เอกสารประกอบการพจิ ารณา ตามระเบียบวาระการประชุม เรอ่ื งที่ค้างพิจารณา เล่มท่ี 2 กล่มุ งานระเบยี บวาระ สานักการประชุม
รายงานผลการรบั ฟงั ความคิดเห็นและรายงานผลการวเิ คราะห์ ผลกระทบที่อาจเกดิ จากร่างพระราชบัญญัติ ส่วนที่ ๑ ขอ้ มลู พ้นื ฐานของร่างพระราชบัญญัติ ๑. รา่ งพระราชบัญญัติวธิ กี ารงบประมาณ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... กฎหมายใหม่ แก้ไขเพิม่ เตมิ ยกเลิก ๒. หลกั การและเหตผุ ล ๒.๑ หลกั การ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ พระราชบัญญตั วิ ธิ กี ารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ดังตอ่ ไปนี้ ๑. กาหนดให้นิยามและความหมายของรัฐวิสาหกิจตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซ่งึ ใชบ้ งั คบั อยูม่ ีความชัดเจนมากยิง่ ขึ้น และใหก้ ารตีความในสว่ นของความเป็นรฐั วิสาหกิจเป็นไป ในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกับเจตนารมณ์ และหลักการของการจัดต้ังรัฐวิสาหกิจ หรือกิจการท่ีรัฐมีทุน ในกิจการเหล่าน้ันเกนิ กว่ากง่ึ หน่งึ ๒. เพิ่มเติมบทเฉพาะกาลให้มีความครอบคลุมไปถึงการตีความนิยาม และความหมายของ รัฐวิสาหกิจที่เกิดขึ้นก่อนที่พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จะมีผลใช้บังคับ โดยให้ยึดถือตาม บทนยิ ามคาว่า “รฐั วสิ าหกจิ ” ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไข เพมิ่ เตมิ ๒.๒ เหตผุ ล ปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐเข้าไปดาเนินกิจการโดยมีทุนรวมกัน เกินกว่าก่ึงหน่ึงเป็นจานวนมาก ท้ังน้ี ก็เพ่ือให้การดาเนินนโยบายของรัฐ ตลอดจนการจัดทาบริการสาธารณะ ใหแ้ กป่ ระชาชนเปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ และมศี กั ยภาพที่จะรองรบั ต่อความต้องการของประชาชน รวมท้ัง มีความรวดเร็วต่อการดาเนินภารกิจซึ่งไม่จาต้องยึดกฎ ระเบียบ และแบบแผนของราชการจนทาให้เกิดความ ล่าช้าในการดาเนินการ อย่างไรก็ตาม แม้การดาเนินการของรัฐวิสาหกิจหรือกิจการที่รัฐเข้าไปดาเนินกิจการ โดยมีทุนของรัฐรวมกันเกินกว่ากึ่งหน่ึงจะมีความเป็นอิสระจากระเบียบแบบแผนของราชการก็ตาม แต่ในส่วน ของกลไกในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้บริหาร และคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจ ยังคงจะต้องได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ตลอดจนรัฐสภา โดยอาศัยมาตรการของกฎหมายที่เก่ียวข้อง อาทิเช่น กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กฎหมายว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง กฎหมายเกี่ยวกับความรับผิด ของเจ้าพนกั งานในองคก์ ารหรอื หนว่ ยงานของรัฐ กฎหมายเกย่ี วกบั ความผิดเกีย่ วกับการเสนอราคาต่อหน่วยงาน
-2- ของรัฐ เป็นต้น แต่เนื่องจาก กฎหมายในการตรวจสอบหลายฉบับ รวมทั้งประกาศหรือคาส่ังท่ีกาหนดข้ึนตาม กฎหมายดงั กล่าวมกี ารอ้างอิงถึงบทนิยามคาวา่ “รัฐวสิ าหกิจ” ตามความหมายของกฎหมายวิธีการงบประมาณ กรณีจึงส่งผลให้การตีความเพ่ือการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายเกิดปัญหาในทางปฏิบัติในหลายกรณีสืบ เนื่องมาจากการแก้ไขบทนิยาม “รัฐวิสาหกิจ” ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จึงจาเป็นต้องตราพระราชบญั ญตั ิน้ี ๓. ผเู้ สนอรา่ งพระราชบัญญัติ สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร ประชาชนเขา้ ชอื่ เสนอกฎหมาย นายพสิ ิฐ ล้ีอาธรรม สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรกับคณะ เปน็ ผู้เสนอ ส่วนที่ ๒ การรับฟังความคดิ เห็นและสรปุ ผลการรับฟังความคิดเห็น ๑. ข้อมูลประกอบการรับฟังความคิดเห็น แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๔ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยกาหนดให้บทนิยามและ ความหมายของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งใช้บังคับอยู่มีความชัดเจนมากย่ิงข้ึนและให้การตีความในส่วนของรัฐวิสาหกิจ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกับเจตนารมณ์และหลักการของการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐมีทุน ในกิจการเหล่าน้ันเกินกว่าก่ึงหน่ึง ดังน้ี ร่างมาตรา ๓ โดยการให้ยกเลิกความในมาตรา ๔ เฉพาะในส่วนนิยาม “รฐั วสิ าหกจิ ” แห่งพระราชบัญญัตวิ ิธกี ารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และใหใ้ ช้ความต่อไปน้ีแทน “รฐั วสิ าหกิจ” หมายความวา่ (๑) องคก์ ารของรัฐบาล ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั ตัง้ องค์การของรฐั บาล กองทนุ หรือนติ ิบุคคลใดๆ ท่ีกฎหมายบัญญัติให้จัดต้ังขึ้น กิจการของรัฐซึ่งมีกฎหมายจัดตั้งข้ึน กิจการที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งทุนท้ังหมด หรอื ทุนเกินกวา่ รอ้ ยละหา้ สิบเปน็ ของรัฐ หรือหนว่ ยงานธุรกจิ ทีร่ ฐั บาลเป็นเจา้ ของ (๒) บริษัทจากัด บรษิ ทั มหาชนจากัด หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่สว่ นราชการ หรอื รฐั วสิ าหกิจตาม (๑) มที ุนรวมอยดู่ ว้ ยเกนิ รอ้ ยละห้าสบิ (๓) บริษทั จากัด บริษทั มหาชนจากัด หรอื ห้างหุน้ สว่ นนติ บิ ุคคล ท่สี ่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตาม (๑) หรือ (๒) หรอื ทีร่ ัฐวสิ าหกิจตาม (๑) และ (๒) หรอื ท่ีรฐั วิสาหกจิ ตาม (๒) มที นุ รวมอย่ดู ว้ ยเกินกว่าร้อยละหา้ สิบ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๕๓ วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติวิธีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ ความต่อไปนีแ้ ทน “รา่ งมาตรา ๕๓ ” ในกรณบี รรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ประกาศ และคาสงั่ ฉบับใด ท่มี ีผลใช้บังคับอย่ใู นวันก่อนท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ นิยามคาว่า “รัฐวสิ าหกจิ ให้หมายความว่า รัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวธิ กี ารงบประมาณ หรือมีการอ้างอิงรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายวา่ ด้วยวิธีงบประมาณ” ให้ถือ ว่าบทนิยามหรือการอ้างอิงดังกล่าวในกฎหมายมีความหมายหรือเป็นการอ้างอิงความหมายตามบทบัญญัติ คาว่า “รัฐวสิ าหกจิ ” แห่งพระราชบัญญตั ิวิธงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และตามร่างมาตรา ๔ ท่ีแก้ไขเพมิ่ เติม ๒. ผ้เู กี่ยวขอ้ งทไ่ี ด้รับหรืออาจไดร้ บั ผลกระทบจากร่างพระราชบัญญัติ (๑) กระทรวงการคลงั (๒) สานักงบประมาณ (๓) สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (๔) ธนาคารแห่งประเทศไทย
-3- ๓. ประเดน็ การรับฟงั ความคดิ เหน็ ๑) สมควรกาหนดบทนิยาม “รัฐวิสาหกจิ ” ใหห้ มายความว่า องค์การของรฐั บาล ตามกฎหมายว่าด้วย การจัดต้ังองค์การของรัฐบาล กองทุนหรือนิติบุคคลใดๆ ที่กฎหมายให้จัดตั้งขึ้น กิจการของรัฐซ่ึงมีกฎหมาย จัดต้งั ข้นึ กจิ การที่เรยี กช่อื อยา่ งอนื่ ซึ่งทุนท้ังหมด หรอื ทุนเกินกว่ารอ้ ยละหา้ สบิ เป็นของรัฐ หรอื หน่วยงานธุรกิจ ท่ีรัฐบาลเป็นเจ้าของ บรษิ ัทจากดั บรษิ ัทมหาชนจากัด หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ทีส่ ว่ นราชการ หรอื รัฐวิสาหกิจ มที ุนรวมอย่ดู ้วยเกินรอ้ ยละห้าสิบ หรือไม่ ๒) สมควรให้บรรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคาสั่ง ที่มีผลใช้บังคับก่อน ท่ีร่างพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับให้บทนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” มีความหมาย หรืออ้างอิงความหมาย บทบัญญัติคาว่า “รัฐวิสาหกิจ”ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไข เพิ่มเตมิ หรอื ไม่ ๓) สมควรให้การตีความ หรือความเห็น หรือคาช้ีขาด ให้ถือตามบทนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ตามมาตรา ๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ิวธิ ีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และท่แี กไ้ ขเพิม่ เตมิ หรอื ไม่ ๔. ระยะเวลาและวิธีการการรบั ฟังความคิดเหน็ ๔.๑ ระยะเวลาในการรับฟงั ความคดิ เหน็ ตง้ั แตว่ ันท่ี ๙ มีนาคม ๒๕๖๔ ถึงวนั ที่ ๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔ รวมระยะเวลา จานวน ๑๔๙ วัน ๔.๒ วิธีการรับฟงั ความคิดเห็น ๑) ผ่านระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th ๒) ส่งประเด็นไปรับฟังผู้ทีเ่ ก่ียวข้องโดยตรง ประกอบด้วย (๑) กระทรวงการคลัง (๒) สานกั งบประมาณ (๓) สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (๔) ธนาคารแหง่ ประเทศไทย
-4- ๕. สรุปผลการรบั ฟังความคิดเห็น ๕.๑ ข้อมลู ทวั่ ไปผ้รู ่วมแสดงความคดิ เหน็ จากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th จานวน ๔๖ ราย ประกอบดว้ ย จากการส่งประเดน็ ไปรับฟังผูท้ ีเ่ กีย่ วขอ้ งโดยตรง ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน ที่ได้แสดงความคิดเห็นมี จานวน ๔ ราย (๑) กระทรวงการคลัง (๒) สานกั งบประมาณ (๓) สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (๔) ธนาคารแหง่ ประเทศไทย ๕.๒ ผลการรบั ฟัง ผลการรับฟังผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th และ จากการส่งประเด็นไปรับฟังผทู้ ่เี กยี่ วขอ้ งโดยตรง สรปุ ได้เป็นรายประเดน็ ดงั น้ี ประเด็นที่ ๑. สมควรกาหนดบทนิยาม “รัฐวิสาหกิจ” ให้หมายความว่า องค์การของ รัฐบาล ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดต้ังองค์การของรัฐบาล กองทุนหรือนิติบุคคลใดๆ ที่กฎหมายให้จัดต้ัง ขึ้น กจิ การของรัฐซงึ่ มีกฎหมายจัดตัง้ ขึ้น กิจการทเ่ี รยี กชอ่ื อยา่ งอน่ื ซึง่ ทนุ ท้ังหมด หรือทุนเกนิ กวา่ ร้อยละห้า สิบเปน็ ของรัฐ หรอื หนว่ ยงานธุรกจิ ทร่ี ัฐบาลเปน็ เจา้ ของ บรษิ ทั จากดั บรษิ ทั มหาชนจากดั หรอื หา้ งหนุ้ ส่วน นิตบิ ุคคล ที่ส่วนราชการ หรือรฐั วิสาหกจิ มที ุนรวมอยดู่ ว้ ยเกนิ รอ้ ยละหา้ สบิ หรอื ไม่ เหน็ ด้วย ไม่เหน็ ด้วย - กองทุนที่กฎหมายจัดตั้งขึ้นในหลายกรณี เป็นการ จัดตั้งข้ึนเพื่อให้เงินกับวิสาหกิจ หรือเอกชน เพ่ือ วัตถุประสงค์เฉพาะ เพ่ือออมเงินหรือลงทุน ไม่ใช่ เจตจานงในการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจเพ่ือดาเนินกิจการ ใดๆ จึงไมค่ วรกาหนดกฎหมายเป็นการทว่ั ไป ใหม้ ีผล เป็นอุปสรรคต่อการดาเนินงานขององค์กร และการ กาหนดให้นิติบุคคลใดๆ ที่กฎหมายจัดตั้งขึ้นเป็น รัฐวิสาหกิจ ขัดต่อหลักกฎหมายปกครอง เช่น การ จัดต้ังองค์การมหาชนตามหลักการกระจายอานาจ ทางปกครองตามภารกิจการจัดตั้งองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นตามหลักอานาจทางพื้นที่ การจัดต้ัง องค์กรกากับดูแล เพื่อกากับดูแลตลาดหรือ อุตสาหกรรม ซ่ึงต้องเป็นกลางและเป็นอิสระจากรัฐ การกาหนดให้กิจการที่เรียกชื่ออย่างอื่นซ่ึงทุน ทั้งหมดเป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นการทาลายหลัก
เหน็ ด้วย -5- ไม่เห็นด้วย กฎหมายอย่างไม่เหมาะสม การกาหนดให้กิจการท่ี เรียกชอ่ื อย่างอื่นซึ่งทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของ รัฐจะเกิดขึ้นต่อเม่ือเป็นบริษัท กระทรวงการคลังถือ หุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบ ย่อมเป็นรัฐวิสาหกิจ ซ่ึงคา ว่ารัฐในกฎหมายฉบับน้ีมีความหมายไม่ชัดเจน ปัจจุบันไม่มีบริษัทที่ส่วนราชการอ่ืนนอกเหนือจาก กระทรวงการคลัง ซึ่งกลุ่มบริษัทท่ีรัฐวิสาหกิจมีทุน ร ว ม อ ยู่ ด้ ว ย เ กิ น ก ว่ า ร้ อ ย ล ะ ห้ า สิ บ ไ ม่ ไ ด้ รั บ งบประมาณ และรัฐไม่ได้มีความประสงค์ในการ จัดต้ังห้างหุ้นส่วนแล้ว จึงไม่ปรากฏเหตุผลที่จะ เพิ่มเติมในส่วนนี้ การปรับปรุงเฉพาะบทนิยาม รัฐวิสาหกิจและกินความถึงบทนิยามอื่น เป็นการ แก้ไขท่ีไม่สอดคล้องเหมาะสม ซ่ึงกระทบต่อการ บงั คบั ใช้กฎหมายฉบับอ่นื (ประชาชน) - ปัจจุบันกระทรวงการคลังรับผิดชอบกฎหมายหลกั ที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจหลายฉบับ ส่วนใหญ่มีการ กาหนดนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ไว้โดยเฉพาะใน กฎหมายน้ัน โดยมิได้อ้างอิงนิยามตามกฎหมายว่า ด้วยวิธีการงบประมาณ การแก้ไขเพ่ิมเติมบทนิยาม คาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ตามพระราชบัญญัติวิธี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไม่ส่งผลโดยตรงต่อ ขอบเขตนิยาม “รัฐวิสาหกิจ” ตามกฎหมายดังกล่าว แต่การเสนอแก้ไขเพ่ิมเติมบทนิยาม ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติวธิ ีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยขยายขอบเขตให้ครอบคลุมประเภทหน่วยงาน มากขึ้น อาจส่งผลให้มีจานวนหน่วยงานของรัฐที่ ขอรับงบประมาณเพิ่มข้ึน อาจส่งผลให้เกิดภาระต่อ งบประมาณและการบริหารงบประมาณแผ่นดินได้ (กระทรวงการคลัง) - การแก้ไขนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ของร่าง พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ส่งผลให้กองทุนเพื่อการฟ้ืนฟูและพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ) แม้จะไม่เป็นหนว่ ย รับงบประมาณแต่จะอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติ วิธีการงบประมาณฉบับนี้ด้วย หากพิจารณาจาก วัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ท่ีจัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ไข ปัญหาของสถาบันการเงินท่ีได้รับผลกระทบจาก
เหน็ ด้วย -6- ไม่เหน็ ด้วย วิกฤติการ ทางการเงิน และสร้างความมั่นคงและ เสถยี รภาพให้กับระบบสถาบันการเงิน มไิ ด้ประกอบ วิสาหกิจหรือกิจการเชิงพาณิชย์ มีที่มาของ เงินกองทุนเป็นเงินและทรัพย์สินท่ีได้รับจากการ ดาเนินการตามอานาจหน้าท่ี และเงินท่ีได้รับจัดสรร จากเงินสารองของ ธปท. โดยไม่มีบทบัญญัติให้ กองทุน ได้รับเงินงบประมาณรายจ่ายหรือเงิน อุดหนุนจากงบประมาณ ประกอบกับเหตุผลในการ ประกาศใช้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มีวัตถุประสงค์เพ่ือปรับปรุงหลักเกณฑ์ เก่ียวกับการจัดทางบประมาณ การบริหาร งบประมาณรายจ่าย การควบคมุ งบประมาณ รวมถึง ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล แ ล ะ ก า ร ร า ย ง า น ก า ร ใ ช้ จ่ า ย งบประมาณ เพอื่ ใหก้ ระบวนการจัดสรรงบประมาณ ของประเทศมีลักษณะท่ีมุ่งเป้าหมายและผลสัมฤทธ์ิ ของงบประมาณเป็นสาคัญ ดังน้ันการแก้ไขนิยาม ดังกล่าว มีผลให้กองทุนเป็นรัฐวิสาหกิจและอยู่ ภายใต้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ จึงไม่ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ก า ร จั ด ตั้ ง ก อ ง ทุ น (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย) - ก า ร ก า ห น ด บท นิ ยา ม “ รั ฐ วิ ส า หกิ จ ” ใ น พระราชบญั ญัตวิ ธิ กี ารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็น การให้คาจากัดความตามนัยหน่วยงานของรัฐที่ ขอรับ หรือได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ซ่ึง มิ ไ ด้ เ ป็ น ก า ร ก า ห น ด ค ว า ม ห ม า ย โ ด ย ทั่ ว ไ ป ข อ ง รัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันมีการกาหนดบทนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ในกฎหมายหลายฉบับมีความ แตกต่างกัน รวมท้ังมีการอ้างอิงถึงรัฐวิสาหกิจใน กฎหมายอ่ืนๆ การพจิ ารณาว่า องคก์ รหรอื หน่วยงาน ใดเปน็ รฐั วสิ าหกจิ หรอื ไม่ ตอ้ งพิจารณาตามกฎหมาย ว่าด้วยวธิ ีการงบประมาณและกฎหมายที่เก่ียวขอ้ ง - ในส่วนของกลไกการตรวจสอบการปฏิบัติงานของ พนักงาน เจ้าหน้าท่ี ผู้บริหาร และคณะกรรมการใน รัฐวิสาหกิจหรือในหน่วยงานอ่ืน ของรัฐ ท่ีไม่ได้มี ฐ า น ะ เ ป็ น รั ฐ วิ ส า ห กิ จ ต า ม บ ท นิ ย า ม ค า ว่ า “รัฐวิสาหกิจ” ในพระราชบัญญัติว่าด้วยวิธีการ งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ หากต้องการปรับปรุง
เหน็ ด้วย -7- ไม่เหน็ ดว้ ย แก้ไขหลักเกณฑ์การกากับดูแลและการตรวจสอบ ดั ง ก ล่ า ว ใ ห้ มี ค ว า ม รั ด กุ ม แ ล ะ เ ข้ ม ง ว ด ม า ก ขึ้ น สามารถดาเนินการได้ด้วยวิธีการอ่ืน เช่นการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาการกากับดูแล และบริหารรัฐวิสาหกิจ เป็นการดาเนินการที่ เหมาะสมและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการ กากับดูแลและการตรวจสอบการปฏิบัติงานของ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐมากกว่า ไม่ จาเป็นต้องแก้ไขต้องแก้ไขบทนิยามว่าด้วยวิธีการ งบประมาณ ซ่ึงเป็นกฎหมายลัก ซึ่งเมื่อแก้แล้วอาจ ส่งผลกระทบต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (สานักงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาต)ิ - การกาหนดความหมาย “รัฐวิสาหกิจ” ตาม พระราชบญั ญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มไิ ด้ เป็นการบัญญัติความหมายท่ัวไปของความเป็น รัฐวิสาหกิจ แต่มีเจตนารมณ์กาหนดความหมายของ รฐั วสิ าหกจิ ไวเ้ ฉพาะทเี่ ปน็ หน่วยรบั งบประมาณตาม วิธีการงบประมาณ สามารถรับงบประมาณได้ โดยตรงโดยมุ่งหมายถึงรัฐวิสาหกิจท่ีจัดต้ังข้ึนตาม กฎหมาย ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่จัดต้ังข้ึน เพ่ือจัดทาบริการสาธารณะอาจมีความจาเป็นต้อง ขอรบั การสนับสนุนงบประมาณจากรฐั ผกู พันในการ ป ฏิ บั ติ แ ล ะ ถู ก ค ว บ คุ ม ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ใ น กระบวนการงบประมาณ มิได้มีบทบัญญัติเพื่อ ตรวจสอบหรือควบคุมพนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้บริหาร และคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจในมิติอ่ืนๆ การแก้ไข นิยามตามร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีจึงไม่สอดคล้อง กบั หลักการและเจตนารมณ์ และอาจมีปัญหาในการ บงั คบั ใช้ (สานักงบประมาณ) .
-8- ประเด็นท่ี ๒. สมควรใหบ้ รรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบงั คบั ประกาศ และคาสัง่ ทีม่ ผี ล ใช้บังคับก่อนท่ีร่างพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับให้บทนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” มีความหมาย หรือ อ้างอิงความหมายบทบัญญัติคาว่า “รัฐวิสาหกิจ”ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และท่แี กไ้ ขเพิ่มเตมิ หรอื ไม่ เหน็ ดว้ ย ไม่เหน็ ดว้ ย - การตราบทนิยามรฐั วิสาหกิจในกฎหมายหลายฉบับ ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันจึงไม่ควรที่จะบัญญัติ กฎหมายท่ีมีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน ให้ใช้นิยาม เหมือนกนั ได้ - พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้ยกเลิกพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ แล้วจึงไม่มีเหตุผลที่จะบัญญัติบทนิยามตาม กฎหมายทยี่ กเลกิ อกี - การตรากฎหมายควรตราขึ้นเพื่อพัฒนาให้เป็นไป ตามบริบทของสังคมโลกท่ีเปลี่ยนแปลงไป และควร ต ร า เ พ่ื อ ใ ห้ เ กิ ด ก า ร พั ฒ น า ที่ มี ป ระ สิ ทธิภ าพ (ประชาชน) - พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๓ วรรคสอง ไดก้ าหนดใหน้ าความในมาตรา ๕๓ วรรคหน่ึง มาใช้บังคับกับกฎด้วยแล้ว นอกจากนี้ มาตรา ๕๓ วรรคสาม กาหนดให้มีการแก้ไขเพ่ิมเติม กฎหมาย หรือกฎทม่ี กี ารกาหนด หรืออา้ งองิ นยิ ามคา ว่า “รัฐวิสาหกิจ” ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ งบประมาณให้แล้วเสร็จภายใน ๕ ปี นับแต่กฎหมาย ใชบ้ ังคบั ประเด็นการตีความ ความเห็น หรอื คาชีข้ าด ย่ อ ม เ ป็ น ไ ป ต า ม ก ฎ ห ม า ย ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง (กระทรวงการคลงั ) - การแก้ไขนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ของร่าง พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ส่งผลให้กองทุนเพ่ือการฟ้ืนฟูและพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ) แม้จะไม่เป็นหน่วย รับงบประมาณแต่จะอยู่ภายใตพ้ ระราชบัญญัติวิธีการ ง บ ป ร ะ ม า ณ ฉ บั บ นี้ ด้ ว ย ห า ก พิ จ า ร ณ า จ า ก วัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ไข ปัญหาของสถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจาก วิกฤติการ ทางการเงิน และสร้างความมั่นคงและ เสถียรภาพให้กับระบบสถาบันการเงิน มิได้ประกอบ วิสาหกิจหรือกิจการเชิงพาณิช ย์ มีท่ีมาของ
เหน็ ด้วย -9- ไมเ่ ห็นดว้ ย เงินกองทุนเป็นเงินและทรัพย์สินท่ีได้รับจากการ ดาเนินการตามอานาจหน้าท่ี และเงินท่ีได้รับจัดสรร จากเงินสารองของ ธปท. โดยไม่มีบทบัญญัติให้ กองทุน ได้รับเงินงบประมาณรายจ่ายหรือเงิน อุดหนุนจากงบประมาณ ประกอบกับเหตุผลในการ ประกาศใช้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มีวัตถุประสงค์เพ่ือปรับปรุงหลักเกณฑ์ เก่ียว กับการจัดทางบประมาณ การบริหาร งบประมาณรายจ่าย การควบคุมงบประมาณ รวมถึง การประเมินผลและการรายงาน การใช้จ่ าย งบประมาณ เพ่ือให้กระบวนการจัดสรรงบประมาณ ของประเทศมีลักษณะที่มุ่งเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ ของงบประมาณเป็นสาคัญ ดังน้ันการแก้ไขนิยาม ดังกล่าว มีผลให้กองทุนเป็นรัฐวิสาหกิจและอยู่ ภายใต้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ จึงไม่ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การจัดตั้ง กองทุน (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย) - ก า ร ก า ห น ด บ ท นิ ย า ม “ รั ฐ วิ ส า ห กิ จ ” ใ น พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็น การใหค้ าจากัดความตามนัยหน่วยงานของรัฐท่ีขอรับ หรอื ไดร้ บั การจัดสรรงบประมาณรายจา่ ย ซง่ึ มิได้เป็น การกาหนดความหมายโดยท่ัวไปของรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันมีการกาหนดบทนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ในกฎหมายหลายฉบับมีความแตกต่างกัน รวมท้ังมี การอ้างอิงถึงรัฐวิสาหกิจในกฎหมายอื่นๆ การ พิจารณาว่า องค์กรหรือหน่วยงานใดเป็นรัฐวิสาหกิจ หรือไม่ ต้องพิจารณาตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ งบประมาณและกฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ ง (สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ) - การอ้างอิงความรัฐวิสาหกิจไว้ตามวิธีการ งบประมาณต้องพิจารณาทบทวนกฎหมายในความ รับผิดชอบ เพื่อกาหนดรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตาม วตั ถปุ ระสงคแ์ ละขอบเขตการบังคับใช้กฎหมายแต่ละ ฉบับต่อไป ดังนั้น จึงไม่สมควรกาหนดบรรดา กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคาส่ัง
- 10 - เห็นดว้ ย ไม่เห็นดว้ ย ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันก่อนท่ีร่างพระราชบัญญัติ ดังกลา่ วนี้มผี ลใชบ้ ังคับ ใหบ้ ทนยิ าม มคี วามหมาย ต า ม ม า ต ร า ๔ แ ห่ ง พ ร ะ ร า ช บัญ ญั ติ วิธีการ งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และทแ่ี ก้ไขเพิ่มเตมิ (สานัก งบประมาณ) ประเด็นท่ี ๓. สมควรให้การตีความ หรือความเห็น หรือคาชี้ขาด ให้ถือตามบทนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ”ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรอื ไม่ เห็นด้วย ไมเ่ ห็นดว้ ย มีความครอบคลุมมากกว่าพระราชบัญญัติวิธี - การตราบทนิยามรัฐวิสาหกิจในกฎหมายหลายฉบับ งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ (ประชาชน) ด้วยวัตถุประสงค์ท่ีแตกต่างกัน จึงไม่ควรบัญญัติบท นยิ ามใหใ้ ชเ้ หมือนกัน - การตรากฎหมายควรตราขึ้นเพ่ือพัฒนาให้เป็นไปตาม บริบทของสังคมโลกท่ีเปล่ียนแปลงไป และควรตรา เพ่อื ให้เกดิ การพัฒนาท่มี ีประสิทธิภาพ (ประชาชน) - พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๓ วรรคสอง ได้กาหนดให้นาความในมาตรา ๕๓ วรรคหนึ่ง มาใช้บังคับกับกฎด้วยแล้ว นอกจากนี้ มาตรา ๕๓ วรรคสาม กาหนดให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมาย หรือกฎท่ีมีการกาหนด หรืออ้างอิงนิยามคา ว่า “รัฐวิสาหกิจ” ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ งบประมาณให้แลว้ เสร็จภายใน ๕ ปี นบั แต่กฎหมายใช้ บงั คบั ประเดน็ การตคี วาม ความเห็น หรอื คาชขี้ าดย่อม เป็นไปตามกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง (กระทรวงการคลัง) - การแก้ไขนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ของร่าง พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ส่งผลใหก้ องทุนเพ่ือการฟืน้ ฟูและพัฒนาระบบ สถาบันการเงิน (กองทุนฯ) แม้จะไม่เป็นหน่วยรับ งบประมาณแต่จะอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติวิธีการ งบประมาณฉบับนี้ด้วย หากพิจารณาจากวัตถุประสงค์ ของกองทุนฯ ที่จัดต้ังข้ึนเพ่ือแก้ไขปัญหาของสถาบัน การเงินท่ีได้รับผลกระทบจากวิกฤติการ ทางการเงิน และสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพให้กับระบบ สถาบันการเงิน มิได้ประกอบวิสาหกิจหรือกิจการเชิง พาณิชย์ มีท่ีมาของเงินกองทุนเป็นเงินและทรัพย์สินที่ ได้รับจากการดาเนินการตามอานาจหน้าท่ี และเงินที่
เหน็ ด้วย - 11 - ไม่เห็นด้วย ได้รับจัดสรรจากเงินสารองของ ธปท. โดยไม่มี บทบญั ญตั ิให้กองทนุ ไดร้ บั เงินงบประมาณรายจา่ ยหรือ เงินอุดหนุนจากงบประมาณ ประกอบกับเหตุผลในการ ประกาศใช้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มีวัตถุประสงค์เพ่ือปรับปรุงหลักเกณฑ์เก่ียวกับ การจัดทางบประมาณ การบริหารงบประมาณรายจ่าย การควบคุมงบประมาณ รวมถงึ การประเมนิ ผลและการ รายงานการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้กระบวนการ จั ด ส ร ร ง บ ป ร ะ ม า ณ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ มี ลั ก ษ ณ ะ ท่ี มุ่ ง เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงบประมาณเป็นสาคัญ ดังน้ันการแก้ไขนิยามดังกล่าว มีผลให้กองทุนเป็น รัฐวิสาหกิจและอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติวิธีการ งบประมาณ จึงไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การจัดต้ัง กองทุน (ธนาคารแหง่ ประเทศไทย) - ก า ร ก า ห น ด บ ท นิ ย า ม “ รั ฐ วิ ส า ห กิ จ ” ใ น พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็น การให้คาจากัดความตามนัยหน่วยงานของรัฐท่ีขอรับ หรือได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ซ่ึงมิได้เป็น การกาหนดความหมายโดยท่ัวไปของรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันมีการกาหนดบทนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ใน กฎหมายหลายฉบับมีความแตกต่างกัน รวมท้ังมีการ อ้างอิงถึงรัฐวิสาหกิจในกฎหมายอื่นๆ การพิจารณาว่า องค์กรหรือหน่วยงานใดเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ต้อง พิจารณาตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและ กฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง (สานักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ - การแก้ไขเพ่ิมเติมความตามพระราชบัญญัติน้ี อาจทา ให้เกิดปัญหาในการบังคับใช้ เน่ืองจากกรณีที่ต้องมีการ ตีความ ให้ความเห็น หรือคาชี้ขาดในเร่ืองใด ย่อมต้อง พิจารณาถึงเจตนารมณ์ของกฎหมาย และบริบทท่ี เกี่ยวข้อง จึงไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขความหมาย “รัฐวิสาหกิจ” ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ควร กาหนดความหมายท่วั ไปของความเป็นรฐั วิสาหกิจ ควร พิจารณาตราเป็นกฎหมายกลาง ไม่ควรอ้างอิงจาก บทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ (สานกั งบประมาณ)
- 12 - สว่ นที่ ๓ รายงานผลการวเิ คราะห์ผลกระทบอันเกิดจากร่างพระราชบัญญตั ิ ๑. ความเป็นมา สภาพปัญหา ความจาเปน็ ทจี่ ะต้องตราพระราชบญั ญัติ ปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐวิสาหกิจ หรือกิจการท่ีรัฐเข้าไปดาเนินการเพื่อให้การดาเนินการ นโยบาย ตลอดจนการจัดทาบริการสาธารณะใหแ้ กป่ ระชาชนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ให้มีกลไกการตรวจสอบการ ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ี ผู้บริหาร คณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจ ต้องได้รับการตรวจสอบจากหนว่ ยงานของรัฐ และองคก์ รอสิ ระตามรฐั ธรรมนญู การกาหนดนิยามและความหมายของรัฐวิสาหกิจใหม้ คี วามชัดเจนยิง่ ข้ึน และ ให้การตคี วามในส่วนของความเปน็ รัฐวสิ าหกิจเป็นไปในทศิ ทางเดียวกนั ๒. ความสอดคล้องของรา่ งพระราชบญั ญัติ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย มาตรา ๗๕ “รัฐพึงจัดระบบเศรษฐกิจให้ประชาชนมี โอกาสได้รับประโยชน์จากความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไปพร้อมกันอย่างท่ัวถึง เป็นธรรม และยั่งยืน สามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขจัดการผูกขาดทางเศรษฐกิจท่ีไม่เป็นธรรม และพัฒนาความสามารถในการแขง่ ขันทางเศรษฐกจิ ของประชาชนและประเทศ รัฐต้องไม่ประกอบกิจการที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับเอกชนเว้นแต่กรณีที่มีความจาเป็น เพ่ือประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม การจัดให้มีสาธารณูปโภค หรือ การจัดทาบรกิ ารสาธารณะ” ๓. ประโยชนท์ ี่ประชาชนและสังคมจะได้รับ รัฐสามารถดาเนินการตามนโยบายและการจัดทาบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และมีศักยภาพท่ีจะรองรับต่อความต้องการของประชาชน มีความรวดเร็วในการดาเนินงาน มีกลไกการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ี ผู้บริหาร คณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีบทนิยามและความหมายของคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น และมีการตีความในสว่ นของความเปน็ รฐั วิสาหกจิ ให้เป็นไปในทศิ ทางเดยี วกัน ๔. ความสมั พันธห์ รือความใกล้เคียงกบั กฎหมายอืน่ รา่ งพระราชบญั ญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๕. ผลกระทบโดยรวมทอ่ี าจเกิดขึ้นจากกฎหมาย ผลกระทบอ่ืนทีส่ าคญั การตคี วาม ให้ความเห็น หรือคาชีข้ าดต้องพิจารณาถงึ เจตนารมณ์ของกฎหมาย และบริบทท่ี เกี่ยวข้อง การกาหนดบทนิยามคาว่า “รัฐวิสาหกิจ” ในกฎหมายหลายฉบับมีความแตกต่างกัน รวมท้ังมีการ อ้างอิงถึงรัฐวิสาหกิจในกฎหมายอื่นๆ การพิจารณาว่า องค์กรหรือหน่วยงานใดเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ต้อง พิจารณาตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขนิยามดังกล่าว มีผลให้ กองทุนเป็นรัฐวิสาหกิจและอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ จึงไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การ จดั ตงั้ กองทุน
- 13 - ๖. การกาหนดใหม้ รี ะบบอนุญาต อนมุ ตั ิหรอื การใชด้ ลุ พินจิ ของเจา้ หนา้ ท่ี มี ไม่มี เหตุผลและความจาเปน็ .................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๗. การกาหนดใหม้ รี ะบบคณะกรรมการ มี ไม่มี เหตุผลและความจาเปน็ ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๘. บทกาหนดโทษ ไม่มี โทษทางอาญา โทษทางปกครอง โทษปรับทางพนิ ัย โทษอุปกรณ์ เหตผุ ลและความจาเปน็ ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. สว่ นที่ ๔ การเปดิ เผยรายงานผลการรบั ฟงั ความคดิ เหน็ และรายงานผลการวเิ คราะหผ์ ลกระทบอนั เกดิ จากรา่ ง พระราชบญั ญตั ิ คณะกรรมการรับฟังคว ามคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิด ขึ้นจ าก ร่างพระราชบัญญัติท่ีเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ได้เปิดเผยรายงานผลการรับฟัง ความคิดเห็นและรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบอันเกิดจากร่างพระราชบัญญัติ ทางเว็บไซต์รัฐสภา www.parliament.go.th แลว้ ต้งั แต่วนั ที่ ๓ กนั ยายน ๒๕๖๔
- 14 - คณะกรรมการรับฟังความคดิ เห็นและวเิ คราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น จากร่างพระราชบัญญตั ทิ ่ีเสนอโดยสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรหรือผู้มสี ิทธิเลือกตั้ง สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร
รายงานผลการรบั ฟังความคดิ เห็นและรายงานผลการวเิ คราะห์ ผลกระทบท่ีอาจเกดิ จากร่างพระราชบัญญตั ิ สว่ นท่ี ๑ ข้อมลู พนื้ ฐานของร่างพระราชบัญญัติ ๑. ร่างพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง่ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... กฎหมายใหม่ แก้ไขเพม่ิ เตมิ ยกเลิก ๒. หลักการและเหตุผล ๒.๑ หลักการ แก้ไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความแพ่ง ดงั ต่อไปน้ี ๑. เพ่ิมบทนยิ ามคาวา่ “คดีปิดกน้ั การมีสว่ นรว่ มสาธารณะ” (เพ่มิ มาตรา ๑ (๒/๑)) ๒. กาหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้จาเลยย่ืนคาร้องขอให้ยุติคดี กาหนดให้มีการนัด พิจารณาคดีโดยเร็ว และการชดใช้ความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการดาเนินคดีแก่คู่กรณี รวมทั้ง กาหนดให้ ศาลมีคาสั่งให้โฆษณาคาพิพากษายกฟ้องกรณีเข้าเงื่อนไขเป็นคดีปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ (เพ่ิมมาตรา ๑๗๓ ทวิ) ๒.๒ เหตุผล เนื่องด้วยประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับประเด็น สาธารณะมักจะถูกดาเนินคดีที่เรียกว่า “การดาเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ” อย่เู สมอ โดยบรษิ ัทเอกชนและหนว่ ยงานของรัฐใช้ในการฟ้องคดีดังกล่าวเพื่อหยดุ ลงโทษ หรอื ตอ่ ตา้ น บรรดา นักเคล่ือนไหวแกนนาหรือสมาชิกชุมชน หรือประชาชน ท่ีออกมาใช้เสรีภาพในการแสดงออก การแสดงความ คิดเห็น การร้องเรียน การชุมนุม หรือการมีส่วนร่วมสาธารณะในรูปแบบต่างๆ ท่ีกระทบหรือเป็นอุปสรรค ต่อการดาเนินงานของบริษัทเอกชน การดาเนินนโยบายของรัฐบาล การตรวจสอบการใช้อานาจของรัฐ หรือ การเข้าไปมีส่วนร่วมในประเด็นนโยบายสาธารณะต่างๆ ซ่ึงการฟ้องคดีดังกล่าวผู้ฟ้องคดีไม่ได้มุ่งเอาชนะ แต่มุ่งลดทอนทรัพยากรและข่มขู่ให้ผู้ถูกฟ้องยอมยุติบทบาทหรือยุติการเข้าไปมีส่วนร่วมในประเด็นสาธารณะ และแม้สุดท้ายจาเลยจะสามารถต่อสู้คดีจนศาลยกฟ้อง แต่ก่อนหน้านั้นจาเลยหรือผู้ถูกฟ้องคดีจะต้อง เสียค่าใชจ้ า่ ย เผชญิ การคุกคาม กดดนั ทางอารมณ์และอ่ืนๆ จนทาให้หยุดการมีสว่ นรว่ มสาธารณะไป การฟ้อง คดีปิดก้ันการมีส่วนร่วมสาธารณะ จึงเป็นการคุกคามต่อสิทธิของบุคคลที่ถูกรับรองภายใต้กติการะหว่าง ประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. ๑๙๖๖ ของสหประชาชาติ ข้อ ๑๙ ข้อ ๒๑ และข้อ ๒๒ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๔ รวมถึง สิทธิในการร้องเรียนและสิทธิชุมชนท่ีถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ด้วยเหตนุ ใี้ นตา่ งประเทศที่มีการฟ้องคดีในลักษณะน้ีเกิดข้ึน เชน่ ในหลาย มลรัฐของสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย รวมถึงฟิลิปปินส์ จึงมีการตรากฎหมายขึ้นเพื่อจัดการกับการ ฟ้องคดดี งั กล่าว ทงั้ นเี้ พื่อรกั ษาความสมดลุ ในการส่งเสริมและปกป้องสิทธติ ามรัฐธรรมนญู ของบุคคลทจี่ ะเข้าไป มีส่วนร่วมในประเด็นสาธารณะและการคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่ฟ้องคดีโดยสุจริตเพ่ือเยียวยาความเสียหาย
-2- ที่เกิดขึ้น ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายในลักษณะดังกล่าวท่ีจะมาจัดการกับคดีปิดกั้นการมีส่วนร่วม สาธารณะในกรณที ี่เป็นคดแี พง่ เพือ่ ใหม้ ีกลไกทางกฎหมายที่ชัดเจนสามารถนาไปใชไ้ ด้อย่างมีประสทิ ธิภาพเพ่ือ การคุ้มครองสิทธเิ สรภี าพและอานวยความยุตธิ รรมใหก้ บั ประชาชนทเี่ ขา้ ไปเกี่ยวขอ้ ง ๓. ผู้เสนอรา่ งพระราชบัญญัติ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ประชาชนเข้าชื่อเสนอกฎหมาย นายพธิ า ล้มิ เจรญิ รตั น์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กบั คณะ เปน็ ผ้เู สนอ ส่วนท่ี ๒ การรับฟังความคดิ เห็นและสรุปผลการรับฟงั ความคดิ เห็น ๑. ขอ้ มูลประกอบการรบั ฟังความคิดเห็น เน่ืองด้วยประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับประเด็น สาธารณะมักจะถูกดาเนินคดีท่ีเรียกว่า “การดาเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อปิดก้ันการมีส่วนร่วมสาธารณะ” อยู่เสมอ โดยบริษัทเอกชนและหน่วยงานของรัฐใช้ในการฟ้องคดดี ังกล่าวเพื่อหยุด ลงโทษ หรอื ตอ่ ตา้ น บรรดา นักเคลื่อนไหวแกนนาหรือสมาชิกชุมชน หรือประชาชน ท่ีออกมาใช้เสรีภาพในการแสดงออก การแสดงความ คิดเห็น การร้องเรียน การชุมนุม หรือการมีส่วนร่วมสาธารณะในรูปแบบต่างๆ ท่ีกระทบหรือเป็นอุปสรรค ต่อการดาเนินงานของบริษัทเอกชน การดาเนินนโยบายของรัฐบาล การตรวจสอบการใช้อานาจของรัฐ หรือ การเข้าไปมีส่วนร่วมในประเด็นนโยบายสาธารณะต่างๆ ซ่ึงการฟ้องคดีดังกล่าวผู้ฟ้องคดีไม่ได้มุ่งเอาชนะ แต่มุ่งลดทอนทรัพยากรและข่มขู่ให้ผู้ถูกฟ้องยอมยุติบทบาทหรือยุติการเข้าไปมีส่วนร่วมในประเด็นสาธารณะ และแม้สุดท้ายจาเลยจะสามารถต่อสู้คดีจนศาลยกฟ้อง แต่ก่อนหน้าน้ันจาเลยหรือผู้ถูกฟ้องคดีจะต้อง เสียค่าใช้จ่าย เผชิญการคุกคาม กดดันทางอารมณ์และอื่นๆ จนทาให้หยุดการมีสว่ นร่วมสาธารณะไป การฟ้อง คดีปิดก้ันการมีส่วนร่วมสาธารณะ จึงเป็นการคุกคามต่อสิทธิของบุคคลที่ถูกรับรองภายใต้กติการะหว่าง ประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. ๑๙๖๖ ของสหประชาชาติ ข้อ ๑๙ ข้อ ๒๑ และข้อ ๒๒ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๔ รวมถึง สิทธิในการร้องเรียนและสิทธิชุมชนที่ถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ดว้ ยเหตุน้ีในต่างประเทศท่ีมีการฟ้องคดีในลักษณะน้ีเกดิ ขึ้น เชน่ ในหลาย มลรัฐของสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย รวมถึงฟิลิปปินส์ จึงมีการตรากฎหมายขึ้นเพ่ือจัดการกับการ ฟอ้ งคดีดงั กล่าว ทงั้ นเ้ี พอื่ รักษาความสมดุลในการส่งเสริมและปกป้องสิทธติ ามรัฐธรรมนญู ของบคุ คลท่จี ะเข้าไป มีส่วนร่วมในประเด็นสาธารณะและการคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่ฟ้องคดีโดยสุจริตเพื่อเยียวยาความเสียหาย ที่เกิดขึ้น ซ่ึงประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายในลักษณะดังกล่าวที่จะมาจัดการกับคดีปิดก้ันการมีส่วนร่วม สาธารณะในกรณีท่ีเปน็ คดีแพง่ เพอื่ ให้มีกลไกทางกฎหมายที่ชดั เจนสามารถนาไปใช้ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพเพ่ือ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและอานวยความยุติธรรมให้กับประชาชนท่ีเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความแพ่งขึ้น สาระสาคัญ แก้ไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความแพ่ง โดยเพิ่มบทนยิ ามคาว่า “คดปี ดิ ก้ันการ มีส่วนร่วมสาธารณะ” ในมาตรา ๑ (เพ่ิมมาตรา ๑ (๒/๑)) ซ่ึงได้ให้ความหมายของคาว่า “คดีปิดก้ันการมีส่วน ร่วมสาธารณะ” หมายความว่า การฟ้องคดีตอ่ บุคคล โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพื่อข่มขู่ กอ่ กวน สร้างความกดดันอย่าง ไม่เหมาะสมหรือยับยั้งการใช้หรือสนับสนุนการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญหรือพันธกรณีระหว่าง ประเทศ ในการมีส่วนร่วมกับประเด็นสาธารณะ อีกทั้งยังได้เพ่ิมมาตรา ๑๗๓ ทวิ โดยกาหนดหลักเกณฑ์ เกยี่ วกบั การให้จาเลยยน่ื คาร้องขอใหย้ ตุ คิ ดี กาหนดใหม้ ีการนดั พจิ ารณาคดโี ดยเร็ว และการชดใชค้ วามเสยี หาย
-3- และค่าใช้จ่ายในการดาเนินคดีแก่คู่กรณี รวมทั้ง กาหนดให้ศาลมีคาส่ังให้โฆษณาคาพิพากษายกฟ้องกรณีเข้า เงอื่ นไขเป็นคดปี ดิ ก้ันการมีสว่ นรว่ มสาธารณะ ๒. ผูเ้ ก่ยี วข้องทไ่ี ด้รับหรืออาจได้รบั ผลกระทบจากร่างพระราชบัญญัติ (๑) กรมคมุ้ ครองสิทธิและเสรภี าพ (๒) สานกั งานศาลยตุ ธิ รรม (๓) สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๔) สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ (๕) ประชาชนทั่วไป ๓. ประเด็นการรับฟงั ความคิดเห็น สมควรกาหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับการให้จาเลยยื่นคาร้องขอให้ยุติคดี กาหนดให้มีการนัด พิจารณาคดีโดยเร็ว และการชดใช้ความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการดาเนินคดีแก่คู่กรณี รวมท้ัง กาหนดให้ ศาลมคี าสั่งให้โฆษณาคาพิพากษากรณเี ข้าเงื่อนไขเปน็ คดีปดิ กน้ั การมสี ว่ นรว่ มสาธารณะ หรอื ไม่ ๔. ระยะเวลาและวิธกี ารการรบั ฟังความคดิ เห็น ๔.๑ ระยะเวลาในการรบั ฟังความคิดเห็น ตงั้ แตว่ ันท่ี ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ถึงวนั ท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ รวมระยะเวลา จานวน ๑๓๐ วัน ๔.๒ วิธกี ารรบั ฟงั ความคดิ เห็น (๑) ผา่ นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรฐั สภา www.parliament.go.th
-4- (๒) ส่งประเด็นไปรับฟังผ้ทู ่เี กีย่ วข้องโดยตรง ประกอบด้วย ๑. กรมคุ้มครองสิทธแิ ละเสรีภาพ ๒. สานกั งานศาลยุตธิ รรม ๓. สานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๔. สภาทนายความในพระบรมราชูปถมั ภ์ ๕. สรปุ ผลการรบั ฟงั ความคิดเห็น ๕.๑ ข้อมลู ทัว่ ไปผู้รว่ มแสดงความคิดเห็น จากระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th จานวน ๗ ราย จากการส่งประเด็นไปรับฟังผ้ทู ่ีเกยี่ วข้องโดยตรง ส่วนราชการ หนว่ ยงานของรัฐ องคก์ รเอกชน ท่ไี ดแ้ สดงความคิดเห็นมีจานวน ๑ ราย คือ สานักงาน ศาลยตุ ิธรรม ๕.๒ ผลการรบั ฟัง ผลการรับฟังผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรฐั สภา www.parliament.go.th และจาก การส่งประเดน็ ไปรบั ฟงั ผูท้ เ่ี กีย่ วขอ้ งโดยตรง สรปุ ไดเ้ ปน็ รายประเด็นดังนี้ ควรกาหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับการให้จาเลยย่ืนคาร้องขอให้ยุติคดี กาหนดให้มีการนัด พิจารณาคดีโดยเร็ว และการชดใช้ความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการดาเนินคดีแก่คู่กรณี รวมทั้ง กาหนดให้ศาลมคี าสัง่ ให้โฆษณาคาพพิ ากษากรณเี ขา้ เงอ่ื นไขเป็นคดีปิดกัน้ การมสี ่วนรว่ มสาธารณะ หรือไม่ เหน็ ดว้ ย ไมเ่ หน็ ด้วย - ๑. เนื่องจากการฟ้องร้องในคดีของโจทก์ต่อ คดีปิดก้ันการมีส่วนร่วมสาธารณะ เป็นการคุกคาม อย่างหน่ึง ซ่ึงก่อให้เกิดความเสียหายต่อจาเลยใน ด้านต่าง ๆ อีกท้ังสมควรท่ีจะให้มีการเผยแพร่คา พิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าวเพ่ือเป็นตัวอย่างต่อ สงั คม ๒. ควรมีการคุ้มครองสิทธิของบุคคลท่ีถูก ฟ้องคดีโดยผู้ฟ้องคดีใช้สิทธิโดยไม่สุจริต เป็นการให้ ความคุ้มครองสิทธิในการแสดงความคิดเห็นหรือการ ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ๕.๓ ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม ๑. การเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไม่ควรใช้บังคับกับเฉพาะการฟ้องคดีในลักษณะปิดก้ันการมีส่วนร่วมสาธารณะเท่านั้น แต่ควรใช้บังคับกับการใช้สิทธิทางศาลในการฟ้องคดีโดยไม่สุจริตทุกคดี ในลักษณะเดียวกับที่บัญญัติไว้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๑/๑ ท้ังน้ี เพ่ือเป็นการคุ้มครองคู่ความผู้ถูกฟ้องคดีจาก การใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการฟ้องคดีเพ่ือกล่ันแกล้งทาให้ผู้อ่ืนเสียหาย หรือเพื่อใช้ในการ ประวงิ คดี
-5- ๒. การดาเนินคดีปิดก้ันการมีส่วนร่วมสาธารณะตามบทนิยามของร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... น้ัน โดยหลักแล้วมิใช่คดีมโนสาเร่ แต่เป็นคดีสามัญ การกาหนดให้นาวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้ บังคับจะไม่สอดคล้องกับลักษณะของคดีดังกล่าว จึงอาจบัญญัติเป็นกฎหมายพิเศษดังเช่นกฎหมาย Anti- Strategic Lawsuits Against Public Participation Act of ๒๐๑๑ ของประเทศฟิลิปปินส์ หรือแกไ้ ขเพิ่มเติม ในพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ ซ่ึงมีความเกี่ยวเน่ืองในประเด็นตามร่างพระราชบัญญัติ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความแพง่ (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... ส่วนที่ ๓ รายงานผลการวเิ คราะห์ผลกระทบอนั เกิดจากร่างพระราชบัญญตั ิ ๑. ความเป็นมา สภาพปัญหา ความจาเป็นทีจ่ ะต้องตราพระราชบญั ญัติ เนื่องด้วยประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับประเด็น สาธารณะมักจะถูกดาเนินคดีท่ีเรียกว่า “การดาเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อปิดก้ันการมีส่วนร่วมสาธารณะ” อย่เู สมอ โดยบริษัทเอกชนและหน่วยงานของรฐั ใช้ในการฟ้องคดีดังกล่าวเพ่ือหยดุ ลงโทษ หรือตอ่ ตา้ น บรรดา นักเคลื่อนไหวแกนนาหรือสมาชิกชุมชน หรือประชาชน ที่ออกมาใช้เสรีภาพในการแสดงออก การแสดงความ คิดเห็น การร้องเรียน การชุมนุม หรือการมีส่วนร่วมสาธารณะในรูปแบบต่างๆ ท่ีกระทบหรือเป็นอุปสรรค ต่อการดาเนินงานของบริษัทเอกชน การดาเนินนโยบายของรัฐบาล การตรวจสอบการใช้อานาจของรัฐ หรือ การเข้าไปมีส่วนร่วมในประเด็นนโยบายสาธารณะต่างๆ ซึ่งการฟ้องคดีดังกล่าวผู้ฟ้องคดีไม่ได้มุ่งเอาชนะ แต่มุ่งลดทอนทรัพยากรและข่มขู่ให้ผู้ถูกฟ้องยอมยุติบทบาทหรือยุติการเข้าไปมีส่วนร่วมในประเด็นสาธารณะ และแม้สุดท้ายจาเลยจะสามารถต่อสู้คดีจนศาลยกฟ้อง แต่ก่อนหน้านั้นจาเลยหรือผู้ถูกฟ้องคดีจะต้อง เสียค่าใชจ้ ่าย เผชิญการคุกคาม กดดนั ทางอารมณ์และอื่นๆ จนทาใหห้ ยุดการมีส่วนร่วมสาธารณะไป การฟ้อง คดีปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ จึงเป็นการคุกคามต่อสิทธิของบุคคลท่ีถูกรับรองภายใต้กติการะหว่าง ประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. ๑๙๖๖ ของสหประชาชาติ ข้อ ๑๙ ข้อ ๒๑ และข้อ ๒๒ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๔ รวมถึง สิทธิในการร้องเรียนและสิทธิชุมชนที่ถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ด้วยเหตุน้ใี นต่างประเทศท่ีมีการฟ้องคดีในลักษณะนี้เกดิ ขึ้น เช่น ในหลาย มลรัฐของสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย รวมถึงฟิลิปปินส์ จึงมีการตรากฎหมายข้ึนเพ่ือจัดการกับการ ฟอ้ งคดีดงั กล่าว ทั้งนีเ้ พื่อรักษาความสมดุลในการส่งเสริมและปกป้องสทิ ธิตามรฐั ธรรมนูญของบุคคลทจี่ ะเข้าไป มีส่วนร่วมในประเด็นสาธารณะและการคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่ฟ้องคดีโดยสุจริตเพื่อเยียวยาความเสียหาย ท่ีเกิดข้ึน ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายในลักษณะดังกล่าวท่ีจะมาจัดการกับคดีปิดก้ันการมีส่วนร่วม สาธารณะในกรณที ่ีเปน็ คดีแพ่ง เพือ่ ใหม้ ีกลไกทางกฎหมายท่ีชัดเจนสามารถนาไปใชไ้ ด้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพเพ่ือ การคุ้มครองสทิ ธิเสรีภาพและอานวยความยุตธิ รรมใหก้ ับประชาชนทเ่ี ขา้ ไปเกีย่ วข้อง ๒. ความสอดคลอ้ งของรา่ งพระราชบญั ญัติ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๗ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายเท่าเทียมกนั ชายและหญิงมสี ทิ ธิเทา่ เทียมกนั การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรอ่ื งถิ่นกาเนดิ เช้ือชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือ
-6- สังคม ความเช่ือทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติ แห่ง รฐั ธรรมนูญ หรือเหตอุ น่ื ใด จะกระทามไิ ด้ มาตรการท่ีรัฐกาหนดข้ึนเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิหรือ เสรีภาพ ได้เช่นเดียวกับบุคคลอ่ืน หรือเพ่ือคุ้มครองหรืออานวยความสะดวกให้แก่เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ หรือผูด้ ้อยโอกาส ย่อมไมถ่ ือว่าเป็นการเลอื กปฏบิ ตั ิโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม บุคคลผู้เป็นทหาร ตารวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าท่ีอ่ืนของรฐั และพนักงานหรอื ลูกจา้ งของ องค์กร ของรัฐย่อมมีสิทธิและเสรีภาพเช่นเดียวกับบุคคลท่ัวไป เว้นแต่ที่จากัดไว้ในกฎหมายเฉพาะในส่วนที่ เก่ยี วกบั การเมอื ง สมรรถภาพ วินัย หรอื จรยิ ธรรม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๔ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสอ่ื ความหมายโดยวธิ ีอน่ื การจากดั เสรีภาพดังกลา่ วจะกระทามไิ ด้ เวน้ แต่โดยอาศัยอานาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราข้ึนเฉพาะเพ่ือรักษาความม่ันคงของรัฐ เพ่ือคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของ บุคคลอ่ืน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพ่ือป้องกันสุขภาพของ ประชาชน เสรีภาพทางวิชาการย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่การใช้เสรีภาพนั้นต้องไม่ขัดต่อหน้าท่ี ของ ปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอนั ดีของประชาชน และต้องเคารพและไม่ปดิ กนั้ ความเห็นตา่ งของบุคคลอ่ืน รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๔ บุคคลย่อมมีเสรภี าพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวธุ การจากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัติ แห่งกฎหมาย ท่ตี ราขนึ้ เพือ่ รกั ษาความมน่ั คงของรัฐ ความปลอดภยั สาธารณะ ความสงบเรยี บร้อยหรอื ศีลธรรม อนั ดี ของประชาชน หรอื เพ่อื คุม้ ครองสิทธหิ รอื เสรภี าพของบุคคลอื่น แผนการปฏิรปู ประเทศ แผนการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม มีเป้าประสงค์เพื่ออานวยความ ยุติธรรม ในแต่ละข้ันตอนให้เป็นไปอย่างโปร่งใสแล้วเสร็จตามระยะเวลาท่ีกาหนด ประชาชนสามารถเข้าถึง กระบวนการ ยุตธิ รรมไดโ้ ดยงา่ ย สร้างความเสมอภาค ลดความเหล่อื มล้า พฒั นาระบบการบริหารงานยตุ ิธรรม ให้เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เลือกปฏิบัติและเป็นธรรม โดยกาหนดกิจกรรมปฏิรูปประเทศท่ีจะส่งผลให้ เกิด การเปล่ียนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ ทั้งน้ีในการดาเนินการจะทาให้ประชาชนทราบถึง ระยะเวลาดาเนินงานในทุกข้ันตอนของกระบวนการยุติธรรมได้ชัดเจน มีมาตรการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของ ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา และจาเลย ทาให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกรวดเร็ว ลดความเหลอื่ มล้าในการเข้าถึงสทิ ธิตา่ ง ๆ ๓. ประโยชนท์ ี่ประชาชนและสงั คมจะไดร้ บั รา่ งพระราชบัญญัติแก้ไขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยมีประโยชน์ที่ประชาชนและ สงั คมจะได้รับ สรุปสาระสาคญั ดงั นี้ ๑) มีบทบญั ญัติคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คลท่ีถูกฟ้องคดี โดยผู้ฟอ้ งคดีใช้สทิ ธิโดยไมส่ ุจริต ๒) มมี าตรการชดเชยเยียวยาผู้ถูกฟ้องคดี เน่อื งจากการฟ้องกลน่ั แกล้งมีค่าใชจ้ ่ายในการสู้คดี หากยกฟ้อง ก็ตอ้ งฟอ้ งคดกี ลับ และเสียคา่ ใช้จา่ ยอีก ควรมกี ารชดเชย ชดใชค้ ่าเสยี หายเชิงลงโทษ
-7- ๓) ช่วยให้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมีความศักดิ์สิทธิ์ บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะนา กฎหมายและกระบวนการยุตธิ รรมมาใช้เปน็ เคร่ืองมือในการฟ้องคดเี พื่อกล่นั แกลง้ ทาให้ผู้อ่ืนเสียหาย หรือเพื่อ ใช้ในการประวิงคดไี ม่ได้ ๔. ความสมั พนั ธ์หรือความใกล้เคยี งกบั กฎหมายอืน่ ร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ี เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซ่ึงเปน็ กฎหมายท่ีใชบ้ งั คบั อยู่ ๕. ผลกระทบโดยรวมทอี่ าจเกิดข้ึนจากกฎหมาย ๕.๑ ผลกระทบต่อเศรษฐกจิ - ๕.๒ ผลกระทบต่อสงั คม เชิงบวก ประชาชนที่ตกเป็นจาเลยในคดีปิดก้ันการมีส่วนร่วมสาธารณะ ได้รับการ ชว่ ยเหลอื มีบทบัญญตั ิค้มุ ครองสทิ ธิของบุคคลท่ีถูกฟ้องคดี มมี าตรการชดเชยเยยี วยาผถู้ ูกฟ้องคดี สอดคล้องกับ มาตรฐานสากล เชิงลบ – ๕.๓ ผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ มหรอื สุขภาวะ – ๕.๔ ผลกระทบอ่นื ทสี่ าคญั - ๖. การกาหนดใหม้ รี ะบบอนุญาต อนุมัติหรือการใช้ดลุ พินิจของเจา้ หน้าท่ี มี ไม่มี เหตุผลและความจาเปน็ - ๗. การกาหนดใหม้ รี ะบบคณะกรรมการ มี ไมม่ ี เหตผุ ลและความจาเป็น ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................. ................................................................ ๘. บทกาหนดโทษ ไม่มี โทษทางอาญา โทษทางปกครอง โทษปรับทางพินัย โทษอปุ กรณ์ เหตุผลและความจาเป็น ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................. ................................................................
-8- สว่ นท่ี ๔ การเปิดเผยรายงานผลการรับฟงั ความคดิ เห็นและรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบอันเกิดจาก ร่างพระราชบญั ญตั ิ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร รั บ ฟั ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น แ ล ะ วิ เ ค ร า ะ ห์ ผ ล ก ร ะ ท บ ที่ อ า จ เ กิ ด ขึ้ น จ า ก ร่ า ง พระราชบัญญตั ิทเ่ี สนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มีสิทธเิ ลือกต้ัง ได้เปดิ เผยรายงานผลการรับฟังความ คิดเห็นและรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบอันเกิดจากร่างพระราชบัญญัติ ทางเว็บไซต์รัฐสภา www.parliament.go.th แล้วตงั้ แตว่ นั ท่ี ๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ คณะกรรมการรับฟังความคิดเหน็ และวเิ คราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึน้ จากร่างพระราชบัญญตั ทิ ีเ่ สนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มีสิทธิเลือกต้ัง สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 599
Pages: