64-08-06-คู่มือครู คณิต ป.5 หน่วยที่ 2

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๖ 2 2 หน่วยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ชนั้ ป.๕ เวลา ๑ ชว่ั โมง ขอบเขตเนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู ส่อื /แหลง่ เรียนรู 1 6 5 7 90 ข้ันนาำ แบบฝก หัด 2.6 การหาคาประมาณเปน 1. ครูทบทวนการหาคาประมาณเปนจํานวนเต็มหนวยของทศนิยม โดยเขียนทศนิยมบนกระดาน ทศนิยม 1 ตําแหนง แลว ใหนักเรยี นบอกคําตอบ พรอ มเหตผุ ล เชน การประเมนิ 1) คา ประมาณเปน จํานวนเต็มหนวยของ 3.8 คอื จํานวนใด เพราะเหตุใด 1. วธิ กี าร สาระสำาคัญ (4 เพราะเลขโดดในหลักสว นสิบเปน 8) 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู 1.2 ตรวจแบบฝก หดั การหาคา ประมาณเปน ทศนยิ ม 2) คาประมาณเปน จํานวนเต็มหนว ยของ 4.324 คือจาํ นวนใด เพราะเหตุใด 2. เครื่องมือ หนึ่งตําแหนงของทศนิยมใด (4 เพราะเลขโดดในหลักสวนสบิ เปน 3) อาจทําไดโดยพิจารณาเลขโดด 3) คา ประมาณเปนจาํ นวนเต็มหนวยของ 8.51 คือจํานวนใด เพราะเหตุใด 2.1 แบบประเมินทักษะและ ในหลักสวนรอยของทศนิยมนั้น (9 เพราะเลขโดดในหลกั สวนสิบเปน 5) กระบวนการทางคณติ ศาสตร ถา เปน 0 1 2 3 หรอื 4 จะประมาณ เปน ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง ทใี่ กลเ คยี ง ข้ันสอน 2.2 แบบฝกหัด 2.6 ทสี่ ดุ ซง่ึ นอ ยกวา ทศนยิ มนน้ั ถา เปน 2. ครเู ขียน 2.22 , 2.25 และ 2.28 บนกระดาน เพ่ือจดั กิจกรรมการหาคา ประมาณเปนทศนิยม 3. เกณฑ์ 5, 6, 7, 8 หรือ 9 จะประมาณ 1 ตาํ แหนง โดยครูถามวา เปนทศนิยมท่ีใกลเคียงที่สุด - 2.22 อยรู ะหวา งทศนยิ ม 1 ตําแหนง ใด (2.2 กับ 2.3 หรืออาจตอบไมไ ด) 3.1 คะแนนรวมดานทักษะ ซึง่ มากกวาทศนยิ มนนั้ - 2.2 เขียนในรูปทศนยิ ม 2 ตําแหนงไดอยา งไร (2.20) และกระบวนการทางคณติ ศาสตร - 2.3 เขยี นในรปู ทศนิยม 2 ตําแหนง ไดอ ยางไร (2.30) ไมน อยกวา รอยละ 60 2 จุดประสงค์การเรียนรู - กึ่งกลางระหวา ง 2.20 กบั 2.30 คอื ทศนยิ มใด (2.25) 22..23 == 22..3200 ดานความรู ครูเขยี นเสนจาํ นวนดงั น้ี บนกระดาน 3.2 ผลงานมีความถูกตอง ไมน อยกวารอ ยละ 80 เพื่อใหนักเรียนสามารถหา ๔๓ คาประมาณของทศนิยมเปน 2.2 2.25 2.3 ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง

๔๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท่ี ๖ ชนั้ ป.๕01 9 เวลา ๑ ชัว่ โมง หนว่ ยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ดา นทกั ษะและกระบวนการ - 2.22 มากกวาหรือนอ ยกวา 2.25 (นอ ยกวา) ทางคณิตศาสตร์ - 2.22 อยูใกลท ศนยิ ม 1 ตําแหนง ใดมากที่สดุ (2.2) - คา่ ประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตาำ แหนง่ ของ 2.2 คอื ทศนยิ มใด เพราะเหตใุ ด ( 2.2 เพราะ 2.22 < 2.5 ) เพื่อใหน ักเรียนสามารถ - 2.25 อยใู กล 2.2 หรือ 2.3 มากกวา (เทากัน) 1. ใหเหตุผล - คา่ ประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตาำ แหนง่ ของ 2.25 คอื จาำ นวนใด เพราะเหตใุ ด (2.3 เพราะ 2.25 2. ส่ือสาร สื่อความหมาย อยกู่ ง่ึ กลางระหวา่ ง 2.2 กบั 2.3 ซงึ่ เปน ขอ ตกลงของนกั คณติ ศาสตรใ์ หป ระมาณ เปน จาำ นวนทม่ี ากกวา่ ) ทางคณติ ศาสตร - ครูถามวา 2.28 มากกวา หรอื นอยกวา 2.25 (มากกวา ) - 2.28 อยูใกลทศนิยม 1 ตาํ แหนงใดมากที่สดุ (2.3) 5 47 - ค่าประมาณเปนทศนิยม 1 ตำาแหน่งของ 2.28 คือจำานวนใด เพราะเหตุใด (2.3 เพราะ 2.28 > 2.25 ) 3. ครเู ขยี น 0.421 0.486 0.450 บนกระดาน ใหน ักเรยี นพจิ ารณาและบอกคาประมาณเปน ทศนิยม 1 ตําแหนง ครูถามวา 0.425 อยรู ะหวางทศนยิ ม 1 ตําแหนง ใด (0.4 กับ 0.5) 00..45 == 00..450000 - ครูเขียนเสน จํานวนบนกระดาน ดงั น้ี 0.4 0.45 0.5 2 2 ครถู ามวา กง่ึ กลางระหวา ง 0.4 กบั 0.5 คือจํานวนใด (0.45) - เขียน 0.45 ในรปู ทศนิยม 3 ตําแหนง ไดทศนิยมใด (0.450) - ครเู ขียนจุดแสดง 0.45 บนเสนจํานวน ครูถามวา 0.421 มากกวา หรอื นอ ยกวา 0.45 (นอ ยกวา ) - 0.421 อยใู กลท ศนิยม 1 ตําแหนงใดมากทส่ี ดุ (0.4) - ค่าประมาณเปนทศนิยม 1 ตำาแหนง่ ของ 0.421 คือจาำ นวนใด (0.4)

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุม่ สาระการเรยี นรูคณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๖ 2 2 หน่วยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม ช้ัน ป.๕ เวลา ๑ ชว่ั โมง ครูถามวา 0.486 มากกวา หรือนอ ยกวา 0.45 (มากกวา ) 1 6 5 7 90 - 0.486 อยใู กลท ศนยิ ม 1 ตาํ แหนงใดมากท่ีสุด (0.5) 2 - คา่ ประมาณเปนทศนยิ ม 1 ตำาแหนง่ ของ 0.486 คอื จำานวนใด (0.5) ครถู ามวา 0.450 มากกวาหรือนอ ยกวา 0.45 (เทากนั ) - คา่ ประมาณเปนทศนิยม 1 ตำาแหน่งของ 0.450 คือจำานวนใด (0.5) 4. ครูใหนักเรียนสังเกตคาประมาณเปนทศนิยม 1 ตําแหนง จากกิจกรรมขอ 2 และขอ 3 ซ่ึงจะได ดงั นี้ 2.22 ≈ 2.2 0.421 ≈ 0.4 2.25 ≈ 2.3 0.486 ≈ 0.5 2.28 ≈ 2.3 0.450 ≈ 0.5 ๔๕ ขอสงั เกตท่ีพบ 1) ทศนิยม 2 ตาำ แหน่ง - ถา เลขโดดในหลกั สวนรอยเปน 0 1 2 3 และ 4 คา ประมาณเปนทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง คือ ทศนิยม 1 ตาํ แหนงที่ใกลเคยี งที่สดุ ซ่ึงนอ ยกวาทศนิยมนน้ั - ถา เลขโดดในหลกั สว นรอยเปน 5 6 7 8 และ 9 คาประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตําแหนง คือ ทศนิยม 1 ตาํ แหนง ที่ใกลเ คยี งท่ีสุดซึ่งมากกวา ทศนยิ มนั้น 2) ทศนยิ ม 3 ตำาแหนง่ - ถาเลขโดดในหลักสว นรอ ยเปน 0 1 2 3 หรือ 4 คา ประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตําแหนง คือ ทศนิยม 1 ตาํ แหนง ทีใ่ กลเ คียงท่สี ุดซง่ึ นอ ยกวา ทศนิยมนน้ั

๔๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรูคณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ ๖ ชั้น ป.๕01 9 เวลา ๑ ชวั่ โมง หนว่ ยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม - ถาเลขโดดในหลกั สวนรอ ยเปน 5 6 7 8 หรอื 9 คาประมาณเปนทศนิยม 1 ตาํ แหนง คือ 5 47 ทศนิยม 1 ตําแหนง ที่ใกลเ คยี งที่สดุ ซงึ่ มากกวา ทศนิยมนั้น 5. ครเู ขียน 5.386 4.625 7.452 บนกระดานใหนักเรยี นชว ยกันบอกคา ประมาณเปน ทศนิยม 1 ตําแหนง พรอมเหตุผล ซึ่งจะได - คา ประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง ของ 5.386 คอื 5.4 เพราะเลขโดดในหลกั สว นรอ ย คอื 8 - คา ประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง ของ 4.625 คอื 4.6 เพราะเลขโดดในหลกั สว นรอ ย คอื 1 - คา ประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง ของ 7.45 คอื 7.5 เพราะเลขโดดในหลักสว นรอ ย คอื 5 6. ใหนักเรียนทําแบบฝกหัด 2.6 ขั้นสรุป 7. ครแู ละนกั เรียนรว มกันสรปุ เกี่ยวกับการหาคา ประมาณเปนทศนยิ มหนึ่งตาํ แหนง ไดวา การหาคาประมาณเปนทศนิยมหน่ึงตําแหนง อาจทําไดโดยพิจารณาเลขโดดในหลักสวนรอยของ ทศนิยมน้ัน ถาเปน 5 ถึง 9 ใหประมาณเปนทศนิยมหนึ่งตําแหนงที่ใกลเคียงท่ีสุดซึ่งมากกวานั้น ถาเปน 0 ถงึ 4 ใหป ระมาณเปนทศนิยมหนึง่ ตาํ แหนงใกลเ คยี งท่ีสุดซึ่งนอยกวาทศนิยมน้ัน 22

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )22 แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๗ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู 1 6 5 7 90 ขน้ั นาำ ทบทวนการหาคาประมาณเปนทศนยิ ม 1 ตําแหนง (ทําใบกจิ กรรมรายบคุ คล) ขั้นสอน สอนการหาคา ประมาณเปน ทศนยิ ม 2 ตําแหนง ทําแบบฝก หดั 2.7 ขน้ั สรปุ ครแู ละนักเรียนชวยกนั สรุปเกยี่ วกบั การหาคา ประมาณของทศนิยมเปน ทศนยิ ม 2 ตําแหนง 2 การวัดและประเมนิ ผล - ประเมินจากการตอบคาํ ถาม และการทาํ แบบฝกหดั 2 - ประเมินทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรดานการใหเ หตผุ ลและการส่อื สาร การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร ๔๗

๔๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรูคณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๗ ช้นั ป.๕ 01 9 เวลา ๑ ช่ัวโมง หนว่ ยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรยี นรู สอื่ /แหลง่ เรยี นรู การหาคาประมาณเปน ขั้นนาำ 1. แถบคําถาม 3 แถบ ทศนิยมสองตําแหนง 1. ครูทบทวนการหาคาประมาณเปนจํานวนเต็มหนวยและคาประมาณเปนทศนิยม 1 ตําแหนง 2. แบบฝกหัด 2.7 โดยติดแถบคาํ ถามบนกระดานทีละคําถาม ใหน กั เรียนอานคาํ ถามพรอมกันแลว ตอบ และครูเขียน สาระสำาคญั คําตอบของนกั เรยี นใตแถบคาํ ถามบนกระดาน ตามลาํ ดบั ดงั นี้ การประเมิน 1. วิธีการ การหาคาประมาณเปน 1) คาประมาณเปน จาํ นวนเตม็ หนว ยของ 5.43 คอื จํานวนใด 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู 5 47 ท ศ นิ ย ม ส อ ง ตํ า แ ห น  ง ข อ ง เพราะเหตุใด 1.2 ตรวจแบบฝก หดั ทศนิยมใด อาจทําไดโดย พจิ ารณาเลขโดดในหลกั สว นพนั ( 5 เพราะ 5.43 อยูระหวาง 5 กบั 6 และอยใู กล 5 มากกวา ) 2. เคร่อื งมือ ของทศนิยมนน้ั ถา เปน 5 ถึง 9 2.1 แบบประเมินทักษะและ ใหประมาณเปนทศนิยมสอง 2) คา ประมาณเปนจํานวนเตม็ หนวยของ 14.528 คือจํานวนใด ตําแหนงท่ีใกลเคียงที่สุด ซ่ึง เพราะเหตใุ ด กระบวนการทางคณติ ศาสตร 2.2 แบบฝกหัด 2.7 มากกวาทศนิยมนั้น ถาเปน 0 ( 15 เพราะ 14.528 อยรู ะหวา ง 14 กับ 15 และอยูใกล 15 มากกวา ) 2 ถึง 4 ใหประมาณเปนทศนิยม สองตําแหนงทใี่ กลเคยี งที่สดุ ซึ่ง 3) คา ประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง ของ 14.528 คอื ทศนยิ มใด 2 นอ ยกวาทศนิยม เพราะเหตุใด ( 14.5 เพราะอยูระหวา ง 14.5 กบั 14.6 และอยูใ กล 14.5 มากกวา)

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มสาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูที่ ๗ 2 2 หน่วยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม ชนั้ ป.๕ เวลา ๑ ชว่ั โมง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู ขนั้ สอน 3. เกณฑ์ 1 6 5 7 90 ดานความรู 3.1 คะแนนรวมดานทักษะ 2. ครูจัดกิจกรรมใหน กั เรียนหาคา ประมาณเปนทศนยิ ม 2 ตาํ แหนง ดงั นี้ เพอ่ื ใหน กั เรยี นสามารถหาคา และกระบวนการทางคณิตศาสตร ประมาณของทศนิยมที่กําหนด - ครเู ขียน 0.854 0.857 0.855 บนกระดาน ไมนอ ยกวา รอ ยละ 60 เปน ทศนยิ ม 2 ตําแหนง ครูถามวา - 0.854 อยูระหวา งทศนยิ ม 2 ตาํ แหนง ใด (0.85 กบั 0.86) 3.2 ผลงานถกู ตอ งไมน อ ยกวา ดา นทกั ษะและกระบวนการ รอ ยละ 80 ทางคณิตศาสตร์ - กึ่งกลางระหวาง 0.85 กับ 0.86 คือจาํ นวนใด (0.855) 00..8856 ==88..885600 เพ่อื ใหน กั เรยี นสามารถ - ครูเขยี นเสน จาํ นวนดังนี้ 1. ใหเ หตุผล 2. ส่ือสาร ส่ือความหมาย 0.85 0.855 0.86 ทางคณติ ศาสตร ครูถามวา - 0.854 มากกวาหรอื นอ ยกวา 0.855 (นอ ยกวา) - 0.854 อยูใกลท ศนิยม 2 ตําแหนง ใดมากทส่ี ุด (0.85) 2 - คาประมาณเปน ทศนิยม 2 ตาํ แหนง ของ 0.854 คอื จาํ นวนใด (0.85) ครถู ามวา - คา ประมาณเปน ทศนยิ ม 2 ตาํ แหนง ของ 0.857 คอื จาํ นวนใด เพราะเหตใุ ด (0.86 เพราะ 0.86 เปนทศนยิ ม 2 ตาํ แหนงที่ใกลเ คยี งที่สุดซึ่งมากกวา 0.857) ครถู ามวา 0.855 อยูห างจาก 0.85 หรอื 0.86 มากกวา (เทา กัน) - คา ประมาณเปน ทศนิยม 2 ตาํ แหนง ของ 0.855 คือจํานวนใด (0.86) ๔๙

๕๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูที่ ๗ ชั้น ป.๕01 9 เวลา ๑ ชัว่ โมง หน่วยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม 3. ครใู หน ักเรียนชว ยกนั สรปุ อีกครง้ั และครูเขยี นบนกระดาน ดงั น้ี 5 47 คา ประมาณเปนทศนยิ ม 2 ตาํ แหนง ของ 0.854 คือ 0.85 คาประมาณเปนทศนยิ ม 2 ตําแหนง ของ 0.857 คือ 0.86 คาประมาณเปนทศนยิ ม 2 ตําแหนงของ 0.855 คือ 0.86 ครูใหนักเรียนสังเกตเลขโดดในหลักสวนพันของทศนิยมท้ังสามจํานวนและคาประมาณเปน ทศนยิ ม 2 ตาํ แหนงของแตล ะจํานวนแลวชวยกันสรุปเปน ขอ สังเกตไดดังนี้ - ถา เลขโดดในหลักสวนพันนอยกวา 5 (0 1 2 3 หรือ 4) คาประมาณเปนทศนยิ ม 2 ตําแหนง คือ ทศนิยมที่ใกลเคยี งท่ีสดุ ซึง่ นอยกวาทศนยิ มน้นั - ถาเลขโดดในหลักสวนพันมากกวาหรือเทากับ 5 (5 6 7 8 9) คาประมาณเปนทศนิยม 2 ตําแหนง คอื ทศนยิ มท่ีใกลเคยี งท่ีสุดซึง่ มากกวาทศนยิ มน้ัน 4. ครูเขียนทศนิยม 1.549 2.403 6.378 0.565 บนกระดานใหนักเรียนบอกวาคาประมาณ เปนทศนยิ ม 2 ตําแหนง และบอกเหตุผล ซ่ึงจะไดดังนี้ - คาประมาณเปนทศนยิ ม 2 ตําแหนงของ 1.549 คือ 1.55 เพราะเลขโดดในหลักสวนพัน เปน 9 2 - คาประมาณเปน ทศนยิ ม 2 ตําแหนง ของ 2.403 คอื 2.40 เพราะเลขโดดในหลักสวนพนั เปน 3 2- คา ประมาณเปนทศนิยม 2 ตาํ แหนงของ 6.378 คอื 6.38 เพราะเลขโดดในหลกั สว นคือ 8 - คาประมาณเปน ทศนิยม 2 ตาํ แหนง ของ 0.565 คอื 0.57 เพราะเลขโดดในหลักสว นเปน 5

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ สาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู ่ี ๗ 2 2 หนว่ ยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ชน้ั ป.๕ เวลา ๑ ชว่ั โมง 5. ครูเขยี น 13.617 บนกระดาน ใหน กั เรยี นบอกคา ประมาณเปนจาํ นวนเต็มหนว ย คา ประมาณเปน 1 6 5 7 90 ทศนิยม 1 ตําแหนง คา ประมาณเปน ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง พรอ มบอกเหตุผล ซ่ึงจะไดดังน้ี 2 - คา ประมาณเปน จํานวนเตม็ หนวยของ 13.612 คอื 14 เพราะเลขโดดในหลกั สว นสิบเปน 6 - คาประมาณเปน ทศนิยม 1 ตาํ แหนง ของ 13.612 คอื 13.6 เพราะเลขโดดในหลกั สว นรอ ยเปน 6 - คาประมาณเปนทศนยิ ม 2 ตาํ แหนงของ 13.612 คอื 13.61 เพราะเลขโดดในหลกั สวนพนั เปน 2 6. ครเู ขยี นบนกระดาน แลว ใหน กั เรียนบอกจาํ นวน แลวครเู ขยี นคําตอบบนกระดาน 1) “ทศนยิ ม 3 ตําแหนง ทีม่ ีคา ประมาณเปน 2.43” ไดแ ก 2.425 2.426 2.427 2.428 2.429 2.430 2.431 2.432 2.433 2.434 2) “ทศนยิ ม 3 ตาํ แหนงที่มากทสี่ ดุ ทม่ี ีคาประมาณเปน 2.43” คือ 2.434 3) “ทศนิยม 3 ตาํ แหนง ที่นอยทส่ี ุดทม่ี ีคาประมาณเปน 2.43” คือ 2.425 7. ใหนักเรียนทาํ แบบฝก หัด 2.7 ข้ันสรุป 8. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ เกยี่ วกบั การหาคา ประมาณเปน ทศนยิ ม 2 ตาํ แหนง ของทศนยิ ม ไดด งั น้ี การหาคาประมาณเปนทศนิยม 2 ตําแหนง ของทศนิยม อาจทําไดโดยพิจารณาเลขโดดในหลัก สวนพันของทศนิยมนั้น ถาเปน 5 ถึง 9 ใหประมาณเปนทศนิยมสองตําแหนงท่ีใกลเคียงท่ีสุด ซึ่งมากกวาทศนิยมนั้น ถาเปน 0 ถึง 4 ใหประมาณเปนทศนิยมสองตําแหนงท่ีใกลเคียงท่ีสุด ซ่ึงนอยกวา ทศนยิ มน้นั ๕๑

๕๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรูท่ี ๘ 01 9 แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู ขัน้ นาำ ทบทวนการคณู จาํ นวนนบั ดวยวิธกี ารบวกซาํ้ ข้นั สอน ใชแ ผนตารางรอยในการหาผลคูณทศนิยมกบั จาํ นวนนบั และทําแบบฝกหดั 2.8 5 47 ขั้นสรุป ครแู ละนักเรยี นรวมกนั สรุปเกี่ยวกับการหาผลคณู ทศนยิ มกบั จํานวนนบั 2 การวดั และประเมนิ ผล - ประเมนิ จากการตอบคาํ ถาม และการทาํ แบบฝกหัด - ประเมินทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรดานการแกปญหา การใหเหตุผลและ 2 การส่ือสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 2 2 กลุม่ สาระการเรียนรูคณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท่ี ๘ ชนั้ ป.๕ เวลา ๑ ชั่วโมง หนว่ ยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 1 6 5 7 90 ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลง่ เรียนรู การคณู ทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั ขัน้ นาำ 1. แผนภาพ สาระสำาคัญ 1. ครทู บทวนความหมายของการคูณจํานวนนบั โดยติดภาพ ดงั นี้ 2. แผนตารางรอย แผนตารางสบิ ครกู ําหนดสถานการณแลว ซกั ถามนักเรียน 3. แบบฝก หัด 2.8 การคณู ทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั อาจหาผลคณู ไดโ ดยบวกทศนยิ มนนั้ การประเมิน ซาํ้ ๆ กนั โดยจาํ นวนของทศนยิ มที่ นาํ มาบวกกนั เทา กบั จาํ นวนนบั นน้ั 1. วธิ ีการ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู จดุ ประสงค์การเรียนรู ครมู แี กว น้าํ กลองละ 6 ใบ อยู 4 กลอง ครูมีแกวนํ้าทง้ั หมดกใ่ี บ 2 ดา นความรู 1.2 ตรวจแบบฝก หัด - เขยี นเปนประโยคสัญลักษณแสดงการหาจาํ นวนแกวนํา้ ทง้ั หมดไดอยางไร 2. เครื่องมือ เพ่ือใหนักเรียนสามารถหา ( 6 + 6 + 6 + 6 = ■ หรือ 4 × 6 = ■ ) ผลคณู ของทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั 2.1 แบบประเมินทักษะและ - นักเรยี นไดคาํ ตอบเทา ไร (24) ดา นทกั ษะและกระบวนการ กระบวนการทางคณติ ศาสตร ทางคณติ ศาสตร์ 2.2 แบบฝกหดั 2.8 เพ่ือใหนกั เรยี นสามารถ ๕๓ 1. แกปญ หา 2. ใหเ หตผุ ล 3. สื่อสาร สอื่ ความหมาย ทางคณิตศาสตร

๕๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท ่ี ๘ ช้นั ป.๕01 9 เวลา ๑ ชั่วโมง หนว่ ยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมีความถูกตอง 2. ครใู หน กั เรียนพิจารณาภาพแสดงความหมายของการคูณดงั น้ี ไมน อยกวา รอยละ 80 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ จากภาพ มแี กว นา้ํ กลองละ 4 ใบ อยู 6 กลอ ง มีแกวนํา้ ทงั้ หมดกีใ่ บ และกระบวนการทางคณิตศาสตร - เขยี นเปนประโยคสญั ลักษณ แสดงการหาจํานวนแกว นาํ้ ทัง้ หมดไดอ ยา งไร ไมน อ ยกวารอยละ 60 (4 + 4 + 4 + 4 + 4 + 4 หรือ 6 × 4 = ■ ) - นกั เรยี นไดค าํ ตอบเทาไร (24) 5 47 ครใู หนักเรียนสงั เกตวา 4 ✕ 6 = 24 และ 6 ✕ 4 = 24 ดงั นั้น 4 ✕ 6 = 6 ✕ 4 ข้ันสอน 3. ครตู ิดแผน ภาพใหน ักเรียนรว มกนั อภิปราย ดังน้ี 2 ➡2 0.3 + 0.3 + 0.3 = 0.9 - นักเรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณก ารคูณไดอยางไร ( 3 ✕ 0.3 = ■ ) - นักเรยี นไดคาํ ตอบเทาไร (0.9) - ดังนน้ั 0.3 + 0.3 + 0.3 = 3 ✕ 0.3

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๘ 2 กล่มุ สาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ ช้นั ป.๕ หน่วยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม เวลา ๑ ชั่วโมง 4. ครูติดแผนภาพใหนกั เรียนรวมกันอภิปราย ดังนี้ 2 1 6 5 7 90 1.2 1.2 - นักเรยี นเขียนประโยคสญั ลักษณใ นรปู การบวกไดอยา งไร 2 ( 1.2 + 1.2 = ■ ) - นกั เรียนเขยี นประโยคสญั ลกั ษณในรปู การคูณไดอ ยา งไร ( 2 × 1.2 = ■ ) - นกั เรียนไดคาํ ตอบเทา ไร ( 1.2 + 1.2 = 2.4 และ 2 ✕ 1.2 = 2.4 ) ดงั น้นั 1.2 + 1.2 = 2 ✕ 1.2 = 2.4 ๕๕

๕๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๘ ชั้น ป.๕01 9 เวลา ๑ ชวั่ โมง หน่วยที่ ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 5. ครตู ดิ แผน ภาพแลว ใหนักเรยี นตอบคําถาม ดงั น้ี 0.15 0.15 ⎫ ⎬ ⎭ ⎫ ⎬ ⎭ - สวนที่ระบายสีแดงเขยี นแสดงทศนยิ มใด (0.15) 5 47 - สวนท่ีระบายสเี ขยี วเขียนแสดงทศนยิ มใด (0.15) - จากภาพสวนที่ระบายสีแดงรวมกับสวนท่ีระบายสีเขียวเขียนในรูปการบวกทศนิยมไดอยางไร (0.15 + 0.15) และเขียนในรูปการคณู ไดอ ยา งไร (2 ✕ 0.15) - ไดคาํ ตอบเทา ไร (0.30) ดงั น้ัน 0.15 + 0.15 = 2 ✕ 0.15 22

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มสาระการเรียนรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๘ 2 2 หนว่ ยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม ช้นั ป.๕ เวลา ๑ ช่วั โมง 6. ครแู ละนกั เรียนรว มกนั แสดงวิธหี าผลคูณดังนี้ 1 6 5 7 90 1) 6 × 0.9 = ■ 2) 5 × 1.12 = ■ 2 ครใู ชก ารซกั ถามพรอ มเขยี นแสดงวิธที ําบนกระดาน 1) 6 × 0.9 = ■ วธิ ีทาำ 6 × 0.9 = 0.9 + 0.9 + 0.9 + 0.9 + 0.9 + 0.9 ตอบ ๕.๔ = 5.4 2) 5 × 1.12 = ■ วธิ ีทาำ 5 × 1.12 = 1.12 + 1.12 + 1.12 + 1.12 + 1.12 ตอบ ๕.๖๐ = 5.60 7. ครแู บง นกั เรยี นออกเปนกลุมใหแ ตล ะกลมุ แสดงวธิ กี ารหาผลคูณ ลงในกระดาษท่คี รูแจกให 1) 3 × 2.58 = ■ 2) 7 × 3.8 = ■ เมอื่ แตล ะกลมุ หาผลคณู เสรจ็ แลว ใหเ สนอผลงาน ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ ง ดงั น้ี 1) 3 × 2.58 = 2.58 + 2.58 + 2.58 = 7.74 2) 7 × 3.8 = 3.8 + 3.8 + 3.8 + 3.8 + 3.8 + 3.8 + 3.8 ๕๗ = 26.6

๕๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท่ี ๘ ชั้น ป.๕01 9 เวลา ๑ ช่วั โมง หนว่ ยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม 8. ครใู หนักเรียนทําแบบฝกหดั 2.8 ขนั้ สรุป 9. ครูและนกั เรียนรวมกนั อภิปรายสรุปการหาผลคูณของทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั ดังน้ี การคูณทศนิยมกับจํานวนนับอาจหาผลคูณไดโดยการบวกทศนิยมน้ันซํ้า ๆ กัน โดยจํานวนของ ทศนยิ มเทากับจาํ นวนนบั นนั้ 5 47 22

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )22 แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๙ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู 1 6 5 7 90 ขั้นนาำ ทบทวนการคูณจํานวนนบั กบั เศษสวน ขน้ั สอน สอนหาผลคณู ของทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั โดยใชความสมั พันธของทศนยิ มกบั เศษสว น ทําแบบฝกหดั 2.9 ขัน้ สรุป ครแู ละนักเรยี นรวมกนั สรปุ เก่ียวกับการหาผลคูณทศนิยมกบั จํานวนนับ โดยใชค วามสมั พนั ธของทศนยิ มกบั เศษสว น 2 การวดั และประเมินผล - ประเมนิ จากการตอบคาํ ถาม และการทาํ แบบฝก หดั 2 - ประเมินทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรดานการใหเหตุผล และการสื่อสาร สอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร ๕๙

๖๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๙ ช้นั ป.๕ 01 9 เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรยี นรู ส่ือ/แหล่งเรยี นรู ข้ันนาำ การหาผลคณู ของทศนยิ มกบั 1. ทบทวนการคณู จาํ นวนนบั กบั เศษสว น โดยใชบ ัตรเศษสว น ดังน้ี 1. บัตรเศษสว น จํานวนนับ 2 ✕ 140 150 ✕ 3 1) 2 ✕ 140 = ■ 2) 150 ✕ 3 = ■ 2. บตั รการคูณ สาระสำาคัญ 4 ✕ 0.7 5 ✕ 1.21 นักเรียนรวมกันอภิปรายและแสดงวิธีหาผลคูณ ดังน้ี 2) 150 ✕ 3 = 51✕03 5 47 การคณู ทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั 1) 2 ✕ 140 = 21✕04 = 1150 7 ✕ 0.223 15 ✕ 0.36 อ า จ ทํ า ไ ด  โ ด ย เ ขี ย น ท ศ นิ ย ม = 180 ในรูปเศษสวนหาผลคูณของ 0.36 ✕ 15 เศษสว นกบั จาํ นวนนบั แลว เขยี น เศษสวนในรูปทศนิยม 3. แบบฝกหดั 2.9 การประเมนิ 1. วิธีการ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู 1.2 ตรวจแบบฝกหัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู ครูถามนักเรียนวา 180 (0.8) และ 1105 ดานความรู ไดอยางไร (1.5) เพ่ือใหนักเรียนสามารถหา 2 ผลคูณทศนิยมกับจํานวนนับ 2โดยเขยี นทศนิยมในรูปเศษสวน เขียนในรูปทศนิยมไดอยางไร เขียนในรูปทศนิยม

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มสาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๙ 2 2 หน่วยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ช้นั ป.๕ เวลา ๑ ชัว่ โมง ดา นทกั ษะและกระบวนการ ขนั้ สอน 2. เครื่องมือ 1 6 5 7 90 ทางคณิตศาสตร์ 2.1 แบบประเมินทักษะและ 2. ครูติดบัตรการคูณทศนิยม 4 ✕ 0.7 ใหนักเรียนชวยกันอภิปรายเก่ียวกับวิธีหาผลคูณ โดยใช เพือ่ ใหนกั เรยี นสามารถ กระบวนการทางคณติ ศาสตร 1. ใหเ หตผุ ล ความสัมพันธของทศนิยมและเศษสวน แลว ใหน กั เรียนตอบคาํ ถามและทํากิจกรรมตอ ไปนี้ 2.2 แบบฝก หดั 2.9 2. สื่อสาร สื่อความหมาย ทางคณติ ศาสตร 2.1 4 ✕ 0.7 หาผลคูณโดยใชความหมายของการคูณไดอ ยางไร 3. เกณฑ์ 3.1 คะแนนรวมดานทักษะ (0.7 + 0.7 + 0.7 + 0.7 = 2.8) ถาไมใชวิธีการบวกซํ้า นักเรียนจะหาผลคูณโดยใช และกระบวนการทางคณิตศาสตร ความสมั พันธของทศนิยมและเศษสว นไดอยางไร ไมน อยกวารอยละ 60 (โดยเขียนทศนิยมในรูปเศษสวน แลวหาผลคูณของเศษสวนกับจํานวนนับและเขียนเศษสวน 3.2 ผลงานถูกตองไมนอยกวา รอ ยละ 80 ในรปู ทศนิยม) - นักเรยี นและครรู วมกนั อภปิ รายหาผลคณู โดยเขยี นทศนยิ มในรปู เศษสวน ดงั นี้ 4 ✕ 0.7 = 4 ✕ 170 = 41✕07 = 1280 2 = 2.8 ดงั นั้น 4 ✕ 0.7 = 2.8 ๖๑

๖๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรูคณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๙ ช้นั ป.๕01 9 เวลา ๑ ช่วั โมง หน่วยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม 2 2.2 ครตู ิดบตั ร 5 ✕ 1.21 นักเรียนรว มกันอภปิ รายหาผลคูณโดยเขยี นทศนยิ มในรูปเศษสวน แลว หาผลคณู ดงั น้ี 5 ✕ 1.21 = 5 ✕ 112001 = 5 ✕ 121 100 = 610050 = 6.05 5 47 ดงั นัน้ 5 ✕ 1.21 = 6.05 2.2 ครตู ดิ บัตร 7 ✕ 0.223 นกั เรียนชวยกนั อภิปรายหาคําตอบดงั น้ี 7 ✕ 0.223 = 7 ✕ 1202030 7 ✕ 223 = 1000 2 = 11506010 = 1.561 ดงั นัน้ 7 ✕ 0.223 = 1.561 - นกั เรยี นสงั เกตตําแหนง ของทศนยิ มที่นํามาคูณกบั จาํ นวนนบั ผลคูณที่ไดเปนอยางไร (ผลคูณมีจาํ นวนตาํ แหนง ทศนยิ มเทากับจาํ นวนตําแหนงทศนิยมทนี่ าํ มาคณู กนั )

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๙ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ ช้นั ป.๕ หน่วยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม เวลา ๑ ชว่ั โมง 3. นกั เรยี นรว มกนั อภปิ รายการหาผลคณู จากบตั รการคณู ทศนยิ ม 15 ✕ 0.36 กับ 0.36 × 15 ดงั น้ี 2 1 6 5 7 90 15 ✕ 0.36 = 15 ✕ 13060 0.36 ✕ 15 = 13060 ✕ 15 = 151✕0036 = 361✕0015 = 150400 = 514000 = 5.40 = 5.40 ดงั นั้น 15 ✕ 0.36 = 5.40 ดงั นัน้ 0.36 ✕ 15 = 5.40 พบวา 15 ✕ 0.36 = 0.36 × 15 2 ๖๓

๖๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ สาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท่ี ๙ ชั้น ป.๕01 9 เวลา ๑ ช่ัวโมง หนว่ ยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม 2 4. ครแู บงกลุมนกั เรยี นออกเปนกลมุ เทา ๆ กัน ใหแตล ะกลุมชว ยกันระดมความคดิ หาผลคูณทศนยิ ม โดยใชค วามสัมพนั ธระหวา งทศนยิ มกับเศษสว น ดังนี้ 1) 12 ✕ 0.8 2) 10.05 ✕ 2 3) 3 ✕ 13.801 0.8 ✕ 12 2 ✕ 10.05 13.801 ✕ 3 ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบความถูกตอง จากนั้นครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายสรุป 5 47 การคณู ทศนยิ มกับจํานวนนบั เมอื่ สลับทก่ี นั ผลคณู ยังคงเทากนั 5. ครใู หนักเรยี นทําแบบฝก หัด 2.9 เปนการบาน ขั้นสรปุ 6. ครแู ละนกั เรียนรว มกนั อภปิ รายสรุปการหาผลคูณของทศนยิ มกับจํานวนนับ ดงั น้ี - การหาผลคูณทศนิยมกับจํานวนนับ อาจทําไดโดยเขียนทศนิยมในรูปเศษสวน หาผลคูณของ เศษสวนกบั จํานวนนบั แลวเขยี นในรูปทศนยิ ม 2 - การคูณทศนยิ มกับจาํ นวนนบั เมอื่ สลบั ท่กี ันผลคณู ยงั คงเทา กัน

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )22 แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ ๑๐ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู 1 6 5 7 90 ขน้ั นำา ทบทวนการหาผลคูณดว ยการแจกแจงจากแผน ภาพ ข้นั สอน สอนหาผลคณู ทศนยิ มกับจาํ นวนนบั โดยการต้ังคูณ ทําแบบฝก หัด 2.10 ขัน้ สรุป ครูและนกั เรยี นรว มกนั สรุปเกยี่ วกบั การหาผลคณู ทศนยิ มกับจํานวนนับโดยการตงั้ คูณ 2 การวดั และประเมนิ ผล - ประเมินจากการตอบคําถาม และการทําแบบฝกหดั 2 - ประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรด านการใหเ หตุผล และการสื่อสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร ๖๕

๖๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ สำรกะลกมุ่ ำสราเรยีะนการรคู้ เณรียิตนศรำูคสณตริต์ ศาสตร์ แผแนผกนากรำจรัดจกดั ากรำเรรียเรนียรนูท ร่ี ู้ท๑ี่ ๐๑๐ ชัน้ ชปน้ั .๕ป.๕ 01 9 เวลา ๑ ชว่ั เโวมลงำ ๑ ชั่วโม หนว่ ยทห่ี ๒น่วทยทศนี่ ๒ิยมทแศลนะยิ กมำรแบลวะกกากรบำรวลกบกากรำลรบคณูการกคำณู รหกำารรทหศานรยิทมศนิยม สอ่ื /แหลสง่อ่ื เ/รแยี หนลร่งูเรยี นรู้ ขอบเขตขเอน้ือบหเขำตเนอื้ หา ขกขกิจน้ั จินั้กนกรนำารรำมรมกการำเรรเียรยีนนรูรู้ แลวแรลว้วมรกว่ นั มสกนนั ทสนนาทกนับานกักับเนรยีักนเรียดนงั น้ีดงั น้ี 1. แผนภ-าพแผนภาพ การคณู กทาศรคนูณยิ มทกศบันจิยามนกวับนจนํานับว(น1น)ับ 1.1.คครรตู ตู ดิ ิดแแผผน น่ ภภาาพพ 33✕9 9==■ 3 ✕ 9 34✕ 191 4  11 โดยการโตด้งั ยคกณู ารต(1ั้ง)คูณ 2. บตั รก-ารบคูณตั รกา4ร5ค✕ูณ4.2415  4.21 สอเนดาำบั ียจรวทะโกกสาดับาำไยรจจสอเดกคดอคาํําาโ้าาัญีจยาดณูนนรรกทจวยควะวทากาํกกนูณรสนไศรัาบดคหำาะจนนรโณูกดนจคาตยิับายนาทึ่งั้งมัญรกยตควศกคาจโนณูานับรดูาณมนยติจนยคบังม้ัจาใวคอากชนํกานณูาปบั้หนบัวหจรนจลจวในกชะาํนักานห่ึงนจรนกับนตลํวาะวาับากันหจนรมกกนลาาับบัักยร 9 3. แบบฝ-ก หแัดบบ2ฝ.1กึ 0หัด 2.10 5 47 คา่ ประจแาลหวลนักําแไลป้วคนูณากไปับคอูณีกจกําับนอวีกนหน่ึง 3 จานวนหจนาก่ึงนจั้นานกาํ นผั้นลนคาณู ผทลไ่ีคดณู ม ทาบไี่ ดว้มกากัน การประกเำมรนิ ประเมนิ 54 1. วิธกี า1ร. วธิ ีกำร บวกกัน 3 3× ×9 9 === 3(33✕××(( 555 +)++44())3 × 4 ) 1.1 สงั เก1ต.1พฤสตังกิ เรกรตมพกฤารตเิกรยีรนรรมู การเรียนรู้ == (153 +✕ 152) + =( 3 ✕274 ) 1.2 ตรว1จ.แ2บตบรฝวกจหผัดลงานจากแบบฝึกหดั 2 ทจดดุำ้ศนปนเคริยพะวมือ่ สำดจโผกใดมงหับลุดา คยรน้จนคเปกก์ู้พาักูณคารำน่ืเอรระวรทวใตเยีสานรหศง้ันมงยีนคนนสคนรบัณูักิาย์กูรโมเมู้ดารายีกยรรกัเนถบราหสจียราาําตนผมนั้งรลคาวูครณู นณูถนหับา ดำ้ นทักษะและกระบวนกำรทำง ดงั นัน้ 3 × 9 == 1257 + 12 = 27 2. เคร่อื ง2ม. อื เครอ่ื งมอื ครใู หน้ กั เรยี ดนังสนงั้ันเก3ต ✕ 93 × (=5 +274 ) = ( 3 × 5 ) + ( 3 × 4 ) 2.1 แบบ2ป.1ระแเมบินบทปักระษเะมแินลทะกั ษะและ 2. ครตู ดิ แผ่นคภรใูาหพนกั เร4ยี นสงั1เ1กต= 3ค✕รูแ(ล5ะน+ัก4เรยี) น=ร(ว่ 3มก✕นั ส5น)ท+น(า3ดัง✕น4ี้ ) 2กระบวนการทางกครณะบติ ศวนาสกตารทางคณติ ศาส 2.2 แบบ2ฝ.ก2หแดั บ2บ.ฝ1ึก0หัด 2.10 คณิตศำสตร์ 3. เกณฑ์ เพอื่ ใหน้ ักเรียนสามารถ 3.1 ผลงานมีความถกู ต้อง ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 1. แก้ปัญหา 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสต 2. ใหเ้ หตุผล ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 2 กลุ่มสาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท่ี ๑๐ ชัน้ ป.๕ เวลา ๑ ชวั่ โมง หนว่ ยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศแนผยิ มนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๐ 1 6 5 7 90 กหลนมุ่ว่ สยำทรี่ ะ๒กำทดทรศเาารนนงียยิคนทมณรกั ู้คแษิตณละศะติแากศลสำำะตรสกบรตรว์ระก์ บวกำนรกลาบร กำ2ร.คณูครูตกิดำแรผหนำภราทพศนิย4ม ✕ 11 = ■ ครแู ละนกั เรยี นรวมกนั สนทนา ดังน้ี 3. เกณฑ์ ชนั้ ป.๕ 3.1 ผลงานมีความเวถลูกำตอ๑ง ช่ัวโมง เพือ่ ใหนักเรียนสามารถ 11 ไมน อยกวา รอยละ 80 3. ส่อื สาร1ส. ือ่แกคปวาญ มหหามายทาง 33..2เกคณะฑแน์ นรวมดานทักษะ คณติ ศาสตร์ 2. ใหเหตผุ ล และกร3ะ.1บวผนลกงาารนทมาคี งวคาณมิตถศกู าตส้อตงร 4 ไมนอ ยกวาไมรน่อ ้อยยลกะว6่า0ร้อยละ 80 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะและ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 10 1 ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 ดังนน้ั 4 ×411✕ 1==1 44(4===404×+×(44( 41104✕00+✕(+)=411+100())+44=4+1×()4144)✕ 1 ) 2 = 4 × 11 = น่ันคอื 4 × (ด1งั 0น+้นั 14 )✕ 1=1 =( 4 ×4410 ) + ( 4 × 1 ) 2 ข้นั สอน น่ันคือ 4 ✕ ( 10 + 1 ) = ( 4 ✕ 10 ) + ( 4 ✕ 1 ) 3. ครูใหน้ ักเรยี นพิจารณา 3 × 1.53 จากแผ่นภาพ ดงั น้ี ๖๗

๖๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๑๐ ช้นั ป.๕01 9 เวลา ๑ ช่วั โมง หน่วยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม 2 ขัน้ สอน 3. ครูใหนักเรียนพจิ ารณา 3 ✕ 1.53 จากแผนภาพ ดังน้ี ⎫ ⎬ 1.53 ⎭ ⎫ 5 47 ⎬ 1.53 ⎭ 2 ⎫ ⎬ 1.53 ⎭

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนการจัดการเรียนรูท ี่ ๑๐ 2 กลุ่มสาระการเรียนรูคณติ ศาสตร์ ชน้ั ป.๕ หนว่ ยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม เวลา ๑ ช่ัวโมง ดังน้ัน 3 ✕ 1.53 = 4.591 6 5 7 90 23 ✕ 1.53 = 3 ✕ ( 1 + 0.5 + 0.03 ) 2 = ( 3 ✕ 1 ) + ( 3 ✕ 0.5 ) + ( 3 ✕ 0.03 ) = 3 + 1.5 + 0.09 = 4.59 ดังนัน้ 3 ✕ 1.53 = 4.59 ๖๙

๗๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรูค ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูที่ ๑๐ ช้นั ป.๕01 9 เวลา ๑ ช่ัวโมง หนว่ ยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม 2 จากน้ันครูใหน ักเรยี นพจิ ารณาการหาผลคณู โดยการตั้งบวก ดังนี้ หลกั หน่วย หลักสว่ นสิบ หลักส่วนรอ ย 1 5 3 1 5 3 1 5 3 หลกั หนว ย คดิ จาก หลักสว นสิบ คิดจาก หลักสวนรอ ย คิดจาก 5 47 1+1+1 = 3 ✕ 1 หนว ย 0.5 + 0.5 + 0.5 = 3 ✕ 0.5 0.03 + 0.03 + 0.03 = 3 ✕ 0.03 = 3 หนว ย หรอื 3 ✕ 5 สวนสบิ หรือ 3 ✕ 3 สวนรอ ย จากการแสดงการตัง้ บวกนกั เรียนชวยกันเขียนในรปู การแจกแจงไดด งั น้ี 3 ✕ 1.53 = 3 ✕ ( 1 + 0.5 + 0.03 ) 2 = ( 3 ✕ 1 ) + ( 3 ✕ 0.5 ) + ( 3 ✕ 0.03 ) = 3 + 1.5 + 0.09 = 4.59

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๑๐ 2 กลุ่มสาระการเรียนรูค ณติ ศาสตร์ ชัน้ ป.๕ หนว่ ยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม เวลา ๑ ชั่วโมง 4. ครแู ละนักเรยี นชวยกันอภปิ รายแสดงการหาผลคณู ในแนวต้งั ดงั น้ี 2 1 6 5 7 90 3 ✕ 1.53 = ■ คูณในหลกั สวนรอย 3 ✕ 3 สวนรอย ได 9 สว นรอย 1.53 เขยี น 9 ในหลักสวนรอย ✕ คณู ในหลักสว นสิบ 3 ✕ 5 สวนสบิ ได 15 สวนสบิ หรือ 1 หนว ย กับ 5 สว นสิบ เขียน 5 ในหลักสว นสิบ 3 ทด 1 ในหลักหนว ย 4.59 ดงั นั้น 3 ✕ 1.53 = 4.59 คูณในหลกั หนวย 3 ✕ 1 ได 3 หนว ย รวมกับตัวทด อีก 1 หนว ย เปน 4 หนว ย เขยี น 4 ในหลักหนวย 2 ๗๑

๗๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรูคณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๑๐ ชัน้ ป.๕01 9 เวลา ๑ ชว่ั โมง หน่วยที่ ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม 2 5. ครูติดบตั ร 45 ✕ 4.21 ใหนักเรียนรวมกนั อภิปรายและพจิ ารณาการหาผลคณู 45 ✕ 4.21 = (40 + 5) ✕ 4.21 = (40 ✕ 4.21) + (5 ✕ 4.21) 5 ✕ 4.21 = 5 ✕✕414220101 = 168.40 + 21.05 = 5 100 40 ✕ 4.21 = 40 ✕ 410201 = 1600000 = 21.05 5 47 = 40 ✕ 421 100 = 168.40 เขียนแสดงการหาผลคณู โดยการตัง้ คูณดังนี้ 4.21 ✕ 2 45 21.05 + 5 ✕ 4.21 168.40 40 ✕ 4.21 189.45 ดังน้นั 45 ✕ 4.21 = 189.45

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มสาระการเรยี นรูคณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูที่ ๑๐ 2 2 หนว่ ยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ชัน้ ป.๕ เวลา ๑ ช่ัวโมง จากการหาผลคูณ 45 ✕ 4.21 ครูซกั ถามนกั เรยี นวา 4.21 ✕ 45 จะมีผลคูณเทากบั 1 6 5 7 90 2 4.21 ✕ 45 หรอื ไม จากนั้นครูและนกั เรียนชวยกนั หาผลคูณ ดังน้ี 4.21 × 45 = ( 4 + 0.2 + 0.01 ) × 45 = ( 4 × 45 ) + ( 0.2 × 45 ) + ( 0.01 × 45 ) = 180 + 9.0 + 0.45 = 189.45 ตอ จากน้ัน แสดงการหาผลคณู โดยการตงั้ คณู 45 ✕ 4.21 0.45 0.01 ✕ 45 9.00 + 0.2 ✕ 45 180.00 4 ✕ 45 189.45 ดังน้นั 4.21 ✕ 45 = 189.45 สังเกต 45 ✕ 4.21 = 4.21 × 45 นักเรียนพิจารณาคาํ ตอบทถี่ กู ตองโดยใชเครอ่ื งคิดเลข ๗๓

๗๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรูค ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูที่ ๑๐ ชน้ั ป.๕01 9 เวลา ๑ ช่ัวโมง หนว่ ยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม 2 6. ครใู หน ักเรียนชว ยกันหาผลคณู 36 ✕ 8.7 = ■ และ 8.7 ✕ 36 = ■ ดงั น้ี 8.7 6 ✕ 8.7 36 0.7 ✕ 36 36 ✕ 30 ✕ 8.7 8.7 ✕ 8 ✕ 36 52.2 25.2 261.0 288.0 313.2 313.2 ดังนัน้ 36 ✕ 8.7 = 313.2 ดงั นน้ั 8.7 ✕ 36 = 313.2 5 47 สังเกต 36 ✕ 8.7 = 8.7 ✕ 36 จากน้นั ครูใหน กั เรียนตรวจความถูกตองของคาํ ตอบ โดยใชเ คร่ืองคดิ เลข ครแู ละนกั เรยี นชว ยกนั สรปุ การคณู ทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั เมอ่ื สลบั ทกี่ นั ผลคณู ยงั คงเทา กนั 7. ใหนักเรียนทาํ แบบฝก หัด 2.10 เปนการบา น ข้ันสรปุ 8. ครูและนกั เรียนรวมกันสรปุ 2 การคณู ทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั โดยการตงั้ คณู ใชห ลกั การเดยี วกบั การคณู จาํ นวนนบั กบั จาํ นวนนบั โดยอาจ กระจายจํานวนหนึง่ ตามคา ประจาํ หลัก แลว นาํ ไปคูณกบั จํานวนหน่งึ จากนัน้ นําผลคณู ทีไ่ ดม าบวกกนั • การคณู จํานวนนับกบั ทศนิยม 1 ตําแหนง ไดผลคณู เปนทศนิยม 1 ตาํ แหนง • การคณู จาํ นวนนบั กบั ทศนิยม 2 ตําแหนง ไดผลคณู เปนทศนยิ ม 2 ตําแหนง • การคูณทศนยิ มกับจาํ นวนนับ เมื่อสลบั ที่กนั ผลคณู ยังคงเทากนั

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )22 แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๑๑ แนวการจดั กิจกรรมการเรียนรู 1 6 5 7 90 ขั้นนาำ ทบทวนการคูณทศนยิ มกบั จํานวนนบั ท่มี ีผลคณู เปน ทศนิยมไมเกินสองตาํ แหนง โดยการต้งั คณู ข้ันสอน สอนการหาผลคูณของทศนยิ มกับจาํ นวนนบั โดยการต้ังคณู ผลคูณไมเกนิ 3 ตําแหนง ทาํ แบบฝก หดั 2.11 ขั้นสรปุ ครูและนกั เรยี นรว มกันสรปุ เก่ยี วกบั การหาผลคูณทศนิยมกบั จํานวนนบั โดยการต้ังคณู ผลคูณไมเ กิน 3 ตําแหนง 2 การวดั และประเมินผล - ประเมนิ จากการตอบคาํ ถาม และการทําแบบฝกหัด 2 - ประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรดา นการใหเ หตผุ ล และการสือ่ สาร สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร ๗๕

๗๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู ่ี ๑๑ ช้ัน ป.๕ 01 9 เวลา ๑ ชว่ั โมง หน่วยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม ขอบเขตเนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู สื่อ/แหล่งเรยี นรู การหาผลคูณของทศนิยม ข้ันนาำ 1. เคร่อื งคดิ เลข กบั จาํ นวนนบั โดยการตง้ั คณู ผลคณู 1. ครูทบทวนการหารผลคูณของจํานวนนับ 4 ✕ 4.21 โดยใชเครื่องคิดเลข 2. แบบฝกหัด 2.11 ไมเกนิ 3 ตาํ แหนง จากนนั้ ครใู หน ักเรยี นหาผลคณู 23 ✕ 5.16 โดยการต้ังคณู ดังน้ี การประเมิน สาระสาำ คญั 5.16 3 ✕ 5.16 1. วิธกี าร 5 47 การคณู ทศนยิ มกบั จาํ นวนนบั 23 ✕ 20 ✕ 5.16 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู อาจทาํ ไดโ ดยการตงั้ คณู ใชห ลกั การ 1.2 ตรวจแบบฝก หดั เดียวกับการคูณจํานวนนับกับ 15.48 จํานวนนับ โดยอาจกระจาย 103.20 2. เครือ่ งมือ 118.68 2.1 แบบประเมินทักษะและ จํานวนหน่ึงตามคาประจําหลัก ดงั น้ัน 23 ✕ 5.16 = 118.68 กระบวนการทางคณติ ศาสตร แลวนําไปคูณกับอีกจํานวนหน่ึง ครใู หน ักเรยี นสงั เกตผลคูณดังน้ี 2.2 แบบฝกหดั 2.11 จากนนั้ นาํ ผลคูณท่ีไดมาบวกกนั 23 ✕ 516 = 11,868 2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู 23 ✕ 5.16 = 118.68 2 ดา นความรู ครูสุมนกั เรยี นหาผลคณู ของจํานวนตอ ไปนี้ เพื่อใหนักเรียนสามารถหา 31 ✕ 142 = 4,402 31 ✕ 1.42 = 44.02 ผลคูณทศนิยมกับจํานวนนับ ครูและนักเรียนตรวจสอบผลคูณแลวไดขอสังเกตวา การคูณทศนิยมกับจํานวนนับท่ีเปนทศนิยม โดยการตั้งคณู 2 ตําแหนง ผลคูณที่ไดเ ปนทศนิยม 2 ตาํ แหนง

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ สาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ ๑๑ 2 2 หนว่ ยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม ชน้ั ป.๕ เวลา ๑ ช่วั โมง ดา นทกั ษะและกระบวนการ ขัน้ สอน 3. เกณฑ์ 1 6 5 7 90 ทางคณิตศาสตร์ 3.1 ผลงานมีความถูกตอง 2. ครูและนักเรยี นรวมกนั อภปิ รายการหาผลคูณของ 56 ✕ 0.368 ไมน อ ยกวา รอยละ 80 เพ่ือใหน กั เรียนสามารถ 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ 1. ใหเหตุผล เนอ่ื งจาก 56 = 50 + 6 และกระบวนการทางคณิตศาสตร 2. ส่ือสาร ส่ือความหมาย ไมนอยกวา รอยละ 60 ทางคณติ ศาสตร ดังนน้ั 56 × 0.368 = (50 + 6) ✕ 0.368 2 = (50 ✕ 0.368) + (6 ✕ 0.368) = 18.400 + 2.208 = 20.608 นักเรยี นสามารถหาผลคณู โดยการต้ังคณู ไดอ ยางไร ครูและนักเรียนชวยกันหาผลคณู โดยวิธีตั้งคูณ ดังน้ี 0.368 6 ✕ 0.368 56 ✕ 50 ✕ 0.368 2.208 18.400 20.608 ดังน้ี 56 ✕ 0.368 = 20.608 ๗๗

๗๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท ี่ ๑๑ ชน้ั ป.๕01 9 เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 2 ครูใหนักเรียนหาผลคูณของ 0.368 ✕ 56 โดยสุมนักเรียนออกมาเขียนแสดงวิธีหาผลคูณ โดยการตัง้ คณู จากนนั้ ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบความถกู ตอง ดังน้ี 56 ✕ 0.368 0.448 0.008 ✕ 56 3.360 0.06 ✕ 56 16.800 0.3 ✕ 56 5 47 20.608 ดังนนั้ 0.368 ✕ 56 = 20.608 สรปุ ไดวา 0.368 ✕ 56 = 56 ✕ 0.368 ครูซกั ถามนักเรียนวา นกั เรยี นตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบไดอยา งไร ครูและนักเรียน ชว ยกนั ตรวจความถกู ตอ งของคําตอบโดยใชเ ครอื่ งคดิ เลข 2 3. ครแู บง นกั เรยี นออกเปน กลมุ กลมุ ละ 3 - 4 คน ใหแ ตล ะกลมุ ชว ยกนั หาผลคณู ของ 143 ✕ 2.614 และ 2.614 ✕ 143 โดยการจบั ฉลาก และตรวจสอบความถูกตอ งของคําตอบ โดยครแู จกกระดาษ ใหนกั เรียนแตละกลุม เมอ่ื แตล ะกลมุ หาผลคูณเสร็จแลวใหส ง ตัวแทนนําเสนอผลงาน

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มสาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูที่ ๑๑ 2 2 หนว่ ยที่ ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม ช้ัน ป.๕ เวลา ๑ ชั่วโมง ครูและนักเรียนชวยกันตรวจสอบผลคูณของ 143 × 2.614 และ 2.614 × 143 หาผลคูณโดย 1 6 5 7 90 การตั้งคูณดังนี้ 2 2.614 143 ✕ ✕ 143 2.614 7.842 3 ✕ 2.614 0.572 0.004 ✕ 143 104.560 40 ✕ 2.614 1.430 0.01 ✕ 143 261.400 100 ✕ 2.614 85.800 0.6 ✕ 143 373.802 286.000 2 ✕ 143 373.802 ดงั น้ัน 2.614 ✕ 143 = 373.802 และ 143 ✕ 2.614 = 373.802 สรุป 2.614 ✕ 143 = 143 ✕ 2.614 ตรวจสอบความถูกตอ งโดยใชเ ครอ่ื งคิดเลข จากนั้น ครูใหนักเรียนแตละกลุมชวยกันหาผลคูณของจํานวนนับกับจํานวนนับ และทศนิยมกับ จาํ นวนนับ โดยใชเ ครอื่ งคดิ เลข ดงั น้ี 1. 153 ✕ 21 = ■ (3,213) 5. 3678 ✕ 8 = ■ (29,424) 2. 15.3 ✕ 21 = ■ (321.3) 6. 367.8 ✕ 8 = ■ (2942.4) 3. 1.53 ✕ 21 = ■ (32.13) 7. 36.78 ✕ 8 = ■ (294.24) ๗๙ 4. 0.153 ✕ 21 = ■ (3.213) 8. 3.678 ✕ 8 = ■ (29.424)

๘๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรูค ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท่ี ๑๑ ชนั้ ป.๕01 9 เวลา ๑ ช่วั โมง หนว่ ยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม 2 ครูและนกั เรียนชว ยกันตรวจสอบผลคณู และสรปุ วา 5 47 • การคณู ทศนิยม 1 ตําแหนง กับจาํ นวนนบั ผลคณู ที่ไดเ ปนทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง • การคณู ทศนยิ ม 2 ตาํ แหนง กบั จาํ นวนนบั ผลคณู ทไี่ ดเ ปนทศนิยม 2 ตําแหนง • การคณู ทศนิยม 3 ตําแหนง กับจํานวนนบั ผลคูณที่ไดเ ปนทศนยิ ม 3 ตาํ แหนง 4. ครูใหนกั เรียนทาํ แบบฝกหัด 2.11 ข้นั สรปุ 5. ครแู ละนักเรียนรวมกนั สรปุ • การคูณทศนยิ มกบั จาํ นวนนับโดยการตง้ั คูณใชหลกั การเดยี วกบั การคณู จํานวนนับ • การคูณทศนิยม 1 ตําแหนง กับจํานวนนบั ผลคูณทไ่ี ดเปนทศนิยม 1 ตําแหนง • การคณู ทศนิยม 2 ตาํ แหนงกับจํานวนนับผลคูณท่ไี ดเ ปน ทศนยิ ม 2 ตําแหนง • การคณู ทศนยิ ม 3 ตําแหนง กบั จาํ นวนนบั ผลคูณทไ่ี ดเปน ทศนิยม 3 ตาํ แหนง 2

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )22 แผนการจดั การเรียนรทู ่ี ๑๒ แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู 1 6 5 7 90 ข้นั นำา ทบทวนการหาผลคูณของจํานวนนับกับ 10 100 หรือ 1,000 โดยการเลนเกมแขง ขัน หาผลคณู จากใบกิจกรรม 1 ขน้ั สอน สอนการหาผลคณู ทศนิยมไมเ กนิ 3 ตาํ แหนง กับ 10, 100 และ 1,000 จากใบกจิ กรรม ทาํ แบบฝก หดั 2.12 ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นรว มกันสรปุ เก่ยี วกบั การหาผลคณู ทศนิยมไมเ กิน 3 ตาํ แหนง กับ 10 100 และ 1,000 2 การวัดและประเมินผล - ประเมินจากการตอบคาํ ถาม และการทาํ แบบฝก หัด 2 - ประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรด านการใหเหตผุ ล และการสื่อสาร ส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร ๘๑

๘๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๑๒ ชั้น ป.๕ 01 9 เวลา ๑ ชว่ั โมง หน่วยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู สือ่ /แหลง่ เรียนรู ขั้นนำา การคูณทศนิยมไมเกินสาม 1. ใบกิจกรรมที่ 1 - 2 ตําแหนง กบั 10 100 1,000 1. ทบทวนการหาผลคณู ของจํานวนนับกบั 10 100 หรอื 1,000 โดยใหน ักเรียนเลนเกมแขงขนั หา 2. แบบฝกหัด 2.12 ผลคูณจากใบกิจกรรมในเวลาท่กี าํ หนด กลุม ใดเสร็จกอ นถกู ตอ งมากทสี่ ดุ เปน ผูชนะ สาระสาำ คัญ หาผลคณู ใบกจิ กรรมท่ี 1 การประเมิน 1) 3 ✕ 10 การคูณทศนิยมไมเกินสาม 3) 3 ✕ 1,000 = (30) 2) 3 ✕ 100 = (300) 1. วธิ กี าร 5 47 ตําแหนงกับ 10 100 1,000 5) 28 ✕ 100 = (3,000) 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู อาจใชหลักการเชนเดียวกับ = (2,800) 4) 28 ✕ 10 = (280) การคูณจาํ นวนนับดว ย 10 100 1.2 ตรวจแบบฝกหดั และ 1,000 แลว ใส จดุ ทศนยิ ม 6) 28 ✕ 1,000 = (28,000) 2. เครอื่ งมือ ใหผลคูณใหมีจํานวนตําแหนง ของ ทศนิยมท่ีกําหนด หรืออาจใช 2.1 แบบประเมินทักษะและ การเลื่อนจดุ ทศนิยมไปทางขวา กระบวนการทางคณติ ศาสตร 2.2 แบบฝก หดั 2.12 2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู 7) 125 ✕ 10 = (1,250) 8) 125 ✕ 100 = (12,500) 2 ดานความรู 9) 125 ✕ 1,000 = (125,000) 10) 1,368✕1,000 = (1,368,000) เพ่ือใหนักเรียนสามารถหา ผลคณู ทศนยิ มไมเ กนิ 3 ตาํ แหนง กับ 10 100 และ 1,000 ครถู ามนกั เรียนวา : สังเกตผลคูณทไี่ ดเปนอยา งไร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรูคณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท่ี ๑๒ 2 2 หน่วยที่ ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม ช้นั ป.๕ เวลา ๑ ชัว่ โมง ดา นทกั ษะและกระบวนการ ขนั้ สอน 3. เกณฑ์ 1 6 5 7 90 ทางคณติ ศาสตร์ 3.1 ผลงานมีความถูกตอง 2. ครูกําหนดโจทยก ารคณู ทศนิยมไมเกิน 3 ตําแหนง ดวย 10 100 1,000 ครูและนักเรยี นรว มกนั เพือ่ ใหนักเรยี นสามารถ อภิปรายและชว ยกนั หาผลคณู และซกั ถามนกั เรยี นดังน้ี ไมนอ ยกวารอยละ 80 1. ใหเ หตผุ ล 49.58 ✕ 10 = ………………………. (495.80) 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ 2. ส่ือสาร สื่อความหมาย 49.58 ✕ 100 = ………………………. (4958.00) ทางคณิตศาสตร 49.58 ✕ 1000 = ………………………. (49580.00) และกระบวนการทางคณิตศาสตร • 49.58 ✕ 10 = 495.80 ไมน อยกวา รอ ยละ 60 ครถู ามนักเรยี นวา กอนคูณจดุ ทศนิยมอยูต รงไหน (หลงั 9) เม่อื คูณดว ย 10 ผลคูณทีไ่ ดมี 0 ก่ีตวั (1 ตวั ) 2 จุดทศนยิ มอยูตรงไหน (หลงั 5) ๘๓ สังเกตวา ทศนิยมเลือ่ นไปทางขวา 1 ตาํ แหนง • 49.58 ✕ 100 = 4958.00 เม่อื คูณดวย 100 ผลคูณที่ไดมี 0 กี่ตัว (2 ตวั ) จุดทศนิยมอยตู รงไหน (หลัง 8) สงั เกตวา ทศนยิ มเล่ือนไปทางขวา 2 ตําแหนง • 49.58 ✕ 1000 = 49580.00 เมอื่ คูณดวย 1000 ผลคณู ทไี่ ดมี 0 ก่ีตัว (3 ตัว) จดุ ทศนยิ มอยูต รงไหน (หลงั 0) สงั เกตวา ทศนยิ มเลอ่ื นไปทางขวา 3 ตําแหนง

๘๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูที่ ๑๒ ชน้ั ป.๕01 9 เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม 2 3. ครูแบง นกั เรยี นออกเปน กลมุ กลมุ ละ 3 - 4 คน ใหน กั เรียนแตล ะกลมุ ชว ยกนั หาผลคณู ของทศนยิ ม กับ 10 100 และ 1,000 โดยครูแจกใบกิจกรรมใหนักเรียนแตละกลุม เมื่อแตละกลุมหาผลคูณ เสร็จแลว ใหสงตวั แทนนําเสนอผลงาน หาผลคูณ ใบกิจกรรมที่ 2 1) 10 ✕ 7.5 = (75.0) 2) 10 ✕ 3.92 = (392.0) 5 47 3) 10 ✕ 1.025 = (10.250) 4) 100 ✕ 1.2 = (120.0) 5) 100 ✕ 5.26 = (526.00) 6) 100 ✕ 4.209 = (420.900) 7) 1,000 ✕ 0.9 = (900.0) 8) 1,000 ✕ 2.27 = (2270.00) 9) 10.587 ✕ 1,000 = (10,587.000) 2 จากน้นั ครูใหนกั เรยี นสังเกตผลคูณของทศนิยมกับ 10 100 1000 และรว มกันอภปิ รายสรปุ ดงั น้ี การคูณทศนยิ มกับ 10 อาจหาผลคณู ไดโดยการเล่อื นจุดทศนยิ มไปทางขวา 1 ตําแหนง การคณู ทศนยิ มกับ 100 อาจหาผลคณู ไดโ ดยการเล่อื นจุดทศนยิ มไปทางขวา 2 ตําแหนง การคณู ทศนยิ มกบั 1,000 อาจหาผลคณู ไดโดยการเลอื่ นจดุ ทศนยิ มไปทางขวา 3 ตําแหนง

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๑๒ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรูคณติ ศาสตร์ ชัน้ ป.๕ หนว่ ยที่ ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม เวลา ๑ ชวั่ โมง 4. นักเรียนทาํ แบบฝกหดั 2.12 ทําเปน การบาน 1 6 5 7 90 ขัน้ สรุป 5. ครูและนักเรยี นรว มกันอภิปรายสรปุ การคณู ทศนิยมกบั 10 100 1000 ดงั นี้ • การคูณทศนยิ มดวย 10 ผลคณู อาจไดมาจากการเติม 0 1 ตวั กบั ทศนิยมทน่ี าํ มาคณู กบั 10 แลวเล่อื นจุดของทศนิยมไปทางขวา 1 ตาํ แหนง • การคณู ทศนิยมดว ย 100 ผลคณู อาจไดม าจากการเตมิ 0 2 ตวั กับทศนิยมทน่ี าํ มาคูณกบั 100 แลวเล่ือนจุดของทศนิยมไปทางขวา 2 ตําแหนง • การคูณทศนิยมดวย 1,000 ผลคูณอาจไดมาจากการเติม 0 3 ตัว กับทศนิยมที่นํามาคูณกับ 1,000 แลวเลือ่ นจดุ ของทศนยิ มไปทางขวา 3 ตาํ แหนง 22 ๘๕

๘๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี ๑๓ 01 9 แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู ขั้นนำา ทบทวนการเขยี นทศนยิ มเปนเศษสวน และการคูณเศษสวนดวยเศษสว น ขน้ั สอน สอนการหาผลคณู ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง กบั ทศนิยม 1 ตําแหนง 5 47 ทําแบบฝก หัด 2.13 ขั้นสรุป ครูและนกั เรียนรว มกันสรุปเกีย่ วกับการคูณทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง กบั ทศนิยม 1 ตําแหนง 2 การวดั และประเมินผล - ประเมนิ จากการตอบคาํ ถาม และการทําแบบฝก หัด 2 - ประเมินทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรดานการใหเหตผุ ล และการสอ่ื สาร สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 2 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท ี่ ๑๓ ช้ัน ป.๕ เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยที่ ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู ส่ือ/แหล่งเรยี นรู 1 6 5 7 90 ขั้นนำา การหาผลคูณของทศนิยม 1. แผนภาพแสดงการคูณ 1 ตาํ แหนง กบั ทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง 1. ทบทวนการเขียนทศนิยมเปน เศษสวน จากทศนยิ มตอไปน้ี 0.5 ✕ 0.9 และ 0.9 ✕ 0.5 1. 0.5 = ■ ( 150 ) 2. บัตรโจทยการคูณ สาระสาำ คัญ 2. 0.9 = ■ ( 190 ) 3. 1.2 = ■ ( 1102 ) 0.5 ✕ 0.9 การคูณทศนิยม 1 ตําแหนง 4. 12.5 = ■ ( 11205 ) คณู กับทศนิยม 1 ตาํ แหนง ผลคูณ 0.7 ✕ 1.2 กับ 1.2 ✕ 0.7 ท่ไี ดเปน ทศนยิ ม 2 ตําแหนง 2. ทบทวนการหาผลคณู ของเศษสวนคณู เศษสวน โดยนกั เรียนชว ยกันหาผลคูณ ดังน้ี 3. แบบฝกหดั 2.13 190 ✕ 1102 = ■ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู การประเมนิ 2 ดานความรู ( 190 × 1102 = 190✕✕1120 = 110080 ) ตอจากนนั้ ครถู ามนกั เรียนวา 110008 เขยี นเปน ทศนยิ มไดอยา งไร (1.08) 1. วิธีการ เพอื่ ใหน กั เรยี นสามารถหาผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู คูณของทศนิยม 1 ตาํ แหนง กบั ทศนยิ ม 1 ตําแหนง 1.2 ตรวจแบบฝกหัด 2. เครอ่ื งมอื ดา นทกั ษะและกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ 2.1 แบบประเมนิ ทักษะและ เพ่อื ใหน กั เรยี นสามารถ กระบวนการทางคณติ ศาสตร 1. ใหเหตุผล 2. ส่ือสาร ส่ือความหมาย 2.2 แบบฝกหดั 2.13 ทางคณติ ศาสตร ๘๗

๘๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ สาระการเรียนรคู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๑๓ ชน้ั ป.๕ 01 9 เวลา ๑ ชั่วโมง หนว่ ยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ขนั้ สอน ⎫ 3. เกณฑ์ ⎬ 3.1 คะแนนรวมดานทักษะ 3. ครูติดโจทยการคูณ 0.5 ✕ 0.9 = ■ แลวถามนักเรียนวาไดผลคูณเทาไร และมีวิธีการ⎭ หาผลคณู ไดอยางไร (นักเรยี นอาจตอบไดหรอื ตอบไมได) และกระบวนการทางคณิตศาสตร ไมน อยกวา รอยละ 60 ครใู หนกั เรยี นพจิ ารณาแผนภาพแสดง 0.5 ✕ 0.9 แลว รวมกนั อภปิ ราย 0.5 ✕ 0.9 หมายถงึ 5 สว นใน 10 สว นของ 0.9 3.2 ผลงานถกู ตอ งไมน อ ยกวา 5 สวนใน 10 สว นของ 0.9 รอ ยละ 80 ⎫ 5 47 ⎬ ⎭ ⎫ ⎬ ⎭ 0.9 0.9 จากแผนภาพนักเรยี นพบวา 0.5 ✕ 0.9 ได 14050 หรือ 0.45 ดังนั้น 0.5 ✕ 0.9 = 0.45 จากแผนภาพ 0.5 ✕ 0.9 = 0.45 นักเรยี นสามารถหาผลคณู ของทศนยิ มโดยเขยี นทศนิยมในรปู เศษสว น 2 แลว หาผลคณู ไดด งั นี้ 0.5 ✕ 0.9 = 115005 ✕✕✕191900 2 = = 14050 หรือ 0.45 ดังน้ัน 0.5 ✕ 0.9 = 0.45

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๑๓ 2 กล่มุ สาระการเรียนรูค ณิตศาสตร์ ชนั้ ป.๕ หน่วยท่ี ๒ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม เวลา ๑ ช่ัวโมง ตอ จากน้ัน ครูใหน กั เรียนพจิ ารณาแผนภาพแสดง 0.9 ✕ 0.5 พรอมรวมกันอภิปรายดงั นี้ 2 1 6 5 7 90 9 สวนใน 10 สวนของ 0.5 ⎫ ⎬ ⎭ 0.5 จากแผนภาพ พบวา 0.9 ✕ 0.5 ได 14050 หรอื 0.45 ดังนัน้ 0.9 ✕ 0.5 = 0.45 จากแผนภาพ 0.9 ✕ 0.5 = 0.45 นกั เรียนสามารถหาผลคูณของทศนยิ มโดยเขียนทศนิยมในรูปเศษสวน แลวหาผลคณู ไดด งั นี้ 0.9 ✕ 0.5 = 190 ✕ 150 109 150 2= ✕ ✕ = 14050 หรือ 0.45 ดังน้ัน 0.9 ✕ 0.5 = 0.45 ๘๙ นกั เรียนชวยกันสรุปไดว า 0.5 × 0.9 = 0.9 × 0.5

๙๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรูค ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท ี่ ๑๓ ชั้น ป.๕01 9 เวลา ๑ ชวั่ โมง หนว่ ยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม 2 4. ครตู ดิ บตั รโจทยก ารคณู 0.7 ✕ 1.2 กับ 1.2 ✕ 0.7 ใหนักเรยี นรวมกนั หาผลคูณไดดงั น้ี 0.7 ✕ 1.2 = 170 ✕ 1102 1.2 ✕ 0.7 = 1102 ✕ 170 = 170✕✕1120 = 1102✕✕170 = 18040 = 18040 5 47 = 0.84 = 0.84 ดงั น้ัน 0.7 ✕ 1.2 = 0.84 ดงั น้ัน 0.7 ✕ 1.2 = 0.84 สรปุ 0.7 ✕ 1.2 = 1.2 ✕ 0.7 ครูและนักเรยี นรว มกนั สรุปวา การคณู ทศนิยมกบั ทศนิยมเม่อื สลบั ท่ีกันผลคณู ยงั คงเทา กนั จากน้นั ครูใหนกั เรยี นหาผลคณู เพ่ิมเติม ดังนี้ 2 1. 0.8 ✕ 1.3 = ■ ( 1.04 ) 2. 1.5 ✕ 0.5 = ■ ( 0.75 ) 3. 1.4 ✕ 0.9 = ■ ( 1.26 ) ครูและนักเรียนรวมกันสังเกตผลคูณของทศนิยม 1 ตําแหนง คูณกับทศนิยม 1 ตําแหนง ผลคูณ ทไี่ ดเ ปนทศนยิ ม 2 ตําแหนง

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มสาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๑๓ 2 2 หน่วยท่ี ๒ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม ชน้ั ป.๕ เวลา ๑ ชวั่ โมง 5. ครแู บง นกั เรยี นออกเปน กลุม กลุม ละ 3 – 4 คน ใหแ ตละกลมุ หาผลคูณ 4.3 ✕ 2.1 โดยการเขียน 1 6 5 7 90 ทศนิยมในรูปเศษสวนแลวหาผลคูณลงในกระดาษท่ีครูแจกให เม่ือแตละกลุมหาผลคูณเสร็จแลว 2 สงตวั แทนนําเสนอผลงาน จากนน้ั ครูกับนักเรยี นชว ยกนั ตรวจสอบผลคณู ดังน้ี 4.3 ✕ 2.1 = 4103 ✕ 1210 1403 2110 = ✕ ✕ = 190003 = 9.03 ดังน้นั 4.3 ✕ 2.1 = 9.03 6. ครใู หนักเรยี นทาํ แบบฝก หดั 2.13 เปนการบาน ขั้นสรุป 7. ครูและนักเรยี นรวมกันสรปุ การคณู ทศนิยมกับทศนิยม ดังนี้ การคณู ทศนยิ ม 1 ตําแหนง กบั ทศนยิ ม 1 ตําแหนง ผลคณู ทีไ่ ดเ ปนทศนยิ ม 2 ตาํ แหนง ๙๑

๙๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๕ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๑๔ 01 9 แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู ข้ันนาำ ทบทวนการเขียนทศนยิ มเปนเศษสว น และการคูณเศษสวนดว ยเศษสว น ข้นั สอน สอนการหาผลคณู ทศนิยม 1 ตาํ แหนง กับทศนิยม 2 ตาํ แหนง 5 47 ทาํ แบบฝก หัด 2.14 ข้นั สรุป ครูและนกั เรียนรวมกันสรุปเกย่ี วกบั การคูณทศนิยม 1 ตําแหนง กับทศนิยม 2 ตําแหนง 2 การวดั และประเมนิ ผล - ประเมินจากการตอบคาํ ถาม และการทาํ แบบฝก หดั 2 - ประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรดา นการใหเ หตุผล และการสื่อสาร สือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร