นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๒) ความเหมาะสม โดยค�านึงถึงความรคู้ วามสามารถของผลู้ งทนุ สภาพแวดลอ้ ม ทางเศรษฐกจิ และความเปน็ ไปไดใ้ นทางเศรษฐกจิ เชน่ การลงทนุ ตง้ั ร้านค้า ผ้ลู งทุนกจ็ ะตอ้ งศึกษา ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู กอ่ นว่ามีร้านคา้ ท่ีจา� หนา่ ยสนิ คา้ อยกู่ อ่ นหรอื ไม ่ จา� นวนผซู้ อ้ื มมี ากนอ้ ยเพยี งใด สภาพทางเศรษฐกจิ ในหมู่บ้านที่ต้ังร้านค้าเป็นอย่างไร ผู้ลงทุนต้ัง 11. ครูใหนักเรียนรวมกันยกตัวอยางการลงทุน ร้านค้ามีเวลาให้บริการลูกค้าหรือไม่ หรือมี ของคนไทยและชาวตา งชาตทิ อี่ ยใู นประเทศไทย ความรู้เรื่องการค้าขายและการบริหารจัดการ จากนัน้ ครตู ง้ั คาํ ถาม เชน เพียงใด เปน็ ต้น • การท่ีนักลงทุนท้ังคนไทยและชาวตางชาติ เขา มาลงทนุ ในประเทศไทย มปี จ จยั สนบั สนนุ ๓) การเปลย่ี นแปลงมูลคา่ ใดบาง หมายถึง การคาดคะเนถึงมูลค่าของสินทรัพย์ (แนวตอบ เชน มีกฎหมายท่ีคุมครองการ ที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากกว่าจ�านวนเงินที่ ลงทุน มีกลุมลูกคาท่ีทําใหธุรกิจมีกําไร ลงทุนไป เช่น พันธบัตรรัฐบาลท่ีมีระยะเวลา มีระบบการคมนาคมขนสงท่ีสะดวกสบาย ไถ่ถอนนาน อาจมีมูลค่าท่ีแท้จริงลดลง หรือ และทนั สมยั ) ถ้ามีการเปล่ียนแปลงเพิ่มอัตราดอกเบี้ยใน • หากนักเรียนตองการนําเงินออมมาลงทุน ท้องตลาด มูลคา่ กจ็ ะลดลงเชน่ เดียวกนั จะเริ่มตน วางแผนการลงทนุ อยางไร (แนวตอบ วางแผนการลงทุนตามขั้นตอน ๔) เสถยี รภาพของรายได้ เชน สํารวจความพรอมทางการเงิน โดย การมีท�าเลท่ีต1ั้งย่านใจกลางเมือง ท�าให้ธุรกิจค้าปลีก ผู้ลงทุนมักจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้รายได้ รายไดจะตองมากกวารายจาย แลวจึง ร้านสะดวกซอื้ มีการขยายตวั อยา่ งรวดเร็ว สม�่าเสมอในระยะยาว และมีความม่ันคง ทั้งน้ี กําหนดเปาหมายการลงทุน เชน เพื่อการ ศึกษา จากนั้นสํารวจความเสี่ยงจากการ เนอ่ื งจากรายไดท้ สี่ ม่า� เสมอ เช่น ดอกเบีย้ พันธบัตร หรอื หนุ้ กู้ดอกเบย้ี เงนิ ฝาก สามารถจะวางแผน ลงทุน โดยเลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงตํ่า ไดว้ า่ จะนา� รายไดน้ ไ้ี ปใชเ้ พอื่ การบรโิ ภคหรอื เพอ่ื ลงทนุ ใหมต่ อ่ ไป แต่สา� หรบั การลงทนุ ในหุน้ ทนุ อาจ ถึงแมจะไดผลตอบแทนตํ่าก็ตาม และ คาดคะเนรายได้จากเงินปันผลได้ไม่แน่นอนนัก เพราะถ้าธุรกิจไม่ได้ก�าไรหรือขาดทุนก็อาจไม่มี กระจายเงินลงทุนในทรัพยสินประเภท การจา่ ยเงนิ ปันผล ตางๆ รวมถึงตองมีการประเมินผลการ ลงทุน เพอ่ื ปรับเปลี่ยนวิธีการลงทุน) ๕) ความคลอ่ งตวั ในการซอ้ื ขาย ผลู้ งทนุ ควรพจิ ารณาวา่ หนุ้ หรอื หลกั ทรพั ยท์ ซี่ อื้ มาสามารถน�าไปซื้อขายในตลาดได้ง่ายและรวดเร็วมากน้อยเพียงใด โดยท่ัวไปความคล่องตัว ในการซื้อขายหุ้นก็ข้ึนอยู่กับราคา จ�านวนผู้ถือหุ้น และความสนใจที่ประชาชนท่ัวไปมีต่อหุ้นนี้ ถา้ เปน็ หลกั ทรพั ยท์ ม่ี คี วามคลอ่ งตวั ในการซอ้ื ขาย ถา้ หากผอู้ อมตอ้ งการซอื้ ขายสามารถทา� ไดส้ ะดวก ๖) ภาษที ต่ี อ้ งชา� ระ ผลู้ งทนุ ควรมกี ารศกึ ษาเปรยี บเทยี บถงึ ขอ้ ไดเ้ ปรยี บเสยี เปรยี บ ของการลงทนุ แต่ละประเภท โดยนา� ภาษที ีต่ ้องชา� ระมาพิจารณาประกอบดว้ ย เช่น การเสียภาษี รายได้จากดอกเบ้ียพันธบัตร ภาษีจากเงินปันผลของหุ้นทุน ภาษีธุรกิจ ภาษีบ้าน ที่ดินและ อสงั หาริมทรพั ย์อืน่ ๆ เป็นต้น ๑๒๔ เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครเู พม่ิ เติมความรูเรอื่ ง วิธกี ารลงทนุ ผลตอบแทน ความเสยี่ งในการลงทุน การลงทนุ ขอ ใดถอื วา มคี วามเสย่ี งสงู ซง่ึ อาจทาํ ใหเ งนิ ทนุ สญู หายได ประเภทตางๆ เชน การลงทุนในพันธบัตร หุน กองทุนรวม กิจการคาขาย 1. ซื้อสลาก ธ.ก.ส. เพอื่ กระตนุ ใหน กั เรยี นเหน็ ความสาํ คญั ของการลงทนุ และหาชอ งทางในการลงทนุ 2. ซ้ือสลากออมสิน ตามความเหมาะสมกับวัยและรายได 3. ซอื้ พันธบัตรรฐั บาล 4. ซือ้ หุน ในตลาดหลักทรัพย นักเรียนควรรู (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะแมเปนการลงทนุ ทีม่ ีโอกาส 1 รา นสะดวกซอื้ รา นคา สมยั ใหม ตง้ั อยใู นยา นชมุ ชน ทาํ เลดี ขายสนิ คา สาํ หรบั ไดผ ลตอบแทนสงู แตก ม็ คี วามเสย่ี งสงู มาก เพราะอาจขาดทนุ เมอื่ ใชใ นชวี ติ ประจาํ วนั และมบี รกิ ารอนื่ ๆ เชน รบั ชาํ ระคา บตั รเครดติ คา สาธารณปู โภค ขายหนุ ไปในราคาตา่ํ กวา ราคาทซ่ี อ้ื มา อาจทาํ ใหเ งนิ ทนุ สญู หายได ตา งๆ มีการจัดรา นคา แบบทนั สมยั วางสนิ คา เปนประเภท ลกู คา สามารถหยบิ ดงั นน้ั ผลู งทนุ จะตอ งศกึ ษาขอ มลู เปน อยา งดี เพอื่ ปอ งกนั ความเสยี่ ง ไดส ะดวก มบี รกิ ารทดี่ ี มกี ารประชาสมั พนั ธเ พอื่ จดั รายการสง เสรมิ การขาย เชน จากการลงทนุ ) ลดราคาสนิ คา บางประเภท ขายควบสนิ คา เปด ขายเปน ระยะเวลานานในแตล ะวนั Tเชน มกี ารเปด ขาย 24 ชั่วโมง เชน 7-ELEVEN เทสโกโลตัสเอก็ ซเพรส 136
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ซอ้ื หลักทรพั ย๗บ์ )างกชานรดิ ไ ดเช้ร่นับ ผกลอปงทระนุ โรยวชมนห์ุ้นดร้าะนยภะยาาษวีอ1 ักนอเนงท่อื นุ งรมวามจเพาก่อื กกาารรเลลงี้ยทงชุนีพ 2 ใผน้ลู กงาทรนุลทงทซ่ี ุนือ้ ขนั้ สอน แลว้ สามารถที่จะนา� ไปหกั ลดหย่อนภาษเี งินได้บุคคลธรรมดาไดถ้ งึ ร้อยละ ๑๕ ทัง้ นี้ ขึ้นอยกู่ บั ฐาน ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ภาษีของผ้ลู งทนุ แต่จะต้องถอื หลกั ทรพั ย์กองทนุ ดังกลา่ วไว้ ๕ ปีขึ้นไป 12. นักเรียนกลมุ ที่ 5 ปจ จัยทเ่ี ปน ตัวกาํ หนดการ ๘) ควรมกี ารลงทนุ หลายประเภทเพือ่ ลดความเส่ียง ผู้ลงทุนไม่ควรเลือกลงทุน ลงทุน สงตัวแทนนาํ เสนอขอมลู หนา ชั้นเรยี น ตามประเดน็ ท่ศี ึกษา ประเภทเดยี ว เพราะมีความเสยี่ งสงู เชน่ การลงทุนซือ้ หลักทรัพยห์ รอื หุน้ ของธุรกิจประเภทเดียว ถา้ ธรุ กจิ ขาดทนุ กจ็ ะไมไ่ ดร้ บั เงนิ ปนั ผลและอาจขาดทนุ จากราคาหลกั ทรพั ยท์ ลี่ ดลง แตค่ วรกระจาย 13. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพิ่มเติมถึง เงนิ ลงทุนไปยังหลักทรัพย์หลาย ๆ ประเภทต่างชนดิ กนั จะไดล้ ดความเส่ียง เพราะถา้ มหี ลักทรัพย์ ปจจัยท่ีเปนตัวกําหนดการลงทุน โดยครู ของบางธรุ กจิ ขาดทนุ แตก่ ็อาจมีหลกั ทรพั ย์ของธุรกจิ อน่ื ที่ได้กา� ไร ยกตัวอยางการลงทุนในกิจการตางๆ และ ใหนักเรียนชวยกันบอกปจจัยในการลงทุน ๒.5 ปจั จัยท่ีเป็นตวั ก�าหนดการลงทนุ เชน อตั ราดอกเบยี้ อายขุ องพนั ธบตั ร จากนน้ั ครูตั้งขอสังเกตวา เพราะเหตุใดนักลงทุน ในการลงทุน ผู้ลงทุนจะต้องพจิ ารณาถึงปจั จยั ตา่ ง ๆ ดังต่อไปน้ี จงึ ทาํ การซอ้ื -ขายหุนในเวลาทตี่ า งกนั ไป (แนวตอบ นกั ลงทนุ จะเลอื กเวลาในการซอ้ื -ขาย แผนผังแสดงปจั จยั การลงทุนในธุรกจิ ของครวั เรอื น ทเี่ หมาะสม ทตี่ นคดิ วา ไดผ ลกาํ ไรสงู สดุ เพราะ หนุ สามารถผนั ผวนไดต ลอดเวลา การตดั สนิ ใจ ปัจจัยในการลงทนุ ผลตอบเเทน ของนกั ลงทนุ จะมผี ลตอ กาํ ไร-ขาดทนุ ดงั นนั้ ของครัวเรอื น เเละความเสีย่ ง นักลงทุนจะตองคํานึงถึงปจจัยตางๆ เชน ความเสยี่ ง กาํ ไร จงึ ตอ งเลอื กเวลาทเ่ี หมาะสม ในการซอื้ -ขายหุน) การคาดคะเน เก่ียวกบั เหตุการณ์ ต่าง ๆ ในอนาคต ค่าของเงนิ จา� นวน อายุของ ทรัพยส์ ิน ผู้ลงทุน ท่ีจา� หนา่ ย สภาพครอบครัว ในตลาด ๑) อตั ราผลตอบแทนและความเสย่ี ง การลงทนุ ในทรพั ยส์ นิ หรอื หลกั ทรพั ยต์ า่ ง ๆ เชน่ พนั ธบัตรรฐั บาล ห้นุ ทุน ที่ดิน ผลู้ งทนุ กห็ วังท่จี ะไดร้ บั ผลตอบแทนสูง ๆ และมีความเสยี่ งตา่� ในกรณที รี่ ฐั บาลกา� หนดอตั ราดอกเบยี้ พนั ธบตั รไวส้ งู อายขุ องพนั ธบตั รไมย่ าวนานมากนกั กจ็ ะทา� ให้ นกั ลงทุนหนั มาลงทนุ ซือ้ พนั ธบัตรรฐั บาลมากขึ้น ๑๒5 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู หากธนาคารพาณิชยปรับเพิ่มอัตราดอกเบ้ียเงินฝากใหสูงขึ้น 1 กองทุนรวมหุนระยะยาว เปนกองทุนท่ีจัดต้ังข้ึนโดยสถาบันการเงิน ดวย สง ผลดใี นดานใด การแบงทุนออกเปน มลู คาหุน หุน ละเทา ๆ กัน เชน 10 บาท และมกี ารนําออก ขายแกน กั ลงทนุ เมื่อไดเงนิ มาแลวก็จะนําเงนิ ไปลงทนุ ตามวตั ถปุ ระสงค เมอ่ื มี 1. การออม กําไรก็จะจา ยเปนเงนิ ปนผลใหก ับผูถอื หุนตามสัดสว นจํานวนหุน 2. การลงทุน 2 กองทุนรวมเพอื่ การเลย้ี งชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF) เปน 3. การทาํ ธุรกิจ กองทุนรวมประเภทหน่ึงซ่ึงมีวัตถุประสงคท่ีแตกตางจากกองทุนรวมทั่วๆ ไป 4. คา เงนิ บาทแขง็ คา ขึน้ กลาวคือ RMF เปนเครื่องมือหนึง่ ในการสะสมเงินไวใชในวยั เกษียณ โดยมกี าร สนบั สนุนใหส ิทธปิ ระโยชนทางภาษแี กผ ูลงทนุ เพื่อเปนแรงจงู ใจ (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการปรับดอกเบี้ยเงินฝาก เพม่ิ ขนึ้ เปน การสรา งแรงจงู ใจในการออมสาํ หรบั ผมู เี งนิ ออม เพราะ T137 ไดรับผลตอบแทนเพ่ิมข้ึน แตในทางตรงกันขามผูประกอบการ ท่ีตองกูเงินจากสถาบันการเงินมาทําธุรกิจ ตองไดรับผลกระทบ จากภาระดอกเบี้ยท่ีเพิ่มขึ้น เปนสาเหตุหนึ่งที่ทําใหนักลงทุน ผปู ระกอบการชะลอการลงทนุ )
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ในทางตรงกันข้าม ถ้าในช่วงใดที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรต่�า แต่อัตราผลตอบแทน จากการลงทนุ สูง เนื่องจากผลประกอบการของธรุ กิจดี ธุรกิจก็จะจ่ายเงินปันผลแกผ่ ถู้ อื หุ้นมากข้ึน ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ความตอ้ งการลงทนุ ในหนุ้ ทนุ หรอื หลกั ทรพั ยข์ องธรุ กจิ ตา่ ง ๆ กจ็ ะมมี ากขนึ้ เพราะในชว่ งเศรษฐกจิ ดี 14. ครูตั้งคําถามเกี่ยวกับปจจัยในการตัดสินใจ ภาวะความเส๒่ียง)จคะล่าดขลองงเงิน1 หรืออ�านาจซื้อของเงินในปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อการลงทุน ลงทุนของคนท่ัวไป เพ่ือใหนักเรียนไดแสดง ความคิดเหน็ เพมิ่ เตมิ เชน อย่างมาก ในช่วงเวลาใดท่ีค่าของเงินหรืออ�านาจซ้ือของเงินไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ผู้ลงทุน • ปจจัยสําคัญในการตัดสินใจลงทุนของ ส่วนใหญ่ก็มักจะลงทุนในการซ้ือพันธบัตรและหุ้นกู้ แต่ถ้าช่วงใดที่ค่าของเงินเปล่ียนแปลงมาก บุคคลทวั่ ไป มอี ะไรบาง ผูล้ งทุนอาจจะหันกลบั มาลงทุนในธรุ กจิ ทีเ่ สยี่ งมากขนึ้ เช่น การลงทุนในหุน้ ของธุรกจิ การลงทุน (แนวตอบ เชน เลือกลงทุนในธุรกิจท่ีไดรับ ในธุรกจิ อสังหารมิ ทรพั ยท์ ดี่ ิน เปน็ ต้น เพราะตอ้ งการทจี่ ะไดผ้ ลตอบแทนสงู และค้มุ กับความเส่ียง ผลตอบแทนสงู มคี วามเสยี่ งตาํ่ หรอื ความรู เกี่ยวกบั ค่าของเงนิ ความถนดั ในธุรกจิ ที่ลงทุนของผูลงทุน) • นักเรียนคิดวา ความผันผวนของคาเงินมี ๓) จา� นวนของทรพั ยส์ นิ ทจ่ี า� หนา่ ยในตลาด ถา้ ตลาดมที รพั ยส์ นิ ตา่ ง ๆ ของรฐั บาล ผลกระทบตอการลงทุนของบุคคลหรือไม อยา งไร ธุรกิจและองค์กรต่างๆ ออกมาจ�าหน่ายในตลาดมากข้ึน ก็จะจูงใจให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเลือกลงทุน (แนวตอบ มผี ลตอ การตดั สนิ ใจลงทนุ เพราะ ได้มากขนึ้ และมคี วามประสงค์จะเข้ามาลงทุนเพม่ิ ขึ้น ถา คา เงนิ ผนั ผวนมากอาจทาํ ใหม กี ารชะลอ การลงทุนของภาคธุรกิจ สวนประชาชน ๔) การคาดคะเนเกยี่ วกบั เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ในอนาคต ถา้ นกั ลงทนุ คาดการณว์ า่ ทั่วไปอาจตัดสินใจลงทุนที่มีความเสี่ยงตํ่า เชน ลงทนุ ในพันธบตั รรฐั บาล) ภาวะเศรษฐกจิ ในอนาคตจะขยายตวั เพมิ่ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ธรุ กจิ ตา่ ง ๆ จะจา� หนา่ ยสนิ คา้ และบรกิ าร ได้มาก แนวโน้มของก�าไรจะเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงมีความต้องการเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นทุนในธุรกิจ ตา่ ง ๆ เพมิ่ ขน้ึ เพราะคาดวา่ จะไดร้ บั เงนิ ปนั ผลเพม่ิ ขน้ึ และถา้ ไมต่ อ้ งการถอื หนุ้ ตอ่ ไป กจ็ ะจา� หนา่ ย หุน้ ออกไปไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและราคาเพม่ิ ขน้ึ โอกาสทจี่ ะได้กา� ไรก็มมี ากขึ้น ๕) ปัจจัยสว่ นตัวของผูล้ งทนุ เช่น ๕.๑) อายุของผูล้ งทนุ ผลู้ งทนุ ทมี่ ีอายุนอ้ ย เช่น อายุระหวา่ ง ๓๐ - ๔๐ ปี มัก จะกล้าเสย่ี ง และสนใจลงทุนในหลกั ทรัพยท์ ี่มีแนวโนม้ ว่าเงนิ ลงทุนงอกเงยสงู แตถ่ ้าผ้ลู งทุนมอี ายุ ระหว่าง ๔๐ - ๕๐ ปี อาจสนใจลงทุนในหลกั ทรัพยท์ ี่ให้รายได้ประจา� ท้งั นี้ อาจเนอ่ื งมาจากภาระ ทางครอบครวั แตถ่ า้ ผลู้ งทนุ ทมี่ อี าย ุ ๕๐ ปขี น้ึ ไป มกั จะพอใจลงทนุ ในหลกั ทรพั ยท์ ใี่ หร้ ายไดแ้ นน่ อน และมคี วามเสย่ี งตา่� มาก ๕.๒) นิสัยส่วนตัวของผู้ลงทุน ผู้ลงทุนที่มีนิสัยไม่กล้าเส่ียงมักจะชอบลงทุนใน หลกั ทรพั ยท์ ใ่ี หร้ ายไดแ้ นน่ อน มีความเสี่ยงน้อย แตผ่ ้ลู งทุนท่มี นี สิ ัยชอบเส่ียงก็อาจเลือกลงทนุ ใน หลักทรพั ย์ท่ใี หผ้ ลตอบแทนสงู แต่อาจมคี วามเสีย่ งมากกวา่ ๕.๓) สภาพของครอบครวั ผลู้ งทนุ ทมี่ คี รอบครวั แลว้ และตอ้ งรบั ผดิ ชอบตอ่ ความ เป็นอยู่ของครอบครัว ต้องให้การศึกษาแก่บุตร หรือเล้ียงดูบิดามารดา ท�าให้ต้องเลือกลงทุนใน หลกั ทรัพยท์ ม่ี ่นั คง ใหร้ ายไดท้ ีแ่ นน่ อน ส่วนคนท่ียงั โสด ไม่มภี าระครอบครวั มากนกั กอ็ าจลงทนุ ๑๒ใ6นหลกั ทรพั ย์ที่มีความเสีย่ งได ้ เป็นตน้ เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครคู วรนาํ เอกสารและแผน พบั ของสถาบนั การเงนิ ตา งๆ เชน ธนาคารพาณชิ ย ปจจัยที่เปนตัวกําหนดการลงทุนในขอใดมีความสัมพันธกับ ที่ใหความรูเก่ียวกับการลงทุน ประโยชนและผลตอบแทนท่ีไดรับ พรอมท้ัง ภาวะเงินเฟอและเงนิ ฝด มากท่ีสดุ ชใี้ หน กั เรยี นเหน็ ถงึ ความสาํ คญั ของการออมเงนิ และการบรหิ ารจดั การเงนิ ออม โดยนําเงนิ ออมไปลงทนุ เพอ่ื ใหเงินออมนน้ั งอกเงย และบอกความเสี่ยงจากการ 1. คา ของเงิน ลงทุนแตละประเภทดว ย 2. ผลตอบแทนและความเส่ียง 3. จาํ นวนทรพั ยส ินที่จําหนา ยในตลาด นักเรียนควรรู 4. การคาดคะเนที่เก่ยี วกบั เหตกุ ารณตางๆ ในอนาคต 1 คา ของเงนิ เปลยี่ นแปลงไปตามสภาวะเงนิ เฟอ ถา อตั ราเงนิ เฟอ สงู มากเทา ใด (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. คาของเงิน หมายถึง อํานาจซื้อ แสดงวาอํานาจซ้ือหรือคาของเงินจะลดลงมากขึ้น เชน จากท่ีเงิน 100 บาท ของเงิน ซึ่งจะมากหรือนอยขึ้นอยูกับดัชนีราคา (ระดับราคา ซ้ือของไดหลายอยาง เมื่อคาเงินลดลงกลับซ้ือของไดนอยลงหรือซ้ือของได ของสินคา และบรกิ าร) เพียงอยา งเดยี ว ถา คา ของเงินสงู = ดัชนีราคาต่ํา = ของถกู → ภาวะเงินฝด T138 คา ของเงนิ ตา่ํ = ดชั นีราคาสูง = ของแพง → ภาวะเงนิ เฟอ )
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เสริมสาระ ขนั้ สอน เปด ชองทางการลงทนุ ไปกับตราสารหน้ีและตราสารทนุ ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ปัจจุบันผู้มีเงินออม มีทางเลือกในการออมเงินเพ่ิมมากขึ้น การลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน เป็นอกี ช่องทางหน่ึงในการลงทุน 15. ครูใหนักเรียนศึกษาเสริมสาระ เรื่อง เปด ตราสารหนี้ (debt securities) คือ หลักฐานหรอื สญั ญาทผ่ี ้ตู ้องการเงินเปน็ ผู้ออกโดยระบรุ ายละเอียด ชองทางการลงทุนไปกับตราสารหน้ีและ ในการกเู้ งนิ เชน่ จา� นวนเงนิ ทตี่ อ้ งชา� ระคนื อตั ราดอกเบยี้ วนั ครบกา� หนด อายตุ ราสาร หลกั ประกนั เปน็ ตน้ ตราสารทุน จากหนงั สือเรียน สงั คมศึกษาฯ ตราสารหนี้ท่ีออกโดยรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ เรียกว่า “พันธบัตร” ส่วนตราสารหน้ีที่ออกโดยภาค ม.2 เพิ่มเติม จากนน้ั ครตู งั้ คําถาม เชน เอกชน เรยี กวา่ “หนุ้ ก”ู้ ซง่ึ มกั เปน็ ตราสารหนร้ี ะยะยาว คอื ตราสารหนใ้ี นตลาดทนุ สว่ นตราสารหนรี้ ะยะสนั้ • นักเรียนจะแนะนําใหผูปกครองลงทุนใน หรือตราสารหนี้ในตลาดเงินมักอยู่ในรูปของต๋ัวสัญญาใช้เงิน ดังน้ัน ผู้ลงทุนในตราสารหนี้จึงมีฐานะเป็น ตราสารหนี้และตราสารทุนอยางไร “เจ้าหน”ี้ ซง่ึ ไดร้ ับผลตอบแทนในรปู ของดอกเบยี้ (แนวตอบ เชน แนะนาํ ใหซ อื้ พนั ธบตั รรฐั บาล ตราสารทุน (equity securities) เป็นตราสารท่ีผู้ต้องการเงินทุนเป็นผู้ออกในรูปของหุ้นสามัญ ซงึ่ เปน ตราสารหนที้ อี่ อกโดยรฐั บาล เมอื่ ครบ หุ้นบุริมสิทธิและตราสารทุนอื่น ๆ โดยแบ่งทุนเป็นหุ้น หุ้นละเท่า ๆ กัน ผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุนในตราสาร กาํ หนดระยะเวลาจะไดร บั ผลตอบแทนเปน จะมีฐานะเป็น “เจ้าของกิจการ” ตราสารทุนมีได้หลายลักษณะ ที่ส�าคัญ ได้แก่ หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ดอกเบยี้ และมคี วามเสยี่ งในการลงทนุ นอ ย) และหน่วยลงทุน หุ้นสามัญ (common stock) เป็นตราสารประเภทหุ้นทุน ซ่ึงออกโดยบริษัทมหาชนจ�ากัดที่ต้องการ ระดมเงินทุนจากประชาชน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้เข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจน้ัน ๆ โดยตรง ผลตอบแทนที่จะ ไดร้ บั จากการถอื หนุ้ กค็ อื เงนิ ปนั ผลจากกา� ไรในธรุ กจิ กา� ไรจากการขายหนุ้ ถา้ ราคาหนุ้ ปรบั ตวั ขนึ้ และสทิ ธิ ในการจองซ้ือหนุ้ ใหมใ่ นกรณที ่ีมกี ารเพมิ่ ทุนจดทะเบยี น หุ้นบุริมสิทธิ (preferred stock) เป็นตราสารประเภทหุ้นทุน มีข้อแตกต่างจากหุ้นสามัญ คือ หนุ้ บรุ ิมสทิ ธิจะได้รับสทิ ธิในการชา� ระคนื เงินทุนก่อนผู้ถือหนุ้ สามัญ ในกรณที ่ีบริษทั เลิกกจิ การ ใบส�าคัญแสดงสิทธิ (warrant) เป็นตราสารท่ีระบุว่าผู้ถือครองจะได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ หุ้นกู้ หรือตราสารอนุพันธ์ในราคาที่ก�าหนดเมื่อถึงเวลาท่ีระบุไว้ ใบส�าคัญแสดงสิทธิมักจะ ออกควบคู่กับการเพ่ิมทุน เป็นเทคนิคการตลาดของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ในการจูงใจให้ผู้ลงทุนจองซื้อ หุ้นสามญั เพิ่มทนุ สิ่งทตี่ ้องร้กู อ่ นลงทนุ ในตราสารหน้ี ๑. มลู คา่ ท่ตี ราไว้ คือ ราคาต่อหน่วยที่ระบเุ อาไวใ้ นตราสาร ๒. อตั ราดอกเบย้ี หนา้ ตว๋ั คอื อตั ราดอกเบยี้ ทผี่ อู้ อกสญั ญาวา่ จะจา่ ยใหผ้ ลู้ งทนุ ซอื้ ตราสารนนั้ โดยอตั รา ดอกเบยี้ ที่ระบุอาจจะเป็นอัตราดอกเบยี้ แบบคงที่ ๓. งวดการจ่ายดอกเบยี้ คือ การระบุวา่ จะจ่ายดอกเบยี้ ให้กับผลู้ งทุนจา� นวนกค่ี ร้ังต่อปี ๔. วนั ครบกา� หนดไถถ่ อน คอื วนั ทตี่ ราสารนนั้ จะหมดอาย ุ และผลู้ งทนุ จะไดร้ บั เงนิ ตน้ คนื ความสา� คญั ของวนั ครบกา� หนดไถถ่ อนอย่ทู ี่ว่าจะยาวนานเพียงใด ๕. องคก์ รทอี่ อกตราสารและอนั ดบั เครดติ เพอ่ื ดคู วามมน่ั คงขององคก์ รและความเสย่ี งของการลงทนุ ๖. ประเภทของตราสารหนี ้ เพอื่ บง่ บอกใหร้ ู้ว่าตราสารทลี่ งทนุ มีความเสี่ยงอยา่ งไร ๗. ข้อสัญญา เงื่อนไขต่าง ๆ เป็นการดูในรายละเอียดว่าผู้ออกหุ้นกู้มีเงื่อนไขอะไรเป็นพิเศษท่ีจะท�า หรือไมท่ �าบา้ ง ๑๒๗ ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู การลงทุนในขอใดมีความสอดคลองกับเสถียรภาพของรายได ครอู ธิบายเพ่มิ เติมคาํ ศพั ทนารเู ก่ียวกบั ตราสารหน้ี มากทส่ี ดุ พันธบัตรหรือหุนกู คือ ตราสารแหงหนี้ระยะยาวซ่ึงผูออกมีขอผูกพันตาม กฎหมายท่ีจะชําระดอกเบี้ยและเงินตนแกผูซื้อตามเวลาท่ีกําหนด โดยทั่วไป 1. ปลอยเงนิ กู ตราสารหน้ีจะครบกําหนดระยะเวลาไถถอนไวแตกตา งกนั ไป เชน 5 ป 10 ป 2. ลงทนุ ในหนุ กู หรือนานกวานนั้ 3. เก็งกําไรทองคํา ดอกเบยี้ ดอกเบยี้ ซง่ึ จายใหกบั ผถู อื กรรมสิทธใ์ิ นตราสารหน้ีเปน งวดตลอด 4. เก็งกาํ ไรจากอตั ราแลกเปลีย่ น อายขุ องตราสารหนี้ เพอื่ เปน คา ตอบแทนสาํ หรบั การนาํ เงนิ มาลงทนุ การกาํ หนด อตั ราดอกเบ้ยี จะกําหนดเปนรอ ยละตอปจากราคาท่ตี ราไว การจา ยดอกเบยี้ ใน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะหนุ กูเปน ตราสารหน้ีทอ่ี อก ประเทศไทยสว นใหญจ ายเปน งวดทกุ 6 เดอื นหรอื 1 ป โดยภาคเอกชน ผูล งทนุ ในหุนกจู ะไดร บั ผลตอบแทนเปนดอกเบีย้ หุนกูภาคเอกชน มีลักษณะคลายกับตราสารหน้ี คือ เปนตราสารท่ีแบง ซ่ึงจายสมํ่าเสมอตลอดระยะเวลาท่ีถือครองอยูตามระยะเวลาท่ี เปน หนว ย แตล ะหนว ยมมี ลู คา เทากันและกาํ หนดประโยชนต อบแทนไวเ ปนการ กาํ หนด เชน 5 ป 10 ป ผูถือครองหนุ กูถอื เปน เจา หนขี้ องธรุ กจิ ลวงหนาในอัตราเทากันทุกหนวย หุนกูบางอยางสามารถแลกเปลี่ยนเปน ที่ไดรับผลตอบแทนเปนดอกเบี้ย ซึ่งเปนผลตอบแทนที่ม่ันคง หุนสามัญได มีความเสยี่ งต่ํากวา การลงทนุ ในขออืน่ ๆ) T139
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๒.6 การบริหารจัดการการลงทุนในภาคครวั เรือน การลงทุนเป็นการใช้เงินออมท่ีได้สะสมมาเป็นเวลานานเพื่อน�าไปลงทุน เพ่ือให้เกิด ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู ผลประโยชน์งอกเงย ซ่ึงในการด�าเนินการเพื่อลงทุนจ�าเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการที่ดี นบั ตงั้ แตก่ ารกา� หนดวตั ถปุ ระสงคข์ องการลงทนุ 16. นกั เรยี นกลมุ ที่ 6 การบรหิ ารจดั การการลงทนุ การจดั ทา� แนวทางการลงทุน การวเิ คราะหแ์ ละ ในภาคครัวเรือน สงตัวแทนนําเสนอขอมูล เลอื กหลกั ทรพั ย ์ การประเมนิ ผลการลงทนุ ดงั น้ี หนาชั้นเรียนตามประเด็นทีศ่ ึกษา ๑) การก�าหนดวัตถุประสงค์ 17. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นถึง ความจําเปน ความสําคัญ และแนวทาง ในการบริหารจัดการเพื่อการลงทุนในภาค ครวั เรอื นเพิม่ เตมิ ของการลงทุนของครัวเรือน โดยผู้ลงทุนที่ เป็นครัวเรือน ต้องมีการก�าหนดวัตถุประสงค์ ของการลงทนุ กอ่ นวา่ จะลงทนุ เพอ่ื อะไร ยอมรบั ความเสี่ยงได้มากน้อยเท่าใด ฐานะการเงนิ ของ ครัวเรือนเป็นอย่างไร ต้องการรายได้ประจ�า มาใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด เพราะการก�าหนด วตั ถปุ ระสงคข์ องการลงทนุ ของครวั เรอื นทช่ี ดั เจน การนา� เงนิ ออมมาขยายกจิ การของครอบครวั เปน็ ชอ่ งทาง จะทา� ใหส้ ามารถเลอื กลงทนุ ในหลกั ทรพั ยต์ า่ ง ๆ หน่งึ ในการลงทนุ ได้อย่างถกู ตอ้ ง ๒) การจดั ทา� แนวทางการลงทนุ ของครวั เรอื น หลังจากก�าหนดวัตถปุ ระสงคข์ อง การลงทนุ แลว้ กต็ อ้ งกา� หนดแนวทางการลงทนุ ทส่ี นองตอบตอ่ วตั ถปุ ระสงคข์ องการลงทนุ โดยเรมิ่ จาก การตดั สนิ ใจจดั สรรเงนิ ลงทนุ ในหลกั ทรพั ยแ์ ตล่ ะประเภทในสดั สว่ นมากนอ้ ยเพยี งใด เชน่ จะนา� เงนิ ไปซอ้ื พนั ธบตั รรฐั บาลจา� นวนเทา่ ไร จะนา� ไปซอ้ื หนุ้ จากธรุ กจิ ตา่ ง ๆ จา� นวนเทา่ ไร หรอื จะนา� เงนิ ไป ซ้ือห้นุ ของกองทุนต่าง ๆ จ�านวนเทา่ ไร ๓) การวิเคราะห์และเลือกหลักทรัพย์ลงทุน หลักทรัพย์ลงทุนในแต่ละธุรกิจ มหี ลายประเภท ซงึ่ แตล่ ะประเภทจะมผี ลตอบแทนและความเสี่ยงท่ีแตกต่างกัน ครวั เรอื นจะเลอื ก ปลงรทะเนุ ภใทนดหังลกกั ลทา่ รวพั ยสข์ภอางวธะรุกกาจิรใแดข ง่ กขจ็นั �า1 เนปโ็นยตบ้อางยศขกึอษงธารุผกลจิ ป2 รตะลกออดบจกนากราขรอวงเิ คธรรุ ากะจิ ห ภ์ แานววะโเนศ้มรษขฐอกงิจธขุรกอิจง ประเทศ โดยครัวเรือนอาจมีการกระจายกลุ่มหลักทรัพย์ลงทุน โดยกระจายการลงทุนไปใน หลกั ทรพั ยข์ องธรุ กจิ ตา่ ง ๆ หลายประเภท เพอ่ื ลดความเสย่ี งจากความเสยี หายของธรุ กจิ ประเภทใด ประเภทหนึ่ง การเลือกลงทุนในหลักทรพั ยต์ ่าง ๆ อยา่ งเหมาะสมนอกจากท�าให้รายได้เพิ่มขนึ้ แล้ว ยงั ช่วยลดความเส่ียงในการลงทุนด้วย ๑๒๘ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 สภาวะการแขงขัน การดําเนินธุรกิจในหลายประเภทมีการแขงขันสูง การลงทุนภาคครวั เรือนควรคาํ นงึ ถึงปจจยั ใดบา ง จึงทําใหธุรกจิ ตอ งมกี ารปรับปรงุ ระบบการผลิต การบริหารจดั การภายในธรุ กิจ อยเู สมอ เพือ่ ปอ งกันความเสย่ี งในการดาํ เนินงาน (แนวตอบ การตัดสินใจลงทุนในภาคครัวเรือนจะตองคํานึงถึง 2 นโยบายของธรุ กจิ เจาของธุรกิจจะมกี ารกําหนดนโยบายของธุรกจิ ไวเ สมอ รายได รายจาย เงนิ ออมของครอบครวั กอ นวา เหมาะแกการลงทนุ เชน นโยบายเพอื่ ขยายลกู คา กลมุ เปา หมาย นโยบายเพม่ิ ผลผลติ นโยบายลดตน ทนุ ประเภทใด จากน้ันทําการศึกษาปจจัยเสี่ยงและผลตอบแทน การผลิต นโยบายขยายตลาดไปยงั ตางประเทศ จากการลงทุนประเภทตางๆ ติดตามสถานการณการลงทุน จากแหลงขอมูลตางๆ อยูสมํ่าเสมอ เพ่ือนําขอมูลมาวางแผน สื่อ Digital ในการพัฒนาปรับเปล่ียนธุรกิจ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ของสถานการณตางๆ มีการประเมินผลการลงทุนเปนระยะๆ ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับการวางแผนการลงทุนในตลาด เพื่อประเมินผลตอบแทน สภาพปญหา ความเส่ียงของธุรกิจ หลกั ทรพั ย ไดท่ี https://www.set.or.th/set/publicpaper.do?topicId=50&l นอกจากน้ี จะตอ งศกึ ษาตลาด วเิ คราะหค แู ขง ทางธรุ กจิ จะไดป รบั anguage=th&country=TH ตลาดหลกั ทรพั ยแหงประเทศไทย กลยุทธใ นการบรหิ ารจัดการ) T140
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๔) การประเมนิ ผลการลงทนุ ของครวั เรอื น ครวั เรอื นจะตอ้ งมกี ารประเมนิ ผลการ ขน้ั สอน ลงทนุ ในกลมุ่ หลกั ทรพั ย์ต่าง ๆ ตลอดเวลา ถา้ หุน้ หรือหลักทรพั ย์ใดท่มี ีมลู คา่ ลดลง ก็อาจตดั สินใจ ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ขายและน�าเงินไปลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่นท่ีมีมูลค่าเพิ่มขึ้นและมีผลประกอบการท่ีดี ซ่ึงจะ ชว่ ยเพ่ิมรายได้และลดความเส่ยี งในการลงทุนของครวั เรือนลงได้ 18. นักเรียนกลุมที่ 7 ปญหาของการลงทุนใน ประเทศไทย สงตัวแทนนําเสนอขอมูลหนา ๒.๗ ปญั หาของการลงทนุ ในประเทศไทย ช้นั เรียนตามประเดน็ การลงทนุ ในภาคครัวเรือนและในภาคธรุ กิจของประเทศไทย มีปัญหาและอุปสรรค ดงั นี้ 19. ครูนําขาวเศรษฐกิจท่ีแสดงถึงสถานการณ การลงทุนของไทย และปญหาการลงทุน ๑) ประชากรไทยมีรายได้ต�่า ส่วนใหญ่ใช้รายได้ไปเพื่อการบริโภคเกือบท้ังหมด ทงั้ ในประเทศและตา งประเทศมาใหน กั เรยี น รวมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเพ่มิ เติม เงินที่เหลือเก็บออมจึงมีน้อย ท�าให้เงินท่ีจะน�าไปลงทุนมีน้อย ดังน้ัน ประเทศไทยจึงต้องพ่ึงเงิน ลงทนุ จากต่างชาติอยเู่ สมอ ๒) ประชากรส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในด้านการลงทุน เนื่องจากการลงทุน มหี ลายรปู แบบ ทง้ั การลงทนุ ในตราสารหนแ้ี ละการลงทนุ ในตราสารทนุ แตป่ ระชากรยงั ขาดความรู้ ในวธิ กี ารลงทุน รูปแบบของการลงทนุ กระบวนการลงทุน ดงั นั้น จงึ มกั นา� เงินออมไปฝากธนาคาร พาณชิ ยใ์ นรปู แบบของการฝากประจา� ซงึ่ ไดร้ บั ผลตอบแทนทตี่ า�่ กวา่ การลงทนุ ในชอ่ งทางอนื่ ๆ ทง้ั น ี้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะให้ความม่ันใจกับสถาบันการเงินประเภทธนาคาร เน่ืองจากเงินฝาก จะไม่สญู หาย ถึงแม้ว่าธนาคารนนั้ จะปิดตัวลง เพราะมีรัฐบาลคา้� ประกนั เงินฝาก จงึ มีความมน่ั ใจ ฝากเงินกับธนาคารมากกว่าจะลงทุนในรูปแบบอ่ืน ๆ เพราะยังไม่มีความรู้ความเข้าใจและกลัว ความเส่ยี ง ๓) การจ�าหน่ายพันธบัตรของรัฐบาล1ในแต่ละรุ่นมีปริมาณเงินจ�ากัด ท�าให้ ผู้ต้องการลงทุนจองซ้ือได้ยาก และมักขาดข้อมูลข่าวสาร ท�าให้ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะจ�าหน่าย พนั ธบตั รเมอื่ ใด อนั เกดิ จากขาดการประชาสมั พนั ธส์ ตู่ ลาดอยา่ งกวา้ งขวาง ทา� ใหม้ ผี ซู้ อื้ เฉพาะกลมุ่ ไมไ่ ดก้ ระจายอยา่ งทว่ั ถงึ เพราะสว่ นใหญพ่ นั ธบตั รของรฐั บาลจะเปดิ ขายในโอกาสพเิ ศษ จา� กดั วงเงนิ ไมไ่ ดเ้ ปดิ ขายทัว่ ไป และมกี ารจา� กดั เฉพาะบางสาขา ๔) ความผนั ผวนของภาวะเศรษฐกจิ เชน่ ภาวะเศรษฐกจิ ตกตา่� ทา� ใหร้ าคาของหนุ้ หรือหลกั ทรัพยล์ ดลง ผลู้ งทุนบางคนอาจขาดทุนหรือได้รับผลตอบแทนทตี่ ่�า ไมค่ ุ้มกบั ความเสย่ี ง ดงั น้ัน จงึ ทา� ให้ครัวเรอื นทขี่ าดความรไู้ ม่กล้าเข้าไปลงทนุ ๕) การเขา้ มาลงทนุ ในตลาดหลกั ทรพั ยห์ รอื ตลาดหนุ้ ในบางกรณกี เ็ ปน็ ไปเพอื่ เลกงง็ทกุนา�ดไว้ รย ท แา� ลใหะภ้กาารพลลงกั ทษนุ ณในข์ ตอลงกาดารหลลงกั ททนุ รใัพนยส2จ์ายะมตาคี ขวอามงคอนอ่ ทนวั่ไไหปวยสงังู เ หเชน็ น่วา่ เเปมน็่ือเมรขีอื่ ่างทวสไ่ี มารน่ หา่ รจือะเขข้อา้ มไปลู ทก่ี ระทบกบั คนในประเทศหรอื ตา่ งประเทศ จะทา� ใหห้ นุ้ ตก จงึ ทา� ใหค้ นสว่ นใหญไ่ มก่ ลา้ เขา้ มาลงทนุ เพราะกลัวภาวะเสยี่ ง เปน็ ต้น ๑๒9 ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ปญหาการลงทุนในขอใด ที่สงผลกระทบตอการเติบโตทาง 1 การจําหนายพันธบัตรของรัฐบาล ตามปกติรัฐจะมีการจําหนายพันธบัตร เศรษฐกจิ ของประเทศไทยมากทส่ี ุด เปนรนุ ตามนโยบายของรัฐ และมีการกาํ หนดวงเงินทีจ่ าํ หนายไวช ดั เจน มีการ ประกาศวนั เวลา สถานท่ีจาํ หนายไวล วงหนาผา นสื่อตา งๆ เชน ทางสถานีวิทยุ 1. ในชนบทมีการลงทุนนอย โทรทัศน 2. ประชากรสว นใหญม รี ายไดต ่ํา 2 การลงทุนในตลาดหลักทรัพย มีความเส่ียงเชนเดียวกับการลงทุนประเภท 3. การเกง็ กําไรในตลาดหลักทรัพย อื่นๆ หากธุรกิจท่ีเลือกตองเผชิญกับสภาวะท่ีไมเอื้ออํานวย ทําใหผลประกอบ 4. ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ การตกตา่ํ สง ผลถงึ เงนิ ปน ผลอนั พงึ ไดร บั จากธรุ กจิ ทล่ี งทนุ ไป ซง่ึ ในกรณที ธ่ี รุ กจิ ท่ีลงทุนประสบกับสภาวะขาดทุนจนตองปดกิจการ เราจะไดรับเงินลงทุนคืน (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ปญหาสําคัญที่สุดของการออม แตธุรกิจน้ันตองมีทรัพยสินคงเหลือหลังจากชําระหน้ีใหแกเจาหนี้แลวเทานั้น ภาคครัวเรือนของไทย คือ ปญหาประชากรสวนใหญมีรายไดต่ํา และในฐานะผูถ อื หนุ มลู คา ของหนุ หรอื หลกั ทรัพยท ี่ “ถอื ” หรอื “เปนเจาของ” จงึ ทาํ ใหไ มม เี งนิ ออมและยงั ตอ งเปน หน้ี ทาํ ใหไ มม เี งนิ ออมไปลงทนุ สามารถปรับตวั ข้ึนลงไดเ ชนกัน ในธุรกิจตางๆ จึงไมเกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ซ่ึงสงผล กระทบตอ การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจของประเทศ) T141
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๖) ภาคชนบทยงั มกี ารลงทนุ นอ้ ย เนอ่ื งจากครวั เรอื นในชนบทสว่ นใหญม่ รี ายไดต้ า่� ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู รายไดส้ ว่ นใหญใ่ ชจ้ า่ ยเพอ่ื การบรโิ ภคในชวี ติ ประจา� วนั บางครวั เรอื นกม็ รี ายไดไ้ มเ่ พยี งพอกบั รายจา่ ย ท�าให้ไม่มีเงินออมและยังต้องเป็นหนี้ ดังนั้น จึงจ�าเป็นต้องมีมาตรการในการเพิ่มรายได้ให้กับ 20. นักเรียนกลุมที่ 8 ความแตกตางระหวาง ตปงั้รกะชลามุ่ ชอนอใมนทชรนพั บยท ์1แดล้วะยนกา� าเรงสนิ รอ้าองมงาทนไี่ ด ไ้สปรร้าว่งมอลาชงทีพนุ ผเพลติื่อสเพนิ ิ่มครา้ าจยา� หไดน้ า่ แยล เะปสน็ ่งกเสารริมเพกมิ่ ารราอยอไมดโม้ ดายกกขาน้ึร การออมและการลงทุน สงตัวแทนนําเสนอ ขอ มูลหนา ชนั้ เรยี นตามประเด็น ๓. ความแตกตา่ งระหว่างการออมและการลงทนุ 21. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั วเิ คราะหแ ละยกตวั อยา ง ความแตกตา งระหวา งการออมและการลงทนุ เพม่ิ เติม การออมและการลงทุนเป็นสงิ่ ทีม่ คี วามสา� คัญต่อระบบเศรษฐกจิ อยา่ งมาก ซง่ึ การออมและ การลงทุนมคี วามแตกตา่ งกนั กลา่ วคือ พอกพนู กขาน้ึรเอมออื่ มเว ลเาปผ็นา่ กนาไปรเ กซ็บง่ึ กสาะรสอมอเมงสินว่ ทนีลใหะเญลอ่็กยทใู่ ีนลระปูนข้ออยงจเางนิกฝราายกกไดบั ้ทธน่ีเหาคลาือรจ หากรอืกบารรษิใชทั ้จเง่านิ ยทใหนุ 2 ้ โดยไดร้ บั ดอกเบยี้ เป็นผลตอบแทน การลงทนุ เปน็ การนา� เงนิ ออมทเ่ี กบ็ สะสมไปสรา้ งผลตอบแทนทส่ี งู กวา่ การออม โดยการลงทนุ ในพนั ธบตั รรฐั บาล หรอื หลกั ทรพั ยต์ า่ ง ๆ ซง่ึ จะไดร้ บั ผลตอบแทนในรปู ของดอกเบยี้ เงนิ ปนั ผลและ กา� ไร ตามประเภทของหลกั ทรพั ยท์ ล่ี งทนุ สา� หรบั การออมและการลงทนุ สามารถเปรยี บเทยี บได ้ ดงั นี้ ตารางเปรยี บเทียบการออมกบั การลงทนุ การออม การลงทนุ การสะสมเงินเพอ่ื ใหพ้ อกพนู ไวใ้ ช้จ่ายในยามฉกุ เฉนิ ยามชรา ➡ วัตถุประสงค์ ➡ การสะสมเงินให้เพิม่ พนู ต่อเน่ืองใน หลังเกษยี ณจากการทา� งาน ระยะยาว ฝากเงินกบั ธนาคารพาณชิ ย์ ➡ วธิ กี ารสะสม ➡ ลงทนุ ในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นก ู้ บริษทั เงนิ ทนุ สหกรณ์ออมทรัพย์ กองทุนรวม กองทุนสา� รองเลี้ยงชีพ ทองคา� อสังหาริมทรพั ย์ ดอกเบยี้ ➡ ผลตอบแทน ➡ ดอกเบี้ย เงินปันผล ก�าไรหรือขาดทุน จากการลงทนุ ความเสย่ี งต่า� เพราะเงนิ ฝาก ➡ ความเสยี่ ง ➡ มีความเส่ียงมากน้อยตามประเภทและ ธนาคารพาณชิ ย์มีกองทุน ประกันเงนิ ฝากค�า้ ประกัน ลักษณะของหลกั ทรัพยท์ ี่ลงทุน มีสภาพคล่องสงู ➡ ข้อไดเ้ ปรียบ ➡ ไดร้ ับผลตอบแทนในระยะยาวสูงกวา่ ผลตอบแทนจากดอกเบ้ียเงนิ ฝากตา่� ➡ ขอ้ เสยี เปรยี บ ➡ มโี อกาสขาดทนุ จากการลงทนุ ได้ ๑๓0 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 กลุมออมทรัพย กลุมท่ีมีการกอต้ังอยางไมเปนทางการของประชาชน ขอใดแสดงถึงความสมั พนั ธของการออมและการลงทุน เพื่อรว มกันแกปญหาทางดานเศรษฐกจิ ของสมาชกิ ดาํ เนินงานโดยสมาชกิ ดว ย 1. นาํ เงินไปฝากธนาคารเพื่อรบั ดอกเบ้ีย การเกบ็ สะสมเงนิ ออมทรพั ย และนาํ เงนิ ออมไปใหส มาชกิ กยู มื จดั สวสั ดกิ ารใหก บั 2. เกบ็ สะสมเงินใหม ากทส่ี ุด แลว นําไปปลอยกู สมาชกิ เพอื่ ชว ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั ทางดา นการเงนิ ปจ จบุ นั ชมุ ชนตา งๆ ไดม กี าร 3. นาํ เงินรายไดไ ปลงทนุ ซอ้ื ขายอสงั หาริมทรัพย จดั ตงั้ กลมุ ออมทรพั ย เพอื่ แกป ญ หาและพฒั นาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน ทาํ ใหม แี หลง 4. นาํ เงินคงเหลือจากคา ใชจ ายไปซ้ือพนั ธบตั รรัฐบาล เงนิ ทนุ เพอ่ื สนบั สนนุ การประกอบอาชพี ทาํ ใหค นรจู กั ประหยดั สะสมเกบ็ ออมเงนิ (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. การออม คือ รายไดสวนทีเ่ หลือ 2 บรษิ ัทเงนิ ทนุ สถาบนั การเงนิ ท่ที ําหนาที่ในการระดมทนุ ดว ยการกยู มื เงนิ จากการใชจาย การลงทุน คือ การนําเงินที่เก็บออมมาสรางผล จากประชาชน โดยการออกตว๋ั สญั ญาใชเ งนิ แลว นาํ เงนิ ทก่ี ยู มื มาไปลงทนุ หรอื ให ตอบแทนใหง อกเงยมากขึน้ กวา เดิม กยู มื ตอ ไป เพือ่ แสวงหารายไดใ นกจิ การตา งๆ เชน ดังนั้น ตัวเลือกขอ 4. การนําเงินออมไปซ้ือพันธบัตรรัฐบาล • ใหก ยู ืมระยะสั้นไมเ กนิ 1 ปข น้ึ ไป เรียกวา ธรุ กจิ เงินทนุ เพ่ือการพาณชิ ย เปนการลงทุนในตราสารหน้ีของรัฐบาล โดยจะไดผลตอบแทน • ใหก ูยืมเกิน 1 ปข น้ึ ไป เรยี กวา ธรุ กิจเงินทนุ เพอื่ การพัฒนา เปน ดอกเบยี้ และรฐั บาลกน็ าํ เงนิ จากการขายพนั ธบตั รไปใชใ นการ • ใหกูยืมแกผูประกอบกิจการใหเชาซื้อหรือใหประชาชนเชาซ้ือ เรียกวา พัฒนาประเทศตอไป) ธุรกจิ เงนิ ทนุ เพ่อื การจําหนา ยและการบริโภค T142
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ จึงกล่าวได้ว่าการออมกับการลงทุนมีความสัมพันธ์กัน เพราะการเก็บออมเงินอย่างเดียว ขน้ั สรปุ ไม่ได้ท�าให้เงินเหล่านั้นเพ่ิมมูลค่า หรือการฝากเงินกับธนาคารอย่างเดียวอาจไม่ได้ผลตอบแทน ทม่ี ากพอ ดงั นนั้ การนา� เงนิ ออมไปลงทนุ จะเปน็ การสรา้ งผลตอบแทนใหเ้ พมิ่ ขน้ึ ได ้ แตใ่ นการลงทนุ ข้นั ที่ 4 ขยายความเขาใจ จะตอ้ งมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู และความเสย่ี งในการลงทนุ ใหด้ กี อ่ น เพอ่ื ปอ้ งกนั การสญู เสยี เงนิ ออมและ ทา� ใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนเพ่ิมขึน้ เพื่อเก็บเงินเหล่านน้ั ไว้เปน็ เงนิ ออมเพ่อื อนาคตต่อไป 1. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 6.2 เรื่อง การลงทุน โดยครูแนะนําเพ่มิ เตมิ ปัจจุบันการออมของคนไทยยังมีข้อจ�ากัด เนื่องจากรายได้ของคนไทยมีจ�ากัดและ ขาดการวางแผนการใช้เงนิ อย่างรดั กมุ ทา� ใหเ้ กิดชอ่ งว่างของการออม กล่าวคอื บางครวั เรือน 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร มเี งนิ ออมนอ้ ย หรอื ไมม่ เี งนิ ออม ในขณะทบ่ี างครวั เรอื นมเี งนิ ออมมาก ครวั เรอื นทมี่ เี งนิ ออมนอ้ ย ม.2 เก่ยี วกบั เรอ่ื ง การลงทนุ จะสง่ ผลกระทบตอ่ การดา� เนนิ ชวี ติ ประจา� วนั และความมนั่ คงในการดา� รงชวี ติ ทา� ใหต้ อ้ งประสบกบั ปญั หาหนส้ี นิ และขาดคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ี ดงั นนั้ จงึ ควรใหค้ วามสา� คญั กบั การออมและนา� เงนิ ออม ขน้ั ประเมนิ ส่วนหนึง่ ไปลงทุน เพอ่ื ให้เงนิ ออมเพ่มิ พูนขึ้น สามารถสร้างความม่ันคงในการด�าเนินชีวติ ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน พบั เรื่อง ปจ จยั ที่มผี ลตอ การ ออมและการลงทุน 3. ครใู หนักเรยี นทําแบบวัดฯ เศรษฐศาสตร ม.2 เพื่อทดสอบความรูท่ไี ดศกึ ษามา 4. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย การเรียนรทู ่ี 6 5. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน 6. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน แบบฝก สมรรถนะฯ และแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 ๑๓๑ กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล ครูใหนักเรียนคิดกิจกรรมหรือโครงการสงเสริมการออมใน ครสู ามารถวดั และประเมินความเขา ใจเน้อื หา เร่อื ง การลงทนุ ไดจ ากการ โรงเรยี น เชน ตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น โดยศกึ ษา เกณฑก ารวดั และประเมนิ ผลจากแบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงานทแ่ี นบมาทา ย • กิจกรรมวาดภาพและแตงคําประพันธ ในหัวขอ “การออม แผนการจดั การเรยี นรูห นวยท่ี 6 เรอ่ื ง การออมและการลงทุน เงนิ เพอ่ื อนาคต” เปน กจิ กรรมทส่ี ง เสรมิ ใหน กั เรยี นวางแผนการออม และปลูกฝง ใหน ักเรียนมีนิสัยรกั การออม แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน • โครงการหารายไดร ะหวา งเรยี น เชน การปลกู ผกั สวนครวั ขาย คาชีแ้ จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ การขายผลิตภัณฑงานฝมือ การรับจางท่ัวไป ซ่ึงนักเรียนสามารถ ตรงกับระดับคะแนน นํารายไดสว นหน่งึ มาฝากท่โี รงเรยี นธนาคาร ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา 2 การลาดบั ขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ T143
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คาํ ถามประจาํ หนว ยการเรียนรู คÓถาม ประจÓหน่วยการเรียนรู้ ๑. การออมคอื อะไร การออมจะกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ครวั เรอื นและเศรษฐกจิ ของประเทศอยา่ งไร 1. การออม คือ รายไดท่ีเหลือจากการใชจาย ๒. ครวั เรอื นจะมีการออมมากหรอื น้อย ข้ึนอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ประโยชน ตอ ภาคครวั เรอื น เชน ทาํ ใหม เี งนิ ออม ๓. ในครอบครวั ของนกั เรยี นมีการออมหรอื ไม ่ และมวี ัตถปุ ระสงค์เพอ่ื อะไร สวนหนึ่งไวใชจายในยามฉุกเฉิน ตอภาค ๔. ปัญหาการออมในสังคมไทยมีอะไรบา้ ง และมีวิธีการแก้ไขอยา่ งไร เศรษฐกจิ เชน ทาํ ใหมแี หลงเงินทนุ ของธุรกจิ ๕. การลงทุนก่อใหเ้ กิดประโยชน์แกผ่ ู้ออม ธุรกจิ และประเทศอยา่ งไร ตางๆ เปนแหลงเงินกูภายในประเทศใหกับ ๖. การลงทุนแบง่ ออกเป็นกปี่ ระเภท อะไรบ้าง รัฐบาล เพ่ือนําไปใชในการพัฒนาเศรษฐกิจ ๗. หลกั เกณฑท์ ่ีควรคา� นงึ ถงึ ในการลงทุนมอี ะไรบา้ ง ประเทศ ๘. ปจั จัยอะไรบ้างทเี่ ปน็ ตวั ก�าหนดในการลงทนุ ๙. การบริหารจดั การการลงทุนของครวั เรอื นมลี กั ษณะอยา่ งไร 2. เชน รายไดสวนบุคคล ผูมีรายไดมากจะมี ๑๐. การกระจายการลงทนุ มคี วามจา� เป็นหรอื ไม ่ และจะไดร้ ับผลประโยชนอ์ ย่างไร โอกาสในการออมมากกวาผมู รี ายไดน อ ย กจิ กรรม สรา้ งสรรค์พฒั นาการเรียนรู้ 3. นกั เรยี นตอบตามความเปน จรงิ เชน กจิ กรรมท่ี ๑ นกั เรยี นจดั ทา� รายรบั รายจา่ ย ของครวั เรอื นในเดอื นใดเดอื นหนง่ึ และใหว้ เิ คราะห์ ในครอบครัวมีการออมเงนิ เพอ่ื เปนทนุ การศกึ ษาหรือไวท อ งเที่ยว ว่ามีค่าใช้จ่ายประเภทใดบา้ งที่เป็นรายจ่ายที่ไม่จา� เป็น และมวี ธิ ีการลดค่าใช้จา่ ย เหล่านัน้ ไดอ้ ยา่ งไร โดยบนั ทกึ ลงในกระดาษ A๔ 4. เชน ประชาชนมีรายไดต่ํา แนวทางแกไข เชน นาํ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมา กจิ กรรมท่ี ๒ น ักเรียนร่วมกันอภิปรายและวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนและการออม ปรบั ใชในชวี ิตประจําวนั ในประเดน็ “ครัวเรอื นควรเลอื กลงทนุ อยา่ งไรจงึ จะเหมาะสม” 5. ผูออม ไดรบั ผลตอบแทนเปนดอกเบีย้ ภาคธุรกจิ มีแหลง เงินทนุ เกิดการขยายงาน กจิ กรรมที่ ๓ นักเรยี นนา� ข่าว หรอื บทความเก่ยี วกบั สถานการณก์ ารลงทุนของไทยในปจั จบุ นั การจางงาน ประเทศ ทาํ ใหร ัฐจดั เก็บรายได มากขนึ้ มาวิเคราะห์สถานการณ์ แนวโน้มของการลงทุนของไทย และวิเคราะห์ถึง ผลกระทบต่อเศรษฐกจิ ของไทยโดยรวม 6. 3 ประเภท ไดแก การลงทุนเพ่ือการบริโภค การลงทนุ ในภาคธรุ กจิ และการลงทนุ ในหลกั ๑๓๒ ทรพั ย 7. ไดรับผลตอบแทนทค่ี มุ คา ความเส่ียงตา่ํ มคี วามปลอดภยั ของเงินทนุ 8. เชน รายไดและเงนิ ออมของครอบครัว ผลตอบแทนและความเสี่ยง 9. มกี ารกาํ หนดวัตถปุ ระสงคทช่ี ดั เจน วางแผน การลงทุน วิเคราะหและเลือกหลักทรัพยใน การลงทุน และประเมินผลการลงทนุ 10. จําเปน เพราะผูลงทุนจะตองกระจายความ เส่ียงในการลงทุน เงินลงทุนไมกระจุกตัวอยู กบั ธรุ กจิ ใดธรุ กจิ หนง่ึ ชว ยใหธ รุ กจิ ดาํ รงอยไู ด เฉลย แนวทางประเมินกจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยท่ัวไป ซ่ึงเปน งานหรอื ชน้ิ งานทใ่ี ชเวลาไมนาน สาํ หรบั การประเมนิ รูปแบบนอ้ี าจเปน คําถามปลายเปด หรือผังมโนทศั น นิยมสําหรับประเมินผูเรยี นรายบุคคล ประเมนิ ความสามารถ • ใชในการประเมนิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ และความ สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือช้ินงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต ประจําวัน อันมีความเกี่ยวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรที่มีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน จากการสงั เกต การเขยี น การตอบคาํ ถาม การวิเคราะห การแกป ญ หา ตลอดจนการทาํ งานรวมกนั ประเมินทกั ษะ • ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมท่ีตองมีความเกี่ยวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรที่มีความซับซอน และกอเกิดเปน ความชาํ นาญในการนํามาเปน แนวทางปฏิบตั จิ รงิ ในชีวิตประจําวันอยางยงั่ ยืน เชน ทกั ษะในการสือ่ สาร ทักษะในการแกป ญหา ทักษะ ชวี ิตในดา นตางๆ โดยอาจมกี ารนําเสนอผลการปฏบิ ัตงิ านตอ ผเู ก่ียวขอ ง หรือตอ สาธารณะ สง่ิ ทต่ี อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผี่ เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทต่ี อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน T144
Chapter Overview แผนการจัด ส่ือท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนงั สอื เรยี น 1. อธบิ ายความหมาย สบื เสาะ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ทักษะการ 1. มวี นิ ยั ความหมาย สังคมศึกษาฯ ม.2 ความสำ� คัญ และปจั จัย หาความรู้ - ตรวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ วิเคราะห์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ความสำ�คญั - แบบฝึกสมรรถนะ การผลติ สินค้าและ (5Es และการคดิ เศรษฐศาสตร์ ม.2 3. ม่งุ มนั่ ในการ และปัจจยั การ และการคิด บริการได้ (K) Instructional - ตรวจใบงานที่ 7.1 ท�ำงาน ผลติ สินคา้ และ เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. จ�ำแนกปจั จยั การผลิต Model) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน บรกิ าร - แบบทดสอบกอ่ นเรียน สินคา้ และบริการได้ (P) - สังเกตพฤติกรรม - PowerPoint 3. เห็นคณุ ค่าของปจั จยั การท�ำงานรายบคุ คล 1 - ใบงานที่ 7.1 การผลติ สนิ ค้าและ - สังเกตพฤตกิ รรม บรกิ ารทีม่ ีผลตอ่ ระบบ การท�ำงานกลุ่ม ชว่ั โมง เศรษฐกจิ และการ - ป ระเมนิ คณุ ลกั ษณะ ดำ� เนนิ ชีวติ ประจ�ำวนั อันพงึ ประสงค์ เพ่ิมมากข้ึน (A) T145
แผนการจดั สือ่ ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ ีสอน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลักษณะ การเรียนรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 2 - หนังสอื เรียน 1. อ ธิบายหลักการสำ� คญั การอภปิ ราย - ตรวจการทำ� แบบฝึก - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1. มวี นิ ยั หลักการผลิต สงั คมศึกษาฯ ม.2 ในการผลติ สนิ คา้ และ สมรรถนะและการคดิ - ทกั ษะการน�ำ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ สนิ ค้าและ - แบบฝึกสมรรถนะ บริการได้ (K) เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความรูไ้ ปใช้ 3. มุ่งม่นั ในการ บริการอยา่ ง และการคิด 2. จ�ำแนกหลักการสำ� คัญ - ต รวจการทำ� แบบวัดและ มปี ระสิทธภิ าพ เศรษฐศาสตร์ ม.2 ในการผลิตสนิ ค้าและ บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ ทำ� งาน และลกั ษณะ การผลิตสินค้า - แบบทดสอบกอ่ นเรียน บริการและลกั ษณะ เศรษฐศาสตร์ ม.2 และบริการ - PowerPoint การผลิตสนิ ค้าและ - ตรวจใบงานที่ 7.2 ของไทย - ใบงานที่ 7.2 บริการของไทยได้ (P) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน 3. เห็นคุณคา่ ของหลักการ - สงั เกตพฤตกิ รรม 2 ส�ำคัญในการผลติ สนิ คา้ การทำ� งานรายบุคคล และบริการ และ - สังเกตพฤติกรรม ชวั่ โมง ลกั ษณะการผลติ สินค้า การท�ำงานกลุ่ม และบริการของไทยท่มี ี - ประเมนิ คณุ ลักษณะ ผลต่อระบบเศรษฐกิจ อันพงึ ประสงค์ และการด�ำเนินชีวิต - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน ประจำ� วนั เพ่ิมมากข้นึ (A) T146
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๗ การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ขน้ั นาํ (5Es Instructional Model) ¡ÒüÅÔµÊÔ¹¤ŒÒáÅÐ ºÃÔ¡ÒÃÁÕ¤ÇÒÁÊíÒ¤ÑÞ ขนั้ ท่ี 1 กระตุนความสนใจ Í‹ҧäà áÅÐÁÕ»˜¨¨ÑÂã´ ·èÕª‹ÇÂÊ‹§àÊÃÔÁãËŒ¡Òà 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อนแบบสบื เสาะ ¼ÅÔµÊÔ¹¤ŒÒáÅкÃÔ¡Òà หาความรู ชื่อเรื่องท่ีจะเรียนรู จุดประสงค ?ÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀÒ¾ การเรยี นรู และผลการเรียนรู การผลิตเป็นการน�าทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจ�ากัด มาแปรสภาพเป็นสินค้าและบริการเพ่ือ 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย ตอบสนองความตอ้ งการอนั ไมส่ น้ิ สดุ ของมนษุ ย ์ แตเ่ นอ่ื งจากการมอี ยอู่ ยา่ งจา� กดั ของทรพั ยากรจงึ การเรยี นรทู ี่ 7 เรอ่ื ง การผลติ สนิ คา และบรกิ าร ทา� ใหต้ ้องมกี ารวางแผนในการใช้ปัจจัยการผลิต เพื่อใหไ้ ด้ผลผลิตทมี่ คี ุณภาพ และใชท้ รพั ยากรให้ เกิดประสิทธภิ าพสงู สดุ ในการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร ในระบบเศรษฐกิจแบบเสรนี ยิ ม กา� ไรเป็นแรง 3. ครูใหนักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวชวยกัน กระตนุ้ สา� คญั ของธรุ กจิ ทกี่ ระตนุ้ ใหผ้ ผู้ ลติ ทา� การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การผลติ ตอบคําถาม เชน สนิ ค้าของไทยในปจั จุบันมกี ารแขง่ ขนั กันสงู ทงั้ ผู้ผลิตภายในประเทศและตา่ งประเทศ ส่งผลใหม้ ี • ภาพนีเ้ ก่ียวกบั อะไร สนิ คา้ หลากหลาย ประชาชนมโี อกาสเลือกบริโภคสนิ คา้ ตามความพงึ พอใจ ในขณะเดยี วกันท�าให้ (แนวตอบ การผลติ รถยนต) ผผู้ ลติ ตอ้ งพฒั นาการผลติ อยตู่ ลอดเวลา มกี ารนา� เทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลติ เพอื่ ใหไ้ ดส้ นิ คา้ ทมี่ คี ณุ ภาพ • ปจ จบุ นั ความตอ งการใชร ถยนตข องคนไทย เปน อยางไร สังเกตไดจ ากอะไร (แนวตอบ ปจจุบันคนไทยมีความตองการ ใชร ถยนตมากขึน้ ซ่ึงสามารถสังเกตไดจาก ปริมาณรถยนตท่ีเพิ่มข้ึน รวมถึงปญหา การจราจรตดิ ขดั บนทองถนนในปจจุบนั ) 4. ครยู กตวั อยา งสงิ่ ของอปุ โภคบรโิ ภคทเี่ ราใชก นั ในชีวติ ประจาํ วนั เชน อาหาร เส้ือผา รองเทา กระเปา หรอื เครอื่ งเขยี น แลว ใหน กั เรยี นรว มกนั บอกขั้นตอนหรือวิธีการผลิตตามความเขาใจ ของตนเอง ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ส ๓.๑ ม.๒/๒ อธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ • ค วามหมาย ความสา� คญั และหลกั การผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร และปจั จยั ที่มอี ทิ ธพิ ลต่อการผลติ สินคา้ และบรกิ าร อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ • สา� รวจการผลติ สนิ คา้ ในทอ้ งถนิ่ วา่ มกี ารผลติ อะไรบา้ ง ใชว้ ธิ ี การผลติ อยา่ งไร มปี ัญหาดา้ นใดบ้าง • ม ีการน�าเทคโนโลยีอะไรมาใช้ที่มีผลต่อการผลิตสินค้าและ บริการ • นใ น�าทห้อลงักถก่ินาทรัง้ ผดลา้ ินตเมศารวษิเฐคกรจิ า ะสหัง์กคมาร แผลละิตสส่ิงินแวคด้าลแอ้ ลมะบริก1าร33 เกร็ดแนะครู การเรียนเก่ียวกับการผลิตสินคาและบริการของผูประกอบการไทย เพ่ือใหนักเรียนมีความเขาใจถึงปจจัยในการผลิตสินคาและบริการ ทั้งในภาคธุรกิจ และในทองถิน่ ครูจงึ ควรจดั การเรยี นการสอน ดงั น้ี • นําขา วเศรษฐกจิ หรือบทความเกยี่ วกับการผลิตสนิ คา และบริการมาใหน ักเรยี นวิเคราะห • ยกตัวอยา งการผลิตสนิ คา และบริการทีน่ กั เรียนรูจัก แลว ใหนกั เรยี นวิเคราะหปจ จยั การผลิตและหลักการผลติ อยา งมีประสทิ ธิภาพ • จัดทําโครงการผลติ สินคา และบรกิ ารจากทรพั ยากรภายในทอ งถ่ิน • จัดกิจกรรมกลุม เพ่อื ใหน กั เรยี นฝก ทักษะการสบื คน ขอมูลและการแลกเปล่ยี นเรยี นรูซง่ึ กันและกนั T147
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ñ. ความหมาย ความสÓคÞั ¢องการผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจคนหา การผลิตในทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึง กระบวนการแปรสภาพทรพั ยากร (ปัจจยั การผลิต) ทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจา� กดั เชน่ แรงงาน ทดี่ นิ ทนุ แปรรปู ใหเ้ ปน็ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารทมี่ ปี ระโยชนท์ างเศรษฐกจิ 1. ครใู หนักเรยี นแบงกลมุ ศึกษาคน ควา เกี่ยวกับ ข้ึนมาใหม่ โดยท�าให้สิ่งของหรือบริการมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นและสามารถตอบสนองความต้องการ ความหมาย ความสําคัญของการผลิตสินคา ของมนษุ ย์ได ้ เชน่ การนา� ฝ้ายมาท�าเป็นผืนผา้ การนา� ยางพารามาผลิตเปน็ ยางรถยนต ์ การน�า และบริการ และปจ จยั ในการผลติ ข้าวสาลมี าทา� เปน็ ขนมปงั หรอื การทส่ี ามารถทา� ใหส้ นิ คา้ ไมม่ รี าคาทา� ใหม้ รี าคาได ้ เชน่ เอาดนิ มาเผา เปน็ อฐิ ไว้ใช้ในการก่อสร้างอาคารสถานที่ต่าง ๆ การน�าผักตบชวามาท�าเป็นกระเปา การน�ายาง 2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่นาเชื่อถือ ลอ้ รถยนต์ทีห่ มดสภาพมาทา� เป็นถงั ขยะ เปน็ ต้น ใหกับนกั เรียนเพมิ่ เติม ในการผลติ สินค้านั้นจา� เป็นตอ้ งอาศยั องค์ประกอบตา่ ง ๆ ท่เี รยี กว่า ปัจจยั การผลิต ได้แก่ ทดี่ นิ แรงงาน ทนุ และการประกอบการ แล้วมาผ่านกระบวนการผลิต ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู ปจ จยั การผลิต แผนผังแสดงกระบวนการผลติ ผลผลิต 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรูกัน กระบวนการผลิต 1 2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ทด่ี ิน เเรงงาน ทุน โรงสที �าการสีขา้ วเปลือก ขา้ วสารถุงพร้อมจา� หน่าย ท่นี ําเสนอเพ่ือใหไ ดขอมูลที่ถกู ตอง เเละการประกอบการ เปน็ ข้าวสาร และบริโภค 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล หนา ชนั้ เรยี นตามประเดน็ ทศ่ี กึ ษา และอภปิ ราย แสดงความคดิ เห็นเพ่มิ เติม 4. ครูยกตัวอยางการผลิตสินคาและบริการ ทีม่ คี วามจําเปนในการดาํ รงชวี ติ เชน อาหาร ของใช เส้ือผา แลวใหนักเรียนรวมกัน อภิปรายถึงปจจัยการผลิต กระบวนการผลิต ประโยชนในการใชงาน และปญหาท่ีเกิดจาก กระบวนการผลิต กระบวนการผลิตเป็นกระบวนการท่ีน�าวัตถุดิบมาแปรสภาพเป็นผลผลิต เช่น โรงสีข้าว นา� ขา้ วเปลอื กจากชาวนามาสเี ปน็ ขา้ วสาร แลว้ บรรจถุ งุ วางจา� หนา่ ยตามรา้ นคา้ ทวั่ ไป กระบวนการ ผลติ นจี้ ะต้องอาศัยความรู้ทางด้านเทคนิคและเครื่องจักรอุปกรณ์มากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่ความ ไทดนั น้ ส�ามเทยั ขคอโนงหโลนยว่ ีเยขกา้ มาราผใชลใ้ติ นแกลระะปบรวะนเภกทาขรผอลงสิตนิ เคพา้ อ่ืแใลหะ้กบารรกิ ผาลร ติ ซนง่ึัน้ ใมนปีปรจั ะจสบุ ทิ นั ธกภิ ราะพบ2วมนากกาขรน้ึ ผ ลสติ าตมา่ างร ๆถ ผลติ สนิ คา้ ไดใ้ นจา� นวนท่มี ากขน้ึ กว่าเดิม สินค้ามีคุณภาพ ลดการใชแ้ รงงานคน และลดระยะเวลา ในการท�างานลง 13๔ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 กระบวนการผลติ ประกอบดว ยองคป ระกอบสาํ คญั 3 ประการ ไดแ ก ปจ จยั การจดั สรรทรพั ยากรอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพทางเศรษฐกจิ มผี ลดี นําเขา กระบวนการแปลงสภาพ และผลผลิต มีวัตถุประสงคเพื่อใหสินคา ตอ การผลิตอยางไร มีตนทนุ ตา่ํ มีผลกําไรสูง และสามารถแขง ขันในตลาดได 2 ประสิทธิภาพ การผลิตสินคา โดยใชป จ จัยการผลติ เชน วตั ถุดิบ แรงงาน (แนวตอบ ประสทิ ธภิ าพทางเศรษฐกิจ คือ การใชต นทุนในการ ทุนเทาเดิม แตสามารถผลิตสินคาและบริการไดปริมาณมากขึ้น หรือถาผลิต ผลิตใหต่าํ หรอื นอยทสี่ ุด เพ่ือใหไดกาํ ไรสงู สดุ ดังน้ัน หากผผู ลิต เทา เดิมก็จะใชปจจยั การผลิตนอยลง ทําใหตนทนุ การผลิตลดลง ธรุ กิจไดกําไร มกี ารบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลติ ซง่ึ มอี ยอู ยา งจาํ กดั ใหเ กดิ เพม่ิ มากข้นึ ประสิทธิภาพสูงสุด จะสงผลดีตอธุรกิจ เพราะมีการใชตนทุนใน การผลติ ตํา่ แตไ ดกําไรสงู สุด) T148
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การผลติ สินค้าและบรกิ ารสามารถแบ่งออกเป็น ๓ ประเภทใหญ่ ๆ ไดแ้ ก่ ขน้ั สอน การผลิตขั้นปฐมภูมิ เป็นการผลิตขั้นต้นหรือแบบดั้งเดิมโดยอาศัยทรัพยากรธรรมชาติ เป็นหลัก ซึ่งการผลิตข้ันปฐมภูมินี้มักจะ ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู ใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยตรง ตัวอย่างเช่น การเพาะปลูก การท�าประมง การเลี้ยงสัตว์ 5. ครยู กตวั อยา งสนิ คา และบรกิ ารในทอ งถนิ่ แลว การทา� ไร ่ การทา� นา การทา� สวน เปน็ ตน้ โดย ใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหกระบวนการผลิต อาศยั เครอ่ื งมอื ประเภทจอบ เสยี ม มดี พรา้ อวน สินคาและบริการในแตละขั้นวามีการผลิต แห หรอื ใชแ้ รงงานจากคน สตั ว ์ และใชเ้ ครอ่ื งจกั ร อะไรบาง สา� หรบั ชว่ ยในการผลติ บ้าง การผลติ ขนั้ ทตุ ยิ ภมู ิ เปน็ การผลติ ทอ่ี าศยั 6. ครูต้ังคําถามใหนักเรียนชวยกันตอบเพ่ือฝก วตั ถดุ ิบ เครอ่ื งจกั รกลที่มีความซบั ซอ้ นมากขน้ึ การทา� กลว้ ยตากเปน็ การแปรรปู ผลผลติ อยา่ งงา่ ยเปน็ การ ทักษะการวิเคราะหเ พมิ่ เตมิ เชน ผจัด่านอกงคระ์กบร1วเพน่ือกอาร�าผนลวิตยหควลาามยขส้ันะดตวอกนแ ลแะลคะวมบีกคาุมร ผลิตขน้ั ปฐมภูมิ • ถาไมมีการผลิตขั้นตติยภูมิจะสงผลกระทบ การผลติ เชน่ โรงงานผลติ อาหารซง่ึ เปน็ การผลติ ตอ ผูผลติ และผูบริโภคอยา งไร ในข้ันทุติยภูมิอาจอาศัยผลผลิตจากการผลิต (แนวตอบ การผลิตข้ันตติยภูมิเปนการผลิต ขนั้ ปฐมภูมนิ า� มาประกอบการผลติ ดว้ ย ขั้นสุดทายในลักษณะการใหบริการขนสง ตัวอย่างเชน่ โรงงานผลิตผลไม้กระปอ ง เคล่ือนยายสินคาไปสูผูบริโภค หากไมมี จะน�าเอาผลไม้จากสวน อันเป็นผลิตผลจาก การผลติ ขนั้ นจี้ ะสง ผลกระทบตอ ผผู ลติ เชน ขน้ั ปฐมภมู มิ าผา่ นกรรมวธิ แี ปรรปู จนผลติ ออกมา ทาํ ใหส นิ คา ไดร บั ความเสยี หายและไดร าคา ลดลง โดยเฉพาะอยางย่ิงสินคาที่ผลิตจาก ข้นั ปฐมภูมิ เชน พืชผักและผลไม สว นผล กระทบตอผูบริโภค เชน ทําใหไดรับสินคา และบริการชาลงหรือไมเพียงพอตอความ ตอ งการ) เป็นผลไม้กระปอง และในการผลติ ปลากระปอง ก็ใชห้ ลักการเชน่ เดียวกันน้ ี เป็นตน้ การผลิตผกั แชแ่ ขง็ ส่งออกเปน็ การผลิตขัน้ ทตุ ิยภมู ิ การผลิตข้ันตติยภูมิ เป็นการผลิตใน ลักษณะการให้บริการ โดยเคลื่อนย้ายผลผลิต ข้ันปฐมภูมิและข้ันทุติยภูมิไปสู่ผู้บริโภคอย่าง สะดวก รวดเรว็ มีคณุ ภาพ และมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเชน่ การให้บรกิ ารเกี่ยวกบั ดา้ น การคมนาคมขนสง่ การธนาคาร การประกนั ภยั การค้าปลีก การค้าส่ง การให้บริการของรัฐ ในหนว่ ยงานต่าง ๆ เปน็ ต้น 2 การขนส่งและบรกิ ารทางอากาศเป็นการผลติ ข้นั ตตยิ ภมู ิ 135 ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู บุคคลใดประกอบอาชีพในการผลิตข้นั ตตยิ ภูมิ 1 การจดั องคก ร เปน การจดั โครงสรางการบริหารองคกร เพือ่ สะดวกในการ 1. สดุ าทําเนอ้ื แดดเดยี วขายที่ตลาดนัด บรหิ ารและการทํางาน เชน ในโรงงานอตุ สาหกรรมจะมีการแบงเปนฝา ยตางๆ 2. สชุ าติรับซือ้ ดอกไมจากสวนเพอื่ นาํ ไปขายตอ เชน ฝายธุรการ ฝายผลติ ฝายบัญชี ฝายการตลาด ท้ังน้ี ขน้ึ อยูกบั ประเภทและ 3. สกุ านดาเปน ผจู ดั การโรงงานผลติ ช้ินสวนรถยนต ขนาดของโรงงานอุตสาหกรรม 4. สวุ มิ ลปลกู พชื ผกั สวนครวั ตามแนวปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 บริการทางอากาศ ปจจุบันทาอากาศยานนานาชาติในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล มี 2 แหง คือ ทาอากาศยานสุวรรณภมู ิ ตั้งอยูจ งั หวัดสมทุ รปราการ (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. การผลิตขนั้ ตติยภมู เิ ปน ขนั้ สดุ ทาย เปนศูนยกลางการบริการทางอากาศและศูนยการบินของเอเชีย โดยเปดให ของการผลิต ซงึ่ จะมีลักษณะเปนการใหบ ริการตา งๆ เพื่ออํานวย บริการทั้งผูโดยสารและขนสงสินคาไปท่ัวโลก ซ่ึงสงผลดีตอการพัฒนาดาน ความสะดวกในการเคล่ือนยายสินคาและบริการใหไปถึงผูบริโภค เศรษฐกิจของไทย และทาอากาศยานดอนเมือง ตั้งอยูท่ีกรุงเทพฯ เปน ไดเร็วท่ีสุด เชน การใหบริการดานการคมนาคมขนสง การคา ทา อากาศยานนานาชาติ เพอื่ รองรบั การขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ของภมู ภิ าคเอเชยี ปลีกและคาสง การธนาคาร ซ่ึงการที่สุชาติรับดอกไมไปขาย และลดความหนาแนนของทาอากาศยานสวุ รรณภมู ิ ตอน้ัน ถือเปนการอํานวยความสะดวกใหแกผูบริโภคที่ไมตอง เดินทางมาซ้ือเองถึงแหลงผลิต ดังนั้น จึงจัดวาเปนการประกอบ T149 อาชีพในข้นั ตตยิ ภูมิ)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ò. ปัจจยั ãนการผลิต1 ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู ทรัพยากรทน่ี า� มาใชใ้ นการผลติ สนิ ค้าและบริการ เรยี กวา่ ปจั จยั การผลติ ซ่งึ เป็นส่งิ จ�าเปน็ ข้ันพื้นฐานในการผลิตสินค้าและบริการทุกอย่าง ในการผลิตจะต้องน�าปัจจัยการผลิตท่ีมีอยู่อย่าง 7. ครูสุมใหนักเรียนยกตัวอยางการผลิตสินคา จ�ากัด มาผ่านกระบวนการผลิตเพ่ือให้เกิดการผลิตสินค้าขึ้น ในทางเศรษฐศาสตร์แบ่งปัจจัย และบริการที่นักเรียนใชในชวี ติ ประจาํ วัน แลว การผลติ ออกเป็น ๔ ประเภท ดงั นี้ ใหบ อกวา ใชป จ จยั การผลติ อะไรบา ง พรอ มทงั้ บอกแหลงท่ีมาของปจ จยั การผลติ แผนผังปจจยั การผลติ สนิ คา้ และบริการ 8. ครูสรางสถานการณสมมติใหนักเรียนรวมกัน อภปิ รายวา ถา นกั เรยี นมที ด่ี นิ ทอ่ี ดุ มสมบรู ณม าก แตขาดแคลนแรงงานและทุน นักเรียนจะมี วิธีบรหิ ารปจ จัยการผลติ นไ้ี ดอยา งไร ที่ดนิ แรงงาน ปจจยั การผลติ ผ้ปู ระกอบการ ทุน ๒.1 ที่ดนิ ที่ดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ ท่ีดินรวมถึงสิ่งท่ีเกิดใต้ดิน บนดนิ หรอื เหนอื พนื้ ดนิ เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ซง่ึ จะรวมถงึ ทดี่ นิ และทรพั ยากรธรรมชาตทิ เี่ กดิ ขนึ้ เองทกุ ชนดิ เปน็ ตน้ ว่า ปา่ ไม้ น�า้ ตก แร่ธาตุ น้�ามนั โดยมผี ลตอบแทนของผู้เป็นเจา้ ของทดี่ นิ คอื “คา่ เช่า” ๒.๒ แรงงาน แรงงานเป็นการใช้ความสามารถหรือความพยายามทัง้ กา� ลังกาย จติ ใจ และสตปิ ัญญาของ มนษุ ยใ์ นการกระทา� สงิ่ ใดกต็ ามในกระบวนการผลติ ผใู้ ชแ้ รงงานในกระบวนการผลติ มที งั้ แรงงานที่ ใชส้ มอง ความคดิ หรือสตปิ ัญญา เชน่ ขา้ ราชการ ลูกจ้างรฐั วิสาหกจิ ลกู จ้างในหนว่ ยงานต่าง ๆ เปน็ ตน้ โดยท่วั ไปแล้วแรงงานแบ่งได ้ ๒ ประเภท ดังนี้ 13๖ เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูเพ่ิมเติมขอมูลสถานการณราคาท่ีดินในปจจุบันท่ีปรับตัวเพิ่มขึ้นทุก คําวา “ทรัพยากร” ในทางเศรษฐศาสตรต รงกับขอ ใด ป เชน ใน พ.ศ. 2560-2561 ราคาที่ดินในเขตกรงุ เทพฯ และปรมิ ณฑลเพม่ิ ขึ้น 1. ทด่ี นิ แรงงาน ทนุ และผูป ระกอบการ 5.3% โดยราคาที่ดินที่แพงท่ีสุดอยูท่ีสีลม กรุงเทพฯ ราคา 1 ลานบาท/ตร.ว. 2. ปจ จัยการผลติ สินคา และบรกิ ารของผูป ระกอบการ จากราคาที่ดนิ ทีป่ รับตัวสงู ขน้ึ ดังกลา ว แสดงใหเห็นถึงความเจรญิ ทางเศรษฐกจิ 3. ส่ิงทจ่ี ะนาํ มาผลติ สินคาและบริการเพือ่ จาํ หนายแกผูบรโิ ภค และความขาดแคลนทด่ี นิ ในอนาคต จากนนั้ ใหน กั เรยี นสบื คน ขอ มลู ราคาประเมนิ 4. การผลติ สนิ คา และบรกิ ารของผปู ระกอบการเพอื่ หวงั กาํ ไรสงู สดุ ทดี่ ินเพ่ิมเตมิ ไดท ่ี http://www.treasury.go.th สาํ นกั ประเมินราคาทรพั ยสิน (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. เน่ืองจากทรัพยากรในทาง นักเรียนควรรู เศรษฐศาสตรหรือปจจัยการผลิต ถือเปนสิ่งท่ีนํามาแปรรูปเปน สินคาหรือบริการท่ีมีประโยชนทางเศรษฐกิจข้ึนมาใหมและ 1 ปจจัยในการผลิต ทุกส่ิงทุกอยางที่ตองนํามาใชในกระบวนการผลิตสินคา สามารถตอบสนองความตอ งการของมนษุ ยไ ด ประกอบดว ย ทดี่ นิ หรอื บรกิ าร แบง ออกเปน 4 ประเภท ไดแ ก ทดี่ นิ แรงงาน ทนุ และผปู ระกอบการ แรงงาน ทุน และผูป ระกอบการ ดังนน้ั คําวา “ทรพั ยากร” ในทาง ในการผลติ สนิ คา แตล ะชนดิ ใชปจ จยั การผลิตทแี่ ตกตางกนั เศรษฐศาสตร จึงหมายถึง ที่ดิน แรงงาน ทนุ และผปู ระกอบการ) T150
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑) แรงงานมีฝม อื หรอื แรงงานที่ใช้ความรู้ความสามารถ เป็นแรงงานท่ีได้รบั การ ขนั้ สอน อบรมความรู้เฉพาะทางมาเป็นอย่างดี ซ่ึงแรงงานประเภทน้ีประกอบอาชีพโดยมีสถานภาพ ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู การทา� งานทีแ่ ตกต่างกนั ออกไป เช่น พนักงาน ทา� งานในภาครฐั และภาคเอกชน แพทย ์ พยาบาล 9. ครนู าํ สนทนาถงึ สถานการณท างดา นแรงงาน ครู วิศวกร ข้าราชการในหน่วยงานต่าง ๆ ของไทย เชน สาขาท่ีไทยมีความเชี่ยวชาญ นายจา้ งและลกู จา้ งในบริษทั เปน็ ตน้ และลักษณะเดนของแรงงานไทย สาขาท่ี ขาดแคลน สถานการณแรงงานตางดาวใน ๒) แรงงานไรฝ้ ม อื หรอื แรงงาน ไทย คา แรงขนั้ ตาํ่ กบั ภาวะคา ครองชพี จากนน้ั ครูนําสนทนาเกี่ยวกับขอดีและขอดอยของ ที่ไม่มีความช�านาญ เป็นแรงงานท่ีใช้แต่ก�าลัง แรงงานมีฝมือกับแรงงานไรฝมือ แลวให แรงกาย ซ่ึงมักจะไม่ได้รับการฝกฝนอบรมใน นักเรียนรวมกันอภิปรายถึงแนวทางการ ด้านความรู้เฉพาะทางมาก่อน เช่น กรรมกร พฒั นาแรงงานใหม ีคณุ ภาพมากยิง่ ขึน้ รับจา้ งแบกหาม คนงานรบั จา้ งท่ัวไป เป็นต้น ประเทศทม่ี แี รงงานทมี่ คี ณุ ภาพ คอื 10. ครูตั้งคําถามใหนักเรียนรวมกันแสดงความ ประชากรมกี ารศกึ ษาและประสบการณส์ งู มคี วาม แรงงานมีฝีมือเป็นผู้ท่ีมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในงานที่ คดิ เห็นเพ่มิ เตมิ เชน เช่ียวชาญในงานท่ีท�า จะช่วยเพิ่มผลผลิตและ ท�าเปน็ อย่างดี • แรงงานมคี วามสาํ คญั กบั การผลติ สนิ คา และ ท�าให้ผลผลิตมีคณุ ภาพมากย่ิงขนึ้ โดยเฉพาะประเทศทีพ่ ฒั นาแลว้ และในประเทศเหลา่ นแ้ี รงงาน บริการอยา งไร จะไดร้ บั คา่ ตอบแทนทสี่ งู มากกวา่ ประเทศทกี่ า� ลงั พฒั นา ทา� ใหน้ กั ลงทนุ ตอ้ งการเขา้ มาลงทนุ ในประเทศ (แนวตอบ แรงงานถอื เปน องคป ระกอบสาํ คญั ทีก่ า� ลงั พฒั นาส า�เนหื่อรับงจผาลกตมอีคบา่ แจท้านงแทร่เี งจง้าาขนอถงกูแกรงวง่าา ทนไา� ดให้รบั้ตน้ เทรุนยี กกาวร่าผ ล“คิตาตจ�า่ าแง1ล” ะไซด่ึงผ้อลาจกเ�าปไร็นเเพงินิ่มเขดึ้นือน ของปจ จยั การผลติ โดยแรงงานจะใชค วามรู คา่ จ้างรายวนั หรือรายช้ินงาน ตามแตต่ กลงกนั ความสามารถ ทกั ษะ ความเชย่ี วชาญในการ สรา งสรรคผ ลงานหรอื ผลติ ภณั ฑต า งๆ ธรุ กจิ ๒.3 ทนุ ท่ีมีแรงงานมีความรูความเช่ียวชาญในงาน ที่ทํา สามารถพัฒนาธุรกิจใหประสบความ ทนุ เปน็ ปจั จยั การผลติ ทมี่ นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ สา� หรบั นา� มาผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร รวมถงึ การจดั สง่ สําเร็จไดสูง ในขณะท่ีธุรกิจหรือหนวยงาน ถงึ มอื ผบู้ รโิ ภคดว้ ย เชน่ โรงงาน อปุ กรณแ์ ละเคร่อื งจกั รตา่ ง ๆ โกดงั เก็บสินคา้ รถบรรทกุ สนิ คา้ ทมี่ แี รงงานขาดทกั ษะ ความเชย่ี วชาญในงาน เป็นตน้ เมอ่ื เราน�าปัจจยั นีไ้ ปใช้ในกระบวนการผลิตรว่ มกับปัจจยั ชนิดอน่ื ก็จะได้รบั ผลผลติ ออกมา ธรุ กิจน้ันก็พัฒนาไดยาก) สนิ คา้ ที่ใช้ไปเพือ่ ก่อใหเ้ กิดการผลติ เรยี กว่า สินค้าทนุ ซึง่ สินคา้ ทุนทีส่ �าคัญ คือ เคร่ืองจักรทีใ่ ชใ้ น การผลิต โดยท่วั ไปปจั จัยทเี่ กยี่ วกบั ทุน ม ี ๒ ประเภท คือ ๑) ส่ิงก่อสร้าง เป็นส่ิงที่มนุษย์ท�าการปลูกสร้างขึ้นไว้ใช้ประโยชน์เพ่ือการด�าเนิน กิจกรรมทางเศรษฐกิจในลกั ษณะตา่ ง ๆ เชน่ อาคารสา� นักงาน เพือ่ ใช้ในการบริหารจดั การธรุ กจิ โรงงาน เพอื่ ใช้เป็นสถานท่ีผลติ สินคา้ โกดัง เพ่อื ใชเ้ ป็นคลงั เก็บสินคา้ ย้งุ ฉาง เพือ่ ใช้เกบ็ ผลผลิต ทางการเกษตร เป็นต้น 137 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ขอใดเปนปจจัยการผลิตประเภททุนสําหรับการเปดกิจการ 1 คาจาง กําหนดโดยคณะกรรมการคาจางกลาง ซ่ึงประกอบดวย ปลัด รานอาหาร กระทรวงแรงงาน ผูแทนฝายรัฐบาล และฝายลูกจาง โดยอาศัยตาม พ.ร.บ. คมุ ครองแรงงาน พ.ศ. 2553 โดยใน พ.ศ. 2556 คาจา งข้นั ตาํ่ ทวั่ ประเทศปรบั 1. ทําเลทตี่ ้งั ของรา น เปน 300 บาทตอ วนั 2. พนักงานเสิรฟ อาหาร 3. เครอื่ งครวั สําหรับลวกกว ยเต๋ยี ว บูรณาการอาเซียน 4. แมน้ําทไ่ี หลผานดา นหลงั ของรา น (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. ทนุ หมายถงึ เครือ่ งมือ เครอ่ื งจกั ร ครูเพ่ิมเติมขอมูลเกี่ยวกับการเคล่ือนยายแรงงานมีฝมือเสรีตามกรอบของ ในการผลิตสินคาและบริการ แตมิรวมถึงเงิน เนื่องจากเงินไม ประชาคมอาเซียน โดยมีวิชาชีพท่ีสามารถเคล่ือนยายแรงงานไดอยางเสรี สามารถผลติ สนิ คา ใดๆ ได เปน เพยี งส่ือกลางในการซ้ือเครอื่ งมือ ในประชาคมอาเซียนหลายสาขาอาชีพ เชน แพทย ทันตแพทย นักบัญชี วิศวกร หรืออุปกรณเทาน้ัน ดังน้ัน เคร่ืองครัวจัดวาเปนทุนเพื่อการผลิต สถาปนิก พยาบาล นักสํารวจ ซึ่งอุปสรรคสําคัญของการเคลื่อนยายแรงงาน สินคาและบริการใหเกิดข้ึน สวนทําเลท่ีต้ังของรานและแมน้ํา ระหวา งประเทศ โดยเฉพาะของไทย คอื ความแตกตา งทางดานภาษา ซง่ึ ไทย ที่ไหลผานดานหลังของรานถือเปนปจจัยการผลิตประเภทที่ดิน มีแรงงานมีฝมือจํานวนมาก แตสวนใหญยังขาดทักษะการทํางานและการใช และพนกั งานเสิรฟอาหารเปน ปจ จัยการผลิตประเภทแรงงาน) ภาษาองั กฤษ T151
นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั สอน ๒) อุปกรณ์การผลติ เปน็ เคร่อื งมือ เคร่ืองใช้ รวมถงึ อุปกรณต์ า่ ง ๆ ที่มนษุ ยน์ า� มา ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ใช้เพื่อช่วยในการด�าเนินการผลิตสินค้าและบริการ ถือเป็นปัจจัยหน่ึงท่ีมีความส�าคัญอย่างมาก ในกระบวนการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารแตล่ ะขนั้ ตอน เชน่ เครอื่ งจกั รกล ชนิ้ สว่ นประกอบ ยานพาหนะ 11. ครยู กตวั อยา งกรณศี กึ ษาของผปู ระกอบการที่ วัตถุดบิ ซึง่ ในปัจจุบันอุปกรณ์การผลิตมคี วามทนั สมยั มาก ชว่ ยเพมิ่ คณุ ภาพของสินคา้ และบริการ ประสบความสาํ เรจ็ ในการบรหิ ารจดั การธรุ กจิ และยงั ชว่ ยประหยดั เวลาในการผลิต จงึ สามารถตอบสนองความตอ้ งการของตลาดได้อยา่ งดี ของตนเองมาใหนักเรียนศึกษาถึงวิธีการคิด ในทางเศรษฐศาสตรส์ ิ่งทจ่ี �าเป็น เช่น เคร่ืองจกั ร โรงงาน ท้ังท่ีลงทนุ ซอ้ื มานานแลว้ หรอื ทัศนคติ และวิสัยทัศนในการบริหารจัดการ เพิ่งจะซ้ือ ถือว่ามีความส�าคัญต่อการผลิตสินค้าทั้งสิ้น ในบางคร้ังถ้าปัจจัยเหล่านี้มีไม่เพียงพอ ธุรกิจ แลวใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและ กอ็ าจมกี ารลงทุนซือ้ เพ่ิมขนึ้ หรืออกี นยั หนง่ึ เปน็ การลงทนุ หรอื การสะสมทนุ ใหม้ ากขนึ้ นั่นเอง อภิปรายกรณีศึกษาดังกลา วเพม่ิ เตมิ ๒.๔ ผู้ประกอบการ ขน้ั สรปุ ผปู้ ระกอบการทา� หนา้ ทใี่ นการนา� เอาปจั จยั การผลติ ทง้ั หลายมารวมเขา้ ดว้ ยกนั ไดแ้ ก ่ ทด่ี นิ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา ใจ แรงงาน และทุน เพือ่ ท�าการผลติ สนิ ค้าและบริการ สนองตอบความตอ้ งการของผบู้ ริโภค โดยจ่าย ค่าจ้างแรงงาน ค่าเช่าที่ดิน และดอกเบี้ย ให้แก่ปัจจัยการผลิตทั้งสามข้างต้น อีกทั้งมุ่งหวังให ้ 1. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 7.1 เร่ือง การผลิตมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะจะต้องควบคุมปัจจัยการผลิต ควบคุมการผลิต การตลาด ปจ จยั ในการผลิต โดยครูแนะนาํ เพม่ิ เตมิ ซง่ึ นบั เปน็ ความเสยี่ งอยา่ งมากในการประกอบการ ดงั นน้ั ผปู้ ระกอบการจงึ ตอ้ งใชค้ วามรคู้ วามสามารถ ตลอดจนเทคโนโลยีและประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจของตนประสบความส�าเร็จ 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ผลตอบแทนจากการใชค้ วามรคู้ วามสามารถและความวริ ยิ อตุ สาหะทผี่ ผู้ ลติ หรอื ผปู้ ระกอบการไดร้ บั เศรษฐศาสตร ม.2 เก่ียวกับเร่อื ง ความหมาย เรยี กว่า “กา� ไร” ความสาํ คญั และปจจยั ในการผลติ สนิ คา และ ผู้ประกอบการมีหน้าท่ีส�าคัญในการสร้างการผลิต หรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจท้ังหลาย บริการ โดยมีหนา้ ที่ความรับผดิ ชอบ ดงั นี้ ขน้ั ประเมนิ ตัดสนิ ใจเกีย่ วกบั ธุรกิจ หน้าท่ีของ จดั การองคก์ ร • ผลติ สนิ คา้ ใด ผ้ปู ระกอบการ • วางเเผนการผลิต ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล • คุณภาพระดับใด • บรหิ ารองคก์ ร • ผลิตอยา่ งไร • พัฒนาบุคลากร 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ • ผลติ เพ่อื ใคร ตอบคาํ ถาม ทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ บรหิ ารความเส่ียง เศรษฐศาสตร ม.2 พฒั นาคุณภาพ • ส�ารวจตลาด และวจิ ัยผลติ ภณั ฑ์ • พัฒนาคุณภาพสินคา้ 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม • ติดตามสภาวะตลาด • ใช้เทคโนโลยกี ารผลิต การทํางาน และการนําเสนอผลงาน • ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ศึกษาคแู่ ขง่ • บริหารการเงนิ • วิจัยผลติ ภณั ฑ์ 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 138 แนวทางการวัดและประเมินผล ขอ สอบเนน การคดิ ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง ความหมาย ความ บุคคลในขอใดไดร ับคา ตอบแทนในฐานะผูประกอบการ สําคัญ และปจ จัยในการผลติ สนิ คาและบริการ ไดจากการตอบคําถาม การรวม 1. วนั วสิ ามรี ายรบั จากการรบั จา งเกบ็ ดอกดาวเรอื งวนั ละ 300 บาท กันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและ 2. วนั ทาไดร บั ขา วสารเปน คา ตอบแทนทใ่ี หน อ งชายเชา ทด่ี นิ ทาํ นา ประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจัดการ 3. วันชัยไดด อกเบ้ียทใี่ หเ พ่อื นยมื เงนิ เม่อื เดอื นทแ่ี ลว 1,000 บาท เรยี นรูหนว ยท่ี 7 เร่ือง การผลติ สนิ คา และบรกิ าร 4. วันชนะไดกําไรจากการขายเสื้อผามือสองท่ีตลาดนัด วันละ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน 1,200 บาท (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เนอื่ งจากผปู ระกอบการทําหนาท่ี คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ นําเอาปจจัยการผลิตมาทําการผลิตสินคาและบริการเพื่อตอบ ตรงกบั ระดบั คะแนน สนองความตองการของผูบริโภค ทั้งนี้ ผูประกอบการจะตองใช ความรูความสามารถในการบริหารธุรกิจ เพ่ือใหธุรกิจของตน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 ประสบความสําเร็จ โดยผลตอบแทนทจ่ี ะไดรับ คือ กําไรทีม่ าจาก 32 การนาํ ปจ จยั การผลติ มาใชใ นการผลติ สนิ คา และบรกิ าร ซงึ่ ตรงกบั การทีว่ ันชนะไดรับกาํ ไรจากการขายเสอื้ ผา ) 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การลาดับข้นั ตอนของเรื่อง 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางสว่ น เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ T152 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ปจั จุบนั การประกอบการจะต้องอาศยั ความสามารถ ตลอดจนความชา� นาญ ซ่ึงถือเป็นสิ่งท่ี ขน้ั นาํ ส�าคัญมากที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผน และจัดการทางด้านธุรกิจที่มีความเสี่ยง ในระดบั ตา่ ง ๆ ใหผ้ า่ นไปได้ด้วยด ี และน�าธรุ กิจไปสู่ความสา� เร็จ หรือไดผ้ ลก�าไรตามเป้าหมายที่ (วธิ ีสอนโดยการอภิปราย) วางไว้ ซึ่งเป้าหมายส�าคัญของผู้ประกอบการ คือ การบริหารดูแลกิจการเพ่ือให้ได้ก�าไรสูงสุด โดยเสยี ทรพั ยากรการผลิตนอ้ ยลงหรอื ลดต้นทนุ การผลติ ใหไ้ ด้มากท่สี ดุ น่ันเอง 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอื่ เรอื่ งทจ่ี ะ เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู ó. หลกั การผลิตสินคา้ และบรกิ ารอยา่ งมปี ระสทิ ธิÀาพ 2. ครูนําโฆษณาสินคาและบริการตางๆ ที่เปน การผลิตสินค้าเป็นการน�าวัตถุดิบมาผ่านกระบวนการผลิต เพ่ือให้ได้สินค้าท่ีต้องการใน ทน่ี ยิ มมาใหน กั เรยี นดู แลว ตงั้ คาํ ถามใหน กั เรยี น การด�าเนินชีวติ ซง่ึ มหี ลกั การสา� คญั ดงั นี้ รวมกนั แสดงความคิดเหน็ 3.1 หลักการใช้ทรพั ยากรในการผลติ ขนั้ สอน ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลติ เปน็ สง่ิ สา� คญั ทชี่ ว่ ยเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการผลิต ซง่ึ ผผู้ ลติ จะตอ้ งคา� นงึ ถงึ สิ่งตอ่ ไปน้ี ข้นั ที่ 1 เตรยี มการอภิปราย และบริการจะ๑ต)้อ งกคา�ารนใึงชถ้ทึงตร้นัพทยุนากการรอผยล่าิตง1 ปซร่ึงะทหรยัพัดยแาลกะรเกกาิดรผปลริตะโนยับชเปน็น์สตูง้นสทุดุน ทใน่ีมกีคาวราผมลสิต�าสคินัญคท้าี่ 1. ครูถามนกั เรียนถงึ ความเขา ใจเบ้ืองตน ผู้ผลิตจะต้องค�านึงถึง เช่น ราคาของทรัพยากรว่ามีต้นทุนสูงเท่าใด ความยากง่ายในการจัดหา 2. นกั เรยี นแบง กลมุ สบื คน ขอ มลู เกยี่ วกบั หลกั การ ความพอเพียงของทรัพยากรในอนาคตว่ามีเพียงพอในระยะยาวหรือไม่ เพราะถ้าหากทรัพยากร การผลติ เหล่านม้ี ีต้นทุนสงู และมแี นวโนม้ จะหาไดย้ ากในอนาคต ผผู้ ลิตจะตอ้ งท�าการตดั สินใจใหม่ ผลิตสนิ คาและบรกิ ารอยา งมีประสทิ ธภิ าพ ในการผลิตสนิ ค้า เพอ่ื ลดตน้ ทนุ การผลติ หรอื ใหเ้ กดิ ความคมุ้ คา่ นัน่ เอง ขัน้ ที่ 2 ดําเนนิ การอภปิ ราย ๒) การเลือกเคร่ืองใช้ อุปกรณ์ หรือสินค้าทุน ในการผลิตโดยทั่วไปมักต้อง ใช้เครอ่ื งจกั รหรอื อปุ กรณไ์ มม่ ากกน็ อ้ ย เพอ่ื ทา� ใหต้ น้ ทนุ การผลติ ตา่� ทสี่ ดุ เกดิ ความสะดวกรวดเรว็ 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก ในการท�างาน ถ้าเป็นกิจการระดับครัวเรือน เคร่ืองจักรหรืออุปกรณ์ที่ใช้มักมีขนาดเล็กและ การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ยี นความรกู นั เสียค่าใช้จ่ายไม่สูงมากเหมือนการผลิตของ 2. จากน้ันสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ทน่ี าํ เสนอเพ่ือใหไ ดขอมูลทถ่ี กู ตอ ง 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล โดยเริ่มจากกลุมที่ 1 หลักการใชทรัพยากร ในการผลติ พรอ มทง้ั ยกตวั อยางประกอบ 4. ครแู ละนกั เรยี นรวมกันอภปิ รายเพ่ิมเติม ภาคธุรกิจหรือองค์กรขนาดใหญ่ แต่การเลือก เคร่ืองจักรหรืออุปกรณ์ เช่น เคร่ืองเย็บผ้า เตารดี เครอื่ งทา� ความสะอาด ยอ่ มตอ้ งพจิ ารณา อยา่ งพถิ พี ถิ นั โดยตอ้ งเลอื กเครอื่ งจกั ร เครอื่ งมอื ทมี่ อี ายกุ ารใชง้ านไดย้ าวนาน มคี ณุ ภาพเหมาะสม ได้มาตรฐาน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อม บา� รงุ มากจนเกนิ ไป รวมทงั้ ตอ้ งมคี วามปลอดภยั ต่อชีวิตและไม่สร้างมลพิษหรือก่อสารพิษท่ี ในอตุ สาหกรรมขนาดใหญจ่ ะมกี ารใชเ้ ทคนคิ การผลติ ขนั้ สงู บ่นั ทอนสขุ ภาพของคนงาน และแรงงานทมี่ คี วามรคู้ วามเชย่ี วชาญ 139 ขอ สอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู ขอใดเปนปจจัยสําคัญท่ีสงผลใหเจาของธุรกิจตัดสินใจเพิ่ม ครคู วรยกตวั อยา งการผลติ สนิ คา และบรกิ าร 1 ชนดิ ใหน กั เรยี นชว ยกนั บอก ปรมิ าณการผลติ วธิ กี ารบรหิ ารการใชท รพั ยากรในการผลติ อยางมีประสทิ ธิภาพ 1. อตั ราคา จางแรงงานขนั้ ตาํ่ เพ่ิมข้ึน นักเรียนควรรู 2. สินคาทที่ ดแทนกนั ไดร าคาลดตํ่าลง 3. วตั ถุดบิ ทใ่ี ชใ นการผลิตราคาลดต่ําลง 1 ตน ทุนการผลติ ประกอบดว ย ตน ทนุ คงท่ี คอื ตน ทนุ ท่เี กิดขึน้ ในการผลติ 4. อัตราดอกเบี้ยเงินกเู พ่อื การลงทนุ เพ่ิมขึ้น สินคาและบริการโดยไมเปล่ียนแปลงไปตามยอดขายสินคาหรือบริการ เชน (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการทรี่ าคาของวตั ถดุ บิ ลดลง คา เชา สาํ นกั งาน เงนิ เดอื นพนกั งานประจาํ คา สาธารณปู โภคตา งๆ คา ธรรมเนยี ม ทาํ ใหผ ผู ลติ มตี น ทนุ การผลติ ลดลง จงึ สามารถเพมิ่ ปรมิ าณการผลติ ภาษี ตนทุนผันแปร คือ ตนทุนท่ีเปลี่ยนไปตามยอดขายสินคาและบริการ ได แตท้งั นีต้ อ งพจิ ารณาองคประกอบอื่นดวย เชน ความตองการ เชน คาวัตถดุ ิบ แรงงานการผลติ ที่จางเมอ่ื มกี ารผลิตเทานั้น สนิ คา สาํ เรจ็ รปู ที่ สนิ คา ของผบู รโิ ภค สว นขอ 2. การทรี่ าคาสนิ คา ทดแทนกนั ไดต า่ํ ลง ซ้ือมาเพ่ือผลิต ดังน้ัน ในการผลิตสินคาผูประกอบการจะตองคิดถึงจุดคุมทุน ทาํ ใหส นิ คา ราคาตา่ํ ลง ขอ 1. อตั ราคา จา งเพมิ่ ทาํ ใหต น ทนุ ในการ คือ ระดับรายไดจากการผลิตเทากับท่ีไดจายออกไป คือ เทาทุน สวนท่ีเหลือ ผลติ เพมิ่ ข้นึ ขอ 4. อตั ราดอกเบ้ยี เงินกูเพ่มิ ทาํ ใหตนทนุ การผลิต เรียกวา กําไร เพิ่มขนึ้ จึงไมเปน แรงจงู ใจใหผผู ลติ เพิม่ ปริมาณการผลติ ) T153
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๓) การจดั หาแรงงานทเี่ หมาะสม สา� หรบั กจิ การในครวั เรอื นนน้ั มกั อาศยั แรงงาน ขั้นที่ 2 ดาํ เนนิ การอภปิ ราย ของสมาชิกในครอบครัวเป็นหลัก แต่ก็อาจจ�าเป็นต้องหาคนงานมาเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อการ ดา� เนินการผลิต และแรงงานเหล่านน้ั จะต้องมีฝมี ือในการท�างานในระดับทก่ี �าหนดไว้ดว้ ย ส่วนใน 5. ครูใหนักเรียนกลุมท่ี 2 สงตัวแทนออกมา ภาคธุรกิจท่ีมีการผลิตสินค้าในปริมาณมากและมีการแข่งขันในตลาดสูงจะต้องมีบุคลากรท่ีม ี นําเสนอหลักคุณธรรมของผูผลิต พรอมทั้ง ความรู้ความเช่ียวชาญเฉพาะทาง ท้ังทางด้านเทคนิค ด้านวิชาการ ด้านการตลาด และการ ยกตัวอยางคุณธรรมในการผลิตสินคาและ ประชาสมั พันธ์เพ่อื มาร่วมวางแผนการผลติ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพ บริการ 1-2 ชนดิ และบอกถึงความจาํ เปนของ คุณธรรมของผูประกอบการและผลกระทบ 3.๒ หลกั คุณธรรมของผู้ผลิต ตอ ผบู รโิ ภค สงั คม สงิ่ แวดลอม จากการขาด คณุ ธรรมของผูประกอบการ ผู้ผลิตมีวัตถุประสงค์ในการผลิตสินค้าและบริการเพ่ือมุ่งหวังก�าไรเป็นส่ิงตอบแทน โดย พยายามทกุ วถิ ที างทจี่ ะทา� ใหไ้ ดก้ า� ไรมากๆ เชน่ ลดคณุ ภาพการผลติ หรอื ปลอมปนสนิ คา้ ทา� ใหส้ นิ คา้ 6. ครตู งั้ ประเดน็ คาํ ถามเพอื่ ใหน กั เรยี นไดอ ภปิ ราย ไม่ได้มาตรฐาน การกระท�าต่าง ๆ เหล่าน้ีเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้บริโภค ถอื เปน็ การเอารดั ฝกทักษะการคดิ รว มกัน เชน เอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคเปน็ อยา่ งยงิ่ ขณะเดยี วกนั กส็ ง่ ผลกระทบตอ่ ผผู้ ลติ เอง เพราะทา� ใหผ้ ู้บริโภคขาด • เพราะเหตใุ ดผผู ลติ จงึ ตอ งมคี ณุ ธรรมพนื้ ฐาน ความเช่ือมั่นในสินค้า ผู้ท่ีซื้อสินค้าไปแล้วอาจมีการร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐให้ด�าเนินการ ในการผลติ สินคาและบริการตา งๆ ตามกฎหมายต่อผู้ผลิต ดังน้ัน ผู้ผลิตควรมีคุณธรรมพ้ืนฐานเพื่อสร้างความเชื่อม่ันให้กับผู้บริโภค (แนวตอบ เพราะหากผูผลิตขาดคุณธรรม และเพอื่ ผลประโยชน์ในระยะยาวของผูผ้ ลติ เอง ดังน้ี จะสงผลกระทบตอหลายฝาย เชน ความ ปลอดภัยตอผูบริโภค ผลกระทบตอ ๑) มีความกลัวและละอายในการท�าส่ิงที่ไม่ถูกต้องท้ังปวง ผู้ผลิตต้องระลึก สิ่งแวดลอม นอกจากนี้ การมีคุณธรรม พน้ื ฐานในการผลติ จะทาํ ใหผ บู รโิ ภคมคี วาม อยู่เสมอว่าการหลอกลวงผู้บริโภคเป็นการท�าให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายจากสินค้าท่ีตนผลิตขึ้น เช่ือม่ันในการบริโภคสินคาและบริการจาก ส่ิงใดท่ไี มถ่ กู ตอ้ งให้ละเวน้ ถงึ แมว้ ่าจะทา� ให้ผู้ผลติ ไดร้ บั ผลกา� ไรมากก็ตาม ผูผลิต ซ่ึงถือเปนประโยชนอยางยิ่งตอตัว ผูผ ลติ เอง) ๒) มีความขยันหมั่นเพียรท่ีจะพัฒนาสินค้า ผู้ผลิตควรจะพัฒนาสินค้าให้ มีคุณภาพและได้มาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ การผลิตให้ ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ส�านักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นด้าอนกกจาารกจนัดผี้ กผู้ าลรติรคะบวบรพคฒัณุ นภาาสพนิ คISา้ Oให1 เ้9ป0น็0ท1,ยี่ อISมOรบั 9ข0อ0ง2ต า่ หงรปือรไะดเท้รับศก เาชรน่ ร ับไดรอร้ บังมกาาตรรรบัฐราอนงกมาารตจดัรฐกาานร ส่งิ แวดลอ้ ม ISO 14001 เปน็ ต้น ๓) มีความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค ในการผลิตสินค้า ผู้ผลิตควรจะท�าการผลิตให้ มมี าตรฐานเดยี วกันท้งั หมด ต้งั แตข่ ้นั ตอนแรกถึงขั้นตอนสดุ ทา้ ย เพ่ือเป็นการสรา้ งความเช่อื ม่ัน และศรทั ธาในสินคา้ นัน้ ใหแ้ ก่ผ้บู รโิ ภค หากผู้ผลติ คดโกง ไม่ซ่ือสัตยต์ อ่ ลูกค้า เชน่ นา� ตะกว่ั ยดั ใส่ ในหัวกุ้งเพ่ือเพิ่มน้�าหนักกุ้งให้มากข้ึน การน�าวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพหรือมีอันตรายมาผลิตเป็น อาหาร เคร่ืองด่ืม เพ่ือขายให้กับผู้บริโภค นับเป็นการกระท�าของผู้ผลิตท่ีขาดความซ่ือสัตย์และ ความรบั ผดิ ชอบ โดยไมค่ า� นงึ วา่ ผทู้ บี่ รโิ ภคสนิ คา้ จะไดร้ บั ผลกระทบหรอื ไดร้ บั อนั ตรายจากการบรโิ ภค ทไี่ มไ่ ดม้ าตรฐาน 1๔0 นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรา งเสริม 1 ISO (International Standards Organization) เปน องคก ารมาตรฐานสากล ครูควรอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการใชหลักคุณธรรมของผูผลิต ระหวา งประเทศทว่ี า ดว ย “มาตรฐานระหวา งประเทศ” เกยี่ วกบั สนิ คา และบรกิ าร แลว ใหน กั เรยี นเขยี นกรณตี วั อยา งโดยสมมตวิ า นกั เรยี นเปน ผผู ลติ ขององคกรและหนวยงานจากท่ัวโลก ซ่ึงกอตั้งข้ึนเม่ือป 1947 ท่ีเมืองเจนีวา สินคารายหน่ึง แลวนักเรียนจะนําหลักคุณธรรมของผูผลิตไปใช ประเทศสวิตเซอรแลนด เพื่อจัดระเบียบการคา รวมถึงพัฒนาและสงเสริม ในการผลิตสนิ คา อยางไร และสงผลดอี ยางไร จากนัน้ นําผลงาน มาตรฐานของสนิ คา และบรกิ ารระหวา งประเทศใหเ ปน ทยี่ อมรบั กนั ในระดบั สากล สงครูผสู อน และตวั เลขท่ีตอ ทา ย ISO เปนสงิ่ ทีส่ ามารถบง บอกถงึ แนวทางและวธิ กี ารบรหิ าร องคกรที่แตกตางกันออกไป ส่ือ Digital ศึกษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เติมเกยี่ วกับการรบั รองมาตรฐาน (ISO) ไดท ่ี http://www.masci.or.th/ สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ T154
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ใ ห้มสี ภาพทน่ี ๔า่ อ) ยร ู่ ใกั ชษ้เทาคสโภนาโพลยแีสวะดอลาอ้ด1ใมน กผาผู้ รลผติ ลจิตะสตินอ้ คงชา้ ว่ แยลกะนั ครวกั รษจัดาสใหภ้มาพกี จิแกวรดรลมอ้ ตม่าภงา ๆย ใเนพโอ่ื รรงักงาษนา ขนั้ สอน สง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ การปลกู ตน้ ไม ้ การรกั ษาความสะอาด การจดั การดา้ นสขุ อนามยั การบา� บดั นา�้ เสยี เ ปน็ ต้น3 ท.3ัง้ น ้เีหพื่อลชัก่วกยรากั รษเาพสภิม่ ามพลูแวคดาล2ใอ้ นมใกหา้ดรีขผึน้ ลติ สินคา้ และบริการ ขนั้ ที่ 2 ดําเนินการอภิปราย ปัจจุบันมีผู้ผลิตสินค้าและบริการออกสู่ตลาดมากมาย ท�าให้มีการแข่งขันกันขายสินค้า คอ่ นขา้ งสงู ทง้ั กบั ผคู้ า้ ในประเทศและจากตา่ งประเทศ ผผู้ ลติ หรอื ผขู้ ายจงึ ตอ้ งมกี ารใชก้ ลยทุ ธต์ า่ ง ๆ 7. ครูใหนักเรียนกลุมที่ 3 สงตัวแทนออกมา ในการขายสนิ คา้ ของตน โดยใช้มาตรการในระยะสนั้ เชน่ การลดราคาสนิ คา้ การต้งั ราคาตดั หนา้ นาํ เสนอ หลกั การเพ่ิมมูลคาในการผลิตสนิ คา คู่แข่ง การโฆษณาสินค้าทางส่ือต่าง ๆ ส่วนมาตรการในระยะยาว เช่น การลดต้นทุนการผลิต และบริการ พรอมท้ังยกตัวอยางผลิตภัณฑ การเพ่มิ มลู ค่าของสินคา้ และบรกิ าร เป็นตน้ สินคาและบริการที่มีการเพ่ิมมูลคาประกอบ การเพม่ิ มลู คา่ ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารเปน็ กลยทุ ธใ์ นการแขง่ ขนั ทผ่ี ปู้ ระกอบการใหค้ วาม การนําเสนอ 8. ครูยกตัวอยางการเพิ่มมูลคาในการผลิต ดวยการนําความไดเปรียบมาผสมกับความรู จากน้ันใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ใน ทองถ่ินของตนมีความไดเปรียบอะไรบางท่ี สามารถนํามาผสมกับความรูดานตางๆ แลว สามารถเพิม่ มูลคา ใหก บั สินคาและบริการได สนใจเพอื่ ทจ่ี ะพฒั นาสนิ คา้ ใหม้ มี ลู คา่ อยา่ งยง่ั ยนื ไมอ่ อ่ นไหวไปตามภาวะตลาด ซง่ึ มแี นวทาง ดงั นี้ ๑) นา� ความถนดั ในเรอื่ งตา่ ง ๆ ของตนเองมาสรา้ งสรรคผ์ ลติ สนิ คา้ และบรกิ าร โดยเลือกผลติ สนิ ค้าท่ีตนเองมีความช�านาญ มีรากฐานในการผลติ เชน่ ในท้องถิ่นมีอาชีพทอผา้ เราก็สามารถน�าผ้ามาท�าลวดลายท่ีแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น หรือวิถีชีวิตของ คนในท้องถน่ิ หรอื ผลิตสินค้าทีท่ า� มาจากผ้าในท้องถ่นิ แล้วขายนกั ทอ่ งเที่ยว เปน็ ตน้ กจ็ ะทา� ใหไ้ ด้ สนิ คา้ ใหมท่ ยี่ ากจะมคี นเลยี นแบบได ้ เพราะเปน็ สง่ิ ทม่ี อี ยตู่ ามธรรมชาต ิ หรอื สบื ทอดภมู ปิ ญั ญามา ทา� ใหเ้ กดิ สนิ ค้าทมี่ ีคณุ ค่า ตงั้ ราคาไดส้ งู ไมม่ ีใครมาขายแขง่ หรือขายตัดราคาได้ ๒) น�าความได้เปรียบมาผสมกับความรู้ เช่น ความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร ์ เชน่ เกาะสมยุ จังหวัดสรุ าษฎรธ์ าน ี ซึง่ มที ะเลและหาดทรายสวยงาม จงึ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทส่ี า� คญั ทา� ใหม้ ผี ปู้ ระกอบการเกยี่ วกบั สถานทที่ อ่ งเทยี่ ว เชน่ ทพ่ี กั รา้ นอาหาร รา้ นขายของบรกิ าร นกั ทอ่ งเทยี่ ว เปน็ ตน้ นอกจากนี้ เกาะสมุยยงั เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวท่ีมีคุณภาพสูง และมี ผลผลิตมาก จึงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจส�าคัญ อกี ทงั้ ยงั ไดม้ กี ารนา� ความรมู้ าประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ แปรรปู มะพรา้ วใหก้ ลายเปน็ สนิ คา้ ทมี่ มี ลู คา่ เพมิ่ เช่น การผลิตน�้ามันมะพร้าว ๑๐๐% โดยวิธี สกัดเย็น ซึ่งน้�ามันมะพร้าวน้ีสามารถน�าไปใช้ ประกอบอาหาร หรือใช้ในการดูแลผิวพรรณ เพ่ือความงาม ซึ่งในปัจจุบันก�าลังเป็นท่ีนิยม การใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรคผ์ สมกบั ความเปน็ เอกลกั ษณ์ไทย ในกลุ่มผู้ดูแลสขุ ภาพและความงาม มาใชใ้ นการออกแบบผลงาน เปน็ การเพม่ิ มลู คา่ ใหก้ บั สนิ 1คา้ ๔1 ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอใดเปนการเพิ่มมูลคาในการผลิตสินคาและบริการ โดย 1 เทคโนโลยีสะอาด เปนเทคโนโลยีทน่ี าํ มาใชแลว ไมท ําลายสงิ่ แวดลอ ม หรือ การนําความถนัดของตนเองมาสรางสรรคผลิตสนิ คา และบริการ มีผลกระทบตอสง่ิ แวดลอมนอยทีส่ ดุ เชน นาํ พลงั งานแสงอาทิตย พลงั งานลม มาผลติ กระแสไฟฟา หรอื นําวตั ถุดบิ ชีวมวล เชน ออย มนั สําปะหลงั ขา วโพด 1. ตนพัฒนาบานสวนของตนใหกลายเปนแหลงเรียนรูของ มาผลิตเปน เช้อื เพลิง ชมุ ชน 2 การเพ่ิมมูลคา เปนการเพ่ิมคุณคาของสินคาเมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพ ท่ไี ดรับ โดยท่ตี นทุนในการผลติ เทา เดมิ หรอื เพม่ิ ข้นึ เล็กนอย แตธ รุ กจิ ยงั ไดก ําไร 2. ตองออกแบบสบูสมุนไพรใหมีรูปทรงแปลกตาและมีความ เชน มบี รรจภุ ณั ฑที่สวยงาม เพิม่ สีสนั ของสนิ คา ใหเหมาะสมกบั กลุมลูกคา ทนั สมยั สื่อ Digital 3. ตุม นําผา ซิ่นไทลอ้ื ทีม่ ลี วดลายสวยงามมาทํากระเปา ถอื เพอ่ื ขายนกั ทอ งเท่ียว ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั กลยทุ ธก ารเพมิ่ มลู คา ใหก บั สนิ คา ไดท ี่ http://www.library.dip.go.th.multim กรมสงเสริมอุตสาหกรรม กระทรวง 4. แตวดัดแปลงบานพักริมแมน้ําโขงของตนใหเปนหองจัด อุตสาหกรรม แสดงภาพถา ยท่สี ะทอ นวิถีชวี ิตของผคู น T155 (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะรูจักดัดแปลงโดยนําผาซิ่น มาทาํ เปน กระเปา ถอื ซงึ่ ทาํ ใหไ ดส นิ คา ใหมแ ละแปลกใหม สามารถ เพ่มิ มูลคาได สว นขออ่นื ๆ ไมไดม ีวตั ถปุ ระสงคท างธุรกจิ )
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๓) สร้างสรรค์คุณค่าลงไปในสินค้าที่ขายในประเทศและส่งขายต่างประเทศ เชน่ การนา� ความคดิ สรา้ งสรรคท์ ม่ี าจากประวตั ศิ าสตร ์ ประเพณ ี วฒั นธรรม ใสล่ งไปในสนิ คา้ ดง้ั เดมิ ข้นั ที่ 2 ดาํ เนินการอภิปราย ผสมกบั ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการผลติ เชน่ การนวดแผนไทยซง่ึ เปน็ ภมู ปิ ญั ญาไทย 9. ครสู มุ ใหน กั เรยี นยกตวั อยา งสนิ คา และบรกิ าร ในการนวดเพ่ือคลายเส้น แก้ปวดเมื่อยตาม ท่ีตนชืน่ ชอบ พรอ มทั้งบอกเหตผุ ลประกอบ ร่างกาย น�ามานวดในธุรกิจสปา ได้ช่วยสร้าง คุณค่าใหก้ ับการนวดแผนไทยมากข้นึ จากเดมิ 10. ครูยกตัวอยางสินคาและบริการที่มีการ ทที่ า� เฉพาะชาวบา้ นในชนบท และมาเพมิ่ มลู คา่ เปล่ียนแปลงบรรจุภัณฑใหม แลวมียอด โดยการน�ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ จําหนายท่ีเพ่ิมสูงข้ึน โดยครูตั้งคําถามให เทคโนโลยมี าผลติ นา�้ มนั นวดตวั กลนิ่ ตา่ ง ๆ และ นกั เรียนอภิปรายรว มกนั เชน “เพราะเหตใุ ด จัดท�าสถานที่ให้ดูร่มรื่น เงียบสงบ ตกแต่งให้ สินคาท่ีมีการออกแบบบรรจุภัณฑใหมจึง ดสู วยงาม สะอาดตา และเนน้ การบรกิ ารลูกค้า มียอดจําหนายเพิ่มสูงข้ึน” จากนั้นครูให ทงั้ คนไทยและตา่ งประเทศ เพอื่ ใหผ้ มู้ าใชบ้ รกิ าร นักเรียนรวมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น ในประเดน็ วธิ กี ารเพม่ิ มลู คา ในการผลติ สนิ คา ดวยการบริการที่ประทับใจลกู คา 1 รู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาต ิ บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเป็นจุดสนใจของผู้บริโภค สามารถ สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้ เพ่มิ มลู คา่ ใหก้ บั สินค้าได้ เปน็ อย่างดี ๔) ออกแบบบรรจภุ ณั ฑห์ รอื รปู ทรงของสนิ คา้ ใหด้ ทู นั สมยั การออกแบบสนิ คา้ ใหด้ ูทนั สมัยเหมาะกบั กลุ่มลูกค้า เชน่ ลูกคา้ วยั รนุ่ จะชอบสินค้าทมี่ กี ารออกแบบทนั สมยั รปู ทรง แปลกตา สสี นั สวยงาม สดใส นอกจากน ี้ บรรจภุ ัณฑก์ ็เป็นสง่ิ สา� คญั กลา่ วคอื บรรจภุ ณั ฑท์ สี่ วยงาม แปลกตา ออกแบบทนั สมยั ท�าใหเ้ ปน็ จดุ สนใจของผูบ้ ริโภคมากกว่าบรรจุภณั ฑท์ เ่ี ปน็ ถงุ พลาสตกิ ๕) การบรกิ ารทป่ี ระทบั ใจ การบรกิ ารเปน็ หวั ใจสา� คญั ของอาชพี บรกิ าร เชน่ โรงแรม ร้านอาหาร รา้ นเสริมสวย การให้บริการทดี่ ี ยิ้มแยม้ แจม่ ใส เอาใจใส่ลกู ค้า และคอยแนะนา� ลกู คา้ จะช่วยให้เกิดความประทับใจ ซึ่งประเทศไทยมีจุดเด่นเก่ียวกับการให้บริการด้วยกิริยามารยาทท่ี น มุ่ นวล พดู จา๖ส)ภุ ามพบี รหกิ นาา้ รตหายลม้ิงั แกยาม้รขแจาม่ย2ใ สส นิทคา� ใ้าหบผ้ าใู้งชชบ้ นริดกิ าเรชทน่ ง้ั ชเาควรไอ่ื ทงยใชแล้ไฟะชฟา้าว ตรา่ถงยชนาตต์ ปิ จระะตทอ้ ับงใมจี บรกิ ารหลงั การขายทด่ี ี เชน่ รบั ประกันซ่อมฟรีภายใน ๒ ป ี จะทา� ใหล้ ูกค้าเกิดความมั่นใจในการ ซื้อสินคา้ การเพ่ิมมูลค่าของสินค้าเป็นส่ิงที่ผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตจะต้องให้ความส�าคัญ เพราะ ซในง่ึ ทมอ้คี งณุ ตภลาาพดมแลสี ะนิ รคาา้คลากัใกษลณเ้ คะเยี ดงยีกวนั ก กนั ามราสกรมา้ างเยอ ทกลงั้ สกั นิษคณา้ ์ในหา� ก้ เขบั า้สจนิ าคกา้ 3ตจา่ งึ งเปปรน็ ะทเทางศหแนลงึ่ะใสนนิ กคาา้รใเนพปม่ิ รมะลูเทคศา่ ให้กับสินค้า ทา� ใหส้ นิ คา้ นน้ั มคี วามเปน็ เอกลกั ษณ ์ มจี ดุ เดน่ ทนั สมยั เปน็ ทช่ี น่ื ชอบของผบู้ รโิ ภค 1๔แ๒ละสามารถแขง่ ขนั กบั สนิ คา้ อน่ื ๆ ในทอ้ งตลาดได้ นักเรียนควรรู กิจกรรม ทา ทาย 1 บรรจุภัณฑ วัสดุหอหุมสินคาเพื่อรักษาคุณภาพและปกปองสินคาไมให ใหน กั เรยี นสบื คน สนิ คา ทม่ี ชี อ่ื เสยี งในทอ งถนิ่ หรอื จงั หวดั ของตน เสยี หาย ใหเ กดิ ความสะดวกในการขนสง และเปน การสง เสรมิ ทางดา นการตลาด โดยใหบอกช่ือสินคา ท่ีตั้งของสถานประกอบการหรือแหลงผลิต เนอ่ื งจากเปน สง่ิ แรกทผ่ี บู รโิ ภคมองเหน็ ดงั นนั้ บรรจภุ ณั ฑท ม่ี รี ปู ลกั ษณส ะดดุ ตา วิธีการผลิต ความเปนเอกลักษณของผลิตภัณฑ และวิธีการจัด มักชวนใหเกิดการตัดสินใจซอ้ื สนิ คามากข้นึ วสั ดทุ ่นี ํามาทาํ บรรจภุ ณั ฑ เชน ไม จําหนาย พรอมภาพประกอบ แลวบันทึกลงกระดาษ A4 นําสง กระดาษ โฟม ครผู ูส อน 2 บรกิ ารหลงั การขาย เปนการติดตามผลหลงั การขาย เปน หวั ใจสาํ คัญของ การขายในปจจุบัน เพื่อตรวจสอบวาสินคาที่ขายไปแลวน้ันสรางความพึงพอใจ ใหลูกคา มากนอ ยเพียงใด เชน การตรวจเยีย่ มลูกคาทกุ ป บริการเปลย่ี นสนิ คา ทม่ี ตี ําหนิ ใหค าํ แนะนําในการใชสนิ คา 3 การสรา งเอกลกั ษณใ หก บั สนิ คา เชน รปู แบบ ความคงทน การใชป ระโยชน ไดหลายอยาง เทคนิคการผลิตท่ีทันสมัย บรรจุภัณฑสวยงาม รูปทรงสวยงาม นําภูมิปญญาทองถิ่นมาใชในการผลิตสินคา เชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการนําผา ไหมมาทาํ เปนกระเปาหรือปลอกหมอน T156
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๔. ปจั จยั ทมี่ ีอทิ ธพิ ลต่อการผลิตสินคา้ และบริการ ขน้ั สอน นอกเหนอื จากปจั จัยพนื้ ฐานในการผลิต ยงั มปี จั จัยอ่ืน ๆ ทีม่ คี วามส�าคญั ซึ่งผ้ปู ระกอบการ ขัน้ ท่ี 2 ดําเนินการอภปิ ราย จะต้องให้ความส�าคัญ เพราะเป็นปัจจัยทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ การผลิตสนิ คา้ ปัจจัยดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ 11. ครูนํานักเรียนสนทนาเช่ือมโยงหลักการ ๔.1 ราคาของสนิ ค้าและบรกิ าร ผลิตสินคาและบริการอยางมีประสิทธิภาพ กับปจจัยท่ีมีอิทธิพลตอการผลิตสินคาและ ราคาเป็นปัจจัยส�าคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้าและบริการของลูกค้า ดังน้ัน บริการ จากนั้นใหนักเรียนอภิปรายแสดง ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งคา� นงึ ถงึ การกา� หนดราคาของสนิ คา้ และบรกิ ารใหม้ คี วามเหมาะสมกบั กา� ลงั ซอ้ื ความคดิ เหน็ รวมกัน ของลกู คา้ กลุม่ เปา้ หมาย สิ่งที่ควรจะน�ามาประกอบในการพิจารณาก�าหนดราคาสนิ ค้าและบรกิ าร เชน่ ต้นทุนในการผลิต ผลกา� ไรทตี่ ้องการ ราคาสนิ คา้ และบริการของค่แู ขง่ เป็นต้น ๔.๒ ความตอ้ งการของผบู้ ริโภค ผผู้ ลติ ควรศกึ ษาความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภควา่ ผบู้ รโิ ภคตอ้ งการสนิ คา้ ประเภทใด มคี ณุ สมบตั ิ อย่างไร เพือ่ จะไดผ้ ลิตสินคา้ ท่ีตอบสนองความตอ้ งการของผูบ้ ริโภคอยา่ งเหมาะสม เป็นการสรา้ ง ดคว้วยามกพนั ึงวพิธอที ในี่จใิยหม้กใชับ้ใลนูกปคัจ้าจในุบอันีก เทชาน่ ง หกนาึ่งร สา�กราวรจทต่ีจละาทดร1 ากบาครวทาา� มวติจ้อัยงทกาางรกขาอรตงผลู้บาดร2ิ โภซค่ึงสนา้ันมมาีหรถลทายา� วไดิธี้ ทัง้ เชงิ ปริมาณ คอื การให้กลุ่มตวั อย่างกรอกแบบสอบถามแลว้ น�าข้อมลู ท่ีไดม้ าค�านวณตามสตู ร ทางสถิติ ในส่วนของเชิงคุณภาพนั้นเป็นการส�ารวจข้อมูลเชิงลึก เช่น การสัมภาษณ์โดยการ พดู คยุ กบั กลมุ่ ลกู คา้ การสงั เกตพฤตกิ รรมการซอ้ื สนิ คา้ ของผบู้ รโิ ภค การลงพนื้ ทส่ี งั เกตบรรยากาศ การซ้อื ขายสนิ ค้าในแหลง่ ต่าง ๆ เป็นต้น ๔.3 การบรหิ ารจดั การกระบวนการผลติ ผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งคา� นงึ ถงึ ทรพั ยากรทม่ี อี ยวู่ า่ สามารถนา� มาผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอะไรไดบ้ า้ ง สินค้าและบริการน้ันเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่ มีกระบวนการผลิตอย่างไร ปริมาณความ ตอ้ งการสนิ คา้ ในตลาดมคี วามสมั พนั ธก์ บั กา� ลงั การผลติ หรอื ไม ่ และทา� อยา่ งไรจงึ จดั สง่ สนิ คา้ ใหถ้ งึ มอื ผบู้ ริโภคไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ๔.๔ การควบคุมคณุ ภาพสินค้าและบริการ การควบคุมคุณภาพสินค้าและบริการเป็นสิ่งท่ีมีความส�าคัญอย่างมาก เพราะสินค้าและ บริการท่ีมีคุณภาพย่อมสร้างความพึงพอใจและความม่ันใจให้กับลูกค้า อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้าง ภาพลักษณ์ท่ีดีให้กับสินค้า ในการควบคุมคุณภาพนั้นจะต้องมีการตรวจสอบสินค้าอย่างละเอียด และต่อเน่ือง เม่ือตรวจพบสินค้าที่มีต�าหนิหรือมีข้อบกพร่องในด้านการบริการ ผู้ประกอบการ จะต้องท�าการประเมินถึงสาเหตุและด�าเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าหากสินค้าท่ีมีต�าหนิ ออกสตู่ ลาด เม่ือถงึ มอื ผูบ้ รโิ ภคกจ็ ะทา� ให้สนิ ค้าหมดความน่าเชือ่ ถอื ส่งผลใหค้ วามนยิ มลดลง 1๔3 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ขอ ใดเปน เปา หมายสาํ คญั ของการผลติ ตามหลกั การผลติ สนิ คา 1 การสํารวจตลาด เปนสวนสําคัญเพ่ือวัดอารมณและขอมูลอางอิงของ และบริการอยา งมปี ระสิทธิภาพ ผบู รโิ ภค ซงึ่ มคี วามแตกตา งทง้ั ขนาด การออกแบบ วตั ถปุ ระสงค การสาํ รวจตลาด เปนหนึ่งในฐานขอมูลสําคัญที่ผูประกอบการนํามาใชในการตัดสินใจวาจะผลิต 1. การใชแรงงานนอยท่สี ดุ สนิ คา หรือบรกิ ารอะไร 2. การใชตนทุนการผลติ ต่ําที่สดุ 2 การทําวิจัยทางการตลาด มีความสําคัญตอการผลิตสินคาและบริการเปน 3. การใชเ วลาในการผลติ นอ ยทีส่ ุด อยางมาก เพราะการที่ผูผลิตหรือผูประกอบการจะตองตัดสินใจดําเนินการ 4. การใชเทคโนโลยกี ารผลิตท่ีทันสมัยที่สุด อยา งไร จาํ เปน ตองอาศยั สารสนเทศมาประกอบการตดั สินใจ กําหนดนโยบาย วางแผนจัดการองคการ การปฏิบัติตามแผน และการควบคุมการดําเนินงาน (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. การผลิตสินคาและบริการมี ทางการตลาดใหบรรลเุ ปา หมายทก่ี ําหนดไว เปาหมายเพ่ือตอบสนองความตองการของผูบริโภค ซึ่งผูผลิต มเี ปา หมายสงู สดุ คอื กาํ ไรจากการขายสนิ คา ทผ่ี ลติ ได ทงั้ น้ี จะตอ ง T157 อยบู นหลกั การผลิตอยา งมีประสิทธิภาพ คอื จะผลิตอยางไรใหมี ตนทุนการผลิตตํ่าท่ีสุด เพื่อใหไดกําไรสูงสุดจากการขายสินคา และบริการ)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน เสริมสาระ ข้นั ที่ 2 ดําเนินการอภปิ ราย ตวั อยา งการผลิตสินค้าและบรกิ าร ตามหลกั การผลติ อยา งมีประสิทธิภาพ ธุรกิจความงามกบั สปาไทย 12. ครูนําสนทนาถึงเสริมสาระตัวอยางการผลิต สินคาและบริการตามหลักการผลิตอยางมี สปา การดแู ลสขุ ภาพแบบไทย ๆ เพอ่ื ใหร้ า่ งกายผอ่ นคลาย สดชนื่ การทา� สปา ประสิทธิภาพ เรื่อง ธุรกิจความงามกับ เป็นการน�าภูมิปัญญาไทยมาประยุกต์ใช้ เช่น การนวดตัว การอบตัวด้วย สปาไทย จากหนังสอื เรยี น สงั คมศึกษาฯ ม.2 สมนุ ไพร การพอกตวั และขดั ผวิ ดว้ ยสมนุ ไพรทใ่ี ชบ้ า� รงุ ผวิ เชน่ ขมน้ิ ชนั วา่ น จากน้นั ครตู งั้ ประเด็นคาํ ถาม เชน นางค�า สมุนไพรท่ีใชเ้ ป็นเคร่ืองด่ืม เชน่ กระเจ๊ียบแดง นา้� ขงิ น้า� ตะไคร ้ และ • ธุรกิจสปาไทย ผลิตสินคาและบริการตาม ใชม้ ะขามเปยี กกบั ขมน้ิ ชนั ในการขดั ตวั เปน็ ตน้ นบั เปน็ การใชภ้ มู ปิ ญั ญาไทย หลักการผลติ อยา งมปี ระสทิ ธิภาพอยางไร นอกจากน ี้ สามารถปรบั ใหส้ อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ (แนวตอบ ธุรกิจสปาไทยไดผสมผสาน สภาพแวดลอ้ ม โดยจะมกี ารใชว้ า่ น สมนุ ไพร และองคป์ ระกอบอน่ื ๆ ของสปา ภมู ปิ ญ ญาไทยกบั ความสมยั ใหมใ นการดแู ล ตามทอ้ งถนิ่ ที่แตกตา่ งกันไป สขุ ภาพ มกี ารเลอื กใชท รพั ยากรทเี่ หมาะสม โดยใชส มนุ ไพรจากทอ งถนิ่ เปน หลกั ซง่ึ เปน การเลอื กใช้ทรพั ยากร วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ ใหบริการดวยความ ปลอดภัย ราคาไมแพง เปนธุรกิจบริการ ในการเลือกใช้ทรัพยากรในการท�าสปา เป็นสมุนไพรที่หาได้ทั่วไป ทีม่ กี ารเพิม่ มลู คา ใหก บั ตนเอง โดยการนาํ จากท้องถ่นิ เปน็ หลัก เช่น มะขาม ขมิ้น มะกรูด ซ่ึงสมนุ ไพรเหลา่ น้ี เอกลักษณของความเปนไทยมาใชในการ ล้วนมีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย นวดและดูแลสขุ ภาพรางกายอกี ดว ย) การน�าปจจัยการผลิตมาใชใ้ นการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งมกี ารเลอื กสมนุ ไพร นา�้ มนั นวดตวั จดั แตง่ สถานทใี่ ห้ สวยงาม ร่มร่ืน คัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถในการนวดและให้บริการได้ดี และสามารถให้คา� แนะน�าเก่ยี วกับการดแู ลสุขภาพให้ลกู ค้าได้ คณุ ธรรมของผูป้ ระกอบการ ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งเลอื กใชว้ ตั ถดุ บิ เชน่ สมนุ ไพรทดี่ ตี อ่ สขุ ภาพ บรกิ ารนวดตาม หลักการนวดที่ถูกวธิ ี และให้บริการในราคาท่ไี ม่แพงเกินไป การเพ่มิ มลู คา่ ใหก้ บั ธรุ กจิ โดยการน�าเอกลักษณ์ของความเป็นไทยมาใช้ในการนวด การดูแลสุขภาพ รา่ งกาย การจดั ตกแตง่ สถานทใี่ หส้ วยงาม บรรยากาศรม่ รนื่ สะอาดตา เลอื กใช้ นา�้ มนั นวด เกลอื ขดั ผวิ ทม่ี คี ณุ ภาพ มกี ลน่ิ หอม และบรรจใุ นภาชนะ ที่สวยงาม ดดู ี และใหบ้ ริการด้วยความสุภาพ ออ่ นโยน 1๔๔ บูรณาการอาเซียน กิจกรรม เสรมิ สรางคณุ ลักษณะอันพึงประสงค ครูอธิบายเพิ่มเติมถึงสถานการณปจจุบันของผูประกอบการไทย โดยชี้ สํารวจสินคาและบริการที่เปนเอกลักษณของชุมชนตนเองหรือ ใหเห็นวา ผูประกอบการรายยอยสวนใหญยังไมมีความพรอม ขาดศักยภาพ สนิ คา OTOP ของชุมชน บันทึกการสํารวจในประเดน็ เชน ในการลงทนุ ในตางประเทศหรือประเทศเพ่ือนบาน ภาครัฐจงึ ตอ งเรง สนบั สนุน ใหผูประกอบการต่ืนตัวตอการเขาสูประชาคมอาเซียน ไมเชนน้ันอาจจะ • ชอื่ สนิ คาหรอื บริการ สญู เสยี ตลาดการผลติ บางสาขาทม่ี คี วามเขม แขง็ เชน สาขาเทคโนโลยสี ารสนเทศ • วัตถุดบิ ทีใ่ ช ที่ผปู ระกอบการของประเทศสิงคโปรและมาเลเซียมีศักยภาพในการผลติ สูง • กระบวนการผลติ • ราคา • ความเปน เอกลักษณข องสนิ คา • ความภาคภูมใิ จของนักเรยี นและคนในทองถิ่น จากนัน้ นําเสนอผลงานในช้ันเรียน T158
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ õ. การนÓเทคâนâลยมี าãªã้ นการผลติ สินคา้ และบริการ ขน้ั สอน การน�าเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการมีความส�าคัญมากในปัจจุบัน เพราะ ขัน้ ท่ี 2 ดาํ เนนิ การอภิปราย เทคโนโลยีจะช่วยให้ผลิตสินค้าได้ในปริมาณที่มากข้ึน รวดเร็ว สามารถออกแบบรูปทรงต่าง ๆ ไงดาน้สอวยองกาแมบ บเผชล่นติ ภกณั ารฑใ1 ์ชก้เาครรค่ือวงบจคักมุรกกรละใบนวกนากรผารลผิตลสติ ิน คเป้าน็ ตใชน้ ้ร ทะบงั้ นบ ี้คจอะตมอ้พงิวใหเตเ้ อหรม์กาับะสงมานกสบั �ากนาักรผงลานติ 13. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายและแสดง สนิ ค้าและบริการแตล่ ะประเภท และทรพั ยากรท่นี า� มาใชผ้ ลติ สินค้าชนดิ นัน้ ๆ ดว้ ย ความคิดเห็นเชื่อมโยงถึงวิธีการท่ีผูผลิตนํา ค วามปใลนอกดาภรเัยลขอื อกงใผชูใ้เ้ ชท ้ คโดโนยโไลมยเ่ กีในดิ กมาลรภผาลวติ ะจตะอ่ ตสอ้ ิ่งงแเลวดอื ลก้อใชม2้ใหหร้เหือเมปา็นะอสันมตกรบั าสยภตาอ่ พมทน้อุษงยถ ์น่ิ ส �าหคา�รนบั งึกถาึงร เทคโนโลยีตางๆ มาใชใ นการผลติ สนิ คาและ เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลิตสนิ ค้าและบรกิ าร ผู้ประกอบการจะต้องคา� นงึ ถงึ สงิ่ ตา่ ง ๆ ตอ่ ไปนี้ บรกิ าร ราคา มคี วามเหมาะสมกบั ขนาดของธรุ กจิ และการลงทนุ หรอื ไม่ 14. ครูยกตัวอยางการนําเทคโนโลยีมาใชใน เพราะถา้ ราคาตน้ ทนุ เทคโนโลยสี งู ท�าให้ต้นทุนการผลิตสินค้า การผลิตสินคาและบริการ จากนั้นครูสราง มรี าคาสงู ราคาสนิ คา้ กจ็ ะสงู ตาม เกนิ ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค สถานการณส มมตใิ หน กั เรยี นเปน ผผู ลติ สนิ คา และบรกิ าร 1 ชนดิ แลว ใหร ว มกนั อภปิ รายถงึ ปจ จยั ในการเลือกใช้ ประสทิ ธภิ าพ ตอ้ งเหมาะสมกบั ราคาและงานทตี่ อ้ งการใช ้ เพราะ แนวทางการเลือกใชเทคโนโลยีในการผลิต เทคโนโลยีของ จะเป็นการลงทุนสูง แต่หากเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพต�่ากว่า สินคา พรอมบอกเหตุผล ผปู้ ระกอบการ ความตอ้ งการจรงิ กไ็ ม่สามารถเพิ่มผลผลติ ได้ 15. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายถึงขอดีและ ขอ เสยี ของการนาํ เทคโนโลยมี าใชใ นการผลติ สนิ คา และบรกิ ารในระดบั ตา งๆ เชน การผลติ ในครัวเรือน การรวมกลุมตางๆ การผลิต ขนาดกลางและขนาดยอ ม ความพร้อมของผู้ประกอบการ เช่น ความพร้อมของสถานที่ ในการติดตั้งเครื่องจักร การมีบุคลากรท่ีมีความรู้ เพ่ือเพิ่ม ประสิทธิภาพการทา� งานของเทคโนโลยใี นการเพม่ิ การผลติ และ ลดต้นทุนการผลิต และบ�ารุงรักษาอย่างถูกวิธีเพ่ือการใช้งานที่ ยาวนาน ในการเลือกใช้เทคโนโลยีของผู้ประกอบการระดับประเทศจะต้องค�านึงถึงปริมาณการผลิต คุณภาพของผลิตภัณฑ์ การให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ทุนและค่าใช้จ่ายในการจัดหาเทคโนโลย ี หากเปน็ การผลิตทีม่ ีมูลคา่ ไมม่ ากนักกไ็ ม่ควรเลอื กใช้เทคโนโลยีทสี่ ูงเกินไป เพราะจะท�าใหต้ น้ ทุน การผลติ สูงส่งผลใหส้ นิ ค้ามรี าคาแพงตามไปดว้ ย นอกจากนี ้ ผ้ปู ระกอบการจะตอ้ งมีความพรอ้ ม ของสถานท ี่ บคุ ลากรในการใชง้ านเพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ การซอ่ มแซมบา� รงุ รกั ษา โดยสามารถ พงึ่ ตนเองไดห้ ากเคร่อื งจกั รเสยี หาย 1๔5 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู เพราะเหตุใดผูประกอบการจึงตองนําเทคโนโลยีมาใชในการ 1 งานออกแบบผลิตภัณฑ ในการคิดคนหรือออกแบบสินคา จะมีการใช ผลติ และบรกิ าร เทคโนโลยเี ขา มาชว ยในการออกแบบสนิ คา ทาํ ใหไดส นิ คา และบรกิ ารทม่ี รี ปู แบบ ใหมๆ หลากหลาย เพ่ือใหผูบริโภคมีโอกาสเลือกซ้ือไดตามความตองการและ (แนวตอบ เพ่ือเพิ่มผลผลิต ลดความสิ้นเปลืองจากการสูญเสีย เกิดความพงึ พอใจมากท่ีสดุ วัตถุดิบในกระบวนการผลิต และลดตนทุนการผลิต ผูผลิตจะได 2 มลภาวะตอส่ิงแวดลอม เชน เคร่ืองจักรมีเสียงดังมากเกินไป การปลอย กาํ ไรมากขน้ึ และอาจทาํ ใหส นิ คา มรี าคาถกู ลง รวมทงั้ เพอื่ ใหผ ลผลติ ควันพษิ เพราะการเผาไหมไ มสมบรู ณของเครอ่ื งยนต การปลอ ยน้ําเสียโดยไมม ี มคี ณุ ภาพไดม าตรฐาน เปน การเพมิ่ คณุ คา และคณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ การบาํ บัด ซึ่งส่ิงเหลาน้ีสงผลกระทบตอคุณภาพชีวิตและสง่ิ แวดลอม มีแบบใหเลือกหลากหลาย ผลิตภัณฑมีคุณภาพข้ึน และเพ่ือลด แรงงานหรอื กําลังคนทํางานนอยลง) T159
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน อยา่ งไรกต็ าม ความกา้ วหนา้ ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารทา� ใหม้ วี ธิ กี ารผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร ใธหรุ กมจิ่ ๆ ช ทว่ ยส่ี สรง่้าเงสผรลมิ กปา� รไบั รปแรลงุ ะคปณุ ระภโายพชขนอใ์ งหแก้ รบังงผา้ปู นร เะพกอ่ือรบอกงารรบั กชา่วรยขใยหาธ้ ยรุ ตกวั ิจทปารงะเหศยรษดั ตฐน้กจิท1แนุ ลจะากกากราแรขขง่ยขานัย ขัน้ ท่ี 2 ดาํ เนินการอภปิ ราย กบั ตา่ งประเทศตอ่ ไป 16. ครใู หนกั เรียนกลุมเดมิ จากชั่วโมงที่ 1 สืบคน ö. ลักɳะ¢องการผลิตสนิ คา้ และบริการ¢องäทย ขอมูลเก่ียวกับลักษณะของการผลิตสินคา และบรกิ ารของไทย จากหนงั สอื เรียน สังคม การผลิตสินค้าและบริการของไทยในแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกันออกไปตามลักษณะ ศึกษาฯ ม.2 หรือจากแหลงการเรียนรูอ่ืนๆ ทรพั ยากรธรรมชาต ิ ความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางดา้ นโครงสรา้ งพนื้ ฐานทางเศรษฐกจิ การขยายตวั ของ เชน หนงั สอื ในหอ งสมดุ เวบ็ ไซตใ นอนิ เทอรเ นต็ ท้องถนิ่ ซง่ึ การผลิตสินคา้ และบรกิ ารในทอ้ งถิน่ ปจั จุบนั มี ๒ ลักษณะ ไดแ้ ก่ การผลติ แบบดั้งเดมิ ในประเด็น ดังน้ี เไปดน็้รับกการาผรถล่าติ ยททใ่ี ชอท้ดรจพัากยภากูมริปกัญารญผาลทติ ้อทงม่ี ถอีิ่น2ย ใู่ มนีวทิธอ้ ีกงาถรน่ิ ผ ลใชิตแ้งร่างยง ๆา นใคชน้เใคนรท่ืออ้งมงถือนิ่ อวุปธิ กกี ารรณผ์ทล่ีไติ มส่ซว่ ับนซให้อญน ่ • การผลติ สินคาและบริการในภาคเหนือ และอีกลักษณะหนึ่ง คือ การผลิตแบบสมัยใหม โดยผู้ประกอบการเข้ารับการฝกอบรมความรู้ • การผลติ สินคา และบรกิ ารในภาคกลาง ทระาบงบดค้าอนมกพารวิ ผเตลอิตร ์ มกาาชรบว่ ยรใิกนากรา รกวาางรรบะรบิหบากรา รกทาา� รงนาน�า เทมคกี าโนรปโลระยชีสามสัยมั ใพหนัมธ่มส์ าง่ ใเชสร้ มิ เชก่านร ขเาคยร3 ื่อเขงจ้าักถรึง • การผลติ สนิ คา และบรกิ ารในภาคตะวนั ออก แหลง่ เงินทนุ เป็นตน้ เฉยี งเหนอื • การผลิตสนิ คา และบริการในภาคใต ตัวอย่างการผลิตสินค้าในภาคต่าง ๆ ของไทย (บนซ้าย) ผ้าทอในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (บนขวา) ขันน�้าพานรอง เครื่องถมนครในภาคใต ้ (ลา่ งซ้าย) โอง่ ราชบรุ ีในภาคกลาง (ลา่ งขวา) ร่มบ่อสรา้ งในภาคเหนอื 1๔๖ นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสริม 1 การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เปนการขยายตัวของปริมาณสินคาและบริการ ใหน กั เรยี นเขยี นแสดงความคดิ เหน็ ในหวั ขอ แนวโนม การผลติ ทแี่ ทจ รงิ ของระบบเศรษฐกจิ ซงึ่ แสดงถงึ ปรมิ าณสนิ คา ทเ่ี พมิ่ ขน้ึ สาํ หรบั การขยายตวั สนิ คา และบรกิ ารในทอ งถน่ิ ของไทย เพอ่ื รองรบั การเปน ประชาคม ทางเศรษฐกิจประเทศไทยเกิดจากปจจัยหลายประการ เชน การลงทุนภาครัฐ เศรษฐกจิ อาเซยี น ความยาว 1 หนา กระดาษ A4 นําสงครูผสู อน สูงขึ้น ปรมิ าณสง ออกสนิ คามีแนวโนม สูงขึ้น ธุรกจิ การทองเที่ยวขยายตวั สูงข้นึ 2 ภูมิปญญาทองถ่ิน เปนความรูท่ีเกิดจากประสบการณในชีวิตของคน โดย กิจกรรม ทา ทาย ผานกระบวนการศึกษา สังเกต คิดวิเคราะหจนเกิดปญญา และตกผลึกเปน องคความรทู ป่ี ระกอบกันข้ึนมาจากความรูเฉพาะหลายๆ เรือ่ ง เปนพ้ืนฐานของ ใหนักเรียนเขียนเรียงความ เร่ือง เหลียวหลังแลหนาการ องคค วามรสู มยั ใหมท จี่ ะชว ยในการเรยี นรู การแกป ญ หา และการปรบั ตวั ในการ ผลติ สินคา ของไทย ความยาวไมเ กนิ 1 หนา กระดาษ A4 ในการ ดาํ เนนิ ชวี ติ ภมู ปิ ญ ญาทอ งถนิ่ เปน ความรทู ม่ี อี ยทู วั่ ไปจงึ ควรมกี ารสบื คน รวบรวม เขยี นจะตอ งมเี อกสารอา งองิ ทเ่ี ปน หนงั สอื หรอื บทความ อยา งนอ ย ศกึ ษา ถายทอด พฒั นา และนําไปใชป ระโยชนไ ดอ ยางกวางขวาง 1 เลม/เรื่อง ซ่ึงการเขียนอางอิงจะตองถูกตองตามหลักวิชาการ 3 สงเสริมการขาย เปนกลยุทธในการขายสินคา มหี ลายรปู แบบ เชน การจดั แลวนาํ สงครูผูสอน บูทแสดงและจําหนายสินคา การหาสมาชิก การขายควบสินคาหลายชนิด การใหข องแถม การใหสว นลด การจดั รายการสงเสรมิ การขาย T160
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๖.1 การผลติ สินคา้ และบรกิ ารในภาคเหนอื ขน้ั สอน การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ ภาคเหนอื มคี วามหลากหลายตามลกั ษณะภมู ปิ ระเทศท่ี ขน้ั ที่ 2 ดําเนินการอภิปราย เป็นพ้ืนท่ีสงู และภเู ขา มพี น้ื ทปี่ า่ ไม้เป็นจ�านวนมาก ขณะเดียวกนั ภาคเหนือก็มแี ร่ธาตหุ ลายชนดิ เช่น ถ่านหิน ดีบกุ พลวง แมงกานสี มีขนบธรรมเนยี มประเพณี วฒั นธรรมที่มลี ักษณะเฉพาะ จงึ 17. ครูใหนักเรียนกลุมท่ี 1 และ 2 การผลิต ท�าให้การผลติ สนิ ค้าและบริการมาจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยพื้นทส่ี ่วนใหญ่ สินคาและบริการในภาคเหนือและภาคกลาง ท�านา ทา� ไร่ ปลูกไม้ยืนตน้ เชน่ ล�าไย ลน้ิ จ ่ี ซงึ่ เหมาะกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศ สง่ ขายทว่ั ประเทศ สงตัวแทนออกมานําเสนอประเด็นท่ีนาสนใจ ปจั จบุ นั ไดม้ กี ารนา� เทคโนโลยกี ารผลติ มาใชใ้ นการแปรรูปผลผลิตเป็นล�าไยอบแห้ง ส่งเป็นสินค้า ของการผลิตสินคาและบริการในแตละภาค สง่ ออก และเนอ่ื งจากภาคเหนอื เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทส่ี า� คญั ในแตล่ ะปมี นี กั ทอ่ งเทย่ี วจากทง้ั ในประเทศ ที่หนาช้ันเรียน พรอมยกตัวอยางสินคาและ และต่างประเทศเดินทางมาเปน็ จา� นวนมาก จงึ ทา� ใหม้ กี ารประกอบธรุ กจิ ทเี่ กย่ี วกบั การทอ่ งเทย่ี ว บริการที่สําคัญของแตละภาคประกอบการ มสี ถานทพี่ กั โรงแรมมากมาย เชน่ ในจงั หวดั เชยี งใหม ่ เชยี งราย แมฮ่ อ่ งสอน นอกจากนมี้ กี ารผลติ นาํ เสนอ งานหตั ถกรรม เชน่ แกะสลกั ไม ้ ทา� ร่ม เครื่องป้ันดินเผาที่เป็นสินค้า OTOP ส�าคญั ของภาคเหนือ เพื่อไว้ขายนักท่องเท่ียวเป็นหลัก ซ่ึงรัฐมีการส่งเสริมผู้ผลิต SMEs ให้ผลิตสินค้าและบริการที่มี คณุ ภาพ ควบคกู่ บั การพฒั นาธรุ กจิ ทอ่ งเทย่ี ว เพอื่ ขยายโอกาสและชอ่ งทางการขายสนิ คา้ และบรกิ าร ปัญหาในการผลิตสินค้าและบริการในภาคเหนือ ประการแรกมาจากสภาพทางภูมิศาสตร์ ซงึ่ พน้ื ทสี่ ว่ นใหญป่ ระกอบไปดว้ ยภเู ขาสงู ทา� ใหก้ ารเดนิ ทางเกดิ ความยากลา� บาก เชน่ ในการขนสง่ สนิ คา้ อาจจะตอ้ งใชเ้ วลานาน หรอื ในบางครงั้ อาจสง่ สนิ คา้ ชา้ กวา่ กา� หนด ประการตอ่ มา คอื สภาพ ภูมิอากาศที่ในระยะหลังไม่มีความแน่นอน ท�าให้ผลผลิตทางการเกษตรมีปริมาณและคุณภาพ ลดลง ประการสุดท้าย คือ การเกิดภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัยท่ีสร้างความเสียหายแก่พ้ืนที่ใน วงกว้าง ระบบเศรษฐกจิ ต้องหยดุ ชะงักเป็นเวลานาน ๖.๒ การผลติ สนิ คา้ และบริการในภาคกลาง การผลิตสินค้าและบริการในภาคกลางมีลักษณะเด่น คือ การผลิตในภาคเกษตรกรรม จากการมีพน้ื ที่ส่วนใหญเ่ ปน็ ทีล่ มุ่ เหมาะแก่การเพาะปลูก จึงเป็นแหล่งปลูกข้าว ผัก ผลไม้ทส่ี �าคัญ การผลติ ในภาคอตุ สาหกรรม เนอ่ื งจากในภาคนอี้ ยใู่ กลก้ บั กรงุ เทพมหานคร ซงึ่ เปน็ เมอื งหลวงและ เมืองท่าท่สี า� คัญ มีโครงสรา้ งพน้ื ฐานทางเศรษฐกจิ เช่น ไฟฟ้า ถนน จึงมักเป็นทีต่ ้งั ของโรงงาน อุตสาหกรรมทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่เป็นจ�านวนมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล เช่น อตุ สาหกรรมประกอบรถยนต์ ผลติ ชนิ้ ส่วนอเิ ล็กทรอนกิ ส ์ ในจังหวัดสมทุ รปราการ เอปตุ น็ สตาน้ห กแรลระมจเาชกอื่ กมาโรยทง1 ีภ่ คาอื ค อกตุลสางาเหปกน็ รแรหมลอ่งาเหพาาระ กปาลรกู ขทนสี่ ส�าง่ ค เญั ป น็ โดตยน้ เ ฉ ซพง่ึ าระฐั ปมลกี ูกาพรสืชนอบั าสหนารนุ ผจปู้ึงทระา� กใหอม้บี การ ท้ังเงินทุน การให้องค์ความรู้ในการพัฒนาศักยภาพการผลิต จัดสรรพื้นที่และหาช่องทาง จา� หน่าย รวมถึงการตอ่ ยอดขยายตลาดไปสู่นานาชาติ 1๔7 ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู เพราะเหตุใดในภาคเหนือจึงมีสินคาและบริการเกี่ยวกับงาน ครูใหนักเรียนแบงกลุมเพ่ือสํารวจการผลิตสินคาและบริการในทองถ่ิน หัตถกรรมและธรุ กจิ การทอ งเทยี่ วเปนจาํ นวนมาก แลวสรุปความรตู ามประเด็นตา งๆ โดยกอ นท่จี ะเริม่ ทํากิจกรรม ครคู วรแนะนํา วิธีการสาํ รวจใหน ักเรยี นมีความเขาใจตรงกัน แลว นําผลการสํารวจมาอภิปราย (แนวตอบ เนอ่ื งจากภาคเหนอื มที รพั ยากรธรรมชาตทิ หี่ ลากหลาย ในชั้นเรยี น ประกอบกับมีวัฒนธรรมท่ีโดดเดนและมีเอกลักษณของตนเอง จึงทําใหสามารถผลิตสินคาและบริการประเภทหัตถกรรมไดเปน นักเรียนควรรู อยางดจี นกลายเปน เอกลกั ษณของภาค นอกจากน้ี การมีสถานที่ สวยงามหลายแหง ทําใหมีนักทองเท่ียวเดินทางไปเที่ยวเปน 1 อตุ สาหกรรมเชอื่ มโยง เปน การผลติ ตอ เนอื่ งจากอตุ สาหกรรมหลกั อาชพี หลกั จํานวนมาก จึงทําใหมีการผลิตสินคาและบริการเพื่อขายใหกับ หรอื ทรพั ยากรของคนในประเทศ เชน การปลกู ลนิ้ จี่ ลาํ ไย ทาํ ใหเ กดิ อตุ สาหกรรม นักทองเทยี่ ว) เชอื่ มโยงเชน การผลติ ปยุ ยากาํ จดั ศตั รพู ชื สารเคมที างการเกษตรและอตุ สาหกรรม เชอื่ มโยงไปขา งหนา เชน โรงงานแปรรูปผลไมกระปอ ง T161
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ปัญหาในการผลิตสินค้าและบริการในภาคกลาง มาจากการที่พื้นท่ีภาคกลางมีความ อุดมสมบูรณ์ มีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลาย เหมาะแก่การผลิตสินค้าและบริการ ท�าให้ม ี ขน้ั ท่ี 2 ดาํ เนินการอภิปราย ผู้ประกอบการเกิดขึ้นเป็นจ�านวนมาก มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง มีการแข่งขัน กันสูงมาก สง่ ผลต่อกลไกทางการตลาด ท�าให้ราคาสินคา้ อาจมกี ารแกวง่ ตัวขน้ึ -ลงอยู่เสมอ 18. ครใู หน กั เรยี นกลุมที่ 3 และ 4 การผลิตสินคา และบริการในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ และ ๖.3 การผลติ สนิ ค้าและบริการในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาคใต สงตัวแทนออกมานําเสนอประเด็น ที่นาสนใจของการผลิตสินคาและบริการใน เ ปน็ สว่ นจาใหกญกา่ รโทดยี่ภเาฉคพตาะะวขันา้ อวอหกอเมฉมียะงลเ1ิ หเนชือ่นม ีทในี่รจาังบหกววัด้าสงุรใหนิ ญทร่ ์ ทส�า่งใขหา้ปยรทะงั้ ชในากแรลมะตีอา่างชปีพรเะพเทาศะป แลูตก ่ แตละภาคท่ีหนาชั้นเรียน พรอมยกตัวอยาง การทา� การเกษตรไมไ่ ดร้ บั ผลดเี ทา่ ทคี่ วร เนอ่ื งจากสภาพดนิ เคม็ และความแหง้ แลง้ ทา� ใหป้ ระชากร สินคาและบริการท่ีสําคัญของแตละภาค วัยแรงงานส่วนหนึ่งอพยพเข้ามาท�างานตามเมืองใหญ่ ๆ นอกจากน้ี ยังมีการผลิตสินค้าที่ม ี ประกอบการนําเสนอเพิม่ เติม ชอ่ื เสยี งของภาคน ี้ คอื การผลติ งานหตั ถกรรม เชน่ การทอผา้ ไหม ซง่ึ ตอ้ งใชค้ วามประณตี โดย แตเ่ ดมิ เปน็ การทอไวใ้ ชใ้ นครวั เรอื น เปน็ การผลติ แบบงา่ ย ๆ การทอและการยอ้ มเปน็ แบบดง้ั เดมิ ทไ่ี ดร้ บั 19. ครูต้ังประเด็นคําถามใหนักเรียนรวมกัน การถา่ ยทอดตอ่ ๆ กนั มาจากบรรพบรุ ษุ ดว้ ยความสวยงามของลวดลายผา้ ความประณตี ในการทอ อภิปรายและฝกทักษะการคิด เชน เกนาอ้ืรผผลา้ สติ วแมบใบสอส่ ตุ บสาายห ทกา�รรใหม2ไ้สดง่ ร้ไบัปคขาวยามทนว่ั โยิ ลมกท ผงั้ า้จไาหกมชทามว่ี ไชี ทอื่ ยเสแยีลงะ ชเชาวน่ ต ผา่ งา้ ปไหระมเแทพศร ปวจัาจ จบุ งั นัหจวงึดั กกลาาฬยสเปนิ น็ธ์ ุ • เพราะเหตุใดแตละภาคของประเทศไทย ผา้ ไหมมดั หม ่ี จงั หวดั สรุ นิ ทร ์ ซง่ึ รฐั ไดม้ กี ารสนบั สนนุ สนิ คา้ OTOP ผา้ ทอของภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื จงึ มกี ารผลติ สนิ คา และบรกิ ารทแี่ ตกตา งกนั โดยการใหค้ วามรใู้ นการทอผา้ การฟอกและยอ้ มสผี า้ รวมถงึ การออกแบบลวดลายทม่ี คี วามทนั สมยั (แนวตอบ เพราะแตละภาคมีทรัพยากร ตอบสนองความตอ้ งการของลกู ค้าทหี่ ลากหลาย เพอ่ื ขยายตลาดสู่ประเทศต่าง ๆ ธรรมชาตทิ ต่ี า งกนั ตลอดจนความชาํ นาญของ ปญั หาในการผลติ สนิ ค้าและบริการในภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ คือ พนื้ ท่มี ีความแห้งแลง้ คนในทองถิ่นท่ีแตกตางกันตามวัฒนธรรม ไมส่ ามารถทา� เกษตรกรรมไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ทรพั ยากรธรรมชาตมิ นี อ้ ย และยงั มกี ารนา� เทคโนโลยี ประเพณใี นแตละภาค) ทที่ นั สมยั เขา้ มาชว่ ยในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในระดบั ทนี่ อ้ ย นอกจากนยี้ งั ตอ้ งการการสนบั สนนุ จากภาครฐั ในหลาย ๆ ด้าน เพอ่ื กระต้นุ ให้เกิดสภาพคลอ่ งทางเศรษฐกิจ ๖.๔ การผลิตสินคา้ และบริการในภาคใต้ เนื่องจากภาคใต้มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีท้ังพ้ืนท่ีที่เหมาะกับการเพาะปลูก พืชเศรษฐกจิ เชน่ ยางพารา ปาลม์ น้า� มนั มีทรัพยากรทางทะเล จึงท�าใหก้ ารผลติ สินค้าและบรกิ าร หลกั ของประชาชนขนึ้ อยกู่ บั การผลติ สนิ คา้ ทางดา้ นการเกษตร และเกย่ี วขอ้ งกบั ทะเลเปน็ หลกั เชน่ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล อีกท้ังภาคใต้มีสถานท่ีท่องเที่ยวส�าคัญ มีชายหาดท่ีสวยงาม เป็นทน่ี ิยมของนักท่องเทย่ี วท้ังชาวไทยและชาวต่างประเทศ เชน่ เกาะสมยุ จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี เกาะพพี ี จังหวัดกระบ ่ี หาดเจ้าไหม จงั หวดั ตรงั เปน็ ตน้ จงึ ทา� ใหม้ ีธุรกจิ ที่ส�าคญั เช่น โรงแรม ท่ีพักตากอากาศ รา้ นอาหาร สปา ร้านผลิตของท่ีระลกึ จากเปลอื กหอย เปน็ ต้น 1๔8 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ ขอใดเปน ลกั ษณะเดนของการผลิตสินคา และบรกิ ารของ 1 ขาวหอมมะลิ แหลงปลูกขาวหอมมะลิที่ดีที่สุดของประเทศ คือ บริเวณ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ทงุ กลุ ารอ งไห โดยเฉพาะจงั หวดั สรุ นิ ทร เนอื่ งจากพน้ื ทเ่ี ปน แอง กระทะ ดนิ ปนทราย มีความเค็ม จึงเหมาะกับการเพาะปลูกขาวหอมมะลิ ทําใหสามารถสงไปขาย 1. การทอผาไหมและปลกู ขา วหอมมะลิ ทว่ั โลก ขาวหอมมะลจิ งึ เปนพนั ธขุ า วท่นี ิยมบรโิ ภคแพรห ลายทวั่ โลก 2. การผลติ งานหตั ถกรรมและแปรรปู อาหาร 2 การผลติ แบบอตุ สาหกรรม แบง ออกเปน 2 ระบบ คอื การผลติ แบบชว งตอน 3. การแปรรปู อาหารทะเลและผลิตเคร่ืองปน ดนิ เผา ซง่ึ เปน การผลติ เฉพาะสว น เมอ่ื มกี ารดาํ เนนิ การผลติ ชนิ้ สว นครบกส็ ามารถนาํ มา 4. การผลิตชน้ิ สว นอเิ ล็กทรอนิกสแ ละอตุ สาหกรรมอาหาร ประกอบกันเปนสนิ คา ได และการผลติ แบบตอเน่อื ง เปนระบบทีม่ ีการผลติ ตาม (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เน่ืองจากการทอผาไหมของ ขน้ั ตอน ต้ังแตเ ริ่มตนจนส้นิ สุดสาํ เรจ็ ออกมาเปนสนิ คา คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอดีตเปนงานท่ีทํากันในชีวิต ประจําวัน เพ่ือใชสําหรับสวมใสกันในครัวเรือน แตดวยความ สื่อ Digital สวยงามของลวดลายของผาและความประณีตในการทอ จึง ทําใหไดรับความนิยมเปนอยางมากจนถือเปนเอกลักษณของภาค ศึกษาคน ควาขอมลู เพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั การผลิตสนิ คา 4 ภาค ไดที่ สวนการปลูกขาวหอมมะลิ เกิดจากสภาพภูมิศาสตรท่ีมีความ http://www.otop5star.com/product-th. เหมาะสม เชน พ้ืนท่ีเปนแองกระทะ ดินปนทราย มีความเค็ม ซึง่ เหมาะแกก ารเพาะปลกู และสง ขายไปทว่ั โลก) T162
นาํ สอน สรุป ประเมนิ นอกจากน ้ี ยงั มกี ารผลติ สนิ คา้ ทเ่ี ปน็ งานหตั ถกรรมทขี่ นึ้ ชอื่ เชน่ การทอเสอื่ กระจดู ทจ่ี งั หวดั ขน้ั สอน พทั ลงุ การทอผา้ เกาะยอทจ่ี งั หวดั สงขลา เปน็ ผา้ ทอทมี่ สี สี นั และลวดลายสวยงาม การทา� เครอ่ื งถม การแกะตัวหนังตะลงุ ท่ีจังหวัดนครศรธี รรมราช เพ่อื ไว้ขายนักท่องเท่ียวและส่งเป็นสินคา้ ออก ขนั้ ที่ 3 สรปุ การอภปิ ราย ปญั หาในการผลิตสินค้าและบรกิ ารในภาคใต้ เชน่ ปญั หาสิง่ แวดล้อมทางด้านทะเลท่นี บั วนั จะเส่ือมโทรมลงจากการท�าลายของมนุษย์ ส่งผลถึงความอุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศใต้ทะเล 1. ครูสุมตัวแทนกลุม แตละกลุม เพ่อื ออกมาสรปุ สตั ว์น�้าชนดิ ตา่ ง ๆ มีจา� นวนลดลง การท�าประมงจงึ ได้ผลผลิตนอ้ ยลงจากเดมิ ปญั หาภัยธรรมชาติ สาระสาํ คญั ของการอภปิ ราย ซึ่งภาคใต้เป็นพื้นท่ีติดชายฝั่งทะเล จึงมักประสบกับลมมรสุม พายุ ท่ีสร้างความเสียหายและ สง่ ผลกระทบตอ่ การผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ นอกจากนี ้ ยงั มปี ัญหาความไมส่ งบใน ๓ จังหวดั 2. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานท่ี 7.2 เรื่อง ซงึ่ สง่ ผลตอ่ ความเชอ่ื มน่ั ในการลงทนุ อกี ทงั้ นกั ทอ่ งเทยี่ วเกดิ ความไมม่ นั่ ใจในความปลอดภยั ทา� ให้ หลักการผลิตสนิ คาและบริการ ธุรกิจดา้ นการท่องเที่ยวซบเซาลง เนื่องจากเม่ือมกี ารขยายตัวทางด้านการผลติ ยอ่ มหมายถึง การท่เี ราจะตอ้ งใช้ทรพั ยากร 3. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมเกี่ยวกับหลักการ ธรรมชาติมากข้ึน มีการใช้ที่ดินมากขึ้น มีการปรับเปล่ียนสภาพพื้นท่ีและภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ สาํ คญั ในการผลติ สนิ คา และบรกิ ารและลกั ษณะ รวมถงึ มกี ารปล่อยของเสยี สูธ่ รรมชาต ิ ไม่ว่าจะเป็นขยะมูลฝอย สารเคม ี สารพษิ ควันพิษ นา�้ เสีย การผลิตสนิ คาและบรกิ ารของไทย ในแบบฝก เป็นต้น ซ่ึงผู้ประกอบการควรค�านึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดข้ึน ควรมีการศึกษาถึง สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 แนวทางตา่ ง ๆ ทจ่ี ะชว่ ยรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มและนา� มาปรบั ใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั การผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร ของตน มีการบรหิ ารจัดการด้านการผลิตสินคา้ ควบคกู่ ับการรักษาสง่ิ แวดลอ้ มทส่ี อดคลอ้ งกัน ขนั้ สรปุ การที่ผู้ประกอบการมีจิตส�านึกทางด้านการรักษาส่ิงแวดล้อมย่อมส่งผลดีต่อผู้ผลิตเอง คือ ผลติ ภัณฑ์มคี ณุ ภาพไดม้ าตรฐาน เปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดล้อม เป็นการช่วยเสรมิ สรา้ งภาพลกั ษณ์ที่ดี 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู หรอื ใช PPT ใหก้ บั สนิ คา้ ผบู้ รโิ ภคยอ่ มมคี วามเชอ่ื มน่ั และไวว้ างใจเลอื กใชส้ นิ คา้ นอกจากน ี้ ยงั สง่ ผลดตี อ่ สงั คม สรุปสาระสําคัญของเน้ือหา ตลอดจนความ เพราะเม่ือส่ิงแวดล้อมดีก็ย่อมท�าให้คนในสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย กล่าวได้ว่า การรักษา สาํ คัญตอ การดําเนนิ ชีวติ ประจําวนั สิง่ แวดล้อมเป็นหนา้ ท่ีสา� คญั ประการหน่งึ ที่ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งรับผิดชอบตอ่ สังคม 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิน่ ของไทยส่วนใหญ่จะเปน็ การนา� ทรพั ยากรท่มี ีอยใู่ น (รวบยอด) การเขียนบทความ เรื่อง การผลติ ท้องถิ่นมาท�าการผลิต ส่วนใหญ่เป็นการผลิตในครัวเรือนหรือรวมกลุ่มกันผลิตในท้องถ่ิน สนิ คาและบรกิ าร ใชเ้ งนิ ทนุ จากครวั เรอื นเปน็ สว่ นใหญ ่ การผลติ สนิ คา้ คอ่ นขา้ งจา� กดั ใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลติ นอ้ ย มตี ลาดรองรบั สนิ คา้ นอ้ ย 3. ครใู หนกั เรียนทําแบบวัดฯ เศรษฐศาสตร ม.2 แตใ่ นปจั จบุ นั ไดม้ กี ารพฒั นารปู แบบการผลติ มกี ารนา� เทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลติ ทา� การ เร่ือง การผลิตสินคาและบริการ เพื่อทดสอบ ประชาสมั พนั ธ์เพ่ือขยายตลาด จากที่ส่วนใหญ่มุ่งขายตลาดในประเทศ ได้มีการขยายสู่ตลาด ความรทู ไ่ี ดศกึ ษามา ต่างประเทศ และจากท่ีการผลิตจ�ากัดอยู่ในเฉพาะครัวเรือนก็ได้มีการขยายการผลิตมากขึ้น ส่งผลใหป้ ระชาชนในทอ้ งถิ่นมีรายได้เพ่มิ มากขนึ้ แต่ในขณะเดียวกนั การผลิตสินค้าและบริการ ขนั้ ประเมนิ จะต้องค�านึงถงึ สภาพแวดล้อมของทอ้ งถ่ินดว้ ย 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม 1๔9 การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชัน้ เรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และ แบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 3. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย การเรยี นรทู ่ี 7 เรอื่ ง การผลติ สนิ คา และบรกิ าร กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล ใหน กั เรยี นรวมกลมุ ทาํ กจิ กรรมวางแผนผลติ สนิ คา หรอื บรกิ าร ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอ้ื หา เรอื่ ง หลกั การผลติ สนิ คา และ 1 ชนดิ ในประเด็น ดงั น้ี บรกิ ารอยางมปี ระสทิ ธิภาพ และลักษณะการผลติ สินคาและบรกิ ารของไทย ได 1. วเิ คราะหท รพั ยากรการผลติ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคของคนใน จากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน ทองถิ่นตนเองหรอื ทองถ่นิ อนื่ เพือ่ เปนพ้นื ฐานในการออกแบบผลติ โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่ สนิ คาหรอื บรกิ าร แนบมาทา ยแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 7 เรอื่ ง การผลติ สนิ คาและบรกิ าร ดงั นี้ 2. เลอื กผลติ สนิ คา หรอื บรกิ าร 1 ชนดิ โดยวเิ คราะหใ นประเดน็ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน • วัตถุดิบท่ใี ช • แรงงาน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 • ทุน/แหลง เงนิ ทุน • กระบวนการผลิต 1 ความถูกต้องของเน้อื หา 2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเรื่อง 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม • ตลาด รวม 3. ออกแบบตัวอยางสินคาในรูปแบบตางๆ เชน โมเดลสนิ คา ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ............/................./................ จําลอง เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ 4. นําเสนอผลงานหนา ชัน้ เรยี น ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง T163
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คําถามประจําหนว ยการเรียนรู คÓถาม ประจÓหนว่ ยการเรียนรู้ ๑. สินคา้ และบริการมคี วามสา� คัญต่อการดา� เนนิ ชีวติ ของมนษุ ยอ์ ยา่ งไรบ้าง 1. สนิ คา และบรกิ ารเปน สง่ิ ทใ่ี ชส าํ หรบั ตอบสนอง ๒. ปจั จยั การผลิตมีอะไรบ้าง ความตอ งการในการบรโิ ภคของมนษุ ย โดยจะ ๓. หลกั การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งมีประสทิ ธิภาพมีอะไรบา้ ง ทาํ ใหม นษุ ยเ กดิ ความพงึ พอใจสงู สดุ ตามความ ๔. การเพมิ่ มลู ค่าในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารสามารถทา� ได้อย่างไรบ้าง ตองการทแ่ี ตกตา งกัน ๕. จงยกตัวอย่างการผลิตสินค้าและบริการในท้องถน่ิ ๑ ตวั อยา่ ง พร้อมท้ังบอกวิธกี ารผลติ 2. การผลิตจะตองนําปจจัยการผลิตท่ีมีอยูอยาง กจิ กรรม สร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้ จาํ กดั มาผา นกระบวนการผลติ เพอ่ื ใหไ ดส นิ คา ข้นึ ซง่ึ สามารถแบงออกเปน 4 ประเภท ไดแก กิจกรรมที่ ๑ นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายในประเดน็ “การใชท้ รัพยากรในการผลติ ใหค้ มุ้ คา่ ทด่ี ิน แรงงาน ทนุ และผปู ระกอบการ และเกดิ ประโยชน์สูงสุด” 3. หลกั การผลติ สนิ คา และบรกิ ารอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ เชน หลักการใชทรัพยากรในการผลิต โดย กจิ กรรมท่ ี ๒ ส �ารวจการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น และสรุปความรู้ในประเด็นท่ีก�าหนด ตองคํานึงวาจะผลิตอยางไรใหไดตนทุนการ ผลิตตํ่าที่สุด และมีกําไรสูงสุด หลักการเพ่ิม น�าเสนอในชั้นเรียน มูลคาในการผลิตสินคาและบริการ จัดเปน • การผลติ สินค้าและบริการของคนในทอ้ งถ่ิน กลยุทธหนึ่งในการพัฒนาสินคาใหมีมูลคา • ใชว้ ธิ กี ารผลติ อยา่ งไร อยางยั่งยนื • มกี ารน�าเทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลิตอยา่ งไรบา้ ง • มปี ัญหาการผลิตอยา่ งไรบ้าง 4. แนวทางในการเพมิ่ มลู คา ในการผลติ สนิ คา และ บริการ เชน การนําความถนัดในเร่ืองตางๆ 150 ของตนเองมาสรา งสรรคผ ลติ สนิ คา และบรกิ าร การสรางสรรคคุณคาลงไปในสินคา การ ออกแบบบรรจุภัณฑหรือรูปทรงของสินคาให ดทู นั สมยั การบรกิ ารทป่ี ระทบั ใจ การมบี รกิ าร หลงั การขายท่ดี ี 5. เชน การทําเกา อจี้ ากผักตบชวาของเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร มีขัน้ ตอนการทาํ ดังน้ี • หาซอ้ื ผกั ตบชวาทเ่ี กษตรกรนาํ มาตากแหง ขาย เมื่อไดวัตถุดิบแลว นําลงจุมนํ้ายาปองกัน เช้ือราแลวนํามาตากแหง จากน้ันนําผักตบ ชวาที่จมุ นา้ํ ยาแลว มาอบแหง • ทําโครงเกาอี้ดวยไมหรือหวายตามรูปทรง ท่ีตองการ จากนั้นนําผักตบชวาที่อบแหง แลวมาสานใหเขากับโครงของเกาอ้ี เสร็จ แลวลงสี หรือพนสีทับตามความชอบ จากนน้ั ลงนาํ้ ยาเคลือบผวิ เกา อ้ี เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู ประเมนิ ความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยท่ัวไป ซ่งึ เปนงานหรอื ชน้ิ งานทใี่ ชเวลาไมนาน สําหรับการประเมินรูปแบบน้ีอาจเปนคําถามปลายเปด หรือผงั มโนทัศน นิยมสําหรับประเมนิ ผเู รียนรายบคุ คล ประเมนิ ความสามารถ • ใชในการประเมนิ ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชท ักษะชวี ติ และความ สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือชิ้นงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต ประจําวัน อันมีความเกี่ยวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน จากการสังเกต การเขยี น การตอบคําถาม การวิเคราะห การแกป ญหา ตลอดจนการทํางานรว มกนั ประเมนิ ทกั ษะ • ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมที่ตองมีความเกี่ยวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรที่มีความซับซอน และกอ เกิดเปนความชาํ นาญในการนาํ มาเปนแนวทางปฏบิ ัติจรงิ ในชีวติ ประจาํ วันอยา งยงั่ ยืน เชน ทักษะในการสื่อสาร ทักษะในการแกปญ หา ทกั ษะ ชีวติ ในดานตางๆ โดยอาจมกี ารนาํ เสนอผลการปฏิบัติงานตอ ผูเก่ียวขอ ง หรือตอสาธารณะ สงิ่ ทต่ี อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผี่ เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซง่ึ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทตี่ อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน T164
Chapter Overview แผนการจดั ส่อื ท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธสี อน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ การเรยี นรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนังสอื เรียน 1. อธิบายหลักการและ สบื เสาะ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - ทักษะการ 1. ใฝ่เรียนรู้ หลกั การและ สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 เปา้ หมายของปรชั ญา หาความรู้ - ต รวจการท�ำแบบฝึก วเิ คราะห์ 2. อยูอ่ ย่าง เปา้ หมายของ - แบบฝกึ สมรรถนะ ข องเศรษฐกจิ พอเพียง (5Es สมรรถนะและการคิด พอเพียง ปรชั ญาของ และการคิด ได้ (K) Instructional เศรษฐศาสตร์ ม.2 3. มงุ่ มนั่ ในการ เศรษฐกจิ เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. จำ� แนกหลกั การและ Model) - ตรวจใบงานที่ 8.1 ท�ำงาน พอเพยี ง - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เปา้ หมายของปรัชญา - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - PowerPoint ของเศรษฐกจิ พอเพียง - สังเกตพฤติกรรม 1 - ใบงานท่ี 8.1 ได้ (P) การท�ำงานรายบุคคล 3. เห็นคุณค่าของผลการ - สงั เกตพฤตกิ รรม ชวั่ โมง ปฏิบตั ิตนตามปรชั ญา การท�ำงานกลมุ่ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง - ประเมินคุณลักษณะ ทมี่ ผี ลตอ่ ระบบเศรษฐกจิ อันพึงประสงค์ และการดำ� เนนิ ชวี ิต ประจำ� วนั เพ่มิ มากข้นึ (A) แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรียน 1. วเิ คราะห์รปู แบบของ โดยเนน้ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ทักษะการ 1. ใฝ่เรยี นรู้ การผลิตสินค้า สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 การผลิตสนิ ค้าและ กระบวนการ : - ตรวจการท�ำแบบฝึก วเิ คราะห์ 2. อยอู่ ย่าง และบริการใน - แบบฝึกสมรรถนะ บรกิ ารในทอ้ งถนิ่ ได้ (K) กระบวนการ สมรรถนะและการคิด - ทักษะการ พอเพยี ง ทอ้ งถ่นิ และการคดิ 2. จ�ำแนกการผลิตสนิ ค้า เรยี นความรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.2 ประยกุ ตใ์ ช้ 3. ม่งุ ม่นั ในการ เศรษฐศาสตร์ ม.2 และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ ได้ ความเข้าใจ - ตรวจใบงานที่ 8.12 ความรู้ ทำ� งาน 1 - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (P) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - PowerPoint 3. เห็นคณุ คา่ ของการผลติ - สังเกตพฤติกรรม ชว่ั โมง - ใบงานที่ 8.2 สนิ ค้าและบริการใน การท�ำงานรายบคุ คล ทอ้ งถนิ่ ท่มี ผี ลต่อ - สังเกตพฤติกรรม ระบบเศรษฐกจิ และ การท�ำงานกล่มุ การดำ� เนนิ ชวี ติ ประจำ� วนั - ประเมินคุณลกั ษณะ เพิ่มมากขน้ึ (A) อันพงึ ประสงค์ T165
แผนการจัด สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทักษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรียนรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 3 - หนังสอื เรียน 1. อ ธิบายแนวทางการ การอภปิ ราย - ต รวจการท�ำแบบฝกึ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ การประยกุ ต์ สังคมศึกษาฯ ม.2 ผลิตสนิ คา้ และบริการ สมรรถนะและการคิด - ทกั ษะการน�ำ 2. อย่อู ย่าง ใชป้ รชั ญา - แบบฝึกสมรรถนะ ในท้องถ่ินตามปรัชญา เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความรู้ไปใช้ พอเพียง ของเศรษฐกจิ และการคิด ของเศรษฐกจิ พอเพียง - ต รวจการทำ� แบบวัดและ พอเพียงในการ เศรษฐศาสตร์ ม.2 ได้ (K) บนั ทกึ ผลการเรียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการ ผลิตสนิ ค้า - แบบทดสอบก่อนเรยี น 2. เสนอแนวทางการผลิต เศรษฐศาสตร์ ม.2 ทำ� งาน และบริการ ในท้องถนิ่ - PowerPoint สนิ คา้ และบริการใน - ตรวจใบงานท่ี 8.3 - ใบงานที่ 8.3 ทอ้ งถ่ินตามปรัชญา - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน 1 ของเศรษฐกิจพอเพยี ง - สงั เกตพฤตกิ รรม ได้ (P) การท�ำงานรายบุคคล ช่ัวโมง 3. เห็นความสำ� คญั ของ - สังเกตพฤติกรรม การประยุกต์ใชป้ รัชญา การท�ำงานกลมุ่ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง - ประเมนิ คุณลกั ษณะ ในการผลิตสินคา้ และ อันพงึ ประสงค์ บริการในท้องถ่นิ ที่ม ี - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ผลต่อระบบเศรษฐกจิ และการดำ� เนนิ ชวี ติ ประจำ� วันเพม่ิ มากขน้ึ (A) T166
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ๘ เศรษฐกจิ พอเพยี งหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ขน้ั นาํ (5Es Instructional Model) กบั การผลติ สนิ คา และบรกิ าร àÃÒÊÒÁÒö¹íÒËÅÑ¡ ขั้นท่ี 1 กระตนุ ความสนใจ »ÃѪÞҢͧàÈÃɰ¡Ô¨ ¾Íà¾Õ§ÁÒ»ÃÐÂØ¡µãªŒ 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อนแบบสบื เสาะ ¡Ñº¡ÒüÅÔµÊÔ¹¤ŒÒáÅÐ หาความรู ชื่อเรื่องที่จะเรียนรู จุดประสงค ?ºÃÔ¡ÒÃ䴌͋ҧäà การเรยี นรู และผลการเรยี นรู 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรยี นรทู ี่ 8 เรือ่ ง เศรษฐกจิ พอเพียง กบั การผลิตสนิ คา และบรกิ าร 3. ครูใหนักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวชวยกัน ตอบวา เปน ภาพอะไร และมคี วามเกยี่ วขอ งกบั การดาํ เนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา งไร (แนวตอบ ภาพงานหัตถกรรมดินเผาลายไทย ถือเปนผลิตภัณฑที่มีการนําทรัพยากรท่ีมีอยู ในทองถิ่นมาบริหารจัดการใหมีประสิทธิภาพ เพ่ือสรางความมั่นคงทางเศรษฐกิจใหกับ ครอบครัวและชมุ ชนได) เศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาทม่ี เี ปา้ หมายหลกั เพอ่ื ใหค้ นไทยสามารถพง่ึ ตนเองไดใ้ นระดบั ต่าง ๆ อย่างเป็นขน้ั ตอน ลดความเสยี่ งเกยี่ วกับความผนั แปรของธรรมชาต ิ หรือการเปล่ยี นแปลง ที่เกดิ ข้ึนในสังคม โดยอาศัยความพอประมาณและมเี หตผุ ล การสร้างภูมิคุ้มกนั ทีด่ ี มคี วามร ู้ และ มีคุณธรรม จากหลักการดังกล่าวทา� ใหใ้ นทอ้ งถ่ินตา่ ง ๆ ซ่งึ มีการผลิตสินคา้ และบรกิ ารหลากหลาย และแตกต่างกันไปตามปัจจัยการผลิต ได้น้อมน�าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในการผลติ ทั้งการผลิตในครัวเรือน การรวมกลมุ่ ในชมุ ชนรูปแบบต่าง ๆ และการประกอบธรุ กิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม เพ่ือให้มีการน�าทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาบริหารจัดการให้มี ประสทิ ธภิ าพในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการพนื้ ฐานและสรา้ งความมน่ั คง ทางเศรษฐกจิ ให้กบั คนในชมุ ชน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ กนกลาง • ห ลกั การและเปา้ หมายปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส ๓.๑ ม.๒/๓ เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่น • ส �ารวจและวิเคราะห์ปัญหาการผลิตสินค้าและบริการ ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในทอ้ งถิน่ • ป ระยกุ ต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการผลติ สินค้า และบรกิ ารในทอ้ งถ่นิ ๑5๑ เกร็ดแนะครู การเรยี นเกย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การผลติ สนิ คา และบรกิ าร เพอ่ื ใหน กั เรยี นมคี วามรคู วามเขา ใจ การนาํ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาผลติ เปน สนิ คา และบริการของทองถนิ่ ไทย ครูจึงควรจัดการเรยี นการสอน ดังน้ี • เขยี นเรียงความ เรื่อง พอเพียงก็เพยี งพอ เพอื่ ฝก ทักษะการประยกุ ตแ ละเชือ่ มโยงความรู • สาํ รวจและวิเคราะหสภาพปญหาของการผลติ สินคาและบรกิ ารในทอ งถิ่น • จัดทาํ โครงงานการประยกุ ตใ ชปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลติ สนิ คา และบรกิ ารในทอ งถน่ิ • แสวงหาขอ มลู จากแหลงการเรียนรทู ห่ี ลากหลาย เชน อินเทอรเน็ต หนังสือพิมพ นติ ยสาร T167
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ ñ. ËÅ¡Ñ ¡Òâͧ»ÃѪÞҢͧàÈÃɰ¡Ô¨¾Íà¾ÂÕ § ขน้ั ที่ 1 กระตนุ ความสนใจ “ค�าวาพอก็เพียงพอ เพยี งน้กี พ็ อ ดงั นน้ั เอง คนเราถา้ พอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมคี วามโลภน้อยกเ็ บยี ดเบยี นคนอื่นน้อย 4. ครูนําสนทนาเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจไทย ถ้าทกุ ประเทศมีความคิด อนั นไี้ มใชเ ศรษฐกิจ มีความคดิ วา ทา� อะไรต้องพอเพยี ง พ.ศ. 2540 โดยยกตวั อยางขาว หรอื บทความ หมายความวา พอประมาณ ไมสดุ โตง ไมโ ลภอยางมาก คนเราก็อยเู ปน สขุ ตางๆ ที่เกี่ยวของ จากนั้นใหนักเรียนแสดง พอเพียงน้ีอาจจะมมี าก อาจจะมขี องหรูหรากไ็ ด้ แตวา ตอ้ งไมเบียดเบียนคนอ่ืน ความคิดเห็น และตอบคําถามเพ่ือกระตุน ตอ้ งให้พอประมาณตามอัตภาพ พดู จากพ็ อเพยี ง ทา� อะไรกพ็ อเพยี ง ปฏิบตั ิตนกพ็ อเพยี ง…” ความสนใจ เชน • วิกฤตเศรษฐกิจดังกลาวสงผลกระทบตอ พระราชด�ารสั ของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช เนอ่ื งในโอกาสวันคล้ายวนั พระราชสมภพ คนไทยอยางไร ๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ (แนวตอบ เชน ทาํ ใหห ลายธุรกิจตองประสบ ภาวะเศรษฐกิจลมละลาย ปดกิจการ เกิด ๑.๑ หลกั การของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การวา งงาน) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ขนั้ สอน มทีาพงรเะศรราษชฐดก�าิจรใัสนช ี้แพน.ศะ.แ ๒น๕ว๔ท๐า1 งเกพาื่อรเดน�า้นเนยา้�ินใชหีว้คิตนแไกท่พยรสอกดนพิกน้ รจชาากววไกิทฤยต แตลั้งะแสตา่กม่อานรถเกดิดา� วรงิกชฤีวติตกอายร่ไูณด้์ อย่างม่ันคงและยัง่ ยืน ภายใต้กระแสการเปลีย่ นแปลงของโลก ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจคน หา เศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาชถี้ งึ แนวการดา� รงอยแู่ ละการปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในระดบั ครอบครัว ชุมชน จนถึงระดับภาครัฐ เพื่อให้การพัฒนาและบริหารประเทศด�าเนินไปในทาง 1. ครูใหนกั เรยี นแบงกลุม ศึกษาคน ควา เกย่ี วกบั สายกลางอย่างมั่นคง หลกั การของเศรษฐกิจพอเพยี งตงั้ อยู่บนพ้ืนฐานของคณุ ลักษณะ ๓ ประการ หลกั การและเปา หมายของปรชั ญาของเศรษฐกจิ ไดแ้ ก ่ ความพอประมาณ มเี หตผุ ล และมภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี และเงอ่ื นไข ๒ ประการ คอื มคี วามร้ ู พอเพียง จากหนงั สอื เรียน สังคมศึกษาฯ ม.2 และคณุ ธรรม ดงั นี้ หรือจากแหลงการเรียนรูอ่ืนๆ เชน หนังสือ ในหอ งสมดุ เว็บไซตในอนิ เทอรเนต็ ทางสายกลาง 2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนาเช่ือถือ พอประมาณ ใหก บั นักเรียนเพิ่มเตมิ มเี หตุผล มีภูมคิ ุมกันในตวั ท่ีดี เงอื่ นไขความรู เงื่อนไขคณุ ธรรม (รอบร้ ู รอบคอบ ระมดั ระวงั ) (ซ่ือสัตยส์ ุจริต ขยนั อดทน สติปัญญา แบง่ ปนั ) นําสู่ ชีวติ / เศรษฐกจิ / สงั คม / สง่ิ แวดลอ้ ม ๑5๒ สมดลุ / ม่นั คง / ยั่งยนื นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสริม 1 วิกฤตการณทางเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2540 เกิดจากภาวะเศรษฐกิจตกตํ่า ใหนักเรียนดูคลิปวีดิทัศนเก่ียวกับเศรษฐกิจพอเพียง เชน ประสบปญ หาการขาดดลุ ชาํ ระเงนิ ตดิ ตอ กนั หลายป จนทนุ สาํ รองระหวา งประเทศ รายการ “ตามรอยเศรษฐกจิ พอเพยี ง” แลวเขียนบันทึกสรุปสาระ ลดลง ธุรกิจขนาดเล็กจํานวนมากตองปดกิจการ สงผลใหเกิดการวางงาน สาํ คญั ทไี่ ดจ ากรายการลงในกระดาษ A4 นาํ สง ครผู สู อน ตามประเดน็ เพ่มิ สูงขน้ึ อยา งรวดเร็ว ผลติ ภัณฑมวลรวมประชาชาตลิ ดลง ดังนี้ ส่ือ Digital • การใชห ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาํ เนนิ ชีวิต • ผลจากการใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการ ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไดท ี่ ดาํ เนนิ ชีวิต http://www.chaipat.or.th มูลนธิ ิชัยพัฒนา T168
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ผู้อ่นื เชคน่ ว ากมาพรอผปลติร1ะแมลาะณกา รเบปร็นิโภคควาทม่อี พยใู่อนดรีทะ่ีไดมบั ่นพ้ออยปหรระือมมาณาก เไกมิน่มไาปกโหดรยือไนมอ้่เบยียเกดนิ เบไปียนตนเองและ ขนั้ สอน ความมีเหตผุ ล การตัดสินใจเกย่ี วกบั ระดบั ความพอเพียงนน้ั จะต้องเปน็ ไปอย่างมเี หตผุ ล โดยพจิ ารณาจากเหตปุ จั จยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ตลอดจนคา� นงึ ถงึ ผลทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขนึ้ จากการกระทา� นนั้ ๆ ขั้นที่ 3 อธิบายความรู อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี คือ การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลง 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก ดา้ นตา่ ง ๆ ทจ่ี ะเกดิ ขึน้ โดยค�านงึ ถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทีค่ าดว่าจะเกิดข้นึ ใน การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรกู นั อนาคตทงั้ ใกล้และไกล ทัง้ น ี้ ตอ้ งมเี งอ่ื นไขส�าคญั ๒ ประการ ได้แก่ 2. จากนนั้ สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ที่ มีความรู้ หมายถึง มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวังในการน�าความรู้ วิทยาการ นําเสนอเพือ่ ใหไดขอ มลู ท่ถี ูกตอง เทคโนโลยตี ่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการปฏบิ ตั ิ มคี ณุ ธรรม หมายถงึ มคี วามตระหนัก มีความซอื่ สตั ย์ สุจริต ขยัน อดทน มคี วามเพยี ร 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล และใชส้ ตปิ ัญญาในการดา� เนนิ ชวี ิต หนา ชนั้ เรยี นตามประเดน็ ทศี่ กึ ษา และอภปิ ราย ๑.๒ เปา หมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมภายในเวลาที่ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมีเป้าหมายหลัก ดังน้ี กาํ หนด ๑) การใชช วี ติ บนพนื้ ฐานของการรจู กั ตนเอง และทา� สง่ิ ตา่ ง ๆ ตามความสามารถ ของตนเอง รู้จักพัฒนาตนเองด้วยการใฝหาความรู้ ฝกฝนทักษะ พัฒนาความรู้ความสามารถ 4. ครูใหนักเรียนชมวีดิทัศน ชุด ดวยพระบารมี ของตนดว้ ยการเขา้ รบั การศึกษาอบรม รักษารา่ งกายให้สมบรู ณ ์ แข็งแรง มอี ารมณด์ ี ด�าเนนิ ชวี ิต ทําดีเพื่อแผนดิน เรื่อง จากลูกชาวนามาเปน อย่างมสี ต ิ แกป้ ญั หาด้วยปญั ญา และร้จู ักใชท้ รพั ยากรตา่ ง ๆ อย่างรคู้ ณุ คา่ เถา แกโ รงสี จากนน้ั ใหน กั เรยี นรว มกนั วเิ คราะห ๒) สามารถพ่ึงพาตนเองและพง่ึ พาซง่ึ กนั และกนั ในการดา� เนนิ ชวี ติ ประจา� วนั และอภิปรายวา บุคคลในวีดิทัศนนําหลักการ และเปา หมายของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาใชอยา งไรบา ง 5. ครูใหนักเรียนแตละคนวิเคราะหตนเองวา สามารถนาํ หลกั การและเปา หมายของปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใชในชีวิต ประจําวนั ไดอยา งไร จะต้องยึดหลักการพ่ึงตนเองในครอบครัวก่อน สมาชิกครอบครัวจะต้องรู้รายรับ - รายจ่ายของ ครอบครวั สามารถบรหิ ารการเงนิ ในครอบครวั ได้ หลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ และใช้ศักยภาพของตน ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ เมอ่ื ตอ้ งประสบกบั ปญั หา ก็ให้ใช้สติปัญญาไตร่ตรองหาสาเหตุและแก้ไข ปัญหาบนพ้ืนฐานของเหตุและผลด้วยตนเอง ก่อนที่จะพ่ึงพาคนอื่น และเม่ือต้องร่วมมือกับ ผู้อน่ื กต็ ้องยอมรับความสามารถซง่ึ กันและกนั รับฟังความคิดของผู้อ่ืน มีการปรึกษาหารือ การประกอบอาชีพในครัวเรือนตามแนวคิดเศรษฐกิจ ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกัน พอเพยี ง สามารถสรา้ งรายไดแ้ ละสมาชกิ พ่ึงพาตนเองได้ ๑5๓ ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู พฤตกิ รรมในขอ ใดทยี่ ดึ หลกั การสรา งภมู คิ มุ กนั ตามปรชั ญาของ ครูควรเชิญวิทยากรที่มีความรู ความเช่ียวชาญทางดานเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพยี ง หรือบุคคลในทองถ่ินที่ดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา บรรยายใหความรู มมุ มอง ทัศนคติ และการประยกุ ตใ ชป รัชญาของเศรษฐกจิ 1. จดั สรรรายจา ยใหส มดุลกบั รายได พอเพียง เพ่อื เสรมิ ความเขา ใจในหลกั การและเปา หมายของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. ซ้ือรถจกั รยานมาใชในชวงที่นํ้ามนั มรี าคาแพง 3. ซ้อื สนิ คา และบริการเฉพาะท่ีมีความจาํ เปน เทานัน้ นักเรียนควรรู 4. วางแผนการใชจายในแตล ะเดอื นโดยเก็บไวสวนหน่งึ (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เนอื่ งจากการสรา งภมู คิ ุม กันตาม 1 การผลิต สําหรับเกษตรกรหรือผูคนในทองถ่ิน ตองเนนการผลิตท่ีมี หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตองมีการเตรียมความพรอม วัตถุประสงคเพื่อการบริโภคในครัวเรือนเปนอันดับแรก เชน กินพืชที่ปลูก สาํ หรับการเปล่ยี นแปลงและผลกระทบทอี่ าจเกดิ ข้ึน โดยคาํ นงึ ถงึ หลงั จากผลผลติ เหลอื แลว จงึ คอยนาํ ไปจาํ หนาย ความเปน ไปไดข องสถานการณต า งๆ ทคี่ าดวา จะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต ท้ังใกลและไกล ซ่ึงการวางแผนการใชจายโดยมีการเก็บออมไว T169 สวนหน่ึงถือเปนการเตรียมความพรอมสําหรับการเปล่ียนแปลงที่ อาจเกดิ ขนึ้ ไดในอนาคต)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๓) ใชชีวิตอย่างพอเพียง รู้จักยับย้ังใจตนเอง ลดความต้องการของตนเองลง ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู โดยคา� นึงถงึ ความมอี ยู่ของตนเอง เชน่ ค�านงึ ถึงรายรบั หรือรายได้ของตนเองกอ่ นที่จะตดั สินใจซ้ือ สนิ คา้ และบรกิ าร ยดึ ทางสายกลางในการดา� เนนิ ชีวติ ให้ตนเองอย่อู ยา่ งสมดลุ เพ่ือการมคี วามสุข 6. ครูตั้งคําถามใหนักเรียนชวยกันตอบเพื่อฝก อยา่ งแท้จริง ไม่รู้สึกขาดแคลน และต้องไมเ่ บียดเบียนผู้อืน่ หรือส่ิงแวดล้อม เช่น ในสังคมชนบท ทกั ษะการวเิ คราะหเ พ่มิ เตมิ เชน ซึ่งมีที่ดินท่ีสามารถท�าการเพาะปลูกได้ ก็ท�าการเกษตรแบบพออยู่พอกิน ปลูกผักไว้กินเองก่อน • ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีเปาหมาย ถ้าหากเหลอื ก็นา� ไปขาย แจกจ่ายเพื่อนบ้าน ท�าใหเ้ ราสามารถลดรายจ่ายลงได้ และสามารถสร้าง เพ่ือทําใหคนในสังคมอยูอยางมีความสุข รายได้ใหก้ บั ครอบครวั อีกดว้ ย ทุกระดบั ไดอ ยางไร จงึ กลา่ วไดว้ า่ เปา้ หมายของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งกเ็ พอื่ ใหค้ นไทยอยใู่ นสงั คมไทย ได้อย่างมีความสุขทุกระดบั ดงั นี้ ขนั้ สรปุ ระดับครอบครวั สมาชิกในครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดี พึ่งพา ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา ใจ ตนเองได ้ มคี วามสขุ ทงั้ ทางกายและใจ ดา� เนนิ ชวี ติ โดย ไมเ่ บยี ดเบยี นตนเองและผอู้ นื่ ไมเ่ ปน็ หนท้ี ไี่ มส่ ามารถ 1. ครูใหน ักเรยี นทําใบงานที่ 8.1 เรอ่ื ง หลกั การ ชา� ระคืนได ้ มีเงนิ เหลอื เปน็ เงินออมสา� หรับครอบครัว และเปา หมายของปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง โดยครูแนะนําเพ่ิมเตมิ ระดบั ชุมชน รวมกลุ่มในการสร้างงานสร้างอาชีพเพ่ือสร้าง ระดบั สงั คม ความเขม้ แข็งทางดา้ นเศรษฐกจิ ของชุมชน รวมกลุม่ 2. ครูใหน กั เรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ๑5๔ ทา� ประโยชนเ์ พอ่ื สว่ นรวม สามารถนา� ทรพั ยากรซงึ่ เปน็ เศรษฐศาสตร ม.2 เกยี่ วกับเร่อื ง หลกั การ ทุนของชุมชนมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพ่ือให้เกิด และเปาหมายของปรัชญาของเศรษฐกจิ ความเปน็ อยทู่ พ่ี อเพยี งของชุมชนโดยรวม พอเพียง สังคมเข้มแข็ง มีการสร้างงานสร้างอาชีพ ท่ีม่ันคง สมาชิกในสังคมมีความเป็นอยู่ท่ีดี มีการ ขนั้ ประเมนิ แลกเปล่ียนความรู้ เข้ารับการศึกษาอบรมร่วมกัน สืบทอดภูมิปัญญาและร่วมกันพัฒนาตามแนวทาง ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล เศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือสร้างเป็นเครือข่ายท้ังภายใน และภายนอกสงั คม 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนา ชนั้ เรยี น 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม เสรมิ สรางคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอื้ หา เรอ่ื ง หลกั การและเปา หมาย ครูฝกใหนักเรียนรูจักการประหยัด การเก็บออม และใชชีวิต ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน อยางพอเพียง โดยการทําบัญชีรายรับ-รายจายของตนเองและ และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผล ครอบครัวอยางงายๆ ใหนักเรียนบันทึกการใชจายของตนเองทุก จากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู วนั ใหพจิ ารณาวา รายการคาใชจายใดทค่ี วรลดทอน นํามาเก็บเปน หนว ยท่ี 8 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการผลติ สนิ คาและบรกิ าร เงนิ ออมสาํ หรบั คา ใชจ า ยทจี่ าํ เปน ในอนาคต และใหผ ปู กครองลงชอื่ ในบันทึกของนักเรียนเพื่อการตอยอดนําไปใชในครอบครัว โดยมี แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คุณครคู อยชี้แนะ คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเน้ือหา 2 การลาดับขัน้ ตอนของเรื่อง 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ T170 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒. วเิ คราะหก์ ารผลติ สนิ ค้าและบริการในทอ้ งถิน่ ขน้ั นํา (วธิ ีสอนโดยเนนกระบวนการ : ในทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ ของไทย ประชากรสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม แตเ่ กษตรกรสว่ นใหญ่ กระบวนการเรียนความรคู วามเขา ใจ) ขรับาดผแลเคทล่านทท่ีคี่ดวินร ทส�า่งกผินล ใปหร้คะวกาอมบเปก็นับอกยารู่ไมท่ค�าก่อายรดเี กเษกติดรกตา้อรงวข่างึ้นงอายนู่กตับาสมภฤาดพูกดาลิน1 ฟซ้าึ่งอเาปก็นาชศ่ว งจวึง่าไงมงา่ไนด้ หลงั จากเกบ็ เกย่ี วผลผลติ เสรจ็ และตอ้ งรอจนกวา่ จะถงึ ฤดกู าลเพาะปลกู ครงั้ ตอ่ ไป ตอ้ งพง่ึ พาเงนิ ทนุ 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอ่ื เรอื่ งทจี่ ะ เทคโนโลยีจากภายนอกมากเกินไป รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ครัวเรือนต้องเป็นหน้ี ไม่สามารถ เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู พ่ึงพาตนเองได้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ท้องถิ่นของไทยได้น้อมน�าหลักการปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชเ้ พอื่ สรา้ งทอ้ งถน่ิ ใหเ้ ขม้ แขง็ พงึ่ ตนเองไดใ้ นภาวะเศรษฐกจิ ปจั จบุ นั 2. ครูนําภาพผลิตภัณฑ OTOP มาใหนักเรียนดู โดยการนา� ทรพั ยากรทมี่ อี ยมู่ าผลติ พชื ผลใหพ้ อเพยี งกบั การบรโิ ภคภายในครวั เรอื น และผลติ สนิ คา้ จากนน้ั ตงั้ คาํ ถาม เชน และบรกิ ารเพื่อการคา้ เพื่อเพ่มิ รายได ้ มีเงินออม เปน็ การแกป้ ญั หาเศรษฐกจิ ของทอ้ งถ่ิน ลดการ • ผลิตภณั ฑ OTOP มคี วามสาํ คัญอยา งไร พ่ึงพาจากภายนอก เพ่อื การพฒั นาที่ยงั่ ยนื (แนวตอบ ผลิตภัณฑ OTOP ของทองถ่ิน การรวมโดกยลมุ่ในรทปู แ้อบงถบิ่นตา่ไงด ๆ้ม2 ีกแาลระผกาลริตผสลินติ คใน้าลแกัลษะบณระิกขาอรงตอ่าตุ งส าๆห กมรารกมมขนายาด กทล้ังากงาแรลผะลขิตนใานดคยอ่รัวมเ รดืองั นน ้ี ตา งๆ มคี วามสาํ คญั เนอื่ งจากเปน ผลติ ภณั ฑ ท่ีเกิดจากการรวมกลุมของคนในชุมชน ๒.๑ รปู แบบของการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถนิ่ โดยใชภูมิปญญาและทรัพยากรที่มีอยูใน โดยภาพรวมการผลิตสนิ ค้าและบริการในท้องถิ่นสรปุ ได้ ดงั นี้ ชุมชนมาผลิตเปนสินคาเพ่ือจําหนาย สามารถสรางรายไดใหกับคนในชุมชนได ๑) การผลติ ในครวั เรอื น เปน็ การผลติ ทคี่ นในครอบครวั เดยี วกนั ร่วมกนั ผลติ สินคา้ เปนอยา งดี) และบริการเพื่อเป็นรายได้ของครอบครัว สมาชิกในครอบครัวเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และเป็น เจ้าของปัจจัยการผลิตไปพร้อม ๆ กัน การผลิตในครัวเรือนอาจเป็นกิจการเล็ก ๆ เงินลงทุน ขนั้ สอน ไม่มาก การผลติ ไมซ่ ับซ้อน มีเป้าหมายส�าคญั คอื รายไดข้ องครอบครัว เช่น ขายขา้ วแกง เปิด รา้ นขายของชา� ทา� เครอื่ งจกั สาน ปลกู ผกั ผลไม้ ขนั้ ที่ 1 เตรยี มการอภปิ ราย ไว้รับประทานในครอบครัวและไว้ขาย เป็นต้น นอกจากน ้ี อาจทา� หนา้ ที่ในการรับจ้างการผลิต 1. ครูใหนักเรียนเลาถึงสินคาและบริการใน เชน่ รบั จา้ งเยบ็ เส้อื ผา้ โหล เปน็ ตน้ ทองถิ่นท่ีนักเรียนมีภูมิลําเนา หรือในทองถิ่น ท่ีสถานศกึ ษาตง้ั อยู ๒) การรวมกลมุ่ ในรปู แบบตา่ งๆ 2. ครูอธิบายเช่ือมโยงใหนักเรียนเขาใจวา การ ผลิตสินคาและบริการในทองถ่ินนั้นมีรูปแบบ ตางๆ เชน • การผลิตขนาดกลางและขนาดยอม หรือ SMEs การรวมกลุ่มผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น เปน็ การรวมกลมุ่ ของผปู้ ระกอบการทจี่ ะรว่ มกนั ผลิตสินค้าและบริการเพ่ือสร้างความเข้มแข็ง ในการผลิต สร้างอ�านาจต่อรองในตลาด เช่น การรวมกลุ่มกันของแม่บ้านในหมู่บ้านต่าง ๆ ผลติ ภณั ฑ์ OTOP เป็นผลงานจากการรวมกลุ่ม เพอ่ื ผลิต เพื่อผลิตสินค้าพ้ืนเมือง หรือผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าของคนในชุมชน สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับ คนในทอ้ งถิน่ ได้เปน็ อย่างดี ๑55 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู บคุ คลในขอ ใดประกอบอาชพี ตามรปู แบบของการผลติ ในครวั เรอื น 1 การวางงานตามฤดูกาล เปนลักษณะการวางงานที่มีสาเหตุมาจากปจจัย 1. สกุ ฤษณเปด ฟารมเล้ยี งเปด เพือ่ สง ออก ดานฤดูกาล เชน ผูท่ีเปนเกษตรกรจะวางงานในชวงฤดูแลง ซ่ึงตองรอจนกวา 2. สมโชคเปนพอ ครัวในรา นอาหารของเพอื่ น จะถึงฤดกู าลเพาะปลกู คร้ังตอไป จงึ สามารถทําการเพาะปลกู พชื ได โดยอาศยั 3. สุชาตริ ับทาํ อาหารกลอ งใหพ นักงานบริษทั นํ้าฝนในการทาํ เกษตรเปนหลกั 4. สมชายเปนตัวแทนจําหนา ยอาหารสัตวใ หแ กเกษตรกร 2 การรวมกลุมรูปแบบตางๆ การรวมกลุมของคนในทองถ่ินตางๆ มีหลาย รูปแบบ เชน กลมุ แมบานทอผา กลมุ ออมทรัพยข องหมบู าน มีวตั ถปุ ระสงคเพอื่ (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการผลิตในครัวเรือนเปน สรางความเขมแข็งทางเศรษฐกิจ สามารถชวยเหลือตนเองและคนในชุมชนได การผลิตที่สมาชิกในครอบครัวเดียวกันรวมกันผลิตสินคาและ ลดการพึง่ พาชุมชนภายนอก ทาํ ใหประชาชนมีความเปน อยูท ี่ดขี ้ึน บรกิ าร เพอื่ สรา งรายไดใ หแ กค รอบครวั โดยทส่ี มาชกิ ในครอบครวั เปน ทั้งผผู ลติ ผบู ริโภค และเปนเจา ของปจ จยั การผลิต นอกจากนี้ ส่ือ Digital อาจทาํ หนา ทเี่ ปน ผรู บั จา งการผลติ กไ็ ด เชน สชุ าตริ บั ทาํ อาหารกลอ ง ใหพนักงานบริษทั ) ศึกษาคนควาขอมูลเพมิ่ เตมิ เก่ียวกบั ผลิตภัณฑ OTOP ไดท ี่ http://www.thaitambon.com T171
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน วเชิส่นา หกกาิจรชรมุ วชมนก1 ลจมุ่ ดัทตองั้ ผร้าา้ พนน้ืคา้เมชอืมุ งชแนล ะเผปลน็ ติ ตภน้ ณั ฑ กจ์าารกรวผมา้ ใกนลภมุ่ าใคนตละกั วษนั ณออะนกส้ีเฉว่ ียนงใหเหญนจ่ ือะ นกา� าวรตั รถวดุ มบิ เปท็นม่ี ี ในทอ้ งถนิ่ มาท�าการแปรรูปเป็นสินค้า ท�าในช่วงว่างจากการท�านา ท�าไร่ เพ่ือเป็นรายได้เสริม ขัน้ ที่ 2 วางแผนปฏบิ ัติ ให้กับครอบครัว หรืออาจท�าเป็นอาชีพหลัก การรวมกลุ่มการผลิตในลักษณะนี้ ถ้ามีการบริหาร จดั การทดี่ ี มบี ุคลากรมาคอยใหค้ วามรู้ มกี ารนา� เทคโนโลยีมาใชใ้ นการผลติ และเขา้ รบั การอบรม 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุมศึกษาเรื่อง การผลิต หรอื ศกึ ษาดงู านการผลติ ในทอ้ งถน่ิ อนื่ ๆ เพอ่ื นา� มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการผลิตสนิ คา้ ของกลมุ่ มตี ลาดท่ี สนิ คา และบรกิ ารในทอ งถน่ิ โดยจบั คกู นั ศกึ ษา กวา้ งขวาง มแี หลง่ เงินทุน ได้รับการส่งเสรมิ จากรฐั กส็ ามารถพัฒนาเป็นสินคา้ ขายไดท้ ั่วประเทศ คูละ 1 หัวขอ หรือสง่ ออกได้ เชน่ สินคา้ หนึง่ ต�าบลหน่ึงผลิตภณั ฑ ์ (OTOP) ทร่ี ฐั มุง่ สง่ เสริมพัฒนาศกั ยภาพของ ผู้ผลิตในหลายด้าน ทั้งการสนับสนุนเงินทุน การอบรมให้ความรู้เพื่อการพัฒนาคุณภาพสินค้า 2. ครูแนะนําแหลง ขอมลู ทีน่ าเช่อื ถือใหก บั นกั เรียนเพ่ิมเติม และบรกิ๒า.ร๒ ก การาสรร้าผงลเคติ รอืขขนา่ ยาธดุรกกิจล ากงารแสลรา้ ะงขแบนรานดด์สยนิ อ คมา้ 2 ร(วSมถMงึ Eกาsร)ขยายโอกาสสู่ตลาดสากล ข้นั ที่ 3 ลงมือปฏบิ ัติ การประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (Small and Medium Enterprise: SMEs) เป็นกิจการที่ด�าเนินการเก่ียวกับการผลิตหรือบริการในชุมชน เป็นแหล่งรองรับการจ้างงาน 1. สมาชกิ แตล ะคสู บื คน ความรตู ามหวั ขอ ทไ่ี ดร บั ขนาดใหญ ่ มที งั้ กจิ การคา้ ปลกี และคา้ สง่ การผลติ สนิ คา้ การใหบ้ รกิ าร ซงึ่ เหมาะกบั แนวคดิ เศรษฐกจิ มอบหมาย พอเพยี ง คอื ขน้ั ท ี่ ๑ การผลติ แบบพง่ึ พาตนเอง ไมเ่ ปน็ หน้ ี มเี งนิ ออม เชน่ การผลิตอาหารจ�าหนา่ ย 2. สมาชกิ แตล ะคนผลดั กนั อธบิ ายผลงานของตน ขั้นท ี่ ๒ รวมตัวเป็นกลมุ่ เป็นสหกรณ์ องค์กรชุมชน เพอ่ื ช่วยเหลือกนั และกนั ทา� การผลิต ใหสมาชกิ กลุม อ่นื ฟง สนิ คา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ เชน่ การเกษตร หตั ถกรรม แปรรปู อาหาร ทา� ธรุ กจิ ปมั นา�้ มนั รา้ นคา้ ชมุ ชน จดั การท่องเท่ียว มีกองทุนชมุ ชน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขา ใจ ขัน้ ท ่ี ๓ เชอื่ มโยงกบั การทา� ธรุ กจิ โดยสรา้ งเครอื ขา่ ยวสิ าหกจิ รว่ มมอื กบั องคก์ รอนื่ ๆ ภายใน ประเทศ เชน่ บรษิ ทั ขนาดใหญ่ ธนาคาร สถาบนั วิจัย รวมถงึ การสง่ ออก 1. ครูนําสนทนาถึงผลิตภัณฑสินคาและบริการ ในทองถิ่นใกลเคียงโรงเรียน จากนั้นอภิปราย การดา� เนนิ ธรุ กจิ ทงั้ ๓ ขนั้ น ี้ เปน็ แนวทาง รว มกัน ส�าคัญท่ีจะช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs สามารถพัฒนาธุรกิจของตนไปได้อย่างย่ังยืน 2. ครูยกตัวอยางการประกอบธุรกิจขนาดกลาง สง่ ผลใหธ้ รุ กจิ มคี วามเตบิ โตอยา่ งตอ่ เนอื่ ง สนิ คา้ และขนาดยอมที่มีช่ือเสียง โดยใหนักเรียน และบรกิ ารมกี ารพฒั นาคณุ ภาพจนเปน็ ทย่ี อมรบั รว มกนั วเิ คราะหค วามเหมอื นและความแตกตา ง ของผบู้ รโิ ภค สามารถตอ่ ยอดสรา้ งสนิ คา้ ใหมใ่ ห้ ของลักษณะการประกอบธุรกจิ มีความหลากหลายตรงกับความต้องการของ ตลาด และน�าไปสู่การขยายช่องทางตลาดท้ัง 3. ครูใหนักเรียนวิเคราะหสถานการณ แนวโนม การผลติ เครอื่ งประดบั สง่ ออกเปน็ ตวั อยา่ งของธรุ กจิ ขนาด ภายในประเทศและตา่ งประเทศ ปญ หาของการผลติ ขนาดกลางและขนาดยอ ม ของทองถิ่นตางๆ เพ่ิมเตมิ กลางและขนาดย่อมของไทย ทส่ี ามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ๑56 ผูป้ ระกอบการ นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด แนวคิดการดําเนินธุรกิจประเภทสหกรณมีความสัมพันธกับ 1 วิสาหกิจชุมชน กลุมคนที่รวมตัวกันเพ่ือทําการผลิต การคา การบริการ หลักการพื้นฐานตามแนวปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอยางไร ในรปู แบบตางๆ ในทอ งถิ่น มกี ารบรหิ ารจัดการโดยสมาชิก เชน รานคาชมุ ชน กลุม นวดแผนโบราณ 1. ความมีเหตุผล 2. ความไมป ระมาท 2 การผลิตขนาดกลางและขนาดยอม ตาม พ.ร.บ. สงเสริมวิสาหกิจขนาด 3. ความพอประมาณ กลางและขนาดยอม พ.ศ. 2543 ไดแก กิจการที่ดําเนินงานเก่ียวกับการผลิต 4. การมีภูมคิ มุ กันในตวั ท่ดี ี หรือบริการ กิจการคาสง กิจการคาปลีก การจําแนกประเภทธุรกิจขนาดยอม (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 3. หลกั การสาํ คญั ของการดาํ เนนิ งาน และขนาดกลาง โดยใชมูลคาข้นั สูงของสนิ ทรัพยถาวร ไดแ ก สหกรณ คือ สมาชกิ เปน เจาของรว มกันภายใตห ลักประชาธิปไตย ดานการผลิต วิสาหกิจขนาดกลางไมเกิน 200 ลานบาท วิสาหกิจ ไมมุงแสวงหาผลกําไร และมีการแบงปนผลประโยชนอยางเปน ขนาดเล็กไมเกิน 50 ลา นบาท ธรรม เพอื่ แกป ญ หาในการประกอบอาชพี ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ ดา นการบรกิ าร วิสาหกิจขนาดกลางไมเกิน 200 ลานบาท วิสาหกิจ พอเพียง และยกระดับความเปนอยูใหดีข้ึน ซ่ึงสอดคลองกับ ขนาดเลก็ ไมเ กิน 50 ลานบาท ความพอประมาณตามแนวทางของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง) ดานการคา คา สง วิสาหกิจขนาดกลางไมเกิน 100 ลา นบาท วสิ าหกจิ ขนาดเล็กไมเ กิน 50 ลานบาท คา ปลกี วสิ าหกจิ ขนาดกลางไมเ กนิ 60 ลา นบาท วิสาหกิจ T172 ขนาดเล็กไมเ กนิ 30 ลานบาท
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒.๓ ปญ หาของการผลติ สินคา้ และบริการในท้องถนิ่ ขน้ั สอน การผลิตสินคา้ และบรกิ ารในทอ้ งถิ่นในปจั จบุ ันยังไม่ประสบความส�าเรจ็ เทา่ ท่คี วร การผลิต จ�ากดั อยู่ในทอ้ งถิน่ ของตนหรือท้องถน่ิ ใกล้เคียง เนอื่ งมาจากสาเหตตุ ่าง ๆ ดงั นี้ ข้ันท่ี 4 พฒั นาความรู ความเขา ใจ ๑) การขาดแคลนเงนิ ทนุ การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถนิ่ สว่ นใหญเ่ ปน็ กจิ การ 4. ครยู กตวั อยา งปญ หาการผลติ สนิ คา และบรกิ าร เเลนก็ื่อ งๆจ าทกีท่ ใา�นใกนาครรขวั อเรกอื ู้เนงิน หจารกอื เสปถ็นากบาันรกราวรมเกงลินุม่จะผตล้อิตงเลม็กีห ๆล ักมคเี�้างปนิ รทะนุกนันอ้ทยี่มแ่ันลคะงเ1ข ้าจไึงมไ่ถมงึ่สแาหมลาง่รเถงกนิ ู้เทงนุิน ตางๆ ภายในประเทศ แลวใหนักเรยี นรว มกัน มาขยายกจิ การไดม้ ากนกั ท�าใหธ้ ุรกิจไม่เตบิ โตเท่าทีค่ วร วเิ คราะหถ งึ สาเหตขุ องการเกดิ ปญ หาดงั กลา ว รวมถงึ เสนอแนะแนวทางการปอ งกนั และแกไ ข การผลิตสินคา้๒แ)ละกบารรกิ ขาารดในบทุค้อลงาถกิน่ รสทว่ นี่มใีคหวญาเ่มปร็นูคกวาารมผลสติ าแมบาบรดถง้ัใเนดกิมา เรปผน็ ลภิตูมแิปลญั ะญบาร2ทิห่สีาบืรจทัดอดกตาอ่ร ปญ หาเพิ่มเติม กันมาจากรนุ่ สรู่ นุ่ ไมไ่ ดน้ า� กรรมวธิ กี ารผลติ สมยั ใหม ่ ๆ มาใชม้ ากนกั ทา� ใหไ้ ดผ้ ลผลติ นอ้ ย ในขณะที่ ตอ้ งใชท้ รพั ยากรมาก และขาดการพฒั นาคณุ ภาพสินคา้ นอกจากน้ ี ในปัจจบุ นั สังคมไทยยังเผชิญ 5. ครตู งั้ ประเดน็ คาํ ถามเพอื่ ใหน กั เรยี นไดพ ฒั นา กบั ปญั หาการละเลยหรอื ทอดทงิ้ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ของบรรพบรุ ษุ ทา� ใหข้ าดบคุ คลทมี่ คี วามรคู้ วาม ความรูความเขา ใจเพิ่มมากขึน้ เชน สามารถในการผลิตสนิ คา้ และบริการในทอ้ งถิน่ • ปญหาการผลิตสินคาและบริการในทองถิ่น มกั มีสาเหตุมาจากปจ จัยใด และมแี นวทาง ๓) รานคาปลีกขนาดใหญ่เขามาเปดกิจการในทองถิ่น ซึ่งมีทั้งห้างค้าปลีก แกไขไดอ ยา งไร ขนาดใหญข่ องชาวตา่ งชาตแิ ละรา้ นสะดวกซอื้ ทเ่ี ปดิ บรกิ ารตลอด ๒๔ ชวั่ โมง หา้ งคา้ ปลกี ขนาดใหญ่ (แนวตอบ ปญหาการผลิตสินคาและบริการ เหลา่ นม้ี สี นิ คา้ และบรกิ ารใหเ้ ลอื กมากมาย ทง้ั สนิ คา้ ทผ่ี ลติ ในประเทศและสนิ คา้ นา� เขา้ จากตา่ งประเทศ ในทอ งถิน่ เชน การขาดแคลนแหลงเงินทุน มาวางขาย มกี ารจดั รา้ นสวยงาม ทนั สมยั มบี รกิ ารทด่ี ี มกี ารจดั วางสนิ คา้ แบง่ ออกเปน็ แผนกอยา่ ง สาเหตุมาจากการผลิตสวนใหญเปนกิจการ ชัดเจน ท�าให้คนในท้องถิ่นให้ความสนใจและ เลก็ ๆ ในครอบครัว ไมสามารถเขาถึงแหลง ใช้บรกิ ารกนั มาก เงินทุน เน่ืองจากไมมีหลักทรัพยคํ้าประกัน ในการขอสนิ เชอื่ จากสถาบนั การเงนิ แนวทาง ๔) มีการใชเทคโนโลยีในการ แกไข เชน สถาบันการเงินควรพิจารณา ผลิตนอย เทคโนโลยีมีประโยชน์ในการเพิ่ม สินเช่ือกับผูผลิตรายยอย และภาครัฐควร มีมาตรการชวยเหลือทางดานเงินทุนผาน สถาบนั การเงินตางๆ) ปริมาณการผลิต พัฒนาคุณภาพสนิ ค้า ช่วยลด ขนั้ ตอนการผลติ และการใชแ้ รงงานคน แตก่ ารผลติ ในทอ้ งถน่ิ ซงึ่ เปน็ ธรุ กจิ ขนาดเลก็ มเี งนิ ทนุ นอ้ ย ขาดแคลนบุคลากรท่ีมีความรู้ ความสามารถ ทางเทคโนโลย ี ประกอบกับเครื่องจักรต่าง ๆ มี ราคาแพง ท�าให้ผู้ผลิตรายย่อยในท้องถิ่นไม่มี เงินทุนเพียงพอท่ีจะซ้ือเคร่ืองจักรเหล่าน้ันมา ชว่ ยในการผลติ สินคา้ และบรกิ าร การจัดงานมหกรรม SMEs เป็นการส่งเสริมการตลาด ให้กบั ผปู้ ระกอบการและประชาชนทัว่ ไป ๑5๗ ขอ สอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู เพราะเหตใุ ดการผลติ สนิ คา และบรกิ ารในทอ งถนิ่ ตา งๆ จงึ ไม ครูควรใหนักเรียนไปสํารวจสินคาในทองถ่ิน เพื่อสอบถามปญหาของการ สามารถแกป ญ หาเศรษฐกจิ ของผคู นในทอ งถนิ่ ไดอ ยา งแทจ รงิ ผลิตสินคาและบริการที่แทจริงจากผูประกอบการ จากน้ันนําขอมูลจากการ สาํ รวจมาเขียนรายงานความยาวไมเกนิ 1 หนา กระดาษ A4 นําสงครูผสู อน (แนวตอบ การผลิตสินคาและบริการในทองถ่ินของไทยยังไม ประสบความสําเร็จเทาที่ควร ยังไมสามารถแกปญหาเศรษฐกิจ นักเรียนควรรู ของทอ งถิ่นไดอ ยา งแทจ รงิ สืบเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เชน การ ขาดแคลนเงนิ ทนุ ในการขยายกจิ การ เปน การผลิตแบบครอบครัว 1 หลักค้ําประกันท่ีม่ันคง ควรเปนหลักทรัพยท่ีมีมูลคาเทากับหรือสูงกวา ที่เปนกิจการเล็กๆ ไมไดสรางรายไดมากนัก ขาดบุคลากรที่มี ยอดเงินกู ซึง่ หลักทรพั ยท น่ี ิยมใชใ นการนาํ ไปคํ้าประกนั เงนิ กู เชน โฉนดทด่ี ิน ความรูความสามารถในการผลิต การบริหารจัดการ การหาชอง บา น หรือโรงงาน ทางการตลาด การใชเทคโนโลยีในการผลติ ทาํ ใหไ มสามารถขาย 2 ภูมิปญญา เปนความรู ความสามารถ ความเชื่อ ท่ีนําไปสูการปฏิบัติ แขงกับสินคาท่ีมาจากอุตสาหกรรมใหญที่มีการทําการตลาดแบบ เพ่ือแกไขปญหาของมนุษย จนเกิดเปนแบบแผนท่ีมีคุณคาในการดําเนินชีวิต สมัยใหมได รวมท้ังสินคาบางชนิดก็ยังแบงตลาดจากสินคาจีน โดยมกี ารถายทอดสบื ตอ กนั มาจากรุน สรู นุ ท่มี ีราคาถกู กวา ) T173
นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั สอน ๕) การแขง่ ขนั กบั สนิ คา จากประเทศอน่ื ทมี่ รี าคาถกู กวา่ ในยคุ ทต่ี ลาดสนิ คา้ โลก ขน้ั ท่ี 4 พฒั นาความรู ความเขา ใจ เปิดกว้างและมีการแข่งขันอย่างเสรี ท�าให้เกิดผู้ผลิตรายใหม่จากหลายประเทศท่ีมีต้นทุน การผลติ ตา่� สง่ ผลใหส้ นิ คา้ และบรกิ ารทข่ี ายมรี าคาถกู และมคี ณุ ภาพอยใู่ นระดบั ทผี่ บู้ รโิ ภคพงึ พอใจ 6. ครูนําสนทนาเกี่ยวกับบทบาทของภาครัฐที่มี สนิ คา้ ราคาถูกจากประเทศต่างๆ นจี้ ึงมีส่วนแบง่ ทางการตลาดคอ่ นขา้ งสูง เพราะไดร้ บั ความนยิ ม ตอการผลิตสินคาและบริการในทองถ่ิน แลว จากผบู้ รโิ ภคไปทัว่ โลก ใหน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ จากสภาพดังกล่าว ส่งผลให้สินค้าและบริการในท้องถ่ินของไทยได้รับผลกระทบ ในประเดน็ ปญ หาการผลติ สนิ คา และบรกิ ารใน เนื่องจากต้องแข่งขันทางด้านราคากับคู่แข่ง แม้ว่าคุณภาพสินค้าและบริการในท้องถ่ินไทยจะมี ทอ งถิน่ กับการจัดการของภาครัฐในปจจบุ นั คณุ ภาพสงู แตถ่ า้ หากมตี น้ ทนุ การผลติ สงู ราคาขายกย็ อ่ มสงู ตามไปดว้ ย การขยายโอกาสและการ แขง่ ขนั ทางการตลาดกไ็ มส่ ามารถทา� ไดอ้ ยา่ งเตม็ ประสทิ ธภิ าพ ซง่ึ ภาครฐั กม็ บี ทบาทในการเขา้ มา 7. ครูใหนักเรียนทําใบงานท่ี 8.2 เรื่อง รูปแบบ ชว่ ยแกไ้ ขปญั หานดี้ ว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ เชน่ การสนบั สนนุ ผปู้ ระกอบการใหส้ ามารถเขา้ ถงึ แหลง่ วตั ถดุ บิ การผลติ สนิ คาและบริการในทองถน่ิ ท่ีมีราคาต�่า การให้ความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจรวมถึงกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ซง่ึ จะชว่ ยลดตน้ ทนุ การผลติ ลงได ้ การสง่ เสรมิ ดา้ นเทคโนโลยที ที่ นั สมยั จะชว่ ยใหส้ นิ คา้ มมี าตรฐาน 8. ครูใหนักเรียนรวมกันทําแบบฝกสมรรถนะฯ เกดิ ความเสยี หายนอ้ ย นอกจากน ้ี รฐั ยงั ไดส้ ง่ เสรมิ ในการหาชอ่ งทางตลาดใหม ่ ๆ เพอื่ ขยายโอกาส เศรษฐศาสตร ม.2 เร่ือง การผลิตสินคาและ ในการขายสนิ คา้ กับประเทศต่าง ๆ ใหม้ ากข้ึน บรกิ ารในทอ งถน่ิ เรอ่ื งนา รู ขนั้ สรปุ หนึง่ ตําบลหน่ึงผลิตภณั ฑ (OTOP) ขนั้ ที่ 5 สรปุ หน่ึงตาํ บลหน่งึ ผลิตภณั ฑ เปน แนวทางการสราง ความเจริญแกชุมชน เพื่อความม่ันคงทางเศรษฐกิจ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ ของคนในชุมชนใหมีความเปนอยูท่ีดีขึ้น โดยการนํา การผลติ สินคา และบรกิ ารในทอ งถิ่น หรือใช PPT ทรัพยากรท่ีมีอยูในทองถิ่นมาผลิตเปนสินคาที่มี สรปุ สาระสาํ คญั ของเนอ้ื หา ตลอดจนความสาํ คญั คณุ ภาพ โดยการนาํ จดุ เดน ทเี่ ปน เอกลกั ษณข องชมุ ชน ตอ การดาํ เนินชีวิตประจาํ วัน สูความเปนสากล สอดคลองกับวัฒนธรรมในแตละ ทองถ่ินมาผลิตเปนช้ินงาน สามารถจําหนายไดท้ัง ขน้ั ประเมนิ ตลาดในทอ งถ่ิน ในประเทศ และตางประเทศ ผลติ ภัณฑจ าก OTOP จะตองมาจากกระบวนการคดิ ท่มี ีพื้นฐานมาจากภมู ิปญ ญา ประเพณี วัฒนธรรม 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม มาเปน จดุ เดน ทเ่ี ปน จดุ ขาย โดยรฐั ใหค วามชว ยเหลอื ดา นความรสู มยั ใหม การบรหิ าร การรว มกันทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน จดั การ การตลาด วางขายท้งั ในและตา งประเทศ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน ๑5๘ และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 แนวทางการวัดและประเมินผล ขอ สอบเนน การคดิ ขอ ใดเปน วตั ถปุ ระสงคห ลกั ของภาครฐั ในการสนบั สนนุ สง เสรมิ ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เรื่อง การผลิตสินคาและ สนิ คา OTOP บรกิ ารในทองถน่ิ ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรวมกันทาํ งาน และการนาํ เสนอ ผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมิน 1. เพอ่ื เปน การเพม่ิ รายไดใหก ับประเทศ การนาํ เสนอผลงานทแ่ี นบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรหู นว ยท่ี 8 เรอ่ื ง เศรษฐกจิ 2. เพอ่ื สรางความมน่ั คงทางเศรษฐกจิ ใหกับคนในชมุ ชน พอเพยี งกับการผลติ สินคาและบริการ 3. เพื่อตองการเพิ่มปริมาณสินคาสงออกของไทยสูตลาด แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ตางประเทศ 4. เพอ่ื เปลย่ี นคา นยิ มของคนไทยใหห นั มาบรโิ ภคสนิ คา ภายใน คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขดี ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ประเทศ (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เน่ืองจากการผลิตสินคา OTOP ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 เปนการนําทรัพยากรท่ีมีอยูในทองถิ่นมาผลิตเปนสินคาที่มี 32 คุณภาพ สามารถจัดจําหนายไดทั้งตลาดในทองถิ่น ในประเทศ และตางประเทศ ดังน้ัน วัตถุประสงคหลักของภาครัฐในการ 1 ความถกู ต้องของเน้ือหา สนับสนุนสินคา OTOP เพ่ือเปนแนวทางในการสรางความเจริญ 2 การลาดับข้ันตอนของเรื่อง ใหแกชุมชน และเพ่ือสรางความม่ันคงทางเศรษฐกิจของคน 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ ในชุมชนใหสามารถพ่ึงตนเองได และมคี วามเปนอยูที่ดีขนึ้ ) 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ T174 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓. การประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลติ ขน้ั นํา (วิธีสอนโดยการอภิปราย) สินค้าและบรกิ ารในท้องถน่ิ 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเร่ือง ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมเี ปา้ หมายทชี่ ดั เจน นนั่ คอื สรา้ งความมน่ั คงทางเศรษฐกจิ จดุ ประสงค และผลการเรยี นรู ใขนอทงค้อนงถใน่ินชมมุ าชบนรเิหพาอื่ รเจปัดน็ กพา้นืรใฐหา้มนีปขรอะงสกิทารธสิภราา้ พง คลวาดมกเาขรม้พแ่ึงขพง็ าใจหาก้ กบั ภชาุมยชนนอ ก1โ ดใยชน้หา� ลทักรทพั ายงาสการยทก่ีมลีอายงู่ ไมท่ า� อะไรเกนิ ตวั ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ นื่ รวมถงึ ดแู ลรกั ษาและใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ 2. ครูต้ังตําถามใหนักเรียนรวมกันแสดงความ สงิ่ แวดลอ้ ม ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ สามารถนา� หลกั การของปรชั ญาของเศรษฐกจิ คิดเห็นในประเด็น เชน พอเพียงมาประยกุ ตใ์ ช้ได ้ ดังน้ี • นักเรียนมีวิธีการนําหลักการของเศรษฐกิจ พอเพียงไปประยกุ ตใชใ นการดําเนนิ ชวี ติ ได ๓.๑ ความพอประมาณ อยางไร ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารจะตอ้ งคา� นงึ ถงึ ปจั จยั ภายใน เชน่ ความรคู้ วามสามารถของตนเอง ขน้ั สอน คนในครอบครัว ความสามารถในการผลติ เขา้ สูต่ ลาด เงินทนุ ท่ีจะใช้ตอ้ งมกี ารบรหิ ารจัดการอย่าง ระมัดระวังและรัดกุม หรือถ้าหากต้องมีการพ่ึงพาเงินทุนจากสถาบันการเงินก็ให้กู้เงินแต่ ขน้ั ที่ 1 เตรียมการอภปิ ราย พอประมาณ สามารถชา� ระคนื ได ้ โดยทกี่ ารผลติ สนิ คา้ ยงั มกี า� ไร หรอื ในการขยายธรุ กจิ จะตอ้ งแบบ ค่อยเปน็ คอ่ ยไปอย่างมัน่ คง ไมท่ �าอะไรเกินตัว และค�านึงถงึ ปัจจัยภายนอก เชน่ ความยากง่าย 1. ครถู ามนักเรียนถงึ ความเขา ใจเบ้ืองตน ในการแข่งขันเข้าสู่ตลาด ความต้องการสินค้าของผู้ซ้ือ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศว่าเหมาะแก่ 2. ครูใหนักเรียนแบงกลุม สืบคนขอมูลเก่ียวกับ การลงทนุ หรอื ไม ่ ศกั ยภาพของคแู่ ขง่ เปน็ อยา่ งไร เปน็ ตน้ เพอื่ ทผ่ี ผู้ ลติ จะไดว้ างแผนการผลติ อยา่ ง รัดกุมและพัฒนาสินคา้ อย่างตอ่ เนอื่ ง การประยุกตใชปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการผลิตสินคาและบรกิ ารในทองถ่นิ ๓.๒ ความมเี หตผุ ล ขนั้ ท่ี 2 ดําเนินการอภิปราย ในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารจะตอ้ งพิจารณาถงึ เหตผุ ลต่าง ๆ ประกอบกัน เชน่ เหตผุ ลตาม หลักวิชาการ วา่ มคี วามร้เู ก่ยี วกับวธิ กี ารผลิตสินคา้ น้นั มากน้อยแค่ไหน ผลติ แลว้ ได้กา� ไรพอเลีย้ ง 1. สมาชิกในกลมุ นําขอ มูลมาแลกเปลย่ี นกัน ครอบครัวหรือไม่ มตี ลาดรองรับสินคา้ มากนอ้ ยแค่ไหน สินค้ามคี วามยั่งยืนหรือไม่ เหตุผลในการ 2. จากน้นั สมาชิกในกลมุ ชว ยกนั คดั เลือกขอ มลู ด�ารงชีวิต ว่าสินค้านั้นมีความจ�าเป็นต่อการด�ารงชีวิตมากน้อยเพียงใด สงวนรักษาอาชีพของ 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล คนไทยไวห้ รอื ไม ่ เหตผุ ลทางดา้ นวฒั นธรรม วา่ การผลติ สนิ คา้ นนั้ ขดั ตอ่ ประเพณ ี วฒั นธรรม ศลี ธรรม วิถีชีวิตทด่ี ีงามของคนในท้องถิ่นหรอื ไม่ เหตผุ ลทางกฎหมาย ว่าขัดตอ่ กฎหมายหรือไม ่ เปน็ ตน้ อภปิ ราย และแสดงความคิดเหน็ รว มกัน ถา้ หากพจิ ารณาเหตผุ ลตา่ ง ๆ แลว้ เมอื่ ผผู้ ลติ มคี วามพรอ้ มจงึ จะทา� การผลติ สนิ คา้ โดยความรว่ มมอื 4. ครูยกตัวอยางสินคาและบริการในทองถ่ิน ร ว่ มคิด๓ ร.ว่ ๓ม ทม�า ภี ขมูองคิ สมุ้มากชนักิ 2ใในนครตัวัวเรทอื นด่ี ีเพอ่ื เพ่ิมรายได้และท�างานอย่างมคี วามสขุ บริเวณชุมชนรอบโรงเรียน แลวใหนักเรียน รว มกนั วเิ คราะหถ งึ การนาํ หลกั การของปรชั ญา ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วซ่ึงมีสาเหตุมาจากทั้งในประเทศ ของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ ช และต่างประเทศ สาเหตุจากภายในประเทศ เชน่ ความไม่ม่ันคงทางด้านการเมือง ทา� ให้นกั ธรุ กิจ ไม่กล้าลงทุน หรือไม่ขยายการผลิต มีการจ้างงานน้อยลง ท�าให้ประชาชนที่อยู่ในภาคแรงงาน ๑59 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู การตัดสินใจไมเพิ่มปริมาณการผลิตสินคาทั้งที่เปนท่ีตองการ 1 ลดการพ่ึงพาจากภายนอก ในการผลิตสินคาและบริการจําเปนตองพ่ึงพา ของตลาดมาก เนอื่ งจากความสามารถในการผลิตต่ํา เปน การนาํ ทางดานเทคโนโลยกี ารผลิต เงนิ ทุน บคุ ลากรจากภายนอก ซงึ่ การลดการพึง่ พา ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในขอ ใดมาประยุกตใ ช จากภายนอกในที่น้ีไมใชไมพ่ึงพาเลย แตทั้งน้ีตองพ่ึงพาตัวเองใหไดกอน เชน ในการพึ่งพาสถาบันการเงินเพื่อนําเงินมาขยายการลงทุน จะตองกูเงินมาพอ (แนวตอบ การตัดสินใจไมเพิ่มปริมาณการผลิตสินคาทั้งท่ี ประมาณ สามารถชาํ ระคนื ไดต ามกาํ หนดเวลา โดยทธ่ี รุ กจิ ยงั สามารถทาํ กาํ ไรได เปนที่ตองการของตลาดมาก เนื่องจากความสามารถในการ 2 ภมู คิ มุ กนั การสรา งภมู คิ มุ กนั ในตวั เชน ในการผลติ สนิ คา และการจาํ หนา ย ผลิตต่ํา เปนการประมาณตนเองในการผลิตสินคา ไมทําอะไรท่ี จะตองรูจักการปรับตัว สรางความยืดหยุนท้ังในดานการผลิตเพ่ือตอบสนอง เกินตัวหรือเกินกวาศักยภาพท่ีตนเองมี จึงถือวาการตัดสินใจ ความตอ งการของตลาด ตอ งสรา งและปรบั ตวั ใหส ามารถแขง ขนั ไดใ นระดบั หนง่ึ ดังกลาวเปนการนําปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในหัวขอ เพื่อเปนภมู ิคมุ กนั ที่ดใี หกับกลุม ผผู ลติ ความพอประมาณมาประยุกตใชในการดําเนินธุรกจิ ) T175
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน สมว่ีรนาย สไดาเ้นห้อตยมุ ลางจ าอก�าภนาายจนซอ้ือกจ ึงเชลน่ด ลกงา รสข่งยผาลยกตรวั ะขทอบงหตา้่องกคาา้ รปผลลกี ิตขในนชาดุมใชหนญ 1ท่ ทเ่ี ข�าใา้ หม้ขาาเปยดิขกอจิงกไดา้นร ้อทยา� ลใหง้ คนในชมุ ชนซอ้ื สนิ คา้ จากหา้ งดงั กลา่ ว สง่ ผลกระทบตอ่ การขายสนิ คา้ ของชมุ ชน ดงั นนั้ ผปู้ ระกอบการ ข้นั ที่ 2 ดาํ เนินการอภปิ ราย จะตอ้ งมกี ารบรหิ ารความเสย่ี ง มกี ารวางแผนการเตบิ โตของกจิ การอยา่ งระมดั ระวงั เสาะแสวงหา ชอ่ งทางการกระจายสินค้าใหม่ ๆ มีการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต และหาแนวทางในการเพ่ิมมูลค่า 5. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั ให้กบั สินค้าอยเู่ สมอ ความรอบรู รอบคอบ และระมัดระวังในการ การผลิตสินคาของผูผลิตและบุคลากรใน ๓.๔ ความรอบรู้ หนว ยงานตางๆ เพ่มิ เตมิ ผผู้ ลติ และบคุ ลากรจะตอ้ งมคี วามรอบร ู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั ในการผลติ สนิ คา้ กลา่ วคอื 6. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเพ่ิมเติมถึง มีความรอบรู้ เช่น รู้กรรมวธิ กี ารผลิต แหล่งวตั ถดุ ิบ ช่องทางการตลาด การประชาสัมพันธ์ ศกึ ษา แนวทางการประยุกตใชเศรษฐกิจพอเพียง คู่แข่ง รู้สถานการณ์บ้านเมือง มีการเข้ารับการศึกษาอบรมจากหน่วยงานต่าง ๆ เรียนรู้การ ในการผลิตสินคาและบริการในทองถ่ินหรือ ใช้เทคโนโลยี เพื่อจะได้น�ามาวางแผนการผลิตได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับก�าลังการผลิต ในชมุ ชนของนักเรียน โดยครแู นะนําเพมิ่ เติม มีความรอบคอบ ในการผลิตและการขยายการผลิต โดยการศกึ ษาขอ้ มลู ขอค�าปรึกษาจากองค์กร หนว่ ยงานต่าง ๆ หรอื มผี ูร้ มู้ าแนะน�า เพอื่ การขยายธุรกจิ ไดอ้ ย่างม่ันคง มีความระมดั ระวัง ในการ วางแผนการผลติ การบรหิ ารทนุ ไมล่ งทนุ เกนิ ตวั ไมเ่ ปน็ หน ี้ หรอื หากตอ้ งกเู้ งนิ จากสถาบนั การเงนิ กต็ ้องสามารถชดเชยหน้ีได ้ โดยท่ธี ุรกจิ ไม่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น ๓.5 คณุ ธรรม คุณธรรมของผู้ผลิตสินค้าที่ส�าคัญ เช่น ค�านึงถึงคุณภาพของสินค้า ความปลอดภัยของ ผบู้ รโิ ภค ราคาไมแ่ พงเกนิ ไป ไมเ่ อารดั เอาเปรยี บผบู้ รโิ ภค รกั ษาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ชว่ ยเหลอื ชมุ ชนตามความเหมาะสม และมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม เชน่ ไมผ่ ลติ สนิ คา้ ทมี่ อมเมา เยาวชน หรือสินค้านั้นไม่เป็นอันตรายต่อสมาชิกในชุมชนหรือมีผลกระทบต่อชุมชนในระยะยาว ให้ความส�าคัญกับการพัฒนาคนเพ่ือให้การท�างานมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีคุณธรรมกับผู้ร่วมงานด้วยการบริหารคนอย่างยุติธรรม ให้การส่งเสริมแรงงานในการเข้ารับ การศึกษาอบรมเพ่ือน�าความรู้มาพัฒนางาน ค�านึงถึงคุณภาพการด�าเนินชีวิต ให้ค่าตอบแทนท่ี เหมาะสมตามความรูค้ วามสามารถอย่างเท่าเทียมกัน จะท�าให้บุคลากรมกี า� ลังใจในการทา� งานได้ เต็มความสามารถ และทา� งานอย่างมีความสุข การนา� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ จะท�าให้ผผู้ ลติ หรือผปู้ ระกอบการมคี วามระมดั ระวงั ในการผลิตสินคา้ และบรกิ ารมากขนึ้ มีการ ขยายกจิ การและพฒั นาการผลติ อยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไปอยา่ งมนั่ คง สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ ของชมุ ชน มีความเขม้ แขง็ พง่ึ พาตนเองได ้ และคนในชุมชนมคี วามเปน็ อยูท่ ่ดี ี ๑60 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ ขอ ใดกลา วถกู ตอ งเกย่ี วกบั การประยกุ ตใ ชป รชั ญาของเศรษฐกจิ 1 การขยายตัวของหางคาปลีกขนาดใหญ หางคาปลีกขนาดใหญท่ีมีการ พอเพียงในกลุม นกั ธุรกิจ รวมทุนกับตางชาติ และเปนของตางชาติท้ังหมด มักจะมีสินคาและบริการท่ี ทันสมัย มีความหลากหลายและสะดวกสบาย จึงทําใหมีลูกคาใชบริการมาก 1. รบั ผดิ ชอบตอตนเอง ลกู จาง และคูแขง ทางการคา เทาน้นั ซง่ึ สง ผลกระทบกบั รา นคา ปลกี ขนาดเลก็ จนบางแหง ตอ งปด กจิ การหรอื ลดขนาด 2. ศกึ ษาขอ มลู ขา วสารอยตู ลอดเวลาเพอื่ ใหส ามารถเอาเปรยี บ รา นคา ใหเลก็ ลง คูแขงทางการคา บูรณาการอาเซียน 3. คํานึงถึงการแสวงหาผลประโยชนระยะส้ันมากกวาความ โดยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ไดนอมนํา มน่ั คงของการดําเนนิ ธุรกจิ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเปนพ้ืนฐานของแผนพัฒนาฯ เพ่ือชวยทําให 4. ปรบั ปรงุ คณุ ภาพสนิ คา ใหท นั กบั ความตอ งการของตลาดและ ประเทศไทยมีความพรอมในการเขาสูประชาคมอาเซียนไดอยางรูเทาทัน และมีภูมิคมุ กนั ตอการเปล่ียนแปลงทีจ่ ะเกดิ ขน้ึ การเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยี (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะถือเปนการมีความรอบรู T176 ในเร่ืองการผลิตสินคาและชองทางการตลาด ซ่ึงความรอบรู เปนเงื่อนไขหน่ึงของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สวนตัวเลือก อน่ื ๆ ไมม คี วามสอดคลองกบั หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง)
นาํ สอน สรุป ประเมิน เสริมสาระ ขน้ั สอน ชมุ ชนไมเ รยี ง จงั หวดั นครศรธี รรมราช ขนั้ ที่ 2 ดําเนินการอภิปราย ชมุ ชนตน แบบในการนาํ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชในการผลติ สนิ คา และบรกิ าร 7. ครนู าํ สนทนาถงึ เสรมิ สาระ เรอื่ ง ชมุ ชนไมเ รยี ง จังหวัดนครศรีธรรมราช แลวใหนักเรียน ชุมชนไม้เรียงเป็นตัวอย่างของการพัฒนา อภิปรายเช่ือมโยงกับการประยุกตใชปรัชญา ชุมชนอย่างมีแบบแผน อยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินคาและ และความรทู้ นี่ า� ไปสกู่ ารปฏบิ ตั จิ นเกดิ ปญั ญา พง่ึ พา บรกิ ารในทอ งถ่ิน ตนเองไดอ้ ย่างมัน่ คง จากปญั หาเศรษฐกจิ รายไดข้ องคนในทอ้ งถนิ่ ข้ันที่ 3 สรปุ การอภิปราย ขึ้นอยู่กับยางพาราเพียงอย่างเดียว ไม่มีความ มั่นคงทางอาชีพ เพราะผลผลิตข้ึนอยู่กับสภาพ 1. ครูสุมตวั แทนกลมุ แตล ะกลุม เพอื่ ออกมาสรุป ดินฟ้าอากาศ ราคายางพาราขึ้นอยู่กับตลาดโลก สาระสําคญั ของการอภิปราย ความมั่นคงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐ เกษตรกร ไม่สามารถก�าหนดทิศทางอนาคตของตนเองได ้ 2. นกั เรียนรว มกันทําใบงานที่ 8.3 ผู้น�าชาวบ้านจึงได้ขอความร่วมมือจากเกษตรกร ประยงค์ รณรงค์ ผู้น�าชุมชน เจ้าของรางวัลแมกไซไซ 3. ครใู หน กั เรยี นทาํ กจิ กรรมเกยี่ วกบั การประยกุ ต ในจังหวัดจัดท�าแผนพัฒนายางพาราขึ้นเป็น พ.ศ. ๒๕๔๗ ใชเ ศรษฐกจิ พอเพยี งในการผลติ สนิ คา และบรกิ าร แผนแมบ่ ท ทา� การศกึ ษาวจิ ยั เพอ่ื หาแนวทางแกป้ ญั หาแบบบรู ณาการ จดั ตงั้ เครอื ขา่ ยยางพารา ระดมทนุ ในทอ งถนิ่ ในแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร จากชาวบ้านสรา้ งโรงงานแปรรูปยางขนาดเลก็ ของชมุ ชนผลิตส่งขายตา่ งประเทศ ม.2 นอกจากนนั้ ไดท้ า� แผนแมบ่ ทชมุ ชนเพอื่ พฒั นาชมุ ชนอยา่ งครบวงจร นา� ไปสกู่ ารพฒั นาเศรษฐกจิ ชุมชน ลดการพึ่งพาจากตลาดภายนอก จดั ระเบียบการผลติ การบรโิ ภค การตลาด การแปรรูป จึงไดม้ ี ขน้ั สรปุ การจัดทา� หลกั สูตรการพัฒนาอาชีพ สร้างอาชีพเสริมซ่งึ น�าหลกั การของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มาใช้ เช่น การปลูกพืชผักปลอดสารพิษ เลี้ยงปลาน้�าจืด แปรรูปข้าว แพทย์แผนไทยและสมุนไพร 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู หรอื ใช PPT เพื่อสุขภาพ ท�าให้ชุมชนมีความเข้มแข็งข้ึน คนมีความสุข พออยู่พอกิน กลายเป็นชุมชนต้นแบบท่ี สรุปสาระสาํ คญั ของเน้อื หา พฒั นาท้งั ดา้ นความรู้ เศรษฐกิจ และคณุ ภาพชวี ิตของคนในชมุ ชน 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การจดั ทาํ ปา ยนเิ ทศ เรอ่ื ง เศรษฐกจิ พอเพียงกบั การผลิตสินคาและบริการ 3. ครูใหน ักเรยี นทําแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพียงกบั การผลติ สนิ คา และ บรกิ าร เพ่ือทดสอบความรูที่ไดศึกษามา การท�าสวนยางพาราเปน็ อาชพี หลกั ของคนในชุมชน เยาวชนไดร้ บั ความรู้เก่ยี วกบั ชุมชน ขนั้ ประเมนิ ๑6๑ 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การทํางาน และการนาํ เสนอผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 3. ครใู หนกั เรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนว ยการเรียนรูท่ี 8 กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล ใหนักเรียนสืบคนขาวหรือบทความที่เก่ียวกับชุมชนเศรษฐกิจ ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอื้ หา เรอื่ ง การประยกุ ตใ ชป รชั ญา พอเพียงจากแหลงการเรียนรูตางๆ เชน เว็บไซต หนังสือพิมพ ของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินคาและบริการในทองถิ่น ไดจากการตอบ หรือวารสารตางๆ มาคนละ 1 บทความ จากน้ันใหนักเรียน คําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษา เขียนวิเคราะหบทความในประเด็น การนําหลักการของปรัชญา เกณฑก ารวดั และประเมนิ ผลจากแบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงานทแ่ี นบมาทา ย ของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใชกับชุมชน ความยาว 1 หนา แผนการจดั การเรยี นรหู นว ยที่ 8 เรอื่ ง เศรษฐกิจพอเพียงกบั การผลติ สินคา และ กระดาษ A4 บรกิ าร แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ต้องของเนือ้ หา 2 การลาดับขน้ั ตอนของเร่ือง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางสว่ น เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ T177
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คาํ ถามประจําหนวยการเรยี นรู คÓถาม ประจÓหน่วยการเรยี นรู้ ๑. หลักการและเป้าหมายของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมีอะไรบ้าง 1. หลักการสําคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจ ๒. ปัญหาในการผลติ สนิ คา้ และบริการในทอ้ งถ่นิ ของไทยมีอะไรบา้ ง พอเพียง ไดแก ความพอประมาณ ความมี ๓. เพราะเหตุใดการผลติ สินค้าและบริการในทอ้ งถ่ินของไทยจงึ ไม่คอ่ ยมีการพฒั นาเทา่ ท่คี วร เหตุผล และมีภูมิคุมกันในตัวที่ดี โดยข้ึนอยู ๔. ผผู้ ลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ สามารถนา� หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชไ้ ดอ้ ยา่ งไร กบั เงอื่ นไขความรแู ละเงอ่ื นไขคณุ ธรรม ซงึ่ จะนาํ ๕. ใหน้ กั เรยี นเสนอแนะแนวทางการพฒั นาการผลติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑ วธิ ี ไปสูเปาหมาย คือ การใชชีวิตแบบพอเพียง บนพน้ื ฐานของการรจู กั ตนเอง สามารถพ่งึ พา กจิ กรรม สร้างสรรค์พัฒนาการเรยี นรู้ ตนเองได กิจกรรมที่ ๑ นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ไปสา� รวจกจิ กรรมการผลิตสินค้าและบรกิ ารในทอ้ งถนิ่ และให้ 2. เชน การขาดแคลนเงินทุน การขาดบุคลากร ที่มีความรูความสามารถในการผลิตและการ ยกตัวอย่างการผลิตสนิ ค้าและบรกิ าร ๑ ชนดิ แลว้ สรปุ สาระส�าคญั ในประเด็น บริหารจัดการ มีการใชเทคโนโลยีในการผลิต ตวั อย่างทีก่ �าหนดให ้ น�ามาเสนอในชั้นเรยี น นอ ย และชอ งทางการตลาดมีนอ ย • ปัจจัยสา� คญั ท่ที า� ให้มกี ารผลติ สินคา้ และบรกิ าร • กระบวนการผลิต 3. เพราะเกดิ จากหลายสาเหตุ เชน ผปู ระกอบการ • การน�าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการผลิตสินค้าและบรกิ าร เขาถึงแหลงเงินทุนไดยาก จงึ ทาํ ใหขาดแคลน • ปัญหาการผลิตสนิ คา้ และบริการในท้องถ่ิน เงินทุนในการนําเขาเทคโนโลยีการผลิตท่ี • แนวทางการพฒั นาการผลติ ทนั สมยั และมปี ระสทิ ธภิ าพจากตางประเทศ กิจกรรมท่ี ๒ นักเรียนสืบค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้หรือข้อมูลจากในท้องถิ่นของตนเอง 4. เชน การลงทนุ ตา งๆ ในการผลติ สนิ คา ตอ งทาํ อยางพอประมาณ หรือไมเกินตัว วางแผน เก่ียวกับชุมชนต้นแบบของการผลิตสินค้าและบริการ พร้อมยกตัวอย่าง การดําเนินธุรกิจอยางรอบคอบและมีเหตุผล ชุมชนต้นแบบ ๑ ชุมชน สรุปความรู้ลงในกระดาษ A๔ น�ามาอภิปรายใน มกี ารจดั สรรเงนิ ลงทนุ หรอื ทดี่ นิ สาํ หรบั ดาํ เนนิ ชน้ั เรยี น กิจกรรมทางเศรษฐกิจอยางเปนระบบ และ มีการจัดการส่ิงแวดลอมที่ดีเพื่อใหสามารถ ๑6๒ นําทรัพยากรธรรมชาตมิ าใชไ ดอยา งยง่ั ยืน 5. แนวทางการพัฒนาการผลิตตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง เชน การพัฒนาการ ผลิตทางการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม โดย เนนการบริหารและแบงที่ดินออกเปนสัดสวน ในสว นแรก ใชข ดุ สระกกั เกบ็ นาํ้ เพอื่ ใหส ามารถ เพาะปลูกพืชในฤดูแลงและเลี้ยงสัตวนํ้าตางๆ สวนท่ีสอง ใชปลูกขาวเพื่อเปนอาหาร หาก เหลือจึงนาํ ไปขายเพือ่ ลดคา ใชจ าย สว นทสี่ าม ใชปลกู ไมผ ล ไมยนื ตน พชื ผกั พชื ไร เพือ่ ใช เปน อาหาร หากเหลอื จงึ นาํ ไปขาย และสว นทส่ี ่ี ใชสาํ หรบั สรางที่อยอู าศัย ซ่ึงการผลิตทางการ เกษตรรูปแบบนี้ เกษตรกรสามารถลดคาใช จายและพงึ่ พาตนเองได เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเร่ืองตางๆ โดยทั่วไป ซ่ึงเปน งานหรือช้นิ งานทีใ่ ชเวลาไมนาน สําหรับการประเมินรูปแบบนี้อาจเปน คาํ ถามปลายเปดหรอื ผงั มโนทัศน นยิ มสําหรบั ประเมนิ ผเู รียนรายบคุ คล ประเมนิ ความสามารถ • ใชใ นการประเมนิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต และความ สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือชิ้นงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต ประจําวัน อันมีความเกี่ยวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรที่มีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน จากการสังเกต การเขียน การตอบคาํ ถาม การวเิ คราะห การแกปญ หา ตลอดจนการทํางานรว มกนั ประเมนิ ทักษะ • ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมท่ีตองมีความเกี่ยวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความซับซอน และกอ เกิดเปนความชาํ นาญในการนาํ มาเปนแนวทางปฏิบตั ิจรงิ ในชวี ติ ประจาํ วันอยางยัง่ ยนื เชน ทกั ษะในการสอ่ื สาร ทกั ษะในการแกปญหา ทักษะ ชีวติ ในดานตางๆ โดยอาจมีการนําเสนอผลการปฏิบัติงานตอผูเก่ยี วขอ ง หรือตอสาธารณะ สง่ิ ทตี่ อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผ่ี เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทตี่ อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน T178
Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อนั พึงประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนงั สอื เรียน 1. อ ธิบายแนวทางการ การจัดการ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - ทักษะการ 1. มวี นิ ัย สทิ ธิผู้บริโภค สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 รกั ษาและคมุ้ ครองสทิ ธิ เรียนรแู้ บบ - ต รวจการท�ำแบบฝกึ วเิ คราะห์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ - แบบฝกึ สมรรถนะ ประโยชนข์ องผ้บู ริโภค รว่ มมอื : สมรรถนะและการคิด - ทักษะการสรา้ ง 3. มงุ่ มน่ั ในการ 1 และการคดิ ได้ (K) เทคนิคคู่คดิ เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความรู้ - ตรวจใบงานท่ี 9.1 ทำ� งาน ชว่ั โมง เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. จ�ำแนกการรักษาและ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - แบบทดสอบก่อนเรียน คุ้มครองสทิ ธปิ ระโยชน์ - สังเกตพฤติกรรม - PowerPoint ของผู้บริโภคได้ (P) การท�ำงานรายบุคคล - ใบงานท่ี 9.1 3. เห็นความสำ� คญั ของ - สังเกตพฤติกรรม การรกั ษาและคุ้มครอง การท�ำงานกลมุ่ สิทธปิ ระโยชนข์ อง - ประเมนิ คุณลักษณะ ผูบ้ ริโภคทมี่ ผี ลตอ่ อนั พึงประสงค์ ระบบเศรษฐกจิ และ การดำ� เนนิ ชีวติ ประจำ� วันเพิ่มมากขึ้น (A) แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรยี น 1. วเิ คราะหค์ วามสำ� คญั ของ สืบเสาะ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ทกั ษะการ 1. มีวนิ ัย กฎหมาย สังคมศกึ ษาฯ ม.2 กฎหมายคุ้มครองสิทธิ หาความรู้ - ต รวจการท�ำแบบฝกึ วเิ คราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้ คุม้ ครอง - แบบฝกึ สมรรถนะ ผูบ้ รโิ ภคได้ (K) (5Es สมรรถนะและการคดิ - ทกั ษะการสร้าง 3. ม่งุ มั่นในการ ผบู้ รโิ ภค และการคิด 2. จำ� แนกกฎหมายคมุ้ ครอง Instructional เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความรู้ ทำ� งาน 1 เศรษฐศาสตร์ ม.2 สิทธผิ บู้ ริโภคได้ (P) Model) - ตรวจใบงานท่ี 9.2 - แบบทดสอบกอ่ นเรียน 3. เห็นความส�ำคัญของ - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน ชวั่ โมง - PowerPoint กฎหมายคุ้มครองสิทธิ - สังเกตพฤติกรรม - ใบงานท่ี 9.2 ผบู้ รโิ ภค ทม่ี ผี ลตอ่ ระบบ การท�ำงานรายบคุ คล เศรษฐกจิ และการดำ� เนนิ - สังเกตพฤตกิ รรม ชีวิตประจำ� วนั เพม่ิ การท�ำงานกลุม่ มากขึน้ (A) - ป ระเมนิ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ T179
แผนการจดั ส่อื ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธีสอน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ การเรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ แผนฯ ที่ 3 หน่วยงาน - หนังสอื เรยี น 1. วเิ คราะหบ์ ทบาทส�ำคัญ การอภิปราย - ต รวจการท�ำแบบฝกึ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1. มีวนิ ยั และแนวทาง สังคมศกึ ษาฯ ม.2 ของหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สมรรถนะและการคดิ - ทักษะการน�ำ 2. ใฝ่เรยี นรู้ การปกป้อง - แบบฝกึ สมรรถนะ กบั การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความร้ไู ปใช้ 3. มุ่งม่ันในการ คุ้มครอง และการคิด ได้ (K) - ต รวจการท�ำแบบวดั และ - กระกระบวนการ ทำ� งาน ผ้บู รโิ ภค เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. น�ำเสนอแนวทางการ บนั ทึกผลการเรยี นรู้ คิดตัดสินใจ - แบบทดสอบก่อนเรียน ปกป้องคมุ้ ครอง เศรษฐศาสตร์ ม.2 1 - PowerPoint ผู้บริโภคได้ (P) - ตรวจใบงานที่ 9.3 - ใบงานท่ี 9.3 3. เหน็ ความสำ� คัญของ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน ชวั่ โมง การปกปอ้ งคมุ้ ครอง - สังเกตพฤติกรรม ผู้บรโิ ภคที่มผี ลต่อ การท�ำงานรายบคุ คล ระบบเศรษฐกิจและ - สังเกตพฤติกรรม การด�ำเนนิ ชีวติ การท�ำงานกลุม่ ประจำ� วนั เพม่ิ มากขึน้ - ประเมนิ คณุ ลักษณะ (A) อันพงึ ประสงค์ - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น T180
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๙ การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคหนว่ ยการเรยี นรทู ่ี àÃÒ¤Çû¯ÔºÑµÔµ¹ ขน้ั นาํ (วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู Í‹ҧäà แบบรว มมอื : เทคนคิ คคู ดิ ) à¾×èͤ،Á¤ÃͧÊÔ·¸Ô ¢Í§µ¹àͧ㹰ҹР1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอ่ื เรอื่ งทจ่ี ะ เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู ?¼ÙŒºÃÔâÀ¤ 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย ในการเลือกซื้อสนิ ค้าและบรกิ ารท่ีมีอยูม่ ากมายในปจั จบุ ัน ผบู้ ริโภคจะตอ้ งมคี วามรู้ ความ การเรยี นรูท่ี 9 เร่ือง การคมุ ครองผบู ริโภค เขา้ ใจ และตดั สนิ ใจเลอื กซอื้ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งชาญฉลาด ซง่ึ ในปจั จบุ นั ธรุ กจิ มกี ารแขง่ ขนั กนั สงู ท�าให้ผู้ผลิต ผู้ขายบางรายพยายามหาช่องทางขายสินค้าและบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการ 3. ครูนําขาวที่เก่ียวของกับการใชสินคาและ โฆษณาชวนเชอื่ โดยไมค่ า� นงึ ถงึ ความปลอดภยั และสวสั ดภิ าพของผบู้ รโิ ภค ดงั นน้ั รฐั บาลจงึ เขา้ มา บริการท่ีไมไดมาตรฐาน และไมไดรับการ มีบทบาทสา� คัญในการควบคมุ ตรวจสอบคุณภาพสนิ ค้า เพือ่ ให้ผู้บริโภคมีสทิ ธิไดร้ บั ความคมุ้ ครอง รับรองจากหนวยงานคุมครองผูบริโภค ทําให ตามกฎหมาย แต่ทั้งน้ีผู้บริโภคเองก็จะต้องตระหนักและรักษาในสิทธิผู้บริโภคของตนเองด้วย เกิดอันตรายตอรางกาย ชีวิต หรือทรัพยสิน เพื่อจะไดเ้ ป็นผูบ้ รโิ ภคท่ีชาญฉลาด มาเลาใหนักเรียนฟง จากนั้นครูต้ังคําถามใน ประเด็น เชน • นักเรียนมีวิธีการเลือกซื้อสินคาอยางไร เพอื่ ความปลอดภยั จากการบริโภค 4. ครูใหนักเรียนยกตัวอยางสินคาและบริการที่ นกั เรยี นคดิ วา มคี วามปลอดภยั และมมี าตรฐาน รองรบั มาคนละ 1 ช้ิน จากนั้นครูตง้ั คําถามใน ประเด็น เชน • เพราะเหตใุ ดนกั เรยี นจงึ คดิ วา สนิ คา ดงั กลา ว มคี วามปลอดภัย ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ส ๓.๑ ม.๒/๔ อภปิ รายแนวทางการคมุ้ ครองสทิ ธขิ องตนเอง • การรักษาและคุม้ ครองสิทธิประโยชนข์ องผูบ้ รโิ ภค ในฐานะผู้บรโิ ภค • กฎหมายคมุ้ ครองสิทธิผบู้ ริโภคและหน่วยงานทเี่ ก่ยี วข้อง • การด�าเนินกิจกรรมพิทักษ์สิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ในฐานะผ้บู รโิ ภค • แนวทางการปกป้องสิทธขิ องผ้บู ริโภค ๑6๓ เกร็ดแนะครู การเรยี นเกยี่ วกบั การคมุ ครองผบู รโิ ภค เพอื่ ใหน กั เรยี นมคี วามรเู กยี่ วกบั สทิ ธขิ องตนเองในฐานะผบู รโิ ภค กฎหมายคมุ ครองผบู รโิ ภค และการดาํ เนนิ การตา งๆ ตามสทิ ธิของตนเองหากไมไดร ับความเปนธรรมจากการบรโิ ภค ดงั น้นั ครจู งึ ควรจัดการเรียนการสอน ดงั นี้ • ยกตวั อยางขา วการละเมดิ สทิ ธิผบู รโิ ภค แลว ใหน ักเรียนวิเคราะหปญ หาและผลกระทบทีเ่ กิดขนึ้ • เขียนบทละครหรอื การตนู เกีย่ วกับเรือ่ ง กฎหมายคุม ครองผบู ริโภค • จัดทาํ แผนพับเรือ่ ง หนวยงานคมุ ครองผบู ริโภค เพื่อใหนกั เรยี นมคี วามเขา ใจเกีย่ วกบั บทบาทหนา ท่ีของหนวยงานคมุ ครองผบู รโิ ภคมากข้นึ • แตง คําประพนั ธในหัวขอ การคุมครองสิทธผิ ูบรโิ ภค เพือ่ รณรงคก ารคมุ ครองสทิ ธขิ องผูบ ริโภค • จัดกจิ กรรมกลมุ เพอื่ ใหนกั เรยี นฝกทกั ษะการแลกเปลยี่ นเรยี นรูซง่ึ กนั และกนั T181
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๑. การคุ้มครองสิทธผิ ้บู ริโภค 1. ครูแบงนักเรียนเปนกลุม คละกันตามความ ผู้บริโภค หมายถึง ผู้ที่ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการ หรือได้รับการชักชวน สามารถ โดยใหนักเรียนแตละกลุมจับสลาก จากผู้ประกอบการให้ซ้ือสินค้าหรือรับบริการ ในปัจจุบันผู้ประกอบการได้ผลิตสินค้าและบริการ เพื่อแบงคูกันภายในกลุม จากน้ันใหแตละคู มากมายเพอื่ สนองความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค ในขณะทสี่ นิ คา้ และบรกิ ารเหลา่ นนั้ เปน็ อกี ปจั จยั หนง่ึ รว มกนั ศึกษาเรอื่ ง การคุม ครองสิทธผิ บู รโิ ภค ท่มี นษุ ย์ต้องมีการซือ้ หามาเพอ่ื การดา� รงชวี ิต 2. ครูสุมนักเรียนออกมาอภิปรายเกี่ยวกับการ ๑.๑ สิทธิผู้บรโิ ภค คมุ ครองสทิ ธผิ ูบ รโิ ภค จากการทค่ี วามตอ้ งการบรโิ ภคสนิ คา้ ของผบู้ รโิ ภคมเี พมิ่ มากขนึ้ ในขณะเดยี วกนั ผผู้ ลติ หรอื 3. ครูนําสนทนาถึงสถานการณความตองการ ผปู้ ระกอบการกไ็ ดท้ า� การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารขน้ึ มากมาย ทา� ใหม้ กี ารแขง่ ขนั และใชก้ ลยทุ ธต์ า่ ง ๆ บริโภคสินคาของผูบริโภคในปจจุบันที่มีเพิ่ม ในการขายสนิ คา้ เชน่ ใชว้ ธิ กี ารลดราคา โฆษณาชวนเชอื่ เผยแพรข่ อ้ มลู ความร ู้ เปน็ ตน้ ซงึ่ กลยทุ ธ์ มากข้ึน แลวใหนักเรียนรวมกันอภิปรายใน ต่าง ๆ ในการขายสินค้าน้ันในบางครั้งอาจมีการโฆษณาชวนเช่ือที่เกินความเป็นจริง มีราคาสูง ประเดน็ กลยทุ ธข องการขายสนิ คา และบรกิ าร คณุ ภาพไมด่ ี ผบู้ รโิ ภคไมไ่ ดร้ บั ความเปน็ ธรรม กจ็ ะตกเปน็ ผเู้ สยี เปรยี บและอาจไดร้ บั ความเสยี หาย ท่ีสงผลตอการตัดสินใจเลือกซ้ือสินคาและ จากการบรโิ ภคสินค้า บรกิ ารของผบู ริโภค ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการบริโภคสินค้าและบริการ จึงได้มี การบัญญัติกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคข้ึน เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคและลงโทษผู้ละเมิด 4. ครูตั้งคําถาม เพ่ือฝก ทกั ษะการเรยี นรู เชน โดยไดบ้ ญั ญตั สิ ทิ ธผิ บู้ รโิ ภคไว ้ ๕ ประการ เพอ่ื ใหผ้ บู้ รโิ ภคตระหนกั ถงึ สทิ ธขิ องตนเองในการบรโิ ภค • เพราะเหตุใดจึงตองมีการคุมครองสิทธิของ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งปลอดภัย ดงั นี้ ผบู ริโภค (แนวตอบ เพราะผูบริโภคตองไดรับความ ขสทิ้อมธทิลู ขี่จะ่าไวดสร้าบั ร1 ส๕ิท ธปิผรู้บะรกโิ าภรค สทิ ธิในการได้ ปลอดภัยและเปนธรรมจากการใชสินคา และบริการ เพื่อปองกันการเอาเปรียบจาก สิทธิท่ีจะมี สิทธทิ ่ีจะได้รบั รับแกลาะรชพดจิ เาชรยณ2า ผผู ลติ ) อสิ ระในการเลอื ก ความปลอดภยั • กฎหมายคุมครองผูบริโภคมีวัตถุประสงค หาซื้อสนิ ค้าหรือ จากการใชส้ ินคา้ ความเสยี หาย หลักอยา งไร และบรกิ าร สิทธทิ ่ีจะได้ (แนวตอบ เพื่อใหผูบริโภคไดรับความเปน บรกิ าร รับความเปน็ ธรรมในการใชสนิ คาและบริการ เชน ความ ๑64 ธรรมในการทา� เปนธรรมทางดานการรับรขู อมลู ตางๆ ของ สินคาและบริการ หรือความเปนธรรมจาก สัญญา ความเสียหายที่เกิดข้ึนกับผูบริโภคระหวาง การใชส นิ คา และบรกิ าร เพอื่ ใหผ บู รโิ ภคเกดิ ความมั่นใจในการใชส นิ คาและบริการ) นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 ขอมูลขาวสาร เปนขอมูลขาวสารของสินคาท่ีผูบริโภคควรตองทราบ เชน เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ งมีการคุมครองผบู ริโภค วตั ถดุ บิ ทใ่ี ชใ นการผลติ สนิ คา สว นผสม ปรมิ าณ ราคาทข่ี าย บรกิ ารหลงั การขาย 1. เพื่อใหผ ูบรโิ ภคมีโอกาสซอ้ื สินคาและบริการในราคาถกู อะไหลของสนิ คา 2. เพอื่ ใหผ ูบ รโิ ภคมีโอกาสเลือกสนิ คาและบริการตามทตี่ อ งการ 2 ชดเชยความเสยี หาย ในกรณที สี่ นิ คา บางชนดิ ทผี่ บู รโิ ภคซอื้ ไปใชแ ลว ทาํ ให 3. เพอ่ื ใหผ บู รโิ ภคไดร บั ความพอใจในการบรโิ ภคสนิ คา และบรกิ าร ไดรับบาดเจ็บ เสียหาย ผูบริโภคสามารถเรียกรองคาเสียหายจากผูผลิตที่ผลิต 4. เพื่อใหผูบริโภคไดรับความปลอดภัยและความเปนธรรมจาก สนิ คา ไมไดม าตรฐานใหชดเชยความเสียหายไดตามท่กี ฎหมายกําหนด การบรโิ ภคสนิ คาและบรกิ าร ส่ือ Digital (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. หวั ใจสาํ คญั ในการคมุ ครองผบู รโิ ภค คอื ความปลอดภยั ในการบรโิ ภคสนิ คา และบรกิ าร และไดร บั ความ ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั สทิ ธผิ บู รโิ ภค บทความการคมุ ครองสทิ ธิ เปน ธรรมจากการบริโภค ซึง่ หากผบู รโิ ภคไมไดรับความปลอดภัย ผบู ริโภค คดผี ูบริโภค ไดท่ี http://www.ocpb.go.th สํานักงานคณะกรรมการ จากการบริโภคสามารถรองเรียนไปยังหนวยงานและองคกร คุม ครองผบู ริโภค ตา งๆ ทที่ าํ หนา ทใ่ี นการคมุ ครองผบู รโิ ภค เชน หากไดร บั อนั ตราย จากการบรโิ ภคอาหารสาํ เรจ็ รปู ยา เครอื่ งสาํ อาง สามารถรอ งเรยี น T182 ไปท่ีสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ http://www. fda.moph.go.th)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑) สิทธิท่ีจะได้รับข้อมูลข่าวสาร สรรพคุณ1 ที่บรรยายถึงสินค้าและบริการ ขน้ั สอน อยา่ งถกู ตอ้ ง การรบั ขอ้ มลู ขา่ วสารเปน็ การเพม่ิ พนู ความรแู้ กผ่ บู้ รโิ ภคและทา� ใหผ้ บู้ รโิ ภคมพี น้ื ฐาน ทางขอ้ มลู ไวใ้ ชเ้ พอื่ การตดั สนิ ใจในการเลอื กหาสนิ คา้ และบรกิ ารทต่ี นตอ้ งการ การไดร้ บั ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5. ครูยกตัวอยางขาวหรือบทความเกี่ยวกับ ท่ไี ม่เพยี งพออาจทา� ให้เกิดการเขา้ ใจผิดและตดั สินใจผิดพลาดในการเลอื กซอ้ื สินคา้ และบริการ การละเมิดสิทธิผูบริโภค แลวใหนักเรียน วิเคราะหถึงสิทธิท่ีผูบริโภคควรจะไดรับการ ๒) สทิ ธทิ จี่ ะมอี สิ ระในการเลอื กซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ าร อสิ ระในการเลอื กซอ้ื สนิ คา้ คุมครอง และวิธีการปฏิบัติตนเม่ือถูกละเมิด และบรกิ ารเปน็ สง่ิ สา� คญั ทส่ี ดุ ของผบู้ รโิ ภคในระบบเศรษฐกจิ ทม่ี กี ารแขง่ ขนั เปน็ พนื้ ฐานในการพฒั นา สทิ ธิผูบรโิ ภค คณุ ภาพของสนิ คา้ โดยผบู้ รโิ ภคมอี สิ ระในการตดั สนิ ใจเลอื กซอ้ื สนิ คา้ ดว้ ยตนเองตามความสมคั รใจ โดยปราศจากการชกั จงู จากผู้ประกอบการที่ไมเ่ ป็นธรรม 6. ครูและนักเรียนอภิปรายรวมกันถึงประโยชนที่ ผูบริโภคไดรับจากการคุมครองสิทธิผูบริโภค ๓) สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความปลอดภยั จากการใชส้ นิ คา้ และบรกิ าร โดยมขี อ้ แนะนา� ทั้ง 5 ประการ จากนัน้ ครูตั้งคาํ ถาม เชน แเงลื่อะนคไา� ขเตเบอื ื้อนงรตะบ้นไุเกวโ้่ียดวยกไับมขก่ ้ออ่ จให�ากเ้ กัดดิ ขออนั งตสรินาคย้าต อ่ เชชวี ่นติ รวา่ันง กเาดยือหนร อื ปทีทรพัี่ผยลส์ิตนิ วผันบู้ หรมโิ ภดคอคาวยรุ 2ไขด้อร้ บัแทนระานบ�า • เพราะเหตใุ ดการรอ งทกุ ขเ พอ่ื ขอรบั คา ชดเชย วิธกี ารใช ้ การเกบ็ รกั ษา ค�าเตือน ข้อควรระวังตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหส้ ามารถใช้สนิ ค้าและบริการได้อยา่ ง จากความเสียหายเมื่อไมไดรับความเปน เต็มที่และปลอดภัย ธรรมจากการซอ้ื สนิ คา จงึ ถอื เปน เรอ่ื งสาํ คญั ทผ่ี บู รโิ ภคควรกระทาํ ๔) สิทธิได้รับความเปนธรรมในการท�าสัญญา โดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจาก (แนวตอบ เพราะเปนการรักษาสิทธิของ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ โดยกอ่ นทา� สญั ญาผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งตรวจสอบขอ้ ความเกย่ี วกบั สนิ คา้ จากฉลากสนิ คา้ ตนเองในฐานะผูบริโภคและถือเปนการ ลงโทษหรือเปนตัวอยางไมใหผูประกอบ ธรุ กจิ รายอน่ื เอารัดเอาเปรียบผบู รโิ ภคได) ตรวจสอบข้อความเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการจากส่ือโฆษณาด้วยการพิจารณาให้รอบคอบก่อน ตัดสินใจทุกคร้ัง และก่อนลงลายมือช่ือจะต้อง อา่ นขอ้ ความในสญั ญาทกุ ขอ้ วา่ สทิ ธแิ กผ่ บู้ รโิ ภค ครบถ้วนและถูกต้องตรงตามเงอื่ นไขทไ่ี ด้เจรจา กันไว้หรือไม่ เนื่องจากการเอาเปรียบผบู้ รโิ ภค ในเรอ่ื งสญั ญาเกดิ ขนึ้ ไดง้ า่ ยและบอ่ ยทส่ี ดุ ๕) สทิ ธไิ ดร้ บั การพจิ ารณาและ ชดเชยความเสียหาย เปน็ สิทธิที่จะไดร้ บั การ คุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหายเมื่อมีการละเมิด สิทธิของผูบ้ ริโภค ดงั น้ัน การร้องทกุ ข์เพ่อื ขอ รบั คา่ ชดเชยจากความเสยี หายเมอ่ื ไมไ่ ดร้ บั ความ เป็นธรรมจากการซ้ือสินค้าหรือบริการ ถือเป็น เรอ่ื งสา� คญั ทผ่ี บู้ รโิ ภคจะตอ้ งกระทา� เพอ่ื เปน็ การ ลงโทษและเป็นตัวอย่างมิให้ผู้ประกอบธุรกิจ ผบู้ รโิ ภคไดร้ บั ความคมุ้ ครองสทิ ธติ ามกฎหมาย เพอื่ ความ รายอืน่ เอารัดเอาเปรียบผ้บู ริโภคได้ ปลอดภยั จากการบรโิ ภคสินค้าและบริการ ๑65 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ส่ิงสําคัญทีส่ ุดทีผ่ ูบริโภคมีสิทธทิ ่ีจะไดรับคอื อะไร 1 สรรพคณุ เปน การอธบิ ายถงึ สนิ คา และบรกิ ารวา สามารถทาํ อะไรไดม ากนอ ย 1. ราคาและคุณภาพสินคา เพยี งใด มีลักษณะและความโดดเดนอยา งไร เพ่ือเปนตวั ชวยในการตัดสนิ ใจซื้อ 2. ขอ มลู ของสินคาและบรกิ าร สินคา และบริการของผูบริโภค 3. ความหลากหลายของสนิ คา 2 วนั หมดอายุ (expiration date: exp) สวนใหญจะระบกุ าํ กบั ไวท ด่ี านขาง 4. การบริการอยางเทาเทยี มกัน ดานบน หรอื ดา นลา งของผลิตภณั ฑ โดยจะระบพุ รอมกับวันทผ่ี ลติ (manufac- turing date: mfd) ซ่ึงกอนการซ้ือสินคาทุกครั้งจะตองตรวจสอบใหละเอียด (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะขอ มลู ของสนิ คา และบรกิ ารท่ี เพราะมฉิ ะนนั้ อาจไดร บั อนั ตรายจากการบรโิ ภคสนิ คา เชน ผลติ ภณั ฑก ลมุ บะหม่ี ถูกตอ งและครบถว นเปนสงิ่ สาํ คัญที่สดุ ซึ่งผบู ริโภคมสี ทิ ธจิ ะไดรับ กึง่ สาํ เรจ็ รปู จะมีอายุ 6 เดือน นบั จากวันผลติ บนซองจะปรากฏตวั อกั ษร เชน เพื่อใชในการตัดสินใจซ้ือสินคาและบริการไดตรงตามความ MFD141016 ตัวเลขหลัง MFD จะบอกถึงวันเดือนปท่ีผลิต นั่นคือ บะหมี่ ตองการของตนเอง) กง่ึ สาํ เรจ็ รปู ผลติ เมอื่ วนั ท่ี14ตลุ าคมค.ศ.2016ดงั นน้ั บะหมก่ี งึ่ สาํ เรจ็ รปู จะหมดอายุ ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2017 T183
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๑.๒ ความส�าคญั ของการคุ้มครองสทิ ธิผ้บู ริโภค 7. ครูนําสนทนาเพื่อใหนักเรียนเห็นถึงเปาหมาย การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค หมายถงึ การทห่ี นว่ ยงานภาครฐั เขา้ มาดแู ลและปกปอ้ งสทิ ธผิ บู้ รโิ ภค ในการคุมครองผูบริโภควาทําเพ่ือประโยชน ไม่ให้ถูกผู้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบในการบริโภคสินค้าและบริการ และเพ่ือเป็นการกระตุ้น ของผบู รโิ ภคเปน หลกั เชน ผบู รโิ ภคไดร บั ความ ใหผ้ บู้ รโิ ภคตระหนกั และรักษาสทิ ธขิ องตนเองในการบรโิ ภคสนิ ค้าและบรกิ ารตามกฎหมาย เพอ่ื ให้ ปลอดภยั และเปน ธรรมจากการบรโิ ภค แลว สมุ ได้สินค้าที่มีคุณภาพและได้รับความเป็นธรรม กล่าวคือ หากถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าหรือ ใหน กั เรยี นแตล ะคเู ลา ประสบการณข องตนเอง ผูป้ ระกอบการ สามารถท่จี ะรอ้ งเรยี นหรือกลา่ วโทษได้ หรือคนรอบขางที่ไมไดรับความปลอดภัยและ ความสา� คัญของการคุม้ ครองสิทธผิ ูบ้ ริโภค มดี งั นี้ ไมเปนธรรมจากการบริโภค จากน้ันอภิปราย แสดงความคิดเห็นรว มกนั ผ้บู ริโภค ผูป้ ระกอบธรุ กิจ • กระตนุ้ ใหต้ ระหนกั ในสทิ ธขิ องตนเองและรกั ษา • สร้างจติ สา� นึกใหผ้ ลิตสินคา้ และบริการที่มี 8. ครใู หน กั เรยี นคเู ดมิ ทาํ ใบงานท่ี 9.1 เรอ่ื ง สทิ ธิ สทิ ธิตามกฎหมาย คุณภาพ และมคี วามเป็นธรรมดา้ นราคา ผูบริโภค โดยครูแนะนําเพิ่มเติม จากน้ันให • สรา้ งพลงั ใหส้ ามารถปอ้ งกนั เเละตอ่ ตา้ นการถกู แลกเปลี่ยนกับอีกคูภายในกลุมแลวรวมกันจัด เอารัดเอาเปรยี บจากผู้ประกอบธุรกิจ ทําใบงานใหส มบรู ณม ากยงิ่ ขน้ึ 9. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมท่ีเกี่ยวกับสิทธิ ผบู ริโภค ในแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 ๑.๓ เปาหมายในการคุ้มครองผูบ้ ริโภค เปา้ หมายในการคุ้มครองผู้บริโภค ก็เพอ่ื ประโยชน์ของผู้บริโภค ดังนี้ ๑) ไดร้ บั ความปลอดภยั จากการบรโิ ภค เนอ่ื งจากมสี นิ คา้ และบรกิ ารมากมายให้ ผบู้ รโิ ภคไดเ้ ลอื กบรโิ ภค ซง่ึ สนิ คา้ และบรกิ ารเหลา่ นนั้ อาจสง่ ผลกระทบตอ่ ผบู้ รโิ ภคได ้ ดงั นนั้ ในการ คมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคจงึ ไดค้ า� นงึ ถงึ ความปลอดภยั ของผบู้ รโิ ภคจากการคา้ ทไี่ มเ่ ปน็ ธรรมทม่ี ผี ลตอ่ ชวี ติ และทรัพยส์ ิน เช่น ควบคมุ สนิ คา้ ประเภทอาหาร ยา เปน็ ต้น ผ ขู้ าย เชน่ กา๒รโ)ฆ ไษดณ้รับาชคววนาเมชอื่เปเกนนิ ธจรรรงิ ม1 กจาารกทกา� นารติ บกิ รรริโมภสคญั ญไมา่ถทูกไ่ี เมอเ่ าปรน็ ัดธเรอรามเป2 เรปียน็ บตจน้ า กหผรู้ผอื ลถิตา้ หหราือก ผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถท่ีจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอรับความ ช่วยเหลอื ได้ ๑66 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 การโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง การที่ผูคาหรือผูประกอบการมีการโฆษณา ปจจัยในขอใดสงผลใหผูบริโภคตัดสินใจผิดพลาดในการเลือก สรรพคุณของสินคาผานสื่อตางๆ เกินความเปนจริง ผูบริโภคสามารถรอง ซอ้ื สินคา และบรกิ ารมากที่สดุ เรยี นไปยงั หนว ยงานของรฐั ทีม่ ีหนาที่คมุ ครองผบู ริโภคได เชน สินคาที่เกย่ี วกบั เครอ่ื งสาํ อาง รอ งเรยี นไดท สี่ าํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา http://www. 1. การแนะนําของเพอ่ื นหรือคนรูจ ัก fda.moph.go.th หรอื สายดวน อย. 1166 2. การไดรับแจกสนิ คาตัวอยางใหท ดลองใช 2 การทํานิติกรรมสัญญาที่ไมเปนธรรม เชน การทําสัญญาซื้อขาย สัญญา 3. การโฆษณาประชาสัมพันธผานส่ือตา งๆ เชา ซอื้ สญั ญาจา ง โดยผทู ม่ี อี าํ นาจตอ รองทางเศรษฐกจิ เหนอื กวา ถอื โอกาสอาศยั 4. การสาธิตวธิ ีการใชส ินคาจากพนักงานขาย หลักการและเอารัดเอาเปรียบคูสัญญาอีกฝายจึงตองยอมทําสัญญาในลักษณะ จํายอมหรือสัญญาสําเร็จรูป กอใหเกิดความไมเปนธรรม จึงมีการตรา พ.ร.บ. (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 3. เนอ่ื งจากการโฆษณาประชาสมั พนั ธ วาดว ยสัญญาที่ไมเปน ธรรม พ.ศ. 2540 ข้นึ บังคบั ใช ผา นสอื่ ตา งๆ เปน วธิ กี ารเขา ถงึ ผบู รโิ ภคไดง า ย สะดวก และรวดเรว็ ท่ีสุด อีกท้ังการโฆษณามักจะมีการชวนเชื่อที่เกินความเปนจริง สงผลใหผูบริโภคอาจตัดสินใจผิดพลาดในการเลือกซื้อสินคา และบรกิ ารได) T184
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓) มคี วามประหยดั ในการบริโภคสินค้า สามารถซ้ือสนิ คา้ ที่มีคณุ ภาพในราคาท่ี ขน้ั สรปุ เหมาะสม ประหยดั และเปน็ การสง่ เสรมิ ใหผ้ บู้ รโิ ภคเลอื กบรโิ ภคสนิ คา้ ทจ่ี า� เปน็ ลดการบรโิ ภคสนิ คา้ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู กยี่ วกบั สทิ ธิ ฟมุ่ เฟอ ย ผูบริโภค หรือใช PPT สรปุ สาระสาํ คญั ของเนือ้ หา ตลอดจนความสาํ คญั ตอ การดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักใน การคุ้มครองผู้บริโภคก็เพื่อให้ประชาชนได้รับ ขนั้ ประเมนิ ความเป็นธรรมและปลอดภัยจากการบริโภค สินค้าท่ีมีอยู่มากมาย รู้จักระมัดระวังในการ 1. ครปู ระเมนิ ผลจากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั เลือกซื้อ เช่น ให้ความส�าคัญกับฉลากสินค้า ทํางาน และการนําเสนอผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 การโฆษณาสินคา้ ตามสอื่ ตา่ ง ๆ และหากเมอ่ื ใด ทีถ่ กู ละเมดิ สทิ ธ ิ ผู้บริโภคก็สามารถรอ้ งเรยี นไป ยงั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ เพอ่ื ขอความชว่ ยเหลอื หรอื ให้ใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการ ผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งมกี ารตรวจสอบคณุ ภาพของสนิ คา้ กอ่ นการ ตัดสินใจซอ้ื เพ่อื ความปลอดภัยในการบริโภค เช่น เม่ือเกิดปัญหาจากการใช้ผลิตภัณฑ์อาหาร ยา เครื่องส�าอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุมีพิษ สามารถรอ้ งเรยี นทส่ี า� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรอื http://www.fda.moph.go.th เป็นต้น ò. ก®หมายคมุ้ ครองผู้บรโิ ภค เน่ืองจากปัจจุบันผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตได้ท�าการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ มากมาย ผู้ประกอบการได้น�าการตลาดและการโฆษณาเข้ามาช่วยในการส่งเสริมการขาย จากสภาวการณ์ ดงั กลา่ ว ทา� ใหผ้ บู้ รโิ ภคตอ้ งตกอยใู่ นฐานะทเี่ สยี เปรยี บ เพราะไมส่ ามารถทจ่ี ะรถู้ งึ คณุ ภาพของสนิ คา้ ได้ทันท่วงที จึงต้องมีมาตรการทางกฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ในการบริโภคสินค้าและบริการ ตลอดจนมีองค์กรของรัฐท่ีเหมาะสม เพื่อตรวจตรา ดูแล และ ประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ในการใหค้ วามคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค กฎหมายคุม้ ครองผู้บรโิ ภคท่สี า� คญั มดี ังน้ี ๒.๑ พระราชบัญญัติคุม้ ครองผ้บู ริโภค พ.ศ. ๒5๒๒ (แกไ้ ขเพม่ิ เติมฉบบั ท ี่ ๓ พ.ศ. ๒556) พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ (แก้ไขเพ่ิมเติมฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๖) มีสาระส�าคัญเพ่ือคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ขาย ผปู้ ระกอบการ โดยใหก้ ารคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในดา้ นโฆษณา ดา้ นฉลาก ดา้ นสญั ญา โดยมสี าระสา� คญั ดงั น้ี ๑67 ขอสอบเนน การคิด แนวทางการวัดและประเมินผล ขอใดแสดงวานักเรียนเปนผูบริโภคท่ีมีความระมัดระวังในการ ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เรื่อง สิทธิผูบริโภค บริโภคมากที่สดุ ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงาน 1. เลอื กซือ้ สนิ คา ท่มี ขี องแถม ที่แนบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรูหนว ยท่ี 9 เรือ่ ง การคุม ครองผบู รโิ ภค 2. อานฉลากสินคาอยางละเอียด 3. ซอ้ื สินคา ตามคําแนะนาํ ของเพอื่ น แบบประเมินการนาเสนอผลงาน 4. ซ้อื สินคา ทางอินเทอรเนต็ เพราะสะดวก (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะฉลากสนิ คา บอกรายละเอยี ด คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ ของสินคา เชน วันผลิตสินคา วันหมดอายุ สวนผสม ปริมาณ ตรงกบั ระดับคะแนน สรรพคุณ ขอควรระมัดระวังในการบริโภคสินคา การอานฉลาก สินคาอยางละเอียด เปนการเพ่ิมความปลอดภัยในการบริโภค ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 สนิ คา) 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา 2 การลาดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม รวม ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง T185
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360