บรรทดั ฐานค�ำวนิ จิ ฉยั ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีค�ำวินิจฉัยที่ ๑/๒๕๖๐ วางบรรทัดฐานไว้ว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ..... มาตรา๕๖ทก่ี ำ� หนดยกเวน้ คณุ สมบตั บิ างประการตามรฐั ธรรมนญู มิให้น�ำมาใช้บังคับกับผู้ตรวจการแผ่นดินซ่ึงอยู่ในต�ำแหน่ง กอ่ นวนั ประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ไมข่ ดั หรอื แยง้ ต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๓ วรรคหน่ึง บญั ญตั ใิ หส้ ภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาตเิ ปน็ ผกู้ ำ� หนดการดำ� รงตำ� แหนง่ ตอ่ ไป เพียงใดของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ถือได้ว่า รัฐธรรมนูญได้มอบอ�ำนาจให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้พิจารณา ก�ำหนดการด�ำรงต�ำแหน่งต่อไปของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งดังกล่าว โดยท่ี รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติเร่ืองระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป หรือการพ้นจากต�ำแหน่ง รวมถึงเหตุยกเว้นคุณสมบัติของบุคคล ดงั กลา่ วไวโ้ ดยเฉพาะ แตค่ ำ� วนิ จิ ฉยั ดงั กลา่ วมไิ ดว้ นิ จิ ฉยั ครอบคลมุ ถงึ ลกั ษณะต้องห้ามด้วย ในคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญวางแนวไว้ว่า เม่ือพิจารณาความหมายของ คณุ สมบตั แิ ละลกั ษณะตอ้ งหา้ มและการนำ� มาใชแ้ ลว้ คำ� วา่ “คณุ สมบตั ”ิ หมายความว่า ส่ิงที่บุคคลต้องมีประจ�ำตัวซ่ึงต้องมีก่อนท่ีจะได้มาซึ่ง 54 สิทธิหรือต�ำแหน่ง ส่วนค�ำว่า“ลักษณะต้องห้าม” หมายความว่า ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี สง่ิ ทบ่ี คุ คลมอี ยจู่ ะทำ� ใหบ้ คุ คลใชส้ ทิ ธิหรอื เขา้ สตู่ ำ� แหนง่ และดำ� รงตำ� แหนง่ นน้ั ไม่ได้ตลอดเวลาที่ลักษณะดังกล่าวมีอยู่ เป็นลักษณะท่ีได้ก�ำหนดขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพ่ือเป็นการห้ามมิให้ผู้มีลักษณะบางประการท่ีได้ กำ� หนดไวห้ รอื มพี ฤตกิ รรมทไี่ มส่ มควรเปน็ ผมู้ สี ทิ ธหิ รอื ดำ� รงตำ� แหนง่ น้ันๆ เห็นได้ว่าแม้คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามจะมีความหมาย แตกตา่ งกนั แตท่ ง้ั คณุ สมบตั แิ ละลกั ษณะตอ้ งหา้ มตา่ งกเ็ ปน็ เครอื่ งมอื หรือมาตรการในการคัดเลือกและควบคุมพฤติกรรมบุคคลที่จะเข้า ดำ� รงตำ� แหนง่ ในองคก์ รอสิ ระตามรฐั ธรรมนญู และเปน็ สง่ิ ถกู กำ� หนดไว้ เพ่ือผลอย่างเดียวกัน จึงถือได้ว่าท้ังคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เป็นสิง่ ทมี่ ีความสัมพนั ธ์สอดคล้องเชื่อมโยงกันอย่างใกลช้ ดิ ๔. ค�ำวนิ ิจฉยั ศาลรฐั ธรรมนญู ท่ี ๒/๒๕๖๑ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เรือ่ ง ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติส่งความเห็นของสมาชิก สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาตขิ อใหศ้ าลรฐั ธรรมนญู วนิ จิ ฉยั ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา๑๔๘วรรคหนงึ่ (๑)ประกอบมาตรา๒๖๓วา่ รา่ งพระราชบญั ญตั ิ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซ่ึงสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. .... ศาลรฐั ธรรมนูญ
มาตรา๙๑มาตรา๙๒มาตรา๙๓มาตรา๙๔มาตรา๙๕และมาตรา๙๖ มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๗ ประกอบ มาตรา ๒๖๙ หรอื ไม่ ผลค�ำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉยั ว่า รา่ งพระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วยการได้มาซึง่ สมาชิกวุฒสิ ภา พ.ศ. .... มาตรา ๙๑ มาตรา ๙๒ มาตรา ๙๓ มาตรา ๙๔ มาตรา ๙๕ และมาตรา ๙๖ ไม่มขี ้อความ ขัดหรอื แย้งต่อรฐั ธรรมนูญ มาตรา ๑๐๗ ประกอบมาตรา ๒๖๙ บรรทดั ฐานค�ำวนิ ิจฉยั ๑) รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๗ วรรคหนึ่ง ไม่ได้กำ� หนดจ�ำนวนกลุ่ม ของผสู้ มคั รรบั เลอื กเปน็ สมาชกิ วฒุ สิ ภาวา่ จะตอ้ งมจี ำ� นวนกลมุ่ เทา่ ใด เพยี งแตก่ ำ� หนดหลกั การของการแบง่ กลมุ่ วา่ ตอ้ งแบง่ ในลกั ษณะทที่ ำ� ให้ ประชาชนซงึ่ มสี ทิ ธสิ มคั รรบั เลอื กทกุ คนสามารถอยใู่ นกลมุ่ ใดกลมุ่ หนง่ึ ได้เท่านน้ั ๒) การแนะนำ� ชอื่ ผสู้ มคั รจากองคก์ รตามมาตรา ๙๓ มใิ ชเ่ ปน็ วธิ กี าร คดั กรองผสู้ มคั รรบั เลอื กสมาชกิ วฒุ สิ ภาตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๑๐๗ วรรคสอง ถือได้ว่าเป็นการเพ่ิมช่องทางให้ได้ผู้สมัครท่ีมีความ หลากหลายเพื่อมาปฏิบัติการให้สอดคล้องกับหน้าที่และอ�ำนาจที่ 55 เพม่ิ ขน้ึ ตามทบี่ ญั ญตั ไิ วใ้ นบทเฉพาะกาลของรฐั ธรรมนญู ซงึ่ มไิ ดก้ ระทบ ตอ่ หลกั การเลอื กกันเองแต่อย่างใด รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ๓) รฐั ธรรมนญู มาตรา ๑๐๗ วรรคหนง่ึ และวรรคสอง มคี วามมงุ่ หมาย ใหก้ ารเลอื กสมาชกิ วฒุ สิ ภาเปน็ ไปโดยสจุ รติ และเทยี่ งธรรม จงึ กำ� หนด ให้สมาชิกวุฒิสภาต้องมาจากการเลือกกันเองของผู้สมัครรับเลือก โดยจะกำ� หนดมใิ หผ้ สู้ มคั รรบั เลอื กในแตล่ ะกลมุ่ เลอื กบคุ คลในกลมุ่ เดยี วกนั หรือการเลือกไขว้หรือจะก�ำหนดให้มีการคัดกรองผู้สมัครรับเลือก ด้วยวิธีการอื่นใดที่ผู้สมัครรับเลือกมีส่วนร่วมในการคัดกรองก็ได้ จึงมิใช่บทบัญญัติที่เป็นบทบังคับเด็ดขาด เพียงแต่ก�ำหนดหลักการ ไวก้ วา้ งวา่ จะใชว้ ธิ กี ารดงั กลา่ วหรอื จะกำ� หนดใหม้ กี ารคดั กรองผสู้ มคั ร รบั เลอื กดว้ ยวธิ กี ารอนื่ ใดทผี่ สู้ มคั รรบั เลอื กมสี ว่ นรว่ มในการคดั กรองกไ็ ด้ ๕. ค�ำวินจิ ฉัยศาลรัฐธรรมนญู ท่ี ๓/๒๕๖๑ วนั ท่ี ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เรื่อง ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติส่งความเห็นของสมาชิก สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาตขิ อใหศ้ าลรฐั ธรรมนญู วนิ จิ ฉยั ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา๑๔๘วรรคหนงึ่ (๑)ประกอบมาตรา๒๖๓วา่ รา่ งพระราชบญั ญตั ิ ประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรพ.ศ..... มาตรา ๓๕ (๔) และ (๕) มขี อ้ ความขดั หรอื แยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนญู มาตรา ๙๕ ศาลรฐั ธรรมนูญ
วรรคสาม และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. .... มาตรา ๙๒ วรรคหน่ึง มขี อ้ ความขดั หรอื แยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนญู มาตรา ๘๕ หรอื ไม่ ผลค�ำวนิ ิจฉัย ศาลรฐั ธรรมนญู วินจิ ฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญ วา่ ดว้ ยการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. .... มาตรา ๓๕ (๔) และ (๕) ไมม่ ขี อ้ ความขดั หรอื แยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนญู มาตรา ๙๕ วรรคสาม และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. .... มาตรา ๙๒ วรรคหนงึ่ ไมม่ ขี อ้ ความ ขดั หรือแย้งต่อรฐั ธรรมนูญ มาตรา ๘๕ บรรทัดฐานคำ� วนิ ิจฉยั ๑) การดำ� รงตำ� แหนง่ ขา้ ราชการการเมอื งขา้ ราชการรฐั สภาฝา่ ยการเมอื ง และคณะผบู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ตามรา่ งพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. .... มาตรา ๓๕ (๔) และ (๕) เป็นสิทธิชนิดหนึ่งซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ออกกฎหมาย จ�ำกัดสิทธิดังกล่าวได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๕ วรรคสาม เมอื่ ปรากฏวา่ ผนู้ น้ั เปน็ ผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั ทไี่ มไ่ ปใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตงั้ โดยมไิ ด้ แจง้ เหตทุ ไี่ มอ่ าจไปใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตง้ั หรอื แจง้ เหตทุ ไี่ มอ่ าจไปใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตง้ั แล้วแต่เหตนุ ั้นมิใชเ่ หตุอนั สมควร 56 ๒) การให้บุคคลอื่นหรือกรรมการประจ�ำหน่วยเลือกตั้งเป็นผู้ให้ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ความชว่ ยเหลอื ในการออกเสยี งลงคะแนนโดยความยนิ ยอมและเปน็ ไป ตามเจตนาของคนพกิ ารหรอื ทพุ พลภาพ หรอื ผสู้ งู อายุ เปน็ เพยี งมาตรการ ใหค้ นพกิ ารหรอื ทพุ พลภาพ หรอื ผสู้ งู อายุ ทไี่ มส่ ามารถทำ� เครอ่ื งหมาย ลงในบตั รเลอื กตง้ั ไดม้ โี อกาสใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตง้ั บนพน้ื ฐานความเทา่ เทยี ม กบั บคุ คลทว่ั ไปซง่ึ ตราบใดทไี่ มม่ กี ารเปดิ เผยผลการออกเสยี งลงคะแนน ของคนพกิ ารหรอื ทพุ พลภาพ หรอื ผสู้ งู อายนุ นั้ ตอ่ สาธารณะกถ็ อื ไดว้ า่ เปน็ การออกเสยี งลงคะแนนโดยตรงและลบั ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา๘๕ วรรคหนึ่ง ๖. ค�ำวนิ จิ ฉยั ศาลรัฐธรรมนูญที่ ๔/๒๕๖๑ วันที่ ๕ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เร่ือง ผู้ตรวจการแผน่ ดินเสนอเรอื่ งขอใหศ้ าลรัฐธรรมนญู พิจารณาวนิ จิ ฉัย ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา๒๓๑ (๑) วา่ พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ว่าดว้ ยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๐ และมาตรา ๑๔๑ วรรคหน่ึง (๕) และวรรคสอง ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติม โดยค�ำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๓/๒๕๖๐ เร่ือง การด�ำเนินการ ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีปัญหา ศาลรัฐธรรมนูญ
เกย่ี วกบั ความชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ และมาตรา ๔๕ หรอื ไม่ ผลคำ� วนิ จิ ฉยั ศาลรฐั ธรรมนญู วนิ จิ ฉยั วา่ พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ย พรรคการเมอื งพ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๐และมาตรา๑๔๑วรรคหนงึ่ (๕) และวรรคสอง ซงึ่ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยคำ� สงั่ หวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบ แห่งชาติ ท่ี ๕๓/๒๕๖๐ เร่อื ง การด�ำเนนิ การตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ และมาตรา ๔๕ จึงไม่มีปัญหา เกี่ยวกับความชอบดว้ ยรัฐธรรมนญู บรรทดั ฐานคำ� วินิจฉัย ๑) การกำ� หนดใหส้ มาชกิ พรรคการเมอื งทจ่ี ดั ตง้ั ขนึ้ ตามพระราชบญั ญตั ิ ประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื ง พ.ศ. ๒๕๕๐ ซงึ่ มคี ณุ สมบตั ิ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื ง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๔ และประสงคจ์ ะเปน็ สมาชิกพรรคการเมืองน้ันต่อไปต้องมีหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิก ตอ่ หวั หนา้ พรรคการเมอื งนน้ั พรอ้ มทง้ั แสดงหลกั ฐานการมคี ณุ สมบตั ิ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๔ และต้องช�ำระค่าบ�ำรุง 57 พรรคการเมืองภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๑ หากพ้นก�ำหนดเวลาดังกล่าว สมาชิกผู้ใดมิได้มีหนังสือแจ้งยืนยัน รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี การเปน็ สมาชกิ ใหเ้ ปน็ อนั พน้ จากสมาชกิ ของพรรคการเมอื งนนั้ อกี ทง้ั ยงั กำ� หนดใหพ้ รรคการเมอื งตอ้ งแจง้ นายทะเบยี นทราบภายในสามสบิ วนั นบั แตว่ นั ทพ่ี น้ กำ� หนดเวลาดงั กลา่ วเปน็ การรบั รองเสรภี าพของบคุ คล ในการตดั สนิ ใจเลอื ก และมอบความไวว้ างใจของตนแกพ่ รรคการเมอื งใด พรรคการเมอื งหนง่ึ โดยผา่ นการเขา้ รว่ มเปน็ สมาชกิ ของพรรคการเมอื งนน้ั อันเป็นการรับรองเสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๕ การกำ� หนดหลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขเกยี่ วกบั การเปน็ สมาชกิ พรรคการเมอื ง ตลอดจนการกำ� หนดใหพ้ รรคการเมอื งตอ้ งมกี ารจดั ทำ� ทะเบยี นสมาชกิ พรรคการเมืองให้ถูกต้องสมบูรณ์ ไม่ซ้�ำซ้อนและเป็นปัจจุบัน จงึ มคี วามสำ� คญั ตอ่ การพฒั นาสถาบนั พรรคการเมอื งในเรอื่ งการดำ� รงอยู่ ของสมาชิกพรรคการเมืองซึ่งเป็นการยืนยันถึงการสนับสนุนของ ประชาชนท่ีมีต่อการด�ำเนินงานของพรรคการเมืองนั้น บทบัญญัติ แหง่ กฎหมายดงั กลา่ วจงึ มนี ยั สำ� คญั ตอ่ การปฏริ ปู การเมอื ง โดยเปน็ การให้ เสรภี าพแกส่ มาชกิ ของพรรคการเมอื งทจี่ ดั ตงั้ และยงั ดำ� รงอยใู่ นวนั กอ่ น พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ใชบ้ งั คบั ไดม้ โี อกาสทบทวนตนเอง ศาลรัฐธรรมนญู
ว่ายังคงมีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองน้ัน ตอ่ ไปอย่างเป็นอสิ ระและสมัครใจ ๒) การแก้ไขบทบัญญัติเก่ียวกับการจัดต้ังสาขาพรรคการเมืองและ ตัวแทนพรรคการเมืองประจ�ำจังหวัดซึ่งท�ำให้ไม่มีบทบัญญัติรับรอง การจดั ตง้ั สาขาพรรคการเมอื งโดยชอบตามพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบ รฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยพรรคการเมอื ง พ.ศ. ๒๕๕๐ สง่ ผลใหพ้ รรคการเมอื ง ทจ่ี ดทะเบยี นไวต้ ามกฎหมายเดมิ ไมม่ สี าขาพรรรคการเมอื งอกี ตอ่ ไป หากแตก่ ำ� หนดใหจ้ ดั ตง้ั สาขาพรรคการเมอื งและตวั แทนพรรคการเมอื ง ประจำ� จงั หวดั และจะตอ้ งจดั ตง้ั สาขาพรรคการเมอื งทจี่ ะจดั ตง้ั ขนึ้ ใหม่ ให้ครบถ้วนภายใต้เง่ือนไขและเง่ือนเวลาที่จ�ำกัดเป็นกระบวนการ ทม่ี คี วามจำ� เปน็ สำ� หรบั พรรคการเมอื ง เนอื่ งจากสาขาพรรคการเมอื ง และตวั แทนพรรคการเมอื งประจำ� จงั หวดั เปน็ กลไกรองรบั การมสี ว่ นรว่ ม ทางการเมอื งของประชาชนในพน้ื ทท่ี ว่ั ประเทศโดยผา่ นการสมคั รเขา้ เปน็ สมาชกิ ของพรรคการเมอื งอนั เปน็ ฐานมวลชนทกี่ ระจายตวั อยใู่ นพนื้ ที่ อันเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงหลักการความเป็นพรรคการเมืองของ ประชาชนตามเจตนารมณ์ของกฎหมายท่ีเปิดโอกาสให้สมาชิก พรรคการเมืองมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง และสามารถด�ำเนินการ 58 โดยอิสระไม่ถูกครอบง�ำหรือชี้น�ำโดยบุคคลซึ่งมิได้เป็นสมาชิกของ ร๒าย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี พรรคการเมอื งแมก้ ารกำ� หนดหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขดงั กลา่ วอาจจะ กระทบตอ่ พรรคการเมอื งอยบู่ า้ งในกรณที ไี่ มส่ ามารถดำ� เนนิ การภายใน ระยะเวลาทก่ี ำ� หนดแตก่ ฎหมายกไ็ ดย้ ดื หยนุ่ และผอ่ นปรนใหพ้ รรคการเมอื ง ท่ีไม่สามารถด�ำเนินการภายในระยะเวลาท่ีก�ำหนดได้ โดยให้ คณะกรรมการการเลือกต้ังอาจมีมติขยายระยะเวลาดังกล่าวได้ ตามมาตรา ๑๔๑ วรรคสอง ศาลรฐั ธรรมนูญ
ข. ค�ำสงั่ ศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ศาลรัฐธรรมนูญมีค�ำส่ัง ไม่รับคดี ไว้พิจารณาวนิ ิจฉัยและจำ� หน่ายคดี จำ� นวน ๖๙ เรอ่ื ง ส�ำหรับคดีที่ยื่นเป็นค�ำร้องเข้ามาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓ ศาลรัฐธรรมนญู ไดม้ ีค�ำส่ังไมร่ บั ไว้พจิ ารณาวนิ จิ ฉัยและจำ� หน่ายคดี จำ� นวน ๖๓ คำ� ส่งั ไดแ้ ก่ คำ� สั่ง ศาลรฐั ธรรมนญู ท่ี ๔๕/๒๕๖๐ ถงึ คำ� สง่ั ศาลรฐั ธรรมนญู ที่ ๕๕/๒๕๖๑ (ยกเวน้ คำ� สงั่ ศาลรฐั ธรรมนญู ที่ ๕๕/๒๕๖๐, ที่ ๑/๒๕๖๑, ท่ี ๑๖/๒๕๖๑, ที่ ๓๗/๒๕๖๑, ท่ี ๔๕/๒๕๖๑ และที่ ๕๑/๒๕๖๑) สรุปเป็นบรรทัดฐานค�ำส่ัง ในกรณีดังกลา่ วได้ ดังนี้ ตารางที่ ๖ แสดงบรรทัดฐานค�ำสั่งศาลรัฐธรรมนูญกรณีค�ำร้องที่ย่ืนเข้ามาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓ บรรทดั ฐานค�ำสง่ั หมายเลขค�ำสง่ั 59 ๑. ผู้ร้องไม่ได้เป็นบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพทรี่ ฐั ธรรมนญู ๔๕/๒๕๖๐ ๔๘/๒๕๖๐ ๕๓/๒๕๖๐ คมุ้ ครองไว้ (รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๕๗/๒๕๖๐ ๕๘/๒๕๖๐ ๑๓/๒๕๖๑ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี มาตรา ๒๑๓ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ย ๒๐/๒๕๖๑ ๒๗/๒๕๖๑ ๓๑/๒๕๖๑ วธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๖ วรรคหนงึ่ ) ๓๔/๒๕๖๑ ๓๘/๒๕๖๑ ๓๙/๒๕๖๑ ๔๐/๒๕๖๑ ๔๑/๒๕๖๑ ๔๒/๒๕๖๑ ๕๓/๒๕๖๑ ๒. ผู้ร้องมิใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคมุ้ ครองไว้ ๓๒/๒๕๖๑ ๓๓/๒๕๖๑ ๔๔/๒๕๖๑ อันเป็นผลจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ๔๘/๒๕๖๑ ๕๐/๒๕๖๑ ๕๒/๒๕๖๑ (รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓ ๕๔/๒๕๖๑ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณา ของศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๘ วรรคหนึ่ง) ๓. การแจ้งข้อกล่าวหาของเจ้าพนักงานต�ำรวจและการสั่งฟ้องคดี ๒๑/๒๕๖๑ ของพนกั งานอยั การ ถอื เปน็ กระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญา ชอบทจ่ี ะ ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นศาลท่ีมีอ�ำนาจพิจารณา การด�ำเนินคดอี าญา ๔. คำ� รอ้ งไมไ่ ดร้ ะบกุ ารกระทำ� ทอ่ี า้ งวา่ เปน็ การละเมดิ สทิ ธหิ รอื เสรภี าพ ๔๗/๒๕๖๑ ของตนโดยตรงใหช้ ดั เจนวา่ เปน็ การกระทำ� ใดและละเมดิ สทิ ธหิ รอื เสรภี าพ ของตนอยา่ งไร (พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยวธิ พี จิ ารณา ของศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ.๒๕๖๑มาตรา๔๘วรรคส่ีประกอบมาตรา๔๖ วรรคสอง) ศาลรัฐธรรมนญู
แผนภมู ทิ ี่ ๖ แสดงบรรทดั ฐานค�ำสง่ั ศาลรฐั ธรรมนญู กรณคี �ำรอ้ งทยี่ น่ื เขา้ มาตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓ (ตอ่ ) บรรทัดฐานค�ำสง่ั หมายเลขค�ำส่งั ๕. ผรู้ อ้ งยงั ไมไ่ ดย้ น่ื คำ� รอ้ งตอ่ ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ เสยี กอ่ น (พระราชบญั ญตั ิ ๒๔/๒๕๖๑ ๒๖/๒๕๖๑ ๒๘/๒๕๖๑ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ๒๙/๒๕๖๑ ๓๐/๒๕๖๑ ๓๒/๒๕๖๑ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๖ วรรคหน่งึ และมาตรา ๔๘ วรรคหนง่ึ ) ๓๕/๒๕๖๑ ๓๘/๒๕๖๑ ๔๐/๒๕๖๑ ๕๓/๒๕๖๑ ๖. ค�ำร้องไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย (พระราชบัญญัติ ๓๙/๒๕๖๑ ๔๑/๒๕๖๑ ๔๒/๒๕๖๑ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ๔๙/๒๕๖๑ ๕๕/๒๕๖๑ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๖ วรรคสาม) ๗. รฐั ธรรมนญู หรอื กฎหมายประกอบรฐั ธรรมนญู ไดก้ ำ� หนดกระบวนการ ๔๖/๒๕๖๐* ๔๙/๒๕๖๐* ๕๐/๒๕๖๐* ร้องหรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ๕๑/๒๕๖๐* ๕๒/๒๕๖๐* ๕๖/๒๕๖๐* (พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของ ๕๘/๒๕๖๐* ๒/๒๕๖๑* ๔/๒๕๖๑* ศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๗ (๒))๓ ๕/๒๕๖๑* ๖/๒๕๖๑* ๗/๒๕๖๑* ๘/๒๕๖๑* ๙/๒๕๖๑* ๑๐/๒๕๖๑* ๑๑/๒๕๖๑* ๑๗/๒๕๖๑* ๑๘/๒๕๖๑* ๑๙/๒๕๖๑* ๒๐/๒๕๖๑* ๒๕/๒๕๖๑ ๒๗/๒๕๖๑ ๓๓/๒๕๖๑ ๓๔/๒๕๖๑ 60 ๓๖/๒๕๖๑ ๓๙/๒๕๖๑ ๔๔/๒๕๖๑ ๔๖/๒๕๖๑ ๔๗/๒๕๖๑ ๔๘/๒๕๖๑ ร๒าย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ๕๐/๒๕๖๑ ๘. เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล ๔๗/๒๕๖๐ ๔๘/๒๕๖๐ ๕๑/๒๕๖๐ (ศาลยุติธรรมและศาลปกครอง) โดยไม่ปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงอื่น ๕๓/๒๕๖๐ ๕๔/๒๕๖๐ ๓/๒๕๖๑ ท่ีนอกเหนือไปจากการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามหน้าท่ี ๑๒/๒๕๖๑ และอ�ำนาจของศาลทรี่ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ บัญญตั ไิ ว้ในมาตรา ๑๘๘๔ ๙. เรื่องท่ีอยู่ในระหว่างการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลอื่น หรือ ๑๔/๒๕๖๑* ๑๕/๒๕๖๑* ๑๗/๒๕๖๑* เร่ืองที่ศาลอื่นมีค�ำพิพากษาหรือค�ำส่ังถึงที่สุดแล้ว (พระราชบัญญัติ ๒๒/๒๕๖๑ ๒๓/๒๕๖๑ ๒๘/๒๕๖๑ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ๒๙/๒๕๖๑ ๓๕/๒๕๖๑ ๔๓/๒๕๖๑ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๗ (๔))๕ ๕๓/๒๕๖๑ ๓ ค�ำส่ังศาลรัฐธรรมนูญท่ี ๔๖/๒๕๖๐ ถึง ๒๐/๒๕๖๑ เป็นค�ำสั่งก่อนท่ีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ จะมีผลใช้บังคบั ๔ เป็นค�ำสั่งศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ จะมีผลใช้บังคับ เมือ่ พระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ดงั กลา่ วใชบ้ ังคบั แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณที ่ีมีข้อเท็จจรงิ คล้ายคลึงกนั นต้ี ามพระราชบญั ญัตปิ ระกอบ รฐั ธรรมนญู ว่าด้วยวธิ ีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๗ (๔) ๕ คำ� สงั่ ศาลรฐั ธรรมนญู กอ่ นท่ี ๑๔/๒๕๖๑ ถงึ ๑๗/๒๕๖๑ เปน็ คำ� สง่ั กอ่ นทพ่ี ระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยวธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ๒๕๖๑ จะมผี ลบังคบั ใช้ ศาลรฐั ธรรมนญู
แผนภมู ทิ ี่ ๖ แสดงบรรทดั ฐานค�ำสง่ั ศาลรฐั ธรรมนญู กรณคี �ำรอ้ งทย่ี นื่ เขา้ มาตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓ (ตอ่ ) บรรทดั ฐานค�ำสง่ั หมายเลขค�ำสงั่ ๑๐. การใชส้ ทิ ธยิ นื่ คำ� รอ้ งเพอ่ื ขอใหพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเี่ กดิ ขน้ึ ๓/๒๕๖๑ ๕/๒๕๖๑ ๙/๒๕๖๑ และเป็นกรณีที่ยุติไปแล้วก่อนที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๑๐/๒๕๖๑ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ ใชบ้ งั คบั ไมเ่ ปน็ ไปตามเจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนญู หมายเหตุ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มีผลใช้บังคับในวันท่ี ๒ มนี าคม ๒๕๖๑ ดงั นนั้ ตง้ั แตค่ ำ� สง่ั ศาลรฐั ธรรมนญู ท่ี ๒๒/๒๕๖๑ เปน็ ตน้ ไป จะเปน็ คำ� สงั่ ตามพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ดังกลา่ ว สว่ นคดที ยี่ นื่ เขา้ มาโดยอาศยั รฐั ธรรมนญู มาตราอนื่ ศาลรฐั ธรรมนญู ไดม้ คี ำ� สงั่ ไมร่ บั ไวพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั และจำ� หน่ายคดี จำ� นวน ๖ ค�ำสงั่ ประกอบไปดว้ ยค�ำสงั่ ศาลรัฐธรรมนญู ดงั ต่อไปนี้ 61 ๑. ค�ำสงั่ ศาลรัฐธรรมนูญท่ี ๕๕/๒๕๖๐ วนั ที่ ๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๐ เร่ือง พระราชบัญญตั ิยาเสพติดให้โทษ (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๘ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ขดั หรือแยง้ ตอ่ รัฐธรรมนญู หรอื ไม่ ผลของคำ� สง่ั ศาลรฐั ธรรมนญู มคี ำ� สง่ั ไมร่ บั คำ� รอ้ งไวพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั เนอื่ งจากเปน็ กรณีท่ีศาลจังหวัดพิษณุโลกและศาลอุทธรณ์ภาค ๖ มีค�ำพิพากษา และคดีถึงที่สุดแล้ว ประกอบกับกรณีที่นักโทษชายซึ่งเป็นจ�ำเลย ในคดีหมายเลขแดงที่ ๒๕๔/๒๕๔๙ ย่ืนค�ำร้องขอปรับบทกฎหมาย เปน็ คณุ ศาลจงั หวดั พษิ ณโุ ลกกไ็ ดส้ งั่ ยกคำ� รอ้ งขอใหว้ นิ จิ ฉยั คดใี หมแ่ ลว้ จึงไม่มีคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดพิษณุโลกในอันที่ จะนำ� พระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบบั ที่๖) พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา๘ มาใช้บังคับแก่คดีนี้อีกต่อไป กรณีตามค�ำร้องดังกล่าวจึงไม่ต้องด้วย หลักเกณฑ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ ประกอบข้อก�ำหนด ศาลรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยวธิ พี จิ ารณาและการทำ� คำ� วนิ จิ ฉยั พ.ศ. ๒๕๕๐ ขอ้ ๑๗ (๑๑) ท่ศี าลรัฐธรรมนญู จะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ บรรทดั ฐานค�ำสั่ง หลกั เกณฑใ์ นการรบั คำ� รอ้ งตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๒ ไวพ้ จิ ารณา วินิจฉัยน้ัน จะต้องปรากฏว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ีต้องการ ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ท่ีศาลจะใชบ้ งั คบั แกค่ ดีด้วย ศาลรัฐธรรมนูญ
๒. ค�ำสงั่ ศาลรฐั ธรรมนูญที่ ๑/๒๕๖๑ วันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ 62 เรอื่ ง คณะกรรมการการเลือกต้ังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ปัญหาเก่ียวกับหน้าที่และอ�ำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๐ วรรคหนงึ่ (๒) ผลของคำ� ส่งั ศาลรัฐธรรมนูญมีค�ำส่ังไม่รับค�ำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เน่ืองจาก ขอ้ เทจ็ จรงิ ตามคำ� รอ้ งยงั ไมม่ มี ลู กรณที แ่ี สดงใหเ้ หน็ วา่ ผรู้ อ้ งจะปฏบิ ตั ิ หนา้ ทแ่ี ละใชอ้ ำ� นาจตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๒๔ วรรคสาม (อำ� นาจ ในการสงั่ ระงบั ยบั ยงั้ แกไ้ ขเปลยี่ นแปลง หรอื ยกเลกิ การเลอื กตงั้ หรอื การเลอื ก หรอื การออกเสยี งประชามติ และสงั่ ใหด้ ำ� เนนิ การเลอื กตง้ั เลือกหรือออกเสียงประชามติใหม่ในหน่วยเลือกตั้งหรือเขตเลือกตั้ง ทพ่ี บเหน็ การกระทำ� ความผดิ ) จงึ ยงั ถอื ไมไ่ ดว้ า่ มปี ญั หาเกยี่ วกบั หนา้ ที่ และอำ� นาจตามรฐั ธรรมนญู เกดิ ขน้ึ กรณจี งึ เปน็ เพยี งขอ้ สงสยั ขอ้ หารอื หรือการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอ�ำนาจ ดงั กล่าวข้นึ เท่านัน้ บรรทัดฐานค�ำส่งั องคก์ รอสิ ระมอี ำ� นาจยน่ื คำ� รอ้ งขอใหศ้ าลรฐั ธรรมนญู พจิ ารณาวนิ จิ ฉยั ในปญั หาเกย่ี วกบั หนา้ ทแี่ ละอำ� นาจขององคก์ รอสิ ระนน้ั ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา๒๑๐วรรคหนง่ึ (๒)โดยไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเปน็ เรอื่ งทเ่ี ปน็ ความขดั แยง้ เกยี่ วกบั หนา้ ทแี่ ละอำ� นาจระหวา่ งองคก์ รอสิ ระตง้ั แตส่ ององคก์ รขนึ้ ไป ก็ตาม แต่การย่ืนค�ำร้องในกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นเร่ืองท่ีมีปัญหา เกยี่ วกบั หนา้ ทแ่ี ละอำ� นาจเกดิ ขนึ้ มใิ ชก่ รณเี ปน็ เพยี งขอ้ สงสยั ขอ้ หารอื หรือการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดปัญหาเก่ียวกับหน้าที่และอ�ำนาจ ขององคก์ รอสิ ระน้นั ๆ ศาลรัฐธรรมนูญ
๓. ค�ำสงั่ ศาลรฐั ธรรมนูญที่ ๑๖/๒๕๖๑ วนั ที่ ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ เร่อื ง พระราชบัญญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๘ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ และขดั หรอื แยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔ มาตรา ๕ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๙ และมาตรา ๒๗๙ วรรคสอง หรือไม่ ผลของค�ำสั่ง ศาลรฐั ธรรมนญู มีคำ� สั่งไมร่ ับค�ำร้องไว้พจิ ารณาวินิจฉัย เนื่องจากคดี ทเี่ ปน็ เหตแุ หง่ การสง่ คำ� โตแ้ ยง้ มายงั ศาลรฐั ธรรมนญู ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๒ น้ันถึงท่ีสุดแลว้ (ตามคำ� พพิ ากษาศาลอทุ ธรณ์ ภาค ๕) จงึ เปน็ กรณที ไ่ี มม่ คี ดอี ยใู่ นระหวา่ งการพจิ ารณาของศาลจงั หวดั ลำ� ปาง (ศาลที่ส่งค�ำโต้แย้งของจ�ำเลยมายังศาลรัฐธรรมนูญ) ในอันที่จะน�ำ พระราชบัญญัตยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๘ มาใช้บังคับแก่คดีนี้อีกต่อไป ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ บรรทัดฐานคำ� ส่งั หลกั เกณฑใ์ นการรบั คำ� รอ้ งตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๒ ไวพ้ จิ ารณา วนิ จิ ฉยั นนั้ จะตอ้ งปรากฏวา่ บทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมายทตี่ อ้ งการตรวจสอบ 63 ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ีศาลจะใช้ บังคบั แก่คดีด้วย รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ๔. คำ� สัง่ ศาลรัฐธรรมนูญท่ี ๓๗/๒๕๖๑ วันท่ี ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เรื่อง พระราชบญั ญตั ศิ ลุ กากร พทุ ธศกั ราช ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ มาตรา ๑๐๐ และมาตรา ๑๒๐ พระราชบญั ญัตศิ ุลกากร (ฉบบั ท่ี ๙) พุทธศักราช ๒๔๘๒ มาตรา ๑๖ พระราชบญั ญตั ศิ ลุ กากร พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๒ และมาตรา ๒๕๓ และพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรม แหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๓ ขดั หรอื แยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนญู มาตรา ๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๙ และมาตรา ๗๗ หรอื ไม่ ผลของค�ำสั่ง ศาลรัฐธรรมนูญมีค�ำส่ังไม่รับค�ำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจาก ข้อเท็จจริงปรากฏว่าคดีอันเป็นเหตุแห่งการส่งค�ำโต้แย้งมายัง ศาลรัฐธรรมนูญน้ันอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ไม่ใช่ศาลอาญาซ่ึงเป็นศาลท่ีส่งค�ำโต้แย้งมายังศาลรัฐธรรมนูญ กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ ท่ศี าลรัฐธรรมนูญจะรับไวพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญ
บรรทัดฐานคำ� สั่ง หลักเกณฑ์การส่งค�ำโต้แย้งของคู่ความต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ เพ่ือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญน้ันศาลที่มีอ�ำนาจส่งค�ำโต้แย้งของคู่ความดังกล่าว ต้องเป็นศาลท่ีจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายซ่ึงคู่ความโต้แย้ง บังคับแก่คดี ๕. ค�ำส่ังศาลรัฐธรรมนูญท่ี ๔๕/๒๕๖๑ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ 64 เรอื่ ง ศาลอาญาสง่ คำ� โตแ้ ยง้ ของจำ� เลยที่๑และที่๕เพอ่ื ขอใหศ้ าลรฐั ธรรมนญู พจิ ารณาวินจิ ฉยั ตามรฐั ธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ และมาตรา ๒๑๓ ว่า ร๒าย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี การตงั้ ขอ้ หาของพนกั งานสอบสวนและคำ� สง่ั ฟอ้ งของพนกั งานอยั การ ขัดหรอื แย้งต่อรฐั ธรรมนญู มาตรา ๕ และมาตรา ๒๕ หรอื ไม่ ผลของค�ำสง่ั ศาลรฐั ธรรมนญู มคี ำ� สง่ั ไมร่ บั หนงั สอื ของศาลอาญาไวพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั เนอ่ื งจากเปน็ การโตแ้ ยง้ เกยี่ วกบั การกระทำ� ของบคุ คลวา่ ขดั หรอื แยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนญู มใิ ชก่ ารโตแ้ ยง้ วา่ บทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมายทศี่ าลอาญา จะใช้บังคับแก่คดีน้ันขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ กรณีจึงไม่ต้องด้วย หลักเกณฑ์และเง่ือนไขท่ีศาลรัฐธรรมนูญจะรับหนังสือดังกล่าวไว้ พจิ ารณาวินิจฉยั ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ ได้ จำ� เลยที่ ๑ และท่ี ๕ ไดย้ น่ื คำ� โตแ้ ยง้ ตอ่ ศาลอาญาเพอื่ ใหส้ ง่ เรอื่ งมาให้ ศาลรฐั ธรรมนญู พจิ ารณาวนิ จิ ฉยั และศาลอาญาสง่ คำ� โตแ้ ยง้ ดงั กลา่ ว ใหศ้ าลรฐั ธรรมนญู พจิ ารณาวนิ จิ ฉยั กรณจี งึ ไมต่ อ้ งดว้ ยหลกั เกณฑแ์ ละ เง่ือนไขที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๓ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย วธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ.๒๕๖๑มาตรา๔๖และมาตรา๔๗(๔) ซ่ึงก�ำหนดให้ผู้ที่จะย่ืนค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้น้ันจะต้องเป็น บคุ คลซงึ่ ถกู ละเมดิ สทิ ธเิ สรภี าพทรี่ ฐั ธรรมนญู รบั รองคมุ้ ครองไวเ้ ทา่ นนั้ ผรู้ อ้ งตอ้ งยนื่ คำ� รอ้ งตอ่ ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ และตอ้ งไมใ่ ชเ่ รอื่ งทอ่ี ยใู่ น ระหว่างการพจิ ารณาพิพากษาคดขี องศาลอนื่ บรรทดั ฐานค�ำส่ัง ๑) คำ� โตแ้ ยง้ ของคคู่ วามทจี่ ะสง่ มาใหศ้ าลรฐั ธรรมนญู พจิ ารณาวนิ จิ ฉยั ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ จะต้องเป็นการโต้แย้งว่าบทบัญญัติ แหง่ กฎหมายทศี่ าลจะใชบ้ งั คบั แกค่ ดนี น้ั ขดั หรอื แยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนญู มใิ ช่ การโตแ้ ยง้ เกยี่ วกบั การกระทำ� ของบคุ คล ศาลรฐั ธรรมนูญ
๒) การย่ืนค�ำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๓ จะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไข ทศี่ าลรฐั ธรรมนญู จะรบั ไวพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๓ ประกอบพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยวธิ พี จิ ารณาของ ศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๖ และมาตรา ๔๗ (๔) มใิ ช่ สง่ มาพรอ้ มกบั คำ� โตแ้ ยง้ ของคคู่ วามตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๒ 65 ๖. คำ� ส่งั ศาลรฐั ธรรมนญู ท่ี ๕๑/๒๕๖๑ วันท่ี ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เรอื่ ง คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ(คณะกรรมการ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ป.ป.ช.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐วรรคหนง่ึ (๑)และ(๒)วา่ พระราชบญั ญตั จิ ดั ตงั้ ศาลปกครอง และวธิ พี จิ ารณาคดปี กครองพ.ศ.๒๕๔๒มาตรา๙ชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู มาตรา ๑๙๗ วรรคสาม หรอื ไม่ และกรณมี ปี ญั หาเกย่ี วกบั หนา้ ทแ่ี ละ อำ� นาจขององคก์ รอิสระ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) หรือไม่ ผลของค�ำสั่ง ส�ำหรับประเด็นท่ีผู้ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๐ วรรคหนงึ่ (๑) และ (๒) วา่ พระราชบญั ญตั ิ จดั ตงั้ ศาลปกครองและวธิ พี จิ ารณาคดปี กครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ ชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู มาตรา ๑๙๗ วรรคสาม หรอื ไม่ ศาลรฐั ธรรมนญู มคี ำ� สงั่ ไมร่ บั คำ� รอ้ งไวพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั เนอ่ื งจากรฐั ธรรมนญู ไดบ้ ญั ญตั ิ ใหส้ ทิ ธใิ นการยน่ื คำ� รอ้ งเกย่ี วกบั การตรวจสอบความชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู ของบทบัญญัติแห่งกฎหมายไว้เป็นการเฉพาะแล้วโดยการใช้สิทธิ ทางศาลตามมาตรา ๒๑๒ และการใช้สิทธิทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามมาตรา ๒๓๑ (๑) ผรู้ อ้ งจงึ ไมอ่ าจยน่ื คำ� รอ้ งในประเดน็ นโี้ ดยอาศยั ชอ่ งทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐ วรรคหน่งึ (๑) ได้ สว่ นประเดน็ ทผี่ รู้ อ้ งขอใหพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั ปญั หาเกย่ี วกบั หนา้ ทแี่ ละ อ�ำนาจของผู้ร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐ วรรคหน่ึง (๒) น้ัน ในระหว่างการพิจารณาได้มีการประกาศพระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ. ๒๕๖๑ ขน้ึ ใชบ้ งั คบั กรณจี งึ มคี วามชดั เจนในประเดน็ ทผี่ รู้ อ้ งขอใหศ้ าลรฐั ธรรมนญู พจิ ารณาหนา้ ทแ่ี ละอำ� นาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แลว้ จงึ ไมม่ เี หตุ ทจ่ี ะตอ้ งวนิ จิ ฉยั คดนี อ้ี กี ตอ่ ไปตามพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๑ ศาลรฐั ธรรมนูญจงึ มคี ำ� ส่งั จ�ำหน่ายคดี ศาลรฐั ธรรมนูญ
บรรทัดฐานค�ำส่ัง รฐั ธรรมนญู ไดบ้ ญั ญตั ใิ หส้ ทิ ธใิ นการยนื่ คำ� รอ้ งเกยี่ วกบั การตรวจสอบ ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของบทบัญญัติแห่งกฎหมายไว้เป็น การเฉพาะแลว้ โดยการใช้สิทธทิ างศาลตามมาตรา ๒๑๒ และการใช้ สิทธิทางผตู้ รวจการแผ่นดิน ตามมาตรา ๒๓๑ (๑) จงึ ไมอ่ าจใชส้ ิทธิ ดงั กลา่ วโดยอาศยั ชอ่ งทางตามรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๐ วรรคหนงึ่ (๑) ซึ่งเป็นกรณีขอให้พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเก่ียวกับหน้าที่และอ�ำนาจ ขององคก์ รตามรัฐธรรมนูญได้ ๒. ผลการด�ำเนนิ งานดา้ นการวจิ ยั สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารพฒั นาและปรบั ปรงุ ขอ้ มลู และงานวจิ ยั ใหม้ คี ณุ ภาพ สามารถใช้ 66 สนับสนุนงานศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานของส�ำนักงาน ศาลรฐั ธรรมนญู โดยใชก้ ระบวนการสรา้ ง/พฒั นางานขอ้ มลู และงานวจิ ยั ทงั้ ภายในประเทศและตา่ งประเทศ นอกจากนี้ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ควรตอ้ งสนบั สนนุ การเผยแพรร่ ายงานการศกึ ษาวจิ ยั และบทความทางวชิ าการและการใหท้ นุ สนบั สนนุ การศกึ ษา วิจัยทางวิชาการ เงินสมนาคุณผลงาน ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและมีการด�ำเนินการให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการดำ� เนินการดังน้ี ความสอดคลอ้ งเชอ่ื มโยงยทุ ธศาสตร์ ๑) ความสอดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ด้านการสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขัน ประเด็นยุทธศาสตรท์ ่ี ๔.๔.๔ พฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานเทคโนโลยีสมยั ใหม่ ๒) ความสอดคลอ้ งกับแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๘ การพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ยั และนวตั กรรม แนวทางการพฒั นาที่๓.๓พฒั นาสภาวะแวดลอ้ มของการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีวจิ ยั และนวตั กรรม ๓.๓.๓ ด้านการบรหิ ารจดั การ ๓) ความสอดคล้องกบั แผนการปฏริ ปู ประเทศ แผนปฏริ ูปประเทศ ดา้ นกระบวนการยุติธรรม ประเดน็ ปฏริ ปู ที่ ๒ การพฒั นากลไกชว่ ยเหลอื และเพม่ิ ศกั ยภาพเพอื่ ใหป้ ระชาชนเขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรม ประเด็นปฏิรูปท่ี ๑๐ การพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมเพ่ือเพิ่มศักยภาพในการ แขง่ ขนั ของประเทศ ศาลรฐั ธรรมนูญ
67 ๔) ความสอดคลอ้ งกบั ยุทธศาสตร์ศาลรฐั ธรรมนญู ยุทธศาสตร์ที่ ๑ ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานงาน ด้านงานคดี งานบริหาร งานวิชาการ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี เพือ่ สนับสนนุ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนญู กลยุทธ์ที่ ๑.๑ ข้อมูลและงานวิจัยมีคุณภาพ สามารถใช้สนับสนุนงานศาลรัฐธรรมนูญได้อย่าง มปี ระสิทธภิ าพและช่วยพฒั นามาตรฐานการปฏิบัตงิ านของส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนญู แผนงานท่ี ๑.๑.๑ สร้าง/พัฒนาข้อมูลและงานวิจัย ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพ่ือใช้ สนบั สนุนงานของศาลรัฐธรรมนญู เพ่ือเป็นการขับเคล่ือนภารกิจในด้านการศึกษาวิจัยในการศึกษาค้นคว้าเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ ในการพฒั นา แก้ไขปญั หา รวมถึงการปอ้ งกนั มิใหเ้ กิดปัญหาในกระบวนการใช้กฎหมายรฐั ธรรมนูญ ตลอดจนถงึ กระบวนการพจิ ารณาคดีและดา้ นอ่ืนๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจงึ มกี จิ กรรมและผลผลิต ดงั นี้ ๒.๑ ด้านโครงการศกึ ษาวจิ ัย จ�ำนวน ๓ เรือ่ ง ไดแ้ ก่ (๑) โครงการศึกษาวิจัย เร่ือง “ศาลรัฐธรรมนูญกับแนวคิดประชาธิปไตยที่ปกป้องตนเอง ได้ (Sustainable democracy) โดย ศูนย์บริการวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นท่ีปรึกษา ซ่งึ มีศาสตราจารย์ ดร.บรรเจดิ สิงคะเนติ เป็นหวั หน้าผู้วจิ ัย มีวัตถปุ ระสงค์เพอ่ื ศกึ ษาความเปน็ มา แนวคดิ ทฤษฎี และวิวัฒนาการของแนวคิดประชาธิปไตยท่ีปกป้องตนเองได้ของต่างประเทศและประเทศไทย เพ่ือวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๐ มาตรา ๖๓ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖๘ และมาตรา ๖๙ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๙ เพื่อศึกษากรณีศึกษา (Case study) ท่ีศาลได้น�ำเอาแนวคิดประชาธิปไตยท่ีปกป้องตนเองได้และ การใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญมาปรับใช้ในการพิจารณาวินิจฉัยคดีและผลกระทบทางการเมืองการปกครอง ทั้งในส่วนท่ีเป็นความส�ำเร็จและความล้มเหลวท้ังในกรณีของต่างประเทศและประเทศไทย และเพ่ือวิเคราะห์ เปรียบเทียบแนวคิดประชาธิปไตยที่ปกป้องตนเองได้ของต่างประเทศและของประเทศไทยพร้อมท้ังศึกษา หาแนวทางการประยกุ ต์ใชท้ เี่ หมาะสมกับระบอบการเมืองการปกครองของประเทศไทย (๒) โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง “สิทธิของประชาชนและชุมชนในการฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐ ใหป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ ามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๕๑ และพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. .... มาตรา ๔๕” โดยศูนย์วิจัยและให้ค�ำปรึกษา แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นที่ปรึกษา ซึ่งมีศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นหัวหน้าผู้วิจัย มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาถึงแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นมาและเจตนารมณ์ของบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. .... ท่ีก�ำหนดเร่ืองหน้าที่ ของรฐั และสทิ ธขิ องประชาชนและชมุ ชนในการฟอ้ งรอ้ งหนว่ ยงานของรฐั เพอ่ื ศกึ ษาเกย่ี วกบั หลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไข ท่ีน�ำไปสู่การฟ้องร้องของประชาชนและชุมชนโดยศึกษาเปรียบเทียบกรณีของไทยกับต่างประเทศเพ่ือศึกษา เกยี่ วกบั อำ� นาจหนา้ ทแ่ี ละวธิ กี ารปฏบิ ตั ขิ องศาล หรอื องคก์ รทมี่ อี ำ� นาจในการพจิ ารณาการฟอ้ งรอ้ งของประชาชน และชุมชน รวมถึงการก�ำหนดสภาพบังคับเพ่ือให้เป็นไปตามค�ำวินิจฉัย โดยศึกษาเปรียบเทียบกรณีของไทย กับต่างประเทศและเพ่ือศึกษาสภาพปัญหาและผลกระทบที่อาจเกิดข้ึนจากวิธีการปฏิบัติของศาลหรือองค์กร ศาลรฐั ธรรมนูญ
ท่ีมีอ�ำนาจในการพิจารณาการฟ้องร้องของประชาชนและชุมชน รวมถึงแนวทางการแก้ไขสภาพปัญหาและ 68 ผลกระทบดังกล่าว โดยศึกษาเปรยี บเทียบกรณีของไทยกบั ต่างประเทศ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี (๓) โครงการศกึ ษาวจิ ยั เรอื่ ง “อำ� นาจของศาลรฐั ธรรมนญู ในการวนิ จิ ฉยั ความชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู ของการกระท�ำตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓ และพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยวิธพี ิจารณาของศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ....” โดยมหาวทิ ยาลยั แมฟ่ า้ หลวงเป็นทปี่ รึกษา ซ่ึงมีอาจารย์ ดร.ฤทธิภัฏ กัลยาณภัทรศิษฏ์ เป็นหัวหน้าผู้วิจัย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงความเป็นมาและ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๓ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. .... เพ่ือศึกษาถึงขอบเขตอ�ำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและการกระท�ำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๓ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. .... เพื่อศึกษาวิธีการด�ำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๓ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. .... โดยศึกษาเปรียบเทียบกรณีของไทยกับต่างประเทศและเพ่ือศึกษา สภาพปญั หาและผลกระทบทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการบงั คบั ใชร้ ฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๓ และพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ด้วยวธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนูญ พ.ศ. .... ดังกล่าว รวมถึงแนวทางในการแก้ไขสภาพปัญหาและผลกระทบ ท่อี าจเกดิ ขนึ้ ดว้ ย โดยศึกษาเปรียบเทียบกรณขี องไทยกบั ตา่ งประเทศ ๒.๒ โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพและประสทิ ธภิ าพดา้ นการศกึ ษาวจิ ัย ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพ ดา้ นการศกึ ษาวจิ ยั ระหวา่ งวนั ที่ ๑๗ – ๒๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑ ณ สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพและทกั ษะในดา้ นการศกึ ษาวจิ ยั ใหแ้ กต่ ลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู และขา้ ราชการกลมุ่ งานวจิ ยั และ พัฒนารัฐธรรมนูญ รวมถึงเพ่ือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการเก่ียวกับรัฐธรรมนูญ คดีรัฐธรรมนูญ กฎหมายมหาชน และศาลรัฐธรรมนญู ระหว่างผเู้ ข้าร่วมโครงการกบั นักวิชาการในต่างประเทศ ส�ำหรับโครงการดังกล่าวได้จัดให้มีการศึกษาดูงานและร่วมประชุมแลกเปล่ียนความคิดเห็น ทางวิชาการ ณ ศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (The Federal Constitutional Court of Germany) เมอื งคารล์ สรู (Karlsruhe) ซง่ึ คณะผศู้ กึ ษาดงู าน ไดร้ บั ความรเู้ กย่ี วกบั สาเหตใุ นการจดั ตง้ั ศาลรฐั ธรรมนญู แหง่ สหพนั ธ์สาธารณรัฐเยอรมนเี มือ่ ปี ค.ศ. ๑๙๕๑ โครงสรา้ งและอำ� นาจหน้าท่ขี องศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพนั ธ์ สาธารณรัฐเยอรมนี กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กระบวนการในการร้องทุกข์ทางรัฐธรรมนูญ (Constitutional Complaints) และบทบาทของคณะผสู้ นบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านของคณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู รวมทงั้ หารอื เกย่ี วกบั แนวทางการสรา้ งความรว่ มมอื ทางวชิ าการระหวา่ งศาลรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยกบั ศาลรฐั ธรรมนญู แหง่ สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี พรอ้ มกนั นไี้ ดเ้ ขา้ เยย่ี มชมหอ้ งพจิ ารณาคดขี องศาลรฐั ธรรมนญู และ สถาบันวิจัย Max Planck เพื่อกฎหมายมหาชนและกฎหมายระหว่างประเทศเปรียบเทียบ (The Max Planck Institute for Comparative Public Law and International Law) เมืองไฮเดลเบอร์ก (Heidelberg) ซึ่งคณะผู้ศึกษาดูงานได้รับความรู้เก่ียวกับโครงสร้างการบริหารจัดการ และบทบาทด้านการศึกษาวิจัยทางด้าน กฎหมายมหาชนและกฎหมายระหวา่ งประเทศของสถาบนั วจิ ยั ฯ รวมทงั้ หารอื เกย่ี วกบั แนวทางการสรา้ งความรว่ มมอื ทางวิชาการระหว่างศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและสถาบันวิจัยฯ และได้รับเชิญให้เข้ารับฟัง ศาลรัฐธรรมนูญ
69 การนำ� เสนอผลการศกึ ษาวจิ ยั ของนกั วจิ ยั ประจำ� สถาบนั ดว้ ย นอกจากนี้ คณะฯ ยงั ไดค้ น้ ควา้ เอกสารทางวชิ าการ เกี่ยวกับสาเหตุของการจัดต้ังศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และได้เข้าหารือเกี่ยวกับบทบาท รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ของสถาบันวจิ ยั ฯ ในการสนับสนนุ ข้อมูลการศกึ ษาวิจัยแกห่ นว่ ยงานตา่ งๆ ทง้ั ภายในและภายนอกประเทศ และ การให้ทุนสนับสนุนการศึกษาวิจัยแก่นักวิจัยต่างชาติที่จะเข้ามาศึกษาวิจัย ณ สถาบันวิจัย ซึ่งปัจจุบันมีนักวิจัย ต่างชาติจาก ๒๕ ประเทศทที่ �ำการศกึ ษาวิจัยอยทู่ ีส่ ถาบันฯ ๒.๓ โครงการใหท้ ุนสนบั สนนุ การจดั ท�ำวิทยานพิ นธ์ สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ไดด้ ำ� เนนิ การเกยี่ วกบั การใหท้ นุ สนบั สนนุ การจดั ทำ� วทิ ยานพิ นธใ์ นระดบั บัณฑิตศึกษาให้แก่นิสิต นักศึกษา ท่ีศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาของรัฐและเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับรัฐธรรมนูญ คดีรัฐธรรมนูญ กฎหมายและศาลรฐั ธรรมนญู ใหแ้ กบ่ คุ ลากรทงั้ ภายในและภายนอกศาลรฐั ธรรมนญู ใหม้ คี วามหลากหลายมากขน้ึ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ในหัวข้อเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ กฎหมายมหาชน การเมือง การปกครอง ซง่ึ มผี สู้ นใจสง่ ขอ้ เสนอเพอ่ื ขอรบั การสนบั สนนุ การจดั ทำ� วทิ ยานพิ นธเ์ ปน็ จำ� นวนมาก โดยสำ� นกั งาน ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาให้ทุนสนับสนุนการจัดท�ำวิทยานิพนธ์ ให้แก่นิสิตนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา จ�ำนวน ๗ ราย งบประมาณรวมทัง้ สนิ้ ๕๓๑,๐๐๐ บาท แบ่งเป็น - ทุนสนับสนนุ ฯ ระดบั ปรญิ ญาโท ทนุ ละ ๕๐,๐๐๐ บาท จำ� นวน ๓ ราย - ทุนสนับสนนุ ฯ ระดบั ปรญิ ญาเอก ทุนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท จำ� นวน ๔ ราย ศาลรัฐธรรมนญู
๓. ผลการด�ำเนนิ งานดา้ นเอกสารสง่ิ พมิ พแ์ ละสอื่ ประชาสมั พนั ธ์ ความสอดคลอ้ งเช่ือมโยงยุทธศาสตร์ 70 ๑) ความสอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๖ ดา้ นการปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การภาครัฐ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๔.๑ ภาครัฐท่ียึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และ ให้บริการอยา่ งสะดวก รวดเร็ว โปรง่ ใส ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี ๔.๒ ภาครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมาย และเช่ือมโยงการพฒั นาในทุกระดบั ทกุ ประเดน็ ทกุ ภารกจิ และทกุ พ้นื ท่ี ๒) ความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๑๒ ยุทธศาสตร์ที่ ๖ การบรหิ ารจดั การในภาครฐั การปอ้ งกนั การทจุ รติ ประพฤตมิ ชิ อบและธรรมาภบิ าล ในสงั คมไทย แนวทางการพัฒนาท่ี ๓.๖ ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้มีความทันสมัย เป็นธรรม และสอดคลอ้ งกบั ขอ้ บงั คับสากลหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ ๓.๖.๒ ปฏริ ปู กระบวนการยตุ ธิ รรมให้มปี ระสทิ ธิภาพ ๓) ความสอดคลอ้ งกบั แผนการปฏริ ปู ประเทศ แผนปฏิรปู ประเทศ ดา้ นกฎหมาย เปา้ หมายหรอื ผลอนั พงึ ประสงคท์ ่ี ๖ มกี ลไกใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการจดั ทำ� และเสนอรา่ งกฎหมาย หรือกฎที่มีความส�ำคัญ และจัดให้มีกลไกช่วยเหลือประชาชนในการจัดท�ำและเสนอร่างกฎหมาย รวมท้ังการให้ ความชว่ ยเหลอื ทางกฎหมายแกป่ ระชาชน เป้าหมายหรือผลอันพึงประสงค์ท่ี ๗ มีกลไกให้ให้ประชาชนเข้าถึงกฎหมาย กฎ โดยสะดวกและ เข้าใจกฎหมายได้ง่ายรวมทั้งการพัฒนาระบบฐานข้อมูลของกฎหมาย ค�ำพิพากษา ค�ำวินิจฉัย หรือ การตีความ กฎหมาย หรอื กฎใหป้ ระชาชนเข้าถงึ ได้โดยสะดวก ๔) ความสอดคลอ้ งกับยุทธศาสตร์ศาลรัฐธรรมนญู ยุทธศาสตร์ท่ี ๔ สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื และประชาสมั พนั ธก์ บั เครอื ขา่ ยดา้ นการจดั การความรทู้ งั้ ภายใน ประเทศและตา่ งประเทศ กลยทุ ธท์ ่ี ๔.๒ พัฒนางานเครอื ข่ายด้านประชาสัมพนั ธ์ให้ครอบคลมุ ประชาชนทกุ ระดับทุกพ้นื ท่ี แผนงานท่ี ๔.๒.๑ เสรมิ สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั อำ� นาจ หนา้ ทข่ี องศาลรฐั ธรรมนญู ตลอดจน ภารกิจของสำ� นักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ไดด้ ำ� เนนิ โครงการเกยี่ วกบั การจดั พมิ พส์ อื่ สงิ่ พมิ พแ์ ละผลติ สอ่ื ประชาสมั พนั ธ์ เพ่ือเผยแพรแ่ ละประชาสมั พันธ์ ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ดังนี้ ๓.๑ การจัดพิมพ์วารสารศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเผยแพร่ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นหน่วยงานของรัฐ และเอกชน สถาบนั การศกึ ษา สมาชกิ วารสาร และผ้สู นใจทั่วไป จ�ำนวน ๔ ฉบบั ดังน้ี ศาลรฐั ธรรมนูญ
71 – ฉบบั ปที ่ี ๑๙ เล่มท่ี ๕๖ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๐ จำ� นวน ๑,๐๐๐ เลม่ – ฉบับปที ่ี ๑๙ เล่มท่ี ๕๗ เดือนกันยายน - ธนั วาคม ๒๕๖๐ จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี – ฉบับปที ี่ ๒๐ เลม่ ที่ ๕๙ เดอื นมกราคม - เมษายน ๒๕๖๑ จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เลม่ – ฉบบั ปีที่ ๒๐ เล่มที่ ๕๙ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๑ จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม ๓.๒ การจัดพิมพ์หนังสือ “รวมบทความทางวิชาการของส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ” ชุดท่ี ๑๖ เพ่ือเผยแพร่ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นหน่วยงานของรัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา และผู้สนใจท่ัวไป จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม ๓.๓ การจัดพิมพ์หนังสือรายงานการศึกษาวิจัย เร่ือง “การน�ำประเพณีการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาใช้ในการพิจารณาวินิจฉัยคดีรัฐธรรมนูญ” โดยผู้ช่วย ศาสตราจารย์ ดร.ปวรศิ ร เลศิ ธรรมเทวี หวั หนา้ ผวู้ จิ ยั เพอื่ เผยแพรใ่ หแ้ กก่ ลมุ่ เปา้ หมายทเี่ ปน็ หนว่ ยงานของรฐั และ เอกชน สถาบันการศึกษา และผูส้ นใจท่วั ไป จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม ๓.๔ การจัดพิมพ์หนังสือ “ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับศาลรัฐธรรมนูญ” (พิมพ์ครั้งที่ ๑) เพ่ือเผยแพร่ ให้แกก่ ลุ่มเปา้ หมายทเี่ ปน็ หนว่ ยงานของรฐั และเอกชน สถาบันการศึกษา และผ้สู นใจท่ัวไป จ�ำนวน ๕,๐๐๐ เล่ม ๓.๕ การจดั พมิ พเ์ ผยแพรห่ นงั สอื “สรปุ ผลโครงการสมั มนาทางวชิ าการ เรอื่ ง หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และ เง่ือนไขในการย่ืนค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓” เพื่อเผยแพร่ใหแ้ กก่ ล่มุ เปา้ หมายท่เี ป็นหนว่ ยงานของรัฐและเอกชน สถาบนั การศกึ ษา และผสู้ นใจ ท่วั ไป จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม ๓.๖ ผลติ แผน่ พบั ประชาสมั พนั ธศ์ าลรฐั ธรรมนญู ตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยพทุ ธศกั ราช๒๕๖๐ โดยด�ำเนินการผลิตแผ่นพับประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ประวัติความเป็นมา หน้าที่และอ�ำนาจ วิสัยทัศน์ พันธกิจของศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงความรู้เก่ียวกับสิทธิในการยื่นค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญของประชาชน ตลอดจนสิทธิและเสรีภาพที่ประชาชนพึงมีภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านทางโครงการให้ความรู้ของส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา และบคุ ลากรหนว่ ยงานต่างๆ ทีเ่ ขา้ มาศึกษาดงู าน ณ ศาลรัฐธรรมนูญ ๓.๗ ผลิตวีดิทัศน์แนะน�ำศาลรัฐธรรมนูญและส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเผยแพร่ประวัติ ความเป็นมา หน้าที่และอ�ำนาจตลอดจนวิธีพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงข้ันตอนการใช้สิทธิ ในการยื่นค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้กับประชาชนได้รับทราบผ่านทางโครงการให้ความรู้ของส�ำนักงาน ศาลรัฐธรรมนูญ ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรหน่วยงานต่างๆ ท่ีเข้ามาศึกษาดูงาน ณ ส�ำนักงาน ศาลรฐั ธรรมนญู ๓.๘ จัดท�ำจดหมายข่าวศาลรัฐธรรมนูญ ประจ�ำปี ๒๕๖๑ ด�ำเนินการผลิตส่ือประเภทจุลสาร เพอ่ื เผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสาร ความเคลอ่ื นไหวของศาลรฐั ธรรมนญู และสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ตลอดจนความรเู้ กย่ี วกบั กฎหมายรัฐธรรมนญู และกฎหมายต่างๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ให้กับหนว่ ยงานภาครัฐ สถานศึกษา และประชาชนทั่วไป ๓.๙ จัดท�ำบทความเผยแพร่หน้าที่และอ�ำนาจตลอดจนภารกิจและผลการด�ำเนินงานของ ศาลรัฐธรรมนูญทางสื่อหนังสือพิมพ์ เนื่องในวาระศาลรัฐธรรมนูญ ครบรอบ ๒๐ ปี ผลิตบทความเพ่ือเผยแพร่ ศาลรัฐธรรมนูญ
หน้าท่ีและอ�ำนาจ ตลอดจนภารกิจและผลการด�ำเนินงานของศาลรัฐธรรมนูญ ในโอกาสครบรอบปีการก่อตั้ง 72 ศาลรฐั ธรรมนญู และตพี มิ พเ์ ผยแพรท่ างหนงั สอื พมิ พ์ ขนาด ๑๒ x ๒๐ คอลมั นน์ วิ้ ประเภทสสี่ ี ในวนั ท่ี ๑๑ เมษายน ของทุกปี และดำ� เนินการมาเป็นประจ�ำทกุ ปี โดยกลมุ่ เป้าหมายเป็นประชาชนท่วั ประเทศ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ๓.๑๐ การแปลและจดั พมิ พ์สรปุ ค�ำวินจิ ฉยั ศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๕๙ (ฉบับภาษาไทย - ภาษาองั กฤษ) จดั พิมพ์ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓.๑๑ จดั พมิ พร์ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ (ฉบบั ภาษาไทย - ภาษาองั กฤษ) (เล่มสีเขียว) จดั พมิ พ์ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓.๑๒ จดั พมิ พร์ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ (ฉบบั ภาษาไทย - ภาษาองั กฤษ) (เล่มสีฟา้ ) จัดพิมพใ์ นปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓.๑๓ เผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารของส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ค�ำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านทางเว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญจัดท�ำข่าวสารภารกิจและค�ำวินิจฉัยตลอดจนความรู้เก่ียวกับหน้าท่ีและอ�ำนาจ วิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ และความรู้เกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญผ่านทางเว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญ ทาง www.constitutionalcourt.go.th กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และหน่วยงาน ท้ังภาครฐั และเอกชน ทวั่ ประเทศและนานาประเทศ ๓.๑๔ เผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารของส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ค�ำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สอื่ สงั คมออนไลน์ จัดท�ำข่าวสารภารกิจและค�ำวนิ จิ ฉยั ตลอดจนความรูเ้ ก่ียวกบั หน้าทแี่ ละอ�ำนาจ วิธพี จิ ารณาคดี ของศาลรัฐธรรมนูญ และความรู้เก่ียวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญผ่านทางส่ือสังคมออนไลน์ ประเภทเฟซบุ๊ก เปน็ การพฒั นาชอ่ งทางการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสารของศาลรฐั ธรรมนญู ใหก้ วา้ งขวางและครอบคลมุ และทนั สมยั มากยงิ่ ขน้ึ ภาพเอกสารสง่ิ พมิ พแ์ ละสอ่ื ประชาสมั พนั ธท์ จ่ี ดั พมิ พเ์ ผยแพร่ ศาลรฐั ธรรมนญู
๔. ผลการด�ำเนนิ งานดา้ นเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั 73 ความสอดคล้องเชือ่ มโยงยุทธศาสตร์ ๑) ความสอดคล้องกับยทุ ธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ยุทธศาสตร์ที่ ๖ ดา้ นการปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบการบริหารจัดการภาครฐั ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี ๔.๑ ภาครัฐท่ียึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และ ให้บริการอย่างสะดวก รวดเร็ว โปรง่ ใส ประเด็นยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๔.๔ ภาครฐั มีความทนั สมยั ๒) ความสอดคล้องกับแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๑๒ ยุทธศาสตร์ที่ ๖ การบรหิ ารจดั การในภาครฐั การปอ้ งกนั การทจุ รติ ประพฤตมิ ชิ อบและธรรมาภบิ าล ในสงั คมไทย แนวทางการพัฒนาท่ี ๓.๖ ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้มีความทันสมัย เป็นธรรม และสอดคลอ้ งกับขอ้ บงั คับสากลหรือข้อตกลงระหวา่ งประเทศ ๓.๖.๒ ปฏริ ปู กระบวนการยุติธรรมให้มปี ระสทิ ธิภาพ ๓) ความสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ แผนปฏริ ูปประเทศ ด้านกฎหมาย เป้าหมายหรือผลอันพึงประสงค์ที่ ๖ มีกลไกให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดท�ำและ เสนอรา่ งกฎหมายหรอื กฎทม่ี คี วามสำ� คญั และจดั ใหม้ กี ลไกชว่ ยเหลอื ประชาชนในการจดั ทำ� และเสนอรา่ งกฎหมาย รวมทงั้ การให้ความชว่ ยเหลอื ทางกฎหมายแก่ประชาชน เป้าหมายหรือผลอนั พงึ ประสงค์ที่ ๗ มีกลไกให้ประชาชนเขา้ ถงึ กฎหมาย กฎ โดยสะดวกและเข้าใจ กฎหมายไดง้ า่ ยรวมทง้ั การพฒั นาระบบฐานขอ้ มลู ของกฎหมาย คำ� พพิ ากษา คำ� วนิ จิ ฉยั หรอื การตคี วามกฎหมาย หรอื กฎใหป้ ระชาชนเขา้ ถึงไดโ้ ดยสะดวก ๔) ความสอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตร์ศาลรัฐธรรมนูญ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๒ เสรมิ สรา้ งระบบฐานขอ้ มลู พฒั นาเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ทเ่ี หมาะสมกบั บคุ ลากรและองคก์ ร เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั งิ านใหก้ า้ วหนา้ ทนั สมยั และเปน็ มาตรฐานสากล กลยทุ ธท์ ่ี ๒.๑ พฒั นาเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เพอื่ สนบั สนนุ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องคณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ใหม้ คี วามสะดวก รวดเรว็ โปรง่ ใส และใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หนา้ ทข่ี องสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู เปน็ มาตรฐาน ทัดเทียมกบั สถาบนั เทยี บเทา่ แผนงานที่ ๒.๑.๓ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจทิ ัลของส�ำนกั งานศาลรัฐธรรมนญู ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมุ่งสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของ คณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ใหม้ คี วามสะดวก รวดเรว็ โปรง่ ใส และใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หนา้ ทขี่ องสำ� นกั งาน ศาลรฐั ธรรมนูญเป็นมาตรฐานทัดเทยี มกับสถาบนั เทียบเทา่ โดยมกี ารดำ� เนนิ การดังน้ี ศาลรฐั ธรรมนญู
๔.๑ งานบ�ำรงุ รักษาระบบถอดเสียงอตั โนมตั ิภาษาไทย 74 สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู มผี เู้ ชย่ี วชาญเฉพาะดา้ นทำ� การตรวจสอบการทำ� งานของระบบถอดเสยี ง อัตโนมัติภาษาไทยให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ และมีการบ�ำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ของระบบถอดเสียงอัตโนมัติภาษาไทยสามารถใช้งานได้อย่างต่อเน่ือง ไม่มีการขัดข้องและปัญหาด้านการใช้งาน โดยสำ� นักงานศาลรัฐธรรมนูญมีการบำ� รุงรกั ษาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพื่อสนบั สนุนกระบวนการวินิจฉยั คดี และการบรหิ ารจัดการงานคดที ่ีมีประสทิ ธิภาพ พรอ้ มใช้งาน ๔.๒ งานบ�ำรงุ รกั ษาเครื่องคอมพิวเตอร์แมข่ ่ายและลกู ขา่ ยและระบบโสตทัศนปู กรณ์ ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านท�ำการบ�ำรุงรักษาระบบเคร่ืองคอมพิวเตอร์ แม่ข่ายและลูกข่าย และระบบโสตทัศนูปกรณ์ จัดหาอุปกรณ์ทดแทนอุปกรณ์ท่ีเสื่อมสภาพต่อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ท่เี กี่ยวขอ้ งกับระบบเครอื่ งคอมพิวเตอรแ์ มข่ ่ายและลูกขา่ ยและระบบโสตทัศนปู กรณอ์ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง ประกอบด้วย – หอ้ งควบคุมคอมพิวเตอรแ์ ม่ขา่ ย – ระบบเครอื ขา่ ยและความปลอดภัยทางเครอื ขา่ ย – ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปดิ รกั ษาความปลอดภยั – ระบบรกั ษาความปลอดภัยการเข้า - ออกอาคาร – ระบบบริหารจดั การเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ – ระบบป้องกนั ไวรัส ทำ� ใหส้ ำ� นักงานศาลรัฐธรรมนูญสามารถด�ำเนนิ งานได้อย่างราบรนื่ มีประสิทธภิ าพ และมีการรกั ษา ความปลอดภยั ทีค่ รอบคลมุ ทัง้ ส�ำนกั งาน ๔.๓ งานบ�ำรงุ รักษาและปรับปรุงระบบสารสนเทศเพอื่ การบริหารองค์กร (e - Office) สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู มผี เู้ ชย่ี วชาญเฉพาะดา้ นทำ� การบำ� รงุ รกั ษาและปรบั ปรงุ ระบบสารสนเทศ เพ่ือการบริหารองคก์ ร (e - Office) ให้สามารถใชง้ านไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ และหากเกดิ ปัญหาดา้ นการใชง้ าน ระบบ หรือตอ้ งการแก้ไขในส่วนงานตา่ งๆ ในระบบ ก็สามารถด�ำเนนิ การแก้ไขปญั หาได้อยา่ งถกู ตอ้ งและรวดเรว็ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้งาน และท�ำให้ผู้ใช้งานสามารถด�ำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ มีระบบงานท่ีอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ และบุคลากรส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ใช้งานระบบสารสนเทศ เพ่ือการบริหารองค์กร (e - Office) สามารถด�ำเนินงานได้อย่างราบรื่น และหากมีความต้องการเปลี่ยนแปลง แก้ไขในส่วนต่างๆ ก็สามารถแจ้งให้ด�ำเนินงานแก้ไขเพ่ิมเติมได้ ท�ำให้ส่งผลให้กระบวนการท�ำงานรวดเร็วและ มปี ระสทิ ธภิ าพมากยิง่ ขึน้ ๔.๔ งานบ�ำรุงรกั ษาเว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญและส�ำนกั งานศาลรฐั ธรรมนูญ ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีการบ�ำรุงรักษาเว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญและส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อด�ำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสาร ค�ำวินิจฉัย งานวิจัยและวิชาการ งานความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ และความสมั พันธร์ ะหวา่ งหน่วยงานภาครฐั ในประเทศ ผ่านเครือขา่ ยอินเทอรเ์ น็ตส่สู าธารณชน และเพอื่ ใหเ้ วบ็ ไซตศ์ าลรฐั ธรรมนญู และสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู สามารถใหบ้ รกิ ารตอ่ สาธารณชนในรปู แบบใหม่ ไดอ้ ย่างมีมาตรฐาน มีประสิทธภิ าพ และมเี ทคโนโลยีเพอื่ สนับสนุนการท�ำงานของเวบ็ ไซต์ท่ที ันสมัยและปลอดภยั มคี วามสมบรู ณ์ สามารถใชง้ านได้ตอ่ เน่อื งและมีประสทิ ธิภาพ ศาลรัฐธรรมนญู
๔.๕ งานใหบ้ รกิ ารเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู มกี ารอำ� นวยความสะดวกในการสบื คน้ ขอ้ กฎหมายประกอบการพจิ ารณาคดี ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเจ้าหน้าท่ีส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อ�ำนวยความสะดวกในการรับ - ส่ง เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ท้ังภายในและภายนอกองค์กร และสามารถใช้ในการเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ค�ำวินิจฉัย และข่าวสารต่างๆ ขององค์กร โดยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ข้าราชการ เจ้าหน้าท่ีสำ� นักงาน ศาลรัฐธรรมนูญสามารถสืบค้นข้อมูลจากการใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่าง เตม็ ประสิทธภิ าพ ๕. ผลการด�ำเนนิ งานดา้ นการพฒั นาบคุ ลากรของส�ำนกั งานศาลรฐั ธรรมนญู 75 ความสอดคลอ้ งเช่ือมโยงยุทธศาสตร์ ๑) ความสอดคล้องกับยทุ ธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ยุทธศาสตร์ท่ี ๖ ดา้ นการปรับสมดลุ และพฒั นาระบบการบริหารจดั การภาครฐั ประเดน็ ยุทธศาสตร์ท่ี ๔.๕ บคุ ลากรภาครฐั เปน็ คนดีและเก่ง ยึดหลักคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีจิตส�ำนึก มีความสามารถสูง ม่งุ ม่นั และเปน็ มืออาชีพ ๒) ความสอดคลอ้ งกับแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๑๒ ยุทธศาสตร์ที่ ๖ การบรหิ ารจดั การในภาครฐั การปอ้ งกนั การทจุ รติ ประพฤตมิ ชิ อบและธรรมาภบิ าล ในสงั คมไทย แนวทางการพัฒนาท่ี ๓.๖ ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้มีความทันสมัย เป็นธรรม และสอดคลอ้ งกบั ขอ้ บังคับสากลหรอื ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ ๓.๖.๒ ปฏริ ปู กระบวนการยตุ ธิ รรมใหม้ ีประสิทธภิ าพ ๓) ความสอดคลอ้ งกับแผนการปฏริ ูปประเทศ แผนปฏริ ปู ประเทศ ด้านกระบวนการยุตธิ รรม ประเด็นปฏิรูปท่ี ๙ การเสริมสร้างและพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องในกระบวนการ ยตุ ิธรรมเพอื่ มุ่งอ�ำนวยความยตุ ธิ รรมแก่ประชาชนโดยสะดวกและรวดเร็ว ประเด็นปฏิรูปที่ ๑๐ การพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมเพ่ือเพ่ิมศักยภาพในการ แขง่ ขนั ของประเทศ ๔) ความสอดคล้องกับยทุ ธศาสตรศ์ าลรฐั ธรรมนญู ยุทธศาสตร์ที่ ๓ บุคลากรมีสมรรถนะสูงและได้รับการพัฒนาเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับ วัฒนธรรมองค์กร กลยทุ ธท์ ี่ ๓.๒ บคุ ลากรมคี วามรู้ ทกั ษะ ความเชย่ี วชาญ รวมถงึ มคี วามพรอ้ มดา้ นภาษาตา่ งประเทศ และระบบเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั โดยมกี ารจดั ระดบั การพฒั นาการประเมนิ และการออกแบบใหส้ อดคลอ้ งกบั บคุ ลากรภายใน แผนงานที่ ๓.๒.๑ การพฒั นาบคุ ลากรใหม้ ศี กั ยภาพตามระดบั สมรรถนะทสี่ ำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู กำ� หนด ศาลรฐั ธรรมนญู
แผนงานท่ี ๓.๒.๒ การจัดท�ำระบบการพฒั นาบุคลากรดา้ นภาษาและระบบเทคโนโลยดี ิจทิ ลั 76 สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตที่มีการเปล่ียนแปลงอยู่อย่างต่อเน่ือง บุคลากร องค์กรหรือหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับกระบวนการท�ำงานของศาลรัฐธรรมนูญและส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี มีความคาดหวังในผลลัพธ์การปฏิบัติงานของศาลรัฐธรรมนูญและส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเพ่ิมมากข้ึน ทำ� ใหส้ ำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารปรบั ปรงุ โครงสรา้ ง ระบบงาน กรอบอตั รากำ� ลงั และกำ� หนดสมรรถนะ รวมถงึ การปรบั ปรงุ กฎ ระเบยี บ ภายในสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ใหม้ คี วามเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ภารกจิ งาน ของศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต มีการสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพตามระดับสมรรถนะท่ีส�ำนักงาน ศาลรัฐธรรมนูญก�ำหนด โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ความรู้ ทกั ษะ ความเชี่ยวชาญ ที่จำ� เป็นต่องาน รวมถงึ มคี วามพรอ้ ม ด้านภาษาต่างประเทศและระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งในรูปแบบการพัฒนาระยะส้ันและระยะยาว การปรับปรุง ทัศนคติมุ่งให้บุคลากรภายในมีค่านิยม วัฒนธรรมองค์กร ร่วมกัน มีความเป็นทีม ตลอดจนการจัดท�ำข้อตกลง ในการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนยุทธศาสตร์ให้ครอบคลุมบุคลากรทุกระดับเพื่อน�ำมาใช้ในการบริหาร ทรพั ยากรบคุ คลในองค์กร การพฒั นาองคค์ วามรใู้ หม้ เี นอ้ื หาและองคป์ ระกอบตามมาตรฐานทสี่ ำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู กำ� หนด โดยน�ำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปฏิบัติและ/หรือปรับปรุงผลการด�ำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จนถงึ ขนั้ การตอ่ ยอดองคค์ วามรเู้ ดมิ และสรา้ งเปน็ องคค์ วามรใู้ หมๆ่ ได้ ตลอดจนสามารถพฒั นานวตั กรรมเพอื่ สนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านและการเตบิ โตขององคก์ รไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื และกา้ วยา่ งสกู่ ารเปน็ องคก์ รแหง่ การเรยี นรู้ จากเหตขุ า้ งตน้ สำ� นักงานศาลรฐั ธรรมนญู จึงไดพ้ ัฒนาศักยภาพของบคุ ลากรอย่างต่อเนอ่ื ง โดยสำ� นักงานศาลรฐั ธรรมนญู ได้จดั สง่ บุคลากรเข้ารับการศึกษาอบรมตามประเภทหรือระดับหลักสูตรจากภายนอกองค์กร และจัดอบรมและสัมมนา ทางวิชาการภายในองค์กร ดงั ต่อไปนี้ ๕.๑ การศึกษาอบรมตามประเภทหรือระดับหลักสูตรจากภายนอกองค์กร ส�ำนักงาน ศาลรฐั ธรรมนญู จดั ส่งบุคลากรเขา้ รบั การอบรม ดังน้ี หลักสตู ร ผเู้ ขา้ อบรม (คน) ๑. หลักสูตรนักบรหิ ารระดบั สงู (๘ หลกั สตู ร) จ�ำนวน ๙ คน ๑ (๑) หลกั สูตรการพัฒนานกั บริหารระดบั สูง : ผ้นู ำ� ท่มี วี ิสัยทัศนแ์ ละคุณธรรม ๒ (๒) หลักสตู รผู้บรหิ ารงานด้านกฎหมายภาครฐั ระดบั สูง ๑ (๓) หลกั สูตรประกาศนียบตั รชนั้ สงู การเสริมสร้างสังคมสนั ติสขุ ๑ (๔) หลกั สูตรประกาศนยี บัตรชน้ั สงู การบรหิ ารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน ๑ (๕) หลกั สตู รธรรมาภิบาลส่ิงแวดล้อมสำ� หรบั นักบรหิ ารระดับสูง ๑ (๖) หลักสูตรนักบริหารการเงินการคลงั ภาครฐั ระดบั สูง ๑ (๗) หลกั สตู รนกั บริหารการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ระดับสูง ๑ (๘) หลักสูตรไทยกบั ประชาคมอาเซียน ศาลรฐั ธรรมนูญ
๕.๑ การศึกษาอบรมตามประเภทหรือระดับหลักสูตรจากภายนอกองค์กร ส�ำนักงาน ศาลรฐั ธรรมนญู จัดส่งบุคลากรเขา้ รับการอบรม ดงั นี้ (ต่อ) หลกั สูตร ผู้เข้าอบรม (คน) ๒. หลกั สูตรนักบรหิ ารระดบั กลาง (๒ หลักสตู ร) จ�ำนวน ๔ คน (๑) หลกั สูตรธรรมาภบิ าลของผูบ้ ริหารระดบั กลาง ๓ (๒) หลักสูตรจติ วทิ ยาความม่นั คง ๑ ๓. หลักสูตรนกั บรหิ ารระดบั ต้น (๒ หลักสูตร) จำ� นวน ๓ คน (๑) หลักสตู รนักประชาสัมพนั ธ์ดิจิทัล Smart PR ๑ (๒) หลกั สูตรการจัดทำ� แผนงานประชาสัมพนั ธ์แบบครบวงจร ๒ ๔. หลักสตู รกฎหมายมหาชน (๑ หลกั สูตร) จ�ำนวน ๒ คน (๑) หลักสูตรประกาศนียบัตรกฎหมายมหาชน ๒ ๕. หลักสตู รของมลู นิธวิ ิจัยทางปกครอง (๓ หลกั สูตร) จ�ำนวน ๑๒ คน (๑) หลกั สตู รกฎหมายปกครองเกี่ยวกับพระราชบญั ญตั จิ ดั ซอ้ื จัดจ้าง ๖ 77 (๒) หลกั สตู รกฎหมายปกครองเก่ียวกบั วินยั และการบรหิ ารงานบคุ คล ๔ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี (๓) หลักสตู รกฎหมายปกครอง ๒ ๖. หลักสตู รประกาศนยี บตั รผตู้ รวจสอบภายในภาครัฐ Advanced ๑ ๗. หลักสตู รประกาศนยี บัตรผู้ตรวจสอบภายในภาครฐั Advanced Consulting ๑ ๘. หลักสูตรประกาศนยี บตั รผตู้ รวจสอบภายในภาครัฐ CGIA Fundamental ๑ ๙. หลกั สตู รประกาศนยี บตั รผตู้ รวจสอบภายในภาครฐั CGIA พ.ศ. ๒๕๖๑ Information ๒ Technology ๑๐. หลกั สตู รประกาศนยี บตั รผตู้ รวจสอบภายในภาครฐั CGIA พ.ศ. ๒๕๖๑ Performance ๒ Operation ๑๑. หลกั สตู รประกาศนยี บตั รผตู้ รวจสอบภายในภาครฐั Intermediate ดา้ น Consulting ๑ ๑๒. หลกั สูตร “กฎหมายและระเบยี บส�ำหรบั งานการคลัง” ๒ ๑๓. หลักสตู ร IT Audit for Non - IT Auditor Master Class ๒ ๑๔. หลกั สตู รงานพิธกี าร ๒ ศาลรฐั ธรรมนญู
๕.๒ การจดั อบรมและสมั มนาทางวชิ าการภายในองคก์ ร 78 ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังได้ด�ำเนินจัดสัมมนา เพื่อพัฒนาศักยภาพในองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับ บคุ ลากรของสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู เพอ่ื สามารถนำ� พฒั นาและไปปรบั แนวทางการใชป้ ระโยชนแ์ ละพฒั นากระบวนการ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี และวิธีการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ของส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและ เกิดประสทิ ธผิ ล โดยมีการดำ� เนินกิจกรรมและโครงการส�ำคญั ๆ ดงั น้ี ๕.๒.๑ โครงการบูรณาการการบรหิ ารงานอย่างเป็นองค์รวม การสมั มนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารตามโครงการบรู ณาการการบรหิ ารงานอยา่ งเปน็ องคร์ วม เพอื่ ให้ ข้าราชการส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และผู้สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีความรู้ ความเขา้ ใจในเรอ่ื งการบรหิ ารงานขององคก์ รทงั้ ทางดา้ นคดี ดา้ นวชิ าการ และดา้ นบรหิ าร และใหค้ วามสำ� คญั กบั ก า ร ท� ำ ง า น ด ้ า น ส นั บ ส นุ น ภ า ร กิ จ ง า น ข อ ง คณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ อีกทั้งเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรท่ีดีร่วมกัน กลุ่มเป้าหมายคือ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้บริหารส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านคดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหาร ผู้เช่ียวชาญ ด้านคดี ผู้อ�ำนวยการส�ำนัก ผู้อ�ำนวยการสถาบัน รัฐธรรมนูญศึกษา ผู้อ�ำนวยการกลุ่มงาน และ ผสู้ นบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านของคณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ ถงึ วนั ท่ี ๒ มนี าคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรม ราไวย์ ปาลม์ บีช รสี อรท์ จงั หวัดภูเก็ต ผลการดำ� เนนิ งานตามโครงการดงั กลา่ วขา้ ราชการสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู และผสู้ นบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านของคณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งการบรหิ ารขององคก์ รทง้ั ทางดา้ นคดี ด้านวิชาการและด้านบริหารมากข้ึน โดยสามารถน�ำความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาศักยภาพและสามารถปฏิบัติงาน สนบั สนุนภารกจิ งานของคณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ๕.๒.๒ โครงการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพ่ือเสริมสร้างทักษะการให้ค�ำปรึกษาและ สรา้ งเครอื ขา่ ยดา้ นองคค์ วามร้เู กยี่ วกับวิธพี จิ ารณาของศาลรัฐธรรมนญู โครงการน้ีจัดข้ึนโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานด้านคดีรัฐธรรมนูญและ ผเู้ กยี่ วขอ้ งทราบถงึ บทบญั ญตั ริ ฐั ธรรมนญู และพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยวธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนญู ในส่วนท่ีเก่ียวกับหน้าที่และอ�ำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ และการเสนอค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญที่เปล่ียนแปลง ไปจากเดมิ เพอื่ เสรมิ สรา้ งทกั ษะการใหค้ ำ� ปรกึ ษาแกป่ ระชาชนส�ำหรับเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานด้านคดีรัฐธรรมนูญ เพ่ือระดมความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนทางวิชาการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับหน้าท่ีและอ�ำนาจ ของศาลรัฐธรรมนูญและการตรวจค�ำร้องที่ย่ืนต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพ่ือให้ได้ข้อสรุปเป็นแนวทางการปฏิบัติงาน ด้านการตรวจค�ำร้องและการเสนอความเห็นต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซ่ึงจะท�ำให้การตรวจค�ำร้องและ การเสนอความเห็นต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญของผู้ปฏิบัติงานด้านคดีรัฐธรรมนูญมีความเป็นเอกภาพ ศาลรฐั ธรรมนูญ
79 เพ่ือสร้างเครือข่ายของศาลรัฐธรรมนูญส�ำหรับการประสานงานด้านคดีรัฐธรรมนูญ และเพ่ือให้เครือข่าย ของศาลรัฐธรรมนูญซ่ึงประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอค�ำร้อง รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ต่อศาลรฐั ธรรมนญู ทราบถงึ แนวทางปฏบิ ตั ใิ นการเสนอคำ� รอ้ งตอ่ ศาลรฐั ธรรมนูญ สำ� หรับรูปแบบในการจดั โครงการจะประกอบไปด้วยสองสว่ นดว้ ยกัน สว่ นทหี่ น่ึง คือ การบรรยาย ทางวิชาการให้แก่เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานด้านคดีรัฐธรรมนูญ และส่วนที่สอง คือ การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ รว่ มกับผู้แทนหนว่ ยงานเครอื ขา่ ยท่ีเกยี่ วข้องกับการเสนอคำ� ร้องต่อศาลรฐั ธรรมนญู สว่ นทหี่ นึง่ การบรรยายทางวชิ าการใหแ้ กเ่ จ้าหนา้ ท่ีผู้ปฏบิ ัติงานด้านคดรี ฐั ธรรมนญู จัดขึ้นในวันท่ี ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เป็นการบรรยายทางวิชาการในหัวข้อ “หลักการให้ค�ำปรึกษาทางกฎหมายเบื้องต้น” โดย วา่ ทร่ี อ้ ยตรี ดร. ถวลั ย์ รยุ าพร นายกสภาทนายความในพระบรมราชปู ถมั ภ์ และนายโกเมท ทองภญิ โญชยั อยั การ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำ� นักงานอัยการพิเศษฝ่ายสัญญา และหารอื ๔ ส�ำนักงานทปี่ รึกษากฎหมาย สำ� นกั งาน อัยการสูงสุด และวันท่ี ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เป็นการบรรยายทางวิชาการในหัวข้อ “หลักการ พื้นฐานในการร่างค�ำฟ้อง” โดย นายเอกณัฐ จิณเสน ตุลาการศาลปกครองกลาง ส�ำนักงาน ศาลปกครอง และนายเกรียงศักด์ิ อุรุพงศ์พิศาล อั ย ก า ร จั ง ห วั ด ป ร ะ จ� ำ ส� ำ นั ก ง า น อั ย ก า ร สู ง สุ ด ส�ำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง ส�ำนักงานอัยการสูงสุด ณ ห้องประชุมช้ัน ๙ ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อาคารราชบรุ ดี เิ รกฤทธิ์ ศนู ย์ราชการเฉลิมพระเกยี รติฯ ส่วนท่ีสอง การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการร่วมกับผู้แทนหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอ ค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจัดข้ึนระหว่างวันท่ี ๑๘ – ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ โรงแรมไมด้า จังหวัดกาญจนบุรี โดยการแบง่ กลมุ่ ย่อยเพ่อื อภิปรายแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ กันออกเปน็ ๔ กลุ่ม ดงั นี้ ๑) กล่มุ องค์กรฝา่ ยนิตบิ ญั ญตั แิ ละฝา่ ยบรหิ าร ๒) กลมุ่ องค์กรศาล ๓) กลุ่มองค์กรอสิ ระ/อยั การ ๔) ผู้ตรวจการแผน่ ดินและกลุม่ องค์กรภาคประชาชน จากการด�ำเนินโครงการดังกล่าว ท�ำให้ ผู้มีส่วนร่วมในโครงการทราบถึงบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับหน้าที่และอ�ำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและ การเสนอค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญท่ีเปลี่ยนแปลงไป จากเดมิ โดยได้มกี ารระดมความคิดเหน็ และแลกเปลยี่ น ทางวิชาการเกยี่ วกบั หนา้ ทแ่ี ละอำ� นาจของศาลรฐั ธรรมนญู และการเสนอค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพ่ือให้ได้ข้อสรุป ศาลรัฐธรรมนญู
เปน็ แนวทางการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการตรวจคำ� รอ้ งและการเสนอความเหน็ ตอ่ คณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ซง่ึ จะทำ� ให้ การตรวจคำ� รอ้ งและการเสนอความเหน็ ตอ่ คณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ของบคุ ลากรผปู้ ฏบิ ตั งิ านดา้ นคดรี ฐั ธรรมนญู มคี วามเป็นเอกภาพ นอกจากนยี้ งั เป็นการสรา้ งเครอื ขา่ ยของศาลรัฐธรรมนูญอีกด้วย ๕.๒.๓ โครงการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้การบริหารองคก์ ร โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเสริมสร้างคุณภาพ 80 บคุ ลากร และองคก์ รในระดบั เครอื ขา่ ย ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซง่ึ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ใหข้ า้ ราชการสำ� นกั งาน ศาลรฐั ธรรมนญู ไดม้ กี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ระหวา่ งบคุ ลากรในองคก์ ร และการแลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ บั บคุ ลากร ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ภายนอกองคก์ ร เพอ่ื ศกึ ษาแนวปฏบิ ตั ทิ เี่ หมาะสมและแนวทางแกไ้ ขปรบั ปรงุ และพฒั นาการบรหิ ารจดั การไดอ้ ยา่ ง มีประสิทธิภาพ และรวบรวมองค์ความรู้ท่ีได้รับจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาพัฒนาตนเอง พัฒนาองค์กรโดยมี ผ้เู ข้าร่วมสมั มนาประกอบด้วย ผบู้ รหิ ารส�ำนักงานศาลรฐั ธรรมนญู ผ้ทู รงคณุ วุฒดิ า้ นคดี ผู้ทรงคณุ วุฒดิ ้านบริหาร ผู้เช่ียวชาญด้านคดี ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหาร ผู้อ�ำนวยการส�ำนัก ผู้อ�ำนวยการสถาบัน ผู้อ�ำนวยการกลุ่มงาน ข้าราชการและลกู จ้างสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ระหวา่ งวันท่ี ๑๙ ถงึ วันท่ี ๒๑ มนี าคม ๒๕๖๑ ณ มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ ้าหลวง และโรงแรมโพธ์วิ ดล รีสอรท์ แอนด์ สปา จังหวดั เชียงราย ผลการด�ำเนินงานตามโครงการดังกล่าวข้าราชการ และลูกจ้างส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีความรู้ความเข้าใจในเร่ืองการบริหารองค์กรมากข้ึน และให้ความส�ำคัญกับงานในหน้าท่ีมีความรับผิดชอบ ต่องานในหน้าที่ยิ่งข้ึน ทั้งน�ำความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาตนเองเพ่ือให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่องานเพื่อให้องค์กรเป็นองค์กร ทีม่ ัน่ คง ศาลรฐั ธรรมนูญ
๕.๒.๔ โครงการพัฒนาระบบงานคดีรฐั ธรรมนูญฉบับใหม่ 81 โครงการน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือเตรียมความพร้อมในการรองรับการปฏิบัติหน้าที่ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณา รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพ่ือสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่งานด้านคดีของ คณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนูญใหม้ ีประสทิ ธิภาพและมปี ระสทิ ธิผล เพอื่ พัฒนาศักยภาพของเจ้าหนา้ ทผ่ี ู้ปฏิบัติงาน ดา้ นคดโี ดยมคี วามพรอ้ มและมคี วามเขา้ ใจรว่ มกนั ในการดำ� เนนิ งานตามคมู่ อื ปฏบิ ตั งิ านคดี และเพอื่ ใหก้ ารดำ� เนนิ งาน ดา้ นคดขี องเจา้ หนา้ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านดา้ นคดเี ปน็ ไปอยา่ งเปน็ ระบบและมมี าตรฐานโดยไดจ้ ดั ใหม้ กี ารสมั มนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร ๒ ชว่ งเวลาดว้ ยกนั ได้แก่ ๑. ช่วงระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๗ เมษายน ๒๕๖๑ ณ ห้องรับรอง ชั้น ๙ ส�ำนักงาน ศาลรฐั ธรรมนญู อาคารราชบรุ ดี เิ รกฤทธ์ิ ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รตฯิ โดยมกี ารแบง่ กลมุ่ นำ� เสนอประเดน็ ปญั หา แลกเปลยี่ นขอ้ คดิ เหน็ ระหวา่ งผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นคดี ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นคดี และเจา้ หนา้ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านดา้ นคดี เกยี่ วกบั ขนั้ ตอนการปฏิบัติงานด้านคดีของสำ� นกั คดี ๑ – ๕ ๒. ช่วงระหวา่ งวันท่ี ๓ - ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรมบรรจงบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นการน�ำเสนอสรุปผลการศึกษาเกย่ี วกบั ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านด้านคดีของสำ� นักคดี ๑ - ๕ โดยผ้แู ทนส�ำนักคดี ๑ - ๕ การรับฟังค�ำแนะน�ำและข้อเสนอแนะจากผู้บริหารส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ รวมท้ังรับฟังข้อคิดเห็น เพิม่ เตมิ จากผู้ทรงคุณวฒุ ิดา้ นคดี ผู้เชี่ยวชาญดา้ นคดี และเจ้าหนา้ ทีผ่ ู้ปฏิบัติงานด้านคดี นอกจากการน�ำเสนอสรุปผลการศึกษาและการรับฟังค�ำแนะน�ำและข้อเสนอแนะดังกล่าว แลว้ ยังมีกิจกรรมทีส่ ำ� คัญอีก ดงั นี้ ๑) การบรรยายหัวข้อ “การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ประชาชน ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี” โดยคณะวิทยากรของจังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี ๒) การบรรยายหัวข้อ “ความคาดหวังการปฏิบัติหน้าท่ีของข้าราชการและลูกจ้างสังกัด สำ� นักคดี ๑ - ๕” โดย นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธกิ ารส�ำนกั งานศาลรัฐธรรมนญู ศาลรัฐธรรมนูญ
๓) กจิ กรรมการแสดงความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม (Corporate Social Responsibility) หรอื 82 CSR การสอบถามหรือรับฟังความคิดเห็นเก่ียวกับความรู้ความเข้าใจในการใช้สิทธิหรือเข้าถึงสิทธิของประชาชน ตามรฐั ธรรมนญู ณ โรงเรยี นบ้านเกาะพลวย ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ๔) การศึกษาดูงานเก่ียวกับการบริหารจัดการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขือ่ นรชั ชประภา จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี จากการแบง่ กลมุ่ นำ� เสนอประเดน็ ปญั หา แลกเปลย่ี นขอ้ คดิ เหน็ และนำ� เสนอสรปุ ผลการศกึ ษา เกี่ยวกับข้ันตอนการปฏิบัติงานด้านคดีดังกล่าว นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในข้ันตอน การปฏบิ ตั งิ านดา้ นคดแี กเ่ จา้ หนา้ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านดา้ นคดแี ลว้ ยงั เปน็ การระดมความคดิ เหน็ ของเจา้ หนา้ ทผ่ี ปู้ ฏบิ ตั งิ าน ด้านคดี อันเป็นการเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการจัดท�ำคู่มือการปฏิบัติงานเพ่ือรองรับหน้าที่และอ�ำนาจของ ศาลรฐั ธรรมนญู ตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายอ่ืนที่เกี่ยวข้อง อันน�ำไปสู่การปรับปรุง คู่มือปฏบิ ัตงิ านด้านคดีเพือ่ ใช้เปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั งิ านตอ่ ไป ๕.๒.๕ โครงการปฐมนิเทศและการพัฒนาศกั ยภาพสำ� หรบั ขา้ ราชการบรรจใุ หม่ โครงการปฐมนเิ ทศและการพฒั นาศกั ยภาพสำ� หรบั ขา้ ราชการบรรจใุ หม่ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ใหข้ า้ ราชการบรรจใุ หมม่ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั นโยบาย บทบาท หนา้ ทแี่ ละอำ� นาจขององคก์ ร กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับ วนิ ัย จรรยาบรรณ คุณธรรม และจริยธรรมของขา้ ราชการที่พงึ ปฏิบตั ิ แนวทางในการทำ� งาน วัฒนธรรมขององค์กรความก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ตอบแทนอ่ืนที่พึงจะได้รับ เพิ่มพูนองค์ความรู้ใหม่แก่ข้าราชการบรรจุใหม่และข้าราชการรับโอนให้สามารถน�ำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงาน และตอบสนองต่อภารกิจของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความสามัคคี สรา้ งวสิ ยั ทศั นร์ ว่ มกนั กอ่ ใหเ้ กดิ การเรยี นรซู้ งึ่ กนั และกนั ในการทำ� งานเปน็ ทมี เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ ององคก์ ร เพอ่ื เสรมิ สรา้ งทศั นคตทิ ด่ี ตี อ่ กนั ในการปฏบิ ตั งิ าน สรา้ งขวญั และกำ� ลงั ใจใหก้ บั ขา้ ราชการบรรจใุ หมแ่ ละขา้ ราชการ รับโอนมีความเข้าใจในงานท่ีได้รับมอบหมายให้มีประสิทธิภาพ เพ่ือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการท�ำงานกับ เพอ่ื นรว่ มงานและผบู้ งั คบั บญั ชาใหเ้ ปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั ระหวา่ งวนั ที่ ๙ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ณ หอ้ งรบั รอง ชน้ั ๙ สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู และระหวา่ งวนั ที่ ๑๕ - ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ณ วนาวารนิ รสี อรท์ หวั หนิ จงั หวดั ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วยการบรรยายทางวิชาการ เก่ียวกับนโยบาย บทบาท หน้าท่ีและอ�ำนาจขององค์กร กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ วินัย จรรยาบรรณ คุณธรรม และจริยธรรมของข้าราชการที่พึงปฏิบัติ แนวทาง ในการท�ำงาน วัฒนธรรมขององค์กร ความก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ตอบแทนอื่น ทีพ่ ึงจะได้รับและถ่ายทอดประสบการณใ์ นการปฏิบัติราชการ โดยวิทยากรภายในสำ� นักงานศาลรฐั ธรรมนูญและ วิทยากรจากหน่วยงานภายนอกกจิ กรรมสัมพนั ธ์ เพื่อเสรมิ สร้างความสามัคคี และการท�ำงานร่วมกนั เป็นทีม ผลการด�ำเนินงานตามโครงการดังกล่าวข้าราชการบรรจุใหม่ ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ นโยบาย บทบาท หนา้ ทแ่ี ละอำ� นาจขององคก์ รมากขนึ้ เรยี นรแู้ นวทางการทำ� งาน และวฒั นธรรมองคก์ ร มคี วามรกั ความสามัคคี ทำ� งานเปน็ ทมี มที ัศนคตทิ ดี่ ีตอ่ กันในการปฏบิ ตั ิงานกอ่ ให้เกิดการเรยี นรซู้ ่ึงกันและกันในการทำ� งาน เป็นทีม และนำ� ความรูท้ ่ีไดร้ บั ในแงม่ ุมต่างๆ มาปรับใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ านได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ศาลรัฐธรรมนูญ
ภาพประกอบระหว่างวันที่ ๙ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ภาพประกอบระหว่างวนั ที่ ๙ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑ 83 นายนุรักษ์ มาประณตี ประธานศาลรฐั ธรรมนญู เปน็ ประธานในพิธีเปดิ โครงการปฐมนเิ ทศขา้ ราชการบรรจใุ หม่ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ระหวา่ งวันที่ ๑๕ - ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ๕.๒.๖ โครงการพัฒนาระบบงานธุรการงานคดีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ และพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยวธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ๒๕๖๑ โครงการนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือรองรับการปฏิบัติหน้าท่ีตามรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยวธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนญู พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายอื่นที่เก่ียวข้อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านคดีของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพและมปี ระสทิ ธผิ ลยง่ิ ขน้ึ และเพอื่ ให้ การดำ� เนนิ งานดา้ นคดขี องเจา้ หนา้ ทแ่ี ละคณะผสู้ นบั สนนุ การปฏิบัติงานของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปอย่างมีระบบและมีมาตรฐานการด�ำเนินงาน ตามโครงการน้ี ได้จัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ๒ ชว่ งเวลาดว้ ยกัน ได้แก่ ๑. วนั ที่ ๑ สงิ หาคม๒๕๖๑ณหอ้ งรบั รองชน้ั ๙ ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธ์ิ ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รตฯิ โดยไดจ้ ดั ใหม้ กี ารเสวนาและอภปิ รายเกยี่ วกบั ระบบงานธรุ การงานคดที เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผู้ปฏิบัติงานในส�ำนักคดี กลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญ และผู้สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ
โดยแบ่งออกเป็น ๔ กลุ่ม เพ่ือระดมรับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้องในงานดังกล่าวแล้ว 84 น�ำไปน�ำเสนอ ณ โรงแรมฟอร์จนู วิว นครพนม ตอ่ ไป ๒. ระหว่างวนั ท่ี ๙ - ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรมฟอรจ์ นู ววิ นครพนม มีการบรรยาย ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี พเิ ศษหวั ขอ้ “การพฒั นาระบบงานธรุ การงานคด”ี โดย นายบญุ สง่ กลุ บปุ ผา และนายทวเี กยี รติ มนี ะกนษิ ฐ ตลุ าการ ศาลรฐั ธรรมนญู โดยมกี ารจดั กจิ กรรมการจำ� ลองเหตกุ ารณ์ (Role Play) เพอื่ ฝกึ วธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นการออกนงั่ พจิ ารณาคดี หรือการไต่สวนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านคดี เพื่อให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการน�ำเสนอและสรุปผลการระดมรับฟังความคิดเห็น จากการประชมุ กลมุ่ ย่อยในแตล่ ะกล่มุ นอกจากการน�ำเสนอและสรุปผลการระดมรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวแล้ว ยังมีกิจกรรม ทีส่ �ำคญั อกี คอื ๑) การบรรยายสรุปและศึกษาดูงานในหัวข้อ “การขับเคลื่อนระบบยุติธรรมชุมชน ในจังหวดั นครพนม” โดยคณะวทิ ยากรของจังหวัดนครพนม ณ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ๒) การศกึ ษาดูงานการบริหารจัดการชมุ ชนเข้มแขง็ ของอ�ำเภอเรณนู คร จังหวัดนครพนม จากการเสวนาและอภิปรายเพอ่ื การบรหิ ารจัดการระบบงานธรุ การงานคดี มีการนำ� เสนอ และสรุปผลการระดมรับฟังความคิดเห็นใน ๖ ประเด็นที่ส�ำคัญ ได้แก่ ๑.งานสารบบคดีและจ่ายส�ำนวน ๒.งานตรวจรับค�ำร้อง ๓.งานเลขานุการ (คดี) ในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ๔.งานการจัดท�ำ ร่างรายงานการพิจารณาคดี ๕.งานค�ำส่ัง ๖.งานค�ำวินิจฉัยอันน�ำไปสู่แนวปฏิบัติเก่ียวกับระบบงานธุรการงานคดี ที่เป็นระบบแบบแผนและมมี าตรฐานย่ิงข้ึน ๕.๒.๗ โครงการสมั มนาประเดน็ รฐั ธรรมนญู ระหวา่ งทป่ี รกึ ษาและผเู้ ชย่ี วชาญประจำ� คณะตลุ าการ ศาลรฐั ธรรมนญู ศาลรฐั ธรรมนูญ
85 ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้จัดโครงการสัมมนาประเด็นรัฐธรรมนูญระหว่างที่ปรึกษา และผเู้ ชยี่ วชาญ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ใหเ้ กดิ การแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ระหวา่ งผเู้ ขา้ รว่ มสมั มนา อนั ไดแ้ ก่ ทป่ี รกึ ษา รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี คณะตลุ าการศาลรัฐธรรมนญู ผู้เชยี่ วชาญประจ�ำคณะตุลาการศาลรฐั ธรรมนญู ผบู้ ริหาร และผ้อู ำ� นวยการส�ำนัก และเพื่อน�ำเอาผลการสัมมนาท่ีได้มาจัดท�ำเป็นข้อเสนอแนะส�ำหรับเสนอต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการ ปฏิบัติหน้าทใ่ี ห้สอดรบั กบั เจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนญู ตอ่ ไป ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ก�ำหนดให้มีการจัดสัมมนา ตามโครงการดังกล่าว เรอ่ื ง “หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงือ่ นไขในการยื่นค�ำรอ้ งต่อศาลรัฐธรรมนญู ตามรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓” ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๖ – ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรม เรือนเครือวัลย์ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ทแอนด์สปา จังหวัดนครปฐม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการแลกเปล่ียน ความคิดเห็นระหว่างผู้เข้าร่วมสัมมนาในประเด็นเก่ียวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการย่ืนค�ำร้องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓ และได้น�ำรวบรวม ความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนามาจัดพิมพ์เผยแพร่เป็นเอกสารสรุปผลการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง “หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓” และได้แจกจ่ายให้กับคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ข้าราชการส�ำนักงาน ศาลรัฐธรรมนญู หนว่ ยงานภาครัฐ และประชาชน ศาลรัฐธรรมนญู
๕.๒.๘ โครงการพฒั นากระบวนการเพอ่ื เสรมิ สรา้ งประสทิ ธภิ าพการตรวจรา่ งคำ� วนิ จิ ฉยั ของศาล 86 และความเหน็ สว่ นตนของตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ร๒าย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจัดสัมมนาตามโครงการ พฒั นากระบวนการเพอื่ เสรมิ สรา้ งประสทิ ธภิ าพ การตรวจรา่ ง ค�ำวินิจฉัยของศาล และความเห็นส่วนตนของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ มีวัตถุประสงค์เพื่อได้รับทราบแนวทาง ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และวิธีการต่างๆ อันจะก่อให้ เกดิ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาการตรวจรา่ งคำ� วนิ จิ ฉยั ของศาล และความเห็นส่วนตนให้มีประสิทธิภาพและเพ่ือเป็นการ แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ทางวชิ าการ และประสบการณใ์ นการตรวจรา่ งคำ� วนิ จิ ฉยั ของศาล และความเหน็ สว่ นตน จดั ทำ� ขอ้ เสนอแนวทางในการพฒั นากระบวนการตรวจรา่ งคำ� วนิ จิ ฉยั ของศาล และความเหน็ สว่ นตนตอ่ คณะตลุ าการ ศาลรฐั ธรรมนญู และผบู้ รหิ ารของสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู โดยไดร้ บั เกยี รตจิ ากศาสตราจารยพ์ เิ ศษ จรญั ภกั ดธี นากลุ ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู กลา่ วเปดิ การสมั มนา โอกาสนนี้ ายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธกิ ารสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู และข้าราชการส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมในการสัมมนาดังกล่าวด้วย เม่ือวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรม ที เค พาเลซ แอนด์ คอนเวนช่นั ถนนแจ้งวัฒนะ กรงุ เทพมหานคร ผลที่ได้รับจากการด�ำเนินโครงการดังกล่าว ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถน�ำความรู้เกี่ยวกับ ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ แนวทางในการบูรณาการและมุมมองหลากหลายด้านไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการและประสบการณ์ ในการตรวจรา่ งคำ� วนิ จิ ฉยั ของศาลและความเหน็ สว่ นตนของตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ รวมทง้ั มกี ารบรู ณาการพฒั นากระบวนการตรวจรา่ งคำ� วนิ จิ ฉยั ของศาลและความเหน็ สว่ นตนของตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากยงิ่ ขึ้น ๕.๒.๙ โครงการพฒั นาศกั ยภาพของขา้ ราชการและลกู จา้ งสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู โครงการพัฒนาศักยภาพของข้าราชการและลูกจ้างส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพ่ือเพ่ิม ประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั งิ านดา้ นคดี ดา้ นวชิ าการ และดา้ นบรหิ าร โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ใหข้ า้ ราชการและลกู จา้ ง ส�ำนกั งานศาลรฐั ธรรมนญู พัฒนาศกั ยภาพดา้ นความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ ตลอดจนมีแนวคิดในการบรหิ ารจัดการ ศาลรฐั ธรรมนญู
เพื่อรองรับการเปล่ียนแปลงในด้านต่างๆ การน�ำความรู้ท่ีได้รับมาพัฒนาตนเอง และพัฒนาองค์กรได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรท่ีดีร่วมกัน มีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย ผู้บริหาร สำ� นักงาน ข้าราชการ และลูกจ้างสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ระหวา่ งวันท่ี ๒๓ - ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๑ ณ โรงแรม ไอยรา แกรนด์ พาเลซ จงั หวดั พษิ ณโุ ลก ผลการด�ำเนินงานตามโครงการดังกล่าว ข้าราชการและลูกจ้างส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ไดน้ ำ� ความรู้ ความเขา้ ใจทไี่ ดร้ บั มาประยกุ ตใ์ ชแ้ ละพฒั นาตนเอง และสามารถรองรบั การเปลย่ี นแปลงในดา้ นตา่ งๆ ทั้งด้านคดี ดา้ นวชิ าการ และดา้ นบรหิ าร ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพยง่ิ ขึ้น ๕.๒.๑๐ โครงการแลกเปลยี่ นเรยี นรสู้ สู่ ากล ณ สาธารณรฐั เกาหลี 87 ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้จัดโครงการแลกเปล่ียนเรียนรู้และประสบการณ์เพ่ือพัฒนา ศักยภาพบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านคดีรัฐธรรมนูญ เมื่อวันท่ี ๖ - ๑๑ กันยายน ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐเกาหลี รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ใหค้ ณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ผบู้ รหิ ารและขา้ ราชการไดม้ กี ารแลกเปลยี่ นองคค์ วามรรู้ ว่ มกนั ระหว่างบุคลากรของศาลรัฐธรรมนูญไทย และศาลรัฐธรรมนูญต่างประเทศพร้อมศึกษาแนวทางในการพัฒนา องค์ความรู้ที่เหมาะสมเพื่อน�ำมาพัฒนาศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายปญั ญา อดุ ชาชน ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู พรอ้ มดว้ ยนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธกิ ารสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู และข้าราชการส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมโครงการแลกเปล่ียนความรู้สู่สากล เพื่อให้ข้าราชการได้มีการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันระหว่างบุคลากรศาลรัฐธรรมนูญไทยกับศาลรัฐธรรมนูญและหน่วยงานทางด้าน วิชาการของต่างประเทศ และพัฒนาองค์กรให้มีความพร้อมในการสนับสนุนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งเปน็ การขบั เคลอ่ื นระบบงานในด้านต่างๆ ใหเ้ ป็นท่ียอมรับในระดบั สากลต่อไป ๕.๒.๑๑ โครงการแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละประสบการณเ์ พอ่ื พฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ดา้ นคดรี ฐั ธรรมนญู โครงการแลกเปลย่ี นเรยี นรนู้ จี้ ดั ขนึ้ ณ สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนแี ละสาธารณรฐั ออสเตรยี ในระหว่างวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๑ ถงึ วันท่ี ๒๘ กันยายน ๒๕๖๑ โดยมีวัตถุประสงคเ์ พ่ือเสริมสร้างองค์ความรู้ ในเรอ่ื งการรอ้ งทกุ ขท์ างรฐั ธรรมนญู (Constitutional Complaints) และการตรวจสอบความชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู ของกฎหมายของต่างประเทศให้แก่บุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านคดี และผู้ซ่ึงมีความเกี่ยวข้องกับงานด้านคดีของ สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู เพอ่ื ใหเ้ กดิ การแลกเปลยี่ นประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ผา่ นหลกั คดิ แนวคำ� พพิ ากษา รวมถงึ ศาลรฐั ธรรมนญู
ปญั หาในทางปฏบิ ตั ขิ องการปรบั ใชบ้ ทบญั ญตั ใิ นเรอื่ งการรอ้ งทกุ ขท์ างรฐั ธรรมนญู และการตรวจสอบความชอบดว้ ย รัฐธรรมนูญของกฎหมายจากศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรเทียบเท่าหรือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับกระบวนการ ยตุ ธิ รรมในภาคพน้ื ยโุ รปทเี่ ปน็ ตน้ แบบ เพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรของสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ในการปฏบิ ตั งิ าน ด้านคดีให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพของค�ำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้มีมาตรฐาน ในระดบั สากล โดยไดด้ �ำเนนิ การแลกเปลย่ี นกับองคก์ รต่างๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี รูปท่ี ๑ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ท่ีสถาบันการศึกษาวิจัยด้านกฎหมายมหาชน 88 เปรียบเทียบและกฎหมายระหว่างประเทศ (MAX PLANCK Institute : Comparative Public Law and International Law) เพอื่ รับฟงั การบรรยาย ร๒าย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี และการแลกเปล่ียนความเห็นทางวิชาการ เร่ือง “แนวคิดและพัฒนาการของ การร้องทุกข์ทางรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน” ในวนั ท่ี ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ เมอื งไฮเดลเบริ ก์ สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี รปู ท่ี ๒ การแลกเปลยี่ นเรยี นรทู้ ศ่ี าลรฐั ธรรมนญู แหง่ สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี เพอื่ รบั ฟงั การบรรยายและ แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในทางปฏบิ ตั ิ เรอ่ื ง “กระบวนการรอ้ งทกุ ขท์ างรฐั ธรรมนญู และแนวค�ำวนิ จิ ฉยั ของ ศาลรัฐธรรมนูญแหง่ สหพนั ธ์สาธารณรัฐเยอรมน”ี ในวนั ที่ ๒๑ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ เมืองคารล์ สรอู า สหพนั ธส์ าธารณรัฐเยอรมนี ศาลรัฐธรรมนญู
89 รูปที่ ๓ การประชุมหารือและเตรียมความพร้อมในการก�ำหนดประเด็นซักถามกับศาลรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐ ออสเตรีย เร่ือง “กระบวนการร้องทุกข์ทางรัฐธรรมนูญและแนวค�ำวินิจฉัย” ในวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๑ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ณ เมืองเวยี นนา สาธารณรัฐออสเตรยี รปู ท่ี ๔ การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ทีค่ ณะนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยเวยี นนา เพ่ือรับฟัง การบรรยายและแลกเปล่ียนความคิดเห็นทางวิชาการ เรื่อง “แนวคิดและ พฒั นาการของการรอ้ งทกุ ขท์ างรฐั ธรรมนญู กบั การคมุ้ ครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพของ ประชาชน” ในวันที่ ๒๗ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ เมอื งเวยี นนา สาธารณรฐั ออสเตรีย ศาลรัฐธรรมนญู
รูปท่ี ๕ การแลกเปล่ียนเรียนรู้กับชุมชนท้องถิ่นในเมืองวิลด์โพลด์สรีด เรื่อง “พัฒนาการของสิทธิชุมชนและการใช้ สทิ ธทิ างรฐั ธรรมนญู ตอ่ การพทิ กั ษส์ ทิ ธชิ มุ ชนและสง่ิ แวดลอ้ ม” ในวนั ที่ ๒๔ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ เมอื ง วลิ ด์โพลดส์ รดี สหพันธส์ าธารณรัฐเยอรมนี จากการศึกษาดงู านทัง้ ณ สถาบนั การศึกษาวิจยั Max Planck Institute ศาลรัฐธรรมนูญ 90 แห่งสหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี ศาลรฐั ธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐออสเตรยี คณะนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เวยี นนา และเทศบาลเมอื ง Wildpoldsried ทำ� ใหผ้ ศู้ กึ ษาดงู านไดร้ บั ประโยชนใ์ นการพฒั นาองคค์ วามรใู้ นเรอ่ื งการรอ้ งทกุ ข์ ร๒าย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ทางรัฐธรรมนูญ (Constitutional Complaints) และน�ำมาศึกษาวิเคราะห์โดยเปรียบเทียบหลักการดังกล่าว กบั ประเทศตน้ แบบทง้ั สองประเทศ เพอ่ื ใหเ้ หน็ ถงึ ขอ้ เหมอื นและขอ้ แตกตา่ งในการพจิ ารณาปรบั ปรงุ หรอื ประยกุ ตใ์ ชก้ บั หลกั การเสนอคำ� รอ้ งโดยประชาชนตอ่ ศาลรฐั ธรรมนญู และกระบวนพจิ ารณาตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๓ ศาลรัฐธรรมนญู
๖. ผลการด�ำเนนิ งานดา้ นความรว่ มมอื และประชาสมั พนั ธก์ บั เครอื ขา่ ยทงั้ ภายในประเทศ และตา่ งประเทศ ๖.๑ ด้านการส่งเสริมและขยายการพัฒนางานให้ครอบคลุมตามข้อตกลงความร่วมมือทั้ง ภายในประเทศและต่างประเทศ ความสอดคลอ้ งเชอ่ื มโยงยุทธศาสตร์ ๑) ความสอดคลอ้ งกบั ยุทธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๖ ดา้ นการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การภาครฐั ประเดน็ ยุทธศาสตร์ที่ ๔.๑ ภาครัฐที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และใหบ้ ริการอย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส แนวทางการพฒั นาท่ี ๔.๒ ภาครฐั บรหิ ารงานแบบบรู ณาการโดยมยี ทุ ธศาสตรช์ าตเิ ปน็ เปา้ หมาย และเช่อื มโยงการพัฒนาในทกุ ระดับ ทกุ ประเด็น ทกุ ภารกิจ และทกุ พ้นื ที่ แนวทางการพัฒนาที่ ๔.๔ ภาครัฐมคี วามทนั สมัย ๒) ความสอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๖ การบรหิ ารจดั การในภาครฐั การปอ้ งกนั การทจุ รติ ประพฤตมิ ชิ อบและธรรมาภบิ าล ในสงั คมไทย 91 แนวทางการพัฒนาท่ี ๓.๖ ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้มีความทันสมัย เปน็ ธรรม และสอดคล้องกับข้อบงั คับสากลหรอื ข้อตกลงระหวา่ งประเทศ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ๓.๖.๒ ปฏริ ูปกระบวนการยตุ ธิ รรมให้มปี ระสทิ ธิภาพ ๓) ความสอดคลอ้ งกบั แผนการปฏิรูปประเทศ แผนปฏริ ูปประเทศ ด้านกฎหมาย เปา้ หมายหรอื การพฒั นาท่ี ๗ มีกลไกให้ประชาชนเข้าถงึ กฎหมาย กฎ โดยสะดวกและเขา้ ใจ กฎหมายไดง้ า่ ยรวมทงั้ การพฒั นาระบบฐานขอ้ มลู ของกฎหมาย คำ� พพิ ากษา คำ� วนิ จิ ฉยั หรอื การตคี วามกฎหมาย หรือกฎใหป้ ระชาชนเขา้ ถงึ ได้โดยสะดวก แผนปฏริ ปู ประเทศ ดา้ นกระบวนการยุตธิ รรม ประเดน็ ปฏริ ปู ที่ ๙ การเสรมิ สรา้ งและพฒั นาวฒั นธรรมองคก์ รตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในกระบวนการ ยตุ ธิ รรมเพือ่ มุ่งอ�ำนวยความยตุ ิธรรมแก่ประชาชนโดยสะดวกและรวดเร็ว ประเด็นปฏิรูปท่ี ๑๐ การพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมเพ่ือเพ่ิมศักยภาพ ในการแข่งขันของประเทศ ๔) ความสอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตร์ศาลรฐั ธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ที่ ๔ ส่งเสริมความร่วมมือและประชาสัมพันธ์กับเครือข่ายด้านการจัดการความรู้ ศาลรฐั ธรรมนูญ
ทง้ั ภายในประเทศและตา่ งประเทศ กลยุทธ์ที่ ๔.๑ ส่งเสริมและขยายการพัฒนางานให้ครอบคลุมตามข้อตกลงความร่วมมือ ทง้ั ในประเทศและต่างประเทศทัง้ ที่มีอยใู่ นปัจจุบันและเพิ่มขึน้ ในอนาคต แผนงานที่ ๔.๑.๑ ทบทวนและเสรมิ สรา้ งการดำ� เนนิ การตามขอ้ ตกลงความรว่ มมอื ทงั้ ในประเทศ และต่างประเทศทม่ี ีอยูใ่ นปัจจุบนั แผนงานที่ ๔.๑.๔ สง่ เสรมิ บทบาทความรว่ มมอื ในเวทขี องกลมุ่ อาเซยี น, ศาลรฐั ธรรมนญู เอเชยี ศาลรัฐธรรมนญู โลก ตลอดจนเวทีในระดับทวิภาคีและพหุภาคีท่ีเกยี่ วข้อง มงุ่ เนน้ ใหเ้ กดิ เครอื ขา่ ยทมี่ กี ารดำ� เนนิ งานตามขอ้ ตกลงความรว่ มมอื กบั สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง (เครอื ขา่ ยลกั ษณะ Active) และการพฒั นางานเครอื ขา่ ยดา้ นประชาสมั พนั ธใ์ หค้ รอบคลมุ ประชาชน ทุกระดับทกุ พ้ืนท่ี โดยด�ำเนนิ การดังน้ี ๖.๑.๑ ความรว่ มมอื กบั เครอื ขา่ ยภายในประเทศ 92 ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ๑) การดำ� เนนิ โครงการสมั มนาทางวชิ าการระหวา่ งศาลรฐั ธรรมนญู กบั มหาวทิ ยาลยั บรู พา ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจัดโครงการสัมมนาทางวิชาการระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับ มหาวทิ ยาลยั บรู พา เมอ่ื วนั ท่ี ๒๒ มกราคม ๒๕๖๑ ณ มหาวิทยาลัยบูรพา จงั หวดั ชลบรุ ี โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เผยแพรอ่ งคค์ วามรทู้ างดา้ นวชิ าการอยา่ งตอ่ เนอื่ งและประสานความรว่ มมอื ระหวา่ งองคก์ รใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ ตกลง การร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกันไว้ โดยได้รับเกียรติจากนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปน็ ประธานในพธิ เี ปดิ โครงการฯ พรอ้ มทง้ั บรรยายพเิ ศษ เรอ่ื ง ศาลรฐั ธรรมนญู กบั ระบบยตุ ธิ รรมตามรฐั ธรรมนญู และ จดั ใหม้ กี ารอภิปรายเร่อื ง ศาลรฐั ธรรมนูญกบั หลกั นิตธิ รรม โดยไดร้ บั เกียรตจิ ากนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธกิ าร สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู อาจารยอ์ นชุ า อชริ เสนา อาจารยป์ ระจำ� ภาควชิ านติ ศิ าสตร์ และอาจารยม์ กุ กระจา่ ง จรณี อาจารยป์ ระจำ� ภาควชิ านิตศิ าสตร์ ร่วมอภิปรายในหัวข้อดงั กล่าว โอกาสน้ี รองศาสตราจารย์สมนึก ธรี ะกุลพศิ ทุ ธิ์ ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ได้ให้เกียรติกล่าวต้อนรับประธานในพิธีและคณะซึ่งโครงการนี้ เป็นการเผยแพร่ความรู้เก่ียวกับองค์กรศาลรัฐธรรมนูญ ค�ำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แนวทางการด�ำเนินงานของ ศาลรฐั ธรรมนญู ตามรฐั ธรรมนญู พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ และชอ่ งทางในการใชส้ ทิ ธติ ามรฐั ธรรมนญู พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ พร้อมทัง้ การพฒั นาเครอื ขา่ ยทีจ่ ะเสริมสร้างความร่วมมือที่ย่งั ยนื ในอนาคตต่อไป ศาลรัฐธรรมนญู
๒) การดำ� เนนิ โครงการสรา้ งความรว่ มมอื ทางวชิ าการระหวา่ งศาลรฐั ธรรมนญู กบั มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ 93 ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้จัดโครงการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง ศาลรฐั ธรรมนญู กบั มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ เมอื่ วนั ท่ี ๒๒ มนี าคม ๒๕๖๑ ณ หอ้ งประชมุ ๑๓๑๐ อาคารเรยี นรวม ๑ รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับบทบาท อ�ำนาจหน้าท่ีของ ศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รวมถึงบทบาทศาลรัฐธรรมนูญกับ รัฐธรรมนูญของไทย ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเพื่อสร้างเครือข่าย ในการเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ และขอ้ มลู ขา่ วสารเกย่ี วกบั ศาลรฐั ธรรมนญู สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู และงานวชิ าการ ด้านคดีรัฐธรรมนูญ โดยนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ สร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และให้เกียรติบรรยายพิเศษ เรอ่ื ง ศาลรฐั ธรรมนญู ตามรฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จบุ นั ตอ่ จากนน้ั จดั ใหม้ พี ธิ กี ารลงนามในบนั ทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ มมอื ทางวชิ าการระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกบั มหาวทิ ยาลัยวลัยลกั ษณ์ โดยมนี ายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการส�ำนักงาน ศาลรฐั ธรรมนญู ลงนามรว่ มกบั รองศาสตราจารย์ ดร.สรุ นิ ทร์ ไหมศรกี รด รกั ษาการแทนคณบดสี ำ� นกั วชิ ารฐั ศาสตร์ และนิติศาสตร์ ปฏิบัติหน้าท่ีแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และโครงการดังกล่าวได้จัดให้มีการอภิปราย ในเรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญกับหลักนิติธรรมประชาธิปไตย และการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดย นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธกิ ารสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู นายมนตรี กนกวารี ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นคดี สำ� นกั งาน ศาลรัฐธรรมนูญ อาจารย์สุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาจารย์สุรัช คมพจน์ อาจารย์ประจ�ำหลักสูตรรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และอาจารย์ทวีพร คงแก้ว อาจารยป์ ระจำ� คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ รว่ มเปน็ วทิ ยากร และในวนั ที่ ๒๓ มนี าคม ๒๕๖๑ ไดจ้ ดั ใหม้ ี การแขง่ ขนั ตอบปญั หาดา้ นกฎหมายรฐั ธรรมนญู และบทบาทหนา้ ทข่ี องศาลรฐั ธรรมนญู ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สำ� หรบั ผลการแขง่ ขนั ตอบปญั หา รางวลั ชนะเลศิ ไดแ้ ก่ โรงเรยี นสตรพี ทั ลงุ ทมี ๑ รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั ๑ ไดแ้ ก่ โรงเรยี นจฬุ าภรณราชวทิ ยาลยั นครศรีธรรมราช ทีม ๒ และรางวลั รองชนะเลศิ อันดบั ๒ ได้แก่ โรงเรยี นกลั ยาณี ศรีธรรมราช และรางวัลชมเชย ๒ รางวัล ได้แก่ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช ทีม ๒ และ โรงเรยี นเบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช โอกาสนไ้ี ดร้ บั เกยี รตจิ ากนายบญุ เสรมิ นาคสาร ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นบรหิ าร ร่วมเป็นกรรมการผแู้ ทนจากส�ำนกั งานศาลรฐั ธรรมนูญ และมอบรางวัลดังกล่าว ศาลรฐั ธรรมนูญ
ผลการด�ำเนินงานตามโครงการดังกล่าวผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้พร้อมต่อยอด 94 องคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั รัฐธรรมนูญ อ�ำนาจหน้าท่ีของศาลรัฐธรรมนูญ และส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เพ่ิมเครือข่าย ทจ่ี ะเสรมิ สร้างความร่วมมอื ในการเผยแพร่องค์ความรู้ และข้อมูลขา่ วสารเกีย่ วกับศาลรฐั ธรรมนญู และส�ำนกั งาน ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ศาลรัฐธรรมนูญได้มากข้ึน รวมท้ังเป็นการสร้างองค์ความรู้และภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร ตลอดจนรับทราบ ความคดิ เหน็ ของผเู้ กย่ี วขอ้ งและประชาชนทวั่ ไปเกยี่ วกบั บทบาท อำ� นาจหนา้ ท่ี และการดำ� เนนิ งานของศาลรฐั ธรรมนญู และสำ� นักงานศาลรฐั ธรรมนญู โดยน�ำความคิดเห็นทไี่ ดร้ บั มาประมวลปรบั บทบาทขององค์กรอยา่ งเหมาะสม ๓) การดำ� เนนิ โครงการเสรมิ สรา้ งความรดู้ า้ นกฎหมายและการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้จัดกิจกรรมแข่งขันตอบปัญหาระดับช้ันมัธยมศึกษาและ ระดบั อดุ มศกึ ษา ภายใตโ้ ครงการเสรมิ สรา้ งความรดู้ า้ นกฎหมายและการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยสำ� หรบั นกั เรยี น ระดับมัธยมศึกษา และอุดมศกึ ษา เม่อื วันท่ี ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๑ ณ คณะนติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเปน็ ประมขุ เปดิ โอกาสใหเ้ ยาวชนไดเ้ พมิ่ พนู ความรทู้ างกฎหมายและนำ� ไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งรวมทงั้ เพอื่ ปลกู ฝงั จติ ใจความเปน็ ประชาธปิ ไตยใหก้ บั นกั เรยี นซงึ่ เปน็ เยาวชนของชาตแิ ละเพอ่ื เปน็ การประชาสมั พนั ธ์ เผยแพรค่ วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ ผลการดำ� เนนิ งานตามโครงการดงั กลา่ ว นกั ศกึ ษา เยาวชน นกั เรยี น เกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ เกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมท้ังบทบาท อ�ำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ตลอดจนเสริมสร้างทัศนคติที่ดี ต่อกระบวนการยุติธรรมและความรู้รกั ความสามัคคอี นั จะกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สขุ ตอ่ ประเทศชาติในภายภาคหน้า ๔) การด�ำเนินโครงการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้จัดโครงการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง ศาลรฐั ธรรมนญู กบั มหาวทิ ยาลยั นเรศวร โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ เผยแพรค่ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั บทบาท อำ� นาจหนา้ ท่ี ของศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดจนสร้างเครือข่ายข้อตกลงด้านวิชาการและ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญกับมหาวิทยาลัยนเรศวร เม่ือวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๑ ณ หอ้ งประชุม ๓๐๑ อาคารเอกาทศรถ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร โดยนายปญั ญา อดุ ชาชน ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนูญ ศาลรฐั ธรรมนญู
เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับมหาวิทยาลัยนเรศวร และใหเ้ กยี รตบิ รรยายพเิ ศษเรอ่ื ง บทบาทและอำ� นาจหนา้ ทขี่ องศาลรฐั ธรรมนญู ไทย ตอ่ จากนน้ั จดั ใหม้ พี ธิ กี ารลงนาม ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมี นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธกิ ารสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ลงนามรว่ มกบั ศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ดร.กาญจนา เงารงั สี อธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั นเรศวร ตอ่ จากนน้ั เปน็ การอภปิ รายในเรอื่ ง ศาลรฐั ธรรมนญู กบั หลกั นติ ธิ รรมประชาธปิ ไตย และการคมุ้ ครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธกิ ารสำ� นกั งานศาลรัฐธรรมนูญ นายมนตรี กนกวารี ผทู้ รงคุณวุฒิด้านคดี ส�ำนกั งานศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดพล เทพสทิ ธา อาจารย์ประจ�ำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และนายอดิเทพ อุยยะพัฒน์ ผู้เช่ียวชาญด้านคดี ร่วมเป็น วทิ ยากร และในวนั ที่ ๒๔ สงิ หาคม ๒๕๖๑ ไดจ้ ดั โครงการเสรมิ สรา้ งความรดู้ า้ นกฎหมายและการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยส�ำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาโดยการแข่งขันตอบปัญหาด้านกฎหมาย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ส�ำหรับผลการแข่งขันตอบปัญหารางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนมัธยมสาธิต มหาวทิ ยาลยั นเรศวร จงั หวดั พษิ ณโุ ลก รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั ๑ ไดแ้ ก่ โรงเรยี นนครสวรรค์ จงั หวดั นครสวรรค์ และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๒ ได้แก่ โรงเรียนก�ำแพงเพชรพิทยาคม จังหวัดก�ำแพงเพชร และรางวัลชมเชย ๒ รางวลั ไดแ้ ก่ โรงเรียนตะพานหิน จังหวดั พิจิตร และโรงเรียนสวรรค์อนนั ต์วทิ ยา จงั หวัดสโุ ขทัย ๕) การดำ� เนินโครงการ “โครงการหลักนติ ิธรรมสู่การบรู ณาการกระบวนการยตุ ธิ รรม” 95 รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู จดั โครงการ “หลกั นติ ธิ รรมสกู่ ารบรู ณาการกระบวนการยตุ ธิ รรม” มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ เสรมิ สรา้ งและเพม่ิ พนู องคค์ วามรใู้ นเรอื่ งการนำ� “หลกั นติ ธิ รรม” สกู่ ารบรู ณาการกระบวนการ ยตุ ธิ รรม และเพอ่ื สรา้ งความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหวา่ งศาลยตุ ธิ รรมกบั หนว่ ยงานของศาล องคก์ รอสิ ระและหนว่ ยงาน ของรฐั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ตลอดจนเพอ่ื เผยแพรค่ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั บทบาทหนา้ ทแี่ ละอำ� นาจของศาลรฐั ธรรมนญู และสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู โดยโครงการดงั กลา่ วจดั ขน้ึ ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๒ – ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ โรงแรม เดอะพาราดโิ ซ เจเค ดไี ซน์ อ�ำเภอเมือง จงั หวดั นครสวรรค์ ในการน้ี ศาสตราจารยพ์ เิ ศษจรัญ ภกั ดธี นากลุ ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู เปน็ ประธาน ในพิธีเปดิ “โครงการหลักนติ ธิ รรมสกู่ ารบูรณาการกระบวนการยุตธิ รรม” ณ โรงแรมเดอะพาราดโิ ซ เจเค ดีไซน์ อ�ำเภอเมืองนครสวรรค์ จงั หวัดนครสวรรค์ ศาลรัฐธรรมนูญ
ในการนี้ศาสตราจารยพ์ เิ ศษจรญั ภกั ดธี นากลุ ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ไดก้ รณุ าปาฐกถาพเิ ศษ 96 เรอ่ื ง“หลกั นติ ธิ รรมในบรบิ ทการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี ององคก์ รตลุ าการ”และตอ่ จากนนั้ ศาสตราจารย์ดร.ทวเี กยี รติมนี ะกนษิ ฐ ตลุ าการศาลรัฐธรรมนญู ไดบ้ รรยายพเิ ศษเร่ือง “หลักนติ ธิ รรม : จากหลักการส่ทู างปฏิบตั ”ิ ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ต่อมาในช่วงบ่ายเป็นการเสวนาทางวิชาการเร่ือง “หลักนิติธรรมกับการบูรณาการ กระบวนการยุติธรรม” โดยศาสตราจารย์ ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ และศาสตราจารย์ ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ซึง่ ด�ำเนินรายการโดย นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำ� นักงานศาลรัฐธรรมนญู นอกจากน้ี ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ ศาลปกครองนครสวรรค์ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและ การบงั คบั คดจี งั หวดั นครสวรรค์ และสำ� นกั งานผตู้ รวจการแผน่ ดนิ ไดจ้ ดั นทิ รรศการและใหค้ ำ� ปรกึ ษาและคำ� แนะนำ� กฎหมายทเี่ กี่ยวข้องกับหน่วยงานดว้ ย โดยโครงการนี้ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากข้าราชการและเจ้าหน้าท่ี ในหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ต�ำรวจ ทหาร สถาบันการศึกษา และฝ่ายปกครองในจังหวัด นครสวรรค์และจังหวัดข้างเคียงหลายหน่วยงาน เข้าร่วมจัดนิทรรศการ รับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยสมบรู ณต์ ามวัตถุประสงคข์ องการจัดโครงการดังกลา่ วทกุ ประการ ผลการดำ� เนนิ โครงการดงั กลา่ วไดส้ รา้ งประโยชนใ์ นการเผยแพรค่ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั หลักนิติธรรมและกฎหมายรัฐธรรมนูญ ตลอดจนได้สร้างความร่วมมือทางวิชาการและสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมอันได้แก่ ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานอื่นๆ ในระดับภูมิภาค ดังนั้น เพื่อให้การด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ศาลรัฐธรรมนูญบรรลุผล ตามทว่ี างไว้ จงึ เหน็ ควรกำ� หนดใหม้ กี ารจดั โครงการในรปู แบบดงั กลา่ วนี้ โดยอาจประสานความรว่ มมอื ตามบนั ทกึ ข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างส�ำนักงานศาลยุติธรรม ส�ำนักงานศาลปกครอง และส�ำนักงาน ศาลรัฐธรรมนญู เพื่อรว่ มมอื จัดงานในลกั ษณะนี้ในภูมภิ าคอน่ื ๆ ต่อไป ๖) การด�ำเนินโครงการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง “ศาลรัฐธรรมนูญกับหลักนิติธรรม” กบั มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม เมอ่ื วนั ท่ี ๑๕ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ หอ้ งประชมุ ศาสตราจารยบ์ ญุ ชนะ อตั ถากร อาคารวทิ ยาลยั การเมอื งการปกครอง มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ศาลรฐั ธรรมนูญ
ส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการสัมมนา ทางวชิ าการ เรอ่ื ง “ศาลรฐั ธรรมนญู กบั หลกั นติ ธิ รรม” เมอื่ วนั ที่ ๑๕ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ หอ้ งประชมุ ศาสตราจารย์ บญุ ชนะ อตั ถากร อาคารวทิ ยาลยั การเมอื งการปกครอง มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ เผยแพร่ องคค์ วามรทู้ างดา้ นวชิ าการอยา่ งตอ่ เนอื่ งและประสานความรว่ มมอื ระหวา่ งองคก์ รใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ ตกลงการรว่ มมอื ทางวชิ าการ (MOU) รว่ มกนั ไว้ โดยไดร้ บั เกยี รตจิ ากนายปญั ญา อดุ ชาชน ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู เปน็ ประธาน ในพธิ เี ปดิ โครงการและบรรยายพเิ ศษ เรอ่ื ง “ศาลรฐั ธรรมนญู กบั รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จบุ นั ” และรว่ มรบั ฟงั การอภปิ ราย เรื่อง “ศาลรัฐธรรมนูญกับหลักนิติธรรม” โดยนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายมนตรี กนกวารี ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นคดี อาจารยท์ พิ สดุ า ญาณาภริ ตั อาจารยป์ ระจำ� สาขาวชิ าการเมอื งการปกครอง ดำ� เนนิ รายการโดย นายสรรกั ษ์ เลย่ี มสวุ รรณ นกั วชิ าการคดรี ฐั ธรรมนญู ชำ� นาญการ ผลการดำ� เนนิ โครงการดงั กลา่ ว สำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ไดเ้ ผยแพรค่ วามรเู้ กย่ี วกบั องคก์ ร ศาลรฐั ธรรมนญู คำ� วนิ จิ ฉยั ศาลรฐั ธรรมนญู แนวทางการดำ� เนนิ งานของศาลรฐั ธรรมนญู ตามรฐั ธรรมนญู พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ และชอ่ งทางในการใชส้ ทิ ธติ ามรฐั ธรรมนญู พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ พรอ้ มทง้ั การพฒั นาเครอื ขา่ ยทจ่ี ะเสรมิ สรา้ ง ความรว่ มมอื ทย่ี งั่ ยนื ในอนาคตตอ่ ไป ๖.๑.๒ ความรว่ มมอื กบั เครอื ขา่ ยในตา่ งประเทศ ๑) การเดนิ ทางไปราชการตา่ งประเทศ เพอ่ื เขา้ รว่ มประชมุ ระดบั นานาชาต ิ 97 รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี ศาลรัฐธรรมนญู
(๑) นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนญู เขา้ รว่ มการประชุมนานาชาติ ครง้ั ท่ี ๑ ของสำ� นักงานเลขาธิการถาวรด้านการวจิ ยั และ พฒั นาแหง่ สมาคมศาลรฐั ธรรมนญู และสถาบนั เทยี บเทา่ แหง่ เอเชยี ในระหวา่ งวนั ท่ี ๒๙ ตลุ าคม - ๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๐ ณ สาธารณรัฐเกาหลี (๒) ขา้ ราชการสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู จำ� นวน ๒ คน เขา้ รว่ มประชมุ เจา้ หนา้ ทต่ี ดิ ตอ่ 98 ประสานงาน (Liasion Officer) ประจ�ำสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย และการอบรม หลักสูตรระยะสั้นหัวข้อ “บทบาทของศาลรัฐธรรมนูญและการควบคุมการน�ำอุดมการณ์ของรัฐและคุณค่าของ ร๒าย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ประชาธิปไตยไปปฏิบัติในพหุสังคม” (The Role of the Constitutional Court in Overseeing the Implementation of Ideology) ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๒ – ๑๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๐ ณ กรงุ จาการต์ า สาธารณรฐั อนิ โดนเี ซยี (๓) นายนรุ กั ษ์ มาประณตี ประธานศาลรฐั ธรรมนญู พรอ้ มดว้ ยนายทวเี กยี รติ มนี ะกนษิ ฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ตุลาการ ศาลรฐั ธรรมนญู เดนิ ทางไปเยอื นศาลสงู สดุ สาธารณรฐั อารเ์ จนตนิ า เพอื่ เขา้ เยย่ี มคารวะ ตลอดจนลงนามในบนั ทกึ ความเขา้ ใจ (Memorandum of Understanding) ถงึ ความรว่ มมอื ระหวา่ งกนั ในอนาคต ในการนี้ Ricardo Lorenzetti ศาลรฐั ธรรมนูญ
ประธานศาลสงู สดุ สาธารณรฐั อารเ์ จนตนิ า รว่ มใหก้ ารตอ้ นรบั และลงนามในบนั ทกึ ความเขา้ ใจ เมอื่ วนั พฤหสั บดที ี่ ๒๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๑ ณ ศาลสงู สดุ สาธารณรฐั อารเ์ จนตนิ า กรงุ บวั โนสไอเรส 99 รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี (๔) นายนรุ กั ษ์ มาประณตี ประธานศาลรฐั ธรรมนญู พรอ้ มดว้ ยนายอดุ มศกั ด์ิ นติ มิ นตรี ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู และนายปัญญา อดุ ชาชน ตลุ าการศาลรัฐธรรมนูญเข้าร่วมการประชุมระหวา่ งประเทศ เน่ืองในโอกาสครบรอบ ๕๖ ปี ของการสถาปนาศาลรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐตุรกี โดยหัวข้อการประชุม คือ “การประเมนิ ผลในชว่ งหา้ ปแี รกของการยนื่ คำ� รอ้ งตรงโดยประชาชน” (Evaluation of the First Five Years of Individual Application) ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๓ - ๒๙ เมษายน ๒๕๖๑ ณ สาธารณรฐั ตรุ กี ศาลรฐั ธรรมนูญ
(๕) นายจรญั ภกั ดธี นากลุ ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ในฐานะผแู้ ทนศาลรฐั ธรรมนญู เขา้ รว่ ม การประชมุ นานาชาติ หวั ขอ้ “รฐั ธรรมนญู ในยคุ สมยั แหง่ การเปลยี่ นแปลงระดบั โลกและเปา้ หมายของการตรวจสอบ ความชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู ” ณ ศาลรฐั ธรรมนญู แหง่ สหพนั ธรฐั รสั เซยี นครเซนตป์ เี ตอรส์ เบริ ก์ ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๓ - ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ โดยไดน้ ำ� เสนอการอภปิ รายเรอ่ื ง “Constitutional Review through the Rule of Law” ซงึ่ ในการประชมุ ดงั กลา่ ว ผแู้ ทนศาลรฐั ธรรมนญู ของประเทศตา่ งๆ และผแู้ ทนองคก์ ารระหวา่ งประเทศ ไดร้ ว่ มอภปิ ราย และแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ แนวคำ� วนิ จิ ฉยั และแนวปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั ความยตุ ธิ รรมทางรฐั ธรรมนญู ในการสง่ เสรมิ หลกั นติ ธิ รรม การคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน และการอนวุ ตั กิ ารใหร้ ฐั ธรรมนญู สามารถเสรมิ สรา้ งคณุ ภาพชวี ติ สทิ ธแิ ละ เสรภี าพของประชาชนไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ (๖) ขา้ ราชการสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู จำ� นวน ๒ คน เขา้ รว่ มการประชมุ ดา้ นการวจิ ยั 100 ครง้ั ท่ี ๑ ของสำ� นักงานเลขาธกิ ารถาวรด้านการวจิ ยั และพฒั นาของสมาคมศาลรัฐธรรมนญู และสถาบันเทยี บเท่า แห่งเอเชีย ระหว่างวันที่ ๒๘ พฤษภาคม - ๒ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐเกาหลี โดยข้าราชการส�ำนักงาน ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี ศาลรฐั ธรรมนญู ทง้ั สองคนไดน้ ำ� เสนอบทความทางวชิ าการ ซงึ่ สำ� นกั งานเลขาธกิ ารถาวรดา้ นการวจิ ยั และพฒั นาฯ ไดร้ วบรวมบทความทางวชิ าการจากประเทศตา่ งๆ ผลติ เปน็ สงิ่ พมิ พช์ อื่ “เขตอำ� นาจศาลและองคก์ ารของสมาชกิ สมาคมศาลรฐั ธรรมนญู และสถาบนั เทยี บเทา่ แหง่ เอเชยี ” (Jurisdictions and Organization of AACC Members) (๗) โครงการแลกเปลยี่ นเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นาองคก์ รในกระบวนการยตุ ธิ รรมกบั กลมุ่ ประชาคม อาเซยี นบวกหก โครงการนจ้ี ดั ขน้ึ ณ เครอื รฐั ออสเตรเลยี ในระหวา่ งวนั ที่ ๒๓ – ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ มีวัตถุประสงค์เพ่ือเสริมสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมให้แก่บุคลากรของส�ำนักงาน ศาลรฐั ธรรมนญู ผปู้ ฏบิ ตั งิ านดา้ นคดี และผซู้ ง่ึ มคี วามเกยี่ วขอ้ งกบั งานคดเี พอื่ ใหเ้ กดิ การแลกเปลย่ี นเรยี นรปู้ ระสบการณ์ ระหว่างหน่วยงานองค์กรศาลและสถาบันเทียบเท่าหรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมในต่างประเทศ และ เพอื่ พฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรของสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ใหม้ มี าตรฐานในระดบั เดยี วกนั กบั บคุ ลากรขององคก์ ร ศาลรฐั ธรรมนญู ของประเทศสมาชกิ ในกลมุ่ ประชาคมอาเซยี นบวกหกโดยจะแบง่ การดำ� เนนิ งานออกเปน็ สส่ี ว่ น ดงั ตอ่ ไปนี้ ศาลรัฐธรรมนญู
สว่ นทห่ี นงึ่ การแลกเปลยี่ นเรยี นรใู้ นหวั ขอ้ สทิ ธกิ ารสมรสระหวา่ งบคุ คลเพศเดยี วกนั (Same - sex Marriage) โดยสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู ไดป้ ระสานงานกบั คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั นวิ เซาทเ์ วลล์ (The Faculty of Law of the University of New South Wales) เพอื่ แลกเปลยี่ นเรยี นรใู้ นหวั ขอ้ ทางวชิ าการดงั กลา่ ว ในวนั จนั ทรท์ ่ี ๒๕ มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ 101 รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี สว่ นทส่ี อง การแลกเปลยี่ นเรยี นรใู้ นหวั ขอ้ การตรวจสอบความชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู ของกฎหมาย โดยไดเ้ ขา้ รบั ฟงั การบรรยายสรปุ และแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ณ ศาลสงู แหง่ ออสเตรเลยี (The High Court of Australia) ในวนั องั คารท่ี ๒๖ มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ การเขา้ เยย่ี มและรบั ฟงั การบรรยาย ณ สถานเอกอคั รราชทตู ไทย ประจำ� กรงุ แคนเบอรร์ า่ ในวนั เดยี วกนั ศาลรัฐธรรมนูญ
สว่ นทสี่ าม การแลกเปลยี่ นเรยี นรใู้ นหวั ขอ้ กฎหมายการณุ ยฆาตในรฐั วกิ ตอเรยี ประเทศ ออสเตรเลยี (The Voluntary Assisted Dying Act 2017) โดยการศกึ ษาในหวั ขอ้ ทางวชิ าการน้ี ไดร้ บั ฟงั การบรรยาย สรปุ ที่ คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั เมลเบริ น์ (Melbourne Law School, The University of Melbourne) ในวนั พฤหสั บดที ่ี ๒๘ มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ 102 ๒ราย๕ง๖าน๑ประจ�ำ ปี สว่ นทสี่ ี่ การแลกเปลย่ี นเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ระบบศาลอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ณ ศาลฎกี าแหง่ รฐั วกิ ตอเรยี (The Supreme Court of Victoria) ซ่ึงมีระบบศาลอิเล็กทรอนิกส์ที่ก้าวหน้าและพัฒนาอย่างเป็นระบบ โดยไดเ้ ขา้ รบั ฟงั การบรรยาย ณ ศาลฎกี าแหง่ รฐั วกิ ตอเรยี ในวนั ศกุ รท์ ่ี ๒๙ มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ จากการแลกเปล่ียนเรียนรู้ทั้งส่ีส่วนดังกล่าวท�ำให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน เพอื่ สนบั สนนุ คณะตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู ในหลายดา้ นดว้ ยกนั ดงั น้ี ๑. ด้านความรู้ มีการแลกเปลย่ี นความรูด้ ้านสทิ ธิและเสรภี าพ โดยเฉพาะสิทธทิ มี่ ี การปรับเปลี่ยนตามพลวัตของสังคมอันเป็นประเด็นปัญหาในระดับสากล เช่น สิทธิการสมรสระหว่างบุคคล เพศเดียวกัน (Same - sex Mariage) อันน�ำไปสู่การผลักดันกฎหมายการสมรสของบุคคลเพศเดียวกันและ สทิ ธทิ จ่ี ะตาย (Right to Die) อนั นำ� ไปสกู่ ารตรากฎหมายการณุ ยฆาตของออสเตรเลยี หรอื The Voluntary Assisted ศาลรัฐธรรมนญู
Dying Act 2017 นอกจากน้ียังมีการแลกเปล่ียนความรู้เกี่ยวกับระบบศาลระบบกฎหมาย และวิธีพิจารณาคดี ของศาลในออสเตรเลยี เพอ่ื ศกึ ษาเปรยี บเทยี บกบั ประเทศไทยอกี ดว้ ย ๒. ดา้ นระบบงาน เปน็ การแลกเปลย่ี นเรยี นรเู้ พอ่ื เตรยี มความพรอ้ มสกู่ ารจดั ทำ� ระบบ ศาลอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ โดยอาศยั การศกึ ษาจากระบบการบรหิ ารจดั การงานคดี (Case Management System) และ ระบบหอ้ งพจิ ารณาคดอี เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E – court Room System) ของศาลฎกี าแหง่ รฐั วกิ ตอเรยี ๓. ดา้ นเครอื ขา่ ยระหวา่ งประเทศ เปน็ การประสานงานเบอื้ งตน้ เพอื่ จดั ใหม้ ขี อ้ ตกลง ดา้ นวชิ าการกบั คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั นวิ เซาทเ์ วลล์ ตอ่ ไป 103 (๘) นายทวเี กยี รติ มนี ะกนษิ ฐ ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู เขา้ รว่ มการประชมุ นานาชาติ เนอ่ื งในโอกาสศาลรฐั ธรรมนญู แหง่ สาธารณรฐั เกาหลี ครบรอบ ๓๐ ปี โดยมหี วั ขอ้ การประชมุ คอื “สถานะในอดตี รายงา๒นป๕ระ๖จ�ำ ๑ปี และปจั จบุ นั ของความยตุ ธิ รรมทางรฐั ธรรมนญู ” (Past and Present Status of Constitutional Justice) ระหวา่ ง วนั ท่ี ๑ - ๕ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ สาธารณรฐั เกาหลี (๙) ขา้ ราชการสำ� นกั งานศาลรฐั ธรรมนญู จำ� นวน ๒ คน เขา้ รว่ มการฝกึ อบรมภาคฤดรู อ้ น ครงั้ ที่ ๖ ซ่งึ จัดขน้ึ โดยศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรมนษุ ย์แห่งสมาคมศาลรัฐธรรมนญู และสถาบนั เทยี บเทา่ แห่งเอเชีย ในหัวข้อ “สิทธิในเสรีภาพและความม่ันคง” (The Right to Liberty and Security) ระหว่างวันท่ี ๑๗ - ๒๑ กันยายน ๒๕๖๑ ณ สาธารณรฐั ตรุ กี ศาลรฐั ธรรมนญู
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 542
Pages: