ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๕ ข้นั สอน 91 ขั้นสรปุ แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล ทบทวนจำนวน 1 ถงึ 10 และ 0 แนะนำและสำธติ กำรเปรยี บเทียบจำนวนสองกลมุ่ จำกสอื่ ของจรงิ บตั รภำพ และบัตรตัวเลข ฝึกปฏิบัตกิ ำรเปรียบเทยี บ ทำแบบฝึกหัด 1.13 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ วำ่ จำนวนสองจำนวนเม่ือนำมำเปรยี บเทยี บกัน จะเทำ่ กัน มำกกว่ำกนั หรอื นอ้ ยกว่ำกัน อยำ่ งใดอย่ำงหนึง่ เพยี งอย่ำงเดยี วเท่ำนนั้ - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หดั 1.13 - ประเมนิ จำกกำรสอ่ื สำรและสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์และกำรใหเ้ หตผุ ล
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๕ 92 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ช้นั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง ขอบเขตเนือ้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหล่งเรียนรู้ การเปรียบเทยี บจานวน 1 ถงึ 10 และ 0 ขั้นนา 1. ของจริง เชน่ ช้อน สอ้ ม แก้วนา้ จานรองแกว้ แปรงสีฟนั ยาสีฟัน สาระสาคญั 1 ครทู บทวนจานวน 1 ถึง 10 และ 0 ด้วยสื่อของจริง บัตรภาพแสดงจานวน หน่งึ ถงึ สบิ ยางลบ ดินสอ หนงั สือ สมดุ และศูนย์ และบตั รตัวเลข 1 ถึง 10 และ 0 ลกู ปงิ ปอง ลูกบอล ตะกรา้ ผลไม้ จานวนสองจานวนเมอ่ื นามา จาน ไมบ้ รรทัดและอ่นื ๆ เปรยี บเทยี บกัน จะเทา่ กัน มากกวา่ กนั ขั้นสอน 2. บัตรภาพทแี่ สดงจานวน “หนึ่ง” ถึง หรือนอ้ ยกว่ากนั อย่างใดอยา่ งหน่งึ เพียง “สบิ ” และ “ศนู ย์” อย่างเดียวเทา่ นน้ั 2. การสอนการเปรียบเทยี บจานวนทีเ่ ท่ากัน ครูอาจจดั กจิ กรรม ดงั น้ี 3. บัตรตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก 1 ถึง 10 2.1 ครจู ดั เก้าอ้ีไวห้ น้าห้อง 5 ตัว ใหน้ กั เรยี น 5 คนออกมาน่งั บนเกา้ อี้คนละ 1 ตัวครูถามว่า และ 0 จุดประสงค์การเรยี นรู้ เกา้ อ้ี 5 ตัว กบั นักเรียน 5 คน เท่ากันหรอื ไม่ (เทา่ กนั ) ใหน้ ักเรียนบอกเหตุผล (จบั คูไ่ ด้พอด)ี ครูบอกวา่ 4. บตั รภาพแสดงจานวนไม่เกิน 10 ถ้าจับคู่ได้พอดี แสดงวา่ นักเรียนท้ังสองกลุ่มมจี านวนเท่ากัน 5. บตั รภาพสง่ิ ของ 2 กลุม่ ด้านความรู้ 2.2 ให้นักเรียนจัดสงิ่ ของ 2 กลุ่ม เชน่ นกั เรียนหญิง 6 คน กับนักเรยี นชาย 6 คน 6. แบบฝึกหัด 1.13 เพอื่ ใหน้ กั เรยี นสำมำรถเปรียบเทยี บ ชอ้ น 8 คัน กับ สอ้ ม 8 คนั ใหจ้ ับกนั เป็นคู่ ๆ ใหน้ ักเรยี นสังเกตวา่ จบั คูได้พอดี แสดงว่าสง่ิ ของสองกลุ่มมี จำนวนนับไม่เกิน 10 สองจำนวน จานวนเทา่ กนั การประเมิน ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ 2.3 ใหน้ กั เรียนเปรยี บเทียบจานวนโดยการจับคู่ ด้วยของจริงหรือบตั รภาพ อีก 2 -3 ตัวอย่าง 1. วธิ ีการ เพ่ือให้นักเรียนสำมำรถ เช่น 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 1. สอ่ื สำรและสือ่ ควำมหมำย 1.2 ตรวจแบบฝึกหดั ทำงคณิตศำสตร์ 2. ให้เหตุผล
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑๕ ชน้ั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 93 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 2. เครอื่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หดั 1.13 จนนักเรียนเขา้ ใจว่า เมื่อจบั คู่ไดพ้ อดี แสดงวา่ ส่ิงของสองกลุม่ มีจานวนเทา่ กนั 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ 3. การสอนการเปรียบเทียบจานวนทไ่ี ม่เทา่ กนั ครอู าจจัดกิจกรรม ดังนี้ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 3.1 ครจู ัดนกั เรียนออกมาหน้าหอ้ ง 2 กลมุ่ กลุ่มท่ี 1 มีนักเรยี น 7 คน กลุ่มที่ 2 มนี ักเรียน 4 3. เกณฑ์ คน ยืนหันหน้าเขา้ หากนั ให้นักเรียนกล่มุ ที่ 1 จบั มอื กับนักเรียนกลุ่มท่ี 2 เป็นคู่ ๆ ซ่ึงจะจับคู่ไดไ้ มพ่ อดี จะ 3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ เหน็ วา่ นักเรียนกลุ่มที่ 1 จานวน 3 คน ไม่มีคทู่ ่ีจะจบั ครบู อกวา่ ถา้ จับคู่ได้ไมพ่ อดี แสดงว่านกั เรยี นทง้ั สอง ร้อยละ 80 กลุ่มมจี านวนไมเ่ ท่ากัน 3.2 คะแนนรวม ด้านทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไมน่ ้อย 3.2 ให้นกั เรียนจดั สิ่งของ 2 กล่มุ เชน่ แปรงสีฟัน 1 อนั กบั แก้วน้า 6 ใบ กวา่ ร้อยละ 60 -ไมบ้ รรทดั 7 อัน กับ ดินสอ 10 แท่ง ให้จบั กนั เป็นคู่ ๆ ให้นกั เรยี นสงั เกตว่าจับคู่ได้ไม่พอดี ยังมสี ิ่งของท่ไี ม่มี คูใ่ หจ้ ับ แสดงวา่ สงิ่ ของสองกลุ่มมจี านวนไมเ่ ท่ากนั 3.3 ให้นกั เรยี นเปรียบเทยี บจานวนโดยการจับคู่ ด้วยของจรงิ หรือบัตรภาพ อกี 2 -3 ตัวอย่าง เช่น จนนกั เรียนเขา้ ใจว่า เม่ือจบั คู่ไดไ้ มพ่ อดี แสดงว่าทงั้ สองกล่มุ มจี านวนไมเ่ ท่ากนั
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑๕ ชน้ั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 94 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ 4. การสอนการเปรียบเทยี บจานวนโดยใช้คาว่า มากกว่า น้อยกวา่ ครูอาจจัดกจิ กรรม ดังนี้ 4.1 ครจู ัดนักเรยี นออกมาหน้าหอ้ ง 2 กลมุ่ กลุม่ ที่ 1 มีนักเรียน 6 คน กลุ่มท่ี 2 มนี ักเรยี น 8 คน ยนื หันหนา้ เขา้ หากนั ใหน้ ักเรียนกลุ่มท่ี 1 จบั มือกบั นักเรียนกลุ่มที่ 2 เป็นคู่ ๆ จากนัน้ ครูถามว่า จานวนนักเรยี นทั้งสองกลุ่มเทา่ กันหรอื ไม่ (ไม่เท่ากนั ) - ทราบได้อยา่ งไร (จับคู่แล้วไม่พอดี) - เม่อื จับคู่แล้วมีนักเรยี นกลุม่ ใดเหลืออยู่ (กลุม่ ท่ี 2) ครแู นะนาวา่ เม่ือจบั คู่แลว้ กล่มุ ทมี่ ีนักเรียนเหลืออยู่ จะมจี านวนนักเรียนมากกว่า กลุม่ ทจี่ ับคแู่ ล้วไมม่ ี นักเรยี นเหลอื อยู่ จะมีจานวนนกั เรียนนอ้ ยกวา่ 4.2 ใหน้ ักเรียนเปรียบเทียบจานวนโดยการจับคู่ ด้วยของจริงหรือบตั รภาพ อีก 2 -3 ตัวอย่าง เชน่ จนนักเรียนเข้าใจว่า เม่ือจบั คู่กันไดไ้ ม่พอดี แสดงว่าทัง้ สองกลมุ่ มีจานวนไม่เทา่ กัน กลุ่มท่ีจบั คู่แล้วมขี อง เหลืออยูจ่ ะมีจานวนมากกว่า อีกกลุ่มหนงึ่ มีจานวนน้อยกวา่
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๕ ชัน้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 95 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ 5. การสอนการเปรียบเทยี บจานวนโดยใชค้ าว่า เท่ากนั มากกวา่ นอ้ ยกวา่ ครูอาจจดั กจิ กรรม ดงั นี้ 5.1 ให้นักเรียนปฏิบัตจิ ับคสู่ ง่ิ ของสองกลมุ่ เชน่ จบั คูร่ ะหว่าง - ลกู ปงิ ปองกับลกู บอล - หนงั สอื กับสมุด - ดนิ สอกบั ยางลบ เพื่อบอกวา่ สิ่งของสองกลุ่มน้ันมจี านวนเทา่ กัน มากกว่า หรอื น้อยกว่า 5.2 ครูตดิ บัตรภาพส่ิงของ 2 กลุม่ โดยแตล่ ะกลุ่มแสดงจานวนไม่เกนิ 10 บนกระดาน ให้ นกั เรยี นออกมาเขียนตัวเลขแสดงจานวนส่ิงของในแตล่ ะกลมุ่ แล้วช่วยกนั บอกว่า จานวนใดมากกวา่ จานวน ใด จานวนใดนอ้ ยกว่าจานวนใด จานวนใดเทา่ กบั จานวนใด จานวนใดไม่เท่ากับจานวนใด เชน่ 10 ไมเ่ ทำ่ กับ 7 มำกกว่ำ สรปุ ว่ำ 10 นอ้ ยกว่ำ 7 10 7 7 10
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๕ ช้ัน ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 96 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 5.3 ใหน้ กั เรยี นออกมาครั้งละ 2 คน หยบิ บัตรที่ครูเตรยี มไว้คนละ 1 บตั ร แล้วนาบตั รภาพไปตดิ บนกระดาน และเขยี นตัวเลขแสดงจานวนใตภ้ าพ จากนั้นใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั บอกวา่ จานวนทางซา้ ย เท่ากบั มากกว่า หรอื น้อยกว่า จานวนทางขวา เช่น 36 สรุปว่ำ............................................... …..……………………………………. …….………………………………….. 98 สรุปวำ่ ............................................... ……………………………………. …………………………………..
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๑๕ ช้นั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 97 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ จากนนั้ ให้นกั เรียนทาแบบฝึกหัด 1.13 ขน้ั สรปุ 2 6. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ วา่ จานวนสองจานวนเมอื่ นามาเปรยี บเทียบกัน จะเทา่ กัน มากกวา่ กนั หรือน้อยกว่ากัน อย่างใดอย่างหนงึ่ เพยี งอยา่ งเดยี วเทา่ นั้น
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๖ ขัน้ สอน 98 ขน้ั สรปุ แนวการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ทบทวนจำนวนนับ 1 ถึง 10 และ 0 และกำรเปรยี บเทยี บจำนวน แนะนำและสำธติ กำรเรยี งลำดับจำนวน จำกสอื่ แผน่ ตำรำงหำ้ บตั รภำพแสดงจำนวน และบัตรตวั เลข ฝึกปฏบิ ัตกิ ำรเรียงลำดับจำนวน ทำแบบฝกึ 1.14 ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปว่ำกำรเรียงลำดบั จำนวน ทำไดโ้ ดยเปรยี บเทียบจำนวนนบั ทีละคู่ แล้วเรยี งลำดบั จำกน้อยไปมำก หรือมำกไปน้อย - ประเมินจำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหดั 1.14 - ประเมินจำกกำรส่ือสำรและสือ่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์และกำรให้เหตผุ ล
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๖ ช้ัน ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 99 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเนื้อหา ส่อื /แหล่งเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การเรียงลาดบั จานวน 1 ถงึ 10 ขั้นนา 1. ของจริง เช่น ยางลบ ดินสอ และ 0 ไม้บรรทดั และอื่น ๆ 1. ครทู บทวนจานวนนบั 1 ถงึ 10 และ 0 และการเปรยี บเทียบจานวนทีละคู่ ด้วยสอื่ ของจรงิ 2. บตั รภาพทแ่ี สดงจานวนไมเ่ กนิ 10 สาระสาคญั และบัตรภาพ 3. บัตรตัวเลขฮนิ ดูอารบิก 1 ถึง 10 และ 0 กำรเรยี งลำดบั จำนวนทำได้ ขั้นสอน 4. แถบจานวน 1ถึง 10 โดยเปรยี บเทยี บจำนวนนับทีละคู่ 5. บตั รภาพแสดงจานวนทมี่ ี แล้วเรียงลำดับจำกน้อยไปมำก 2. การสอนการเรียงลาดบั จานวน 3 จานวน อาจจดั กจิ กรรม ดงั นี้ ตัวเลขฮินดอู ารบิกประกอบ หรอื มำกไปน้อย 2.1 ครนู าของจริง 3 ชนิด แต่ละชนดิ มีจานวนไม่เกนิ 10 และใหม้ จี านวนไม่เท่ากนั เช่น ฝาขวด 6. แบบฝึกหดั 1.14 5 ฝา ยางลบ 8 ก้อน ลูกบอล 4 ลูก แล้วแรเงาบนแถบจานวน แสดงจานวนสง่ิ ของดังกล่าว เพ่ือนาจานวน มาเปรยี บเทยี บและเรยี งลาดับจานวน ดังน้ี การประเมนิ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1. วิธีการ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสำมำรถเรียงลำดบั 2. เครือ่ งมือ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 2.1 แบบฝึกหัด 1.14 จำนวนนบั ไมเ่ กิน 10 สำมถึงหำ้ จำนวน 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ ใหน้ กั เรียนสังเกตและเปรียบเทยี บ แล้วบอกว่าจานวนใดมากกว่าจานวนใด จานวนใดนอ้ ยกวา่ จานวนใด กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านทักษะและกระบวนการทาง ซึ่งจะได้ว่า 8 มากกวา่ 5 หรอื 5 นอ้ ยกว่า 8 และ 5 มากกวา่ 4 หรือ 4 น้อยกวา่ 5 แลว้ ถามนักเรียนวา่ คณิตศาสตร์ จานวนมากทส่ี ดุ คือจานวนใด (8) จานวนนอ้ ยท่ีสดุ คือจานวนใด (4) จากนั้นครูแนะนาการเรยี งลาดบั จานวน 5 8 4 ดงั น้ี เพ่ือใหน้ ักเรยี นสำมำรถ 1. สอ่ื สำรและส่อื ควำมหมำย ทำงคณิตศำสตร์ 2. ใหเ้ หตุผล
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑๖ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 100 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เรียงลาดบั จานวนจากมากไปน้อย 8 5 4 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมีความถูกต้องไม่น้อย ในทานองเดยี วกนั จะได้วา่ 4 นอ้ ยกว่า 5 และ 5 น้อยกวา่ 8 กว่ารอ้ ยละ 80 3.2 คะแนนรวม ด้านทกั ษะและ ดงั นนั้ เรยี งลาดับจานวนจากน้อยไปมาก 4 5 8 กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไม่ น้อยกว่าร้อยละ 60 2.2 ครูนาบตั รภาพแสดงจานวนทม่ี ีตวั เลขฮินดูอารบิกประกอบ จานวน 3 บตั ร ตดิ บนกระดาน เชน่ ภาพปู 7 ตวั ภาพแมว 3 ตวั ภาพหมีแพนดา้ 6 ตัว แล้วแรเงาบนแถบจานวน แสดงจานวนสงิ่ ของดังกล่าว เพ่อื นาจานวนมาเปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั จานวน ดังนี้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ใหน้ ักเรยี นบอกวา่ จานวนใดมากกวา่ จานวนใด จานวนใดน้อยกวา่ จานวนใด ซ่งึ จะไดว้ ่า 7 มากกว่า 6 และ 6 มากกว่า 3 หรอื 3 นอ้ ยกว่า 6 และ 6 น้อยกวา่ 7 แลว้ ถามนักเรียนวา่ จานวนมาก ทส่ี ดุ คอื จานวนใด (7) จานวนนอ้ ยทส่ี ดุ คือจานวนใด (3) จากนัน้ ให้นกั เรยี นเรยี งลาดับจานวน 7 3 6 เรียงลาดับจานวนจากมากไปนอ้ ย …………………………………………………….. เรยี งลาดบั จานวนจากนอ้ ยไปมาก...............................................................
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๖ ชัน้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 101 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ครแู จกบัตรตัวเลขฮนิ ดอู ารบกิ ให้นักเรียนคนละ 1 ชุด แตล่ ะชดุ มีบัตร 11 ใบ (1 ถึง 10 และ 0 ) ครูสมุ่ หยิบบตั รตวั เลขครั้งละ 3 บัตร อ่านตัวเลขในแต่ละบัตร ให้นกั เรียนหยบิ บตั รตวั เลขตามที่ครูอา่ น แลว้ นามาวางเรยี งลาดบั จานวนจากมากไปน้อย หรือ เรยี งลาดบั จานวนจากมากไปน้อยตามท่ีครสู ่ัง ทาเช่นนี้ 2 – 3 ครัง้ ครตู รวจสอบความถูกต้องในการปฏิบัตขิ องนักเรียน 3. การสอนการเรียงลาดับจานวน 4 จานวน อาจจัดกจิ กรรมดงั นี้ 3.1 ครูตดิ บตั รภาพแสดงจานวนทม่ี ีตวั เลขฮนิ ดูอารบิกประกอบ 4 บตั ร บนกระดาน เชน่ ภาพมะเขือ 8 ผล ภาพแตงกวา 5 ผล ภาพหอมใหญ่ 6 หวั และภาพมนั ฝร่งั 10 หัว ครูถามวา่ จากภาพ มจี านวนใดบ้าง ( 8 5 6 10 ) จานวนใดมากทส่ี ุด (10) จานวนใดนอ้ ยท่สี ุด (5) ครเู ขยี น 10 ___ ___ 5 บนกระดาน และใหน้ กั เรียนเปรียบเทยี บจานวนท่เี หลอื อีกสอง จานวน คือ 8 กบั 6 พิจารณาจานวนใดมากกวา่ จานวนใดหรอื จานวนใดน้อยกวา่ จานวนใด ซง่ึ จะได้ 8 มากกวา่ 6 หรอื 6 น้อยกวา่ 8 จากนั้นครสู าธิตการเรยี งลาดบั จานวนจากมากไปน้อย โดยเรยี งจานวนมากท่ีสุด (10) ตามดว้ ย จานวนทีน่ อ้ ยลงตามลาดบั ซ่ึงจะได้ 10 8 6 5 แล้วเรยี งลาดบั จานวนจากน้อยไปมาก โดยเรียงจานวน น้อยที่สุด (5) ตามดว้ ยจานวนทม่ี ากขน้ึ ตามลาดับ ซ่ึงจะได้ 5 6 8 10 3.2 ครแู จกบัตรตวั เลขฮนิ ดูอารบิกใหน้ ักเรยี นคนละ 1 ชดุ แต่ละชดุ มี 11 บตั ร (1 ถึง 10 และ 0 ) ครูสุ่มหยบิ บตั รตวั เลขคร้งั ละ 4 ใบ อา่ นตวั เลขในแต่ละใบ ใหน้ ักเรียนหยบิ บัตรตัวเลขตามที่ครูอ่าน แล้วนามาวางเรียงลาดบั จานวนจากมากไปน้อย หรือเรยี งลาดับจานวนจากน้อยไปมาก ตามท่ีครูกาหนด ทาเชน่ นี้ 2 – 3 คร้งั ครูตรวจสอบความถูกต้องในการปฏิบตั ขิ องนักเรยี น จากน้ันให้นักเรียนทาแบบฝกึ หดั 1.14
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๖ ชนั้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 102 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ขน้ั สรุป 7. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปว่า การเรียงลาดบั จานวน ทาได้โดยเปรยี บเทยี บจานวนนบั ทีละคู่ แลว้ เรยี งลาดบั จากน้อยไปมาก หรือมากไปน้อย
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑๗ ขั้นสอน 103 ขน้ั สรุป แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล ทบทวนจำนวนนับ 6 ถงึ 10 ดวั ยส่อื ของจรงิ และบัตรตวั เลข 6 ถึง 10 แนะนำควำมสัมพนั ธ์ของจำนวนแบบสว่ นย่อย – สว่ นรวม ของจำนวน 6 ถึง 10 โดยจัดส่ือชองจริง ใชส้ ถำนกำรณจ์ ำกภำพ และเขียนแสดงควำมสมั พนั ธ์ของจำนวน แบบฝกึ หดั 1.15 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ วำ่ ควำมสมั พันธข์ องจำนวนแบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม เปน็ กำรเขียนแสดงจำนวนในรปู ของจำนวน 2 จำนวน - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหัด 1.15 - ประเมินจำกกำรสอ่ื สำร สอื่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๗ 104 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชน้ั ป. ๑ เวลา ๑ ช่ัวโมง หนว่ ยท่ี ๑ จานวน หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. สอ่ื ของจริง เช่น แจกนั ดอกไม้ ความสัมพนั ธข์ องจานวน 6 ถึง 10 ข้นั นา ตวั นบั 2. บตั รตัวเลข 1 ถงึ 10 แบบสว่ นย่อย-ส่วนรวม 1. ครทู บทวนจานวนนับ 6 ถงึ 10 ดวั ยส่ือของจริง และบัตรตัวเลข 6 ถงึ 10 3. แผน่ ภำพ 4. แบบฝึกหดั 1.15 สาระสาคัญ 2. ครทู บทวนความสัมพันธ์ของจานวนแบบสว่ นยอ่ ย – สว่ นรวม ของจานวน 1 ถึง 5 เช่น ครูนา การประเมิน ความสมั พันธ์ของจานวนแบบ แจกันท่มี ดี อกกุหลาบ 3 ดอก และดอกเบญจมาศ 2 ดอก วางบนโตะ๊ ถามนักเรยี นวา่ ในแจกนั มีดอกไม้ 1. วธิ กี าร สว่ นย่อย – ส่วนรวม เปน็ การเขียนแสดง ทัง้ หมดก่ีดอก (5 ดอก) เปน็ ดอกกุหลาบก่ีดอก (3 ดอก) เป็นดอกเบญจมาศกีด่ อก (2 ดอก) ครูเขียนสิง่ ท่ี 1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ นักเรยี นตอบบนกระดาน พร้อมท้งั เขียนแสดงความสมั พันธข์ อง “หา้ ” แบบส่วนย่อย – สว่ นรวม ดังน้ี 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั จานวนในรูปของจานวน 2 จานวน 2. เครอื่ งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 1.15 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 5 3 2.2 แบบประเมินทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านความรู้ สว่ นรวม สว่ นย่อย เพื่อใหน้ กั เรียนสำมำรถแสดง 3. เกณฑ์ 2 3.1 ผลงานมคี วามถูกต้องไม่น้อยกว่า ควำมสมั พนั ธข์ องจำนวนแบบสว่ นยอ่ ย – ร้อยละ 80 ส่วนยอ่ ย 3.2 คะแนนรวม ดา้ นทกั ษะและ สว่ นรวม กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไมน่ อ้ ย กว่ารอ้ ยละ 60 ด้านทกั ษะและกระบวนการทาง ขั้นสอน คณติ ศาสตร์ เพ่อื ให้นกั เรยี นสำมำรถสอื่ สำร การสอนความสมั พนั ธ์ของจานวนแบบสว่ นยอ่ ย – ส่วนรวม ของจานวน “หก ถึง สบิ ” สอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ โดยอาจจดั กิจกรรมดังน้ี 3. ครแู นะนาความสมั พันธข์ องจานวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวม ของจานวน “หก” 3.1 ครูตดิ บัตรภาพ สถานการณล์ ูกแมว 6 ตวั (ขนาดใหญพ่ อสมควร) บนกระดาน
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๗ ชั้น ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 105 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกี่ยวกบั เร่อื งราวในภาพวา่ ลกู แมวกาลงั ทาอะไร มีส่ิงของอะไรบ้าง และมจี านวนเท่าไรบ้าง เชน่ (1) มลี กู แมวท้ังหมดกี่ตวั (6 ตวั ) นอนหลับก่ีตวั (5 ตวั ) ตน่ื อยกู่ ่ีตวั (1 ตัว) (2) มลี ูกแมวท้ังหมดก่ีตัว (6 ตัว) เป็นสดี ากีต่ วั (4 ตวั ) เปน็ สขี าวปนดาก่ีตวั (2 ตัว) (3) มีลกู แมวท้ังหมดก่ีตัว (6 ตวั ) สวมปลอกคอสขี าวกต่ี ัว (3 ตัว) สวมปลอกคอสีแดงกี่ตัว (3 ตวั ) ครูนาเรอื่ งราวที่ไดส้ นทนาในแต่ละข้อ มาแนะนาความสัมพันธ์ของจานวน แบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม และเขยี นแสดงบนกระดาน ดังน้ี (1) มลี ูกแมวท้ังหมดกี่ตัว (6 ตวั ) นอนหลับกีต่ วั (5 ตัว) ต่ืนอย่กู ี่ตวั (1 ตัว) ครแู นะนาใหน้ กั เรียนสังเกตว่า ความสัมพนั ธ์ของจานวน “หก” แบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม เขียนแสดงได้ ดังนี้ 5 6 สว่ นย่อย สว่ นรวม 1 ส่วนยอ่ ย
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑๗ 106 กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง (2) มลี ูกแมวท้ังหมดกี่ตวั (6 ตวั ) เปน็ สดี ากตี่ ัว (4 ตวั ) เป็นสขี าวปนดากตี่ วั (2 ตัว) ครแู นะนาให้นักเรยี น สงั เกตว่า ความสัมพนั ธข์ องจานวน “หก” แบบส่วนย่อย – สว่ นรวม เขยี นแสดงได้ ดังน้ี 6 4 สว่ นรวม ส่วนย่อย 2 สว่ นยอ่ ย (3) มีลูกแมวทั้งหมดก่ีตัว (6 ตัว) สวมปลอกคอสขี าวก่ตี ัว (3 ตัว) สวมปลอกคอสแี ดงกี่ตัว (3 ตัว) ครู แนะนาใหน้ ักเรียนสงั เกตว่า ความสัมพันธข์ องจานวน “หก” แบบส่วนย่อย – สว่ นรวม เขยี นแสดงได้ ดังนี้ 3 6 ส่วนย่อย สว่ นรวม 3 ส่วนย่อย ครูช้ีใหน้ ักเรียนเหน็ ว่าจากตัวอยา่ งดังกลา่ ว 6 มาจาก 5 กบั 1 หรอื 6 มาจาก 4 กับ 2 หรือ 6 มาจาก 3 กบั 3 ให้นกั เรียนช่วยกันบอกว่า ความสัมพนั ธ์แบบส่วนย่อย – สว่ นรวม ของจานวน “หก” มาจาก จานวนใดกบั จานวนใดได้อีกหรือไม่ อยา่ งไร ( 6 มาจาก 0 กับ 6) 4. ครูแนะนาความสัมพนั ธ์ของจานวนแบบส่วนยอ่ ย – สว่ นรวม ของจานวน “เจ็ด” 4.1 ครตู ดิ บัตรภาพ สถานการณต์ ู้กระจกเลยี้ งปลาสวยงาม (ขนาดใหญ่พอสมควร)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๗ ช้ัน ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 107 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ครูสนทนากบั นักเรยี นเก่ยี วกับเร่ืองราวในภาพวา่ ในตู้เลีย้ งปลา มปี ลาอะไรบ้าง มสี ิง่ ของอะไรบา้ ง และมีจานวนเทา่ ไรบา้ ง เชน่ (1) มปี ลาทั้งหมดกต่ี วั (7 ตัว) เปน็ ปลาทองสีแดงกีต่ ัว (5 ตัว) เปน็ ปลาทองสีขาว – แดงกีต่ ัว (2 ตัว) (2) มปี ลาทัง้ หมดกต่ี วั (7 ตวั ) เป็นปลาทองตวั ใหญ่กี่ตัว (3 ตัว) เป็นปลาทองตัวเล็กกต่ี ัว (4 ตวั ) (3) มีต้นไม้ทง้ั หมดก่ีต้น (7 ต้น) เป็นตน้ ไม้สีเขยี วก่ีตน้ (4 ตน้ ) เปน็ ตน้ ไม้สแี ดงก่ีตน้ (3 ตน้ ) 4.2 ครนู าเรื่องราวทไ่ี ด้สนทนาในแต่ละขอ้ มาแนะนาความสัมพันธ์ของจานวน แบบสว่ นยอ่ ย – สว่ นรวม และเขยี นแสดงบนกระดาน ดงั นี้ (1) มีปลาท้งั หมดก่ีตัว (7 ตวั ) เป็นปลาทองสีแดงก่ีตัว (5 ตวั ) เปน็ ปลาทองสขี าว – แดงกต่ี ัว (2 ตวั ) ครแู นะนาใหน้ กั เรยี นสงั เกตวา่ ความสัมพันธ์ของจานวน “เจ็ด” แบบส่วนยอ่ ย – สว่ นรวม เขียนแสดงได้ ดงั นี้
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑๗ 108 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ชัน้ ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 5 7 สว่ นยอ่ ย สว่ นรวม 2 สว่ นยอ่ ย (2) มีปลาท้งั หมดกี่ตวั (7 ตัว) เป็นปลาทองตัวใหญ่ก่ตี วั (3 ตัว) เปน็ ปลาทองตวั เลก็ กต่ี ัว (4 ตัว) ครแู นะนาใหน้ กั เรียนสังเกตว่า ความสัมพนั ธข์ องจานวน “เจด็ ” แบบส่วนย่อย – สว่ นรวม เขียนแสดงได้ ดงั นี้ 7 3 ส่วนรวม ส่วนยอ่ ย 4 ส่วนยอ่ ย (3) มีตน้ ไม้ท้ังหมดกีต่ ้น (7 ตน้ ) เป็นตน้ ไม้สเี ขยี วกีต่ น้ (6 ต้น) เป็นตน้ ไมส้ แี ดงกต่ี ้น (1 ตน้ ) ครูแนะนาให้ นักเรยี นสังเกตว่า ความสัมพันธ์ของจานวน “เจ็ด” แบบส่วนยอ่ ย – สว่ นรวม เขียนแสดงได้ ดังน้ี 6 7 ส่วนยอ่ ย สว่ นรวม 1 ส่วนยอ่ ย จากความสมั พันธ์แบบสว่ นย่อย – ส่วนรวม บนกระดาน ครูชี้ให้นักเรยี นเห็นว่าจากตัวอยา่ ง ดังกล่าว 7 มาจาก 5 กับ 2 หรือ 7 มาจาก 1 กับ 6 หรือ 7 มาจาก 3 กบั 4 แล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกันบอกวา่
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑๗ ชัน้ ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 109 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ความสัมพันธ์แบบสว่ นย่อย – สว่ นรวม ของจานวน “เจด็ ” มาจากจานวนใดกบั จานวนใดไดอ้ ีกหรอื ไม่ อยา่ งไร ( 7 มาจาก 7 กับ 0 ) 5. ครแู นะนาความสมั พันธ์ของจานวนแบบสว่ นย่อย – สว่ นรวม ของจานวน “แปด” “เก้า” และ “สบิ ” โดยอาจจดั กจิ กรรม ทานองเดยี วกบั การสอนความสัมพันธ์ของจานวนแบบสว่ นยอ่ ย – สว่ นรวม ของ จานวน “หก” “เจ็ด” แต่เปลี่ยนสถานการณ์ให้หลากหลาย 6. ครแู ละนักเรียนร่วมกันเขยี นความสมั พันธ์แบบสว่ นย่อย – สว่ นรวม ของจานวน 6 ถงึ 10 ได้ ดงั นี้ ความสมั พนั ธ์ของจานวนแบบส่วนย่อย – สว่ นรวม ของจานวน 6 ถึง 10 6 มาจาก 7 มาจาก 8 มาจาก 9 มาจาก 10 มาจาก 5 กบั 1 6 กบั 1 7 กบั 1 8 กับ 1 9 กับ 1 หรอื 4 กับ 2 หรือ 5 กบั 2 หรอื 6 กับ 2 หรอื 7 กบั 2 หรือ 8 กับ 2 หรือ 4 กับ 3 หรือ 5 กบั 3 หรือ 6 กบั 3 หรือ 7 กบั 3 หรอื 3 กบั 3 หรือ 7 กบั 0 หรอื 4 กบั 4 หรอื 5 กบั 4 หรือ 6 กบั 4 หรือ 6 กบั 0 หรอื 8 กับ 0 หรอื 9 กับ 0 หรอื 5 กบั 5 หรอื 10 กับ 0
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๗ ชั้น ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 110 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ จากนั้นให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ หดั 1.15 ข้ันสรุป 5. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ วา่ ความสัมพนั ธฺของจานวนแบบส่วนย่อย – สว่ นรวม เป็นการเขียน แสดงจานวนในรูปของจานวน 2 จานวน
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑๘ ขนั้ สอน 111 ขั้นสรปุ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล ทบทวนการนบั เพอ่ื บอกจานวน การอ่านและการเขียนตัวเลขแสดงจานวนนับ 10 การนับและแนะนาการเขยี นตัวเลขฮนิ ดอู ารบิกและตัวเลขไทย แสดงจานวน 11 ถงึ 20 แบบฝกึ หัด 1.16 ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุป จานวนใช้บอกปรมิ าณของส่งิ ต่างๆ เราสามารถบอกจานวนสิ่งต่างๆ ได้จากการนับ - ประเมนิ จากการตอบคาถามและการทาแบบฝกึ หดั 1.16 - ประเมนิ จากการสอื่ สาร สอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑๘ ชนั้ ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชัว่ โมง 112 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเน้อื หา ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การนับและแสดงจานวน 10 ถึง 20 ข้นั นา 1. ไม้ไอศกรีม ไม้บรรทัด ตวั นับ 2. บัตรภาพ สาระสาคญั 1. ครสู นทนาทบทวนการอา่ นและเขียนตัวเลขแสดงจานวน 10 โดยครูชูไมบ้ รรทดั ทีละอัน 4 อนั ถามวา่ 3. บตั รตัวเลข มี ไมบ้ รรทัดกีอ่ นั (4) อา่ นว่าอยา่ งไร (ส)ี่ ใหน้ กั เรียนออกมาเขียน “4” และ “๔” บนกระดาน 4. บัตรตัวหนังสือ 1. จานวนใช้บอกปรมิ าณของ 5. ภาพมัดไม้ สง่ิ ต่างๆ ครูตดิ บัตรภาพรปู ดอกบวั 6. แบบฝึกหดั 1.16 2. 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 ครถู ามวา่ มีดอกบัวก่ดี อก(7) อ่านวา่ อยา่ งไร (เจ็ด) ใหน้ ักเรียนออกมาเขียนตัวเลขฮินดูอารบกิ “7” และ การประเมิน 20 เป็นจานวนนับ ตวั เลขไทย “๗” บนกระดาน 1. วธิ ีการ 3. จานวน 10 ถึง 20 เปน็ จานวนนับท่ี ครแู จกไมไ้ อศกรมี ใหน้ ักเรยี นคนละ 10 อนั ใหแ้ ตล่ ะคนนบั ไม้ไอศกรมี 9 อนั แล้ววางกองไวบ้ นโต๊ะ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ เพิม่ ขน้ึ ทลี ะ 1 เปน็ 10 11 12 ครถู ามว่า มีไม้ไอศกรีมกี่อัน (9 อัน) หยิบมาเพ่ิมอีก 1 อัน ครูถามวา่ จานวนไม้ไอศกรีมทีม่ ีอยทู่ ้ังหมด คอื 1.2 ตรวจแบบฝึกหดั ตามลาดบั ก่อี ัน (10 อนั ) ครเู ขียน “10” และ “๑๐” บนกระดาน พร้อมทงั้ ถามว่า ตวั เลข “10” เป็นตวั เลขอะไร 2. เคร่อื งมอื (ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก) ตวั เลข “๑๐” เปน็ ตวั เลขอะไร (ตวั เลขไทย) ใชแสดงจำนวนอะไร (สิบ) และให้นักเรยี น 2.1 แบบฝกึ หดั 1.16 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ อา่ นพรอ้ มกนั 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ดา้ นความรู้ ครแู นะนาว่า “เมือ่ ครบ 10 อนั เราจะมัดไม้ไอศกรีมรวมกันเป็น 1 มัด โดย 1 มดั มีไอศกรีม 10 อัน เพอ่ื ให้นักเรียนสามารถนบั และแสดง เรยี กว่า 1 สิบ” ครูตดิ บตั รภาพมดั ไม้แสดงจานวน “สบิ ” ไวบ้ นกระดาน จานวนนับ 10 ถงึ 20 ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ เพอื่ ใหน้ ักเรยี นสามารถสอ่ื สาร ส่ือ ความหมายทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๘ ชน้ั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชว่ั โมง 113 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ 3. เกณฑ์ ขนั้ สอน 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. แนะนาการสอนจานวน “สิบเอ็ด ถงึ ยส่ี ิบ” โดยอาจจัดกจิ กรรม ดังน้ี 3.2 คะแนนรวม ดา้ นทกั ษะและ 2.1 ครชู มู ดั ไม้ไอศกรมี 1 มัด แล้วถามนกั เรยี นว่า “หน่ึงมดั นีม้ ีไมไ้ อศกรมี ก่ีอัน”(10 อัน) มกี ีส่ บิ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ (1 สบิ ) แล้วครูหยบิ ไม้ไอศกรีมขึ้นมาอยู่ในมืออีก 1 อนั ครูถามนักเรยี นว่า “ครูหยบิ มาเพิม่ อีกก่ีอนั ” (1 อัน) ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 60 ครชู ูมดั ไม้ 1 มัด กับ 1 อัน แนะนา “มี 1 สิบ กับ 1 เรียกว่า 11 หรอื มีอยู่ 10 เพิ่มอีก 1 เปน็ 11” ครตู ดิ ภาพมดั ไม้แสดงจานวน “สบิ เอด็ ” ไวบ้ นกระดาน ครแู นะนาสญั ลักษณ์ที่เขยี นแสดงจานวน 11 ด้วยตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก (11) ตัวเลขไทย (๑๑) และ ตวั หนังสือ โดยเขียน “สิบเอ็ด” บนกระดาน พรอ้ มออกเสยี งสะกด ครูให้นักเรียนออกเสียงพรอ้ มกนั “สิบเอด็ ” ตัวเลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทย ตวั หนังสือ 11 ๑๑ สิบเอด็ ครูติดบตั รภาพแสดงจานวน “สิบเอด็ ” แลว้ ใหน้ ักเรียนนบั และบอกจานวนส่งิ ของที่อย่ใู นภาพ เชน่ ภาพไก่ 11 ตัว ภาพรถยนต์ 11 คนั ภาพทุเรยี น 11 ผล 2.2 ครูชมู ดั ไมไ้ อศกรีม 1 มัด กับอีก 1 อัน แล้วถามนักเรียนวา่ “มีไม้ไอศกรมี ก่ีอัน” (11 อัน) ครูหยิบ ไม้ไอศกรีมขนึ้ มาอยใู่ นมืออีก 1 อัน ครูถามนกั เรียนว่า “ครูหยบิ ไม้ไอศกรีมมาเพ่ิมอีกก่ีอัน” (1 อนั ) ครชู ูไม้ ไอศกรมี 2 อนั
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑๘ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชวั่ โมง 114 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ถามนักเรยี นว่า “ครมู ีไมไ้ อศกรีมในมือก่ีอนั ” (2 อัน) ครชู มู ัดไม้ 1 มดั กับ 2 อนั แนะนา “มี 1 สบิ กับ 2 เป็น 12 หรือ มีอยู่ 11 เพิ่มอีก 1 เปน็ 12” ครูติดภาพมัดไม้แสดงจานวน “สิบสอง” ไว้บนกระดาน ครแู นะนาสัญลักษณ์ที่เขียนแสดง จานวน 12 ดว้ ยตวั เลขฮินดอู ารบิก (12) ตวั เลขไทย (๑๒) และตัวหนังสอื โดยเขียน “สิบสอง” บนกระดาน พรอ้ มสะกดคำ ครใู ห้นักเรยี นอ่านพร้อมกัน “สิบสอง” ตัวหนังสอื ตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ ตวั เลขไทย 12 ๑๒ สิบสอง ครตู ดิ บัตรภาพแสดงจานวน “สบิ สอง” แลว้ ใหน้ ักเรียนนบั และบอกจานวนสิง่ ของทีอ่ ยู่ในภาพ เช่น ภาพกลว้ ย 12 ผล ภาพดอกไม้ 12 ดอก ภาพแมว 12 ตวั 2.3 ครชู มู ัดไมไ้ อศกรีม 1 มดั กับอีก 3 อนั แล้วถามนักเรยี นวา่ “ครมู ีไม้ไอศกรีมในมือก่ีอัน” (1 สบิ กับ 3 อัน) ครูแนะนา “มี 1 สบิ กับ 3 เป็น 13 หรือ มีอยู่ 12 เพม่ิ อีก 1 เป็น 13” ครูตดิ ภาพมัดไม้ แสดงจานวน “สิบสาม” ไวบ้ นกระดาน ” ครูแนะนาสญั ลกั ษณ์ทีเ่ ขียนแสดงจานวน 13 ดว้ ย ตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ (13) ตัวเลขไทย (๑๓) และตัวหนังสือ โดยเขียน “สบิ สาม” บนกระดานพรอ้ มทงั้ สะกดคำ ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นพร้อมกัน “สิบสาม” ครจู ัดกิจกรรมทานองเดยี วกันนจี้ นถึง 19 2.4 ครชู ูมดั ไมไ้ อศกรีม 1 มัด กบั อีก 10 อัน แล้วถามนักเรียนวา่ “ตอนนี้มีไม้ไอศกรมี กี่อนั ” (1 สิบ กบั 10 อัน) ครูแนะนานกั เรียนว่า เมอื่ ครบ 10 อัน เราจะมดั ไม้ไอศกรีมรวมกันเป็น 1 มัด โดย 1 มัด มไี อศกรีม 10 อนั เรยี กว่า 1 สิบ ดังน้ันตอนนี้มีมัดไม้ไอศกรีมทง้ั หมดกีม่ ดั (2 มัด) ครูแนะนา 2 มัด ก็คอื 2 สิบ หรือเรียกวา่ “ยี่สบิ ” ครูแนะนาสญั ลกั ษณ์ทีเ่ ขียนแสดง จานวน 20 ดว้ ยตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ (20) ตัวเลขไทย (๒๐) และตัวหนงั สือ โดยเขียน “ยี่สิบ” บนกระดาน พร้อมสะกดคำ ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นพร้อมกนั “ย่สี บิ ”
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๘ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชัว่ โมง 115 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ตัวเลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทย ตัวหนังสอื 20 ๒๐ ยสี่ บิ 2.5. ครูติดภาพมดั ไม้แสดงจานวนนับ 10 ถึง 20 ซ่งึ แสดงจานวนนบั ตั้งแต่ 10 ถงึ 20 แลว้ ให้นกั เรียน นับเพอื่ บอกจานวนในแตล่ ะภาพไว้บนกระดาน ดังนี้ แสดงจานวนนบั 10 แสดงจานวนนับ 11 แสดงจานวนนับ 12 แสดงจานวนนบั 13
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๘ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 116 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ แสดงจานวนนบั 14 แสดงจานวนนับ 15 แสดงจานวนนบั 16 แสดงจานวนนบั 17 แสดงจานวนนบั 18 แสดงจานวนนบั 19 แสดงจานวนนับ 20 2.6 ครตู ิดบตั รภาพ ใหน้ ักเรยี นฝกึ การนบั ดว้ ยการตอบคาถาม (1) จากภาพนับจานวนดอกกุหลาบให้ครบสิบได้ก่สี ิบ (1 สิบ) ครูเขยี นวงล้อมรอบดอกกุหลาบสิบดอกบนบัตรภาพ มีดอกกุหลาบทยี่ งั ไม่ได้นับกด่ี อก (2 ดอก) ดังนัน้ มีดอกกหุ ลาบท้ังหมดกดี่ อก (12 ดอก)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๘ ชนั้ ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 117 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ (2) จากภาพนับจานวนปากกาให้ครบสิบได้กี่สบิ (1 สบิ ) ครูเขยี นวงลอ้ มรอบปากกาสิบแท่งบนบตั รภาพ มปี ากกาทย่ี ังไม่ได้นับกี่ด้าม (5 ดา้ ม) มปี ากกาทงั้ หมดกี่ดา้ ม (15 ด้าม) ถ้าเพิ่มปากกาอีก 1 ด้าม จะเปน็ ปากกาทัง้ หมดก่ีด้าม (16 ดา้ ม) (3) จากภาพนับจานวนรถให้ครบสบิ ได้กี่สบิ (1 สิบ) ครูเขยี นวงล้อมรอบรถสบิ คันบนบตั รภาพ มรี ถทยี่ ังไม่ได้นบั กี่คนั (8 คนั ) มรี ถทั้งหมดก่ีคนั (18 คัน) ถ้าเพมิ่ รถอีก 1 คัน จะเป็นรถทั้งหมดกี่คนั (19 คัน) (4) จากภาพนับจานวนเคร่อื งครัวให้ครบสบิ ได้ก่ีสบิ (1 สิบ) มีเครอ่ื งครวั ท่ยี งั ไม่ไดน้ บั กช่ี ้นิ (6 ชิ้น) มีเคร่ืองครัวท้ังหมดก่ชี ิน้ (16 ชิ้น) ถ้าเพม่ิ เคร่ืองครัวอีก 1 ดอก จะเป็นเครื่องครวั ก่ชี ้ิน (17 ชนิ้ )
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๘ ชั้น ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชัว่ โมง 118 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ 3. ครกู าหนดจานวน 11 ถงึ 20 โดยการบอกหรอื บัตรตัวเลขฮนิ ดอู ารบิกและบตั รตวั เลขไทย ให้ นกั เรยี นใช้ตัวนบั หรือเขยี นรปู แสดงจานวนตามที่ครูกาหนด จากนนั้ ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัด 1.16 ขน้ั สรปุ 4. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ว่า - เราสามารถบอกจานวนสงิ่ ตา่ งๆ ไดจ้ ากการนบั - จานวนใชบ้ อกปรมิ าณของสิ่งตา่ งๆ เช่น ดินสอ 12 แทง่ ไมบ้ รรทดั 17 อัน - สบิ สบิ เอ็ด สิบสอง ... เป็นจานวนนับทเี่ ร่ิมต้นจากสบิ และนับเพม่ิ ข้นึ ทลี ะหน่ึง ตามลาดับ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขัน้ นา แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๙ ขั้นสอน 119 ข้ันสรุป แนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล ทบทวนการเขียน การอา่ นตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทยและตวั หนงั สอื แสดงจานวน 1 ถึง 4 และ 0 การเขียน การอา่ นตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตวั หนงั สือ แสดงจานวน 10 – 14 สาธติ วธิ เี ขยี น อา่ นตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทยและตัวหนงั สือ แสดงจานวน 10 – 14 แบบฝกึ หดั 1.17 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ตวั เลขฮินดอู ารบิก 10 ถงึ 14 ตัวเลขไทย ๑๐ ถงึ ๑๔ เป็นสญั ลกั ษณท์ ี่ใชเ้ ขียนแสดงจานวน - ประเมนิ จากการตอบคาถามและการทาแบบฝกึ หัด 1.17 - ประเมนิ จากการสอ่ื สาร สอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๙ 120 กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ช้ัน ป. ๑ เวลา ๑ ช่ัวโมง หน่วยที่ ๑ จานวน หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ ขอบเขตเนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. บัตรตวั หนังสอื การเขยี น การอา่ น ตวั เลขฮินดูอารบกิ 2. บตั รวธิ ีเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก และตัวเลขไทย แสดงจานวนนับ 10 ขนั้ นา บตั รวธิ ีเขยี นตัวเลขไทย ถงึ 14 3. แผน่ ตารางภาพมัดไม้ 1. ทบทวนการเขียนและการอ่านจานวน “หนึ่ง ถึง ส่ี และศูนย์” 4. มัดไม้ 5. แบบฝกึ หดั 1.17 สาระสาคัญ ครูตดิ บตั รตัวหนังสอื เพ่อื ให้นักเรยี นเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย 1 ถึง 4 และ 0 บนกระดาน พรอ้ มท้ังใหน้ ักเรียนอ่านตัวหนงั สอื ที่ครเู ป็นผูเ้ ขยี น โดยออกเสยี งพร้อมกัน การประเมนิ ตวั เลขฮินดอู ารบิก 10 11 12 13 1. วิธกี าร 14 ตวั เลขไทย ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ ตวั เลขไทย ตวั หนังสือ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ เป็นสญั ลกั ษณ์ที่ใชเ้ ขยี นแสดงจานวน 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด เขียนตวั หนงั สอื เปน็ สิบ สิบเอด็ ....1..... ....๑..... ....หนึง่ ..... 2. เคร่อื งมอื สบิ สอง สิบสาม สิบสี่ ตามลาดับ ครูติดบัตรวธิ ีเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก “1” ถงึ “4” และ “0” ติดบัตรวิธเี ขยี นตวั เลขไทย “๑” 2.1 แบบฝกึ หดั 1.17 ถึง “๔” และ“๐” และทบทวนอีกคร้ังถงึ วิธีการเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย 2.2 แบบประเมนิ ทกั ษะและ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ บนกระดานว่า จะต้องเริ่มต้นทจ่ี ุดใด และลากเสน้ ไปทางใด โดยสังเกตจากลูกศร ด้านความรู้ 12 12 13 1 เพือ่ ใหน้ ักเรียนสามารถ อา่ นและ 2 1 2 เขียนตวั เลขฮินดูอารบิก และตวั เลขไทย 23 1 แสดงจานวนนบั 10 ถึง 14 1 1 21 1 3 ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ 22 เพอ่ื ให้นกั เรียนสามารถส่อื สาร ครูให้ใชน้ ้วิ มือเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก “1” ถงึ “4” และ “0” ในอากาศ หรือ บนโตะ๊ เรียน หรอื บนฝ่ามือ สือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ ครูให้ใช้น้วิ มือเขียนตัวเลขไทย “๑” ถึง “๔” และ“๐” ในอากาศ หรอื บนโตะ๊ เรียน หรอื บนฝ่ามือ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๙ 121 กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ชั้น ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง ข้นั สอน 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมีความถูกต้องไม่น้อยกวา่ 2. แนะนาการสอนเขียน การอ่านตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย แสดงจานวน “สบิ ถงึ รอ้ ยละ 80 3.2 คะแนนรวม ด้านทักษะและ สบิ ส่ี” โดยอาจจัดกจิ กรรม ดังนี้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไม่น้อย กวา่ รอ้ ยละ 60 2.1 ครูติดแผ่นตารางภาพมดั ไม้แสดงจานวน “สิบ” พร้อมท้ังตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตวั หนงั สอื เพ่อื ใหน้ ักเรียนเหน็ ถึงวิธีเขียนตัวเลข ภาพมดั ไม้ ตัวเลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทย ตัวหนงั สือ 10 ๑๐ สบิ 12 1 2 1 1 สิบ ครูฝกึ ให้ใชน้ วิ้ มือเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบิก “10” ในอากาศ หรือบนโตะ๊ เรียน หรอื บนฝา่ มอื อา่ นออกเสียง “สิบ” พรอ้ มกนั แลว้ จึงใหน้ ักเรยี นเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก “10” ครฝู ึกให้ใชน้ วิ้ มอื เขียนตวั เลขไทย “๑๐” ในอากาศ หรือบนโต๊ะเรียน หรือบนฝ่ามือ อ่านออกเสียง “สบิ ” พร้อมกนั แล้วจงึ ให้นักเรยี นเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก “๑๐” 2.2 ครูติดแผ่นตารางภาพมดั ไม้แสดงจานวน “สิบเอด็ ” พร้อมทั้งตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย ตวั หนงั สอื เพ่ือใหน้ ักเรียนเหน็ ถึงวธิ เี ขยี นตัวเลข
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๙ 122 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ช้ัน ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง ภาพมดั ไม้ ตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนงั สือ 11 ๑๑ สบิ เอ็ด 11 22 สิบเอด็ 22 11 ครฝู กึ ให้ใช้นว้ิ มือเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก “11” ในอากาศ หรอื บนโต๊ะเรยี น หรอื บนฝา่ มือ อา่ นออกเสยี ง “สิบเอด็ ” พรอ้ มกัน แลว้ จงึ ใหน้ กั เรยี นเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ “11” ครฝู ึกให้ใชน้ ้วิ มอื เขียนตวั เลขไทย “๑๑” ในอากาศ หรอื บนโตะ๊ เรยี น หรอื บนฝ่ามือ อ่านออกเสียง “สบิ เอ็ด” พร้อมกัน แลว้ จึงใหน้ กั เรียนเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ “๑๑” 2.3 ครูตดิ แผ่นตารางภาพมัดไม้แสดงจานวน “สิบสอง” พร้อมทั้งตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย ตวั หนังสอื เพื่อให้นักเรียนเหน็ ถึงวิธีเขยี นตัวเลข ภาพมดั ไม้ ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนงั สือ 12 ๑๒ สิบสอง 12 1 2 2 สบิ สอง 1 13 2
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๙ 123 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ช้ัน ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน ครฝู ึกให้ใชน้ ิว้ มอื เขยี นตวั เลขฮินดอู ารบิก “12” ในอากาศ หรือบนโตะ๊ เรียน หรือ เวลา ๑ ช่ัวโมง บนฝา่ มือ อ่านออกเสียง “สบิ สอง” พร้อมกนั แลว้ จงึ ให้นกั เรียนเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก “12” ครฝู กึ ให้ใชน้ ิว้ มอื เขียนตัวเลขไทย “๑๒” ในอากาศ หรอื บนโต๊ะเรียน หรือบนฝ่ามือ อา่ นออกเสียง “สิบสอง” พรอ้ มกัน แลว้ จงึ ใหน้ ักเรียนเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก “๑๒” 2.4 ครูติดแผน่ ตารางภาพมดั ไม้แสดงจานวน “สิบสาม” พรอ้ มทัง้ ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย ตัวหนังสือ เพ่ือให้นกั เรียนเห็นถึงวธิ ีเขียนตัวเลข ภาพมัดไม้ ตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือ 13 ๑๓ สิบสาม 1 2 23 สิบสาม 21 1 21 ครฝู ึกให้ใชน้ ้ิวมือเขียนตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก “13” ในอากาศ หรอื บนโต๊ะเรยี น หรอื บนฝา่ มอื อ่านออกเสยี ง “สบิ สาม” พร้อมกนั แลว้ จงึ ให้นักเรยี นเขียนตวั เลขฮินดูอารบิก “13” ครฝู กึ ให้ใชน้ ิ้วมือเขียนตัวเลขไทย “๑๓” ในอากาศ หรอื บนโตะ๊ เรยี น หรือบนฝา่ มือ อ่านออกเสียง “สิบสาม” พรอ้ มกนั แลว้ จงึ ให้นกั เรียนเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ “๑๓” 2.5 ครูติดแผน่ ตารางรภาพมัดไม้แสดงจานวน “สิบส่ี” พร้อมท้ังตัวเลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย ตัวหนังสือ เพ่ือให้นักเรียนเห็นถึงวธิ เี ขยี นตัวเลข
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑๙ 124 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ชั้น ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง ภาพมัดไม้ ตัวเลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทย ตวั หนังสือ 14 ๑๔ สิบส่ี 11 3 2 1 สบิ สี่ 2 1 2 2 ครูฝึกให้ใช้น้ิวมือเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก “14” ในอากาศ หรอื บนโตะ๊ เรยี น หรอื บนฝา่ มือ อ่านออกเสียง “สิบส่ี” พร้อมกัน แล้วจึงใหน้ กั เรยี นเขียนตวั เลขฮินดูอารบิก “14” ครฝู ึกให้ใช้น้วิ มือเขยี นตัวเลขไทย “๑๔” ในอากาศ หรือบนโต๊ะเรยี น หรือบนฝา่ มือ อา่ นออกเสียง “สิบส่ี” พร้อมกัน แล้วจงึ ใหน้ ักเรยี นเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก “๑๔” 3. ครตู ดิ แผ่นตารางภาพมดั ไม้แสดงจานวนนบั สิบ ถงึ สิบสี่ เพอื่ ให้นักเรยี นสรุปสัญลักษณ์ท่ีใชเ้ ขยี น แสดงจานวน สบิ ถงึ สิบส่ี เปน็ ตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ และ ตวั เลขไทย
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑๙ 125 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ชัน้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง ภาพมัดไม้ ตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย ตวั หนงั สือ 10 ๑๐ สบิ 11 ๑๑ สบิ เอด็ 12 ๑๒ สิบสอง 13 ๑๓ สบิ สาม 14 ๑๔ สบิ ส่ี 4. ครูเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบิกและตัวเลขไทยแสดงจานวน 10 ถงึ 14 ทีละจานวน ให้นักเรยี นใชม้ ัดไม้ แสดงจานวนทคี่ รกู าหนด จากน้นั ใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หดั 1.17 ข้ันสรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปวา่ ตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ 10 11 12 13 14 ตัวเลขไทย ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ เปน็ สัญลกั ษณท์ ี่ใชเ้ ขยี นแสดงจานวน เขยี นตวั หนังสือเป็น สิบ สิบเอด็ สบิ สอง สิบสาม สบิ ส่ี ตามลาดบั
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ข้ันนา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒๐ ขน้ั สอน 126 ขั้นสรุป แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล ทบทวนการเขยี น การอา่ นตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตัวหนังสอื แสดงจานวน 5 - 9 การเขยี นและการอ่านตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทยและตัวหนงั สือ แสดงจานวน 15 – 20 สาธิตวิธีเขยี น อา่ นตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทยและตวั หนังสอื แสดงจานวน 15 – 20 แบบฝกึ หดั 1.18 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุป ตวั เลขฮินดูอารบกิ 15 ถงึ 20 ตวั เลขไทย ๑๕ ถึง ๒๐ เป็นสญั ลักษณท์ ใ่ี ชเ้ ขียนแสดงจานวน - ประเมินจากการตอบคาถามและการทาแบบฝึกหดั 1.18 - ประเมินจากการสอื่ สาร สอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๒๐ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 127 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเนื้อหา ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ การเขียน การอา่ น ตวั เลขฮินดูอารบกิ 1. บตั รตัวหนงั สอื และตัวเลขไทย แสดงจานวนนบั 15 ข้นั นา 2..บัตรวธิ เี ขยี นตัวเลขฮินดูอารบกิ ถึง 20 1. ทบทวนการเขียนและการอ่านจานวนนับ “ห้า ถึง เกา้ ” บัตรวธิ ีเขียนตวั เลขไทย สาระสาคัญ ครูตดิ บตั รตัวหนงั สอื เพ่ือใหน้ ักเรยี นเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย 5 ถงึ 9 3. แผ่นตารางภาพมดั ไม้ 4.. แบบฝกึ หัด 1.18 ตัวเลขฮินดอู ารบกิ 15 16 17 18 บนกระดาน พรอ้ มท้งั ให้นักเรียนอ่านตวั หนงั สือท่ีครูเปน็ ผู้เขียน โดยออกเสียงพร้อมกัน 19 20 ตัวเลขไทย ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เป็นสัญลกั ษณ์ที่ใชเ้ ขียนแสดง ตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนงั สือ การประเมนิ จานวน เขยี นตัวหนังสือเปน็ สบิ หา้ สิบหก สบิ เจ็ด สิบแปด สบิ เกา้ ย่ีสบิ ....5..... ....๕..... ....ห้า..... 1. วิธีการ ตามลาดบั 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ครูตดิ บัตรวิธเี ขียนตวั เลขฮินดูอารบกิ “5” ถงึ “9” ติดบตั รวธิ เี ขียนตัวเลขไทย “๕” ถึง “๙” และ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั ทบทวนอีกครั้งถึงวิธีการเขียนตัวเลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย บนกระดานว่า จะต้องเริ่มตน้ ท่จี ุดใด และ ด้านความรู้ 2. เครอื่ งมือ เพื่อให้นักเรยี นสามารถ อา่ นและ ลากเส้นไปทางใด โดยสังเกตจากลูกศร 2.1 แบบฝกึ หัด 1.18 เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก และตวั เลขไทย 3 11 1 1 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ แสดงจานวนนบั 15 ถงึ 20 12 2 2 กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 22 3 3 3 2 31 21 3. เกณฑ์ 1 13 2 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ 1 2 ร้อยละ 80 2 3.2 คะแนนรวม ดา้ นทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไม่นอ้ ย ครใู หใ้ ชน้ ิ้วมือเขยี นตัวเลขฮินดูอารบิก “5” ถงึ “9” ในอากาศ หรือ บนโต๊ะเรียน กว่ารอ้ ยละ 60 หรือ บนฝา่ มือ ครูใหใ้ ช้น้ิวมอื เขยี นตัวเลขไทย “๕” ถึง “๙” ในอากาศ หรอื บนโตะ๊ เรยี น หรือบนฝา่ มอื
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒๐ ช้ัน ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 128 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ด้านทกั ษะและกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ ข้นั สอน เพ่ือให้นกั เรยี นสามารถสือ่ สาร 2. แนะนาการสอนเขยี น การอา่ นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย แสดงจานวน “สบิ ห้า ถงึ ย่สี บิ ” โดย สอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ อาจจัดกจิ กรรม ดังนี้ 2.1 ครูตดิ แผน่ ตารางภาพมัดไม้แสดงจานวน “สิบห้า” พร้อมทง้ั ตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย ตัวหนงั สือ เพื่อใหน้ กั เรียนเหน็ ถึงวธิ เี ขยี นตวั เลข ภาพมัดไม้ ตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย ตวั หนงั สือ 15 ๑๕ สิบหา้ 3 23 11 2 1 1 สบิ ห้า 2 2 ครูฝกึ ให้ใชน้ ้ิวมือเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก “15” ในอากาศ หรือบนโต๊ะเรียน หรือ บนฝา่ มอื อ่านออกเสียง “สิบห้า” พรอ้ มกนั แลว้ จงึ ให้นักเรียนเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก “15” ครฝู กึ ให้ใช้นิ้วมอื เขยี นตวั เลขไทย “๑๕” ในอากาศ หรอื บนโต๊ะเรยี น หรือบนฝ่ามือ อา่ นออกเสียง “สบิ หา้ ” พร้อมกนั แล้วจึงใหน้ ักเรียนเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก “๑๕” ครูแนะนาการเขยี น การอา่ นตัวเลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทย แสดงจานวน “สบิ หก ถึง “สบิ เก้ า” โดยจัดกจิ กรรมในทานองเดียวกนั 2.2 ครูติดแผ่นตารางภาพมดั ไม้แสดงจานวน “ยส่ี ิบ” พร้อมทัง้ ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสอื เพื่อให้นักเรียนเหน็ ถึงวิธเี ขยี นตวั เลข
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒๐ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 129 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ภาพมดั ไม้ ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนงั สือ 20 ๒๐ ยส่ี บิ 1 1 ย่ีสบิ 1 1 2 3 2 ครฝู ึกให้ใชน้ ิ้วมือเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก “20” ในอากาศ หรือบนโต๊ะเรียน หรือ บนฝ่ามอื อา่ นออกเสียง “ย่สี ิบ” พร้อมกนั แล้วจึงให้นักเรียนเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก “20” ครฝู ึกให้ใช้นว้ิ มอื เขยี นตวั เลขไทย “๒๐” ในอากาศ หรอื บนโตะ๊ เรียน หรอื บนฝา่ มือ อ่านออกเสียง “ย่สี บิ ” พรอ้ มกนั แล้วจงึ ให้นักเรยี นเขียนตวั เลขฮินดูอารบิก “๒๐” 3. ครูตดิ แผน่ ตารางภาพมดั ไมแ้ สดงจานวนนบั สิบห้า ถึง ยสี่ ิบ เพื่อใหน้ ักเรยี นสรุปสญั ลักษณ์ท่ใี ชเ้ ขยี น แสดงจานวน สบิ หา้ ถงึ ย่สี ิบ เป็นตัวเลขฮินดูอารบิก และตวั เลขไทย
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒๐ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 130 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 3. ครูตดิ แผน่ ตารางภาพมดั ไมแ้ สดงจานวนนบั สบิ ห้า ถึง ย่ีสบิ เพอื่ ให้นักเรียนสรุปสญั ลกั ษณ์ที่ใช้เขียน แสดงจานวน สบิ ห้า ถึง ย่สี บิ เปน็ ตวั เลขฮินดูอารบิก และตวั เลขไทย ภาพมดั ไม้ ตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย ตัวหนงั สือ 15 ๑๕ สบิ ห้า 16 ๑๖ สบิ หก 17 ๑๗ สิบเจด็ 18 ๑๘ สบิ แปด 19 ๑๙ สิบเก้า 20 ๒๐ ยส่ี ิบ 4. ครูเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทยแสดงจานวน 10 ถงึ 20 ทลี ะจานวน ให้นักเรยี นใชม้ ดั ไม้แสดง จานวนตามท่ีครูกาหนด จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หดั 1.18 ขัน้ สรปุ 5. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ วา่ ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก 15 16 17 18 19 20 ตัวเลขไทย ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เป็นสญั ลักษณท์ ่ใี ชเ้ ขียนแสดงจานวน เขยี นตัวหนงั สอื เป็น สิบหา้ สิบหก สิบเจ็ด สิบแปด สบิ เกา้ ยี่สบิ ตามลาดบั
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขั้นนา แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๒๑ ขั้นสอน 131 ขัน้ สรุป แนวการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล ทบทวนการแสดงจานวนนบั 10 ถงึ 20 ด้วยมัดไม้ การเขยี นตัวเลขแสดงจานวนนับ 10 ถึง 20 ในรูปกระจาย ใบกจิ กรรม 1.1 แบบฝึกหัด 1.19 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ 11 = 10 + 1 12 = 10 + 2 … 20 = 20 + 0 เป็นการเขียนจานวนในรปู กระจาย - ประเมินจากการตอบคาถามและการทาแบบฝกึ หดั 1.19 - ประเมินจากการสอื่ สาร สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒๑ ช้ัน ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 132 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเนอ้ื หา สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ การเขยี นตัวเลขแสดงจานวนนับ 10 ถึง ข้ันนา 1. ภาพมดั ไม้ 20 ในรูปกระจาย 2. แผ่นตารางภาพมดั ไม้ 3. ใบกจิ กรรม 1.1 สาระสาคญั 1. ทบทวนการแสดงจานวนนบั 10 ถึง 20 ด้วยภาพมดั ไม้ ดงั น้ี 4. แบบฝกึ หดั 1.19 1.1 ครตู ิดภาพมัดไม้แสดงจานวนนับ 11 การเขยี นตวั เลขแสดงจานวน 10 ถงึ 19 การประเมิน ในรูปกระจาย เปน็ การเขยี นในรปู การ 1. วิธกี าร 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ บวกของ 1 สิบกบั จานวนหน่วย และ จากภาพมดั ไม้ให้นกั เรยี นตอบคาถาม 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด การเขยี นตวั เลขแสดงจำนวน 20 เขยี น -แสดงจานวนอะไร (11) ในรปู การบวกของ 2 สบิ กับ 0 หน่วย -จานวนมดั ไม้แสดงจานวนก่สี ิบ (1 สิบ) กบั ไม้อีกก่ีอนั (1 อัน) 2. เครื่องมือ 2.1 แบบฝึกหดั 1.19 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ -เขยี นแสดงจานวนมดั ไม้ได้อยา่ งไร (1 สิบ กบั 1 หนว่ ย) 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ ครตู ดิ แผน่ ตารางภาพมัดไม้แสดงภาพมัดไม้ของจานวน 11 กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านความรู้ ภาพมัดไม้ แสดงภาพมัดไม้ 1 มัด กับ ไม้ไมค่ รบสิบ แสดงจานวน เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถเขียนตัวเลข 3. เกณฑ์ กับ 11 3.1 ผลงานมีความถูกต้องไม่น้อย แสดงจานวนนบั 10 ถงึ 20 ในรูปกระจาย กว่าร้อยละ 80 3.2 คะแนนรวม ดา้ นทักษะและ ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง ครถู ามนักเรยี นวา่ จากภาพมัดไมแ้ สดงจานวน 11 ถ้าครหู ยิบไม้มาเพิ่มอีก 1 อนั กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไม่ นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 คณิตศาสตร์ จะมไี ม้กี่อัน (12) ครูติดภาพมัดไม้แสดงจานวนนับ 12 เพือ่ ให้นกั เรียนสามารถสอ่ื สาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ จากภาพมดั ไม้ใหน้ ักเรียนตอบคาถาม -แสดงจานวนอะไร (12)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒๑ 133 กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ช้ัน ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน -จานวนมัดไม้แสดงจานวนกส่ี บิ (1 สบิ ) กบั ไม้อกี กอี่ ัน (2 อัน) เวลา ๑ ชั่วโมง -เขยี นแสดงจานวนมัดไม้ได้อย่างไร (1 สิบ กบั 2 หนว่ ย) ครูติดแผน่ ตารางภาพมัดไมแ้ สดงภาพมดั ไม้ของจานวน 12 ภาพมดั ไม้ แสดงภาพมดั ไม้ 1 มดั กับ ไม้ไมค่ รบสบิ แสดงจานวน กับ 12 จานวน 13 ถึง 20 ครูอาจถามเพยี งจานวนจากภาพมดั ไม้ เช่น เขียนแสดงจานวน 13 ไดอ้ ย่างไร (1 สิบ กับ 3 หนว่ ย) เขียนแสดงจานวน 14 ไดอ้ ยา่ งไร (1 สิบ กับ 4 หนว่ ย) เขยี นแสดงจานวน 15 ไดอ้ ยา่ งไร (1 สบิ กบั 5 หน่วย) เขยี นแสดงจานวน 16 ได้อยา่ งไร (1 สบิ กบั 6 หน่วย) เขยี นแสดงจานวน 17 ไดอ้ ย่างไร (1 สบิ กบั 7 หน่วย) เขยี นแสดงจานวน 18 ไดอ้ ยา่ งไร (1 สบิ กบั 8 หนว่ ย) เขียนแสดงจานวน 19 ไดอ้ ย่างไร (1 สิบ กับ 9 หน่วย) เขียนแสดงจานวน 20 ไดอ้ ย่างไร (2 สบิ )
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๒๑ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 134 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ 1.2 ครูตดิ แผน่ ตารางภาพมดั ไมแ้ สดงภาพมดั ไมข้ องจานวน 11 ถงึ 20 ภาพมดั ไม้ แสดงภาพมัดไม้ 1 มดั กับ ไม้ไม่ครบสบิ แสดงจานวน กับ 11 กบั 12 กับ 13 กบั 14 กับ 15 กับ 16 กบั 17 กับ 18 กับ 19 20 ขั้นสอน 2. แนะนาการสอนเขียนตัวเลขแสดงจานวนนับ 10 ถงึ 20 ในรูปกระจาย 2.1 ครตู ดิ ภาพมัดไม้แสดงจานวนนับ 11
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒๑ ชั้น ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 135 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ จากภาพมดั ไม้ให้นกั เรียนตอบคาถาม -เขยี นแสดงจานวนมัดไม้ได้อย่างไร (1 สิบ กับ 1 หนว่ ย) -เขียนแสดงจานวนจากภาพได้อย่างไร (10 กับ 1) - 10 กบั 1 รวมกนั ไดเ้ ทา่ ไร (11) จะได้ 11 คือ 10 กับ 1 หรอื 10 + 1 ครแู นะนาว่า 10 + 1 เป็นการเขยี นจานวน 11 ในรูปกระจาย ครูสรปุ ว่า 11 เขยี นในรปู กระจายได้ 11 = 10 + 1 ครูติดแผน่ ตารางภาพมดั ไมแ้ สดงการเขยี นจานวนนับ 11 ในรูปกระจาย ภาพมดั ไม้ แสดงภาพมัดไม้ 1 มดั กับ ไม้ไม่ครบสิบ เขยี นในรปู กระจาย กับ 11 = 10 + 1 2.2 ครูติดภาพมัดไม้แสดงจานวนนบั 12 จากภาพมัดไม้ใหน้ ักเรยี นตอบคาถาม -เขียนแสดงจานวนมัดไม้ได้อย่างไร (1 สิบ กบั 2 หนว่ ย) -เขียนแสดงจานวนจากภาพได้อยา่ งไร (10 กับ 2) - 10 กบั 2 รวมกันไดเ้ ทา่ ไร (12) จะได้ 12 คือ 10 กบั 2 หรือ 10 + 2 ครแู นะนาว่า 10 + 2 เป็นการเขียนจานวน 12 ในรูปกระจาย ครสู รปุ ว่า 12 เขยี นในรูปกระจายได้ 12 = 10 + 2
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒๑ ชน้ั ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 136 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ครตู ิดแผน่ ตารางภาพมดั ไมแ้ สดงการเขียนจานวนนับ 12 ในรูปกระจาย ภาพมดั ไม้ แสดงภาพมดั ไม้ 1 มัด กับ ไมไ้ ม่ครบสบิ เขยี นในรปู กระจาย กับ 12 = 10 + 2 2.3 ครูตดิ ภาพมัดไม้แสดงจานวนนับ 13 จากภาพมัดไม้ให้นักเรยี นตอบคาถาม -เขยี นแสดงจานวนมัดไม้ไดอ้ ยา่ งไร (1 สบิ กับ 3 หนว่ ย) -เขียนแสดงจานวนจากภาพได้อย่างไร (10 กับ 3) - 10 กบั 3 รวมกนั ไดเ้ ทา่ ไร (13) จะได้ 13 คือ 10 กับ 3 หรือ 10 + 3 ครแู นะนาวา่ 10 + 3 เปน็ การเขียนจานวน 13 ในรูปกระจาย ครสู รปุ ว่า 13 เขยี นในรูปกระจายได้ 13 = 10 + 3 ครตู ิดแผ่นตารางภาพมดั ไมแ้ สดงการเขียนจานวนนบั 13 ในรปู กระจาย ภาพมดั ไม้ แสดงภาพมดั ไม้ 1 มดั กับ ไม้ไม่ครบสบิ เขียนในรูปกระจาย กับ 13 = 10 + 3 การเขียนจานวน 14 ถงึ 19 ในรปู กระจาย จดั กิจกรรมทานองเดยี วกัน 2.4 ครตู ิดภาพมดั ไม้แสดงจานวนนับ 20
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒๑ ชัน้ ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 137 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ จากภาพมัดไม้ใหน้ ักเรียนตอบคาถาม -เขยี นแสดงจานวนมดั ไม้ไดอ้ ย่างไร (2 สิบ กับ 0 หนว่ ย) -เขียนแสดงจานวนจากภาพได้อย่างไร (20 กับ 0) - 20 กับ 0 รวมกันไดเ้ ทา่ ไร (20) จะได้ 20 คือ 20 กบั 0 หรอื 20 + 0 ครแู นะนาว่า 20 + 0 เป็นการเขยี นจานวน 20 ในรูปกระจาย ครูสรุปว่า 20 เขยี นในรปู กระจายได้ 20 = 20 + 0 ครตู ิดแผ่นตารางภาพมดั ไมแ้ สดงการเขียนจานวนนบั 20 ในรปู กระจาย ภาพมดั ไม้ แสดงภาพมัดไม้ 1 มัด กับ ไมไ้ มค่ รบสบิ เขยี นในรปู กระจาย กบั 0 20 = 20 + 0 2.5 ครแู จกใบกจิ กรรม 1.1 กาหนดจานวน 10 ถึง 20 ทีละจานวน ใหน้ กั เรยี น เขียนจานวนท่ีกาหนดใหใ้ นรูปกระจาย เช่นครูกาหนด 16 นกั เรยี นเขยี น 16 = 10 + 6
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๒๑ ชั้น ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 138 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปการเขยี นจานวน 11 ถงึ 20 ในรูปกระจาย ภาพมดั ไม้ แสดงภาพมัดไม้ 1 มัด กับ ไมไ้ มค่ รบสบิ เขียนในรปู กระจาย กับ 11 = 10 + 1 กับ 12 = 10 + 2 กบั 13 = 10 + 3 กบั 14 = 10 + 4 กบั 15 = 10 + 5 กบั 16 = 10 + 6 กบั 17 = 10 + 7 กับ 18 = 10 + 8 กบั 19 = 10 + 9 กบั 0 20 = 20 + 0 ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัด 1.19
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒๑ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 139 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ข้ันสรุป 4. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปว่า 11 = 10 + 1 12 = 10 + 2 13 = 10 + 3 14 = 10 + 4 15 = 10 + 5 16 = 10 + 6 17 = 10 + 7 18 = 10 + 8 19 = 10 + 9 20 = 20 + 0 การเขียนในลักษณะน้ีเรยี กว่าเขียนจานวนในรปู กระจาย -
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ข้นั นา แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒๒ ข้นั สอน 140 ขัน้ สรปุ แนวการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล ทบทวนการเขยี นแสดงจานวนจากภาพมดั ไมข้ องจานวนนับ 10 - 20 หลกั และคา่ ของเลขโดดในหลักสิบและหลักหนว่ ย แบบฝึกหัด 1.20 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุป10 ถึง 20 เป็นตวั เลขแสดงจานวนนับทมี่ ีสองหลัก เลขโดดทางขวาอย่ใู นหลกั หนว่ ย เลขโดดทางซา้ ยของหลักหนว่ ยอยู่ในหลกั สบิ - ประเมินจากการตอบคาถามและการทาแบบฝึกหดั 1.20 - ประเมนิ จากการสอื่ สาร สอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404