Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือครูสังคม ม.2

คู่มือครูสังคม ม.2

Published by K. Klompanya, 2021-11-02 06:42:55

Description: คู่มือครูสังคม ม.2

Search

Read the Text Version

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๒) ความเหมาะสม โดยค�านึงถึงความรคู้ วามสามารถของผลู้ งทนุ สภาพแวดลอ้ ม ทางเศรษฐกจิ และความเปน็ ไปไดใ้ นทางเศรษฐกจิ เชน่ การลงทนุ ตง้ั ร้านค้า ผ้ลู งทุนกจ็ ะตอ้ งศึกษา ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู กอ่ นว่ามีร้านคา้ ท่ีจา� หนา่ ยสนิ คา้ อยกู่ อ่ นหรอื ไม ่ จา� นวนผซู้ อ้ื มมี ากนอ้ ยเพยี งใด สภาพทางเศรษฐกจิ ในหมู่บ้านที่ต้ังร้านค้าเป็นอย่างไร ผู้ลงทุนต้ัง 11. ครูใหนักเรียนรวมกันยกตัวอยางการลงทุน ร้านค้ามีเวลาให้บริการลูกค้าหรือไม่ หรือมี ของคนไทยและชาวตา งชาตทิ อี่ ยใู นประเทศไทย ความรู้เรื่องการค้าขายและการบริหารจัดการ จากนัน้ ครตู ง้ั คาํ ถาม เชน เพียงใด เปน็ ต้น • การท่ีนักลงทุนท้ังคนไทยและชาวตางชาติ เขา มาลงทนุ ในประเทศไทย มปี จ จยั สนบั สนนุ ๓) การเปลย่ี นแปลงมูลคา่ ใดบาง หมายถึง การคาดคะเนถึงมูลค่าของสินทรัพย์ (แนวตอบ เชน มีกฎหมายท่ีคุมครองการ ที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากกว่าจ�านวนเงินที่ ลงทุน มีกลุมลูกคาท่ีทําใหธุรกิจมีกําไร ลงทุนไป เช่น พันธบัตรรัฐบาลท่ีมีระยะเวลา มีระบบการคมนาคมขนสงท่ีสะดวกสบาย ไถ่ถอนนาน อาจมีมูลค่าท่ีแท้จริงลดลง หรือ และทนั สมยั ) ถ้ามีการเปล่ียนแปลงเพิ่มอัตราดอกเบี้ยใน • หากนักเรียนตองการนําเงินออมมาลงทุน ท้องตลาด มูลคา่ กจ็ ะลดลงเชน่ เดียวกนั จะเริ่มตน วางแผนการลงทนุ อยางไร (แนวตอบ วางแผนการลงทุนตามขั้นตอน ๔) เสถยี รภาพของรายได้ เชน สํารวจความพรอมทางการเงิน โดย  การมีท�าเลท่ีต1ั้งย่านใจกลางเมือง ท�าให้ธุรกิจค้าปลีก ผู้ลงทุนมักจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้รายได้ รายไดจะตองมากกวารายจาย แลวจึง ร้านสะดวกซอื้ มีการขยายตวั อยา่ งรวดเร็ว สม�่าเสมอในระยะยาว และมีความม่ันคง ทั้งน้ี กําหนดเปาหมายการลงทุน เชน เพื่อการ ศึกษา จากนั้นสํารวจความเสี่ยงจากการ เนอ่ื งจากรายไดท้ สี่ ม่า� เสมอ เช่น ดอกเบีย้ พันธบัตร หรอื หนุ้ กู้ดอกเบย้ี เงนิ ฝาก สามารถจะวางแผน ลงทุน โดยเลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงตํ่า ไดว้ า่ จะนา� รายไดน้ ไ้ี ปใชเ้ พอื่ การบรโิ ภคหรอื เพอ่ื ลงทนุ ใหมต่ อ่ ไป แต่สา� หรบั การลงทนุ ในหุน้ ทนุ อาจ ถึงแมจะไดผลตอบแทนตํ่าก็ตาม และ คาดคะเนรายได้จากเงินปันผลได้ไม่แน่นอนนัก เพราะถ้าธุรกิจไม่ได้ก�าไรหรือขาดทุนก็อาจไม่มี กระจายเงินลงทุนในทรัพยสินประเภท การจา่ ยเงนิ ปันผล ตางๆ รวมถึงตองมีการประเมินผลการ ลงทุน เพอ่ื ปรับเปลี่ยนวิธีการลงทุน) ๕) ความคลอ่ งตวั ในการซอ้ื ขาย ผลู้ งทนุ ควรพจิ ารณาวา่ หนุ้ หรอื หลกั ทรพั ยท์ ซี่ อื้ มาสามารถน�าไปซื้อขายในตลาดได้ง่ายและรวดเร็วมากน้อยเพียงใด โดยท่ัวไปความคล่องตัว ในการซื้อขายหุ้นก็ข้ึนอยู่กับราคา จ�านวนผู้ถือหุ้น และความสนใจที่ประชาชนท่ัวไปมีต่อหุ้นนี้ ถา้ เปน็ หลกั ทรพั ยท์ ม่ี คี วามคลอ่ งตวั ในการซอ้ื ขาย ถา้ หากผอู้ อมตอ้ งการซอื้ ขายสามารถทา� ไดส้ ะดวก ๖) ภาษที ต่ี อ้ งชา� ระ ผลู้ งทนุ ควรมกี ารศกึ ษาเปรยี บเทยี บถงึ ขอ้ ไดเ้ ปรยี บเสยี เปรยี บ ของการลงทนุ แต่ละประเภท โดยนา� ภาษที ีต่ ้องชา� ระมาพิจารณาประกอบดว้ ย เช่น การเสียภาษี รายได้จากดอกเบ้ียพันธบัตร ภาษีจากเงินปันผลของหุ้นทุน ภาษีธุรกิจ ภาษีบ้าน ที่ดินและ อสงั หาริมทรพั ย์อืน่ ๆ เป็นต้น ๑๒๔ เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครเู พม่ิ เติมความรูเรอื่ ง วิธกี ารลงทนุ ผลตอบแทน ความเสยี่ งในการลงทุน การลงทนุ ขอ ใดถอื วา มคี วามเสย่ี งสงู ซง่ึ อาจทาํ ใหเ งนิ ทนุ สญู หายได ประเภทตางๆ เชน การลงทุนในพันธบัตร หุน กองทุนรวม กิจการคาขาย 1. ซื้อสลาก ธ.ก.ส. เพอื่ กระตนุ ใหน กั เรยี นเหน็ ความสาํ คญั ของการลงทนุ และหาชอ งทางในการลงทนุ 2. ซ้ือสลากออมสิน ตามความเหมาะสมกับวัยและรายได 3. ซอื้ พันธบัตรรฐั บาล 4. ซือ้ หุน ในตลาดหลักทรัพย นักเรียนควรรู (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะแมเปนการลงทนุ ทีม่ ีโอกาส 1 รา นสะดวกซอื้ รา นคา สมยั ใหม ตง้ั อยใู นยา นชมุ ชน ทาํ เลดี ขายสนิ คา สาํ หรบั ไดผ ลตอบแทนสงู แตก ม็ คี วามเสย่ี งสงู มาก เพราะอาจขาดทนุ เมอื่ ใชใ นชวี ติ ประจาํ วนั และมบี รกิ ารอนื่ ๆ เชน รบั ชาํ ระคา บตั รเครดติ คา สาธารณปู โภค ขายหนุ ไปในราคาตา่ํ กวา ราคาทซ่ี อ้ื มา อาจทาํ ใหเ งนิ ทนุ สญู หายได ตา งๆ มีการจัดรา นคา แบบทนั สมยั วางสนิ คา เปนประเภท ลกู คา สามารถหยบิ ดงั นน้ั ผลู งทนุ จะตอ งศกึ ษาขอ มลู เปน อยา งดี เพอื่ ปอ งกนั ความเสยี่ ง ไดส ะดวก มบี รกิ ารทดี่ ี มกี ารประชาสมั พนั ธเ พอื่ จดั รายการสง เสรมิ การขาย เชน จากการลงทนุ ) ลดราคาสนิ คา บางประเภท ขายควบสนิ คา เปด ขายเปน ระยะเวลานานในแตล ะวนั Tเชน มกี ารเปด ขาย 24 ชั่วโมง เชน 7-ELEVEN เทสโกโลตัสเอก็ ซเพรส 136

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ซอ้ื หลักทรพั ย๗บ์ )างกชานรดิ ไ ดเช้ร่นับ ผกลอปงทระนุ โรยวชมนห์ุ้นดร้าะนยภะยาาษวีอ1 ักนอเนงท่อื นุ งรมวามจเพาก่อื กกาารรเลลงี้ยทงชุนีพ 2 ใผน้ลู กงาทรนุลทงทซ่ี ุนือ้ ขนั้ สอน แลว้ สามารถที่จะนา� ไปหกั ลดหย่อนภาษเี งินได้บุคคลธรรมดาไดถ้ งึ ร้อยละ ๑๕ ทัง้ นี้ ขึ้นอยกู่ บั ฐาน ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ภาษีของผ้ลู งทนุ แต่จะต้องถอื หลกั ทรพั ย์กองทนุ ดังกลา่ วไว้ ๕ ปีขึ้นไป 12. นักเรียนกลมุ ที่ 5 ปจ จัยทเ่ี ปน ตัวกาํ หนดการ ๘) ควรมกี ารลงทนุ หลายประเภทเพือ่ ลดความเส่ียง ผู้ลงทุนไม่ควรเลือกลงทุน ลงทุน สงตัวแทนนาํ เสนอขอมลู หนา ชั้นเรยี น ตามประเดน็ ท่ศี ึกษา ประเภทเดยี ว เพราะมีความเสยี่ งสงู เชน่ การลงทุนซือ้ หลักทรัพยห์ รอื หุน้ ของธุรกิจประเภทเดียว ถา้ ธรุ กจิ ขาดทนุ กจ็ ะไมไ่ ดร้ บั เงนิ ปนั ผลและอาจขาดทนุ จากราคาหลกั ทรพั ยท์ ลี่ ดลง แตค่ วรกระจาย 13. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพิ่มเติมถึง เงนิ ลงทุนไปยังหลักทรัพย์หลาย ๆ ประเภทต่างชนดิ กนั จะไดล้ ดความเส่ียง เพราะถา้ มหี ลักทรัพย์ ปจจัยท่ีเปนตัวกําหนดการลงทุน โดยครู ของบางธรุ กจิ ขาดทนุ แตก่ ็อาจมีหลกั ทรพั ย์ของธุรกจิ อน่ื ที่ได้กา� ไร ยกตัวอยางการลงทุนในกิจการตางๆ และ ใหนักเรียนชวยกันบอกปจจัยในการลงทุน ๒.5 ปจั จัยท่ีเป็นตวั ก�าหนดการลงทนุ เชน อตั ราดอกเบยี้ อายขุ องพนั ธบตั ร จากนน้ั ครูตั้งขอสังเกตวา เพราะเหตุใดนักลงทุน ในการลงทุน ผู้ลงทุนจะต้องพจิ ารณาถึงปจั จยั ตา่ ง ๆ ดังต่อไปน้ี จงึ ทาํ การซอ้ื -ขายหุนในเวลาทตี่ า งกนั ไป (แนวตอบ นกั ลงทนุ จะเลอื กเวลาในการซอ้ื -ขาย แผนผังแสดงปจั จยั การลงทุนในธุรกจิ ของครวั เรอื น ทเี่ หมาะสม ทตี่ นคดิ วา ไดผ ลกาํ ไรสงู สดุ เพราะ หนุ สามารถผนั ผวนไดต ลอดเวลา การตดั สนิ ใจ ปัจจัยในการลงทนุ ผลตอบเเทน ของนกั ลงทนุ จะมผี ลตอ กาํ ไร-ขาดทนุ ดงั นนั้ ของครัวเรอื น เเละความเสีย่ ง นักลงทุนจะตองคํานึงถึงปจจัยตางๆ เชน ความเสยี่ ง กาํ ไร จงึ ตอ งเลอื กเวลาทเ่ี หมาะสม ในการซอื้ -ขายหุน) การคาดคะเน เก่ียวกบั เหตุการณ์ ต่าง ๆ ในอนาคต ค่าของเงนิ จา� นวน อายุของ ทรัพยส์ ิน ผู้ลงทุน ท่ีจา� หนา่ ย สภาพครอบครัว ในตลาด ๑) อตั ราผลตอบแทนและความเสย่ี ง การลงทนุ ในทรพั ยส์ นิ หรอื หลกั ทรพั ยต์ า่ ง ๆ เชน่ พนั ธบัตรรฐั บาล ห้นุ ทุน ที่ดิน ผลู้ งทนุ กห็ วังท่จี ะไดร้ บั ผลตอบแทนสูง ๆ และมีความเสยี่ งตา่� ในกรณที รี่ ฐั บาลกา� หนดอตั ราดอกเบยี้ พนั ธบตั รไวส้ งู อายขุ องพนั ธบตั รไมย่ าวนานมากนกั กจ็ ะทา� ให้ นกั ลงทุนหนั มาลงทนุ ซือ้ พนั ธบัตรรฐั บาลมากขึ้น ๑๒5 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู หากธนาคารพาณิชยปรับเพิ่มอัตราดอกเบ้ียเงินฝากใหสูงขึ้น 1 กองทุนรวมหุนระยะยาว เปนกองทุนท่ีจัดต้ังข้ึนโดยสถาบันการเงิน ดวย สง ผลดใี นดานใด การแบงทุนออกเปน มลู คาหุน หุน ละเทา ๆ กัน เชน 10 บาท และมกี ารนําออก ขายแกน กั ลงทนุ เมื่อไดเงนิ มาแลวก็จะนําเงนิ ไปลงทนุ ตามวตั ถปุ ระสงค เมอ่ื มี 1. การออม กําไรก็จะจา ยเปนเงนิ ปนผลใหก ับผูถอื หุนตามสัดสว นจํานวนหุน 2. การลงทุน 2 กองทุนรวมเพอื่ การเลย้ี งชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF) เปน 3. การทาํ ธุรกิจ กองทุนรวมประเภทหน่ึงซ่ึงมีวัตถุประสงคท่ีแตกตางจากกองทุนรวมทั่วๆ ไป 4. คา เงนิ บาทแขง็ คา ขึน้ กลาวคือ RMF เปนเครื่องมือหนึง่ ในการสะสมเงินไวใชในวยั เกษียณ โดยมกี าร สนบั สนุนใหส ิทธปิ ระโยชนทางภาษแี กผ ูลงทนุ เพื่อเปนแรงจงู ใจ (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการปรับดอกเบี้ยเงินฝาก เพม่ิ ขนึ้ เปน การสรา งแรงจงู ใจในการออมสาํ หรบั ผมู เี งนิ ออม เพราะ T137 ไดรับผลตอบแทนเพ่ิมข้ึน แตในทางตรงกันขามผูประกอบการ ท่ีตองกูเงินจากสถาบันการเงินมาทําธุรกิจ ตองไดรับผลกระทบ จากภาระดอกเบี้ยท่ีเพิ่มขึ้น เปนสาเหตุหนึ่งที่ทําใหนักลงทุน ผปู ระกอบการชะลอการลงทนุ )

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ในทางตรงกันข้าม ถ้าในช่วงใดที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรต่�า แต่อัตราผลตอบแทน จากการลงทนุ สูง เนื่องจากผลประกอบการของธรุ กิจดี ธุรกิจก็จะจ่ายเงินปันผลแกผ่ ถู้ อื หุ้นมากข้ึน ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ความตอ้ งการลงทนุ ในหนุ้ ทนุ หรอื หลกั ทรพั ยข์ องธรุ กจิ ตา่ ง ๆ กจ็ ะมมี ากขนึ้ เพราะในชว่ งเศรษฐกจิ ดี 14. ครูตั้งคําถามเกี่ยวกับปจจัยในการตัดสินใจ ภาวะความเส๒่ียง)จคะล่าดขลองงเงิน1 หรืออ�านาจซื้อของเงินในปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อการลงทุน ลงทุนของคนท่ัวไป เพ่ือใหนักเรียนไดแสดง ความคิดเหน็ เพมิ่ เตมิ เชน อย่างมาก ในช่วงเวลาใดท่ีค่าของเงินหรืออ�านาจซ้ือของเงินไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ผู้ลงทุน • ปจจัยสําคัญในการตัดสินใจลงทุนของ ส่วนใหญ่ก็มักจะลงทุนในการซ้ือพันธบัตรและหุ้นกู้ แต่ถ้าช่วงใดที่ค่าของเงินเปล่ียนแปลงมาก บุคคลทวั่ ไป มอี ะไรบาง ผูล้ งทุนอาจจะหันกลบั มาลงทุนในธรุ กจิ ทีเ่ สยี่ งมากขนึ้ เช่น การลงทุนในหุน้ ของธุรกจิ การลงทุน (แนวตอบ เชน เลือกลงทุนในธุรกิจท่ีไดรับ ในธุรกจิ อสังหารมิ ทรพั ยท์ ดี่ ิน เปน็ ต้น เพราะตอ้ งการทจี่ ะไดผ้ ลตอบแทนสงู และค้มุ กับความเส่ียง ผลตอบแทนสงู มคี วามเสยี่ งตาํ่ หรอื ความรู เกี่ยวกบั ค่าของเงนิ ความถนดั ในธุรกจิ ที่ลงทุนของผูลงทุน) • นักเรียนคิดวา ความผันผวนของคาเงินมี ๓) จา� นวนของทรพั ยส์ นิ ทจ่ี า� หนา่ ยในตลาด ถา้ ตลาดมที รพั ยส์ นิ ตา่ ง ๆ ของรฐั บาล ผลกระทบตอการลงทุนของบุคคลหรือไม อยา งไร ธุรกิจและองค์กรต่างๆ ออกมาจ�าหน่ายในตลาดมากข้ึน ก็จะจูงใจให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเลือกลงทุน (แนวตอบ มผี ลตอ การตดั สนิ ใจลงทนุ เพราะ ได้มากขนึ้ และมคี วามประสงค์จะเข้ามาลงทุนเพม่ิ ขึ้น ถา คา เงนิ ผนั ผวนมากอาจทาํ ใหม กี ารชะลอ การลงทุนของภาคธุรกิจ สวนประชาชน ๔) การคาดคะเนเกยี่ วกบั เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ในอนาคต ถา้ นกั ลงทนุ คาดการณว์ า่ ทั่วไปอาจตัดสินใจลงทุนที่มีความเสี่ยงตํ่า เชน ลงทนุ ในพันธบตั รรฐั บาล) ภาวะเศรษฐกจิ ในอนาคตจะขยายตวั เพมิ่ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ธรุ กจิ ตา่ ง ๆ จะจา� หนา่ ยสนิ คา้ และบรกิ าร ได้มาก แนวโน้มของก�าไรจะเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงมีความต้องการเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นทุนในธุรกิจ ตา่ ง ๆ เพมิ่ ขน้ึ เพราะคาดวา่ จะไดร้ บั เงนิ ปนั ผลเพม่ิ ขน้ึ และถา้ ไมต่ อ้ งการถอื หนุ้ ตอ่ ไป กจ็ ะจา� หนา่ ย หุน้ ออกไปไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและราคาเพม่ิ ขน้ึ โอกาสทจี่ ะได้กา� ไรก็มมี ากขึ้น ๕) ปัจจัยสว่ นตัวของผูล้ งทนุ เช่น ๕.๑) อายุของผูล้ งทนุ ผลู้ งทนุ ทมี่ ีอายุนอ้ ย เช่น อายุระหวา่ ง ๓๐ - ๔๐ ปี มัก จะกล้าเสย่ี ง และสนใจลงทุนในหลกั ทรัพยท์ ี่มีแนวโนม้ ว่าเงนิ ลงทุนงอกเงยสงู แตถ่ ้าผ้ลู งทุนมอี ายุ ระหว่าง ๔๐ - ๕๐ ปี อาจสนใจลงทุนในหลกั ทรัพยท์ ี่ให้รายได้ประจา� ท้งั นี้ อาจเนอ่ื งมาจากภาระ ทางครอบครวั แตถ่ า้ ผลู้ งทนุ ทมี่ อี าย ุ ๕๐ ปขี น้ึ ไป มกั จะพอใจลงทนุ ในหลกั ทรพั ยท์ ใี่ หร้ ายไดแ้ นน่ อน และมคี วามเสย่ี งตา่� มาก ๕.๒) นิสัยส่วนตัวของผู้ลงทุน ผู้ลงทุนที่มีนิสัยไม่กล้าเส่ียงมักจะชอบลงทุนใน หลกั ทรพั ยท์ ใ่ี หร้ ายไดแ้ นน่ อน มีความเสี่ยงน้อย แตผ่ ้ลู งทุนท่มี นี สิ ัยชอบเส่ียงก็อาจเลือกลงทนุ ใน หลักทรพั ย์ท่ใี หผ้ ลตอบแทนสงู แต่อาจมคี วามเสีย่ งมากกวา่ ๕.๓) สภาพของครอบครวั ผลู้ งทนุ ทมี่ คี รอบครวั แลว้ และตอ้ งรบั ผดิ ชอบตอ่ ความ เป็นอยู่ของครอบครัว ต้องให้การศึกษาแก่บุตร หรือเล้ียงดูบิดามารดา ท�าให้ต้องเลือกลงทุนใน หลกั ทรัพยท์ ม่ี ่นั คง ใหร้ ายไดท้ ีแ่ นน่ อน ส่วนคนท่ียงั โสด ไม่มภี าระครอบครวั มากนกั กอ็ าจลงทนุ ๑๒ใ6นหลกั ทรพั ย์ที่มีความเสีย่ งได ้ เป็นตน้ เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครคู วรนาํ เอกสารและแผน พบั ของสถาบนั การเงนิ ตา งๆ เชน ธนาคารพาณชิ ย ปจจัยที่เปนตัวกําหนดการลงทุนในขอใดมีความสัมพันธกับ ที่ใหความรูเก่ียวกับการลงทุน ประโยชนและผลตอบแทนท่ีไดรับ พรอมท้ัง ภาวะเงินเฟอและเงนิ ฝด มากท่ีสดุ ชใี้ หน กั เรยี นเหน็ ถงึ ความสาํ คญั ของการออมเงนิ และการบรหิ ารจดั การเงนิ ออม โดยนําเงนิ ออมไปลงทนุ เพอ่ื ใหเงินออมนน้ั งอกเงย และบอกความเสี่ยงจากการ 1. คา ของเงิน ลงทุนแตละประเภทดว ย 2. ผลตอบแทนและความเส่ียง 3. จาํ นวนทรพั ยส ินที่จําหนา ยในตลาด นักเรียนควรรู 4. การคาดคะเนที่เก่ยี วกบั เหตกุ ารณตางๆ ในอนาคต 1 คา ของเงนิ เปลยี่ นแปลงไปตามสภาวะเงนิ เฟอ ถา อตั ราเงนิ เฟอ สงู มากเทา ใด (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. คาของเงิน หมายถึง อํานาจซื้อ แสดงวาอํานาจซ้ือหรือคาของเงินจะลดลงมากขึ้น เชน จากท่ีเงิน 100 บาท ของเงิน ซึ่งจะมากหรือนอยขึ้นอยูกับดัชนีราคา (ระดับราคา ซ้ือของไดหลายอยาง เมื่อคาเงินลดลงกลับซ้ือของไดนอยลงหรือซ้ือของได ของสินคา และบรกิ าร) เพียงอยา งเดยี ว ถา คา ของเงินสงู = ดัชนีราคาต่ํา = ของถกู → ภาวะเงินฝด T138 คา ของเงนิ ตา่ํ = ดชั นีราคาสูง = ของแพง → ภาวะเงนิ เฟอ )

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เสริมสาระ ขนั้ สอน เปด ชองทางการลงทนุ ไปกับตราสารหน้ีและตราสารทนุ ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ปัจจุบันผู้มีเงินออม มีทางเลือกในการออมเงินเพ่ิมมากขึ้น การลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน เป็นอกี ช่องทางหน่ึงในการลงทุน 15. ครูใหนักเรียนศึกษาเสริมสาระ เรื่อง เปด ตราสารหนี้ (debt securities) คือ หลักฐานหรอื สญั ญาทผ่ี ้ตู ้องการเงินเปน็ ผู้ออกโดยระบรุ ายละเอียด ชองทางการลงทุนไปกับตราสารหน้ีและ ในการกเู้ งนิ เชน่ จา� นวนเงนิ ทตี่ อ้ งชา� ระคนื อตั ราดอกเบยี้ วนั ครบกา� หนด อายตุ ราสาร หลกั ประกนั เปน็ ตน้ ตราสารทุน จากหนงั สือเรียน สงั คมศึกษาฯ ตราสารหนี้ท่ีออกโดยรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ เรียกว่า “พันธบัตร” ส่วนตราสารหน้ีที่ออกโดยภาค ม.2 เพิ่มเติม จากนน้ั ครตู งั้ คําถาม เชน เอกชน เรยี กวา่ “หนุ้ ก”ู้ ซง่ึ มกั เปน็ ตราสารหนร้ี ะยะยาว คอื ตราสารหนใ้ี นตลาดทนุ สว่ นตราสารหนรี้ ะยะสนั้ • นักเรียนจะแนะนําใหผูปกครองลงทุนใน หรือตราสารหนี้ในตลาดเงินมักอยู่ในรูปของต๋ัวสัญญาใช้เงิน ดังน้ัน ผู้ลงทุนในตราสารหนี้จึงมีฐานะเป็น ตราสารหนี้และตราสารทุนอยางไร “เจ้าหน”ี้ ซง่ึ ไดร้ ับผลตอบแทนในรปู ของดอกเบยี้ (แนวตอบ เชน แนะนาํ ใหซ อื้ พนั ธบตั รรฐั บาล ตราสารทุน (equity securities) เป็นตราสารท่ีผู้ต้องการเงินทุนเป็นผู้ออกในรูปของหุ้นสามัญ ซงึ่ เปน ตราสารหนที้ อี่ อกโดยรฐั บาล เมอื่ ครบ หุ้นบุริมสิทธิและตราสารทุนอื่น ๆ โดยแบ่งทุนเป็นหุ้น หุ้นละเท่า ๆ กัน ผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุนในตราสาร กาํ หนดระยะเวลาจะไดร บั ผลตอบแทนเปน จะมีฐานะเป็น “เจ้าของกิจการ” ตราสารทุนมีได้หลายลักษณะ ที่ส�าคัญ ได้แก่ หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ดอกเบยี้ และมคี วามเสยี่ งในการลงทนุ นอ ย) และหน่วยลงทุน หุ้นสามัญ (common stock) เป็นตราสารประเภทหุ้นทุน ซ่ึงออกโดยบริษัทมหาชนจ�ากัดที่ต้องการ ระดมเงินทุนจากประชาชน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้เข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจน้ัน ๆ โดยตรง ผลตอบแทนที่จะ ไดร้ บั จากการถอื หนุ้ กค็ อื เงนิ ปนั ผลจากกา� ไรในธรุ กจิ กา� ไรจากการขายหนุ้ ถา้ ราคาหนุ้ ปรบั ตวั ขนึ้ และสทิ ธิ ในการจองซ้ือหนุ้ ใหมใ่ นกรณที ่ีมกี ารเพมิ่ ทุนจดทะเบยี น หุ้นบุริมสิทธิ (preferred stock) เป็นตราสารประเภทหุ้นทุน มีข้อแตกต่างจากหุ้นสามัญ คือ หนุ้ บรุ ิมสทิ ธิจะได้รับสทิ ธิในการชา� ระคนื เงินทุนก่อนผู้ถือหนุ้ สามัญ ในกรณที ่ีบริษทั เลิกกจิ การ ใบส�าคัญแสดงสิทธิ (warrant) เป็นตราสารท่ีระบุว่าผู้ถือครองจะได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ หุ้นกู้ หรือตราสารอนุพันธ์ในราคาที่ก�าหนดเมื่อถึงเวลาท่ีระบุไว้ ใบส�าคัญแสดงสิทธิมักจะ ออกควบคู่กับการเพ่ิมทุน เป็นเทคนิคการตลาดของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ในการจูงใจให้ผู้ลงทุนจองซื้อ หุ้นสามญั เพิ่มทนุ สิ่งทตี่ ้องร้กู อ่ นลงทนุ ในตราสารหน้ี ๑. มลู คา่ ท่ตี ราไว้ คือ ราคาต่อหน่วยที่ระบเุ อาไวใ้ นตราสาร ๒. อตั ราดอกเบย้ี หนา้ ตว๋ั คอื อตั ราดอกเบยี้ ทผี่ อู้ อกสญั ญาวา่ จะจา่ ยใหผ้ ลู้ งทนุ ซอื้ ตราสารนนั้ โดยอตั รา ดอกเบยี้ ที่ระบุอาจจะเป็นอัตราดอกเบยี้ แบบคงที่ ๓. งวดการจ่ายดอกเบยี้ คือ การระบุวา่ จะจ่ายดอกเบยี้ ให้กับผลู้ งทุนจา� นวนกค่ี ร้ังต่อปี ๔. วนั ครบกา� หนดไถถ่ อน คอื วนั ทตี่ ราสารนนั้ จะหมดอาย ุ และผลู้ งทนุ จะไดร้ บั เงนิ ตน้ คนื ความสา� คญั ของวนั ครบกา� หนดไถถ่ อนอย่ทู ี่ว่าจะยาวนานเพียงใด ๕. องคก์ รทอี่ อกตราสารและอนั ดบั เครดติ เพอ่ื ดคู วามมน่ั คงขององคก์ รและความเสย่ี งของการลงทนุ ๖. ประเภทของตราสารหนี ้ เพอื่ บง่ บอกใหร้ ู้ว่าตราสารทลี่ งทนุ มีความเสี่ยงอยา่ งไร ๗. ข้อสัญญา เงื่อนไขต่าง ๆ เป็นการดูในรายละเอียดว่าผู้ออกหุ้นกู้มีเงื่อนไขอะไรเป็นพิเศษท่ีจะท�า หรือไมท่ �าบา้ ง ๑๒๗ ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู การลงทุนในขอใดมีความสอดคลองกับเสถียรภาพของรายได ครอู ธิบายเพ่มิ เติมคาํ ศพั ทนารเู ก่ียวกบั ตราสารหน้ี มากทส่ี ดุ พันธบัตรหรือหุนกู คือ ตราสารแหงหนี้ระยะยาวซ่ึงผูออกมีขอผูกพันตาม กฎหมายท่ีจะชําระดอกเบี้ยและเงินตนแกผูซื้อตามเวลาท่ีกําหนด โดยทั่วไป 1. ปลอยเงนิ กู ตราสารหน้ีจะครบกําหนดระยะเวลาไถถอนไวแตกตา งกนั ไป เชน 5 ป 10 ป 2. ลงทนุ ในหนุ กู หรือนานกวานนั้ 3. เก็งกําไรทองคํา ดอกเบยี้ ดอกเบยี้ ซง่ึ จายใหกบั ผถู อื กรรมสิทธใ์ิ นตราสารหน้ีเปน งวดตลอด 4. เก็งกาํ ไรจากอตั ราแลกเปลีย่ น อายขุ องตราสารหนี้ เพอื่ เปน คา ตอบแทนสาํ หรบั การนาํ เงนิ มาลงทนุ การกาํ หนด อตั ราดอกเบ้ยี จะกําหนดเปนรอ ยละตอปจากราคาท่ตี ราไว การจา ยดอกเบยี้ ใน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะหนุ กูเปน ตราสารหน้ีทอ่ี อก ประเทศไทยสว นใหญจ ายเปน งวดทกุ 6 เดอื นหรอื 1 ป โดยภาคเอกชน ผูล งทนุ ในหุนกจู ะไดร บั ผลตอบแทนเปนดอกเบีย้ หุนกูภาคเอกชน มีลักษณะคลายกับตราสารหน้ี คือ เปนตราสารท่ีแบง ซ่ึงจายสมํ่าเสมอตลอดระยะเวลาท่ีถือครองอยูตามระยะเวลาท่ี เปน หนว ย แตล ะหนว ยมมี ลู คา เทากันและกาํ หนดประโยชนต อบแทนไวเ ปนการ กาํ หนด เชน 5 ป 10 ป ผูถือครองหนุ กูถอื เปน เจา หนขี้ องธรุ กจิ ลวงหนาในอัตราเทากันทุกหนวย หุนกูบางอยางสามารถแลกเปลี่ยนเปน ที่ไดรับผลตอบแทนเปนดอกเบี้ย ซึ่งเปนผลตอบแทนที่ม่ันคง หุนสามัญได มีความเสยี่ งต่ํากวา การลงทนุ ในขออืน่ ๆ) T139

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๒.6 การบริหารจัดการการลงทุนในภาคครวั เรือน การลงทุนเป็นการใช้เงินออมท่ีได้สะสมมาเป็นเวลานานเพื่อน�าไปลงทุน เพ่ือให้เกิด ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู ผลประโยชน์งอกเงย ซ่ึงในการด�าเนินการเพื่อลงทุนจ�าเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการที่ดี นบั ตงั้ แตก่ ารกา� หนดวตั ถปุ ระสงคข์ องการลงทนุ 16. นกั เรยี นกลมุ ที่ 6 การบรหิ ารจดั การการลงทนุ การจดั ทา� แนวทางการลงทุน การวเิ คราะหแ์ ละ ในภาคครัวเรือน สงตัวแทนนําเสนอขอมูล เลอื กหลกั ทรพั ย ์ การประเมนิ ผลการลงทนุ ดงั น้ี หนาชั้นเรียนตามประเด็นทีศ่ ึกษา ๑) การก�าหนดวัตถุประสงค์ 17. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นถึง ความจําเปน ความสําคัญ และแนวทาง ในการบริหารจัดการเพื่อการลงทุนในภาค ครวั เรอื นเพิม่ เตมิ ของการลงทุนของครัวเรือน โดยผู้ลงทุนที่ เป็นครัวเรือน ต้องมีการก�าหนดวัตถุประสงค์ ของการลงทนุ กอ่ นวา่ จะลงทนุ เพอ่ื อะไร ยอมรบั ความเสี่ยงได้มากน้อยเท่าใด ฐานะการเงนิ ของ ครัวเรือนเป็นอย่างไร ต้องการรายได้ประจ�า มาใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด เพราะการก�าหนด วตั ถปุ ระสงคข์ องการลงทนุ ของครวั เรอื นทช่ี ดั เจน  การนา� เงนิ ออมมาขยายกจิ การของครอบครวั เปน็ ชอ่ งทาง จะทา� ใหส้ ามารถเลอื กลงทนุ ในหลกั ทรพั ยต์ า่ ง ๆ หน่งึ ในการลงทนุ ได้อย่างถกู ตอ้ ง ๒) การจดั ทา� แนวทางการลงทนุ ของครวั เรอื น หลังจากก�าหนดวัตถปุ ระสงคข์ อง การลงทนุ แลว้ กต็ อ้ งกา� หนดแนวทางการลงทนุ ทส่ี นองตอบตอ่ วตั ถปุ ระสงคข์ องการลงทนุ โดยเรมิ่ จาก การตดั สนิ ใจจดั สรรเงนิ ลงทนุ ในหลกั ทรพั ยแ์ ตล่ ะประเภทในสดั สว่ นมากนอ้ ยเพยี งใด เชน่ จะนา� เงนิ ไปซอ้ื พนั ธบตั รรฐั บาลจา� นวนเทา่ ไร จะนา� ไปซอ้ื หนุ้ จากธรุ กจิ ตา่ ง ๆ จา� นวนเทา่ ไร หรอื จะนา� เงนิ ไป ซ้ือห้นุ ของกองทุนต่าง ๆ จ�านวนเทา่ ไร ๓) การวิเคราะห์และเลือกหลักทรัพย์ลงทุน หลักทรัพย์ลงทุนในแต่ละธุรกิจ มหี ลายประเภท ซงึ่ แตล่ ะประเภทจะมผี ลตอบแทนและความเสี่ยงท่ีแตกต่างกัน ครวั เรอื นจะเลอื ก ปลงรทะเนุ ภใทนดหังลกกั ลทา่ รวพั ยสข์ภอางวธะรุกกาจิรใแดข ง่ กขจ็นั �า1 เนปโ็นยตบ้อางยศขกึอษงธารุผกลจิ ป2 รตะลกออดบจกนากราขรอวงเิ คธรรุ ากะจิ ห ภ์ แานววะโเนศ้มรษขฐอกงิจธขุรกอิจง ประเทศ โดยครัวเรือนอาจมีการกระจายกลุ่มหลักทรัพย์ลงทุน โดยกระจายการลงทุนไปใน หลกั ทรพั ยข์ องธรุ กจิ ตา่ ง ๆ หลายประเภท เพอ่ื ลดความเสย่ี งจากความเสยี หายของธรุ กจิ ประเภทใด ประเภทหนึ่ง การเลือกลงทุนในหลักทรพั ยต์ ่าง ๆ อยา่ งเหมาะสมนอกจากท�าให้รายได้เพิ่มขนึ้ แล้ว ยงั ช่วยลดความเส่ียงในการลงทุนด้วย ๑๒๘ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 สภาวะการแขงขัน การดําเนินธุรกิจในหลายประเภทมีการแขงขันสูง การลงทุนภาคครวั เรือนควรคาํ นงึ ถึงปจจยั ใดบา ง จึงทําใหธุรกจิ ตอ งมกี ารปรับปรงุ ระบบการผลิต การบริหารจดั การภายในธรุ กิจ อยเู สมอ เพือ่ ปอ งกันความเสย่ี งในการดาํ เนินงาน (แนวตอบ การตัดสินใจลงทุนในภาคครัวเรือนจะตองคํานึงถึง 2 นโยบายของธรุ กจิ เจาของธุรกิจจะมกี ารกําหนดนโยบายของธุรกจิ ไวเ สมอ รายได รายจาย เงนิ ออมของครอบครวั กอ นวา เหมาะแกการลงทนุ เชน นโยบายเพอื่ ขยายลกู คา กลมุ เปา หมาย นโยบายเพม่ิ ผลผลติ นโยบายลดตน ทนุ ประเภทใด จากน้ันทําการศึกษาปจจัยเสี่ยงและผลตอบแทน การผลิต นโยบายขยายตลาดไปยงั ตางประเทศ จากการลงทุนประเภทตางๆ ติดตามสถานการณการลงทุน จากแหลงขอมูลตางๆ อยูสมํ่าเสมอ เพ่ือนําขอมูลมาวางแผน สื่อ Digital ในการพัฒนาปรับเปล่ียนธุรกิจ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ของสถานการณตางๆ มีการประเมินผลการลงทุนเปนระยะๆ ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับการวางแผนการลงทุนในตลาด เพื่อประเมินผลตอบแทน สภาพปญหา ความเส่ียงของธุรกิจ หลกั ทรพั ย ไดท่ี https://www.set.or.th/set/publicpaper.do?topicId=50&l นอกจากน้ี จะตอ งศกึ ษาตลาด วเิ คราะหค แู ขง ทางธรุ กจิ จะไดป รบั anguage=th&country=TH ตลาดหลกั ทรพั ยแหงประเทศไทย กลยุทธใ นการบรหิ ารจัดการ) T140

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๔) การประเมนิ ผลการลงทนุ ของครวั เรอื น ครวั เรอื นจะตอ้ งมกี ารประเมนิ ผลการ ขน้ั สอน ลงทนุ ในกลมุ่ หลกั ทรพั ย์ต่าง ๆ ตลอดเวลา ถา้ หุน้ หรือหลักทรพั ย์ใดท่มี ีมลู คา่ ลดลง ก็อาจตดั สินใจ ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ขายและน�าเงินไปลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่นท่ีมีมูลค่าเพิ่มขึ้นและมีผลประกอบการท่ีดี ซ่ึงจะ ชว่ ยเพ่ิมรายได้และลดความเส่ยี งในการลงทุนของครวั เรือนลงได้ 18. นักเรียนกลุมที่ 7 ปญหาของการลงทุนใน ประเทศไทย สงตัวแทนนําเสนอขอมูลหนา ๒.๗ ปญั หาของการลงทนุ ในประเทศไทย ช้นั เรียนตามประเดน็ การลงทนุ ในภาคครัวเรือนและในภาคธรุ กิจของประเทศไทย มีปัญหาและอุปสรรค ดงั นี้ 19. ครูนําขาวเศรษฐกิจท่ีแสดงถึงสถานการณ การลงทุนของไทย และปญหาการลงทุน ๑) ประชากรไทยมีรายได้ต�่า ส่วนใหญ่ใช้รายได้ไปเพื่อการบริโภคเกือบท้ังหมด ทงั้ ในประเทศและตา งประเทศมาใหน กั เรยี น รวมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเพ่มิ เติม เงินที่เหลือเก็บออมจึงมีน้อย ท�าให้เงินท่ีจะน�าไปลงทุนมีน้อย ดังน้ัน ประเทศไทยจึงต้องพ่ึงเงิน ลงทนุ จากต่างชาติอยเู่ สมอ ๒) ประชากรส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในด้านการลงทุน เนื่องจากการลงทุน มหี ลายรปู แบบ ทง้ั การลงทนุ ในตราสารหนแ้ี ละการลงทนุ ในตราสารทนุ แตป่ ระชากรยงั ขาดความรู้ ในวธิ กี ารลงทุน รูปแบบของการลงทนุ กระบวนการลงทุน ดงั นั้น จงึ มกั นา� เงินออมไปฝากธนาคาร พาณชิ ยใ์ นรปู แบบของการฝากประจา� ซงึ่ ไดร้ บั ผลตอบแทนทตี่ า�่ กวา่ การลงทนุ ในชอ่ งทางอนื่ ๆ ทง้ั น ี้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะให้ความม่ันใจกับสถาบันการเงินประเภทธนาคาร เน่ืองจากเงินฝาก จะไม่สญู หาย ถึงแม้ว่าธนาคารนนั้ จะปิดตัวลง เพราะมีรัฐบาลคา้� ประกนั เงินฝาก จงึ มีความมน่ั ใจ ฝากเงินกับธนาคารมากกว่าจะลงทุนในรูปแบบอ่ืน ๆ เพราะยังไม่มีความรู้ความเข้าใจและกลัว ความเส่ยี ง ๓) การจ�าหน่ายพันธบัตรของรัฐบาล1ในแต่ละรุ่นมีปริมาณเงินจ�ากัด ท�าให้ ผู้ต้องการลงทุนจองซ้ือได้ยาก และมักขาดข้อมูลข่าวสาร ท�าให้ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะจ�าหน่าย พนั ธบตั รเมอื่ ใด อนั เกดิ จากขาดการประชาสมั พนั ธส์ ตู่ ลาดอยา่ งกวา้ งขวาง ทา� ใหม้ ผี ซู้ อื้ เฉพาะกลมุ่ ไมไ่ ดก้ ระจายอยา่ งทว่ั ถงึ เพราะสว่ นใหญพ่ นั ธบตั รของรฐั บาลจะเปดิ ขายในโอกาสพเิ ศษ จา� กดั วงเงนิ ไมไ่ ดเ้ ปดิ ขายทัว่ ไป และมกี ารจา� กดั เฉพาะบางสาขา ๔) ความผนั ผวนของภาวะเศรษฐกจิ เชน่ ภาวะเศรษฐกจิ ตกตา่� ทา� ใหร้ าคาของหนุ้ หรือหลกั ทรัพยล์ ดลง ผลู้ งทุนบางคนอาจขาดทุนหรือได้รับผลตอบแทนทตี่ ่�า ไมค่ ุ้มกบั ความเสย่ี ง ดงั น้ัน จงึ ทา� ให้ครัวเรอื นทขี่ าดความรไู้ ม่กล้าเข้าไปลงทนุ ๕) การเขา้ มาลงทนุ ในตลาดหลกั ทรพั ยห์ รอื ตลาดหนุ้ ในบางกรณกี เ็ ปน็ ไปเพอื่ เลกงง็ทกุนา�ดไว้ รย ท แา� ลใหะภ้กาารพลลงกั ทษนุ ณในข์ ตอลงกาดารหลลงกั ททนุ รใัพนยส2จ์ายะมตาคี ขวอามงคอนอ่ ทนวั่ไไหปวยสงังู เ หเชน็ น่วา่ เเปมน็่ือเมรขีอื่ ่างทวสไ่ี มารน่ หา่ รจือะเขข้อา้ มไปลู ทก่ี ระทบกบั คนในประเทศหรอื ตา่ งประเทศ จะทา� ใหห้ นุ้ ตก จงึ ทา� ใหค้ นสว่ นใหญไ่ มก่ ลา้ เขา้ มาลงทนุ เพราะกลัวภาวะเสยี่ ง เปน็ ต้น ๑๒9 ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ปญหาการลงทุนในขอใด ที่สงผลกระทบตอการเติบโตทาง 1 การจําหนายพันธบัตรของรัฐบาล ตามปกติรัฐจะมีการจําหนายพันธบัตร เศรษฐกจิ ของประเทศไทยมากทส่ี ุด เปนรนุ ตามนโยบายของรัฐ และมีการกาํ หนดวงเงินทีจ่ าํ หนายไวช ดั เจน มีการ ประกาศวนั เวลา สถานท่ีจาํ หนายไวล วงหนาผา นสื่อตา งๆ เชน ทางสถานีวิทยุ 1. ในชนบทมีการลงทุนนอย โทรทัศน 2. ประชากรสว นใหญม รี ายไดต ่ํา 2 การลงทุนในตลาดหลักทรัพย มีความเส่ียงเชนเดียวกับการลงทุนประเภท 3. การเกง็ กําไรในตลาดหลักทรัพย อื่นๆ หากธุรกิจท่ีเลือกตองเผชิญกับสภาวะท่ีไมเอื้ออํานวย ทําใหผลประกอบ 4. ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ การตกตา่ํ สง ผลถงึ เงนิ ปน ผลอนั พงึ ไดร บั จากธรุ กจิ ทล่ี งทนุ ไป ซง่ึ ในกรณที ธ่ี รุ กจิ ท่ีลงทุนประสบกับสภาวะขาดทุนจนตองปดกิจการ เราจะไดรับเงินลงทุนคืน (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ปญหาสําคัญที่สุดของการออม แตธุรกิจน้ันตองมีทรัพยสินคงเหลือหลังจากชําระหน้ีใหแกเจาหนี้แลวเทานั้น ภาคครัวเรือนของไทย คือ ปญหาประชากรสวนใหญมีรายไดต่ํา และในฐานะผูถ อื หนุ มลู คา ของหนุ หรอื หลกั ทรัพยท ี่ “ถอื ” หรอื “เปนเจาของ” จงึ ทาํ ใหไ มม เี งนิ ออมและยงั ตอ งเปน หน้ี ทาํ ใหไ มม เี งนิ ออมไปลงทนุ สามารถปรับตวั ข้ึนลงไดเ ชนกัน ในธุรกิจตางๆ จึงไมเกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ซ่ึงสงผล กระทบตอ การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจของประเทศ) T141

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๖) ภาคชนบทยงั มกี ารลงทนุ นอ้ ย เนอ่ื งจากครวั เรอื นในชนบทสว่ นใหญม่ รี ายไดต้ า่� ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู รายไดส้ ว่ นใหญใ่ ชจ้ า่ ยเพอ่ื การบรโิ ภคในชวี ติ ประจา� วนั บางครวั เรอื นกม็ รี ายไดไ้ มเ่ พยี งพอกบั รายจา่ ย ท�าให้ไม่มีเงินออมและยังต้องเป็นหนี้ ดังนั้น จึงจ�าเป็นต้องมีมาตรการในการเพิ่มรายได้ให้กับ 20. นักเรียนกลุมที่ 8 ความแตกตางระหวาง ตปงั้รกะชลามุ่ ชอนอใมนทชรนพั บยท ์1แดล้วะยนกา� าเรงสนิ รอ้าองมงาทนไี่ ด ไ้สปรร้าว่งมอลาชงทีพนุ ผเพลติื่อสเพนิ ิ่มครา้ าจยา� หไดน้ า่ แยล เะปสน็ ่งกเสารริมเพกมิ่ ารราอยอไมดโม้ ดายกกขาน้ึร การออมและการลงทุน สงตัวแทนนําเสนอ ขอ มูลหนา ชนั้ เรยี นตามประเด็น ๓. ความแตกตา่ งระหว่างการออมและการลงทนุ 21. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั วเิ คราะหแ ละยกตวั อยา ง ความแตกตา งระหวา งการออมและการลงทนุ เพม่ิ เติม การออมและการลงทุนเป็นสงิ่ ทีม่ คี วามสา� คัญต่อระบบเศรษฐกจิ อยา่ งมาก ซง่ึ การออมและ การลงทุนมคี วามแตกตา่ งกนั กลา่ วคือ พอกพนู กขาน้ึรเอมออื่ มเว ลเาปผ็นา่ กนาไปรเ กซ็บง่ึ กสาะรสอมอเมงสินว่ ทนีลใหะเญลอ่็กยทใู่ ีนลระปูนข้ออยงจเางนิกฝราายกกไดบั ้ทธน่ีเหาคลาือรจ หากรอืกบารรษิใชทั ้จเง่านิ ยทใหนุ 2 ้ โดยไดร้ บั ดอกเบยี้ เป็นผลตอบแทน การลงทนุ เปน็ การนา� เงนิ ออมทเ่ี กบ็ สะสมไปสรา้ งผลตอบแทนทส่ี งู กวา่ การออม โดยการลงทนุ ในพนั ธบตั รรฐั บาล หรอื หลกั ทรพั ยต์ า่ ง ๆ ซง่ึ จะไดร้ บั ผลตอบแทนในรปู ของดอกเบยี้ เงนิ ปนั ผลและ กา� ไร ตามประเภทของหลกั ทรพั ยท์ ล่ี งทนุ สา� หรบั การออมและการลงทนุ สามารถเปรยี บเทยี บได ้ ดงั นี้ ตารางเปรยี บเทียบการออมกบั การลงทนุ การออม การลงทนุ การสะสมเงินเพอ่ื ใหพ้ อกพนู ไวใ้ ช้จ่ายในยามฉกุ เฉนิ ยามชรา ➡ วัตถุประสงค์ ➡ การสะสมเงินให้เพิม่ พนู ต่อเน่ืองใน หลังเกษยี ณจากการทา� งาน ระยะยาว ฝากเงินกบั ธนาคารพาณชิ ย์ ➡ วธิ กี ารสะสม ➡ ลงทนุ ในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นก ู้ บริษทั เงนิ ทนุ สหกรณ์ออมทรัพย์ กองทุนรวม กองทุนสา� รองเลี้ยงชีพ ทองคา� อสังหาริมทรพั ย์ ดอกเบยี้ ➡ ผลตอบแทน ➡ ดอกเบี้ย เงินปันผล ก�าไรหรือขาดทุน จากการลงทนุ ความเสย่ี งต่า� เพราะเงนิ ฝาก ➡ ความเสยี่ ง ➡ มีความเส่ียงมากน้อยตามประเภทและ ธนาคารพาณชิ ย์มีกองทุน ประกันเงนิ ฝากค�า้ ประกัน ลักษณะของหลกั ทรัพยท์ ี่ลงทุน มีสภาพคล่องสงู ➡ ข้อไดเ้ ปรียบ ➡ ไดร้ ับผลตอบแทนในระยะยาวสูงกวา่ ผลตอบแทนจากดอกเบ้ียเงนิ ฝากตา่� ➡ ขอ้ เสยี เปรยี บ ➡ มโี อกาสขาดทนุ จากการลงทนุ ได้ ๑๓0 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 กลุมออมทรัพย กลุมท่ีมีการกอต้ังอยางไมเปนทางการของประชาชน ขอใดแสดงถึงความสมั พนั ธของการออมและการลงทุน เพื่อรว มกันแกปญหาทางดานเศรษฐกจิ ของสมาชกิ ดาํ เนินงานโดยสมาชกิ ดว ย 1. นาํ เงินไปฝากธนาคารเพื่อรบั ดอกเบ้ีย การเกบ็ สะสมเงนิ ออมทรพั ย และนาํ เงนิ ออมไปใหส มาชกิ กยู มื จดั สวสั ดกิ ารใหก บั 2. เกบ็ สะสมเงินใหม ากทส่ี ุด แลว นําไปปลอยกู สมาชกิ เพอื่ ชว ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั ทางดา นการเงนิ ปจ จบุ นั ชมุ ชนตา งๆ ไดม กี าร 3. นาํ เงินรายไดไ ปลงทนุ ซอ้ื ขายอสงั หาริมทรัพย จดั ตงั้ กลมุ ออมทรพั ย เพอื่ แกป ญ หาและพฒั นาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน ทาํ ใหม แี หลง 4. นาํ เงินคงเหลือจากคา ใชจ ายไปซ้ือพนั ธบตั รรัฐบาล เงนิ ทนุ เพอ่ื สนบั สนนุ การประกอบอาชพี ทาํ ใหค นรจู กั ประหยดั สะสมเกบ็ ออมเงนิ (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. การออม คือ รายไดสวนทีเ่ หลือ 2 บรษิ ัทเงนิ ทนุ สถาบนั การเงนิ ท่ที ําหนาที่ในการระดมทนุ ดว ยการกยู มื เงนิ จากการใชจาย การลงทุน คือ การนําเงินที่เก็บออมมาสรางผล จากประชาชน โดยการออกตว๋ั สญั ญาใชเ งนิ แลว นาํ เงนิ ทก่ี ยู มื มาไปลงทนุ หรอื ให ตอบแทนใหง อกเงยมากขึน้ กวา เดิม กยู มื ตอ ไป เพือ่ แสวงหารายไดใ นกจิ การตา งๆ เชน ดังนั้น ตัวเลือกขอ 4. การนําเงินออมไปซ้ือพันธบัตรรัฐบาล • ใหก ยู ืมระยะสั้นไมเ กนิ 1 ปข น้ึ ไป เรียกวา ธรุ กจิ เงินทนุ เพ่ือการพาณชิ ย เปนการลงทุนในตราสารหน้ีของรัฐบาล โดยจะไดผลตอบแทน • ใหก ูยืมเกิน 1 ปข น้ึ ไป เรยี กวา ธรุ กิจเงินทนุ เพอื่ การพัฒนา เปน ดอกเบยี้ และรฐั บาลกน็ าํ เงนิ จากการขายพนั ธบตั รไปใชใ นการ • ใหกูยืมแกผูประกอบกิจการใหเชาซื้อหรือใหประชาชนเชาซ้ือ เรียกวา พัฒนาประเทศตอไป) ธุรกจิ เงนิ ทนุ เพ่อื การจําหนา ยและการบริโภค T142

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ จึงกล่าวได้ว่าการออมกับการลงทุนมีความสัมพันธ์กัน เพราะการเก็บออมเงินอย่างเดียว ขน้ั สรปุ ไม่ได้ท�าให้เงินเหล่านั้นเพ่ิมมูลค่า หรือการฝากเงินกับธนาคารอย่างเดียวอาจไม่ได้ผลตอบแทน ทม่ี ากพอ ดงั นนั้ การนา� เงนิ ออมไปลงทนุ จะเปน็ การสรา้ งผลตอบแทนใหเ้ พมิ่ ขน้ึ ได ้ แตใ่ นการลงทนุ ข้นั ที่ 4 ขยายความเขาใจ จะตอ้ งมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู และความเสย่ี งในการลงทนุ ใหด้ กี อ่ น เพอ่ื ปอ้ งกนั การสญู เสยี เงนิ ออมและ ทา� ใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนเพ่ิมขึน้ เพื่อเก็บเงินเหล่านน้ั ไว้เปน็ เงนิ ออมเพ่อื อนาคตต่อไป 1. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 6.2 เรื่อง การลงทุน โดยครูแนะนําเพ่มิ เตมิ ปัจจุบันการออมของคนไทยยังมีข้อจ�ากัด เนื่องจากรายได้ของคนไทยมีจ�ากัดและ ขาดการวางแผนการใช้เงนิ อย่างรดั กมุ ทา� ใหเ้ กิดชอ่ งว่างของการออม กล่าวคอื บางครวั เรือน 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร มเี งนิ ออมนอ้ ย หรอื ไมม่ เี งนิ ออม ในขณะทบ่ี างครวั เรอื นมเี งนิ ออมมาก ครวั เรอื นทมี่ เี งนิ ออมนอ้ ย ม.2 เก่ยี วกบั เรอ่ื ง การลงทนุ จะสง่ ผลกระทบตอ่ การดา� เนนิ ชวี ติ ประจา� วนั และความมนั่ คงในการดา� รงชวี ติ ทา� ใหต้ อ้ งประสบกบั ปญั หาหนส้ี นิ และขาดคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ี ดงั นนั้ จงึ ควรใหค้ วามสา� คญั กบั การออมและนา� เงนิ ออม ขน้ั ประเมนิ ส่วนหนึง่ ไปลงทุน เพอ่ื ให้เงนิ ออมเพ่มิ พูนขึ้น สามารถสร้างความม่ันคงในการด�าเนินชีวติ ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน พบั เรื่อง ปจ จยั ที่มผี ลตอ การ ออมและการลงทุน 3. ครใู หนักเรยี นทําแบบวัดฯ เศรษฐศาสตร ม.2 เพื่อทดสอบความรูท่ไี ดศกึ ษามา 4. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย การเรียนรทู ่ี 6 5. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน 6. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน แบบฝก สมรรถนะฯ และแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 ๑๓๑ กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล ครูใหนักเรียนคิดกิจกรรมหรือโครงการสงเสริมการออมใน ครสู ามารถวดั และประเมินความเขา ใจเน้อื หา เร่อื ง การลงทนุ ไดจ ากการ โรงเรยี น เชน ตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น โดยศกึ ษา เกณฑก ารวดั และประเมนิ ผลจากแบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงานทแ่ี นบมาทา ย • กิจกรรมวาดภาพและแตงคําประพันธ ในหัวขอ “การออม แผนการจดั การเรยี นรูห นวยท่ี 6 เรอ่ื ง การออมและการลงทุน เงนิ เพอ่ื อนาคต” เปน กจิ กรรมทส่ี ง เสรมิ ใหน กั เรยี นวางแผนการออม และปลูกฝง ใหน ักเรียนมีนิสัยรกั การออม แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน • โครงการหารายไดร ะหวา งเรยี น เชน การปลกู ผกั สวนครวั ขาย คาชีแ้ จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ การขายผลิตภัณฑงานฝมือ การรับจางท่ัวไป ซ่ึงนักเรียนสามารถ ตรงกับระดับคะแนน นํารายไดสว นหน่งึ มาฝากท่โี รงเรยี นธนาคาร ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา 2 การลาดบั ขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ T143

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คาํ ถามประจาํ หนว ยการเรียนรู คÓถาม ประจÓหน่วยการเรียนรู้ ๑. การออมคอื อะไร การออมจะกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ครวั เรอื นและเศรษฐกจิ ของประเทศอยา่ งไร 1. การออม คือ รายไดท่ีเหลือจากการใชจาย ๒. ครวั เรอื นจะมีการออมมากหรอื น้อย ข้ึนอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ประโยชน ตอ ภาคครวั เรอื น เชน ทาํ ใหม เี งนิ ออม ๓. ในครอบครวั ของนกั เรยี นมีการออมหรอื ไม ่ และมวี ัตถปุ ระสงค์เพอ่ื อะไร สวนหนึ่งไวใชจายในยามฉุกเฉิน ตอภาค ๔. ปัญหาการออมในสังคมไทยมีอะไรบา้ ง และมีวิธีการแก้ไขอยา่ งไร เศรษฐกจิ เชน ทาํ ใหมแี หลงเงินทนุ ของธุรกจิ ๕. การลงทุนก่อใหเ้ กิดประโยชน์แกผ่ ู้ออม ธุรกจิ และประเทศอยา่ งไร ตางๆ เปนแหลงเงินกูภายในประเทศใหกับ ๖. การลงทุนแบง่ ออกเป็นกปี่ ระเภท อะไรบ้าง รัฐบาล เพ่ือนําไปใชในการพัฒนาเศรษฐกิจ ๗. หลกั เกณฑท์ ่ีควรคา� นงึ ถงึ ในการลงทุนมอี ะไรบา้ ง ประเทศ ๘. ปจั จัยอะไรบ้างทเี่ ปน็ ตวั ก�าหนดในการลงทนุ ๙. การบริหารจดั การการลงทุนของครวั เรอื นมลี กั ษณะอยา่ งไร 2. เชน รายไดสวนบุคคล ผูมีรายไดมากจะมี ๑๐. การกระจายการลงทนุ มคี วามจา� เป็นหรอื ไม ่ และจะไดร้ ับผลประโยชนอ์ ย่างไร โอกาสในการออมมากกวาผมู รี ายไดน อ ย กจิ กรรม สรา้ งสรรค์พฒั นาการเรียนรู้ 3. นกั เรยี นตอบตามความเปน จรงิ เชน กจิ กรรมท่ี ๑ นกั เรยี นจดั ทา� รายรบั รายจา่ ย ของครวั เรอื นในเดอื นใดเดอื นหนง่ึ และใหว้ เิ คราะห์ ในครอบครัวมีการออมเงนิ เพอ่ื เปนทนุ การศกึ ษาหรือไวท อ งเที่ยว ว่ามีค่าใช้จ่ายประเภทใดบา้ งที่เป็นรายจ่ายที่ไม่จา� เป็น และมวี ธิ ีการลดค่าใช้จา่ ย เหล่านัน้ ไดอ้ ยา่ งไร โดยบนั ทกึ ลงในกระดาษ A๔ 4. เชน ประชาชนมีรายไดต่ํา แนวทางแกไข เชน นาํ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมา กจิ กรรมท่ี ๒ น ักเรียนร่วมกันอภิปรายและวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนและการออม ปรบั ใชในชวี ิตประจําวนั ในประเดน็ “ครัวเรอื นควรเลอื กลงทนุ อยา่ งไรจงึ จะเหมาะสม” 5. ผูออม ไดรบั ผลตอบแทนเปนดอกเบีย้ ภาคธุรกจิ มีแหลง เงินทนุ เกิดการขยายงาน กจิ กรรมที่ ๓ นักเรยี นนา� ข่าว หรอื บทความเก่ยี วกบั สถานการณก์ ารลงทุนของไทยในปจั จบุ นั การจางงาน ประเทศ ทาํ ใหร ัฐจดั เก็บรายได มากขนึ้ มาวิเคราะห์สถานการณ์ แนวโน้มของการลงทุนของไทย และวิเคราะห์ถึง ผลกระทบต่อเศรษฐกจิ ของไทยโดยรวม 6. 3 ประเภท ไดแก การลงทุนเพ่ือการบริโภค การลงทนุ ในภาคธรุ กจิ และการลงทนุ ในหลกั ๑๓๒ ทรพั ย 7. ไดรับผลตอบแทนทค่ี มุ คา ความเส่ียงตา่ํ มคี วามปลอดภยั ของเงินทนุ 8. เชน รายไดและเงนิ ออมของครอบครัว ผลตอบแทนและความเสี่ยง 9. มกี ารกาํ หนดวัตถปุ ระสงคทช่ี ดั เจน วางแผน การลงทุน วิเคราะหและเลือกหลักทรัพยใน การลงทุน และประเมินผลการลงทนุ 10. จําเปน เพราะผูลงทุนจะตองกระจายความ เส่ียงในการลงทุน เงินลงทุนไมกระจุกตัวอยู กบั ธรุ กจิ ใดธรุ กจิ หนง่ึ ชว ยใหธ รุ กจิ ดาํ รงอยไู ด เฉลย แนวทางประเมินกจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยท่ัวไป ซ่ึงเปน งานหรอื ชน้ิ งานทใ่ี ชเวลาไมนาน สาํ หรบั การประเมนิ รูปแบบนอ้ี าจเปน คําถามปลายเปด หรือผังมโนทศั น นิยมสําหรับประเมินผูเรยี นรายบุคคล ประเมนิ ความสามารถ • ใชในการประเมนิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ และความ สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือช้ินงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต ประจําวัน อันมีความเกี่ยวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรที่มีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน จากการสงั เกต การเขยี น การตอบคาํ ถาม การวิเคราะห การแกป ญ หา ตลอดจนการทาํ งานรวมกนั ประเมินทกั ษะ • ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมท่ีตองมีความเกี่ยวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรที่มีความซับซอน และกอเกิดเปน ความชาํ นาญในการนํามาเปน แนวทางปฏิบตั จิ รงิ ในชีวิตประจําวันอยางยงั่ ยืน เชน ทกั ษะในการสือ่ สาร ทักษะในการแกป ญหา ทักษะ ชวี ิตในดา นตางๆ โดยอาจมกี ารนําเสนอผลการปฏบิ ัตงิ านตอ ผเู ก่ียวขอ ง หรือตอ สาธารณะ สง่ิ ทต่ี อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผี่ เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทต่ี อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน T144

Chapter Overview แผนการจัด ส่ือท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนงั สอื เรยี น 1. อธบิ ายความหมาย สบื เสาะ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ทักษะการ 1. มวี นิ ยั ความหมาย สังคมศึกษาฯ ม.2 ความสำ� คัญ และปจั จัย หาความรู้ - ตรวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ วิเคราะห์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ความสำ�คญั - แบบฝึกสมรรถนะ การผลติ สินค้าและ (5Es และการคดิ เศรษฐศาสตร์ ม.2 3. ม่งุ มนั่ ในการ และปัจจยั การ และการคิด บริการได้ (K) Instructional - ตรวจใบงานที่ 7.1 ท�ำงาน ผลติ สินคา้ และ เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. จ�ำแนกปจั จยั การผลิต Model) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน บรกิ าร - แบบทดสอบกอ่ นเรียน สินคา้ และบริการได้ (P) - สังเกตพฤติกรรม - PowerPoint 3. เห็นคณุ ค่าของปจั จยั การท�ำงานรายบคุ คล 1 - ใบงานที่ 7.1 การผลติ สนิ ค้าและ - สังเกตพฤตกิ รรม บรกิ ารทีม่ ีผลตอ่ ระบบ การท�ำงานกลุ่ม ชว่ั โมง เศรษฐกจิ และการ - ป ระเมนิ คณุ ลกั ษณะ ดำ� เนนิ ชีวติ ประจ�ำวนั อันพงึ ประสงค์ เพ่ิมมากข้ึน (A) T145

แผนการจดั สือ่ ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ ีสอน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลักษณะ การเรียนรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 2 - หนังสอื เรียน 1. อ ธิบายหลักการสำ� คญั การอภปิ ราย - ตรวจการทำ� แบบฝึก - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1. มวี นิ ยั หลักการผลิต สงั คมศึกษาฯ ม.2 ในการผลติ สนิ คา้ และ สมรรถนะและการคดิ - ทกั ษะการน�ำ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ สนิ ค้าและ - แบบฝึกสมรรถนะ บริการได้ (K) เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความรูไ้ ปใช้ 3. มุ่งม่นั ในการ บริการอยา่ ง และการคิด 2. จ�ำแนกหลักการสำ� คัญ - ต รวจการทำ� แบบวัดและ มปี ระสิทธภิ าพ เศรษฐศาสตร์ ม.2 ในการผลิตสนิ ค้าและ บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ ทำ� งาน และลกั ษณะ การผลิตสินค้า - แบบทดสอบกอ่ นเรียน บริการและลกั ษณะ เศรษฐศาสตร์ ม.2 และบริการ - PowerPoint การผลิตสนิ ค้าและ - ตรวจใบงานที่ 7.2 ของไทย - ใบงานที่ 7.2 บริการของไทยได้ (P) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน 3. เห็นคุณคา่ ของหลักการ - สงั เกตพฤตกิ รรม 2 ส�ำคัญในการผลติ สนิ คา้ การทำ� งานรายบุคคล และบริการ และ - สังเกตพฤติกรรม ชวั่ โมง ลกั ษณะการผลติ สินค้า การท�ำงานกลุ่ม และบริการของไทยท่มี ี - ประเมนิ คณุ ลักษณะ ผลต่อระบบเศรษฐกิจ อันพงึ ประสงค์ และการด�ำเนินชีวิต - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน ประจำ� วนั เพ่ิมมากข้นึ (A) T146

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๗ การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ขน้ั นาํ (5Es Instructional Model) ¡ÒüÅÔµÊÔ¹¤ŒÒáÅÐ ºÃÔ¡ÒÃÁÕ¤ÇÒÁÊíÒ¤ÑÞ ขนั้ ท่ี 1 กระตุนความสนใจ Í‹ҧäà áÅÐÁÕ»˜¨¨ÑÂã´ ·èÕª‹ÇÂÊ‹§àÊÃÔÁãËŒ¡Òà 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อนแบบสบื เสาะ ¼ÅÔµÊÔ¹¤ŒÒáÅкÃÔ¡Òà หาความรู ชื่อเรื่องท่ีจะเรียนรู จุดประสงค ?ÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀÒ¾ การเรยี นรู และผลการเรียนรู การผลิตเป็นการน�าทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจ�ากัด มาแปรสภาพเป็นสินค้าและบริการเพ่ือ 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย ตอบสนองความตอ้ งการอนั ไมส่ น้ิ สดุ ของมนษุ ย ์ แตเ่ นอ่ื งจากการมอี ยอู่ ยา่ งจา� กดั ของทรพั ยากรจงึ การเรยี นรทู ี่ 7 เรอ่ื ง การผลติ สนิ คา และบรกิ าร ทา� ใหต้ ้องมกี ารวางแผนในการใช้ปัจจัยการผลิต เพื่อใหไ้ ด้ผลผลิตทมี่ คี ุณภาพ และใชท้ รพั ยากรให้ เกิดประสิทธภิ าพสงู สดุ ในการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร ในระบบเศรษฐกิจแบบเสรนี ยิ ม กา� ไรเป็นแรง 3. ครูใหนักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวชวยกัน กระตนุ้ สา� คญั ของธรุ กจิ ทกี่ ระตนุ้ ใหผ้ ผู้ ลติ ทา� การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การผลติ ตอบคําถาม เชน สนิ ค้าของไทยในปจั จุบันมกี ารแขง่ ขนั กันสงู ทงั้ ผู้ผลิตภายในประเทศและตา่ งประเทศ ส่งผลใหม้ ี • ภาพนีเ้ ก่ียวกบั อะไร สนิ คา้ หลากหลาย ประชาชนมโี อกาสเลือกบริโภคสนิ คา้ ตามความพงึ พอใจ ในขณะเดยี วกันท�าให้ (แนวตอบ การผลติ รถยนต) ผผู้ ลติ ตอ้ งพฒั นาการผลติ อยตู่ ลอดเวลา มกี ารนา� เทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลติ เพอื่ ใหไ้ ดส้ นิ คา้ ทมี่ คี ณุ ภาพ • ปจ จบุ นั ความตอ งการใชร ถยนตข องคนไทย เปน อยางไร สังเกตไดจ ากอะไร (แนวตอบ ปจจุบันคนไทยมีความตองการ ใชร ถยนตมากขึน้ ซ่ึงสามารถสังเกตไดจาก ปริมาณรถยนตท่ีเพิ่มข้ึน รวมถึงปญหา การจราจรตดิ ขดั บนทองถนนในปจจุบนั ) 4. ครยู กตวั อยา งสงิ่ ของอปุ โภคบรโิ ภคทเี่ ราใชก นั ในชีวติ ประจาํ วนั เชน อาหาร เส้ือผา รองเทา กระเปา หรอื เครอื่ งเขยี น แลว ใหน กั เรยี นรว มกนั บอกขั้นตอนหรือวิธีการผลิตตามความเขาใจ ของตนเอง ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ส ๓.๑ ม.๒/๒ อธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ • ค วามหมาย ความสา� คญั และหลกั การผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร และปจั จยั ที่มอี ทิ ธพิ ลต่อการผลติ สินคา้ และบรกิ าร อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ • สา� รวจการผลติ สนิ คา้ ในทอ้ งถนิ่ วา่ มกี ารผลติ อะไรบา้ ง ใชว้ ธิ ี การผลติ อยา่ งไร มปี ัญหาดา้ นใดบ้าง • ม ีการน�าเทคโนโลยีอะไรมาใช้ที่มีผลต่อการผลิตสินค้าและ บริการ • นใ น�าทห้อลงักถก่ินาทรัง้ ผดลา้ ินตเมศารวษิเฐคกรจิ า ะสหัง์กคมาร แผลละิตสส่ิงินแวคด้าลแอ้ ลมะบริก1าร33 เกร็ดแนะครู การเรียนเก่ียวกับการผลิตสินคาและบริการของผูประกอบการไทย เพ่ือใหนักเรียนมีความเขาใจถึงปจจัยในการผลิตสินคาและบริการ ทั้งในภาคธุรกิจ และในทองถิน่ ครูจงึ ควรจดั การเรยี นการสอน ดงั น้ี • นําขา วเศรษฐกจิ หรือบทความเกยี่ วกับการผลิตสนิ คา และบริการมาใหน ักเรยี นวิเคราะห • ยกตัวอยา งการผลิตสนิ คา และบริการทีน่ กั เรียนรูจัก แลว ใหนกั เรยี นวิเคราะหปจ จยั การผลิตและหลักการผลติ อยา งมีประสทิ ธิภาพ • จัดทําโครงการผลติ สินคา และบรกิ ารจากทรพั ยากรภายในทอ งถ่ิน • จัดกิจกรรมกลุม เพ่อื ใหน กั เรยี นฝก ทักษะการสบื คน ขอมูลและการแลกเปล่ยี นเรยี นรูซง่ึ กันและกนั T147

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ñ. ความหมาย ความสÓคÞั ¢องการผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจคนหา การผลิตในทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึง กระบวนการแปรสภาพทรพั ยากร (ปัจจยั การผลิต) ทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจา� กดั เชน่ แรงงาน ทดี่ นิ ทนุ แปรรปู ใหเ้ ปน็ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารทมี่ ปี ระโยชนท์ างเศรษฐกจิ 1. ครใู หนักเรยี นแบงกลมุ ศึกษาคน ควา เกี่ยวกับ ข้ึนมาใหม่ โดยท�าให้สิ่งของหรือบริการมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นและสามารถตอบสนองความต้องการ ความหมาย ความสําคัญของการผลิตสินคา ของมนษุ ย์ได ้ เชน่ การนา� ฝ้ายมาท�าเป็นผืนผา้ การนา� ยางพารามาผลิตเปน็ ยางรถยนต ์ การน�า และบริการ และปจ จยั ในการผลติ ข้าวสาลมี าทา� เปน็ ขนมปงั หรอื การทส่ี ามารถทา� ใหส้ นิ คา้ ไมม่ รี าคาทา� ใหม้ รี าคาได ้ เชน่ เอาดนิ มาเผา เปน็ อฐิ ไว้ใช้ในการก่อสร้างอาคารสถานที่ต่าง ๆ การน�าผักตบชวามาท�าเป็นกระเปา การน�ายาง 2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่นาเชื่อถือ ลอ้ รถยนต์ทีห่ มดสภาพมาทา� เป็นถงั ขยะ เปน็ ต้น ใหกับนกั เรียนเพมิ่ เติม ในการผลติ สินค้านั้นจา� เป็นตอ้ งอาศยั องค์ประกอบตา่ ง ๆ ท่เี รยี กว่า ปัจจยั การผลิต ได้แก่ ทดี่ นิ แรงงาน ทนุ และการประกอบการ แล้วมาผ่านกระบวนการผลิต ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู ปจ จยั การผลิต แผนผังแสดงกระบวนการผลติ ผลผลิต 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรูกัน กระบวนการผลิต 1 2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ทด่ี ิน เเรงงาน ทุน โรงสที �าการสีขา้ วเปลือก ขา้ วสารถุงพร้อมจา� หน่าย ท่นี ําเสนอเพ่ือใหไ ดขอมูลที่ถกู ตอง เเละการประกอบการ เปน็ ข้าวสาร และบริโภค 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล หนา ชนั้ เรยี นตามประเดน็ ทศ่ี กึ ษา และอภปิ ราย แสดงความคดิ เห็นเพ่มิ เติม 4. ครูยกตัวอยางการผลิตสินคาและบริการ ทีม่ คี วามจําเปนในการดาํ รงชวี ติ เชน อาหาร ของใช เส้ือผา แลวใหนักเรียนรวมกัน อภิปรายถึงปจจัยการผลิต กระบวนการผลิต ประโยชนในการใชงาน และปญหาท่ีเกิดจาก กระบวนการผลิต กระบวนการผลิตเป็นกระบวนการท่ีน�าวัตถุดิบมาแปรสภาพเป็นผลผลิต เช่น โรงสีข้าว นา� ขา้ วเปลอื กจากชาวนามาสเี ปน็ ขา้ วสาร แลว้ บรรจถุ งุ วางจา� หนา่ ยตามรา้ นคา้ ทวั่ ไป กระบวนการ ผลติ นจี้ ะต้องอาศัยความรู้ทางด้านเทคนิคและเครื่องจักรอุปกรณ์มากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่ความ ไทดนั น้ ส�ามเทยั ขคอโนงหโลนยว่ ีเยขกา้ มาราผใชลใ้ติ นแกลระะปบรวะนเภกทาขรผอลงสิตนิ เคพา้ อ่ืแใลหะ้กบารรกิ ผาลร ติ ซนง่ึัน้ ใมนปีปรจั ะจสบุ ทิ นั ธกภิ ราะพบ2วมนากกาขรน้ึ ผ ลสติ าตมา่ างร ๆถ ผลติ สนิ คา้ ไดใ้ นจา� นวนท่มี ากขน้ึ กว่าเดิม สินค้ามีคุณภาพ ลดการใชแ้ รงงานคน และลดระยะเวลา ในการท�างานลง 13๔ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 กระบวนการผลติ ประกอบดว ยองคป ระกอบสาํ คญั 3 ประการ ไดแ ก ปจ จยั การจดั สรรทรพั ยากรอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพทางเศรษฐกจิ มผี ลดี นําเขา กระบวนการแปลงสภาพ และผลผลิต มีวัตถุประสงคเพื่อใหสินคา ตอ การผลิตอยางไร มีตนทนุ ตา่ํ มีผลกําไรสูง และสามารถแขง ขันในตลาดได 2 ประสิทธิภาพ การผลิตสินคา โดยใชป จ จัยการผลติ เชน วตั ถุดิบ แรงงาน (แนวตอบ ประสทิ ธภิ าพทางเศรษฐกิจ คือ การใชต นทุนในการ ทุนเทาเดิม แตสามารถผลิตสินคาและบริการไดปริมาณมากขึ้น หรือถาผลิต ผลิตใหต่าํ หรอื นอยทสี่ ุด เพ่ือใหไดกาํ ไรสงู สดุ ดังน้ัน หากผผู ลิต เทา เดิมก็จะใชปจจยั การผลิตนอยลง ทําใหตนทนุ การผลิตลดลง ธรุ กิจไดกําไร มกี ารบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลติ ซง่ึ มอี ยอู ยา งจาํ กดั ใหเ กดิ เพม่ิ มากข้นึ ประสิทธิภาพสูงสุด จะสงผลดีตอธุรกิจ เพราะมีการใชตนทุนใน การผลติ ตํา่ แตไ ดกําไรสงู สุด) T148

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การผลติ สินค้าและบรกิ ารสามารถแบ่งออกเป็น ๓ ประเภทใหญ่ ๆ ไดแ้ ก่ ขน้ั สอน การผลิตขั้นปฐมภูมิ เป็นการผลิตขั้นต้นหรือแบบดั้งเดิมโดยอาศัยทรัพยากรธรรมชาติ เป็นหลัก ซึ่งการผลิตข้ันปฐมภูมินี้มักจะ ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู ใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยตรง ตัวอย่างเช่น การเพาะปลูก การท�าประมง การเลี้ยงสัตว์ 5. ครยู กตวั อยา งสนิ คา และบรกิ ารในทอ งถนิ่ แลว การทา� ไร ่ การทา� นา การทา� สวน เปน็ ตน้ โดย ใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหกระบวนการผลิต อาศยั เครอ่ื งมอื ประเภทจอบ เสยี ม มดี พรา้ อวน สินคาและบริการในแตละขั้นวามีการผลิต แห หรอื ใชแ้ รงงานจากคน สตั ว ์ และใชเ้ ครอ่ื งจกั ร อะไรบาง สา� หรบั ชว่ ยในการผลติ บ้าง การผลติ ขนั้ ทตุ ยิ ภมู ิ เปน็ การผลติ ทอ่ี าศยั 6. ครูต้ังคําถามใหนักเรียนชวยกันตอบเพ่ือฝก วตั ถดุ ิบ เครอ่ื งจกั รกลที่มีความซบั ซอ้ นมากขน้ึ  การทา� กลว้ ยตากเปน็ การแปรรปู ผลผลติ อยา่ งงา่ ยเปน็ การ ทักษะการวิเคราะหเ พมิ่ เตมิ เชน ผจัด่านอกงคระ์กบร1วเพน่ือกอาร�าผนลวิตยหควลาามยขส้ันะดตวอกนแ ลแะลคะวมบีกคาุมร ผลิตขน้ั ปฐมภูมิ • ถาไมมีการผลิตขั้นตติยภูมิจะสงผลกระทบ การผลติ เชน่ โรงงานผลติ อาหารซง่ึ เปน็ การผลติ ตอ ผูผลติ และผูบริโภคอยา งไร ในข้ันทุติยภูมิอาจอาศัยผลผลิตจากการผลิต (แนวตอบ การผลิตข้ันตติยภูมิเปนการผลิต ขนั้ ปฐมภูมนิ า� มาประกอบการผลติ ดว้ ย ขั้นสุดทายในลักษณะการใหบริการขนสง ตัวอย่างเชน่ โรงงานผลิตผลไม้กระปอ ง เคล่ือนยายสินคาไปสูผูบริโภค หากไมมี จะน�าเอาผลไม้จากสวน อันเป็นผลิตผลจาก การผลติ ขนั้ นจี้ ะสง ผลกระทบตอ ผผู ลติ เชน ขน้ั ปฐมภมู มิ าผา่ นกรรมวธิ แี ปรรปู จนผลติ ออกมา ทาํ ใหส นิ คา ไดร บั ความเสยี หายและไดร าคา ลดลง โดยเฉพาะอยางย่ิงสินคาที่ผลิตจาก ข้นั ปฐมภูมิ เชน พืชผักและผลไม สว นผล กระทบตอผูบริโภค เชน ทําใหไดรับสินคา และบริการชาลงหรือไมเพียงพอตอความ ตอ งการ) เป็นผลไม้กระปอง และในการผลติ ปลากระปอง ก็ใชห้ ลักการเชน่ เดียวกันน้ ี เป็นตน้  การผลิตผกั แชแ่ ขง็ ส่งออกเปน็ การผลิตขัน้ ทตุ ิยภมู ิ การผลิตข้ันตติยภูมิ เป็นการผลิตใน ลักษณะการให้บริการ โดยเคลื่อนย้ายผลผลิต ข้ันปฐมภูมิและข้ันทุติยภูมิไปสู่ผู้บริโภคอย่าง สะดวก รวดเรว็ มีคณุ ภาพ และมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเชน่ การให้บรกิ ารเกี่ยวกบั ดา้ น การคมนาคมขนสง่ การธนาคาร การประกนั ภยั การค้าปลีก การค้าส่ง การให้บริการของรัฐ ในหนว่ ยงานต่าง ๆ เปน็ ต้น 2  การขนส่งและบรกิ ารทางอากาศเป็นการผลติ ข้นั ตตยิ ภมู ิ 135 ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู บุคคลใดประกอบอาชีพในการผลิตข้นั ตตยิ ภูมิ 1 การจดั องคก ร เปน การจดั โครงสรางการบริหารองคกร เพือ่ สะดวกในการ 1. สดุ าทําเนอ้ื แดดเดยี วขายที่ตลาดนัด บรหิ ารและการทํางาน เชน ในโรงงานอตุ สาหกรรมจะมีการแบงเปนฝา ยตางๆ 2. สชุ าติรับซือ้ ดอกไมจากสวนเพอื่ นาํ ไปขายตอ เชน ฝายธุรการ ฝายผลติ ฝายบัญชี ฝายการตลาด ท้ังน้ี ขน้ึ อยูกบั ประเภทและ 3. สกุ านดาเปน ผจู ดั การโรงงานผลติ ช้ินสวนรถยนต ขนาดของโรงงานอุตสาหกรรม 4. สวุ มิ ลปลกู พชื ผกั สวนครวั ตามแนวปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 บริการทางอากาศ ปจจุบันทาอากาศยานนานาชาติในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล มี 2 แหง คือ ทาอากาศยานสุวรรณภมู ิ ตั้งอยูจ งั หวัดสมทุ รปราการ (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. การผลิตขนั้ ตติยภมู เิ ปน ขนั้ สดุ ทาย เปนศูนยกลางการบริการทางอากาศและศูนยการบินของเอเชีย โดยเปดให ของการผลิต ซงึ่ จะมีลักษณะเปนการใหบ ริการตา งๆ เพื่ออํานวย บริการทั้งผูโดยสารและขนสงสินคาไปท่ัวโลก ซ่ึงสงผลดีตอการพัฒนาดาน ความสะดวกในการเคล่ือนยายสินคาและบริการใหไปถึงผูบริโภค เศรษฐกิจของไทย และทาอากาศยานดอนเมือง ตั้งอยูท่ีกรุงเทพฯ เปน ไดเร็วท่ีสุด เชน การใหบริการดานการคมนาคมขนสง การคา ทา อากาศยานนานาชาติ เพอื่ รองรบั การขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ของภมู ภิ าคเอเชยี ปลีกและคาสง การธนาคาร ซ่ึงการที่สุชาติรับดอกไมไปขาย และลดความหนาแนนของทาอากาศยานสวุ รรณภมู ิ ตอน้ัน ถือเปนการอํานวยความสะดวกใหแกผูบริโภคที่ไมตอง เดินทางมาซ้ือเองถึงแหลงผลิต ดังนั้น จึงจัดวาเปนการประกอบ T149 อาชีพในข้นั ตตยิ ภูมิ)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ò. ปัจจยั ãนการผลิต1 ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู ทรัพยากรทน่ี า� มาใชใ้ นการผลติ สนิ ค้าและบริการ เรยี กวา่ ปจั จยั การผลติ ซ่งึ เป็นส่งิ จ�าเปน็ ข้ันพื้นฐานในการผลิตสินค้าและบริการทุกอย่าง ในการผลิตจะต้องน�าปัจจัยการผลิตท่ีมีอยู่อย่าง 7. ครูสุมใหนักเรียนยกตัวอยางการผลิตสินคา จ�ากัด มาผ่านกระบวนการผลิตเพ่ือให้เกิดการผลิตสินค้าขึ้น ในทางเศรษฐศาสตร์แบ่งปัจจัย และบริการที่นักเรียนใชในชวี ติ ประจาํ วัน แลว การผลติ ออกเป็น ๔ ประเภท ดงั นี้ ใหบ อกวา ใชป จ จยั การผลติ อะไรบา ง พรอ มทงั้ บอกแหลงท่ีมาของปจ จยั การผลติ แผนผังปจจยั การผลติ สนิ คา้ และบริการ 8. ครูสรางสถานการณสมมติใหนักเรียนรวมกัน อภปิ รายวา ถา นกั เรยี นมที ด่ี นิ ทอ่ี ดุ มสมบรู ณม าก แตขาดแคลนแรงงานและทุน นักเรียนจะมี วิธีบรหิ ารปจ จัยการผลติ นไ้ี ดอยา งไร ที่ดนิ แรงงาน ปจจยั การผลติ ผ้ปู ระกอบการ ทุน ๒.1 ที่ดนิ ที่ดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ ท่ีดินรวมถึงสิ่งท่ีเกิดใต้ดิน บนดนิ หรอื เหนอื พนื้ ดนิ เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ซง่ึ จะรวมถงึ ทดี่ นิ และทรพั ยากรธรรมชาตทิ เี่ กดิ ขนึ้ เองทกุ ชนดิ เปน็ ตน้ ว่า ปา่ ไม้ น�า้ ตก แร่ธาตุ น้�ามนั โดยมผี ลตอบแทนของผู้เป็นเจา้ ของทดี่ นิ คอื “คา่ เช่า” ๒.๒ แรงงาน แรงงานเป็นการใช้ความสามารถหรือความพยายามทัง้ กา� ลังกาย จติ ใจ และสตปิ ัญญาของ มนษุ ยใ์ นการกระทา� สงิ่ ใดกต็ ามในกระบวนการผลติ ผใู้ ชแ้ รงงานในกระบวนการผลติ มที งั้ แรงงานที่ ใชส้ มอง ความคดิ หรือสตปิ ัญญา เชน่ ขา้ ราชการ ลูกจ้างรฐั วิสาหกจิ ลกู จ้างในหนว่ ยงานต่าง ๆ เปน็ ตน้ โดยท่วั ไปแล้วแรงงานแบ่งได ้ ๒ ประเภท ดังนี้ 13๖ เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูเพ่ิมเติมขอมูลสถานการณราคาท่ีดินในปจจุบันท่ีปรับตัวเพิ่มขึ้นทุก คําวา “ทรัพยากร” ในทางเศรษฐศาสตรต รงกับขอ ใด ป เชน ใน พ.ศ. 2560-2561 ราคาที่ดินในเขตกรงุ เทพฯ และปรมิ ณฑลเพม่ิ ขึ้น 1. ทด่ี นิ แรงงาน ทนุ และผูป ระกอบการ 5.3% โดยราคาที่ดินที่แพงท่ีสุดอยูท่ีสีลม กรุงเทพฯ ราคา 1 ลานบาท/ตร.ว. 2. ปจ จัยการผลติ สินคา และบรกิ ารของผูป ระกอบการ จากราคาที่ดนิ ทีป่ รับตัวสงู ขน้ึ ดังกลา ว แสดงใหเห็นถึงความเจรญิ ทางเศรษฐกจิ 3. ส่ิงทจ่ี ะนาํ มาผลติ สินคาและบริการเพือ่ จาํ หนายแกผูบรโิ ภค และความขาดแคลนทด่ี นิ ในอนาคต จากนนั้ ใหน กั เรยี นสบื คน ขอ มลู ราคาประเมนิ 4. การผลติ สนิ คา และบรกิ ารของผปู ระกอบการเพอื่ หวงั กาํ ไรสงู สดุ ทดี่ ินเพ่ิมเตมิ ไดท ่ี http://www.treasury.go.th สาํ นกั ประเมินราคาทรพั ยสิน (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. เน่ืองจากทรัพยากรในทาง นักเรียนควรรู เศรษฐศาสตรหรือปจจัยการผลิต ถือเปนสิ่งท่ีนํามาแปรรูปเปน สินคาหรือบริการท่ีมีประโยชนทางเศรษฐกิจข้ึนมาใหมและ 1 ปจจัยในการผลิต ทุกส่ิงทุกอยางที่ตองนํามาใชในกระบวนการผลิตสินคา สามารถตอบสนองความตอ งการของมนษุ ยไ ด ประกอบดว ย ทดี่ นิ หรอื บรกิ าร แบง ออกเปน 4 ประเภท ไดแ ก ทดี่ นิ แรงงาน ทนุ และผปู ระกอบการ แรงงาน ทุน และผูป ระกอบการ ดังนน้ั คําวา “ทรพั ยากร” ในทาง ในการผลติ สนิ คา แตล ะชนดิ ใชปจ จยั การผลิตทแี่ ตกตางกนั เศรษฐศาสตร จึงหมายถึง ที่ดิน แรงงาน ทนุ และผปู ระกอบการ) T150

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑) แรงงานมีฝม อื หรอื แรงงานที่ใช้ความรู้ความสามารถ เป็นแรงงานท่ีได้รบั การ ขนั้ สอน อบรมความรู้เฉพาะทางมาเป็นอย่างดี ซ่ึงแรงงานประเภทน้ีประกอบอาชีพโดยมีสถานภาพ ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู การทา� งานทีแ่ ตกต่างกนั ออกไป เช่น พนักงาน ทา� งานในภาครฐั และภาคเอกชน แพทย ์ พยาบาล 9. ครนู าํ สนทนาถงึ สถานการณท างดา นแรงงาน ครู วิศวกร ข้าราชการในหน่วยงานต่าง ๆ ของไทย เชน สาขาท่ีไทยมีความเชี่ยวชาญ นายจา้ งและลกู จา้ งในบริษทั เปน็ ตน้ และลักษณะเดนของแรงงานไทย สาขาท่ี ขาดแคลน สถานการณแรงงานตางดาวใน ๒) แรงงานไรฝ้ ม อื หรอื แรงงาน ไทย คา แรงขนั้ ตาํ่ กบั ภาวะคา ครองชพี จากนน้ั ครูนําสนทนาเกี่ยวกับขอดีและขอดอยของ ที่ไม่มีความช�านาญ เป็นแรงงานท่ีใช้แต่ก�าลัง แรงงานมีฝมือกับแรงงานไรฝมือ แลวให แรงกาย ซ่ึงมักจะไม่ได้รับการฝกฝนอบรมใน นักเรียนรวมกันอภิปรายถึงแนวทางการ ด้านความรู้เฉพาะทางมาก่อน เช่น กรรมกร พฒั นาแรงงานใหม ีคณุ ภาพมากยิง่ ขึน้ รับจา้ งแบกหาม คนงานรบั จา้ งท่ัวไป เป็นต้น ประเทศทม่ี แี รงงานทมี่ คี ณุ ภาพ คอื 10. ครูตั้งคําถามใหนักเรียนรวมกันแสดงความ ประชากรมกี ารศกึ ษาและประสบการณส์ งู มคี วาม  แรงงานมีฝีมือเป็นผู้ท่ีมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในงานที่ คดิ เห็นเพ่มิ เตมิ เชน เช่ียวชาญในงานท่ีท�า จะช่วยเพิ่มผลผลิตและ ท�าเปน็ อย่างดี • แรงงานมคี วามสาํ คญั กบั การผลติ สนิ คา และ ท�าให้ผลผลิตมีคณุ ภาพมากย่ิงขนึ้ โดยเฉพาะประเทศทีพ่ ฒั นาแลว้ และในประเทศเหลา่ นแ้ี รงงาน บริการอยา งไร จะไดร้ บั คา่ ตอบแทนทสี่ งู มากกวา่ ประเทศทกี่ า� ลงั พฒั นา ทา� ใหน้ กั ลงทนุ ตอ้ งการเขา้ มาลงทนุ ในประเทศ (แนวตอบ แรงงานถอื เปน องคป ระกอบสาํ คญั ทีก่ า� ลงั พฒั นาส า�เนหื่อรับงจผาลกตมอีคบา่ แจท้านงแทร่เี งจง้าาขนอถงกูแกรงวง่าา ทนไา� ดให้รบั้ตน้ เทรุนยี กกาวร่าผ ล“คิตาตจ�า่ าแง1ล” ะไซด่ึงผ้อลาจกเ�าปไร็นเเพงินิ่มเขดึ้นือน ของปจ จยั การผลติ โดยแรงงานจะใชค วามรู คา่ จ้างรายวนั หรือรายช้ินงาน ตามแตต่ กลงกนั ความสามารถ ทกั ษะ ความเชย่ี วชาญในการ สรา งสรรคผ ลงานหรอื ผลติ ภณั ฑต า งๆ ธรุ กจิ ๒.3 ทนุ ท่ีมีแรงงานมีความรูความเช่ียวชาญในงาน ที่ทํา สามารถพัฒนาธุรกิจใหประสบความ ทนุ เปน็ ปจั จยั การผลติ ทมี่ นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ สา� หรบั นา� มาผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร รวมถงึ การจดั สง่ สําเร็จไดสูง ในขณะท่ีธุรกิจหรือหนวยงาน ถงึ มอื ผบู้ รโิ ภคดว้ ย เชน่ โรงงาน อปุ กรณแ์ ละเคร่อื งจกั รตา่ ง ๆ โกดงั เก็บสินคา้ รถบรรทกุ สนิ คา้ ทมี่ แี รงงานขาดทกั ษะ ความเชย่ี วชาญในงาน เป็นตน้ เมอ่ื เราน�าปัจจยั นีไ้ ปใช้ในกระบวนการผลิตรว่ มกับปัจจยั ชนิดอน่ื ก็จะได้รบั ผลผลติ ออกมา ธรุ กิจน้ันก็พัฒนาไดยาก) สนิ คา้ ที่ใช้ไปเพือ่ ก่อใหเ้ กิดการผลติ เรยี กว่า สินค้าทนุ ซึง่ สินคา้ ทุนทีส่ �าคัญ คือ เคร่ืองจักรทีใ่ ชใ้ น การผลิต โดยท่วั ไปปจั จัยทเี่ กยี่ วกบั ทุน ม ี ๒ ประเภท คือ ๑) ส่ิงก่อสร้าง เป็นส่ิงที่มนุษย์ท�าการปลูกสร้างขึ้นไว้ใช้ประโยชน์เพ่ือการด�าเนิน กิจกรรมทางเศรษฐกิจในลกั ษณะตา่ ง ๆ เชน่ อาคารสา� นักงาน เพือ่ ใช้ในการบริหารจดั การธรุ กจิ โรงงาน เพอื่ ใช้เป็นสถานท่ีผลติ สินคา้ โกดัง เพ่อื ใชเ้ ป็นคลงั เก็บสินคา้ ย้งุ ฉาง เพือ่ ใช้เกบ็ ผลผลิต ทางการเกษตร เป็นต้น 137 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ขอใดเปนปจจัยการผลิตประเภททุนสําหรับการเปดกิจการ 1 คาจาง กําหนดโดยคณะกรรมการคาจางกลาง ซ่ึงประกอบดวย ปลัด รานอาหาร กระทรวงแรงงาน ผูแทนฝายรัฐบาล และฝายลูกจาง โดยอาศัยตาม พ.ร.บ. คมุ ครองแรงงาน พ.ศ. 2553 โดยใน พ.ศ. 2556 คาจา งข้นั ตาํ่ ทวั่ ประเทศปรบั 1. ทําเลทตี่ ้งั ของรา น เปน 300 บาทตอ วนั 2. พนักงานเสิรฟ อาหาร 3. เครอื่ งครวั สําหรับลวกกว ยเต๋ยี ว บูรณาการอาเซียน 4. แมน้ําทไ่ี หลผานดา นหลงั ของรา น (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. ทนุ หมายถงึ เครือ่ งมือ เครอ่ื งจกั ร ครูเพ่ิมเติมขอมูลเกี่ยวกับการเคล่ือนยายแรงงานมีฝมือเสรีตามกรอบของ ในการผลิตสินคาและบริการ แตมิรวมถึงเงิน เนื่องจากเงินไม ประชาคมอาเซียน โดยมีวิชาชีพท่ีสามารถเคล่ือนยายแรงงานไดอยางเสรี สามารถผลติ สนิ คา ใดๆ ได เปน เพยี งส่ือกลางในการซ้ือเครอื่ งมือ ในประชาคมอาเซียนหลายสาขาอาชีพ เชน แพทย ทันตแพทย นักบัญชี วิศวกร หรืออุปกรณเทาน้ัน ดังน้ัน เคร่ืองครัวจัดวาเปนทุนเพื่อการผลิต สถาปนิก พยาบาล นักสํารวจ ซึ่งอุปสรรคสําคัญของการเคลื่อนยายแรงงาน สินคาและบริการใหเกิดข้ึน สวนทําเลท่ีต้ังของรานและแมน้ํา ระหวา งประเทศ โดยเฉพาะของไทย คอื ความแตกตา งทางดานภาษา ซง่ึ ไทย ที่ไหลผานดานหลังของรานถือเปนปจจัยการผลิตประเภทที่ดิน มีแรงงานมีฝมือจํานวนมาก แตสวนใหญยังขาดทักษะการทํางานและการใช และพนกั งานเสิรฟอาหารเปน ปจ จัยการผลิตประเภทแรงงาน) ภาษาองั กฤษ T151

นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั สอน ๒) อุปกรณ์การผลติ เปน็ เคร่อื งมือ เคร่ืองใช้ รวมถงึ อุปกรณต์ า่ ง ๆ ที่มนษุ ยน์ า� มา ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู ใช้เพื่อช่วยในการด�าเนินการผลิตสินค้าและบริการ ถือเป็นปัจจัยหน่ึงท่ีมีความส�าคัญอย่างมาก ในกระบวนการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารแตล่ ะขนั้ ตอน เชน่ เครอื่ งจกั รกล ชนิ้ สว่ นประกอบ ยานพาหนะ 11. ครยู กตวั อยา งกรณศี กึ ษาของผปู ระกอบการที่ วัตถุดบิ ซึง่ ในปัจจุบันอุปกรณ์การผลิตมคี วามทนั สมยั มาก ชว่ ยเพมิ่ คณุ ภาพของสินคา้ และบริการ ประสบความสาํ เรจ็ ในการบรหิ ารจดั การธรุ กจิ และยงั ชว่ ยประหยดั เวลาในการผลิต จงึ สามารถตอบสนองความตอ้ งการของตลาดได้อยา่ งดี ของตนเองมาใหนักเรียนศึกษาถึงวิธีการคิด ในทางเศรษฐศาสตรส์ ิ่งทจ่ี �าเป็น เช่น เคร่ืองจกั ร โรงงาน ท้ังท่ีลงทนุ ซอ้ื มานานแลว้ หรอื ทัศนคติ และวิสัยทัศนในการบริหารจัดการ เพิ่งจะซ้ือ ถือว่ามีความส�าคัญต่อการผลิตสินค้าทั้งสิ้น ในบางคร้ังถ้าปัจจัยเหล่านี้มีไม่เพียงพอ ธุรกิจ แลวใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและ กอ็ าจมกี ารลงทุนซือ้ เพ่ิมขนึ้ หรืออกี นยั หนง่ึ เปน็ การลงทนุ หรอื การสะสมทนุ ใหม้ ากขนึ้ นั่นเอง อภิปรายกรณีศึกษาดังกลา วเพม่ิ เตมิ ๒.๔ ผู้ประกอบการ ขน้ั สรปุ ผปู้ ระกอบการทา� หนา้ ทใี่ นการนา� เอาปจั จยั การผลติ ทง้ั หลายมารวมเขา้ ดว้ ยกนั ไดแ้ ก ่ ทด่ี นิ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา ใจ แรงงาน และทุน เพือ่ ท�าการผลติ สนิ ค้าและบริการ สนองตอบความตอ้ งการของผบู้ ริโภค โดยจ่าย ค่าจ้างแรงงาน ค่าเช่าที่ดิน และดอกเบี้ย ให้แก่ปัจจัยการผลิตทั้งสามข้างต้น อีกทั้งมุ่งหวังให ้ 1. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 7.1 เร่ือง การผลิตมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะจะต้องควบคุมปัจจัยการผลิต ควบคุมการผลิต การตลาด ปจ จยั ในการผลิต โดยครูแนะนาํ เพม่ิ เตมิ ซง่ึ นบั เปน็ ความเสยี่ งอยา่ งมากในการประกอบการ ดงั นน้ั ผปู้ ระกอบการจงึ ตอ้ งใชค้ วามรคู้ วามสามารถ ตลอดจนเทคโนโลยีและประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจของตนประสบความส�าเร็จ 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ผลตอบแทนจากการใชค้ วามรคู้ วามสามารถและความวริ ยิ อตุ สาหะทผี่ ผู้ ลติ หรอื ผปู้ ระกอบการไดร้ บั เศรษฐศาสตร ม.2 เก่ียวกับเร่อื ง ความหมาย เรยี กว่า “กา� ไร” ความสาํ คญั และปจจยั ในการผลติ สนิ คา และ ผู้ประกอบการมีหน้าท่ีส�าคัญในการสร้างการผลิต หรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจท้ังหลาย บริการ โดยมีหนา้ ที่ความรับผดิ ชอบ ดงั นี้ ขน้ั ประเมนิ ตัดสนิ ใจเกีย่ วกบั ธุรกิจ หน้าท่ีของ จดั การองคก์ ร • ผลติ สนิ คา้ ใด ผ้ปู ระกอบการ • วางเเผนการผลิต ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล • คุณภาพระดับใด • บรหิ ารองคก์ ร • ผลิตอยา่ งไร • พัฒนาบุคลากร 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ • ผลติ เพ่อื ใคร ตอบคาํ ถาม ทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ บรหิ ารความเส่ียง เศรษฐศาสตร ม.2 พฒั นาคุณภาพ • ส�ารวจตลาด และวจิ ัยผลติ ภณั ฑ์ • พัฒนาคุณภาพสินคา้ 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม • ติดตามสภาวะตลาด • ใช้เทคโนโลยกี ารผลิต การทํางาน และการนําเสนอผลงาน • ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ศึกษาคแู่ ขง่ • บริหารการเงนิ • วิจัยผลติ ภณั ฑ์ 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 138 แนวทางการวัดและประเมินผล ขอ สอบเนน การคดิ ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง ความหมาย ความ บุคคลในขอใดไดร ับคา ตอบแทนในฐานะผูประกอบการ สําคัญ และปจ จัยในการผลติ สนิ คาและบริการ ไดจากการตอบคําถาม การรวม 1. วนั วสิ ามรี ายรบั จากการรบั จา งเกบ็ ดอกดาวเรอื งวนั ละ 300 บาท กันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและ 2. วนั ทาไดร บั ขา วสารเปน คา ตอบแทนทใ่ี หน อ งชายเชา ทด่ี นิ ทาํ นา ประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจัดการ 3. วันชัยไดด อกเบ้ียทใี่ หเ พ่อื นยมื เงนิ เม่อื เดอื นทแ่ี ลว 1,000 บาท เรยี นรูหนว ยท่ี 7 เร่ือง การผลติ สนิ คา และบรกิ าร 4. วันชนะไดกําไรจากการขายเสื้อผามือสองท่ีตลาดนัด วันละ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน 1,200 บาท (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เนอื่ งจากผปู ระกอบการทําหนาท่ี คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ นําเอาปจจัยการผลิตมาทําการผลิตสินคาและบริการเพื่อตอบ ตรงกบั ระดบั คะแนน สนองความตองการของผูบริโภค ทั้งนี้ ผูประกอบการจะตองใช ความรูความสามารถในการบริหารธุรกิจ เพ่ือใหธุรกิจของตน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 ประสบความสําเร็จ โดยผลตอบแทนทจ่ี ะไดรับ คือ กําไรทีม่ าจาก 32 การนาํ ปจ จยั การผลติ มาใชใ นการผลติ สนิ คา และบรกิ าร ซงึ่ ตรงกบั การทีว่ ันชนะไดรับกาํ ไรจากการขายเสอื้ ผา ) 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การลาดับข้นั ตอนของเรื่อง 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางสว่ น เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ T152 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ปจั จุบนั การประกอบการจะต้องอาศยั ความสามารถ ตลอดจนความชา� นาญ ซ่ึงถือเป็นสิ่งท่ี ขน้ั นาํ ส�าคัญมากที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผน และจัดการทางด้านธุรกิจที่มีความเสี่ยง ในระดบั ตา่ ง ๆ ใหผ้ า่ นไปได้ด้วยด ี และน�าธรุ กิจไปสู่ความสา� เร็จ หรือไดผ้ ลก�าไรตามเป้าหมายที่ (วธิ ีสอนโดยการอภิปราย) วางไว้ ซึ่งเป้าหมายส�าคัญของผู้ประกอบการ คือ การบริหารดูแลกิจการเพ่ือให้ได้ก�าไรสูงสุด โดยเสยี ทรพั ยากรการผลิตนอ้ ยลงหรอื ลดต้นทนุ การผลติ ใหไ้ ด้มากท่สี ดุ น่ันเอง 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอื่ เรอื่ งทจ่ี ะ เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู ó. หลกั การผลิตสินคา้ และบรกิ ารอยา่ งมปี ระสทิ ธิÀาพ 2. ครูนําโฆษณาสินคาและบริการตางๆ ที่เปน การผลิตสินค้าเป็นการน�าวัตถุดิบมาผ่านกระบวนการผลิต เพ่ือให้ได้สินค้าท่ีต้องการใน ทน่ี ยิ มมาใหน กั เรยี นดู แลว ตงั้ คาํ ถามใหน กั เรยี น การด�าเนินชีวติ ซง่ึ มหี ลกั การสา� คญั ดงั นี้ รวมกนั แสดงความคิดเหน็ 3.1 หลักการใช้ทรพั ยากรในการผลติ ขนั้ สอน ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลติ เปน็ สง่ิ สา� คญั ทชี่ ว่ ยเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการผลิต ซง่ึ ผผู้ ลติ จะตอ้ งคา� นงึ ถงึ สิ่งตอ่ ไปน้ี ข้นั ที่ 1 เตรยี มการอภิปราย และบริการจะ๑ต)้อ งกคา�ารนใึงชถ้ทึงตร้นัพทยุนากการรอผยล่าิตง1 ปซร่ึงะทหรยัพัดยแาลกะรเกกาิดรผปลริตะโนยับชเปน็น์สตูง้นสทุดุน ทใน่ีมกีคาวราผมลสิต�าสคินัญคท้าี่ 1. ครูถามนกั เรียนถงึ ความเขา ใจเบ้ืองตน ผู้ผลิตจะต้องค�านึงถึง เช่น ราคาของทรัพยากรว่ามีต้นทุนสูงเท่าใด ความยากง่ายในการจัดหา 2. นกั เรยี นแบง กลมุ สบื คน ขอ มลู เกยี่ วกบั หลกั การ ความพอเพียงของทรัพยากรในอนาคตว่ามีเพียงพอในระยะยาวหรือไม่ เพราะถ้าหากทรัพยากร การผลติ เหล่านม้ี ีต้นทุนสงู และมแี นวโนม้ จะหาไดย้ ากในอนาคต ผผู้ ลิตจะตอ้ งท�าการตดั สินใจใหม่ ผลิตสนิ คาและบรกิ ารอยา งมีประสทิ ธภิ าพ ในการผลิตสนิ ค้า เพอ่ื ลดตน้ ทนุ การผลติ หรอื ใหเ้ กดิ ความคมุ้ คา่ นัน่ เอง ขัน้ ที่ 2 ดําเนนิ การอภปิ ราย ๒) การเลือกเคร่ืองใช้ อุปกรณ์ หรือสินค้าทุน ในการผลิตโดยทั่วไปมักต้อง ใช้เครอ่ื งจกั รหรอื อปุ กรณไ์ มม่ ากกน็ อ้ ย เพอ่ื ทา� ใหต้ น้ ทนุ การผลติ ตา่� ทสี่ ดุ เกดิ ความสะดวกรวดเรว็ 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก ในการท�างาน ถ้าเป็นกิจการระดับครัวเรือน เคร่ืองจักรหรืออุปกรณ์ที่ใช้มักมีขนาดเล็กและ การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ยี นความรกู นั เสียค่าใช้จ่ายไม่สูงมากเหมือนการผลิตของ 2. จากน้ันสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ทน่ี าํ เสนอเพ่ือใหไ ดขอมูลทถ่ี กู ตอ ง 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล โดยเริ่มจากกลุมที่ 1 หลักการใชทรัพยากร ในการผลติ พรอ มทง้ั ยกตวั อยางประกอบ 4. ครแู ละนกั เรยี นรวมกันอภปิ รายเพ่ิมเติม ภาคธุรกิจหรือองค์กรขนาดใหญ่ แต่การเลือก เคร่ืองจักรหรืออุปกรณ์ เช่น เคร่ืองเย็บผ้า เตารดี เครอื่ งทา� ความสะอาด ยอ่ มตอ้ งพจิ ารณา อยา่ งพถิ พี ถิ นั โดยตอ้ งเลอื กเครอื่ งจกั ร เครอื่ งมอื ทมี่ อี ายกุ ารใชง้ านไดย้ าวนาน มคี ณุ ภาพเหมาะสม ได้มาตรฐาน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อม บา� รงุ มากจนเกนิ ไป รวมทงั้ ตอ้ งมคี วามปลอดภยั ต่อชีวิตและไม่สร้างมลพิษหรือก่อสารพิษท่ี  ในอตุ สาหกรรมขนาดใหญจ่ ะมกี ารใชเ้ ทคนคิ การผลติ ขนั้ สงู บ่นั ทอนสขุ ภาพของคนงาน และแรงงานทมี่ คี วามรคู้ วามเชย่ี วชาญ 139 ขอ สอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู ขอใดเปนปจจัยสําคัญท่ีสงผลใหเจาของธุรกิจตัดสินใจเพิ่ม ครคู วรยกตวั อยา งการผลติ สนิ คา และบรกิ าร 1 ชนดิ ใหน กั เรยี นชว ยกนั บอก ปรมิ าณการผลติ วธิ กี ารบรหิ ารการใชท รพั ยากรในการผลติ อยางมีประสทิ ธิภาพ 1. อตั ราคา จางแรงงานขนั้ ตาํ่ เพ่ิมข้ึน นักเรียนควรรู 2. สินคาทที่ ดแทนกนั ไดร าคาลดตํ่าลง 3. วตั ถุดบิ ทใ่ี ชใ นการผลิตราคาลดต่ําลง 1 ตน ทุนการผลติ ประกอบดว ย ตน ทนุ คงท่ี คอื ตน ทนุ ท่เี กิดขึน้ ในการผลติ 4. อัตราดอกเบี้ยเงินกเู พ่อื การลงทนุ เพ่ิมขึ้น สินคาและบริการโดยไมเปล่ียนแปลงไปตามยอดขายสินคาหรือบริการ เชน (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการทรี่ าคาของวตั ถดุ บิ ลดลง คา เชา สาํ นกั งาน เงนิ เดอื นพนกั งานประจาํ คา สาธารณปู โภคตา งๆ คา ธรรมเนยี ม ทาํ ใหผ ผู ลติ มตี น ทนุ การผลติ ลดลง จงึ สามารถเพมิ่ ปรมิ าณการผลติ ภาษี ตนทุนผันแปร คือ ตนทุนท่ีเปลี่ยนไปตามยอดขายสินคาและบริการ ได แตท้งั นีต้ อ งพจิ ารณาองคประกอบอื่นดวย เชน ความตองการ เชน คาวัตถดุ ิบ แรงงานการผลติ ที่จางเมอ่ื มกี ารผลิตเทานั้น สนิ คา สาํ เรจ็ รปู ที่ สนิ คา ของผบู รโิ ภค สว นขอ 2. การทรี่ าคาสนิ คา ทดแทนกนั ไดต า่ํ ลง ซ้ือมาเพ่ือผลิต ดังน้ัน ในการผลิตสินคาผูประกอบการจะตองคิดถึงจุดคุมทุน ทาํ ใหส นิ คา ราคาตา่ํ ลง ขอ 1. อตั ราคา จา งเพมิ่ ทาํ ใหต น ทนุ ในการ คือ ระดับรายไดจากการผลิตเทากับท่ีไดจายออกไป คือ เทาทุน สวนท่ีเหลือ ผลติ เพมิ่ ข้นึ ขอ 4. อตั ราดอกเบ้ยี เงินกูเพ่มิ ทาํ ใหตนทนุ การผลิต เรียกวา กําไร เพิ่มขนึ้ จึงไมเปน แรงจงู ใจใหผผู ลติ เพิม่ ปริมาณการผลติ ) T153

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๓) การจดั หาแรงงานทเี่ หมาะสม สา� หรบั กจิ การในครวั เรอื นนน้ั มกั อาศยั แรงงาน ขั้นที่ 2 ดาํ เนนิ การอภปิ ราย ของสมาชิกในครอบครัวเป็นหลัก แต่ก็อาจจ�าเป็นต้องหาคนงานมาเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อการ ดา� เนินการผลิต และแรงงานเหล่านน้ั จะต้องมีฝมี ือในการท�างานในระดับทก่ี �าหนดไว้ดว้ ย ส่วนใน 5. ครูใหนักเรียนกลุมท่ี 2 สงตัวแทนออกมา ภาคธุรกิจท่ีมีการผลิตสินค้าในปริมาณมากและมีการแข่งขันในตลาดสูงจะต้องมีบุคลากรท่ีม ี นําเสนอหลักคุณธรรมของผูผลิต พรอมทั้ง ความรู้ความเช่ียวชาญเฉพาะทาง ท้ังทางด้านเทคนิค ด้านวิชาการ ด้านการตลาด และการ ยกตัวอยางคุณธรรมในการผลิตสินคาและ ประชาสมั พันธ์เพ่อื มาร่วมวางแผนการผลติ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพ บริการ 1-2 ชนดิ และบอกถึงความจาํ เปนของ คุณธรรมของผูประกอบการและผลกระทบ 3.๒ หลกั คุณธรรมของผู้ผลิต ตอ ผบู รโิ ภค สงั คม สงิ่ แวดลอม จากการขาด คณุ ธรรมของผูประกอบการ ผู้ผลิตมีวัตถุประสงค์ในการผลิตสินค้าและบริการเพ่ือมุ่งหวังก�าไรเป็นส่ิงตอบแทน โดย พยายามทกุ วถิ ที างทจี่ ะทา� ใหไ้ ดก้ า� ไรมากๆ เชน่ ลดคณุ ภาพการผลติ หรอื ปลอมปนสนิ คา้ ทา� ใหส้ นิ คา้ 6. ครตู งั้ ประเดน็ คาํ ถามเพอื่ ใหน กั เรยี นไดอ ภปิ ราย ไม่ได้มาตรฐาน การกระท�าต่าง ๆ เหล่าน้ีเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้บริโภค ถอื เปน็ การเอารดั ฝกทักษะการคดิ รว มกัน เชน เอาเปรยี บผบู้ รโิ ภคเปน็ อยา่ งยงิ่ ขณะเดยี วกนั กส็ ง่ ผลกระทบตอ่ ผผู้ ลติ เอง เพราะทา� ใหผ้ ู้บริโภคขาด • เพราะเหตใุ ดผผู ลติ จงึ ตอ งมคี ณุ ธรรมพนื้ ฐาน ความเช่ือมั่นในสินค้า ผู้ท่ีซื้อสินค้าไปแล้วอาจมีการร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐให้ด�าเนินการ ในการผลติ สินคาและบริการตา งๆ ตามกฎหมายต่อผู้ผลิต ดังน้ัน ผู้ผลิตควรมีคุณธรรมพ้ืนฐานเพื่อสร้างความเชื่อม่ันให้กับผู้บริโภค (แนวตอบ เพราะหากผูผลิตขาดคุณธรรม และเพอื่ ผลประโยชน์ในระยะยาวของผูผ้ ลติ เอง ดังน้ี จะสงผลกระทบตอหลายฝาย เชน ความ ปลอดภัยตอผูบริโภค ผลกระทบตอ ๑) มีความกลัวและละอายในการท�าส่ิงที่ไม่ถูกต้องท้ังปวง ผู้ผลิตต้องระลึก สิ่งแวดลอม นอกจากนี้ การมีคุณธรรม พน้ื ฐานในการผลติ จะทาํ ใหผ บู รโิ ภคมคี วาม อยู่เสมอว่าการหลอกลวงผู้บริโภคเป็นการท�าให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายจากสินค้าท่ีตนผลิตขึ้น เช่ือม่ันในการบริโภคสินคาและบริการจาก ส่ิงใดท่ไี มถ่ กู ตอ้ งให้ละเวน้ ถงึ แมว้ ่าจะทา� ให้ผู้ผลติ ไดร้ บั ผลกา� ไรมากก็ตาม ผูผลิต ซ่ึงถือเปนประโยชนอยางยิ่งตอตัว ผูผ ลติ เอง) ๒) มีความขยันหมั่นเพียรท่ีจะพัฒนาสินค้า ผู้ผลิตควรจะพัฒนาสินค้าให้ มีคุณภาพและได้มาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ การผลิตให้ ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ส�านักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นด้าอนกกจาารกจนัดผี้ กผู้ าลรติรคะบวบรพคฒัณุ นภาาสพนิ คISา้ Oให1 เ้9ป0น็0ท1,ยี่ อISมOรบั 9ข0อ0ง2ต า่ หงรปือรไะดเท้รับศก เาชรน่ ร ับไดรอร้ บังมกาาตรรรบัฐราอนงกมาารตจดัรฐกาานร ส่งิ แวดลอ้ ม ISO 14001 เปน็ ต้น ๓) มีความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค ในการผลิตสินค้า ผู้ผลิตควรจะท�าการผลิตให้ มมี าตรฐานเดยี วกันท้งั หมด ต้งั แตข่ ้นั ตอนแรกถึงขั้นตอนสดุ ทา้ ย เพ่ือเป็นการสรา้ งความเช่อื ม่ัน และศรทั ธาในสินคา้ นัน้ ใหแ้ ก่ผ้บู รโิ ภค หากผู้ผลติ คดโกง ไม่ซ่ือสัตยต์ อ่ ลูกค้า เชน่ นา� ตะกว่ั ยดั ใส่ ในหัวกุ้งเพ่ือเพิ่มน้�าหนักกุ้งให้มากข้ึน การน�าวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพหรือมีอันตรายมาผลิตเป็น อาหาร เคร่ืองด่ืม เพ่ือขายให้กับผู้บริโภค นับเป็นการกระท�าของผู้ผลิตท่ีขาดความซ่ือสัตย์และ ความรบั ผดิ ชอบ โดยไมค่ า� นงึ วา่ ผทู้ บี่ รโิ ภคสนิ คา้ จะไดร้ บั ผลกระทบหรอื ไดร้ บั อนั ตรายจากการบรโิ ภค ทไี่ มไ่ ดม้ าตรฐาน 1๔0 นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรา งเสริม 1 ISO (International Standards Organization) เปน องคก ารมาตรฐานสากล ครูควรอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการใชหลักคุณธรรมของผูผลิต ระหวา งประเทศทว่ี า ดว ย “มาตรฐานระหวา งประเทศ” เกยี่ วกบั สนิ คา และบรกิ าร แลว ใหน กั เรยี นเขยี นกรณตี วั อยา งโดยสมมตวิ า นกั เรยี นเปน ผผู ลติ ขององคกรและหนวยงานจากท่ัวโลก ซ่ึงกอตั้งข้ึนเม่ือป 1947 ท่ีเมืองเจนีวา สินคารายหน่ึง แลวนักเรียนจะนําหลักคุณธรรมของผูผลิตไปใช ประเทศสวิตเซอรแลนด เพื่อจัดระเบียบการคา รวมถึงพัฒนาและสงเสริม ในการผลิตสนิ คา อยางไร และสงผลดอี ยางไร จากนัน้ นําผลงาน มาตรฐานของสนิ คา และบรกิ ารระหวา งประเทศใหเ ปน ทยี่ อมรบั กนั ในระดบั สากล สงครูผสู อน และตวั เลขท่ีตอ ทา ย ISO เปนสงิ่ ทีส่ ามารถบง บอกถงึ แนวทางและวธิ กี ารบรหิ าร องคกรที่แตกตางกันออกไป ส่ือ Digital ศึกษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เติมเกยี่ วกับการรบั รองมาตรฐาน (ISO) ไดท ่ี http://www.masci.or.th/ สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ T154

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ใ ห้มสี ภาพทน่ี ๔า่ อ) ยร ู่ ใกั ชษ้เทาคสโภนาโพลยแีสวะดอลาอ้ด1ใมน กผาผู้ รลผติ ลจิตะสตินอ้ คงชา้ ว่ แยลกะนั ครวกั รษจัดาสใหภ้มาพกี จิแกวรดรลมอ้ ตม่าภงา ๆย ใเนพโอ่ื รรงักงาษนา ขนั้ สอน สง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ การปลกู ตน้ ไม ้ การรกั ษาความสะอาด การจดั การดา้ นสขุ อนามยั การบา� บดั นา�้ เสยี เ ปน็ ต้น3 ท.3ัง้ น ้เีหพื่อลชัก่วกยรากั รษเาพสภิม่ ามพลูแวคดาล2ใอ้ นมใกหา้ดรีขผึน้ ลติ สินคา้ และบริการ ขนั้ ที่ 2 ดําเนินการอภิปราย ปัจจุบันมีผู้ผลิตสินค้าและบริการออกสู่ตลาดมากมาย ท�าให้มีการแข่งขันกันขายสินค้า คอ่ นขา้ งสงู ทง้ั กบั ผคู้ า้ ในประเทศและจากตา่ งประเทศ ผผู้ ลติ หรอื ผขู้ ายจงึ ตอ้ งมกี ารใชก้ ลยทุ ธต์ า่ ง ๆ 7. ครูใหนักเรียนกลุมที่ 3 สงตัวแทนออกมา ในการขายสนิ คา้ ของตน โดยใช้มาตรการในระยะสนั้ เชน่ การลดราคาสนิ คา้ การต้งั ราคาตดั หนา้ นาํ เสนอ หลกั การเพ่ิมมูลคาในการผลิตสนิ คา คู่แข่ง การโฆษณาสินค้าทางส่ือต่าง ๆ ส่วนมาตรการในระยะยาว เช่น การลดต้นทุนการผลิต และบริการ พรอมท้ังยกตัวอยางผลิตภัณฑ การเพ่มิ มลู ค่าของสินคา้ และบรกิ าร เป็นตน้ สินคาและบริการที่มีการเพ่ิมมูลคาประกอบ การเพม่ิ มลู คา่ ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารเปน็ กลยทุ ธใ์ นการแขง่ ขนั ทผ่ี ปู้ ระกอบการใหค้ วาม การนําเสนอ 8. ครูยกตัวอยางการเพิ่มมูลคาในการผลิต ดวยการนําความไดเปรียบมาผสมกับความรู จากน้ันใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ใน ทองถ่ินของตนมีความไดเปรียบอะไรบางท่ี สามารถนํามาผสมกับความรูดานตางๆ แลว สามารถเพิม่ มูลคา ใหก บั สินคาและบริการได สนใจเพอื่ ทจ่ี ะพฒั นาสนิ คา้ ใหม้ มี ลู คา่ อยา่ งยง่ั ยนื ไมอ่ อ่ นไหวไปตามภาวะตลาด ซง่ึ มแี นวทาง ดงั นี้ ๑) นา� ความถนดั ในเรอื่ งตา่ ง ๆ ของตนเองมาสรา้ งสรรคผ์ ลติ สนิ คา้ และบรกิ าร โดยเลือกผลติ สนิ ค้าท่ีตนเองมีความช�านาญ มีรากฐานในการผลติ เชน่ ในท้องถิ่นมีอาชีพทอผา้ เราก็สามารถน�าผ้ามาท�าลวดลายท่ีแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น หรือวิถีชีวิตของ คนในท้องถน่ิ หรอื ผลิตสินค้าทีท่ า� มาจากผ้าในท้องถ่นิ แล้วขายนกั ทอ่ งเที่ยว เปน็ ตน้ กจ็ ะทา� ใหไ้ ด้ สนิ คา้ ใหมท่ ยี่ ากจะมคี นเลยี นแบบได ้ เพราะเปน็ สง่ิ ทม่ี อี ยตู่ ามธรรมชาต ิ หรอื สบื ทอดภมู ปิ ญั ญามา ทา� ใหเ้ กดิ สนิ ค้าทมี่ ีคณุ ค่า ตงั้ ราคาไดส้ งู ไมม่ ีใครมาขายแขง่ หรือขายตัดราคาได้ ๒) น�าความได้เปรียบมาผสมกับความรู้ เช่น ความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร ์ เชน่ เกาะสมยุ จังหวัดสรุ าษฎรธ์ าน ี ซึง่ มที ะเลและหาดทรายสวยงาม จงึ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทส่ี า� คญั ทา� ใหม้ ผี ปู้ ระกอบการเกยี่ วกบั สถานทที่ อ่ งเทยี่ ว เชน่ ทพ่ี กั รา้ นอาหาร รา้ นขายของบรกิ าร นกั ทอ่ งเทยี่ ว เปน็ ตน้ นอกจากนี้ เกาะสมุยยงั เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวท่ีมีคุณภาพสูง และมี ผลผลิตมาก จึงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจส�าคัญ อกี ทงั้ ยงั ไดม้ กี ารนา� ความรมู้ าประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ แปรรปู มะพรา้ วใหก้ ลายเปน็ สนิ คา้ ทมี่ มี ลู คา่ เพมิ่ เช่น การผลิตน�้ามันมะพร้าว ๑๐๐% โดยวิธี สกัดเย็น ซึ่งน้�ามันมะพร้าวน้ีสามารถน�าไปใช้ ประกอบอาหาร หรือใช้ในการดูแลผิวพรรณ เพ่ือความงาม ซึ่งในปัจจุบันก�าลังเป็นท่ีนิยม  การใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรคผ์ สมกบั ความเปน็ เอกลกั ษณ์ไทย ในกลุ่มผู้ดูแลสขุ ภาพและความงาม มาใชใ้ นการออกแบบผลงาน เปน็ การเพม่ิ มลู คา่ ใหก้ บั สนิ 1คา้ ๔1 ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอใดเปนการเพิ่มมูลคาในการผลิตสินคาและบริการ โดย 1 เทคโนโลยีสะอาด เปนเทคโนโลยีทน่ี าํ มาใชแลว ไมท ําลายสงิ่ แวดลอ ม หรือ การนําความถนัดของตนเองมาสรางสรรคผลิตสนิ คา และบริการ มีผลกระทบตอสง่ิ แวดลอมนอยทีส่ ดุ เชน นาํ พลงั งานแสงอาทิตย พลงั งานลม มาผลติ กระแสไฟฟา หรอื นําวตั ถุดบิ ชีวมวล เชน ออย มนั สําปะหลงั ขา วโพด 1. ตนพัฒนาบานสวนของตนใหกลายเปนแหลงเรียนรูของ มาผลิตเปน เช้อื เพลิง ชมุ ชน 2 การเพ่ิมมูลคา เปนการเพ่ิมคุณคาของสินคาเมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพ ท่ไี ดรับ โดยท่ตี นทุนในการผลติ เทา เดมิ หรอื เพม่ิ ข้นึ เล็กนอย แตธ รุ กจิ ยงั ไดก ําไร 2. ตองออกแบบสบูสมุนไพรใหมีรูปทรงแปลกตาและมีความ เชน มบี รรจภุ ณั ฑที่สวยงาม เพิม่ สีสนั ของสนิ คา ใหเหมาะสมกบั กลุมลูกคา ทนั สมยั สื่อ Digital 3. ตุม นําผา ซิ่นไทลอ้ื ทีม่ ลี วดลายสวยงามมาทํากระเปา ถอื เพอ่ื ขายนกั ทอ งเท่ียว ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั กลยทุ ธก ารเพมิ่ มลู คา ใหก บั สนิ คา ไดท ี่ http://www.library.dip.go.th.multim กรมสงเสริมอุตสาหกรรม กระทรวง 4. แตวดัดแปลงบานพักริมแมน้ําโขงของตนใหเปนหองจัด อุตสาหกรรม แสดงภาพถา ยท่สี ะทอ นวิถีชวี ิตของผคู น T155 (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะรูจักดัดแปลงโดยนําผาซิ่น มาทาํ เปน กระเปา ถอื ซงึ่ ทาํ ใหไ ดส นิ คา ใหมแ ละแปลกใหม สามารถ เพ่มิ มูลคาได สว นขออ่นื ๆ ไมไดม ีวตั ถปุ ระสงคท างธุรกจิ )

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๓) สร้างสรรค์คุณค่าลงไปในสินค้าที่ขายในประเทศและส่งขายต่างประเทศ เชน่ การนา� ความคดิ สรา้ งสรรคท์ ม่ี าจากประวตั ศิ าสตร ์ ประเพณ ี วฒั นธรรม ใสล่ งไปในสนิ คา้ ดง้ั เดมิ ข้นั ที่ 2 ดาํ เนินการอภิปราย ผสมกบั ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการผลติ เชน่ การนวดแผนไทยซง่ึ เปน็ ภมู ปิ ญั ญาไทย 9. ครสู มุ ใหน กั เรยี นยกตวั อยา งสนิ คา และบรกิ าร ในการนวดเพ่ือคลายเส้น แก้ปวดเมื่อยตาม ท่ีตนชืน่ ชอบ พรอ มทั้งบอกเหตผุ ลประกอบ ร่างกาย น�ามานวดในธุรกิจสปา ได้ช่วยสร้าง คุณค่าใหก้ ับการนวดแผนไทยมากข้นึ จากเดมิ 10. ครูยกตัวอยางสินคาและบริการที่มีการ ทที่ า� เฉพาะชาวบา้ นในชนบท และมาเพมิ่ มลู คา่ เปล่ียนแปลงบรรจุภัณฑใหม แลวมียอด โดยการน�ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ จําหนายท่ีเพ่ิมสูงข้ึน โดยครูตั้งคําถามให เทคโนโลยมี าผลติ นา�้ มนั นวดตวั กลนิ่ ตา่ ง ๆ และ นกั เรียนอภิปรายรว มกนั เชน “เพราะเหตใุ ด จัดท�าสถานที่ให้ดูร่มรื่น เงียบสงบ ตกแต่งให้ สินคาท่ีมีการออกแบบบรรจุภัณฑใหมจึง ดสู วยงาม สะอาดตา และเนน้ การบรกิ ารลูกค้า มียอดจําหนายเพิ่มสูงข้ึน” จากนั้นครูให ทงั้ คนไทยและตา่ งประเทศ เพอื่ ใหผ้ มู้ าใชบ้ รกิ าร นักเรียนรวมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น ในประเดน็ วธิ กี ารเพม่ิ มลู คา ในการผลติ สนิ คา ดวยการบริการที่ประทับใจลกู คา 1 รู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาต ิ  บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเป็นจุดสนใจของผู้บริโภค สามารถ สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้ เพ่มิ มลู คา่ ใหก้ บั สินค้าได้ เปน็ อย่างดี ๔) ออกแบบบรรจภุ ณั ฑห์ รอื รปู ทรงของสนิ คา้ ใหด้ ทู นั สมยั การออกแบบสนิ คา้ ใหด้ ูทนั สมัยเหมาะกบั กลุ่มลูกค้า เชน่ ลูกคา้ วยั รนุ่ จะชอบสินค้าทมี่ กี ารออกแบบทนั สมยั รปู ทรง แปลกตา สสี นั สวยงาม สดใส นอกจากน ี้ บรรจภุ ัณฑก์ ็เป็นสง่ิ สา� คญั กลา่ วคอื บรรจภุ ณั ฑท์ สี่ วยงาม แปลกตา ออกแบบทนั สมยั ท�าใหเ้ ปน็ จดุ สนใจของผูบ้ ริโภคมากกว่าบรรจุภณั ฑท์ เ่ี ปน็ ถงุ พลาสตกิ ๕) การบรกิ ารทป่ี ระทบั ใจ การบรกิ ารเปน็ หวั ใจสา� คญั ของอาชพี บรกิ าร เชน่ โรงแรม ร้านอาหาร รา้ นเสริมสวย การให้บริการทดี่ ี ยิ้มแยม้ แจม่ ใส เอาใจใส่ลกู ค้า และคอยแนะนา� ลกู คา้ จะช่วยให้เกิดความประทับใจ ซึ่งประเทศไทยมีจุดเด่นเก่ียวกับการให้บริการด้วยกิริยามารยาทท่ี น มุ่ นวล พดู จา๖ส)ภุ ามพบี รหกิ นาา้ รตหายลม้ิงั แกยาม้รขแจาม่ย2ใ สส นิทคา� ใ้าหบผ้ าใู้งชชบ้ นริดกิ าเรชทน่ ง้ั ชเาควรไอ่ื ทงยใชแล้ไฟะชฟา้าว ตรา่ถงยชนาตต์ ปิ จระะตทอ้ ับงใมจี บรกิ ารหลงั การขายทด่ี ี เชน่ รบั ประกันซ่อมฟรีภายใน ๒ ป ี จะทา� ใหล้ ูกค้าเกิดความมั่นใจในการ ซื้อสินคา้ การเพ่ิมมูลค่าของสินค้าเป็นส่ิงที่ผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตจะต้องให้ความส�าคัญ เพราะ ซในง่ึ ทมอ้คี งณุ ตภลาาพดมแลสี ะนิ รคาา้คลากัใกษลณเ้ คะเยี ดงยีกวนั ก กนั ามราสกรมา้ างเยอ ทกลงั้ สกั นิษคณา้ ์ในหา� ก้ เขบั า้สจนิ าคกา้ 3ตจา่ งึ งเปปรน็ ะทเทางศหแนลงึ่ะใสนนิ กคาา้รใเนพปม่ิ รมะลูเทคศา่ ให้กับสินค้า ทา� ใหส้ นิ คา้ นน้ั มคี วามเปน็ เอกลกั ษณ ์ มจี ดุ เดน่ ทนั สมยั เปน็ ทช่ี น่ื ชอบของผบู้ รโิ ภค 1๔แ๒ละสามารถแขง่ ขนั กบั สนิ คา้ อน่ื ๆ ในทอ้ งตลาดได้ นักเรียนควรรู กิจกรรม ทา ทาย 1 บรรจุภัณฑ วัสดุหอหุมสินคาเพื่อรักษาคุณภาพและปกปองสินคาไมให ใหน กั เรยี นสบื คน สนิ คา ทม่ี ชี อ่ื เสยี งในทอ งถนิ่ หรอื จงั หวดั ของตน เสยี หาย ใหเ กดิ ความสะดวกในการขนสง และเปน การสง เสรมิ ทางดา นการตลาด โดยใหบอกช่ือสินคา ท่ีตั้งของสถานประกอบการหรือแหลงผลิต เนอ่ื งจากเปน สง่ิ แรกทผ่ี บู รโิ ภคมองเหน็ ดงั นนั้ บรรจภุ ณั ฑท ม่ี รี ปู ลกั ษณส ะดดุ ตา วิธีการผลิต ความเปนเอกลักษณของผลิตภัณฑ และวิธีการจัด มักชวนใหเกิดการตัดสินใจซอ้ื สนิ คามากข้นึ วสั ดทุ ่นี ํามาทาํ บรรจภุ ณั ฑ เชน ไม จําหนาย พรอมภาพประกอบ แลวบันทึกลงกระดาษ A4 นําสง กระดาษ โฟม ครผู ูส อน 2 บรกิ ารหลงั การขาย เปนการติดตามผลหลงั การขาย เปน หวั ใจสาํ คัญของ การขายในปจจุบัน เพื่อตรวจสอบวาสินคาที่ขายไปแลวน้ันสรางความพึงพอใจ ใหลูกคา มากนอ ยเพียงใด เชน การตรวจเยีย่ มลูกคาทกุ ป บริการเปลย่ี นสนิ คา ทม่ี ตี ําหนิ ใหค าํ แนะนําในการใชสนิ คา 3 การสรา งเอกลกั ษณใ หก บั สนิ คา เชน รปู แบบ ความคงทน การใชป ระโยชน ไดหลายอยาง เทคนิคการผลิตท่ีทันสมัย บรรจุภัณฑสวยงาม รูปทรงสวยงาม นําภูมิปญญาทองถิ่นมาใชในการผลิตสินคา เชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการนําผา ไหมมาทาํ เปนกระเปาหรือปลอกหมอน T156

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๔. ปจั จยั ทมี่ ีอทิ ธพิ ลต่อการผลิตสินคา้ และบริการ ขน้ั สอน นอกเหนอื จากปจั จัยพนื้ ฐานในการผลิต ยงั มปี จั จัยอ่ืน ๆ ทีม่ คี วามส�าคญั ซึ่งผ้ปู ระกอบการ ขัน้ ท่ี 2 ดําเนินการอภปิ ราย จะต้องให้ความส�าคัญ เพราะเป็นปัจจัยทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ การผลิตสนิ คา้ ปัจจัยดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ 11. ครูนํานักเรียนสนทนาเช่ือมโยงหลักการ ๔.1 ราคาของสนิ ค้าและบรกิ าร ผลิตสินคาและบริการอยางมีประสิทธิภาพ กับปจจัยท่ีมีอิทธิพลตอการผลิตสินคาและ ราคาเป็นปัจจัยส�าคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้าและบริการของลูกค้า ดังน้ัน บริการ จากนั้นใหนักเรียนอภิปรายแสดง ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งคา� นงึ ถงึ การกา� หนดราคาของสนิ คา้ และบรกิ ารใหม้ คี วามเหมาะสมกบั กา� ลงั ซอ้ื ความคดิ เหน็ รวมกัน ของลกู คา้ กลุม่ เปา้ หมาย สิ่งที่ควรจะน�ามาประกอบในการพิจารณาก�าหนดราคาสนิ ค้าและบรกิ าร เชน่ ต้นทุนในการผลิต ผลกา� ไรทตี่ ้องการ ราคาสนิ คา้ และบริการของค่แู ขง่ เป็นต้น ๔.๒ ความตอ้ งการของผบู้ ริโภค ผผู้ ลติ ควรศกึ ษาความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภควา่ ผบู้ รโิ ภคตอ้ งการสนิ คา้ ประเภทใด มคี ณุ สมบตั ิ อย่างไร เพือ่ จะไดผ้ ลิตสินคา้ ท่ีตอบสนองความตอ้ งการของผูบ้ ริโภคอยา่ งเหมาะสม เป็นการสรา้ ง ดคว้วยามกพนั ึงวพิธอที ในี่จใิยหม้กใชับ้ใลนูกปคัจ้าจในุบอันีก เทชาน่ ง หกนาึ่งร สา�กราวรจทต่ีจละาทดร1 ากบาครวทาา� มวติจ้อัยงทกาางรกขาอรตงผลู้บาดร2ิ โภซค่ึงสนา้ันมมาีหรถลทายา� วไดิธี้ ทัง้ เชงิ ปริมาณ คอื การให้กลุ่มตวั อย่างกรอกแบบสอบถามแลว้ น�าข้อมลู ท่ีไดม้ าค�านวณตามสตู ร ทางสถิติ ในส่วนของเชิงคุณภาพนั้นเป็นการส�ารวจข้อมูลเชิงลึก เช่น การสัมภาษณ์โดยการ พดู คยุ กบั กลมุ่ ลกู คา้ การสงั เกตพฤตกิ รรมการซอ้ื สนิ คา้ ของผบู้ รโิ ภค การลงพนื้ ทส่ี งั เกตบรรยากาศ การซ้อื ขายสนิ ค้าในแหลง่ ต่าง ๆ เป็นต้น ๔.3 การบรหิ ารจดั การกระบวนการผลติ ผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งคา� นงึ ถงึ ทรพั ยากรทม่ี อี ยวู่ า่ สามารถนา� มาผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอะไรไดบ้ า้ ง สินค้าและบริการน้ันเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่ มีกระบวนการผลิตอย่างไร ปริมาณความ ตอ้ งการสนิ คา้ ในตลาดมคี วามสมั พนั ธก์ บั กา� ลงั การผลติ หรอื ไม ่ และทา� อยา่ งไรจงึ จดั สง่ สนิ คา้ ใหถ้ งึ มอื ผบู้ ริโภคไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ๔.๔ การควบคุมคณุ ภาพสินค้าและบริการ การควบคุมคุณภาพสินค้าและบริการเป็นสิ่งท่ีมีความส�าคัญอย่างมาก เพราะสินค้าและ บริการท่ีมีคุณภาพย่อมสร้างความพึงพอใจและความม่ันใจให้กับลูกค้า อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้าง ภาพลักษณ์ท่ีดีให้กับสินค้า ในการควบคุมคุณภาพนั้นจะต้องมีการตรวจสอบสินค้าอย่างละเอียด และต่อเน่ือง เม่ือตรวจพบสินค้าที่มีต�าหนิหรือมีข้อบกพร่องในด้านการบริการ ผู้ประกอบการ จะต้องท�าการประเมินถึงสาเหตุและด�าเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าหากสินค้าท่ีมีต�าหนิ ออกสตู่ ลาด เม่ือถงึ มอื ผูบ้ รโิ ภคกจ็ ะทา� ให้สนิ ค้าหมดความน่าเชือ่ ถอื ส่งผลใหค้ วามนยิ มลดลง 1๔3 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ขอ ใดเปน เปา หมายสาํ คญั ของการผลติ ตามหลกั การผลติ สนิ คา 1 การสํารวจตลาด เปนสวนสําคัญเพ่ือวัดอารมณและขอมูลอางอิงของ และบริการอยา งมปี ระสิทธิภาพ ผบู รโิ ภค ซงึ่ มคี วามแตกตา งทง้ั ขนาด การออกแบบ วตั ถปุ ระสงค การสาํ รวจตลาด เปนหนึ่งในฐานขอมูลสําคัญที่ผูประกอบการนํามาใชในการตัดสินใจวาจะผลิต 1. การใชแรงงานนอยท่สี ดุ สนิ คา หรือบรกิ ารอะไร 2. การใชตนทุนการผลติ ต่ําที่สดุ 2 การทําวิจัยทางการตลาด มีความสําคัญตอการผลิตสินคาและบริการเปน 3. การใชเ วลาในการผลติ นอ ยทีส่ ุด อยางมาก เพราะการที่ผูผลิตหรือผูประกอบการจะตองตัดสินใจดําเนินการ 4. การใชเทคโนโลยกี ารผลิตท่ีทันสมัยที่สุด อยา งไร จาํ เปน ตองอาศยั สารสนเทศมาประกอบการตดั สินใจ กําหนดนโยบาย วางแผนจัดการองคการ การปฏิบัติตามแผน และการควบคุมการดําเนินงาน (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. การผลิตสินคาและบริการมี ทางการตลาดใหบรรลเุ ปา หมายทก่ี ําหนดไว เปาหมายเพ่ือตอบสนองความตองการของผูบริโภค ซึ่งผูผลิต มเี ปา หมายสงู สดุ คอื กาํ ไรจากการขายสนิ คา ทผ่ี ลติ ได ทงั้ น้ี จะตอ ง T157 อยบู นหลกั การผลิตอยา งมีประสิทธิภาพ คอื จะผลิตอยางไรใหมี ตนทุนการผลิตตํ่าท่ีสุด เพื่อใหไดกําไรสูงสุดจากการขายสินคา และบริการ)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน เสริมสาระ ข้นั ที่ 2 ดําเนินการอภปิ ราย ตวั อยา งการผลิตสินค้าและบรกิ าร ตามหลกั การผลติ อยา งมีประสิทธิภาพ ธุรกิจความงามกบั สปาไทย 12. ครูนําสนทนาถึงเสริมสาระตัวอยางการผลิต สินคาและบริการตามหลักการผลิตอยางมี สปา การดแู ลสขุ ภาพแบบไทย ๆ เพอ่ื ใหร้ า่ งกายผอ่ นคลาย สดชนื่ การทา� สปา ประสิทธิภาพ เรื่อง ธุรกิจความงามกับ เป็นการน�าภูมิปัญญาไทยมาประยุกต์ใช้ เช่น การนวดตัว การอบตัวด้วย สปาไทย จากหนังสอื เรยี น สงั คมศึกษาฯ ม.2 สมนุ ไพร การพอกตวั และขดั ผวิ ดว้ ยสมนุ ไพรทใ่ี ชบ้ า� รงุ ผวิ เชน่ ขมน้ิ ชนั วา่ น จากน้นั ครตู งั้ ประเด็นคาํ ถาม เชน นางค�า สมุนไพรท่ีใชเ้ ป็นเคร่ืองด่ืม เชน่ กระเจ๊ียบแดง นา้� ขงิ น้า� ตะไคร ้ และ • ธุรกิจสปาไทย ผลิตสินคาและบริการตาม ใชม้ ะขามเปยี กกบั ขมน้ิ ชนั ในการขดั ตวั เปน็ ตน้ นบั เปน็ การใชภ้ มู ปิ ญั ญาไทย หลักการผลติ อยา งมปี ระสทิ ธิภาพอยางไร นอกจากน ี้ สามารถปรบั ใหส้ อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ (แนวตอบ ธุรกิจสปาไทยไดผสมผสาน สภาพแวดลอ้ ม โดยจะมกี ารใชว้ า่ น สมนุ ไพร และองคป์ ระกอบอน่ื ๆ ของสปา ภมู ปิ ญ ญาไทยกบั ความสมยั ใหมใ นการดแู ล ตามทอ้ งถนิ่ ที่แตกตา่ งกันไป สขุ ภาพ มกี ารเลอื กใชท รพั ยากรทเี่ หมาะสม โดยใชส มนุ ไพรจากทอ งถนิ่ เปน หลกั ซง่ึ เปน การเลอื กใช้ทรพั ยากร วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ ใหบริการดวยความ ปลอดภัย ราคาไมแพง เปนธุรกิจบริการ ในการเลือกใช้ทรัพยากรในการท�าสปา เป็นสมุนไพรที่หาได้ทั่วไป ทีม่ กี ารเพิม่ มลู คา ใหก บั ตนเอง โดยการนาํ จากท้องถ่นิ เปน็ หลัก เช่น มะขาม ขมิ้น มะกรูด ซ่ึงสมนุ ไพรเหลา่ น้ี เอกลักษณของความเปนไทยมาใชในการ ล้วนมีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย นวดและดูแลสขุ ภาพรางกายอกี ดว ย) การน�าปจจัยการผลิตมาใชใ้ นการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งมกี ารเลอื กสมนุ ไพร นา�้ มนั นวดตวั จดั แตง่ สถานทใี่ ห้ สวยงาม ร่มร่ืน คัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถในการนวดและให้บริการได้ดี และสามารถให้คา� แนะน�าเก่ยี วกับการดแู ลสุขภาพให้ลกู ค้าได้ คณุ ธรรมของผูป้ ระกอบการ ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งเลอื กใชว้ ตั ถดุ บิ เชน่ สมนุ ไพรทดี่ ตี อ่ สขุ ภาพ บรกิ ารนวดตาม หลักการนวดที่ถูกวธิ ี และให้บริการในราคาท่ไี ม่แพงเกินไป การเพ่มิ มลู คา่ ใหก้ บั ธรุ กจิ โดยการน�าเอกลักษณ์ของความเป็นไทยมาใช้ในการนวด การดูแลสุขภาพ รา่ งกาย การจดั ตกแตง่ สถานทใี่ หส้ วยงาม บรรยากาศรม่ รนื่ สะอาดตา เลอื กใช้ นา�้ มนั นวด เกลอื ขดั ผวิ ทม่ี คี ณุ ภาพ มกี ลน่ิ หอม และบรรจใุ นภาชนะ ที่สวยงาม ดดู ี และใหบ้ ริการด้วยความสุภาพ ออ่ นโยน 1๔๔ บูรณาการอาเซียน กิจกรรม เสรมิ สรางคณุ ลักษณะอันพึงประสงค ครูอธิบายเพิ่มเติมถึงสถานการณปจจุบันของผูประกอบการไทย โดยชี้ สํารวจสินคาและบริการที่เปนเอกลักษณของชุมชนตนเองหรือ ใหเห็นวา ผูประกอบการรายยอยสวนใหญยังไมมีความพรอม ขาดศักยภาพ สนิ คา OTOP ของชุมชน บันทึกการสํารวจในประเดน็ เชน ในการลงทนุ ในตางประเทศหรือประเทศเพ่ือนบาน ภาครัฐจงึ ตอ งเรง สนบั สนุน ใหผูประกอบการต่ืนตัวตอการเขาสูประชาคมอาเซียน ไมเชนน้ันอาจจะ • ชอื่ สนิ คาหรอื บริการ สญู เสยี ตลาดการผลติ บางสาขาทม่ี คี วามเขม แขง็ เชน สาขาเทคโนโลยสี ารสนเทศ • วัตถุดบิ ทีใ่ ช ที่ผปู ระกอบการของประเทศสิงคโปรและมาเลเซียมีศักยภาพในการผลติ สูง • กระบวนการผลติ • ราคา • ความเปน เอกลักษณข องสนิ คา • ความภาคภูมใิ จของนักเรยี นและคนในทองถิ่น จากนัน้ นําเสนอผลงานในช้ันเรียน T158

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ õ. การนÓเทคâนâลยมี าãªã้ นการผลติ สินคา้ และบริการ ขน้ั สอน การน�าเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการมีความส�าคัญมากในปัจจุบัน เพราะ ขัน้ ท่ี 2 ดาํ เนนิ การอภิปราย เทคโนโลยีจะช่วยให้ผลิตสินค้าได้ในปริมาณที่มากข้ึน รวดเร็ว สามารถออกแบบรูปทรงต่าง ๆ ไงดาน้สอวยองกาแมบ บเผชล่นติ ภกณั ารฑใ1 ์ชก้เาครรค่ือวงบจคักมุรกกรละใบนวกนากรผารลผิตลสติ ิน คเป้าน็ ตใชน้ ้ร ทะบงั้ นบ ี้คจอะตมอ้พงิวใหเตเ้ อหรม์กาับะสงมานกสบั �ากนาักรผงลานติ 13. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายและแสดง สนิ ค้าและบริการแตล่ ะประเภท และทรพั ยากรท่นี า� มาใชผ้ ลติ สินค้าชนดิ นัน้ ๆ ดว้ ย ความคิดเห็นเชื่อมโยงถึงวิธีการท่ีผูผลิตนํา ค วามปใลนอกดาภรเัยลขอื อกงใผชูใ้เ้ ชท ้ คโดโนยโไลมยเ่ กีในดิ กมาลรภผาลวติ ะจตะอ่ ตสอ้ ิ่งงแเลวดอื ลก้อใชม2้ใหหร้เหือเมปา็นะอสันมตกรบั าสยภตาอ่ พมทน้อุษงยถ ์น่ิ ส �าหคา�รนบั งึกถาึงร เทคโนโลยีตางๆ มาใชใ นการผลติ สนิ คาและ เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลิตสนิ ค้าและบรกิ าร ผู้ประกอบการจะต้องคา� นงึ ถงึ สงิ่ ตา่ ง ๆ ตอ่ ไปนี้ บรกิ าร ราคา มคี วามเหมาะสมกบั ขนาดของธรุ กจิ และการลงทนุ หรอื ไม่ 14. ครูยกตัวอยางการนําเทคโนโลยีมาใชใน เพราะถา้ ราคาตน้ ทนุ เทคโนโลยสี งู ท�าให้ต้นทุนการผลิตสินค้า การผลิตสินคาและบริการ จากนั้นครูสราง มรี าคาสงู ราคาสนิ คา้ กจ็ ะสงู ตาม เกนิ ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค สถานการณส มมตใิ หน กั เรยี นเปน ผผู ลติ สนิ คา และบรกิ าร 1 ชนดิ แลว ใหร ว มกนั อภปิ รายถงึ ปจ จยั ในการเลือกใช้ ประสทิ ธภิ าพ ตอ้ งเหมาะสมกบั ราคาและงานทตี่ อ้ งการใช ้ เพราะ แนวทางการเลือกใชเทคโนโลยีในการผลิต เทคโนโลยีของ จะเป็นการลงทุนสูง แต่หากเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพต�่ากว่า สินคา พรอมบอกเหตุผล ผปู้ ระกอบการ ความตอ้ งการจรงิ กไ็ ม่สามารถเพิ่มผลผลติ ได้ 15. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายถึงขอดีและ ขอ เสยี ของการนาํ เทคโนโลยมี าใชใ นการผลติ สนิ คา และบรกิ ารในระดบั ตา งๆ เชน การผลติ ในครัวเรือน การรวมกลุมตางๆ การผลิต ขนาดกลางและขนาดยอ ม ความพร้อมของผู้ประกอบการ เช่น ความพร้อมของสถานที่ ในการติดตั้งเครื่องจักร การมีบุคลากรท่ีมีความรู้ เพ่ือเพิ่ม ประสิทธิภาพการทา� งานของเทคโนโลยใี นการเพม่ิ การผลติ และ ลดต้นทุนการผลิต และบ�ารุงรักษาอย่างถูกวิธีเพ่ือการใช้งานที่ ยาวนาน ในการเลือกใช้เทคโนโลยีของผู้ประกอบการระดับประเทศจะต้องค�านึงถึงปริมาณการผลิต คุณภาพของผลิตภัณฑ์ การให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ทุนและค่าใช้จ่ายในการจัดหาเทคโนโลย ี หากเปน็ การผลิตทีม่ ีมูลคา่ ไมม่ ากนักกไ็ ม่ควรเลอื กใช้เทคโนโลยีทสี่ ูงเกินไป เพราะจะท�าใหต้ น้ ทุน การผลติ สูงส่งผลใหส้ นิ ค้ามรี าคาแพงตามไปดว้ ย นอกจากนี ้ ผ้ปู ระกอบการจะตอ้ งมีความพรอ้ ม ของสถานท ี่ บคุ ลากรในการใชง้ านเพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ การซอ่ มแซมบา� รงุ รกั ษา โดยสามารถ พงึ่ ตนเองไดห้ ากเคร่อื งจกั รเสยี หาย 1๔5 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู เพราะเหตุใดผูประกอบการจึงตองนําเทคโนโลยีมาใชในการ 1 งานออกแบบผลิตภัณฑ ในการคิดคนหรือออกแบบสินคา จะมีการใช ผลติ และบรกิ าร เทคโนโลยเี ขา มาชว ยในการออกแบบสนิ คา ทาํ ใหไดส นิ คา และบรกิ ารทม่ี รี ปู แบบ ใหมๆ หลากหลาย เพ่ือใหผูบริโภคมีโอกาสเลือกซ้ือไดตามความตองการและ (แนวตอบ เพ่ือเพิ่มผลผลิต ลดความสิ้นเปลืองจากการสูญเสีย เกิดความพงึ พอใจมากท่ีสดุ วัตถุดิบในกระบวนการผลิต และลดตนทุนการผลิต ผูผลิตจะได 2 มลภาวะตอส่ิงแวดลอม เชน เคร่ืองจักรมีเสียงดังมากเกินไป การปลอย กาํ ไรมากขน้ึ และอาจทาํ ใหส นิ คา มรี าคาถกู ลง รวมทงั้ เพอื่ ใหผ ลผลติ ควันพษิ เพราะการเผาไหมไ มสมบรู ณของเครอ่ื งยนต การปลอ ยน้ําเสียโดยไมม ี มคี ณุ ภาพไดม าตรฐาน เปน การเพมิ่ คณุ คา และคณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ การบาํ บัด ซึ่งส่ิงเหลาน้ีสงผลกระทบตอคุณภาพชีวิตและสง่ิ แวดลอม มีแบบใหเลือกหลากหลาย ผลิตภัณฑมีคุณภาพข้ึน และเพ่ือลด แรงงานหรอื กําลังคนทํางานนอยลง) T159

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน อยา่ งไรกต็ าม ความกา้ วหนา้ ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารทา� ใหม้ วี ธิ กี ารผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร ใธหรุ กมจิ่ ๆ ช ทว่ ยส่ี สรง่้าเงสผรลมิ กปา� รไบั รปแรลงุ ะคปณุ ระภโายพชขนอใ์ งหแก้ รบังงผา้ปู นร เะพกอ่ือรบอกงารรบั กชา่วรยขใยหาธ้ ยรุ ตกวั ิจทปารงะเหศยรษดั ตฐน้กจิท1แนุ ลจะากกากราแรขขง่ยขานัย ขัน้ ท่ี 2 ดาํ เนินการอภปิ ราย กบั ตา่ งประเทศตอ่ ไป 16. ครใู หนกั เรียนกลุมเดมิ จากชั่วโมงที่ 1 สืบคน ö. ลักɳะ¢องการผลิตสนิ คา้ และบริการ¢องäทย ขอมูลเก่ียวกับลักษณะของการผลิตสินคา และบรกิ ารของไทย จากหนงั สอื เรียน สังคม การผลิตสินค้าและบริการของไทยในแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกันออกไปตามลักษณะ ศึกษาฯ ม.2 หรือจากแหลงการเรียนรูอ่ืนๆ ทรพั ยากรธรรมชาต ิ ความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางดา้ นโครงสรา้ งพนื้ ฐานทางเศรษฐกจิ การขยายตวั ของ เชน หนงั สอื ในหอ งสมดุ เวบ็ ไซตใ นอนิ เทอรเ นต็ ท้องถนิ่ ซง่ึ การผลิตสินคา้ และบรกิ ารในทอ้ งถิน่ ปจั จุบนั มี ๒ ลักษณะ ไดแ้ ก่ การผลติ แบบดั้งเดมิ ในประเด็น ดังน้ี เไปดน็้รับกการาผรถล่าติ ยททใ่ี ชอท้ดรจพัากยภากูมริปกัญารญผาลทติ ้อทงม่ี ถอีิ่น2ย ใู่ มนีวทิธอ้ ีกงาถรน่ิ ผ ลใชิตแ้งร่างยง ๆา นใคชน้เใคนรท่ืออ้งมงถือนิ่ อวุปธิ กกี ารรณผ์ทล่ีไติ มส่ซว่ ับนซให้อญน ่ • การผลติ สินคาและบริการในภาคเหนือ และอีกลักษณะหนึ่ง คือ การผลิตแบบสมัยใหม โดยผู้ประกอบการเข้ารับการฝกอบรมความรู้ • การผลติ สินคา และบรกิ ารในภาคกลาง ทระาบงบดค้าอนมกพารวิ ผเตลอิตร ์ มกาาชรบว่ ยรใิกนากรา รกวาางรรบะรบิหบากรา รกทาา� รงนาน�า เทมคกี าโนรปโลระยชีสามสัยมั ใพหนัมธ่มส์ าง่ ใเชสร้ มิ เชก่านร ขเาคยร3 ื่อเขงจ้าักถรึง • การผลติ สนิ คา และบรกิ ารในภาคตะวนั ออก แหลง่ เงินทนุ เป็นตน้ เฉยี งเหนอื • การผลิตสนิ คา และบริการในภาคใต  ตัวอย่างการผลิตสินค้าในภาคต่าง ๆ ของไทย (บนซ้าย) ผ้าทอในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (บนขวา) ขันน�้าพานรอง เครื่องถมนครในภาคใต ้ (ลา่ งซ้าย) โอง่ ราชบรุ ีในภาคกลาง (ลา่ งขวา) ร่มบ่อสรา้ งในภาคเหนอื 1๔๖ นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสริม 1 การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เปนการขยายตัวของปริมาณสินคาและบริการ ใหน กั เรยี นเขยี นแสดงความคดิ เหน็ ในหวั ขอ แนวโนม การผลติ ทแี่ ทจ รงิ ของระบบเศรษฐกจิ ซงึ่ แสดงถงึ ปรมิ าณสนิ คา ทเ่ี พมิ่ ขน้ึ สาํ หรบั การขยายตวั สนิ คา และบรกิ ารในทอ งถน่ิ ของไทย เพอ่ื รองรบั การเปน ประชาคม ทางเศรษฐกิจประเทศไทยเกิดจากปจจัยหลายประการ เชน การลงทุนภาครัฐ เศรษฐกจิ อาเซยี น ความยาว 1 หนา กระดาษ A4 นําสงครูผสู อน สูงขึ้น ปรมิ าณสง ออกสนิ คามีแนวโนม สูงขึ้น ธุรกจิ การทองเที่ยวขยายตวั สูงข้นึ 2 ภูมิปญญาทองถ่ิน เปนความรูท่ีเกิดจากประสบการณในชีวิตของคน โดย กิจกรรม ทา ทาย ผานกระบวนการศึกษา สังเกต คิดวิเคราะหจนเกิดปญญา และตกผลึกเปน องคความรทู ป่ี ระกอบกันข้ึนมาจากความรูเฉพาะหลายๆ เรือ่ ง เปนพ้ืนฐานของ ใหนักเรียนเขียนเรียงความ เร่ือง เหลียวหลังแลหนาการ องคค วามรสู มยั ใหมท จี่ ะชว ยในการเรยี นรู การแกป ญ หา และการปรบั ตวั ในการ ผลติ สินคา ของไทย ความยาวไมเ กนิ 1 หนา กระดาษ A4 ในการ ดาํ เนนิ ชวี ติ ภมู ปิ ญ ญาทอ งถนิ่ เปน ความรทู ม่ี อี ยทู วั่ ไปจงึ ควรมกี ารสบื คน รวบรวม เขยี นจะตอ งมเี อกสารอา งองิ ทเ่ี ปน หนงั สอื หรอื บทความ อยา งนอ ย ศกึ ษา ถายทอด พฒั นา และนําไปใชป ระโยชนไ ดอ ยางกวางขวาง 1 เลม/เรื่อง ซ่ึงการเขียนอางอิงจะตองถูกตองตามหลักวิชาการ 3 สงเสริมการขาย เปนกลยุทธในการขายสินคา มหี ลายรปู แบบ เชน การจดั แลวนาํ สงครูผูสอน บูทแสดงและจําหนายสินคา การหาสมาชิก การขายควบสินคาหลายชนิด การใหข องแถม การใหสว นลด การจดั รายการสงเสรมิ การขาย T160

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๖.1 การผลติ สินคา้ และบรกิ ารในภาคเหนอื ขน้ั สอน การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ ภาคเหนอื มคี วามหลากหลายตามลกั ษณะภมู ปิ ระเทศท่ี ขน้ั ที่ 2 ดําเนินการอภิปราย เป็นพ้ืนท่ีสงู และภเู ขา มพี น้ื ทปี่ า่ ไม้เป็นจ�านวนมาก ขณะเดียวกนั ภาคเหนือก็มแี ร่ธาตหุ ลายชนดิ เช่น ถ่านหิน ดีบกุ พลวง แมงกานสี มีขนบธรรมเนยี มประเพณี วฒั นธรรมที่มลี ักษณะเฉพาะ จงึ 17. ครูใหนักเรียนกลุมท่ี 1 และ 2 การผลิต ท�าให้การผลติ สนิ ค้าและบริการมาจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยพื้นทส่ี ่วนใหญ่ สินคาและบริการในภาคเหนือและภาคกลาง ท�านา ทา� ไร่ ปลูกไม้ยืนตน้ เชน่ ล�าไย ลน้ิ จ ่ี ซงึ่ เหมาะกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศ สง่ ขายทว่ั ประเทศ สงตัวแทนออกมานําเสนอประเด็นท่ีนาสนใจ ปจั จบุ นั ไดม้ กี ารนา� เทคโนโลยกี ารผลติ มาใชใ้ นการแปรรูปผลผลิตเป็นล�าไยอบแห้ง ส่งเป็นสินค้า ของการผลิตสินคาและบริการในแตละภาค สง่ ออก และเนอ่ื งจากภาคเหนอื เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทส่ี า� คญั ในแตล่ ะปมี นี กั ทอ่ งเทย่ี วจากทง้ั ในประเทศ ที่หนาช้ันเรียน พรอมยกตัวอยางสินคาและ และต่างประเทศเดินทางมาเปน็ จา� นวนมาก จงึ ทา� ใหม้ กี ารประกอบธรุ กจิ ทเี่ กย่ี วกบั การทอ่ งเทย่ี ว บริการที่สําคัญของแตละภาคประกอบการ มสี ถานทพี่ กั โรงแรมมากมาย เชน่ ในจงั หวดั เชยี งใหม ่ เชยี งราย แมฮ่ อ่ งสอน นอกจากนมี้ กี ารผลติ นาํ เสนอ งานหตั ถกรรม เชน่ แกะสลกั ไม ้ ทา� ร่ม เครื่องป้ันดินเผาที่เป็นสินค้า OTOP ส�าคญั ของภาคเหนือ เพื่อไว้ขายนักท่องเท่ียวเป็นหลัก ซ่ึงรัฐมีการส่งเสริมผู้ผลิต SMEs ให้ผลิตสินค้าและบริการที่มี คณุ ภาพ ควบคกู่ บั การพฒั นาธรุ กจิ ทอ่ งเทย่ี ว เพอื่ ขยายโอกาสและชอ่ งทางการขายสนิ คา้ และบรกิ าร ปัญหาในการผลิตสินค้าและบริการในภาคเหนือ ประการแรกมาจากสภาพทางภูมิศาสตร์ ซงึ่ พน้ื ทสี่ ว่ นใหญป่ ระกอบไปดว้ ยภเู ขาสงู ทา� ใหก้ ารเดนิ ทางเกดิ ความยากลา� บาก เชน่ ในการขนสง่ สนิ คา้ อาจจะตอ้ งใชเ้ วลานาน หรอื ในบางครงั้ อาจสง่ สนิ คา้ ชา้ กวา่ กา� หนด ประการตอ่ มา คอื สภาพ ภูมิอากาศที่ในระยะหลังไม่มีความแน่นอน ท�าให้ผลผลิตทางการเกษตรมีปริมาณและคุณภาพ ลดลง ประการสุดท้าย คือ การเกิดภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัยท่ีสร้างความเสียหายแก่พ้ืนที่ใน วงกว้าง ระบบเศรษฐกจิ ต้องหยดุ ชะงักเป็นเวลานาน ๖.๒ การผลติ สนิ คา้ และบริการในภาคกลาง การผลิตสินค้าและบริการในภาคกลางมีลักษณะเด่น คือ การผลิตในภาคเกษตรกรรม จากการมีพน้ื ที่ส่วนใหญเ่ ปน็ ทีล่ มุ่ เหมาะแก่การเพาะปลูก จึงเป็นแหล่งปลูกข้าว ผัก ผลไม้ทส่ี �าคัญ การผลติ ในภาคอตุ สาหกรรม เนอ่ื งจากในภาคนอี้ ยใู่ กลก้ บั กรงุ เทพมหานคร ซงึ่ เปน็ เมอื งหลวงและ เมืองท่าท่สี า� คัญ มีโครงสรา้ งพน้ื ฐานทางเศรษฐกจิ เช่น ไฟฟ้า ถนน จึงมักเป็นทีต่ ้งั ของโรงงาน อุตสาหกรรมทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่เป็นจ�านวนมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล เช่น อตุ สาหกรรมประกอบรถยนต์ ผลติ ชนิ้ ส่วนอเิ ล็กทรอนกิ ส ์ ในจังหวัดสมทุ รปราการ เอปตุ น็ สตาน้ห กแรลระมจเาชกอื่ กมาโรยทง1 ีภ่ คาอื ค อกตุลสางาเหปกน็ รแรหมลอ่งาเหพาาระ กปาลรกู ขทนสี่ ส�าง่ ค เญั ป น็ โดตยน้ เ ฉ ซพง่ึ าระฐั ปมลกี ูกาพรสืชนอบั าสหนารนุ ผจปู้ึงทระา� กใหอม้บี การ ท้ังเงินทุน การให้องค์ความรู้ในการพัฒนาศักยภาพการผลิต จัดสรรพื้นที่และหาช่องทาง จา� หน่าย รวมถึงการตอ่ ยอดขยายตลาดไปสู่นานาชาติ 1๔7 ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู เพราะเหตุใดในภาคเหนือจึงมีสินคาและบริการเกี่ยวกับงาน ครูใหนักเรียนแบงกลุมเพ่ือสํารวจการผลิตสินคาและบริการในทองถ่ิน หัตถกรรมและธรุ กจิ การทอ งเทยี่ วเปนจาํ นวนมาก แลวสรุปความรตู ามประเด็นตา งๆ โดยกอ นท่จี ะเริม่ ทํากิจกรรม ครคู วรแนะนํา วิธีการสาํ รวจใหน ักเรยี นมีความเขาใจตรงกัน แลว นําผลการสํารวจมาอภิปราย (แนวตอบ เนอ่ื งจากภาคเหนอื มที รพั ยากรธรรมชาตทิ หี่ ลากหลาย ในชั้นเรยี น ประกอบกับมีวัฒนธรรมท่ีโดดเดนและมีเอกลักษณของตนเอง จึงทําใหสามารถผลิตสินคาและบริการประเภทหัตถกรรมไดเปน นักเรียนควรรู อยางดจี นกลายเปน เอกลกั ษณของภาค นอกจากน้ี การมีสถานที่ สวยงามหลายแหง ทําใหมีนักทองเท่ียวเดินทางไปเที่ยวเปน 1 อตุ สาหกรรมเชอื่ มโยง เปน การผลติ ตอ เนอื่ งจากอตุ สาหกรรมหลกั อาชพี หลกั จํานวนมาก จึงทําใหมีการผลิตสินคาและบริการเพื่อขายใหกับ หรอื ทรพั ยากรของคนในประเทศ เชน การปลกู ลนิ้ จี่ ลาํ ไย ทาํ ใหเ กดิ อตุ สาหกรรม นักทองเทยี่ ว) เชอื่ มโยงเชน การผลติ ปยุ ยากาํ จดั ศตั รพู ชื สารเคมที างการเกษตรและอตุ สาหกรรม เชอื่ มโยงไปขา งหนา เชน โรงงานแปรรูปผลไมกระปอ ง T161

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ปัญหาในการผลิตสินค้าและบริการในภาคกลาง มาจากการที่พื้นท่ีภาคกลางมีความ อุดมสมบูรณ์ มีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลาย เหมาะแก่การผลิตสินค้าและบริการ ท�าให้ม ี ขน้ั ท่ี 2 ดาํ เนินการอภิปราย ผู้ประกอบการเกิดขึ้นเป็นจ�านวนมาก มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง มีการแข่งขัน กันสูงมาก สง่ ผลต่อกลไกทางการตลาด ท�าให้ราคาสินคา้ อาจมกี ารแกวง่ ตัวขน้ึ -ลงอยู่เสมอ 18. ครใู หน กั เรยี นกลุมที่ 3 และ 4 การผลิตสินคา และบริการในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ และ ๖.3 การผลติ สนิ ค้าและบริการในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาคใต สงตัวแทนออกมานําเสนอประเด็น ที่นาสนใจของการผลิตสินคาและบริการใน เ ปน็ สว่ นจาใหกญกา่ รโทดยี่ภเาฉคพตาะะวขันา้ อวอหกอเมฉมียะงลเ1ิ หเนชือ่นม ีทในี่รจาังบหกววัด้าสงุรใหนิ ญทร่ ์ ทส�า่งใขหา้ปยรทะงั้ ชในากแรลมะตีอา่างชปีพรเะพเทาศะป แลูตก ่ แตละภาคท่ีหนาชั้นเรียน พรอมยกตัวอยาง การทา� การเกษตรไมไ่ ดร้ บั ผลดเี ทา่ ทคี่ วร เนอ่ื งจากสภาพดนิ เคม็ และความแหง้ แลง้ ทา� ใหป้ ระชากร สินคาและบริการท่ีสําคัญของแตละภาค วัยแรงงานส่วนหนึ่งอพยพเข้ามาท�างานตามเมืองใหญ่ ๆ นอกจากน้ี ยังมีการผลิตสินค้าที่ม ี ประกอบการนําเสนอเพิม่ เติม ชอ่ื เสยี งของภาคน ี้ คอื การผลติ งานหตั ถกรรม เชน่ การทอผา้ ไหม ซง่ึ ตอ้ งใชค้ วามประณตี โดย แตเ่ ดมิ เปน็ การทอไวใ้ ชใ้ นครวั เรอื น เปน็ การผลติ แบบงา่ ย ๆ การทอและการยอ้ มเปน็ แบบดง้ั เดมิ ทไ่ี ดร้ บั 19. ครูต้ังประเด็นคําถามใหนักเรียนรวมกัน การถา่ ยทอดตอ่ ๆ กนั มาจากบรรพบรุ ษุ ดว้ ยความสวยงามของลวดลายผา้ ความประณตี ในการทอ อภิปรายและฝกทักษะการคิด เชน เกนาอ้ืรผผลา้ สติ วแมบใบสอส่ ตุ บสาายห ทกา�รรใหม2ไ้สดง่ ร้ไบัปคขาวยามทนว่ั โยิ ลมกท ผงั้ า้จไาหกมชทามว่ี ไชี ทอื่ ยเสแยีลงะ ชเชาวน่ ต ผา่ งา้ ปไหระมเแทพศร ปวจัาจ จบุ งั นัหจวงึดั กกลาาฬยสเปนิ น็ธ์ ุ • เพราะเหตุใดแตละภาคของประเทศไทย ผา้ ไหมมดั หม ่ี จงั หวดั สรุ นิ ทร ์ ซง่ึ รฐั ไดม้ กี ารสนบั สนนุ สนิ คา้ OTOP ผา้ ทอของภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื จงึ มกี ารผลติ สนิ คา และบรกิ ารทแี่ ตกตา งกนั โดยการใหค้ วามรใู้ นการทอผา้ การฟอกและยอ้ มสผี า้ รวมถงึ การออกแบบลวดลายทม่ี คี วามทนั สมยั (แนวตอบ เพราะแตละภาคมีทรัพยากร ตอบสนองความตอ้ งการของลกู ค้าทหี่ ลากหลาย เพอ่ื ขยายตลาดสู่ประเทศต่าง ๆ ธรรมชาตทิ ต่ี า งกนั ตลอดจนความชาํ นาญของ ปญั หาในการผลติ สนิ ค้าและบริการในภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ คือ พนื้ ท่มี ีความแห้งแลง้ คนในทองถิ่นท่ีแตกตางกันตามวัฒนธรรม ไมส่ ามารถทา� เกษตรกรรมไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ทรพั ยากรธรรมชาตมิ นี อ้ ย และยงั มกี ารนา� เทคโนโลยี ประเพณใี นแตละภาค) ทที่ นั สมยั เขา้ มาชว่ ยในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในระดบั ทนี่ อ้ ย นอกจากนยี้ งั ตอ้ งการการสนบั สนนุ จากภาครฐั ในหลาย ๆ ด้าน เพอ่ื กระต้นุ ให้เกิดสภาพคลอ่ งทางเศรษฐกิจ ๖.๔ การผลิตสินคา้ และบริการในภาคใต้ เนื่องจากภาคใต้มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีท้ังพ้ืนท่ีที่เหมาะกับการเพาะปลูก พืชเศรษฐกจิ เชน่ ยางพารา ปาลม์ น้า� มนั มีทรัพยากรทางทะเล จึงท�าใหก้ ารผลติ สินค้าและบรกิ าร หลกั ของประชาชนขนึ้ อยกู่ บั การผลติ สนิ คา้ ทางดา้ นการเกษตร และเกย่ี วขอ้ งกบั ทะเลเปน็ หลกั เชน่ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล อีกท้ังภาคใต้มีสถานท่ีท่องเที่ยวส�าคัญ มีชายหาดท่ีสวยงาม เป็นทน่ี ิยมของนักท่องเทย่ี วท้ังชาวไทยและชาวต่างประเทศ เชน่ เกาะสมยุ จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี เกาะพพี ี จังหวัดกระบ ่ี หาดเจ้าไหม จงั หวดั ตรงั เปน็ ตน้ จงึ ทา� ใหม้ ีธุรกจิ ที่ส�าคญั เช่น โรงแรม ท่ีพักตากอากาศ รา้ นอาหาร สปา ร้านผลิตของท่ีระลกึ จากเปลอื กหอย เปน็ ต้น 1๔8 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ ขอใดเปน ลกั ษณะเดนของการผลิตสินคา และบรกิ ารของ 1 ขาวหอมมะลิ แหลงปลูกขาวหอมมะลิที่ดีที่สุดของประเทศ คือ บริเวณ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ทงุ กลุ ารอ งไห โดยเฉพาะจงั หวดั สรุ นิ ทร เนอื่ งจากพน้ื ทเ่ี ปน แอง กระทะ ดนิ ปนทราย มีความเค็ม จึงเหมาะกับการเพาะปลูกขาวหอมมะลิ ทําใหสามารถสงไปขาย 1. การทอผาไหมและปลกู ขา วหอมมะลิ ทว่ั โลก ขาวหอมมะลจิ งึ เปนพนั ธขุ า วท่นี ิยมบรโิ ภคแพรห ลายทวั่ โลก 2. การผลติ งานหตั ถกรรมและแปรรปู อาหาร 2 การผลติ แบบอตุ สาหกรรม แบง ออกเปน 2 ระบบ คอื การผลติ แบบชว งตอน 3. การแปรรปู อาหารทะเลและผลิตเคร่ืองปน ดนิ เผา ซง่ึ เปน การผลติ เฉพาะสว น เมอ่ื มกี ารดาํ เนนิ การผลติ ชนิ้ สว นครบกส็ ามารถนาํ มา 4. การผลิตชน้ิ สว นอเิ ล็กทรอนิกสแ ละอตุ สาหกรรมอาหาร ประกอบกันเปนสนิ คา ได และการผลติ แบบตอเน่อื ง เปนระบบทีม่ ีการผลติ ตาม (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เน่ืองจากการทอผาไหมของ ขน้ั ตอน ต้ังแตเ ริ่มตนจนส้นิ สุดสาํ เรจ็ ออกมาเปนสนิ คา คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอดีตเปนงานท่ีทํากันในชีวิต ประจําวัน เพ่ือใชสําหรับสวมใสกันในครัวเรือน แตดวยความ สื่อ Digital สวยงามของลวดลายของผาและความประณีตในการทอ จึง ทําใหไดรับความนิยมเปนอยางมากจนถือเปนเอกลักษณของภาค ศึกษาคน ควาขอมลู เพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั การผลิตสนิ คา 4 ภาค ไดที่ สวนการปลูกขาวหอมมะลิ เกิดจากสภาพภูมิศาสตรท่ีมีความ http://www.otop5star.com/product-th. เหมาะสม เชน พ้ืนท่ีเปนแองกระทะ ดินปนทราย มีความเค็ม ซึง่ เหมาะแกก ารเพาะปลกู และสง ขายไปทว่ั โลก) T162

นาํ สอน สรุป ประเมนิ นอกจากน ้ี ยงั มกี ารผลติ สนิ คา้ ทเ่ี ปน็ งานหตั ถกรรมทขี่ นึ้ ชอื่ เชน่ การทอเสอื่ กระจดู ทจ่ี งั หวดั ขน้ั สอน พทั ลงุ การทอผา้ เกาะยอทจ่ี งั หวดั สงขลา เปน็ ผา้ ทอทมี่ สี สี นั และลวดลายสวยงาม การทา� เครอ่ื งถม การแกะตัวหนังตะลงุ ท่ีจังหวัดนครศรธี รรมราช เพ่อื ไว้ขายนักท่องเท่ียวและส่งเป็นสินคา้ ออก ขนั้ ที่ 3 สรปุ การอภปิ ราย ปญั หาในการผลิตสินค้าและบรกิ ารในภาคใต้ เชน่ ปญั หาสิง่ แวดล้อมทางด้านทะเลท่นี บั วนั จะเส่ือมโทรมลงจากการท�าลายของมนุษย์ ส่งผลถึงความอุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศใต้ทะเล 1. ครูสุมตัวแทนกลุม แตละกลุม เพ่อื ออกมาสรปุ สตั ว์น�้าชนดิ ตา่ ง ๆ มีจา� นวนลดลง การท�าประมงจงึ ได้ผลผลิตนอ้ ยลงจากเดมิ ปญั หาภัยธรรมชาติ สาระสาํ คญั ของการอภปิ ราย ซึ่งภาคใต้เป็นพื้นท่ีติดชายฝั่งทะเล จึงมักประสบกับลมมรสุม พายุ ท่ีสร้างความเสียหายและ สง่ ผลกระทบตอ่ การผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ นอกจากนี ้ ยงั มปี ัญหาความไมส่ งบใน ๓ จังหวดั 2. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานท่ี 7.2 เรื่อง ซงึ่ สง่ ผลตอ่ ความเชอ่ื มน่ั ในการลงทนุ อกี ทงั้ นกั ทอ่ งเทยี่ วเกดิ ความไมม่ นั่ ใจในความปลอดภยั ทา� ให้ หลักการผลิตสนิ คาและบริการ ธุรกิจดา้ นการท่องเที่ยวซบเซาลง เนื่องจากเม่ือมกี ารขยายตัวทางด้านการผลติ ยอ่ มหมายถึง การท่เี ราจะตอ้ งใช้ทรพั ยากร 3. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมเกี่ยวกับหลักการ ธรรมชาติมากข้ึน มีการใช้ที่ดินมากขึ้น มีการปรับเปล่ียนสภาพพื้นท่ีและภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ สาํ คญั ในการผลติ สนิ คา และบรกิ ารและลกั ษณะ รวมถงึ มกี ารปล่อยของเสยี สูธ่ รรมชาต ิ ไม่ว่าจะเป็นขยะมูลฝอย สารเคม ี สารพษิ ควันพิษ นา�้ เสีย การผลิตสนิ คาและบรกิ ารของไทย ในแบบฝก เป็นต้น ซ่ึงผู้ประกอบการควรค�านึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดข้ึน ควรมีการศึกษาถึง สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 แนวทางตา่ ง ๆ ทจ่ี ะชว่ ยรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มและนา� มาปรบั ใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั การผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร ของตน มีการบรหิ ารจัดการด้านการผลิตสินคา้ ควบคกู่ ับการรักษาสง่ิ แวดลอ้ มทส่ี อดคลอ้ งกัน ขนั้ สรปุ การที่ผู้ประกอบการมีจิตส�านึกทางด้านการรักษาส่ิงแวดล้อมย่อมส่งผลดีต่อผู้ผลิตเอง คือ ผลติ ภัณฑ์มคี ณุ ภาพไดม้ าตรฐาน เปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดล้อม เป็นการช่วยเสรมิ สรา้ งภาพลกั ษณ์ที่ดี 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู หรอื ใช PPT ใหก้ บั สนิ คา้ ผบู้ รโิ ภคยอ่ มมคี วามเชอ่ื มน่ั และไวว้ างใจเลอื กใชส้ นิ คา้ นอกจากน ี้ ยงั สง่ ผลดตี อ่ สงั คม สรุปสาระสําคัญของเน้ือหา ตลอดจนความ เพราะเม่ือส่ิงแวดล้อมดีก็ย่อมท�าให้คนในสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย กล่าวได้ว่า การรักษา สาํ คัญตอ การดําเนนิ ชีวติ ประจําวนั สิง่ แวดล้อมเป็นหนา้ ท่ีสา� คญั ประการหน่งึ ที่ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งรับผิดชอบตอ่ สังคม 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิน่ ของไทยส่วนใหญ่จะเปน็ การนา� ทรพั ยากรท่มี ีอยใู่ น (รวบยอด) การเขียนบทความ เรื่อง การผลติ ท้องถิ่นมาท�าการผลิต ส่วนใหญ่เป็นการผลิตในครัวเรือนหรือรวมกลุ่มกันผลิตในท้องถ่ิน สนิ คาและบรกิ าร ใชเ้ งนิ ทนุ จากครวั เรอื นเปน็ สว่ นใหญ ่ การผลติ สนิ คา้ คอ่ นขา้ งจา� กดั ใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลติ นอ้ ย มตี ลาดรองรบั สนิ คา้ นอ้ ย 3. ครใู หนกั เรียนทําแบบวัดฯ เศรษฐศาสตร ม.2 แตใ่ นปจั จบุ นั ไดม้ กี ารพฒั นารปู แบบการผลติ มกี ารนา� เทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลติ ทา� การ เร่ือง การผลิตสินคาและบริการ เพื่อทดสอบ ประชาสมั พนั ธ์เพ่ือขยายตลาด จากที่ส่วนใหญ่มุ่งขายตลาดในประเทศ ได้มีการขยายสู่ตลาด ความรทู ไ่ี ดศกึ ษามา ต่างประเทศ และจากท่ีการผลิตจ�ากัดอยู่ในเฉพาะครัวเรือนก็ได้มีการขยายการผลิตมากขึ้น ส่งผลใหป้ ระชาชนในทอ้ งถิ่นมีรายได้เพ่มิ มากขนึ้ แต่ในขณะเดียวกนั การผลิตสินค้าและบริการ ขนั้ ประเมนิ จะต้องค�านึงถงึ สภาพแวดล้อมของทอ้ งถ่ินดว้ ย 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม 1๔9 การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชัน้ เรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และ แบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 3. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย การเรยี นรทู ่ี 7 เรอื่ ง การผลติ สนิ คา และบรกิ าร กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล ใหน กั เรยี นรวมกลมุ ทาํ กจิ กรรมวางแผนผลติ สนิ คา หรอื บรกิ าร ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอ้ื หา เรอื่ ง หลกั การผลติ สนิ คา และ 1 ชนดิ ในประเด็น ดงั น้ี บรกิ ารอยางมปี ระสทิ ธิภาพ และลักษณะการผลติ สินคาและบรกิ ารของไทย ได 1. วเิ คราะหท รพั ยากรการผลติ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคของคนใน จากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน ทองถิ่นตนเองหรอื ทองถ่นิ อนื่ เพือ่ เปนพ้นื ฐานในการออกแบบผลติ โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่ สนิ คาหรอื บรกิ าร แนบมาทา ยแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 7 เรอื่ ง การผลติ สนิ คาและบรกิ าร ดงั นี้ 2. เลอื กผลติ สนิ คา หรอื บรกิ าร 1 ชนดิ โดยวเิ คราะหใ นประเดน็ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน • วัตถุดิบท่ใี ช • แรงงาน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 • ทุน/แหลง เงนิ ทุน • กระบวนการผลิต 1 ความถูกต้องของเน้อื หา 2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเรื่อง 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม • ตลาด รวม 3. ออกแบบตัวอยางสินคาในรูปแบบตางๆ เชน โมเดลสนิ คา ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ............/................./................ จําลอง เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ 4. นําเสนอผลงานหนา ชัน้ เรยี น ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง T163

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คําถามประจําหนว ยการเรียนรู คÓถาม ประจÓหนว่ ยการเรียนรู้ ๑. สินคา้ และบริการมคี วามสา� คัญต่อการดา� เนนิ ชีวติ ของมนษุ ยอ์ ยา่ งไรบ้าง 1. สนิ คา และบรกิ ารเปน สง่ิ ทใ่ี ชส าํ หรบั ตอบสนอง ๒. ปจั จยั การผลิตมีอะไรบ้าง ความตอ งการในการบรโิ ภคของมนษุ ย โดยจะ ๓. หลกั การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งมีประสทิ ธิภาพมีอะไรบา้ ง ทาํ ใหม นษุ ยเ กดิ ความพงึ พอใจสงู สดุ ตามความ ๔. การเพมิ่ มลู ค่าในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารสามารถทา� ได้อย่างไรบ้าง ตองการทแ่ี ตกตา งกัน ๕. จงยกตัวอย่างการผลิตสินค้าและบริการในท้องถน่ิ ๑ ตวั อยา่ ง พร้อมท้ังบอกวิธกี ารผลติ 2. การผลิตจะตองนําปจจัยการผลิตท่ีมีอยูอยาง กจิ กรรม สร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้ จาํ กดั มาผา นกระบวนการผลติ เพอ่ื ใหไ ดส นิ คา ข้นึ ซง่ึ สามารถแบงออกเปน 4 ประเภท ไดแก กิจกรรมที่ ๑ นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายในประเดน็ “การใชท้ รัพยากรในการผลติ ใหค้ มุ้ คา่ ทด่ี ิน แรงงาน ทนุ และผปู ระกอบการ และเกดิ ประโยชน์สูงสุด” 3. หลกั การผลติ สนิ คา และบรกิ ารอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ เชน หลักการใชทรัพยากรในการผลิต โดย กจิ กรรมท่ ี ๒ ส �ารวจการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น และสรุปความรู้ในประเด็นท่ีก�าหนด ตองคํานึงวาจะผลิตอยางไรใหไดตนทุนการ ผลิตตํ่าที่สุด และมีกําไรสูงสุด หลักการเพ่ิม น�าเสนอในชั้นเรียน มูลคาในการผลิตสินคาและบริการ จัดเปน • การผลติ สินค้าและบริการของคนในทอ้ งถ่ิน กลยุทธหนึ่งในการพัฒนาสินคาใหมีมูลคา • ใชว้ ธิ กี ารผลติ อยา่ งไร อยางยั่งยนื • มกี ารน�าเทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลิตอยา่ งไรบา้ ง • มปี ัญหาการผลิตอยา่ งไรบ้าง 4. แนวทางในการเพมิ่ มลู คา ในการผลติ สนิ คา และ บริการ เชน การนําความถนัดในเร่ืองตางๆ 150 ของตนเองมาสรา งสรรคผ ลติ สนิ คา และบรกิ าร การสรางสรรคคุณคาลงไปในสินคา การ ออกแบบบรรจุภัณฑหรือรูปทรงของสินคาให ดทู นั สมยั การบรกิ ารทป่ี ระทบั ใจ การมบี รกิ าร หลงั การขายท่ดี ี 5. เชน การทําเกา อจี้ ากผักตบชวาของเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร มีขัน้ ตอนการทาํ ดังน้ี • หาซอ้ื ผกั ตบชวาทเ่ี กษตรกรนาํ มาตากแหง ขาย เมื่อไดวัตถุดิบแลว นําลงจุมนํ้ายาปองกัน เช้ือราแลวนํามาตากแหง จากน้ันนําผักตบ ชวาที่จมุ นา้ํ ยาแลว มาอบแหง • ทําโครงเกาอี้ดวยไมหรือหวายตามรูปทรง ท่ีตองการ จากนั้นนําผักตบชวาที่อบแหง แลวมาสานใหเขากับโครงของเกาอ้ี เสร็จ แลวลงสี หรือพนสีทับตามความชอบ จากนน้ั ลงนาํ้ ยาเคลือบผวิ เกา อ้ี เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู ประเมนิ ความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยท่ัวไป ซ่งึ เปนงานหรอื ชน้ิ งานทใี่ ชเวลาไมนาน สําหรับการประเมินรูปแบบน้ีอาจเปนคําถามปลายเปด หรือผงั มโนทัศน นิยมสําหรับประเมนิ ผเู รียนรายบคุ คล ประเมนิ ความสามารถ • ใชในการประเมนิ ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชท ักษะชวี ติ และความ สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือชิ้นงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต ประจําวัน อันมีความเกี่ยวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน จากการสังเกต การเขยี น การตอบคําถาม การวิเคราะห การแกป ญหา ตลอดจนการทํางานรว มกนั ประเมนิ ทกั ษะ • ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมที่ตองมีความเกี่ยวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรที่มีความซับซอน และกอ เกิดเปนความชาํ นาญในการนาํ มาเปนแนวทางปฏบิ ัติจรงิ ในชีวติ ประจาํ วันอยา งยงั่ ยืน เชน ทักษะในการสื่อสาร ทักษะในการแกปญ หา ทกั ษะ ชีวติ ในดานตางๆ โดยอาจมกี ารนาํ เสนอผลการปฏิบัติงานตอ ผูเก่ียวขอ ง หรือตอสาธารณะ สงิ่ ทต่ี อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผี่ เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซง่ึ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทตี่ อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน T164

Chapter Overview แผนการจดั ส่อื ท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธสี อน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ การเรยี นรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนังสอื เรียน 1. อธิบายหลักการและ สบื เสาะ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - ทักษะการ 1. ใฝ่เรียนรู้ หลกั การและ สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 เปา้ หมายของปรชั ญา หาความรู้ - ต รวจการท�ำแบบฝึก วเิ คราะห์ 2. อยูอ่ ย่าง เปา้ หมายของ - แบบฝกึ สมรรถนะ ข องเศรษฐกจิ พอเพียง (5Es สมรรถนะและการคิด พอเพียง ปรชั ญาของ และการคิด ได้ (K) Instructional เศรษฐศาสตร์ ม.2 3. มงุ่ มนั่ ในการ เศรษฐกจิ เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. จำ� แนกหลกั การและ Model) - ตรวจใบงานที่ 8.1 ท�ำงาน พอเพยี ง - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เปา้ หมายของปรัชญา - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - PowerPoint ของเศรษฐกจิ พอเพียง - สังเกตพฤติกรรม 1 - ใบงานท่ี 8.1 ได้ (P) การท�ำงานรายบุคคล 3. เห็นคุณค่าของผลการ - สงั เกตพฤตกิ รรม ชวั่ โมง ปฏิบตั ิตนตามปรชั ญา การท�ำงานกลมุ่ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง - ประเมินคุณลักษณะ ทมี่ ผี ลตอ่ ระบบเศรษฐกจิ อันพึงประสงค์ และการดำ� เนนิ ชวี ิต ประจำ� วนั เพ่มิ มากข้นึ (A) แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรียน 1. วเิ คราะห์รปู แบบของ โดยเนน้ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ทักษะการ 1. ใฝ่เรยี นรู้ การผลิตสินค้า สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 การผลิตสนิ ค้าและ กระบวนการ : - ตรวจการท�ำแบบฝึก วเิ คราะห์ 2. อยอู่ ย่าง และบริการใน - แบบฝึกสมรรถนะ บรกิ ารในทอ้ งถนิ่ ได้ (K) กระบวนการ สมรรถนะและการคิด - ทักษะการ พอเพยี ง ทอ้ งถ่นิ และการคดิ 2. จ�ำแนกการผลิตสนิ ค้า เรยี นความรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.2 ประยกุ ตใ์ ช้ 3. ม่งุ ม่นั ในการ เศรษฐศาสตร์ ม.2 และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ ได้ ความเข้าใจ - ตรวจใบงานที่ 8.12 ความรู้ ทำ� งาน 1 - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (P) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - PowerPoint 3. เห็นคณุ คา่ ของการผลติ - สังเกตพฤติกรรม ชว่ั โมง - ใบงานที่ 8.2 สนิ ค้าและบริการใน การท�ำงานรายบคุ คล ทอ้ งถนิ่ ท่มี ผี ลต่อ - สังเกตพฤติกรรม ระบบเศรษฐกจิ และ การท�ำงานกล่มุ การดำ� เนนิ ชวี ติ ประจำ� วนั - ประเมินคุณลกั ษณะ เพิ่มมากขน้ึ (A) อันพงึ ประสงค์ T165

แผนการจัด สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทักษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรียนรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 3 - หนังสอื เรียน 1. อ ธิบายแนวทางการ การอภปิ ราย - ต รวจการท�ำแบบฝกึ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ การประยกุ ต์ สังคมศึกษาฯ ม.2 ผลิตสนิ คา้ และบริการ สมรรถนะและการคิด - ทกั ษะการน�ำ 2. อย่อู ย่าง ใชป้ รชั ญา - แบบฝึกสมรรถนะ ในท้องถ่ินตามปรัชญา เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความรู้ไปใช้ พอเพียง ของเศรษฐกจิ และการคิด ของเศรษฐกจิ พอเพียง - ต รวจการทำ� แบบวัดและ พอเพียงในการ เศรษฐศาสตร์ ม.2 ได้ (K) บนั ทกึ ผลการเรียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการ ผลิตสนิ ค้า - แบบทดสอบก่อนเรยี น 2. เสนอแนวทางการผลิต เศรษฐศาสตร์ ม.2 ทำ� งาน และบริการ ในท้องถนิ่ - PowerPoint สนิ คา้ และบริการใน - ตรวจใบงานท่ี 8.3 - ใบงานที่ 8.3 ทอ้ งถ่ินตามปรัชญา - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน 1 ของเศรษฐกิจพอเพยี ง - สงั เกตพฤตกิ รรม ได้ (P) การท�ำงานรายบุคคล ช่ัวโมง 3. เห็นความสำ� คญั ของ - สังเกตพฤติกรรม การประยุกต์ใชป้ รัชญา การท�ำงานกลมุ่ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง - ประเมนิ คุณลกั ษณะ ในการผลิตสินคา้ และ อันพงึ ประสงค์ บริการในท้องถ่นิ ที่ม ี - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ผลต่อระบบเศรษฐกจิ และการดำ� เนนิ ชวี ติ ประจำ� วันเพม่ิ มากขน้ึ (A) T166

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ๘ เศรษฐกจิ พอเพยี งหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ขน้ั นาํ (5Es Instructional Model) กบั การผลติ สนิ คา และบรกิ าร àÃÒÊÒÁÒö¹íÒËÅÑ¡ ขั้นท่ี 1 กระตนุ ความสนใจ »ÃѪÞҢͧàÈÃɰ¡Ô¨ ¾Íà¾Õ§ÁÒ»ÃÐÂØ¡µãªŒ 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อนแบบสบื เสาะ ¡Ñº¡ÒüÅÔµÊÔ¹¤ŒÒáÅÐ หาความรู ชื่อเรื่องที่จะเรียนรู จุดประสงค ?ºÃÔ¡ÒÃ䴌͋ҧäà การเรยี นรู และผลการเรยี นรู 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรยี นรทู ี่ 8 เรือ่ ง เศรษฐกจิ พอเพียง กบั การผลิตสนิ คา และบรกิ าร 3. ครูใหนักเรียนดูภาพหนาหนวย แลวชวยกัน ตอบวา เปน ภาพอะไร และมคี วามเกยี่ วขอ งกบั การดาํ เนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา งไร (แนวตอบ ภาพงานหัตถกรรมดินเผาลายไทย ถือเปนผลิตภัณฑที่มีการนําทรัพยากรท่ีมีอยู ในทองถิ่นมาบริหารจัดการใหมีประสิทธิภาพ เพ่ือสรางความมั่นคงทางเศรษฐกิจใหกับ ครอบครัวและชมุ ชนได) เศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาทม่ี เี ปา้ หมายหลกั เพอ่ื ใหค้ นไทยสามารถพง่ึ ตนเองไดใ้ นระดบั ต่าง ๆ อย่างเป็นขน้ั ตอน ลดความเสยี่ งเกยี่ วกับความผนั แปรของธรรมชาต ิ หรือการเปล่ยี นแปลง ที่เกดิ ข้ึนในสังคม โดยอาศัยความพอประมาณและมเี หตผุ ล การสร้างภูมิคุ้มกนั ทีด่ ี มคี วามร ู้ และ มีคุณธรรม จากหลักการดังกล่าวทา� ใหใ้ นทอ้ งถ่ินตา่ ง ๆ ซ่งึ มีการผลิตสินคา้ และบรกิ ารหลากหลาย และแตกต่างกันไปตามปัจจัยการผลิต ได้น้อมน�าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในการผลติ ทั้งการผลิตในครัวเรือน การรวมกลมุ่ ในชมุ ชนรูปแบบต่าง ๆ และการประกอบธรุ กิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม เพ่ือให้มีการน�าทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาบริหารจัดการให้มี ประสทิ ธภิ าพในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการพนื้ ฐานและสรา้ งความมน่ั คง ทางเศรษฐกจิ ให้กบั คนในชมุ ชน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ กนกลาง • ห ลกั การและเปา้ หมายปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส ๓.๑ ม.๒/๓ เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่น • ส �ารวจและวิเคราะห์ปัญหาการผลิตสินค้าและบริการ ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในทอ้ งถิน่ • ป ระยกุ ต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการผลติ สินค้า และบรกิ ารในทอ้ งถ่นิ ๑5๑ เกร็ดแนะครู การเรยี นเกย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การผลติ สนิ คา และบรกิ าร เพอ่ื ใหน กั เรยี นมคี วามรคู วามเขา ใจ การนาํ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาผลติ เปน สนิ คา และบริการของทองถนิ่ ไทย ครูจึงควรจัดการเรยี นการสอน ดังน้ี • เขยี นเรียงความ เรื่อง พอเพียงก็เพยี งพอ เพอื่ ฝก ทักษะการประยกุ ตแ ละเชือ่ มโยงความรู • สาํ รวจและวิเคราะหสภาพปญหาของการผลติ สินคาและบรกิ ารในทอ งถิ่น • จัดทาํ โครงงานการประยกุ ตใ ชปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลติ สนิ คา และบรกิ ารในทอ งถน่ิ • แสวงหาขอ มลู จากแหลงการเรียนรทู ห่ี ลากหลาย เชน อินเทอรเน็ต หนังสือพิมพ นติ ยสาร T167

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ ñ. ËÅ¡Ñ ¡Òâͧ»ÃѪÞҢͧàÈÃɰ¡Ô¨¾Íà¾ÂÕ § ขน้ั ที่ 1 กระตนุ ความสนใจ     “ค�าวาพอก็เพียงพอ เพยี งน้กี พ็ อ  ดงั นน้ั เอง คนเราถา้ พอในความต้องการ    ก็มีความโลภน้อย เมื่อมคี วามโลภน้อยกเ็ บยี ดเบยี นคนอื่นน้อย  4. ครูนําสนทนาเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจไทย   ถ้าทกุ ประเทศมีความคิด อนั นไี้ มใชเ ศรษฐกิจ มีความคดิ วา ทา� อะไรต้องพอเพยี ง  พ.ศ. 2540 โดยยกตวั อยางขาว หรอื บทความ   หมายความวา  พอประมาณ ไมสดุ โตง ไมโ ลภอยางมาก คนเราก็อยเู ปน สขุ ตางๆ ที่เกี่ยวของ จากนั้นใหนักเรียนแสดง   พอเพียงน้ีอาจจะมมี าก อาจจะมขี องหรูหรากไ็ ด้ แตวา ตอ้ งไมเบียดเบียนคนอ่ืน  ความคิดเห็น และตอบคําถามเพ่ือกระตุน   ตอ้ งให้พอประมาณตามอัตภาพ พดู จากพ็ อเพยี ง ทา� อะไรกพ็ อเพยี ง ปฏิบตั ิตนกพ็ อเพยี ง…” ความสนใจ เชน • วิกฤตเศรษฐกิจดังกลาวสงผลกระทบตอ พระราชด�ารสั ของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช เนอ่ื งในโอกาสวันคล้ายวนั พระราชสมภพ คนไทยอยางไร ๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ (แนวตอบ เชน ทาํ ใหห ลายธุรกิจตองประสบ ภาวะเศรษฐกิจลมละลาย ปดกิจการ เกิด ๑.๑ หลกั การของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การวา งงาน) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ขนั้ สอน มทีาพงรเะศรราษชฐดก�าิจรใัสนช ี้แพน.ศะ.แ ๒น๕ว๔ท๐า1 งเกพาื่อรเดน�า้นเนยา้�ินใชหีว้คิตนแไกท่พยรสอกดนพิกน้ รจชาากววไกิทฤยต แตลั้งะแสตา่กม่อานรถเกดิดา� วรงิกชฤีวติตกอายร่ไูณด้์ อย่างม่ันคงและยัง่ ยืน ภายใต้กระแสการเปลีย่ นแปลงของโลก ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจคน หา เศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาชถี้ งึ แนวการดา� รงอยแู่ ละการปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในระดบั ครอบครัว ชุมชน จนถึงระดับภาครัฐ เพื่อให้การพัฒนาและบริหารประเทศด�าเนินไปในทาง 1. ครูใหนกั เรยี นแบงกลุม ศึกษาคน ควา เกย่ี วกบั สายกลางอย่างมั่นคง หลกั การของเศรษฐกิจพอเพยี งตงั้ อยู่บนพ้ืนฐานของคณุ ลักษณะ ๓ ประการ หลกั การและเปา หมายของปรชั ญาของเศรษฐกจิ ไดแ้ ก ่ ความพอประมาณ มเี หตผุ ล และมภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี และเงอ่ื นไข ๒ ประการ คอื มคี วามร้ ู พอเพียง จากหนงั สอื เรียน สังคมศึกษาฯ ม.2 และคณุ ธรรม ดงั นี้ หรือจากแหลงการเรียนรูอ่ืนๆ เชน หนังสือ ในหอ งสมดุ เว็บไซตในอนิ เทอรเนต็ ทางสายกลาง 2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนาเช่ือถือ พอประมาณ ใหก บั นักเรียนเพิ่มเตมิ มเี หตุผล มีภูมคิ ุมกันในตวั ท่ีดี เงอื่ นไขความรู เงื่อนไขคณุ ธรรม (รอบร้ ู รอบคอบ ระมดั ระวงั ) (ซ่ือสัตยส์ ุจริต ขยนั อดทน สติปัญญา แบง่ ปนั ) นําสู่ ชีวติ / เศรษฐกจิ / สงั คม / สง่ิ แวดลอ้ ม ๑5๒ สมดลุ / ม่นั คง / ยั่งยนื นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสริม 1 วิกฤตการณทางเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2540 เกิดจากภาวะเศรษฐกิจตกตํ่า ใหนักเรียนดูคลิปวีดิทัศนเก่ียวกับเศรษฐกิจพอเพียง เชน ประสบปญ หาการขาดดลุ ชาํ ระเงนิ ตดิ ตอ กนั หลายป จนทนุ สาํ รองระหวา งประเทศ รายการ “ตามรอยเศรษฐกจิ พอเพยี ง” แลวเขียนบันทึกสรุปสาระ ลดลง ธุรกิจขนาดเล็กจํานวนมากตองปดกิจการ สงผลใหเกิดการวางงาน สาํ คญั ทไี่ ดจ ากรายการลงในกระดาษ A4 นาํ สง ครผู สู อน ตามประเดน็ เพ่มิ สูงขน้ึ อยา งรวดเร็ว ผลติ ภัณฑมวลรวมประชาชาตลิ ดลง ดังนี้ ส่ือ Digital • การใชห ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาํ เนนิ ชีวิต • ผลจากการใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการ ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไดท ี่ ดาํ เนนิ ชีวิต http://www.chaipat.or.th มูลนธิ ิชัยพัฒนา T168

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ผู้อ่นื เชคน่ ว ากมาพรอผปลติร1ะแมลาะณกา รเบปร็นิโภคควาทม่อี พยใู่อนดรีทะ่ีไดมบั ่นพ้ออยปหรระือมมาณาก เไกมิน่มไาปกโหดรยือไนมอ้่เบยียเกดนิ เบไปียนตนเองและ ขนั้ สอน ความมีเหตผุ ล การตัดสินใจเกย่ี วกบั ระดบั ความพอเพียงนน้ั จะต้องเปน็ ไปอย่างมเี หตผุ ล โดยพจิ ารณาจากเหตปุ จั จยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ตลอดจนคา� นงึ ถงึ ผลทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขนึ้ จากการกระทา� นนั้ ๆ ขั้นที่ 3 อธิบายความรู อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี คือ การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลง 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก ดา้ นตา่ ง ๆ ทจ่ี ะเกดิ ขึน้ โดยค�านงึ ถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทีค่ าดว่าจะเกิดข้นึ ใน การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรกู นั อนาคตทงั้ ใกล้และไกล ทัง้ น ี้ ตอ้ งมเี งอ่ื นไขส�าคญั ๒ ประการ ได้แก่ 2. จากนนั้ สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ที่ มีความรู้ หมายถึง มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวังในการน�าความรู้ วิทยาการ นําเสนอเพือ่ ใหไดขอ มลู ท่ถี ูกตอง เทคโนโลยตี ่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการปฏบิ ตั ิ มคี ณุ ธรรม หมายถงึ มคี วามตระหนัก มีความซอื่ สตั ย์ สุจริต ขยัน อดทน มคี วามเพยี ร 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล และใชส้ ตปิ ัญญาในการดา� เนนิ ชวี ิต หนา ชนั้ เรยี นตามประเดน็ ทศี่ กึ ษา และอภปิ ราย ๑.๒ เปา หมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมภายในเวลาที่ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมีเป้าหมายหลัก ดังน้ี กาํ หนด ๑) การใชช วี ติ บนพนื้ ฐานของการรจู กั ตนเอง และทา� สง่ิ ตา่ ง ๆ ตามความสามารถ ของตนเอง รู้จักพัฒนาตนเองด้วยการใฝหาความรู้ ฝกฝนทักษะ พัฒนาความรู้ความสามารถ 4. ครูใหนักเรียนชมวีดิทัศน ชุด ดวยพระบารมี ของตนดว้ ยการเขา้ รบั การศึกษาอบรม รักษารา่ งกายให้สมบรู ณ ์ แข็งแรง มอี ารมณด์ ี ด�าเนนิ ชวี ิต ทําดีเพื่อแผนดิน เรื่อง จากลูกชาวนามาเปน อย่างมสี ต ิ แกป้ ญั หาด้วยปญั ญา และร้จู ักใชท้ รพั ยากรตา่ ง ๆ อย่างรคู้ ณุ คา่ เถา แกโ รงสี จากนน้ั ใหน กั เรยี นรว มกนั วเิ คราะห ๒) สามารถพ่ึงพาตนเองและพง่ึ พาซง่ึ กนั และกนั ในการดา� เนนิ ชวี ติ ประจา� วนั และอภิปรายวา บุคคลในวีดิทัศนนําหลักการ และเปา หมายของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาใชอยา งไรบา ง 5. ครูใหนักเรียนแตละคนวิเคราะหตนเองวา สามารถนาํ หลกั การและเปา หมายของปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใชในชีวิต ประจําวนั ไดอยา งไร จะต้องยึดหลักการพ่ึงตนเองในครอบครัวก่อน สมาชิกครอบครัวจะต้องรู้รายรับ - รายจ่ายของ ครอบครวั สามารถบรหิ ารการเงนิ ในครอบครวั ได้ หลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ และใช้ศักยภาพของตน ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ เมอ่ื ตอ้ งประสบกบั ปญั หา ก็ให้ใช้สติปัญญาไตร่ตรองหาสาเหตุและแก้ไข ปัญหาบนพ้ืนฐานของเหตุและผลด้วยตนเอง ก่อนที่จะพ่ึงพาคนอื่น และเม่ือต้องร่วมมือกับ ผู้อน่ื กต็ ้องยอมรับความสามารถซง่ึ กันและกนั รับฟังความคิดของผู้อ่ืน มีการปรึกษาหารือ  การประกอบอาชีพในครัวเรือนตามแนวคิดเศรษฐกิจ ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกัน พอเพยี ง สามารถสรา้ งรายไดแ้ ละสมาชกิ พ่ึงพาตนเองได้ ๑5๓ ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู พฤตกิ รรมในขอ ใดทยี่ ดึ หลกั การสรา งภมู คิ มุ กนั ตามปรชั ญาของ ครูควรเชิญวิทยากรที่มีความรู ความเช่ียวชาญทางดานเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพยี ง หรือบุคคลในทองถ่ินที่ดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา บรรยายใหความรู มมุ มอง ทัศนคติ และการประยกุ ตใ ชป รัชญาของเศรษฐกจิ 1. จดั สรรรายจา ยใหส มดุลกบั รายได พอเพียง เพ่อื เสรมิ ความเขา ใจในหลกั การและเปา หมายของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. ซ้ือรถจกั รยานมาใชในชวงที่นํ้ามนั มรี าคาแพง 3. ซ้อื สนิ คา และบริการเฉพาะท่ีมีความจาํ เปน เทานัน้ นักเรียนควรรู 4. วางแผนการใชจายในแตล ะเดอื นโดยเก็บไวสวนหน่งึ (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เนอื่ งจากการสรา งภมู คิ ุม กันตาม 1 การผลิต สําหรับเกษตรกรหรือผูคนในทองถ่ิน ตองเนนการผลิตท่ีมี หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตองมีการเตรียมความพรอม วัตถุประสงคเพื่อการบริโภคในครัวเรือนเปนอันดับแรก เชน กินพืชที่ปลูก สาํ หรับการเปล่ยี นแปลงและผลกระทบทอี่ าจเกดิ ข้ึน โดยคาํ นงึ ถงึ หลงั จากผลผลติ เหลอื แลว จงึ คอยนาํ ไปจาํ หนาย ความเปน ไปไดข องสถานการณต า งๆ ทคี่ าดวา จะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต ท้ังใกลและไกล ซ่ึงการวางแผนการใชจายโดยมีการเก็บออมไว T169 สวนหน่ึงถือเปนการเตรียมความพรอมสําหรับการเปล่ียนแปลงที่ อาจเกดิ ขนึ้ ไดในอนาคต)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๓) ใชชีวิตอย่างพอเพียง รู้จักยับย้ังใจตนเอง ลดความต้องการของตนเองลง ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู โดยคา� นึงถงึ ความมอี ยู่ของตนเอง เชน่ ค�านงึ ถึงรายรบั หรือรายได้ของตนเองกอ่ นที่จะตดั สินใจซ้ือ สนิ คา้ และบรกิ าร ยดึ ทางสายกลางในการดา� เนนิ ชีวติ ให้ตนเองอย่อู ยา่ งสมดลุ เพ่ือการมคี วามสุข 6. ครูตั้งคําถามใหนักเรียนชวยกันตอบเพื่อฝก อยา่ งแท้จริง ไม่รู้สึกขาดแคลน และต้องไมเ่ บียดเบียนผู้อืน่ หรือส่ิงแวดล้อม เช่น ในสังคมชนบท ทกั ษะการวเิ คราะหเ พ่มิ เตมิ เชน ซึ่งมีที่ดินท่ีสามารถท�าการเพาะปลูกได้ ก็ท�าการเกษตรแบบพออยู่พอกิน ปลูกผักไว้กินเองก่อน • ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีเปาหมาย ถ้าหากเหลอื ก็นา� ไปขาย แจกจ่ายเพื่อนบ้าน ท�าใหเ้ ราสามารถลดรายจ่ายลงได้ และสามารถสร้าง เพ่ือทําใหคนในสังคมอยูอยางมีความสุข รายได้ใหก้ บั ครอบครวั อีกดว้ ย ทุกระดบั ไดอ ยางไร จงึ กลา่ วไดว้ า่ เปา้ หมายของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งกเ็ พอื่ ใหค้ นไทยอยใู่ นสงั คมไทย ได้อย่างมีความสุขทุกระดบั ดงั นี้ ขนั้ สรปุ ระดับครอบครวั สมาชิกในครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดี พึ่งพา ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา ใจ ตนเองได ้ มคี วามสขุ ทงั้ ทางกายและใจ ดา� เนนิ ชวี ติ โดย ไมเ่ บยี ดเบยี นตนเองและผอู้ นื่ ไมเ่ ปน็ หนท้ี ไี่ มส่ ามารถ 1. ครูใหน ักเรยี นทําใบงานที่ 8.1 เรอ่ื ง หลกั การ ชา� ระคืนได ้ มีเงนิ เหลอื เปน็ เงินออมสา� หรับครอบครัว และเปา หมายของปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง โดยครูแนะนําเพ่ิมเตมิ ระดบั ชุมชน รวมกลุ่มในการสร้างงานสร้างอาชีพเพ่ือสร้าง ระดบั สงั คม ความเขม้ แข็งทางดา้ นเศรษฐกจิ ของชุมชน รวมกลุม่ 2. ครูใหน กั เรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ๑5๔ ทา� ประโยชนเ์ พอ่ื สว่ นรวม สามารถนา� ทรพั ยากรซงึ่ เปน็ เศรษฐศาสตร ม.2 เกยี่ วกับเร่อื ง หลกั การ ทุนของชุมชนมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพ่ือให้เกิด และเปาหมายของปรัชญาของเศรษฐกจิ ความเปน็ อยทู่ พ่ี อเพยี งของชุมชนโดยรวม พอเพียง สังคมเข้มแข็ง มีการสร้างงานสร้างอาชีพ ท่ีม่ันคง สมาชิกในสังคมมีความเป็นอยู่ท่ีดี มีการ ขนั้ ประเมนิ แลกเปล่ียนความรู้ เข้ารับการศึกษาอบรมร่วมกัน สืบทอดภูมิปัญญาและร่วมกันพัฒนาตามแนวทาง ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล เศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือสร้างเป็นเครือข่ายท้ังภายใน และภายนอกสงั คม 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนา ชนั้ เรยี น 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม เสรมิ สรางคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอื้ หา เรอ่ื ง หลกั การและเปา หมาย ครูฝกใหนักเรียนรูจักการประหยัด การเก็บออม และใชชีวิต ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน อยางพอเพียง โดยการทําบัญชีรายรับ-รายจายของตนเองและ และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผล ครอบครัวอยางงายๆ ใหนักเรียนบันทึกการใชจายของตนเองทุก จากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู วนั ใหพจิ ารณาวา รายการคาใชจายใดทค่ี วรลดทอน นํามาเก็บเปน หนว ยท่ี 8 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการผลติ สนิ คาและบรกิ าร เงนิ ออมสาํ หรบั คา ใชจ า ยทจี่ าํ เปน ในอนาคต และใหผ ปู กครองลงชอื่ ในบันทึกของนักเรียนเพื่อการตอยอดนําไปใชในครอบครัว โดยมี แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คุณครคู อยชี้แนะ คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเน้ือหา 2 การลาดับขัน้ ตอนของเรื่อง 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ T170 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒. วเิ คราะหก์ ารผลติ สนิ ค้าและบริการในทอ้ งถิน่ ขน้ั นํา (วธิ ีสอนโดยเนนกระบวนการ : ในทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ ของไทย ประชากรสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม แตเ่ กษตรกรสว่ นใหญ่ กระบวนการเรียนความรคู วามเขา ใจ) ขรับาดผแลเคทล่านทท่ีคี่ดวินร ทส�า่งกผินล ใปหร้คะวกาอมบเปก็นับอกยารู่ไมท่ค�าก่อายรดเี กเษกติดรกตา้อรงวข่างึ้นงอายนู่กตับาสมภฤาดพูกดาลิน1 ฟซ้าึ่งอเาปก็นาชศ่ว งจวึง่าไงมงา่ไนด้ หลงั จากเกบ็ เกย่ี วผลผลติ เสรจ็ และตอ้ งรอจนกวา่ จะถงึ ฤดกู าลเพาะปลกู ครงั้ ตอ่ ไป ตอ้ งพง่ึ พาเงนิ ทนุ 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอ่ื เรอื่ งทจี่ ะ เทคโนโลยีจากภายนอกมากเกินไป รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ครัวเรือนต้องเป็นหน้ี ไม่สามารถ เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู พ่ึงพาตนเองได้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ท้องถิ่นของไทยได้น้อมน�าหลักการปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชเ้ พอื่ สรา้ งทอ้ งถน่ิ ใหเ้ ขม้ แขง็ พงึ่ ตนเองไดใ้ นภาวะเศรษฐกจิ ปจั จบุ นั 2. ครูนําภาพผลิตภัณฑ OTOP มาใหนักเรียนดู โดยการนา� ทรพั ยากรทมี่ อี ยมู่ าผลติ พชื ผลใหพ้ อเพยี งกบั การบรโิ ภคภายในครวั เรอื น และผลติ สนิ คา้ จากนน้ั ตงั้ คาํ ถาม เชน และบรกิ ารเพื่อการคา้ เพื่อเพ่มิ รายได ้ มีเงินออม เปน็ การแกป้ ญั หาเศรษฐกจิ ของทอ้ งถ่ิน ลดการ • ผลิตภณั ฑ OTOP มคี วามสาํ คัญอยา งไร พ่ึงพาจากภายนอก เพ่อื การพฒั นาที่ยงั่ ยนื (แนวตอบ ผลิตภัณฑ OTOP ของทองถ่ิน การรวมโดกยลมุ่ในรทปู แ้อบงถบิ่นตา่ไงด ๆ้ม2 ีกแาลระผกาลริตผสลินติ คใน้าลแกัลษะบณระิกขาอรงตอ่าตุ งส าๆห กมรารกมมขนายาด กทล้ังากงาแรลผะลขิตนใานดคยอ่รัวมเ รดืองั นน ้ี ตา งๆ มคี วามสาํ คญั เนอื่ งจากเปน ผลติ ภณั ฑ ท่ีเกิดจากการรวมกลุมของคนในชุมชน ๒.๑ รปู แบบของการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถนิ่ โดยใชภูมิปญญาและทรัพยากรที่มีอยูใน โดยภาพรวมการผลิตสนิ ค้าและบริการในท้องถิ่นสรปุ ได้ ดงั นี้ ชุมชนมาผลิตเปนสินคาเพ่ือจําหนาย สามารถสรางรายไดใหกับคนในชุมชนได ๑) การผลติ ในครวั เรอื น เปน็ การผลติ ทคี่ นในครอบครวั เดยี วกนั ร่วมกนั ผลติ สินคา้ เปนอยา งดี) และบริการเพื่อเป็นรายได้ของครอบครัว สมาชิกในครอบครัวเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และเป็น เจ้าของปัจจัยการผลิตไปพร้อม ๆ กัน การผลิตในครัวเรือนอาจเป็นกิจการเล็ก ๆ เงินลงทุน ขนั้ สอน ไม่มาก การผลติ ไมซ่ ับซ้อน มีเป้าหมายส�าคญั คอื รายไดข้ องครอบครัว เช่น ขายขา้ วแกง เปิด รา้ นขายของชา� ทา� เครอื่ งจกั สาน ปลกู ผกั ผลไม้ ขนั้ ที่ 1 เตรยี มการอภปิ ราย ไว้รับประทานในครอบครัวและไว้ขาย เป็นต้น นอกจากน ้ี อาจทา� หนา้ ที่ในการรับจ้างการผลิต 1. ครูใหนักเรียนเลาถึงสินคาและบริการใน เชน่ รบั จา้ งเยบ็ เส้อื ผา้ โหล เปน็ ตน้ ทองถิ่นท่ีนักเรียนมีภูมิลําเนา หรือในทองถิ่น ท่ีสถานศกึ ษาตง้ั อยู ๒) การรวมกลมุ่ ในรปู แบบตา่ งๆ 2. ครูอธิบายเช่ือมโยงใหนักเรียนเขาใจวา การ ผลิตสินคาและบริการในทองถ่ินนั้นมีรูปแบบ ตางๆ เชน • การผลิตขนาดกลางและขนาดยอม หรือ SMEs การรวมกลุ่มผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น เปน็ การรวมกลมุ่ ของผปู้ ระกอบการทจี่ ะรว่ มกนั ผลิตสินค้าและบริการเพ่ือสร้างความเข้มแข็ง ในการผลิต สร้างอ�านาจต่อรองในตลาด เช่น การรวมกลุ่มกันของแม่บ้านในหมู่บ้านต่าง ๆ  ผลติ ภณั ฑ์ OTOP เป็นผลงานจากการรวมกลุ่ม เพอ่ื ผลิต เพื่อผลิตสินค้าพ้ืนเมือง หรือผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าของคนในชุมชน สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับ คนในทอ้ งถิน่ ได้เปน็ อย่างดี ๑55 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู บคุ คลในขอ ใดประกอบอาชพี ตามรปู แบบของการผลติ ในครวั เรอื น 1 การวางงานตามฤดูกาล เปนลักษณะการวางงานที่มีสาเหตุมาจากปจจัย 1. สกุ ฤษณเปด ฟารมเล้ยี งเปด เพือ่ สง ออก ดานฤดูกาล เชน ผูท่ีเปนเกษตรกรจะวางงานในชวงฤดูแลง ซ่ึงตองรอจนกวา 2. สมโชคเปนพอ ครัวในรา นอาหารของเพอื่ น จะถึงฤดกู าลเพาะปลกู คร้ังตอไป จงึ สามารถทําการเพาะปลกู พชื ได โดยอาศยั 3. สุชาตริ ับทาํ อาหารกลอ งใหพ นักงานบริษทั นํ้าฝนในการทาํ เกษตรเปนหลกั 4. สมชายเปนตัวแทนจําหนา ยอาหารสัตวใ หแ กเกษตรกร 2 การรวมกลุมรูปแบบตางๆ การรวมกลุมของคนในทองถ่ินตางๆ มีหลาย รูปแบบ เชน กลมุ แมบานทอผา กลมุ ออมทรัพยข องหมบู าน มีวตั ถปุ ระสงคเพอื่ (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการผลิตในครัวเรือนเปน สรางความเขมแข็งทางเศรษฐกิจ สามารถชวยเหลือตนเองและคนในชุมชนได การผลิตที่สมาชิกในครอบครัวเดียวกันรวมกันผลิตสินคาและ ลดการพึง่ พาชุมชนภายนอก ทาํ ใหประชาชนมีความเปน อยูท ี่ดขี ้ึน บรกิ าร เพอื่ สรา งรายไดใ หแ กค รอบครวั โดยทส่ี มาชกิ ในครอบครวั เปน ทั้งผผู ลติ ผบู ริโภค และเปนเจา ของปจ จยั การผลิต นอกจากนี้ ส่ือ Digital อาจทาํ หนา ทเี่ ปน ผรู บั จา งการผลติ กไ็ ด เชน สชุ าตริ บั ทาํ อาหารกลอ ง ใหพนักงานบริษทั ) ศึกษาคนควาขอมูลเพมิ่ เตมิ เก่ียวกบั ผลิตภัณฑ OTOP ไดท ี่ http://www.thaitambon.com T171

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน วเชิส่นา หกกาิจรชรมุ วชมนก1 ลจมุ่ ดัทตองั้ ผร้าา้ พนน้ืคา้เมชอืมุ งชแนล ะเผปลน็ ติ ตภน้ ณั ฑ กจ์าารกรวผมา้ ใกนลภมุ่ าใคนตละกั วษนั ณออะนกส้ีเฉว่ ียนงใหเหญนจ่ ือะ นกา� าวรตั รถวดุ มบิ เปท็นม่ี ี ในทอ้ งถนิ่ มาท�าการแปรรูปเป็นสินค้า ท�าในช่วงว่างจากการท�านา ท�าไร่ เพ่ือเป็นรายได้เสริม ขัน้ ที่ 2 วางแผนปฏบิ ัติ ให้กับครอบครัว หรืออาจท�าเป็นอาชีพหลัก การรวมกลุ่มการผลิตในลักษณะนี้ ถ้ามีการบริหาร จดั การทดี่ ี มบี ุคลากรมาคอยใหค้ วามรู้ มกี ารนา� เทคโนโลยีมาใชใ้ นการผลติ และเขา้ รบั การอบรม 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุมศึกษาเรื่อง การผลิต หรอื ศกึ ษาดงู านการผลติ ในทอ้ งถน่ิ อนื่ ๆ เพอ่ื นา� มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการผลิตสนิ คา้ ของกลมุ่ มตี ลาดท่ี สนิ คา และบรกิ ารในทอ งถน่ิ โดยจบั คกู นั ศกึ ษา กวา้ งขวาง มแี หลง่ เงินทุน ได้รับการส่งเสรมิ จากรฐั กส็ ามารถพัฒนาเป็นสินคา้ ขายไดท้ ั่วประเทศ คูละ 1 หัวขอ หรือสง่ ออกได้ เชน่ สินคา้ หนึง่ ต�าบลหน่ึงผลิตภณั ฑ ์ (OTOP) ทร่ี ฐั มุง่ สง่ เสริมพัฒนาศกั ยภาพของ ผู้ผลิตในหลายด้าน ทั้งการสนับสนุนเงินทุน การอบรมให้ความรู้เพื่อการพัฒนาคุณภาพสินค้า 2. ครูแนะนําแหลง ขอมลู ทีน่ าเช่อื ถือใหก บั นกั เรียนเพ่ิมเติม และบรกิ๒า.ร๒ ก การาสรร้าผงลเคติ รอืขขนา่ ยาธดุรกกิจล ากงารแสลรา้ ะงขแบนรานดด์สยนิ อ คมา้ 2 ร(วSมถMงึ Eกาsร)ขยายโอกาสสู่ตลาดสากล ข้นั ที่ 3 ลงมือปฏบิ ัติ การประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (Small and Medium Enterprise: SMEs) เป็นกิจการที่ด�าเนินการเก่ียวกับการผลิตหรือบริการในชุมชน เป็นแหล่งรองรับการจ้างงาน 1. สมาชกิ แตล ะคสู บื คน ความรตู ามหวั ขอ ทไ่ี ดร บั ขนาดใหญ ่ มที งั้ กจิ การคา้ ปลกี และคา้ สง่ การผลติ สนิ คา้ การใหบ้ รกิ าร ซงึ่ เหมาะกบั แนวคดิ เศรษฐกจิ มอบหมาย พอเพยี ง คอื ขน้ั ท ี่ ๑ การผลติ แบบพง่ึ พาตนเอง ไมเ่ ปน็ หน้ ี มเี งนิ ออม เชน่ การผลิตอาหารจ�าหนา่ ย 2. สมาชกิ แตล ะคนผลดั กนั อธบิ ายผลงานของตน ขั้นท ี่ ๒ รวมตัวเป็นกลมุ่ เป็นสหกรณ์ องค์กรชุมชน เพอ่ื ช่วยเหลือกนั และกนั ทา� การผลิต ใหสมาชกิ กลุม อ่นื ฟง สนิ คา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ เชน่ การเกษตร หตั ถกรรม แปรรปู อาหาร ทา� ธรุ กจิ ปมั นา�้ มนั รา้ นคา้ ชมุ ชน จดั การท่องเท่ียว มีกองทุนชมุ ชน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขา ใจ ขัน้ ท ่ี ๓ เชอื่ มโยงกบั การทา� ธรุ กจิ โดยสรา้ งเครอื ขา่ ยวสิ าหกจิ รว่ มมอื กบั องคก์ รอนื่ ๆ ภายใน ประเทศ เชน่ บรษิ ทั ขนาดใหญ่ ธนาคาร สถาบนั วิจัย รวมถงึ การสง่ ออก 1. ครูนําสนทนาถึงผลิตภัณฑสินคาและบริการ ในทองถิ่นใกลเคียงโรงเรียน จากนั้นอภิปราย การดา� เนนิ ธรุ กจิ ทงั้ ๓ ขนั้ น ี้ เปน็ แนวทาง รว มกัน ส�าคัญท่ีจะช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs สามารถพัฒนาธุรกิจของตนไปได้อย่างย่ังยืน 2. ครูยกตัวอยางการประกอบธุรกิจขนาดกลาง สง่ ผลใหธ้ รุ กจิ มคี วามเตบิ โตอยา่ งตอ่ เนอื่ ง สนิ คา้ และขนาดยอมที่มีช่ือเสียง โดยใหนักเรียน และบรกิ ารมกี ารพฒั นาคณุ ภาพจนเปน็ ทย่ี อมรบั รว มกนั วเิ คราะหค วามเหมอื นและความแตกตา ง ของผบู้ รโิ ภค สามารถตอ่ ยอดสรา้ งสนิ คา้ ใหมใ่ ห้ ของลักษณะการประกอบธุรกจิ มีความหลากหลายตรงกับความต้องการของ ตลาด และน�าไปสู่การขยายช่องทางตลาดท้ัง 3. ครูใหนักเรียนวิเคราะหสถานการณ แนวโนม  การผลติ เครอื่ งประดบั สง่ ออกเปน็ ตวั อยา่ งของธรุ กจิ ขนาด ภายในประเทศและตา่ งประเทศ ปญ หาของการผลติ ขนาดกลางและขนาดยอ ม ของทองถิ่นตางๆ เพ่ิมเตมิ กลางและขนาดย่อมของไทย ทส่ี ามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ๑56 ผูป้ ระกอบการ นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด แนวคิดการดําเนินธุรกิจประเภทสหกรณมีความสัมพันธกับ 1 วิสาหกิจชุมชน กลุมคนที่รวมตัวกันเพ่ือทําการผลิต การคา การบริการ หลักการพื้นฐานตามแนวปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอยางไร ในรปู แบบตางๆ ในทอ งถิ่น มกี ารบรหิ ารจัดการโดยสมาชิก เชน รานคาชมุ ชน กลุม นวดแผนโบราณ 1. ความมีเหตุผล 2. ความไมป ระมาท 2 การผลิตขนาดกลางและขนาดยอม ตาม พ.ร.บ. สงเสริมวิสาหกิจขนาด 3. ความพอประมาณ กลางและขนาดยอม พ.ศ. 2543 ไดแก กิจการที่ดําเนินงานเก่ียวกับการผลิต 4. การมีภูมคิ มุ กันในตวั ท่ดี ี หรือบริการ กิจการคาสง กิจการคาปลีก การจําแนกประเภทธุรกิจขนาดยอม (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 3. หลกั การสาํ คญั ของการดาํ เนนิ งาน และขนาดกลาง โดยใชมูลคาข้นั สูงของสนิ ทรัพยถาวร ไดแ ก สหกรณ คือ สมาชกิ เปน เจาของรว มกันภายใตห ลักประชาธิปไตย ดานการผลิต วิสาหกิจขนาดกลางไมเกิน 200 ลานบาท วิสาหกิจ ไมมุงแสวงหาผลกําไร และมีการแบงปนผลประโยชนอยางเปน ขนาดเล็กไมเกิน 50 ลา นบาท ธรรม เพอื่ แกป ญ หาในการประกอบอาชพี ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ ดา นการบรกิ าร วิสาหกิจขนาดกลางไมเกิน 200 ลานบาท วิสาหกิจ พอเพียง และยกระดับความเปนอยูใหดีข้ึน ซ่ึงสอดคลองกับ ขนาดเลก็ ไมเ กิน 50 ลานบาท ความพอประมาณตามแนวทางของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง) ดานการคา คา สง วิสาหกิจขนาดกลางไมเกิน 100 ลา นบาท วสิ าหกจิ ขนาดเล็กไมเ กิน 50 ลานบาท คา ปลกี วสิ าหกจิ ขนาดกลางไมเ กนิ 60 ลา นบาท วิสาหกิจ T172 ขนาดเล็กไมเ กนิ 30 ลานบาท

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒.๓ ปญ หาของการผลติ สินคา้ และบริการในท้องถนิ่ ขน้ั สอน การผลิตสินคา้ และบรกิ ารในทอ้ งถิ่นในปจั จบุ ันยังไม่ประสบความส�าเรจ็ เทา่ ท่คี วร การผลิต จ�ากดั อยู่ในทอ้ งถิน่ ของตนหรือท้องถน่ิ ใกล้เคียง เนอื่ งมาจากสาเหตตุ ่าง ๆ ดงั นี้ ข้ันท่ี 4 พฒั นาความรู ความเขา ใจ ๑) การขาดแคลนเงนิ ทนุ การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถนิ่ สว่ นใหญเ่ ปน็ กจิ การ 4. ครยู กตวั อยา งปญ หาการผลติ สนิ คา และบรกิ าร เเลนก็ื่อ งๆจ าทกีท่ ใา�นใกนาครรขวั อเรกอื ู้เนงิน หจารกอื เสปถ็นากบาันรกราวรมเกงลินุม่จะผตล้อิตงเลม็กีห ๆล ักมคเี�้างปนิ รทะนุกนันอ้ทยี่มแ่ันลคะงเ1ข ้าจไึงมไ่ถมงึ่สแาหมลาง่รเถงกนิ ู้เทงนุิน ตางๆ ภายในประเทศ แลวใหนักเรยี นรว มกัน มาขยายกจิ การไดม้ ากนกั ท�าใหธ้ ุรกิจไม่เตบิ โตเท่าทีค่ วร วเิ คราะหถ งึ สาเหตขุ องการเกดิ ปญ หาดงั กลา ว รวมถงึ เสนอแนะแนวทางการปอ งกนั และแกไ ข การผลิตสินคา้๒แ)ละกบารรกิ ขาารดในบทุค้อลงาถกิน่ รสทว่ นี่มใีคหวญาเ่มปร็นูคกวาารมผลสติ าแมบาบรดถง้ัใเนดกิมา เรปผน็ ลภิตูมแิปลญั ะญบาร2ทิห่สีาบืรจทัดอดกตาอ่ร ปญ หาเพิ่มเติม กันมาจากรนุ่ สรู่ นุ่ ไมไ่ ดน้ า� กรรมวธิ กี ารผลติ สมยั ใหม ่ ๆ มาใชม้ ากนกั ทา� ใหไ้ ดผ้ ลผลติ นอ้ ย ในขณะที่ ตอ้ งใชท้ รพั ยากรมาก และขาดการพฒั นาคณุ ภาพสินคา้ นอกจากน้ ี ในปัจจบุ นั สังคมไทยยังเผชิญ 5. ครตู งั้ ประเดน็ คาํ ถามเพอื่ ใหน กั เรยี นไดพ ฒั นา กบั ปญั หาการละเลยหรอื ทอดทงิ้ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ของบรรพบรุ ษุ ทา� ใหข้ าดบคุ คลทมี่ คี วามรคู้ วาม ความรูความเขา ใจเพิ่มมากขึน้ เชน สามารถในการผลิตสนิ คา้ และบริการในทอ้ งถิน่ • ปญหาการผลิตสินคาและบริการในทองถิ่น มกั มีสาเหตุมาจากปจ จัยใด และมแี นวทาง ๓) รานคาปลีกขนาดใหญ่เขามาเปดกิจการในทองถิ่น ซึ่งมีทั้งห้างค้าปลีก แกไขไดอ ยา งไร ขนาดใหญข่ องชาวตา่ งชาตแิ ละรา้ นสะดวกซอื้ ทเ่ี ปดิ บรกิ ารตลอด ๒๔ ชวั่ โมง หา้ งคา้ ปลกี ขนาดใหญ่ (แนวตอบ ปญหาการผลิตสินคาและบริการ เหลา่ นม้ี สี นิ คา้ และบรกิ ารใหเ้ ลอื กมากมาย ทง้ั สนิ คา้ ทผ่ี ลติ ในประเทศและสนิ คา้ นา� เขา้ จากตา่ งประเทศ ในทอ งถิน่ เชน การขาดแคลนแหลงเงินทุน มาวางขาย มกี ารจดั รา้ นสวยงาม ทนั สมยั มบี รกิ ารทด่ี ี มกี ารจดั วางสนิ คา้ แบง่ ออกเปน็ แผนกอยา่ ง สาเหตุมาจากการผลิตสวนใหญเปนกิจการ ชัดเจน ท�าให้คนในท้องถิ่นให้ความสนใจและ เลก็ ๆ ในครอบครัว ไมสามารถเขาถึงแหลง ใช้บรกิ ารกนั มาก เงินทุน เน่ืองจากไมมีหลักทรัพยคํ้าประกัน ในการขอสนิ เชอื่ จากสถาบนั การเงนิ แนวทาง ๔) มีการใชเทคโนโลยีในการ แกไข เชน สถาบันการเงินควรพิจารณา ผลิตนอย เทคโนโลยีมีประโยชน์ในการเพิ่ม สินเช่ือกับผูผลิตรายยอย และภาครัฐควร มีมาตรการชวยเหลือทางดานเงินทุนผาน สถาบนั การเงินตางๆ) ปริมาณการผลิต พัฒนาคุณภาพสนิ ค้า ช่วยลด ขนั้ ตอนการผลติ และการใชแ้ รงงานคน แตก่ ารผลติ ในทอ้ งถน่ิ ซงึ่ เปน็ ธรุ กจิ ขนาดเลก็ มเี งนิ ทนุ นอ้ ย ขาดแคลนบุคลากรท่ีมีความรู้ ความสามารถ ทางเทคโนโลย ี ประกอบกับเครื่องจักรต่าง ๆ มี ราคาแพง ท�าให้ผู้ผลิตรายย่อยในท้องถิ่นไม่มี เงินทุนเพียงพอท่ีจะซ้ือเคร่ืองจักรเหล่าน้ันมา ชว่ ยในการผลติ สินคา้ และบรกิ าร  การจัดงานมหกรรม SMEs เป็นการส่งเสริมการตลาด ให้กบั ผปู้ ระกอบการและประชาชนทัว่ ไป ๑5๗ ขอ สอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู เพราะเหตใุ ดการผลติ สนิ คา และบรกิ ารในทอ งถนิ่ ตา งๆ จงึ ไม ครูควรใหนักเรียนไปสํารวจสินคาในทองถ่ิน เพื่อสอบถามปญหาของการ สามารถแกป ญ หาเศรษฐกจิ ของผคู นในทอ งถนิ่ ไดอ ยา งแทจ รงิ ผลิตสินคาและบริการที่แทจริงจากผูประกอบการ จากน้ันนําขอมูลจากการ สาํ รวจมาเขียนรายงานความยาวไมเกนิ 1 หนา กระดาษ A4 นําสงครูผสู อน (แนวตอบ การผลิตสินคาและบริการในทองถ่ินของไทยยังไม ประสบความสําเร็จเทาที่ควร ยังไมสามารถแกปญหาเศรษฐกิจ นักเรียนควรรู ของทอ งถิ่นไดอ ยา งแทจ รงิ สืบเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เชน การ ขาดแคลนเงนิ ทนุ ในการขยายกจิ การ เปน การผลิตแบบครอบครัว 1 หลักค้ําประกันท่ีม่ันคง ควรเปนหลักทรัพยท่ีมีมูลคาเทากับหรือสูงกวา ที่เปนกิจการเล็กๆ ไมไดสรางรายไดมากนัก ขาดบุคลากรที่มี ยอดเงินกู ซึง่ หลักทรพั ยท น่ี ิยมใชใ นการนาํ ไปคํ้าประกนั เงนิ กู เชน โฉนดทด่ี ิน ความรูความสามารถในการผลิต การบริหารจัดการ การหาชอง บา น หรือโรงงาน ทางการตลาด การใชเทคโนโลยีในการผลติ ทาํ ใหไ มสามารถขาย 2 ภูมิปญญา เปนความรู ความสามารถ ความเชื่อ ท่ีนําไปสูการปฏิบัติ แขงกับสินคาท่ีมาจากอุตสาหกรรมใหญที่มีการทําการตลาดแบบ เพ่ือแกไขปญหาของมนุษย จนเกิดเปนแบบแผนท่ีมีคุณคาในการดําเนินชีวิต สมัยใหมได รวมท้ังสินคาบางชนิดก็ยังแบงตลาดจากสินคาจีน โดยมกี ารถายทอดสบื ตอ กนั มาจากรุน สรู นุ ท่มี ีราคาถกู กวา ) T173

นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั สอน ๕) การแขง่ ขนั กบั สนิ คา จากประเทศอน่ื ทมี่ รี าคาถกู กวา่ ในยคุ ทต่ี ลาดสนิ คา้ โลก ขน้ั ท่ี 4 พฒั นาความรู ความเขา ใจ เปิดกว้างและมีการแข่งขันอย่างเสรี ท�าให้เกิดผู้ผลิตรายใหม่จากหลายประเทศท่ีมีต้นทุน การผลติ ตา่� สง่ ผลใหส้ นิ คา้ และบรกิ ารทข่ี ายมรี าคาถกู และมคี ณุ ภาพอยใู่ นระดบั ทผี่ บู้ รโิ ภคพงึ พอใจ 6. ครูนําสนทนาเกี่ยวกับบทบาทของภาครัฐที่มี สนิ คา้ ราคาถูกจากประเทศต่างๆ นจี้ ึงมีส่วนแบง่ ทางการตลาดคอ่ นขา้ งสูง เพราะไดร้ บั ความนยิ ม ตอการผลิตสินคาและบริการในทองถ่ิน แลว จากผบู้ รโิ ภคไปทัว่ โลก ใหน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ จากสภาพดังกล่าว ส่งผลให้สินค้าและบริการในท้องถ่ินของไทยได้รับผลกระทบ ในประเดน็ ปญ หาการผลติ สนิ คา และบรกิ ารใน เนื่องจากต้องแข่งขันทางด้านราคากับคู่แข่ง แม้ว่าคุณภาพสินค้าและบริการในท้องถ่ินไทยจะมี ทอ งถิน่ กับการจัดการของภาครัฐในปจจบุ นั คณุ ภาพสงู แตถ่ า้ หากมตี น้ ทนุ การผลติ สงู ราคาขายกย็ อ่ มสงู ตามไปดว้ ย การขยายโอกาสและการ แขง่ ขนั ทางการตลาดกไ็ มส่ ามารถทา� ไดอ้ ยา่ งเตม็ ประสทิ ธภิ าพ ซง่ึ ภาครฐั กม็ บี ทบาทในการเขา้ มา 7. ครูใหนักเรียนทําใบงานท่ี 8.2 เรื่อง รูปแบบ ชว่ ยแกไ้ ขปญั หานดี้ ว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ เชน่ การสนบั สนนุ ผปู้ ระกอบการใหส้ ามารถเขา้ ถงึ แหลง่ วตั ถดุ บิ การผลติ สนิ คาและบริการในทองถน่ิ ท่ีมีราคาต�่า การให้ความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจรวมถึงกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ซง่ึ จะชว่ ยลดตน้ ทนุ การผลติ ลงได ้ การสง่ เสรมิ ดา้ นเทคโนโลยที ที่ นั สมยั จะชว่ ยใหส้ นิ คา้ มมี าตรฐาน 8. ครูใหนักเรียนรวมกันทําแบบฝกสมรรถนะฯ เกดิ ความเสยี หายนอ้ ย นอกจากน ้ี รฐั ยงั ไดส้ ง่ เสรมิ ในการหาชอ่ งทางตลาดใหม ่ ๆ เพอื่ ขยายโอกาส เศรษฐศาสตร ม.2 เร่ือง การผลิตสินคาและ ในการขายสนิ คา้ กับประเทศต่าง ๆ ใหม้ ากข้ึน บรกิ ารในทอ งถน่ิ เรอ่ื งนา รู ขนั้ สรปุ หนึง่ ตําบลหน่ึงผลิตภณั ฑ (OTOP) ขนั้ ที่ 5 สรปุ หน่ึงตาํ บลหน่งึ ผลิตภณั ฑ เปน แนวทางการสราง ความเจริญแกชุมชน เพื่อความม่ันคงทางเศรษฐกิจ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ ของคนในชุมชนใหมีความเปนอยูท่ีดีขึ้น โดยการนํา การผลติ สินคา และบรกิ ารในทอ งถิ่น หรือใช PPT ทรัพยากรท่ีมีอยูในทองถิ่นมาผลิตเปนสินคาที่มี สรปุ สาระสาํ คญั ของเนอ้ื หา ตลอดจนความสาํ คญั คณุ ภาพ โดยการนาํ จดุ เดน ทเี่ ปน เอกลกั ษณข องชมุ ชน ตอ การดาํ เนินชีวิตประจาํ วัน สูความเปนสากล สอดคลองกับวัฒนธรรมในแตละ ทองถ่ินมาผลิตเปนช้ินงาน สามารถจําหนายไดท้ัง ขน้ั ประเมนิ ตลาดในทอ งถ่ิน ในประเทศ และตางประเทศ ผลติ ภัณฑจ าก OTOP จะตองมาจากกระบวนการคดิ ท่มี ีพื้นฐานมาจากภมู ิปญ ญา ประเพณี วัฒนธรรม 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม มาเปน จดุ เดน ทเ่ี ปน จดุ ขาย โดยรฐั ใหค วามชว ยเหลอื ดา นความรสู มยั ใหม การบรหิ าร การรว มกันทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน จดั การ การตลาด วางขายท้งั ในและตา งประเทศ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน ๑5๘ และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 แนวทางการวัดและประเมินผล ขอ สอบเนน การคดิ ขอ ใดเปน วตั ถปุ ระสงคห ลกั ของภาครฐั ในการสนบั สนนุ สง เสรมิ ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เรื่อง การผลิตสินคาและ สนิ คา OTOP บรกิ ารในทองถน่ิ ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรวมกันทาํ งาน และการนาํ เสนอ ผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมิน 1. เพอ่ื เปน การเพม่ิ รายไดใหก ับประเทศ การนาํ เสนอผลงานทแ่ี นบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรหู นว ยท่ี 8 เรอ่ื ง เศรษฐกจิ 2. เพอ่ื สรางความมน่ั คงทางเศรษฐกจิ ใหกับคนในชมุ ชน พอเพยี งกับการผลติ สินคาและบริการ 3. เพื่อตองการเพิ่มปริมาณสินคาสงออกของไทยสูตลาด แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ตางประเทศ 4. เพอ่ื เปลย่ี นคา นยิ มของคนไทยใหห นั มาบรโิ ภคสนิ คา ภายใน คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขดี ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ประเทศ (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เน่ืองจากการผลิตสินคา OTOP ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 เปนการนําทรัพยากรท่ีมีอยูในทองถิ่นมาผลิตเปนสินคาที่มี 32 คุณภาพ สามารถจัดจําหนายไดทั้งตลาดในทองถิ่น ในประเทศ และตางประเทศ ดังน้ัน วัตถุประสงคหลักของภาครัฐในการ 1 ความถกู ต้องของเน้ือหา สนับสนุนสินคา OTOP เพ่ือเปนแนวทางในการสรางความเจริญ 2 การลาดับข้ันตอนของเรื่อง ใหแกชุมชน และเพ่ือสรางความม่ันคงทางเศรษฐกิจของคน 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ ในชุมชนใหสามารถพ่ึงตนเองได และมคี วามเปนอยูที่ดีขนึ้ ) 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ T174 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓. การประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลติ ขน้ั นํา (วิธีสอนโดยการอภิปราย) สินค้าและบรกิ ารในท้องถน่ิ 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเร่ือง ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมเี ปา้ หมายทชี่ ดั เจน นนั่ คอื สรา้ งความมน่ั คงทางเศรษฐกจิ จดุ ประสงค และผลการเรยี นรู ใขนอทงค้อนงถใน่ินชมมุ าชบนรเิหพาอื่ รเจปัดน็ กพา้นืรใฐหา้มนีปขรอะงสกิทารธสิภราา้ พง คลวาดมกเาขรม้พแ่ึงขพง็ าใจหาก้ กบั ภชาุมยชนนอ ก1โ ดใยชน้หา� ลทักรทพั ายงาสการยทก่ีมลีอายงู่ ไมท่ า� อะไรเกนิ ตวั ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ นื่ รวมถงึ ดแู ลรกั ษาและใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ 2. ครูต้ังตําถามใหนักเรียนรวมกันแสดงความ สงิ่ แวดลอ้ ม ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ สามารถนา� หลกั การของปรชั ญาของเศรษฐกจิ คิดเห็นในประเด็น เชน พอเพียงมาประยกุ ตใ์ ช้ได ้ ดังน้ี • นักเรียนมีวิธีการนําหลักการของเศรษฐกิจ พอเพียงไปประยกุ ตใชใ นการดําเนนิ ชวี ติ ได ๓.๑ ความพอประมาณ อยางไร ในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารจะตอ้ งคา� นงึ ถงึ ปจั จยั ภายใน เชน่ ความรคู้ วามสามารถของตนเอง ขน้ั สอน คนในครอบครัว ความสามารถในการผลติ เขา้ สูต่ ลาด เงินทนุ ท่ีจะใช้ตอ้ งมกี ารบรหิ ารจัดการอย่าง ระมัดระวังและรัดกุม หรือถ้าหากต้องมีการพ่ึงพาเงินทุนจากสถาบันการเงินก็ให้กู้เงินแต่ ขน้ั ที่ 1 เตรียมการอภปิ ราย พอประมาณ สามารถชา� ระคนื ได ้ โดยทกี่ ารผลติ สนิ คา้ ยงั มกี า� ไร หรอื ในการขยายธรุ กจิ จะตอ้ งแบบ ค่อยเปน็ คอ่ ยไปอย่างมัน่ คง ไมท่ �าอะไรเกินตัว และค�านึงถงึ  ปัจจัยภายนอก  เชน่ ความยากง่าย 1. ครถู ามนักเรียนถงึ ความเขา ใจเบ้ืองตน ในการแข่งขันเข้าสู่ตลาด ความต้องการสินค้าของผู้ซ้ือ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศว่าเหมาะแก่ 2. ครูใหนักเรียนแบงกลุม สืบคนขอมูลเก่ียวกับ การลงทนุ หรอื ไม ่ ศกั ยภาพของคแู่ ขง่ เปน็ อยา่ งไร เปน็ ตน้ เพอื่ ทผ่ี ผู้ ลติ จะไดว้ างแผนการผลติ อยา่ ง รัดกุมและพัฒนาสินคา้ อย่างตอ่ เนอื่ ง การประยุกตใชปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการผลิตสินคาและบรกิ ารในทองถ่นิ ๓.๒ ความมเี หตผุ ล ขนั้ ท่ี 2 ดําเนินการอภิปราย ในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารจะตอ้ งพิจารณาถงึ เหตผุ ลต่าง ๆ ประกอบกัน เชน่ เหตผุ ลตาม หลักวิชาการ วา่ มคี วามร้เู ก่ยี วกับวธิ กี ารผลิตสินคา้ น้นั มากน้อยแค่ไหน ผลติ แลว้ ได้กา� ไรพอเลีย้ ง 1. สมาชิกในกลมุ นําขอ มูลมาแลกเปลย่ี นกัน ครอบครัวหรือไม่ มตี ลาดรองรับสินคา้ มากนอ้ ยแค่ไหน สินค้ามคี วามยั่งยืนหรือไม่ เหตุผลในการ 2. จากน้นั สมาชิกในกลมุ ชว ยกนั คดั เลือกขอ มลู ด�ารงชีวิต ว่าสินค้านั้นมีความจ�าเป็นต่อการด�ารงชีวิตมากน้อยเพียงใด สงวนรักษาอาชีพของ 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล คนไทยไวห้ รอื ไม ่ เหตผุ ลทางดา้ นวฒั นธรรม วา่ การผลติ สนิ คา้ นนั้ ขดั ตอ่ ประเพณ ี วฒั นธรรม ศลี ธรรม วิถีชีวิตทด่ี ีงามของคนในท้องถิ่นหรอื ไม่ เหตผุ ลทางกฎหมาย ว่าขัดตอ่ กฎหมายหรือไม ่ เปน็ ตน้ อภปิ ราย และแสดงความคิดเหน็ รว มกัน ถา้ หากพจิ ารณาเหตผุ ลตา่ ง ๆ แลว้ เมอื่ ผผู้ ลติ มคี วามพรอ้ มจงึ จะทา� การผลติ สนิ คา้ โดยความรว่ มมอื 4. ครูยกตัวอยางสินคาและบริการในทองถ่ิน ร ว่ มคิด๓ ร.ว่ ๓ม ทม�า ภี ขมูองคิ สมุ้มากชนักิ 2ใในนครตัวัวเรทอื นด่ี ีเพอ่ื เพ่ิมรายได้และท�างานอย่างมคี วามสขุ บริเวณชุมชนรอบโรงเรียน แลวใหนักเรียน รว มกนั วเิ คราะหถ งึ การนาํ หลกั การของปรชั ญา ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วซ่ึงมีสาเหตุมาจากทั้งในประเทศ ของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ ช และต่างประเทศ สาเหตุจากภายในประเทศ เชน่ ความไม่ม่ันคงทางด้านการเมือง ทา� ให้นกั ธรุ กิจ ไม่กล้าลงทุน หรือไม่ขยายการผลิต มีการจ้างงานน้อยลง ท�าให้ประชาชนที่อยู่ในภาคแรงงาน ๑59 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู การตัดสินใจไมเพิ่มปริมาณการผลิตสินคาทั้งที่เปนท่ีตองการ 1 ลดการพ่ึงพาจากภายนอก ในการผลิตสินคาและบริการจําเปนตองพ่ึงพา ของตลาดมาก เนอื่ งจากความสามารถในการผลิตต่ํา เปน การนาํ ทางดานเทคโนโลยกี ารผลิต เงนิ ทุน บคุ ลากรจากภายนอก ซงึ่ การลดการพึง่ พา ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในขอ ใดมาประยุกตใ ช จากภายนอกในที่น้ีไมใชไมพ่ึงพาเลย แตทั้งน้ีตองพ่ึงพาตัวเองใหไดกอน เชน ในการพึ่งพาสถาบันการเงินเพื่อนําเงินมาขยายการลงทุน จะตองกูเงินมาพอ (แนวตอบ การตัดสินใจไมเพิ่มปริมาณการผลิตสินคาทั้งท่ี ประมาณ สามารถชาํ ระคนื ไดต ามกาํ หนดเวลา โดยทธ่ี รุ กจิ ยงั สามารถทาํ กาํ ไรได เปนที่ตองการของตลาดมาก เนื่องจากความสามารถในการ 2 ภมู คิ มุ กนั การสรา งภมู คิ มุ กนั ในตวั เชน ในการผลติ สนิ คา และการจาํ หนา ย ผลิตต่ํา เปนการประมาณตนเองในการผลิตสินคา ไมทําอะไรท่ี จะตองรูจักการปรับตัว สรางความยืดหยุนท้ังในดานการผลิตเพ่ือตอบสนอง เกินตัวหรือเกินกวาศักยภาพท่ีตนเองมี จึงถือวาการตัดสินใจ ความตอ งการของตลาด ตอ งสรา งและปรบั ตวั ใหส ามารถแขง ขนั ไดใ นระดบั หนง่ึ ดังกลาวเปนการนําปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในหัวขอ เพื่อเปนภมู ิคมุ กนั ที่ดใี หกับกลุม ผผู ลติ ความพอประมาณมาประยุกตใชในการดําเนินธุรกจิ ) T175

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน สมว่ีรนาย สไดาเ้นห้อตยมุ ลางจ าอก�าภนาายจนซอ้ือกจ ึงเชลน่ด ลกงา รสข่งยผาลยกตรวั ะขทอบงหตา้่องกคาา้ รปผลลกี ิตขในนชาดุมใชหนญ 1ท่ ทเ่ี ข�าใา้ หม้ขาาเปยดิขกอจิงกไดา้นร ้อทยา� ลใหง้ คนในชมุ ชนซอ้ื สนิ คา้ จากหา้ งดงั กลา่ ว สง่ ผลกระทบตอ่ การขายสนิ คา้ ของชมุ ชน ดงั นนั้ ผปู้ ระกอบการ ข้นั ที่ 2 ดาํ เนินการอภปิ ราย จะตอ้ งมกี ารบรหิ ารความเสย่ี ง มกี ารวางแผนการเตบิ โตของกจิ การอยา่ งระมดั ระวงั เสาะแสวงหา ชอ่ งทางการกระจายสินค้าใหม่ ๆ มีการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต และหาแนวทางในการเพ่ิมมูลค่า 5. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั ให้กบั สินค้าอยเู่ สมอ ความรอบรู รอบคอบ และระมัดระวังในการ การผลิตสินคาของผูผลิตและบุคลากรใน ๓.๔ ความรอบรู้ หนว ยงานตางๆ เพ่มิ เตมิ ผผู้ ลติ และบคุ ลากรจะตอ้ งมคี วามรอบร ู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั ในการผลติ สนิ คา้ กลา่ วคอื 6. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเพ่ิมเติมถึง มีความรอบรู้ เช่น รู้กรรมวธิ กี ารผลิต แหล่งวตั ถดุ ิบ ช่องทางการตลาด การประชาสัมพันธ์ ศกึ ษา แนวทางการประยุกตใชเศรษฐกิจพอเพียง คู่แข่ง รู้สถานการณ์บ้านเมือง มีการเข้ารับการศึกษาอบรมจากหน่วยงานต่าง ๆ เรียนรู้การ ในการผลิตสินคาและบริการในทองถ่ินหรือ ใช้เทคโนโลยี เพื่อจะได้น�ามาวางแผนการผลิตได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับก�าลังการผลิต ในชมุ ชนของนักเรียน โดยครแู นะนําเพมิ่ เติม มีความรอบคอบ ในการผลิตและการขยายการผลิต โดยการศกึ ษาขอ้ มลู ขอค�าปรึกษาจากองค์กร หนว่ ยงานต่าง ๆ หรอื มผี ูร้ มู้ าแนะน�า เพอื่ การขยายธุรกจิ ไดอ้ ย่างม่ันคง มีความระมดั ระวัง ในการ วางแผนการผลติ การบรหิ ารทนุ ไมล่ งทนุ เกนิ ตวั ไมเ่ ปน็ หน ี้ หรอื หากตอ้ งกเู้ งนิ จากสถาบนั การเงนิ กต็ ้องสามารถชดเชยหน้ีได ้ โดยท่ธี ุรกจิ ไม่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น ๓.5 คณุ ธรรม คุณธรรมของผู้ผลิตสินค้าที่ส�าคัญ เช่น ค�านึงถึงคุณภาพของสินค้า ความปลอดภัยของ ผบู้ รโิ ภค ราคาไมแ่ พงเกนิ ไป ไมเ่ อารดั เอาเปรยี บผบู้ รโิ ภค รกั ษาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ชว่ ยเหลอื ชมุ ชนตามความเหมาะสม และมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม เชน่ ไมผ่ ลติ สนิ คา้ ทมี่ อมเมา เยาวชน หรือสินค้านั้นไม่เป็นอันตรายต่อสมาชิกในชุมชนหรือมีผลกระทบต่อชุมชนในระยะยาว ให้ความส�าคัญกับการพัฒนาคนเพ่ือให้การท�างานมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีคุณธรรมกับผู้ร่วมงานด้วยการบริหารคนอย่างยุติธรรม ให้การส่งเสริมแรงงานในการเข้ารับ การศึกษาอบรมเพ่ือน�าความรู้มาพัฒนางาน ค�านึงถึงคุณภาพการด�าเนินชีวิต ให้ค่าตอบแทนท่ี เหมาะสมตามความรูค้ วามสามารถอย่างเท่าเทียมกัน จะท�าให้บุคลากรมกี า� ลังใจในการทา� งานได้ เต็มความสามารถ และทา� งานอย่างมีความสุข การนา� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ จะท�าให้ผผู้ ลติ หรือผปู้ ระกอบการมคี วามระมดั ระวงั ในการผลิตสินคา้ และบรกิ ารมากขนึ้ มีการ ขยายกจิ การและพฒั นาการผลติ อยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไปอยา่ งมนั่ คง สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ ของชมุ ชน มีความเขม้ แขง็ พง่ึ พาตนเองได ้ และคนในชุมชนมคี วามเปน็ อยูท่ ่ดี ี ๑60 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ ขอ ใดกลา วถกู ตอ งเกย่ี วกบั การประยกุ ตใ ชป รชั ญาของเศรษฐกจิ 1 การขยายตัวของหางคาปลีกขนาดใหญ หางคาปลีกขนาดใหญท่ีมีการ พอเพียงในกลุม นกั ธุรกิจ รวมทุนกับตางชาติ และเปนของตางชาติท้ังหมด มักจะมีสินคาและบริการท่ี ทันสมัย มีความหลากหลายและสะดวกสบาย จึงทําใหมีลูกคาใชบริการมาก 1. รบั ผดิ ชอบตอตนเอง ลกู จาง และคูแขง ทางการคา เทาน้นั ซง่ึ สง ผลกระทบกบั รา นคา ปลกี ขนาดเลก็ จนบางแหง ตอ งปด กจิ การหรอื ลดขนาด 2. ศกึ ษาขอ มลู ขา วสารอยตู ลอดเวลาเพอื่ ใหส ามารถเอาเปรยี บ รา นคา ใหเลก็ ลง คูแขงทางการคา บูรณาการอาเซียน 3. คํานึงถึงการแสวงหาผลประโยชนระยะส้ันมากกวาความ โดยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ไดนอมนํา มน่ั คงของการดําเนนิ ธุรกจิ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเปนพ้ืนฐานของแผนพัฒนาฯ เพ่ือชวยทําให 4. ปรบั ปรงุ คณุ ภาพสนิ คา ใหท นั กบั ความตอ งการของตลาดและ ประเทศไทยมีความพรอมในการเขาสูประชาคมอาเซียนไดอยางรูเทาทัน และมีภูมิคมุ กนั ตอการเปล่ียนแปลงทีจ่ ะเกดิ ขน้ึ การเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยี (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะถือเปนการมีความรอบรู T176 ในเร่ืองการผลิตสินคาและชองทางการตลาด ซ่ึงความรอบรู เปนเงื่อนไขหน่ึงของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สวนตัวเลือก อน่ื ๆ ไมม คี วามสอดคลองกบั หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง)

นาํ สอน สรุป ประเมิน เสริมสาระ ขน้ั สอน ชมุ ชนไมเ รยี ง จงั หวดั นครศรธี รรมราช ขนั้ ที่ 2 ดําเนินการอภิปราย ชมุ ชนตน แบบในการนาํ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชในการผลติ สนิ คา และบรกิ าร 7. ครนู าํ สนทนาถงึ เสรมิ สาระ เรอื่ ง ชมุ ชนไมเ รยี ง จังหวัดนครศรีธรรมราช แลวใหนักเรียน ชุมชนไม้เรียงเป็นตัวอย่างของการพัฒนา อภิปรายเช่ือมโยงกับการประยุกตใชปรัชญา ชุมชนอย่างมีแบบแผน อยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินคาและ และความรทู้ นี่ า� ไปสกู่ ารปฏบิ ตั จิ นเกดิ ปญั ญา พง่ึ พา บรกิ ารในทอ งถ่ิน ตนเองไดอ้ ย่างมัน่ คง จากปญั หาเศรษฐกจิ รายไดข้ องคนในทอ้ งถนิ่ ข้ันที่ 3 สรปุ การอภิปราย ขึ้นอยู่กับยางพาราเพียงอย่างเดียว ไม่มีความ มั่นคงทางอาชีพ เพราะผลผลิตข้ึนอยู่กับสภาพ 1. ครูสุมตวั แทนกลมุ แตล ะกลุม เพอื่ ออกมาสรุป ดินฟ้าอากาศ ราคายางพาราขึ้นอยู่กับตลาดโลก สาระสําคญั ของการอภิปราย ความมั่นคงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐ เกษตรกร ไม่สามารถก�าหนดทิศทางอนาคตของตนเองได ้ 2. นกั เรียนรว มกันทําใบงานที่ 8.3 ผู้น�าชาวบ้านจึงได้ขอความร่วมมือจากเกษตรกร  ประยงค์ รณรงค์ ผู้น�าชุมชน เจ้าของรางวัลแมกไซไซ 3. ครใู หน กั เรยี นทาํ กจิ กรรมเกยี่ วกบั การประยกุ ต ในจังหวัดจัดท�าแผนพัฒนายางพาราขึ้นเป็น พ.ศ. ๒๕๔๗ ใชเ ศรษฐกจิ พอเพยี งในการผลติ สนิ คา และบรกิ าร แผนแมบ่ ท ทา� การศกึ ษาวจิ ยั เพอ่ื หาแนวทางแกป้ ญั หาแบบบรู ณาการ จดั ตงั้ เครอื ขา่ ยยางพารา ระดมทนุ ในทอ งถนิ่ ในแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร จากชาวบ้านสรา้ งโรงงานแปรรูปยางขนาดเลก็ ของชมุ ชนผลิตส่งขายตา่ งประเทศ ม.2 นอกจากนนั้ ไดท้ า� แผนแมบ่ ทชมุ ชนเพอื่ พฒั นาชมุ ชนอยา่ งครบวงจร นา� ไปสกู่ ารพฒั นาเศรษฐกจิ ชุมชน ลดการพึ่งพาจากตลาดภายนอก จดั ระเบียบการผลติ การบรโิ ภค การตลาด การแปรรูป จึงไดม้ ี ขน้ั สรปุ การจัดทา� หลกั สูตรการพัฒนาอาชีพ สร้างอาชีพเสริมซ่งึ น�าหลกั การของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มาใช้ เช่น การปลูกพืชผักปลอดสารพิษ เลี้ยงปลาน้�าจืด แปรรูปข้าว แพทย์แผนไทยและสมุนไพร 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู หรอื ใช PPT เพื่อสุขภาพ ท�าให้ชุมชนมีความเข้มแข็งข้ึน คนมีความสุข พออยู่พอกิน กลายเป็นชุมชนต้นแบบท่ี สรุปสาระสาํ คญั ของเน้อื หา พฒั นาท้งั ดา้ นความรู้ เศรษฐกิจ และคณุ ภาพชวี ิตของคนในชมุ ชน 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การจดั ทาํ ปา ยนเิ ทศ เรอ่ื ง เศรษฐกจิ พอเพียงกบั การผลิตสินคาและบริการ 3. ครูใหน ักเรยี นทําแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพียงกบั การผลติ สนิ คา และ บรกิ าร เพ่ือทดสอบความรูที่ไดศึกษามา  การท�าสวนยางพาราเปน็ อาชพี หลกั ของคนในชุมชน  เยาวชนไดร้ บั ความรู้เก่ยี วกบั ชุมชน ขนั้ ประเมนิ ๑6๑ 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การทํางาน และการนาํ เสนอผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 3. ครใู หนกั เรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนว ยการเรียนรูท่ี 8 กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล ใหนักเรียนสืบคนขาวหรือบทความที่เก่ียวกับชุมชนเศรษฐกิจ ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอื้ หา เรอื่ ง การประยกุ ตใ ชป รชั ญา พอเพียงจากแหลงการเรียนรูตางๆ เชน เว็บไซต หนังสือพิมพ ของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินคาและบริการในทองถิ่น ไดจากการตอบ หรือวารสารตางๆ มาคนละ 1 บทความ จากน้ันใหนักเรียน คําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษา เขียนวิเคราะหบทความในประเด็น การนําหลักการของปรัชญา เกณฑก ารวดั และประเมนิ ผลจากแบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงานทแ่ี นบมาทา ย ของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใชกับชุมชน ความยาว 1 หนา แผนการจดั การเรยี นรหู นว ยที่ 8 เรอื่ ง เศรษฐกิจพอเพียงกบั การผลติ สินคา และ กระดาษ A4 บรกิ าร แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ต้องของเนือ้ หา 2 การลาดับขน้ั ตอนของเร่ือง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางสว่ น เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ T177

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คาํ ถามประจําหนวยการเรยี นรู คÓถาม ประจÓหน่วยการเรยี นรู้ ๑. หลักการและเป้าหมายของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมีอะไรบ้าง 1. หลักการสําคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจ ๒. ปัญหาในการผลติ สนิ คา้ และบริการในทอ้ งถ่นิ ของไทยมีอะไรบา้ ง พอเพียง ไดแก ความพอประมาณ ความมี ๓. เพราะเหตุใดการผลติ สินค้าและบริการในทอ้ งถ่ินของไทยจงึ ไม่คอ่ ยมีการพฒั นาเทา่ ท่คี วร เหตุผล และมีภูมิคุมกันในตัวที่ดี โดยข้ึนอยู ๔. ผผู้ ลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถน่ิ สามารถนา� หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชไ้ ดอ้ ยา่ งไร กบั เงอื่ นไขความรแู ละเงอ่ื นไขคณุ ธรรม ซงึ่ จะนาํ ๕. ใหน้ กั เรยี นเสนอแนะแนวทางการพฒั นาการผลติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑ วธิ ี ไปสูเปาหมาย คือ การใชชีวิตแบบพอเพียง บนพน้ื ฐานของการรจู กั ตนเอง สามารถพ่งึ พา กจิ กรรม สร้างสรรค์พัฒนาการเรยี นรู้ ตนเองได กิจกรรมที่ ๑ นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ไปสา� รวจกจิ กรรมการผลิตสินค้าและบรกิ ารในทอ้ งถนิ่ และให้ 2. เชน การขาดแคลนเงินทุน การขาดบุคลากร ที่มีความรูความสามารถในการผลิตและการ ยกตัวอย่างการผลิตสนิ ค้าและบรกิ าร ๑ ชนดิ แลว้ สรปุ สาระส�าคญั ในประเด็น บริหารจัดการ มีการใชเทคโนโลยีในการผลิต ตวั อย่างทีก่ �าหนดให ้ น�ามาเสนอในชั้นเรยี น นอ ย และชอ งทางการตลาดมีนอ ย • ปัจจัยสา� คญั ท่ที า� ให้มกี ารผลติ สินคา้ และบรกิ าร • กระบวนการผลิต 3. เพราะเกดิ จากหลายสาเหตุ เชน ผปู ระกอบการ • การน�าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการผลิตสินค้าและบรกิ าร เขาถึงแหลงเงินทุนไดยาก จงึ ทาํ ใหขาดแคลน • ปัญหาการผลิตสนิ คา้ และบริการในท้องถ่ิน เงินทุนในการนําเขาเทคโนโลยีการผลิตท่ี • แนวทางการพฒั นาการผลติ ทนั สมยั และมปี ระสทิ ธภิ าพจากตางประเทศ กิจกรรมท่ี ๒ นักเรียนสืบค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้หรือข้อมูลจากในท้องถิ่นของตนเอง 4. เชน การลงทนุ ตา งๆ ในการผลติ สนิ คา ตอ งทาํ อยางพอประมาณ หรือไมเกินตัว วางแผน เก่ียวกับชุมชนต้นแบบของการผลิตสินค้าและบริการ พร้อมยกตัวอย่าง การดําเนินธุรกิจอยางรอบคอบและมีเหตุผล ชุมชนต้นแบบ ๑ ชุมชน สรุปความรู้ลงในกระดาษ A๔ น�ามาอภิปรายใน มกี ารจดั สรรเงนิ ลงทนุ หรอื ทดี่ นิ สาํ หรบั ดาํ เนนิ ชน้ั เรยี น กิจกรรมทางเศรษฐกิจอยางเปนระบบ และ มีการจัดการส่ิงแวดลอมที่ดีเพื่อใหสามารถ ๑6๒ นําทรัพยากรธรรมชาตมิ าใชไ ดอยา งยง่ั ยืน 5. แนวทางการพัฒนาการผลิตตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง เชน การพัฒนาการ ผลิตทางการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม โดย เนนการบริหารและแบงที่ดินออกเปนสัดสวน ในสว นแรก ใชข ดุ สระกกั เกบ็ นาํ้ เพอื่ ใหส ามารถ เพาะปลูกพืชในฤดูแลงและเลี้ยงสัตวนํ้าตางๆ สวนท่ีสอง ใชปลูกขาวเพื่อเปนอาหาร หาก เหลือจึงนาํ ไปขายเพือ่ ลดคา ใชจ าย สว นทสี่ าม ใชปลกู ไมผ ล ไมยนื ตน พชื ผกั พชื ไร เพือ่ ใช เปน อาหาร หากเหลอื จงึ นาํ ไปขาย และสว นทส่ี ่ี ใชสาํ หรบั สรางที่อยอู าศัย ซ่ึงการผลิตทางการ เกษตรรูปแบบนี้ เกษตรกรสามารถลดคาใช จายและพงึ่ พาตนเองได เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเร่ืองตางๆ โดยทั่วไป ซ่ึงเปน งานหรือช้นิ งานทีใ่ ชเวลาไมนาน สําหรับการประเมินรูปแบบนี้อาจเปน คาํ ถามปลายเปดหรอื ผงั มโนทัศน นยิ มสําหรบั ประเมนิ ผเู รียนรายบคุ คล ประเมนิ ความสามารถ • ใชใ นการประเมนิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต และความ สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือชิ้นงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต ประจําวัน อันมีความเกี่ยวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรที่มีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน จากการสังเกต การเขียน การตอบคาํ ถาม การวเิ คราะห การแกปญ หา ตลอดจนการทํางานรว มกนั ประเมนิ ทักษะ • ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมท่ีตองมีความเกี่ยวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความซับซอน และกอ เกิดเปนความชาํ นาญในการนาํ มาเปนแนวทางปฏิบตั ิจรงิ ในชวี ติ ประจาํ วันอยางยัง่ ยนื เชน ทกั ษะในการสอ่ื สาร ทกั ษะในการแกปญหา ทักษะ ชีวติ ในดานตางๆ โดยอาจมีการนําเสนอผลการปฏิบัติงานตอผูเก่ยี วขอ ง หรือตอสาธารณะ สง่ิ ทตี่ อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผ่ี เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทตี่ อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน T178

Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อนั พึงประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนงั สอื เรียน 1. อ ธิบายแนวทางการ การจัดการ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - ทักษะการ 1. มวี นิ ัย สทิ ธิผู้บริโภค สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 รกั ษาและคมุ้ ครองสทิ ธิ เรียนรแู้ บบ - ต รวจการท�ำแบบฝกึ วเิ คราะห์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ - แบบฝกึ สมรรถนะ ประโยชนข์ องผ้บู ริโภค รว่ มมอื : สมรรถนะและการคิด - ทักษะการสรา้ ง 3. มงุ่ มน่ั ในการ 1 และการคดิ ได้ (K) เทคนิคคู่คดิ เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความรู้ - ตรวจใบงานท่ี 9.1 ทำ� งาน ชว่ั โมง เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. จ�ำแนกการรักษาและ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - แบบทดสอบก่อนเรียน คุ้มครองสทิ ธปิ ระโยชน์ - สังเกตพฤติกรรม - PowerPoint ของผู้บริโภคได้ (P) การท�ำงานรายบุคคล - ใบงานท่ี 9.1 3. เห็นความสำ� คญั ของ - สังเกตพฤติกรรม การรกั ษาและคุ้มครอง การท�ำงานกลมุ่ สิทธปิ ระโยชนข์ อง - ประเมนิ คุณลักษณะ ผูบ้ ริโภคทมี่ ผี ลตอ่ อนั พึงประสงค์ ระบบเศรษฐกจิ และ การดำ� เนนิ ชีวติ ประจำ� วันเพิ่มมากขึ้น (A) แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรยี น 1. วเิ คราะหค์ วามสำ� คญั ของ สืบเสาะ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ทกั ษะการ 1. มีวนิ ัย กฎหมาย สังคมศกึ ษาฯ ม.2 กฎหมายคุ้มครองสิทธิ หาความรู้ - ต รวจการท�ำแบบฝกึ วเิ คราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้ คุม้ ครอง - แบบฝกึ สมรรถนะ ผูบ้ รโิ ภคได้ (K) (5Es สมรรถนะและการคดิ - ทกั ษะการสร้าง 3. ม่งุ มั่นในการ ผบู้ รโิ ภค และการคิด 2. จำ� แนกกฎหมายคมุ้ ครอง Instructional เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความรู้ ทำ� งาน 1 เศรษฐศาสตร์ ม.2 สิทธผิ บู้ ริโภคได้ (P) Model) - ตรวจใบงานท่ี 9.2 - แบบทดสอบกอ่ นเรียน 3. เห็นความส�ำคัญของ - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน ชวั่ โมง - PowerPoint กฎหมายคุ้มครองสิทธิ - สังเกตพฤติกรรม - ใบงานท่ี 9.2 ผบู้ รโิ ภค ทม่ี ผี ลตอ่ ระบบ การท�ำงานรายบคุ คล เศรษฐกจิ และการดำ� เนนิ - สังเกตพฤตกิ รรม ชีวิตประจำ� วนั เพม่ิ การท�ำงานกลุม่ มากขึน้ (A) - ป ระเมนิ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ T179

แผนการจดั ส่อื ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธีสอน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ การเรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ แผนฯ ที่ 3 หน่วยงาน - หนังสอื เรยี น 1. วเิ คราะหบ์ ทบาทส�ำคัญ การอภิปราย - ต รวจการท�ำแบบฝกึ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1. มีวนิ ยั และแนวทาง สังคมศกึ ษาฯ ม.2 ของหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สมรรถนะและการคดิ - ทักษะการน�ำ 2. ใฝ่เรยี นรู้ การปกป้อง - แบบฝกึ สมรรถนะ กบั การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค เศรษฐศาสตร์ ม.2 ความร้ไู ปใช้ 3. มุ่งม่ันในการ คุ้มครอง และการคิด ได้ (K) - ต รวจการท�ำแบบวดั และ - กระกระบวนการ ทำ� งาน ผ้บู รโิ ภค เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. น�ำเสนอแนวทางการ บนั ทึกผลการเรยี นรู้ คิดตัดสินใจ - แบบทดสอบก่อนเรียน ปกป้องคมุ้ ครอง เศรษฐศาสตร์ ม.2 1 - PowerPoint ผู้บริโภคได้ (P) - ตรวจใบงานที่ 9.3 - ใบงานท่ี 9.3 3. เหน็ ความสำ� คัญของ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน ชวั่ โมง การปกปอ้ งคมุ้ ครอง - สังเกตพฤติกรรม ผู้บรโิ ภคที่มผี ลต่อ การท�ำงานรายบคุ คล ระบบเศรษฐกิจและ - สังเกตพฤติกรรม การด�ำเนนิ ชีวติ การท�ำงานกลุม่ ประจำ� วนั เพม่ิ มากขึน้ - ประเมนิ คณุ ลักษณะ (A) อันพงึ ประสงค์ - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น T180

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๙ การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคหนว่ ยการเรยี นรทู ่ี àÃÒ¤Çû¯ÔºÑµÔµ¹ ขน้ั นาํ (วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู Í‹ҧäà แบบรว มมอื : เทคนคิ คคู ดิ ) à¾×èͤ،Á¤ÃͧÊÔ·¸Ô ¢Í§µ¹àͧ㹰ҹР1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอ่ื เรอื่ งทจ่ี ะ เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู ?¼ÙŒºÃÔâÀ¤ 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย ในการเลือกซื้อสนิ ค้าและบรกิ ารท่ีมีอยูม่ ากมายในปจั จบุ ัน ผบู้ ริโภคจะตอ้ งมคี วามรู้ ความ การเรยี นรูท่ี 9 เร่ือง การคมุ ครองผบู ริโภค เขา้ ใจ และตดั สนิ ใจเลอื กซอื้ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งชาญฉลาด ซง่ึ ในปจั จบุ นั ธรุ กจิ มกี ารแขง่ ขนั กนั สงู ท�าให้ผู้ผลิต ผู้ขายบางรายพยายามหาช่องทางขายสินค้าและบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการ 3. ครูนําขาวที่เก่ียวของกับการใชสินคาและ โฆษณาชวนเชอื่ โดยไมค่ า� นงึ ถงึ ความปลอดภยั และสวสั ดภิ าพของผบู้ รโิ ภค ดงั นน้ั รฐั บาลจงึ เขา้ มา บริการท่ีไมไดมาตรฐาน และไมไดรับการ มีบทบาทสา� คัญในการควบคมุ ตรวจสอบคุณภาพสนิ ค้า เพือ่ ให้ผู้บริโภคมีสทิ ธิไดร้ บั ความคมุ้ ครอง รับรองจากหนวยงานคุมครองผูบริโภค ทําให ตามกฎหมาย แต่ทั้งน้ีผู้บริโภคเองก็จะต้องตระหนักและรักษาในสิทธิผู้บริโภคของตนเองด้วย เกิดอันตรายตอรางกาย ชีวิต หรือทรัพยสิน เพื่อจะไดเ้ ป็นผูบ้ รโิ ภคท่ีชาญฉลาด มาเลาใหนักเรียนฟง จากนั้นครูต้ังคําถามใน ประเด็น เชน • นักเรียนมีวิธีการเลือกซื้อสินคาอยางไร เพอื่ ความปลอดภยั จากการบริโภค 4. ครูใหนักเรียนยกตัวอยางสินคาและบริการที่ นกั เรยี นคดิ วา มคี วามปลอดภยั และมมี าตรฐาน รองรบั มาคนละ 1 ช้ิน จากนั้นครูตง้ั คําถามใน ประเด็น เชน • เพราะเหตใุ ดนกั เรยี นจงึ คดิ วา สนิ คา ดงั กลา ว มคี วามปลอดภัย ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ส ๓.๑ ม.๒/๔ อภปิ รายแนวทางการคมุ้ ครองสทิ ธขิ องตนเอง • การรักษาและคุม้ ครองสิทธิประโยชนข์ องผูบ้ รโิ ภค ในฐานะผู้บรโิ ภค • กฎหมายคมุ้ ครองสิทธิผบู้ ริโภคและหน่วยงานทเี่ ก่ยี วข้อง • การด�าเนินกิจกรรมพิทักษ์สิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ในฐานะผ้บู รโิ ภค • แนวทางการปกป้องสิทธขิ องผ้บู ริโภค ๑6๓ เกร็ดแนะครู การเรยี นเกยี่ วกบั การคมุ ครองผบู รโิ ภค เพอื่ ใหน กั เรยี นมคี วามรเู กยี่ วกบั สทิ ธขิ องตนเองในฐานะผบู รโิ ภค กฎหมายคมุ ครองผบู รโิ ภค และการดาํ เนนิ การตา งๆ ตามสทิ ธิของตนเองหากไมไดร ับความเปนธรรมจากการบรโิ ภค ดงั น้นั ครจู งึ ควรจัดการเรียนการสอน ดงั นี้ • ยกตวั อยางขา วการละเมดิ สทิ ธิผบู รโิ ภค แลว ใหน ักเรียนวิเคราะหปญ หาและผลกระทบทีเ่ กิดขนึ้ • เขียนบทละครหรอื การตนู เกีย่ วกับเรือ่ ง กฎหมายคุม ครองผบู ริโภค • จัดทาํ แผนพับเรือ่ ง หนวยงานคมุ ครองผบู ริโภค เพื่อใหนกั เรยี นมคี วามเขา ใจเกีย่ วกบั บทบาทหนา ท่ีของหนวยงานคมุ ครองผบู รโิ ภคมากข้นึ • แตง คําประพนั ธในหัวขอ การคุมครองสิทธผิ ูบรโิ ภค เพือ่ รณรงคก ารคมุ ครองสทิ ธขิ องผูบ ริโภค • จัดกจิ กรรมกลมุ เพอื่ ใหนกั เรยี นฝกทกั ษะการแลกเปลยี่ นเรยี นรูซง่ึ กนั และกนั T181

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๑. การคุ้มครองสิทธผิ ้บู ริโภค 1. ครูแบงนักเรียนเปนกลุม คละกันตามความ ผู้บริโภค หมายถึง ผู้ที่ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการ หรือได้รับการชักชวน สามารถ โดยใหนักเรียนแตละกลุมจับสลาก จากผู้ประกอบการให้ซ้ือสินค้าหรือรับบริการ ในปัจจุบันผู้ประกอบการได้ผลิตสินค้าและบริการ เพื่อแบงคูกันภายในกลุม จากน้ันใหแตละคู มากมายเพอื่ สนองความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค ในขณะทสี่ นิ คา้ และบรกิ ารเหลา่ นนั้ เปน็ อกี ปจั จยั หนง่ึ รว มกนั ศึกษาเรอื่ ง การคุม ครองสิทธผิ บู รโิ ภค ท่มี นษุ ย์ต้องมีการซือ้ หามาเพอ่ื การดา� รงชวี ิต 2. ครูสุมนักเรียนออกมาอภิปรายเกี่ยวกับการ ๑.๑ สิทธิผู้บรโิ ภค คมุ ครองสทิ ธผิ ูบ รโิ ภค จากการทค่ี วามตอ้ งการบรโิ ภคสนิ คา้ ของผบู้ รโิ ภคมเี พมิ่ มากขนึ้ ในขณะเดยี วกนั ผผู้ ลติ หรอื 3. ครูนําสนทนาถึงสถานการณความตองการ ผปู้ ระกอบการกไ็ ดท้ า� การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารขน้ึ มากมาย ทา� ใหม้ กี ารแขง่ ขนั และใชก้ ลยทุ ธต์ า่ ง ๆ บริโภคสินคาของผูบริโภคในปจจุบันที่มีเพิ่ม ในการขายสนิ คา้ เชน่ ใชว้ ธิ กี ารลดราคา โฆษณาชวนเชอื่ เผยแพรข่ อ้ มลู ความร ู้ เปน็ ตน้ ซงึ่ กลยทุ ธ์ มากข้ึน แลวใหนักเรียนรวมกันอภิปรายใน ต่าง ๆ ในการขายสินค้าน้ันในบางครั้งอาจมีการโฆษณาชวนเช่ือที่เกินความเป็นจริง มีราคาสูง ประเดน็ กลยทุ ธข องการขายสนิ คา และบรกิ าร คณุ ภาพไมด่ ี ผบู้ รโิ ภคไมไ่ ดร้ บั ความเปน็ ธรรม กจ็ ะตกเปน็ ผเู้ สยี เปรยี บและอาจไดร้ บั ความเสยี หาย ท่ีสงผลตอการตัดสินใจเลือกซ้ือสินคาและ จากการบรโิ ภคสินค้า บรกิ ารของผบู ริโภค ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการบริโภคสินค้าและบริการ จึงได้มี การบัญญัติกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคข้ึน เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคและลงโทษผู้ละเมิด 4. ครูตั้งคําถาม เพ่ือฝก ทกั ษะการเรยี นรู เชน โดยไดบ้ ญั ญตั สิ ทิ ธผิ บู้ รโิ ภคไว ้ ๕ ประการ เพอ่ื ใหผ้ บู้ รโิ ภคตระหนกั ถงึ สทิ ธขิ องตนเองในการบรโิ ภค • เพราะเหตุใดจึงตองมีการคุมครองสิทธิของ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งปลอดภัย ดงั นี้ ผบู ริโภค (แนวตอบ เพราะผูบริโภคตองไดรับความ ขสทิ้อมธทิลู ขี่จะ่าไวดสร้าบั ร1 ส๕ิท ธปิผรู้บะรกโิ าภรค สทิ ธิในการได้ ปลอดภัยและเปนธรรมจากการใชสินคา และบริการ เพื่อปองกันการเอาเปรียบจาก สิทธิท่ีจะมี สิทธทิ ่ีจะได้รบั รับแกลาะรชพดจิ เาชรยณ2า ผผู ลติ ) อสิ ระในการเลอื ก ความปลอดภยั • กฎหมายคุมครองผูบริโภคมีวัตถุประสงค หาซื้อสนิ ค้าหรือ จากการใชส้ ินคา้ ความเสยี หาย หลักอยา งไร และบรกิ าร สิทธทิ ่ีจะได้ (แนวตอบ เพื่อใหผูบริโภคไดรับความเปน บรกิ าร รับความเปน็ ธรรมในการใชสนิ คาและบริการ เชน ความ ๑64 ธรรมในการทา� เปนธรรมทางดานการรับรขู อมลู ตางๆ ของ สินคาและบริการ หรือความเปนธรรมจาก สัญญา ความเสียหายที่เกิดข้ึนกับผูบริโภคระหวาง การใชส นิ คา และบรกิ าร เพอื่ ใหผ บู รโิ ภคเกดิ ความมั่นใจในการใชส นิ คาและบริการ) นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 ขอมูลขาวสาร เปนขอมูลขาวสารของสินคาท่ีผูบริโภคควรตองทราบ เชน เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ งมีการคุมครองผบู ริโภค วตั ถดุ บิ ทใ่ี ชใ นการผลติ สนิ คา สว นผสม ปรมิ าณ ราคาทข่ี าย บรกิ ารหลงั การขาย 1. เพื่อใหผ ูบรโิ ภคมีโอกาสซอ้ื สินคาและบริการในราคาถกู อะไหลของสนิ คา 2. เพอื่ ใหผ ูบ รโิ ภคมีโอกาสเลือกสนิ คาและบริการตามทตี่ อ งการ 2 ชดเชยความเสยี หาย ในกรณที สี่ นิ คา บางชนดิ ทผี่ บู รโิ ภคซอื้ ไปใชแ ลว ทาํ ให 3. เพอ่ื ใหผ บู รโิ ภคไดร บั ความพอใจในการบรโิ ภคสนิ คา และบรกิ าร ไดรับบาดเจ็บ เสียหาย ผูบริโภคสามารถเรียกรองคาเสียหายจากผูผลิตที่ผลิต 4. เพื่อใหผูบริโภคไดรับความปลอดภัยและความเปนธรรมจาก สนิ คา ไมไดม าตรฐานใหชดเชยความเสียหายไดตามท่กี ฎหมายกําหนด การบรโิ ภคสนิ คาและบรกิ าร ส่ือ Digital (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. หวั ใจสาํ คญั ในการคมุ ครองผบู รโิ ภค คอื ความปลอดภยั ในการบรโิ ภคสนิ คา และบรกิ าร และไดร บั ความ ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั สทิ ธผิ บู รโิ ภค บทความการคมุ ครองสทิ ธิ เปน ธรรมจากการบริโภค ซึง่ หากผบู รโิ ภคไมไดรับความปลอดภัย ผบู ริโภค คดผี ูบริโภค ไดท่ี http://www.ocpb.go.th สํานักงานคณะกรรมการ จากการบริโภคสามารถรองเรียนไปยังหนวยงานและองคกร คุม ครองผบู ริโภค ตา งๆ ทที่ าํ หนา ทใ่ี นการคมุ ครองผบู รโิ ภค เชน หากไดร บั อนั ตราย จากการบรโิ ภคอาหารสาํ เรจ็ รปู ยา เครอื่ งสาํ อาง สามารถรอ งเรยี น T182 ไปท่ีสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ http://www. fda.moph.go.th)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑) สิทธิท่ีจะได้รับข้อมูลข่าวสาร สรรพคุณ1 ที่บรรยายถึงสินค้าและบริการ ขน้ั สอน อยา่ งถกู ตอ้ ง การรบั ขอ้ มลู ขา่ วสารเปน็ การเพม่ิ พนู ความรแู้ กผ่ บู้ รโิ ภคและทา� ใหผ้ บู้ รโิ ภคมพี น้ื ฐาน ทางขอ้ มลู ไวใ้ ชเ้ พอื่ การตดั สนิ ใจในการเลอื กหาสนิ คา้ และบรกิ ารทต่ี นตอ้ งการ การไดร้ บั ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5. ครูยกตัวอยางขาวหรือบทความเกี่ยวกับ ท่ไี ม่เพยี งพออาจทา� ให้เกิดการเขา้ ใจผิดและตดั สินใจผิดพลาดในการเลอื กซอ้ื สินคา้ และบริการ การละเมิดสิทธิผูบริโภค แลวใหนักเรียน วิเคราะหถึงสิทธิท่ีผูบริโภคควรจะไดรับการ ๒) สทิ ธทิ จี่ ะมอี สิ ระในการเลอื กซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ าร อสิ ระในการเลอื กซอ้ื สนิ คา้ คุมครอง และวิธีการปฏิบัติตนเม่ือถูกละเมิด และบรกิ ารเปน็ สง่ิ สา� คญั ทส่ี ดุ ของผบู้ รโิ ภคในระบบเศรษฐกจิ ทม่ี กี ารแขง่ ขนั เปน็ พนื้ ฐานในการพฒั นา สทิ ธิผูบรโิ ภค คณุ ภาพของสนิ คา้ โดยผบู้ รโิ ภคมอี สิ ระในการตดั สนิ ใจเลอื กซอ้ื สนิ คา้ ดว้ ยตนเองตามความสมคั รใจ โดยปราศจากการชกั จงู จากผู้ประกอบการที่ไมเ่ ป็นธรรม 6. ครูและนักเรียนอภิปรายรวมกันถึงประโยชนที่ ผูบริโภคไดรับจากการคุมครองสิทธิผูบริโภค ๓) สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความปลอดภยั จากการใชส้ นิ คา้ และบรกิ าร โดยมขี อ้ แนะนา� ทั้ง 5 ประการ จากนัน้ ครูตั้งคาํ ถาม เชน แเงลื่อะนคไา� ขเตเบอื ื้อนงรตะบ้นไุเกวโ้่ียดวยกไับมขก่ ้ออ่ จให�ากเ้ กัดดิ ขออนั งตสรินาคย้าต อ่ เชชวี ่นติ รวา่ันง กเาดยือหนร อื ปทีทรพัี่ผยลส์ิตนิ วผันบู้ หรมโิ ภดคอคาวยรุ 2ไขด้อร้ บัแทนระานบ�า • เพราะเหตใุ ดการรอ งทกุ ขเ พอ่ื ขอรบั คา ชดเชย วิธกี ารใช ้ การเกบ็ รกั ษา ค�าเตือน ข้อควรระวังตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหส้ ามารถใช้สนิ ค้าและบริการได้อยา่ ง จากความเสียหายเมื่อไมไดรับความเปน เต็มที่และปลอดภัย ธรรมจากการซอ้ื สนิ คา จงึ ถอื เปน เรอ่ื งสาํ คญั ทผ่ี บู รโิ ภคควรกระทาํ ๔) สิทธิได้รับความเปนธรรมในการท�าสัญญา โดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจาก (แนวตอบ เพราะเปนการรักษาสิทธิของ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ โดยกอ่ นทา� สญั ญาผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งตรวจสอบขอ้ ความเกย่ี วกบั สนิ คา้ จากฉลากสนิ คา้ ตนเองในฐานะผูบริโภคและถือเปนการ ลงโทษหรือเปนตัวอยางไมใหผูประกอบ ธรุ กจิ รายอน่ื เอารัดเอาเปรียบผบู รโิ ภคได) ตรวจสอบข้อความเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการจากส่ือโฆษณาด้วยการพิจารณาให้รอบคอบก่อน ตัดสินใจทุกคร้ัง และก่อนลงลายมือช่ือจะต้อง อา่ นขอ้ ความในสญั ญาทกุ ขอ้ วา่ สทิ ธแิ กผ่ บู้ รโิ ภค ครบถ้วนและถูกต้องตรงตามเงอื่ นไขทไ่ี ด้เจรจา กันไว้หรือไม่ เนื่องจากการเอาเปรียบผบู้ รโิ ภค ในเรอ่ื งสญั ญาเกดิ ขนึ้ ไดง้ า่ ยและบอ่ ยทส่ี ดุ ๕) สทิ ธไิ ดร้ บั การพจิ ารณาและ ชดเชยความเสียหาย เปน็ สิทธิที่จะไดร้ บั การ คุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหายเมื่อมีการละเมิด สิทธิของผูบ้ ริโภค ดงั น้ัน การร้องทกุ ข์เพ่อื ขอ รบั คา่ ชดเชยจากความเสยี หายเมอ่ื ไมไ่ ดร้ บั ความ เป็นธรรมจากการซ้ือสินค้าหรือบริการ ถือเป็น เรอ่ื งสา� คญั ทผ่ี บู้ รโิ ภคจะตอ้ งกระทา� เพอ่ื เปน็ การ ลงโทษและเป็นตัวอย่างมิให้ผู้ประกอบธุรกิจ  ผบู้ รโิ ภคไดร้ บั ความคมุ้ ครองสทิ ธติ ามกฎหมาย เพอื่ ความ รายอืน่ เอารัดเอาเปรียบผ้บู ริโภคได้ ปลอดภยั จากการบรโิ ภคสินค้าและบริการ ๑65 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ส่ิงสําคัญทีส่ ุดทีผ่ ูบริโภคมีสิทธทิ ่ีจะไดรับคอื อะไร 1 สรรพคณุ เปน การอธบิ ายถงึ สนิ คา และบรกิ ารวา สามารถทาํ อะไรไดม ากนอ ย 1. ราคาและคุณภาพสินคา เพยี งใด มีลักษณะและความโดดเดนอยา งไร เพ่ือเปนตวั ชวยในการตัดสนิ ใจซื้อ 2. ขอ มลู ของสินคาและบรกิ าร สินคา และบริการของผูบริโภค 3. ความหลากหลายของสนิ คา 2 วนั หมดอายุ (expiration date: exp) สวนใหญจะระบกุ าํ กบั ไวท ด่ี านขาง 4. การบริการอยางเทาเทยี มกัน ดานบน หรอื ดา นลา งของผลิตภณั ฑ โดยจะระบพุ รอมกับวันทผ่ี ลติ (manufac- turing date: mfd) ซ่ึงกอนการซ้ือสินคาทุกครั้งจะตองตรวจสอบใหละเอียด (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะขอ มลู ของสนิ คา และบรกิ ารท่ี เพราะมฉิ ะนนั้ อาจไดร บั อนั ตรายจากการบรโิ ภคสนิ คา เชน ผลติ ภณั ฑก ลมุ บะหม่ี ถูกตอ งและครบถว นเปนสงิ่ สาํ คัญที่สดุ ซึ่งผบู ริโภคมสี ทิ ธจิ ะไดรับ กึง่ สาํ เรจ็ รปู จะมีอายุ 6 เดือน นบั จากวันผลติ บนซองจะปรากฏตวั อกั ษร เชน เพื่อใชในการตัดสินใจซ้ือสินคาและบริการไดตรงตามความ MFD141016 ตัวเลขหลัง MFD จะบอกถึงวันเดือนปท่ีผลิต นั่นคือ บะหมี่ ตองการของตนเอง) กง่ึ สาํ เรจ็ รปู ผลติ เมอื่ วนั ท่ี14ตลุ าคมค.ศ.2016ดงั นน้ั บะหมก่ี งึ่ สาํ เรจ็ รปู จะหมดอายุ ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2017 T183

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๑.๒ ความส�าคญั ของการคุ้มครองสทิ ธิผ้บู ริโภค 7. ครูนําสนทนาเพื่อใหนักเรียนเห็นถึงเปาหมาย การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค หมายถงึ การทห่ี นว่ ยงานภาครฐั เขา้ มาดแู ลและปกปอ้ งสทิ ธผิ บู้ รโิ ภค ในการคุมครองผูบริโภควาทําเพ่ือประโยชน ไม่ให้ถูกผู้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบในการบริโภคสินค้าและบริการ และเพ่ือเป็นการกระตุ้น ของผบู รโิ ภคเปน หลกั เชน ผบู รโิ ภคไดร บั ความ ใหผ้ บู้ รโิ ภคตระหนกั และรักษาสทิ ธขิ องตนเองในการบรโิ ภคสนิ ค้าและบรกิ ารตามกฎหมาย เพอ่ื ให้ ปลอดภยั และเปน ธรรมจากการบรโิ ภค แลว สมุ ได้สินค้าที่มีคุณภาพและได้รับความเป็นธรรม กล่าวคือ หากถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าหรือ ใหน กั เรยี นแตล ะคเู ลา ประสบการณข องตนเอง ผูป้ ระกอบการ สามารถท่จี ะรอ้ งเรยี นหรือกลา่ วโทษได้ หรือคนรอบขางที่ไมไดรับความปลอดภัยและ ความสา� คัญของการคุม้ ครองสิทธผิ ูบ้ ริโภค มดี งั นี้ ไมเปนธรรมจากการบริโภค จากน้ันอภิปราย แสดงความคิดเห็นรว มกนั ผ้บู ริโภค ผูป้ ระกอบธรุ กิจ • กระตนุ้ ใหต้ ระหนกั ในสทิ ธขิ องตนเองและรกั ษา • สร้างจติ สา� นึกใหผ้ ลิตสินคา้ และบริการที่มี 8. ครใู หน กั เรยี นคเู ดมิ ทาํ ใบงานท่ี 9.1 เรอ่ื ง สทิ ธิ สทิ ธิตามกฎหมาย คุณภาพ และมคี วามเป็นธรรมดา้ นราคา ผูบริโภค โดยครูแนะนําเพิ่มเติม จากน้ันให • สรา้ งพลงั ใหส้ ามารถปอ้ งกนั เเละตอ่ ตา้ นการถกู แลกเปลี่ยนกับอีกคูภายในกลุมแลวรวมกันจัด เอารัดเอาเปรยี บจากผู้ประกอบธุรกิจ ทําใบงานใหส มบรู ณม ากยงิ่ ขน้ึ 9. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมท่ีเกี่ยวกับสิทธิ ผบู ริโภค ในแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 ๑.๓ เปาหมายในการคุ้มครองผูบ้ ริโภค เปา้ หมายในการคุ้มครองผู้บริโภค ก็เพอ่ื ประโยชน์ของผู้บริโภค ดังนี้ ๑) ไดร้ บั ความปลอดภยั จากการบรโิ ภค เนอ่ื งจากมสี นิ คา้ และบรกิ ารมากมายให้ ผบู้ รโิ ภคไดเ้ ลอื กบรโิ ภค ซง่ึ สนิ คา้ และบรกิ ารเหลา่ นนั้ อาจสง่ ผลกระทบตอ่ ผบู้ รโิ ภคได ้ ดงั นนั้ ในการ คมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคจงึ ไดค้ า� นงึ ถงึ ความปลอดภยั ของผบู้ รโิ ภคจากการคา้ ทไี่ มเ่ ปน็ ธรรมทม่ี ผี ลตอ่ ชวี ติ และทรัพยส์ ิน เช่น ควบคมุ สนิ คา้ ประเภทอาหาร ยา เปน็ ต้น ผ ขู้ าย เชน่ กา๒รโ)ฆ ไษดณ้รับาชคววนาเมชอื่เปเกนนิ ธจรรรงิ ม1 กจาารกทกา� นารติ บกิ รรริโมภสคญั ญไมา่ถทูกไ่ี เมอเ่ าปรน็ ัดธเรอรามเป2 เรปียน็ บตจน้ า กหผรู้ผอื ลถิตา้ หหราือก ผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถท่ีจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอรับความ ช่วยเหลอื ได้ ๑66 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 การโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง การที่ผูคาหรือผูประกอบการมีการโฆษณา ปจจัยในขอใดสงผลใหผูบริโภคตัดสินใจผิดพลาดในการเลือก สรรพคุณของสินคาผานสื่อตางๆ เกินความเปนจริง ผูบริโภคสามารถรอง ซอ้ื สินคา และบรกิ ารมากที่สดุ เรยี นไปยงั หนว ยงานของรฐั ทีม่ ีหนาที่คมุ ครองผบู ริโภคได เชน สินคาที่เกย่ี วกบั เครอ่ื งสาํ อาง รอ งเรยี นไดท สี่ าํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา http://www. 1. การแนะนําของเพอ่ื นหรือคนรูจ ัก fda.moph.go.th หรอื สายดวน อย. 1166 2. การไดรับแจกสนิ คาตัวอยางใหท ดลองใช 2 การทํานิติกรรมสัญญาที่ไมเปนธรรม เชน การทําสัญญาซื้อขาย สัญญา 3. การโฆษณาประชาสัมพันธผานส่ือตา งๆ เชา ซอื้ สญั ญาจา ง โดยผทู ม่ี อี าํ นาจตอ รองทางเศรษฐกจิ เหนอื กวา ถอื โอกาสอาศยั 4. การสาธิตวธิ ีการใชส ินคาจากพนักงานขาย หลักการและเอารัดเอาเปรียบคูสัญญาอีกฝายจึงตองยอมทําสัญญาในลักษณะ จํายอมหรือสัญญาสําเร็จรูป กอใหเกิดความไมเปนธรรม จึงมีการตรา พ.ร.บ. (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 3. เนอ่ื งจากการโฆษณาประชาสมั พนั ธ วาดว ยสัญญาที่ไมเปน ธรรม พ.ศ. 2540 ข้นึ บังคบั ใช ผา นสอื่ ตา งๆ เปน วธิ กี ารเขา ถงึ ผบู รโิ ภคไดง า ย สะดวก และรวดเรว็ ท่ีสุด อีกท้ังการโฆษณามักจะมีการชวนเชื่อที่เกินความเปนจริง สงผลใหผูบริโภคอาจตัดสินใจผิดพลาดในการเลือกซื้อสินคา และบรกิ ารได) T184

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓) มคี วามประหยดั ในการบริโภคสินค้า สามารถซ้ือสนิ คา้ ที่มีคณุ ภาพในราคาท่ี ขน้ั สรปุ เหมาะสม ประหยดั และเปน็ การสง่ เสรมิ ใหผ้ บู้ รโิ ภคเลอื กบรโิ ภคสนิ คา้ ทจ่ี า� เปน็ ลดการบรโิ ภคสนิ คา้ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู กยี่ วกบั สทิ ธิ ฟมุ่ เฟอ ย ผูบริโภค หรือใช PPT สรปุ สาระสาํ คญั ของเนือ้ หา ตลอดจนความสาํ คญั ตอ การดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักใน การคุ้มครองผู้บริโภคก็เพื่อให้ประชาชนได้รับ ขนั้ ประเมนิ ความเป็นธรรมและปลอดภัยจากการบริโภค สินค้าท่ีมีอยู่มากมาย รู้จักระมัดระวังในการ 1. ครปู ระเมนิ ผลจากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั เลือกซื้อ เช่น ให้ความส�าคัญกับฉลากสินค้า ทํางาน และการนําเสนอผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 การโฆษณาสินคา้ ตามสอื่ ตา่ ง ๆ และหากเมอ่ื ใด ทีถ่ กู ละเมดิ สทิ ธ ิ ผู้บริโภคก็สามารถรอ้ งเรยี นไป ยงั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ เพอ่ื ขอความชว่ ยเหลอื หรอื ให้ใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการ  ผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งมกี ารตรวจสอบคณุ ภาพของสนิ คา้ กอ่ นการ ตัดสินใจซอ้ื เพ่อื ความปลอดภัยในการบริโภค เช่น เม่ือเกิดปัญหาจากการใช้ผลิตภัณฑ์อาหาร ยา เครื่องส�าอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุมีพิษ สามารถรอ้ งเรยี นทส่ี า� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรอื http://www.fda.moph.go.th เป็นต้น ò. ก®หมายคมุ้ ครองผู้บรโิ ภค เน่ืองจากปัจจุบันผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตได้ท�าการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ มากมาย ผู้ประกอบการได้น�าการตลาดและการโฆษณาเข้ามาช่วยในการส่งเสริมการขาย จากสภาวการณ์ ดงั กลา่ ว ทา� ใหผ้ บู้ รโิ ภคตอ้ งตกอยใู่ นฐานะทเี่ สยี เปรยี บ เพราะไมส่ ามารถทจ่ี ะรถู้ งึ คณุ ภาพของสนิ คา้ ได้ทันท่วงที จึงต้องมีมาตรการทางกฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ในการบริโภคสินค้าและบริการ ตลอดจนมีองค์กรของรัฐท่ีเหมาะสม เพื่อตรวจตรา ดูแล และ ประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ในการใหค้ วามคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค กฎหมายคุม้ ครองผู้บรโิ ภคท่สี า� คญั มดี ังน้ี ๒.๑ พระราชบัญญัติคุม้ ครองผ้บู ริโภค พ.ศ. ๒5๒๒ (แกไ้ ขเพม่ิ เติมฉบบั ท ี่ ๓ พ.ศ. ๒556) พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ (แก้ไขเพ่ิมเติมฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๖) มีสาระส�าคัญเพ่ือคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ขาย ผปู้ ระกอบการ โดยใหก้ ารคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในดา้ นโฆษณา ดา้ นฉลาก ดา้ นสญั ญา โดยมสี าระสา� คญั ดงั น้ี ๑67 ขอสอบเนน การคิด แนวทางการวัดและประเมินผล ขอใดแสดงวานักเรียนเปนผูบริโภคท่ีมีความระมัดระวังในการ ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เรื่อง สิทธิผูบริโภค บริโภคมากที่สดุ ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงาน 1. เลอื กซือ้ สนิ คา ท่มี ขี องแถม ที่แนบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรูหนว ยท่ี 9 เรือ่ ง การคุม ครองผบู รโิ ภค 2. อานฉลากสินคาอยางละเอียด 3. ซอ้ื สินคา ตามคําแนะนาํ ของเพอื่ น แบบประเมินการนาเสนอผลงาน 4. ซ้อื สินคา ทางอินเทอรเนต็ เพราะสะดวก (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะฉลากสนิ คา บอกรายละเอยี ด คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ ของสินคา เชน วันผลิตสินคา วันหมดอายุ สวนผสม ปริมาณ ตรงกบั ระดับคะแนน สรรพคุณ ขอควรระมัดระวังในการบริโภคสินคา การอานฉลาก สินคาอยางละเอียด เปนการเพ่ิมความปลอดภัยในการบริโภค ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 สนิ คา) 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา 2 การลาดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม รวม ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง T185


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook