บทนา ความนา การศึกษาของประเทศไทยใหค้ วามสาคญั กบั การพฒั นาคุณภาพของเดก็ ไทยโดยสะทอ้ น จากการพฒั นาการจดั การศึกษาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงศึกษาธิการเห็นความสาคญั ของการปฏิรูป การศึกษาเพ่ือให้นาไปสู่การปฏิบตั ิท่ีชดั เจนยิ่งข้ึนโดยเฉพาะการปฏิรูปครู ปฏิรูปโรงเรียนและปฏิรูป ระบบบริหารจดั การศึกษา ท้งั น้ีในประเด็นของหลกั สูตรไดเ้ นน้ การพฒั นาหลกั สูตรการเรียนการสอน และการบริหารจดั การ เพ่ือใหค้ นรุ่นใหม่เกิดกระบวนการคิดอยา่ งมีระบบและแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นเหตุเป็ น ผลรวมท้งั การพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม การสร้างระเบียบวินยั การมีจิตสานึก ความรับผดิ ชอบต่อสังคม การยึดมนั่ ในสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และความภาคภูมิใจในการเป็ นคนไทย ซ่ึงจะนาไปสู่ การพฒั นาและยกระดับคุณภาพของสังคมไทยในอนาคต แนวคิดดงั กล่าว คือ การพฒั นาความเป็ น พลเมืองไทยและพลเมืองโลกในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็ นประมุข ซ่ึงเป็ น วิสัยทัศน์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ นอกจากน้ีในการจัด การศึกษาของโลกมีแนวโน้มเกิดการเปลี่ยนแปลงในมิติดา้ นเน้ือหาและการเรียนรู้ เช่น การส่งเสริมการ พฒั นาดา้ นทกั ษะการรู้เท่าทนั ทกั ษะชีวิต (Life Skills)การบูรณาการในลกั ษณะสหวทิ ยาการรวมท้งั มีการ เนน้ วชิ าการศึกษา เพ่ือความเป็นพลเมือง (Citizenship Education) กอปรกบั ในขณะน้ีมีนโยบายดา้ นการเรียนการสอนวิชาประวตั ิศาสตร์และหนา้ ท่ีพลเมือง ของ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ที่ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในชาติไดม้ ีความรู้ความ เขา้ ใจในเรื่องประวตั ิศาสตร์ความเป็ นไทย รักชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริยแ์ ละเป็ น พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นประมุข มีความปรองดองสมานฉนั ท์ เพ่ือสันติสุขในสังคมไทยและกาหนดค่านิยมหลกั ๑๒ ประการ เพ่ือสร้างคนไทยท่ีเขม้ แข็งนาไปสู่การ สร้างสรรคป์ ระเทศไทยใหเ้ ขม้ แขง็ ดงั น้ี ๑. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ซ่ึงเป็นสถาบนั หลกั ของชาติในปัจจุบนั ๒. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งท่ีดีงามเพอื่ ส่วนรวม ๓. กตญั ญูตอ่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครูบาอาจารย์ ๔. ใฝ่ หาความรู้ หมน่ั ศึกษาเล่าเรียนทางตรงและทางออ้ ม ๕. รักษาวฒั นธรรมไทย ประเพณีอนั ดีงาม ๖. มีศีลธรรม รักษาความซ่ือสัตย์ หวงั ดีตอ่ ผอู้ ื่น เผอื่ แผแ่ ละแบง่ ปัน ๗. เขา้ ใจการเรียนรู้ การเป็นประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขที่ถูกตอ้ ง ๘. มีระเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย รู้จกั ผนู้ อ้ ย รู้จกั เคารพผใู้ หญ่ ๙. มีสติ รู้ตวั รู้คิด รู้ทา รู้ปฏิบตั ิตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั
๑๐. รู้จกั ดารงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยหู่ วั รู้จกั อดออมไวใ้ ชเ้ มื่อยามจาเป็น มีไวพ้ อกินพอใช้ ถา้ เหลือกแ็ จกจาหน่ายและขยายกิจกรรม เม่ือมีความพร้อมโดยมีภูมิคุม้ กนั ท่ีดี ๑๑.มีความเขม้ แข็งท้งั ร่างกายและจิตใจไม่ยอมแพต้ ่ออานาจฝ่ ายต่า หรือกิเลสมีความละอายเกรง กลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา ๑๒. คานึงถึงผลประโยชนข์ องส่วนรวมและตอ่ ชาติมากกวา่ ประโยชน์ของตน โรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐานตระหนกั ถึงความสาคญั ของการพฒั นาการศึกษาไทยใน ประเด็นของการพฒั นาการเรียนการสอนหน้าท่ีพลเมืองในฐานะที่เป็ นกลไกในการเตรียมพลเมือง ของชาติไปสู่การเป็ นพลเมืองที่มีประสิทธิภาพ นอกจากจะมีการกาหนดสาระหนา้ ท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนินชีวติ ในสังคมในกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมแลว้ และเพื่อพฒั นาผูเ้ รียน ให้มีความรู้ทกั ษะ เจตคติและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคส์ อดคลอ้ งกบั นโยบายการพฒั นาการเรียนการ สอนหนา้ ท่ี พลเมืองและค่านิยมหลกั ๑๒ ประการ จึงนามาสู่การกาหนดรายวชิ าเพิ่มเติมหน้าท่ีพลเมืองโดยเนน้ การ พฒั นาผูเ้ รียนในเรื่องความเป็ นไทย รักชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนาและเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริยท์ รงเป็ น ประมุข ความปรองดองสมานฉันท์และความมีวินัยในตนเองเพื่อให้สถานศึกษานาไปจดั เป็ นรายวิชา เพ่ิมเติมในหลกั สูตรสถานศึกษาตามกรอบความคิดในการพฒั นารายวชิ าเพิ่มเติมหนา้ ที่พลเมืองไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ วสิ ัยทศั น์สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าเพมิ่ เติม หน้าทพ่ี ลเมือง ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยร่วมใจประกอบอาชีพสุจริตผกู มิตรยึดมน่ั ศรัทธาใน หลกั ธรรม จดจาอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติพิลาสวิถีความเป็ นไทย สุขใจในภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินปฏิบตั ิ เป็ นอาจิณคุณธรรมและค่านิยม ชื่นชมเศรษฐกิจพอเพียง คู่เคียงชุมชนทอ้ งถ่ินตนทุกคนดารงชีวิตใน สงั คมดว้ ยความสุขปลูกจิตสานึกอนุรักษว์ ฒั นธรรมไทย เป้าหมาย/จุดเน้น เป้าหมาย ๑. เพ่ือให้ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมอนั พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวนิ ยั และปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนบั ถือ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ๒. เพ่ือให้ผูเ้ รียนมีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็ นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมน่ั ในวิถี ชีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข
๓. เพื่อให้ผเู้ รียนมีจิตสานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษแ์ ละพฒั นา ส่ิงแวดลอ้ มมีจิตสาธารณะที่มุ่งทาประโยชน์และสร้างส่ิงท่ีดีงามในสังคมและอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอยา่ งมี ความสุข จุดเน้นและขอบข่ายรายวชิ าเพมิ่ เติมหน้าทพี่ ลเมืองกล่มุ สาระสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม จุดเน้นท่ี ๑ ความเป็ นไทย ๑. ลกั ษณะที่ดีของคนไทย (มารยาทไทย กตญั ญูกตเวที เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผ่ เสียสละ) ๒. ศิลปวฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย (การแตง่ กาย ภาษา ภูมิปัญญา ประเพณี) จุดเน้นท่ี ๒รักชาติ ยดึ มั่นในศาสนาและเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ การเห็นคุณค่าและการแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนาและเทิดทูนสถาบัน พระมหากษตั ริย์ จุดเน้นที่ ๓ ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข ๑. การดาเนินชีวติ ตามวถิ ีประชาธิปไตย ๒. การมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รง เป็ นประมุข จุดเน้นที่ ๔ ความปรองดองสมานฉันท์ ๑. การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมแห่งความหลากหลาย ๒. การจดั การความขดั แยง้ และสันติวธิ ี จุดเน้นที่ ๕ ความมีวนิ ัยในตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริตขยนั หมน่ั เพียร อดทน ใฝ่ หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหน้าที่ ยอมรับผลที่เกิดจากการ กระทาของตนเอง สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน หลกั สูตรสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน โรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งใหผ้ เู้ รียนเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดงั น้ี ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็ นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใช้ ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรู้สึกและทศั นของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร และประสบการณ์อนั จะเป็ นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสังคม รวมท้งั การเจรจาต่อรองเพ่ือขจดั และลดปัญหาความขดั แยง้ ต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับขอ้ มูลข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผล และความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใชว้ ธิ ีการส่ือสารที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสงั คม ๒. ความสามารถในการคิด เป็ นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การคิดอยา่ ง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดเป็ นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศเพอื่ การตดั สินใจเกี่ยวกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ งๆที่เผชิญ ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพนั ธ์และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใชใ้ น การป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา และมีการตดั สินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อ ตนเอง สังคมและสิ่งแวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต เป็ นความสามารถในการนากระบวนการต่างๆไปใชใ้ น การดาเนินชีวติ ประจาวนั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อยา่ งต่อเนื่อง การทางานและการอยูร่ ่วมกนั ใน สงั คมดว้ ยการสร้างเสริมความสัมพนั ธ์อนั ดีระหวา่ งบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แยง้ ตา่ งๆอยา่ ง เหมาะสม การปรับตวั ให้ทนั กบั การเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จกั หลีกเล่ียง พฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ ี่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่ืน ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็ นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้าน ต่างๆและมีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพฒั นาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การ สื่อสาร การทางาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนให้มีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพ่ือให้ สามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ซื่อสตั ยส์ ุจริต ๓. มีวนิ ยั ๔. ใฝ่ เรียนรู้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง ๖. มุ่งมน่ั ในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ โครงสร้างและอตั ราเวลาเรียน หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ไดก้ าหนดกรอบโครงสร้างและอตั ราเวลาเรียนของหลกั สูตร สถานศึกษา โดยแบง่ ออกเป็น ๒ ระดบั กล่าวคือ ระดบั ช้นั ประถมศึกษา (ช้นั ประถมปี ท่ี ๑ – ๖) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓) ดงั ปรากฏในตารางท่ี ๑
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ทาไมต้องเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา สุขภาพ หรือ สุขภาวะ หมายถึง ภาวะของมนุษยท์ ่ีสมบูรณ์ท้งั ทางกาย ทางจิต ทางสังคม และทางปัญญาหรือจิตวิญญาณ สุขภาพหรือสุขภาวะจึงเป็ นเรื่องสาคญั เพราะเก่ียวโยงกบั ทุกมิติของ ชีวติ ซ่ึงทุกคนควรจะไดเ้ รียนรู้เรื่องสุขภาพ เพื่อจะไดม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจที่ถูกตอ้ ง มีเจตคติ คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม รวมท้งั มีทกั ษะปฏิบตั ิดา้ นสุขภาพจนเป็นกิจนิสัย อนั จะส่งผลใหส้ งั คมโดยรวม มีคุณภาพ เรียนรู้อะไรในสุขศึกษาและพลศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษาเป็ นการศึกษาด้านสุขภาพท่ีมีเป้าหมาย เพื่อการดารงสุขภาพ การสร้าง เสริมสุขภาพและการพฒั นาคุณภาพชีวติ ของบุคคล ครอบครัว และชุมชนใหย้ งั่ ยนื สุขศึกษา มุ่งเน้นให้ผูเ้ รียนพฒั นาพฤติกรรมด้านความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และ การปฏิบตั ิเก่ียวกบั สุขภาพควบคูไ่ ปดว้ ยกนั พลศึกษา มุ่งเนน้ ใหผ้ เู้ รียนใชก้ ิจกรรมการเคล่ือนไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกมและกีฬา เป็ นเครื่องมือในการพัฒนาโดยรวมท้ังด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา รวมท้ัง สมรรถภาพเพอื่ สุขภาพและกีฬา สาระที่เป็ นกรอบเน้ือหาหรือขอบข่ายองคค์ วามรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ประกอบดว้ ย การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เรื่องธรรมชาติของ การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ ปัจจยั ที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ความสัมพนั ธ์เช่ือมโยงใน การทางานของระบบต่างๆของร่างกาย รวมถึงวธิ ีปฏิบตั ิตนเพ่ือใหเ้ จริญเติบโตและมีพฒั นาการที่สมวยั ชีวติ และครอบครัว ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรู้เร่ืองคุณค่าของตนเองและครอบครัว การปรับตวั ต่อ การเปล่ียนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ความรู้สึกทางเพศ การสร้างและรักษาสัมพนั ธภาพกบั ผูอ้ ่ืน สุขปฏิบตั ิทางเพศ และทกั ษะในการดาเนินชีวติ การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้เร่ือง การเคล่ือนไหวในรูปแบบต่าง ๆ การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา ท้งั ประเภทบุคคล และประเภท ทีมอย่างหลากหลายท้งั ไทยและสากล การปฏิบัติตามกฎ กติกา ระเบียบ ข้อตกลงในการเขา้ ร่วม กิจกรรมทางกายและกีฬา และความมีน้าใจนกั กีฬา
การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกนั โรค ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั หลกั และ วธิ ีการเลือกบริโภคอาหาร ผลิตภณั ฑ์และบริการสุขภาพ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ และ การป้องกนั โรคท้งั โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ความปลอดภัยในชีวติ ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรู้เรื่องการป้องกนั ตนเองจากพฤติกรรมเส่ียงต่างๆ ท้งั ความเส่ียงต่อสุขภาพ อุบตั ิเหตุ ความรุนแรง อนั ตรายจากการใชย้ าและสารเสพติด รวมถึงแนวทางใน การสร้างเสริมความปลอดภยั ในชีวติ คุณภาพผู้เรียน จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓ มีความรู้ และเข้าใจในเร่ืองการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ ปัจจยั ที่มีผลต่อ การเจริญเติบโตและพฒั นาการ วธิ ีการสร้างสมั พนั ธภาพในครอบครัวและกลุ่มเพือ่ น มีสุขนิสัยท่ีดีในเรื่องการกิน การพกั ผอ่ นนอนหลบั การรักษาความสะอาดอวยั วะทุกส่วน ของร่างกาย การเล่นและการออกกาลงั กาย ป้องกนั ตนเองจากพฤติกรรมที่อาจนาไปสู่การใช้สารเสพติด การล่วงละเมิดทางเพศและ รู้จกั ปฏิเสธในเรื่องท่ีไม่เหมาะสม ควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้ตามพัฒนาการในแต่ละช่วงอายุ มีทักษะการ เคล่ือนไหวข้นั พ้ืนฐานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพื่อ สุขภาพ และเกม ไดอ้ ยา่ งสนุกสนาน และปลอดภยั มีทกั ษะในการเลือกบริโภคอาหาร ของเล่น ของใช้ ท่ีมีผลดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงและ ป้องกนั ตนเองจากอุบตั ิเหตุได้ ปฏิบตั ิตนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมเมื่อมีปัญหาทางอารมณ์ และปัญหาสุขภาพ ปฏิบตั ิตนตามกฎ ระเบียบขอ้ ตกลง คาแนะนา และข้นั ตอนต่างๆ และใหค้ วามร่วมมือกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความเตม็ ใจจนงานประสบความสาเร็จ ปฏิบตั ิตามสิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผอู้ ่ืนในการเล่นเป็นกลุ่ม จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์เชื่อมโยงในการทางานของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย และรู้จกั ดูแล อวยั วะที่สาคญั ของระบบน้นั ๆ เขา้ ใจธรรมชาติการเปล่ียนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม แรงขบั ทางเพศของ ชายหญิง เมื่อยา่ งเขา้ สู่วยั แรกรุ่นและวยั รุ่น สามารถปรับตวั และจดั การไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ของการมีชีวติ และครอบครัวที่อบอุน่ และเป็นสุข ภูมิใจและเห็นคุณค่าในเพศของตน ปฏิบตั ิสุขอนามยั ทางเพศไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจยั เสี่ยง พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพและการเกิดโรค อุบตั ิเหตุ ความรุนแรง สารเสพติดและการล่วงละเมิดทางเพศ มีทกั ษะการเคล่ือนไหวพ้นื ฐานและการควบคุมตนเองในการเคล่ือนไหวแบบผสมผสาน รู้หลกั การเคลื่อนไหวและสามารถเลือกเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกาย เกม การละเล่นพ้ืนเมือง กีฬาไทย กีฬาสากลไดอ้ ยา่ งปลอดภยั และสนุกสนาน มีน้าใจนกั กีฬา โดยปฏิบตั ิตามกฎ กติกา สิทธิ และหนา้ ที่ของตนเอง จนงานสาเร็จลุล่วง วางแผนและปฏิบตั ิกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพได้ ตามความเหมาะสมและความตอ้ งการเป็นประจา จดั การกบั อารมณ์ ความเครียด และปัญหาสุขภาพไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ขอ้ มูลข่าวสารเพือ่ ใชส้ ร้างเสริมสุขภาพ จบช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๓ เขา้ ใจและเห็นความสาคญั ของปัจจยั ที่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการท่ีมี ตอ่ สุขภาพและชีวติ ในช่วงวยั ตา่ ง ๆ เข้าใจ ยอมรับ และสามารถปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกทางเพศ ความเสมอภาคทางเพศ สร้างและรักษาสัมพนั ธภาพกบั ผูอ้ ่ืน และตดั สินใจแกป้ ัญหา ชีวติ ดว้ ยวธิ ีการที่เหมาะสม เลือกกินอาหารที่เหมาะสม ไดส้ ัดส่วน ส่งผลดีตอ่ การเจริญเติบโตและพฒั นาการตามวยั มีทกั ษะในการประเมินอิทธิพลของเพศ เพ่ือน ครอบครัว ชุมชนและวฒั นธรรมท่ีมีต่อ เจตคติ คา่ นิยมเก่ียวกบั สุขภาพและชีวติ และสามารถจดั การไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ป้องกนั และหลีกเล่ียงปัจจยั เสี่ยง พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพและการเกิดโรค อุบตั ิเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง รู้จกั สร้างเสริมความปลอดภยั ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และ ชุมชน เข้าร่วมกิจกรรมทางกาย กิจกรรมกีฬา กิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมสร้างเสริ ม สมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ โดยนาหลกั การของทกั ษะกลไกมาใช้ได้อย่างปลอดภยั สนุกสนาน และปฏิบตั ิเป็นประจาสม่าเสมอตามความถนดั และความสนใจ
แสดงความตระหนกั ในความสัมพนั ธ์ระหวา่ งพฤติกรรมสุขภาพ การป้องกนั โรค การดารง สุขภาพ การจดั การกบั อารมณ์และความเครียด การออกกาลงั กายและการเล่นกีฬากบั การมีวิถีชีวิตที่มี สุขภาพดี สานึกในคุณคา่ ศกั ยภาพและความเป็นตวั ของตวั เอง ปฏิบตั ิตามกฎ กติกา หน้าที่ความรับผิดชอบ เคารพสิทธิของตนเองและผูอ้ ่ืน ให้ความ ร่วมมือในการแข่งขนั กีฬาและการทางานเป็ นทีมอยา่ งเป็ นระบบ ดว้ ยความมุ่งมน่ั และมีน้าใจนกั กีฬา จน ประสบความสาเร็จตามเป้าหมายดว้ ยความช่ืนชม และสนุกสนาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ทัศนศิลป์ ทาไมต้องเรียนทศั นศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ทศั นศิลป์ เป็ นกลุ่มสาระที่ช่วยพฒั นาให้ผูเ้ รียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ ชื่นชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซ่ึงมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กิจกรรมทางศิลปะช่วยพฒั นาผเู้ รียนท้งั ดา้ นร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สงั คม ตลอดจนการนาไปสู่ การพฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม ส่งเสริมให้ผูเ้ รียนมีความเช่ือมน่ั ในตนเอง อนั เป็ นพ้ืนฐานในการศึกษาต่อหรือ ประกอบอาชีพได้ เรียนรู้อะไรในศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ทศั นศิลป์ มุ่งพฒั นาให้ผูเ้ รียนเกิดความรู้ความเขา้ ใจ มีทกั ษะวิธีการทาง ศิลปะ เกิดความซาบซ้ึงในคุณค่าของศิลปะเปิ ดโอกาสให้ผูเ้ รียนแสดงออกอย่างอิสระในศิลปะแขนง ตา่ งๆ ประกอบดว้ ยสาระสาคญั คือ ทัศนศิลป์ มีความรู้ความเขา้ ใจองค์ประกอบศิลป์ ทศั นธาตุ สร้างและนาเสนอผลงานทาง ทศั นศิลป์ จากจินตนาการ โดยสามารถใช้อุปกรณ์ท่ีเหมาะสม รวมท้งั สามารถใช้เทคนิค วิธีการของ ศิลปิ นในการสร้างงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทศั นศิลป์ เขา้ ใจ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งทศั นศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรมเห็นคุณค่างานศิลปะที่เป็ นมรดกทาง วฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินภูมิปัญญาไทยและสากล ช่ืนชม ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ดนตรี มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบดนตรีแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์วพิ ากษว์ ิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ทางดนตรีอยา่ งอิสระ ชื่นชมและประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวนั เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งดนตรี ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่าดนตรีท่ีเป็ น มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทย และสากล ร้องเพลง และเล่นดนตรีในรูปแบบ ต่างๆ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเสียงดนตรี แสดงความรู้สึกที่มีต่อดนตรีในเชิงสุนทรียะ เข้าใจ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งดนตรีกบั ประเพณีวฒั นธรรม และเหตุการณ์ในประวตั ิศาสตร์ นาฏศิลป์ มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบนาฏศิลป์ แสดงออกทางนาฏศิลป์ อย่าง สร้างสรรค์ ใชศ้ พั ท์เบ้ืองตน้ ทางนาฏศิลป์ วเิ คราะห์วิพากษ์ วจิ ารณ์คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ สร้างสรรคก์ ารเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ประยุกต์ใชน้ าฏศิลป์ ในชีวิตประจาวนั เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งนาฏศิลป์ กบั ประวตั ิศาสตร์ วฒั นธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ ท่ีเป็ นมรดก ทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล
คุณภาพผ้เู รียน จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓ รู้และเข้าใจเกี่ยวกับรูปร่าง รูปทรง และจาแนกทศั นธาตุของสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ มและงานทศั นศิลป์ มีทกั ษะพ้ืนฐานการใชว้ สั ดุอุปกรณ์ในการสร้างงานวาดภาพระบายสี โดย ใชเ้ ส้น รูปร่าง รูปทรง สี และพ้ืนผวิ ภาพปะติด และงานป้ัน งานโครงสร้างเคลื่อนไหวอยา่ งง่าย ๆ ถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึกจากเร่ืองราว เหตุการณ์ ชีวติ จริง สร้างงานทศั นศิลป์ ตามที่ตนช่ืนชอบ สามารถแสดง เหตุผลและวธิ ีการในการปรับปรุงงานของตนเอง รู้และเขา้ ใจความสาคญั ของงานทศั นศิลป์ ในชีวิตประจาวนั ที่มาของงานทศั นศิลป์ ในทอ้ งถ่ิน ตลอดจนการใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และวธิ ีการสร้างงานทศั นศิลป์ ในทอ้ งถิ่น รู้และเข้าใจแหล่งกาเนิดเสี ยง คุณสมบัติของเสี ยง บทบาทหน้าที่ ความหมาย ความสาคญั ของบทเพลงใกลต้ วั ที่ไดย้ นิ สามารถท่องบทกลอน ร้องเพลง เคาะจงั หวะ เคลื่อนไหวร่างกาย ให้สอดคลอ้ งกบั บทเพลง อ่าน เขียน และใช้สัญลกั ษณ์แทนเสียงและเคาะจงั หวะแสดงความคิดเห็น เก่ียวกบั ดนตรี เสียงขบั ร้องของตนเอง มีส่วนร่วมกบั กิจกรรมดนตรีในชีวติ ประจาวนั รู้และเข้าใจเอกลักษณ์ของดนตรี ในท้องถิ่น มีความชื่นชอบ เห็นความสาคัญ และประโยชน์ของดนตรีตอ่ การดาเนินชีวติ ของคนในทอ้ งถิ่น สร้างสรรคก์ ารเคล่ือนไหวในรูปแบบต่าง ๆ สามารถแสดงท่าทางประกอบจงั หวะเพลง ตามรูปแบบนาฏศิลป์ มีมารยาทในการชมการแสดง รู้หน้าท่ีของผูแ้ สดงและผูช้ มรู้ประโยชน์ของการ แสดงนาฏศิลป์ ในชีวติ ประจาวนั เขา้ ร่วมกิจกรรมการแสดงที่เหมาะสมกบั วยั รู้และเข้าใจการละเล่นของเด็กไทยและนาฏศิลป์ ท้องถ่ิน ช่ืนชอบและภาคภูมิใจ ในการละเล่นพ้ืนบา้ น สามารถเชื่อมโยงส่ิงที่พบเห็นในการละเล่นพ้ืนบา้ นกบั การดารงชีวติ ของคนไทย บอกลกั ษณะเด่นและเอกลกั ษณ์ของนาฏศิลป์ ไทยตลอดจนความสาคญั ของการแสดงนาฏศิลป์ ไทยได้ จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖ รู้และเขา้ ใจการใช้ทศั นธาตุ รูปร่าง รูปทรง พ้ืนผิว สี แสงเงา มีทกั ษะพ้ืนฐานในการใช้วสั ดุอุปกรณ์ ถ่ายทอดความคิด อารมณ์ ความรู้สึก สามารถใชห้ ลกั การจดั ขนาด สัดส่วนความสมดุล น้าหนกั แสงเงา ตลอดจนการใชส้ ีคู่ตรงขา้ มที่เหมาะสมในการสร้างงานทศั นศิลป์ ๒ มิติ ๓ มิติ เช่น งานสื่อผสม งาน วาดภาพระบายสี งานป้ัน งานพิมพภ์ าพ รวมท้งั สามารถสร้างแผนภาพ แผนผงั และภาพประกอบเพื่อ ถ่ายทอดความคิดจินตนาการเป็ นเร่ืองราวเก่ียวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ และสามารถเปรียบเทียบความ แตกต่างระหวา่ งงานทศั นศิลป์ ท่ีสร้างสรรคด์ ว้ ยวสั ดุอุปกรณ์และวธิ ีการที่แตกต่างกนั เขา้ ใจปัญหาในการ จดั องคป์ ระกอบศิลป์ หลกั การลด และเพ่มิ ในงานป้ัน การส่ือความหมายในงาน
ทศั นศิลป์ ของตน รู้วิธีการปรับปรุงงานให้ดีข้ึน ตลอดจนรู้และเขา้ ใจคุณค่าของงาน ทศั นศิลป์ ที่มีผลต่อชีวติ ของคนในสงั คม รู้และเขา้ ใจบทบาทของงานทศั นศิลป์ ที่สะทอ้ นชีวติ และสังคม อิทธิพลของความเชื่อ ความศรัทธา ในศาสนา และวฒั นธรรมที่มีผลต่อการสร้างงานทศั นศิลป์ ในทอ้ งถิ่น รู้และเข้าใจเก่ียวกับเสี ยงดนตรี เสี ยงร้อง เคร่ืองดนตรี และบทบาทหน้าที่ รู้ถึง การเคลื่อนที่ข้ึน ลง ของทานองเพลง องค์ประกอบของดนตรี ศพั ท์สังคีตในบทเพลง ประโยค และ อารมณ์ของบทเพลงท่ีฟัง ร้อง และบรรเลงเคร่ืองดนตรี ดน้ สดอย่างง่าย ใช้และเก็บรักษาเคร่ืองดนตรี อย่างถูกวิธี อ่าน เขียนโน้ตไทยและสากลในรูปแบบต่าง ๆ รู้ลกั ษณะของผูท้ ่ีจะเล่นดนตรีไดด้ ี แสดง ความคิดเห็นเก่ียวกบั องคป์ ระกอบดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึกของบทเพลงที่ฟัง สามารถใชด้ นตรีประกอบ กิจกรรมทางนาฏศิลป์ และการเล่าเร่ือง รู้และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี กับวิถีชีวิต ประเพณี วฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมต่าง ๆ เรื่องราวดนตรีในประวตั ิศาสตร์ อิทธิพลของวฒั นธรรมต่อดนตรี รู้คุณค่าดนตรี ที่มาจากวฒั นธรรมตา่ งกนั เห็นความสาคญั ในการอนุรักษ์ รู้และเข้าใจองค์ประกอบนาฏศิลป์ สามารถแสดงภาษ าท่า นาฏยศัพท์พ้ืนฐาน สร้างสรรค์การเคล่ือนไหวและการแสดงนาฏศิลป์ และการละครง่าย ๆ ถ่ายทอดลีลาหรืออารมณ์ และ สามารถออกแบบเคร่ืองแต่งกายหรืออุปกรณ์ประกอบการแสดงง่าย ๆ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่าง นาฏศิลป์ และการละครกบั สิ่งที่ประสบในชีวิตประจาวนั แสดงความคิดเห็นในการชมการแสดง และ บรรยายความรู้สึกของตนเองท่ีมีตอ่ งานนาฏศิลป์ รู้และเข้าใจความสัมพันธ์และประโยชน์ของนาฏศิลป์ และการละคร สามารถ เปรียบเทียบการแสดงประเภทต่าง ๆ ของไทยในแต่ละทอ้ งถ่ิน และส่ิงที่การแสดงสะทอ้ นวฒั นธรรม ประเพณี เห็นคุณคา่ การรักษาและสืบทอดการแสดงนาฏศิลป์ ไทย จบช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๓ รู้และเข้าใจเรื่องทัศนธาตุและหลักการออกแบบและเทคนิคท่ีหลากหลายในการ สร้างงานทศั นศิลป์ ๒ มิติ และ ๓ มิติ เพ่ือสื่อความหมายและเรื่องราวต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ วเิ คราะห์ รูปแบบเน้ือหาและประเมินคุณค่างานทศั นศิลป์ ของตนเองและผูอ้ ่ืน สามารถเลือกงานทศั นศิลป์ โดยใช้ เกณฑท์ ่ีกาหนดข้ึนอยา่ งเหมาะสม สามารถออกแบบรูปภาพ สัญลกั ษณ์ กราฟิ กในการนาเสนอขอ้ มูลและ มีความรู้ ทกั ษะที่จาเป็นดา้ นอาชีพที่เกี่ยวขอ้ งกนั กบั งานทศั นศิลป์ รู้และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงและพฒั นาการของงานทศั นศิลป์ ของชาติและท้องถ่ิน แต่ละยุคสมยั เห็นคุณค่างานทศั นศิลป์ ที่สะทอ้ นวฒั นธรรมและสามารถเปรียบเทียบงานทศั นศิลป์ ที่มา จากยคุ สมยั และวฒั นธรรมต่าง ๆ
รู้และเข้าใจถึงความแตกต่างทางด้านเสี ยง องค์ประกอบ อารมณ์ ความรู้สึ ก ของบทเพลงจากวฒั นธรรมต่าง ๆ มีทกั ษะในการร้อง บรรเลงเคร่ืองดนตรี ท้งั เด่ียวและเป็ นวงโดยเน้น เทคนิคการร้องบรรเลงอย่างมีคุณภาพ มีทกั ษะในการสร้างสรรค์บทเพลงอย่างง่าย อ่านเขียนโน้ตใน บนั ไดเสียงที่มีเครื่องหมาย แปลงเสียงเบ้ืองตน้ ได้ รู้และเขา้ ใจถึงปัจจยั ที่มีผลต่อรูปแบบของผลงานทาง ดนตรี องคป์ ระกอบของผลงานด้านดนตรีกบั ศิลปะแขนงอื่น แสดงความคิดเห็นและบรรยายอารมณ์ ความรู้สึกท่ีมีต่อบทเพลง สามารถนาเสนอบทเพลงท่ีช่ืนชอบไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล มีทกั ษะในการประเมิน คุณภาพของบทเพลงและการแสดงดนตรี รู้ถึงอาชีพต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ดนตรีและบทบาทของดนตรีใน ธุรกิจบนั เทิง เขา้ ใจถึงอิทธิพลของดนตรีท่ีมีตอ่ บุคคลและสังคม รู้และเข้าใจท่ีมา ความสัมพันธ์ อิทธิพลและบทบาทของดนตรีแต่ละวฒั นธรรม ในยคุ สมยั ต่าง ๆ วเิ คราะห์ปัจจยั ที่ทาใหง้ านดนตรีไดร้ ับการยอมรับ รู้และเข้าใจการใช้นาฏยศพั ท์หรือศพั ท์ทางการละครในการแปลความและสื่อสาร ผา่ นการแสดง รวมท้งั พฒั นารูปแบบการแสดง สามารถใชเ้ กณฑ์ง่าย ๆ ในการพิจารณาคุณภาพการแสดง วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ โดยใช้ความรู้เร่ืององค์ประกอบทางนาฏศิลป์ ร่วมจดั การแสดง นา แนวคิดของการแสดงไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั รู้และเข้าใจประเภทละครไทยในแต่ละยุคสมัย ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ของนาฏศิลป์ ไทย นาฏศิลป์ พ้ืนบา้ น ละครไทย และละครพ้ืนบา้ น เปรียบเทียบลกั ษณะเฉพาะของการ แสดงนาฏศิลป์ จากวฒั นธรรมต่าง ๆ รวมท้งั สามารถออกแบบและสร้างสรรคอ์ ุปกรณ์ เคร่ืองแต่งกายใน การแสดงนาฏศิลป์ และละคร มีความเข้าใจ ความสาคัญ บทบาทของนาฏศิลป์ และละครใน ชีวติ ประจาวนั
กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ทาไมต้องเรียนการงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็ นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียน มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะพ้ืนฐานท่ีจาเป็ นต่อการดารงชีวิต และรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลง สามารถนาความรู้เกี่ยวกบั การดารงชีวิต การอาชีพ และเทคโนโลยี มาใช้ประโยชน์ในการทางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และแข่งขนั ในสังคมไทยและสากล เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการทางาน และมีเจตคติที่ดีต่อการทางาน สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียง และมีความสุข เรียนรู้อะไรในการงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนแบบองค์รวม เพ่ือให้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะในการทางาน เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพและ การศึกษาตอ่ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสาคญั ดงั น้ี การดารงชีวิตและครอบครัว เป็ นสาระเกี่ยวกับการทางานในชีวิตประจาวนั การช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และสังคมไดใ้ นสภาพเศรษฐกิจที่พอเพียง ไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม เน้นการปฏิบัติจริงจนเกิดความมน่ั ใจและภูมิใจในผลสาเร็จของงาน เพื่อให้ค้นพบความสามารถ ความถนดั และความสนใจของตนเอง การออกแบบ เป็ นสาระเก่ียวกับการพัฒนาความสามารถของมนุษย์อย่าง สร้างสรรค์ โดยนาความรู้มาใช้กบั กระบวนการเทคโนโลยี สร้างสิ่งของเคร่ืองใช้ วิธีการ หรือเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดารงชีวติ การสื่ อสาร เป็ นสาระเกี่ยวกับกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ การ ติดต่อส่ือสาร การคน้ หาขอ้ มูล การใช้ขอ้ มูลและสารสนเทศ การแกป้ ัญหาหรือ การสร้างงาน คุณค่า และผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การอาชีพ เป็ นสาระเก่ียวกับทักษะที่จาเป็ นต่ออาชีพ เห็นความสาคญั ของ คุณธรรม จริยธรรม และเจตคติท่ีดีต่ออาชีพ ใช้เทคโนโลยีไดเ้ หมาะสม เห็นคุณค่าของอาชีพสุจริต และเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ
คุณภาพผ้เู รียน จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓ เขา้ ใจวิธีการทางานเพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และส่วนรวม ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และ เคร่ื องมือถูกต้องตรงกับลักษณะงาน มีทักษะกระบวนการทางาน มีลักษณะนิสัยการทางาน ที่กระตือรือร้น ตรงเวลา ประหยดั ปลอดภัย สะอาด รอบคอบ และมีจิตสานึกใน การอนุรักษ์ ส่ิงแวดลอ้ ม เขา้ ใจประโยชน์ของส่ิงของเครื่องใชใ้ นชีวิตประจาวนั มีความคิดในการแกป้ ัญหาหรือ สนองความตอ้ งการอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะในการสร้างของเล่น ของใชอ้ ยา่ งง่าย โดยใช้ กระบวนการเทคโนโลยี ไดแ้ ก่ กาหนดปัญหาหรือความตอ้ งการ รวบรวมขอ้ มูล ออกแบบโดยถ่ายทอด ความคิดเป็ นภาพร่าง ๒ มิติ ลงมือสร้าง และประเมินผล เลือกใช้วสั ดุ อุปกรณ์อย่างถูกวิธี เลือกใช้ ส่ิงของเคร่ืองใช้ ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรคแ์ ละมีการจดั การส่ิงของเคร่ืองใชด้ ว้ ยการนากลบั มาใชซ้ ้า เขา้ ใจและมีทกั ษะการคน้ หาขอ้ มูลอย่างมีข้นั ตอน การนาเสนอขอ้ มูลในลกั ษณะต่าง ๆ และวธิ ีดูแลรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศ จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖ เข้าใจการทางานและปรับปรุงการทางานแต่ละข้ันตอน มีทักษะการจัดการ ทักษะ การทางานร่วมกนั ทางานอยา่ งเป็ นระบบและมีความคิดสร้างสรรค์ มีลกั ษณะนิสัยการทางานท่ีขยนั อดทน รับผดิ ชอบ ซ่ือสัตย์ มีมารยาท และมีจิตสานึกในการใชน้ ้า ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั และคุม้ คา่ เขา้ ใจความหมาย ววิ ฒั นาการของเทคโนโลยี และส่วนประกอบของระบบเทคโนโลยี มีความคิดในการแก้ปัญหาหรือสนองความตอ้ งการอย่างหลากหลาย นาความรู้และทกั ษะการสร้าง ชิ้นงานไปประยุกต์ในการสร้างสิ่งของเคร่ืองใช้ตามความสนใจอย่างปลอดภยั โดยใช้กระบวนการ เทคโนโลยี ไดแ้ ก่ กาหนดปัญหาหรือความตอ้ งการ รวบรวมขอ้ มูล ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดเป็ น ภาพร่าง ๓ มิติ หรือแผนที่ความคิด ลงมือสร้าง และประเมินผล เลือกใช้เทคโนโลยีในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรคต์ อ่ ชีวติ สงั คม และมีการจดั การเทคโนโลยดี ว้ ยการแปรรูปแลว้ นากลบั มาใชใ้ หม่ เขา้ ใจหลกั การแกป้ ัญหาเบ้ืองตน้ มีทกั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์ในการคน้ หาขอ้ มูล เก็บรักษา ข้อมูล สร้างภาพกราฟิ ก สร้างงานเอกสาร นาเสนอข้อมูล และสร้างชิ้นงานอย่างมีจิตสานึกและ รับผดิ ชอบ รู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั อาชีพ รวมท้งั มีความรู้ ความสามารถและคุณธรรมที่สมั พนั ธ์กบั อาชีพ
จบช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เขา้ ใจกระบวนการทางานท่ีมีประสิทธิภาพ ใช้กระบวนการกลุ่มในการทางาน มีทกั ษะ การแสวงหาความรู้ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาและทักษะการจดั การ มีลักษณะนิสัยการทางาน ที่เสียสละ มีคุณธรรม ตดั สินใจอยา่ งมีเหตุผลและถูกตอ้ ง และมีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งประหยดั และคุม้ คา่ เข้าใจกระบวนการเทคโนโลยีและระดับของเทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์ ในการแกป้ ัญหาหรือสนองความตอ้ งการ สร้างสิ่งของเคร่ืองใชห้ รือวธิ ีการตามกระบวนการเทคโนโลยี อย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยถ่ายทอดความคิดเป็ นภาพฉายเพ่ือนาไปสู่การสร้างชิ้นงานหรือ แบบจาลองความคิดและการรายงานผล เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรคต์ ่อชีวติ สังคม ส่ิงแวดลอ้ ม และมีการจดั การเทคโนโลยีด้วยการลดการใช้ทรัพยากรหรือเลือกใช้เทคโนโลยีท่ีไม่มีผลกระทบกบั ส่ิงแวดลอ้ ม เข้าใจหลักการเบ้ืองต้นของการส่ือสารข้อมูล เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หลักการและวิธี แกป้ ัญหา หรือการทาโครงงานดว้ ยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ มีทกั ษะการคน้ หาขอ้ มูล และการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม การใช้คอมพิวเตอร์ ในการแกป้ ัญหา สร้างชิ้นงานหรือโครงงานจากจินตนาการ และการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศนาเสนองาน เขา้ ใจแนวทางการเลือกอาชีพ การมีเจตคติท่ีดีและเห็นความสาคญั ของการประกอบอาชีพ วิธีการหางานทา คุณสมบตั ิท่ีจาเป็ นสาหรับการมีงานทา วิเคราะห์แนวทางเขา้ สู่อาชีพ มีทกั ษะพ้ืนฐาน ท่ีจาเป็ นสาหรับการประกอบอาชีพ และประสบการณ์ต่ออาชีพที่สนใจ และประเมินทางเลือก ในการประกอบอาชีพที่สอดคลอ้ งกบั ความรู้ ความถนดั และความสนใจ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ทาไมต้องเรียนภาษาต่างประเทศ ในสังคมโลกปั จจุบัน การเรี ยนรู้ภาษาต่างประเทศมีความสาคัญและจาเป็ นอย่างยิ่ง ในชีวิตประจาวนั เนื่องจากเป็ นเคร่ืองมือสาคญั ในการติดต่อส่ือสาร การศึกษา การแสวงหาความรู้ การประกอบอาชีพ การสร้างความเขา้ ใจเก่ียวกบั วฒั นธรรมและวสิ ัยทศั น์ของชุมชนโลก และตระหนกั ถึงความหลากหลายทางวฒั นธรรมและมุมมองของสังคมโลก นามาซ่ึงมิตรไมตรีและความร่วมมือกบั ประเทศตา่ งๆ ช่วยพฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความเขา้ ใจตนเองและผอู้ ่ืนดีข้ึน เรียนรู้และเขา้ ใจความแตกต่างของ ภาษาและวฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สงั คม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง มีเจตคติ ท่ีดีต่อการใชภ้ าษาต่างประเทศ และใชภ้ าษาต่างประเทศเพ่ือการสื่อสารได้ รวมท้งั เขา้ ถึงองคค์ วามรู้ตา่ งๆ ไดง้ ่ายและกวา้ งข้ึน และมีวสิ ัยทศั น์ในการดาเนินชีวติ ภาษาต่างประเทศท่ีเป็ นสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน ซ่ึงกาหนดให้เรียนตลอดหลักสูตรการศึกษา ข้นั พ้ืนฐาน คือ ภาษาองั กฤษ ส่วนภาษาต่างประเทศอื่น เช่น ภาษาฝร่ังเศส เยอรมนั จีน ญ่ีป่ ุน อาหรับ บาลี และภาษากลุ่มประเทศเพื่อนบา้ น หรือภาษาอ่ืนๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาท่ีจะจดั ทา รายวชิ าและจดั การเรียนรู้ตามความเหมาะสม เรียนรู้อะไรในภาษาต่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มุ่งหวงั ให้ผูเ้ รียนมีเจตคติท่ีดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถใชภ้ าษาตา่ งประเทศ สื่อสารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อ ในระดบั ที่สูงข้ึน รวมท้งั มีความรู้ความเขา้ ใจในเรื่องราวและวฒั นธรรมอนั หลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถ่ายทอดความคิดและวฒั นธรรมไทยไปยงั สังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์ ประกอบดว้ ย สาระสาคญั ดงั น้ี ภาษาเพ่ือการสื่อสาร การใชภ้ าษาต่างประเทศในการฟัง-พดู -อา่ น-เขียน แลกเปลี่ยน ขอ้ มูล ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ตีความ นาเสนอขอ้ มูล ความคิดรวบยอดและความ คิดเห็นในเรื่องตา่ งๆ และสร้างความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบุคคลอยา่ งเหมาะสม ภาษาและวัฒนธรรม การใช้ภาษาต่างประเทศตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ความสัมพนั ธ์ ความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ภาษาและ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั วฒั นธรรมไทย และนาไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน การใชภ้ าษาต่างประเทศในการ เชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรี ยนรู้อ่ืน เป็ นพ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และ เปิ ดโลกทศั นข์ องตน ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก การใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ ต่างๆ ท้งั ในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสังคมโลก เป็ นเคร่ืองมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ และแลกเปล่ียนเรียนรู้กบั สังคมโลก คุณภาพผู้เรียน จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓ ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอร้องท่ีฟัง อ่านออกเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยคง่ายๆ และบทพูด เขี้าจงั หวะง่ายๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน บอกความหมายของคาและกลุ่มคาท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บทสนทนาหรือนิทานง่ายๆ พูดโต้ตอบด้วยคาส้ันๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบท่ีฟัง ใช้คาส่ังและ คาขอร้องง่ายๆ บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของตนเอง พูดขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเองและเพื่อน บอกความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั สิ่งต่างๆ ใกลต้ วั หรือกิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบท่ีฟัง พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั จดั หมวดหมู่คาตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และ ส่ิงของตามที่ฟังหรืออ่าน พูดและทาท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกชื่อและคาศพั ท์ ง่ายๆ เก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็ นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วมกิจกรรมทาง ภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกบั วยั บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา และประโยคง่ายๆ ของภาษาตา่ งประเทศและ ภาษาไทย บอกคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียน ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ เพ่ือรวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งใกลต้ วั มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พูด) ส่ือสารตามหัวเร่ืองเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั อาหาร เครื่องด่ืม และเวลาวา่ งและนนั ทนาการ ภายในวงคาศพั ท์ ประมาณ ๓๐๐-๔๕๐ คา (คาศพั ทท์ ี่เป็นรูปธรรม) ใช้ประโยคคาเดียว (One Word Sentence) ประโยคเด่ียว (Simple Sentence) ในการสนทนา โตต้ อบตามสถานการณ์ในชีวติ ประจาวนั
จบช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖ ปฏิบตั ิตามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนาท่ีฟังและอ่าน อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน เลือก/ระบุประโยคและขอ้ ความตรงตามความหมาย ของสัญลักษณ์หรือเคร่ืองหมายที่อ่าน บอกใจความสาคัญ และตอบคาถามจากการฟังและอ่าน บทสนทนา นิทานง่ายๆ และเร่ืองเล่า พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล ใชค้ าสั่ง คาขอร้อง และใหค้ าแนะนา พูด/ เขียนแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วามช่วยเหลือในสถานการณ์ ง่ายๆ พูดและเขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั พูด/เขียนแสดง ความรู้สึกเก่ียวกบั เร่ืองตา่ งๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ งๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้ันๆ ประกอบ พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั เขียนภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มูลตา่ งๆ ท่ีฟังและอา่ น พดู /เขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองตา่ งๆ ใกลต้ วั ใช้ถอ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง/ชีวิตความเป็ นอยู่ของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใชเ้ คร่ืองหมาย วรรคตอน และการลาดบั คา ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบ ความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล งานฉลองและประเพณีของเจา้ ของภาษากบั ของไทย คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอ ดว้ ยการพูด/การเขียน ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ มีทกั ษะการใชภ้ าษาต่างประเทศ )เนน้ การฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) สื่อสารตามหวั เร่ืองเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดลอ้ ม อาหาร เครื่องด่ืม เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สุขภาพและสวสั ดิการ การซ้ือ-ขาย และลมฟ้าอากาศ ภายในวงคาศพั ท์ประมาณ ๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ คา (คาศพั ท์ที่เป็ นรูปธรรมและ นามธรรม) ใชป้ ระโยคเดี่ยวและประโยคผสม (Compound Sentences) ส่ือความหมายตามบริบทต่าง ๆ จบช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ปฏิบตั ิตามคาขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายท่ีฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา นิทาน และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น ระบุ/เขียนสื่อท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบ ตา่ งๆ สมั พนั ธ์กบั ประโยคและขอ้ ความที่ฟังหรืออา่ น เลือก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั
รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว เร่ืองท่ีอยูใ่ นความสนใจของสังคมและส่ือสารอยา่ งต่อเน่ืองและเหมาะสม ใช้คาขอร้อง คาช้ีแจง และ คาอธิบาย ให้คาแนะนาอยา่ งเหมาะสม พูดและเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม พูดและเขียนบรรยาย ความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเด็นต่างๆ ท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม พูดและเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หัวขอ้ เรื่องที่ได้จากการ วิเคราะห์เร่ือง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ที่อยใู่ นความสนใจ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ เลือกใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา อธิบายเก่ียวกับชีวิตความเป็ นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณี ของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ เปรียบเทียบ และอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิด ต่างๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบและ อธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งชีวิตความเป็ นอยู่และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับ ของไทย และนาไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม ค้นควา้ รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจาก แหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขียน ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปความรู้/ขอ้ มูลต่างๆ จากสื่อ และแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสัมพนั ธ์ขอ้ มูล ข่าวสาร ของโรงเรียน ชุมชน และทอ้ งถ่ิน เป็นภาษาตา่ งประเทศ มีทกั ษะการใช้ภาษาต่างประเทศ )เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) สื่อสารตามหัวเรื่องเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดลอ้ ม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สุขภาพและสวสั ดิการ การ ซ้ือ-ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางทอ่ งเที่ยว การบริการ สถานท่ี
ภาษา และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในวงคาศพั ท์ประมาณ ๒,๑๐๐-๒,๒๕๐ คา (คาศพั ทท์ ี่เป็นนามธรรมมากข้ึน) ใชป้ ระโยคผสมและประโยคซบั ซ้อน (Complex Sentences) ส่ือความหมายตามบริบทต่างๆ ในการสนทนาท้งั ท่ีเป็นทางการและไมเ่ ป็นทางการ
โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย
โครงสร้างเวลาเรียนโรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย เวลาเรียน กล่มุ สาระการเรียนรู้/ กจิ กรรม ระดบั ประถมศึกษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ม.๑ ม.๒ ม.๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) วทิ ยาคานวณ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม - - - ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ประวตั ิศาสตร์ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๖๐ (๔ นก.) ๑๖๐ (๔ นก.) ๑๖๐ (๔ นก.) ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม (๔๐) (๔๐) (๔๐) (๔๐) (๔๐) (๔๐) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) หนา้ ที่พลเมือง วฒั นธรรมและ (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.) การดาเนินชีวติ ในสังคม/ตา้ นทุจริต เศรษฐศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ภูมศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) สุขศึกษาและพลศึกษา ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ทศั นศิลป์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) การงานอาชีพ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๘๐ (๒๒ นก.) ๘๘๐ (๒๒ นก.) ๘๘๐ (๒๒ นก.) ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ) รวมเวลาเรียน (พ้นื ฐาน) รายวชิ า / กจิ กรรมเพมิ่ เติม - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ภาษาไทย - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) คณิตศาสตร์ วทิ ยาคานวณ (คอมพวิ เตอร์) - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) หนา้ ที่พลเมือง/ตา้ นทุจริต รวมเวลาเรียน(เพิ่มเติม) - - - ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) - - - ๔๐ ๔๐ ๔๐ - - - - - - ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๒๐๐ (๕ นก.) ๒๐๐ (๕ นก.) ๒๐๐ (๕ นก.) กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ กิจกรรมนกั เรียน ลูกเสือ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ชุมนุม ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๒๕ ๒๕ ๒๕ กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๕ ๑๕ ๑๕ รวมเวลากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ รวมเวลาเรียนท้งั หมด ๑,๐๔๐ ชว่ั โมง/ปี ๑,๒๐๐ ชว่ั โมง/ปี (๘๑ นก.)
โครงสร้างหลกั สูตรประถมศึกษา ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๑ เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม ชม. / ปี ชม./สัปดาห์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๔๐ ๒๖/๒๐ ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ๕ ค๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๕ ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๐๐ ๒.๕ ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ๘๐ ๒ ส๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๑ พ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๑ ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐ ๑ ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๒๐ ๐.๕ อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒๐๐ ๕ รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ๘๐ ๒ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ๑๒๐ ๓ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ กิจกรรมนกั เรียน ลูกเสือ / เนตรนารี ๔๐ ๑ ชุมนุม กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์* ๓๐ ๑ ๑๐ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๑๐๔๐ ๒๖ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ในชวั่ โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็นกิจกรรมชุมนุม ๓๐ ชวั่ โมง/ปี และกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชว่ั โมง/ปี
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๒ เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม (ชม. / ปี ) ชม./สัปดาห์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๔๐ ๒๖/๒๐ ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ๕ ค๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๕ ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๐๐ ๒.๕ ส๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ๘๐ ๒ ส๑๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๑ พ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ ๑ ศ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๔๐ ๑ ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๒๐ ๐.๕ อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒๐๐ ๕ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๘๐ ๒ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๑๒๐ ๓ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ กิจกรรมนกั เรียน ลูกเสือ / เนตรนารี ๔๐ ๑ ชุมนุม กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์* ๓๐ ๑ ๑๐ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๑๐๔๐ ๒๖ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ในชว่ั โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็นกิจกรรมชุมนุม ๓๐ ชวั่ โมง/ปี และกิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชว่ั โมง/ปี
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓ เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม ชม. / ปี ชม./สัปดาห์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๔๐ ๒๖/๒๐ ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ๕ ค๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๕ ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๐๐ ๒.๕ ส๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ๘๐ ๒ ส๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๑ พ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ ๑ ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๔๐ ๑ ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๒๐ ๐.๕ อ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒๐๐ ๕ รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ๘๐ ๒ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ๑๒๐ ๓ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ กิจกรรมนกั เรียน ลูกเสือ / เนตรนารี ๔๐ ๑ ชุมนุม กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์* ๓๐ ๑ ๑๐ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๑๐๔๐ ๒๖ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชนใ์ นชว่ั โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็นกิจกรรมชุมนุม ๓๐ ชว่ั โมง/ปี และกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชวั่ โมง/ปี
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔ เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม (ชม. / ปี ) ชม./สัปดาห์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๔๐ ๒๕/๒๐ ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ๔ ค๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ๔ ว๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๒ ว๑๔๑๐๒ วทิ ยาคานวณ ๔๐ ๑ ส๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา ๘๐ ๒ ส๑๔๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๑ พ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๘๐ ๒ ศ๑๔๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๘๐ ๒ ง๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐ ๑ อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๘๐ ๒ รายวชิ าเพมิ่ เติม ส๑๔๒๓๔ หนา้ ที่พลเมือง / ตา้ นทุจริต ๘๐ ๒ อ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร ๔๐ ๑ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ๔๐ ๑ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรียน ๑๒๐ ๓ ลูกเสือ / เนตรนารี ๔๐ ๑ ชุมนุม กิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์* ๔๐ ๑ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๓๐ ๑ ๑๐ ๑๐๔๐ ๒๖ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชนใ์ นชวั่ โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็นกิจกรรมชุมนุม ๓๐ ชวั่ โมง/ปี และกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชวั่ โมง/ปี
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๕ เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม (ชม. / ปี ) ชม./สัปดาห์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๔๐ ๒๕/๒๐ ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ๔ ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ๔ ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๒ ว๑๕๑๐๒ วทิ ยาคานวณ ๔๐ ๑ ส๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา ๘๐ ๒ ส๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๑ พ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๘๐ ๒ ศ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ๒ ง๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐ ๑ อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๘๐ ๒ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๘๐ ๒ ส๑๕๒๓๕ หนา้ ท่ีพลเมือง / ตา้ นทุจริต ๔๐ ๑ อ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร ๔๐ ๑ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ๑๒๐ ๓ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๑ กิจกรรมนกั เรียน ลูกเสือ / เนตรนารี ๔๐ ๑ ชุมนุม กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์* ๓๐ ๑ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๑๐ ๑๐๔๐ ๒๖ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชนใ์ นชวั่ โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็นกิจกรรมชุมนุม ๓๐ ชว่ั โมง/ปี และกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชวั่ โมง/ปี
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖ เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม (ชม. / ปี ) ชม./สัปดาห์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๔๐ ๒๕/๒๐ ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ๔ ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ๔ ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๒ ว๑๖๑๐๒ วทิ ยาคานวณ ๔๐ ๑ ส๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษา ๘๐ ๒ ส๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๑ พ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๘๐ ๒ ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ๒ ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐ ๑ อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๘๐ ๒ รายวชิ าเพม่ิ เติม ส๑๖๒๓๖ หนา้ ท่ีพลเมือง / ตา้ นทุจริต ๘๐ ๒ อ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร ๔๐ ๑ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ๔๐ ๑ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรียน ๑๒๐ ๓ ลูกเสือ / เนตรนารี ๔๐ ๑ ชุมนุม กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์* ๔๐ ๑ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๓๐ ๑ ๑๐ ๑๐๔๐ ๒๖ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ในชวั่ โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็นกิจกรรมชุมนุม ๓๐ ชวั่ โมง/ปี และกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชวั่ โมง/ปี
โครงสรา้ งหลกั สตู รมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลาเรียน เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม หน่วยกติ ชม./ รายวชิ า / กจิ กรรม หน่วยกติ ชม./ ภาคเรียน ภาคเรียน รายวชิ าพื้นฐาน ๑๑ ๔๔๐ รายวชิ าพืน้ ฐาน ๑๑ ๔๔๐ ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๑.๕ ๖๐ ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๑.๕ ๖๐ ค ๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๑.๕ ๖๐ ค ๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๑๑๐๓ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๑๑๐๒ วทิ ยาคานวณ ๑ ๐.๕ ๒๐ ว ๒๑๑๐๔ วทิ ยาคานวณ ๒ ๐.๕ ๒๐ ส ๒๑๑๐๑ สังคมศึกษา ๑ ๑.๕ ๖๐ ส ๒๑๑๐๓ สังคมศึกษา ๒ ๑.๕ ๖๐ ส ๒๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑ ๐.๕ ๒๐ ส ๒๑๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๐.๕ ๒๐ พ ๒๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑ ๑.๐ ๔๐ พ ๒๑๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๒ ๑.๐ ๔๐ ศ ๒๑๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๑ ๑ ๔๐ ศ ๒๑๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๒ ๑ ๔๐ ง ๒๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ ๐.๕ ๒๐ ง ๒๑๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ ๐.๕ ๒๐ อ ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๑.๕ ๖๐ อ ๒๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ๑.๕ ๖๐ รายวชิ าเพม่ิ เติม ๒.๕ ๑๐๐ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๒.๕ ๑๐๐ ท ๒๑๒๐๑ ภาษาไทยเพอ่ื การส่ือสาร ๑ ๐.๕ ๒๐ ท ๒๑๒๐๒ ภาษาไทยเพือ่ การสื่อสาร ๒ ๐.๕ ๒๐ ค ๒๑๒๐๑ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๑ ๐.๕ ๒๐ ค ๒๑๒๐๒ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๒ ๐.๕ ๒๐ อ ๒๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษทกั ษะการฟังพดู ๑ ๐.๕ ๒๐ อ ๒๑๒๐๒ ภาษาองั กฤษทกั ษะการฟังพดู ๒ ๐.๕ ๒๐ ว ๒๑๒๐๑ การใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปพ้ืนฐาน ๐.๕ ๒๐ ว ๒๑๒๐๓ การออกแบบและสร้างโฮมเพจ ๐.๕ ๒๐ ว ๒๑๒๐๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๐.๕ ๒๐ ว ๒๑๒๐๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๐.๕ ๒๐ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน - ๖๐ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน - ๖๐ กิจกรรมแนะแนว - ๒๐ กิจกรรมแนะแนว - ๒๐ กิจกรรมนกั เรียน กิจกรรมนกั เรียน - ๒๐ ลูกเสือ / เนตรนารี - ๒๐ ลูกเสือ / เนตรนารี - ๑๓ ชุมนุม - ๑๒ ชุมนุม -๗ กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์* - ๘ กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์* รวมเวลาเรียนท้ังสิ้น ๑๓.๕ ๖๐๐ รวมเวลาเรียนท้ังสิ้น ๑๓.๕ ๖๐๐ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชนใ์ นชวั่ โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็นกิจกรรมชุมนุม ๑๒ หรือ ๑๓ ชว่ั โมง/ภาคเรียน และกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๗ หรือ ๘ ชวั่ โมง/ภาคเรียน
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลาเรียน เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม หน่วย ชม./ รายวชิ า / กจิ กรรม หน่วย ชม./ กติ ภาค กติ ภาค เรียน เรียน รายวชิ าพื้นฐาน ๑๑ ๔๔๐ รายวชิ าพื้นฐาน ๑๑ ๔๔๐ ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๑.๕ ๖๐ ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๑.๕ ๖๐ ค ๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๑.๕ ๖๐ ค ๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๒๑๐๒ วทิ ยาคานวณ ๑ ๐.๕ ๒๐ ว ๒๒๑๐๓ วทิ ยาคานวณ ๒ ๐.๕ ๒๐ ส ๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๑ ๑.๕ ๖๐ ส ๒๒๑๐๓ สังคมศึกษา ๒ ๑.๕ ๖๐ ส ๒๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑ ๐.๕ ๒๐ ส ๒๒๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๐.๕ ๒๐ พ ๒๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑ ๑.๐ ๔๐ พ ๒๒๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๒ ๑.๐ ๔๐ ศ ๒๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๑ ๑ ๔๐ ศ ๒๒๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๒ ๑ ๔๐ ง ๒๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ ๑ ๔๐ ง ๒๒๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ ๑ ๔๐ อ ๒๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๑.๕ ๖๐ อ ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ๑.๕ ๖๐ รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ๒.๕ ๑๐๐ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๒.๕ ๑๐๐ ท ๒๒๒๐๑ วรรณคดีทอ้ งถิ่น ๑ ๐.๕ ๒๐ ท ๒๒๒๐๒ วรรณคดีทอ้ งถ่ิน ๒ ๐.๕ ๒๐ ค ๒๒๒๐๑ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๑ ๐.๕ ๒๐ ค ๒๒๒๐๒ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๒ ๐.๕ ๒๐ อ ๒๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษทกั ษะการอ่านและ ๐.๕ ๒๐ อ ๒๒๒๐๒ ภาษาองั กฤษทกั ษะการอ่าน ๐.๕ ๒๐ การเขียน ๑ และการเขียน ๒ ว ๒๒๒๐๑ ทกั ษะช่างทอเส่ือกก ๐.๕ ๒๐ ว ๒๒๒๐๓ ทกั ษะช่างทอผา้ พ้ืนเมือง ๐.๕ ๒๐ ว ๒๒๒๐๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๐.๕ ๒๐ ว ๒๒๒๐๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๐.๕ ๒๐ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน - ๖๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน - ๖๐ กิจกรรมแนะแนว - ๒๐ กิจกรรมแนะแนว - ๒๐ กิจกรรมนกั เรียน กิจกรรมนกั เรียน - ๒๐ ลูกเสือ / เนตรนารี - ๒๐ ลูกเสือ / เนตรนารี ชุมนุม - ๑๒ ชุมนุม - ๑๓ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์* - ๘ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์* - ๗ รวมเวลาเรียนท้ังสิ้น ๑๓.๕ ๖๐๐ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๑๓.๕ ๖๐๐ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชนใ์ นชว่ั โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็นกิจกรรมชุมนุม ๑๒ หรือ ๑๓ ชวั่ โมง/ภาคเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๗ หรือ ๘ ชวั่ โมง/ภาคเรียน
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลาเรียน เวลาเรียน รายวชิ า / กจิ กรรม หน่วย ชม./ รายวชิ า / กจิ กรรม หน่วย ชม./ กติ ภาค กติ ภาค เรียน เรียน รายวชิ าพื้นฐาน ๑๑ ๔๔๐ รายวชิ าพื้นฐาน ๑๑ ๔๔๐ ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๑.๕ ๖๐ ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๑.๕ ๖๐ ค ๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๑.๕ ๖๐ ค ๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๓๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ ๑.๕ ๖๐ ว ๒๓๑๐๒ วทิ ยาคานวณ ๑ ๐.๕ ๒๐ ว ๒๓๑๐๓ วทิ ยาคานวณ ๒ ๐.๕ ๒๐ ส ๒๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๑ ๑.๕ ๖๐ ส ๒๓๑๐๓ สังคมศึกษา ๒ ๑.๕ ๖๐ ส ๒๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑ ๐.๕ ๒๐ ส ๒๓๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๐.๕ ๒๐ พ ๒๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑ ๑.๐ ๔๐ พ ๒๓๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๒ ๑.๐ ๔๐ ศ ๒๓๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๑ ๑ ๔๐ ศ ๒๓๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๒ ๑ ๔๐ ง ๒๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ ๑ ๔๐ ง ๒๓๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ ๑ ๔๐ อ ๒๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๑.๕ ๖๐ อ ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ๑.๕ ๖๐ รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ๒.๕ ๑๐๐ รายวชิ าเพม่ิ เติม ๒.๕ ๑๐๐ ท ๒๓๒๐๑ ภูมปิ ัญญาภาษา ๑ ๐.๕ ๒๐ ท ๒๓๒๐๒ ภูมิปัญญาภาษา ๒ ๐.๕ ๒๐ ค ๒๓๒๐๑ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๑ ๐.๕ ๒๐ ค ๒๓๒๐๒ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๒ ๐.๕ ๒๐ อ ๒๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษ ๐.๕ ๒๐ อ ๒๓๒๐๒ ภาษาองั กฤษ ๐.๕ ๒๐ Amazing Udomthani ๑ Amazing Udomthani ๒ ว ๒๓๒๐๑ การออกแบบและตกแต่ง ๐.๕ ๒๐ ว ๒๓๒๐๓ การใชซ้ อฟแวร์พ้ืนฐาน ๐.๕ ๒๐ ว ๒๓๒๐๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๐.๕ ๒๐ ว ๒๓๒๐๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๐.๕ ๒๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน - ๖๐ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน - ๖๐ กิจกรรมแนะแนว - ๒๐ กิจกรรมแนะแนว - ๒๐ กิจกรรมนกั เรียน กิจกรรมนกั เรียน ลกู เสือ / เนตรนารี - ๒๐ ลกู เสือ / เนตรนารี - ๒๐ ชุมนุม - ๑๒ ชุมนุม - ๑๓ กิจกรรมเพื่อสงั คมและ - ๘ กิจกรรมเพื่อสงั คมและ -๗ สาธารณประโยชน*์ สาธารณประโยชน*์ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๑๓.๕ ๖๐๐ รวมเวลาเรียนท้ังสิ้น ๑๓.๕ ๖๐๐ หมายเหตุ * ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ในชวั่ โมงชุมนุมตามตารางเรียน โดยจดั เป็ นกิจกรรม ชุมนุม ๑๒ หรือ ๑๓ ชวั่ โมง/ภาคเรียน และกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๗ หรือ ๘ ชวั่ โมง/ภาคเรียน
โครงสรา้ งกล่มุ สาระการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา / ระดบั มธั ยมศกึ ษา
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั ประถมศึกษา จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย จานวน ๑๖๐ ชวั่ โมง ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย จานวน ๑๖๐ ชวั่ โมง ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดับมัธยมศึกษา จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๖ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต รายวชิ าเพมิ่ เตมิ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ท๒๑๒๐๑ ภาษาไทยเพอ่ื การสื่อสาร ๑ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ท๒๑๒๐๒ ภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร ๒ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ท๒๒๒๐๑ วรรณคดีทอ้ งถ่ิน ๑ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ท๒๒๒๐๒ วรรณคดีทอ้ งถ่ิน ๒ ท๒๓๒๐๑ ภูมิปัญญาภาษา ๑ ท๒๓๒๐๒ ภูมิปัญญาภาษา ๒
กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั ประถมศึกษา จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง ค๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ค๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ค๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ จานวน ๑๖๐ ชวั่ โมง ค๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ จานวน ๑๖๐ ชวั่ โมง ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั มัธยมศึกษา จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ค๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ค๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ค๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ค๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ค๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ค๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต รายวชิ าเพมิ่ เตมิ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ค๒๑๒๐๑ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๑ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ค๒๑๒๐๒ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๒ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ค๒๒๒๐๑ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๑ ค๒๒๒๐๒ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๒ ค๒๓๒๐๑ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๑ ค๒๓๒๐๒ คณิตศาสตร์คิดเร็ว ๒
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดับประถมศึกษา จานวน ๑๐๐ ชว่ั โมง ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๑๐๐ ชว่ั โมง ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๑๐๐ ชวั่ โมง ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ว๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ว๑๔๑๐๒ วทิ ยาคานวณ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ว๑๕๑๐๒ วทิ ยาคานวณ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ว๑๖๑๐๒ วทิ ยาคานวณ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั มัธยมศึกษา จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๒๑๑๐๒ วทิ ยาคานวณ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๑๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๒๑๑๐๓ วทิ ยาคานวณ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๒๒๑๐๒ วทิ ยาคานวณ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๒๒๑๐๓ วทิ ยาคานวณ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๒๓๑๐๒ วทิ ยาคานวณ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๓๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว๒๓๑๐๓ วทิ ยาคานวณ
รายวชิ าเพม่ิ เติม จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๑๒๐๑ การใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปพ้นื ฐาน จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๑๒๐๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๑๒๐๓ การใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปพ้นื ฐาน จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๑๒๐๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๒๒๐๑ การออกแบบและการสร้างโฮมเพจ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๒๒๐๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๒๒๐๓ การออกแบบและการสร้างโฮมเพจ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๒๒๐๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๓๒๐๑ การออกแบบและการตกแต่ง จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๒๒๐๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๓๒๐๓ การใชซ้ อฟแวร์พ้ืนฐาน จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๒๒๒๐๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา วฒั นธรรมและภมู ิศาสตร์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดับประถมศึกษา จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ส๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ส๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ส๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๔๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ส๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ส๑๖๑๐๑ สังคมศึกษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง รายวชิ าเพม่ิ เตมิ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๔๒๓๔ หนา้ ท่ีพลเมือง / ตา้ นทุจริต จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๕๒๓๕ หนา้ ท่ีพลเมือง / ตา้ นทุจริต ส๑๖๒๓๖ หนา้ ท่ีพลเมือง / ตา้ นทุจริต
รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดับมธั ยมศึกษา จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส๒๑๑๐๑ สงั คมศึกษา จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส๒๑๑๐๓ สังคมศึกษา จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๑๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส๒๒๑๐๓ สงั คมศึกษา จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๒๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส๒๓๑๐๑ สังคมศึกษา จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส๒๓๑๐๓ สงั คมศึกษา จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๓๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ รายวชิ าเพมิ่ เติม
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษา และพลศกึ ษา รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั ประถมศึกษา จานวน ๔๐ ชว่ั โมง พ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง พ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง พ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา จานวน ๘๐ ชว่ั โมง พ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา จานวน ๘๐ ชวั่ โมง พ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา จานวน ๘๐ ชว่ั โมง พ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั มธั ยมศึกษา จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต พ๒๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต พ๒๑๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๒ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต พ๒๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๓ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต พ๒๒๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต พ๒๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๕ พ๒๓๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา ๖
กล่มุ สาระการเรยี นรทู้ ศั นศลิ ป์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั ประถมศึกษา จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ๑๑๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ๑๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ๑๓๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ศ๑๔๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ศ๑๕๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ศ๑๖๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดับมธั ยมศึกษา จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ๒๑๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ๒๑๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ๒๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ๒๒๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ๒๓๑๐๑ ทศั นศิลป์ ศ๒๓๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์
กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั ประถมศึกษา จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ง๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ง๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั มัธยมศึกษา จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ง๒๑๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ง๒๑๑๐๒ การงานอาชีพ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ง๒๒๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ง๒๒๑๐๒ การงานอาชีพ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ง๒๓๑๐๑ การงานอาชีพ ง๒๓๑๐๒ การงานอาชีพ รายวชิ าเพม่ิ เติม
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) (ภาษาองั กฤษ)รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดับประถมศึกษา อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง อ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง รายวชิ าเพมิ่ เติม อ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร จานวน ๔๐ ชวั่ โมง อ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพือ่ การส่ือสาร จานวน ๔๐ ชวั่ โมง อ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสาร จานวน ๔๐ ชวั่ โมง รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดับมัธยมศึกษา อ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต อ๒๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต อ๒๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต อ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๔ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต อ๒๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต อ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๖ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต รายวชิ าเพม่ิ เติม อ๒๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษทกั ษะการฟัง-พูด ๑ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต อ๒๑๒๐๒ ภาษาองั กฤษทกั ษะการฟัง-พดู ๒ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต อ๒๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษทกั ษะการอ่าน-เขียน ๑ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต อ๒๒๒๐๒ ภาษาองั กฤษทกั ษะการอา่ น-เขียน ๒ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต อ๒๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษ Amazing Udomthani ๑ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต อ๒๓๒๐๒ ภาษาองั กฤษ Amazing Udomthani ๒ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต
คาอธบิ ายรายวิชา
ระดบั ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรูพ้ ้นื ฐาน
กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
คาอธิบายรายวชิ า ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง ศึกษาและบอกความหมายของคา คาคล้องจอง คาในภาษาถิ่นใช้ในชีวิตประจาวนั และ ขอ้ ความที่ประกอบดว้ ย คาพ้ืนฐาน ที่ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไม่นอ้ ยกวา่ ๖๐๐ คา รวมท้งั คาที่ใชเ้ รียนรู้ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ที่มีรูปวรรณยุกตแ์ ละไม่มีรูปวรรณยุกต์ คาที่มีตวั สะกดตรงตามมาตราและไม่ ตรงตามมาตรา คาที่มีพยญั ชนะควบกล้า คาที่มีอกั ษรนา ศึกษานิทาน เร่ืองส้ัน ๆ บทร้องเล่นและบท เพลง คาและความหมายของ จากสื่อต่าง ๆ เรื่องราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและ กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น หนังสือท่ีอ่านตามความสนใจและเหมาะสมกบั วยั หนังสือ ที่ครูและ นกั เรียนกาหนดร่วมกนั เครื่องหมายหรือสัญลกั ษณ์ต่าง ๆ ท่ีพบเห็นในชีวิตประจาวนั ท่ี แสดงความ ปลอดภยั และแสดงอนั ตราย รูปแบบการเขียนตวั อกั ษรไทย คาท่ีใช้ในชีวิตประจาวนั คาพ้ืนฐานใน บทเรียน คาคล้องจอง ประโยคง่าย ๆ ความรู้สึกจากเรื่องเร่ืองเล่าและสารคดีสาหรับเด็ก นิทาน การ์ตูนเรื่องขบขนั ท่ีฟังและดู ท้งั ท่ีเป็ นความรู้และความบนั เทิง ในชีวิตประจาวนั ศึกษาพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย สะกดคา แจกลูก และการอ่านเป็นคา มาตราตวั สะกดท่ีตรงตามมาตราและ ไม่ตรงตามมาตรา ผนั คา เรียบเรียงคาเป็ นประโยคง่าย ๆ ต่อคาคลอ้ งจองง่าย ๆ ขอ้ คิด ท่ีไดจ้ ากการอ่าน หรือการฟังวรรณกรรมร้อยแกว้ และร้อยกรองสาหรับเด็ก บทอาขยาน และบทร้อยกรองตามความสนใจ นิทาน เร่ืองส้ันง่าย ๆ ปริศนาคาทาย บทร้องเล่นที่เป็ นวรรณกรรมร้อยแกว้ และร้อยกรองสาหรับเด็ก มารยาทในการอ่าน มารยาทในการเขียน มารยาทในการฟัง การดู และการพูด โดยใชก้ ระบวนการอา่ นออกเสียง การอา่ นจบั ใจความ การบอก การเล่าเร่ือง การคาดคะเน การตอบคาถาม การอ่านตามความสนใจ การคดั ลายมือ กระบวนการเขียนส่ือสาร การเขียนสะกดคา การ เรียบเรียงคา การต่อคา กระบวนการฟัง การพูดส่ือสาร การพูดแสดง ความคิดเห็น การบอกความหมาย และการท่องจา เพ่ือใหม้ ีมารยาทในการอา่ น มารยาทในการเขียน มารยาทในการฟัง การดูและการพดู พร้อมนอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการในบทเรียนและบูรณาการเน้ือหาสาระ ทอ้ งถิ่น มาตรฐาน / รหสั ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕,ป.๑/๖,ป.๑/๗,ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒, ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔ ท ๕.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ รวมท้งั หมด ๕ มาตรฐาน ๒๒ ตัวชี้วดั
คาอธิบายรายวชิ า ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง ศึกษา คา คาคลอ้ งจอง คาในภาษาถิ่นที่ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ขอ้ ความ และบทร้อยกรอง ง่าย ๆ ท่ีประกอบดว้ ยคาพ้ืนฐานเพิ่มจาก ป. ๑ ไม่น้อยกวา่ ๘๐๐ คา รวมท้งั คาที่ใชเ้ รียนรู้ในกลุ่มสาระ การเรียนรู้อ่ืน คาที่มีตวั สะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา คาที่มีรูปวรรณยกุ ตแ์ ละไม่มีรูป วรรณยกุ ต์ คาที่มีพยญั ชนะควบกล้า คาท่ีมีอกั ษรนา คาท่ีมีตวั การันต์ คาที่มี รร คาท่ีมีพยญั ชนะและ สระท่ีไม่ออกเสียง ศึกษานิทาน เร่ืองเล่าส้นั ๆ บทเพลงและบทร้อยกรองง่าย ๆ เรื่องราวจากบทเรียน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น หนงั สือตามความสนใจ และเหมาะสม กบั วยั หนงั สือท่ีครูและนกั เรียนกาหนดร่วมกนั ขอ้ เขียนเชิงอธิบาย และปฏิบตั ิตามคาส่ังหรือขอ้ แนะนา เกี่ยวกบั การใชส้ ถานท่ีสาธารณะ การใชเ้ ครื่องใชท้ ี่จาเป็ นในบา้ นและในโรงเรียน รูปแบบการเขียนตวั อกั ษรไทย เร่ืองส้ัน ๆ เกี่ยวกบั ประสบการณ์ ตามจินตนาการ ฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา คาส่ังท่ี ซบั ซ้อน ความรู้สึกจากเรื่องท่ีฟังและดู ท้งั ท่ีเป็ นความรู้และความบนั เทิง พูดส่ือสารในชีวติ ประจาวนั พยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ เลขไทย การสะกดคา แจกลูก และการอ่านเป็ นคา คามาตราตวั สะกดท่ี ตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา การผนั อกั ษร คาท่ีมีตวั การันต์ คาที่มีพยญั ชนะควบกล้า คาท่ีมี อกั ษรนา คาที่มีความหมายตรงขา้ มกนั คาท่ีมี รร แต่งประโยค เรียบเรียงประโยคเป็ นขอ้ ความ ส้ัน ๆ คาคล้องจอง ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถ่ิน วรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสาหรับเด็ก ประเภทนิทาน เร่ืองส้ันง่ายๆ ปริศนาคาทาย บทอาขยาน บทร้อยกรอง วรรณคดีและ วรรณกรรมในบทเรียน บทร้องเล่นในท้องถิ่น บทร้องเล่น ที่มีคุณค่า ในการละเล่นของเด็กไทย มารยาทในการอ่าน มารยาทในการเขียน มารยาทในการฟัง การดู และการพูด โดยใชก้ ระบวนการอา่ นออกเสียง การอธิบาย การต้งั คาถาม บอก ตอบคาถาม ระบุ ใจความสาคญั และรายละเอียด แสดงความคิดเห็นและคาดคะเน การนาเสนอ กระบวนการเขียน การ คดั ลายมือ กระบวนการฟัง และปฏิบตั ิตาม การ เล่าเร่ืองท่ีฟังและดู บอกสาระสาคญั การพูดแสดง ความคิดเห็นและความรู้สึก การพูดส่ือสาร การบอก เลือกใช้ เรียบเรียงคา เขียนสะกดคา ระบุข้อคิด เลือกใช้ ร้อง และท่องจา มีมารยาทในการอา่ น มารยาทในการเขียน มารยาทในการฟัง การดู และการพดู และเห็นคุณค่าบทร้อยกรองตามความสนใจ พร้อมน้อมนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการในบทเรียนและสอดแทรกเน้ือหาสาระ ทอ้ งถิ่น
มาตรฐาน / รหสั ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗ ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวมทงั หมด ๕ มาตรฐาน ๒๗ ตวั ชี้วดั คาอธิบายรายวชิ า
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง ศึกษา คา คาคลอ้ งจอง คาในภาษาถ่ินที่ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ขอ้ ความ และบทร้อยกรอง ง่าย ๆ ที่ประกอบดว้ ยคาพ้ืนฐานเพิ่มจาก ป.๒ไม่น้อยกว่า ๑,๒๐๐ คา รวมท้งั คาที่เรียนรู้ในกลุ่มสาระการ เรียนรู้อื่น ประกอบดว้ ยคาท่ีมีตวั การันต์ คาท่ีมี รร คาที่มีพยญั ชนะและสระไม่ออกเสียง คาพอ้ ง คา พิเศษอ่ืน ๆ นิทานหรือเร่ืองเกี่ยวกบั ทอ้ งถ่ิน เร่ืองเล่าส้ัน ๆ บทเพลงและบทร้อยกรอง บทเรียนในกลุ่ม สาระการเรียนรู้อื่น ข่าวและเหตุการณ์ใน ชีวิตประจาวนั ในทอ้ งถ่ินและชุมชนจากส่ือต่างๆ ศึกษา หนังสือตามความสนใจ และเหมาะสมกบั วยั หนังสือท่ีครูและนักเรียนกาหนดร่วมกนั ขอ้ เขียนเชิง อธิบาย คาส่ังหรือขอ้ แนะนาขอ้ มูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ รูปแบบการเขียน ตวั อกั ษรไทย ลกั ษณะของ คน สัตว์ ส่ิงของ สถานที่ บนั ทึกประจาวนั จดหมายลาครู เร่ืองตามจินตนาการจากคา ภาพ และหัวข้อท่ีกาหนด ความรู้สึกจากเรื่องท่ีฟังและดูท้งั ท่ีเป็ นความรู้และความบนั เทิง การสื่อสารใน ชีวิตประจาวนั มารยาทในการฟัง การดู และการพูด คา การแจกลูก และการอ่านเป็ นคา มาตรา ตวั สะกดที่ตรงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา การผนั อกั ษร คาที่มีพยญั ชนะควบกล้า อกั ษรนา คาที่ ประวิสรรชนียแ์ ละคาท่ีไม่ประวิสรรชนีย์ คาท่ีมี ฤ ฤๅ คาที่ใช้ บนั บรร คาท่ีใช้ รร คาท่ีมีตวั การันต์ และความหมายของคา ชนิดของคา การใชพ้ จนานุกรม ประโยคเพื่อการสื่อสาร คาคลอ้ งจอง คาขวญั ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิ่น วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพ้ืนบ้าน ประเภท นิทานหรือเร่ืองใน ทอ้ งถิ่น เรื่องส้ันง่าย ๆ ปริศนาคาทาย บทร้อยกรอง เพลงพ้ืนบา้ น เพลงกล่อมเด็ก วรรณกรรม และวรรณคดีในบทเรียนและตามความสนใจ บทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า มารยาทในการ อ่าน มารยาทในการเขียน มารยาทในการฟัง การดู และการพดู โดยใช้ กระบวนการอ่านออกเสียง อธิบาย ต้งั คาถามและตอบคาถาม บอก ลาดบั เหตุการณ์ และคาดคะเน ระบุเหตุผล สรุปความรู้และขอ้ คิด ปฏิบตั ิ คดั ลายมือ กระบวนการ เขียน แตง่ ประโยค ใชพ้ จนานุกรม การเลือกใช้ กระบวนการพูด พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก การเล่าเร่ือง บอก การลาดบั เหตุการณ์และคาดคะเน สรุป แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก ระบุ ขอ้ คิด และการทอ่ งจา เพ่ือใหม้ ีมารยาทในการอ่าน มีมารยาทในการเขียน มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด รู้จกั เห็นคุณค่า และมีความช่ืนชมวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน พร้อมน้อมนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการในบทเรียนและสอดแทรกเน้ือหาสาระ ทอ้ งถิ่น มาตรฐาน / รหัสตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗ ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ รวมท้งั หมด ๕ มาตรฐาน ๓๒ ตัวชี้วดั คาอธิบายรายวชิ า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366