Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

(2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

Published by agenda.ebook, 2019-11-12 00:09:58

Description: เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม จำนวน 5 เรื่อง

Search

Read the Text Version

รายงานประจ�ำ ปี 2561 53 ธนาคารเพือ่ การส่งออกและนำ�เขา้ แหง่ ประเทศไทย อีกท้ังภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นการท่องเท่ียวออกมาเป็นระยะ อาทิ การขยายระยะเวลายกเลิกค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) และมาตรการส่งเสริมการท่องเท่ียวเมืองรอง อีกทั้งสายการบินระหว่างประเทศหลายแห่งเปิด เส้นทางบินตรงมาไทยเพ่ิมข้ึน ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยให้สินค้าไทยโดยเฉพาะสินค้าโอทอปท่ีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ อาหาร ผลไม้ ของตกแต่งบ้าน เส้ือผ้า เป็นต้น เป็นที่รู้จักและช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและ ขนาดย่อมพัฒนาตนเองเป็นผู้ส่งออกได้มากข้ึน นอกจากน้ี ธุรกิจบริการอ่ืนๆ ของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับ สากล อาทิ บริการท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ (ธุรกิจสปาและนวดแผนไทย) ธุรกิจการแพทย์ บันเทิง โลจิสติกส์ และก่อสร้าง จะชว่ ยตอ่ ยอดการสง่ ออกสนิ ค้าไทยท่เี กีย่ วเนอ่ื งกับธรุ กจิ ดังกล่าวได้อีกทางหนึง่ อยา่ งไรกต็ าม การส่งออกของไทยปี 2562 ยงั ต้องเผชิญกบั ปัจจยั เสย่ี งหลายประการ ดังน้ี ffสงครามการคา้ ระหวา่ งสหรฐั อเมรกิ าและจนี ยงั มคี วามไมแ่ นน่ อนสงู ทผ่ี า่ นมาสหรฐั อเมรกิ าปรบั ขน้ึ ภาษสี นิ คา้ น�ำเข้าจากจีนมูลค่ารวมกว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นสินค้าเทคโนโลยี ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการปรับข้ึน ภาษีสินค้าน�ำเข้าจากสหรัฐอเมริกาคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นไปท่ีสินค้าเกษตรเป็นหลัก ทั้งน้ี แม้ทั้งสองฝ่ายจะมีความพยายามเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้าอย่างต่อเน่ือง แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเป็น รูปธรรมเท่าใดนัก เนื่องจากข้อเรียกร้องของสหรัฐอเมริกาเป็นไปได้ยากท่ีจีนจะยอมตามได้ท้ังหมด อาทิ การควบคุม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มงวดมากข้ึน การเปิดตลาดการค้าการลงทุนให้นักลงทุนชาวอเมริกันเข้าไปลงทุน ในจีนได้เสรีโดยไม่มีการบังคับให้ถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งความพยายามให้จีนล้มเลิกนโยบาย Made in China 2025 ที่จีนหวังใช้เป็นแผนยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนาประเทศ สถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนท�ำให้หลายฝ่ายคาดว่า แม้จีนจะเสนอข้อแลกเปลี่ยนในการน�ำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาเพ่ิมขึ้นหรือทั้งสองประเทศอาจตกลงกันได้ท่ี จะไม่เก็บภาษีน�ำเข้าเพ่ิมเติมจากท่ีเก็บอยู่ แต่มีความเป็นไปได้ยากที่สหรัฐอเมริกาและจีนจะยุติสงครามการค้าได้ อย่างสิ้นเชิงในระยะเวลาอันใกล้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ปรับลดการขยายตัวของการค้าโลกปี 2562 มาอยู่ท่ีร้อยละ 3.7 จากร้อยละ 3.9 ในปี 2561 ขณะเดียวกัน IMF ก็ได้ ปรับลดคาดการณ์อัตราขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและจีนในปี 2562 มาอยู่ท่ีร้อยละ 2.5 และ 6.2 เทียบกับปี 2561 ท่ีขยายตัวร้อยละ 2.9 และ 6.6 ตามล�ำดับ จากผลกระทบของสงครามการค้าท่ีอาจยืดเย้ือ ท้ังนี้ การท่ีทั้งสองประเทศเป็นคู่ค้าอันดับ 1 และ 2 ของไทย ย่อมส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการส่งออก ของไทยอยา่ งหลกี เลี่ยงไม่ได้ ffความขดั แยง้ ทางการเมอื ง และความเสยี่ งดา้ นภมู ริ ฐั ศาสตรร์ ะหวา่ งประเทศเรง่ ตวั ขนึ้ ทง้ั จากผลการเลอื กตง้ั กลางเทอมของสหรัฐอเมริกาท่ีพรรครัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทน ราษฎรและวุฒิสภาได้ ท�ำให้การออกกฎหมายหรือนโยบายต่างๆ ในปี 2562 ท�ำได้ยากข้ึน สังเกตได้จากในช่วง ต้นปี 2562 ที่มีการปิดหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) เป็นเวลานานที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพราะ ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องงบประมาณก่อสร้างก�ำแพงกั้นแนวชายแดนสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก ซ่ึงคาดว่า ปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นอีกในการเจรจาขอขยายเพดานหนี้สาธารณะ (Debt Ceiling) ในระยะถัดไป ขณะเดียวกันหลายชาติในยุโรปก็ยังเผชิญความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างต่อเน่ือง โดยเฉพาะการแยกตัวของ สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่ยังคลุมเครือ และการประท้วงในฝรั่งเศสจากความไม่พอใจนโยบาย ของรัฐบาลซึ่งกระแสดังกล่าวได้เร่ิมลุกลามไปยังหลายประเทศในยุโรป นอกจากน้ี การคว�่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา ต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกท่ีพร้อม จะปะทขุ น้ึ ได้ตลอดเวลา ปัจจยั ดังกล่าวจะมสี ว่ นบัน่ ทอนบรรยากาศการค้าโลกและการส่งออกของไทยอยเู่ ปน็ ระยะ ffราคานำ้� มนั ในตลาดโลกชะลอลง สำ� นักงานสารสนเทศดา้ นพลงั งานสหรัฐอเมริกา (U.S. Energy Information Administration: EIA) ปรับลดคาดการณ์ราคาน้�ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปี 2562 มาอยู่ท่ี 61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จาก 71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2561 เนื่องจากอุปสงค์น้�ำมันที่มีแนวโน้มลดลงตามเศรษฐกิจโลกท่ีชะลอลง ประกอบกับสหรัฐอเมริกามีการผลิตน�้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) เพิ่มข้ึนต่อเนื่อง จนท�ำให้สหรัฐอเมริกา ก้าวข้ึนมาเป็นผู้ผลิตน้�ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลกแซงหน้ารัสเซีย ปัจจัยดังกล่าวท�ำให้ภาวะอุปทานน�้ำมันดิบส่วนเกิน

54 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพื่อการส่งออกและน�ำ เขา้ แหง่ ประเทศไทย ในตลาดโลกยังมีต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีความพยายามจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้�ำมัน (Organization of the Petroleum Exporting Countries: OPEC) และประเทศนอกกลุ่ม OPEC น�ำโดยรัสเซียในการลดการผลิตน�้ำมันลง 1.2 ล้าน บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 แต่ยังไม่เพียงพอท่ีจะบรรเทาปัญหาอุปทานส่วนเกินที่เกิดข้ึนได้ ปัจจัย ดังกล่าวจะยังกดดันให้ราคาน�้ำมันในปี 2562 กระเต้ืองขึ้นได้ไม่มาก ซ่ึงจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อการส่งออก สนิ คา้ ท่เี กยี่ วเนื่องกับราคาน้ำ� มันของไทยซงึ่ คิดเปน็ สัดส่วนรวมกนั ราวรอ้ ยละ 15 ของมูลค่าส่งออกรวมของไทย ffค่าเงินบาทยังผันผวนสูง จากความไม่แน่นอนของนโยบายทางเศรษฐกิจและการเมืองของชาติมหาอ�ำนาจ ท้ังสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน อาทิ จ�ำนวนคร้ังในการปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง สหรฐั อเมรกิ า ความไมแ่ นน่ อนในนโยบายของสหรฐั อเมรกิ าจากเสถยี รภาพของรฐั บาลท่ีเร่ิมสั่นคลอน กระแสประชานิยม ของหลายชาติในยุโรปที่เริ่มท�ำให้เสถียรภาพของสหภาพยุโรปถูกท้าทายย่ิงขึ้น การปรับข้ึนภาษีขาย (Sales Tax) ของ ญ่ีปุ่นท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า การออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินและการคลังของจีน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสงครามการค้า เป็นต้น ปัจจัยเหล่าน้ีล้วนมีส่วนท�ำให้ค่าเงินทั่วโลกรวมถึงเงินบาทผันผวน ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังต้องจับตามองเงินบาทในฐานะแหล่งพักเงินของเงินทุนเคล่ือนย้ายระหว่างประเทศว่าจะ มีความต่อเนื่องเพียงใด หลังจากปีท่ีผ่านมาเงินบาทแข็งค่ากว่าสกุลเงินตลาดเกิดใหม่หลายสกุลจากปัจจัยพ้ืนฐาน ทางเศรษฐกิจของไทยท่ีแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะมีผลต่อรายรับในรูปเงินบาทที่ลดลงของผู้ส่งออกไทย ffข้อตกลงทางการค้าบางฉบับอาจท�ำให้ไทยเสียประโยชน์ อาทิ ข้อตกลงการค้าการลงทุนฉบับใหม่ระหว่าง สหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (United States-Mexico-Canada Agreement: USMCA) ที่ถูกน�ำมาใช้แทน ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือหรือนาฟต้า (NAFTA) ที่ก�ำหนดสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ สมาชิก (Local Content) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 62.5 เป็นร้อยละ 75 อีกท้ังแรงงานที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ต้อง ได้รับอัตราค่าจ้าง 16 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมงขึ้นไป ปัจจัยดังกล่าวท�ำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์ในทวีป อเมริกาเหนือถูกจ�ำกัดอยู่ภายในภูมิภาคดังกล่าวมากข้ึน ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยไป 3 ประเทศข้างต้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10 ของมูลค่าส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์รวม นอกจากนี้ ความตกลงหุ้นส่วน ทางเศรษฐกิจภาคพ้ืนแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership: CPTPP) ซ่ึงจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในปี 2562 และไทยยังไม่ได้เป็นสมาชิก อาจท�ำให้ไทยเสียเปรียบ คแู่ ขง่ ทีเ่ ปน็ สมาชกิ ในขอ้ ตกลงดังกล่าวในสนิ ค้าบางรายการ การลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศปี 2561 และแนวโน้มปี 2562 การลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศ (Thai Direct Investment: TDI) ปี 2561 ขยายตัวต่อเน่ือง จากปี 2560 สะทอ้ นไดจ้ ากมลู คา่ การลงทนุ โดยตรงของไทยในตา่ งประเทศสทุ ธใิ นชว่ ง 10 เดอื นแรกของปี 2561 ทข่ี ยายตวั สงู ถงึ รอ้ ยละ 44 โดยมปี จั จยั สนบั สนนุ มาจากการทผ่ี ปู้ ระกอบการไทยในหลายอตุ สาหกรรมไดข้ ยายตลาดไปยงั ตา่ งประเทศ และเพม่ิ ชอ่ งทางการคา้ ใหห้ ลากหลายมากขน้ึ เพอื่ กระจายความเสย่ี งจากตลาดในประเทศทม่ี กี ารแขง่ ขนั สงู ขนึ้ ขณะเดยี วกนั ผู้ประกอบการไทยเข้าไปใช้ประโยชน์จากปัจจัยการผลิตต่างๆ ที่มีต้นทุนถูกกว่าเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยตลาดอาเซียนยังเปน็ เป้าหมายอันดับ 1 ของนกั ลงทุนไทยด้วยจุดเด่นในหลายๆ ดา้ น ท้ังในด้านขนาดตลาด อัตราการ ขยายตวั ทางเศรษฐกจิ จำ� นวนชนชนั้ กลางทเี่ พมิ่ ขนึ้ ทงั้ น้ี มลู คา่ การลงทนุ โดยตรงของไทยไปอาเซยี นสทุ ธใิ นชว่ ง 10 เดอื นแรก ของปี 2561 มมี ลู ค่า 6,317 ลา้ นดอลลารส์ หรัฐ หรือขยายตัวรอ้ ยละ 27 จากปี 2560

รายงานประจ�ำ ปี 2561 55 ธนาคารเพอื่ การส่งออกและนำ�เขา้ แหง่ ประเทศไทย มูลคา่ การลงทุนโดยตรงของไทยในตา่ งประเทศสทุ ธิ ล้านดอลลารส์ หรฐั 18,632 20,000 15,000 16,637 10,000 5,000 13,362 11,557 0 ปี 2559 5,742 4,991 ปี 2560 ปี 2560 ปี 2561 ปี 2557 ปี 2558 (ม.ค.-ต.ค.) (ม.ค.-ต.ค.) มลู ค่าการลงทนุ โดยตรงของไทยในอาเซยี นสทุ ธิ ล้านดอลลารส์ หรฐั 4,755 6,064 6,317 8,000 ปี 2559 4,980 ปี 2561 6,000 (ม.ค.-ต.ค.) 4,000 2,730 630 ปี 2560 ปี 2560 2,000 ปี 2557 ปี 2558 (ม.ค.-ต.ค.) 0 ทม่ี า : ธนาคารแหง่ ประเทศไทย แนวโนม้ การลงทนุ โดยตรงของไทยในตา่ งประเทศปี 2562 การลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศปี 2562 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากแรงผลักดันภายในประเทศ ควบค่ไู ปกบั ปจั จยั ดึงดดู จากตา่ งประเทศ ดังน้ี

56 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพื่อการสง่ ออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย การลงทุนของไทยในตา่ งประเทศเตบิ โตอย่างต่อเนื่ิอง แสวงหาสิทธิประโยชน์ หลายประเทศ ในตลาดตา่ งประเทศ เปดิ รบั นักลงทุน จากตา่ งประเทศมากขึ้น ภาครัฐส่งเสรมิ ก�ำ ลงั ซอื้ ในกลมุ่ การลงทนุ ใน ประเทศตลาดใหม่ ต่างประเทศมากขนึ้ เพิม่ ข้ึนอย่างรวดเรว็ ปัญหาเชิงโครงสร้าง ดา้ นแรงงานของไทย เร่งตัวขน้ึ แรงผลกั ดนั ภายในประเทศ ffปญั หาเชงิ โครงสรา้ งดา้ นแรงงานของไทยเรง่ ตวั มากขน้ึ โดยเฉพาะการเขา้ สสู่ งั คมผสู้ งู อายุ (Aging Society) โดยปัจจบุ ัน จำ� นวนผ้สู ูงอายขุ องไทย (อายุ 65 ปขี ้นึ ไป) มีสดั ส่วนราวร้อยละ 13 ของจ�ำนวนประชากรทง้ั ประเทศ สูงเปน็ อันดับต้นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ค่าจ้างแรงงานของไทยสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาค ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุน การผลิตอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ รวมถึงปัญหาทักษะแรงงานไม่สอดคล้องกับความต้องการในตลาดแรงงาน (Labor Market Mismatch) ในยุคปัจจุบันที่มุ่งเน้นทักษะเชิงคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ทักษะด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ดิจิทัลและนวัตกรรม เป็นต้น ซึ่งเป็นทักษะส�ำคัญในการพัฒนาภาคการผลิตภายใต้นโยบาย “ประเทศไทย 4.0” ซ่ึงปัญหาเชิงโครงสร้างด้านแรงงานเหล่านี้จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยต้องขยายกิจการออกไป ลงทนุ ในตา่ งประเทศมากข้นึ เพ่อื รักษาขดี ความสามารถในการแขง่ ขัน ffนโยบายภาครฐั สง่ เสรมิ ใหผ้ ปู้ ระกอบการไทยออกไปลงทนุ ในตา่ งประเทศมากขนึ้ หนว่ ยงานภาครฐั หลายแหง่ มีนโยบายส่งเสริมการออกไปลงทุนในต่างประเทศท่ีเป็นรูปธรรมมากข้ึน อาทิ การสนับสนุนทางการเงิน การสนับสนุน ข้อมูลเชิงลึกที่เก่ียวข้องกับการลงทุนในต่างประเทศ ตลอดจนการจัดคณะเดินทางเพื่อส่งเสริมและเพ่ิมศักยภาพ ให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการออกไปลงทุนในต่างประเทศ อันจะช่วยต่อยอดการท�ำธุรกิจของผู้ประกอบการไทย ไปสูร่ ะดบั ภูมิภาคและระดบั โลกมากขึ้น ซ่งึ จะส่งผลดีตอ่ การสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคธรุ กจิ ไทยในระยะยาว ปัจจยั ดึงดดู จากตา่ งประเทศ ffก�ำลังซ้ือในกลุ่มประเทศตลาดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน เอเชียใต้ และ แอฟริกา ที่เศรษฐกิจขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องจากการเร่งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ อีกทั้งยังได้แรงสนับสนุน จากปัจจัยภายนอกประเทศ ท้ังการส่งออกที่ขยายตัวและเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติท่ีไหลเข้ามาลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้ ก�ำลังซ้ือของประชาชนในประเทศเพิ่มสูงข้ึนอย่างก้าวกระโดด ขณะที่สังคมเมือง (Urbanization) และชนชั้นกลาง (Middle Class) ขยายตัวต่อเนื่อง นับเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปลงทุนขยายตลาดและแสวงหา ลูท่ างการค้า เพื่อสรา้ งและตอ่ ยอดศกั ยภาพในการแขง่ ขนั บนเวทกี ารค้าโลกตอ่ ไป

รายงานประจ�ำ ปี 2561 57 ธนาคารเพ่อื การสง่ ออกและนำ�เข้าแหง่ ประเทศไทย ffผปู้ ระกอบการไทยแสวงหาสทิ ธปิ ระโยชนท์ างการคา้ ในประเทศทอี่ อกไปลงทนุ หลงั จากประเทศไทยทยอย ถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้าที่เคยได้รับจากประเทศพัฒนาแล้วอย่างต่อเน่ือง โดยล่าสุดในปี 2561 สหรัฐอเมริกา ตดั สทิ ธิพิเศษทางภาษศี ุลกากร (Generalized System of Preferences: GSP) สินคา้ ไทยจำ� นวน 11 รายการ ส่งผลให้ ผู้ประกอบการไทยบางส่วนย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศก�ำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย และแอฟริกาทย่ี ังคงไดส้ ิทธพิ เิ ศษทางภาษศี ลุ กากร เพ่ือรักษาขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ffหลายประเทศเปดิ รบั นกั ลงทนุ จากตา่ งประเทศมากขน้ึ โดยเฉพาะประเทศกำ� ลงั พฒั นาในภมู ภิ าคอาเซยี น เอเชยี ใต้ และแอฟริกาที่มีข้อจ�ำกัดด้านเงินลงทุนและเทคโนโลยีการผลิต โดยประเทศต่างๆ ดังกล่าวได้ผ่อนคลายและปรับปรุง กฎระเบียบ รวมถึงส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศผ่านท้ังมาตรการทางด้านภาษีและมิใช่ภาษีอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและระบบสาธารณูปโภค จนเร่ิมเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนต่างชาติ มากข้ึนรวมถึงนักลงทุนไทย สะท้อนได้จากรายงาน “Doing Business 2019” ของธนาคารโลกพบว่า หลายประเทศ ได้รับการปรับเพิ่มคะแนนความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจในทิศทางท่ีดีขึ้น ซ่ึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ในการเข้าไปเปิดตลาดและสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานในภาคอุตสาหกรรมของไทยในอนาคต สภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ ในปี 2562 สภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจส่งผลกระทบต่อ การดำ� เนินธรุ กิจของธนาคารในหลากหลายมติ ิ อาทิ ตน้ ทุนทางการเงิน การบริหารคุณภาพหนี้ มีแนวโนม้ เพิ่มข้ึน เป็นความทา้ ทายหลัก อย่างคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป ของสถาบนั การเงนิ ความเสี่ยงทางการคา้ สถาบนั การเงนิ ของไทย และการลงทนุ ขยายเครือข่าย ระหวา่ งประเทศทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ในตา่ งประเทศมากขึน้ สนิ เชอื่ เพอ่ื การลงทุน เทคโนโลยีทางการเงนิ มีการแข่งขันสงู ขึ้น รูปแบบใหม่มอี ิทธิพลมากขึ้น ความท้าทายในการ การพัฒนาบุคลากร บริหารธรุ กิจใหส้ อดคลอ้ ง ให้สอดคลอ้ งกบั บริบทของโลก กับกฎระเบียบใหมๆ่ และเทคโนโลยที ่ีเปล่ยี นแปลงไป

58 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพอื่ การสง่ ออกและน�ำ เขา้ แหง่ ประเทศไทย ffต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากปี 2561 ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Federal Reserve: Fed) ปรับขึ้นอัตราดอกเบ้ียนโยบาย (Fed Funds Rate) ถึง 4 คร้ังจากร้อยละ 1.25-1.50 เป็นร้อยละ 2.25-2.50 ท�ำให้ธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลกมีการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากข้ึน ผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบ้ีย โดยในส่วนของไทยมีการปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน เมษายน 2558 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.75 ในเดือนธันวาคม 2561 อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกเร่ิมมีอัตราเร่งท่ีลดลงหลังเศรษฐกิจโลกเผชิญความเส่ียงมากขึ้น โดยเฉพาะ Fed ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายน้อยกว่าท่ีคาด และอาจชะลอการปรับลดขนาดงบดุลหลังเศรษฐกิจ สหรัฐอเมริกาชะลอลง ท้ังน้ี สถานการณ์อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปข้างต้นถือเป็นความท้าทายของ ธนาคารในการบริหารตน้ ทนุ การกู้ยืมท่ามกลางรายไดจ้ ากค่าธรรมเนยี มที่ลดลง ffความเสี่ยงทางการคา้ และการลงทนุ ระหว่างประเทศเพมิ่ ขึ้น ท้ังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมรกิ ากับจนี ท่ียังมีความไม่แน่นอนสูงและเร่ิมส่งผลกระทบทางลบต่อทิศทางการค้าการลงทุนโลกอย่างมีนัยส�ำคัญ นอกจากน้ี เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่บางประเทศที่ยังเปราะบาง ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศท่ีเร่งตัวข้ึน ประกอบกับ ภัยธรรมชาติท่ีเกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากข้ึน ปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสามารถในการ ท�ำก�ำไรของสถาบนั การเงินทท่ี ำ� ธรุ กจิ ระหว่างประเทศอย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ ffสินเชื่อเพื่อการลงทุนมีการแข่งขันสูงข้ึน ท้ังจากโครงการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนที่มีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ภาครัฐให้การสนับสนุน ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0” ที่เน้นการลงทุนในพ้ืนที่ EEC หลังจากนักลงทุนมีแนวโน้มขยายการลงทุน เพิ่มขึ้นเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี อีกทั้งไทยยังเป็นหน่ึงในเป้าหมายส�ำคัญของนักลงทุนต่างชาติในการย้าย ฐานการผลิตเพ่ือหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้าอีกด้วย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการไทยเองก็มีแนวโน้ม เข้าไปลงทุนในต่างประเทศมากข้ึน ท�ำให้การแข่งขันของสถาบันการเงินในตลาดลูกค้ารายใหญ่ที่มีศักยภาพสูง ทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากน้ี สถาบันการเงินยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากทางเลือกในการระดมทุนรูปแบบอ่ืนๆ ท่ีมีต้นทุนต�่ำกว่า ทั้งการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) กองทุน โครงสรา้ งพ้ืนฐานเพ่ืออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) รวมถึงการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ เปน็ ต้น ffความท้าทายในการบริหารธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎระเบียบหรือกฎเกณฑ์ใหมๆ่ มาตรฐานการรายงาน ทางการเงิน ฉบับท่ี 9 (Thai Financial Reporting Standard No. 9: TFRS 9) ซึ่งเดิมจะเร่ิมมีผลบังคับใช้ต้ังแต่ ปี 2562 ถูกเล่ือนออกไปเป็นปี 2563 โดย TFRS 9 มีสาระส�ำคัญคือ การจัดรายการในงบการเงินให้สะท้อนรูปแบบ การด�ำเนินธุรกิจ และการบริหารความเสี่ยงท่ีแท้จริงมากขึ้น โดยเฉพาะการกันเงินส�ำรองเพ่ือรองรับความเสียหาย ซ่ึงเปล่ียนจากการกันส�ำรองเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นการกันเงินส�ำรองให้ครอบคลุมถึงความเสียหายที่ คาดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคตด้วย ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวแม้จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารความเส่ียงของภาคการเงิน ในอนาคต แต่อาจเป็นการเพ่ิมต้นทุนและเพิ่มข้อจ�ำกัดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ อย่างไรก็ตาม ภายหลังมกี ารเล่ือนบังคับใชม้ าตรการดังกล่าวออกไป 1 ปี ทำ� ใหส้ ถาบนั การเงินหลายแหง่ มเี วลาในการเตรยี มตัวมากขน้ึ ทงั้ ในดา้ นเงนิ ทนุ และการอบรมบคุ ลากรให้เข้าใจถึงมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ ซ่ึงอาจช่วยลดผลกระทบ ต่อการด�ำเนินงานได้บางส่วน นอกจากนี้ การท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยได้เร่ิมอนุญาตให้สถาบันการเงินสามารถปล่อย สินเช่ือโดยพิจารณาข้อมูลพฤติกรรม (Information-based Lending) แทนการใช้หลักประกัน (Collateral-based Lending) ถือเป็นความท้าทายของสถาบันการเงินในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อสร้างโอกาสในการหา รายไดแ้ ละรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต

รายงานประจ�ำ ปี 2561 59 ธนาคารเพอ่ื การสง่ ออกและนำ�เขา้ แหง่ ประเทศไทย ffการบริหารคุณภาพหนี้ยังเป็นความท้าทายหลักของสถาบันการเงิน การที่เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจ ไทยฟื้นตัวแบบเปราะบาง ท�ำให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises: SMEs) ที่มีข้อจ�ำกัดด้านเงินทุนและมีขีดความสามารถในการแข่งขันไม่มากนัก เผชิญกับความ ยากล�ำบากในการหารายได้ ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่เองก็เผชิญกับภาวะการแข่งขันจากธุรกิจต่างชาติ ท่ีเพิ่มขึ้น ปัจจัยดังกล่าวยังกดดันให้หนี้ท่ีไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Loans: NPLs) ของสถาบันการเงิน ต่างๆ มีแนวโน้มลดลงได้ค่อนข้างยาก ขณะเดียวกันสถาบันการเงินก็ยังต้องใช้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการปล่อย สินเชือ่ เพอื่ ควบคมุ ความเส่ียงท่ีอาจจะเกดิ ขึน้ ในระยะถดั ไป ffสถาบนั การเงนิ ของไทยขยายเครอื ขา่ ยในตา่ งประเทศอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เพอ่ื อำ� นวยความสะดวกผปู้ ระกอบการไทย ในการด�ำเนินธุรกิจระหว่างประเทศท้ังด้านการค้าและการลงทุน ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายโอกาสในการท�ำธุรกิจของ ธนาคารในตลาดที่มีศักยภาพ อาทิ กลุ่มประเทศ CLMV (ประกอบด้วยกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) จีน และประเทศอื่นๆ ในเอเชียที่ยังมีช่องว่างทางการเงินอยู่มากจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี ท�ำให้ความต้องการสินเช่ือ และบริการทางการเงินในรูปแบบตา่ งๆ มีแนวโน้มเพ่มิ ขนึ้ ffเทคโนโลยที างการเงนิ รปู แบบใหมๆ่ เขา้ มามอี ทิ ธพิ ลตอ่ ภาคการเงนิ มากขน้ึ เปน็ ลำ� ดบั โดยเฉพาะธนาคาร รูปแบบเดิมที่จะเผชิญการแข่งขันจากผู้ให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ อาทิ การระดมทุนผ่านการออกเหรียญ ดิจิทัล (Initial Coin Offering: ICO) ท่ีมีการควบคุมอย่างถูกกฎหมายแล้วโดยคณะกรรมการก�ำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ การระดมทุนจากบุคคลท่ัวไปหรือนักลงทุนที่สนใจท�ำธุรกิจร่วมกันในลักษณะการร่วมลงทุน (Venture Capital: VC) การระดมทุนจากประชาชนทั่วไปผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Crowdfunding) หรือการให้กู้ยืม ระหว่างบุคคลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Peer-2-Peer Lending: P2P) ที่จะมีบริษัท Startup หรือ e-Commerce ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นในการให้บริการดังกล่าวมากข้ึน นอกจากน้ียังมีผู้ให้บริการทางการเงินเป็นการเฉพาะใหม่ๆ เกิดข้ึนมากมาย อาทิ ไมโครไฟแนนซ์ นาโนไฟแนนซ์ ซ่ึงมีข้ันตอนในการขอสินเช่ือที่ง่ายกว่า ท�ำให้หลายธนาคาร เร่ิมปรับรูปแบบการด�ำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อผ่านโทรศัพท์มือถือ (Digital Lending) โดยมีการน�ำ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เข้ามาใช้เพ่ือวิเคราะห์ความเสี่ยงและความต้องการวงเงิน ก่อนที่จะส่งข้อเสนอให้ลูกค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสถาบันการเงินบางแห่งที่เริ่มน�ำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มาใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศ เป็นต้น นอกจากน้ียังมีบริษัทด้านเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ที่มีการพัฒนาช่องทางการช�ำระเงินที่สะดวกมากข้ึนผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ต่างๆ อย่าง Alipay, Linepay, Wechatpay และ Grabpay ท่ีไม่คิดค่าธรรมเนียมการช�ำระเงิน กระตุ้นให้สถาบันการเงินต่างๆ ต้อง ปรับตัวมากข้ึน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการแข่งขันท่ีมีแนวโน้มรุนแรงในระยะถัดไป ขณะท่ีหากมองในมุมกลับกัน เทคโนโลยีก็ก่อให้เกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cyber Attack) ในหลายรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากข้ึน ปัจจัยดังกล่าวท�ำให้สถาบันการเงินเผชิญกับความท้าทายและต้นทุนท่ีสูงขึ้นในการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย ทางไซเบอร์เพื่อป้องกันภัยคุกคามใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความม่ันใจให้กับผู้ใช้บริการ โดยสถาบันการเงินหลายแห่ง เริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีพิสูจน์ตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Biometric & Digital ID) เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน ของลกู คา้ แทนการใชร้ หสั ผ่านในรปู แบบเกา่ ท�ำใหย้ ากขึ้นต่อการโจรกรรมข้อมลู ffการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสอดคล้องกับบริบทของโลกและเทคโนโลยีที่เปล่ียนแปลงไป ถือเป็น โจทย์ใหญ่ของสถาบันการเงินที่ต้องปรับแผนการพัฒนาบุคลากรเดิมให้มีทักษะความรู้ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการด�ำเนิน ธรุ กจิ ธนาคาร ควบคไู่ ปกบั การดงึ บคุ ลากรทมี่ ศี กั ยภาพใหมๆ่ จากภายนอกเขา้ มาเตมิ เตม็ ชอ่ งวา่ งหรอื เพม่ิ ขดี ความสามารถ ในการแข่งขันให้กับธุรกิจมากข้ึนในการเปล่ียนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันก็อาจร่วมมือหรือ จ้างบริษัทเทคโนโลยีจากภายนอก (Outsourcing) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการพัฒนาแพลตฟอร์มหรือ ระบบปฏิบตั กิ ารทางเทคโนโลยใี หม่ๆ เพ่อื ประหยัดต้นทุนและเวลาในการพัฒนาบุคลากรหรือพฒั นาระบบด้วยตนเอง

60 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่อื การสง่ ออกและน�ำ เขา้ แห่งประเทศไทย ทศิ ทางและแผนงานปี 2562-2566 ธนาคารเพอ่ื การสง่ ออกและนำ� เขา้ แหง่ ประเทศไทย (ธสน.) ยงั คงมงุ่ สวู่ สิ ยั ทศั นใ์ นการ “เปน็ สถาบนั การเงนิ เฉพาะกจิ ชัน้ น�ำระดบั โลก ที่เปน็ กลไกส�ำคญั ในการขับเคล่ือนยทุ ธศาสตร์การคา้ และการลงทนุ ระหวา่ งประเทศของไทย” โดย ธสน. มีการทบทวนยุทธศาสตร์ขององค์กร เพ่ือให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยท้ังภายในและภายนอก เพ่ือให้ การด�ำเนินธุรกิจของ ธสน. เติบโตอย่างมั่นคง ทั้งน้ี ธสน. มีการปรับยุทธศาสตร์ขององค์กร เพ่ือให้สามารถบรรลุตาม วิสัยทัศน์ข้างต้น โดยในปี 2562-2566 ธสน. มุ่งม่ันสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และด�ำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ ในการสนับสนุนทางการเงินให้แก่ผู้ส่งออก ผู้น�ำเข้า และนักลงทุนไทย รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและ ขนาดยอ่ ม (Small and Medium Enterprises: SMEs) ในการใหค้ วามรู้ ใหค้ ำ� ปรกึ ษา เพอื่ พฒั นาขดี ความสามารถใหแ้ ขง่ ขนั ไดใ้ นเวทีโลก โดยดำ� เนินธรุ กจิ ภายใต้ 6 ยทุ ธศาสตร์ ดงั น้ี ยุทธศาสตร์ท่ี 1 เชื่อมไทย เช่ือมโลก ด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ (Develop and Expand Thai Trade and Investment Globally) โดยการสรา้ งโอกาสการค้าและการลงทุนไทยในต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่ม ประเทศ CLMV และ New Frontiers* สร้างโอกาสเขา้ ถึงขอ้ มลู ขา่ วสารทจ่ี �ำเปน็ และขอ้ มูลทท่ี ันสมัยของประเทศเป้าหมาย ทม่ี ศี กั ยภาพเพอื่ การวางแผนธรุ กจิ พฒั นาผลติ ภณั ฑท์ างการเงนิ เพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของผปู้ ระกอบการทเ่ี หมาะสม กับแตล่ ะกลุม่ ประเทศเปา้ หมาย บรู ณาการภารกจิ ภายใตท้ มี ไทยแลนดท์ งั้ ในประเทศและต่างประเทศ รวมถงึ การใหค้ วาม รว่ มมือพัฒนาเศรษฐกจิ กบั ประเทศ New Frontiers เชอ่ื มโยง SMEs ในลักษณะหว่ งโซ่มูลค่ากบั ธรุ กิจขนาดใหญ่ ตลอดจน เพมิ่ ชอ่ งทางในการเขา้ ถงึ ลกู คา้ และเขา้ รว่ มเปน็ คณะกรรมการ/คณะทำ� งาน/ทมี งานของกรอบความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ ทส่ี ำ� คญั ของไทย เชน่ ยทุ ธศาสตรค์ วามรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ อริ วด-ี เจา้ พระยา-แมโ่ ขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลส�ำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทาง วชิ าการและเศรษฐกจิ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC) กรอบความร่วมมือแมโ่ ขง-ล้านชา้ ง (Mekong-Lancang Cooperation: MLC) เป็นต้น ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคอุตสาหกรรมของประเทศ (Support National Infrastructure and Industrial Development) โดยการเข้าร่วมในคณะกรรมการ/คณะท�ำงาน/ทีมงานที่สนับสนุนและ สง่ เสรมิ การลงทนุ ในประเทศ รวมถงึ โครงการพฒั นาระเบยี งเศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวนั ออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ตลอดจนพฒั นาผลติ ภณั ฑท์ างการเงนิ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของหนว่ ยงานพนั ธมติ รทง้ั ภาครฐั และภาคเอกชน สนบั สนนุ โครงการการร่วมลงทนุ ระหวา่ งภาครัฐและภาคเอกชนในกจิ การของรัฐ (Public-Private Partnership: PPP) และ ใหบ้ ริการทปี่ รึกษาแบบบรู ณาการความร่วมมือ (Integrated Solution Provider) ยุทธศาสตร์ที่ 3 ป้องกันความเส่ียงด้านการค้าและการลงทุนไทยในต่างประเทศ (Provide Protection against International Trade and Investment Risks) โดยเปน็ ทางเลอื กแรกสำ� หรบั ผสู้ ง่ ออกและนักลงทุนไทยในการค้า และการลงทนุ ในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ รวมท้ังการขายหรอื แนะน�ำสินคา้ หรอื บริการท่เี กยี่ วเนือ่ งกับสินคา้ ตัวหลัก (Cross Selling) เช่น บริการสินเช่ือและบริการประกัน พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าและประเทศ เป้าหมาย สรา้ งความรว่ มมอื กับพันธมิตรท้ังธนาคารพาณิชย์และนายหน้าประกนั ภยั (Brokers) และพัฒนาการใหบ้ รกิ าร ประกันออนไลน์ และกระบวนการท�ำงานแบบอัตโนมัติ (Automation) หมายเหตุ :  * New Frontiers หมายถึง กลมุ่ ประเทศทีธ่ ุรกจิ ไทยยังมีบทบาททางการค้าและการลงทนุ ไม่มากนกั

รายงานประจ�ำ ปี 2561 61 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและนำ�เข้าแหง่ ประเทศไทย ยุทธศาสตร์ที่ 4 เพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ (Enhance the Competitiveness of Thai Entrepreneurs) โดยเป็นที่ปรึกษาด้านการส่งออกและการลงทุนไทยในต่างประเทศ บูรณาการความร่วมมือ กบั หนว่ ยงานภาครฐั และภาคเอกชนในการอบรมบม่ เพาะผปู้ ระกอบการอยา่ งครบวงจร โดยเฉพาะ SMEs พฒั นาผลติ ภณั ฑ์ และบริการให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า ตลอดจนสร้างและพัฒนาความร่วมมือกับเว็บไซต์สื่อกลางส�ำหรับการติดต่อ ซอ้ื -ขาย (e-Marketplace) เพื่อน�ำผปู้ ระกอบการขายสนิ คา้ ผ่านพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Commerce) ยุทธศาสตร์ท่ี 5 เพ่ิมประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (Enhance the Bank’s Technological and Digital Efficiency) โดยการบริหารจัดการความท้าทายของความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี สารสนเทศทรี่ วดเรว็ พัฒนาและปรับปรงุ การให้บรกิ ารและการท�ำงานด้วยเทคโนโลยสี มัยใหม่ พัฒนาระบบหรอื เชอ่ื มโยง ระบบการใหบ้ รกิ ารทเี่ ออื้ อำ� นวยประโยชนต์ อ่ การทำ� ธรุ กจิ สมยั ใหมข่ องผปู้ ระกอบการ ตลอดจนพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การ ขอ้ มลู ทมี่ คี วามเชอ่ื มโยงระหวา่ งหนว่ ยงานและแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ งๆ น�ำไปสกู่ ารวเิ คราะหก์ ารจดั การขอ้ มลู ขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อการพฒั นานโยบายและการให้บริการ ยุทธศาสตร์ที่ 6 พัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ (Build a High Performance Organization) โดยน�ำ หลกั การบรหิ ารจดั การทด่ี มี าใชบ้ รหิ ารจดั การองคก์ ร เชน่ รางวลั คณุ ภาพแหง่ ชาติ (Thailand Quality Award: TQA) ระบบ การประเมนิ คณุ ภาพรฐั วสิ าหกจิ (State Enterprise Performance Appraisal: SEPA) และพฒั นามาตรฐานการวดั คณุ ภาพ องค์กร (International Organization for Standardization: ISO) พัฒนาการวางระบบบริหารทรัพยากรบุคคลแบบ บูรณาการตัง้ แต่ตน้ จนจบ (End to End Integrated Human Resource Management System) พัฒนาและบริหารจดั การ โดยใช้ข้อมูลจริง (Fact-based Management) กระตุ้นและปลูกฝังการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเน่ืองในการท�ำงาน ประจำ� วนั ตลอดจนทบทวนและสรา้ งวัฒนธรรมองค์กรทที่ �ำใหก้ ารปรับเปลีย่ นองคก์ รบรรลผุ ลอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ การลงทนุ ทส่ี �ำ คัญ ในชว่ งปี 2561-2565 ธสน. มกี ารลงทนุ ทส่ี ำ� คญั เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มรองรบั การบรหิ ารจดั การอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ภายใตบ้ ทบาทใหมข่ อง ธสน. ในการด�ำเนินธุรกจิ เชงิ รุกดา้ นการส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท�ำธุรกรรมออนไลน์ เพอ่ื เพ่ิมขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย โดย ธสน. มีโครงการลงทุนที่ส�ำคัญภายใต้กรอบงบประมาณรวมจ�ำนวน 752.73 ล้านบาท ตั้งแตป่ ี 2561 ต่อเนอ่ื งจนถึงปี 2565 ได้แก่ ffโครงการเปดิ สำ� นกั งานผแู้ ทน (Representative Office) ในกลมุ่ ประเทศเปา้ หมาย เพอื่ สนบั สนนุ และสง่ เสรมิ การค้าการลงทุนตามยุทธศาสตร์ “เช่ือมไทย เชื่อมโลก ด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ (Develop and Expand Thai Trade and Investment Globally)” โดย ธสน. ก�ำหนดแผนการเปิดส�ำนักงานผู้แทนของ ธสน. ใน ประเทศเป้าหมาย เพ่ือให้ข้อมูลเชิงลึกด้านการค้าและการลงทุนในประเทศเป้าหมาย รวมท้ังการอาศัยความสัมพันธ์ กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการเข้าถึงตลาดและสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับความต้องการในตลาด ตลอดจน สร้างการรับรู้และตระหนักถึงสินค้าและบริการของไทยต่อผู้ซ้ือที่มีศักยภาพ โดยในเดือนพฤศจิกายน 2561 ธสน. เปิด สำ� นกั งานผแู้ ทนในเวยี งจนั ทน์สปป.ลาวซง่ึ นบั เปน็ แหง่ ทสี่ องหลงั จากทเ่ี ปดิ สำ� นกั งานผแู้ ทนแหง่ แรกในยา่ งกงุ้ ประเทศเมยี นมา เม่ือปี 2560 ส�ำหรบั ในปี 2562 ธสน. มแี ผนเปดิ ส�ำนักงานผ้แู ทนในกัมพูชา และจะทยอยดำ� เนนิ การเปดิ ส�ำนกั งานผู้แทน ในเวยี ดนามและประเทศเป้าหมายอ่นื ๆ ตอ่ ไป

62 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพอ่ื การสง่ ออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย ffโครงการพฒั นาระบบคลงั ขอ้ มลู (Data Warehouse) มรี ะยะเวลาดำ� เนนิ การในชว่ งปี 2560-2562 เพอ่ื รวบรวม และจัดเก็บข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์กรท่ีเก่ียวข้องหรือมีผลกระทบต่อการด�ำเนินธุรกิจของ ธสน. ซ่ึงเป็นการ ด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ “เพ่ิมประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (Enhance the Bank’s Technological and Digital Efficiency)” โดยน�ำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์และประมวลผลเป็นสารสนเทศและ องค์ความรู้ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการในทุกระดับ รวมท้ังใช้ในการสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของ ผู้บริหาร ธสน. ให้ทันต่อเหตุการณ์และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพ่ิมขีดความสามารถในการด�ำเนินธุรกิจ ของ ธสน. ในระยะยาว ffโครงการพัฒนาระบบประกันการส่งออก (Export Credit Insurance System) เป็นการด�ำเนินการตาม ยุทธศาสตร์ “ปอ้ งกนั ความเส่ยี งดา้ นการคา้ และการลงทุนไทยในตา่ งประเทศ (Provide Protection against International Trade and Investment Risks)” โดย ธสน. อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบประกันการส่งออก เพื่ออ�ำนวยความสะดวก ใหแ้ กล่ กู คา้ ในการทำ� ธรุ กรรมกบั ธสน. เชน่ การตอ่ อายกุ รมธรรม์ การแจง้ ประกนั การสง่ ออก การชำ� ระเบยี้ ประกนั ตลอดจน ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลสารสนเทศของลูกค้าด้วยตนเอง รวมท้ังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการวิเคราะห์การ รบั ประกนั แบบอตั โนมตั ิ (Automated Underwriting) เพอ่ื เพม่ิ ความรวดเรว็ ในการพจิ ารณาอนมุ ตั กิ ารรบั ประกนั การสง่ ออก ffโครงการพัฒนาระบบธุรกจิ หลกั ของธนาคาร (Core Banking System) เพอ่ื เพ่มิ ขดี ความสามารถของระบบ งานหลักในการให้บริการการท�ำธุรกรรมสินเช่ือของลูกค้า ประกอบด้วยการเบิกถอนและช�ำระคืนเงินกู้และการท�ำ ธุรกรรมด้านบัญชีของลูกค้า ซึ่งจะช่วยลดข้ันตอนและระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และเพิ่มความรวดเร็วในการ ให้บริการลูกค้า อีกท้ังยังรองรับการเช่ือมต่อกับระบบงานใหม่ๆ ท่ีเกิดข้ึนในอนาคต ซึ่งเป็นการด�ำเนินการตาม ยุทธศาสตร์ “เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (Enhance the Bank’s Technological and Digital Efficiency)” ffโครงการพัฒนาระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management: CRM) และระบบ สนบั สนุนกระบวนการพิจารณาอนมุ ัติสินเชื่อ (Loan Origination System: LOS) เป็นการดำ� เนินการตามยทุ ธศาสตร์ “เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (Enhance the Bank’s Technological and Digital Efficiency)” โดย ธสน. พฒั นาโครงการ CRM เพอื่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลในการสรา้ งความสมั พนั ธท์ ด่ี กี บั ลกู คา้ ดว้ ยการรวบรวมขอ้ มลู ลกู คา้ อยา่ งเปน็ ระบบ เพอื่ นำ� มาวเิ คราะหแ์ ละพฒั นาผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารใหต้ รงตามความตอ้ งการ ของลกู คา้ หรอื เหนือกวา่ ความคาดหวังของลกู คา้ พร้อมกนั น้ี ธสน. ยังไดพ้ ัฒนาระบบ LOS เพ่อื ยกระดับขีดความสามารถ ของกระบวนการวิเคราะห์และการอนุมัติสินเชื่อโดยน�ำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการท�ำงานให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะ ช่วยลดระยะเวลาในการพิจารณาสินเชื่อและท�ำให้ลูกค้าได้รับบริการท่ีรวดเร็วย่ิงข้ึน

รายงานประจ�ำ ปี 2561 63 ธนาคารเพ่อื การสง่ ออกและนำ�เข้าแหง่ ประเทศไทย ผลการดำ�เนนิ งานตามยทุ ธศาสตร์ ตวั ชี้วดั เป้าหมาย ปี 2561 ผลงาน เปรียบเทยี บ ด้านเศรษฐกจิ % GNI 1.26 ผลงาน เปา้ หมาย และสงั คม* % Export 1.57 ด้านดำ�เนินการ % Investment 0.44 1.37** 0.11 และการเงนิ *** ยอดคงคา้ งเงินใหส้ นิ เชื่อ (ล้านบาท) 100,000 1.95** 0.38 มูลคา่ ธรุ กิจสะสมจากประกัน (ล้านบาท) 85,000 0.32** (0.12) ดา้ นลกู คา้ Productivity Ratio (%) 46.42 108,589 8,589 NPLs Ratio (%) 4.75 92,448 7,448 Penetration Rate (%) 11.07 34.12 (12.30) Net Promoter Score (%) 45.00 3.78 (0.97) 11.38 0.31 58.02 13.02 หมายเหตุ :  * ด้านเศรษฐกจิ และสังคม • % Gross National Income (GNI) คือ สัดสว่ นมลู ค่าการสนบั สนนุ ธรุ กรรมดา้ นการคา้ และการลงทุนไทยของ ธสน. ต่อ รายได้มวลรวมประชาชาติ • % Export คือ สดั สว่ นมูลค่าการสนบั สนนุ ธรุ กรรมดา้ นการคา้ ระหว่างประเทศของ ธสน. ต่อมลู ค่าการส่งออกของประเทศ • % Investment คอื สดั สว่ นมลู คา่ การสนบั สนนุ ธรุ กรรมดา้ นการลงทนุ ไทยในตา่ งประเทศของ ธสน. ตอ่ มลู คา่ การลงทนุ ไทย ในต่างประเทศ ** ผลจากการประมาณการ *** ตามแผนธุรกิจ

64 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพือ่ การส่งออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย ผลการด�ำ เนินงานดา้ นสินเช่ือและรบั ประกัน ภาพรวมการด�ำเนินงานด้านสินเช่ือและรับประกันของธนาคารเพ่ือการส่งออกและน�ำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างชัดเจน ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนองค์กรตามแผนงาน/โครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์ใหม่ท่ีเป็น กลไกสำ� คัญในการขบั เคล่อื นยทุ ธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหวา่ งประเทศของไทย ผลการดำ�เนนิ งานด้านสินเชอ่ื ล้านบาท วงเงินสนิ เชือ่ อนุมตั ิใหม่ ล้านบาท วงเงินสนิ เช่ืออนุมัตสิ ะสม 80,000 300,000 60,000 74,635 200,000 272,851 40,000 100,000 20,000 56,328 202,478 229,206 0 0 35,372 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 ลา้ นบาท ยอดคงค้างเงนิ ให้สินเชื่อ ล้านบาท ปรมิ าณธรุ กิจสะสม 120,000 250,000 100,000 91,886 108,589 200,000 197,120 80,000 150,000 60,000 83,169 100,000 159,948 40,000 50,000 20,000 133,993 0 0 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 ภาพรวมของผลการดำ�เนินงานด้านสินเช่ือขยายตัวเพ่ิมข้ึน โดยในปี 2561 ธสน.อนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้แก่ ผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทยในต่างประเทศรวมเป็นจำ�นวนเงินทั้งส้ิน 74,635 ล้านบาท เพิ่มข้ึน 18,307 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.5 เมอ่ื เทียบกบั ปี 2560 ส่งผลใหม้ ีวงเงนิ สินเช่อื สะสมทีอ่ นมุ ัติจนถึงสิน้ ปี 2561 จำ�นวน 272,851 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43,645 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.0 เม่ือเทียบกับปี 2560 โดยเป็นวงเงินสินเช่ือสะสมท่ีสนับสนุนการส่งออก การลงทุนเพ่ือขยายกำ�ลังการผลิต โครงการลงทุนในประเทศจำ�นวน 188,605 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อที่สนับสนุน การลงทุนไทยในต่างประเทศจำ�นวน 84,245 ล้านบาท สำ�หรบั ปรมิ าณธรุ กจิ สะสมท่ี ธสน. สนบั สนนุ ผสู้ ง่ ออกและนกั ธรุ กจิ ไทยในปี 2561 มจี ำ�นวน 197,120 ลา้ นบาท เพมิ่ ขน้ึ 37,172 ลา้ นบาท หรอื รอ้ ยละ 23.2 เมอื่ เทยี บกบั ปี 2560 ตามการเพมิ่ ขน้ึ ของวงเงนิ อนมุ ตั ใิ หมแ่ ละยอดคงคา้ งเงนิ ใหส้ นิ เชอื่

รายงานประจ�ำ ปี 2561 65 ธนาคารเพ่อื การส่งออกและนำ�เข้าแห่งประเทศไทย ผลการด�ำเนนิ งานทสี่ �ำคญั ในปี 2561 ธสน. สนบั สนนุ การด�ำเนินการตามยทุ ธศาสตร์ประเทศท่ีส�ำคัญดังนี้ ffการสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ ผปู้ ระกอบการขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (Small and Medium Enterprises: SMEs) ณ สนิ้ ปี 2561 ธสน. สนบั สนนุ วงเงนิ สนิ เช่อื ใหแ้ ก่ผ้ปู ระกอบการ SMEs รวมท้ังสิ้น 2,816 ราย เพิม่ ขนึ้ 630 ราย หรือร้อยละ 28.8 เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยเป็นการอนุมัติสินเช่ือใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs รวม 1,268 ราย เพิ่มขึ้น 136 ราย หรือร้อยละ 12.0 เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยเป็นวงเงินอนุมัติใหม่เท่ากับ 19,991 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ ส้ินปี 2561 มีวงเงินสินเชื่อสะสมรวม 100,901 ล้านบาท เพ่ิมข้ึน 5,917 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2560 สำ�หรับปริมาณธุรกิจสะสมที่ ธสน. สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในปี 2561 มีจำ�นวน 106,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,750 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.8 เมื่อเทียบกับปี 2560 และ ณ ส้ินปี 2561 มียอดคงค้างเงินให้ สินเชื่อของผู้ประกอบการ SMEs จำ�นวน 42,906 ล้านบาท เพ่ิมข้ึน 5,765 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.5 เมื่อเทียบกับ ณ ส้ินปี 2560 ซ่ึงเป็นผลมาจากความมุ่งม่ันของ ธสน. ในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ SMEs ในทุกช่วงของการทำ�ธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจเร่ิมต้น ส่งออก ธุรกิจส่งออกขนาดเล็ก และธุรกิจส่งออกขนาดกลาง พร้อมกับให้ความสำ�คัญในการเพิ่มศักยภาพของ ผูส้ ง่ ออก SMEs ดว้ ยการจดั อบรมให้ความรูด้ า้ นการเงินเพือ่ การสง่ ออก (Financial Literacy) ffการสนบั สนนุ การลงทนุ ไทยในตา่ งประเทศ การสนบั สนนุ นกั ธรุ กจิ ไทยไปลงทนุ ในตา่ งประเทศเปน็ ภารกจิ ทสี่ ำ�คญั อกี ประการหนง่ึ ของ ธสน. โดย ณ สน้ิ ปี 2561 ธสน. มีวงเงินสินเช่ือสะสมรวม 84,245 ล้านบาท เพ่ิมขึ้น 17,085 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.4 เม่ือเทียบกับ ณ สิ้นปี 2560 ขณะที่ยอดคงค้างเงินให้สินเช่ือเท่ากับ 39,265 ล้านบาท ท้ังน้ี ในวงเงินสินเช่ือสะสมดังกล่าวเป็น วงเงินสินเช่ือสะสมที่สนับสนุนนักธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และ เวียดนาม) จำ�นวน 48,033 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57.0 ของวงเงินสินเช่ือสะสมรวม อย่างไรก็ตาม เน่ืองจาก โครงการท่ีอนุมัติมีระยะเวลาในการเบิกถอนเงินกู้ ส่งผลให้ยอดคงค้างเงินให้สินเช่ือในกลุ่มประเทศ CLMV ณ สนิ้ ปี 2561 เท่ากับ 29,441 ลา้ นบาท ffการสนับสนนุ พาณิชยนาวี เพื่อให้ประเทศไทยมีกองเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในการอำ�นวยความสะดวกการขนส่งสินค้าให้แก่ ผู้ประกอบการไทย อีกท้ังช่วยลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศจากการใช้บริการขนส่งของบริษัทต่างชาติ ธสน. จึงให้การสนับสนุนสินเช่ือพาณิชยนาวีมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ ส้ินปี 2561 มีวงเงินสินเช่ือสะสม 13,093 ล้านบาท ในขณะทม่ี ยี อดคงคา้ งเงินใหส้ นิ เชือ่ เทา่ กับ 11,126 ล้านบาท ท้งั นี้ ภายใต้โครงการสนับสนนุ การประกอบธุรกิจพาณชิ ยนาวี ตามมตคิ ณะรัฐมนตรีเม่อื วันท่ี 22 มนี าคม 2554 อนุมัติโครงการสนับสนุนมาตรการด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการพาณิชยนาวี ด้วยวงเงินงบประมาณเพ่ือชดเชยค่าใช้จ่าย ดำ�เนนิ งานให้แก่ ธสน. (ระยะเวลาการอนมุ ัตวิ งเงนิ สินเช่อื อยู่ในช่วงระหวา่ งปี 2554-2557) มีวงเงินอนมุ ตั ิ 9,344 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 ได้ส้ินสุดระยะเวลาโครงการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีข้างต้น โดยในเดือนธันวาคม 2561 ธสน. ไดเ้ บกิ จา่ ยเงนิ ชดเชยคา่ ใช้จา่ ยดำ�เนินงานครบจำ�นวนเรียบร้อยแล้ว

66 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่อื การสง่ ออกและน�ำ เข้าแหง่ ประเทศไทย ผลการดำ�เนนิ งานดา้ นรบั ประกนั ธสน. เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของไทยเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการประกันความเส่ียงด้านการค้าและการลงทุน ระหว่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในการป้องกันความเส่ียงท่ีอาจเกิดขึ้นจากการส่งออกและ การลงทนุ ไทยในตา่ งประเทศ โดยไดพ้ ฒั นาบรกิ ารประกนั หลายรปู แบบเพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการทแี่ ตกตา่ งกนั ตามลกั ษณะ การท�ำธุรกิจ ทงั้ บริการประกันการสง่ ออกระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และบรกิ ารประกันความเส่ียงการลงทุน บรกิ ารประกนั การสง่ ออกระยะส้ัน บริการประกันการส่งออกระยะส้ันเป็นบริการท่ีช่วยป้องกันความเส่ียงจากการไม่ได้รับช�ำระเงินจากผู้ซ้ือใน ตา่ งประเทศ ซงึ่ นบั เปน็ เครอ่ื งมอื บรหิ ารความเสยี่ งสำ� หรบั ผสู้ ง่ ออกในการเพม่ิ ความมนั่ ใจและเพม่ิ โอกาสในการขยายธรุ กจิ ไปยังผู้ซื้อรายใหม่และประเทศท่ีไม่เคยส่งออกมาก่อน รวมถึงตลาดเกิดใหม่เพ่ือช่วยเพ่ิมฐานลูกค้า ทั้งยังช่วยสนับสนุน การเติบโตของภาคการสง่ ออกไทย บริการประกันการส่งออกระยะส้ันคุ้มครองการส่งออกสินค้าไปยังผู้ซ้ือ 204 ประเทศท่ัวโลก ภายใต้ระยะเวลา การช�ำระเงนิ สงู สุดไม่เกนิ 180 วัน นับจากวนั ส่งออก โดย ธสน. ให้ความคุ้มครองการไมไ่ ดร้ ับช�ำระเงินท่เี กิดจากความเส่ียง ด้านการค้า ได้แก่ ผู้ซื้อไม่ช�ำระเงินค่าสินค้า ผู้ซ้ือล้มละลาย และผู้ซื้อปฏิเสธการรับสินค้า และความเส่ียงด้านการเมือง ซึ่งรวมถึงสงคราม ปฏิวัติ รัฐประหาร การห้ามโอนเงินตราต่างประเทศ การห้ามน�ำเข้าสินค้าจากประเทศไทย โดย ธสน. คุ้มครองความเสียหายสูงสุดถึงร้อยละ 90 ของความเสียหายที่เกิดข้ึน โดยคุ้มครองทั้งเทอมการช�ำระเงินแบบ Letter of Credit (L/C) ส�ำหรับความเสี่ยงที่เกิดจากการไม่ได้รับช�ำระเงินจากธนาคารผู้เปิด L/C และเทอมการช�ำระเงินแบบ Document against Payment (D/P), Document against Acceptance (D/A) และ/หรือ Open Account (O/A) สำ� หรับ ความเส่ยี งทเ่ี กิดจากการไมไ่ ดร้ ับช�ำระเงินจากผซู้ ื้อ นอกเหนือจากบริการประกันการส่งออก ธสน. ยังมีบริการประเมินความเส่ียงผู้ซ้ือและธนาคารผู้ซ้ือ ซึ่งเป็นบริการ ตรวจสอบขอ้ มลู ผซู้ อื้ หรอื ธนาคารผซู้ อื้ ในตา่ งประเทศ โดยผสู้ ง่ ออกจะไดร้ บั รายงานสรปุ ขอ้ มลู เพอื่ ใหใ้ ชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ประกอบ การตดั สนิ ใจในการค้าขายตอ่ ไป ผลการดำ� เนนิ งาน ในปี 2561 ธสน. มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ส่งออกในการใช้บริการประกันการส่งออกเพ่ือป้องกันหรือ ลดความเสยี่ งจากการไมไ่ ดร้ บั ชำ� ระเงนิ คา่ สนิ คา้ ผา่ นการจดั กจิ กรรมดา้ นการตลาด การใหค้ วามรดู้ า้ นความเสยี่ งทางการคา้ โดยอาศยั ความรว่ มมอื ระหวา่ งหนว่ ยงานภาครฐั และเอกชน รวมถงึ การทำ� การตลาดผา่ นชอ่ งทางใหม่ เชน่ การทำ� การตลาด ผ่านนายหน้าบริการประกันการส่งออก (Broker) ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกภายใต้การรับประกันการส่งออกระยะสั้น ของ ธสน. เพิ่มขึ้นจาก 62,435 ล้านบาทในปี 2560 เป็น 89,134 ล้านบาท หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 42.8 จากปีท่ีผ่านมา รายได้เบ้ียประกนั รับเพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ 19.8 เป็น 121 ล้านบาท นอกจากนี้ ธสน. ยังมีการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์บริการประกันการส่งออก ส�ำหรับสนับสนุนการค้าของไทย ในกลมุ่ ประเทศอนภุ มู ภิ าคลมุ่ แมน่ ำ�้ โขง (กมั พชู า สปป.ลาว เมยี นมา : CLM) เพอื่ สนบั สนนุ การสง่ ออกไทยไปยงั กลมุ่ ประเทศ CLM ทม่ี อี ตั ราการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ทข่ี ยายตวั อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ภายใตต้ น้ ทนุ ทส่ี ามารถควบคมุ ไดจ้ ากการเลอื กคา่ เบยี้ ประกนั และความคุ้มครองท่ีเหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง รวมถึงสิทธิพิเศษสนับสนุนผู้ส่งออกท่ีมีการส่งออกไปยังทวีปแอฟริกา เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ของ ธสน. ในการบุกตลาด New Frontiers เพื่อส่งเสริมศักยภาพ สร้างความมั่นใจให้ผู้ส่งออก ในการขยายฐานการส่งออกไปยังตลาดใหมใ่ ห้มากขน้ึ

รายงานประจ�ำ ปี 2561 67 ธนาคารเพอ่ื การส่งออกและนำ�เข้าแหง่ ประเทศไทย ส�ำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises: SMEs) น้ัน ธสน. ยังคงส่งเสริมให้ผู้ส่งออก SMEs มีการบริหารและป้องกันความเส่ียงจากความเสียหายที่ไม่ได้รับช�ำระเงินค่าสินค้า ด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะส�ำหรบั กลมุ่ ผูส้ ง่ ออก SMEs เช่น บรกิ ารประกันสง่ ออกทันใจ SMEs ซึง่ นอกจากจะสนบั สนนุ ผสู้ ง่ ออก SMEs แล้ว ยงั ครอบคลมุ การรับประกนั การส่งออกใหแ้ กบ่ รษิ ัทใหม่ (Startup) ทเ่ี พิง่ เริ่มส่งออก สง่ ผลใหจ้ �ำนวนผู้ส่งออก SMEs ท่ที �ำประกนั การสง่ ออกในปี 2561 มจี �ำนวนรวม 320 ราย ทงั้ น้ี ในปี 2561 สินค้าทีม่ มี ลู ค่าการรบั ประกนั การสง่ ออกสงู สดุ คือ อาหารทะเลกระปอ๋ งและแปรรูป คิดเป็นสดั สว่ น ถึงร้อยละ 29.1 ของมูลค่ารับประกันท้ังหมด รองลงมา ได้แก่ ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติและผลิตภัณฑ์น้�ำตาล ข้าวและ ผลิตภณั ฑ์จากข้าว อัญมณแี ละเคร่ืองประดบั ตามล�ำดับ 56,486 62,435 หน่วย : ล้านบาท 10.5% 89,134 มูลค่าการสง่ ออก 42.8% ภายใต้การรบั ประกัน (Turnover) ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 121 รายไดเ้ บยี้ ประกนั (Premium) 101 19.8% มูลคา่ การอนุมัติ 98 3.1% จ่ายค่าสนิ ไหมทดแทน (Claim) ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 38 36 (5.3%) 15 153.3% ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561

68 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพือ่ การส่งออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย มลู ค่าการจ่ายค่าสนิ ไหมทดแทน ตง้ั แต่ ธสน. ใหบ้ รกิ ารประกนั การสง่ ออกระยะสนั้ ในปี 2538 จนถงึ เดอื นธนั วาคม 2561 ธสน. ไดจ้ า่ ยคา่ สนิ ไหมทดแทน ให้แก่ผู้ส่งออกรวมท้ังส้ิน 209 ราย มูลค่ารวมท้ังสิ้น 668 ล้านบาท ทั้งน้ี ในปี 2561 ธสน. อนุมัติจ่ายค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ผู้ส่งออกจ�ำนวน 15 ราย มูลค่ารวม 36 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุความเสียหายเกิดจากผู้ซื้อไม่ช�ำระเงิน คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 66.0 โดยประเทศท่ีมีมูลค่าการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุดคือสหรัฐอเมริกา ท้ังนี้ ประเภทสินค้าท่ี ธสน. จ่าย คา่ สนิ ไหมทดแทนสงู สดุ ในปี 2561 คือ เครื่องประดับอญั มณี จ�ำ แนกตามประเภทสนิ คา้ เหลก็ แผน่ เหล็กมว้ น 5.7% หนงั หมุ้ เฟอรน์ ิเจอร์ 2.9% กระเบ้อื งโมเสกแล1ะเ9ซ.ร9า%มิก อาหารกระป๋อง 21.8% อ่ืนๆ 1.6% เครื่องประดับอัญมณี 48.1% จำ�แนกตามสาเหตุ ผู้ซื้อล้มละลาย 34.0% 21..97%% จ�ำ แนกตามประเทศผู้ซื้อ ผู้ซอ้ื ไม่ช�ำ ระเงินคา่ สินค้า อ่นื ๆ 66.0% สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมรกิ า 36.9% ไทย 27.4% แคนาดา 11.2% ออสเตรเลยี 19.9%

รายงานประจ�ำ ปี 2561 69 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและนำ�เข้าแห่งประเทศไทย แนวโน้มตลาดของบริการประกันการส่งออกระยะส้ัน ffเศรษฐกจิ โลกยังขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะตลาดเกดิ ใหมใ่ นเอเชียและแอฟรกิ า ซ่งึ เป็นโอกาสทีด่ ีสำ� หรบั ผู้ส่งออกไทยในการขยายการส่งออกไปยงั ตลาดใหม่เหลา่ น้ี นอกเหนือจากตลาดยุทธศาสตร์เดิม ffการคา้ ระหวา่ งประเทศมแี นวโนม้ เปน็ การคา้ รปู แบบ Non L/C มากขน้ึ ทำ� ใหผ้ สู้ ง่ ออกไทยโดยเฉพาะผสู้ ง่ ออก SMEs ต้องเสนอเทอมการช�ำระเงินท่ีผ่อนปรนเพ่ือการแข่งขัน ในขณะท่ีต้องบริหารจัดการความเสี่ยงจากการไม่ได้รับ ชำ� ระเงิน ffผู้ส่งออกจ�ำนวนมากเลือกวิธี Self-Insured คือไม่ใช้เคร่ืองมือป้องกันความเสี่ยง แต่เม่ือเกิดปัญหาคู่ค้า ไม่สามารถช�ำระเงินแม้เพียงครั้งเดียว จะกระทบต่อสถานะทางการเงินของธุรกิจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ส่งออก SMEs จงึ เปน็ ภารกจิ ทที่ า้ ทายของ ธสน. ทตี่ อ้ งเรง่ สรา้ งความตระหนกั ถงึ ความสำ� คญั และประโยชนข์ องการประกนั การสง่ ออก บรกิ ารประกนั การส่งออกระยะกลางและระยะยาว บรกิ ารประกนั การสง่ ออกระยะกลางและระยะยาวเปน็ บรกิ ารรบั ประกนั ความเสยี่ งใหแ้ กผ่ สู้ ง่ ออกและสถาบนั การเงนิ ที่ให้การสนับสนุนสินเชื่อกับผู้ส่งออกสินค้าจากประเทศไทย โดยคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับช�ำระเงินค่าสินค้า จากผู้ซ้ือในต่างประเทศ ที่มีระยะเวลาการช�ำระเงินหรือสัญญาเกินกว่า 180 วัน แต่ไม่เกิน 5 ปี หรือส�ำหรับการส่งออก บริการจากประเทศไทยท่ีมีระยะเวลาการช�ำระเงินหรือระยะสัญญาไม่เกิน 5 ปี โดยผู้ส่งออกซึ่งเป็นผู้เอาประกันจะได้รับ ชดเชยคา่ สนิ ไหมทดแทนในกรณที เ่ี กดิ ความเสยี หายในชว่ งระหวา่ งการดำ� เนนิ การผลติ หรอื ใหบ้ รกิ าร หรอื ไมไ่ ดร้ บั ชำ� ระเงนิ ตามสัญญาจากผู้ซื้อ ซ่ึงมีสาเหตุมาจากความเสี่ยงทางการค้าและความเส่ียงทางการเมือง โดยมีอัตราการชดเชยสูงสุด ถงึ รอ้ ยละ 90 ของมลู คา่ ความเสยี หายทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ น้ี ธสน. สามารถใหค้ วามคมุ้ ครองความเสยี หายทง้ั ในชว่ งดำ� เนนิ การผลติ สินค้าหรือให้บริการ (Production Period) ช่วงหลังการส่งมอบสินค้าหรือให้บริการ (Credit Period) และช่วงรับประกัน ผลงาน (Retention Period) ผลการด�ำเนนิ งาน ในปี 2561 ธสน. มุ่งเน้นการสรา้ งความตระหนักถงึ บริการประกนั ให้แก่ผู้สง่ ออก โดยเฉพาะกลุม่ ผูป้ ระกอบการทม่ี ี การผลติ สนิ คา้ เฉพาะทางเพอ่ื ใชใ้ นอตุ สาหกรรมจำ� เพาะ ไดแ้ ก่ ผผู้ ลติ งานโครงสรา้ งและแปรรปู เหลก็ เพอ่ื ใชใ้ นอตุ สาหกรรม ปิโตรเลียมและอุตสาหกรรมไฟฟ้า รวมทั้งผู้ผลิตเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดจนผู้ให้บริการงานรับเหมา ในตา่ งประเทศ อาทิ ผใู้ หบ้ รกิ ารงานวศิ วกรรม-จดั หา-กอ่ สรา้ ง และผรู้ บั เหมางานตกแตง่ เปน็ ตน้ นอกจากน้ี ธสน. ยงั มกี ารทำ� การตลาดผ่านช่องทางใหม่ โดยท�ำการตลาดผ่าน Broker ส่งผลให้ในปี 2561 มีผู้ประกอบการไทยสนใจบริการประกัน การส่งออกระยะกลางและระยะยาวเพิ่มขึ้น โดยมีวงเงินรับประกันการส่งออกระยะกลางและระยะยาวภายใต้สกุลเงิน ต่างประเทศและสกุลเงินบาทท่ไี ด้รบั อนมุ ัตริ วม 2,977 ลา้ นบาท ทงั้ น้ี ปัจจุบันมผี ู้สง่ ออกท้ังในภาคการผลติ และภาคบริการสนใจบรกิ ารประกนั การสง่ ออกระยะกลางและระยะยาว เพ่ือป้องกนั ความเส่ียงท่ีอาจเกิดขน้ึ จากการท�ำการค้ากบั ผซู้ ้ือทีอ่ ยูใ่ นประเทศที่มศี ักยภาพในการเตบิ โต อาทิ กลุม่ ประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) บราซิล ศรลี งั กา กานา และกลุ่มประเทศแถบเอเชียกลาง เปน็ ต้น

70 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพื่อการส่งออกและน�ำ เขา้ แหง่ ประเทศไทย แนวโน้มตลาดของบริการประกันการสง่ ออกระยะกลางและระยะยาว จากแนวโน้มความตระหนักถึงบริการประกันการส่งออกระยะกลางและระยะยาวท่ีเพ่ิมข้ึนของผู้ส่งออกสินค้าและ บรกิ ารไทย สง่ ผลใหต้ ลาดประกนั การสง่ ออกระยะกลางและระยะยาวมแี นวโนม้ ขยายตวั มากยง่ิ ขน้ึ จากเดมิ ทก่ี ระจกุ ตวั อยู่ ในกลมุ่ ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น (ASEAN Economic Community: AEC) โดยเฉพาะประเทศเพอ่ื นบ้านในกลมุ่ CLMV และเน้นไปที่อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง มาเป็นอุตสาหกรรมท่ีหลากหลายย่ิงข้ึน รวมทั้งมีการขยายตลาดไปยัง ตลาดใหม่ๆ อาทิ กลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกา กลุ่มประเทศในเอเชียกลาง รวมถึงประเทศในอเมริกาใต้ เป็นต้น ท้ังนี้ รปู แบบการท�ำสญั ญาของผู้สง่ ออกไทยมีทัง้ การรบั งานขนาดเลก็ กบั ผซู้ ้ือภาคเอกชน งานจัดหาวสั ดอุ ปุ กรณ์ให้กบั โครงการ ขนาดใหญท่ มี่ คี วามส�ำคญั ตอ่ ประเทศผซู้ อ้ื ไปจนถงึ การรับงานในโครงการของรฐั บาล แม้ว่าผู้ประกอบการไทยจะมีแนวโน้มในการส่งออกสินค้าและบริการไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่การตระหนักถึง บรกิ ารประกันในฐานะเครื่องมอื ในการบรหิ ารความเสี่ยงของผ้ปู ระกอบการไทยยงั คงอยู่ในระดบั ต่�ำ ดังนนั้ ธสน. ในฐานะ ท่ีเป็นองค์กรรับประกนั ของรฐั ที่มบี ทบาทหนา้ ท่ีโดยตรงในการด�ำเนินงานช่วยเหลือผ้ปู ระกอบการไทย จึงพยายามสง่ เสริม และเพิม่ ความตระหนักถงึ ความส�ำคัญในการใชบ้ ริการประกัน เพือ่ บรหิ ารจัดการความเสี่ยงของผปู้ ระกอบการให้มากข้นึ ท้ังนี้ สถานการณ์การแข่งขันในการให้บริการประกันการส่งออกระยะกลางและระยะยาวนับว่ายังอยู่ในระดับต่�ำ เนื่องจากองค์กรรบั ประกนั ภาคเอกชนยังไมเ่ ข้ามาให้บรกิ ารมากนกั โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ซง่ึ องคก์ รรับประกัน ภาคเอกชนสว่ นใหญย่ งั ไมค่ อ่ ยมปี ระสบการณใ์ นภมู ภิ าคนี้ ซง่ึ ธสน. มกี ารตดิ ตามสถานการณก์ ารเปลยี่ นแปลงในดา้ นตา่ งๆ อย่างใกลช้ ดิ และพิจารณาอย่างรอบคอบกอ่ นจะด�ำเนนิ การรบั ประกันการสง่ ออกระยะกลางและระยะยาวใหแ้ ก่ผู้สง่ ออก นอกจากน้ี แมแ้ ตผ่ ้รู บั ประกันต่อ (Reinsurer) ในตา่ งประเทศเองกย็ งั มคี วามสามารถในการรบั ประกัน (Capacity) ในการ รับประกันต่อส�ำหรับกลุ่มประเทศ CLMV ท่ีจ�ำกัด ด้วยเหตุนี้ ธสน. จึงยังมีความได้เปรียบในฐานะของสถาบันการเงิน เฉพาะกิจท่ีให้การสนับสนุนผู้ส่งออกไทยในการท�ำสัญญารับงานกับผู้ซื้อต่างประเทศ โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศท่ีตลาด การรบั ประกนั ยงั คงมคี วามสามารถจำ� กัด บริการประกันความเสยี่ งการลงทุน บริการประกันความเส่ียงการลงทุนเป็นบริการรับประกันความเส่ียงทางการเมืองจากการที่โครงการลงทุนของ ผเู้ อาประกนั ไดร้ บั ความเสยี หายจากการดำ� เนนิ นโยบาย กฎระเบยี บ หรอื การดำ� เนนิ การใดๆ ของรฐั บาลประเทศทผ่ี เู้ อาประกนั ไปลงทุน ตลอดจนภัยทางการเมืองซึ่งมีผลกระทบในทางลบต่อโครงการลงทุนและความสามารถในการช�ำระคืนเงินกู้ ของผู้เอาประกนั ทงั้ น้ี ธสน. สามารถใหค้ วามคมุ้ ครองไดท้ ัง้ ในสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ (Equity) และในสว่ นเงนิ กู้ (Loan) โดยมี อัตราการชดเชยความเสียหายสงู สุดถงึ รอ้ ยละ 90 ของมูลค่าความเสยี หายท่ีเกดิ ข้ึน ผลการดำ� เนินงาน ตง้ั แตป่ ี 2560 เปน็ ตน้ มา ธสน. ไดร้ เิ รมิ่ แผนงานการตลาดสำ� หรบั บรกิ ารประกนั ความเสยี่ งการลงทนุ ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบาย เพ่ือกระตุ้นและส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งเน้นการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนในการ ไปลงทุนในต่างประเทศ ปัจจยั ทีต่ ้องพิจารณา รวมถึงความเสย่ี งทเี่ กย่ี วข้องในการไปลงทนุ ในต่างประเทศ โดยร่วมมอื กับ Broker ทม่ี ปี ระสบการณใ์ นการใหบ้ รกิ ารประกนั ความเสยี่ งการลงทนุ ในระดบั สากล จดั งานสมั มนาใหก้ บั ผปู้ ระกอบการไทย ท่ีมีความสนใจในการไปลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มตลาดใหม่ ซ่ึงในปี 2561 ธสน. ได้มุ่งเน้นการส่งเสริม การส่งออกและการลงทุนไปยังตลาดใหม่ท่ีมีศักยภาพ อาทิ กลุ่มประเทศในแถบแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีจ�ำนวน ประชากรสูง และมแี นวโนม้ การเติบโตทางเศรษฐกิจเพิม่ ข้ึน เป็นต้น

รายงานประจ�ำ ปี 2561 71 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและนำ�เขา้ แห่งประเทศไทย ส�ำหรับผลการด�ำเนินงานของบริการประกันความเส่ียงการลงทุน ในปี 2561 ธสน. มีวงเงินรับประกันความเส่ียง การลงทนุ ท่ีไดร้ บั อนมุ ตั ิรวม 102 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั และมีรายไดเ้ บ้ียประกนั รับภายใต้บริการประกันความเส่ียงการลงทนุ ประมาณ 40 ล้านบาท นอกจากน้ีมีผู้ลงทุนไทยให้ความสนใจบริการประกันความเสี่ยงการลงทุนเพิ่มเติมจ�ำนวน 14 โครงการ ประกอบไปด้วยผู้ลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานเป็นหลัก อาทิ อุตสาหกรรมไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟา้ พลงั งานถ่านหนิ รวมถงึ การจดั ต้งั โรงงาน หรือไปด�ำเนินงานในต่างประเทศ โดยตลาดหลักยังคงเป็นกล่มุ CLMV ซงึ่ เปน็ กลมุ่ ประเทศทร่ี ฐั บาลมนี โยบายสนบั สนนุ การลงทนุ ของผลู้ งทนุ ไทย อยา่ งไรกต็ าม ในปี 2562 จะมโี ครงการทผ่ี ลู้ งทนุ สนใจเขา้ ไปลงทนุ ในอตุ สาหกรรมพลงั งานทางเลือกในประเทศทมี่ ีศกั ยภาพ อาทิ มองโกเลีย เพิม่ มากขนึ้ ท้ังนี้ โครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่และมีผลกระทบต่อภูมิประเทศและส่ิงแวดล้อม จ�ำเป็นต้อง ผา่ นเงอ่ื นไขตา่ งๆ หรอื ผา่ นการประมลู โครงการแข่งขันกับนักลงทุนประเทศอื่นๆ จึงต้องใช้เวลาในการด�ำเนินการ รวมทั้ง การประสานงานในแต่ละโครงการมีขั้นตอนและระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าจะสามารถด�ำเนินโครงการและขอรับประกัน ความเส่ียงการลงทุนได้ แนวโน้มตลาดของบริการประกันความเส่ยี งการลงทนุ มูลคา่ การลงทนุ โดยตรงของไทยไปยงั ตา่ งประเทศในชว่ งหลายปที ีผ่ า่ นมา มแี นวโนม้ ที่เพ่ิมขึ้นมาก เนอ่ื งจากภาวะ ตลาดภายในประเทศที่เริ่มอ่ิมตัว ประกอบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มประเทศในตลาด เกิดใหม่ สง่ ผลใหน้ ักลงทุนไทยออกไปลงทนุ โดยตรงในตา่ งประเทศมากยงิ่ ข้ึน โดยในปี 2560 ยอดคงคา้ งเงินลงทุนโดยตรง ของไทยในตา่ งประเทศมีมลู ค่ารวม 116,527 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั และเพ่ิมข้ึนเปน็ 132,432 ล้านดอลลารส์ หรฐั ในไตรมาส ท่ี 3 ของปี 2561 ส�ำหรบั มลู ค่าการลงทุนโดยตรงของภาคธุรกจิ ไทยในอาเซียนยังคงมมี ลู ค่าสูงทีส่ ุด โดยในไตรมาสท่ี 3 ของ ปี 2561 มยี อดคงคา้ งเงนิ ลงทนุ ในอาเซยี นรวม 40,104 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ซงึ่ เปน็ มลู คา่ การลงทนุ ในกลมุ่ CLMV อนิ โดนเี ซยี และสิงคโปร์เป็นหลัก (ท่ีมา : ยอดคงค้างเงินลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศ จ�ำแนกตามประเทศ ธนาคารแห่ง ประเทศไทย) ทั้งน้ี กลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่นักลงทุนไทยให้ความสนใจไปลงทุนเป็นอย่างมากน้ัน แม้ว่าจะมี การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ือง แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ด้วยเหตุน้ีในมุมมองขององค์กรรับประกันอื่นๆ รวมทง้ั องคก์ รรับประกนั ตอ่ (Reinsurer) จงึ ยังคงมีความกังวลกับความเสย่ี งในกล่มุ ประเทศนี้คอ่ นขา้ งมาก ซงึ่ ถงึ แมว้ ่าจะ เร่ิมมีการรับประกันต่อส�ำหรับกลุ่มประเทศเหล่าน้ีแล้ว แต่วงเงินรับประกันและระยะเวลาการรับประกันยังคงมีข้อจ�ำกัด นอกจากนี้ ในตลาดใหม่ๆ ท่ีมีศักยภาพ ได้แก่ ประเทศในทวีปแอฟริกา และประเทศท่ีมีศักยภาพในการลงทุนพลังงาน ทางเลือก เช่น มองโกเลีย เป็นต้น ยังเป็นประเทศที่นักลงทุนไทยไม่คุ้นเคย ท�ำให้เกิดความลังเลในการลงทุนในประเทศ ดังกล่าว ด้วยเหตุน้ี การสนับสนุนนักลงทุนไทยท่ีจะไปลงทุนในกลุ่มประเทศท่ียังคงมีความเส่ียงสูงเหล่าน้ี จึงถือเป็น พนั ธกจิ หลกั ของ ธสน. ในฐานะสถาบนั การเงนิ เฉพาะกจิ ของรฐั ซงึ่ จะสง่ ผลใหก้ ารลงทนุ ของนกั ลงทนุ ไทยมแี นวโนม้ เตบิ โต ทีด่ ีในอนาคต

72 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย บรกิ ารใหม่ ธสน. มงุ่ เนน้ ในการสนบั สนนุ ผสู้ ง่ ออก โดยเพมิ่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของผปู้ ระกอบการไทยในตลาดการคา้ และการลงทุนระหว่างประเทศ ดว้ ยบริการทส่ี อดคล้องกับความตอ้ งการของกลมุ่ ผู้ประกอบการที่หลากหลาย ทง้ั ผ้สู ง่ ออก ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (Small and Medium Enterprises: SMEs) และผสู้ ง่ ออกรายใหญ่ ผสู้ ง่ ออกท่มี ผี ลประกอบการ ที่ดีให้สามารถใช้บริการสินเช่ือกับ ธสน. ได้สะดวกขึ้น โดยในปี 2561 ธสน. ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพ่ือใช้เป็นเงินทุน หมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องในการด�ำเนินธุรกิจ รวมท้ังเพื่อการจัดซ้ือหรือผลิตวัตถุดิบ หรือเตรียมสินค้าก่อนส่งออก หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในช่วงหลังการส่งออก ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ส่งออก SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน และเสริมสร้าง ความม่ันใจในการส่งออกอย่างต่อเนอ่ื ง โดยมีบรกิ ารสินเชอื่ และประกันการส่งออกทีพ่ ฒั นาเพิม่ ในปี 2561 ดงั นี้ ffสนิ เชือ่ ส�ำหรบั ผ้ซู อ้ื ในประเทศ CLMV เปน็ บรกิ ารสนิ เชือ่ ส�ำหรับผปู้ ระกอบการในกลมุ่ ประเทศ CLMV ไดแ้ ก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อเป็นเงินทุนส�ำหรับใช้ซ้ือสินค้าและ/หรือบริการจากประเทศไทย วงเงิน สูงสุด 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อราย และไม่เกินร้อยละ 85 ของมูลค่าสินค้าและ/หรือบริการจากประเทศไทย อัตรา ดอกเบี้ยเร่ิมต้นที่ LIBOR +ร้อยละ 4 ต่อปี โดยสามารถอยู่ในรูปของการให้กู้โดยตรง หรือร่วมกับธนาคารท้องถิ่น ในประเทศน้ันๆ ปลอ่ ยกู้ (Co-financing) แกผ่ ้ปู ระกอบการดงั กลา่ ว ffสินเช่ือส่งออกสุขใจ (EXIM Happy Credit) เป็นบริการสินเช่ือหมุนเวียนเพ่ือการส่งออก เหมาะส�ำหรับกลุ่ม ผู้ประกอบการ SMEs ที่เร่ิมต้นส่งออก และส�ำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ท่ีลงทะเบียนท�ำบัญชีชุดเดียว (Single Account) วงเงินสูงสุด 500,000 บาทต่อราย (พร้อมวงเงิน Forward Contract) โดยใช้ผู้บริหารหลักค้�ำประกัน อัตราดอกเบี้ย/อัตรารับซ้ือลดข้ันต่�ำร้อยละ 5.00 ต่อปี และกรณีที่มีการจดแจ้งท�ำบัญชีชุดเดียว อัตราดอกเบ้ีย/อัตรา รบั ซ้อื ลดขั้นต�ำ่ ร้อยละ 4.50 ต่อปี ffสินเชอ่ื เอก็ ซมิ เพื่อโซนพิเศษ (EXIM Special Zone Credit) เป็นบริการสนิ เชื่อระยะยาวและสนิ เชื่อหมุนเวียน เพ่ือสนับสนุนผู้ประกอบการที่ลงทุนในเขตพื้นท่ีระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) จังหวัดในเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดชายแดน นิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม และเขตอุตสาหกรรม ท้ังหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ส�ำหรับกรณีผู้ประกอบการลงทุนในเขต EEC อัตราดอกเบี้ยสินเช่ือระยะยาว เร่ิมต้นปีท่ี 1-3 เท่ากับ Prime Rate -ร้อยละ 2.00 ต่อปี และสินเชื่อหมุนเวียน สูงสุดไม่เกิน Prime Rate -ร้อยละ 1.75 ต่อปี หรือ LIBOR +ร้อยละ 2.75 ต่อปี และส�ำหรับในเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วไป อัตราดอกเบ้ียสินเช่ือระยะยาว เริ่มต้นปีท่ี 1-3 เท่ากับ Prime Rate -ร้อยละ 1.75 ต่อปี และสินเชื่อหมุนเวียน สูงสุดไม่เกิน Prime Rate -ร้อยละ 1.50 หรอื LIBOR +รอ้ ยละ 3.00 ตอ่ ปี ระยะเวลาผอ่ นช�ำระเงนิ กู้สูงสุด 15 ปี ffสนิ เชอ่ื Soft Loan เพอื่ ปรบั เปลย่ี นเครอื่ งจกั ร ระยะที่ 2 (Transformation Loan) เปน็ บรกิ ารสนิ เชอื่ ระยะยาว ประเภทวงเงินกู้เพ่ือซื้อทรัพย์สิน และวงเงินกู้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในกลุ่มธุรกิจ 10 S-Curve ส�ำหรับ SMEs ท่ีมีการย่ืนภาษีกับภาครัฐ โดยบริการนี้เป็นความร่วมมือกับธนาคารออมสิน วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย อัตรา ดอกเบี้ยร้อยละ 4.00 ตอ่ ปี ระยะเวลาผอ่ นช�ำระเงินกู้สูงสุด 7 ปี ffสินเช่ือส่งออกเพิ่มค่า (EXIM Value Added Credit) เป็นบริการสินเชื่อหมุนเวียนเพ่ือการส่งออก เหมาะ ส�ำหรับ SMEs ที่เริ่มต้นส่งออก หรือต้องการขยายตลาดส่งออก โดยใช้หนังสือค้�ำประกัน บสย. เป็นหลักประกัน วงเงิน สูงสุด 4 ลา้ นบาทตอ่ ราย อัตราดอกเบี้ยปที ่ี 1-2 เท่ากับ Prime Rate -ร้อยละ 1.25 ต่อปี (พรอ้ มวงเงิน Forward Contract) ภายใต้บริการนี้ ธสน. มีความร่วมมือกับบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จ�ำกัด (Central Lab Thai) ให้สิทธิประโยชน์พิเศษแก่ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ในการตรวจสอบ สารปนเป้อื นในสินคา้ มูลค่า 5,000 บาท เพือ่ รับรองมาตรฐานสินคา้ ใหส้ ามารถสง่ ออกได้

รายงานประจ�ำ ปี 2561 73 ธนาคารเพื่อการสง่ ออกและนำ�เขา้ แหง่ ประเทศไทย ffสินเชื่อเอ็กซิมเพ่ือธุรกิจขนาดกลาง (EXIM for M Credit) สินเช่ือหมุนเวียนช่วงก่อนและหลังการส่งออก เหมาะส�ำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง (ทมี่ ียอดขายตั้งแต่ 50 ถงึ 500 ล้านบาท) ที่ต้องการเงินทนุ เพอื่ เสริมสภาพคล่อง ในการสง่ ออกและน�ำเข้า วงเงินสูงสดุ ไม่เกนิ 50 ลา้ นบาทต่อราย (พร้อมวงเงิน Forward Contract 3 เท่าของวงเงนิ สินเช่ือ) โดยใช้หลักประกันขั้นตำ�่ ร้อยละ 35 และสามารถใช้หนังสอื ค้�ำประกนั บสย. เป็นหลักประกนั ร่วมได้ อตั ราดอกเบยี้ ในปแี รก อยูร่ ะหวา่ ง Prime Rate -รอ้ ยละ 0.50 ถึง -รอ้ ยละ 2.00 ต่อปี หรือ LIBOR +ร้อยละ 4.00 ถงึ +รอ้ ยละ 2.75 ตอ่ ปี ffสินเชื่อรับซ้ือตั๋วเพ่ือธุรกิจขนาดกลาง (EXIM Nego for M Credit) สินเชื่อหมุนเวียนช่วงหลังการส่งออก เหมาะสำ� หรบั ผู้ประกอบการขนาดกลาง (ทมี่ ยี อดขายตง้ั แต่ 50 ถึง 500 ล้านบาท) ทตี่ ้องการเงนิ ทนุ เพ่ือเสรมิ สภาพคล่อง ในการส่งออก วงเงินสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อราย (พร้อมวงเงิน Forward Contract 3 เท่าของวงเงินสินเช่ือ) โดยใชห้ นงั สอื คำ�้ ประกนั บสย. หรอื หลกั ประกนั ขน้ั ตำ่� รอ้ ยละ 30 อตั ราดอกเบยี้ ในปแี รกอยรู่ ะหวา่ ง Prime Rate -รอ้ ยละ 0.50 ถงึ -รอ้ ยละ 2.00 ตอ่ ปี ffสินเชื่อรับซื้อต๋ัวส่งออกอุ่นใจ (EXIM IBD Global) สินเช่ือหมุนเวียนช่วงหลังการส่งออก พร้อมบริการ รับประกันการส่งออก เหมาะส�ำหรับผู้ส่งออกที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน และป้องกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับเงิน คา่ สนิ คา้ หลงั การสง่ ออก วงเงนิ สนิ เชอ่ื สงู สดุ 40 ลา้ นบาทตอ่ ราย (พรอ้ มวงเงนิ Forward Contract) โดยใชก้ รมธรรมป์ ระกนั การส่งออกเป็นหลักประกัน อัตราดอกเบ้ีย Prime Rate -ร้อยละ 2.00 ต่อปี ตลอดโครงการ ได้รับความคุ้มครอง การส่งออกมากกว่า 137 ประเทศท่ัวโลกจากบริการประกันการส่งออกส�ำหรับสินเชื่อรับซ้ือต๋ัวส่งออกอุ่นใจ (EXIM IBD Global Insurance) คุม้ ครองสูงถึงร้อยละ 90 ของมลู ค่าความเสยี หาย ffบริการประกนั CLM (CLM Trade Insurance) บรกิ ารประกนั การส่งออกเพือ่ ชว่ ยคมุ้ ครองความเส่ียงจากการ ไม่ได้รับช�ำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในกลุ่มประเทศ CLM ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา ให้แก่ผู้ส่งออก SMEs ท่ีมีมูลค่าการส่งออกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อครั้ง และส่งออกภายใต้เทอมการช�ำระเงินสูงสุดไม่เกิน 90 วัน โดยผู้ส่งออก SMEs สามารถเลือกรูปแบบความคุ้มครองได้ด้วยค่าใช้จ่ายท่ีก�ำหนดเอง ค่าเบี้ยประกันต่อกรมธรรม์เร่ิมต้นเพียง 3,300 บาท ไดร้ บั ความคุม้ ครองสูงสดุ ถงึ ร้อยละ 90 ของมูลค่าความเสียหาย

74 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่อื การสง่ ออกและน�ำ เขา้ แห่งประเทศไทย ผลการดำ�เนนิ งานและฐานะการเงิน ภาพรวมผลประกอบการทางการเงนิ ในปี 2561 ธนาคารเพอ่ื การสง่ ออกและนำ� เขา้ แหง่ ประเทศไทย (ธสน.) มสี นิ ทรพั ย์ เพ่ิมข้ึนจากเงินให้สินเชื่อท่ีขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ก�ำไรสุทธิเติบโตในสัดส่วนที่น้อยกว่า ส่งผลให้ อัตราส่วนทางการเงินด้านความสามารถในการท�ำก�ำไรลดลงเล็กน้อย รวมท้ัง ธสน. มีการส�ำรองค่าเผื่อหน้ีสงสัยจะสูญ ในระดบั ท่สี งู กวา่ เกณฑท์ ีก่ ำ� หนด และมเี งนิ กองทุนในระดบั ที่เพียงพอและสามารถรองรบั การขยายธุรกจิ ในอนาคต งบก�ำไรขาดทุน หน่วย : ล้านบาท รายการ 2561 2560 เปล่ียนแปลง เพ่ิม (ลด) ร้อยละ รายไดด้ อกเบ้ยี หกั ค่าใชจ้ ่ายดอกเบยี้ 4,947 4,233 714 16.9 รายไดด้ อกเบย้ี สทุ ธิ รายไดท้ มี่ ิใชด่ อกเบ้ยี 1,550 1,147 403 35.1 หกั คา่ ใช้จ่ายจากการดำ�เนินงานอื่นๆ หัก หนี้สญู หนส้ี งสยั จะสญู 3,397 3,086 311 10.1 และขาดทุนจากการดอ้ ยคา่ 497 332 165 49.7 กำ�ไรสุทธิ 1,321 1,091 230 21.1 1,208 967 241 24.9 1,365 1,360 5 0.4 ก�ำไรสทุ ธิ ปี 2561 ธสน. มีก�ำไรสุทธิจ�ำนวน 1,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.4 เม่ือเทียบกับปี 2560 ท่ีมีก�ำไรสุทธิจ�ำนวน 1,360 ล้านบาท เน่ืองจาก ธสน. สามารถขยายสินเชื่อและรับประกันได้เพ่ิมข้ึน โดยมีเงินให้สินเชื่อ เพิ่มข้ึน 16,703 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.2 ท�ำให้มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มข้ึนจ�ำนวน 311 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.1 และรายไดท้ ีม่ ิใช่ดอกเบีย้ เพิม่ ขึ้น 165 ลา้ นบาท หรือร้อยละ 49.7 อยา่ งไรก็ตาม ธสน. มีค่าใชจ้ า่ ยจากการดำ� เนินงานอื่นๆ เพ่มิ ขึน้ จำ� นวน 230 ลา้ นบาท หรอื รอ้ ยละ 21.1 จากปี 2560 เน่ืองจากอยรู่ ะหวา่ งการปรบั เปลีย่ นองค์กร (Transformation) และมีการสำ� รองค่าเผ่อื หนสี้ ูญ หน้ีสงสยั จะสูญ และขาดทุนจากการด้อยค่าเพิ่มข้ึนจ�ำนวน 241 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.9

รายงานประจ�ำ ปี 2561 75 ธนาคารเพอื่ การสง่ ออกและนำ�เข้าแห่งประเทศไทย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันท่ี 31 ธนั วาคม 2561 หนว่ ย : ล้านบาท รายการ 2561 2560 เปล่ยี นแปลง 90,901 เพิ่ม (ลด) รอ้ ยละ 2,004 สนิ ทรัพยร์ วม 106,566 2,478 15,665 17.2 91,886 รายการระหวา่ งธนาคารและตลาดเงิน 2,812 7,850 808 40.3 เงินลงทนุ สทุ ธิ 2,345 เงนิ ให้สนิ เชือ่ 108,589 99 (133) (5.4) คา่ เผือ่ หนี้สงสยั จะสูญ 9,223 805 คา่ เผอ่ื การปรบั มลู คา่ จากการปรบั โครงสรา้ งหน้ี 1,677 16,703 18.2 ทรัพยส์ นิ รอการขายสุทธิ 161 70,557 สนิ ทรัพยอ์ น่ื 382 1,373 17.5 หน้ีสินรวม 1,822 22,381 85,392 16,108 62 62.6 เงนิ รับฝาก 30,184 รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน 30,160 1,884 (423) (52.5) ตราสารหนท้ี อี่ อกและเงนิ กู้ยืม 18,887 20,344 หนสี้ นิ อื่น 34,014 145 8.6 สว่ นของเจ้าของ 2,331 21,174 14,835 21.0 7,779 34.8 2,779 17.3 3,830 12.7 447 23.7 830 4.1 สินทรพั ย์ ณ วันที่ 31 ธนั วาคม 2561 ธสน. มีสนิ ทรพั ยร์ วมท้ังสน้ิ 106,566 ลา้ นบาท เพมิ่ ขนึ้ 15,665 ล้านบาท หรือรอ้ ยละ 17.2 เม่อื เทยี บกับ ณ ส้นิ ปี 2560 ท่ีมีสินทรัพย์ 90,901 ลา้ นบาท โดยมรี ายละเอียดดังนี้ ffสนิ เชอ่ื ณ วันที่ 31 ธนั วาคม 2561 ธสน. มเี งินใหส้ นิ เชื่อคงคา้ งจำ� นวน 108,589 ลา้ นบาท เพม่ิ ขน้ึ สุทธิ 16,703 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.2 เม่ือเทียบกับ ณ ส้ินปี 2560 ท่ีมียอดสินเช่ือ 91,886 ล้านบาท ทั้งน้ี เงินให้สินเชื่อที่เพ่ิมข้ึน ส่วนใหญ่เปน็ สินเช่ือในกลมุ่ ธุรกิจสนิ ค้าอุตสาหกรรม สินคา้ อุตสาหกรรมการเกษตร และสาธารณูปโภค ffเงินให้สินเช่ือด้อยคุณภาพ ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 2561 ธสน. มี NPLs จ�ำนวน 4,103 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 3.8 ของเงินให้สนิ เช่อื โดยในปี 2561 มี NPLs เพิม่ ขน้ึ 1,088 ลา้ นบาท ส่วนใหญจ่ ากลูกหนี้ท่อี ยใู่ นอุตสาหกรรม สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร อย่างไรก็ตาม ในระหว่างปีสามารถแก้ไข NPLs ให้ลดลงได้ 269 ล้านบาท โดยการปรับ โครงสร้างหน้ี NPLs ลูกหนี้ท่ีอยู่ในอุตสาหกรรมการคมนาคมและส่ือสาร ซึ่งส่งผลให้ NPLs เพิ่มขึ้นสุทธิ 818 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2560 ที่จ�ำนวน 3,285 ล้านบาท ffคา่ เผอื่ หนส้ี งสยั จะสญู และคา่ เผอื่ การปรบั มลู คา่ จากการปรบั โครงสรา้ งหน้ี ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2561 ธสน. มีค่าเผ่ือหนี้สงสัยจะสูญและค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการปรับโครงสร้างหน้ีจ�ำนวน 9,384 ล้านบาท หรือร้อยละ 228.7 ของ NPLs โดยในปี 2561 มีการต้ังค่าเผ่ือหน้ีสงสัยจะสูญและค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการปรับโครงสร้างหนี้ เพม่ิ ขน้ึ สุทธิ 1,435 ลา้ นบาท จาก ณ ส้ินปี 2560 ท่ีจำ� นวน 7,949 ล้านบาท หรือร้อยละ 242.0 ของ NPLs

76 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพื่อการสง่ ออกและน�ำ เขา้ แห่งประเทศไทย ffทรพั ย์สินรอการขายสทุ ธิ ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 2561 ธสน. มที รัพยส์ นิ รอการขายสทุ ธจิ ำ� นวน 382 ลา้ นบาท ลดลงจากส้ินปี 2560 จ�ำนวน 423 ลา้ นบาท หรือร้อยละ 52.5 หน้สี นิ ณ ส้ินปี 2561 ธสน. มีหน้ีสินรวมท้ังส้ินจ�ำนวน 85,392 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,835 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.0 เมอ่ื เทยี บกบั ณ สนิ้ ปี 2560 ท่ีมหี นี้สินจ�ำนวน 70,557 ล้านบาท โดยสว่ นใหญ่เปน็ เงนิ รับฝากทเ่ี พิ่มขน้ึ 7,779 ลา้ นบาท หรอื รอ้ ยละ 34.8 ตราสารหนที้ ี่ออกและเงินกู้ยืมเพ่มิ ขึน้ 3,830 ล้านบาท หรอื รอ้ ยละ 12.7 และรายการระหวา่ งธนาคารและ ตลาดเงนิ เพม่ิ ข้นึ 2,779 ล้านบาท หรอื ร้อยละ 17.3 ส่วนของเจ้าของ ณ สิ้นปี 2561 ธสน. มีส่วนของเจา้ ของจ�ำนวน 21,174 ล้านบาท เพ่ิมข้นึ 830 ลา้ นบาท หรอื รอ้ ยละ 4.1 เมอ่ื เทยี บกับ ณ สิ้นปี 2560 ที่มจี �ำนวน 20,344 ลา้ นบาท โดยในปี 2561 มีทุนสำ� รองตามกฎหมายเพ่ิมขนึ้ จ�ำนวน 681 ลา้ นบาท และมี การน�ำสง่ รายได้แผ่นดินระหวา่ งกาลประจ�ำปี 2561 จำ� นวน 282 ล้านบาท นอกจากนม้ี กี ารนำ� สง่ ก�ำไรสทุ ธิประจ�ำปี 2560 ส่วนท่ีเหลือเพ่ิมเติมจ�ำนวน 257 ล้านบาท ตามท่ีส�ำนกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกจิ (สคร.) ก�ำหนด อตั ราส่วนทางการเงนิ ท่สี �ำคญั หน่วย : ร้อยละ 2561 2560 เปล่ยี นแปลง อัตราสว่ นทางการเงิน อตั ราผลตอบแทนต่อสนิ ทรัพยเ์ ฉลยี่ (ROA) 1.4 1.6 (0.2) อตั ราผลตอบแทนตอ่ สว่ นของทนุ เฉล่ีย (ROE) 6.6 6.8 (0.2) อัตราส่วนรายได้ดอกเบยี้ สุทธิตอ่ สินทรพั ย์ 3.2 3.3 (0.1) ทก่ี ่อให้เกิดรายไดด้ อกเบีย้ เฉลย่ี (NIM)* 33.9 31.9 2.0 อัตราสว่ นค่าใช้จ่ายรวมตอ่ รายไดร้ วม (Cost to Income) 18.1 21.3 (3.2) อัตราสว่ นเงินกองทนุ ต่อทรัพย์สินเสี่ยง (CAR) หมายเหตุ :  * เปล่ียนฐานการค�ำนวณอัตราส่วน NIM จาก “รายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์สุทธิเฉล่ีย” เป็น “รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ต่อสนิ ทรพั ยท์ ่ีกอ่ ใหเ้ กิดรายได้ดอกเบ้ยี เฉลี่ย” ตามท่ี ธปท. ก�ำหนด ffอตั ราผลตอบแทนตอ่ สนิ ทรพั ยเ์ ฉลย่ี (Return on Assets: ROA) และอตั ราผลตอบแทนตอ่ สว่ นของทนุ เฉลยี่ (Return on Equity: ROE) จากก�ำไรสุทธิในปี 2561 ที่ใกล้เคียงกับปีก่อน หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 0.4 ในขณะท่ีสินทรัพย์ เพ่ิมข้ึนร้อยละ 17.2 และส่วนของทุนเพ่ิมขึ้นร้อยละ 4.1 ส่งผลให้ ณ ส้ินปี 2561 ธสน. มีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ เฉลี่ยที่ร้อยละ 1.4 รวมทั้งมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของทุนเฉลี่ยที่ร้อยละ 6.6 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.2 ffอัตราสว่ นรายไดด้ อกเบยี้ สทุ ธติ อ่ สินทรัพยท์ กี่ อ่ ให้เกิดรายได้ดอกเบีย้ เฉลีย่ (Net Interest Margin: NIM) ณ ส้ินปี 2561 มีอัตราส่วนรายได้ดอกเบ้ียสุทธิต่อสินทรัพย์ท่ีก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ร้อยละ 3.2 ลดลง ร้อยละ 0.1 จากปี 2560 เน่ืองจากมีสินทรัพย์ท่ีก่อให้เกิดรายได้ดอกเบ้ียเฉลี่ยเพ่ิมข้ึนจากการขยายตัวของเงิน ใหส้ ินเชอ่ื คงค้างท่ีเพิ่มขน้ึ

รายงานประจ�ำ ปี 2561 77 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและนำ�เข้าแห่งประเทศไทย ffอัตราส่วนค่าใช้จ่ายรวมต่อรายได้รวม (Cost to Income) ณ สิ้นปี 2561 ธสน. มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายรวม ต่อรายได้รวมที่ร้อยละ 33.9 เพิ่มข้ึนร้อยละ 2.0 จากปี 2560 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายท่ีมิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มข้ึน 230 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.1 ส่วนใหญ่เกิดจาก ธสน. มีแผนงานท่ีท�ำเพิ่มเติมระหว่างปี เช่น ค่าใช้จ่ายที่เก่ียวกับการปรับเปล่ียน องค์กร (Transformation) ค่าใช้จ่ายการพัฒนาบุคลากร และค่าใช้จ่ายบุคลากรจากแผนการปรับเปล่ียนองค์กร ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resources Transformation Plan) รวมทั้งค่าใช้จ่ายประชาสัมพันธ์ คา่ ใชจ้ ่ายสร้างความสมั พันธ์และจดั สัมมนา ffอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Capital Adequacy Ratio: CAR) ธสน. มีอัตราส่วนเงินกองทุน ต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ ส้ินปี 2561 เท่ากับร้อยละ 18.1 ลดลงร้อยละ 3.2 จากปี 2560 เน่ืองจากมีสินทรัพย์เส่ียง ที่เพิ่มข้ึนในระหว่างปี อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เส่ียงของ ธสน. ยังคงสูงกว่าเกณฑ์ตาม กฎกระทรวง พ.ศ. 2538 เร่ืองการด�ำรงเงนิ กองทุนของ ธสน. ทก่ี �ำหนดไวไ้ ม่ตำ�่ กวา่ รอ้ ยละ 8 โครงสรา้ งแหลง่ เงินกจู้ �ำ แนกตามประเภทตราสารและแหล่งเงนิ กู้ หนว่ ย : ล้านบาท แหล่งเงนิ กู้ในประเทศ 2561 2560 2559 พันธบัตร รฐั บาล รฐั บาล รัฐบาล รัฐบาล รฐั บาล รัฐบาล ตวั๋ แลกเงิน ตวั๋ สญั ญาใช้เงิน คำ�้ ประกัน ไม่ค�้ำ ประกัน ค�้ำ ประกนั ไม่ค�ำ้ ประกัน ค�้ำ ประกนั ไม่ค้ำ�ประกนั อ่ืนๆ รวมตราสารหนท้ี อ่ี อกและเงนิ กยู้ มื -- -- -- -- -- -- -- -- -- - 104 - 117 - 87 - 104 - 117 - 87 แหล่งเงนิ ก้ตู ่างประเทศ 2561 2560 2559 พันธบตั ร รัฐบาล รฐั บาล รัฐบาล รฐั บาล รฐั บาล รฐั บาล ตวั๋ แลกเงนิ ต๋วั สัญญาใชเ้ งิน ค้ำ�ประกัน ไม่ค�ำ้ ประกัน ค�ำ้ ประกนั ไม่ค�ำ้ ประกนั ค�ำ้ ประกัน ไมค่ �้ำ ประกนั อืน่ ๆ รวมตราสารหนท้ี อี่ อกและเงนิ กยู้ มื - 33,910 - 30,066 - 34,756 -- -- -- -- -- -- -- -- -- - 33,910 - 30,066 - 34,756 ณ สิน้ ปี 2561 ธสน. มีเงินกู้ยืมจากแหล่งเงนิ กใู้ นประเทศและตา่ งประเทศรวม 34,014 ล้านบาท แบ่งเป็นการกเู้ งนิ จากแหล่งเงินกู้ในประเทศจ�ำนวน 104 ล้านบาท และการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ต่างประเทศจ�ำนวน 33,910 ล้านบาท ในขณะที่ ณ สน้ิ ปี 2560 และ 2559 ธสน. มเี งนิ กยู้ มื จากแหลง่ เงนิ กใู้ นประเทศและตา่ งประเทศรวมจำ� นวน 30,183 ลา้ นบาท และ 34,843 ล้านบาท โดยเปน็ การกเู้ งนิ จากแหลง่ เงนิ กใู้ นประเทศจ�ำนวน 117 ล้านบาท และ 87 ล้านบาท และการกู้เงิน จากแหลง่ เงินกตู้ ่างประเทศจ�ำนวน 30,066 ล้านบาท และ 34,756 ลา้ นบาท ตามลำ� ดบั ทงั้ น้ี เงนิ ก้ยู ืมดังกล่าวเป็นเงนิ กู้ยืม ทีร่ ัฐบาลไม่ค�้ำประกัน และไม่รวมรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน

78 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่อื การสง่ ออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย การบรหิ ารจัดการองคก์ ร การบริหารความเสี่ยง ภาพรวม การบริหารความเส่ียงองค์กรของธนาคารเพ่ือการส่งออกและนำ�เข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เน้นความสำ�คัญของ การสร้างวฒั นธรรมองคก์ ร (Culture) การพิจารณาถึงการเปลยี่ นแปลงทง้ั ภายในและภายนอกองค์กร เพ่อื สร้าง/ปรบั ปรงุ สมรรถนะขององค์กร (Capabilities) และการนำ�กรอบ/นโยบาย/กระบวนการ/เคร่ืองมือต่างๆ ในการบริหารจัดการ ความเส่ียงไปสู่การปฏบิ ัติ (Practices) โดยบูรณาการอย่างใกล้ชดิ กบั การจดั ทำ�แผนยทุ ธศาสตร์ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ ธสน. บรรลเุ ปา้ หมายในการบรหิ ารจดั การความเสย่ี ง เพอ่ื สรา้ ง (Creating) ด�ำ รงไว้ (Preserving) และตระหนกั ถงึ (Realizing) ความสำ�คญั ของการขยายมลู คา่ เพมิ่ (Enhanced Value) ขององค์กร และสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการและความคาดหวัง ของผมู้ ีสว่ นได้ส่วนเสยี (Stakeholders) ส�ำ หรับการเปลี่ยนแปลงในดา้ นการบรหิ ารความเสีย่ งที่สำ�คญั ในปี 2561 สามารถสรุปได้ดังน้ี การเปลีย่ นแปลงดา้ นการบรหิ ารความเสี่ยงที่ส�ำ คญั ในปี 2561 1. COSO ERM 2017 การนำ� การบูรณาการ 1. การบูรณาการการจัดทำ�และติดตาม 2. GRC Capability Model version 3.0 มาตรฐานใหมๆ่ ความเสย่ี งกับ ความคืบหน้าของแผนบริหารความเส่ียง ของ Open Compliance and Ethics มาประยกุ ต์ใช้ แผนยุทธศาสตร์ กบั แผนยทุ ธศาสตร์ Group (OCEG) และการปฏบิ ตั งิ าน 2. การประเมินความเส่ียงจากการใช้บริการ 3. การเตรียมความพร้อมในการคำ�นวณ ในองคก์ ร ของผู้ให้บริการสนับสนุนการประกอบ ผลขาดทุนด้านเครดิตท่ีคาดว่าจะเกิดข้ึน เคร่อื งมือ ประจ�ำ วนั ธุรกิจ (Business Facilitator) และการ (Expected Credit Loss: ECL) ตาม เตอื นภัย/ ความเสี่ยง ใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกด้าน มาตรฐาน TFRS 9 ก�ำ กับดูแล ด้านเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Outsourcing) 4. ประกาศ ธปท. เชน่ หลักเกณฑก์ ารกำ�กบั ความเส่ยี ง สารสนเทศ รว่ มกบั ฝา่ ยงานที่เก่ยี วขอ้ ง ดูแลความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. การแยกความเสี่ยงด้าน IT ออกจาก (Information Technology Risk) ของ ความเส่ยี งดา้ นปฏิบตั ิการ สถาบนั การเงนิ และแนวปฏบิ ตั ใิ นการบรหิ าร 2. การจัดทำ�นโยบาย หลักเกณฑ์ และคู่มือ ความเส่ียงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การปฏิบตั งิ านดา้ น IT เป็นตน้ 3. การจัด Workshop ร่วมกับทุกฝ่ายงาน 1. การปรบั ปรงุ ระบบ Credit Warning Sign เพ่อื ประเมนิ ความเสี่ยงดา้ น IT ท้งั ในระดับ & Watch List เพื่อเตือนภัยความเส่ียง องคก์ รและระดบั ปฏิบตั ิการ ดา้ นเครดติ 4. การเข้าไปมีส่วนร่วมกับฝ่ายงานต่างๆ 2. การทดสอบความเหมาะสมของ Credit เพอ่ื จดั ท�ำ แผนการบรหิ ารจดั การความเสย่ี ง Rating Model และเพมิ่ แบบจ�ำ ลองส�ำ หรบั โครงการ (Project Risk Management) ลูกค้ารายย่อยและรายที่เพ่ิงเริ่มดำ�เนิน กิจการ เพ่ือสะท้อนความเส่ียงของพอร์ต สนิ เช่ือ 3. การจัดทำ�รายงาน Potential NPLs เพ่ือปอ้ งกันลูกหนี้กลายเป็นหนี้ NPLs

รายงานประจ�ำ ปี 2561 79 ธนาคารเพอื่ การสง่ ออกและนำ�เข้าแห่งประเทศไทย โครงสร้างการบรหิ ารความเสยี่ ง ธสน. มีการบูรณาการการกำ�กับดูแลกิจการท่ีดี การบริหารความเส่ียง และการกำ�กับการปฏิบัติงาน โดยกำ�หนด โครงสรา้ งการบรหิ ารความเสยี่ งตามหลกั Three Lines of Defence ซงึ่ แบง่ ความรบั ผดิ ชอบเปน็ 3 ระดบั โดยฝา่ ยงานตา่ งๆ มีบทบาท หนา้ ท่ี และความรับผดิ ชอบทเี่ ก่ยี วข้องกบั การบรหิ ารจดั การความเสยี่ งอย่างชัดเจน สรุปได้ดงั น้ี โครงสร้างองค์กร : ด้านการบรหิ ารความเสี่ยง การเชื่อมโยงทสี่ ำ�คัญ G ระดับกรรมการ การก�ำ หนดวตั ถปุ ระสงค์เชิงกลยทุ ธ์ (Board Level) การก�ำ หนดระดบั ความเส่ียงท่ยี อมรบั ได้ Governance ระดับจัดการ (Management Level) การเชื่อมโยงที่สำ�คัญ R ระดับปฏิบตั กิ าร การตอบสนองตอ่ ความเส่ยี ง (Operation Level) การก�ำ หนดกิจกรรมการควบคุม Enterprise Risk Management C Compliance นโยบาย หแลนกัวเปกฏณบิ ฑัต์/ิ กรระะบบวบนงกานาร/ บุคลากร เเคทรค่ือโนงมโลือย/ี กฎหมาย คณะจัดการ คณะกรรมการพจิ ารณาสินเชื่อ คณะกรรมการธนาคาร และคณะกรรมการ คณะกรรมการแก้ไขหนี้ ที่ได้รบั การแตง่ ตั้งจากคณะกรรมการธนาคาร คณะกรรมการบรหิ ารสินทรัพย์และหน้สี ิน เปน็ ต้น เช่น คณะกรรมการบริหารความเส่ียง คณะกรรมการตรวจสอบ เปน็ ตน้ Risk Ownership Risk Control Risk Assurance หน่วยงานที่กำ�กบั ดแู ล ธสน. (Regulator) ผ้ตู รวจสอบจากภายนอก (External Auditor) First Line of Defence: Second Line of Defence: Third Line of Defence: ฝา่ ยงานต่างๆ ฝา่ ยบรหิ ารความเส่ียง ฝา่ ยตรวจสอบ ซงึ่ เปน็ ผปู้ ฏิบตั ิงานประจ�ำ วนั และฝ่ายกำ�กับการปฏบิ ตั ิงาน หนา้ ท่ีและความรับผดิ ชอบ หน้าท่ีและความรบั ผิดชอบ หนา้ ทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ • สอบทานการปฏบิ ตั งิ านในภาพรวมของ • จัดทำ�ผลการประเมินความเส่ียงและ • จดั ท�ำ /ทบทวนกรอบบรหิ ารความเสยี่ ง ระบบงานตา่ งๆ และการปฏบิ ัตงิ านของ การควบคมุ ภายในของตนเอง (Risk and และการควบคุมภายในระดับภาพรวม ผู้รับผิดชอบระดับแรกและระดบั ที่สอง Control Self Assessment: RCSA) นโยบายการบรหิ ารความเสย่ี ง เครอ่ื งมอื • สอบทานการประเมนิ RCSA • ปฏิบัติงานในความรับผิดชอบให้เป็นไป ในการวดั ตดิ ตาม และรายงานความเสยี่ ง • ตรวจสอบการด�ำ เนนิ งานตามแผนงาน ตามกฎเกณฑท์ ก่ี �ำ หนดไว้มกี ารควบคมุ ที่เก่ียวขอ้ ง หรอื โครงการต่างๆ ภายใน และการจัดการความเส่ียงที่ • ใหค้ วามเหน็ ตอ่ ผลการประเมิน RCSA เหมาะสม • กำ�กับ ดูแล ติดตาม และควบคุมการ • ดำ�เนินการตามนโยบายฯ และข้ันตอน ปฏิบัติงานของธนาคารให้เป็นไปตาม การปฏิบตั ิงานตา่ งๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง กฎหมายและกฎเกณฑต์ า่ งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

80 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่อื การส่งออกและน�ำ เข้าแหง่ ประเทศไทย การบริหารความเสี่ยงดา้ นต่างๆ ของ ธสน. ในปี 2561 ธสน. จำ�แนกประเภทของการบริหารความเส่ยี งเป็น 7 ประเภท ดังน้ี ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี ค ว า ม เ สี่ ย ง ท่ี เ กิ ด จ า ก ก า ร กำ � ห น ด ความเสย่ี งทล่ี กู หนห้ี รอื คสู่ ญั ญาของ ธสน. สารสนเทศในการดำ�เนนิ ธรุ กิจ ซ่งึ จะมีผลกระทบ แผนธุรกิจ แผนดำ�เนินงาน และการนำ�ไป ไมส่ ามารถปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามสญั ญาทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ต่อระบบหรือการปฏิบัติงานของ ธสน. เช่น ปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมหรือไม่สอดคล้องกับ กับการให้สินเชื่อ การลงทุน และการก่อ การเปล่ียนแปลงสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี สภาพแวดล้อมภายในท่ีสำ�คัญ และสภาพ ภาระผกู พัน การบริหารจัดการโครงการด้านเทคโนโลยี แวดล้อมภายนอก อันอาจส่งผลกระทบ สารสนเทศ การใชบ้ รกิ ารจากผู้ใหบ้ รกิ ารภายนอก ต่อรายได้ เงินกองทุน และการดำ�รงอยู่ ด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ การรักษา ของ ธสน. ความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงความเสี่ยงท่ีเกิดจากภัยคุกคามทาง 7ดา้สนาเรทสคนโเนทโศลยี 1 ไซเบอร์ (Cyber Threat) เป็นตน้ ด้านกลยทุ ธ์ 2 ด้านเครดิต ความเส่ียงที่เกิดจากการท่ีสาธารณชน 6 3 ความเสี่ยงที่ ธสน. อาจได้รับ ได้แก่ ลูกค้า ค่คู ้า นักลงทุน และผ้กู �ำ กับดูแล ความเสียหายเนื่องจากการ รั บ รู้ ถึ ง ภ า พ ลั ก ษ ณ์ ใ น เ ชิ ง ล บ ห รื อ ข า ด ดา้ นชือ่ เสียง ดา้ นตลาด เปลี่ยนแปลงมูลค่าของฐานะ ความเช่อื มน่ั ใน ธสน. ซงึ่ อาจส่งผลกระทบ ท้ั ง ที่ อ ยู่ ใ น ง บ แ ส ด ง ฐ า น ะ ต่อรายได้ และ/หรือเงินกองทุนของ ธสน. 5ปฏดบิ ้าตั นกิ าร 4สภาดพา้ คนลอ่ ง ทางการเงิน และนอกงบดุล ท้ังในปัจจุบันและอนาคต ความเสี่ยงด้าน ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของ ชอ่ื เสยี งอาจเกดิ จากการปฏบิ ตั ทิ ไ่ี มส่ อดคลอ้ ง อตั ราดอกเบย้ี ราคาตราสารทนุ กับจรรยาบรรณ ความคาดหวงั ของสงั คม อัตราแลกเปลี่ยน และราคา หรือมาตรฐานการบริการของธุรกิจ หรือ สนิ คา้ โภคภณั ฑ์ ไม่เป็นไปตามข้อตกลง หรือการบริการ ท่ีไม่เปน็ มิตรกับลูกค้า ความเส่ียงที่อาจเกิดความเสียหายต่างๆ อันเน่ือง ความเส่ียงที่เกิดจากการที่ ธสน. ไม่สามารถชำ�ระ มาจากความไม่เพียงพอหรือความบกพร่องของ หนี้สินหรือภาระผูกพันเมื่อถึงกำ�หนด เนื่องจาก กระบวนการภายใน บุคลากร และระบบงานของ ไม่สามารถเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงินสดได้ หรือ ธสน. หรือเหตุการณ์ภายนอก รวมถึงความเส่ียง ไม่สามารถจัดหาเงินทุนได้เพียงพอ หรือสามารถ ด้านกฎหมาย (เช่น ความเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง จัดหาเงินทุนได้ แต่ด้วยต้นทุนท่ีสูงเกินกว่าระดับที่ หรือดำ�เนินคดีตามกฎหมาย ถูกทางการ สามารถยอมรับได้ ซ่ึงอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ เปรียบเทียบปรับ รวมท้ังความเสียหายท่ีได้รับ และเงนิ กองทุนของ ธสน. ทง้ั ในปัจจุบนั และอนาคต จากการตกลงกนั นอกชน้ั ศาล เป็นต้น)

รายงานประจ�ำ ปี 2561 81 ธนาคารเพอ่ื การส่งออกและนำ�เขา้ แห่งประเทศไทย ส�ำ หรับการบรหิ ารความเสย่ี งทสี่ ำ�คญั จำ�แนกตามประเภทความเสยี่ ง สามารถสรปุ ไดด้ ังนี้ 1.  ความเส่ียงดา้ นกลยุทธ์ (Strategic Risk) ในปี 2561 ธสน. เนน้ การจดั ท�ำ ก�ำกบั ดแู ล และตดิ ตามผลการบรหิ ารความเสยี่ งโดยบรู ณาการกบั แผนยทุ ธศาสตร์ และบนั ทกึ ขอ้ ตกลงการประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งานรฐั วสิ าหกจิ (Performance Agreement: PA) โดยน�ำเสนอคณะกรรมการ ที่เกี่ยวขอ้ งอย่างสมำ�่ เสมอ ซง่ึ ผลการด�ำเนนิ งานในปี 2561 อยู่ในระดบั ความเสี่ยงที่ยอมรบั ได้ โดยสามารถสรปุ การบรหิ าร ความเสยี่ งดา้ นกลยุทธ์ของ ธสน. ได้ดังนี้ นโยบาย •• การทบทวนกรอบการบริหารความเสี่ยงองค์กรและการควบคุมภายใน ตามแนวทาง COSO กระบวนการ Enterprise Risk Management 2017 (COSO ERM 2017) •• การทบทวนนโยบาย Governance, Risk and Compliance (GRC) ตามแนวทาง GRC Capability Model version 3.0 ของ Open Compliance and Ethics Group (OCEG) •• การทบทวนนโยบายการประเมินความเส่ียงและความเพียงพอของเงินกองทุนตามแนวทาง การกำ�กับดูแลเงินกองทุนโดยทางการ (Pillar 2) และการทดสอบภาวะวิกฤต (Internal Capital Adequacy Assessment Process and Stress Test Policy: ICAAP & Stress Test Policy) ตามประกาศ ธปท. ที่เก่ยี วข้อง •• การจัดทำ�หลักเกณฑ์การบริหารความเสี่ยงและคู่มือการบริหารความเส่ียง เพ่ือใช้เป็นแนวทาง การบริหารความเสีย่ งใหก้ บั ทุกฝา่ ยงาน •• การค�ำ นวณเงนิ กองทนุ ตอ่ สนิ ทรพั ยเ์ สย่ี งตามประกาศธปท.ทเ่ี กย่ี วขอ้ งเชน่ สกส.7/2559เรอ่ื งหลกั เกณฑ์ การกำ�กับดูแลเงินกองทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และ สกส.12/2559 เร่ือง หลักเกณฑ์ การด�ำ รงอตั ราสว่ นเงนิ กองทนุ ตอ่ ภาระผกู พนั ทเี่ กดิ จากการรบั ประกนั ความเสยี่ งของ ธสน. เปน็ ตน้ •• การประเมนิ ความเพยี งพอของเงนิ กองทนุ ภายใตก้ ระบวนการประเมนิ ความเสย่ี งและความเพยี งพอ ของเงินกองทุน (Internal Capital Adequacy Assessment Process: ICAAP) ทีส่ อดคลอ้ งกับ ลกั ษณะความเสยี่ ง (Risk Profile) และจัดทำ�แผนเงนิ กองทนุ (Capital Planning) โดยคำ�นงึ ถึง ความเสีย่ งท่ีอาจเกดิ ขึ้นภายใต้ภาวะปกติและภาวะวกิ ฤต แผนบรหิ าร การจัดทำ�แผนบริหารความเส่ียง (Risk Assessment Plan) ตามแผนธุรกิจประจำ�ปี และแผน ความเส่ียง บริหารความเส่ียงตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำ�เนินงานรัฐวิสาหกิจ แผนภูมิความเสี่ยง (Risk Map) ภาพรวมการบรหิ ารความเสย่ี ง (Portfolio View of Risk) ตามแนวทาง COSO ERM และระบบประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Performance Appraisal: SEPA) เคร่อื งมอื บรหิ าร •• การทบทวนดชั นชี ี้วดั ความเส่ียง (Key Risk Indicators: KRIs) ระดับความเสีย่ งทยี่ อมรบั ได้ (Risk ความเสี่ยง Appetite) และช่วงเบ่ียงเบนของระดับความเสี่ยงท่ียอมรับได้ (Risk Tolerance) ท้ังในลักษณะ ของตัวชว้ี ัดนำ� (Leading Indicators) และตัวชี้วัดตาม (Lagging Indicators) ทีเ่ หมาะสม •• การนำ�กระบวนการบริหารความเสี่ยงมารวมเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และ บรกิ าร และมกี ารตดิ ตามผลการใชบ้ ริการและข้อเสนอแนะของลกู ค้าทกุ กลุม่ เพ่ือน�ำ มาปรับปรงุ และพฒั นาผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากข้นึ การตดิ ตาม/รายงานผล เชน่ รายงานผลการดำ�เนินงานตามแผนบริหารความเสย่ี งตามแผนธุรกิจ รายงานผลการด�ำ เนนิ งาน การด�ำ เนนิ งาน ตามแผนบริหารความเส่ียงตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำ�เนินงานรัฐวิสาหกิจ รายงานดัชนีช้ีวัดความเส่ียงตามประเภทความเสี่ยง รายงานการประเมินความเพียงพอของ เงินกองทนุ เปน็ ต้น หมายเหตุ : COSO ย่อมาจาก The Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission

82 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่อื การสง่ ออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย 2.  ความเส่ยี งด้านเครดติ (Credit Risk) ในปี 2561 ธสน. เน้นการปรับปรุงเคร่ืองมือท่ีใช้ในการเตือนภัยความเส่ียงด้านเครดิต เช่น การปรับปรุงระบบ การเตอื นภยั ดา้ นเครดติ ลว่ งหนา้ (Credit Warning Sign) รายชอ่ื ลกู คา้ ทค่ี วรตดิ ตามหรอื ควรใหค้ วามสนใจเปน็ พเิ ศษ (Watch List) โดยเพมิ่ การน�ำ อตั ราสว่ นทางการเงนิ (Financial Ratio) เพอ่ื ใชใ้ นการเตอื นภยั ความเสย่ี งดา้ นเครดติ ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ดยี งิ่ ขึน้ และการจัดทำ�รายงานแนวโนม้ ลูกค้าท่ีจะถกู จัดช้ันเปน็ หนี้ท่ีไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Potential NPLs) เพื่อให้ฝา่ ยงาน ดา้ นการตลาดและฝา่ ยจดั การใชใ้ นการตดิ ตามและปอ้ งกนั มใิ หล้ กู หนก้ี ลายเปน็ หนท้ี ไ่ี มก่ อ่ ใหเ้ กดิ รายได้ (Non-performing Loans: NPLs) การทดสอบความเหมาะสมของแบบจำ�ลองการจัดอนั ดับความเสยี่ งด้านเครดิตของลูกคา้ (Credit Rating Model) และเพิ่มแบบจำ�ลองสำ�หรับลูกค้ารายย่อยและรายที่เพิ่งเริ่มดำ�เนินกิจการ เพื่อให้สะท้อนความเส่ียงของลูกหนี้ แตล่ ะประเภทไดด้ ยี ง่ิ ขน้ึ รวมทง้ั การเตรยี มความพรอ้ มในการค�ำ นวณการกนั เงนิ ส�ำ รองส�ำ หรบั ผลขาดทนุ ดา้ นเครดติ ทค่ี าดวา่ จะเกิดขนึ้ (Expected Credit Loss: ECL) ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงนิ ฉบับที่ 9 (Thai Financial Reporting Standard No. 9: TFRS 9) เปน็ ต้น นอกจากนี้ ยงั มกี ารพจิ ารณาขอ้ มลู จากสถาบนั การเงนิ และองคก์ รรบั ประกนั อน่ื มาใชป้ ระกอบการปรบั ปรงุ อ�ำ นาจ อนมุ ตั ดิ า้ นสนิ เชอ่ื และดา้ นรบั ประกนั เพอ่ื ให้กระบวนการพิจารณาธุรกรรมด้านสินเชื่อของ ธสน. รวดเร็ว และมีมาตรฐาน เทียบเคียงกับสถาบันการเงินและองค์กรรับประกันอื่น ตลอดจนให้ความสำ�คัญกับการกำ�กับดูแลความเส่ียงด้านเครดิต จากการออกผลติ ภณั ฑใ์ หม่ ซงึ่ ผลการด�ำ เนนิ งานในปี 2561 อยใู่ นระดบั ความเสยี่ งทย่ี อมรบั ได้ โดยสามารถสรปุ การบรหิ าร ความเส่ยี งด้านเครดิตของ ธสน. ได้ดังน้ี นโยบาย •• การทบทวนนโยบายการทำ�ธุรกรรมสินเชื่อ (Credit Policy) ที่ครอบคลุมธุรกรรมด้านสินเชื่อและ บริการประกัน โดยอ้างอิงตามแนวนโยบาย ธปท. เรื่อง การทำ�ธุรกรรมด้านสินเชื่อ การลงทุน กระบวนการ ในหลกั ทรัพย์ และการขายสนิ ทรพั ย์ของสถาบนั การเงนิ เฉพาะกจิ เครื่องมอื บริหาร •• การทบทวนนโยบายการสอบทานธุรกรรมด้านสินเช่ือ โดยอ้างอิงตามแนวนโยบาย ธปท. เร่ือง ความเสยี่ ง การสอบทานธรุ กรรมด้านสนิ เช่อื ของสถาบนั การเงนิ เฉพาะกจิ •• การทบทวนนโยบายการจำ�กัดความเส่ียงจากการกระจุกตัวด้านเครดิต โดยอ้างอิงตามประกาศ ธปท. เลขที่ ฝกฉ. (07) 46/2561 วันที่ 8 มิ.ย. 2561 เรื่อง การชแ้ี จงแนวทางการพิจารณาผ่อนผัน การให้สินเชื่อ ลงทุน ก่อภาระผูกพัน หรือทำ�ธุรกรรมที่มีลักษณะคล้ายการให้สินเชื่อเกินอัตรา ทีก่ ฎหมายก�ำ หนด •• ปรับปรุงโครงสร้างการอนุมัติวงเงิน/กระบวนการปฏิบัติงานด้านเครดิต เช่น การปรับปรุงอำ�นาจ อนุมัติสินเชื่อและทบทวนวงเงิน การควบคุมติดตามให้ลูกหนี้ใช้สินเชื่อหมุนเวียนให้เป็นไปตาม วัตถปุ ระสงค์ การปรับปรุงกระบวนการทบทวนวงเงิน เปน็ ตน้ •• ปรบั ปรงุ หลกั เกณฑก์ �ำ กบั ลกู หนร้ี ายใหญ่(SingleLendingLimit:SLL)ตอ่ รายตอ่ กลมุ่ Concentration Limit ตอ่ ประเทศ และ Concentration Guideline ตอ่ หมวดอตุ สาหกรรม รวมทง้ั ก�ำ หนดหลกั เกณฑ์ การกันเงินสำ�รองพิเศษเผ่ือความเสียหายสำ�หรับลูกค้ากลุ่มท่ีเกิน SLL/Concentration Limit และก�ำ หนดกระบวนการตดิ ตามราย/กลมุ่ •• ปรับปรุงเกณฑ์การคัดเลือกลูกค้าเข้าสู่ระบบ Credit Warning Sign และ Watch List •• การสอบทานกระบวนการปฏิบัติงานท่ีเก่ียวข้องกับการทำ�ธุรกรรมด้านสินเช่ือ (Credit Process) เช่น การวิเคราะห์ความสามารถในการชำ�ระคืนของลูกหน้ีตามระยะเวลาท่ีกำ�หนด การสอบทาน ความถูกต้องความครบถ้วนของนิติกรรมสัญญาที่เกี่ยวข้อง และการปฏิบัติตามคำ�อนุมัติ หลักเกณฑ์ และเง่อื นไขตา่ งๆ รวมถึงการสอบทานการจัดชน้ั ตามเกณฑ์คุณภาพ เป็นต้น •• การศึกษาแนวทางการปรับปรุงระบบการจัดอันดับความเส่ียงด้านเครดิตของลูกค้าเพ่ือประกอบ การพจิ ารณาสนิ เช่อื (Credit Rating System) •• การปรับปรุงระบบ Credit Warning Sign และ Watch List โดยเพ่ิมอัตราสว่ นทางการเงิน •• ระบบข้อมูลนิติบุคคลผ่านซอฟต์แวร์ ENLITE ออนไลน์ เพื่อเป็นเคร่ืองมือในการตรวจสอบ ความสัมพันธข์ องกลุม่ ลูกคา้ •• ระบบโครงการพัฒนารูปแบบบันทึกขออนุมัติเครดิตให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Credit Approval: e-CA) เพื่อลดระยะเวลาในการทบทวนวงเงินสนิ เชอื่

รายงานประจ�ำ ปี 2561 83 ธนาคารเพอื่ การส่งออกและนำ�เขา้ แห่งประเทศไทย การตดิ ตาม/รายงานผล เช่น รายงานพอร์ตด้านเครดิต รายงานการกระจุกตัวด้านเครดิตต่อราย/กลุ่มลูกค้า ต่อราย/ การด�ำ เนนิ งาน กลุ่มผู้ซื้อ/ธนาคารผู้ซื้อ หมวดอุตสาหกรรม และต่อประเทศ รายงานติดตามผลการใช้วงเงิน ของลูกค้า รายงาน Aging Overdue รายงานแนวโน้มลูกหน้ีที่จะกลายเป็นลูกหนี้ด้อยคุณภาพ (Non-performing Loans: NPLs) เพื่อลดโอกาสเกิด NPLs รายงานผลการสอบทานสินเช่ือ และรายงานผลการทดสอบภาวะวิกฤตด้านเครดิต (Credit Stress Test) เป็นต้น 3.  ความเส่ยี งด้านตลาด (Market Risk) ในปี 2561 ธสน. เนน้ การก�ำ กบั ดแู ลและบรหิ ารความเสย่ี งดา้ นตลาดใหท้ นั กบั การเปลย่ี นแปลงของตลาดการเงนิ โลก นอกจากน้ี ยงั เน้นการจัดสัมมนาโครงการบริหารความเสย่ี งด้านอตั ราแลกเปลย่ี น โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เสรมิ สร้างความรู้ ความเขา้ ใจเรอื่ งการปอ้ งกนั ความเสย่ี งดา้ นอตั ราแลกเปลย่ี นใหก้ บั ผสู้ ง่ ออก SMEs ทปี่ ระกอบธรุ กจิ การคา้ ระหวา่ งประเทศ และสนับสนุนให้ผู้ส่งออก SMEs มีประสบการณ์และสามารถใช้เครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวน ของคา่ เงินไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เพือ่ ตอบสนองนโยบายของรฐั บาล ซึง่ ผลการดำ�เนินงานในปี 2561 อยใู่ นระดบั ความเสยี่ งที่ ยอมรับได้ โดยสามารถสรุปการบริหารความเสี่ยงด้านตลาดของ ธสน. ได้ดังนี้ ความเส่ยี งด้านตลาด ความเส่ียง ความเสี่ยง ความเส่ียงดา้ นราคาตราสารทนุ ด้านอัตราดอกเบีย้ ดา้ นอัตราแลกเปล่ยี น และสนิ ค้าโภคภณั ฑ์ นโยบาย •• ทบทวนนโยบายการบริหารความเส่ียงด้านตลาดและนโยบายฐานะในบัญชีเพ่ือการค้าให้ ครอบคลมุ ทั้งในบญั ชเี พอื่ การธนาคาร (Banking Book) และในบัญชเี พือ่ การคา้ (Trading Book) กระบวนการ และอ้างอิงตามประกาศ ธปท. ที่ สกส. 10/2559 เรื่อง หลักเกณฑ์การกำ�กับดูแลความเสี่ยง เครอื่ งมือบริหาร ดา้ นตลาดและการคำ�นวณสินทรพั ย์เสีย่ งด้านตลาดของสถาบันการเงินเฉพาะกจิ ความเสี่ยง •• ธรุ กรรมในบญั ชเี พอ่ื การคา้ ธสน. คอื ธรุ กรรมทท่ี �ำ กบั ลกู คา้ ของ ธสน. และธรุ กรรมทที่ �ำ เพอื่ บรหิ าร การตดิ ตาม/ ความเส่ียงจากฐานะของลูกค้าเท่าน้ัน โดย ธสน. จะไม่ทำ�ธุรกรรมท่ีมีวัตถุประสงค์เพื่อเก็งกำ�ไร รายงานผล เพยี งอย่างเดียว การด�ำ เนนิ งาน •• กำ�หนดกลยุทธ์ในการบริหารความเส่ียงด้านตลาดครอบคลุมท้ังในบัญชีเพ่ือการธนาคาร และ ในบญั ชเี พอ่ื การคา้ โดยพจิ ารณาถงึ ตน้ ทนุ และผลตอบแทนทเ่ี หมาะสม •• การบรหิ ารพอรต์ การลงทนุ และควบคมุ ดแู ลการลงทนุ ใหอ้ ยภู่ ายใตว้ งเงนิ ลงทนุ รวมทงั้ สอดคลอ้ ง กบั หลกั เกณฑ์และขอบเขตของการลงทนุ ทไี่ ด้รับอนมุ ัติจากคณะกรรมการธนาคาร •• การทบทวนกระบวนการทดสอบภาวะวิกฤตสำ�หรับความเสี่ยงด้านตลาด ท้ังในบัญชีเพื่อการค้า และบัญชีเพื่อการธนาคาร โดยครอบคลุมความเส่ียงด้านอัตราดอกเบี้ย ด้านอัตราแลกเปลี่ยน และดา้ นราคาตราสารทนุ และสนิ คา้ โภคภัณฑ์ •• ระบบบริหารเงนิ (Treasury System) •• ระบบบริหารสินทรัพย์และหนี้สนิ (Asset Liability Management System: ALM) •• ระบบการจัดทำ�รายงานความเส่ียงด้านตลาด รวมถึงการกำ�หนดระดับเพดานความเส่ียง (Risk Limits) เช่น รายงานการติดตามความเหล่ือมกัน (Maturity Gap) ระหว่างอายุของสินทรัพย์และอายุของ หนี้สนิ รายงานผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงอัตราดอกเบย้ี (Interest Rate Sensitivity Analysis) ที่มีผลต่อดอกเบ้ียรับสุทธิ (Net Interest Income: NII) และท่ีมีผลต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจหรือ เงินกองทุน (Economic Value of Equity: EVE) รายงานผลการติดตามการดำ�รงฐานะเงินตรา ต่างประเทศรายสกุลและรวมทุกสกุล ณ ส้ินวันตามเกณฑ์ฯ ท่ีกำ�หนด รายงานผลการทดสอบ ภาวะวิกฤต เป็นตน้

84 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพอ่ื การส่งออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย 4.  ความเส่ยี งดา้ นสภาพคล่อง (Liquidity Risk) ในปี 2561 ธสน. เนน้ การกระจายแหล่งเงนิ ทนุ ผ่านการออกพันธบัตรสกลุ ดอลลาร์สหรัฐ ภายใตโ้ ครงการ Euro Medium Term Note (EMTN) การทบทวนนโยบาย หลักเกณฑ์ และเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ ันและสอดคล้องกบั แนวทางท่ี ธปท. ก�ำหนด โดย ธสน. มีการก�ำกับดูแลและตดิ ตามผลการบริหารความเส่ยี ง ด้านสภาพคล่องอย่างสม�่ำเสมอ ซ่ึงผลการด�ำเนินงานในปี 2561 อยู่ในระดับความเส่ียงที่ยอมรับได้ โดยสามารถสรุป การบรหิ ารความเสย่ี งดา้ นสภาพคลอ่ งของ ธสน. ไดด้ งั น้ี นโยบาย ทบทวนนโยบายการบริหารความเส่ียงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk Management Policy) โดยอ้างอิงตามแนวนโยบาย ธปท. เรื่อง การบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของสถาบันการเงิน เฉพาะกิจ ประกาศ ธปท. ท่ี 13/2559 เรื่อง หลักเกณฑ์การดำ�รงสินทรัพย์สภาพคล่องของสถาบัน การเงนิ เฉพาะกจิ กระบวนการ •• มีการบริหารและจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมระยะส้ัน ระยะปานกลาง และระยะยาวที่เหมาะสมกับ โครงสรา้ งของสนิ ทรพั ย์ เพอ่ื กระจายความเสยี่ ง และลดการพง่ึ พาแหลง่ เงนิ จากเจา้ หนเี้ พยี งบางราย หรือบางประเภทมากเกินไป โดยในปี 2561 ได้มีรูปแบบการระดมทุนระยะปานกลางโดยการ ออกตราสารแบบ Euro Medium Term Note (EMTN) เพอ่ื ความคลอ่ งตัวในการกู้ยืมในจ�ำ นวนที่ ไมส่ งู มาก และสามารถน�ำ ออกจ�ำ หนา่ ยเปน็ งวดๆ ไดไ้ มต่ อ้ งออกจ�ำ หนา่ ยทงั้ หมดภายในคราวเดยี ว •• ทบทวนแผนฉุกเฉินสภาพคล่อง และกระบวนการทดสอบภาวะวิกฤตสำ�หรับความเสี่ยงด้าน สภาพคลอ่ ง เครอื่ งมือบริหาร •• ระบบบริหารสนิ ทรัพยแ์ ละหนีส้ ิน (Asset Liability Management System: ALM) ความเสีย่ ง •• ระบบการจัดทำ�รายงานความเส่ียงด้านสภาพคล่อง รวมถึงการกำ�หนดระดับเพดานความเสี่ยง (Risk Limits) •• อัตราสว่ นและตวั กำ�หนดระดับความเส่ียงด้านสภาพคลอ่ ง เช่น อัตราสว่ นสภาพคลอ่ ง (Liquidity Ratio) ประมาณการกระแสเงินสุทธิ และประมาณการระดับสภาพคล่องในระยะส้ัน เพ่ือรองรับ ธุรกรรมประจำ�วัน อัตราส่วน Liquidity Coverage Ratio (LCR) เพ่ือพิจารณาความเพียงพอ ของสภาพคลอ่ งเพียงพอทจ่ี ะรองรบั ความผันผวนในภาวะวิกฤตไดเ้ ปน็ เวลา 30 วัน การตดิ ตาม/ เช่น รายงานฐานะสภาพคล่องสุทธิ รายงานประมาณการสภาพคล่องของธนาคาร รายงานติดตาม รายงานผล ผลการค�ำ นวณอตั ราสว่ นและตวั ก�ำ หนดระดบั ความเสย่ี งดา้ นสภาพคลอ่ ง รายงานฐานะสภาพคลอ่ ง การดำ�เนนิ งาน สุทธิตามสัญญา (Contractual Liquidity Gap) และตามพฤตกิ รรม (Behavioral Liquidity Gap) รายงานการกระจุกตัวของแหล่งเงิน และรายงานผลการทดสอบภาวะวิกฤตสำ�หรับความเสี่ยง ดา้ นสภาพคลอ่ ง

รายงานประจ�ำ ปี 2561 85 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและนำ�เข้าแห่งประเทศไทย 5.  ความเสี่ยงดา้ นปฏบิ ัตกิ าร (Operational Risk) ในปี 2561 ธสน. เนน้ การสรา้ งความตระหนกั และปลกู ฝงั ใหฝ้ า่ ยงานทเี่ ปน็ เจา้ ของความเสยี่ งเหน็ ความสำ�คญั และ น�ำ กระบวนการบรหิ ารความเสย่ี งมาใชเ้ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของกระบวนการปฏบิ ตั งิ านประจ�ำ วนั การปรบั ปรงุ และจดั ใหม้ กี ารซอ้ ม แผนฉุกเฉินภายใต้สถานการณ์จำ�ลองท่ีหลากหลาย เพ่ือให้ ธสน. สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเน่ือง การร่วมกับ ฝ่ายงานเจ้าของความเสี่ยงในการประเมินความเสี่ยงจากการใช้บริการของผู้ให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ (Business Facilitator) นอกจากน้ี ยังมีการปรบั ปรงุ การประเมนิ ความเสี่ยงและการควบคุมภายในของตนเองประจำ�ปี ใหส้ อดคล้องกบั หลกั เกณฑก์ ระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยมาตรฐานและหลกั เกณฑป์ ฏบิ ตั กิ ารควบคมุ ภายในส�ำ หรบั หนว่ ยงานของรฐั พ.ศ. 2561 รวมทัง้ ใหค้ วามสำ�คัญกับการรกั ษาข้อมูลสว่ นบุคคลของลูกค้าและผู้ใช้บรกิ าร โดยเมอ่ื วันท่ี 13 ธนั วาคม 2561 ส�ำ นกั งาน ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้เห็นชอบ นโยบายและแนวปฏิบตั ิในการคุ้มครองข้อมูลสว่ นบุคคลของ ธสน. ซึง่ ผลการดำ�เนนิ งานในปี 2561 อย่ใู นระดบั ความเสยี่ ง ทยี่ อมรบั ได้ โดยสามารถสรปุ การบรหิ ารความเสยี่ งด้านปฏิบัติการของ ธสน. ไดด้ ังนี้ นโยบาย •• ทบทวนนโยบายการบรหิ ารความเสยี่ งดา้ นปฏบิ ตั กิ าร และทบทวนนโยบายการบรหิ ารความตอ่ เนอ่ื ง ทางธุรกิจ (Business Continuity Management Policy: BCM Policy) ให้สอดคล้องกับ โครงสร้างองค์กร รูปแบบการด�ำ เนนิ ธรุ กิจ และสภาพแวดล้อมท่มี กี ารเปลีย่ นแปลงไป •• ทบทวนนโยบายการก�ำ กบั ดแู ลการใชบ้ รกิ ารจากผใู้ หบ้ รกิ ารสนบั สนนุ การประกอบธรุ กจิ (Business Facilitator Policy: BF Policy) โดยมุ่งเน้นกำ�กับดูแลการใช้บริการจากผู้ให้บริการสนับสนุน การประกอบธุรกิจในเร่ืองส�ำ คัญ 3 ดา้ น คอื การให้บริการลกู ค้าอย่างต่อเนอ่ื ง การคุม้ ครองลกู คา้ และการประเมินและการบรหิ ารความเสีย่ ง กระบวนการ •• ทบทวนหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติต่างๆ เช่น หลักเกณฑ์การควบคุมภายในตามหลัก COSO Internal Control (IC) และทบทวนระบบการประเมนิ ความเสีย่ งและการควบคมุ ภายในของตนเอง (Control Self-Assessment: CSA) แนวปฏบิ ตั ิ เรอ่ื ง การบรหิ ารความตอ่ เนอ่ื งทางธุรกิจ (BCM Procedure) และหลกั เกณฑก์ ารก�ำ กบั ดแู ลการใชบ้ รกิ ารจากผใู้ หบ้ รกิ ารสนบั สนนุ การประกอบธรุ กจิ •• ทบทวนกระบวนการรายงานขอ้ มลู ความเสยี หายทเ่ี กดิ จากความเสย่ี งดา้ นปฏบิ ตั กิ าร (Loss Data) และเหตุการณ์ทเี่ กดิ ขนึ้ แตส่ ามารถปอ้ งกนั ความเสยี หายไวไ้ ด้ (Near-misses) ธสน. มีการจัดทำ�/ทบทวนคู่มือปฏิบัติงานเพ่ือให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ทวั่ ทัง้ องคก์ ร และครอบคลุมกระบวนการปฏิบตั ิงานส�ำ คัญ คมู่ อื ปฏบิ ตั ิงาน เคร่อื งมอื บรหิ าร •• การจัดเกบ็ ขอ้ มูล Loss Data และ Near-misses และการประเมนิ ความเส่ยี งและ CSA ความเสีย่ ง •• การก�ำ หนดระดับเพดานความเสยี่ ง (Risk Limits) การตดิ ตาม/รายงานผล เช่น รายงาน Loss Data และ Near-misses รายงานผลการประเมินความเส่ียงและ CSA การด�ำ เนนิ งาน รายงานผลการซอ้ มแผน BCM รายงานการปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑแ์ ละกฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ ง และรายงาน การปฏิบัติตามกฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ งและจรยิ ธรรมของ ธสน.

86 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและน�ำ เขา้ แห่งประเทศไทย 6.  ความเสย่ี งด้านชอื่ เสียง (Reputational Risk) ในปี 2561 ธสน. เนน้ การสรา้ งความสัมพันธ์อนั ดกี บั หนว่ ยงานภายนอกท่เี ก่ียวขอ้ งทั้งภาครฐั และเอกชน รวมถึง ส่ือมวลชน รวมท้งั เพิม่ ช่องทางในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผา่ นโซเชยี ลมเี ดยี ส่ือดจิ ทิ ลั รวมถึง Facebook ตลอดจน ดแู ลการบรหิ ารจดั การขอ้ รอ้ งเรยี น เพอื่ ก�ำ กบั ดแู ลการบรหิ ารความเสย่ี งดา้ นชอื่ เสยี ง โดยในปี 2561 ไมม่ เี หตกุ ารณห์ รอื ขา่ ว ในเชงิ ลบเกย่ี วกบั องคก์ รทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกช่ อื่ เสยี งของ ธสน. โดยสามารถสรปุ การบรหิ ารความเสย่ี งดา้ นชอ่ื เสยี ง ของ ธสน. ได้ดังนี้ กรอบการ ทบทวนกรอบการบริหารความเสีย่ งองคก์ รและการควบคุมภายใน (Enterprise Risk Management บรหิ ารความเสย่ี ง and Internal Control Framework) (ครอบคลุมการบริหารความเสี่ยงด้านชื่อเสยี ง) โดยอ้างอิงตาม ประกาศ ธปท. ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง กระบวนการ ทบทวนกระบวนการจัดการข้อร้องเรียน/ข้อเสนอแนะของบุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกเกี่ยวกับ การให้บริการและคุณภาพของการให้บริการโดยรวม โดยให้ความสำ�คัญกับการป้องกันการทุจริต และประพฤตมิ ชิ อบ เพื่อใหธ้ นาคารมีความโปร่งใสและเป็นทีเ่ ชื่อม่ันและไว้วางใจของประชาชน เครอื่ งมอื บรหิ าร ทบทวนดชั นชี ว้ี ดั ความเสย่ี งดา้ นชอ่ื เสยี ง การส�ำ รวจความพงึ พอใจของลกู คา้ ตอ่ ธสน. การประชาสมั พนั ธ์ ความเสีย่ ง และการติดตามข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับองค์กร แจ้งให้ลูกค้า บุคคล และนิติบุคคลภายนอกทราบ การตดิ ตาม/ อย่างตอ่ เนอื่ ง รวมถึงข้อมูลและข่าวสารทีเ่ ผยแพรใ่ นสอื่ ภายนอกตา่ งๆ รายงานผล รายงานผลการจัดการข้อร้องเรียน/ข้อเสนอแนะเสนอต่อคณะจัดการ และคณะกรรมการตรวจสอบ การด�ำ เนนิ งาน อย่างสมำ�่ เสมอ และรายงานเบาะแสการทุจริต 7.  ความเส่ยี งด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology Risk) ในปี 2561 ธสน. เนน้ การจดั ท�ำ นโยบาย หลกั เกณฑ์ และคมู่ อื ปฏบิ ตั งิ านเรอ่ื งการบรหิ ารความเสยี่ งดา้ นเทคโนโลยี สารสนเทศ เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั ทิ ี่ ธปท. ก�ำ หนด รวมทงั้ บรู ณาการกระบวนการบรหิ ารความเสยี่ ง ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศใหเ้ ป็นส่วนหนึง่ ของกระบวนการปฏบิ ัติงานประจำ�วนั โดยมุ่งเน้นการประเมนิ และบริหารจดั การ ความเส่ียงของโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศต่างๆ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศสำ�หรับระบบโครงสร้าง พน้ื ฐานและระบบงานส�ำ คญั เชน่ ศนู ยข์ อ้ มลู (Data Center) ระบบการหกั บญั ชเี ชค็ ดว้ ยภาพเชค็ และระบบการจดั เกบ็ ภาพเชค็ (Imaged Cheque Clearing and Archive System: ICAS) และระบบบาทเนต (Bank of Thailand Automated High-value Transfer Network: BAHTNET) และการใช้บรกิ ารจากผ้ใู ห้บรกิ ารภายนอกดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (IT Outsourcing) รวมถึงจัดให้มีกิจกรรมการควบคุมและการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อขอรับใบรับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001:2013 เป็นต้น ซึ่งผลการดำ�เนินงานในปี 2561 อยู่ในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยสามารถสรุป การบรหิ ารความเสยี่ งดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศของ ธสน. ไดด้ ังนี้

รายงานประจ�ำ ปี 2561 87 ธนาคารเพอื่ การส่งออกและนำ�เข้าแหง่ ประเทศไทย นโยบาย จัดทำ�นโยบายการบริหารความเส่ียงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยอ้างอิงตามประกาศ ธปท. ที่ สนส. 19/2560 เรื่อง หลักเกณฑ์การกำ�กับดูแลความเส่ียงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Risk) ของสถาบันการเงิน และแนวปฏิบัติในการบริหารความเส่ียงด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ กระบวนการ •• จัดทำ�หลักเกณฑ์และคมู่ ือการปฏบิ ัตงิ าน เร่ือง การบริหารความเส่ยี งด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ •• ทบทวนข้ันตอนการปฏิบัติงาน การประเมินความเสย่ี งจากการใชบ้ รกิ ารจากผใู้ หบ้ ริการภายนอก ด้านงานเทคโนโลยสี ารสนเทศ •• จดั ใหม้ กี ระบวนการประเมนิ ความเสย่ี งดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศทว่ั ทงั้ องคก์ ร รวมถงึ การประเมนิ ความเส่ียงโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศสำ�คัญ และการประเมินความเส่ียงด้านความม่ันคง ปลอดภัยสารสนเทศสำ�หรับระบบโครงสรา้ งพืน้ ฐานและระบบงานส�ำ คญั เครอ่ื งมอื บรหิ าร •• การจัดเก็บข้อมูลความเสียหายท่ีเกิดจากความเส่ียงด้านปฏิบัติการ (Loss Data) และข้อมูล ความเสี่ยง เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนแต่สามารถป้องกันความเสียหายไว้ได้ (Near-misses) และการประเมิน ความเสี่ยงและการควบคมุ ภายในของตนเอง (Control Self-Assessment: CSA) ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ •• การกำ�หนดระดับเพดานความเสยี่ ง (Risk Limits) การตดิ ตาม/รายงานผล เช่น รายงานผลการประเมินความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับองค์กรและระดับปฏิบัติการ การด�ำ เนนิ งาน รายงานติดตามผลการปฏิบัติตามแผนการปรับปรุงการควบคุมภายในของตนเองของ ธสน. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และรายงาน Loss Data และ Near-misses ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ความเพียงพอของเงินกองทนุ ธสน. ภายใต้กฎกระทรวง ธสน. ด�ำรงเงนิ กองทนุ ขน้ั ตำ่� เพอื่ รองรบั สนิ ทรพั ยเ์ สยี่ งและภาระผกู พนั ดา้ นสนิ เชอื่ ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 8 และเงนิ กองทนุ ข้ันต�ำ่ เพอ่ื รองรบั ภาระผกู พันท่เี กดิ จากการรบั ประกันความเส่ียงไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 20 ซ่ึงมรี ายละเอยี ดของความเพยี งพอ ของเงินกองทนุ ตามกฎกระทรวงอยใู่ นหมายเหตุประกอบงบการเงิน ธสน. ภายใตเ้ กณฑ์ ธปท. ธสน. ด�ำรงเงินกองทุนขั้นต�่ำเพ่ือรองรับสินทรัพย์เส่ียงส�ำคัญทั้ง 3 ด้าน คือ ความเส่ียงด้านเครดิต ความเส่ียง ด้านตลาด และความเส่ียงด้านปฏิบัติการ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 8.5 ซึ่งมีรายละเอียดของความเพียงพอของเงินกองทุน ตามเกณฑ์ที่ ธปท. ก�ำหนดอยใู่ นหมายเหตปุ ระกอบงบการเงิน

88 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและน�ำ เขา้ แหง่ ประเทศไทย การควบคมุ ภายในและการตรวจสอบภายใน การควบคมุ ภายใน ธสน. ได้ตระหนักถึงและให้ความส�ำคัญกับระบบการควบคุมภายในท่ีดี ซ่ึงเป็นระบบท่ีสร้างความมั่นใจให้กับ คณะกรรมการธนาคารและฝา่ ยจดั การในการลดความเสย่ี งดา้ นการปฏบิ ตั งิ าน เพอ่ื ใหก้ ารก�ำกบั ดแู ลและการตดิ ตามเปน็ ไป อย่างต่อเน่ือง รวมถึงมุ่งเน้นการจัดวางระบบการควบคุมภายในให้ครอบคลุมการด�ำเนินงานทุกด้านอย่างเพียงพอและ เหมาะสม เพอื่ สรา้ งความมน่ั ใจอยา่ งสมเหตสุ มผลวา่ ธสน. จะบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคด์ า้ นการด�ำเนนิ งาน ดา้ นการรายงาน และ ดา้ นการปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับตา่ งๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง อีกทั้งมีคณะกรรมการตรวจสอบท�ำหน้าท่ีสอบทาน ประสิทธิผลและความเพียงพอของกระบวนการควบคุมภายในที่จัดท�ำโดยฝ่ายจัดการของ ธสน. และรายงานผลการ ก�ำกบั ดแู ล ธสน. ใหค้ ณะกรรมการธนาคารรับทราบอย่างสม�ำ่ เสมอ ในปี 2561 ธสน. ไดด้ �ำเนนิ การจดั วางระบบการควบคมุ ภายในทเี่ หมาะสมและเพยี งพอ และประเมนิ ผลการควบคมุ ภายในตามหลกั เกณฑก์ ระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยมาตรฐานและหลกั เกณฑป์ ฏบิ ตั กิ ารควบคมุ ภายในส�ำหรบั หนว่ ยงานของรฐั พ.ศ. 2561 โดยครอบคลุมองค์ประกอบ 5 ประการ ดงั น้ี 1.  สภาพแวดลอ้ มของการควบคมุ ธสน. มรี ะเบยี บวา่ ด้วยการป้องกันการขดั แยง้ ทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest) รวมทั้งบทลงโทษทางวนิ ัย เมื่อมกี ารกระท�ำท่ีฝา่ ฝืนนโยบาย ขอ้ บังคับ และระเบียบทเ่ี ก่ยี วขอ้ งไวเ้ ป็นลายลกั ษณอ์ ักษร โดยผบู้ ริหารไดส้ ่อื สารเก่ียวกับ หลักเกณฑ์และระเบียบดังกล่าวให้พนักงานได้รับทราบอย่างทั่วถึง มีการปรับโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจ ซึ่งมีผลบังคับใช้โครงสร้างองค์กรรูปแบบใหม่อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มกราคม 2561 เพื่อให้ม่ันใจว่าการขับเคล่ือน แผนงานตามแผนธรุ กจิ จะสามารถบรรลไุ ดต้ ามเปา้ หมาย มกี ารพจิ ารณาถงึ ความเปน็ ไปไดข้ องการตง้ั เปา้ หมายในการด�ำเนนิ ธรุ กจิ ทช่ี ดั เจนและเหมาะสม รวมทง้ั มกี ารสอ่ื สารเกยี่ วกบั นโยบายและเปา้ หมายในการด�ำเนนิ ธรุ กจิ ใหพ้ นกั งานไดร้ บั ทราบ อย่างทั่วถึง มีแผนการพัฒนาศักยภาพพนักงานตามแผนอบรมและพัฒนา (Training and Development Roadmap) และแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan: IDP) เพื่อฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่าง สม่�ำเสมอ โดยในปี 2561 ธนาคารมุ่งเน้นให้มีการจัดอบรมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management) เชน่ หลกั สูตรทกั ษะการสอนแนะ (Coaching) ส�ำหรับผบู้ รหิ าร หลกั สูตรพัฒนาทักษะดา้ นสนิ เช่ือ (Core Credit Skills Development) ส�ำหรับพนักงานสายการตลาด และโครงการสัมมนาเพื่อพัฒนาการท�ำงานร่วมกันเป็นทีม (Team Building: Driving Core Values) ส�ำหรบั บคุ ลากรทุกฝ่ายงาน เพอื่ ให้สอดคลอ้ งกับการปรบั โครงสรา้ งองค์กร มีการ วา่ จ้างบรษิ ัททปี่ รึกษาเพือ่ ส�ำรวจความพงึ พอใจของลูกคา้ และ/หรอื ผู้รับบริการ และมกี ารจัดท�ำคมู่ ือการก�ำกับดแู ลกจิ การ ท่ดี ี (Corporate Governance: CG) รวมทงั้ คู่มือการแสดงความรับผิดชอบต่อสงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม (Corporate Social Responsibility: CSR) เพอ่ื เปน็ แนวทางการก�ำกบั ดแู ลกจิ การทด่ี ี เปน็ แนวทางธรรมาภบิ าลของ ธสน. รวมถงึ ความรบั ผดิ ชอบ ขององคก์ รตอ่ สงั คมและสิ่งแวดล้อม 2.  การประเมนิ ความเส่ยี ง ธสน. มกี ารระบคุ วามเสยี่ งซง่ึ สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายทสี่ �ำคญั ทจี่ �ำแนกตามแผนธรุ กจิ และจ�ำแนก ตามบนั ทกึ ขอ้ ตกลงการประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งานรฐั วสิ าหกจิ (Performance Agreement: PA) โดยใหท้ กุ ฝา่ ยงานประเมนิ ความเสี่ยงโดยพิจารณาจากโอกาส (Likelihood) และผลกระทบ (Impact) ของปัจจัยเส่ียงต่างๆ ท่ีมีผลต่อการบรรลุ เป้าหมายตามแผนธุรกิจและตาม PA โดยครอบคลุมตั้งแต่การประเมินความเส่ียงก่อนการควบคุม (Inherent Risk) ความเสย่ี งหลงั การควบคุม (Residual Risk) และความเส่ยี งเป้าหมาย (Target Risk) อกี ทัง้ ก�ำหนดให้ฝ่ายงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันวิเคราะห์สาเหตุของความเส่ียง เพื่อก�ำหนดกิจกรรมการควบคุมเพ่ือป้องกันหรือลดความเส่ียง มีการส่ือสารและ จัดอบรมหลักสูตรด้านการบริหารความเสี่ยงให้กับบุคลากรที่เก่ียวข้อง เพื่อให้เกิดความตระหนักและรับทราบถึงแนวทาง การประเมินความเสี่ยงและการก�ำหนดกิจกรรมการควบคุมเพ่ือป้องกันหรือลดความเสี่ยงอย่างสม่�ำเสมอ มีการก�ำหนด

รายงานประจ�ำ ปี 2561 89 ธนาคารเพือ่ การสง่ ออกและนำ�เขา้ แหง่ ประเทศไทย นโยบายในการบริหารความเส่ียงด้านต่างๆ ตลอดจนติดตามผลการปฏิบัติงานตามกิจกรรมการควบคุมท่ีก�ำหนดไว้ อย่างเหมาะสม มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาส�ำหรับโครงการบริหารความเส่ียงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือให้ ธสน. มี แนวปฏบิ ตั ใิ นการบรหิ ารความเสย่ี ง การประเมนิ ความเสยี่ งและกระบวนการก�ำกบั ดแู ลความเสย่ี งดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ที่ครบถว้ นทัง้ ในระดับองค์กรและระดบั ปฏิบัติการ และสอดคล้องกบั เกณฑท์ ธี่ นาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก�ำหนด 3.  กจิ กรรมการควบคุม ธสน. ก�ำหนดกจิ กรรมการควบคมุ เพอื่ ใหพ้ นกั งานน�ำไปใชใ้ นการลดหรอื ควบคมุ ความเสยี่ งอยา่ งเหมาะสมเพยี งพอ อาทิ การก�ำหนดระดบั และขอบเขตของอ�ำนาจหนา้ ทใ่ี นการท�ำรายการ/การอนมุ ตั ริ ายการอยา่ งชดั เจนเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร การก�ำหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการสอบทานอย่างสม�่ำเสมอ การแบ่งแยกหน้าที่เพ่ือป้องกันหรือลดความเส่ียงจาก ขอ้ ผดิ พลาดหรอื การทจุ รติ การก�ำหนดระเบยี บและคมู่ อื ปฏบิ ตั งิ านทคี่ รอบคลมุ กระบวนการปฏบิ ตั งิ านทสี่ �ำคญั อยา่ งชดั เจน เป็นลายลักษณ์อักษรและทบทวนเป็นระยะๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ มีมาตรการติดตามและตรวจสอบให้การ ด�ำเนนิ งานของ ธสน. เปน็ ไปตามกฎหมายและระเบยี บทเ่ี กย่ี วขอ้ ง การก�ำหนดและทบทวนระดบั สทิ ธใิ นการเขา้ ถงึ ระบบงาน และการท�ำรายการ/การอนมุ ตั ริ ายการของพนกั งาน รวมถงึ การควบคมุ ความปลอดภยั ระบบสารสนเทศทส่ี �ำคญั เพอ่ื ปอ้ งกนั มใิ หบ้ คุ คลทไ่ี มไ่ ด้รบั อนญุ าตสามารถเข้าถึงระบบคอมพวิ เตอร์และข้อมูลในระบบคอมพิวเตอรข์ อง ธสน. การประสานงาน กับหน่วยงานต่างๆ ท้ังภายในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงานใน ธสน. เพ่ือให้ได้รับข้อมูลท่ีถูกต้องและทันเวลา รวมท้ัง การประสานงานกบั หนว่ ยงานภายนอกเพอ่ื จดั สง่ ขอ้ มลู /รายงานไดต้ รงตามเวลาทกี่ �ำหนด มกี ารปรบั ปรงุ และเสนอกจิ กรรม การควบคุมใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างสม�่ำเสมอ เพ่ือให้สอดคล้องกับ การปรับโครงสร้างองค์กรและการปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานตามแผนธุรกิจประจ�ำปี รวมถึงจัดให้มีการซ้อมแผน การบรหิ ารความต่อเนื่องทางธุรกจิ (Business Continuity Management: BCM) เพ่ือรองรบั กรณีเกิดเหตฉุ กุ เฉนิ 4.  สารสนเทศและการสือ่ สาร ธสน. มีสารสนเทศที่จ�ำเป็นต่อการวางแผนและตัดสินใจท่ีมีความถูกต้องและทันต่อเวลา อีกท้ังอยู่ระหว่างการ พฒั นาฐานขอ้ มลู ดงั กลา่ วใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ อาทิ โครงการ Data Warehouse เพอื่ รองรบั การจดั เกบ็ ขอ้ มลู จากภายใน และออกแบบรปู แบบการน�ำเสนอขอ้ มลู ตามความตอ้ งการของผใู้ ชง้ าน มรี ายงาน/สารสนเทศทที่ �ำใหร้ วู้ า่ กจิ กรรมการควบคมุ ทกี่ �ำหนดไวม้ กี ารด�ำเนนิ การไปตามทคี่ วรจะเปน็ อยา่ งเหมาะสมมากยง่ิ ขนึ้ รวมทง้ั ปรบั เปลย่ี นรายงาน/สารสนเทศทต่ี อ้ งการ ให้สอดคล้องกับกิจกรรมการควบคุมท่ีเปล่ียนแปลงไปอย่างเหมาะสม มีการส่ือสารให้ผู้ท่ีเก่ียวข้องได้รับทราบถึงกิจกรรม การควบคมุ และใชป้ ระโยชนจ์ ากรายงาน/สารสนเทศดงั กลา่ วอยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม มกี ารก�ำหนดชอ่ งทางในการสอ่ื สาร ทห่ี ลากหลายเพอื่ ใหม้ กี ารสอ่ื สารไปยงั ผทู้ ตี่ อ้ งไดร้ บั รายงาน/สารสนเทศอยา่ งถกู ตอ้ งและทนั เวลา มฐี านขอ้ มลู ในการแบง่ ปนั ความรู้ในระบบจัดการองค์ความรู้ภายใน ธสน. (Knowledge Management: KM) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงาน ได้รับทราบนโยบายและข้อมูลข่าวสารต่างๆ อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ นอกจากนี้ยังจัดให้มีช่องทางการรับฟัง ข้อร้องเรียนทั้งจากภายในและจากภายนอก เพ่ือหาวิธีการในการแก้ไขและปรับปรุงให้การปฏิบัติงานและการให้บริการ ของ ธสน. มปี ระสิทธภิ าพยิ่งข้นึ 5.  การติดตามประเมินผล ธสน.ก�ำหนดนโยบาย/ขน้ั ตอนการตดิ ตามและก�ำกบั ดแู ลการปฏบิ ตั งิ านในแตล่ ะกจิ กรรมอยา่ งตอ่ เนอื่ งมกี ารปรบั ปรงุ และแก้ไขข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิงานท่มี ขี อ้ บกพร่องอยา่ งเหมาะสม อีกท้งั มมี าตรการแก้ไขอย่างรวดเร็วหากผลการด�ำเนินงาน ต่างจากเปา้ หมายทก่ี �ำหนด มกี ารประเมนิ /ตดิ ตามผลการด�ำเนนิ กจิ กรรมและความคืบหน้าของการควบคุมภายใน รวมท้ัง ตอบสนองต่อข้อเสนอแนะของผู้ตรวจสอบภายในและผู้ตรวจสอบภายนอกอย่างเหมาะสม และรายงานให้ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บรหิ ารระดบั สูงและคณะกรรมการธนาคารทราบอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทงั้ นี้ จากรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบปี 2561 มคี วามเหน็ วา่ ธสน. มรี ะบบการควบคมุ ภายในทเ่ี พยี งพอ และเหมาะสมกบั การด�ำเนินงาน

90 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพอ่ื การส่งออกและน�ำ เข้าแหง่ ประเทศไทย การตรวจสอบภายใน การตรวจสอบภายในของ ธสน. เปน็ กระบวนการปฏบิ ัติงานเพื่อให้ความเช่ือม่ัน (Assurance Service) และการให้ ค�ำปรกึ ษา (Consulting Service) อยา่ งเทยี่ งธรรมและเปน็ อสิ ระ ดว้ ยการประเมนิ และปรบั ปรงุ ประสทิ ธผิ ลของกระบวนการ บริหารความเส่ียง การควบคุมภายใน และการก�ำกับดูแลภายใน ธสน. อย่างเป็นระบบและเป็นระเบียบ เพ่ือเพ่ิมคุณค่า และปรับปรงุ การด�ำเนนิ งานของ ธสน. ใหบ้ รรลุเป้าหมายท่กี �ำหนด โดยยึดแนวปฏิบตั ิตามมาตรฐานสากลการปฏิบัติงาน วชิ าชพี การตรวจสอบภายใน รวมถงึ ระเบยี บกระทรวงการคลังว่าดว้ ยคณะกรรมการตรวจสอบและหน่วยตรวจสอบภายใน ของรัฐวสิ าหกิจ พ.ศ. 2555 และคมู่ อื การปฏิบตั ิงานการตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจปี 2555 ในปี 2561 ฝา่ ยตรวจสอบปฏบิ ัติงานตรวจสอบภายในตามกรอบการปฏิบัตงิ าน ดงั นี้ คุณสมบตั ิของผตู้ รวจสอบภายใน ผตู้ รวจสอบภายในของ ธสน. ทุกคนมีคณุ วฒุ ติ ั้งแต่ระดบั ปรญิ ญาตรีข้ึนไป และ ธสน. ได้สง่ เสรมิ และสนับสนุนให้ ผู้ตรวจสอบภายในได้รับความรู้ ทักษะ และพฒั นาความสามารถต่างๆ ทีจ่ �ำเปน็ ตอ่ การปฏบิ ัติหน้าทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมาย เพื่อ ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเชี่ยวชาญและความระมัดระวังรอบคอบตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยก�ำหนดให้ ผู้ตรวจสอบภายในพัฒนาความรู้ความสามารถด้วยตนเองอย่างต่อเน่ือง ควบคู่ไปกับการส่งเข้ารับการอบรมไม่น้อยกว่า 40 ช่ัวโมงต่อคนต่อปี ปัจจุบันผู้ตรวจสอบภายในของ ธสน. ได้รับวุฒิบัตรวิชาชีพรวมท้ังสิ้น 3 วุฒิบัตร ได้แก่ วุฒิบัตร ผตู้ รวจสอบภายในระบบสารสนเทศรบั อนญุ าต (Certified Information Systems Auditor: CISA) และวฒุ บิ ตั รผตู้ รวจสอบ ระบบการบริหารจัดการความม่ันคงปลอดภัยสารสนเทศ (Certified Information Security Management Systems Auditor/Lead Auditor ISO/IEC 27001:2013) จ�ำนวน 1 คน และวุฒิบัตรผู้ตรวจสอบภายในวิชาชีพของประเทศไทย (Certified Professional Internal Auditors of Thailand: CPIAT) จ�ำนวน 3 คน โครงสรา้ งฝ่ายตรวจสอบ ธสน. ได้ให้ความส�ำคัญและส่งเสริมความเป็นอิสระของผู้ตรวจสอบภายใน โดยฝ่ายตรวจสอบมีโครงสร้าง การบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบ และการบริหารงานทั่วไปข้ึนตรงต่อกรรมการผู้จัดการ ธสน. รวมทั้ง ได้ก�ำหนดบทบาทความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจนในกฎบัตรการตรวจสอบภายใน อีกทั้งทบทวนเป็นประจ�ำทุกปีและ เผยแพรใ่ หพ้ นักงาน ธสน. ทุกคนรบั ทราบ ความสัมพันธก์ บั ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตรวจสอบมีการหารือ การวางแผนการตรวจสอบ การรายงานผลการตรวจสอบ และการให้ค�ำแนะน�ำปรึกษา อย่างเป็นอิสระและเท่ียงธรรมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารหน่วยรับตรวจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประสานงานกับ ผู้สอบบญั ชเี พือ่ ใหส้ ามารถเข้าใจแผนงานและก�ำหนดขอบเขตการตรวจสอบภายในท่เี ป็นประโยชน์รว่ มกันตอ่ ธสน. หน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของฝา่ ยตรวจสอบ การปฏิบัติงานตรวจสอบภายในครอบคลุมการตรวจสอบประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการควบคุม ภายใน การบริหารความเสี่ยง และการก�ำกับดูแลท่ีดี รวมถึงความถูกต้องและความเชื่อถือได้ของข้อมูลทางการเงิน การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคับ วธิ ปี ฏบิ ัติงาน มติคณะรัฐมนตรี ประกาศ ค�ำสัง่ ท่ีเก่ียวข้องกับการด�ำเนนิ งาน ของ ธสน. และรายการทอ่ี าจมคี วามขดั แยง้ ทางผลประโยชน์ ทง้ั น้ี ไดก้ �ำหนดหนา้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบไวอ้ ยา่ งชดั เจนในกฎบตั ร การตรวจสอบภายในและสอ่ื สารใหพ้ นกั งาน ธสน. ทุกคนรบั ทราบ

รายงานประจ�ำ ปี 2561 91 ธนาคารเพอ่ื การสง่ ออกและนำ�เขา้ แห่งประเทศไทย การปฏิบัตงิ านและการรายงาน ฝ่ายตรวจสอบจัดท�ำแผนการตรวจสอบเชิงกลยุทธ์ แผนการตรวจสอบภายในประจ�ำปี และแผนการตรวจสอบใน รายละเอยี ดตามแนวทางการตรวจสอบตามฐานความเสย่ี ง (Risk-based Approach) ทมี่ งุ่ เนน้ การตรวจสอบในทกุ ประเดน็ โดยพจิ ารณาจากความเสยี่ งทสี่ �ำคญั ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธข์ อง ธสน. และเมอื่ ปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบเสรจ็ จะมีการรายงานผลการตรวจสอบต่อผู้บริหารหน่วยรับตรวจและผู้บริหารท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือให้มีการปรับปรุงแก้ไข การปฏบิ ตั งิ าน รวมทง้ั รายงานสรปุ ประเดน็ ส�ำคญั และการตดิ ตามผลการปรบั ปรงุ แกไ้ ขตามขอ้ เสนอแนะของหนว่ ยรบั ตรวจ เสนอคณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการผ้จู ดั การ ธสน. รายไตรมาส การรกั ษาคุณภาพงานของผู้ตรวจสอบภายใน ฝ่ายตรวจสอบจัดให้มีการประเมินคุณภาพงานตรวจสอบภายในตามมาตรฐานสากลการปฏิบัติงานวิชาชีพ การตรวจสอบภายในอย่างสม�่ำเสมอ โดยมีการประเมินคุณภาพภายหลังการปฏิบัติงานตรวจสอบโดยหน่วยรับตรวจ การประเมินตนเอง และประเมินโดยผู้ประเมินอิสระภายนอกทุก 5 ปี ท้ังนี้ ได้น�ำผลการประเมินมาวิเคราะห์เพ่ือปรับปรุง และพัฒนาการปฏิบัตงิ านตรวจสอบภายในอยา่ งต่อเนอื่ ง การบรหิ ารจดั การเทคโนโลยีสารสนเทศ แผนแมบ่ ท ธสน. ปี 2560-2570 ใหค้ วามส�ำ คญั กบั การน�ำ เทคโนโลยสี ารสนเทศมาเปน็ ปจั จยั ความส�ำ เรจ็ ประการหนงึ่ ในการปรบั เปลย่ี นองคก์ ร (Transformation) เพอ่ื สนบั สนนุ การขยายตวั ทางธรุ กจิ และรองรบั เทคโนโลยที เี่ ปลยี่ นแปลงอยา่ ง รวดเรว็ ในปี 2560 ทีผ่ ่านมา ธสน. ไดป้ รบั โครงสร้างองคก์ รในสายงานเทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยแบง่ เปน็ 2 ฝา่ ยงาน ไดแ้ ก่ 1.  ฝา่ ยบรหิ ารและพฒั นาเทคโนโลยสี ารสนเทศ ท�ำหนา้ ทวี่ างแผนวเิ คราะห์ และออกแบบโครงสรา้ งของระบบงาน ท่ีจะพัฒนา รวมทงั้ การทดสอบและควบคมุ คณุ ภาพตามมาตรฐาน ตลอดจนบริหารจัดการขอ้ มูลหลักขององคก์ ร 2.  ฝ่ายปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ ท�ำหน้าที่ก�ำกับดูแลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้เป็นไปตามแนวทาง การก�ำกับดูแลท่ีดี ดูแลการเช่ือมต่อผ่านเครือข่ายทั้งภายในองค์กรและกับหน่วยงานพันธมิตร รวมถึงการให้บริการด้าน ความพร้อมใชง้ านของระบบและสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับโครงขา่ ยเทคโนโลยีสารสนเทศของ ธสน. นอกจากนัน้ ในปี 2561 ฝา่ ยปฏิบตั ิการเทคโนโลยสี ารสนเทศได้เพิ่มส่วนรักษาความปลอดภยั เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพอ่ื ให้ ธสน. มสี ว่ นงานทร่ี บั ผดิ ชอบดา้ นการก�ำ หนดมาตรการในการรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ การควบคุมและการส่ือสารมาตรการต่างๆ ให้ระบบสารสนเทศของ ธสน. อยู่ในระดับท่ีปลอดภัย ช่วยลดความเสียหาย ต่อการดำ�เนินงาน ทรัพยส์ ิน บุคลากร และทำ�ให้ ธสน. สามารถดำ�เนินธรุ กิจไดอ้ ยา่ งม่ันคงปลอดภยั จากภัยคุกคามตา่ งๆ ด้านการกำ�หนดยุทธศาสตร์ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศนั้น ธสน. ได้มีการทบทวนแผนปฏิบัติการดิจิทัลระยะ 3 ปี ปี 2561-2563 (IT Master Plan) ใหส้ อดรับและสนบั สนนุ การดำ�เนินการตามยทุ ธศาสตรใ์ หม่ของแผนแม่บท ธสน. ปี 2560-2570 โดยมแี นวทางในการด�ำ เนินงาน ดงั น้ี ยุทธศาสตร์ท่ี 1 การพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศของ ธสน. เพื่อก�ำหนดกรอบการพัฒนา ระบบงานของ ธสน. ใหม้ กี ารพฒั นาในทศิ ทางเดยี วกนั โดยทงั้ ระบบงาน (Application) และการใชง้ าน (Function) ตอ้ งปรบั เขา้ หากันใหเ้ หมาะสมกับสภาพแวดลอ้ มของ ธสน.

92 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่อื การส่งออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) เพ่ือเพิ่ม ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงข่ายและทรัพยากร และสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับโครงข่ายสารสนเทศ ของ ธสน. ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือพัฒนา ความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่บุคลากรของ ธสน. รวมถึงเพิ่มปริมาณและคุณภาพของบุคลากรท่ีมี ทกั ษะสงู (Highly Skilled Professionals) ของหนว่ ยงานดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีและการส่ือสาร (Information and Communication Technology: ICT) ของ ธสน. อย่างมีธรรมาภบิ าล กรอบการด�ำเนินการตามหลกั ธรรมาภิบาลทีด่ ี (IT Governance) โดยสามารถด�ำเนินการตามกรอบมาตรฐาน ยุทธศาสตร์ท่ี 5 เพ่ิมบริการผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยระบบ e-Trading Ecosystem เพื่อเช่ือมต่อการค้า ของผปู้ ระกอบการไทยในอนาคตโดยเฉพาะผปู้ ระกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises: SMEs) ด้วยการให้บรกิ ารออนไลนค์ รบวงจรผา่ นพนั ธมติ รที่เข้มแข็ง ทง้ั น้ี รปู แบบแผนงานดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศปี 2561 ทกี่ ำ�หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตรข์ อง ธสน. แสดงใหเ้ หน็ ดงั แผนภาพดงั นี้ รูปแบบแผนงานดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศปี 2561 ทเี่ ปน็ ไปตามทิศทางของ ธสน. ทศิ ทางหลกั ของ ธสน. ยุทธศาสตร์ 5 กระบอกสบู ประกอบด้วย 3 กระบอกสูบหลกั 2 กระบอกสูบรอง A Market Maker 3 1 ABE 5 CD สร้างอุปสงค์ปลายทาง เพ่ือ เปดิ โอกาสการคา้ และการลงทนุ Effectiveness การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาระบบงาน บริการผ้ปู ระกอบการไทย ในประเทศใหม่ มีประสทิ ธผิ ล ให้มีความรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านชอ่ งทาง ความสามารถ ออนไลนด์ ว้ ย B National Investment Efficiency ด้านเทคโนโลยี ของธนาคาร มปี ระสทิ ธิภาพ สารสนเทศ เพื่อก�ำ หนดกรอบการพัฒนา e-Trading Ecosystem Advisor Confidentiality การเช่อื มตอ่ การค้า เป็น Deal Maker แห่งชาติท่ี เพ่อื พฒั นาความรู้ ระบบงานของธนาคาร ของผปู้ ระกอบการไทย เสาะหา Deal พร้อมทั้งให้การ ปลอดภยั และทกั ษะดา้ น ICT ให้มกี ารพัฒนาในทิศทาง สนับสนนุ เตม็ รปู แบบ และเปน็ ความลบั เดียวกัน โดยท้ัง Application ในอนาคตโดยเฉพาะ SMEs แก่บุคลากร ด้วยการใหบ้ รกิ ารออนไลน์ C Integrated Insurer Integrity ของธนาคาร และ Function ครบวงจรผ่านพันธมติ ร แม่นย�ำ ถกู ตอ้ ง รวมถงึ เพม่ิ ต้องปรบั เข้าหากนั เปล่ียนคู่แข่งให้เป็นพันธมิตร และเชื่อถอื ได้ Highly Skilled ให้เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ ม ที่เขม้ แข็ง เพื่อใช้ช่องทางจำ�นวนมากท่ี Availability Professionals มีอยู่ในการขยายตลาดประกนั ความพร้อม ของหนว่ ยงานด้าน ของธนาคาร ใชง้ านทันกาล เทคโนโลยีสารสนเทศ D e-Trading Ecosystem 2D สนับสนุนผู้ประกอบการไทย การพฒั นาโครงสร้างพน้ื ฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้สามารถทำ�การค้าระหว่าง เพอ่ื เพ่ิมประสทิ ธภิ าพในการบรหิ ารจัดการโครงขา่ ยและทรพั ยากร ประเทศไดผ้ า่ นชอ่ งทางออนไลน์ และสร้างความมนั่ คงปลอดภยั ใหก้ ับโครงข่ายสารสนเทศของธนาคาร E Hi-P SMEs Accelerator 4 ใหค้ วามรู้ รว่ มลงทนุ หรอื ปลอ่ ย การบรหิ ารจัดการระบบ ICT ของธนาคารอยา่ งมธี รรมาภิบาล เงินกู้ผ่านหลักสูตรบ่มเพาะให้ กรอบการด�ำ เนนิ การของ IT Governance ท่ดี ี โดยสามารถด�ำ เนนิ การตามกรอบมาตรฐาน Hi-PSMEsเพอ่ื สรา้ งนวตั กรรม และขยายตลาดไปตา่ งประเทศ

รายงานประจ�ำ ปี 2561 93 ธนาคารเพอื่ การส่งออกและนำ�เขา้ แห่งประเทศไทย ผลการด�ำเนินงานท่สี �ำคญั ในปี 2561 ธสน. ได้มีการดำ�เนนิ งานทางด้านเทคโนโลยที สี่ �ำ คัญ ไดแ้ ก่ 1.  โครงการบริหารจัดการความเส่ียงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Risk) เพื่อกำ�หนดหลักเกณฑ์ นโยบาย และแนวทางปฏิบัติของ ธสน. ให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติในการบริหารความเส่ียงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Risk Management Implementation Guideline) ที่ออกโดย ธปท. 2.  โครงการจัดหาบริการอุปกรณ์เครือข่าย (Network Equipment Service) เพ่ือปรับปรุงประสิทธิภาพระบบ เครอื ขา่ ยภายในหลกั และใชง้ านรว่ มกับระบบเครอื ขา่ ยจากภายนอก ธสน. 3.  โครงการ ISO 27001 สำ�หรบั ศนู ยข์ ้อมูล (Data Center) และระบบ e-Payment เพ่ือใหไ้ ดร้ ับการประเมินและ รับรอง (Certified) ตามมาตรฐาน ISO 27001 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือสร้างความมั่นใจในระบบความมั่นคงปลอดภัย ด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ 4.  การก�ำหนดมาตรฐานการพัฒนาระบบงานสารสนเทศและสิ่งท่ีต้องส่งมอบ (Software Quality Assurance: SQA) และการจัดท�ำสถาปัตยกรรมของระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Application Architecture) ซ่ึงเป็นการวางกรอบ หรือพมิ พ์เขยี วเพ่ือการพฒั นาระบบงานใหเ้ ป็นระเบียบ และลดความซำ้� ซอ้ นของระบบงาน ตลอดจนการก�ำหนดมาตรฐาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Standardization) เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการท�ำงาน และก�ำหนดทิศทางในการลงทุน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม 5.  โครงการระบบ e-Service เพอื่ เพิม่ ชอ่ งทางในการเขา้ ถึงข้อมูลท่ีจำ�เป็นของลูกคา้ ช่วยใหล้ กู คา้ ไดร้ ับขอ้ มูลของ ลูกค้าผ่านทางอีเมลในเวลาที่ต้องการ ลดข้ันตอนในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ธสน. สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากขึ้น และตอบสนองนโยบายลดปริมาณการใช้กระดาษ (Paperless) ของ ธสน. 6.  โครงการระบบ e-Memo & e-Meeting เพ่ือให้ ธสน. ลดปริมาณการใช้กระดาษในการดำ�เนินงานขององค์กร และมกี ารบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Content Management System) ท่ีมปี ระสทิ ธิภาพและปลอดภัย แผนงานท่สี �ำคัญในปี 2562 ในช่วงปลายปี 2561 ธสน. ได้มีการยกระดับคณะกรรมการชุดย่อย (Subcommittee) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ชอื่ วา่ คณะกรรมการก�ำ หนดกลยทุ ธแ์ ละนโยบายดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (IT Strategy and Policy Committee: ITSPC) ข้ึนเป็นระดับคณะกรรมการชุดย่อย เพ่ือสนับสนุนการกำ�กับดูแลของคณะกรรมการธนาคาร โดยคณะกรรมการชุดย่อยน้ี จะท�ำ หนา้ ทศี่ กึ ษาและกลนั่ กรองงานทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศทส่ี �ำ คญั เพอื่ ใหโ้ ครงการตา่ งๆ ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ไดม้ กี ารด�ำ เนนิ งานทบ่ี รรลวุ ตั ถปุ ระสงคใ์ นการสนบั สนนุ แผนยทุ ธศาสตรข์ อง ธสน. และเพอื่ ชว่ ยใหม้ กี ารก�ำ กบั ดแู ลทใี่ กลช้ ดิ แทนคณะกรรมการธนาคาร ท�ำ ให้โครงการต่างๆ มกี ารดำ�เนินงานท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น สำ�หรบั โครงการ ท่ีส�ำ คญั ตามแผนงานในปี 2562 ประกอบดว้ ย 1.  โครงการพฒั นาระบบธรุ กจิ หลกั ของธนาคาร (Core Banking System) เพอื่ ทดแทนระบบ AS/400 และสนบั สนนุ กลยทุ ธห์ ลักของ ธสน. ให้บรรลุตามเปา้ หมายทกี่ ำ�หนดไว้ 2.  โครงการพฒั นาการรบั ประกนั การสง่ ออกออนไลน์ (Export Credit Insurance Online) เพอื่ พฒั นาระบบเทคโนโลยี สารสนเทศในการรองรับการทำ�ธุรกรรมสำ�หรับบริการประกันการส่งออกระยะส้ัน สำ�หรับลูกค้ารายใหม่และรายปัจจุบัน ผา่ นช่องทางออนไลน์

94 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพือ่ การสง่ ออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย 3.  โครงการพฒั นาระบบบรหิ ารลกู คา้ สมั พนั ธ์ (Customer Relationship Management: CRM) และระบบสนบั สนนุ กระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเช่ือ (Loan Origination System: LOS) เพ่ือยกระดับและเพ่ิมขีดความสามารถของ กระบวนการวิเคราะห์และอนุมัติสินเชื่อด้วยการนำ�เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในกระบวนการทำ�งานให้เป็นมาตรฐาน ซ่ึงจะช่วยลดระยะเวลาดำ�เนินการในการพิจารณาสินเช่ือและทำ�ให้ลูกค้าได้รับบริการท่ีรวดเร็วย่ิงข้ึน รวมถึงพัฒนา ระบบ CRM เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าสำ�หรับการวิเคราะห์ วางแผนกลยุทธ์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงตาม ความต้องการของลูกคา้ หรอื เหนอื กวา่ ความคาดหวังของลกู ค้า 4.  โครงการป้องกนั การร่ัวไหลของขอ้ มูล (Data Leak Prevention) เพอ่ื ให้ ธสน. มีการรกั ษาความปลอดภยั ขอ้ มลู ขององค์กรอย่างเหมาะสมและปลอดภัยตามลำ�ดับชั้นความลับของข้อมูล ตลอดจนมีนโยบายและขั้นตอนปฏิบัติในการ บรหิ ารจดั การขอ้ มลู เปน็ ไปตามการก�ำ กบั ดแู ลดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศตามมาตรฐานสากล ISO 27001 และตามประกาศ ของ ธปท. ท่ี สนส. 19/2560 5.  โครงการการจ้างผู้ให้บริการเช่าเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์แม่ข่าย AS/400 ระบบปฏบิ ัตกิ ารใหม่ เพอ่ื ลดความเส่ียงและ ผลกระทบตอ่ การบรกิ ารธุรกิจของ ธสน. การบรหิ ารทรัพยากรบุคคล ธสน. ให้ความส�ำคัญต่อคุณค่าของบุคลากรและด�ำเนินตามยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการและพัฒนาบุคลากร อยา่ งต่อเน่ือง เพอื่ รว่ มกนั ผลักดนั และขับเคลือ่ นองคก์ รใหบ้ รรลเุ ป้าหมายภายใต้แผนแมบ่ ท ธสน. 10 ปี (ปี 2560-2570) ที่ตง้ั ไวด้ งั น้ี การบรหิ ารจดั การด้านโครงสร้างองคก์ รและอตั ราก�ำลัง ในปี 2561 ธสน. เพิ่ม/ขยายฝา่ ยงานใหส้ ามารถตอบสนองและสง่ เสรมิ ยทุ ธศาสตรข์ ององค์กร ได้แก่ 1.  เพ่ิมฝา่ ยงานในสายงานวิสาหกิจขนาดใหญ่ 2 เพ่ือรองรับการขยายตลาดไปยังประเทศเป้าหมายใหม่ (Market Maker) และขยายโอกาสในการเป็นทีป่ รึกษาการลงทนุ 2.  ยกระดบั สว่ นพฒั นาผปู้ ระกอบการ เปน็ “ศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ดา้ นการคา้ (EXIM Excellence Academy: EXAC)” (เทียบเทา่ ฝา่ ยงาน) เพอื่ ผลักดนั การเสริมสร้างความรแู้ ละโอกาสใหแ้ กผ่ ปู้ ระกอบการ SMEs ของไทย นอกจากน้ี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านอัตราก�ำลัง ธสน. ยังได้ด�ำเนินโครงการ Management Trainees อย่างตอ่ เนอื่ งเป็นปที ี่ 2 เพ่ือสร้างบคุ ลากรท่ีมีศกั ยภาพ รองรับการเติบโตทางธรุ กจิ ของ ธสน. ต่อไป การบริหารจดั การดา้ นผลการปฏิบตั ิงาน ธสน. ไมเ่ พียงแตเ่ น้นย�้ำการถ่ายทอดตวั ชี้วดั และเปา้ หมายขององคก์ ร สู่สายงาน/ฝ่ายงาน และสู่บุคลากรใหเ้ ปน็ ไป อยา่ งสอดคลอ้ งกนั เทา่ นน้ั แตย่ งั เชอื่ มโยงผลการปฏบิ ตั งิ านกบั การบรหิ ารผลตอบแทนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตลอดจนตอ่ ยอด ไปสู่การวางแผนพฒั นาบคุ ลากร ทัง้ ในด้านการเสรมิ สร้างจดุ แขง็ และการลดหรอื ปิดช่องว่างท่ีต้องปรับปรุง เพื่อยกระดบั ขีดความสามารถของบุคลากรและสนับสนุนให้บุคลากรสามารถบรรลุผลส�ำเร็จตามความสนใจในสายอาชีพของตนเอง ที่วางไว้

รายงานประจ�ำ ปี 2561 95 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและนำ�เขา้ แห่งประเทศไทย การบรหิ ารจดั การดา้ นคา่ ตอบแทนและการยกยอ่ งชมเชย ธสน. ไดป้ รบั ปรงุ โครงสรา้ งคา่ ตอบแทนใหส้ ามารถแขง่ ขนั ไดก้ บั ตลาดและสอดคลอ้ งกบั ภาระหนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบ เพอ่ื เป็นการดูแลและรักษา (Retain) บุคลากรขององค์กร ควบคู่ไปกับการด�ำเนินโปรแกรมการยกย่องชมเชย (Recognition Program) อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทงั้ ในรปู แบบ e-Card “ขอบคณุ จากใจ” ทสี่ อดคลอ้ งกบั คา่ นยิ มของ ธสน. และรปู แบบการใหร้ างวลั ช่ืนชมจากใจส�ำหรับแต่ละสายงาน/ฝา่ ยงาน นอกจากน้ี ยงั มอบรางวัล “Long Service Awards” ส�ำหรับพนกั งานทีป่ ฏบิ ตั ิ งานกบั ธสน. มาเปน็ เวลานาน เพอ่ื เปน็ ขวญั และก�ำลงั ใจของบคุ ลากรใหร้ ว่ มกนั ขบั เคลอื่ นองคก์ รใหเ้ ตบิ โตไปขา้ งหนา้ ดว้ ยกนั การบรหิ ารจัดการด้านการยกระดบั ขดี ความสามารถของบคุ ลากร ธสน. ด�ำเนนิ การตามแผนแมบ่ ทการพฒั นาพนกั งานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยก�ำหนดแผนอบรมและพฒั นา (Training and Development Roadmap) ส�ำหรับพนักงานเป็นรายต�ำแหน่งและรายฝ่ายงาน ควบคู่กับการยกระดับขีดความสามารถ ของบุคลากรตามแผนพัฒนารายบคุ คล (Individual Development Plan: IDP) โดยในปี 2561 ได้จัดให้มีการอบรมทั้งสน้ิ 37 หลกั สตู ร 104 รุ่น ทม่ี ุ่งเน้นพัฒนาทั้งในด้านความรู้ ความสามารถ ทกั ษะและสมรรถนะ ตวั อย่างเช่น 1.  EXIM Team Building 2018 ส�ำหรบั พนกั งานทั้งองค์กร เพอื่ สง่ เสรมิ การท�ำงานเป็นทีม และการรว่ มแรงร่วมใจ เพ่ือขับเคล่ือนองคก์ รใหบ้ รรลุผลส�ำเรจ็ ตามเป้าหมายทีต่ งั้ ไว้รว่ มกัน 2.  โปรแกรมการพัฒนาภาวะผูน้ ำ� (Leadership Program) โดยในปี 2561 ได้เนน้ การพฒั นาทกั ษะการสอนแนะ (Coaching) ให้กับหัวหน้างานทุกระดับ เพ่ือน�ำไปพัฒนาพนักงานตามโมเดลการเรียนรู้ 70-20-10 ให้เป็นไปอย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ 3.  หลักสูตรพัฒนาทักษะด้านสินเชื่อ (Core Credit Skills Development) ส�ำหรับพนักงานในสายงานด้าน การตลาด และฝ่ายงานอื่นท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรด้านสินเช่ือ ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงของการ ผลักดนั ให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกจิ ทวี่ างไว้ การบรหิ ารจดั การดา้ นความก้าวหน้าในสายอาชพี ของบุคลากร ธสน. จัดท�ำกระบวนการและแผนบริหารความก้าวหน้าในสายอาชีพ รวมท้ังส่ือสารอย่างทั่วถึงทั้งองค์กร เพื่อให้ บุคลากรตระหนักถึงความส�ำคัญเกี่ยวกับความสนใจในสายอาชีพ (Career Aspiration) และการวางแผนพัฒนาที่มี ความสอดคล้องและเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเติบโตตามความสนใจและเป้าหมายดังกล่าว นอกจากนี้ ธสน. ยัง ผลักดนั ให้มแี ผนการหมนุ เวยี นงาน (Job Rotation Plan) ซงึ่ เปน็ ส่วนหนึ่งของการพัฒนาบุคลากรใหม้ ขี ดี ความสามารถ และความพรอ้ มทจี่ ะเติบโตในสายอาชพี ต่อไปในอนาคต การบริหารจัดการด้านความผกู พนั ของบคุ ลากร ท่ีผ่านมา ธสน. รับฟังเสียงสะท้อนของพนักงานผ่านผลส�ำรวจความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงาน เปน็ ประจ�ำทกุ ปี ซงึ่ ธสน. กไ็ ดด้ �ำเนนิ การเพอ่ื ตอบสนองตอ่ เสยี งสะทอ้ นเหลา่ นนั้ อยา่ งเปน็ รปู ธรรม รวมทง้ั ไดส้ อ่ื สารเรอ่ื งราว และความคบื หนา้ ดงั กลา่ วใหพ้ นกั งานรบั ทราบเปน็ ประจ�ำและผา่ นชอ่ งทางทห่ี ลากหลายเชน่ การประชมุ พนกั งาน(TownHall Meeting) การประชมุ สายงาน/ฝา่ ยงาน EXIM Drive Online Magazine และ Facebook กลมุ่ ปดิ EXIM TH Family เปน็ ตน้ ในปี 2561 ธสน. ด�ำเนนิ การส�ำรวจความพงึ พอใจและความผกู พนั ของพนกั งานภายใตช้ อื่ “EXIM & I Survey 2018” เปน็ ปแี รก เพือ่ กระต้นุ ให้พนักงานตระหนกั ถึงความส�ำคญั ของการเป็นส่วนหนงึ่ ท่ใี ห้เสยี งสะทอ้ น เพื่อน�ำมาปรับปรุง ธสน. ใหด้ ยี ่ิงๆ ขึ้นไป ดังเช่นทีผ่ า่ นมา

Transparency Equitable Treatment Participation

การกำ�กบั ดูแลกิจการทดี่ ี Ethics Accountability Value Creation Responsibility

98 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่ือการส่งออกและน�ำ เขา้ แหง่ ประเทศไทย การกำ�กบั ดแู ลกิจการทีด่ ี ธนาคารเพอื่ การสง่ ออกและน�ำเขา้ แหง่ ประเทศไทย (ธสน.) มวี สิ ยั ทศั นใ์ นการกา้ วเปน็ สถาบนั การเงนิ เฉพาะกจิ ชน้ั น�ำ ระดับโลก ที่เป็นกลไกส�ำคญั ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดา้ นการค้าและการลงทนุ ระหว่างประเทศของไทย มีภารกิจหลกั ในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ทางการเงนิ เพอ่ื การสง่ ออก การน�ำเขา้ และลงทนุ ส�ำหรบั การพฒั นาประเทศแกผ่ ปู้ ระกอบการไทย ทั้งในและต่างประเทศ โดยให้ความส�ำคัญและตระหนักถึงการด�ำเนินงานตามหลักการก�ำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance: CG) ยึดหลักการและแนวทางการก�ำกับดูแลท่ีดีในรัฐวิสาหกิจ หลักเกณฑ์การประเมินผลการด�ำเนินงาน รัฐวิสาหกิจตามระบบประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Performance Appraisal: SEPA) ของกระทรวง การคลงั และแนวทางการก�ำกับดูแลของธนาคารแหง่ ประเทศไทย (ธปท.) ยกระดับการก�ำกับดูแลกิจการทดี่ ขี อง ธสน. ให้ สอดคล้องตามมาตรฐานสากล เพื่อใหเ้ กดิ มูลคา่ เพิม่ (Value Added) และน�ำไปส่กู ารพฒั นาอย่างย่งั ยนื (Sustainability Development) ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบ 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ 1. การก�ำกบั ดแู ลกจิ การทดี่ ี 2. การแสดงความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม และสิง่ แวดล้อม (Corporate Social Responsibility: CSR) และ 3. การบรหิ ารจดั การกิจการหรอื งานตามภารกจิ ได้แก่ การผลิตและบริการ การบริหารจัดการทรัพย์สิน และการบริหารจัดการแหล่งที่มาของเงินทุนด้วยความเป็นเลิศ รวมถึง ก�ำหนดยุทธศาสตรต์ ามแผนแม่บทดา้ นการก�ำกับดูแลกิจการท่ดี ี ดงั นี้ ยุทธศาสตร์ที่  1  การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบก�ำกับดูแลกิจการท่ีดีและการแสดงความรับผิดชอบ ตอ่ สงั คมและสงิ่ แวดล้อมในกระบวนการ (CG และ CSR in Process) ตามมาตรฐานสากล ยุทธศาสตร์ท ่ี 2  การพัฒนาธรรมาภิบาลด้านการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือเพิ่มมาตรฐานการก�ำกับดูแล ของ ธสน. ยุทธศาสตร์ท่ี  3  การเสริมสร้างวัฒนธรรมด้านการก�ำกับดูแลกิจการท่ีดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และส่ิงแวดล้อมในกระบวนการปฏิบัตงิ าน (CG และ CSR in Process) ยุทธศาสตรท์  ่ี 4  การสง่ เสรมิ ผลติ ภัณฑ์และการให้บริการทางการเงนิ เพอ่ื การบริโภคทย่ี ่ังยืน ยทุ ธศาสตรท์  ่ี 5  การเสรมิ สรา้ งทกั ษะ ความรู้ และความเชยี่ วชาญ เพอ่ื เพมิ่ ขดี ความสามารถและยกระดบั ธนาคาร สู่ Sustainable Banking ในปี2561คณะกรรมการธนาคารก�ำกบั ดแู ลการด�ำเนนิ งานตามยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงานดา้ นการก�ำกบั ดแู ลกจิ การทดี่ ี โดยอนมุ ตั กิ ารทบทวนนโยบายและคมู่ อื การก�ำกบั ดแู ลกจิ การทด่ี ขี อง ธสน. ใหส้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานสากลทเ่ี ปลยี่ นแปลงไป โดยเฉพาะกรอบหลักการขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ปี 2015 ส�ำนกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกจิ (สคร.) และส�ำนักงาน คณะกรรมการก�ำกบั หลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ (ก.ล.ต.) และอนมุ ตั คิ มู่ อื กรรมการธนาคาร รวมถงึ คมู่ อื จรยิ ธรรมธรุ กจิ ระดับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน เพื่อส่งเสริม การก�ำกบั ดแู ลกจิ การทด่ี ขี อง ธสน. นอกจากนี้ คณะกรรมการธนาคารอนมุ ตั ทิ บทวนกฎบตั รคณะกรรมการก�ำกบั ดแู ลกจิ การ ท่ีดีและความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการก�ำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม ท�ำหน้าท่ีก�ำกับดูแลและติดตามการด�ำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายและแนวทางการก�ำกับดูแลกิจการท่ีดี รวมถึง การรายงานผลการด�ำเนินงานตามแผนเสนอต่อคณะกรรมการธนาคารเพ่ือทราบ ตลอดจนส่งเสริมให้บุคลากร ธสน. ทกุ ระดบั มสี ว่ นรว่ มในการก�ำกบั ดแู ลกจิ การทด่ี แี ละความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง สามารถผนวกเขา้ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการปฏิบตั งิ านประจ�ำวนั อยา่ งเป็นระบบจนเกดิ เปน็ วัฒนธรรมองคก์ รทดี่ ี

รายงานประจ�ำ ปี 2561 99 ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและนำ�เขา้ แห่งประเทศไทย นโยบายการกำ�กับดูแลกจิ การที่ดี ธสน. ได้ใหค้ วามส�ำคัญในการก�ำกับดแู ลกิจการทีด่ ี ด�ำเนนิ งานตามพนั ธกิจภายใตห้ ลกั ธรรมาภิบาล ตามแนวทาง การก�ำกบั ดแู ลกจิ การท่ดี ีของ ธสน. สอดคล้องตามมาตรฐานสากล ธสน. จึงก�ำหนดแนวปฏบิ ัตทิ ด่ี ี 7 ประการ เผยแพรเ่ พื่อ ใหบ้ ุคลากรทกุ ระดับยดึ ถือและมุง่ ม่นั ปฏิบตั ติ าม ดงั นี้ 1.  ความรบั ผิดชอบต่อผลการปฏบิ ัติหนา้ ที่ (Accountability) 2.  ความส�ำนกึ ในหนา้ ท่ดี ว้ ยขีดความสามารถและประสทิ ธิภาพทีเ่ พยี งพอ (Responsibility) 3.  การปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยสุจริตและเท่าเทียมกัน (Equitable Treatment) 4.  ความโปรง่ ใสทงั้ ในการด�ำเนนิ งานทส่ี ามารถตรวจสอบไดแ้ ละเปิดเผยข้อมูลอยา่ งโปร่งใส (Transparency) 5.  การสร้างมลู คา่ แกก่ ิจการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว (Value Creation) 6.  การสง่ เสรมิ พฒั นาการก�ำกบั ดูแลจรรยาบรรณและจรยิ ธรรมในการประกอบธรุ กจิ (Ethics) 7.  การมสี ว่ นร่วมของผู้มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (Participation) นโยบายการก�ำกบั ดแู ลกจิ การทด่ี ขี อง ธสน. ไดน้ �ำกรอบหลกั การ/แนวคดิ การก�ำกบั ดแู ลกจิ การทดี่ ขี อง สคร. กระทรวง การคลัง ทอ่ี า้ งองิ ตามหลักการและแนวทางก�ำกับดแู ลกจิ การท่ดี ีในรฐั วิสาหกิจของ OECD ปี 2015 (OECD Guidelines on Corporate Governance of State-Owned Enterprise 2015) ร่วมกับหลกั การก�ำกบั ดแู ลกิจการทดี่ ขี อง ก.ล.ต. มา ก�ำหนดกรอบแนวทางก�ำกบั ดแู ลกจิ การทด่ี ี 10 หมวด ไดแ้ ก่ 1. บทบาทของภาครฐั 2. สทิ ธแิ ละความเทา่ เทยี มกนั ของผถู้ อื หนุ้ 3. บทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4. การเปิดเผยข้อมูล 5. คณะกรรมการ 6. การบริหารความเส่ียงและควบคุมภายใน 7. จรรยาบรรณของ ธสน. 8. ความยง่ั ยนื และนวตั กรรม 9. การด�ำเนนิ งานตามกฎหมาย และ 10. การตดิ ตามผลการด�ำเนนิ งาน โดยในปี 2561 คณะกรรมการธนาคารอนุมัติการปรับปรุงนโยบายการก�ำกับดูแลกิจการที่ดี และก�ำหนดให้มีการทบทวน นโยบายการก�ำกบั ดแู ลกจิ การทด่ี เี ปน็ ประจ�ำทกุ ปี รวมถงึ อนมุ ตั แิ ผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการก�ำกบั ดแู ลกจิ การทดี่ ี สอดคลอ้ งตาม ยุทธศาสตรด์ ้านการก�ำกบั ดูแลกจิ การทดี่ ีของ ธสน. และแผนแมบ่ ท CG และ CSR ปี 2561-2565 การด�ำ เนนิ งานตามแผนปฏิบัตกิ ารด้านการก�ำ กบั ดูแลกจิ การทด่ี ี ในปี 2561 ธสน. มงุ่ เน้นใหม้ ีการด�ำเนนิ งานภายใต้กรอบการก�ำกบั ดูแลกจิ การทีด่ ี มคี วามโปรง่ ใสและตรวจสอบได้ ประพฤติปฏิบัติตนตามกฎหมาย และมีจริยธรรมสอดคล้องตามหลักการก�ำกับดูแลกิจการท่ีดีตามมาตรฐานสากลของ OECD ปี 2015 และหน่วยงานที่ก�ำกับดูแลทั้งกระทรวงการคลังและ ธปท. ตลอดจนสร้างความตระหนักถึงความส�ำคัญ ของการมีส่วนรว่ มในการน�ำหลกั ธรรมาภบิ าลที่ดี 7 ประการ มาใช้ในการปฏบิ ตั งิ าน ซงึ่ มแี นวทางสอดคลอ้ งตามวสิ ัยทศั น์ พันธกิจ และค่านิยมของ ธสน. มีการส่ือสารค่านิยมและพฤติกรรมพึงประสงค์ด้าน CG และ CSR ให้รับทราบและ ถอื ปฏบิ ตั อิ ยา่ งเปน็ รปู ธรรมทว่ั ทง้ั องคก์ ร โดยด�ำเนนิ การผา่ นกจิ กรรมและโครงการตา่ งๆ เพอื่ ใหเ้ กดิ การก�ำกบั ดแู ลกจิ การทดี่ ี ในกระบวนการ (CG in process) ดังนี้ 1.  การทบทวนนโยบายการกำ� กบั ดแู ลกจิ การทด่ี ใี หส้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานสากล เพอื่ เปน็ กรอบการปฏบิ ตั งิ าน ทเ่ี ปน็ มาตรฐานแกพ่ นกั งานทว่ั ทง้ั องคก์ ร ไดด้ �ำเนนิ การศกึ ษามาตรฐาน OECD และ ASEAN CG Scorecard ฯลฯ ทบทวน นโยบายการก�ำกบั ดแู ลกจิ การทดี่ แี ละคมู่ อื กรรมการธนาคาร ทงั้ นไ้ี ดผ้ า่ นความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการก�ำกบั ดแู ลกจิ การ ท่ีดีและความรบั ผิดชอบต่อสังคม โดยคณะกรรมการธนาคารมมี ติอนมุ ัติและใหม้ ผี ลบังคบั ใชแ้ ลว้

100 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพ่อื การส่งออกและน�ำ เข้าแห่งประเทศไทย 2.  การจัดท�ำคู่มือท่ีเกี่ยวข้องกับการก�ำกับดูแลกิจการท่ีดีของ ธสน. เพ่ือยกระดับศักยภาพการก�ำกับดูแล กจิ การทดี่ ขี องคณะกรรมการ เพอื่ ใหผ้ บู้ รหิ ารและพนกั งานมสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ติ นตามกรอบและแนวปฏบิ ตั ดิ า้ นการ ก�ำกบั ดแู ลกิจการทดี่ ีได้อยา่ งครบถว้ น ได้ด�ำเนนิ การศกึ ษา/วิเคราะหพ์ ฤติกรรม จริยธรรม และแนวปฏบิ ตั ทิ ด่ี ตี ามหลกั การ สากล เพ่ือจัดท�ำคู่มือกรรมการธนาคารและคู่มือจริยธรรมธุรกิจของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ซ่ึงสอดคล้องตาม นโยบายการก�ำกับดูแลกจิ การท่ีดี ท้ังนไี้ ดผ้ ่านความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการก�ำกบั ดแู ลกจิ การทด่ี แี ละความรบั ผดิ ชอบ ต่อสงั คม โดยคณะกรรมการธนาคารมมี ตอิ นมุ ตั ิและให้มผี ลบงั คับใช้แล้ว 3.  การทบทวนและกำ� หนดค่านยิ มด้าน CG และ CSR เพ่อื สง่ เสริมให้ ธสน. มีวฒั นธรรมองค์กรด้านการก�ำกบั ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน จึงด�ำเนินการทบทวนค่านิยมของ ธสน. ใหม้ ีความสอดคล้องและครอบคลมุ ถงึ คา่ นิยม รวมถึงก�ำหนดพฤตกิ รรมพึงประสงคต์ ามคา่ นยิ มดา้ น CG และ CSR แก่พนกั งานทัว่ ท้ังองคก์ ร 4.  การสอื่ สารคา่ นิยมและพฤตกิ รรมพึงประสงค์ด้าน CG และ CSR เพอ่ื ให้พนกั งานของ ธสน. เกดิ การรบั รู้ ยอมรับ ตลอดจนปรับเปล่ียนพฤติกรรมให้สอดคล้องตามพฤติกรรมพึงประสงค์ด้าน CG และ CSR และค่านิยมของ ธสน. อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จึงด�ำเนินการวิเคราะห์ช่องทาง แนวทาง และความถี่ในการส่ือสารค่านิยมและพฤติกรรม พงึ ประสงคด์ ้าน CG และ CSR และสอื่ สารแกบ่ คุ ลากรท้ังสว่ นกลางและภมู ภิ าค โดยการจดั กิจกรรมต่างๆ เช่น กรรมการ ผ้จู ดั การพบพนกั งาน และกรรมการผจู้ ดั การพบพนักงานสาขา EXIM Team Building 2018 Facebook กล่มุ ปดิ EXIM TH Family นติ ยสารออนไลนภ์ ายใน ธสน. (EXIM Drive Online Magazine) รวมถึงการจัดนิทรรศการและปา้ ยประกาศตา่ งๆ อย่างต่อเนื่อง 5.  การสำ� รวจการรบั รขู้ องพนกั งานเกยี่ วกบั พฤตกิ รรมพงึ ประสงคต์ ามคา่ นยิ มดา้ น CG และ CSR เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการเสริมสร้างค่านิยมและพฤติกรรมพึงประสงค์ให้เกิดข้ึนในองค์กร และสร้างความเชื่อม่ันในการรับรู้ของพนักงาน เก่ียวกับคา่ นยิ มและพฤตกิ รรมพงึ ประสงค์ดา้ น CG และ CSR ของ ธสน. 6.  การฝึกอบรมเพ่ือเพ่ิมทักษะ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและแนวปฏิบัติด้าน CG, CSR และ Governance, Risk and Compliance (GRC) เพอ่ื สรา้ งกระบวนการเรยี นรูแ้ ละส่งเสรมิ ให้บคุ ลากรทกุ ระดับท้งั สว่ นกลาง และภูมภิ าค มีความร้คู วามเข้าใจและตระหนักถึงความส�ำคัญ รวมถึงสามารถน�ำความร้เู กยี่ วกบั หลกั การและแนวปฏบิ ตั ิ ดา้ น CG, CSR และ GRC ทไี่ ดร้ บั การอบรมมาประยกุ ตใ์ ช้ในการปฏบิ ตั ิงานที่ตนเองรับผดิ ชอบไดอ้ ย่างแท้จริง จงึ จดั ใหม้ ี การอบรมหลักสูตรการบริหารความเส่ียงและการก�ำกับดูแลกิจการเชิงบูรณาการ หลักสูตรการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในกระบวนการปัจจัยสู่องค์กรที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ธสน. มีการจดั กจิ กรรมสง่ เสริมบรรยากาศดา้ นธรรมาภิบาล ให้บุคลากรทกุ ระดบั ของ ธสน. ตระหนักถึง ความส�ำคัญในการก�ำกับดูแลกิจการท่ีดีและการด�ำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล รวมถึงการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมองค์กร และพัฒนาองค์กรสู่ความย่ังยืน ซ่ึงเป็นปัจจัยส�ำคัญในการขับเคล่ือน ความส�ำเร็จ และผลักดันให้องค์กรเกิดมูลค่าเพ่ิมได้ในระยะยาวอย่างย่ังยืน โดยมีกิจกรรมส่งเสริมด้านการกำ� กับดูแล กิจการท่ีดี การส่ือสารถ่ายทอดการก�ำกับดูแลกิจการที่ดี โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนักรู้ และส่งเสริมให้มี บรรยากาศการปฏิบัตงิ านตามหลกั ธรรมาภิบาล ดงั น้ี

รายงานประจ�ำ ปี 2561 101 ธนาคารเพือ่ การส่งออกและนำ�เข้าแหง่ ประเทศไทย ff โครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน CG White Day เพื่อให้คณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และผูม้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี ทุกกล่มุ มสี ่วนร่วมในการด�ำเนินงานการก�ำกับดแู ลกจิ การทดี่ ี ff กจิ กรรมประกาศเจตนารมณต์ อ่ ตา้ นการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั โดยคณะกรรมการ ผบู้ รหิ าร และพนกั งาน ธสน. รว่ มกนั แสดงจดุ ยนื ในการปฏบิ ัตงิ าน โดยยึดหลกั ธรรมาภิบาลและตอ่ ตา้ นการทุจรติ คอรร์ ปั ชัน ff กิจกรรมสวมเสอื้ EXIM WHITE ทุกวันพฤหัสบดีสดุ ทา้ ยของเดอื น เพ่อื รณรงคใ์ หผ้ ้บู ริหารและพนักงานตระหนัก ถึงการปฏิบตั ิงานโดยยึดหลกั ความโปรง่ ใส ff การส่ือสารความรู้ด้านการก�ำกับดูแลกิจการที่ดี ส่งเสริมธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เร่ือง ผลประโยชนท์ ับซอ้ น (Conflict of Interest) ff การอบรมหลักสตู รการก�ำกบั ดูแลกิจการท่ดี ีเพอ่ื สง่ เสรมิ ธรรมาภิบาล และตอ่ ตา้ นการทุจริตคอร์รปั ชนั •• หัวขอ้ ธรรมาภิบาลกบั การทำ�งาน •• หัวขอ้ การมสี ่วนร่วมและความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ี ff การส่ือสารค่านยิ มพึงประสงค์ดา้ นธรรมาภบิ าล โดยจัดแสดงป้ายนิทรรศการ หัวขอ้ ความซ่ือตรง ff ร่วมกิจกรรมต่อต้านคอร์รัปชันร่วมกับหน่วยงานภายนอก ธสน. จัดส่งตัวแทนพนักงานเข้าร่วมกิจกรรมต่อต้าน การทุจริตคอร์รัปชันที่จัดโดยหน่วยงานภายนอก สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทจุ รติ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) ได้แก่ •• งานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพ็คเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี จัดโดยสำ�นักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ (ป.ป.ช.) •• งานวนั ตอ่ ต้านคอร์รปั ชัน 2561 ณ ศนู ยน์ ทิ รรศการและการประชมุ ไบเทค บางนา เมอื่ วนั ที่ 6 กนั ยายน 2561 จดั โดยองค์กรตอ่ ต้านคอร์รปั ชนั (ประเทศไทย) องคป์ ระกอบและโครงสร้างของคณะกรรมการธนาคาร พระราชบญั ญตั ธิ นาคารเพอื่ การสง่ ออกและน�ำเขา้ แหง่ ประเทศไทย (พ.ร.บ. ธสน.) (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2561 ก�ำหนดให้ คณะกรรมการธนาคารประกอบดว้ ย 1.  กรรมการโดยตำ� แหนง่ จ�ำนวน6คนซง่ึ เปน็ ผแู้ ทนจากหนว่ ยงานราชการทเ่ี กยี่ วขอ้ งจ�ำนวน5คนไดแ้ ก่ผอู้ �ำนวยการ ส�ำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน เศรษฐกจิ อตุ สาหกรรม กระทรวงอตุ สาหกรรม เลขาธกิ ารส�ำนกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธบิ ดี กรมเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และกรรมการผจู้ ัดการ ธสน. เป็นกรรมการโดยต�ำแหนง่ อีก 1 คน 2.  กรรมการอ่ืน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งต้ังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอีกไม่เกิน 5 คน ในจ�ำนวนนเ้ี ปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ จิ ากภาคเอกชนอยา่ งนอ้ ย 3 คน มวี าระการด�ำรงต�ำแหนง่ คราวละ 3 ปี แตส่ ามารถไดร้ บั แตง่ ตงั้ ให้ด�ำรงต�ำแหนง่ ใหมไ่ ด้ไม่เกิน 2 วาระตดิ ตอ่ กัน

102 รายงานประจ�ำ ปี 2561 ธนาคารเพอื่ การสง่ ออกและน�ำ เขา้ แห่งประเทศไทย คุณสมบัตขิ องกรรมการธนาคาร ภาวะผนู้ ำ�   กรรมการธนาคารมบี ทบาทส�ำคญั ในการก�ำหนดวสิ ยั ทศั น์ ทศิ ทาง ภารกจิ และแผนยทุ ธศาสตรข์ อง ธสน. ตลอดจนติดตาม ก�ำกับดูแลการบริหารงานของฝ่ายจัดการอย่างสม่�ำเสมอ โดยค�ำนึงถึงสภาวะความเส่ียงในการด�ำเนิน ธรุ กิจและผลประโยชน์ของผ้มู สี ่วนได้สว่ นเสีย เพอ่ื ให้บรรลเุ ปา้ หมายและวัตถุประสงค์ของ ธสน. เพอื่ ให้ ธสน. บรรลเุ ปา้ หมายทางธรุ กจิ ทต่ี ง้ั ไว้ คณะกรรมการธนาคารไดม้ อบหมายใหฝ้ า่ ยจดั การรายงานความคบื หนา้ ในการด�ำเนนิ งานตามตวั ชวี้ ดั ผลงาน (Key Performance Indicators: KPIs) ทก่ี �ำหนดไวใ้ นแผนธรุ กจิ เทยี บกบั เปา้ หมายทง้ั ในดา้ นการเงนิ และมใิ ชก่ ารเงนิ เปน็ ประจ�ำทง้ั รายเดอื น รายไตรมาส และรายปี โดยใหค้ วามส�ำคญั กบั การวเิ คราะหส์ าเหตขุ อง ตวั ชวี้ ดั ทต่ี ำ่� กวา่ เปา้ หมาย เพอื่ หาแนวทางในการแกไ้ ขและผลกั ดนั ตวั ชว้ี ดั ทไ่ี มไ่ ดต้ ามเปา้ หมายใหม้ ผี ลการด�ำเนนิ งานดขี นึ้ ความเป็นอสิ ระ  คณะกรรมการธนาคารประกอบดว้ ยกรรมการโดยต�ำแหนง่ และกรรมการอนื่ ซงึ่ เปน็ ผู้ทรงคณุ วุฒิ ทมี่ คี วามเปน็ อสิ ระในการแสดงความคดิ เหน็ และใชว้ จิ ารณญาณภายใตอ้ �ำนาจขอบเขตหนา้ ทเี่ พอ่ื ประโยชนข์ อง ธสน. และ ผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสีย ทง้ั น้ี ธสน. ไดก้ �ำหนดค�ำจ�ำกดั ความของ “กรรมการอสิ ระ” สอดคลอ้ งกบั หลักเกณฑ์การก�ำกับดแู ลที่ดี ของกระทรวงการคลังดังน้ี 1.  เปน็ กรรมการอน่ื ซงึ่ เปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ ทิ รี่ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลงั แตง่ ตง้ั ดว้ ยความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี ซง่ึ ไมใ่ ช่กรรมการโดยต�ำแหน่งตามท่กี �ำหนดใน พ.ร.บ. ธสน. 2.  มคี วามเป็นอิสระจากฝา่ ยจดั การและหน่วยงานทกี่ �ำกบั ดูแล ธสน. 3.  ไมม่ คี วามสัมพนั ธท์ างธรุ กจิ กับ ธสน. ในลกั ษณะท่อี าจเป็นการขดั ขวางการใชว้ ิจารณญาณอยา่ งเปน็ อิสระ 4.  ไม่ได้เปน็ ลกู จา้ ง พนกั งาน หรอื ทป่ี รกึ ษาท่ีได้เงนิ เดอื นประจ�ำจาก ธสน. 5.  ไมเ่ ป็นผู้ทเี่ กี่ยวข้องหรอื ญาตสิ นทิ ของผบู้ รหิ ารระดบั สูงของ ธสน. กรรมการอสิ ระทกุ คนจะลงนามรบั รองความเปน็ อสิ ระเมอ่ื ไดร้ บั การแตง่ ตงั้ และเปน็ ประจ�ำทกุ ปี โดยในปี 2561 ไดม้ กี าร จัดประชุมกรรมการอิสระ 2 ครั้ง ในเดอื นมิถุนายนและเดือนธันวาคม และรายงานผลการประชุมใหค้ ณะกรรมการธนาคาร ทราบ โดยกรรมการอสิ ระไดต้ ดิ ตามความคบื หนา้ และใหข้ อ้ เสนอแนะในการปรบั ปรงุ การด�ำเนนิ งานของ ธสน. หลายประการ อาทิ การปรับปรงุ กระบวนการจดั ท�ำแผนธรุ กิจ การขยายฐานลกู ค้า การพัฒนาการบริหารทรพั ยากรบคุ คลและเทคโนโลยี สารสนเทศ เพือ่ รองรบั การเปล่ยี นแปลงในอนาคต (Business Transformation และ Disruptive Technology) ไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ เปน็ ตน้ ซง่ึ คณะกรรมการธนาคารมอบหมายใหฝ้ า่ ยจดั การน�ำความเหน็ ของกรรมการอสิ ระไปด�ำเนนิ การตอ่ ไป บทบาท หน้าท่ี และความรบั ผิดชอบของคณะกรรมการธนาคาร บทบาท หน้าที่ และความรบั ผิดชอบของคณะกรรมการธนาคารภายใต้ พ.ร.บ. ธสน. มดี งั น้ี 1.  ก�ำหนดวสิ ยั ทศั น์ นโยบายทส่ี �ำคญั และควบคมุ ดแู ลโดยทว่ั ไปซง่ึ กจิ การของธสน.รวมทงั้ รบั ผดิ ชอบตอ่ ผลประกอบการ ของ ธสน. และการปฏบิ ัตงิ านของฝ่ายจัดการ 2.  ทบทวนและอนุมตั ิแผนวสิ าหกิจ แผนธรุ กจิ และงบประมาณของ ธสน. รวมทัง้ ดูแลตดิ ตามให้ฝ่ายจัดการปฏบิ ตั ิ ตามแผนงานทีก่ �ำหนดอย่างสม่ำ� เสมอ 3.  ก�ำหนดข้อบังคบั เก่ยี วกับการบริหารงานบคุ คล การเงนิ การบัญชี การจัดซอ้ื จัดจา้ ง และการด�ำเนินกิจการอน่ื ๆ 4.  ก�ำหนดคุณสมบตั ิ ประเภทสินค้า บรกิ าร และลักษณะการประกอบการของผู้สง่ ออก ผซู้ ้ือ และผลู้ งทุนที่สมควร ไดร้ ับการสนับสนนุ 5.  ประเมินผลงานและก�ำหนดค่าตอบแทนผ้บู รหิ ารระดับสูง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook