Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือสอบนักวิชาการศึกษา

หนังสือสอบนักวิชาการศึกษา

Published by Monthian Khumlek, 2021-11-02 08:29:58

Description: หนังสือสอบนักวิชาการศึกษา

Search

Read the Text Version

1 นโยบาย วสิ ัยทศั น์ ยทุ ธศาสตร์ ภารกจิ สานักงาน กศน. ปี 2564 นางสาวตรีนุช เทยี นทอง : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ ( คนท่ี 55 ) นางกนกวรรณ วิลาวลั ย์ : รฐั มนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (กากับดแู ล สานกั งาน กศน.) นายวรทั พฤกษาทวีกลุ : ตาแหน่ง เลขาธกิ าร กศน. คนปจั จุบัน ** วสิ ยั ทัศน์ คนไทยทุกช่วงวยั ไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาและการเรยี นรู้ตลอดชีวิตอยา่ งมคี ณุ ภาพ มีทักษะที่จาเป็น และสมรรถนะทีส่ อดรบั กบั ทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดารงชีวติ ไดอ้ ย่างเหมาะสมบนรากฐานของหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ** พนั ธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีมีคุณภาพ สอดคล้องกับ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลีย่ นแปลงทางเศรษฐกจิ และสังคม เพ่อื ยกระดบั การศึกษาและ พฒั นาสมรรถนะ ทักษะการเรียนรู้ของประชาชนกลุ่มเปูาหมายให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ให้พร้อมรับการ เปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในการดารงชีวิตได้อย่างเหมาะสม ก้าวสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างย่ังยนื 2. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา การวัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให้มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และ บริบทในป๎จจบุ ัน 3. ส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษาและนาเทคโนโลยี มาพัฒนาเพ่ือเพ่ิมช่องทางและ โอกาสการเรยี นรู้ รวมถึงการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการจัดและให้บรกิ ารการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั ให้กบั ประชาชนกลุ่มเปูาหมายอยา่ งท่วั ถงึ 4. ส่งเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ให้เข้ามามีส่วน ร่วมในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิตใน รูปแบบต่างๆ ให้กับประชาชน 5. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีเอกภาพ เพ่ือการบริหารราชการที่ดีบนหลัก ของธรรมาภิบาล มปี ระสิทธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล และคลอ่ งตวั มากยิง่ ข้นึ 6. ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ให้มีความรู้ ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรม และจรยิ ธรรมท่ดี ี เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพของการใหบ้ ริการทางการศึกษาและการเรียนรู้ทีม่ ีคุณภาพมากยง่ิ ข้นึ สนใจส่ังชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

2 ** เปูาประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมท้ังประชาชนท่ัวไปได้รับโอกาสทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตาม อัธยาศัยที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามบริบท สภาพป๎ญหาและความต้องการของแต่ละ กลุ่มเปูาหมาย 2. ประชาชนได้รบั การยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หน้าท่ีความ เป็นพลเมืองท่ีดีภายใตก้ ารปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่สอดคล้อง กับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันนาไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ ชุมชนเพื่อพัฒนาไปสู่ความมั่นคงและย่ังยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และ ส่งิ แวดลอ้ ม 3. ประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองผ่านแหล่งเรียนรู้ ช่องทางการเรยี นรู้ และกิจกรรมการเรียนร้รู ปู แบบต่าง ๆ รวมทั้งมีเจตคติทางสังคม การเมือง วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะอย่างมีเหตุผล และนาไปประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจาวนั รวมถึงการแกป้ ญ๎ หาและพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ 4. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสูตร ส่ือ นวัตกรรม ช่องทางการเรียนรู้ และ กระบวนการเรียนรู้ ในรปู แบบท่ีหลากหลาย ทนั สมยั และรองรับกบั สภาวะการเรียนรู้ในสถานการณ์ต่างๆ เพ่ือแก้ป๎ญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความต้องการของประชาชนและชุมชน รวมท้ังตอบสนองกับการ เปล่ียนแปลงบริบทดา้ นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตร์ และสงิ่ แวดลอ้ ม 5. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. สามารถนาเทคโนโลยที างการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมา พฒั นาเพื่อเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ และนามาใช้ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรู้และโอกาสการ เรยี นรู้ให้กับประชาชน 6. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย รวมทง้ั การขับเคล่อื นกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองค์กรท่ีทันสมัย มีประสิทธิภาพและ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททุกระดับได้รับการพัฒนาเพ่ือเพิ่มทักษะและสมรรถนะในการ ปฏบิ ตั ิงานและการให้บริการทางการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏิบัติงานตาม สายงานอย่างมีประสทิ ธภิ าพ สนใจสั่งชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

3 จดุ เนน้ การดาเนนิ งานประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 1. น้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การปฏบิ ตั ิ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่างๆ ทั้งดิน น้า ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ์ ต่างๆ และสง่ เสริม การใช้พลังงานทดแทนอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 1.2 จดั ใหม้ ี “หนง่ึ ชมุ ชน หน่ึงนวัตกรรม การพัฒนาชมุ ชน” เพอ่ื ความกนิ ดี อยดู่ ี มีงานทา 1.3 การสร้างกลุ่มจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมท้ังปลูกฝ๎งผู้เรียนให้มีหลักคิดท่ีถูกต้องด้านคุณธรรม จริยธรรม มีทศั นคตทิ ีด่ ตี อ่ บ้านเมอื ง และเปน็ ผมู้ ีความพอเพยี ง ระเบยี บวนิ ัย สุจริต จิตอาสา ผ่านกิจกรรมการ พฒั นาผเู้ รียนโดยการใชก้ ระบวนการลกู เสอื และยวุ กาชาด 2. ส่งเสรมิ การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสาหรบั ประชาชนท่เี หมาะสมกับทุกชว่ งวยั 2.1 สง่ เสริมการจัดการศึกษาอาชพี เพ่อื การมีงานทา ในรปู แบบ Re-Skill& Up-Skill และการสร้าง นวัตกรรมและผลติ ภณั ฑท์ ี่มคี ณุ ภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของประชาชน ผู้รับบรกิ าร และสามารถออกใบรบั รองความรคู้ วามสามารถเพื่อนาไปใช้ในการพฒั นาอาชีพได้ 2.2 ส่งเสริมและยกระดับทักษะภาษาอังกฤษให้กบั ประชาชน (English for All) 2.3 ส่งเสริมการเรียนการสอนท่ีเหมาะสมสาหรับผู้ท่ีเข้าสู่สังคมสูงวัย อาทิ การฝึกอบรมอาชีพที่ เหมาะสมรองรับสงั คมสงู วยั หลกั สตู รการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสมรรถนะผู้สูงวัย และหลักสูตรการ ดแู ลผสู้ ูงวยั โดยเน้นการมีสว่ นร่วมกับภาคีเครือข่ายทกุ ภาคส่วนในการเตรียมความพร้อมเขา้ สูส่ ังคมสูงวยั 3. พัฒนาหลกั สตู ร ส่อื เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหล่งเรียนรู้ และรปู แบบ การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ในทุกระดับ ทุกประเภท เพ่ือประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาที่เหมาะสมกับ ทุกกลุ่มเปูาหมาย มีความทันสมัย สอดคล้องและพร้อมรองรับกับบริบทสภาวะสังคมป๎จจุบัน ความต้องการ ของผ้เู รียน และสภาวะการเรยี นรใู้ นสถานการณ์ตา่ งๆ ทีจ่ ะเกดิ ขึ้นในอนาคต 3.1 พัฒนาระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform ที่รองรับ DEEP ของกระทรวง ศึกษาธิการและช่องทางเรียนร้รู ูปแบบอ่ืนๆ ทง้ั Online On-site และ On-air 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ประเภทต่างๆ อาทิ Digital Science Museum/Digital Science Center/Digital Library ศูนย์การเรยี นรู้ทุกชว่ งวัย และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพอื่ ให้สามารถ “เรยี นรูไ้ ดอ้ ย่างทัว่ ถงึ ทุกที่ ทกุ เวลา” 3.3 พัฒนาระบบรบั สมัครนักศึกษาและสมคั รฝกึ อบรมแบบออนไลน์ มีระบบการเทียบโอนความรู้ ระบบสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการให้บริการระบบทดสอบ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-exam) 4. บูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ ประชาชนอย่างมคี ุณภาพ สนใจสง่ั ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

4 4.1 ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายท้ังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทงั้ สง่ เสริมและสนบั สนนุ การมีส่วนรว่ มของชุมชน อาทิ การส่งเสรมิ การฝกึ อาชีพทเ่ี ป็นอตั ลกั ษณแ์ ละบริบท ของชุมชนสง่ เสริมการตลาดและขยายชอ่ งทางการจาหน่ายเพ่ือยกระดับผลติ ภัณฑ์/สนิ คา้ กศน. 4.2 บูรณาการความร่วมมอื กับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในสงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ ท้ังในส่วนกลางและ ภมู ภิ าค 5. พัฒนาศักยภาพและประสิทธภิ าพในการทางานของบุคลากร กศน. 5.1 พัฒนาศักยภาพและทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy & Digital Skills) ใหก้ บั บคุ ลากรทุกประเภททุกระดับ รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนา ครูใหม้ ีทักษะความรู้ และความชานาญในการใช้ภาษาอังกฤษ การผลิตส่ือการเรียนรู้และการจัดการเรียนการ สอนเพ่อื ฝึกทักษะการคดิ วเิ คราะหอ์ ยา่ งเป็นระบบและมีเหตุผล เปน็ ขนั้ ตอน 5.2 จัดกจิ กรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ของบุคลากร กศน.และกิจกรรมเพ่ิมประสิทธิภาพในการ ทางานร่วมกันในรูปแบบต่างๆ อาทิ การแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพในการ ทางาน 6. ปรับปรุง และพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารจัดการองค์กร ปัจจัยพ้ืนฐานในการจัดการ ศกึ ษาและการประชาสมั พันธ์ สร้างการรบั ร่ตู้ ่อสาธารณะชน 6.1 เรง่ ผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. .... ให้สาเร็จ และปรับโครงสร้างการ บรหิ ารและอตั รากาลังใหส้ อดคล้องกับบริบทการเปล่ียนแปลง เร่งการสรรหา บรรจุ แต่งต้งั ทม่ี ปี ระสิทธิภาพ 6.2 นานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ พัฒนาระบบการทางานและ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถใช้งานทันที โดยจัดต้ังศูนย์ข้อมูลกลาง กศน. เพือ่ จดั ทาข้อมลู กศน. ทั้งระบบ (ONE ONIE) 6.3 พัฒนา ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟ้ืนฟูอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมโดยรอบของหน่วยงาน สถานศึกษา และแหล่งเรียนร้ทู ุกแหง่ ให้สะอาด ปลอดภัย พร้อมให้บริการ 6.4 ประชาสัมพันธ์/สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทั่วไปเก่ียวกับการบริการทางวิชาการ/กิจกรรม ด้านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั และสรา้ งชอ่ งทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการของ หนว่ ยงานและสถานศึกษาในสงั กดั อาทิ ขา่ วประชาสัมพันธ์ ผา่ นสอื่ รปู แบบต่างๆ การจดั นิทรรศการ/มหกรรม วชิ าการ กศน. การจัดการศกึ ษาและการเรยี นรู้ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ของสานักงาน กศน. จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ส่งผลกระทบต่อระบบการจัดการเรียนการสอนของไทยในทุกระดับชั้น ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ไดอ้ อกประกาศและมีมาตรการเฝูาระวังเพื่อปูองกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าว อาทิ กาหนดให้มี การเวน้ ระยะหา่ งทางสังคม (Social Distancing) หา้ มการใช้อาคารสถานทข่ี องโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุกประเภท เพ่ือจัดการเรียนการสอน การสอบ ฝึกอบรม หรือการทากิจกรรมใดๆ ท่ีมีผู้เข้าร่วมเป็นจานวน สนใจส่ังชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

5 มาก การปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ การกาหนดให้ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ อาทิ การ จดั การเรยี นรแู้ บบออนไลน์ การจัดการเรียนรู้ผ่านระบบการออกอากาศทางโทรทัศน์ วิทยุ และโซเซียลมีเดีย ตา่ งๆ รวมถงึ การสือ่ สารแบบทางไกลหรอื ดว้ ยวิธีอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ในส่วนของสานักงาน กศน. ได้มีการพัฒนา ปรับรูปแบบ กระบวนการ และวิธีการดาเนินงานใน ภารกิจตอ่ เนอ่ื งตา่ งๆ ในสถานการณก์ ารใชช้ ีวิตประจาวัน และการจัดการเรียนรู้เพ่ือรองรับการชีวิตแบบปกติ วิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ให้ความสาคัญกับการดาเนินงานตามมาตรการการ ปอู งกนั การแพร่ระบาดของเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อาทิ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกประเภท หากมีความจาเป็นต้องมาพบกลุ่ม หรืออบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาต้องมีมาตรการปูองกันท่ีเข้มงวด มีเจล แอลกอฮอลล์ ้างมอื ผรู้ บั บรกิ ารต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ต้องมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เน้นการใชส้ ื่อดิจทิ ลั และเทคโนโลยอี อนไลนใ์ นการจัดการเรียนการสอน ภารกิจตอ่ เน่อื ง 1. ด้านการจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้ ** 1.1 การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐานโดย ดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อหนังสือเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่า จดั การเรียนการสอนอยา่ งท่ัวถงึ และเพียงพอเพ่อื เพิม่ โอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพโดย ไม่เสียค่าใชจ้ า่ ย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานให้กับกลุ่มเปูาหมายผู้ด้อย พลาดและ ขาดโอกาสทางการศกึ ษา ผา่ นการเรยี นแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบช้ันเรียน และการจัด การศกึ ษาทางไกล 3) พัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ท้ังด้านหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน สื่อและนวัตกรรม ระบบการวัดและ ประเมินผลการเรยี น และระบบการให้บริการนักศกึ ษาในรปู แบบอนื่ ๆ 4) จัดใหม้ กี ารประเมนิ เพ่ือเทียบระดับการศกึ ษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ท่ี มีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามที่กาหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของ กลุม่ เปาู หมายไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 5) จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่มีคุณภาพที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรม เพ่ือเป็นส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตร อาทิ กิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี กิจกรรมเกี่ยวกับการ ปูองกันและแก้ไขป๎ญหายาเสพติดการแข่งขันกีฬา การบาเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเน่ือง การส่งเสริม การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุว สนใจส่งั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

6 กาชาด กิจกรรมจิตอาสา และการจัดตั้งชมรม/ชุมนุม พร้อมท้ังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนากิจกรรมการบาเพ็ญ ประโยชน์อื่นๆนอกหลักสตู รมาใช้เพม่ิ ชว่ั โมงกจิ กรรมให้ผเู้ รียนจบตามหลักสูตรได้ ** 1.2 การสง่ เสรมิ การรู้หนงั สือ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัยและเป็นระบบ เดียวกนั ทง้ั สว่ นกลางและส่วนภมู ภิ าค 2) พัฒนาและปรบั ปรงุ หลกั สูตร สื่อ แบบเรียนเคร่ืองมือวดั ผลและเคร่อื งมือการดาเนินงานการ สง่ เสริมการรู้หนงั สอื ที่สอดคล้องกับสภาพและบริบทของแต่ละกลมุ่ เปูาหมาย 3) พฒั นาครู กศน. และภาคเี ครือขา่ ยท่รี ่วมจดั การศึกษา ใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ และทักษะ การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับผู้ไม่รู้หนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให้มีอาสาสมัครส่งเสริมการรู้ หนงั สือในพ้ืนทีท่ ม่ี ีความต้องการจาเป็นเป็นพเิ ศษ 4) ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหส้ ถานศึกษาจัดกจิ กรรมสง่ เสริมการรหู้ นงั สือ การคงสภาพการรู้หนังสือ การพัฒนาทักษะการรู้หนังสือให้กับประชาชนเพ่ือเป็นเครื่องมือในการศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอด ชวี ิตของประชาชน ** 1.3 การศึกษาตอ่ เนือ่ ง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพอ่ื การมงี านทาอย่างย่ังยืน โดยให้ความสาคัญกบั การจัดการศกึ ษา อาชีพเพือ่ การมงี านทาในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชพี เฉพาะทาง หรือการบริการรวมถงึ การเนน้ อาชีพชา่ งพื้นฐาน ทีส่ อดคล้องกบั ศักยภาพของผ้เู รยี น ความต้องการและ ศักยภาพของแต่ละพื้นท่มี คี ุณภาพไดม้ าตรฐานเป็นทยี่ อมรบั สอดรบั กบั ความตอ้ งการของตลาดแรงงาน และ การพฒั นาประเทศ ตลอดจนสร้างความเขม้ แขง็ ให้กับศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน โดยจัดใหม้ กี ารสง่ เสริมการรวมกลุม่ วสิ าหกิจชุมชน การพัฒนาหน่งึ ตาบลหนง่ึ อาชพี เดน่ การประกวดสินค้าดีพรีเมยี่ ม การสร้างแบรนดข์ อง กศน. รวมถึงการสง่ เสริมและจดั หาชอ่ งทางการจาหน่ายสินค้าและผลติ ภัณฑ์ และใหม้ กี ารกากบั ติดตาม และ รายงานผลการจดั การศึกษาอาชีพเพือ่ การมีงานทาอย่างเป็นระบบและตอ่ เนือ่ ง 2) จัดการศกึ ษาเพอื่ พัฒนาทกั ษะชีวติ ให้กับทุกกลุ่มเปูาหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ ท่ีสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเปูาหมายมีทักษะการดารงชีวิต ตลอดจน สามารถประกอบอาชพี พึ่งพาตนเองไดม้ คี วามรคู้ วามสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวันได้อย่างมี ประสิทธิภาพและเตรยี มพร้อมสาหรับการปรับตัวให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยี สมัยใหม่ในอนาคตโดยจัดกิจกรรมที่มีเนื้อหาสาคัญต่างๆ เช่น การอบรมจิตอาสา การให้ความรู้เพ่ือการปูอง การการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต การอบรมคุณธรรมและจริยธรรม การปูองกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา การปลูกฝ่๎งและการสร้างค่านิยมที่พึง ประสงค์ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ผ่านการอบรมเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะ ชวี ิต การจดั ตัง้ ชมรม/ชมุ นมุ การอบรมสง่ เสริมความสามารถพเิ ศษตา่ งๆ เป็นตน้ 3) จดั การศกึ ษาเพ่อื พัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบรู ณาการในรูปแบบของการฝกึ อบรมการประชมุ สัมมนา การจดั เวทีแลกเปลี่ยนเรยี นร้กู ารจัดกิจกรรม สนใจส่งั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

7 จิตอาสา การสรา้ งชมุ ชนนักปฏบิ ตั ิ และรปู แบบอนื่ ๆ ที่เหมาะสมกบั กลุ่มเปูาหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละ พื้นท่ี เคารพความคดิ ของผอู้ ่ืน ยอมรบั ความแตกต่างและหลากหลายทางความคดิ และอุดมการณ์ รวมท้งั สังคม พหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่มเพื่อแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน สร้างกระบวนการ จิตสาธารณะการสร้างจิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบต่อ หน้าท่ีความเป็นพลเมืองท่ีดีภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การ สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรมการเป็นจิตอาสา การบาเพ็ญประโยชน์ในชุมชนการ บริหารจัดการน้า การรับมือ กับสาธารณภัย การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการ พัฒนาสังคมและชมุ ชนอยา่ งยั่งยนื 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านกระบวนการเรียนรู้ ตลอดชีวติ ในรูปแบบต่างๆ ใหก้ บั ประชาชน เพ่ือเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง และมี การบริหารจัดการความเส่ียงอยา่ งเหมาะสม ตามทิศทางการพฒั นาประเทศสคู่ วามสมดลุ และย่ังยืน ** 1.4 การศกึ ษาตามอัธยาศยั 1) พัฒนาแหล่งการเรียนรู้ที่มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการอ่านและพัฒนา ศกั ยภาพการเรยี นรใู้ หเ้ กดิ ขนึ้ ในสงั คมไทย ให้เกดิ ข้นึ อย่างกว้างขวางและท่ัวถึง เช่น การพัฒนา กศน. ตาบล หอ้ งสมดุ ประชาชนทกุ แหง่ ให้มกี ารบริการทที่ นั สมัย ส่งเสริมและสนบั สนนุ อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้า เครอื ข่ายส่งเสริมการอา่ น จดั หน่วยบรกิ ารหอ้ งสมุดเคลอ่ื นท่ี หอ้ งสมุดชาวตลาด พรอ้ มหนงั สอื และอุปกรณ์เพ่ือ จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ท่ีหลากหลายให้บริการกับประชาชนในพื้นท่ีต่าง ๆ อย่างทั่วถึง สมา่ เสมอ รวมทง้ั เสริมสร้างความพรอ้ มในด้านบคุ ลากร ส่ืออปุ กรณเ์ พอ่ื สนับสนนุ การอา่ น และการจัดกิจกรรม เพ่อื สง่ เสริมการอา่ นอยา่ งหลากหลายรปู แบบ 2) จัดสร้างและพัฒนาศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตลอดชีวิตของประชาชน เป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตร์และเป็นแหล่งท่องเท่ียวเชิงศิลปะ วิทยาการประจาท้องถน่ิ โดยจดั ทาและพฒั นานิทรรศการสือ่ และกิจกรรมการศึกษาท่ีเน้นการเสริมสร้างความรู้ และสรา้ งแรงบันดาลใจดา้ นวิทยาศาสตร์สอดแทรกวิธีการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ และปลูกฝ๎ง เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ผา่ นการกระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรม ศาสตร์และคณิตศาสตร์รวมทั้งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ รวมท้ังระดับภมู ิภาคและระดบั โลกเพ่อื ให้ประชาชนมคี วามรู้และสามารถนาความรู้และทักษะไป ประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต การพัฒนาอาชีพ การรักษาสิ่งแวดล้อม การบรรเทาและปูองกันภัยพิบัติทาง ธรรมชาติ รวมท้ังมีความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่าง รวดเรว็ และรนุ แรง (Disruptive Changes) ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 3) ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรือภาคส่วนต่างๆ ที่มีแหล่งเรียนรู้อ่ืนๆ เพื่อ ส่งเสริมการจดั การศกึ ษาตามอธั ยาศัยให้มรี ปู แบบที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน เชน่ พพิ ิธภณั ฑ์ ศนู ย์เรียนรู้ แหลง่ โบราณคดี วัด ศาสนาสถาน ห้องสมุด รวมถึงภมู ปิ ญ๎ ญาท้องถิน่ เป็นต้น สนใจสัง่ ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

8 2. ด้านหลกั สูตรสื่อ รปู แบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมิน ผลงานบริการ ทางวชิ าการ และการประกนั คณุ ภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพฒั นาหลกั สูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมเพื่อส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีหลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐาน สมรรถนะ และหลกั สูตรท้องถน่ิ ทีส่ อดคลอ้ งกบั สภาพบริบทของพ้นื ท่แี ละความต้องการของกลุ่มเปูาหมายและ ชมุ ชน 2.2 ส่งเสรมิ การพัฒนาสื่อแบบเรียน ส่ืออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่นๆ ท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ของ ผูเ้ รยี นกล่มุ เปาู หมายทัว่ ไปและกลุ่มเปาู หมายพิเศษ เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นสามารถเรยี นรไู้ ดท้ กุ ที ทกุ เวลา 2.3 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัย หลากหลายช่องทางการ เรยี นรู้ ด้วยระบบห้องเรียนและการควบคุมการสอบรูปแบบออนไลน์ 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพ่ือเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และ ประสบการณ์ เพ่อื ให้มคี ณุ ภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเปูาหมายได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รวมท้งั มกี ารประชาสมั พันธใ์ ห้สาธารณชนไดร้ บั รู้และสามารถเข้าถงึ ระบบการประเมนิ ได้ 2.5 พัฒนาระบบการวดั และประเมินผลการศกึ ษานอกระบบทุกหลกั สตู ร โดยเฉพาะหลักสตู ร ในระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานใหไ้ ด้มาตรฐานโดยการนาแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Exam) มาใชอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการ เรยี นรู้ การวดั และประเมินผล และเผยแพร่รปู แบบการจัด สง่ เสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย รวมทงั้ ใหม้ ีการนาไปสูก่ ารปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับ บรบิ ทอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการ ประกันคณุ ภาพภายในทส่ี อดคลอ้ งกบั บริบทและภารกจิ ของ กศน. มากขึ้น เพ่ือพร้อมรับการประเมินคุณภาพ ภายนอกโดยพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถดาเนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้การประเมินภายในด้วย ตนเอง และจัดให้มีระบบสถานศึกษาพี่เล้ียงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สาหรับสถานศึกษาท่ียังไม่ได้เข้ารับ การประเมินคณุ ภาพภายนอก ให้พัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษาให้ได้คณุ ภาพตามมาตรฐานทีก่ าหนด 3. ด้านเทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพ่ือให้เช่ือมโยงและ ตอบสนองต่อการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพ่ื อกระจาย โอกาสทางการศึกษาสาหรับกลุ่มเปูาหมายต่างๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลายและมีคุณภาพ สนใจส่ังชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

9 สามารถพัฒนาตนเองให้รู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพ่ือ การมงี านทา รายการติวเขม้ เติมเต็มความรรู้ ายการ รายการทากนิ ก็ได้ ทาขายก็ดี ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุ ศึกษา สถานีวิทยุโทรทศั น์เพอ่ื การศึกษากระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ETV) และทางอินเทอร์เนต็ 3.2 พฒั นาการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยโดยผา่ นระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล และชอ่ งทางออนไลน์ตา่ งๆ เช่น Youtube Facebook หรอื Application อืน่ ๆ เพือ่ สง่ เสรมิ ใหค้ รู กศน. นาเทคโนโลยีดิจทิ ัลมาใช้ในการสรา้ งกระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พฒั นาสถานีวิทยุศึกษาและสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการออกอากาศใหก้ ลมุ่ เปาู หมายสามารถใช้เป็นช่องทางการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต โดยขยายเครือข่ายการรบั ฟง๎ ให้สามารถรบั ฟ๎งไดท้ กุ ที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพ้ืนที่ทั่วประเทศและเพิ่มช่องทางให้ สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ได้ท้ังระบบ Ku-Band C-Band Digital TV และทางอินเทอร์เน็ต พร้อมท่ีจะ รองรับการพัฒนาเปน็ สถานีวทิ ยโุ ทรทศั นเ์ พอื่ การศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการส่ือเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเพ่ือให้ได้หลายช่องทางทั้งทาง อินเทอร์เนต็ และรูปแบบอื่น ๆ อาทิ Application บนโทรศัพท์เคล่ือนท่ี และ Tablet รวมทั้งส่ือ Offline ใน รปู แบบต่าง ๆ เพ่ือให้กลุ่มเปูาหมายสามารถเลือกใช้บริการเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ได้ ตามความต้องการ 3.5 สารวจ วิจัย ติดตามประเมินผลด้านการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพอ่ื นาผลมาใช้ในการพัฒนางานให้มีความถกู ตอ้ ง ทันสมยั และสามารถสง่ เสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอด ชวี ติ ของประชาชนได้อยา่ งแท้จริง 4. ดา้ นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ หรือโครงการอนั เก่ียวเนอื่ งจากราชวงศ์ 4.1 สง่ เสริมและสนบั สนุนการดาเนินงานโครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดาริหรือโครงการ อนั เก่ียวเน่อื งจากราชวงศ์ 4.2 จัดทาฐานข้อมูลโครงการและกิจกรรมของ กศน.ท่ีสนองงานโครงการอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริหรอื โครงการอันเกยี่ วเน่อื งจากราชวงศ์เพ่ือนาไปใช้ในการวางแผน การติดตามประเมินผลและ การพฒั นางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 4.3 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการดาเนินงานเพื่อสนับสนุนโครงการอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ เพ่ือให้เกดิ ความเขม้ แข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 4.4 พฒั นาศนู ยก์ ารเรยี นชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟูาหลวง” เพ่ือให้มีความพร้อมในการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตามบทบาทหนา้ ท่ีที่กาหนดไวอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 4.5 จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพื้นท่ีสูง ถิน่ ทุรกนั ดาร และพ้นื ท่ีชายขอบ สนใจส่ังชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

10 5. ด้านการศึกษาในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ พนื้ ท่เี ขตเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่ บรเิ วณชายแดน 5.1 พัฒนาการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ 1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ท่ีตอบสนอง ป๎ญหาและความต้องการของกลุม่ เปาู หมายรวมทง้ั อัตลกั ษณ์และความเปน็ พหวุ ฒั นธรรมของพื้นที่ 2) พฒั นาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานอยา่ งเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ท่ไี ดร้ ับไปใชป้ ระโยชน์ไดจ้ ริง 3) ให้หน่วยงานและสถานศกึ ษาจดั ใหม้ ีมาตรการดแู ลรักษาความปลอดภัยแก่บุคลากรและ นกั ศกึ ษา กศน.ตลอดจนผมู้ าใช้บริการอย่างท่วั ถึง 5.2 พัฒนาการจดั การศึกษาแบบบูรณาการในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ 1) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในการจัดทาแผนการศึกษาตาม ยุทธศาสตรแ์ ละบรบิ ทของแตล่ ะจงั หวัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ 2) จัดทาหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพ้ืนที่ โดยเน้นสาขาที่เป็นความต้องการของ ตลาดใหเ้ กิดการพฒั นาอาชีพไดต้ รงตามความต้องการของพื้นท่ี 5.3 จัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน (ศฝช.) 1) พัฒนาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพ่ือให้เป็นศูนย์ฝึกและ สาธิตการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดาริ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สาหรบั ประชาชนตามแนวชายแดนด้วยวธิ กี ารเรยี นรทู้ ่ีหลากหลาย 2) มุ่งจัดและพัฒนาการศึกษาอาชีพโดยใช้วิธีการหลากหลายใช้รูปแบบเชิงรุกเพ่ือการ เข้าถึงกลุม่ เปูาหมาย เชน่ การจดั มหกรรมอาชีพ การประสานความร่วมมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนา ด้านอาชีพท่ีเน้นเรื่องเกษตรธรรมชาติท่ีสอดคล้องกับบริบทของชุมชนชายแดน ให้แก่ประชาชนตามแนว ชายแดน 6. ดา้ นบคุ ลากรระบบการบริหารจัดการและการมสี ว่ นร่วมของทกุ ภาคสว่ น 6.1 การพฒั นาบคุ ลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงข้ึนอย่างต่อเน่ือง ท้ังก่อนและ ระหวา่ งการดารงตาแหน่งเพอื่ ให้มีเจตคติทด่ี ใี นการปฏบิ ัติงานให้มีความรแู้ ละทักษะตามมาตรฐานตาแหน่ง ให้ ตรงกับสายงานความชานาญ และความต้องการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการ ดาเนินงานของหน่วยงานและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมท้ังส่งเสริมให้ข้าราชการในสังกัดพัฒนา ตนเองเพื่อเลื่อนตาแหนง่ หรอื เลื่อนวทิ ยฐานะโดยเนน้ การประเมนิ วทิ ยฐานะเชิงประจักษ์ สนใจสั่งช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

11 2) พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ กศน. ใหม้ ีสมรรถนะทจ่ี าเปน็ ครบถ้วน มคี วามเป็นมืออาชีพ สามารถ ปฏิบัตกิ ารนิเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยในสถานศกึ ษา 3) พฒั นาหัวหน้า กศน.ตาบล/แขวงใหม้ สี มรรถนะสูงขน้ึ เพอื่ การบรหิ ารจดั การ กศน.ตาบล/ แขวง และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และ ผูอ้ านวยความสะดวกในการเรยี นรเู้ พ่อื ใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรทู้ มี่ ปี ระสิทธภิ าพอยา่ งแท้จริง 4) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรที่เก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาให้สามารถจัดรูปแบบการ เรยี นรูไ้ ด้อย่างมีคุณภาพโดยส่งเสริมให้มีความรู้ความสามารถในการจัดทาแผนการสอน การจัดกระบวนการ เรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล และการวจิ ยั เบอ้ื งต้น 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ท่ีรับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ ให้มีความรู้ ความสามารถและมคี วามเปน็ มอื อาชีพในการจัดบริการส่งเสรมิ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ิตของประชาชน 6) ส่งเสริมให้คณะกรรมการ กศน. ทุกระดับ และคณะกรรมการสถานศึกษา มีส่วนร่วมใน การบรหิ ารการดาเนนิ งานตามบทบาทภารกิจของ กศน.อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ใหส้ ามารถทาหน้าที่สนบั สนุนการจดั การศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 8) พฒั นาสมรรถนะและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรรวมท้ังภาคีเครือข่ายท้ังใน และต่างประเทศในทุกระดับ โดยจัดให้มีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพและเพ่ิมปร ะสิทธิภาพในการ ทางานร่วมกันในรูปแบบท่ีหลากหลายอย่างต่อเน่ืองอาทิ การแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนา ประสิทธิภาพในการทางาน 6.2 การพัฒนาโครงสรา้ งพ้ืนฐานและอตั รากาลัง 1) จดั ทาแผนการพัฒนาโครงสรา้ งพื้นฐานและดาเนินการปรบั ปรุงสถานท่ีและวัสดุอุปกรณ์ ให้ มีความพร้อมในการจดั การศึกษาและการเรียนรู้ 2) สรรหา บรรจุ แต่งตั้ง และบริหารอัตรากาลังที่มีอยู่ท้ังในส่วนท่ีเป็นข้าราชการ พนักงาน ราชการและลกู จ้าง ให้เปน็ ไปตามโครงสรา้ งการบริหารและกรอบอัตรากาลัง รวมทั้งรองรับกับบทบาทภารกิจ ตามทีก่ าหนดไว้ให้เกดิ ประสทิ ธิภาพสงู สดุ ในการปฏบิ ัตงิ าน 3) แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรเพ่ือนามาใช้ใน การปรบั ปรุงโครงสรา้ งพ้นื ฐานใหม้ ีความพรอ้ มสาหรับดาเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย และการสง่ เสริมการเรียนรู้สาหรับประชาชน 6.3 การพฒั นาระบบบริหารจดั การ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเช่ือมโยงกันท่ัวประเทศ อย่างเป็นระบบเพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช้เป็นเคร่ืองมือสาคัญในการบริหาร การวางแผน การปฏิบัติงาน การตดิ ตามประเมินผล รวมท้ังจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั อย่างมีประสทิ ธิภาพ สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

12 2) เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากับ ควบคุม และ เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นตามเปูาหมายทก่ี าหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา กศน. ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และ เช่ือมโยงกันท่ัวประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษา ใหก้ บั ผู้เรยี นและการบรหิ ารจดั การอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 4) สง่ เสรมิ ให้มีการจดั การความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมท้ังการศึกษาวิจัย เพ่ือสามารถนามาใช้ในการพัฒนาประสิทธภิ าพการดาเนินงานที่สอดคล้องกับความตอ้ งการของประชาชนและ ชมุ ชนพรอ้ มทงั้ พัฒนาขดี ความสามารถเชงิ การแข่งขนั ของหนว่ ยงานและสถานศึกษา 5) สร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมทั้งใน ประเทศและตา่ งประเทศ รวมท้ังส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพ่ือสร้างความเข้าใจ และให้ เกิดความรว่ มมอื ในการส่งเสรมิ สนบั สนุน และจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้ให้กับประชาชนอยา่ งมคี ณุ ภาพ 6) ส่งเสริมการใช้ระบบสานักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e-office) ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบ การลา ระบบสารบรรณอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ระบบการขอใชร้ ถราชการ ระบบการขอใช้ห้องประชมุ เปน็ ตน้ 7) พฒั นาและปรบั ระบบวธิ ีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ บรหิ ารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธ์ิมีความโปรง่ ใส 6.4 การกากบั นิเทศติดตามประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดาเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยใหเ้ ชือ่ มโยงกับหนว่ ยงาน สถานศกึ ษาและภาคเี ครอื ขา่ ยทัง้ ระบบ 2) ให้หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาท่ีเกยี่ วขอ้ งทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกากับ ติดตามและ รายงานผลการนานโยบายสู่การปฏบิ ัติ ใหส้ ามารถตอบสนองการดาเนนิ งานตามนโยบายในแต่ละเรื่องได้อย่าง มปี ระสิทธิภาพ 3) ส่งเสริมการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และส่ืออ่ืนๆ ที่เหมาะสม เพื่อการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคารับรองการปฏิบัติราชการ ประจาปขี องหนว่ ยงาน สถานศึกษาเพือ่ การรายงานผลตามตัวชีว้ ัดในคารบั รองการปฏิบตั ิราชการประจาปีของ สานักงานกศน.ให้ดาเนนิ ไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพเปน็ ไปตามเกณฑ์ วธิ กี าร และระยะเวลาที่กาหนด 5) ให้มีการเชอื่ มโยงระบบการนิเทศในทกุ ระดบั ทงั้ หนว่ ยงานภายในและภายนอกองค์กร ต้ังแต่ สว่ นกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพ่ือความเป็นเอกภาพในการใช้ข้อมูล และการพัฒนางานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย **กศน. นอ้ มนาพระบรมราโชบายสกู่ ารปฏบิ ตั ิ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรสี ินทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชริ เกา้ เจ้าอย่หู ัว รัชกาลที่ 10 พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาการศึกษาต้องมั่นสร้างพ้ืนฐานให้แก่ผเู้ รียน ๔ ดา้ น สนใจสงั่ ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

13 1. มที ศั นคติทีถ่ กู ต้องต่อบ้านเมอื ง 1) ความรู้ความเขา้ ใจตอ่ ชาตบิ ้านเมอื ง 2) ยดึ ม่ันในศาสนา 3) ม่ันคงในสถาบนั กษตั ริย์ 4) มีความเอื้ออาทรต่อครอบครวั และชุมชนของตน 2. มีพื้นฐานชวี ติ ท่ีมัน่ คง – มีคุณธรรม 1) รู้จักแยกแยะส่ิงผิด-ชอบ/ช่วั ดี 2) ปฏบิ ตั ิแต่สิ่งที่ชอบ ทีด่ ีงาม 3) ปฏเิ สธสิง่ ท่ีผิดสิ่งท่ชี ั่ว 4) ชว่ ยกนั สรา้ งคนดใี หแ้ ก่บา้ นเมอื ง 3. มีงานทา – มอี าชีพ 1) การเลีย้ งดลู ูกหลานในครอบครวั หรือการฝกึ ฝนอบรมในสถานศกึ ษาต้องม่งุ ใหเ้ ดก็ และเยาวชน รักงาน ส้งู าน ทาจนงานสาเร็จ 2) การฝึกฝนอมรมทั้งในหลกั สตู รและนอกหลักสูตรต้องมีจุดมุ่งหมายใหผ้ ้เู รยี นทางาน เป็นและมีงานทาในทีส่ ดุ 3) ตอ้ งสนบั สนุนผสู้ าเรจ็ หลักสูตรมอี าชพี มีงานทา จนสามารถเลี้ยงตนเองและ ครอบครวั 4. เป็นพลเมืองดี 1) การเป็นพลเมอื งดี เป็นหนา้ ทีข่ องทกุ คน 2) ครอบครัว – สถานศกึ ษาและสถานประกอบการต้องส่งเสรมิ ใหท้ ุกคนมโี อกาสทา หน้าที่เปน็ พลเมอื งดี 3) การเปน็ พลเมอื งดี คอื “เหน็ อะไรท่จี ะทาเพ่อื บา้ นเมืองไดก้ ็ต้องทา” เช่นงาน อาสาสมัคร งานบาเพญ็ ประโยชน์ งานสาธารณ **การส่งเสริมให้ประชาชนได้เรยี นรอู้ ย่างตอ่ เน่อื งตลอดชีวติ เพ่ือความผาสุกของประชาชน ภายใตค้ า่ นยิ มหลกั (Core value) “คนสาราญ งานสาเร็จ” สรา้ งกระบวนการทางาน กศน. ยดึ หลัก“ประหยัด เรยี บง่าย ได้ประโยนส์ งู สุด” ดงั นี้ กศน. เปิดโอกาส : การศึกษาเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการศกึ ษาและแหลง่ เรยี นรู้ ทกุ ทท่ี ุกเวลา สนใจสัง่ ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

14 กศน. สร้างอาชพี : การศกึ ษาเพื่อการมงี านทา มีสมั มาชพี โดยชอบ เพอื่ ศักยภาพการแข่งขันใน ยุคดจิ ทิ ัล กศน.พัฒนาถน่ิ ไทยงาม : การศึกษาเพอ่ื นอ้ มนาและเผยแพรศ่ าสตร์พระราชา หลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงรวมถึงแนวทางพระราชดาริต่าง ๆ ให้เกดิ ความเขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแท้และนาไปประยุกต์ ปฏบิ ตั ใิ ช้อย่างกว้างขวาง รวมทงั้ ธารงและตอ่ ยอดภูมิปญ๎ ญาไทยตามบริบทของชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ และ ครอบครัว **ONIE UNLOCK กศน. : การเรยี นรไู้ รข้ ีดจากัด การเรียนรูต้ ลอดชวี ติ (Lrarning For All) กศน. : เปิดโอกาส / สรา้ งอาชีพ / พัฒนาถน่ิ ไทยงาม Smart Center กศน.งามตา ประชาชืน่ ใจ กศน.ตาบล 5 ดี Premium และ Premium, Digital Li(fe)brary, Co-learning Space, Digital Science Museum, ศนู ยเ์ รยี นรู้ทกุ ชว่ งวยั Smart Learning ขบั เคลอ่ื นนโยบาย รมต., ระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform รองรับ DEEP, เรียน On-Air Online On-Site, ปรับปรุงหลกั สตู ร, Credit Bank Systemหรอื ระบบการเทยี บ โอน / E-exam, หลักสตู รรองรับ Up skill / Reskill, การพัฒนาครู / Digital Literracy, ผลักดนั พ.ร.บ. / ปรบั โครงสร้างอตั รากาลงั Smart Activities ยกระดับผลติ ภณั ฑ์/สินคา้ กศน. ขยายชอ่ งทางการจาหน่าย/ เนน้ ฝกึ อาชพี เพือ่ การมงี าน ทา, Active Learning เนน้ คดิ เป็น สรา้ งนวตั กรรมจากทอ้ งถ่นิ ภมู ิปญ๎ ญา, นอ้ มนาพระบรมราโชบายสู่ การปฏิบตั ิ (โคกหนองนาโมเดล บวร ฯลฯ) หน่ึงชุมชน หนง่ึ นวัตกรรม พัฒนาถน่ิ ไทยงาม, กระบวนการ ลกู เสอื และยุวกาชาด, กิจกรรมเช่อื มความสมั พันธ์ กศน. เกมส์ **กระบวนการทางาน กศน. ปจ๎ จยั นาเข้า (Input) : ประหยดั กระบวนการทางาน (Process) : เรยี บงา่ ย ผลได้ (Output / Outcome / Impact) : ได้ประโยชนส์ ูงสดุ มงุ่ ทางานแบบ 3P Professional : มืออาชพี Proactive : เชิงรกุ Public relations : ประชาสัมพันธ์ สนใจสัง่ ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

**คา่ นิยม “กศน. องค์กรท่ีมีความสุข” 15 Team work กศน. องคก์ รที่มีความสุข : Happiness Engagement Happiness ไมเ่ ดนิ ลาพงั จบั มือรว่ มกัน : Team Coaching work รกั และผกู พนั สร้างสรรคอ์ งคก์ ร : Engagement พปี่ ระครองให้น้องเดิน (พ่พี ร้อมให้ นอ้ งใฝรุ ับ) : Coaching แนวขอ้ สอบ นโยบาย สานกั งาน กศน. ประจาปงี บประมาณ 2564 1. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร คนปัจจุบนั คือใคร ก. นายณฐั พล ทปี สวุ รรณ ข. นางสาวตรนี ชุ แทนทอง ค. นางกนกวรรณ วลิ าวัลย์ ง. คณุ หญงิ กัลยา โสภณพานิช 2. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร คนปัจจบุ นั เป็นคนทีเ่ ท่าไหร่ ก. 53 ข. 54 ค. 55 ง. 56 3. เลขาธิการ กศน. คนปัจจบุ ันคอื ใคร ก. นายสุภัทร จาปาทอง ข. นางกนวกวรรณ วลิ าวัลย์ ค. นายวรัท พฤกษาทวีกลุ ง. นายดิสกุล เกษมสวัสดิ์ 4. “คนไทยทกุ ช่วงวัยไดร้ บั โอกาสทางการศกึ ษาและการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ อย่างมคี ุณภาพ มที กั ษะที่ จาเป็นและสมรรถนะที่สอดรบั กบั ทิศทางการพฒั นาประเทศ สามารถดารงชวี ิตได้อย่างเหมาะสมบน รากฐานของหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง“ สอดคลอ้ งกับข้อใด ก. วิสัยทัศน์ ข. พันธกิจ ค. จุดเน้น ง. ภารกิจ 5. “พัฒนาหลักสตู ร รูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื และนวตั กรรมเทคโนโลยที างการศึกษา การวัดและประเมินผลในทุกรูปแบบใหม้ คี ณุ ภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับรปู แบบการจัดการ เรยี นรแู้ ละบริบทในปัจจบุ นั ” ก. วิสัยทศั น์ ข. พนั ธกจิ ค. เปูาประสงค์ ง. ภารกิจ สนใจสั่งชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

16 6. ขอ้ ใดคือเปูาประสงค์ ของสานกั งาน กศน.ประจาปงี บประมาณ 2564 ก. พัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภายในองคก์ รให้มเี อกภาพ ข. จดั และส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยท่ีมคี ุณภาพ ค. ประชาชนไดร้ ับการยกระดับการศึกษา สรา้ งเสรมิ และปลกู ฝง๎ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ง. ยกระดบั การบรหิ ารและการพัฒนาศักยภาพบคุ ลากรใหม้ คี วามรู้ ทักษะ สมรรถนะ คณุ ธรรม 7. แนวทางในการจดั การบรหิ ารทรพั ยากรรปู แบบต่างๆ ทงั้ ดนิ น้า ลม แดด รวมถึงพชื พนั ธ์ุ ตา่ งๆ และส่งเสริม การใชพ้ ลงั งานทดแทนอย่างมปี ระสิทธิภาพ สอดคล้องกบั ขอ้ ใด ก. มงี านทา – มอี าชีพ ข. โคก หนอง นา โมเดล ค. เศรษฐกิจพอเพียง ง. หนงึ่ ชมุ ชน หนึ่งนวัตกรรม 8. ข้อใดคือจุดเนน้ ในการสง่ เสรมิ การจดั การศึกษาและการเรียนร้ตู ลอดชีวติ สาหรับประชาชนท่ี เหมาะสมกบั ทกุ ชว่ งวยั ก. พัฒนาระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform ข. พัฒนาศักยภาพและทกั ษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจทิ ลั ค. นานวตั กรรมและเทคโนโลยดี ิจิทัลมาใชใ้ นการบรหิ ารจัดการ ง. การจัดการศึกษาอาชีพเพอ่ื การมงี านทา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill 9. จดุ เนน้ การดาเนินงาน กศน. ปงี บประมาณ 2564 ข้อแรกคอื ข้อใด ก. ดา้ นความมั่นคง ข. น้อมนาพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาสูก่ ารปฏบิ ัติ ค. พฒั นาศกั ยภาพและประสิทธิภาพในการทางานของบุคลากร กศน. ง. ส่งเสริมการจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ตลอดชีวติ สาหรับประชาชนทีเ่ หมาะสมกับทกุ ช่วงวัย 10. การแขง่ ขนั กฬี า กศน. เกมส์ อยจู่ ุดเนน้ การดาเนนิ งาน กศน. ปีงบประมาณ 2564 ข้อใด ก. พฒั นาศักยภาพและประสิทธภิ าพในการทางานของบุคลากร กศน. ข. ปรับปรงุ และพัฒนาโครงสรา้ งและระบบบรหิ ารจัดการองคก์ ร ค. บูรณาการความรว่ มมือในการส่งเสริม สนับสนนุ และจดั การศกึ ษาและการเรยี นรู้ ง. ส่งเสรมิ การจดั การศึกษาและการเรียนรูต้ ลอดชีวติ สาหรับประชาชนทเ่ี หมาะสมกับทุกช่วงวยั 11. รัฐมนตรที ่านใดท่ีไดร้ ับมอบหมายใหก้ ากับดูแลงานของ สานักงาน กศน. ก. นางสาวตรนี ุช เทยี นทอง ข. คณุ หญงิ กลั ยา โสภณพนิช ค. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ง. นายสภุ ัทร จาปาทอง สนใจส่ังช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

17 12. ใครเป็นผ้กู าหนดนโยบาย กศน. WOW ก. นางสาวตรนี ชุ เทียนทอง ข. คณุ หญิงกลั ยา โสภณพนิช ค. นางกนกวรรณ วิลาวลั ย์ ง. นายสภุ ัทร จาปาทอง 13. ข้อใดไม่สอดคล้องกบั การพัฒนาหลักสูตร สอื่ เทคโนโลยีและนวตั กรรมทางการศกึ ษา ก. พฒั นาระบบการเรียนรู้ ข. พฒั นาแหล่งเรยี นรปู้ ระเภทต่างๆ ค. พัฒนาหลกั สูตรการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานให้ทนั ยุคทนั สมัย ง. พัฒนาระบบรบั สมคั รนกั ศึกษาและสมัครฝึกอบรมแบบออนไลน์ 14. ขอ้ ใดคือกลุ่มเปาู หมายการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ก. ผทู้ ่ไี ม่ได้อย่ใู นระบบการศกึ ษาไทย ข. ประชาชนทุกช่วงวยั ที่ไมไ่ ดร้ ับการศกึ ษา ค. ผู้ดอ้ ย พลาดและขาดโอกาสทางการศึกษา ง. ประชาชนวยั แรงงานอายตุ ้งั แต่ 15 ปีบริบูรณ์ขน้ึ ไป 15. นโยบายการพัฒนาศนู ยก์ ารเรียนชุมชนชาวไทยภเู ขา สอดคล้องกับข้อใด ก. พืน้ ทสี่ ูง ข. แม่ฟูาหลวง ค. อมกอ๋ ย ง. สังขละบรุ ี 16. พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาของสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวราง กรู เกยี่ วข้องกับข้อใดมากทสี่ ดุ ก. เจตคติ และคา่ นิยม ข. ทศั นคติและอุปนิสัย ค. คา่ นยิ มและทศั นคติ ง. คุณธรรมและความดี 17. Character Education ข้อใดถูกต้อง ก. ส่งเสริมให้นักเรยี นมีทัศนคตทิ ีถ่ กู ตอ้ ง ข. การสรา้ งบคุ ลิกและอุปนิสัยที่ดงี าม ค. ความเป็นเลศิ ทางการศกึ ษา ง. ผนู้ าด้านการแสดงออก 18. พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษา ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัว มหาวชิราลงกรณบดนิ ทรเทพยวรางกรู “การศึกษาตอ้ งมงุ่ สรา้ งพนื้ ฐานใหแ้ ก่ผ้เู รยี น” ขอ้ ใดถูกต้อง ก. ทัศนคติที่ถูกต้อง ข. พื้นฐานชีวติ ท่มี ัน่ คงแขง็ แรง ค. คุณภาพชีวิตท่ดี ีงาม ง. ข้อ ก และ ข 19. พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษา ในหลวงรชั กาลท่ี 10 ข้อทว่ี า่ “งานอาสาสมคั ร งานบาเพญ็ ประโยชน์ งานสาธารณกุศลให้ทาด้วยความมีนา้ ใจ และความเอ้ืออาทร ” จัดเปน็ การศึกษาต้องมุ่ง สร้างพ้นื ฐานใหแ้ กผ่ เู้ รยี นด้านใด สนใจสง่ั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

18 ก. เปน็ พลเมืองทด่ี ี ข. มพี น้ื ฐานชีวติ ท่ีมน่ั คง – มคี ณุ ธรรม ค. มงี านทา – มีอาชพี ง. มีทศั นคตทิ ีถ่ กู ตอ้ งตอ่ บา้ นเมือง 20. พระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลท่ี 10 ขอ้ ที่ว่า “ปฏเิ สธสิ่งท่ีผิด สิ่งที่ชว่ั ” จดั เป็นการศึกษาตอ้ งมุ่งสรา้ งพื้นฐานให้แก่ผเู้ รียนด้านใด ก. มงี านทา – มีอาชีพ ข. มีทัศนคตทิ ่ถี กู ต้องต่อบ้านเมือง ค. เปน็ พลเมอื งทดี่ ี ง. มีพื้นฐานชวี ิตทีม่ ั่นคง – มีคุณธรรม 21. พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 ข้อทีว่ า่ “การฝึกฝนอมรมท้งั ใน หลกั สตู รและนอกหลกั สูตรตอ้ งมีจุดมงุ่ หมายให้ผ้เู รยี น ทางานเปน็ และมงี านทาในทีส่ ุด” จัดเปน็ การศกึ ษาตอ้ งม่งุ สร้างพ้ืนฐานใหแ้ ก่ผเู้ รยี นดา้ นใด ก. มงี านทา – มอี าชพี ข. เปน็ พลเมืองทีด่ ี ค. มพี น้ื ฐานชีวติ ท่มี ั่นคง – มีคณุ ธรรม ง. มที ัศนคติท่ีถูกตอ้ งตอ่ บา้ นเมอื ง 22. พระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรชั กาลท่ี 10 ข้อท่ีวา่ “ปฏิบตั แิ ต่ส่ิงทช่ี อบ สงิ่ ท่ีดงี าม ” จดั เป็นการศึกษาต้องมงุ่ สรา้ งพ้ืนฐานใหแ้ กผ่ ู้เรียนดา้ นใด ก. มงี านทา – มอี าชพี ข. เป็นพลเมืองที่ดี ค. มีพ้ืนฐานชวี ติ ท่ีม่ันคง – มีคุณธรรม ง. มีทศั นคติทถี่ ูกตอ้ งตอ่ บ้านเมือง 23. พระบรมราโชบายด้านการศกึ ษา ในหลวงรชั กาลที่ 10 ข้อทีว่ า่ ” เปน็ หน้าทข่ี องทุกคน” จัดเป็นการศึกษาตอ้ งมุ่งสร้างพ้ืนฐานใหแ้ กผ่ ู้เรียนด้านใด ก. มีงานทา – มีอาชพี ข. มีทัศนคตทิ ีถ่ ูกตอ้ งตอ่ บา้ นเมอื ง ค. เปน็ พลเมอื งท่ีดี ง. มีพืน้ ฐานชีวติ ท่ีมน่ั คง – มคี ณุ ธรรม 24. พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษา ในหลวงรัชกาลท่ี 10 ข้อทีว่ า่ “มน่ั คงในสถาบันกษตั ริย์” จดั เป็นการศึกษาต้องมุ่งสรา้ งพื้นฐานใหแ้ ก่ผู้เรยี นด้านใด ก. มพี ้ืนฐานชวี ติ ทมี่ ัน่ คง – มคี ุณธรรม ข. มงี านทา – มีอาชพี ค. มีทศั นคตทิ ีถ่ ูกต้องตอ่ บ้านเมือง ง. เป็นพลเมืองท่ีดี 25. พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษา ในหลวงรชั กาลท่ี 10 ข้อที่ว่า “การเลีย้ งดลู ูกหลานใน ครอบครวั หรือการฝกึ ฝนอบรมในสถานศกึ ษาตอ้ งมุ่งให้เด็กและเยาวชน รักงาน สู้งาน ทาจนงาน สาเรจ็ ” จัดเป็นการศกึ ษาตอ้ งมุ่งสร้างพ้ืนฐานใหแ้ ก่ผู้เรยี นดา้ นใด ก. มีงานทา – มีอาชพี ข. เปน็ พลเมืองทดี่ ี ค. มีทศั นคตทิ ่ถี ูกตอ้ งตอ่ บ้านเมอื ง ง. มพี นื้ ฐานชวี ติ ทมี่ ั่นคง – มคี ณุ ธรรม 26. ค่านยิ มหลกั (Core value) ของ กศน. คอื ข้อใด ก. การเรียนรู้ไร้ขีดจากดั ข. คนสาราญ งานสาเร็จ ค. กศน. องค์กรทมี่ ีความสุข ง. ประหยัด เรียบงา่ ย ไดป้ ระโยชน์สูงสุด สนใจส่ังชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

19 27. ONIE UNLOCK กศน. หมายถึงข้อใดมากที่สุด ก. การเรียนรู้ตลอดชีวติ ข. การเรียนรไู้ รพ้ รมแดน ค. การเรยี นรู้ไร้ขดี จากดั ง. การขยายโอกาสทางการศกึ ษา 28. ขอ้ ใดสอดคล้องกบั คาวา่ Smart Activities ตามแนวทาง ONIE UNLOCK กศน. ก. ระบบการเรยี นรู้ ONIE Digital Learning Platform ข. กศน.ตาบล 5 ดี Premium ค. ยกระดับผลิตภัณฑ์/สนิ คา้ กศน. ง. ระบบการเทยี บโอนผลการเรียน 29. ข้อใดไมใ่ ชแ่ นวทางการส่งเสรมิ การเรียนรตู้ ลอดชีวติ (Lrarning For All) กศน. ก. สร้างครพู นั ธุพ์ ิเศษ ข. เปิดโอกาสทางการเรียนรู้ ค. สรา้ งอาชพี มงี านทา ง. สร้างนวัตกรรม พัฒนาถิ่นไทยงาม 30. โคกหนองนาโมเดล สอดคล้องกบั การเรียนรใู้ ดมากทีส่ ดุ ก. ศูนยเ์ รยี นรูท้ กุ ชว่ งวยั ข. ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ค. หลกั สตู รรองรับ Up skill / Reskill ง. ระบบการเรยี นรู้ ONIE Digital Learning Platform 31. Credit Bank System คอื ข้อใด ก. ระบบการเทียบโอน ข. ระบบการสอบระดับชาติ ค. ระบบการพัฒนาครูและบคุ ลากร ง. ระบบการพัฒนาแหลง่ เรียนรู้ 32. กระบวนการทางานใดคือปัจจัยนาเขา้ (Input) ก. เรียบง่าย ข. ประหยัด ค. มีประสทิ ธภิ าพ ง. ได้ประโยชนส์ งู สุด 33. การทางานแลว้ “ได้ประโยชน์สงู สุด” ตรงกบั ขอ้ ใด ก. Input ข. Process ค. Outcome ง. Product 34. ขอ้ ใดคือ ค่านยิ ม กศน. ก. กศน. องค์กรท่ีเรยี บง่าย ข. กศน. องค์กรท่ที ันสมัย ค. กศน. องคก์ รทน่ี ยิ ม ง. กศน. องคก์ รท่มี ีความสุข 35. คากล่าวทีว่ ่า “ไมเ่ ดนิ ลาพัง จับมือรว่ มกนั ” ตรงกบั ขอ้ ใดมากทสี่ ุด ก. Engagement ข. Coaching ค. Team work ง. Second power สนใจสัง่ ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

20 36. การสรา้ งคา่ นิยม “รกั และผกู พนั สรา้ งสรรค์องค์กร” ตรงกับข้อใด ก. Engagement ข. Coaching ค. Team work ง. Second power 37. ข้อใดไมใ่ ช่การมงุ่ ทางานแบบ 3P ก. Proactive ข. Professional ค. Public relations ง. Promoter 38. “ตีฆ้องรอ้ งปุาว ข่าวชาว กศน.” สอดคล้องกับนโยบายใด ก. การพัฒนาระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform ข. การพฒั นาความสามารถดา้ นดิจทิ ลั Digital Literacy ค. การพฒั นาระบบ Big Data ท่ที ันสมยั รวดเร็ว และทนั ที ง. การปรบั ปรุงพฒั นาหลักสูตรทุกระดับ ทุกประเภท ใหท้ นั สมัย สอดคล้องกบั บรบิ ทของสภาวะ ป๎จจุบนั และความตอ้ งการของผู้เรียน 39. “เรียนรไู้ ด้ทุกท่ี ทกุ เวลา” สอดคล้องกับนโยบายใด ก. สง่ เสรมิ สนับสนุนการฝกึ อาชีพเพ่ือการมีงานทา ข. การพัฒนาระบบ Big Data ท่ีทนั สมยั รวดเร็ว และทันที ค. การพัฒนาระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform ง. การปรบั ปรงุ พฒั นาหลักสูตรทุกระดับ ทุกประเภท ให้ทนั สมัย 40. “หนึ่งชมุ ชน หน่งึ นวตั กรรมการพัฒนาชุมชนถนิ่ ไทยงาม” เพ่ือความกินดอี ยู่ดี มงี านทา เป็นไป ตามนโยบายใด ก. การนอ้ มนาพระบรมราโชบายของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ดา้ นการศกึ ษาส่กู ารปฏิบตั ิ ข. การขับเคลื่อนนโยบายของรฐั มนตรที ่ีต้องการให้ กศน.ลดความเหลื่อมล้า เปิดโอกาสทางการ ศกึ ษา ค. การพัฒนาระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform ง. การปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรทุกระดับ ทุกประเภท ให้ทันสมยั \\ เฉลยขอ้ สอบ 1.ข 2.ค 3.ค 4.ก 5.ข 6.ค 7.ข 8.ง 9.ข 10.ก 11.ค 12.ค 13.ค 14.ค 15.ข 16.ข 17.ข 18.ง 19.ก 20.ง 21.ก 22.ค 23.ค 24.ค 25.ก 26.ข 27.ค 28.ค 29.ก 30.ข 31.ก 32.ข 33.ค 34.ง 35.ค 36.ก 37.ง 38.ค 39.ค 40.ก สนใจส่ังชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

21 พระราชกฤษฎกี า วา่ ดว้ ยหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารบริหารกจิ การบ้านเมอื งทีด่ ี พ.ศ.2546  บงั คบั ใช้ 10 ตุลาคม 2546 นายกรฐั มนตรี รักษาการตามระเบียบนี้ **ส่วนราชการ หมายถงึ สว่ นราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม และ หนว่ ยงานอ่ืนของรฐั ทอ่ี ยใู่ นกากบั ของราชการฝุายบริหาร 6 สานกั 1) สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี 2) สานกั เลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี 3) สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ 4) สานักงบประมาณ 5) สานักงานพฒั นาระบบราชการ 6) สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า) แต่ไม่รวมองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น **การบริหารกิจการบา้ นเมอื งท่ดี ี เพ่ือบรรลุ 7 เปูาหมาย 1) เกดิ ประโยชน์สุขของประชาชน (เปูาหมายสูงสดุ ) 2) เกิดผลสัมฤทธิ์ตอ่ ภารกจิ ของรัฐ (มีแผนปฏิบัตกิ าร) 3) มปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ความคุ้มคา่ ในเชิงภารกจิ ของรฐั (มเี ปูาหมาย คุม้ ค่า) 4) ไมม่ ีข้ันตอนปฏิบัตงิ านเกดิ ความจาเป็น (บริการสะดวก รวดเร็ว ใช้เทคโนโลยี) 5) มกี ารปรับปรงุ ภารกิจของส่วนราชการใหท้ ันตอ่ สถานการณ์ 6) ประชาชนไดร้ บั การอานวยความสะดวกและไดร้ ับการตอบสนองความต้องการ 7) มีการประเมินผลการปฏิบตั ิราชการสม่าเสมอ **การบรหิ ารราชการเพื่อให้เกดิ ประโยชนส์ ุขของประชาชน **เกดิ ประโยชน์สุขของประชาชน (สาคัญทีส่ ุด) การปฏบิ ตั ิราชการท่ีมเี ปูาหมายเพ่ือเกิด ความผาสุกและความเปน็ อยู่ท่ีดี ความสงบและปลอดภัยของสงั คม ประโยชน์สูงสดุ ของประเทศ) **แนวทางการบริหารราชการ 1. การกาหนดภารกจิ ของรฐั และสว่ นราชการ 2. การปฏิบตั ภิ ารกจิ ของส่วนราชการตอ้ งเปน็ ไปโดยซ่อื สัตยส์ จุ ริต 3. ตอ้ งศกึ ษาวเิ คราะห์ผลดแี ละผลเสยี ใหค้ รบถ้วนทุกด้าน 4. จะตอ้ งคอยรับฟ๎งความคิดเหน็ และความพงึ พอใจของสงั คมโดยรวมและประชาชน ผู้รับบริการ 5. กรณีเกิดปญ๎ หา ให้ดาเนินการแกไ้ ขปญ๎ หาและอปุ สรรคนัน้ โดยเร็ว สนใจสัง่ ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

22 **การบริหารราชการเพือ่ ใหเ้ กิดผลสัมฤทธิต์ ่อภารกิจของรัฐ *เกิดผลสมั ฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ 1. กอ่ นดาเนินภารกิจใดตอ้ งจดั ทาแผนปฏิบตั ิราชการไว้เป็นการล่วงหนา้ 2. แผนปฏบิ ตั ิราชการ มรี ายละเอยี ดขนั้ ตอน ระยะเวลาและงบประมาณทต่ี อ้ งใชใ้ นการ ดาเนินการ ของแตล่ ะขนั้ ตอน เปาู หมาย ผลสมั ฤทธิ์ตวั ชี้วัดความสาเร็จ 3. จดั ให้มีการติดตามและประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ าน 4. แผนปฏบิ ัติราชการเกิดผลกระทบ ตอ้ งแก้ไขให้เหมาะสม **ให้สภาผแู้ ทนราษฎรแต่งต้งั นายกรฐั มนตรี ภายใน 30 วนั และให้คณะรัฐมนตรี ต้องแถลง นโยบายภายใน 15 วนั ให้คณะรัฐมนตรีจัดทาแผนการบรหิ ารราชการแผ่นดนิ 4 ปี ให้สอดคลอ้ งกับ นโยบายรฐั บาลท่ีแถลงต่อรฐั สภาภายใน 90 วัน ร่วมกบั 4 สานกั 1) สานักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี 2) สานักเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี 3) สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ 4) สานกั งบประมาณ จากนัน้ จัดทาแผนปฏบิ ตั ิราชการ 4 ปีและแผนปฏบิ ตั ริ าชการประจาปงี บประมาณ (ยกเว้น อปท.) โดยรัฐมนตรอี นุมัติ หากมกี ารเปลีย่ นแปลงภารกจิ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นแผน ต้องไดร้ ับอนุมัติจาก คณะรฐั มนตร)ี เมื่อประกาศใช้แผนการบรหิ ารราชการแผน่ ดินแล้วให้ 1) สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา 2) สานกั เลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรี จัดทาแผนนิตบิ ญั ญตั ิ คณะรฐั มนตรใี หค้ วามเห็นชอบ ใหส้ ว่ นราชการจัดทาแผนปฏบิ ัตริ าชการประจาปี 4 ปี และในแตล่ ะปีทา แผนปฏบิ ัติราชการประจาปี เสนอต่อรฐั มนตรี ให้สานกั งบประมาณดาเนินการจัดสรรงบประมาณ เม่อื สนิ้ ปีงบประมาณ ให้สว่ นราชการรายงานผลสมั ฤทธิข์ องแผนประจาปีต่อคณะรัฐมนตรี **การบริหารราชการอย่างมปี ระสิทธภิ าพและเกิดความคมุ้ คา่ ในเชงิ ภารกิจของรฐั *มีประสทิ ธิภาพและเกิดความคมุ้ ค่าในเชงิ ภารกิจของรัฐ สว่ นราชการกาหนด 1)เปาู หมาย 2)แผนการทางาน 3 )ระยะเวลาแลว้ เสร็จหรือโครงการ และ 4)งบประมาณ สว่ นราชการจัดทาแผนการลดรายจ่ายหนว่ ยงาน เสนอตอ่ 1)สานกั งบบประมาณ 2) กรมบัญชกี ลาง 3)คณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ทราบ ให้ 1)สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ 2)สานักงบประมาณ ประเมินความค้มุ ค่า เพ่ือรายงานคณะรฐั มนตรี มอี านาจในการยุบโครงการ สนใจสงั่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

23 **การลดข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน **ไมม่ ีขั้นตอนการปฏบิ ัติงานเกินความจาเป็น การลดข้นั ตอนการปฏิบัติงาน เป็นการ กระจายอานาจ การสั่ง การอนุญาต การตดั สินใจ มุ่งผลให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการบริการ ประชาชน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือลดขัน้ ตอน เพิม่ ประสทิ ธภิ าพและประหยดั การจัดทาแผนภมู ิ ขั้นตอนและระยะเวลา การจดั ตง้ั ศนู ย์บรกิ ารร่วมให้ตดิ ต่อสอบถาม ไม่เกดิ ผลเสียหายแก่ราชการ **การปรบั ปรงุ ภารกิจของสว่ นราชการ **มกี ารปรับปรุงภารกจิ ของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์ ทบทวนภารกจิ ของตน โดย คานงึ ถึง 1)แผนบริหารราชการแผ่นดิน 2)นโยบายของคณะรฐั มนตรี 3)เงนิ งบประมาณ 4)ความคุ้มคา่ *จัดใหม้ ีการแกไ้ ข ปรับปรุง ยกเลกิ กฎหมาย ระเบยี บ ที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ปจั จุบัน โดยคานึงถึง ความสะดวกรวดเรว็ และลดภาระของประชาชนเป็นสาคัญ *โดยการเสนอแนะของ สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากสว่ นราชการไมเ่ หน็ ชอบ คาแนะนาของกฤษฎีกา ใหเ้ สนอเร่ืองต่อ คณะรฐั มนตรีวนิ ิจฉัย) **การอานวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการประชาชน *สว่ นราชการกาหนดระยะเวลาแลว้ เสรจ็ ของงานแต่ละงานและประกาศใหป้ ระชาชน ขา้ ราชการทราบ *การรบั การตดิ ต่อสอบถามเป็นหนงั สอื จากประชาชน ต้องตอบคาถาม ภายใน 15 วัน *จัดให้มีระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศ เพ่ืออานวยความสะดวกใหแ้ ก่ประชาชนและผูม้ าติดต่อ ในกรณแี จ้งผา่ นทางระบบเครอื ข่ายสารสนเทศ มิให้เปิดเผยชอ่ื หรือที่อยู่ของผ้รู ้องเรียน **การประเมินผลการปฏบิ ตั ริ าชการ **มีการประเมินผลการปฏิบัตริ าชการอยา่ งสมา่ เสมอ (จัดสรรเงินเพมิ่ พิเศษ) ประเมินผล 4 อยา่ ง 1)ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ 2)คุณภาพการให้บรกิ าร 3)ความพงึ พอใจของ ประชาชน 4)ความคุม้ ค่าในภารกิจ *ใหส้ ว่ นราชการมีคณะผปู้ ระเมนิ อิสระ ดาเนนิ การประเมินผลการปฏิบตั ิสว่ นราชการ สว่ น ใดให้บริการทม่ี ีคณุ ภาพ ใหค้ ณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอรัฐมนตรีจดั สรรเงนิ เพมิ่ พิเศษเป็นบาเหน็จความชอบแก่สว่ นราชการ หรือใช้งบประมาณเหลอื จา่ ยนนั้ ) *การส่งั ราชการโดยปกตใิ หเ้ ปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร เว้นแต่ไม่สามารถสั่งได้ จะส่งั ราชการด้วย วาจาก็ได้ แต่ผู้รับคาส่งั ต้องบันทึกคาสงั่ วาจาไว้เปน็ ลายลักษณอ์ ักษร **ให้องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น จัดทาหลักการบรหิ ารจัดการบา้ นเมืองทด่ี ี ต้องมี 1)การ ลดขน้ั ตอนการปฏิบตั ิ 2)การอานวยความสะดวกและการตอบสนองตอ้ งการของประชาชน สนใจสงั่ ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

24 แนวขอ้ สอบ การบริหารกจิ การบา้ นเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 1. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนราชการท่อี ย่ใู นกากบั ของราชการฝาุ ยบรหิ ารตามพระราชกฤษฎกี าว่าด้วย หลักเกณฑ์ และวิธกี ารบริหารกิจการบา้ นเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ก. สานักงานเขตพ้นื ท่ี ข. สานักงานอาชีวศึกษา ค. สานกั งานปลัดกระทรวง ง. องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ 2. การบรหิ ารกจิ การบา้ นเมืองท่ดี ี เพอื่ ให้บรรลเุ ปาู หมายใดสาคญั ท่ีสุด ก. เกดิ ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน ข. เกิดผลสมั ฤทธ์ิตอ่ ภารกิจของรัฐ ค. ไมม่ ขี ัน้ ตอนการปฏบิ ัติงานเกนิ ความจาเป็น ง. มีการปรับปรงุ ภารกิจของส่วนราชการให้ทนั ต่อ สถานการณ์ 3. หนว่ ยงานใดไมไ่ ด้จัดทาแผนการบรหิ ารราชการแผ่นดิน ก. สานักงบประมาณ ข. สานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ค. สานักงานตรวจเงินแผ่นดนิ ง. สานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คม แห่งชาติ 4. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม ทาให้เกดิ ผลสอดคล้องกับข้อใดมากท่สี ุด ก. เกดิ ประสิทธิผลตอ่ ภารกจิ ของรัฐ ข. ลดขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน ค. ปรบั ปรงุ ภารกจิ ของสว่ นราชการ ง. อานวยความสะดวกในการบรกิ ารประชาชน 5. การจัดทาแผนบริหารราชการแผน่ ดนิ เสนอตอ่ คณะรฐั มนตรนี บั ตงั้ แต่ก่อนวันหลังการแถลง นโยบายของรฐั บาล ก. 30 วัน ข. 60 วัน ค. 90 วนั ง. 120 วนั 6. การปฏบิ ัติตามพระราชกฤษฎีกาวา่ ด้วยหลักเกณฑแ์ ละวิธีการบรหิ ารกจิ การบ้านเมอื งทด่ี ี ในเรอื่ ง ใด สมควรท่สี ่วนราชการใดจะปฏบิ ัติเม่อื ใด และจะตอ้ งมีเงื่อนไขอย่างใด เป็นไปตาม ก. นายกรัฐมนตรีกาหนดตามขอ้ เสนอแนะของ ก.พ.ร. ข. คณะรฐั มนตรีกาหนดตามข้อเสนอแนะของ ก.พ.ร. ค. รัฐสภากาหนดตามข้อเสนอแนะของ ก.พ.ร. ง. ถูกทกุ ข้อ สนใจสง่ั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

25 7. ข้อใดไมใ่ ช่สว่ นราชการตามความหมายของพระราชกฤษฎีกาวา่ ดว้ ยหลักเกณฑ์และวธิ กี าร บริหารกิจการบา้ นเมอื งที่ดี ก. สานักงานตารวจแห่งชาติ ข. กองทัพบก ค. กระทรวงมหาดไทย ง. กรงุ เทพมหานคร 8. ผ้รู กั ษาการตามกฎหมายนี้ คอื ก. นายกรฐั มนตรี ข. ประธาน คสช. ค. รัฐมนตรสี านกั นายกรัฐมนตรีท่นี ายกฯมอบหมาย ง. เลขาธิการ ก.พ.ร. 9. ขอ้ ใดถือวา่ เปน็ เปาู หมายของการบริหารราชการตามกฎหมายนี้ ก. เกิดประโยชนส์ ุขของประชาชน ข. เกดิ ผลสมั ฤทธ์ิต่อภารกิจของรัฐ ค. มปี ระสิทธิภาพและเกิดความคมุ้ ค่าในเชิงภารกิจของรัฐ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 10. การปฏบิ ัตริ าชการท่ีมเี ปูาหมายเพอ่ื ให้เกดิ ความผาสกุ และความเป็นอย่ทู ด่ี ขี องประชาชนความ สงบและปลอดภัยของสงั คมส่วนรวม ตลอดจนประโยชนส์ ูงสดุ ของประเทศ คือ ก. การบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ข. การบริหารราชการเพือ่ ประโยชน์ของสงั คม ค. การบริหารราชการเพื่อประชาชน ง. ถูกทกุ ข้อ 11. หนว่ ยงานใด มีอานาจเสนอมาตรการกากับการปฏิบัตริ าชการ ตอ่ คณะรฐั มนตรี ก. สานักนายกรัฐมนตรี ข. ก.พ.ร. ค. กระทรวง ทบวง กรม ง. ถกู ทกุ ข้อ 12. เม่ือคณะรัฐมนตรไี ด้แถลงนโยบายต่อรฐั สภาแลว้ ให้หนว่ ยงานใด ร่วมกันจัดทาแผนการบรหิ าร ราชการแผ่นดนิ เสนอตอ่ คณะรัฐมนตรี ก. สภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ข. สานักงบประมาณ ค. สานกั งานเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ง. ถูกทุกข้อ 13. การเสนอแผนการบริหารราชการแผ่นดิน ตอ้ งเสนอภายในก่ีวนั ก. 30 วนั ข. 60 วนั ค. 90 วนั ง. แลว้ แต่มติคณะรฐั มนตรีกาหนด สนใจสง่ั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

26 14. แผนการบรหิ ารราชการแผ่นดนิ มกี าหนดก่ีปี ก. 2 ปี ข. 4 ปี ค. 8 ปี ง. แล้วแต่มตคิ ณะรัฐมนตรกี าหนด 15. หน่วยงานใดมีหนา้ ที่จัดทาแผนนติ ิบญั ญัติ ก. สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ข. สานกั งานเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ค. สานกั งานเลขาธิการนายกรฐั มนตรี ง. ถกู ท้ังข้อ ก และ ค 16. ใครเป็นผูเ้ หน็ ชอบแผนปฏบิ ตั ิราชการประจาปีของสว่ นราชการ ก. นายรฐั มนตรี ข. คณะรฐั มนตรี ค. รัฐมนตรี ง. ปลดั กระทรวง 17. เม่ือส้นิ ปีงบประมาณใหส้ ่วนราชการจัดทารายงานแสดงผลสัมฤทธิ์ของแผนปฏบิ ัติราชการ ประจาปีเสนอตอ่ ใคร ก. นายรฐั มนตรี ข. คณะรฐั มนตรี ค. รฐั มนตรี ง. ปลดั กระทรวง 18. การจัดซอื้ จัดจา้ ง สนองต่อเปูาหมายการบรหิ ารจัดการบ้านเมืองทีด่ ขี ้อใด ก. เกดิ ประโยชนส์ ุขของประชาชน ข. เกดิ ผลสัมฤทธิ์ตอ่ ภารกจิ ของรัฐ ค. มปี ระสิทธิภาพและเกิดความคมุ คา่ เชิงภารกจิ รฐั ง. ปรบั ปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทนั ตอ่ เหตุการณ์ 19. ส่วนราชการท่ีรับเรื่องการอนุญาต อนุมัติตามกฎหมายกาหนดจากส่วนราชการอ่นื ต้อง พิจารณาและแจง้ ผลให้สว่ นราชการที่ย่นื เร่อื งภายในก่วี นั นบั จากไดร้ ับคาขอ ก. ภายใน 7 วนั ข. ภายใน 15 วัน ค. ภายใน 30 วัน ง. ภายใน 60 วัน 20. การกระจายอานาจการตดั สินใจเกย่ี วกับการอนญุ าตอนุมัติ หรือการปฏบิ ตั ิราชการ มุ่งให้เกดิ ความสะดวกและรวดเรว็ ในการบริการประชาชน ก. เกดิ ผลสัมฤทธติ์ ่อภารกจิ ของรัฐ ข. มปี ระสทิ ธภิ าพและเกดิ ความคุมคา่ เชิงภารกิจรฐั ค. ปรับปรงุ ภารกจิ ของสว่ นราชการใหท้ ันต่อเหตุการณ์ ง. การลดขัน้ ตอนการปฏิบัติงาน สนใจสง่ั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

27 21. One Stop Service สนองตอ่ เปูาหมายการบรหิ ารจัดการบ้านเมืองทีด่ ขี ้อใด ก. เกิดผลสมั ฤทธติ์ อ่ ภารกจิ ของรฐั ข. มปี ระสทิ ธิภาพและเกิดความคุมคา่ เชงิ ภารกิจรฐั ค. ปรบั ปรุงภารกิจของส่วนราชการใหท้ ันต่อเหตกุ ารณ์ ง. การลดข้ันตอนการปฏิบตั งิ าน 22. ส่วนราชการจะยกเลกิ เปล่ียนแปลงภารกิจ หรือปรบั โครงสรา้ งอตั รากาลังได้ต้องขออนมุ ัติ หน่วยงานใด ก. ก.พ.ร. ข. คณะกรรมการกฤษฎีกา ค. คณะกรรมการท่ีกฎหมายนั้นๆระบุ ง. คณะรัฐมนตรี 23. ถา้ กฎหมาย กฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั หรือประกาศที่อยใู่ นความรับผดิ ชอบของสว่ นราชการใด ไมส่ อดคลอ้ งกบั สถานการณป์ จั จบุ นั ไม่เอ้อื อานวยต่อการพฒั นาประเทศ หรอื เป็นอุปสรรคตอ่ การ ดารงชวี ิตของประชาชาชน หน่วยงานใดมีหน้าทเี่ สนอแนะตอ่ สว่ นราชการนนั้ ให้ดาเนนิ แกไ้ ข ปรับปรุงหรือยกเลิก ก. ก.พ.ร. ข. สานักงบประมาณ ค.สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ง. คณะรัฐมนตรี 24. ถ้าสว่ นราชการไมเ่ ห็นด้วยกบั ข้อเสนอแนะของหนว่ ยงาน ให้เสนอเรอ่ื งต่อใคร ก. ก.พ.ร. ข. นายกรฐั มนตรี ค.สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ง. คณะรัฐมนตรี 25. หากประชาชนมีหนังสอื สอบถามเร่ืองตามอานาจหนา้ ทีม่ ายังหน่วยงานราชการๆนน้ั จะต้องตอบ หรือแจง้ การดาเนินงานให้ประชาชนทราบภายในกวี่ นั ก. ภายใน 5 วัน ข. ภายใน 7 วัน ค. ภายใน 15 วนั ง. ตามความเหมาะสม 26. ในกรณีท่ีได้รบั การรอ้ งเรยี นหรือข้อเสนอแนะจากสว่ นราชการอื่นในเรือ่ งใด ให้ส่วนราชการนนั้ ชีแ้ จงตอ่ ผูร้ ้องเรียนหรือข้อเสนอแนะจากส่วนราชการอ่นื ภายในกวี่ ัน ก. ภายใน 5 วัน ข. ภายใน 7 วนั ค. ภายใน 15 วัน ง. ตามความเหมาะสม 27. การบริหารราชการเพื่อประโยชนส์ ุขของประชาชน หมายถงึ ขอ้ ใด ก. การปฏิบัติราชการทีม่ เี ปาู หมาย ข. การปฏิบัติราชการแบบม่งุ ผลสมั ฤทธิ์ ค การบริหารราชการแบบใหม่ ง. การบรหิ ารตามหลกั ธรรมาภิบาล 28. ข้อใดคือหลักการบรหิ ารกิจการบ้านเมืองทีด่ ี ก. Good Governance ข. Good Governanc ค. Good Govenance ง. ถกู ทกุ ข้อ สนใจส่ังช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

28 29. ข้อใดไมใ่ ช่การบรหิ ารราชหารเพอ่ื ให้เกิดผลสัมฤทธ์ิตอ่ ภารกจิ ของรฐั ก. กอ่ นดาเนินการตามภารกิจ ต้องจดั แผนปฏบิ ัติไว้ลว่ งหนา้ ข. แผนปฏิบัติราชการต้องมีรายละเอยี ดของข้ันตอน ระยะเวลา และงบประมาณทตี่ ้องดาเนินการ เปาู หมาย ผลสัมฤทธ์ิ และตัวชี้วดั ความสาเร็จ ค. การติดตามและประเมินผลตามแผนปฏิบัติราชการ ส่วนราชการกาหนดโดยอสิ ระ ง. การปฏิบัติตามแผนปฏิบตั ิราชการเกิดผลกระทบตอ่ ประชาชน ต้องดาเนินการแกไ้ ข 30. สภาผ้แู ทนราษฎรแต่งตงั้ นายกรฐั มนตรี ภายในกวี่ ัน ก. 15 วนั ข. 30 วัน ค. 60 วัน ง. 90 วนั เฉลยข้อสอบ 1.ง 2.ก 3.ค 4.ง 5.ค 6.ข 7.ง 8.ก 9.ง 10.ก 11.ข 12.ง 13.ค 14.ข 15.ง 16.ค 17.ข 18.ค 19.ข 20.ง 21.ง 22.ง 23.ค 24.ง 25.ค 26.ค 27.ก 28.ก 29.ค 30.ข สนใจส่ังชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

29 พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546 แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบบั ที่ 2 พ.ศ.2553) (ฉบบั ที่ 3 พ.ศ.2562)  ** บงั คบั ใช้ 7 กรกฎาคม 2546 แกไ้ ขฉบับที่ 2 บงั คับใช้ 23 กรกฎาคม 2553 เน่อื งจากแยกเขต พน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมและมธั ยม, แก้ไขฉบับที่ 3 บงั คับใช้ 2 พฤษภาคม 2562 เน่ืองจากเพ่อื กาหนด โครงสร้างและตาแหนง่ ตา่ ง ๆ ให้สอดคล้องกบั อานาจหนา้ ทที่ ่เี ปลี่ยนแปลงไป ** มาตรา 4 กระทรวงศกึ ษาธิการให้นากฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และ กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแหง่ ชาติ ** มาตรา 5 กระทรวงศึกษาธกิ ารมีอานาจหนา้ ทีต่ ามกฎหมายวา่ ด้วยการศึกษาแห่งชาติ และ กฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม **แกไ้ ขฉบบั ที่ 3 ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา 6 และใชค้ านี้แทน ให้จดั ระเบียบราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 1) ระเบียบบรหิ ารราชการส่วนกลาง 2) ระเบียบบรหิ ารราชการเขตพ้นื ท่ีการศึกษา 3) ระเบยี บบรหิ ารราชการในสถานศกึ ษาของรัฐที่จดั การศึกษาระดับปริญญาท่เี ปน็ นติ ิบุคคล แตไ่ ม่รวมถึงการจัดการศกึ ษาที่อยู่ในอานาจหนา้ ท่ีของกระทรวงอืน่ ที่มกี ฎหมายกาหนดไวเ้ ป็นการเฉพาะ ** มาตรา 7 การกาหนดตาแหน่งและอตั ราเงินเดือนให้คานงึ ถึง 1) คุณวุฒิ 2) ประสบการณ์ 3) มาตรฐานวิชาชพี 4) ลกั ษณะหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบ 5) คุณภาพของงาน ** มาตรา 8 รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ รักษาการตาม พรบ. มีอานาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ ** มาตรา 10 แกไ้ ขฉบับที่ 3 ให้ยกเลกิ ความในมาตรา 10 ส่วนกลาง แบง่ เป็น 5 สานกั ตามกฎกระทรวงโดยใหห้ วั หนา้ ส่วนราชการขึน้ ตรงต่อรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร (ไม่มสี านกั งานคณะกรรมการอุดมศึกษา) 1)สานักงานรัฐมนตรี (ไมเ่ ปน็ นติ บิ คุ คล) 2)*สานกั งานปลดั กระทรวง (สานกั งาน กศน.) 3)สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา สนใจสัง่ ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

30 4)สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน 5)สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา เปน็ นิตบิ ุคคลยกเว้น สานักงานรัฐมนตรีมีอานาจหน้าท่ีเกยี่ วกบั ราชการทางการเมอื ง มเี ลขานกุ ารรฐั มนตรีซง่ึ เปน็ ขา้ ราชการการเมืองเป็นผ้บู งั คับบญั ชาขา้ ราชการการแบ่งสว่ นราชการใน ส่วนราชการ ใหอ้ อกเปน็ กฎกระทรวง ** มาตรา 13 (แก้ไขฉบับที่ 3 ) ในกรณที ี่สภาการศึกษา คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน และ คณะกรรมการ การอาชวี ศึกษา เสนอความเหน็ หรอื คาแนะนาตอ่ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ แล้ว ใหร้ ัฐมนตรวี ่าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารนาความเห็นหรอื คาแนะนามาประกอบการพิจารณาเพอ่ื ให้ เหมาะสมกับการศึกษาของชาติ (ไม่มคี ณะกรรมการอุดมศกึ ษา เน่ืองจากแยกไปตัง้ กระทรวงการ อุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม : ตัวยอ่ วา่ อว.) ** มาตรา 14 สภาการศึกษา มีหน้าท่ี 1) พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแหง่ ชาติ 2) พจิ ารณาเสนอนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา 3) พิจารณาเสนอนโยบายและแผนในการสนับสนนุ ทรพั ยากรเพอ่ื การศึกษา 4) ประเมินผลการจัดการศกึ ษา 5) เสนอนโยบาย แผนการศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานการศกึ ษา เสนอต่อคณะรฐั มนตรี  มาตรา 18 “สภาการศกึ ษา คณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน และคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา อาจแตง่ ตั้งคณะอนุกรรมการหรอื คณะทางานเพอ่ื พจิ ารณาเสนอความเห็นในเร่ืองหนง่ึ เรอื่ งใด หรือ มอบหมายใหป้ ฏบิ ัตกิ ารอย่างหน่งึ อยา่ งใด อันอยู่ในอานาจหน้าทขี่ องสภาหรอื คณะกรรมการ กไ็ ด”้  มาตรา 20 ให้กระทรวงศึกษาธิการมีผู้ตรวจราชการของกระทรวง เพอื่ ทาหนา้ ท่ใี นการตรวจ ราชการ ระดบั นโยบายเพอ่ื นิเทศใหค้ าปรกึ ษาและแนะนาเพอื่ การปรับปรุงพัฒนาระดบั สานักงาน ปลัดกระทรวง : ตรวจราชการนโยบายตามภารกิจ ระดับ กศน.จังหวัด : ตรวจราชการการบรหิ ารและ การดาเนินการ * มาตรา 22 ในกรณีเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาไมอ่ าจบรหิ ารและจัดการศึกษาบางประเภทได้ และในกรณี การจดั การศึกษาระดับอุดมศกึ ษาระดบั ต่ากว่าปรญิ ญาบางประเภท สานักงานปลัดกระทรวงหรือ สานกั งานตา่ งๆ อาจจดั ให้มกี ารศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานหรือการศึกษาระดบั อมุ ศึกษาระดับตา่ กว่าปริญญา เพ่อื เสริมสร้างการบริหารละการจดั การของเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษา 1) การจดั การศกึ ษาขั้นพื้นฐานสาหรับบคุ คลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จติ ใจ สตปิ ญ๎ ญา อารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้ หรือมรี ่างกายพิการ หรอื มีทุพพลภาพ 2) การจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานทจี่ ดั ในรูปแบบการศกึ ษานอกระบบหรอื การศึกษาตามอัธยาศัย 3) การจัดการศกึ ษาขั้นพื้นฐานสาหรับบุคคลที่มคี วามสามารถพิเศษ 4) การจัดการศกึ ษาทางไกล และการจัดการศึกษาทีใ่ หบ้ รกิ ารในหลายเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา สนใจส่ังช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

31 5 )*(แกไ้ ขฉบับท่ี 3 ) การจดั การศกึ ษาระดับอดุ มศกึ ษาระดับตา่ กวา่ ปรญิ ญาแต่ไมร่ วมถงึ สถาบันวิทยาลยั ชมุ ชน ตามกฎหมายวา่ ด้วยสถาบนั วิทยาลัยชมุ ชน * มาตรา 27 คณะกรรมการสง่ เสรมิ สนับสนุนและประสานความร่วมมือการศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย : (คณะกรรมการ/สานักงาน กศน.) ในสานกั งานปลัดกระทรวง ทาหน้าท่ีให้ คาปรึกษาเก่ยี วกับการจัดการศกึ ษา จานวน 21 คน ประธาน : รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยตาแหนง่ (9) : 1)ปลัดกระทรวง 2)ปลัดมหาดไทย 3)ปลัดเทคโนโลยี 4)เลขาธิการสภา 5)สพฐ 6)อุดมศึกษา 7)อาชีวศึกษา 8)กคศ. 9)เอกชน 10) เลขานุการ : เลขาธกิ าร กศน.  มาตรา 33 เขตพื้นที่การศึกษา รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษา มีอานาจประกาศเขตพน้ื ท่ี การศึกษาในราชกิจจานุเบกษา โดยคาแนะนาของสภาการศึกษา แบง่ เปน็ เขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถม และมัธยม(ประถม 183 มัธยม 42) โดยคานงึ ถงึ 1) ระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน (กาหนดข้นึ มาใหม่) 2) จานวนสถานศกึ ษา 3) จานวนประชากร 4) วัฒนธรรมและความเหมาะสมด้านอืน่ ยกเว้นของอาชีวศกึ ษา * มาตรา 39 อานาจหน้าที่ผอู้ านวยการสถานศึกษา (บริหารกิจการสถานศึกษา ประสานระดม ทรพั ยากร จัดทารายงานประจาปเี พ่ือเสนอ อนุมตั ิประกาศนยี บัตรและวฒุ ิบตั รการศึกษา อนุมตั ิ หลกั สูตรสถานศึกษา)  มาตรา 48 การรักษาราชการแทน (ไมอ่ ย่หู รืออยแู่ ต่ปฏบิ ัติราชการไมไ่ ด)้ ใชก้ บั 1) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษา 2) เลขานกุ ารรัฐมนตรี 3) ปลัดกระทรวง 4) เลขาธกิ าร 5) ผอ.สานัก 6) ผอ.เขต 7) ผอ.โรงเรียน  รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ = ใหร้ ัฐมนตรชี ่วย/ถา้ ชว่ ยมีหลายคนให้ คณะรัฐมนตรมี อบหมาย/ถา้ ไมม่ ใี ห้ คณะรัฐมนตรมี อบหมายรฐั มนตรีอ่นื  ปลัดกระทรวง = ใหร้ องปลดั กระทรวงรักษาการ/ถ้ามหี ลายคนให้รฐั มนตรีแต่งตั้ง/ถ้าไมม่ ี ใหร้ ฐั มนตรีแต่งต้งั ขา้ ราชการในกระทรวงไม่ตา่ กว่าเลขาธกิ ารหรอื เทียบเทา่  เลขาธิการ = ให้รองเลขาธิการ/ถา้ มีหลายคนให้รฐั มนตรีแต่งต้งั /ถา้ ไม่มใี ห้รัฐมนตรี แต่งตัง้ ขา้ ราชการเทียบเทา่ รองเลขาธิการหรือเลขาธิการสานกั หรือผอ.สานัก  ผอ.สถานศกึ ษา = รองผอ.สถานศกึ ษา/ถ้ามหี ลายคนผอ.จังหวดั /ถา้ ไมม่ ีให้แต่งตัง้ ขา้ ราชการในสถานศกึ ษา สรปุ การมอบอานาจ 1)การปฏบิ ัตริ าชการแทน คือ ผใู้ ชอ้ านาจเดมิ นน้ั สามารถปฏบิ ัติหนา้ ท่ไี ด อยู่แต่เหน็ วา่ การมอบ อานาจให้บคุ คลอืน่ แลว เปน็ การทาใหเ้ กดิ ความรวดเรว็ กระจายความรบั ผดิ ชอบ และสะดวกแก สนใจส่งั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

32 ประชาชน เชน่ ใชใ้ นกรณนี ายกฯ สามารถปฏิบัตหิ นา้ ทไ่ี ด้อยู่ เพียงแต่เพ่ือความเหมาะสมจึงมอบอานาจ ให้รองนายกฯ 2) การรกั ษาราชการแทน คือไมมีผู้มาดารงตาแหน่งและมีแต่ไมอาจปฏิบตั ริ าชการได้ เช่น ปลดั ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ ไม่อยูห่ รอื อยู่แต่ไม่อาจปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ไี ด้ โดยใหร้ องปลดั กระทรวงศึกษาธิการ หรือใหแ้ ก่ผู้อนื่ รักษาราชการแทน มีอานาจหน้าท่ีเช่นเดยี วกัน 3) การรักษาการในตาแหนง่ (ใชใ้ นสถานศกึ ษา) ตามพระราชบญั ญัติระเบยี บขา้ ราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ตาแหนง่ ใด ว่างลง หรือ ผู้ดารงตาแหนง่ ไม่สามารถปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ราชการไดใ้ ห้ผูม้ ีอานาจส่งั ให้ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาไปรักษาการในตาแหน่ง นน้ั ได้ (แนวปฏบิ ัติ กศน.อาเภอ ใชก้ ารมอบอานาจตามกฎหมายน)้ี แนวขอ้ สอบ พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 1. การจัดระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารจดั ไดเ้ ป็น 3 สว่ นคอื ข้อใด ก. สว่ นกลาง ส่วนภมู ิภาค และสถานศึกษา ข. ส่วนกลาง ส่วนทอ้ งถนิ่ และสถานศึกษา ข้ันพน้ื ฐาน ค. ส่วนกลาง เขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา และสถานศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน ง. ส่วนกลาง เขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา และสถานศกึ ษาของรัฐระดบั ปริญญาท่เี ป็นนติ บิ ุคคล 2. ขอ้ ใดไม่ใช่อานาจหนา้ ที่ของสภาการศกึ ษา ก. พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแห่งชาติ ข. ประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ค. พจิ ารณาเสนอนโยบายแผนและมาตรฐานการศึกษา ง. พิจารณาเสนอนโยบายและแผนในการสนับสนนุ ทรัพยากร 3. ข้อใดไมใ่ ช่หน้าทข่ี องผู้ตรวจราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ ก. นิเทศให้คาปรึกษาและแนะนาเพ่อื การปรบั ปรงุ ข. ตรวจราชการ ค. ศกึ ษาวิเคราะห์ วจิ ัย ง. ติดตาม ประเมินผลนโยบายตามภารกจิ 4. คณะกรรมการส่งเสริมสนบั สนุนและประสานความรว่ มมอื การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั มจี านวนกีค่ น ก.18 ข. 19 ค. 20 ง. 21 สนใจส่ังชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

33 5. ในกรณีทีส่ านักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาไม่อาจจัดการศึกษาขนั้ พื้นฐานหรือการศึกษา ระดับอุดมศกึ ษา ระดบั ตา่ กวา่ ปริญญาไดห้ น่วยงานใดจะเปน็ ผจู้ ัด ก. สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ข. สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ค. สานกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ง. สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 6. การบรหิ ารและการจดั การศึกษาข้ันพื้นฐานใหค้ านงึ ถงึ ส่งิ ใดนอ้ ยท่ีสุด ก. จานวนนกั เรียน ข. ปรมิ าณสถานศึกษา ค. จานวนประชากร ง. วฒั นธรรมและความเหมาะสมดา้ นอ่ืน 7. ข้อใดไม่ใช่อานาจหน้าท่ี ผู้อานวยการ กศน.อาเภอ/เขต ก. อนมุ ตั หิ ลกั สูตรสถานศึกษา ข. บริหารกิจการสถานศึกษา ค. จัดทารายงานประจาปี ง. บรรจแุ ต่ตัง้ ครูผูช้ ่วย 8. การมอบอานาจใหผ้ ้ใู ดปฏบิ ตั ริ าชการแทนตนนั้นข้อใดถูกต้องทส่ี ดุ ก. ใหท้ าเปน็ ระเบียบ ข. ใหท้ าเป็นขอ้ บงั คับ ค. ให้ทาเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร ง. ใหท้ าเปน็ หนังสอื 9. ตามมาตรา 3 พระราชบัญญตั ิระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. 2546 กาหนดใหย้ กเลิกพระราชบัญญัติยกเวน้ ขอ้ ใด ก. พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บการปฏิบตั ิราชการของทบวงมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2520 ข. พระราชบญั ญัติคณะกรรมการการประถมศกึ ษา พ.ศ. 2523 ค. พระราชบัญญตั ิคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ง. พระราชบัญญัติคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พ.ศ. 2546 10. ขอ้ ใดไม่ใชส่ ว่ นราชการในส่วนกลางของกระทรวงศกึ ษาธิการท่เี ป็นไปตามพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการกระทรวง ศึกษาธกิ าร ก. สานกั งานรัฐมนตรี ข. สานกั งานงบประมาณ ค. สานักงานปลัดกระทรวง ง. สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา 11. การกาหนดตาแหนง่ และอตั ราเงนิ เดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธกิ าร คานงึ ถึงทกุ ขอ้ ยกเว้นขอ้ ใด ก. ประสบการณ์ ข. มาตรฐานวิชาชพี ค. วุฒิการศกึ ษา ง. ผลงาน 12. ใครมีอานาจในการออกกฎกระทรวง และประกาศเพ่อื ปฏบิ ัติตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี ก. นายกรฐั มนตรี ข. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ง. เลขาธกิ ารสภาการศึกษา สนใจสงั่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

34 13. ขอ้ ใดไม่ใชส่ งิ่ ท่ีกระทรวงศกึ ษาธิการต้องกาหนด ก. การบริหารและการจดั การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ข. วธิ ีการประเมนิ ความพร้อมในการจดั การศกึ ษา ค. ส่งเสรมิ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ในการจดั การศกึ ษา ง. เสนอแนะการจัดสรรงบประมาณขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ 14. ข้อใดไมใ่ ชห่ นา้ ท่ีของปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ ก. รับผิดชอบควบคุมราชการประจาในกระทรวง ข. แปลงนโยบายเป็นแนวทางการพัฒนาแผนปฏิบตั ิราชการ ค. กากับการทางานของส่วนราชการในกระทรวง ง. เรง่ รัดติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิราชการ 15. คณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาพิเศษ ในสังกดั หนว่ งงานใด ก. สานกั งานรฐั มนตรี ข. สานกั งานปลัดกระทรวง ค. สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน ง. สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 16. เลขาธิการ กศน. ซงึ่ มีฐานะเทยี บเทา่ ตาแหนง่ ใด ก. อธิบดี ข. รฐั มนตรี ค. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. เลขาธิการ ก.ค.ศ. 17. ตามกฎกระทรวงท่ีกาหนดให้ส่วนราชการขึ้นตอ่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการ ส่วน ราชการในข้อใดท่ีไม่เป็นนติ ิบุคคล ก. สานักงานรัฐมนตรี ข. สานกั งานปลัดกระทรวง ค. สานกั งานเลขาธิการสภาการศึกษา ง. สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ะศกึ ษา 18. การมอบอานาจให้ผู้ดารงตาแหน่งอน่ื ปฏบิ ัตริ าชการแทนได้ ขอ้ ใดถกู ต้อง ก. เลขาธกิ ารอาจมอบอานาจใหป้ ลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ช่วยปลัดกระทรวง ข. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการอาจมอบอานาจใหร้ ฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การ กระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวง เลขาธิการ ค. ปลัดกระทรวงอาจมอบอานาจให้เลขาธิการ รองเลขาธกิ ารหรอื เลขาธกิ ารอธกิ ารบดีใน สถานศึกษาของรัฐที่จดั การศกึ ษาระดับปรญิ ญาในสังกดั ง. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ ารอาจมอบอานาจให้ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา 19. การมอบอานาจให้ข้าราชการปฏบิ ตั ิราชการแทนข้อใดกล่าวผิด ก. เมอื่ มกี ารมอบอานาจโดยชอบผรู้ ับมอบอานาจมีหนา้ ทตี่ ้องรบั มอบอานาจนน้ั ข. ผู้รับมอบอานาจจะมอบอานาจให้ผู้ดารงตาแหนง่ อน่ื ตอ่ ไปกไ็ ด้ ค. เมอื่ ผวู้ ่าราชการจงั หวัดไดร้ ับมอบอานาจนัน้ ต่อไป ตามกฎหมายนี้ ง. ไม่มขี ้อใดกลา่ วผิด สนใจส่ังชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

35 20. ในกรณที ไ่ี มม่ ีผู้ดารงตาแหนง่ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหนา้ ที่ได้ให้ดาเนนิ การตามข้อใด ก. การรกั ษาราชการแทน ข. การปฏิบัติหน้าท่ีแทน ค. การปฏิบตั ริ าชการแทน ง. การรกั ษาการในตาแหน่ง 21. ในกรณที ร่ี ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ ารไม่สามารถปฏิบัตหิ นา้ ทไี่ ด้และมรี ัฐมนตรชี ่วย หลายคนใครเปน็ ผ้มู อบหมายใหร้ ัฐมนตรชี ว่ ยคนใดคนหนึ่งเปน็ ผรู้ ักษาราชการแทน ก. นายกรัฐมนตรี ข. คณะรัฐมนตรี ค. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ ารโดยความเห็นชอบของคณะรฐั มนตรี 22. การแบง่ ส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศกึ ษาธิการ มีกีส่ านกั ก. 3 สานัก ข. 4 สานกั ค. 5 สานกั ง. 6 สานัก 23. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ ารประกาศในราชกจิ จานุเบกษาโดยคาแนะนาของใคร ก. กพฐ. ข. สภาการศึกษา ค. ก.ค.ศ. ง. ถูกทุกขอ้ 24. การจดั การศึกษาระดบั อดุ มศึกษาระดบั ต่ากว่าปรญิ ญา ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง ก. รวมโดยสถาบนั วทิ ยาลยั ชมุ ชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันวทิ ยาลยั ชมุ ชน” ข. โดยรวมถึงสถาบนั วิทยาลยั ชมุ ชนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถาบนั วิทยาลยั ชุมชน” ค. แต่ไมร่ วมถึงสถาบนั วิทยาลยั ชุมชนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถาบนั วิทยาลัยชมุ ชน” ง. อาจจะรวมถงึ สถาบนั วิทยาลัยชมุ ชนตามกฎหมายว่าดว้ ยสถาบนั วทิ ยาลัยชมุ ชน” 25. ตามพระราชบญั ญตั ิระเบียบขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ในกรณที ีไ่ ม่มีผู้ดารง ตาแหน่งผู้อานวยการ กศน. หรือมแี ต่ไมอ่ าจปฏิบตั ริ าชการได้ ให้ ขา้ ราชการครู ทาหนา้ ที่ได้ตามข้อ ใด ก. รกั ษาราชการแทน ข. ปฏบิ ัติราชการแทน ค. ดแู ลราชการแทน ง. รักษาการในตาแหน่ง 26. ตามพระราชบัญญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ ในกรณีท่ไี มม่ ีผู้ดารงตาแหน่ง ผูอ้ านวยการสานกั งาน กศน.จงั หวดั /กทม หรอื มีแตไ่ ม่อาจปฏบิ ตั ิราชการได้ ใหร้ องผอู้ านวยการ สานกั งาน สานักงาน กศน./กทม ก. รกั ษาราชการแทน ข. ปฏบิ ตั ิราชการแทน ค. ดูแลราชการแทน ง. รักษาการในตาแหน่ง สนใจส่งั ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

36 27. ใครเป็นผบู้ ังคับบัญชาขา้ ราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ก. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ข. เลขาธกิ ารคณะกรรมการขา้ ราชการครแู ละบุคคลากรทางการศกึ ษา ค. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน 28. ใครเปน็ ประธาน สภาการศึกษา ก. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. เลขาธกิ ารคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศกึ ษา ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ง. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน 29. ข้อใดเปน็ การกาหนดตาแหนง่ และอตั ราเงินเดอื น กระทรวงศึกษาธิการ ก. เครอื่ งราชย์ ข. ประสบการณ์ ค. วทิ ยฐานะ ง. อายรุ าชการ 30. การแบง่ สว่ นราชการ ใหด้ าเนนิ การตามขอ้ ใด ก. ประกาศกระทรวง ข. ออกกฎกระทรวง ค. พระราชบญั ญัติ ง. ขอ้ กาหนด เฉลยข้อสอบ 1.ง 2.ง 3.ค 4.ง 5.ก 6.ก 7.ง 8.ง 9.ง 10.ข 11.ง 12.ข 13.ก 14.ข 15.ค 16.ก 17.ก 18.ข 19.ข 20.ก 21.ข 22.ค 23.ข 24.ค 25.ง 26.ก 27.ค 28.ก 29.ข 30.ข สนใจสง่ั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

37 พระราชบญั ญตั ิ สง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551   ประกาศราชกจิ จานุเบกษา 3 มนี าคม 2551 บงั คับใช้ 4 มีนาคม 2551  ผู้รับสนองพระราชโองการ : พลเอก สุรยุทธ์ จลุ านนท์ (นายกรฐั มนตร)ี เหตผุ ลคือเพือ่ ให้มกี ฎหมาย รองรับเกีย่ วกับกลไกการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยให้เป็นไปอย่างมีระบบและ ต่อเนือ่ ง  พระราชบัญญตั นิ ตี้ ราขนึ้ ตามคาแนะนาและยนิ ยอมของ สภานติ ิบญั ญัตแิ หง่ ชาติ (สนช.)  **มาตรา 3 พระราชบัญญัตนิ ี้ ไม่ใช้บงั คับกบั สถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน  **มาตรา 4 **การศกึ ษานอกระบบ หมายถึง กิจกรรมการศึกษาทม่ี กี ลุ่มเปูาหมายผรู้ บั บริการและ วตั ถปุ ระสงค์ การเรียนรูท้ ี่ชดั เจน มีรปู แบบ หลกั สตู ร วธิ ีการจดั และระยะเวลาเรยี น หรอื ฝกึ อบรมท่ี ยดื หยุน่ และหลากหลายตามสภาพความตอ้ งการ และศกั ยภาพในการเรียนรู้ของกลมุ่ เปูาหมาย และมี วิธีการวัดผลและประเมินผลทมี่ ีมาตรฐาน เพ่อื รบั คณุ วุฒิทางการศกึ ษาหรือเพอ่ื จัดระดับผลการเรยี นรู้ **การศกึ ษาตามอัธยาศยั หมายถงึ กิจกรรมการเรียนรู้ในวถิ ชี ีวิตประจาวันของบุคคล ซึ่ง บุคคลสามารถเลือกทจี่ ะเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งต่อเน่อื งตลอดชีวิต ตามความสนใจ ความตอ้ งการ โอกาส ความ พร้อมและศกั ยภาพในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล สถานศึกษา หมายความว่า สถานศกึ ษาที่จัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยในสานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั **ภาคเี ครือข่าย หมายถงึ 1)บุคคล 2)ครอบครัว 3)ชุมชน 4)องค์กรชุมขน 5)องค์กร ปกครองส่วนท้องถน่ิ 6)องค์กรเอกชน 7)องคก์ รวชิ าชีพ 8)สถาบันศาสนา 9)สถานประกอบการ 10) องคก์ รอืน่ 11)รวมท้งั สถานศึกษาอน่ื **คณะกรรมการ หมายความวา่ คณะกรรมการส่งเสรมิ สนบั สนนุ และประสานความ ร่วมมือการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ในสานกั งานปลัดกระทรวง จานวน 21 คน ประธาน : รัฐมนตรกี ระทรวงศึกษาธิการ, เลขานกุ าร : เลขาธิการ กศน. สานกั งาน หมายความวา่ สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย (สานกั งาน กศน.)  **มาตรา 6 การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ใหย้ ึดหลกั ดงั ต่อไปนี้ สนใจสง่ั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

38 1) การศึกษานอกระบบ **1.1 ความเสมอภาค ในการเข้าถงึ และได้รับการศึกษาอยา่ งกว้างขวาง เป็นธรรมและมี คณุ ภาพเหมาะสมกับสภาพชีวิตของประชาชน **1.2 การกระจายอานาจแกส่ ถานศกึ ษาและการให้ภาคเี ครอื ข่ายมสี ว่ นร่วม ในการ จดั การเรียนรู้ 2) การศกึ ษาตามอัธยาศยั **2.1 การเข้าถึงแหล่งการเรยี นรทู้ สี่ อดคล้องกับความสนใจและวิถชี ีวิตของผู้เรยี นทกุ กลมุ่ เปูาหมาย **2.2 การพฒั นาแหล่งการเรยี นรู้ให้มคี วามหลากหลายทั้งส่วนทีเ่ ป็นภูมปิ ๎ญญาทอ้ งถน่ิ และส่วนที่นาเทคโนโลยีมาใชเ้ พ่ือการศึกษา **2.3) จดั กรอบหรือแนวทางการเรียนรู้ที่เปน็ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี น **มาตรา 7 เปาู หมาย การสง่ เสริมสนับสนนุ การศึกษานอกระบบ **1) ประชาชนไดร้ ับการศกึ ษาอยา่ งต่อเนื่องเพ่อื พฒั นาศักยภาพกาลังคนและสังคม **2) ภาคีเครอื ขา่ ยเกดิ แรงจงู ใจและมสี ่วนร่วมจัดกิจกรรมการศกึ ษา **มาตรา 8 เปูาหมาย การสง่ เสรมิ สนับสนุนการศึกษาตามอัธยาศยั **1) ผู้เรยี นได้รบั ความรแู้ ละทกั ษะพน้ื ฐาน ในการแสวงหาความรู้ท่เี อ้อื ตอ่ การเรยี นรู้ตลอด ชีวติ **2) ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรสู้ าระทสี่ อดคล้องกับความสนใจและความจาเปน็ ในการยกระดับ คุณภาพชีวิต ทงั้ ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สงั คมและวัฒนธรรม **3) ผูเ้ รยี นสามารถนาความรทู้ ี่ไดร้ บั ไปใช้ประโยชน์และเทยี บโอนผลการเรยี นกับ การศึกษาในระบบและการศึกษานอกระบบ มาตรา 9 ผู้เก่ยี วข้อง คอื 1)ผเู้ รียน : ผูไ้ ดร้ ับประโยชน์ 2)ผูจ้ ัดการเรียนรู้ : ผู้สอน 3)ผสู้ ่งเสริม สนับสนนุ : ผู้เอ้อื ประโยชน์ ผอ. มาตรา 10 ส่วนราชการให้การสนับสนุน 1)สอื่ และเทคโนโลยี 2)การจดั การศึกษา 3)สทิ ธิประโยชน์ ความเหมาะสม 4)การสร้างและพัฒนาแหลง่ เรียนรู้ 5)ทรพั ยากรอื่น **มาตรา 11 การให้ร่วมมอื กับภาคเี ครอื ข่าย 1)จดั ใหม้ โี ครงสรา้ งพ้ืนฐานการเรียนรู้ 2)ให้เกดิ ความร่วมมือการพัฒนาอย่างตอ่ เน่อื ง 3)ให้ไดร้ บั โอกาสในการจัดสรรทรัพยากรและถึงแหล่งเงินทุน **มาตรา 12 ให้คณะกรรมการสง่ เสรมิ สนบั สนุนและประสานความร่วมมอื การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย มีอานาจหนา้ ท่ี สนใจส่ังชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

39 1) กาหนดนโยบายและแผนการสง่ เสรมิ และสนบั สนุนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ท่สี อดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ 2) กาหนดแนวทางการดาเนินงานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 3) สง่ เสริมและสนับสนุนการประสานงานระหวา่ งส่วนราชการ รฐั วสิ าหกจิ และภาคเอกชนทง้ั ในประเทศและต่างประเทศเพือ่ การจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย 4) เสนอแนะตอ่ รัฐมนตรีในการจัดทาและการพฒั นาระบบการเทียบโอนผลการเรยี นจาก การเรยี นรู้ในการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั *มาตรา 13 อนกุ รรมการภาคเี ครือข่าย 11 คน (เคยมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า 2 ปี อายุ 25 ปี ให้ กศน. จังหวัดสรรหาคดั เลอื กและสง่ ไปสานกั งาน กศน. ให้คณะกรรมการ[21คน]เลือก) โดย 11ประเภท/คน : ประเภทบุคคล ครอบครวั ชุมชน องคก์ รชมุ ชน อปท. เอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถาน ประกอบการ สถานศึกษาอ่ืน องคก์ รอืน่ (ประธาน:เลอื กกนั เอง เลขานุการ(ไมเ่ ปน็ กรรมการ) : เลขาธิการ กศน.ตงั้ เลขานุการ 1 คนผ้ชู ่วยอีก 2 คน) **มาตรา 14 สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย เรยี กโดยยอ่ วา่ “สานักงาน กศน.” เลขาธิการสานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั เรียก โดยยอ่ วา่ “เลขาธกิ าร กศน.”ซง่ึ มฐี านะเปน็ อธบิ ดีและเปน็ ผู้บงั คบั บัญชาข้าราชการ พนักงานและ ลูกจา้ ง แลรับผิดชอบการดาเนนิ งานของสานักงาน สานกั งาน มอี านาจหน้าท่ี 1) เป็นหน่วยงานกลางในการดาเนนิ การ ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงาน และ รับผดิ ชอบงานธรุ การของคณะกรรมการฯ 2) จดั ทาข้อเสนอแนะ นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ แผนและมาตรฐานต่อคณะกรรมฯ(21 คน) 3) การพฒั นาหลักสตู รแกนกลาง วจิ ัย วชิ าการ 4) ดาเนนิ การเทยี บโอนผลการเรียน การเทียบโอนความรแู้ ละประสบการณ์ และการเทยี บ ระดับการศกึ ษา 5) ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหอ้ งคก์ รอ่นื เป็นภาคเครือขา่ ย 6) จัดทาขอ้ เสนอแนะเกยี่ วกบั การใชป้ ระโยชน์เครอื ข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ 7) ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผล **มาตรา 15 คณะกรรมการสง่ เสริมสนบั สนุนและประสานความรว่ มมอื การศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย ในสานักงานปลดั กระทรวง จานวน 21 คน ประธาน : รัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธกิ าร , เลขานกุ าร : เลขาธกิ าร กศน. คณะกรรมการ มีหน้าที่ 1) กาหนดนโยบาย และแผนงานการส่งเสรมิ และสนับสนนุ การศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย สนใจสัง่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

40 2) กาหนดแนวทางการดาเนนิ งานนอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 3) ส่งเสริมสนับสนุนการประสานงานภาคสว่ นต่างๆ 4) เสนอแนะรฐั มนตรีในการจดั ทาและพัฒนาระบบการเทียบโอนจากการเรียนรู้ การศกึ ษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย  มาตรา 15 *คณะกรรมการส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรงุ เทพมหานคร (16 คน) ประกอบด้วย ประธาน : ผูว้ ่าราชการ กทม. ผ้ทู รงคณุ วุฒิ รฐั มนตรีแต่งต้ัง 8 คน (จากเอกชนไม่น้อยกว่า 5 คน) โดยตาแหน่ง(7 คน) : 1)ปลัด กทม. 2)เลขาธิการ กศน. 3)ผแู้ ทนกระทรวง พม. 4)ผแู้ ทน กระทรวง มท. 5)ผูแ้ ทนกระทรวงแรงงาน 6)ผแู้ ทนกระทรวง สธ. 7)ผู้อานวยการสานกั งาน กศน. กทม. เปน็ กรรมการและเลขานุการ *คณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวัด (16 คน) ประกอบด้วย ประธาน : ผูว้ ่าราชการจังหวัด ผู้ทรงคณุ วุฒิ รฐั มนตรีแต่งตง้ั 8 คน(จากเอกชนไม่น้อยกวา่ 5 คน) โดยตาแหน่ง(7 คน) : 1)ปลัดจงั หวัด 2)เกษตรจงั หวดั 3)สาธารณสขุ จังหวดั 4)แรงงาน จังหวดั 5)พฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนุษยจ์ งั หวดั 6)นายก อบจ. 7)ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน.จงั หวัด เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร มาตรา 16 อานาจหนา้ ท่ี คณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวัด/กรงุ เทพมหานคร *1) ให้คาปรึกษาและร่วมมอื ในการพัฒนาการศึกษา *2) ส่งเสรมิ สนบั สนุนภาคเี ครือขา่ ย *3) ตดิ ตามการดาเนินงาน ของ กศน.อาเภอ **มาตรา 17 สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั เรียกโดย ย่อวา่ “สานักงาน กศน. จังหวัด” “สานักงาน กศน. กทม.” เป็นหนว่ ยงานในสังกัด สานกั งาน กศน. มีผอู้ านวยการ เป็นผู้บังคบั บัญชาขา้ ราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกดั และสถานศกึ ษาท่ี อย่ใู นเขตพืน้ ท่ี มฐี านะเป็นผบู้ รหิ ารการศกึ ษา มาตรา 18 ให้สถานศึกษาทาหน้าทสี่ ่งเสริม สนบั สนุน ประสานงาน และจดั การศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยร่วมกับภาคเครือขา่ ย การดาเนนิ งานของสถานศกึ ษา อาจจดั ใหม้ ีศนู ย์การเรยี นชุมชน ถอื เป็นหน่วยจัดกิจกรรม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย การจดั ต้งั ยุบ เลกิ รวม การกาหนดบทบาท อานาจ สนใจสง่ั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

41 และหน้าท่ีของสถานศึกษา ให้เปน็ ไปตามท่ี รมต.ประกาศกาหนด (ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร) โดยคาแนะนาของคณะกรรมการสง่ เสริมสนับสนนั และประสานความร่วมมอื การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั (21 คน ประธาน : รัฐมนตรี) **มาตรา 19 ใหส้ ถานศกึ ษาแต่งละแหง่ มีคณะกรรมการสถานศึกษา กศน.อาเภอ 9 คน แตง่ ตงั้ โดย ผู้อานวยการสานักงาน กศน.จงั หวดั วาระ 4 ปี หากวา่ งลงแทนภายใน 30 วนั (เหลอื ไมถ่ งึ 180 วันก็ได้) คุณสมบัติ (สัญชาตไิ ทย อายุ 25 ปี ไมเ่ ปน็ บคุ คลลม้ ละลาย ไม่ไร้ไมเ่ ส่ือมเสยี ไมค่ กุ ไมเ่ ปน็ กรรมการสถานศึกษาเกนิ 2 แห่ง) ประธาน : เลอื กจากผูท้ รงคณุ วุฒิ , เลขานกุ าร : หัวหน้าสถานศึกษา, ผูท้ รงคณุ วฒุ ิ 8 คน : ด้านการศกึ ษา ดา้ นศาสนาศลิ ปวฒั นธรรม ดา้ นพัฒนาสังคมชมุ ชนและสิ่งแวดล้อม ด้านการเมืองการ ปกครอง ด้านความมั่นคง ดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยีและสารสนเทศ ดา้ นภูมิป๎ญญาท้องถ่นิ ด้าน สาธารณสุข อานาจหนา้ ท่ี 1) ใหค้ าปรึกษา แนะนา 2) เหน็ ชอบแผนการจัดการศกึ ษาและติดตามผลการดาเนินงานของสถานศึกษา 3) กากับและส่งเสริมสนบั สนุนกจิ การสถานศึกษา 4) เป็นผู้อนุมตั แิ ผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 5) กากบั และสง่ เสริมสนบั สนุนกิจการสถานศึกษา 6) ให้ความเหน็ ชอบระเบยี บการวัดผลและประเมินผลการเรยี นรขู้ องสถานศกึ ษา หัวหนา้ สถานศึกษามีหนา้ ท่ี สรรหาคณะกรรมการสถานศึกษากอ่ นหมดวาระ ไม่นอ้ ยกว่า 90 วนั **อานาจหนา้ ท่ผี ้อู านวยการสถานศึกษา 1) บรหิ ารกิจการสถานศึกษา 2) ประสานระดมทรัพยากร ควบคุมดแู ลเจา้ หนา้ ท่ี ทรัพย์สนิ 3) เป็นผแู้ ทนสถานศกึ ษา ทานิติกรรมสัญญา 4) จดั ทารายงานประจาปี SAR 5) อนุมัตปิ ระกาศนยี บัตรและวุฒิบัตรการศึกษา (อนมุ ัติหลกั สูตรสถานศกึ ษา หลักสูตร ทอ้ งถิน่ ) **หลักสูตรแกนกลาง 51 อนมุ ตั โิ ดยคณะกรรมการส่งเสริมสนับสนุนและประสานความ ร่วมมอื การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย สรปุ คณะกรรมการสง่ เสริมสนับสนนุ ฯ(สานักงาน กศน.) 21 คน ประธาน:รัฐมนตรีศึกษาธกิ าร คณะกรรมการจงั หวัด 16 คน ประธาน : ผูว้ ่าราชการจงั หวัด คณะกรรมสถานศกึ ษา 9 คน ประธาน : ผทู้ รงคุณวฒุ ิ แตง่ ต้ังโดย ผู้อานวยการสานักงาน กศน.จงั หวัด สนใจสง่ั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

42  อ.ก.ค.ศ.สป. มี 13 คน ประธาน : ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, เลขานกุ าร : ผูอ้ านวยการกองการเจา้ หน้าท่ี (ผอ.กจ.) เลือกตัง้ 5 คน : ผอ.จงั หวัด สถานศกึ ษา สานักงาน ครู 2 คน ผู้แทน 2 คน : ก.ค.ศ. คุรสุ ภา ผ้ทู รงคุณวุฒิ 4 คน : ดา้ นการศึกษา ดา้ นกฎหมาย ดา้ ยการเงนิ การคลงั ด้านบริหารงานบคุ คล  *มาตรา 20 ให้สานักงาน กศน. จดั ใหม้ รี ะบบการประกันคุณภาพภายในใหส้ ถานศึกษา (กศน. อาเภอ) ดาเนนิ การประกันคณุ ภาพภายใน  มาตรา 21 ให้สานกั บริหารงานการศึกษานอกโรงเรยี น ปรบั เปลี่ยนภารกิจมาเป็นสานกั งานส่งเสริม การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยและให้ผูอ้ านวยการสานกั บรหิ ารงานการศึกษานอก โรงเรียนซง่ึ ดารงตาแหนง่ อยใู่ นวนั ท่ีพระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ปฏิบตั หิ นา้ ท่ี เลขาธกิ าร กศน.  มาตรา 23 ให้รัฐมนตรจี ัดทาบัญชรี ายชือ่ สถานศกึ ษาในสังกัดสานกั บรหิ ารงานการศกึ ษานอก โรงเรียนสานักงานปลดั กระทรวงกระทรวงศกึ ษาธิการท่มี คี วามพรอ้ มในการปฏบิ ัตภิ ารกจิ ของ สถานศกึ ษาตามทกี่ าหนดในพระราชบัญญตั นิ ้แี ละประกาศรายช่ือสถานศกึ ษาดงั กลา่ วในราชกิจจา นเุ บกษาภายใน 90 วนั นบั แต่วนั ทพ่ี ระราชบัญญัตนิ ี้ใชบ้ ังคับให้ถือว่าสถานศึกษาตามบญั ชรี ายชอื่ ท่ี รัฐมนตรปี ระกาศกาหนดตามวรรคหน่ึงเป็นสถานศกึ ษาตามพระราชบัญญัตินี้  มาตรา 25 ใหร้ ฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้และมอี านาจออก กฎกระทรวงและประกาศเพ่อื ปฏิบตั กิ ารตามพระราชบัญญตั ิน้ี สนใจสัง่ ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

43 แนวข้อสอบ พระราชบญั ญตั สิ ่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 1. พระราชบัญญัติส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ไม่ใชบ้ งั คบั กบั การจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ซ่งึ ดาเนนิ การโดยหนว่ ยงานใด ก. สถาบันอดุ มศกึ ษาของรัฐ ข. สถาบันอุดมศกึ ษาของเอกชน ค. สถาบนั อาชีวศึกษาของรฐั และเอกชน ง. ข้อ ก และ ข 2. ข้อใดคือ การศึกษานอกระบบ ก. กิจกรรมการศกึ ษาท่ีมีกล่มุ เปูาหมายผู้รับบรกิ ารและวัตถุประสงค์ของการเรียนรทู้ ่ชี ดั เจนมีรูปแบบ หลกั สตู ร วิธกี ารจัดและระยะเวลาเรียนหรอื ฝึกอบรมทตี่ รงตามสภาพความต้องการและศักยภาพในการ เรียนรขู้ องกลุ่มเปูาหมายนัน้ ข. กิจกรรมการศึกษาทม่ี ีกล่มุ เปาู หมายผู้รับบริการและวตั ถุประสงค์ของการเรยี นรูท้ ช่ี ัดเจนมรี ูปแบบ หลักสตู ร วิธีการจัดและระยะเวลาเรยี นหรอื ฝึกอบรมท่ีตรงตามสภาพความต้องการและศักยภาพในการ เรียนรขู้ องกลุ่มเปูาหมายนนั้ และมีวธิ ีการวดั ผลและประเมินผลการเรียนรทู้ ม่ี มี าตรฐานเพอ่ื รับคุณวฒุ ทิ าง การศกึ ษา หรือเพ่อื จัดระดับผลการเรียนรู้ ค. กิจกรรมการศึกษาท่ีมกี ลุ่มเปูาหมายผรู้ ับบรกิ ารและวัตถปุ ระสงค์ของการเรยี นรูท้ ่ชี ดั เจนมี รูปแบบ หลักสูตร วิธีการจัดและระยะเวลาเรยี นหรือฝกึ อบรมท่ีเหมาะสมกบั สภาพความต้องการและ ศกั ยภาพในการเรยี นรขู้ องกลุม่ เปูาหมายนนั้ และมวี ิธกี ารวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้ทีม่ มี าตรฐาน เพือ่ รบั คณุ วฒุ ทิ างการศกึ ษา หรือเพื่อจดั ระดับผลการเรียนรู้ ง. กจิ กรรมการศึกษาทม่ี กี ลุม่ เปาู หมายผู้รับบรกิ ารและวัตถุประสงคข์ องการเรียนรู้ท่ชี ัดเจนมี รปู แบบ หลกั สตู ร วิธีการจัดและระยะเวลาเรยี นหรอื ฝึกอบรมที่ยดื หยนุ่ และหลากหลายตามสภาพความ ต้องการและศกั ยภาพในการเรยี นรู้ของกลุ่มเปูาหมายนน้ั และมวี ธิ ีการวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้ที่ มมี าตรฐานเพอ่ื รับคุณวุฒทิ างการศกึ ษา หรอื เพอ่ื จดั ระดับผลการเรียนรู้ 3. ข้อใดคือ การศึกษาตามอธั ยาศยั ก. กิจกรรมการเรียนรใู้ นวิถีชีวติ ประจาวันของบุคคลซ่งึ บุคคลสามารถเลือกทีจ่ ะเรียนรู้ไดอ้ ย่าง ตอ่ เนอ่ื งตลอดชีวิต ตามความสนใจ ความตอ้ งการ โอกาสความพรอ้ ม และศกั ยภาพในการเรียนรขู้ องแต่ ละบุคคล ข. กจิ กรรมการเรยี นรใู้ นวิถชี วี ิตประจาวันของบุคคลซึง่ บุคคลสามารถเลอื กทจ่ี ะเรยี นรู้ได้อย่าง ต่อเนือ่ งตลอดชีวิต ตามหลักสตู ร และศกั ยภาพในการเรยี นรูข้ องแตล่ ะบุคคล ค. กิจกรรมการเรียนรูใ้ นวิถชี ีวติ ประจาวนั ของบุคคลซึ่งบุคคลสามารถเลือกท่ีจะเรียนรู้ได้อยา่ ง ต่อเนือ่ งตลอดชวี ิต มคี วามยืดหยุ่น ตามความต้องการ โอกาสความพรอ้ ม สนใจสง่ั ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

44 ง. กิจกรรมการเรียนรใู้ นวถิ ีชวี ิตประจาวนั ของบคุ คลซงึ่ บุคคลสามารถเลอื กทจ่ี ะเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ ง ตอ่ เนอื่ งตลอดชวี ิต ตามหลักสูตรและความยืดหยุ่นในโอกาสความพร้อม และศกั ยภาพในการเรยี นรู้ 4. เลขาธิการ กศน. คนปัจจบุ ัน คือขอ้ ใด ก. นายกฤษชัย อรุณรตั น์ ข. นายวรทั พฤกษาทวกี ลุ ค. นายศรีชัย พรประชาธรรม ง. นายประเสริฐ บญุ เรอื ง 5. ขอ้ ใดคือ หลักการขอ้ ที่ 1 ของการศึกษานอกระบบ ก. ความเสมอภาคในการเข้าถึงและได้รบั การศกึ ษาอยา่ งกวา้ งขวาง ข. การกระจายอานาจแกส่ ถานศึกษาและการใหภ้ าคีเครอื ข่าย ค. การเข้าถึงแหลง่ การเรยี นรู้ทสี่ อดคลอ้ งกบั ความสนใจและวถิ ีชีวิตของผูเ้ รยี น ง. การพัฒนาแหล่งการเรยี นรใู้ ห้มคี วามหลากหลายทั้งสว่ นที่เปน็ ภมู ปิ ๎ญญาทอ้ งถ่ิน 6. ข้อใด ไม่ใชห่ ลักการศกึ ษานอกระบบ ก. การใหภ้ าคเี ครือขา่ ยมสี ว่ นร่วม ข. การกระจายอานาจแกส่ ถานศกึ ษา ค. ความเสมอภาคในการเขา้ ถงึ และได้รับการศึกษา ง. การจัดกรอบหรือแนวทางการเรยี นรทู้ เ่ี ป็นประโยชน์ต่อผู้เรยี น 7. ข้อใด ไมใ่ ชห่ ลักการศึกษาตามอัธยาศยั ก. การพัฒนาแหลง่ เรียนรูใ้ ห้มีความหลากหลาย ข. ความเสมอภาคในการเข้าถงึ และได้รับการศึกษา ค. การเข้าถงึ แหลง่ การเรียนร้ทู สี่ อดคลอ้ งกบั ความสนใจ ง. การจัดกรอบหรือแนวทางการเรยี นรทู้ เ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี น 8. ข้อใดคือ หลักการข้อท่ี 1 ของ การศึกษาตามอธั ยาศัย ก. ความเสมอภาคในการเขา้ ถึงและได้รับการศกึ ษาอย่างกวา้ งขวาง ข. การกระจายอานาจแก่สถานศกึ ษาและการใหภ้ าคเี ครือข่าย ค. การเขา้ ถึงแหล่งการเรยี นรูท้ ่สี อดคลอ้ งกับความสนใจและวถิ ีชีวิตของผ้เู รยี น ง. การพฒั นาแหล่งการเรยี นรู้ให้มคี วามหลากหลายทัง้ ส่วนที่เปน็ ภูมิป๎ญญาทอ้ งถน่ิ 9. ข้อใดคือ เปาู หมายของการสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ก. ได้รับความรแู้ ละทักษะพืน้ ฐานในการแสวงหาความรทู้ ี่จะเอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชวี ิต ข. ไดเ้ รยี นรู้สาระทีส่ อดคลอ้ งกบั ความสนใจและความจาเปน็ ในการยกระดับคุณภาพชีวิต ค. นาความรทู้ ไ่ี ด้รับไปใช้ประโยชน์และเทยี บโอนผลการเรียนกับการศึกษาในระบบและการศึกษา นอกระบบ ง. ถกู ทกุ ข้อ สนใจสั่งช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

45 10. ใครเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ก. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. รัฐมนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการทีไ่ ด้รับมอบหมาย ค. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ ง. เลขาธิการสานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 11. คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยมกี ่คี น ก. 17 คน ข. 19 คน ค. 21 คน ง. 28 คน 12. ข้อใดไม่ใชก่ รรมการโดยตาแหนง่ ในคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศยั ก. เลขาธกิ ารสภาการศึกษา ข. เลขาธกิ ารคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ค. เลขาธกิ ารคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ง. เลขาธิการคุรุสภา 13.ขอ้ ใดคือ สายดว่ น กศน. ก. 1669 ข. 1660 ค. 1559 ง. 1550 14. ใครเปน็ ผแู้ ตง่ ตง้ั คณะอนุกรรมการภาคีเครือขา่ ย ก. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ค. เลขาธกิ ารสานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ง. คณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 15.ใครเปน็ ประธานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั ก. ผ้วู ่าราชการจังหวดั ข. รองผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ค. ศึกษาธกิ ารจงั หวัด ง. ผู้อานวยการ สานกั งาน กศน.จงั หวัด 16. ใครเปน็ ผู้จัดทาบญั ชรี ายชอ่ื สถานศึกษาสังกัดสานักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรยี น ก. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ค. เลขาธิการสานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ง. ผอู้ านวยการสานักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สนใจสง่ั ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

46 17. เหตผุ ลในการตราพ.ร.บ.ส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2551 ก. เพ่ือสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ข. เพอื่ ให้มกี ารประสานกบั การศึกษาในระบบ ค. เพอ่ื การบริหารงานท่ีคล่องตัวของการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ง. เพื่อให้มกี ฎหมายรองรับการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย 18.ใครเปน็ ผมู้ ีอานาจแตง่ ตั้งคณะกรรมการสถานศกึ ษา กศน.อาเภอ/เขต ก. ผู้อานวยการ กศน.อาเภอ/เขต ข. ผู้อานวยการ สานกั งาน กศน.จงั หวัด/กทม. ค. ผู้ว่าราชการจงั หวดั ง. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ 19. สานกั งาน กศน. สังกดั หน่วยงานใด ก. สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. สานกั งานสภาการศึกษา ค. สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ง. สังกัดกระทรวงศกึ ษาธิการโดยตรง 20.เวบ็ ไซตส์ านักงาน กศน. คอื ข้อใด ก. www.nfe.co.th ข. www.nfe.com ค. www.nfe.go.th ง. www.krukorsornor.com 21.ขอ้ ใดไมใ่ ช่อานาจหน้าทีข่ องคณะกรรมการตาม พ.ร.บ. ฉบับน้ี ก. กาหนดแนวทางการดาเนินงานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ข. เสนอแนะต่อรฐั มนตรีในการจดั ทาและการพัฒนาระบบการเทยี บโอนผลการเรียนรู้ ค. กาหนดนโยบายและแผนการส่งเสรมิ และสนับสนนุ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย ง. จัดทาขอ้ เสนอแนะ นโยบาย ยุทธศาสตร์ แผน และมาตรฐานการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศยั 22.เลขาธกิ าร กศน. มฐี านะเทียบเท่ากับตาแหนง่ ใด ก. อธิบดี ข. รัฐมนตรี ค. ปลดั กระทรวง ง. ถกู ทกุ ขอ้ 23.กจิ กรรมการเรียนรใู้ นวิถชี วี ิตประจาวนั ของบคุ คลซึ่งบุคคลสามารถเลือกที่จะเรยี นรู้ได้อยา่ ง ต่อเน่ืองตลอดชีวติ ตามความสนใจ ความต้องการ โอกาส ความพร้อม และศกั ยภาพในการเรียนรู้ ของแต่ละบคุ คล เปน็ การจดั การศึกษารปู แบบใด. ก. การศกึ ษาในระบบ ข. การศกึ ษานอกระบบ ค. การศึกษาตลอดชวี ิต ง. การศกึ ษาตามอธั ยาศัย 24.หวั หนา้ สถานศึกษามหี น้าท่ี สรรหาคณะกรรมการสถานศึกษาก่อนหมดวาระไม่น้อยกว่ากว่ี นั ก. 30 วัน ข. 60 วัน ค. 90 วนั ง. 180 วัน สนใจสัง่ ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

47 25.การศกึ ษาตามอธั ยาศัยในมาตรา 15 ของพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พทุ ธศักราช 2542 ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องทสี่ ดุ ก. วิธกี ารท่หี ลากหลายท่นี าไปสกู่ ารเรยี นรู้ อาจเกิดขึ้นโดยการถกู ผลกั ดันให้เกิดขึน้ ผ่าน กระบวนการสนทนา เกี่ยวข้องกับการสารวจและขยายประสบการณ์ โดยไม่อาจทานายล่วงหน้า ได้เป็นส่งิ ทีบ่ ังเอญิ เกดิ ข้ึน อุบัติขึ้น ข. การศึกษาที่เกิดขนึ้ ตามวถิ ชี ีวิตที่เปน็ การเรยี นรู้จากประสบการณ์ การทางาน บคุ คล ครอบครัว ชุมชน โดยมีลกั ษณะทส่ี าคญั คือไมม่ หี ลกั สูตร ไม่มเี วลาเรยี นที่แนน่ อน ไม่จากัดอายุ ไม่มกี าร ลงทะเบยี นและไม่มกี ารสอน ค. การศกึ ษาตามอัธยาศยั เปน็ การศกึ ษาท่ีใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ รยี นรดู้ ว้ ยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพรอ้ มและโอกาสโดยศึกษาจากบคุ คล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดลอ้ ม สื่อหรือแหล่ง เรยี นรู้อื่นๆ ง. เปน็ การจดั สภาพแวดล้อม สถานการณ์ ปจ๎ จยั เก้ือหนนุ สื่อ แหลง่ เรียนรู้ และบุคคล เพอ่ื สง่ เสริม ให้บุคคลได้เรยี นรู้ตามความสนใจ 26.ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” เรม่ิ มตี ั้งแต่เม่ือใด ก. พ.ศ. 2542 ข. พ.ศ. 2541 ค. พ.ศ. 2538 ง. พ.ศ. 2534 27.ขอ้ ใดไม่ถูกต้องเกย่ี วกับการศกึ ษาตามอัธยาศยั ก. ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม โอกาส ข. สถานศึกษา ต้องจัดการศกึ ษา ท้งั ในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศยั ค. ธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ มเปน็ แหลง่ เรียนรู้ ง. จดั การเรียนรู้ทกุ ท่ี ทกุ เวลา 28.ข้อใดคือ เปูาหมายของการส่งเสริมและสนบั สนนุ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย ก. ไดร้ ับความรแู้ ละทกั ษะพนื้ ฐานในการแสวงหาความรู้ทจี่ ะเอื้อตอ่ การเรียนร้ตู ลอดชวี ติ ข. ไดเ้ รยี นรู้สาระที่สอดคลอ้ งกับความสนใจและความจาเป็นในการยกระดบั คุณภาพชีวิต ค. นาความรทู้ ไ่ี ด้รบั ไปใชป้ ระโยชนแ์ ละเทียบโอนผลการเรยี นกบั การศึกษาในระบบและการศึกษา นอกระบบ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 29.ใครเป็นผู้รกั ษาการตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย พ.ศ. 2551 ก. นายกรัฐมนตรี ข. ปลัดกระทรวง ค. เลขาธิการ กพฐ. ง. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ สนใจสง่ั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

48 30. คณะกรรมการสถานศึกษา กศน.อาเภอ/เขต มีจานวนกคี่ น ก. 8 คน ข. 9 คน ค. 12 คน ง. 13 คน 31.เปาู หมายหลักการศึกษาตามอัธยาศยั คือข้อใด ก. เพอื่ ส่งเสรมิ พฒั นาตนเองอย่างต่อเน่อื ง และเพื่อตอบสนองความพงึ พอใจและนนั ทนาการของ บุคคล ข. สง่ เสริมการศึกษาในระบบโรงเรยี น เพือ่ เติมเต็มการจัดการศึกษา ค. เป็นการจดั การศึกษาสาหรบั กลุ่มเปาู หมายที่พลาดโอกาสทางการศกึ ษา ง. เพือ่ สง่ เสริมผรู้ ับบริการและกลมุ่ เปูาหมายมที กั ษะในการดาเนนิ ชีวิต 32. พ.ร.บ.ส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย พ.ศ.2551 ประกาศใชว้ ันใด ก. 1 มีนาคม 2551 ข. 2 มนี าคม 2551 ค. 3 มนี าคม 2551 ง. 4 มนี าคม 2551 33.พ.ร.บ. สง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 บงั คบั ใชว้ ันใด ก. 1 มนี าคม 2551 ข. 2 มีนาคม 2551 ค. 3 มีนาคม 2551 ง. 4 มนี าคม 2551 34.รูปแบบการจัดการศกึ ษาทีม่ วี ตั ถปุ ระสงค์ เปาู หมาย หลักสูตรมลี ักษณะยืดหยุน่ และหลากหลาย ตามความต้องการของผ้เู รยี น เป็นรูปแบบการศึกษาแบบใด ก. ในระบบ ข. นอกระบบ ค. ตลอดชีวิต ง. ตามอธั ยาศยั 35.พ.ร.บ.สง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย พ.ศ.2551 มีกี่มาตรา ก. 20 ข. 23 ค. 25 ง. 27 36.ใครเป็น เลขานุการ อ.ก.ค.ศ.สป. ก. เลขาธิการ กศน. ข. ผู้อานวยการกลุ่มการเจ้าหนา้ ที่ ค. ผูอ้ านวยการกลมุ่ แผนงาน ง. ผู้อานวยการกลมุ่ สง่ เสริมปฏิบตั ิการ 37.การสง่ เสริมและสนับสนุนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยยึดหลกั ตามข้อใด ก. ความเสมอภาค ข. การกระจายอานาจ ค. ผเู้ รยี นเป็นสาคญั ง. ก และ ข. ถูก สนใจสั่งชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

49 38.ข้อใดไมส่ อดคลอ้ งกบั อานาจหน้าทขี่ องผู้อานวยการ กศน.อาเภอ/เขต ก. อนุมัตหิ ลกั สตู รท้องถิน่ ข. ประสานระดมทรัพยากร ควบคุมดูแลเจ้าหนา้ ที่ ทรพั ยส์ นิ ค. เป็นผแู้ ทนสถานศึกษา ทานติ ิกรรมสัญญา ง. จดั ทารายงานการประกันคุณภาพภายใน 39. สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั มีชอ่ื ย่อว่าอย่างไร ก. กศน. ข. ก.ศ.น. ค. สานักงาน ก.ศ.น. ง. สานกั งาน กศน. 40. คณุ สมบตั ิ วาระการดารงตาแหน่ง การพ้นจากตาแหน่งของคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.น้ี ให้ เปน็ ไปตามขอ้ ใด ก. กฎกระทรวง ข. ระเบยี บกระทรวง ค. ประกาศกระทรวง ง. ข้อบังคับ เฉลยข้อสอบ 1.ง 2.ง 3.ก 4.ข 5.ก 6.ง 7.ข 8.ค 9.ง 10.ก 11.ค 12.ง 13.ข 14.ง 15.ก 16.ก 17.ง 18.ข 19.ก 20.ค 21.ข 22.ก 23.ง 24.ค 25.ค 26.ง 27.ข 28.ง 29.ง 30.ข 31.ก 32.ค 33.ง 34.ข 35.ค 36.ข 37.ค 38.ง 39.ง 40.ก สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

50 พระราชบญั ญตั คิ วามรับผดิ ทางละเมิดของเจา้ หนา้ ที่ พ.ศ. 2539   เจา้ หน้าที่ หมายถงึ ข้าราชการ พนกั งาน ลกู จ้าง หรอื ผู้ประปฏิบัติงาน  หนว่ ยงานของรัฐ หมายถงึ กระทรวง ทบวง กรมหรอื ส่วนราชการ (สานักงาน กศน. : สานักงาน ปลดั กระทรวง) **มาตรา 5 ในกรณีเจ้าหนา้ ท่ีของรฐั กระทาในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี ผเู้ สยี หายอาจฟูองหน่วยงานของรัฐ **ถ้าเจา้ หนา้ ทไี่ ม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐ ผเู้ สยี หายให้ฟอู งกระทรวงการคลงั **มาตรา 6 ในกรณีเจา้ หนา้ ที่ไมไ่ ดก้ ระทาในการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ให้ฟูองเจ้าหนา้ ท่ไี ดโ้ ดยตรง (หา้ ม ฟอู งหนว่ ยงาน) **มาตรา 7 ในกรณีฟูองหนว่ ยงานของรัฐ แต่หนว่ ยงานของรัฐเหน็ ว่าเจ้าหนา้ ที่กระทาผดิ ให้ฟูอง เจา้ หน้าที่ดว้ ย **มาตรา 8 ในกรณหี น่วยงานของรัฐต้องรับผิดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทนแก่ผู้เสยี หาย ใหห้ น่วยงานของ รฐั เรยี กเจา้ หนา้ ทช่ี ดใชค้ วามเสยี หายแทน ถ้าหากเจา้ หนา้ ท่ีกระทาผดิ ดว้ ยความจงใจหรอื ประมาณ เลนิ เล่ออย่างรา้ ยแรง ในกรณีเกิดเจ้าหน้าท่ีหลายคน จะตอ้ งรบั ผดิ ใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะสว่ น ของตนเทา่ นัน้ **มาตรา 10 ในกรณที ่ีเจ้าหนา้ ท่เี ป็นผู้กระทาละเมดิ ตอ่ หนว่ ยงานของรฐั ให้กาหนดอายุความ 2 ปี เมื่อพิจารณาแล้วเจ้าหน้าทีไ่ ม่ผิด แลว้ กระทรวงการคลังตรวจสอบวา่ ผิด ใหเ้ รยี กรอ้ งค่าสินไหม ทดแทนกาหนดอายุความ 1 ปี **มาตรา 11 ในกรณีผู้เสยี หายยงั ไม่พอใจผลการวนิ จิ ฉัยของหน่วยงาน มสี ิทธิร้องทุกข์ “ป๎จจุบันมี ศาลปกครอง” ให้รอ้ งต่อศาลปกครอง ภายใน 90 วัน (พิจารณาให้แล้วเสรจ็ ภายใน 180 วนั ขยายได้ อีกไมเ่ กิน 180 วนั [ผอู้ นุมัตโิ ดยรัฐมนตรี]) มาตรา 12 เจา้ หน้าที่ซงึ่ รบั ผดิ สามารถผ่อนชาระเงนิ ดอกเบย้ี รอ้ ยละ 7.5 ต่อปี ถา้ เรื่องเงิน : ตอ้ งชาระด้วยเงนิ ถา้ รถ : ตอ้ งซอ่ ม ภายใน 6 เดือน มาตรา 13 คณะรัฐมนตรีจดั ใหม้ ีระเบียบเจ้าหน้าที่สามารถผ่อนชาระเงินทีต่ อ้ งรบั ผดิ ชอบความผดิ ละเมิด โดยคานงึ ถงึ รายได้ ฐานะ ครอบครัวและความรับผดิ ชอบ และพฤติกรรมแหง่ กรณี มาตรา 14 ใหร้ ้องทกุ ข์ ฟอู งคดีตอ่ ศาลปกครอง สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook