Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แฟ้มนักเรียน 2565 เด็กชายนราวิชญ์ สุริยะวงศ์

แฟ้มนักเรียน 2565 เด็กชายนราวิชญ์ สุริยะวงศ์

Published by ์นัฎฐา เครือวิเสน, 2023-04-19 15:33:53

Description: แฟ้มนักเรียน 2565 เด็กชายนราวิชญ์ สุริยะวงศ์

Search

Read the Text Version

88 ๖ ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรยี นมคี วามเหมาะสมกับความตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษของนักเรยี น และปลอดภยั ต่อการดำรงชวี ิต  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเปน็ พเิ ศษ ของนักเรยี นแตย่ งั สามารถใช้ได้อยา่ งปลอดภยั ต่อการดำรงชีวติ  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความต้องการจำเป็นพิเศษ ของนักเรียนและไม่ปลอดภยั ต่อการดำรงชีวิต  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรียนทกุ อย่างไม่มคี วามเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พิเศษของ นกั เรียนและไม่ปลอดภัยตอ่ การดำรงชีวติ ระบรุ ายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ ................................................................................................................................. .......... ๓) ผู้เกีย่ วขอ้ ง  ครู/พ่ีเล้ยี งเด็กพกิ าร/ผู้ปฏิบตั ิงานให้ราชการ ทุกคนพร้อมให้การชว่ ยเหลอื นกั เรยี น  คร/ู พี่เลี้ยงเด็กพกิ าร/ผู้ปฏบิ ตั ิงานใหร้ าชการ บางคนละเวน้ ไมใ่ ห้การช่วยเหลอื นักเรียน  คร/ู พี่เล้ียงเด็กพกิ าร/ผู้ปฏบิ ัตงิ านใหร้ าชการ บางคนรงั เกยี จนกั เรยี น  เพอ่ื นทุกคนยอมรบั /ใหเ้ ข้ากลุม่ ทำกจิ กรรม  เพ่ือนบางคนไมย่ อมรบั /ไม่ให้เขา้ กล่มุ ทำกิจกรรม  เพอื่ นทุกคนไม่ยอมรบั /ไม่ให้เข้ากลุม่ ทำกิจกรรม ๓.๒ สภาพแวดลอ้ มภายในบ้าน ๑) บรเิ วณภายในบ้าน  สะอาดปลอดภยั เอ้ือต่อการพฒั นาศักยภาพนักเรยี น  สะอาดปลอดภัยแต่ไม่เอ้ือตอ่ การพัฒนาศักยภาพนักเรียน  ไมส่ ะอาดและไม่ปลอดภัย ๒) บรเิ วณภายนอกบา้ น  สะอาดปลอดภัยเอื้อต่อการพฒั นาศักยภาพนักเรยี น  สะอาดปลอดภยั แต่ไม่เอื้อตอ่ การพัฒนาศักยภาพนักเรียน  ไมส่ ะอาดและไม่ปลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอ้ มภายในชุมชน ๑) เจตคตขิ องชมุ ชนทม่ี ีต่อนักเรยี นและครอบครวั  เปน็ ภาระของสงั คม  พรอ้ มให้ความช่วยเหลอื  ความเชือ่ เรอื่ งเวรกรรม  มสี ิทธิเท่าเทียมกบั คนทั่วไป  น่ารังเกยี จ  คนพิการสามารถพฒั นาได้  ไม่สนใจ

89 ๗ ๒) ความสัมพนั ธข์ องนักเรยี นกับชมุ ชน  มสี ่วนรว่ มในชุมชน เป็นทร่ี ู้จกั ในชุมชน  ชมุ ชนใหค้ วามชว่ ยเหลอื  เปน็ ทีร่ กั ของคนในชมุ ชน  ไม่สนใจ  ไม่มีคนในชุมชนรจู้ ัก  สร้างความเดือดร้อนให้คนในชุมชน ลงชอ่ื .......................................................ครปู ระจำชนั้ /ผู้บนั ทกึ ขอ้ มลู (นางสาวนฎั ฐา เครือวิเสน)

90 แบบรวบรวมข้อมูลผ้เู รยี น ตามกรอบคิดแนวเชิงนิเวศ (Ecological System) และกรอบการประเมนิ ของฟานไดจค์ (The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities) ชอื่ -นามสกลุ นักเรยี น เด็กชายนราวชิ ญ์ สุรยิ ะวงศ์ ช่ือเล่น ลโี อ ระดบั ชน้ั เตรียมความพร้อม ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทการรับบรกิ าร หน่วยบริการ ช่อื สถานศกึ ษา ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจำจงั หวดั ลำปาง อำเภอเถิน จังหวัด ลำปาง ขอ้ มูล ณ วันที่ ๒๗ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

91 รวบรวมขอ้ มูลผู้เรยี น ข้อมูลของผเู้ รียน ๑. ข้อมลู ของผเู้ รยี น ช่ือ-นามสกลุ นักเรียน เด็กชายนราวิชญ์ สุริยะวงศ์ ช่ือเล่น ลโี อ อายุ ๘ ปี เพศ ชาย เช้ือชาติ ไทย ประเภทความพิการ บุคคลออทิสติก โรคประจำตวั -  ลกั ษณะความพิการ นักเรยี นมีพฤติกรรมอยูไ่ ม่นงิ่ ชอบเดนิ ไปมา เหม่อลอยยกุ ยกิ ขณะทำกิจกรรมหรือขณะเรียน ไมส่ ามารถพูด ในการสื่อสารได้ แสดงความต้องการโดยการจูงมือ เช่น เด็กจะจูงมือผู้ปกครอง / ครู เพ่ือนำไปทำ ส่ิงท่ีต้องการ สามารถพูดตามเป็นคำได้ แต่ไม่ชัดเจน นักเรียนมีพฤติกรรมกระตุ้นตัวเอง มีพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสมโดยการเอามือเคาะศีรษะตนเอง เม่ือมีการเปล่ียนแปลงกิจกรรมประจำวันหรือถูกขัดใจ เช่น การมาโรงเรียนในเช้าของวันจันทร์ท่ีหยุดเรียนไปสองวัน ทำให้นักเรียนมีอาการไม่อยากเรียน จะเกิดการใช้มือเคาะ ศีรษะตนเอง มีพฤติกรรมหลีกหนีการสัมผัส ไม่จับผิวสัมผัสท่ีเหนียวหรือทำให้มือสกปรก เช่น กาว ดิน ไม่เข้าใจ อารมณ์ของผู้อื่น เช่น ไม่เข้าใจเวลาเพ่ือนโกรธ เศร้า เสียใจ ไม่สามารถเริ่มต้นบทสนทนากับผู้อ่ืนได้ ไม่เข้าใจ คำที่เป็นนามธรรม เช่น การเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผ่ ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง เช่น ไม่เล่นกับเพ่ือน ไม่สนใจ คนรอบข้าง เป็นต้น ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง เช่น ไม่เล่นกับเพื่อน เป็นต้น ชอบเล่นคนเดียว ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าง หรือกรีดร้องเสียงดัง สามารถทำตามคำส่ังง่ายได้ ๑ ข้ันตอน แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติตาม กฎกตกิ า ระเบียบหรือข้อตกลงได้ ไม่รู้จักการรอคอย ไม่รู้จักการเข้าแถว ชอบด่ืมนมมากกว่าการดื่มน้ำเปล่า การรับ ประมานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้เอง แต่จะตักเฉพาะเนื้อสัตว์เท่าน้ัน จะไม่ตักข้าวพร้อมกับ การตักเนอ้ื สตั ว์  พฤติกรรมของผู้เรียน พฤติกรรมส่วนบุคคล นกั เรียนมพี ฤติกรรมอยู่ไมน่ ิ่ง ชอบเดินไปมา เหม่อลอยยุกยกิ ขณะทำกจิ กรรมหรือขณะเรยี น ไมส่ ามารถพดู ในการสื่อสารได้ แสดงความต้องการโดยการจูงมอื มพี ฤตกิ รรม ทีไ่ ม่เหมาะสมโดยการเอามือเคาะศีรษะตนเอง เม่ือมี การเปลี่ยนแปลงกิจกรรมประจำวันหรือถูกขัดใจ เช่น การมาโรงเรยี นในเช้าของวันจันทร์ที่หยุดเรียนไปสองวัน ทำ ให้นักเรยี นมอี าการไม่อยากเรียน จะเกิดการใช้มือเคาะศีรษะตนเอง มีพฤติกรรมหลีกหนีการสัมผัส ไม่จับผิวสัมผัสที่ เหนียวหรือทำให้มือสกปรก เช่น กาว ดิน ไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น เช่น ไม่เข้าใจเวลาเพ่ือนโกรธ เศร้า เสียใจ ไม่มปี ฏิสัมพนั ธ์กับบคุ คลรอบข้าง เชน่ ไมเ่ ลน่ กับเพอ่ื น เปน็ ต้น ชอบเลน่ คนเดียว พฤติกรรมการเรียนรู้ นักเรียนไม่สามารถส่ือสารด้วยภาษาที่มีความหมายได้ แสดงความต้องการโดยการจูงมือ นักเรียน ทำกจิ กรรมต่างๆได้โดยการจับมือทำในเบื้องต้นกอ่ น และหลงั จากนัน้ สามารถทำไดว้ ยตนเองโดยผคู้ นชี้แนะด้วยวาจา สามารถทำตามคำส่งั งา่ ยๆได้ ๑ ข้นั ตอน สามารถทำกิจวตั รประจำวนั เช่น การล้างมือ แปรงฟัน อาบนำ้ แต่งตัวและ การขับถ่าย รับประทาน ด่ืมนม ได้ด้วยตนเองแตต่ ้องมีผู้อ่ืนช้ีแนะด้วยวาจาหรือจับมือทำในบางขั้นตอน แต่สามารถ กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

92 และสามารถทำกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การเสริมแรงทางบวกด้วยขนมที่นักเรียนชอบ ได้แก่ ขนมเลย์ ขนมเวเฟอร์ นำ้ ผลไม้ ในระหว่างการฝึกการเรียนรู้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้โดยผ่านการมอง การฟัง การจับมือทำโดยเป็นคำส่ัง งา่ ยๆ เป็นลำดับขั้นตอนการทำงานจากขั้นตอนง่ายๆไปหาขั้นตอนที่ยากข้ึนด้วยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา โดยการใชส้ ื่ออุปกรณ์ที่เป็นของจริงที่เหมาะสมกับผู้เรยี นในชวี ิตประจำวันและใชก้ ารประสมประสานทกุ วิธใี นการทำ กิจกรรมทุกข้ันตอนโดยการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกช่วยในการเรียนรู้ คือ บัตรภาพสื่อสาร และวิธีที่การสอน ที่ผเู้ รียนใหค้ วามรว่ มมอื มากที่สุด คอื การประเมนิ รางวลั และการใหร้ างวัล ภาพนกั เรียน  ความสามารถพน้ื ฐานของผเู้ รยี น ๑.๑ ความสามารถพ้นื ฐานกล่มุ สาระการดำรงชีวติ ประจำวนั และการจัดการตนเอง จุดเดน่ จดุ ออ่ น ๑. เม่อื ใหน้ ักเรยี นรับประทานอาหาร นกั เรยี นสามารถ ๑. เมือ่ ให้นกั เรยี นรบั ประทานอาหาร นกั เรยี นสามารถ รับประทานอาหาร นักเรยี นสามารถตักอาหารเข้าปาก รับประทานอาหาร ได้ด้วยตนเองแต่ต้องมีผู้อน่ื คอย ได้ด้วยตนเอง กระต้นุ เตือนดว้ ยวาจา ให้รบั ประทานข้าวพร้อม กบั ข้าว ๒. เมอ่ื ใหน้ กั เรียนสวมเสอ้ื นักเรียนสามารถสวมเส้ือได้ ๒. เมอื่ ให้นกั เรยี นสวมเส้อื นักเรยี นสามารถทำได้ ด้วยตนเองบางขน้ั ตอน โดยมีผู้อน่ื กระตนุ้ เตอื นด้วย แต่ยังไมร่ จู้ ักว่าด้านไหนคือดา้ นหน้าหรอื ด้านหลังของ ทางกายและวาจา เส้ือ ๓. เมื่อใหน้ กั เรยี นเข้าห้องนำ้ นักเรยี นสามารถ ๓. เมื่อให้นักเรียนเข้าห้องน้ำ นักเรียนสามารถเข้า ทำความสะอาดตนเองและห้องน้ำ หลงั ใช้ห้องนำ้ และ ห้องน้ำด้วยคนเองได้ แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติตนตาม แตง่ กายให้แล้วเสร็จก่อนออกจากห้องน้ำได้ แต่ทำได้ ข้นั ตอนการเข้าห้องน้ำไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน ในบางข้นั ตอน โดยมีผู้อน่ื กระตุ้นเตือนทางกายและ วาจา กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

93 รวบรวมขอ้ มูลผู้เรยี น ข้อมูลความสามารถผู้เรียน ๑.๒ ความสามารถพนื้ ฐานกลมุ่ สาระการเรยี นรู้และความรพู้ ้ืนฐาน จุดเดน่ จุดอ่อน ๑. นกั เรียนรูจ้ ัก อุปกรณ์ เทคโนโลยใี นชีวิตประจำวัน ๑. นกั เรยี นไมร่ ู้จกั อปุ กรณ์ เทคโนโลยีใน โดยการบอก ช้ี หยิบหรือรูปแบบการสอ่ื สารอนื่ ดว้ ย ชวี ิตประจำวัน โดยการบอก ช้ี หยบิ หรือรูปแบบการ การกระตนุ้ สื่อสารอ่นื ได้เอง ๑.๓ ความสามารถพ้นื ฐานกลุม่ สาระการเรียนรสู้ งั คมและการเปน็ พลเมืองทเี่ ขม้ แข็ง จดุ เด่น จดุ ออ่ น ๑. เม่ือใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมกลมุ่ เช่น กิจกรรม ๑. ผูเ้ รียนไม่สามารถทำกจิ กรรมกบั ผูอ้ ื่นไดน้ านเกิน วงกลม นกั เรยี นทำกจิ กรรมอยรู่ ว่ มกับเพื่อนไดภ้ ายใน ๑ - ๒ นาที ซง่ึ จะแสดงพฤติกรรมตอ่ ต้านทำเสียง ระยะเวลา ๑-๒ นาที โดยมผี ้ปู กครองคอยช่วยเหลือ โวยวาย อยู่ไม่นิ่ง ใชม้ อื บังคบั เกา้ อ้ีรถเข็นไปมาเพื่อหลกี หนีออก จากกิจกรรมและจบั มอื ผู้ดแู ลชใ้ี ห้นำตนเองเอาออก จากกิจกรรม ๒. นักเรียนสามารถรอคอยได้ ๑ - ๒ นาที ๒. นักเรียนไม่สามารถรอคอยไดน้ านเกนิ ๒ นาที ๓. เมอ่ื ครหู รอื ผดู้ แู ลให้ทำกิจกรรมและปฏบิ ัตติ าม ๓. นกั เรยี นไมส่ ามารถปฏบิ ตั ิตามคำส่ังทย่ี ากๆ หลาย คำสั่งงา่ ยๆ (หยิบ ใส่) เชน่ หยิบ จับสิ่งของใส่ตะกร้า ข้ันตอนได้ ครูต้องคอยบอกทุกขน้ั ตอนโดยการจบั มือ ผ้เู รียนสามารถปฏิบัติตามคำสง่ั ได้โดยการเอือ้ มมือไป ทำ หยิบของใส่ตามเป้าหมายทกี่ ำหนดได้ ๔. เมื่อครูใหท้ ำกจิ กรรมวงกลมและมีการเรยี กช่ือ ๔. เมอ่ื ครใู หท้ ำกจิ กรรมวงกลมและมีการเรยี กชื่อ นักเรยี นสามารถหันหน้าตามเสียงเรยี กชอื่ เลน่ นกั เรียนไม่ตอบสนอง แสดงการนง่ิ เฉย หรอื หันตาม (นอ้ งเพยี ว) ของตนเอง และมองหนา้ ผพู้ ูดได้ เสยี งเรยี กชือ่ จรงิ ของตนเอง(ณพชั ร) และมองหน้า ผู้พดู ได้ กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

94 รวบรวมข้อมูลผูเ้ รยี น ข้อมูลความสามารถผู้เรยี น ๑.๔ ความสามารถพน้ื ฐานกลมุ่ สาระการงานพ้ืนฐานอาชพี จดุ เดน่ จุดออ่ น ๑. เมื่อให้นักเรียนเก็บของเล่น – ของใช้ส่วนตัวหรือ ๑. เม่ือให้นักเรยี นเกบ็ ของเล่น – ของใช้ส่วนตวั หรอื ของสมาชิก ในครอบครัวจนเป็นนิสัย โดยครูหรือ ของสมาชิก ในครอบครัวจนเป็นนิสยั โดยครหู รอื ผปู้ กครองใหก้ ารกระตนุ้ เตือน นกั เรียนสามารถทำได้ ผู้ปกครองใหก้ ารกระต้นุ เตือน นักเรยี นไมส่ ามารถทำ ได้หากไมม่ ีผู้อืน่ คอยกระตุ้นเตือน ๑.๕ ความสามารถพื้นฐานทางด้านทกั ษะจำเปน็ เฉพาะความพิการ จุดเดน่ จดุ ออ่ น ๑. นักเรียนสามารถมีสมาธิจดจ่อ เป็นระยะเวลา ๑. นักเรียนมีพฤติกรรมอยู่ไม่น่ิง ขณะทำกิจกรรม ๑ - ๒ นาที การเรียนรู้ การทำใบงาน ๒. นักเรยี นสามารถใช้บตั รภาพส่ือสารบอกความ ๒. นักเรยี นไมส่ ามารถหยิบบัตรภาพบอกความ ต้องการในการเขา้ ห้องน้ำได้ โดยการที่คณกุ ระตนุ้ ต้องการดา้ นอื่นๆไดด้ ้วยตนเอง เตือนด้วยวาจา กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

95 รวบรวมข้อมูลผเู้ รียน กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework การรวบรวมขอ้ มลู ผเู้ รยี นตามกรอบการประเมิน The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. Approach-Withdrawal (การเข้าใกล้-ถอนหน)ี การดปู ฏิกิริยาของเดก็ ในการเผชญิ สิ่งใหม่ ประสบการณ์ บคุ คล/สถานที่ สิ่งของ ความคิด ๑.๑ อะไรทเี่ ป็นตัวชี้บอกว่าเด็กเข้าร่วม นักเรยี นให้ความร่วมมอื สนใจ ในกิจกรรมที่ใหท้ ำ ๑.๒ อะไรที่เป็นตวั ช้บี อกว่าเด็กไม่เข้ารว่ ม นกั เรียนไม่ให้ความสนใจ หนีห่างออกมาจากบริเวรท่ี ดำเนนิ กิจกรรม ๑.๓ มีอะไรที่สังเกตเห็นว่าจูงใจเดก็ บ้าง ขนม ของกิน น้ำผลไม้ ๑.๔ อะไรทสี่ ังเกตเห็นวา่ เด็กไมส่ นใจ/หลีกหนีบ้าง การท่ีนักเรยี นไมส่ นใจ ไมใ่ ห้ความรว่ มมือในการทำ กจิ กรรม ถอยตวั เอาตัวเองออกมาจากกจิ กรรม ๒. Sensory Learning Channels (ช่องทางการเรียนรู้ด้านประสาทการรับร้)ู ๒.๑ เด็กรบั ขอ้ มลู ไดโ้ ดยวธิ ีใดบา้ ง การฟัง การมอง ๒.๒ เดก็ ตอบสนองต่อเสียงอย่างไร หนั มองตามแหล่งกำเนดิ ของเสียง ๒.๓ เด็กตอบสนองต่อสงิ่ เร้าทางสายตาอยา่ งไร เดินเข้าไปหาเมือ่ เกิดความสนใจ ๒.๔ เด็กตอบสนองต่อการสัมผัสอยา่ งไร หนั มองตามสงิ่ ที่ไดร้ บั การสัมผัส ๒.๕ เดก็ ใช้ประสาทสัมผสั มากกว่าหนึ่งอย่างในเวลา ใช่ โดยสามารถใชห้ ใู นการฟัง รว่ มกบั ตาในการ เดยี วกันหรือไม่ มองเห็น และมือสัมผสั ได้ ๒.๖ เดก็ แสดงตวั ชีแ้ นะการรว่ มหรอื ไม่เขา้ รว่ มในการ นักเรียนไม่ได้แสดงตวั ชี้แนะการร่วมหรือไมเ่ ข้ารว่ ม ตอบสนองขอ้ มลู ทางประสาทสัมผัสเฉพาะหรือไม่ ในการตอบสนองขอ้ มลู ทางประสาทสมั ผสั เฉพาะ ๓. Biobehavioral State (สถานะทางชีวพฤตกิ รรม) ชุดของสภาพการณด์ า้ นชีวพฤติกรรมและกายภาพตง้ั แตก่ ารนอนหลบั จนถึงการตืน่ นอนและการรอ้ ง ๓.๑ สภาพปจั จุบันของเดก็ คืออะไร นกั เรียนมาโรงเรียนด้วยอาการง่วง หรอื มอี าการ ตาแดง เนือ่ งจากในชว่ งตอนกลางคืนนกั เรียนมักจะ ไมน่ อน มกั จะแอบผ้ปู กครองออกมาน่ังเล่นโทรศัพท์ ข้างนอก ๓.๒ เด็กสามารถควบคมุ /เปลี่ยนสภาพของตนได้ เด็กสามารถควบคุม/เปลีย่ นสภาพของตนเองได้ หรอื ไม่ ๓.๓ เด็กใช้เวลาในการตน่ื ตวั มากน้อยแค่ไหน นกั เรียนใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ที่ทำใหต้ ่นื ตัว ข้ึน ๓.๔ มีช่วงกวา้ งของแตล่ ะสภาพเท่าใดทีเ่ ด็กแสดง มชี ว่ งกวา้ งของแตล่ ะสภาพทีเ่ ด็กแสดงใหเ้ ห็น ใหเ้ หน็ และมีแบบแผนการเปลีย่ นแปลงอะไรระหวา่ ง ประมาณ 5 นาที และมแี บบแผนการเปลีย่ นแปลง สภาพ ระหวา่ งสภาพ โดยการลุกขึ้นเดนิ ไปมา กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

96 รวบรวมข้อมูลผูเ้ รียน กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๓.๕ มีตวั แปรอะไรบา้ งทกี่ ระทบตอ่ สภาพเด็ก สงิ่ เร้าจากภายนอก เช่น บคุ คลอ่ืน เสยี ง ครู เพ่ือน ร่วมช้ันเรียน เปน็ ต้น ๔. orienting Response (การตอบสนองปฏกิ ริ ยิ าตอบสนองของร่างกายในสภาพแวดล้อม) ๔.๑ มปี จั จัยอะไรบ้างท่ีทำใหเ้ ด็กการตอบสนองไป มปี ัจจัย จากบคุ คล ส่งิ ของ เสียง การมอง ทจ่ี ะทำให้ ในทศิ ทางนัน้ ไดช้ ดั แจ้ง นักเรยี นตอบสนองไปในทิศทางน้ันๆได้ชัดเจน ๔.๒ เด็กแสดงการตอบสนองตอ่ ทศิ ทางออกอย่างไร นกั เรยี นมกี ารตอบสนองต่อทิศทางออก รบั รู้ผ่าน การได้ยนิ การมอง และการสัมผสั ๔.๓ ประสาทการรบั รู้ช่องทางใดทีป่ รากฏเช่อื มโยง ประสาทการรบั รู้ ทางการมอง การไดย้ ิน และการ กบั การตอบสนอง (ข้อมูลประสาทการรับรูท้ ี่กระต้นุ สมั ผสั พาทำ จะชว่ ยให้นกั เรียนสามารถตอบสนองได้ ใหม้ กี ารตอบสนองและประสาทการรบั รู้ที่ใช้ ประโยชน)์ ๕. Memory (ความจำ) ๕.๑ เด็กใช/้ คุ้นกบั ส่ิงเรา้ ที่คนุ้ ชนิ หรือไม่ นักเรียนมคี วามคุ้นชนิ กบั สิง่ เร้า เช่น เมอ่ื ย่ืนพรวน กระดิ่งใหน้ กั เรยี นสามารถเขย่าได้ ทกุ ครง้ั ทีย่ ื่นสง่ิ เร้า ให้ ๕.๒ การนำเสนอส่งิ เรา้ จำเป็นต้องใชเ้ วลานานหรือก่ี ใช้เวลาในการนำเสนอสิง่ เรา้ ประมาณ ๕-๗ ครง้ั ท่ี ครั้งก่อนท่เี ดด็ จะคนุ้ ชนิ จะทำใหน้ ักเรียนคนุ้ ชินได้ ๕.๓ เด็กเขา้ ร่วมอกี ครงั้ ไหมเม่ือเปลยี่ นแปลง นักเรียนสามารถเข้าร่วมได้ เม่ือมีการเปล่ยี นแปลง ลักษณะของส่ิงเร้า ส่ิงเร้าใหม่ ๕.๔ การตอบสองแตงต่างไปหรอื ไม่ การตอบสนองแตกต่างอกไป ข้ึนอยู่กับประเภทของ สิ่งเร้า ๕.๕ เด็กแสดงการตองสนองแตกตา่ งหรือไม่กับ นกั เรียนตอบสนองแตกตา่ งกัน ถ้าเป็นบุคคลที่ บคุ คลที่คุ้ยเคยและไม่ค้นุ เคย คนุ้ เคยนักเรยี นจะอยากให้สมั ผสั และโอบกอด อยากอยใู่ กล้ๆ แต่สำหรับบุคคลทไ่ี ม่คนุ้ เคย นักเรียน จะใชแ้ ค่สายตามอง แตจ่ ะไม่เขา้ ไปใกล้ ๕.๕ เดก็ แสดงการรับรู้หรือไม่ว่าสิ่งของนั้นยังอยูแ่ ม้ เด็กไม่แสดงการรับร้วู ่าสงิ่ ของนนั้ ยงั อยู่แม้จะไมอ่ ยู่ใน จะไม่อยู่ในสายตาตอนน้ัน สายตาตอนนน้ั ๕.๖ เดก็ เชือ่ มโยงเหตกุ ารณ์ท่ีกำลังเผชิญกบั สิ่งที่ นักเรียนไม่สามารถเช่ือมโยงเหตกุ ารณ์ท่ีกำลงั เผชญิ ตามมาไหม กับสิ่งทีต่ ามมาไหม ๕.๗ เดก็ แสดงการคาดเดาต่อส่ิง/เหตุการณท์ ่ีกำลงั นกั เรียนมส่ ามารถแสดงการคาดเดาตอ่ สิ่ง/ เผชญิ หรือไม่ เหตกุ ารณท์ ี่กำลังเผชญิ ได้ ๕.๘ เด็กแสดงอาการหรอื ไมเ่ มือ่ สิ่งทีเ่ กิดใหม่ไม่ตรง นกั เรียนแสดงอาการไม่พอใจ เม่อื มีสงิ่ ทีเ่ กดิ ขึน้ ใหม่ กบั ความคาดหวัง ไมต่ รงความคาดหวงั หรือไมต่ รงตามความต้องการ จะมอี าการแสดงออกมา โดยการใช้สียงพรมึ พรำ กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

97 รวบรวมขอ้ มลู ผ้เู รยี น กรอบการประเมิน The Van Dijk Framework ๕.๙ เด็กสามารถเรยี นร้กู จิ วัตรง่าย ๆ ไดห้ รอื ไม่ นกั เรยี นสามรถเรียนรู้กิจวัตรง่ายๆได้ เชน่ การสวสั ดี ๕.๑๐ กจิ วัตรทใ่ี ห้เด็กเรียนรู้จำได้ไหม มาโรงเรียน การหยบิ สิ่งของ การสวมรองเท้า การ เขา้ ห้องน้ำ เป็นตน้ นักเรียนสามารถเรียนรูผ้ ่านการลงมอื ปฏิบัติไดบ้ า้ ง โดยตอ้ งปฏิบตั ิซ้ำๆ ย้ำ ทวน และพาทำ ๖. Social Interactions ปฏิสมั พนั ธ์ทางสงั คม นักเรยี นจะหันหาบุคคลเม่ือเรียกช่อื นักเรียน ๖.๑ เด็กหนั ไปหาบคุ คลหรือไม่ ๖.๒ เดก็ แสดงความผกู พนั ว่ามคี วามปลอดภัยกับ นกั เรยี นแสดงความผูกพนั ต่อมารดา เมอ่ื เวลามาสง่ บุคคลสำคัญในชีวติ ของเขา/เธอหรอื ไม่ นกั เรยี นมาเรยี น นกั เรยี นจะไม่อยากเข้าห้องเรยี น อยากจับมอื มารดาไม่ยอมปล่อย แต่ถ้าบิดามาส่ง ๖.๓ เด็กมีส่วนรว่ มในการผลดั เปลย่ี นกนั เมื่อเร่ิมมี เข้าเรียนนักเรยี นจะไมม่ อี าการดังกลา่ ว ปฏิสมั พนั ธห์ รือไม่ นักเรียนสามารถผลัดเปลย่ี นกันเมอื่ เริม่ มีปฏิสมั พนั ธ์ ๖.๔ เด็กมสี ว่ นร่วมในการผลัดเปลย่ี นกันเมื่อคนอืน่ ได้ โดยผ่านการสัมผสั ผอู้ ่ืน จูงมือผู้อนื่ หรือการเข้า เริ่มปฏสิ ัมพนั ธห์ รอื ไม่ หาผูอ้ ื่นเมือ่ ตอ้ งการ ๖.๕ เด็กผลัดเปลยี่ นกี่รอบก่อนท่ีจะไม่ร่วม นกั เรียนสามารถมสี ่วนร่วมในการผลัดเปลี่ยนกนั เม่ือ ๖.๖ เดก็ เพม่ิ การผลัดเปลยี่ นการมปี ฏสิ ัมพันธ์มาก คนอ่นื เริ่มปฏิสมั พันธ์ก่อนได้ โดยการตอบทาง ขนึ้ เพอื่ ตอบสนองต่อปฏิสมั พันธ์ของคหู่ รือไม่ ท่าทางเชน่ พยักหน้า เปน็ ตน้ มกี ารผลดั เปล่ยี นประมาณ ๓ รอบ นกั เรยี นจะเพม่ิ การมีปฏสิ มั พันธ์มากขน้ึ เพื่อทำให้คู่ มปี ฏิสมั พนั ธต์ อบสนองตามความตอ้ งการของตนเอง ๗. Communication การสื่อสาร นักเรียนมคี วามตง้ั ใจในการสื่อสาร โดยการมองหนา้ ๗.๑ เดก็ แสดงใหเ้ หน็ ความตั้งใจในการส่ือสารผ่าน ผูพ้ ดู หรอื สนทนาด้วย และจะเปล่งเสยี งออกมาแตไ่ ม่ การใชง้ านของสัญญาณ การเปลง่ เสียง ทา่ ทาง ฯลฯ เป็นคำพูด เพ่ือตอบสนองต่อการสื่อสาร หรือแสดง หรือไม่ อธบิ ายการส่ือสารทใี่ ช้ โดยการพยกั หนา้ ตอบ ๗.๒ เด็กใชส้ ญั ญาณอยา่ งสอดคล้องกันหรือไม่ นกั เรยี นยงั ไม่สามารถใชส้ ัญญาณได้อยา่ งสอดคล้อง กัน ๗.๓ เด็กใชก้ ารสอ่ื สารแตกต่างกนั หรือไม่ อธบิ าย การสื่อสารและความความหมายทน่ี ่าจะเปน็ นักเรียนใชก้ ารสอ่ื สารโดยการจงู มือเพือ่ บอกสง่ิ ที่ ต้องการ และสามารถใชบ้ ตั รภาพสื่อสารได้บางครัง้ ๗.๔ เมอ่ื นำเสนอตวั เลอื กเด็กตัดสินใจเลอื กหรือไม่ แตไ่ ม่ถูกต้องทั้งหมด ๗.๕ เดก็ ใชท้ ่าทางเหมือนบคุ คลทั่วไปใช้หรอื ไม่ เมอื่ นำเสนอตวั เลือก นักเรยี นสามารถเลอื กได้เม่ือ เปน็ สิง่ ของ นักเรียนไม่สามารถใช้ท่าทางเหมือนบุคคลทั่วไปได้ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

98 รวบรวมข้อมูลผู้เรยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๗.๖ เด็กสามารถใช้ของหนึง่ อยา่ งหรือสัญลกั ษณ์แทน นกั เรยี นยงั ไมส่ ามารถใชส้ งิ่ ของหรอื สญั ลกั ษณ์แทน กจิ กรรมหรือวตั ถหุ รือไม่ กจิ กรรมได้ ๗.๗ เดก็ แสดงใหเ้ หน็ ความเข้าใจในการส่ือสารโดยใช้ นกั เรียนเข้าใจในการสื่อสาร โดยการลงมือปฏบิ ัติได้ ใน สัญลกั ษณห์ รือไม่ (การไดย้ นิ ภาพ หรอื การสัมผสั ) บางกจิ กรรมท่คี ุน้ ชิน ๗.๘ เด็กใช้การสื่อสารทางสญั ลักษณ์หรือไม่ อธิบาย นักเรียนสามารถใช้การสอ่ื สารทางสญั ลกั ษณ์ในการเขา้ หอ้ งนำ้ ได้ เมอ่ื มคี วามต้องการอยากจะเข้าห้องนำ้ นกั เรยี นสามารถหยิบบตั รภาพได้ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

99 รวบรวมขอ้ มูลผู้เรียน กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๑ ดา้ นสภาพแวดลอ้ มของผู้เรยี น (Microsystem)  บคุ คลภายในครอบครัวท่ีผู้เรยี นไวว้ างใจ นักเรยี นอาศยั อยู่บา้ นกบั พ่อ แม่ และนักเรยี น อาศัยอยู่บา้ นในช่วงกลางวันจะ อยู่กับพ่อนิรันดร์เป็นส่วนใหญ่ เน่ืองจากแม่น้อยต้องขายล็อตเตอร่ีท่ีตลาดในช่วงเช้าจนถึงเย็น ส่วนพ่ีสาวก็เรียน หนังสือ คนที่มาส่งน้องเพียวมาเรียนทุกวัน คือพ่อนิรันดร์ โดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ แต่นักเรียน มคี วามไวว้ างใจแมน่ อ้ ยมากที่สดุ เน่ืองจากตอนน้องเพียวยังเดก็ นอ้ งเพยี วอยกู่ บั คณุ แม่ตลอดเวลา จึงทำให้น้องเพียว รู้สึกรักและผูกพันกับแม่น้อยมากที่สุด แม่น้อยทำอาหารท่ีชอบให้ทาน และคอยซื้อ จัดหาของต่างๆให้น้องเพียว อยู่เสมอ นอกจากน้ียังมีญาติพี่น้องอาศัยอยู่บริเวณรอบๆบ้านนักเรียน คือ บ้านป้าแตนลุงวัฒน์ บ้านน้องกัปตัน ซง่ึ จะมคี วามสมั พนั ธ์ท่ีดีตอ่ กนั โดยการมาเย่ียมเยือน เล่น พูดคยุ  ลกั ษณะท่อี ย่อู าศยั (ห้องอะไรบา้ ง / ความสะอาด) นักเรียนพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเอง ร่วมกับพ่อบอย แม่น้อย และพี่ฝน บ้านอยู่ติดถนนใหญ่ เส้นทางไป ตลาดดอนไชยย อำเภอเถนิ จังหวัดลำปาง บ้านของนักเรียนมีลกั ษณะของบ้านเป็นบ้านไม้ชน้ั เดียว บริเวณหน้าบ้าน มีปูนและบันไดทางข้ึนบ้านจำนวน ๑ ข้ัน ไม่มีราวจับ พ้ืนไม้ปูทับด้วยเสื่อน้ำมัน บ้านมีจำนวนห้องนอน ๓ ห้องนอน ๑ ห้องโถงอยตู่ รงกลางบ้าน และมหี อ้ งครวั อยทู่ างดา้ นหลังของตวั บ้านการจัดเก็บอุปกรณ์ในห้องครัวอย่างเหมาะสม มีห้องน้ำ ๑ ห้อง พื้นห้องน้ำเป็นพ้ืนกระเบ้ือง มีชักโครกไว้สำหรับขับถ่าย ใช้ขันในการตักน้ำเพ่ืออาบ มีช่องระบาย อากาศ บริเวณหน้าบ้านเป็นปูนซีเมนต์ มีเก้าอ้ีหินอ่อนสำหรับน่ังเล่น ๑ ตัว และมีแคร่ไม้อยู่บริเวณหน้าบ้าน ซ่ึง นักเรียนมกั จะอยูใ่ นห้องนอนตนเองในช่วงตอนกลางวนั และในช่วงเย็นจะออกมาน่ังเล่นบริเวณหน้าบ้าน มี บริเวณ บา้ นของผเู้ รียนท้ังดา้ นในและดา้ นนอกมีความสะอาดเรยี บร้อย อากาศถ่ายเทสะดวกมแี สงสว่างเข้าถึง  ลกั ษณะห้องนำ้ (ระบุรายละเอยี ด) ห้องน้ำมี ๑ ห้อง คือ อยู่ภายในตัวบ้าน มีประตูทางเข้า ความกว้าง ๑๐๐ เซนติเมตร มีพ้ืนต่าง ระดับระหว่างภายในและภายนอกห้องน้ำ นักเรียนสามารถเข้าใช้ห้องน้ำได้ด้วยตนเอง พ้ืนห้องน้ำเป็นกระเบ้ือง พน้ื หยาบภายใน สุขภัณฑ์เป็นชักโครก มีถังสำหรับรองน้ำและขันตักน้ำ มีช่องระบายอากาศ แต่เนื่องจากห้องน้ำอยู่ ในตวั บ้างทำใหม้ ีความมืดทึบ จึงตอ้ งเปิดไฟเมอ่ื เขา้ ใช้ห้องนำ้ แมจ้ ะอยู่ในช่วงกลางวนั กต็ าม  ลักษณะห้องนอน (ระบรุ ายละเอียด) หอ้ งนอนมีทงั้ หมด ๓ ห้องนอน โดยแบ่งเป็นหอ้ งนอนพอ่ นิรันดรก์ ับน้อย ๑ หอ้ ง มีเตียงไม้ ขนาด ๖ ฟุต ห้องนอนพี่ฝน ๑ ห้อง มีเตียงเหล็กขนาด ๓.๕ ฟุต และห้องอนนของน้องเพียวอีก ๑ ห้องเตียงเหล็ก ขนาด ๓.๕ ฟุต ทุกห้องนอนมีความสะอาด มีมุ้งกาง และมีหน้าต่างระบาย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการจัดวางของท่เี ป็นระเบียบเป็นสัดส่วน  พ้นื ทใี่ นการฝกึ /ทำกิจกรรมกับผเู้ รยี น (ระบรุ ายละเอียด) บริเวณบ้านของนักเรียนพ้ืนที่ในการฝึกในด้านของวิชาการสามารถใช้พื้นท่ีห้องโถงภายในบ้านได้ ลานปูนซีเมนต์หน้าบ้าน ใช้ในการฝึกกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่น การโยนบอลใส่ตะกร้า ในส่วนของ การฝึกทักษะการดำรงชวี ิต มีพน้ื ที่ หอ้ งครัว ห้องนำ้ สามารถฝึกการใชช้ ีวิตของผเู้ รยี นได้ กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

100 รวบรวมข้อมลู ผูเ้ รียน กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๒ ด้านความสมั พนั ธแ์ ละปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลท่เี กยี่ วขอ้ งของผเู้ รียน (Mesosystem)  ลกั ษณะของครอบครัวและความสมั พนั ธข์ องบคุ คลในครอบครัว นกั เรียนอยูร่ ว่ มกบั พอ่ แม่ และพี่สาว เป็นครอบครัวทอ่ี บอนุ่ ทุกคนในบ้านมีปฏิสมั พันธ์ที่ ดตี ่อนักเรียน โดยนกั เรียนจะอยู่กับคุณพอ่ เป็นส่วนมาก เน่ืองจากคุณพอ่ อยู่บ้านดแู ลสสวนและดแู ลนกั เรียน ส่วนคุณ แม่น้ันต้องออกไปขายล้อตเตอรร์ ีอ่ ยู่ท่ีตลาดตงั้ แต่ตอนเช้าถึงตอนเยน็  ความสมั พนั ธก์ บั บุคคลในห้องเรียน/โรงเรียน นกั เรียนชอบแยกตัวอยคู่ นเดยี ว ชอบเลน่ คนเดียว แตส่ ามารถสื่อสารบอกความต้องการ ของตนเองด้วยการจูงมือ และสามารถหยิบบัตรภาพการเข้าห้องน้ำได้เมื่อต้องการเข้าห้องน้ำ และมักจะไม่รอคอย เมอ่ื หวิ ขา้ ว หรือ นม ก็จะเดินม่งุ มาหยิบ โดยทไี่ ม่รอเวลา  ความสมั พันธก์ ับบุคคลอน่ื ๆ เชน่ ญาติพี่นอ้ ง เพื่อน เพอื่ นบา้ น คนในชมุ ชน เป็นต้น ญาตพิ ี่น้อง บ้านใกล้เคยี ง คือ บา้ นป้าแตนลุงวัฒน์ บา้ นนอ้ งกัปตัน จะมาหาที่บ้าน และมาเล่นกับนักเรียน โดยการเร่ิมต้นบทสนทนาจะมาจากผู้อ่ืนเสมอ และนักเรียนจะแสดงอาการท่าทาง ยิ้ม หัวเราะ เมือ่ รสู้ กึ พึงพอใจในการปฏิสมั พนั ธร์ ว่ มกบั ผู้อน่ื ๒.๓ ด้านสิง่ แวดลอ้ มและสภาพสงั คมที่มผี ลตอ่ ครอบครัว (Exosystem)  สถานการณ์ปจั จบุ ันที่สง่ ผลกระทบกบั ผเู้ รียน ในเวลากลางคืน นักเรยี นมักจะตื่นขนึ้ มาหยบิ โทรศพั ท์ของพ่อ แม่ มาเลน่ ทำให้นกั เรียนนอนดกึ ต่ืนสาย ส่งผลกระทบต่อการเรียน เม่ือมาโรงเรียนนักเรียนจะมีอาการง่วง ซึม ไม่อยากเรียน อยากท่ีจะนอน อยา่ งเดียว ไม่ให้ความรว่ มมือในการทำกิจกรรมการเรียนรู้  สถานทีท่ ำงานของพอ่ แม่/ผ้ปู กครอง พ่อนริ นั ดร์ ทำสวน เพาะปลกู ทว่ั ไป ซ่ึงทำงานอยูบ่ รเิ วณภายในหมู่บา้ น ทำให้มีเวลาดแู ลนกั เรยี น อย่างใกล้ชิด ส่วนแม่น้อยมีอาชีพค้าขาย (ขายล็อตเตอร์ร่ี) ในตลาดบ้านดอนไชย ภายในหมู่บ้าน โดยจะขายตั้งแต่ ชว่ งเช้าถึงเยน็ โดยสว่ นใหญ่พอ่ นริ นั ดร์จะเป็นผดู้ แู ล  สภาพแวดล้อมทางกายภาพ หรอื การจดั สิง่ อำนวยความสะดวกของชุมชนทผี่ ู้เรยี น อาศยั อยู่ พอ่ นิรันดร์ เพาะปลกู พืชผกั สวนครัวตามฤดกู าล ซ่ึงทำงานอยูบ่ รเิ วณภายในหม่บู า้ น หา่ งจากบ้าน ประมาณ ๕ กิโลเมตร แม่น้อยมีอาชีพค้าขาย (ขายล็อตเตอร์ร่ี) ในตลาดบ้านดอนไชย ภายในหมู่บ้าน โดยจะขาย ต้ังแต่ช่วงเช้าถงึ เยน็ ภายในชมุ ชนเป็นทท่ี ราบกันว่าเป็นเด็กออทิสตกิ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

101 รวบรวมข้อมูลผู้เรียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๔ ด้านวฒั นธรรม ประเพณี ค่านยิ มของสังคม (Macrosystem) บ้านของผเู้ รียนยังไม่มีสอื่ ทีเ่ หมาะสมกับความพิการของบุคคลออทิสติกทใ่ี ช้สำหรบั การส่ือสาร โดยความสว่างภายในบา้ นยังไม่เหมาะสม และการที่ให้นักเรียนแยกนอนคนเดียวอาจก่อให้เกิดอันตราย ต่อผู้เรียนได้ และเน่ืองด้วยผู้ปกครองไม่ยอมปล่อยให้ผู้เรียนใช้ความสามารถของตนเองได้เต็มตามศักยภาพทำให้ นกั เรียนสามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ในบางอยา่ ง ๒.๕ ดา้ นสง่ิ ต่างๆทีอ่ าจกระทบต่อผู้เรยี น เชน่ กฎหมาย การได้รบั สิทธิดา้ นต่างๆ เทคโนโลยี หรือแอพพลเิ คช่นั ที่เกี่ยวขอ้ งกับผู้เรียนในชีวิตประจำวนั (Chronosystem) นกั เรยี นไดร้ บั เบ้ียพิการ เดอื นละ ๑,๐๐๐ บาท จากเบี้ยยังชีพคนพิการ และ ได้รับบริการทางการแพทย์ ตามโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค ตามสวัสดิการของรัฐ และได้รับการ กระต้นุ พัฒนาการทโี่ รงพยาบาลเวชชารักษ์เดอื นละ ๑ คร้ัง นักเรยี นได้รบั การใหบ้ ริการทางการศกึ ษาจากศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง ห้องเรียนเถิน ๑ ได้รับส่ือการเรียนการสอน มูลค่า ๒,๐๐๐ บาทและมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาฯ มูลนิธิคุณพุ่ม ปีล่าสุด ปีการศึกษา ๒๕๖๕ เป็นเงินจำนวน ๕,๐๐๐ บาท อีกท้ังนักเรียนสามารถเข้าถึง สอ่ื เทคโนโลยผี า่ นทางโทรศัพท์ แทบ็ เลต และโทรทัศน์โดยมผี ปู้ กครองกำกบั ดูแล กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

102 รวบรวมข้อมูลผเู้ รยี น สรุปเป้าหมายในการพัฒนา ๓. ความคาดหวังของผปู้ กครองท่มี ตี ่อตัวผู้เรียน ผู้ปกครองมีความคาดหวังให้นักเรียนมีพัฒนาการที่ดีข้ึน สามารถส่ือสารบอกความต้องการของตนเองด้วย บัตรภาพได้ สามารถช่วยเหลือตนเองในการดำรงชีวิตประจำวันได้ ได้แก่ การรับประทานอาหาร การแปรงฟัน การ แต่งกาย ท่ถี กู วิธีเปน็ ตน้ และมีพฤติกรรมอยไู่ ม่น่งิ ลดลง สามารถอย่รู ่วมกบั ผอู้ นื่ ในสังคมได้ ๔. เป้าหมายหลักท่ีผู้เรยี นควรไดร้ บั การพัฒนา/ส่งเสรมิ ๑) นักเรยี นสามารถส่ือสารด้วยบัตรภาพเพ่ือบอกความตอ้ งการได้ ๒) นกั เรยี นสามารถรับประทานอาหารโดยทานขา้ วพรอ้ มกับขา้ วได้ ๓) นักเรยี นสามารถแปรงฟันได้ด้วยตนเอง ๕. เป้าหมายหลกั ท่ีผู้เรียนควรไดร้ ับการปอ้ งกนั /แก้ไขปัญหา ๑) ควรไดร้ บั ส่ืออำนวยความสะดวกทเ่ี หมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พิเศษของนักเรียน ๒) ใหโ้ อกาสนักเรียนได้ชว่ ยเหลอื ตนเอง ขณอยู่ทีบ่ า้ น โดยประสานความรว่ มมือกับผู้ปกครองในการฝึกท่ี บ้านดว้ ย ผ้บู นั ทึกข้อมูล…………………………………………… (……น…าง…ส…า…วน…ฎั ..ฐ…า……เค…รอ…ื ว…ิเส…น…) ตำแหนง่ ………………ค…รู…………… วนั ที่……๒…๗..เดอื น………ก…รก…ฎ…า…คม…..พ.ศ……๒…๕..๖๕ กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

103 แบบคัดกรองบคุ คลออทิสติก ประเมินครัง้ ท.ี่ ....๑......... ช่ือ-นามสกุล (ด.ช. / ด.ญ. / นาย / นางสาว).............น..ร..า..ว..ิช..ญ...์ ..ส...ุร..ิย..ะ..ว..ง.ศ...์ .................................................. วัน เดือน ปี เกิด..................๒...๘.....ส..ิง..ห..า..ค..ม.....๒...๕..๕...๗.............................อาย…ุ ………๗.…..... ปี ........๙..........เดือน ระดบั ช้ัน...........ก..า..ร..ศ..ึก...ษ..า..ข..้นั...พ..้ืน...ฐ..า.น..................วนั เดอื น ปี ทปี่ ระเมิน.......๒...๔.....พ...ฤ..ษ..ภ...า..ค..ม.....๒..๕...๖...๕................ คำชีแ้ จง ๑ แบบคดั กรองฉบับนีเ้ ปน็ แบบคดั กรองเพ่ือประโยชน์ในทางการจดั การศึกษาเทา่ นน้ั ๒ วิเคราะห์ลักษณะ/พฤติกรรม ของเด็กซึ่งเป็นลักษณะหรือพฤติกรรม ที่เด็กแสดงออกบ่อย ๆโดยให้ทำ เครอื่ งหมาย /ลงในช่อง “ ใช่ ” หรอื “ไมใ่ ช่ ” ที่ตรงกบั ลกั ษณะหรือพฤติกรรมน้ัน ๆ ของเดก็ ๓ ผู้ทำการคัดกรองเบื้องต้นต้องผ่านการอบรมวิธีการใช้ และการประเมิน ตามแบบคัดกรองนี้ และควร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเด็กมากที่สุด เช่น ผู้ปกครองหรือครู เพื่อให้เกิด ความชัดเจน ถกู ตอ้ ง ๔ ผู้คัดกรองควรจะมอี ย่างนอ้ ย ๒ คนขึ้นไป ที่ ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ด้านพฤติกรรม / อารมณ์ ๑ มีพฤติกรรมกระตนุ้ ตวั เอง ซึ่งเป็นพฤติกรรมซ้ำๆ เชน่ สะบัดนวิ้ มอื เลน่ มอื √ ดม เคาะ หรือหมนุ ส่งิ ของ เป็นต้น √ ๒ แสดงพฤตกิ รรมท่ีไม่เหมาะสมเม่อื มีการเปล่ยี นแปลงกจิ กรรมประจำวนั เช่น √ เด็กไม่ยอมเปลี่ยนเส้นทางการไปโรงเรียน เด็กไม่ยอมเปลี่ยนเก้าอี้นั่งใน หอ้ งเรียน เป็นตน้ √ ๓ มพี ฤติกรรมหลีกหนีการสัมผสั เช่น เดินเขยง่ ปลายเทา้ ไม่ชอบการกอดรดั √ ทนตอ่ เสยี งบางอยา่ งไม่ได้ เปน็ ต้น ๔ มพี ฤติกรรมอยู่ไม่น่งิ เช่น ชอบวิง่ เดินไปมารอบห้อง เป็นตน้ √ ๕ ไมเ่ ข้าใจอารมณข์ องผู้อนื่ เชน่ ไมเ่ ข้าใจเวลาเพ่ือนโกรธ เศรา้ เสยี ใจ เป็น ตน้ √ ด้านการสื่อความหมาย √ ๖ แสดงความต้องการโดยการจูงมือ เชน่ เด็กจะจูงมือผ้ปู กครอง / ครู เพอื่ √ นำไปทำส่ิงทีต่ อ้ งการ เปน็ ต้น ๗ ใชภ้ าษาพูดของตนเองท่ีผอู้ น่ื ไมเ่ ขา้ ใจ √ ๘ พูดเลยี นแบบ หรอื พูดทวนคำถาม ๙ พูดคำซ้ำๆ ทีเ่ คยไดย้ ินบ่อย เช่น พูดตามโฆษณาที่ไดย้ นิ จากโทรทัศน์ ๑๐ ไมส่ ามารถเรม่ิ ต้นบทสนทนากับผอู้ ่ืนได้

104 ท่ี ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ๑๑ พดู เรอื่ งที่ตนเองสนใจโดยไมส่ นใจผูฟ้ งั ๑๒ ไม่เข้าใจคำทเี่ ปน็ นามธรรม เช่น การเอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ √ √ ด้านสงั คม ๑๓ ไม่มองสบตากบั ผูอ้ ืน่ ขณะสนทนา √ ๑๔ ไมม่ ปี ฏสิ ัมพนั ธ์กับบคุ คลรอบข้าง เช่น ไมเ่ ลน่ กับเพื่อน ไม่สนใจ คน √ รอบข้าง เปน็ ตน้ √ ๑๕ มปี ฏิสัมพันธต์ อ่ บุคคลรอบข้างไมเ่ หมาะสม เช่น เล่นกับเพื่อนแรง ๑๖ แสดงพฤติกรรมการตอบสนองทางอารมณ์ และสังคมไมเ่ หมาะสม เช่น ส่ง √ เสยี งกรีดร้อง ทำรา้ ยตนเองหรือผอู้ น่ื เมื่อถูกขดั ใจ เป็นต้น √ ๑๗ แยกตวั ออกมาอยตู่ ามลำพัง เชน่ ในขณะทีเ่ พอื่ นทำกิจกรรมกลุ่ม ไม่ยอมเข้ารว่ มกจิ กรรม ๑๘ ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎกติกา ระเบยี บหรือข้อตกลงได้ เช่น ไมร่ ู้จกั การรอคอย ไม่รจู้ กั การเขา้ แถว เป็นตน้ เกณฑก์ ารพิจารณา ถ้าตอบวา่ ใช่ อยา่ งนอ้ ย ๒ ด้านๆ ละ ๒ข้อ ขึ้นไป แสดงว่ามีแนวโนม้ ทจ่ี ะเปน็ บุคคลออทิสตกิ ให้จัดบรกิ ารช่วยเหลอื ทางการศึกษาพิเศษ และสง่ ต่อใหแ้ พทยต์ รวจวนิ ิจฉยั ต่อไป ผลการคดั กรอง  พบความบกพร่อง  ไม่พบความบกพร่อง ความคิดเห็นเพิ่มเติม .................พ...บ...ว..่า..ม..ีแ..น...ว..โ..น..้ม...ท..จี่...ะ..เ.ป...น็ ..บ...คุ...ค..ล..อ...อ..ท...สิ ..ต...ิก...เ..ห..็น...ค..ว..ร..ไ..ด..้ร..บั...บ...ร..ิก..า..ร..ช..่ว..ย...เ.ห..ล..ือ...ท..า..ง..ก...า..ร..ศ..ึก..ษ...า.............................. ...แ...ล..ะ..ส...่ง.ต...่อ..ใ..ห..แ้...พ..ท...ย..์ต...ร..ว..จ..ว..ิน...ิจ..ฉ..ัย...เ.พ...่ือ..ท...ำ..ก..า..ร..ัก...ษ..า..ต..่อ...ไ.ป.................................................................................... ลงชอื่ .................................................. ใบวุฒิบัตร เลขที่......ลบ.ศกศ.-๐๐๑๐/๒๕๖๔...........(ผู้คดั กรอง) (นางสาวนฎั ฐา เครอื วิเสน) ลงชอื่ ......................................... ......... ใบวุฒิบัตร เลขท.่ี ....ศกศ.ลป. ๐๐๓๕/๒๕๖๔.............(ผคู้ ดั กรอง) (นางสาวศศิกมล ก๋าหลา้ ) ลงช่อื .................................................. ใบวฒุ บิ ตั ร เลขที.่ ........ศกศ.ลป.-๐๐๗๘/๒๕๖๑.......(ผ้คู ัดกรอง) (นายสราวธุ แกว้ มณวี รรณ)

105 ๑๐ คำยินยอมของผู้ปกครอง ข้าพเจ้า(นาย / นาง / นางสาว).......ม...น..ต..ร..ี...ส...รุ ..ยิ ..ะ..ว..ง..ศ..์............................................... เป็นผปู้ กครองของ (ด.ช. / ด.ญ./ นาย / นางสาว) ..............น...ร..า.ว...ิช..ญ...์...ส..รุ..ิย...ะ..ว..ง.ศ...์ ............................................................................... ยนิ ยอม  ไม่ยินยอม ให้ดำเนินการคดั กรอง (ด.ช. / ด.ญ./ นาย / นางสาว).....น...ร..า..ว..ิช..ญ....์ ..ส...ุร..ิย..ะ..ว..ง..ศ..์............. ตามแบบคัดกรองนี้ เมอ่ื พบวา่ มแี นวโน้มเป็นผ้ทู มี่ คี วามบกพร่องตามแบบคัดกรองข้างต้น  ยินดี  ไมย่ ินดี ให้จัดบรกิ ารช่วยเหลือทางการศึกษาพเิ ศษต่อไป ลงชือ่ .................................................ผปู้ กครอง (นายมนตรี สรุ ิยะวงศ์)

106 แบบประเมนิ หลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน สำหรบั ผู้เรยี นพกิ าร ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจงั หวดั ลำปาง ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระดับการศกึ ษาภาคบังคับ : ระดบั ชั้นประถมศึกษา (ปีท่ี ๒) ช่ือ-สกุล เด็กชายนราวชิ ญ์ สรุ ิยะวงศ์ วนั ทีป่ ระเมิน ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คำชีแ้ จง ๑. แบบประเมินตามหลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขัน้ พนื้ ฐานสำหรับผู้เรียนพกิ าร ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจงั หวัดลำปาง ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ใช้ประเมนิ สำหรับเดก็ ทอ่ี ยู่ในระดบั การศกึ ษาภาคบังคับ ๒. แบบประเมนิ ฉบบั นสี้ ามารถใชไ้ ด้กับผรู้ บั การประเมนิ ทุกประเภทความพกิ าร เกณฑก์ ารประเมินผล ๑. ผลการประเมินกอ่ นการพัฒนา ระดบั ๔ หมายถึง ไม่ตอ้ งช่วยเหลอื /ทำได้ด้วยตนเอง ระดับ ๓ หมายถึง กระตนุ้ เตอื นด้วยวาจา ระดบั ๒ หมายถงึ กระตนุ้ เตอื นดว้ ยท่าทาง และวาจา ระดบั ๑ หมายถึง กระตุ้นเตอื นทางกาย ทา่ ทาง และวาจา ระดับ ๐ หมายถึง ตอบสนองผิดหรอื ไมม่ กี ารตอบสนอง ๒. สรปุ ๒.๑ หน่วย ฯ หมายถึง จัดการเรียนการสอนตามหนว่ ยการจัดการเรยี นรู้ ๒.๒ IEP / IFSP หมายถึง จดั การเรยี นการสอนตามแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล หรอื แผนการให้บริการช่วยเหลอื เฉพาะครอบครวั

107 ๑. สาระการดำรงชีวิตประจำวันและการจดั การตนเอง คำชี้แจง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย ลงในช่องผลการประเมนิ ทตี่ รงตามสภาพความเปน็ จรงิ ผลการประเมิน สรปุ ที่ ตวั ชี้วดั ก่อนการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ๑ ดป ๑.๑/๓  ดแู ลความสะอาดสุขอนามยั ของตนเอง ๒ ดป ๑.๑/๔  ดูแลสุขอนามัยได้อยา่ งเหมาะสมตามเพศของ ตนเอง ๓ ดป ๑.๑/๕  ปฏบิ ัตติ นตามมาตรการการป้องกนั โรค ๔ ดป ๑.๒/๔  เลือกเครื่องแต่งกายหรือเครื่องประดบั ตาม ความชอบสว่ นตัว ๕ ดป ๑.๒/๕  เลือกเครื่องแต่งกายไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ และโอกาส ๖ ดป ๑.๓/๒  บอกเลือกใช้อุปกรณแ์ ละห้องน้ำภายในบ้าน หอ้ งน้ำสาธารณะได้อยา่ งถูกต้อง ตรงตามเพศ ของตนเอง ๗ ดป ๑.๓/๓  ทำความสะอาดตนเองและห้องน้ำ หลังใช้ ห้องน้ำและแตง่ กายใหแ้ ลว้ เสรจ็ กอ่ นออกจาก หอ้ งนำ้ ๘ ดป ๑.๖/๔  ขา้ มถนนอยา่ งปลอดภัย ๙ ดป ๒.๑/๓  ออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือนนั ทนาการตาม ความถนัด และความสนใจ ๑๐ ดป ๓.๑/๒  บอกอารมณ์พนื้ ฐานของตนเอง

108 ผลการประเมนิ สรปุ ท่ี ตัวช้วี ดั ก่อนการพัฒนา ๑๑ ดป ๓.๑/๕ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP แสดงสีหน้า อารมณแ์ ละสนทนาตอบโต้ เม่ือได้รับคำชมเชย คำตชิ ม หรอื คำเตือน  จากผ้อู นื่   ๑๒ ดป ๓.๑/๖   มคี วามยดื หยนุ่ เมื่อมีการเปลีย่ นแปลงเวลา หรอื จากสถานทหี่ นง่ึ ไปอีกสถานที่หน่ึง ๑๓ ดป ๓.๑/๗ ตคี วามหมายสหี น้า ท่าทาง ภาษากาย และ น้ำเสยี งของผู้อนื่ และตอบสนองอารมณ์ของ ผ้อู ื่น

109 ๒. สาระการเรยี นรแู้ ละความรู้พ้ืนฐาน คำชี้แจง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย ลงในชอ่ งผลการประเมินทตี่ รงตามสภาพความเปน็ จริง ที่ ตวั ช้ีวดั ผลการประเมนิ สรุป กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCsP ๑ รพ ๑.๑/๓  ใชก้ ารฟงั การดู การสมั ผสั เพ่ือแสดงความสนใจ ต่อสือ่ บุคคลและมสี ่วนร่วมในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน ๒ รพ ๑.๑/๔  เลียนแบบการแสดงออกในการสือ่ สารกบั บุคคล อ่นื ที่คนุ้ เคยหรือไม่ค้นุ เคยในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ ๓ รพ ๑.๑/๗  ใชก้ ระบวนการสื่อสารในการแสวงหาขอ้ มูล ข่าวสารในการตดิ ตามความเคล่ือนไหวตา่ ง ๆ ในสงั คม สำหรบั การดำรงชีวิตและการประกอบ อาชีพ ๔ รพ ๑.๒/๑  ใชก้ ระบวนการอ่านในการเลอื กภาพ คำ ทีอ่ อกเสยี งเหมือนเสยี งพยญั ชนะต้นที่เป็นชอื่ ของตนเอง สงิ่ ของ บุคคลอื่นได้ ๕ รพ ๑.๒/๒  ระบุช่อื ส่งิ ของ บคุ คลทีร่ จู้ กั ในหนังสอื ภาพ หรอื สื่อรปู แบบอ่นื ๆ ๖ รพ ๑.๓/๓  เขียนพยัญชนะไทย สระ วรรณยกุ ต์ ได้ตาม ศักยภาพเขยี นตัวอักษรภาษาองั กฤษดว้ ย วิธีการตา่ ง ๆ ไดต้ ามศักยภาพ ๗ รพ ๓.๑/๑  บอกประวตั ิความเปน็ มาของตนเอง และครอบครัวโดยใชร้ ปู แบบท่ีหลากหลาย

110 ท่ี ตวั ชวี้ ัด ผลการประเมนิ สรปุ ก่อนการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCsP ๘ รพ ๖.๑/๒  บอกประโยชนส์ ง่ิ ของเครือ่ งใชท้ เี่ ปน็ เทคโนโลยี ในชวี ิตประจำวนั โดยการบอก ชี้ หยบิ หรอื รปู แบบการสอื่ สารอื่น ๆ ๓. สาระสังคมและการเป็นพลเมืองที่เขม้ แขง็ คำชี้แจง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย ลงในช่องผลการประเมินท่ตี รงตามสภาพความเปน็ จรงิ ที่ ตัวชวี้ ดั ผลการประเมนิ สรุป กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCsP ๑ สพ ๑.๑/๒  ปฏิบตั ิหน้าท่ขี องตนเองในการเป็นสมาชิกที่ดี ของครอบครวั ๒ สพ ๑.๑/๔  ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง ในการเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องโรงเรียน ๓ สพ ๑.๑/๖  ปฏบิ ัติตนตามบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ในการเปน็ สมาชิกท่ดี ขี องชมุ ชนและสงั คม ๔ สพ ๓.๑/๒  ปฏิบตั ิตาม ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญกู ตเวที ๕ สพ ๓.๒/๑  เข้าใจ ตระหนักถงึ ความสำคัญตอ่ ศาสนพิธี พธิ กี รรมและวันสำคัญทางศาสนาท่ตี นเอง นับถือ

111 ๔. สาระการงานพื้นฐานอาชพี คำชแ้ี จง ให้ทำเครอื่ งหมาย ลงในช่องผลการประเมนิ ทต่ี รงตามสภาพความเปน็ จรงิ ท่ี ตัวชว้ี ัด ผลการประเมิน สรุป กอ่ นการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ กอ ๑.๑/๓  เกบ็ ของเลน่ – ของใชส้ ่วนตวั หรอื ของสมาชกิ ในครอบครวั จนเปน็ นสิ ยั ลงชื่อ.................................................ผูป้ ระเมิน ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวศศิกมล ก๋าหล้า) (นายสราวุธ แก้วมณวี รรณ ) ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ตำแหน่ง พนักงานราชการ ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวนฎั ฐา เครือวิเสน) ตำแหนง่ ครู

112 แบบประเมินความสามารถพืน้ ฐาน หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน สำหรับผู้เรยี นพิการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ทักษะจำเปน็ เฉพาะออทสิ ตกิ ช่ือ-สกุล เด็กชายนราวชิ ญ์ สรุ ิยะวงศ์ วันทปี่ ระเมิน ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คำช้ีแจง ๑. แบบประเมินตามหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เรียน พิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ใช้ประเมิน สำหรบั เด็กที่อยใู่ นระดับการศกึ ษาภาคบังคบั ๒. แบบประเมนิ ฉบบั น้ีสามารถใช้ไดก้ ับผู้รับการประเมินทุกประเภทความพิการ เกณฑก์ ารประเมินผลก่อนพัฒนา ระดับ ๔ หมายถึง ไม่ตอ้ งช่วยเหลอื /ทำไดด้ ว้ ยตนเอง ระดบั ๓ หมายถงึ ทำไดเ้ ม่ือกระตนุ้ เตือนด้วยวาจา ระดบั ๒ หมายถงึ ทำได้เม่ือกระตนุ้ เตอื นด้วยท่าทาง และวาจา ระดับ ๑ หมายถึง ทำไดเ้ มือ่ กระตนุ้ เตอื นทางกาย ทา่ ทาง และวาจา ระดบั ๐ หมายถึง ทำไมไ่ ด้หรือไม่ยอมทำ

113 หมายเหตุ กระตุ้นเตอื นทางกาย หมายถงึ ผ้สู อนจบั มอื ทำ เมอ่ื เด็กทำได้ลดการชว่ ยเหลือลงโดยให้ แตะข้อศอกของเด็กและกระต้นุ โดยพดู ซำ้ ใหเ้ ดก็ ทำ กระตนุ้ เตือนด้วยท่าทาง หมายถงึ ผู้สอนชใ้ี ห้เด็กทำ/ผงกศีรษะเมื่อเด็กทำถกู ต้อง/ส่ายหนา้ เม่ือเดก็ ทำไม่ถูกตอ้ ง กระตุ้นด้วยวาจา หมายถงึ ผู้สอนพูดให้เด็กทราบในสิ่งท่ผี สู้ อนต้องการใหเ้ ด็กทำ

114 สาระทักษะจำเป็นเฉพาะความพิการ มาตรฐานท่ี ๕.๘ ทกั ษะจำเปน็ เฉพาะบุคคลออทสิ ตกิ ตัวช้ีวดั ๕.๘.๑ ตอบสนองต่อส่งิ เร้าจากประสาทสัมผัสไดเ้ หมาะสม ข้อที่ ตัวชวี้ ดั ระดบั ความสามารถ สรุป กอ่ นการพัฒนา ๑ อต ๑.๑/๑ หน่วยฯ IIP/FCSP ความสนใจ *** ๐๑๒๓ ๔ √ ๒ อต ๑.๑/๒ √ การตอบสนองต่อสง่ิ เรา้ ** √√ ๓ อต ๑.๑/๓ การเลยี นแบบ** √√ ๔ อต ๑.๑/๔ √√ การหลีกหนีจากอนั ตราย ** ตวั ชวี้ ัด ๕.๘.๒ เขา้ ใจภาษาและแสดงออกทางภาษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ข้อที่ ตวั ช้ีวดั ระดบั ความสามารถ สรปุ ก่อนการพฒั นา ๑ อต ๑.๒/ หนว่ ยฯ IIP/FCSP การเข้าใจภาษา * ๐๑๒๓๔ √ ๒ อต ๑.๒/๒ √ การแสดงออกทางภาษา* √√ ตัวช้วี ดั ๕.๘.๓ แสดงพฤติกรรมทีเ่ หมาะสมตามสถานการณ์ ขอ้ ท่ี ตวั ช้วี ดั ระดับความสามารถ สรปุ ก่อนการพัฒนา ๑ อต ๑.๓/๑ หนว่ ยฯ IIP/FCSP การแสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สกึ * ๐๑๒๓๔ √ √ ๒ อต ๑.๓/๒ การลดพฤติกรรมท่ไี ม่พงึ ประสงค์** √√ ๓ อต ๑.๓/๓ √√ การปฏบิ ัติตามกตกิ าของสงั คม*

115 ขอ้ ท่ี ตัวชีว้ ัด ระดบั ความสามารถ สรุป ก่อนการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๔ อต ๑.๓/๔ √√ การควบคมุ ตนเองในสถานการณ์ต่าง ๆ การนบั ถือตนเอง และการสำนึกรูผ้ ดิ ชอบ ชว่ั ดี ** ๕ อต ๑.๓/๕ √√ การจดั การอารมณ์ตนเองในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ** ๖ อต ๑.๓/๖ √√ การปฏิบตั ิตนตามกฎระเบยี บและรูจ้ ัก การไม่ละเมิดสทิ ธิของผู้อ่ืน* ๗ อต ๑.๓/๗ √√ การใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์*** ๘ อต ๑.๓/๘ √√ การจัดการอารมณ์ตนเอง* ตัวช้ีวดั ๕.๘.๔ สามารถใช้เทคโนโลยีส่ิงอำนวยความสะดวก เคร่อื งช่วยในการ เรียนรู้ ข้อท่ี ตัวชีว้ ดั ระดับความสามารถ สรุป กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ อต ๑.๔/๑ √√ ใช้เทคโนโลยสี ิง่ อำนวยความสะดวก เครอ่ื งชว่ ยในการเรยี นรู้* ๒ อต ๑.๔/๒ √√ การใชย้ านพาหนะ และการดูแลความ ปลอดภัยของตนเองจากบุคคลหรอื ส่งิ แวดล้อมท่ีไมป่ ลอดภยั *** ๓ อต ๑.๔/๓ √√ การใช้ทรพั ยากรในชมุ ชนได้อยา่ ง เหมาะสม***

116 ท่มี า * สำนกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ. (๒๕๖๒). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเดก็ ** ทมี่ ีความตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษ พุทธศักราช ๒๕๖๒. อดั สำเนา. สำนักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ. (๒๕๕๘). (รา่ ง) แนวทางการจดั กจิ กรรมตาม หลกั สูตรสำหรับเดก็ ทม่ี คี วามต้องการจำเปน็ พิเศษระยะแรกเริ่ม ของศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๕๘. อดั สำเนา ลงชือ่ .................................................ผูป้ ระเมนิ ลงช่ือ.................................................ผู้ประเมิน (นางสาวศศกิ มล ก๋าหล้า) (นายสราวุธ แก้วมณีวรรณ ) ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ตำแหนง่ พนกั งานราชการ ลงชอ่ื .................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวนฎั ฐา เครอื วเิ สน) ตำแหนง่ ครู

117 ช่ือ-สกุล ด.ช.นราวิชญ์ สุริยะวงศ์ วนั ท่ีประเมิน ๓๐ พ.ค. ๖๕ แบบประเมินทางกจิ กรรมบำบดั ผ้ปู ระเมิน นางสาวสิรนิ ยา นนั ทชยั ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง 1. ลกั ษณะโดยท่ัวไป (General appearance) เด็กผชู้ าย ผิวขาว ไมส่ ามารถส่ือสารและทำตามคำสงั่ ได้ 2. การประเมนิ ความสามารถด้านการเคล่อื นไหว (Motor Function) 2.1 ทกั ษะกลา้ มเนือ้ มัดใหญ่ (Gross Motor) ระดับความสามารถ (ระบอุ ายทุ ท่ี ำได้) ระดบั ความสามารถ (ระบุอายทุ ท่ี ำได)้ รายการ ทำได้ด้วย ทำไดแ้ ต่ตอ้ ง ทำไมไ่ ด้ รายการประเมนิ ทำไดด้ ว้ ย ทำได้แตต่ อ้ ง ทำไม่ได้ ประเมนิ ตนเอง ชว่ ยเหลือ ตนเอง ช่วยเหลอื ชนั คอ √ วง่ิ √ พลกิ ตะแคงตัว √ เดนิ ขึ้น-ลงบันได (เกาะราว) √ พลกิ คว่ำหงาย √ กระโดด 2 ขา √ นั่งไดเ้ อง √ เดนิ ขึ้น-ลงบันได (สลบั เทา้ ) √ คลาน √ ป่ันจักรยาน 3 ลอ้ √ เกาะยืน √ ยนื ขาเดยี ว √ ยืน √ กระโดดขาเดียว √ เดนิ √ 2.2 การข้ามแนวกลางลำตัว (Crossing the Midline) • สามารถมองตามข้ามแนวกลางลำตัว  มี □ ไมม่ ี • สามารถนำมือทัง้ สองข้างมาใชใ้ นแนวกลางลำตัว  มี □ ไม่มี 2.3 ข้างที่ถนัด (Laterality) □ ซ้าย  ขวา 2.4 การทำงานร่วมกนั ของรา่ งกายสองซกี (Bilateral integration)  มี □ ไมม่ ี 2.5 การควบคมุ การเคล่ือนไหว (Motor control) • สามารถเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหว  มี □ ไม่มี • ความสามารถในการเคลอ่ื นไหว (Mobility)  มี □ ไม่มี • รูปแบบการเคลื่อนไหวท่ีผิดปกติ □ มี □ อาการส่ัน (Tremor) □ การบดิ หมุนของปลายมือปลายเทา้ คลา้ ยการฟ้อนรำ (Chorea) □ การเคล่ือนไหวของแขนขาสะเปะสะปะ (Athetosis) □ ความตึงตัวของกลา้ มเน้อื ไม่แนน่ อน (Fluctuate)  ไม่มี • มีการเดนิ สะเปะสะปะ เหมือนการทรงตัวไม่ดี (Ataxic Gait) □ มี  ไม่มี • เดนิ ต่อสน้ เท้า □ ทำได้  ทำไม่ได้ • ทดสอบ Finger to Nose Test □ ทำได้  ทำไม่ได้ □ มีการกะระยะไมถ่ ูก (Dysmetria) • ทดสอบการเคลื่อนไหวสลบั แบบเร็ว (Diadochokinesia) □ ทำได้  ทำไม่ได้ 2.6 การวางแผนการเคลื่อนไหว (Praxis) *มีแบบทดสอบมาตรฐาน* - การเลียนแบบทา่ ทาง □ ทำได้  ทำไมไ่ ด้ - การเลียนแบบเคลื่อนไหว □ ทำได้  ทำไม่ได้ 2.7 การประสานงานของกลา้ มเน้ือมัดเล็ก (Fine coordination) .....................................ทำได้.........................................

118 แบบประเมนิ ทักษะการเคลือ่ นไหวของกล้ามเนอ้ื มดั เล็ก ระดบั ความสามารถ รายการประเมิน ทำได้ด้วยตนเอง ทำไดแ้ ต่ตอ้ งให้การช่วยเหลอื ทำไมไ่ ด้ การสบตา (eye contact) √ การมองตาม (eye following) √ การใช้แขนและมือ √ ➢ การเอื้อม (Reach Out) √ ➢ การกำ (Grasp) 1. การกำ (Power grasp) •การกำแบบตะขอ (Hook) •การกำทรงกลม (Spherical grasp) •การกำทรงกระบอก (Cylindrical grasp) 2. การหยิบจบั (Precise grasp) ➢ การนำ (Carry /hold ) √ ➢ การปล่อย (Release) √ การใชส้ องมือ การใชก้ รรไกร √ การใชอ้ ปุ กรณ์เคร่อื งใชใ้ นการรบั ประทานอาหาร การใช้มือในการเขยี น ความคลอ่ งแคลว่ ของการใช้มอื การประสานสัมพันธร์ ะหวา่ งมอื กบั ตา √ (eye-hand coordination) การควบคุมการเคล่ือนไหวรมิ ฝปี าก √ ➢ การปิดปาก (Lip Closure) ➢ การเคลอื่ นไหวลนิ้ (Tongue) ➢ การควบคุมขากรรไกร (Jaw control) ➢ การดูด (Sucking) / การเปา่ ➢ การกลืน (Swallowing) ➢ การเคี้ยว (Chewing) ความผดิ ปกติอวยั วะในชอ่ งปากท่พี บ 1. ภาวะล้ินจกุ ปาก (Tongue thrust) □ พบ  ไมพ่ บ 2. ภาวะกดั ฟนั (Tooth Grinding) □ พบ  ไมพ่ บ 3. ภาวะนำ้ ลายไหลยดื (Drooling) □ พบ  ไม่พบ 4. ภาวะล้ินไกส่ ้ัน □ พบ  ไม่พบ 5. ภาวะเคลือ่ นไหวลิ้นได้นอ้ ย □ พบ  ไมพ่ บ 6. ภาวะปากแหวง่ เพดานโหว่ □ พบ  ไมพ่ บ หมายเหตุ (ข้อมูลเพม่ิ เติม)

119 การประเมินการรับความรสู้ ึก 1. ตระหนักร้ถู ึงส่ิงเรา้  มี □ ไมม่ ี 2. การรบั ความรสู้ ึก (Sensation) ใส่ N=Normal (ปกต)ิ I=Impaired (บกพร่อง) L=Loss (สญู เสยี ) การรับความร้สู กึ ทางผวิ หนัง (Tactile) - การรับรูถ้ งึ สมั ผัสแผ่วเบา (Light touch) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสีย - แรงกด (Pressure) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสยี - อณุ หภูมิ (Temperature) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี - ความเจ็บ (Pain) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสีย - แรงสั่นสะเทือน (Vibration) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสยี การรบั ความร้สู ึกจากกลา้ มเนอ้ื เอน็ และข้อ (Proprioceptive):  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสยี การรับความรูส้ กึ จากระบบการทรงตวั (Vestibular) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสีย การรบั ขอ้ มูลจากการมองเห็น (Visual) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสีย การรบั ข้อมูลจากการไดย้ นิ (Auditory) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี การรับขอ้ มลู จากตุ่มรบั รส (Gustatory) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสีย 3. กระบวนการรับรู้  มี □ ไม่มี การรบั รู้โดยการคลำ (Stereognosis)  มี □ ไม่มี การรับรู้การเคลือ่ นไหว (Kinesthesis)  มี □ ไม่มี การตอบสนองต่อความเจ็บปวด (Pain Respone) การรับรู้ส่วนต่างๆของร่างกาย (Body Scheme)  มี □ ไม่มี การรับรู้ซ้าย-ขวา (Right-Left Discrimination) □ มี  ไม่มี การรับรรู้ ปู ทรง (Form constancy) □ มี  ไมม่ ี การรบั รู้ตำแหนง่ (Position in space)  มี □ ไม่มี การรับรู้ภาพรวม (Visual-Closure)  มี □ ไมม่ ี การรับรกู้ ารแยกภาพ (Figure Ground) □ มี  ไม่มี การรับรู้ความลกึ (Depth Perception)  มี □ ไม่มี การรบั รู้มิติสัมพันธ์ (Spatial Relation)  มี □ ไม่มี

120 แบบประเมนิ ประสทิ ธภิ าพการทำหนา้ ทีข่ องสมองในการบูรณาการความรู้สึก พฤติกรรม/การแสดงออก การแปลผล หมายเหตุ พบ (poor integration) ไมพ่ บ (good integration) Hyperactive Distractivity √ Tactile Defensiveness √ Gravitational Insecurity √ Visual Defensiveness √ Auditory √ Defensiveness √ *ใช้แบบประเมินพฤติกรรมการประมวลความรู้สึก* การประเมินการใชส้ ตปิ ัญญา ความคิด ความเข้าใจ 1. ระดบั ความร้สู กึ ตัว :  ปกติ □ ผิดปกติ 2. การรบั รูว้ ัน เวลา สถานท่ี และบคุ คล ................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................................... 3. การจดจำ................................................................................................................................................................. 4. ชว่ งความสนใจหรือสมาธิ  มี .....15.........นาที □ ไม่มี 5. ความจำ  มี □ ไมม่ ี 6. การเรียงลำดบั  มี □ ไม่มี 7. การจัดหมวดหมู่  มี □ ไมม่ ี 8. ความคดิ รวบยอด  มี □ ไม่มี

121 แบบแจกแจงปัญหาและการตัง้ เปา้ ประสงค์ ➢ สรุปปญั หาของนกั เรียน ๑. ปัญหาด้านพัฒนาการลา้ ช้ากวา่ วยั (Delay Development) ในด้านทกั ษะ - การเคล่อื นไหว (Gross motor skill) - ทักษะการใชก้ ล้ามเน้ือมัดเล็ก (Fine motor skill) - ทกั ษะดา้ นภาษา (Language) - ทักษะด้านอารมณ์ (Emotional) - ทักษะทางสังคม (Social skill) ๒. พัฒนาการลา่ ชา้ ในด้านทักษะการชว่ ยเหลือ ดแู ลตนเอง ๓. พัฒนาการล่าชา้ ในด้านทักษะทางวิชาการ ➢ เปา้ ประสงค์ ๑. สง่ เสริมพัฒนาการความสามารถในการช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวตั รประจําวนั ส่วนตวั (Activity of Daily Living: ADL) ไดแ้ ก่ การรับประทานอาหาร (Eating) การสวม-ใสเ่ สอ้ื ผ้า (Dressing) ทกั ษะการเล่น (Play skill) ทักษะทางอารมณ์ (Emotional) และทักษะทางสงั คม (Social) ๒. ได้รบั การส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นการทำงานประสานกันของตาและมือ (Eye hand co-ordination) เชน่ การหยิบจับ (Prehension) เปน็ ต้น ๓. ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นรับรู้ทางด้านสายตา ได้แก่ การรบั รู้ซ้าย-ขวา (Right-Left Discrimination) การ รับรู้ตำแหน่ง (Position in space) การรบั รมู้ ติ สิ ัมพันธ์ (Spatial Relation ๔. ไดร้ บั การกระตุ้นพฒั นาการดา้ นช่วงความสนใจ (ลงชอ่ื ) ( นางสาวสิรนิ ยา นันทชยั ) นักกิจกรรมบำบัด วันที่ ๓๐ พ.ค. ๖๕

12 แบบสรปุ การรบั บรกิ ารกิจกร ช่อื -สกุล เด็กชายนราวิชญ์ สรุ ิยะวงศ์ ห้องเรียน เถิน ๑ สรุปปญั หาของนกั เรียน ผลการประเมนิ ก่อน เปา้ ปร การรบั บรกิ าร การหยิบจบั วัตถุขนาดและ รปู ทรงต่าง ๆ ได้ เด็กชายนราวิชญ์ สุริยะวงศ์ ไม่ ภ า ย ใ น เ ด ือ สามารถหยิบจับวัตถุขนาดและ ๒๕๖๕ เด็กช รปู ทรงต่าง ๆ ได้ สุริยะวงศ์ ห ขนาดและรูปท สรุปผลการให้บรกิ ารกิจกรรมบำบดั - ขอ้ ๑. เป้าประสงคท์ ง้ั หมด ๑ ข้อ ๒. ผลการพัฒนา บรรลุเปา้ ประสงค์ ๑ ขอ้ ไมบ่ รรลุเปา้ ประสงค์ ขอ้ เสนอแนะในปีต่อไป ควรไดร้ ับการประเมินทางกจิ กรรมบำบดั ต่อไป

22 รรมบำบดั ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ระสงค์ ผลการประเมนิ หลัง ผลการพฒั นาตามเปา้ ประสงค์ การรับบรกิ าร บรรลุ/ผ่าน ไมบ่ รรลุ/ไม่ผ่าน อ น ม ี น า คม เด็กชายนราวิชญ์ สุริยะวงศ์ √ ชายนราวิชญ์ สามารถหยิบจับวัตถุขนาด หยิบจับวัตถุ และรูปทรงต่าง ๆ ได้ ใน ทรงตา่ ง ๆ ได้ ระดบั ๔ โดยไม่ตอ้ งได้รับการ ชว่ ยเหลอื (ลงชอ่ื ) ………………………………………… นางสาวสริ ินยา นนั ทชยั นกั กจิ กรรมบำบัด ๓ มีนาคม ๒๕๖๖

123 แบบประเมนิ ทางกายภาพบำบัด ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจงั หวดั ลำปาง วันที่รบั การประเมนิ ......๒...๗....พ...ค....๖...๕...... ผู้ประเมิน ...น..า..ง..ส..า..ว..น...ฎั...ฐ..า....เ..ค..ร..อื...ว..ิเ.ส..น.... ๑. ข้อมูลทั่วไป ช่ือ……………เด…็ก…ช…าย…น…ร…าว…ชิ …ญ…์ ส…รุ …ยิ …ะว..ง..ศ.…์ ……… ชื่อเลน่ .........น..้อ...ง..ล..ีโ.อ............. เพศ ชาย  หญงิ วัน เดอื น ปเี กิด.............................. อายุ ....๘...ปี..........เดอื น โรคประจำตัว ..........-....................... การวินจิ ฉยั ทางการแพทย…์ ……-……...................................................................................................... อาการสำคัญ (Chief complaint) ……-…….…………………………...………………………………………..……… ขอ้ ควรระวงั ...................-........................................................................................................................ ห้องเรียน ...................เ.ถ..นิ....๑................................ครูประจำชน้ั ...น..า..ง..ส..า..ว.น...ัฎ..ฐ..า.....เ.ค..ร..อื..ว..เิ.ส...น.................. ๒. การสงั เกตเบื้องต้น ปกติ ผิดปกติ การสงั เกต ปกติ ผิดปกติ √ ๙. เทา้ ปุก √ การสังเกต √ ๑๐. เทา้ แบน √ ๑. ลกั ษณะสีผวิ √ ๑๑. แผลกดทบั √ ๒. หลงั โกง่ √ ๑๒. การหายใจ √ ๓. หลังคด √ ๑๓. การพดู √ ๔. หลังแอ่น √ ๑๔. การมองเหน็ √ ๕. เข่าชดิ √ ๑๕. การเคี้ยว √ ๖. เข่าโกง่ √ ๑๖. การกลนื √ ๗. ระดับข้อสะโพก ๘. ความยาวขา ๒ ข้าง เพิ่มเตมิ ....................ร..า่..ง..ก...า.ย...ป..ก...ต..ิ................................. ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... กลุ่มบริหารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบำบดั

124 ๓. พัฒนาการตามวัย ความสามารถ ทำได้ ทำไม่ได้ ความสามารถ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ๖. นง่ั ทรงตวั √ ๑. ชันคอ √ ๗. ลุกข้นึ ยนื √ ๘. ยนื ทรงตวั √ ๒. พลิกควำ่ พลิกหงาย √ ๙. เดิน √ ๑๐. พูด √ ๓. คืบ √ ๔. คลาน √ ๕. ลุกข้นึ น่งั √ เพ่ิมเติม .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ๔. การประเมินทางกายภาพบำบัด มาตรฐานท่ี ๑ การเพ่ิมหรอื คงสภาพองศาการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ตวั บ่งช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ข้อสงั เกต ๑.๑ เพิม่ หรอื คง ๑. ยกแขนข้ึนได้  เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว สภาพองศาการ  จำกัดการเคลอ่ื นไหว เคล่อื นไหวของ รา่ งกายส่วนบน เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................ ๒. เหยยี ดแขนออกไป  เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว ดา้ นหลังได้  จำกัดการเคลื่อนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ ๓. กางแขนออกได้  เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอื่ นไหว  จำกดั การเคลื่อนไหว เพิม่ เตมิ ................................. ................................................ ๔. หุบแขนเข้าได้  เตม็ ชว่ งการเคล่ือนไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว  จำกดั การเคลอ่ื นไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................ ๕. งอข้อศอกเขา้ ได้  เต็มชว่ งการเคลอ่ื นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  จำกดั การเคลื่อนไหว เพม่ิ เตมิ ................................. กลุ่มบริหารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบำบดั

125 ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต ๖. เหยียดขอ้ ศอกออกได้  เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  จำกัดการเคลือ่ นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ ๗. กระดกข้อมือลงได้  เตม็ ช่วงการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จำกดั การเคลือ่ นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ ๘. กระดกข้อมือขน้ึ ได้  เต็มช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จำกัดการเคลอ่ื นไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................ ๙. กำมือได้  เตม็ ช่วงการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จำกดั การเคล่ือนไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................ ๑๐. แบมอื ได้  เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคล่อื นไหว  จำกัดการเคล่ือนไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................ ๑.๒ เพมิ่ หรอื คง ๑. งอขอ้ สะโพกเขา้ ได้  เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอื่ นไหว สภาพองศาการ  จำกัดการเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวของ เพิม่ เตมิ ................................. รา่ งกายสว่ นลา่ ง ................................................ ๒. เหยยี ดข้อสะโพก  เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว ออกได้  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว ๓. กางข้อสะโพกออกได้  จำกัดการเคล่อื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................  เต็มช่วงการเคล่ือนไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  จำกดั การเคลือ่ นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................ กลุ่มบริหารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบำบดั

126 ตวั บ่งช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ข้อสังเกต ๔. หบุ ขอ้ สะโพกเข้าได้ ๕. งอเขา่ เขา้ ได้  เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว ๖. เหยียดเขา่ ออกได้  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว ๗. กระดกข้อเท้าลงได้  จำกัดการเคลือ่ นไหว ๘. กระดกข้อเทา้ ขึน้ ได้ ๙. หมนุ ขอ้ เทา้ ได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ๑๐. งอนวิ้ เท้าได้ ................................................  เต็มช่วงการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จำกดั การเคล่อื นไหว เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว  จำกดั การเคลื่อนไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................  เตม็ ช่วงการเคลอื่ นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่ือนไหว  จำกัดการเคลอ่ื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................  เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่ือนไหว  จำกดั การเคลอ่ื นไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................  เต็มช่วงการเคลื่อนไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอื่ นไหว  จำกดั การเคลื่อนไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จำกดั การเคลอื่ นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ กลุ่มบริหารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบำบดั

127 มาตรฐานท่ี ๒ การปรับสมดุลความตงึ ตัวของกลา้ มเน้อื ตวั บ่งชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ขอ้ สงั เกต ๒.๑ ปรบั สมดลุ ๑. ปรับสมดุลความ  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ ความตงึ ตัว ตงึ ตวั กลา้ มเน้ือ  ระดับ ๓  ระดับ ๔ ของกล้ามเนื้อ ยกแขนขึน้ ได้ เพ่มิ เตมิ ................................. รา่ งกายส่วนบน ................................................. ๒. ปรับสมดุลความ  ระดับ ๐  ระดับ ๑  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ ตงึ ตวั กล้ามเน้ือ  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เหยยี ดแขนออกไป เพ่ิมเตมิ ................................. ดา้ นหลังได้ ................................................. ๓. ปรบั สมดลุ ความ  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ ตึงตวั กล้ามเนื้อ  ระดบั ๓  ระดับ ๔ กางแขนออกได้ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๔. ปรบั สมดลุ ความ  ระดับ ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ ตงึ ตวั กลา้ มเนื้อ  ระดับ ๓  ระดบั ๔ หุบแขนเขา้ ได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๕. ปรบั สมดุลความ  ระดับ ๐  ระดบั ๑  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ ตึงตวั กลา้ มเน้ือ  ระดับ ๓  ระดบั ๔ งอข้อศอกเขา้ ได้ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๖. ปรบั สมดุลความ  ระดับ ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ ตงึ ตัวกล้ามเนื้อ  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เหยียดข้อศอกออกได้ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๗. ปรบั สมดลุ ความ  ระดบั ๐  ระดบั ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ ตงึ ตวั กลา้ มเน้ือ  ระดบั ๓  ระดบั ๔ กระดกข้อมือลงได้ เพิม่ เตมิ ................................. ................................................. ๘. ปรับสมดลุ ความ  ระดับ ๐  ระดบั ๑  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ ตงึ ตวั กลา้ มเนื้อ  ระดบั ๓  ระดับ ๔ กระดกข้อมือขึ้นได้ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบำบดั

128 ตัวบง่ ช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ทำได้ ทำไม่ได้ ข้อสังเกต ๙. ปรับสมดุลความ  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ ตงึ ตัวกลา้ มเนื้อ  ระดบั ๓  ระดบั ๔ กำมือได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๑๐. ปรบั สมดลุ ความ  ระดับ ๐  ระดับ ๑  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ ตงึ ตัวกล้ามเนื้อ  ระดับ ๓  ระดับ ๔ แบมอื มอื ได้ เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. ๒.๒ ปรบั สมดุล ๑. ปรับสมดลุ ความตงึ ตวั  ระดับ ๐  ระดบั ๑  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ ความตึงตัว กล้ามเนื้องอสะโพก  ระดับ ๓  ระดบั ๔ ของกลา้ มเน้ือ เข้าได้ เพิ่มเตมิ ................................. ร่างกายส่วนลา่ ง ................................................. ๒. ปรับสมดุลความตึงตวั  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ กลา้ มเน้ือเหยียด  ระดบั ๓  ระดับ ๔ เพิม่ เตมิ ................................. สะโพกออกได้ ................................................. ๓. ปรับสมดุลความตงึ ตวั  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ กล้ามเนื้อกางสะโพก  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ออกได้ ................................................. ๔. ปรับสมดลุ ความตงึ ตวั  ระดบั ๐  ระดบั ๑  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ กล้ามเนอ้ื หุบสะโพก  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เขา้ ได้ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๕. ปรบั สมดลุ ความตงึ ตัว  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ กลา้ มเนอ้ื งอเขา่ เข้าได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๖. ปรบั สมดลุ ความตงึ ตวั  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ กลา้ มเนอ้ื เหยียดเขา่  ระดบั ๓  ระดบั ๔ ออกได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบำบดั

129 ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ขอ้ สงั เกต ๗. ปรับสมดลุ ความตงึ ตัว  ระดับ ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ กลา้ มเน้ือกระดก  ระดบั ๓  ระดับ ๔ ข้อเท้าลงได้ เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................. ๘. ปรับสมดลุ ความตึงตวั  ระดับ ๐  ระดบั ๑  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ กลา้ มเนอื้ กระดก  ระดับ ๓  ระดับ ๔ ข้อเท้าข้นึ ได้ เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. หมายเหตุ ๐ หมายถึง ความตงึ ตวั ของกล้ามเนอื้ ไม่มกี ารเพ่ิมข้นึ ๑ หมายถงึ ความตงึ ตวั ของกล้ามเน้อื สงู ขึ้นเลก็ นอ้ ย (เฉพาะช่วงการเคลอื่ นไหวแรกหรอื สดุ ทา้ ย) ๑+ หมายถึง ความตงึ ตวั ของกล้ามเนื้อสงู ข้ึนเล็กนอ้ ย (ชว่ งการเคล่ือนไหวแรกและยังมอี ยูแ่ ตไ่ ม่ถงึ คร่งึ ของชว่ งการเคล่ือนไหว ๒ หมายถึง ความตงึ ตวั ของกลา้ มเนอื้ เพิ่มตลอดช่วงการเคล่อื นไหว แต่สามารถเคลอ่ื นไดจ้ นสดุ ชว่ ง ๓ หมายถงึ ความตึงตวั ของกลา้ มเนือ้ มากขึน้ และทำการเคลือ่ นไหวได้ยากแตย่ งั สามารถเคล่ือนไดจ้ นสดุ ๔ หมายถงึ แข็งเกรง็ ในท่างอหรอื เหยยี ด มาตรฐานที่ ๓ การจดั ทา่ ให้เหมาะสมและการควบคุมการเคล่อื นไหวในขณะทำกจิ กรรม ตวั บง่ ชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ทำได้ ทำไม่ได้ ข้อสังเกต ๓.๑ จัดทา่ ให้ ๑. จัดท่านอนหงาย √  ทำได้ด้วยตนเอง เหมาะสม ไดอ้ ย่างเหมาะสม  มีผชู้ ว่ ยเหลอื เล็กน้อย  มผี ู้ช่วยเหลือปานกลาง  มผี ู้ช่วยเหลอื มาก เพิ่มเตมิ ......................................... ....................................................... ๒. จัดท่านอนคว่ำ √  ทำได้ดว้ ยตนเอง ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  มผี ู้ช่วยเหลือเลก็ นอ้ ย  มีผ้ชู ว่ ยเหลือปานกลาง  มีผชู้ ว่ ยเหลือมาก เพิม่ เตมิ ......................................... ....................................................... ๓. จัดทา่ นอนตะแคง √  ทำไดด้ ้วยตนเอง ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  มผี ู้ช่วยเหลือเล็กนอ้ ย  มผี ู้ช่วยเหลือปานกลาง  มีผู้ช่วยเหลือมาก เพ่ิมเตมิ ......................................... ....................................................... กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบำบดั

130 ตัวบง่ ช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ข้อสังเกต ๓.๒ ควบคมุ การ ๔. จัดทา่ นง่ั ขาเป็นวง √  ทำไดด้ ว้ ยตนเอง เคลื่อนไหว  มีผูช้ ่วยเหลือเล็กนอ้ ย ในขณะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม  มผี ชู้ ่วยเหลือปานกลาง ทำกิจกรรม  มีผู้ชว่ ยเหลือมาก เพิ่มเตมิ ......................................... ....................................................... ๕. จัดท่าน่ังขัดสมาธิ √  ทำได้ดว้ ยตนเอง  มีผู้ช่วยเหลอื เล็กน้อย ไดอ้ ย่างเหมาะสม  มผี ู้ช่วยเหลือปานกลาง  มผี ู้ช่วยเหลือมาก เพิ่มเตมิ ......................................... ....................................................... ๖. จดั ทา่ นั่งเกา้ อี้ √  ทำไดด้ ้วยตนเอง  มีผ้ชู ว่ ยเหลอื เล็กนอ้ ย ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  มผี ู้ชว่ ยเหลือปานกลาง  มีผู้ชว่ ยเหลอื มาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ....................................................... ๗. จัดทา่ ยนื เขา่ √  ทำได้ด้วยตนเอง  มผี ู้ชว่ ยเหลอื เล็กนอ้ ย ไดอ้ ย่างเหมาะสม  มผี ชู้ ่วยเหลอื ปานกลาง  มผี ้ชู ว่ ยเหลอื มาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ....................................................... ๘. จดั ทา่ ยนื ไดเ้ หมาะสม √  ทำไดด้ ว้ ยตนเอง  มีผชู้ ่วยเหลอื เล็กนอ้ ย  มผี ู้ช่วยเหลอื ปานกลาง  มผี ชู้ ว่ ยเหลอื มาก เพ่ิมเตมิ ......................................... ....................................................... ๙. จัดท่าเดินไดเ้ หมาะสม √  ทำได้ดว้ ยตนเอง  มีผู้ชว่ ยเหลือเล็กน้อย  มผี ชู้ ่วยเหลือปานกลาง  มีผชู้ ่วยเหลอื มาก เพิ่มเตมิ ......................................... ....................................................... ๑. ควบคมุ การเคล่ือนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะนอนหงายได้  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบริหารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบำบดั

131 ตวั บ่งช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ขอ้ สงั เกต ๒. ควบคุมการเคล่ือนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะนอนควำ่ ได้  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๓. ควบคมุ การเคลื่อนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะลุกขึน้ นั่งจาก ทา่ นอนหงายได้  Normal เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๔. ควบคุมการเคล่ือนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะน่ังบนพ้นื ได้  Normal เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................. ๕. ควบคุมการเคล่ือนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะนั่งเกา้ อ้ีได้  Normal เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๖. ควบคุมการเคลื่อนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะคบื ได้  Normal เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................. ๗. ควบคมุ การเคล่ือนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะคลานได้  Normal เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................. ๘. ควบคมุ การเคล่ือนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะยนื เข่าได้  Normal เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................. ๙. ควบคุมการเคลื่อนไหว √  Loss  Poor  Fair  Good ขณะลุกข้ึนยืนได้  Normal เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบำบดั

132 ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ทำได้ ทำไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต ๑๑. ควบคุมการ หมายเหตุ √  Loss  Poor Loss เคลอ่ื นไหว Poor ขณะยนื ได้  Fair  Good Fair Good ๑๑. ควบคุมการ  Normal Normal เคลอ่ื นไหว ขณะเดนิ ได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. √  Loss  Poor  Fair  Good  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. หมายถึง ไมสามารถควบคุมการเคล่อื นไหวไดเลย หมายถงึ ควบคมุ การเคล่อื นไหวไดเพียงบางส่วน หมายถงึ สามารถควบคมุ การเคลอ่ื นไหวไดดีพอควร หมายถงึ สามารถควบคุมการเคลอ่ื นไหวได้ใกล้เคยี งกับปกติ หมายถึง สามารถควบคมุ การเคลอ่ื นไหวได้ปกติ มาตรฐานที่ ๔ การเพ่มิ ความสามารถการทรงท่าในการทำกิจกรรม ตัวบ่งช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ ทำได้ ทำไม่ได้ ขอ้ สังเกต ๔.๑ ควบคมุ การ ๑. นั่งทรงท่าไดม้ ั่นคง √  Zero  Poor ทรงทา่ ทาง  Fair  Good ของร่างกาย ขณะอยู่นงิ่  Normal เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................. ๒. ต้ังคลานไดม้ น่ั คง √  Zero  Poor  Fair  Good  Normal เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................. ๓. ยืนเข่าไดม้ ่นั คง √  Zero  Poor  Fair  Good  Normal เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................. ๔. ยืนทรงทา่ ได้ม่นั คง √  Zero  Poor  Fair  Good  Normal เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบริหารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบำบดั

133 ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทำได้ ทำไม่ได้ ขอ้ สังเกต ๕. เดนิ ทรงทา่ ไดม้ นั่ คง √  Zero  Poor  Fair  Good  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๔.๒ ควบคมุ การ ๑. นงั่ ทรงท่าขณะ √  Zero  Poor  Fair  Good ทรงทา่ ทาง ทำกจิ กรรมได้มั่นคง  Normal ของร่างกาย เพมิ่ เตมิ ................................. ขณะเคลือ่ นไหว ................................................. ๒. ต้งั คลานขณะ √  Zero  Poor  Fair  Good ทำกจิ กรรมได้ม่นั คง  Normal เพิ่มเตมิ ......................................... ....................................................... ๓. ยืนเข่าขณะ √  Zero  Poor  Fair  Good ทำกิจกรรมได้มนั่ คง  Normal เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๔. ยืนทรงท่าขณะ √  Zero  Poor  Fair  Good ทำกจิ กรรมได้มั่นคง  Normal เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๕. เดินทรงท่าขณะ √  Zero  Poor  Fair  Good ทำกจิ กรรมได้มน่ั คง  Normal เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. หมายเหตุ Zero หมายถงึ ไมส่ ามารถทรงตัวไดเ้ อง ตอ้ งอาศยั การชว่ ยเหลอื ทัง้ หมด Poor หมายถึง สามารถทรงตวั ไดโ้ ดยอาศัยการพยงุ Fair หมายถงึ สามารถทรงตัวได้โดยไมอ่ าศัยการพยงุ แตไ่ ม่สามารถทรงตวั ไดเ้ มื่อถกู รบกวน และไมส่ ามารถถา่ ยน้ำหนกั ได้ Good หมายถึง สามารถทรงตวั ได้ดโี ดยไม่ตอ้ งอาศยั การพยุง และสามารถรักษาสมดลุ ไดด้ พี อควร เมือ่ มีการถา่ ยน้ำหนัก Normal หมายถงึ สามารถทรงตวั ไดด้ แี ละมน่ั คงโดยไม่ตอ้ งอาศยั การพยุง และสามารถรกั ษาสมดลุ ได้ดี เมอ่ื มีการถ่ายนำ้ หนัก กลุ่มบริหารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบำบดั

134 จดุ ด้อย - ๕. สรุปขอ้ มลู ความสามารถพน้ื ฐานของผเู้ รยี น จุดเดน่ นักเรียนสุขภาพแข็งแรง ๖. การสรปุ ปญั หาและแนวทางการพัฒนาทางกายภาพบำบดั ปัญหา แนวทางการพัฒนาทางกายภาพบำบัด ไมพ่ บปัญหาทางกายภาพบำบัด - ลงชอื่ ................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวนฎั ฐา เครอื วิเสน) ตำแหนง่ ครู กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบำบดั

13 แบบสรปุ การให้บรกิ ารกายภา ช่ือ-สกุล เด็กชายนราวชิ ญ์ สรุ ิยะวงศ์ ห้องเรยี น เถนิ ๑ วนั เดือน ปี เกดิ ......๒๘ ส วนั เดอื นปี ที่รบั บรกิ ารกายภาพบำบดั ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๕ วนั เดือนปี ท่ีประเมินหลังการรบั บรกิ ารกายภาพบำบดั ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๖ ประเภทความพิการ บกพรอ่ งทางร่างกายและการเคลอื่ นไหว สรุปปญั หาของนกั เรยี น ผลการประเมนิ ก่อน เปา้ ห การรับบรกิ าร เพ่ิมความแขง็ แรงของ กล้ามเนอ้ื แ กลา้ มเนื้อร่างกาย รา่ งกายปกติ แขง็ แรงขนึ้ สรปุ ผลการใหบ้ รกิ ารกายภาพบำบัด ๑. ปญั หาทง้ั หมด........๑.........ข้อ ๒. ผลการพัฒนา บรรลุเปา้ ประสงค.์ ....๑......ขอ้ ไมบ่ รรลเุ ป้าประสงค์............ข้อ ข้อเสนอแนะในครงั้ ต่อไป การฝกึ เกาะยนื และการยนื ทรงตัว

35 าพบำบัด ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ส.ค. ๒๕๕๗.......... อาย.ุ ๘....ปี..๗....เดอื น หมาย ผลการประเมิน ผลการพฒั นาตามเปา้ หมาย หลงั การรบั บริการ บรรลุ/ผ่าน ไม่บรรลุ/ไมผ่ า่ น แขนและขา กล้ามเนอ้ื แขนขาแข็งแรง √ น ขนึ้ ลงชื่อ…………………………………………………………. (นางสาวนัฎฐา เครือวิเสน) นกั กายภาพบำบัด