นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ (5Es Instructional Model) ๑) คุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา โดยมีคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาเป็น องคก์ รคุ้มครองผู้บริโภค มีหน้าท่ี ดังน ้ี ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ ความสนใจ ๑. ควบคุมดูแลการโฆษณาสินค้า หรอื บรกิ ารทวั่ ไปทย่ี งั ไมไ่ ดถ้ กู ควบคมุ การโฆษณา 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอื่ เรอ่ื งทจี่ ะ ด้วยกฎหมายอื่น ซึ่งการโฆษณาจะต้องไม่ใช้ เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู ข้อความท่ีไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือใช้ ขอ้ ความทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ตอ่ สงั คมสว่ นรวม 2. ครยู กตวั อยา งสนิ คา และบรกิ ารทม่ี กี ารโฆษณา เขา มาใชใ นการสง เสรมิ การขาย ทที่ าํ ใหผ บู รโิ ภค ๒. ป้องกันหรือระงับยับยั้งความ ตองตกอยูในฐานะเสียเปรียบจนไมสามารถ เสียหายหรืออันตรายที่จะเกิดแก่ผู้บริโภค รถู งึ คณุ ภาพของสนิ คา ได จากนน้ั ครตู งั้ คาํ ถาม เนอ่ื งจากการโฆษณาสนิ คา้ เพอ่ื กระตุนความสนใจ เชน • ถา นกั เรยี นเปน ผบู รโิ ภคทต่ี อ งตกอยใู นฐานะ ผู้บริโภคจะต้องระมัดระวังข้อความโฆษณาสินค้า1 เพ่ือ ๓. ตรวจข้อความโฆษณาที่ผู้ เสียเปรียบ นักเรียนคิดวาควรมีมาตรการ ความปลอดภยั ในการบริโภค ประกอบธุรกิจอาจขอให้พิจารณาให้ความเห็น ใดบา งทีส่ ามารถชวยเหลือได ก่อนทา� การโฆษณา (แนวตอบ เชน มาตรการทางกฎหมาย เพ่อื ใหไ ดรบั ความเปนธรรมในการบริโภคสินคา ๒) กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับรู้ถึง และบรกิ าร ในการขอรบั ความชว ยเหลอื หรอื คุณสมบัติ สรรพคุณของสินค้าจากฉลากสินค้า โดยมีคณะกรรมการว่าด้วยฉลากท�าหน้าที่ก�ากับ รอ งเรยี นตอ หนว ยงานของรฐั ทเ่ี กยี่ วขอ ง เพอ่ื และบังคบั ให้เป็นไปตามกฎหมาย มสี าระส�าคัญ ดงั นี้ ตรวจตรา ดูแล หรือประสานงานกับสวน ราชการตางๆ ในการใหความคุมครองและ ๑. คณะกรรมการว่าด้วยฉลากท�าการควบคุมฉลากในสินค้าท่ีอาจก่อให้เกิด ชว ยเหลอื ) อันตรายแก่สุขภาพร่างกายและจิตใจ เน่ืองจากการใช้สินค้า เช่น ลูกโป่งที่บรรจุแกสไฮโดรเจน ต้องแสดงค�าเตือนท่ีลูกโป่งว่า “ห้ามนำาเข้าใกล้ ขน้ั สอน เปลวไฟหรือความรอ้ น” หรือเครอ่ื งดมื่ ประเภท ชกู �าลงั จะต้องบอกคา� เตือนวา่ “ไม่ควรดม่ื เกิน ขัน้ ที่ 2 สํารวจคน หา เวปนั ็นลปะระ๒จา� ข2 เวชด่น” ขแา้ ลวะสสาินรคบา้รทรจปี่ ถุ รุงะจชะาตชอ้ นงทมั่วีฉไลปาใชก้ แสดงชอื่ ประเภท หรือชนดิ ของข้าวสาร ราคา 1. ครูใหนักเรยี นแบง กลมุ ศึกษาคนควา เก่ยี วกบั ปริมาณหรือน้�าหนัก เป็นต้น เพื่อให้ผู้บริโภค กฎหมายคมุ ครองผบู รโิ ภค 2. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่นาเชื่อถือ ใหกบั นกั เรยี นเพ่มิ เตมิ ได้รบั ทราบข้อเท็จจริงเกีย่ วกบั สินคา้ น้ัน ๒. คณะกรรมการว่าด้วยฉลากมี สินค้าประเภทอาหารจะต้องมีฉลากควบคุม บอกส่วน อา� นาจสง่ั การใหผ้ ปู้ ระกอบการแกไ้ ขฉลากสนิ คา้ ประกอบ วนั ทีผ่ ลติ และวนั หมดอายอุ ย่างชัดเจน ที่ไม่ถูกต้อง หรือให้เลิกใช้ฉลากท่ีไม่เป็นไป ตามเกณฑ์ ๑68 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ขอใดถือเปนสิทธิผูบริโภคขั้นพ้ืนฐานตามพระราชบัญญัติ ครคู วรใหน กั เรยี นคน ควา เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั สทิ ธผิ บู รโิ ภค และบทกาํ หนดโทษ คมุ ครองผบู รโิ ภค พ.ศ. 2522 (แกไขเพ่มิ เตมิ ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2556) ตาม พ.ร.บ. คมุ ครองผูบรโิ ภค พ.ศ. 2522 (แกไขเพิม่ เติมฉบับที่ 3 พ.ศ. 2556) แลวใหน กั เรยี นเขยี นผงั ความคดิ สรุปสาระสาํ คัญดงั กลา ว 1. สทิ ธิที่จะไดรับอิสระในการเลอื กใชส นิ คา 2. สิทธทิ จ่ี ะไดรบั การบริโภคสนิ คาในราคาทเ่ี หมาะสม นักเรียนควรรู 3. สิทธิที่จะไดรบั การยกเวน ในการเลือกซ้ือสนิ คา ผกู ขาด 4. สทิ ธทิ จ่ี ะไดรบั การประกนั สนิ คา เปน ระยะเวลา 3 เดอื นหลงั 1 ขอความโฆษณาสินคา ถาหากขอความโฆษณาดังกลาวกอใหเกิดความ เขา ใจผดิ ในแหลง กาํ เนดิ คณุ ภาพ ปรมิ าณ หรอื สาระสาํ คญั อน่ื ๆ จะตอ งระวางโทษ การซอ้ื จําคุกไมเกนิ 6 เดือน ปรบั ไมเกิน 50,000 บาท หรอื ทงั้ จําทั้งปรับ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. สทิ ธขิ น้ั พนื้ ฐานตาม พ.ร.บ. คมุ ครอง 2 สินคาที่ประชาชนทั่วไปใชเปนประจํา ถาหากสินคานั้นไมมีฉลาก หรือมี ผูบริโภค พ.ศ. 2522 (แกไ ขเพ่ิมเติมฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2556) ไดแก แตไมถูกตอง โดยที่ผูผลิตรูอยูแลววาไมถูกตอง จะตองถูกระวางโทษจําคุก สิทธิที่จะไดรับขาวสาร รวมท้ังคําพรรณนาคุณภาพที่ถูกตองและ ไมเ กิน 6 เดือน ปรับไมเ กนิ 50,000 บาท หรือท้ังจาํ ท้ังปรับ เพยี งพอเกยี่ วกบั สนิ คา และบรกิ าร สทิ ธทิ จี่ ะมอี สิ ระในการเลอื กหา สนิ คาหรอื บรกิ าร สิทธิทีจ่ ะไดรบั ความปลอดภัยจากการใชส ินคา T186 หรือบริการ สิทธิท่ีจะไดรับความเปนธรรมในการทําสัญญา และ สิทธิทจ่ี ะไดรับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓. สินค้าท่ีควบคุมฉลากต้องเป็นสินค้าท่ีผลิตเพ่ือขายหรือน�าเข้ามาขายใน ขน้ั สอน ประเทศ ๔. ฉลากสนิ คา้ ตอ้ งใชข้ อ้ ความทเ่ี ปน็ ภาษาไทยปดิ ไวท้ ตี่ วั สนิ คา้ หรอื ภาชนะบรรจุ ข้ันท่ี 3 อธบิ ายความรู ใหผ้ ู้บริโภคสามารถอ่านได้ชัดเจน และข้อความตอ้ งตรงกบั ข้อเทจ็ จรงิ 1. แตละคนในกลมุ นําขอมูลมาอธบิ ายกนั ๓) กฎหมายคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคดา้ นสญั ญา สญั ญา หมายความถงึ ขอ้ ตกลงระหวา่ ง 2. จากนั้นชวยกันคดั เลอื กขอมลู ทีน่ าํ เสนอ 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล ผู้บริโภคกับผู้ประกอบการเพ่ือซ้ือและขายสินค้าหรือให้และรับบริการ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค คดว้านามสเัญปญ็นธารบรัญมญ โัตดิไยวม้เพีอ่ืองคค์กุ้มรคครุ้มอคงผรอู้บงร ิโภคือค มคิใหณ้ถะูกกเรอรามรกัดาเอรวา่าเปดร้วียยบสัญจาญกาก1 ามรทีอ�า�าสนัญาจญหานท้า่ีไทม่ีต่ไาดม้รทับี่ และอภิปรายแสดงความคดิ เห็นเพ่ิมเตมิ ก�าหนดไว้ในพระราชบัญญัตคิ ุม้ ครองผ้บู ริโภค (แก้ไขเพ่มิ เติมฉบับท ่ี ๓ พ.ศ. ๒๕๕๖) 4. ครูนําสนทนาเกี่ยวกับการคุมครองผูบริโภค ก �าหนดใหต้ อ้ งธทุรก�าเิจปทน็ ่คี หวนบงัคสมุ อื ส ญั เชญ่นา กไาดรแ้ปกร่ ะกกอารบปธรรุ ะกกจิ อขบาธยุรอกสจิ งั ขหาายรสิมินทคร้าพั หยร2์ อื กใาหร้บใหริก้บารริกทากี่รใฎนหธมุรกายิจ การเงิน การธนาคาร สัญญาท่ีผู้ประกอบธุรกิจท�ากับผู้บริโภคจะต้องเป็นข้อสัญญาท่ีจ�าเป็น ดานการโฆษณา จากน้ันใหนักเรียนรวมกัน ซง่ึ หากไมไ่ ดใ้ ชข้ ้อสัญญาจะทา� ให้ผบู้ รโิ ภคเสยี เปรยี บผู้ประกอบการ ยกตัวอยางโฆษณาสินคาและบริการตางๆ ที่ พบเหน็ ในชวี ติ ประจําวนั แลวอภปิ รายรวมกนั ตวั อย่าง 5. ครูใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สถานการณการคุมครองผูบริโภคไมใหถูก การประกอบธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ ได้มีการท�าข้อสัญญาจะซ้ือขายที่ดินพร้อมบ้าน จะต้อง เอาเปรียบจากผูประกอบการในสังคมไทย ก�าหนดหน้าท่ีผู้ขายว่าจะเร่ิมต้นก่อสร้างเมื่อใด และก�าหนดเวลาจะสร้างแล้วเสร็จ ข้อก�าหนดความ ปจจุบัน จากนั้นครูต้ังประเด็นคําถามให รับผิดชอบของผู้ขายที่ต้องรับผิดช�าระเบ้ียปรับเม่ือผู้ขายผิดสัญญาไม่สร้างบ้านหรือสร้างไม่เสร็จ เป็นต้น นักเรยี นตอบ เชน ซึง่ เปน็ ข้อสญั ญาที่จา� เป็น หากมไิ ดใ้ ช้ขอ้ สญั ญาเชน่ น้นั จะท�าใหผ้ ู้บริโภค (ผู้ซ้อื ) เสียเปรยี บผปู้ ระกอบธุรกิจ • เพราะเหตุใดจึงหามใชขอสัญญาวาใหผูซื้อ เกนิ สมควร เปน็ ต้น เปน ฝา ยชําระคาภาษเี งนิ ไดดว ยตนเอง แต่ห้ามใชข้ อ้ สญั ญาท่ไี มเ่ ป็นธรรมแก่ผบู้ รโิ ภค (แนวตอบ เนื่องจากเปนขอสัญญาที่ไมเปน ธรรมแกผ ูบ ริโภค อกี ทง้ั กฎหมายยังกําหนด ตัวอยา่ ง วา เปน หนา ทข่ี องผขู ายทม่ี เี งนิ ไดจ ะตอ งเปน ผูช ําระภาษเี งนิ ไดอ กี ดวย) หา้ มใชข้ อ้ สัญญาว่า ผ้ขู ายจะเริ่มตน้ ก่อสร้างบา้ นเมื่อผ้ขู ายมีความพรอ้ มท่ีจะปลกู สรา้ ง ซึ่งไมม่ กี าร 6. ครูนําสนทนาถึงตัวอยางขอสัญญาเก่ียวกับ กา� หนดเวลาทแ่ี นน่ อน ขน้ึ อยกู่ บั ผขู้ ายฝา่ ยเดยี ว หรอื หา้ มใชข้ อ้ สญั ญาวา่ ใหผ้ ซู้ อ้ื เปน็ ฝา่ ยชา� ระคา่ ภาษเี งนิ ได ้ ก า ร ป ร ะ ก อ บ ธุ ร กิ จ ข า ย อ สั ง ห า ริ ม ท รั พ ย เปน็ ตน้ ซ่งึ ข้อสัญญาทคี่ ณะกรรมการฯ หา้ มใชน้ ี้ไมเ่ ปน็ ธรรมต่อผู้บริโภค เนอ่ื งจากตามกฎหมายเปน็ หน้าที่ ประกอบการยกกรณีตวั อยา ง และแสดงความ ของผขู้ ายทมี่ เี งินได้จะตอ้ งเป็นผชู้ �าระภาษีเงนิ ได้ คิดเห็นรวมกนั ๑69 กิจกรรม เสรมิ สรางคุณลักษณะอนั พึงประสงค นักเรียนควรรู ใหนกั เรียนสืบคน ขาว บทความ หรือตวั อยา งคดคี วามเกยี่ วกับ 1 คณะกรรมการวา ดว ยสญั ญา เปน คณะกรรมการเฉพาะเรอ่ื งในการคมุ ครอง ความผดิ วา ดว ยการโฆษณา และฉลากสนิ คา จากนนั้ เขยี นวเิ คราะห ผูบริโภค ซึง่ ประกอบดว ย คณะกรรมการวา ดว ยการโฆษณา ฉลาก และสญั ญา ตามประเดน็ ดังน้ี ซง่ึ จะประกอบดว ยผทู รงคณุ วฒุ ใิ นเรอื่ งทเี่ กย่ี วขอ ง ตามทค่ี ณะกรรมการคมุ ครอง ผูบ ริโภคแตงตั้งขนึ้ ไมนอยกวา 7 คน แตไ มเ กิน 13 คน เชน การใหธ ุรกิจให • ผลกระทบตอผบู รโิ ภค บรกิ ารโทรศพั ทเคลือ่ นทเี่ ปนธรุ กจิ ควบคมุ สัญญา • ความผดิ และบทลงโทษ 2 อสังหาริมทรัพย เปนธุรกิจเกี่ยวกับการซ้ือขาย ใหเชาทรัพยสินท่ีเคล่ือนท่ี • แนวทางการบรโิ ภคสนิ คา ทีป่ ลอดภยั ไมไ ด เชน ที่ดนิ บา น หอ งชุด อาคารพาณชิ ย ส่ือ Digital ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั พระราชบญั ญตั คิ มุ ครองผบู รโิ ภค พ.ศ. 2522 (แกไขเพ่ิมเตมิ ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2556) ไดท ่ี http://dl.parliament.go.th/ T187
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๒.๒ พระราชบญั ญตั วิ า่ ด้วยราคาสนิ คา้ และบรกิ าร พ.ศ. ๒54๒ ร าคาสนิ พครา้ะแรลาชะบบรญั กิ ญารตั1เพวิ า่ อื่ ดใว้หยผ้ รบู้ ารคโิาภสคนิ ไคดา้ร้ แบั ลคะวบารมกิ เาปรน็ พธร.ศรม. ๒ บ๕ร๔โิ ภ๒ค เสปนิน็ คกา้ฎแหลมะบายรทกิ าเี่ กรยี่ในวรกาบั คกาาเหรกมา� าหะนสมด ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู และมคี ณุ ภาพ โดยมคี ณะกรรมการวา่ ดว้ ยราคา สกนิา� หคนา้ แดลราะคบารสกิ นิารค า้มหอี รา� อื นบารจกิ หานรา้ททคี่ ใ่ีวนบกคามุ ร2 ปกรา� ะหกนาดศ 7. ครูใหนักเรียนรวมกันยกตัวอยางและแสดง มาตรการทใี่ ชส้ า� หรบั สนิ คา้ หรอื บรกิ ารทค่ี วบคมุ ความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั สนิ คา และบรกิ ารทค่ี ดิ วา ก�าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ถือว่าเป็นการ มีราคาสูงเกินกวาปกติ ที่นักเรียนเคยพบเจอ ท�าให้ราคาสินค้าต�่าเกินควร หรือสูงเกินเกณฑ ์ ในชีวติ ประจําวนั หรือท�าให้เกิดความปันป่วนข้ึนกับราคาสินค้า หรือบริการ เพื่อป้องกันการก�าหนดราคาซื้อ 8. ครตู ้ังประเด็นคําถาม เชน ราคาจา� หนา่ ย หรอื กา� หนดเงอื่ นไขและวธิ ปี ฏบิ ตั ิ • คณะกรรมการวาดวยราคาสินคาและ ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งตดิ ปา้ ยแสดงราคาสนิ คา้ อยา่ งชดั เจน ทางการคา้ ที่ไม่เปน็ ธรรม ทั้งน้ี เพอื่ ใหผ้ บู้ รโิ ภค บริการมคี วามสําคญั อยา งไรกบั ผบู ริโภค เพอ่ื ความเปน็ ธรรมแกผ่ บู้ ริโภค ไดร้ บั ความเปน็ ธรรมจากการซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ าร (แนวตอบ เปนคณะกรรมการท่ีมีหนาท่ี ประกาศการกาํ หนดราคาสนิ คา และบรกิ ารที่ ๒.๓ พระราชบญั ญัตกิ ารแขง่ ขนั ทางการคา้ พ.ศ. ๒56๐ ควบคมุ โดยจะกาํ หนดมาตรการทใี่ ชส าํ หรบั ผ ทู้ ที่ า� กพารรคะรา้ าแชลบะผัญบู้ ญรโิัตภิกคา รปแอ้ ขง่งกขนั ันกทาราผงกูกขาราคด3้า ป อ้ พง.กศนั. ม๒ใิ๕ห๖ก้ ๐า� หเนปด็นรกาฎคาหซมอื้ าหยรทอื ่ีใขหา้คยวสานิ มคเาป้ แ็นลธะรบรรมกิ กาับร สินคา หรอื บรกิ ารทคี่ วบคมุ เพอ่ื ปอ งกนั การ อย่างไม่เป็นธรรม ป้องกันการแทรกแซงการประกอบธุรกิจของผู้อ่ืนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร กาํ หนดราคาซอื้ ราคาจาํ หนา ย หรอื กาํ หนด นอกจากน ี้ ยงั หา้ มไมใ่ หผ้ ปู้ ระกอบธรุ กจิ ทา� การรวมธรุ กจิ อนั กอ่ ใหเ้ กดิ การผกู ขาดหรอื ความไมเ่ ปน็ เงื่อนไขและวิธีปฏิบัติทางการคาที่ไมเปน ธรรมในการแขง่ ขนั โดยมคี ณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ท�าหนา้ ทส่ี �าคญั ๆ เชน่ การกา� กบั ธรรมแกผ ูบริโภค) ดแู ลการประกอบธรุ กจิ และกา� หนดแนวทางปฏบิ ตั เิ พอ่ื ใหม้ กี ารแขง่ ขนั ทางการคา้ อยา่ งเสรแี ละเปน็ • พระราชบัญญัติการแขงขันทางการคา ธรรม โดยมสี า� นกั งานคณะกรรมการการแขง่ ขนั ทางการคา้ รบั ผดิ ชอบงานธรุ การของคณะกรรรมการฯ พ.ศ. 2542 สรางความเปนธรรมใหกับ ๒.4 พระราชบัญญตั ยิ า พ.ศ. ๒5๑๐ ผูท าํ การคา ไดอ ยา งไร (แกไ้ ขเพม่ิ เติมฉบบั ท ่ี 5 พ.ศ. ๒5๓๐) (แนวตอบ พ.ร.บ. การแขงขันทางการคา เปนกฎหมายท่ีปองกันการแทรกแซงการ ประกอบธุรกิจของผูอื่นโดยไมมีเหตุผลอัน สมควร และยังหามไมใหผูประกอบธุรกิจ ทําการรวมธุรกิจอันกอใหเกิดการผูกขาด หรือความไมเปน ธรรมในการแขงขนั ) พระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๓๐) เป็นกฎหมาย ทเ่ี กย่ี วกับการผลติ นา� เข้า จ�าหนา่ ยยาแผนปัจจบุ นั และหน้าทีข่ องผ้ทู เ่ี กยี่ วข้องกับยา เช่น หน้าท่ี ของเภสัชกร ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรคศิลปะ หน้าท่ีของผู้รับอนุญาตเก่ียวกับ ยาแผนโบราณ ควบคมุ มิใหม้ ีการผลติ นา� เขา้ หรอื จ�าหน่ายยาปลอม ยาผดิ มาตรฐาน ยาเส่ือม คุณภาพ ยาท่ีมไิ ดข้ ึน้ ทะเบยี นต�ารับยา ฯลฯ โดยมคี ณะกรรมการยา ท�าหน้าทสี่ า� คญั ๆ เชน่ การ อนญุ าตผลิตยา ขายยา หรอื สั่งน�าเขา้ ยา และการขึน้ ทะเบียนต�ารับยา การพักใชใ้ บอนุญาต การ ๑7เ๐พิกถอนใบอนญุ าต หรอื การเพกิ ถอนทะเบียนต�ารบั ยา นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 การกําหนดราคาสินคาและบริการ ผูผลิต ผูจําหนาย ผูซ้ือเพื่อจําหนาย ขอ ใดขัดตอ พระราชบัญญตั ิยา พ.ศ. 2510 หรอื ผนู าํ เขา สินคา เพ่ือจาํ หนาย ตอ งแสดงราคาของสินคา หากฝาฝน ไมป ฏบิ ตั ิ 1. การโฆษณาโดยมีของแถม ตามหลกั เกณฑตอ งระวางโทษปรบั ไมเกิน 10,000 บาท 2. การขายยาโดยไมแสดงความทกุ ขทรมานของผปู วย 2 ราคาสินคาหรือบริการท่ีควบคุม สินคาควบคุมเปนสินคาท่ีมีความจําเปน 3. การขายยาโดยสุภาพ ไมรองรําทําเพลง สรางความสนกุ สนาน พ้ืนฐานตอการดําเนินชีวิตประจําวัน หากปลอยใหผูผลิตกําหนดราคาเอง 4. การไมโออวดสรรพคุณของยาวาสามารถบาํ บัด บรรเทาโรคให โดยรฐั ไมเ ขา ไปควบคมุ จะสง ผลกระทบตอ คา ครองชพี ของประชาชน เชน นา้ํ ตาล ทรายขาว นมผง น้าํ มนั พชื นมสด น้าํ มนั เชอ้ื เพลิง เคร่อื งแบบนกั เรยี น หายขาดได 3 การผูกขาด ธุรกิจผูกขาดเปนธุรกิจที่มีผูขายเพียงรายเดียว ดังน้ัน ผูขาย จึงมีอิทธิพลมากตอปริมาณการผลิตและราคาที่จําหนาย โดยธุรกิจอาจตั้ง (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. ในการขายยาจะตอ งไมโ ฆษณาวา มี ราคาสูงเกนิ ไปจนผูบ รโิ ภคไดรับความเดอื ดรอน ของแถม หรือการออกสลากรางวัลเพ่ือเปนการดึงดูดผูบริโภคให มาสนใจซ้ือ โดยเภสัชกรจะตองใหคําแนะนําถึงสรรพคุณของยา ในการบรรเทาโรคตางๆ ตามความเปนจริง เพ่ือความปลอดภัย ในการบรโิ ภค) T188
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ พระราชบญั ญัติฉบับนไ้ี ดก้ า� หนดลักษณะของการโฆษณายาทจี่ ะขายใหก้ ับผู้บริโภคไว ้ เช่น ขนั้ สอน ๑. ตอ้ งไมเ่ ปน็ การโออ้ วดสรรพคณุ ของยาวา่ สามารถบา� บดั บรรเทา รกั ษาหรอื ปอ้ งกนั โรคให้หายขาดได้ หรอื การใช้ถ้อยคา� ที่มีความหมายท�านองเดยี วกนั ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู ๒. ต้องไม่แสดงสรรพคุณยาอัน เป็นขอ้ มลู เท็จหรอื เกนิ จริง 9. ครูสนทนาเช่ือมโยงดวยการยกตัวอยางขาว ๓. ตอ้ งไมเ่ ปน็ การแสดงสรรพคุณ หรอื เหตกุ ารณข องบคุ คลทใ่ี ชย าปลอม หรอื ยา วา่ สามารถบา� บดั บรรเทา รกั ษา หรอื ปอ้ งกนั โรค ทไ่ี มไ ดม าตรฐาน โดยเนน ถงึ ผลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ ตา่ ง ๆ ตามทรี่ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ แลวใหนักเรียนรวมกันอภิปรายในประเด็น ประกาศไวใ้ นราชกจิ จานเุ บกษา บทบาทและสทิ ธกิ ารคมุ ครองผบู รโิ ภคทางดา น ๔. ต้องไม่ขายยาโดยไม่สุภาพ อาหารและยาของประเทศไทย จากน้ันครูตั้ง หรอื โดยการรอ้ งรา� ทา� เพลง หรอื การแสดงความ คาํ ถามเพม่ิ เติม เชน ทกุ ขท์ รมานของผ้ปู ่วย • วธิ กี ารควบคมุ คณุ ภาพของอาหารใหม คี วาม ยามอี ยมู่ ากมายหลายชนดิ ผบู้ รโิ ภคตอ้ งมคี วามรเู้ กย่ี วกบั ปลอดภัยกับผูบริโภคตาม พ.ร.บ. อาหาร ๕. ต้องไม่โฆษณาขายยาโดยมี การใช้ยาเพอื่ ความปลอดภยั ในการบรโิ ภค พ.ศ. 2522 ทาํ ไดอยา งไร ของแถม หรอื มีการออกสลากรางวัลเพอื่ ดงึ ดดู ใจใหผ้ ูบ้ ริโภคมาซื้อ (แนวตอบ เริ่มต้ังแตกระบวนการผลิตท่ีตอง ควบคุมสุขอนามัย สวนผสมของอาหารจะ ๒.5 พระราชบัญญตั วิ า่ ดว้ ยอาหาร พ.ศ. ๒5๒๒ ตองไมมีส่ิงปลอมปนซ่ึงเปนอันตรายตอ กฎหมายฉบับน้ีให้ความคุ้มครองแก่ผู้บริโภค โดยควบคุมคุณภาพของอาหารให้มีความ สขุ ภาพ มฉี ลากทร่ี ะบคุ ณุ สมบตั แิ ละปรมิ าณ ของสนิ คาอยางถกู ตอง ครบถวน รวมถึงมี บรรจุภัณฑท ีส่ ะอาดปลอดภัยตอ ผบู รโิ ภค) ปลอดภยั กบั ผบู้ รโิ ภค ตงั้ แตข่ น้ั ตอนกระบวนการผลติ ทต่ี อ้ งควบคมุ สขุ อนามยั สว่ นผสมของอาหาร จะต้องไม่มีส่ิงปลอมปน มีฉลากที่ระบุคุณสมบัติและปริมาตรของสินค้าอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รวมถึงมีบรรจุภัณฑ์ที่สะอาดปลอดภัย โดยมี คณะกรรมการอาหาร ทา� หนา้ ทสี่ า� คญั ๆ เชน่ การ กา� หนดควบคมุ อาหารเฉพาะ การพจิ ารณาเพอื่ การออกใบอนุญาต หรือการต่ออายุใบอนุญาต หรือการย้ายสถานท่ีผลิต สถานที่น�าเข้า หรือ สถานทีเ่ กบ็ อาหาร ในสถานการณป์ จั จบุ นั จะพบทงั้ โฆษณาท่ี มีจรรยาบรรณ ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และ โฆษณาทมี่ งุ่ หวงั แตเ่ พยี งผลกา� ไรโดยไมค่ า� นงึ ถงึ ผู้บริโภค ฉะน้ัน ผู้บริโภคจึงต้องพิจารณาให้ รอบคอบก่อนตัดสินใจบริโภค โดยลักษณะของ 1 โฆษณาอาหารท่คี วรระวัง เชน่ ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่น�าเข้าจากต่างประเทศ จะตอ้ งอา่ นฉลากใหเ้ ขา้ ใจเพอ่ื ความปลอดภยั ในการบรโิ ภค ๑7๑ กิจกรรม ทาทาย เกร็ดแนะครู ใหนักเรียนยกตัวอยางกรณีศึกษาหรือขาวเกี่ยวกับอันตราย ครูควรเชิญนักโภชนาการหรือผูที่มีความรูความเช่ียวชาญทางดานอาหาร จากการใชผลิตภัณฑเสริมอาหาร จากโฆษณา หนังสือตางๆ และยามาใหความรูที่ถูกตองในการดูแลสุขภาพ โดยไมตองพ่ึงผลิตภัณฑ จากน้ันเขียนขอเสนอแนะเกี่ยวกับการเลือกใชผลิตภัณฑ เสริมอาหาร หรอื การเลือกซอื้ ผลิตภณั ฑเ สรมิ อาหารที่ปลอดภยั ตอสขุ ภาพ เสริมอาหารอยา งปลอดภยั ลงสมดุ บนั ทกึ สง ครผู ูสอน นักเรียนควรรู 1 ผลติ ภัณฑเ สรมิ อาหาร หมายถึง ผลิตภัณฑทีม่ ีวติ ามนิ เกลอื แร สมนุ ไพร หรอื ส่ิงตางๆ ท่ีมาจากพืชหรอื กรดอะมโิ น เพอ่ื เสริมอาหารท่ีเรารับประทานใน ชวี ิตประจําวนั เชน วติ ามนิ ซี วิตามินอี เพอ่ื บํารงุ ผิวพรรณ ในปจ จุบนั ผลิตภัณฑ เหลานี้กําลังไดรับความนิยมในกลุมวัยรุนที่ตองการมีผิวขาวใส ทําใหมีสินคา ทไี่ มถ กู ตอ ง ราคาถกู วางจาํ หนา ยอยา งแพรห ลายทง้ั รา นคา และทางอนิ เทอรเ นต็ ทาํ ใหผูบรโิ ภคไดรับอนั ตรายจากการบริโภค T189
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๑. ผลติ ภณั ฑอ์ าหารทโ่ี ฆษณาวา่ เปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งมากตอ่ การปอ้ งกนั และรกั ษาโรค เชน่ โรคปวดตามขอ้ โรคมะเรง็ โรคหวั ใจ โรคเบาหวาน เปน็ ตน้ สรา้ งความสนใจใหแ้ กผ่ ทู้ ห่ี มดหวงั ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู กบั การรกั ษาหลงเชอ่ื ซอื้ มารับประทาน อาจกอ่ ให้เกดิ ผลเสียหรือผลข้างเคยี งในภายหลงั ๒. โฆษณาในเชิงสวยงาม ปัจจุบันจะพบโฆษณาอาหารในลักษณะเกินจริง เช่น 10. ครูนําฉลากผลิตภัณฑอาหารมาใหนักเรียนดู เครื่องดมื่ ท่รี ับประทานแล้วช่วยใหร้ า่ งกายสดชน่ื มนี ้�ามนี วล หรอื สารสกดั จากปลาทะเลน�้าลึกช่วย 2-3 รายการ แลว ใหเ ปรยี บเทยี บความเหมอื น เสริมความออ่ นวยั ของผวิ พรรณ เปน็ ตน้ และความแตกตางของรายละเอยี ดบนฉลาก ๓. ใช้ค�ากล่าวอ้างถึงสรรพคุณทางการแพทย์ท่ีไม่เป็นจริง ค�าอธิบายท่ีกล่าวอ้าง คลา้ ยกบั จะมหี ลกั เกณฑก์ อ่ ใหเ้ กดิ ความประทบั ใจและทา� ใหค้ ดิ วา่ เปน็ ความจรงิ เชน่ “สรา้ งความรอ้ น 11. ครูต้ังคําถามเกี่ยวกับการเลือกซื้ออาหาร เปล่ียนไขมันท่ีสะสมให้เปนไขมันที่ละลายได้” ถือเป็นข้อความท่ีผู้ผลิตหรือผู้ขายคิดขึ้นเอง สําเรจ็ รูปของนกั เรยี นเพิม่ เติม เชน ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์รับรอง อาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้บริโภค จนหลงเช่ือ • นักเรียนมีวิธีการอยางไรในการเลือกซื้อ ซอื้ ผลิตภัณฑ์ดังกลา่ วไปใช้ อาหารสาํ เรจ็ รปู ทวี่ างขายในหา งสรรพสนิ คา หรอื รา นสะดวกซอ้ื เพอ่ื ใหเ กดิ ความปลอดภยั เรอ่ื งนา รู ในการบริโภค (แนวตอบ เลือกซ้ือผลิตภัณฑที่มีฉลากตาม ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึง ดวู นั ทผ่ี ลติ และวนั หมดอายขุ องผลติ ภณั ฑ) ผลิตภัณฑอ์ าหารท่ตี อ้ งมีฉลากโภชนาการ ฉลากโภชนาการ คอื ฉลากทแี่ สดงขอ มลู โภชนาการทร่ี ะบปุ รมิ าณสารอาหารทอี่ ยใู นอาหารนนั้ ๆ เชน ไขมนั โปรตนี นาํ้ ตาล รวมถงึ ระบปุ รมิ าณทแี่ นะนาํ ตอ วนั เพอ่ื ใหผ บู รโิ ภคสามารถเลอื กซอ้ื อาหารและบรโิ ภคในปรมิ าณท่ี เหมาะสมกบั หลกั โภชนาการ ผลติ ภณั ฑอ าหารทกี่ ระทรวงสาธารณสขุ กาํ หนดใหม ฉี ลากโภชนาการ มดี งั น้ี • มันฝรั่งทอดกรอบหรืออบกรอบ หนวยบริโภค • ขา วโพดคั่วหรืออบกรอบ • ขา วเกรยี บหรอื อาหารขบเค้ียวชนดิ อบพอง ปริมาณ • ขนมปงกรอบหรอื แครกเกอรห รอื บิสกติ สารอาหาร • เวเฟอรสอดไส ทไ่ี ดรบั • อาหารขบเคีย้ ว • ช อ็ กโกแลต และผลิตภัณฑใ นทาํ นองเดียวกัน • ผลิตภณั ฑขนมอบ • อาหารก่งึ สําเร็จรปู • อาหารม้ือหลักทีเ่ ปน อาหารจานเดยี ว ซงึ่ ตอ ง เก็บรกั ษาไวในตเู ยน็ หรอื ตูแชแขง็ ตลอดระยะ เวลาจําหนาย ปริมาณสารอาหารที่คนไทยควรไดรับใน ๑ วนั ๑7๒ เกร็ดแนะครู กจิ กรรม สรางเสรมิ ครูใหนักเรียนยกตัวอยางโฆษณาเกี่ยวกับอาหาร แลวนํามาอภิปรายถึง ใหน กั เรียนนําฉลากสินคาอาหาร ขนมขบเคย้ี วคนละ 1 ชนดิ ความนาเช่ือถือและขอควรระมัดระวังจากโฆษณาดังกลาว จากนั้นครูอธิบาย มาทําการวิเคราะหถึงความถูกตองของฉลากสินคาตามประกาศ เพม่ิ เกย่ี วกบั การแสดงฉลากของผลติ ภณั ฑอ าหาร และแนะนาํ ใหน กั เรยี นสงั เกต ของกระทรวงสาธารณสุข ฉลากบนผลติ ภณั ฑอ าหารกอ นซอ้ื รบั ประทาน เพอื่ ความปลอดภยั ในการบรโิ ภค กิจกรรม ทา ทาย T190 ใหนักเรียนนําตัวอยางเครื่องสําอาง 2 ชนิด มาตรวจสอบ ความถกู ตอ งครบถวนของฉลาก ตาม พ.ร.บ. เครือ่ งสําอาง พ.ศ. 2558 หรอื เครือ่ งสําอางไมไ ดม าตรฐาน ใหนักเรียนเขียนวเิ คราะห อันตรายจากการบริโภค และแนะนําวิธีการเลือกซ้ือเคร่ืองสําอาง ท่ไี ดมาตรฐาน
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๒.6 พระราชบญั ญัตเิ คร่อื งสา� อาง พ.ศ. ๒558 ขน้ั สอน กฎหมายวา่ ดว้ ยเครอ่ื งสา� อางมจี ดุ มงุ่ หมายเพ่ือควบคุมเครื่องส�าอางท่ีเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หรือมสี ่วนประกอบของวัตถุมีพษิ จะถกู ก�าหนดให้เปน็ เครอื่ งสา� อางควบคุมพิเศษ ดงั นน้ั ผู้ใดจะ ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู ผลิตหรือน�าเข้าเพื่อจ�าหน่ายจะต้องข้ึนทะเบียน เคร่ืองส�าอางให้ถูกต้อง โดยมีคณะกรรมการ 12. ครูนําตัวอยางเคร่ืองสําอางมาใหนักเรียนดู เครื่องส�าอาง ท�าหน้าที่ส�าคัญ ๆ เช่น ก�าหนด แลวใหชวยกันแยกประเภทของเคร่ืองสําอาง นโยบายและมาตรการควบคุมเคร่ืองส�าอาง จากนน้ั ใหน กั เรยี นบอกวธิ กี ารในการเลอื กซอื้ เพกิ ถอนใบรบั จดแจง้ เครอ่ื งสา� อางเพอ่ื คมุ้ ครอง เคร่อื งสาํ อางที่ถูกตอ งเหมาะสม ความปลอดภัยของผบู้ ริโภค (แนวตอบ เชน เลือกซ้อื ผลิตภณั ฑท มี่ กี ารระบุ เครอื่ งสา� อางที่อาจกอ่ ใหเ้ กิดอันตรายตอ่ ชื่อ สถานท่ีผลิต ผูจําหนาย สวนประกอบ ผูบ้ รโิ ภค ได้แก่ รวมท้งั สารเคมหี รือวตั ถุตางๆ ท่นี าํ มาใชเปน ๑. เครื่องส�าอางท่ีไม่ปลอดภัย สว นผสมในการผลิต) ในการใช้ หมายถึง เคร่ืองส�าอางท่ีใช้ภาชนะ ในการเลอื กซอื้ เครอ่ื งสา� อาง ผบู้ รโิ ภคควรเลอื กผลติ ภณั ฑ์ ทม่ี กี ารระบชุ อ่ื และสถานท่ีผลิตหรอื ผูจ้ า� หน่าย วัตถุทเี่ ป็น ขนั้ สรปุ บรรจุไม่ถูกสุขลักษณะ มีสารที่สลายตัวได้รวม สว่ นผสม เพ่อื ความปลอดภัยในการใช้ อยู่ด้วยและอาจเป็นพิษต่อผู้ใช้ หรือมีส่ิงที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้เจือปนอยู่ รวมไปถึงสารและวัตถุ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา ใจ ตอ้ งหา้ มในการใช้เป็นส่วนผสมของเครอื่ งส�าอาง ๒. เครือ่ งส�าอางปลอม หมายถงึ เคร่ืองสา� อางทใี่ ชฉ้ ลากแจง้ ชอื่ ผผู้ ลติ ผนู้ า� เขา้ หรอื 1. ครูใหนักเรียนรว มกันทําใบงานท่ี 9.2 แหลง่ ผลติ ทมี่ ใิ ชค่ วามจรงิ หรอื เครอื่ งสา� อางทมี่ สี ว่ นประกอบนอ้ ยหรอื มากกวา่ รอ้ ยละ ๒๐ ตามทไ่ี ด้ 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ขน้ึ ทะเบยี นไว ้ หรอื ตามทรี่ ะบไุ วใ้ นฉลาก หรอื เครอื่ งสา� อางใชว้ ตั ถทุ ท่ี า� เทยี มขนึ้ เปน็ ต้น ๓. เคร่ืองส�าอางผิดมาตรฐาน หมายถึง เคร่ืองส�าอางที่มีส่วนประกอบน้อยหรือ ม.2 เก่ยี วกบั เร่อื ง กฎหมายคมุ ครองผูบริโภค มากกวา่ ทีข่ ึน้ ทะเบียนไว้ หรือทีร่ ะบุไว้ในฉลากเกินเกณฑค์ ่าคลาดเคล่อื นท่รี ฐั มนตรีกา� หนด ๔. เครอ่ื งส�าอางทร่ี ัฐมนตรีประกาศห้าม หมายถงึ เคร่อื งส�าอางที่หา้ มผลิต น�าเข้า ขน้ั ประเมนิ หรอื ขาย ๕. เครื่องสา� อางที่ถกู สัง่ เพิกถอนใบรับจดแจ้ง ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล ó. หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การทาํ งาน และการนําเสนอผลงาน 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 หนว่ ยงานคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคเปน็ หนว่ ยงานทตี่ งั้ ขนึ้ เพอ่ื ทา� หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบดแู ลผบู้ รโิ ภคมใิ ห้ ถกู เอารดั เอาเปรยี บจากผผู้ ลติ หรอื ผปู้ ระกอบการ ตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผบู้ รโิ ภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงได้บัญญัติให้มีองค์กรที่มีอ�านาจหน้าท่ีตรวจตราดูแล และประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ในการคุ้มครองผู้บริโภค รวมท้ังเป็นหน่วยงานที่ให้ผู้บริโภคได้ใช้บริการเม่ือถูกละเมิดสิทธิ โดย หน่วยงานทท่ี �าหนา้ ทชี่ ว่ ยเหลอื คุ้มครองผบู้ ริโภคมที ง้ั หนว่ ยงานภาครฐั และภาคเอกชน ดังนี้ ๑7๓ ขอ สอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล การเลอื กซอ้ื เครอ่ื งสาํ อางเพอ่ื ความปลอดภยั ควรมวี ธิ กี ารเลอื ก ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เร่ือง กฎหมายคุมครอง อยางไร ผูบริโภค ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนํา (แนวตอบ การเลือกซ้ือเครื่องสําอางเพื่อความปลอดภัยในการ เสนอผลงานที่แนบมาทา ยแผนการจัดการเรยี นรูหนวยที่ 9 เร่ือง การคมุ ครอง บริโภค ควรมีวิธีการเลือกซ้ือ เชน ซื้อจากรานคาที่มีหลักแหลง ผูบริโภค แนนอน เช่ือถือได โดยทางรานควรจัดเก็บเครื่องสําอางเปน อยา งดี ไมเ กบ็ ไวใ นทร่ี อ นชนื้ ซอื้ เครอื่ งสาํ อางทม่ี ฉี ลากภาษาไทย แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน บง บอกสาระสาํ คญั อยา งชดั เจนและครบถว น หากเปน เครอ่ื งสาํ อาง ควบคุมพิเศษ ฉลากตองแสดงเลขทะเบียนตํารับยา ในกรอบ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ เคร่ืองหมาย อย. หากมีประวัติแพสารใดมากอน เวลาเลือกซื้อ ตรงกับระดับคะแนน ผลติ ภณั ฑต อ งพจิ ารณาขอ มลู สว นประกอบสาํ คญั ของผลติ ภณั ฑก อ น เพอื่ หลกี เลย่ี งสารทก่ี อ ใหเ กดิ การแพ) ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การลาดับขัน้ ตอนของเรื่อง 3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลุม่ รวม ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน ............/................./................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางสว่ น เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ T191
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ (วธิ สี อนโดยการอภปิ ราย) ๓.๑ หนว่ ยงานคุ้มครองผู้บริโภคของภาครัฐ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๖) 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเรื่อง ไดก้ า� หนดให้มอี งคก์ รที่ทา� หนา้ ท่ีให้ความคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค ดงั ตอ่ ไปนี้ ท่ีจะเรียนรู จุดประสงคการเรียนรู และผล การเรียนรู ๑) ส�านักงานคณะกรรมการคุ้มครองผบู้ ริโภค หรือ สคบ. มีอ�านาจหนา้ ที ่ ดงั น้ี ๑. รบั เรอ่ื งราวรอ้ งทกุ ขจ์ ากผบู้ รโิ ภคทไ่ี ดร้ บั ความเดอื ดรอ้ นหรอื เสยี หายอนั เนอ่ื ง 2. ครูตั้งคําถามใหนักเรียนรวมกันแสดงความ มาจากการกระท�าของผู้ประกอบธุรกิจ เช่น ความเป็นธรรมเร่ืองราคา การปลอมปนสินค้า คดิ เหน็ โดยเบือ้ งตน เชน การผูกขาดตลาด การโกงมาตราชง่ั ตวง วดั โฆษณาเกินจรงิ ไดร้ บั อนั ตรายจากการใช้ผลติ ภณั ฑ์ • นักเรียนจะทําอยางไรเม่ือถูกละเมิดสิทธิ ๒. ตดิ ตามและสอดสอ่ งพฤตกิ ารณข์ องผปู้ ระกอบธรุ กจิ ถงึ การกระทา� ทมี่ ลี กั ษณะ ผูบริโภค หรือพบเห็นการกระทําท่ีเปนการ เปน็ การละเมดิ สทิ ธผิ บู้ รโิ ภค และจดั ใหม้ กี ารทดสอบหรอื พสิ จู นส์ นิ คา้ หรอื บรกิ ารตามทเี่ หน็ สมควร ละเมิดสทิ ธิผูบริโภค และจา� เป็นเพือ่ การคุม้ ครองสิทธิผูบ้ ริโภค (แนวตอบ แจงหนวยงานคุมครองผูบริโภค ๓. สนบั สนนุ หรอื ทา� การศกึ ษาและวจิ ยั ปญั หาเกยี่ วกบั การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภครว่ มกบั ท่มี คี วามเก่ยี วของในเร่อื งท่ีถกู ละเมิด) สถาบันการศกึ ษาและหนว่ ยงานอ่นื ๔. สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหม้ กี ารศกึ ษาแกผ่ บู้ รโิ ภคในทกุ ระดบั การศกึ ษาเกยี่ วกบั ขนั้ สอน ความปลอดภยั และอนั ตรายทอ่ี าจไดร้ บั จากสนิ คา้ หรอื บรกิ ารและเผยแพรใ่ หค้ วามรกู้ บั ผบู้ รโิ ภค เพอ่ื สรา้ งนสิ ยั การบรโิ ภ๕ค. ทปเ่ี รปะน็ สกาานรงสาง่ นเ1สกรับมิ สส่วขุ นภราาพช กปารระหหรยือดั ห แนล่วะยใงชาท้ นรขพั อยงารกัฐรทให่ีมเ้ีอก�าดิ นปารจะหโยนช้านทม์ ี่เกากี่ยทวกส่ี ับดุ ขั้นที่ 1 เตรยี มการอภปิ ราย ก ารควบคมุ ส๒่ง)เ สคริมณ ะหกรือรรกมา� หกนาดรคม้มุาตครรฐอางนผขบู้องรสโิ ภินคค2้า หหรรือือบ ครคิกบาร. มหี น้าที ่ ดงั น้ี ๑. พจิ ารณาเรอ่ื งราวรอ้ งทกุ ขจ์ ากผบู้ รโิ ภคทไ่ี ดร้ บั ความเดอื ดรอ้ นเสยี หายอนั เนอื่ ง 1. ครถู ามนกั เรยี นถงึ ความเขา ใจเบอ้ื งตน เกยี่ วกบั มาจากการกระทา� ของผปู้ ระกอบธรุ กิจ หนวยงานและแนวทางการปกปองคุมครอง ๒. ดา� เนนิ การเกย่ี วกบั สนิ คา้ ท่ี ผบู รโิ ภค 2. ครูใหนักเรียนแบงกลุม สืบคนขอมูลเก่ียวกับ หนวยงานคุมครองผูบรโิ ภค จากหนังสือเรียน สังคมศึกษาฯ ม.2 หรือจากแหลงการเรียนรู อื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตใน อินเทอรเน็ต อาจเปน็ อนั ตรายต่อผบู้ ริโภค ๓. แจง้ ขา่ วสารเกย่ี วกบั สนิ คา้ หรือบริการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือ เส่ือมเสียแกส่ ิทธขิ องผู้บรโิ ภค ๔. ด�าเนินคดีเก่ียวกับการ ละเมิดสทิ ธขิ องผู้บรโิ ภค ๕. เสนอความคดิ เหน็ ตอ่ คณะ เพ่อื ความปลอดภัยของผ้บู ริโภค เจา้ หน้าที่ของส�านักงาน รัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการในการ คณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค จะทา� การตรวจสอบสนิ คา้ คุ้มครองผูบ้ ริโภค ทีม่ ีในท้องตลาดอยเู่ สมอ ๑74 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 ประสานงาน สาํ นกั งานคณะกรรมการคมุ ครองผบู รโิ ภคมหี นา ทปี่ ระสานงาน หากนักเรียนซ้ือผลิตภัณฑขนมขบเคี้ยวและเกิดอันตรายตอ เพอ่ื ใหก ารคมุ ครองดแู ลผบู รโิ ภคเปน ไปอยา งกวา งขวาง และครอบคลมุ ทกุ พนื้ ท่ี รางกาย นกั เรยี นสามารถรอ งเรยี นไดท ่หี นวยงานใด จึงไดมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการคุมครองผูบริโภคลงไปจนถึงระดับตําบล (นายก อบต. เปนประธาน) ระดับเทศบาล (นายกเทศมนตรีเปนประธาน) 1. สาํ นักงานมาตรฐานอตุ สาหกรรม ระดับจังหวดั (ผูวา ราชการจังหวดั เปน ประธาน) 2. กรมการแพทย กระทรวงสาธารณสขุ 2 คณะกรรมการคมุ ครองผบู รโิ ภค ประกอบดว ย นายกรัฐมนตรีเปน ประธาน 3. กรมการคาภายใน กระทรวงพาณชิ ย เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงตางๆ ไดแก สํานักนายกรัฐมนตรี 4. สํานกั งานคณะกรรมการคมุ ครองผูบรโิ ภค กระทรวงเกษตรและสหกรณ กระทรวงพาณชิ ย กระทรวงมหาดไทย กระทรวง (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. สํานกั งานคณะกรรมการคุมครอง อุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ผูบริโภค (สคบ.) มีหนาท่ีสําคัญ เชน รับเรื่องราวรองทุกขจาก ผทู รงคณุ วฒุ อิ กี ไมเ กนิ 8 คน เปน กรรมการ โดยมเี ลขาธกิ ารคณะกรรมการคมุ ครอง ผูบริโภคที่ไดรับความเดือดรอนหรือเสียหายจากการกระทําของ ผบู รโิ ภคเปนกรรมการและเลขานกุ าร ผูประกอบธุรกิจ และหนาท่ีอื่นๆ หากผูบริโภคไดรับอันตราย จากสินคาหรือบริการใด สามารถรองเรียนไดท่ี สํานักงาน T192 คณะกรรมการคมุ ครองผบู ริโภค
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓) สา� นักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรอื อย. มีหน้าที่ ดังนี้ ขน้ั สอน ๑. คณะกรรมการอาหาร มหี นา้ ทก่ี า� หนดคณุ ภาพหรอื มาตรฐานของอาหาร โดย ขนั้ ท่ี 2 ดําเนินการอภปิ ราย ควบคุมตามชือ่ ประเภท ชนิด หรอื ลักษณะของอาหาร ก�าหนดหลกั เกณฑ์เงอื่ นไขและวิธกี ารผลติ เพือ่ จ�าหน่าย นา� เข้า หรือการจ�าหน่าย เป็นตน้ 1. สมาชกิ ในกลมุ นําขอมูลมาแลกเปลี่ยนกนั ๒. คณะกรรมการยา มีหน้าท่ีในการก�าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข 2. จากนนั้ สมาชกิ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทนี่ าํ เสนอ เก่ียวกับการผลติ ขาย น�าเข้าหรือสัง่ เข้ามาในราชอาณาจกั ร การน�ายามาเปน็ ตัวอยา่ งเพ่อื ท�าการ 3. นกั เรยี นแตละกลมุ สง ตวั แทนนาํ เสนอขอ มลู ตรวจสอบสถานทผี่ ลติ สถานที่ขาย และสถานท่เี กบ็ ยา 4. ครตู ั้งคําถามใหนักเรียนอภิปราย เชน ๔) ส�านักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม หรอื สมอ. เป็นหนว่ ยงานสังกัดกระทรวง • สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยามี ความสําคญั กบั ผูบริโภคอยางไร อุตสาหกรรม มีนโยบายหลักในการด�าเนินงานด้านการมาตรฐาน เพ่ือส่งเสริมและพัฒนา (แนวตอบ เปน หนว ยงานทมี่ บี ทบาทหนา ทใี่ น อุตสาหกรรมให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสุดแก่ผปู้ ระกอบการ ผ้บู รโิ ภค และประเทศชาติโดยรวม มีหน้าท่ี การกําหนดคณุ ภาพ มาตรฐาน หลกั เกณฑ เกย่ี วกบั การคมุ้ ครองผบู้ ริโภค ดงั นี้ วิธีการ และเง่ือนไขที่เกี่ยวกับการผลิตและ ๑. กา� หนดมาตรฐาน ประกอบดว้ ย มาตรฐานระดบั ประเทศ คอื กา� หนดมาตรฐาน จาํ หนา ยผลติ ภณั ฑอ าหารและยา ซงึ่ มคี วาม ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ประเภทบังคับและไม่บังคับตามความต้องการและการขยายตัว สําคัญกับผูบริโภคเปนอยางมาก เน่ืองจาก ของอุตสาหกรรม การค้าและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งนโยบายของรัฐบาล เพ่ือคุ้มครอง ทําใหผูบริโภคมีความมั่นใจและไววางใจ ผู้บริโภค รกั ษาสิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาต ิ และสง่ เสริมใหภ้ าคอตุ สาหกรรมไทยแขง่ ขัน ในการเลือกซื้อสินคาและบริการที่เกี่ยวของ ไอดง้ใคนก์ ตาลรารดะหโลวกา่ งปแลระะเมทาศตวรา่ ฐดาว้นยรกะาดรบั มสาาตกรลฐ าคนือ1 ( Iรnว่teมrกn�าaหtioนnดaมl าSตtaรnฐdาaนrกdบัizอaงtiคo์กn รaสnาdก Oลทrg่สี a�าnคizญั a tiคoือn กับอาหารและยา) : ISO) ๒. รับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ ให้การรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยอนุญาตให้ • นกั เรยี นคดิ วา เครอ่ื งหมายกาํ หนดมาตรฐาน แสดงเคร่ืองหมายมาตรฐานตามชนิดของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ซึ่งมีท้ังแบบบังคับและแบบไม่บังคับ ตา งๆ เชน เครอ่ื งหมาย อย. หรอื เครอื่ งหมาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานบังคับจะเก่ียวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ มอก. มคี วามสาํ คญั อยางไรตอ การเลอื กซื้อ ประชาชน สินคาและบรกิ าร ๓. รับจดทะเบยี นผลิตภณั ฑ์ (แนวตอบ เครอ่ื งหมายกาํ หนดมาตรฐานตา งๆ ๔. เป็นหน่วยตรวจสอบให้กบั สถาบนั มาตรฐานตา่ งประเทศ มีความสําคัญตอการตัดสินใจในการเลือก ๕. ใหก้ ารรบั รองฉลากเขยี ว (Green Label) โดยรว่ มกบั สถาบนั สง่ิ แวดลอ้ มไทย ซ้ือสินคาและบริการ กลาวคือ หากสินคา ดา� เนนิ การ ใหก้ ารรบั รองสา� หรบั ผลติ ภณั ฑท์ ช่ี ว่ ยลดมลภาวะจากสง่ิ แวดลอ้ ม และผลกั ดนั ใหผ้ ผู้ ลติ ชนิดใดผานการรับรองมาตรฐานก็แสดงวา ใชเ้ ทคโนโลยหี รอื วธิ กี ารผลติ ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มนอ้ ยทส่ี ดุ เพอื่ เปน็ การรกั ษาสภาพแวดลอ้ ม สนิ คา นนั้ มีความปลอดภยั ในการบริโภค) ไม่ก่อให้เกิดมลพษิ เพราะจะสง่ ผลกระทบต่อการด�าเนินชีวติ ของประชาชน ๑75 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู มาตรฐานการรับรองผลิตภัณฑขอใดมีความเก่ียวของกับ 1 องคการระหวางประเทศวาดวยการมาตรฐาน เปนองคกรอิสระจัดตั้งข้ึน Green Label เพือ่ สง เสรมิ การกําหนดมาตรฐานและกิจกรรมทเี่ ก่ียวของ เพ่อื ชวยพฒั นาความ รวมมือระหวางประเทศดานวิชาการ ตางประเทศ วิทยาศาสตร เทคโนโลยี 1. มาตรฐานดานสิง่ แวดลอ ม เศรษฐกิจ เพื่อเปนการสงเสริมความรวมมือและกําหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ 2. มาตรฐานดา นความปลอดภยั จากการใชยา อุตสาหกรรมใหเปน อันหนึง่ อันเดยี วกัน เพื่อประโยชนทางการคา ลดการกีดกัน 3. มาตรฐานดานคุณภาพและความปลอดภยั ทางดา นอาหาร ทางการคา ระหวา งประเทศ เชน ISO 9000 ดานการบรหิ ารคุณภาพขององคกร 4. มาตรฐานดา นคณุ ภาพและความปลอดภยั ทางดา นชวี ติ และ ISO 14000 ดา นการจดั การส่ิงแวดลอม ทรพั ยสนิ ส่ือ Digital (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. Green Label หรือฉลาก เขียว เปนการรับรองสําหรับผลิตภัณฑที่ชวยลดมลภาวะจาก ศึกษาคนควาขอมลู เพมิ่ เติมเก่ียวกบั บทบาทหนา ท่ี ขอ มลู ขาวสาร รวมถงึ สิ่งแวดลอม และผลักดันใหผูผลิตใชเทคโนโลยีหรือวิธีการผลิต บรกิ ารตา งๆ ของหนว ยงานคมุ ครองสทิ ธผิ บู รโิ ภค ไดท ี่ http://www.fda.moph. ที่สรางผลกระทบตอส่ิงแวดลอมใหนอยที่สุด เพ่ือเปนการรักษา go.th และ http://www.tisi.go.th สภาพแวดลอมและไมกอใหเกิดมลพิษ ดังนั้น Green Label จงึ ตรงกบั มาตรฐานดานสิ่งแวดลอ มมากท่สี ุด) T193
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๕) กรมการคา้ ภายใน เปน็ หนว่ ยงานสงั กดั กระทรวงพาณชิ ย ์ มภี ารกจิ หลกั เกยี่ วกบั การเสรมิ สรา้ งประสทิ ธภิ าพการคา้ ภายในประเทศ โดยการกา� กบั ดแู ล สง่ เสรมิ และพฒั นาเพอื่ ใหก้ ารคา้ ขัน้ ท่ี 2 ดาํ เนิการอภิปราย มภีกายารในแขป่งรขะเันทอศยด่า�างเเปน็นินธไปรรอมยใ่านงรมะีปบบระกสาิทรคธิ้ภาเาสพรี 1 และผบู้ รโิ ภคไดร้ บั ประโยชน ์ มอี า� นาจหนา้ ท ่ี ดงั น้ี • เพราะเหตุใดมูลนิธิผูบริโภคจึงมีบทบาท ๑. จดั ระเบยี บสง่ เสรมิ ระบบการคา้ สาํ คญั ในการชว ยเหลอื และคมุ ครองผบู รโิ ภค การตลาด และตลาดในประเทศให้เกิดความ (แนวตอบ มลู นิธิผบู ริโภคเปน องคกรพัฒนา เปน็ ธรรม เอกชนสาธารณประโยชน ที่มีวัตถุประสงค ๒. ส่งเสริมการค้าอย่างเป็นธรรม หลักในการสงเสริมใหผูบริโภคไดรับการ และป้องกนั การผกู ขาดตดั ตอนในทางเศรษฐกิจ คุมครองตามสิทธิที่ตนเองพึงมี เพื่อให ๓. จัดระเบียบการค้า การตลาด ผูบริโภคมีภูมิคุมกันและสามารถคุมครอง กเพร่ือมใกหา้ผรู้คบ้าริภโภาคยไใดน้ซจึื้งอไสดิน้มคีโ้าคทรี่มงกีคาุณรภธงาฟพ้าในปรราะคชาาปรัฐร2ะ หเพยั่ืดอ ก�ากบั ตรวจสอบและควบคมุ การประกอบธรุ กจิ ดูแลตนเองได ประกอบกับในปจจุบันมี ๔. จัดระเบียบและส่งเสริมระบบ ผูบริโภคไมไดรับความเปนธรรมและ ช่วยเหลือผบู้ รโิ ภค ความปลอดภัยจากการบริโภคเพิ่มข้ึนมาก ดังน้ัน มูลนิธิผูบริโภคจึงเปนองคกรหน่ึง การคา้ สินคา้ เพ่ือรกั ษาระดบั ราคาสินค้าเกษตร ท่ีมีบทบาทเขามาดูแลชวยเหลือทางดาน ๓.๒ หน่วยงานค้มุ ครองผบู้ รโิ ภคของภาคเอกชน ขอมูลความรูแกผูบริโภคใหไดรับความ ปลอดภัยและเปนธรรมจากการบรโิ ภค) การคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหน้าท่ีของทุกคนและทุกหน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชนที่จะต้อง ชว่ ยกนั ดแู ล สอดส่อง ให้ความชว่ ยเหลอื สา� หรบั องคก์ รของเอกชนทใ่ี หก้ ารชว่ ยเหลอื และคมุ้ ครอง ผ้บู ริโภคทีส่ า� คัญ ไดแ้ ก ่ มลู นธิ ิผู้บรโิ ภค มูลนิธิผู้บริโภค เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนสาธารณประโยชน์ โดยเริ่มการท�างานตั้งแต ่ พ.ศ. ๒๕๒๖ ในชอื่ คณะกรรมการประสานงานองคก์ รเอกชนเพอ่ื การสาธารณสขุ มลู ฐาน (คปอส.) โดย มบี ทบาทสา� คญั ในการพฒั นาสาธารณสขุ ผลกั ดนั นโยบายหา้ มผสมสารกาเฟอนี ในยาแกป้ วดลดไข้ และได้จดทะเบียนจัดต้ังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ขึ้นใน พ.ศ. ๒๕๓๙ มีวัตถุประสงค์หลักเพ่ือ ส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองตามสิทธิ อนั พึงมีพงึ ได ้ สนบั สนนุ และส่งเสรมิ ใหผ้ ู้บริโภค และองค์กรต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการคุ้มครอง ผูบ้ รโิ ภค สง่ เสริมการศึกษา วจิ ัย และเผยแพร่ การให้บริการประชาชนผู้ด้อยโอกาส เป็นกิจกรรมเพ่ือ ความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพ่ือให้ ช่วยเหลือผู้บรโิ ภคของมูลนิธิผู้บริโภค ผู้บรโิ ภคคุ้มครองดูแลตวั เองได้ ๑76 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 ระบบการคาเสรี เปนระบบการคาทางเศรษฐกิจท่ีเปดโอกาสใหมีการ วัตถปุ ระสงคห ลักของมูลนธิ ผิ บู รโิ ภคมีความสอดคลอ งกับขอ ใด คาขายอยางเปนอสิ ระ โดยไมม กี ารกีดกนั ทางการคา ยกเวน ในกรณีจาํ เปน เชน 1. เพือ่ รบั เรอ่ื งราวรอ งทกุ ขจากผบู รโิ ภค เพือ่ ปองกันชวี ิต สุขภาพอนามยั ของมนษุ ย พืช สัตว หรอื เพอ่ื ปกปอ งศลี ธรรม 2. เพ่อื แจง ผลการรองเรียนแกผบู รโิ ภค และวัฒนธรรม หรือความมั่นคงของประเทศ 3. เพอ่ื สงเสรมิ ใหผ ูบรโิ ภคไดร ับการคุมครองตามสทิ ธิ 2 โครงการธงฟาประชารัฐ เปนโครงการของกรมการคาภายใน เพ่ือชวยลด 4. เพอ่ื แจง ขา วสารเกยี่ วกบั สนิ คา หรอื บรกิ ารทอี่ าจกอ ใหเ กดิ ความ ภาระคาครองชีพและเพิ่มทางเลือกใหกับประชาชนใหไดเลือกซื้อสินคาและ บริการในราคาประหยัดเปนธรรม โดยใชธงสีฟาเปนสัญลักษณของรานคา เสียหายแกผ ูบรโิ ภค ทจ่ี ดั จาํ หนา ยสนิ คา ทมี่ คี ณุ ภาพในราคาประหยดั สนิ คา ธงฟา สว นใหญเ ปน สนิ คา อุปโภคบรโิ ภคพื้นฐานทจี่ ําเปน เชน ไข ขาวสาร อาหารแหง (วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. มูลนธิ ผิ ูบรโิ ภคเปน องคกรเอกชน สาธารณประโยชน มีวัตถุประสงคหลักเพ่ือสงเสริมใหผูบริโภค T194 ไดรับการคุมครองตามสิทธิอันพึงมีพึงได สนับสนุนและสงเสริม ใหผูบริโภคและองคกรตางๆไดเขามามีสวนรวมในการคุมครอง ผูบริโภค สงเสริมการศึกษา วิจัย และเผยแพรความรูเกี่ยวกับ การคุมครองผบู รโิ ภค)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เสริมสาระ ขน้ั สอน ควรทาํ อยา งไรเมอ่ื ถกู ละเมดิ สทิ ธผิ บู้ ริโภค ขน้ั ท่ี 2 ดําเนินการอภิปราย ในทอ้ งตลาดปจั จบุ นั มสี นิ คา้ หลากหลายชนดิ ทผ่ี ลติ ออกมาเพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค แตก่ ็มสี ินคา้ ทีไ่ มไ่ ดม้ าตรฐานหรือมอี นั ตรายปะปนออกมาขายในตลาดดว้ ย ซึ่งถือเป็นภัยทีผ่ ู้บรโิ ภคควร 5. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั ระมดั ระวงั เปน็ อยา่ งมาก สา� หรบั ขอ้ ปฏบิ ตั เิ มอื่ รวู้ า่ ตนเองไมไ่ ดร้ บั ความเปน็ ธรรม หรอื เกดิ ความเสยี หาย เสริมสาระ เร่ือง ควรทาํ อยางไรเมอื่ ถกู ละเมิด ตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ สามารถรอ้ งเรยี นไดท้ ส่ี า� นกั งานคณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคประจา� จงั หวดั โดย สทิ ธิผบู รโิ ภค จากหนังสือเรียน สังคมศึกษาฯ มขี ้ันตอนการยน่ื เรื่องร้องเรยี น ดังนี้ ม.2 จากนน้ั ครตู ง้ั ประเดน็ คาํ ถาม เพอื่ ฝก ทกั ษะ ๑. ผรู้ ้องเรยี นกรอกรายละเอียดในแบบบนั ทกึ ค�ารอ้ งเรียนพร้อมแนบเอกสาร (ลงชื่อรับรองส�าเนา การคดิ วิเคราะหแ ละแสดงความคิดเหน็ เชน ทผู้รกุ อ้ฉงบ๒เรับ.ีย )ผ นมูร้)อ ้อโบดงใเยหรตยี้กิดนับอกทารกาองรกเแจรส้าาตหยมลนปะ้า2เทจอา�่ียี นดวในน แ๓บ๐บ บหานทัง ทสอืหี่ มนอังสบืออม�านอาบจอ1 า�(มนอาจบนอน้ัา� นดา้วจยให ้ สคบ. ด�าเนินการแทน • ถา บคุ คลทน่ี กั เรยี นรจู กั ถกู ละเมดิ สทิ ธผิ บู รโิ ภค ๓. กรณผี บู้ รโิ ภคไมส่ ามารถรอ้ งเรยี นดว้ ยตนเองได ้ ผมู้ ารอ้ งเรยี นแทนจะตอ้ งมหี นงั สอื รบั รองมอบ นกั เรยี นจะใหคําแนะนําอยา งไร อา� นาจจากผู้บรโิ ภค (พรอ้ มตดิ อากรแสตมปจ า� นวน ๓๐ บาท) น�ามาย่นื ตอ่ เจ้าหนา้ ท่ีด้วย (แนวตอบ แนะนําใหย่ืนเรื่องรองเรียนไดท่ี สํานักงานคณะกรรมการคุมครองผูบริโภค ข้นั ตอนการจัดการเรื่องร้องทุกขจ์ ากผู้บรโิ ภค ๔ คณะอนุกรรมการ ประจาํ จงั หวดั ) กลนั� กรองฯ พจิ ารณา • เพราะเหตุใดผูบริโภคจึงควรรองทุกข เม่ือ ๑ รบั เร่ืองร้องเรยี น ไมไดรับความเปนธรรมจากการซ้ือสินคา แนวทางการพจิ ารณาของคณะอนกุ รรมการกลน�ั กรองฯ และบรกิ าร • ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริง • เห็นควรด�าเนินคดีแทนผู้บริโภค/เห็นควรยุติเร่ือง/ (แนวตอบ เพ่ือเรียกรองใหผูประกอบธุรกิจ • รวบรวมเอกสารหลักฐาน รวบรวมขอ้ เทจ็ จริงบรรจเุ ข้าส่วู าระการประชุม คคบ. มีความรับผิดชอบชดใชความเสียหาย • ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพ่มิ เติม หรือไดรับโทษจากความไมรับผิดชอบของ ๒ เจรจาไกลเ่ กลยี่ • แตง่ ตัง้ คณะท�างานฯ ➡ เจรจาไกลเ่ กลี่ยใหม่ ผูประกอบธุรกิจเอง) (ชน้ั เจ้าหน้าท)่ี ๕ คณะกรรมการค้มุ ครองผู้บรโิ ภค • ม หี นังสอื เชญิ คู่กรณีมาพบเจ้าหน้าท่ี (คคบ.) พจิ ารณา /ช้ีแจงขอ้ เท็จจริง/เจรจาไกลเ่ กลี่ย • ด า� เนนิ การเจรจาไกลเ่ กลยี่ ➡ ตกลงกนั ได ้ ➡ ยตุ เิ รอื่ ง • ก รณีไมส่ ามารถหาขอ้ ยตุ ิได ้ ➡ ดา� เนินการเจรจา ไกล่เกลีย่ ในชัน้ คณะอนุกรรมการฯ ๓ เจรจาไกล่เกลยี่ • มมี ตดิ า� เนนิ คดีแทนผูบ้ รโิ ภคหรอื (ช้นั คณะอนกุ รรมการ) ยุตเิ รอ่ื ง • เจา้ หนา้ ทผ่ี รู้ บั ผดิ ชอบแจง้ มต ิ คคบ. • ด า� เนนิ การเจรจาไกลเ่ กลย่ี ➡ ตกลงกนั ได ้ ➡ ยตุ เิ รอ่ื ง ให้ผู้ร้องทราบ • กรณีไม่สามารถตกลงกันได้ ➡ นา� เสนอ คณะอนกุ รรมการกล่นั กรองฯ พจิ ารณา * หมายเหต ุ ภายหลังจากการรอ้ งเรยี น ๑๕ วัน หากผบู้ ริโภคยงั ไม่ได้ รบั การตดิ ตอ่ จากพนกั งานเจา้ หนา้ ท ี่ สามารถตดิ ตามสถานะของเรอ่ื ง ที่มา : สา� นักงานคณะกรรมการคมุ้ ครองผ้บู ริโภค ร้องเรียนผ่านทางระบบร้องทุกข์ผู้บริโภค www.ocpb.go.th หรือ สายด่วน สคบ.1166 ๑77 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู เม่ือนักเรียนไดรับความเสียหายจากการบริโภคสินคาและ 1 มอบอํานาจ การท่ีบุคคลหน่ึง เรียกวา ตัวการ มอบใหบุคคลอีกคนหน่ึง บรกิ ารควรปฏิบัตติ นอยางไร เรียกวา ตัวแทน มีอํานาจทําการแทน โดยการกระทํานั้นมีผลทางกฎหมาย เสมือนวาตัวการทําดวยตนเอง การมอบอํานาจใหทํากิจการใดๆ ท่ีกฎหมาย (แนวตอบ ควรตระหนกั และใชส ทิ ธขิ องตนเองตามกฎหมาย เชน กําหนดวาตองทําเปนหนังสือมอบอํานาจใหทํากิจการน้ัน ในทางปฏิบัติก็ตอง แจงใหผูผลิตทราบเพื่อจะไดรับผิดชอบตอความเสียหายท่ีเกิดข้ึน ทาํ เปนหนงั สือ เชน การซอื้ ขายที่ดนิ ถาไมไดรับการตอบรับจากผูผลิตก็ควรดําเนินการรองเรียนไปยัง สาํ นักงานคณะกรรมการคุมครองผบู รโิ ภคประจําจงั หวดั ) 2 อากรแสตมป เปน ภาษอี ากรตามประมวลรษั ฎากรทเ่ี รยี กเกบ็ จากประชาชน ในการทาํ นติ กิ รรมทก่ี อ ใหเ กดิ รายไดห รอื เกยี่ วเนอ่ื ง เชน การกาํ หนดใหต ดิ อากร แสตมปในสัญญากูยืมเงินหรือในกรณีหนังสือมอบอํานาจใหผูอ่ืนไปดําเนินการ แทน โดยกาํ หนดใหต ดิ อากรแสตมป 30 บาท ตอ การมอบอาํ นาจคราวนนั้ ลกั ษณะ ของอากรแสตมปจ ะมกี ารจดั พมิ พค ลา ยกบั ตราไปรษณยี ากร กลา วคอื มลี วดลาย รอยปรุของฟนแสตมปและราคาแสตมปเหมือนกัน แตมีความแตกตางกันตรง ท่ีจะไมม ตี ราประทับ แลวใชก ารขดี ฆา แสดงการใชแสตมปดังกลา ว ทั้งน้ี ผูที่จะ ขดี ฆาไดต องเปน ไปตามกาํ หนดของประมวลรัษฎากร T195
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ô. áนวทางการปกปอ‡ งáÅะคมุ้ ครองสทิ ธิ¢องผบู้ รโิ ภค ขั้นท่ี 2 ดําเนนิ การอภปิ ราย ถงึ แมผ้ บู้ รโิ ภคจะเปน็ ผทู้ อ่ี ยใู่ นฐานะซงึ่ สามารถตดั สนิ ใจซอ้ื หาสนิ คา้ เพอ่ื การอปุ โภคบรโิ ภค อยา่ งมเี หตผุ ล แตผ่ บู้ รโิ ภคกอ็ าจอยใู่ นสภาพทถี่ กู เอารดั เอาเปรยี บ หรอื รเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ ์ ประกอบกบั 6. ครูยกตัวอยางกรณีศึกษาเกี่ยวกับบุคคลท่ีถูก ในปจั จบุ นั ผบู้ รโิ ภคตอ้ งประสบปญั หาในการบรโิ ภคมากมาย เชน่ ตอ้ งซอื้ สนิ คา้ ทม่ี รี าคาแพง สนิ คา้ ละเมดิ สทิ ธผิ บู รโิ ภคจากสอ่ื ตา งๆ เชน ขา วจาก ไมม่ คี ณุ ภาพ มกี ารปลอมปนวสั ดตุ า่ ง ๆ ทเ่ี ปน็ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ ถกู เอาเปรยี บจากการทา� สญั ญา หนงั สอื พมิ พ อนิ เทอรเ นต็ ฯลฯ จากนน้ั ครสู รา ง ท่ไี ม่เปน็ ธรรม เปน็ ต้น ซงึ่ ปัญหาที่เกดิ ขนึ้ มาจากสาเหตุต่าง ๆ ดังน้ี สถานการณสมมติใหนักเรียนอภิปรายรวมกัน วา ถานกั เรียนเปนบคุ คลดงั กลาว นักเรียนจะ ปญหาในการบริโภค มแี นวทางในการปกปอ งและคมุ ครองสทิ ธขิ อง ตนเองไดอยา งไร ผบู้ ริโภค ผปู้ ระกอบธรุ กิจ • ความรูน้ อ้ ย • ขาดจรรยาบรรณในการผลิตสินค้าและบรกิ าร 7. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเช่ือมโยงใน • ไม่ไดต้ ระหนกั และเหน็ ความสา� คญั ในสทิ ธิ • มุง่ ก�าไรเป็นหลัก ประเดน็ แนวทางการแกป ญ หาการบรโิ ภคเพอื่ ของตน • มุง่ การแข่งขันในธรุ กจิ มากเกนิ ไป ปกปอ งและคมุ ครองสิทธิของผูบรโิ ภค • ค า่ นิยมในการบรโิ ภคสินค้าฟ่มุ เฟอย สินคา้ ที่ มีราคาเเพง 8. ครตู ัง้ คําถามเพ่ิมเตมิ เชน • ความจ�าเปน็ ทางเศรษฐกจิ • เพราะเหตุใดผูบริโภคจึงตองมีความเขาใจ ในสิทธิของตนเองในการบริโภคสินคาและ จากปัญหาดังกล่าว ทุกภาคส่วนของสังคมได้ตระหนักและหาแนวทางในการปกป้องและ บรกิ าร คุ้มครองผู้บริโภค โดยผู้บริโภคเองก็จะต้องค�านึงถึงความปลอดภัยเป็นส�าคัญ รวมทั้งต้องมีการ (แนวตอบ เพราะหากผูบริโภคมีความรูและ ค้นควา้ แสวงหาขอ้ มลู เก่ียวกบั ระดับคุณภาพของสนิ คา้ ซ่งึ มอี ย่มู ากมายหลายชนดิ เลือกบริโภค ตระหนักถึงสิทธิของตนเอง นอกจากจะมี ขสนิองคสา้ ินทคม่ี ้าคี นณุ นั้ ภ โาดพยแเลฉะพมาาะตอรยฐา่ างนย งิ่สสว่ นิ นคภา้ าทคี่เรปฐั น็ กอจ็ ันะเตขรา้ ามยาตค่อวสบุขคภมุ าดพแู1 ลเชใหน่ เ้ กเคดิ มคีภวาัณมฑถ์ตกู า่ตงอ้ ๆงต ดามงั นส้ีภาพ ความปลอดภัยและไดรับความเปนธรรม จากการบริโภคแลว ยังสงผลตอผูประกอบ 4.๑ การมคี วามรู ้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั สิทธิผบู้ ริโภคของตนเอง การใหเ กดิ ความตระหนกั และผลติ สนิ คา ทดี่ ี มคี ณุ ภาพ ราคาเปน ธรรม และไมเ อาเปรยี บ ผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งมคี วามเขา้ ใจในสทิ ธขิ องตวั เองในการบรโิ ภคสนิ คา้ และบรกิ าร และปฏบิ ตั ติ าม ผูบรโิ ภค) หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริโภคก็สามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เก่ียวข้อง เพ่ือให้รับผิดชอบหรือชดเชยค่าเสียหายที่เกิดข้ึน เพราะถ้าหากผู้บริโภคมีความรู้และตระหนักถึง สทิ ธขิ องตนเอง กจ็ ะทา� ใหผ้ ปู้ ระกอบการ พอ่ คา้ ผใู้ หบ้ รกิ าร ไดต้ ระหนกั และผลติ สนิ คา้ ทม่ี คี ณุ ภาพ ราคาเป็นธรรม ไมเ่ อารัดเอาเปรียบผบู้ ริโภค ท้ังน้ ี ผบู้ รโิ ภคจะต้องตดิ ตามข่าวสาร ข้อมูลตา่ ง ๆ เขา้ รบั การศกึ ษาอบรม เพอื่ สรา้ งนสิ ยั การบรโิ ภคทด่ี ี จะไดไ้ มถ่ กู เอารดั เอาเปรยี บจากผผู้ ลติ ผคู้ า้ ๑78 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูควรใหนักเรียนทําปายรณรงคเกี่ยวกับการคุมครองผูบริโภค ซึ่งกลุม ผบู รโิ ภคท่ีฉลาดควรตดั สนิ ใจเลือกซือ้ สินคา และบริการตามขอใด เปา หมายหลกั ในการรณรงค คอื นกั เรยี นในโรงเรยี น เพอื่ ใหเ กดิ ความตระหนกั ถงึ 1. สินคาตามกระแสนยิ มของสังคม สทิ ธผิ บู รโิ ภคของตนเอง โดยนาํ ปา ยรณรงคไ ปตดิ ตามบรเิ วณตา งๆ ของโรงเรยี น 2. สนิ คาทส่ี ามารถตอรองราคาไดตํา่ ทส่ี ุด 3. สนิ คา ท่ีตอบสนองความพึงพอใจมากท่ีสุด นักเรียนควรรู 4. สนิ คาท่มี กี ารรบั ประกันและมบี ริการหลังการขาย 1 สินคาท่ีเปนอันตรายตอสุขภาพ เปนสินคาท่ีผลิตไมมีมาตรฐาน มีการ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะในปจ จบุ นั มผี ผู ลติ สนิ คา และ ปนเปอนสารตางๆ ที่เปนอันตรายตอรางกาย หรือสินคาที่ใชสารเคมีอันตราย บรกิ ารออกมามาก ทําใหม กี ารแขงขนั กันสูงในรปู แบบตางๆ เชน ในการผลิต ปจจุบันหนวยงานท่ีรับผิดชอบไดนํามาตรการเรียกคืนสินคาท่ีเปน ลดราคา มีของแถมชิงรางวัล ดังนั้น ผูบริโภคจะตองมหี ลักในการ อนั ตรายมาใชบ งั คบั เชน การเรยี กคนื อาหารทป่ี นเปอ นสารเมลามนี เปน มาตรการ เลอื กบรโิ ภค โดยตอ งคาํ นงึ ถงึ ความจาํ เปน ประหยดั ปลอดภยั และ เรยี กคืนสนิ คาของสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีหนาท่ีดูแล เกดิ ประโยชนม ากทส่ี ดุ และสนิ คา เหลา นนั้ จะตอ งมกี ารรบั ประกนั รับผิดชอบผลิตภัณฑ 5 กลุม ไดแก ผลิตภัณฑยา อาหาร เคร่ืองสําอาง และบรกิ ารหลงั การขาย เพื่อทเี่ มอื่ เกิดปญ หาจากการใชง าน หรือ คณุ ภาพของสนิ คา ไมเ ปน ไปตามทม่ี กี ารโฆษณาหรอื ทรี่ ะบสุ รรพคณุ Tเครื่องมอื แพทย และสารเสพติด ไว จะไดเปล่ียนหรือคืนสินคาได หรือหากมีปญหาในการใชงาน จะไดม กี ารติดตอ สอบถามหรือมีเจาหนาที่มาใหบริการได) 196
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ 4.๒ การก�าหนดมาตรการดา้ นการคุ้มครองผ้บู รโิ ภค ขน้ั สอน ของหน่วยงานภาครฐั ข้ันท่ี 2 ดาํ เนินการอภปิ ราย ในการดา� เนนิ การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคมใิ หผ้ ปู้ ระกอบธรุ กจิ ละเมดิ สทิ ธผิ บู้ รโิ ภค รฐั ไดม้ กี ารกา� หนด มาตรการทช่ี ดั เจน ดงั นี้ 9. ครูใหนักเรียนรวมกันศึกษาและอภิปราย ถึงความสําคัญของมาตรการของรัฐในการ มาตรการปอ้ งกนั กอ่ นการซือ้ ขาย คุม ครองผูบ ริโภค เชน มาตรการปองกนั กอ น การซื้อขาย มาตรการท่ีเกี่ยวเน่ืองกับสินคา • ก�าหนดและควบคุมมาตรฐานสนิ ค้า และมาตรการแกป ญ หาหลงั การซอื้ ขายทมี่ ตี อ • กา� หนดขอ้ ห้ามในทางการคา้ ผบู ริโภค • ใหผ้ ู้ประกอบการแจง้ การปรบั ราคาล่วงหนา้ • ใหข้ อ้ มลู ขา่ วสารที่เป็นประโยชนต์ ่อการตดั สินใจในการเลอื กซือ้ 10. ครูนําสนทนาโดยการยกตัวอยางกิจกรรมที่ สงเสริมสิทธิผูบริโภคจากหนวยงานตางๆ •ม ากต�ารกกบั าดรแู ทลี่เกกา่ยีรขวาเนยต่อื รงงก1 กบั าสรนิ เชค่า้าซอ้ื สนิ คา้ จากนั้นใหนักเรียนอภิปรายถึงบทบาทหนาท่ี ของภาครฐั ในการสง เสรมิ สทิ ธผิ บู รโิ ภค รวมถงึ • ก�าหนดเงอ่ื นไขในการขายสินค้าทีช่ ดั เจน ผลดีท่ีมีตอ ประชาชนและสังคม • กา� หนดมาตรฐานของสญั ญาท่เี ปน็ ธรรม มาตรการแกป้ ัญหาหลงั การซื้อขาย • จัดตงั้ ระบบและขนั้ ตอนในการฟ้องรอ้ งและชดเชยความเสยี หายท่อี าจเกดิ ขึ้น • ก�าหนดกรอบความรบั ผิดชอบของผผู้ ลิตที่มีตอ่ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารที่บกพร่อง หน่วยงานของรัฐที่มีบทบาทคอยปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค เช่น ส�านักงานคณะกรรมการ คมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค (สคบ.) สา� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สา� นกั งานมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ อตุ สาหกรรม (สมอ.) เปน็ ตน้ 4.๓ การส่งเสริมสิทธผิ ู้บริโภค การสง่ เสรมิ สิทธิผ้บู ริโภคเพ่อื ให้ผู้บริโภคตระหนักถงึ สิทธติ ามกฎหมายท่ีมอี ยแู่ ละไดร้ ับการ ค มุ้ ครองตามส๑ทิ . ธจทิ ัดพี่ ใงึหไ้มดีปร้ บัีร ณโดรยงคด์สา� เิทนธนิ ิผกู้บารริโ ภดคงั 2น ้ีเพ่ือรณรงค์ให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงสิทธิของตน เพ่มิ มากข้นึ ๒. จัดให้มีการเผยแพร่ข้อมูลด้านสิทธิผู้บริโภคและข้อมูลแก่ผู้ประกอบการในส่วนท่ี เกย่ี วกบั มาตรฐานของสนิ คา้ และบรกิ าร การโฆษณาและการใชฉ้ ลากทถ่ี กู ตอ้ ง พรอ้ มกบั บทลงโทษ ๑79 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู การกําหนดมาตรการดานการคุมครองผูบริโภคของหนวยงาน 1 การขายตรง การทาํ ตลาดสนิ คา หรอื บรกิ ารในลกั ษณะของการสอ่ื สารขอ มลู ภาครัฐในขอ ใดที่เปนมาตรการปองกันกอนการซื้อขาย เพ่ือเสนอขายสินคาหรือบริการโดยตรงตอผูบริโภค โดยผานตัวแทนขายตรง หรือผูจําหนายอิสระ ซึ่งปจจุบันเปนท่ีนิยมแพรหลาย ขอดีของการขายตรง 1. การกาํ กบั ดแู ลการขายตรง การเชาซือ้ สนิ คา เชน ผูผลิตหรือผูขายสามารถลดคาใชจายในการโฆษณาผานสื่อตางๆ สวน 2. การกําหนดมาตรฐานของสญั ญาท่ไี มเ ปนธรรม ขอ เสยี เชน หากสินคาคณุ ภาพไมดี ผูบ รโิ ภคจะไดร บั ความเสยี หาย 3. การใหข อ มลู ขา วสารทเ่ี ปน ประโยชนต อ การตดั สนิ ใจในการ 2 ปรณรงคสิทธิผูบริโภค คณะกรรมการคุมครองผูบริโภคกําหนดใหวันที่ 30 เม.ย. ของทุกปเปนวันคุมครองผูบริโภค ในวันดังกลาวภาครัฐและสคบ. เลอื กซื้อ ไดจ ัดงานข้นึ โดยความรวมมือจากรัฐบาล ขาราชการ ประชาชน มกี ารจดั แสดง 4. การกําหนดกรอบความรับผิดชอบของผูผลิตท่ีมีตอสินคา นทิ รรศการ การแสดงสนิ คาตวั อยา ง เพอื่ เปนกรณีศึกษาทง้ั ในดา นของสนิ คา ดี มีคุณภาพ รวมท้ังสินคาที่อาจกอใหเกิดอันตรายตอผูบริโภค และขายสินคา หรอื บริการทีบ่ กพรอ ง ราคาถูก เพ่ือใหผูบรโิ ภคมีความรคู วามเขาใจ และตระหนักถงึ การปกปองและ รกั ษาสิทธิของตนเองมากขน้ึ (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. มาตรการปองกนั กอนการซอื้ ขาย เชน การกาํ หนดและควบคมุ มาตรฐานสนิ คา การกาํ หนดขอหาม T197 ในทางการคา การใหผูประกอบการแจงการปรับราคาลวงหนา การใหขอมูลขาวสารที่เปนประโยชนตอการตัดสินใจในการเลือก ซ้ือสินคา )
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๓. สง่ เสรมิ ใหม้ กี ารตรวจสอบกระบวนการผลติ และการจา� หนา่ ยสนิ คา้ และบรกิ ารให้ เปน็ ไปตามมาตรฐานท่ีก�าหนด ข้นั ท่ี 2 ดําเนินการอภปิ ราย ๔๕.. จจััดดใใหหม้้มีกีกาารรทแนดะสนอ�าบผเบู้บอ้ืริโงภตค้นดเก้าี่ยนววกิธบัีกปารรรมิ ้อางณท ุกแขล1์ทะี่ไคดุณ้ผภลา พสขะดอวงกส นิ ไคมา้ ่เแสลียะเบวลริกาแารละ 11. ครูนําขาวเหตุการณหรือผลงานของหนวย สน้ิ เปลอื งคา่ ใชจ้ า่ ย และใหม้ กี ารตดิ ตามประสานงาน เรง่ รดั ดา� เนนิ การเรอ่ื งราวรอ้ งทกุ ขแ์ ทนผบู้ รโิ ภค งานหรือองคกรที่ทําหนาที่ในการคุมครอง ๖. จดั ใหม้ ตี วั แทนผบู้ รโิ ภคจากกลมุ่ ผบู้ รโิ ภคหรอื องคก์ รเอกชนทดี่ า� เนนิ งานเกยี่ วกบั ผูบริโภคมาสนทนาแสดงความคิดเห็นกับ การคมุ้ ครองผบู้ ริโภค นักเรียน จากน้ันต้ังประเด็นคําถาม เพื่อให นักเรียนฝกทักษะการคิดและแสดงความ 4.4 การเสรมิ สรา้ งองคก์ รเพอ่ื ดา� เนินงานคมุ้ ครองผบู้ ริโภค คิดเหน็ เชน การสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั องคก์ รเพอื่ ดา� เนนิ งานคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค โดยเฉพาะสา� นกั งาน • ภาครัฐควรมีมาตรการในการเสริมสราง คณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค ใหส้ ามารถปฏบิ ตั งิ านตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล ความเขมแข็งใหกับองคกรเพ่ือดําเนินงาน โดยภาครฐั จะตอ้ งมมี าตรการในการดา� เนนิ การ ดงั นี้ คมุ ครองผบู รโิ ภค สามารถทาํ ไดอ ยา งไรบา ง ๑. จัดให้มีการพิจารณาปรับปรุงระบบงานและกระบวนการบริหารภายในของ (แนวตอบ เพื่อใหการดําเนินงานคุมครอง สา� นกั งานคณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค เพอ่ื ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ รวมทงั้ สามารถสนบั สนนุ ผูบริโภคมีประสิทธิภาพ ภาครัฐควรมี หนว่ ยงานส่วนภมู ิภาคไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ มาตรการตา งๆ เชน จดั ใหมกี ารพิจารณา ๒. จัดให้มีการประสานประโยชน์จากหน่วยงานอ่ืน ๆ ท่ีด�าเนินงานเกี่ยวข้องกับการ ปรับปรุงระบบงานและกระบวนการบริหาร คมุ้ ครองผู้บริโภคอยแู่ ล้ว โดยเฉพาะการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร งานของหนว ยงานคมุ ครองผูบรโิ ภค จดั ให มีการสานประโยชนจากหนวยงานอื่นๆ ๓. พัฒนาด้านระบบการจัดเก็บ พฒั นาระบบการจดั เกบ็ รวบรวมและการนาํ รวบรวมและการน�าข้อมูลข่าวสารมาใช้ใน ขา วสารมาใชใ นงานคมุ ครองผบู รโิ ภค และ งานคุ้มครองผ้บู ริโภคไดท้ ันท ี โดยใชเ้ ทคโนโลยี แลกเปลย่ี นขอ มลู ขา วสารดา นการคมุ ครอง สมยั ใหม่ ผูบริโภค รวมถึงจัดสรรงบประมาณเพ่ือ ๔. จัดให้มีการประสานงานและ การดําเนินงานคุมครองผูบริโภคอยาง แลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารด้านการคุ้มครอง เหมาะสม) ผู้บริโภค ในระหว่างหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ และจัดส่ง 12. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายและแสดง บุคลากรเข้ารับการศึกษาอบรม ท้ังภายในและ ความคิดเห็นเพ่ิมเติมในประเด็น มาตรการ นอกประเทศ ของรัฐในการสงเสริมและสนับสนุนองคกร เอกชนในการดาํ เนนิ งานคุมครองผบู ริโภค 2 ๕. จัดสรรงบประมาณเพื่อการ ด�าเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคให้สอดคล้องกับ การตรวจสอบคณุ ภาพและราคาสนิ คา้ จากหนว่ ยงานภาครฐั สภาพการณใ์ นปจั จบุ นั จะท�าให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยและเป็นธรรม ในการบรโิ ภค ๑8๐ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 วิธกี ารรอ งทกุ ข หากผูบริโภคมปี ญหาถูกละเมิดสิทธิผูบ รโิ ภคในดา นตางๆ เพราะเหตใุ ดนกั เรียนจงึ ควรรแู ละเขา ใจสิทธหิ นาที่ของผบู รโิ ภค สามารถรองทุกขผา นเว็บไซตข องหนวยงานตา งๆ เชน (แนวตอบ เพราะนกั เรยี นเปน ผบู รโิ ภค ยอ มใชส ทิ ธขิ องตนในการ • หากไมไ ดร บั ความเปน ธรรมดา นการรกั ษาพยาบาล หรอื บรกิ ารของแพทย เลือกซ้ือสินคาและบริการไดอยางปลอดภัย และไดรับความเปน สามารถรอ งทกุ ขไ ดท เี่ วบ็ ไซตข องสาํ นกั งานแพทยสภา http://www.tmc. ธรรมจากผผู ลติ หากผบู รโิ ภคมีความรเู กยี่ วกับสทิ ธผิ บู รโิ ภค เม่อื or.th ไมไ ดร บั ความปลอดภยั หรอื ไมไ ดร บั ความเปน ธรรมจะไดร อ งเรยี น ไปยงั หนว ยงานทเี่ กย่ี วขอ ง เพอ่ื ใหผ ผู ลติ รบั ผดิ ชอบในสนิ คา ของตน • หากไมไดรับความเปนธรรมดานการปกครอง สามารถรองทุกขไดท่ี ตอผูบรโิ ภคและสังคม เชน ชดใชคาเสียหาย) เว็บไซตข องกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย http://www.dopa. go.th 2 การตรวจสอบคุณภาพและราคาสินคา กรมการคาภายใน กระทรวง พาณิชย มีหนาท่ีในการตรวจสอบคุณภาพสินคาและราคาสินคาท่ีวางจําหนาย ในทองตลาด หา งสรรพสนิ คา และรา นคา ทวั่ ไป เพือ่ ตรวจสอบคุณภาพสินคา และลงโทษผูฝาฝน ตามทกี่ ฎหมายกําหนด T198
นาํ สอน สรุป ประเมิน 4.5 การส่งเสรมิ และสนับสนุนองค์กรเอกชนเพอื่ ดา� เนินงาน ขน้ั สอน คุ้มครองผู้บรโิ ภค ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู โดยเนน้ ทง้ั ดา้ นการจดั องคก์ รเอกชนขน้ึ ใหม ่ และขอความรว่ มมอื จากหนว่ ยงานทม่ี อี ยแู่ ลว้ ให้ ขยายงานดา้ นการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค โดยมมี าตรการ ดงั น้ี 1. ครูสมุ ตัวแทนกลุม แตละกลุม เพอื่ ออกมาสรปุ ๑. จดั ตงั้ องคก์ รเอกชนทดี่ า� เนนิ งานเกยี่ วขอ้ งกบั การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในระดบั ตา่ ง ๆ สาระสําคัญของการอภิปรายเรื่อง หนวยงาน เชน่ ในหนว่ ยงานราชการ โรงพยาบาล เพอ่ื ใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั การบรโิ ภคทปี่ ลอดภยั เปน็ ตน้ และแนวทางการปกปองคุม ครองผบู ริโภค ๒. จดั ใหม้ กี ารสนบั สนนุ การดา� เนนิ งานขององคก์ รเอกชนทดี่ า� เนนิ งานเกยี่ วขอ้ งกบั การ คมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในดา้ นขอ้ มลู ขา่ วสาร ความรทู้ างดา้ นกฎหมาย และมกี ารประชมุ แลกเปลย่ี นขอ้ มลู 2. ครใู หน ักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 9.3 ขา่ วสาร และการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ระหวา่ งองคก์ รเอกชนทดี่ า� เนนิ งานเกย่ี วกบั การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค 3. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมเก่ียวกับหนวยงาน อยา่ งไรกต็ าม แมว้ า่ ผบู้ รโิ ภคจะไดร้ บั ความคมุ้ ครองจากพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผบู้ รโิ ภค และแนวทางการปกปองคุมครองผบู รโิ ภค ใน มีองค์กรของรฐั บาลท่ีจัดตั้งขึน้ เพอ่ื ตรวจสอบและรับรองคณุ ภาพสินค้าหลายหนว่ ยงาน แตก่ ็ แบบฝกสมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 ยังมีสินค้าท่ียังไม่ได้คุณภาพ ดังน้ัน การเลือกซื้อสินค้าที่องค์กรให้การรับรองคุณภาพก็เป็น แนวทางหน่งึ ท่ีท�าใหผ้ ู้บรโิ ภคได้รับสนิ ค้าและบรกิ ารท่มี คี ุณภาพไดม้ าตรฐาน แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม ขนั้ สรปุ ผบู้ ริโภคกจ็ ะตอ้ งมีหนา้ ที่ในการรบั ผิดชอบตนเองด้วย เช่น ใชส้ ินคา้ อยา่ งระมัดระวงั เพอื่ ให้เกดิ ความปลอดภยั ทา� ความเข้าใจกบั ฉลาก ค�าอธบิ าย รายละเอียดตา่ งๆ ของสนิ ค้า เพ่อื ท่จี ะได้ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู หรอื ใช PPT เป็นผู้บรโิ ภคทช่ี าญฉลาดและปลอดภัย สรปุ สาระสาํ คญั ของเนอื้ หา 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การจดั ทาํ โปสเตอรป ระชาสมั พนั ธ เรอ่ื ง แนวทางการปกปอ งและคมุ ครองผบู รโิ ภค 3. ครใู หน ักเรยี นทาํ แบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 เรอ่ื ง การคุมครองผบู รโิ ภค ขนั้ ประเมนิ 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และแบบวัดฯ เศรษฐศาสตร ม. 2 3. ครใู หนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรยี น หนวยการเรียนรทู ่ี 9 ๑8๑ กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล ใหนักเรียนแบงกลุมสืบคนขาว หรือยกตัวอยางเหตุการณที่มี ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอ้ื หา เรอื่ ง หนว ยงานและแนวทาง ผไู ดร บั อนั ตราย หรอื ผลกระทบจากการบรโิ ภค วเิ คราะหเ หตกุ ารณ การปกปองคุมครองผูบริโภค ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และ ตามขา ว ผลกระทบ แลว ทาํ กจิ กรรมเครอื ขา ยผบู รโิ ภค เพอื่ ชว ยเหลอื การนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผล ผบู รโิ ภคตามขา ว โดยใหอ อกแบบการชว ยเหลือผทู ี่ไดร ับผลกระทบ จากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู เชน การตรวจสอบคุณภาพสินคา ขั้นตอนการทําเรื่องรองเรียน หนว ยที่ 9 เรือ่ ง การคุมครองผบู ริโภค หนว ยงานทเ่ี กยี่ วขอ ง การเรยี กรอ งใหม กี ารเยยี วยาชดใชค า เสยี หาย การใชชองทางโซเชยี ลมเี ดยี ชว ยเหลอื นําเสนอผลงานในชัน้ เรยี น แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 การลาดับข้ันตอนของเร่ือง 3 วิธกี ารนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีส่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ T199
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คําถามประจาํ หนว ยการเรยี นรู คÓถาม ประจÓหน่วยการเรียนรู้ ๑. สิทธผิ บู้ ริโภคมอี ะไรบา้ งและมีความสา� คัญตอ่ ผ้บู รโิ ภคอยา่ งไร 1. สทิ ธผิ บู รโิ ภคตามกฎหมายมี 5 ประการ ไดแ ก ๒. พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองผูบ้ ริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ มีความสา� คัญตอ่ ผบู้ ริโภคอย่างไรบา้ ง 1. สิทธิท่ีจะไดรับขอมูลขาวสาร สรรพคุณ ๓. รัฐบาลมบี ทบาทสา� คญั ในการคุม้ ครองผูบ้ รโิ ภคอยา่ งไรบา้ ง ทกี่ ลา วถงึ สนิ คา และบรกิ ารตามความเปน จรงิ ๔. ถ้าหากนักเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือได้รับความเสียหายต่อร่างกายจากการบริโภค 2. สิทธิท่ีจะมีอิสระในการเลือกซื้อสินคาและ สนิ ค้าและบรกิ าร ควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร บรกิ าร 3. สิทธทิ ่ีจะไดร บั ความปลอดภัยจาก ๕. จงยกตัวอย่างหนว่ ยงานทที่ �าหนา้ ทค่ี ้มุ ครองผู้บริโภคมา ๑ หน่วยงาน พรอ้ มทั้งบอกหน้าท่ี การใชสินคาและบริการ 4. สิทธิไดรับความ และความสา� คัญ เปนธรรมในการทําสัญญา 5. สิทธิไดรับการ พจิ ารณาและชดเชยความเสียหาย สวนความ กิจกรรม สรา้ งสรรค์พฒั นาการเรียนรู้ สําคัญของสิทธิผูบริโภค เชน เพ่ือทําให ผูบริโภคไดรับความปลอดภัยและเปนธรรม กิจกรรมท ่ี ๑ น กั เรยี นสืบค้นข้อมูลแนวทางการคมุ้ ครองผูบ้ ริโภคและรว่ มกันอภิปรายแนวทาง จากการบริโภค การคุ้มครองสทิ ธขิ องตนเองในฐานะผู้บรโิ ภค 2. คุมครองสิทธิผูบริโภค 3 ดาน ไดแก ดาน โฆษณา ดานฉลาก และดานสัญญา เชน กิจกรรมที ่ ๒ นกั เรียนรวบรวมขา่ วหรือบทความที่เกี่ยวกับการละเมดิ สทิ ธิผบู้ รโิ ภค และน�ามา การคุมครองผูบริโภคดานโฆษณา จะตอง โฆษณาสินคาและบริการตามความเปน อภปิ รายถึงสาเหต ุ แนวทางการแก้ไขปญั หา จริง การคุมครองผูบริโภคดานฉลาก จะ ตองมีฉลากท่ีระบุถึงสาระสําคัญของสินคา กิจกรรมท ี่ ๓ นกั เรยี นอา่ นกรณศี กึ ษาตอ่ ไปน ้ี รว่ มกนั อภปิ รายตามประเดน็ ตวั อยา่ งทกี่ า� หนดให ้ เชน สวนประกอบของสินคา วันเดือนปที่ ผลิตและหมดอายุ คําเตือน การคุมครอง “ริสาซ้ือครีมบำารุงผิวยี่ห้อหนึ่งที่โฆษณาทางโทรทัศน์ว่า สามารถทำาให้ผิวขาว ผูบริโภคดานสัญญา เพื่อคุมครองผูบริโภค ได้ภายใน ๗ วัน จากรา้ นสะดวกซ้อื ขา้ งบา้ น หลังจากใชไ้ ด้ ๒ วนั รสิ ามผี น่ื คนั ไมใหถูกเอารัดเอาเปรียบจากการทําสัญญาท่ี ขน้ึ ตามแขนและขา เธอจงึ ไดไ้ ปพบแพทย์ แพทยว์ นิ จิ ฉยั วา่ เกิดจากการแพ้ครีม ไมไ ดร ับความเปน ธรรม บาำ รุงผวิ ” ประเดน็ อภิปราย • ริสาควรด�าเนินการอย่างไรเพอื่ พทิ กั ษส์ ิทธิผบู้ รโิ ภคของตนเอง 3. จัดตั้งหนวยงานในการพิจารณารับเรื่องราว • ผูผ้ ลิต ผขู้ าย ควรด�าเนนิ การอย่างไร รองทกุ ขจากผบู รโิ ภค รวมทั้งการแจง ขา วสาร เก่ียวกับสินคาและบริการที่อาจกอใหเกิด กิจกรรมท ่ี ๔ น กั เรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งกจิ กรรมการทเ่ี กยี่ วกบั คมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคภายในชมุ ชน ความเสียหายหรือเสื่อมเสียสิทธิของผูบริโภค และการดําเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิ ทนี่ กั เรียนอาศยั อยู่ ของผบู ริโภค ๑8๒ 4. สามารถรอ งเรยี นไดท ส่ี าํ นกั งานคณะกรรมการ คมุ ครองผูบริโภคประจําจังหวดั 5. เชน สาํ นกั งานคณะกรรมการคมุ ครองผบู รโิ ภค (สคบ.) เปนตัวกลางระหวางผูบริโภคกับ ผปู ระกอบการ รวมทง้ั ยงั เปน ผดู าํ เนนิ การแทน ผูร องเรยี นอีกดวย สคบ. มอี ํานาจหนาที่ เชน รบั เรอื่ งราวรอ งทกุ ขจ ากผบู รโิ ภคทไี่ ดร บั ความ เดือดรอน หรือเสียหายจากการกระทําของ ผูประกอบธุรกิจ ติดตามและสอดสองการ กระทาํ ท่มี ลี ักษณะละเมิดสทิ ธิผูบรโิ ภค เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู ประเมนิ ความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเร่ืองตางๆ โดยทั่วไป ซง่ึ เปน งานหรือชิ้นงานทใ่ี ชเวลาไมนาน สาํ หรับการประเมินรปู แบบนอี้ าจเปน คาํ ถามปลายเปดหรือผังมโนทัศน นิยมสาํ หรบั ประเมนิ ผเู รียนรายบคุ คล ประเมินความสามารถ • ใชใ นการประเมนิ ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญ หา ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต และความ สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือช้ินงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต ประจําวัน อันมีความเก่ียวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน จากการสังเกต การเขยี น การตอบคําถาม การวเิ คราะห การแกปญหา ตลอดจนการทํางานรว มกนั ประเมนิ ทักษะ • ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมท่ีตองมีความเก่ียวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความซับซอน และกอเกิดเปน ความชํานาญในการนาํ มาเปน แนวทางปฏบิ ตั ิจริงในชวี ติ ประจําวันอยา งยัง่ ยืน เชน ทกั ษะในการสื่อสาร ทกั ษะในการแกปญ หา ทักษะ ชวี ติ ในดา นตา งๆ โดยอาจมกี ารนาํ เสนอผลการปฏบิ ตั ิงานตอ ผูเ กี่ยวขอ ง หรอื ตอ สาธารณะ สง่ิ ทตี่ อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผี่ เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทต่ี อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน T200
Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ที่ใช้ จุดประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั แผนฯ ที่ 1 - หนังสอื เรยี น 1. อ ธบิ ายลกั ษณะส�ำคัญ การจดั การ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - ทักษะการ 2. ใฝเ่ รียนรู้ ระบบเศรษฐกิจ สังคมศึกษาฯ ม.2 ข้อดแี ละข้อเสยี ของ เรียนรู้แบบ - ต รวจการท�ำแบบฝกึ วิเคราะห์ 3. มุ่งมน่ั ในการ - แบบฝึกสมรรถนะ ระบบเศรษฐกิจแตล่ ะ ร่วมมอื : สมรรถนะและการคิด - ทักษะการ 1 เปรียบเทียบ ทำ� งาน และการคิด ประเภทได้ (K) เทคนคิ ค่คู ิด เศรษฐศาสตร์ ม.2 ชว่ั โมง เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. จ�ำแนกระบบเศรษฐกิจ สี่สหาย - ตรวจใบงานที่ 10.1, 10.2, 10.3 - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แต่ละประเภทได้ (P) - ประเมินการนำ� เสนอผลงาน - PowerPoint 3. เห็นความสำ� คัญของ - สังเกตพฤติกรรม - ใบงานที่ 10.1, 10.2, การศกึ ษาระบบเศรษฐกจิ การท�ำงานรายบุคคล 10.3 ทมี่ ผี ลตอ่ เศรษฐกจิ ของ - สังเกตพฤตกิ รรม สงั คมและการดำ� เนนิ ชวี ติ การท�ำงานกลมุ่ ประจำ� วนั เพม่ิ มากขึ้น - ประเมินคณุ ลกั ษณะ (A) อันพึงประสงค์ T201
แผนการจดั ส่อื ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ ีสอน ประเมนิ ทกั ษะที่ได้ คุณลกั ษณะ การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์ แผนฯ ที่ 2 การพง่ึ พาและ - หนังสอื เรยี น 1. อ ธิบายหลักการ การอภิปราย - ต รวจการท�ำแบบฝกึ - ทกั ษะการรวบรวม 1. มวี ินัย การแข่งขนั สังคมศึกษาฯ ม.2 และผลกระทบ สมรรถนะและการคิด ขอ้ มลู 2. ใฝ่เรียนรู้ ทางเศรษฐกิจ - แบบฝกึ สมรรถนะ จากการพงึ่ พาอาศัย เศรษฐศาสตร์ ม.2 - ทักษะการ 3. มุ่งม่นั ในการ ในทวีปเอเชยี และการคดิ และการแขง่ ขนั กนั - ตรวจการท�ำแบบวัดและ วเิ คราะห์ ทำ� งาน เศรษฐศาสตร์ ม.2 ทางเศรษฐกจิ ในทวปี บันทึกผลการเรยี นรู้ - ทกั ษะการ 2 - แบบทดสอบก่อนเรยี น เอเชยี ได้ (K) เศรษฐศาสตร์ ม.2 เปรียบเทียบ - PowerPoint 2. วิเคราะห์การกระจาย - ตรวจใบงานที่ 10.4 - ทกั ษะการให้ ชัว่ โมง - ใบงานที่ 10.4 ของทรัพยากรในโลกท่ี - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน เหตุผล ส่งผลต่อความสัมพันธ์ - สงั เกตพฤติกรรม - ทักษะการสร้าง ทางเศรษฐกิจระหว่าง การท�ำงานรายบคุ คล ความรู้ ประเทศได้ (K) - สงั เกตพฤตกิ รรม 3. วิเคราะห์การแขง่ ขนั การท�ำงานกลุ่ม ทางการค้าในประเทศ - ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ และต่างประเทศได้ (K) อันพงึ ประสงค์ 4. น �ำเสนอตวั อย่างการ - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน พ่งึ พาและการแข่งขนั ทางเศรษฐกจิ ในทวปี เอเชยี ได้ (P) 5. เห็นความสำ� คัญของ การศึกษาการพงึ่ พา และการแข่งขนั ทาง เศรษฐกจิ ในทวปี เอเชยี เพิม่ มากขนึ้ (A) T202
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑๐หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ระบบเศรษฐกจิ การพงึ่ พา การแขง ขนั ขน้ั นาํ (วธิ สี อนโดยการจดั การเรียนรู ทางเศรษฐกจิ ในทวปี เอเชยี »ÃÐà·Èµ‹Ò§ æ ã¹ แบบรวมมอื : เทคนคิ คูคดิ สส่ี หาย) ·ÇÕ»àÍàªÕ ÁÕÃкº àÈÃɰ¡Ô¨áººã´ áÅÐ 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ วธิ สี อน ชอ่ื เรอื่ งทจี่ ะ ÁÕÅѡɳСÒþÖè§¾Ò เรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการเรยี นรู áÅСÒÃᢋ§¢Ñ¹·Ò§ ?àÈÃɰ¡Ô¨Í‹ҧäà 2. ครูใหน ักเรยี นทาํ แบบทดสอบกอ นเรยี น หนวยการเรยี นรทู ี่ 10 เร่ือง ระบบเศรษฐกจิ การด�าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ มีความแตกต่างกันไปตามระบบ การพึง่ พา การแขง ขันทางเศรษฐกิจใน เศรษฐกิจ ซ่ึงโดยทั่วไปจะแบ่งเป็นระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ทวปี เอเชีย และระบบเศรษฐกจิ แบบผสม ท้งั นี ้ ประเทศตา่ ง ๆ ได้เลอื กใชร้ ะบบเศรษฐกิจใหเ้ หมาะสมกับสภาพ ทางเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศตน และในปจั จบุ นั ประเทศตา่ ง ๆ ในเอเชยี ไดม้ กี ารตดิ ตอ่ คา้ ขาย 3. ครนู าํ ภาพขา วเกยี่ วกบั การรวมกลมุ ทางเศรษฐกจิ กนั มากขน้ึ นา� ไปสกู่ ารเปิดเสรที างการค้า ดังนัน้ เศรษฐกิจของประเทศตา่ ง ๆ จึงตอ้ งมีการพึ่งพา ในโลกมาสนทนากับนักเรียน จากนั้นครู และมีการแขง่ ขนั กบั ประเทศตา่ ง ๆ มากขนึ้ ต้งั คําถาม เชน • การรวมกลุมดังกลาว สงผลดีตอประเทศ สมาชิกอยา งไร (แนวตอบ เชน การรวมเปน ประชาคมอาเซยี น สง ผลดตี อ ประเทศสมาชกิ เชน ทาํ ใหอ าเซยี น เปนตลาดเดียว มีการเคลื่อนยายแรงงาน บางสาขาไดอยางเสรี ทําใหลดปญหาการ ขาดแคลนแรงงาน) ตัวชว้ี ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ส ๓.๒ ม.๒/๑ อภปิ รายระบบเศรษฐกิจแบบตา่ ง ๆ • ร ะบบเศรษฐกิจแบบตา่ ง ๆ ส ๓.๒ ม.๒/๒ ยกตัวอย่างท่ีสะท้อนให้เห็นการพ่ึงพา • ห ลักการและผลกระทบการพึ่งพาอาศัยกันและการแข่งขัน อาศัยกนั และการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจในภมู ิภาคเอเชยี กันทางเศรษฐกจิ ในภูมภิ าคเอเชีย ส ๓.๒ ม.๒/๓ วิเคราะห์การกระจายของทรัพยากรในโลก • การกระจายของทรัพยากรในโลกที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ ท่ีส่งผลตอ่ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น น้�ามนั ป่าไม ้ ทองคา� ส ๓.๒ ม.๒/๔ วิเคราะห์การแข่งขันทางการค้าในประเทศ ถา่ นหิน แร ่ เป็นต้น และต่างประเทศที่ส่งผลต่อคุณภาพสินค้า ปริมาณการผลิต • ก ารแข่งขนั ทางการคา้ ในประเทศและตา่ งประเทศ และราคาสนิ คา้ ๑8๓ เกร็ดแนะครู การเรียนเก่ียวกับระบบเศรษฐกิจ การพึ่งพา การแขงขันทางเศรษฐกิจในทวีปเอเชีย เพ่ือใหนักเรียนไดเขาใจสภาพการณทางเศรษฐกิจในปจจุบันท่ีมี การคาเสรี ทาํ ใหมกี ารพึ่งพา การแขง ขนั กันสงู และเพอ่ื เตรียมความพรอ มของเยาวชนไทยในการเขา เปนประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น ดงั นนั้ ครูควรจัดการเรียน การสอน ดังนี้ • นาํ ขา วเศรษฐกจิ ของประเทศในทวีปเอเชยี มาอภิปรายสถานการณการคา การลงทนุ • ทํากิจกรรมกลมุ สืบคนขอมูลและวเิ คราะหส ถานการณการแขงขนั ทางเศรษฐกิจในทวปี เอเชยี • นําสถิตกิ ารนําเขา-การสง ออกของไทยมาวเิ คราะหการพึ่งพาทางการคาของไทย T203
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๑. ระบบเศรษฐกจิ 1. ครนู าํ ขา วเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าคเอเชยี มาสนทนา ระบบเศรษฐกิจ หมายถึง กระบวนการทางเศรษฐกิจที่เกิดจากความร่วมมือกันของมนุษย์ เกีย่ วกับการคา ระหวา งประเทศ ที่สวนใหญใ น ในการสรา้ งและใชท้ รพั ยากรเพอื่ สนองความตอ้ งการของสมาชกิ ในสงั คมทมี่ กี ารปฏบิ ตั คิ ลา้ ยคลงึ กนั ปจจุบันเปน การคา เสรี แตละประเทศสามารถ ระบบเศรษฐกิจจึงเป็นแนวทางที่สังคมใช้ ในการตัดสินใจร่วมกันของสมาชิกในสังคม และเป็น ทําการคาขายไดงายขึ้น จากนั้นครูใชคําถาม ผู้ด�าเนินการในทางเศรษฐกิจท้ังหมดในสังคมนั้น เช่น ก�าหนดว่าจะผลิตอะไร ผลิตอย่างไร ใหน กั เรียนไดว เิ คราะหร ว มกนั เชน ผลิตเพื่อใคร จ�านวนมากน้อยเท่าใด และจะจ�าแนกแจกจ่ายอย่างไรถึงจะไปถึงผู้บริโภคอย่างมี • ปจ จบุ นั ประเทศตา งๆในโลกมรี ะบบเศรษฐกจิ ประสทิ ธภิ าพมากท่สี ุด แบบใดบาง ระบบเศรษฐกจิ ในประเทศตา่ ง ๆ มลี กั ษณะแตกตา่ งกนั เนอื่ งมาจากการมรี ปู แบบการปกครอง (แนวตอบ ปจจุบันประเทศตางๆ มีระบบ จารตี ประเพณ ี ท่แี ตกตา่ งกัน ในปัจจบุ ันสามารถแบง่ ระบบเศรษฐกจิ ได้ ๓ ระบบ ไดแ้ ก่ ระบบ เศรษฐกิจ 3 แบบ ไดแก แบบทุนนิยม เศรษฐกิจแบบทนุ นิยม สังคมนิยม และแบบผสม แบบสังคมนิยม และแบบผสม) ๑.๑ ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ ม 2. ครูแบงนักเรียนเปนกลุม คละกันตามความ สามารถ โดยใหนักเรียนแตละกลุมจับสลาก ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นิยม (Capitalism) หรอื ในบางครั้งเรยี กว่า เศรษฐกิจแบบเสรีนยิ ม เลือกหมายเลขเพ่ือศึกษาความรู เร่ือง ระบบ หรอื ระบบเศรษฐกจิ แบบตลาด เปน็ ระบบเศรษฐกจิ ทใ่ี หเ้ สรภี าพแกเ่ อกชนในการเลอื กตดั สนิ ใจและ เศรษฐกจิ จากหนังสือเรยี น สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 สามารถบรหิ ารจัดการทรัพย์สนิ ของตนได้ว่าจะผลติ สินคา้ และบริการอะไร ผลติ อยา่ งไร และผลิต หรือจากแหลงการเรียนรูอ่ืนๆ เชน หนังสือ เพื่อใคร จึงจะได้ก�าไรสูงสุด ในการเลือกใช้ทรัพยากรจะปล่อยให้เป็นหน้าท่ีของเจ้าของปัจจัย ในหอ งสมดุ เว็บไซตใ นอนิ เทอรเ นต็ ประกอบ การผลิตทจ่ี ะท�าการตดั สินใจผลติ การทําใบงาน โดยครแู นะนําเพิ่มเติม ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเป็นท่ีนิยม ของหลายประเทศ ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นประเทศ ทางยโุ รปตะวนั ตกและทวปี อเมรกิ า โดยประเทศ ต่าง ๆ ในภูมิภาคดังกล่าวจะให้เสรีภาพกับ ภาคเอกชนในด้านการผลิต การป้องกันมิให้มี กกาารรผผูกลขิตา ดแ ลขะณใหะเ้มดีกียาวรกแันขก่ง็ใขหัน้เสกราีภราผพลทิตาสงินดค้าน้า1 อยา่ งเตม็ ท ่ี ทา� ใหป้ ระเทศเหลา่ นมี้ ผี ปู้ ระกอบการ ผลิตสินค้าออกมามากมาย ส่งผลให้ต้องมีการ แข่งขันกันในด้านคุณภาพและราคา ผู้บริโภค ได้บริโภคสินค้าท่ีดีมีคุณภาพได้มาตรฐาน ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบตลาด ผู้ประกอบการ ปลอดภัย ในราคาท่ีเป็นธรรม สามารถผลติ สนิ ค้าได้อย่างเสรี ทา� ให้มีสนิ ค้ามากมาย ๑84 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครยู กตวั อยา งประเทศท่ีใชระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ ม เชน สหรฐั อเมริกา ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ มมคี วามสาํ คัญอยา งไร แคนาดา ญป่ี ุน จากน้นั ใหนักเรยี นรวมกนั อภปิ รายถึงลักษณะเดน ทางเศรษฐกิจ 1. ทาํ ใหผูผลติ ใชท รพั ยากรไดต ามความตองการ ของประเทศที่ใชร ะบบเศรษฐกจิ แบบทุนนิยม 2. ทําใหภาครัฐเปนศูนยก ลางในการผลติ สินคาและบรกิ าร 3. ทาํ ใหเ กดิ การแขง ขนั ระหวา งผผู ลติ เพอ่ื สนองความตอ งการของ นักเรียนควรรู ผูบรโิ ภค 1 การแขงขันการผลิตสินคา เปนศักยภาพในการผลิตของผูประกอบการใน 4. ทําใหการดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเปนไปตามแผนพัฒนา ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม การแขงขันในการผลิตของเอกชนสามารถทําได อยา งเสรี เชน การลดราคาสนิ คา การโฆษณา การนาํ เทคโนโลยมี าใชใ นการผลติ ประเทศ เพ่ือเปนการจูงใจผูบริโภคในการตัดสินใจซื้อ การแขงขันการผลิตสงผลดี เชน ทําใหมีสินคาหลากหลาย ไดสินคาที่มีคุณภาพในราคาเหมาะสม แตมี (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 3. ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ มจะให ขอเสีย เชน ใชทรัพยากรส้ินเปลือง ผูผลิตรายยอยไมสามารถอยูไดเพราะ เสรีภาพกับเอกชนในการผลิตสินคา ทําใหมีการแขงขันกันผลิต ศักยภาพในการแขง ขันนอยกวา สนิ คา เพอ่ื ตอบสนองความตอ งการของผบู รโิ ภค ผบู รโิ ภคไดบ รโิ ภค สนิ คาทดี่ ี มคี ุณภาพ ในราคาท่ีเปนธรรม) T204
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ลกั ษณะสำ� คญั ขนั้ สอน ๑. เอกชนมสี ทิ ธเิ ปน็ เจา้ ของทรพั ยส์ นิ ปจั จยั การผลติ หรอื ทรพั ยากรตา่ ง ๆ ตามกฎหมาย มสี ทิ ธใิ นการสบื ทอด 3. ครสู มุ นกั เรยี นแตล ะกลมุ นาํ เสนอผลการศกึ ษา มรดก โดยเริ่มจากกลมุ หมายเลข 1 ระบบเศรษฐกจิ แบบทุนนิยม จากนั้นครูตั้งคําถามใหนักเรียน ๒. การด�าเนินการผลิต การจัดจ�าหน่ายและการแลกเปล่ียนต่าง ๆ เป็นไปในรูปแบบเอกชนท่ีมีเสรีภาพ รวมกนั ตอบ เชน ในการตัดสินใจทา� การผลติ จา� หนา่ ย และการดา� เนนิ กิจกรรมด้วยตนเอง • ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเอื้อประโยชน ๓. การด�าเนินกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจ ด�าเนินไปโดยผ่านกลไกราคา ผู้บริโภคสามารถเลือกซ้ือสินค้า ใหกบั ใครมากที่สดุ เพราะเหตใุ ด ทีม่ เี ป็นจา� นวนมากได้ ในขณะที่ผู้ผลิตกจ็ ะผลติ สินค้าออกขายเพ่ิมมากขึ้นตามความตอ้ งการของตลาด (แนวตอบ เอื้อประโยชนใหกับผูผลิตภาค ๔. การแขง่ ขัน ผ้ผู ลิตมสี ิทธจิ ะผลิตสนิ คา้ แขง่ กันได ้ เมอื่ มผี ผู้ ลิตหลายรายท�าใหร้ าคาสนิ ค้าถกู ลง เอกชน นายทุนมากท่ีสุด เพราะเอกชนมี สิทธิเสรีภาพในการผลิตสินคาและบริการ ข้อดี ๑. ขเ อ้กเิดสคียวามไม่เท่าเทียมในการกระจายรายได1้ ดวยตนเอง ประกอบกับมีการแขงขันกัน ๑. เกดิ แรงจงู ใจในการผลติ และการทา� งาน ผทู้ มี่ ี อยางเสรี โดยมีกลไกราคาเปนตัวกําหนด เน่ืองจากผู้ท่ีมีความรู้ความสามารถสูง ทําใหผูผลิตมีการแขงขันกันสูง สงผลใหมี ความสามารถสูงสามารถผลิตสินค้าได้มาก มโี อกาสในการสร้างงาน สร้างรายไดม้ ากกวา่ สนิ คาใหผ บู รโิ ภคเลือกอยา งหลากหลาย) ขายสินคา้ ได้มาก ก็จะมรี ายไดแ้ ละกา� ไรมาก ๒. หากมผี ผู้ ลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอยนู่ อ้ ยราย ผผู้ ลติ จงึ ก่อให้เกดิ แรงจงู ใจในการท�างาน มีโอกาสรวมตัวกันผูกขาดการผลิตเพราะรัฐ 4. ครใู หนักเรียนรวมกันวิเคราะหถ ึงขอดี ขอ เสีย ๒. ผู้บริโภคได้บริโภคสินค้าท่ีมีคุณภาพดี ราคา ไมไ่ ดเ้ ขา้ ไปควบคมุ ดแู ลหรอื แทรกแซง จงึ สง่ ผล ของระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม ถกู และหลากหลาย ให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ เช่น ต้อง (แนวตอบ ขอ ดขี องระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ ม ๓. ผู้ผลิตต้องแข่งขันขายสินค้า จึงต้องมีการ บรโิ ภคสนิ คา้ ในราคาสงู เชน ผูผลิตเกิดแรงจูงใจในการผลิตสินคา ปรับปรงุ เทคนิคการผลิตอย่เู สมอ ๓. ใชท้ รัพยากรเปลือง เชน่ ทรพั ยากรธรรมชาติ และการทํางาน เพราะผูที่มีความสามารถสูง ๔. ลดภาระของรัฐบาลในการเข้าไปด�าเนินการ จะถกู นา� มาใชเ้ พอ่ื การตอบสนองความตอ้ งการ สามารถผลิตสินคาไดมาก ก็จะมีรายได เกยี่ วกบั ระบบเศรษฐกจิ ของตลาดในขณะนั้น แทนการอนุรักษ์ไว้ และกําไรมาก แตมีขอเสีย เชน เกิดความ ไมเ ทา เทยี มกนั ในการกระจายรายได เนอื่ งจาก ๔. เ สกา� ิดหลรบััทอธนิวัาตคถตุนิยมและบริโภคนิยม2 ซ่ึงมีผล ผมู คี วามสามารถในการผลติ สงู มโี อกาสในการ ผลิต การขายสามารถสรา งรายไดไดมากกวา กระทบตอ่ สงั คม เนอื่ งจากความตอ้ งการสนิ คา้ ทําใหผูประกอบการรายเล็กที่มีศักยภาพ มักได้รับการกระตุ้นโดยผู้ผลิตและสังคมให้มี ในการผลิตนอยกวาไมสามารถอยูได ซึ่งเปน การบริโภคสินค้าแปลกใหม่ ซึ่งผู้ผลิตต้อง โอกาสใหมีการผูกขาดการผลิตโดยผูผลิตที่มี แข่งขันในตลาดโดยการโฆษณาจูงใจ การ ความไดเปรยี บสูง) บริโภคขยายตัว ในขณะท่ีทรัพยากรมีจ�ากัด ครวั เรอื นมรี ายไดจ้ �ากัด ๑.๒ ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนยิ ม ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม (Socialism) หรือแบบวางแผนจากส่วนกลาง เป็นระบบ เศรษฐกจิ ทห่ี นว่ ยเศรษฐกจิ ตา่ ง ๆ ทา� หนา้ ท ่ีโดยมรี ฐั เปน็ ศนู ยก์ ลางในการวางแผนการจดั สรรทรพั ยากร ฉะนนั้ การตดั สนิ ใจของประชาชนจะขนึ้ อยกู่ บั รฐั บาล ทง้ั ในดา้ นการอปุ โภคบรโิ ภค การประกอบอาชพี การลงทุนทางการคา้ การกา� หนดราคาหรอื ผลตอบแทนจากการซอื้ ขายแลกเปล่ยี น โดยเน้นด้าน สวัสดิการของประชาชน เพ่ือให้สอดคล้องกับเป้าหมายต่าง ๆ ท่ีรัฐบาลก�าหนดไว้อย่างเคร่งครัด กล่าวคือ รัฐจะเป็นผู้ก�าหนดวางแผนว่าสังคมจะต้องผลิตสินค้าและบริการอะไรในปริมาณเท่าใด ผลติ อยา่ งไร ผลติ เพอื่ ใคร และกา� หนดราคาสินค้าและบรกิ าร คา่ จา้ งในการผลติ เอง ๑85 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู “เกิดชองวางทางเศรษฐกิจและสังคม ทําใหเกิดการผูกขาด 1 กระจายรายได เปนการปนรายไดใหแกผูผลิตสินคาและบริการ รวมถึง ของผทู ม่ี กี าํ ลงั ทนุ ในทางเศรษฐกจิ และอาจมกี ารเอารดั เอาเปรยี บ เจาของปจ จยั การผลิตอยา งเปน ธรรม ไดแ ก คาจา ง คา เชา ดอกเบ้ยี และกาํ ไร ซึ่งเกิดจากการผูกขาดของเจาของทุน” เปนขอเสียของระบบ ของเจา ของปจ จัยการผลิต เศรษฐกิจใด 2 บริโภคนิยม การนิยมบริโภคสินคาฟุมเฟอยจนเกินความตองการที่จําเปน ในชวี ติ และฐานะรายได เชน การนยิ มรบั ประทานอาหารฟาสตฟ ดู การซอื้ เสอื้ ผา 1. ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม แบรนดเนม เครื่องสําอางแพงๆ ซึ่งของเหลาน้ีสวนใหญเปนสินคานําเขาจาก 2. ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ ม ตา งประเทศ การบรโิ ภคนยิ มในระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ มมกั มากบั การแขง ขนั กนั 3. ระบบเศรษฐกจิ แบบสังคมนยิ ม ผลติ สินคา ทําใหม ีการโฆษณาจงู ใจใหมกี ารบริโภคเพ่มิ ขนึ้ ถาหากคนในสังคม 4. ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต มีพฤติกรรมการบริโภคนิยมสูง สงผลใหคนเปนหนี้สินเพิ่มข้ึน ประเทศตอง (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. ในระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ ม เอกชน ขาดดุลการคาเพราะมีการนําเขาสินคาสูง เพื่อสนองความตองการของคนใน มีสิทธิเปนเจาของทรัพยสินและปจจัยการผลิต สามารถดําเนิน ประเทศ การผลิต การจัดจําหนายและการแลกเปล่ียนตางๆ ดวยตนเอง ทําใหผูท่ีมีความสามารถในการผลิตสูงสามารถผลิตสินคาไดมาก T205 ขายสนิ คาไดมาก ไดกําไรมาก อาจเกดิ การผูกขาดได สว นผูท่ีมี ความสามารถในการผลติ และการจาํ หนา ยนอ ยกวา จะเสยี เปรยี บ)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ลักษณะส�ำคัญ 5. ครนู าํ สนทนาถงึ ประเทศทมี่ รี ะบอบการปกครอง ๑. ร ฐั เปน็ เจา้ ของกรรมสทิ ธใ์ิ นทรพั ยส์ นิ เปน็ เจา้ ของปจั จยั การผลติ หรอื ทรพั ยากรตา่ ง ๆ ของสงั คม รวมทงั้ แบบสังคมนยิ มในประเดน็ ตา งๆ ควบคุมการถ่ายโอนมรดกที่สรา้ งความเหลือ่ มลา�้ ทางสงั คม ๒. การด�าเนนิ การผลติ การจัดจา� หนา่ ยและการแลกเปลีย่ นตา่ ง ๆ กระท�าโดยรัฐ รฐั เป็นผู้วางแผนเศรษฐกิจ 6. ครใู หน กั เรยี นกลมุ หมายเลข 2 ระบบเศรษฐกจิ และจ�ากัดสิทธเิ สรภี าพทางธรุ กจิ ของเอกชน แบบสงั คมนิยม นาํ เสนอผลการศึกษา ๓. การด�าเนินกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจด�าเนินไปโดยการปันส่วนและการแทรกแซงของรัฐ รัฐจะเป็น ผกู้ �าหนดปรมิ าณการผลิตและราคาสนิ ค้า 7. ครูใหนักเรียนอภิปรายรวมกันผานการตั้ง ๔. การแข่งขันถูกจ�ากัดโดยรัฐจะเป็นผู้ผูกขาดหรือด�าเนินการแทรกแซงมิให้กลไกราคาท�าหน้าท่ีโดยเสร ี คําถาม เชน โดยเฉพาะสนิ ค้าส�าคัญหรือกระทบต่อประชาชนมาก • ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ มเออ้ื ประโยชน ใหกับประชาชนหรือไม เพราะเหตุใด ข้อดี ข้อเสยี (แนวตอบ เอื้อประโยชนใหกับประชาชนใน ดา นความเสมอภาคในการดาํ รงชวี ติ เพราะ ๑. ปดูแรละชเกาี่ยชวนกมับีสคววัสาดมกิ เาทร่าจเาทกียรฐัม1กัน ได้รับการ ๑. การวางแผนจากส่วนกลางและการด�าเนิน ประชาชนไดรับสิทธิเสรีภาพเทาเทียมกัน กิจการของรัฐ หากวางแผนและนโยบายไมด่ ี แตใ นเรือ่ งการเมอื ง การปกครอง เศรษฐกิจ ๒. ร ฐั บาลสามารถควบคมุ การผลติ ใหเ้ ปน็ ไปตาม อาจท�าให้การจัดสรรทรัพยากรไม่ก่อให้เกิด รฐั บาลจะเปน ผูค วบคุมทัง้ หมด) นโยบาย ประโยชน์ เช่น อาจท�าให้เกิดการขาดแคลน • ในปจจุบันประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบ หากรัฐขาดความรู้ ความสามารถหรือขาด สงั คมนิยม ไดม ีการปรับเปลีย่ นรปู แบบบาง ๓. ม ีการแข่งขันทางการค้า และล้มเลิกการ ประสิทธิภาพในการด�าเนนิ การ หรอื ไม อยา งไร ผกู ขาดโดยเอกชนในบางธรุ กจิ ทา� ใหเ้ ศรษฐกจิ (แนวตอบ ในปจจุบันบางประเทศที่มีระบบ ไม่คอ่ ยผันแปรข้นึ ลงมากนัก ๒. ป ระชาชนไม่มีเสรีภาพอย่างเต็มที่ในการท�า เศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ ม ไดม กี ารผอ นคลาย ธุรกิจท่ีตนมีความรู้ความสามารถ ท�าให้ขาด กฎระเบียบตางๆ เพื่อใหเหมาะสมกับ ก�าลังใจในการพฒั นาประสทิ ธภิ าพ โลกในยุคโลกาภิวัตนท่ีเนนการคาเสรี เชน ใหเ อกชนดาํ เนนิ ธรุ กจิ และเปน เจา ของปจ จยั ๓. ขาดแรงจูงใจในการคดิ ค้นสิง่ ใหม ่ ๆ การผลิต โดยรัฐจะดําเนินการในกิจการ ขนาดใหญ เชน อตุ สาหกรรมข้ันพ้นื ฐาน) ในทางปฏิบัติระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม มิใช่รัฐบาลเป็นเจ้าของกิจการทุกอย่าง แตข่ น้ึ อยกู่ บั ความเครง่ ครดั ของรฐั บาลทจ่ี ะเปดิ โอกาสใหเ้ อกชนมที รพั ยส์ นิ สว่ นตวั ได้ค่อนข้างมาก โหดรยอื รเฐัรยีเกกบ็ วภา่ ารษฐั ใี สนวอสั ตั ดรกิ าาทรสี่2 งูแ ตเพก่ อ่ืานรดา� า�ไปเนในิชเ้กปจิ น็ กหารลขกั นปารดะใกหนั ญในจ่ กะถารกู ดคา�วเบนคนิ มุ ชโวีดติ ยขรอฐั ง ปโดรยะเชฉาพการะสอว่ ยนา่ ใงหยญง่ิ ่ อตุ สาหกรรมขน้ั พนื้ ฐาน กรรมสทิ ธใ์ิ นทรพั ยส์ นิ หรอื ทรพั ยากรมกั เปน็ ของรฐั การตดั สนิ ใจของรฐั บาล หรอื การวางแผนจากสว่ นกลางจะทา� หนา้ ทแ่ี ทนกลไกราคา ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ ม เปน็ ระบบเศรษฐกจิ ทม่ี อี ยใู่ นหลายประเทศทม่ี พี นื้ ฐานทางดา้ น การเมืองการปกครองแบบสังคมนิยม เช่น ลาว เมียนมา เวียดนาม เกาหลีเหนือ ซึ่งรัฐบาล อาจเข้าไปเก่ียวข้องและด�าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจแตกต่างกัน แต่หลักการใหญ่คล้ายคลึงกัน ในปัจจบุ นั ระบบเศรษฐกจิ แบบนมี้ ีการยดื หยนุ่ โดยให้เอกชนท้ังในและตา่ งประเทศเข้ามาลงทุน ๑86 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 สวัสดิการจากรัฐ การท่ีรัฐเขามามีบทบาทรับผิดชอบและตอบสนองความ ขอ ใดเปน จุดมงุ หมายสําคัญของระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนยิ ม ตอ งการพนื้ ฐานของประชาชนในดา นตา งๆ เชน การศกึ ษา เศรษฐกจิ สขุ อนามยั 1. รกั ษาเสถียรภาพทางเศรษฐกจิ ประกันสังคม การใชบ ริการ สาธารณปู โภคพื้นฐาน 2. ทําใหเ กิดการกระจายรายไดอ ยางเปนธรรม 2 รัฐสวัสดิการ เปนระบบทางสังคมท่ีรัฐมีบทบาทความรับผิดชอบตอ 3. ลดการทุจริตคอรร ัปชันในการบรหิ ารจัดการ ความเปนอยูของประชาชนในประเทศ โดยการใหหลักประกันพ้ืนฐานในการ 4. สรางแรงจงู ใจใหป ระชาชนทํางานเพอ่ื ผลประโยชนข องชาติ ดาํ เนนิ ชวี ติ อยา งเทา เทยี มกนั ในดา นปจ จยั พนื้ ฐานทจ่ี าํ เปน สาํ หรบั การมคี ณุ ภาพ ชวี ติ ทดี่ ี เชน หลกั ประกนั ดา นสขุ ภาพ หลกั ประกนั ดา นการศกึ ษา ทกุ คนมโี อกาส (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. ลกั ษณะสาํ คญั ของระบบเศรษฐกจิ ไดร บั การศึกษาตามความสามารถ โดยไดร บั ทุนการศึกษาฟรจี นทํางานไดต าม แบบสังคมนิยม คือ กรรมสิทธิ์ในทรัพยสินหรือปจจัยการผลิต ความสามารถในการเรยี น หลกั ประกนั ดา นการวา งงาน โดยรฐั ตอ งชว ยใหท กุ คน สวนใหญเปนของรัฐ เอกชนไมมีเสรีภาพในการดําเนินกิจกรรม ไดง านทํา หลักประกนั ดา นทอ่ี ยูอาศยั ที่ดนิ ทาํ กนิ โดยนาํ เงินจากภาษที ี่เก็บได ทางเศรษฐกิจ กลไกราคาไมมีบทบาทสําคัญ เพราะรัฐควบคุม จากประชาชน ซ่ึงจะใชระบบการเก็บภาษีแบบกาวหนา เก็บเบ้ียประกันสังคม ดแู ลกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ โดยมจี ดุ มงุ หมายสาํ คญั คอื ทาํ ใหเ กดิ จากคนทที่ าํ งานตามอตั ราเงนิ เดือน มาจดั สวัสดกิ ารใหกับประชาชน การกระจายรายไดอ ยา งเปน ธรรม ทาํ ใหป ระชาชนไดร บั สวสั ดกิ าร ตา งๆ จากรัฐโดยทั่วถงึ ) T206
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๑.๓ ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม ขน้ั สอน ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม (Mixed economy) เปน็ ระบบเศรษฐกจิ ท่ีรัฐเปดิ โอกาสให้เอกชน ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู ทา� การผลติ แตร่ ฐั กเ็ ขา้ ไปแทรกแซงหรอื มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ดว้ ย เพอื่ ใหเ้ กดิ ความ เป็นธรรมทางเศรษฐกิจและเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยการผสมผสานกันระหว่างระบบเศรษฐกิจ 8. ครใู หน กั เรยี นกลมุ หมายเลข 3 ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยมกบั ระบบเศรษฐกจิ แบบสังคมนยิ ม แบบผสม นาํ เสนอผลการศกึ ษา ลกั ษณะส�ำคญั 9. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายถึงลักษณะ สําคัญ ขอดี ขอเสีย ของระบบเศรษฐกิจ ๑. เอกชนมีสิทธ์ิเป็นเจ้าของทรัพย์สิน เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตหรือทรัพยากรต่าง ๆ ตามกฎหมาย แบบผสมเพ่มิ เติม รวมทงั้ บางกจิ การ ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ สาธารณชน ซง่ึ รฐั เปดิ โอกาสใหเ้ อกชนดา� เนนิ การ เชน่ ถนน ทางดว่ น (แนวตอบ ขอ ดี เชน เอกชนมสี ิทธเิ ปนเจา ของ ไฟฟา้ เปน็ ต้น ปจจัยการผลิต มีเสรีภาพในการผลิต แตมี ๒. การด�าเนินการผลิต การจัดจ�าหน่ายและการแลกเปล่ียนต่าง ๆ เป็นไปในรูปแบบเอกชน ซึ่งมีเสรีภาพ ขอ เสยี เชน การบริหารจดั การของรฐั บาลไม ในระบบเศรษฐกิจ แต่รัฐจะมีบทบาทแทรกแซงในกิจการท่ีส�าคัญและมีผลกระทบต่อสาธารณชน แนนอน) และมบี ทบาทในการวางแผนเศรษฐกจิ ในลกั ษณะชน้ี �าภาคเอกชนและการดา� เนินงานของภาครฐั ๓. การด�าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจมักอาศัยกลไกราคาในการจัดสรรทรัพยากร เพื่อแก้ปัญหาความ 10. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมที่เก่ียวกับระบบ ขาดแคลน หรือแทรกแซงการก�าหนดราคาสินค้ารายการส�าคัญ ๆ เช่น ราคาสินค้าขั้นต่�า ราคาพยุง เศรษฐกจิ ในแบบฝก สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ของสนิ ค้าเกษตร อาหาร ก�าหนดอัตราคา่ แรงขั้นต่�าเพ่ือช่วยเหลอื ผู้ ใช้แรงงาน เปน็ ต้น ม.2 ๔. การแข่งขนั ได้รบั การยอมรับ แต่รฐั จะแทรกแซงให้มคี วามเป็นธรรมเพอ่ื ปอ้ งกนั การผกู ขาด ขน้ั สรปุ ข้อดี ขอ้ เสีย ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ ๑. ม ีความคล่องตัวในการด�าเนินการ เพราะ ๑. การบรหิ ารจัดการของรัฐบาลไม่แนน่ อน ระบบเศรษฐกิจ หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพการณ์ของ ๒. การบริหารงานของรัฐในกิจการอุตสาหกรรม ของเนื้อหา ตลอดจนความสําคัญท่ีมีผลตอการ เศรษฐกจิ ดาํ เนินชีวติ ประจําวนั บางประเภท หรือการบริการจ�านวนมากยัง ๒. เอกชนมีบทบาททางเศรษฐกิจ มีการแข่งขัน ขาดประสิทธิภาพ เมอ่ื เทียบกับภาคเอกชน ขนั้ ประเมนิ กนั ผลติ สนิ คา้ จงึ มคี ณุ ภาพ ประชาชนสามารถ ๓. ก ารวางแผนจากส่วนกลางเพ่ือประสาน เลอื กบริโภคได้ ประโยชน์ของรัฐกับเอกชนให้เกิดผลดีต่อ ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล ส่วนรวมอยา่ งแทจ้ ริง ท�าไดย้ าก ๓. ป ระชาชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐต่าง ๆ ๔. ก�าลังใจ หรือแรงจูงใจส�าหรับเอกชนยังม ี 1. ครปู ระเมนิ ผลจากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ไม่ว่าจะเป็นระบบสาธารณูปโภค การศึกษา ไม่มากพอ เพราะต้องเส่ียงกับนโยบายท่ี ทาํ งาน และการนําเสนอผลงาน การสาธารณสุข และสวสั ดกิ ารอนื่ ๆ ไมแ่ นน่ อนของภาครฐั หรอื การถกู เขา้ ควบคมุ กจิ การ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก ๔. ประชาชนมีเสรภี าพในการประกอบอาชีพ สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 ๑87 ขอ สอบเนน การคิด แนวทางการวัดและประเมินผล ประเทศไทยมีระบบเศรษฐกิจแบบใด เพราะเหตุใด ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง ระบบเศรษฐกิจ ได จากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน (แนวตอบ ประเทศไทยมรี ะบบเศรษฐกิจแบบผสม เพราะมีการ โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ี ดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจท้ังระบบทุนนิยมและสังคมนิยม แนบมาทายแผนการจดั การเรยี นรหู นวยที่ 10 เรือ่ ง ระบบเศรษฐกจิ การพง่ึ พา ในบางประการ เชน การใหเอกชนมีเสรีภาพในการประกอบ การแขง ขันทางเศรษฐกจิ ในทวปี เอเชีย กิจการและมีสิทธิในปจจัยการผลิตสินคาและบริการท่ีตนเอง ผลิตได การผลิต การบริโภค และการจําหนายสินคาและบริการ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ยังคงอาศัยกลไกราคา ซึ่งเปนลักษณะของระบบเศรษฐกิจแบบ ทนุ นยิ ม แตจ ะมกี ารแทรกแซงจากรฐั ในบางชว งเวลาทมี่ ผี ลกระทบ คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขดี ลงในช่องท่ี ตอ ประชากรในประเทศ เชน มกี ารควบคมุ ราคาสนิ คา บางประเภท ตรงกบั ระดบั คะแนน มีการประกันราคาข้ันต่ํา ซึ่งถือเปนการแทรกแซงการทํางานของ กลไกราคาตามระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนยิ ม) ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 2 การลาดับข้ันตอนของเร่ือง 3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีส่วนรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม รวม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ T207
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ (วธิ สี อนโดยการอภปิ ราย) ปัจจุบันประเทศที่มีการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตย ส่วนมากจะใช้ระบบเศรษฐกิจ แบบผสม เช่น ประเทศไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยมีการวางแผนเศรษฐกิจเพ่ือประสาน 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเร่ือง นโยบายตา่ ง ๆ ท้งั ในภาครัฐและเอกชน ให้ด�าเนนิ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ท่ีสอดคลอ้ งกัน เพื่อรักษา ทจ่ี ะเรยี นรู จุดประสงคการเรียนรู และผลการ เสถยี รภในาพยคุทขาองเงศกราษรฐคก้าิจเสแรล ี1ะปครวะาเทมศมตน่ั า่คงง ๆข อไงดชม้ ากีตาิใหรต้คิดงตออ่ยตู่คอ่า้ ขไปาย มกี ารรวมกลุ่มเศรษฐกิจ2 ทา� ให้ เรยี นรู มรี ะบบเศรษฐกจิ ทย่ี ดื หยนุ่ และมงุ่ แกป้ ญั หาพนื้ ฐานทางเศรษฐกจิ คอื ผลติ อะไร ผลติ อยา่ งไร และ ผลิตเพอื่ ใคร โดยทกุ ระบบเศรษฐกิจตา่ งก็มุ่งไปทีก่ ารหาวธิ ีการจดั สรรทรพั ยากรทมี่ ีอย่อู ย่างจา� กดั 2. ครูนําขาวตางๆ เชน การนําเขาเทคโนโลยี ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เกิดความสมดุลต่อสังคมหรือตอบสนองความต้องการของ สมยั ใหมจ ากตา งประเทศเขา มาใชใ นประเทศไทย สงั คมน้นั ๆ มาสนทนากับนักเรียน จากนั้นครูตั้งประเด็น คําถามเพอ่ื นาํ เขาสูบ ทเรียน เชน ๒. การพ่ึงพาและการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ ในเอเชีย • เพราะเหตใุ ดประเทศไทยจงึ ตอ งมกี ารนาํ เขา สินคาจากตางประเทศ หรือตองพ่ึงพาการ ๒.๑ การพง่ึ พาทางเศรษฐกจิ ในภมู ิภาคเอเชยี ลงทุนจากตา งชาติ การพงึ่ พาทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ เปน็ สภาพทป่ี ระเทศหนง่ึ มคี วามสมั พนั ธท์ างเศรษฐกจิ ขน้ั สอน ในลักษณะท่ีพึ่งพาอาศัยความต้องการของอีกประเทศหนึ่ง หรือในลักษณะที่ต่างพ่ึงพาอาศัย ซ่งึ กันและกนั ขัน้ ที่ 1 เตรยี มการอภิปราย ๑) หลกั กำรพง่ึ พำทำงเศรษฐกจิ การพง่ึ พาทางเศรษฐกจิ ทส่ี �าคญั อาจมหี ลายดา้ น 1. ครถู ามนกั เรยี นถงึ ความเขา ใจเบอ้ื งตน เกยี่ วกบั การพ่ึงพาและการแขงขันทางเศรษฐกิจใน ท สี่ �าคัญ ไดแ้ กก่ ากรคารา้ พแลง่ึ ะพกาาทราลงงกทานุ รรคะ้าห วกา่ างรปลรงะทเทนุ ศ 3แ ทลา� ะใกหาค้ รวพางึ่มพสามั อพานัศธัยท์ เทางคเโศนรโษลฐยกี จิ ระหวา่ งประเทศ ทวีปเอเชีย มีความแน่นแฟ้นและเชื่อมโยงกันอย่างมาก ในด้านการค้าระหว่างประเทศน้ัน เมื่อประเทศหน่ึง มีรายได้มากขึ้น ความต้องการสินค้าก็จะเพ่ิมสูงข้ึนตาม ความต้องการสินค้าท่ีเพ่ิมข้ึนเหล่าน้ี 2. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละ 5-7 คน สบื คน สว่ นหน่งึ มกั ต้องน�าเข้าจากตา่ งประเทศ ดังน้ัน ประเทศที่ส่งออกกจ็ ะมีความสามารถสง่ ออกสินค้า ขอมูลเกี่ยวกับการพ่ึงพาและการแขงขันทาง ของตน เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของประเทศที่มรี ายได้เพ่ิมสูงข้ึนดงั กล่าว เศรษฐกจิ ในเอเชยี ทรพั ยากรกบั ความสมั พนั ธ การพึ่งพาทางการค้าระหว่างประเทศมักส่งผลให้ประเทศผู้ค้ามีการเปลี่ยนแปลง ทางเศรษฐกจิ ระหวา งประเทศ จากหนงั สอื เรยี น ทางเศรษฐกิจท่สี ัมพันธก์ นั และสามารถได้รบั ประโยชน์รว่ มกันในทางการคา้ ไดด้ ว้ ย สังคมศึกษาฯ ม.2 หรือจากแหลงการเรียนรู ในการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ประเทศผู้ลงทุนที่มีแหล่งเงินทุนมากและ อ่ืนๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตใน มีความเช่ียวชาญในการบริหารจัดการ สามารถจัดหาเครื่องจักรและเทคโนโลยีส�าหรับการลงทุน อินเทอรเ น็ต และการผลิตได้ดี ประเทศผู้ลงทุนนี้อาจพบว่าต้นทุนอ่ืน ๆ ของตนอยู่ในระดับสูง เช่น มีค่าจ้าง แรงงานท่ีแพง หรือขาดทรัพยากรการผลิตท่ีส�าคัญ ดังน้ัน เพื่อลดต้นทุนการผลิตของตนจึงอาจ ตดั สนิ ใจลงทนุ ในประเทศทมี่ สี ภาพเงอื่ นไขทางเศรษฐกจิ และสนิ คา้ ทเ่ี หมาะสมกบั การลงทนุ ของตน ๑88 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 การคา เสรี การคา ทส่ี นบั สนนุ ใหแ ตล ะประเทศผลติ สนิ คา ตามความสามารถ ขอใดเปนเหตุผลสําคัญที่ทําใหประเทศในภูมิภาคตางๆ ความชาํ นาญ และสงเสริมใหม กี ารคา ระหวางประเทศอยา งกวางขวาง ไมม ีการ พยายามรวมตวั จดั ต้ังกลมุ ความรว มมอื ทางเศรษฐกจิ ตั้งกําแพงภาษีขาเขา หรือขอจํากดั อื่นเพื่อกีดกันสนิ คา ทีผ่ ลติ จากตา งประเทศ 2 การรวมกลุมเศรษฐกจิ เพอื่ ประโยชนท างการคา เพอ่ื ลดหรือเลกิ อุปสรรค 1. เพ่ือใหเ กิดอํานาจตอ รองที่เขม แขง็ ทางการคา ระหวา งกนั สรา งอาํ นาจตอ รองในการเจรจาทางการคา นอกกลมุ เชน 2. เพอ่ื ขยายตลาดสนิ คา ใหก วา งขวางขึน้ องคการการคาโลก หรือ WTO สหภาพยุโรปในทวีปยุโรป ประชาคมอาเซียน 3. เพอ่ื สรางความใกลช ดิ กันทางเศรษฐกจิ ในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต 4. เพอ่ื ตอตานชาติมหาอํานาจทางเศรษฐกิจ 3 การลงทนุ ระหวา งประเทศ การทรี่ ฐั บาลหรอื เอกชนของประเทศหนงึ่ นาํ เงนิ ไปลงทนุ ดาํ เนนิ ธรุ กจิ เพอื่ แสวงหาผลกาํ ไรในอกี ประเทศหนง่ึ เชน ประเทศญปี่ นุ (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. การรวมกลุมกันทางเศรษฐกิจ มาตั้งโรงงานผลติ ชิน้ สว นรถยนตใ นไทย ทําใหม ีการจางงานในประเทศเพ่ิมขน้ึ เพ่ือสรางอํานาจตอรอง หรือกีดกันการคากับประเทศท่ีไมไดเปน สมาชกิ ของกลมุ และเพอ่ื มิใหเ สยี ประโยชนจากการทาํ การคาโดย ลําพังกับกลุมเศรษฐกิจตางๆ ซ่ึงจะทําใหประเทศมีเสถียรภาพ ความมนั่ คงไปพรอมๆ กับการพฒั นาประเทศใหเ จรญิ กาวหนา ) T208
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ประเทศผู้รับการลงทุนก็ได้พึ่งพาเงินทุนจากประเทศท่ีเข้ามาลงทุน เช่น ประเทศเวียดนาม ขนั้ สอน ต้องพ่ึงพาการลงทุนจากจีน ประเทศไทยต้องพ่ึงพาการลงทุนจากญี่ปุ่น ประเทศเมียนมา ตอ้ งพึง่ พาการลงทุนจากสงิ คโปร ์ เปน็ ต้น ขน้ั ท่ี 2 ดําเนนิ การอภปิ ราย อย่างไรก็ตาม การลงทุนระหว่างประเทศอาจเป็นการลงทุนท่ีเกิดข้ึนระหว่างกันก็ได้ เป็นการพ่ึงพาซ่ึงกันและกัน เช่น ประเทศไทยลงทุนในมาเลเซีย ประเทศมาเลเซียก็ลงทุน 1. แตล ะคนในกลมุ นําขอมูลมาแลกเปลี่ยนกัน ในไทย หรือการลงทุนในประเทศต่าง ๆ ของทวีปเอเชีย เป็นต้น การลงทุนระหว่างประเทศนี้ 2. จากนัน้ ชว ยกนั คัดเลือกขอ มลู ที่นําเสนอ ท�าให้ประเทศต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กันมากข้ึนและให้ประโยชน์ร่วมกันได้ การพ่ึงพาเหล่าน้ีอาจ 3. นักเรยี นแตละกลมุ สงตัวแทนนําเสนอขอ มูล เป็นการพ่งึ พาด้านเงนิ ทนุ และดา้ นเทคโนโลยี 4. ครนู าํ สนทนาเพม่ิ เตมิ ถงึ ลกั ษณะการคา การพง่ึ พา ๒) ลกั ษณะกำรพง่ึ พำทำงเศรษฐกจิ ในภมู ภิ ำคเอเชยี ในปัจจุบันการพึ่งพาทาง ทางเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าคเอเชยี และใหน กั เรยี น การค้าระหว่างประเทศในภมู ภิ าคเอเชีย มคี วามสะดวกและมกี า� แพงภาษลี ดลง เช่น มกี ารเปดิ เสรี รว มกนั อภปิ รายยกตวั อยา งรปู แบบการคา และ การค้าและการลงทนุ ในกลุม่ อาเซยี น หรอื ระหวา่ งกลุ่มอาเซียนกับจีนและญี่ปุ่น เป็นตน้ และเรม่ิ การพง่ึ พาทางเศรษฐกิจในทวีปเอเชีย เป็นการค้าภายในอุตสาหกรรมเดียวกนั มากขนึ้ กล่าวคอื มีการผลิตที่ผู้ลงทนุ ได้อาศัยประเทศใน (แนวตอบ เชน การรวมกลุมในภูมิภาคเอเชีย เอเชียเป็นฐานการผลิตช้ินส่วนและวัตถุดิบแล้วน�าส่วนประกอบนั้นมาผลิตต่อ หรือประกอบในอีก ตะวันออกเฉียงใตเปนประชาคมอาเซียน ซ่ึง ประเทศหนึ่ง เช่น มีการผลิตตุกตาเด็กเล่นโดยผลิตช้ินส่วนในไทย บางส่วนผลิตในจีน ไต้หวัน เปนการรวมกลุมของ 10 ประเทศ เพื่อการ แลว้ นา� มาประกอบทไี่ ทยหรอื สงิ คโปรก์ อ่ นนา� ไปจา� หนา่ ยในตลาดสหรฐั อเมรกิ าและยโุ รป การพง่ึ พา เปนตลาดเดียว การรวมกลุมของประเทศ ลักษณะนี้เป็นการพ่ึงพาในอุตสาหกรรมเดียวกัน และมีแนวโน้มขยายตัวมากข้ึน เพราะสามารถ ผูผลติ น้าํ มนั ในภูมิภาคเอเชยี ตะวันตกเฉียงใต ชว่ ยลดตน้ ทนุ การผลิตโดยรวมของผูผ้ ลติ รายใหญ่ นอกจากน้ี บางประเทศเปน ฐานการผลติ สนิ คา อุตสาหกรรม เชน เปนฐานการผลิตชิ้นสวน ๓) ผลกระทบของกำรพึง่ พำทำงเศรษฐกิจ ได้แก่ อุปกรณ และประกอบรถยนตของบริษัทแม ๓.๑) ดำ้ นกำรเติบโตทำง ทีญ่ ีป่ นุ ) เศรษฐกจิ การพง่ึ พาทางเศรษฐกจิ ทา� ใหเ้ กดิ การ 5. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหผลกระทบ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของประเทศหนงึ่ เชน่ เมอื่ จากการพงึ่ พาทางเศรษฐกิจของไทยเพมิ่ เติม จีนเติบโตทางเศรษฐกิจได้ดี ท�าให้ประชาชนใน (แนวตอบ เชน ประเทศไทยมกี ารพง่ึ พาทางดา น ประเทศมกี า� ลงั ซอื้ และตอ้ งการสนิ คา้ นา� เขา้ จาก เทคโนโลยีจากตางประเทศสูง ทําใหประเทศ ตองนําเขาสินคาเหลาน้ีมาก ซ่ึงมีมูลคาสูง สง ผลใหขาดดุลการคาได) ประเทศอื่นมากข้ึน หรือในกรณีที่เศรษฐกิจ สหรฐั อเมรกิ าประสบภาวะวกิ ฤตสง่ ผลใหก้ า� ลงั ซอ้ื หดตัว การผลิตสินค้าของจีน อินเดีย หรือไทย ก็ได้รบั ผลกระทบตามไปด้วย โดยประเทศผู้ส่ง ออกเหลา่ น ้ี ไมส่ ามารถสง่ ออกไปยงั สหรฐั อเมรกิ า ไดท้ �าใหก้ ารจ้างงานได้รบั ผลกระทบไปดว้ ย ประเทศในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตส้ ว่ นใหญม่ กั ตอ้ งพง่ึ พา ทางดา้ นเทคโนโลยแี ละการสอ่ื สารจากประเทศนอกภมู ภิ าค ๑89 ขอสอบเนน การคิด บูรณาการอาเซียน ประเทศไทยไดป ระโยชนอ ะไรจากการเปน ประชาคมเศรษฐกจิ ครูสามารถจัดกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยเพ่ิมเติมความรูเก่ียวกับ อาเซียน ความรวมมือทางเศรษฐกิจในอาเซียน ที่ใหความสําคัญในการเสริมสรางความ แข็งแกรงทางเศรษฐกิจรวมกันอยางตอเนื่อง ต้ังแตการจัดตั้งเขตการคาเสรี (แนวตอบ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic อาเซียนหรืออาฟตา ใน พ.ศ. 2546 ทท่ี าํ ใหการคาในภมู ภิ าคเสรมี ากขึ้น จนนํา Community: AEC) เปนความรวมมือทางดานเศรษฐกจิ เพื่อให ไปสูการเปน ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น ใน พ.ศ. 2558 เพือ่ เปดเสรีสินคาและ มีความม่ันคง สามารถแขงขันกับภูมิภาคอื่นได ทําใหอาเซียน บรกิ ารสําคญั 11 สาขา ไดแ ก การทองเทยี่ ว การบนิ ยานยนต ผลติ ภัณฑไม เปนตลาดเดียวและเปนฐานการผลิตเดียว ประเทศไทยในฐานะ ผลติ ภณั ฑย าง สง่ิ ทอ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส สนิ คา เกษตร ประมง เทคโนโลยสี ารสนเทศ เปน ประเทศสมาชกิ จะไดรบั ประโยชน เชน การนาํ เขา วัตถุดิบที่มี และสุขภาพ โดยเปาหมายใหอาเซียนกลายเปนเขตการผลิตเดียว ตลาดเดียว ความไดเปรียบดานราคาและคุณภาพ สามารถยายฐานการผลิต มีการเคลื่อนยายปจจัยการผลิตไดอยางเสรี สามารถดําเนินกระบวนการผลิต ไปยังประเทศท่ีเหมาะในการเปนแหลงผลิต ทําธุรกิจบริการได ที่ไหนก็ได โดยสามารถใชท รพั ยากรจากแตละประเทศ ทัง้ วตั ถุดิบและแรงงาน โดยเสรี ฐานการผลิตอยูในประเทศใดก็ได ทําใหแกปญหา มารวมในการผลติ มมี าตรฐานสินคา กฎเกณฑ กฎระเบยี บเดียวกนั การขาดแคลนแรงงานฝมอื ได) T209
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๓.๒) ดำ้ นรำคำสนิ คำ้ เมอ่ื ประเทศมหาอา� นาจทางเศรษฐก1จิ มกี ารปรบั ราคาสนิ คา้ สงู ขน้ึ กจ็ ะมผี ลตอ่ ประเทศทม่ี คี วามเชอ่ื มโยงกนั ราคาสนิ คา้ จะเพม่ิ สงู ตามไปดว้ ย เชน่ เมอ่ื ประเทศ ขนั้ ที่ 2 ดาํ เนินการอภิปราย ผผู้ ลติ นา้� มนั ปโิ ตรเลยี มมตี น้ ทนุ การผลติ เพมิ่ สงู ขนึ้ ทา� ใหร้ าคานา้� มนั โลกสงู ขน้ึ ตามตน้ ทนุ การผลติ ท่ีเพิ่มข้ึน ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการท่ีต้องใช้น้�ามันเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย 6. ครใู หน ักเรียนรวมกนั ยกตัวอยา งสนิ คาทีม่ กี าร จงึ ตอ้ งต้ังราคาสนิ ค้าให้สงู ข้นึ ตามไปด้วย แขง ขนั กนั สงู มกี ารทาํ การตลาดทดี่ งึ ดดู ลกู คา ดวยวิธีการตา งๆ เชน การโฆษณาสินคา ผา น ๒.๒ การแขง่ ขนั ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย สื่อตางๆ จากนั้นครูต้ังประเด็นคําถามให นักเรียนอภิปรายแสดงความคิดเห็นรวมกัน โดยทว่ั ไปการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ เปน็ สภาพการแขง่ ขนั ทางดา้ นการผลติ เชน และการคา้ ระหวา่ งประเทศตา่ ง ๆ ซง่ึ การแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าคเอเชยี มลี กั ษณะสา� คญั ดงั นี้ • เพราะเหตุใดการขายสินคาในปจจุบัน ผูประกอบการจึงใหความสําคัญกับการ ๑) กำรแขง่ ขนั ของภำคกำรคำ้ ระหวำ่ งประเทศ เปน็ การแขง่ ขนั ในตลาดโลก หรอื โฆษณาผานสื่อตา งๆ (แนวตอบ เพราะมีผูผลิตหลายราย ทําใหมี ในตลาดส�าคัญ เช่น ประเทศไทยและหลายประเทศในเอเชียต้องพึ่งพาตลาดส�าคัญของโลกอย่าง การแขงขันกันสูง และการโฆษณาผานสื่อ สหรัฐอเมริกา และยุโรป ผู้ประกอบการส่งออกของไทยและเอเชียจึงต้องแข่งขันในตลาดดังกล่าว ตา งๆ ทาํ ใหส นิ คา เปน ทร่ี จู กั ไดอ ยา งรวดเรว็ เพอ่ื ใหผ้ บู้ รโิ ภคนยิ มหรอื เลอื กซอื้ สนิ คา้ สง่ ออกของตน เชน่ เกาหลใี ต ้ ไตห้ วนั สงิ คโปร ์ เปน็ ประเทศ เพราะสื่อเหลานั้นเขาถึงผูบริโภคไดอยาง ทส่ี ง่ ออกสนิ ค้าอิเลก็ ทรอนิกส ์ จะแขง่ ขันส่งออกสินค้าเหลา่ นใี้ นตลาดส�าคัญของโลก ส่วนประเทศ หลากหลาย) ท่สี ่งออกข้าวสาร เชน่ ไทย จะสง่ สินค้าข้าวสารแข่งขันกับเวียดนามและปากีสถาน เปน็ ตน้ ๒) กำรแขง่ ขนั ของภำคกำรผลติ เปน็ การแขง่ ขนั ดา้ นสมรรถนะของการผลติ โดยรวม ของประเทศ โดยประเทศท่ีมีศักยภาพหรือสมรรถนะของเศรษฐกิจโดยรวมในระดับสูง จะเป็น ประเทศทม่ี คี วามเขม้ แขง็ ทางเศรษฐกจิ และมคี วามนา่ เชอ่ื ถอื ในสายตาของนกั ลงทนุ สมรรถนะทาง เศรษฐกิจโดยรวมข้ึนอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น คุณภาพของประชากร ความสามารถด้าน ทแวทิกรยัพ่ปายรศะาาชกสารตชธรนรแ์ รใลมนะกชเทาาครตโดิ นค�าโเวลนายินม ี คธเวขุราก้มมิจแส ขาป็งมัจขาจอรัยถงพใภนื้นากคฐาการานปรรดคะ้ากลนอังสบขาธอธรุงากรรจิัฐณ บกาูปาลรโใ ภ3หเคชเ้ 2ส ่นรค ภี วขาาีดพมคใอนวุดากมมารสสปามรมบะากูรรอณถบด์ขก้าอานรง การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าประเภทอาหารระหว่างประเทศไทยเม่ือเทียบกับสิงคโปร ์ มาเลเซยี จะเหน็ วา่ ประเทศไทยมคี วามสามารถในการผลติ สงู กวา่ เนอ่ื งจากมที รพั ยากรในการผลติ ที่เออ้ื มากกวา่ เช่น มีพนื้ ท่ีราบในการปลูกข้าวมากกวา่ เปน็ ตน้ ๓. ทรัพยากรกบั ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ ทรพั ยากรท่ีมีอยู่ในแตล่ ะประเทศ ย่อมมีผลตอ่ ความสมั พันธท์ างเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เปน็ สง่ิ ทที่ า� ใหเ้ กดิ การแขง่ ขนั และการพง่ึ พากนั ทางเศรษฐกจิ ประเทศทม่ี ที รพั ยากรหลากหลายชนดิ ยอ่ มมคี วามไดเ้ ปรยี บทางดา้ นเศรษฐกจิ เชน่ สหรฐั อเมรกิ า ทม่ี ที งั้ แรท่ องคา� เครอ่ื งจกั รขนาดใหญ ่ น้�ามัน เทคโนโลยีข้ันสูง จึงท�าให้ระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามีความเข้มแข็ง และมีความ สา� คัญต่อระบบเศรษฐกิจโลก ทรัพยากรที่มีความส�าคญั ตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศ มดี ังนี้ ๑90 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด การแขง ขนั กนั อยา งรนุ แรงในการผลติ และขายสนิ คา และบรกิ าร 1 ประเทศมหาอํานาจทางเศรษฐกิจ เปนประเทศที่มีความเจริญกาวหนา ทาํ ใหเ กดิ ผลเสยี ขอใด ทางเศรษฐกจิ ทง้ั ทางดา นการคา การผลติ และเทคโนโลยี เชน สหรฐั อเมรกิ า องั กฤษ ฝรงั่ เศส เยอรมนี ญ่ปี นุ จนี ประเทศตา งๆ เหลานี้ มกี าํ ลงั การผลิตสูง 1. มีการผลติ สนิ คา และบริการมากเกินความจาํ เปน ทําใหเกิด ประชาชนมรี ายไดต อหวั สงู การบริโภคฟมุ เฟอย 2 ปจ จยั พน้ื ฐานดา นสาธารณปู โภค เชน มโี ครงขา ยคมนาคมทด่ี ี เสน ทางการ คมนาคมสะดวก ทงั้ ทางบก ทางนาํ้ และทางอากาศ การตดิ ตอ สื่อสารสะดวก 2. มกี ารใชป จ จยั การผลติ มาก ทาํ ใหป ระเทศตอ งประสบปญ หา ประเทศที่มีปจจัยพ้ืนฐานสาธารณูปโภคดียอมมีความไดเปรียบทางการคา การขาดแคลนปจจัยการผลติ การลงทุนระหวา งประเทศ 3 ภาคการคลังของรัฐบาล หมายถงึ การคลังในสว นของรฐั บาล หรือการคลัง 3. มีผูผลิตจํานวนนอยที่สามารถดําเนินธุรกิจตอไปได ทําให ในกิจกรรมท่ีรัฐบาลเปนเจาของ โดยรัฐเขาไปมีบทบาทในทางเศรษฐกิจ เชน เพม่ิ อาํ นาจในการผูกขาดมากข้ึน การจัดสรรทรัพยากร การกระจายรายไดประชาชาติ การรักษาเสถียรภาพและ ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกจิ 4. มกี ารนาํ เครอ่ื งจกั รมาใชใ นการผลติ แทนการใชแ รงงานมาก ขนึ้ ทําใหน ายจา งสามารถกดคาจางใหต ํา่ ลง T210 (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. ผูผลิตรายใหญมีความไดเปรียบ กวา ผผู ลติ รายเลก็ เพราะมอี าํ นาจในการตอ รองสงู มตี น ทนุ ในการ ผลิตตอหนวยตํ่ากวา ทําใหราคาตนทุนในการผลิตตํ่ากวาผูผลิต รายยอ ย เปน การเพ่ิมอาํ นาจการผูกขาดการผลิต)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑) ทรพั ยำกรธรรมชำต ิ มคี วามสา� คญั ตอ่ การผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร ดงั นนั้ ประเทศใด ขนั้ สอน ที่มีทรัพยากรธรรมชาติมากก็จะได้เปรียบในการผลิตสินค้าและบริการ ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ ที่สา� คญั มดี งั นี้ ขั้นท่ี 2 ดําเนนิ การอภปิ ราย ๑.๑) นำ�้ มนั ปโิ ตรเลยี ม เปน็ ทรพั ยากรทม่ี คี วามสา� คญั ตอ่ การผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร เพราะเครื่องจักรจะต้องใช้น�้ามันเป็นพลังงานเช้ือเพลิง แหล่งผลิตน�้ามันส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ 7. ครใู หน กั เรยี นดคู ลปิ วดิ โี อทเ่ี กยี่ วขอ งกบั ปรมิ าณ ในนา้� ภมมูนั ิภราายคใเหอญเชข่ ยี อตงะโลวกนั เตหกลเา่ฉนยี ไ้ี งดใร้ตว้ มเชต่นวั ก นัปเรปะน็เทกศลซมุ่ าปอรดุะเอี ทาศรผะส้เู บง่ อยี อ อกหินรา้� ่ามนนั หคเูรวอื ตโอ เเปปน็ก1ต (นO้ rgกaลnมุ่ izผaผู้ tiลoติn ทรัพยากรธรรมชาติในแตละพ้ืนท่ีของทวีป of the Petroleum Exporting Countries: OPEC) มกี ารก�าหนดโควตาการผลติ นา�้ มนั รกั ษาระดบั เอเชยี ในปจจบุ ัน ราคาใหม้ เี สถยี รภาพ และรกั ษาระดบั ความสมา�่ เสมอในการผลติ เพอ่ื ใหเ้ พยี งพอแก่ความต้องการ ของตลาดโลก ประเทศที่มีแหล่งน้�ามันปิโตรเลียมจึงเป็นประเทศผู้ส่งออกน�้ามัน ส่วนประเทศ 8. นักเรียนวิเคราะหเช่ือมโยงการใชทรัพยากร ที่ขาดแคลนนา้� มนั ปิโตรเลยี ม เช่น ไทย จา� เปน็ ต้องนา� เข้าเพ่ือใชภ้ ายในประเทศ ธรรมชาตใิ นปจ จบุ ัน ระบปุ ญหาท่เี กดิ ขนึ้ และ ๑.๒) ทดี่ นิ ในกำรเพำะปลกู ใช ้ในการเพาะปลกู ตา่ ง ๆ ทง้ั เพาะปลกู พชื อาหารและ คาดการณในอนาคต เสนอแนะแนวทางการ นํามาใชใหเกิดประโยชนและคุมคามากที่สุด และยกตัวอยางมาตรการของประเทศตางๆ ในการประหยดั การใชท รพั ยากร และการคดิ คน พลังงานทางเลือกเพ่ือลดการใชทรัพยากร ธรรมชาติ พชื ทั่ว ๆ ไป ประเทศที่มที ีด่ นิ อุดมสมบรู ณ ์ มีท่ีราบกว้างใหญ่ ประกอบกบั การมแี หลง่ นา้� ทด่ี ีจะเป็น ประเทศทีป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรมได้ผลผลติ ดี ๑.๓) แร่ แร่ที่มีค่ามีมากมายหลายชนิดแต่ที่มีความส�าคัญมากท่ีสุด คือ แรท่ องคา� ซง่ึ นอกจากจะนา� มาทา� เปน็ เครอื่ งประดบั แลว้ ยงั ใชเ้ ปน็ ทนุ สา� รองทางการเงนิ ของประเทศ ใช้ ในงานหัตถกรรม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แหล่งแร่ทองค�าที่ส�าคัญของโลกอยู่ท่ีประเทศ แอฟรกิ าใต้ ๑.๔) ถำ่ นหิน เป็นเชอื้ เพลงิ ในอตุ สาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลติ ไฟฟ้า การถลุง โลหะ การผลติ ปนู ซเี มนต ์ นอกจากน ี้ ยงั สามารถ นา� มาใชป้ ระโยชน์ในด้านอ่ืน ๆ เชน่ การท�าถา่ น สังเคราะห์เพ่ือดูดซับกลิ่น แปรสภาพเป็น เช้ือเพลิงเหลว ซ่ึงเป็นการใช้ถ่านหินแบบ เช้ือเพลิงสะอาด ลดมลภาวะ ถ่านหินมีมากใน ประเทศแถบยโุ รป เชน่ รสั เซยี เยอรมน ี สา� หรบั ประเทศไทยพบถ่านหินลิกไนต์มากท่ีสุดโดย มีกระจายอยู่ทั่วทุกภาค ในปัจจุบันการท่ีน้�ามัน ปิโตรเลียมมีราคาแพง ถา่ นหนิ จงึ เปน็ พลงั งาน ทางเลอื กทนี่ า� มาใช ้ในอตุ สาหกรรมและการผลติ ถ่านหินเป็นพลังงานทางเลือก ที่น�ามาใช้เป็นเช้ือเพลิง กระแสไฟฟ้าได้ ในอุตสาหกรรม และผลติ กระแสไฟฟ้า ๑9๑ กิจกรรม เสรมิ สรางคณุ ลักษณะอันพึงประสงค นักเรียนควรรู ใหน กั เรยี นสบื คน ทรพั ยากรธรรมชาตทิ มี่ คี วามสาํ คญั ตอ การผลติ 1 โอเปก กอตั้งเมื่อ พ.ศ. 2503 โดยประเทศผูผลิตน้ํามันรายใหญของโลก สนิ คา และบรกิ ารของประเทศไทย แลว รว มกนั วเิ คราะหต ามประเดน็ เชน ซาอุดีอาระเบีย เพ่ือแสวงหาและรักษาผลประโยชนของประเทศสมาชิก ดังน้ี ผผู ลติ นาํ้ มนั ปโ ตรเลยี ม ซง่ึ เปน รายใหญข องโลก และกาํ หนดราคานาํ้ มนั เพอ่ื สรา ง ความมน่ั คงและมง่ั คง่ั ของกลุม จากการคานํา้ มนั สมาชิกสวนใหญอยูใ นภูมภิ าค • ยกตัวอยางทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีความสําคัญตอการผลิต เอเชยี ตะวนั ตกเฉียงใต สนิ คาและบริการของไทย บูรณาการอาเซียน • สถานการณก ารใชทรัพยากรธรรมชาติในปจ จบุ ัน • แนวทางการอนุรักษท รพั ยากรธรรมชาตอิ ยางย่งั ยนื ครูจัดกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยการใหนักเรียนยกตัวอยาง ทรัพยากรธรรมชาติที่ประเทศในอาเซียนไดเปรียบและเสียเปรียบประเทศนอก กลมุ อาเซยี น เชน มคี วามไดเ ปรียบในทรพั ยากรดิน ทาํ ใหสามารถเพาะปลกู พชื อาหารไดมาก และเปน สินคา สง ออกสําคัญไปยงั ประเทศนอกกลมุ T211
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน อาคารสถานทีต่ า่ ง๑ ๆ.๕ ต) อ่ ปเรำ ือไ มท้ า�ทเรฟพั อยรา์นกิเรจปอา่รไ์ ทมา�้มเคียวื่อากมรสะดา� คาษัญ ทเปาน็งเตศ้นร ษปฐ่ากไจิม ้มเชีมน่ า กใใชน ้ใแนถกบารยกโุ รอ่ ปส1แรลา้ งะ อเมริกาใต้ ปัจจุบันป่าไม้ธรรมชาติของโลก ขนั้ ที่ 2 ดําเนนิ การอภปิ ราย ลเศดรปษรฐมิ กาจิ ณ2ทลดงแ จทงึ นไดม้ คี วามพยายามทจ่ี ะปลกู ปา่ 9. ครูนําสนทนาดวยการตั้งคําถามเก่ียวกับ ๒) ทรพั ยำกรมนษุ ย เปน็ แรงงาน ทรพั ยากรประเภทอืน่ ๆ เพมิ่ เติม เชน ในการผลติ ประเทศใดมแี รงงานมฝี ม อื มคี วามร ู้ • ทรัพยากรมนุษยแบบใดท่ีทําใหประเทศ ความเชย่ี วชาญทางดา้ นการผลติ สามารถผลิต ตา งๆ ไดเ ปรยี บในการผลติ สนิ คา และบรกิ าร สินค้าทมี่ คี ณุ ภาพเป็นทต่ี ้องการของตลาด เชน่ และเปนท่ตี อ งการของตลาดแรงงานโลก ประเทศทม่ี แี รงงานทมี่ คี วามเชย่ี วชาญทางดา้ น (แนวตอบมคี วามรูความเชยี่ วชาญในงานทที่ าํ วิทยาศาสตร์มาก ประกอบกับมีทรัพยากรทุน สามารถผลิตสินคาและบริการที่มีคุณภาพ ประเทศที่มีแรงงานมีความรู้และเชี่ยวชาญในการผลิต จะมีความถนัดในการคิดค้น และผลิตสินค้าที่ มีการคิดคนหรือนําเทคโนโลยีมาใชในการ จะไดเ้ ปรียบในการผลติ สินค้าและบริการ ใชเ้ ทคโนโลยมี าก เปน็ ต้น ผลิตไดอยางมีประสทิ ธภิ าพ) 10. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั อภปิ รายถงึ สถานการณ ดานแรงงานของโลก ปญหาการขาดแคลน แรงงานฝมอื การเคล่อื นยายแรงงานมฝี ม อื ๓) ทรัพยำกรทนุ เช่น เครือ่ งจักร โรงงาน วตั ถดุ ิบ ประเทศท่ีมที รัพยากรทุนมาก มกั มคี วามถนดั ในการผลติ สนิ คา้ อตุ สาหกรรมทต่ี อ้ งลงทนุ ในเครอ่ื งจกั ร อปุ กรณ ์โรงงาน เทคโนโลยี และส่วนใหญ่จะมีความส�าคัญต่อเศรษฐกิจโลก เพราะจะเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าประเภท เทคโนโลยีหรือผลิตอุตสาหกรรมหนัก ส่วนประเทศท่ีขาดแคลนทรัพยากรทุนจะต้องน�าเข้าสินค้า จากประเทศผผู้ ลติ ในราคาทสี่ งู ความแตกตา่ งของทรพั ยากรการผลติ ทกี่ ระจายในสว่ นตา่ ง ๆ ของโลก ทา� ใหป้ ระเทศตา่ ง ๆ มคี วามถนดั ในการผลติ สนิ คา้ ทแ่ี ตกตา่ งกนั จงึ จา� เปน็ ตอ้ งมกี ารแลกเปลย่ี นสนิ คา้ ระหวา่ งกนั กลา่ วคอื ประเทศทถ่ี นดั ผลติ อาหารเนอื่ งจากมที ด่ี นิ เพอ่ื การเพาะปลกู ทอี่ ดุ มสมบรู ณ ์ จะสามารถผลติ อาหาร ได้มากในราคาที่ถูก ประเทศดังกล่าวน้ีจะมีผลผลิตอาหารเพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศ และสามารถเป็นประเทศผสู้ ่งออกอาหารได้ดี ในท�านองเดยี วกัน ประเทศทถี่ นัดผลิตเครอ่ื งนุง่ ห่ม เนื่องจากมีเครื่องจักรที่ทันสมัยและมีแรงงานมาก ก็สามารถเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออก เคร่ืองนงุ่ ห่ม โดยทวั่ ไปแลว้ ประเทศทม่ี ที รพั ยากรประเภทใดมากมกั มคี วามถนดั และสง่ ออกสนิ คา้ ที่ใช้ทรพั ยากรในชรนะดิ บนบ้ันเศมราษกฐ โกดจิ ยปนจั า� จเบุขนั้าส ซินงึ่ คเปา้ ปน็ รเศะเรภษทฐอกืน่จิ แทบตี่ บนกไมาร่ถคนา้ ัด3 มแกีทานรใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลติ ซ่ึงเป็นผลมาจากการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ สามารถผลิตสินค้าได้มากมายหลากหลาย ระบบ การผลติ แบบนเ้ี ปน็ การกระตนุ้ ใหเ้ กดิ การบรโิ ภคมากขนึ้ ทา� ใหต้ อ้ งมกี ารนา� ทรพั ยากรซง่ึ เปน็ วตั ถดุ บิ ๑9๒ นักเรียนควรรู กิจกรรม สรางเสรมิ 1 ปาไมมีมากในแถบยุโรป ยุโรปเหนือมีปาไมอุดมสมบูรณ โดยเฉพาะ ใหนักเรียนสืบคนทรัพยากรธรรมชาติของโลกที่ถูกนํามาใช ฟนแลนดเปนประเทศที่มีการสงออกผลิตภัณฑจากไม เย่ือกระดาษมาก แตก็ มากทส่ี ุด 5 อันดบั พรอมท้งั ระบุในประเด็น ดังนี้ ยังคงมีปาไมอุดมสมบูรณ เพราะไมท่ีมีการสงออกจะตองเปนไมท่ีมาจากการ ปลกู ปา เทา นั้น และมกี ารปลกู ชดเชย • การใชประโยชนจากทรพั ยากรธรรมชาติ 2 ปาเศรษฐกิจ พื้นที่ปาท่ีสามารถใชประโยชนทางเศรษฐกิจไดและเปน • ผลกระทบทเี่ กดิ ขน้ึ จากการใชท รพั ยากรธรรมชาตมิ ากเกนิ ไป พื้นท่ีนอกเหนือจากปาอนุรักษ เพ่ือใหมีปริมาณไมใชสอยเพียงพอในประเทศ • แนวทางการอนรุ กั ษท รพั ยากรธรรมชาตเิ พอ่ื การใชป ระโยชน ประเทศไทยไดก ําหนดใหมพี ืน้ ทปี่ า ไมเ ศรษฐกจิ รอยละ 25 ของพนื้ ท่ปี ระเทศ 3 เศรษฐกิจแบบการคา เปนเศรษฐกิจท่ีประชาชนในประเทศมีการแบงงาน ระยะยาวตอ ไป กนั ทาํ ตามความถนดั และความสามารถ แลว นาํ สนิ คา ทผี่ ลติ ไดม าทาํ การซอื้ ขาย แลกเปลี่ยนกัน กิจกรรม ทาทาย T212 ใหนักเรียนเขียนวิเคราะหความไดเปรียบ-เสียเปรียบของ ทรัพยากรการผลิตของไทย ซ่ึงไดแก ทรัพยากรธรรมชาติ ทรพั ยากรมนษุ ย และทรพั ยากรทนุ พรอมยกตัวอยา งการพัฒนา ทรพั ยากรการผลติ ของประเทศเพอ่ื รองรบั การคา โลก และการเปน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ในการผลติ มาใช้มากขึน้ ท�าใหส้ ่งผลกระทบตามมา เชน่ การใชก้ ระดาษเพ่มิ มากขึน้ จงึ ต้องตดั ไม้ ขนั้ สอน เพิ่มมากขึ้น เพื่อน�ามาเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ ท�าให้ป่าไม้ลดปริมาณลง หรือการผลิต อตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ การผลติ เครอื่ งจกั รกล ยานยนต ์ สง่ ผลใหม้ กี ารใชเ้ ชอื้ เพลงิ และนา�้ มนั เพม่ิ มากขนึ้ ขัน้ ที่ 2 ดําเนนิ การอภิปราย ทา� ให้ปรมิ าณสา� รองน�้ามนั ลดลง ราคานา�้ มันจงึ แพงขน้ึ เปน็ ตน้ ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า การเพ่ิมข้ึนของการผลิตสินค้าและการน�าทรัพยากรมาใช้ 11. ครูและนักเรียนสนทนาแสดงความคิดเห็น เพ่ิมมากข้ึนส่งผลให้ประเทศท่ีมีทรัพยากรต่าง ๆ เหล่าน้ันได้เปรียบในเชิงการมีทรัพยากร ถึงตลาดในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ซึ่ง เพือ่ การผลติ เช่น กลุ่มผผู้ ลิตน�้ามัน สามารถท่ีจะกา� หนดราคาน้า� มนั ในตลาดโลกได ้ เป็นต้น กลไกราคามีบทบาทสําคัญในการจัดสรร ทรัพยากรและมีการแขงขันกันสูง รวมถึงมี ô. การá¢ง่ ¢นั ทางการคา้ Àายãนประเทศ1áÅะµา่ งประเทศ การกีดกันทางการคา จากน้ันครูต้ังประเด็น คําถาม เพ่ือฝกทกั ษะการคดิ และแสดงความ ในปัจจบุ ันการแขง่ ขันทางการค้ามคี วามเขม้ ข้นมากขนึ้ และมีมาตรการตา่ ง ๆ ท่มี ีอทิ ธพิ ล คดิ เหน็ เชน ตตั่วอกกีดารกแันขท่งาขงันก าเรชค่น้า กมาารตกรีดกกาันรททาางงกภาารษคี ้าเจชา่นก ปมรีกะาเรทตศ้ังคกู่ค�า้าแ พโดงยภใาชษ้ข2ี ้อมจีก�าากรัดลใดนภทาาษงีนค�าุณเขภ้าาสพินเปค็น้า • เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ งมกี ารกดี กนั ทางการคา บางประเภท เปน็ ตน้ ทา� ใหผ้ คู้ า้ ทง้ั ในและตา่ งประเทศตอ้ งปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั สถานการณก์ ารแขง่ ขนั ในการคาระหวา งประเทศ ในปจั จบุ ัน ดงั นี้ (แนวตอบ เพราะเปน การปกปอ งอตุ สาหกรรม ในประเทศของตนเอง ไมใหสินคาจาก ตางประเทศเขามาขายแขงโดยสะดวก จึงตองมีการกีดกันทางการคา เพื่อใหมี อุปสรรค เชน ใชมาตรการทางภาษี เชน กําหนดภาษีนําเขาสูง) ในระบบเศรษฐกจิ ของโลก การแขง่ ขนั ทางการคา้ มคี วามสา� คญั ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนท์ งั้ ตอ่ ผผู้ ลติ ผบู้ รโิ ภค และชว่ ยพฒั นา ใหเ้ ศรษฐกจิ มคี วามเจรญิ เตบิ โต ๑9๓ ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอใดเปนตลาดแขง ขันแบบผูกขาดในประเทศไทย 1 การแขงขันทางการคาภายในประเทศ มีขอ ดี เชน มกี ารนําทรัพยากรท่มี ี 1. ไฟฟา จํากดั มาผลติ สนิ คา ท่คี นสวนใหญต อ งการ เปด โอกาสใหม ีผูผลิตรายใหมเ ขา มา 2. สายการบนิ ในตลาดไดเ สรี ผูผ ลติ ตอ งปรบั ปรงุ สนิ คา อยเู สมอ ขอเสีย เชน มีสิ นิ คามากมาย 3. รถประจาํ ทาง เกินความจําเปน มีการนําทรัพยากรมาใชม ากเกนิ ไป 4. บะหมีก่ ง่ึ สําเร็จรปู 2 การตง้ั กาํ แพงภาษี (Tariff Wall) เปน วธิ กี ารตงั้ ภาษศี ลุ กากรไวส งู เพอ่ื กดี กนั สนิ คา จากตา งประเทศ ทาํ ใหร าคาสนิ คา ทน่ี าํ เขา จากตา งประเทศมรี าคาแพงขน้ึ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. ตลาดผูกขาด เปน ตลาดท่ีมีผูข าย สงผลใหปริมาณความตองการบริโภคของสินคาชนิดน้ันลดลง โดยผูบริโภคจะ รายเดียวในขณะท่มี ผี ซู อ้ื เปนจํานวนมาก ผูขายจงึ มีอํานาจในการ หนั มาบรโิ ภคสนิ คา ในประเทศทสี่ ามารถทดแทนกนั ได ทาํ ใหอ ตุ สาหกรรมทผี่ ลติ ผกู ขาดการกาํ หนดราคา ตวั อยา งตลาดผกู ขาดในประเทศไทย เชน สินคาทดแทนประเภทเดียวกนั ภายในประเทศมกี ารขยายตัวขนึ้ การไฟฟา เปน ธรุ กจิ อตุ สาหกรรมขนาดใหญเ กย่ี วกบั ดา นสาธารณปู โภค ใชเงินลงทุนสูง ผลิตดวยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อการบริการ T213 แกป ระชาชน ดาํ เนนิ การในรปู แบบของรฐั วสิ าหกจิ คอื องคก รของ รัฐบาล หรอื หนวยงานธรุ กิจทรี่ ัฐบาลเปน เจา ของ มีภารกจิ ในการ ใหบ รกิ ารสาธารณะ มเี ปา หมาย คอื ผลประโยชนตอสวนรวม)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน 4.๑ การแขง่ ขนั ทางการค้าภายในประเทศ การคา้ ภายในประเทศ เปน็ การคา้ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในประเทศ ผผู้ ลติ และผคู้ า้ มที ง้ั คนในประเทศและ ข้ันท่ี 2 ดําเนนิ การอภปิ ราย คนต่างประเทศ ซึ่งการค้าในประเทศนี้ ผู้ผลิตภายในประเทศมีข้อได้เปรียบบางประการ เช่น อย่ใู กลต้ ลาดท่ีเปน็ แหลง่ ของผ้บู ริโภคภายในประเทศ อย ู่ใกลแ้ หล่งวัตถดุ ิบ ถา้ สินคา้ นนั้ เปน็ สนิ ค้า 12. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายสถานการณ ท่ตี ้องใช้วตั ถุดิบทม่ี อี ยู่ภายในชมุ ชนหรอื ภายในประเทศ การคาในประเทศไทย และเปรียบเทียบ นอกจากนี้ ผู้ผลิตอาจรู้ความต้องการของผู้บริโภคมากกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตภายใน สถานการณการคาในประเทศในอดีตและ ประเทศจา� นวนมากเปน็ ธรุ กจิ ขนาดเลก็ ทา� ใหไ้ มส่ ามารถผลติ สนิ คา้ ได ้ในตน้ ทนุ ทต่ี า�่ มากเทา่ ผผู้ ลติ ปจ จบุ นั จากนนั้ ครยู กตวั อยา งการเปลยี่ นแปลง ทางการคาในประเทศไทย ท่ีจากเดิมเปน รา นเล็กๆ หรือรานขายของชาํ แตป จจุบนั มี รา นคา สมยั ใหมเ ขา มาเปด กจิ การเพม่ิ มากขน้ึ รายใหญ่ ดังนั้น การแข่งขันภายในประเทศจึงมักปรากฏว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะครอบครองตลาด แ ละผลกกั าดรนั คใา้หภ้ผา้ผู ยลในติ รปารยะยเท่อศยอตาอ้ จงแลบ้มง่เลเปิกน็ก ิจ๒ก าลรักอษอณกจะา กคตอื ล ภาดาคไปการค้าปลีก1 และการคา้ สง่ 2 การจะ เข้าถึงผู้บริโภค ผู้ผลิตจะต้องอาศัยท้ังภาคการค้าปลีกและภาคการค้าส่งท่ีเป็นช่องทางส�าคัญใน การนา� เสนอสนิ คา้ ตอ่ ผบู้ รโิ ภค อยา่ งไรกต็ ามผ้ผู ลติ อาจท�าหน้าท่ีเป็นทั้งผู้ผลติ และจดั จา� หน่ายเอง เชน่ เดียวกบั ผคู้ ้าสง่ อาจประกอบกิจการค้าปลกี ดว้ ย ในปจั จบุ นั ภาคการคา้ ในประเทศมกี ารแขง่ ขนั ทร่ี นุ แรง เนอ่ื งจากมกี ารเปลยี่ นแปลงดา้ นการ บรหิ ารจดั การสมยั ใหมท่ ท่ี า� ใหผ้ คู้ า้ รายใหญไ่ ดเ้ ปรยี บผคู้ า้ รายยอ่ ยเปน็ อยา่ งมาก เชน่ รา้ นสะดวกซอื้ ทเี่ ปดิ บรกิ ารตลอด ๒๔ ชวั่ โมง มบี รกิ ารทดี่ ี จดั วางของหยบิ ไดส้ ะดวก มขี องมากมายใหเ้ ลอื กซอ้ื หา ราคาถกู กวา่ รา้ นขายของชา� ทา� ใหก้ ารแขง่ ขนั เปลยี่ นแปลงไปจากการบรกิ ารลกู คา้ ในชว่ งเวลาปกต ิ ในขณะที่ผู้ค้ารายย่อยแบบด้ังเดิม ซ่ึงมีเงินทุนน้อยกว่าและเป็นธุรกิจขนาดย่อมของครอบครัว ไดร้ บั ผลกระทบ เนอื่ งจากไมส่ ามารถจดั บรกิ ารไดต้ ลอดทงั้ กลางวนั และกลางคืน รา้ นสะดวกซอ้ื และหา้ งการค้าขนาดใหญ่ จึงสามารถผูกขาดช่องทางการตลาดของสินค้า หลายชนิดท่ีตอบสนองความต้องการของ ผบู้ รโิ ภคสว่ นใหญแ่ ละเขา้ มาแทนทร่ี า้ นคา้ ขนาด เล็กแบบด้ังเดมิ ตลาดการคา้ สง่ และคา้ ปลกี ในปจั จบุ นั จงึ มี ลักษณะผูกขาดอยู่เพียงผู้ค้าขนาดใหญ่เพียง รา้ นสะดวกซอื้ ทเี่ ปดิ สาขากระจายอยทู่ ว่ั ทกุ แหง่ และไดร้ บั ไมก่ รี่ าย ท�าให้การประกอบธรุ กจิ ของครอบครวั ความนยิ มอยา่ งมาก สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ รปู แบบการแขง่ ขนั หรอื ในระดบั ทอ้ งถนิ่ ไดร้ ับผลกระทบอยา่ งมาก ทางการคา้ ในธุรกจิ คา้ ปลีก ๑94 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 การคา ปลกี มี 2 ประเภท คือ ขอ ใดเปน จดุ แขง็ ของไทยมากทส่ี ดุ ในการแขง ขนั ทางเศรษฐกจิ 1. แบบดั้งเดิม หรือโชหวย เปนรานคาที่จําหนายสินคาอุปโภคบริโภค ในทวีปเอเชีย การจดั วางสนิ คา ไมท นั สมยั สว นใหญเ ปน รา นเลก็ ๆ หรอื เปน หอ งแถว การบรหิ าร 1. การแขง ขันทางดานพลงั งาน จดั การแบบครอบครัว 2. การแขง ขนั ทางดานเทคโนโลยี 3. การแขงขันทางดานวทิ ยาศาสตร 2. แบบสมัยใหม เปนรานคาท่ีมีการปรับปรุงการจัดวางสินคา มีบริการท่ี 4. การแขง ขนั ทางดานอตุ สาหกรรมการเกษตร ทันสมัย มีการจัดการท่ีเปนระบบมาตรฐาน ใชเทคโนโลยีทันสมัย จัดต้ังเปน บรษิ ัทรว มทุนทง้ั ไทยและตางชาติ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เนื่องจากพื้นท่ีสวนใหญของไทย 2 การคาสง กิจการขายสินคาและบริการที่ผูซ้ือนําไปขายตอ หรือซื้อไป เปน ทร่ี าบ ดนิ มคี วามอดุ มสมบรู ณ มแี หลง นา้ํ ในการทาํ การเกษตร ประกอบธุรกจิ ผซู อ้ื หรอื ลกู คาของผูขายสง คือ พอคา ปลกี ทซ่ี อ้ื สินคาไปขายตอ จึงเหมาะแกการเพาะปลูก ประกอบกับคนไทยทําการเกษตร หรือเจา ของธุรกจิ ท่นี ําไปใชในการประกอบการผลิตตอ ไป มาชานาน ทําใหมีความชํานาญมากกวาหลายประเทศในเอเชีย ในการผลติ สนิ คา เกย่ี วกบั การเกษตร) T214
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เรอื่ งนา่ รู้ ขน้ั สอน การแขง่ ขันทางการค้า ข้ันท่ี 2 ดาํ เนินการอภปิ ราย การแข่งขันเป็นภาวะที่หน่วยเศรษฐกิจมีความสามารถในการ ผลิตหรอื การคา้ ใหเ้ ปน็ ผลสา� เรจ็ เชน่ ในขณะทส่ี นิ ค้าชนดิ หน่ึงเป็น 13. จากน้ันครูนําสนทนาเพ่ิมเติมถึงการคาโลก ที่ต้องการของผู้บริโภคหรือตลาด ผู้ผลิตเห็นผลก�าไรจากการขาย ในปจจุบันที่มีการรวมกลุมทางเศรษฐกิจ สนิ คา้ ของตนใหแ้ ก่ผู้ซ้อื ผู้ผลิตบางรายอาจยนิ ดขี ายสินค้าดงั กลา่ ว เพ่ือสรางอํานาจตอรองทางการคา และตั้ง ในราคาที่ย่อมเยากว่า ในขณะท่ีผู้ผลิตรายอื่นๆ ไม่สามารถขาย ประเด็นการอภปิ ราย เชน ในราคาน ี้ได ้ เนอื่ งจากมตี น้ ทนุ การผลติ สงู กวา่ หรอื แมม้ ตี น้ ทนุ การ • ประเทศไทยควรปรบั ตวั อยา งไรเพอ่ื รองรบั ผลติ ใกลเ้ คยี งกนั แตต่ อ้ งเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยสา� หรบั การขนสง่ ทสี่ งู กวา่ มาก การคา โลก เน่อื งจากอยหู่ ่างไกลผ้ซู ือ้ ดังน้ัน ผู้ผลติ ทีข่ ายสินคา้ ดงั กล่าวได้เปน็ (แนวตอบ เพ่ิมศักยภาพในการแขงขัน ผลส�าเร็จ จึงเป็นผู้มีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าผู้ผลิต เชน ในดานการผลิตที่มีคุณภาพ พัฒนา รายอ่ืนในตลาดสินค้าดังกล่าวนนั้ แรงงานฝม อื ใชเ ทคโนโลยสี มยั ใหมเ พอ่ื เพม่ิ ด้วยเหตุนี้ ผผู้ ลติ ทมี่ ีความสามารถด้านการประกอบการและดา้ นการผลติ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ จงึ มกั เป็น ศักยภาพในการผลิต ปรับปรุงกฎระเบียบ ผผู้ ลิตทีป่ ระสบความส�าเร็จในการผลิตและการคา้ และถอื วา่ เป็นผู้ทม่ี ีความสามารถในการแขง่ ขันสงู ทางการคาตางๆ เพอื่ รองรับการคา โลก) 4.๒ การแข่งขนั ทางการค้าระหวา่ งประเทศ 14. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั บอกแนวทางการพฒั นา ขีดความสามารถในการแขงขันทาเศรษฐกิจ การแข่งขันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นการแข่งขันระหว่างหน่วยเศรษฐกิจภายใน ของไทย และแสดงความคดิ เหน็ วา ประเทศไทย ประเทศกบั หนว่ ยเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศในภาพรวม เปน็ ความสามารถดา้ นการแขง่ ขนั ของสนิ คา้ ควรพฒั นาดา นใดเพมิ่ ขนึ้ ซงึ่ จะสามารถเสรมิ ที่ส่งออกไปจ�าหน่ายต่างประเทศ ถ้าภาคการค้าระหวา่ งประเทศมคี วามสามารถในการแขง่ ขนั สงู ใหประเทศมีความสามารถในการคามาก ประเทศนัน้ กจ็ ะสง่ ออกสนิ คา้ ไปจ�าหน่ายยงั ตา่ งประเทศในตน้ ทนุ ทตี่ า�่ กวา่ ประเทศอน่ื สว่ นประเทศที่ ยิง่ ขึน้ ผลิตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูง จึงมักมีความ สามารถในการส่งออกสินค้าของประเทศตนได้สูงกวา่ ประเทศที่ผลติ สินค้าไมม่ ีประสทิ ธิภาพ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศต้องพิจารณาขีด ความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว เกี่ยวกบั ประสิทธภิ าพของเศรษฐกิจ ซึ่งเราสามารถแบ่ง การพจิ ารณาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได ้ ๔ ด้าน ดังน้ี ๑) สมรรถนะดำ้ นเศรษฐกจิ สว่ นรวม ไดแ้ ก ่ การเติบโตทางเศรษฐกจิ ว่าเติบโตได้ ดมี ากนอ้ ยเพยี งใด รสู้ ถานะการคา้ ระหวา่ งประเทศไดว้ า่ สามารถสง่ ออกไดด้ มี ากนอ้ ยเพยี งใด ฐานะ ดา้ นการลงทนุ ระหวา่ งประเทศว่ามีการลงทุนจากต่างประเทศมากข้ึนหรือน้อยลงเพียงใด รู้สภาวะ ดา้ นการจา้ งแรงงานวา่ มกี ารจา้ งแรงงานหรอื มปี ญั หาการวา่ งงานมากนอ้ ยเพยี งใด และปญั หาระดบั ราคาสินคา้ หรอื คา่ ครองชีพวา่ มสี ภาวะดขี น้ึ หรือไม่เพยี งใด ๑95 ขอสอบเนน การคิด บูรณาการอาเซียน ประเทศไทยไดรับผลกระทบจากการรวมกลุมทางเศรษฐกิจ ครูสามารถจัดกิจกรรมบูรณาการอาเซียน โดยเพิ่มเติมขอมูลโอกาสทาง ของสหภาพยโุ รปในดา นใดมากทสี่ ดุ การคา และการลงทุนของไทยจากการเปน ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น เชน 1. ดา นการคา ระหวางประเทศและการลงทนุ 1. โอกาสในการขยายชอ งทางและโอกาสของสนิ คา ไทยในการเขา ถงึ ตลาด 2. ดา นเศรษฐกจิ และวิชาการอยา งเปน รูปธรรม อาเซยี น 3. ดานการขยายตวั ของการลงทนุ จากตา งประเทศ 4. ดานการยกเวนอัตราภาษีนําเขาและยกเลิกมาตรการท่ีมิใช 2. สามารถลดตนทุนการผลิต ลดการนําเขาวัตถุดิบท่ีใชในการผลิตได ในราคาตํา่ ลง ภาษี (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. สหภาพยุโรปเปนกลุมเศรษฐกิจ 3. สามารถจัดต้ังกิจการใหบริการ ตลอดจนสามารถทํางานในประเทศ ที่มีความเขมแข็ง เปนกลุมเศรษฐกิจขนาดใหญท่ีมีอํานาจตอรอง สมาชิกไดสะดวกขึ้น ทางเศรษฐกิจสูง ถึงแมวาในบางชวงประเทศสมาชิกบางประเทศ ตอ งประสบกบั ปญ หาทางเศรษฐกิจ เชน วิกฤตเศรษฐกิจยูโรโซน 4. สามารถยายฐานการผลิตไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นที่มีแรงงาน ทาํ ใหบ างประเทศตอ งประสบปญ หาคา เงนิ และหนสี้ งู แตภ าพรวม ทรพั ยากร หรอื ปจจยั การผลติ ท่ีดกี วา กลมุ เศรษฐกิจกย็ งั มีความเขม แข็ง อํานาจการตอรองยงั สงู ) ขอควรระมัดระวังจากการเปนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของไทย เชน มีสินคาที่เหมือนกับของไทยเขามาขายแขงกับสินคาไทย ปญหาการหล่ังไหล เขามาของแรงงานตางชาติ T215
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ภาครัฐ นโยบ๒า)ยกปารระคสลิทัง1ธิปภราะพสขิทอธิภงภาพาคการรัฐบรไิหดาแรกข อฐงาภนาะคทราัฐงดกาฎนหกมาราคยลดังาแนลธะุรงกบิจปทร่ีเะอม้ือาอณํานขวอยง ขน้ั ที่ 2 ดาํ เนนิ การอภปิ ราย ตอ การประกอบธุรกจิ การกาํ หนดยทุ ธศาสตรก ารแขงขันของรฐั บาล เสถียรภาพและความมั่นคง ของรัฐบาล ซ่งึ ปจจัยเหลา นี้ลว นมีอิทธิพลสําคญั ตอ การแขง ขันทางการคากับตา งประเทศ 15. ครใู หน กั เรยี นศกึ ษาตารางการจดั อนั ดบั ประเทศ ทมี่ คี วามสามารถในการแขง ขนั 30 รายการแรก ๓) ประสิทธิภาพของเอกชน ไดแก ประสิทธิภาพในการผลิตของภาคเอกชน พ.ศ. 2560 จากหนงั สอื เรยี น สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 โครงสรา งตลา๔ด)แรโงคงรางนสรกา างรพบนื้ริหฐาารนจัดไดกแ ากรแสลาะธทารศั ณนปูคโตภหิ ครพือนื้คฐาานนิย2มโครเปงสนรตา นงพนื้ ฐานดา นเทคโนโลยี แลว ใหน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายอนั ดบั ศกั ยภาพ ในการแขงขันของไทย จากน้ันครูต้ังคําถาม วิทยาศาสตร การศึกษา สุขภาพและสง่ิ แวดลอม เพม่ิ เตมิ เชน • เพราะเหตุใดฮอ งกงจึงเปน ประเทศที่มี การจดั อนั ดับประเทศท่มี ีความสามารถในการแขงขัน ๓๐ อนั ดบั แรก พ.ศ. ๒๕๖๐ ศักยภาพในการแขง ขนั สงู มากทส่ี ุด (แนวตอบ เชน มีแรงงานท่ีมีคุณภาพ มี อนั ดบั ประเทศ คะแนน อันดับ ประเทศ คะแนน เทคโนโลยีท่ีทันสมัย มีความพรอมในการ ๘๘.๖ พัฒนาท้ังดานเศรษฐกิจ สาธารณูปโภค ๑ ฮองกง ๑๐๐ ๑๖ นวิ ซีแลนด การคมนาคมขนสง ) ๒ สวิตเซอรแ ลนด ๙๙.๖ ๑๗ กาตาร ๘๘.๑ ๓ สิงคโปร ๙๙.๔ ๑๘ จนี ๘๗.๗ ๔ สหรัฐอเมรกิ า ๙๘.๖ ๑๙ สหราชอาณาจกั ร ๘๖.๗ ๕ เนเธอรแ ลนด ๙๖.๕ ๒๐ ไอซแลนด ๘๖.๓ ๖ ไอรแ ลนด ๙๕.๗ ๒๑ ออสเตรเลีย ๘๕.๒ ๗ เดนมารก ๙๕.๕ ๒๒ อิสราเอล ๘๕.๐ ๘ ลกั เซมเบริ ก ๙๕.๐ ๒๓ เบลเยยี ม ๘๓.๙ ๙ สวีเดน ๙๔.๙ ๒๔ มาเลเซีย ๘๓.๕ ๑๐ สหรฐั อาหรับเอมเิ รตส ๙๔.๐ ๒๕ ออสเตรีย ๘๓.๓ ๑๑ นอรเวย ๙๓.๐ ๒๖ ญี่ปนุ ๘๒.๒ ๑๒ แคนาดา ๙๒.๒ ๒๗ ไทย ๘๐.๐ ๑๓ เยอรมนี ๙๑.๕ ๒๘ สาธารณรฐั เช็ก ๗๘.๙ ๑๔ ไตหวนั ๙๐.๔ ๒๙ เกาหลีใต ๗๘.๖ ๑๕ ฟน แลนด ๘๘.๘ ๓๐ เอสโตเนีย ๗๗.๗ ท่ีมา : International Institute for Management Development, ๒๕๖๐. ๑๙๖ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 นโยบายการคลัง เปนนโยบายเก่ียวกับการใชจายและรายไดของรัฐ เชน ขอ ใดเปน แนวทางสาํ คญั ของการแขง ขนั ระหวา งประเทศในปจ จบุ นั การเพ่ิมหรือลดภาษีและหนี้สิน ซึ่งนโยบายดังกลาวจะกอใหเกิดผลกระทบตอ 1. การพัฒนาคณุ ภาพสนิ คาประเภทเดียวกนั ระดบั อปุ สงครวม เชน ระดับราคาสนิ คา อตั ราดอกเบี้ย ระดบั รายไดประชาชาติ 2. การรวมกลมุ เศรษฐกิจเพือ่ เพม่ิ อํานาจการตอ รอง สวนประกอบของผลติ ภัณฑประชาชาติ ดุลการชาํ ระเงิน และอตั ราแลกเปลยี่ น 3. การกาํ หนดอตั ราภาษสี นิ คา นาํ เขา ใหส นิ คา ตา งชาตมิ รี าคาแพง 2 สาธารณปู โภคพน้ื ฐาน เปน การบรกิ ารและประกอบการของรฐั ในดา นตา งๆ 4. การวิเคราะหความเปล่ียนแปลงของตลาดโลกเพื่อวางแผน เพอื่ ประโยชนแกป ระชาชนทั่วไป เชน ถนน โทรศัพท การขนสง แกส ไฟฟา เชือ้ เพลงิ ประปา ระบายนาํ้ กําจัดขยะ การสือ่ สาร การผลิตสนิ คา T216 (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. การรวมกลุมเศรษฐกิจเพื่อเพ่ิม อํานาจการตอรอง เปนแนวทางการแขงขันทางการคาที่สําคัญ ของประเทศตางๆ ในปจจุบัน ตัวอยางการรวมกลุมทางการคา ที่ประสบความสําเร็จ เชน สหภาพยุโรป (EU) ในทวีปยุโรป ซึ่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตก็ไดนําแนวทางเดียวกันมาใช ในการรวมเปน ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ในแตล่ ะปจ ะมสี ถาบนั นานาชาตบิ างแหง่ ทา� การศกึ ษาขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เพอ่ื จดั อนั ดบั ความ ขน้ั สอน สามารถในการแข่งขันของประเทศต่าง ๆ โดยพิจารณาข้อมูลของประเทศต่าง ๆ ท้ังที่เป็นตัวเลข สถติ แิ ละขอ้ มลู สมั ภาษณค์ วามคดิ เหน็ ของนกั ธรุ กจิ และผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง รายงานของสถาบนั นานาชาติ ขน้ั ท่ี 2 ดําเนนิ การอภปิ ราย เหลา่ นมี้ ปี ระโยชนต์ อ่ การพฒั นาศกั ยภาพในการแขง่ ขนั ของประเทศ ชว่ ยใหภ้ าครฐั และเอกชนชว่ ยกนั รักษาและเสรมิ สรา้ งขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศให้ตรงจุดและเหมาะสม 16. ครูใหนักเรียนรวมกันยกตัวอยางผลท่ีไดรับ จากรายงานการจดั อนั ดบั ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศตา่ ง ๆ ของสถาบนั จากการแขง ขนั ทางการคา ทงั้ ในประเทศและ เพ่ือการพัฒนาการจัดการ (International Institute for Management Development: IMD) ระหวางประเทศ โดยครูแนะนาํ เพม่ิ เติม ซ่ึงเป็นหน่วยงานเอกชนตั้งอยู่ท่ีเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยใช้เกณฑ์ ในการจัด (แนวตอบ เชน มีสนิ คา ใหเ ลอื กบริโภคมากขนึ้ อันดับ ๔ ด้าน ได้แก่ ผลประกอบการของเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของรัฐ ประสิทธิภาพของ มีราคาหลากหลายใหผูบริโภคสามารถเลือก ภาคธุรกิจ และโครงสร้างพ้ืนฐาน โดยมีจ�านวนประเทศท่ีจัดล�าดับท้ังหมด ๖๓ เขตเศรษฐกิจ ไดตามความพอใจ มีสินคา คุณภาพดี ราคา ตามการจดั ลา� ดับของ IMD ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ นน้ั ประเทศไทยมปี ระสทิ ธภิ าพในการแขง่ ขนั อยูใ่ น ไมแพงจากตางประเทศใหเลือกซื้อ ทําให ใรนะดเกับณปฑาน์คก่อลนาขง ้าคงอืด ี อแยต่อู ่มันีจดุดับอท่อ่ี น๒1ด๗้า นโดโยคภรงาสครก้าางรพค้ืนา้ รฐะาหนวท่าางงปวริทะยเทาศศแาสลตะกรา์แรลบะรเทิกาครโในนโภลยาพี รรววมมทอย้ังู่ ผูประกอบการตองพัฒนาคุณภาพสินคา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารการลงทนุ ในการวิจยั และพฒั นานวตั กรรมอยู่ในระดบั ต�า่ และขายในราคาไมแพง เพราะมีสินคาจาก ผปู ระกอบการหลายรายแขงขนั กนั ) ประเทศทมี่ คี วำมสำมำรถในกำรแข่งขนั ๑๐ อนั ดบั แรก ในทวีปเอเชีย พ.ศ. ๒๕๖๐ ประเทศ อันดบั ฮ่องกง ๑ สงิ คโปร์ ๓ สหรัฐอาหรบั เอมิเรตส์ ๑๐ ไตห้ วนั ๑๔ จีน ๑๘ มาเลเซีย ๒๔ ญีป่ ุ่น ๒๖ ไทย ๒๗ เกาหลใี ต้ ๒๙ คาซคั สถาน ๓๒ ทม่ี ำ : International Institute for Management Development, ๒๕๖๐. หมายเหต ุ ยกมาเฉพาะล�าดับของประเทศในทวีปเอเชีย จากตาราง เมอื่ เปรยี บเทียบกบั ประเทศเพอื่ นบา้ นแลว้ ประเทศไทยมคี วามสามารถ ในการแข่งขันสูงกว่าเกาหลีใต้ และคาซัคสถาน แต่ความสามารถในการแข่งขันด้อยกว่าฮ่องกง สิงคโปร ์ สหรัฐอาหรับเอมเิ รตส์ ไต้หวนั จนี มาเลเซีย และญปี่ ุ่น ดังนนั้ ประเทศไทยจงึ ต้องมกี าร พัฒนาศักยภาพในการแข่งขันทางด้านการผลิตและการวิจัยเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับ ต่างประเทศ ๑97 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู เศรษฐกจิ ของประเทศไทยจะเตบิ โตขน้ึ ไดเ นอื่ งจากปจ จยั ใดเปน 1 จุดออน ประเทศไทยมีจุดออนในขีดความสามารถในการแขงขัน เชน สาํ คญั ขาดแคลนบุคลากรทางดานวิทยาศาสตร เชน นักวิทยาศาสตร นักประดิษฐ โปรแกรมเมอร นักวิจัย ทําใหมีผลงานวิจัยเพ่ือพัฒนาทางวิทยาศาสตรและ 1. อัตราภาษศี ุลกากร เทคโนโลยีนอย จึงตองเปนประเทศท่ีนําเขาและรับเทคโนโลยีจากตางประเทศ 2. ภาวะเศรษฐกจิ โลก ซ่ึงมีมูลคามหาศาลเขา มาใชในประเทศ 3. ราคานาํ้ มนั ในตลาดโลก 4. การสัง่ ซ้อื จากตา งประเทศ ส่ือ Digital (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เนอื่ งจากเศรษฐกิจของไทยพ่งึ พา ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดอันดับความสามารถในการ การสงออกเปนหลัก รายไดสวนใหญของประเทศมาจากการ แขงขันของประเทศตางๆ และศักยภาพความสามารถในการแขงขันของ สง ออกสนิ คา ภาคการเกษตรและภาคอตุ สาหกรรม โดยไทยสง ออก แตล ะประเทศ ไดที่ http://www.imd.ch/wcc สินคา ภาคอุตสาหกรรมมีมูลคา มากทส่ี ุด ไดแ ก รถยนต อุปกรณ และสวนประกอบ เคร่ืองคอมพวิ เตอร อปุ กรณและสวนประกอบ T217 สวนสนิ คา เกษตรที่สง ออกมากที่สุด เชน ขา ว ยางพารา)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน õ. ¼กÅา¢รพÍงึ่ งพกา1แาลระกáา¢รแง่ ข¢่งขนั นั ททาางงเศกรษาฐรกคิจทา้ ง้ัãในนปประรเทะศเแทลศะตá่างÅประะµเทา่ ศง นป�ามราะสเูก่ทารศปรบั ปรงุ ขั้นที่ 3 สรปุ การอภิปราย คณุ ภาพของสนิ คา้ การเพมิ่ การผลติ สนิ คา้ การมสี นิ คา้ หลากหลายทา� ใหม้ กี ารลดลงของราคาสนิ คา้ จากการแขง่ ขนั ทางการคา้ ทงั้ ในและต่างประเทศส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ ดังน้ี 1. ครูสมุ ตัวแทนกลมุ แตล ะกลมุ เพอ่ื ออกมาสรุป สาระสําคัญของการอภิปรายเร่ือง การพ่ึงพา 5.๑ การเปนแหล่งสนิ ค้าทีม่ คี ณุ ภาพและราคาย่อมเยา และการแขง ขันทางเศรษฐกจิ ในทวีปเอเชยี สา� หรบั ผบู้ รโิ ภค การคา้ ระหวา่ งประเทศจะชว่ ยใหผ้ บู้ รโิ ภคสามารถแสวงหาสนิ คา้ ทม่ี คี ณุ ภาพ 2. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 10.4 เรื่อง ได้หลากหลาย ไม่ต้องจ�ากัดเฉพาะสินค้าภายในประเทศท่ีบางครั้งอาจมีราคาแพง หรือไม่ได้ การพงึ่ พาและการแขง ขนั ทางเศรษฐกจิ ในทวปี คุณลักษณะท่ีต้องการ ซ่ึงอาจมีสาเหตุมาจากต้นทุนการผลิตท่ีสูง เทคโนโลยใี นการผลติ คอ่ นขา้ ง เอเชยี ลา้ สมยั จงึ ทา� ใหผ้ ผู้ ลติ ไมส่ ามารถผลติ สนิ คา้ ได ้ในตน้ ทนุ ทต่ี า�่ สนิ คา้ จากตา่ งประเทศจงึ เปน็ ทางเลอื ก สา� หรบั ผบู้ รโิ ภคทต่ี อ้ งการซอื้ สนิ คา้ จากแหลง่ อนื่ ทม่ี รี าคาถูกกวา่ 3. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมเกี่ยวกับการพ่ึงพา ส�าหรับผู้ผลิตท่ีจะส่งสินค้าไปขายต่างประเทศจะต้องมีการปรับปรุงคุณภาพสินค้า เพื่อ และการแขงขันทางเศรษฐกิจในทวีปเอเชีย ให้ได้มาตรฐานสากล เพราะถ้าหากสินค้าไม่มีคุณภาพตามมาตรฐานก็ไม่สามารถส่งไปขาย ในแบบฝกสมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร ม.2 ต่างประเทศได้ ในขณะเดียวกันสินค้าที่ผลิตเพื่อขายในประเทศก็ต้องมีคุณภาพเช่นกัน เพราะ ผู้บริโภคมีทางเลอื กในการซื้อสินคา้ จากผผู้ ลติ รายอ่ืน ๆ ท่ีคณุ ภาพดีกว่า 4. ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ ในสว นทีน่ กั เรยี นไมเ ขาใจ 5.๒ การเปน แหล่งรายได้ของประเทศ การสง่ ออกสนิ คา้ ไปขายยงั ตา่ งประเทศทา� ใหป้ ระชาชนภายในประเทศสามารถผลติ สนิ คา้ และ มีรายได้เพิ่มข้ึนจากการส่งสินค้าออกไปจ�าหน่ายยังต่างประเทศ ผู้ประกอบการที่มีความสามารถ ในการผลิตสินค้าได้อย่างมีคุณภาพและราคา ยอ่ มเยาจะไดป้ ระโยชนจ์ ากการสง่ ออกสตู่ ลาดโลก ท่ีมขี นาดใหญม่ ากกวา่ และไมต่ อ้ งพงึ่ พาเฉพาะ ภายในประเทศเทา่ นน้ั การสง่ ออกทมี่ ากขนึ้ ชว่ ยใหป้ จั จยั การผลติ เชน่ แรงงาน ผลประกอบการของหนว่ ยงานดขี นึ้ ส่งผลให้ ได้รับผลตอบแทนและมีงานท�าตาม ไปด้วย ท�าให้เศรษฐกิจของประเทศและธุรกิจ ต่าง ๆ ขยายตัว เน่ืองจากประชาชนมีรายได้ มากข้ึนในการจับจา่ ยซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ าร การแข่งขันทางการค้าท�าให้อุตสาหกรรมมีโอกาสทาง การค้าเพ่ิมข้ึน ส่งผลให้มีการจ้างงานในประเทศเพ่ิม เศรษฐกิจของประเทศขยายตวั ๑98 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 การพ่ึงพา ประเทศในเอเชียสวนใหญตองพึ่งพาประเทศมหาอํานาจทาง การพัฒนาศักยภาพในการแขงขันของไทยในเวทีการคาโลก เศรษฐกจิ อยา งสหรัฐอเมริกาและยโุ รป เชน พึง่ พาตลาด เทคโนโลยี เครอ่ื งจักร มคี วามสําคญั อยา งไร วิทยาศาสตร น้ํามัน เชน ประเทศไทย ท่ีมีรายไดหลักจากการสงออกสินคา แตตองนําเขาสินคาประเภทเชื้อเพลิงและเครื่องจักรกลสูง โดยใน พ.ศ. 2557 (แนวตอบ เนื่องจากระบบเศรษฐกิจของไทยมีการพึ่งพาการ มกี ารนาํ เขา สนิ คา ประเภทนา้ํ มนั ดบิ มมี ลู คา สงู ถงึ 1,079 พนั ลา นบาท และนาํ เขา สงออกเปนหลัก ในขณะที่เศรษฐกิจโลกมีการเปดกวางและ สนิ คา ประเภทเครอื่ งจักรกลมีมลู คา 695 พันลา นบาท เสรีมากข้ึน มีการแขงขันกันสูง เนื่องจากการมีขอจํากัดดาน ทรัพยากร การขยายตัวของพลเมืองโลก ความกาวหนาทาง ส่ือ Digital เทคโนโลยี ดังนั้น ประเทศไทยจึงตองมีการพัฒนาศักยภาพ ทางการแขงขันในดานตางๆ เพื่อใหสามารถแขงขันกับประเทศ ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับการคาระหวางประเทศของไทย ไดท่ี ตางๆ ได เชน การพัฒนาทางดานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี http://www.ops3.moc.go.th/ ใหสามารถนํามาใชในภาคธุรกิจไดอยางแทจริง พัฒนาทักษะ ฝม อื แรงงาน มกี ารกาํ หนดสนิ คา และบรกิ ารทไี่ ทยมคี วามไดเ ปรยี บ T218 ในตลาดโลกและทาํ การพฒั นาใหแ ตกตา งจากคแู ขง เชน การเปน ฐานการผลติ ยานยนตข องเอเชีย การเปนครัวโลก)
นาํ สอน สรปุ ประเมิน 5.๓ การปรบั ปรงุ กระบวนการผลิตสนิ ค้า ขน้ั สรปุ การแขง่ ขนั ทางการคา้ ทา� ใหม้ กี ารผลติ สนิ คา้ เพมิ่ ขนึ้ จากทเ่ี คยผลติ ในประเทศเพยี งอยา่ งเดยี ว 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ กม็ กี ารจา้ งการผลติ ในตา่ งประเทศ ทา� ใหม้ กี ารจา้ งงานเพม่ิ มากขนึ้ สง่ ผลใหค้ นในประเทศมรี ายได้ การพงึ่ พาและการแขง ขนั ทางเศรษฐกจิ ในทวปี เพิ่มขึ้น มีความอยดู่ ีกินดี เอเชยี หรอื ใช PPT สรปุ สาระสาํ คญั ของเนอ้ื หา ในปัจจุบันการผลิตสินค้าและบริการมีการเปล่ียนแปลงจากการส่งออกและน�าเข้าสินค้า ตลอดจนความสําคัญตอการดําเนินชีวิต ส�าเร็จรูปมาเป็นการจ้างการผลิตช้ินส่วนต่าง ๆ กับประเทศหน่ึงและน�าไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ ประจาํ วัน ในอกี ประเทศหนงึ่ เพ่อื เปน็ การลดต้นทนุ การผลติ และไดส้ ินคา้ ทม่ี ีคุณภาพ ตัวอยา่ งเช่น การผลติ รถยนต์ ในทวีปยุโรปจะแบ่งการผลิตช้ินส่วนของรถยนต์ ไปในหลายประเทศ เช่น ในประเทศสเปน 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําช้ินงาน/ภาระงาน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ และน�าไปประกอบท่ีประเทศเยอรมนี เป็นต้น การค้าระหว่างประเทศ (รวบยอด) การจดั ทาํ PPT เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกจิ ประเภทน้ีเป็นการปรับปรุงการผลิตเพื่อลดต้นทุน ซ่ึงจะท�าให้บริษัทผู้ผลิตสามารถขายสินค้าได ้ การพ่ึงพา การแขงขันทางเศรษฐกิจในทวีป ในราคาต�่ากวา่ คแู่ ข่งได้ เอเชยี 5.4 การอย่รู อดทางธรุ กจิ 3. ครูใหน ักเรยี นทําแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร ม.2 เรอื่ ง ระบบเศรษฐกิจ การพึ่งพา การแขงขนั การแข่งขันทางการค้าบางคร้ังอาจมีความรุนแรงจนกระท่ังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ทางเศรษฐกิจในทวีปเอเชีย เพื่อทดสอบ ให้บางธุรกิจหรือบางบริษัทต้องประสบความยากล�าบากทางธุรกิจ ธุรกิจที่มีการบริหารจัดการที่ด ี ความรทู ี่ไดศ กึ ษามา มีประสิทธิภาพ หรือสามารถปรับตัวได้ดีต่อสภาวะการเปล่ียนแปลงของตลาด ธุรกิจนั้นก็มักมี ความสามารถในการแขง่ ขนั ไดด้ ี และเตบิ โตไดด้ ี สว่ นธรุ กจิ ทม่ี กี ารบรหิ ารจดั การไมด่ ี ขาดประสทิ ธภิ าพ ขนั้ ประเมนิ หรือไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับภาวะการตลาด ธุรกิจนั้นก็มักขาดความสามารถในการแข่งขัน ไม่สามารถเติบโตไดจ้ นกระท่ังอาจตอ้ งลม้ เลิกกจิ การไป 1. ครปู ระเมนิ ผล โดยสงั เกตจากการตอบคาํ ถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน กล่าวโดยสรุปได้ว่า ในปัจจุบันประเทศต่างๆ ในเอเชียมีการติดต่อค้าขายกันมากขึ้น หนา ชัน้ เรยี น มีการพ่ึงพาแลกเปลี่ยนและแข่งขันกันทางเศรษฐกิจ มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเพ่ือสร้าง ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ เช่น สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบวดั ฯ กลมุ่ ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ เอเชยี - แปซฟิ กิ หรอื กลมุ่ เอเปก เปน็ ตน้ เพอ่ื สรา้ งความเขม้ แขง็ เศรษฐศาสตร ม.2 ทางดา้ นเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าค 3. ครใู หนกั เรยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน หนวย การเรียนรูที่ 10 เรื่อง ระบบเศรษฐกิจ การ พงึ่ พา การแขงขนั ทางเศรษฐกจิ ในทวีปเอเชยี ๑99 กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล ยกตัวอยางสินคาท่ีนักเรียนใชในชีวิตประจําวัน หรือสินคา ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เร่ือง การพ่ึงพาและการ นําเขาจากตางประเทศที่มีขายท่ัวไป 1 ชนิด เชน โทรศัพท แขงขันทางเศรษฐกิจในทวีปเอเชีย ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน เคลอื่ นทยี่ หี่ อ ตา งๆ รถยนต สบื คน ขอ มลู สถติ กิ ารคา มลู คา ประเทศ และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมิน นําเขาสําคัญ วิเคราะหจุดเดนของสินคา พฤติกรรมการบริโภค ผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู ของคนไทยกับสนิ คาชนิดนั้น แลวตง้ั ประเดน็ อภิปราย เชน ทําไม หนวยที่ 10 เรื่อง ระบบเศรษฐกิจ การพ่ึงพา การแขงขันทางเศรษฐกิจใน สินคา ชนดิ นจ้ี งึ ขายดีในประเทศไทยและทว่ั โลก ทวีปเอเชีย สรปุ สาระสําคัญในรูปแบบของแผนผังความคิด แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถูกต้องของเนอ้ื หา 2 การลาดับข้นั ตอนของเรื่อง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่ รวม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ T219 ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คาํ ถามประจําหนว ยการเรียนรู คÓถาม ประจÓหนว่ ยการเรยี นรู้ ๑. ระบบเศรษฐกิจของโลกในปจั จบุ ันมกี ่ีแบบอะไรบ้าง และมีลักษณะส�าคญั อย่างไร 1. ระบบเศรษฐกจิ ในโลกปจ จบุ นั มี 3 ระบบ ไดแ ก ๒. ระบบเศรษฐกิจแต่ละรปู แบบมีขอ้ ดีและขอ้ เสียอย่างไรบ้าง ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ ม เอกชนมสี ทิ ธเิ ปน ๓. การแข่งขนั ทางการค้าส่งผลดีและผลกระทบต่อเศรษฐกจิ ของประเทศตา่ ง ๆ อย่างไรบ้าง เจาของปจจัยการผลิต กลไกราคามีบทบาท ๔. ในปจั จุบนั การพง่ึ พาทางการคา้ ในเอเชยี มรี ูปแบบอย่างไรบา้ ง และส่งผลกระทบตอ่ สาํ คญั ในการผลติ สนิ คา การผลติ การกระจาย เศรษฐกจิ โดยรวมอย่างไร และการแลกเปลี่ยน ระบบเศรษฐกิจแบบ ๕. การกระจายของทรัพยากรในโลกสง่ ผลตอ่ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ สังคมนิยม รัฐเปนเจาของปจจัยการผลิต อยา่ งไรบา้ ง และดาํ เนนิ การผลติ เอง กลไกราคาไมม บี ทบาท ในการตดั สนิ ใจผลติ เพราะการผลติ ถกู ควบคมุ กิจกรรม สร้างสรรค์พฒั นาการเรียนรู้ โดยรฐั บาล ประชาชนไดรับการดูแลเกี่ยวกับ สวัสดิการจากรัฐ ระบบเศรษฐกิจแบบผสม กิจกรรมท่ ี ๑ น กั เรียนรวมกลุม่ สบื คน้ ข้อมลู จากแหล่งตา่ ง ๆ เพิม่ เติมเกย่ี วกบั ระบบเศรษฐกิจ เอกชนมีสิทธิเปนเจาของปจจัยการผลิต โดย อยูในการควบคุมของรัฐ เอกชนมีเสรีภาพใน ของโลก แลว้ อภิปรายถงึ ลักษณะสา� คัญ ข้อด ี ขอ้ เสียของแต่ละระบบเศรษฐกจิ การผลิตสินคาและบริการ แตรัฐอาจมีสิทธิ แทรกแซงไดเ มอื่ เกดิ ผลกระทบตอ สาธารณชน กิจกรรมท่ี ๒ นกั เรยี นนา� ขา่ วเศรษฐกจิ ของเอเชยี เชน่ เกย่ี วกบั การคา้ ระหวา่ งประเทศในเอเชยี 2. ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ ม มขี อ ดี เชน มกี าร มาวเิ คราะหส์ ถานการณ์การค้า แขงขันในการผลิตสูง ทําใหผูบริโภคไดรับ สนิ คา ทมี่ คี ณุ ภาพดี ผผู ลติ มแี รงจงู ใจในการผลติ กิจกรรมท่ ี ๓ น ักเรียนหาข่าว หรือบทความ หรือโฆษณา เกี่ยวกับการเปิดตัวสินค้าที่ใช้ เนื่องจากมีกําไรเปนแรงจูงใจ ขอเสีย เชน เกิดความเหล่ือมลํ้าในการกระจายรายได เทคโนโลยชี นั้ สงู หรอื การพฒั นาสนิ คา้ ของประเทศในเอเชยี แลว้ นา� มาวเิ คราะหถ์ งึ ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม มีขอดี เชน รูปแบบการแข่งขัน การพ่ึงพาทางการค้าทีเ่ ปน็ การพฒั นาสนิ ค้าเพ่ือสนองความ ประชาชนไดรับความเสมอภาคในการดูแล ต้องการของคนในยุคปจั จุบัน สวัสดิการจากรัฐ ขอ เสยี เชน กลไกราคาไมมี บทบาทในการกําหนดการผลิต ประชาชน กิจกรรมท่ี ๔ น ักเรียนชว่ ยกนั วเิ คราะห์ ในประเดน็ “การกระจายของทรพั ยากรในโลกส่งผลต่อ ขาดเสรีภาพในการทําธุรกิจ ระบบเศรษฐกิจ แบบผสม มีขอดี เชน ประชาชนมีเสรีภาพ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศอยา่ งไร” ในการผลิต แตรัฐเขาแทรกแซงราคาไดหาก เกิดปญหากระทบตอสวนรวม ขอเสีย เชน กจิ กรรมท ่ี ๕ น กั เรยี นคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การแขง่ ขนั ทางการคา้ เพม่ิ เตมิ จากแหลง่ ความรหู้ รอื เอกชนอาจถูกแทรกแซงในกิจการ ทําใหขาด ความคลองตวั อินเทอรเ์ นต็ เช่น http://www.imd.ch/wcc 3. ผลดี เชน ทาํ ใหม สี นิ คา และบรกิ ารใหมๆ ทไ่ี ม ๒00 สามารถผลิตไดภายในประเทศ ผลเสีย เชน ทําใหผูคารายใหญที่มีทุนมากไดเปรียบผูคา รายยอยท่ีมีเงินทุนนอยกวา 4. มีการพึ่งพากันทางดานเทคโนโลยี ดานการ ลงทุน สงผลกระทบตอเศรษฐกิจ เชน หาก กลุมผผู ลิตนํา้ มันปรับราคาน้ํามันสูงขึ้น ทาํ ให ราคาน้าํ มนั โลกสงู ขนึ้ ตามไปดวย 5. ทําใหความสัมพันธเปลี่ยนจากดานการเมือง ระหวางประเทศเปน การคาระหวา งประเทศ เฉลย แนวทางประเมนิ กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเร่ืองตางๆ โดยท่ัวไป ซง่ึ เปนงานหรือช้ินงานที่ใชเวลาไมนาน สาํ หรับประเมนิ รปู แบบน้ีอาจเปนคาํ ถามปลายเปดหรือผังมโนทศั น นิยมสาํ หรบั ประเมนิ ผเู รียนรายบุคคล ประเมินความสามารถ • ใชในการประเมินความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป ญ หา ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต และความ สามารถในการใชเทคโนโลยีของผูเรียน โดยงานหรือช้ินงานจะสะทอนใหเห็นถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปประยุกตใชในชีวิต ประจํา วันอันมีความเก่ียวของกับหลักการและความสามารถทางเศรษฐศาสตรท่ีมีความจําเปนตอการใชชีวิตในสังคมปจจุบัน อาจเปนการประเมิน จากการสังเกต การเขยี น การตอบคําถาม การวเิ คราะห การแกปญหา ตลอดจนการทาํ งานรว มกัน ประเมนิ ทกั ษะ • ใชในการประเมินการแสดงทักษะของผูเรียน ในฐานะการเปนสมาชิกของสังคมท่ีตองมีความเก่ียวของกับหลักการทางเศรษฐศาสตรที่มีความซับซอน และกอเกิดเปน ความชาํ นาญในการนาํ มาเปนแนวทางปฏิบตั จิ ริงในชีวิตประจาํ วนั อยางยงั่ ยนื เชน ทักษะในการส่ือสาร ทักษะในการแกป ญ หา ทกั ษะ ชวี ิตในดา นตางๆ โดยอาจมีการนาํ เสนอผลการปฏบิ ัติงานตอ ผูเกีย่ วของ หรอื ตอสาธารณะ สง่ิ ทตี่ อ งคาํ นงึ ในการประเมนิ คอื จาํ นวนงาน หรอื กจิ กรรมทผ่ี เู รยี นปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ผปู ระเมนิ ควรกาํ หนดรายการประเมนิ และทกั ษะทต่ี อ งการประเมนิ ใหช ดั เจน T220
Chapter Overview แผนการจดั สอื่ ท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คุณลักษณะ การเรียนรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 องคป์ ระกอบ - หนังสอื เรียน 1. อธิบายความหมาย สืบเสาะ - ต รวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน - การสังเกต 1. ใฝ่เรยี นรู้ ของแผนที่ สังคมศกึ ษาฯ ม.2 และความสำ� คญั หาความรู้ - ตรวจการท�ำแบบฝกึ - การแปลความ 2. มงุ่ มั่นในการ - แบบฝกึ สมรรถนะ ของมาตราส่วน ทิศ (5Es สมรรถนะและการคดิ ขอ้ มูลทาง ทำ� งาน 2 และการคดิ และสัญลักษณท์ ี่พบใน Instructional ภูมศิ าสตร์ ม.2 ภมู ศิ าสตร์ ภูมิศาสตร์ ม.2 แผนที่ได้ (K) Model) - ตรวจใบงานที่ 11.1 - การใชเ้ ทคนิค ชั่วโมง - แบบทดสอบก่อนเรยี น 2. แปลความหมายของ - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน และเครอ่ื งมอื - PowerPoint มาตราสว่ น ทศิ และ - สงั เกตพฤตกิ รรม ทางภูมิศาสตร์ - ใบงานที่ 11.1 สัญลกั ษณท์ ี่พบใน การท�ำงานรายบคุ คล - การใช้เทคโนโลยี - เครอ่ื งมือทาง แผนทไ่ี ด้ (P) - สังเกตพฤตกิ รรม ภูมศิ าสตร์ เชน่ 3. สนใจศึกษาการแปล การท�ำงานกลมุ่ แผนท่ี เข็มทิศ ความหมายมาตราสว่ น - ประเมินคณุ ลักษณะ รปู ถา่ ยทางอากาศ ทศิ และสัญลกั ษณ์ อันพงึ ประสงค์ ภาพจากดาวเทียม ท่พี บในแผนท่ี เพือ่ การ ใช้ประโยชน์ในชวี ิต ประจำ� วันเพมิ่ มากข้นึ (A) T221
แผนการจัด ส่อื ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ ีสอน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรยี น 1. อธิบายองคป์ ระกอบ กระบวนการ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - การสังเกต 1. ใฝเ่ รียนรู้ การอ่านและ สังคมศกึ ษาฯ ม.2 และส่วนต่าง ๆ ทพ่ี บใน ทางภมู ศิ าสตร์ - ตรวจการท�ำแบบฝกึ - การแปลความ 2. ม่งุ มั่นในการ แปลความหมาย - แบบฝกึ สมรรถนะ แผนทีไ่ ด้ (K) (Geographic สมรรถนะและการคดิ ข้อมูลทาง ท�ำงาน แผนที่ และการคดิ 2. อา่ นและแปลความหมาย Inquiry ภูมิศาสตร์ ม.2 ภูมศิ าสตร์ - การใช้เทคนิค 2 ภมู ิศาสตร์ ม.2 ของแผนท่ไี ด้ (P) Process) - ตรวจใบงานท่ี 11.2 และเครอ่ื งมือ - แบบทดสอบหลงั เรยี น 3. สนใจศึกษาการอา่ น - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน ทางภมู ศิ าสตร์ ชัว่ โมง - PowerPoint และแปลความหมาย - สังเกตพฤติกรรม - การใชเ้ ทคโนโลยี - ใบงานที่ 11.2 ของแผนที่เพอ่ื การ การท�ำงานรายบุคคล - เคร่ืองมือทาง ใช้ประโยชนใ์ นชีวติ - สงั เกตพฤติกรรม ภมู ศิ าสตร์ เช่น ประจำ� วันเพ่ิมมากข้นึ การทำ� งานกลุ่ม แผนท่ี เข็มทศิ (A) - ประเมินคุณลักษณะ รปู ถา่ ยทางอากาศ อันพงึ ประสงค์ ภาพจากดาวเทียม - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรยี น T222
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑๑ การอา่ นและแปลหนว่ ยการเรยี นรทู ี่ á¼¹·ÕèÁÕËÅÒ¡ËÅÒ ขน้ั นาํ (5Es Instructional Model) ความหมายแผนท่ี ª¹Ô´ àÃÒ¨ÐÊÒÁÒö ขั้นท่ี 1 กระตุน ความสนใจ ͋ҹáÅÐá»Å ¤ÇÒÁËÁÒÂÊÔè§·èÕÍÂÙ‹ 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ช่ือเรื่อง ทจ่ี ะเรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู และผลการ º¹á¼¹·ÕèãËŒ เรยี นรู ?¶Ù¡µŒÍ§ä´ŒÍ‹ҧäà 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนว ยการเรียนรูท่ี 11 แผนที่ เป็นเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ชนิดหนึ่งท่ีมีความส�าคัญและมีประโยชน์ต่อการศึกษา พนื้ ที่ส่วนต่าง ๆ ของโลก ซึ่งในปจ จุบันแผนที่มีรปู แบบทีห่ ลากหลาย ทนั สมัย และมีความถกู ต้อง 3. ครนู ําสนทนาถงึ ภาพหนา หนวย แลววเิ คราะห แมน่ ยา� การนา� แผนทไี่ ปใชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง จา� เปน็ ตอ้ งศกึ ษาองคป์ ระกอบของแผนท ี่ ทงั้ มาตราสว่ น รว มกนั ทศิ และสญั ลกั ษณต์ า่ ง ๆ บนแผนทใ่ี หเ้ ขา้ ใจ เพอ่ื นา� ไปสกู่ ารอา่ นและแปลความหมายแผนทไ่ี ดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ ง แมน่ ย�า และสามารถนา� ข้อมลู ท่ีได้ ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นด้านตา่ ง ๆ 4. ครตู ้ังคําถามกระตนุ ความคิด โดยใหน ักเรียน รว มกันตอบคําถาม เชน ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง • จากภาพ พบเครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ ดบา ง (แนวตอบ เชน แผนที่ เขม็ ทศิ ) ส ๕.๑ ม.๒/๒ อธบิ ายมาตราส่วน ทิศ และสญั ลกั ษณ์ • ก ารแปลความหมาย มาตราสว่ น ทศิ และสญั ลักษณ์ • จากภาพ เครื่องมือทางภูมิศาสตรท่ีพบมี ในแผนที่ ความสาํ คัญอยา งไร (แนวตอบ แผนที่ มีอยดู วยกนั หลายประเภท ทงั้ ทเ่ี ปน แผนทอ่ี า งองิ และแผนทเี่ ฉพาะเรอื่ ง ซ่ึงมีความสําคัญอยางย่ิงในการบอกถึง ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะทางกายภาพ ตําแหนงที่ต้ังและการเปล่ียนแปลงของ สง่ิ ตางๆ ทีป่ รากฏบนพนื้ ผวิ โลก ในขณะที่ เข็มทิศมีความสําคัญในการบอกถึงทิศทาง ของตําแหนงท่ีต้ังของส่ิงตางๆ ทั้งในขณะ การเดนิ ทาง การศกึ ษา ตลอดจนการประกอบ กจิ กรรมตา งๆ รวมถงึ เปน องคป ระกอบหนง่ึ ท่ีสามารถใชในการแปลความหมายของ แผนทใี่ นแตละประเภทไดอ กี ดว ย) ๒0๑ เกร็ดแนะครู การเรยี นรเู กย่ี วกับองคประกอบของแผนที่ เพือ่ ใหน กั เรียนสามารถอานและแปลความหมายแผนทีไ่ ดอ ยางถกู ตอ ง ครูจงึ ควรจัดกจิ กรรมตางๆ ดังนี้ • ฝก การหาคาระยะจรงิ ในแผนท่ี โดยใชแ ผนที่จริงท่มี ีองคประกอบครบถวน กาํ หนดจดุ เปา หมาย แลว คํานวณหาระยะทางจรงิ และแปลความสญั ลักษณ ตา งๆ ในแผนท่ี • ใชเ ข็มทศิ หรอื แอปพลเิ คชันเขม็ ทศิ เพ่อื จัดทําแผนทขี่ องโรงเรียน พรอ มระบมุ าตราสว นและสญั ลักษณป ระกอบใหชดั เจน T223
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ ñ. Íงค์ประกͺ¢Íงá¼น·ีè ขน้ั ที่ 1 กระตุนความสนใจ แผนที่ มีลักษณะเป็นสื่อท่ีถ่ายทอดข้อมูลของพื้นผิวโลกในรูปแบบกราฟก โดยย่อส่วนให้ เล็กลงตามมาตราส่วนขนาดต่าง ๆ และเส้นโครงแผนท่ีแบบต่าง ๆ รวมถึงมีการใช้สัญลักษณ์ 5. ครูนําตัวอยางแผนที่ประเภทตางๆ มาให และสี แทนสง่ิ ต่าง ๆ ทป่ี รากฏอยูบ่ นผิวโลก โดยองคป์ ระกอบท่ีส�าคัญของแผนท ี่ มดี ังน้ี นกั เรยี นศกึ ษา แลว ใหน กั เรยี นรว มกนั วเิ คราะห องคป ระกอบท่ีมอี ยูใ นแผนท่ดี งั กลา ว ชอื่ แผนท่ี ขอบระวางแผนท่ี 6. ครูสมุ นกั เรยี นเพอื่ ตอบคาํ ถาม เชน 6 ํE 8 Eํ 10 ํE 12 Eํ 14 Eํ 16 ํE 18 Eํ 20 Eํ 1 • องคป ระกอบของแผนทม่ี อี ะไรบา ง แผนท่ภี ูมิประเทศอติ าลี สาธารณรฐั เช็ก N (แนวตอบ เชน ช่ือแผนที่ สัญลักษณ เ ย อ ร ม นี ทศิ คาํ อธบิ ายสัญลกั ษณ ทศิ มาตราสวน พิกดั เวียนนา สโลวาเกยี W E ภมู ศิ าสตร) 48 Nํ มวิ นิก บราติสลาวา S 48 Nํ 7. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหขอมูลแผนท่ี ฝรงั่ เศส ภมู ปิ ระเทศอติ าลี จากหนงั สอื เรยี น สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 แลวอภิปรายรวมกันถึงองคประกอบของ ซรู กิ บดู าเปสต แผนทีด่ งั กลา ว ลกิ เตนสไตน สวติ เซอรแ ลนดื อ ก เ ข า แ อ ล ปเบริ น อ อ ส เ ต รี ย ฮั ง ก า รี 46 Nํ ลูบลิยานา 46 Nํ ฝ ่รังเเศสท มลิ าน เวนสิ ตรีเอสเต สโลวีเนยี โค ซาเกรบ็ ชี ย ตูริน รเอเ เซอรเ บีย เจนัว โบโลญญา บอสเนียและ 44 Nํ 44 Nํ ราเวนนา ทะเลเอเ เฮอรเ ซโกวีนา ซาดาร โมนาโก ซานมารโี น สปลิต ซาราเยโว ลวิ อรโน อิ ต า ลี แอนโคนา ด บามรอ นเตเนโกร เปสการา ก.บคาอสเรตซยี กิ า ชวี ตี าเวกเกยี รี ย ติ ก พอดกอรตี ซา 42 Nํ อาฌาซโี ย โรม 42 Nํ ซสั ซารี โอลเบีย นาโปลี บารี สัญลกั ษณ์ บรนิ ดิซิ 40 Nํ ก.ซารดิเนีย 40 Nํ กาลซยาานรตี ามาเรียนาบาราท ะ เ ล ติ ร เ ร เ นี ย น ทะเลไอโอเนยี น 38 Nํ เมสซีนา 38 Nํ ท ะ เ ล เ ม ดิ เ ต อ ร ทราปาน� ปกาแ.ลซริซโมลิ ี กาตาเนย� มาตราสวน 1 : 10,000,000 มคา�าตอรธาิบสาว่ ยน2 นี ย น 0 100 200กม. ตูนิส เรเ สญั ลกั ษณ์ คำอธิบายสญั ลักษณ 36 Nํ มอลตา ถเเเแมสมมนนออืื นนทงง้ำหางลเวรงอื ระ213ด,,,บั 20004ค00000ว000000ามสูง (เมตร) Projection: Europe Albers Equal Area Conic 12 ํE 14 ํE ๒0๒ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด องคประกอบแผนท่ีขอใดใหขอมูลเกี่ยวกับระบบอางอิงในการ 1 ทศิ ใชอ า งองิ ตาํ แหนง และทศิ ทางตา งๆ ปกตกิ าํ หนดใหด า นบนขอบระวาง กาํ หนดตาํ แหนง ตา งๆ บนแผนท่ี แผนทเ่ี ปนทิศเหนอื เสมอ 2 คาํ อธบิ ายสญั ลกั ษณ อธบิ ายเครอ่ื งหมายทใี่ ชแ ทนสง่ิ ตา งๆ ในภมู ปิ ระเทศจรงิ 1. ทิศ เพื่อชว ยใหผ ใู ชส ามารถอานและแปลความหมายจากแผนทไ่ี ดถ กู ตอง 2. สญั ลักษณ 3. มาตราสว น 4. ขอบระวาง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ขอบระวางแผนท่ีเปนเสนที่ ก้ันขอบเขตรายละเอียดบริเวณแผนที่กับพ้ืนท่ีนอกขอบระวาง แตล ะดา นจะมตี วั เลขบอกคา พกิ ดั กรดิ และพกิ ดั ภมู ศิ าสตร ซง่ึ เปน ระบบอา งอิงในการกําหนดตาํ แหนง ตางๆ บนแผนที่) T224
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ จะเห็นได้ว่า ในแผนท่ีมีองค์ประกอบต่าง ๆ มากมายซ่ึงมีประโยชน์ต่อผู้ ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้ ขน้ั สอน สามารถแปลความหมายของขอ้ มลู และนา� ขอ้ มลู ทไ่ี ดไ้ ปศกึ ษาหรอื ใชป้ ระโยชนต์ อ่ ไป องคป์ ระกอบ ขัน้ ท่ี 2 สาํ รวจคนหา หลกั ขอ๑งแ.๑ผ นมท่ี าไตดแ้รกา่ สมวาตนร1าสว่ น ทศิ และสญั ลักษณ์ 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม สืบคนขอมูลเกี่ยวกับ เนือ่ งจากแผนทม่ี ีขนาดเล็ก จงึ จ�าเปน็ ต้องยอ่ ส่วนและมีมาตราส่วนกา� หนดไว ้ มาตราส่วน องคประกอบของแผนที่ คือ อัตราส่วนระหว่างระยะบนแผนท่ีกับระยะจริงบนพื้นผิวโลก เช่น มาตราส่วน ๑ : ๕๐๐ หมายถึง ระยะทาง ๑ หนว่ ย บนแผนที่ จะเท่ากบั ระยะทางจรงิ ๕๐๐ หน่วย บนพ้นื ผวิ โลก 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาขอมูลใน การก�าหนดมาตราสว่ น สามารถแสดงได ้ ๓ รูปแบบ ดังน้ี หัวขอท่ีรับผิดชอบ โดยนําความรูเก่ียวกับ เครื่องมือทางภูมิศาสตรมาใชประกอบในการ ๑) มาตราสว่ นค�าพูด เปน็ การใช้ค�าพูดบอกมาตราส่วนของแผนที่ เชน่ “ระยะทาง ศึกษา ๑ เซนติเมตร บนแผนที่ เท่ากับระยะทางจริง ๕๐๐ เมตร บนพืน้ ผิวโลก” ขอ้ ดีของมาตราสว่ น ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู คา� พูดนี้ คอื ท�าให้เกดิ ความเขา้ ใจงา่ ยและสามารถค�านวณระยะทางไดร้ วดเร็ว 1. แตละคนในกลมุ นําขอ มูลมาแลกเปลยี่ นกนั ๒) มาตราส่วนสัดส่วน เป็นการแสดงมาตราส่วนของแผนที่โดยใช้ตัวเลข เช่น 2. แตล ะกลมุ ชวยกันคัดเลือกขอมลู ทีถ่ กู ตอ ง 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอขอมูล “มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐” หมายถึง ระยะทาง ๑ สว่ น บนแผนท ี่ เท่ากับระยะทางจรงิ ๕๐,๐๐๐ ส่วนบนพื้นผิวโลก โดยมาตราส่วนแบบสัดส่วนจะบอกสัดส่วนท่ีเป็นหน่วยเดียวกัน โดยสามารถ หนา ชน้ั เรยี นตามประเดน็ ทศ่ี กึ ษา โดยเรม่ิ จาก เขียนเปน็ สมการได้ว่า กลมุ มาตราสว น มาตราสว่ น = ระยระทะยาะงทจารงงิ บบนนพแผน้ื นผทวิ โี่ ลก ตัวอย่าง มาตราสว่ นสดั สว่ น แผนท่ชี ่องแคบยบิ รอลตาร์ ๑ : ๑,๕๐๐,๐๐๐ จากแผนทช่ี อ่ งแคบยบิ รอลตาร ์ ๑ : ๑,๕๐๐,๐๐๐ วัดระยะช่วงทแ่ี คบที่สุดของช่องแคบระหว่างประเทศ 36 ํ 20' N สเปน N 36 ํ 10' N อลั เคซีรัส ยบิ รอลตาร สเปนและโมรอ็ กโก ไดร้ ะยะทางบนแผนท ี่ ๐.๘ ซม. น�าเข้าสมการเพื่อหาระยะทางจริงบนพ้นื ผวิ โลกได้วา่ 36 ํ 00' N 0.8 ซมเซ.วตา ๑ = ๐.๘ ชอ งแคบยบิ รอลตาร แทนเกอรเมด ๑,๕๐๐,๐๐๐ ระยะทางจริงบนพื้นผิวโลก 35 ํ 50' N โ ม ร็ อ ก โ ก ระยะทางจริงบนพื้นผิวโลก = ๐.๘ × ๑,๕๐๐,๐๐๐ แทนเจียร 35 ํ 40' N 35 ํ 30' N ระยะทางจริงบนพื้นผิวโลก = ๑,๒๐๐,๐๐๐ เซนตเิ มตร 6 ํ 00' W 6 ํ 50' W 6 ํ 40' W 6 ํ 30' W 6 ํ 20' W = ๑๒ กิโลเมตร ๒0๓ กิจกรรม สรางเสรมิ นักเรียนควรรู ใหนักเรียนฝกการคํานวณระยะทางในแผนทีจ่ ากมาตราสวน 1 มาตราสว น คอื อตั ราสว นระหวา งระยะบนแผนทกี่ บั ระยะจรงิ บนพนื้ ผวิ โลก สัดสวนใหคลอง โดยครูเปนคนตั้งโจทยหรือสถานการณ เชน เนื่องจากเราไมสามารถวาดลักษณะของพ้ืนผิวโลกลงในแผนที่ตามขนาดจริง แผนท่ีแสดงนครรัฐวาติกัน 1 : 25,000 วัดระยะทางจากประตู ได จึงตอ งยอสวนใหมขี นาดทีเ่ หมาะสมกบั วัสดทุ ่ีใชในการทําแผนที่ นอกจากนี้ ทิศตะวันออกผานจัตุรัสเซนตปเตอรไปถึงตะวันตกสุดของรัฐได มาตราสว นยงั สามารถใชใ นบรบิ ทอน่ื ๆ นอกเหนอื จากงานแผนที่ เชน การจาํ ลอง ระยะทางบนแผนที่ 5.5 เซนติเมตร ระยะทางจริงบนพ้ืนผิวโลก วตั ถขุ นาดใหญใ หเ ลก็ ลงในอตั ราสว นทก่ี าํ หนด ทาํ ใหห นุ หรอื วตั ถจุ าํ ลองมสี ดั สว น เปนเทาใด สมจรงิ และสามารถคํานวณเทยี บกบั ขนาดจรงิ ได T225
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๓) มาตราส่วนเส้น หรือมาตราส่วนแท่ง มีลักษณะท่ีเป็นเส้นตรงและมีตัวเลขที่ ก�ากับดว้ ยคา่ เทา่ กับระยะบนพื้นผวิ โลก ซ่ึงมาตราสว่ นเสน้ มีหลากหลายรปู แบบตามการออกแบบ ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู ของผผู้ ลติ แผนท่ี เช่น 4. ครูนําตัวอยางแผนที่เมืองตางๆ ในทวีปยุโรป “มาตราสว่ น ๑ : ๕๐,๐๐๐” หรอื ทวปี แอฟรกิ ามาใหน กั เรยี นรว มกนั วเิ คราะห แลว สมุ นกั เรยี นมาอธบิ ายและแปลความหมาย 0 0.5 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 4.5 5 ของมาตราสว นทพ่ี บในแผนทีด่ งั กลาว วา เปน มาตราสวนประเภทใด มีความหมายหรือ กโิ ลเมตร สามารถอานคาไดวาอยางไร ประกอบการ ศึกษาขอมูลจากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ระยะทาง ๑ เซนติเมตร บนแผนท ่ี เท่ากับระยะทาง ๐.๕ กิโลเมตร บนพ้ืนผวิ โลก ม.2 จากน้ันอภิปรายเกี่ยวกับมาตราสวนที่ พบในแผนทรี่ วมกนั 1,000 0 1,000 2,000 3,000 4,000เมตร 5. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางมาตราสวนเสน 500 500 ในแผนทเี่ มอื งเวนสิ ประเทศอติ าลี จากหนงั สอื เรยี น สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 แลว ใหน กั เรยี นรว มกนั ระยะทาง ๑ เซนตเิ มตร บนแผนที่ เทา่ กับระยะทาง ๕๐๐ เมตร บนพ้ืนผิวโลก ทํากิจกรรม Geo Activity จากหนงั สือเรยี น สังคมศึกษาฯ ม.2 เพอื่ ประกอบการวิเคราะห ตวั อยา่ ง มาตราสว่ นเสน้ ขอมลู เพ่มิ เติม แผนทเี่ มอื งเวนสิ ประเทศอติ าลี จากแผนท่ีเมืองเวนิส ไม่ได้บอกมาตราส่วน สัดสว่ น แต่ได้แสดงมาตราส่วนเส้น ท�าให้สามารถนา� 45 ํ 27' N กนั นาเรโจ มาตราสว่ นเสน้ มาคา� นวณหามาตราสว่ นแบบสดั สว่ นได้ 45 ํ 26' N คลองใหญ โดยการวดั ขนาดมาตราสว่ นเสน้ ดงั นี้ 0 ซันตาโกรเช ซนั โปโล 0 1กม. 45 ํ 25' N ซันมารโก กัสสเตลโล ๑ เซนติเมตร วัดได้ประมาณ ๐.๘ กิโลเมตร หรอื โดรโซดูโร 12 ํ 21' E ๘,๐๐๐ เมตร หมายความวา่ ๑ ซม. ตอ่ ๘๐,๐๐๐ ซม. ดังนั้น แผนที่เมอื งเวนสิ มมี าตราสว่ น ๑ : ๘๐,๐๐๐ จูเดกกา N 1กม. 12 ํ 19' E 12 ํ 20' E Aectoivity ใช้เชือกหรือด้ายฝกหาระยะทางโค้งของคลองใหญ่กลางเมืองเวนิสในแผนท่ี แล้วค�านวณระยะทาง จริงบนพื้นผวิ โลก ๒0๔ เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ครูนําแผนท่ีมาตราสวนขนาดเล็ก ขนาดปานกลาง และขนาดใหญมาให ขอใดคือการใชมาตราสวนในแผนที่ที่ใหรายละเอียดมาก แต นักเรียนดู เพ่ือใหนักเรียนสังเกตสิ่งที่ปรากฏบนแผนที่ขนาดตางๆ จากน้ัน อาณาบริเวณแคบ ต้ังคําถามเพือ่ ฝกการคิดวิเคราะห เชน 1. มาตราสวน 1 : 20,000 • แผนท่ีแตล ะมาตราสวนมีความแตกตา งกนั อยา งไร 2. มาตราสว น 1 : 50,000 • หากนักเรียนตองการศึกษาท่ีต้ังตําบลหรืออําเภอที่นักเรียนอาศัยอยู 3. มาตราสวน 1 : 75,000 4. มาตราสวน 1 : 150,000 ควรใชแ ผนทมี่ าตราสวนใด เพราะเหตใุ ด (วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. เปน แผนทมี่ าตราสว นขนาดใหญใ ห T226 รายละเอยี ดมาก แตอ าณาบรเิ วณแคบ ตวั อยา งเชน การใชป ระโยชน จากแผนท่ีกรุงเทพมหานคร ถาแผนที่มีมาตราสวน 1 : 100,000 จะสามารถแสดงภาพรวมของเขตตางๆ ในกรุงเทพมหานครได ขณะทมี่ าตราสวน 1 : 10,000 จะแสดงอาณาบรเิ วณไดเ พยี งเขตใด เขตหน่ึง แตมีรายละเอียดของตําแหนงที่ต้ังสถานท่ีสําคัญในเขต นั้นๆ ไดอ ยา งละเอียด)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑.๒ ทิศ (direction) ขน้ั สอน ทศิ ทGใ่ี ชNGGGใ้ นNNNแผนที่ที่ใชว้ ททัดศศิิ หเเหหรือนนอออืื า้แจงมรองิเ่ 1ห ิง( ลtrคก็u2ือe ( mnทoaศิ rgtเhnห)e นtคicอือื n แมoนrี t๓วhต) าปคมอืรเะ สแเน้ภนเวทมท รดป่ี เิ ดังลนยีายนี้ เทขชี่ม็ ไี้ ทปศิ ยชงั ไ้ีขปว้ั ใโนลทกเศิ หทนาอืง ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู ที่เป็นขั้วเหนือของแม่เหล็กโลกเหนือ ส่วนลูกศรครึ่งซีกแสดงถึงทิศทาง 6. ครูใหตัวแทนนักเรียนจากกลุมท่ีทําการศึกษา GNGGGNNN ทขอศิ งเหทนศิ อืเหกนรดิือ3 แ(gมrเ่idห ลnก็oทrthบ่ี )่า คยอืเบ แนนอวอทกศิไปเหจนาอืกตทาศิ มเหเสนน้ อื กจรรดิ ิงทางดง่ิ ของระบบ เรื่อง ทิศ ออกมานําเสนอขอมูลท่ีไดจากการ ศึกษา บริเวณหนาช้ันเรียนประกอบการใช เส้นโครงแผนที่ เครื่องมือทางภูมิศาสตร เชน แผนท่ี ลูกโลก เขม็ ทศิ ท้ัง ๓ ทิศมีมุมบ่ายเบนกันเล็กน้อย ถ้าอยู่ใกล้บริเวณเส้นศูนย์สูตรจะไม่บ่ายเบนมาก และอาจทบั กนั ได ้ ถา้ ยิง่ ใกล้ขวั้ โลกจะบา่ ยเบนมากขน้ึ 7. ครูนําตัวอยางแผนท่ีเมืองตางๆ ในทวีปยุโรป ในการท�าแผนที่จึงมักให้ทิศเหนือช้ีไปทางด้านบนของแผนที่ เพื่อได้ง่ายต่อการท�าความ หรอื ทวปี แอฟรกิ ามาใหน กั เรยี นรว มกนั วเิ คราะห เขา้ ใจและสะดวกต่อการใชง้ าน โดยมเี คร่อื งหมายแสดงทศิ เหนือหลายรูปแบบ เชน่ แลว สมุ นกั เรยี นมาอธบิ ายและแปลความหมาย นN N N N ของทิศที่พบในแผนที่ดังกลาววา เปนทิศที่ N ใชสัญลักษณประเภทใด มีความหมายหรือ สามารถอานคาไดวาอยางไร ประกอบการ ศึกษาขอมูลจากหนังสือเรียน สังคมศึกษาฯ ม.2 จากนน้ั อภปิ รายเกย่ี วกบั ทศิ ทพ่ี บในแผนท่ี รว มกนั ตัวอยา่ ง แผนทท่ี แี่ สดงทศิ เหนอื อยทู่ างดา้ นอน่ื ๆ ของแผนท่ี แผแนผทนคี่ ทล่ีคองลสอเุ งอสซเุ อ๑ซ: ๑,๒๐๐,๐๐๐ 1 : 1,200,000 N ทะเลเมดเิ ตอรเรเน�ยน สเุ อซ อาวสุเอซ พอรตซาอิด อัลควันตาลา ส.เกรตบิทเทอร อสิ เมอลิ ีอา คำอธิบายสัญลกั ษณ ถนน ทางนำ้ แหลง น้ำ พื้นทีเ่ พาะปลูก แผนทบ่ี รเิ วณคลองสเุ อซ ในแผนที่แสดงทิศเหนอื อยู่ทางซา้ ยของแผนท ี่ คลองสุเอซยาว ๑๖๓ กม. จากเมือง สุเอซทางใต้ไปถงึ เมืองพอร์ตซาอิด ทางเหนอื ประเทศอียปิ ต์ ๒05 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู หากนักเรียนหลงทางอยูในปา โดยไมมีเข็มทิศและเครื่องมือ 1 ทิศเหนือจริง เรียกอกี อยา งหนึ่งวา ทิศเหนือภูมศิ าสตร เปนทศิ ท่สี มมตขิ ้ึน สือ่ สาร นกั เรียนจะหาทิศเหนือดว ยวธิ ีใด เพ่อื เปนหลักในการวดั ทศิ ทาง จะอยูที่ 0 องศา 2 ทศิ เหนอื แมเ หลก็ กาํ หนดโดยขว้ั แมเ หลก็ โลก เนอ่ื งจากขว้ั เหนอื แมเ หลก็ โลก 1. ถามเพอื่ นรวมทาง ไมท บั เปนจดุ เดยี วกบั ทิศเหนอื จรงิ ขวั้ เหนือแมเหลก็ จะอยทู ี่ 73 องศาเหนอื 100 2. สงั เกตรอยเทา สตั ว องศาตะวนั ตก และขั้วใตแ มเหล็กจะอยทู ี่ 68 องศาใต 144 องศาตะวันออก 3. หาตําแหนงของดาวเหนือ 3 ทิศเหนือกริด คอื แนวทิศเหนือทีเ่ กิดจากเสนกริด หรือเสน ทล่ี ากในแผนที่ 4. สงั เกตทศิ ทางการพดั ของกระแสลม ตัดกนั เปนมมุ ฉาก ใชประโยชนในการหาคา พิกัดบนแผนที่และมุมภาคของทิศ (วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. หากไมมีเข็มทิศ เราสามารถใช T227 ประโยชนจากดวงดาวในการบอกทิศได โดยโลกหมุนรอบตัวเอง จากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก ทําใหเรามองเห็นดวงอาทิตย ดวงจันทร และกลุมดาวบนทองฟาเคลื่อนท่ีจากทางตะวันออก ไปยังตะวันตก ดาวเหนือเปนดาวดวงเดียวที่ปรากฏอยูกับท่ี ไมเคลอ่ื นไปไหน)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน Knowledge แผนทแ่ี ละเขม็ ทศิ 1 ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู แผนทแี่ ละเขม็ ทิศ เปนเครื่องมอื พ้ืนฐานทม่ี คี วามสําคัญ เข็มทิศแบบมาตรฐานท่ีพบเหน็ ไดท ว่ั ไป อยา งมากในทางภมู ศิ าสตรและสามารถนาํ มาใชใ หเกดิ 8. ครใู หน กั เรยี นศกึ ษา Geo Knowledge เกย่ี วกบั ประโยชนใ นชีวิตประจําวันไดห ลายดาน แผนที่และเข็มทิศ จากหนังสือเรียน สังคม ศกึ ษาฯ ม.2 จากนนั้ ตง้ั คาํ ถามนกั เรยี นเพม่ิ เตมิ มนษุ ยรูจ กั การใชแผนที่ควบคูกับเขม็ ทศิ มาต้งั แตส มยั เชน โบราณ โดยเฉพาะอยา งยิ่งในยุคท่มี นุษยบกุ เบกิ ดนิ แดนใหม • เพราะเหตใุ ด เข็มทศิ จงึ ชีอ้ ยใู นแนวทศิ มกี ารสาํ รวจเสน ทางการเดินเรอื ซ่ึงนาํ มาสูความเจรญิ ทาง เหนอื -ใตต ลอดเวลา อารยธรรมของมนุษย ทั้งดา นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และ (แนวตอบ เนื่องจากเข็มทิศมีหลักการทํางาน วัฒนธรรม ซง่ึ แผนทแี่ ละเขม็ ทศิ ไดเ ขา มามบี ทบาทอยางมาก โดยอาศัยแรงดึงดูดระหวางสนามแมเหล็ก แผนทแี่ ละเขม็ ทศิ จงึ เปน สงิ่ ทแ่ี สดงถึงความเจรญิ ขัว้ โลกกบั เข็มแมเ หล็กของเขม็ ทศิ ดงั นั้น เข็ม ทางอารยธรรมของมนษุ ยไดอ ยางดี แมเหล็กจึงชอี้ ยูในแนวเหนอื -ใตตลอดเวลา) • หากตอ งเดนิ ปา นกั เรยี นควรจะนาํ เครอ่ื งมอื แผนที่โบราณแสดงพน้ื ท่ขี องทวีปยโุ รป ในปจจุบันเปนยุคท่ีมีความเจริญทางดาน ทางภูมศิ าสตรช นดิ ใดไปดว ย เทคโนโลยีสูง แผนที่และเข็มทิศไดรับการพัฒนา (แนวตอบ แผนทแ่ี ละเขม็ ทิศ เนอ่ื งจากแผนที่ โดยนํามาบูรณาการใชงานรวมกันไดอยางสะดวก เปนเคร่ืองมือในการแสดงสภาพพ้ืนท่ีและ รวดเร็ว และมีความแมนยําสูง โดยอยูในรูปแบบ เสน ทาง สว นเขม็ ทศิ จะชว ยในการหาทศิ ทาง ของ GPS ซงึ่ เปน การแสดงผลขอ มลู ผา นดาวเทยี ม จงึ มปี ระโยชนใ นการเดนิ ทางในปา มากทส่ี ดุ ) ชวยใหแสดงตําแหนงบนแผนท่ีและบอกทิศทาง อยา งแมน ยาํ เทคโนโลยนี จ้ี งึ กลายเปน สง่ิ สาํ คญั และ 9. ครูอาจเพิ่มการวิเคราะหเชื่อมโยงขอมูล มีความจําเปนตอมนุษยในการทํากิจกรรมตาง ๆ เก่ียวกับการนําความรูเรื่อง ทิศ มาใชในชีวิต เชน การเดนิ ทาง การขนสง สนิ คา ทง้ั ทางบก ทางนา้ํ ประจําวันของนักเรียน โดยการใหนักเรียนใช และทางอากาศ เกิดความสะดวกรวดเร็วและลด สมารตโฟนสองดู QR Code เกี่ยวกับการ คาใชจ า ยลงไปไดมาก ใชเข็มทิศในการสํารวจสรางแผนที่ แผนผัง จากหนังสือเรียน สังคมศึกษาฯ ม.2 โดยครู แนะนาํ ประกอบการทํากจิ กรรมเพ่มิ เตมิ เราจะเห็นไดวา แมสังคมมนุษยจะมีการ เปลย่ี นแปลงและพฒั นาไปอยา งไรกต็ าม แตแ ผนท่ี และเข็มทิศก็ยังคงมีความสําคัญและอยูคูกับ วิถชี วี ติ มนษุ ยต้ังแตอดตี ถึงปจ จบุ นั อปุ กรณ GPS เปน เคร่ืองมอื ท่นี ยิ มใชกันทัว่ ไปในปจ จุบัน ๒๐๖ การใชเข็มทิศในการสํารวจสรา งแผนที่ แผนผัง นักเรียนควรรู กิจกรรม Geo - Literacy 1 เข็มทิศ เปนเครื่องมือทางภูมิศาสตรที่ใหขอมูลดานทิศทาง มีหลักการ กําหนดสถานการณใหนักเรียนเดินทางไปในภูมิประเทศที่สลับ ทํางานโดยอาศัยแรงดึงดูดระหวางสนามแมเหล็กขั้วโลกกับเข็มแมเหล็กของ ซับซอนและหลงทาง โดยไมทราบตําแหนงของตนเอง ภายใต เข็มทิศ ดังน้ัน เข็มแมเหล็กจึงช้ีอยูในแนวเหนือ-ใตตลอดเวลา การใชเข็มทิศ เงอื่ นไข ดงั นี้ ในการหาทิศทางจริงในภูมิประเทศจะตองใชเข็มทิศหาทิศเหนือกอน โดยการ วางแผนทใ่ี หต รงกบั ทศิ ทางของเขม็ ทศิ จากนนั้ จงึ ใชแ ผนทหี่ าทศิ ทางหรอื ขอ มลู • หลงทางโดยมีแผนท่แี ละเข็มทิศ อื่นๆ ไดตามวตั ถปุ ระสงค • หลงทางโดยไมมแี ผนทแี่ ละเขม็ ทิศ ใหบอกวธิ ีการหาทศิ และตาํ แหนง ของตนเอง แลว บันทึกลงสมุด สง ครผู ูส อน T228
นาํ สอน สรุป ประเมิน ๑.๓ สญั ลักษณ์ ขน้ั สอน การสรา้ งแผนทเี่ พอ่ื จา� ลองสถานทต่ี งั้ ตา่ ง ๆ จา� เปน็ ตอ้ งกา� หนดสญั ลกั ษณซ์ งึ่ เปน็ เครอ่ื งหมาย ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู ลงบนแผนท่เี พือ่ ใชแ้ ทนของจริงในแต่ละพ้นื ท่ี มที ัง้ รูปแบบที่เปน็ จดุ เส้น และพื้นที ่ ซงึ่ อาจแสดง ข้อมูลเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณก็ได้ สัญลักษณ์ที่ใช้บนแผนที่จะออกแบบให้เข้าใจง่าย โดยใช้ 10. ครูใหกลุมที่ทําการศึกษา เร่ือง สัญลักษณ รปู รา่ ง ขนาด ส ี ลวดลาย ทส่ี อดคลอ้ งกบั สงิ่ ทจ่ี ะแสดง และมคี า� อธบิ ายสญั ลกั ษณร์ ะบไุ วเ้ สมอ ออกมานาํ เสนอขอมลู ๑) ขอ้ มูลเชิงคณุ ภาพ เป็นขอ้ มลู ที่บ่งบอกถงึ ชนิด ประเภท รปู ร่าง และลกั ษณะ 11. ครูใหนักเรียนศึกษาและรวมกันทํากิจกรรม Geo Activity จากหนงั สอื เรยี น สงั คมศกึ ษาฯ ทางกายภาพที่แตกต่างกัน ไม่สามารถบอกปริมาณหรือมองเห็นได้ ซ่ึงอาจมีเกณฑ์การจ�าแนก ม.2 เพิม่ เติม แตกต่างกนั ตามวัตถปุ ระสงคก์ ารใชง้ าน ไดแ้ ก่ แผนทแ่ี สดงเขตภมู ิอากาศ เชน่ สเี หลอื งแสดงเขต ภูมอิ ากาศแบบก่งึ ทะเลทราย สีมว่ งแทนเขตภมู ิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ขน้ั สรปุ ๒) ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ เปน็ ขอ้ มลู ทแี่ สดงจา� นวนหรอื ปรมิ าณมากนอ้ ย เปน็ การจา� แนก ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขาใจ หรอื จดั กลุม่ ข้อมูลตามคา่ ของขอ้ มลู เชน่ แผนทแี่ สดงความหนาแนน่ ของประชากร แผนทแี่ สดง 1. นักเรียนรวมกันอภิปรายและทบทวนความรู ปรมิ าณฝน ซง่ึ อาจใช้สอี ่อนไลร่ ะดับไปยงั สีเขม้ หรอื ใช้รปู วงกลมขนาดใหญ่ไลไ่ ปหาขนาดเล็ก หรือใช PPT สรปุ สาระสาํ คญั ของเนอ้ื หา สัญลักษณ์ เชงิ คุณภาพ เชิงปริมาณ 2. ครูใหนกั เรยี นทําใบงานที่ 11.1 3. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร นามมาตรา เรยี งล�าดับ จ�านวนประชากร (ตวั ) ๕๐ ม.2 เกี่ยวกบั เรอื่ ง องคประกอบของแผนท่ี สนามบนิ ๒๕ ๑. สัญลักษณจ์ ดุ ศ าลากลาง นานาชาติ ๑๐ ขนั้ ประเมนิ (point symbol) โรงเรยี น ในประเทศ ปรมิ าณการสง่ ออกขา้ ว (ตนั ) โ รงพยาบาล นอ้ ยกว่า ๕๐,๐๐๐ ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล ถนน ๕๐,๐๐๑-๑๐๐,๐๐๐ ๒. สัญลกั ษณเ์ สน้ ถนน ส ายหลัก มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ 1. ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบผลจากการ (line symbol) แมน่ า้� สายรอง ความหนาแ(นคน่ นป/ตรระช.กามก.ร) ตอบคาํ ถาม การทาํ ใบงาน และการทาํ แบบฝก เ ขตปกครอง ซอย มากกวา่ ๑,๐๐๐ สมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร ม.2 ตลอดจนการใช การใชท้ ่ีดนิ พ้นื ทเ่ี สย่ี งภัยแลง้ ๕๐๑-๑,๐๐๐ เคร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตร แหลง่ น้�า สงู นอ้ ยกวา่ ๕๐๐ ๓.สญั ลักษณพ์ ้นื ท่ี ป่าไม้ ป านกลาง 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม (area symbol) นาขา้ ว ต่า� การทํางาน และการนาํ เสนอผลงาน 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.2 Aectoivity ท่ีมา : ตา� ราเทคโนโลยอี วกาศและภมู ิสารสนเทศศาสตร์, หนา้ ๓๕ ให้นักเรียนเลือกแผนที่ที่สนใจ สังเกตสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏบนแผนที่ เขียนบอกควนา/ตมรห.กมมา.ย ของสญั ลกั ษณล์ งในสมุดบนั ทึก แล้วนา� มาแลกเปลย่ี นเรยี นร้กู ับเพื่อนในชน้ั เรยี น ๒07 กิจกรรม เสรมิ สรา งคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ใช Google Earth หรือแผนที่ เพื่อสบื คน สถานทห่ี รอื ประเทศ ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอ้ื หา เรอื่ ง องคป ระกอบของแผนที่ ทน่ี กั เรียนสนใจหรืออยากไปเท่ยี ว พรอ มบอกเหตุผล โดยการอาน ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น และแปลความหมายสัญลักษณในแผนท่ีประกอบ และแนะนํา โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ี สถานที่เหลา น้นั ใหเ พื่อนฟง แนบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรหู นว ยท่ี 11 เรอื่ ง การอา นและแปลความหมาย แผนที่ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา 2 การลาดบั ขั้นตอนของเร่ือง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกล่มุ รวม ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............/................./................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ T229
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ (Geographic Inquiry Process) ò. การÍา่ นáÅะáปÅความหมายá¼น·èี 1. ครูและนกั เรยี นรวมกันทบทวนความรูเก่ียวกับ ไ ม่ว่าจกะเาปร็ในชส้แัญผลนักทษ่ีจณ�าเ์ ปส็นี ตเ้อสง้นอ ่าเนสแ้นลชะั้นแคปวลาคมวสาูงม1 หซมึ่งาถย้าขหอางกสผ่ิงู้ ใตช่า้แงผ ๆน ทท่ีมี่ปีครวาากมฏรอู้คยวู่บานมแเขผ้านใทจ ่ี องคประกอบของแผนทีท่ ีไ่ ดศึกษามา ในส่ิงต่าง ๆ กจ็ ะชว่ ยให้สามารถใชแ้ ผนท่ไี ดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการอ่านและแปลความหมายแผนท่ี ควรเริ่มจากการศึกษา ท�าความเข้าใจสัญลักษณ์ 2. ครูใหน ักเรียนจับคูเพอ่ื เลน เกม ใชสมารตโฟน ทปี่ รากฏบนแผนท ่ี ซงึ่ มคี า� อธบิ ายสญั ลกั ษณก์ า� กบั ไว ้ จากนนั้ จงึ ทา� การวเิ คราะหค์ วามเชอื่ มโยงกบั คนหาและแปลความตัวอยางแผนท่ีในทวีป พนื้ ท่ีต่าง ๆ บนแผนที ่ แลว้ สรปุ ผลการวิเคราะห์ ทา� ให ้ได้ขอ้ มลู ท่นี �าไปใช้ประโยชน์ได้ตอ่ ไป ยโุ รปหรอื แอฟรกิ า ภายในเวลาทก่ี าํ หนด จากนน้ั อภิปรายแสดงความคดิ เห็นรว มกัน ตวั อย่าง ขนั้ สอน การอา่ นและแปลความหมายแผนทแ่ี สดงภมู ปิ ระเทศของประเทศฟน แลนด์ ขั้นที่ 1 การตง้ั คาํ ถามเชิงภูมิศาสตร 20 ํE 24 ํE 28 ํE 32 ํE การอ่านและแปลความหมายN 70 Nํ 1. ครูใหนักเรียนรวมกันศึกษาตัวอยางแผนท่ี 70 Nํ แผนทีภ่ ูมปิ ระเทศฟน แลนด W E • สังเกตช่ือแผนท่ีจะบ่งบอกเร่ืองและ ภูมปิ ระเทศฟนแลนด S พื้นที่ท่ีแสดง ในที่นี้ คือ : แผนท่ีแสดง มาตราสว น 1 : 10,000,000 น.เคมี ส.อินา ีร ลักษณะภูมิประเทศบริเวณประเทศ 2. ครกู ระตนุ ใหน กั เรยี นชว ยกนั ตง้ั ประเดน็ คาํ ถาม นอรเ วย ฟนแลนด์ เชงิ ภมู ศิ าสตร เชน • การอานและแปลความหมายแผนที่สงผล น.มาวนโี อ ตอการดําเนนิ ชีวิตประจําวนั ไดอ ยา งไร น.ทอรเ อางเลกอ็บ็ กนก้ำา • พิจารณาค�าอธิบายสัญลักษณ์ใช้สีแทน ข้ันท่ี 2 การรวบรวมขอ มูล น น.คาลกิ ซ น.ลเู ลออลว โรวานม� ี ระดบั ความสงู ของพนื้ ทใ่ี นทน่ี แี้ สดงวา่ : ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ สบื คน แผนทที่ เ่ี กยี่ วขอ ง ประเทศฟนแลนด์ส่วนใหญ่เป็นท่ีราบ กับทวีปยุโรปหรือทวีปแอฟริกา แลวบันทึกขอมูล 66 Nํ น. ส วี เ ด น รั ส เ ซี ย 66 Nํ ความสงู ประมาณ ๐-๔๐๐ เมตร และ เกี่ยวกับการอานและแปลความหมายแผนที่ เต็มไปด้วยทะเลสาบ เมืองหลวง คือ โดยบันทกึ ขอมูลลงในใบงานที่ 11.2 ตามประเดน็ เซลเลฟเต เซลเลฟเตโอ เอนา.เลอูา ที่กาํ หนด อ า ว บ อ ท ลู เฮลซิงก ิ อยบู่ ริเวณทางใต้ของประเทศ นี ย อูเมโอ เ ส.เอาลูยารว ี ทางเหนอื ตดิ ประเทศนอรเ์ วย ์ ทาง กอกโกลาฟ น แ ล น ด คำอธิบายสัญลักษณ ตะวันตกจดอ่าวบอทเนีย ทางใต้ วาซา โจเอินซู เมือง จดอ่าวฟนแลนด์ ทางตะวันออก เมืองหลวง ตดิ ประเทศรัสเซีย 62 Nํ ยูแวสกูแล ถนน • ข้อสังเกต บริเวณทางใต้ของ เสนทางเรอื ประเทศฟนแลนด์เต็มไปด้วย ปอรี ตัมเปเร ส.ไซมา ส.ลาโดกา เขตประเทศ แมน ำ้ ทะเลสาบ กก.โอลันด ตูรก ู ลาหต ี ระดับความสงู (เมตร) ทะเลสาบรปู รา่ งแปลกตามากมาย มารเี อฮัมน 132,,,4002000000000000 เฮลซงิ กิ 20 ํE อ า ว ฟ น แ ล นด 32 Eํ 24 ํE 28 Eํ ๒0๘ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 เสนชั้นความสูง คือ เสนสมมติท่ีลากไปตามพ้ืนภูมิประเทศบนแผนท่ี ในการอานและแปลความหมายแผนท่ี ควรปฏิบัตติ ามขอใด ภมู ปิ ระเทศ ผา นจดุ ทมี่ รี ะดบั ความสงู เดยี วกนั เสน ชน้ั ความสงู แสดงดว ยสนี า้ํ ตาล 1. วางแผนทใี่ นแนวราบ ใชเขม็ ทศิ เพ่ือหาตําแหนงของตนเอง มีคุณสมบัติ เชน เสนชั้นความสูงทุกเสนแสดงคาระดับความสูงในแนวตั้ง 2. สงั เกตชอื่ แผนทเ่ี พอื่ ทราบอาณาบรเิ วณและเรอ่ื งราวทแ่ี ผนทแ่ี สดง เสนช้ันความสูงทุกเสนอยูในพื้นแนวนอนและระนาบเดียวกัน เสนชั้นความสูง 3. แยกประเภทสญั ลกั ษณเ ปน จดุ เสน พนื้ ที่ เพอ่ื งา ยตอ การแปลความ โดยท่ัวไปไมทับกันยกเวนบริเวณที่เปนหนาผา ทุกๆ ตําแหนงบนเสนช้ันความ 4. หันหนาทางทิศเหนือและหมุนแผนท่ีใหตรงทิศทางกอนแปล สูงเดยี วกนั มีคาความสูงเทากนั ความแผนทเี่ สมอ T230 (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. ควรสังเกตชื่อแผนท่ีท่ีจะใชให ตรงกับความตองการ ช่ือแผนที่จะบงบอกเร่ืองราวที่แสดงและ อาณาบริเวณท่ีแสดง เชน แผนท่ีแสดงเขตการปกครองของ กรุงเทพมหานคร แผนที่กรุงเทพมหานครแสดงเขตเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 ท้ังสองแผนท่ีมีความคลายคลึงกันแตแสดงเร่ืองราว ตา งกนั เพราะฉะนั้นตอ งสังเกตชอื่ แผนท่เี ปนอันดบั แรก)
นาํ สอน สรุป ประเมิน ตัวอยา่ ง ขนั้ สอน การอา่ นและแปลความหมายแผนท่ีโดยเปรยี บเทยี บเชงิ พนื้ ที่ ขน้ั ที่ 3 การจัดการขอ มลู แผนที่แสดงเขตภมู อิ ากาศ แผนทแ่ี สดงการกระจายของประชากร 1. แตล ะคนในกลุมนาํ ขอมูลมาแลกเปลย่ี นกัน ในทวีปแอฟริกา ในทวปี แอฟริกาแผนที่แสดงการกระจายของประชากรในทวีปแอฟริกา 2. สมาชกิ ชว ยกนั คัดเลือกขอ มูลทน่ี ําเสนอ 20 ํW 10 Wํ 0 ํ 10 Eํ 20 Eํ 30 Eํ 40 ํE 50 ํE 20 Wํ 10 ํW ท0 ะํ 1ม0 ดํE ิ 20 ํE 30 Eํ 40 ํE 50 Eํ N 500 0 1,000 1,500 กม. ตล า เ ล เ เ N 500 0 1,000 1,500 กม. ขนั้ ที่ 4 การวเิ คราะหและแปลผลขอมลู แบบเมดเิ ตอรเ รเนย� น ท. ส ต อ ร เร อ เ นี ย น ทวปี เอเชีย 1. แตล ะกลุมวิเคราะหแ ละตรวจสอบขอมูล 10 ํN 20 ํN 30 ํN 30 Nํ 20 ํN 10 Nํ 10 ํN 20 ํN 30 ํN แ 30 ํN 20 ํN 10 ํN 2. ครูใหน กั เรยี นนาํ เสนอขอ มลู และวิเคราะห ท วี ป เ อ เ ชี ย ท ะนเ.ไลนแลด ง รว มกนั เสนทรอปกออฟแคนเซอร ร ทะเลทรายสะฮารา ทะเลทรายสะฮารา 1 เสนทรอปกออฟแคนเซอร ข้นั ที่ 5 การสรุปเพือ่ ตอบคาํ ถาม บ ริ เ วนณ.ไนกเ�ึจงอท ะ เ ล ท ร า ย ซ า เ ฮ ล อา วเอเดน บ ริ เ ว ณ กึ� ง ท ะ เ ล ท ร า ย ซ า เ ฮ ล ท่สี งู อ งโก 1. แตละกลุมชวยกันสรุปสาระสําคัญเพ่ือตอบ แบบสะวนั นา เอธิโอเปย น.ไวตไน ล คําถามเชิงภูมศิ าสตร 0ํ เสน ศนู ยส ูตร แบบรอนชื้นแถบศนู ยส ูตร แบบท่ีสงู 0ํ 0ํ เสนศนู ยสตู ร อ า ว กิ นี ส.วกิ ตอเรมียหาสมทุ ร 0ํ 2. นกั เรยี นทาํ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) การทาํ มหาสมุทรแอตแลนติก อนิ เดยี รายงานการสืบคนแผนท่ีแสดงขอมูลภายใน น.ค ทวีปยโุ รปหรือทวปี แอฟริกา 20 ํS 10 ํS เขตภมู อิ ากาศ แบบสะวันนา 10 ํS 20 ํS 20 ํS 10 ํS 10 Sํ 20 Sํ 3. ครูใหนักเรียนทําแบบวัดฯ ภูมิศาสตร ม.2 แบบรอ นช้นื แถบศนู ยสตู ร เพ่อื ทดสอบความรทู ไ่ี ดศึกษามา แบบสะวันนา ารีายคแาลบาบฮกึ�งทะเลเทสนรทายรอปก ออฟแคปรคิ อรน ความหนาแนนของประชากร น.แซมบีซีารี นสเ บิรก แบบทะเลทราย ทะเลทร (คน/ตร.กม.) านยค.าอลทอาฮ.เดรรนาจเ ค เสน ทรอปก ออฟแคปรคิ อรนทะเลทรก.มาดา ักสการ ขนั้ สรปุ แบบก�ึงทะเลทราย 30 ํS แบบเมดิเตอรเ รเนย� น แบบอบอนุ ช้นื 30 ํS 30 ํS นอ ยกวา 1 คน 10 ํE 20 ํE 30 ํE 40 Eํ 50 Eํ 30 Sํ ครูและนักเรียนรว มกันสรปุ ความรูหรือใช PPT แบบอบอนุ ชน้ื 1-5 คน สรุปสาระสําคัญของเน้อื หา แบบทีส่ ูง 10 ํE 20 Eํ 30 Eํ 40 Eํ 50 Eํ 6-25 คน กระแสน้ำอนุ ขนั้ ประเมนิ กระแสน้ำเย็น 26-100 คน 101-500 คน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม Projection: Azimuthal Equidistant 0 ํ 501-1,000 คน การรวมกนั ทํางาน และการนาํ เสนอ มากกวา 1,000 คน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก Projection: Azimuthal Equidistant 0 ํ สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ม.2 การอ่านและแปลความหมาย 3. ครใู หนกั เรยี นทําแบบทดสอบหลังเรียน • ส งั เกตชอ่ื แผนทจี่ ะบง่ บอกเรอ่ื งและพน้ื ทที่ แี่ สดง ในทนี่ ี้ คอื : แผนทแ่ี สดงเขตภมู อิ ากาศ และแผนทแ่ี สดงการ กระจายของประชากร ในทวปี แอฟรกิ า เลอื กใชแ้ ผนที่ ๒ แผ่นนี ้ เพราะคาดว่าลักษณะภมู ิอากาศมีอทิ ธิพล ตอ่ การต้ังถนิ่ ฐานของประชากร นอกจากน ้ี มอี ทิ ธพิ ลต่อลกั ษณะพชื พรรณธรรมชาติตา่ ง ๆ อีกด้วย • พิจารณาค�าอธิบายสัญลักษณ์ของแผนที่ทั้ง ๒ แผ่น เขตภูมิอากาศต่าง ๆ และบริเวณที่มีความหนาแน่น ของประชากร เช่น บริเวณภมู ิอากาศแบบทะเลทรายสสี ม้ ในแผนทท่ี างซ้าย พืน้ ท่เี ดยี วกันในแผนทีท่ างขวา แสดงสีเหลอื งอ่อน มีความหมายวา่ เปน็ พนื้ ทคี่ วามหนาแน่นของประชากรน้อยกวา่ ๑ คน/ตารางกโิ ลเมตร • ข้อสังเกต แม้เขตทะเลทรายจะมปี ระชากรน้อยแต่บรเิ วณปากแมน่ ้า� ไนลม์ ีประชากรหนาแน่นมาก (สีมว่ ง) จะเห็นได้ว่า แผนที่มีรูปแบบที่หลากหลาย และมีสัญลักษณ์ต่าง ๆ ปรากฏอยู่มากมาย ซง่ึ ถา้ หากเราศึกษาและท�าความเข้าใจสัญลักษณต์ ่าง ๆ อยา่ งดแี ลว้ การอา่ นและแปลความหมาย แผนทีก่ จ็ ะมีความถกู ตอ้ ง และช่วยใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่ถี ูกตอ้ งเพ่ือน�าไปใชป้ ระโยชนใ์ นด้านตา่ ง ๆ แผนท่ีเปนเคร่ืองมือทางภูมิศาสตรที่มีความสําคัญและเกี่ยวของกับการดําเนินชีวิต ของเราอยางมาก ซ่ึงในยุคปจจุบันแผนท่ีไดมีการพัฒนาทั้งรูปแบบการนําเสนอและขอมูล ที่หลากหลาย เราจึงควรศึกษาและฝกฝนการใชแผนที่จนเกิดความชํานาญ เพ่ือสามารถ นาํ แผนทไี่ ปประยกุ ตใชในดานตา ง ๆ ใหเ กดิ ประโยชนในการดาํ เนินชวี ติ ประจาํ วัน ๒0๙ กิจกรรม 21st Century Skills แนวทางการวัดและประเมินผล แบงนักเรียนออกเปนกลุม จับสลากเพ่ือทํากิจกรรมตาม ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอ้ื หา เรอื่ ง การอา นและแปลความ ประเด็นอาชีพ เชน หมายแผนท่ี ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน • นักทองเทย่ี ว • นกั พยากรณอากาศ หนาช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการ • นักสงั คมสงเคราะห • นกั ธรณวี ทิ ยา นําเสนอผลงานท่แี นบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรูห นว ยที่ 11 เรือ่ ง การอา น • นกั สตั ววทิ ยา • เกษตรกร และแปลความหมายแผนท่ี จากน้ันใหแตละกลุมสืบคนแผนท่ีท่ีเก่ียวของกับทวีปยุโรป แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน หรือทวีปแอฟริกา ในประเด็นอาชีพที่จับสลากได โดยใหอานและ คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดบั คะแนน แปลความหมายแผนที่เชื่อมโยงกับอาชีพดังกลาว นําเสนอและ ลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 อภปิ รายรว มกันในชนั้ เรยี น 1 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเรื่อง 3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางสว่ น เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง T231
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ เฉลย คําถามประจาํ หนว ยการเรยี นรู คÓถาม ประจÓหนว่ ยการเรียนรู้ ๑. เราสามารถน�าแผนท่มี าใชป้ ระโยชน ์ในชีวิตประจ�าวันได้อยา่ งไร 1. ใชใ นชวี ติ ประจาํ วนั เชน ใชแ ผนทแี่ สดงเสน ทาง ๒. นักเรยี นมีวิธีปฏิบตั อิ ยา่ งไรเพอื่ ใหส้ ามารถใชแ้ ผนทช่ี นิดตา่ ง ๆ ได้อยา่ งช�านาญ คมนาคมในการเดินทาง ใชในการสงเสริม ๓. องค์ประกอบตา่ ง ๆ ทีอ่ ยู่ในแผนทีม่ คี วามส�าคญั และมีประโยชนต์ ่อผู้ใช้อย่างไร การทองเท่ียว การวางแผนการทองเที่ยว ใช ๔. การอ่านและแปลความหมายแผนที่ จา� เปน็ ตอ้ งใชท้ ักษะและองค์ความร ู้ในด้านใดบ้าง ในการรายงานปรากฏการณทางธรรมชาติ ๕. เราสามารถน�าแผนท่ีมาใช้ศกึ ษาในด้านใดบา้ งทน่ี อกเหนือจากการศึกษาดา้ นภมู ิศาสตร์ เชน แผนท่ีแสดงอุณหภูมิ แผนท่ีแสดงการ เคลือ่ นท่ีของพายุ กจิ กรรม สร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้ 2. ฝก การตคี วามและอา นแผนที่ เพอื่ ใหเ ขา ใจวา กิจกรรมที่ ๑ ห าแผนทีท่ ่นี กั เรยี นสนใจคนละ ๑ แผน่ นา� มาแลกเปลีย่ นเรียนรู้ร่วมกันกบั เพอ่ื น แผนที่ชนิดนั้นตองการนําเสนอขอมูลดานใด ฝก การแยกแยะสญั ลกั ษณ คาํ อธบิ ายสญั ลกั ษณ ในช้ันเรยี น จากนัน้ น�าแผนทข่ี องตนมาเขียนสรปุ ลงในสมดุ บนั ทกึ ว่าเปน็ แผนท่ี ของแผนทแี่ ตล ะชนดิ เพอื่ ความเขา ใจทถ่ี กู ตอ ง อะไร ข้อมลู ในแผนทแี่ สดงอะไรบา้ ง และแผนทน่ี ม้ี ีประโยชน์อยา่ งไร และตองเขาใจองคประกอบของแผนที่ให ชัดเจน เพอื่ งายตอ การใชงานในดานนนั้ ๆ กจิ กรรมที่ ๒ แ บง่ กลุม่ แลว้ หาแผนที่กลุ่มละ ๑ แผ่น จากน้ันชว่ ยกนั วเิ คราะหข์ อ้ มลู ที่ปรากฏ 3. องคประกอบตางๆ ในแผนที่มีความสําคัญ อยบู่ นแผนท ่ี รว่ มกนั อา่ นและแปลความหมายแผนท ่ี แลว้ เขยี นสรปุ ผลท่ีไดล้ งใน เพราะแตละองคประกอบจะทําหนาที่อธิบาย สมดุ บนั ทึก จากนัน้ ใหต้ ัวแทนกลมุ่ ออกมาน�าเสนอหนา้ ช้ันเรยี น ขอมูลของตัวเองใหผูใชสามารถเขาใจไดงาย ยงิ่ ขน้ึ หากขาดองคประกอบใดองคประกอบ กิจกรรมท่ี ๓ ยกตวั อยา่ งกจิ กรรมทน่ี กั เรยี นพบเหน็ ในชวี ติ ประจา� วนั ทมี่ แี ผนทเ่ี ขา้ มาเกยี่ วขอ้ ง หนงึ่ ไปอาจทาํ ใหเ กดิ การเขา ใจผดิ และถอื เปน แผนทที่ ่ีไมส มบรู ณ แลว้ อธิบายวา่ มีกจิ กรรมอะไรบ้าง และแผนทีม่ ีประโยชน์อยา่ งไร โดยเขยี นสรปุ ลงในสมดุ บันทึก 4. ดานการสังเกต การตีความ และการเขาใจ ความหมายของสัญลักษณ เชน สังเกตที่ ๒๑0 ช่ือแผนท่ี เพ่ือทราบเร่ืองและพ้ืนท่ีที่แสดง พิจารณาและตีความคําอธิบายสัญลักษณ การใชสีแทนระดับความสูงของพ้ืนที่ การใช จดุ แทนท่ีตั้งเมอื ง การใชเสนสฟี า แทนแมนา้ํ 5. เชน ใชในกิจการทหาร โดยนําไปเปนขอมูล ในการวางแผนทางยุทธศาสตร ใชเปน ขอมูลพ้ืนฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคม เชน แผนท่ีแสดงความหนาแนนของ ประชากร ใชเปนขอมูลในการวางแผนสราง ระบบสาธารณปู โภค เชน วางแผนการตดั ถนน เฉลย แนวทางประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาทักษะ ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยทั่วไป งานหรือช้นิ งานใชเวลาไมน าน งานสาํ หรบั ประเมินรูปแบบนอ้ี าจเปนคําถามปลายเปด หรอื ผังมโนทัศน นิยมสําหรบั ประเมนิ ผูเ รียนรายบุคคล ประเมินความสามารถ • เชน ความคลอ งแคลว ในการใชเ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร การแปลความหมายขอ มลู ทกั ษะการตดั สนิ ใจ ทกั ษะการแกป ญ หา งานหรอื ชนิ้ งานจะสะทอ นถงึ ทักษะและระดับความสามารถในการนาํ ความรูไปใช อาจเปน การประเมนิ การเขียน ประเมินกระบวนการทาํ งานทางภูมิศาสตรต างๆ หรอื การวเิ คราะห และการแกปญ หา ประเมนิ ทกั ษะ • มีเปา หมายหลายประการ ผเู รียนไดแ สดงทักษะ ความสามารถทางภมู ิศาสตรตา งๆ ท่ซี ับซอ นขนึ้ งานหรือชนิ้ งานมกั เปน โครงงานระยะยาว ซึ่งผเู รียน ตองมกี ารนาํ เสนอผลการปฏบิ ตั งิ านตอผเู กยี่ วขอ งหรอื ตอ สาธารณะ ส่ิงท่ีตองคํานึงถึงในการประเมิน คือ จํานวนงานหรือกิจกรรมที่ผูเรียนปฏิบัติ ซ่ึงผูประเมินควรกําหนดรายการประเมินและทักษะท่ีตองการประเมินให ชดั เจน T232
Chapter Overview แผนการจัด สื่อท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลักษณะ การเรยี นรู้ อนั พึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ลักษณะทาง - หนงั สือเรยี น 1. วเิ คราะห์ลกั ษณะทาง กระบวนการ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรียน - การสังเกต 1. มวี นิ ยั กายภาพของ สงั คมศกึ ษาฯ ม.2 กายภาพของทวปี ยุโรป ทางภมู ศิ าสตร์ - ตรวจการท�ำแบบฝึก - การแปลความ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ทวปี ยโุ รป - แบบฝกึ สมรรถนะ ได้ (K) (Geographic สมรรถนะและการคดิ ข้อมูลทาง 3. มุ่งมั่นในการ และการคิด 2. ใชเ้ ครอ่ื งมือทาง Inquiry ภมู ศิ าสตร์ ม.2 ภูมศิ าสตร์ 3 ภูมศิ าสตร์ ม.2 ภมู ศิ าสตร์สืบคน้ ข้อมลู Process) - ตรวจใบงานท่ี 12.1 - การคิดเชิงพื้นที่ ทำ� งาน - การคดิ แบบ ชั่วโมง - แบบทดสอบก่อนเรยี น เกี่ยวกบั ลักษณะทาง - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน องค์รวม - PowerPoint กายภาพของทวีปยุโรป - สังเกตพฤตกิ รรม - การใชเ้ ทคโนโลยี - ใบงานท่ี 12.1 ได้ (P) การท�ำงานรายบุคคล - เครอื่ งมือทาง 3. เหน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา - สงั เกตพฤติกรรม ภูมิศาสตร์ เชน่ เก่ียวกบั ลักษณะทาง การท�ำงานกลมุ่ แผนที่ เขม็ ทิศ กายภาพของทวปี ยโุ รป - ประเมนิ คณุ ลักษณะ รูปถ่ายทางอากาศ เพ่ิมมากข้นึ (A) อนั พงึ ประสงค์ ภาพจากดาวเทยี ม แผนฯ ที่ 2 - หนังสือเรียน 1. วิเคราะห์และจำ� แนก กระบวนการ - ต รวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน - การสังเกต 1. มีวนิ ยั ลักษณะ สังคมศกึ ษาฯ ม.2 ลกั ษณะภูมิอากาศและ ทางภมู ศิ าสตร์ - ต รวจการท�ำแบบฝึก - การแปลความ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ภูมอิ ากาศ - แบบฝึกสมรรถนะ พชื พรรณธรรมชาติ (Geographic สมรรถนะและการคดิ ข้อมูลทาง 3. มงุ่ มนั่ ในการ และพืชพรรณ และการคดิ ของทวีปยุโรปได้ (K) Inquiry ภมู ิศาสตร์ ม.2 ภูมิศาสตร์ ธรรมชาติ ภูมิศาสตร์ ม.2 2. ใช้เครื่องมือทาง Process) - ตรวจใบงานท่ี 12.2 - การใช้เทคนคิ ท�ำงาน - PowerPoint และเคร่ืองมือ 2 - ใบงานท่ี 12.2 ภมู ศิ าสตรส์ บื คน้ เกยี่ วกบั - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน ทางภมู ิศาสตร์ - เครื่องมอื ทาง ลกั ษณะภมู อิ ากาศและ - สังเกตพฤติกรรม - การคิดแบบ ชว่ั โมง ภูมศิ าสตร์ เชน่ พชื พรรณธรรมชาตขิ อง การท�ำงานรายบคุ คล องคร์ วม แผนท่ี เข็มทศิ ทวีปยุโรปได้ (P) - สังเกตพฤติกรรม - การใช้เทคโนโลยี รปู ถ่ายทางอากาศ 3. เหน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา การท�ำงานกลุ่ม ภาพจากดาวเทียม ลักษณะภูมอิ ากาศและ - ป ระเมนิ คุณลกั ษณะ พชื พรรณธรรมชาต ิ อนั พงึ ประสงค์ ของทวีปยโุ รปเพิ่ม มากข้ึน (A) T233
แผนการจดั ส่อื ท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คุณลกั ษณะ การเรียนรู้ - หนงั สอื เรียน อนั พึงประสงค์ แผนฯ ท่ี 3 ลกั ษณะ สงั คมศึกษาฯ ม.2 1. วเิ คราะห์และจำ� แนก กระบวนการ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรียน - การสงั เกต 1. มีวนิ ยั ทรพั ยากร - แบบฝกึ สมรรถนะ ลกั ษณะทรัพยากร ทางภมู ศิ าสตร์ - ตรวจการท�ำแบบฝึก - การแปลความ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ธรรมชาติ และการคดิ ธรรมชาตขิ องทวีปยุโรป (Geographic สมรรถนะและการคิด ขอ้ มลู ทาง 3. ม่งุ ม่นั ในการ ภมู ิศาสตร์ ม.2 ได้ (K) Inquiry ภมู ศิ าสตร์ ม.2 ภูมศิ าสตร์ 2 - PowerPoint 2. ใชเ้ ครื่องมอื ทาง Process) - ตรวจใบงานที่ 12.3 - การใช้เทคนคิ ทำ� งาน - ใบงานที่ 12.3 และเครอ่ื งมือ ช่ัวโมง - เคร่อื งมือทาง ภมู ิศาสตรส์ บื ค้น - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน ทางภูมศิ าสตร์ ภูมิศาสตร์ เชน่ เกย่ี วกบั ลกั ษณะ - สงั เกตพฤตกิ รรม - การคิดเชงิ พ้ืนที่ แผนท่ี เข็มทิศ ทรัพยากรธรรมชาต ิ การท�ำงานรายบคุ คล - การคดิ แบบ รปู ถา่ ยทางอากาศ ของทวปี ยุโรปได้ (P) - สังเกตพฤตกิ รรม องคร์ วม ภาพจากดาวเทียม 3. เห็นคุณคา่ ของการ การท�ำงานกลมุ่ - การใชเ้ ทคโนโลยี ศกึ ษาเกีย่ วกบั ลกั ษณะ - ประเมนิ คุณลกั ษณะ ทรัพยากรธรรมชาต ิ อันพงึ ประสงค์ ของทวีปยโุ รปเพิ่ม มากขึน้ (A) แผนฯ ท่ี 4 - หนงั สือเรยี น 1. อ ธบิ ายการตัง้ ถน่ิ ฐาน กระบวนการ - ต รวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - การสังเกต 1. มวี ินัย ลักษณะ สังคมศึกษาฯ ม.2 การกระจายและการ ทางภมู ศิ าสตร์ - ตรวจการท�ำแบบฝกึ - การแปลความ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ประชากร สงั คม - แบบฝึกสมรรถนะ เปลี่ยนแปลงประชากร (Geographic สมรรถนะและการคิด ขอ้ มูลทาง 3. มุ่งม่นั ในการ และวัฒนธรรม และการคิด ในทวีปยุโรปได้ (K) Inquiry ภมู ศิ าสตร์ ม.2 ภมู ศิ าสตร์ ของทวปี ยโุ รป ภมู ิศาสตร์ ม.2 2. อธบิ ายลักษณะทาง Process) - ตรวจใบงานที่ 12.4 - การใช้เทคนิค ทำ� งาน และเครือ่ งมือ 3 - PowerPoint สงั คมและวฒั นธรรม - ประเมินการนำ� เสนอผลงาน ทางภมู ิศาสตร์ - ใบงานที่ 12.4 ของประชากรในทวีป - สงั เกตพฤตกิ รรม - การคิดเชงิ พน้ื ที่ ช่วั โมง - เครื่องมือทาง ยุโรปได้ (K) การท�ำงานรายบุคคล - การคดิ แบบ องคร์ วม ภมู ศิ าสตร์ เช่น 3. วิเคราะห์ปัจจยั ทาง - สงั เกตพฤตกิ รรม แผนท่ี เขม็ ทิศ กายภาพและปจั จัยทาง การท�ำงานกล่มุ รูปถ่ายทางอากาศ สงั คมทส่ี ่งผลต่อการ - ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ภาพจากดาวเทียม เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง อันพึงประสงค์ ทางประชากร สังคม และวัฒนธรรมในทวปี ยโุ รปได้ (K) 4. ใชเ้ คร่อื งมือทาง ภมู ิศาสตรส์ บื คน้ เกยี่ วกบั ลักษณะ ประชากร สงั คม และวัฒนธรรมของ ทวีปยโุ รปได้ (P) 5. เห็นคณุ คา่ ของการ ศึกษาเกี่ยวกับลกั ษณะ ประชากร สงั คมและ วฒั นธรรมของทวปี ยุโรปเพ่ิมมากขึน้ (A) T234
แผนการจัด ส่อื ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คณุ ลักษณะ การเรียนรู้ - หนังสือเรยี น อนั พึงประสงค์ แผนฯ ท่ี 5 ลกั ษณะ สังคมศึกษาฯ ม.2 1. อธิบายลักษณะท่ัวไป สืบเสาะ - ต รวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - การสังเกต 1. มีวินัย เศรษฐกิจ - แบบฝกึ สมรรถนะ ทางเศรษฐกิจของทวีป หาความรู้ - ตรวจการท�ำแบบฝกึ - การแปลความ 2. ใฝ่เรียนรู้ ของทวีปยุโรป และการคดิ ยโุ รปได้ (K) (5Es สมรรถนะและการคิด ข้อมลู ทาง 3. มุ่งมนั่ ในการ ภูมศิ าสตร์ ม.2 2. ระบทุ ำ� เลทีต่ ง้ั ของ Instructional ภมู ศิ าสตร์ ม.2 ภูมิศาสตร์ 4 - PowerPoint กิจกรรมทางเศรษฐกจิ Model) - ตรวจใบงานท่ี 12.5 - การใชเ้ ทคนิค ท�ำงาน - ใบงานที่ 12.5 และเครอื่ งมือ ชั่วโมง - เครื่องมอื ทาง ในทวปี ยโุ รปได้ (K) - ประเมนิ การนำ� เสนอผลงาน ทางภมู ิศาสตร์ ภมู ิศาสตร์ เช่น 3. วเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลง - สงั เกตพฤติกรรม - การใช้เทคโนโลยี แผนท่ี เข็มทศิ ทางเศรษฐกจิ ของทวปี การท�ำงานรายบุคคล รูปถ่ายทางอากาศ ยโุ รปได้ (K) - สงั เกตพฤตกิ รรม ภาพจากดาวเทยี ม 4. ใชเ้ ครือ่ งมอื ทาง การท�ำงานกลุม่ ภมู ศิ าสตร์สบื คน้ - ป ระเมนิ คณุ ลักษณะ เกยี่ วกบั ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ เศรษฐกิจของทวปี ยโุ รปได้ (P) 5. เหน็ คุณคา่ ของการ ศึกษาเกย่ี วกบั ลักษณะ เศรษฐกิจของทวปี ยโุ รปเพิ่มมากข้นึ (A) แผนฯ ท่ี 6 - หนังสือเรยี น 1. อธิบายลกั ษณะทาง กระบวนการ - ต รวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - การสงั เกต 1. มีวนิ ยั ภัยพิบัติและ สังคมศึกษาฯ ม.2 กายภาพของทวีปยุโรป ทางภมู ศิ าสตร์ - ตรวจการท�ำแบบฝึก - การแปลความ 2. ใฝ่เรียนรู้ แนวทางการ - แบบฝกึ สมรรถนะ ที่สง่ ผลตอ่ การเกิด (Geographic สมรรถนะและการคดิ ข้อมูลทาง 3. มุง่ มน่ั ในการ จัดการของ และการคดิ ภัยพบิ ัตไิ ด้ (K) Inquiry ภมู ศิ าสตร์ ม.2 ภูมิศาสตร์ ทำ� งาน ทวปี ยโุ รป ภมู ศิ าสตร์ ม.2 2. วเิ คราะหส์ าเหตแุ ละ Process) - ตรวจใบงานท่ี 12.6 - การใชเ้ ทคนิค - PowerPoint ผลกระทบของการเกดิ - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน และเครือ่ งมอื 3 - ใบงานที่ 12.6 ภัยพิบตั ใิ นทวปี ยุโรปได้ - สังเกตพฤติกรรม ทางภมู ศิ าสตร์ - เคร่อื งมอื ทาง (K) การท�ำงานรายบคุ คล - การคิดเชงิ พน้ื ท่ี ชัว่ โมง ภูมิศาสตร์ เช่น 3. วเิ คราะห์แนวทางการ - สังเกตพฤตกิ รรม - การคิดแบบ แผนที่ เข็มทศิ รปู ถ่ายทางอากาศ จดั การภยั พบิ ตั ิท่ีเกดิ ขึน้ การท�ำงานกลุม่ องค์รวม ภาพจากดาวเทยี ม ในทวปี ยโุ รปได้ (K) - ประเมนิ คุณลักษณะ - การใช้เทคโนโลยี 4. ใชเ้ ครือ่ งมือทาง อนั พงึ ประสงค์ - การใชส้ ถติ พิ นื้ ฐาน ภมู ศิ าสตรส์ ืบค้นขอ้ มลู เก่ียวกับภยั พิบตั ิและ แนวทางการจดั การ ของทวปี ยโุ รปได้ (P) 5. เห็นคุณค่าของการ ศึกษาเก่ยี วกับภยั พบิ ัติ และแนวทางการจดั การ ของทวปี ยุโรปเพิ่ม มากขึ้น (A) T235
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360