Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนปฏิบัติการ 2562

แผนปฏิบัติการ 2562

Published by Somchai Sirijon, 2021-08-26 12:21:12

Description: แผนปฏิบัติการ 2562

Search

Read the Text Version

แผนปฏบิ ตั ริ าชการ ประจาปีการศึกษา 2562 โรงเรียนวัดอยั ยิการาม สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานี เขต 2 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร -

คานา แผนปฏิบัติการประจาปีการศึกษา 2562 ของโรงเรียนวัดอัยยิการาม เล่มนี้ จัดทาขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในโรงเรียนให้เกิดประสิทธภิ าพสูงสุด โดยมีข้ันตอนการดาเนนิ งานตาม วธิ ขี อง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร ให้สอดคลอ้ งกับนโยบายของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร แผนกลยุทธ์ของโรงเรียน และประกนั คุณภาพของโรงเรียน แผนปฏบิ ตั กิ ารฉบับนไ้ี ด้ ผา่ นการพิจารณาจัดสรรงบประมาณของคณะกรรมการบริหารโรงเรยี นโดยการเหน็ ชอบของคณะกรรมการ สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน แผนปฏิบัติการประจาปีการศึกษา 2562 ฉบับน้ี จึงเป็นสิ่งที่เกิดข้ึนจากการระดมสรรพ กาลังของคณะครู-อาจารย์ทุกคน ทุกฝ่ายร่วมมือกันปฏิบัติงาน เป็นกระบวนการอย่างต่อเน่ืองและจริงจัง แผนปฏิบัติการน้ีไม่สมบูรณ์ท้ังหมดเพราะการดาเนินงานอยู่ภายใต้เง่ือนไขของงบประมาณ เวลา และ บุคลากร ดังนั้นแผนนจ้ี ึงสามารถปรับยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม โดยเสนอต่อหวั หนา้ สถานศึกษาเพอ่ื พิจารณาอนุมัตเิ ปน็ กรณีไป ขอขอบคุณคณะทางาน กลุ่มงานแผนงานและงบประมาณ คณะกรรมการพิจารณา กลั่นกรองจัดสรรงบประมาณทุกท่านและครู-อาจารย์ทุกท่านที่มีส่วนให้แผนปฏิบัติการประจาปีการศึกษา 2562 เลม่ น้สี าเรจ็ ลุลว่ งไปดว้ ยดี คณะผู้จดั ทำ โรงเรียนวัดอัยยกิ ำรำม

สารบญั หนา้ คานา 1 สารบญั 5 33 บนั ทกึ เห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา ส่วนท่ี 1 บทนา 38 47 - ข้อมลู พ้ืนฐำนของโรงเรียน 56 - แผนภมู โิ ครงสรำ้ งกำรบรหิ ำรจัดกำรศึกษำ 58 - บุคลำกรในสถำนศกึ ษำ สว่ นที่ 2 ทิศทางการพัฒนาการศึกษา 69 - นโยบำยสำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน 74 - นโยบำยและกรอบ ทิศทำงกำรพฒั นำกำรศกึ ษำ สพป.ปท.2 - ทศิ ทำงกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรศึกษำโรงเรียนวัดอยั ยกิ ำรำม 106 - จุดเนน้ มำตรกำร ตวั ชวี้ ดั ควำมสำเรจ็ 112 ส่วนที่ 3 รายละเอยี ดแผนปฏิบตั ิการประจาปี - สรุปงบประมำณ โครงกำรก่อนประถมศึกษำ 115 - สรุปงบประมำณ โครงกำรกำรศกึ ษำข้นั พนื้ ฐำน 155 ส่วนท่ี 4 การกากับ ติดตามประเมนิ และรายงาน - แบบรำยงำนควำมก้ำวหนำ้ โครงกำร - แบบสรปุ ผลกำรดำเนนิ งำนตำมโครงกำร ภาคผนวก - โครงกำรกอ่ นประถมศกึ ษำ - โครงกำรกำรศกึ ษำขัน้ พื้นฐำน ผจู้ ัดทำ

บนั ทกึ การให้ความเหน็ ชอบแผนปฏิบตั กิ าร ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖2 ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานโรงเรยี นวัดอยั ยกิ าราม *********************************************************** คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พื้นฐานโรงเรยี นวัดอัยยกิ าราม มีมติเหน็ ชอบแผนปฏบิ ตั ิการประจาปกี ารศึกษา ๒๕62 ทีส่ อดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา ท่มี งุ่ คุณภาพตามมาตรฐานของสถานศึกษา ระยะ 4 ปี (ปกี ารศกึ ษา 2560-2563) ของโรงเรียนวัดอัยยิการาม ในคราวประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน คร้งั ท่ี 2 /๒๕62 เม่อื วันที่ 7 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ซึง่ เกดิ จากความร่วมมือของคณะครู บุคลากรทางการ ศึกษา และกรรมการสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐานโรงเรยี นวัดอัยยิการาม และเหน็ วา่ เป็นประโยชน์แก่นกั เรียนและโรงเรียนเป็น อย่างมาก คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน จึงขอขอบคุณคณะทางานและให้ใช้เป็นกรอบแนวทางและเครอื่ งมือใน การบริหารจดั การและพัฒนาคุณภาพการศึกษาในปีการศกึ ษา ๒๕62 ให้บรรลวุ ัตถุประสงคเ์ ป้าหมายท่ีกาหนดไว้ จึงลง ลายมือชอื่ ไว้เปน็ สาคญั (ลงชือ่ ) (นางสาวสายสดุ า หลักทรพั ย)์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน โรงเรยี นโรงเรยี นวัดอยั ยิการาม

แผนปฏิบตั ิการ ประจาปี 2562 1 สว่ นที่ 1 บทนา 1. ความเปน็ มา(ประวตั ิโรงเรยี น/สถานทตี่ ้ัง/พนื้ ทขี่ องโรงเรยี น) ขอ้ มูลทั่วไป 1.1 ชอ่ื สถานศึกษา โรงเรียนวัดอัยยิการาม ตัง้ อยู่เลขท่ี 18/1 หมู่ 4 ถนน รังสิต- นครนายก ตาบล ลาผกั กูด อาเภอ ธญั บุรี จงั หวัด ปทมุ ธาน.ี รหัสไปรษณยี ์ 12110 โทรศพั ท์ 0-25461255 โทรสาร 02-5461486 เวบ็ ไซต์ : www. aiyika.ac.th สังกัดสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา ปทุมธานี เขต.2 1.2 เปิดสอนตัง้ แต่ระดับ อนบุ าล 1 ถึงระดับ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เนือ้ ที่ 5 ไร่ 2 งาน 1.3 มเี ขตพนื้ ทีบ่ รกิ าร 3. หมู่บา้ น ได้แก่ หมู่ 3-4 ตาบล ลาผกั กดู หมู่ 1 ตาบลบึงสนนั่ อาเภอธัญบุรี จงั หวดั ปทุมธานี ประวัตโิ รงเรยี น ( โดยยอ่ ) โรงเรยี นวดั อัยยกิ าราม เปิดทาการสอนตง้ั แตป่ ีพทุ ธศกั ราช 2462 โดยเปิดสอนต้งั แต่ ชั้นประถมปีท่ี 1 ถึง ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 ในการดาเนินการก่อต้ังโดยขุนสวัสดิ์ราษฎร์บริหาร กับ พระอธกิ ารสาย(พระครูธญั ญารกั ษ)์ เจ้าอาวาสวัดอยั ยกิ าราม ใช้ศาลาการเปรียญเป็นสถานท่เี รียน • พ.ศ. 2509 พระครูโกศลธัญเขต เจ้าอาวาสวัดอัยยิการามและนายสด ชัยยะ อาจารย์ใหญ่ ร่วมกันหาทุนซ้ือทด่ี นิ จานวน 5ไร่ 2 งานเปน็ เงิน 11,000 บาท และไดร้ บั งบประมาณก่อสร้าง อาคารเรยี นแบบ กรมสามัญ 008 จานวน 1 หลงั 10 หอ้ งเรียน เป็นเงิน 335,000 บาท • พ.ศ. 2515 ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนแบบ 015 จานวน 1 หลัง 4 ห้องเรียน เป็น เงนิ 150,000 บาท • พ.ศ. 2516 ไดร้ บั งบประมาณสร้างบา้ นพกั ครู จานวน 1 หลงั ซ่งึ เปน็ บ้านพักครหู ลังแรกเป็น เงนิ 25,000 บาท • พ.ศ. 2517 ได้รับงบประมาณสร้างโรงฝกึ งาน แบบกรมสามญั 1 หลัง เปน็ เงนิ 56,000 บาท • พ.ศ. 2518 ได้รับงบประมาณต่อเติมอาคารเรยี น แบบ 015 เป็นเงิน 260,000 บาท • พ.ศ. 2519 ไดร้ ับงบประมาณตอ่ เตมิ อาคารเรียน แบบ 015 เป็นเงิน 240,000 บาท • พ.ศ. 2521 ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียน แบบกรมสามัญ 004 จานวน 1 หลัง 8 ห้องเรยี นเป็นเงิน 825,000 บาท • พ.ศ. 2526 ได้รบั งบประมาณสรา้ งอาคารอเนกประสงค์ แบบ สปช. 201/ 2526 จานวน 1 หลงั เป็นเงนิ 330,000 บาท • พ.ศ. 2529 ได้รับเงินบริจาคจากบุตรครูฉวี พงษ์บุตร สร้างซุ้มพระประจาสถานศึกษา ประมาณ 30,000 บาท

แผนปฏบิ ัติการ ประจาปี 2562 2 • พ.ศ. 2542 ได้รับเงินบริจาคจากผู้ปกครองปรับปรุงอาคารอเนกประสงค์เป็นห้องสมุดพร้อม ปรบั ปรงุ บรเิ วณสนามอเนกประสงค์หน้าเสาธงเป็นเงินประมาณ 300,000 บาท • พ.ศ. 2547 ไดร้ บั งบประมาณสร้างอาคารเรียนแบบ สปช 105 / 29 จานวน 4 หอ้ งเรียน เป็นเงิน 1,684,800 บาทแทนอาคารเรียนแบบ กรมสามญั 004 โดยรื้อถอนและขาย ทอดตลาด ในปีงบประมาณเด่ียวกันได้งบประมาณต่อเติมชั้นล่าง 4 ห้องเรียน เป็นเงิน 360,000 บาท • พ.ศ. 2547 ได้รับงบประมาณจากสานักงานผังเมอื งจังหวัดปทุมธานี สร้างโครงหลังคาอาคาร อเนกประสงคเ์ ปน็ เงิน 350,000 บาท • พ.ศ. 2550 ไดร้ ับงบประมาณจากองค์การบริหารสว่ นจังหวัดปทุมธานี สร้างอาคารเรยี นแบบ อบจ. 3 ช้นั ใต้ถนุ โล่ง • พ.ศ 2553 ได้รับงบประมาณจากกระทวงศึกษาธิการให้สร้างอาคารเรียน แบบอาคารแบบ 324 (ตอกเขม็ ) 4 ชน้ั 24 ห้องเรยี น ใต้ถนุ โลง่ โดยรือ้ ถอนบริเวณโดมเอนกประสงค์ ทาเปน็ ที่ ก่อสรา้ ง (ก่อสรา้ งแลว้ เสร็จป5ี 6) • พ.ศ.2557 ได้รับงบประมาณจากกระทรวงศึกษาธิการให้สร้างอาคารเรียน แบบ สปช. 105/29 2 ชัน้ ใตถ้ ุนโล่ง เปน็ เงนิ 3,468,000 • พ.ศ. 2558 ได้รับงบประมาณจากกระทรวงศึกษาธิการให้สร้างอาคารเรียน 6 ช้ัน จานวน 18 หอ้ งเรยี น ใตถ้ นุ โลง่ ปจั จบุ นั มีอาคารเรียน 6 หลัง ส้วม 3 หลัง

แผนปฏิบตั ิการ ประจาปี 2562 3  ข้อมลู ด้านการบรหิ าร 1 ผอู้ านวยการโรงเรยี น ช่อื -สกลุ นายธนณัฐ ศิระวงษ์ โทรศัพท์ 081-3754132 e-mail: [email protected] วุฒกิ ารศกึ ษาสูงสุด ปริญญาโท สาขา เทคโนโลยกี ารศึกษา ดารงตาแหนง่ ทีโ่ รงเรียนนตี้ ั้งแต่ วันที่ 8 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2559 จงึ ถึงปัจจุบัน เป็นเวลา - ปี 6 เดือน 2 รองผอู้ านวยการโรงเรียน 1 คน 2.1 ชือ่ -สกุล นางอุษา จริตธรรม วฒุ กิ ารศึกษาสูงสุด ปรญิ ญาโท สาขาบรหิ ารการศกึ ษา โทรศพั ท์ 084 1485973 e-mail : [email protected] การบรหิ ารจัดการอาคารสถานที่

แผนปฏิบตั ิการ ประจาปี 2562 4 ภารกิจสถานศกึ ษา โรงเรียนวัดอยั ยิการาม สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 สานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ เปน็ โรงเรยี นขยายโอกาสทางการศกึ ษา จัด การศึกษา 3 ระดับ คือ ระดับก่อนประถม ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ดาเนินการ ตามภารกิจของสถานศึกษาท่ีกาหนดให้ในพระราชบัญญัติ และตามนโยบาย จุดเน้นท่ีหน่วยงานต้นสังกัดได้ มอบหมายและใหแ้ นวทางปฏิบัติ จากการศกึ ษาพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และทแี่ กไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี2) พ.ศ.2545 สรุปภารกิจหลัก ๆ ของสถานศึกษาได้ 10 ขอ้ ดังนี้ 1. จัดทานโยบาย แผนพัฒนาการศึกษาของสถานศกึ ษาใหส้ อดคลอ้ งกับนโยบาย และแผนของ กระทรวงศึกษาธกิ าร สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นฐาน สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา ตลอดจน บรบิ ทและความต้องการของชมุ ชนและท้องถนิ่ 2. จัดตัง้ งบประมาณ และรับผิดชอบการใช้จา่ ยงบประมาณของสถานศกึ ษา 3. พฒั นาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกบั หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน และ ความตอ้ งการของนักเรียน ชมุ ชน และทอ้ งถ่ิน 4. จดั การเรยี นการสอน สภาพแวดล้อม บรรยากาศการเรียนการสอนท่เี หมาะสม และส่งเสริม กระบวนการเรียนรทู้ เ่ี นน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั ตลอดจนการปรับปรุงและพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาอย่าง ตอ่ เนอ่ื ง 5. ออกระเบยี บ ขอ้ บังคบั ประกาศและแนวปฏบิ ตั ิตา่ ง ๆ ตามท่กี ฎหมายกาหนด 6. กากับตดิ ตามประเมนิ ผลงานตามแผนงานโครงการและประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน ตลอดจน การพจิ ารณาความดคี วามชอบ การพัฒนาและการดาเนนิ การทางวนิ ัยกับครูและบคุ ลากร ทางการศึกษาใน สถานศึกษาตามท่ีกฎหมายกาหนด 7. ระดมทรัพยากรเพอ่ื การศึกษา รวมทั้งปกครอง ดูแล บารงุ รักษา ใช้และจัดหา ผลประโยชน์ จาก ทรัพย์สินของสถานศึกษา 8. จดั ให้มรี ะบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษาและใหค้ วามร่วมมอื ในการประเมินคณุ ภาพ การศึกษาจากหนว่ ยงานภายนอกสถานศึกษา รวมทัง้ การรายงานผลการประเมนิ ต่อคณะกรรมการ สถานศึกษาและสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา 9. ส่งเสรมิ ความเข้มแขง็ ใหก้ ับชุมชน และสรา้ งความสัมพันธก์ ับสถานศกึ ษา และ สถาบันอนื่ ใน ชมุ ชนและทอ้ งถนิ่ 10. ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีอนื่ ทีเ่ กย่ี วกับกจิ การภายในสถานศึกษาหรอื ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย และตามที่ กฎหมายกาหนด

แผนภมู ิกำรบรหิ ำรงำนโรงเ ผู้อำนวยกำ กลมุ่ บริหำรวิชำกำร หวั หนำ้ งำนแ หวั หน้ำสำยช 1. กำรพฒั นำหลกั สูตรท้องถิ่น 2.กำรวำงแผนด้ำนงำนวชิ ำกำร กลมุ่ บริหารบคุ คล 3.กำรจัดกำรเรยี นกำรสอนในสถำนศึกษำ 4.กำรพฒั นำหลักสูตรสถำนศึกษำ 1.กำรวำงแผนอตั รำกำลัง 5.กำรพฒั นำกระบวนกำรเรยี นรู้ 6.กำรวดั ผล ประเมนิ ผล เทยี บโอน 2.กำรจัดสรรอัตรำกำลัง 7.กำรวจิ ยั เพอ่ื พฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำ 3.กำรสรรหำและบรรจุแตง่ ต้งั 8.กำรพฒั นำ ส่งเสรมิ ใหม้ แี หลง่ เรยี นรู้ 4.กำรเปลย่ี นตำแหนง่ กำรย้ำย 9.กำรนิเทศกำรศกึ ษำ 5.กำรเลอื่ นขั้นเงินเดือน 10.กำรแนะแนว 6.กำรลำทุกประเภท 11.กำรพฒั นำระบบประกนั คณุ ภำพภำยในและมำตรฐำน 7.กำรประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั งิ ำน กำรศึกษำ 8.กำรดำเนนิ กำรทำงวินัยและกำรลงโทษ 12.กำรส่งเสริมชมุ ชนใหม้ ีควำมเข้มแข็งทำงวิชำกำร 9.กำรสง่ั พักรำชกำรและกำรให้ออก 13.กำรประสำนควำมรว่ มมอื ในกำรพฒั นำกับสถำนศกึ ษำ 10.กำรรำยงำนกำรดำเนนิ กำรทำงวินยั และองค์กรอ่ืน 11.กำรอธุ รณ์และกำรร้องทุกข์ 14.กำรสง่ เสริมและสนบั สนนุ งำนวชิ ำกำรแก่บคุ คล 12.กำรออกจำกรำชกำร ครอบครวั องคก์ ร ฯ อน่ื ทจ่ี ัดกำรศกึ ษำ 13.กำรจดั ทำทะเบยี นประวัติ 15.กำรจัดทำระเบยี บและแนวปฏบิ ัติเกี่ยวกบั งำนวชิ ำกำร 14.กำรจัดทำบญั ชรี ำยช่อื กำรขอเคร่ืองรำช 16.กำรคดั เลอื กหนงั สอื แบบเรียนเพอื่ ใช้ในสถำนศึกษำ 15.กำรสง่ เสริมกำรประเมินวทิ ยฐำนะ 17.กำรพฒั นำและใช้เทคโนโลยเี พอ่ื กำรศกึ ษำ 16.กำรยกย่องเชิดชูเกียรติ 17.กำรสง่ เสริมมำตรฐำนวิชำชพี และ จรรยำบรรณวิชำชพี 18.กำรส่งเสริมวินัย คณุ ธรรมจริยธรรม 19.กำรสง่ เสรมิ กำรขอรับใบอนุญำต 20.กำรพฒั นำขำ้ รำชกำรครูและบคุ ลำกร -

เรียนวดั อัยยิกำรำม แผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปี 2562 5 ำร คณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้นั พ้นื ฐำน รองผู้อำนวยกำร กลุ่มบริหารงานทว่ั ไป และ 1.กำรพฒั นำระบบเครอื ขำ่ ยข้อมลู สำรสนเทศ ชน้ั 2.กำรประสำนงำนและพัฒนำเครือขำ่ ยกำรศึกษำ 3.กำรวำงแผนกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ กลมุ่ บริหารงานแผนและงบประมาณ 4.กำรวิจัยเพอ่ื พัฒนำนโยบำยและแผน 5.กำรจัดระบบกำรบริหำรและพฒั นำองค์กร 1.กำรจัดทำแผนงบประมำณ 6.กำรพัฒนำมำตรฐำนกำรปฏิบัติงำน 2.กำรจดั ทำแผนปฏบิ ตั ิกำรกำรใชเ้ งนิ 7.งำนเทคโนโลยเี พอื่ กำรศึกษำ 3. กำรอนมุ ตั ิกำรใช้งบประมำณท่ีไดร้ ับ 8.กำรดำเนนิ งำนธรุ กำร 4.กำรโอนหรอื ขอเปล่ียนแปลงงบประมำณ 9. กำรดแู ลอำคำรสถำนทแ่ี ละสภำพแวดลอ้ ม 5.กำรรำยงำนผลกำรเบกิ จำ่ ย 10.กำรจัดทำสำมโนผูเ้ รยี น 6.กำรตรวจสอบติดตำมและรำยงำน 11.กำรรับนักเรยี น 7.ตรวจสอบ ตดิ ตำม รำยงำนกำรใชผ้ ลผลติ 12.กำรเสนอควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กำรจดั ต้ัง ยบุ 8. กำรระดมทรพั ยำกรและกำรลงทุนเพื่อ กศ. รวมหรอื เลกิ สถำนศกึ ษำ 9. งำนอืน่ ๆ เกย่ี วกบั กองทุนเพือ่ กศ 13.กำรประสำนกำรศึกษำในระบบ นอกระบบ 10. กำรบรหิ ำรจดั กำรทรัพยำกรเพ่ือ กศ. ตำมอัธยำศยั 11. กำรวำงแผนพสั ดุ 14.กำรระดมทรพั ยำกรเพื่อกำรศกึ ษำ 12. กำรกำหนดรปู แบบรำยกำร คุณลกั ษณะครุภณั ฑ์ 15.กำรทัศนศึกษำ ส่ิงกอ่ สรำ้ งท่ใี ช้งบประมำณเพื่อเสนอต่อ 16.งำนกิจกกำรนักเรียน ปลัดกระทรวงหรือเลขำธิกำรสพฐ. 17.งำนประชำสัมพันธก์ ำรศึกษำ 13.กำรพฒั นำระบบขอ้ มูลและสำรสนเทศเพ่อื จัดทำ 18.กำรสง่ เสรมิ สนับสนนุ กำรประสำนกำรจดั และจดั หำวสั ดุ กำรศกึ ษำของบคุ คล ชมุ ชน องค์กร หน่วยงำนอ่นื 14. กำรจดั หำพสั ดุ 19. กำรประสำนกับส่วนภูมภิ ำค ท้องถ่ิน รำยงำน 15. กำรควบคมุ ดแู ล บำรุงรักษำ จำหนำ่ ยพัสดุ 20.กำรจัดระบบกำรควบคุมภำยในหน่วยงำน 16. กำรจัดหำผลประโยชนจ์ ำกทรัพย์สนิ 21.แนวทำงกำรจัดกจิ กรรมเพื่อปรับเปลย่ี น 17. กำรเบกิ เงินจำกคลงั พฤติกรรมในกำรลงโทษนักเรยี น 18.กำรรบั เงนิ รกั ษำเงนิ และจำ่ ยเงิน 19.กำรนำเงินส่งคลัง 20. กำรจัดทำบัญชกี ำรเงนิ 21. กำรจัดทำรำยงำนทำงกำรเงินและงบประมำณ 22.การจดั ทาหรือจดั หาแบบพมิ พ์ บญั ชี ทะเบียน ราย

แผนปฏิบัติการ ประจาปี 2562 6 คณะกรรมการบรหิ ารสถานศึกษา อนั เน่ืองมาจากเจตนารมณ์ของพระราชบญั ญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ต้องการใหป้ ระชาชนซึง่ เป็นผูม้ ีสว่ นไดเ้ สียโดยตรงเขา้ มามสี ่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษาร่วมกบั ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ครู บุคลากรทางการศกึ ษา อย่างแท้จริงในลักษณะเป็นเจ้าของหรอื หุน้ ส่วนของสถานศึกษา บทบาทและหน้าทขี่ องคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐานซงึ่ ต้องทาหน้าท่ีแทน ชมุ ชนและ ผูป้ กครองนกั เรียนทกุ คนจงึ ตอ้ งคานึงถึงการจัดการศึกษาทีจ่ ะเกดิ ประโยชน์สูงสุดกับผเู้ รียน ซึง่ เป็นลูกหลาน ของชมุ ชน ขณะเดยี วกันกจ็ ะต้องทางานร่วมกับผ้บู ริหารสถานศึกษาและคณะครู โดยตระหนกั ถึงความเป็น “เจ้าของรว่ มกนั ” จงึ อาศยั กระบวนการทางานท่ีเนน้ การกระจายอานาจ การมีส่วนร่วมและความโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ในทกุ ข้นั ตอนของการจัดการศกึ ษา พร้อมกับยดึ ถือหลักการของการบริหารกิจการบา้ นเมอื ง และสงั คม ด้วยการปฏิบัตติ ามกฎหมายยึดมั่นในความถูกต้อง ดีงาม สร้างความไวว้ างใจซึง่ กันและกนั เปิด โอกาสใหป้ ระชาชนมีส่วนรว่ มตระหนกั ในสิทธหิ นา้ ท่คี วามสานกึ ในความรับผิดชอบร่วมกัน และคานึงถงึ ความคุ้มค่าในการลงทนุ ด้านการจดั การศกึ ษา โรงเรียนวัดอัยยิการาม ดาเนินการแต่งต้ังคณะกรรมการบรหิ ารสถานศกึ ษา จานวน 15 คน ดงั น้ี ๑. น.ส.สำยสุดำ หลักทรพั ย์ ประธรรมกรรมกำร ๒. นำงประดับพร ทำสนุ ันท์ กรรมกำร ๓. นำยทวี สสี กุ งำม กรรมกำร ๔. นำยสรุ นิ ทร์ สินทร กรรมกำร ๕. นำงพรทิพย์ นลิ ทองหลำง กรรมกำร ๖. น.ส.สภุ ำภรณ์ ประสงคอ์ มรชยั กรรมกำร ๗. น.ส.สมบตั ร ขำวสำอำงค์ กรรมกำร ๘. นำยประสทิ ธิ์ เกตุรำม กรรมกำร ๙. นำยทนงศักด์ิ พอ่ ทองคำ กรรมกำร ๑๐.นำยมนู จันทร์หอม กรรมกำร ๑๑.นำงอุษำ จรติ ธรรม กรรมกำร ๑๒. นำยพรชัย เงำภ่ทู อง กรรมกำร ๑๓.พระอำนนท์ กรรมกำร ๑๔.พระณรงค์ กรรมกำร ๑๕.นำยธนณฐั ศริ ะวงษ์ กรรมกำรและเลขำนกุ ำร บทบาทและหนา้ ทขี่ องคณะกรรมการสถานศกึ ษา มดี ังนี้ หน้าทีข่ อ้ 1 กาหนดนโยบายและแผนพัฒนาของสถานศึกษา หน้าท่ี ข้อ 2 ใหค้ วามเหน็ ชอบแผนปฏบิ ตั ิการประจาปขี องสถานศึกษา หนา้ ที่ ขอ้ 3 ใหค้ วามเห็นชอบในการจัดทาสาระหลักสูตรใหส้ อดคล้องกบั ความต้องการของ ท้องถิ่น หนา้ ที่ ขอ้ 4 กากับและตดิ ตามการดาเนนิ งานตามแผนของสถานศึกษา -

แผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปี 2562 7 หน้าที่ ขอ้ 5 ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กทกุ คนในเขตบริการไดร้ บั การศึกษาข้นั พื้นฐานอยา่ งทวั่ ถงึ มีคุณภาพและได้มาตรฐาน หน้าที่ ข้อ 6 พิทักษ์สทิ ธิเดก็ ดแู ลเด็กพิการ เดก็ ด้อยโอกาสและเดก็ ทีม่ คี วามสามารถพเิ ศษ ให้ ไดร้ บั การพฒั นาเต็มศักยภาพ หนา้ ที่ ข้อ 7 เสนอแนะและมีส่วนร่วมในการบริหารด้านวิชาการดา้ นงบประมาณ ด้านการ บรหิ ารงานบุคคลและด้านการบรหิ ารงานทัว่ ไปของสถานศึกษา หนา้ ทีข่ อ้ 8 ระดมทรพั ยากรเพอ่ื การศกึ ษา ตลอดจนวชิ าวทิ ยากรภายนอกและภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ เพื่อส่งเสริมพฒั นาการของนักเรยี นทกุ ดา้ น รวมท้ังสือ่ สารจารีตประเพณีศลิ ปวัฒนธรรมของท้องถน่ิ และของ ชาติ หน้าทขี่ ้อท่ี9 เสริมสร้างความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสถานศึกษากบั ชมุ ชนตลอดจนประสานงานกับองค์กร ทัง้ ภาครฐั และเอกชนเพ่ือให้สถานศกึ ษาเป็นแหลง่ วทิ ยากรของชมุ ชนและมสี ่วนร่วมในการพฒั นาชุมชนและ ท้องถิ่น หนา้ ทข่ี ้อ 10 ให้ความเหน็ ชอบรายงานผลการดาเนินงานประจาปขี องสถานศึกษา ก่อนเสนอต่อ สาธารณชน หน้าที่ ขอ้ 11 แตง่ ต้ังทีป่ รึกษาและหรือคณะอนกุ รรมการ เพ่ือการดาเนินงานตามระเบยี บน้ี ตามที่เหน็ สมควร สญั ลักษณ์ของสถานศึกษา เปน็ รูป ชอ่ื ของโรงเรยี นอยู่ใตต้ รา หนว่ ยงานสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน มคี วามหมาย คอื โรงเรียนเป็นหนว่ ยงานท่บี รหิ ารจัดการภายใต้การดูแลของ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน สีประจาโรงเรยี น โรงเรยี นมสี ปี ระจาโรงเรยี น คอื สีเทา-นา้ เงิน

แผนปฏิบตั กิ าร ประจาปี 2562 8 สภาพท่วั ไป สภาพชุมชนของ โรงเรยี น 1. สภาพชุมชนรอบบริเวณโรงเรียนมีลักษณะเป็นชุมชนเมือง เขตปริมณฑล ติดต่อกับ กรงุ เทพมหานคร มีประชากรประมาณ 30,000 คน บริเวณใกลเ้ คยี งโดยรอบโรงเรียนได้แก่ หมู่ 3 ,4 ต. ลาผักกูด หมู่ 1 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี อาชีพหลักของชุมชน คือ รับจ้าง พนักงานใน ภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร เนอ่ื งจาก เปน็ พน้ื ท่ีปริมณฑล ที่ตัง้ โรงงานอุตสาหกรรม ส่วนใหญน่ บั ถือ ศาสนาพทุ ธ ประเพณี/ศลิ ปวัฒนธรรมท้องถ่นิ ทีเ่ ปน็ ท่ีรจู้ ักโดยท่ัวไป คือประเพณที าบญุ ชาวมอญ 2. ผู้ปกครองส่วนใหญ่ จบการศกึ ษาระดับ ป. 6 ประกอบอาชีพ รับจ้างภาคอุตสาหกรรม รอ้ ยละ 60 นบั ถือศาสนา พุทธ ร้อยละ 98 ฐานะทางเศรษฐกจิ /รายได้โดยเฉลี่ย ต่อครอบครัว ตอ่ ปี 17,000 บาท  อาณาเขตตาบล : ทิศเหนอื ติด ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ทศิ ใต้ ตดิ ต.ลาลูกกา อ.ลาลกู กา จ.ปทมุ ธานี ทิศตะวันออก ติด ต.บึงสน่นั อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทศิ ตะวนั ตก ติด ต.รังสิต อ.ธญั บุรี จ.ปทุมธานี  เสน้ ทางการคมนาคม การเดนิ ทางเข้าสูต่ าบล : จากกรุงเทพ ใชท้ างหลวงหมายเลข 1 เมื่อถงึ ตาบลประชาธปิ ัตย์ให้แยกใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 305 มงุ่ หนา้ จ.นครนายก โดยตาบลลาผกั กดู หา่ งจากทางแยกประมาณ 18 กิโลเมตร  ส ภ า พ ภู มิ ป ร ะ เ ท ศ อาเภอธัญบุรี มีพืน้ ท่ี 112,124 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 69,925 ไร่ ลักษณะของพื้นท่ี เปน็ ที่ราบลุ่ม มีคลองรังสติ ประยรู ศกั ดิ์ตัดผ่านกลางพ้ืนท่ี แบ่งออกเปน็ 2 ข้างๆ ละ 40 เสน้ ประมาณ 1,600 เมตร สองฝง่ั คลองรังสติ ประยูรศักด์ิมคี ลองซอยหา่ งกนั 60 เส้น ประมาณ 2,400 เมตร ต้ังแตค่ ลองซอยที่ 1 ถึงคลองซอยที่ 14 ใชส้ าหรับสง่ น้าเพือ่ ประโยชน์ ทางการเกษตร และมีการสร้างอาคารบ้านเรือน โรงงานอตุ สาหกรรม และการอย่รู ่วมกนั อยา่ ง หนาแน่น ในส่วนทางดา้ นทศิ ตะวันตก  ลกั ษณะภูมิอากาศ อากาศร้อนช้นื มี 3 ฤดู คอื - ฤดรู ้อน ตงั้ แต่เดือนกมุ ภาพันธ์ุ - เดือนพฤษภาคม อุณหภูมโิ ดยเฉลย่ี 35 – 38 C - ฤดูฝน ตัง้ แต่เดือนมถิ ุนายน - เดือนตุลาคม อณุ หภมู ิโดยเฉล่ยี 30 – 35 C - ฤดูหนาว ตัง้ แต่เดอื นพฤศจิกายน - เดือนมกราคม อุณหภูมโิ ดยเฉล่ีย 27– 35 C

แผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปี 2562 9  แ ห ล่ ง นา้ อาเภอธญั บรุ ี มคี ลองรงั สิตประยรู ศกั ดต์ิ ดั ผา่ นกลางพนื้ ที่ แบง่ ออกเป็นสองข้าง ๆ ละ 40 เสน้ ประมาณ 1,600 เมตร สองฝั่งคลองรงั สิตประยูรศกั ดมิ์ ีคลองซอยหา่ งกัน 60 เสน้ ประมาณ 2,400 เมตร ตงั้ แต่คลองซอยท่ี 1-14 ใช้สาหรบั สง่ น้าเพ่อื ประโยชนก์ สิกรรม  เ ส้ น ท า ง ก า ร ค ม น า ค ม การคมนาคมทางบก เป็นทางหลักของชุมชนไดแ้ ก่ทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 305 (ถนนรังสิต- นครนายก) และตามคลองซอยต่างๆ จะมถี นนเลยี บคลอง สว่ นถนนรังสติ นครนายกจะ แบ่งเปน็ 2 ฝงั่ คลอง ขา้ มโดยสะพานคอนกรีตเสริมเหลก็ และมีถนนคอนกรีตต่อเข้าหมบู่ า้ นทุก หมบู่ า้ น การคมนาคมทางนา้ เดิมมีการใชค้ ลองรงั สิตประยูรศักด์ใิ นการตดิ ตอ่ ไปหาสู่กนั แตป่ ัจจบุ ันกย็ ังพอมีอยู่ บ้างแตไ่ มม่ ากนัก  ข้ อ มู ล ส า ธ า ร ณู ป โ ภ ค 1) ประปา มกี ารใชน้ า้ ประปาทกุ หมู่บ้าน 2) ไฟฟา้ มีไฟฟ้าใช้ทกุ หมบู่ ้าน 3) โทรศพั ท์ ใชโ้ ทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และส่วนใหญ่ใชโ้ ทรศัพทม์ ือถอื ทุก หมู่บ้าน 4) ไปรษณยี ์ ท่ีไห้บรกิ ารในพน้ื ท่ี คอื ทที่ าการไปรษณีย์อาเภอธัญบรุ ี และที่ทาการไปรษณยี ์รังสิต

แผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปี 2562 10 3.สภาพปจั จุบนั ขอ้ มูลพ้นื ฐานทางการศึกษา โรงเรียนวดั อยั ยกิ ารามมีขอ้ มูลพ้ืนฐานในการดาเนินการ ดังนี้ ตารางที่ 1 แสดงจานวนห้องเรยี นและนกั เรียน ยอ้ นหลงั 3 ปีการศึกษา 2559,2560 และ 2561 ปีการศกึ ษา ช้นั 2559 2560 2561 หอ้ งเรยี น นักเรยี น หอ้ งเรยี น นกั เรยี น หอ้ งเรียน นักเรยี น อนบุ าลปที ่ี 2 4 133 4 123 4 117 อนบุ าลปที ี่ 3 4 127 4 121 4 116 รวมระดบั ก่อนประถม 8 260 8 244 8 233 ประถมศึกษาปที ่ี 1 5 168 5 169 5 186 ประถมศึกษาปที ่ี 2 4 160 5 177 5 174 ประถมศึกษาปีท่ี 3 4 175 4 160 5 177 ประถมศึกษาปีท่ี 4 4 160 5 183 4 170 ประถมศึกษาปที ี่ 5 4 170 4 164 5 196 ประถมศึกษาปีที่ 6 4 172 4 178 5 165 รวมระดับประถม 24 1005 27 1031 29 1068 มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 4 175 5 199 5 194 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 4 170 5 183 5 198 มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 3 116 3 132 4 178 รวมระดับมัธยมตอนตน้ 11 461 13 514 14 514 หอ้ งเรียนคขู่ นาน 1 21 1 15 1 15 รวมทัง้ สิน้ 45 1,747 49 1,804 49 1,804 จานวนนกั เรียนท่ีมีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ของกรมพลศกึ ษาหรือสานกั งานกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ (สสส) 1,795 คน (ข้อมลู ส้ินภาคเรียนท่ี 2/2560) คิดเป็นรอ้ ยละ 100 1. จานวนนกั เรียนที่มีนา้ หนกั ส่วนสงู ตามเกณฑ์ของกรมอนามยั 1,795 คน คิดเป็นร้อยละ 93.18

แผนปฏิบตั กิ าร ประจาปี 2562 11 2. จานวนนกั เรยี นทีมคี วามบกพร่องเรยี นรว่ ม 209 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 11.64 3. จานวนนักเรียนมภี าวะทพุ โภชนาการ 3 คน คิดเป็นร้อยละ 0.16 4. จานวนนกั เรียนปญั ญาเลศิ 45 คน คิดเป็นร้อยละ 2.50 5. จานวนนกั เรียนตอ้ งการความช่วยเหลอื เป็นพิเศษ 35 คน คดิ เป็นร้อยละ 1.94 6. จานวนนักเรยี นที่ออกกลางคนั ( ปจั จุบนั ) - คน คดิ เป็นรอ้ ยละ - 7. สถติ ิการขาดเรยี น 24 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.33 8. จานวนนกั เรียนทเ่ี รียนซา้ ชั้น - คน คิดเป็นรอ้ ยละ - 9. จานวนนักเรียนทจ่ี บหลักสตู ร อ.2 จานวน 124 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ป.6 จานวน 172 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ม.3 จานวน 119 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 89.93 10. อตั ราส่วนครู: นักเรียน = 1 : 23.31 11. จานวนนักเรยี นที่เข้าร่วมกจิ กรรมศิลปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ วรรณคดีและนนั ทนาการ 1,795 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 12.จานวนนักเรยี นที่มีคุณลักษณะเป็นลกู ที่ดีของพอ่ แม่ ผปู้ กครอง 1,795 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 13.จานวนนักเรียนท่ีมีคณุ ลักษณะเปน็ นักเรียนที่ดขี องโรงเรยี น 1,795 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 14.จานวนนกั เรยี นที่ทากิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ตอ่ สังคมทง้ั ในและนอกสถานศึกษา 1,795 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 15.จานวนนักเรยี นทม่ี บี ันทกึ การเรียนรูจ้ ากการอ่านและการสบื คน้ จากเทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง สม่าเสมอ 1,795 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 16.จานวนนกั เรียนทผ่ี า่ นการประเมนิ ความสามารถด้านการคดิ ตามกาหนดในหลกั สูตร สถานศึกษา 1,795 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 17.จานวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ์การประเมินตามความสามารถในการปรับตัวเข้ากบั สังคมตามที่ กาหนดในหลักสูตรสถานศกึ ษา 1,795 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100

แผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปี 2562 12 4. ผลการดาเนนิ งานในรอบปที ผ่ี า่ นมา งานบรหิ ารท่วั ไป - ดา้ นสิทธิและโอกาสทางการศึกษา โรงเรยี นวดั อยั ยกิ าราม รบั ผดิ ชอบดแู ลเขตบรกิ ารในพื้นที่ คือ หมู่ 3 หมู่ 4 ตาบล ลาผักกูด และหมู่ 1 บึงสนั่น ซึ่งมีการดาเนินการ ทาเรอื่ งแจ้งผู้ปกครองกรณี เด็กที่ เข้าเกณฑ์ต้องศึกษาในระดบั ขั้นพ้ืนฐาน และติดตามการเข้าสมัครเรยี น รวมถงึ ใหส้ ทิ ธแิ ละโอกาสเด็กไดเ้ ข้า ศกึ ษาในโรงเรียน รอ้ ยละ 100 - ดา้ นประสิทธิภาพการจัดการศกึ ษา ในปีการศึกษา 2560 จานวนนักเรยี นทเ่ี ข้าเรียนในระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน จานวนทัง้ ส้ิน 1,795 คน ไมม่ จี านวนนักเรยี นท่อี อกกลางคนั จานวนนักเรยี นทีจ่ บหลกั สูตร อ.2 จานวน 124 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ป.6 จานวน 172 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ม.3 จานวน 119 คน คิดเป็นร้อยละ 89.93 งานบริหารวิชาการ (ด้านคณุ ภาพการศกึ ษา) ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของนกั เรียน ตารางท่ี 2 แสดงผลการพัฒนาการของนักเรยี นระดบั ปฐมวัย ปกี ารศึกษา 2559-2561 พฒั นาการ ระดบั ผลการพฒั นาการ แนวโนม้ ( เพมิ่ ลด ) ด้านรา่ งกาย ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 ด้านอารมณ์ เพิ่ม ด้านสังคม 98.97 98.97 98.98 เพม่ิ ดา้ นสตปิ ญั ญา เพิ่ม รวมเฉลีย่ 98.97 99.02 99.5 เพม่ิ เพ่ิม 99.50 99.54 99.57 98.75 99.21 99.5 98.84 98.88 98.97

แผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปี 2562 13 ตารางท่ี 3 แสดงผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของนกั เรยี นระดับประถมศึกษา ปีการศึกษา 2559-2561 ชั้น ปี คณิต วิทย์ สงั คม ประวตั ิ สุข- ศิลปะ การ องั กฤษ รวม การศกึ ไทย พละ งาน เฉลี่ย ษา 2559 83.54 85.26 86.20 76.67 86.56 86.26 81.82 89.07 79.70 83.90 ป.1 2560 81.47 81.94 84.48 83.12 74.37 76.37 84.25 84.20 75.12 80.59 2561 82.46 83.41 81.76 79.31 80.29 85.78 84.26 85.08 73.29 81.65 2559 82.33 82.61 81.73 78.73 87.86 87.01 83.30 87.57 78.20 82.27 ป.2 2560 74.12 74.12 77.03 75.67 82.72 70.79 79.89 84.69 81.04 77.72 2561 77.00 78.03 76.73 77.13 78.93 78.83 82.46 70.26 86.20 78.84 2559 73.74 74.70 74.92 78.83 79.47 79.49 83.40 77.95 72.76 77.30 ป.3 2560 73.28 73.80 77.73 77.30 71.45 73.03 83.58 83.75 80.05 79.22 2561 80.52 81.45 80.41 78.07 82.45 76.79 80.24 84.1 66.52 79.22 2559 66.28 66.95 68.41 74.62 68.83 77.36 73.92 72.37 67.13 73.86 ป.4 2560 80.88 75.14 81.29 80.13 79.74 72.62 82.48 86.83 72.48 78.95 2561 78.74 76.82 76.00 76.8 76.84 80.46 84.84 85.12 66.25 78.50 2559 67.68 73.17 65.90 75.64 75.33 86.64 75.96 79.15 72.69 75.24 ป.5 2560 72.00 67.26 68.08 83.33 71.65 74.57 74.06 73.65 71.97 72.95 2561 72.79 75.34 76.85 72.74 74.06 84.76 84.03 86.83 70.37 77.90 2559 80.91 78.75 81.38 80.08 77.37 92.32 81.31 82.44 76.98 81.30 ป.6 2560 82.79 78.43 77.85 79.76 76.67 87.47 82.44 87.15 76.53 80.91 2561 76.72 77.07 74.47 73.97 73.80 78.16 78.60 82.72 76.42 76.82 รวมเฉลี่ย ปี 60 77.42 75.11 77.74 79.88 76.10 75.80 81.11 83.37 76.19 78.08 รวมเฉลย่ี ปี 61 78.03 78.68 77.70 76.33 77.72 80.78 82.40 82.35 73.17 78.57

แผนปฏิบัติการ ประจาปี 2562 14 เป้าหมาย 70 70 70 70 70 80 80 80 70 ชัน้ ปี คณิต วิทย์ สังคม ประวตั ิ สุข- ศิลปะ การ องั กฤษ รวม การศึก ไทย พละ งาน เฉลยี่ ษา 2559 59.47 64.05 68.23 54.06 54.75 74.87 78.70 70.44 60.50 65.00 ม.1 2560 67.82 70.56 69.55 70.25 71.55 78.56 80.00 81.36 69.33 73.22 2561 62.31 58.09 61.16 64.16 63.57 75.34 65.93 63.59 56.42 66.97 2559 66.02 61.51 61.97 61.62 57.66 80.96 81.38 69.89 56.74 66.42 ม.2 2560 72.35 70.45 70.33 72.54 74.12 82.36 81.02 86.21 68.45 75.42 2561 58.08 74.56 69.45 73.93 73.89 77.89 67.37 56.79 67.10 68.34 2559 71.78 68.74 70.72 73.34 79.44 77.88 91.39 79.66 72.55 75.75 ม.3 2560 73.22 71.56 74.21 75.35 71.25 84.26 85.25 84.23 69.12 76.49 2561 58.91 65.84 67.42 69.84 69.16 78.60 74.79 70.91 57.05 70.62 รวมเฉลีย่ ปี 59 65.75 64.76 66.97 63.00 56.20 77.90 83.82 73.33 63.26 69.05 รวมเฉล่ีย ปี 60 71.13 70.85 71.36 72.17 72.30 81.72 82.09 83.93 68.96 75.04 รวมเฉลีย่ ปี 61 59.76 66.16 66.01 69.31 68.87 77.27 69.36 63.76 60.19 66.74 เป้าหมาย 70 70 70 70 70 80 80 80 70 เป้า หมาย

แผนปฏิบัติการ ประจาปี 2562 15 แผนภาพท่ี 1 แสดงเปรยี บเทยี บเฉล่ยี ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของนักเรียน ทั้ง 8 กลุ่มสาระ ระดับประถมศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2559-2561 ปี 60 ปี 61 86 84 82 80 78 76 74 72 70 68 แผนภาพท่ี 2 แสดงเปรยี บเทยี บเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรยี น ทง้ั 8 กล่มุ สาระ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ปีการศึกษา 2559-2561 ปี 60 ปี 61 90 80 70 60 50 40 30 20 10 0

แผนปฏิบตั กิ าร ประจาปี 2562 16 ตารางที่ 4 สรุปผลการทดสอบระดบั ชาติ( O-NET. ) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2559-2561 ปกี ารศึกษา 2559 ปีการศกึ ษา 2560 ปกี ารศกึ ษา 2561 รายวิชา ค่าเฉล่ีย คา่ เฉล่ยี ค่าเฉลยี่ ค่าเฉล่ยี คา่ เฉลี่ย ค่าเฉลีย่ ค่าเฉลยี่ คา่ เฉลย่ี ค่าเฉลี่ย ระดับ ระดบั ระดับ ภาษาไทย โรงเรียน เขตพ้นื ที่ ประเทศ ระดบั ระดบั ระดบั ระดบั ระดับ ระดบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 49.01 48.45 49.33 โรงเรียน เขตพน้ื ท่ี ประเทศ โรงเรยี น เขตพืน้ ท่ี ประเทศ 45.66 41.22 43.47 สงั คม 43.08 41.83 42.59 55.72 51.88 52.98 46.42 45.29 46.58 อังกฤษ 52.15 48.18 49.18 41.31 37.16 40.31 42.05 38.76 40.47 34.78 35.55 37.12 42.1 40.27 41.22 36.55 38.13 39.12 49.32 45.08 46.68 - - - 36.71 31.11 34.59 36.09 32.73 36.34 ตารางท่ี 5 สรุปผลการทดสอบระดับชาต(ิ O-NET. ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ปีการศกึ ษา 2559-2561 ปกี ารศึกษา 2559 ปกี ารศึกษา 2560 ปีการศกึ ษา 2561 รายวชิ า ค่าเฉล่ีย ค่าเฉล่ีย ค่าเฉลี่ย ค่าเฉลยี่ ค่าเฉลีย่ ค่าเฉลีย่ คา่ เฉลี่ย ค่าเฉลย่ี คา่ เฉล่ีย ภาษาไทย ระดบั ระดับ ระดับ ระดับ ระดบั ระดบั ระดับ ระดับ ระดับ โรงเรียน ประเทศ โรงเรียน เขตพน้ื ท่ี ประเทศ โรงเรียน เขตพน้ื ที่ ประเทศ 41.16 เขต 42.64 พนื้ ที่ 43.21 46.81 46.36 45.18 48.77 48.29 40.18 คณติ ศาสตร์ 27.67 26.77 32.4 24.34 29.53 29.31 19.23 26.55 26.30 วิทยาศาสตร์ 36.77 32.74 37.63 36.71 35.12 34.99 32.47 32.47 32.28 สังคม 41.53 41.32 46.24 47.49 49.34 49.00 อังกฤษ 26.77 26.75 30.62 29.29 31.39 31.80 27.09 30.14 30.45 ตารางท่ี 6 สรุปผลการทดสอบระดบั ชาติ( NT. ) ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2559-2561 ปกี ารศึกษา 2559 ปกี ารศึกษา 2560 ปีการศกึ ษา 2561 รายวชิ า คา่ เฉลยี่ คา่ เฉลี่ย คา่ เฉลย่ี ค่าเฉลี่ย ค่าเฉลีย่ คา่ เฉลย่ี ระดบั ระดบั ระดับ คา่ เฉล่ยี ค่าเฉลี่ย คา่ เฉลี่ย ระดบั ระดบั ระดบั โรงเรียน เขตพน้ื ที่ ประเทศ ระดบั ระดับ ระดบั โรงเรยี น เขตพ้นื ที่ ประเทศ 60.23 56.19 51.00 โรงเรียน เขตพ้นื ที่ โรงเรียน 41.03 38.72 36.99 ภาษา 43.97 45.59 46.59 58.21 58.50 53.38 คดิ คานวณ 45.42 39.49 40.67 เหตผุ ล 49.66 48.37 48.52

แผนปฏบิ ตั กิ าร ประจาปี 2562 17 ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายในรอบปีทผ่ี ่านมา โรงเรียนวดั อัยยิการามดาเนินการตามแผนและมาตรฐานสถานศกึ ษาท่กี าหนดไว้ตามการประกัน คณุ ภาพภายใน โดยมีผลการประเมินคณุ ภาพภายในในรอบปีทีผ่ า่ นมา ดงั นี้ ระดบั ปฐมวัย ผลการประเมนิ มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย มาตรฐานการศึกษา: ดี ระดับคุณภาพ มาตรฐานการศกึ ษา ดเี ลศิ ยอดเยยี่ ม มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของเดก็ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ ดเี ลิศ มาตรฐานท่ี 3 การจดั ประสบการณท์ เี่ นน้ เดก็ เป็นสาคญั จุดเดน่ สถานศกึ ษาไดด้ าเนินการพัฒนาการดา้ นร่างกายของเด็กโดยดาเนินการจดั โครงการและ กจิ กรรม ดังน้ี  โครงการสง่ เสริมสขุ ภาพ - กิจกรรมพฒั นาและปอ้ งกนั ด้านสขุ ภาพเดก็  โครงการนกั วิทยาศาสตร์น้อย - กิจกรรมพฒั นากล้ามเน้ือมัดใหญ่ มัดเลก็ - กจิ กรรมบรหิ ารกายและจติ ยามเชา้ - กิจกรรมบนั ทึกพัฒนาการด้านน้าหนกั ส่วนสูงทุก 3 เดอื นและตรวจ สุขภาพประจาสัปดาห์ - กจิ กรรมจัดอาหารเสรมิ (นม) เป็นประจา - จัดกิจกรรมใหค้ วามรูเ้ กยี่ วกบั การปอ้ งกัน หลีกเลี่ยงจากสงิ่ เสพตดิ ให้โทษ และอุบตั ิเหตุ สถานศึกษาไดด้ าเนนิ การพฒั นาเด็กใหม้ ีพฒั นาการดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ โดยจัดใหม้ ี - โครงการส่งเสรมิ สขุ ภาพ โครงการสง่ เสรมิ ความสามารถทกั ษะรายบุคคล - โครงการและสารรักสานสัมพนั ธ์ ของทกุ หอ้ งเรยี นอภิปรายร่วมกนั กจิ กรรม สรา้ งสรรค์ เป็นกิจกรรมท่ีเปิดโอกาสใหเ้ ด็กได้ สรา้ งสรรค์ผลงานศิลปะตามความคดิ ของตนเองอย่าง หลากหลาย เชน่ การวาดภาพ ระบายสี เปา่ สี ป้นั ดินน้ามนั - กิจกรรมบรหิ ารกายและจิตยามเช้า - กจิ กรรมพฒั นาคณุ ลกั ษณะนิสัยทด่ี ี - กิจกรรมส่งเสริมสุนทรยี ภาพ

แผนปฏิบัตกิ าร ประจาปี 2562 18 - กจิ กรรมเปิดบา้ นแสดงความสามารถของเดก็ ให้เด็กไดแ้ สดงออกอย่างเต็ม ความสามารถ สถานศกึ ษาไดด้ าเนนิ การพัฒนาเด็กดา้ นสงั คมโดยจดั ให้มโี ครงการและกิจกรรม ดังน้ี  โครงการสง่ เสรมิ ความสามารถทักษะรายบคุ คล  โครงการนักวิทยาศาสตร์น้อย โครงการคณุ ธรรมนาความรคู้ ู่อยั ยกิ า - กจิ กรรมมารยาทงาม  โครงการวิถพี ุทธสู่วิถชี ีวติ - กจิ กรรมพัฒนาคณุ ธรรมและทกั ษะชวี ติ จัดให้มีกิจกรรมในความรบั ผิดชอบจัดแบ่งหน้าทีท่ าความสะอาดบรเิ วณหอ้ งเรียน นักเรยี น มีความสุขและภาคภูมิใจ กับการทางานจดั กิจกรรมการเรยี นรทู้ างานเปน็ ทีมท่สี ง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี น แบง่ กลมุ่ กันทางาน เพื่อให้ผ้เู รยี นรู้จักการทางานรว่ มกนั โดยไม่ขดั แย้ง ช่วยเหลอื กันและรบั ฟงั ความคิดเห็นของ สถานศกึ ษาได้ดาเนินการพัฒนา ดงั น้ี  โครงการส่งเสรมิ ความสามารถทกั ษะรายบคุ คล - กจิ กรรมปรบั พนื้ ฐานเตรยี มความพร้อม - กิจกรรมการเรียนการสอน ภาษาต่างประเทศ การเตรียมความพรอ้ ม ทางด้านเทคโนโลยี  โครงการนักวิทยาศาสตรน์ ้อย - กิจกรรมพฒั นากลา้ มเนอื้ มดั ใหญ่ มัดเลก็ - กจิ กรรมส่งเสรมิ สนุ ทรียภาพ โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น - กจิ กรรมการทาสมาธกิ อ่ น - กิจกรรม มมุ เกมการศกึ ษา นกั เรยี นไดเ้ ล่นร่วมกันเรียนรกู้ ารแก้ปญั หา การ คดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ต่างๆ นาเด็กไปทัศนศึกษานอกสถานทเี่ ปดิ โอกาส ให้เดก็ ไดเ้ รยี นรู้ จาก ประสบการณ์จริง จุดควรพฒั นา - สถานศึกษาควรกาหนดแนวทางการพัฒนาทางด้านอารมณ์ของเด็ก โดยมีโครงการ ส่งเสริมความสามารถทักษะรายบุคคล โครงการส่งเสริมสุขภาพ พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอยา่ ง เข้มแข็งและตอ่ เนอื่ ง ประสานความรว่ มมอื กบั เครือข่ายผู้ปกครอง เน้นการเสรมิ สรา้ งคา่ นิยมอันพงึ ประสงค์ ในเรื่อง ทกั ษะกระบวนการด้านความคิดสร้างสรรค์ ดา้ นคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ โครงการและเอกสารสาร รักสานสมั พนั ธ์ ให้ต่อเนอื่ ง - สถานศึกษาควรกาหนดแนวทางการพัฒนาทางด้านสติปัญญาของเด็ก โดยปฏิบัติตาม โครงการท่ีจดั ทาข้ึน ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมการฝกึ ทกั ษะ การฟงั การพดู การอ่านและการเขียน ในทุกสาระการเรียนรู้และสอดแทรกในกิจกรรมวนั สาคัญต่าง ๆ จดั ส่งเสริมกจิ กรรมด้านภาษาส่ือสารท้ัง ภาษาต่างประเทศโดยชาวต่างชาติ ให้ต่อเน่ืองรวมถึงการพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ให้เดก็ ได้พัฒนาการคิดวิเคราะห์ให้มากขึ้น - สถานศึกษาควรกาหนดแนวทางการพฒั นาทางดา้ นสังคมของเด็ก โดยมโี ครงการพัฒนา ระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียนอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ประสานความรว่ มมือกับชุมชนและท้องถ่ิน เน้นการ

แผนปฏิบัติการ ประจาปี 2562 19 เสริมสร้างคา่ นยิ มอนั พงึ ประสงค์ ประพฤตติ นตามวฒั นธรรมไทยและศาสนาทต่ี นนับถอื ซ่ึงปฏบิ ตั ิอยู่แลว้ ให้ ต่อเนือ่ ง ระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน ระดับคณุ ภาพ ผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน ดเี ลศิ ยอดเยยี่ ม มาตรฐานการศึกษา : ดี ดีเลิศ มาตรฐานการศกึ ษา มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผเู้ รยี น มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่เี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ขอ้ เสนอแนะจากการประเมนิ ภายในสถานศกึ ษา จุดเด่น ผู้เรียนอ่านหนังสือออกและอ่านคล่อง รวมทั้งสามารถเขียนเพ่ือการส่ือสารได้ทุกคนสามารถใช้ เทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนอยู่ในระดับดี เย่ียม มีคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน(O-NET) สูงกว่าระดับชาติ ใน ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ทุกกล่มุ สาระวิชา และมากกว่า รอ้ ยละ ๕๐ ทุกกลมุ่ สาระท่ีมกี ารทดสอบและ ตอ่ เน่ืองมาโดยตลอด ผเู้ รียนมีสขุ ภาพรา่ งกายแข็งแรง มีสมรรถภาพทางกายและน้าหนักสว่ นสงู ตามเกณฑม์ ีระเบียบวินัย จนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา เป็นที่ยอมรับของชุมชนโดยรอบในเร่ืองความมีวินัย เคารพกฎกติกา มารยาทของสงั คม ได้แก่ การเข้าควิ ขน้ึ รถโดยสารสาธารณะ โรงเรียนมีการบริหารและการจัดการอยา่ งเปน็ ระบบ โรงเรียนไดใ้ ชเ้ ทคนคิ การประชมุ ที่หลากหลาย วธิ ี เช่น การประชมุ แบบมีส่วนร่วม การประชุมระดมสมอง การประชุมกลมุ่ เพือ่ ให้ทกุ ฝ่ายมีสว่ นร่วมในการ กาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ที่ชัดเจน มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติ การประจาปี ทีส่ อดคล้องกับผลการจัดการศึกษา สภาพปญั หา ความตอ้ งการพฒั นา และนโยบายการปฏริ ูป การศกึ ษาทีม่ ่งุ เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนมีคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรตู้ ามหลักสูตรสถานศึกษาครูผู้สอน สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ มีการดาเนินการนิเทศ กากับ ติดตามประเมินผล การดาเนินงาน และจัดทารายงานผลการจดั การศกึ ษา และโรงเรยี นไดใ้ ช้กระบวนวจิ ยั ในการรวบรวมขอ้ มูล เพื่อใชเ้ ปน็ ฐาน ในการวางแผนพฒั นาคณุ ภาพสถานศกึ ษา จดุ ควรพฒั นา ผู้เรียนในระดับชั้น ป.๑ – ป.๓ ยังต้องเร่งพัฒนาด้านการนาเสนอ การอภิปรายและแลกเปลี่ยน เรียนรู้อย่างสมเหตุสมผล และต้องพัฒนาทักษะการแกป้ ัญหาตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม ผู้เรียนใน ระดับช้ัน ม.๑ – ม.๓ ยังต้องได้รับการส่งเสริมในด้านทัศนคติท่ีดีต่อความเป็นไทย ไม่หลงใหลกับค่านิยม ตา่ งชาติ จนเกิดการลอกเลยี นแบบ ทาใหล้ ืมวัฒนธรรมอนั ดงี ามของไทย

แผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปี 2562 20 ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกรอบสาม โรงเรียน วดั อัยยกิ าราม. ไดร้ บั การประเมินคณุ ภาพภายนอกจาก สมศ. รอบสามเม่ือวันที่ 25 - 27 กรกฎาคม 2554 ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอกของสถานศกึ ษา มีการประเมนิ 3 กลมุ่ ตัวบ่งช้ี คอื กลุ่มตวั บ่งชพ้ี น้ื ฐาน กลุ่มตัวบ่งช้ีอัตลักษณ์ และกลุม่ ตวั บง่ ชี้มาตรการส่งเสรมิ ซึ่งสรปุ ผลการประเมนิ โดย ภาพรวมตามตัวบง่ ช้ี เป็นตารางดังตอ่ ไปน้ี ระดับการศึกษาปฐมวัย ตวั บง่ ชี้ ระดบั คณุ ภาพ ต้อง ตอ้ ง พอใช้ ดี ดีมาก ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เร่งดว่ น ✓ ✓ กลุ่มตวั บง่ ช้พี น้ื ฐาน ✓ ✓ ตัวบง่ ชีท้ ่ี 1 เด็กมีพฒั นาการดา้ นรา่ งกายสมวยั ✓ ✓ ตวั บง่ ชี้ที่ 2 เดก็ มีพัฒนาการดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจสมวยั ✓ ตวั บง่ ชี้ท่ี 3 เด็กมพี ฒั นาการดา้ นสงั คมสมวัย ✓ ✓ ตวั บ่งชท้ี ่ี 4 เด็กมีพฒั นาการดา้ นสติปญั ญาสมวัย ✓ ตวั บ่งช้ที ่ี 5 เดก็ มคี วามพร้อมศกึ ษาต่อในขัน้ ตอ่ ไป ✓ ตัวบ่งชี้ท่ี 6 ประสทิ ธิผลการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ที่เนน้ เด็กเปน็ สาคญั ตวั บง่ ชี้ท่ี 7 ประสิทธภิ าพของการบรหิ ารจัดการและการพฒั นา ✓ สถานศึกษา ตวั บง่ ชีท้ ี่ 8 ประสทิ ธผิ ลของระบบประกันคุณภาพภายใน กลุ่มตวั บ่งชอี้ ตั ลักษณ์ ตวั บง่ ชี้ที่ 9 ผลการพัฒนาให้บรรลตุ ามปรชั ญา ปณิธาน/วิสยั ทศั น์ พนั ธ กจิ และวตั ถุประสงคข์ องการจดั ตงั้ สถานศกึ ษา ตวั บ่งชท้ี ่ี 10 ผลการพฒั นาตามจุดเน้นและจุดเด่นที่ส่งผลสะทอ้ นเป็น เอกลกั ษณ์ ของสถานศึกษา กลมุ่ ตวั บ่งช้มี าตรการสง่ เสริม ตวั บง่ ชี้ที่ 11 ผลการดาเนินงานโครงการพิเศษเพ่ือสง่ เสริมบทบาทของ สถานศึกษา ตัวบ่งช้ที ี่ 12 ผลการส่งเสริมพัฒนาสถานศกึ ษาเพือ่ ยกระดบั มาตรฐาน รักษา มาตรฐาน และพัฒนาสคู่ วามเปน็ เลิศที่สอดคลอ้ งกับแนวทางการ ปฏริ ูปการศกึ ษา สรปุ ผลการประเมินในระดบั ปฐมวัย มีผลการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก โดยมคี า่ เฉลยี่ ๙๖.๓๖ มีผลการรบั รองมาตรฐานคุณภาพ  รับรอง  ไม่รบั รอง

แผนปฏิบตั ิการ ประจาปี 2562 21 ตัวบ่งชี้ ระดับคณุ ภาพ กลุ่มตัวบง่ ชี้พ้ืนฐาน ต้อง ตอ้ ง พอใช้ ดี ดมี าก ตัวบ่งช้ีที่ 1 ผูเ้ รียนมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ีดี ตวั บ่งชท้ี ี่ 2 ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมท่พี ึงประสงค์ ปรับปรงุ ปรบั ปรงุ ✓ ตัวบ่งชท้ี ่ี 3 ผูเ้ รยี นมีความใฝ่รู้และเรียนรอู้ ย่างต่อเน่อื ง เรง่ ด่วน ✓ ตวั บง่ ชี้ท่ี 4 ผู้เรียนคิดปน็ ทาเป็น ✓ ตัวบง่ ชี้ท่ี 5 ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของผ้เู รยี น ✓ ✓ ตวั บง่ ชท้ี ่ี 6 ประสทิ ธผิ ลการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผ้เู รียนเปน็ ✓ สาคญั ✓ ตวั บง่ ชีท้ ี่ 7 ประสิทธิภาพของการบริหารจดั การและการพัฒนา ✓ สถานศึกษา ตวั บ่งชท้ี ี่ 8 พฒั นาการของการประกันคณุ ภาพภายในโดย ✓ สถานศึกษาและต้นสงั กดั ✓ กลุ่มตวั บง่ ช้ีอตั ลักษณ์ ✓ ตัวบ่งชี้ที่ 9 ผลการพัฒนาให้บรรลตุ ามปรัชญา ปณธิ าน/วสิ ยั ทศั น์ ✓ พนั ธกจิ และวตั ถุประสงค์ของการจดั ตง้ั สถานศึกษา ตัวบ่งชที้ ่ี 10 ผลการพัฒนาตามจุดเนน้ และจุดเด่นท่ีส่งผลสะทอ้ น ✓ เปน็ เอกลักษณ์ ของสถานศกึ ษา กลมุ่ ตวั บ่งช้มี าตรการส่งเสริม ตัวบง่ ชที้ ่ี 11 ผลการดาเนินงานโครงการพเิ ศษเพือ่ ส่งเสรมิ บทบาท ของสถานศึกษา ตัวบง่ ชี้ที่ 12 ผลการส่งเสริมพัฒนาสถานศกึ ษาเพอื่ ยกระดับ มาตรฐาน รกั ษา มาตรฐาน และพัฒนาสู่ความเป็นเลศิ ที่สอดคล้องกบั แนวทางการปฏิรูปการศึกษา เฉลยี่ รวม สรุปผลการประเมนิ ในระดบั การศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน มีผลการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี โดยมี คา่ เฉล่ีย 86.79 มีผลการรบั รองมาตรฐานคณุ ภาพ  รับรอง  ไม่รบั รอง

แผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปี 2562 22 ข้อเสนอแนะจากการประเมนิ ภายนอก จุดเด่น จดุ ท่คี วรพฒั นา เงื่อนไขท่ที าใหส้ าเร็จ ระดบั การศกึ ษาปฐมวยั จดุ เดน่ 1. เด็กมสี ุขภาพกาย สขุ ภาพจิตสมวัย และมีพฒั นาการทัง้ 4 ด้านสมวัย มีทกั ษะพนื้ ฐานตาม พฒั นาการทกุ ด้าน และความร้พู ้นื ฐานเหมาะสมตามวยั พรอ้ มทจ่ี ะศกึ ษาต่อในข้ันต่อไป 2. สถานศึกษามปี รัชญา วิสยั ทัศน์ พันธกิจ และเปา้ ประสงค์ สอดคล้องกับแนวทางปฏริ ูป การศึกษาและมีการนาไปกาหนดจดุ เน้น จุดเดน่ พัฒนาผู้เรียนเกดิ ความโดดเดน่ ในด้านประหยัดและอด ออมสะท้อนเปน็ เอกลักษณข์ องสถานศึกษา 3. ผู้บรหิ ารมีความรคู้ วามสามารถ มีความมุ่งมั่น มีวสิ ัยทศั นใ์ นการบริหารจัดการ และพัฒนา สถานศึกษาได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพตามแนวปฏิรูปการศึกษา 4. ครูมคี วามสามารถในการจัดประสบการณ์การเรียนรูใ้ ห้แกเ่ ด็กไดอ้ ย่างมคี ุณภาพและ ประสิทธภิ าพ 5. สถานศกึ ษามรี ะบบการประกนั คุณภาพภายในอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ จุดควรพัฒนา การดแู ลเด็กทมี่ ปี ัญหาทางดา้ นการปฏบิ ัตกิ ิจวัตรประจาวนั เก่ียวกับการดแู ลตนเองดา้ นความ สะอาด การลา้ งมอื การแปรงฟันใหถ้ กู วิธี ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื พฒั นามาตรฐานคุณภาพศึกษาตามมาตรฐานกฎกระทรวงวา่ ด้วยระบบ หลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารประกนั คณุ ภาพการศึกษา พ.ศ 2553 ดา้ นการจดั การเรียนการสอนทเี่ น้นเด็กเป็นสาคัญ ครคู วรดูแลเดก็ ทม่ี ีปญั หาทางด้านการปฏิบตั กิ จิ วัตรประจาวันเกี่ยวกบั การดูแลตนเองด้าน ความสะอาด การลา้ งมอื การแปรงฟนั ให้ถกู วิธี ระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน จดุ เด่น 1. ผู้เรยี นมีสขุ ภาพกาย สขุ ภาพจิตทดี่ ี มสี ุนทรียภาพ มีคณุ ธรรมจริยธรรม รูจ้ ักคิดวเิ คราะห์ แกป้ ญั หาได้ และมีกาประหยัด อดออม ตลอดจนการศึกษาหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนร้ภู ายใน และภายนอก อย่างต่อเน่อื ง สม่าเสมอ 2. สถานศกึ ษามีปรัชญา วิสยั ทัศน์ พนั ธกิจ และเป้าประสงค์ สอดคล้องกับแนวทางปฏริ ปู การศกึ ษาและมีโครงการพเิ ศษเพือ่ แก้ปัญหา พฒั นาผเู้ รยี นได้อย่างมีประสิทธภิ าพ มผี ลกระทบท่ีดีตอ่ ชมุ ชน ท้องถน่ิ 3. ผบู้ รหิ ารมคี วามร้คู วามสามารถ มคี วามมุ่งม่นั มีวสิ ัยทัศนใ์ นการบรหิ ารจัดการ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพตามแนวปฏริ ูปการศึกษา 4. ครูมคี วามสามารถในการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเปน็ สาคญั ได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ 5. สถานศกึ ษามีระบบการประกันคุณภาพภายในดาเนินการได้อย่างมีประสิทธภิ าพเกดิ ประสทิ ธผิ ล

แผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปี 2562 23 จุดควรพัฒนา สถานศึกษาควรพัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนรู้ในทกุ กลมุ่ สาระการเรยี นรใู้ หส้ งู ขึ้น โดยเฉพาะ อยา่ งย่ิงในกลุม่ สาระการเรยี นรู้ท่ีมผี ลการทดสอบ O-Net มีระดับคุณภาพต่ากว่าระดบั ดี และครูควรดแู ล เดก็ ทีม่ ปี ญั หาเกี่ยวกบั การปฏบิ ัติกิจวตั รประจาวันในการดแู ลตนเอง ขอ้ เสนอแนะเพื่อพฒั นามาตรฐานคุณภาพศกึ ษาตามมาตรฐานกฎกระทรวงว่าดว้ ยระบบ หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารประกันคณุ ภาพการศึกษา พ.ศ 2553 ดา้ นผลการจดั การศึกษา สถานศึกษาควรจัดกิจกรรมยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างเป็นระบบ ให้ผู้เรียนได้ เรียนรจู้ ากประสบการณ์ตรง การใช้กระบวนการกล่มุ การใช้สื่อที่เหมาะสม การประเมนิ ผล การวัดผลตาม ความแตกต่างของผู้เรยี นและนาผลไปพฒั นาผู้เรียนได้อย่างเต็มศักยภาพในทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ดา้ นการจดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั ครูตอ้ งดูแลเดก็ บางส่วนที่มปี ัญหาทางด้านการปฏิบัติกิจวัตรประจาวันเก่ียวกับการดูแล ตนเอง โดยเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชดิ ให้มากข้ึน เพื่อปรับเปลยี่ นพฤติกรรมเดก็ ให้ดีขึ้น งานบรหิ ารบคุ คล โรงเรียนวัดอัยยิการามบริหารจัดการ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยสนับสนุนให้ครู เข้าอบรมตามที่หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานอ่ืนจัด อย่างน้อย คนละ 20 ชม. / ปี เชิญวิทยากรให้ ความรู้ภายในโรงเรียน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง จัดสวัสดิการ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างขวัญและกาลังใจแก่ บุคลากรในสถานศึกษา ตลอดปีการศึกษา ประเมินผลการปฏิบัติงานปีละ 2 คร้ัง ควบคุมกากับการ ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการโดยเคร่งครัด ตลอดปีการศึกษา มีการกระจายอานาจ โดยมอบหมายงานใหท้ กุ คนมีส่วนร่วมในการบรหิ ารจัดการ และส่งเสริมให้บุคลากรทกุ คนมคี วามกา้ วหน้า ทางวิทยฐานะ

แผนปฏบิ ัติการ ประจาปี 2562 24 ขอ้ มูลครูและบุคลากร ตารางที่ 7 ข้าราชการครแู ละพนกั งานราชการ ลาดบั ชื่อ - สกุล ตาแนง่ วุฒิ ป.ตรี วุฒิ ป.โท วชิ าท่ีสอน ความถนดั 1 นายธนณฐั ศิระวงษ์ ผอ. เทคโนโลยี - ปฐมวัย การศกึ ษา - - ๒ นางอษุ า จรติ ธรรม รอง ผอ. อุตสาหกรรม การบริหาร ๓ นางจรรยา พรสิงห์ ครูชานาญการพิเศษ การศึกษา ปฐมวยั ไทย 4 นางสมุ ิตรา คงสบื ครชู านาญการพิเศษ ศิลป์ ไทย,คณิต ,คณติ ศาสตร์ ๕ นางศิรพิ ร มาเดช ครูชานาญการพเิ ศษ ปฐมวัย - ไทย,คณติ คณติ ศาสตร์ ๖ นางจีรภา ยงเขตรการณ์ ครูชานาญการพิเศษ คหกรรม 7 น.ส.มกุ ดา คาอานา - คณติ ศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ๘ นายทวี เครือจนั ทร์ ครชู านาญการ ประถมศึกษา ครูชานาญการพเิ ศษ ประถมศึกษา - ประวัติ,การงาน การงาน ๙ นางดวงเดือน ภริ มย์ทอง คณติ ศาสตร์ - ,คณติ ศาสตร์ ครูชานาญการพิเศษ เกษตรและ ศษ.ม. ภาษาไทย,คณติ ศาสตร์ ภาษาไทย 10 น.ส.สวุ ภา รังษีภโนดร สังคม,ประวตั ิ ,คณติ ศาสตร์ ครูชานาญการพเิ ศษ สหกรณ์ - สงั คม,ภาษาไทย สงั คมศึกษา ๑๑ นายนิรัน นลิ ทองหลาง คณิตศาสตร์ ครชู านาญการ คหกรรม บริหารการศึกษา คอมพิวเตอร์ ภาษาไทย ๑๒ นางสุมามาลย์ ศิรจิ ร หลักสตู รและการ คณติ ศาสตร์ 13 นางทวิ าพร พงษศ์ รีทอง ครชู านาญการพิเศษ ประถมศกึ ษา ภาษาไทย,คณติ ศาสตร์ ครูชานาญการพเิ ศษ จติ วทิ ยาและ สอน สังคม,ประวัติ คอมพวิ เตอร์ ๑๔ น.ส.นภิ า ศิริจร การแนะแนว จิตวิทยาการแนะ สังคมศกึ ษา ครชู านาญการ ประวตั ิศาสตร์ ภาษาไทย ๑๕ นางพยอม ภผู ินผา แนว ภาษาไทย,คณิตศาสตร์ ,คณิตศาสตร์ 16 นางธัญชพร ฉมิ พลอย ครชู านาญการพเิ ศษ ฟสิ ิกส์ สงั คม สงั คมศกึ ษา ๑๗ น.ส.นฤมล ซีเจด็ ร้วิ ครชู านาญการพิเศษ - ๑๘ น.ส.ศันสนยี ์ ทองคา บญั ชีการเงิน ภาษาไทย,คณิตศาสตร์ ดนตรี 19 น.ส.น้าฝน คาภูแสน ครู หลกั สูตรและการ สงั คมศึกษา ภาษาไทย ๒๐ น.ส.สรุ พี ร ไชยสถาน ครู วิทยาศาสตร์ สอน ,คณิตศาสตร์ ๒๑ นางปวณี ท์ ิพย์ อ้นลาพอง ครู กษ.บ. - ครู สังคม ครู ดนตรีสากล เทคโนโลยแี ละการ สงั คม วิทยาศาสต์ สอ่ื สาร ,ภาษาไทย การกีฬา สังคมศึกษา สงั คมศกึ ษา บริหารการศกึ ษา ส่ือสารมวลชน - ประถมศึกษา - บริหารการศกึ ษา บรหิ ารการศกึ ษา - บริหารการศกึ ษา -

แผนปฏบิ ัติการ ประจาปี 2562 25 ลาดบั ช่อื - สกลุ ตาแนง่ วฒุ ิ ป.ตรี วฒุ ิ ป.โท วชิ าทสี่ อน ความถนดั 22 นางเสาวลกั ษณ์ เจรญิ ใจ ภาษาไทย ครู ประถมศกึ ษา - ภาษาไทย,คณิตศาสตร์ ,คณติ ศาสตร์ ๒๓ นางสสมิ า ปานงาม ภาษาไทย ครู วทิ ยาศาสตร์ - ภาษาไทย ,วทิ ยาศาสตร์ ๒๔ น.ส.อษุ า ออ่ นแสง ,วิทยาศาสตร์ วทิ ย,์ ไทย 25 นางอลุ ยั รตั น์ ยอดพฒุ ครู ศษบ - คณิต,วิทย์ ๒๖ น.ส.วลั ภา เดชยางกูร ครู วทิ ยาศาสตร์ - ภาษไทย คณิตศาสตร์ ๒๗ น.ส.พชั รี เท่ียงไธสง ครู คณติ ศาสตร์ - คณิต,วิทย์ ภาษาไทย ครู ภาษาไทย การบรหิ ารธรุ กจิ คณติ ศาสตร์ อังกฤษ 28 น.ส.สมุ นา แสงโสด ครู - ภาษาไทย องั กฤษ ศึกษาศาสตร์ อังกฤษ นาฏศลิ ป์ ๒๙ น.ส.ประวณี า โภควณชิ ครู ศกึ ษาศาสตร์ มหาบัณฑติ ครผู ชู้ ว่ ย นาฏศลิ ป์,งานบา้ น ดนตรีสากล ๓๐ น.ส.สายฝน สขุ จิต ครผู ชู้ ว่ ย บณั ฑติ - ครูผชู้ ่วย สังคม,ประวตั ศิ าสตร์, ภาษาไทย ครผู ชู้ ่วย ดนตรสี ากล - หน้าท่ีพลเมือง,ดนตรี ครูผชู้ ว่ ย คหกรรม ภาษาองั กฤษ ครผู ชู้ ว่ ย 31 นายอฐั ษฎากรณ์ ครผู ชู้ ว่ ย พลศึกษา - สุขศึกษาและพลศกึ ษา พลศกึ ษา เสอื อินทร์ ครผู ชู้ ว่ ย ครผู ชู้ ่วย พลศกึ ษา ๓๒ นายบุญชู ดาวขุนทด ครผู ชู้ ่วย ภาษาอังกฤษ - สุขศกึ ษาและพลศึกษา พลศึกษา ครผู ชู้ ว่ ย ๓๓ น.ส.ปวิตรา สขุ ลอ้ ม ภาษาองั กฤษ - องั กฤษ องั กฤษ ครูผชู้ ่วย 34 นายณษกฤษ คาดวี ี การศึกษา - ภาษอังกฤษ ภาษาอังกฤษ ครผู ชู้ ว่ ย บณั ฑิต ,ประวัติศาสตร์ ครผู ชู้ ว่ ย ปฐมวัย ๓๕ น.ส.มุกดา แพรงาม ครูผชู้ ว่ ย ปฐมวัย - วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ครูผชู้ ่วย ปฐมวัย ๓๖ น.ส.มณรี ัตน์ นาคจารญู ครผู ชู้ ว่ ย ปฐมวัย - ปฐมวยั ปฐมวยั 37 น.ส.วรางคณา สมภาร ครูผชู้ ว่ ย - ปฐมวัย ปฐมวัย ๓๘ นางณฐั ฐาพร สมสืบ ครผู ชู้ ่วย ประถมศกึ ษา - ปฐมวัย ปฐมวัย ๓๙ น.ส.กมลพร วัฒนจันทร์ - ปฐมวยั ปฐมวัย ประถมศึกษา ไทย 40 น.ส.วชั ราภรณ์ พ่ึงอดุ ม - ไทย,คณติ ,คณติ ศาสตร์ คณิตศาสตร์ ไทย ๔๑ น.ส.รจนา อินทะพงษ์ - ไทย,คณติ ,คณติ ศาสตร์ ปฐมวัย ๔๒ นายชัชพงศ์ เช้อื สา ปฐมวัย การวดั และ คณติ ศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพวิ เตอร์ ประเมนิ ผล 43 น.ส.อจั ฉราพร งามสง่า คณิตศาสตร์ ปฐมวยั ปฐมวัย ๔๔ น.ส.อาจารีย์ แซ่วื่อ ภาษาอังกฤษ - ปฐมวยั ปฐมวยั ๔๕ นางศิริรัตน์ ปิรยิ ะ ภาษาไทยเพื่อ - ภาษาไทย ภาษาไทย ๔๖ น.ส.บศุ ริน ทองชมภู การส่ือสาร - ภาษาองั กฤษ ภาษาองั กฤษ ๔๗ น.ส.จรญิ ญา ศรสี มศักด์ิ - ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ - ๔๘ น.ส.สมรศรี ศรรี กั ษา - ภาษาไทย ภาษาไทย

แผนปฏิบัติการ ประจาปี 2562 26 ลาดับ ชื่อ - สกุล ตาแนง่ วฒุ ิ ป.ตรี วฒุ ิ ป.โท วชิ าที่สอน ความถนัด ๔๙ นายพรภวิษย์ หงส์เจด็ ครูผชู้ ่วย ครูผชู้ ว่ ย ประถมศกึ ษา - คณติ ศาสตร์,ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ๕๐ น.ส.วัลลี แก้วมาลา ครผู ชู้ ว่ ย คณิตศาสตร์ งานบ้าน คณติ ศาสตร์ ครผู ชู้ ่วย ศึกษา ,ประวัติศาสตร์ ครูผชู้ ่วย คณิตศาสตร์ - ๕๑ น.ส.สณุ ิสา ทากลม ครผู ชู้ ว่ ย ดนตรไี ทย - ไทย,คณิต คณิตศาสตร์ ครูผชู้ ่วย ๕๒ น.ส.พรพชร ยอดวัน ครผู ชู้ ว่ ย ประถมศกึ ษา - ศิลปะ ดนตรีไทย ครผู ชู้ ่วย ๕๓ น.ส.สันต์สนิ ี ครผู ชู้ ่วย เคมี - ไทย,คณติ ไทย เขยี นชานาจ ครูผชู้ ว่ ย วทิ ยาศาสตร์ - ,คณิตศาสตร์ ครผู ชู้ ่วย คณติ ศาสตร์ - ๕๔ น.ส.อติภา โทรัตน์ ครผู ชู้ ว่ ย คณติ ศาสตร์ - วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ครูผชู้ ว่ ย ภาษาอังกฤษ - ๕๕ นายสุวรรณ อนิ ทรป์ ระโคน ครผู ชู้ ่วย - วทิ ยาศาสตร์ ชวี วิทยา ครูผชู้ ว่ ย องั กฤษ ๕๖ น.ส.นันทน์ ภสั ทองอนิ ทร์ - คณติ ศาสตร์ คณิตศาสตร์ ครชู านาญการ รัฐศาสตร์ ๕๗ น.ส.ปรารถนา มาสม - คณติ ศาสตร์,ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ ครผู ชู้ ่วย นาฎศลิ ปไ์ ทย ๕๘ นายณรงค์ ทะยานรมั ย์ วศิ วกรรม - ภาษาองั กฤษ ภาษาอังกฤษ ครูผชู้ ว่ ย การเกษตร ๕๙ น.ส.ดวงแก้ว ศรีพลาย ครูผชู้ ่วย ปฐมวัย - ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ ครผู ชู้ ่วย วทิ ยาศาสตร์ ๖๐ นางชลดา วงค์คา ครผู ชู้ ว่ ย สังคม ไทย ครูผชู้ ่วย ทัว่ ไป ,คณติ ศาสตร์ ครูผชู้ ่วย ๖๑ นายกรรวี ผมหอม ประถมศกึ ษา นาฏศิลปไ์ ทย นาฏศิลป์ไทย ครผู ชู้ ว่ ย ๖๒ น.ส.ศริ วิ รรณ อมิ่ อาไภย ครผู ชู้ ว่ ย การงาน ครผู ชู้ ่วย ศิลปะ,วิทย,์ การงาน ,คณติ ครผู ชู้ ว่ ย ๖๓ นางประยงค์ อสั สาไพร ปฐมวัย ปฐมวัย ๖๔ น.ส.ฐติ มิ า แสงสุด - หนา้ ท่พี ลเมือง วทิ ยาศาสตร์ ๖๕ นายชวาล อ่อนแสง บริหารการศึกษา ศลิ ปะ ไทย ,คณติ ศาสตร์ ๖๖ น.ส.ภัทรลภา เปีย่ มสุข คณติ ศาสตร์ - คณิตศาสตร์,ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ๖๗ น.ส.ยพุ ิน ผายเตชะ ภาษาไทย - ไทย,คณิต ไทย ,คณติ ศาสตร์ ๖๘ นายชวลติ ชาลาภคา (ไทยคดีศึกษา) - คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ ๖๙ น.ส.ผกามาศ เกดิ ผล คณติ ศาสตร์ - วทิ ย์ ๗๐ นายชเู กยี รติ กรุยกระโทก - วทิ ย์ วิทย์ ๗๑ นายกิตติกร ดวงพรม เคมี - วทิ ย์ ชีววทิ ยา คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ 72 นางนวลพรรณ สังขเ์ งิน คณิตศาสตร์ - ไทย ไทย,คณิต ,คณิตศาสตร์ 73 น.ส.นาราภทั ร สตั วบาล - รวมวงค์ อนบุ าล อนบุ าล การโฆษณา/ - 74 น.ส.วรชั ยา ชวลิต ปฐมวัย - คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ - คณิตศาสตร์ คณติ ศาสตร์ 75 น.ส.จารุวรรณ คาบแก้ว คอมพิวเตอร์ ภาษาไทย ภาษาไทย การตลาด 76 น.ส.สาวติ รี ศรโี นนยาง ภาษาไทย

แผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปี 2562 27 ลาดบั ช่ือ - สกลุ ตาแน่ง วฒุ ิ ป.ตรี วุฒิ ป.โท วชิ าที่สอน ความถนัด ครผู ชู้ ่วย ภาษาไทย - ภาษาไทย ภาษาไทย 77 น.ส.อลษิ า ตาทอง ครผู ชู้ ว่ ย ภาษาไทย - ภาษาไทย ภาษาไทย 78 น.ส.อญั ชลี ประพาน ครชู านาญการ สังคมศกึ ษา - สงั คมศกึ ษา สังคมศึกษา 79 ว่าทรี่ อ้ ยตรธี นารกั ษ์ พนักงานราชการ บรหิ ารธุรกิจ การบรหิ ารธรุ กจิ คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ ชาญชัยสิทธิ์ 80 นายสมชาย ศิรจิ ร จานวนครูทส่ี อนตรงเอก 65 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 81.25 จานวนครทู สี่ อนตรงความถนดั 15 คน คิดเปน็ ร้อย 18.75 แสดงขอ้ มูลครูอัตราจ้างและลูกจา้ งประจา ลาดับ ชื่อ - สกุล ตาแนง่ วฒุ ิ ป.ตรี วชิ าทีส่ อน ความถนัด 1 น.ส.นันทิดา แสงจันทร์ ครูอตั ราจ้าง 2 นายสทิ ธิศกั ดิ์ ทวกี ูล (งบ อบจ.) คหกรรม การงานอาชีพ,สังคม การงานอาชีพ 3 น.ส.สภุ าภรณ์ อาหมดั พลศกึ ษา พลศึกษา 4 น.ส.สดุ าวรรณ แป้นเมี้ยน ครอู ัตราจ้าง พลศกึ ษา คอมพวิ เตอร์ วิทยาศาตร์ วทิ ยาศาสตร์ 5 น.ส.ภัทรภรณ์ แก้วอนันต์ ครูอตั ราจา้ ง วิทยาศาตร์ 6 น.ส.ณฏั ฐา จนั ทรวบิ ลู ย์ ฟสิ กิ ส์ วทิ ยาศาตร์ ครอู ตั ราจ้าง ภาษาองั กฤษ (งบ อบจ.) ภาษาองั กฤษ ภาษาองั กฤษ - ครูอตั ราจ้าง/ ปวส. - ครูธุรการ ครูพีเ่ ล้ียง

แผนปฏบิ ตั กิ าร ประจาปี 2562 28 ตารางที่ 8 แสดงจานวนบุคลากรจาแนกตามระดบั วุฒิทางการศึกษา เพศ ระดบั การศึกษาสงู สุด ชาย หญิง ประเภทบคุ ลากร ต่ากว่า ป.ตรี สงู กว่า อายุเฉลี่ย หมายเหตุ ป.ตรี ป.ตรี ผ้อู านวยการ 1 - - - 1 47 รองผ้อู านวยการ 1 1 - - 1 58 ครูผู้สอน 19 61 - 63 17 33.10 พนักงานราชการ 1 - - - 1 34 ครูอัตราจ้าง 15 - 9 - 28 เจ้าหนา้ ที่ธุรการ - 1 - 1 - 28 อื่น ๆ ครูพเ่ี ล้ยี ง - 1 1 - - 29 36 รวม 23 69 1 73 20 92 งานบรหิ ารงบประมาณ โรงเรียนวดั อยั ยิการามดาเนนิ การวางแผนบรหิ ารงบประมาณตามกรอบงานการดาเนินการ โดย มีระบบข้อมูลสารสนเทศ ที่สามารถใช้ประโยชน์และใหบ้ ริการท่ีเป็นปัจจุบัน วางแผนการพัฒนาการศกึ ษา ให้สอดคล้องกับความต้องการของโรงเรยี นและชมุ ชน จัดทาการบัญชีการเงินทถี่ ูกตอ้ งตามระเบียบและเป็น ปัจจุบัน บริการด้านการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการต่างๆด้วยความรวดเร็วทันเวลา มีกระบวนการจัดหา จัดซอื้ จัดจ้างอย่างโปร่งใสถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ มีการมอบหมายบารุงรกั ษา ตรวจสอบครุภัณฑ์ ทุกชนิ้ และให้มีการบารงุ รักษา ซอ่ มแซมครภุ ัณฑ์ใหอ้ ยใู่ นสภาพท่ีใช้การได้ดี

แผนปฏบิ ตั กิ าร ประจาปี 2562 29 ส่วนที่ 2 ทิศทางการจดั การศกึ ษาตามแผนพัฒนาการศกึ ษา ยุทธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ภำยใตย้ ุทธศำสตร์ชำติระยะ 20 ปี รัฐบำลไดก้ ำหนดวสิ ัยทศั น์ เป้ำหมำย และ ยทุ ธศำสตรใ์ นกำรดำเนนิ งำนไว้ ดงั น้ี วิสยั ทศั น์ ประเทศไทย มี ควำมมนั่ คง มงั่ ค่ัง ย่ังยนื เป็นประเทศพัฒนำแล้ว ดว้ ยกำรพฒั นำตำม หลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง\" และเปน็ คติพจน์ประจำชำติวำ่ \"มั่นคง มน่ั คัง่ ยง่ั ยนื \" เปา้ หมาย 1. ประเทศมคี วำมม่ันคง 1.1 กำรมีควำมม่ันคงปลอดภัยจำกภยั และกำรเปลี่ยนแปลงทัง้ ภำยในประเทศและ ภำยนอกประเทศในทุกระดับ ทงั้ ระดบั ประเทศ สังคม ชมุ ชน ครัวเรอื น และปจั เจกบุคคล และมคี วำม ม่ันคงในทกุ มิติ ทัง้ มติ เิ ศรษฐกจิ สงั คม สิง่ แวดล้อม และกำรเมอื ง 1.2 ประเทศมีควำมม่นั คงในเอกรำชและอธปิ ไตย มีสถำบันชำติ ศำสนำ และ พระมหำกษัตริย์ทเ่ี ข้มแข็ง เปน็ ศนู ย์กลำงและทยี่ ึดเหนย่ี วจติ ใจของประชำชน ระบบกำรเมืองมีควำมมน่ั คง เป็นกลไกท่นี ำไปสกู่ ำรบรหิ ำรประเทศท่ีตอ่ เนื่องและโปร่งใสตำมหลักธรรมำภบิ ำล 1.3 สงั คมมีควำมปรองดองและควำมสำมคั คี สำมำรถผนกึ กำลังเพื่อพฒั นำประเทศ ชมุ ชนมีควำมเขม้ แข็ง ครอบครัวมคี วำมอบอนุ่ 1.4 ประชำชนมคี วำมม่นั คงในชวี ิต มงี ำนและรำยไดท้ ่มี ่ันคงพอเพยี งกับกำรดำรงชีวติ มีท่ีอยอู่ ำศยั และควำมปลอดภัยในชีวิตทรัพยส์ ิน 1.5 ฐำนทรพั ยำกรและสิ่งแวดล้อม มีควำมมนั่ คงของอำหำร พลังงำน และน้ำ 2. ประเทศมคี วำมมัง่ คั่ง 2.1 ประเทศไทยมีกำรขยำยตวั ของเศรษฐกิจอย่ำงต่อเนื่อง ยกระดับเปน็ ประเทศใน กล่มุ รำยไดส้ ูง ควำมเหลอ่ื มล้ำของกำรพัฒนำลดลง ประชำกรไดร้ บั ผลประโยชน์จำกกำรพัฒนำอย่ำงเทำ่ เทยี มกันมำกขึ้น 2.2 เศรษฐกจิ มีควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขันสูง สำมำรถสร้ำงรำยได้ท้ังภำยในและ ภำยนอกประเทศ สร้ำงฐำนเศรษฐกิจและสังคมแหง่ อนำคต และเปน็ จุดสำคญั ของกำรเชือ่ มโยงในภมู ภิ ำค ท้ังกำรคมนำคมขนสง่ กำรผลติ กำรคำ้ กำรลงทุนและกำรทำธรุ กิจ มบี ทบำทสำคัญในระดับภมู ภิ ำคและ ระดับโลก เกดิ สำยสมั พันธท์ ำงเศรษฐกิจและกำรค้ำอย่ำงมีพลัง 2.3 ควำมสมบรู ณ์ในทุนทจ่ี ะสำมำรถสร้ำงกำรพัฒนำคนอย่ำงต่อเนอื่ ง ได้แก่ ทนุ มนุษย์ ทุนทำงปัญญำ ทุนทำงกำรเงิน ทุนทเ่ี ป็นเครื่องมอื เครอ่ื งจัก ทนุ ทำงสังคม และทุน ทรพั ยำกรธรรมชำติและสง่ิ แวดลอ้ ม

แผนปฏบิ ตั กิ าร ประจาปี 2562 30 3. ประเทศมคี วำมย่งั ยืน 3.1 กำรพัฒนำทสี่ ำมำรถสร้ำงควำมเจรญิ รำยได้ และคณุ ภำพชีวิตของประชำชนให้ เพ่มิ ข้นึ อย่ำงตอ่ เนื่อง ซึ่งเป็นกำรเจริญเตบิ โตของเศรษฐกจิ ทีไ่ มใ่ ชท้ รพั ยำกรธรรมชำตเิ กินพอดี ไม่สรำ้ ง มลภำวะตอ่ สง่ิ แวดล้อมจนเกนิ ควำมสำมำรถในกำรรองรับและเยยี วยำของระบบนเิ วศน์ 3.2 กำรผลิตและกำรบรโิ ภคเปน็ มิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม และสอดคลอ้ งกับกฎระเบียบของ ประชำคมโลก ซึง่ เป็นทย่ี อมรับร่วมกัน ควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติและสงิ่ แวดลอ้ มมี คณุ ภำพ ดีข้นึ คนมคี วำมรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม มีควำมเออ้ื อำทร เสียสละเพือ่ ผลประโยชนส์ ่วนรวม 3.3 ประชำชนทุกภำคสว่ นในสงั คมยดึ ถอื และปฏบิ ัติตำมปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) มี 6 ยุทธศาสตร์ ในการดาเนินงานในด้านตา่ ง ๆ ดังนี้ ยุทธศำสตร์ท่ี 1 ด้ำนควำมม่ันคง 1. เสริมสรำ้ งควำมมนั่ คงของสถำบนั หลักและกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย อนั มี พระมหำกษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ 2. ปฏริ ปู กลไกกำรบริหำรประเทศและพัฒนำควำมม่ันคงทำงกำรเมอื ง ขจดั คอร์รัปช่นั สร้ำงควำมเชื่อมั่นในกระบวนกำรยตุ ิธรรม 3. กำรรกั ษำควำมมน่ั คงภำยในและควำมสงบเรยี บร้อยภำยใน ตลอดจนกำรบริหำร จดั กำรควำมมั่นคงชำยแดนและชำยฝง่ั ทะเล 4. กำรพฒั นำระบบ กลไก มำตรกำร และควำมร่วมมอื ระหว่ำงประเทศทุกระดับ และ รกั ษำดุลยภำพควำมสมั พนั ธก์ บั ประเทศมหำอำนำจเพื่อปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หำควำมม่นั คงรูปแบบใหม่ 5. กำรพฒั นำเสรมิ สร้ำงศกั ยภำพกำรผนกึ กำลังป้องกันประเทศ กำรรกั ษำควำมสงบ เรยี บร้อยภำยในประเทศ สรำ้ งควำมรว่ มมอื กบั ประเทศเพอ่ื นบ้ำนและมติ รประเทศ 6. กำรพัฒนำระบบกำรเตรยี มพร้อมแหง่ ชำติและระบบบริหำรจัดกำรภยั พิบตั ิ รกั ษำ ควำมมน่ั คงของฐำนทรัพยำกรธรรมชำติส่ิงแวดล้อม 7. กำรปรบั กระบวนกำรทำงำนของกลไกท่เี กย่ี วขอ้ งจำกแนวดิง่ ส่แู นวระนำบมำกข้ึน ยทุ ธศำสตร์ท่ี 2 ด้ำนกำรสรำ้ งควำมสำมำรถในกำรแข่งขนั 1. กำรพัฒนำสมรรถนะทำงเศรษฐกจิ ส่งเสริมกำรคำ้ กำรลงทุน พัฒนำสชู่ ำติกำรคำ้ 2. กำรพัฒนำภำคกำรผลิตและบริกำร เสริมสร้ำงฐำนกำรผลติ เขม้ แขง็ ย่ังยืน และสง่ เสรมิ เกษตรกรรำยย่อยสู่เกษตรยัง่ ยืนเปน็ มติ รกบั ส่ิงแวดล้อม 3. กำรพัฒนำผปู้ ระกอบกำรและเศรษฐกจิ ชุมชน พฒั นำทกั ษะผู้ประกอบกำร ยกระดบั ผลติ ภำพแรงงำนและพฒั นำ SMEs สูส่ ำกล 4. กำรพัฒนำพนื้ ที่เศรษฐกิจพเิ ศษและเมือง พฒั นำเขตเศรษฐกิจพเิ ศษชำยแดน และ พฒั นำระบบเมอื งศูนย์กลำงควำมเจรญิ 5. กำรลงทุนพัฒนำโครงสร้ำงพน้ื ฐำน ดำ้ นกำรขนสง่ 6. กำรเชือ่ มโยงกับภมู ภิ ำคและเศรษฐกจิ โลก สร้ำงควำมเปน็ ห้นุ สว่ นกำรพัฒนำกับนำนำ ประเทศ สง่ เสรมิ ให้ไทยเป็นฐำนของกำรประกอบธุรกจิ ฯลฯ ยทุ ธศำสตรท์ ี่ 3 กำรพฒั นำและเสรมิ สร้ำงศักยภำพคน 1. พฒั นำศกั ยภำพคนตลอดช่วงชีวิต

แผนปฏิบตั ิการ ประจาปี 2562 31 2. กำรยกระดับกำรศกึ ษำและกำรเรียนรใู้ หม้ คี ุณภำพเท่ำเทยี มและทั่วถงึ 3. ปลกู ฝงั ระเบยี บวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยมท่พี งึ ประสงค์ 4. กำรเสรมิ สรำ้ งให้คนมสี ุขภำวะทดี่ ี 5. กำรสรำ้ งควำมอยูด่ ีมีสุขของครอบครวั ไทย ยุทธศำสตร์ท่ี 4 ด้ำนกำรสรำ้ งโอกำสบนควำมเสมอภำคและควำมเท่ำเทยี มกันทำงสงั คม 1. สรำ้ งควำมมน่ั คงและกำรลดควำมเหลือ่ มล้ำทำงเศรษฐกิจและสังคม 2. พัฒนำระบบบรกิ ำรและระบบบรหิ ำรจัดกำรสขุ ภำพ 3. มีสภำพแวดลอ้ มและนวัตกรรมทเ่ี อื้อต่อกำรดำรงชวี ิตในสงั คมสงู วัย 4. สร้ำงควำมเขม้ แขง็ ของสถำบันทำงสงั คม ทุนทำงวฒั นธรรมและควำมเข้มแข็งของ ชมุ ชน 5. พฒั นำกำรสอ่ื สำรมวลชนให้เปน็ กลไกในกำรสนับสนุนกำรพฒั นำ ยทุ ธศำสตรท์ ่ี 5 ดำ้ นกำรสร้ำงกำรเตบิ โตบนคุณภำพชีวิตทีเ่ ป็นมติ รต่อสิ่งแวดล้อม 1. จดั ระบบอนุรกั ษ์ ฟนื้ ฟแู ละป้องกันกำรทำลำยทรัพยำกรธรรมชำติ 2. วำงระบบบริหำรจดั กำรน้ำใหม้ ปี ระสิทธภิ ำพท้งั 25 ลมุ่ นำ้ เน้นกำรปรับระบบกำร บริหำรจัดกำรอทุ กภยั อย่ำงบูรณำกำร 3. กำรพฒั นำและใชพ้ ลังงำนท่ีเป็นมติ รกบั สิง่ แวดล้อม 4. กำรพฒั นำเมืองอุตสำหกรรมเชงิ นเิ วศและเมอื งทีเ่ ปน็ มิตรกับสิ่งแวดล้อม 5. กำรรว่ มลดปัญหำโลกรอ้ นและปรับตัวให้พรอ้ มกบั กำรเปลยี่ นแปลงสภำพภูมิอำกำศ 6. กำรใช้เคร่ืองมอื ทำงเศรษฐศำสตรแ์ ละนโยบำยกำรคลงั เพอื่ สิง่ แวดล้อม ยทุ ธศำสตร์ท่ี 6 ด้ำนกำรปรบั สมดุลและพัฒนำระบบกำรบรหิ ำรจดั กำรภำครฐั 1. กำรปรบั ปรุงโครงสร้ำง บทบำท ภำรกิจของหน่วยงำนภำครัฐให้มขี นำดที่เหมำะสม 2. กำรวำงระบบบริหำรรำชกำรแบบบรู ณำกำร 3. กำรพฒั นำระบบบริหำรจดั กำรกำลังคนและพัฒนำบุคลำกรภำครัฐ 4. กำรตอ่ ต้ำนกำรทุจรติ และประพฤติมิชอบ 5. กำรปรับปรงุ กฎหมำยและระเบยี บต่ำง ๆ ให้ทันสมยั เป็นธรรมและเป็นสำกล 7. พฒั นำระบบกำรให้บรกิ ำรประชำชนของหน่วยงำนภำครัฐ 8. ปรับปรุงกำรบรหิ ำรจัดกำรรำยได้และรำยจ่ำยของภำครัฐ นโยบายกระทรวงศึกษาธกิ าร รำชกิจจำนเุ บกษำ เมอื่ วันศุกรท์ ่ี 16 ธนั วำคม 2559 สมเดจ็ พระเจำ้ อยูห่ วั มหำวชิรำลงกรณ บดินทรเทพยวรำงกูร ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำแต่งต้ังให้ นำยธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เป็น รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำร และหม่อมหลวงปนัดดำ ดิศกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่ำกำร กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร โดยมอบนโยบำยและจุดเน้นเชิงนโยบำยกระทรวงศกึ ษำธิกำร มสี ำระสำคญั ดังนี้ สว่ นที่ 1 1. น้อมนำแนวพระรำชดำริ สืบสำนพระรำชปณิธำนและพระบรมรำโชบำยด้ำนกำรศึกษำของ พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวมหำวชิรำลงกรณ บดินทร เทพยวรำงกูร มำขับเคล่ือนงำนดำ้ นกำรศกึ ษำให้เกดิ เปน็ รูปธรรม เพรำะพระรำชปณธิ ำนของพระองคท์ ่ำน ถอื เปน็ พรอันสูงสดุ และมอบเป็นนโยบำยเพ่อื เปน็ แนวทำงในกำรปฏิบตั ิแกห่ น่วยงำนในสังกดั ดังนี้

แผนปฏิบัตกิ าร ประจาปี 2562 32 1.1 พระบรมรำโชบำยด้ำนกำรศึกษำของสมเด็จพระอยหู่ ัวมหำวชิรำลงกรณ บดินทรเทพยวรำง กูร มีใจควำมสำคัญว่ำ 1) \"กำรศึกษำต้องมุ่งสร้ำงพ้ืนฐำนให้แก่ผู้เรียนใน 2 ด้ำนคือ ส่งเสริมให้นักเรียนมี ทัศนคติที่ถกู ต้อง 2) กำรศึกษำต้องมุ่งสร้ำงพืน้ ฐำนชีวิตหรอื อปุ นิสยั ท่มี ั่นคงเข้มแข็ง อำทิ กำรสรำ้ งบุคลิก และอปุ นิสยั ทด่ี งี ำม (Character Education) 1.2 สบื สำนพระรำชปณธิ ำนด้ำนกำรศึกษำของพระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหำภูมิพลอดุลย เดชทท่ี รงมีแนวพระรำชกระแสฯ ทรงพระรำชทำนในวโรกำสตำ่ ง ๆ เก่ยี วกบั นักเรยี น ครู และกำรศึกษำ 1.2.1 นักเรียน - \"ครูตอ้ งสอนใหเ้ ด็กนักเรียนมีน้ำใจ เช่น คนเรยี นเกง่ ช่วยตวิ เพอื่ นทีเ่ รียนล้ำหลัง มิใช่สอนให้เด็กคิดแต่จะแข่งขัน (Compete) กับเพ่ือน เพ่ือให้คนเกง่ ไดล้ ำดับดี ๆ เช่น สอบได้ที่หนง่ึ ของ ชัน้ แตต่ อ้ งให้เด็กแขง่ ขนั กบั ตนเอง\" - \"ครูไม่จำเป็นต้องมีควำมรู้ทำงเทคโนโลยีมำก แต่ต้องมุ่งปลูกฝังควำมดีให้ นกั เรยี นช้นั ต้น ตอ้ งอบรมบ่มนสิ ัยให้เป็นพลเมืองดี เด็กโตกต็ ้องทำเชน่ กัน\" - \"เรำต้องฝึกหัดใหน้ ักเรียนรจู้ ักทำงำนร่วมกนั เป็นกลุ่มเปน็ หมู่คณะมำกข้นึ จะไดม้ ี ควำมสำมัคคี ร้จู กั ดแู ลชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกนั เอื้อเฟอื้ เผอื่ แผ่ควำมรู้และประสบกำรณแ์ กก่ ัน\" - \"ทำเป็นตวั อยำ่ งใหน้ ักเรยี นเป็นคนดี นกั เรียนรักครู ครูรกั นักเรียน\" 1.2.2 ครู - \"เรื่องครูมีควำมสำคัญไม่น้อยกว่ำนักเรียน ปัญหำหนึ่งคือ กำรขำดครู เพรำะ จำนวนไม่พอ และครูย้ำยบ่อย ดังน้ัน ก่อนคัดเลือกเด็กที่จะพัฒนำต้องพัฒนำครูก่อนให้พร้อมท่ีจะสอน เด็กให้ได้ผลตำมที่ต้องกำร จึงจะต้องคัดเลือกครูและพัฒนำครู ต้องตั้งฐำนะในสังคมของครูให้เหมำะสม และปลูกจิตสำนึกโดยใช้ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง วิธีกำรคือ กำรให้ทุนและอบรม กล่ำวคือ ต้องมี ควำมรทู้ ำงวิชำกำรในสำขำท่ีเหมำะสมทจ่ี ะสอน ตอ้ งอบรมวธิ กี ำรสอนให้มีประสิทธภิ ำพ มคี วำมเป็นครูที่ แท้จริง คือ มีควำมรักควำมเมตตำต่อเด็ก ควรเป็นครูท้องที่เพื่อจะได้มีควำมผูกพันและคิดท่ีจะพัฒนำ ท้องถ่นิ ที่เกิดของตน ไม่คดิ ย้ำยไปย้ำยมำ\" - \"ตอ้ งปรับปรงุ ครู ครูจะอำยุ 40-50 ปี กต็ ้องเรียนใหม่ ต้องปฏิวัตคิ รูอยำ่ งจรงิ จัง\" - \"ปัญหำปัจจุบันคือ ครูมุ่งเขียนงำนวิทยำนิพนธ์ เขียนตำรำส่งผู้บริหำรเพ่ือให้ได้ ตำแหนง่ และเงินเดอื นสูงขึน้ แล้วบำงทกี ็ย้ำยไปทีใ่ หม่ สว่ นครูท่ีมุ่งกำรสอนหนังสือกลบั ไมไ่ ด้อะไรตอบแทน ระบบไมย่ ุตธิ รรม - \"ครูบำงส่วนเวลำสอนนักเรียนจะสอนไม่หมดแต่เก็บไว้บำงส่วน หำกนักเรียน ต้องกำรรทู้ ัง้ หมดวชิ ำก็ตอ้ งเสยี เงนิ ไปสมัครเรยี นพเิ ศษกับครทู ำ่ นนน้ั จะเปน็ กำรสอนในโรงเรยี นหรอื สว่ นตัว กต็ ำม\" 2. กำรดำเนนิ กำรตำมแผนยทุ ธศำสตร์ชำติ ระยะ 20 ปี 2.1 กระทรวงศกึ ษำธิกำร จะดำเนินกำรตำมแผนยุทธศำสตร์ชำติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560- 2579) ภำยใต้วิสัยทัศน์ \"ประเทศมีควำมม่ันคง ม่ังค่ัง ย่ังยืน เป็นประเทศพัฒนำแล้ว ด้วยกำรพัฒนำ ตำมปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง\" ซ่งึ ไดก้ ำหนดไว้ในรัฐธรรมนญู ฯ โดยยึดยุทธศำสตร์ชำติเป็นจุดเน้นด้ำน กำรศกึ ษำทีจ่ ะดำเนนิ กำร 6 ดำ้ นคอื 1) ควำมมน่ั คง 2) กำรสรำ้ งควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน 3) กำรพัฒนำและเสริมสรำ้ งศกั ยภำพคน 4) กำรสรำ้ งโอกำสควำมเสมอภำคและควำมเทำ่ เทียมกนั ทำงสงั คม 5) กำรสรำ้ งกำรเตบิ โตบนคุณภำพชวี ิตท่ีเป็นมติ รต่อสง่ิ แวดลอ้ ม

แผนปฏบิ ัติการ ประจาปี 2562 33 6) กำรปรับสมดลุ และพฒั นำระบบกำรบรหิ ำรจัดกำรภำครฐั 3. จุดเน้นกำรดำเนินงำนของกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร 3.1 ดำเนินกำรอยู่ภำยใตก้ รอบยทุ ธศำสตร์ชำติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) 3.2 ทุกโครงกำรของกระทรวงศึกษำธิกำร ต้องเน้นควำมโปร่งใสและต่อต้ำนกำรทุจริตคอ รับช่ัน 3.3 กระทรวงศึกษำธิกำร ต้องมคี ุณลกั ษณะ MM = Modernized MOE มีกำรดำเนนิ กำร สอดคลอ้ งกับรฐั ธรรมนญู แหง่ รำชอำณำจกั รไทย 3.4 ดำเนนิ กำรเรง่ ด่วนตำมข้อสงั่ กำรของนำยกรัฐมนตรใี หเ้ ห็นผลกำรดำเนนิ กำรเปน็ รูปธรรม 4. จุดเน้นสำคัญ นโยบำย แนวทำงหลักกำรดำเนินงำนและโครงกำรสำคัญของ กระทรวงศกึ ษำธิกำร นำยธีระเกยี รติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำร ได้มอบจุดเน้นเชงิ นโยบำย แนวทำงกำรดำเนินงำน และโครงกำรสำคญั ของกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร โดยยดึ กรอบยุทธศำสตร์ ชำติ 6 ดำ้ น เปน็ หลักในกำรดำเนนิ กำรใหเ้ ป็นรูปธรรม ดังน้ี 1. ด้ำนควำมมน่ั คง 1.1 พัฒนำหลักสูตร กระบวนกำรเรยี นกำรสอน 1.1.1 กำรเสริมสร้ำงควำมมั่นคงของสถำบันหลัก น้อมนำพระรำชปณิธำนและพระ รำชกระแสด้ำนกำรศึกษำ พัฒนำหลักสูตร กำรเรียนกำรสอนวิชำที่มีเนื้อหำเกี่ยวกับประวัติศำสตร์และ สถำบนั พระมหำกษตั ริย์ 1.1.2 พัฒนำกระบวนกำรเรียนกำรสอนเพ่ือควำมปรองดองและสมำนฉันท์ เช่น กิจกรรมเพ่อื นชว่ ยเพอ่ื น 1.2 กำรบรหิ ำรจดั กำร 1.2.1 กำรศกึ ษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้และพ้นื ท่ชี ำยขอบ/ชำยแดน 1.2.2 ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหำยำเสพติดในสถำนศกึ ษำ 2. ดำ้ นกำรผลติ พัฒนำกำลงั คนและสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน แนวทำงหลกั : ผลิต พัฒนำกำลังคนและงำนวจิ ัยที่สอดคล้องกบั กำรพัฒนำประเทศ 2.1 กำรยกระดับมำตรฐำน พฒั นำหลกั สูตร ส่อื และครูดำ้ นภำษำ 2.1.1 ยกระดับวิชำภำษำอังกฤษรองรับ Thailand 4.0 ในสถำนศึกษำสังกัด สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำนอย่ำงต่อเน่ือง และสังกัดสำนักงำนคณะกรรมกำรกำร อำชีวศึกษำ โดยจัดทำ Echo English Vocational ซ่ึงเป็น Apptication ภำษำอังกฤษ สำหรับ นกั เรียนอำชีวศกึ ษำ และกำรอบรมโดย Boot Camp ตลอดจนพฒั นำทกั ษะภำษำอังกฤษของประชำชน ในรูปแบบต่ำง ๆ อำทิ หลักสตู รภำษำอังกฤษระยะสัน้ Apptication และสือ่ ตำ่ ง ๆ ท่ีหลำกหลำย 2.1.2 พัฒนำวิชำภำษำจีน โดยหลักกำรเดียวกับวิชำภำษำอังกฤษ โดยปี 2560 จะดำเนินกำรเปน็ กล่มุ เลก็ โดยกำรสนับสนนุ ของสถำนทูตสำธำรณรัฐประชำชนจีน 2.1.3 ขับเคลื่อนกำรจัดกำรเรยี นรูส้ ะเต็มศึกษำ (STEM Education) เพ่ือแก้ปัญหำ ขำดแคลนบคุ ลำกรสำยวทิ ยำศำสตรข์ องประเทศ 2.1.4 พฒั นำโรงเรยี นวทิ ยำศำสตร์ ห้องเรียนหลักสตู รพิเศษเพื่อเสริมสร้ำงศกั ยภำพ กำรแข่งขนั 2.2 ผลิตกำลังคนรองรับ New S-Curve โดยสำนพลังประชำรฐั ด้ำนกำรศึกษำและจดั กำรศึกษำทวิภำคีอีกรูปแบบหน่ึงโดยใช้สถำนกำรณ์จริงจำกสถำนประกอบกำรและชุมชน \"ปรับโรงงำน

แผนปฏบิ ัติการ ประจาปี 2562 34 เป็นโรงเรียน\" โดยมุ่งเน้นให้นักเรียน นักศึกษำได้ฝึกทักษะฝีมือควบคู่กับกำรฝึกทักษะกำรทำงำนร่วมกับ ผูอ้ ื่น เพอ่ื ให้มีสมรรถนะที่เป็นไปตำมควำมต้องกำรของสถำนประกอบกำร 2.3 ปรับปรุงกระบวนกำรเรยี นกำรสอน เร่งรัดกำรพัฒนำอำจำรย์ เพื่อผลิตนวัตกรรม และเทคโนโลยี รองรับอตุ สำหกรรมเปำ้ หมำย 30 อุตสำหกรรมใหม่ 3. ดำ้ นกำรพัฒนำและเสรมิ สรำ้ งศกั ยภำพคน แนวทำงหลกั 3.1 กำรพัฒนำหลักสูตร กระบวนกำรเรยี นกำรสอน กำรวัดและประเมินผล 3.1.1 กำรจดั กำรศกึ ษำเดก็ ปฐมวัย 1) กระทรวงศกึ ษำธิกำร รับผดิ ชอบดูเดก็ ระดับช้ันอนบุ ำล 1 ถงึ ชน้ั อนุบำล 3 (เด็กอำยุ 3-5 ปี) และจัดทำมำตรฐำนผู้เรียน ครู สถำนศึกษำและผู้บริหำรเพื่อประกันคุณภำพให้แก่ เด็กปฐมวัยทกุ สังกัด 2) หนว่ ยงำนอน่ื อำทิ กระทรวงมหำดไทยรับผิดชอบดูเด็กของศนู ย์พัฒนำเด็ก เล็ก 3.1.2 กำรส่งเสรมิ ปลกู ฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 1) เร่ืองคุณธรรม จริยธรรม เน้นกำรพัฒนำคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในเด็ก เยำวชน และต่อยอดกำรสร้ำงควำมดี ซึ่งโมเดลกำรสรำ้ งควำมดีมีหลำยทำงท้ังกระบวนกำรลูกเสือ-เนตร นำรี รวมทัง้ รูปแบบโรงเรียนคุณธรรม โรงเรียนวิถีพุทธ และโครงกำรยวุ ทตู ควำมดี 2) รณรงคใ์ หเ้ ด็ก \"เกลยี ดกำรโกง ควำมไม่ซือ่ สตั ย\"์ 3.1.3 กำรพัฒนำ ปรับปรงุ หลักสตู รกำรเรยี นกำรสอน 1) หลกั สูตรมคี วำมยดื หยุน่ ชุมชนทอ้ งถิ่นสำมำรถออกแบบหลกั สตู รเองได้ 2) ปรบั ปรงุ หลกั สูตร โดยเพิ่ม 3 วิชำ ซง่ึ อยู่ในกรอบเดิม ได้แก่ วชิ ำ ภูมศิ ำสตร์ ICT และ Design and Technology โดยวิชำ ICT และ Design and Technology เปน็ กำรสนบั สนุนชว่ ยเหลอื จำกประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมรกิ ำ 3) แก้ไขปัญหำอ่ำนไม่ออกเขียนไมไ่ ด้ เน้นกิจกรรมกำรอ่ำนโดยเฉพำะกำรอำ่ น ให้เดก็ อนุบำลฟงั และกำรปรับปรงุ หอ้ งสมดุ 4) เน้นกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กำรคิดวิเครำะห์ตำมรูปแบบ Active Learning ในห้องเรยี นปกติและกิจกรรมเสริม โดยกิจกรรมลดเวลำเรยี น เพมิ่ เวลำรู้ เป็นกจิ กรรม/วิธีกำร ยอ่ ย รวมทงั้ กำรรองรับผลกำรทดสอบ PISA และ STEM Education 3.1.4 กำรวัดและประเมนิ ผล 1) กำรวำงแผนกำรประเมินผลนักเรียนนำนำชำติ (PISA) เพ่ือให้ผลคะแนน สูงขนึ้ 2) กำรประเมินผล O-Net ในวิชำสังคมศึกษำให้สำนักงำนคณะกรรมกำร กำรศึกษำข้ันพื้นฐำนเป็นผู้ประเมิน สำหรับวิชำคณิตศำสตร์และวิทยำศำสตร์ให้สถำบันส่งเสริมกำรสอน วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยเี ปน็ ผ้อู อกข้อสอบ 3) กำรออกข้อสอบวิชำคณิตศำสตร์และวิทยำศำสตร์ ดำเนินกำรในรูป คณะทำงำนออกข้อสอบ 3.2 กำรผลติ พฒั นำครู คณำจำรยแ์ ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 3.2.1 กำรสรรหำครู

แผนปฏิบัติการ ประจาปี 2562 35 1) โครงกำรผลิตครูเพ่ือพัฒนำท้องถ่ิน มอบให้ สำนักงำนคณะกรรมกำร กำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำนและสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศึกษำ เป็นหนว่ ยงำนหลกั ดำเนินกำรสรรหำครู (กำรผลติ รูปแบบกำรสรรหำ กำรบรรจุแตง่ ตัง้ กำรติดตำมพร้อมกำรพฒั นำ) 2) เปิดโอกำสให้คนเกง่ มำเป็นครู 3.2.2 ปรับเกณฑ์กำรประเมินวิทยฐำนะครูให้เป็นกำรเชื่อมโยงกับกำรเรียนกำรสอน เพ่ือใหค้ รอู ยูใ่ นหอ้ งเรยี น 3.2.3 กำรพฒั นำครู กำรอบรมครู 1) หลักสูตรในกำรอบรมครูให้มีควำมเช่ือมโยงกับกำรได้รับวิทยฐำนะและกำร ได้รับใบอนุญำตประกอบวิชำชีพครู โดยต้องเปน็ หลักสตู รที่ไดร้ บั กำรอนุมัติ/เหน็ ชอบ รวมท้ังกำรพัฒนำครู ดว้ ยระบบ TPEP Online 2) หน่วยดำเนินกำรให้หน่วยงำนกลำงในกำรพัฒนำครู คณำจำรย์ และบุคลำกร ทำงกำรศึกษำ ได้แก่ สถำบันอุดมศึกษำ มหำวิทยำลัย และสถำบันพัฒนำครู คณำจำรย์ และบุคลำกร ทำงกำรศึกษำ 4. ดำ้ นกำรสร้ำงโอกำสควำมเสมอภำคและกำรลดควำมเหลอื่ มลำ้ ทำงกำรศกึ ษำ แนวทำงหลัก : โอกำสและควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำ 4.1 สร้ำงโอกำสและควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำโดยยกระดับคณุ ภำพสถำนศึกษำท่ีตอ้ งกำร ควำมช่วยเหลือและพัฒนำเป็นพิเศษอย่ำงเร่งด่วน(ICU) รวมทั้งกำรดำเนินกำรตำมแนวทำง No Child Left Behind คือ จัดทำข้อมูลเพ่ือส่งต่อผู้เรียน กำรป้องกัน กำรติดตำมออกกลำงคันโดยชุมชน ผูป้ กครองร่วมรบั ผิดชอบ และคดั กรองเดก็ ที่มคี วำมจำเปน็ และตอ้ งกำรเปน็ พิเศษ 4.2 เพ่ิมโอกำสทำงกำรศึกษำผ่ำนเทคโนโลยีดิจิทัส โดยบูรณำกำรเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อ กำรศึกษำให้สำมำรถใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทั้งด้ำนโครงสร้ำงพื้นฐำนและระบบเครือข่ำย ด้ำนระบบข้อมลู สำรสนเทศเพื่อกำรศึกษำ ด้ำนสื่อและองค์ควำมรู้ รวมถึงกำรพัฒนำบุคลำกรให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอยำ่ ง สร้ำงสรรค์และรเู้ ทำ่ ทนั กำรเปลีย่ นแปลง 4.3 จัดระบบกำรคดั เลือกเขำ้ เรียนมหำวิทยำลัย (Admission) เพอ่ื สรำ้ งควำมเทำ่ เทยี มในกำร ใช้สิทธิเ์ ข้ำศกึ ษำต่อระดบั อุดมศึกษำผ่ำนระบบ Clearing-House 5. ด้ำนกำรเสริมสร้ำงคุณภำพชวี ิตประชำชนท่ีเปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ ม แนวทำงหลกั : พฒั นำหลกั สตู ร กระบวนกำรเรียนกำรสอน 5.1 โครงกำรธนำคำรขยะ โดยโรงเรยี นและชมุ ชนร่วมคัดแยกขยะ นำกลบั มำใชป้ ระโยชน์ 5.2 กำรสร้ำงจิตสำนึกกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืน เช่น โรงเรียนตำมพระรำชดำริ : ต้นแบบกำร จดั กำรสง่ิ แวดล้อม 5.3 หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งโดยขยำยผลบรรจุในหลกั สูตรทกุ ระดับ 6. ดำ้ นกำรพฒั นำระบบและกำรบริหำรจัดกำร แนวทำงหลกั : พัฒนำระบบบรหิ ำรจัดกำร 6.1 เรื่องกฎหมำย เตรยี มควำมพร้อมเกย่ี วกับกฎหมำยกำรศึกษำ เพื่อรองรับร่ำงรฐั ธรรมนญู จำนวน 32 ฉบบั ดงั นี้ 6.1.1 กฎหมำยหลัก 1) พ.ร.บ.กำรศกึ ษำแหง่ ชำติ 2) พ.ร.บ.กองทนุ ช่วยเหลือผขู้ ำดแคลนทนุ ทรัพย์

แผนปฏิบตั ิการ ประจาปี 2562 36 3) พ.ร.บ.ปฏริ ปู กำรศึกษำ 6.1.2 กฎหมำยรองใน พ.ร.บ.ปฏิรปู กำรศกึ ษำ 1) พ.ร.บ.ระเบยี บบริหำรรำชกำรกระทรวงศึกษำธิกำร 2) พ.ร.บ.สภำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 3) พ.ร.บ.ระเบยี บข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ 4) พ.ร.บ.เงินเดอื น วิทยฐำนะและเงินประจำตำแหน่งขำ้ รำชกำรครู 5) พ.ร.บ.กำรอดุ มศกึ ษำ 6) พ.ร.บ.โรงเรยี นเอกชน 7) พ.ร.บ.กำรศกึ ษำตลอดชวี ติ 8) พ.ร.บ.เทคโนโลยีเพ่อื กำรศึกษำ 9) พ.ร.บ.กองทุนพัฒนำครู 6.2 ปรบั ปรงุ ระบบกำรบรหิ ำรงำนบุคคลของขำ้ รำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 6.3 กำรจัดตั้งกระทรวงอดุ มศึกษำทเี่ ปน็ รปู ธรรม ชดั เจน 6.4 กำรขับเคล่ือนนโยบำยระดับพื้นท่ี ใหส้ ำนักงำนศึกษำธิกำรภำคและสำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวัด เป็นฐำนในกำรขับเคลื่อน นโยบำยเพือ่ พฒั นำคุณภำพกำรศกึ ษำ 6.5 บริหำรจัดกำรโรงเรียนแม่เหล็กและโรงเรยี นขนำดเลก็ 7. กำรขับเคลื่อน กำกับ และกำรติดตำมกำรนำจุดเน้นเชิงนโยบำยรัฐมนตรีว่ำกำร กระทรวงศกึ ษำธิกำรสกู่ ำรปฏิบัติ แนวคิดในการทางานของสว่ นรว่ มราชการ ส่วนรำชกำรตั้งแต่ระดบั พื้นท่ีจะตอ้ งดำเนนิ กำรแปลงนโยบำยทั้งของรฐั บำลและของกระทรวง ศึกษำธกิ ำรตำมภำรกจิ งำนในขอบเขตควำมรับผิดชอบของหน่วยงำนเพอื่ นำไปสกู่ ำรปฏิบัติมีกำรศึกษำ วเิ ครำะหแ์ ละปรบั กลยทุ ธ์กำรทำงำนปัจจุบันใหส้ อดคลอ้ งกับแนวนโยบำยให้เหน็ ผลเป็นรูปธรรมเพอ่ื ให้ ทรำบถึงผลกำรดำเนนิ งำนและควำมคดิ เห็นของผบู้ ริหำรระดับพืน้ ที่ตลอดจนผบู้ รหิ ำรระดับสูงเนือ่ งจำกมี ชว่ งเวลำจำกัดจึงต้องกำรควำมคดิ เหน็ เพื่อกำรหลอมรวมวิธกี ำรทำงำนให้รวดเร็วและทำงำนร่วมกันได้ คล่องตวั มำกยิ่งขน้ึ โดยมีแผนกำรดำเนนิ กำรแบ่งเปน็ กลมุ่ ดงั นี้ 1) งำนที่ดำเนนิ กำรอยแู่ ล้วและตรงตำมนโยบำย 2) งำนท่ีดำเนินกำรอย่แู ลว้ สำมำรถปรบั ใหเ้ ปน็ ไปตำมนโยบำย 3) งำนที่ดำเนนิ กำรและเพ่ิมตำมนโยบำยใหม่ แบ่งเปน็ (1) งำนทเ่ี พมิ่ โดยไม่ตอ้ งใช้งบประมำณดำเนนิ กำร (2) งำนท่เี พิ่มโดยต้องใช้เวลำและงบประมำณดำเนินกำร แนวทางในการขบั เคล่อื นนโยบายด้านการศึกษา ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ นอ้ มนากระแสพระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทเ่ี กยี่ วกับการปฏิรูปการศึกษามาเป็น แนวทางปฏบิ ตั ิ พระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยู่หวั ฯ ทรงมีพระรำชดำรสั เก่ียวกบั กำรปฏิรูปกำรศึกษำ ดงั นี้ 1. “ใหค้ รรู ักเดก็ และเด็กรกั ครู” 2. “ให้ครสู อนเดก็ ให้มนี ้ำใจกับเพื่อนไมใ่ หแ้ ข่งขันกนั แต่ให้แข่งกับตวั เองใหเ้ ดก็ ท่เี รียนเก่งกวำ่ ช่วย สอนเพ่ือนทเี่ รยี นชำ้ กวำ่ ”

แผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปี 2562 37 3. “ใหค้ รูจัดกจิ กรรมให้เดก็ ทำร่วมกัน เพ่อื ให้เห็นคณุ ค่ำของควำมสำมคั คี” กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร โดยหน่วยงำนทำงกำรศึกษำทุกสังกัดและผู้เก่ียวขอ้ งน้อมนำกระแสพระรำช ดำรสั มำเป็นกรอบแนวทำงในกำรปฏิบัติงำนกำรสอนของครูและจัดกิจกรรมโดยกำรถำ่ ยทอดพระรำชดำรสั ท้งั 3 ประกำร ให้บังเกดิ ผลเป็นรูปธรรมและเปน็ เสน้ ทำงสคู่ วำมสำเรจ็ กำรปฏริ ูปกำรศกึ ษำของประเทศ ต่อไป แนวนโยบายของนายกรฐั มนตรี (พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา) กำรขับเคลอ่ื นกำรดำเนนิ งำนขององคก์ รหลกั และหน่วยงำนทำงกำรศกึ ษำสงั กดั กระทรวงศกึ ษำธิกำรทต่ี ้องสอดคล้อง และขยำยผลตำมแนวนโยบำยของนำยกรัฐมนตรีเกย่ี วกับกำรศกึ ษำ ดงั นี้ 1. ทำใหเ้ รว็ มีผลสัมฤทธิ์ภำยในเดือนกันยำยน 2559 ให้มำกท่สี ุด ส่วนท่ีเหลือสง่ ต่อใหร้ ฐั บำลตอ่ ไป 2. ประชำชน สังคมพงึ พอใจ ประเทศได้คนมคี ุณภำพ 3. ปรับลดภำระงำนที่ไม่จำเปน็ ของกระทรวงศกึ ษำธิกำรลง 4. เรง่ ปรบั หลกั สูตร/ตำรำ แต่ละกลมุ่ ใหเ้ หมำะสม กำรพมิ พ์ตำรำตอ้ งคมุ้ ค่ำ 5. ผลติ คนใหท้ นั กบั ควำมตอ้ งกำรของประเทศ จบแลว้ ต้องมงี ำนทำ สำมำรถเข้ำทำงำนใน ประชำคมเศรษฐกจิ อำเซยี น (Asean Economic Community : AEC) ให้ทันปี 2558 เพอ่ื ชว่ ยแกป้ ญั หำ ว่ำงงำนและปัญหำสงั คมได้ 6. ปรับหลกั สูตรกำรเรียนกำรสอนที่ทำใหเ้ ด็ก ครู ผูป้ กครอง มีควำมสขุ 7. ใช้สือ่ กำรเรยี นกำรสอ กระตุ้นผเู้ รียนเพ่ือสร้ำงแรงจงู ใจในกำรเรยี นรใู้ หก้ บั เดก็ 8. ลดควำมเหลอื่ มลำ้ จัดกำรศกึ ษำให้ทว่ั ถงึ เท่ำเทยี ม และมคี ุณภำพ 9. นำระบบ ICT เข้ำมำใช้จัดกำรเรยี นรอู้ ยำ่ งเป็นรปู ธรรมและกวำ้ งขวำง 10. กำรเรียนไม่ใช่เพือ่ กำรสอบ แตเ่ รยี นใหไ้ ด้ทกั ษะชีวิต สำมำรถอยู่ในยุคโลกไรพ้ รมแดน แนวนโยบายด้านการศึกษาของรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ นโยบายทวั่ ไป 17 เรอ่ื ง 1. การจดั ทาแผนงาน/โครงการรเิ ร่ิมใหม่ 1.1 ตอ้ งเข้ำใจจุดมงุ่ หมำยและวัตถปุ ระสงค์ของงำนทีป่ ฏิบตั ใิ ห้ชัดเจน 1.2 ต้องมองภำพงำนในอนำคตได้อย่ำงชัดเจน สำมำรถกำหนดรำยละเอียดของงำนหลัก งำน รอง และงำนทตี่ อ้ งดำเนนิ กำรกอ่ น/หลัง เพ่ือใหบ้ รรลุผลสำเรจ็ 1.3 ต้องมีฐำนข้อมูลที่ดี ถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน ต้ังแต่หน่วยงำนย่อยข้ึนมำจนถึงหน่วยงำน หลักและทนั ตอ่ สถำนกำรณ์ เชน่ จะผลิตนกั ศกึ ษำอำชีวศึกษำตอ้ งรู้ควำมต้องกำรจ้ำงงำนของตลำดแรงงำน ในแตล่ ะสำขำวชิ ำ 1.4 มกี ำรวเิ ครำะห์ปญั หำและทบทวนกำรดำเนนิ งำนที่ผ่ำนมำให้ชัดเจน ซ่ึงผลกำรวิเครำะห์จะ ชว่ ยให้กำรแก้ไขปัญหำมคี วำมแม่นยำมำกขึ้น 2. การปรับปรุงแผนงาน/โครงการเดิมท่ีไม่สมั ฤทธผ์ิ ล ให้ค้นหำสำเหตุปัญหำกำรดำเนินงำนที่ผ่ำนมำ แล้ววิเครำะห์หำทำงเลือกในกำรแก้ไขปัญหำที่ หลำกหลำย เชน่ ปญั หำเรอ่ื งอำยขุ องผู้เรียน ปัญหำอยทู่ ีค่ รู ปัญหำอยู่ที่พอ่ แม่ ปัญหำอย่ทู สี่ ภำวะแวดล้อม ซ่ึงบำงครง้ั ไม่สำมำรถแกไ้ ขไดด้ ว้ ยวธิ ีหนง่ึ วธิ ีเดยี ว 3. แผนงาน/โครงการตามพระราชดาริ

แผนปฏบิ ัติการ ประจาปี 2562 38 3.1 ให้มีกำรดำเนินโครงกำรตำมพระรำชดำริในส่วนที่กระทรวงศึกษำธิกำรรับผิดชอบโดยตรง หรือมีส่วนเกี่ยวขอ้ ง 3.2 โครงกำรพระรำชดำริของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวฯ สมเด็จพระนำ งเจ้ำ พระบรมรำชินีนำถฯ หรือพระบรมวงศำนวุ งศพ์ ระองค์ใดที่กระทรวงศกึ ษำธิกำรดำเนินกำร หรอื กำรให้กำร สนับสนุน ต้องสำมำรถอธิบำยที่มำ เหตุผล และควำมสำคัญของโครงกำรให้นักเรียนนักศึกษำรู้และเข้ำใจ หลักกำรแนวคิดของโครงกำรได้ชัดเจน รวมท้ังถำ่ ยทอดใหเ้ กิดกำรเรียนรไู้ ดอ้ ย่ำงดี 3.3 ส่งเสริมให้มีกำรดำเนินงำนโครงกำรตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในส่วนที่ เกีย่ วขอ้ งโดยกำรเรียนร้ทู ำควำมเข้ำใจและยึดเปน็ แนวปฏิบตั ิในกำรดำเนินชีวิต พรอ้ มท้ังสำมำรถเผยแพร่ขยำย ผลตอ่ ไปได้ 3.4 ส่งเสริมใหม้ กี ำรดำเนินงำน โครงกำร/กจิ กรรม เพ่อื เสริมสรำ้ งอดุ มกำรณร์ กั ชำตแิ ละสถำบัน หลกั ของชำติ 4. งบประมาณ 4.1 งบลงทุน 1) ใหเ้ ตรยี มกำรดำเนินโครงกำรให้พรอ้ มในไตรมำสแรกของปงี บประมำณ พ.ศ.2559 2) กำรใชง้ บประมำณ เมอ่ื ได้รับแลว้ ต้องเรง่ ดำเนนิ กำรตำมแผนท่กี ำหนดเพอื่ ให้เกิดกำร กระจำยงบประมำณในพน้ื ที่ 4.2 งบกลำง 1) ให้เสนอขอใชง้ บกลำงอยำ่ งมีเหตผุ ลและใช้เท่ำทจี่ ำเป็น 2) ใหเ้ กลี่ยงบประมำณปกตขิ องส่วนรำชกำรมำใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 4.3 กำรใช้งบประมำณในกำรดำเนินงำนต้องเป็นไปด้วยควำมโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซ่ึง รัฐบำลจะแต่งตั้งคณะกรรมกำรติดตำมและตรวจสอบกำรใช้งบประมำณภำครัฐ(คตร.) ทุกกระทรวงและมี กำรแต่งต้ังคณะกรรมกำร คตร.เฉพำะกระทรวงศึกษำธิกำร เพ่ือตรวจสอบกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐ ของกระทรวงศึกษำธิกำร และช่วยกำรปฏิบัติงำนของผู้บริหำรกระทรวงศึกษำธิกำรเพอ่ื ควำมโปร่งใสและ ถูกต้อง 4.4 งำนบำงโครงกำรท่ีต้องมีกำรบูรณำกำรตำมแผนงบประมำณบูรณำกำรน้ัน ให้มี กำรบูรณำกำรกับหน่วยงำนภำยนอก เพื่อให้กำรใชง้ บประมำณคุ้มค่ำและเกดิ ประโยชน์สูงสุด 5. เน้นการส่ือสารภายในและภายนอกองค์กร 5.1 จัดให้มีช่องทำงกำรสื่อสำรอย่ำงเป็นระบบ นำเทคโนโลยีกำรสื่อสำรเข้ำมำช่วยปฏิบัติงำน อำทิ กำรประชุมทำงไกล โปรแกรมไลน์ เปน็ ตน้ โดยมวี ัตถุประสงค์เพ่ือ 1) สร้ำงควำมเข้ำใจภำยในองคก์ รให้มำกข้นึ 2) ใหผ้ บู้ ริหำรมีชอ่ งทำงติดต่อส่อื สำรได้ตลอดเวลำ สำมำรถถ่ำยทอดคำส่ังไปยังหน่วยรอง และหน่วยปฏิบตั ไิ ดท้ ันที รวดเรว็ และทัว่ ถงึ 3) ให้มีกำรรำยงำนทีร่ วดเรว็ ทันเหตุกำรณ์ และทดสอบระบบท่มี อี ยู่เสมอ 5.2 ทุกหน่วยงำนตอ้ งจดั ให้มแี ผนกำรประชำสัมพนั ธ์ อำทิ 1) เสมำสนเทศ เปน็ กำรสื่อสำรประชำสมั พันธ์ภำยในองค์กร คอื กำรสรำ้ งควำมเข้ำใจ ภำยในองคก์ ร หน่วยงำน 2) ประชำสนเทศ เป็นกำรประชำสมั พนั ธผ์ ่ำนสือ่ ภำยนอกองคก์ ร คือ กำรสร้ำงควำมเขำ้ ใจ กบั ประชำชน

แผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปี 2562 39 6. อานวยการเมอ่ื มเี หตุการณ์ฉกุ เฉิน กรณีเกิดุอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ หรือเหตุกำรณ์ท่ีส่งผลกระทบต่อสถำนศึกษำ ผู้บริหำร ครู นกั เรยี น นกั ศกึ ษำ ท้งั ท่ีเกิดในสถำนศกึ ษำและนอกสถำนศกึ ษำ อำทิ กำรกล่ำวหำพฤตกิ รรมผู้บรหิ ำร กำร ประทว้ งตอ่ ต้ำนผู้บรหิ ำร นกั เรยี นเจบ็ ปว่ ยผิดปกติ โรงเรียนถกู ข่วู ำงระเบดิ โรงเรียนเกดิ วำตภัย ฯลฯ ให้ทุก หน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องกำหนดมำตรกำร วิธีกำร ขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจนในกำรป้องกันแก้ไขปัญหำ ตลอดจนสร้ำง ควำมรู้ ควำมเข้ำใจท่ีถูกตอ้ งแก่ผู้เก่ยี วข้อง ใหท้ บทวนปรับปรุงหรือทำกำรซกั ซ้อมควำมเข้ำใจอยู่เสมอ ซ่ึงเบือ้ งต้นต้อง มีรำยละเอยี ดดังนี้ 1) มีกำรจัดระบบและกำหนดผ้ปู ฏบิ ตั ทิ ีช่ ดั เจน 2) มีวิธีกำร ขน้ั ตอนกำรแกไ้ ขปญั หำเฉพำะหนำ้ ระยะสั้น และระยะยำว 3) สำรวจระบบท่ีมอี ยใู่ ห้มคี วำมพรอ้ มปฏบิ ตั ิงำนอยเู่ สมอ 4) ให้มีระบบกำรรำยงำนเหตดุ ่วนตำมลำดับขน้ั อย่ำงรวดเร็ว 7. การรว่ มมือกับภาคเอกชนและภาคประชาสงั คม กำรประสำนควำมร่วมมือกับทุกภำคส่วนให้เข้ำมำมีส่วนร่วมดำเนินกำรจัดกำรศึกษำให้ครบ วงจร เชน่ รว่ มกำหนดหลกั สตู รกำรเรียนกำรสอนใหน้ ักเรยี นนกั ศกึ ษำเขำ้ ทำงำนระหว่ำงกำลงั ศกึ ษำ และ กำรรบั เขำ้ ทำงำนเมอ่ื สำเร็จกำรศกึ ษำ 8. ให้ความสาคญั กับการบริหารงานสว่ นภมู ภิ าคและเขตพ้นื ทตี่ า่ ง ๆ ของแต่ละส่วนราชการ 8.1 ให้มกี ำรทบทวนบทบำทหน้ำทีก่ ำรปฏิบตั ิงำนของหนว่ ยงำนระดบั พื้นทีใ่ ห้ครบถว้ น 8.2 กำหนดบทบำทภำคกิจในสิ่งที่ตอ้ งร้แู ละสงิ่ ทยี่ ังไมร่ ู้ ให้มีกำรแบง่ ภำรกจิ งำนให้ชดั เจน 8.3 กำหนดควำมต้องกำรและสิง่ อำนวยควำมสะดวกต่ำง ๆ ใหพ้ อเพยี ง 9. โครงการจดั อบรม สมั มนา ตอ้ งบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ 9.1 กำรจัดโครงกำรประชุมสัมมนำ ต้องดำเนินกำรให้บรรลุวัตวัตถุประสงค์และเป้ำหมำยที่ กำหนดอย่ำงมีประสิทธผิ ลเปน็ ไปตำมนโยบำยและเกดิ ประโยชน์แกป่ ระชำชน 9.2 กำรคัดเลือกกลมุ่ เปำ้ หมำย วทิ ยำกร หรอื ส่งบุคลำกรเข้ำร่วมประชุมสัมมนำกบั หนว่ ยงำน ในทุกระดับต้องเปน็ ผมู้ ีควำมรเู้ หมำะสม เพอ่ื ให้ได้ผลกำรดำเนินงำนทม่ี ีคุณภำพ 10. ยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในทกุ หลกั สูตร ให้เร่งยกระดับมำตรฐำนภำษำอังกฤษในกลุ่มเป้ำหมำยหลักนักเรียน นักศึกษำ ให้มีควำมรู้ และสำมำรถใช้ในกำรส่อื สำรเพ่ือกำรเข้ำสู่ประชำคมอำเซยี น รวมถงึ ครู อำจำรย์ และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 11. ให้มีการนา ICT มาใช้ในการบรหิ ารงานในกระทรวงศกึ ษาธกิ ารอย่างท่ัวถึง มีประสิทธภิ าพ 11.1 ให้มกี ำรดำเนินงำนของศนู ย์ศึกษำทำงไกล (Distance Learning Thailand) โดยบูรณำ กำรเขำ้ กับสถำนีวิทยุเพอื่ กำรศึกษำกระทรวงศึกษำธิกำร (ETV) และเครือขำ่ ยของสำนักงำนคณะกรรมกำร อุดมศึกษำใช้เป็นช่องทำงในกำรสอื่ สำรเพ่อื กำรจดั กำรศึกษำที่มีคุณภำพ 1.1.2 จัดให้มี CEO ด้ำน ICT เพ่ือขับเคล่ือนงำนกำรจัดกำรศึกษำ กำรใช้ส่ือเพื่อสร้ำง ควำมเข้ำใจ ควำมสนใจ และกำรประชำสัมพันธ์ดำ้ น “เสมำสนเทศ” และ “ประชำสนเทศ” 12. ใหค้ วามสาคญั กับเทคนคิ การสอนและการส่ือความหมาย ส่งเสริมให้ครผู ู้สอนพฒั นำหรือต่อยอดนวัตกรรมกำรเรยี นกำรสอน กำรใช้สอ่ื เทคโนโลยตี ่ำง ๆ จัดกำรเรียนกำรสอน กำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจท่ีดี ทำให้เด็กเกิดควำมสนใจเรียนรู้และมีผลสัมฤทธ์ิ ทำงกำรเรยี นสงู ขน้ึ 13. การดูแลรกั ษาสภาพแวดล้อม

แผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปี 2562 40 13.1 ให้มกี ำรประดบั ธงชำติในสถำนท่รี ำชกำรและสถำนศึกษำให้เรียบร้อย เหมำะสม 13.2 ดูแลควำมสวยงำมและควำมสะอำด บริเวณพ้ืนท่ีท่ีรับผิดชอบของหน่วยงำนและ สถำนศกึ ษำทุกระดบั 13.3 กำรรักษำควำมปลอดภัยของหน่วยงำนและสถำนศึกษำ ต้องจัดให้มีแผนรักษำควำม ปลอดภัยให้ชัดเจน อำทิ แผนเผชิญเหตุอัคคีภัย อุทกภัย จัดลำดับควำมสำคัญและสภำพปัญหำภัย คกุ คำมของแต่ละพนื้ ท่ี และมีกำรซกั ซอ้ มแผนอยำ่ งสมำ่ เสมอ 14. ให้ลดภาระงานทไ่ี มเ่ ก่ยี วกับการเรียนการสอนของครูและนักเรยี น 14.1 ให้นอ้ มนำกระแสพระรำชดำรัส มำเป็นกรอบแนวทำงในกำรปฏบิ ัติงำนกำรสอนของครู 14.2 ให้ลดเวลำเรยี นต่อวนั ในช่วงเวลำบ่ำย เพ่ือให้เดก็ ได้ใชเ้ วลำนอกห้องเรยี นเพื่อกำรเรียนรู้ และเข้ำร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนจัดขึ้นตำมควำมถนัดและควำมสนใจ เพ่ือให้เกิดกำรผ่อนคลำยและมี ควำมสขุ 15. การประเมนิ เพือ่ มีหรือเลือ่ นวทิ ยฐานะใหส้ อดคล้องกบั ผลสัมฤทธิข์ องผู้เรียน ให้จัดระบบกำรประเมินผลงำน ควำมก้ำวหน้ำ และกำรปรบั เพมิ่ วิทยฐำนะและภำระงำนของ ครูผู้สอน ให้สำมำรรถวัดผลได้จริงสอดคล้องกับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนทั้งด้ำนควำมรู้ คุณลักษณะที่พึง ประสงค์ และทกั ษะชวี ิต 16. การแกไ้ ขปัญหาการจดั การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เร่งรัดกำรดำเนินโครงกำรขับเคลื่อนตำมแผนพัฒนำกำรศึกษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ และสนับสนุน กำรดำเนินโครงกำรในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้บังเกิดผลโดยเร็ว อำทิ โครงกำรสำนฝันกำรกีฬำสู่จังหวัดชำยแดนภำคใต้ เป็นตน้ 17. ครูควรมีข้อมูลนักเรียนและผู้ปกครอง ให้จัดระบบกำรทำระเบียนข้อมูลประวัติผู้เรียนและผู้ปกครองให้เป็นปัจจุบัน เพ่ือเป็นระบบดูแล นักเรียนและช่วยแก้ไขปัญหำที่ตัวผู้เรียนและครอบครัวเป็นรำยบุคคลได้ เช่น ครอบครัวที่ประสบเหตุภัยแล้ง อุทกภัยต่ำง ๆ และรวบรวมเป็นข้อมูลในภำพรวมของหน่วยงำนระดับพื้นท่ีในกำรให้ควำมช่วยเหลือบรรเทำปัญหำใน รปู แบบที่เหมำะสมตอ่ ไป นโยบายส่งเสรมิ และสนับสนนุ การศึกษา 1. นโยบายดา้ นการปราบปรามทุจริต 1.1 ห้ำมมิให้มีกำรซื้อขำยตำแหน่งหรือเรียกรับเงินเพื่อกำรสอบบรรจุ กำรรับโอน กำร โยกยำ้ ย หรือผลตอบแทนอันใดที่ไม่เปน็ ไปตำมกฎหมำยและระเบยี บปฏบิ ตั ิรำชกำร 1.2 หยดุ กำรทุจรติ ภำยในองค์กรโดยเดด็ ขำด หำกพบขอ้ มูล 1) ดำเนินกำรสอบสวนหำผกู้ ระทำผิดและดำเนนิ คดีตำมกฎหมำยอย่ำงจริงจงั 2) ทำกำรตรวจสอบชอ่ งว่ำงทที่ ำให้เกิดกำรทุจริตตำมทีต่ รวจพบน้ัน ๆ และทำกำรแกไ้ ข 3) ปรบั ปรุงระบบ ระเบยี บ รวมถึงมำตรกำรตำ่ ง ๆ ควบคมุ เพื่อไม่ใหเ้ กิดกำรทุจรติ ข้ึนอีก 1.3 ดำเนินกำรสุ่มตรวจสอบ หำกพบมีกำรทุจริตในหน่วยงำนใด ผู้บังคับบัญชำหน่วยงำน ตำมลำดบั ช้ันตอ้ งมสี ่วนร่วมรับผดิ ชอบด้วย ฐำนปลอ่ ยปละละเลยให้เกดิ กำรกระทำผดิ ดังกลำ่ ว 2. นโยบายดา้ นสวัสดิการ 2.1 กำรสอบบรรจุ แต่งตง้ั โยกยำ้ ย ให้เป็นไปด้วยควำมโปรง่ ใสและเปน็ ธรรม

แผนปฏิบตั ิการ ประจาปี 2562 41 2.2 ใหส้ ำนักงำนคณะกรรมกำรส่งเสริมสวัสดิกำรและสวสั ดิภำพครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ (สกสค.) ดำเนินกำรตำมอำนำจหน้ำที่ในกำรดูแลสวัสดิกำรและสวัสดิภำพครูให้ครอบคลุมทุกด้ำน ไม่ เฉพำะกรณเี สียชีวิตเทำ่ นั้น เพอ่ื ช่วยให้ครูได้มีคณุ ภำพชวี ิตทดี่ ีข้นึ 2.3 เรื่องหน้ีสินของครู ส่งเสริมให้ครูมีจิตสำนึกรู้จักกำรดำเนินชีวิตโดยยึดหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพียง รจู้ กั ใช้ ร้จู ักเกบ็ สร้ำงเกียรติภูมิในตนเองเพื่อไมใ่ หส้ ง่ ผลกระทบตอ่ กำรเรยี นกำรสอน 3. นโยบายด้านการจัดการขยะ 3.1 ให้สถำนศึกษำสังกัดสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน (สพฐ.) ขยำยผล โครงกำรโรงเรียนขยะใหเ้ พ่มิ มำกข้ึน 3.2 ให้สถำนศึกษำ/สถำบันกำรศึกษำทุกสังกัด ขับเคล่ือนนโยบำยกำรจัดกำรขยะ โดยกำร ปลูกจิตสำนึกแก่ผู้เรียนทุกระดับให้ลดกำรทิ้งขยะ รู้จักกำรคัดแยกประเภทขยะ และกำรกำจัดขยะท่ี ถูกตอ้ ง 4. นโยบายด้านการดแู ลรกั ษาส่งิ ปลูกสร้าง ครภุ ณั ฑ์ ให้มีกำรจัดระบบกำรดูแลรักษำสิ่งปลูกสรำ้ งและครภุ ัณฑใ์ ห้มปี ระสทิ ธิภำพ ดงั น้ี 4.1 ระบบกำรจดั หำและแจกจ่ำยครุภัณฑ์ ให้ใชห้ ลักตรรกะในกำรดำเนนิ กำรตำมเหตุผลและ ควำมจำเป็นของหนว่ ยงำน 4.2 ระบบกำรซ่อมบำรุง ให้จัดต้ังหน่วยเฉพำะกิจสร้ำงระบบกำรดูแลซ่อมบำรุง ตรวจสอบวงรอบกำร ใช้งำน กำหนดผ้รู บั ผดิ ชอบใหช้ ัดเจน มีกำรเชอื่ มโยงและร่วมมือกับหนว่ ยงำนที่มีทักษะในกำรซอ่ มบำรงุ 4.3 ระบบดูแลอำคำรสถำนท่ี ให้จัดระบบกำรดูแลรักษำควำมสะอำด ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อย ตรวจสภำพไม่ใหท้ รุดโทรมอยำ่ งตอ่ เนือ่ ง นโยบายเฉพาะ : การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน 1. กำรแกไ้ ขปัญหำเด็กประถมศึกษำ อำ่ นไมอ่ อกเขียนไมไ่ ด้ 1) ปรับปรุงวิธีกำรเรยี นกำรสอนที่เห็นผลสัมฤทธิ์ชัดเจน เช่น กำรสอนแบบแจกลูกสะกดคำ โดยใช้แนวกำรจัดกำรเรียนรทู้ ส่ี อดคลอ้ งกบั กำรพฒั นำสมอง (Brain Based Learning : BBL) 2) กำหนดเป้ำหมำยให้นักเรียนช้ัน ป.1 ต้องอ่ำนออกเขียนได้ ช้ัน ป.2 ขึ้นไป ต้องอ่ำนคล่อง เขยี นคลอ่ ง 2. กำรดแู ลเดก็ ออกกลำงคนั ให้ได้รับกำรศึกษำภำคบังคับ 1) ตอ้ งมีฐำนขอ้ มลู เดก็ ออกกลำงคันทีช่ ัดเจน 2) เด็กท่ีออกกลำงคัน ต้องมีข้อมูลและติดตำมดูแลให้ได้รับกำรศึกษำภำคบังคับต่อเนือ่ งหรือ ออกไปทำงำน ต้องส่งเสริมใหไ้ ดร้ บั กำรศกึ ษำนอกโรงเรียน โดยมเี ครอื ข่ำยประสำนกำรติดตำมอยำ่ งเป็นระบบ 3. ใหท้ บทวนปรบั ปรุงหลกั สูตรกำรศกึ ษำ 1) ลดเวลำเรียนตอ่ วนั ลดกำรบำ้ นนกั เรียน นักเรียนเรียนอย่ำงมีควำมสุข ไมม่ กี จิ กรรมเพิ่ม ภำระนักเรียนในเวลำทเ่ี หลือ 2) ให้ผเู้ รียนไดใ้ ชเ้ วลำนอกห้องเรียนเพ่ือกำรเรยี นรู้ และเขำ้ รว่ มกจิ กรรมท่โี รงเรียนจัดขึ้นตำม ควำมถนัดและควำมสนใจของผ้เู รียนให้มำกข้นึ เพอ่ื ให้ผอ่ นคลำยและมคี วำมสขุ 3) ใหผ้ ้เู รยี นไดร้ ูจ้ ักคดิ ปฏบิ ตั ิ มำกกว่ำทอ่ งจำเพ่ือกำรสอบอย่ำงเดียว เพือ่ สร้ำงภูมิต้ำนทำน ใหก้ บั เดก็ ยคุ โลกไร้พรมแดน

แผนปฏิบตั ิการ ประจาปี 2562 42 4. กำรแกไ้ ขปญั หำโรงเรียนขนำดเลก็ โรงเรียนท่ีมีครูไม่ครบช้ันเรียน ให้จัดกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม(Distance Learning Information Technology : DLIT) อย่ำงจริงจังและเต็มรูปแบบ รวมท้ังส่งเสริมสนับสนุนโรงเรียนไกล กังวลเปน็ โรงเรยี นตน้ ทำงทม่ี ีคุณภำพ 5. กำรลดควำมเหลื่อมลำ้ ทำงกำรศกึ ษำ ใช้โครงกำรพัฒนำคุณภำพทำงกำรศึกษำทำงไกล ( Distance Learning Information Technology : DLIT) และ ผ่ำน ร ะ บบเทคโ น โ ลยีสำร สน เทศ ( Information Communication Technology : ICT) ดว้ ยกำรจดั กำรศึกษำทำงไกลผำ่ นดำวเทยี ม (DLIT) 6. กำรประเมินครู นกั เรยี น โรงเรยี น ให้หำควำมสมดุลระหว่ำงกำรควบคุมคุณภำพกำรศึกษำกับภำระงำนของครูท่ีต้องเพ่ิมขึ้น ตลอดจนปรับปรุงกำรคัดสรรครู ผู้บริหำร กำรประเมินวิทยฐำนะให้เหมำะสม จัดรถโมบำยเคลื่อนที่จำก สว่ นกลำงเพื่อช่วยลดภำระครู หรอื นำเทคโนโลยเี ข้ำมำช่วยสนบั สนุน นโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน มภี ำรกิจหลกั ในกำรจัดและสง่ เสรมิ กำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน ได้กำหนดนโยบำยเพอ่ื พฒั นำกำรจดั กำรศกึ ษำข้ันพืน้ ฐำน ไปในทศิ ทำงทส่ี อดคล้องกับยทุ ธศำสตร์ ชำติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) แผนกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ.2560-2579 กำรเปลย่ี นแปลงของ ประเทศและของโลก โดยควำมเหน็ ชอบของคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขัน้ พนื้ ฐำน ประกอบดว้ ย วิสยั ทัศน์ พนั ธกิจ เปำ้ หมำย ยุทธศำสตร์ และนโยบำย ดังนี้ วิสยั ทศั น์ กำรศึกษำขัน้ พืน้ ฐำนของประเทศไทย มคี ุณภำพและมำตรฐำนระดบั สำกล บนพ้นื ฐำนของควำมเปน็ ไทย พนั ธกจิ 1. ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ ให้ประชำกรวยั เรียนทกุ คน ได้รบั กำรศกึ ษำอยำ่ งทวั่ ถงึ และมีคุณภำพ 2. สง่ เสริมให้ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมหลักสูตรและค่ำนยิ ม หลักของคนไทย 12 ประกำร 3. พัฒนำระบบบรหิ ำรจัดกำรทเ่ี น้นกำรมสี ่วนร่วม เพื่อเสริมสร้ำงควำมรบั ผิดชอบต่อคุณภำพ กำรศึกษำ และบรู ณำกำรกำรจัดกำรศกึ ษำ เปา้ หมาย เพื่อให้กำรจดั กำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำนของประเทศไทย มคี ณุ ภำพและมำตรฐำนระดบั สำกลบน พ้ืนฐำนของควำมเป็นไทย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขั้นพ้นื ฐำน จึงกำหนดเป้ำหมำย ดังนี้ 1. ผู้เรียนระดับก่อนประถมศึกษำและระดับกำรศกึ ษำขั้นพน้ื ฐำนทกุ คน มีพฒั นำกำรเหมำะสมตำม วัย มคี ณุ ภำพและทักษะกำรเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 2. ประชำกรวยั เรยี นทุกคน ได้รับโอกำสในกำรศึกษำขั้นพ้นื ฐำนอยำ่ งทว่ั ถึง มคี ุณภำพและเสมอ ภำค 3. ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ มสี มรรถนะตรงตำมสำยงำน และมีวฒั นธรรมกำรทำงำนที่ มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์

แผนปฏิบัติการ ประจาปี 2562 43 4. สำนักงำนเขตพ้ืนทีก่ ำรศกึ ษำ สำนักบริหำรงำนกำรศกึ ษำพิเศษ และสถำนศึกษำ มี ประสิทธิภำพและเป็นกลไกขบั เคลือ่ นกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง สู่ คณุ ภำพระดับมำตรฐำนสำกล 5. สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขั้นพน้ื ฐำน เนน้ กำรทำงำนแบบบรู ณำกำร มีเครอื ข่ำยกำร บรหิ ำรจดั กำร บริหำรแบบมีสว่ นรว่ มจำกทุกภำคส่วนในกำรจัดกำรศึกษำ กระจำยอำนำจและควำม รบั ผดิ ชอบส่สู ำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศกึ ษำ และสถำนศึกษำ 6. พน้ื ที่พเิ ศษ ได้รับกำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำและพัฒนำรปู แบบกำรจัดกำรศกึ ษำท่เี หมำะสม ตำมบรบิ ทของพนื้ ท่ี 7. หนว่ ยงำนทกุ ระดบั พัฒนำสอ่ื เทคโนโลยี และระบบขอ้ มูลสำรสนเทศเพ่ือกำรบรหิ ำรจดั กำรศกึ ษำอย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ 8. หน่วยงำนทกุ ระดบั มงี ำนวิจยั ทสี่ ำมำรถนำผลไปใชใ้ นกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรศกึ ษำ ยุทธศาสตร์ 1. จดั กำรศกึ ษำเพ่อื ควำมมัน่ คง 2. พฒั นำคณุ ภำพผเู้ รยี นและส่งเสรมิ กำรจัดกำรศึกษำเพ่ือสร้ำงขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน 3. ส่งเสริมสนับสนนุ กำรพัฒนำครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ 4. ขยำยโอกำสกำรเขำ้ ถงึ บรกิ ำรทำงกำรศกึ ษำและกำรเรียนรู้อยำ่ งมคี ณุ ภำพ 5. จัดกำรศึกษำเพือ่ เสริมสรำ้ งคุณภำพชวี ิตทเี่ ปน็ มิตรกับส่งิ แวดลอ้ ม 6. พัฒนำระบบบรหิ ำรจดั กำรและสง่ เสรมิ กำรมสี ่วนรว่ ม นโยบาย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พื้นฐำน มนี โยบำยในกำรดำเนนิ งำน 6 ด้ำน ดงั นี้ นโยบำยท่ี 1 ดำ้ นกำรจัดกำรศกึ ษำเพื่อควำมมน่ั คง 1. เสรมิ สร้ำงควำมมัน่ คงของสถำบนั หลกั และกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตย อันมี พระมหำกษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ 1.1 น้อมนำแนวพระรำชดำริ สืบสำนพระรำชปณิธำนและพระบรมรำโชบำยดำ้ นกำรศึกษำ หรือ \"ศำสตร์พระรำชำ\" มำใชใ้ นกำรจัดกระบวนกำรเรียนรอู้ ยำ่ งยัง่ ยนื 1.2 ปลกู ฝงั และเสริมสร้ำงวถิ ปี ระชำธิปไตย ควำมสำมัคคี สมำนฉันท์ สนั ติวิธี ตอ่ ต้ำนกำร ทุจรติ คอรัปช่ัน และยดึ มั่นในกำรปกครองระบอบประชำธปิ ไตยอนั มีพระมหำกษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ 1.3 เสรมิ สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจท่ีถูกต้องเก่ียวกับสถำบนั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ ผ่ำนหลักสูตรและกระบวนกำรเรียนรู้ประวตั ิศำสตรแ์ ละควำมเปน็ พลเมอื ง 2. ปลกู ฝงั ผู้เรยี นด้ำนคุณธรรม จริยธรรม และค่ำนยิ มที่พึงประสงค์ 2.1 สง่ เสรมิ สนบั สนนุ กำรจัดกิจกรรมท้งั ในและนอกหอ้ งเรยี น ท่เี อ้อื ตอ่ กำรพฒั นำคณุ ธรรม จริยธรรม คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ำรมหลกั สูตรและค่ำนิยมหลักของคนไทย 12 ประกำร 2.2 เสริมสรำ้ งควำมรู้ควำมเข้ำใจ เกย่ี วกบั ภัยคุกคำมในรูปแบบใหม่ เช่นอำชญำกรรม และ ควำมรนุ แรงในรูปแบบต่ำง ๆ ส่ิงเสพติด ภัยพิบตั ิจำกธรรมชำติ ภัยจำกโรคอบุ ัติใหม่ ภัยจำกไซเบอร์ ฯลฯ 3. พฒั นำกำรจดั กำรศึกษำโรงเรียนในเขตพ้นื ทพี่ เิ ศษใหเ้ หมำะสมตำมบริบทของพื้นที่ 3.1 เขตพัฒนำพเิ ศษเฉพำะกจิ จังหวดั ชำยแดนภำคใต้ 3.2 เขตระเบยี งเศรษฐกจิ

แผนปฏิบตั กิ าร ประจาปี 2562 44 3.3 เขตสำมเหล่ยี ม มั่นคง มั่งคั่ง ยัง่ ยนื 3.4 เขตพื้นทช่ี ำยแดน 3.5 เขตเศรษฐกจิ พิเศษ ฯลฯ นโยบำยที่ 2 ดำ้ นกำรพฒั นำคณุ ภำพผู้เรียน และส่งเสริมกำรจัดกำรศกึ ษำเพือ่ สรำ้ งขดี ควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขัน 1. เสรมิ สรำ้ งควำมเขม้ แข็งในกำรพฒั นำผูเ้ รยี นอยำ่ งมคี ุณภำพด้วยกำรปรับหลักสตู ร กำรวัดและ ประเมนิ ผลท่เี หมำะสม 1.1 ปรับปรงุ หลักสตู รในระดับปฐมวัยและหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำน และนำ หลกั สูตรไปสู่กำรปฏิบตั ใิ ห้เกดิ ประสิทธภิ ำพ และจดั กำรเรียนร้ใู ห้สอดคลอ้ งกบั หลกั สตู รตำมควำมจำเปน็ และควำมตอ้ งกำรของผู้เรียน ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ และสงั คม 1.2 สง่ เสริมกำรเรียนกำรสอนให้ผ้เู รียนมคี วำมมั่นใจในกำรสอ่ื สำรภำษำองั กฤษ ภำษำ ประเทศ คคู่ ้ำ และภำษำอำเซียนอยำ่ งน้อย 1 ภำษำ 1.3 พัฒนำระบบกำรวดั และประเมนิ ผลทกุ ระดับใหม้ ีคุณภำพและมำตรฐำน นำไปสู่กำร พฒั นำคณุ ภำพผเู้ รียนเต็มตำมศกั ยภำพ 2. พฒั นำคุณภำพกระบวนกำรเรียนรู้ 2.1 พัฒนำผเู้ รยี นระดบั ก่อนประถมศกึ ษำ ให้มพี ฒั นำกำรทำงด้ำนรำ่ งกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม และสตปิ ญั ญำ ใหม้ ีควำมพร้อมเข้ำสู่กำรเรยี นในระดบั ท่ีสงู ข้ึน 2.2 สง่ เสรมิ สนบั สนุนให้ผเู้ รยี นสำมำรถอำ่ นออกเขียนได้ตำมช่วงวยั 2.3 สง่ เสริมสนบั สนุนใหผ้ ้เู รยี นมีนิสัยรกั กำรอำ่ น 2.4 ส่งเสรมิ กำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ให้ผเู้ รยี นได้เรียนรู้ผ่ำนกจิ กรรมกำรปฏบิ ัตจิ ริง (Active Learning) เนน้ ทกั ษะกระบวนกำรใหเ้ กดิ ทกั ษะกำรคิดวเิ ครำะห์ คดิ แก้ปญั หำ และคดิ สรำ้ งสรรค์ในทกุ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ท้งั ในและนอกหอ้ งเรียน 2.5 ส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนมีทกั ษะกำรเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ 21 2.6 ปลูกฝงั ทกั ษะกระบวนกำรวทิ ยำศำสตร์และจติ วิทยำศำสตร์ให้กบั นกั เรยี นระดบั กอ่ น ประถมศึกษำตำมโครงกำรบำ้ นนักวิทยำศำสตร์ ประเทศไทย 2.7 สนับสนุนกำรผลิต จดั หำและใช้สอ่ื กำรเรียนกำรสอน เทคโนโลยี นวตั กรรม และส่ิง อำนวยควำมสะดวกทหี่ ลำกหลำย รวมท้งั กำรพัฒนำห้องสมุด และแหล่งเรียนรู้ภำยในสถำนศกึ ษำในกำร จัดกำรเรียนรูไ้ ด้ท้ังในหอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรยี น เพือ่ ให้ผเู้ รยี นได้เรยี นรอู้ ยำ่ งเต็มศักยภำพ 2.8 ส่งเสริมกำรจัดหลกั สตู รทกั ษะอำชพี ควบคู่ไปกับวิชำสำมัญ เช่น ทวิศกึ ษำ (Dual Education) หลักสตู รระยะส้นั 2.9 สง่ เสรมิ สนับสนุนกำรพฒั นำผ้เู รียนท่ีมคี วำมตอ้ งกำรจำเป็นพเิ ศษ (ผู้พกิ ำร ผู้ดอ้ ยโอกำส และผูม้ คี วำมสำมำรถพิเศษ) ใหเ้ ต็มตำมศกั ยภำพดว้ ยรูปแบบทเี่ หมำะสม 2.10 ส่งเสรมิ สนบั สนุนกำรจดั กจิ กรรมแนะแนวเพอื่ กำรศึกษำตอ่ และกำรประกอบอำชีพอยำ่ ง เข้มแขง็ ตอ่ เนอ่ื งและเปน็ รปู ธรรม 3. สร้ำงขดี ควำมสำมำรถในกำรแข่งขนั 3.1 ยกระดับผลกำรประเมินระดบั นำนำชำติตำมโครงกำร PISA (Programme for International Student Assessment) 3.2 สง่ เสริมกำรพัฒนำศักยภำพผเู้ รยี นสคู่ วำมเป็นเลิศในดำ้ นต่ำง ๆ

แผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปี 2562 45 3.3 ส่งเสริมกำรเรียนรเู้ ชงิ บรู ณำกำรแบบสหวิทยำกำร เชน่ สะเต็มศกึ ษำ(Science Technology Engineering and Mathematics Education : STEM Education) เพอ่ื พฒั นำ กระบวนกำรคิดและกำรสรำ้ งสรรคน์ วัตกรรมเพ่ือสร้ำงมูลคำ่ เพ่ิม สอดคลอ้ งกับประเทศไทย 4.0 4. สง่ เสรมิ สนับสนุนกำรทำวิจยั และนำผลกำรวิจัยไปใช้พัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรศกึ ษำ 4.1 ส่งเสรมิ กำรทำวิจัยเพ่ือพฒั นำกำรบรหิ ำรจัดกำรศกึ ษำ 4.2 สง่ เสรมิ กำรทำวิจัยเพ่อื พฒั นำหลกั สตู ร กระบวนกำรเรยี นรู้ กำรวัดและประเมินผล โดย เน้นให้มีกำรวจิ ยั ในชน้ั เรยี น นโยบำยท่ี 3 ด้ำนกำรสง่ เสริม พัฒนำครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 1. พฒั นำครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ ให้สำมำรถจดั กำรเรยี นรอู้ ย่ำงมคี ุณภำพในรูปแบบท่ี หลำกหลำย เชน่ 1.1 TEPE Online (Teachers and Educational Personnels Enhancement Based on Missinon and Functional Areas as Majors) 1.2 ชุมชนแห่งกำรเรยี นรู้ทำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC) 1.3 กำรเรยี นร้ผู ่ำนกจิ กรรมกำรปฏบิ ัติจริง (Active Learning) 2. พัฒนำระบบกำรบริหำรงำนบคุ คลให้มปี ระสทิ ธิภำพ โดยเชื่อมโยงกับหน่วยงำนทีเ่ กย่ี วข้อง ดังน้ี 2.1 กำรกำหนดแผนอัตรำกำลัง กำรสรรหำ กำรบรรจแุ ต่งต้งั กำรประเมนิ และกำรพฒั นำ 2.2 กำรสรำ้ งแรงจงู ใจให้ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำมขี วัญและกำลังใจในกำรทำงำน นโยบำยที่ 4 ด้ำนโอกำส ควำมเสมอภำค และควำมเท่ำเทียม กำรเข้ำถึงบริกำรทำงกำรศกึ ษำ 1. เพ่มิ โอกำสกำรเข้ำถงึ กำรศึกษำทมี่ ีคุณภำพ 1.1 สง่ เสริมประชำกรวยั เรียนทกุ คนใหไ้ ดร้ บั โอกำสในกำรเขำ้ รับบรกิ ำรทำงกำรศึกษำอยำ่ ง ทัว่ ถงึ มีคุณภำพและเสมอภำค 1.2 สร้ำงควำมเขม้ แข็งของระบบกำรดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี น ระบบส่งเสรมิ ควำมประพฤติ นกั เรียน ระบบคมุ้ ครองนักเรียน และกำรสร้ำงภมู ิคมุ้ กนั ทำงสงั คม 2. ลดควำมเหล่ือมล้ำทำงกำรศกึ ษำ 2.1 ประสำนหนว่ ยงำนทเี่ ก่ยี วขอ้ งในกำรจดั กำรศกึ ษำทเ่ี หมำะสมสำหรบั เด็กดอ้ ยโอกำสทีไ่ ม่ อยูใ่ นทะเบียนรำษฎร เช่น เด็กไร้สัญชำติ เดก็ พลัดถิน่ เด็กตำ่ งดำ้ ว เดก็ ไทยทีไ่ ม่มเี ลขประจำตวั ประชำชน เป็นตน้ 2.2 สง่ เสรมิ สนบั สนุนกำรใชเ้ ทคโนโลยใี นกำรจัดกำรศึกษำใหค้ รอบคลุมทุกพน้ื ทอ่ี ยำ่ งท่วั ถึง เชน่ กำรพฒั นำคณุ ภำพศกึ ษำทำงไกลผ่ำนเทคโนโลยสี ำรสนเทศ (Distance learning information technology : DLIT) กำรพฒั นำคณุ ภำพกำรศกึ ษำดว้ ยเทคโนโลยีกำรศกึ ษำทำงไกลผำ่ นดำวเทยี ม (Distance Learning Television : DLTV) ฯลฯ นโยบำยด้ำนที่ 5 ด้ำนกำรจัดกำรศึกษำเพือ่ สรำ้ งเสรมิ คณุ ภำพชีวติ ท่ีเป็นมติ รกบั สิ่งแวดลอ้ ม 1. จดั กำรศกึ ษำเพ่ือสรำ้ งเสรมิ คุณภำพชวี ติ 1.1 ส่งเสริม สนับสนนุ กำรสรำ้ งจิตสำนึกรกั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม มีคณุ ธรรม จริยธรรม และ น้อม นำแนวคิดตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพยี งสูก่ ำรปฏิบัติในกำรดำเนนิ ชวี ิต 1.2 สง่ เสริม สนับสนนุ ให้สถำนศกึ ษำพฒั นำหลักสูตร กระบวนกำรเรียนรู้ แหลง่ เรียนรู้ และ สอื่ กำรเรยี นรู้ตำ่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั กำรสร้ำงเสรมิ คณุ ภำพชวี ิตทเี่ ปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook