ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๖ ชัน้ ป.๑ หน่วยท่ี ๒ การดาเนนิ การของจานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 91 หน่วยย่อยที่ ๒.๑ การบวก การลบ 4. ครูติดบัตรภาพ แสดงการเอาออก ให้นักเรียนช่วยกันเขียนประโยคสัญลกั ษณ์การลบ ดงั น้ี ประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ ……………………………………….. ประโยคสัญลักษณก์ ารลบ ……………………………………….. สาหรบั ขอ้ นี้ จะได้ 10 – 10 = 0 ครูให้นกั เรยี นสังเกตวา่ ตวั ตงั้ และตัวลบเท่ากันและผลลบ เปน็ ศูนย์ จากนั้นใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั 2.14
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑๖ ชนั้ ป.๑ หน่วยที่ ๒ การดาเนินการของจานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 92 หน่วยย่อยที่ ๒.๑ การบวก การลบ ขน้ั สรปุ 5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ วา่ จานวนทง้ั หมดเมอ่ื เอาออกไปจานวนหนึ่ง สามารถหาจานวนทีเ่ หลอื ไดด้ ว้ ยการลบ โดยจานวนทั้งหมดเป็นตวั ต้ัง จานวนทเ่ี อาออกเป็นตัวลบ จานวนท่เี หลอื เปน็ ผลลบ เช่น 5–3=2 ตัวตง้ั ตัวลบ ผลลบ 5 – 3 = 2 เป็นประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) ขน้ั นำ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๑๗ ข้นั สอน 93 ข้นั สรุป แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ กำรวัดและประเมนิ ผล จดั กิจกรรมเปรยี บเทยี บสิง่ ของวา่ ใครมตี ัวนับมากกวา่ กนั หรือน้อยกว่ากนั อยู่เทา่ ไร จัดกจิ กรรมการลบโดยการเปรียบเทยี บโดยติดบตั รภาพ และเขยี นประโยคสัญลกั ษณก์ ารลบ แบบฝึดหัด 2.15 ตดิ บตั รภาพแสดงการเปรยี บเทยี บ นกั เรยี นเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์การลบ และสรปุ สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ - ประเมนิ จากการตอบคาถาม และการทาแบบฝึกหดั 2.15 - ประเมนิ จากการใหเ้ หตผุ ล สอ่ื สารและสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรียนร้คู ณิตศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑๗ ชัน้ ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 94 หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ ขอบเขตเน้ือหำ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ตัวนบั การลบโดยการเปรยี บเทียบที่ตัวตงั้ 2. ลูกเต๋าท่มี ีตัวเลข 0 ถงึ 5 1. จัดกิจกรรมการเปรยี บเทียบจานวน โดยให้นักเรยี นจบั คโู่ ยนลกู เตา๋ ที่มีตัวเลข 0 ถงึ 5 จานวน 2 ลูก 3. บัตรภาพสง่ิ ของ ไม่เกิน 10 นักเรียนโยนลูกเตา๋ 2 ลกู พร้อมกัน แล้วหาผลบวกของจานวนบนหนา้ ลกู เตา๋ ทงั้ 2 ลกู ไดผ้ ลบวกเท่าไร 4. แบบฝกึ หดั 2.15 ใหห้ ยบิ ตวั นบั เท่ากับผลบวกนั้น แลว้ เปรยี บเทียบตวั นบั ทีไ่ ด้กับคตู่ ัวเองวา่ ใครไดต้ วั นับมากกวา่ สำระสำคัญ และใครไดน้ ้อยกวา่ กำรประเมนิ การเปรยี บเทียบจานวนสองจานวน ขนั้ สอน 1. วธิ กี ำร 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ว่ามากกวา่ กันหรือน้อยกวา่ กันเท่าไร 2. จัดกจิ กรรมทานองเดียวกับข้อ 1 แต่ใหช้ ว่ ยกนั ตอบว่า ใครไดม้ ากกว่า และมากกว่าอยู่เทา่ ไร หรอื ใคร 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด ไดน้ ้อยกว่า และน้อยกว่าอยูเ่ ท่าไร ถามนกั เรยี นว่านักเรียนหาคาตอบได้อย่างไร ซึง่ อาจมนี กั เรยี นตอบวา่ 2. เครือ่ งมือ ทาได้ดว้ ยการลบ โดยจานวนที่มากกวา่ เอาตวั นับมาเปรยี บเทยี บกนั เช่น 2.1 แบบฝึกหดั 2.15 2.2 แบบประเมนิ ทกั ษะและ เป็นตวั ตง้ั จานวนทน่ี ้อยกว่าเป็นตัวลบ คนท่ี 1 โยนลูกเตา๋ ขนึ้ หนา้ 2 กบั 3 รวมกันเปน็ 5 หยบิ ตวั นบั 5 อัน กระบวนการทางคณิตศาสตร์ คนท่ี 2 โยนลูกเตา๋ ขน้ึ หนา้ 4 กับ 5 รวมกันเป็น 9 หยิบตัวนับ 9 อนั จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นามาเปรยี บเทียบกนั ดังนี้ 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมีความถูกต้อง ดำ้ นควำมรู้ ตวั นบั ของคนท่ี 1 ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 เพื่อให้นักเรียนสามารถเขียน 3.2 คะแนนรวมด้านทักษะและ ตวั นบั ของคนที่ 2 กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ประโยคสัญลกั ษณ์การลบจาก ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 สถานการณ์การเปรียบเทยี บ จะได้ คนท่ี 1 ไดต้ ัวนับ 5 อัน นอ้ ยกวา่ คนท่ี 2 ซึ่งไดต้ ัวนบั 9 อนั และน้อยกว่าอยู่ 4 อนั ดำ้ นทกั ษะและกระบวนกำรทำง หรอื คนที่ 2 ได้ตัวนบั 9 อัน มากกวา่ คนที่ 1 ซึ่งไดต้ วั นบั 5 อนั และมากกว่าอยู่ 4 อัน คณติ ศำสตร์ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นสามารถ 1. ใหเ้ หตุผล 2. ส่อื สารและสอ่ื ความหมาย ทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ ๑๗ ชนั้ ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 95 หน่วยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ครูแนะนานกั เรียนวา่ คนท่ี 1 ได้ตัวนับ 5 อัน นอ้ ยกว่า คนท่ี 2 ซึ่งไดต้ วั นับ 9 อนั และน้อยกวา่ อยู่ 4 อัน เขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์การลบได้ 9 – 5 = 4 หรือ คนท่ี 2 ไดต้ ัวนับ 9 อนั มากกว่า คนท่ี 1 ซ่ึงไดต้ วั นบั 5 อัน และมากกว่าอยู่ 4 อนั เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์การลบได้ 9 – 5 = 4 ซึ่ง 9 เป็นตวั ต้งั 5 เปน็ ตวั ลบ และ 4 เปน็ ผลลบ และตวั ตัง้ มากกว่าตัวลบ 3. ครูตดิ บัตรภาพกลมุ่ ท่หี น่งึ มแี กว้ 5 ใบ และกลมุ่ ทีส่ องมีจาน 3 ใบ ดงั น้ี
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้คู ณิตศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ ๑๗ ช้ัน ป.๑ หน่วยท่ี ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 96 หน่วยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ครูถามวา่ - มีแก้วก่ใี บ ( 5 ใบ ) - มีจานกี่ใบ ( 3 ใบ ) - 5 มากกว่าหรือน้อยกว่า 3 (มากกวา่ ) - 5 มากกวา่ 3 อยูเ่ ท่าใด (2) - 3 นอ้ ยกวา่ 5 อยเู่ ท่าใด (2) เขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณก์ ารลบได้ 5 – 3 = 2 ครเู ขียนประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบ ในขณะท่เี ขยี นครูควรย้าเรอ่ื งตัวต้งั และตวั ลบซงึ่ ตัวตั้ง ต้องมากกว่าตัวลบ แล้วใหน้ ักเรยี นอา่ นประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบพร้อมกัน จากน้ันครแู ละนกั เรียน รว่ มกนั สรุปวา่ กำรลบเปน็ กำรเปรยี บเทยี บจำนวนสองจำนวนว่ำมำกกวำ่ กันหรือน้อยกว่ำกันเท่ำไร ครูยกตวั อย่างทานองเดยี วกับขอ้ 3 อีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง โดยใชบ้ ตั รภาพ เช่น มีปลา 6 ตวั มนี ก 6 ตวั มีจานวนปลาเทา่ กบั จานวนนก ประโยคสญั ลักษณก์ ารลบ 6 – 6 = 0 (ครูให้นกั เรียนสังเกตว่า ตวั ตง้ั เทา่ กับตวั ลบ และผลลบเท่ากบั ศนู ย์)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรียนร้คู ณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๑๗ ช้นั ป.๑ หน่วยท่ี ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 97 หน่วยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ 4. ครตู ดิ บัตรภาพ แสดงการเปรียบเทียบ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันเขยี นคาตอบ ดังน้ี มีลกู บอล ลกู มลี กู ปิ งปอง ลกู มีลกู บอลมากกวา่ ลกู ปิงปอง ลกู ลกู หรือ มลี กู ปิ งปองน้อยกวา่ ลกู บอล ประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ จากน้ันใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หดั 2.15 เป็นรายบคุ คล ข้ันสรปุ 5. ครูตดิ บตั รภาพแสดงการเปรียบเทยี บ 1 บัตร ใหน้ กั เรยี นเขียนประโยคสญั ลักษณ์การลบ หลังจาก นน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปว่า การเปรียบเทยี บจานวนสองจานวนว่ามากกวา่ กันหรอื นอ้ ยกวา่ กนั เทา่ ไร ทาไดด้ ้วยการลบ โดยจานวนท่มี ากกวา่ หรอื เทา่ กบั เป็นตวั ตง้ั จานวนที่นอ้ ยกว่าเป็นตวั ลบ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) ขน้ั นำ แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี ๑๘ ข้นั สอน 98 ขน้ั สรุป แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ กำรวัดและประเมนิ ผล จดั กจิ กรรมให้นักเรยี นใช้ตัวนบั หาส่วนยอ่ ย 2 จานวน เมอื่ ครกู าหนดสว่ นรวมให้ หาผลลบโดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ของจานวนแบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม ทาแบบฝกึ หัด 2.16 สรุปการหาผลลบโดยใชค้ วามสัมพันธข์ องจานวนแบบสว่ นยอ่ ย – ส่วนรวม - ประเมินจากการตอบคาถาม และการทาแบบฝึกหดั 2.16 - ประเมินจากการเชือ่ มโยงความรูใ้ นเรอ่ื งความสมั พันธ์ของจานวนแบบสว่ นยอ่ ย – สว่ นรวมหาผลลบ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรยี นรูค้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๘ ช้ัน ป.๑ หนว่ ยท่ี ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชว่ั โมง 99 หน่วยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ขอบเขตเนอื้ หำ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ ขน้ั นำ การลบโดยใช้ความสัมพนั ธข์ อง 1. ตวั นับ 1. จัดกจิ กรรม สว่ นย่อย – สว่ นรวม โดยครแู จกตัวนบั ให้นกั เรยี นคนละ 10 อนั ครูกาหนดจานวน 2. บตั รภาพ จานวนแบบส่วนย่อย-ส่วนรวม 3. แบบฝกึ หัด 2.16 ขนึ้ มา 1 จานวน ใหน้ ักเรียนหาส่วนย่อย เชน่ ครูกาหนดจานวน 5 ใหน้ กั เรยี นใช้ตวั นบั หาสว่ นย่อยจะได้ สำระสำคัญ กำรประเมิน 5 5 5 เมื่อรู้จำนวนทงั้ หมดทเี่ ป็นการรวม 14 23 05 1. วธิ ีกำร ของจานวนสองจานวน (สว่ นรวม) และ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ รู้จำนวนหน่งึ ในสองจำนวน ครูกาหนดจานวนอน่ื ใหน้ ักเรียนใชต้ วั นบั หาสว่ นยอ่ ย 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด (สว่ นย่อย) เราสามารถหาอีกจานวน 2. เครื่องมือ หนง่ึ ได้ดว้ ยการลบ โดยจานวนทง้ั หมด ขนั้ สอน 2.1 แบบฝกึ หดั 2.16 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ เป็นตวั ต้งั 2. ครตู ดิ บัตรภาพ ให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคาถามต่อไปนี้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 3. เกณฑ์ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ มรี ถทั้งหมด 5 คัน เปน็ รถสแี ดง 3 คนั รถสเี หลอื ง 2 คัน 3.1 ผลงานมคี วามถูกต้อง ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 ด้ำนควำมรู้ 5 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะและ เพื่อให้นักเรียนสามารถหาผลลบ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 32 ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 โดยใช้ความสมั พนั ธ์ของจานวนแบบ สว่ นยอ่ ย-ส่วนรวม ด้ำนทกั ษะและกระบวนกำรทำง คณิตศำสตร์ เพื่อให้นกั เรยี นสามารถเช่อื มโยง
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ี่ ๑๘ 100 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ชั้น ป.๑ หน่วยท่ี ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง มีรถทง้ั หมด 5 คัน เป็นรถสแี ดง 3 คัน เป็นรถสีเหลอื ง ……2….คัน 5 ครใู ห้นกั เรยี นสังเกต 5 – 3 = 2 32 มรี ถทงั้ หมด 5 คัน เป็นรถสเี หลอื ง 2 คนั เปน็ รถสแี ดง ……3….คัน 5 ครูใหน้ กั เรยี นสงั เกต 5 – 2 = 3 32 3. ครูยกตัวอยา่ งทานองเดยี วกับขอ้ 2 อีก 1 – 2 ตวั อย่าง 4. ครยู กตวั อยา่ งการหาผลลบโดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องจานวนแบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม ดังนี้ ตวั อยำ่ ง 1 8 – 5 = 8 8–5=3 53
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๑๘ 101 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรคู้ ณิตศำสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ชน้ั ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง ตัวอยำ่ ง 2 7 – 3 = 7 7–3 = 4 34 หมำยเหตุ ในกรณที นี่ ักเรยี นไม่สามารถหาส่วนยอ่ ยได้ ครคู วรใหน้ ักเรียนใชต้ ัวนับในการหา ส่วนย่อยของสว่ นรวมทีก่ าหนดให้ จากนั้นให้นกั เรียนทาแบบฝึกหัดท่ี 2.16 ขน้ั สรุป 5. ครูเขยี นโจทย์การลบ 1 ขอ้ เช่น 9 – 4 = และใหน้ ักเรยี นหาสว่ นย่อยท่เี หลืออีก 1 จานวน 99 4 45 ซงึ่ นักเรียนควรจะหาได้คอื 5 และตอบวา่ 9 – 4 = 5 จากน้นั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ว่า เมือ่ รู้จำนวนทงั้ หมดท่ีเป็นการรวมของจานวนสองจานวน (สว่ นรวม) และรจู้ ำนวนหนึง่ ในสองจำนวน (สว่ นยอ่ ย) เราสามารถหาอีกจานวนหน่งึ ได้ด้วยการลบ โดย จานวนทั้งหมดเปน็ ตวั ตง้ั
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขนั้ นำ แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี ๑๙ ข้นั สอน 102 ขนั้ สรุป แนวกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ กำรวัดและประเมนิ ผล ทบทวนการลบโดยการเอาออก และการลบโดยการเปรยี บเทยี บ หาผลลบดว้ ย 0 และเขยี นประโยคสญั ลักษณ์การลบ ทาแบบฝึกหดั 2.17 ร่วมกนั เฉลยแบบฝกึ หัด และสรปุ การลบดว้ ย 0 - ประเมินจากการตอบคาถาม และการทาแบบฝึกหัด 2.17 - ประเมนิ จากการใหเ้ หตุผล
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๑๙ ชัน้ ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน 103 หน่วยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ เวลำ ๑ ชวั่ โมง ขอบเขตเนื้อหำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ ขั้นนำ การลบดว้ ย 0 1. บัตรภาพ 1. ทบทวนการลบโดยการเอาออก และการลบโดยการเปรียบเทียบ โดยครใู ชบ้ ตั รภาพ ใหน้ กั เรยี น 2. แบบฝึกหดั 2.17 สำระสำคญั เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ เชน่ กำรประเมิน จานวนใดลบด้วยศนู ย์ ไดผ้ ลลบ ประโยคสัญลกั ษณ์การลบ 9 – 4 = 5 1. วิธีกำร เท่ากบั จานวนนนั้ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ 1.2 ตรวจแบบฝกึ หัด จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2. เครือ่ งมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.17 ดำ้ นควำมรู้ 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ เพื่อให้นักเรยี นสามารถหาผลลบ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 3. เกณฑ์ ดว้ ย 0 3.1 ผลงานมคี วามถูกต้อง ดำ้ นทกั ษะและกระบวนกำรทำง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 คณติ ศำสตร์ 3.2 คะแนนรวมดา้ นทกั ษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพื่อใหน้ ักเรียนสามารถใหเ้ หตผุ ล ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ 6 – 2 = 4 ขั้นสอน 2. ครูตดิ บตั รภาพ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบคาถามต่อไปน้ี
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๙ ชัน้ ป.๑ หนว่ ยท่ี ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 104 หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ 2.1 มีนม 6 กลอ่ ง กินไปแล้ว 2 กล่อง เหลอื นม …4…….กลอ่ ง 2.2 ประโยคสัญลกั ษณก์ ารลบ ………6……–…2……=……4……………. มีนม 6 กล่อง ยงั ไม่ไดก้ ิน หรือกนิ ไป 0 กล่อง เหลือนม ……6….กลอ่ ง ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ …6……–…0……=……6…………………. จานแรกมีมะมว่ ง 3 ผล จานที่สองมีมะมว่ ง 2 ผล จานแรกมีมะมว่ งมากกวา่ จานทส่ี อง ……1…….. ผล หรือ จานท่สี องมมี ะมว่ งน้อยกว่าจานแรก ……1…….ผล ประโยคสญั ลักษณ์การลบ ………3…–……2……=……1…………….
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑๙ ชั้น ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชว่ั โมง 105 หน่วยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ จานแรกมีมะมว่ ง 3 ผล จานทส่ี องไมม่ ีมะมว่ งหรือมี มะมว่ ง 0 ผล จานแรกมีมะม่วงมากกวา่ จานท่ีสอง ………3….. ผล หรือ จานทีส่ องมีมะม่วงนอ้ ยกว่าจานแรก ………3….ผล ประโยคสัญลกั ษณ์การลบ ………3……–…0……=……3……………. ครูยกตัวอยา่ งทานองเดยี วกนั นี้อีก 1 – 2 ตวั อยา่ ง และให้นักเรยี นสงั เกตว่า จำนวนใดลบด้วย ศูนยไ์ ด้ผลลบเทำ่ กบั จำนวนนั้น 3. ครูใหน้ ักเรยี นตอบคาถามของโจทย์การลบ ตอ่ ไปนี้ 1. 5 – 0 = 2. 8 – 0 = 3. 10 – 0 = 4. 7 – = 7 5. – 0 = 6 สาหรบั ขอ้ 4 ข้อ 5 ครคู วรย้าให้นกั เรียนทราบว่า จำนวนใดลบดว้ ยศูนย์ได้ผลลบเทำ่ กบั จำนวนนน้ั ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัด 2.17 ข้ันสรปุ 4. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยแบบฝึกหดั และสรุปรว่ มกันวา่ จานวนใดลบด้วยศูนยไ์ ด้ผลลบเท่ากับ จานวนนัน้
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขั้นนำ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๒๐ ขั้นสอน 106 ข้นั สรปุ แนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กำรวัดและประเมินผล ทบทวนการใช้กรอบสบิ แสดงจานวน หาผลลบโดยใช้กรอบสบิ ทาแบบฝึกหดั 2.18 หาผลลบของโจทยก์ ารลบ 1 ขอ้ และรว่ มกันสรุปสิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ - ประเมนิ จากการตอบคาถาม และการทาแบบฝกึ หัด 2.18 - ประเมนิ จากการใหเ้ หตผุ ล
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ่ี ๒๐ ชน้ั ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 107 หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ ขอบเขตเน้ือหำ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ขัน้ นำ 1. กรอบสบิ แสดงจานวน การหาผลลบโดยใช้กรอบสบิ 2. แบบฝึกหัด 2.18 1. ทบทวนการใชก้ รอบสิบแสดงจานวนนับ 1 ถงึ 10 เชน่ (Ten Frame) มตี ุ๊กตา 4 ตวั ใชก้ รอบสบิ แสดงจานวน 4 ดงั น้ี กำรประเมนิ สำระสำคัญ มลี ูกโป่ง 9 ลูก ใชก้ รอบสิบ แสดงจานวน 9 ดงั น้ี 1. วิธีกำร 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ สามารถใชก้ รอบสบิ ในการหา ขั้นสอน 1.2 ตรวจแบบฝึกหดั ผลลบ 2. เครื่องมอื 2. ครูกาหนดสถานการณก์ ารลบ พรอ้ มติดกรอบสิบบนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นหาผลลบ เช่น 2.1 แบบฝึกหดั 2.18 จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ มีลูกโปง่ 8 ลูก แตกไป 3 ลูก เหลอื ลกู โป่งกล่ี ูก 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ด้ำนควำมรู้ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสามารถหาผลลบ 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมีความถูกต้อง โดยใชก้ รอบสิบ ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ด้ำนทกั ษะและกระบวนกำรทำง 3.2 คะแนนรวมด้านทกั ษะและ คณิตศำสตร์ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 เพื่อใหน้ ักเรียนสามารถให้เหตุผล มีลกู โปง่ 8 ลูก แตกไป 3 ลูก เหลอื ลกู โป่ง 5 ลูก 8–3 =5
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรียนรูค้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๒๐ ชั้น ป.๑ หน่วยท่ี ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 108 หน่วยยอ่ ยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ มสี ม้ 10 ผล กินไป 4 ผล เหลือส้มกผ่ี ล มีส้ม 10 ผล กินไป 4 ผล เหลือส้ม 6 ผล 10 – 4 = 6 ครูยกตวั อยา่ งทานองน้อี ีก 2 – 3 ตวั อยา่ ง 3. ครูเขียนโจทย์การลบบนกระดาน ใหน้ ักเรียนหาผลลบด้วยใชก้ รอบสบิ เชน่ 9–2= 9–2 = 7 7–5= 7–5 = 2 ครูยกตัวอยา่ งทานองเดียวกันนอ้ี ีก 2 – 3 ตัวอย่าง
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้คณิตศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี ๒๐ ชั้น ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 109 หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ จากนน้ั ให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด 2.18 ขัน้ สรุป 4. ครกู าหนดโจทย์การลบขึ้นมา 1 ข้อ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั หาผลลบโดยใช้กรอบสิบ เชน่ 6–3 = 6–3 = 3 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ วา่ เราสามารถใช้กรอบสิบหาผลลบได้
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขนั้ นำ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๒๑ ข้ันสอน 110 ขัน้ สรุป แนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กำรวดั และประเมนิ ผล เล่มเกมบนั ไดงู ครกู ำหนดสถำนกำรณใ์ หน้ ักเรยี นต้องถอยหลงั ตวั เดนิ หำผลลบโดยใช้เสน้ จำนวน ทำแบบฝกึ หดั 2.19 หำผลลบของโจทย์กำรลบ 1 ขอ้ โดยใช้เส้นจำนวน และรว่ มกนั สรปุ สิ่งทไ่ี ด้เรยี นรู้ - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำม และกำรทำแบบฝกึ หัด 2.19 - ประเมินจำกกำรให้เหตผุ ล
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ี่ ๒๑ ช้นั ป.๑ หน่วยท่ี ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 111 หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ขอบเขตเนอ้ื หำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สือ่ /แหล่งเรียนรู้ ข้ันนำ การหาผลลบโดยใช้เส้นจานวน 1. แผ่นภำพเกมบันไดงู 1 - 10 1. ครตู ดิ แผน่ ภำพเกมบันไดงู และกำหนดสถำนกำรณ์เกมบนั ไดงวู ำ่ ถ้ำนักเรยี นโยนลกู เต๋ำได้แต้ม 6 2. แถบเส้นจำนวน 1 - 10 สำระสำคัญ เมอื่ เดินจำกจุดเรมิ่ ตน้ ไป 6 ชอ่ ง แล้วไปเจอข้อควำม ใหถ้ อยหลงั ไป 2 ช่อง นักเรยี นต้องวำงตัวเดนิ ท่ีช่อง 3. แบบฝึกหดั 2.19 หมำยเลขใด (ชอ่ งหมำยเลข 4) สำมำรถใชเ้ ส้นจำนวน กำรประเมิน ในกำรหำผลลบ เร่ิมจำก 0 เดินไป 6 ถอยหลัง 2 ได้ 4 ครถู ำมวำ่ ถำ้ อยู่ที่ 9 ถอยหลงั 4 จะวำงตวั เดนิ ท่ีชอ่ งหมำยเลขใด (ชอ่ งหมำยเลข 5) 1. วธิ กี ำร จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 1.1 สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ ขั้นสอน 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั ดำ้ นควำมรู้ 2. เครือ่ งมือ เพือ่ ให้นักเรยี นสำมำรถหำผลลบ 2. ครนู ำสถำนกำรณเ์ กมบนั ไดงู มำเขียนแสดงบนเส้นจำนวน ดังนี้ 2.1 แบบฝึกหดั 2.19 6 ถอยหลัง 2 ได้เทำ่ ไร 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ โดยใชเ้ สน้ จำนวน กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ ด้ำนทกั ษะและกระบวนกำรทำง ประโยคสญั ลกั ษณ์กำรลบ 6 – 2 = 4 คณิตศำสตร์ 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงำนมคี วำมถูกตอ้ ง เพ่ือให้นักเรยี นสามารถให้เหตผุ ล ไมน่ ้อยกว่ำร้อยละ 80 3.2 คะแนนรวมดำ้ นทกั ษะและ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ ไม่น้อยกว่ำรอ้ ยละ 60
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี ๒๑ ชัน้ ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชว่ั โมง 112 หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ 9 ถอยหลงั 4 ไดเ้ ทำ่ ไร ประโยคสัญลักษณ์กำรลบ 9 – 4 = 5 ครยู กตวั อย่ำงทำนองน้ีอีก 2 – 3 ตวั อย่ำง เชน่ 10 ถอยหลงั ไป 2 ได้เท่ำไร 3 ถอยหลงั ไป 3 ได้เท่ำไร 3. ครเู ขียนโจทย์กำรลบบนกระดำน ใหน้ กั เรยี นหำผลลบด้วยใชเ้ ส้นจำนวน เชน่ 7–5 = 7–5 = 2 ครูยกตัวอย่ำงทำนองเดียวกนั น้ีอกี 2 – 3 ตวั อยำ่ ง จำกน้นั ให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด 2.19 ขัน้ สรปุ 4. ครกู ำหนดโจทย์กำรลบข้ึนมำ 1 ข้อ ให้นักเรียนช่วยกันหำผลลบโดยใช้เส้นจำนวน และร่วมกนั สรปุ ว่ำ เรำสำมำรถใชเ้ ส้นจำนวนหำผลลบได้
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ข้ันนำ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒๒ ขั้นสอน แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 113 ขัน้ สรุป กำรวัดและประเมนิ ผล ทบทวนกำรหำผลบวก และผลลบ ตดิ บตั รภำพ เขยี นประโยคสญั ลักษณ์กำรบวก กำรลบ ให้นกั เรียนสังเกตควำมสมั พนั ธข์ องกำรบวก และกำรลบ แบบฝกึ หดั 2.20 เขียนตัวเลขแสดงจำนวนใน โดยใช้ควำมสมั พนั ธข์ องกำรบวกและกำรลบ และสรปุ สิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ - ประเมินจำกกำรตอบคำถำม และกำรทำแบบฝกึ หัด 2.20 - ประเมินจำกกำรให้เหตุผล
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๒๒ ช้ัน ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ การดาเนนิ การของจานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 114 หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๒ การบวก การลบ ขอบเขตเนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ ความสมั พนั ธข์ องการบวกและ ขน้ั นา 1. บัตรภำพ การลบ 2. แบบฝกึ หดั 2.20 1. ครทู บทวนกำรหำผลบวกและกำรหำผลลบ โดยครูกำหนดโจทยก์ ำรบวก และโจทย์กำรลบใหน้ ักเรียน สาระสาคญั การประเมิน ช่วยกนั หำผลบวก และผลลบ ซึง่ นกั เรยี นอำจใช้เส้นจำนวน กรอบสิบ หรือควำมสัมพนั ธ์ของจำนวนแบบ ผลบวกของสองจำนวนลบด้วย 1. วิธกี าร จำนวนใดจำนวนหน่ึงในสองจำนวนนน้ั ส่วนย่อย – สว่ นรวมในกำรหำผลบวก และผลลบ 1.1 สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ จะได้ผลลบเท่ำกบั จำนวนทเ่ี หลอื 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั ขัน้ สอน 2. เครอ่ื งมือ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 แบบฝกึ หดั 2.20 2. ครตู ิดบัตรภำพ ดังน้ี 2.2 แบบประเมินทักษะและ ดา้ นความรู้ กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นสำมำรถบอก ครใู ชก้ ำรถำมตอบประกอบกำรเขยี นแผนภำพแสดง 3. เกณฑ์ ควำมสัมพนั ธ์ของกำรบวกและกำรลบ ควำมสัมพันธ์ของจำนวนดงั น้ี มีดอกไม้ทงั้ หมด 3.1 ผลงำนมีควำมถูกตอ้ ง เมื่อผลลพั ธแ์ ละตวั ตงั้ ไมเ่ กิน 10 ไมน่ ้อยกว่ำรอ้ ยละ 80 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทาง กด่ี อก(8 ดอก) เป็นดอกกหุ ลำบกด่ี อก(5 ดอก) และ 3.2 คะแนนรวมด้ำนทกั ษะและ คณิตศาสตร์ กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ เป็นดอกบัวกดี่ อก(3 ดอก) พร้อมเขยี นแผนภำพแสดง ไม่นอ้ ยกว่ำร้อยละ 60 เพอ่ื ให้นกั เรยี นสามารถให้เหตุผล ควำมสัมพันธข์ องจำนวนได้ ภำพท่ี 1 8 53 ครใู หน้ ักเรยี นพิจำรณำแผนภำพแสดงควำมสมั พนั ธ์ของจำนวน และช่วยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์ จะได้ 5+3 = 8 8–5 = 3 8–3 = 5
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒๒ ชั้น ป.๑ หน่วยท่ี ๒ การดาเนนิ การของจานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 115 หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ การบวก การลบ ครยู กตวั อยำ่ งทำนองเดยี วกันนีอ้ ีก 2 - 3 ตัวอยำ่ ง ครูให้นักเรียนสงั เกตควำมสัมพนั ธ์ของจำนวนสำมจำนวน จำกประโยคสัญลักษณ์กำรบวก และประโยค สัญลักษณ์กำรลบ พรอ้ มบอกข้อสงั เกตที่ได้ ซง่ึ จะได้ว่ำ “ผลบวกของจำนวนสองจำนวนเม่อื ลบดว้ ย จำนวนหน่ึงในสองจำนวนนั้นผลลบจะเทำ่ กับจำนวนท่ีเหลือ” 3. ครตู ิดบัตรภำพตอ่ ไปน้ี และใหน้ กั เรยี นชว่ ยเขียนตวั เลขแสดงจำนวนลงใน 6 += _= 24 _= ครูทำกจิ กรรมทำนองน้ีอกี 2 – 3 ตัวอยำ่ ง นักเรียนทำแบบฝกึ หดั 2.20 ขัน้ สรุป 4. ครเู ขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ตอ่ ไปน้ใี ห้นกั เรียนเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนใน 4 + 6 = 10 10 – 4 = 10 – 6 = ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรวู้ ำ่ ผลบวกของสองจำนวนลบด้วยจำนวนใดจำนวนหนึ่งใน สองจำนวนน้ัน จะได้ผลลบเท่ำกับจำนวนทีเ่ หลอื
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี ๒๓ 116 แนวกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ ข้ันนำ ทบทวนความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ ขน้ั สอน กาหนดโจทยก์ ารบวกหรือการลบทีม่ ตี ัวไมท่ ราบค่า ใหน้ ักเรยี นใช้ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบหาค่าตวั ไมท่ ราบค่า ทาแบบฝึกหดั 2.21 ขั้นสรุป กาหนดโจทย์การบวกหรอื การลบที่มีตัวไมท่ ราบค่า 1 ขอ้ ให้นักเรยี นหาคาตอบ และร่วมกันสรปุ ส่งิ ท่ีได้เรยี นรู้ กำรวัดและประเมนิ ผล - ประเมนิ จากการตอบคาถาม และการทาแบบฝกึ หดั 2.21 - ประเมินจากการใหเ้ หตุผล สอ่ื สาร ส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สำระกำรเรียนรูค้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี ๒๓ ชน้ั ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน 117 หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ เวลำ ๑ ชว่ั โมง ขอบเขตเนื้อหำ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ สอื่ /แหลง่ เรียนรู้ การนาความสมั พันธข์ องการบวก ขน้ั นำ 1. กลอ่ งสาหรับใส่ลูกปงิ ปอง 2. ลกู ปิงปอง 10 ลกู และการลบไปใช้ 1. ครูทบทวนความสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบ โดยกาหนดประโยคสญั ลกั ษณม์ าให้ 1 ประโยค ให้ 3. แบบฝึกหัด 2.21 สำระสำคญั นักเรยี นเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ของ 2 ประโยคทเี่ หลือ เช่น กำรประเมิน ผลบวกของสองจานวนลบด้วย ครูกาหนด 1 + 5 = 6 6 1. วิธีกำร นักเรียน 6 – 1 = 5 15 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ จานวนใดจานวนหนงึ่ ในสองจานวนนน้ั 1.2 ตรวจแบบฝึกหดั 6–5=1 2. เครือ่ งมือ จะได้ผลลบเท่ากบั จานวนทเี่ หลือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.21 ครูกาหนด 10 – 4 = 6 10 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ นักเรยี น 4 + 6 = 10 46 กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 3. เกณฑ์ ดำ้ นควำมรู้ 10 – 6 = 4 3.1 ผลงานมีความถูกต้อง เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถหาคา่ ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ข้นั สอน 3.2 คะแนนรวมด้านทักษะและ ตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การบวกและประโยคสัญลกั ษณ์การลบ 2. ครูเตรียมกลอ่ งใส่ลกู ปงิ ปอง แล้วบอกนกั เรยี นว่า ครูมลี กู ปิงปองทั้งหมด 10 ลกู อยูใ่ นมือครู 3 ลกู ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 โดยใชค้ วามสัมพันธ์ของการบวกและ การลบ จะอย่ใู นกล่องกีล่ ูก ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั หาคาตอบ ซ่งึ นักเรียนอาจใช้วิธนี ับต่อ หลังจากนั้นครูแนะนา ด้ำนทักษะและกระบวนกำรทำง คณติ ศำสตร์ วา่ จากสถานการณด์ ังกล่าว ครูสามารถเขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์การบวกไดด้ ังน้ี เพอื่ ให้นกั เรียนสามารถ 3 + = 10 (อา่ นว่า 3 บวกกบั จานวนใดเท่ากับ 10) 1. ให้เหตุผล 2. สื่อสาร สื่อความหมาย และเราสามารถหาจานวนใด ไดจ้ าก ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบดงั นี้ ทางคณิตศาสตร์ 3 + = 10 10 – 3 = 10 10 – 3 = 7 3 ดงั น้ัน 3 + 7 = 10
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๒๓ ช้ัน ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชว่ั โมง 118 หน่วยยอ่ ยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ดังน้นั มลี กู ปงิ ปองอยใู่ นกลอ่ ง 7 ลูก หลังจากน้นั ครูเปดิ ฝากลอ่ งใหน้ ักเรียนนับลูกปิงปองที่อยใู่ นกลอ่ งวา่ มี 7 ลูกจรงิ หรือไม่ 3. ครกู าหนดโจทย์การบวก หรือโจทยก์ ารลบท่มี ีตวั ไมท่ ราบค่า ใหน้ กั เรียนหาค่าของตัวไม่ทราบค่าโดย ใช้ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ เชน่ เตมิ ตวั เลขแสดงจานวนใน 1. + 5 = 8 8 +5=8 5 8–5 = 8–5 = 3 ดงั นน้ั 3 + 5 = 8 2. 9 – = 2 9 9– = 2 2 9–2 = 9–2 = 7 43 ดังน้นั 9 – 7 = 2 3. – 4 = 3 –4=3 4 +3= 4 +3= 7 ดงั นัน้ 7 – 4 = 3
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู ่ี ๒๓ ชั้น ป.๑ หนว่ ยท่ี ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชว่ั โมง 119 หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั 2.21 ขน้ั สรุป 4. ครกู าหนดโจทย์การบวกหรือโจทยก์ ารลบท่มี ีตวั ไมท่ ราบคา่ 1 ขอ้ ครูและนักเรียนรว่ มกนั หาคา่ ตัวไมท่ ราบค่าโดยใช้ความสัมพันธข์ องการบวกและการลบ และร่วมกันสรปุ สิง่ ท่ีได้เรยี นรู้วา่ เราสามารถ ใช้ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบในการหาค่าตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณก์ ารบวกและ ประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขั้นนำ แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ี่ ๒๔ ข้นั สอน 120 ขัน้ สรุป แนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ กำรวัดและประเมินผล ทบทวนความหมายการลบในลักษณะเอาออก เปรยี บเทียบ และสว่ นยอ่ ย-ส่วนรวม บอกเลา่ สถานการณก์ ารลบจากภาพ และจากจนิ ตนาการ ทาแบบฝกึ หัด 2.22 สงั เกตสถานการณ์การลบใน 3 ลักษณะ และร่วมกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ - ประเมินจากการตอบคาถาม และการทาแบบฝกึ หัด 2.22 - ประเมินจากการให้เหตุผล สอื่ สาร สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรูค้ ณิตศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๒๔ ช้นั ป.๑ หนว่ ยท่ี ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชว่ั โมง 121 หน่วยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ ขอบเขตเนือ้ หำ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ตวั นับ สถานการณก์ ารลบ 2. บัตรภาพสิง่ ของ 1. ครูทบทวนการลบโดยการเอาออก ความหมายการลบโดยการเปรียบเทยี บ และความหมายใน 3. แบบฝกึ หัด 2.22 สำระสำคญั ลกั ษณะส่วนรวม ส่วนย่อย โดยอาจใช้บตั รภาพในการทบทวน เชน่ กำรประเมิน สถานการณต์ ่อไปนี้เปน็ มีซาลาเปา 6 ลูก แบ่งใหเ้ พ่ือน 3 ลูก เหลอื ซาลาเปา 6 – 3 = 3 ลูก สถานการณ์การลบ 1. วิธกี ำร - แสดงการเอาออกเพ่อื หาจานวนท่ีเหลือ 1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ - แสดงการเปรียบเทียบเพอ่ื หาว่า 1.2 ตรวจแบบฝกึ หัด มากกวา่ หรือน้อยกว่ากันอย่เู ทา่ ไร 2. เคร่ืองมือ - แสดงการหาจานวนหนงึ่ เมื่อรอู้ ีก 2.1 แบบฝกึ หดั 2.22 2.2 แบบประเมินทักษะและ จานวนหนงึ่ และจานวนทั้งหมด กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 3. เกณฑ์ จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ มีปลา 6 ตัว มีเตา่ 2 ตัว 3.1 ผลงานมคี วามถูกต้อง มปี ลามากกว่าเต่า 6 – 2 = 4 ตวั หรือ มีเต่าน้อยกวา่ ปลา 6 – 2 = 4 ตัว ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ด้ำนควำมรู้ 3.2 คะแนนรวมด้านทักษะและ เพื่อให้นักเรยี นสามารถบอกได้ว่า กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 สถานการณ์ที่กาหนดใหเ้ ปน็ สถานการณ์การลบ ดำ้ นทักษะและกระบวนกำรทำง คณติ ศำสตร์ เพอื่ ให้นกั เรียนสามารถ 1. ให้เหตุผล 2. สื่อสาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ่ี ๒๔ ช้นั ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชว่ั โมง 122 หน่วยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ครูติดบัตรภาพ พร้อมท้ังเขียนแผนภาพแสดงความสัมพันธข์ องจานวนแบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม 5 32 มีรถท้งั หมด 5 คนั เปน็ รถสแี ดง 3 คัน เปน็ รถสเี หลอื ง 5 – 3 = 2 คัน มรี ถท้งั หมด 5 คนั เป็นรถสีเหลอื ง 2 คัน เปน็ รถสแี ดง 5 – 2 = 3 คัน ครกู ลา่ ววา่ สถานการณ์เหลา่ นเ้ี ป็นสถานการณ์การลบ ขน้ั สอน 2. ครตู ิดบตั รภาพต่อไปน้ี ให้นกั เรียนช่วยกันเลา่ เร่ืองจากภาพ ให้เป็นสถานการณก์ ารลบ มีปลา 8 ตวั ตกั ออกไป 3 ตวั เหลือปลา 8 – 3 ตวั มตี ุ๊กตาหมี 4 ตัว มีตุ๊กตาลิง 6 ตวั มตี กุ๊ ตาหมีน้อยกวา่ ตุ๊กตาลิง 6 – 4 = 2 ตวั หรอื มีตุ๊กตาหมี 4 ตัว มีตุก๊ ตาลิง 6 ตมัวตี ุก๊ ตาลิงมากกวา่ ตุก๊ ตาหมี 6 – 4 = 2 ตวั
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี ๒๔ ชั้น ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 123 หน่วยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ มีลกู ข่าง 7 อนั เป็นสีเหลือง 4 อัน จะเป็นสแี ดงก่อี นั 3. ครใู หน้ กั เรยี นยกตัวอย่างสถานการณ์การลบอน่ื ๆ เพ่ิมเติม คนละ 1 สถานการณ์ โดยไม่ต้องใช้ บัตรภาพ 4. ให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด 2.22 ขั้นสรปุ 5. ครเู ลอื กสถานการณ์การลบที่นักเรยี นยกตวั อย่างมา 3 ลกั ษณะคือ สถานการณก์ ารลบในลักษณะ การเอาออก การเปรียบเทียบ และสว่ นย่อย – ส่วนรวม ให้นักเรยี นสังเกต และรว่ มกันสรปุ สงิ่ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ ดังนี้ สถานการณ์ต่อไปน้ีเป็นสถานการณ์การลบ - แสดงการเอาออกเพื่อหาจานวนที่เหลือ - แสดงการเปรยี บเทียบเพ่ือหาว่ามากกว่าหรอื น้อยกวา่ กันอยู่เท่าไร - แสดงการหาจานวนหน่ึงเม่ือรู้อกี จานวนหนึ่งและจานวนท้ังหมด
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขัน้ นำ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๒๕ ข้ันสอน 124 ขนั้ สรุป แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ กำรวัดและประเมนิ ผล ทบทวนสถานการณ์การลบ โดยใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาวา่ สถานการณท์ ีก่ าหนดใหเ้ ปน็ สถานการณก์ ารลบหรอื ไม่ กาหนดโจทย์ปัญหาการลบให้นกั เรยี นหาคาตอบ ทาแบบฝกึ หัด 2.23 เฉลยแบบฝกึ หัด 2.23 ข้อ 1 และ 2 และรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ - ประเมินจากการตอบคาถาม และการทาแบบฝกึ หดั 2.23 - ประเมนิ จากการให้เหตผุ ล สอื่ สาร สื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนร้ทู ี่ ๒๕ ชัน้ ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 125 หน่วยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ ขอบเขตเน้อื หำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. แบบฝกึ หดั 2.23 การแก้โจทย์ปญั หาการลบ 1. ครนู าสถานการณต์ ่าง ๆ มาใหน้ ักเรยี นพิจารณาว่า เป็นสถานการณ์การลบหรอื ไม่ เช่น กำรประเมนิ สำระสำคัญ - มีลกู แกว้ 8 ลกู ใหเ้ พื่อนไป 2 ลูก เหลอื ลูกแก้วกลี่ กู (เป็นสถานการณ์การลบ) - มีเงิน 5 บาท ปู่ให้อีก 2 บาท มีเงินทัง้ หมดก่บี าท (ไมเ่ ป็นสถานการณก์ ารลบ) 1. วธิ ีกำร การแก้โจทยป์ ญั หาทาได้โดย อา่ นทา - แกว้ มดี นิ สอ 7 แทง่ พลอยมดี นิ สอ 3 แท่ง แกว้ มีดินสอมากกวา่ พลอยกี่แทง่ 1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ (เป็นสถานการณ์การลบ) 1.2 ตรวจแบบฝกึ หัด ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนวธิ คี ิด ซึ่ง - ตบิ๊ มีรถของเล่นสีเหลือง 4 คนั มรี ถของเล่นสีแดง 6 คัน ตบิ๊ มีรถของเลน่ ก่ีคัน 2. เครื่องมอื อาจใชก้ ารวาดรปู หาคาตอบ และ (ไมเ่ ปน็ สถานการณ์การลบ) 2.1 แบบฝกึ หัด 2.23 - นวลมตี กุ๊ ตาทงั้ หมด 9 ตวั เป็นตุ๊กตาหมี 6 ตัว เปน็ ต๊กุ ตากระต่ายก่ีตัว(เปน็ สถานการณ์การลบ) 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ ตรวจสอบความสมเหตุสมผล กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ครคู วรยกตวั อย่างสถานการณ์การลบใหค้ รอบคลุมทง้ั การลบในลกั ษณะการเอาออก การลบใน จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ลักษณะการเปรียบเทียบ และการลบในลกั ษณะส่วนย่อย-ส่วนรวม และถ้านักเรยี นไมส่ ามารถตอบได้ 3. เกณฑ์ ครอู าจใช้การวาดรูปประกอบสถานการณเ์ พ่ือชว่ ยในการตอบของนักเรยี น 3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง ดำ้ นควำมรู้ ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหา ข้ันสอน 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การลบ 2. ครนู าสถานการณ์การลบทใ่ี หน้ กั เรยี นตอบคาถามในข้อ 1 มาช่วยกนั หาคาตอบ เช่น ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ด้ำนทักษะและกระบวนกำรทำง มลี กู แกว้ 8 ลูก ใหเ้ พื่อนไป 2 ลกู เหลอื ลูกแก้วก่ลี ูก คณิตศำสตร์ ครูถามนักเรยี นวา่ สง่ิ ท่ีโจทย์บอกคืออะไร (มีลกู แกว้ 8 ลกู ใหเ้ พื่อนไป 2 ลกู ) ส่งิ ทโ่ี จทยถ์ ามคอื อะไร (เหลอื ลูกแก้วกี่ลูก) เพ่อื ให้นกั เรยี นสามารถ หาคาตอบได้อย่างไร (8 เอาออก 2) 1. ให้เหตุผล 2. สื่อสาร สื่อความหมาย ทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๒๕ ช้ัน ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ช่ัวโมง 126 หน่วยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ครูแนะนาว่า จากสถานการณ์การลบ เขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์การลบ ได้ 8 – 2 = ก่อนที่ครจู ะใหน้ กั เรียนหาผลลบ ครูถามนกั เรียนวา่ ผลลบท่ไี ดค้ วรมากกวา่ หรือน้อยกว่า 8 เพราะเหตุใด (นอ้ ยกว่า 8 เพราะมลี กู แก้วอยู่ 8 ลูก ให้เพื่อนไป 2 ลกู จานวนทเ่ี หลอื จึงน้อยกวา่ 8 ลกู ) ครถู ามนักเรยี นวา่ ไดผ้ ลลบเท่ากบั เท่าใด( 6 ) ซง่ึ คาถามนี้ครคู วรใหเ้ วลานักเรียนในการหาผลลบ และ นักเรยี นอาจใช้การวาดรูป ใช้กรอบสิบ หรือใชเ้ ส้นจานวนในการหาผลลบ เมอ่ื นักเรยี นหาผลลบได้แลว้ ครูถามนักเรยี นว่า ผลลบทไ่ี ด้สมเหตุสมผลหรอื ไม่เพราะเหตุใด(สมเหตสุ มผล เพราะน้อยกวา่ 8) ครูเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบบนกระดานดังน้ี มลี กู แกว้ 8 ลูก ใหเ้ พ่อื นไป 2 ลูก เหลอื ลกู แกว้ กี่ลกู ประโยคสัญลักษณก์ ารลบ 8 – 2 = 8–2= 6 ตอบ เหลอื ลกู แกว้ ๖ ลกู ครูยกตวั อย่างโจทย์ปญั หาการลบเพ่ิมอีก 2 – 3 ตัวอย่าง ให้นักเรียนบอกส่ิงที่โจทย์บอก และสงิ่ ท่ี โจทย์ถาม เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ หาผลลบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของผลลบ หลงั จากนั้นให้นกั เรียนเขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบ เชน่ แกว้ มีดนิ สอ 7 แท่ง พลอยมดี นิ สอ 3 แท่ง แกว้ มีดินสอมากกวา่ พลอยก่ีแทง่ ประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ 7 – 3 = 7–3 =4 ตอบ แกว้ มดี นิ สอมากกวา่ พลอย ๔ แทง่ 3. ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หัด 2.23 ข้อ 1 และ 2 ลงในสมดุ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรียนร้คู ณิตศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๒๕ ช้ัน ป.๑ หนว่ ยท่ี ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ช่ัวโมง 127 หนว่ ยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ขน้ั สรปุ 4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหัด 2.23 ขอ้ 1 และ 2 โดยครเู ปน็ คนเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบบน กระดาน หลงั จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงที่ได้เรยี นรวู้ า่ การแก้โจทยป์ ญั หาทาได้โดย อ่านทา ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนวธิ ีคิด ซึง่ อาจใช้การวาดรปู หาคาตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผล และ ให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ หดั 2.23 ข้อ 3 ถึง 5 เป็นการบา้ น
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขนั้ นำ แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ ๒๖ ขน้ั สอน 128 ขน้ั สรปุ แนวกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ กำรวัดและประเมินผล ทบทวนโจทย์ปญั หาการลบใน 3 ลักษณะ และให้นักเรยี นบอกส่งิ ที่โจทย์บอก และสง่ิ ทโี่ จทย์ถาม นาบตั รภาพมาให้นักเรียนช่วยกนั สรา้ งโจทยป์ ัญหาการลบ ทาแบบฝึกหัด 2.24 ส่มุ โจทยป์ ญั หาการลบจากทีน่ กั เรียนสร้างข้นึ มา 1 ข้อ ถามสงิ่ ทโี่ จทย์บอก และสิ่งทโี่ จทยถ์ าม และสรปุ สิ่งทไ่ี ด้เรยี นรู้ - ประเมินจากการตอบคาถาม และการทาแบบฝึกหัด 2.24 - ประเมนิ จากการสอื่ สาร และสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๒๖ ชัน้ ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 129 หน่วยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ ขอบเขตเน้อื หำ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. บตั รภาพ การสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากภาพ 2. แบบฝกึ หดั 2.24 1. ครนู าโจทยป์ ัญหาการลบใน 3 ลักษณะมาให้นักเรียนพิจารณา และสอบถามนักเรยี นว่า ส่ิงทีโ่ จทย์ สำระสำคญั บอกคืออะไร และสิง่ ที่โจทย์ถามคืออะไร เชน่ กำรประเมิน การสร้างโจทยป์ ญั หา ต้องมที ้ังสง่ิ ท่ี แมซ่ ้ือโดนัทมา 6 ช้นิ แบง่ ใหน้ อ้ ง 2 ชน้ิ เหลือขนมโดนทั กช่ี ิน้ 1. วิธีกำร โจทย์บอกและสง่ิ ทโี่ จทย์ถาม สง่ิ ท่ีโจทย์บอกคือ แม่ซื้อโดนทั มา 6 ชิน้ แบง่ ให้น้อง 2 ชนิ้ 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ส่ิงท่โี จทย์ถำมคอื เหลือขนมโดนัทกีช่ ิน้ 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2. เครื่องมือ สมศรมี ตี กุ๊ ตาหมี 7 ตัว สมทรงมตี ุ๊กตาหมี 9 ตวั สมศรมี ีตุ๊กตาหมีนอ้ ยกว่าสมทรงก่ีตวั 2.1 แบบฝึกหัด 2.24 ด้ำนควำมรู้ สิง่ ทโ่ี จทย์บอก สมศรมี ีตุ๊กตาหมี 7 ตัว สมทรงมีตกุ๊ ตาหมี 9 ตวั 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ สร้างโจทย์ปัญหาการลบจากภาพ สงิ่ ทีโ่ จทยถ์ ำม สมศรมี ีตุ๊กตาหมนี ้อยกวา่ สมทรงกี่ตัว กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ดำ้ นทักษะและกระบวนกำรทำง มีผู้โดยสารบนรถบัสทั้งหมด 10 คน เปน็ ผู้หญงิ 5 คน เปน็ ผู้ชายกี่คน 3. เกณฑ์ คณติ ศำสตร์ สิ่งที่โจทยบ์ อก มีผู้โดยสารบนรถบสั ทัง้ หมด 10 คน เปน็ ผ้หู ญิง 5 คน 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ ง สิง่ ทโี่ จทย์ถำม เป็นผ้ชู ายกคี่ น ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 เพื่อให้ นักเรียนสามารถ 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะและ สือ่ สาร สื่อความหมาย กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ทางคณิตศาสตร์ ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๒๖ ช้นั ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 130 หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ขน้ั สอน 2. ครูนาบตั รภาพมาใหน้ ักเรยี นช่วยกนั สรา้ งโจทย์ปัญหาการลบ และสอบถามสิง่ ทโี่ จทย์บอก และส่ิงท่ี โจทยถ์ าม เช่น - มโี รตีสายไหม 7 ชิ้น กนิ ไป 2 ชน้ิ เหลอื โรตีสายไหมก่ีชน้ิ สงิ่ ทโี่ จทย์บอก มีโรตสี ายไหม 7 ชนิ้ กินไป 2 ชิ้น สงิ่ ทโ่ี จทย์ถำม เหลือโรตสี ายไหมกชี่ ิน้ - น้องหยอดเหรียญได้โรตีสายไหม 7 ชน้ิ พ่หี ยอดเหรียญได้โรตสี ายไหม 5 ชิ้น นอ้ งหยอด เหรียญได้โรตีสายไหมมากกวา่ พี่กช่ี ิน้ ส่งิ ทีโ่ จทย์บอก น้องหยอดเหรียญได้โรตีสายไหม 7 ชิ้น พหี่ ยอดเหรียญไดโ้ รตสี ายไหม 5 ชนิ้ สงิ่ ที่โจทย์ถำม น้องหยอดเหรียญไดโ้ รตสี ายไหมมากกว่าพี่ก่ชี ิน้ - พี่กบั น้องมีโรตสี ายไหม 10 ชน้ิ เปน็ ของน้อง 4 ชน้ิ พี่มโี รตีสายไหมกี่ชิ้น สิง่ ทโ่ี จทย์บอก กบั น้องมโี รตีสายไหม 10 ชน้ิ เปน็ ของน้อง 4 ชิ้น สิ่งทโ่ี จทย์ถำม พี่มโี รตสี ายไหมกี่ช้นิ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสำระกำรเรยี นรูค้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒๖ ชนั้ ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชวั่ โมง 131 หนว่ ยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ครูนาภาพมาทากิจกกรรมทานองเดียวกนั น้ีอีก 2 – 3 ภาพ เชน่ 3. นักเรียนทาแบบฝึกหัด 2.24 ขน้ั สรปุ 4. ครสู ่มุ โจทย์ทีน่ กั เรยี นสร้างขึ้นจากการทาแบบฝกึ หดั มา 1 ข้อ เขยี นบนกระดาน ถามนักเรียนว่า สง่ิ ท่ี โจทย์บอกคืออะไร สิ่งท่ีโจทย์ถามคืออะไร และร่วมกนั สรุปสิ่งทไ่ี ด้เรยี นรู้วา่ การสรา้ งโจทย์ปัญหา ต้องมี ทงั้ ส่ิงทโ่ี จทยบ์ อกและส่งิ ทโี่ จทยถ์ าม
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขัน้ นำ แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๒๗ ขั้นสอน แนวกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 132 ขั้นสรุป กำรวดั และประเมินผล ทบทวนโจทย์ปญั หาการลบใน 3 ลกั ษณะ ใหน้ ักเรียนบอกสิ่งทโี่ จทย์บอก สิง่ ทโ่ี จทยถ์ าม และเขยี นประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ กาหนดประโยคสญั ลักษณก์ ารลบ ให้นกั เรียนช่วยกนั สร้างโจทย์ปญั หาการลบ ทาแบบฝกึ หัด 2.25 ส่มุ โจทยป์ ญั หาการลบจากท่ีนักเรยี นสรา้ งข้นึ มา 1 ขอ้ ถามสิง่ ทีโ่ จทยบ์ อก และส่ิงทโี่ จทย์ถาม และสรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ - ประเมนิ จากการตอบคาถาม และการทาแบบฝกึ หัด 2.25 - ประเมินจากการสอื่ สาร และสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรูค้ ณิตศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๒๗ ช้ัน ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 133 หนว่ ยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ขอบเขตเนอื้ หำ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ การสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบจาก ขน้ั นำ 1. แบบฝกึ หดั 2.25 ประโยคสัญลกั ษณ์ 1. ครนู าโจทย์ปัญหาการลบใน 3 ลักษณะมาใหน้ ักเรยี นพิจารณา และสอบถามนักเรยี นว่า สิ่งทโี่ จทย์ กำรประเมิน สำระสำคญั บอกคอื อะไร และส่งิ ท่ีโจทย์ถามคืออะไร และให้เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์การลบจากโจทยป์ ัญหาการลบ เชน่ 1. วิธกี ำร การสร้างโจทย์ปัญหา ตอ้ งมที ้งั สงิ่ ท่ี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ โจทยบ์ อกและสง่ิ ทีโ่ จทยถ์ าม แมซ่ อื้ โดนทั มา 6 ชน้ิ แบง่ ใหน้ อ้ ง 2 ช้นิ เหลือขนมโดนทั กช่ี ้ิน 1.2 ตรวจแบบฝึกหดั สง่ิ ท่ีโจทย์บอกคอื แม่ซ้ือโดนทั มา 6 ชนิ้ แบ่งให้น้อง 2 ช้นิ 2. เครอ่ื งมอื จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ สง่ิ ท่ีโจทยถ์ ำมคอื เหลือขนมโดนทั กีช่ ิ้น 2.1 แบบฝกึ หดั 2.25 ประโยคสัญลกั ษณ์กำรลบ 6 – 2 = 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ ดำ้ นควำมรู้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ สร้างโจทย์ปญั หาการลบจาก สมศรีมตี ุ๊กตาหมี 7 ตวั สมทรงมีตุ๊กตาหมี 9 ตัว สมศรีมีตุ๊กตาหมนี ้อยกวา่ สมทรงกีต่ ัว สิ่งที่โจทย์บอก สมศรีมตี ุ๊กตาหมี 7 ตวั สมทรงมตี ุก๊ ตาหมี 9 ตัว 3. เกณฑ์ ประโยคสัญลกั ษณ์ ส่งิ ท่ีโจทย์ถำม สมศรมี ตี ุ๊กตาหมีน้อยกวา่ สมทรงกต่ี ัว 3.1 ผลงานมคี วามถูกต้อง ด้ำนทักษะและกระบวนกำรทำง ประโยคสัญลกั ษณก์ ำรลบ 9 – 2 = ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 คณติ ศำสตร์ 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะและ มผี ู้โดยสารบนรถบสั ท้งั หมด 10 คน เป็นผูห้ ญงิ 5 คน เป็นผู้ชายกี่คน กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้ นักเรียนสามารถ สิ่งที่โจทยบ์ อก มีผ้โู ดยสารบนรถบสั ท้งั หมด 102คน เปน็ ผู้หญิง 5 คน ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 สือ่ สาร ส่ือความหมาย ส่ิงทีโ่ จทยถ์ ำม เปน็ ผูช้ ายกีค่ น ทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ ๒๗ ชน้ั ป.๑ หนว่ ยท่ี ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 134 หนว่ ยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ขนั้ สอน 2. ครเู ขียนประโยคสญั ลักษณก์ ารลบ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สร้างโจทย์ปญั หาการลบ และบอกส่ิงทโี่ จทย์ บอก และสงิ่ ท่โี จทย์ถาม เชน่ 8–3 = - ในตูป้ ลามีปลาทง้ั หมด 8 ตวั เป็นปลาเงิน 3 ตวั จะเป็นปลาทองก่ีตวั สิ่งทโ่ี จทย์บอก ในตู้ปลามปี ลาทงั้ หมด 8 ตัว เป็นปลาเงนิ 3 ตวั สง่ิ ท่โี จทย์ถำม จะเปน็ ปลาทองกีต่ ัว - ในตปู้ ลา มีปลาท้ังหมด 8 ตัว ตกั ออกไป 3 ตัว เหลือปลาในตปู้ ลากต่ี ัว สิง่ ท่โี จทย์บอก ในต้ปู ลามีปลาทั้งหมด 8 ตัว ตักออกไป 3 ตวั สิ่งท่ีโจทย์ถำม เหลือปลาในต้ปู ลาก่ีตวั - ในต้ปู ลามปี ลาทอง 8 ตวั ปลาเงิน 3 ตวั มปี ลาทองมากกวา่ ปลาเงนิ ก่ีตวั สง่ิ ท่โี จทย์บอก ในตู้ปลามปี ลาทอง 8 ตัว ปลาเงิน 3 ตวั สง่ิ ทโี่ จทย์ถำม มีปลาทองมากกว่าปลาเงนิ ก่ีตัว 3. ครูเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์การลบ เช่น 9 - 2 = ให้นักเรยี นสร้างโจทย์ปัญหาการลบจาก ประโยคสญั ลกั ษณ์ตามจนิ ตนาการ และบอกส่ิงทีโ่ จทย์บอก ส่งิ ท่โี จทย์ถาม เช่น ตาลมีลูกโป่ง 9 ลูก ต้องมลี ูกโป่ง ล2ูกลูกตอ้ ตงมาลลี มูก3ีลโปกู ่งโป2ง่ มลาูกกกว่าต้องก่ลี ูก สงิ่ ทโี่ จทย์บอก ตาลมลี ูกโป่ง 9
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ี่ ๒๗ ชั้น ป.๑ หนว่ ยที่ ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 135 หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ครูทากจิ กรรมทานองเดยี วกันนอี้ ีก 2 – 3 ขอ้ แลว้ ให้ทาแบบฝกึ หัด 2.25 ขนั้ สรปุ 3. ครสู ุม่ โจทย์การลบในแบบฝึกหดั 2.25 มา 1 ขอ้ ให้ตัวแทนนักเรยี นออกมาเขียนโจทยป์ ญั หาการลบ ทนี่ กั เรยี นสร้างบนกระดาน ถามนักเรียนว่าสงิ่ ท่โี จทย์บอกคืออะไร สิ่งที่โจทย์ถามคืออะไร และร่วมกัน สรปุ ส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรู้ว่า การสร้างโจทยป์ ญั หา ต้องมีท้ังสงิ่ ท่ีโจทยบ์ อกและสิ่งท่โี จทย์ถาม
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขัน้ นำ แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒๘ ข้ันสอน 136 ขน้ั สรปุ แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ กำรวดั และประเมนิ ผล กำหนดโจทย์กำรลบ ให้นักเรียนชว่ ยกนั นำเสนอวธิ ีกำรหำคำตอบ ทบทวนกำรหำคำ่ ของตวั ไมท่ รำบค่ำ โดยใช้ควำมสัมพนั ธข์ องกำรบวก กำรลบ สรำ้ งโจทยป์ ญั หำกำรลบจำกภำพ และจำกประโยคสญั ลักษณ์ และนำเสนอวิธีหำคำตอบ ครพู ูดยำใหน้ ักเรยี นไปทบทวนบทเรยี นกอ่ นสอบประจำบท - ประเมินจำกกำรตอบคำถำม - ประเมนิ จำกกำรแก้ปัญหำ ใหเ้ หตผุ ล สอ่ื สำร และสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๒๘ ชน้ั ป.๑ หน่วยที่ ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน เวลำ ๑ ช่ัวโมง 137 หนว่ ยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ ขอบเขตเนอ้ื หำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ข้นั นำ 1. บตั รภำพ - ทบทวนกำรหำผลลบ 2. ตวั นับ - กำรหำคำ่ ของตัวไม่ทรำบคำ่ 1. ครเู ขยี นโจทยก์ ำรลบบนกระดำน เช่น กำรประเมนิ โดยใชค้ วำมสมั พนั ธ์ของจำนวน 8–3= แบบส่วนย่อย – สว่ นรวม 1. วธิ กี ำร - กำรแกโ้ จทย์ปญั หำกำรลบ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั คดิ หำคำตอบ ครูสุม่ นกั เรยี นออกมำนำเสนอวธิ กี ำรหำคำตอบ ซึ่งนกั เรยี นอำจจะ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมกำรเรยี นรู้ - กำรสร้ำงโจทย์ปญั หำกำรลบ 2. เคร่อื งมอื จำกภำพ และจำกประโยค ใช้ตวั นับ กำรวำดรูป ใชก้ รอบสิบ ใช้เสน้ จำนวนในกำรหำคำตอบ หรอื ควำมสัมพนั ธ์ของจำนวนแบบ 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ สัญลกั ษณ์ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ สว่ นย่อย – สว่ นรวม สำระสำคัญ 3. เกณฑ์ ข้นั สอน 3.1 ผลงำนมคี วำมถูกต้อง กำรลบเป็นกำรนำจำนวนหน่งึ ออก ไม่นอ้ ยกว่ำรอ้ ยละ 80 จำกจำนวนทงั หมด แล้วหำจำนวนท่ี 2. ครแู บง่ กลุม่ นกั เรียน และเขียนโจทย์กำรลบบนกระดำน ดงั นี 3.2 คะแนนรวมด้ำนทกั ษะและ เหลือ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ –4=6 ไม่นอ้ ยกว่ำรอ้ ยละ 60 จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ระดมควำมคิด แสดงวธิ หี ำคำตอบ และสง่ ตวั แทนนำเสนอ ดำ้ นควำมรู้ ซ่ึงนกั เรยี นควรใช้ควำมสัมพนั ธข์ องกำรบวก กำรลบในกำรหำคำตอบ ดังนี ทบทวนกำรลบจำนวนนับท่ีตัวตัง –4=6 ไม่เกนิ 10 4 + 6= 46 4 + 6 = 10 ดังนนั 10 – 4 = 6
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรูค้ ณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนร้ทู ี่ ๒๘ ชั้น ป.๑ หนว่ ยท่ี ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ชั่วโมง 138 หน่วยย่อยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ดำ้ นทกั ษะและกระบวนกำรทำง ครูจัดกจิ กรรมทำนองเดียวกนั นอี ีก 1 ตัวอย่ำง เช่น คณิตศำสตร์ 9– = 5 9 เพื่อให้ นักเรียนสามารถ 1. กำรแก้ปัญหำ 9–5 = 5 9–5 = 4 2. สือ่ สำร สื่อควำมหมำย ทำงคณิตศำสตร์ ดงั นัน 9 – 4 = 5 3. กำรใหเ้ หตุผล 3. ครตู ิดบตั รภำพ เช่น ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั สรำ้ งโจทยป์ ัญหำกำรลบ ครสู ุ่มถำมนักเรยี นแตล่ ะกลุม่ เพื่อให้ไดโ้ จทยป์ ญั หำ กำรลบใน 3 ลกั ษณะคือ กำรเอำออก กำรเปรยี บเทียบ และสว่ นยอ่ ย – สว่ นรวม ครูเขยี นโจทยป์ ัญหำ กำรลบที่นักเรยี นสรำ้ งไดท้ ัง 3 ลกั ษณะบนกระดำน และให้นักเรียนชว่ ยบอกว่ำโจทยแ์ ต่ละข้อ ส่งิ ที่โจทย์ บอก และสิ่งที่โจทยถ์ ำมคืออะไร หลงั จำกนนั ให้แตล่ ะกลุม่ นำเสนอวิธกี ำรหำคำตอบบนกระดำน
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี ๒๘ ชน้ั ป.๑ หน่วยท่ี ๒ กำรดำเนินกำรของจำนวน เวลำ ๑ ช่ัวโมง 139 หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ กำรบวก กำรลบ 4. ครเู ขยี นประโยคสัญลักษณ์กำรลบ 1 ขอ้ บนกระดำน เช่น 7–4= ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกันสร้ำงโจทยป์ ัญหำกำรลบ ครสู ุ่มถำมนักเรยี นแต่ละกลุ่มเพอื่ ใหไ้ ดโ้ จทยป์ ัญหำ กำรลบใน 3 ลักษณะคือ กำรเอำออก กำรเปรียบเทียบ และส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม ครเู ขยี นโจทยป์ ญั หำ กำรลบท่ีนักเรียนสรำ้ งไดท้ ัง 3 ลกั ษณะบนกระดำน และให้นักเรียนช่วยบอกว่ำโจทยแ์ ต่ละข้อ ส่ิงทโ่ี จทย์ บอก และส่ิงทโ่ี จทย์ถำมคืออะไร หลังจำกนันให้แตล่ ะกลมุ่ นำเสนอวธิ กี ำรหำคำตอบบนกระดำน ขัน้ สรปุ 5. กอ่ นจบบทเรยี น ครูยำกบั นกั เรียนให้กลับไปทบทวนบทเรียน เพ่อื เตรยี มตัวสอบประจำบท
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขั้นนำ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒๙ ข้ันสอน แนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 140 ขั้นสรปุ กำรวัดและประเมนิ ผล ทบทวนสถำนกำรณก์ ำรบวกและกำรลบจำนวนสองจำนวน กำรบวกจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 10 และกำรลบทผ่ี ลลพั ธ์ไม่เกนิ 10 ทำแบบฝึกหัด 2.26 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุป วธิ กี ำรบวกและวธิ ีกำรลบ - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหัด 2.26 - ประเมินจำกกำรสื่อสำร และสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400