ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒๙ 191 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชั้น ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ช่ัวโมง 2. อ่านและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก 2. การอา่ นและเขียนตวั เลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทยแสดงจานวนนับ 1 ถงึ 20 และ 0 ตัวเลขไทย แสดงจานวนนับ 1 ตอบคาถาม ถึง 20 และ 0 1) 4 เขียนเป็นตวั เลขไทยได้อย่างไร (๔) 3. เขยี นจานวนในรูปกระจาย บอกหลักและค่าของเลขโดดในหลักสิบ 2) ๑๘ เขยี นเปน็ ตวั เลขฮินดอู ารบิกได้อย่างไร (18) หลกั หนว่ ย 4. เปรยี บเทยี บและเรียงลาดับ 3) 1 5 3 บตั รตวั เลขใด อ่านว่า “ห้า” (5) จานวนนับ 1 ถงึ 20 และ 0 5. บอกความสมั พันธ์แบบ 4) ๑๐ ๑๗ ๑๑ บตั รตวั เลขใด อ่านวา่ “สบิ เอ็ด” (๑๑) ส่วนย่อย – ส่วนรวมของจานวนนบั 1 ถึง 20 และ 0 5) “ศนู ย”์ “ยี่สบิ ” “สิบ” คาใดเป็นคาอ่านของ 20 (ยสี่ บิ ) ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทาง 6) “สบิ สอง” “สิบส”่ี “สิบสาม” คาใดเป็นคาอ่านของ ๑๒ (สบิ สอง) คณิตศาสตร์ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ “ตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ตัวเลขไทย ๐ ๑ เพอ่ื ให้นักเรยี นสามารถสือ่ สาร ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เป็นสัญลกั ษณ์ทใ่ี ช้เขยี นแสดงจานวน ส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ เขยี นตัวหนงั สอื เปน็ ศูนย์ หน่ึง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เกา้ สิบ สบิ เอด็ สิบสอง สิบสาม สบิ สี่ สิบหา้ สบิ หก สบิ เจ็ด สิบแปด สบิ เกา้ ย่ีสบิ ” 3. การเขยี นจานวนในรปู กระจาย หลักและคา่ ของเลขโดดในหลกั สิบ หลกั หน่วย ตอบคาถาม 1) เขยี น 14 ในรปู กระจายได้อย่างไร ( 10 + 4) 2) เขียน 20 ในรปู กระจายได้อย่างไร ( 20 + 0)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒๙ 192 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ช่ัวโมง 3) 17 เลขโดดในหลักสิบคอื อะไร (1) มคี า่ เท่าใด (10) เลขโดดในหลักหนว่ ยคืออะไร (7) มีค่าเทา่ ใด (7) 4) 10 0 อยใู่ นหลกั ใด (หน่วย) มีค่าเทา่ ใด (0) 1 อยูใ่ นหลกั ใด (สิบ) มีค่าเท่าใด (10) 5) จานวนใดทมี่ ี 1 อยู่ในหลกั สบิ 8 อยู่ในหลักหนว่ ย (18) ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุป “การเขยี นตวั เลขแสดงจานวน 10 ถึง 20 ในรูปกระจาย เปน็ การเขยี นในรปู การบวกของ 1 สบิ กับ จานวนหน่วย และการเขียนตวั เลขแสดงจำนวน 20 เขียนในรูปการบวกของ 2 สบิ กบั 0 หนว่ ย” “10 ถงึ 20 เป็นตัวเลขแสดงจานวนนบั ทีม่ ีสองหลัก เลขโดดทางขวาอยู่ในหลกั หน่วย เลขโดดทางซ้าย ของหลกั หน่วยอยู่ในหลักสิบ” 4. การเปรียบเทยี บและเรยี งลาดับจานวนนบั 1 ถึง 20 และ 0 ตอบคาถาม 1) 7 12 7 มากกว่า หรือ น้อยกวา่ 12 (นอ้ ยกวา่ ) 2) 13 16 16 มากกวา่ หรอื น้อยกว่า 13 (มากกว่า) 3) 9 18 15 เรยี งลาดับจานวนจากมากไปน้อยได้อย่างไร (18 15 9) 4) 14 19 11 เรยี งลาดบั จานวนจากนอ้ ยไปมากได้อยา่ งไร (11 14 19)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒๙ 193 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ช้ัน ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ช่ัวโมง ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุป “จานวนสองจานวนเมือ่ นามาเปรยี บเทียบกัน จะเท่ากนั หรือไม่เท่ากนั เมื่อจบั คกู่ นั ได้พอดี แสดงว่ามี จานวนเทา่ กนั เมื่อจบั ค่กู ันได้ไมพ่ อดี แสดงวา่ มีจานวนไมเ่ ทา่ กนั ” “จานวนสองจานวนเม่อื นามาเปรียบเทยี บกนั จะเทา่ กัน มากกวา่ กนั หรือน้อยกวา่ กนั อย่างใดอย่าง หนึง่ เพยี งอยา่ งเดยี วเท่านัน้ ” “การเรียงลาดับจานวนทาได้โดยเปรยี บเทียบจานวนนับทลี ะคู่ แลว้ เรยี งลาดับจากน้อยไปมากหรือ มากไปนอ้ ย” “เรียงลาดบั จานวนโดยใช้เส้นจานวน จานวนทอ่ี ย่ทู างซ้ายสุดจะนอ้ ยท่ีสดุ และจานวนที่อยู่ทางขวาสุด จะมากทสี่ ดุ แลว้ เรียงลาดบั จากน้อยไปมาก หรอื มากไปนอ้ ย” 5. ความสมั พันธ์แบบสว่ นย่อย – ส่วนรวมของจานวนนับ 1 ถึง 20 และ 0 เตมิ ตวั เลขแสดงจานวนใน แสดงความสัมพนั ธข์ องจานวนแบบส่วนยอ่ ย – ส่วนรวม 13 8 6 0 92 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป “ความสัมพันธข์ องจานวนแบบส่วนย่อย – สว่ นรวม เป็นการเขียนแสดงจานวนในรูปของจานวน 2 จานวน” 6. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบ 1.1 เรอ่ื ง จานวน โดยใชเ้ วลาประมาณ 30 นาที
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๓๐ 194 ข้ันสอน แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั สรุป การวดั และประเมนิ ผล สนทนากบั นักเรียนถงึ คาท่ีใช้บอกตาแหนง่ ในชีวติ ประจาวัน เช่น คนแรกของแถว คนสดุ ทา้ ยของแถว การบอกตาแหนง่ และคาท่ีใชบ้ อกตาแหน่ง คนแรก คนสดุ ทา้ ย ขา้ งหนา้ ข้างหลงั ตรงกลาง แบบฝกึ หดั 1.28 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเกีย่ วกับการบอกตาแหน่งโดยใชค้ าเชน่ คนแรก คนสดุ ทา้ ย ข้างหน้า ขา้ งหลงั ตรงกลาง - ประเมินจากการตอบคาถามและการทาแบบฝึกหัด 1.28 - ประเมนิ จากการแกป้ ญั หาและการสอื่ สารและสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓๐ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 195 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเนอื้ หา ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การบอกตาแหน่งของสิง่ ต่างๆ 1. ตวั นกั เรียน ขัน้ นา 2. หนังสือ สมุด ดินสอ สาระสาคญั 3. บัตรคาชื่อนักเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการเขา้ แถวหนา้ เสาธงของนักเรยี นตอนเช้าโดยถามวา่ ใครยืน่ เป็นคนแรก 4. แบบฝึกหัด 1.28 คนแรก คนสุดทา้ ย ข้างหนา้ ใครยนื เป็นคนสุดท้าย แลว้ แนะนานกั เรียนวา่ คาวา่ คนแรก คนสดุ ท้าย เป็นคาทีใ่ ชบ้ อกตาแหน่ง ข้างหลัง ข้างซ้าย ขา้ งขวา ตรงกลาง การประเมนิ เป็นคาทใ่ี ชบ้ อกตาแหน่ง โดยในการ ขนั้ สอน บอกตาแหน่งต้องมีจุดอ้างองิ 1.วธิ ีการ 2. แบง่ นกั เรียนเป็น 4 ทีม ได้แก่ทีมสแี ดง ทมี สเี ขียว ทมี สีเหลือง และทีมสฟี า้ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ให้นักเรยี นทีมสแี ดง 5 คน ออกมาเขา้ แถวตอนหนั หนา้ เข้าหาครู เช่น 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั 2.เครือ่ งมือ ด้านความรู้ จากน้นั ถามนกั เรียนด้วยคาถามตอ่ ไปนี้ 2.1 แบบฝึกหดั 1.28 เพือ่ ใหน้ กั เรยี นสามารถบอก - ใครเปน็ คนแรกของแถวนับจากตวั ครู (ตา้ ) 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ตาแหนง่ โดยใชค้ าวา่ คนแรก คน จากนน้ั ครเู ขียน “ตา้ เปน็ คนแรกของแถวนับจากครู” บนกระดาน 3.เกณฑ์ สุดทา้ ย ข้างหน้า ขา้ งหลัง ข้างซ้าย - ใครเป็นคนสดุ ท้ายของแถวนับจากตัวครู (ทนั ) 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ ง ขา้ งขวา ตรงกลาง ไม่นอ้ ยกวา่ จากนั้นครูเขียน “ทันเปน็ คนสดุ ทา้ ยของแถวนับจากครู” บนกระดาน รอ้ ยละ 80 - ใครอยู่ขา้ งหนา้ อ้น (ต้า) จากน้นั ครูเขียน “ตา้ อยู่ข้างหน้าอ้น” บนกระดาน 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะ - ใครอยู่ข้างหลงั รงุ่ (ทนั ) จากนั้นครูเขียน “ทันอยู่ขา้ งหลงั รุ่ง” บนกระดาน กระบวนการทางคณิตศาสตร์ - ใครอยู่ตรงกลาง (ป้อง) จากนั้นครเู ขยี น “ป้องอยู่ตรงกลาง” บนกระดาน ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ใหน้ กั เรยี นทีมสแี ดงกลบั ไปนั่งทข่ี องตนเอง
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓๐ 196 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ชั่วโมง ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ 2.2 ใหน้ กั เรยี นทีมสีเขยี ว 5 คน ออกมาเขา้ แถวตอนในลักษณะเดิมอกี ครั้ง แลว้ ถามแบบเดยี วกนั เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถ 2.3 ครใู หน้ กั เรยี นทีมสเี หลือง 5 คน ออกมาเขา้ แถวตอนในลกั ษณะเดิมอกี คร้ัง แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั อธิบายวา่ 1. แก้ปัญหา 2. ส่อื สารและส่ือความหมาย ใครเปน็ คนแรกถา้ นับจากครู ใครเปน็ คนสุดท้ายถา้ นับจากครู ใครอยู่ขา้ งหนา้ ใครอย่ขู ้างหลงั และใครอยตู่ รงกลาง ทางคณิตศาสตร์ ครแู นะนาว่าในการบอกตาแหนง่ ต้องมจี ุดอ้างอิงเสมอ เช่นใครเปน็ คนแรกถ้านบั จากครู หรือต้นอยู่ ข้างหน้าฟ้า 2.4 ครูใหน้ กั เรียนทมี สฟี ้า 5 คน ออกมาหนา้ ชั้นเรยี นแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกันจดั เพือ่ นๆ ตามตาแหนง่ ตา่ งๆ ที่ กาหนด เช่น นกยนื เป็นคนแรกถ้านับจากครู แนนยืนเปน็ คนสุดท้ายถา้ นบั จากครู อ้นอยูข่ า้ งหน้าแนน แจน อยขู่ ้างหลงั นก ฟา้ อยตู่ รงกลาง จะจัดแถวนักเรียนไดด้ ังน้ี นก แจน ฟ้า อน้ แนน เปน็ ต้น 3. ครูนา หนังสอื สมุด ดินสอ วางเรียงแถวหน้ากระดานบนโต๊ะหนา้ ช้นั เรยี น ดังน้ี หนงั สือ สมดุ ดินสอ แลว้ ถามนักเรียนด้วยคาถามต่อไปน้ี - สง่ิ ใดอยูต่ รงกลาง (สมดุ ) - สง่ิ ใดอยขู่ ้างซา้ ยของสมุด (หนังสือ) - สิง่ ใดอยู่ข้างขวาของสมดุ (ดนิ สอ) ครสู ลบั ทีต่ าแหนง่ ของหนงั สือ สมุด ดินสอ ดังน้ี สมดุ ดนิ สอ หนังสือ ถามดว้ ยคาถามเดิมดงั น้ี - สง่ิ ใดอยตู่ รงกลาง (ดินสอ) - สงิ่ ใดอยขู่ ้างซ้ายของดนิ สอ (สมดุ ) - ส่งิ ใดอยูข่ ้างขวาของดนิ สอ (หนังสอื ) ครูเพ่ิมยางลบ แล้วเรยี งตามลาดับ ดังน้ี
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓๐ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 197 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ดนิ สอ หนังสอื สมดุ ยางลบ ถามดว้ ยคาถามเดิมดงั น้ี - ส่ิงใดอยูข่ ้างซา้ ยของหนังสือ (ดินสอ) - สิง่ ใดอยขู่ ้างขวาของสมดุ (ยางลบ) - ส่งิ ใดอยทู่ างขวาของหนงั สือ (สมุด และยางลบ) - สงิ่ ใดอยู่ทางซ้ายของสมุด (หนังสือ ดนิ สอ) 4. ครเู ขียนรปู ต่อไปนี้บนกระดาน ใหน้ กั เรียนนาบตั รช่ือนักเรียนไปติดตามตาแหน่งที่กาหนด 4.1 ใจ แก้ม สน บุ้ง ฝา้ ย - สนเป็นคนแรกของแถวนับจากครู สนอยู่ทีต่ าแหนง่ ใด (สน อยทู่ ่ตี าแหน่ง A) - แกม้ เปน็ คนสุดทา้ ยของแถวนบั จากครู แก้มอยู่ทต่ี าแหนง่ ใด (แกม้ อยทู่ ี่ตาแหน่ง E) - ใจ อยู่ขา้ งหลัง สน ใจอยู่ทตี่ าแหนง่ ใด (ใจ อยู่ทต่ี าแหน่ง B) - บุ้ง อยู่ขา้ งหนา้ แกม้ บงุ้ อยู่ท่ีตาแหน่งใด (บ้งุ อยู่ที่ตาแหนง่ D) - ฝ้าย อยู่ทต่ี าแหนง่ ใด (ฝา้ ย อยทู่ ต่ี าแหน่ง C)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓๐ 198 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ป. ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยท่ี ๑ จานวน หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ 4.2 หนังสือ แก้ว ขวด กลอ่ ง ดินสอ กาหนดให้ หนงั สือ อยู่ตรงกลางท่ีตาแหนง่ ค - ขวดอยตู่ รงกลางระหวา่ งกล่องและหนงั สอื (ขวด อย่ทู ่ีตาแน่ง ข) - กลอ่ งและขวดอยูข่ า้ งซา้ ยของหนังสอื (กล่อง อยู่ท่ตี าแหนง่ ก) - แกว้ และดนิ สออยู่ข้างขวาของหนงั สอื (แก้ว อยู่ทตี่ าแหน่ง จ) - ดนิ สออยู่ข้างซ้ายของแกว้ (ดินสอ อยทู่ ตี่ าแหนง่ ง) จากนั้นให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัด 1.28 ขั้นสรุป 5. ครแู ละนักเรียนอภปิ รายจนสรปุ ได้วา่ การบอกตาแหนง่ ของการเข้าแถวตอนอาจใชค้ าว่า คนแรก คนสดุ ท้าย ขา้ งหนา้ ขา้ งหลัง และการบอกตาแหน่งของส่ิงของท่วี างเรียงแถวหนา้ กระดานอาจใชค้ าวา่ ตรงกลาง ขา้ งซ้าย ข้างขวา
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ข้ันนา แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๓๑ ข้นั สอน 199 ขั้นสรปุ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล ทบทวนคำท่ีใช้บอกตำแหนง่ คนแรก คนสุดทำ้ ย ขำ้ งหนำ้ ขำ้ งหลงั กำรบอกตำแหนง่ และคำทใี่ ชบ้ อกตำแหน่ง ข้ำงซ้ำย ขำ้ งขวำ ข้ำงหนำ้ ข้ำงหลงั ถัดจำก ระหว่ำง.......กบั ตงั้ แต.่ .....ถึง แบบฝกึ หดั 1.29 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเก่ยี วกบั กำรบอกตำแหน่งโดยใช้คำเชน่ ขา้ งซ้าย ข้างขวา ข้างหน้า ข้างหลงั ถดั จาก ระหวำ่ ง.......กับ ตงั้ แต.่ .....ถึง - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หดั 1.29 - ประเมนิ จำกกำรสอ่ื สำร สอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓๑ 200 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ช่ัวโมง ขอบเขตเนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ การบอกตาแหนง่ ของสิ่งต่างๆ 1.บตั รภาพ สาระสาคญั ขน้ั นา 2.บัตรคา 3. แถบประโยค การบอกตาแหนง่ ของสง่ิ ตา่ งๆ 1. ครทู บทวนคาที่ใชบ้ อกตาแหน่งข้างซ้าย ข้างขวา โดยติดภาพตอ่ ไปนบี้ นกระดาน 4.แบบฝกึ หดั 1.29 อาจใชค้ า ข้างซ้าย ขา้ งขวา ข้างหนา้ การประเมนิ ข้างหลงั ถดั จาก ระหว่าง.......กับ ต้งั แต.่ .....ถึง..... 1.วธิ ีการ 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.2 ตรวจแบบฝกึ หัด 2.เครื่องมือ ด้านความรู้ แลว้ ครสู นทนาว่าภาพน้ีเปน็ ภาพเกีย่ วกบั อะไร (การแข่งขนั วง่ิ ) มีนกั กฬี าสอี ะไรบา้ ง (สแี ดง สีเขียว สีฟา้ 2.1 แบบฝกึ หัดท่ี 1.29 2.2 แบบประเมินทักษะและ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสามารถบอกตาแหน่ง สีเหลอื ง) นกั กีฬาสอี ะไรยนื อยขู่ ้างซา้ ยของนักกีฬาสีเขียว (สีแดง) นักกีฬาสีอะไรยืนอยู่ข้างขวาของนกั กีฬา กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ โดยใชค้ าว่า ขา้ งซ้าย ข้างขวา 3.เกณฑ์ สฟี า้ (สเี หลือง) นักกีฬาสอี ะไรอยูข่ า้ งซ้ายของนักกีฬาสเี หลือง (สฟี ้า) นกั กฬี าสีอะไรอยู่ข้างขวาของนักกฬี า 3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง ขา้ งหน้า ข้างหลัง ถดั จาก ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 สเี ขียว (สีฟา้ ) 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะ ระหว่าง.......กับ ตงั้ แต.่ .....ถงึ ..... กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ขนั้ สอน ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 60 ด้านทกั ษะและกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ 2. ครถู ามวา่ คาที่ใชบ้ อกตาแหน่งของนักกีฬาสใี นลู่วิ่งมีคาว่าอะไรบา้ ง (ขา้ งซ้าย ข้างขวา) แลว้ ครใู ช้ เพอื่ ให้นักเรียนสามารถส่อื สารสอื่ คาถามกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนคิดวา่ “นอกจากคาว่า ข้างซา้ ย ข้างขวา แล้วยงั มีคาท่ีใช้บอกตาแหนง่ ของนักกฬี า ความหมายทางคณิตศาสตร์ ในลวู่ ิ่งอกี ใครบอกได้บ้าง” ครูแนะนาคาว่า “ถัดจาก” พร้อมยกตัวอยา่ ง เช่น นกั กีฬาสีเขยี วยืนถัดจาก นักกฬี าสีแดง จากน้ันถามดว้ ยคาถามตอ่ ไปน้ี แลว้ เขียนคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน - ถดั จากสเี ขยี วเปน็ สีอะไร (ถัดจากสีเขยี วเปน็ สฟี า้ )
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓๑ 201 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ช่ัวโมง - ถัดจากสีฟ้าเปน็ สอี ะไร (ถัดจากสีฟ้าเปน็ สเี หลอื ง) ครแู นะนาคาว่า “ระหว่าง…..กบั …..” พร้อมยกตวั อย่าง เช่น นกั กฬี าสีเขียวยนื อยู่ระหวา่ งนักกีฬาสีแดงกบั นกั กีฬาสฟี ้า จากนน้ั ถามดว้ ยคาถามตอ่ ไปน้ี แล้วเขยี นคาตอบของนักเรยี นบนกระดาน - ระหว่างสีแดงกับสีฟา้ เป็นสีอะไร (ระหว่างสแี ดงกบั สฟี ้าเป็นสเี ขยี ว) - ระหวา่ งสเี ขียวกบั สีเหลอื งเป็นสีอะไร (ระหวา่ งสเี ขียวกับสเี หลืองเป็นสฟี ้า) - ระหวา่ งสแี ดงกับสีเหลืองเป็นสอี ะไรบา้ ง (ระหว่างสแี ดงกับสีเหลืองเปน็ สีเขียว และสฟี ้า) ครแู นะนาคาวา่ “ตัง้ แต่…..ถงึ …..” พรอ้ มยกตัวอยา่ ง เชน่ ตั้งแต่นกั กีฬาสแี ดงถึงนักกฬี าสีฟา้ จะเปน็ นกั กฬี า สแี ดง นกั กีฬาสีเขียวและนักกฬี าสีฟา้ จากนัน้ ถามด้วยคาถามต่อไปนี้ แล้วเขยี นคาตอบของนักเรยี น บนกระดาน - ต้งั แต่นักกีฬาสีเขียวถึงนักกฬี าสีเหลอื งเป็นนกั กีฬาสีอะไรบ้าง (ตัง้ แตน่ ักกีฬาสีเขียวถงึ นักกีฬาสีเหลือง จะเป็นนักกีฬาสีเขียว นกั กีฬาสฟี า้ และนักกฬี าสีเหลอื ง) - ตัง้ แตน่ กั กฬี าสแี ดงถงึ นักกีฬาสเี หลอื งเป็นนักกีฬาสีอะไรบ้าง (ต้ังแตน่ ักกีฬาสแี ดงถึงนักกีฬาสเี หลอื ง เป็นนกั กีฬาสแี ดง นักกีฬาสเี ขียว นักกฬี าสีฟ้า และนักกีฬาสเี หลือง) 3. ครใู หน้ ักเรยี น 5 คน ออกมาเข้าแถวหนา้ ช้นั เรยี น ดังน้ี จากนั้นใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั อธิบายการบอกตาแหน่งโดยครูตดิ คาบอกตาแหน่งบนกระดาน ขา้ งซา้ ย ขา้ งขวา ถดั จาก ระหวา่ ง...กับ ต้ังแต.่ ..ถงึ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๓๑ ช้ัน ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 202 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ แล้วถามนกั เรียนดว้ ยคาถามต่อไปน้ี - ใครเปน็ คนแรกของแถว (แตว้ ) - ใครเป็นคนสุดท้ายของแถว (ปั๊ม) - ป๊ัมอยู่ข้างใดของโอม (ข้างขวา) - ตอ้ งอยู่ข้างใดของพัน (ข้างซา้ ย) - ถัดจากแตว้ เปน็ ใคร (ต้อง) - ระหว่างต้องกบั โอมเปน็ ใคร (พนั ) - ระหวา่ งแต้วกบั โอมเปน็ ใครบ้าง (ต้องกับพัน) - ต้งั แต่แตว้ ถึงโอมมีใครบ้าง (แตว้ ตอ้ ง พัน และโอม) 4. ครตู ิดภาพต่อไปนบี้ นกระดาน
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓๑ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 203 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ และติดบัตรคาตอ่ ไปน้ีเพิ่มอกี 2 คา ข้างหน้า ข้างหลัง ครูอ่านแล้วนกั เรียนอา่ นตาม แล้ว สนทนากับนักเรยี นเกย่ี วกบั ภาพ ในภาพมแี ถวอะไรบ้าง(แถว A แถว B แถว C) แถว A มใี ครบ้าง (ต้มั กนั อ้น) แถว B มีใครบ้าง (ป๋อม บุ้ง ชัย) แถว C มีใครบ้าง (พบ นัด ขา้ ว) และแนะนานักเรียนว่าในภาพทุกคนหนั หน้าเขา้ หาเสาธง จากนัน้ ถามนักเรียนด้วยคาถาม ต่อไปนี้พร้อมทง้ั ตดิ แถบประโยคข้อความทเ่ี ปน็ คาตอบ - ใครอยู่ข้างหน้าป๋อม (ต้ัมอยู่ข้างหน้าปอ๋ ม) - ใครอยู่ขา้ งหลังบงุ้ (นัดอยู่ข้างหลังบุง้ ) - ใครอยู่ข้างขวาของกนั (อ้นอยู่ข้างขวาของกัน) - ใครอยู่ขา้ งซ้ายของนดั (พบอยู่ข้างซ้ายของนดั ) - นัดอยูร่ ะหวา่ งใครกบั ใคร (นัดอยู่ระหวา่ ง พบ กับ ขา้ ว) - ป๋อมอย่รู ะหวา่ งใครกับใคร (ป๋อมอยู่ระหว่าง ตั้ม กบั พบ) - ตั้งแต่อน้ ถงึ ข้าว เป็นใครบา้ ง (อน้ ชัย และขา้ ว) - ใครอยรู่ ะหว่าง ต้มั กบั อ้น (กันอยู่ระหวา่ ง ตมั้ กับ อน้ ) 5. ครูติดภาพการเข้าแถวบนกระดาน (แทนภาพเดมิ )
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๓๑ ชัน้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 204 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ครูสนทนากบั นักเรยี นเกยี่ วกับภาพ ในภาพมีแถวอะไรบ้าง (แถว ก แถว ข แถว ค) แถว ก มีใครบ้าง (นา้ แหวน ฝา้ ย) แถว ข มีใครบ้าง (ฟ้า แพร ว่าน) แถว ค มใี ครบ้าง (แป้ง ฝน ออ) และครกู าหนดวา่ ในภาพทกุ คนหนั หนา้ มาทางเสาธง ดังนนั้ การบอกข้างซา้ ย ข้างขวา ข้างหน้า หรอื ขา้ งหลังจะเป็นซ้าย ขวา หนา้ หลงั ของคนในภาพ แลว้ ครูถามด้วยคาถามต่อไปนี้ - ใครอยู่ข้างหนา้ วา่ น (ฝ้าย) - ใครอยู่ข้างหลังฝ้าย (ว่าน) - ข้างขวาของแหวนคือใคร (นา้ ) - ขา้ งซ้ายของแหวนคอื ใคร (ฝ้าย) - ฝนอยูร่ ะหวา่ งใครกับใคร (แป้ง กบั ออ) - แพรอยู่ระหวา่ งใครกบั ใคร (ฟ้า กบั ว่าน)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓๑ ชั้น ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 205 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ - ตง้ั แตแ่ ปง้ ถึงออ เปน็ ใครบา้ ง (แปง้ ฝน และออ) - ใครนงั่ ระหวา่ งออกับฝ้าย (ว่าน) จากนั้นนกั เรยี นทาแบบฝึกหดั 1.29 ข้นั สรปุ 6. ครูสรปุ บทเรียนโดยให้นักเรยี นบอกคาทีใ่ ช้บอกตาแหน่งท่เี รียนมาแลว้ เช่น ข้างซา้ ย ขา้ งขวา ข้างหน้า ข้างหลงั ระหว่าง...กบั ตง้ั แต.่ .....ถงึ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓๒ 206 ขน้ั สอน แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นสรุป การวัดและประเมนิ ผล ทบทวนคำทีใ่ ช้บอกตำแหนง่ คนแรก คนสุดท้ำย ขำ้ งหน้ำ ข้ำงหลัง ถดั จำก ระหวำ่ ง.......กับ ต้งั แต.่ .....ถงึ ..... กำรบอกตำแหน่งและคำท่ใี ช้บอกตำแหนง่ ชั้นบน ช้ันกลำง ชัน้ ลำ่ ง ชัน้ บนตรงกลำง ชัน้ บนขำ้ งซำ้ ย ช้ันบนข้ำง ขวำ ชั้นกลำงตรงกลำง ชนั้ กลำงข้ำงซำ้ ย ชน้ั กลำงข้ำงขวำ ช้ันลำ่ งตรงกลำง ช้นั ลำ่ งข้ำงซำ้ ย ชนั้ ลำ่ งขำ้ งขวำ แบบฝึกหดั 1.30 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เกีย่ วกับกำรบอกตำแหน่ง - ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหัด 1.30 - ประเมินจำกกำรสอ่ื สำร สอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๓๒ ชน้ั ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 207 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเน้อื หา สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การบอกตาแหนง่ ของสงิ่ ต่างๆ ขนั้ นา 1. บตั รภาพ 2. บตั รคา สาระสาคัญ 1. ทบทวนการใชค้ าบอกตาแหน่งโดยวางส่งิ ของบนโต๊ะดังนี้ 3. แถบประโยค 4. แบบฝกึ หัด 1.30 การบอกตาแหนง่ ของสงิ่ ตา่ งๆ จาน แกว้ แจกัน ขวด กระปอ๋ ง อาจใช้คา ชนั้ บน ชนั้ กลาง ช้นั ล่าง การประเมนิ ชั้นบนตรงกลาง ชั้นบนขา้ งซ้าย แลว้ ถามดว้ ยคาถามต่อไปน้ี ชั้นบนขา้ งขวา ช้ันกลางตรงกลาง - อะไรอยู่ตรงกลาง (แจกนั อย่ตู รงกลาง) 1. วธิ กี าร ช้นั กลางขา้ งซ้าย ชั้นกลางข้างขวา - อะไรอยู่ขา้ งซ้ายของแก้ว (จานอยู่ข้างซ้ายของแกว้ ) 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ชน้ั ล่างตรงกลาง ชัน้ ลา่ งขา้ งซ้าย - อะไรอยู่ขา้ งขวาของขวด (กระปอ๋ งอยขู่ ้างขวาของขวด) 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด ชัน้ ล่างขา้ งขวา - อะไรอย่รู ะหวา่ งจานกับขวด (แกว้ และแจกนั ) 2. เครื่องมือ - ต้งั แตแ่ จกนั ถงึ กระป๋องเปน็ อะไรบา้ ง (ต้ังแต่แจกนั ถงึ กระป๋องเป็น แจกนั ขวด และกระป๋ อง 2.1 แบบฝึกหดั 1.30 2.2 แบบประเมนิ ทกั ษะและ ขนั้ สอน กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 3. เกณฑ์ 2. ครูติดภาพตูเ้ กบ็ อปุ กรณ์การเรียนบนกระดาน 3.1 ผลงานมคี วามถูกต้อง ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 3.2 คะแนนรวมด้านทกั ษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๓๒ 208 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ช่ัวโมง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จากน้ันสนทนากบั นักเรียนว่าเป็นภาพอะไร (ต้เู ก็บอปุ กรณก์ ารเรยี น) ตอู้ ุปกรณ์การเรยี นมีก่ชี น้ั อะไรบ้าง ดา้ นความรู้ (มี 3 ชัน้ ได้แก่ชน้ั บน ชน้ั กลาง ชัน้ ล่าง) อุปกรณก์ ารเรียนทเ่ี กบ็ ในตู้มอี ะไรบ้าง (หนังสือ สมุด เคร่อื งเขยี น) เพอื่ ใหน้ กั เรยี นสามารถบอก ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี จากนัน้ เขียนคาตอบของนักเรยี นบนกระดาน - หนงั สือเก็บอยู่ช้นั ใด (หนงั สือเก็บอยู่ชัน้ บน) ตาแหน่งโดยใชค้ าวา่ ชน้ั บน ชัน้ กลาง - สมดุ เกบ็ อยชู่ น้ั ใด (สมดุ เก็บอยู่ช้ันกลาง) ชั้นล่าง ชน้ั บนตรงกลาง - เครอื่ งเขียนเกบ็ อยูช่ ัน้ ใด (เครื่องเขียนเก็บอยู่ช้นั ลา่ ง) ชัน้ บนขา้ งซา้ ย ชั้นบนข้างขวา 3. ครูตดิ ภาพตเู้ ก็บอปุ กรณ์กฬี าบนกระดาน ชัน้ กลางตรงกลาง ช้นั กลางขา้ งซา้ ย ชน้ั กลางข้างขวา ช้ันลา่ งตรงกลาง ชัน้ ล่างขา้ งซา้ ย ชั้นล่างข้างขวา ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ เพ่ือใหน้ กั เรยี นสามารถสื่อสารส่ือ ความหมายทางคณิตศาสตร์ จากนั้นใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้พร้อมทงั้ ตดิ แถบประโยคท่เี ปน็ คาตอบบนกระดาน - ลูกฟตุ บอลเกบ็ อยชู่ ัน้ ใด (ลูกฟุตบอลเก็บอยู่ช้นั บนตรงกลาง) - ลกู วอลเลย์บอลเกบ็ อยู่ชั้นใด (ลกู วอลเลย์บอลเกบ็ อยู่ชน้ั บนข้างซ้าย) - ลูกแฮนดบ์ อลเกบ็ อยชู่ น้ั ทใี่ ด (ลกู แฮนด์บอลเกบ็ อยู่ชั้นบนขา้ งขวา) - ลูกปงิ ปองเก็บอยูช่ ั้นใด (ลกู ปงิ ปองเก็บอยู่ชน้ั ล่างขา้ งซา้ ย) - ลูกบาสเกตบอลเก็บอยูช่ ั้นใด (ลกู บาสเกตบอลอยู่ชนั้ กลางตรงกลาง) - ลกู เทนนสิ เก็บอยู่ช้นั ใด (ลูกเทนนิสเกบ็ อยู่ชัน้ ล่างข้างขวา)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓๒ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 209 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ - ลกู ตะกร้อเก็บอยชู่ ั้นใด (ลูกตะกร้อเก็บอยชู่ ัน้ กลางข้างซ้าย) - ลกู แบดมนิ ตนั เก็บอยู่ชั้นใด (ลูกแบดมนิ ตนั เก็บอยู่ชนั้ ลา่ งตรงกลาง) - ลูกรกั บีเ้ ก็บอยชู่ นั้ ใด (ลกู รักบีเ้ ก็บอยชู่ น้ั กลางข้างขวา) 4. ครูตดิ ภาพตเู้ ก็บของเล่นบนกระดาน จากน้ันใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั อธิบายโดยใชค้ าบอกตาแหน่งต่อไปน้ี ชน้ั บนข้างซา้ ยชั้นบนตรงกลาง ชั้นบนข้างขวา ชั้นกลางขา้ งซ้าย ช้นั กลางตรงกลาง ชัน้ กลางข้างขวา ชั้นลา่ งข้างซา้ ย ชนั้ ลา่ งตรงกลาง ช้นั ล่างข้างขวา แล้วให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัด 1.30 ขน้ั สรุป 5. ครูสรปุ บทเรียนโดยให้นกั เรยี นบอกคาที่ใชบ้ อกตาแหนง่ ท่ีเรียนมาแล้ว เชน่ ช้ันบน ช้นั กลาง ชัน้ ลา่ ง ชน้ั บนตรงกลาง ช้ันบนขา้ งซ้าย ช้ันบนขา้ งขวา ช้ันกลางตรงกลาง ช้ันกลางข้างซ้าย ช้ันกลางขา้ งขวา ชั้นลา่ งตรงกลาง ชน้ั ล่างขา้ งซ้าย ชน้ั ล่างข้างขวา
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขนั้ นา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓๓ 210 ข้นั สอน แนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ สรปุ การวดั และประเมินผล สนทนาเกีย่ วกบั การบอกอันดบั ทจ่ี ากสถานการณ์ในชวี ิตจรงิ การบอกอันดบั ท่ีของส่งิ ต่างๆ แบบฝกึ หดั 1.31 ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการบอกอนั ดับท่ี - ประเมินจากการตอบคาถามและการทาแบบฝึกหดั 1.31 - ประเมนิ จากการสอ่ื สาร สอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓๓ 211 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ช่ัวโมง ขอบเขตเนือ้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ การบอกอนั ดับที่ ขน้ั นา 1. ลูกบอล สาระสาคัญ 2. ตะกรา้ 1. ครูใหน้ ักเรียนดภู าพ 3. ตวั นักเรยี น การบอกอนั ดบั ที่ของส่ิงต่างๆ อาจใชค้ า อันดบั ที่ คนที่ ชน้ั ท่ี 4. บัตรคา จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 5. บตั รภาพ ด้านความรู้ 6. แถบประโยค เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถบอกอันดับท่ี โดยใช้คาวา่ อนั ดับท่ี คนท่ี ช้ันท่ี แล้วสนทนากบั นกั เรียนวา่ ภาพนี้เป็นภาพอะไร (การรับเหรยี ญรางวลั ) สีใดได้อนั ดบั ท่ี 1 (สเี ขยี ว) 7. แบบฝกึ หดั ท่ี 1.31 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ สีใดไดอ้ นั ดับท่ี 2 (สีแดง) สใี ดไดอ้ ันดับท่ี 3 (สีเหลอื ง) ก่อนที่ทง้ั 3 คนจะข้ึนมายนื รบั เหรียญรางวัลทงั้ 3 คน เพือ่ ให้นักเรยี นสามารถสือ่ สารสื่อ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ตอ้ งทากจิ กรรมอะไรมา (แข่งขัน........ฯลฯ) ดงั นัน้ วันนี้ครูจะให้นักเรียนแขง่ ขนั เกมโยนบอลลงตะกรา้ เพื่อ การประเมนิ จะหาวา่ สใี ดจะได้อนั ดับที่ 1 2 3 1. วิธกี าร ขน้ั สอน 1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 1.2 ตรวจแบบฝึกหดั 2. นาลูกบอลและตะกร้าชใู ห้นักเรยี นดู แล้วขออาสาสมัครนกั เรยี น 5 คน ออกมาทดลองโยนบอล 2. เครอื่ งมือ ลงตะกร้า จากนัน้ ครแู บ่งนกั เรียนเปน็ 4 สี เทา่ ๆ กนั ไดแ้ ก่ สแี ดง สเี หลือง สเี ขียว และสฟี ้า และอธิบาย 2.1 แบบบันทึกพฤติกรรมการ กติกาการแข่งขนั ดังนี้ เรียนรู้ 2.2 แบบฝึกหัดที่ 8.7 - แตล่ ะสีจะได้โยนลกู บอล 10 ครั้ง 2.3 แบบประเมนิ ทกั ษะและ - โยนลูกบอลลงตะกร้า 1 ลูกได้ 1 คะแนน กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ - สใี ดได้คะแนนมากท่ีสดุ เปน็ ผ้ชู นะ - นกั เรียนทโี่ ยนลูกบอลแล้วให้ไปยนื ต่อท้ายแถว - การโยนลูกบอลแต่ละครงั้ ใหโ้ ยนพร้อมกนั โดยฟังสัญญาณการโยนลูกบอลจากครู
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๓๓ 212 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ชั่วโมง 3. ครูเขยี น สีเขยี ว สแี ดง สีเหลอื ง สีฟ้า บนกระดานเพื่อบันทกึ คะแนน จากน้ันให้นักเรียนแตล่ ะสี 3.เกณฑ์ เขา้ แถวห่างจากตะกรา้ ประมาณ 3 เมตร แลว้ ดาเนนิ การแข่งขันการโยนบอลลงตะกรา้ และครบู นั ทึกคะแนน 3.1 พฤติกรรมการเรยี นรู้ในระดบั ดี จนครบ 20 คร้งั 3.2 ผลงานมคี วามถูกตอ้ งไมน่ ้อยกว่า ร้อยละ 80 ครูเขยี นสรปุ ผลคะแนนการแขง่ ขันโยนลูกบอลในตาราง 3.3 คะแนนรวมด้านทักษะ คะแนนการแข่งขันโยนลกู บอล กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไม่ นอ้ ยกว่าร้อยละ 60 สแี ดง สเี ขียว สีเหลอื ง สีฟา้ จากน้ันให้นักเรียนเรยี งลาดับคะแนนจากมากไปน้อยแลว้ ถามนักเรยี นวา่ ดังน้ี - สีใดได้คะแนนมากทส่ี ดุ (ส.ี ...... ) ดังนัน้ ส.ี .............ได้อนั ดับท่ี 1 พรอ้ มท้งั ตดิ บัตรคา อันดบั ท่ี 1 บนกระดาน - สีใดได้คะแนนรองลงมาจากอันดบั ที่ 1 (ส.ี ......) ดงั น้นั สี.........ได้อนั ดบั ที่ 2 พร้อมท้ังตดิ บัตรคา อันดับท่ี 2 บนกระดาน - สีใดได้คะแนนรองลงมาจากอันดบั ที่ 2 (ส.ี ......) ดงั นน้ั สี.........ได้อนั ดบั ที่ 3 พรอ้ มทง้ั ติดบตั รคา อนั ดบั ที่ 3 บนกระดาน - สใี ดไดค้ ะแนนรองลงมาจากอันดบั ที่ 3 (สี.......) ดงั นน้ั สี.........ไดอ้ ันดับที่ 4 พรอ้ มท้งั ตดิ บตั รคา อันดับที่ 4 บนกระดาน 4. ครใู ช้ตารางเดมิ ทีเ่ ขยี นไว้บนกระดาน ใหต้ วั แทนแตล่ ะสีออกมาจับฉลากคะแนนการแข่งขนั โยนบอล ท่ีแต่ละทีมจะได้ เช่น
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓๓ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 213 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั จดั อนั ดับท่ีพร้อมทงั้ บอกเหตผุ ลโดยใชค้ าถาม - สีใดไดอ้ นั ดับที่ 1 เพราะอะไร (สฟี า้ ได้อนั ดบั ท่ี 1 เพราะไดค้ ะแนนมากทสี่ ดุ ) - สใี ดไดอ้ นั ดบั ท่ี 2 เพราะอะไร (สีเขยี วได้อันดับที่ 2 เพราะได้คะแนนน้อยกว่าสีฟ้า) - สีใดไดอ้ นั ดบั ท่ี 3 เพราะอะไร (สีเหลืองได้อนั ดบั ที่ 3 เพราะไดค้ ะแนนน้อยกว่าสเี ขยี ว) - สีใดได้อนั ดบั ที่ 4 เพราะอะไร (สแี ดงได้อันดบั ที่ 4 เพราะได้คะแนนน้อยทส่ี ดุ ) 5. ครตู ิดบัตรภาพการวง่ิ เขา้ เสน้ ชัยของนักเรยี น 4 สี บนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นอธิบายว่าสใี ดจะได้อนั ดับท่ี 1 อันดับที่ 2 อนั ดับที่ 3 และอนั ดบั ท่ี 4 พรอ้ มทัง้ บอก เหตุผล 6. ครูติดภาพการยนื โยนลูกบอลบนกระดาน และช้ีแจงว่า คนที่โยนลกู บอลแล้วใหไ้ ปต่อท้ายแถว จากภาพหัวแถวเป็น แก้ว ทา้ ยแถวเปน็ ต้ัม
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๓๓ ช้นั ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 214 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ จากนน้ั ถามนักเรยี นด้วยคาถามต่อไปนี้ - แก้วโยนลกู บอลเป็นคนท่ีเท่าไร (คนท่ี 1) (ครูเขยี น คนท่ี 1 ใต้ แก้ว) - ปอ้ งโยนลูกบอลเป็นคนท่ีเทา่ ไร (คนท่ี 2) (ครเู ขียน คนที่ 2 ใต้ ปอ้ ง) - ทันโยนลูกบอลเป็นคนท่เี ท่าไร (คนท่ี 3) (ครูเขียน คนท่ี 3 ใต้ ทนั ) - โดมโยนลกู บอลเป็นคนท่ีเทา่ ไร (คนท่ี 4) (ครเู ขยี น คนท่ี 4 ใต้ โดม) - ต้มั โยนลกู บอลเปน็ คนทเ่ี ทา่ ไร (คนท่ี 5) (ครเู ขียน คนที่ 5 ใต้ ตัม้ ) - ใครจะโยนลูกบอลเป็นคนที่ 6 (แกว้ ) - ใครจะโยนลกู บอลเปน็ คนท่ี 7 (ป้อง) ครใู ช้คาถามเดียวกันจนถึงคนท่ี 20 แลว้ แนะนานักเรยี นวา่ คนท่ี เป็นคาท่ใี ช้บอกอันดับที่ 7. ครตู ดิ ภาพชน้ั เก็บอุปกรณก์ ีฬาบนกระดาน และแนะนาวา่ ถ้าชน้ั ล่างสดุ เป็นช้ันที่ 1
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓๓ ชั้น ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 215 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ถามนกั เรยี นด้วยคาถามต่อไปน้ี จากนั้นครูเขยี นคาตอบของนักเรยี นบนกระดาน - ลูกฟตุ บอลเก็บอยชู่ ั้นใด (ชน้ั ท่ี 1) (ครูเขียน ช้นั ท่ี 1) - ลกู บาสเกตบอลเกบ็ อยู่ชั้นใด (ชน้ั ที่ 2) (ครูเขยี น ช้นั ท่ี 2) - ลกู วอลเลยบ์ อลเกบ็ อยชู่ น้ั ใด (ชน้ั ที่ 3) (ครเู ขยี น ชนั้ ที่ 3) - ลูกตะกร้อเก็บอยชู่ ้ันใด (ช้ันที่ 4) (ครเู ขยี น ช้นั ท่ี 4) - ลูกแฮนด์บอลเกบ็ อย่ชู น้ั ใด (ชั้นท่ี 5) ครเู ขยี น ชน้ั ที่ 5) แนะนานกั เรยี นวา่ ชัน้ ที่ เป็นคาท่ใี ช้บอกอันดับท่ี 8. ครูตดิ ภาพบนกระดาน
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓๓ ช้ัน ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 216 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ให้นักเรยี นชว่ ยกันอธบิ ายว่าสิ่งของในภาพเกบ็ อยชู่ ้นั ใด จากนน้ั ใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หัด 1.31 ขน้ั สรุป 9. ครูและนกั เรยี นอภปิ รายรว่ มกันจนได้ข้อสรุปว่า การบอกอันดับทีข่ องสง่ิ ต่างๆ อาจใช้คำว่า อันดับที่ คนที่ ชัน้ ที่
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ข้นั นา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓๔ 217 ข้ันสอน แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันสรปุ การวัดและประเมินผล สนทนาเกยี่ วกบั ตำแหนงข่ องสง่ิ ต่างๆ การแสดงสง่ิ ต่างๆ ตามตำแหน่ง แบบฝกึ หดั 1.32 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ เกีย่ วกับการแสดงสิ่งตา่ งๆ ตามตำแหนง่ - ประเมนิ จากการตอบคาถามและการทาแบบฝกึ หดั 1.32 - ประเมินจากการสอื่ สาร สอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓๔ 218 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ ป. ๑ หนว่ ยท่ี ๑ จานวน หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ชั่วโมง ขอบเขตเน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ /แหล่งเรียนรู้ การแสดงส่งิ ต่างๆ ตามตาแหน่ง ขน้ั นา 1. บัตรภาพ 2. บัตรคา สาระสาคญั 1. ครตู ดิ ภาพบนกระดาน 3. แถบประโยค 4. แบบฝกึ หดั 1.32 การบอกตาแหน่งของสงิ่ ตา่ งๆ ทาให้ เขา้ ใจตรงกันวา่ อยทู่ ี่ใด หรอื กลา่ วถงึ ไม้บลอ็ ก ลกู แก้ว รถลาก การประเมิน สง่ิ ใด 1.วธิ กี าร จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เกม 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ ตวั ตอ่ ต๊กุ ตาหมี 1.2 ตรวจแบบฝกึ หัด เพอื่ ใหน้ ักเรยี นสามารถบอกตาแหน่ง 2.เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 1.32 และอนั ดับทข่ี องสงิ่ ต่างๆ แล้วครสู นทนากับนกั เรียนวา่ ไม้บล๊อกเก็บอยู่ชั้นใด (ช้นั บนข้างซ้าย) ลูกแก้วเก็บอย่ชู ัน้ ใด ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทาง (ชนั้ บนตรงกลาง) รถลากเก็บอยชู่ น้ั ใด (ชั้นบนข้างขวา) เกมเก็บอยู่ชน้ั ใด (ชน้ั กลางข้างซ้าย) รถไฟเก็บอยชู่ ้ั 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ คณติ ศาสตร์ ช้นั ใด (ชนั้ กลางตรงกลาง) หม้อข้าวหมอ้ แกงเก็บอยู่ชัน้ ใด (ช้ันกลางข้างขวา) ห่นุ ยนต์เก็บอยู่ชัน้ ใด (ชน้ั ล่าง เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถสอ่ื สารสื่อ ข้างซ้าย) ตัวต่อเกบ็ อยู่ชั้นใด (ชั้นลา่ งตรงกลาง) ตุ๊กตาหมีเกบ็ อยชู่ ้นั ใด (ชั้นล่างข้างขวา) กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 3.เกณฑ์ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ข้นั สอน 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ งไม่น้อย กวา่ รอ้ ยละ 80 2. ครูติดภาพต้เู ก็บอุปกรณ์กีฬาบนกระดาน 3.2 คะแนนรวมด้านทักษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๓๔ ช้นั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 219 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ครสู นทนากบั นักเรียนว่าเปน็ ภาพอะไร (ตู้เก็บอุปกรณก์ ีฬา) มกี ช่ี ้นั (4 ชน้ั ) แตล่ ะช้นั มกี ่ีชอ่ ง (3 ช่อง) จากนนั้ ครทู บทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรยี นออกมาชี้ตามตาแหน่งทีค่ รบู อกดังน้ี ชน้ั บน ชน้ั ล่าง ชั้นกลาง ชนั้ บนข้างซ้าย ช้นั บนข้างขวา ชั้นบนตรงกลาง ชัน้ ล่างขา้ งซ้าย ชัน้ ลา่ งขา้ งขวา ชัน้ ลา่ งตรงกลาง ช้นั กลางขา้ ง ซา้ ย ชัน้ กลางขา้ งขวา ชน้ั กลางตรงกลาง(จะเปน็ ปญั หาวา่ แล้วจะชีช้ ้ันกลาง ณ ทใ่ี ดเพราะชนั้ กลางมี 2 ชั้น) ครจู ึงแนะนาวา่ เม่ือชั้นกลางมี 2 ช้ัน เราตอ้ งเปล่ียนคาท่ีบอกตาแหนง่ จาก ช้นั บน ชั้นกลาง ชน้ั ล่าง เป็นคาท่ี บอกอันดับท่จี ะทาให้สื่อสารได้งา่ ยข้นึ เช่น ชั้นท่ี 1 ช้ันที่ 2 ช้ันที่ 3 ช้ันที่ 4 3. ครูติดบัตรคา ต่อไปน้ีขา้ งซ้ายของภาพ ดังนี้
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๓๔ ชนั้ ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 220 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ครสู มุ่ ตัวแทนนักเรียนออกมาชต้ี าแหน่งของชั้นท่ี 2 ตรงกลาง ชนั้ ท่ี 2 ขา้ งซา้ ย ชั้นท่ี 3 ข้างขวา ชนั้ ท่ี 3 ตรงกลาง 4. ครูถามนักเรยี นวา่ ถ้าแต่ละช้นั มี 4 ช่อง คาวา่ ช่องตรงกลางจะมีกชี่ ่อง (2 ช่อง)จงึ แนะนาว่าปญั หานี้ ก็เปน็ ปญั หาในการสอ่ื สารเช่นกนั ทาให้ไม่ทราบว่าช่องกลางหมายถงึ ช่องใด ดังนัน้ เราอาจเปลี่ยนคาว่า ช่องขา้ ง ซา้ ย ช่องตรงกลาง ชอ่ งขา้ งขวา เปน็ ช่อง A ช่อง B ชอ่ ง C และ ชอ่ ง D (ครูติดบตั รคา A B C บนภาพ)
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓๔ ชนั้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 221 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ 5. ครใู ห้นกั เรยี นนาภาพอุปกรณ์กีฬาต่อไปนี้ไปตดิ ในภาพต้เู ก็บอปุ กรณ์กีฬาตามตาแหนง่ และอันดับท่ี ทค่ี รูกาหนด เช่น - ลกู ฟตุ บอลเก็บทชี่ น้ั ที่ 1 ช่อง C - ลกู บาสเกตบอลเกบ็ ทช่ี ั้นที่ 2 ช่อง A - ลกู วอลเลย์บอลเกบ็ ท่ชี ั้นที่ 3 ชอ่ ง B - ลกู แบดมินตันเก็บทชี่ นั้ ท่ี 4 ช่อง A - ลกู ปิงปองเก็บที่ชน้ั ที่ 4 ช่อง C - ลูกกอล์ฟเกบ็ ท่ชี ้นั ท่ี 3 ชอ่ ง A - ลูกแฮนด์บอลเกบ็ ทชี่ ้ันท่ี 2 ชอ่ ง C - ลูกรักบเี้ ก็บที่ช้ันที่ 1 ชอ่ ง B - ลูกตะกร้อเกบ็ ทชี่ ัน้ ท่ี 2 ชอ่ ง B จากนัน้ ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด 1.32 ข้ันสรุป 6. ครูและนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายจนไดข้ ้อสรปุ วา่ การบอกตาแหน่งและอนั ดับท่ีของส่งิ ตา่ ง ๆ ทาใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั วา่ อยู่ทใี่ ด หรือกล่าวถงึ สิ่งใด
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขั้นนา แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๓๕ 222 ขน้ั สอน แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นสรปุ การวดั และประเมินผล สนทนาเกยี่ วกบั การบอกตาแหนง่ ของสิ่งตา่ งๆ การแสดงสง่ิ ตา่ งๆ ตามตาแหนง่ และอนั ดับท่ี แบบฝกึ หดั 1.33 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเก่ียวกบั การแสดงสงิ่ ตา่ งๆ ตามตาแหน่ง - ประเมนิ จากการตอบคาถามและการทาแบบฝึกหัด 1.33 - ประเมนิ จากการแก้ปญั หาและการสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓๕ ชัน้ ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 223 หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ขอบเขตเน้อื หา ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ การแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามตาแหนง่ ขน้ั นา 1. ภาพต่าง ๆ และอนั ดบั ที่ 2. เกา้ อ้ีนักเรยี น 1. ครตู ิดภาพทีน่ ่ังในหอ้ งเรียนบนกระดาน 3. กระดาษรูปวงกลมสแี ดง สาระสาคญั สีเหลอื ง สเี ขยี ว สฟี า้ สชี มพู กระดานดา 4. แบบฝกึ หัด 1.33 การบอกตาแหน่งและอนั ดับที่ของ สิ่งต่าง ๆ ทาให้เข้าใจตรงกันว่าอยทู่ ี่ และสนทนากบั นกั เรยี นว่าเปน็ ภาพเกยี่ วกับอะไร (ห้องเรียน) ท่ีนงั่ มีกี่แถว อะไรบ้าง (มี 3 แถว ไดแ้ ก่ การประเมิน ใด หรอื กล่าวถงึ สิง่ ใด แถว A แถว B แถว C ) จากน้นั ใหน้ ักเรยี นออกมาชีต้ าแหน่งของท่นี ่งั แถว A ข้างซ้าย ที่นั่งแถว A ข้างขวา ท่นี ง่ั แถว B ขา้ งซา้ ย ทน่ี งั่ แถว B ข้างขวา ทน่ี ัง่ แถว C ข้างซา้ ย ทน่ี ั่งแถว C ขา้ งขวา ท่นี ัง่ แถว A ตรงกลาง 1. วิธกี าร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทนี่ ่ังแถว B ตรงกลาง ที่นั่งแถว C ตรงกลาง 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ ขั้นสอน 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด เพือ่ ใหน้ กั เรยี นสามารถแสดงสง่ิ 2. เคร่ืองมือ 2. ครตู ิดภาพต่อไปน้ีบนกระดาน 2.1 แบบบันทกึ พฤติกรรม ต่าง ๆ ตามตาแหน่งและอนั ดับที่ การเรยี นรู้ ด้านทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ 2.2 แบบฝึกหดั 8.6 2.3 แบบประเมนิ ทักษะและ เพ่ือให้นักเรยี นสามารถ 1. แก้ปญั หา กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2. สื่อสารและสือ่ ความหมาย ทางคณิตศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓๕ 224 กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชน้ั ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เวลา ๑ ช่ัวโมง และสนทนากบั นกั เรียนว่าโรงภาพยนตรม์ ที นี่ ั่งแถวอะไรบ้าง (แถว A แถว B แถว C ) แล้วให้นักเรยี น 3. เกณฑ์ ออกมาช้ตี าแหน่งของท่นี ัง่ แถว A ข้างซ้าย ทน่ี ่งั แถว A ข้างขวา ท่ีน่งั แถว B ข้างซ้าย ทีน่ ่ังแถว B ขา้ งขวา 3.1 พฤติกรรมการเรียนรู้ในระดบั ดี ท่นี งั่ แถว C ข้างซา้ ย ทน่ี ่งั แถว C ข้างขวา ทีน่ ง่ั แถว A ระหวา่ งทน่ี งั่ ขา้ งซา้ ยกับทนี่ ง่ั ข้างขวา (นักเรียนจะชท้ี ้ัง 3.2 ผลงานมีความถูกตอ้ งไมน่ ้อย 2 ตวั หรือตัวใดตวั หนึง่ ) ท่นี ่งั แถว B ระหวา่ งที่นัง่ ขา้ งซา้ ยกับทีน่ งั่ ขา้ งขวา (นักเรยี นจะชที้ ้ัง 2 ตวั หรือตัวใด กว่าร้อยละ 80 ตัวหนงึ่ ) ท่นี ่งั แถว C ระหวา่ งที่น่งั ข้างซ้ายกับท่นี งั่ ขา้ งขวา (นกั เรยี นจะชท้ี งั้ 2 ตัว หรือตวั ใดตัวหนึ่ง) 3.3 คะแนนรวมดา้ นทกั ษะ จากน้ันครแู นะนาว่าเม่ือท่ีนง่ั ระหว่างทีน่ ่ังข้างซ้ายและที่น่งั ขา้ งขวาในแถวมหี ลายท่ีทาให้เกิดปญั หาวา่ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไม่ หมายถึงทนี่ ั่งใดจงึ จาเป็นต้องมคี าที่ใช้บอกอนั ดับท่ีในแตล่ ะแถว เชน่ ตัวท่ี 1 ตัวที่ 2 ตวั ท่ี 3 ตวั ท่ี 4 หรอื น้อยกว่าร้อยละ 60 คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนท่ี 3 คนที่ 4 แล้วเขียนคาว่า ตัวท่ี 1 ตัวที่ 2 ตัวท่ี 3 ตัวท่ี 4 บนกระดาน ดังน้ี ต่อไปสุม่ นักเรยี นออกมาชี้ทน่ี ั่งในภาพทีละคน เชน่ ท่นี ัง่ แถว A ตัวท่ี 1 ท่ีนงั่ แถว B ตวั ท่ี 2 ท่ีนัง่ แถว C ตวั ที่ 3 ทนี่ ่ังแถว A ตัวท่ี 4 3. ครูและนกั เรียนช่วยกันจดั เกา้ อเี้ ปน็ 3 แถว แถวละ 4 ตวั เหมอื นกบั ภาพทีต่ ิดบนกระดาน โดยสมมตใิ หก้ ระดานหนา้ ชั้นเรยี นเป็นจอภาพยนตร์ แลว้ วางบตั รคาบนพนื้ เหมือนภาพท่ีตดิ บนกระดานและ เตรียมสลากสาหรับกจิ กรรม
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓๕ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 225 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ แถว A ตัวที่ 1 สลากกจิ กรรม แถว A ตวั ที่ 4 แถว A ตวั ที่ 2 แถว A ตวั ที่ 3 แถว B ตวั ที่ 1 แถว B ตวั ที่ 2 แถว B ตวั ที่ 3 แถว B ตวั ที่ 4 แถว C ตวั ท่ี 1 แถว C ตัวท่ี 2 แถว C ตัวที่ 3 แถว C ตัวท่ี 4 จากนัน้ ดาเนนิ การจดั กิจกรรมดังนี้ - แบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่มละ 12 คน - นักเรยี นจับสลากคนละ 1 ใบ แลว้ ไปนงั่ ตามตาแหนง่ ของท่ีน่งั ท่ตี นเองจับได้ - นักเรยี นอ่านขอ้ ความในสลากใหเ้ พอื่ นๆ ฟงั เพ่ือนๆ ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง เมอ่ื ตรวจสอบเสร็จแล้วใหน้ ักเรียนกลมุ่ ตอ่ ไปจบั สลากแล้วดาเนนิ การเช่นเดยี วกันจนนักเรียนไดร้ ว่ ม กจิ กรรมครบทกุ คน 4. ครตู ิดภาพการแขง่ ขนั ว่งิ บนกระดานดงั นี้
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓๕ ชั้น ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 226 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ จากนั้นถามนกั เรยี นดงั นี้ - ใครวงิ่ ในลู่ที่ 1 (ออ้ ) - ใครวง่ิ ในลู่ท่ี 2 (นา้ ) - ใครว่งิ ในลู่ท่ี 3 (ฝน) - ใครวงิ่ ในลู่ท่ี 4 (แกว้ ) - นักเรียนคดิ วา่ ใครว่งิ มาเป็นอันดบั ที่ 1 เพราะอะไร (นา้ เพราะวงิ่ เขา้ ใกลเ้ ส้นชยั มากท่ีสดุ ) - นกั เรียนคิดวา่ ใครน่าจะวิง่ เข้าเส้นชัยเปน็ อนั ดบั ท่ี 2 เพราะอะไร (อ้อนา่ จะได้ที่ 2 เพราะออ้ ว่งิ อยหู่ นา้ แกว้ และฝน) - นักเรยี นคดิ ว่าใครน่าจะวงิ่ เข้าเส้นชัยเปน็ อนั ดับท่ี 3 เพราะอะไร (แก้วนา่ จะไดท้ ี่ 3 เพราะแก้ววิ่งอยู่ หลังนา้ และอ้อ) - นกั เรยี นคิดว่าใครน่าจะว่งิ เข้าเสน้ ชยั เปน็ อันดบั ที่ 4 เพราะอะไร (ฝนนา่ จะได้ที่ 4เพราะวิง่ อยู่หลังสุด) 5. ครเู ขียนภาพลูว่ ง่ิ บนกระดานและเตรียมกระดาษรูปวงกลมสีแดง สเี ขียว สีเหลือง สีฟ้า และสชี มพู ครสู ุ่มนกั เรยี น 5 คนแจกบตั รสีตา่ ง ๆ ใหแ้ ตล่ ะคนนาไปติดในล่วู งิ่ ตามตาแหน่งและอันดบั ที่ทีค่ รกู าหนด
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓๕ ชัน้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 227 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ - สีแดงอยลู่ ู่ 3 วงิ่ เข้าใกลเ้ สน้ ชัยเปน็ อันดบั ท่ี 1 - สเี หลืองอยลู่ ู่ 1 วง่ิ เขา้ ใกล้เส้นชยั เปน็ อนั ดบั ที่ 2 - สีเขยี วอยลู่ ู่ 4 วิง่ เข้าใกลเ้ ส้นชัยเป็นอันดบั ที่ 5 - สฟี า้ อยูล่ ู่ 2 วิ่งเขา้ ใกลเ้ ส้นชยั เปน็ อนั ดับที่ 3 - สีชมพูอยลู่ ู่ 5 วิ่งเข้าใกลเ้ ส้นชยั เป็นอันดบั ที่ 4 นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั 1.33 ขัน้ สรปุ 6. ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายรว่ มกันจนไดข้ ้อสรปุ ว่า การบอกตาแหน่งและอนั ดับที่ของสิ่งต่าง ๆ ทาให้เขา้ ใจตรงกนั ว่าอย่ทู ่ใี ด หรือกลา่ วถึงสิง่ ใด
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขน้ั นา แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓๖ 228 ขน้ั สอน แนวการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ สรปุ การวัดและประเมนิ ผล สนทนาเกย่ี วกบั การบอกอันดบั ท่ี การนาตาแหนง่ และอันดบั ทไ่ี ปใช้ แบบฝกึ หัด 1.34 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปเก่ียวกับการนาตาแหนง่ และอันดบั ทไ่ี ปใช้ - ประเมนิ จากการตอบคาถามและการทาแบบฝกึ หดั 1.34 - ประเมินจากการสอ่ื สาร สื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓๖ 229 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ ชนั้ ป. ๑ หน่วยท่ี ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอบเขตเนื้อหา สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ การนาตาแหน่งและอนั ดบั ท่ไี ปใช้ 1. ตะกร้า 2. ลกู บอล สาระสาคัญ ข้นั นา 3. บัตรภาพ 4. ลกู เทนนสิ 1. ครตู ดิ ตารางคะแนนการแข่งขันโยนลกู บอลต่อไปนบี้ นกระดาน 5. กลอ่ งขนาดตา่ งๆ 6. กระป๋องขนาดเท่ากัน 10 ใบ การจัดอันดบั ที่ข้นึ อยูก่ ับเงื่อนไข 7. แบบฝึกหัด 1.34 หรือกติกาทกี่ าหนด เช่น คะแนนมาก ท่ีสดุ ได้อนั ดับท่ี 1 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จากน้นั สนทนากับนักเรยี นวา่ ตารางนีเ้ ป็นตารางเกี่ยวกับอะไร (คะแนนการแข่งขนั โยนลูกบอล) สแี ดงโยน การประเมนิ ลูกบอลได้กค่ี ะแนน (14 คะแนน) สีเขียวโยนลกู บอลได้กคี่ ะแนน (12 คะแนน) สฟี ้าโยนลกู บอลได้กค่ี ะแนน ด้านความรู้ (16 คะแนน) สีเหลืองโยนลูกบอลได้กี่คะแนน (15 คะแนน) ถา้ จะมอบเหรียญทองใหก้ บั สที ่ไี ดค้ ะแนนการโยน 1. วธิ กี าร เพอ่ื ใหน้ ักเรียนสามารถจดั อนั ดบั ที่ ลูกบอลเป็นอันดบั ท่ี 1 มอบเหรียญเงนิ ให้สีทไ่ี ด้คะแนนการโยนลูกบอลเปน็ อนั ดบั ท่ี 2 และมอบเหรยี ญ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ทองแดงให้กบั พรอ้ มทงั้ บอกเหตุผล สที ีไ่ ดค้ ะแนนการโยนลกู บอลเป็นอันดับที่ 3 1.2 ตรวจแบบฝึกหดั ด้านทักษะและกระบวนการทาง 2. เครอื่ งมือ คณิตศาสตร์ - สใี ดได้เหรยี ญทอง (สฟี ้าไดเ้ หรยี ญทองเพราะได้คะแนนเปน็ อนั ดบั ท่ี 1 มากทสี่ ดุ ) 2.1 แบบฝึกหดั ท่ี 1.34 - สใี ดได้เหรยี ญเงนิ (สีเหลืองได้เหรยี ญเงนิ เพราะได้คะแนนเปน็ อนั ดับที่ 2) เพอ่ื ให้นกั เรียนสามารถบอก - สีใดได้เหรียญทองแดง (สแี ดงได้เหรียญทองแดง เพราะได้คะแนนเปน็ อนั ดับที่ 3) 2.2 แบบประเมนิ ทกั ษะและ - สีเขยี วไม่ได้เหรียญเพราะอะไร (เพราะได้คะแนนเปน็ อันดับท่ี 4 น้อยท่สี ุด) เหตุผล จากน้ันครูบอกนักเรียนว่าวนั นี้จะมีเกมให้นักเรียนแข่งขันกัน สีใดไดอ้ นั ดับท่ี 1 จะได้เหรียญทอง กระบวนการทางคณิตศาสตร์ สีท่ีได้อันดับท่ี 2 จะได้เหรียญเงนิ และสที ไ่ี ด้อันดบั ท่ี 3 จะได้เหรยี ญทองแดง
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓๖ 230 กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ ชน้ั ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง ขั้นสอน 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมีความถูกต้องไมน่ ้อย 2. แบง่ นกั เรียนเปน็ 4 สี ไดแ้ ก่ สีแดง สีเหลอื ง สเี ขียว สีฟ้า โดยให้แต่ละสีมจี านวนนกั เรียนหญงิ และ กวา่ ร้อยละ 80 จานวนนักเรียนชายเท่าๆ กนั ซ่ึงในแตล่ ะสจี ะมีทมี หญงิ และทมี ชาย 3.2 คะแนนรวมด้านทกั ษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไม่ 3. การแข่งขนั เกมโยนบอลกระดาษ - ครูนาภาชนะหรอื กลอ่ งที่ขนาดแตกต่างกันและตดิ ตวั เลขไว้ด้านข้างมาวางรวมกนั เปน็ กลุ่มดงั นี้ นอ้ ยกว่าร้อยละ 60 - ครูชูลกู บอลกระดาษ (ขยากระดาษเป็นลูกบอล) ใหน้ ักเรียนดพู รอ้ มท้ังสาธติ วธิ กี ารโยนลกู บอล กระดาษให้ลงในภาชนะ - ชแี้ จงกติกาการแขง่ ขนั 1) ให้แต่ละสสี ลับกนั โยนบอลสลี ะ 3 ครง้ั 2) คะแนนแตล่ ะคร้ังเปน็ ไปตามตวั เลขทตี่ ดิ ข้างภาชนะ 3) เม่ือแต่ละสโี ยนบอลครบ 3 ครั้งแลว้ ใหร้ วมคะแนนของแตล่ ะสี 4) สีใดไดค้ ะแนนมากที่สุดได้อนั ดบั ที่ 1 - ดาเนินการแขง่ ขันทีมหญิงหรือทมี ชายกอ่ นก็ไดโ้ ดยเขียนตารางบันทึกคะแนนบนกระดาน
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓๖ ชั้น ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ชั่วโมง 231 หน่วยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ เม่ือแข่งขันเสรจ็ ทีมชายทไ่ี ดค้ ะแนนอนั ดับท่ี 1 ได้รบั เหรียญทอง ทีมทไี่ ด้คะแนนเป็นอันดับที่ 2 ได้รับเหรียญเงนิ ทมี ทีไ่ ด้คะแนนเปน็ อันดบั ที่ 3 ไดเ้ หรยี ญทองแดง และทีมหญงิ ท่ีได้คะแนนอันดับที่ 1 ได้รับเหรยี ญทอง ทีมท่ไี ด้คะแนนเป็นอนั ดับที่ 2 ไดร้ ับเหรยี ญเงิน ทีมที่ไดค้ ะแนนเปน็ อันดับที่ 3 ไดเ้ หรยี ญทองแดง 4. การแขง่ ขนั เกมปากระปอ๋ ง - ครนู ากระป๋องท่ีมีขนาดเทา่ กนั 10 ใบ ตั้งเรียงกันบนโตะ๊ ดังนี้ จากนน้ั ช้แี จงกติกาการแข่งขนั เกมปากระปอ๋ งด้วยลูกเทนนิส 1) แต่ละสีเลือกตวั แทน 2 คน เป็นคนปากระป๋อง 2) นกั เรียนปากระปอ๋ งคนละ 2 ครง้ั 3) คะแนนจะนับจากจานวนกระปอ๋ งที่ไม่ล้มกระป๋องละ 1 คะแนน สใี ดไดผ้ ลรวมของคะแนนทงั้ 2 คน น้อยทสี่ ดุ ได้อันดับที่ 1 - ครูเขียนตารางบันทึกคะแนนหรอื ตดิ ภาพตารางคะแนนบนกระดานดังนี้
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓๖ ชั้น ป. ๑ หน่วยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 232 หนว่ ยย่อยที่ ๑.๑ จานวนนับ ๑ ถึง ๒๐ และ ๐ - ดาเนินการแข่งขนั เกมปากระป๋ องทีมหญงิ หรือทมี ชายก่อนก็ได้ และบันทึกคะแนนจานวนกระป๋อง ที่เหลือโดยใหแ้ ต่ละทีมสลบั กนั ปาจนครบทุกทีม - นกั เรยี นช่วยกันรวมคะแนนของจานวนกระปอ๋ งทีเ่ หลือจากการปาท้งั 2 คร้งั - นกั เรียนจัดอนั ดับผลการแข่งขันโดยครใู หน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนพ้ี ร้อมทัง้ บอกเหตผุ ล - สใี ดไดอ้ นั ดับที่ 1 (......ไดอ้ ันดบั ท่ี 1 เพราะได้.............. คะแนน มากทสี่ ุด) - สีใดได้อนั ดบั ที่ 2 (......ได้อนั ดับที่ 2 เพราะได.้ ..............คะแนน) - สใี ดไดอ้ นั ดับที่ 3 (......ไดอ้ นั ดับท่ี 3 เพราะได้................คะแนน) - สีใดได้อันดับที่ 4 (.......ไดอ้ ันดับท่ี 4 เพราะได.้ ..............คะแนน น้อยทสี่ ดุ ) เม่อื แข่งขนั เสร็จทีมชายท่ีได้อันดบั ท่ี 1 ได้รบั เหรยี ญทอง ทีมทีไ่ ด้อันดบั ท่ี 2 ได้รบั เหรียญเงิน ทีมที่ได้อันดับท่ี 3 ได้เหรยี ญทองแดง และทีมหญงิ ท่ีไดอ้ นั ดับท่ี 1 ไดร้ ับเหรียญทอง ทีมที่ไดอ้ ันดับที่ 2 ไดร้ ับเหรียญเงิน ทมี ทีไ่ ด้อันดับท่ี 3 ได้เหรียญทองแดง 5. ครูตดิ ตารางสรุปเหรียญการแข่งขันบนกระดาน
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓๖ ชน้ั ป. ๑ หนว่ ยที่ ๑ จานวน เวลา ๑ ช่ัวโมง 233 หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ จานวนนบั ๑ ถงึ ๒๐ และ ๐ แลว้ ให้นกั เรียนแต่ละสีนาเหรียญทีไ่ ด้มาติดในตาราง จากนัน้ ครูแนะนาวา่ การจัดอันดับท่ีของการแข่งขนั ให้นบั จานวนเหรียญทองก่อน ถ้าเท่ากันให้พิจารณาจานวนเหรียญเงินและเหรียญทองแดงตามลาดบั แลว้ ถามนักเรยี นด้วยคาถามต่อไปน้ี - สอี ะไรได้อนั ดับที่ 1 เพราะอะไร (..........ได้อนั ดบั ที่ 1 เพราะได้เหรยี ญทอง มากทส่ี ุด - สอี ะไรได้อนั ดบั ท่ี 2 เพราะอะไร (..........ได้อนั ดบั ที่ 2 เพราะได.้ ....เหรยี ญทอง และ.........เหรียญเงิน) - สีอะไรได้อันดบั ท่ี 3 เพราะอะไร (........ไดอ้ ันดบั ท่ี 3 เพราะได.้ ......เหรยี ญทอง และ.........เหรียญเงนิ ) - สีอะไรได้อันดับที่ 4 เพราะอะไร (.......ได้อันดบั ท่ี 4 เพราะได้ ........เหรยี ญทอง และ.........เหรยี ญเงนิ ) จากน้ันให้นกั เรียนทาแบบฝึกหัด 1.34 ข้นั สรุป 6. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายจนไดข้ ้อสรุปว่า การจดั อนั ดับที่ข้นึ อยู่กบั เงื่อนไข หรือกตกิ าทีก่ ำหนด เช่น คะแนนมากท่ีสุดได้อันดบั ท่ี 1
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก เฉลยแบบฝกึ หัด
หนว� ยที่ ๑ จำนวน ฝ. ๑.๑ / ผ.๑ เฉลย แบบฝก� หัด 1.1 1 นับและเขียนวงล�อมรอบรูปที่แสดงจำนวน หน่งึ ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรสับถคารบูผนัู้สสอ�งนเ)สกรมิลุ่มกสาราสระอกนาวริทเรยยี2า๓นศ3ราู้ค9สณตริต�แศลาะสเตทรค์ ภโนาโคลเรยียี (นสทส่ีว๑ท.ช)ั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ (ฉบับปรบั ปรงุ )
หนว� ยท่ี ๑ จำนวน ฝ. ๑.๑ / ผ.๑ 2 นบั และเขยี นวงล�อมรอบรูปท่ีแสดงจำนวน สอง ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรสบั ถคารบูผนัสู้ สอ�งนเ)สกรลมิ มุ่กสาราสระอกนาวริทเรยยี2า๔นศ4ราู้ค0สณตริตแ� ศลาะสเตทรค์ ภโนาโคลเรยยี ี (นสทส่ีว๑ท.ช)ัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ (ฉบับปรบั ปรงุ )
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404