Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 14 (2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

เล่ม 14 (2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

Published by agenda.ebook, 2022-05-19 01:54:39

Description: (2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

Search

Read the Text Version

ประเด็นปฏริ ูปท่ี 3 การพัฒนากลไกการบงั คับการตามกฎหมายอยา่ งเครง่ ครดั เพื่อลดความเหลื่อมล้า (ฉบับเดมิ ) ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สังเกต หลังจากโครงการดงั กลา่ วเสร็จส้นิ ลงในเดือนธันวาคม 2564 และสานักงาน คณะกรรมการฯ รบั ข้อเสนอแนะไปประสานงานกับสานกั งานศาลยตุ ิธรรมเพ่ือ ศาลยุติธรรมได้ทาการประเมนิ ผลการดาเนินโครงการแลว้ ควรจะนาผลการ ดาเนนิ การต่อไป ประเมินท่ีได้ไปใช้เพื่อปรับปรุงพัฒนาระบบปล่อยตัวช่ัวคราวที่ต้อง ดาเนินการต่อในปี 2565 และควรมีการประเมินผลสัมฤทธ์ิของโครงการ เปน็ ระยะทกุ ๆ 6 เดือนดว้ ย ประเด็นปฏิรูปท่ี 7 การพัฒนาระบบการสอบสวนเพ่ือสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหนา้ ทขี่ องพนกั งานสอบสวนและพนักงานอัยการ (ฉบับเดิม) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกต 1. แมว้ า่ สานักงานตารวจแหง่ ชาติไดจ้ ดั ทาระเบยี บสานักงานตารวจแห่งชาติว่าด้วย คณะกรรมการฯ รับข้อเสนอแนะไปประสานงานกบั สานกั งานตารวจแห่งชาตเิ พ่ือ 346 รายงานประจาวนั อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2564 ควบคู่ไปกับคาส่ังสานักงานตารวจ ดาเนินการต่อไป แห่งชาติที่ 177/2564 เรื่อง การรับคาร้องทุกข์หรือคากล่าวโทษความผิดทาง อาญานอกเขตอานาจการสอบสวนแล้ว แต่โดยข้อเท็จจริงกลับพบว่าเจ้าหน้าท่ี ตารวจในบางท้องที่ปฏิเสธหรือไม่สามารถรับแจ้งความร้องทุกข์ต่างท้องที่ได้ ซ่ึง ปัญหาดังกล่าว อาจเกิดจากเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติยังขาดความเข้าใจในการปฏิบัติ หน้าท่ี คณะกรรมาธิการจึงเห็นควรให้มีการจัดทาคู่มือการปฏิบัติงานและจัด ประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานที่ถูกต้องให้กับเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงาน รวมท้ังจัดให้มีศูนย์ให้คาปรึกษาแนะนาด้วย นอกจากน้ีทางสานักงานตารวจ แห่งชาติควรพิจารณาทบทวนว่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีพัฒนาขึ้นเพ่ือ สนับสนุนการแจ้งความรอ้ งทุกข์ต่างท้องท่ีสามารถบูรณาการร่วมกันได้ทุกท้องที่ หรือไม่ และสามารถอานวยความสะดวกให้ประชาชนได้มากน้อยเพียงใด รวมท้ังควรจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ปฏิบัติงานเพ่ือ พฒั นาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ตรงตามความตอ้ งการของผใู้ ช้งานต่อไป

ประเดน็ ปฏริ ูปท่ี 7 การพัฒนาระบบการสอบสวนเพ่ือสรา้ งความเช่ือมัน่ ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ของพนกั งานสอบสวนและพนกั งานอัยการ (ฉบับเดิม) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต 2. ควรขยายขอบข่ายการรับแจ้งความร้องทุกข์ต่างท้องที่ไปยังหน่วยงานอ่ืนท่ีมี คณะกรรมการฯ รบั ข้อเสนอแนะไปประสานงานกับสานกั งานตารวจแห่งชาตเิ พ่ือ หน้าที่และอานาจในการรับแจ้งความร้องทุกข์ด้วย เช่น ศูนย์ดารงธรรม ดาเนินการต่อไป สานักงานอัยการสูงสุด สานักงาน ปปช. และหน่วยงานอื่น เพ่ือเป็นการอานวย ความสะดวกให้กบั ประชาชน ประเดน็ ปฏริ ปู ที่ 8 การปฏิรูปนิตวิ ิทยาศาสตร์เพ่ือความถกู ต้องสมบรู ณข์ องขอ้ เทจ็ จรงิ แหง่ คดี (ฉบับเดิม) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกต ควรเร่งรัดกระทรวงยุติธรรมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระบบนิติวิทยาศาสตร์ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ได้พิจารณาร่างกฎหมาย แห่งชาติ พ.ศ. .... ให้แล้วเสร็จ และเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและ ฉบับดังกล่าวในวันท่ี 8 มีนาคม 2564 และมีมติจัดส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้ รฐั สภาโดยเร็ว กระทรวงยตุ ิธรรมในวันท่ี 12 มีนาคม 2564 เพ่ือดาเนินการต่อไปแล้ว และกระทรวง 347 ยุติธรรม ได้มีการต้ังคณะทางานฯ ข้ึนเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายฉบับน้ี เม่ือแล้ว เสร็จจะจัดรับฟังความเหน็ และดาเนินการตามขน้ั ตอนของกฎหมายต่อไป การขบั เคลอ่ื นกิจกรรมปฏริ ูปประเทศทสี่ ่งผลใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนยั สาคญั (Big Rock) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต ความเห็นต่อการขับเคล่ือนกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่ส่งผลให้เกิดการเปล่ียนแปลง ร่างพระราชบัญญัติกาหนดระยะเวลาดาเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... ตอ่ ประชาชนอย่างมนี ัยสาคญั (Big Rock) ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว และเม่ือวันท่ี 2 พฤศจิกายน 2564 ฝ่าย แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ด้านกระบวนการยุติธรรมมีเป้าประสงค์ เลขานุการฯ ได้เข้าร่วมช้ีแจงกับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองร่างกฎหมายใน เก่ียวกับการอานวยความยุติธรรมต้องมีความโปร่งใส สะดวก รวดเร็ว เสมอภาค ทั่วถึง กระบวนการนิติบัญญัติ ภายใต้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เพ่ือ เป็นธรรม และปราศจากการเลือกปฏิบัติ ซึ่งมีความสอดคล้องกับบทบัญญัติใน ยืนยันร่างกฎหมายฯ ดังกล่าว และเม่ือวันที่ 20 ธันวาคม 2564 คณะกรรมการฯ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และโดยท่ีปัญหาของกระบวนการยุติธรรมใน ได้เข้าพบ เพื่อหารือแนวทางการชี้แจง ร่างพระราชบัญญัติกาหนดระยะเวลาใน ปัจจุบัน คือ การดาเนินงานในกระบวนการยุติธรรมมีความล่าช้า มีอุปสรรคในการ กระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... ต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพ่ือ เข้าถึง มีความเหลื่อมล้าในการบังคับใช้กฎหมาย ทาให้ประชาชนขาดความเชื่อม่ันใน เตรียมความพรอ้ ม ในการประชมุ รว่ มกันของรฐั สภาครง้ั ถดั ไป

การขับเคลอ่ื นกจิ กรรมปฏริ ปู ประเทศท่ีสง่ ผลใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงต่อประชาชนอยา่ งมีนยั สาคัญ (Big Rock) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต กระบวนการยุติธรรม ดังน้ันหากกิจกรรมท้ัง 5 กิจกรรมปฏิรูป ได้รับการขับเคลื่อนให้ การดาเนนิ งานเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กาหนดไว้ในแผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูป ประเทศท่ีจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ จะช่วย แก้ปัญหาในเร่ืองดังกล่าวได้ โดยเฉพาะหากสามารถขับเคลื่อนโครงการให้ประชาชน สามารถติดตามความคืบหน้าขั้นตอนการดาเนินงานต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรม โดยเร่งผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติกาหนดระยะเวลาดาเนินงานในกระบวนการ ยุติธรรม พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้ให้ได้ภายในเดือนธันวาคม 2564 รวมทั้งเร่งรัดให้ หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเร่งดาเนินการพัฒนาและเช่ือมโยงระบบตรวจสอบ และแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบภายในต้นปี 2565 ก็จะเป็นการแก้ปัญหา กระบวนการทางานท่ีล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมและลดความเหลื่อมล้าของ ประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม 348 ความคืบหนา้ ท่ีรัฐสภาใหค้ วามสนใจเป็นพิเศษ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต การดาเนินกิจกรรมปฏิรูปที่ 1 การให้ประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าขั้นตอน ร่างพระราชบัญญัติกาหนดระยะเวลาดาเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... การดาเนินงานต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรม คณะกรรมาธิการเห็นควรเร่งรัดให้มีการ ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว และเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ฝ่าย ผ่านร่างพระราชบัญญัติกาหนดระยะเวลาดาเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... เลขานุการฯ ได้เข้าร่วมช้ีแจงกับคณะอนุกรรมการกล่ันกรองร่างกฎหมายใน ใหม้ ีผลใชบ้ ังคับให้ได้ภายในเดือนธันวาคม 2564 เน่ืองจาก พ.ร.บ. ดังกล่าวช่วยส่งเสริม กระบวนการนิติบัญญัติ ภายใต้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อ ใหป้ ระชาชนสามารถตรวจสอบ ติดตามความคืบหน้าในการดาเนินงานของหน่วยงาน ใน ยืนยันร่างกฎหมายฯ ดังกล่าว และเม่ือวันที่ 20 ธันวาคม 2564 คณะกรรมการฯ ได้ กระบวนการยุติธรรมได้สะดวก รวดเร็ว และมีข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมว่าควรเพ่ิม เข้าพบ เพื่อหารือแนวทางการชี้แจง ร่างพระราชบัญญัติกาหนดระยะเวลาใน ความสาคัญในการแก้ไขปัญหาคดีค้างมากค้างนานควบคู่กันไปกับการเร่งรัดให้ กระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... ต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อ หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมปรับปรุงพัฒนาและเช่ือมโยงระบบตรวจสอบและแจ้ง เตรียมความพร้อม ในการประชุมรว่ มกันของรฐั สภาครงั้ ถดั ไป ความคบื หนา้ ให้ประชาชนทราบให้เริ่มใช้งานจริงได้ต้ังแต่ต้นปี 2565 เปน็ ตน้ ไป

ความคบื หน้าที่รัฐสภาให้ความสนใจเป็นพิเศษ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสงั เกต การดาเนินกิจกรรมปฏิรูปที่ 5 โครงการบันทึกภาพและเสียงในการตรวจค้น จับกุม คณะกรรมการฯ รบั ข้อเสนอแนะไปประสานงานกบั สานักงานตารวจแห่งชาติเพอ่ื และการสอบปากคาในการสอบสวน เป็นโครงการท่ีจะช่วยในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแห่ง ดาเนินการต่อไป คดอี ย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่เน่ืองจากยังมีปัญหาในการนาไปปฏิบัติทั้งในสานักงาน ตารวจแห่งชาติและพนักงานเจ้าหน้าท่ีท่ีมีอานาจในการตรวจค้น จับกุม และการ สอบปากคาในการสอบสวนท่ีมีหลายหน่วยงานด้วย ดังนั้น คณะกรรมาธิการจึงมี ข้อเสนอแนะว่า คระกรรมการปฏิรูปประเทศควรเร่งรัดให้สานักงานตารวจแห่งชาติ ปฏิบัติให้ได้จริง รวมทั้งแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาซึ่งเป็น กฎหมายกลาง เพ่ือให้นาหลักการบันทึกภาพและเสียงในการตรวจค้น จับกุม และการ สอบปากคาในการสอบสวนไปใช้ให้ครอบคลุมการปฏิบัติหน้าท่ีของพนักงานเจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานอน่ื ๆ นอกเหนอื จากเจา้ หน้าทต่ี ารวจด้วย การดาเนินการโครงการตามประเด็นปฏิรูปท่ี 8 การปฏิรูประบบนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อ เนื่องจากแผนการปฏิรปู ประเทศด้านกระบวนการยุตธิ รรม (ฉบับปรับปรุง) จะส้ินสุด 349 ความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อเท็จจริงแห่งคดี คณะกรรมาธิการมีความเห็นว่าโครงการ ลงในปี 2565 ทาให้ไม่สามารถบรรจุประเด็นท่ีปฏิรูปที่ 8 การปฏิรูประบบนิติ ร่างพระราชบัญญัติระบบนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ. .... มีความสาคัญต่อการพิสูจน์ วทิ ยาศาสตร์ อยใู่ นแผนการปฏริ ปู ประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ฉบับปรับปรุง) ข้อเท็จจริงแห่งคดีและตรวจสอบการทาหน้าที่ของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม ได้ ท้ังนี้ คณะกรรมการฯ ได้แจง้ ข้อมลู ดงั กล่าวใหส้ านักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเร่ืองที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 258 ง. ด้าน และสังคมแห่งชาติในฐานะสานักงานเลขานุการของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ กระบวนการยุติธรรม แต่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศไม่ได้กาหนดไว้ในแผนการปฏิรูป เพอ่ื รวบรวมขอ้ มูลไวป้ ระกอบการจดั ทาแผนการปฏริ ปู ประเทศในระยะต่อไป ประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ฉบับปรับปรุง) ดังน้ัน จึงมีข้อเสนอแนะว่า ควร บรรจุโครงการดังกล่าวไว้ในแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) รวมท้ังจัดทาแผน ขับเคล่ือนกิจกรรมปฏิรูปเพื่อใช้เป็นกรอบในการดาเนินงานของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และเป็นกรอบในการติดตามเร่งรดั ใหก้ ับคณะกรรมาธิการด้วย

5. ดา้ นเศรษฐกจิ : ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการตอ่ รายงานสรุปผลการศึกษาวเิ คราะห์รายงานความคบื หน้าในการดาเนนิ การตาม แผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญฯ ขอ้ เสนอแนะเรง่ รัด แผนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ กิจกรรมปฏริ ูปที่ 1 การสรา้ งเกษตรมูลคา่ สูง (ฉบับปรับปรุง) ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกต เป้าหมายย่อยท่ี 1 มีการปรับเปล่ียนพื้นที่จากการทาเกษตรมูลค่าต่า - สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นท่ีสูง ดาเนินการวางแผนการใช้ประโยชน์ท่ีดิน และไมเ่ หมาะสมกบั พื้นทไี่ ปสู่การปลูกพชื เลยี้ งปศสุ ัตว์ และประมงที่มีมูลคา่ สูง สนบั สนุนการทาเกษตรท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม โดยร่วมกับชุมชนและหน่วยงาน โดยเร่งดาเนินการให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในแต่ละเป้าหมายผลักดัน ท่ีเก่ียวข้องกาหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์ท่ีดิน (Zoning) แบ่งแยกพ้ืนท่ีป่า โครงการทีค่ รอบคลุ มตลอดท้ังกระบวนการท่นี าไปสู่การบรรลเุ ป้าหมาย พ้ืนท่ีทากินให้มีความชัดเจน วางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างถูกต้องเหมาะสม - หน่วยงานควรเรง่ ดาเนนิ การหน่วยงานเป็นผู้รับผิดชอบหลักในแต่ละเป้าหมาย ร่วมกับหน่วยงานบูรณาการ จาวน 35 หมู่บ้าน โดยแบ่งเป็น (1) พื้นท่ีทากิน ย่อยเพ่ือให้สามารถผลักดันโครงการท่ีครอบคลุมตลอดทั้งกระบวนการท่ีจะ ของเกษตรกร 4,132 ราย/8,691 แปลง/87,993 ไร่ (2) พ้ืนทป่ี า่ 147,021 ไร่ นาไปสู่การบรรลุเปา้ หมายเกษตรสร้างมูลค่าได้ - จัดทาแผนการพัฒนาและการส่งเสริมเกษตรกรด้านอาชีพท่ีเป็นมิตรต่อ สง่ิ แวดลอ้ ม จานวน 33 พนื้ ท่ี เพอ่ื กาหนดแผนการส่งเสริมปี 2564 350 - ดาเนินการพัฒนาอาชีพบนฐานความรู้ ส่งเสริมการผลิตพืชภายใต้ระบบเกษตร ยั่งยนื เพือ่ แก้ไขปัญหาความยากจน โดยใช้แผนท่กี ารใช้ประโยชน์ท่ีดินรายแปลง และแผนชุมชนเป็นเคร่ืองมือในการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม เพื่อวาง แผนการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ และสนับสนุนการผลิตพืชที่มีคุณภาพและได้ มาตรฐานอาหารปลอดภยั เหมาะสมกับสภาพพน้ื ที่ เป้าหมายย่อยท่ี 2 มีการสนับสนุนการทาการเกษตรแบบรวมผลิตและรวม โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่ใช้เกษตรกร เป็นศูนย์กลางใน จาหนา่ ย การพัฒนา มีเป้าหมายพัฒนาพื้นที่ คน สินค้า ส่งเสริมการรวมกลุ่ม การบริหาร - กรณีใช้แปลงใหญ่เป็นกลไกในการขับเคล่ือน อาจพิจารณาขับเคล่ือนเป็น จัดการร่วมกันเพ่ือลดต้นทุนการผลิต เพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร เครือข่ายแปลงใหญ่ระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดการบูรณาการแผนงาน/โครงการ พฒั นาคุณภาพสินค้าเกษตร สร้างความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมและพัฒนา และงบประมาณโดยเชื่อมโยงกับทุกเป้าหมายย่อยเพ่ือครอบคลุมกิจกรรม ความสามารถในการจัดการการผลิตจนถึงตลาด ตลอดจน สร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับ ต่าง ๆ ให้สามารถพัฒนาภาคการเกษตรตลอดห่วงโซก่ ารผลติ อย่างแท้จรงิ สินค้าเพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกร สานักงานการปฏิรูป ทีด่ ินเพอื่ เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จึงได้นานโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาดาเนินงาน จัดทาโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ โดยสนับสนุน

ข้อเสนอแนะเร่งรดั แผนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกจิ กิจกรรมปฏริ ปู ท่ี 1 การสรา้ งเกษตรมูลค่าสงู (ฉบับปรับปรุง) ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต ใหเ้ กษตรกรเปน็ ศนู ย์กลางในการพัฒนา มีการรวมกลุ่มและบริหารจัดการร่วมกัน โดยมีผู้จัดการแปลงเป็นผู้บริหารจัดการพ้ืนที่ เพื่อบริหารจัดการ การผลิต และ การจาหน่ายร่วมกัน โดยมีตลาดรองรับแน่นอน ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพ เกษตรกรผู้ถือครองท่ีดิน ให้สามารถใช้ประโยชน์ในท่ีดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้การบริหารจัดการผลผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ซึ่งเป็น การพัฒนาเชิงพ้ืนท่ี (Area – based Approach) ใช้การบูรณาการระหว่าง หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน หรือการ ดาเนินงานตามหลักการของประชารัฐ โดยใช้ฐานการมีส่วนร่วม การวิเคราะห์ ศักยภาพของเกษตรกร บริบทชุมชน กระบวนการ ภูมิปัญญา องค์ความรู้และ ทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมทั้งผสมผสานการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม โดย 351 ครอบคลุมพน้ื ท่ีในเขตปฏิรปู ทด่ี นิ จานวน 32 จงั หวัด เปา้ หมายยอ่ ยที่ 3 มีการขยายพืน้ ทช่ี ลประทานให้เกษตรกรมนี า้ ใช้สาหรับการ กรมชลประทาน อยรู่ ะหวา่ งการดาเนนิ โครงการบริหารจดั การนา้ พฒั นาแหล่งน้า ผลิตสนิ คา้ เกษตรอยา่ งเหมาะสมเพียงพอ ทั่วถึง และเป็นธรรม และเพม่ิ พื้นทีช่ ลประทาน โดยครอบคลมุ พนื้ ทช่ี ลประทานได้รับการบริหารจัดการ - หน่วยงานควรทบทวนแนวทางการดาเนินการขยายพ้ืนที่ชลประทานภายใต้ 11.34 ล้านไร่ (ตามแผนการจัดสรรน้าและการปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน ขอ้ จากดั ตา่ ง ๆ ให้อยใู่ นระดบั ท่เี พยี งพอ ซ่ึงทผ่ี า่ นมาจากข้อจากัดในหลายด้าน ทั้งประเทศ ปี 2564/65) เพื่อสร้างความมั่นคงเรื่องน้า ให้มีน้าทาการเกษตร ทาให้ไม่สามารถขยายพื้นท่ีชลประทานได้ตามเป้าหมายได้ จึงควรมีการ อุปโภค บริโภคในฤดูแล้ง และด้านอ่ืนๆ เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการส่งน้าเข้าสู่ ประชาสัมพันธ์หรือสร้างความเข้าใจกับผู้ใช้น้าในทุกภาคส่วน เพื่อจะได้วาง แปลงเพาะปลูกของเกษตรกรมากข้ึน ให้ได้รับน้าอย่างทั่วถึง ลดการสูญเสียน้า แผนการดาเนินงานให้ถูกต้อง สอดคล้องกับปริมาณน้าที่มี สร้างความเข้าใจ และ เพ่ือสร้างความมั่นคงด้านอาชีพของเกษตรกร ทาให้เกษตรกรมีผลผลิตและ เพ่ือเกิดความร่วมมือ และควรมีการสนับสนุนการปลูกพืชใช้น้าไม่มาก แต่ให้ รายไดเ้ พิ่มมากข้นึ ผลตอบแทนและมีมูลคา่ สูงสอดคลอ้ งกับความต้องการของตลาด

ขอ้ เสนอแนะเรง่ รัด แผนการปฏริ ปู ประเทศด้านเศรษฐกจิ กจิ กรรมปฏิรปู ที่ 1 การสรา้ งเกษตรมูลคา่ สงู (ฉบับปรบั ปรุง) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกต เปา้ หมายย่อยท่ี 7 ส่งเสริมเกษตรกรใหส้ ามารถเขา้ ถึงขอ้ มลู Big Data สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร อยู่ระหว่างดาเนินโครงการพัฒนาระบบ ดา้ นการเกษตรและใชป้ ระโยชน์จากดจิ ิทลั แพลตฟอร์ม ฐานข้อมลู การเกษตร เพอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการเชื่อมโยงข้อมูลและการสารวจ - หน่วยงานควรเร่งดาเนินการให้เกิดการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลของรัฐ จัดเก็บข้อมูลท้ังภายในและภายนอกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยพัฒนา โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้ระบบภูมิ ออกแบบ จัดทาฐานขอ้ มูลขนาดใหญ่ท่ีมีโครงสร้าง (Structured Data) และแบบ สารสนเทศ เพ่ือเป็นศูนย์กลางข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการเกษตร สาหรับใช้ใน ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) ให้สามารถใช้งานร่วมกับการวิเคราะห์ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ประกอบการตดั สนิ ใจและกาหนดนโยบายต่าง ๆ ข้อมูลขนาดใหญ่ สนับสนนุ การจดั ทานโยบายมาตรการในบริบททแี่ ตกต่างกันด้าน การเกษตร เพ่ือเป็นศูนย์กลางข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการเกษตร สาหรับใช้ในการ วเิ คราะห์ข้อมลู ตดั สินใจ คาดการณ์ เตือนภัย เฝ้าระวัง รวมถึงจัดทารายงานตาม ความต้องการของผู้ใช้ โดยใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์รูปแบบต่างๆ และ ให้บริการข้อมูลแก่ภาครัฐ เอกชน เกษตรกร ประชาชน สาหรับใช้ประกอบการ 352 ตัดสินใจดาเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานและการประกอบกิจกรรมทางการ เกษตร โดยผ่านระบบ Public AI และ Coaching Program Platform (CPP)

ข้อเสนอแนะเร่งรัด แผนการปฏิรปู ประเทศด้านเศรษฐกจิ กจิ กรรมปฏริ ูปที่ 4 การเป็นศนู ย์กลางการค้าและการลงทนุ ของไทยในภมู ิภาค ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สงั เกต เป้าหมายย่อยที่ 1 การพัฒนาด้านโลจิสติกส์เพ่ือสร้างความเชื่อมโยง กรมเจ้าท่า ได้จัดการประชุมหารือร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมการ (Connectivity) พาณิชยนาวี พ.ศ. …. ตามข้อส่ังการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี - รา่ งพระราชบัญญัตสิ ่งเสริมการพาณชิ ยนาวี พ.ศ. .... ที่มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมจัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่ให้ความเห็น ต่อร่าง พ.ร.บ.สง่ เสริมการพาณิชยนาวี พ.ศ. …. ให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกคร้ัง โดยมี นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นประธาน และมี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ท่ีประชุมเห็นด้วยในหลักการของร่าง พ.ร.บ. สง่ เสรมิ การพาณิชยนาวี พ.ศ. …. และมีมติผลักดันเพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการ พาณิชยนาวี พ.ศ. …. โดย จท. จะเร่งจัดทาข้อมูลสนับสนุนประกอบการพิจารณา จัดต้ังองค์การมหาชนสาหรับทาหน้าที่ส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวี เพื่อขอรับ ความเห็นจากคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ซ่ึงปัจจุบันอยู่ 353 ระหว่างการพิจารณาของสานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) อย่างไรก็ตาม ประเด็นถ้อยคาของกฎหมายหลังจากเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบแล้ว จะมีการพิจารณาในช้ันของสานักงานคณะกรรมการ กฤษฎกี าตอ่ ไป

6. ด้านทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม: ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สงั เกตของคณะกรรมาธิการตอ่ รายงานสรุปผลการศกึ ษาวิเคราะห์รายงานความคืบหน้าใน การดาเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญฯ ขอ้ เสนอแนะเร่งรดั แผนการปฏริ ูปประเทศดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม กิจกรรมปฏิรูปท่ี 1 เพิม่ และพัฒนาพ้ืนทป่ี ่าไมใ้ ห้ไดต้ ามเป้าหมาย (ฉบับปรบั ปรุง) ประเด็นปฏริ ปู ที่ 1 ด้านทรพั ยากรทางบก (ฉบบั เดมิ ) ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต ควรเร่งรัดตราอนุบัญญัติให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกาหนด เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากาหนดไมหวงห้ามฯ ต่อสานักงานคณะกรรมการ หากไม่สามารถดาเนินการได้ทันภายในกรอบระยะเวลาดังกล่าว หน่วยงานที่ กฤษฎกี า ซึ่งสานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี าไดตรวจพิจารณาร่างเสร็จเรียบร้อย รับผิดชอบต้องดาเนินการรายงานหรือแจ้งให้รัฐมนตรีทราบและรายงานต่อ แล ว ขณะนี้อยู่ระหว่างกรมป่าไม เสนอยืนยันร่างดังกล่าวต่อสานักงาน คณะรัฐมนตรี เพอ่ื พจิ ารณาดาเนนิ การในสว่ นท่เี ก่ียวขอ้ ง คณะกรรมการกฤษฎีกา ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2566 ควรเร่งการดาเนินการรังวัดและจัดทาแนว การรังวัดและจัดทาเคร่ืองหมายแนวเขตบริหารเพ่ือการอนุรักษ์ จานวน 15,000 354 เขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์ท่ีได้สารวจและบริหารจัดการพ้ืนท่ีเพื่อจัดทาแผนที่ กิโลเมตรปฏิบัติงานไดระยะทาง จานวน 13,500 กิโลเมตร คงเหลือระยะทาง แนบทา้ ยพระราชกฤษฎกี า 1,500 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานพื้นท่ีในการกาหนดหมู บ้านเป้าหมาย ประเด็นย่อยท่ี 1 ทรพั ยากรปา่ ไม้และสัตว์ปา่ ในปงี บประมาณ 2565 อยู่ระหว่างการกาหนดพื้นท่ีเป้าหมาย และวางแผนการลง กิจกรรมที่ 6 จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเก่ียวกับการครอบครอง ปฏิบัติงานติดตามตรวจสอบการปฏิบัติตามเง่ือนไขกาอนุญาตและตรวจสอบการ หรอื ใช้ประโยชนท์ ีด่ ินป่าไม้ ใช้ประโยชนทีด่ นิ - ในพื้นท่ีท่ีต้องดาเนินการสารวจการครอบครองเห็นควรเร่งรัดสนับสนุน งบประมาณให้มีการสารวจให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพ่ือป้องกันการขยายเขตหรือ การบกุ รกุ เพิ่มเตมิ ของประชาชนระหวา่ งรอการสารวจ

กิจกรรมปฏริ ูปที่ 3 การบรหิ ารจัดการนา้ เพอ่ื สร้างเศรษฐกิจชุมชนในพืน้ ทน่ี อกเขตชลประทาน (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ประเด็นปฏิรูปท่ี 2 ดา้ นทรัพยากรน้า (ฉบบั เดมิ ) ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณในการขับเคล่ือนแผนงานของกิจกรรม Big Rock ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ไดรับการจัดสรรงบประมาณแผนงานบูรณาการ ด้านทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม บริหารจัดการทรัพยากรน้า โครงการฟื้นฟูพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์ (ลุ่มน้า) ระยะที่ 1 เพ่อื ดาเนนิ กจิ กรรมปลูกป่าทวั่ ไป (200 ตน/ไร) จานวน 15,000 ไร ช งบประมาณ 58.50 ล้านบาท กรมควบคุมมลพิษได รับการจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 4,350,000 บาท และไดวาจ้างศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ปรึกษาเพื่อดาเนินโครงการประเมินผลเพ่ือยกเลิกเขตควบคุมมลพิษตาม แผนการปฏิรปู ควรมีการติดตามการก่อสร้างฝายชุมชน เพ่ือกักเก็บน้า และชะลอน้าในหลายพื้นที่ กจิ กรรมสร้างฝายต้นนา้ ในพนื้ ที่ป่าต้นน้า จานวน 1,250 แหง เชน่ จงั หวัดเชยี งราย จังหวดั อตุ รดิตถ์ - งบประมาณ 29,467,000 บาท ขณะน้ีหน่วยปฏิบัติ อยู่ระหว่างดาเนินการตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้ 355 จา่ ยเงนิ การจดั ซ้ือจดั จ้าง เพื่อใหเ้ ป็นไปตามเป้าหมายท่กี าหนด ประเด็นปฏริ ปู ท่ี 4 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (ฉบับเดิม) ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต โครงการพัฒนาคลังขอ้ มูลทรพั ยากรชีวภาพของประเทศไทย มเี ผยแพรองค์ความรูภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ องถิ่นดังกล่าว ผ่านระบบจัดการฐานความรู - ควรทาการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพของประเทศไทยที่ได้รับจากการ ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ กรมป่าไม ซ่ึงการดาเนินการไปแลว จานวน ปฏิรปู ระบบขอ้ มลู ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ 4 แหง โครงการส่งเสรมิ การปลูกไม้มีค่าเป็นพชื เศรษฐกิจ ได้รับสนับสนุนการดาเนินกิจกรรมด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม - ควรส่งเสรมิ ให้มีเครอื ขา่ ยโครงการชุมชนไม้มีค่า - ป่าครอบครัว ให้ครอบคลุมท่ัว ของเครือขา่ ย ทสม. ทง้ั 76 จงั หวัด และ กทม. รวมไปถงึ การสร้างปา่ ครอบครัว ประเทศ เพ่ือการเพิม่ ขึ้นของพน้ื ทีส่ เี ขยี ว และความหลากหลายทางชีวภาพ

กิจกรรมปฏริ ูปท่ี 4 ปฏิรปู ระบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพษิ กรณีเขตควบคุมมลพษิ มาบตาพดุ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ประเด็นปฏริ ูปท่ี 5 ดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม (ฉบบั เดมิ ) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกต รวบรวมข้อมูลแหล่งกาเนิดมลพิษ และสภาพปัญหามลพิษในท้องที่ เพ่ือพิจารณา ได้ดาเนินการประเมินพื้นท่ีเพ่ือพิจารณาความเหมาะสมในการยกเลิกเขต เบ้ืองต้นว่าสมควรประกาศยกเลิกเป็นเขตควบคุมมลพิษหรือไม่ และเพื่อนาเสนอ ควบคุมมลพิษ และกาหนดมาตรการทดแทนการประกาศเขตควบคุมมลพิษ คณะกรรมการสิง่ แวดลอ้ มพจิ ารณา ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ความคบื หนา้ ทร่ี ฐั สภาใหค้ วามสนใจเปน็ พเิ ศษ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสงั เกต ความคบื หนา้ การตราพระราชบญั ญตั ิ และปรับปรงุ กฎหมายปฏิรูปประเทศ ร่างกฎหมายน้ีไมไดอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ 1. ร่างพระราชบัญญัติการกาหนดและปรับปรุงพื้นท่ีเขตการปกครองของจังหวัด และส่งิ แวดล้อม 356 ทางทะเล พ.ศ. ... 2. ปรับปรุงพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... 2535 อยู่ระหว่างการพจิ ารณาของคณะกรรมการกฤษฎกี า ในวาระท่ีสาม 3. ร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ อยู่ระหว่างดาเนินการของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ พ.ศ. ... และสงิ่ แวดลอ้ ม 4. รา่ งพระราชบญั ญัติความหลากหลายทางชวี ภาพ พ.ศ. ... กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างเสนอร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว ต่อคณะรัฐมนตรี ตามหนังสือ ที่ ทส 1002.4/2245 ลงวันที่ 16 กันยายน 2564

ความคบื หน้าทร่ี ฐั สภาใหค้ วามสนใจเปน็ พิเศษ ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกต 357 ขอ้ เสนอแนะ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจา นุเบกษา เล่ม 136 ตอนท่ี 71 ก วนั ที่ 29 พฤษภาคม 2562 หนา 104 ความคืบหน้าการตราอนบุ ัญญตั ิ 1. พระราชบัญญัตสิ งวนและคุ้มครองสตั ว์ปา่ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 2. พระราชบญั ญตั ิอทุ ยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 เล่ม 136 ตอนที่ 71 ก วันท่ี 29 พฤษภาคม 2562 หนา 145 3. พระราชบัญญัติสวนปา่ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2558 พระราชบัญญัติสวนป่า (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 132 ตอนท่ี 44 ก วนั ที่ 24 พฤษภาคม 2559 หนา 1 4. พระราชบัญญัติปา่ ชุมชน พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 5. พระราชบัญญตั ิทรพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 ตอนท่ี 71 ก วันท่ี 29 พฤษภาคม 2562 หนา 71 พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนท่ี 112 ก วันที่ 28 ธันวาคม 2561 หนา 44

7. ด้านสาธารณสขุ : ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกตของคณะกรรมาธกิ ารต่อรายงานสรุปผลการศกึ ษาวิเคราะห์รายงานความคืบหน้าในการดาเนนิ การตาม แผนการปฏิรปู ประเทศตามมาตรา 270 ของรฐั ธรรมนญู ฯ ข้อเสนอแนะเรง่ รัดในภาพรวม ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สงั เกต กระบวนการแปลงแผนการปฏิรปู ประเทศไปเป็นแผนปฏิบัติราชการเป็นการดาเนินการ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขเล็งเห็นความสาคัญของการ ที่สาคัญของส่วนราชการซึ่งจะนาไปสู่การขับเคลื่อนการดาเนินการตามกิจกรรม/ ดาเนินการดังกล่าวฯ โดยมีการให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงนากิจกรรมปฏิรูปที่ ประเดน็ ปฏิรปู ประเทศที่เกิดข้ึนจริงอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการดาเนินการตาม จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคัญไปบรรจุใน แผนปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริงไม่ได้เป็นเพียงการนาโครงการประจาของส่วน แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงด้วยแล้ว ราชการมาเพ่มิ เตมิ ให้เป็นการดาเนินการตามประเดน็ ของแผนปฏิรปู ประเทศ กลไกงบประมาณเป็นเรื่องสาคัญ ควรมีการพิจารณาทบทวนและกาหนดรูปแบบ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขได้มีการพิจารณารูปแบบการขอ และวิธีการพิจารณางบประมาณใหม่ เพ่ือสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนตาม งบประมาณรูปแบบใหม่โดยการของบประมาณผ่านคณะกรรมการอานวยการ แผนการปฏิรูปประเทศได้อย่างแท้จริง โดยอาจพิจารณาเพ่ิมงบ Agenda เพื่อทา บริหารการวิจยั และนวตั กรรมสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคณะกรรมการ ให้เกดิ การขบั เคลือ่ นของแผนต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ ดงั กลา่ วจะพจิ ารณาความเหมาะสมจาก (1) แผนงานวิจัยปกติ โดยเป็นโครงการ 358 พัฒนาองค์ความรู้นโยบายสุขภาพและระบบสุขภาพ เพื่อตอบสนองการ เปลยี่ นแปลงสาคัญในระบบสุขภาพโลก และ (2) แผนงานวิจัยเพ่ือการแก้ปัญหา วิกฤตของประเทศ โดยเป็นการพัฒนาระบบสุขภาพไทยจากบทเรียน COVID-19 (Advancing Thai Health Systems Using Lessons from COVID-19)

8. ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ : ผลการดาเนินงานตามข้อสงั เกตของคณะกรรมาธกิ ารต่อรายงานสรุปผลการศกึ ษาวิเคราะหร์ ายงานความคบื หนา้ ในการดาเนนิ การตามแผนการปฏิรปู ประเทศตามมาตรา 270 ของรฐั ธรรมนูญฯ การดาเนินกจิ กรรมปฏริ ูปประเทศทส่ี ง่ ผลให้เกิดการเปลยี่ นแปลงตอ่ ประชาชนอย่างมีนัยสาคญั (Big Rock) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต คกก.ปฏิรูป กปช. กปส. และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ควรกาหนดกิจกรรม/โครงการ ที่ผ่านมา คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านส่ือสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ครบถว้ นทกุ เป้าหมายยอ่ ยของ 3 Big Rock ได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูป ประเทศท่ีส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ (Big Rock) อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองบังคับการปราบปราม การกระทาความผิดเก่ียวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สถาบันพระปกเกล้า สานกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือน สานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบ ราชการ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย และ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เพื่อติดตามความ 359 คืบหน้าในการดาเนินการขับเคล่ือนกิจกรรม Big Rock โดยหน่วยงานส่วนใหญ่ได้ มกี ารดาเนินการเปน็ ไปตามแผนการขับเคลอื่ นกจิ กรรม Big Rock

9. ดา้ นสงั คม : ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธกิ ารตอ่ รายงานสรุปผลการศึกษาวเิ คราะหร์ ายงานความคบื หนา้ ในการดาเนนิ การตาม แผนการปฏริ ปู ประเทศตามมาตรา 270 ของรฐั ธรรมนญู ฯ ขอ้ เสนอแนะเรง่ รดั แผนการปฏริ ปู ประเทศดา้ นสังคม (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กิจกรรมปฏริ ปู ที่ 1 การมีระบบการออมเพื่อสรา้ งหลกั ประกนั รายไดห้ ลังวยั เกษียณทเี่ พยี งพอและครอบคลุมในกลุ่มแรงงานท้ังในและนอกระบบ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สังเกต 1. กบช. เป็นกฎหมายบังคับให้แรงงานในระบบที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของกองทุน กระทรวงการคลัง ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญแห่งชาติ พ.ศ. .... สารองเล้ียงชีพใด เข้าสู่กองทุนสารองเล้ียงชีพ จึงอาจเป็นการเพ่ิมต้นทุนให้แก่ และให้ส่งสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาในประเด็นอายุของ บริษัทเอกชนและลูกจ้าง และส่งผลต่อการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนได้จานวน ลูกจ้างในการเป็นสมาชิกกองทุนฯ ได้ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ไม่มาก และเกิดการเล่ียงเป็นแรงงานนอกระบบได้ ดังนั้น รัฐควรมีมาตรการ เกี่ยวกบั การเกษียณอายุ และในสว่ นของแนวทางการปรับกฎระเบียบกองทุนการ ป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ควรศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับ ออมแห่งชาติ และกองทุนประกันสังคมปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของ สัดส่วนการจ่ายเงินสมทบมีความเหมาะสม เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีชัดเจนในการ คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการปรับปรุงกฎหมายของกองทุนการออม กาหนดอัตราการจ่ายเงินสมทบท้ังนายจ้างและลูกจ้าง ท่ีจะไม่ส่งผลให้เกิด แห่งชาติ ปัญหาการเล่ียงเป็นแรงงานนอกระบบ และ กบช. ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาการ ออมเพ่ือวยั เกษยี ณให้แก่กล่มุ แรงงานนอกระบบ 360 2. การบรู ณาการการทางานรว่ มกันระหวา่ งกระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงาน โดย กระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงาน ได้มุ่งเน้นให้กลุ่มแรงงานนอกระบบได้มี มุ่งเน้นให้กลุ่มแรงงานนอกระบบได้มีระบบการออมเพ่ือการชราภาพทั้งใน ระบบการออมเพ่อื การชราภาพทั้งในรูปแบบเงนิ บานาญและเงินบาเหนจ็ รูปแบบเงินบานาญ และเงินบาเหน็จให้ชัดเจนโดยไม่ตัดสิทธิทางใดทางหนึ่งจะ ชว่ ยให้กลุ่มแรงงานนอกระบบได้มีสวัสดิการ และหลักประกันรายได้วัยเกษียณ ซ่งึ จาเปน็ ต้องปรับปรงุ กฎหมายกองทุนการออมแหง่ ชาติ 3. สถาบันอุดมศึกษาต้องมีส่วนในการให้ความรู้กับประชาชนในเร่ืองการเงินส่วน ปัจจุบันสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งได้มีการดาเนินการในประเด็นดังกล่าวแล้ว บุคคลอย่างเร่งด่วน เพื่อเสริมสร้างวินัยการออม และการลงทุน เป็นการสร้าง ท้ังในส่วนของการเปิดหลักสูตรการเงินส่วนบุคคลเป็นวิชาเลือกให้กับนิสิต ความมั่นคงทางเศรษฐกจิ และสังคม นักศกึ ษา และการจดั ทาหลักสูตรออนไลนส์ าหรับประชาชนทว่ั ไป 4. การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน/องค์กร/เครือข่ายต่าง ๆ จะช่วย กอช. กอช. มีการส่งเสริมการออมเพื่อเพ่ิมยอดสมาชิก ภายใต้โครงการความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์และเพ่ิมจานวนสมาชิก กอช. ในระดับพ้ืนท่ีให้มากขึ้น กับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย ซ่ึงสามารถนาโครงการดังกล่าวไปผนวกกับการทางานประจาท้องถิ่นเพื่อต่อ กระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ผ่านทางโทรทัศน์ และส่ือ ยอดงานด้านสวัสดิการสงั คมได้ ออนไลน์ตา่ ง ๆ

กิจกรรมปฏริ ูปท่ี 2 ผลกั ดนั ใหม้ ีฐานข้อมูลทางสังคมและคลงั ความร้ใู นระดบั พืน้ ท่ี เพ่ือใหส้ ามารถจดั สวัสดกิ ารและสรา้ งโอกาสในการประกอบอาชีพทตี่ รงตาม ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต 1. การจัดเก็บข้อมลู ตาบลเพื่อทาเป็นฐานข้อมูลตาบลควรใช้กระบวนการการวิจัย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้หารือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการเชื่อมโยง ชมุ ชน (RECAP) เป็นตัวตั้ง ควบคู่กับวิธีการพัฒนาระบบข้อมูลตาบล (TCNAP) ฐานข้อมูลท่ีอยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน และกรมการปกครอง เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพ และควรขยายผลการ ได้ดาเนินโครงการพัฒนาตาบลแบบบูรณาการเพ่ือจัดการเก็บข้อมูล เพื่อพัฒนา ดาเนินงานของ สสส. ให้ครอบคลุมทกุ ตาบล พ้ืนท่ีแบบบูรณาการ 2. ควรให้ชาวบ้านและชุมชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่ายเพื่อให้สามารถนา รบั ทราบตามข้อเสนอแนะ ขอ้ มลู ไปประยุกตใ์ ช้ประโยชน์ใหช้ มุ ชนมคี วามเข้มแข็งทันสถานการณ์ 3. ควรมหี น่วยงานท่ที าหน้าทป่ี ระมวลผลข้อมลู กลาง ซ่ึงปัจจุบนั มหี ลายหน่วยงาน รับทราบตามข้อเสนอแนะ ที่จัดทาข้อมูล เช่น สานักงานสถิติแห่งชาติ แต่การเข้าถึงข้อมูลอาจไม่ ครอบคลมุ ทุกเรื่อง กจิ กรรมปฏิรูปท่ี 3 การปฏริ ปู การข้ึนทะเบยี นคนพิการ เพือ่ ให้คนพิการไดร้ บั สทิ ธิ สวัสดกิ าร และความช่วยเหลอื ได้อยา่ งครอบคลมุ และทั่วถึง 361 ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต 1. ระบบฐานข้อมูลและการบริหารจัดการที่ดีจะส่งผลให้คนพิการเข้าถึงสิทธิและ ทบทวนการจัดทาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลด้านสิทธิ สวัสดิการคนพิการท่ีเก่ียวข้อง ได้รับการคุ้มครองที่รวดเร็วและมีคุณภาพ แต่ยังมีปัญหาการไม่สามารถบูรณาการ ได้แก่ กรมการปกครอง สานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผ่านฐานระบบข้อมูล ฐานข้อมูลคนพิการ เพื่อนาไปใช้ในการจัดทานโยบายและการบริหารจัดการ บุคคล Linkage Center ของกรมการปกครอง และมีแผนการขยายหน่วยงาน ช่วยเหลือคนพิการได้ เช่น ไม่สามารถทาบฐานขข้อมูลคนพิการกับฐานข้อมูลหมอ เช่ือมโยงข้อมูลเพิ่มเติม ภายในปี 2565 ประกอบด้วย กรมการกงสุล กรมส่งเสริม พร้อม การเกษตร กระทรวงการคลัง องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กรมสรรพากร และ กระทรวงสาธารณสขุ ในส่วนของข้อมูลประวัตสิ ุขภาพ 2. แต่ละหน่วยงานท่ีจัดเก็บข้อมูลควรมีการกาหนดความเป็นข้อมูลส่ววนบุคคล รับทราบตามข้อเสนอแนะ ท่ีเปิดเผยไม่ได้เป็นลาดบั ช้นั และกาหนดความรับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคลท่ีอยู่ ในความครอบครองของตนเอง เพ่ือไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเช่ือมโยงฐาน ข้อมลู ระหว่างหน่วยงาน

กจิ กรรมปฏิรปู ท่ี 4 การสรา้ งกลไกที่เออื้ ใหเ้ กิดชมุ ชนเมอื งจัดการตนเอง ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต 1. รัฐโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินควรหาแนวทางให้เกิดการมีส่วนร่วมท้ัง 4 อยู่ระหว่างการจดั ทาคมู่ ือการปฏิบตั ิงานด้านชมุ ชนสาหรบั องค์กรปกครองสว่ น ระดับ (จตุพลัง) เพื่อเป็นหุ้นส่วนสังคมพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง ได้แก่ ท้องถิ่น ทอ้ งถ่ินและสาหรบั คณะกรรมการชุมชนในรปู แบบ e-book ทอ้ งท่ี ภาคประชาสังคม และหน่วยงานอ่นื ๆ 2. ควรส่งเสริมสนับสนุนให้กลไกชุมชนมีการจัดตั้งเป็นนิติบุคคล (วิสาหกิจ/ รบั ทราบตามข้อเสนอแนะ กองทุน) เพ่ือให้ชุมชนสามารถขอรับเงินอุดหนุนและระดมทรัพยากรที่จาเป็น ไดจ้ ากหน่วยงาน/องค์กรตา่ ง ๆ 3. ควรมีกระบวนการเสริมศักยภาพให้แก่หน่วยงานระดับท้องถิ่นเพื่อให้มี รบั ทราบตามข้อเสนอแนะ ศักยภาพในการบรหิ ารจดั การเมอื งอย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4. การติดตามการจัดต้ังชุมชน และการดาเนินงานของคณะกรรมการฯ ดังกล่าว รับทราบตามข้อเสนอแนะ ข้างต้นต่อไป เพ่ือให้การดานินงานมคี วามเข้มแข็งอยา่ งยง่ั ยนื กจิ กรรมปฏิรูปท่ี 5 การสร้างมลู คา่ ใหก้ บั ท่ีดนิ ท่รี ัฐจัดให้กับประชาชน 362 ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต 1. การใช้สิทธิท่ีตนเองมีในท่ีดินรัฐเพ่ือเป็นหลักทรัพย์ประกันเงินกู้ขอสินเช่ือกับ สานกั งานคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ ดาเนินการร่วมกับสานักงานการปฏิรูป ธนาคารหรือสถาบันการเงินอ่ืนของรัฐ โดยควรสร้างความร่วมมืออย่างจริงจัง ท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม กรมธนารักษ์ และสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน กบั ธนาคารและรัฐบาลควรกาหนดนโยบายให้ชดั เจน (องคก์ ารมหาชน) โดยการปรับปรงุ กฎหมายเกี่ยวกับการปฏริ ูปทด่ี นิ 2. ควรกาหนดนโยบายการบริหารจัดการที่ดินที่รัฐถูกบุกรุกหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ การดาเนินการสารวจข้อมูล และปรับปรุงราคาประเมินที่ดินกรุงเทพฯ และใน ให้มีความชัดเจน เพ่ือให้ประชาชนท่ีไม่มีที่ดินใช้ประโยชน์สร้างมูลค่าทาง ภูมภิ าค โดยกรมธนารกั ษ์ เศรษฐกิจ สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว เช่น การให้ เช่า 3. กรณีประชาชนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจากรัฐเพ่ือใช้ประโยชน์หากบุคคลน้ันได้ มีกิจกรรมการบริหารจัดการท่ีดินให้แก่ประชาชน เกษตรกรรายย่อยและ มีฐานะความเป็นอยู่ท่ีดีข้ึนแล้วควรคืนที่ดินให้แก่รัฐ เพ่ือให้สิทธิบุคคลอื่นได้ใช้ ผู้ด้อยโอกาสเพ่ือใชป้ ระโยชน์ ประโยชนใ์ นที่ดินน้ันต่อไป

การขบั เคลอ่ื นกจิ กรรมปฏิรูปประเทศทีส่ ่งผลให้เกิดการเปลย่ี นแปลงต่อประชาชนอยา่ งมีนยั สาคญั (Big Rock) ความเหน็ ตอ่ การขับเคลือ่ นกิจกรรมปฏิรูปทส่ี ่งผลใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ (Big Rock) ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต 1. การพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็งของกลไกในระดับพ้ืนที่ ผ่านการเชื่อมโยงกับ รับทราบตามข้อเสนอแนะ กลไกคณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการ (กบจ.) ซ่ึงมีผู้ว่าราชการ จังหวัดเป็นประธาน หากประเด็นงานใดที่เก่ียวข้องกับภารกิจระดับพื้นท่ี ควรมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทาหน้าท่ีในการกากับ บูรณาการ และ ประสานงานในการดาเนินการ ต่อการทาหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับประเด็นปฏิรูป ตลอดจนกระบวนการในการติดตามประเมินผล ท่ีเป็นรูปธรรม ซ่ึงจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งของกลไกในระดับพื้นท่ีได้ อย่างดี และที่สาคัญคือสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนในจังหวัด เพ่ือ เสริมสร้างความรู้สึกการเป็นเจ้าของ และการเข้ามามีส่วนร่วมในท่ีสุด ซึ่งจะ เป็นผลงานที่สาคัญที่รัฐบาลสามารถแสดงต่อสาธารณชนได้ว่าประชาชนได้ 363 ประโยชนอ์ ะไรจากการดาเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศน้ี 2. ในบางกิจกรรมได้ดาเนินการสาเร็จตามแผนกิจกรรม แต่เพ่ือให้การ รบั ทราบตามข้อเสนอแนะ ขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมบรรลุตามเป้าหมายและความ ยั่งยืนจึงควรมีการพิจารณาติดตาม เร่งรัด การออกกฎหมายลาดับรองและ การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติตามท่ีกาหนดไว้ในแผนฯ การขยายผล กจิ กรรมท่ดี าเนินการสาเร็จแล้ว เปน็ ตน้ เพอื่ เทา่ ทันต่อสถานการณ์ของสังคม และประโยชน์ของประชาชน 3. ให้ความสาคัญกับการจัดทาฐานข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายและข้อมูลทางสังคม รับทราบตามข้อเสนอแนะ ของชุมชนในด้านต่าง ๆ เพ่ือให้ชุมชนได้นาไปแก้ไขปัญหาเชิงพ้ืนท่ีให้ตรงกับ ความต้องการของประชาชน ซึ่งเผยชุมชนดังกล่าวและ One Plan ควรมี ความสอดคล้องกันและสามารถปรับเปล่ียนได้ตามสถานการณ์และบริบทของ สังคมแต่ละพ้ืนท่ี ซ่ึงจะส่งผลให้การทางานด้านต่าง ๆ ของหน่วยงานต่าง ๆ มีประสทิ ธภิ าพมากขนึ้

การขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรปู ประเทศทส่ี ่งผลให้เกดิ การเปล่ยี นแปลงต่อประชาชนอย่างมนี ยั สาคญั (Big Rock) ความเหน็ ตอ่ การขับเคลื่อนกิจกรรมปฏริ ปู ทส่ี ่งผลใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงต่อประชาชนอยา่ งมนี ัยสาคัญ (Big Rock) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกต 4. การให้ความสาคัญต่อการเสรมิ สร้างชุมชน/ตาบลเข้มแข็งให้ครอบคลุมในทุก รบั ทราบตามข้อเสนอแนะ พ้ืนที่ โดยการขับเคลื่อนด้วยจตุพลัง ประกอบด้วย ท้องที่ ท้องถ่ิน ประชา สังคม และหน่วยงานอื่น ๆ ในชุมชน เพ่ือให้เกิดการสานพลังจากภาคส่วน ต่าง ๆ ในชุมชนเพ่ือการดาเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูป ประเทศโดยจตุพลังควรมีการบูรณาการการทางานร่วมกันในพื้นท่ีระดับ ตาบลในลักษณะแผนเดียว ซ่ึงจะส่งผลให้การทางานด้านต่าง ๆ ของ หน่วยงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และใช้ ทรัพยากรท้งั ดา้ นบคุ ลากรและงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. ในชุมชนท่ีหน่วยงานรัฐไม่สามารถเข้าถึงการให้บริการสวัสดิการสังคมได้ รบั ทราบตามข้อเสนอแนะ อย่างท่ัวถึง กลไกในระดับชุมชนเป็นเคร่ืองมือที่สาคัญที่จะสนับสนุนภาครัฐ ดูแล พัฒนา และให้บริการสวัสดิการสังคมแก่ประชาชนในชุมชน ซึ่ง 364 คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอาเภอ (พชอ.) เป็นหนึ่งในกลไก ระดบั พน้ื ทท่ี ม่ี คี ณุ ภาพจึงควรใชก้ ลไกดงั กล่าวใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุด หรือการ จัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครในชุมชน หรือการขยายผลวิสาหกิจเพื่อสังคมท่ีมี วตั ถุประสงค์การให้บรกิ ารทางสังคม

ความคืบหน้าทีร่ ัฐสภาใหค้ วามสนใจเปน็ พิเศษ ความเห็นตอ่ การกาหนดกจิ กรรมปฏริ ปู ประเทศท่ีส่งผลให้เกิดการเปล่ยี นแปลงตอ่ ประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ (Big Rock) และความเหน็ ตอ่ ความคืบหน้าของ ประเดน็ ทีร่ ฐั สภาให้ความสนใจเป็นพิเศษ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต การกาหนดกิจกรรม Big Rock ในแต่ละประเด็นปฏิรูปมีความชัดเจน กระทรวงมหาดไทย มุ่งผลักดันให้เกิดเคร่ืองมือส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็ง ส่งผลให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องได้ดาเนินการและให้ความสาคัญดาเนินการ ให้กับชุมชนโดยเฉพาะชุมชนในเขตเมืองผ่านการออกกฎหมายส่งเสริมการมีส่วน เป็นลาดับแรก แต่ยังมีโครงการ/กิจกรรมที่ไม่ได้ถูกกาหนดเป็น Big Rock ซ่ึง ร่วมของชุมชนในการพัฒนาชุมชนท้องถ่ินของตนเองและมีบทบาทในการแก้ไข คณะกรรมาธิการได้ให้ความสนใจและเห็นควรเร่งรัดดาเนินการ ได้แก่ ร่าง ปัญหาต่าง ๆ ในชุมชนโดยเปิดโอกาสให้กลไกคณะกรรมการชุมชนสามารถระดม พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. .... และร่าง ทนุ และบริหารจดั การทรพั ยากรของชุมชนด้วยตนเอง ซ่ึงจะช่วยเพิ่มศักยภาพและ พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ. .... ซ่ึงไม่ควร ความเข้มแข็งของชุมชนให้สามารถแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของ นาร่างกฎหมายว่าด้วยการดาเนินงานขององค์กรท่ีไม่แสวงหารายได้หรือกาไร ชุมชนได้โดยตรงและรวดเร็ว อันจะนาไปสู่การสร้างความเสมอภาคและการลด มาแบ่งปันกัน ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 มารวมกับ ความเหล่ือมล้าในสังคม โดยการปรับปรุงจากประเด็นปฏิรูป การพัฒนาระบบ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ. .... สร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง เพี่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ เนื่องจากกฎหมายมีเจตนารมณ์ท่ีแตกต่างกนั ท้งั นี้ เพ่อื ให้เกิดการสานพลังจากภาค โควดิ -19 ทส่ี ะทอ้ นถงึ การขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการตนเองของชุมชน 365 ส่วนต่าง ๆ ท้ังองค์กรภาคประชาสังคมและภาคประชาชนให้ไปสู่การสร้างเสริม โดยเฉพาะชุมชนในเขตเมือง ทั้งน้ี ได้มีการดาเนินงานเป็นไปตามข้ันตอนและ ชุมชนเข้มแข็ง สนับสนุนหน่วยงานรัฐในการดูแล ช่วยเหลือ และพัฒนาคุณภาพ กรอบระยะเวลาที่กาหนดในแผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศ ซึ่งใช้ระเบียบ ชีวิตประชาชนและสังคมให้มีความอยู่ดีมีสุข และการปฏิรูปการจัดการตาบล กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยคณะกรรมการชุมชนของเทศบาล พ.ศ. 2564 เข้มแข็งด้วยการสนับสนุนให้กลไกพหุภาคีท้องถิ่น ท้องท่ี ภาคประชาสังคม และระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยชุมชนและกรรมการชุมชน พ.ศ. 2564 และหน่วยงานอน่ื ๆ ในพ้นื ที่ สามารถจัดการการพฒั นาชุมชนได้เอง โดยหน่วยงาน ปัจจบุ ันอยู่ระหวา่ งการจดั ทาคมู่ ือการปฏิบัติงานด้านชุมชนสาหรับองค์กรปกครอง ภายนอกบูรณาการสนับสนุนทรัพยากรและการจัดการอย่างเป็นระบบ สว่ นท้องถิ่น และสาหรับคณะกรรมการชมุ ชนในรูปแบบ e-book และมีการบูรณาการการทางานร่วมกันในพื้นท่ีระดับตาบลในลักษณะแผนเดียว ซึ่งจะส่งผลให้การทางานด้านต่าง ๆ ของหน่วยงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และใช้ทรัพยากรทั้งด้านบุคลากรและงบประมาณได้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ

10. ด้านพลังงาน : ผลการดาเนินงานตามขอ้ สังเกตของคณะกรรมาธิการตอ่ รายงานสรปุ ผลการศึกษาวิเคราะห์รายงานความคบื หนา้ ในการดาเนินการตาม แผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรฐั ธรรมนูญฯ ข้อเสนอแนะเร่งรัด แผนการปฏริ ูปประเทศดา้ นพลังงาน (ฉบับปรับปรุง) กจิ กรรมปฏิรปู ที่ 1 ศูนย์อนมุ ัติอนุญาตเบด็ เสร็จ One-Stop-Service ดา้ นกจิ การไฟฟา้ ที่แท้จริง ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกต 1. สำนักงำนคณะกรรมกำรกำกับกิจกำรพลังงำน (สำนักงำน กกพ.) ควรเร่งรัดกำร สำนักงำน กกพ. ได้ดำเนินกำรปรบั ปรุงกฎหมำยว่ำด้วยกำรอนุมัติอนุญำตเพื่อรองรับ ดำเนินงำนและสนับสนุนกำรขับเคล่ือนกิจกรรม ศูนย์อนุมัติอนุญำตเบ็ดเสร็จ กำรอนุญำต แบบ OSS แล้วเสร็จตำมแผน ดังน้ี กำรทบทวน Licensing Scheme One-Stop-Service ดำ้ นกจิ กำรไฟฟำ้ ทแ่ี ทจ้ รงิ และกระบวนกำรอนุญำต สำหรับกำรประกอบกิจกำรพลงั งำน - เม่ือวนั ที่ 28 เม.ย. 64 กกพ. มีมติเหน็ ชอบในหลกั กำรปรับปรงุ ขั้นตอนกำรแจ้งยกเว้น ไมต่ ้องขอรบั ใบอนญุ ำต สำหรับกรณีขนำดกำลงั กำรผลิตตดิ ตงั้ ตำ่ กวำ่ 200 kVA - เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 กกพ. มีมติเห็นชอบในหลักกำรเร่ืองกำรกระบวนกำรและกำร กำหนดประเภทกำรอนุญำต (Licensing Scheme) สำหรับกิจกำรผลิตไฟฟ้ำ ทั้งใน สว่ นของช่วง Pre-Licensing และ Licensing - เมื่อวันท่ี 20 ก.ย. 64 กกพ. มีมติเห็นชอบในหลักกำรกำรกำหนดประเภทกำร 366 อนุญำต (Licensing Scheme) กิจกำรระบบส่งไฟฟ้ำ/ควบคุมระบบไฟฟ้ำ กิจกำร ระบบจำหน่ำย/จำหนำ่ ยไฟฟ้ำ - เม่ือวันที่ 21 ก.ย. 64 กกพ. มีมติเห็นชอบในหลักกำรกำรกำหนดประเภทกำร อนญุ ำต (Licensing Scheme) กจิ กำรก๊ำซ 4 ประเภท 2. สำนักงำน กกพ. ควรเร่งแก้ไขเพิ่มเติม มำตรำ 48 ตำม พ.ร.บ. กำรประกอบ ตำมพระรำชบัญญัติหลักเกณฑ์กำรจัดทำร่ำงกฎหมำยและกำรประเมินผลสัมฤทธ์ิของ กิจกำรพลังงำน พ.ศ. 2550 เพื่อจะได้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจำรณำเห็นชอบ ร่ำง กฎหมำย พ.ศ. 2562 ได้บัญญัติให้หน่วยงำนของรัฐดำเนินกำรประเมินผลสัมฤทธ์ิของ พ.ร.บ. กำรประกอบกิจกำรพลังงำน พ.ศ. .... ภำยในปี 2565 และเร่งรัดกำร กฎหมำยเพื่อประเมินผลท่ีเกิดข้ึนจำกกำรบังคับใช้กฎหมำยและกฎที่ออกตำม จัดทำระเบียบกรรมกำรกำกบั กิจกำรพลังงำนฯ รวมทั้งพิจำรณำกฎหมำยต่ำงๆ ที่ กฎหมำยนั้น โดยในปีงบประมำณ พ.ศ. 2565 สำนักงำน กกพ. จะดำเนินกำรประเมิน เก่ียวข้องกบั กำรจัดต้ัง ศนู ยอ์ นมุ ัตอิ นุญำตเบ็ดเสรจ็ One-Stop-Service ผลสัมฤทธิ์ของพระรำชบัญญัติกำรประกอบกิจกำรพลังงำน พ.ศ. 2550 ซ่ึงรวมถึงกำร ประเมินผลสัมฤทธิ์ตำมมำตรำ 48 ที่บัญญัติเร่ืองอนุญำตตำมกฎหมำยโรงงำน กฎหมำยว่ำด้วยกำรควบคุมอำคำร กฎหมำยว่ำด้วยกำรส่งเสริม และกฎหมำยว่ำด้วย กำรพฒั นำและสง่ เสรมิ พลังงำน เพื่อให้ได้ข้อสรุปหลักกำรในกำรปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. และสำนักงำน กกพ. จะดำเนินกำรแก้ไขกฎหมำยตำมขน้ั ตอนต่อไป

กิจกรรมปฏริ ปู ท่ี 2 การพัฒนาศนู ย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สงั เกต ดา้ นบคุ ลากร 1. ควรเร่งรัดกำรดำเนินกำรในช่วงแรกควรจ้ำงบุคำกรภำยนอก (Outsource) เนื่องจำกเป็นกำรจัดตั้งศูนย์ฯ ที่ดำเนินกำรในลักษณะกองเงำโดยใช้บุคลำกรภำยใน เพ่ือมำติดต้ังระบบศูนย์สำรสนเทศพลังงำนแห่งชำติ จำกนั้นควรเร่งพัฒนำ สำนักงำนนโยบำยและแผนพลังงำน (สนพ.) ในอัตรำกำลังที่มีอยู่เดิม ทำให้กำร บุคลำกรให้มีควำมรู้ควำมเช่ียวชำญเฉพำะด้ำนสำหรับกำรดำเนินกำรของ ขับเคล่ือนกำรดำเนินงำนของภำยใต้ภำรกิจศูนย์ฯ มีข้อจำกัดด้ำนจำนวนบุคลำกร ศนู ย์ฯ ต่อไป โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงบุคลำกรท่ีมีควำมเช่ียวชำญทำงด้ำนโครงสร้ำงพ้ืนฐำนเทคโนโลยี สำรสนเทศและระบบกำรเชื่อมโยงข้อมูล ในระยะยำวจะมีกำรจัดต้ังศูนย์ฯ เป็นกอง ใหม่ตำมกระบวนกำรของสำนักงำน กพร. ที่มีโครงสร้ำงอัตรำกำลังของบุคลำกรท่ี ชัดเจน เพอ่ื ให้สำมำรถขับเคลื่อนกำรดำเนนิ งำนของศูนย์ฯ ไดอ้ ย่ำงเตม็ ประสิทธิภำพ ดา้ นการเชื่อมโยงข้อมูล 2. ควรศึกษำกฎหมำยเก่ียวกับกำรเข้ำถึงข้อมูลของ “หน่วยงำนของรัฐ” เพ่ิมเติม กำรดำเนินกำรท่ีผ่ำนมำได้มีกำรพัฒนำข้อเสนอโครงกำรเพ่ือขอรับกำรจัดสรร และดำเนินกำรแก้ไขปรับปรุงกฎหมำยร่วมกับหน่วยงำนต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง งบประมำณจำกกองทุนพัฒนำไฟฟ้ำเพื่อดำเนินกำรเชื่อมโยงข้อมูลระหว่ำงศูนย์ฯ กับ หรือจัดทำบันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือ (MOU) เพื่อให้สำมำรถเข้ำถึงและ หน่วยงำนต่ำงๆ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่ำงกระบวนกำรพิจำรณำของคณะอนุกรรมกำร 367 เชือ่ มโยงข้อมูลพลังงำนสำหรับกำรจัดต้งั ศูนย์ฯ อย่ำงสมบูรณ์ กลั่นกรองโครงกำร อย่ำงไรก็ตำม ศูนย์ฯ ได้ดำเนินกำรในส่วนของกำรเชื่อมโยงระบบ สำรสนเทศด้ำนพลังงำน โดยไดท้ ำกำรทดสอบระบบกำรเชื่อมโยงข้อมูลที่มีควำมพร้อม จำกกำรไฟฟ้ำท้ัง 3 แห่ง ได้แก่ กำรไฟฟ้ำฝ่ำยผลิตแห่งประเทศไทย กำรไฟฟ้ำส่วน ภมู ิภำค และกำรไฟฟ้ำนครหลวง ผ่ำนกำรดำเนินงำนตำมตัวชี้วัดของรัฐวิสำหกิจไฟฟ้ำ 3 แห่ง ประจำปีบัญชี 2564 โดยกำรจัดส่งข้อมูลที่มีควำมพร้อมจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ (1) ข้อมูล Public Data ที่เป็นกำรส่งแบบอัตโนมัติได้เลย และ (2) ข้อมูล Private Data ที่มีช้ันควำมลับ ซ่ึงจะต้องมีกำรตกลงเร่ือง Business Process ระหว่ำงผู้ส่ง (กำรไฟฟ้ำ) และผู้รับ (สนพ.) ให้เรียบร้อยก่อนท่ีจะมีกำรจัดส่ง ผ่ำน Big Data Platform ต่อไป ในระยะยำวอำจต้องมีกำรลงนำมบันทึกควำมร่วมมือ ว่ำด้วยกำรเช่ือมโยงและแลกเปล่ียนข้อมูลพลังงำน (เพิ่มเติม) ระหว่ำงศูนย์ฯ กับ หน่วยงำนภำยใต้กำกับของกระทรวงพลังงำนแต่ละแห่ง เน่ืองจำกข้อมูลพลังงำนบำง ชุดของเจ้ำของข้อมูลแต่ละแห่งท่ีศูนย์ฯ ต้องกำรเช่ือมโยง มีควำมเฉพำะเจำะจงและมี ข้อจำกัดทำงด้ำนกฎหมำย ดังน้ันกำรจัดทำ MOU แยกแต่ละหน่วยงำน จะทำให้เกิด ควำมคลอ่ งตวั ในกำรดำเนินกำรเช่ือมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลมำกขึ้น

กิจกรรมปฏริ ปู ที่ 2 การพัฒนาศนู ย์สารสนเทศพลงั งานแห่งชาติ ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต ด้านงบประมาณ 3. ควรเร่งรัดเสนอขอรับกำรจัดสรรงบประมำณจำกกองทุนพัฒนำไฟฟ้ำหรือ กำรขับเคล่ือนกำรดำเนินงำนของศูนย์ฯ ยังไม่ได้รับจัดสรรกำรงบประมำณในกำร แหลง่ เงนิ งบประมำณอื่น ๆ สำหรบั กำรขับเคล่ือนกำรดำเนินโครงกำรต่ำง ๆ ท่ี พัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำนด้ำนสำรสนเทศที่จะรองรับกำรเช่ือมโยงข้อมูลจำกหน่วยงำน ไม่ไดร้ ับกำรจัดสรรจำกงบประมำณประจำปี 2565 ต่ำง ๆ ประกอบกับในปีงบประมำณ 2565 ไม่ได้รับกำรจัดสรรงบประมำณเพื่อ ประเมินผลกำรดำเนินงำนของศนู ย์ฯ ตำมแนวทำงที่แผนปฏริ ูปฯ กำหนด กจิ กรรมปฏิรปู ที่ 3 การใชม้ าตรการบริษทั จดั การพลงั งาน (ESCO) สาหรบั หน่วยงานภาครัฐ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกต 1. กระทรวงพลงั งำน โดยกรมพัฒนำพลังงำนทดแทนและอนุรักษ์พลังงำน (พพ.) ควร พพ. จัดทำร่ำงหลักกกำรและแนวทำงกำรดำเนินงำนของธุรกิจบริษัทจัด เร่งรัดเสนอหลักกำรและแนวทำงกำรดำเนินงำนของธุรกิจบริษัทจัดกำรพลังงำน กำรพลังงำน (ESCO) สำหรับหน่วยงำนภำครัฐ อยู่ระหว่ำงเตรียมเสนอต่อ (ESCO) ต่อคณะรัฐมนตรีพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบโดยเร็ว เพ่ือท่ีหน่วยงำน คณะรัฐมนตรี เพ่อื ให้กเดิผ,ตำมแนวทำงของแผนกำรปฏิรูปประเทศต่อไป 368 ภำครัฐที่เก่ียวข้อง (สำนักงบประมำณ กรมบัญชีกลำง) จะได้ดำเนินกำรในส่วนที่ เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดกำรดำเนินกำร ESCO ให้เกิดขึ้น อย่ำงเป็นรูปธรรม และบรรลุเป้ำหมำยตำมที่กำหนดไว้ในแผนปฏิรูปฯต่อไป ซึ่งตำมแผนกำรปฏิรูป ประเทศด้ำนพลังงำน (ฉบับปรับปรุง) เป้ำหมำยย่อยท่ี 1.2 (MS1.2) กำหนดให้ ตอ้ งเสนอคณะรฐั มนตรี ภำยในเดือน มิถนุ ำยน 2564 2. สำนักงบประมำณ ควรเรง่ รดั ดำเนินกำรปรบั ปรงุ หลกั เกณฑ์และอัตรำค่ำใช้จ่ำย พพ. ได้ประสำนกับสำนักงบประมำณ โดยสำนักงบฯ เสนอให้มีกำรกำหนดรูปแบบ ประกอบกำรพิจำรณำงบประมำณรำยจ่ำยท่ีเบิกจ่ำยในลักษณะค่ำตอบแทน กำรลงทุนและวิธีคำนวณค่ำใช้จ่ำยให้ชัดเจน เพื่อนำไปประเมินกำรตั้งงบประมำณ ใช้สอย วัสดุ และ ค่ำสำธำรณูปโภค (ธันวำคม 2562) โดยพิจำรณำกำหนดเพิ่ม ก่อน สำนักงบฯ จึงจะสำมำรถพิจำรณำประเด็นเกี่ยวกับค่ำใช้จ่ำยดังกล่ำวได้ “หมวด” สำหรับค่ำบริกำรจัด กำรพลังงำนขึ้นมำใหม่โดยเฉพำะ เพื่อให้กำร ปัจจุบัน พพ. ได้รวบรวมวิธีกำรต้ังงบประมำณแบบต่ำง ๆ ตำมที่สำนักประมำณ ดำเนินกำร ESCO สำหรับหน่วยงำนภำครัฐ สำมำรถขอ จัดตั้งงบประมำณได้ แนะนำมำ และจัดทำตัวอย่ำงรำยละเอียดค่ำใช้จ่ำยของกำรดำเนินงำน ESCO ตำมกฎหมำย ภำครัฐ เตรียมไปประชุมหำรือขอควำมเห็นกับแนวทำงที่ได้รวบรวมมำเพ่ือนำไป จดั ทำรำยละเอียดกำรต้งั งบประมำณต่อไป 3. พพ. ควรกำหนดรูปแบบสัญญำพลังงำนสำหรับกำรดำเนินกำร ESCO สำหรับ พพ. อยู่ระหว่ำงร่ำงแนวปฏิบัติและร่ำงสัญญำจัดจ้ำงมำตรฐำนกลำงเพื่อกำรจัดจ้ำง หน่วยงำนภำครัฐ ให้มีควำมชัดเจน และหำกเป็นกำรดำเนินกำรตำมสัญญำ บริษัทจดั กำรพลงั งำน (ESCO)

กจิ กรรมปฏริ ูปท่ี 3 การใช้มาตรการบรษิ ัทจัดการพลังงาน (ESCO) สาหรับหน่วยงานภาครัฐ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต ข้อเสนอแนะ พลังงำนรูปแบบท่ี 3 กำรประกันค่ำพลังงำน (Guaranteed Rebate, Chauffer) ซึ่งต้องดำเนินกำรในลักษณะกำรติดตั้ง Solar Rooftop กรณี ดังกล่ำวส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผนพลังงำนชำติ ดังน้ัน พพ. ควรคำนึงถึง ประเด็นดังกลำ่ วด้วย กจิ กรรมปฏิรูปท่ี 4 การพัฒนาปโิ ตรเคมีระยะที่ 4 เพือ่ การเปลยี่ นผา่ นสรู่ ะบบเศรษฐกจิ หมุนเวียนและสร้างฐานทางเศรษฐกจิ ใหม่ (New S-Curve) ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต 1. จำกผลกำรศึกษำโครงกำรศึกษำกรอบแผนกำรพัฒนำอุตสำหกรรมปิโตรเคมี สำนักงำนนโยบำยและแผนพลังงำน (สนพ.) ได้นำเสนอผลกำรศึกษำกรอบแผนกำร ระยะที่ 4 ในพื้นทีช่ ำยฝงั่ ทะเลตะวันออก และพ้ืนที่ท่ีมีศักยภำพเพื่อกำรพัฒนำ พฒั นำอตุ สำหกรรมปโิ ตรเคมรี ะยะที่ 4 ในพื้นที่ทะเลชำยฝั่งภำคตะวันออก และพ้ืนท่ี เศรษฐกิจในอนำคต ท่ีพบว่ำพ้ืนที่ท่ีเหมำะสมในกำรพัฒนำแต่ละกลุ่ม ท่ีมีศักยภำพเพื่อกำรพัฒนำเศรษฐกิจในอนำคตต่อคณะกรรมกำรปฏิรูปประเทศแล้ว อุตสำหกรรม คือ กลุ่ม 1 ปิโตรเคมี ใน SEC (ทุ่งนเรนทร์-ปะนำเระ จังหวัด และสำนักงำนปลัดกระทรวงพลังงำนได้จัดทำร่ำงข้อเสนอเพื่อส่งเสริมกำรลงทุนใน 369 ปัตตำนี) กลุ่ม 2 ผลิตภัณฑ์เคมีเสริม ใน 2 พ้ืนที่ คือ EEC และ SEC (ทุ่ง อุตสำหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 4 ต่อรองนำยกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวง นเรนทร์-ปะนำเระ จังหวัดปัตตำนี) กลุ่ม 3 ผลิตภัณฑ์ชีวภำพ ในภำคเหนือ พลังงำนแล้ว และเมื่อได้ข้อสรุปจำกแนวทำงมำตรกำรเพ่ือส่งเสริมกำรลงทุนปิโตร ตอนล่ำง ภำคอีสำน และ ภำคใต้ ขึ้นกับชนิดของวัตถุดิบชีวภำพ เป็นผล เคมีระยะที่ 4 ในระยะยำวในพ้ืนท่ี EEC แล้ว จะได้มีกำรนำเสนอต่อรอง กำรศึกษำท่ีมุ่งเน้นให้ควำมสำคัญกำรพัฒนำในพ้ืนท่ีภำคใต้เป็นหลัก รวมถึง นำยกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงพลังงำน และคณะกรรมกำรนโยบำยเขต กรณีที่สำนักงำนคณะกรรมกำรนโยบำยเขตพัฒนำพิเศษภำคตะวันออก ขอให้ พัฒนำเศรษฐกิจพิเศษภำคตะวันออก และคณะรัฐมนตรีในไตรมำส 2 ของปี 2565 พิจำรณำทบทวนหน่วยงำนที่เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ซึ่งหำกเป็นกรณีเช่นนั้น ต่อไป ควรมุ่งกำรดำเนินงำนใน พ้ืนท่ีเขตเศรษฐกิจพิเศษภำคใต้ (SEC) เป็นกรณี เฉพำะ ตลอดจนเร่งพิจำรณำ กฎ ระเบียบ แผนงำน รองรับให้มีควำมชัดเจน รวมถึงควรพิจำรณำยกเลิกโครงกำรดำเนินงำนดังกล่ำวออกจำกกิจกรรม Big Rock

กจิ กรรมปฏริ ปู ที่ 5 ปรบั โครงสร้างกิจการไฟฟ้าและธรุ กิจกา๊ ซธรรมชาติ เพือ่ เพิ่มการแข่งขัน ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกต กจิ กรรมยอ่ ยท่ี 1 ปรับปรงุ แผนพฒั นำกำลังผลิตไฟฟ้ำของประเทศไทย 2022 1. พิจำรณำเตรียมกำร กำรปล่อยคำร์บอน หำกคำนึงถึงกำรปล่อย คำร์บอนมำก ในกำรจัดทำแผน PDP2022 จะมีกำรพิจำรณำถงึ ปจั จยั ต่ำงๆ เช่น สถำนกำรณ์กำร เกนิ ไปอำจสง่ ผลต่อกำรแข่งขันระหว่ำงประเทศ เน่ืองจำกประเทศกำลังพัฒนำ ผลิตและกำรใช้ไฟฟ้ำที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและแนวโน้มในอนำคต ผลกระทบจำก จำเปน็ ต้อง ใชพ้ ลังงำนจำนวนมำก กำรใช้พลังงำนสีเขียวจะต้องใช้งบประมำณ กำรแพร่ระบำดของโรคโควิด-19 กำรประเมินกำรเติบโตของเศรษฐกิจ และ GDP สงู จึงมคี วำมจำเปน็ ท่จี ะตอ้ งใช้ เชื้อเพลงิ รำคำถูกด้วย ใหม่ Disruptive Technology ควำมต้องกำร ไฟฟ้ำจำกกิจกรรมหรือโครงกำร ใหมท่ จ่ี ะเกดิ ขน้ึ ควำมสอดคล้องกบั นโยบำยกำรลดกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจกภำค พลังงำนของกระทรวงพลังงำนหรือของประเทศไทย (Carbon Neutrality) และ กรอบแผนพลงั งำนชำติ เปน็ ตน้ กิจกรรมย่อยท่ี 2 ส่งเสริมกิจกำรไฟฟ้ำเพ่ือเพ่ิมกำรแข่งขัน และปฏิรูปโครงสร้ำง กำรบริกำรกจิ กำรไฟฟำ้ 2. ข้อเสนอแนะกำรกำหนดอัตรำค่ำบริกำรในกำรเชื่อมต่อระบบโครงข่ำยไฟฟ้ำ กบง. และ กพช. เห็นชอบนโยบำยกำรกำหนดโครงสร้ำงอัตรำค่ำไฟฟ้ำของ (Wheeling Charge) 1.151 บำท ต่อหน่วย ที่ กกพ. นำมำทดลองใช้ ใน ประเทศไทย ปี 2564 – 2568 ท่ีสำมำรถรองรับกำรเปลี่ยนแปลงของโครงสร้ำง 370 โครงกำร ERC SANDBOX ควรชี้แจงรำยละเอียดกำรคิดรำคำค่ำบริกำรให้ กิจกำรไฟฟ้ำที่เกิดจำกกำร Disrupt ของเทคโนโลยี ซ่ึงจะช่วยทำให้มีอัตรำค่ำ ชัดเจนและโปรง่ ใส รวมท้ังเปิดใหม้ กี ำรรับฟงั ควำมคิดเห็นจำกผู้มีส่วนร่วม และ ไฟฟ้ำสะท้อนต้นทุนกำรจัดหำไฟฟ้ำ และมีควำมเป็นธรรมให้กับท้ังผู้ให้บริกำร รำยได้จำกค่ำ wheeling charge ซึ่งรวมค่ำโครงข่ำยและค่ำปฏิบัติกำร ไฟฟ้ำและผใู้ ช้ไฟฟ้ำ รวมทง้ั สง่ ผลต่อกำรพัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำนด้ำนพลังงำนของ โครงข่ำยควรนำกลับไปเฉลี่ยคืนสู่ประชำชนผู้ใช้ไฟฟ้ำของ 3 กำรไฟฟ้ำ โดย หน่วยงำนกำรไฟฟำ้ อำจนำไปปรับปรุงอัตรำค่ำไฟฟ้ำในรอบถัดไป เพรำะจำกอดีตถึงปัจจุบันระบบ โครงข่ำยของกำรไฟฟำ้ เปน็ กำรลงทนุ ของประชำชน ผู้ใชไ้ ฟฟ้ำของ 3 กำรไฟฟ้ำ ผ่ำนทำงค่ำไฟฟำ้ ในแตล่ ะเดอื นในลักษณะทยอยจ่ำยซงึ่ ยงั ชำระไม่หมด กจิ กรรมย่อยที่ 3 ส่งเสริมใหเ้ กิดกำรแข่งขันเพื่อเพ่ิมประสทิ ธิภำพในธุรกจิ กำ๊ ซ ธรรมชำติ 3. กำรพัฒนำโครงสร้ำงพ้ืนฐำนทำงพลังงำนที่เกี่ยวข้องกับก๊ำซธรรมชำติ ควรเร่งรัด 1. กพช. เมือ่ วนั ท่ี 1 เม.ย. 64 เหน็ ชอบกำรพัฒนำโครงสร้ำงพ้ืนฐำนก๊ำซธรรมชำติ จัดทำแผนพัฒนำโครงสร้ำงพ้ืนฐำนให้ครอบคลุมกิจกำรพลังงำนของประเทศให้ เพ่ือรองรับโครงกำรโรงไฟฟ้ำตำมแผน PDP 2018 (Rev.1) โดยให้ ปตท. เป็น สำมำรถใช้งำน ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ลดต้นทุนในกำรดำเนินงำน อันจะเป็น ผดู้ ำเนนิ กำรระบบทอ่ สง่ กำ๊ ซธรรมชำติบนบกจำกบำงปะกงไปโรงไฟฟ้ำพระนครใต้ กำรส่งผ่ำนค่ำใช้จ่ำยต้นทุนไปสู่ประชำชน และส่งเสริมกำรแข่งขันในธุรกิจก๊ำซ เพ่อื รองรบั โรงไฟฟ้ำตำมแผน PDP 2018 (Rev.1) ธรรมชำติ 2. เม่ือวันที่ 27 เมษำยน 64 มีคำสั่งเพิ่มเติมหน้ำที่และอำนำจของคณะ

กจิ กรรมปฏิรปู ท่ี 5 ปรับโครงสร้างกจิ การไฟฟา้ และธุรกิจกา๊ ซธรรมชาติ เพ่อื เพิ่มการแข่งขัน ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกต อนกุ รรมกำรพิจำรณำแนวทำงกำรสง่ เสรมิ กจิ กำรกำรแขง่ ขันก๊ำซธรรมชำติในระยะ ท่ี 2 โดยใหพ้ จิ ำรณำและจัดทำแผนโครงสร้ำงพ้ืนฐำนท่ีเก่ียวกับก๊ำซธรรมชำติและ แนวทำงดำเนินกำรอ่ืน ๆ ท่เี ก่ียวข้องเพ่ิมเตมิ 3. กพช. เมอื่ วนั ท่ี 30 พฤศจิกำยน 64 เห็นชอบให้บรรจุโครงกำร LNG Terminal พ้ืนท่ีท่ำเรืออุตสำหกรรมมำบตำพุด ระยะท่ี 3 (T-3) ในเขตพัฒนำพิเศษภำค ตะวันออก (EEC) จังหวัดระยอง กำลังกำรแปรภำพ LNG เป็นก๊ำซ 10.8 ล้ำนตัน ต่อปี (ขยำยได้ถึง 16 ล้ำนตันต่อปี) ในแผนโครงสร้ำงพื้นฐำนก๊ำซธรรมชำติเพื่อ ควำมมัน่ คงของประเทศ และให้กระทรวงพลังงำนนำควำมเห็นของคณะกรรมกำร กำกบั กิจกำรพลังงำน (กกพ.) ไปประกอบกำรพิจำรณำดำเนนิ กำรต่อไป ขอ้ เสนอแนะเรง่ รดั แผนการปฏิรูปประเทศด้านพลงั งาน (ฉบบั เดิม) 371 ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต ประเด็นปฏริ ปู ท่ี 1 การปฏริ ูปองคก์ รดา้ นพลงั งาน กจิ กรรมที่ 1 กำรปรับโครงสร้ำงตง้ั กองบริหำรสญั ญำระบบสัญญำแบ่งปัน ผลผลิต (Production Sharing Contract : PSC) - ควรริเร่ิมกำรจัดต้ังหน่วยงำน ให้สำมำรถทำหน้ำท่ีแทนกองบริหำรสัญญำ PSC กรมเชื้อเพลิงธรรมชำติ (ชธ.) จัดต้ังกองบริหำรสัญญำ PSC อยู่ระหว่ำงออกแบบ เพ่ือทำหน้ำท่ีในบริหำรงำนได้อย่ำงครบวงจรต้ังแต่ต้นน้ำ กลำงน้ำ ไปสู่กำรกำกับ ระบบกำรบริหำร PSC เพื่อเลือกรูปแบบท่ีเหมำะสม และควำมโปร่งใส เป็นธรรม ดูแลในข้ัน ปลำยน้ำ และเพ่ิมประสิทธิภำพในกำรดำเนินงำนให้เพ่ิมมำกขึ้น โดย มีประสิทธภิ ำพ ประสิทธผิ ลและตรวจสอบได้ เป็นหน่วยงำนที่สำมำรถทำกำร จัดซื้อจัดจ้ำงในสัญญำท่ีมีมูลค่ำสูงได้อย่ำง คล่องตัวมำกข้ึน มีกฎ ระเบียบ ท่ีเอ้ือต่อกำรดำเนินงำน ตลอดจนเป็นหน่วยงำนท่ี มีควำมโปร่งใส เป็นธรรม มปี ระสทิ ธิภำพ ประสิทธผิ ลและตรวจสอบได้ กิจกรรมที่ 2 สร้ำงกติกำ (Code of Conduct) เพื่อกำหนดขอบเขตกำร ปฏิบัตงิ ำนระหว่ำงหนว่ ยนโยบำย-กำกบั -ปฏิบตั ิ - ควรกำหนด KPI เพ่ือติดตำมทำงกำร ปฏิบัติงำนระหว่ำงหน่วยนโยบำย หน่วย สำนักงำน กกพ. จัดทำระบบ KPI ติดตำมประเมินผลเพ่ือกำรตรวจประเมิน กำกับและหน่วยปฏิบัติของกระทรวงพลังงำนเพื่อให้กำรปฏิบัติ หน้ำท่ีเป็นไป โรงไฟฟ้ำทั้งก่อนและหลังกำรกำหนดจ่ำยไฟฟ้ำเข้ำระบบ (COD) อยู่ระหว่ำงกำร

ขอ้ เสนอแนะเร่งรัด แผนการปฏริ ปู ประเทศด้านพลังงาน (ฉบบั เดิม) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต อย่ำงมีประสิทธิภำพ และเพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำรจัดกำรด้ำนพลังงำนมำก พัฒนำระบบตรวจติดตำมกำรประกอบกิจกำรผลิตไฟฟ้ำด้วยดิจิทัล (E-Post ยิ่งขึ้น รวมทั้งกำรพิจำรณำโครงสร้ำง บทบำท อำนำจ และภำรกิจกำร Licensing Scheme) ทำงด้ำนสิ่งแวดล้อมและควำมปลอดภัย เพื่อให้แสดงผล ปฏิบัติงำนร่วมกันเพื่อสร้ำงควำมชัดเจน และลดควำมซ้ำซ้อนในกำรดำเนินงำน ข้อมูลกำรตรวจติดตำมแบบ Real Time และสืบค้นข้อมูลกำรตรวจติดตำมผ่ำน อยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง ช่องทำงที่เป็น web-based พร้อมท้ังแสดงผลบนอุปกรณ์ผ่ำน Smart Devices เพื่อกำรปฏิบัติงำนที่รวดเร็วระหว่ำงสำนักงำน กกพ. ส่วนกลำง กับสำนักงำน กกพ. ประจำเขตทั้ง 13 เขต ทั้งน้ี ในกรณีที่สถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของเชื้อ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) สำนักงำน กกพ. ได้ดำเนินกำรปรับปรุง แบบฟอร์มและวิธีกำรตรวจติดตำมสถำนประกอบกิจกำรผลิตไฟฟ้ำ โดยให้ผู้รับ ใบอนุญำตสำมำรถกรอกข้อมูลยืนยันตนเอง (Self-Declaration Report) ผ่ำน ระบบออนไลน์ เพ่ือเพิ่มประสิทธิภำพในกำรตรวจติดตำมมำกยิ่งขึ้น ซึ่งได้ทดลอง ใชง้ ำนระบบดังกล่ำวต้งั แตเ่ ดอื นมีนำคม 2564 ท่ีผ่ำนมำ ประเด็นปฏิรูปท่ี 9 ระบบบริหารจัดการเช้ือเพลิงชีวมวลไม้โตเร็ว สาหรับ 372 โรงไฟฟ้าชีวมวล - หน่วยงำนรับผิดชอบหลัก ควรเร่งรัดจัดทำ มำตรฐำนและรำคำกลำงของ พพ. ศึกษำจัดทำรำ่ งมำตรฐำนเชือ้ เพลิงชีวมวลไม้สับแล้วเสร็จ และดำเนินกำรส่งร่ำง เชอื้ เพลิงชีวมวลไม้โตเร็วให้แล้วเสรจ็ และใชเ้ ปน็ มำตรฐำนกลำง มำตรฐำนเชื้อเพลิงชีวมวลไม้สับไปยังสำนักงำนมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม (สมอ.) ตำมหนงั สอื ท่ี พน 0509/11309 ลงวันที่ 28 ก.ย. 64 - ควรพิจำรณำดำเนินกำรควบคู่ไปกับโครงกำรโรงไฟฟ้ำชุมชนเพื่อ เศรษฐกิจฐำน ปัจจุบันดำเนินกำรควบคู่ไปกับนโยบำยโรงไฟฟ้ำชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐำนรำก รำก (สำนักงำน กกพ. ประกำศ ผลกำรคัดเลือกผู้เข้ำร่วมโครงกำรโรงไฟฟ้ำชุมชนเพ่ือ เศรษฐกิจฐำนรำก (โครงกำรนำร่อง) ณ วันท่ี 23 ก.ย. 64 โดยมีผู้ได้รับกำร คัดเลือกจำนวน 43 รำย โดยประกอบด้วยโรงไฟฟ้ำที่ใช้เชื้อเพลิงชีวมวล 16 โรง และ โรงไฟฟ้ำที่ใช้เช้ือเพลิง ก๊ำซชีวภำพ 27 โรง ปริมำณเสนอขำยไฟฟ้ำรวม 149.50 MW ประเด็นปฏิรูปที่ 10 แนวทางส่งเสริมและขจัดอุปสรรคในการนาขยะมูล ฝอยไป เปน็ เชื้อเพลงิ เพ่อื ผลิตไฟฟ้า - กระทรวงมหำดไทยควรกระจำยอำนำจในกำรบริหำรจัดกำรขยะให้กับผู้ว่ำ กระทรวงพลังงำน (พน.) ประสำนงำนและทำงำนร่วมกับกระทรวงมหำดไทย (มท.) รำชกำรจังหวัด เพื่อควำมคล่องตัวและรวดเร็ว และควรจัดลำดับควำมสำคัญของ ในกำรพิจำรณำให้ควำมเห็นโครงกำรกำจัดขยะเพื่อผลิตพลังงำนไฟฟ้ำท่ีองค์กร

ขอ้ เสนอแนะเร่งรดั แผนการปฏิรูปประเทศด้านพลงั งาน (ฉบับเดิม) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สังเกต กลมุ่ พื้นทีเ่ ร่งดว่ นที่มี ศักยภำพในกำรนำขยะเป็นเช้ือเพลิงเพ่ือผลิตไฟฟ้ำให้มีควำม ปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอโครงกำร ซึ่งปัจจุบันมี 38 โครงกำรที่อยู่ระหว่ำง ชัดเจนและเปน็ รูปธรรม ดำเนนิ กำร (รวมกำลงั กำรผลติ ตดิ ตง้ั 358.40 MW) โดยมีรำยละเอยี ดดังน้ี (1) โครงกำรกำจัดขยะเพื่อผลิตไฟฟ้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ี รมว.มท. เห็นชอบแล้ว 23 โครงกำร (237.80 MW) (2) อยู่ระหว่ำงกำรพิจำรณำจำกคณะกรรมกำรกลั่นกรองและคณะกรรมกำรกลำง เพื่อนำเสนอ รมว.มท. อีก 15 โครงกำร (120.60 MW) - กระทรวงพลังงำนควรเร่งประสำนกับสำนักงำน กกพ. เพ่ือกำหนดข้ันตอน มติคณะกรรมกำรพลังงำนแห่งชำติ (กพช.) ครั้งที่ 3/2564 เม่ือวันที่ 5 พ.ย. 64 หลักเกณฑ/์ เง่ือนไข และอัตรำกำรรับซ้ือไฟฟ้ำจำกขยะใหช้ ดั เจน เห็นชอบอัตรำกำรรับซื้อไฟฟ้ำจำกขยะชุมชนในรูปแบบ FiT สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ำ ขนำดเล็กมำก (VSPP) ภำยใต้กรอบอัตรำค่ำไฟฟ้ำสูงสุดที่ 5.08 บำทต่อหน่วย (FiT Premium 8 ปี 0.70 บำท/หน่วย) และ SPP ภำยใต้กรอบสูงสุดท่ี 3.66 บำทต่อ หน่วย ระยะเวลำสนับสนุน 20 ปี โดยมอบหมำยให้ สำนักงำน กกพ. พิจำรณำ กำหนดอัตรำรับซ้ือไฟฟ้ำท่ีเหมำะสม อยู่ระหว่ำง สำนักงำน กกพ. พิจำรณำกำหนด 373 อตั รำกำรรบั ซื้อไฟฟ้ำจำกขยะชุมชน เพ่ือประกำศรับซื้อไฟฟ้ำจำกขยะชุมชนต่อไป ประเดน็ ปฏริ ปู ที่ 11 ออกระเบยี บวา่ ด้วยการสง่ เสริมกิจการโซลารร์ ูฟเสรี - ควรเร่งรัดดำเนินกำรเสนอเร่ืองกำรส่งเสริมกำรติดต้ัง โซลำร์รูฟอย่ำงเสรี 1. สำนักงำน กกพ. ออกระเบียบกำรรับซ้ือไฟฟ้ำตำมนโยบำยกำรส่งเสริมกำรผลิต ต่อคณะกรรมกำรนโยบำยแห่งชำติ (กบง.) เพ่ือให้มีกำรกำหนดนโยบำยที่ชัดเจน ไฟฟ้ำจำกพลังงำนแสงอำทิตย์แบบติดต้ังบนหลังคำ และปรับปรุงการขอจดแจ้ง และสำมำรถดำเนินกำรออกระเบียบท่ีเกี่ยวข้องต่อไปได้ รวมท้ังประสำนและ ยกเว้นการขอรับใบอนุญาต โดยลดเอกสำรและข้ันตอนกำรจดแจ้งยกเว้นเพ่ือเป็น สนับสนุนให้หน่วยงำนดำเนินกำรตำมแผนปฏิรูปประเทศด้ำนพลังงำนอย่ำงเป็น กำรอำนวยควำมสะดวกให้กบั ผู้เข้ำรว่ มโครงกำรแลว้ รูปธรรมต่อไป 2. พพ. ดำเนินโครงกำร Solar to social แล้วเสร็จ โดยมุ่งเน้นกำรสร้ำงควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจที่ถกู ต้องของแผนปฏริ ูปประเทศด้ำนพลังงำน และเผยแพร่และสนับสนุน ข้อมูล องค์ควำมรู้เกี่ยวกับพลังงำนแสงอำทิตย์ ผ่ำนช่องทำงต่ำง ๆ อย่ำงต่อเน่ือง และสม่ำเสมอ เช่น กำรเขียนข้อมูลลงเว็บไซต์ กำรโทรศัพท์ติดต่อสอบถำม กำร ประชุมหำรือ เป็นต้น รวมทั้งให้กำรสนับสนุนข้อมูล องค์ควำมรู้เกี่ยวกับพลังงำน แสงอำทิตย์ ผ่ำนชอ่ งทำงตำ่ ง ๆ อยำ่ งต่อเน่ือง 3. พพ. ได้จัดเตรียมข้อเสนอโครงกำรเพื่อขอรับกำรสนับสนุนงบประมำณจำก กองทุนเพ่ือส่งเสริมกำรอนุรักษ์พลังงำน ในกำรเสริมสร้ำงควำมรู้ทักษะและควำม

ข้อเสนอแนะเร่งรดั แผนการปฏิรปู ประเทศดา้ นพลงั งาน (ฉบบั เดิม) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกต เข้ำใจที่ถูกต้องของข้อมูล องค์ควำมรู้เก่ียวกับพลังงำนแสงอำทิตย์ ตำมแนวทำง ขอ้ เสนอ “เชิญชวนให้ติดตั้งโซลำรร์ ูฟ” ที่ พพ. ได้รบั มอบหมำยให้เปน็ เจ้ำภำพหลัก ประเดน็ ปฏิรปู ที่ 12 ปฏริ ูปพลังงานภาคขนส่ง ระยะ 20 ปี - กรอบแผนพลังงำนชำติ (National Energy Plan) โดยกำหนด เป้ำหมำยมุ่งสู่ ครม. มีมติให้จัดทำแผนพลังงำนชำติ (รวม TIEB) ซึ่งรวมกำรพิจำรณำ BAU กำร พลงั งำนสะอำดและลดกำรปลอ่ ยกำ๊ ซคำร์บอนไดออกไซด์ภำยในปี 2580 เห็นว่ำใน ใชพ้ ลงั งำนภำคขนส่งใหม่ และ กพช. ได้มมี ตเิ หน็ ชอบกรอบแผนพลังงำนชำติ โดย กรณี ทมี่ ีกำรต้ังเป้ำหมำยลดกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจก ควรกำหนดสัดส่วนกำรใช้ สนพ. ได้เปิดรับฟังควำมคิดเห็นกรอบแผนพลังงำนชำติ (National Energy Plan ระบบกำรขนส่งแต่ละประเภทเพ่ือกำหนดชนิดเช้ือเพลิง ให้มีกำรกำหนดค่ำ 2022) ผำ่ นระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จำกประชำชนทง่ั 4 ภำค NGO หน่วยงำนภำครัฐ เป้ำหมำยในกำรดำเนินงำนที่ชัดเจน มุ่งสู่ผลสัมฤทธ์ิในกำรดำเนินงำนได้เป็น และสื่อมวลชน เพ่ือปรับปรุงแผนฯ และนำเสนอแผนฯ ต่อ กพช. และ ครม. รปู ธรรม ตอ่ ไป ประเด็นปฏิรูปที่ 14 การใช้ข้อบัญญัติเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code: BEC) พพ. เตรียมจัดสัมมนำให้ควำมรู้แก่เจ้ำพนักงำนท้องถิ่นเพ่ิมเติม 300 คน เพ่ือให้ - ควรดำเนินกำรประสำนกับหน่วยงำนที่เก่ียวข้องเพื่อจัดเตรียมควำม พร้อมให้กับ ทรำบแนวทำงปฏิบัติเม่ือมีกำรประกำศบังคับใช้ (เงินงบประมำณปี 65) รวมทั้ง 374 บุคลำกร อำทิ ผู้ออกแบบ สถำปนิก และวิศวกร รวมท้ังบุคลำกรท้องถิ่นท่ัว เร่งรัด/ผลักดันให้ มท./ยผ. ออกประกำศ คกก.ควบคุมอำคำร นำกฎกระทรวงฯ ประเทศใหม้ ี ควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในกำรดำเนินกำรตำมกฎกระทรวงฯ ไปบังคับใช้กับกำรก่อสร้ำงอำคำรตำม พ.ร.บ.ควบคุมอำคำร และแจ้งผู้เก่ียวข้อง ใหถ้ ือปฏบิ ัติโดยเรว็ ประเด็นปฏริ ูปที่ 16 การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย - ควรเร่งดำเนินกำรตำมกรอบแนวทำงกำรส่งเสริมอุตสำหกรรมกำรผลิตยำนยนต์ 1. คณะกรรมกำร EV แห่งชำติ มีมติเห็นชอบนโยบำย 30@30 ต้ังเป้ำหมำยว่ำ ไฟฟ้ำและชิน้ ส่วนใน ประเทศไทย และแผนกำรเปลี่ยนผ่ำนไปสู่ยำนยนต์ไฟฟ้ำ เช่น ภำยในปี 2573 (ค.ศ. 2030) จะมีสัดส่วนของกำรผลิตยำนยนต์ไฟฟ้ำอยู่ท่ีร้อยละ 30 ด้ำนมำตรกำรทำงภำษีด้ำนกำรพัฒนำ ระบบโครงสร้ำงพ้ืนฐำน ด้ำนมำตรกำร เทียบจำกกำลังกำรผลิตยำนยนต์ทั้งประเทศที่ประมำณ 2,500,000 คัน โดยเป็น สง่ เสรมิ แบตเตอรยี่ ำนยนต์ไฟฟำ้ ด้ำนกำรศกึ ษำและวิจัย เป็นต้น รถยนตน์ ง่ั และรถกระบะ 725,000 คัน รถจักรยำนยนต์จะมีกำรผลิตท้ังส้ิน 675,000 คนั และประเภทรถบัส/รถบรรทุกจะมีกำรผลติ ท้งั สิ้น 34,000 คนั 2. สนพ. จะประสำนหน่วยงำนที่เก่ยี วขอ้ งเพอ่ื จัดรำยละเอียดแนวทำงสนับสนุนยำน ยนต์ไฟฟ้ำในประเทศ ภำยในปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) ในมำตรกำรสนับสนุนกำร ใช้ยำนยนต์ไฟฟ้ำประเภทรถยนต์และรถจักรยำนยนต์ แนวทำงกำรสนับสนุนกำร ติดต้ังเครื่องอัดประจุสำหรับ EV และสนับสนุนกำรลงทุนอุตสำหกรรมกำรผลิต แบตเตอรร์ ่ี และกำรนำรถยนตท์ ่ขี ับเคล่ือนด้วยพลังงำนไฟฟำ้ มำใช้ในรำชกำร

ข้อเสนอแนะเรง่ รัด แผนการปฏริ ูปประเทศด้านพลงั งาน (ฉบับเดิม) ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต ประเดน็ ปฏิรปู ที่ 17 การสง่ เสริมเทคโนโลยีระบบกกั เก็บพลังงาน - หน่วยงำนที่เก่ียวข้อง ควรเร่งรัดจัดทำแผนกำรปฏิบัติงำน (Action Plan) ตำม คณะกรรมกำรกำกับกิจกำรพลังงำน เห็นชอบแผนปฏิบัติกำร (Action Plan) กรอบแนวทำงกำรส่งเสริมท้ัง 4 ด้ำน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเสนอต่อ เห็นชอบแนวทำงกำรกำกับระบบ ESS ในกิจกำรพลังงำน ทั้งนี้ มีโครงกำร คณะกรรมกำรส่งเสริมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงำน พิจำรณำตำมข้ันตอน ประเภท Battery Storage System โดย สำนกั งำน กกพ. จะแจ้งมตแิ นวทำงกำร โดยเร็วต่อไป ท้ังน้ี เพ่ือให้เกิดกำรส่งเสริมระบบกัก เก็บพลังงำนในระดับ กำกบั ESS ในกจิ กำรพลงั งำนใหห้ น่วยงำนทเี่ กย่ี วขอ้ งทรำบ อุตสำหกรรมภำยในประเทศ และกำหนดกรอบเวลำในกำรจัดทำ แผนให้ชัดเจน เพอ่ื ใหป้ ระชำชนและหนว่ ยงำนที่เกย่ี วข้องได้รับทรำบ 375

11. ด้านการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ : ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการตอ่ รายงานสรุปผลการศกึ ษาวิเคราะห์ รายงานความคบื หนา้ ในการดาเนนิ การตามแผนการปฏิรปู ประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญฯ ข้อเสนอแนะเรง่ รัด แผนการปฏริ ปู ประเทศด้านการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ และประพฤติมชิ อบ (ฉบับปรับปรงุ ) กิจกรรมปฏริ ูปท่ี 1 การสง่ เสรมิ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการต่อตา้ นการทุจรติ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต โครงการปอ้ งกนั และต่อต้านการทจุ ริต โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคประชาชน โครงการการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนนั้นดาเนินการร่ว มกันระหว่าง และองค์กรชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) จากการติดตาม สถาบัน พอช. และองค์กรเครือข่ายภาคประชาชน โดยการทางานของสถาบัน และลงพ้ืนท่ี มีความเห็นว่า การดาเนินงานของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน พอช. เป็นรูปแบบการทางานลักษณะการทางานจากล่างสู่บน Bottom up โดย (องค์การมหาชน) มีจานวนบุคลากรและงบประมาณยังไม่สอดคล้องกับพื้นที่ท่ี สถาบัน พอช. เป็นพ่ีเลี้ยง และองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนเป็นคนคิดวางแผน รบั ผดิ ชอบ ว่าจะทาอย่างไรในพ้ืนที่ของตนในการป้องกันการทุจริตในพ้ืนท่ี โดยจะเป็นการ ระเบิดจากข้างในของภาคประชาชนเอง ซ่ึงในการมองถึงบุคลากรของ สถาบัน พอช. ในระดบั พ้ืนท่ีนั้นคงต้องมองถึงองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนในระดับพื้นที่ ประกอบด้วย 376 กิจกรรมปฏิรปู ท่ี 2 การพฒั นาการเข้าถึงข้อมลู ขา่ วสารและระบบคุ้มครองผ้แู จง้ เบาะแสการทจุ ริตทีม่ ีประสิทธภิ าพ ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สังเกต การจัดทากฎหมายที่เก่ียวข้องกับการป้องกันการฟ้องปิดปาก (Anti-SLAPP Law) สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือ ด่วนท่ีสุด ท่ี นร 0503/ว(ล)37008 โดยในคราวประชมุ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมอ่ื วันศุกรท์ ี่ 27 สงิ หาคม 2564 ได้มีมติ ลงวันท่ี 1 ธันวาคม 2564 ขอให้สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม เห็นชอบในหลกั การของร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากใน แห่งชาติในฐานะสานักงานเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ พิจารณาเสนอ ความผิดฐานทุจรติ ตอ่ หน้าทีแ่ ละประพฤตมิ ชิ อบ พ.ศ. ... ปจั จุบันอยู่ระหว่างการรับ ความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เร่ือง ร่าง ฟังความคิดเห็น โดยมีหนังสือไปยังหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และรับฟังความเห็นของ พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในความผิดฐานทุจริตต่อ ประชาชนทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป อย่างไรก็ตาม หากมีกฎหมายใช้บังคับแล้วจะ หน้าที่และประพฤติมิชอบ พ.ศ. ..... ซ่ึงสานักงานฯ ได้พิจารณาเร่ืองดังกล่าวและ ทาใหเ้ กดิ การคุ้มครองผแู้ จง้ เบาะแสได้ ได้จัดทาหนังสือเรียนประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพ่ือขอความเห็นในส่วนท่ีเกี่ยวข้อง รายละเอียดปรากฏตามส่ิงที่ส่งมาด้วย โดยเห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการ

กจิ กรรมปฏริ ปู ที่ 2 การพฒั นาการเข้าถงึ ข้อมูลข่าวสารและระบบคุ้มครองผู้แจง้ เบาะแสการทุจรติ ท่มี ีประสทิ ธิภาพ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสงั เกต ของร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในความผิดฐานทุจริต ต่อหน้าท่ีและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ..... โดยร่างพระราชบัญญัติฯร่าง พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในความผิดฐานทุจริตต่อ หน้าทแ่ี ละประพฤติมิชอบ พ.ศ. ..... เปน็ การสนับสนุนการดาเนินการตามแผนการ ปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ฉบับปรับปรุง) ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และมาตรา 63 ที่บัญญัติให้รัฐต้องส่งเสริม สนับสนุน และให้ ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายท่ีเกิดขึ้นจากการทุจริตและประพฤติมิชอบท้ังใน ภาครัฐและภาคเอกชน และจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อ ป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเข้มงวด รวมท้ังกลไกส่งเสริม ให้ประชาชนรวมตัวกันเพ่ือมีส่วนร่วมในการรณรงค์ ให้ความรู้ ต่อต้าน หรือช้ี 377 เบาะแส โดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐตามท่ีกฎหมายบัญญัติ รวมท้ัง เป็นการ คุม้ ครองบุคคลทีแ่ สดงความเห็นหรือแจง้ เบาะแสเก่ียวกับการทุจริตและประพฤติมิ ชอบ โดยบุคคลเหล่านี้ต้องได้รับการปกป้องมิให้ถูกคุกคามหรือกลายเป็นจาเลย เสียเอง ซึ่งเป็นการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ ริต และเปน็ การยกระดับค่าดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศ ไทย (Corruption Perception Index : CPI) ให้มีอันดับและคะแนนท่ีสูงขึ้น ตาม เป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบ และแผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบ

กิจกรรมปฏิรูปท่ี 5 การพฒั นามาตรการสกัดก้ันการทจุ ริตเชงิ นโยบายในการดาเนินโครงการขนาดใหญ่ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต โครงการประเมินความเสี่ยงการทุจริตเชิงนโยบาย ของสานักงาน ป.ป.ท. จะทาให้ โครงการประเมินความเสี่ยงการทุจริตเชิงนโยบายน้ันเป็นการวิเคราะห์แผนการ หน่วยงานท่ีเสนอของบประมาณมีมาตรการในการประเมินความเสี่ยงการทุจริต ทางานในโครงการขนาดใหญ่ว่ามีโอกาสการทุจริตในขั้นตอนไหน แล้วเลือกการ ของหน่วยงานและบูรณาการการตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐตาม แก้ปัญหาในการดาเนินการเพ่ือปิดช่องโหว่นั้น โดยอาจเลือกการดาเนินโครงการ โครงการขอ้ ตกลงคณุ ธรรม (Integrity Pact : IP) และโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้าง ข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) หรือ โครงการความโปร่งใสในการ ภาครัฐ (Infrastructure Transparency Initiative : Cost) รวมท้ังโครงการแนว ก่อสร้างภาครัฐ (Infrastructure Transparency Initiative : COST) เพื่อดาเนิน ร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Thailand’s Private โครงการให้ปลอดการทุจริต ซ่ึงในการประเมินถึงการทุจริตเชิงนโยบายจากกลุ่ม Sector Collective Action Coalition Against Corruption : CAC) แต่อย่างไรก็ตาม การเมืองโดยสามารถต้ังข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าวน้ันมีราคาสูงเกินจริงหรือไม่ กิจกรรมปฏิรูปดังกล่าว ยังไม่รวมถึงการทุจริตเชิงนโยบายที่เกิดจากกลุ่มการเมือง เมอ่ื เทยี บกบั รายละเอียดของโครงการกบั โครงการอนื่ ๆ โดยตรง 378

12. ด้านการศกึ ษา : ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกตของคณะกรรมาธิการตอ่ รายงานสรุปผลการศึกษาวิเคราะห์รายงานความคืบหนา้ ในการดาเนนิ การตาม แผนการปฏริ ูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญฯ ข้อเสนอแนะเรง่ รัด แผนการปฏิรปู ประเทศด้านการศกึ ษา กจิ กรรมปฏิรปู ท่ี 1 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษาตง้ั แต่ระดับปฐมวยั ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต 1. ควรเพิ่มจำนวนโครงกำรเพื่อติดตำมนักเรียนที่หลุดออกจำกระบบกำรศึกษำ ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบสารสนเทศทางการศึกษา เพ่ือช่วยแก้ไขปัญหาการ กลำงคัน เพ่ือหำแนวทำงชว่ ยเหลือให้เด็กนักเรียนดังกล่ำวให้มีโอกำสเข้ำศึกษำ ออกจากระบบการศึกษา ดำเนินกำรโดย 2 หน่วยงำนหลกั ได้แก่ ต่อเพ่ือกำรมีคุณภำพชีวิตที่ดีในอนำคต นอกจำกนี้ ควรเพิ่มโครงกำรจัดทำ 1. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการศึกษา สานักงานปลัดกระทรวง ฐำนข้อมูลเด็กนักเรียนด้อยโอกำสท่ัวประเทศให้ครบถ้วนไม่ตกหล่น เพื่อให้ ศึกษาธิการ (สป.อว.) ซึ่งบูรณำกำรฐำนข้อมูลทำงกำรศึกษำ จำนวน ภำครัฐ หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง หรือภำคเอกชน นำฐำนข้อมูลดังกล่ำวไปใช้ให้ 5 ฐำน จำกแหล่งขอ้ มลู ตำ่ ง ๆ อำทิ กระทรวงศึกษำธิกำร กระทรวงมหำดไทย กำรช่วยเหลือในกำรลดควำมเหล่ือมล้ำทำงกำรศึกษำ และโครงกำรสร้ำงกำร กระทรวงสำธำรณสขุ รวมถงึ กำรเชือ่ มโยงและแลกเปล่ียนข้อมูลกับหน่วยงำน เรียนรูต้ ลอดชีวิตใหบ้ คุ คลภำยนอกหรือประขำชนทั่วไปได้เข้ำถึงทรัพยำกรด้ำน ในและนอกสงั กัด และหนว่ ยงำนสนับสนนุ เช่น ภำคเอกชน กำรศึกษำของสถำบันอุดมศึกษำในพ้ืนที่ มีหลักสูตรท่ีเพ่ิมทักษะต่ำง ๆ 2. สานักงานกองทุนเพอื่ ความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่มุ่งเน้นพัฒนำ 379 (reskill/upskill) หรือกำรส่งเสรมิ วิทยำลัยชุมชนในพน้ื ที่ ระบบสำรสนเทศเพ่ือป้องกัน ติดตำม แก้ไขปัญหำเด็กออกจำกระบบ กำรศึกษำ และสนับสนุนกลไกกำรดำเนินงำนด้ำนควำมเสมอภำคทำง กำรศึกษำ ทั้งนี้ มีกำรตรวจสอบควำมถูกต้องของข้อมูลโดยกำรร่วมมือกับ กลไกของแต่ละจังหวัด และส่งต่อข้อมูลเด็กท่ีไม่มีตัวตนในระบบกำรศึกษำไป ใหเ้ ขตพนื้ ท่กี ำรศึกษำ เพื่อลงพน้ื ที่สำรวจข้อมูลในช่วงเปิดเทอมตอ่ ไป 2. หน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงมหำดไทยควรพิจำรณำผ่อนคลำย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน ได้ปรับปรุงแนวทำงกำรดำเนินโครงกำรจัด ข้อจำกัดกำรใช้งบประมำณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สำมำรถนำมำ กำรศึกษำแก่เด็กด้อยโอกำส สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และได้ขอควำม ช่วยในกำรพฒั นำเดก็ ยำกจนหรือด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำในท้องถนิ่ ได้ ร่วมมือจงั หวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีเข้ำร่วมโครงกำรจัดกำรศึกษำแก่ เด็กด้อยโอกำส สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือปฏิบัติตำมแนวทำงกำร ดำเนินโครงกำรดังกล่ำว ตำมหนังสือ ท่ี มท 0816.5/2930 ลงวันที่ 7 ธันวำคม 2564 กรมสง่ เสรมิ กำรปกครองทอ้ งถิน่ ถนนนครรำชสีมำ เขตดุสิต กทม. 10300

ข้อเสนอแนะเรง่ รดั แผนการปฏริ ปู ประเทศดา้ นการศกึ ษา กจิ กรรมปฏิรปู ท่ี 1 การสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษาตัง้ แตร่ ะดับปฐมวยั ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต 3. รัฐควรสนับสนุนกองทุนเพ่ือควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำ (กสศ.) และ ศธ. และ กสศ. สร้างเครือข่าย “ALL FOR EDUCATION ร่วมสร้าง หน่วยงำนต่ำง ๆ อย่ำงต่อเน่ืองและอย่ำงเพียงพอต่อจำนวนเด็กยำกจนและ หลักประกันโอกาสทางการศึกษา” ร่วมกับภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ด้อยโอกำส เพ่ือสร้ำงควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำ และเสนอเป็นแผนระยะยำว จำนวน 16 องคก์ ร ประกอบด้วย มูลนิธิตลำดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มูลนิธิ และดึงสถำนศึกษำ สถำบันอุดมศึกษำ และภำคเอกชน เข้ำมำมำมีส่วนร่วม พทุ ธรักษำ และมูลนิธิธนินท์ เทวี เจยี รวนนท์ มลู นิธิยวุ พฒั น์ มลู นธิ ิก้ำวคนละก้ำว ดำเนนิ กำร มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย มูลนิธิไทยพีบีเอส มูลนิธิเอสซีจี มูลนิธิเสริมกล้ำ เคพีเอม็ จี ประเทศไทย บรษิ ัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหำชน) บริษัท กลุ่ม เซ็นทรัล จำกัด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กร๊ปุ จำกดั (มหำชน) กลุ่มธุรกจิ TCP) และบรษิ ัท ยัม เรสเทอรองตส์ อนิ เตอร์เนช่ันแนล (ประเทศไทย) จำกัด เพ่ือป้องกันควำมเส่ียงท่ีควำมเหลื่อมล้ำ ทำงกำรศกึ ษำจะสงู ข้ึนหรือมีเดก็ หลุดออกนอกระบบกำรศึกษำเพ่มิ ข้ึน 380 4. กำรลดควำมเหล่ือมล้ำทำงกำรศึกษำ ไม่ควรให้เป็นภำรกิจหน้ำที่ ของกองทุน ในชว่ งท่ผี า่ นมามีการดาเนินงานเพื่อลดความเหล่อื มล้าทางการศกึ ษา ดังนี้ เพื่อควำมสมอภำคทำงกำรศึกษำแต่เพียงอย่ำงเดียว แต่ทุกภำคส่วนจะต้อง - วันที่ 8 ตุลาคม 2564 การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ช่วยเหลือกัน หำกพิจำรณำงบประมำณท่ีเกี่ยวข้องกับกำรลดควำมเหลื่อมล้ำมี (อว.) กองทุนเพื่อความสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ประชุม ปรำกฏอยู่ในทุกกระทรวง ซ่ึงมีงบประมำณจำนวนมำก จึงอำจนำงบประมำณ อธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่ประชุมคณะกรรมการอธิการบดี ดังกล่ำวมำช่วยลดควำมเหลอื มล้ำทำงกำรศกึ ษำได้อีกทำงหนง่ึ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และท่ีประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัย ราชภัฏ ได้ลงนำมในทำบันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือกำรสร้ำงหลักประกัน โอกำสทำงกำรศึกษำ เพ่ือเช่ือมโยงฐำนข้อมูล จำกอนุบำลถึงอุดมศึกษำ เพื่อให้เด็กที่อยำกเรียนต่อได้เรียนอย่ำงเต็มศักยภำพ และให้เด็กยำกจนที่ สอบผ่ำนระบบ TCAS64 ได้รับทนุ ช่วยเหลอื จำกมหำวิทยำลัย - วันท่ี 6 พฤศจิกายน 2564 กองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) องค์การยนู เิ ซฟ ประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ มูลนิธิโรงเรียน สตาร์ฟิชคันทรีโฮม สถาบันวิจัยเพ่ือการประเมินและออกแบบนโยบาย (RIPED) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และจังหวัดสมุทรสาคร จัดกำร

ขอ้ เสนอแนะเรง่ รดั แผนการปฏริ ปู ประเทศด้านการศึกษา กิจกรรมปฏิรูปที่ 1 การสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษาตงั้ แต่ระดับปฐมวัย ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สังเกต ประชุมสำนพลังควำมร่วมมือหน่วยงำนด้ำนกำรศึกษำ “ก้ำวไปด้วยกัน สู่ สมทุ รสำครโมเดล จงั หวัดต้นแบบลดควำมเหล่อื มลำ้ ฟ้ืนฟูกำรเรียนรู้เพ่ือเด็ก ทุกคน” เดินหน้ำพันธกิจฟ้ืนฟูกำรศึกษำไทย เปิดตัวโครงกำรวิจัยนำร่อง ฟืน้ ฟกู ำรเรียนร้ถู ดถอย ปอ้ งกนั เดก็ หลุดออกนอกระบบ ครอบคลมุ ทกุ มิติ - วนั ท่ี 13 ธันวาคม 2564 กสศ. ร่วมกับสานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัด ประชุมชี้แจงกำรดำเนินงำนโครงกำรพัฒนำระบบสำรสนเทศดูแลช่วยเหลือ นักเรียนระยะท่ี 2 ภำคเรียนท่ี 2 ปีกำรศึกษำ 2564 เพ่ือให้ทรำบถึงกรอบ แนวทำงกำรดำเนินงำนและกำรขยำยผลกำรทำงำนร่วมกันในกำรให้ควำม ชว่ ยเหลือแก่เด็กนักเรยี นผู้ขำดแคลนทนุ ทรัพย์และด้อยโอกำส 381 - 17 มกราคม 2565 สานักงานปลัดกระทรวง สานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พร้อมด้วย 11 หน่วยงาน ไดแ้ ก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวง วัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ สานักงานตารวจแห่งชาติ สานักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ กองอานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรุงเทพมหานคร และกองทุนเพอื่ ความเสมอภาคทางการศึกษา ได้ลงนำม ในบันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือโครงกำรส่งเสริมโอกำส ควำมเสมอภำคและ ควำมเทำ่ เทียมทำงกำรศกึ ษำ - วันที่ 4 กุมภาพนั ธ์ 2565 สานักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ (สปสช.) และกองทุนเพื่อความสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้ลงนำมในทำ บันทึกข้อตกลงควำมร่วมมือทำงวิชำกำรและกำรดำเนินงำนร่วมกัน เพ่ือ

ข้อเสนอแนะเรง่ รดั แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา กจิ กรรมปฏิรปู ที่ 1 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตงั้ แต่ระดบั ปฐมวัย ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต ช่วยเหลือเด็กยำกจนพเิ ศษ กลุม่ เปรำะบำงและครอบครับกว่ำ 5.2 ล้ำนคนให้ เข้ำสิทธิสวัสดิกำร ชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภำพ ควบคู่ไป กับโอกำสทำงกำรศึกษำอย่ำงครอบคลุมทว่ั ถึง กจิ กรรมปฏริ ูปที่ 2 การพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนสู่การเรยี นรฐู้ านสมรรถนะ เพอ่ื ตอบสนองการเปล่ียนแปลงในศตวรรษที่ 21 ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สังเกต หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องควรพิจำรณำรำยละเอียดของเป้ำหมำยและตัวช้ีวัดใน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มีกำร กิจกรรมกำรปฏิรูปท่ี 2 ท่ีมุ่งเน้นถึงกำรกำหนดให้มีกระบวนกำรจัดกำรเรียนกำร จัดทา (ร่าง) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ... (หลักสูตร สอนสู่กำรเรียนรู้ฐำนสมรรถนะแบบผู้เรียนสร้ำงควำมรู้ด้วยตนเอง มุ่งเน้น ฐานสมรรถนะ : Competency –based Curriculum) เป็นกรอบแนวทางให้ กระบวนกำรเรียนรู้แบบถักทอควำมรู้ ทักษะคุณลักษณะผู้เรียนเข้ำด้วยกันด้วย สถานศึกษาข้ันพื้นฐานนาไปจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา ให้มี ความสอดคล้องกับ 382 กำรลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) มีกำรวัดและประเมินผลเพ่ือพัฒนำ บริบทและจุดเน้นของสถานศึกษา รวมทั้งเป็นไปตามความสนใจและความถนัด ผู้เรียนในทุกมิติอย่ำงแท้จรงิ ตลอดจนมีกำรใช้เทคโนโลยที ำงกำรศึกษำที่เหมำะสม ของผู้เรียน เพ่ือนำไปสู่กำรปรับปรุงกำรเรียนกำรสอน ส่ือกำรเรียนกำรสอน กับผู้เรียนและควำมพร้อมเพ่ือให้กำรจัดกำรเรียนรู้ให้มีประสิทธิภำพสูงสุดโดย กำรวัดและประเมินผลท่ีเน้นสมรรถนะ และมุ่งเสริมสร้ำงควำมมั่นคงของสถำบัน จดุ เน้นของกำรจดั กำรศึกษำและกำรเรยี นร้แู ตล่ ะระดบั หลัก น้อมนำพระรำชปณิธำนและพระรำชกระแสด้ำนกำรศึกษำ ที่มีเน้ือหำ เก่ียวกับประวัติศำสตร์และสถำบันพระมหำกษัตริย์ มำพัฒนำกำรเรียนกำรสอน ให้เด็กและเยำวชนไทยทุกคนในระดับกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำนเกิดควำมปรองดอง และสมำนฉันท์ ให้มีสุขภำวะท่ีดีท้ังด้ำนกำย จิต สังคม และปัญญำ มีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้สามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้ ด้วยตนเองอย่างต่อเน่ือง มีศักยภาพ ความสามารถ และรู้ทันต่อการ เปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึน มีทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ มีทักษะด้าน เทคโนโลยี สามารถนาความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและคุณลักษณะต่าง ๆ ท่ีได้ เรียนร้ไู ปประยุกต์ใชใ้ นการทางาน และดารงชวี ติ ร่วมกบั ผู้อื่นในสังคมได้

กจิ กรรมปฏริ ปู ท่ี 3 การปฏริ ูปกลไกและระบบการผลติ และพัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาให้มีคณุ ภาพมาตรฐาน ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต 1. อุดมศึกษำทำหน้ำท่ีหลักในกำรผลิตครู จะต้องมีหลักสูตรท่ีคล่องตัวในกำร สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปล่ียนแปลงให้ทันสมัยกับโลกท่ีเปล่ียนแปลงไปอย่ำงรวดเร็ว และเน้นกำร จัดตั้งคณะทางานขับเคล่ือนโครงการ ร่วมกับสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ พัฒนำนักศึกษำครูให้เป็นครูที่เก่งในกำรจัดกำรเรียนรู้แบบต่ำงๆ และมีควำมดี ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย และได้จัดทำ (ร่ำง) แผนปฏิบัติกำร 4 แผน เพ่ือ ในอนำคต และควรดำเนินกำรผลิตครูโดยใช้บทเรียนจำกโครงกำรที่ประสบ ขับเคลื่อนกำรดำเนนิ โครงกำร ประกอบดว้ ย ควำมสำเร็จในอดีต มำใช้เป็นส่วนหนึ่งในกำรผลิตครูในปัจจุบัน เช่น โครงกำร 1. โครงกำรพัฒนำรูปแบบ/กระบวนกำรคัดเลือกบุคคลท่ีมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ครูคืนถ่ิน โครงกำรเพชรในตม เป็นต้น อุดมศึกษำควรมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำ เข้ำมำเรยี นครแู ละกำรพฒั นำเคร่ืองมอื วัดและประเมิน คุณลักษณะควำมเปน็ ครู ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำท่ีปฏิบัติหน้ำท่ีอยู่แล้วให้มีควำมรู้ควำมสำมำรถ 2. โครงกำรพัฒนำปรับปรุงหลักสูตรผลิตครูตำมสำขำวิชำและบริบทพ้ืนที่เพื่อสร้ำง มที ักษะในกำรจดั กำรเรยี นรแู้ ละกำรจดั ศึกษำให้มคี ณุ ภำพ ควำมเป็นเลิศ 3. โครงกำรพัฒนำระบบและกระบวนกำรบริหำรจัดกำรกระบวนกำรฝึกประสบกำรณ์ วชิ ำชพี ครูและระบบกำรนเิ ทศกำรศึกษำและกำรสอนงำนของครพู ่ีเลี้ยงในสถำนศึกษำ 4. โครงกำรพฒั นำอำจำรย์ประจำหลักสูตร 383 กจิ กรรมปฏริ ปู ท่ี 4 การจดั อาชีวศึกษาระบบทวภิ าคีและระบบอื่น ๆ ทีเ่ น้นการฝึกปฏบิ ัตอิ ย่างเตม็ รปู แบบนาไปสู่การจ้างงานและการสร้างงาน ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสงั เกต 1. กำรแพร่ระบำดของโรคติดเช้ือโควิด-19 ส่งผลให้สถำนศึกษำในสังกัดสำนักงำน สถานศกึ ษาในสังกัดสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท้ังสถานศึกษา คณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ ท้ังสถำนศึกษำของรัฐและเอกชนสถำน ของรัฐและเอกชน ที่ร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ได้ดาเนินการโดย ประกอบกำรบำงแห่งท่ีร่วมจัดกำรอำชีวศึกษำระบบทวิภำคีต้องปิดตัวลง ดังน้ัน การให้ผู้เรียนฝึกอาชีพในสถานที่ตั้ง เพ่ือควบคุมและไปตำมมำตรกำรกำร จึงควรดำเนินกำรโดยกำรให้ผู้เรียนฝึกอำชีพในสถำนที่ต้ัง เพ่ือควบคุมและไป ป้องกันและกำรแพร่ระบำดของเชื้อโควิด-19 ตำมประกำศ ของกระทรวงสำ ตำมมำตรกำรกำรป้องกันและกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตำม ธำรณำสุข อย่ำงเคร่งครัด เพ่ือสร้ำงควำมเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง และผู้เรียน ประกำศของกระทรวงสำธำรณสุขอย่ำงเคร่งครัดเพ่ือสร้ำงควำมเชื่อม่ันให้กับ ระบบทวภิ ำคี ผู้ปกครอง และผูเ้ รียนระบบทวิภำคี และกรณที ี่ยังคงต้องกำรเพ่ิมปริมำณผู้เรียน ควรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจ ส่งเสริมให้สถำนประกอบกำร ส่งพนักงำนมำเรียน ระบบทวภิ ำคีเพ่อื เพ่ิมสมรรถนะกำรปฏบิ ัติงำนให้ไดร้ บั วุฒิกำรศึกษำสูงขึน้

กจิ กรรมปฏริ ปู ที่ 4 การจัดอาชีวศกึ ษาระบบทวภิ าคีและระบบอ่นื ๆ ท่เี น้นการฝกึ ปฏบิ ัตอิ ย่างเต็มรปู แบบนาไปส่กู ารจ้างงานและการสรา้ งงาน ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสังเกต 2. พัฒนำระบบควำมร่วมมือกำรจัดอำชีวศึกษำระบบทวิภำคีและระบบอื่น ๆ ที่ สานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ดำเนินกำรพัฒนำระบบควำม เน้นกำรฝึกปฏิบัติอย่ำงเต็มรูปแบบ และเร่งสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือในกำร ร่วมมือกำรจัดกำรอำชีวศึกษำระบบทวิภำคีและระบบอ่ืน ๆ โดยมีกำร จัดอำชีวศึกษำระบบทวิภำคี และระบบอื่น ๆ ท่ีเน้นกำรฝึกปฏิบัติอย่ำงเต็ม ดำเนนิ งำน ดังน้ี รูปแบบโดยใช้พ้ืนที่เป็นฐำน รวมทั้งจัดระบบประกันคุณภำพผู้เรียนอำชีวศึกษำ 1. ได้มีการประกาศต้ังศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพื้นท่ี 15 แห่ง ลงวันที่ 17 ให้มคี วำมพรอ้ มเขำ้ สู่อำชพี มิถุนำยน 2564 เพ่ือผลิตและพัฒนำกำลังคนระดับกลำง และระดับ เทคโนโลยี รวมถึงด้ำนกำรจัดอำชีวศึกษำระบบทวิภำคี โดยสถำนศึกษำ อำชีวศึกษำหรือสถำบันกำรอำชีวศึกษำ ร่วมมือกับสถำนประกอบกำร รัฐวิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรัฐ ในกำรจัดกำรอำชีวศึกษำระบบทวิภำคี ร่วมกันเพื่อผลิตและพัฒนำกำลังคนให้มีคุณภำพท้ังทักษะ ควำมสำมำรถ และคุณธรรม จริยธรรม เพื่อตอบสนองควำมต้องกำรของภำคเอกชนท้ังใน และต่ำงประเทศทจี่ ะมำลงทนุ ในประเทศให้มำกยง่ิ ขน้ึ 384 2. เมอื่ วนั ท่ี 8 กรกฎำคม 2564 ได้มีการจัดประชุมมอบนโยบายแนวทาง และการ ขบั เคลอื่ นศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพ้ืนท่ี โดยมีผู้บริหำรศูนย์อำชีวศึกษำทวิ ภำคีเขตพื้นที่ และผู้เกี่ยวข้อง เข้ำรับนโยบำยและแนวทำงกำรขับเคล่ือน จำก เลขำธิกำรคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ และผู้บริหำรระดับสูงสำนักงำน คณะกรรมกำรอำชวี ศึกษำ ในรปู แบบออนไลน์ 3. แต่งต้ังผู้อานวยการศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคี เขตพ้ืนที่ จานวน 15 แห่ง ลงวันที่ 1 กันยำยน 2564 เพ่ือให้กำรดำเนินงำนศูนย์อำชีวศึกษำทวิภำคีเขต พื้นท่ี ขบั เคลอ่ื นไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ 4. วนั ท่ี 8 กรกฎำคม 2564 เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (นายสุ เทพ แก่งสันเทียะ) มอบนโยบายแนวทางและการขับเคลื่อนศูนย์ อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพ้ืนที่ ในโครงสร้ำงและอำนำจหน้ำท่ีของศูนย์ อ ำ ชี ว ศึ ก ษ ำ ท วิ ภ ำ คี เ ข ต พ้ื น ท่ี ข อ ง แ ต่ ล ะ ฝ่ ำ ย ใ น ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ เพ่อื ประสำนควำมรว่ มมอื กับสถำนประกอบกำรและหนว่ ยงำนที่เกี่ยวขอ้ ง

กิจกรรมปฏิรูปท่ี 4 การจดั อาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคีและระบบอ่นื ๆ ที่เน้นการฝึกปฏบิ ัตอิ ย่างเต็มรูปแบบนาไปสูก่ ารจา้ งงานและการสรา้ งงาน ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกต 5. สอศ. ได้กาหนดให้ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพ้ืนท่ี จัดทากรอบคู่มือการ ดาเนินงาน ของศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคี เพื่อเป็นแนวทำงกำรดำเนินงำน ของศนู ย์อำชีวศึกษำทวิภำคเี ขตพื้นท่ี กิจกรรมปฏิรปู ที่ 5 การปฏิรูปบทบาทการวจิ ยั และระบบธรรมาภบิ าลของสถาบนั อุดมศึกษาเพื่อสนับสนนุ การพฒั นาประเทศไทยออกจากกับดกั รายไดป้ านกลาง อย่างย่ังยืน ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต 1. แพลตฟอร์มกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ที่เป็นของไทยเอง เช่น โครงกำรMOOC โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย ภายใต้การกากับของสานักงาน นั้นกระทรวงควรเป็นผู้รับผิดชอบหลัก แล้วทำหน้ำท่ีประสำนมหำวิทยำลัยให้มี ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีกำร ควำมร่วมมือกับหน่วยงำนหรือผู้เชี่ยวชำญท่ีอยู่ในด้ำนน้ันโดยตรงมำเป็น ให้บริกำร Platform Thai MOOC LMS ผ่ำนทำงเว็บไซต์ https://thai 385 วิทยำกรสอนออนไลน์ เช่น ให้เจ้ำพนักงำนสรรพำกรเป็นผู้สอนเก่ียวกับกำรคิด mooc.org เพ่ือให้นักศึกษำ ข้ำรำชกำร บุคลำกรภำครัฐ เอกชน และประชำชน คำนวณภำษีเงินได้ ซึ่งจะมีควำมรู้ควำมเช่ียวชำญโดยตรงมำกกว่ำอำจำรย์ใน ทุกระดับทีส่ นใจได้เข้ำมำศกึ ษำและเรียนรู้ โดยมีกำรพัฒนำและจัดกำรเรียนกำร สถำบันอุดมศึกษำ โดยมีมำตรกำรจูงใจให้แก่วิทยำกรผู้ทรงคุณวุฒินอก สอนออนไลน์รว่ มกับมหำวิทยำลยั หนว่ ยงำนของรฐั และเอกชน ซึ่งมีองค์ควำมรู้ สถำบนั อดุ มศึกษำเปน็ กำรตอบแทนด้วย และควำมเชี่ยวชำญ จำนวนมำกกว่ำ 120 หน่วยงำน รวมทั้งได้ทำควำมร่วมมือ กบั ต่ำงประเทศในกำรนำรำยวิชำที่ได้รับควำมนิยมจำก MOOC ต่ำงประเทศมำ ให้บริกำรด้วย โดยปัจจุบันมีรำยวิชำออนไลน์ จำนวนมำกกว่ำ 500 รำยวิชำ ครอบคลุมเนื้อหำเกือบทุกสำขำวิชำชีพ ซึ่งมีจำนวนผู้เรียนมำกถึง 1,210,000 คน และมีผู้เรียนจบจนได้รับใบประกำศนียบัตรมำกกว่ำ 1,010,000 ใบ และ ปัจจุบันอยู่ระหว่ำงกำรร่วมมือกับสถำบันคุณวุฒิวิชำชีพและสถำบันกำรศึกษำ ต่ำง ๆ เพ่ือพัฒนำรำยวิชำส่งเสริมศักยภำพกำรทำงำน Up-Skill, Re-Skill 2. สถำบนั อุดมศึกษำควรสร้ำงควำมสมดุลระหว่ำงกำรวิจัยทำงวิทยำศำสตร์กับกำร สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มี วจิ ยั ที่ไม่ใชว่ ิทยำศำสตร์ (non-science) คขู่ นำนกันไป กำรสนับสนุนงำนวิจัยเพื่อส่งเสริมกำรพัฒนำประเทศออกจำกประเทศรำยได้

กิจกรรมปฏิรูปท่ี 5 การปฏริ ูปบทบาทการวจิ ัยและระบบธรรมาภบิ าลของสถาบนั อดุ มศึกษาเพ่ือสนับสนุนการพฒั นาประเทศไทยออกจากกับดกั รายไดป้ านกลาง อยา่ งย่ังยนื ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกต ปำนกลำงได้อย่ำงยั่งยืน ซึ่งมีกำรจัดทำกรอบนโยบำยและกลยุทธ์ในกำรพัฒนำ งำนวิจัยและกำรพัฒนำกำลังคน เพื่อให้เกิดกำรขับเคลื่อนกำรดำเนินงำนไป ด้วยกัน โดยจะได้มกี ำรประกำศไปยังมหำวิทยำลัยทกุ แหง่ ต่อไป 3. ภำคส่วนที่เก่ียวข้องควรแก้ไขปัญหำธรรมำภิบำลของสถำบันอุดมศึกษำอย่ำง สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มี จริงจังและเป็นรูปธรรม โดยกำหนดเป็นยุทธศำสตร์ธรรมำภิบำลเชิงรุกให้มำก กำรจัดทำ (ร่ำง) ธรรมำภิบำลอุดมศึกษำ โดยมีกำรระบุกระบวนกำรดำเนินกำร ข้นึ โดยต้องสร้ำงควำมตอ่ เนอ่ื งเชงิ นโยบำยดว้ ย หลักเกณฑ์กำรพิจำรณำ และอำนำจหน้ำที่ในกำรดำเนินกำรจัดกำรปัญหำท่ี เกิดขึ้นอย่ำงชัดเจน เพ่ือให้เม่ือนำไปบังคับใช้แล้วสำมำรถดำเนินกำรได้อย่ำง รวดเรว็ และจดั กำรกบั ปญั หำไดอ้ ย่ำงทนั ถ่วงที 386

13. ดา้ นวฒั นธรรม กฬี า แรงงาน และการพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์ : ผลการดาเนินงานตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธกิ ารตอ่ รายงานสรปุ ผลการศึกษาวิเคราะห์ รายงานความคืบหน้าในการดาเนนิ การตามแผนการปฏิรปู ประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญฯ ความคืบหน้าที่รัฐสภาให้ความสนใจเป็นพเิ ศษ กจิ กรรมปฏริ ูปที่ 1 การส่งเสริมคณุ ธรรม จริยธรรมในทุกช่วงวัย : ผ่านการปฏริ ูป อตุ สาหกรรมบนั เทิงและการใช้กลไกร่วมระหวา่ งภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อน ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต 1. ควรกำหนดเปำ้ หมำยโดยระบุเป็นเปำ้ หมำยเชงิ คุณภำพและเปำ้ หมำยเชิงปริมำณ เป้ำหมำยของกิจรรมปฏิรูป คือ คนไทยมีคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยมในกำรอยู่ รวมทั้งกำหนดค่ำตั้งตัน (Baseline) ให้ชัดเจน เพื่อให้เห็นถึงกำรเปล่ียนแปลง ร่วมกันอย่ำงสันติสุข โดยมีตัวชี้วัด คือ ดัชนีคุณธรรม 5 ประกำรประกอบด้วย ที่จะเกดิ ขนึ้ อยำ่ งมีนัยสำคัญ ควำมมีวินัย ควำมพอเพียง ควำมซื่อสัตย์สุจริต มีจิตอำสำ และมีควำมกตัญญู รู้คุณ โดยในปี 2564 จำกสถำนกำรณ์คุณธรรมของคนไทยวัยทำงำน ช่วงอำยุ 25-40 ปี ประจำปี 2564 ท่ีจัดทำโดยศูนย์คุณธรรม ผลสำรวจทั้ง 5 ด้ำนส่วน ใหญ่ค่ำเฉล่ียอยใู่ นระดบั มำก (4.51-5.50 จำกคำ่ เฉล่ยี เต็ม 6.00) โดยพบว่ำ ด้ำน ควำมมีวินัยรับผิดชอบเป็นด้ำนท่ีมีค่ำเฉลี่ยต่ำที่สุด คืออยู่ที่ค่ำเฉล่ีย 4.18 ซ่ึงจัด อยู่ในระดับปำนกลำง ส่วนในด้ำนอ่ืนๆ ได้แก่ ด้ำนควำมพอเพียง ด้ำนควำม 387 กตัญญู ด้ำนสุจริต และดำ้ นจิตอำสำ มีคะแนนเฉลี่ย 4.61/5.11/4.49 และ 4.77 ตำมลำดับ ซ่ึงจัดอยู่ในระดับมำก อย่ำงไรก็ตำมในปี 2564 มีค่ำต้ังตัน (Baseline) เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในปี 2565 จะสำมำรถเห็นถึงกำรเปล่ียนแปลง ที่เกิดขึ้นอย่ำงมีนัยสำคัญได้อย่ำงเป็นรูปธรรม ซ่ึงมีกำรกำหนดค่ำเป้ำหมำยไว้ คือ เพ่มิ ข้ึนร้อยละ 10 จำกปีฐำน 2. ควรเพ่ิมกิจกรรมในแต่ละโครงกำรให้มีควำมหลำกหลำย เพ่ือเพ่ิมโอกำสในกำร หน่วยงำนผู้รับผิดชอบหลักและหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องได้มีกำรขับเคลื่อนกำร บรรลุผลสัมฤทธ์ิตำมที่กำหนดไว้ในเป้ำหมำยย่อย โดยกิจกรรมท่ีเพ่ิมข้ึนใหม่นี้ ดำเนินกำรเพ่ือขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปดังกล่ำวอย่ำงต่อเนื่อง โดยได้มีกำรบูรณำ ควรเนน้ กำรบูรณำกำรกำรทำงำนร่วมกนั ระหว่ำงหน่วยงำนต่ำง ๆ และกำรมีส่วน กำรกำรดำเนินกำรร่วมกับหน่วยงำน และภำคีกำรพัฒนำต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมของประชำชนให้มำกยงิ่ ข้นึ ผ่ำนโครงกำรต่ำง ๆ อำทิ โครงกำรสมัชชำคุณธรรม 3 และโครงกำรสื่อสร้ำงสรรค์ ด้ำน คุณธรรม อวอร์ด อย่ำงไรก็ตำม เพ่ือให้กำรขับเคล่ือนกำรดำเนินกำรเกิดผล สัมฤทธิ์ได้อย่ำงเป็นรูปธรรม คณะกรรมกำรปฏิรูปประเทศด้ำนวัฒนธรรม กีฬำ แรงงำน และกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์จะนำประเด็นข้อเสนอแนะดังกล่ำวไป ประสำนกับหนว่ ยงำนทเี่ กี่ยวขอ้ งในกำรขบั เคลื่อนกำรดำเนินกำรต่อไป

ความคืบหนา้ ที่รัฐสภาใหค้ วามสนใจเปน็ พเิ ศษ กจิ กรรมปฏริ ูปท่ี 1 การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมในทุกช่วงวัย : ผ่านการปฏิรูป อุตสาหกรรมบันเทิงและการใช้กลไกร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อน ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต 3. ควรสร้ำงระบบกำรมีส่วนร่วมของท้ังภำครัฐ ภำคเอกชน และภำคประชำชน เนื่องจำกประเด็นเครดิตสังคม (Social Credit) เป็นประเรื่องใหม่ในสังคมไทย ในกำรร่วมกันขับเคล่ือนกลไกระบบเครดิตสังคม (Social Credit) ในระดับพื้นที่ โดยศูนย์คุณธรรม (องค์กำรมหำชน) อยู่ระหว่ำงดำเนินกำรศึกษำแนวคิดและ ใหเ้ กดิ ควำมย่ังยนื ควำมเป็นไปได้ในกำรปรับใช้กลไกระบบเครดิตสังคม(Social Credit) ดำเนิน กำรศกึ ษำ เพ่อื เป็นข้อมูลในกำรขับเคล่ือนเครดิตสังคมในประเทศไทย อย่ำงไรก็ ตำม เพื่อให้กำรขับเคลื่อนกำรดำเนินกำรเกิดผลสัมฤทธ์ิได้อย่ำงเป็นรูปธรรม คณะกรรมกำรปฏิรูปประเทศด้ำนวัฒนธรรม กีฬำ แรงงำน และกำรพัฒนำ ทรพั ยำกรมนุษย์ จะนำประเด็นข้อเสนอแนะดังกล่ำวไปประสำนกับหน่วยงำนท่ี เกีย่ วข้องในกำรขับเคลอื่ นกำรดำเนินกำรต่อไป 4. ควรส่งเสริมบทบำทของส่ือที่สะทอ้ นคำนยิ ม \"คณุ ธรรมจริยธรรม\" ท้ัง 5 ประกำร ศูนย์คุณธรรมได้มีกำรจัดกิจกรรม ยกย่อง เชิดชู ส่ือออนไลน์ที่ผลิตและ และส่ือวัฒนธรรมของแต่ละพนื้ ท่ีใหเ้ ป็นที่รับรู้ในวงกวำ้ งยง่ิ ข้ึน สร้ำงสรรคผ์ ลงำน อนั เป็นกำรสง่ เสริมกำรเรียนรู้ท่ีเปน็ ประโยชน์ต่อสังคม โดยใน 388 ปี 2564 อยู่ระหว่ำงดำเนินประชำสัมพันธ์ส่ือสร้ำงสรรค์คุณธรรมอวอร์ด ปี 2564 (Moral Media Awards 2021) อย่ำงไรก็ตำม เพ่ือให้กำรขับเคล่ือนกำร ดำเนนิ กำรเกดิ ผลสัมฤทธิ์ไดอ้ ย่ำงเปน็ รปู ธรรม คณะกรรมกำรปฏิรูปประเทศด้ำน วัฒนธรรม กีฬำ แรงงำน และกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ จะนำประเด็น ข้อเสนอแนะดังกล่ำวไปประสำนกับหน่วยงำนที่เก่ียวข้องในกำรขับเคล่ือนกำร ดำเนินกำรต่อไป กิจกรรมปฏริ ูปที่ 2 การพฒั นาการเรยี นร้แู ละเศรษฐกิจชุมชนบนฐานวัฒนธรรมแบบบรู ณาการ ขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามขอ้ สงั เกต 1. ควรกำหนดเป้ำหมำยโดยระบุเป็นเป้ำหมำยเชิงคุณภำพและเป้ำหมำยเชิง เป้ำหมำยของกจิ รรมปฏิรปู ประกอบด้วย 2 เป้ำหมำย ได้แก่ ปริมำณ รวมท้ังกำหนดค่ำตั้งตัน (Baseline) ให้ชัดเจน เพ่ือให้เห็นถึงกำร 1. เป้ำหมำย : พัฒนำศักยภำพแหล่งเรียนรู้ทำงศิลปวัฒนธรรมต้นแบบท้ังใน เปลย่ี นแปลงทีจ่ ะเกิดข้นึ อย่ำงมนี ยั สำคัญ ส่วนกลำงและส่วนภูมิภำคอย่ำงท่ัวถึง เพ่ือให้มีสถำนท่ีเผยแพร่องค์ควำมรู้ ดังต้นแบบของ Musuem Siam และ TK Park โดยในปี 2564 ได้มีกำร

กจิ กรรมปฏิรูปที่ 2 การพัฒนาการเรยี นรแู้ ละเศรษฐกิจชมุ ชนบนฐานวัฒนธรรมแบบบรู ณาการ ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามข้อสงั เกต กำหนดค่ำเป้ำหมำย จำนวนกำรพัฒนำแหล่งเรียนรู้ต้นแบบไม่น้อยกว่ำ 6 แห่ง ซง่ึ ได้บรรลุเปำ้ หมำยทก่ี ำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว อย่ำงไรก็ตำมในปี 2564 มีค่ำต้ังตัน (Baseline) เรียบร้อยแล้ว ดังน้ันในปี 2565 จะสำมำรถเห็นถึง กำรเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นอย่ำงมีนัยสำคัญได้อย่ำงเป็นรูปธรรม ซ่ึงมีกำร กำหนดคำ่ เป้ำหมำยไว้ คือ เพิม่ เปน็ 15 แห่ง 2. เป้ำหมำย: ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนบนฐำนวัฒนธรรม โดยมีตัวชี้วัด คือ มูลค่ำทำงเศรษฐกิจด้ำนวัฒนธรรม ซึ่งในปี 2564 กระทรวงวัฒนธรรมอยู่ ระหว่ำงกำรจัดทำข้อมูลปีฐำนของมูลค่ำเศรษฐกิจด้ำนวัฒนธรรม ท้ังน้ี หำก ดำเนินกำรจัดทำแล้วเสร็จจะสำมำรถมีค่ำต้ังตัน (Baseline) เพื่อให้ในปี 2565 สำมำรถเหน็ ถงึ กำรเปลยี่ นแปลงทเี่ กดิ ข้นึ อยำ่ งมนี ัยสำคัญต่อไป 3. กำรเพมิ่ กจิ กรรมในแตล่ ะโครงกำรให้มีควำมหลำกหลำย เพ่ือเพ่ิมโอกำสในกำร หน่วยงำนผู้รับผิดชอบหลักและหน่วยงำนที่เก่ียวข้องได้มีกำรขับเคลื่อนกำร 389 บรรลุผลสัมฤทธิ์ตำมท่ีกำหนดไว้ในเป้ำหมำยย่อย โดยกิจกรรมที่เพ่ิมขึ้นใหม่น้ี ดำเนินกำรเพ่ือขับเคล่ือนกิจกรรมปฏิรูปดังกล่ำว โดยได้มีกำรบูรณำกำรกำร ควรเน้นกำรบูรณำกำรกำรทำงำนร่วมกันระหว่ำงหน่วยงำนต่ำง ๆ และกำรมี ดำเนินกำรร่วมกับหน่วยงำน และภำคีกำรพัฒนำต่ำง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง อำทิ ส่วนร่วมของประชำชนใหม้ ำกย่งิ ขึ้น โครงกำรมิวเซียมติดล้อและรวบรวมข้อมูลประวัติศำสตร์ท้องถ่ิน โครงกำร สนับสนุนกำรพัฒนำห้องสมุดมีชีวิตในโรงเรียนพื้นที่ห่ำงไกล อย่ำงไรก็ตำม เพื่อให้กำรขับเคล่ือนกำรดำเนินกำรเกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่ำงเป็นรูปธรรม คณะกรรมกำรปฏิรูปประเทศด้ำนวัฒนธรรม กีฬำ แรงงำน และกำรพัฒนำ ทรัพยำกรมนุษย์จะนำประเด็นข้อเสนอแนะดังกล่ำวไปประสำนกับหน่วยงำนที่ เกยี่ วขอ้ งในกำรขบั เคลอื่ นกำรดำเนินกำรต่อไป 4. ควรสร้ำงระบบกำรมีส่วนร่วมของทั้งภำครัฐ ภำคเอกชน และภำคประชำชน หน่วยงำนผู้รับผิดชอบหลักและหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องได้มีกำรขับเคลื่อนกำร โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงปรำชญ์ชำวบ้ำนที่มีองค์ควำมรู้ในด้ำนศิลปวัฒนธรรมและ ดำเนินกำรเพ่ือขับเคล่ือนกิจกรรมปฏิรูปดังกล่ำว โดยได้มีกำรบูรณำกำรควำม นักวิชำกำรด้ำนโบรำณคดีซึ่งกรมศิลปำกรสำมำรถบูรณำกำรร่วมกับกระทรวง ร่วมมือระหว่ำงภำคส่วนต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นภำครัฐ ภำคเอกชน ภำคประชำ อุดมศึกษำ วิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเพ่ือถ่ำยทอดภูมิปัญญำตังกล่ำว สังคม ภำคประชำชน โดยมีกำรดำเนินโครงกำร อำทิ โครงกำรพัฒนำ ผ่ำนระบบกำรเรียนรู้ Thai Mooc เพื่อให้เข้ำถึงกลุ่มคนในกลุ่มเยำวชนได้ง่ำย แพลตฟอร์มกำรเรียนรู้สำธำรณะรูปแบบใหม่ของประเทศ แหล่งเรียนรู้

กจิ กรรมปฏิรูปที่ 2 การพัฒนาการเรยี นรูแ้ ละเศรษฐกิจชุมชนบนฐานวัฒนธรรมแบบบรู ณาการ ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินงานตามข้อสงั เกต ย่ิงข้ึน รวมท้ังยังสำมำรถร่วมกันสร้ำงย่ำนเศรษฐกิจวัฒนธรรม และให้สินค้ำ ศิลปวัฒนธรรมในรูปแบบ Application บน Android และ iOS และโครงกำร ทำงวัฒนธรรมมีระบบจัดกำรองค์ควำมรู้อย่ำงมั่นคง และมีระบบตลำดที่สร้ำง พฒั นำศักยภำพถนนสำยวัฒนธรรมเพื่อต่อยอดทุนทำงวัฒนธรรม อย่ำงไรก็ตำม ควำมยง่ั ยนื ใหผ้ ลติ ภณั ฑ์ เพ่ือให้กำรขับเคลื่อนกำรดำเนินกำรเกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่ำงเป็นรูปธรรม คณะกรรมกำรปฏิรูปประเทศด้ำนวัฒนธรรม กีฬำ แรงงำน และกำรพัฒนำ ทรัพยำกรมนุษย์จะนำประเด็นข้อเสนอแนะดังกล่ำวไปประสำนกับหน่วยงำนท่ี เก่ียวขอ้ งในกำรขบั เคลื่อนกำรดำเนินกำรต่อไป กิจกรรมปฏิรูปที่ 3 การส่งเสริมประชาชนเป็นศนู ย์กลางในการสรา้ งวถิ ชี ีวติ ทางการกีฬาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และการสรา้ งโอกาสทางการกฬี าและการ พฒั นานักกีฬา ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สงั เกต 390 กำรกำหนดกิจรรมกำรปฏิรูปที่ส่งผลให้เกิดกำรเปล่ียนแปลงต่อประชำชนอย่ำงมี คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ธันวำคม 2564 มีมติเห็นชอบร่ำงพระรำชกำหนด นัยสำคัญ (Big Rock) ด้ำนกฬี ำ ถือไดว้ ่ำมีควำมเหมำะสมและมีควำมครอบคลุมทุก แก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติควบคุมกำรใช้สำรต้องห้ำมทำงกำรกีฬำ พ.ศ. ด้ำน แต่ยังขำดประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับกำรใช้สำรต้องห้ำมทำงกำรกีฬำ ซึ่งเป็น 2555 พ.ศ. 2564 เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักกำรที่กำหนดไว้ใน WADA Code ปัญหำตำมทีอ่ งค์กรต่อต้ำนกำรใช้สำรต้องห้ำมโลก (World Anti-Doping Agency และมำตรฐำนสำกล ซงึ่ มผี ลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวำคม 64 เป็นต้นไป โดย : WADA) ประกำศไม่ให้กำรรับรองประเทศไทย เน่ืองจำกไม่ปฏิบัติตำมกฎของวำ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ประสานไปยัง WADA เพ่ือช้ีแจงการ ดำ ท่ีต้องกำรให้แยกหน่วยงำนตรวจสำรกระตุ้นเป็นอิสระ ซึ่งจะส่งผลต่อกำรเข้ำ แก้ไขปัญหาข้อกฎหมายของประเทศไทยที่ได้ดาเนินการเป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว ร่วมกำรแขง่ ขนั กีฬำระดับนำนำชำติ และกำรเป็นเจ้ำภำพจัดกำรแข่งขันกีฬำระดับ ซึ่งคณะกรรมกำรพิจำรณำทบทวนกำรปฏิบัติตำมกฎของ WADA ได้ตัดสินโดย นำนำชำติ ทั้งระดับภูมิภำค ทวีป หรือระดับโลก ตลอดจนกำรควบคุมกำรใช้สำร กำรเวียนให้มีกำรลงคะแนน ซ่ึงส้ินสุดเมื่อวันที่ 2 กุมภำพันธ์ 2565 และมีมติให้ ต้องห้ำมทำงกำรกีฬำ ซง่ึ เป็นส่งิ สำคญั ท่ตี ้องรบี ดำเนนิ กำรอย่ำงเร่งด่วนอกี ด้วย Doping Control Agency of Thailand (DCAT) ได้รับการปลดออกจาก รายช่อื ผูท้ ไี่ ม่ปฏิบัตติ ามกฎของ WADA โดยมีผลทันที

กจิ กรรมปฏริ ปู ท่ี 4 การพัฒนาระบบการบริหารจดั การกาลงั คนของประเทศแบบบูรณาการ ข้อเสนอแนะ ผลการดาเนนิ งานตามขอ้ สังเกต กิจกรรม Big Rock หลำยกิจกรรม จำเป็นต้องอำศัยระยะเวลำในกำรดำเนินงำน การติดตามการดาเนินการของโครงการภายใต้ พ.ร.ก.ในส่วนของแผนการ และควำมร่วมมือจำกหลำยภำคสว่ น ทำใหเ้ ร่งดำเนินกำรให้สำเรจ็ ภำยในระยะเวลำ ฟ้ืนฟเู ศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท สามารถติดตามการดาเนินฯ ได้ จำกัดเป็นไปได้ยำก ในขณะที่สถำนกำรณ์วิกฤติกำรณ์ท้ังด้ำนเศรษฐกิจและโรค ท่ี เว็บไซต์ ThaiME หรือ http://thaime.nesdc.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ ระบำดของประเทศไทยในปัจจุบันจำเป็นต้องให้ควำมสำคัญกับกิจกรรมที่สำมำรถ สำหรับกำรเบิกจ่ำยของโครงกำรของเงินกู้ตำม พ.ร.ก.ในส่วนของแผนกำรฟ้ืนฟู เห็นผลได้ในระยะสั้นเพื่อรองรับประซำกรทุกกลุ่มท่ีได้รับผลกระทบดังกล่ำว ซึ่ง เศรษฐกิจและสงั คม 400,000 ล้ำนบำท หลังจำกทีส่ ่วนรำชกำรได้เสนอโครงกำร นอกจำกมำตรกำรช่วยเหลือและเยียวยำจำกทำงภำครัฐแล้ว ควำมคืบหน้ำของ เข้ำมำ โดยจะมกี ำรเชื่อมโยงข้อมลู รำยละเอยี ดกำรดำเนินกำรของโครงกำรไปยัง ประเด็นท่ีรัฐสภำควรให้ควำมสนใจเป็นพิเศษ คือ กำรติดตำมและเร่งรัดกำร ระบบระบบติดตำมและประเมินผลแห่งชำติ (Electronic Monitoring and ดำเนินงำนของโครงกำรต่ำง ๆ ภำยใต้โครงกำรเงินกู้กรอบวงเงิน 4 แสนล้ำนบำท Evaluation System of National Strategy and Country Reform : ท่ีนำมำใช้สำหรับฟ้ืนฟูเศรษฐกิจและสังคมจำกผลกระทบจำกโรคติดเชื้อโควิด-19 eMENSCR) อย่ำงไรก็ตำม กำรติดตำมและเร่งรัดกำรดำเนินงำนของโครงกำร ซ่ึงมีหลำยโครงกำรท่ีส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มแรงงำนในตลำดแรงงำน และ ภำยใต้โครงกำรเงินกู้กรอบวงเงิน 400,000 ล้ำนบำท ท่ีนำมำใช้สำหรับฟื้นฟู กลุ่มแรงงำนคนื ถนิ่ อันเน่ืองจำกผลกระทบของโรคติดเชื้อโควดิ -19 เศรษฐกิจและสังคมจำกผลกระทบจำกโรคติดเชื้อโควิด-19 ซ่ึงในส่วนของ โครงกำรท่ีส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มแรงงำนในตลำดแรงงำน และกลุ่ม 391 แรงงำนคืนถ่ินอันเนื่องจำกผลกระทบของโรคติดเช้ือโควิด-19 น้ัน ไม่ได้มีส่วน เกย่ี วข้องกบั กจิ กรรมปฏิรูปที่ 4 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการกาลังคน ของประเทศแบบบูรณาการแต่อย่างใด




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook