Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-25-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ภาษาอังกฤษ ม.3-1

64-08-25-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ภาษาอังกฤษ ม.3-1

Published by elibraryraja33, 2021-08-25 03:52:35

Description: 64-08-25-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ภาษาอังกฤษ ม.3-1

Search

Read the Text Version

คูม ือครูและแผนการเรยี นรู ม.๓ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน กลุมสาระการเรยี นรู ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ ๓ ภาษาตางประเทศ ภาคเรยี นท่ี ๑ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผา นดาวเทยี ม ในพระบรมราชปู ถมั ภ โดยความรว มมอื ของ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน



ก คำนำ ด้วยพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมุ่งหมายให้การศึกษาบ่มเพาะ สมรรถนะให้แก่ผู้เรียน เพื่อสร้างคุณลักษณะสำคัญ 4 ประการให้กับคนไทย อันได้แก่ 1) มีทัศนคติที่ดีและถูกต้อง 2) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง 3) มีอาชีพ มีงานทำ 4) เป็นพลเมืองดี มีระเบียบวินัย และพระราชปณิธาน ใน การสบื สาน รกั ษา พัฒนาตอ่ ยอด โครงการในพระราชดำรขิ องพระราชบิดา จงึ ทรงพฒั นาการศกึ ษาทางไกลผ่าน ดาวเทียม หรือ NEW DLTV ในทุกด้านอาทิ ระบบออกอากาศ อุปกรณ์เทคโนโลยี บุคลากรและกระบวนการจัด การศึกษา เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในโรงเรียนขนาดเล็ก สร้างโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตของ ประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย ผ่านการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมจำนวน 15 ช่องสัญญาณ ไปยังโรงเรียนต่าง ๆ และ ผสู้ นใจทัว่ ประเทศ เพอื่ ให้ประเทศไทยเป็นสงั คมแห่งปญั ญามีจิตอาสาในการสรรคส์ ร้างและพัฒนาประเทศให้ม่ันคง การสอนออกอากาศทางไกลผ่านดาวเทียม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 นี้ เป็นการสอนออกอากาศในแนวใหม่ บันทึกเทปการสอนจากห้องเรียนต้นทางของโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครูปลายทางสามารถดูเทปการสอนผ่านทางเว็ปไซต์ www.dltv.ac.th และ Application on mobile DLTVของมูลนิธิ และมีคู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมงครบทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่ง ครูปลายทางสามารถปรบั กิจกรรมการเรียนรใู้ ห้เหมาะสมกบั ชุมชน ทอ้ งถ่นิ วัฒนธรรมและบริบทของแตล่ ะโรงเรียน การจัดทำคู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ได้รับความร่วมมือจากคณะทำงาน ประกอบด้วย สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ คณาจารย์จากมหาวิทยาลัย ศึกษานิเทศก์ และครูผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งครูปลายทางใช้ในการเตรียมการสอนล่วงหน้า รวมทั้งจัดเตรียมเอกสารเพื่อส่งเสริมการเรียน ได้แก่ ใบงาน ใบความรู้ แบบฝึกหัด ให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เกิด ประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในห้องเรียน เพื่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสและ โรงเรียนมธั ยมศึกษาขนาดเลก็ ตอ่ ไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมุ่งมั่นพัฒนายกระดับ คุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อพัฒนาสังคมไทยและยกระดับคุณภาพของคนไทยให้เข้มแข็ง สมดัง พระราชปณธิ าน “...การศึกษาคอื ความม่ันคงของประเทศ...” ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มูลนธิ กิ ารศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ในพระบรมราชูปถัมภ์

ข บทนำ การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นการจัดการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก ครูสอนไม่ครบชั้น โดยจัดการเรียนการสอนของครูห้องเรียนต้นทางจากโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปยังห้องเรียนปลายทางในโรงเรียนพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ พื้นที่สูง ชายแดน เกาะแก่งและเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ เปน็ การลดความเหลอื่ มลำ้ ในการจัดการศึกษาให้ท่วั ถึง เท่าเทียมและมคี ุณภาพ คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 – 3) ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ประกอบด้วยเอกสาร 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ 1) ภาษาไทย 2) คณิตศาสตร์ 3) วิทยาศาสตร์ 4) สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 5) สุขศึกษาและพลศึกษา 6) ศิลปะ 7) การงานอาชีพ 8) ภาษาต่างประเทศ แต่ละระดับชั้นมีเอกสารรวม 8 เล่ม แต่ละเล่มมีรายละเอียด คำชี้แจงการจัดกระบวน การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อ/ใบงาน/แบบฝึก แบบประเมิน ที่ตรงกับมาตรฐาน ตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้แกนกลาง (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ของแต่ละสาระการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 การจัดทำคู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 – 3) เป็นการทำงาน ร่วมกันของหลายหน่วยงาน มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาวิชา คณาจารย์ จากมหาวิทยาลัย คณะศึกษานิเทศก์ คณะครูผู้สอนในสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้มีส่วนร่วมจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยให้คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีความสมบูรณ์และ เหมาะสมตอ่ การจัดการเรยี นการสอนเพ่อื เยาวชนไทยทัง้ ประเทศ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หวังว่าคู่มือครูและแผนการจัด การเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ คณะครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม ในโรงเรียนขนาดเล็กและขยายโอกาสในระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น เพ่ือประสิทธภิ าพการจดั การเรยี นการสอนใหส้ ูงข้ึนต่อไป

สารบญั ฃ สารบัญ ง หน้า ค�ำนำ� สบาทรนจำ� ากประธานกรรมการมูลนิธิการศึกษาทางไกลผานดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ หนาก คสาํ รนบาํ ญั คําช้แี จง การรับชมรายการสอนออกอากาศ ฃ – คข คาํ ชีแ้ จงรายวชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหสั วชิ า อ 23101 ฅฃ –- ฆ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ง-จ คําอธิบายรายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหสั วชิ า อ 23301 ฉ - 1ช ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 มาตรฐานการเรยี นรู/ตวั ช้วี ัด. ซ3 โครงสรางรายวิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ 23101 ฌ - ฎ4ฌ ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ฏ - ฑ7ญ หนว ยการเรยี นรูท่ี 1 ชื่อหนวยการเรยี นรู My Interests 101 แผนการจดั การเรียนรูที่ 1 เรอื่ ง My Favorite Subject 145 แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 2 เรอ่ื ง Interesting Courses 2178 แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 3 เร่ือง Further Study 4301 แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 4 เรื่อง Occupations 5412 แผนการจดั การเรียนรูที่ 5 เรอื่ ง Job Application 6556 แผนการจดั การเรียนรูที่ 6 เรื่อง Job Advertisement 7645 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 7 เรื่อง Application Letter 8756 หนว ยการเรียนรูท่ี 2 ชอื่ หนวยการเรยี นรู Leisure And Entertainment 10923 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 8 เรอ่ื ง My Favorite Song 10967 แผนการจดั การเรียนรูที่ 9 เรอื่ ง My Favorite Song 2 12156 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 10 เร่อื ง Movie Genre 14301 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 11 เรอ่ื ง Wonder Woman 15467 แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 12 เรอ่ื ง At a Sport Center 16512 แผนการจดั การเรียนรูที่ 13 เร่อื ง Indoor Sport 17689 แผนการจดั การเรียนรูที่ 14 เรื่อง The Story of St. Valentine 19812 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 15 เรือ่ ง The Story of Saint Valentine 2 120967

สารบญั (ตอ ) จค หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 ชอื่ หนว ยการเรยี นรู Shopping หนา แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 16 เรอ่ื ง I like shopping แผนการจดั การเรียนรูท่ี 17 เรื่อง May I help you? 21212 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 18 เรอื่ ง At the Department Store 21256 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 19 เรอ่ื ง Let’s shop 2390 แผนการจัดการเรียนรูที่ 20 เรอื่ ง Supermarket 24501 แผนการจดั การเรียนรูที่ 21 เรื่อง The Shopping Places We Like 26712 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 22 เรอ่ื ง Buy Things at Grocer’s 27878 แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 23 เรอ่ื ง Can You Do This? 239001 31212 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 ชอ่ื หนวยการเรียนรู Travelling 33423 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 24 เรอ่ื ง My Packing List 34556 แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 25 เรือ่ ง At the Airport 3590 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 26 เรื่อง At the airport 2 36756 แผนการจัดการเรียนรูที่ 27 เรอ่ื ง Hotel reservation 38912 แผนการจัดการเรียนรูที่ 28 เร่ือง World new 7 wonders 349045 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 29 เรอ่ื ง Water Safety 40156 แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 30 เรื่อง My Postcard 41278 4390 หนวยการเรียนรูท่ี 5 ช่ือหนว ยการเรียนรู Local Products (OTOP) 1 44501 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 31 เรอ่ื ง Products 44545 แผนการจดั การเรียนรูที่ 32 เรื่อง Local Products (OTOP) 1 45656 แผนการจัดการเรียนรูท่ี 33 เรื่อง Creative Products 48901 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 34 เรอ่ื ง Slogans 45909 แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 35 เรอ่ื ง OTOP Products 5127 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 36 เรื่อง OTOP Label 5343 แผนการจัดการเรียนรูที่ 37 เร่ือง A Brochure of OTOP Product 54565 556725 หนวยการเรยี นรทู ี่ 6 ช่ือหนว ยการเรียนรู Stay Fit 56796 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 38 เรื่อง Illness, injuries and symptoms 57929 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 39 เรอ่ื ง What’s wrong with you? 569074 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 40 เร่อื ง Influenza

สารบัญ (ตอ) ฉค หนว ยการเรยี นรทู ี่ 6 ชอื่ หนว ยการเรยี นรู Stay Fit (ตอ) หนา แผนการจัดการเรยี นรูที่ 41 เร่อื ง Medicine Labels แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 42 เรื่อง Food Labels 62018 แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 43 เรอ่ื ง What do you eat? 62018 แผนการจัดการเรียนรูท่ี 44 เรื่อง I Like Playing Sports 63118 แผนการจัดการเรียนรูท่ี 45 เร่อื ง Keep doing this! 64330 66407 หนวยการเรยี นรทู ่ี 7 ชื่อหนวยการเรียนรู Celebrations 67518 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 46 เรื่อง Let’s Have a Party 68618 แผนการจดั การเรียนรูที่ 47 เรื่อง Invitation 68741 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 48 เรอ่ื ง The Celebration of Thanksgiving 69896 แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 49 เรือ่ ง Easter Day 71030 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 50 เร่ือง My Favorite Celebration 73118 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 51 เรื่อง Food on Special Occasions 74352 แผนการจัดการเรียนรูท่ี 52 เรื่อง Cooking Favorite Food on Special Occasions 76429 78607 หนว ยการเรียนรทู ี่ 8 ชื่อหนว ยการเรียนรู Science and Technology for Life 79841 แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 53 เรื่อง Technology and Invention in 2025 (1) 79885 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 54 เรอ่ื ง Technology and Invention in 2025 (2) 81063 แผนการจัดการเรียนรูที่ 55 เรอ่ื ง Technology and Invention in 2025 (3) 83252 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 56 เรื่อง Are You Addicted to the Internet? 85430 แผนการจัดการเรียนรูท่ี 57 เรอ่ื ง Giving Suggestions 86563 แผนการจดั การเรียนรูที่ 58 เร่ือง Advantages and Disadvantages of 88629 Using the Internet 1 980818 แผนการจัดการเรียนรูที่ 59 เรอื่ ง Advantages and Disadvantages of 92007 Using the Internet (2) 93274 แผนการจัดการเรียนรูที่ 60 เรื่อง Advantages and Disadvantages of using the Internet in Education บรรณานกุ รม

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 55 เรอื่ ง A Carton of Milk 620 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 56 เร่อื ง My Shopping List 629 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 57 เรื่อง What size do you want? 663377ช ฆ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 58 เรือ่ ง What size do you want? 645 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 59 เร่ือง AAddvvสeeาrrttรiissบeeญั mmee(nnตttอss ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 60 เรื่อง ห66น55า41 บรรณานุกรม คําณสะง่ั จคดั ณทะำกครูม่ รอื มคกราแู รลจะดั แทผํานคกมู าือรจคดัรูแกลาระเแรผยี นรกรู้าะรดจบัดมกัธายรเมรศียกึ นษรารู ตะอดนบั ตมน้ธั ยมศกึ ษาตอนตน 962368961 ภเพาอื่คกเราียรนเรทยี ี่น1กปารก สาอรนศทึกาษงาไก2ล5ผ6า่ 2นดาวเทียม (DLTV) 9962464561 คมาํูลสนั่งิธสกิ าํ านรศกั ึกงาษนาคทณางะไกกรลรผม่ากนาดรากวาเทรยีศมึกษใานขพัน้ รพะืน้บฐรามนรา(ชคปู ณถะมั ทภํา์ งาน ทงั้ 8 กลมุ สาระการเรยี นรู) 962672 คาํณสะ่งั จมัดลู คนู่มธิ อื ิกคารรูแศลกึ ะษแาผทนากงาไรกจลัดผกาานรดเรายี วนเทรู้กยี ลม่มุ ใสนาพระรกะาบรรเมรยีรานชรภู้ปาถษมั าภต า่ งประเทศ ภาคเรยี นท่ี ๑1 9467 962694 (คคณณะะปทรับํางปารนุงคข่มูออืงคอรนแู ุกลระรแมผานกกราดราจนัดกวาชิ ราเกรียานรร)ู้ คกาํลสุ่มัง่สมารลู ะนกิธาิกรเารรียศนึกรษูภ้ าษทาตงา่ไกงปลรผะา เทนศดาภวาเคทเียรียมนในทพี่ 1๑ระบรมราชูปถมั ภ. (คคณณะตกรรรวมจกปาร๊ฟูตรแวลจะตจน ัดตทน ำฉรบปู ับเคลูม่มือคค่มู รอื ู แคลระแู แลผะนแกผานรกจัดารกจาัดรเกราียรนเรรูียแนตรล ู้ ะกลุมสาระการเรยี นร)ู 94ก6ลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ภาคเรยี นท่ี 1๑ ปกหลังดา้ นใน

ง การรับชมรายการ การเรยี นการสอนทางไกลผา่ นดาวเทียม มลู นธิ กิ ารศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ให้บริการการจัดการเรยี นการสอน จากสถานวี ิทยโุ ทรทศั นก์ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม จำนวน 15 ชอ่ งรายการ ทง้ั รายการสด (Live) และรายการย้อนหลงั (On demand) สามารถรบั ชมผา่ น www.dltv.ac.th Application on mobile DLTV - Android เข้าท่ี Play Store/Google Play พิมพ์คำว่า DLTV - iOS เขา้ ท่ี App Store พิมพ์คำวา่ DLTV การเรียกหมายเลขช่องออกอากาศสถานวี ทิ ยุโทรทศั น์การศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม 15 ชอ่ งรายการ DLTV 1 (ช่อง 186) เวลาเรียน / นอกเวลาเรียน DLTV 2 (ช่อง 187) รายการสอนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 / สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ DLTV 3 (ชอ่ ง 188) รายการสอนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 / ความรู้รอบตวั DLTV 4 (ชอ่ ง 189) รายการสอนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 / วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี DLTV 5 (ช่อง 190) รายการสอนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 / ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม DLTV 6 (ชอ่ ง 191) รายการสอนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 / ศลิ ปวัฒนธรรมไทย DLTV 7 (ช่อง 192) รายการสอนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 / หน้าที่พลเมือง DLTV 8 (ชอ่ ง 193) รายการสอนช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 / ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร DLTV 9 (ช่อง 194) รายการสอนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 / ภาษาตา่ งประเทศ DLTV 10 (ชอ่ ง 195) รายการสอนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 / การเกษตร DLTV 11 (ช่อง 196) รายการสอนชน้ั อนุบาลปีท่ี 1 / รายการสําหรบั เด็ก-การเล้ยี งดูลกู DLTV 12 (ช่อง 197) รายการสอนช้ันอนุบาลปีท่ี 2 / สุขภาพ การแพทย์ DLTV 13 (ช่อง 196) รายการสอนชั้นอนุบาลปที ่ี 3 / รายการสำหรบั ผสู้ งู วัย DLTV 14 (ชอ่ ง 199) รายการของการอาชพี วังไกลกงั วล และมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล DLTV 15 (ช่อง 200) รายการของมหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช รายการพฒั นาวิชาชพี ครู

จ การติดตอ่ รบั ขอ้ มูลขา่ วสาร 1. มลู นธิ กิ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 214 ถนนนครสวรรค์ แขวงวดั โสมนสั เขตป้อมปราบศตั รูพา่ ย กรงุ เทพมหานคร 10100 โทร 0 2282 6734 โทรสาร 0 2282 6735 2. สถานีวิทยุโทรทศั นก์ ารศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซอยหวั หนิ 35 ถนนเพชรเกษม ตำบลหัวหนิ อำเภอหัวหนิ จงั หวัดประจวบครี ีขันธ์ 77110 โทร. 032 515457 - 8 โทรสาร 032 515951 [email protected] (ตดิ ตอ่ เรอ่ื งเวบ็ ไซต์) dltv@dltv,ac.th (ตดิ ต่อเร่ืองทั่วไป) 3. โรงเรียนวังไกลกงั วล ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ อำเภอหวั หิน จังหวัดประจวบครี ีขันธ์ 77110 โทร 032 522 347 , 032 520 478 โทรสาร 032 520 478 Facebook : โรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถมั ภ์ Website : http://www.kkws.ac.th 4. ช่องทางการติดตามข่าวสาร Facebook : ครูตู้ DLTV Website : http://www.dltv.ac.th

1 ฉ 1 คำ� ชแี้ จง ประกอบการใช้แผนการจดั การเรคยี าํ นชรแี้ ู้ จกงลุม่ สาระเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ วัตถุประสงค การจัดทําแผนการจัดการเรียนรูและสื่อการเรียนสอนเพื่อการศึกษาทางไกลผานดาวเทียม (DLTV) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตนภาคเรียนที่ 1 ในรายวิชาภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน มีจุดประสงคเพื่อใหครูผูสอนทางไกล ผานดาวเทียมสามารถนําไปใชเปนแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไดอยางมีประสิทธิภาพและ ชวยประหยัดเวลาในการคนหาและสรางส่ือการเรียนการสอนของครูท้ังครูผูสอนโรงเรียนตนทางและโรงเรียน ปลายทาง องคประกอบของรายวิชา ในแตละรายวชิ า ประกอบดวย ระดบั ชั้น หนว ยการเรียนรู แผนการจดั การเรียนรู มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1 7 60 มธั ยมศึกษาปท่ี 2 6 60 มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 8 60 การออกแบบหนวยการเรียนรูยึดแนวทาง Theme-based และ Content-based learning เปนหลักใน การสอนคําศัพท โครงสรางทางภาษาและมีการบูรณาการทักษะทางภาษาทั้ง 4 เขาดวยกันทุกแผนการจัดการ เรียนรูโดยเนนทักษะหลักหน่ึงทักษะ ในหนึ่งแผนการจัดการเรียนรูและบูรณาการเขากับทักษะรองอื่นๆ ท้ังการฟง การพูด การอาน และการเขียน มีการจดั ลําดบั ข้นั ตอนกระบวนการสอนใชห ลัก ดังน้ี 1. การสอนคาํ ศัพท โครงสรางทางไวยากรณใชข ้นั ตอน PPP คือ 1) ข้ันนาํ เขาสบู ทเรียน (Lead in / Warm up) 2) ขัน้ สอน (Presentation) 3) ขัน้ ฝก (Practice) 4) ขน้ั นาํ ไปใช (Production) 2. การสอนทกั ษะฟงและอานใชข้นั ตอน Pre / While / Post ไดแ ก 1) ขนั้ นาํ เขาสบู ทเรียน (Lead in / Warm up) 2) ขั้นกอ นการฟง / การอา น (Pre-listening / Reading) 3) ขน้ั ขณะการฟง / การอา น (While-listening / Reading) 4) ข้ันหลงั การฟง / การอา น (Post-listening / Reading) 3. การสอนทักษะพูด / เขียน มักจะเปนกิจกรรมท่ีอยูในข้ันตอนของ Production และ Post- listening / reading เพื่อใหสอดคลองกับตัวชี้วัดที่กําหนดใหผูเรียนสามารถพูดหรือเขียนแสดงความคิดเห็น เก่ยี วกบั ส่งิ ท่ีฟงหรอื อานได เพ่ือนาํ ไปสูการฝกทักษะการคดิ อยางมีวิจารณญาณ

ช 2 การนําแผนการจดั การเรยี นรไู ปใช ในการนาํ แผนการจัดการเรียนรูและสอื่ การเรียนการสอนที่จัดทาํ โดยครูผูอื่นอาจจะไมใชเ รื่องงา ยนัก สําหรับครูผูนําไปใชในการสอน ดังน้ัน เพื่อใหการใชประโยชนจากการจัดการเรียนรูและสื่อการเรียนการสอน บรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคท่ตี ัง้ ไว ครูผใู ชแ ผนควรคาํ นึงถงึ ประเด็นเหลานี้ 1. ทําการศึกษาแผนการจัดการเรียนรูและส่ือประกอบของแตละหนวยการเรียนรูตามหัวขอท่ี กาํ หนดไวในแบบฟอรม ของแตละแผนใหเขาใจชดั เจน โดยเฉพาะเรอ่ื งจดุ ประสงคข องการเรียนรูทจ่ี ะตอ งบรรลุ ในช่ัวโมงนัน้ 2. ครูผูสอนสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมไดตามความเหมาะสมแตควรคํานึงถึงความสอดคลองกับ จดุ ประสงคท ี่กาํ หนดไว 3. การเตรียมสื่อสําหรับกิจกรรมการสอนแตละข้ัน ครูผูสอนควรเตรียมใหเพียงพอกับจํานวนกลุม หรือจํานวนนักเรียน ในหอ งเรยี นของตนเอง 4. กรณสี ื่อการเรียนการสอนท่ีระบุไวเปน Website ครูผูสอนตอ ง download เตรียมใหพรอ มกอน สอนจรงิ 5. ครูผูสอนควรพิมพชื่อนักเรียนลงในเคร่ืองมือการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนพรอมกับศึกษาเกณฑ การประเมนิ ใหเขา ใจชัดเจนกอนสอน เพอื่ ความสะดวกและรวดเรว็ ในการประเมิน

3 ซ3 คาํ อธิบายรายวชิ าภาษาอังกฤษ รหสั วชิ า อ23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ กลุม สาระการเรยี นรภู าษาตางประเทศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชว่ั โมง จาํ นวน 1.5 หนวยกติ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การจัดกิจกรรมการเรียนรูมุงพัฒนาผูเรียนใหสามารถปฏิบัติตามคําสั่ง คําขอรอง คําแนะนํา คําชี้แจง และคาํ�ำอธบิ ายไดอ้ ยยา่างงถถูกูกตตอ ้องงออา่านนอออกกเสเสยี ียงขงขอ้อควคาวมามขาขว่าวโฆษโฆณษาณแลาแะลบะทบรทอยร้อกรยอกงรสอน้ั งสๆ้ันถๆูกตถอูกงต้อามงตหาลมกั หกลารัก กอารนอ่รานวมรทว้ังมรทะ้ังบรุแะลบะุแเลขะียเนขียสนื่อสทื่อีไมทใี่ไชมค่ใชว่คาวมาเมรียเรงียใงหใสหัม้สพัมัพนธันกธับ์กับปประระโยโยคคแแลละะขขอ้อคคววาามม เเลลือือกกหหัวัวขขอ้ เรื่อง รระบุ ใจความสําคัญ รายละเอียดสนับสนุน รวมทั้งใหเหตุผล และยกตัวอยางประกอบจากเรื่องท่ีฟงและอาน สามารถพูดและเขียนโตตอบ ใหขอมูล บรรยาย เก่ียวกับตนเอง เร่ืองใกลตัว ประสบการณ ขาว สถานการณ กิจกรรม รวมท้ังแสดงความตอ งการ แสดงความคิดเห็น เสนอและใหความชว ยเหลือ ตอบรับและ ปฏิเสธ สรุปวิเคราะห ใหเหตุผลจากเร่ืองท่ีฟงและอานรวมทั้งในสถานการณตาง ๆ ไดอยางเหมาะสม นอกจากนั้นยังสามารถเลือกใชภาษา นํ้าเสียง กิริยาทาทางเพ่ือสื่อสาร และอธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนียมประเพณีไดอยางเหมาะสมกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของ เจาของภาษาอยางมีเหตุผลท่ีเปนประโยชนตอสวนรวม สามารถเปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและ ความแตกตางทางโครงสรา งภาษาา ชวี ิตความมเเปปน นออยยู ูแแลละะววฒั ัฒนนธธรรรรมมขขอองงเเจจาาขขอองงภภาาษษาาแแลละะขขอองงไทไทยย สามารถใช้ ภสาษมาอรังถกใฤชษภทาั้งษใานอกังากรสฤอ่ื ษสทา้ังรใทนัง้ ใกนาสรถสาื่อนสกาารทณั้งจ ใํานลสอถงาในกสถารานณกจาํารลณอจ งรงิ ในในสชถุมาชนนกแาลระณสังจครมิงไใดนอ ชยุามงชถนกู แตลอ งะเสหังมคามะสไดม รอวยมางทถ้ังูกมตีทอักงษเหะมการะสบมวนรกวามรทใั้งนมกีทาักรษสืบะกครนะบควนนคกวา รสในรกุปารรวสบืบรควนมขคอนมคูลวาขอสเรทุป็จรจวรบิงรตวั้งมคขําอถมาูลมสขรอาเงทเ็จคจรื่อริงตมั้งือ กคําหถานมดสแรหา ลงงเครวร่ือบงรมวือมขกอํามหูลนดจาแกหสลอื่ ง แรลวบะแรวหมลขงเอรมียูลนรจตู าากงสๆ่ือแแลละะแทหเ่ี ลกงี่ยเวรขียอนงรกูต ับา กงลๆมุ สแาลระะทกเ่ี ากรย่ี เวรียขนอ งรกูอ ับืน่ กลเพมุ อื่สใาชรใะน การนเรําียเสนนรอูอขื่นอมเลูพ่ือกใาชรศในกึ กษารตนอ ําแเสลนะกอาขรอปมรูละกกอาบรอศาึกชษีพามตีคอวแามลตะรกะาหรนปักรแะลกะอเบหอ็นาปชรีพะโยมชีคนวใานมกตารระเขหานรักว มแกลจิะกเหรร็นม ทปรางะภโยาชษนาใแนลกะาวรฒั เขนา ธรรว รมมกติจากมรครวมาทมาสงนภใาจษกาํ แหลนะดวเัฒปานหธมรรามยตในาชมีวคติ วขามองสตนนใจเอกงําไหดนอ ดยเาปงเาหหมมาาะยสในมชวีสิตาขมอารงถตเนผเยอแงไพดร  ปอยระาชงเาหสมมั าพะันสธม ขสอามมูลารขถา เวผสยาแรพในรโปรงรเะรชียานสชัมมุพชันนธ แขลอะมทูลอ งขถาิ่นวสเาปรน ภในาษโรางอเังรกียฤนษชทุมง้ั ชโดนยตแนลเอะทง อแงลถะ่ินรว เมปกนบั หภมาษูค าณอะงั ไกดฤอษยทาง้ั โสดรยาตงสนรเอรคง และรวมกับหมคู ณะไดอยางสรางสรรค เห็นคุณคาของการนาํ ความรูไปใชประโยชนใ นชีวติ ประจาํ วัน มีความรกั ชาติ ศาสน กษัตริย ซ่อื สัตย สุจรติ มีวนิ ัย ใฝเรยี นรู อยอู ยา งพอเพยี ง มุง มัน่ ในการทํางาน รกั ความเปนไทย และมีจิตสาธารณะ รหัสตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม 3/1 – ม 3/5 ต 1.3 ม 3/1 ต 1.1 ม 3/1 – ม 3/4 ต 3.1 ม 3/1 ต 2.1 ม 3/1 – ม 3/2 ต 2.2 ม 3/1 – ม 3/2 ต 4.1 ม 3/1 ต 4.2 ม 3/1 รวมทั้งหมด 17 ตวั ช้ีวดั

4 ฌ4 มาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชี้วัด รชาือ่ ยววิชิชาาภภาาษษาาอองั ังกกฤฤษษพ้นื ฐาน กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาตา งประเทศ รหัสวิชา อ 23101 ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 3 เวลา 60 ชัว่ โมง จาํ นวน 1.5 หนว ยกติ สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐาน ต 1.1 เขา ใจและตีความเร่ืองทฟี่ งและอานจากส่ือประเภทตาง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อยางมีเหตผุ ล ตัวช้วี ัด 1. ปฏบิ ัติตามคาํ ขอรอ ง คาํ แนะนาํ คาํ ช้แี จง และคาํ อธิบายทฟี่ ง และอาน 2. อานออกเสียงขอความ ขาว โฆษณา และบทรอยกรองสนั้ ๆ ถกู ตอ งตามหลกั การอา น 3. ระบุและเขยี นส่ือที่ไมใ ชความเรียงรูปแบบตาง ๆ ใหสมั พนั ธก ับประโยคและขอความท่ีฟงหรอื อาน 4. เลือก/ระบุหวั ขอเรือ่ ง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเรือ่ ง ทฟี่ ง และอานจากส่ือประเภทตา ง ๆ พรอ มทัง้ ใหเ หตผุ ลและยกตวั อยางประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอมูลขาวสาร แสดงความรูสึก และความคิดเหน็ อยางมปี ระสิทธิภาพ ตัวชีว้ ัด 1. สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มลูลเเกกยี่ ี่ยววกกบั ับตตนนเเอองงเรอื่องตา่ างงๆๆใกลต้ตวั ัวสสถถาานนกกาารณ์ ขขา่ า ววเเรรอ่ื ื่องงททอ่ี ่ีอยยใู่ ูนในคคววาามมสนใจ ขสอนงใจสขงั อคงมสงัแคลมะแสล่ือะสสาื่อรสอายรา่องยตา ่องตเนอ ่ือเนง่อืแงลแะลเะหเมหามะาสะมสม 2. ใชค าํ ขอรอง ใหค าํ แนะนาํ คําชี้แจง และคาํ อธิบายอยางเหมาะสม 3. พดู และเขียนแสสดดงงคคววาามมตตอ อ้ งงกกาารรเสเสนนอแอลแะลใะหใคหวค้ าวมาชมว ชยว่ เยหเลหือลอืตอตบอรบับรแบั ลแะลปะฏปิเสฏธเิ กสาธรกใาหรคใหวาค้ มวชาวมยชเว่หยลเอืหใลนอื ใสนถสานถกานารกณาตรณาง์ตๆา่ งอยๆา งอเหยา่มงาเะหสมาะสม 4. พูดและเขยี นเพื่อขอและใหขอ มูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั เรอ่ื งที่ฟง หรืออา นอยางเหมาะสม 5. พูดและเขยี นบรรยายความรูส ึกและความคิดเหน็ ของตนเองเกย่ี วกับเร่อื งตาง ๆ กิจกรรม ประสบการณ และขา ว/เหตุการณ พรอ มทัง้ ใหเหตผุ ลประกอบอยางเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอขอมลู ขา วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตาง ๆ โดย การพูดและการเขยี น ตัวช้วี ัด 1. พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง ประสบการณ ขาว/เหตุการณ/เร่ือง/ประเด็นตา ง ๆ ทอ่ี ยู ความสนใจของสังคม

ญ5 5 สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐาน ต 2.1 เขา ใจความสมั พนั ธระหวา งภาษากับวัฒนธรรมของเจา ของภาษา และนาํ ไปใช ไดอ ยา งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชี้วัด 1. เลอื กใชภ าษา น้าํ เสียง และกิริยาทาทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ วัฒนธรรมของเจาของภาษา 2. อธบิ ายเกี่ยวกับชวี ิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา ของภาษา มาตรฐาน ต 2.2 เขาใจความเหมือนและความแตกตางระหวา งภาษาและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนาํ มาใชอยางถูกตองและเหมาะสม ตัวช้ีวัด 1. เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา งระหวา งการออกเสยี งประโยคชนิดตาง ๆ และการลาํ ดับคําตามโครงสรางประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย 2. เปรียบเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตางระหวา งชวี ิตความเปน อยู และวฒั นธรรม ของเจาของภาษากบั ของไทย และนาํ ไปใชอยา งเหมาะสม สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธก ับกลมุ สาระการเรียนรอู น่ื มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ าษาตางประเทศในการเชือ่ มโยงความรูก บั กลุมสาระการเรียนรูอื่น และ เปน พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู และเปด โลกทัศนของตน ตวั ช้ีวดั 1. คนควา รวบรวม และสรปุ ขอมูล/ขอเทจ็ จรงิ ที่เกย่ี วขอ งกบั กลมุ สาระการเรยี นรูอน่ื จากแหลง การ เกราียรนเรียู แนลระู แนลาํ ะเสนนําอเสดนว อยดกวายรพกาูดรแพลดู ะแกลาะรเกขาียรนเขยี น สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธกับชมุ ชนและโลก มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐาน ต 4.1 ใชภาษาตา งประเทศในสถานการณต า ง ๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ชีว้ ดั 1. ใชภาษาสอื่ สารในสถานการณจรงิ /สถานการณจ าํ ลองที่เกดิ ขนึ้ ในหองเรียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม

ฎ6 6 มาตรฐาน ต 4.2 ใชภาษาตางประเทศเปน เครือ่ งมอื พ้นื ฐานในการศกึ ษาตอ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลย่ี นเรยี นรูก ับสงั คมโลก ตวั ช้ีวดั 1. ใชภาษาตา งประเทศในการสืบคน/คนควา รวบรวม และสรุปความร/ู ขอมลู ตา ง ๆ จากสอื่ และ แหลงการเรียนรตู า ง ๆ ในการศึกษาตอ และประกอบอาชีพ

ฏ7 7 โครงสรางรายวชิ า รหัสวิชา อ23101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปก ารศึกษา 25612 รวมเวลา 54 ชวั่ โมง จาํ นวน 1.5 หนวยกิต หนว ยที่ ชือ่ หนวยการเรียนรู มาตรฐานการ สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นํ้าหนัก เรยี นรู/ตวั ช้วี ัด (ช่ัวโมง) คะแนน 1 My Interests ต 1.1 ม.3/2 สนทนาและโตต อบขอมลู เกยี่ วกับ 7 10 2 Leisure and ต 1.1 ม.3/4 ตนเอง การศกึ ษาและอาชีพ เลือกใช 8 15 ต 1.2 ม.3/4 ภาษาและสาํ นวนในการสือ่ สารใน Entertainment ต 1.2 ม.3/5 สถานการณต าง ๆ เพื่อใชใน 8 15 ต 1.3 ม.3/1 การศกึ ษาและการประกอบอาชีพ 3 Shopping ต 2.1 ม.3/1 ต 3.1 ม.3/1 ฟงประโยค ขอ ความเก่ยี วกับ ต 4.1 ม.3/1 กจิ กรรมยามวา งและนนั ทนาการ พดู ต 1.1 ม.3/2 บพรดู รบยรารยยคาวยาคมวราูส มกึ รสู คกึ วาคมวคาดิมเคหดิ น็ เห็น ต 1.1 ม.3/3 และประสบการณของตนเองเกี่ยวกบั ต 1.1 ม.3/4 กจิ กรรมตาง ๆ ในชีวิตประจําวนั ต 1.2 ม.3/1 พรอ มทัง้ ใหเ หตผุ ลประกอบ อานจบั ต 1.2 ม.3/4 อใจา่ คนวจาับมใจสคําวคาญั มสจาํ าคกัญสจ่ือาสกง่ิ สพือ่ มิ สพิง่ พแ ิมลพะแ ละ ต 1.2 ม.3/5 สอ่ื อิเล็กทรอนิกส พรอมใหเหตผุ ล ต 1.3 ม.3/1 สนบั สนุน เขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ต 2.1 ม.3/1 กิจกรรมยามวางในชวี ิตประจําวัน ต 2.1 ม.3/2 ของตนเอง รวมทั้งเขา รวมกจิ กรรม ต 3.1 ม.3/1 ทางภาษาและวัฒนธรรม เพอ่ื ใช ต 4.1 ม.3/1 ภาษาสื่อสารไดอยางมปี ระสทิ ธิภาพ ต 4.2 ม.3/1 การซื้อสนิ คา และผลติ ภัณฑ รวมถงึ โฆษณาสนิ คาตาง ๆ นกั เรยี นตอง ต 1.1 ม.3/1 เรียนรูคาํ ศพั ท สํานวน โครงสรา ง ต 1.2 ม.3/2 ทางภาษา ตลอดจนวฒั นธรรมที่ ต 1.3 ม.3/1 ต 2.1 ม.3/1 ต 2.2 ม.3/1

8ฐ 8 หนว ยที่ ช่ือหนวยการเรยี นรู มาตรฐานการ สาระสาํ คัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นํ้าหนกั เรียนรู/ตวั ช้ีวดั (ชั่วโมง) คะแนน 4 Travelling ต 3.1 ม.3/1 ทสอ่สี ดอแดทแรทกรใกนใภนาภษาษาสาื่อสสื่อาสราไรดไอดยอ ายงามงีมี 7 10 ต 4.1 ม.3/1 ประสทิ ธิภาพ 7 10 5 Local Products ต 4.2 ม.3/1 8 15 (OTOP) สาํ นวนท่ีใชในการเชิญชวน ตอบรบั ต 1.1 ม.3/1 และปฏเิ สธคาํ เชญิ คาํ แนะนําในการ 6 Stay Fit ต 1.1 ม.3/2 เลนนาํ้ ทีส่ ระนํา้ อยางปลอดภัย การ ต 1.1 ม.3/3 กเขายีรเนขบียนรรบยรารยาโยปโสปกสากราดรด ออีเมีเมลลกกาารรพูด ต 1.1 ม.3/4 สนทนา และแสดงความคิดเห็น ต 1.2 ม.3/1 เกย่ี วกบั ประสบการณ สถานท่ี ต 1.2 ม.3/2 ทองเทีย่ ว การคนควาขอมลู เก่ยี วกับ ต 1.2 ม.3/4 สถานทีท่ องเทย่ี วและคาํ แนะนํา ต 1.2 ม.3/5 เกย่ี วกับ water safety จาก ต 1.3 ม.3/1 อนิ เทอรเน็ต ตลอดจนการแสดง ต 2.1 ม.3/1 บทบาทสมมติ ต 3.1 ม.3/1 ต 4.1 ม.3/1 การอา น การเขยี น และการพูดแสดง ต 4.2 ม.3/1 ความคิดเหน็ เกีย่ วกับผลิตภัณฑใ น ทองถนิ่ (OTOP) นักเรยี นตอ งมี ต 1.1 ม.3/1 ความรเู ก่ียวกับคําศัพท สํานวน และ ต 1.1 ม.3/4 โครงสรางของประโยค สามารถนาํ ไป ต 1.2 ม.3/1 ถายโอนและส่ือสารกบั ผูอ่นื และ ต 1.2 ม.3/4 นาํ ไปใชก ับสาระการเรียนรูอื่นได ต 2.1 ม.3/1 อยา งมีประสิทธภิ าพ ต 2.2 ม.3/2 ต 3.1 ม.3/1 .ใชทกั ษะทางภาษาทั้งทักษะในการ ต 4.1 ม.3/1 ฟง พดู อาน เขยี น คําแนะนํา คํา ต 4.2 ม.3/1 คช้ีแ�ำชจี้แงจคงําอคธําอบิ ธาบิยากยารกอาารนอาฉนลฉากลยากายา โฆษณายา คาํ แนะนาํ เก่ยี วกับการ ต 1.1 ม.3/1 ต 1.1 ม.3/3 ต 1.1 ม.3/4 ต 1.2 ม.3/1

ฑ9 9 หนว ยที่ ช่อื หนวยการเรียนรู มาตรฐานการ สาระสาํ คัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้าํ หนัก เรยี นร/ู ตวั ชว้ี ัด (ชั่วโมง) คะแนน 7 Celebrations ต 1.2 ม.3/2 กอาอรกอกอํากลกงั ํากลาังยกาอยาหอารหาสรขุ สภุขาภพาแพลแะละ 7 10 ต 1.2 ม.3/5 สวสั ดกิ ารนกั เรยี นมคี วามเขา ใจ 8 15 8 Science and ต 3.1 ม.3/1 คาํ ศัพท สํานวน ภาษา โครงสรา ง 60 100 Technology ต 4.1 ม.3/1 ประโยค เพ่ือใชภาษาสอ่ื สารไดอ ยา ง for life อมยปี า่รงะมสปี ิทรธะภิ สาทิ พธิภาพ ต 1.1 ม.3/1 การอานบทอานเก่ียวกับเรื่องท่ี ต 1.1 ม.3/3 นา สนใจ เชน การเฉลิมฉลองของแต ต 1.1 ม.3/4 ละประเทศ วัฒนธรรมการจัดเล้ียง ต 1.2 ม.3/1 ผูเรียนจะไดเรยี นรคู ําศัพท สํานวน ต 1.2 ม.3/3 โครงสรา งประโยค เพ่ือใชใ นการ ต 1.2 ม.3/4 เขียนบรรยายเกยี่ วกบั การเฉลิมฉลอง ต 1.2 ม.3/5 ท่ีตนช่นื ชอบและสูตรอาหารในการ ต 1.3 ม.3/1 เฉลิมฉลองนน้ั ๆ นอกจากนผ้ี ูเรียน ต 1.3 ม.3/2 จะไดฝ กสนทนาเกยี่ วกับการเช้อื เชญิ ต 2.1 ม.3/1 การตอบรบั และปฏิเสธ สามารถ ต 2.1 ม.3/2 นําไปใชใ นชีวติ ประจาํ วนั และเปน ต 2.2 ม.3/2 พน้ื ฐานตอการเรยี นในระดับสูงตอไป ต 4.1 ม.3/1 ต 1.1 ม.3/3 เรยี นรูเกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคต ต 1.1 ม.3/4 ประโยชนของวิทยาศาสตรและ ต 1.2 ม.3/2 เทคโนโลยีท่ีเกย่ี วกบั ชวี ติ ประจําวัน ต 1.2 ม.3/4 การรูเ ทาทนั โทษของการใช ต 1.2 ม.3/5 เทคโนโลยีเกินความจาํ เปน การใช ต 1.3 ม.3/1 เทคโนโลยีอยา งเหมาะสม การขอ ต 2.1 ม.3/1 และใหค ําแนะนาํ เก่ียวกับการใช ต 2.2 ม.3/1 เทคโนโลยีอยา งเหมาะสม ต 3.1 ม.3/1 รวมตลอดภาคเรยี น

10 110 หนว ยการเรยี นรูที่ 1 ชอื่ หนว ยการเรียนรู My Interests รหสั วิชา อ23101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ กลุม สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปก ารศกึ ษา 25612 เวลา 7 ชัว่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตวั ชว้ี ดั สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร มาตรฐานการเรยี นรู ต 1.1 เขาใจและตีความเร่ืองที่ฟงและอานจากส่ือประเภทตาง ๆ และ แสดงความคดิ เหน็ อยา งมีเหตุผล ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวขอเร่ือง ใจความสําคัญ รายละเอียดสนับสนุนและแสดงความคิดเห็น เกย่ี วกบั เรือ่ งที่ฟงและอา นจากสอ่ื ประเภทตาง ๆ พรอ มท้ังใหเหตุผลและยกตวั อยา งประกอบ มาตรฐานการเรียนรู ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอมูล ขาวสาร แสดงความรสู กึ และความคดิ เหน็ อยางมปี ระสทิ ธภิ าพ ตัวชี้วดั ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพ่ือขอและใหข อมูลอธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับ เรื่องทฟ่ี งหรอื อา นอยางเหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรูสึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเรื่องตาง ๆ กิจกรรมประสบการณ และขาว/เหตุการณ พรอ มทง้ั ใหเ หตุผลประกอบอยางเหมาะสม มาตรฐานการเรียนรู ต 1.3 นําเสนอขอมูลขาวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นใน เร่อื งตาง ๆ โดยการพูดและการเขียน ตัวชี้วดั ต 1.3 ม.3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ ขาว/เหตุการณ/เรื่อง/ ประเด็น ตาง ๆ ท่อี ยใู นความสนใจของสังคม สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐานการเรยี นรู ต 2.1 เขาใจความสัมพันธระหวางภาษากับวัฒนธรรมของเจาของภาษา และนาํ ไปใชไดอ ยางเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตัวช้ีวดั ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภาษา น้ําเสียง และกิรยิ าทาทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจาของภาษา

11 121 สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธก ับกลมุ สาระการเรียนรอู นื่ มาตรฐานการเรียนรู ต 3.1 ใชภาษาตางประเทศในการเช่อื มโยงความรูกบั กลุมสาระการเรยี นรู อน่ื และเปน พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู และเปดโลกทศั นข องตน ตวั ชี้วัด ต 3.1 ม.3/1 คนควา รวบรวมและสรปุ ขอ มลู /ขอเท็จจริงที่เก่ียวของกับกลุมสาระการเรียนรูอ่นื จาก แหลงเรยี นรู และนาํ เสนอดว ยการพดู และการเขยี น สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธกบั ชมุ ชนและโลก มาตรฐานการเรียนรู ต 4.1 ใชภาษาตางประเทศในสถานการณตาง ๆ ท้ังในสถานศึกษาชุมชน และสังคม ตัวช้ีวดั ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสอ่ื สารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองท่เี กิดขึน้ ในหองเรยี นสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม 2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด สรุปหัวขอเรื่อง ใจความสําคัญ รายละเอียด และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟงและอาน จากสื่อ ประเภทตาง ๆ พรอ มท้ังใหเหตุผลและยกตัวอยางประกอบ พูดและเขียนเพ่ือขอและใหขอมูล อธิบาย เปรียบเทียบและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองที่ฟงหรืออานอยางเหมาะสม บรรยายความรูสึกและความ คดิ เห็นของตนเองเกยี่ วกับเรอื่ งตา ง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ และขา ว/เหตุการณ อยใู นความสนใจของตนเองหรือ สังคม พรอมท้ังใหเหตุผลประกอบอยางเหมาะสม บรรยายเรือ่ งราวเกี่ยวกับตนเอง ใชภาษา น้ําเสียง และกริยา ทา ทาง เหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจา ของภาษา คนควา รวบรวม และ สรุปขอมูล/ขอเท็จจริงที่เก่ียวของกับกลมุ สาระการเรียนรอู ื่น จากแหลงเรยี นรอู ่ืนจากแหลงเรียนรูและนําเสนอ ดวยการพูดและการเขียน ใชภาษาสื่อสารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองท่ีเกิดข้ึนในหองเรียน สถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม 3. สาระการเรียนรู ความรู (Knowledge) คําศัพทเก่ียวกบั วิชาทเี่ รยี น หลักสตู รพิเศษ อาชีพ การสมคั รงาน โฆษณาสมัครงาน ไวยากรณ/รปู ประโยค Modal: would, will, may, can I like English but I don’t like math. Would you like to study at ……….? What do you want to be in the future?

12 132 ทกั ษะ/กระบวนการ (Skills / Process) 1. ทกั ษะการฟง 2. ทกั ษะการพูด 3. ทกั ษะการอาน 4. ทกั ษะการเขยี น เจตคติ (Attitudes) 1. ม่นั ใจในการใชภ าษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 2. มีมารยาทในการสอื่ สาร 3. รักการเรยี นรแู ละฝกฝนทักษะภาษาอยา งจริงจงั 4. เห็นความสําคัญในการใชทักษะภาษาอังกฤษในการคนควาหาความรูเนื้อหาวิชาท่ีมีความสัมพันธ กบั กลุม สาระวชิ าอืน่ 4. สมรรถนะสําคญั ของผูเ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชวี ติ 44. .คคววาามมสสาามมาารรถถในในกกาารรใชใชเทเ ทคคโนโนโลโลยยี ี 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค 1. มวี ินยั 2. ใฝเรียนรู 3. มุง ม่ันในการทํางาน 6. การประเมินผลรวบยอด ชน้ื งานหรอื ภาระงาน การสนทนาเก่ียวกบั การเรยี นและอาชพี

เกณฑการประเมินผลงาน ช้ินงานหรือภาระงาน 13 143 วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ ผา นเกณฑการประเมนิ ทดสอบความรูดานคําศัพทแ ละ - แบบทดสอบ/ แบบฝก หดั รอ ยละ 70 --ใใบบงงาานน ผานเกณฑการประเมิน ไวยากรณ ในระดบั ดีขน้ึ ไป ผานเกณฑการประเมิน ประเมนิ การพูดและการเขียน แบบประเมนิ การพดู ในระดบั ดีขึ้นไป และการเขยี น สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม การทํางาน เกณฑก ารตัดสนิ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดีมาก คะแนน 14 - 15 หมายถึงหมดาี ยถงึ ดี คะแนน 12 - 13 หมายถึงหมพาอยใถชงึ พอใช้ คะแนน 0 - 11 หมายถึง ปรบั ปรงุ เกณฑการผาน ตัง้ แตร ะดับ ดี ขึน้ ไป

14 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 My Interests แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาตา งประเทศ ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 ขอบเขตเนื้อหา เรอ่ื ง My Favorite Subject ส่อื /แหลงเรยี นรู คําศัพทเ กี่ยวกบั ช่ือวิชา รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 1. บัตรคาํ ศัพทชือ่ วชิ าตา ง ๆ ประโยคคาํ ถามเกยี่ วกบั วิชาท่ีชอบ 2. บตั รคาํ ศพั ทหรือไฟล PowerPoint กิจกรรมการเรียนรู 3. ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง My Favorite Subject จุดประสงคก ารเรียนรู Warm up ดานความรู 1. ครนู ําเสนอคําศพั ทโ ดยใหนักเรยี นชว ยกันคน หาคาํ ตอบเก่ียวกับ ภาระงาน/ช้ินงาน 1. บอกความหมายของคําศัพท สาํ นวน ประโยค - ที่เกย่ี วกบั ช่อื วิชาตาง ๆ ได ช่ือวชิ า 2. ถาม-ตอบเก่ยี วกับวิชาทเี่ รียนโดยใชโครงสรา ง ประโยคท่ีเรยี นได จํานวน 4 คาํ ดังนี้ (1)___ A T___ (2) ___ ___ G ___ I ___ H (3) A ___ ___ (4) ___ U ___ I ___ 2. ครแู จงจุดประสงคการเรียนรใู หน กั เรยี นทราบ ดา นทักษะและกระบวนการ Presentation สามารถพูดแสดงความรสู ึกชอบหรือไมช อบตอวชิ า 3. ครูนําเสนอบัตรคาํ ศัพท/ Power Point ใหน กั เรยี นดเู กย่ี วกบั วิชา ทเ่ี รียนได ตต่า ง ชๆๆเชเช่นน English, math, science, art, etc. ดา นคณุ ลกั ษณะ นักเรียนรว มกนั บอกรายวิชาทเ่ี รยี น และคน หาการใชคําเรยี กชือ่ 1. มีวินยั วชิ า เปนภาษาอังกฤษ 2. ใฝเรียนรู - art หมายถึงวิชาศิลปะ 3. มงุ มั่นในการทาํ งาน - mathematics หมายถงึ วชิ าคณิตศาสตร 154

หนวยการเรยี นรทู ี่ 1 My Interests แผนการจดั การเรียนรูที่ 1 15 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ เร่อื ง My Favorite Subject เวลา 1 ช่วั โมง รายวิชา ภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 3 - English หมายถงึ วชิ าภาษาอังกฤษ - science หมายถึง วชิ าวทิ ยาศาสตร - computer หมายถึงวชิ าคอมพวิ เตอร - library หมายถงึ วิชาหองสมุด - music หมายถงึ วิชาดนตรี - history หมายถงึ วิชาประวตั ิศาสตร - Physical Education หมายถึง วิชาพลศึกษา 4. นกั เรียนอานออกเสยี งคาํ ศัพทพ รอ มกันอยางถกู ตองตาม หลักการอาน 5. ครูถามความหมายคําศัพททีเ่ รียนโดยถามทัง้ หอ งและรายบุคคล 6. ครกู ระตุน และดงึ ความสนใจของนกั เรียน โดยใชคาํ ถามและ คํา ตคอ�ำตบอตบอตไปอนไปี้ นี้ 1. T: What is your favorite subject? S: My favorite subject is …………… 2. T: Do you like math? S: Yes, I do. / No, I don’t. 3. T: What subject do you like? S: I like English and arts but I don’t like math. 165

หนวยการเรียนรทู ี่ 1 My Interests แผนการจัดการเรียนรูท่ี 1 16 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ เรอ่ื ง My Favorite Subject เวลา 1 ชว่ั โมง รายวชิ า ภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3 7. นักเรียนพูดตามครทู ลี ะขอและรว มกนั สรุปโครงสรางการสนทนา ถาม-ตอบเกยี่ วกับวิชาทช่ี อบ Q: What is your favorite subject? A: My favorite subject is ……….. Q: Do you like…………………………? A: Yes, I do. /No, I don’t. Q: What subject do you like? A: I like………. and……….. but I don’t like………………. . Practice 8. นักเรยี นฝกถาม-ตอบเก่ยี วกบั วิชาทชี่ อบ โดยใชโ ครงสรา งประโยค ที่สรปุ ขา งตน 9. นักเรยี นทําใบงานที่ 1 โดยสอบถามเพื่อน จํานวน 5 คน A: What is your favorite subject? B: My favorite subject is math. A: Do you like science? B: No, I don’t. What subject do you like? A: I like English but I don’t like math. 176

หนว ยการเรียนรูท ี่ 1 My Interests แผนการจดั การเรยี นรูที่ 1 17 กลุม สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ เรอื่ ง My Favorite Subject เวลา 1 ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 Production 10. นกั เรียนเขา กลุม กลมุ ละ 3 คน เพื่อชวยกันสรปุ วชิ าทเ่ี พ่อื นชอบ มากที่สุด จํานวน 3 ลาํ ดับหลังจากทาํ กจิ กรรมตามใบงานท่ี 1 เรอื่ ง My Favorite Subject ถาม-ตอบวิชาทเ่ี พื่อนชอบเรียน จาํ นวน 5 คน ตามโครงสรา งทางภาษาที่ไดเรียนมาแลว 11. แตละกลุมสง ตัวแทนนักเรยี นออกมานาํ เสนอหนา ชนั้ เกี่ยวกับ การสรุปรายวชิ าท่เี พื่อนชอบมากท่ีสุด โดยใชร ปู แบบประโยคคือ Most of my friends like………………… 187

การวดั และประเมินผล วิธกี าร เคร่อื งมือทใี ช 18 198 ส่ิงท่ีตองการวัด/ประเมิน ตรวจใบงาน ใบงานท่ี 1 ดานความรู เกณฑ 1. บอกความหมายของ สงั เกตการพูด แบบประเมินการพูด ผานเกณฑการประเมิน คาํ ศัพท สํานวน ประโยค ท่ี สงั เกตพฤตกิ รรม รอยละ 70 เกี่ยวกบั ช่ือวิชาตาง ๆ ได แบบประเมิน 2. ถาม-ตอบเกย่ี วกบั วชิ าท่ี คุณลักษณะ ผา นเกณฑการประเมนิ เรียนโดยใชโครงสราง อันพึงประสงค รอ ยละ 60 ประโยคทเ่ี รียนได ผา นเกณฑการประเมนิ ดา นทกั ษะ/ความรู ในระดับดีขน้ึ ไป สามารถพดู แสดงความรสู ึก ชอบหรือไมชอบตอวิชาที่ เรยี นได ดานคณุ ลกั ษณะ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ รียนรู 3. มงุ มั่นในการทาํ งาน 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู .............................................................................................................................. ปญหาและอปุ สรรค...................................................................................................................... ขอเสนอแนะและแนวทางแกไข................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผสู อน (.......................................................) วันท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. 9. ความคดิ เห็น/ขอเสนอแนะของผบู ริหารหรอื ผูทีไ่ ดรบั มอบหมาย ............................................................................................................................................................ ลงชอื่ ......................................ผตู รวจ (.......................................................) วนั ที.่ .........เดอื น..........พ.ศ.........

19 109 บัตรคาํ ศพั ทที่ 1.1 เรื่อง Subjects หนว ยการเรียนรูท่ี 1 แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 1 เรอ่ื ง My Favorite Subject รายวิชา ภาษาอังกฤษ อ23101 ภาคเรียนท่ี 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 Mathematics Thai English Science Social Studies

20 2110 บัตรคําศพั ทที่ 1.1 เรอ่ื ง Subjects หนวยการเรียนรูท่ี 1 แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 1 เรื่อง My Favorite Subject รายวชิ า ภาษาอังกฤษ อ23101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 3 Computer Science Guidance Physical Education Art Citizenship

21 2121 ใบงานท่ี 1 เรื่อง My favorite subject is English หนวยการเรียนรทู ี่ 1 แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 1 เร่ือง My Favorite Subject รายวชิ า ภาษาอังกฤษ อ23101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี 3 Directions: Ask and answer about favorite subjects. Example: A: What is your favorite subject? B: My favorite subject is math. A: Do you like science? B: No, I don’t. What subject do you like? A: I like English but I don’t like math. 1. Name: ………………………………………………………………………………………. A: What is your favorite subject? B: …………………………………………………………………………………………… A: Do you like ………………………….? B: ……………………………………. What subject do you like? A: ……………………………………. but ……………………………………. 2. Name: …………………………………………………………………………………………... A: What is your favorite subject? B: ……………………………………………………………………………… A: Do you like ……………………….….? B: ……………………………………. What subject do you like? A: ……………………………………. but …………………………………. 3. Name: ………………………………………………………………………………………. A: What is your favorite subject? B: ………………………………………………………………………………………….. A: Do you like ………………………….? B: ……………………………………. What subject do you like? A: ……………………………………. but …………………………………….

22 2132 4. Name: …………………………………………………………………………………………... A: What is your favorite subject? B: ……………………………………………………………………………………………… A: Do you like …………………………..? B: ……………………………………. What subject do you like? A: ……………………………………. but …………………………………… 5. Name: …………………………………………………………………………………………... A: What is your favorite subject? B: ……………………………………………………………………………………………… A: Do you like …………………………..? B: ……………………………………. What subject do you like? A: ……………………………………. but …………………………………

5 5 5 5 5 25 ท่ี ช่อื - นามสกุล 1. กกาารรออออกกเเสสียียงงแแลละะทท�ำาํ นนอองงเสยี ง แบบประเมนิ การพูด 2. เสยี ง คคําำ� ศศพั พั ทท ์ 3. โโคครรงงสสรราา้ งงไไววยยาากกรรณณ์ 4. คคววาามมคคลลอ ่องงแแคคลล่วว 5. คคววาามมพพยยาายยาามมใในนกกาารรสสือ่ ื่อสสาารร 6. 7. คะแนนรวม 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. หมายเหตุ 23 1243

เกณฑ์การใหบ้ คะแนนทกั การพดู 24 รายการการประเมิณ 1 คะแนน 2 เคกะณแนฑนการใหคะแนนรทะ3ักดคษบั ะคะแะกนแานนรนพูด 4 คะแนน 5 คะแนน 1. การออกเสียงและทาํ นองเสยี ง ออกเสียงได แตก็ยากแกการ มกี ารออกเสยี งทผี่ ิดอยูมาก พดู โดยมสี ําเนยี งภาษาแม สามารถออกเสียงใหผูฟง สามารถออกเสยี งถกู ตอง (Pronunciation and ทําความเขา ใจ ปะปนอยบู า ง แตกย็ ังพอ เขาใจไดอ ยา งชดั เจน ชดั เจนกลเ คยี งหรือคลา ยคลึงกบั intonation) เขาใจ ใกลเ คยี งหรือคลา ยคลงึ กบั เจา ของภาษา 2. คําศพั ท (Vocabulary) มีความสามารถในการใช มีความสามารถในการใช มีความสามารถในการใช มคี วามสามารถในการใช มคี วามสามารถในการใช คาํ ศัพทคอนขางจํากัด คาํ ศัพทคอนขางจาํ กัด คําศัพทอยูในระดบั พอใช คาํ ศัพทไดอยา งเหมาะสม คําศัพทในการสนทนาไดอ ยา ง 3. โครงสรางไวยากรณ มีคาํ ศพั ทพื้นฐานสะสมอยู มีคําศัพทพ ้ืนฐานสะสมอยู เหมาะสม อีกท้ังรจู ักใชส าํ นวน (Grammatical structure) เพยี งประมาณ 100 คํา เพยี งประมาณ 200 คํา ใชไ วยากรณผ ิดพลาดอยูบาง มขี อผิดพลาดในการใช ในการสนทนาดว ย แตผูฟ งก็สามารถฟง เขา ใจได ไวยากรณเพียงเลก็ นอ ย แต ใชไวยากรณถ ูกตอ ง สื่อ มีขอผิดพลาดในการใช สามารถใชไวยากรณใ น มิไดทาํ ใหความหมายของ ความหมายของประโยค ไวยากรณอ ยมู าก แมแตใ น วงจํากัด สามารถสนทนาได ประโยคเปลี่ยนไป ไดช ดั เจน ประโยคสนทนางา ย ๆ โดยการใชป ระโยคงา ย ๆ สั้นๆ สามารถพูดไดคลองแคลว แตยงั ไมเ ปนธรรมชาติ สามารถพดู ไดอ ยา ง 4. ความคลอ งแคลว (Fluency) มีการหยุดเวนชวงในการพดู มีการหยุดเวน ชว งในการพูด สามารถพูดตอเนอ่ื งไดพ อใช คลอ งแคลว พดู สนทนาได บอ ยมาก แมแตในประโยค บา ง แตผ ฟู ง สามารถเขา ใจ แตยงั มกี ารหยดุ เวนชวงบา ง เปน ธรรมชาติ ส่ิง ที่พดู ได เลก็ นอ ย สนทนาสั้น ๆ 5. ความพยายามในการส่ือสาร ใชค วามพยายามในการส่อื สาร ใชค วามพยายามในการพูด ใชค วามพยายามท่จี ะพดู ให มคี วามพยายามอยา งจรงิ จงั ใชค วามพยายามมากเปน (Effort to communicate) นอ ย และไมสนใจวา ผูฟงจะ บาง แตไ มพ ยายามมากนัก ผูฟงเขา ใจ โดยพยายามพดู ทจ่ี ะพูดใหผฟู งเขาใจ ใชค วาม พเิ ศษท่จี ะพูดใหผ ฟู ง เขา ใจสามารถ เสริมเติมประโยคบา ง และใช พยายามอยา งมากท่จี ะพดู แสดงออกถงึ ความพยายาม เขาใจในส่ิงทต่ี นพดู หรือไม ในการทจ่ี ะพดู ใหผ ูฟงเขา ใจ ภาษาทาทางเขา ชวยบางใน เสรมิ เพิม่ เติมเพือ่ ความเขา ใจ อยา งสูง ท้ังนําเสียง คําพูด การทาํ ความเขา ใจ ท่ีชัดเจนย่ิงข้นึ และมีการใช กริ ิยาทา ทางเพื่อชวยใหผ ฟู ง ภาษาทา ทางประกอบการพดู เขา ใจในส่ิงทตี นพดู โดยเสรมิ เพม่ิ เติมรายละเอียด 15 24

25 2165 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค “มีวนิ ัย ใฝเ รียนรู มงุ มน่ั ในการทํางาน” หนว ยการเรียนรูท ่ี 1 แผนการจัดการเรยี นรูท ี่ 1 เรื่อง My Favorite Subject รายวชิ า ภาษาอังกฤษ รหัส อ23101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 3 คําช้ีแจง ใหค รูผสู อนสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี นเกี่ยวกบั ความมีวินยั ใฝเ รยี นรู และมุง ม่นั ในการทํางาน โดยพิจารณาจาก เกณฑที่กาํ หนด แลวเขียนผลการประเมินเปนตัวเลขใสล งในชองตามหัวขอท่ีประเมนิ กรณที ต่ี อ งการบนั ทกึ พฤติกรรมทสี่ งั เกต พบเพมิ่ เติมใหบนั ทึกในชองหมายเหตุ เลขที่ ชือ่ -สกุล มีวนิ ยั ใฝเรียนรู มงุ มน่ั หมายเหตุ ในการทํางาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 12 13 14 15 16 17 18 19 20

26 2176 เกณฑก ารประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค “มีวนิ ัย” พฤติกรรมบงชี้ ไมผ าน (0) ผา น (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม (3) ปฏบิ ตั ิตามขอตกลง ของ ไมปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏิบตั ติ นตาม ปฏบิ ัติตนตาม ปฏิบตั ติ นตาม กจิ กรรม และรบั ผิดชอบ ขอตกลง และไม ขอ ตกลงไดบ าง ขอตกลงไดดี ขอตกลงไดด ี และ ในงานท่มี อบหมาย รับผดิ ชอบตอ ประเดน็ และ ไม รับผิดชอบในงานท่ี รบั ผิดชอบในงานท่ี งานทม่ี อบหมาย รับผดิ ชอบตองาน มอบหมายเพยี ง มอบหมาย ทม่ี อบหมาย บางสว น เกณฑการประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค “ใฝเรยี นร”ู พฤติกรรมบงชี้ ไมผ า น (0) ผา น (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3) ต้งั ใจเรยี นเอาใจใส ไมตัง้ ใจเรยี น เขาเรียนตรงเวลา เขา เรยี นตรงเวลา เขา เรียนตรงเวลา ตงั้ ใจเรียนเอาใจ ตั้งใจเรียนเอาใจใส ต้งั ใจเรยี นเอาใจใสแ ละ และมคี วามเพียร ใสแ ละมคี วาม และ มคี วามเพียร มีความเพียรพยายามใน การเรยี นรแู ละเต็มใจ พยายามในการเรียนรู เพยี รพยายาม พยายามในการ รวมกจิ กรรม การเรยี นรูทุกคร้งั และรวมกิจกรรม ในการเรียนรแู ละรว ม เรียนรูและรวม การเรียนรู กจิ กรรมการเรยี นรู กจิ กรรมการเรียนรู บเรายี งนครรูบ้งั างครัง้ บอยครงั้ เกณฑก ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค “มุงม่นั ในการทํางาน” พฤติกรรมบงชี้ ไมผ า น (0) ผาน (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม (3) ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบใน ไมต ้ังใจ ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ต้ังใจและรับผดิ ชอบ งานทีม่ อบหมาย ทาํ งาน ในการทํางานไดรับ ในการทํางานท่ี ในการทาํ งานที่ไดร ับ ทาํ งานดว ยความเพียร ท่ีมอบหมาย มอบหมายใหส าํ เร็จ ไดร บั มอบหมาย มอบหมายใหส าํ เร็จ พยายาม และอดทน ใหส าํ เร็จ มีการปรับปรงุ มีการปรับปรงุ และ เพอ่ื ใหง านสาํ เรจ็ ตาม และพัฒนาการทาํ งาน พัฒนาการทํางาน เปา หมาย ใหดีขึ้น ใหด ีขึ้นภายในเวลา ที่กําหนด

27 หนว ยการเรียนรทู ่ี 1 My Interests แผนการจัดการเรยี นรูที่ 2 เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 3 เรื่อง Interesting Courses ขอบเขตเน้อื หา รายวิชา ภาษาอังกฤษ สอ่ื /แหลง เรยี นรู สํานวนประโยคในการบอกรายละเอยี ดของคอร์ส 1. ภาพอาชีพตา ง ๆ สเรียนพิเศษตาง ๆ If I want to be a singer, I กจิ กรรมการเรยี นรู 2. ภาพกจิ กรรม บัตรคาํ ศัพท /PowerPoint Iwwilil ltatakkeeaassiningginingg ccoouurse. Warm up 3. ใบงานท่ี 2 I can learn how to sing. 1. ครูนาํ เสนอภาพอาชพี จาํ นวน 7 อาชพี แลวสนทนาซกั ถาม นกั เรียน ภาระงาน/ชนิ้ งาน จดุ ประสงคการเรยี นรู T: What do they do? - ดานความรู Ss: He is an …………… / She is a………………. สามารถสนทนาถาม - ตอบเกี่ยวกับคอรสเรยี น T: If you want to be a………………., what course will you พเิ ศษโดยใชโ ครงสรา งประโยคที่ไดเรียนมาได take? Ss: I will take ………………………………. course. ดา นทกั ษะและกระบวนการ 2. ครแู จงจุดประสงคก ารเรยี นรใู หนกั เรียนทราบ พดู สนทนาเกีย่ วรายละเอียดคอรส เรยี นพิเศษได Presentation ดานคุณลกั ษณะ 1. มีวนิ ัย 3. ครนู าํ ประโยคทนี่ ักเรียนตอบมาเขียนลงตารางเพื่ออธบิ ายและ 2. ใฝเรยี นรู 3. มุง ม่ันในการทาํ งาน นาํ เสนอโครงสรา งประโยคเง่ือนไข Conditional Result If I want to be a singer, I will take a sinnggiinnggcourse. If I want to be a chief, cI owuilrlstea.ke a cooking course. If I want to be a boxer, I will take a cooking 2178

กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาตา งประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 28 หนวยการเรยี นรูท ี่ 1 My Interests If I want to be an actor, I will take a boxing กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ เวลา 1 ชวั่ โมง If I want to be a course. ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 3 magician, แผนการจดั การเรIียwนilรlูทtี่a2ke an acting If I want toเbร่อืeงa InterestingcoCuorusres.es businessman, รายวชิ า ภาษาอI ังwกilฤlษtake a jogging IIffIfII Iwwwaaannntttttootobbbeeeaaanfnoaoactctbotoar,rl,l IcIowwuilirlsletta.akke a boxxiinnggcourse. pIfIlfIaIwywearan,ntttotobbeeaa magician, cI Iowwuilirlsletta.ake an acting course. mIfaIgwicainatnt,o be a businessman, IbIwuwsilinllettasaksecoanujorasgecgi.tninggcourse. IfIfI Iwwaanntttotobbeeaa football IcIowwuilirlsletta.ake a bfouositnbeaslslcourse. IcIowwuilirlsletta.ake a fjooggtbinagll course. bpulsainyers,sman, If I want to be a football course. player, I will take a 4. ครนู าํ เสนอบทสนทนาในการถาbมus–inตeอsบsเcกoี่ยuวrกsับeค. อรสเรียน พเิ ศษท่ีนา สนใจโดยใชโ ครงสรางทI่ไี ดwเ iรllยี นtaรkูมeาa football T: What can I do in cookicnogucroseu.rse? S: You can learn how to cook. T: If you want to be a chef, what will you study? 4. คSร:นู Iําwเสiนllอsบtuทdสyนทcoนoาใkนinกgา.รถาม – ตอบเกีย่ วกับคอรส เรียน พเิ ศษทีน่ าสนใจโดยใชโ ครงสรางที่ไดเรยี นรูมา 28 2189 T: What can I do in cooking course? S: You can learn how to cook. T: If you want to be a chef, what will you study? S: I will study cooking.

หนวยการเรยี นรูที่ 1 My Interests แผนการจดั การเรียนรูที่ 2 29 กลุมสาระการเรยี นรูภาษาตางประเทศ เร่ือง Interesting Courses เวลา 1 ช่วั โมง รายวิชา ภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 Practice 5. นกั เรยี นจบั คู ฝกสนทนาสอบถามรายละเอียดของสิ่งที่นักเรียน และเพื่อนสนใจจะเรยี นพเิ ศษเพิ่มเติม โดยครแู นะนาํ เพม่ิ เติมวา นอกเหนือจากตัวอยางท่ีครนู ํามาเสนอยงั มีคอรสอะไรอีกท่ีนกั เรยี น รจู ัก เชน football course , boxing course, weaving course, dancing course, swimming course. A: What can I do in singing course? B: You can learn how to sing. A: If you want to be a singer, what will you study? B: I will study singing. A: What can I do in football course? B: You can learn how to play football. A: If you want to be a football player, what will you study? B: I will study playing football. 6. นกั เรยี นทําใบงานท่ี 2 โดยใชป ระโยคเหลา นีส้ อบถามเพ่ือน จํานวน 5 คน แลวจดบนั ทกึ คําตอบลงในใบงานที่ 2 2290

หนวยการเรียนรทู ่ี 1 My Interests แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 2 30 กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ เรื่อง Interesting Courses เวลา 1 ชั่วโมง รายวชิ า ภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3 S1: If you want to be a/an ………., what will you study? studty? S2: I will study a/an……………………. course. S1: If you want to learn how to ……., what will you study? studty? S2: I will study a/ an ……………. course. Production 7. นักเรยี นสรปุ ขอมลู จากการสอบถามเพ่ือน นกั เรยี นสว นใหญ สนใจเรยี นพิเศษวิชา(คอรส )อะไรบา งและรวมถึงความสนใจของ ตนเอง ตามรปู แบบดังนี้ แบบที่ 1 กรณชี อบเหมือนเพื่อน Most of my friends want to be a/ an …………………………. . They want to study a/ an ………………. course and they want to learn how to ………….... . And I want to be a / an ………………., I want to study ………… course and I want to learn how to……… . 3201

หนวยการเรียนรทู ี่ 1 My Interests แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 2 31 กลุม สาระการเรยี นรภู าษาตางประเทศ เร่ือง Interesting Courses เวลา 1 ชั่วโมง รายวชิ า ภาษาอังกฤษ ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 แบบที่ 2 กรณีชอบไมเหมือนเพื่อนสวนใหญ Most of my friends want to be a/ an …………………………. . They want to study a/ an …………………. course and they want to learn how to ……………….... . But I want to be a / an ………………., I want to study ………… course and I want to learn how to………… . 31 22

32 3232 การวดั และประเมินผล ส่ิงที่ตองการวัด/ประเมนิ วิธีการ เครอื่ งมอื ทใี ช เกณฑ ดานความรู ใบงานท่ี 1 ผา นเกณฑการประเมิน 1. บอกความหมายของ ตรวจใบงาน รอ ยละ 70 คาํ ศัพท สํานวน ประโยค ท่เี กี่ยวกับชื่อวชิ าตาง ๆ ได 2. ถาม-ตอบเก่ยี วกบั วชิ าที่ เรียนโดยใชโครงสรางประโยค ท่เี รียนได ดา นทกั ษะ/ความรู แบบประเมินการพดู ผา นเกณฑการประเมิน สามารถพูดแสดงความรสู ึก สังเกตการพดู รอ ยละ 60 ชอบหรอื ไมช อบตอ วชิ า ท่เี รยี นได ดานคณุ ลักษณะ 1. มวี ินัย สังเกตพฤติกรรม แบบประเมิน ผา นเกณฑการประเมิน คณุ ลักษณะ ในระดบั ดีขน้ึ ไป 2. ใฝเรยี นรู อนั พงึ ประสงค 3. มงุ มัน่ ในการทาํ งาน 8. บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรียนรู ................................................................................................................................................ ปญหาและอุปสรรค....................................................................................................................................... ขอเสนอแนะและแนวทางแกไ ข ..................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผูสอน (.......................................................) วันที่..........เดอื น..........พ.ศ............. 9. ความคดิ เหน็ /ขอ เสนอแนะของผูบ ริหารหรอื ผูทไี่ ดรับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................ผูตรวจ (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ.........

บตั รภาพที่ 2 เร่ือง Interesting Courses 33 3243 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 1 แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 2 เรือ่ ง Interesting Courses 55 รายวิชา ภาษาอังกฤษ อ23101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 บตั รภาพที่ 4.1 เรื่อง What do you want to be in the future? หนวยการเรียนรูท ี่ 1 แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 4 เร่ือง My Favorite Job รายวิชา ภาษาอังกฤษ อ23101 ภาคเรียนที่ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3 ทม่ี า: www.googleimage.com ท่มี า: www.googleimage.com

34 3254 ใบงานที่ 2 เรอื่ ง Interesting Courses หนว ยการเรยี นรทู ี่ 1 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 2 เรื่อง Interesting Courses รายวิชา ภาษาอังกฤษ อ23101 ภาคเรียนท่ี 1 ช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 3 Directions: Do a survey by asking your friends with the questions given. Making a survey 1. Name …………………………………………………………………. A: What do you want to be? B: I want to be a/ an………..………………………. A: What course will you take? B: I will take a/ an………..…………………………. A: What can you do in a/ an ……… course? B: I can learn how to ……………………………… 2. Name ………………………………………………………………. A: What do you want to be? B: …………………………………………………………… A: What course will you take? B: ……………………………………………………..……… A: What can you do in a/ an ………………… course? B: ………………………………………………………………. 3. Name …………………………………………………………………. A: What do you want to be? B: …………………………………………………………… A: What course will you take? B: ……………………………………………………………. A: What can you do in a/ an ………………… course? B: …………………………………………………………….. 4. Name …………………………………………………………………. A: What do you want to be? B: …………………………………………………………... A: What course will you take? B: ……………………………………………………………. A: What can you do in a/ an ………………… course? B: …………………………………………………………….. 5. Name …………………………………………………………………… A: What do you want to be? B: ……………………………………………………….. A: What course will you take? B: ……………………………………………………………. A: What can you do in a/ an ………………… course? B: ……………………………………………………………….

5 5 5 5 5 25 ที่ ช่อื - นามสกุล 1. 2. กกาารรออออกกเเสียงและท�ำาํ นนอองงเสียง แบบประเมนิ การพูด 3. คเสคํายีำ� ศศงพั ัพทท ์ 4. โโคครรงงสสรรา้างงไไววยยาากกรรณณ์  5. คคววาามมคคลลอ ่องงแแคคลลว่ว 6. คคววาามมพพยยาายยาามมใในนกกาารรสสอ่ื ื่อสสาารร 7. 8. คะแนนรวม 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. หมายเหตุ 35 3265

เกณฑก์ ารให้บคะแนนทักการพดู 36 รายการการประเมณิ เ2กณคะฑแก นานรใหค ะแนนทกั ษะรกะ3าดครบั พะคแูดะนแนนน 1 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน 1. การออกเสียงและ ออกเสยี งได แตก ็ยากแก มกี ารออกเสียงที่ พูดโดยมีสําเนยี งภาษา สามารถออกเสียงใหผ ฟู ง สามารถออกเสียง ทาํ นองเสียง การทาํ ความเขาใจ ผดิ อยูมาก แมปะปนอยบู าง แตก ็ยัง เขาใจไดอยา งชัดเจน ถกู ตอง ชดั เจน (Pronunciation and พอเขาใจ ใกลเคยี งหรือคลายคลึง intionntoantiaotnio)n) กับเจาของภาษา 2. คาํ ศพั ท (Vocabulary) มคี วามสามารถในการใช มีความสามารถในการใช มีความสามารถในการใช มคี วามสามารถในการใช มีความสามารถในการใช คาํ ศัพทค อนขางจํากดั คาํ ศัพทค อนขา งจํากดั คาํ ศัพทอยูในระดับ คําศัพทไ ดอ ยา ง คําศัพทในการสนทนาได มีคาํ ศพั ทพื้นฐานสะสม มคี ําศัพทพ ื้นฐานสะสม พอใช เหมาะสม อยา งเหมาะสม อีกทั้ง อยูเพียงประมาณ อยูเ พยี งประมาณ รูจักใชสาํ นวนในการ 100 คาํ 200 คาํ สนทนาดวย 3. โครงสรา งไวยากรณ มขี อ ผดิ พลาดในการใช สามารถใชไ วยากรณ ใชไวยากรณผดิ พลาดอยู มีขอ ผิดพลาดในการใช ใชไ วยากรณถูกตอง ในวงจาํ กดั สามารถ บา งแตผฟู งกส็ ามารถฟง ไวยากรณเ พียงเล็กนอย ส่อื ความหมายของประโยค (Grammatical ไวยากรณอยมู าก structure) แมแ ต ในประโยค สนทนาไดโดยการใช เขาใจได แตม ไิ ดทาํ ใหค วามหมาย ไดชดั เจน สนทนางาย ๆ ประโยคงา ย ๆ สั้นๆ ของประโยคเปล่ียนไป 4. ความคลองแคลว มกี ารหยดุ เวน ชว งในการ มกี ารหยดุ เวนชวงในการ สามารถพูดตอ เนื่องได สามารถพูดได สามารถพูดไดอยาง (Fluency) พดู บอยมาก แมแ ตใน พูดบาง แตผูฟงสามารถ พอใช แตยังมกี ารหยุด คลอ งแคลว คลอ งแคลว พดู สนทนา ประโยคสนทนาสัน้ ๆ เขาใจส่งิ ที่พดู ได เวน ชว งบางเล็กนอ ย แตย งั ไมเปน ธรรมชาติ ไดเปน ธรรมชาติ 3627

เกณฑก์ ารให้บคะแนนทกั การพูด รายการการประเมณิ ระดบั คะแนน 37 3 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน 5. ความพยายามในการ ใชความพยายามในการ ใชค วามพยายาม ใชค วามพยายามท่จี ะพดู มีความพยายามอยา ง ใชค วามพยายามมาก สือ่ สาร สอ่ื สารนอ ย และไม ในการพูดบาง แตไมพ ยายาม ใหผ ูฟ ง เขาใจ โดย จรงิ จังท่ีจะพูดใหผ ฟู ง เขา ใจใช เปน พิเศษท่จี ะพดู ใหผ ฟู ง เขา ใจ (Effort to สนใจวา ผูฟง จะเขาใจใน มากนกั ในการที่จะพูดใหผูฟง พยายามพดู เสริมเติม ความพยายามอยา งมาก สามารถแสดงออกถงึ communicate) สิ่งท่ตี นพูดหรือไม เขา ใจ ประโยคบา ง และใช ทจี่ ะพูดเสริมเพิม่ เตมิ ความพยายามอยา งสงู ภาษาทา ทางเขา ชว ยบาง เพือ่ ความเขา ใจท่ีชดั เจน ทั้งนาํ เสยี ง คําพดู กิริยา ในการทาํ ความเขา ใจ ยิ่งข้นึ และมีการใชภ าษา ทาทางเพ่ือชว ยใหผ ฟู ง ทา ทางประกอบการพดู เขา ใจในส่ิงท่ตี นพดู โดย เสริมเพ่ิมเตมิ รายละเอียด 3278

38 29 38 แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค “มีวนิ ัย ใฝเ รียนรู มงุ มน่ั ในการทํางาน” หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 1 เรือ่ ง My Favorite Subject รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหสั อ23101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3 คาํ ชแ้ี จง ใหค รผู ูสอนสงั เกตพฤติกรรมนักเรียนเกยี่ วกับความมีวินัย ใฝเรยี นรู และมุงมั่นในการทํางาน โดย พิจารณาจากเกณฑที่กําหนด แลว เขยี นผลการประเมนิ เปน ตัวเลขใสล งในชองตามหัวขอ ทป่ี ระเมนิ กรณที ่ี ตองการบนั ทึกพฤติกรรมท่ีสังเกตพบเพ่มิ เติมใหบนั ทกึ ในชองหมายเหตุ มงุ มน่ั ใน เเลลขขทที่ี่ ชช่ือ่อื -ส-สกกุลลุ มมีวีวนินิ ยัยั ใฝใเฝรเ่ียรนียรนู รู้ ทมกาํ ุงา่งารมทน่ันำ� งใานนการ หมหามยาเหยตเหุ ตุ 11 2 3 4 55 1698768970 1120 131 142 153 1164 1175 112111098867 19 20

39 309 เกณฑก ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค “มวี ินัย” พฤติกรรมบง ชี้ ไมผ า น (0) ผาน (1) ดี (2) ดเี ย่ียม (3) ปฏบิ ตั ิตามขอตกลง ของ ไมปฏิบตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏบิ ัติตนตาม ปฏิบัติตนตาม กจิ กรรม และรับผดิ ชอบ ขอ ตกลง และไม ขอตกลงไดบาง ขอตกลงไดดี ขอตกลงไดด ี และ ในงานที่มอบหมาย รับผิดชอบตอ ประเด็น และ ไม รบั ผดิ ชอบในงานที่ รบั ผิดชอบในงานที่ งานที่มอบหมาย รไมบั ร่ ผบั ดิ ผชดิ อชบอตบอตงอ่านงาน ทม่ีอมบอหบมหายมเาพยียเงพียง ทมมี่ออบบหหมมายาย ที่มอบหมาย บางสว่ น เกณฑก ารประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค “ใฝเ รยี นร”ู พฤติกรรมบงช้ี ไมผ า น (0) ผาน (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม (3) เขาเรยี นตรงเวลา ต้ังใจเรียนเอาใจใส ไมต งั้ ใจเรยี น เขา เรียนตรงเวลา เขาเรยี นตรงเวลา ตงั้ ใจเรียนเอาใจใสและ มคี วามเพียรพยายามใน และมคี วามเพยี ร ตง้ั ใจเรียนเอาใจ ตัง้ ใจเรยี นเอาใจใส การเรยี นรูและเต็มใจ รว มกจิ กรรม พยายามในการเรียนรู ใสและมีความ และ มคี วามเพยี ร การเรียนรทู ุกครั้ง และรวมกจิ กรรม เพยี รพยายามใน พยายามในการ การเรยี นรู กกาารรเรียนรู้และร่วม กเรายี รนเรียูแ นลระูแรลว มะรวม กเิรจียกนรรแูมลกะารรวเมรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู บกาจิ งกครรรั้งมการ บอ ยครงั้ เรยี นรูบางครั้ง เกณฑการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค “มงุ มั่นในการทํางาน” พฤตกิ รรมบงชี้ ไมผาน (0) ผาน (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม (3) ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบใน ไมต้งั ใจ ต้งั ใจและรบั ผิดชอบ ต้ังใจและรบั ผิดชอบ ตั้งใจและรับผิดชอบ งานทม่ี อบหมาย ทํางาน ในการทํางานไดร ับ ในการทาํ งานที่ ในการทํางานท่ไี ดร บั ทํางานดว ยความเพียร ทีม่ อบหมาย มอบหมายใหส าํ เร็จ ไดร บั มอบหมายให มอบหมายใหส ําเร็จ พยายาม และอดทน สาํ เร็จ มีการ มีการปรบั ปรุงและ เพอ่ื ใหง านสําเร็จตาม ปรบั ปรุงและ พัฒนาการทํางาน เปา หมาย พัฒนาการทํางาน ใหด ีขน้ึ ภายในเวลา ใหดีขึ้น ทกี่ ําหนด

40 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 My Interests แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 3 เวลา 1 ชวั่ โมง กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3 เรอ่ื ง Further Study รายวชิ า ภาษาอังกฤษ สอ่ื /แหลงเรียนรู 1. เกมตออักษร ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรียนรู 2. บัตรคาํ ศพั ทท ี่ 3.1 และ 3.2 3. บัตรภาพนกั เรยี นและหองเรยี นของ คําศัพทเกยี่ วกบั ประเภทสถานศกึ ษา ระดบั Warm up โรงเรียน (ใหครผู สู อนเตรียมภาพโรงเรยี น รกะาดรบัศกึกาษราศกึกษาราใแชลภะากษาารใในชภ้กาาษรสาใอนบกถาารมสขออบมถลูามขอ้ มลู 1. นักเรียนเลน เกมแขงขันตออกั ษรเปนคําศัพท ตนเอง) 4. ใบงานท่ี 3 เร่ือง Further Study เกีย่ วกับการศึกษาตอ PRIMARY แบงนกั เรียนเปนกลุม กลุมละ 4 คน ใหชวยกนั เรยี งอักษรเปน จุดประสงคก ารเรยี นรู คําศัพท เม่ือตอไดถูกตองแลว ครูถามนกั เรียน ดา นความรู T: What does this word mean? Primary means … 1. บอกความหมายคําศัพทเ ก่ียวกับประเภทของ Ss: ประถม/ขนั้ ตน สถานศกึ ษาได 2. ครูแจงจดุ ประสงคก ารเรยี นรใู หนักเรียนทราบ 2. ถามตอบโดยใชโครงสรางประโยคทเ่ี รียนได Presentation ดานทกั ษะและกระบวนการ 3. คณุ ครูนาํ เสนอคาํ ศัพทเ กย่ี วกบั ระดับการศกึ ษาโดยใชรูปภาพ พูดสนทนาเก่ยี วกับการศึกษาตอ นกั เรยี นและหองเรียนของโรงเรียนประกอบ ครูอานออกเสียง ดา นคณุ ลกั ษณะ คําศัพททีละคํา นกั เรียนฝก อานตามอยา งถกู ตอ งตามหลักการอา น 1. มวี ินัย nursery, kindergarten, primary school, secondary school, high school, college , university 2. ใฝเ รยี นรู 4. ครูถามนักเรียนเก่ยี วกับขอมูลสถานศึกษาแตละระดับในหัวหนิ 3. มุงมน่ั ในการทํางาน เชน 4301


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook