Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-06-27-คู่มือครู ป.1 หน่วยที่ 1 จำนวน

64-06-27-คู่มือครู ป.1 หน่วยที่ 1 จำนวน

Published by elibraryraja33, 2021-06-27 01:10:52

Description: 64-06-27-คู่มือครู ป.1 หน่วยที่ 1 จำนวน

Search

Read the Text Version

โครงการสวนพระองคสมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มูลนิธิการศึกษาทางไกลผา นดาวเทียม ในพระบรมราชปู ถัมภ สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

ชุดเอกสารสื่อ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ลิขสิทธิ์ของ สำ�นักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์แ​ ละเทคโนโลยี สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำ�นวน ๒๒,๐๐๐ ชุด จัดพิมพ์โดย องค์การค้าของ สกสค.

คคำาํ นนำาํ กหซกปวสคขโกกทนคสคนกทกกสซเกหแพจคปดลิาท่ึาว่ิจาางรุณนลจิาัณุรึกลาํรงา่ึรังกรรรทุลยร็กรรปจูนนผกระนระะะปากยูาัเผงาเัธงศภภจเเรเรัเดบกสรกู้สทบจัเกรราักดู้รศรรสจแรรกึกีายดัาียราอแรศอะอาถงยีียะรงถยีักีเยาอลษพพม่ียรนแมนบยกาลากบวานึนงนกึนงกรนะนะากวกยกกนนก)สงด)็แทอกแากอ)รรขภทรโรขา)ศากาาเชตคคว้นฉรฉบนูู้้่ีมบัู้ปบันู้้เรูม่ีอ้รมรรสแกึเยแแใงรพสณณบบวีเวกปก๒ดพศเ็นดศศิหงีลเากรษ์ลลรําค่ือัคบัรบารก้ว็นกึแ๕ะะา้รกึื้นหวยี้ะสียาะหาะีิยดระใิดสายับปกลปกษยรนษ๕ฐศรรนธศอหโรนทยนกตกชาาระกรรับชรารนกิ๑กึราึกรับด้สตส----ก-หขชขหก----ตนส-รายารขราัรุสบดรัู้บาุรดงาใู้ษําษคใอ์าเั้าอนวแรามอําวทชรแาามยวะชรตะาเรกปใอปชกไารจนงามผดรัลจรนงปมันขปกผนั้ดงราาขา้ใดกปา้ใาคราศรคนัไีวดชชชช(ชชชชชนนงนยมวั(ชชชชชชชัด้คะยกชชอกทนาบัอัีรทนอกับารภุไงดภรใุงศาึก(่าํ(าุ่ดน้นุดดัด้ัุัุ้ดนนัุ้าาภกครดุุดน้ัันุ้ดัน้กดุํนลโโลน้ัับดุกาปงงรกปี่ชจบปนปโี่บงนปจชาป้าชึกอรษชชชกกกกกกาสชการาํรปปปปกกกกุ่มกู้กปปอปสรมาปปขัา้ดใรษั้ีรดรษ้ีแคี้รงษค้ีแรกสรุุุดาดงาะดนพาาาาชาุระัสดาาาบาจาาะาจํนงรรรริารรรศะยะรรเกะจาุะกจณาุจาเณธรา่งัรรรรรจบรรรรรกรรก้กากบถะะะะนคะะะะกะนะุงบถรถกาคอาถิจงอกกิดัศสจกิงจจจจจพรจจจจียัดจศ๒ถถถถมแัาบวาเถถถาียเถัสวณกามใมยัากมังใวกรณงัาะกปึัดทดดััดัดักากปัดดััดัดนัดกผนึบผกรรนมมมมศรลนมม๕มนนรมตกกะรกศศ่งศโากศรงรากกกกกษะร็นกกุกกกาู้็จจกนจทู้ปษเะะศศศทศึกจวอกทศศศเป๕าฤรศากปสฤกึรึกาาใรึกอรรจิจจจิิจิิกอิจิจิจิจััโาจิดดัไปจด่ปากษัชึึึึกกก์กรดรนารราเกึกกึกึรษรกึาื่น๑ษมษษอรรเรมษกดรกกกกกขกใกกรกกกสดัเรกปกะวรขม้กรษษษษงรารรงกษษษะษาะง)โนรกด)โีาายส้ปกรารรรรั้รนสรงรยีรรร่ืจอตถปทคะิิั้จนจะคจริคราจสคิถาาาาียจกปตาาาชาัานกศตรรรรรงชามรรรราเรนราพัดาโมตดุมะโัดกณีุปาปปทกปกณพนปปปรมพปทกรรามมมมมกอ่รั้นีทมมมมล่อึกนร้ัยรมรมะยกรเกกรศัื้นงกรกงรีททีทีร่ีทีเรศงศีทีทที้ืนรีทูุ้ไื่อกอกกกกเลกษุ่ปกกไกกวกมชคี่กปชวู้๑าชฐกราารกชึกรสรปสู้กฐารปาส๑รี่่ี่ีึก่ีใกี่าุ่ีาาาาี่่ชฐ่ีฒาุโาาาาาานาฒสารีนยรารศุดรลีม๑๑๑๑ยมรดุ๑๑๑ชาญัษมังา๑รมาญัรรรรรรธสษรรรร-วาศส่รวะนกะาเ์นตค์ตใก่เนาิน-กร้ิกกมกเเเเเรกงิกาเเเเรนกเงั่ยชลร๖าถรใชาถลรรรรรก----ผามผว--่-รรรอร่-ราอรสาากขสีรชา๖ยาาาาีรยะพ่กัขาวมยีียยีียีย้มมจกัร)ียียยียีู้ชารียศู้บเู้๖๖๖๖กบร๖๖๖กรรู้๖รมรนรตจม้รนมมกรน)ษยพน(นนนนนศศรจัฒึแงษานนศ(นน่นวจกึะเาาศเรสเรึงสรเาเาาทารเเเแรพตณรดัลาึกึ่ืภภภภรรกรรรรทอยกึรภภภณัดษรรรภรรดรรริหหรเิดนหึดตฐากรู้ําีู้ยดล่ีีููููู้้้้้ะหยีรกยษูููู้้้้จัีู้รพษฒษาาาาณยจชกียกาาาา็าท์สจกหเ็็น(((((าจาเหาร์ท((((ษา(เนฐะเวรคคคคนสสสสสจิัศ็ดคคนคลนสสสสัคดาส่ิจนนาวาัปพฒานคลพฐาีใ่รรพรคนง่ีใราเีายกราาาาาาปเเเเช็กเเปเําําําราํกโรกเํากยครขรปรชารศฐ็ัสุ็ณกนบสรรรรกันบรรรวรรนสขาอหู้หหหหรนไหหหหรเู้หู้้ิทีจทเู้รนิู้ทีจั้.วไนพ้ีียียยยีึก็นทียยียีรถรียตปถะาคแคน(ตกั้แกะ(ครนภแารรรรรรปรรรรร๑กรรกี่ส่ีขากษสนนนนี่มันนพนรนฒรา่ีนขรเมาุราใคณาลราบบบัับััเบัู้๑นรมสับับบับั๑ับาพมยรใ๒ทราาาําาเาชทีกีททททยนแูทททนผรสา้ืีทวยนูกผุะณพชัวคคคคคกงรนภรคคคคคีดรธกรื้หยภนห๓้ลดพเามทีีี่ี่่่-ู้พสม-ศี่่ี่ีคาตทู้ศี่สี้ฐมยารรรรรมกริกเรรรราร๑๑๑๑คานาภภ๑๑๑ร๑ะรา๙ฐรคครตารอรึ๖ตมัวรกูผููผูผผึผูค๖าาีอคกผผรยผผููููนากผูราคกนรัว้ีบาพังบเาาีย,,,,รั/ัวเตรงชรนนััสููู้สู้ส้้สศู้สวตเษรรสสูู้้นส,,,,สูู้้นนรสู้ษาูกรุัาคฒรณ๒ํพารนูกนคภู๒๒๒๒ขภผกค้ีมวขูศนียผอออออึรกออ)๒๒๒๒ออู้นทอมรยีแรา)าาสียา๕ากนัอดู้รราสาารภีคเอ(นึู้กนนนนนสรเู้แเนนนนษรนนีคแล่ีื่อนรจรจแภรู๖รู้คอผาคูธรงกผสวอศรศงษราาอ))))ล)ว))))แาาล)รระึีึยดงงีลยรราคศเู้าพเ๐สดัคูู้ลไสู้(นึชพึกดักศู้ะูไนกกกกากรชลไไรกกกกตะรกนภังคศม(นะสรึ(กฐุ่มอมรอดดสรยีแตสียามษตลลลลกษลสกะสลลชลลตัแลลวเาูึรกช่คื่อ.รูษ่นคะสรส้า๑น้นลปปุนสัวุุุุ้่่่่ดมมมมุ่ลมตําอคุงลุุ่มุม่าุมุ่่มสชู้ด้าดอุ่มขาูุ้ขษดรดใหยีดารนวะช)หา๒ื่ทอ)ท่เนารัรสสสสวบะนรงาน้ีื่อสสบสอวกสบงาอกังรารบนับนัปรข้ีววัาัศบปชศรก๓ฯบาาาาี่หัศแดี่แาาาิรูกฯงาิิเกจรูเียชงะิขจับ๑ทแ๑ทชัดอปรับรรรรทที้ึวรึรราคกณรกร๙ึลปณลกคปลากนลมกั้นอกะคละะะะ้ันส่ีแะะะะี่รัดงะคร,สรศษรักษศษ/ะระ่ราร๗าท,าแ๑รางหเรากกกกะโรเจกกกะ๒กหยลูกผ๒รจมยูสผุวรชกรใมงุชกกโาง๒าการลรี่ผูวราาาาัดถาาาูผาช๕ู้ลัะาสรดสร๑เชินูตมู้สา,ชเุ์ดรินเุ์างดมาะรรรรืัอฒสู้รรรรรมกมอสู้ืงอมอ้ใคุ่เมิงอคก๖มุรรด๒เุผอะกรดผกเเเเเกกีเเยเนเพออเหแราศอกาแรรรรอกพรนรรบนสรรา๐รลดรบนกาล)กิจินจายนีโลรยใื่ียียียียาอกยีียนียึกูยยีรสสูีายธ่ือขรัรขรบารชรกาคกเู่ใระอ)นนนนนอลนอเนในนษรู่นใอ)รทาเาอรนงมใรนอเรมร้ใู้คมภปรหนรรงาัะนกใหรรรรรารขรเรรรรีัยนรใานงจ้ังีงขยจรพวรรีหณยรราจู้้ภููู้้ว้ภคหพมีรกสยจล้ภูู้วคู้แู้ภใจ้นแ๒นัสจดโาันันนียดมคาม๕คค้ืนนทิห้เะิทณาาาในะาาาตเ้ณ้ืรนาติตะา๕ะาะรชขกทนเขชรนากกงูู่่มกมรรษษถทรย้ดรษงดยษรล่สร่ลศู้ทดดสติ้าก๖กกู้ติดา้า่ีปกเหาาู้ยเืลืยาอาีอยมียู้าาี่าะหวล่า๗งะารใา่รเวงี่หาศใ(รลุศ๐เมรร(ุศ์รมรตไั์ศนลจกหผล่ิตกสงกไกหศจีสยัลกผร่าีสยกเาุม่ทแ่าเาเแะทเาสขาา่ัาษทากศ็รลา่ากางนาตนึต็รนกกลษรํนสารตงสเลสยรถเลงสงิ้ึนยีงไรยหรรสีึกตยพีี่ปณไีย่รว่หไพยอตรว่ตไษ่อปณตหปีกปต๒มะีตะดกใใดนษู์ยต่อรู้ยนนรนรค่กอรไรรกรปไาชาลระชรวรทศร)รท้ละเั้กบเะาดรกากร์ัดบาค์รณการรใะาะิ์ท้ชปทปะ้ชร์ชึทกุชขทกแุะาู้กกาะ้หู้านจมู้้รู้รจถาเนะเุดยุุ็ดุร็นดนิตรษ(ุ้ัน(ดรั้งกจท((ทรุอรจททนนัด้รักัดดมสสกาัสกสกเก๒เกศกอพอกพะกนาะบศรพ่๕รศา่ํศาาาเีทยาอศาทํํันาเาา๕ขาาทายันรยีทายียักื้ฒนไนดรไานัฒหหิ่หงบรึกหาํรสดารีปนรกย๖่นปา่นาาสดีลํยาฐ้วทขจทชนรจรษกชจรจตารนงลในางใใตรา๐รยาาใน้ึััดนัี่บหุบัมัี่รชดบดหดััาัุบมับดดดดนรดุ่ชาู้มาู้งรร))ี้์้ี้ีี์้ สว่ นเกย่ี วข้องกบั การปรบั ปรงุ และจัดทําเอกสารมา ณ โอกาส น้ี สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน



คคาาชชีแีแ้้ จจงง แแพชพกชกนนุดุดำำทุทุ รรกกววธธววททำำศศเิเิ รรำำคคกกัั จจงงรรรรัดัดใใชชชชำำำำนนกกะะชชุดุดุุดดกกิิจจหหกกกกำำ๒๒กก์์หหำำำำรร๕๕รรรรรรลลจจรรจจจจ๕๕กัักััดดมมดดััดัดั สส๑๑กกกกกกกกตููตำำำำจิจิจิจิเเรรรรรรมมกกกกเเกกเเรร่ออ่ืืรรรรรรลลยยีีสสรรรรียียุุ่่มมนนมมมมออนนสสรรกกกกนนรรำำคูู้้คำำำำูู้้กกคครรณณรรรรลลรระะเเเเบบม่มุุ่รรรรคคิตติ ียียยีียททสสณณศศนนนนำำง้ง้ััำำตติิ รรสสรรรร๘๘ศศะะูููู้้้้ตต((((ำำกกสสสสรรเเสสำำลล์์ำำำำเเตตรร่มม่หหหหรรเเรร่อ่อืืรรรรรร์์นนยียีัับบับับงง((ฉฉกักัจจนนคคคคบบเเำำรรรรรรรรนนับบัู้คคู้ผผููููผผยยีี ววปปณณสูสู้้สูู้้สนนนนรรออออจจิิตตบับันนนนะะใใศศหหปปไไ))))ำำดด้้กกรรหหหหสส้้เเุงุงัับบตตรรนนนนียยีนนรรพพ่่ววว่ว่ ์์นนักักยยยย..ใใศศรรททททชชเเรร..ูคู้ค้้้กกีี่่ี่ี่ ียีย๒๒๑๑๑๑รรบัับนนบบ๕๕นนจจจจชชถถ๖๖กักัำำำำัน้ั้น้้วว๐๐นนนนเเปปนนรรวววว))ียยีรรคคนนนนตตะะนนรรำำถถออชชเเเเมมลลลลมมบบน้้ัันแแม่ม่ม่ม่ศศคคปปกกนนนนกึึกลลรรนนี้ี้้ีี้ษษมุุมะะเเเเกกปปปปำำถถททลลปปมมน็น็็็นนุุกกำำทีีทศศเเตตงงออ๑๑ี่่ีึึกกกกััวว๑๑กกษษชชำำใใสสรรนน้้ีวีวำำปปำำศศดััดปปรรรร๘๘กึึกขขทีีทททะะษษออกกีี่่นี่่ีนเเ๑๑ลลงงำำออำำหหขขมม่่บบเเซซั้้นันลลสสดดึึงง่่ขขักักนนพพผผว้ว้ออสสออื้ืน้นยย่่ำำงงููตตนนฐฐรรำำนน ((((((((((((((((((((๔๒๕๒๑๕๔๑๓๓๘๗๑๘๗๙๑๙๖๖))))))))))))๐๐)))))) ))โมมคโคกโโกเเเเเเแแฉฉฉฉฉฉคคคคผผำำำำำำลลลลลลรรรรหหแแตตนนงงงงยยยยยยนนรรแแนนกกสสสสใใแแแแฐฐะะบบดดำำบบรรรรบบบบำำนนรรบบกกำำ้้ำำ้้กกนนบบบบจจงงงงำำำำปปิิจจกกหหชชัดัดฝฝททสสรรกกรรำำดดุุึึกกกกสสำำนนดดะะรรรรหหกกหหำำออสสว่่วรรเเเเรรมมำำรรนนรรยยดััดออมมเเรรับบัยีียินนิกกคคขขบบรรขขจจนนคคททียำยำีออณณออขขัดัดรรรรรรนนงงักักงงออิิตตกกเเูแู้้แููผผนนนนรรษษรรงงศศจิิจลลส้้สูููู้้ัักกนนยยีีกกััะะจจกกำำะะออเเนนเเัักกแแสสำำรรรรรรตตนนเเรรลลนนยยีีตตรรยียีรรวัวั ูู้้ะะมมนนววนนรรียียหหชชกก์์นนกกนน้ว้ีวีนนชชรรำำดัดั ่่วว้นัน้ัะะ๓๓รรขขยยบบปปเเ๖๖ออรรททววรรียียงงี่ี่นนแแะะหห๑๑นนถถผผกกนนรรมมนนำำจจูู้้ว่ว่ รรศศำำยยททนนึึกกกกำำษษววำำงงนนำำรรคคปปเเณณรรทีที ยียี ิิตต่ี่ีนน๑๑ศศรรำำูู้้ สสหหตตนนรรวว่่ ์์ ยยทที่ี่ ๑๑ จจำำนนววนน กกกกรรูู้้ววำำอ่่อำำ่่รรนนตตจจกกอ้อ้ัดัดำำงงกกรรสสำำสสออรรออเเนนนนรรแแียียเเตตรรนน่ื่ืออ่ล่ลรรงงะะูู้้ขขจจเเออนนำำงงนนืื้้ออคคววหหรรนนำำมููมออีปปีคคยยรรรร่่ำำะะููผผงงสสูู้้สสไไรริิททออธธนนแแิภิภคคลลำำววะะพพรรตตศศ้้ออสสกึึกงงง่ง่ ษษเเผผตตำำลลรรแแใใียียผผหหมมนนน้น้ สสกกัักก่ืออ่ื ำำเเ//รรรรออยียีจจปุปุ นนดัดั กกมมกกรรำำีีคคณณรรววเเ์์ปปำำรรมมรรียยี รระะนนค้คูู้กกรรววออูู้จจ้ ำำบบำำมมกกกกเเเเขขำำออรร้้ำำกกสสใใสสจจออำำใในนนนรรออเเเเลลนนะะม่่มไไ้ืื้ออรรนนหหบบี้้ีออำำำำ้้ ยยททงง่่ำำี่ี่สสงงซซออลลึ่ง่ึงนนะะจจเเะะออททียียำำดดใใหหจจ้้ ะะททำำใใหห้้ ปเปเลลททีี ่มม่ ี่ี่ นน๑๑ี้ี้ จจเเพพะะคคเเ่อือื่ ปปณณเเนน็็พพะะปป่่ิมมิ ผผรรปป้จ้จูู ะะรรดัดั โโะะททยยสสชชำำิททิ หหนนธธวว์ตต์ ิภิภัังง่ออ่ เเำำปปคคพพรรนน็็ กกููผผออำำู้สสู้ ยยรรออจจำ่่ำนนงงัดัดยยกกใใิ่งง่ิ ำำนนววรรกก่่ำำเเำำรรชชรรียยี ุดดุนนนนกกำำรรำำไไขขูู้้ ปปรรออจจใใงงชชดัดั คคจ้้จกกรรัดัดจิจิูแแู กกกกลลำำรระะรรรรกกเเมมรรำำกกยียีรรำำนนเเรรรรรรยีียเเูู้้รรนนเเยีียรรรรืื่่ออนน้ขูู้ขงงรรออจจูู้้((งงสสำำนนำำนนัักกหหววเเรรนนรรบับั ียียใใคคนนหหรรใใ้้กกผผููหหัับบูส้สู้้้สสนนออูงูงกกัันนขขเเ้นึึ้น))รรตตหหียีย่ออ่นนนนไไชชว่่วปปยย้นั้นั ททปป่่ีีรร๑๑ะะถถจจมมำำศศนนึึกกววษษนนำำ สสถถำำบบนัันสสงง่่ เเสสรรมิมิ กกกกำำรรรรสสะะออททนนรรววววงงิททิ ศศยยึึกกำำษษศศำำำำธธสสกิกิตตำำรรรรแแ์์ ลละะเเททคคโโนนโโลลยยีี



สารบัญ หนา้ ๑ คำแนะนำสำหรบั ครูผ้สู อน ๕ โครงสร้ำงชดุ กำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ ๖ กำหนดเวลำกำรสอนคณติ ศำสตร์ ชัน้ ประถมศึกษำปีที่ ๑ ๗ โครงสร้ำงหน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๑ จำนวน ๘ มำตรฐำนกำรเรยี นรแู้ ละตัวชว้ี ัดของหน่วยกำรเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๑ จำนวน ๙ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ๑๑ ๑๘ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๑ ๒๔ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๒ ๓๐ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๓ ๓๖ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๔ ๔๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๕ ๕๐ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๖ ๕๗ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๗ ๖๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๘ ๖๗ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๙ ๗๓ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑๐ ๗๙ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑๑ ๘๔ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๒ ๘๘ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๓ ๙๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๔ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๑๕

สารบญั (ตอ่ ) หนา้ ๙๘ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๖ ๑๐๓ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑๗ ๑๑๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑๘ ๑๑๙ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๑๙ ๑๒๖ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๒๐ ๑๓๑ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๒๑ ๑๔๐ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๒๒ ๑๔๕ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๒๓ ๑๕๓ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๒๔ ๑๖๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒๕ ๑๖๘ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒๖ ๑๗๔ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๒๗ ๑๘๑ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๒๘ ๑๘๙ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๒๙ ๑๙๔ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๓๐ ๑๙๙ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๓๑ ๒๐๖ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๓๒ ๒๑๐ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๓๓ ๒๑๗ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๓๔ ๒๒๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๓๕ ๒๒๘ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๓๖ ภำคผนวก ภำคผนวก ก เฉลยแบบฝกึ หัด

แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๓๒ สารบญั (ตอ่ ) แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๓ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๓๔ หนา้ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๕ ๒๓๕ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๓๖ ๒๓๗ ภำคผนวก ๓๗๑ ๓๗๗ ภำคผนวก ก เฉลยแบบฝกึ หัด ๓๘๕ ภำคผนวก ข เฉลยใบกจิ กรรม ภำคผนวก ค เฉลยแบบทดสอบ ภำคผนวก ง แบบประเมินทักษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์



คาำ คแาํ นแนะะนนำาําสสำาําหหรรบั บั คครูผรูผสู้ อ้สู นอน ๑. แนวคดิ หลกั การจดั การเรียนการสอนคณติ ศาสตรม์ ่งุ ใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามสามารถด้านการส่อื สารและการคิดอย่างเปน็ ระบบ สามารถตัง้ ข้อสันนษิ ฐาน สืบเสาะและเลือกสรรสารสนเทศ ใหเ้ หตุผล แก้ปญั หาโดยเลือกใชย้ ุทธวธิ ี ตา่ ง ๆ การจัดกจิ กรรมจึงควรเนน้ การเรียนรูร้ ่วมกนั เปน็ กลมุ่ ซึง่ เป็นการเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นได้รว่ มกันคิด ปรกึ ษาหารอื อภิปราย แก้ปัญหา แสดงความคดิ เห็นและสะทอ้ นความคิด (reflective thinking) ช่วยให้ ผเู้ รียนไดพ้ ฒั นาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ในการจดั กลุม่ อาจจดั เปน็ กลมุ่ 2 คน หรอื กลมุ่ 3 – 4 คน หรืออาจจัดกจิ กรรมรว่ มกนั ทงั้ ชั้น ท้ังนข้ี ึน้ อยู่กบั วตั ถปุ ระสงค์ ของการจดั กจิ กรรมการเรียนรนู้ นั้ ๆ ในการดําเนินกิจกรรมการเรยี นการสอนคณติ ศาสตร์ สิง่ สาํ คญั ทผี่ สู้ อนควรคํานงึ ถงึ เป็นอนั ดับแรกคือ ความร้พู นื้ ฐานของผูเ้ รยี น ผ้สู อนอาจทบทวนโดยใช้คาํ ถามหรอื ยทุ ธวิธตี า่ ง ๆ เพื่อนาํ ไปสกู่ ารเรียนรูเ้ นอื้ หาใหม่ ข้นั การสอนเน้อื หาใหม่ ผ้สู อนอาจกําหนดสถานการณ์ท่ีเชื่อมโยงกบั เร่ืองราวในขั้นทบทวนความรู้ และใช้ ยทุ ธวิธตี ่าง ๆ ทีช่ ่วยให้ผเู้ รียนสามารถสรปุ หรือเข้าใจหลักการ แนวคิด กฎ สตู ร สัจพจน์ ทฤษฎบี ท หรอื บทนยิ ามด้วยตนเอง ในขณะท่ีผ้เู รยี นปฏบิ ัติกิจกรรม ผสู้ อนควรใหอ้ สิ ระทางความคดิ กับผู้เรียน โดยผู้สอน คอยสงั เกต ตรวจสอบความเข้าใจและใหค้ ําแนะนําอยา่ งใกล้ชิด ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ผ้สู อนควรใหผ้ ้เู รียนแตล่ ะคนหรอื แต่ละกลมุ่ ไดน้ ําเสนอแนวคดิ เพราะผเู้ รยี นมโี อกาสแสดงแนวคดิ เพิ่มเตมิ ร่วมกนั ซักถาม อภปิ รายขอ้ ขัดแย้งดว้ ยเหตุและผล ผสู้ อนมีโอกาส เสรมิ ความรู้ ขยายความร้หู รอื สรปุ ประเด็นสําคัญของสาระทีน่ าํ เสนอนน้ั ทําให้การเรียนรขู้ ยายวงกว้างและ ลกึ มากขึ้น สามารถนําไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จริงได้ นอกจากน้ยี งั ทาํ ให้ผ้เู รียนเกิดเจตคติที่ดี มีความภูมใิ จ ในผลงาน เกิดความรู้สกึ อยากทาํ กลา้ แสดงออก และจดจาํ สาระทีต่ นเองได้ออกมานําเสนอไดน้ าน รวมท้งั ฝึกการเป็นผนู้ าํ ผู้ตาม รบั ฟงั ความคดิ เห็นของผูอ้ ่นื การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้สําหรบั ชนั้ ประถมศกึ ษา ผ้สู อนควรให้ผูเ้ รียนไดเ้ รียนรูจ้ ากการปฏิบตั ิ ฝึกทักษะการสงั เกต ฝึกให้เหตผุ ลและหาข้อสรปุ จากสื่อรูปธรรมหรอื แบบจาํ ลองตา่ ง ๆ กอ่ น แล้วขยายวง ความรู้ส่นู ามธรรมตามความสามารถของผ้เู รียน สําหรบั บางเน้อื หาทีย่ ากตอ่ การทําความเข้าใจของนักเรียน บางคน ผสู้ อนควรหายุทธวิธตี า่ ง ๆ ทีเ่ หมาะสมกบั ผเู้ รยี นในการอธิบาย เชน่ ใชว้ ธิ ีลดรปู ของปญั หา หรือ เลอื กใชส้ ือ่ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมเพือ่ ช่วยใหก้ ารเรยี นรงู้ ่ายขึน้ และเพื่อใหผ้ เู้ รยี นตระหนกั ในคุณคา่ ของ คณิตศาสตร์ ผ้สู อนควรใชส้ ถานการณ์ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับชีวิตจริงเปน็ ตวั อยา่ งในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ (ฉบับปรับปรุง) 1

๒. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กำรนำชุดกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ไปใช้ ครูควรเตรียมตวั ลว่ งหน้ำ ดังนี้ ๑. ศกึ ษำโครงสรำ้ งชดุ กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ทรำบว่ำตลอดทง้ั ปีกำรศึกษำ นักเรียนต้อง เรยี นรู้ท้งั หมดกหี่ นว่ ย แตล่ ะหน่วยมหี นว่ ยย่อยอะไรบำ้ ง ใช้เวลำสอนก่ชี ่ัวโมง และมีก่แี ผน ๒. ศึกษำโครงสรำ้ งหน่วยกำรเรียนรู้ วำ่ แต่ละหนว่ ยกำรเรียนรู้มเี นอื้ หำอะไรบ้ำง เนื้อหำละกีช่ วั่ โมง ซึ่งจะชว่ ยใหค้ รผู สู้ อนมองเห็นภำพรวมของกำรสอนในหน่วยดงั กล่ำวได้อยำ่ งชดั เจน ๓. ศกึ ษำแนวกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ ซ่ึงอย่หู นำ้ แผนแต่ละแผน เป็นกำรสรปุ แนวกำรจดั กจิ กรรม ในแต่ละขน้ั ตอนกำรสอน ทำใหค้ รมู องเห็นภำพรวมของกำรจดั กำรเรียนรู้ในชวั่ โมงนัน้ ๆ ๔. ศึกษำแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ตำมหัวข้อต่อไปนี้ ๔.๑ ขอบเขตเนื้อหำ เป็นเนื้อหำทน่ี ักเรียนตอ้ งเรยี นรใู้ นแผนทกี่ ำลงั ศึกษำ ๔.๒ สำระสำคญั เปน็ ควำมคิดรวบยอดหรือหลักกำรท่นี ักเรียนควรจะได้หลังจำกไดเ้ รียนรตู้ ำมแผน ที่กำหนด ๔.๓ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ แบ่งเป็นด้ำนควำมรู้ และด้ำนทกั ษะและกระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ ๔.๔ กิจกรรมกำรเรียนรู้ แบง่ เปน็ ข้ันนำ ขน้ั สอน และข้นั สรปุ ซ่ึงแตล่ ะขัน้ ครผู สู้ อนควรศึกษำทำ ควำมเขำ้ ใจอย่ำงละเอยี ด นอกจำกน้ีครูควรพิจำรณำด้วยว่ำ ในแต่ละขัน้ ตอนกำรสอน ครูจะตอ้ งศึกษำวำ่ มี สือ่ /อปุ กรณ์อะไรบำ้ ง ๔.๕ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ เปน็ กำรบอกรำยกำรส่ือ อปุ กรณ์ และแหล่งเรียนร้ทู ต่ี ้องใชใ้ นกำรจัด กิจกรรมกำรเรียนรู้ในชั่วโมงนนั้ ๔.๖ กำรประเมิน เปน็ กำรบอกทั้งวิธีกำร เครอื่ งมอื และเกณฑก์ ำรประเมิน สำหรบั เครอ่ื งมือกำร ประเมินในชุดกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ฯ นี้ ไดจ้ ดั เตรียมไว้ให้ครูผสู้ อนเรยี บร้อยแลว้ ๓. สอ่ื การจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ สือ่ กำรจดั กำรเรียนรู้ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้คณิตศำสตร์ ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๑ ประกอบด้วย ๓.๑ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ สำหรับครูใชเ้ ปน็ แนวทำงกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรใู้ หก้ ับนักเรียน ๓.๒ แบบฝกึ หดั สำหรับนกั เรียนใชฝ้ กึ ทกั ษะหลงั จำกทำควำมเข้ำใจบทเรียน แนวคดิ และควำมคิด รวบยอดที่สำคญั ในบทเรียนเร่ืองน้นั ๆไปแลว้ ๓.๓ ใบกจิ กรรม สำหรบั นกั เรียนใชฝ้ ึกทักษะปฏิบัติ หรือสร้ำงควำมคิดรวบยอดในบทเรียน ๓.๔ แบบทดสอบ เปน็ กำรวดั ควำมรคู้ วำมเข้ำใจตำมตวั ชี้วดั ทีก่ ำหนดไวใ้ นหลกั สตู ร ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครผู ูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ (ฉบบั ปรับปรุง) 2

แบบฝกึ หัด ใบกจิ กรรมและแบบทดสอบของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๑ ได้มกี ำรกำหนด สญั ลักษณร์ ปู ดำว 5 แฉกจำนวน ๑ ดวง และแถบสีเหลอื ง โดย ฝ. หมำยถงึ แบบฝึกหัด ก. หมำยถึง ใบกิจกรรม ท. หมำยถึง แบบทดสอบ ผ. หมำยถงึ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ เช่น ฝ. ๑.๖ / ผ. ๔ เปน็ แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี ๑ ลำดับท่ี ๖ อยใู่ นแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๔ ฝ. ๓.๗ / ผ. ๖ เปน็ แบบฝกึ หดั หน่วยที่ ๓ ลำดับที่ ๗ อย่ใู นแผนกำรจดั กำรเรียนร้ทู ่ี ๖ ก. ๒.๑ / ผ. ๓ เปน็ ใบกิจกรรมหนว่ ยที่ ๒ ลำดับที่ ๑ อยู่ในแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี ๓ ท. ๑.๒ / ผ. ๖ เป็นแบบทดสอบหน่วยท่ี ๑ ลำดับที่ ๒ อยใู่ นแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๖ หมำยเหตุ ลำดบั ท่ขี องแบบฝึกหัด ใบกิจกรรม และแบบทดสอบจะเรียงต่อกันจนครบทุกแผนในแต่ละหนว่ ย เมื่อข้นึ หน่วยใหม่ลำดับทข่ี องแบบฝึกหัด ใบกจิ กรรม และแบบทดสอบจะเริม่ ตน้ ใหม่ ๔. ลักษณะชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ชุดกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๑ จัดทำเป็น หน่วยกำรเรียนรู้ (Learning Unit) โดยผ่ำนกำรวิเครำะห์หลักสูตรกลุ่มสำระคณิตศำสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตำมแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ มำจัดทำเป็นหน่วยกำรเรียนรู้ในแต่ละ ภำคเรียน ดังนี้ ภำคเรียนที่ ๑ ประกอบด้วย หน่วยกำรเรยี นรู้ ๓ หน่วย ดงั นี้ หนว่ ยที่ ๑ จำนวน หน่วยยอ่ ยที่ ๑.๑ จำนวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ หน่วยท่ี ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน หน่วยย่อยที่ ๒.๑ กำรบวก กำรลบ (ไม่เกิน ๒๐) หน่วยที่ ๓ เรขำคณติ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครูผู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ (ฉบับปรบั ปรุง) 3

ภำคเรยี นท่ี ๒ ประกอบด้วย ๕ หนว่ ย ดงั น้ี หน่วยที่ ๑ จำนวน หน่วยย่อยท่ี ๑.๒ จำนวนนับ ๒๑ ถงึ ๑๐๐ หน่วยท่ี ๒ กำรดำเนนิ กำรของจำนวน หน่วยยอ่ ยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ (ไมเ่ กนิ ๑๐๐) หนว่ ยท่ี ๔ แบบรูป หนว่ ยที่ ๕ สถิติ หนว่ ยที่ ๖ กำรวัด หนว่ ยย่อยท่ี ๖.๑ กำรวดั น้ำหนกั หน่วยย่อยที่ ๖.๒ กำรวดั ควำมยำว ๕ แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ กำรจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ กำหนดให้ สอดคล้องกับหน่วยกำรเรียนรู้ แต่ละหน่วยกำรเรียนรู้ประกอบด้วยแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หลำยแผน แผนละ ๑ ชวั่ โมง โดยมอี งคป์ ระกอบของแผนกำรจดั กำรเรียนรู้คือ ขอบเขตเนื้อหำ สำระสำคัญ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ซง่ึ มที ้ังดำ้ นควำมร้แู ละดำ้ นทกั ษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ กิจกรรมกำรเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ และ กำรประเมิน สำหรับแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ทุกแผนจะมีแนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้อยู่หน้ำแผนทุกแผนซ่ึง เป็นกำรสรุปภำพรวมของกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ในชว่ั โมงนั้น ๆ ในทุกขั้นตอนกำรสอนต้ังแต่ข้ันนำ ขั้นสอน ขัน้ สรปุ และกำรประเมินผล ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครูผู้สอน) กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง) 4

โครงสร้างชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ หมายเหตุ เวลำรวมของทุกหน่วยเปน็ ๑๗๔ ชัว่ โมงรวมกับกำรวัดผลประเมินผล และกจิ กรรมเสรมิ กำรเรยี นร้คู ณติ ศำสตรเ์ ปน็ ๒๐๐ ชั่วโมง/ปี ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 5

กาหนดเวลาการสอนคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ หน่วยการเรียนรู้ จานวน หนว่ ยการเรียนรู้ จานวน ช่วั โมง ชว่ั โมง หนว่ ยที่ ๑ จานวน หน่วยท่ี ๑ จานวน หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑.๑ ๓๖ หนว่ ยย่อยที่ ๑.๒ ๑๒ จำนวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ จำนวนนบั ๒๑ ถงึ ๑๐๐ หน่วยท่ี ๒ การดาเนินการของจานวน หน่วยท่ี ๒ การดาเนนิ การของจานวน หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ กำรบวก กำรลบ ๔๙ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๒ กำรบวก กำรลบ ๓๓ (ไม่เกิน ๒๐) (ไมเ่ กนิ ๑๐๐) หนว่ ยท่ี ๓ เรขาคณิต ๑๐ หน่วยท่ี ๔ แบบรูป ๖ กิจกรรมเพ่ิมเติมสาหรับโรงเรยี น ๑๐ หนว่ ยท่ี ๕ สถิติ ๖ หน่วยท่ี ๖ การวัด หน่วยยอ่ ยที่ ๖.๑ กำรวดั นำหนกั ๑๐ หน่วยย่อยท่ี ๖.๒ กำรวดั ควำมยำว ๑๒ กิจกรรมเพิ่มเติมสาหรบั โรงเรยี น ๑๖ รวม ๑๐๕ รวม ๙๕ รวม ๒๐๐ ชั่วโมง ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง) 6

โครงสร้างหน่วยการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๑ จานวน กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ การนบั การบอก และ การอ่านและการเขยี น ความสมั พันธ์ของจานวน การแสดงจานวน ตวั เลขแสดงจานวน แบบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรวม (๖ ช่ัวโมง) (๘ ชวั่ โมง) (๔ ชว่ั โมง) หลักและคา่ ของเลขโดด ในแต่ละหลัก หน่วยที่ ๑ ตาแหน่งและอนั ดบั ท่ี (๓ ชวั่ โมง) จานวน (๗ ช่ัวโมง) (๓๖ ชว่ั โมง) การเปรยี บเทียบและ การเรยี งลาดับจานวน (๘ ชั่วโมง) ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง) 7

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชวี้ ัดของหน่วยการเรยี นรู้ หน่วยที่ ๑ จานวน กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ สาระท่ี ๑ จานวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตัวช้ีวดั ค ๑.๑ ป.๑/๑ บอกจำนวนของสิง่ ตำ่ ง ๆ แสดงส่งิ ตำ่ ง ๆ ตำมจำนวนทกี่ ำหนด อำ่ นและเขยี น ตัวเลขฮินดอู ำรบกิ ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑๐๐ และ ๐ ค ๑.๑ ป.๑/๒ เปรยี บเทียบจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ โดยใช้เครอ่ื งหมำย = ≠ > < ค ๑.๑ ป.๑/๓ เรยี งลำดับจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓ ถงึ ๕ จำนวน ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. กำรแกป้ ัญหำ 2. กำรสอ่ื สำรและกำรส่อื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 3. กำรเช่ือมโยง 4. กำรให้เหตุผล ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำหรบั ครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เลม่ ๑ 8

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ ๑ จ�ำ นวน หน่วยยอ่ ยท่ี ๑.๑ จำ�นวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐



ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ข้ันนา แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑ ขน้ั สอน 11 ข้ันสรุป แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล สนทนาเก่ยี วกบั การใช้จานวนนับบอกปรมิ าณของส่ิงต่างๆ แนะนาให้ร้จู กั จานวนนบั 1 ถงึ 5 และ 0 แบบฝึกหัด 1.1 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ จานวนใชบ้ อกปรมิ าณของสิง่ ตา่ งๆ - ประเมนิ จากการตอบคาถามและการทาแบบฝึกหดั 1.1 - ประเมนิ จากการสอ่ื สาร สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑ 12 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ชวั่ โมง ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ การนบั และแสดงจานวน 1 ถึง 5 ขั้นนา 1. ตวั นบั เช่น ไม้บรรทัด ดนิ สอ และ 0 1. ครูสนทนากบั นักเรยี นโดยครชู หู รอื ช้ีที่สง่ิ ของต่างๆในห้องเรียน พรอ้ มถามนกั เรยี นวา่ “ถ้าเราอยาก ยางลบ แปรงลบกระดาน ชอล์ก ร้วู ่าสิง่ ของต่างๆ รอบตัวเราแต่ละชนดิ มปี ริมาณเทา่ ไร เราจะทาอย่างไร” เชน่ ในมอื ครูมีดินสออยู่กีแ่ ทง่ ขวดน้า ไม้ไอศกรมี แกว้ น้า หลอดดูด สาระสาคญั ในห้องเรามโี ต๊ะนักเรียนกี่ตวั นกั เรียนในห้องนี้มีก่ีคน (ใชก้ ารนบั ) ฝาขวด ตวั เบ้ีย 2. บัตรภาพแสดงจานวน 1 ถึง 5 1. จานวนใชบ้ อกปริมาณของ ข้นั สอน และ 0 สง่ิ ต่างๆ 2. หนง่ึ สอง สาม ส่ี หา้ เปน็ 2. ครูแนะนาจานวน “หนงึ่ ” โดยอาจจดั กิจกรรม ดังน้ี 3. แบบฝกึ หัด 1.1 จานวนนบั และศูนยไ์ ม่เป็นจานวนนบั 2.1 ครชู ูสิ่งของครัง้ ละ 1 ชิน้ ใหน้ กั เรยี นนับและบอกจานวนพรอ้ มกนั เช่น ครชู ูไม้ไอศกรมี 1 อัน 3. ถา้ ไมม่ ีของจะถือว่ามีจานวนเป็น ถามนกั เรียนวา่ ในมอื ครมู ีไมไ้ อศกรีมก่ีอนั (นกั เรียนนบั “หนง่ึ ”และบอกวา่ มีไม้ไอศกรีม 1 อนั ) ตอ่ ไปครชู ู การประเมนิ ศูนย์ ไม้บรรทัด 1 อัน ถามนักเรียนว่าในมือครมู ีไมบ้ รรทดั กอี่ นั (นักเรยี นนบั “หนงึ่ ”และบอกว่ามีไมบ้ รรทดั 1 อัน) 1. วิธีการ 4. จานวนนับเปน็ จานวนที่เร่ิมต้น จากนนั้ ครชู ยู างลบ 1 ก้อน ถามนกั เรยี นวา่ ในมือครูมยี างลบกก่ี ้อน (1 กอ้ น) ครชู ูสิง่ ของครัง้ ละ 1 ชน้ิ ใหน้ ักเรยี นนับและบอกจานวนพร้อมกัน เช่น ชอลก์ 1 แทง่ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ จาก 1 และนับเพิม่ ขนึ้ ทีละ 1 เป็น 2 แปรงลบกระดาน 1 อัน แกว้ น้า 1 ใบ 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั 2.2 ใหน้ ักเรยี นแสดงจานวนหนึง่ โดยปฏบิ ัตพิ ร้อมกนั เชน่ ยกมอื ข้นี 1 มือ ชูน้ิวขึน้ 1 นว้ิ 3 4 5 ตามลาดบั 2. เคร่อื งมือ ปรบมือ 1 ครั้ง จากน้นั ใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนปฏิบตั ิ โดยการแสดงสง่ิ ของตา่ งๆทม่ี จี านวน “หนึง่ ” เชน่ ชหู นังสอื 2.1 แบบฝกึ หัด 1.1 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ของตนเองและพูดวา่ “หนังสือ 1 เลม่ ” ช้ที โ่ี ต๊ะครูและพูดว่า “โต๊ะครู 1 ตัว” หรอื พูดวา่ “มดี วงอาทิตย์ 1 ดวง” ครูตรวจสอบความถูกต้องในการปฏบิ ตั ขิ องนักเรยี น 2.3 แบบประเมนิ ทักษะและ ด้านความรู้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้นกั เรยี นสามารถ นบั และ 2.3 ครูตดิ บัตรภาพแสดงจานวน “หนึง่ ” แลว้ ใหน้ ักเรียนนับและบอกจานวนของสิ่งที่อยู่ในภาพ แสดงจานวนนบั 1 ถึง 5 และ 0 เชน่ ภาพไก่ 1 ตัว ภาพรถยนต์ 1 คัน ภาพทุเรยี น 1 ผล

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑ 13 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ชว่ั โมง ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ ให้นักเรยี นสงั เกตวา่ จานวน “หนึง่ ” ของส่งิ ต่างๆ ไม่ขึน้ อยู่กบั ชนดิ ขนาด รูปร่าง เชน่ ไก่ 1 ตัว 3. เกณฑ์ เพ่ือใหน้ กั เรียนสามารถสอ่ื สาร รถยนต์ 1 คัน ทเุ รียน 1 ผล รวมถงึ สงิ่ ท่ีจบั ต้องไม่ได้ เชน่ ปรบมอื 1 ครงั้ เคาะพน้ื 1 ครั้ง จากนนั้ ครูแนะนา 3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ งไม่น้อยกวา่ ส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ วา่ จานวนนบั จานวนแรก คอื “หนง่ึ ” รอ้ ยละ 80 3. ครูแนะนาจานวน “สอง” โดยอาจจดั กจิ กรรม ดังนี้ 3.2 คะแนนรวม ด้านทักษะและ 3.1 ครูชดู นิ สอ 1 แทง่ ถามนกั เรยี นวา่ ในมือครมู ดี ินสอก่ีแทง่ (1 แทง่ ) จากนนั้ ครหู ยิบดินสอ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไมน่ อ้ ย ขึ้นมาอีก 1 แท่ง ถามนักเรียนว่า “ครูหยบิ ดินสอมาเพิ่มอีกกแ่ี ทง่ ” (1 แทง่ ) “ตอนนี้ในมือครูมดี นิ สอกี่แท่ง” กว่าร้อยละ 60 (นกั เรียนอาจจะตอบ 2 แท่ง หรอื ยังไมต่ อบ) ครูแนะนา “มีอยู่ 1 เพ่มิ อีก 1 เปน็ 2” แลว้ ให้นกั เรยี นนับดินสอ พร้อมกัน (หนึง่ สอง) และพดู วา่ “มดี ินสอ 2 แท่ง” ตอ่ ไปครูหยิบไม้บรรทดั 2 อนั ถามนักเรียนว่าในมือครูมี ไม้บรรทดั ก่ีอนั ใหน้ ักเรียนนับพร้อมกนั (หนึ่ง สอง) และพดู พรอ้ มกัน “มีไม้บรรทดั 2 อัน” ครูชูส่ิงของครง้ั ละ 2 ชน้ิ ใหน้ ักเรยี นนับและบอกจานวนพร้อมกนั เช่น ปากกา 2 ดา้ ม สมดุ 2 เล่ม ขวดนา้ 2 ใบ 3.2 ครใู หน้ ักเรียนแสดงจานวนสองโดยปฏบิ ตั พิ รอ้ มกนั เช่น ยกมือ 2 มือ ชูนวิ้ 2 นว้ิ หวั เราะ 2 คร้งั จากนั้นให้นักเรียนแตล่ ะคนปฏิบัติโดยการชู หรอื ชที้ ี่ส่งิ ของ แลว้ บอกชื่อและบอกจานวน เชน่ นักเรยี น ชสู มุดของตนเองและพูดวา่ “สมุด 2 เล่ม” นักเรียนชที้ ่ตี าและพูดว่า “ฉันมี 2 ตา” ครูตรวจสอบความถูกต้อง ในการปฏบิ ัติของนักเรียน 3.3 ครตู ดิ บตั รภาพแสดงจานวน “สอง” แล้วให้นกั เรยี นนับและบอกจานวนสิง่ ของทอี่ ยใู่ นภาพ เช่น ภาพกล้วย 2 ลูก ภาพดอกไม้ 2 ดอก ภาพแมว 2 ตวั ครแู นะนาว่าในการนบั ส่ิงของแตล่ ะชิ้นจะถูกนบั เพยี งคร้ังเดยี วเทา่ น้ัน โดยไม่ลมื นับหรือนับซา้ จะได้เปน็ “หนงึ่ ” “สอง” โดย “สอง” นบั ตอ่ เนอ่ื งจาก “หนงึ่ ” ครูสาธติ การนบั จากบัตรภาพ

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ ชั้น ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชัว่ โมง 14 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุม่ จัดสงิ่ ของในห้องเรยี นตามจานวนครหู รือเพื่อนบอก ซ่ึงอาจเปน็ จานวน “หนง่ึ ” หรอื “สอง” ก็ได้ เช่น ยางลบ 2 ก้อน ชอล์ก 2 แท่ง แจกัน 1 ใบ ครตู รวจสอบความถูกต้อง ในการปฏบิ ัติของนักเรยี น 4. ครแู นะนาจานวน “สาม” โดยอาจจดั กจิ กรรม ดงั นี้ 4.1 ครูชหู ลอดดดู 2 หลอด (ขนาดใหญ่ มสี ีสด) ถามนักเรียนว่า ในมอื ครูมหี ลอดดูดกี่หลอด ใหน้ ักเรยี นนับเพ่ือบอกจานวนหลอดดดู (หนง่ึ สอง มี 2 หลอด) จากน้นั ครหู ยบิ หลอดดูดขนึ้ มาอยใู่ นมืออีก 1 หลอด ถามนักเรยี นว่า “ครูหยบิ หลอดดูดมาเพ่ิมอีกกี่หลอด” (1 หลอด) ครแู นะนา “มอี ยู่ 2 เพมิ่ อีก 1 เป็น 3” ครูถามนกั เรยี นว่า “ตอนนี้ครูมีหลอดดดู ก่ีหลอด” ใหน้ ักเรียนนับ (หน่งึ สอง สาม มี 3 หลอด ) ตอ่ ไปครูหยบิ ไมบ้ รรทดั 3 อัน ให้นักเรยี นนบั ไมบ้ รรทดั ในมือ (หน่งึ สอง สาม) ครถู ามนักเรยี นว่า “ในมือครมู ีไม้บรรทัดก่ีอัน” (3 อัน) ครูใหน้ ักเรยี นพูดพร้อมกนั “ครูมีไม้บรรทดั 3 อัน” ครชู ูสงิ่ ของคร้งั ละ 3 ชิ้น ใหน้ กั เรียนนบั และบอกจานวนพร้อมกัน เชน่ สเี ทยี น 3 แท่ง ลกู ปิงปอง 3 ลกู 4.2 ครตู ิดบตั รภาพแสดงจานวน “สาม” ให้นักเรยี นนับและบอกจานวนสง่ิ ของทีอ่ ยใู่ นภาพ เช่น ภาพมังคดุ 3 ผล ภาพต้นไม้ 3 ตน้ ภาพม้าลาย 3 ตัว ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ จัดส่งิ ของท่ีมใี นหอ้ งเรยี นตามจานวนท่ีครูหรือเพื่อนบอก ซง่ึ อาจเป็นจานวน “หนึ่ง” หรือ “สอง” หรอื “สาม”ก็ได้ เช่น แปรงสฟี นั 3 อัน แกว้ น้า 2 ใบ ถังน้า 1 ใบ ครูตรวจสอบความ ถูกต้องในการปฏิบัติของนักเรียน ให้นักเรยี นสังเกตวา่ ในการนบั ส่ิงของแต่ละชิ้นถูกนบั เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยไม่ถกู ลืมนับหรอื นบั ซ้า และนบั เรียงตามลาดบั โดยไม่นบั สลบั ไปมา และ “สาม” นับต่อเนือ่ งจาก “หน่งึ สอง” เปน็ “หน่ึง สอง สาม”

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ ชนั้ ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 15 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 5. ครแู นะนาจานวน “ส่ี” โดยอาจจดั กจิ กรรม ดังนี้ 5.1 ครชู ูไม้บรรทัด 3 อัน ถามนักเรยี นว่า ในมือครูมีไม้บรรทดั ก่ีอนั ให้นักเรียนนบั เพ่ือบอก จานวนไมบ้ รรทดั (หน่ึง สอง สาม มีไม้บรรทดั 3 อัน) จากน้นั ครูหยบิ ไมบ้ รรทดั ขน้ึ มาอยู่ในมืออกี 1 อนั ถาม นักเรยี นวา่ “ครูหยบิ ไม้บรรทัดมาเพิ่มอีกก่ีอัน” (1 อนั ) ครูแนะนา “มีอยู่ 3 เพิม่ อีก 1 เปน็ 4” ครถู าม นักเรยี นวา่ “ตอนนี้ครมู ไี มบ้ รรทัดก่ีอนั ” ให้นกั เรียนนับ (หน่งึ สอง สาม ส่ี มไี ม้บรรทดั 4 อนั ) ตอ่ ไปครหู ยิบ ไมไ้ อศกรมี 4 อนั ให้นักเรยี นนับไม้ไอศกรีมในมือครู (หนง่ึ สอง สาม ส่ี) ครูถามนกั เรียนว่า “ในมอื ครูมี ไม้ไอศกรีมก่ีอัน” (4 อนั ) ครูให้นกั เรียนพดู พร้อมกัน “ครมู ีไม้ไอศกรีม 4 อัน” ครชู ูส่งิ ของครง้ั ละ 4 ชนิ้ ให้นักเรียนนับและบอกจานวนพร้อมกนั เช่น แปรงสีฟัน 4 อัน ยาสีฟนั 4 หลอด ปากกา 4 ด้าม 5.2 ครตู ดิ บัตรภาพแสดงจานวน “สี่” ใหน้ ักเรียนนบั และบอกจานวนส่ิงของที่อยู่ ในภาพ เชน่ ภาพมะละกอ 4 ผล ภาพดอกไม้ 4 ดอก ภาพเป็ด 4 ตวั ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มจัดส่งิ ของทีม่ ีในห้องเรียนตามจานวนที่ครูหรือเพ่ือนบอก ซึ่งอาจเปน็ จานวน “หนึ่ง” หรอื “สอง” หรอื “สาม” หรือ “ส่ี”ก็ได้ เชน่ แปรงลบกระดาน 2 อัน แก้วน้า 4 ใบ หนงั สอื 4 เลม่ สมุด 3 เลม่ ครูตรวจสอบความถูกต้องในการปฏบิ ัติของนักเรยี น ให้นักเรยี นสังเกตว่าในการนับ สง่ิ ของแต่ละช้ินถูกนับเพยี งครั้งเดียวเท่าน้ัน โดยไม่ถูกลืมนับหรือ นบั ซ้า และนับเรียงตามลาดับ โดยไม่นับสลับไปมา และ “ส่ี” นับตอ่ เน่ืองจาก “หนงึ่ สอง สาม ” เป็น “หนงึ่ สอง สาม ส่ี” 6. ครแู นะนาจานวน “หา้ ” โดยอาจจัดกิจกรรม ดงั นี้ 6.1 ครชู ูดอกไม้ 4 ดอก ถามนกั เรยี นว่า ในมือครมู ีดอกไมก้ ่ีดอก ใหน้ ักเรียนนบั เพ่ือบอกจานวน ดอกไม้ (หนงึ่ สอง สาม ส่ี มดี อกไม้ 4 ดอก) จากน้ันครูหยบิ ดอกไม้ขึน้ มาอยู่ในมืออีก 1 ดอก ถามนกั เรยี น

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ� หรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ ชน้ั ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 16 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ว่า “ครูหยบิ ดอกไม้มาเพม่ิ อีกกดี่ อก” (1 ดอก) ครูแนะนา “มอี ยู่ 4 เพ่มิ อกี 1 เปน็ 5” ครูถามนักเรียนว่า “ตอนนค้ี รูมดี อกไมก้ ด่ี อก” ใหน้ กั เรียนนับ (หน่งึ สอง สาม ส่ี ห้า มดี อกไม้ 5 ดอก ) ต่อไปครหู ยิบเทยี นไข 5 เล่ม ให้นักเรยี นนบั เทยี นไขในมอื ครู (หน่ึง สอง สาม ส่ี ห้า) ครถู ามนักเรยี นว่า “ในมือครูมีเทยี นไขกเี่ ลม่ ” (5 เล่ม) ครูใหน้ ักเรียนพูดพร้อมกนั “ครูมเี ทยี นไข 5 เลม่ ” ครชู ูมอื ข้นึ 1 ข้าง (5 น้วิ ) ครูปรบมือ 5 ครัง้ ครูผงกศีรษะ 5 คร้ัง ใหน้ กั เรยี นนบั และบอกจานวน 6.2 ครูติดบัตรภาพแสดงจานวน “หา้ ” ให้นกั เรียนนับและบอกจานวนสงิ่ ของท่ีอยใู่ นภาพ เช่น ภาพมา้ ลาย 5 ตวั เคร่อื งบิน 5 ลา รม่ 5 คนั ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ จัดสิ่งของท่ีมีในห้องเรียนตามจานวนทคี่ รูหรือเพ่ือนบอก ซึ่งอาจเป็นจานวน “สาม” หรอื “ส่ี” หรือ “หา้ ”กไ็ ด้ เช่น ยางลบ 5 ก้อน ฝาขวด 3 ฝา ลูกแกว้ 4 ลกู ครูตรวจสอบความ ถูกต้องในการปฏิบตั ิของนักเรียน ให้นกั เรียนสังเกตว่าในการนับ สงิ่ ของแตล่ ะช้ินถูกนบั เพยี งครงั้ เดียวเทา่ นั้น โดยไม่ถูกลืมนับหรือ นบั ซ้า และนับเรียงตามลาดบั โดยไมน่ ับสลับไปมา และ “หา้ ” นบั ตอ่ เน่ืองจาก “หนึ่ง สอง สาม สี่” เปน็ “หนึง่ สอง สาม ส่ี ห้า” 7. ครูแนะนาจานวน “ศนู ย”์ โดยอาจจัดกจิ กรรม ดงั นี้ 7.1 ครเู ตรยี มกล่องสองใบ ใบที่ 1 ใสส่ ิ่งของไว้ 4 ชนิ้ ใบท่ี 2 ไม่ใสส่ งิ่ ของ ให้นกั เรยี นทายวา่ กลอ่ ง ใบไหนมีสง่ิ ของและมีอย่จู านวนเทา่ ไร เม่ือทายแลว้ ให้ออกไปตรวจสอบ ครูแนะนาว่ากล่องนี้ไม่มสี ง่ิ ของอยู่เลย หรอื “กลอ่ งนม้ี สี ่งิ ของอย่ศู นู ย์ช้นิ ” ใหน้ กั เรยี นพูดตามครู 7.2 ให้นักเรียน 2 คน ออกมายืนท่ีหนา้ หอ้ งเรียน ครูสั่งให้นักเรยี น 1 คน กลับไปนงั่ ที่เดิม แลว้ ถามวา่ “เหลือนักเรียนที่ยนื อยู่หนา้ ห้องเรียนก่ีคน” ( 1 คน) ใหน้ กั เรยี นทเี่ หลือกลับไปนัง่ ทเี่ ดมิ ถามวา่ “เหลอื นกั เรียนที่ยนื อยหู่ น้าห้องเรยี นก่ีคน” (ไมเ่ หลอื นักเรียนยนื อยู่หน้าหอ้ ง) ครแู นะนาว่า “ไมม่ ีนักเรียนยนื อยหู่ นา้ หอ้ ง” หรอื “มีนักเรียนอยู่หน้าห้องศูนย์คน”

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 17 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 7.3 ครวู างสง่ิ ของบนโตะ๊ 3 ชิ้น หยิบออกครง้ั ละ 1 ช้ิน ทุกครั้งท่ีหยบิ สิง่ ของออก ให้ถามนักเรียน ว่าเหลือสง่ิ ของอย่เู ท่าไร จนกระท่ังไม่มีสงิ่ ของเหลืออยู่ ถามนกั เรยี นวา่ “มสี งิ่ ของเหลอื อยู่กีช่ น้ิ ” (นักเรยี นควร ตอบได้ว่า “ไม่มีสิ่งของอยู่เลย” หรือ “เหลอื อยศู่ ูนย์ชิ้น”) จากนั้นครูสรปุ วา่ “ถ้าไม่มสี ิง่ ของจะถือว่ามีจานวน เปน็ ศูนย\"์ 8. ครชู ูบตั รภาพสง่ิ ของแสดงจานวน 1 ถงึ 5 และ 0 ให้นกั เรยี นช่วยกนั นับและบอกจานวนสง่ิ ของจาก บตั รภาพ จากน้นั ครูบอกจานวน 1 ถึง 5 และ 0 ใหน้ ักเรียนแสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามทคี่ รูกาหนด แลว้ ให้นกั เรยี น ทาแบบฝึกหดั 1.1 โดยครูอ่านโจทย์ให้ฟงั ทลี ะข้อ ขนั้ สรุป 9. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ว่า - เราสามารถบอกจานวนของสิ่งต่างๆ ได้จากการนับ เช่น หลอดดูด 2 หลอด ไมไ้ อศกรีม 5 อัน - จานวนไม่ขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด และรปู รา่ งของสิง่ ต่างๆ เช่น ชา้ ง 1 เชือก มด 1 ตัว - หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า เป็นจานวนนับทเี่ ร่ิมตน้ จากหนึ่ง และนบั เพ่ิมขึ้นทีละหน่งึ ตามลาดบั - ถ้าไมม่ ีของจะถือว่ามีจานวนเป็นศนู ย์

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ� หรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ ขน้ั สอน 18 ขั้นสรุป แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล สนทนาเก่ยี วกับการใชจ้ านวนนับบอกปริมาณของส่ิงต่างๆ แนะนาให้รูจ้ กั จานวนนบั 1 ถึง 5 และ 0 โดยใชก้ รอบหา้ แบบฝึกหัด 1.2 ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุป จานวนใชบ้ อกปริมาณของส่งิ ต่างๆ - ประเมินจากการตอบคาถามและการทาแบบฝกึ หดั 1.2 - ประเมินจากการสอ่ื สาร สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ 19 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ชั่วโมง ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ การนบั และแสดงจานวนนับ 1 ถึง 5 ขั้นนา 1. ตัวนบั เชน่ ไมบ้ รรทดั ดนิ สอ และ 0 โดยใช้กรอบห้า 1 .ครทู บทวนจานวนนับ หนึง่ สอง สาม สี่ หา้ และ ศนู ย์ ด้วยสือ่ ของจรงิ หรือบตั รภาพแสดง ยางลบ แปรงลบกระดาน ชอลก์ ขวดน้า ไม้ไอศกรมี แก้วนา้ หลอดดดู สาระสาคัญ จานวน 1 ถึง 5 และ 0 ใหน้ ักเรยี นนบั และบอกจานวน จากนัน้ ครูกาหนดจานวนแล้วให้นักเรยี นแสดงสิง่ ของ ฝาขวด ตวั เบีย้ 2. บัตรภาพแสดงจานวน 1 ถึง 5 1. จานวนใช้บอกปรมิ าณของสิง่ ตา่ งๆ ตามจานวนที่ครูกาหนด และ 0 2. หนงึ่ สอง สาม ส่ี หา้ เปน็ จานวนนับ 3. กรอบหา้ และ ศนู ย์ไมเ่ ปน็ จานวนนับ ขน้ั สอน 4. แบบฝึกหดั 1.2 3. ถา้ ไม่มีของจะถอื ว่ามจี านวนเปน็ ศูนย์ 4. จานวนนับเป็นจานวนท่ีเริ่มต้นจาก 1 2. ครูตดิ กรอบหา้ ไวบ้ นกระดาน แนะนาตวั เบี้ยให้นกั เรียนรู้จัก แล้วสาธิตการใช้กรอบหา้ กับตวั เบยี้ การประเมนิ และนับเพ่ิมข้ึนทีละ 1 เปน็ 2 3 4 5 แสดงจานวนนับ เช่น ครูพูดว่า “ไม้บรรทัด 1 อัน” ครหู ยิบตวั เบยี้ 1 ตวั แสดงจานวน “หน่งึ ” ไปตดิ บน ตามลาดบั กรอบหา้ ในช่องใดก็ได้ เช่น 1. วิธกี าร 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั 2. เคร่อื งมือ ด้านความรู้ 2.1 แบบฝกึ หดั 1.1 2.3 แบบประเมนิ ทักษะและ เพ่ือใหน้ ักเรยี นสามารถนับและแสดง กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ จานวนนับ 1 ถงึ 5 และ 0 ครูแนะนาว่า จานวน “หนง่ึ ” นบั เฉพาะชอ่ งที่มีจดุ ใหน้ ักเรียนสังเกตว่าจะไม่นบั ชอ่ งว่าง 3. ครใู ชก้ รอบหา้ ท่ตี ิดไวบ้ นกระดานเพื่อแสดงจานวน “สอง” โดยครูหยิบแกว้ น้าและพูดว่า “แกว้ น้า 2 ใบ” จากนน้ั ครูหยิบตัวเบ้ีย 2 ตัว แสดงจานวน “สอง” ไปตดิ บนกรอบหา้ ในช่องใดก็ได้ เช่น

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 20 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ด้านทกั ษะและกระบวนการทาง 3. เกณฑ์ คณิตศาสตร์ 3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ เพ่อื ให้นักเรียนสามารถส่ือสาร รอ้ ยละ 80 สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 3.2 คะแนนรวม ด้านทกั ษะและ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไม่น้อย ครูนบั ตวั เบ้ีย “หนึ่ง สอง” ให้นกั เรยี นสงั เกตว่า ในการนบั ตัวเบ้ยี แต่ละตวั ถกู นบั เพยี งครง้ั เดยี วเท่านน้ั กว่าร้อยละ 60 โดยไม่ถกู ลืมนบั หรอื นับซ้า และ “สอง” นบั เฉพาะชอ่ งทม่ี ีจุด ใหน้ ักเรียนสงั เกตวา่ จะไม่นับชอ่ งว่าง 4. ครูใช้กรอบหา้ ท่ตี ดิ ไว้บนกระดานเพื่อแสดงจานวน “สาม” โดยครชู ูหนังสือเรยี น 3 เลม่ ให้นกั เรยี นหยบิ ตวั เบีย้ แสดงจานวน “สาม” แลว้ นาตัวเบี้ยไปติดบนกรอบห้าในชอ่ งใดก็ได้ เช่น ให้นักเรียนนับตวั เบีย้ “หนงึ่ สอง สาม” ให้สงั เกตวา่ ในการนบั ตวั เบยี้ แตล่ ะตัวถกู นบั เพยี งคร้ังเดียวเทา่ นน้ั โดยไม่ถกู ลืมนบั หรอื นบั ซ้า และนับเรยี งตามลาดบั โดยไม่นับสลบั ไปมา และ “สาม” นบั เฉพาะชอ่ งทม่ี ีจุด ใหน้ ักเรียนสังเกตว่าจะไม่นบั ชอ่ งวา่ ง

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ ช้ัน ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 21 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ 5. ครใู ช้กรอบหา้ ที่ติดไว้บนกระดานเพื่อแสดงจานวน “ส่ี” โดยครชู ูดนิ สอ 4 แทง่ ให้นักเรยี น หยบิ ตวั เบยี้ แสดงจานวน “ส่ี” แลว้ นาตัวเบีย้ ไปติดบนกรอบหา้ ในช่องใดกไ็ ด้ เชน่ ใหน้ กั เรียนนับตัวเบีย้ “หน่ึง สอง สาม สี่” ให้สังเกตวา่ ในการนบั ตวั เบ้ียแตล่ ะตัวถกู นบั เพียงครั้งเดียวเท่าน้ัน โดยไม่ถกู ลืมนบั หรอื นับซ้า และนับเรยี งตามลาดับ โดยไม่นบั สลับไปมา และ “สี่” นบั เฉพาะชอ่ งท่ีมจี ดุ ให้นักเรียนสังเกตว่าจะไมน่ ับชอ่ งวา่ ง 6. ครูใชก้ รอบห้าทต่ี ดิ ไว้บนกระดานเพื่อแสดงจานวน “หา้ ” โดยครชู กู รรไกร 5 อนั ให้นกั เรยี นหยิบตวั เบย้ี แสดงจานวน “ห้า” แล้วนาตัวเบยี้ ไปตดิ บนกรอบห้า ซ่ึงจะได้ ดังนี้ ใหน้ ักเรยี นนบั ตวั เบย้ี “หน่ึง สอง สาม ส่ี ห้า” ให้สังเกตวา่ ในการนบั ตัวเบย้ี แต่ละตวั ถูกนบั เพยี งคร้งั เดยี ว เทา่ นั้น โดยไม่ถูกลืมนับหรือนับซา้ ตอ้ งนบั เรยี งตามลาดบั โดยไม่นบั สลับไปมา และสามารถเรม่ิ นบั ที่ ตาแหนง่ ใดกอ่ นกไ็ ด้

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๒ ชนั้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 22 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 7. ครใู ช้กรอบหา้ ทีต่ ดิ ไว้บนกระดานเพื่อแสดงจานวน “ศนู ย”์ โดยครชู ูกล่องชอล์ก ทไ่ี ม่มีชอลก์ แลว้ ถามนกั เรยี นว่า “ในกลอ่ งมีชอล์กกี่แทง่ ” นักเรยี นควรตอบได้ว่า “ไม่มีชอล์ก หรือ มชี อลก์ ศูนย์แทง่ ” ครถู ามนักเรียนวา่ จะต้องนาตวั เบี้ยไปติดที่กรอบห้าหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ( ไมต่ ้องติด ตวั เบีย้ เพราะถ้าไมม่ ีสง่ิ ของจะถือว่ามจี านวนเป็นศนู ย์ ) 8. ครูตดิ แผน่ กรอบหา้ ทมี่ ี 6 แถบ บนกระดาน จากนน้ั ครูชูบัตรภาพแสดงจานวน 1 ถึง 5 และ 0 ทลี ะภาพให้นักเรยี นนับและบอกจานวนจากภาพ และสุม่ นักเรียนตดิ ตวั เบ้ยี เพ่อื แสดงจานวนตาม บตั รภาพน้ันเมื่อครบทุกจานวนแล้วดังน้ี ศูนย์ หน่งึ สอง สาม สี่ หา้ จากนน้ั ครูใหน้ ักเรียนนับ เพื่อบอกจานวนในแต่ละแถบ พร้อมกับเขียนจานวนเป็นตัวหนังสอื ประกอบ แล้วใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัด 1.2 โดยครูอา่ นโจทย์ใหฟ้ ังทลี ะข้อ ขน้ั สรปุ 8. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปว่า - เราสามารถบอกจานวนของสงิ่ ตา่ งๆ ได้จากการนับเช่น ดินสอ 4 แทง่ กรรไกร 5 อนั - ถ้าไม่มีของจะถือว่ามจี านวนเปน็ ศูนย์ - จานวนไมข่ ้นึ อยู่กับชนิด ขนาด และรปู รา่ งของสงิ่ ตา่ งๆ เชน่ ลกู บอล1 ลกู ลกู ปงิ ปอง 1 ลูก

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒ ชัน้ ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 23 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ - หนง่ึ สอง สาม ส่ี ห้า เป็นจานวนนับทเ่ี ริ่มต้นจากหน่ึง และนบั เพ่ิมขนึ้ ทีละหนง่ึ ตามลาดบั - ศูนย์ไมเ่ ปน็ จานวนนบั

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) ขนั้ นา แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๓ ข้นั สอน 24 ข้ันสรปุ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล ทบทวนจำนวนนบั “หนง่ึ และ สอง” ด้วยสอ่ื ของจริง และบตั รภำพ แนะนำสญั ลักษณ์ทีใ่ ชเ้ ขยี นแสดงจำนวน ตัวเลขฮินดอู ำรบิก ตวั เลขไทย สำธิตวธิ ีเขยี นตวั เลขฮินดูอำรบิก 1 และ 2 ตวั เลขไทย ๑ และ ๒ แบบฝกึ หดั 1.3 ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเกยี่ วกบั ตวั เลขฮินดอู ำรบกิ 1 และ 2 ตัวเลขไทย ๑ และ ๒ เปน็ สญั ลกั ษณ์ทใี่ ชเ้ ขียนแสดงจำนวน “หนึ่ง” และ “สอง” ตำมลำดบั - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หัด 1.3 - ประเมินจำกกำรสอ่ื สำร สอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๓ ชัน้ ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชวั่ โมง 25 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเนอื้ หา สือ่ /แหล่งเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ กำรเขียน กำรอำ่ น 1. ตวั นับ เช่น ไม้บรรทดั ดนิ สอ ตวั เลขฮินดูอำรบกิ และตัวเลขไทย ขนั้ นา ยำงลบ ไมไ้ อศกรมี แกว้ น้ำ แสดงจำนวนนบั 1 และ 2 1. ครทู บทวนจำนวนนับ “หน่งึ และ สอง” ด้วยสื่อของจรงิ บัตรภำพแสดงจำนวน หลอดดูด ฝำขวด 2. บตั รภำพแสดงจำนวนทีม่ ี สาระสาคัญ ข้นั สอน ตวั เลขฮนิ ดูอำรบกิ 1 และ 2 2. ครแู นะนำกำรเขียน กำรอำ่ นตัวเลขฮนิ ดูอำรบกิ ตวั เลขไทย แสดงจำนวน “หนง่ึ ” ประกอบ ตวั เลขฮินดูอำรบกิ 1 2 3. บัตรภำพแสดงกำรเขยี น ตัวเลขไทย ๑ ๒ เป็นสัญลกั ษณ์ท่ีใช้ โดยอำจจัดกจิ กรรม ดงั นี้ ตวั เลขฮนิ ดอู ำรบิก 1 และ 2 เขียนแสดงจำนวน โดยเขยี นเป็น 2.1 ครูติดบัตรภำพแสดงจำนวน“ หนึ่ง” ใหน้ ักเรียนนับและบอกจำนวนของส่งิ ของทอี่ ยู่ใน 4. บตั รภำพแสดงกำรเขยี นตัวเลข ตวั หนงั สอื ได้ “หนึง่ ” และ “สอง” ไทย ๑ และ ๒ ตำมลำดับ บัตรภำพ เชน่ ภำพดอกไม้ 1 ดอก ตัวเลขฮินดูอำรบิก “1” ประกอบบนกระดำน 5. แผน่ ภำพแสดงจำนวน ตวั เลขฮินดูอำรบกิ ตวั เลขไทย 1 และตัวหนงั สอื 6. แบบฝกึ หดั 1.3 จุดประสงค์การเรียนรู้ ครูถำมวำ่ “ในภำพมีดอกไม้กี่ดอก” (1 ดอก) จำกนน้ั ครูชีท้ ่ีตัวเลข “1” บนกระดำน พร้อมทง้ั แนะนำว่ำ ตัวเลข “1” เป็นตัวเลขฮนิ ดอู ำรบกิ ใช้แสดงจำนวน “หน่งึ ” อ่ำนว่ำ “หนึง่ ” การประเมนิ ด้านความรู้ และใหันักเรยี นอ่ าน พร้อมกัน เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสำมำรถ อำ่ นและ 1. วธิ กี าร 1.1 สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ เขียนตัวเลขฮนิ ดูอำรบิก และตวั เลขไทย ครูนำบัตรภำพแสดงจำนวน “หนึ่ง” ทม่ี ตี วั เลขฮนิ ดูอำรบกิ “1” ประกอบพรอ้ มทงั้ ใหน้ กั เรยี น 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด แสดงจำนวนนบั 1 และ 2 นับและบอกจำนวนสิง่ ของที่อยูใ่ นบตั รภำพ อีก 2 – 3 ภำพ เช่น ภำพผีเสอ้ื 1 ตัว ภำพรถยนต์ 1 คนั ครูตดิ บัตรภำพแสดงกำรเขียนตวั เลขฮินดอู ำรบิก “1” และสำธิตกำรเขยี น “1” บนกระดำน พร้อมทั้งแนะนำวธิ เี ขียนว่ำ จะตอ้ งเริ่มต้นทีจ่ ดุ ใด และลำกเสน้ ไปทำงใด โดยสังเกตจำกลูกศร

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ� หรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓ 26 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ช้นั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชัว่ โมง ด้านทักษะและกระบวนการทาง 1 2 2. เครื่องมอื คณิตศาสตร์ 2.1 แบบฝกึ หัด 1.3 เพื่อให้นกั เรยี นสำมำรถสอ่ื สำร ส่อื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ครูแจกบัตรภำพแสดงกำรเขยี นตัวเลขฮนิ ดอู ำรบิก “1” ให้นกั เรียนคนละ 1 ใบ เพื่อฝึกใช้น้วิ 2.3 แบบประเมนิ ทกั ษะและ มอื เขียนตำมรอยในบตั รจนถูกวธิ ี จำกนนั้ ใหฝ้ กึ เขียนตวั เลขฮินดูอำรบกิ “1” ในอำกำศ บนโต๊ะเรยี น กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ บนฝ่ำมือ แลว้ จงึ ให้นกั เรยี นฝกึ เขยี นตัวเลขฮินดูอำรบกิ “1” ลงในแบบฝกึ หัด 1.3 ขอ้ 1 เฉพำะแถวที่ 1 3. เกณฑ์ 2.2 ครูติดบตั รภำพแสดงจำนวน “หนง่ึ ” ให้นกั เรยี นนับและบอกจำนวนสิง่ ของทีอ่ ยู่ในบัตรภำพ 3.1 ผลงำนมีควำมถูกตอ้ งไม่น้อยกว่ำ เช่น ภำพหอยทำก ๑ ตัว ครเู ขียนตัวเลขไทย “๑” ประกอบบนกระดำน รอ้ ยละ 80 3.2 คะแนนรวม ด้ำนทกั ษะและ ๑ กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ไม่นอ้ ย กว่ำรอ้ ยละ 60 ครถู ำมวำ่ “ในภำพมหี อยทำกกีต่ ัว” (1 ตัว) จำกน้นั ครูชี้ทต่ี ัวเลข “๑” ทอ่ี ยใู่ นภำพ พร้อมทั้งแนะนำว่ำ ตัวเลข “๑” เปน็ ตัวเลขไทย ใชแ้ สดงจำนวน “หนง่ึ ” อ่ำนวำ่ “หนงึ่ ” และให้นกั เรียนอ่ านพรอ้ มกนั ครนู ำบตั รภำพแสดงจำนวน “หน่งึ ” ที่มีตัวเลขไทย “๑” ประกอบ มำใหน้ กั เรียนนับและ บอกจำนวนของส่งิ ท่ีอยู่ในบัตรภำพ อกี 2 – 3 ภำพ เชน่ ภำพเส้อื 1 ตัว ภำพกำงเกง 1 ตัว ครตู ิดบัตรภำพแสดงกำรเขียนตวั เลขไทย “๑” และสำธติ กำรเขยี นตัวเลขไทย “๑” บนกระดำน พรอ้ มทั้งแนะนำวิธีเขยี นวำ่ จะต้องเร่ิมตน้ ที่จุดใด และลำกเส้นไปทำงใด โดยสังเกตจำกลกู ศร 2 1

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ ชั้น ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชว่ั โมง 27 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ครูแจกบัตรภำพแสดงกำรเขยี นตวั เลขไทย “๑” ใหน้ ักเรยี นคนละ 1 ใบ เพอื่ ฝึกใชน้ ว้ิ มอื เขยี นตำมรอยในบัตรจนถูกวธิ ี จำกน้นั ให้ฝึกเขยี นตัวเลขไทย “๑” ในอำกำศ บนโต๊ะเรยี น บนฝำ่ มอื แลว้ จงึ ใหน้ กั เรยี นเขียนตวั เลขไทย “๑” ลงในแบบฝึกหัด 1.3 ข้อ 2 เฉพำะแถวท่ี 1 3. ครูแนะนำกำรเขยี น กำรอ่ำนตัวเลขฮินดูอำรบกิ ตวั เลขไทย แสดงจำนวน “สอง” โดยอำจจัด กจิ กรรม ดงั น้ี 3.1 ครูติดบัตรภำพแสดงจำนวน “สอง” ที่มตี ัวเลขฮินดูอำรบกิ “2” ประกอบพร้อมทง้ั ให้ นกั เรียนนับและบอกจำนวนของสง่ิ ของท่ีอย่ใู นบตั รภำพ เช่น ภำพห่นุ ยนต์ 2 ตัว 2 ครูถำมว่ำ “ในภำพมหี ุ่นยนต์กตี่ วั ” (2 ตัว) จำกนน้ั ครูชท้ี ่ีตัวเลข “2” ท่อี ยู่ในภำพ พรอ้ มทงั้ แนะนำว่ำ ตวั เลข “2” เป็นตวั เลขฮนิ ดอู ำรบิก ใชแ้ สดงจำนวน “สอง” อ่ำนวำ่ “สอง” และให้ นกั เรียนอ่านพร้อมกัน ครูนำบตั รภำพแสดงจำนวน “สอง” ท่มี ีตวั เลขฮินดูอำรบิก “2” ประกอบมำใหน้ ักเรียนนบั และ บอกจำนวนสิ่งของท่ีอยใู่ นบัตรภำพ อีก 2 – 3 ภำพ เช่น ภำพยีรำฟ 2 ตวั ภำพตกุ๊ ตำ 2 ตวั ครตู ิดบตั รตัวเลข “2” และสำธิตกำรเขียนตวั เลขฮินดูอำรบกิ “2” บนกระดำน พรอ้ มทั้ง แนะนำวธิ ีเขียนวำ่ จะต้องเร่มิ ตน้ ที่จุดใด และลำกเสน้ ไปทำงใด โดยสังเกตจำกลูกศร 1 2

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ ชนั้ ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชว่ั โมง 28 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ครูแจกบัตรตวั เลขฮนิ ดูอำรบกิ “2” ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ เพื่อฝึกใช้นวิ้ มือเขียนตำมรอย ในบตั รจนถูกวิธี จำกน้นั ให้ฝึกเขียนตวั เลขฮนิ ดูอำรบิก “2” ในอำกำศ บนโต๊ะเรยี น บนฝ่ำมือ แล้วจงึ ให้ นักเรยี นเขียนตวั เลขฮินดูอำรบกิ “2” ลงในแบบฝึกหดั 1.3 ขอ้ 3 เฉพำะแถวที่ 1 3.2 ครตู ดิ บัตรภำพแสดงจำนวน “สอง” ทีม่ ีตวั เลขไทย “๒” ประกอบ มำให้นกั เรียนนับและ บอกจำนวนสง่ิ ของที่อยูใ่ นบัตรภำพ เชน่ ภำพสม้ 2 ผล ๒ ครถู ำมว่ำ “ในภำพมีส้มก่ีผล” (2 ผล) จำกนัน้ ครชู ้ที ี่ตวั เลข “๒” ที่อยู่ในภำพ พร้อมทงั้ แนะนำวำ่ ตัวเลข “๒” เป็นตวั เลขไทย ใช้แสดงจำนวน “สอง” อำ่ นวำ่ “สอง” และให้นักเรยี นอ่ านพร้อมกนั 3.2 ครนู ำบตั รภำพแสดงจำนวน “สอง” ท่ีมีตัวเลขไทย “๒” ประกอบมำให้นักเรียนนับและ บอกจำนวนสิ่งของท่ีอยูใ่ นบัตรภำพ อกี 2 – 3 ภำพ เชน่ ภำพม้ำ 2 ตวั ภำพววั 2 ตวั ครูตดิ บตั รตัวเลขไทย “๒” และสำธิตกำรเขยี นตัวเลขไทย “๒” บนกระดำน พร้อมทงั้ แนะนำ วิธีเขยี นวำ่ จะต้องเรมิ่ ต้นท่ีจดุ ใด และลำกเส้นไปทำงใด โดยสังเกตจำกลูกศร 1 3 2

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๓ 29 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชว่ั โมง ครแู จกบัตรตัวเลขไทย “๒” ให้นกั เรยี นคนละ 1 ใบ เพอื่ ฝึกใช้นวิ้ มือเขียนตำมรอยในบตั ร จนถูกวิธี จำกนนั้ ใหฝ้ ึกเขยี นตัวเลขไทย “๒” ในอำกำศ บนโตะ๊ เรียน บนฝำ่ มือ แล้วจงึ ใหน้ กั เรียนเขียน ตวั เลขไทย “๒” ลงในแบบฝึกหดั 1.3 ข้อ 4 เฉพำะแถวที่ 1 4. ครตู ิดแผ่นภำพแสดงจำนวนนบั หนง่ึ และ สอง เพื่อใหน้ ักเรยี นสรุปสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนแสดง จำนวน หน่งึ สอง เป็นตัวเลขฮินดูอำรบิก และ ตวั เลขไทย ภาพสิง่ ของ ตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือ 1 ๑ หนึง่ 2 ๒ สอง จำกน้นั ให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด 1.3 ขน้ั สรุป 5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ว่ำ ตัวเลขฮนิ ดอู ำรบิก 1 2 และตวั เลขไทย ๑ ๒ เป็นสญั ลกั ษณ์ ท่ีใชเ้ ขียนแสดงจำนวน “หนึ่ง” และ “สอง” ตำมลำดบั

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) ขนั้ นา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ ข้นั สอน 30 ข้ันสรุป แนวการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล ทบทวนจำนวนนับ “สาม และ ส”ี่ ดว้ ยสอ่ื ของจรงิ บัตรภำพ แนะนำสญั ลักษณ์ทใี่ ช้เขียนแสดงจำนวน ตัวเลขฮนิ ดอู ำรบกิ ตัวเลขไทย สำธิตวธิ เี ขยี นตัวเลขฮินดอู ำรบิก 3 4 ตัวเลขไทย ๓ ๔ แบบฝึกหดั 1.4 ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปตัวเลขฮินดอู ำรบิก 1 2 3 4 ตัวเลขไทย ๑ ๒ ๓ ๔ เปน็ สญั ลักษณ์ทใี่ ช้เขียนแสดงจำนวน “หนึ่ง” “สอง” “สาม” “สี่” - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หัด 1.3 - ประเมนิ จำกกำรสอ่ื สำร สอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ 31 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ช้ัน ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ชั่วโมง ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ /แหล่งเรียนรู้ กำรเขยี น กำรอำ่ น ตัวเลขฮินดูอำรบิก ขน้ั นา 1. ครทู บทวนจำนวนนับ “สำม และ สี่” ดว้ ยสอื่ ของจริง และบตั รภำพแสดงจำนวน 1. ตัวนบั เชน่ ไมบ้ รรทัด ดินสอ และตัวเลขไทย แสดงจำนวนนบั ขน้ั สอน ยำงลบ ไม้ไอศกรมี แก้วน้ำ หลอดดดู 3 และ 4 ฝำขวด 2. ครูแนะนำกำรเขียน กำรอ่ำนตัวเลขฮินดูอำรบิก ตวั เลขไทย แสดงจำนวน “สำม” โดยอำจ 2. บัตรภำพแสดงจำนวนที่มีตัวเลข จัดกิจกรรม ดงั น้ี สาระสาคัญ ฮินดอู ำรบิก 3 และ 4 ประกอบ 2.1 ครูตดิ บัตรภำพแสดงจำนวน “สำม” ท่ีมตี ัวเลขฮินดูอำรบิก “3” ประกอบ มำให้นกั เรยี นนบั 3. บัตรตวั เลขฮนิ ดอู ำรบิก 3 และ 4 ตัวเลขฮินดูอำรบิก 3 4 ตัวเลขไทย ๓ ๔ เปน็ สัญลกั ษณท์ ีใ่ ช้ และบอกจำนวนของส่ิงของที่อยู่ในบัตรภำพ เช่น ภำพผเี สอ้ื 3 ตวั 4. บัตรตัวเลขไทย ๓ และ ๔ 3 5. แผ่นภำพแสดงจำนวน ตัวเลขฮนิ ดู เขียนแสดงจำนวน “สำม” และ “ส”่ี อำรบิก ตัวเลขไทย และตัวหนงั สือ ตำมลำดบั 6. แบบฝึกหัด 1.4 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ครถู ำมวำ่ “ในภำพมีผเี ส้อื กตี่ ัว” (3 ตวั ) จำกน้ันครูช้ที ่ีตัวเลข “3” ที่อยู่ในภำพ พร้อมทัง้ ด้านความรู้ แนะนำวำ่ ตวั เลข “3” เป็นตวั เลขฮินดอู ำรบิก ใช้แสดงจำนวน “สำม” อำ่ นว่ำ “สำม” ใหนั กั เรียนพดู การประเมิน เพือ่ ให้นกั เรยี นสำมำรถ อ่ำนและ คำว่า “สำม” พร้อมกัน 1. วิธกี าร ครนู ำบัตรภำพแสดงจำนวน “สำม” ท่ีมตี วั เลขฮนิ ดูอำรบิก “3” ประกอบ มำใหน้ กั เรียนนบั 1.1 สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ เขยี นตวั เลขฮินดูอำรบิก และตัวเลขไทย และบอกจำนวนส่ิงของที่อยูใ่ นบตั รภำพ อกี 2 – 3 ภำพ เช่น ภำพมำ้ ลำย 3 ตัว ภำพรถจักรยำน 3 คัน 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด แสดงจำนวนนับ 3 และ 4 2. เคร่ืองมอื ครตู ดิ บัตรตัวเลข “3” และสำธิตกำรเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอำรบกิ “3” บนกระดำน พรอ้ มทง้ั 2.1 แบบฝกึ หัด 1.4 ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง แนะนำวธิ เี ขยี นวำ่ จะต้องเริม่ ตน้ ทจ่ี ุดใด และลำกเส้นไปทำงใด โดยสังเกตจำกลูกศร 2.2 แบบประเมนิ ทกั ษะและ คณติ ศาสตร์ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ เพอื่ ใหน้ ักเรยี นสำมำรถสอื่ สำร 12 สอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 32 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 3. เกณฑ์ ครแู จกบัตรตัวเลขฮนิ ดูอำรบิก “3” ใหน้ ักเรียนคนละ 1 ใบ เพือ่ ฝึกใชน้ ้วิ มือเขียนตำมรอยใน 3.1 ผลงำนมีควำมถูกต้องไม่น้อยกวำ่ บตั รจนถูกวิธี จำกน้ันใหฝ้ กึ เขียนตัวเลขฮนิ ดอู ำรบิก “3” ในอำกำศ บนโตะ๊ เรยี น บนฝำ่ มือ แลว้ จึงให้ ร้อยละ 80 นกั เรียนเขียนตวั เลขฮินดูอำรบกิ “3” ลงในแบบฝึกหัด 1.4 ข้อ 1 เฉพำะแถวท่ี 1 3.2 คะแนนรวม ด้ำนทกั ษะและ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ไมน่ อ้ ย 2.2 ครตู ิดบตั รภำพแสดงจำนวน “สำม” ที่มีตวั เลขไทย “๓” ประกอบ มำให้นักเรียนนับและ กวำ่ รอ้ ยละ 60 บอกจำนวนสิง่ ของท่ีอยู่ในบัตรภำพ เชน่ ภำพผ้ึง 3 ตัว ๓ ครถู ำมว่ำ “ในภำพมีผง้ึ ก่ตี วั ” (3 ตัว) จำกนน้ั ครูช้ีทต่ี ัวเลข “๓” ทอี่ ยู่ในภำพ พร้อมท้งั แนะนำวำ่ ตวั เลข “๓” เปน็ ตัวเลขไทย ใช้แสดงจำนวน “สำม” อำ่ นวำ่ “สำม” และให้ นักเรยี นอ่านพร้อมกนั ครูนำบัตรภำพแสดงจำนวน “สำม” ที่มตี ัวเลขไทย “๓” ประกอบ มำใหน้ กั เรยี นนับและ บอกจำนวนสิ่งของที่อยู่ในบัตรภำพ อีก 2 – 3 ภำพ เชน่ ภำพปลำ 3 ตวั ภำพปู 3 ตวั ครูตดิ บัตรตวั เลข “๓” และสำธิตกำรเขียนตัวเลขไทย “๓” บนกระดำน พรอ้ มทั้งแนะนำวธิ ี เขยี นวำ่ จะต้องเรม่ิ ต้นทีจ่ ดุ ใด และลำกเส้นไปทำงใด โดยสงั เกตจำกลูกศร 3 21 ครูแจกบัตรตัวเลขไทย “๓” ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ เพื่อฝึกใช้นิว้ มอื เขยี นตำมรอยในบัตร จนถูกวธิ ี จำกน้ันใหฝ้ ึกเขียนตัวเลขไทย “๓” ในอำกำศ บนโตะ๊ เรียน บนฝำ่ มอื แลว้ จงึ ใหน้ ักเรยี นเขียน ตัวเลขไทย “๓” ลงในแบบฝึกหดั 1.4 ข้อ 2 เฉพำะแถวที่ 1

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 33 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ 3. ครูแนะนำกำรเขียน กำรอำ่ นตวั เลขฮนิ ดอู ำรบิก ตัวเลขไทย แสดงจำนวน “ส่ี” โดยอำจจดั กิจกรรม ดงั นี้ 3.1 ครูติดบตั รภำพแสดงจำนวน “ส่ี” ท่ีมตี ัวเลขฮนิ ดูอำรบิก “4” ประกอบ มำใหน้ กั เรยี นนบั และบอกจำนวนสิง่ ของท่ีอยใู่ นบตั รภำพ เช่น ภำพแมว 4 ตัว 4 ครูถำมว่ำ “ในภำพมีแมวกีต่ ัว” (4 ตวั ) จำกน้ันครชู ที้ ี่ตัวเลข “4” ท่อี ยู่ในภำพ พรอ้ มท้ัง แนะนำว่ำตวั เลข “4” เปน็ ตัวเลขฮินดอู ำรบิก ใช้แสดงจำนวน “สี่” อ่ำนวำ่ “ส่ี” และให้นักเรียนอ่านพร้อมกนั ครูนำบัตรภำพแสดงจำนวน “ส่ี” ท่ีมตี วั เลขฮินดูอำรบิก “4” ประกอบ มำให้นักเรยี นนับ และบอกจำนวนของสง่ิ ของที่อยู่ในบตั รภำพ อีก 2 – 3 ภำพ เช่น ภำพไก่ 4 ตวั ภำพลงิ 4 ตัว ครูติดบัตรตัวเลข “4” และสำธติ กำรเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอำรบิก “4” บนกระดำน พร้อมทั้ง แนะนำวิธเี ขียนวำ่ จะต้องเริม่ ตน้ ท่จี ดุ ใด และลำกเสน้ ไปทำงใด โดยสงั เกตจำกลูกศร 13 2 ครูแจกบัตรตัวเลขฮนิ ดูอำรบกิ “4” ให้นกั เรียนคนละ 1 ใบ เพอื่ ฝกึ ใช้นิ้วมือเขยี นตำมรอย ในบตั รจนถกู วธิ ี จำกนั้นให้ฝกึ เขยี นตัวเลขฮินดูอำรบิก “4” ในอำกำศ บนโต๊ะเรยี น บนฝ่ำมอื แล้วจึงให้ นกั เรยี นเขยี นตัวเลขฮนิ ดอู ำรบิก “4” ลงในแบบฝึกหัด 1.4 ข้อ 3 เฉพำะแถวที่ 1 3.2 ครูตดิ บัตรภำพแสดงจำนวน “ส่ี” ทม่ี ีตวั เลขไทย “๔” ประกอบ มำใหน้ กั เรยี นนับและ บอกจำนวนสง่ิ ของท่ีอยู่ในบัตรภำพ เช่น ภำพปลำทู 4 ตัว

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 34 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ๔ ครถู ำมว่ำ “ในภำพมีปลำทกู ่ตี ัว” (4 ตัว) จำกนน้ั ครชู ้ที ่ตี วั เลข “๔” ทอี่ ยู่ในภำพ พร้อมทงั้ แนะนำว่ำ ตัวเลข “๔” เปน็ ตัวเลขไทย ใช้แสดงจำนวน “ส่ี” อ่ำนวำ่ “ส่ี” และให้นกั เรยี นอ่ านพร้อมกนั ครนู ำบัตรภำพแสดงจำนวน “ส่ี” ท่ีมีตวั เลขไทย “๔” ประกอบ มำใหน้ ักเรียนนบั และ บอกจำนวนของสิ่งของที่อยู่ในบตั รภำพ อีก 2 – 3 ภำพ เชน่ ภำพเปด็ 4 ตัว ภำพห่ำน 4 ตวั ครตู ดิ บตั รตวั เลขไทย “๔” และสำธิตกำรเขยี นตวั เลขไทย “๔” บนกระดำน พรอ้ มท้งั แนะนำวิธีเขยี นวำ่ จะต้องเริ่มตน้ ท่จี ุดใด และลำกเสน้ ไปทำงใด โดยสังเกตจำกลูกศร 1 2 ครูแจกบตั รตัวเลขไทย “๔” ใหน้ ักเรียนคนละ 1 ใบ เพ่ือฝึกใชน้ ้ิวมือเขียนตำมรอยในบัตร จนถกู วธิ ี จำกน้ันใหฝ้ กึ เขยี นตัวเลขไทย “๔” ในอำกำศ บนโต๊ะเรยี น บนฝ่ำมอื แล้วจึงใหน้ กั เรยี น เขยี นตวั เลขไทย “๔” ลงในแบบฝึกหัด 1.4 ขอ้ 4 เฉพำะแถวที่ 1 4. ครูติดแผน่ ภำพแสดงจำนวนนบั หน่งึ สอง สำม และ สี่ เพอ่ื ให้นกั เรียนสรุปสัญลกั ษณ์ที่ใช้ เขียนแสดงจำนวน หน่ึง สอง สำม สี่ เปน็ ตัวเลขฮนิ ดูอำรบิก และ ตัวเลขไทย

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๔ 35 กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ช้ัน ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง ภาพสง่ิ ของ ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือ 1 ๑ หนงึ่ 2 ๒ สอง 3 ๓ สำม 4 ๔ ส่ี จำกน้นั ให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั 1.4 ขน้ั สรปุ 5. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ วำ่ ตัวเลขฮนิ ดูอำรบกิ 1 2 3 4 และตัวเลขไทย ๑ ๒ ๓ ๔ เปน็ สัญลกั ษณ์ทีใ่ ช้เขยี นแสดงจำนวน “หนึ่ง” “สอง” “สำม” และ “สี่” ตำมลำดบั

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ� หรบั ครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๕ ขั้นสอน 36 ข้นั สรปุ แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล ทบทวนจำนวนนบั “ห้ำ” และ “ศูนย”์ ด้วยสอ่ื ของจริง บตั รภำพ แนะนำสญั ลักษณ์ทใี่ ชเ้ ขียนแสดงจำนวน ตัวเลขฮนิ ดอู ำรบิก ตวั เลขไทย สำธติ วธิ ีเขยี นตวั เลขฮินดูอำรบกิ 5 และ 0 ตวั เลขไทย ๕ และ ๐ แบบฝึกหดั 1.5 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุป ตัวเลขฮินดูอำรบกิ 5 และ 0 ตัวเลขไทย ๕ และ ๐ เป็นสญั ลกั ษณ์ทใี่ ชเ้ ขยี นแสดงจำนวน “ห้า” และ “ศนู ย์” - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหัด 1.5 - ประเมนิ จำกกำรสอื่ สำร สอื่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๕ ชน้ั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชัว่ โมง 37 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเนื้อหา สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ กำรเขียน กำรอ่ำน ขน้ั นา 1. ตวั นบั เช่น ไมบ้ รรทดั ดนิ สอ ตัวเลขฮินดอู ำรบิก และตวั เลขไทย ยำงลบ ไมไ้ อศกรีม แก้วน้ำ หลอดดูด แสดงจำนวนนับ 5 และ 0 1. ครทู บทวนจำนวนนับ “หำ้ และ ศนู ย์” ดว้ ยสื่อของจรงิ บัตรภำพแสดงจำนวน ฝำขวด 2. บตั รภำพแสดงจำนวนทีม่ ีตัวเลข สาระสาคญั ขน้ั สอน ฮินดอู ำรบิก 5 และ 0 ประกอบ 3. บัตรตวั เลขฮินดอู ำรบิก 5 ตวั เลขฮินดอู ำรบิก 5 และ 0 2. ครูแนะนำกำรเขียน กำรอำ่ นตัวเลขฮินดูอำรบิก ตวั เลขไทย แสดงจำนวน “หำ้ ” โดยอำจจดั และ 0 ตวั เลขไทย ๕ และ ๐ เป็น กจิ กรรม ดังน้ี 4. บตั รตัวเลขไทย ๕ และ ๐ สญั ลกั ษณ์ท่ีใชเ้ ขยี นแสดงจำนวน 5. แผ่นภำพแสดงจำนวน ตวั เลขฮนิ ดู หำ้ และ ศูนย์ ตำมลำดบั 2.1 ครตู ดิ บัตรภำพแสดงจำนวน “ห้ำ” ท่ีมีตัวเลขฮินดูอำรบิก “5” ประกอบ มำให้นักเรยี นนับ อำรบิก ตวั เลขไทย และตวั หนงั สือ และบอกจำนวนของสงิ่ ท่ีอยใู่ นบตั รภำพ เช่น ภำพสม้ 5 ผล 6. แบบฝึกหดั 1.5 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 5 การประเมิน ด้านความรู้ เพ่ือใหน้ ักเรยี นสำมำรถ อำ่ นและ ครถู ำมว่ำ “ในภำพมีส้มก่ผี ล” (5 ผล) จำกนน้ั ครูชี้ท่ีตวั เลข “5” ท่ีอยใู่ นภำพ พรอ้ มท้ังแนะนำว่ำ ตวั เลข “5” 1. วธิ กี าร เขยี นตัวเลขฮินดูอำรบิก และตวั เลข เปน็ ตัวเลขฮินดูอำรบิก ใชแ้ สดงจำนวน “ห้ำ” อ่ำนวำ่ “ห้ำ” และให้นักเรยี นอ่ านพรอ้ มกนั 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมกำรเรยี นรู้ ไทย แสดงจำนวนนับ 5 และ 0 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง ครนู ำบัตรภำพแสดงจำนวน “ห้ำ” ที่มีตวั เลขฮนิ ดูอำรบิก “5” ประกอบ มำใหน้ กั เรยี นนับและ 2. เครอ่ื งมอื คณิตศาสตร์ บอกจำนวนสิ่งของที่อยใู่ นบัตรภำพ อีก 2 – 3 ภำพ เชน่ ภำพต้นไม้ 5 ต้น ภำพรม่ 5 คัน 2.1 แบบฝึกหัด 1.5 เพอื่ ให้นกั เรยี นสำมำรถสือ่ สำร 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ ส่อื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ ครูตดิ บัตรตวั เลข “5” และสำธติ กำรเขียนตวั เลขฮนิ ดูอำรบกิ “5” บนกระดำน พร้อมท้งั กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ แนะนำวธิ ีเขยี นว่ำ จะต้องเร่มิ ต้นทีจ่ ุดใด และลำกเส้นไปทำงใด โดยสงั เกตจำกลูกศร 3 12

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๕ 38 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ชั่วโมง ครแู จกบตั รตวั เลขฮินดูอำรบกิ “5” ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ เพื่อฝึกใชน้ ิ้วมอื เขียนตำมรอย 3. เกณฑ์ ในบตั รจนถูกวธิ ี จำกนัน้ ใหฝ้ กึ เขียนตวั เลขฮินดูอำรบิก “5” ในอำกำศ บนโต๊ะเรียน บนฝ่ำมือ แลว้ จึงให้ 3.1 ผลงำนมคี วำมถูกต้องไม่น้อย นักเรยี นเขียนตัวเลขฮนิ ดอู ำรบกิ “5” ลงในแบบฝึกหดั 1.5 ข้อ 1 เฉพำะแถวท่ี 1 กว่ำร้อยละ 80 2.2 ครูติดบัตรภำพแสดงจำนวน “ห้ำ” ที่มตี ัวเลขไทย “๕” ประกอบ มำให้นักเรยี นนบั และบอก 3.2 คะแนนรวม ดำ้ นทกั ษะและ จำนวนของส่งิ ท่ีอยูใ่ นบัตรภำพ เช่น ภำพมะม่วง 5 ผล กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ไม่ ๕ นอ้ ยกว่ำร้อยละ 60 ครูถำมวำ่ “ในภำพมีมะมว่ งกี่ผล” (5 ผล) จำกนัน้ ครูช้ีทีต่ ัวเลข “๕” ท่ีอยู่ในภำพ พร้อมท้ังแนะนำว่ำ ตวั เลข “๕” เปน็ ตวั เลขไทย ใช้แสดงจำนวน “ห้ำ” อ่ำนว่ำ “หำ้ ” และให้นกั เรยี นอ่ านพร้อมกนั ครูนำบัตรภำพแสดงจำนวน “ห้ำ” ท่ีมีตัวเลขไทย “๕” ประกอบ มำใหน้ กั เรียนนบั และบอก จำนวนส่งิ ของท่ีอย่ใู นบัตรภำพ อกี 2 – 3 ภำพ เช่น ภำพดอกไม้ 5 ดอก ภำพแจกนั 5 ใบ ครูตดิ บัตรตวั เลข “๕” และสำธิตกำรเขียนตวั เลขไทย “๕” บนกระดำน พรอ้ มทั้งแนะนำวิธี เขียนว่ำ จะตอ้ งเรมิ่ ต้นที่จดุ ใด และลำกเสน้ ไปทำงใด โดยสังเกตจำกลูกศร 3 1 2 ครูแจกบตั รตวั เลขไทย “๕” ใหน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ เพ่ือฝึกใช้นิว้ มือเขียนตำมรอยในบตั รจน ถูกวิธี จำกนั้นให้ฝกึ เขยี นตวั เลขไทย “๕” ในอำกำศ บนโต๊ะเรยี น บนฝำ่ มือ แลว้ จึงใหน้ ักเรียนเขียนตวั เลข ไทย “๕” ลงในแบบฝกึ หัด 1.5 ขอ้ 2 เฉพำะแถวท่ี 1 3. ครูแนะนำกำรเขยี น กำรอ่ำนตัวเลขฮนิ ดูอำรบิก ตวั เลขไทย แสดงจำนวน “ศนู ย์” โดยอำจจดั กิจกรรม ดงั น้ี

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ ชั้น ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชว่ั โมง 39 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 3.1 ครูตดิ บัตรภำพแสดงจำนวน “ศนู ย์” ที่มตี ัวเลขขฮนิ ดูอำรบิก “0” ประกอบ มำใหน้ กั เรยี น บอกจำนวนของส่ิงของทอี่ ยู่ในบตั รภำพ เช่น ภำพแจกนั มีดอกไม้ 0 ดอก ไม่มดี อกไมใ้ นแจกัน 0 ครถู ำมว่ำ “ในภำพแจกันมดี อกไม้กีด่ อก” (0 ตัว) จำกน้นั ครชู ้ที ี่ตวั เลข “0” ที่อยใู่ นภำพ พร้อมทัง้ แนะนำว่ำ ตัวเลข “0” เปน็ ตวั เลขฮนิ ดูอำรบิก ใชแ้ สดงจำนวน “ศนู ย์” อ่ำนวำ่ “สนู ” ใหั และให้นักเรยี นอา่ น พร้อมกนั ครูนำบตั รภำพแสดงจำนวน “ศูนย”์ ท่ีมตี วั เลขฮินดูอำรบิก “0” ประกอบ มำใหน้ ักเรยี นบอก จำนวนสิ่งของท่ีอยใู่ นบัตรภำพ อกี 2 – 3 ภำพ เชน่ ภำพตู้ปลำ มปี ลำอยใู่ นตู้ 0 ตัว ภำพรำงใส่ไช่ ในรำงมีไข่ 0 ฟอง ครตู ิดบัตรตวั เลข “0” และสำธิตกำรเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอำรบิก “0” บนกระดำน พร้อมท้ัง แนะนำวิธีเขียนวำ่ จะต้องเร่ิมต้นท่ีจดุ ใด และลำกเสน้ ไปทำงใด โดยสังเกตจำกลูกศร 1 ครแู จกบัตรตวั เลขฮนิ ดูอำรบิก “0” ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ เพ่ือฝกึ ใช้นว้ิ มอื เขยี นตำมรอย ในบัตรจนถกู วธิ ี จำกนนั้ ให้ฝึกเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอำรบิก “0” ในอำกำศ บนโต๊ะเรียน บนฝ่ำมอื แลว้ จึงให้ นกั เรียนเขียนตัวเลขฮนิ ดอู ำรบกิ “0” ลงในแบบฝึกหดั 1.5 ขอ้ 3 เฉพำะแถวท่ี 1

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๕ ชนั้ ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชัว่ โมง 40 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 3.2 ครูติดบตั รภำพแสดงจำนวน “ศูนย์” ท่มี ตี ัวเลขไทย “๐” ประกอบ มำให้นกั เรียนบอก จำนวนของสงิ่ ที่อยู่ในบัตรภำพ เชน่ ภำพตะกรำ้ มีผลไม้ 0 ผล ๐ ( ไมม่ ีผลไมใ้ นตะกร้า) ครูถำมวำ่ “ในภำพตะกรำ้ มผี ลไม้กผ่ี ล” (0 ผล) จำกนนั้ ครูชที้ ต่ี ัวเลข “๐” ที่อยู่ในภำพ พร้อมท้ังแนะนำวำ่ ตวั เลข “๐” เปน็ ตวั เลขไทย ใช้แสดงจำนวน “ศนู ย”์ อ่ำนว่ำ “สูน” และให้นักเรยี นอ่านพรอ้ มกัน ครูนำบัตรภำพแสดงจำนวน “ศนู ย์” ที่มตี วั เลขไทย “๐” ประกอบ มำใหน้ กั เรยี นบอกจำนวน ของส่ิงที่อย่ใู นบัตรภำพ อีก 2 – 3 ภำพ เชน่ ภำพตะกร้ำ มีผลไม้ 0 ผล ภำพชงิ ช้ำ มเี ด็ก 0 คน ครตู ิดบัตรตัวเลขไทย “๐” และสำธติ กำรเขียนตวั เลขไทย “๐” บนกระดำน พรอ้ มท้งั แนะนำ วธิ เี ขยี นวำ่ จะต้องเร่ิมตน้ ทจ่ี ดุ ใด และลำกเส้นไปทำงใด โดยสังเกตจำกลกู ศร 1 ครูแจกบตั รตัวเลขไทย “๐” ให้นกั เรยี นคนละ 1 ใบ เพ่ือฝึกใชน้ ว้ิ มือเขยี นตำมรอยในบัตรจน ถกู วิธี จำกน้ันให้ฝึกเขียนตวั เลขไทย “๐” ในอำกำศ บนโต๊ะเรียน บนฝ่ำมือ แลว้ จงึ ให้นักเรยี นตัวเลขไทย “๐” ลงในแบบฝึกหัด 1.5 ขอ้ 4 เฉพำะแถวที่ 1 4. ครตู ดิ แผ่นภำพแสดงจำนวนนับ หนง่ึ สอง สำม สี่ หำ้ และจำนวนศนู ย์ เพ่ือให้นักเรยี นสรปุ สญั ลกั ษณท์ ี่ใชเ้ ขยี นแสดงจำนวน หน่ึง สอง สำม ส่ี ห้ำ และศนู ย์ เปน็ ตัวเลขฮินดูอำรบิก และ ตวั เลขไทย จำกนนั้ ให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด 1.5


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook