Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 565_manual school1 (1)

565_manual school1 (1)

Published by rada chomchom, 2019-11-25 23:17:05

Description: 565_manual school1 (1)

Search

Read the Text Version

๓๔๙ ๔. การรกั ษาความปลอดภยั ในอาคารเรยี น ๑) มกี ารรกั ษาความปลอดภัยในอาคารเรียน ๒) มผี ูร้ บั ผิดชอบในการรกั ษาความปลอดภัยเปน็ ลายลักษณ์อกั ษร ๓) มีเครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ในการปอ้ งกนั และรักษาความปลอดภัย ๔) มกี ารควบคมุ และตดิ ตามการรักษา ความปลอดภยั อาคารเรียน ๕) มีการฝกึ อบรมวธิ ีการรักษาความปลอดภยั ให้แกผ่ ู้ปฏบิ ัตหิ น้าทรี่ กั ษาความปลอดภยั ๗.๓ การบริหารห้องเรียน ๑. การจัดบรรยากาศในห้องเรียนจัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เกิดความสะอาด ความร่มร่ืน ความสวยงาม ความปลอดภัย และความสะดวกปลอดภยั ในเรอื่ งต่อไปน้ี ๑) มีแสงสวา่ งเพียงพอ ๒) มีอากาศถา่ ยเทสะดวก ๓) มกี ารตกแต่งทสี่ วยงาม และมบี รรยากาศทางวชิ าการ ๔) ไมแ่ ออดั ๕) โตะ๊ เกา้ อแี้ ละอปุ กรณ์ประจาหอ้ งมสี ภาพดี ๖) มีสอื่ และอปุ กรณ์การสอนทจ่ี าเป็นประจาห้อง ๗) เครื่องอานวยความสะดวกตามความจาเป็น เช่น พดั ลม เครื่องปรบั อากาศ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ๒. การใช้และการดแู ลรักษาห้องเรียน ๑) มีแผนและระเบียบการใชห้ ้องเรยี น ๒) มกี ารมอบหมายให้ผรู้ ับผิดชอบ ๓) มกี ารใชห้ ้องตามแผนทีก่ าหนด ๔) มีการดูแลรักษาใหอ้ ยใู่ นสภาพท่ดี ี ๕) มกี ารตดิ ตามประเมนิ ผลอย่างเปน็ ระบบ ๖) มีการจดั งบประมาณสนับสนนุ อยา่ งต่อเน่อื งโดยกาหนดในแผนปฏิบตั กิ าร ๗) มกี ารประกวดเพอ่ื ยกยอ่ งชมเชย ๗.๔ การบริหารห้องบริการ ๑. การจัดบรรยากาศห้องบริการจัดบรรยากาศของห้องบรรยากาศของห้องบริการให้เกิดความ สะอาด ความร่มรื่น ความสวยงามความปลอดภัย และความสะดวกในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี ๑) มีแสงสวา่ งเพียงพอ ๒) มีการตกแตง่ ทส่ี วยงาม ๓) มเี ครอื่ งอานวยความสะดวก เชน่ พดั ลม เคร่อื งปรบั อากาศ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ๔) มีอากาศถ่ายเทสะดวก ๕) ไม่แออัด ๖) มีป้ายนิเทศแสดงคาแนะนาการใช้ห้องเรียน ระเบียบปฏิบัตแิ ละสถิตขิ ้อมูล ๒. การใชแ้ ละการดูแลรกั ษาหอ้ งพเิ ศษมแี ผน ตารางและระเบียบการใชห้ ้อง ๑) มกี ารมอบหมายให้ผูร้ บั ผดิ ชอบเป็นลายลักษณอ์ ักษร ๒) มีการใชห้ อ้ งตามแผน และตารางทกี่ าหนด ๓) มีการดแู ลรักษาใหอ้ ยใู่ นสภาพทีด่ ี ค่มู อื ปฏิบัติงาน โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๕๐ ๔) มีการจัดงบประมาณสนับสนุนอย่างต่อเนื่องโดยกาหนดในแผนปฏิบัตกิ าร ๕) มกี ารบนั ทกึ สถิตกิ ารใชห้ อ้ ง ๖) มีการติดตามประเมินผลการใช้ห้องอย่างเปน็ ระบบ ๗) มกี ารประกวดการดแู ลรักษาและพัฒนาเพื่อยกย่องชมเชย ๘) มกี ารเกบ็ รวบรวมผลงานเพื่อการประชาสมั พันธ์ ๗.๕ การบริการห้องพเิ ศษ ๑. การจัดบรรยากาศห้องพิเศษจัดบรรยากาศห้องพิเศษให้เกิดความสะอาด ความร่มรื่น ความสวยงาม ความปลอดภยั และความสะดวกในเรือ่ งตอ่ ไปนี้ ๑) มีแสงสวา่ งเพยี งพอ ๒) มกี ารตกแต่งท่สี วยงามและมีบรรยากาศเอ้ือต่อการเรยี นรู้ ๓) มีเคร่ืองอานวยความสะดวก เช่น พดั ลม เคร่อื งปรบั อากาศ คอมพวิ เตอร์ ฯลฯ ๔) มอี ากาศถา่ ยเทสะดวก ๕) ไมแ่ ออดั ๖) มปี า้ ยบอกวิธีทางาน แนะนาเทคนคิ วธิ กี ารใชเ้ ครือ่ งมอื ๗) มปี ้ายเตอื นเรื่องความปลอดภยั ๘) มอี ุปกรณร์ ักษาความปลอดภยั ๙) มีป้ายแนะนาการบารุงรกั ษาเคร่ืองมอื ๒. การใชแ้ ละการดแู ลรักษาหอ้ งพิเศษ ๑) มีแผน ตารางและระเบียบการใช้หอ้ ง ๒) มีการมอบหมายใหผ้ ูร้ ับผิดชอบเปน็ ลายลักษณ์อักษร ๓) มีการใช้ห้องตามแผน และตารางทกี่ าหนด ๔) มีการดูแลรักษาใหอ้ ยู่ในสภาพท่ดี ี ๕) มีการจัดงบประมาณสนับสนุนอยา่ งต่อเนื่องโดยกาหนดในแผนปฏิบัติการ ๖) มีการบันทกึ สถติ กิ ารใช้หอ้ ง ๗) มีการติดตามประเมนิ ผลการใชห้ อ้ งอย่างเป็นระบบ ๘) มีการประกวดการดแู ลรกั ษาและพัฒนาเพื่อยกย่องชมเชย ๙) มีการเก็บรวบรวมผลงานเพือ่ การประชาสัมพนั ธ์ ๗.๖ การบรกิ ารอาคารประกอบ ๑. หอ้ งปฏิบัตงิ านการจัดห้องปฏิบตั ิงานจัดใหม้ หี ้องปฏิบัติงานอยา่ งเพยี งพอตามเกณฑ์มาตรฐาน ๒. อาคารโรงอาหาร การจดั อาคารโรงอาหาร ๑) มโี รงอาหาร ๒) มคี รภุ ณั ฑป์ ระจาโรงอาหาร ๓) มบี ุคลากรรบั ผิดชอบ ๔) มีอปุ กรณ์ เครอ่ื งมือ เครือ่ งใช้ และเครื่องอานวยความสะดวกอย่างเหมาะสม คมู่ ือปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๕๑ ๕) มีสภาพจัดใหบ้ ริการอยา่ งเหมาะสมคือ - มคี วามสะอาด - มีความเปน็ ระเบยี บ - มีแสงสว่างเพยี งพอ - มกี ารตกแตง่ ทสี่ วยงามและมบี รรยากาศทางวิชาการ - มีเคร่ืองอานวยความสะดวก เชน่ พดั ลมเครอ่ื งปรับอากาศ - มีอากาศถ่ายเท - มีป้ายบอกวิธีทางานและแนะนาเทคนิควธิ ีการควบคมุ เครื่องมือ - มีปา้ ยเตอื นเรอ่ื งความปลอดภยั - มปี ้ายแนะนารกั ษาเคร่ืองมอื ๓. อาคารหอประชมุ /ห้องประชุม ๑) มีหอประชมุ /ห้องประชมุ และครุภณั ฑป์ ระจาหอประชมุ ๒) มบี คุ ลากรรบั ผิดชอบ ๓) มีครภุ ณั ฑ์ และอุปกรณอ์ านวยความสะดวก ๔) มกี ารจดั การตามสภาพใหบ้ ริการอยา่ งเหมาะสม ๔. อาคารหอ้ งน้า – หอ้ งสว้ ม ๑) มีห้องน้าห้องส้วมทสี่ ะอาด ถกู สุขลักษณะ ๒) มปี รมิ าณเพียงพอตามเกณฑ์ ๓) มกี ารจัดบุคลากรดูแลรับผิดชอบ ๗.๗ การใหบ้ ริการน้าด่ืม ๑) มชี ุดอุปกรณก์ รองน้าเพือ่ ผลติ นา้ ดม่ื ๒) มนี า้ ดมื่ สะอาดถกู สุขลกั ษณะ และเพียงพอกับจานวนผู้บริโภค ๓) มีการตรวจสอบถงั บรรจุน้า และชดุ อุปกรณ์ผลติ นา้ ดืม่ ให้ถูกสขุ ลักษณะ ๔) มกี ารตรวจสอบคณุ ภาพน้า เปน็ ประจา ๕) มกี ารรณรงคใ์ ห้ความรู้ และเห็นคณุ คา่ ของการผลติ และการบริโภคน้าด่มื ทีส่ ะอาด หรือการจาหนา่ ย ๗.๘ การส่งเสริมสขุ ภาพอนามยั ๑) มแี ผนการจัดกิจกรรมส่งเสรมิ สขุ ภาพอนามัย ๒) มีนักเรียน และบุคลากรได้รับการตรวจสุขภาพอนามยั ประจาปี ๓) มีการประสานการดาเนินงานในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอนามัยอย่างต่อเนื่อง และสม่าเสมอและมีการส่งตอ่ ไปยงั หน่วยงานที่เก่ยี วข้อง ๔) มีการประเมินผลการดาเนนิ งานการสง่ เสรมิ สุขภาพอนามยั ๕) มกี ารนาผลการประเมินไปปรับปรุงกระบวนการสง่ เสรมิ สขุ ภาพอนามยั อยา่ งต่อเนอื่ ง คมู่ อื ปฏบิ ัติงาน โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๕๒ ๗.๙ การส่ือสาร การจัดการส่ือสารมีปรมิ าณอุปกรณส์ ือ่ สาร ดงั ต่อไปน้ี ๑) โทรทัศน์ ๒) วดี ีทศั น์ ๓) วิทยุสื่อสาร ๔) โทรศพั ทภ์ ายใน ๕) โทรศัพท์มอื ถอื ๖) โทรสาร ๗) จานรับสญั ญาณดาวเทยี ม ๘) การส่อื สารผ่านระบบ LAN (LOCAL AREA NETWORK) ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ๙) การส่ือสารผา่ นระบบ INTERNET ๑๐)การสือ่ สารผ่านระบบ WIRELESS ๑๑)การสือ่ สารผ่าน WEBSITE ของโรงเรียน ๑๒)อปุ กรณก์ ารศกึ ษาอื่นๆ การดาเนนิ งานดา้ นการส่ือสาร ๑) มกี ารจดั ระบบสื่อสาร ๒) มผี รู้ บั ผิดชอบเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร ๓) มแี นวปฏิบัติ และใหบ้ รกิ ารส่อื สาร ๔) มีการประเมินผลการจัดการส่อื สาร ๕) มกี ารปรบั ปรงุ และพฒั นาการจดั การส่ือสาร ค่มู อื ปฏิบตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๘. การจดั ทาสามะโนผเู้ รียน เขตพื้นท่ีบริการท่โี รงเรียนรับผิดชอบของโ ที่ รหัส ร.ร. ช่อื โรงเรยี น หมูท่ ่ี ชือ่ บา้ น (... ตา

๓๕๓ โรงเรียนมธั ยมศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๕…….. ตาบล อาเภอ สนง.ปส. จงั หวดั ขอรับรองข้อมลู ถกู ตอ้ ง .....................................................................) าแหนง่ ........................................................... คู่มอื ปฏิบัตงิ าน โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๕๔ รายชื่อน แบบเก็บขอ้ มูลสามะโนประชากรวัยเรียน ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕…… โรงเรยี น..........................รหัสโรงเรียน(๖ หลกั )............ท่อี ขอ้ มูลนกั เรียน ลาดบั เลข คา ช่อื นามสกลุ วัน/เดอื น/ อายุ สัญชาติ เชื้อ ศาสนา รหสั บา้ นเลขที่ หมู่ ตรอก ซอย ประจาตัว นา ปเี กิด ชาติ ประจา ท่ี ถนน ที่ หน้า (ปี/ ตัว ประชาชน นาม เดือน) บ้าน คมู่ อื ปฏบิ ัติงาน โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา

นักเรยี น อยู่ หมทู่ ่.ี ............ตาบล................อาเภอ..........................................จังหวดั …………………………สนง.ปส.กลมุ่ ท…่ี ………… ข้อมลู บิดา ขอ้ มูลบิดา ตาบล อาเภอ กาลังศกึ ษา ไม่ไดเ้ ขา้ เลข คานา ชือ่ นามสกุล เลข คา ช่ือ นามสกลุ เรยี น ประจาตวั ประจาตัว นา โรงเรยี น/ หนา้ ชนั้ อาเภอ/ (ระบุ ประชาชน นาม ประชาชน หนา้ สาเหตุ) นาม จงั หวัด ขอรับรองขอ้ มลู ถูกต้อง (.......................................................................) ตาแหน่ง...........................................................

๓๕๕ ๙. การจัดการเรยี นรู้นอกสถานที่ ความหมายการจัดการเรียนรโู้ ดยการไปศกึ ษานอกสถานทเ่ี ป็นกระบวนการเรียนรู้ท่ีนาผู้เรียน ออกไปศกึ ษาเรยี นรู้ ณ สถานทท่ี เ่ี ปน็ แหลง่ ความรใู้ นเรือ่ งนน้ั (ซ่ึงอยู่นอกสถานท่ีเรียนรู้กันอยู่โดยปกติ) โดยมีการศึกษาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในสถานที่นั้นๆตามกระบวนการหรือวิธีการที่ผู้สอนและผู้เรียนได้ ร่วมกันวางแผนไว้และมีการอภปิ รายสรุปผลการเรยี นรู้จากข้อมูลท่ไี ดจ้ ากากรศึกษาเรียนรู้ข้ันตอนการ จัดการเรยี นรูก้ ารจดั การเรยี นรโู้ ดยการไปนอกสถานที่มขี ้นั ตอนดงั นี้ ๙.๑ ข้ันวางแผน เป็นข้ันตอนท่ีผู้เสนอและผู้เรียนร่วมกันเตรียมก่อนท่ีจะไปนอกสถานท่ี ซึ่งควรประกอบด้วย เร่ืองต่อไปน้ี ๑. กาหนดวตั ถุประสงคข์ องการไปศกึ ษา ๒. กาหนดหวั ข้อเร่ืองทจ่ี ะศกึ ษา ๓. กาหนดโรงเรียนท่ีท่ีจะไปนอกสถานที่เมื่อมีการกาหนดวัตถุประสงค์และหัวข้อท่ีกาหนด ผู้เรียนควรมีส่วนในการเลือกสถานท่ีท่ีจะไปศึกษา ซึ่งเมื่อมีการกาหนดสถานที่แน่ชัดแล้ว ผู้สอนหรือ ผู้เรียนบางคนควรจะหาโอกาสไปสารวจสถานที่น้ันก่อน จะช่วยให้ได้ข้อมูลที่ดีในการวางแผนการ เดินทางและการหาความรู้ต่อไป ๔. กาหนดการเดินทาง ได้แก่ โปรแกรมการเดนิ ทางทม่ี กี าหนดเวลาทแี่ นน่ อน ๕. กาหนดการเดนิ ทาง ได้แก่ ทั้งการตดิ ตอ่ ยานพาหนะ เสน้ ทาง การเดินทาง ๖. ค่าใช้จ่าย มีการประมาณการค่าใช้จ่ายในการไปนอกสถานที่ทั้งหมด ซึ่งหากงบประมาณ ทีเ่ ตรียมไม่เพยี งพอ ผู้เรียนอาจจะตอ้ งช่วยออกคา่ ใช้จา่ ยบางสว่ นเพิ่มเติม ๗. กาหนดกิจกรรมหรือวิธีการที่จะศึกษา เช่น จะใช้วิธีการสังเกต การจดบันทึก อัดเทป ถ่ายภาพ ถา่ ยวิดที ัศน์ สัมภาษณ์ ลงมือปฏิบัติ หรือทดลอง เป็นต้น ซ่ึงวิธีการใดจาเป็นต้องใช้อุปกรณ์ ก็จะต้องมีการจัดเตรียมใหเ้ รยี บรอ้ ย ๘. กาหนดหนา้ ทรี่ ับผิดชอบ ควรกาหนดและแบ่งหน้าท่ีความรบั ผิดชอบให้ผู้เรียนทุกคนอย่าง ชัดเจน ควรจัดทาเป็นเอกสารแจกสมาชิกทุกคนให้รับรู้ตรงกัน หรือกรณีผู้สอนแบ่งผู้เรียนออกเป็น กลุ่มควรใหโ้ อกาสสมาชกิ ประชุมปรึกษาหารือกัน เพอ่ื ใหไ้ ด้ข้อตกลงร่วมกนั ๙. ตดิ ต่อขออนุญาตผบู้ ังคับบญั ชาที่มอี านาจอนญุ าตตามระเบียบของทางราชการ ๑๐. ขออนุญาตผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งการตอบรับจากผู้ปกครองพร้อม ค่าใช้จา่ ยสมทบ (ถ้าม)ี ๑๑. ตดิ ต่อสถานทีแ่ ละวิทยากรหรือผมู้ ีส่วนเกยี่ วข้องที่จะไปนอกสถานที่ในจดุ ตา่ งๆ ๑๒. ตดิ ต่อเพือ่ ขอทาประกันอุบตั เิ หตใุ นการเดินทางของคณุ ทุกคน ๙.๒ ขน้ั การเดนิ ทางไปนอกสถานที่ เป็นการเดินทางไปนอกสถานท่ีตามโปรแกรมท่ีกาหนดไว้ ซ่ึงผู้สอนควรดูแลเอาใจใส่ใน เร่อื งความปลอดภัย สังเกตพฤติกรรมของผู้เรยี นและใหค้ าปรึกษาแนะนาตามความเหมาะสม คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๕๖ ๙.๓ ข้ันการศึกษาเรยี นรู้ในโรงเรียนที่หรือแหลง่ เรยี นรู้ เมื่อเดนิ ทางไปถึงยงั สถานทเ่ี ปา้ หมายแล้ว ผู้สอนควรจัดประชุมผู้เรียนท้ังหมดก่อนที่จะปล่อย ใหผ้ ู้เรียนไปศกึ ษาเรยี นรูต้ ามทไี่ ดร้ ับมอบหมาย โดยมกี ารย้าหรือทบทวนเก่ียวกับเรื่องวัตถุประสงค์ของ การศึกษา การเคารพต่อกฎเกณฑ์ กติกาของสถานที่ ความปลอดภัย วิธีการศึกษา การนัดหมาย และการตรงต่อเวลา เป็นต้น ผู้สอนคอยสังเกตการณ์ ดูแล ช่วยเหลือให้ผู้เรียนมีการศึกษาเรียนรู้ คอยไตถ่ ามถึงการทากจิ กรรมตา่ งๆตามท่ีเตรียมไวเ้ พื่อให้ได้ข้อมลู มากทีส่ ุด ๙.๔ ข้นั การเดนิ ทางกลบั เป็นการเดินทางกลับหลังจากที่ได้ศึกษาเรียนรู้ตามโปรแกรมท่ีกาหนด ซ่ึงผู้สอนควรจะดูแล เอาใจใส่ในเรื่องความปลอดภัย สังเกตพฤติกรรมผู้เรียนและให้คาปรึกษาหรือแนะนาตาม ความเหมาะสม (ซึ่งในการเดินทางทั้งไปและกลับ หากไม่มีเหตุจาเป็นไม่ควรจะมีการเดินทางนอก เส้นทางตามทกี่ าหนดหรอื ขออนุญาตไว้ ซง่ึ อาจเกดิ ปญั หาขึ้นมาได้) ๙.๕ ขน้ั สรปุ ผลการเรียนรู้ อาจทาไดด้ ังน้ี ๑. สรุปผลการเรียนรู้ทันที ในกรณีท่ีสามารถจัดสรรเวลาได้ ไม่ควรเร่งรีบเดินทางกลับ ควรให้โอกาสผู้เรียนสรุปผลการเรียนรู้ทันที ณ สถานที่ศึกษาดูงานจะทาให้ได้ผลดีมาก เพราะยังจา ความคดิ ประสบการณ์ ข้อมูลและความรู้สึกต่างๆไดด้ ี ๒. สรุปการเรียนรู้หลังจากกลับถึงโรงเรียน ซ่ึงโดยทั่วไปหลังจากการศึกษาเรียนรู้แล้ว ผูส้ อนและผู้เรียนมักจะไมม่ ีเวลาสรุปทันที ดังน้ัน เม่ือเดินทางกลับถึงโรงเรียนแล้วควรรีบหาโอกาสให้ ผเู้ รียนสรุปผลการเรยี นรโู้ ดยเรว็ การสรุปผลการเรียนรู้ทาไดห้ ลายวิธี เช่น ใหผ้ ู้เรียนแต่ละคนนาเสนอประสบการณ์และข้อมูล ท่ีตนได้รับจากการศึกษาจะได้มีการอภิปรายร่วมกันในประเด็นหรือหัวข้อท่ีสาคัญ มีการสรุปให้ ครอบคลุมประเด็นการเรียนรู้ท้ัง ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ท่ีได้รับ ด้านเจตคติ และด้านทักษะ กระบวนการที่ใช้ในการแสวงหาความรู้ เช่น กระบวนการคิด กระบวนการทางานเป็นกล่มุ เปน็ ต้น ๙.๖ ขน้ั ประเมินผล เป็นข้ันตอนที่ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมิน เพื่อให้ทราบว่าการไปนอกสถานที่ครั้งน้ี เป็นอย่างไรเช่น บรรลตุ ามวัตถุประสงค์หรือไม่ ปัญหาและอุปสรรคมีอะไรบ้าง ตลอดจนข้อเสนอแนะ อืน่ ซง่ึ อาจประเมินได้จากการสอบถาม การสงั เกต หรอื ข้อเสนอแนะต่างๆ เป็นต้น คมู่ อื ปฏิบัตงิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๕๗ บนั ทกึ การไปศึกษานอกสถานที่ กลุ่มสาระการเรยี นร.ู้ ............................................................................................................................... ณ........................................................ ...................................................................................... ระหว่างวันท่ี..................เดอื น...........................................พ.ศ. ๒๕๕……. ชอื่ .................................................................................................ช้นั .................... ...เลขท่ี..................... ๑. ชื่อสถานท.ี่ ........................................................................................................................................ ทตี่ ั้ง...................................................................................................................... ........................... ความรูท้ ่ีได้รบั ………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… การนาไปใชป้ ระโยชน์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๒. ช่อื สถานท.ี่ ........................................................................................................ ............................ ท่ตี ้งั ...................................................................................................................... ........................ ความรทู้ ีไ่ ดร้ ับ………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… การนาไปใชป้ ระโยชน์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. คู่มือปฏิบตั งิ าน โรงเรียนพระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๕๘ ๓. ชื่อสถานท.่ี ................................................................................................................. .................. ที่ตงั้ ........................................................................................................................................... ...... ความร้ทู ่ไี ด้รับ………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… การนาไปใช้ประโยชน์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๔. ช่อื สถานท่ี.................................................................................................................. ................... ทีต่ ั้ง.............................................................................................................................................. ความรทู้ ่ีได้รบั ………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… การนาไปใชป้ ระโยชน์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ................................................ผ้บู นั ทึก (......................................................) ลงช่ือ.................................................ผ้รู ับรอง (.....................................................) คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามัญศึกษา

๓๕๙ ภาพประกอบรายงาน การศกึ ษาดูงานด้าน........................................................................................................ วนั ท่.ี ...............เดือน....................................................พ.ศ. ๒๕๕.......... คู่มือปฏิบัตงิ าน โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๖๐ ๑๐. งานกจิ การนักเรยี น งานกิจการนักเรียน เป็นอีกหนึ่งภาระงานท่ีสาคัญ โรงเรียนมีบทบาทหน้าที่จัดระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียนอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ รู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล มีข้อมูลสารสนเทศ เก่ียวกับผู้เรียนท่ีครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน เพื่อช่วยให้ครูเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนานักเรียน โดยผ่าน กระบวนการวางแผน และการบรหิ ารจดั การเพ่ือสรา้ งคณุ ลักษณะพงึ ประสงค์ของผู้เรียน ให้สอดคล้อง กับภาวะเศรษฐกิจสังคม การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่ิงแวดล้อม เทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงอย่าง รวดเรว็ นอกจากนี้ต้องพฒั นาผู้เรียนใหม้ ีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม มรี ะเบียบวินยั ภาคภูมใิ จในความเป็นไทย เกิดการเรียนรู้ระบบประชาธิปไตยผ่านกระบวนการและกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียน เทิดทูน และ จงรักภักดีสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีจิตสาธารณะ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ปรับตัว มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน สามารถเลือกดาเนินชีวิตอย่างผู้มีภูมิรู้ และมีภูมิธรรม โดยมีโครงสร้าง ในการบรหิ าร ดังนี้ ๑๐.๑ งานวางแผนงานกิจการนักเรียน - รวบรวมข้อมูล ระเบียบ และแนวปฏิบัติทางราชการเกี่ยวกับงานกิจการนักเรียน ระเบยี บ และแนวปฏิบัติทางราชการท่ีเป็นปัจจุบัน จัดทาระเบียบและแนวปฏิบัติ จัดทาระเบียบและ แนวปฏิบัติ คู่มือครู คู่มือนักเรียนขึ้นใช้ในโรงเรียน เผยแพร่ให้ผู้เก่ียวข้องทราบ ปรับปรุงระเบียบ และแนวปฏบิ ัตใิ หเ้ ป็นปัจจุบนั - จัดทาข้อมูลเก่ียวกับงานกิจการนักเรียน แผนงานกิจการนักเรียนเป็นลายลักษณ์ อักษร มีผู้รับผิดชอบในการปฏบิ ตั ิตามแผน ดาเนินการตามแผน ติดตามประเมนิ ผล ๑๐.๒ งานบริหารงานกจิ การนักเรยี น - กาหนดขอบข่ายงานกิจการนักเรียน ทาแผนภูมิงานกิจการนักเรียน พรรณนางาน กิจการนักเรียน กาหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบครบทุกงานตามแผนภูมิของโรงเรียน มีการเผยแพร่ ประชาสมั พันธ์ - ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในโรงเรียน ระหว่างโรงเรียน เครือข่าย ผปู้ กครอง หน่วยงานท่ีรับผดิ ชอบเก่ียวกบั เยาวชนอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตดิ ตามและประเมนิ ผล - วางแผน กาหนดแนวทางการส่งเสริมการจัดกิจกรรมนักเรียน โดยให้นักเรียนได้มี ส่วนร่วมในกระบวนการวางแผนจัดกิจกรรมอย่างหลากหลายตามความถนัด และความสนใจ ของนักเรียน ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกปฏิบัติให้ทาได้ ทาเป็น รักการอ่าน และ เกิดการใฝอ่ ยา่ งต่อเน่อื ง - ออกคาสั่งท่ีเกี่ยวข้อง จัดเก็บข้อมูล สารสนเทศ งานต่างๆของกลุ่มกิจการนักเรียน ให้เป็นปัจจุบัน ควบคุมดูแลงานธุรการ จัดทาแบบฟอร์มการทางานที่เกี่ยวข้อง ดาเนินกิจกรรมของ คณะกรรมการผู้ปกครองเครือข่าย ดูแล และควบคุม การอนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนให้เป็นไป ตามระเบียบและนโยบายของโรงเรียน ๑๐.๓ งานสง่ เสริมพัฒนาใหน้ กั เรียนมวี ินยั คณุ ธรรม จริยธรรม - จัดกิจกรรมการส่งเสริมพัฒนาความประพฤติและระเบียบวินัย ได้แก่ การตรงต่อ เวลา ความสะอาด การแต่งกาย การเข้าแถว การแสดงความเคารพ การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ และแนวทางปฏบิ ัตขิ องโรงเรยี น คมู่ ือปฏิบตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๓๖๑ - จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาด้านคุณธรรมจริยธรรม ได้แก่ กิจกรรมที่สอดคล้องกับ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ คือ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน รกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ - จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ได้แก่ การบาเพ็ญตน ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ การปฏิบัตติ ามกฎหมาย การพฒั นาสาธารณสถาน ฯลฯ - ยกย่อง ให้กาลังใจ นักเรียนท่ีประพฤติดีให้ปรากฏ มีการบันทึกเกียรติประวัติ ของนกั เรียนไว้เป็นหลกั ฐาน ๑๐.๔ งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี น -การจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยแต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินงานเป็นลาย ลักษณ์อักษรจัดทาแผนงาน/โครงการ ดาเนินงานตามแผนประเมินผลการดาเนินงาน และนาผลการ ประเมนิ ไปใชใ้ นการพฒั นางาน -มอบหมายให้ครูผู้ดูแลรับผิดชอบกลุ่มนักเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร ดาเนิน การศึกษานักเรียนเป็นรายบุคคลจนครบทุกคน จัดทาเอกสารหลักฐานข้อมูลนักเรียน และวิเคราะห์ ขอ้ มลู เพอื่ จัดกลุม่ นักเรียน -การคัดกรองนักเรียน จัดทาเคร่ืองมือสาหรับใช้ในการคัดกรองนักเรียน ประชุม ช้ีแจงครูเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการคัดกรองนักเรียน คัดกรองนักเรียนตามแนวปฏิบัติ โดยมี คณะกรรมการร่วมพิจารณาผลการคัดกรองนักเรียนจาแนกนักเรียนออกมาอย่างชัดเจน และ ครอบคลุมทกุ กลมุ่ -การดาเนินงานป้องกันการแก้ไขปัญหานักเรียนจัดทาข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนท่ีมี ปัญหาท่ีเป็นกลุ่มเสียง และกลุ่มมีปัญหา กาหนดแนวทาง วิธีการป้องกันแก้ไข และแก้ไขตามวิธีท่ี กาหนดไว้ แก้ปัญหาร่วมกันกับบุคคล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามประเมินผลและนาผลการ ประเมินไปใชป้ รับปรงุ และพฒั นางาน -การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพนักเรียน จัดทาข้อมูลนักเรียนท่ีควรได้รับการ ส่งเสริมและพัฒนา กาหนดแผนงาน/โครงการ ดาเนินงานตามแผนงาน/โครงการ ดาเนินงานร่วมกับ หน่วยงานท่ีเกยี่ วขอ้ ง ติดตาม ประเมินผล และนาผลการประเมนิ ไปใชป้ รับปรงุ พัฒนางาน -การส่งต่อนักเรียน จัดทาข้อมูลนักเรียนที่ควรได้รับการส่งต่อ มีแนวปฏิบัติในการ ส่งต่อนักเรียนท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่กาหนดไว้ ประสานความ รว่ มมือกบั หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ติดตามประเมนิ ผล และนาผลการประเมนิ มาปรับปรุงพฒั นางาน ๑๐.๕ งานส่งเสริมประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น จดั ให้มีการชแ้ี จงเผยแพรห่ ลกั การประชาธิปไตยในโรงเรียน จัดทาแผนงาน/โครงการส่งเสริม ประชาธิปไตยในโรงเรียน จัดกิจกรรมตามแผนงาน/โครงการเป็นประจา นิเทศ กากับ ติดตาม ประเมินผลและพฒั นางานอย่างต่อเน่ือง คู่มอื ปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๖๒ ๑๐.๖ งานหัวหน้าระดบั -ประชุม วางแผน จัดทาแผนปฏบิ ตั ปิ ระจาปี กากับ ติดตาม ดูแล สอดส่อง ว่ากล่าว ตักเตือน อบรม ตัดคะแนน เพ่ิมคะแนนนักเรียน ให้นักเรียนประพฤติตามกฎ ระเบียบ ธรรมเนียม ปฏิบตั ิของโรงเรียน -ดาเนนิ กิจกรรมประชมุ ระดับตามบริเวณที่กาหนด จัดอบรมเนน้ นโยบายคุณธรรม ๙ ประการ -ประสานงานกับครูท่ีปรึกษาในระดับ ผู้ปกครองนักเรียน สานักงานกลุ่มกิจการ นักเรียน ติดตามผลการเรียนของนักเรียน และการสอนซ่อม หรือการแก้ไขพฤติกรรมของนักเรียน ในระดบั -เปน็ กรรมการในการพจิ ารณาโทษนกั เรียนท่กี ระทาผิด ตรวจเคร่ืองแบบ เคร่ืองแต่ง กายนักเรียนตามปฏทิ ินปฏบิ ตั งิ านของโรงเรียนกาหนด -สรุปผลการปฏบิ ัติงานเมอ่ื สิน้ ภาคเรียน ๑๐.๗ งานคณะกรรมการนกั เรยี น -ประชุม วางแผน จัดทาแผนปฏิบัติงานประจาปี กากับ ติดตาม ดูแล สอดส่อง ว่ากล่าวตักเตือน ตัดคะแนนนักเรียนให้ประพฤติตามกฎ ระเบียบ ธรรมเนียมปฏิบัติของโรงเรียน ออกตรวจนอกพน้ื ทีโ่ รงเรียนเพอื่ ป้องกนั การหนีเรยี น และมั่วสุมของนกั เรยี น -ประสานงานครูท่ีปรึกษา หัวหน้าระดับ หรือหน่วยงานอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้อง สรุปผล การปฏิบัตงิ านทกุ วนั และเมื่อสิ้นภาคเรียน ๑๐.๘ งานป้องกันสารเสพตดิ -ประชุม วางแผน จัดทาแผนปฏิบัติงานประจาปี กากับ ติดตาม ดูแล ดาเนิน กิจกรรมสง่ เสรมิ และแก้ไขปัญหาการใช้สารเสพตดิ ในโรงเรียน เช่น การสุ่มตรวจปัสสาวะ การรณรงค์ ต้านยาเสพติด การประกวดคาขวัญ เรียงความ วาดภาพต้านยาเสพติด การจัดคลินิกสุขภาพ จัดตั้ง การจัดกิจกรรม FRIEND CORNER การจดั ต้ังชมรมการเข้าค่ายเยาวชนตา้ นยาเสพตดิ ฯลฯ -ประสานงานครูท่ีปรึกษา หัวหน้าระดับ หรือหน่วยงานอ่ืนๆที่เกี่ยวข้อง -สรุปการปฏิบัติงาน เมื่อสิ้นภาคเรียน ๑๐.๙ งานประเมินผลการดาเนินงานกจิ การนกั เรียน จัดทาการประเมินผลงานกิจการนักเรียน โดยจัดให้มีการประเมินผลในระดับหน่วยงานย่อย ภายในโรงเรยี นในรปู แบบของคณะกรรมการ วิเคราะห์ผลการประเมินผลงานกิจการนักเรียน และนา ผลการวิเคราะหไ์ ปใช้ในการปรบั ปรุงพฒั นาการดาเนนิ งานกิจการนักเรียน ๑๑. การประชาสมั พันธ์งานการศึกษา ผลแห่งความสาเร็จใด ๆ ในการบริหารจัดการหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โรงเรียน/โรงเรียน”เป็นส่ิงท่ีบ่งบอกถึงประสิทธิภาพระบบงานของหน่วยงานหรือองค์กรนั้น ๆ เป็นประการสาคัญ กลยุทธ์หนึ่งซึ่งจะเกื้อหนุนให้ระบบงานบรรลุผลแห่งความสาเร็จก็คือ “การประชาสัมพันธ์”เปน็ กลยทุ ธ์ของการสอ่ื ความหมาย (Communication) จากหน่วยงานหรือองค์กร เพอ่ื ใหบ้ คุ คลหรือชุมชน ได้รับทราบในผลของการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลายเกิดเป็นพลวัต (Dynamic) คู่มอื ปฏบิ ตั ิงาน โรงเรียนพระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา

๓๖๓ ของการทางานที่มีพลังเพ่ิมมากข้ึนซึ่งแน่นอนเหลือเกินว่าประสิทธิภาพของการส่ือความหมายท่ีดีย่อม ก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ในเชิงสร้างสรรค์ เกิดความร่วมมือ และเกิดการยอมรับร่วมกัน ในสังคมโดยรวม ๑๑.๒ การประชาสมั พนั ธ์ ความหมายและขอบขา่ ย การประชาสัมพันธ์ตรงกับคาในภาษาอังกฤษคือ Public Relations: PR มีความหมาย และความสาคัญ โดยสรปุ ดงั นี้ ความหมายของการประชาสมั พันธ์ถ้าตีความด้านภาษา อาจมีความหมาย ได้ ๓ ทางด้วยกันกล่าวคอื ๑) หมายถงึ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสถาบนั หรือบุคคล กับกลมุ่ บุคคลหรือประชาชน ๒) หมายถงึ ช่องทางหรอื เคร่ืองมือท่ีใชเ้ พือ่ สื่อความสัมพนั ธ์ ๓) หมายถงึ ปริมาณ สภาพ คุณภาพ หรือฐานะของความสัมพันธ์ของสถาบันหรือบุคคลกับกลุ่ม บุคคลหรือประชาชนเอ็ดเวอร์ด เบอร์เนย์ (Edward L. Bernays) กล่าวว่าการประชาสัมพันธ์มี ความหมาย ๓ ประการ คือ ๑) เผยแพรใ่ ห้ประชาชนทราบ ๒) ชักชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปรับปรุงและเห็นชอบกับวัตถุประสงค์และวิธีการ ดาเนนิ งานของสถาบนั ๓) ช่วยให้วัตถุประสงคแ์ ละวิธกี ารดาเนินงานผสมผสานกลมกลนื กับความคดิ เห็นของประชาชน ท่ีเกี่ยวข้องในขณะเดียวกันได้มีการนิยามความหมายและคาจากัดความของ “การประชาสัมพันธ์” ไว้หลากหลายและน่าสนใจ เช่น - การประชาสัมพันธ์เป็นผลรวมแห่งความรู้สึกทั้งหลายท่ีเกิดข้ึนโดยสถาบันเอง และโดยบุคคล ตา่ งๆที่เก่ียวข้องกับสถาบันนั้น - การประชาสัมพันธ์คือการดาเนินงานประเมินผลทัศนคติของกลุ่มชน จนสามารถให้ ข้อเสนอแนะในการดาเนินนโยบายแก่หน่วยงานหรือบุคคล เพื่อให้ได้รับความเข้าใจและเป็นที่ยอมรับ ของประชาชน - การประชาสมั พนั ธเ์ ป็นผลรวมแห่งความรสู้ ึกทัง้ หลายท่ีก่อให้เกิดข้ึนโดยสถาบันเองและบุคคล ต่างๆที่เกย่ี วข้องกับสถาบันน้นั - การประชาสัมพันธ์คือการดาเนินการเพื่อชักจูงใจ หรือความคิดเห็นของประชาชนตาม แผนการทีก่ าหนดไว้โดยใชว้ ธิ กี ารท่ีหลากหลาย ดังนั้น อาจสรุปได้ว่า “การประชาสัมพันธ์ คือ ความพยายามของหน่วยงานหนึ่งท่ีสร้าง หรือปรับความสัมพันธ์กับกลุ่มชนหรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีที่จะนาไปสู่ การบรรลุเป้าหมายท่ีหนว่ ยงานน้ันได้วางไว้โดยราบรนื่ ” ๑๑.๓ ลักษณะสาคญั ของการประชาสมั พันธ์ จากนิยามศัพท์ท่ีกล่าวถึงเบ้ืองต้น อาจจาแนกให้เห็นลักษณะสาคัญของการประชาสัมพันธ์ วา่ จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบสาคัญดงั ต่อไปน้ี กลา่ วคือ ๑) มีสถาบัน องค์กร สมาคม หน่วยงานราชการโรงเรียน ฯลฯ ที่ก่อตั้งข้ึนโดยมีความมุ่งหมาย วัตถุประสงค์แน่นอน ๒) มกี ารวางแผน ไตรต่ รอง ใคร่ครวญ ซ่งึ หมายถงึ มจี ุดประสงคท์ ีช่ ัดเจนในภารกิจงาน คูม่ ือปฏิบัติงาน โรงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๖๔ ๓) มีการส่ือสัมพันธ์แบบทางคู่หรือยุคลวิธี (Two-way Communication) ในการดาเนินงาน ซึ่งจะทาใหก้ ารส่ือความหมายเปน็ ที่เขา้ ใจทง้ั ผใู้ หแ้ ละผ้รู บั ข้อมูลข่าวสาร ๔) มีการจงู ใจและโนม้ น้าวทา่ ทีความรู้สึก เพ่อื กอ่ ใหเ้ กิดความศรทั ธา รว่ มมือ สนับสนุน ๕) มีการสือ่ สารสมั พันธ์กบั คนกล่มุ ใหญ่ (Mass) มากกวา่ รายบุคคล (Individual) ๖) เปน็ การกระทาท่ีตอ่ เน่ืองอย่างไม่ลดละ (On – going Process) ๗) มปี ระชามติเป็นบรรทัดฐาน ๑๑.๔ โรงเรียนกบั การประชาสัมพันธ์ของโรงเรยี น/โรงเรยี น โรงเรียน/โรงเรียน เป็นสถาบันทางสังคมที่มีความสาคัญย่ิง และมีบทบาทในการสร้างสรรค์ สังคมด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ดังน้ัน จึงต้องมีการกาหนดเป็นยุทธศาสตร์ด้าน การประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชนให้บังเกิดขึ้น เน่ืองจาก เหตุผลสาคญั ในประเด็นตอ่ ไปนี้ ๑) ในสงั คมประชาธิปไตย รัฐมีข้อผกู พันท่ีจะต้องแจ้งกจิ กรรมต่างๆที่ได้ดาเนินงานให้ประชาชน รับทราบ ซ่ึงโรงเรียนเป็นหน่วยงานหน่ึงของรัฐ จึงมีความจาเป็นที่จะต้องเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ ท่โี รงเรียนได้กระทาลงไปใหป้ ระชาชนได้รับทราบ ๒) กิจการใดๆของโรงเรียนจะสาเร็จมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับความสนใจ ความเข้าใจ ความมน่ั ใจที่ประชาชนให้กบั โรงเรียน ๓) การศึกษาท่ีนักเรียนจะได้รับ หากจะให้ดีท่ีสุดย่อมต้องช่วยเหลือ หรือร่วมมือระหว่างสังคม ที่เก่ียวข้องกับวิถีชีวิตของนักเรียน โรงเรียนเป็นเพียงส่วนหน่ึงของส่ิงที่จะช่วยให้เกิดการศึกษาเรียนรู้ ทงั้ หมด ๔) ด้วยการประชาสัมพันธ์ที่ดีเท่าน้ัน ท่ีจะเอาชนะอิทธิพลของกลุ่มอิทธิพลท่ีมุ่งผลประโยชน์ ของตนเอง ๑๑.๕ นโยบายการดาเนนิ งานประชาสมั พนั ธใ์ นโรงเรยี น การประชาสัมพันธ์ในโรงเรยี น ควรดาเนนิ นโยบายทสี่ าคัญ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) โรงเรียนควรแจ้งข่าวสารการดาเนินงานของโรงเรียนอย่างสม่าเสมอ เพื่อบุคคลฝ่ายต่างๆ จะได้ทางานประสานกันไดอ้ ย่างถูกตอ้ งในโอกาสเหมาะสม ๒) โรงเรียนควรสร้างความเชื่อถือกับบุคคลท่ัวไป เช่น ให้ผู้ปกครองไว้ใจว่าบุตรหลานของเขา ได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี หรือชุมชนมีความเช่ือถือในสถาบันคือโรงเรียนที่ต้ังอยู่ในชุมชนนั้นๆ เหล่านี้เป็นต้น ๓) ควรกาหนดโครงการปรับปรุงโรงเรียนอย่างเหมาะสม เช่น การสร้างอาคารสถานท่ี การปรับปรุงการเรียนการสอน งานสวัสดิการ สิ่งต่างๆเหล่าน้ีควรนาออกมาประชาสัมพันธ์ให้กับบุคคล กลมุ่ ต่างๆไดร้ บั ทราบ ๔) ส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ปกครองและครูในการแก้ไขปัญหาผู้เรียน โดยให้ ผปู้ กครองได้มโี อกาสพบปะกับครูเป็นครัง้ คราว เช่น งานประจาปีโรงเรยี น การประชุมผู้ปกครอง ๕) สร้างความสมั พนั ธ์ทีด่ ีระหว่างบา้ น – โรงเรียน – ชุมชน ในส่วนที่จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชน เช่น การให้สถานที่โรงเรียนเป็นที่จัดงานการกุศล หรือการกุศล หรือการพัฒนาชุมชน การประชุม แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ คู่มอื ปฏบิ ัติงาน โรงเรียนพระปริยัตธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๓๖๕ ๖) หากเกิดปัญหาใดๆ หรือเกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ไม่ควรท้ิงไว้ต้องรีบแก้ไขปัญหาต่างๆ เหลา่ น้นั โดยเร็ว ๑๑.๖ จุดมงุ่ หมายของการประชาสมั พันธ์โรงเรียน ในการประชาสัมพันธ์โรงเรียน/โรงเรียนโดยท่ัวไปน้ันจะมีจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ที่สาคัญ ดงั ต่อไปนี้ ๑) เพื่อให้นักเรียน ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง เข้าใจระเบียบ เหตุผลและความจาเป็นท่ีจะต้องมี กฎระเบียบ ใหร้ ู้ให้เขา้ ใจเพื่อให้เกดิ ความรว่ มมือในการปฏิบตั ิ ๒) เป็นการรายงานให้ครู นักเรียน ผู้ปกครองและประชาชนให้ทราบเก่ียวกับการดาเนินงาน และกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ๓) เป็นการสร้างช่ือเสียง เกียรติคุณ ความเชื่อถือ เล่ือมใส ความนิยม ม่ันใจในโรงเรียนให้ เกดิ ข้ึนในหมูป่ ระชาชนท่วั ไป ๔) ส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสาคัญของการศึกษาให้ประชาชนเกิดความรู้สึกใน การเป็นเจา้ ของ เป็นหนา้ ท่ฐี านะประชาชนในท้องถิ่นท่ีจะต้องให้ความร่วมมือ ความสนใจ เข้ามามีส่วน ร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรยี น ๕) เชิญชวน ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเกื้อหนุน โรงเรยี นในเร่ืองของการศึกษา ทั้งดา้ นกาลงั กาย กาลงั ใจ รวมทัง้ ทนุ ทรัพย์ ๖) ส่งเสริมให้ครูกับนักเรียนและผู้ปกครองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา การศกึ ษาของเด็ก ครู โรงเรยี นและบา้ น ๗) เพ่ือให้โรงเรียนดาเนินนโยบายการเปิดประตู (Open Door Policy) โดยการเป็นศูนย์กลาง การบรกิ ารประชาคมด้านการศึกษา วัฒนธรรมและบริการ ๘) เพ่ือให้โรงเรียนได้มีโอกาสสนองตอบความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นเก่ียวกับ การศกึ ษาและเป็นประโยชนต์ ่อชุมชนอยา่ งแทจ้ ริง ๙) ช่วยแก้ไขปัญหาข้อแย้งต่างๆที่มีอยู่ระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองหรือชุมชนให้หมดสิ้นไป หรอื ดขี นึ้ ๑๐) เพอ่ื เปน็ การสรา้ งความเข้าใจทถี่ กู ต้องให้เกิดข้ึนท่ัวไปอย่างไม่จากัด โดยถือว่าโรงเรียนเป็น ของชุมชน เพ่ือชมุ ชน บริหารโดยผู้ท่ีอยู่ในชุมชนนน้ั ๑๑) เพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายต่างๆได้เข้ามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา เสนอแนะ เพ่ือปรับปรุง การศกึ ษาให้เปน็ ไปตามแนวความคิดความตอ้ งการของสังคม ท้องถิ่น มใิ ช่เพียงเป็นไปตามความต้องการ ของครหู รือโรงเรียนเท่านัน้ ๑๑.๗ สื่อทีใ่ ชใ้ นการประชาสมั พันธ์โรงเรยี น ส่ือ (Media) เป็นตัวกลางสาคัญในการเชื่อมโยงความรู้ความเข้าใจระหว่างโรงเรียน กับกลุ่มเป้าหมายทั้งภายในและนอกองค์กร การเลือก การผลิตและใช้ส่ือเพื่อการประชาสัมพันธ์ได้ อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพย่อมก่อให้เกิดผลในเชิงสร้างสรรค์ บรรลุตามเจตนารมณ์ที่องค์กร คาดหวังและตั้งเป้าหมายไว้สื่อหรือกิจกรรมที่นามาใช้ในการประชาสัมพันธ์โรงเรียนน้ันมีหลากหลาย ประเภทและวิธีการท่ีแตกต่างกันไปทั้งน้ีย่อมข้ึนอยู่กับจุดประสงค์และเป้าหมายท่ีตั้งไว้ ซึ่งส่ือหรือ กจิ กรรมเหลา่ น้นั อาจทาไดด้ ังตอ่ ไปน้ี คูม่ อื ปฏิบตั งิ าน โรงเรยี นพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา

๓๖๖ ๑) การจัดระบบการขยายเสียงภายในโรงเรียน ๒) การใช้ระบบการตดิ ตอ่ ภายใน (Inter-communication) ๓) การผลิตสื่อเทคโนโลยีประเภทต่างๆ เช่น สไลด์ เทปบันทึกเสียง วีดิทัศน์ จัดทาส่ือทางไกล ประเภทโทรทัศน์ ส่ืออินเตอร์เน็ต ทางWebsite โรงเรียน เป็นต้น เพ่ือประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ โรงเรยี น ๔) การทาบอรด์ (Board) สาหรับปดิ ป้ายประกาศ ๕) การจัดทาบอร์ดสาหรบั ติดรูปกิจกรรมตา่ งๆของโรงเรียน / นักเรียน ๖) การสง่ จดหมายถึงผู้ปกครองนักเรยี น ๗) การสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรยี นจัดทาหนังสือรุน่ ๘) การจดั ทาวารสารทางการศึกษาของโรงเรยี น ๙) การจดั นทิ รรศการ (Exhibitions) ๑๐) การรว่ มกจิ กรรมภายนอกโรงเรียน ๑๑) การใช้หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ช่วยในการประชาสัมพันธ์โรงเรียน ส่ือเพื่อใช้ใน การประชาสัมพันธ์โรงเรียนที่กล่าวไว้ในเบ้ืองต้น เป็นแนวทางที่เสนอแนะไว้เท่านั้นซ่ึงโรงเรียนสามารถ ปรับปรุงประยุกต์ส่ือเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้เหมาะสมกับหน่วยงาน/องค์กร รวมท้ังสภาพการณ์หรือ บริบท (Context) ที่เก่ียวข้อง ซ่ึงโรงเรียนแต่ละแห่งอาจมีการเลือกหรือปรับใช้ได้แตกต่างกันออกไป ขนึ้ อยู่กับศักยภาพขององค์กรเปน็ สาคัญ ๑๑.๘ ทา้ ยบท งานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนน้ันกว้างขวางและน่าสนใจ ที่สาคัญคือต้องพยายามให้ครูและ นักเรียนทุกคนเข้าใจว่า ทุกคนต้องช่วยกันรักษาช่ือเสียง เกียรติคุณ ทุกคนเป็นทูตประชาสัมพันธ์ ทตี่ ้องช่วยสง่ เสรมิ ซงึ่ กนั และกนั ควรระลึกไว้เสมอวา่ ชอ่ื เสยี งเกียรติคณุ ของโรงเรยี น ตลอดจนการนับถือ ยกยอ่ งของประชาชนจะมขี น้ึ ไม่ได้ ถา้ ครนู กั เรยี นไม่ทาตัวให้ดใี นสายตาของคนทัว่ ไป ๑๒. การรายงานผลการปฏบิ ัตงิ าน รายงานผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏิบตั หิ นา้ ท่ขี องข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ****************************** ๑. ขอ้ มลู ของผูร้ ับการประเมนิ ชือ่ -สกลุ ...............................................................................อายุ..............ปี อายรุ าชการ............ปี คุณวฒุ ิสงู สดุ ............................วิชาเอก................................จากสถาบนั การศึกษา......................... ตาแหน่ง ครมู ีวิทยฐานะ........................................โรงเรยี น........................อาเภอ........................ สานกั งานกลุม่ โรงเรยี นพระปรตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุม่ ท่ี........................................... รับเงินเดือนในอันดบั ............................. ขัน้ ...........................บาท ๒. การปฏบิ ัติงานในปที ข่ี อรบั การประเมนิ ๑. ปจั จุบันปฏบิ ตั กิ ารสอนในกลมุ่ สาระการเรียนรู.้ ....................................................................... วชิ าทส่ี อน............................................................................ชัน้ .............................. .................. รวมจานวนชว่ั โมงสอน.....................................................................................ชั่วโมง/สัปดาห์ ค่มู ือปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปริยัตธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๓๖๗ ๒. เปน็ ครูท่ปี รกึ ษา/ครูประจาช้นั ชั้น................................................................ .......................... ๓. กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นที่รับผิดชอบ ได้แก่..................................................................... ........ ๔. งานท่ีได้รบั มอบหมายจากโรงเรียนใหป้ ฏิบัติหนา้ ทใี่ นปจั จบุ นั นอกเหนอื จาก ๑-๓ ๔.๑.......................................................................................................................... ................. ๔.๒........................................................................................................................................... ๔.๓........................................................................................................................................... ๔.๔........................................................................................................................................... ๔.๕........................................................................................................................................... ๕. งานอื่นๆ ทป่ี ฏบิ ัตินอกเหนอื จาก ๑ – ๔ ๕.๑..................................................................................................................................... ...... ๕.๒........................................................................................................................................... ๕.๓........................................................................................................................................... ๖. ให้เขียนรายงานผลการปฏบิ ัตหิ น้าที่ท่สี อดคล้องกับผลการประเมิน ประกอบด้วย ก. คุณภาพการปฏิบตั ิงาน ๑. การจัดการเรียนรู้ ๑.๑ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ ๑.๑.๑ การวเิ คราะห์หลักสตู ร วิธดี าเนินการพัฒนา หลักสูตรและร่วมกันจัดทาหลักสูตรกับคณะครูในโรงเรียนโดยได้วิเคราะห์ความต้องการ ของผเู้ รยี น/ผูป้ กครอง/ชุมชน ในท้องถิ่นและได้ศึกษาวิธีการรูปแบบการจัดการเรียนการสอน เทคนิค การสอนเพ่ือเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยได้จัดทาคาอธิบายรายวิชาและ หน่วยการเรยี นรแู้ ละจาแนกเปน็ เนือ้ หาสาระ กิจกรรม และจุดประสงค์การเรียนรู้ นอกจากน้ีได้จัดทา หน่วยการเรียนรู้ (กระบวนการสอน) ซ่ึงแยกเป็นรายวิชาที่จัดทาวิเคราะห์หลักสูตรและหน่วยการ เรียนรู้ ดังนี้ ๑. กลุ่มสาระ................................................... ๒. กลมุ่ สาระ.............................................. ๓. กลุ่มสาระ................................................... ๔. กลมุ่ สาระ............................................... ผลการดาเนนิ การพัฒนา ได้ดาเนินการได้จัดทาเอกสารวิเคราะห์หลักสูตรกลุ่มสาระ............. ช้ัน................................ กาหนดการสอน/หนว่ ยการเรียนร้คู าสั่ง คณะกรรมการจัดทาหลักสตู รกล่มุ สาระ............................. ชั้น................................ (เอกสารอา้ งองิ ) ๑.๑.๒ การเตรียมเนือ้ หาสาระการเรยี นรู้ วธิ ีดาเนินการพัฒนา ศกึ ษาแนวทางการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยนาหน่วยการเรียนรู้ที่กาหนดไว้พิจารณา จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือให้สอดคล้องกับสภาพของท้องถ่ินหรือนโยบายท่ีโรงเรียนกาหนดไว้ และศึกษารูปแบบบูรณาการเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหา/สาระ/จุดประสง ค์เช่ือมโยงสู่ชุมชนของ ผ้เู รียน โดยสรุปข้นั ตอนการจัดทาแผนไว้ ดังน้ี คมู่ ือปฏบิ ัติงาน โรงเรยี นพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๓๖๘ - เลอื กรูปแบบการจัดการเรียนร้แู ละนาหนว่ ยการเรยี นรู้มาจัดทาแผนการจดั การเรียนรู้ - ตงั้ ช่ือแผนตามหวั ขอ้ สาระการเรียนรู้ - กาหนดจานวนเวลา ระบุระดบั ชั้น - วเิ คราะห์จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูร้ ายวิชา/รายปี/รายภาค - เลอื กจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ให้สมั พันธก์ บั หวั ข้อสาระการเรยี นรู้ - กาหนดจุดประสงค์นาทางตามลาดบั ของเนื้อหานัน้ ๆ - เลอื กกจิ กรรมและเทคนิคการสอนทเ่ี หมาะสม - ผลติ ส่อื /จัดทา/จัดหา อุปกรณใ์ ห้เหมาะสมกับสาระการเรียนรู้ - ลาดับขนั้ ตอนการจัดกิจกรรมโดยคานึงถึงการบรู ณาการ เทคนคิ และกระบวนการเรียนรู้ ผลการดาเนินการพฒั นา ไดด้ าเนินการดงั น้ี ๑. จัดทาแผนการจัดการเรียนรู/้ แผนการจัดการเรยี นรู้กลุ่มสาระ.......................ชั้น.............. ๒. จดั ทาแบบสารวจความตอ้ งการของผ้เู รยี นและท้องถิน่ กลุ่มสาระ..............ชัน้ ................. ๓. จัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้บรู ณาการกลุ่มสาระ.....................................ชน้ั ..................... ๔. กาหนดการวัดและประเมินผลที่เกิดขึ้นระหว่างเรียน/หลักการเรียนการสอนโดยปฏิบัติ จรงิ ทดสอบความรู/้ การทางานเป็นกลุ่ม (เอกสารอา้ งอิง) ๑.๑.๓ การเตรียมกจิ กรรมการสอน วธิ ีดาเนินการพฒั นา จัดเตรียมเนื้อหา/สาระการเรียนรู้ มาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับ ความต้องการของผู้เรียน โดยเน้นกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติและสร้างองค์ความรู้ของผู้เรียน โดยมีการจดั กจิ กรรม ดังนี้ - ใหน้ กั เรยี นแสวงหาความร้ดู ้วยตนเองจากใบงานคน้ ควา้ แหลง่ เรยี นรู้ - จัดกจิ กรรมเชอ่ื มโยงการเรียนรสู้ ชู่ มุ ชนทั้งในและนอกหอ้ งเรยี น - จดั กจิ กรรมกระบวนการกลุ่ม ให้นักเรียนร่วมกันคิดวิเคราะห์แนวทางในการจัดกิจกรรมดังกล่าวข้าพเจ้าได้เน้นผู้เรียน เป็นสาคัญ โดยให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้เอง ใช้ทักษะกระบวนการและให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม ในการปฏบิ ัตสิ รา้ งบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนรู้และวัดประเมินผลทั้งทักษะกระบวนการพฤติกรรม ผู้เรียน/เนื้อหาสาระ ให้ผู้เรียนเกดิ ผลสมั ฤทธ์ิสามารถนาความรไู้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ผลการดาเนินการพัฒนา ไดด้ าเนินการดงั น้ี ได้บูรณาการกิจกรรมสู่กระบวนการเรียนรู้ ในแผนการจัดการเรียนรู้ทาให้นักเรียนมีความรู้ ทักษะการปฏบิ ัติตามเนอื้ หาของหลักสตู รสงู ข้นึ (เอกสารอา้ งอิง) ๑.๑.๔ การเตรียมสอื่ /แหลง่ เรียนรู้ วธิ ีดาเนินการพัฒนา สารวจแหล่งเรียนรู้พร้อมจัดหาส่ือโดยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเลือกส่ือการเรียนรู้ ท้ังทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ีหลากหลาย รวมถึงการผลิตส่ือ การออกแบบส่ือประกอบการเรียนรู้ โดยมีการจัดทาทะเบียนการผลิต/การใช้และบันทึกผลการใช้ส่ือ มกี ารจดั ทาทะเบยี นแหล่งเรียนรู้ใช้อย่างหลากหลาย ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเลือกผลิตและใช้ส่ือ การเรยี นการสอน คมู่ อื ปฏิบตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา

๓๖๙ ผลการดาเนนิ การพฒั นา ไดด้ าเนินการดังนี้ ได้มสี อื่ แหลง่ เรยี นรู้อยา่ งหลากหลาย นักเรยี นมีส่วนร่วมในการผลิต การใช้ จนทาให้นักเรียน มีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนสงู ขึ้น (เอกสารอ้างอิง) ๑.๑.๕ การเตรียมการวดั และการประเมนิ ผล วธิ ดี าเนนิ การพัฒนา ศกึ ษาวิธกี ารวดั และประเมินผลโดยการวเิ คราะหห์ ลกั สตู รการจัดทาแผนกาหนดการสอนและ กาหนดวธิ ีการสร้างเคร่อื งมอื วดั ผลในรูปแบบต่างๆให้สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้และกิจกรรม การเรียนการสอนโดยกาหนดเกณฑ์การวัดให้เป็นไปตามสภาพจริงและชัดเจนโดยเครื่องมือใน การวัดผลประเมินผลข้าพเจ้าได้กาหนดวิธีวัดสอดคล้องกับจุดประสงค์และกิจกรรมการเรียนรู้ได้ อย่างชดั เจน ครอบคลมุ ท้ังด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ ผลการดาเนินการพฒั นา ได้ดาเนนิ การดังน้ี ไดจ้ ดั ทาเคร่อื งมอื วดั ผลประเมินผล โดยได้จัดทาแบบฝึก แบบทดสอบ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตทักษะกระบวนการกลุ่ม และทักษะการทางาน ในเนื้อหาสาระวิชาที่ข้าพเจ้ารับผิดชอบ ครบทกุ กลุ่มสาระ (เอกสารอา้ งอิง) ๑.๒ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑.๒.๑ ความสอดคลอ้ งกบั ผ้เู รยี น วิธดี าเนินการพัฒนา จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามที่กาหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับ ความสนใจของผู้เรียนและสอดคลอ้ งกบั ความถนัดของผู้เรยี น ความแตกต่างของผ้เู รียน โดยกิจกรรมท่ี กาหนดนั้น ข้าพเจ้าได้เลือกเทคนิคการเรียนการสอนที่เหมาะสม นอกจากนี้ ได้จัดทาแบบประเมิน เคร่อื งมอื สาหรบั เปน็ แนวทางในการปรบั ปรงุ กิจกรรมการเรียนการสอน ดงั น้ี - แบบประเมินตนเกย่ี วกบั รูปแบบและวธิ กี ารจัดกจิ กรรมการสอนของครูผูส้ อน - เคร่อื งมือสังเกตพฤติกรรมการสอนกลมุ่ ทักษะ - แบบวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของผู้เรยี น ผลการดาเนนิ การพัฒนา ได้ดาเนินการดังนี้ ไดจ้ ัดกจิ กรรมเกีย่ วกบั การจดั การเรยี นการสอน - วิเคราะห์เทคนิคการเรียนการสอนที่เหมาะสม ได้แก่ กระบวนการเรียนการสอนแบบ สบื ค้น แบบแกป้ ัญหา แบบบทบาทสมมติ แบบร่วมมือ แบบมีส่วนร่วม แบบ Story Line แบบกรณีศึกษา แบบสถานการจาลอง แบบละคร เกมส์ - สร้างแบบประเมิน กิจกรรมการเรียนการสอน สร้างเครื่องมือ สังเกตพฤติกรรมการเรียน การสอน - วิเคราะหค์ วามต้องการของนักเรียน เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (เอกสารอ้างอิง) คูม่ อื ปฏิบตั ิงาน โรงเรียนพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๗๐ ๑.๒.๒ การฝกึ ทกั ษะและกระบวนการคิด วิธดี าเนนิ การพัฒนา จัดกจิ กรรมให้ผเู้ รยี นไดฝ้ ึกทกั ษะกระบวนการคิดและฝึกกระบวนการแก้ปัญหา จนเกิดทักษะ ความชานาญ สามารถนาทักษะไปแก้ปัญหาในชีวิตจริงได้ ในการจัดกิจกรรมใช้วิธีการสอดแทรก คุณธรรม จริยธรรมให้นักเรียนเกิดความตระหนักมีจิตสานึกที่ดีสามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้ และสามารถปรับเปล่ียนกิจกรรมไดต้ ามความเหมาะสม ผลการดาเนินการพฒั นา ได้ดาเนินการดงั นี้ - ฝึกกระบวนการคิดโดยการใช้คาถาม ซึ่งสามารถแยกคาถามได้ เช่น ถามประเมินค่า ถามความรู้ ถามความเข้าใจ ถามการนาไปใช้ ถามการวิเคราะห์ ถามการสังเคราะห์ โดย ได้ศึกษาเนื้อหาสาระจากบทเรียนแล้วนามาต้ังประเด็นคาถาม จากผลการฝึกทักษะ กระบวนการคดิ นักเรียนมคี วามกระตือรือรน้ ชว่ ยสบื คน้ ขอ้ มลู ตามคาถามไดด้ ีย่ิงขน้ึ - ฝึกทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโดยได้ตัดสินประเมินจากข้อมูล โดยใช้แบบทดสอบตาม ความสามารถด้านการแกป้ ัญหา แบบทดสอบความคิดริเร่มิ ทค่ี รไู ด้สรา้ งขึ้น จากผลการฝึกทักษะกระบวนการแก้ปัญหาจากแบบประเมิน พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่อยู่ ในเกณฑ์...............................จากการจัดกิจกรรม จัดได้เป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนใน โอกาสต่อไป (เอกสารอา้ งองิ ) ๑.๒.๓ การฝกึ ปฏิบตั ิ วิธีดาเนินการพัฒนา จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติจริง จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนักเรียนสามารถค้นพบความรู้คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น ได้อย่าง แทจ้ ริง ไดแ้ ก่ - การสอนแบบ Story Line - กจิ กรรมสง่ เสริมประชาธปิ ไตย - กิจกรรมเสรมิ สร้างวนิ ัย - กิจกรรมทันตสุขภาพ ผลการดาเนนิ การพฒั นา ไดด้ าเนนิ การดงั นี้ ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพอ่ื ฝกึ ปฏบิ ัตใิ หน้ ักเรยี นไดป้ ฏิบัติจริง สามารถค้นพบความรู้ คิดเป็น แก้ปัญหาเป็น โดยข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ...................ซึ่งผลปรากฏว่า นักเรียนสว่ นใหญม่ คี วามพึงพอใจระดับ...................(จากผลการประเมินการจดั กิจกรรม) ๑.๒.๔ การสรา้ งองคค์ วามรู้ วธิ ดี าเนนิ การพัฒนา จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามท่กี าหนดไว้ในแผนการจดั การเรียนรู้ โดยเน้นผู้เรียนเรียนรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ เนน้ กระบวนการกลุ่มเพื่อแลกเปล่ียนความรู้ทัศนคติประสบการณ์ รวมทั้งให้ ผเู้ รยี นไดส้ รปุ องคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง ขน้ั ตอนการดาเนนิ การจดั การเรยี นรู้ โดยใหน้ ักเรียนสรปุ องค์ความรู้ดว้ ยตนเอง - จดั สภาพหอ้ งเรยี นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ โดยมีส่ือที่จับต้องได้ - จัดกจิ กรรมกระตุน้ เร่งดว้ ยคาถาม เพ่ือเป็นแนวทางหาข้อสรปุ คูม่ ือปฏิบตั ิงาน โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๗๑ - มกี ารประเมินก่อนเรยี นระหวา่ งเรียนและหลงั เรยี น - หาวธิ กี ารสอนทีจ่ ะช่วยให้นักเรยี นสรา้ งองค์ความรูด้ ้วยตนเอง เช่น การสอนแบบโครงงาน - สร้างแบบประเมินต่างๆ เช่น แบบประเมินสภาพจริงการทาโครงงานแบบประเมินความ สนใจความเข้าใจ แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แบบ ประเมินชน้ิ งาน แบบประเมินผลงาน ผลการดาเนินการพัฒนา ไดด้ าเนนิ การ ดังน้ี - จัดสภาพห้องเรียน จัดหาส่ือการสอน นวัตกรรม การจัดป้ายนิเทศ มุมประสบการณ์ เพ่ือเสริมสร้างองค์ความรู้ให้ผู้เรียน โดยได้จัดทาเกมชุมชน ประสบการณ์ ผลปรากฏว่า นกั เรียนมีความสนใจเลน่ เกม หาความรู้บนป้ายนิเทศและนักเรียนมีความรู้เพ่ิมขึ้น จากการ สารวจความคิดเหน็ โดยใช้แบบสอบถาม นักเรียนมีความพึงพอใจระดับ - จัดการเรยี นการสอนแบบโครงงานวิชา.....................................เร่ือง...................ช้ัน............ สรุปผลการสอนนักเรียนมีความรู้จากการแสวงหาความรู้ และสรุปองค์ความรู้ด้วยตนเอง จากการประเมินช้ินงานของนักเรียนผลการประเมินอยู่ในระดับคุณภาพ ระดับ............ (เอกสารอ้างอิง) ๑.๒.๔ การบูรณาการ วธิ ีดาเนินการพัฒนา จดั กจิ กรรมการเรียนการสอน โดยมุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้บูรณาการเน้ือหาสาระเชื่อมโยง สู่ท้องถ่ินตามความต้องการของผู้เรียน ประกอบด้วยคุณธรรมจริยธรรม ประเพณี ศาสนาวัฒนธรรม โดยคานึงถงึ สัดสว่ นคาบเวลาและการวัดประเมินผลให้สมดลุ กัน ผลการดาเนินการพัฒนา ได้ดาเนินการ ดังนี้ ได้จดั ทากจิ กรรมการเรยี นการสอนแบบบูรณาการ ดงั นี้ - จดั ทาแผนการสอนแบบบูรณาการแผนการเรยี นร.ู้ ......................................................... - จัดทาแบบประเมินผลการสอนแบบบูรณาการได้สรุปผลการจัดกิจกรรม โดยให้เพ่ือนครู ประเมนิ พบวา่ กระบวนการจัดการเรียนการสอนอย่ใู นเกณฑ.์ .........ระดบั (เอกสารอา้ งอิง) ๑.๓ การใชส้ ือ่ แหลง่ เรียนรู้ ๑.๓.๑ ความเหมาะสมของการใช้ส่ือ วธิ ดี าเนินการพฒั นา สร้างเครื่องมือ/จัดหาส่ือและนวัตกรรมตามที่ผู้เรียนต้องการและมีความเหมาะสมสอดคล้อง กับเน้ือหาและบูรณาการได้สัดส่วนสมดุล ส่งผลให้ผู้เรียนมีพัฒนาการได้เต็มศักยภาพ และใช้วัด ประเมนิ ผลการใช้สอื่ เพ่อื นาผลทไี่ ด้ไปปรับปรุงแก้ไขในโอกาสตอ่ ไป ผลการดาเนินการพฒั นา ไดด้ าเนินการ ดงั น้ี ได้จัดกิจกรรมการเรียนดังนี้ได้จัดทาแบบประเมินความเหมาะสมของการใช้สื่อ/นวัตกรรม (เอกสารอ้างองิ ) คมู่ ือปฏบิ ัตงิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๗๒ ๑.๓.๒ การมสี ่วนรว่ มในการใชส้ ือ่ วธิ ดี าเนินการพัฒนา จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้สื่อ/นวัตกรรมเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ รวมท้ังการจัด ป้ายนเิ ทศ มุมประสบการณ์ ผลปรากฏว่า นักเรียนทกุ คนมีส่วนร่วมในการใช้สื่อและนักเรียนส่วนใหญ่ มีความพึงพอใจจากการใช้ส่อื การสอนวชิ า...........................ชั้น.........................นักเรียนพอใจจากการ มสี ่วนรว่ มในการผลติ และใชโ้ ดยสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนจากแบบสงั เกตอยู่ในเกณฑ.์ ................... (เอกสารอ้างองิ ) ๑.๓.๓ การประเมนิ การใชส้ ื่อ วิธีดาเนินการพฒั นา จดั กจิ กรรมใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการผลิตส่ือ/นวัตกรรมให้สอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่น และแหลง่ เรียนรู้และประเมนิ ผลการใชส้ อ่ื เพือ่ นาผลทไ่ี ดไ้ ปปรบั ปรุงและพัฒนาเผยแพร่ในโอกาสต่อไป ขั้นตอนการประเมินผลการใช้สอื่ หลังจากผลิตส่ือ/นวัตกรรม ได้ตรวจสอบและประเมินเพ่ือหาประสิทธิภาพของส่ือนวัตกรรม โดยให้ผู้เชยี่ วชาญ/ผู้มีความรู้ได้ตรวจสอบความเหมาะสมถูกต้องของสื่อ/นวัตกรรม โดยได้จัดทาแบบ ประเมินประสิทธิภาพของสอื่ /นวัตกรรมให้ผเู้ ชย่ี วชาญประเมินเพื่อดวู า่ มคี วามเหมาะสมเพยี งใด ผลการดาเนินการพัฒนา ได้ดาเนนิ การ ดงั น้ี ได้จัดทาสอ่ื การสอนนวตั กรรมเรอื่ ง..........................วิชา........................ชั้น........................ และได้จัดทาแบบประเมินของส่ือ/นวัตกรรมให้นักเรียนประเมินความคิดเห็นตามแบบท่ีได้ สร้างขึ้นผลของการประเมนิ สอื่ /นวัตกรรมอยใู่ นเกณฑ์............................ซึง่ สามารถทจ่ี ะนาไปใช้ในการ จัดการเรยี นการสอนได้ (เอกสารอ้างอิง) ๑.๔ การวัดและประเมินผล ๑.๔.๑ กระบวนการวดั และการประเมนิ ผล วธิ ีดาเนินการพัฒนา จัดเตรียมเคร่ืองมือวัดและประเมินผลก่อนการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ การเรียนรู้ โดยการบันทึกและวิเคราะห์เพ่ือนาผลที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาการเรี ยนการสอน และปรับปรุงแกไ้ ขพัฒนาสอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งต่อการจดั กจิ กรรมในโอกาสตอ่ ไป กจิ กรรมท่ขี ้าพเจ้าจัดทามีดังน้ี โดยได้จัดทา - จดั ทาแบบทดสอบสาหรบั ทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียนตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ - จัดทาแบบสงั เกตการจดั กิจกรรม - จัดทาแบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของนกั เรียน - จัดทาแบบประเมนิ ผลโดยใช้แฟ้มสะสมงาน - จัดทาแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน ผลการดาเนินการพฒั นา ได้ดาเนินการ ดังน้ี นกั เรยี นมผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นสูงข้นึ (เอกสารอ้างองิ ) คู่มือปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา

๓๗๓ ๑.๔.๒ คุณภาพของการวดั และการประเมนิ ผล วธิ ีดาเนนิ การพัฒนา จัดเตรียมเครื่องมือวัดและประเมินผลท่ีหลากหลายสอดคล้องกับการเรียนของผู้เรียน ครอบคลมุ ถงึ การวัดในดา้ นทักษะความรู้ เจตคติโดยให้ผลการประเมินตรงกับความสามารถท่ีแท้จริง ของผู้เรียน ผลการดาเนนิ การพฒั นา ไดด้ าเนินการ ดังนี้ - ไดส้ รา้ งแบบประเมินคุณภาพการวัดและประเมินผลตรงกับความสามารถของเครอ่ื งมือ - สรา้ งแบบสารวจการใชว้ ิธกี ารและเคร่อื งมือในการวัดประประเมนิ ผลการเรียนรู้ - ได้หาคุณภาพของเคร่อื งมอื วดั ผลวิชา...........................................เร่อื ง............................ - ช้นั .............................ผลปรากฏว่าคุณภาพของเคร่ืองมืออยู่ในเกณฑ์ระดับ........................ ซึง่ สามารถที่จะนาไปใช้ในการผลประเมนิ ผลได้ - ข้าพเจ้าไดห้ าคณุ ภาพของเครอื่ งมือวิชา.............................เร่อื ง..........................ชน้ั .........ผล ปรากฏวา่ .................................................................................................(เอกสารอา้ งองิ ) ๑.๔.๓ การมสี ่วนรว่ มในการวดั และประเมินผล วิธกี ารดาเนินการพฒั นา จัดกิจกรรมการวัดและประเมินผล โดยให้ผู้เรียนและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการวัด ประเมินผลและส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนประเมินตนเอง ตามสภาพที่แท้จริง เพ่ือส่งผลให้ผู้เรียนมี พฒั นาการเพิ่มข้ึน กิจกรรมทปี่ ฏิบตั ิไดแ้ ก่ - จดั ทาเครอ่ื งมอื วัดผลประเมินผลแบบมีส่วนร่วมเป็นแบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียนใน การวดั ประเมินผลตามสภาพท่แี ทจ้ ริง - จัดทาแบบประเมนิ ผ้เู รยี นในปีการศกึ ษา...............ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังน้ีวัด และประเมินผลการเรยี นรู้ โดยใชแ้ บบประเมนิ แบบมีสว่ นรว่ มของนักเรยี นใน - การประเมินผลกลุ่มสาระ....................เร่ือง.......................ชั้น............ผลปรากฏว่า ......................(เอกสารอ้างอิง) ๑.๕ การพัฒนาการจัดการเรยี นรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ ๑.๕.๑ ผเู้ รยี นเป็นคนเกง่ ๑) พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นดี วธิ กี ารดาเนินพัฒนา กาหนดเป้าหมายและจัดกิจกรรมการเรียนรู้พร้อมบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ หาสาเหตุเพอ่ื พฒั นาปรบั ปรงุ กระบวนการเรียนรูแ้ ละจดั กิจกรรมสอนซอ่ มเสรมิ ในโอกาสต่อไป ผลการดาเนินการพฒั นา ได้ดาเนินการดังนี้ไดศ้ ึกษาวธิ กี ารสอนทมี่ ปี ระสิทธิภาพองค์ประกอบ สาคัญที่ทาใหน้ ักเรยี นมีผลการเรยี นดแี ละพัฒนากิจกรรมตามแผนการจดั กิจกรรมของกรมวชิ าการ - จัดทาแผนการจดั การการเรยี นรู้ โดยจัดกิจกรรมทีเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญให้นักเรียนได้ปฏิบัติ จรงิ - ผลการจัดกิจกรรม พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจ ต่อการมีส่วนร่วมกิจกรรมการเรียน การสอนอยู่ในเกณฑ.์ .................และผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนสงู ข้ึนคดิ เปน็ รอ้ ยละ…………. คู่มือปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๗๔ - สรปุ แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพ่ือเป็นแนวทางในการแก้ไข ต่อไป (เอกสารอ้างอิง) ๒) ผู้เรยี นเปน็ ผู้ใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน วิธีดาเนนิ การพฒั นา จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความใฝ่รู้ใฝ่เรียน โดยจัดกิจกรรมรายงานข่าวประจาวัน กิจกรรมยอดนักพูด กิจกรรมภาษาไทยวันละคาและโต้วาทีโดยให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้/ ประสบการณ์จากแหล่งเรยี นรูต้ ่าง ๆ ดังนี้ - แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรขู้ องผู้เรยี น - แบบรายงานการใชห้ อ้ งสมุด - แบบสารวจทัศนคตติ ่อการอา่ น - แบบบนั ทกึ การอา่ นของผูเ้ รยี น - แบบวดั นิสัยรักการอา่ น ผลการดาเนนิ การพัฒนา ได้ดาเนินการ ดังน้ี จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการกลุ่ม การเรียนแบบร่วมมือ การสอนแบบ โครงงาน,ตามเนื้อหาสาระกลุ่มวิชา......................เรื่อง...............................ชั้น..................... ........... ซึ่งปรากฏผลการสอน พบว่า นักเรียนมีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน เพ่ิมมากข้ึน จากการใช้แบบวัดนิสัยรัก การอ่านโดยมนี ักเรยี นร้อยละ..........................ชอบศึกษาค้นคว้าจากการอ่านแสดงให้เห็นว่านักเรียน มีแนวโน้มท่ีจะแสวงหาความรู้ด้วยตนเองเพ่ิมมากข้ึนปัญหา อุปสรรค์ ขาดแหล่งเรียนรู้ หนังสือ ในห้องสมุดแนวทางแก้ไข จดั หาหนังสอื ไว้ในหอ้ งสมุดใหม้ ากยง่ิ ขน้ึ (เอกสารอา้ งอิง) ๓) ผู้เรียน มที กั ษะการคิดการจัดการและการแก้ไขปญั หา วิธดี าเนินการพัฒนา จัดกิจกรรมเสริมและฝึกทักษะในการคิดแก้ปัญหา โดยให้ผู้เรียนสามารถระบุปัญหาได้จัดหา แหล่งการเรียนรู้ท่ีหลากหลายท้ังในและนอกโรงเรียนเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จั กคิดค้นหาและบอก แนวทางแก้ปญั หาได้ เช่น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงงาน การสอนแบบค้นพบ หรือ สอบสวน สอบสวนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิดและสามารถหาแนวทางแก้ปัญหาได้โดยอาศัย ทักษะกระบวนการไดใ้ นลาดับตอ่ ไปน้ี - ตระหนกั ในปญั หา ความจาเปน็ - คดิ วเิ คราะห์ วิจารณ์ - สร้างทางเลือกหลากหลาย - ประเมนิ และเลือกทางเลือก - กาหนดและลาดับข้นั ตอนการปฏิบตั ิ - ปฏิบตั ิด้วยความชื่นชม - ประเมินระหว่างปฏบิ ตั ิ และปรับปรุงให้ดขี น้ึ เสมอ - ประเมนิ รวบเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความภาคภูมใิ จ ทัง้ นไ้ี ด้นาแบบประเมนิ ต่าง ๆ มาใช้ เชน่ - แบบสรปุ ผลการทดสอบความสามารถดา้ นแกป้ ัญหาและประเมินคา่ ของข้อมูล คมู่ ือปฏิบตั ิงาน โรงเรียนพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๗๕ - แบบบันทึกความสามารถด้านการแก้ปัญหาและประเมินค่าของข้อมูลแบบบันทึก ความสามารถดา้ นความคดิ รเิ รม่ิ สามารถคาดการณ์และกาหนดเป้าหมาย ผลการดาเนนิ การพฒั นา ไดด้ าเนนิ การ ดงั น้ี - ได้จัดทาแบบสรุปผลการทดสอบความสามารถด้านการแก้ปัญหาและประเมินค่า ของขอ้ มูลให้กับนักเรียน ช้ัน..................ห้อง................ภาคเรียนท่ี..................ปีการศึกษา ...................โดยสรปุ ผลเกณฑ์การประเมินใช้ตวั ชี้วดั เป็นคะแนน มีนกั เรียนในชั้นผ่านผลการ ประเมนิ จานวน......รูป ไม่ผ่านผลการประเมนิ จานวน.......................รูป - ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนแก้ปัญหาโดยการสอดแทรกบูรณาการเข้าไป ในกลุ่มสาระต่าง ๆ เช่น การจัดกิจกรรมการสอนแก้ปัญหาการป้องกัน และหลีกเล่ียง ส่ิงเสพติด โดยการนาข้อเสนอ ข้อมูลปัญหาส่ิงเสพติดและปัญหาอาชญากรรม แล้วให้นักเรียนช่วยกันสรุปจาแนกสาเหตุของปัญหาอภิปรายแนวทางแก้ปัญหา โดยการ ระดมสมอง และร่วมกันคัดเลือกแนวทางแก้ปัญหาซ่ึงผลสรุปของการอภิปรายแนว ทางแกไ้ ขและปอ้ งกัน ได้แก่ จดั กจิ กรรมกลุ่มสนใจ เช่น กิจกรรมชุมนมุ กจิ กรรมอาสาสมัคร บาเพ็ญประโยชน์ด้วยความร่วมมือกับครูแนะแนว ให้การช่วยเหลือในเรื่องของการดูแล สุขภาพทางจิตใจ ผลจากการจัดกิจกรรมปรากฏว่านักเรียน และครูให้ความร่วมมือ ตระหนักและเห็นความสาคัญของการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดเพิ่มมากข้ึน จากการ สารวจความคดิ เหน็ นกั เรยี นร้อยละ...................พงึ พอใจต่อการจดั กิจกรรม (เอกสารอ้างองิ ) ๔) ผ้เู รยี นมที กั ษะและนสิ ัยรักการทางาน วิธีดาเนินการพฒั นา จัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการทางาน โดยเน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่ว และจัดกิจกรรมเสริมกระบวนการคิดเพื่อให้ผู้เรียนมีความมุ่งมั่นทางานจนสาเร็จและเกิดความรักการ ทางานมีความพึงพอใจ พร้อมที่จะอาสาปฏิบัติงานในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ ได้นาแบบประเมินต่าง ๆ มาประเมินใช้กับผู้เรียน เช่น แบบประเมินตนเองเกี่ยวกับด้านความสามารถในการทางานตามลาดับ ขั้นตอนและผลงานมปี ระสิทธภิ าพของผเู้ รยี น แบบบันทึกความสามารถในการทางานตามขั้นตอนและประสิทธิภาพของผู้เรียนโดยครู ประจาวิชาและแบบประเมิน ฯ ของครูประจาชั้นในแต่ละแบบประเมินต่าง ๆ ได้นาผลการประเมิน ทไี่ ด้มาวเิ คราะห์เพือ่ ใชเ้ ป็นข้อมลู ในการพัฒนาต่อไป ผลการดาเนินการพฒั นา ไดด้ าเนินการดังน้ี - จดั กิจกรรมทาโครงงาน ประเภท........................................... (ทดลอง ส่ิงประดิษฐ์ ทฤษฎี) ประจาช้ัน.........................ภาคการเรียนที่..........................ปีการศึกษา........................ วิชา.....................มีนักเรยี นสามารถปฏิบตั ิและสมั ฤทธ์ิผลจานวน..............................รูป - ได้จัดกิจกรรมประเมินความสามารถในการทางานของนักเรียนจานวน......................รูป ตามแบบท่ีกาหนดให้ โดยการประเมินการทางานของนักเรียนขณะจัดกิจกรรมการเรียน การสอนกลมุ่ สาระ...................................เร่ือง......................................วัน.......................... ผลปรากฏว่าการประเมนิ การทางานของนกั เรยี นอย่ใู นเกณฑ์................................................ ปัญหาอุปสรรค์ที่พบขณะนักเรียนกาลังจัดกิจกรรมคือ..................................................... (เอกสารอ้างอิง) คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๓๗๖ ๕. นักเรยี นมีพัฒนาการดา้ นทักษะในการสอ่ื สารและการใชภ้ าษาไทย วิธดี าเนินการพฒั นา จัดกจิ กรรมฝึกทักษะและพัฒนาจิตพิสัยด้านการสื่อสารการใช้ภาษาไทยเพ่ือให้ผู้เรียนเข้าใจ เก่ียวกบั ความหมายความสาคญั ประโยชนแ์ ละการกระทาท่ีแสดงถึงความเป็นไทยโดยนาเข้าสู่ลักษณะ เน้ือหากระบวนการและพฤติกรรมทีเ่ กีย่ วข้องกับผูเ้ รยี นในหลายดา้ นดงั นี้ - ความพร้อมในการฟังและการดู - ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการฟงั และการดู - มารยาทในการฟังและการดู - ความรู้และทกั ษะในการฟัง/ดู/ศึกษา - สงิ่ ทใี่ ห้ฟัง,กจิ กรรมการฟงั และการดู - การใช้แหล่งวิทยาการเพ่ือการฟัง เช่น วิทยุ โทรศัพท์ และส่ือสารสนเทศต่างๆ ท้ังนี้ได้ จัดทาแบบสรุปผลการประเมินความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารโดยครูเพื่อนาผลที่ได้มาวิเคราะห์ จัดลาดับเกณฑ์พัฒนาได้ในระดับต่าง ๆ เช่น ระดับปานกลาง ระดับดี และระดับดีมาก เกณฑ์การ พจิ ารณาในแตล่ ะดับสามารถรวบรวมไว้เป็นหลกั ฐานและพฒั นาใหด้ ีข้นึ ในโอกาสต่อไป ผลการดาเนินการพัฒนา ไดด้ าเนนิ การ ดังน้ี (๑) จัดกิจกรรมและประเมินความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารให้กับนักเรียนชั้น............. ห้อง................ปกี ารศึกษา........................มนี ักเรยี นจานวน..................รูป ผา่ นเกณฑ์จานวน........รูป คิดเป็น..............% และมนี ักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑจ์ านวน.........รปู คิดเป็น...........................% (๒) จดั กจิ กรรมเสรมิ การอา่ นในวิชาภาษาไทย โดยไดด้ าเนินการดงั น้ี - กระตุ้นใหน้ กั เรียนมีนสิ ัยรักการอา่ นโดยจัดกิจกรรมยอดนักอา่ นประจาเดือน - จัดหาหนงั สือท่นี ักเรียนชอบอา่ นโดยการสารวจรายชื่อหนังสือท่ีนักเรียนชอบอ่านมา ใช้ ให้นกั เรยี นยืมอ่าน - ครูกระตุ้นความรู้จากหนังสือท่ีนักเรียนอ่านเพ่ือจูงใจให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้า เพ่ิมเติม - สารวจหนงั สอื ที่นักเรียนยืมไปอ่านมากท่ีสุดว่าเล่มใดนักเรียนไปอ่านบ่อยท่ีสุด เพื่อท่ี ครจู ะจัดหาเพม่ิ เติม - ครูมีแต้มคะแนนการตอบคาถามและการร่วมกันอภิปรายความรู้จากหนังสือและครู เกบ็ สะสมแต้มคะแนนใช้เตรียมจัดหารางวลั และขึน้ ปา้ ยเปน็ ยอดนักอา่ นประจาเดอื น (๓) ผลปรากฏของการจัดกิจกรรม ซึ่งมีนักเรียนทั้งหม.......รูป นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในการอ่านหนังสือเพ่ิมขน้ึ จากเดิมรอ้ ยละ..............จากการสารวจก่อนการจัดกิจกรรมและหลังการจัด กิจกรรมดาเนินการสารวจพฤติกรรมการส่ังการของนักเรียนพบว่า นักเรียนจานวน.....................รูป ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน.................................รปู (เอกสารอ้างองิ ) คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๗๗ ๑.๕.๒ ผเู้ รียนมีความสขุ ๑) ผ้เู รยี นมสี ขุ ภาพจติ ดี วิธดี าเนนิ การพัฒนา จัดทาโครงการอบรมวินัยคุณธรรม จริยธรรมและจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านสุขภาพจิตใจให้ ผู้เรียนมีอารมณ์แจ่มใสและมีมนุษย์สัมพันธ์ท่ีดีและมีปฏิสัมพันธ์ต่อผู้อื่นสามารถแสดงออกด้วยความ มัน่ ใจ แจ่มใส ร่าเรงิ โดยใช้องค์ประกอบตามแบบประเมินต่อไปนี้ - แบบรายงานผลสุขภาพจติ ของนักเรียน - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะของเพ่ือนในช้นั เรียนและแบบสรปุ คะแนนของเพ่ือน - แบบรายงานผลการประเมนิ ลกั ษณะนิสยั ของผู้เรยี นประเมินโดยผู้เรยี นและโดยครู ผลการดาเนนิ การพฒั นา ได้ดาเนนิ การดังนี้ (๑) ได้จัดประเมินลักษณะนิสยั ของนักเรียนชั้น.................................ภาคเรยี นที่.................... ปกี ารศกึ ษา.......................จานวนนกั เรยี นทีป่ ระเมนิ ...............................รปู โดยมเี กณฑ์วดั ดงั น้ี - รา่ เรงิ แจ่มใส - เข้ากับเพ่อื นได้ - เข้ากับครูได้ - เขา้ กับคนทว่ั ไปได้ - เปน็ ทร่ี กั ของเพอื่ นและคนทว่ั ไป แล้วสรปุ ใหค้ ะแนนรวมแต่ละเกณฑ์วัด - มีนกั เรียนผา่ นเกณฑ์ จานวน...........รูป คดิ เปน็ ..........................% - มนี กั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ จานวน..........รูป คดิ เป็น.............................% ทงั้ นี้ได้นาผลการประเมินมาวเิ คราะห์และสรุปเพ่อื หาแนวทางพฒั นาและแก้ไขโอกาสตอ่ ไป (๒) ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมโดยการบูรณาการ ในแต่ละกลุ่ม สาระ................................ โดยใช้นิทาน เพลง เกม ผลปรากฏว่านักเรียนสามารถวิเคราะห์พฤติกรรม ในดา้ นดีและไมด่ ีไดแ้ ละร่วมกันเสรมิ สรา้ งอารมณ์และสุขภาพจดั โดยการฝึกน่ังสมาธิ การแผ่เมตตา ใน กอ่ นเขา้ เรียน ในตอนเช้าจากการประเมินผลการจัดกจิ กรรมโดยการสังเกต พบว่า นักเรียนร่วมปฏิบัติ กจิ กรรมครบทกุ คนและมีความพงึ พอใจจากการสอบถาม (๓) ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความสุขให้เกิดขึ้นกับเด็กในช้ันเรียน โดยการจั ด บรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนมีมุมประสบการณ์ตามกลุ่มสนใจ มีกิจกรรมที่ครูและนักเรียนร่วมกัน จัดทา เช่น ป้ายนิเทศมุมสร้างสรรค์ รวมท้ังบรรยากาศในการเรียนการสอนที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน เพลิดเพลนิ ควบคู่กับกจิ กรรมการเรียนการสอน ผลการจดั กิจกรรมพบว่า - นักเรียนขาดเรียนน้อยลงคดิ เปน็ ร้อยละ...................ของการมาเรยี น - นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนเพิ่มมากข้นึ โดยสังเกตจากการร่วมกิจกรรม ของกลุ่มท่ีดีขึ้น จากการสังเกตพฤติกรรมการทางานของกลุ่มจะแบบประเมินผลลักษณะ นิสยั ของผเู้ รยี นผ่านเกณฑ์..............รูป คดิ เป็นร้อยละ...............(เอกสารอา้ งองิ ) คูม่ อื ปฏบิ ัตงิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๓๗๘ ๒) ผูเ้ รยี นเรียนรู้อย่างมคี วามสขุ วิธกี ารดาเนินการพัฒนา จดั กจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรู้อย่างมีความสุข มาเรียนอย่างสม่าเสมอ และกระตือรือร้นด้วย ความสนุกสนานและใฝ่รู้ใฝ่เรียน โดยจัดให้ผู้เรียนวิเคราะห์ตนเองกลุ่มในชั้น ได้แก่ กลุ่มหลีกเลียง กลุ่มร่วมมือ กลุ่มอิสระ กลุ่มพึ่งพา เพ่ือให้กลุ่มมีความสุขตามรูปแบบที่ใฝ่การเรียนรู้และจัดสร้าง บรรยากาศ สง่ เสรมิ การเรียนรู้อย่างมีความสุขโดยใชแ้ บบสังเกต และรวมคะแนนแบ่งระดับคุณภาพไว้ ๓ ระดบั เพอื่ สรุปผลการประเมินใหส้ อดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะดังน้ี - บนั ทกึ การสงั เกตพฤตกิ รรม - การแสดงความคดิ เหน็ ในการรว่ มกจิ กรรมการเรยี นรูก้ ารประเมนิ ตนเองของผเู้ รียน ผลการดาเนนิ การพัฒนา ไดด้ าเนินการดงั นี้ (๑) ได้จัดทาแบบประเมินเพื่อสังเกตการเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักเรียนชั้น................... ภาคการเรียนท่.ี .........................ปีการศึกษา..............................โดยกาหนดตวั ชีว้ ัดดงั นี้ - มาเรียนสมา่ เสมอ - มีความกระตือรอื ร้นเรยี นรู้ด้วยความสนุกสนาน - รว่ มกิจกรรมของโรงเรียนทกุ คร้ัง - ใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น รวมคะแนนเฉล่ยี และสรุประดับคณุ ภาพ ปรากฏว่า - มีนกั เรียนได้ระดับคุณภาพ ๑ จานวน...........................รูป - มีนักเรยี นไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ จานวน...........................รปู - มีนักเรียนได้ระดบั คณุ ภาพ ๓ จานวน...........................รูป นาข้อมูลท่ีได้มาวิเคราะหเ์ พื่อพัฒนาแก้ไขในโอกาสต่อไป (๒) จัดบรรยากาศท่ีส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีความสุขโดยให้เด็กมีโอกาสแสดงออก แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีสื่อการสอนท่ีพอเพียง มีแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย โดยจัดทาเป็นทะเบียน แหล่งเรียนรมู้ กี ารประเมนิ ผลการเรียนจากสอื่ และแหล่งเรยี นรู้ เป็นระยะ ซ่ึงไดด้ าเนนิ การดงั น้ี - หอ้ งเรยี นมบี รรยากาศในการเรยี นตามมาตรฐานของห้องเรียน - นักเรียนมีความรู้จากการใช้สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้สูงขน้ึ จากการประเมินผลการใช้สื่อนักเรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ................................ - นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุขแบบสังเกตการณ์เรียนรู้โดยผ่านเกณฑ์ระดับคุณภาพ .............................................(เอกสารอ้างอิง) ๓) ผูเ้ รียนมสี ขุ ภาพกายและสุขลกั ษณะนสิ ัยท่ีดี วิธดี าเนินการ จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้เกี่ยวกับความรู้เข้าใจในการรักษาสุขภาพและสร้างสุขนิสัยที่ดี ให้แก่ผู้เรียน กิจกรรมดูแลสุขภาพสม่าเสมอ เม่ือมีการพัฒนาการทางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม โดยมีแบบประเมินต่าง ๆ ดังน้ี - แบบรายงานผลการประเมินสุขภาพและสมรรถภาพทางกายของผู้เรียน โดยครู แบบรายงานผลการประเมนิ น้าหนักและส่วนสูง คู่มือปฏบิ ัตงิ าน โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๗๙ - แบบรายงานผลการประเมินน้าหนักและส่วนสูงของผู้เรียนโดยครูในการปฏิบัติกิจกรรม สามารถทาได้หลากหลายวิธีโดยมีเพ่ือนนักเรียนและผู้ปกครองมีส่วนร่วมแล้วนาผลสรุปการประเมิน มาวเิ คราะหเ์ พ่อื สรปุ รายงานไปยังผู้ท่ีเก่ยี วข้องและเกบ็ หลกั ฐานไว้เป็นระยะต่อไป ผลการดาเนนิ การพัฒนา ไดด้ าเนินการ ดังนี้ (๑) ได้ดาเนินการจัดกิจกรรมดังต่อไปน้ีจัดทาแบบรายงานผลการประเมินสุขภาพและ สมรรถภาพกายของนกั เรียนชัน้ ................ภาคเรียนที่........................ปีการศึกษาท่ี........................... โดยมีตวั ช้วี ัดดงั นี้ - โรคประจาตัว - ประวตั กิ ารลาปว่ ย/ภาคการศกึ ษา - สุขภาพโดยทั่วไปแขง็ แรงดี - สมรรถภาพทางกายเมอื่ เปรียบเทยี บกบั เพอ่ื น - ผลการประเมินโดยรวม (ผา่ น,ไมผ่ า่ น) ปรากฏว่านกั เรยี นผ่านเกณฑ์ จานวน...........รปู คดิ เป็น.........% และมีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ จานวน...............รูป คิดเป็น...........% ท้ังนี้ได้สรุปผลการประเมินเพื่อนาข้อมูลมาวิเคราะห์และ รายงานผลไปยังผ้ทู เี่ กยี่ วขอ้ งตอ่ ไป ช่ังน้าหนัก ส่วนสูง เพื่อรายงานผลการประเมินน้าหนักส่วนสูงของผู้เรียน พบว่า นักเรียนมี นา้ หนกั ส่วนสงู ตามเกณฑ์..........................รูป ไมผ่ ่านเกณฑ์.............................รูป (๒) แบบประเมินผลสุขภาพและสมรรถภาพของนักเรียนข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมส่งเสริมเพ่ือ พัฒนา สขุ ภาพทางกายดังน้ี - รณรงค์ออกกาลงั กาย - จดั หาอาหารเสริม เชน่ อาหารกลางวนั อาหารเสรมิ นมให้ครบทุกรูป สาหรับนักเรียนขาด สารอาหารจากการประเมินผลการจัดกิจกรรมพบว่า นักเรียนขาดสารอาหารลดลงและ นักเรียนได้รบั การบริการเรื่องอาหารกลางวนั อาหารเสรมิ นม เพ่ิมมากขึ้น โดยให้ชุมชนมี สว่ นรว่ มรับผดิ ชอบ - จดั กจิ กรรมรณรงคก์ ารบริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะ โดยการจัดป้ายนิเทศถึงข้อดีข้อเสีย ของการบริโภคท่ถี กู สขุ ลกั ษณะโดยขอความรว่ มมือกบั รา้ นค้าในโรงเรียน - จัดกจิ กรรมให้ความรูเ้ รื่องการปฐมพยาบาล เมือ่ ยามฉุกเฉินของนักเรยี น - จดั หนว่ ยอาสาการปฐมพยาบาล ร่วมกบั ครอู นามัยท่ีรับผดิ ชอบ - ผลการจัดกิจกรรม พบว่า นักเรียนมีหน่วยอาสาปฐมพยาบาลของโรงเรียนและนักเรียนมี ส่วนร่วมรณรงคก์ ารบรโิ ภคอาหารทถี่ กู สขุ ลกั ษณะเพิ่มมากข้ึน (เอกสารอ้างองิ ) ๔. ผูเ้ รยี นมบี ุคลิกภาพที่ดี วิธดี าเนนิ การพฒั นา จัดกจิ กรรมเก่ียวกบั การสง่ เสรมิ พัฒนาบุคลิกภาพและมนุษย์สมั พันธท์ ่ีดีของผู้เรยี น เช่น - กิจกรรมประกวดการแตง่ กายสะอาดเหมาะสมมีกริยาวาจาสุภาพอ่อนโยน - บนั ทกึ การทาความดีมนี า้ ใจไมตรี รจู้ กั โอบออ้ มอารตี ่อผ้อู นื่ - จดั กจิ กรรมประกวดมารยาทไทย - กจิ กรรมความดี บันทึกเพ่อื นชว่ ยเพอ่ื นอบรมพฤตกิ รรมในสิง่ ที่เพ่ือนยอมรับ คมู่ ือปฏบิ ัติงาน โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา

๓๘๐ ทั้งนี้ได้สร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินผลให้ตรงตามมาตรฐานการเรียนรู้และส อดคล้องกับ คุณลักษณะของผู้เรียน โดยปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและนาผลมา วิเคราะห์สรุปเพ่ือหาแนวทางพัฒนาผู้เรียนและรายงานไปยังผู้ท่ีเก่ียวข้องพร้อมเก็บหลักฐานไว้อย่าง เป็นระบบต่อไป ผลการดาเนินการพฒั นา ไดด้ าเนนิ กาดังนี้ (๑) ได้จัดทาแบบประเมนิ บคุ ลกิ ภาพของผเู้ รียน โดยมนี กั เรยี น..............ภาคเรียนท่ี.............. ปีการศึกษา.....................จานวน...................รูป - ร่างกายสะอาด - แต่งกายสะอาดเหมาะสม - มีกริ ยิ าวาจาสุภาพ - มนี ้าใจไมตรี - ยมิ้ แย้มแจม่ ใส - เอื้อเฟือ้ เผือ่ แผ่ สรปุ คะแนนรวมและระดบั คุณภาพมีนักเรียนปฏบิ ัติ ไดด้ เี ยย่ี ม จานวน................................................รปู นกั เรยี นปฏิบตั ิได้ดี จานวน....................................................รปู นกั เรยี นไมป่ ฏบิ ตั ิ จานวน........................................................รูป นาผลการประเมินมาวิเคราะห์และหาแนวทางพฒั นาแก้ไขและรายงานผทู้ เ่ี ก่ียวข้องต่อไป (๒) จัดประกวดมารยาทของนกั เรียนประจาเดือน ซ่ึงมนี ักเรยี นรวมทัง้ หมด.......................รปู นักเรียนได้ร่วมปฏิบัติตามแนวมารยาทได้ และมีความพึงพอใจต่อเอกลักษณ์ของไทยโดยนักเรียนได้ ปฏิบัติตามเกณฑ์ครบทุกคน (๓) จัดกิจกรรมความดีโดยคัดเลือก คนดีของเราประจาเดือน มีการข้ึนป้ายช่ือ ท่ีเป็นคนดี ประจาเดือนแนวทางการจัดกิจกรรม คือ ให้นักเรียนบันทึกความดีอะไรให้นักเรียนเล่าความดีสู่กันฟัง และรว่ มกนั สรุปคนดีประจาเดือน (เอกสารอา้ งองิ ) ๕) ผู้เรียนอยู่ในสงั กัดได้อยา่ งมีความสุข วิธดี าเนนิ การพัฒนา จดั กจิ กรรมการเรียนร้แู ละสง่ เสริมให้ผู้เรียนปรับตัวเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ทุก ๆ สถานการณ์และ เปน็ ทรี่ ักของเพือ่ น ๆ เชน่ - จดั ทางานเป็นกล่มุ - กจิ กรรมแก้ปัญหาในสถานการณจ์ รงิ - วิเคราะห์พฤติกรรมนักเรียนและส่งเสริมสิ่งท่ีนักเรียนชื่นชม หาทางแก้ไขพฤติกรรมในเชิง ลบลักษณะของผู้เรียนด้วยวิธีการท่ีหลากหลายเพื่อเก็บข้อมูลรวบรวมหลักฐานไว้เพื่อพัฒนาผู้เรียน และรายงานไปยงั ผูท้ ่ีเกีย่ วขอ้ งต่อไป ผลการดาเนินการพฒั นา ได้ดาเนนิ กาดงั นี้ ได้จัดทาแบบประเมินผู้เรียนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขของนักเรียนช้ัน...................... โรงเรียน...........................................................อาเภอ..................................จงั หวดั ............................... ปีการศึกษา..............................นกั เรียนท่ีประเมนิ จานวน......................รูป คมู่ ือปฏิบัตงิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๓๘๑ ผลการดาเนนิ การพัฒนา ไดด้ าเนินการ ดังนี้ (๑) แบบประเมินผเู้ รยี น ตวั บง่ ชีใ้ นการประเมิน ได้แก่ - ปรับตัวเข้ากบั เพ่อื น ๆ ได้ - ปรบั ตวั เขา้ กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ - เป็นท่ียอมรบั ของเพื่อน ๆ และบคุ คลอ่ืน ได้คะแนนตัวบ่งช้ีด้วยตนเอง เพื่อน ครู ผู้ปกครองมีนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินใน ระดับต่าง ๆ ดังน้ี ผลการประเมินคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี จานวน........................รูป ผลการปฏิบัติ คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ จานวน........................รปู ผลการปฏิบัติคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง จานวน.........................รปู นาผลการประเมนิ มาวิเคราะหเ์ พ่อื หาแนวทางปรบั ปรุงแกไ้ ขในโอกาสตอ่ ไป (๒) จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักปรับตัวเข้าสังคมในนักเรียนมีทักษะมนุษย์สัมพันธ์ โดยการจัดกิจกรรมเสริม เช่น กิจกรรมชุมชนประชาธิปไตยเสริมสร้างวินัย สหกรณ์ โดยการ สอดแทรกบูรณาการเข้ากับกลุ่มสาระอื่น ๆ มีการประเมินกลุ่มสาระอื่น ๆ มีการประเมินผลการเข้า ร่วมกิจกรรมตามแบบประเมินพบว่า นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมครบทุกคน และมีความพึง พอใจในระดบั .......................................... (เอกสารอ้างอิง) ๒. การส่งเสรมิ และพฒั นาผเู้ รียน ๒.๑ การเสริมสร้างความรู้ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมทดี่ ีงามและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๒.๑.๑ การพัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ปน็ คนดี ๑) การพัฒนาผูเ้ รยี นมกี ารพัฒนาคณุ ลักษณะดา้ นคุณธรรมจริยธรรมทพ่ี ึงประสงค์ วธิ ีดาเนนิ การพฒั นา จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนมีความมุ่งม่ัน ขยัน หมั่นเพียร ประหยัด อดออมและซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อ่ืน โดยใช้วิธีการสอนแบบไตรสิกขา พร้อมท้ังจัดทาแบบประเมิน และกาหนดแนวทางการจดั กจิ กรรมด้านตา่ ง ๆ ดังนี้ - แบบประเมินการปฏบิ ัติตน / แบบบันทึกพฤตกิ รรมคณุ ลกั ษณะดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรมท่ี พึงประสงค์ / แบบประเมินด้านคุณธรรม จริยธรรมของผู้เรียน / แบบประเมินด้านคุณภาพผู้เรียน / แบบประเมนิ พฤติกรรมด้านความประหยัด / แบบประเมินคุณลักษณะด้านความกตัญญูของผู้เรียน / แบบบันทึกพฤติกรรมที่เป็นปัญหาผู้เรียน / แบบสรุปปัญหาพฤติกรรมของผู้เรียน / แบบสังเกต / แบบสารวจลักษณะการทางานของผูเ้ รยี น สร้างเครื่องมือวัดผลประเมินผล และกาหนดเกณฑ์ตัวช้ีวัดบูรณาการการจัดกิจกรรมเข้าสู่ กลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ น่ื และวเิ คราะหผ์ ลการประเมินเพ่ือเป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขต่อไป ผลปรากฏว่านักเรียนมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์สูงข้ึนกว่าเดิมเมื่อเทียบตามเกณฑ์อยู่ในระดับ ความพงึ พอใจ.....................................................กิจกรรมที่สาคัญในปีการศึกษา................................ ข้าพเจา้ ได้จัดกิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ด้านความซื่อสตั ย์ และเปดิ โอกาสให้ผู้เรียน ได้ปฏิบัติกับส่งที่เรียนจริงให้เห็นประโยชน์คุณ โทษ ตามข้ันตอนปฏิบัติ คือ กาหนดสมาธิและ พจิ ารณาดว้ ยปัญญา และมนี ักเรียนในช้ันสัมฤทธิผ์ ลในทางปฏิบตั ิ ดงั น้ี คมู่ อื ปฏิบัตงิ าน โรงเรยี นพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา

๓๘๒ - พฒั นาในระดบั ปานกลาง จานวน...............................................รปู - พัฒนาในระดับดี จานวน.................................................รปู - พัฒนาในระดบั ดีมาก จานวน..............................................รปู (เอกสารอ้างองิ ) ๒) การพัฒนาผู้เรียนมีพัฒนาการด้านความเข้าพื้นฐานเก่ียวกับการเมืองการปกครองใน ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ วธิ ีดาเนินการพฒั นา จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองการปกครอง เช่น การเลือกตั้ง ระดับต่าง ๆ โดยบูรณาการการจัดกิจกรรมเข้ากับกลุ่มสารอ่ืน ๆ และมีแนวทางการจัดกิจกรรม ตามแบบต่าง ๆ ดังนี้ - แบบประเมินพฤตกิ รรมประชาธปิ ไตยของนกั เรยี น - แบบสรปุ ผลการประเมินพฤตกิ รรมประชาธปิ ไตยของนักเรยี น - แบบพฤตกิ รรมประชาธปิ ไตยของนกั เรียนโดยผ้ปู กครองและโดยนกั เรยี นประเมินตนเอง - แบบสมั ภาษณ์ - แบบสังคมมิติ - การประเมินบทบาทของครูและโรงเรียนในการเสริมสร้างพฤติกรรมประชาธิปไตย ในโรงเรียนและชมุ ชนโดยแต่ละกจิ กรรมสามารถนาผลมาวิเคราะหเ์ พ่อื ใช้เป็นข้อมลู ในเขตพัฒนาตอ่ ไป ผลการดาเนนิ การพฒั นา ได้ดาเนนิ การ ดงั น้ี ผลปรากฏวา่ จากการประเมินพฤติกรรมประชาธิปไตยของนักเรียนอยู่ในเกณฑ์...................... (เอกสารอ้างองิ ) ๓) การพัฒนาผู้เรียนมีพัฒนาด้านการเห็นคุณค่า และมีความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาไทย ศลิ ปะและวัฒนธรรมทีด่ งี ามของไทย วธิ ีการดาเนนิ การพัฒนา จัดกิจกรรมส่งเสริมด้านภูมิใจภูมิปัญญาไทยศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย โดยบูรณาการ กจิ กรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระอน่ื ๆ ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนเข้าร่วมกิจกรรมโดยจัดต้ังเป็นชมรมดนตรีไทย และนาฏศิลป์และชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ฯลฯ กิจกรรมส่งเสริมคุณค่าของความเป็นไทย เช่น การใช้ภาษาไทยถูกต้อง นิยมไทย ปฏิบัติตนตามมารยาทไทย ช่ืนชมศิลปะไทย โดยมีแนว ทางการจดั กิจกรรมตามแบบท่กี าหนดดังนี้ - แบบประเมินตนเองเก่ยี วกับลกั ษณะนิสยั ดา้ นศลิ ปะดนตรี และกีฬาของผเู้ รยี น - แบบรายงานผลการประเมินกจิ กรรมท่ีผู้เรยี นเขา้ รว่ มในโรงเรียนด้านศิลปะ ดนตรี และกีฬา ของผู้เรียน - แบบสารวจ แบบบันทกึ ข้อมูลการเขา้ ร่วมกจิ กรรมในดา้ นต่าง ๆ - แบบสารวจการได้รบั รางวัลของผู้เรยี นในด้านต่าง ๆ - แบบประเมินการปฏิบัติด้านการเห็นคุณค่าและมีความภูมิใจในภูมิปัญญาไทยท้ังนี้ได้นาผล การประเมนิ ในแต่ละแบบมาวเิ คราะหเ์ พอื่ ใชเ้ ป็นข้อมลู ในการพฒั นาต่อไป คูม่ อื ปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๘๓ ผลการดาเนินการพฒั นา ได้ดาเนนิ การ ดงั น้ี - จัดกจิ กรรมพัฒนาเจตคติมารยาทท่ดี ีในสังคมไทยโดยการบูรณาการสอดแทรกในกลุ่มสาระ อ่ืน เช่น สอดแทรกให้เด็กเล่นเกม นิทานสอนใจ โดยให้นักเรียนช่วยกันสรุปข้อดีข้อเสียผล ปรากฏวา่ นักเรยี นทุกคนชอบเขา้ รว่ มกจิ กรรม แสดงความคดิ เห็นและพฤติกรรม - จัดชมรมศิลปะ ดนตรี กีฬา ให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมผลปรากฏว่า นักเรียนทุกคน เขา้ ร่วมชมุ นมุ ตามความสนใจ - จัดวันอนุรักษ์ไทยโดยขอความร่วมมือกับทางโรงเรียนจัดทาโครงการอนุรักษ์ไทยโดยเลือก ทกุ วันศกุ ร์ ท้ังครูแบบนักเรียนแต่งกายแบบไทย ๆ ผลปรากฏว่า ครูและนักเรียนส่วนใหญ่ ให้ความร่วมมือและมีความพึงพอใจชอบกิจกรรมในระดับ....................................... (เอกสารอา้ งอิง) ๔) การพัฒนาผู้เรียนมีระเบียบวินัย วธิ กี ารดาเนินการพฒั นา จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนสร้างตัวแบบให้เป็นแบบอย่างท่ีดีเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และเข้าใจ ระเบียบวินัยของโรงเรียน และเป็นผู้มีวินัยในตนเอง เพื่อปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี โดยการบูรณาการ เข้าไปในแต่ละสาระการเรียนรู้ร่วมกิจกรรมลูกเสือเนตรนารี ยุวกาชาด ตามแนวทางการจัดกิจกรรม เพ่อื พฒั นาผู้เรยี นใหม้ วี ินัย - ใชห้ ลักการเสริมสรา้ งวินยั - แก้ปัญหาทพ่ี บเกีย่ วกับวนิ ัยในขณะเด็กอยู่ในโรงเรียน - จดั กิจกรรมเสรมิ แนวทางแกป้ ัญหาและปอ้ งกันไม่ใหเ้ กดิ ปญั หาทางวินยั - หาวิธีปรบั พฤติกรรมเพ่ือเสรมิ สรา้ งวนิ ยั - จัดทาบนั ทึกสารวจพฤตกิ รรมเพื่อเสริมสร้างวนิ ยั แก่ผู้เรียน ท้งั นี้ ไดน้ าผลมาวิเคราะห์เพื่อใช้ เป็นขอ้ มลู ในการพฒั นาตอ่ ไป ผลการดาเนนิ การพัฒนา ได้ดาเนินการ ดงั นี้ สารวจปัญหาเก่ียวกับวินัยของนักเรียนมีอะไรบ้างและสาเหตุมาจากอะไร เพื่อหาทางแก้ไข หรือปรับพฤติกรรมเพื่อเสริมสร้างความมีวินัยจากการสารวจพบว่า พฤติกรรมของนักเรียนที่ไม่พึง ประสงค์ ได้แก่ - พฤติกรรมการเขา้ ควิ - พฤติกรรมก่อกวนในชน้ั เรยี น - พฤตกิ รรมไม่สนใจการเรียน - พฤติกรรมชอบลกั ขโมย จากปัญหาทพี่ บขา้ พเจา้ ได้หาทางแก้โดย (๑) จัดกิจกรรมเสริมทักษะกระบวนการกล่มุ โดยให้ทุกคนมสี ว่ นร่วมรบั ผิดชอบประจากลุ่ม (๒) ยกยอ่ งชมเชย ชีแ้ นะ และตาหนิ (๓) ใหค้ วามรกั ความอบอ่นุ อยา่ งเทา่ เทยี มกัน (๔) ให้กลมุ่ ของนักเรยี นช่วยกันหามาตรการลดปัญหาพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ (๕) สอนสอดแทรกนิทานเพ่อื พฒั นาความมีระเบยี บวินัย คมู่ ือปฏบิ ตั ิงาน โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๘๔ ผลจากการจัดกิจกรรมพบว่า นักเรียนลดปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์แต่ละประเภทจะ อยใู่ นระดับความพึงพอใจอย่ใู นเกณฑ์......... (เอกสารอา้ งอิง) ๕) การพัฒนาผู้เรียนมคี วามเคารพในสิทธิหนา้ ที่และศกั ด์ศิ รีความเป็นมนษุ ย์ วิธดี าเนนิ การพฒั นา จัดกิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรมประชาธิปไตย โดยเน้นคารวะธรรม ความสามัคคีธรรม และปัญญาธรรม เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้และเข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น โดยสามารถจัดกจิ กรรมได้ทงั้ ในหอ้ งเรียนและนอกห้องเรยี น ตามแนวทางจดั กิจกรรมดงั นี้ - แบบสรปุ ผลการเสนอช่ือจากเพอ่ื น โดยหัวหน้าห้องมีคาช้แี จง และแบบสรุปเสนอชอื่ - แบบจัดสถานการณ์ - แบบสรปุ ผลทดสอบโดยครู - แบบบันทึกพฤติกรรมผู้เรียนเคารพสิทธ์ิ หน้าที่และศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ ทั้งนี้ ได้นา เคร่ืองมอื วดั ผลประเมินผลมาวเิ คราะห์เพอื่ ใหเ้ ปน็ ข้อมูลในการพฒั นาตอ่ ไป ผลการดาเนินการพฒั นา ไดด้ าเนนิ การ ดงั นี้ (๑) สารวจพฤติกรรมของนักเรียน โดยใช้แบบสารวจพฤติกรรม เรื่อง การเคารพสิทธิหน้าที่ และศักด์ิศรคี วามเปน็ มนุษย์ (๒) สอดแทรกหลักประชาธปิ ไตยในห้องเรียน เคารพสิทธขิ องผอู้ ่นื หนา้ ท่ีทต่ี อ้ งปฏบิ ัตเิ มือ่ อยรู่ ่วมกนั (๓) บรู ณาการหลกั ประชาธิปไตยในกลมุ่ สาระอ่ืน (๔) จัดกิจกรรมส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย เช่น การเลือกต้ังหัวหน้าชั้นเรียน กรรมการ ของนกั เรียนในช้นั อ่นื ๆ (๕) ประเมินผลการจัดกิจกรรม พบว่า นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นสูงข้ึน เม่ือเทียบกบั เกณฑอ์ ย่ใู นระดบั ................(เอกสารอ้างอิง) ๖) การพฒั นาผเู้ รยี นมีส่วนร่วมในการอนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาสงิ่ แวดล้อม วธิ ดี าเนินการพัฒนา จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อม โดยบูรณาการเข้ากับกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น จัดวันอนุรักษ์ทรัพยากร จัดวันสัมมนา ส่ิงแวดล้อม เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนเกิดความเตม็ ใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมและเชิญชวนผู้อ่ืนร่วมปฏิบัติ ทั้งในโรงเรียน และชุมชน สามารถสรา้ งเกณฑเ์ ครือ่ งมือวัดผลได้ ดงั น้ี - แบบประเมนิ ผเู้ รียนในการอนรุ ักษ์และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ ม (จัดคะแนนไดต้ ามระดับคณุ ภาพ) - บันทึกการเข้าร่วมกิจกรรมกับชุมชนเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมในแต่ละเกณฑ์การ ประเมิน ได้นาผลมาวิเคราะหเ์ พ่อื ให้เปน็ ข้อมลู ในการพฒั นาต่อไป ผลการดาเนินการพฒั นา ได้ดาเนินการ ดงั นี้ (๑) ประเมินพฤติกรรมของผู้เรียนในการอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อม ผลของการประเมิน อยู่ในระดบั คุณภาพ.................................................ซึ่งจะได้นาไปเป็นแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนให้ ชว่ ยกนั อนรุ กั ษ์และพฒั นาสิง่ แวดล้อมในโอกาสตอ่ ไป (๒) จัดทาแบบการบันทึกเข้ากิจกรรมกับชุมชนเพ่ืออนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อมผลปรากฏ ว่า ในปีการศึกษานักเรียนจานวน.................................รูป เข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาส่ิงแวดล้อม ภายในหอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรยี น และชุมชน คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา

๓๘๕ ผลปรากฏวา่ นกั เรียนทุกรปู มคี วามพึงพอใจท่มี ีส่วนร่วมพัฒนาสิง่ แวดล้อมอยู่ในระดับ............ (เอกสารอา้ งองิ ) ๗) การพฒั นาผเู้ รียนมสี ่วนร่วมในการรกั ษาผลประโยชน์ส่วนรวม วิธดี าเนินการพัฒนา จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้และเข้าใจการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม เช่น การรักษาสาธารณสมบัติ กิจกรรมพัฒนาวัด โรงเรียน หมู่บ้าน/ชุมชน และกิจกรรมปลูกต้นไม้ จัดกิจกรรมสนับสนุนให้ผู้เรียนเต็มใจรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและเสี ยสละประโยชน์ส่วนตัว เพ่ือส่วนรวมเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาอาคาร/สถานท่ี โดยสอดแทรก เน้ือหาในบทเรียนตลอดจนการบูรณาการเข้าการสอนกลุ่มสาระอื่น ทั้งน้ี กาหนดกิจกรรมตามแบบ ประเมินการมีส่วนร่วมในการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม โดยจัดแบ่งระดับคุณภาพของผู้เรียนท่ีเข้า รว่ มกิจกรรม นาผลการประเมินท่ีไดม้ าวเิ คราะหเ์ พือ่ ใช้เป็นข้อมูลในการพฒั นาต่อไป ผลการดาเนินการพฒั นา ไดด้ าเนินการ ดังน้ี (๑) ประเมินการมีส่วนร่วมในการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม ตามแบบประเมินผล ปรากฏว่า นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการรกั ษาผลประโยชนส์ ่วนรวมอยู่ในเกณฑ.์ ........................จากข้อมูล ที่ได้จะเปน็ แนวทางในการพฒั นาผู้เรยี นในโอกาสตอ่ ไป (๒) จัดกิจกรรมสอดแทรก และบูรณาการในแต่ละกลุ่มสาระ เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้เห็น ความสาคญั ของการมีสว่ นร่วมรกั ษาผลประโยชน์ของสว่ นรวม (เอกสารอา้ งอิง) ๘) การพัฒนาผู้เรียนมคี วามรักโรงเรยี น ท้องถิน่ และประเทศชาติ วิธกี ารดาเนินการ จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความรักโรงเรียนและท้องถ่ินของตน เช่น จัดกิจกรรม โรงเรียนท่ีดีหนูรัก กิจกรรมเผยแพร่คนของโรงเรียน เพ่ือเป็นการปลูกจิตสานึกให้ผู้เรียนรักและ ปกป้อง หวงแหน ช้ีชวนให้ผู้อ่ืนเห็นความดีและความสาคัญในโรงเรียน ท้องถ่ินและประเทศชาติ โดยมแี นวทางจัดกจิ กรรม เชน่ จดั ทาแบบประเมินผู้เรียนมีความรักโรงเรียน ท้องถ่ินและประเทศชาติ ผลเกณฑ์การประเมินได้จัดระดับคุณภาพ ได้แก่ ดี/พอใช้/ควรปรับปรุงแก้ไข และนาผลมาวิเคราะห์ เพ่อื เปน็ ขอ้ มลู ในการพฒั นาต่อไป ผลการดาเนินการพัฒนา ไดด้ าเนนิ การ ดังนี้ (๑) ประเมินผู้เรียนตามแบบประเมินผู้เรียนมีความรักโรงเรียน ท้องถ่ินและประเทศชาติ ซ่ึงผลการประเมิน พบว่า นักเรียนสว่ นใหญ่มีความรกั โรงเรยี น ทอ้ งถิน่ และประเทศชาติ อยู่ในระดับ.. (๒) ได้จัดกจิ กรรมสอดแทรก โดยบรู ณาการในแผนการเรยี นร้ใู นแต่ละกลมุ่ สาระ โดยชี้ให้เห็น คุณค่าของโรงเรยี นทอ้ งถนิ่ และประเทศชาติ (เอกสารอา้ งองิ ) ๒.๒ การเอาใจใสด่ แู ล แนะแนว แก้ปัญหาผู้เรียน ๒.๑.๑ การวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี น วิธกี ารดาเนนิ การพฒั นา รวบรวมข้อมูลพ้ืนฐานเกี่ยวกับผู้เรียนเป็นรายบุคคล โดยจัดทาเป็นแฟ้มวิเคราะห์ผู้เรียนครบ ทุกคน โดยได้ศึกษาเป็นรายบุคคลเพ่ือหาแนวทางในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพสูง จากจานวนนักเรียนท่ขี ้าพเจา้ รับผิดชอบมที ้งั สน้ิ .....................รปู (เอกสารอา้ งอิง) คู่มือปฏิบตั ิงาน โรงเรียนพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๘๖ โดยวเิ คราะห์ผู้เรยี นในแต่ละดา้ นดงั นี้ ๑) ดา้ นความรู้ความสามารถ - ความสามารถด้านการเรียน ซึ่งดูจากผลสัมฤทธิ์ พบว่า มีนักเรียนจานวน................รูป มคี วามสามารถทางการเรยี นอยู่ในเกณฑ์ดีและดมี าก ดังรายช่ือต่อไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - ส่วนนักเรียนท่ีมีผลการเรียนต่ากว่าเกณฑ์ที่จะต้องปรับปรุงมีทั้งหมด.........รูป ดังรายชื่อ ตอ่ ไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… (เอกสารอา้ งองิ ) ๒) ด้านความสามารถพิเศษ ความสามารถด้านอื่น ความสามารถพเิ ศษด้านความสนใจในการเข้าร่วมกจิ กรรม แบ่งได้ ดังนี้ - ความสามารถดา้ นดนตรมี ี จานวน...................รูป ดังรายชื่อต่อไปน้ี ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - ความสามารถดา้ นศิลปะมี จานวน...................รปู ดงั รายชอ่ื ตอ่ ไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - ความสามารถดา้ นอื่น ๆ มี จานวน................รูป ดังรายชอ่ื ตอ่ ไปน้ี ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… (เอกสารอา้ งอิง) ๓) ด้านสขุ ภาพโดยไดพ้ ิจารณาวิเคราะหน์ กั เรียน ทั้งด้านร่างกาย/จิตใจ โดยจาแนกได้ ดงั นี้ ๓.๑ ดา้ นรา่ งกาย - นักเรียนท่มี ีนา้ สว่ นสงู ตามเกณฑม์ ี จานวน...............รปู ดงั รายชื่อตอ่ ไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - นักเรยี นทม่ี นี า้ หนักส่วนสูงตา่ กว่าเกณฑม์ ี จานวน................รปู ดังรายช่ือต่อไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… คมู่ อื ปฏบิ ัตงิ าน โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๘๗ - นกั เรยี นมโี รคประจาตวั มี จานวน................รูป ดงั รายชือ่ ตอ่ ไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - นักเรยี นทม่ี ีความบกพรอ่ งทางร่างกายมี จานวน............รปู ดังรายชอื่ ตอ่ ไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… (เอกสารอา้ งองิ ) ๓.๒ ดา้ นจิตใจและพฤติกรรม โดยได้สารวจเด็กมพี ฤตกิ รรมหรอื อารมณด์ ังนี้ - อารมณ์ซึมเศรา้ /วิตกกังวลมี จานวน............. รปู ดังรายชื่อต่อไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - ความประพฤตไิ ม่เหมาะสมมี จานวน...............รูป ดงั รายช่อื ตอ่ ไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - พฤติกรรมอยไู่ มน่ งิ่ /สมาธิสนั้ มี จานวน..............รูป ดังรายช่อื ต่อไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - บุคลกิ ภาพเกินตัว/ข้อี ายมี จานวน....................รปู ดังรายชือ่ ตอ่ ไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… (เอกสารอา้ งอิง) ๓.๔ ด้านเศรษฐกิจของครอบครัว ฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองนักเรียน โดยพิจารณา จากรายไดแ้ ละรายจา่ ย ซ่งึ แยกออกเปน็ ผูป้ กครองท่มี ฐี านะดี ปานกลาง และยากจน - ผู้ปกครองทีม่ ฐี านะดมี ี จานวน...................รปู ดังรายชือ่ ตอ่ ไปนี้ ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… - ผู้ปกครองที่มฐี านะปานกลางมี จานวน...............รปู ดงั รายชื่อตอ่ ไปน้ี ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… คู่มือปฏิบตั งิ าน โรงเรียนพระปริยัตธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๘๘ - ผู้ปกครองท่มี ีฐานะยากจนมี จานวน..................รปู ดงั รายช่ือตอ่ ไปน้ี ๑……………………………………………………………………………..…… ๒……………………………………………………………………………..…… ๓……………………………………………………………………………..…… ผลการดาเนินการพฒั นา ได้ดาเนินการ ดังนี้ - จัดทาแฟ้มข้อมลู นกั เรยี นเปน็ รายบุคคล แฟ้มข้อมลู รายกล่มุ และแฟ้มขอ้ มลู รายชั้นเรยี น - จดั กจิ กรรมซ่อมเสริมพัฒนานักเรยี น ทาใหน้ ักเรยี นมผี ลสมั ฤทธ์แิ ละพฤตกิ รรมที่พึงประสงค์สูงข้นึ ๔. การปฏิบตั ิงานวิชาการ ๔.๑ การจัดทาและพฒั นาหลกั สูตรโรงเรยี น ได้จัดทาหลักสูตรโรงเรียนร่วมกับคณะครูในโรงเรียน และจัดทาหลักสูตรท้องถิ่นในรายวิชา เรือ่ ง.............................................. ผลการพัฒนา โรงเรียนได้มีหลักสูตรโรงเรียนท่ีสมบูรณ์และหลักสูตรท้องถิ่นสอดคล้องกับ ชุมชนจนทาให้นกั เรียนสามารถนาความร้ไู ปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ (เอกสารอา้ งองิ ) ๔.๒ การจัดทาเอกสารหลกั ฐานการวดั และประเมนิ ผล ๔.๒.๑ กระบวนการวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารดาเนินการพัฒนา จัดเตรียมเคร่ืองมือวัดและประเมินผลก่อนการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้โดยการบันทึกและวิเคราะห์เพ่ือนาผลท่ีได้ไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนและปรับปรุง แกไ้ ขพัฒนาส่ือให้สอดคล้องตอ่ การจัดกิจกรรม ดังน้ี - จดั ทาแบบทดสอบ สาหรบั ทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี นตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ - จัดทาแบบสงั เกตการจดั กิจกรรม - การจัดทาแบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของนักเรียน - จัดทาแบบประเมนิ ผลโดยใชแ้ ฟ้มสะสมงาน - จดั ทาแบบสอบถามความคดิ เห็นของนกั เรียน ผลการดาเนินการพฒั นา ไดด้ าเนินการ ดงั นี้ นกั เรียนมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นสูงขึ้น (เอกสารอา้ งอิง) ๔.๒.๒ คุณภาพของการวัดและประเมนิ ผล วิธดี าเนนิ การพัฒนา จัดเตรียมเคร่ืองมือวัดและประเมินผลที่หลากหลายสอดคล้องกับการเรียนของผู้เรียน ครอบคลุม ถงึ การวัดในดา้ นทักษะความรู้ เจตคติโดยใหผ้ ลการประเมนิ ตรงกับความสามารถที่แทจ้ รงิ ของผ้เู รียน ผลการดาเนินการพัฒนา ไดด้ าเนนิ การและจดั กจิ กรรม ดังนี้ - ได้สร้างแบบประเมินคุณภาพการวัดและประเมินผลเพ่ือใชส้ าหรับหาคุณภาพของเครอ่ื งมือ - สรา้ งแบบสารวจการใชว้ ธิ ีการและเครอ่ื งมือในการวดั ประเมินผลการเรียนรู้ - ไดห้ าคณุ ภาพของเครือ่ งมือวดั ผลประเมนิ ผลวิชา..............เร่ือง.....................ช้ัน................. ผลปรากฏว่าคุณภาพของเครื่องมืออยู่ในเกณฑ์ระดับ...............ซ่ึงสามารถที่จะนาไปใช้ใน การวัดผลประเมินผลได้ คมู่ ือปฏิบตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๘๙ - ข้าพเจา้ ไดห้ าคุณภาพของเครอ่ื งมือวชิ า......................................เรือ่ ง......................... .....ช้ัน ............ผลปรากฏวา่ ................................................(เอกสารอา้ งองิ ) ๔.๒.๓ การมีสว่ นร่วมในการวดั และประเมนิ ผล วธิ ีดาเนนิ การพัฒนา จัดกิจกรรมการวัดและประเมินผลโดยให้ผูเ้ รียนและผปู้ กครองมีสว่ นรว่ มในการวัดประเมินผล และส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนประเมินตนเอง ตามสภาพท่ีแท้จริง เพ่ือส่งผลให้ผู้เรียนมีพัฒนาการ เพมิ่ ขั้น ซง่ึ ไดด้ าเนนิ การดงั นี้ - จดั ทาเคร่ืองมอื วดั ผลประเมินผลแบบมีส่วนร่วมเป็นแบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียนใน การวัดประเมนิ ผลตามสภาพทแ่ี ทจ้ ริง - จดั ทาแบบประเมินผ้เู รียนในปกี ารศึกษา.......................................ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้วัดและประเมินผลการเรียนรู้ โดยใช้แบบประเมินแบบมีส่วนร่วมของนักเรียนในการ ประเมินผลกลุ่มสาระ...................เรื่อง.................ชั้น............ผลปรากฏว่า…................. (เอกสารอา้ งอิง) ๔.๓ การจัดทาโครงการหรือกิจกรรมพัฒนางานวชิ าการ วิธดี าเนินการพฒั นา ปฏิบัติงานตามแผนงานโครงการท่ีได้รับมอบหมายและเป็นท่ีปรึกษาให้คาแนะนาแก่เพื่อน ร่วมงานในการดาเนินงานตามโครงการอื่น มีส่วนร่วมในการเป็นผู้คิดริเริ่มแผนงาน/โครงการรวมทั้ง ดาเนินการจนสาเรจ็ ไดผ้ ลตามเปา้ หมาย ซ่งึ ไดด้ าเนนิ การดงั นี้ - ได้จัดทาโครงการที่สนับสนุนการเรียนการสอนโดยเป็นผู้ริเร่ิมและรับผิดชอบโครงการ ตอ่ ไปน้ี โครงการ................................................................................ - ได้จดั ทาแบบรายงานโครงการและแบบประเมนิ โครงการเพ่อื วัดผลสัมฤทธ์ิของโครงการเป็น ระยะๆ ซ่ึงกจิ กรรมทีข่ ้าพเจา้ ปฏิบตั ิในปีการศกึ ษามีดังน้ี ผลการดาเนินการพัฒนา ไดด้ าเนนิ การ ดงั น้ี ได้สรปุ ผลของการดาเนนิ โครงการดังน้ี ชื่อโครงการ................................................................... วธิ ดี าเนนิ โครงการ........................................................ ผลสมั ฤทธิ์ของโครงการ.............................................. ปญั หา/อปุ สรรค........................................................... ขอ้ เสนอแนะ............................................................... (เอกสารอา้ งองิ ) ๕. การสรา้ งความสมั พันธแ์ ละความรว่ มมอื กบั ชุมชน ๕.๑ การสรา้ งความสมั พนั ธก์ บั เครือข่ายผ้ปู กครองและชมุ ชน วิธดี าเนินการพฒั นา ได้ร่วมมือกับคณะครู ชุมชน โดยการวางแผนจัดทาโครงการพัฒนาโรงเรียนและชุมชน เช่น โครงการประชุมผู้ปกครอง โครงการร่วมมือกับชุมชนในการส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และ กิจกรรมทางศาสนา โครงการพัฒนาอาชีพให้แก่ชุมชน โครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นมาร่วม การจัดการเรียนรู้ ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยการมีส่วนร่วมในคณะกรรมการต่างๆ คมู่ อื ปฏิบัติงาน โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา

๓๙๐ ของโรงเรียน ได้แก่ คณะกรรมการในการจดั ทาหลกั สตู รโรงเรยี น คณะกรรมการในการจัดหารายได้ เพื่อสนับสนุนการเรียนการศึกษา คณะกรรมการในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ คณะกรรมการ ในการประเมนิ ในรูปแบบต่างๆ ผลการดาเนินการ ชุมชนให้ความร่วมมือจัดกิจกรรมของโรงเรียนด้วยดี ทาให้โรงเรียน เป็นศูนย์กลางแห่งการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ส่งผลให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมใน การจัดการศึกษาในรูปแบบของคณะกรรมการต่างๆ และได้ตระหนักความสาคัญของการพัฒนา คุณภาพการศึกษา และมีส่วนร่วมในการพัฒนางานในทุกด้าน ทาให้คุณภาพของโรงเรียนสูงข้ึน (เอกสารอา้ งอิง) ๖. การพฒั นาตนเองและพฒั นาวิชาชพี ๖.๑ การพัฒนาตนเอง - โดยการอบรมสัมมนาศึกษาดูงานอยา่ งต่อเนอ่ื ง จนทาให้มีผลงานท่ีเป็นตัวอย่าง เผยแพร่แก่ เพ่ือนครแู ละผู้ทีม่ าเยย่ี มชม - การไดร้ ับการยกย่องเชิดชูเกียรติ และไดร้ บั เกียรติบัตร เรือ่ ง.................................... - การปฏบิ ัตคิ นเป็นแบบอย่างท่ีดี โดยยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต มีจริยธรรมคุณธรรม ขยัน ประหยัด มุ่งมั่นในความสาเร็จที่เกิดผลดีต่อผู้เรียนและเป็นแบบอย่างต่อผู้อ่ืน โดยเฉพาะ การเข้าร่วมกิจกรรมวันสาคัญทางศาสนา และจัดกิจกรรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของ นักเรยี นอย่างตอ่ เน่ือง (เอกสารอา้ งองิ ) ๖.๒ การพัฒนาวิชาชพี - การรักษาจรรยาบรรณวิชาชีพ ได้ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความซ่ือสัตย์สุจริตและรับผิดชอบต่อ วิชาชีพครู เสรมิ สร้างพัฒนารกั เรยี นท้งั ดา้ นสติปัญญา รา่ งกาย อารมณ์ สังคม - การเป็นวิทยากร อบรมสัมมนาให้แก่เพ่ือนครูอย่างสม่าเสมอทาให้ได้รับเกียรติบัตรหนังสือ เชิญชวนอยา่ งต่อเน่ือง - การปฏิบัติงานร่วมกับผู้อ่ืน ได้ปฏิบัติงานร่วมกับคณะครูภายในโรงเรียน โดยยึดหลัก ประชาธิปไตยและการทางานเป็นทีม อุทิศเวลา เสียสละเพ่ือส่วนรวมจนทาให้การปฏิบัติ หน้าท่ีมีผลดี (เอกสารอ้างองิ ) คู่มอื ปฏบิ ัติงาน โรงเรียนพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๙๑ คุณภาพผู้เรียน ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นของผู้เรียน ตาราง ๑ แสดงผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของนักเรยี นชนั้ .............ปีการศึกษา................ กล่มุ สาระการเรียนรู้ คะแนนเฉลยี่ /ปกี ารศึกษา ๒๕๕……… ๒๕๕…….. เพ่ิม/ลด ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สังคมศกึ ษา สุขศึกษาพลศึกษา ศลิ ปศกึ ษา ภาษาตา่ งประเทศ การงานอาชีพฯ เฉลีย่ รวม จากตาราง ๑ แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนปีการศึกษา.................. โดยรวมเพม่ิ /ลด รอ้ ยละ..................................และเมื่อแยกเป็นรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนรเู้ พ่ิม/ลด ดงั นี.้ ........................................... ตาราง ๒ แสดงร้อยละค่าเฉลี่ยและรอ้ ยละของนกั เรียนมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนน่าพอใจ ช้นั .... ภาคเรียนท.่ี .........................ปกี ารศึกษา......................................จาแนกรายกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ชอื่ -สกลุ ไทย คณิต วทิ ย์ สงั คม ศิลปะ สุขฯ การงาน ตา่ ง รวม ประเทศ เฉล่ีย รวม จากตาราง ๒ พบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับ................... คะแนนเฉล่ียร้อยละ.............. เม่ือจาแนกตามรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า ผลสัมฤทธ์ิสูงสุด คือ ..................... มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ...................รองลงมาคือ........................มีคะแนนเฉล่ียร้อยละ .............ตามลาดบั และผลสมั ฤทธิต์ า่ สดุ คอื ..................มีคะแนนเฉล่ียร้อย..................... ตาราง ๓ แสดงการเปรยี บเทยี บผลการใชแ้ บบฝึกเสรมิ ประสบการณส์ าระวชิ าเร่ือง.............ชัน้ ..................ภาคเรียนที.่ .............................ปีการศึกษา..............................กอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น ผลการดาเนินการ จานวน (N) ค่าเฉลี่ย (X) S.D. t-test ก่อนเรียน หลงั เรียน คู่มือปฏบิ ตั ิงาน โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา

๓๙๒ จากตาราง ๓ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ช้ัน......................หลังการใช้ แบบฝึกมคี า่ เฉลี่ย เท่ากบั ...............ก่อนการใช้แบบฝกึ มีคา่ เฉลี่ย เท่ากับ...................ค่า t ที่คานวณได้ เท่ากับ......................ซึ่งสงู กว่าค่า t ในตารางเทา่ กับ.....................แสดงวา่ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนหลัง การใชแ้ บบฝึกสงู กวา่ ก่อนการใชอ้ ยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถิตนิ ยั ระดบั ...................... ๒. พัฒนาการดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมท่ีดีงามและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของผูเ้ รียน ตาราง ๔ รายงานผลการพฒั นาผเู้ รียนดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมของนักเรยี นช้ัน.....ปีการศึกษา..... ที่ ชอื่ -สกลุ ขยนั ซ่อื สัตย์ ประหยัด วินัย รกั เฉลย่ี ระดับ โรงเรียน คณุ ภาพ ๑๒๓๑๒๓๑๒ ๓ ๑๒๓๑๒๓ รวม จากตาราง ๔ พบว่า การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน โดยรวมมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ……………ซึ่งอยู่ในระดับคุณภาพ..............เมื่อจาแนกเป็นรายข้อ พบว่า คุณธรรมด้าน ................................มีค่าเฉล่ียเท่ากับ...........ซ่ึงสูงกว่าคุณธรรมด้านอื่น ส่วนคุณธรรมต่าสุดคือด้าน .............ซ่ึงมคี ่าเฉลยี่ เทา่ กนั ๓. การพัฒนาดา้ นใฝร่ ูใ้ ฝ่เรียน ทักษะการคดิ การจัดการ การแก้ปญั หาของผู้เรียน ตาราง ๕ รายงานผลการพัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรมจรยิ ธรรม ของนักเรียนชั้น.........ปีการศึกษา............ ที่ ช่ือ-สกลุ ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น ทักษะ การ การ เฉล่ีย ระดับ การคดิ ทางาน แกป้ ญั หา คณุ ภาพ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓๑๒ ๓ ๑ ๒ ๓ รวม จากตาราง ๕ พบว่าการพฒั นาด้านการใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียนของนักเรยี น โดยรวมมคี า่ เฉลยี่ เท่ากับ ............ซ่ึงอยู่ในระดับคุณภาพ...................เมื่อจาแนกเป็นรายข้อ พบว่า การพัฒนาด้าน.................. มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ.............ซ่ึงสูงกว่าการพัฒนาด้านอื่น ส่วนการพัฒนาต่าสุดคือด้าน............ซ่ึงมี ค่าเฉลย่ี เทา่ กบั .................. ๔. พฒั นาด้านทกั ษะในการสอื่ สารและการใช้ภาษาไทยของผูเ้ รียน ตาราง ๖ รายงานผลการพัฒนาผ้เู รียนดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คมู่ อื ปฏิบตั ิงาน โรงเรียนพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๓๙๓ ของนักเรียนชน้ั ....................ปีการศึกษา.................... ที่ ชื่อ-สกลุ การสอ่ื สาร สือ่ คดิ เขยี นส่ือ การใช้ เฉลย่ี ระดับ ความหมาย วเิ คราะห์ ความ ภาษาไทย คุณภาพ ๑๒๓ ๑๒๓ ๑๒๓๑๒๓๑๒๓ รวม คู่มือปฏบิ ตั ิงาน โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา

๓๙๔ การตรวจสอบและรบั รองของผู้บงั คับบัญชาช้นั ต้น ไดต้ รวจสอบแล้วรบั รองการรายงานทเี่ กิดจากการปฏบิ ัติหนา้ ทถี่ ูกต้องและเป็นความ (ลงชือ่ ).............................................................. (................................................................) ตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรยี น.......................................................... วันท่.ี .............เดือน...............................................พ.ศ..................... ๑๓. แนวการจดั กจิ กรรมเพื่อปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมการลงโทษนักเรียน สภาพสังคมในทศวรรษใหม่เป็นยุคของความเร็วและความล้าสมัยของเทคโนโลยีการสื่อสาร ความหลากหลายทางเช้อื ชาติวัฒนธรรมการหลอ่ หลอมรวมความคิดและความเชื่อของกลุ่มคนท่ีบุคคล ในสังคมจะต้องต้ังรับการมีวิถีชีวิตยุคใหม่อย่างมีวิจารณญาณซ่ึงจากสภาพสังคมท่ีเปล่ียนแปลงอย่าง มากน่ีเองได้ส่งผลกระทบต่อเด็กวัยเรียนทั้งการดาเนินชีวิตท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีท่ีเปล่ียนแปลง และความคาดหวงั ของผู้ปกครองต่อการศกึ ษาตอ่ ของบตุ รหลานตลอดจนการเผชิญส่ิงย่ัวยุหรือตัวแบบ ที่ไมเ่ หมาะสมต่างๆ รอบตัวก่อให้เกดิ ปัญหาเด็กและเยาวชนอยา่ งมากทัง้ ปัญหาด้านการปรับตัวปัญหา ด้านอารมณ์และจิตใจปัญหาสุขภาพปัญหาความรุนแรงปัญหาเด็กติดเกมปัญหายาเสพติดปัญหาทาง เพศฯลฯโดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนท่ีมีทักษะชีวิตต่า ขาดภูมิคุ้มกันทางสังคมท่ีดีเม่ือจบการศึกษา ขั้นพื้นฐานไปแล้วอาจเป็นคนท่ีไม่ประสบความสาเร็จในชีวิตมีปัญหาทางอารมณ์จิตใจและมีความ ขัดแย้งในชีวิตได้ง่ายครูจึงต้องจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพให้ผู้เรียนมีทักษะชีวิตเป็น ภูมิคมุ้ กนั ให้รอดพ้นจากการครอบงาความคิดของส่ือ เทคโนโลยีและตั้งรับต่อการก้าวรุกทางสังคม อย่างรเู้ ทา่ กนั แนวทางการจัดกิจกรรม ๑) แนวทางการจดั กจิ กรรมเพื่อปรบั เปลี่ยนพฤติกรรมในการลงโทษนักเรียน ๒) แนวทางการจัดกิจกรรมเพ่ือปรับเปล่ียนพฤติกรรมในการลงโทษนักเรียน ได้กาหนด วิธีการลงโทษนักเรียนตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ ดงั นี้ (๑) ว่ากล่าวตักเตอื น (กรณี ความผดิ ไมร่ ้ายแรง) (๒) ทาทัณฑ์ (กรณี นักเรียนประพฤติ ไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียนตาม กฎกระทรวงวา่ ด้วยความประพฤตินกั เรยี นและนักศึกษา หรือกรณีทาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และเกียรติ ของโรงเรยี น หรอื ฝา่ ฝืน ระเบยี บของโรงเรียน หรอื ไดร้ ับโทษว่ากลา่ วตักเตือนแล้วแตย่ งั ไมเ่ ข็ดหลาบ) (๓) ตัดคะแนนความประพฤติ (ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการตัดคะแนน ความประพฤตินกั เรียน (๔) ทากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปล่ียนพฤติกรรม (ใช้ในกรณี ท่ีนักเรียนกระทาความผิด ท่ีสมควรต้องปรับเปล่ียนพฤติกรรม) คู่มือปฏบิ ตั งิ าน โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

๓๙๕ ลักษณะของกิจกรรม ๑) กิจกรรมทางกายภาพ การกาหนดกิจกรรมทางกายภาพเป็นกิจกรรมที่ทาโทษนักเรียน ในกรณที าความผิดเลก็ น้อยหรือสถานเบาภายใตก้ ารกากับดูแลของครู อาทเิ ชน่ - การว่ิงรอบสนามไม่กว้างมากนักในจานวนรอบท่ีพอเหมาะกับเพศ วัย ของนักเรยี น - การให้ออกกาลงั กายในรูปแบบทเ่ี หมาะสมอน่ื ๆ ฯลฯ ๒) กิจกรรมในลักษณะบาเพ็ญประโยชน์ หรือทาคุณความดีชดเชยการกระทาผิด โดยแบ่งเป็น ๒ ลกั ษณะ คือ (๑) กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ หรือทาคุณความดีชดเชยการกระทาความผิดภายในโรงเรียน ภายใตก้ ารกากับดูแลของครู สาหรบั โทษสถานเบา หรือโทษเลก็ นอ้ ย เชน่ - การเก็บขยะมูลฝอย - การกวาดขยะ - การขัดหอ้ งนา้ ห้องส้วมใหส้ ะอาดเรียบร้อย - การทาสี ผนังอาคาร - ขดั ถูโตะ๊ -เก้าอฯ้ี ลฯ (๒) กิจกรรมอยู่ค่ายปฏิบัติธรรมแบบเข้มท่ีวัด โรงเรียน หรือสถานปฏิบัติธรรมโดย โรงเรยี นรว่ มมือกบั ผปู้ กครองเป็นการชดเชยการกระทาความผิดซ้าซาก หรือความผิดสถานหนัก หรือ ถูกตัดคะแนน ความประพฤติเกิน ๕๐ คะแนน โดยทากิจกรรมทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เช่น ปฏิบัติกิจกรรม ทางศาสนาที่วัด ไปทาบุญในวัดใกล้บ้านจานวน… /คร้ังทาความสะอาดวัดดูแล ปรนนบิ ตั ิพระปฏบิ ัติธรรม จานวน… /คร้ัง การบวชสามเณรภาคฤดรู อ้ น หรอื ระหวา่ งปิดภาคเรียนโดย มีการกากับตรวจสอบจากทางวัดโรงเรียน มีหนังสือรับรองการปฏิบัติกิจกรรม และค่ายคุณธรรมที่ โรงเรียนจัดขนึ้ (๓) กิจกรรมที่เกิดจากการกระทาความผิดในกรณีถูกตัดคะแนนเกิน ๕๐ คะแนน หลายครัง้ หรอื มโี ทษสถานหนกั มาก เช่น การเสพยาเสพติดข้ันรุนแรง การจาหน่ายยาเสพติด การทา ร้ายร่างกายผู้อ่ืนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทะเลาะวิวาท ฯลฯ โรงเรียนจะดาเนินการส่งต่อหน่วยงานที่ เกย่ี วข้องรว่ มดาเนินการ ภาพกิจกรรมทีไ่ ด้ ดาเนินการ คา่ ยคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และวินยั นกั เรยี น (๔) ค่ายคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และวนิ ยั นักเรียนในวัด และสานกั ปฏบิ ตั ธิ รรม (๕) กิจกรรมบาเพ็ญสาธารณประโยชน์ ท้ังในและนอกโรงเรียน คู่มอื ปฏิบัติงาน โรงเรียนพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา

friawftnwmswvi5meiunu,wii!nfi na-a u^^Pia!K^<iiTj^W(jji!tini<3<ijQ<u?i'3n<UfiviTUN'u1vin<3 fii iias'ufifnfi'jrn^nii^n'W'i TsjL^pnjiNwil^Fioifi^ii LLwunaisjojflfTWi kfiupruui Snnieniuijniniasuivm^nii/nEjHnQvmy n{] skujeju ihsmci fna-a @ulyinEj LLas;?n3Jiu'i iD'iEJ<ua<i3Jvni, i'jfiJjn(!i3Ji,i!uii,n'uvian UFiida<i!3'inn{]vi3j'iEJ n{] lij!)\\ iotsmd m^ ien iwu LOTLtl-unTjaivnypmjJfiKPnn iraWinnrJisatismvi uasaipmjjiiiuanfrin'lufn'swnmu'nii m uasiJPignnivn^m'jPintnl^i.iEi'uwiKiIiS'pis'j'jjj uu'unaiwqjHn'wi fltWRilianmjiiasaivruTvi mv a. n^sniniJjCl la^wnpiwsjnfi t> viiJfntn is. n^npiwanujii ilists'runaiilwi.iEnjn nawvi sn fitHntn m. wsFi^a'uviTwsjafia il^sanunant^LiEnin mm <c viiJinw si mspmJfEipnTVTftu ilweTunauT^ifEfui nduvi @i viiJinw (H waTuijm^aTumTuwsvivi5(!na<uiiLvi-3i!npi viiJinw to. TO'3wa\"w3Eim?aoiiJn>rTU7 KiNVi5flinaiuniivi-3OT tlwcn'UFinjBii'Kn'u t(. waTuiE)mina vi5?i'ia'umw lo^d'iKSTUifWKM'M'ru rf.\"unasjTwa tietu wa'TuiEjm^un^ii^i^vitsmavar wiPian'iji'u niusnVru at vrsnetiXtoPi ^mm ya*TUQE)fT^aonufMivrmBTijvi5mmn^^wijn?yvB3iri piaujviTmi so. vhvruinasjQpimi Pitusm'imj @a wa'Tmam'saTun'refifmna^ilfrBJ'M *\" pkubvi'mtu awn. mBilfwy^my muna uniinnrsfiaupifTtn nmjn is musyrwru @si uiEJimEMlni vhniwu umijnfnipngTUpifTcfn nauvi < fi&Kvrwru effi. ^amnymieiiumifln'tfTwis'iJitipis?^ uwunanajEy noisvii^i'ULiasJTCTumi


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook