนำฟังกช์ ันชว่ ยกำรทำงำน กำรทดสอบและประเมนิ ผลดำ้ นประสิทธภิ ำพและเวลำ พบว่ำเจำ้ หน้ำทม่ี ีควำมเหน็ โดยรวมเก่ียวกบั ฟงั ก์ชนั ช่วยงำนในระดับมำก ด้ำนกำรออกแบบรำยงำนนำเสนอ พบว่ำ กำรออกแบบรำยงำนนำเสนอมีควำมเหมำะสมอยใู่ น ระดบั มำก มีกำรจัดเรียงรำยงำนท่ีไม่ซบั ซ้อน สอดคล้อง และเหมำะสมกบั ประเภทของข้อมลู ด้ำนกำรใช้งำนฟังก์ชนั ชว่ ยกำรทำงำน พบวำ่ กำรใช้งำนฟังก์ชันช่วยกำรทำงำนมคี วำม เหมำะสมอย่ใู นระดบั มำก ฟังกช์ ัน่ ใช้งำนง่ำย สะดวก และรวดเร็ว ด้ำนประสิทธิภำพกำรใชง้ ำนฟงั ก์ชันชว่ ยกำรทำงำน พบวำ่ ประสิทธภิ ำพกำรใชง้ ำนฟงั ก์ชันช่วย กำรทำงำนมคี วำมเหมำะสมอยู่ในระดบั มำก ชว่ ยเพ่ิมประสิทธภิ ำพในกำรทำงำน เช่น ลดระยะเวลำในกำร ทำรำยงำนนำเสนอสถติ ิ และถูกต้องตำมรำยงำนท่ีออกแบบไว้ อย่ำงไรก็ตำม ในกำรพฒั นำโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล เพ่อื ช่วยในกำรรวบรวมสถติ ิกำรใช้ และยมื ทรัพยำกรหอ้ งสมดุ จะประสบผลสำเร็จดว้ ยดีนัน้ จะตอ้ งอำศัยควำมถูกต้องของฐำนข้อมูล เนอื่ งจำกในกำรปฏบิ ัตงิ ำนจรงิ หำกพบวำ่ เลขหมู่หนังสอื มีควำมผิดพลำด โปรแกรมจะไม่สำมำรถนับ ผลรวมได้ และจะต้องแก้ไขให้ถูกต้องก่อนจึงจะรวบรวมสถิตติ อ่ ไปได้

เมอ่ื พบข้อผิดพลำดที่เกดิ จำกกระบวนกำรจดั หมวดหมู่หนังสอื ดังรูปที่ 12 ทำงทีมพฒั นำ ฟังก์ชนั จะประสำนไปยังฝ่ำยบรรณำรักษเ์ พื่อตรวจสอบข้อมูล และแก้ไขข้อมูลของหนังสือเลม่ ดงั กล่ำว ภำพที่ 12 ตัวอย่ำงข้อผิดพลำดท่เี กดิ จำกกระบวนกำรจัดหมวดหม่หู นงั สือ ข้อเสนอแนะ กำรใชง้ ำนฟังกช์ ันต่ำง ๆ ของโปรแกรมไมโครซอฟต์เอก็ เซลนั้นมปี ระโยชน์ตอ่ เจ้ำหนำ้ ที่จัดเก็บ สถิตขิ องฝ่ำยบรกิ ำรทรัพยำกรสำรสนเทศ เช่น เพิ่มประสิทธภิ ำพในกำรทำงำน เพิ่มประสิทธภิ ำพใหก้ ำร ใหบ้ รกิ ำร และเพิ่มรำยงำนสถิตทเ่ี ป็นประโยชน์กับหน่วยงำน แลว้ ยังใช้รำยสถติ ิดังกล่ำวเพ่ือใช้สนบั สนนุ กำรตัดสินใจของผู้บริหำรและหวั หนำ้ ฝำ่ ย ในกำหนดนโยบำยหรือแนวทำงกำรปฏบิ ัตงิ ำน ฟังก์ชันในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล ยังสำมำรถพฒั นำตอ่ ยอดให้ดียง่ิ ขน้ึ และประยุกต์ใช้ใน กำรเกบ็ รวบรวมสถิติของฝ่ำยอน่ื ๆ ที่เก่ยี วข้องได้ รายการอ้างอิง ธชั ชัย จำลอง. (2557). ค่มู อื ใชง้ าน Microsoft Office 2013 ฉบับสมบูรณ์. กรงุ เทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชัน่ . Microsoft. (2561). TRIM function. เข้ำถงึ ไดจ้ ำก https://support.office.com/en- us/article/TRIM-function-410388FA-C5DF-49C6-B16C-9E5630B479F9 Microsoft. (2561). SUM function. เข้ำถงึ ได้จำก https://support.office.com/en- us/article/SUM-function-043E1C7D-7726-4E80-8F32-07B23E057F89 Microsoft. (2561). SUMIF function. เขำ้ ถึงไดจ้ ำก https://support.office.com/en- us/article/SUMIF-function-169B8C99-C05C-4483-A712-1697A653039B Microsoft. (2561). SUMIFS function. เข้ำถงึ ได้จำก https://support.office.com/en- us/article/SUMIFS-function-C9E748F5-7EA7-455D-9406-611CEBCE642B

ผลงานนาเสนอใน PULINET 9th เนื้อหาดา้ นบริการวารสาร

การจัดการความรู้เพื่อพฒั นาวารสารวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Knowledge Management for Kasetsart University Academic Journals Development เฉลิมเดช เทศเรียน, กาญจนา อนพุ ันธุ์ ศูนยส์ นเทศทางกระบือนานาชาติ สานกั หอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ e-mail: [email protected] บทคดั ย่อ ศนู ย์สนเทศทางกระบือนานาชาติ (IBIC) สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดทาวารสาร Buffalo Bulletin โดยใชร้ ะบบ Open Journal System (OJS) ในการพัฒนา วารสารในรูปแบบออนไลนอ์ ย่างต่อเนื่องจนประสบความสาเร็จ สามารถผลิตวารสารท่ีมีคุณภาพ และได้มาตรฐานในระดับชาติและนานาชาติ ศูนย์สนเทศทางกระบือนานาชาติ จงึ ไดด้ าเนินการ ถ่ายทอดความรู้การบริหารจัดการวารสารดว้ ยระบบ OJS และสรา้ งเครอื ขา่ ย KUOJS เพื่อใช้ เป็นเวทแี ลกเปล่ยี นเรยี นรู้ในการพฒั นาคุณภาพวารสาร ระหวา่ งผู้จัดทาวารสารวิชาการของ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ โดยรวบรวมและจดั เก็บองค์ความรจู้ ากการพัฒนาวารสารวชิ าการ นามาถ่ายทอดโดยใช้ Buffalo Bulletin เป็นกรณีศึกษา รวมท้งั รวบรวมปัญหาและแนวทางการแกไ้ ข ถอดบทเรียนเพื่อนามาแลกเปล่ียนเรยี นรู้ รว่ มกบั เครือข่ายวารสารของมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ในการพัฒนาคุณภาพวารสารใหเ้ กิดการพฒั นาอยา่ งต่อเน่ือง คาสาคัญ: การจดั การความรู้, การแลกเปลยี่ นเรียนรู้, การพฒั นาคุณภาพวารสาร, ระบบวารสาร ออนไลน์, มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ Abstract International Buffalo Information Center (IBIC), Office of the University Library, Kasetsart University has organized a Buffalo Bulletin using Open Journal System (OJS) and continually developed the online journal that not only meet national standard but also international standards. IBIC has transferred the knowledge in managing the Buffalo Bulletin via OJS and created the Kasetsart University Open Journal System (KUOJS) network for knowledge sharing related to journal quality improvement among Kasetsart University Academic Journals

organizers. Using Buffalo Bulletin as a case study, IBIC has collected and stored problems and solutions found in organizing the Buffalo Bulletin, then, shared with the Kasetsart University Academic Journals network leading to continually journal quality improvement. Keywords: Knowledge Management, Knowledge Sharing, Journal Quality Improvement, Online Journal System, Kasetsart University บทนา ศนู ย์สนเทศทางกระบือนานาชาติ (IBIC) สานักหอสมุด มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ เปน็ แหล่งสารสนเทศด้านกระบือในระดบั นานาชาติ ทาหนา้ ที่รวบรวมสารสนเทศทางกระบือจาก แหลง่ ตา่ ง ๆ ท่ัวโลก เพอ่ื เป็นสอื่ กลางในการแลกเปลี่ยน และกระจายสารสนเทศในระหวา่ งผใู้ ช้ สารสนเทศดา้ นกระบอื ทงั้ ในและตา่ งประเทศ มีการจดั ทาวารสาร Buffalo Bulletin เพ่ือรวบรวม บทความและงานวจิ ัยด้านกระบอื จากทัว่ โลก โดยตีพมิ พแ์ ละเผยแพรผ่ ลงานเปน็ ภาษาอังกฤษ จัดพมิ พ์ครัง้ แรกในปีพ.ศ. 2525 ปจั จบุ ันให้บรกิ ารออนไลน์ผ่านเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตท่ี http://kuojs.lib.ku.ac.th/index.php/BufBu บทความของวารสารได้ถูกเผยแพร่อยใู่ นฐานข้อมลู Web of Science (WOS), Scopus, CABI, Asian Citation Index (ACI) และฐานข้อมูล Thai-Journal Citation Index Centre (TCI) มคี ่า Impact Factor ปี ค.ศ. 2016 จากฐานข้อมลู Journal Citation Report (JCR) ของ Web of Science เทา่ กับ 0.119 และฐานข้อมลู TCI ของ ศนู ย์ดัชนีการอา้ งอิงวารสารไทย เท่ากบั 0.006 และมคี า่ SJR (Scimago Journal Rank) จาก ฐานขอ้ มูล Scimago Journal & Country Rank ของ Scopus เท่ากับ 0.217 ซง่ึ อยู่ในควอไทล์ท่ี 3 (Q3) ในสาขา Agricultural and Biological Sciences Animal Science and Zoology และ Veterinary (Miscellaneous) ซึ่งถือเป็นฐานข้อมูลท่ีได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ปจั จบุ นั ศูนย์ IBIC ไดป้ ระยุกต์ใช้ Open Journal System (OJS) ในการบรหิ ารจัดการ วารสาร Buffalo Bulletin ในรปู แบบออนไลน์ ซง่ึ มีข้อดีคือทาให้วารสารมรี ปู แบบการแสดงผล หนา้ เว็บไซต์ตามมาตรฐานเป็นสากล สามารถลดเอกสารทเี่ ปน็ กระดาษในการทางานเน่ืองจาก ปรบั เปลยี่ นไปสู่การทางานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกสท์ ง้ั หมด การมีระบบ Online submission เพิ่มความนา่ เช่อื ถือให้กบั วารสารและสร้างโอกาสในมองเห็น (Visibility) ของนักวจิ ยั ภายในประเทศ และตา่ งประเทศ และมีฟงั กช์ ันการส่งออกขอ้ มลู ในรูปแบบตา่ ง ๆ สาหรับการนาไปใช้ประโยชน์ เชน่ EndNote Bibtext และ Xml เป็นต้น (ศูนยด์ ชั นีการอา้ งอิงวารสารไทย, 2561) จากข้อดขี องระบบ OJS และการใช้งานระบบ พบว่า สามารถใช้งานได้ง่ายและไม่ต้องเสีย ค่าใช้จ่ายในการจดั ซือ้ ระบบ สามารถใช้ในการบรหิ ารจัดการและตพี ิมพว์ ารสารออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ทางศูนย์ IBIC จึงได้นาระบบ OJS มาตอ่ ยอดเปน็ ระบบ Kasetsart University Open Journal System (KUOJS) โดยใหบ้ รกิ ารออนไลนท์ ่ี http://kuojs.lib.ku.ac.th และขยายผลสกู่ ารจัดการ วารสารวชิ าการของมหาวิทยาลยั โดยผผู้ ลติ วารสารจากทุกวิทยาเขตทีย่ งั ไม่มีระบบบริหารจดั การ

วารสารออนไลน์ได้ให้ความสนใจมาร่วมกนั ใชง้ านระบบ KUOJS นอกจากจะช่วยประหยัด งบประมาณไม่ต้องเสียค่าใชจ้ ่ายในการจัดซื้อระบบแลว้ ยังก่อให้เกดิ การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ เพือ่ รว่ มกันพฒั นาและยกระดับคุณภาพวารสารวชิ าการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใหก้ า้ วสู่ การเป็นวารสารระดบั ชาตติ ามเกณฑ์ของ TCI (Thai-Journal Citation Index Centre) และพัฒนา สกู่ ารเป็นวารสารระดับนานาชาติตามมาตรฐานสากล ซึง่ มีความสอดคล้องกับวสิ ัยทัศน์และพันธกิจ ของสานักหอสมดุ ปี พ.ศ. 2560 ในการเป็นคลังความรขู้ องมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถบริหาร จดั การ และใหบ้ ริการด้วยเทคโนโลยที ่ที นั สมยั โดยบคุ ลากรท่มี ีความพรอ้ ม และมุ่งมัน่ เพื่อสรา้ ง ความเปน็ เลิศทางวชิ าการให้แก่มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื แลกเปลยี่ นเรียนรแู้ ละถ่ายทอดประสบการณท์ ี่เปน็ ประโยชนใ์ นการพฒั นา วารสารวิชาการของมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ 2. เพื่อสร้างเครือข่ายการพัฒนาคณุ ภาพวารสารวชิ าการของมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ขัน้ ตอนและวิธีการดาเนินงาน ขน้ั ตอนการดาเนนิ งานการจัดการความรูเ้ พือ่ พฒั นาวารสารของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ไดด้ าเนนิ งานตามกระบวนการจดั การความรู้ 5 ขั้นตอน (ธนิดา พณิ ศรี, 2559) โดยมีรายละเอยี ด ดังน้ี 1. การกาหนดส่ิงทต่ี ้องเรยี นรู้ (Knowledge identification) จากประสบการณ์ การบรหิ ารจัดการวารสาร Buffalo Bulletin ในรปู แบบออนไลน์ สามารถกาหนดสง่ิ ที่ต้องเรียนรู้ ให้กบั สว่ นงานและบุคลากรที่มหี น้าทแี่ ละบทบาทในกองบรรณาธิการ ไดแ้ ก่ 1) การใช้งานและ การตั้งค่าระบบบรหิ ารจดั การวารสารออนไลน์ (Open journal system) 2) การจัดการไฟลด์ ิจิทัล อย่างมีคุณภาพ และ 3) แนวทางการพัฒนาคุณภาพวารสารของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ 2. การแสวงหาความรู้ (Knowledge acquisition) การรวบรวมองค์ความรจู้ าก ประสบการณ์และความรูก้ ารบริหารจดั การวารสารออนไลนข์ องกองบรรณาธกิ ารวารสาร Buffalo Bulletin รว่ มกับความรู้ท่มี อี ยู่ภายนอกองค์กร เชน่ ความรู้การบรหิ ารจัดการวารสารออนไลน์จาก สว่ นงานตา่ ง ๆ ของมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ การจัดการไฟล์ดิจิทัลจากสานักงานพฒั นา วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) และเกณฑ์การประเมนิ คุณภาพวารสารจากศนู ย์ดชั นี การอา้ งองิ วารสารไทย (TCI) 3. การสร้างความรู้ (Knowledge creation) การแปลงความร้โู ดยนยั (Tacit knowledge) และความรู้ท่ฝี งั อยู่ในองค์กร (Embedded knowledge) อยา่ งประสบการณแ์ ละ ความรกู้ ารบริหารจัดการวารสารออนไลนข์ องกองบรรณาธิการวารสาร Buffalo Bulletin และ สว่ นงานต่าง ๆ ให้เป็นความรู้ชัดแจง้ (Explicit knowledge) โดยจดั ทาเปน็ คูม่ ือ เอกสารออนไลน์ ผา่ นทาง Google drive และวีดโิ อสอนการใชง้ าน เปน็ ตน้ 4. การจดั เก็บและสบื คน้ ความรู้ (Knowledge storage and retrieval) มกี ารจัดเก็บ ความรทู้ ไ่ี ด้รวบรวมไว้ใน Workplace ของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ในกลมุ่ วารสารของ

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ Line กลมุ่ KUOJS ซงึ่ สามารถจดั เก็บอย่างเป็นระบบ โดยจาแนก ตามประเภทเน้ือหาและทส่ี าคัญสามารถสืบคน้ ได้อยา่ งสะดวกเพอ่ื เรียกดูความรู้ท่ตี ้องการได้ทุกที่ ทกุ เวลาผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต ภาพที่ 1 การจัดเกบ็ และสบื ค้นความร้ผู ่าน KU Workplace และ Line 5. การถ่ายทอดความรู้และการใช้ประโยชน์ (Knowledge transfer and utilization) มกี ารประยุกต์ใช้ซอฟแวร์ในการถา่ ยทอดความรแู้ ละการใช้ประโยชน์ เช่น KU Workplace, Line, Facebook, Open Broadcaster Software (OBS), ZoomIt และ Teamwork เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดการประชมุ การอบรม ระบบพี่เลีย้ งและการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ เพ่ือให้การถา่ ยทอดความรู้ และการใช้ประโยชนม์ ีประสทิ ธิภาพมากขน้ึ ภาพที่ 2 การประชมุ การอบรม และการแลกเปล่ียนเรียนรู้ สรปุ ผล อภิปรายผล ขอ้ เสนอแนะ และการนาไปใช้ประโยชน์ จากการจดั การความรเู้ พอ่ื พัฒนาวารสารของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ พบว่า วารสาร จากสว่ นงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ มีการพัฒนาคณุ ภาพของวารสาร 3 ดา้ น โดยมี รายละเอียด ดังนี้ 1. ดา้ นระบบการบรกิ ารจัดการวารสารทม่ี ีมาตรฐานระดับสากล ไดจ้ ดั ทาโครงการ KUOJS และสารวจข้อมลู วารสารของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า จากจานวนวารสารทม่ี ี การสารวจทัง้ หมด 20 วารสาร มีจานวน 10 วารสาร ทีย่ ังไม่มรี ะบบบรหิ ารจัดการวารสารออนไลน์ ซง่ึ ส่งผลให้วารสารไม่สามารถผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพวารสารวิชาการของศูนยด์ ัชนีการอา้ งองิ

วารสารไทย ดังนนั้ ทางศนู ย์สนเทศทางกระบอื นานาชาติ (IBIC) จึงไดศ้ ึกษาและเรียนรรู้ ายละเอยี ด เพมิ่ เติมเก่ียวกับระบบการบริหารจดั การวารสารออนไลน์ (Open Journal System: OJS) ท่ีพฒั นาข้ึนโดย Public Knowledge Project (PKP), University of British Columbia โดย ศูนย์ IBIC ได้นาระบบมาใช้ในการผลิต Buffalo Bulletin เมื่อศึกษารายละเอยี ดของระบบ OJS เรียบรอ้ ยแลว้ จึงได้พัฒนาเป็นระบบ KUOJS จากการถอดบทเรยี นของวารสาร Buffalo Bulletin โดยจดั ทาเปน็ คมู่ ือและจัดฝึกอบรมใหก้ บั วารสาร ของมหาวิทยาลยั ทีย่ ังไม่มีระบบการบรหิ ารจัดการวารสารออนไลน์ จานวน 7 วารสาร ไดแ้ ก่ 1) วารสารเศรษฐศาสตร์และกลยทุ ธก์ ารจดั การ 2) วารสารศาสตร์การศึกษาและการพัฒนามนุษย์ 3) วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร 4) วารสารวิทยาศาสตร์สขุ ภาพสตั ว์และเทคโนโลยี 5) วารสาร วนศาสตร์ 6) วารสารวิชาการเกษตรศาสตร์ กาแพงแสน และ 7) วารสารศิลปศาสตรแ์ ละวิทยาการ จดั การ รว่ มกบั วารสารท่ีมรี ะบบ โดยใชร้ ะบบ ThaiJo2 ของศูนย์ TCI จานวน 6 วารสาร ได้แก่ 1) Journal of Fisheries and Environment 2) วารสารเศรษฐศาสตร์ประยกุ ต์ 3) วารสาร ศึกษาศาสตรป์ ริทัศน์ 4) วศิ วกรรมสาร มก. 5) วารสารมนุษยศาสตร์ และ 6) วารสารสงั คมศาสตร์ และมนษุ ยศาสตร์ เพื่อเป็นการทบทวนการใชง้ านระบบและร่วมแลกเปลย่ี นเรียนรู้ในการพฒั นา คุณภาพวารสารของมหาวิทยาลัยรว่ มกัน ภาพที่ 3 ระบบการให้บริการ Kasetsart University Open Journal System (KUOJS) จากผลการใชง้ านระบบ KUOJS พบว่า มจี านวน 1 วารสาร คือ วารสารเศรษฐศาสตร์ และกลยุทธก์ ารจัดการ จากคณะเศรษฐศาสตร์ ศรรี าชา ที่สามารถผา่ นการประเมินคณุ ภาพ วารสารวชิ าการจากศนู ย์ TCI อยูใ่ นกลมุ่ ท่ี 1 เนื่องจากมีการปรับปรงุ ตามข้อเสนอจากทางศนู ย์ TCI ซงึ่ สว่ นหนง่ึ ทส่ี ง่ ผลให้สามารถผา่ นเกณฑ์ได้คือเร่ืองการมีระบบบรหิ ารจัดการวารสารออนไลน์ 2. ด้านการจัดการไฟลด์ ิจิทลั อยา่ งมีคณุ ภาพ จากการสารวจไฟล์ดจิ ทิ ัลของกลมุ่ วารสาร ของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ พบวา่ ทุกวารสารยังไม่มกี ารจดั การไฟล์อย่างมคี ุณภาพ ซงึ่ ประกอบดว้ ย 1) การฝังเมทาเดตา้ ในไฟล์รูปแบบ PDF เพ่อื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการสืบค้นบทความ จาก Search engine ตา่ ง ๆ และ 2) การบนั ทึกรปู แบบไฟล์ PDF/A เพ่ือการใช้งานไฟลไ์ ดอ้ ย่างย่งั ยืน (สานกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย,ี 2560) จึงได้มกี ารรวบรวมความรแู้ ละเผยแพร่ผ่านทาง

KU Workplace และ กลุ่ม Line พรอ้ มตดิ ตามการดาเนนิ งานของวารสารตา่ ง ๆ เพื่อเป็นการควบคมุ คุณภาพ 3. ดา้ นการพฒั นาคุณภาพวารสารของแต่ละสว่ นงาน มกี ารพฒั นาคุณภาพวารสาร โดยมี รายละเอียด ดังนี้ 3.1 การจดั ทา Google Scholar Profile ประจาวารสาร ไดม้ ีการอบรมให้วารสารจาก ส่วนงานตา่ ง ๆ สามารถสร้างโปรไฟล์ของวารสาร เพื่อประโยชน์ในการนบั การอา้ งองิ และการใช้ ประโยชนจ์ ากบทความ สามารถทราบได้ว่าบทความของวารสารนั้น ๆ มใี ครท่นี าไปอา้ งอิงต่อใน รปู แบบเรียลไทม์ (Real time) และสามารถทราบไดว้ า่ บทความใดเป็นบทความท่ีมีการอ้างอิงสูงสุด 3.2 การตัง้ ต่าหน้าเวบ็ ให้บรกิ ารวารสารของระบบ KUOJS เพ่อื เพมิ่ ประสิทธิภาพ การใหบ้ ริการ เชน่ 3.2.1 การเพิ่มเมทาเดต้าในหน้าเวบ็ ไซตเ์ พื่อการสบื ค้นวารสารของ Search Engines 3.2.2 การเปดิ ฟงั กช์ ัน Index บทความใน Google Scholar 3.2.3 การเพิ่มปล๊ักอนิ (Plugins) ท่มี ปี ระโยชนส์ าหรับการแชร์ผ่านโซเชยี ลมีเดยี ตา่ ง ๆ และการนบั สถิตกิ ารเข้าชมเวบ็ ไซต์ สาหรับปลั๊กอนิ สาหรับการแชร์ผ่านโซเชียลมเี ดยี ใชป้ ล๊ักอนิ AddThis สามารถแชรบ์ ทความหรือขอ้ มลู ในหน้าเวบ็ ไซต์ของวารสารผ่านและทสี่ าคัญ สามารถนบั สถิติการเขา้ ใชบ้ ริการและสถิตกิ ารแชร์ไปยังโซเชียลมเี ดียตา่ ง ๆ เพ่ือเป็นประโยชน์ใน การวางแผนปรบั ปรุงการให้บริการจากการการศึกษาพฤตกิ รรมผ้ใู ช้ สือ่ โซเชยี ลมเี ดยี มากกว่า การแชร์ผ่านส่อื โซเชียลมีเดีย การแชรผ์ า่ น Facebook 190 แอปพลเิ คชนั การแสดงขอ้ มลู สถิติแบบละเอียด การรายงานขอ้ มลู ผา่ นอเี มล ภาพที่ 4 ภาพรวมการใช้งานปลก๊ั อนิ AddThis

สาหรบั ปลัก๊ อินการนบั จานวนสถติ ิผเู้ ข้าใช้บริการของวารสาร ใช้ปลก๊ั อนิ Google analytics และ Flag counter ซง่ึ Google analytics มีประโยชน์ คือ สามารถเกบ็ ข้อมูลผใู้ ช้บรกิ าร ได้ว่ามาจากประเทศและผ่านสื่อชนดิ ใด เชน่ มาจากโพสต์บนเฟชบุ๊ค (Facebook) อีเมล์ หรือมาจาก การค้นหาใน Google search ซง่ึ ทาให้ทราบวา่ ช่องทางใดเป็นชอ่ งทางท่ดี ีท่สี ดุ ในการเพมิ่ จานวน คนเขา้ เว็บไซต์ และสามารถทราบพฤติกรรมผู้ใช้ได้วา่ เขา้ เว็บไซต์ทหี่ นา้ ใด ออกทหี่ น้าใด แตล่ ะหน้า ใช้เวลาอยูน่ านเทา่ ใด เข้ามาแล้วคน้ หาขอ้ มลู อะไร เป็นต้น ประโยชน์ของรีพอร์ททาให้เราเห็นถงึ พฤติกรรมการใช้งานเวบ็ ไซต์ ว่าหนา้ ใดทีม่ ีความสาคัญ หน้าใดท่มี ีปัญหา และต้องการการแก้ไข โดยเฉพาะขอ้ มูลการค้นหาข้อมูลบนเวบ็ ไซต์ ซ่ึงเป็นข้อมลู ท่ีมีประโยชน์ในการทาการประชาสมั พันธ์ ใหต้ รงกับกลุ่มเปา้ หมาย (พรเทพ เขตรร์ ัมย์, 2558) นอกจาก Google analytics แลว้ ยงั มีปลั๊กอนิ Flag counter สาหรบั นบั จานวน ผู้ใชจ้ ากประเทศตา่ ง ๆ โดยแสดงผลผ่านทางหนา้ เว็บไซต์ ซ่งึ ไดร้ ับข้อเสนอแนะจากกองบรรณาธกิ าร วารสารเศรษฐศาสตรแ์ ละกลยทุ ธก์ ารจัดการ จากคณะเศรษฐศาสตร์ ศรรี าชา ภาพท่ี 5 การเขา้ ใช้เว็บไซต์ของ Google analytics และ Flag counter 3.3 การตรวจสอบเลข ISSN และการขอเลข eISSN ของวารสาร พบวา่ บางวารสาร เมอื่ ตรวจสอบเลข ISSN ผา่ นลิงก์ https://portal.issn.org ไมพ่ บข้อมลู ของวารสาร และบางวารสาร มกี ารใหบ้ ริการในรูปแบบออนไลน์ แตย่ ังไมม่ ีเลข eISSN จงึ ไดแ้ จ้งผา่ นกลมุ่ ไลน์ เร่ืองข้ันตอน การตรวจสอบเลข ISSN และการขอบรกิ าร eISSN ผ่านบริการออนไลนข์ องหอสมดุ แห่งชาติ พร้อมตดิ ตามผลการดาเนนิ งานของวารสารตา่ ง ๆ และการอปั เดทชื่อวารสารภาษาองั กฤษทย่ี งั เป็น ภาษาคาราโอเกะอยู่ ซ่งึ ไดร้ บั คาแนะนาจากศูนย์ TCI ใหด้ าเนินการเปล่ยี นช่ือใหเ้ ป็นชอ่ื วารสาร ภาษาอังกฤษท่ีถูกตอ้ ง โดยแจ้งรายละเอยี ดทางช่องทางไลน์กลุม่ และจดั เก็บรายละเอียดไวใ้ น KU Workplace ในกลุ่มวารสารของมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ 3.4 ประโยชน์ของเลข DOI สาหรับบทความของวารสาร ได้มกี ารถ่ายทอดความรู้ เกย่ี วกับเลข DOI ซงึ่ เปน็ ระบบสากลที่ใช้ระบตุ วั เอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์โดยไม่ขน้ึ กับตาแหนง่ ที่อยู่ ของบทความนั้น ๆ สามารถใชเ้ ป็นข้อความท่แี สดงแทนบทความทางวิชาการ ผ้ใู ชบ้ ริการสามารถ ใช้หมายเลขในการค้นหาเอกสารทตี่ อ้ งการผ่านเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ ไดอ้ ย่างถาวร ซงึ่ ทุกวารสาร เห็นประโยชน์และเริม่ มีการศึกษาข้นั ตอนเพอ่ื เตรยี มความพร้อมในการขอใช้บรกิ ารเลข DOI ต่อไป

จากข้อมลู ข้างตน้ ได้มีการถา่ ยทอดความรู้ผา่ นชอ่ งทางต่าง ๆ เช่น การประชุม การฝึก อบรม การใช้ส่อื โซเชยี ลมเี ดยี และซอฟแวร์ในการสนบั สนนุ การถ่ายทอดความรู้ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ และการเปน็ พเ่ี ลยี้ งในการแกไ้ ขปญั หาพร้อมกับแนวทางแก้ไข เพือ่ ให้กลุม่ วารสารของมหาวิทยาลัย มีแนวทางปฏิบตั ทิ ี่มมี าตรฐานไปในทิศทางเดียวกัน และที่สาคัญคือการถ่ายโอนความรู้ไปยังบคุ คล ตามสว่ นงานตา่ ง ๆ ที่เก่ียวขอ้ งกบั กองบรรณาธิการ เพ่ือใหเ้ กดิ ความชานาญและทา้ ยท่สี ดุ คือ สามารถ ต่อยอดพัฒนางานประจาให้มีประสทิ ธภิ าพในการลดข้นั ตอน ระยะเวลา ลดทรพั ยากรบุคคลและ ต้นทนุ การผลิต เป็นต้น ซง่ึ ได้มีข้อเสนอแนะให้กบั ส่วนงานต่าง ๆ ในการถ่ายทอดความรู้นี้ไปยงั กองบรรณาธกิ ารของวารสารตนเอง เพ่ือให้มีความรู้ความชานาญและสามารถปฏบิ ัตงิ านแทนกันได้ เปน็ การวางแนวทางป้องกนั ปัญหาการขาดช่วงของบุคลากรที่มีการหมุนเวียนตาแหน่งอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีบุคลากรท่ีตอ้ งมารับผิดชอบงานเกีย่ วกับวารสาร สามารถเข้ากลมุ่ เครือข่ายวารสารของ มหาวิทยาลยั เพ่อื การเรยี นรู้แนวปฏบิ ตั ทิ ดี่ จี ากการรวบรวมความรูค้ วามชานาญและจากแหล่งความรู้ ท่มี ปี ระโยชน์ในการปฏบิ ตั ิงานได้ สรปุ จากการที่ศนู ยส์ นเทศทางการกระบือนานาชาติ แลกเปลีย่ นเรียนร้กู ารพัฒนาวารสาร วชิ าการร่วมกับผู้ผลิตวารสารของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ผ้ผู ลิตวารสารทั้งหมด จานวน 14 วารสาร ไดแ้ ก่ 1) Buffalo Bulletin 2) Journal of Fisheries and Environment 3) วารสาร เศรษฐศาสตร์และกลยุทธ์การจดั การ 4) วารสารศาสตรก์ ารศกึ ษาและการพัฒนามนุษย์ 5) วารสาร วิทยาศาสตร์เกษตร 6) วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพสตั ว์และเทคโนโลยี 7) วารสารวนศาสตร์ 8) วารสารวิชาการเกษตรศาสตร์ กาแพงแสน 9) วารสารศิลปศาสตรแ์ ละวิทยาการจดั การ 10) วารสารเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ 11) วารสารศกึ ษาศาสตรป์ รทิ ัศน์ 12) วศิ วกรรมสาร มก. 13) วารสารมนษุ ยศาสตร์ และ 14) วารสารสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์ สามารถใช้งานระบบ OJS โดยเพิ่มรายละเอียดต่าง ๆ ของวารสารในระบบ สามารถตั้งคา่ พนื้ ฐานเพ่อื กาหนดรปู แบบ การให้บรกิ ารผา่ นโฮมเพจของวารสาร สามารถนาบทความย้อนหลงั เขา้ ระบบ แก้ไขบทความ ส่งบทความและเผยแพร่ผ่านระบบออนไลน์ สามารถจดั การไฟล์ดิจทิ ัลไดอ้ ย่างมีคณุ ภาพ นอกจากน้ี ยงั สามารถพฒั นาคณุ ภาพวารสารตามทไี่ ด้มกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ทสี่ าคญั คือสามารถนาความรู้ทีไ่ ด้ จากการประชุม อบรม และการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ไปประยุกตใ์ ชก้ ับวารสารให้มผี ลลัพธ์ท่ีดีกวา่ เชน่ การเพิ่มรูปภาพและรูปแบบการแสดงผลรายชอื่ กองบรรณาธกิ าร การเพ่ิมรูปภาพของแต่ละบทความ เพอื่ ให้บทความดนู ่าสนใจ การปรบั รปู แบบการแสดงผลของการแชรข์ ้อมลู ผ่านโซเชียลมีเดยี ต่าง ๆ รวมถงึ การเลือกแอปพลิเคชันตามวตั ถปุ ระสงค์ของวารสารท่ตี ้องการแชร์ เชน่ การเลอื กแอปพลิเคชนั การแปลภาษาในหน้าเวบ็ ใหเ้ ป็นแอปพลเิ คชันหลกั เพื่อการเผยแพรใ่ ห้กบั ชาวต่างชาติ เปน็ ต้น และ เม่ือมีการวดั ผลการประเมนิ ความพึงพอใจผู้ท่ีเขา้ รว่ มการอบรมเชิงปฏบิ ัติการระบบ KUOJS พบวา่ มผี ลการประเมินความพึงพอใจภาพรวมอยใู่ นระดบั ดีมาก โดยมรี ายละเอียด ดงั ตารางท่ี 1

ตารางท่ี 1 ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจการฝึกอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารระบบ KUOJS คร้ังที่ การฝกึ อบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารระบบ KUOJS ความพงึ พอใจ 1 กองบรรณาธกิ ารวารสารเศรษฐศาสตรแ์ ละกลยทุ ธก์ ารจัดการ จากคณะเศรษฐศาสตร์ ศรรี าชา 4.91 ผ้เู ขา้ อบรมจานวน 4 คน วันที่ 25 ตลุ าคม 2560 (ระดับดีมาก) 2 ผู้แทนวารสาร จานวน 11 วารสาร ไดแ้ ก่ 1) วารสารศาสตร์การศกึ ษาและการพัฒนามนุษย์ 4.79 2) วารสารศึกษาศาสตรป์ รทิ ศั น์ 3) วารสารวิทยาศาสตรเ์ กษตร 4) วารสารเศรษฐศาสตร์ (ระดับดีมาก) ประยุกต์ 5) วารสารวทิ ยาศาสตร์สุขภาพสตั ว์และเทคโนโลยี 6) วารสารวนศาสตร์ 7) วารสารวชิ าการเกษตรศาสตร์ กาแพงแสน 8) วารสารศลิ ปศาสตรแ์ ละวทิ ยาการจดั การ 9) วารสารเกษตรศาสตรธ์ ุรกจิ ประยกุ ต์ 10) วารสารมนุษยศาสตร์ และ 11) Journal of Fisheries and Environment ผู้เข้าอบรมจานวน 20 คน วันที่ 19 เมษายน 2561 3 กองบรรณาธกิ ารวารสารเศรษฐศาสตรแ์ ละกลยทุ ธก์ ารจดั การ จากคณะเศรษฐศาสตร์ ศรรี าชา 4.90 จานวน 5 คน วันท่ี 31 กรกฎาคม 2561 (ระดับดีมาก) การนาไปใช้ประโยชน์ การถอดบทเรียนการพฒั นาวารสาร Buffalo Bulletin สามารถนาองค์ความรูท้ ่ีได้ไปใช้ ประโยชน์เพื่อการพฒั นาคณุ ภาพวารสารวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดงั นี้ 1. การบรหิ ารจัดการวารสารแบบออนไลน์ ผ่านระบบ Open Journal System 2. การแกป้ ัญหาการจัดเก็บองค์ความรู้ ท่ีไดจ้ ากการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ เพ่อื การใชซ้ า้ ดว้ ย การใช้งาน KU Workplace 3. การไดแ้ สดงความคิดเหน็ ร่วมกันกับกลุ่มผ้ปู ฏิบัตงิ านทีม่ ีลักษณะการทางานคล้ายคลึง กนั ในการพัฒนาคุณภาพวารสาร และนาข้อคดิ เห็นนั้นมาพัฒนาและปรับปรุงใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ การปฏิบัติงาน 4. แนวปฏบิ ตั ิทดี่ ใี นการบริหารจัดการวารสารออนไลนแ์ ละการพัฒนาคุณภาพ วารสารวิชาการ สามารถลดปัญหาและเพิ่มประสทิ ธภิ าพในการบริหารจดั การ 5. มเี ครอื ขา่ ยวารสารของมหาวทิ ยาลยั ในการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ 6. เพม่ิ แหลง่ สารสนเทศท่มี ีมาตรฐานและมคี วามน่าเชอ่ื ถอื ในการสนบั สนุนการเรียน การสอน การวิจยั และการให้บรกิ ารของสานกั หอสมุด รายการอ้างอิง ธนิดา พิณศรี. (2559). การจัดการความรู้ของบุคลากรสานักงานคณะกรรมการวจิ ยั แห่งชาติ. วิทยานิพนธป์ รญิ ญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สาขารฐั ศาสตร์, มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. พรเทพ เขตร์รมั ย์. (2558). Google Analytics คอื อะไร มาเรยี นร้ปู ระโยชน์จากการใชง้ าน และ วธิ กี ารติดต้งั . Google Analytics Thailand. เข้าถงึ ได้จาก https://googleanalyticsthailand.com/2014/01/13/google-analytics ศนู ย์ดัชนีการอา้ งอิงวารสารไทย. (2561). Frequently asked questions (FAQ). เขา้ ถึงไดจ้ าก https://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/ThaiJO/FAQ.html

สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2560). คู่มือการเตรียมดจิ ิทัลท่มี ีคุณภาพ. ปทมุ ธานี: สานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี.

“Online Article Service & Tracking System” ระบบบริการคาขอบทความอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ \"Online Article Service & Tracking System\" The Electronic Article Request System, Chiang Mai University Library อรพรรณ การคนซ่ือ, อุทมุ พร มณวี รรณ์, ภูเบศ ปาโมกขเ์ กษม, เกษวรา อินทรฉมิ , สุรีวรรณ จันทรส์ ว่าง, เอกสทิ ธ์ิ ปัญญามี สำนกั หอสมุด มหำวทิ ยำลยั เชยี งใหม่ e-mail: [email protected], [email protected], [email protected], [email protected], [email protected], [email protected] บทคัดย่อ ระบบ “Online Article Service & Tracking System” เป็นระบบบริกำรบทควำม อเิ ล็กทรอนิกส์ของสำนักหอสมดุ มหำวทิ ยำลัยเชยี งใหม่ ซง่ึ เปน็ งำนทพี่ ฒั นำข้ึนจำกกำรทำงำนร่วมกัน ของคณะกรรมกำรพฒั นำนวัตกรรม สำนักหอสมุด และฝ่ำยหอ้ งสมุดและสำรนเิ ทศสำขำวิทยำศำสตร์ และเทคโนโลยี เพ่ือตอบเป้ำหมำยเชงิ ยุทธศำสตร์ “บริกำรทีม่ คี ณุ ภำพและเสริมสร้ำงกำรเรยี นรู้และ กำรวิจยั ” และตวั ช้วี ัดผลกำรดำเนนิ กำรหลกั “จำนวนนวตั กรรมบรกิ ำร/ บรกิ ำรใหม่” ตำมแผน ยทุ ธศำสตร์ สำนกั หอสมุด มหำวิทยำลยั เชียงใหม่ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) มีวตั ถุประสงค์เพ่อื พัฒนำระบบบริกำรและตดิ ตำมบทควำมอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้นำวงจรคุณภำพ PDCA ซง่ึ ประกอบดว้ ย 4 ข้นั ตอน คือ กำรวำงแผน (Plan) กำรปฏิบตั ิ (Do) กำรตรวจสอบกำรปฏิบตั ิ (Check) และกำรดำเนนิ กำรใหเ้ หมำะสม (Act) มำเป็นแนวทำงในกำรดำเนินงำน และใช้ MEAN stack และ Materialize Framework ในกำรพฒั นำระบบ Online Article Service & Tracking System ให้สำมำรถใชง้ ำนได้อย่ำงสมบูรณ์ อีกทั้ง สำมำรถให้หอ้ งสมุดคณะอืน่ ๆ ในมหำวิทยำลัยเชียงใหม่ และห้องสมุดตำ่ งสถำบันนำระบบไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้ ผลกำรดำเนนิ งำนพัฒนำระบบ “Online Article Service & Tracking System” ทำให้หอ้ งสมุดมรี ะบบติดตำมคำขอบริกำรบทควำมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ซ่ึงอำนวยควำมสะดวกแกผ่ ้ใู ช้ใน กำรขอรบั บริกำรและตดิ ตำมคำขอบทควำมของตนเอง เป็นกำรพัฒนำบริกำรของห้องสมุดให้มี ประสทิ ธิภำพมำกยงิ่ ขึน้ ในขณะเดยี วกันยังเปน็ เคร่ืองมือช่วยให้ผู้ให้บรกิ ำรปฏบิ ัตงิ ำนได้อย่ำงเปน็ ระบบมำกขึน้ สำมำรถใหบ้ ริกำรและจัดเกบ็ ข้อมูลเพื่อกำรรำยงำนผลตอ่ ไปได้อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ คาสาคญั : บริกำรบทควำมอิเล็กทรอนิกส์, บริกำรสำรสนเทศ, ระบบตดิ ตำมบรกิ ำรคำขอบทควำม อเิ ลก็ ทรอนิกส์, บริกำรสำรสนเทศออนไลน์, สำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลัยเชยี งใหม่

ABSTRACT \"Online Article Service & Tracking System\" is a system of electronic article services of Chiang Mai University Library. Operated by the Innovation Development Board and Science and Technology Libraries Department, Chiang Mai University. The purpose is to create a service system and track the provision of electronic article services. In this operation, the team has adopted the PDCA cycle, which consists of four stages: Plan, Do, Check, and act as a guideline for implementation. The system was developed by using the MEAN Stack and Materialize Framework to be fully functional. In addition, it can also be used by other libraries in Chiang Mai University and libraries of different institutions. The \"Online Article Service & Tracking System\" has been developed to enable the library to track requests for electronic article services that facilitate users to request and track their own article requests. The library service development is more efficient. At the same time, it is a tool to help service providers work more systematically. Can serve and store data for effective reporting. Keywords: Electronic article services, Information services, Electronic article request service Tracking System, Online information services, Chiang Mai University Library บทนา ดว้ ยฝำ่ ยหอ้ งสมดุ และสำรนเิ ทศสำขำวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำนักหอสมดุ มหำวิทยำลัยเชยี งใหม่ เลง็ เห็นควำมสำคัญของกำรพฒั นำนวตั กรรมบรกิ ำร/ บรกิ ำรใหม่ในแต่ละปี เพอื่ ตอบเปำ้ หมำยเชิงยทุ ธศำสตร์ “บรกิ ำรท่ีมีคุณภำพและเสริมสรำ้ งกำรเรียนรแู้ ละกำรวิจัย” และตัวชี้วัดผลกำรดำเนนิ กำรหลัก “จำนวนนวตั กรรมบริกำร/ บรกิ ำรใหม่” ตำมแผนยุทธศำสตร์ สำนกั หอสมดุ มหำวิทยำลยั เชียงใหม่ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) จึงได้พัฒนำบรกิ ำรบทควำม อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ซง่ึ เปน็ บริกำรท่ไี ด้รับควำมนิยมจำกผู้ใช้บริกำรห้องสมุดคณะทั้ง 5 แห่งในฝ่ำยเปน็ อยำ่ งมำก ได้แก่ หอ้ งสมุดคณะเกษตรศำสตร์ ห้องสมดุ คณะวทิ ยำศำสตร์ ห้องสมุดคณะ วศิ วกรรมศำสตร์ หอ้ งสมดุ คณะสถำปัตยกรรมศำสตร์ และห้องสมุดคณะอตุ สำหกรรมเกษตร แต่ทั้งนี้ ในกำรใหบ้ รกิ ำรที่ผำ่ นมำพบว่ำ มขี ้อจำกดั ในด้ำนกำรใหบ้ ริกำร คอื ห้องสมดุ ยังไม่มรี ะบบบันทกึ ข้อมลู และสถติ ิกำรใหบ้ ริกำรที่เปน็ ระบบ อกี ท้ังไม่มชี ่องทำงติดตำมขนั้ ตอนของกำรให้บรกิ ำรตั้งแต่ ขัน้ ตอนส่งคำขอใชบ้ ริกำรจนกระทั่งได้รบั เอกสำร ซง่ึ เป็นควำมต้องกำรของผู้ใชบ้ ริกำรที่ตอ้ งกำร ตดิ ตำมให้ทรำบวำ่ บทควำมท่ีตนติดต่อขอจำกหอ้ งสมดุ นนั้ อยใู่ นระหวำ่ งขน้ั ตอนใด ดว้ ยเหตนุ ี้ ในปี พ.ศ. 2560 ฝ่ำยห้องสมดุ และสำรนิเทศสำขำวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดม้ ีแนวคิดท่ีจะจัดทำระบบ “Online Article Service & Tracking System” เพอ่ื พัฒนำกำร บรกิ ำรดงั กลำ่ วให้มีประสทิ ธิภำพมำกยง่ิ ขนึ้ โดยขนั้ ตอนของกำรดำเนินงำนน้นั ได้ใช้วงจรคุณภำพ PDCA มำเปน็ แนวทำงในกำรดำเนินงำน เน่ืองจำกวงจร PDCA สำมำรถประยุกต์ใชไ้ ด้กับทุกเรอ่ื ง โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกำรปรบั ปรุงงำนและบริกำรของห้องสมุดใหด้ ียิง่ ขึน้ ซง่ึ ประกอบด้วย 4 ขัน้ ตอน คือ กำรวำงแผน (Plan) กำรปฏิบัติ (Do) กำรตรวจสอบกำรปฏิบตั ิ (Check) และกำรดำเนินกำรให้

เหมำะสม (Act) (ศภุ ชัย อำชวี ระงับโรค, 2549, หน้ำ 28) และในกำรพฒั นำระบบ “Online Article Service & Tracking System” ไดใ้ ช้ MEAN stack ซง่ึ เปน็ เทคโนโลยีดำ้ น Web application ตัวหน่ึงที่ประกอบดว้ ยเทคโนโลยี Javascript 4 ตัว ไดแ้ ก่ 1) MongoDB 2) Express 3) AngularJs + HTML และ 4) NodeJS มำรวมกนั เพื่อให้โครงสร้ำงและกำรจัดกำร Web application เปน็ ไป อย่ำงสมบูรณ์ กำรพัฒนำระบบ “Online Article Service & Tracking System” นี้ได้สร้ำงและ พฒั นำข้นึ จำกควำมร่วมมือของฝำ่ ยห้องสมุดและสำรนเิ ทศศำสตร์สำขำวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี และคณะกรรมกำรพฒั นำนวัตกรรมสำนกั หอสมุด มหำวิทยำลัยเชยี งใหม่ เพ่ือใหไ้ ดร้ ะบบบริกำรคำขอ บทควำมอิเลก็ ทรอนิกสท์ ส่ี ำมำรถบันทกึ จดั เก็บข้อมูล และรำยงำนสถิติกำรให้บริกำรได้อย่ำงเป็น ระบบ สำมำรถแจง้ เตือนคำขอ อีกทัง้ อำนวยควำมสะดวกแก่ผู้ใช้บริกำรให้สำมำรถตรวจสอบสถำนะ คำขอบทควำมของตนเองได้ทุกท่ี ทกุ เวลำ ปจั จุบัน ห้องสมุดคณะ 5 แห่ง ในฝำ่ ยหอ้ งสมดุ และสำรนิเทศสำขำวิทยำศำสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ได้ให้บรกิ ำรคำขอบทควำมอเิ ล็กทรอนิกส์ด้วย “Online Article Service & Tracking System” แล้ว และยงั เผยแพร่ให้ห้องสมดุ คณะอืน่ ได้นำไปใชอ้ ีกดว้ ย เช่น หอ้ งสมดุ คณะศึกษำศำสตร์ ห้องสมดุ คณะสตั วแพทยศำสตร์ และห้องสมุดคณะสงั คมศำสตร์ เป็นตน้ วตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ พฒั นำระบบบริกำรและตดิ ตำมบทควำมอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลยั เชยี งใหม่ 2. เพื่อพฒั นำนวตั กรรมใหม่ตำมเปำ้ หมำยเชิงยุทธศำสตร์ของสำนักหอสมดุ ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อกำรเรียนกำรสอนและกำรวจิ ัยของมหำวิทยำลยั เชียงใหม่ ขนั้ ตอนและวิธกี ารดาเนินงาน ฝำ่ ยห้องสมุดและสำรนเิ ทศสำขำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยใี ชว้ งจรคุณภำพ PDCA มำเปน็ แนวทำงในกำรดำเนินงำนดังต่อไปน้ี 1. วำงแผน (Plan) ขน้ั ตอนกำรวำงแผนน้ีมวี ัตถปุ ระสงค์เพ่ือแสวงหำโอกำสในกำรปรบั ปรุงงำนซง่ึ ฝำ่ ยหอ้ งสมดุ ฯ ไดป้ ระชมุ รว่ มกนั เพ่ือวำงแผนกำรดำเนนิ งำน ดงั นี้ 1.1 กำหนดหวั ข้อนวตั กรรมทีจ่ ะจัดทำ โดยหวั หน้ำงำนห้องสมุดคณะในฝำ่ ย ฯ เสนอแนวคดิ และปัญหำจำกกำรให้บรกิ ำรตำ่ ง ๆ ของห้องสมุดซึ่งทป่ี ระชุมเสนอกำรสร้ำงระบบ “Online Article Service & Tracking System” ด้วยวัตถปุ ระสงค์เพอื่ พฒั นำกำรบรกิ ำรบทควำม อเิ ล็กทรอนกิ ส์ของห้องสมดุ ใหม้ ีประสทิ ธิภำพดยี ง่ิ ข้ึน 1.2 วำงแผนกำรจัดทำระบบ โดยเร่มิ ตั้งแตข่ นั้ ตอนของกำรวเิ ครำะห์และออกแบบ ระบบ กำรพฒั นำและปรับปรุงใหเ้ หมำะสมกบั กำรใช้งำน ตลอดจนประเมนิ ผลกำรใช้ 2. ปฏบิ ัติ (Do) 2.1 วิเครำะหแ์ ละออกแบบระบบ (System analysis and design) กำรใชง้ ำนระบบ “Online Article Service & Tracking System” สำมำรถแยก ผู้ใช้งำนระบบออกเปน็ 2 กลุ่มไดแ้ ก่ 1) กลุ่มผ้ใู ชง้ ำนประเภทผูใ้ ช้บริกำร และ 2) กลมุ่ ผูใ้ ช้งำนประเภท ผใู้ หบ้ ริกำร ผใู้ ชง้ ำนทง้ั 2 กลุ่มสำมำรถเข้ำใช้งำนระบบไดผ้ ่ำนเวบ็ ไซตด์ ้วยเคร่ืองคอมพิวเตอรห์ รอื อุปกรณ์ประเภท Smart devices โดยทำกำรยืนยันตนเองเพ่ือขอเขำ้ ใช้บรกิ ำรดว้ ย CMU it account ของมหำวทิ ยำลัยเชียงใหม่ และระบบจะทำกำรแยกประเภทของผ้ใู ชง้ ำนตำม Account ทยี่ ืนยนั ตนเอง

ผพู้ ัฒนำได้ออกแบบโครงสรำ้ งระบบโดยแยกเปน็ 2 สว่ นคือ ระบบสว่ นหนำ้ (Front- end) และระบบสว่ นหลงั (Back-end) ทท่ี ำหนำ้ ทแี่ ตกตำ่ งกนั อย่ำงชัดเจน ระบบส่วนหน้ำจะมหี น้ำท่ี ตดิ ต่อกับผู้ใช้งำน และระบบส่วนหลังทำหน้ำทบี่ ริหำรจัดกำรฐำนขอ้ มูลโดยทำงำนในรูปแบบ Web Service API’s ทีท่ ำงำนในรูปแบบ Cloud computing และถกู ออกแบบมำรองรับกำรเขียน โปรแกรมเชือ่ มโยงจำกระบบอ่นื ทีต่ ้องกำรใช้บรกิ ำรได้ ทำให้ระบบ “Online Article Service & Tracking System” สำมำรถบูรณำกำรทำงำนแบบเช่ือมโยงกบั ระบบหรือโปรแกรมอ่ืนภำยนอกได้ ภำพท่ี 1 ออกแบบโครงสรำ้ งระบบ 2.2 กำรพัฒนำระบบ (System development) จำกกำรออกแบบระบบดงั ทไี่ ดก้ ลำ่ วมำนั้น กำรพฒั นำระบบจึงจำเป็นตอ้ งใชเ้ ครือ่ งมือท่ี สนับสนุนรูปแบบกำรใหบ้ ริกำรตำมทอี่ อกแบบไว้ ผู้พฒั นำจึงเลือกใช้ MEAN stack เป็น Framework ในกำรพัฒนำโปรแกรมโดยเน้นภำษำ Javascript เป็นหลกั ประกอบดว้ ยเครอื่ งมือสำหรับพฒั นำ โปรแกรม 4 เครอื่ งมือดว้ ยกนั ดงั น้ี ลาดับ เครื่องมอื รายละเอียด 1 MongoDB ใช้เปน็ ระบบจดั กำรฐำนข้อมูล (DBMS) 2 Express สำหรับจัดกำรกำรเชื่อมโยงข้อมูลผำ่ น Web Service API 3 Angular ใช้สำหรบั Render ส่วนตดิ ต่อกบั ผู้ใชง้ ำนในส่วนของ Front-end 4 NodeJS สำหรับพัฒนำโปรแกรมในส่วนของ Back-end นอกจำกเครื่องมือสำหรับพฒั นำโปรแกรมท่ีผู้พฒั นำเลือกใช้ MEAN Stack ในกำร พัฒนำระบบ “Online Article Service & Tracking System” แล้ว ผู้พฒั นำยังใช้ Materialize เปน็ Responsive Framework ในกำรสร้ำงส่วนของ User Interface ในรปู แบบ Responsive Website และโปรแกรม Postman ในกำรตรวจสอบกำรทำงำนของ Web Service API’s อีกดว้ ย ทัง้ นี้ กำรออกแบบระบบและ User Interface ได้พิจำรณำถึงควำมเหมำะสมกบั ข้นั ตอนกำรใช้งำน ตลอดจนควำมสวยงำมของหนำ้ แสดงผลต่ำง ๆ คณุ สมบัติของ “Online Article Aervice & Tracking System” 1) บันทึกรำยละเอียดกำรให้บรกิ ำร ได้แก่ ชื่อ-สกลุ ผ้ใู ชบ้ รกิ ำร ช่ือบทควำม วนั ที่ส่ง คำขอ สังกดั หนว่ ยงำน e-Mail

2) มีระบบแจ้งเตอื นผู้ให้บรกิ ำรเมอื่ มีคำขอรบั บริกำรเข้ำมำใหม่ 3) ผูใ้ ช้บริกำรสำมำรถติดตำมกำรให้บริกำรบทควำมได้ในทกุ ข้ันตอน 4) ผ้ใู ชบ้ รกิ ำรสำมำรถย้อนดูประวตั ิกำรขอบทควำมอิเลก็ ทรอนิกสข์ องตนเองได้ 5) ระบบสำมำรถรำยงำนสถิติ และ Export ข้อมูลสู่ Microsoft excel ไดเ้ พื่อ ประโยชน์ในกำรนำข้อมลู มำวิเครำะห์และวำงแผนกำรให้บรกิ ำรในคร้งั ต่อไป 2.3 นำรำ่ งแบบเขำ้ ที่ประชมุ ฝำ่ ยห้องสมดุ และสำรนิเทศสำขำวทิ ยำศำสตร์และ เทคโนโลยีเพอ่ื พจิ ำรณำและใหข้ ้อเสนอแนะในกำรปรบั ปรงุ ระบบใหเ้ หมำะสมกับกำรใชง้ ำน 2.4 คณะกรรมกำรพัฒนำนวัตกรรมสำนักหอสมุด รวบรวมขอ้ เสนอแนะจำกทปี่ ระชมุ ฝ่ำย ฯ และส่งต่อใหน้ ักพัฒนำระบบดำเนนิ กำรวิเครำะห์ ออกแบบและจดั ทำระบบ 2.5 นักพัฒนำระบบจัดทำระบบตำมร่ำงแบบทก่ี ำหนดไว้โดยใชเ้ คร่อื งมอื / โปรแกรม ต่ำง ๆ ตำมผงั กำรทำงำนของระบบ 3. ตรวจสอบกำรปฏบิ ัติ (Check) ตรวจสอบกำรดำเนนิ งำนตำมแผนกำรปฏิบัตงิ ำนและทดลองระบบ Online Article Service & Tracking System ทสี่ ร้ำงเสรจ็ แล้วเพ่อื พิจำรณำควำมเหมำะสม/ ปญั หำจำกกำรใช้งำน ในขน้ั ตอนตำ่ ง ๆ ก่อนนำระบบไปใชใ้ นกำรบริกำรคำขอบทควำมอิเล็กทรอนิกส์ 3.1 กำรตรวจสอบโปรแกรมทพ่ี ัฒนำ ด้วยสำนักหอสมดุ มหำวิทยำลัยเชยี งใหม่ ได้กำหนดนโยบำยในกำรพัฒนำโปรแกรม กลำ่ วคอื โปรแกรมทีพ่ ัฒนำต้องมมี ำตรฐำนในระดบั สำกล สำมำรถเขำ้ ใชง้ ำนได้อย่ำงเป็นมิตร (Friendly users) จำกทุกอุปกรณส์ อ่ื สำร (Smart devices) ดังนนั้ ระบบ Online Article Service & Tracking System จงึ จำเป็นตอ้ งผำ่ นกำรทดสอบจำกเครื่องมือท่ีมมี ำตรฐำนระดับสำกล ซึ่งไดผ้ ล กำรทดสอบดังนี้ 1) ไดร้ บั มำตรฐำน HTML5 จำกกำรทดสอบด้วยโปรแกรม Markup validator service จำกองค์กร World Wide Web Consortium (W3C) 2) ได้รับคะแนน 99/ 100 จำกกำรทดสอบกำรใช้งำนจำกอุปกรณ์เคล่ือนท่ีดว้ ย โปรแกรม PageSpeed Insights จำก Google ภำพที่ 2 ผลกำรทดสอบโปรแกรมด้วย Google PageSpeed Insights 3.2 กำรวพิ ำกษโ์ ปรแกรม ก่อนนำโปรแกรม “Online Article Service & Tracking System” ไปใชง้ ำนจริง ทีมงำนคณะกรรมกำรพัฒนำนวตั กรรมไดน้ ำโปรแกรมต้นแบบมำจดั แสดงในงำนวนั นวัตกรรม สำนกั หอสมุด 2561 (CMUL service innovations day's 2018) เพ่ือใหบ้ คุ ลำกรสำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลัยเชียงใหม่ บคุ ลำกรหอ้ งสมุดต่ำงสถำบัน และผู้ใชบ้ รกิ ำร ได้มสี ว่ นในกำรวิพำกษโ์ ปรแกรม

ด้วยกำรทำแบบสอบถำม พบวำ่ กำรจดั ทำ “Online Article Service & Tracking System” เป็นประโยชน์และเป็นนวตั กรรมท่ีใชร้ ่วมกันได้ทกุ ห้องสมุดคณะ ระบบสำมำรถทำควำมเข้ำใจและ ใช้งำนไดง้ ำ่ ย 4. กำรดำเนินกำรใหเ้ หมำะสม (Act) ฝ่ำยหอ้ งสมุดและสำรนิเทศสำขำวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยีได้เริม่ ให้บริกำรบทควำม อเิ ล็กทรอนกิ ส์โดยใชร้ ะบบ “Online Article Service & Tracking System” และประชำสมั พนั ธ์ แกผ่ ูใ้ ชบ้ รกิ ำรและหอ้ งสมดุ คณะอ่ืนในมหำวทิ ยำลัยเชียงใหม่ นอกจำกนไี้ ด้ประเมินผลกำรใชง้ ำน และรวบรวมข้อเสนอแนะ/ ปัญหำตำ่ ง ๆ มำปรบั ปรุงระบบใหส้ มบูรณ์ย่ิงขึน้ พรอ้ มทั้งจัดทำคมู่ ือ กำรใชร้ ะบบ “Online Article Service & Tracking System” เผยแพรแ่ กผ่ ูใ้ ห้บริกำรห้องสมดุ อกี ดว้ ย สรปุ ผล อภิปรายผล ขอเสนอแนะและการนาไปใชประโยชน์ สรปุ ผล 1. ผลกำรพฒั นำระบบ ได้ระบบบริกำรคำขอบทควำมอเิ ล็กทรอนิกส์ “Online Article Service & Tracking System” ซ่งึ มขี ้นั ตอนของกำรใช้ระบบดงั น้ี 1.1 เขำ้ สหู่ น้ำหลกั ของ “Online Article Service & Tracking System” ท่ี http://library.cmu.ac.th/articletrack/ ภำพที่ 3 หน้ำแรกของระบบ “Online Article Service & Tracking System” - LOGIN เลือกปมุ่ นเ้ี พื่อลงทะเบยี นดว้ ย e-mail ของมหำวทิ ยำลัยเชยี งใหม่เพ่ือ เขำ้ สู่หน้ำคำขอบทควำม - READ ME เลอื กเพอื่ อำ่ นคำอธบิ ำยกำรกรอกคำขอบทควำมอเิ ล็กทรอนิกส์ 1.2 ลงทะเบยี นดว้ ย e-Mail ของมหำวทิ ยำลัยเชียงใหม่ ([email protected])

ภำพที่ 4 หนำ้ จอกำรลงทะเบียนดว้ ย CMU it account 1.3 กรอกคำขอบทควำมในแบบฟอร์ม โดยระบุรำยละเอยี ดตำ่ ง ๆ เชน่ คณะท่ี ตอ้ งกำรขอบทควำม รำยละเอียดของบทควำมซง่ึ สำมำรถคดั ลอกรำยกำรอำ้ งอิงของเอกสำรที่ต้องกำร ได้ หมำยเลขโทรศัพท์ติดต่อ และรำยละเอยี ดเพิ่มเติม เป็นต้น หำกตอ้ งกำรสง่ คำขอมำกกว่ำ 1 รำยกำร สำมำรถเพิ่มรำยกำรไดโ้ ดยเลือก More article ซง่ึ ไม่จำกัดจำนวนรำยกำรท่ีตอ้ งกำรขอ ภำพที่ 5 แบบฟอรม์ คำขอระบบ 1.3 ผใู้ ช้บริกำรจะไดร้ บั หมำยเลข Tracking ID ทำงอีเมลทไ่ี ด้ระบุไว้ในคำขอ ภำพท่ี 6 หนำ้ อเี มลของผู้ใชบ้ ริกำร

1.4 ผูใ้ ชบ้ ริกำรสำมำรถติดตำมคำขอบทควำมได้จำก Tracking ID ทไี่ ด้รบั ภำพที่ 7 หน้ำจอแสดงสถำนะของบทควำมอเิ ล็กทรอนิกส์ที่ผใู้ ช้บริกำรขอ 1.5 ผดู้ ูแลระบบสำมำรถบันทึกสถำนะของผ้ใู ช้บริกำรไดใ้ นแต่ละรำยกำร เพ่ือให้ ผ้ใู ชบ้ ริกำรสำมำรถตรวจสอบสถำนะไดด้ ว้ ยตนเอง ภำพที่ 8 หนำ้ จอของผดู้ แู ลระบบ ภำพที่ 9 ตัวอยำ่ งหนำ้ รำยงำนสถติ ิคำขอของทุกคณะ

ภำพที่ 10 ตวั อย่ำงหน้ำรำยงำนสถติ คิ ำขอแยกตำมสงั กัดคณะ 2. ผลกำรใช้ จำกกำรใช้ “Online Article Service & Tracking System” ของผู้ใช้บรกิ ำรและผู้ ใหบ้ ริกำร สำมำรถสรปุ ผลได้ดังน้ี 2.1 ห้องสมุดมนี วตั กรรมใหม่ ซงึ่ เป็นระบบบริกำรคำขอบทควำมอิเล็กทรอนิกส์ที่ สำมำรถจัดเก็บข้อมูล แจง้ เตือนคำขอ พรอ้ มทั้งสำมำรถออกรำยงำนสถิตกิ ำรใหบ้ ริกำรได้ 2.2 บคุ ลำกรผใู้ ห้บริกำรได้รับควำมสะดวกในกำรปฏบิ ตั ิงำน เน่อื งจำกกำรใหบ้ ริกำร คำขอบทควำมอิเล็กทรอนิกส์ด้วย “Online Article Service & Tracking System” ทำให้ กำรดำเนนิ งำนเปน็ ระบบมำกยง่ิ ขึน้ อีกท้งั สำมำรถนำข้อมลู และสถิตบิ รกิ ำรไปรำยงำนผลประจำปี หรือตอ่ ยอดใช้ในงำนอืน่ ของห้องสมดุ ได้ เช่น กำรรำยงำนผลกำรดำเนินงำน e-Current Statistics กำรจัดทำรำยงำนกำรประเมินตนเอง (SAR) เป็นตน้ 2.3 ผใู้ ช้บรกิ ำรสำมำรถตดิ ตำมกำรขอรบั บรกิ ำรบทควำมอเิ ล็กทรอนกิ ส์ได้ดว้ ย ตนเอง และสำมำรถดปู ระวตั ิกำรส่งคำขอของตนเองในหน้ำ History ได้ 2.4 เปน็ กำรพฒั นำบริกำรของห้องสมุดให้มีประสิทธิภำพมำกยิ่งขนึ้ ในด้ำนกำรประเมินผลควำมพึงพอใจต่อกำรให้บริกำรบทควำมอิเลก็ ทรอนิกส์ดว้ ย ระบบ “Online Article Service & Tracking System” นัน้ ไดใ้ ช้รูปแบบของกำรประเมนิ ออนไลน์ โดยแบง่ ระดบั ควำมพึงพอใจเปน็ 5 ระดับ ไดแ้ ก่ มำกทส่ี ุด มำก ปำนกลำง น้อย และน้อยทส่ี ดุ ซง่ึ ผ้ใู หบ้ รกิ ำรจะส่งแบบประเมนิ ไปพรอ้ มกบั กำรสง่ บทควำมฉบับเต็มใหแ้ ก่ผใู้ ช้บรกิ ำร ท้ังนี้ นอกจำก ผ้ใู ชบ้ รกิ ำรจะประเมนิ ควำมพึงพอใจใน 5 ระดับแลว้ นั้น ยังเปดิ โอกำสใหแ้ สดงควำมคิดเห็นอน่ื ๆ เพม่ิ เติมอีกด้วย อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ เนอ่ื งจำกห้องสมุดคณะในฝ่ำยฯ ไดน้ ำระบบ “Online Article Service & Tracking System” มำใหบ้ รกิ ำรคำขอบทควำมอเิ ล็กทรอนกิ ส์ได้ในระยะเวลำเพยี งไม่นำน ดังน้ัน ในสว่ นของ กำรประเมนิ ผลควำมพึงพอใจจงึ อยู่ในระหวำ่ งกำรเก็บรวบรวมขอ้ มูลจำกผู้ใชบ้ ริกำรให้ได้ปริมำณที่ เหมำะสมซึ่งจะไดน้ ำข้อมลู ท้ังหมดมำวเิ ครำะห์ สรุปผล และอภปิ รำยผลต่อไป ขอ้ เสนอแนะ จำกผลกำรใช้งำนข้ำงตน้ มขี อ้ เสนอแนะแบ่งออกเป็น 2 ด้ำน ดังน้ี 1. ด้ำนกำรพัฒนำระบบ ในหน้ำ Request form มีข้อเสนอแนะให้เพ่ิมช่องกรอก URL ของบทควำมทีผ่ ใู้ ชบ้ ริกำร ตอ้ งกำรขอเอกสำรฉบับเตม็ ทงั้ นเ้ี พื่อช่วยชี้แหล่งของบทควำมให้ผูใ้ ห้บรกิ ำรสำมำรถตรวจสอบ รำยกำรอ้ำงอิงกอ่ นดำเนินกำรสืบคน้ บทควำมฉบับเตม็ ได้ตรงควำมต้องกำรของผใู้ ชบ้ ริกำร 2. ดำ้ นกำรบรกิ ำร

2.1 ควรประชำสัมพนั ธ์บรกิ ำรคำขอบทควำมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ด้วยระบบ “Online Article Service & Tracking System” แกผ่ ู้ใชใ้ นหลำยช่องทำงเพ่ือให้ระบบบริกำรน้ีเป็นทร่ี จู้ ัก มำกข้ึน 2.2 ควรจดั อบรมกำรใช้ระบบ “Online Article Service & Tracking System” ให้แกบ่ ุคลำกรทุกห้องสมุดในมหำวทิ ยำลยั เชียงใหม่ เพ่ือให้มคี วำมรคู้ วำมเข้ำใจและสำมำรถให้บรกิ ำร ได้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ การนาไปใช้ประโยชน์ 1. ประโยชนต์ อ่ มหำวทิ ยำลยั เชียงใหม่ 1.1 สนับสนุนยุทธศำสตร์กำรพัฒนำสำนกั หอสมดุ มหำวทิ ยำลยั เชยี งใหม่ ยุทธศำสตรท์ ี่ 4 : บริกำรท่ีเป็นเลศิ ในกำรพัฒนำนวัตกรรมเพื่อสง่ เสรมิ กำรใหบ้ ริกำรบทควำม อเิ ล็กทรอนกิ ส์ให้มีประสิทธภิ ำพมำกย่ิงขนึ้ 1.2 ห้องสมุดทุกแห่งในมหำวทิ ยำลยั เชยี งใหมส่ ำมำรถนำระบบ Online Article Service & Tracking System ไปเปน็ เครื่องมือสง่ เสรมิ บริกำรบทควำมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ของแต่ละ หอ้ งสมดุ ซงึ่ จะเปน็ ประโยชนใ์ นกำรให้บริกำรท่เี ป็นระบบมำกยิ่งขึ้น และสำมำรถใช้งำนร่วมกันได้ทุก ห้องสมดุ 1.3 ผูใ้ ช้บริกำรห้องสมดุ ได้รับควำมสะดวกในกำรขอรบั บริกำรบทควำมอเิ ล็กทรอนิกส์ จำกหอ้ งสมุด โดยสำมำรถตดิ ตำมและตรวจสอบกำรให้บริกำรได้ทุกขั้นตอน 1.4 ห้องสมดุ ได้แนวทำงในกำรพัฒนำกำรใหบ้ รกิ ำรบทควำมอเิ ลก็ ทรอนิกส์เพื่อสรำ้ ง ควำมพงึ พอใจและควำมประทบั ใจแก่ผใู้ ช้บริกำร 1.5 เปน็ กำรสง่ เสรมิ ใหท้ รัพยำกรสำรสนเทศอเิ ล็กทรอนิกส์ของห้องสมุด ได้ถูกนำไปใช้ ประโยชนท์ ำงวชิ ำกำรอยำ่ งต่อเนอ่ื ง เกดิ ควำมคมุ้ ค่ำกับงบประมำณทใี่ ชใ้ นกำรจัดหำมำให้บริกำร 2. ประโยชนต์ ่อมหำวทิ ยำลยั อื่น ห้องสมดุ มหำวทิ ยำลัย/ สถำบันอืน่ สำมำรถนำระบบ Online Article Service & Tracking System ไปประยุกต์ใชก้ บั งำนหอ้ งสมดุ ของแต่ละแห่งเพ่ือพัฒนำบรกิ ำรบทควำม อิเล็กทรอนกิ สห์ รือบริกำรเอกสำรตำ่ ง ๆ ของหนว่ ยงำนได้ กำรแลกเปลี่ยนเรยี นรแู้ ละกำรแบง่ ปนั ระบบกำรใช้งำนหรือกำรใชท้ รพั ยำกรระหวำ่ ง ห้องสมุด เป็นกำรสง่ เสรมิ ควำมร่วมมอื ในทำงวิชำกำรระหว่ำงมหำวทิ ยำลัยได้อย่ำงยั่งยืน รายการอ้างอิง ศภุ ชยั อำชีวระงบั โรค. (2549). Practical PDCA : แก้ปญั หาและปรับปรุงงานเพื่อความสาเรจ็ . กรงุ เทพฯ: สถำบนั เพ่ิมผลผลติ แหง่ ชำติ. AdaCode.IO. (2558). Experience of MEAN. Retrieved from http://www.comscicafe.com/article/109/introduction-to-mean- stack#.W6L_jbVt-M8 MEAN Stack. (2017). [Computer software]. BNEI BRAK, ISRAEL: Linnovate.

ระบบจัดการ QR Code เพือ่ การเขา้ ถึงบทความวารสารฉบบั ออนไลน์ ชารฟี ลามาก, ศิรริ ัตน์ เมอื งแมน หอสมุดจอหน์ เอฟ เคนเนดี้ สำนกั วิทยบริกำร มหำวทิ ยำลยั สงขลำนครนิ ทร์ วิทยำเขตปตั ตำนี email: [email protected], [email protected] บทคดั ย่อ ระบบจัดกำร QR Code เพื่อกำรเข้ำถงึ บทควำมวำรสำรฉบบั ออนไลน์ จัดทำข้ึนเพื่อ อำนวยควำมสะดวกให้แกผ่ ู้ปฏบิ ัติงำนและให้เปน็ มำตรฐำนเดยี วกันในกำรจดั ทำ QR Code เพ่ือเป็น ชอ่ งทำงในกำรเข้ำถึงบทควำมวำรสำรฉบบั ออนไลน์ มีขน้ั ตอนในกำรดำเนินกำร คือ 1. พฒั นำระบบ จัดกำร QR Code ซ่งึ ประกอบดว้ ย ขั้นตอนสำคัญคือ รับทรำบปัญหำและควำมต้องกำร วิเครำะห์ ระบบ ออกแบบระบบ พัฒนำระบบจัดกำร QR Code และทดสอบระบบ 2. กำรเตรียมข้อมลู 3. กำรจดั กำร QR Code 4. กำรติด QR Code วำรสำรและขึ้นชัน้ ใหบ้ ริกำร 5. กำรเข้ำถึงวำรสำร ฉบบั ออนไลน์ โดยผู้ใช้บริกำรสำมำรถเข้ำถึงบทควำมวำรสำรฉบบั ออนไลน์ด้วยสมำร์ทโฟน (Smartphone) ทีม่ ีแอพลิเคชนั (Application) QR Code Reader แสกน QR Code บนตัวเลม่ วำรสำรทำให้สำมำรถเขำ้ ถงึ วำรสำรฉบบั ออนไลน์ได้อย่ำงสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยงั ส่งเสริมกำรเข้ำใช้ งำนวำรสำร เพ่ิมควำมคุ้มค่ำของกำรใชง้ ำนวำรสำร และส่งผลให้ควำมพึงพอใจของผู้ใช้บรกิ ำรมำก ยิ่งขึน้ คาสาคัญ: บทควำมวำรสำร Keyword: QR Code Abstract The purposes of this research were to facilitate the workers and to role the same standard in the process of QR Code creation as a channel to access online journal articles. The operating procedures were 1. To develop the QR Code management system containing important processes as follow: to realize the problem and needs, to analyze the system, to design the system, to develop the system and to test the system. 2. Data preparation process 3. QR Code

management process 4. QR Code installation process 5. Online journal access by a smartphone with an application QR Code reader. To access to the online journal, the readers must scan the QR Code. By doing so, they can access to the online journals faster. Moreover, the access to the journals will be promoted, the use of the journals will be more valuable. As a result, the customer satisfaction is even greater. บทนา หอสมุดจอห์น เอฟ เคนเนดี้ เป็นหอสมดุ กลำงของมหำวทิ ยำลัยสงขลำนครินทร์ วิทยำเขต ปตั ตำนี มหี น้ำทใ่ี ห้บริกำรสำรสนเทศหลำกหลำยรปู แบบให้แก่ อำจำรย์ นักศึกษำ นกั เรยี น บคุ ลำกร ตลอดจนผสู้ นใจทวั่ ไป กำรให้บริกำรวำรสำรฉบบั พิมพ์ เปน็ อีกหนึ่งกำรใหบ้ ริกำรทส่ี ำคญั ของหอสมดุ ฯ วำรสำรฉบบั พมิ พ์มี 2 ประเภท ไดแ้ ก่ วำรสำรฉบบั ปัจจุบนั และวำรสำรฉบับลว่ งเวลำ สำหรับวำรสำรฉบับปจั จุบนั ไมส่ ำมำรถใหบ้ ริกำรยมื ได้ เนือ่ งจำกมีผใู้ ช้บริกำรตอ้ งกำรจำนวนมำก จงึ ทำให้ผใู้ ชบ้ รกิ ำรต้องยมื ตวั เลม่ ไปถำ่ ยสำเนำเอกสำร และทำให้ไม่สะดวกในกำรใช้บรกิ ำรวำรสำร ดังกล่ำว ส่วนวำรสำรฉบับล่วงเวลำสำมำรถยมื ได้เปน็ เวลำ 2 วนั ซง่ึ ผใู้ ช้บริกำรบำงท่ำนมีควำมเหน็ ว่ำ ระยะเวลำกำรยืมไมเ่ พียงพอกับควำมต้องกำร จะเห็นว่ำกำรใหบ้ ริกำรวำรสำรฉบบั ปัจจบุ ันและ วำรสำรฉบบั ลว่ งเวลำไม่เพยี งพอกับควำมต้องกำรของผใู้ ช้บริกำร และยงั ส่งผลต่อควำมพึงพอใจของ ผู้ใชบ้ ริกำร จำกปญั หำดังกล่ำวผู้วจิ ยั ไดเ้ ลง็ เหน็ ว่ำในปจั จุบันผูผ้ ลิตวำรสำรวชิ ำกำรได้มีกำรพัฒนำ รปู แบบกำรเผยแพรบ่ ทควำมวำรสำรฉบับออนไลนม์ ำกข้ึน ทั้งจำกฐำนข้อมูลศูนยด์ ชั นีกำรอ้ำงอิง วำรสำรไทย (TCI), Thai Journals Online (ThaiJO) หรือจำกฐำนขอ้ มลู หน่วยงำนทผ่ี ลิตวำรสำรเอง ผ้พู ฒั นำจงึ ได้พฒั นำระบบจดั กำร QR Code เพอ่ื เปน็ เคร่ืองมือสำหรบั ผปู้ ฏิบตั ิงำนในกำรสรำ้ ง QR Code และนำ QR Code ทไ่ี ด้จำกระบบไปตดิ ท่ีเลม่ วำรสำร เพือ่ ใช้เปน็ ช่องทำงในกำรเข้ำถึงบทควำม วำรสำรด้วย สมำรท์ โฟนที่มแี อพลิเคชนั QR Code Reader สแกน QR Code ให้สำมำรถเข้ำถึง บทควำมวำรสำรออนไลน์ฉบับเตม็ ท่ตี ้องกำรได้อยำ่ งสะดวกรวดเรว็ ส่งเสริมเขำ้ ใช้งำนวำรสำร เพม่ิ ควำมคุ้มคำ่ ของกำรใชง้ ำนวำรสำร และส่งผลให้ควำมพงึ พอใจของผูใ้ ชบ้ ริกำรมำกยิ่งขน้ึ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเปน็ เคร่ืองมือสำหรบั ผู้ปฏิบตั ิงำนในกำรจัดทำ QR Code เพอ่ื กำรเขำ้ ถงึ บทควำม วำรสำรฉบบั ออนไลน์ 2. เพ่ือเพ่ิมช่องทำงในกำรเขำ้ ถงึ บทควำมวำรสำร และใหผ้ ูใ้ ช้บริกำรสำมำรถเข้ำถึง บทควำมวำรสำรได้อย่ำงสะดวกรวดเรว็ 3. เพอ่ื ใหบ้ ทควำมวำรสำรน้ันเพยี งพอกบั ควำมต้องกำรของผใู้ ช้บริกำร ขน้ั ตอนและวธิ กี ารดาเนินการ ระบบจดั กำร QR Code เพื่อกำรเข้ำถงึ บทควำมวำรสำรฉบบั ออนไลน์ มขี น้ั ตอนและ วธิ กี ำรดำเนนิ กำร ดงั ต่อไปนี้

1. พฒั นำระบบจดั กำร QR Code ผวู้ ิจยั ไดพ้ ัฒนำระบบจดั กำร QR Code เพ่อื กำรเขำ้ ถงึ บทควำมวำรสำรออนไลน์เพื่อเป็นเครือ่ งมอื สำหรับผปู้ ฏบิ ัติงำนในกำรจดั ทำ CR Code และนำ QR Code ท่ีได้จำกระบบไปติดท่ีเล่มวำรสำรเพือ่ ใชเ้ ป็นชอ่ งทำงสำหรับผใู้ ช้บริกำรในกำรเข้ำถึง บทควำมวำรสำรฉบบั ออนไลน์ โดยมขี นั้ ตอนกำรพัฒนำระบบดงั กล่ำวดงั ต่อไปนี้ 1.1 รบั ทรำบปญั หำและควำมตอ้ งกำร ผู้วิจัยได้ศกึ ษำปัญหำทเ่ี กิดขนึ้ ในกำรให้บริกำร วำรสำรฉบับปจั จุบันและฉบบั ลว่ งเวลำ รวมทั้งเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ควำมต้องกำรของผู้ปฏิบัติงำน 1.2 วิเครำะห์ระบบ ผวู้ ิจัยนำขอ้ มูลท่ีได้จำกกำรรับทรำบปัญหำและควำมตอ้ งกำรของ ผู้ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง มำวเิ ครำะหเ์ พ่ือออกแบบโครงสรำ้ งข้อมลู และโครงสร้ำงกำรทำงำนของระบบดังภำพท่ี 1 ภำพที่ 1 Data Flow Diagram Level 1 โครงสร้ำงกำรทำงำนระบบจดั กำร QR Code 1.3 ออกแบบระบบ ผ้วู จิ ยั นำข้อมูลที่ได้จำกวเิ ครำะห์มำออกแบบส่วนนำข้อมูลเข้ำ ผลลัพธ์ ส่วนตดิ ต่อกบั ผู้ใช้ ร่วมทั้งออกแบบโครงสร้ำงกำรจัดเก็บฐำนข้อมูล 1.4 พฒั นำระบบจัดกำร QR Code เพื่อเป็นเคร่ืองมือในกำรจดั ทำ QR Code สำหรบั ผู้ปฏบิ ัติงำนและนำ QR Code ทไี่ ด้จำกระบบไปติดทีเ่ ลม่ วำรสำรเพื่อใชเ้ ปน็ ช่องทำงใน กำรเข้ำถึงสำรสำรฉบับออนไลน์ ผวู้ จิ ยั ได้พฒั นำระบบเป็นเวบ็ แอพลิเคชัน (Web Application) และใชเ้ ครื่องมือในกำรพัฒนำ ได้แก่ ระบบบริหำรจดั กำรฐำนข้อมูล MySQL ภำษำโปรแกรม PHP, Javascript, JQuery Library และภำษำ HTML 1.5 ทดสอบระบบ นำระบบจัดกำร QR Code ท่ีได้จำกพัฒนำไปทดสอบกำรสร้ำง QR Code และนำ QR Code ทไ่ี ด้ใช้ไปใช้แสกนด้วยสมำร์ทโฟนที่มีแอพลเิ คชัน QR Code Reader เพื่อทดสอบควำมถูกต้องของ QR Code ในกำรเข้ำถึงข้อมูล 2. ขั้นตอนกำรเตรยี มข้อมลู คัดเลือกวำรสำรทม่ี ีกำรให้บริกำรฉบับออนไลน์ วำรสำร ดังกล่ำวสำมำรถคน้ หำได้จำกเวบ็ ไซต์ TCI ThaiJO หรือจำกฐำนข้อมลู ของหนว่ ยงำนที่ผลิตบทควำม

วำรสำรฉบับท่ใี ห้บริกำรออนไลน์ และรวบรวมรำยละเอียดขอ้ มูลของวำรสำร ได้แก่ ชื่อวำรสำร ปีที่ ฉบบั ท่ี เดือน ปี และ URL ของวำรสำรที่ให้บริกำรออนไลน์ โดย URL ของวำรสำรจะนำไปใชใ้ น กำรสร้ำง QR Code เพ่ือกำรเข้ำถงึ วำรสำร 3. ขนั้ ตอนกำรจดั กำร QR Code เป็นขัน้ ตอนกำรนำข้อมลู บทควำมวำรสำรฉบบั ท่ี ให้บริกำรออนไลน์ทไ่ี ดจ้ ำกขน้ั ตอนกำรเตรยี มข้อมลู เข้ำสรู่ ะบบจดั กำร QR Code เพ่อื จัดทำ QR Code สำหรับชอ่ งทำงกำรเข้ำถงึ บทควำมวำรสำรฉบบั ออนไลน์ โดยมขี น้ั ตอนดังต่อไปนี้ 3.1 เข้ำสู่ระบบจดั กำร QR Code เพื่อกำรเข้ำถึงบทควำมวำรสำรฉบับออนไลน์ ได้ดัง ภำพท่ี 2 ภำพที่ 2 หน้ำจอเข้ำสรู่ ะบบ 3.2 กำรจดั กำรข้อมลู วำรสำร นำรำยละเอียดข้อมลู วำรสำรทใี่ ห้บริกำรออนไลน์ ได้แก่ ชื่อวำรสำร ปที ่ี ฉบับท่ี เดือน ปี และ URL ป้อนข้อมูลในระบบดังภำพท่ี 3 และข้อมูลวำรสำรที่ถูก บนั ทึกจะแสดงดังภำพท่ี 4 ภำพที่ 3 หนำ้ จอจดั กำรข้อมูลวำรสำร

ภำพท่ี 4 รำยกำรวำรสำรทถ่ี ูกบันทึก 3.3 กำรเลือกรำยกำรวำรสำรที่ต้องกำรพิมพ์ ดงั ภำพท่ี 5 ภำพที่ 5 หน้ำจอเลือกวำรสำรที่ตอ้ งกำรพิมพ์

3.4 กำรสัง่ พิมพ์รำยกำรวำรสำร แสดงดังภำพที่ 6 ภำพที่ 6 หน้ำจอสงั่ พมิ พ์วำรสำร 4. กำรติด CR Code วำรสำรและขนึ้ ช้ันให้บริกำร นำ QR Code ทไ่ี ด้จำกกำรพิมพ์ มำตัดตำมขนำดที่ต้องกำร และใชเ้ ทปใสขนำดประมำณ 5x5 ซ.ม. ติดทบั ตำมภำพท่ี 7 ภำพท่ี 7 กำรตดิ เทปใส เมื่อติดเทปใสเรยี บร้อยแลว้ นำ CR Code ที่ได้มำติดทว่ี ำรสำรดังภำพที่ 8

ภำพที่ 8 วำรสำรทตี่ ดิ QR Code นำวำรสำรฉบับพิมพ์ทีต่ ิด QR Code เสร็จเรียบร้อยขึ้นช้นั ให้บรกิ ำรดังภำพท่ี 9 ภำพท่ี 9 วำรสำรทต่ี ดิ CR Code ขน้ึ ชน้ั ให้บริกำร 5. กำรเขำ้ ถึงวำรสำรฉบับออนไลน์ ผใู้ ชบ้ ริกำร ได้แก่ อำจำรย์ นักศึกษำ นักเรียน บคุ ลำกร ตลอดผู้สนใจทว่ั ไป สำมำรถเข้ำถึงวำรสำรฉบบั ออนไลน์ โดยใช้สมำร์ทโฟนท่ีมีแอพลิเคชนั QR Code Reader แสกนไปที่ QR Code ทว่ี ำรสำร จำกน้ัน QR Code Reader จะลงิ ค์ไปยังที่อยู่ วำรสำรทำใหส้ ำมำรถอ่ำนบทควำมวำรสำรบนสมำรท์ โฟนได้ สรุปผล อภิปรายผล ขอ้ เสนอแนะและการนาไปใชป้ ระโยชน์ หอสมุดจอหน์ เอฟ เคนเนดี้ มรี ะบบ QR Code เพ่ือกำรเขำ้ ถึงบทควำมวำรสำรฉบับ ออนไลน์ อำนวยควำมสะดวกให้แก่ผ้ปู ฏิบตั ิงำนและให้เป็นมำตรฐำนเดียวกนั ในกำรสร้ำง QR Code ผลกำรประเมินจำกกำรทดลองใช้งำนระบบจัดกำร QR Code เพื่อกำรเข้ำถึงบทควำมวำรสำร ออนไลน์ของผู้ปฏบิ ัติงำน (บรรณำรักษ์และผ้ปู ฏบิ ตั ิงำนห้องสมุด) จำนวน 13 คน พบว่ำได้รับ

กำรแปลผลในระดับมำกทสี่ ุดทกุ ด้ำน ควำมพึงพอใจในกำรใช้งำนระบบในภำพรวมมคี ่ำเฉลยี่ 4.83 อยรู่ ะดับมำกท่ีสดุ ตำรำงที่ 1 สรุปผลกำรประเมนิ ควำมพงึ พอใจในกำรใชง้ ำนระบบ รายการประเมนิ ระดับความพึงพอใจ ���̅��� SD แปลผล ด้านการความถูกตอ้ งของระบบ 1. ระบบสำมำรถจดั กำรข้อมูลวำรสำรได้อย่ำงถูกต้อง 4.85 0.112 มำกทีส่ ดุ 2. QR Code ทไี่ ด้จำกระบบสำมำรถสแกนด้วยสมำร์ทโฟนได้ 5.00 0.00 มำกที่สดุ 3. QR Code ท่ีได้จำกระบบสำมำรถลิงค์ไปยังบทควำม 4.92 0.083 มำกทส่ี ุด วำรสำรฉบับออนไลน์ได้อย่ำถกู ต้อง 4.92 0.270 มากท่สี ดุ เฉลย่ี ด้านความถูกต้องของระบบ ดา้ นความพงึ พอใจของผใู้ ช้งาน 5.00 0.00 มำกที่สดุ 1. ระบบใชง้ ำนง่ำย ไม่ซบั ซ้อน 4.92 0.083 มำกท่สี ุด 2. ระบบมคี วำมยืดหยุน่ ในกำรพิมพ์รำยกำร QR Code 4.92 0.083 มำกทส่ี ดุ 3. สีของระบบดูเรียบง่ำย สบำยตำ 5.00 0.00 มำกที่สดุ 4. กำรวำงปุม่ กด รูปภำพ ชดั เจน ใช้งำนง่ำย 4.92 0.083 มำกทส่ี ดุ 5. เพิ่มควำมสะดวกรวดเร็วในกำรสร้ำง QR Code สำหรับ กำรเขำ้ บทควำมสำรฉบบั ออนไลน์ 4.95 0.211 มากท่ีสดุ เฉล่ียด้านความพงึ พอใจของผ้ใู ชง้ าน 4.85 0.112 มำกที่สุด ด้านประสิทธิภาพของระบบ 4.38 0.152 มำกท่สี ดุ 1. ระบบสำมำรถประมวลผลขอ้ มลู ได้อย่ำงรวดเรว็ 4.62 0.496 มำกทีส่ ุด 2. ระบบมปี อ้ งกันข้อผิดพลำดในกำรจัดกำรข้อมูลวำรสำร 4.83 0.150 มำกที่สุด เฉลย่ี ด้านประสิทธภิ าพของระบบ เฉลีย่ โดยภาพรวม จำกผลกำรประเมินระบบจัดกำร QR Code เพ่ือกำรเข้ำถึงบทควำมวำรสำรออนไลน์ มีประเด็นอภปิ รำยผลดังนี้ 1. ด้ำนควำมถูกต้องของระบบ พบว่ำผลกำรประเมินมีค่ำเฉล่ีย 4.92 แปลผลอยู่ในระดับ มำกที่สุด ทั้งน้ีเนื่องจำกระบบจัดกำร QR Code สำมำรถจัดกำรข้อมูลบทควำมวำรสำรไดอ้ ย่ำง ถกู ต้อง สว่ นของ QR Code ทไ่ี ด้จำกระบบสำมำรถสแกนดว้ ยสมำร์ทโฟนทมี่ ีโปรแกรม QR Code reader และ QR Code ทไ่ี ด้จำกระบบสำมำรถลิงค์ไปยงั บทควำมวำรสำรฉบับออนไลน์ไดอ้ ย่ำง ถูกต้อง จึงทำให้ผลกำรประเมินดำ้ นควำมถูกต้องของระบบอยู่ในระดับมำกท่ีสดุ

2. ด้ำนควำมพึงพอใจของผู้ใช้งำน ไดแ้ ก่ บรรณำรกั ษแ์ ละผู้ปฏบิ ตั งิ ำนห้องสมดุ มีควำม พงึ พอใจ 4.96 แปลผลอยใู่ นระดับมำกที่สุด เน่ืองจำกระบบมีกำรใช้งำนง่ำย ไมซ่ บั ซ้อน ยืดหย่นุ และ สะดวกในกำรสร้ำงรำยกำร QR Code ซง่ึ ระบบจะสร้ำง QR Code ตำมรปู แบบและขนำดที่ ผปู้ ฏิบตั งิ ำนกำหนด ทำให้เกิดควำมสะดวกและรวดเร็วในกำรสร้ำง QR Code ท่จี ะนำไปตดิ ที่เลม่ วำรสำร ส่งผลให้ผลกำรประเมนิ ดำ้ นควำมพงี พอใจของผู้ปฏิบัตงิ ำนอยู่ในระดับมำกที่สุด 3. ด้ำนประสิทธิภำพของระบบ พบว่ำผลกำรประเมนิ ท่ีได้ 4.62 แปลผลอยู่ในระดบั มำกที่สุด ทั้งนส้ี ืบเนื่องจำกระบบมีกำรประมวลผลอย่ำงรวดเร็ว ระบบมีกำรป้องกันข้อผิดพลำดใน กำรจัดกำรข้อมูลวำรสำร ตัวอย่ำงเชน่ ระบบมีกำรแจ้งเตือนเม่ือผู้ใชง้ ำนป้อนข้อมูลวำรสำรไม่ครบ ตำมที่ระบบกำหนด ขณะป้อนข้อมลู ถำ้ เซสซั่นกำรใชง้ ำนหมดเวลำ ระบบจะออกจำกระบบอตั โนมัติ เป็นต้น นอกจำกนีย้ ังมขี ้อเสนอแนะจำกกลุ่มผปู้ ฏิบตั ิงำนท่ีได้ใชง้ ำนระบบจัดกำร QR Code เพ่ือกำรเข้ำถงึ บทควำมวำรสำรออนไลน์ แบ่งตำมประเด็นดังต่อไปน้ี 1. ข้อเสนอแนะด้ำนระบบ 1.1 ระบบควรแสดงผลข้อมูลบทควำมวำรสำรเรียงตำมช่ือตัวอักษร ปีที่ และฉบับท่ี 1.2 ควรมีข้อตกลงหรือมำตรฐำนในกำรป้อนข้อมูล เดือน ปี ของวำรสำร 1.3 ะบบควรมีกำรตรวจสอบข้อมูลบทควำมวำรสำรท่ีซำ้ กัน 2. ข้อเสนอแนะด้ำนกำรใช้งำน 2.1 QR Code ที่ได้จำกระบบนอกจำกจะติดท่ีวำรสำรแล้ว สำมำรถนำไปใช้ที่อ่ืนได้ เช่น ในระบบ OPAC 2.2 ผปู้ ฏบิ ตั งิ ำนควรใช้มำตรฐำนในกำรบันทึกข้อมูลให้เหมอื นกัน เพื่อลดข้อผิดพลำด ในกำรคีย์ข้อมลู กำรนำไปใชป้ ระโยชน์ ระบบจัดกำร QR Code เพอื่ กำรเข้ำถงึ วำรสำรออนไลน์ สำมำรถอำนวยควำมสะดวกใหแ้ ก่ ผู้ปฏิบัติงำนและให้เปน็ มำตรฐำนเดียวกันในกำรสร้ำง QR Code โดย QR Code ทไี่ ด้สำมำรถนำไปติดที่ วำรสำรเพ่อื ใช้เปน็ ช่องทำงให้กบั ผ้ใู ช้บรกิ ำรในกำรเข้ำถึงวำรสำรฉบบั ออนไลน์ อีกทง้ั ยังส่งเสรมิ กำรเข้ำใชง้ ำนวำรสำร สะดวกรวดเรว็ ในกำรเขำ้ ถึงวำรสำร และส่งผลให้ควำมพึงพอใจของผูใ้ ช้บรกิ ำร มำกยง่ิ ขึ้น รายการอ้างอิง จิรวฒั น์ วงศ์ธงชยั . (2557). ปัจจยั ด้ำนกำรรับรู้ท่ีมีผลต่อกำรยอมรบั เทคโนโลยีบำร์โค้ดสองมิติของ ผใู้ ช้งำนกลมุ่ เจเนอเรชั่นวำย. วารสารเทคโนโลยีสุรนาร,ี 8(1), 37-54. กองบรรณำธิกำร (เทศำภบิ ำล). ทำไม?...ตอ้ งใช้ QR CODE ....(QUICK RESPONS CODE). (2556). เทศาภบิ าล, 108(6), 28-30.

Full Paper Access บริการช่วยการเข้าถึงเอกสารฉบับเต็มวิทยานิพนธ์ และงานวิจัยผ่าน QR Code หอสมุดจอห์น เอฟ เคนเนด้ี กิตติศักดิ์ แก้วเนียม, สุภาวดี มโนรัตน์สกุล, กมลทิพย์ หลงหา หอสมดุ จอห์น เอฟ เคนเนด้ี สำนักวทิ ยบรกิ ำร มหำวิทยำลัยสงขลำนครนิ ทร์ วิทยำเขตปัตตำนี e-mail: [email protected], [email protected], [email protected] บทคัดย่อ Full Paper Access คอื บริกำรท่ีอำนวยควำมสะดวกในกำรเขำ้ ถึงเอกสำรฉบบั เต็ม ของวิทยำนิพนธ์และงำนวจิ ยั ทีจ่ ัดเก็บและบรกิ ำรอยใู่ นห้องวิทยำนิพนธแ์ ละรำยงำนกำรวิจัย หอสมุดจอห์น เอฟ เคนเนด้ี สำนักวิทยบรกิ ำร มหำวทิ ยำลัยสงขลำนครินทร์ วทิ ยำเขตปัตตำนี เพียงแคผ่ ูใ้ ช้บรกิ ำรทำกำรสแกนสัญลกั ษณ์ QR Code ท่ตี ิดอยู่บนตัวเล่ม ระบบจะจัดส่ง URL สำหรับ ดำวนโ์ หลดเอกสำรฉบับเตม็ ของช่ือเร่ืองนนั้ ๆ ไปยังอีเมลหรอื Social network ทีผ่ ใู้ ช้บรกิ ำรต้องกำร ทันที ขัน้ ตอนกำรดำเนินงำนแบ่งออกเปน็ 4 ส่วน คือ 1) กำรศึกษำลักษณะข้อมูลของเขตขอ้ มูล 856 (เขตข้อมลู ย่อย u) ในระบบห้องสมุดอัตโนมตั ิ 2) กำรพัฒนำระบบสำรสนเทศ 3) กำรจัดกำรข้อมูล ตวั เลม่ และจัดเตรียมตวั เล่มเพื่อให้บรกิ ำร และ 4) กำรประชำสมั พนั ธ์และประเมนิ ควำมพึงพอใจ ต่อกำรใช้บรกิ ำร ผลประเมนิ ควำมพึงพอใจท่ีได้จำกกำรทดลองให้บริกำรกบั กลุ่มตัวอย่ำงจำนวน 30 คน พบว่ำไดผ้ ลกำรประเมินควำมพึงพอใจอยู่ในระดับมำกท่ีสุด โดยมีค่ำเฉลย่ี เทำ่ กับ 4.79 คาสาคญั : เอกสำรฉบบั เต็ม, ควิ อำร์ โค้ด, วิทยำนพิ นธ์, งำนวิจัย, ดำวน์โหลด Abstract Full Paper Access is a service that provides full access to the full text of theses and research papers stored and saved in the theses and research report room, John F. Kennedy Library, Office of Academic Resources, Prince of Songkla University, Pattani Campus. The user just scans the QR Code on the cover and the URL of the full text of that title will be sent to email or social network that the user needs immediately. The process of operation is divided into 4 parts: 1) the study of the data of the field 856 (subfield u) in the library automation system; 2) the development of the information system; 3) the management of the book and the preparation of the book service; and 4) public relations and evaluation of the service satisfaction. The results of the service satisfaction test with a sample of

30 people found that the satisfaction rating was at the highest level with a mean of 4.79 Keywords: Full Paper Access, QR Code, Theses, Research, Download บทนา หอสมดุ จอหน์ เอฟ เคนเนด้ี สำนักวทิ ยบรกิ ำร ใหบ้ รกิ ำรทรัพยำกรสำรสนเทศท่ี หลำกหลำย ประกอบดว้ ย หนงั สือ วำรสำร วิทยำนพิ นธ์ งำนวิจยั โสตทัศนวัสดุ และสือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ สำหรับวิทยำนิพนธ์และงำนวิจัยนั้นไดจ้ ัดให้มบี ริกำรอยู่ทห่ี ้องวิทยำนิพนธ์และรำยงำนกำรวิจัย ช้ัน 3 อำคำรสำนักวทิ ยบรกิ ำร ซ่งึ มักจะมีผ้ใู ชบ้ ริกำรจำนวนมำกทเี่ ข้ำถึงตัวเล่มจรงิ บนชน้ั โดยไมผ่ ่ำนกำร สบื คน้ OPAC มำกอ่ น นอกจำกควำมล่ำชำ้ ในกำรคน้ หำตวั เล่มแลว้ ยังเกดิ ควำมยุ่งยำกในกำรเขำ้ ถึง เอกสำรฉบับเตม็ (Full paper) ของส่งิ พมิ พ์ชอื่ เร่ืองนัน้ ๆ อกี ดว้ ย เป็นตน้ วำ่ หำกต้องกำรดำวน์โหลด เอกสำรฉบบั เตม็ กจ็ ะต้องกลับไปสบื ค้นที่ OPAC หรือสืบค้นผำ่ นฐำนข้อมลู อกี ครั้ง หรือใช้วิธีถ่ำย สำเนำเอกสำรเนื่องจำกไม่ทรำบว่ำมีบริกำรให้ดำวนโ์ หลดด้วย ปัญหำเหลำ่ น้ีเป็นอปุ สรรคตอ่ กำรศกึ ษำ คน้ คว้ำของผูใ้ ชบ้ รกิ ำรและทำใหก้ ำรใชง้ ำนส่งิ พมิ พ์ประเภทวทิ ยำนพิ นธแ์ ละงำนวิจยั มีจำนวนลด น้อยลง งำนเทคโนโลยีสำรสนเทศรว่ มกบั บรรณำรกั ษ์และผู้ปฏิบัติงำนหอ้ งสมุดทีเ่ กี่ยวข้องกบั กำรใหบ้ รกิ ำรวทิ ยำนิพนธแ์ ละงำนวิจัยจึงไดร้ ่วมกนั คิดคน้ และพัฒนำนวตั กรรมบริกำรที่ให้ผู้ใช้สแกน QR Code ทห่ี นำ้ ปกวิทยำนพิ นธ์และงำนวิจัยเพ่ือเข้ำถงึ เอกสำรฉบบั เต็มได้ทนั ที ภำยใต้ชื่อโครงกำร Full Paper Access วตั ถุประสงค์ 1. เพือ่ เพ่ิมชอ่ งทำงในกำรเข้ำถึงเอกสำรฉบบั เต็มของวิทยำนพิ นธ์และงำนวิจยั ท่ีมบี ริกำร อย่ใู นหอ้ งวิทยำนิพนธ์ฯ ชนั้ 3 หอสมดุ จอห์น เอฟ เคนเนด้ี 2. เพื่อให้ผใู้ ชบ้ ริกำรสำมำรถเขำ้ ถึงเอกสำรฉบับเต็มของวิทยำนิพนธ์และงำนวิจยั ดว้ ย ควำมสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องผ่ำนกำรสบื ค้น OPAC หรอื ทำกำรยมื -คนื เพอ่ื นำไปถ่ำยสำเนำ 3. เพื่อใหว้ ิทยำนิพนธ์และงำนวิจยั ถูกใช้งำนอย่ำงเต็มที่ ไม่จำกัดเพียงแคเ่ ฉพำะผู้ใดผู้หน่ึง 4. เพ่อื เพิ่มควำมพงึ พอใจของผใู้ ชบ้ ริกำร ข้ันตอนและวิธีการดาเนนิ งาน 1. กำรศึกษำลักษณะข้อมลู ของเขตขอ้ มูล 856 (เขตข้อมลู ย่อย u) กำรศกึ ษำลักษณะกำรลงรำยกำรเขตขอ้ มูล 856 (เขตข้อมูลย่อย u) ในระบบห้องสมุด อตั โนมัติทำให้พบตน้ ทำงของเอกสำรฉบบั เต็ม 4 แหล่ง ได้แก่ OAR-DCMS เดมิ (dc.oas.psu.ac.th) จำนวน 1100 ช่ือเรือ่ ง, OAR-DCMS ใหม่ (dc.pn.psu.ac.th) จำนวน 15 ชือ่ เร่ือง, TDC (tdc.thailis.or.th) จำนวน 85 ช่ือเรอ่ื ง และ PSU Knowledge Bank (kb.psu.ac.th) จำนวน 268 ช่อื เรื่อง รวมทัง้ ส้นิ 1,468 ชอื่ เร่ือง จำกขอ้ มูลน้ีทำให้ไดแ้ นวทำงในกำรใชง้ ำน URL คือ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook