476 ใบความรู้ท่ี 9.1 เร่อื ง แรงและความดนั ของของเหลว หนว่ ยท่ี 3 แผนที่ 9 เร่ือง แรงและความดนั ของของเหลว รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว22101
477
478 ว22101
497 479 ใบใบนับนัททกึ ึกกจิ ิจกกรรรมมทท่ี 9ี่ 9.1.1เรเร่ือื่องงปปจั ัจจจัยัยททม่ี มี่ ีผผี ลลตต่อ่อควำามดันของของเหลว หน่วยท่ี 3 แผนท่ี 9 เรเร่ือ่อื งงรรำายยววิชิชำาววิทิทยยำาศศำาสสตตรร์ ์33รรหหสั ววชิ ชิ ำา วว2212110031 วันที่ทำกำรทดลอง....................เดอื น.................................พ.ศ………………… กลุ่มที่............ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่.......... สมำชิกในกลุม่ 1. ........................................................................................................................................................... 2. ........................................................................................................................................................... 3. ........................................................................................................................................................... 4. ........................................................................................................................................................... 5. ........................................................................................................................................................... จุดประสงค์กำรทดลอง 1. ........................................................................................................................................................... 2. ........................................................................................................................................................... สมมติฐำนในกำรทดลอง ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ตำรำงบันทึกผลกำรทดลอง ของเหลว ตำแหน่ง ระยะท่ีของเหลวพุ่งไปได้ (cm) ลกั ษณะของนำ้ ทพ่ี ุ่งออกจำกขวดพลำสตกิ 1 น้ำ 2 3 4 1 น้ำนม 2 3 4
ตำรำงบนั ทึกผลกำรทดลอง (ต่อ) 498 ของเหลว ตำแหนง่ ระยะทีข่ องเหลวพ่งุ ไปได้ (cm) 480 ลกั ษณะของน้ำท่พี ุ่งออกจำกขวดพลำสติก 1 นำ้ มนั 2 3 4 สรปุ และอภปิ รำยผลกำรทดลอง ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... คำถำมหลังกำรทดลอง 1. น้ำจำกรูหมำยเลขใดพ่งุ ไดใ้ กล้ทสี่ ดุ และหมำยเลขใดพงุ่ ไดไ้ กลทส่ี ุด ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 2. แรงทที่ ำใหน้ ำ้ พุ่งออกจำกแต่ละรูแตกต่ำงกนั หรือไม่ อยำ่ งไร ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 3. ควำมดันของนำ้ ในระดับท่ตี รงกบั รูหมำยเลขใดมีคำ่ มำกท่ีสดุ ทรำบได้จำกอะไร ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 4. ถ้ำดึงไมท้ ปี่ ดิ รใู นระดบั เดยี วกนั น้ำทีพ่ งุ่ ออกไปจะเป็นอยำ่ งไร ควำมดนั ของนำ้ ระดบั เดยี วกนั จะแตกตำ่ งกนั หรือไม่ อยำ่ งไร ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 5. เมือ่ ดงึ ไม้ในตำแหนง่ ทม่ี ีควำมลกึ ต่ำงกัน นำ้ ทพ่ี งุ่ ออกจะเปน็ อยำ่ งไร ควำมดันของน้ำระดบั ตำ่ งกันจะ แตกต่ำงกนั หรือไม่ อยำ่ งไร ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................
499 481 6. เมือ่ เปลีย่ นของเหลวเปน็ นำ้ นมและน้ำมนั กำรพงุ่ ของของเหลวทตี่ ำแหน่งเดมิ จะเป็นอย่ำงไร เมอ่ื เทียบกับน้ำ ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................
500 482 เฉลยใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 9.1 เร่ือง ปัจจัยท่มี ผี ลตอ่ ความดันของของเหลว หนว่ ยท่ี 3 แผนที่ 9 เรือ่ ง รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 รหัสวิชา ว2211013 วนั ท่ที ำกำรทดลอง....................เดอื น.................................พ.ศ………………… กลุม่ ท่.ี ...........ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่.ี ......... สมำชิกในกลุ่ม 1. ........................................................................................................................................................... 2. ........................................................................................................................................................... 3. ........................................................................................................................................................... 4. ........................................................................................................................................................... 5. ........................................................................................................................................................... จดุ ประสงค์กำรทดลอง 1. อธบิ ำยปัจจัยที่มีผลต่อควำมดนั ของของเหลว 2. ยกตัวอย่ำงประโยชนข์ องควำมดนั ของของเหลวในชวี ติ ประจำวนั สมมตฐิ ำนในกำรทดลอง ระดับควำมลึกของเหลวย่ิงมำกจะทำให้ควำมดันของเหลวมำกยงิ่ มำกตำมไปด้วย ตำรำงบนั ทึกผลกำรทดลอง ของเหลว ตำแหนง่ ระยะทีข่ องเหลวพงุ่ ไปได้ (cm) ลักษณะของน้ำทีพ่ งุ่ ออกจำกขวดพลำสตกิ 1 นำ้ 2 3 4 1 นำ้ นม 2 3 4
501 483 ตำรำงบนั ทกึ ผลกำรทดลอง (ตอ่ ) ของเหลว ตำแหนง่ ระยะทีข่ องเหลวพุ่งไปได้ (cm) ลกั ษณะของน้ำท่พี ่งุ ออกจำกขวดพลำสตกิ 1 น้ำมนั 2 3 4 สรปุ และอภปิ รำยผลกำรทดลอง จำกผลกำรทดลอง พบว่ำ น้ำที่พุง่ ออกจำกตำแหน่งท่ี 1 จะพงุ่ ไปไดใ้ กล้ทส่ี ุดเนอ่ื งจำกมีแรงดนั ในของเหลวน้อยท่สี ดุ และตำแหน่งท่ี 4 มแี รงดนั ในของเหลวมำกทีส่ ดุ ทำให้นำ้ จะพงุ่ ไปได้ไกลทส่ี ุด ส่วน ตำแหน่งท่ี 2 และ 3 จะพุง่ ไปไดร้ ะยะเทำ่ กันเนือ่ งจำกมีแรงดนั ในของเหลวเทำ่ กนั ซึ่งตำแหน่งของเหลวทร่ี ะยะ ลกึ ทีส่ ุดจะมีแรงดนั ในของเหลวมำก ทำใหเ้ กดิ ควำมดนั ของของเหลวมำกทส่ี ดุ คำถำมหลงั กำรทดลอง 1. น้ำจำกรูหมำยเลขใดพุ่งได้ใกล้ท่ีสุด และหมำยเลขใดพุ่งได้ไกลทีส่ ดุ เฉลย หมำยเลข 1 พงุ่ ไดใ้ กล้ทส่ี ดุ และหมำยเลข 4 พงุ่ ไดไ้ กลท่ีสดุ 2. แรงท่ีทำให้น้ำพ่งุ ออกจำกแต่ละรูแตกตำ่ งกันหรือไม่ อยำ่ งไร เฉลย แตกตำ่ งกนั แรงดนั ในของเหลวตำแหนง่ ลึกทส่ี ดุ จะทำใหน้ ำ้ พุง่ ไปได้ไกลท่สี ดุ 3. ควำมดนั ของน้ำในระดบั ท่ตี รงกับรหู มำยเลขใดมีค่ำมำกท่ีสุด ทรำบไดจ้ ำกอะไร เฉลย หมำยเลข 4 มีควำมดนั มำกท่ีสุด เพรำะพุง่ ออกไปไดไ้ กลท่ีสุด 4. ถำ้ ดึงไมท้ ่ีปิดรูในระดบั เดยี วกัน นำ้ ทพี่ งุ่ ออกไปจะเป็นอย่ำงไร ควำมดนั ของน้ำระดับเดยี วกันจะแตกต่ำงกนั หรือไม่ อย่ำงไร เฉลย ไมแ่ ตกต่ำงกนั เพรำะน้ำจะพุ่งออกไปไดไ้ กลเท่ำกนั เนื่องจำกมีควำมดนั เทำ่ กัน 5. เม่ือดงึ ไมใ้ นตำแหนง่ ทมี่ ีควำมลึกต่ำงกนั น้ำทพี่ ุ่งออกจะเปน็ อย่ำงไร ควำมดันของนำ้ ระดับตำ่ งกัน จะแตกตำ่ งกันหรอื ไม่ อยำ่ งไร เฉลย แตกต่ำงกนั เพรำะนำ้ ทพี่ ุ่งออกตำแหน่งท่ีลึกจำกผวิ นำ้ มำกท่ีสุด (หมำยเลข 4) จะพุ่งไปไดไ้ กลทส่ี ุดเพรำะ มีควำมดนั มำกทีส่ ุด
502 484 6. เมือ่ เปล่ียนของเหลวเป็น น้ำนมและน้ำมัน กำรพุ่งของของเหลวทต่ี ำแหนง่ เดมิ จะเปน็ อย่ำงไร เมื่อเทยี บกบั นำ้ เฉลย กำรพุง่ ของน้ำนมจะไปได้ไกลกวำ่ น้ำ ส่วนนำ้ มนั จะพงุ่ ได้ใกล้กวำ่ น้ำ เน่ืองจำกน้ำนมมคี วำมหนำแน่น มำกกว่ำน้ำ สว่ นนำ้ มนั มคี วำมหนำแนน่ นอ้ ยกวำ่ เมื่อของของมคี วำมหนำแนน่ มำกจะมีควำมดนั ของของเหลวมำก
503 503 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การเคลื่อนที่และแรง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 10 เรื่อง แรงพยุง เวลา 2 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 กากรลเุม่คสลาื่อรนะทกาี่แรลเระยีแนรงรู้ วทิ ยาศาสตร์ เรื่อง แรงพยุง รายวชิ า วิทยาศาสตร์ 3 เวลา 2 ชัว่ โมงช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทขยอาบศเขาตสเตนรอ้ื ์ หา กิจกรรรามยกวาชิ ราเรวยี ิทนยรู้าศาสตร์ 3 แหชล้นั ง่ มเรัธียยนมรศู้ กึ ษาปีที่ 2 ขอบเขตเนอื้ หา เมื่อวตั ถุอยใู่ นขอกงจิเหกลรวรจมะกมาีแรรเงรพียยนงุ รู้ ขั้นนา แหลง่ เรยี นรู้ 1. ใบความรู้ที่ 10.1 เร่อื ง แรงพยงุ เม่อื วัตถอุ ยู่ในขอเนงเอ่ื หงลจวาจกะขมอแี งรเหงพลวยกงุ ระทขาตน้ั อ่นวาัตถุ โดยมีทศิ ครยู กตวั อยา่ งเร่อื งการเกดิ รรู ่วั ของกระปอ๋ งน้าที่ความสูงไมเ่ ทา่ 1ก.ันใบทคาวไมามนร้าู้ทพ่ีงุ 10.12เ.รใือ่บงควแารมงรพู้ทยี่ งุ10.2 เรอื่ ง หลักของอาร์คิ เนื่องจาก ของเหลวกระทขาน้ึ ตใ่อนวแัตนถวุดโงิ่ ดกยามรีทจมศิ หรือกคารรยูลกอตยัวขอยงว่าตังเถรุ อื่ งการอเกอดิ กรไูรปวั่ ไขกอลไงมกเ่รทะา่ ปกอ๋ันงนเป้า็นทเค่ีพวรามเหสตงู ุใไดมเ่ ทใหา่ กน้ ันกเทรยี านไมวนเิ ค้ารพา่งุะหแ์ ล2ะ.อใภบิปครวาายมรู้ที่ 10.2มเดี รสิ่ือง หลกั ของอาร์คิ ข้นึ ในแนวดิง่ การจมหรือกขานึ้ รกลับอนย้าขหอนงักวขัตอถงุ วตั ถุแลอะอแกรงไพปไยกงุ ลถไ้าม่เท่ากนั เปร็นว่ มเพกรนั าวเ่าหขตอใุ ดงเหใลหว้นมักีแเรรงยี ดนนั วอเิ ยค่ารงาไะรห์แจลากะนอภัน้ คปิ รูถาายมกระตุ้นใหม้นดี กัิสเรยี นสนใจ สอื่ ขึน้ กบั น้าหนกั ของวัตถุแลนะ้าแหรนงกัพขยองุ งวถัต้าถุและแรงพรยว่ งุมขกอนั งวข่าองขเอหงลเวหมลี วมีแอรยงาดกันรอตู้ ย่อ่าวง่าไถร้า จใสา่วกัตนถ้นั ุลคงรในูถขามองกเรหะลตวุน้ จใะหเ้นปัก็นเรอียยน่าสงไนรใจเพ่ือนาสอ่ืขู ้ันสอนด้วย 1. การจมและการลอยของวตั ถุ น้าหนักของวัตถุและแรงพคา่ยเงุทข่าอกงนั ขวอัตงถเหจุ ะลลวอมยี นง่ิ ออยยูใ่ นากขรอู้ตงเอ่ หวล่าวถา้ ใส่วัตถกุลิจงกในรรขมอตงเอ่ หไปลว จะเป็น อย่างไร เพือ่ นาสู่ขนั้ สอนดว้ ย 1. การจมและการลhอtยtpขsอ:ง/ว/wตั ถwุ w.youtube.com/watch?v= ค่าเท่ากันวัตถจุ ะลอยน่ิงอยู่ในของแเตห่ถล้าวนา้ หนักขอกงวจิ ตักถรมุรคีมา่ตม่อาไกปกวา่ ข้นั สอน https://www.you5tu0wbeF.9cBoNmR/l4wUatch?v= แตถ่ า้ น้าหนักขอแงรวงัตพถยุมุงคีขา่อมงขากองกเวห่าลววตั ถขจุ ั้นะสจอมน 1. ใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมการทดลอง การลอยของวตั ถุ ซึง่ กาห5น0ดwวFัส9ดBุตN่าRงlๆ4U ภาระงาน/ชิ้นงาน แรงพยงุ ของของเหลววัตถุจะจม 1. ให้นักเรียนทากิจกรรแมลกะดาราทเนดินลกอางรตกามรขลนั้อตยอขนอใงนวกตั ิจถกุ ซร่งึรกมาทหี่ 1น0ด.1วสั เรด่ือตุ ง่างอันๆไหนจมภอานัระไหงานนล/อชยน้ิ งาน 1. ใบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี 10.1 เรือ่ ง อนั ไหน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ และดาเนินการตามขัน้ 2ต.อนักในเรกยี ิจนกรร่วรมมกทนั ่ีว1ิเค0ร.1าะเรหื่อ์วง่าวอัตนั ถไุทห่ีกนาจหมนอดันใหไห้ มนีวลตั อถยใุ ดบ้างท1่ีค.าดใบว่าบจันะทจกึมกหจิรกือรรมจทม่ีอ1ัน0ไ.ห1นเลรอื่ ยง อนั ไหน จุดประสสงงคค์กก์ าารรเเรรยี ียนนรรู้ ู้ ดา้ นความรู้ 2. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ ครวาตั ะถหใุ ดว์ า่ทว่ีคัตาถดทุว่ากี จาะหลนอดยให้ มีวัตถุใดบ้างที่คาดว่าจะจมหรือ จมอันไหนลอย 2. ใบบันทกึ กิจกรรมท่ี 10.2 เรอื่ ง แรงพยงุ ด้านควาามมรรู้ ู้ 1. วเิ คราะห์แรงพยวงุ แัตลถะุใดกทารี่คจามดกวาา่ รจะลอยแลว้ ให้ตวั แทนนักเรยี น 4-5 คน มาร่วมกจิ กรรมสาธิต ดงั นี้ 2. ใบบันทึกกิจกรรม3ท. ใี่ บ10งา.2นทเร่ี ื่อ10ง.1แรเงรพ่ืองยงุแรงพยงุ 1. ววเิ คิเครราาะะหห์แแ์ รรงงพพยยุงุงแแลละะกกาาลรจอยมขกอางรวตั ถุ ในแขลอ้วงเใหลต้ วัวจแาทกนนกั เรยี น24.1-5ตัวคแนทมนานรกั ่วเมรียกนิจเกลรอื รกมวสตั าถธคุิตนดลังะน1ี้ -2 ช้นิ จากนนั้ วางลงบน3ก. ะใบละงามนังที่ใส1่น0้า.1 เร่ือง แรงพยงุ ลอยของลวอัตยถขุ ใอนงขวอัตงถเุ หในลขวอจงาเกหหลหลวจลักกัาฐกฐาานนเชงิ ประ2จ.กั1ษต์ ัวแทนนกั เรยี นเลือ(ดกังวกตั ิจถกคุรรนมลทะี่ 10-2.1)ชน้ิ จากน้นั วางลงบนกะละมังท่ใี ส่นา้ เชงิ ประจหกั ลษกั ์ ฐานเชงิ ประจักษ2.์ เขียนแผนภาพแสด(ดงงัแกรงจิ ทก่ีกรระมทา่ี ต1อ่0.1) 2.2 ครตู ้ังคาถามกับนกั เรียน ดงั นี้ 2. เขียนนแแผผนนภภาาพพแแสสวดดัตงถงแแใุรนรงขทงทอ่ีกงกี่รเะรหะทลทาวต�ำ ่อ 2.2 ครตู ้งั คาถามกับนกั -เรนยี กั นเรดยี นังนคี้ดิ วา่ วตั ถชุ นิดใดบ้างทจี่ มน้า วตัต่อถวใุัตนถขุใอนงขเหอลงเวหลว ดา้ นทกั ษะและกระบวนก-านรักเรยี นคิดว่าวัตถุชน(ิดเฉใลดยบ้าดงนิ ทนีจ่ ำ้มมนนั ้ากอ้ นเลก็ , คลปิ หนีบกระดำษ, กญุ แจขนำดเล็ก, ยำงลบ, ตะปู) ดา้ นทักษะและกระบวนการ (เฉลย ดนิ นำ้ มนั ก้อนเล็ก, คลปิ หนีบกระดำษ, กญุ แจขนำดเลก็ , ยำงลบ, ตะปู) 485
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 10 504 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 การเคล่ือนทแ่ี ละแรง เรอ่ื ง แรงพยุง เวลา 2 ชว่ั โมง ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ 3 1ด.า้ กนาทรักสษังเะกแตละกระบวนการ - นกั เรียนคิดว่าวัตถุชนิดใดบา้ งท่ีลอยนา้ 21. การตสั้งงสเกมตมติฐาน (เฉลย ลูกบอลสขี นำดเลก็ , แผน่ ไมข้ นำดเล็ก, โฟมก้อนเล็ก, หนังยำง, ไม้จมิ 32. การทตดง้ั สลอมงมติฐาน ฟนั ) 43. การตทคี ดวลาอมงหมายขอ้ มูลและการลง ขน้ั สอน ข4อ้. มกลูารตีความหมายข้อมลู และการลงขอ้ มลู 2. ครถู ามเพอ่ื กระตุน้ ความสนใจ วา่ เหตใุ ดจึงเปน็ เชน่ นั้น(เฉลย วตั ถทุ ีม่ ีควำม ดดา้้านนคคุณุณลลักกั ษษณณะะ หนำแน่นนอ้ ยกว่ำน้ำจะสำมำรถลอยน้ำได้) 11.. มมีววี ินินัยยั 3. แบง่ นกั เรียนเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 4-5 คน ศกึ ษาการทดลอง 22.. ใใฝฝ่เ่เรรยีียนนรรู้ ู้ ในใบกจิ กรรมที่ 10.2 เรอื่ ง แรงพยงุ 33.. มม่งุุง่ มม่ัน่ันใในนกกาารรททาำ�งงาานน 4. เมอ่ื นักเรยี นทดลองเสรจ็ สิ้นครูตง้ั คาถามกบั นกั เรยี นดงั น้ี - นา้ หนักก้อนดนิ นา้ มันท่ชี ง่ั ในอากาศ และชั่งในนา้ เทา่ กันหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (แนวคำ้ ตอบ นำ้ หนักก้อนดนิ นำ้ มนั ทชี่ ั่งในอำกำศและในนำ้ ไม่เท่ำกนั เพรำะมี แรงเน่ืองจำกของเหลวกระทำ้ ตอ่ วตั ถ)ุ - จากการเปรยี บเทยี บนา้ หนักของน้าท่ีล้นออกมากบั ผลต่างของนา้ หนักก้อน ดินน้ามัน เมอ่ื ช่งั ในอากาศกับช่งั ขณะอยใู่ นนา้ สามารถสรุปได้อยา่ งไร (แนวค้ำตอบ นำ้ หนักของน้ำทล่ี ้นออกมำมีค่ำใกล้เคียงกับนำ้ หนักของดนิ นำ้ มัน ที่หำยไปเมือ่ ชั่งในน้ำ) ขนั้ สรปุ 5. อภปิ รายกบั นกั เรียนเกยี่ วกับวัตถุเมือ่ อย่ใู นของเหลว 486
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 10 505 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 การเคลอ่ื นที่และแรง เรอ่ื ง แรงพยงุ เวลา 2 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ 3 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 จะมแี รงพยงุ เนอื่ งจาก ของเหลวกระทาต่อวตั ถุ โดยมีทิศขึน้ ในแนวด่งิ การจม หรอื การลอยของวตั ถขุ ้ึนกับน้าหนกั ของวัตถุและแรงพยุง ถา้ น้าหนักของวตั ถุ และแรงพยุงของของเหลวมีค่าเท่ากัน วตั ถุจะลอยนง่ิ อยใู่ นของเหลว แต่ถา้ นา้ หนักของวตั ถุมีค่ามากกว่าแรงพยงุ ของของเหลววตั ถจุ ะจม 6. ใหค้คววาามมรรู้กกู้ บั บั นนกั กั เเรรียียนนนนออกกจจาากกกกาารรทท่เี ร่ีเอืรือมมีคคีวาวมามหหนนาแานแน่ น่ ้อนย้อกยวกา่ วนา่ �ำ้นแา้ ลแ้วล้วน้ำ�นา้ เองกกม็ ม็ ีแแี รรงงดดนั นั ทท่ที ่ที �ำ าใใหหเ้ ร้เรือือลลออยยขข้ึนนึ้ มมาาดด้วว้ยยแรงนเี้ รียกว่า “แรงลอยตัวหรอื แรงพยงุ ” ซแง่ึรแงรนงเ้ี นรยี้จะกขว้ึน่าอ“ยแกู่ รบังลปอรยมิ ตาตัวหรขรอื งแนร�้ำงทพี่ถยูกงุ ”วัตซถึง่ ุนแ้ันรแงนทจ้ีนะทขี่ ยึ้นง่ิอวยัตกู่ ถับุมปีพรนื้ มิ ทาีส่ ตัมรผขสัอกงนับ้า นท�ำ้ีถ่ มกู าวกัตเถทุนา่ ไนั้ หแรทห่ นรทือเี่ ขย้าิง่ ไวปัตแถทมุ นีพท้ืนนี่ ท�ำ้ ี่สไดมั ้มผาสั กกบั คนวา้ มหากนเาทแ่านไน่หขร่หองรเอืรเอื ขก้า็จไปะลแดทลนงทแ่ีนล้าะ แไดรง้มลาอกยคตวั าจมะหเพนิ่มาขแึ้นนน่เรขอื อจงึงเลรอื ยกตจ็ ัวะใลนดนล�ำ้ งไแดล้ ะดแงั รนง้นั ลอหยาตกัวแผ่วตั ถใุ หม้ ขี นาดใหญ่ แจละะเพมิ่มขี ขอน้ึบโเครง้ ือขจนึ้ ึงมลาอเยหตมัวือในนกนับา้ เไรดอื ้ วดัตังถนนุ้ั ้นั หกาจ็ กะแลผอว่ยัตถัวใุไหดด้มีขนาดใหญ่และมีขอบ 7โค. ้งอขภ้นึ ิปมราเยหปมรือะนโยกชับนเร์ขอื งวแตั รถงพุนน้ัยุงมาใช้ในชีวติ ประจ�ำ วนั เราจะพบว่าวตั ถบุ าง ชกนจ็ ดิะลอยอตยวั ใู่ไนดน้ดี�้ำ ได้ แรงลอยตัวน�ำ ไปใชป้ ระโยชน์ในการประดษิ ฐ์ส่ิงตา่ ง ๆ ห7ล. าอยภอิปยร่าางยเปชร่นะโเสยอื้ชชนูช์ขพีองเแรือรงแพพยยงุ มางาใช้ในชวี ติ ประจาวัน เราจะพบว่าวตั ถุบาง ชนิดลอยอยู่ในนา้ ได้ แรงลอยตัวนาไปใช้ประโยชน์ในการประดิษฐ์สงิ่ ต่าง ๆ หลายอยา่ ง เช่น เส้อื ชูชีพ เรือ แพยาง 487
506 488 8. การวัดและประเมนิ ผล สิง่ ทตี่ ้องการวัด/ประเมิน วิธีการ เคร่อื งมือที่ใช้ เกณฑ์ 1) ดา้ นความรคู้ วามเข้าใจ 1. ตรวจคาตอบและ 1. แบบสงั เกต/ 1.นักเรยี นทาถกู ต้อง (Content Understanding) คาอธบิ ายใน แบบวดั ผลสมั ฤทธิ์ ร้อยละ 70 ในประเด็นดังต่อไปนี้ ใบกจิ กรรม/แบบวัด ทางการเรียนด้าน 1. เพอ่ื สร้างสถานการณ์ใหน้ ักเรยี น ผลสมั ฤทธิท์ างการ ความรู้ความเข้าใจ วเิ คราะหก์ ารจมและการลอยของวัตถุ กเราียรนเรียน และการนาความรู้ 2. เพ่ือศึกษาแรงพยงุ ทก่ี ระทาต่อวตั ถุ ไปใชป้ ระโยชน์ 2) ด้านทกั ษะและกระบวนการ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1. แบบประเมนิ เกณฑป์ ระเมนิ (Skills/Processes/Competencies) 2. สมั ภาษณ์ Rubric scoring คุณลักษณะและ - ทักษะการลงมอื ปฏบิ ัติกจิ กรรมท่ไี ด้รับ 3. สอบถาม 2. แบบสมั ภาษณ์ ความสามารถของ มอบหมาย (Practical Skill) 3. แบบสอบถาม ผู้เรียนตามระดับ คณุ ภาพ ดงั นี้ ระดบั คณุ ภาพ 5 หมายถงึ ดีเย่ียม ระดบั คณุ ภาพ 4 หมายถึง ดีมาก ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ระดบั คุณภาพ 1 หมายถงึ ปรับปรงุ 3) ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. สงั เกตพฤตกิ รรม 1. แบบประเมนิ 1. นักเรียนทผี่ า่ นโดยมี (Desired Characteristics) Rating Scale ค่าเฉลย่ี (Mean) 1. ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ ตัง้ แต่ 3 ขน้ึ ไป 2. มวี ินยั 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. ม่งุ มน่ั ในการทางาน 5. มจี ติ สาธารณะ
507 507 489 บันทึกผลหลงั การสอน บันทึกผลผหลลกงัากรเารรยี สนอรนู้ ..........ผ...ล..ก..า..ร..เ..ร..ยี ..น...ร..ู้ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ปัญหาและอปุ สรรค ..........ป...ญั ...ห...า..แ..ล..ะ...อ..ุป...ส..ร..ร..ค.................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ..........ข...อ้ ..เ.ส...น..อ...แ..น...ะ..แ..ล..ะ...แ..น...ว..ท..า..ง..ก...า.ร..แ...ก..้ไ..ข........................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผู้สอน (...ล...ง.ช...อื่ ........................................ผ...ูส้ ..อ..น.....) (......ว..ัน...ท...่ี .....เ..ด..อื..น................พ....ศ.................) วันที่......เดือน.............พ.ศ........... ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย ค...ว..า..ม...ค..ิด...เ.ห...น็ .../.ข...้อ..เ..ส..น...อ..แ...น..ะ...ข..อ..ง..ผ...ู้บ...ร..หิ ..า...ร..ห..ร..อื...ผ..ูท้...ี่ไ..ด..ร้..ับ...ม..อ...บ...ห..ม...า..ย..................................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงช่อื ...................................... (...ล...ง.ช...่อื ....................................................) (......ว..ัน...ท..่ี......เ.ด...ือ..น................พ....ศ.................) วันท.ี่ .....เดอื น.............พ.ศ...........
508 490 ใบความรู้ท่ี 10.1 เรือ่ ง แรงพยงุ หนว่ ยท่ี 3 แผนท่ี 10 เรอ่ื ง แรงและความดันของของเหลว รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 รหสั วิชา ว2211013 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2562 การจมและการลอยของวัตถุในของเหลวขน้ึ อยกู่ บั ความหนาแน่นของวัตถุกับความหนาแน่นของ ของเหลวน้นั ความหนาแนน่ ความหนาแน่นของวัตถุ (Density) คอื อตั ราสว่ นระหว่างมวลของวัตถตุ อ่ ปรมิ าตรของวัตถุ หน่วยของ ความแน่นไดแ้ ก่ กรัมต่อลกู บาศก์เซนตเิ มตร (g/cm3) หรอื กิโลกรมั ต่อลูกบาศก์เมตร (kg/m3) ดังนัน้ ความหนาแน่นของวตั ถุ = มวลของวตั ุ ปริมาตรของวตั ถุ หรือ ρ = m V เมื่อ ρ = ความหนาแนน่ ของวัตถุมหี นว่ ยเป็น g/cm3 หรือ kg/m3 m = มวลของวัตถุมหี น่วยเปน็ g หรือ kg V = ปรมิ าตรของวตั ถมุ หี น่วยเป็น cm3 หรือ m3 **น้ามคี วามหนาแน่น 1 g/cm3 หรือ 1,000 kg/m3 การจมและการลอยของงววัตัตถถใุ ุในนขขอองงเเหหลลววขขึน้ ึ้นออยยกู่ ู่กบั ับคคววามามหหนนาแานแน่ ่นขอขงอวงัตวถัตุกถบัุกคับวคาวมาหมนหานแานแ่นนข่นอขงองของ เขหอลงวเหนล้ันวนน้ั วัตถทุ ่ีมีความหนาแน่นมากกว่าน�้ำาจะท�ำาใหจ้ มนา้ํ ได้ หาหกาตก้อตงอ้ กงากราใรหใม้หีคม้ วีคาวมาหมนหานแานแน่ น่ อ้นยอ้ ลยงลตงอ้ ตง้อมงีกมาีกราร เปลยี่ นแปลงรูปร่างหรอื รปู ทรงของวตั ถเุ พอื่ ใหม้ ปี ริมาตรมากข้ึนจนมีความหนาแน่นนอ้ ยกว่านํ้า ตัวอตยัวา่องยเชา่ ง่นเชน่ เหลก็ มคี วามหนาแนน่ 7.8 กกรรมั ัมตต่ออ่ ลลกู กู บบาาศศกก์เ์เซซนนตติเเิมมตตรร ซซ่งึ ึง่มมาากกกกวว่าา่ คคววาามมหหนนาาแแนน่นน่ ขขอองงนน้า�ำ้ เหเหลลก็ ก็ จจึงงึจจมมนนา้ �้ำ แแตต่เม่เม่อื ่อื น�ำาเหล็กมาท�ำาเป็นเรือเหลล็กจะลอยน้ำ�าได้ ทท่ีเีเ่ปป็นน็ เเช่นนเี้ นอื่ งจาก ภภาายยในในเรเรอื อื เหเหลล็กก็ สสว่ ว่นนใหใหญญ่เปเ่ ปน็ ็นทท่วี ่ีวา่างงเรเรอื ือเหเหลล็ก็กจจงึ งึมมี ี ปริมาตรมากขึ้นทำ�าให้ความหนาแนน่ ของเรือเหล็กนนอ้ ้อยยกกวว่า่าคความหนาาแน่นขขอองงนน้ําา้
509 491 ภาพที่ 10.1 เรอื ลอยน้า นอกจากการทีเ่ รือมคี วามหนาแนน่ น้อยกว่านํา้ แล้ว นน้าเ้าํ อเงอกงม็ก็มแี รแี งรดงดันนัทที่ ที่าใำ�หให้เร้เอืรอืลลออยยขข้ึนนึ้มมาดาดว้ ยว้ ย แรง นแรีเ้ รงียนกเ้ี รวีย่ากว“า่ แร“งแลรองยลตอัวยหตรวั ือหแรรืองแพรยงพงุ ”ยงุ ”ซ่งึ ซแงึ่ รแงรนงีจ้ นะจี้ ขะ้นึ ขอึ้นยอ่กู ยบั ่กู ปับรปมิ รามิ ตารตขรอขงอนงํ้านทา้ ถี่ ทกู ่ถี วกู ตั วถัตนุ ถั้นุนแัน้ ทแนททนี่ ทย่ี ยง่ิ ง่ิววตั ตั ถถมุ มุ ีพี ื้นท่ี สพัมื้นผทัสี่สกัมับผนสั ํ้ากมับานก้าเมทา่ กไหเทร่าหไรหือรเ่หข้ารไอื ปเขแ้าทไนปทแน่ีท้ํานไทดีน่้มา้ ไกด้มคาวกามคหวนาามแหนน่นาขแอนงน่ เรขอื อกง็จเระือลกด็จละงลแดลละงแแรลงะลแอรยงตลัวอจยะตเพวั มิ่ ข้นึ เจระอื เจพึง่ิมลขอ้ึนยตเรวั ือในจึงนล้าํ อไดย้ตดัวังในน้ั ้าหไดาก้ แดผัง่วนัตน้ ถหุใหา้มกีขแนผว่าตัดถใหใุ หญ้ม่แีขลนะามดีขใอหบญโ่แคล้งขะนึ้มมีขาอเบหโมคือ้งนขน้ึกบัมาเรเหือมวือัตนถกุนบัน้ เกร็จอื ะวลัตอถยนุตั้นว ไกดจ็ ด้ ะีลอยตวั ได้ดี แรงพยงุ แรงพยงุ หรอื แรงลอยตวั (Buoyant force, FB) หมายถงึ แรงลัพธ์ของแรงทีข่ องเหลวกระทากับวัตถุ ส่วนที่จมอยใู่ นของเหลวมีขนาดเท่ากบั น้าหนักของของเหลวท่มี ีปรมิ าตรเท่ากบั วตั ถสุ ่วนที่จม ถ้าวัตถอุ ยนู่ ่ิงใน น้า แรงลัพธ์ท่ีกระทาตอ่ วตั ถจุ ะมคี ่าเท่ากบั ศูนย์ ตามกฎการเคลอื่ นทขี่ องนวิ ตนั จะได้วา่ แรงพยุง = น้าหนักของวัตถุที่ชงั่ ในอากาศ – นา้ หนกั วตั ถทุ ี่ชั่งในของเหลว ดงั น้ัน เม่ือเราช่ังน้าหนกั ของวตั ถุในของเหลวจะน้อยกวา่ เมื่อชัง่ ในอากาศ ดงั รปู ที่ 10.2 เนอ่ื งจากของแขง็ เมือ่ อยูใ่ นของเหลวจะเกดิ แรงดันจากของเหลวกระทากบั วตั ถสุ ่วนทจี่ ม ซง่ึ กค็ อื แรงพยุง นนั่ เอง
510 492 รปู ที่ 10.2 เปรยี บเทยี บนา้ หนกั ของวัตถเุ มื่อช่งั ในน้ากับชั่งในอากาศ ดังนั้น เม่อื เราชง่ั นา้ หนกั ของวัตถใุ นของเหลวจะนอ้ ยกว่าเม่ือช่งั ในอากาศ ดงั รูปท่ี 10.2 เน่อื งจาก ของแขง็ เม่ืออยใู่ นของเหลวจะเกิดแรงดันจากของเหลวกระทากับวตั ถุสว่ นทีจ่ ม ซึ่งกค็ ือ แรงพยงุ นน่ั เอง
493 ว22101
512 494 1. วตั ถุที่จมอยู่ในของเหลว A แสดงวา่ วัตถมุ ีความหนาแน่นมากกวา่ ของเหลว แสดงวา่ ปริมาตรของของเหลวที่ถูกแทนท่ีเทา่ กบั ปรมิ าตรของวัตถทุ ้งั ก้อนที่จมในของเหลว แรงพยงุ เท่ากบั นา้ หนักของวัตถุท่ีจมไปในของเหลวและเท่ากบั น้าหนักของของเหลวที่ถูกแทนที่ 2. วัตถุลอยปรมิ่ ผวิ ของของเหลว B แสดงวา่ วัตถุมีความหนาแน่นเท่ากบั ของเหลว แสดงว่า ปรมิ าตรของของเหลวทีถ่ ูกแทนที่เท่ากบั ปรมิ าตรของวตั ถุทงั้ กอ้ นในของเหลว แรงพยงุ เทา่ กบั นา้ หนกั ของวตั ถุทช่ี ัง่ ในอากาศและเท่ากับน้าหนักของเหลวทถี่ กู แทนท่ี 3. วตั ถุทล่ี อยอยู่ในของเหลว C แสดงว่าวัตถมุ คี วามหนาแนน่ น้อยกว่าของเหลว แสดงวา่ ปริมาตรของของเหลวทถี่ กู แทนทีเ่ ท่ากับปรมิ าตรชองวตั ถสุ ว่ นท่ีจมในของเหลว แรงพยุงเท่ากบั น้าหนักของวตั ถทุ ่ชี งั่ ในอากาศและเท่ากบั น้าหนักของของเหลวท่ีถูกแทนท่ี ขนาดของแรงพยุง = ขนาดนา้ หนักของของเหลวท่ถี กู วัตถแุ ทนที่ สมการทใ่ี ช้ในการคานวณหาแรงพยุงเป็นดังนี้ ⃑F⃑B = ρVg เมื่อ ρ คือ ความหนาแน่นของของเหลว มีหน่วยเปน็ กิโลกรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร (kg/m3) V คอื ปริมาตรของของเหลวท่ถี กู แทนท่ี มีหนว่ ยเปน็ ลกู บาศก์เมตร (m3) g คอื ความเรง่ เน่ืองจากแรงโน้มถ่วงของโลก มีหนว่ ยเปน็ เมตร/วนิ าที2 (m/s2) F⃑⃑B คอื ขนาดของแรงพยงุ มหี นว่ ยเปน็ นิวตัน (N)
513 495 ใบกจิ กรรมที่ 10.1 เรอ่ื ง อนั ไหนจมอนั ไหนลอย หนว่ ยที่ 3 แผนท่ี 10 เรอื่ ง แรงและความดันของของเหลว รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 รหัสวชิ า ว2211013 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ วิเคราะหว์ ตั ถุทีก่ าหนดให้แลว้ ทาการทดลองตามวิธีการทดลอง บันทึกผล การทดลอง ร่วมกันอภิปรายในกลมุ่ และนาเสนอหน้าชั้นเรยี น จดุ ประสงค์ เพือ่ สร้างสถานการณ์ใหน้ กั เรยี นวิเคราะหก์ ารจมและการลอยของวัตถุ วสั ดอุปุปกกรณรณ์ ์ 1. กะละมัง ขนาดเล็ก 1 ใบ 2. ดนิ น้ามนั ก้อนเลก็ 1 ก้อน 3. ลกู บอลสขี นาดเล็ก 1 ลูก 4. คลปิ หนบี กระดาษ 1 ตัว 5. หนังยาง 1 เส้น 6. .แแผผน่ ่นไมไม้ข้ขนนาาดดเลเล็ก็ก 1 ชนิ้ 7. ตะปู 1 ตัว 8. โฟมกอ้ นเลก็ 1 ก้อน 9. กุญแจขนาดเล็ก 1 อนั 10. ยางลบ 1 กอ้ น 11. ไม้จมิ้ ฟนั 1 อัน วิธีดาเนินกจิ กรรม 1. ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั นาน้าใส่กะละมังครึ่งกะละมงั วางไวบ้ นโต๊ะปฏิบัติการหน้าชน้ั เรยี น 2. ชว่ ยกันวิเคราะห์ลกั ษณะของวัสดุท้งั หมดท่ีนามาทดลองก่อนท่ีจะทากิจกรรม 3. แตล่ ะกลุ่มเลอื กวัสดกุ ลมุ่ ละ 2 ช้นิ จากนั้นดาเนนิ การทดลองโดยวางวัตถุทลี ะชน้ิ ลงไปในกะละมงั สงั เกตการณจ์ มและการลอยของวตั ถุ แลว้ บนั ทึกผลการทดลอง 4. รว่ มกันอภปิ รายและสรปุ ผลภายในกลมุ่ แล้วให้ตวั แทนกลุ่มมานาเสนอ
514 496 ใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 10.1 เรอื่ ง อนั ไหนจมอันไหนลอย หนว่ ยท่ี 3 แผนท่ี 10 เร่อื ง รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 3 รหัสวชิ า ว22211013 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 วันท่ีทาการทดลอง....................เดอื น.................................พ.ศ………………… กลมุ่ ท่.ี ...........ชน้ั มัธยมศึกษาปีท.ี่ ......... สมาชกิ ในกลมุ่ 1. ................................................................ 4. ................................................................ 2. ................................................................ 5. ................................................................ 3. ............................................................... คาถามกอ่ นดาเนินกจิ กรรม 1. นักเรียนคิดวา่ วัตถุชนิดใดบา้ งท่ีจมน้า ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 2. นกั เรียนคิดวา่ วตั ถุชนดิ ใดบ้างท่ลี อยน้า ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ตารางบันทกึ ผลกจิ กรรม ใหน้ กั เรยี นทาเครื่องหมาย ลงในตารางบนั ทึกผล วตั ถุ จม ลอย 1. ดินนา้ มันกอ้ นเลก็ 2. ลูกบอลสขี นาดเล็ก 3. คลปิ หนีบกระดาษ 4. หนงั ยาง 5. แผ่นไม้ขนาดเล็ก 6. ตะปู 7. โฟมก้อนเลก็ 8. กญุ แจขนาดเล็ก 9. ยางลบ 10. ไมจ้ มิ้ ฟัน
515 497 สรุปผลการดาเนินกิจกรรม ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................
516 498 ใบกิจกรรมที่ 10.2 เร่อื ง แรงพยุง หน่วยที่ 3 แผนที่ 10 เร่อื ง แรงและความดนั ของของเหลว รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 รหสั วิชา ว2211013 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาวิธกี ารทดลอง เรื่อง แรงพยุง ใหเ้ ข้าใจ แลว้ ทาการทดลองตาม วธิ ีการทดลอง บนั ทึกผลการทดลอง ร่วมกันอภปิ รายในกล่มุ และตอบคาถามหลงั กิจกรรม จดุ ประสงค์ 1. เพื่อศกึ ษาแรงพยงุ ท่กี ระทาต่อวตั ถุ วัสดปุอุปกรกณรณ์ ์ 1. ดินน้ามนั จานวน 1 ก้อน 2. เชอื ก ยาว 20 cm จานวน 1 เสน้ 3. เครอ่ื งชั่งสปรงิ จานวน 1 เครือ่ ง 4. บกี เกอร์ 250 ml จานวน 1 ใบ 5. ถ้วยยเู รก้า จานวน 1 ใบ วธิ กี ารทดลอง 1. นาปลายเชอื กขา้ งหน่ึงผูกกอ้ นดินน้ามนั ปลายเชือกทีเ่ หลือผูกคลอ้ งกับตะขอเครื่องชั่งสปรงิ ชัง่ นา้ หนกั ของดินน้ามนั ขณะอย่ใู นอากาศ ดงั ภาพ ก. สงั เกตและบันทึกผล 2. ใช้เครือ่ งช่งั สปริงชั่งนา้ หนกั ดนิ น้ามนั ขณะจมอยู่ในน้าครง่ึ กอ้ น ดังภาพ ข. สังเกตและบันทกึ ผล 3. ใชเ้ คร่อื งช่งั สปริงชัง่ นา้ หนักดนิ น้ามนั ขณะจมอยู่ในน้าทั้งกอ้ น ดังภาพ ค. สงั เกตและบนั ทึกผล รปู ท่ี 10.4 การทดลองเร่ืองแรงพยงุ
517 499 ใบบนั ทกึ กจิ กรรมท่ี 10.2 เร่ือง แรงพยงุ หน่วยที่ 3 แผนท่ี 10 เรอื่ ง รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 3 รหสั วชิ า ว2211013 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 วันทท่ี าการทดลอง....................เดอื น.................................พ.ศ………………… กลุ่มท.ี่ ...........ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่.......... สมาชิกในกล่มุ 1. ................................................................ 4. ................................................................ 2. ................................................................ 5. ................................................................ 3. ............................................................... จุดประสงค์การทดลอง ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ตารางบันทึกผลการทดลอง นา้ หนกั ดินนา้ มนั เม่อื ชัง่ ในอากาศ = .................................. นิวตนั นา้ หนกั ดนิ นา้ มนั ขณะจมคร่งึ ก้อน = .................................. นิวตนั น้าหนักดินน้ามัน ขณะจมทัง้ กอ้ น = .................................. นิวตนั สรปุ และอภปิ รายผลการทดลอง ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... คาถามหลงั การทดลอง 1. นา้ หนกั ก้อนดินนา้ มนั ท่ีช่งั ในอากาศ และชั่งในนา้ เทา่ กันหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 2. จากการเปรยี บเทียบน้าหนกั ของนา้ ท่ลี น้ ออกมากับผลตา่ งของน้าหนกั กอ้ นดินนา้ มนั เมอ่ื ชง่ั ในอากาศกับชง่ั ขณะอยใู่ นน้าสามารถสรปุ ไดอ้ ย่างไร ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................
500 ว22101
519 501 เฉลยใบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี 10.1 เร่อื ง อันไหนจมอนั ไหนลอย หนว่ ยท่ี 3 แผนท่ี 10 เรอื่ ง รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 3 รหัสวชิ า ว2211013 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 วันท่ที าการทดลอง....................เดอื น.................................พ.ศ………………… กลุ่มที่............ช้ันมธั ยมศึกษาปีท.ี่ ......... สมาชกิ ในกลุ่ม 1. ................................................................ 4. ................................................................ 2. ................................................................ 5. ................................................................ 3. ............................................................... คาถามก่อนดาเนนิ กิจกรรม 1. นกั เรยี นคิดว่าวัตถชุ นดิ ใดบ้างทีจ่ มนา้ เฉลย ดนิ นา้ มันกอ้ นเล็ก, คลปิ หนีบกระดาษ, กญุ แจขนาดเลก็ , ยางลบ, ตะปู 2. นักเรยี นคดิ ว่าวตั ถชุ นดิ ใดบา้ งทีล่ อยน้า เฉลย ลูกบอลสขี นาดเลก็ , แผ่นไม้ขนาดเลก็ , โฟมกอ้ นเล็ก, หนังยาง, ไม้จิม้ ฟัน ตารางบนั ทึกผล ใหน้ กั เรยี นทาเคร่อื งหมาย ลงในตารางบนั ทึกผล ชนดิ ของวตั ถุ วตั ถจุ ม วตั ถลุ อย 1. ดนิ นา้ มนั กอ้ นเลก็ 2. ลูกบอลสีขนาดเลก็ 3. คลิปหนบี กระดาษ 4. หนงั ยาง 5. แผน่ ไมข้ นาดเล็ก 6. ตะปู 7. โฟมก้อนเลก็ 8. กุญแจขนาดเลก็ 9. ยางลบ 10. ไมจ้ ม้ิ ฟนั สรุปผลการดาเนนิ กจิ กรรม จากผลการทดลอง พบวา่ วัตถทุ ่ีลอยน้าได้แก่ ดินน้ามันกอ้ นเลก็ , คลิปหนีบกระดาษ, กญุ แจขนาดเล็ก , ยางลบ, ตะปู และวตั ถทุ ี่จมนา้ ได้แก่ ลกู บอลสีขนาดเล็ก, แผน่ ไม้ขนาดเล็ก, โฟมก้อนเล็ก, หนังยาง, ไม้จม้ิ ฟัน
520 502 เฉลยใบบนั ทกึ กิจกรรมที่ 10.2 เร่อื ง แรงพยงุ หน่วยที่ 3 แผนท่ี 10 เร่ือง รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 รหสั วชิ า ว2211013 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2562 วนั ทท่ี าการทดลอง....................เดือน.................................พ.ศ………………… กลุ่มที.่ ...........ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท.่ี ......... สมาชกิ ในกลุ่ม 1. ................................................................ 4. ................................................................ 2. ................................................................ 5. ................................................................ 3. ............................................................... จดุ ประสงค์การทดลอง นกั เรียนสามารถทาการทดลองเรอื่ งแรงพยุงได้ ตารางบันทึกผลการทดลอง น้าหนกั ดนิ นา้ มนั เมอ่ื ชั่งในอากาศ = 4.8 นวิ ตัน นา้ หนกั ดนิ นา้ มัน ขณะจมครึ่งก้อน = 4.5 นวิ ตัน นา้ หนักดินนา้ มัน ขณะจมท้ังกอ้ น = 4.2 นิวตัน สรปุ และอภิปรายผลการทดลอง จากการทดลองพบวา่ น้าหนักของดนิ น้ามันเมอ่ื ชัง่ ในอากาศจะมีคา่ มากที่สุด รองลงมาคือน้าหนัก ดนิ น้ามันเมอ่ื ชงั่ ขณะจมครงึ่ กอ้ น และน้าหนกั ของดินนา้ มนั เมอ่ื ช่งั ขณะจมนา้ ท้งั ก้อนจะมคี า่ น้อยทีส่ ดุ เน่อื งจาก ในน้ามแี รงทีม่ ากระทาต่อวัตถุ และเมือ่ นานา้ ที่ลน้ ออกมาจากถ้วยยูเรกาไปชงั่ นา้ หนกั เปรียบเทยี บกับนา้ หนัก ของดนิ น้ามนั ทหี่ ายไปทัง้ แบบจมครง่ึ ก้อนและจมทง้ั ก้อน พบว่า นา้ หนกั ของน้าที่ลน้ และน้าหนักของดินนา้ มัน ส่วนท่หี ายไปเมือ่ ช่ังในนา้ มคี า่ ใกล้เคียงกนั ดังนน้ั สามารถสรปุ ไดว้ า่ ขนาดของแรงทม่ี ากระทาต่อวัตถใุ นของเหลวมคี ่าเท่ากับขนาดน้าหนกั ของ ของเหลวท่ีถกู วตั ถแุ ทนที่ คาถามหลังการทดลอง 1. น้าหนักกอ้ นดนิ นา้ มนั ท่ีช่ังในอากาศ และช่งั ในน้าเท่ากนั หรือไม่ เพราะเหตุใด แนวคาตอบ น้าหนักกอ้ นดนิ นา้ มนั ท่ชี ง่ั ในอากาศและในน้าไมเ่ ท่ากัน เพราะมแี รงเนอื่ งจากของเหลวกระทา ต่อวตั ถุ 2. จากการเปรียบเทียบนา้ หนักของน้าทีล่ น้ ออกมากบั ผลตา่ งของน้าหนกั กอ้ นดนิ น้ามนั เมื่อช่งั ในอากาศกบั ช่ัง ขณะอยูใ่ นนา้ สามารถสรุปไดอ้ ย่างไร แนวคาตอบ น้าหนกั ของน้าทลี่ น้ ออกมามคี ่าใกล้เคียงกบั นา้ หนักของดินน้ามันที่หายไปเมอ่ื ชัง่ ในน้า
503 ว22101
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 การเคลอื่ นทแ่ี ละแรง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 11 เวลา 2 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ เรือ่ ง แรงกระทำ�ตอ่ วัตถุในของเหลว ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 504
หนว่ ยกาารรเเรรียียนนรร้ทู ู้ท่ี ่ี33กกาารรเคเคลลอื่ ื่อนนทที่แี่แลละแะรแงรง แผนการจัดกกาารรเเรรียียนนรร้ทู ้ทู ี่ ่ี1111 523 กกลลมุ่ ุ่มสสาารระะกกาารรเรเรยี ียนนรรู้ ู้ววิททิ ยยาาศาสตร์ เรอื่ งเรแอ่ื รงงแกรรงะกทรำ�ะตท่อาวตัต่อถวัตุในถขใุ นอขงอเหงลเหวลว รกาลยมุ่วชิสารราวะยิทกวยาชิ าราศเวราียิทสนยตราู้ศ์ ว3าิทสยตารศ์ าสตร์ เวลา 1เวชลว่ัาโ2มงชั่วโมง 2. ใฝ่เรยี นรู้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปปทีท่ี ี่ 22 3. ม่งุ มัน่ ในการทางาน - แรงที่กระทาตอ่ กระทงมีแรงใดบา้ ง - แรงที่กระทาต่อกระทงท่ที าให้ลอยน้าไดม้ แี รงชนดิ ใดมากกว่ากนั - หากกระทงมแี รงพยุงน้อยกว่าปกตจิ ะเกิดผลอย่างไร 2. นกักเเรรยี ียนนแแลละะคครรูรูรว่ ว่ มมกกนั นั สสรรปุ ุปไดไดว้ ว้า่ ่าเมเม่อื ื่อววัตตถั ถอุ ุอย่ใูยนใู่ ขนอขงอเหงเลหวลจวะจมะีแมรีแงรง พยงุ เนน่ือองงจจาากกขขอองงเเหหลลววกกรระะทท�ำ ตาตอ่ อ่วัตวตถั ุถโุดโยดมยทีมิศีทขศิ ึน้ ขใ้ึนใแนนแวนดิ่งวกดาิ่งรกจามรจม หหรรือือกกาารรลลออยยขขอองงววัตตัถถขุ ุขึ้น้ึนกบักนบั �้ำนห้านหกั นขกั อขงอวัตงวถตัุแถลุแะแลระงแพรยงงุพถยงุ้านถ�้ำ า้ หนน้ากัหนกั ขขอองงววัตตั ถถแุ ุแลละะแแรรงพงพยยุงขงุ ของอขงอขงอเงหเลหวลมวีคม่าีคเทา่ เา่ ทกา่ ันกนัวตั วถตัุจถะุจละอลยอนยิง่ นอยิ่งใู่อนยใู่ น ขขอองงเเหหลลววแแตตถ่ ถ่ า้ า้นนำ้�้าหหนนักกัขขอองวงตัวถตั มุถีคุมา่ ีคมา่ ามกากกวก่าวแา่รแงรพงยพงุ ยขงุอขงอของขงเอหงลเหวลว วตัตั ถถจุ ุจะะจจมม 3. ให้นักเรียนทาใบกิจกรรมที่ 1 เรือ่ ง แรงกระทาต่อวัตถุในของเหลว ดังนี้ (1) เขียนแผนภาพแสดงแรงท่กี ระทาต่อวัตถุ ดงั ในใบกจิ กรรมที่ 1 (2) ระบุขนาดของแรงที่กระทาตามเงอ่ื นไขทีก่ าหนดในดังในใบ กิจกรรมที่ 1 (3) นกั เรียนตอบคาถามท้ายกจิ กรรม และอภิปรายสรปุ รว่ มกัน 505
หน่ววยยกกาารรเเรรียียนนรรทู้ ้ทู ่ี 3่ี 3กกาารรเคเคลลื่อ่ือนนททีแ่ ลี่แะลแะรแงรง แผนการรจจดั ดั กกาารรเเรรยี ียนนรร้ทู ทู้ ่ี 1่ี 111 524 กกลลุ่มุ่มสสาารระะกกาารรเเรรยี ียนนรรู้ ู้ ววิทยาศาสตร์ เร่ือเงร่ือแงรงแกรรงะกทรำ�ะตท่อาตว่อตั วถัตุในถุใขนอขงอเหงเลหวลว รกาลยวุ่มชิสารราวะยิทกวยาชิ าราศเวรายีทิสนยตราู้ศ์ ว3าทิ สยตารศ์ าสตร์ เวลา 1เวชลัว่าโม2งช่วั โมง ชั้นมธั ยมศกึกษษาาปปีทที ี่ ่ี22 ข้นั สรปุ 1. นกั เรียนและครรู ่วมกันอภปิ รายสรปุ ให้ไดว้ า่ วัตถทุ จี่ มอยู่ใน ของเหลว แสดงว่าวัตถมุ คี วามหนาแน่นมากกว่าของเหลว วัตถลุ อย ปร่มิ ผิวของของเหลวแสดงวา่ วตั ถุมีความหนาแน่นเทา่ กับของเหลว และวตั ถุทล่ี อยอยู่ในของเหลว แสดงว่าวัตถมุ คี วามหนาแน่นน้อยกวา่ ของเหลว 506
525 507 8. การวดั และประเมินผล สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั /ประเมิน วิธีการ เครื่องมือท่ใี ช้ เกณฑ์ 1) ดา้ นความรู้ความเข้าใจ 1. ตรวจคาตอบและ 1. แบบสงั เกต/ 1.นกั เรียนทาถูกตอ้ งรอ้ ยละ 70 (Content Understanding) คาอธบิ ายใน แบบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ ในประเดน็ ดงั ตอ่ ไปนี้ ใบกิจกรรม/แบบวดั ทางการเรยี นดา้ น 1. เขยี นแผนภาพแสดงแรงท่ี ผลสมั ฤทธทิ์ างการ ความรคู้ วามเข้าใจ กระทาต่อวัตถใุ นของเหลว เกราียรนเรยี น และการนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ 2) ด้านทกั ษะและกระบวนการ 1. สงั เกตพฤตกิ รรม 1. แบบประเมนิ เกณฑป์ ระเมินคณุ ลักษณะและ (Skills/Processes/Compet 2. สัมภาษณ์ Rubric scoring ความสามารถของผู้เรยี นตาม encies) 3. สอบถาม 2. แบบสัมภาษณ์ ระดบั คณุ ภาพ ดังนี้ - ทักษะการลงมือปฏบิ ัติ 3. แบบสอบถาม ระดบั คณุ ภาพ 5 หมายถึง ดเี ยยี่ ม กิจกรรมท่ีได้รับมอบหมาย ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก (Practical Skill) ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้ ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรับปรุง 3) ดา้ นคุณลักษณะอนั พึง 1. สังเกตพฤตกิ รรม 1. แบบประเมนิ 1. นกั เรยี นท่ผี า่ นโดยมคี ่าเฉลย่ี ประสงค์ Rating Scale (Mean) ตงั้ แต่ 3 ขึน้ ไป (Desired Characteristics) 1. ความซอ่ื สัตย์สจุ ริต 2. มวี ินัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุง่ ม่นั ในการทางาน 5. มีจิตสาธารณะ
526 508 526 บันทกึ ผลหลังการสอน บันทกึ ผลผหลลกังากรเารรียสนอรนู้ ..........ผ...ล..ก..า..ร..เ..ร..ยี ..น..ร..ู้............................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................... ปัญหาและอุปสรรค ..........ป...ญั ...ห...า..แ..ล..ะ...อ..ปุ ...ส..ร..ร..ค.................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ..........ข...อ้ ..เ.ส...น..อ...แ..น...ะ..แ..ล..ะ...แ..น...ว..ท..า..ง..ก..า..ร..แ...ก..ไ้..ข........................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ......................................ผ้สู อน (...ล...ง.ช...่อื ........................................ผ..ู้ส...อ..น.....) (......ว..ัน...ท...ี่ .....เ..ด..ือ..น................พ....ศ.................) วันท.ี่ .....เดือน.............พ.ศ........... ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผ้บู รหิ ารหรือผทู้ ีไ่ ด้รับมอบหมาย ค...ว..า..ม...ค..ดิ...เ.ห...น็ .../.ข...อ้ ..เ..ส..น...อ..แ...น..ะ...ข..อ..ง..ผ...้บู...ร..หิ ..า...ร..ห..ร..ือ...ผ..ู้ท...ไ่ี..ด..ร้..บั...ม..อ...บ...ห..ม...า..ย..................................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ......................................ผ้สู อน (...ล...ง.ช...ือ่ ....................................................) (......ว..นั...ท...่ี .....เ.ด...อื ..น................พ....ศ.................) วนั ท.่ี .....เดือน.............พ.ศ...........
527 509 ใบความรู้ที่ 1 เร่อื ง แรงกระทาตอ่ วัตถใุ นของเหลว หน่วยที่ 3 แผนท่ี 11 เรอ่ื ง รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 รหัสวิชา ว2121031 แรงลอยตวั หรือแรงพยุงของของเหลว แรงลอยตวั หรอื แรงพยงุ ของของเหลว คอื แรงท่ขี องเหลวพยุงวตั ถไุ ว้ เม่ือวัตถุนัน้ อยใู่ นของเหลว ลกั ษณะของวัตถุเมอื่ อย่ใู นของเหลว วัตถุลอย • วตั ถมุ ีความหนาแนน่ นอ้ ยกวา่ ของเหลว • แรงลอยตัวเทา่ กบั น้าหนกั ของวตั ถุทช่ี ัง่ ในอากาศและเทา่ กับน้า หนกั ของ ของเหลวทถ่ี ูกแทนท่ี วัตถุปริ่ม • วตั ถมุ คี วามหนาแนน่ เท่ากับของเหลว • แรงลอยตวั เท่ากับน้าหนักของวตั ถทุ ่ีชงั่ ในอากาศและเท่ากบั น้าหนกั ของ ของเหลวที่ถูกแทนที่ วตั ถจุ ม • วตั ถมุ คี วามหนาแนน่ มากกว่าของเหลว • แรงลอยตัวนอ้ ยกวา่ น้า หนกั ของวตั ถุที่จมไปในของเหลวและเท่ากบั น้า หนักของของเหลวท่ีถกู แทนท่ี หลกั ของอาร์คมิ ิดสี • ปริมาตรของของเหลวทถ่ี กู แทนที่จะเท่ากับปริมาตรของวัตถุสว่ นที่จมลงในของเหลว • นา้ หนกั ของวตั ถทุ ี่ชั่งในของเหลวจะมีคา่ นอ้ ยกวา่ นา้ หนักของวัตถทุ ช่ี งั่ ในอากาศ • น้าหนักทหี่ ายไปในของเหลวจะเทา่ กบั นา้ หนกั ของของเหลวทีถ่ ูกวตั ถุแทนท่ี • น้าหนักของของเหลวทถ่ี กู แทนทจี่ ะเทา่ กับน้าหนักของของเหลวทม่ี ปี รมิ าตรเท่ากับวตั ถุส่วนทจ่ี ม ปัจจัยทเ่ี ก่ียวข้องกับแรงลอยตวั หรือแรงพยุงของของเหลว • ชนิดของวตั ถุ: วัตถุท่ีมคี วามหนาแนน่ มาก จะจมลงไปในของเหลวมาก • ชนิดของของเหลว: ของเหลวท่มี ีความหนาแนน่ มาก จะมีแรงพยุงมาก • ขนาดของวตั ถุ: วตั ถุท่มี ขี นาดใหญ่ จะมปี ริมาตรท่จี มลงไปในของเหลวมากทา ใหแ้ รงพยุงมีคา่ มาก
528 510 ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง แรงกระทาตอ่ วัตถุในของเหลว หนว่ ยท่ี 3 แผนที่ 11 เร่อื ง รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 รหสั วชิ า ว2211013 1. จงเขียนแผนภาพอธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างความหนาแนน่ ของวัตถุและความหนาแนน่ ของของเหลว 1.1 วตั ถมุ คี วามหนาแน่นน้อยกวา่ ของเหลว ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ 1.2 วตั ถมุ ีความหนาแน่นเทา่ กับหรอื ใกล้เคยี งกบั ของเหลว ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ 1.3 วตั ถมุ คี วามหนาแน่นมากกวา่ ของเหลว ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................
511
512 ว22101
513
รายวิชา วิทยาศาสตร์3 เวลา 2 ชวั่ โมง ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 1.1 ครูเตรียมกล่องลังมาวางบนเสน้ ทางท่กี ำ�หนดดงั รปู โดยก�ำ หนดจดุ ขา้ ง เร่อื ง โมเมนต์ กล่องลงั 3 จดุ แลว้ ใหน้ ักเรียนออกแรงผลกั และดงึ ในต�ำ แหนง่ ตา่ งๆแล้วสังเกต การเคลือ่ นที่ของกล่อง ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีท่ี เหมาะสมในการอธิบายโมเมนต์ของแรง เมอื่ วตั ถุ อยู่ในสภาพสมดลุ ต่อการหมนุ และค�ำ นวณโดยใช้ สมการ M=Fl 514
3 เวลา 2 ช่ัวโมง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ความรู้ 1. อธิบายความหมาย และหาค่าโมเมนตข์ องแรงได้ 2. บอกได้วา่ เม่ือคานอยใู่ นสมดุลผลรวมของโมเมนต์ ของแรงตามเข็มนาฬกิ าเทา่ กับผลรวมของโมเมนตข์ อง แรงทวนเข็มนาฬิกา ทกั ษะกระบวนการ 1.2 ครใู ช้ค�ำ ถามเพือ่ สร้างความสนใจอยากรู้ ดังนี้ 1. สามารถออกแบบการทดลองหาค่าโมเมนตข์ อง แรงได้ 2. วเิ คราะหร์ ะยะหา่ งจากจดุ หมุนถงึ แนวแรง และ (แนวค�ำ ตอบ ค่าแรงทดี่ ึงตาชัง่ สปริง 3. วพิ ากษก์ ารน�ำ ความรู้ เรอ่ื ง โมเมนต์ของแรงไปใช้ ดา้ นขวาส่งผลให้กลอ่ งเคล่อื นทอี่ ยา่ งไร ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล (แนวค�ำ ตอบ คุณลกั ษณะ 1. แสดงความคดิ เหน็ ทตี่ ระหนกั ถงึ การความรู้ เร่อื ง โมเมนตข์ องแรงไปใช้ประโยชน์ไดอ้ ยา่ งสมเหตสุ มผล ด้านซา้ ยสง่ ผลให้กลอ่ งเคล่ือนท่ีอย่างไร โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ (แนวค�ำ ตอบ 515
3 เวลา 2 ชว่ั โมง ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 (แนวคำ�ตอบ ขัน้ สอน 516
535 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 แรงในชีวติ ประจาวัน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 12 เวลา 2 ช่ัวเวโลมาง 2 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ เรอ่ื งโมเมนตข์ องแรง ชัน้ มชธั ้ันยมศธั ยกึ มษศาึกปษีทาี่ 2ปที ่ี 2 รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 กจิ กรรมนี้มจี ดุ ประสงค์เพอ่ื ให้นกั เรยี นอธบิ ำยกำรเกิดโมเมนตข์ องแรง โดย ดำเนนิ กำรจัดกิจกรรมดังน้ี 1) ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษำรำยละเอยี ดในใบกิจกรรม จำกนนั้ ดำเนินกำรตำม ขั้นตอน แล้วบนั ทกึ ผลขอ้ มลู ลงในแบบบันทึกให้สมบูรณ์ พร้อมตอบคำถำม ทำ้ ยกจิ กรรมให้ถูกตอ้ ง 2) ครตู งั้ คำถำมทบทวนตำมแนวทำงกำรตอบคำถำมทำ้ ยกิจกรรมท่ี 1 ศกึ ษำโมเมนต์ของแรง และอภิปรำยขอ้ มูลรว่ มกับนักเรียนใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ ว่ำ เม่ือมแี รงทกี่ ระทำต่อวตั ถุโดยไมผ่ ำ่ นศูนยก์ ลำงมวลของวัตถุ จะเกิดโมเมนตข์ อง แรง ทำให้วัตถหุ มุนรอบศนู ยก์ ลำงมวลของวตั ถุนั้น กจิ กรรมที่ 2 ทดลองหลักกำรโมเมนต์ของแรงอยำ่ งงำ่ ย กจิ กรรมน้ีมีจุดประสงคเ์ พอื่ ให้นักเรียนสร้ำงแบบจำลองกำรเกิดโมเมนต์ของ แรงและให้นักเรียนอธบิ ำยโมเมนตข์ องแรงที่เกิดจำกกำรออกแรงผลกั หรอื แรง ดึงได้ โดยดำเนินกำรจดั กิจกรรมดงั น้ี 1) ครใู หน้ กั เรียนศึกษำรำยละเอียดในใบกิจกรรม ดำเนนิ กำรสร้ำง แบบจำลองโมเมนตข์ องแรงอยำ่ งง่ำย ดำเนินกำรตำมข้นั ตอน แลว้ บันทึกผล ขอ้ มลู ลงในแบบบันทกึ ให้สมบรู ณ์ พร้อมตอบคำถำมทำ้ ยกจิ กรรมให้ถูกต้อง 517
536 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 แรงในชวี ิตประจาวนั แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 12 เวลา 2 ชเ่วั วโลมาง 2 ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ เร่อื งโมเมนตข์ องแรง ชั้นมชัธัน้ยมัธศยกึ มษศากึปษที าี่ 2ปที ี่ 2 รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 2) ครูตั้งคำถำมทบทวนตำมแนวทำงกำรตอบคำถำมทำ้ ยกิจกรรมที่ 2 ทดลองหลักกำรโมเมนต์ของแรงอยำ่ งงำ่ ย และอภปิ รำยข้อมลู ร่วมกบั นักเรยี น ให้ไดข้ อ้ สรุปวำ่ “เมเมอ่ื อ่ื มมแี แี รรงงทีก่ ระท�ำำตอ่ ววตั ตั ถถุโุโดดยยไไมม่ผผ่ ่า่ำนนศศนู ูนย์กยล์กาลงำมงวมลวขลอขงอวัตงวถตัุ จถะุ เจกะิดเโกมิดเมโมนเตม์ขนอตงข์แอรง ทแำ�รใงหท้วตัำถใหหุ ว้มตั ุนถรหุอบมศนุ ูนรยอ์กบลศานู งยม์กวลขำองมงววัตลถขุนอ้นั ง”วัตถุนัน้ กิจกรรมที่ 3 ทดลองหลักกำรโมเมนตข์ องแรง กิจกรรมนี้มจี ุดประสงคเ์ พอื่ ใหน้ ักเรยี นดำเนินกำรทดลองและอธิบำย ควำมหมำย และหำค่ำโมเมนต์ของแรงและบอกไดว้ ำ่ เม่อื คำนอยู่ในสมดุล ผลรวมของโมเมนต์ของแรงตำมเขม็ นำฬิกำเท่ำกับผลรวมของโมเมนต์ของแรง ทวนเขม็ นำฬกิ ำ โดยดำเนนิ กำรจัดกจิ กรรมดงั นี้ 1) ครูใหน้ กั เรียนศึกษำรำยละเอยี ดในใบกิจกรรม ดำเนนิ กำรทดลองตำม ขัน้ ตอน แล้วบนั ทกึ ผลขอ้ มูลลงในแบบบันทึกให้สมบูรณ์ พร้อมตอบคำถำม ทำ้ ยกจิ กรรมให้ถูกต้อง 2) นักเรยี นออกมำนำเสนอผลกำรทดลองกิจกรรมที่ 3 ทดลองหลกั กำร โมเมนตข์ องแรง 518
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 แรงในชีวติ ประจาวัน แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 12 537 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เร่ืองโมเมนต์ของแรง รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 3 เวลา 2 ชเว่ั วโลมาง2 ชัว่ โมง ชัน้ มชัธัน้ ยมธัศยึกมษศาึกปษีทาี่ ป2ที ่ี 2 3) ครตู ง้ั คำถำมทบทวนตำมแนวทำงกำรตอบคำถำมท้ำยกิจกรรมที่ 3 ทดลองหลกั กำรโมเมนต์ของแรง และร่วมกนั พิจำรณำสถำนกำรณ์ท่ี 1 และ สถำนกำรณท์ ่ี 2 และอภิปรำยข้อมูลร่วมกับนกั เรียนให้ไดข้ อ้ สรุปว่ำ กำรหำโมเมนตข์ องแรงหำได้จำกผลคูณระหว่ำงขนำดของแรงกบั ระยะจำกจุด หมุนตงั้ ฉำกกบั แนวแรง ซ่ึงโมเมนต์เป็นผลของแรงท่ที ำใหว้ ตั ถเุ กดิ กำรหมุน และสำมำรถเขียนควำมสัมพนั ธ์ได้ ดงั น้ี โมเมนต์ของแรง = แรง x ระยะจำกจดุ หมนุ ต้งั ฉำกกบั แนวแรง หรือ M = Fl เมือ่ พิจำรณำทิศทำงกำรหมนุ ของคำนกบั กำรหมนุ ของเขม็ นำฬิกำจะมลี กั ษณะ กำรหมนุ สองแบบ คือ กำรหมนุ ตำมเขม็ นำฬิกำและกำรหมนุ ทวนเข็มนำฬกิ ำ โมเมนต์ของแรงทที่ ำให้คำนหมุนตำมเขม็ นำฬกิ ำรอบจุดหมนุ เรียกว่ำอะไร โมเมนตข์ องแรงตำมเขม็ นำฬิกำ และโมเมนต์ของแรงทที่ ำให้คำนหมนุ ทวนเข็ม นำฬกิ ำรอบจุดหมุน เรียกว่ำ โมเมนตข์ องแรงทวนเข็มนำฬกิ ำ โดยเม่อื มแี รงหลำยแรงมำกระทำตอ่ คำน แล้วผลรวมโมเมนต์ของแรงทวนเข็ม นำฬกิ ำเท่ำกบั ผลรวมโมเมนต์ของแรงตำมเข็มนำฬกิ ำ คำนจะอยใู่ นสภำพสมดลุ ซ่งึ จะเรยี กผลรวมของแรงหลำยๆแรงมำกระทำต่อ คำนแลว้ โมเมนต์ของแรงทวนเขม็ นำฬิกำเท่ำกบั ผลรวมโมเมนต์ของแรงตำม เข็มนำฬกิ ำอยู่ในสภำพสมดุลนวี้ ่ำ สมดุลตอ่ กำรหมนุ 519
538 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 แรงในชีวติ ประจาวนั แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 เวลา 2 ชเ่วั วโลมาง 2 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรอื่ งโมเมนต์ของแรง ชนั้ มชธั ้นัยมัธศยึกมษศากึปษีทาี่ 2ปีท่ี 2 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 ขั้นสรุป 1. นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรุปหลักกำารโมเมนตข์ องแรง โดยครูใช้ค�ำำถาำมดงั นี้ - โมเมนต์ของแรงเกดิ ไดอ้ ยำ่างไร (แนวคา�ำ ตอบ เมื่อมแี รงท่กี รระะททำ�ำตตอ่ อ่ ววตั ตั ถถโุ ุโดดยยไไมม่ผ่ผานำ่ นศศนู นูย์กยกล์ าลงำมงวมลวขลอขงอวงัตวถตั ุ)ถุ) - วัตถจุ ะเคล่ือนท่อี ยำ่างไรเม่ือมีแรงทีก่กรระะทท�ำ ำตตอ่ ่อววัตตั ถถุโุโดดยยไมไม่ผ่าผนำ่ นศูนศนูย์กยลก์ าลงำมงวล ขมอวงลวขัตอถงุ วตั ถุ (แนวคา�ำ ตอบ วัตถหุ มุนนรรออบบศศูนนู ยย์กก์ ลลาำงงมมววลลขขอองงววัตตัถถนุ ุนั้ ้นั) ) - โมเมนตข์ องแรงหำาได้อยำ่างไร (แนวคาำ�ตอบ โมมเเมนนตตข์ ข์ อองงแแรรงงเปเปน็ ็นผผลลคคูณูณขขอองแงรแงรทงท่กี รีก่ ะรทะำ�ทตำ่อตว่อตั วถตั ุกถับุกรบั ะยะทาง จราะกยจะุดทหำงมนุ ไปตั้งฉากกับแนวแรง) จำก-จเุดมหอื่ มผุนลรไวปมตข้งั อฉงำโกมกเมบั นแตน์ขวอแงรแงร)งมคี ่าเปน็ ศูนยว์ ัตถุจะอยู่ในสภาพอย่างไร (แน-วเคมำ�่ือตผอลบรววมตั ขถอจุ งะโอมยเม่ใู นนสตภข์ าอพงสแมรดงลุมตีค่อำเกปา็นรหศนูมุนยว)์ ตั ถุจะอยใู่ นสภำพอยำ่ งไร (แน-วเคมาื่อตมอแี บรงวหตัลถาุจยะแอรงยมใู่ นากสรภะำทพำ�สตมอ่ ดคุลานต่อแกลำ้วรผหลมรุนวม) โมเมนต์ของแรงทวนเข็ม นาฬ- ิกเมาอื่เทม่าีแกรับงหผลรำวยมแโรมงเมมำนกตร์ขะอทงำแตร่องคตำานมเแขลม็ ้วนผาลฬริกวามจโะมเเกมิดนผตล์ขออยงา่แงรไงรทวนเขม็ (นแำนฬวกิ คำำ�เตทอ่ำกบบั คผาลนรจวะมอโมยเใู่ มนนสตภข์าอพงสแมรดงุลต)ำมเขม็ นำฬิกำจะเกิดผลอยำ่ งไร (แนวคาตอบ คำนจะอยูใ่ นสภำพสมดุล) 520
539 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 แรงในชีวิตประจาวนั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 12 เวลา 2 ชเวั่ วโลมาง2 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรื่องโมเมนต์ของแรง ช้ันมชธั ้ันยมัธศยกึ มษศากึปษที า่ี ป2ีท่ี 2 รายวชิ รายววิทชิ ยาาวศทิ ายสาตศรา์พสืน้ ตฐรา์ 3น 3 - นกั เรยี นจะเรียกผลรวมของแรงหลำยๆแรงมำกระทำตอ่ คำนแลว้ โมเมนต์ ของแรงทวนเขม็ นำฬิกำเทำ่ กับผลรวมโมเมนตข์ องแรงตำมเข็มนำฬิกำอยใู่ น สภำพสมดุลนว้ี ่ำอย่ำงไร (แนววคค�ำ าตตออบบ สมดุลต่อกำรหมนุ ) - โมเมนตข์ องแรงท่ที ำใหค้ ำนหมุนตำมเข็มนำฬกิ ำรอบจดุ หมุน เรียกว่ำ อะไร (แนววคค�ำ าตตออบบ โมเมนตข์ องแรงตำมเขม็ นำฬกิ ำ) - โมเมนต์ของแรงท่ที ำให้คำนหมุนทวนเข็มนำฬกิ ำรอบจดุ หมุน เรยี กวำ่ อะไร (แนววคคำ�าตตออบบ โมเมนตข์ องแรงทวนเข็มนำฬิกำ) - นกั เรยี นคดิ ว่ำมเี คร่อื งมือ เครื่องใช้ หรอื กจิ กรรมตำ่ งๆในชวี ติ ประจำวันท่ี อำศยั หลักกำรโมเมนต์ของแรง ทนี่ ักเรียนสงั เกตพบเหน็ มอี ะไรบำ้ ง (แนววคคำ�าตตออบบ กำรเล่นคำนกระดกหรอื มำ้ โยก กำรเดนิ เร่หำบของ กำรช่ังสง่ิ ของ บนตำชัง่ สองแขน กำรหมุนของพวงมำลยั รถยนต์ กำรใช้ค้อนงดั ตะปู คมี คบี น้ำแข็ง กำรเปิดฝำโลหะของขวดนำ้ อดั ลม กำรผลักบำนประตูหรือหนำ้ ต่ำง เปน็ ตน้ ) 2. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ทบทวนหลังเรียนและคำนวณโดยใชส้ มกำร M = Fl 521
540 522 8. การวัดและประเมินผล ดำเนนิ กำรวดั และประเมนิ ผลกำรจัดกำรเรยี นรู้ โดยพิจำรณำ 3 ด้ำน คอื ด้ำนควำมรู้ ทักษะ/กระบวนกำร และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดงั ตำรำงต่อไปนี้ ส่ิงทีจ่ ะวัด วิธีการวัด เครือ่ งมอื ทีใ่ ชว้ ัด เกณฑ์การประเมนิ 1) ดำ้ นควำมรู้ ผ่าน : นักเรียนทำได้ 1) ตรวจสอบเอกสำร 1) ใบงำนเร่ือง ถกู ตอ้ ง 80% ขึ้นไป 2) ด้ำนทกั ษะ / ไมผ่ ่าน : นกั เรียน กระบวนกำร ใบกจิ กรรม โมเมนตข์ องแรง ทำได้ต่ำกว่ำ 80% 3) ด้ำนคุณลกั ษณะ 2) กำรร่วมอภปิ รำย ผา่ น : นกั เรยี นทำได้ 10 คะแนนขึน้ ไป หำข้อสรุป ไม่ผ่าน : นักเรียนทำ ไดต้ ำ่ กวำ่ 10 คะแนน 3) กำรตอบคำถำม ผา่ น : นักเรียนทำได้ 10 คะแนนข้นึ ไป ตรวจสอบควำมเข้ำใจ ไม่ผ่าน : นักเรยี นทำ ไดต้ ่ำกวำ่ 10 คะแนน 1) สงั เกตพฤติกรรม 1) แบบประเมนิ ผล 2) ตรวจสอบ กำรรว่ มกิจกรรม ใบงำน กำรเรียนรู้ 1) สังเกตพฤติกรรม 1) แบบสังเกต พฤติกรรม
541 523 เกณฑ์การประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารให้คะแนน รายการประเมนิ ดีมาก((44)) ด(ี 3(3)) พอใช(้ 2(2)) ตอ้ งปรบั ปรงุ (1(1)) 1. ความตั้งใจ ใน สนใจในกำร สนใจในกำรเรยี นคุย สนใจในกำรเรียน ไมส่ นใจในกำร การเรียน เรียน ไมค่ ยุ กันเล็กนอ้ ยในขณะ คยุ กันและเล่นกัน เรยี นคุยและเลน่ หรอื เล่นกนั เรียน ในขณะเรียน กนั ในขณะเรียน ในขณะเรยี น เปน็ บำงครงั้ 2. ความสนใจและ มกี ำรถำมใน มีกำรถำม มีกำรถำมในหวั ขอ้ ไม่ถำมในหัวข้อ การซักถาม หวั ขอ้ ที่ตนไม่ ในหวั ข้อที่ตน ท่ีตนไมเ่ ข้ำใจเปน็ ทต่ี นไม่เข้ำใจและ เข้ำใจ ไม่เขำ้ ใจเปน็ บำงคร้ังและไม่ ไมก่ ล้ำแสดงออก ทุกเรอื่ งและ ส่วนมำกและกลำ้ คอ่ ยกล้ำแสดงออก กลำ้ แสดงออก แสดงออก 3. การตอบคาถาม รว่ มตอบ รว่ มตอบคำถำมใน รว่ มตอบคำถำม ไม่ตอบคำถำม คำถำม เร่อื งทค่ี รูถำมและ ในเร่ืองทค่ี รถู ำม ในเร่อื งท่ีครู ตอบคำถำม เป็นบำงครงั้ และ ถำมและตอบ สว่ นมำกถกู ตอบคำถำม คำถำม ถูกทุก ถกู เปน็ บำงคร้งั ขอ้ 4.ทางานทันตาม ทำงำนสง่ ตำม ทำงำนสง่ ตำมเวลำ ส่งงำนชำ้ และ สง่ งำนช้ำและ กาหนดเวลา เวลำทกี่ ำหนด ทกี่ ำหนดและสว่ น ไมค่ อ่ ยถูกต้อง ไมถ่ ูกตอ้ ง และถูกตอ้ ง ใหญถ่ กู ต้อง ชัดเจน ชดั เจน 5. มีสว่ นรว่ ม ร่วมมือและ ร่วมมือและ ร่วมมอื และ ไมม่ ีควำมร่วมมอื ในกจิ กรรมหรืองาน ช่วยเหลือเพอ่ื น ชว่ ยเหลอื เพ่ือนเป็น ช่วยเหลอื เพือ่ น ในขณะทำกิจกรรม กลุ่ม ในกำรทำ ส่วนใหญ่ ใน ในกำรทำ กิจกรรม กำรทำกจิ กรรม กิจกรรมเปน็ บำงครงั้
542 524 แบบประเมินการตอบคาถามสะท้อนความคิด คาชแ้ี จง ให้ผู้ประเมนิ ให้ระดบั คะแนนตำมเกณฑ์ขำ้ งล่ำงนี้ตำมควำมเปน็ จริงลงในช่องประเมนิ ผล ตัวชี้วัดในการประเมนิ : 1. ควำมถกู ต้องครอบคลุมสิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ 2. ควำมสมเหตสุ มผล ชัดเจนของคำตอบ 3. กำรตงั้ คำถำมทอ่ี ยำกรู้ เกณฑก์ ารประเมนิ : ระดบั 4 ดเี ย่ยี ม 4 คะแนน = ทำไดท้ ุกตัวชี้วัด ระดบั 3 ดี 3 คะแนน = ทำได้มำก ระดับ 2 พอใช้ 2 คะแนน = ทำได้นอ้ ย ระดบั 1 ตอ้ งปรบั ปรุง 1 คะแนน = ทำไม่ได้ถงึ ทำได้นอ้ ยทส่ี ุด เลขที่ ชอื่ – สกุล นักเรียน ระดบั คะแนน คะแนน 4321 1 2 3 4 . . . n ลงชื่อ ............................................................ผ้ปู ระเมนิ
543 525 แบบประเมินการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขยี นสื่อความ คาชแ้ี จง ให้ผู้ประเมนิ ใหร้ ะดับคะแนนตำมเกณฑ์ขำ้ งลำ่ งน้ตี ำมควำมเปน็ จรงิ ลงในชอ่ งประเมินผล ตวั ชี้วัดในการประเมนิ : ดำ้ นท่ี 1 อำ่ นทันเวลำ ตำมทก่ี ำหนด ด้ำนที่ 2 กำรคิด กำรวิเครำะห์ กำรเช่อื มโยง กำรจับใจควำมสำคญั ดำ้ นท่ี 3 ควำมชดั เจน เข้ำใจงำ่ ย ถูกต้องในกำรสอื่ ควำม เกณฑก์ ารประเมิน : ระดบั 3 ดีเยย่ี ม ผ่ำน = มที กั ษะครบท้งั สำมดำ้ น ระดับ 2 ดี ผำ่ น = มที ักษะ กำรอ่ำนและกำรคดิ ระดบั 1 ตอ้ งปรบั ปรุง ผำ่ น = มีทกั ษะกำรอำ่ นด้ำนเดยี ว เลขที่ ชอื่ – สกุล นักเรียน ระดับคะแนน คะแนน 4321 1 2 3 4 . . . n ลงชอื่ ............................................................ผ้ปู ระเมิน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400