Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ-วิทยาศาสตร์ ป.4

คู่มือ-วิทยาศาสตร์ ป.4

Published by Phatwarin Srikhamnoy, 2019-04-10 04:27:49

Description: คู่มือ-วิทยาศาสตร์ ป.4

Search

Read the Text Version

299 คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 5.2 เม่ือนากระดาษไขมากันแสง นักเรียนต้องสังเกตอะไร (ลักษณะการ มองเห็นเปลวเทียนไขเม่อื มองผา่ นกระดาษไข) 5.3 กจิ กรรมนี นักเรยี นต้องพยากรณ์เรื่องอะไร (ถ้ามองเปลวเทียนไขผ่าน วัตถุกันแสงชนิดต่าง ๆ ลักษณะการมองเห็นเปลวเทียนไขจะเป็น อย่างไร) 5.4 หลังจากตรวจสอบการพยากรณ์แล้ว นักเรียนต้องทาอะไรต่อไป (จาแนกวตั ถทุ ่ีนามาใชก้ ันแสง) 6. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว นักเรียนจะได้ ปฏิบัติตามขนั ตอน ดังนี 6.1 ร่วมกันสังเกตและอภิปรายลักษณะของวัตถุต่าง ๆ ท่ีจะนามากันแสง (S1)(C5) 6.2 นากระดาษไขมากันแสงแล้วสังเกตลักษณะการมองเห็นเปลวเทียนไข เมอ่ื มองผ่านกระดาษไข บันทกึ ผล (S1) 6.3 พยากรณ์และบันทึกว่าเมื่อมองเปลวเทียนไขโดยนาวัตถุอ่ืน ๆ มากัน แสง ลกั ษณะการมองเหน็ เปลวเทยี นไขจะเป็นอยา่ งไร (S7) 6.4 จาแนกวัตถุที่นามาใช้กันแสง บันทึกผลการจาแนกและเกณฑ์ที่ใช้ใน การจาแนก (S4)(C2, C5) 6.5 ร่วมกันอภิปรายและลงความเห็นจากข้อมูลว่าวัตถุใดเป็นตัวกลาง โปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง หรือวัตถุทึบแสง และนาเสนอ (S8)(C4, C5) 6.6 ร่วมกันอภิปรายลงข้อสรุปเก่ียวกับการจาแนกวัตถุออกเป็นตัวกลาง โปรง่ ใส ตัวกลางโปร่งแสง และวตั ถุทบึ แสง (C5) 7. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรม โดยอาจใช้คาถาม ดังนี 7.1 นักเรียนใช้ข้อมูลใดมาเป็นพืนฐานในการพยากรณ์ลักษณะการ มองเหน็ เปลวเทียนไขผ่านวัตถุกันแสงต่าง ๆ (จากการสังเกตลักษณะ การมองเหน็ เปลวเทยี นไขเมือ่ มองผา่ นกระดาษไข) 7.2 วัตถุกันแสงใดเมื่อนามากันแสงจากเปลวเทียนไขแล้ว มองเห็นเปลว เทียนไขได้ (กระจกฝ้า กระดาษแก้วสีต่าง ๆ แผ่นพลาสติกใส แผน่ พลาสติกขุน่ ) 7.3 การมองเห็นเปลวเทียนไขผ่านวัตถุกันแสงทุกชนิดจะมองเห็นได้ ชัดเจนเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (ความชัดเจนไม่เหมือนกัน เม่ือนา แผ่นพลาสติกใส กระดาษแก้วสีต่าง ๆ มากันแสงจากเปลว เทียนไข  สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 300 จะเห็นเปลวเทียนไขชัดเจน ส่วนกระจกฝ้าและแผ่นพลาสติกขุ่นจะ มองเหน็ เปลวเทียนไขไม่ชัดเจน) 7.4 วัตถุกันแสงใดบ้างที่นามากันแสงจากเปลวเทียนไขแล้วมองไม่เห็น เปลวเทียนไข (แผ่นกระดาษแขง็ แผ่นไม)้ 7.5 เราสามารถจาแนกวัตถุกันแสงตามลักษณะการมองเห็นเปลวเทียนไข ได้กี่ประเภท อะไรบ้าง (3 ประเภท คือ (1) วัตถุท่ีกันแสงจากเปลว เทียนไขแล้วมองเห็นเปลวเทียนไขชัดเจน (2) วัตถุที่กันแสงจากเปลว เทียนไขแล้วมองเห็นเปลวเทียนไขได้ แต่ไม่ชัดเจน (3) วัตถุที่กันแสง จากเปลวเทยี นไขแลว้ มองไม่เหน็ เปลวเทยี นไข) 7.6 วัตถุกันแสงชนิดใดบ้างเป็นตัวกลางของแสง เพราะเหตุใด (กระดาษไข กระจกฝ้า กระดาษแก้วสีต่าง ๆ แผ่นพลาสติกใส แผ่น พลาสติกขุ่น เปน็ ตัวกลางของแสงเพราะแสงสามารถผ่านวัตถุดังกล่าว ได้ ทาใหเ้ รามองเห็นเปลวเทยี นไขได้) 7.7 วัตถุกันแสงชนิดใดบ้างเป็นวัตถุทึบแสง เพราะเหตุใด (แผ่นไม้และ กระดาษแข็ง เพราะแสงไม่สามารถผ่านวัตถุกันแสงได้ ทาให้เรามอง ไมเ่ ห็นเปลวเทยี นไข) 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและนาเสนอเก่ียวกับวัตถุที่เป็นตัวกลาง ของแสงและวัตถุทึบแสงดังนี ตัวกลางของแสงแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ตวั กลางโปรง่ ใส เป็นวัตถทุ ี่กนั แสงจากเปลวเทยี นไขแล้วมองเหน็ เปลวเทียน ไขชัดเจน ตัวกลางโปร่งแสงเป็นวัตถุที่กันแสงจากเปลวเทียนไขแล้ว สามารถมองเห็นเปลวเทียนไขได้แต่ไม่ชัดเจนและวัตถุทึบแสงเป็นวัตถุที่กัน แสงแล้วมองไม่เหน็ เปลวเทยี นไข 9. ครูและนักเรียนร่วมกันลงข้อสรุปผลการทากิจกรรมว่าเม่ือมีวัตถุกันแสง ชนิดตา่ ง ๆ มากันแสง จะทาใหม้ องเห็นแสงจากเปลวเทียนแตกต่างกัน เรา สามารถจาแนกวัตถุกันแสงโดยใช้ลักษณะการมองเห็นแสงเป็นเกณฑ์ได้ 3 ประเภท คือ ตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปรง่ แสง และวตั ถุทบึ แสง 10. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบในฉันรู้อะไร โดยครูอาจเพิ่มคาถามใน การอภิปรายเพือ่ ใหไ้ ดแ้ นวคาตอบทถ่ี ูกต้อง 11. นักเรียนสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี จากนันนักเรียนอ่านสิ่งที่ได้ เรยี นรู้ และเปรยี บเทยี บกับข้อสรปุ ของตนเอง 12. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตังคาถามเกี่ยวกับเรื่องท่ีสงสัยหรืออยากรู้ เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า จากนันครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นาเสนอ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

301 คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงาน คาถามของตนเองหน้าชันเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับ คาถามทน่ี าเสนอ 13. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในขันตอนใด แล้วบนั ทึกลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรมหนา้ 115 14. นักเรียนอ่านรู้อะไรในเร่ืองน้ี ในหนังสือเรียน หน้า 130 ครูและนักเรียน ร่วมกันอภิปรายเพ่ือนาไปสู่ข้อสรุปเก่ียวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ในเร่ืองนี จากนันครูกระตุ้นให้นักเรียนตอบคาถามในช่วงท้ายของเนือเร่ือง ดังนี “ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เราสามารถมองเห็นส่ิงต่าง ๆ ได้ชัดเจน เพราะ อากาศเป็นตัวกลางโปร่งใส แต่ถ้าวันใดมีหมอกควันหนาปกคลุม การ มองเหน็ ส่ิงต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร จะยังคงมองเห็นชัดเจนอยู่หรือไม่ และ อากาศในบริเวณนันเป็นตัวกลางชนิดใด” ครูและนักเรียนร่วมกัน อภิปรายแนวทางการตอบคาถาม เช่น ในวันที่มีหมอกควันหนาปกคลุม การมองเห็นส่ิงต่าง ๆ จะไม่ชัดเจน เน่ืองจากอากาศในบริเวณนันเป็น ตัวกลางโปร่งแสง นักเรียนอาจมีคาตอบท่ีแตกต่างจากนี ครูควรเน้นให้ นกั เรยี นตอบคาถามพรอ้ มอธิบายเหตุผลประกอบ ความรูเ้ พ่มิ เตมิ สาหรบั ครู การจาแนกตัวกลางของแสง แบง่ ไดเ้ ป็นตัวกลางโปร่งใส และตัวกลางโปร่งแสง โดยเมื่อแสงกระทบ ตัวกลางโปร่งใสแล้ว แสงจะผ่านตัวกลางเข้าสู่ตาได้โดยไม่เบนไปจากแนวการเคล่ือนท่ีเดิม ทาให้มองเห็น วตั ถผุ ่านตวั กลางโปร่งใสไดช้ ัดเจน ในสว่ นของตวั กลางโปร่งแสง นักเรียนมักมีแนวคิดคลาดเคลื่อนว่าแสงจะ เคลื่อนท่ีผ่านตัวกลางโปร่งแสงเป็นแนวตรง โดยไม่มีการเปล่ียนทิศทางการเคล่ือนที่ (Sampson & Schleigh, 2013) ซึ่งในความเป็นจริงแสงจะกระทบตัวกลางโปร่งแสงแล้วเกิดการเบนทิศทางไปจาก แนวเดิมอย่างไม่เป็นระเบยี บเข้าสตู่ า ทาใหม้ องเห็นวัตถุผ่านตวั กลางโปร่งแสงไม่ชัดเจน  สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลงั งาน 302 แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม สงั เกตและจาแนกวตั ถุท่ีนามาใช้ก้นั แสงตามลักษณะการมองเหน็ เปลว เทยี นไขเมื่อมองผา่ นวตั ถุน้นั ๆ  สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

303 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน         สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน 304 - วตั ถทุ ่นี ามากน้ั แสง แลว้ มองเหน็ เปลวเทียนไขชัดเจน คือ กระดาษแกว้ สตี า่ ง ๆ แผ่นพลาสติกใส - วตั ถทุ ี่นามาก้นั แสง แล้วมองเหน็ เปลวเทียนไขไมช่ ัดเจน คือ กระจกฝ้า แผ่นพลาสตกิ ขนุ่ - วตั ถทุ ่นี ามากั้นแสง แล้วมองไมเ่ ห็นเปลวเทยี นไข คอื แผ่นไม้ กระดาษแข็ง ลักษณะการมองเหน็ เปลวเทียนไขผา่ นวตั ถุทีน่ ามากัน้ แสง แตกต่างกนั การมองเหน็ เปลวเทียนไขเม่ือมองผ่านวตั ถุต่างๆ ท่นี ามาก้นั แสงจะมี ทง้ั มองเห็นเปลวเทียนไขชดั เจน มองเห็นแต่ไม่ชดั เจน และมองไม่เห็นเปลวเทยี นไข วัตถทุ ึบแสงคอื แผ่นไมแ้ ละกระดาษแขง็ เพราะแสงผา่ นไมไ่ ด้ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

305 คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงาน ตวั กลางของแสงคอื กระดาษไข กระจกฝา้ กระดาษแก้วสตี ่าง ๆ แผ่นพลาสติกใส และแผน่ พลาสตกิ ขนุ่ เพราะแสงสามารถผา่ นได้ แผน่ พลาสติกใสและกระดาษแกว้ สีต่าง ๆ เรียกว่าตัวกลางโปรง่ ใส กระดาษไข กระจกฝา้ และแผ่นพลาสติกขุน่ เรยี กวา่ ตวั กลางโปรง่ แสง เม่อื นาวัตถุกน้ั แสงชนดิ ตา่ ง ๆ มากนั้ แสงจากเปลวเทยี นไข ทาใหก้ ารมองเห็น เปลวเทยี นไขแตกต่างกัน 3 ลักษณะ ดงั นี้ มองเห็นเปลวเทยี นไขชดั เจน มองเหน็ เปลวเทียนไขแตไ่ มช่ ัดเจน และมองไม่เหน็ เปลวเทยี นไข วัตถแุ ตล่ ะชนดิ เม่ือนามากั้นแสง ทาให้ลักษณะการมองเห็นแหล่งกาเนดิ แสง แตกตา่ งกนั  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน 306 คาถามของนักเรยี นทต่ี ้ังตามความอยากร้ขู องตนเอง     สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

307 คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงาน แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรียนร้ขู องนกั เรียนทาได้ ดงั นี 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชันเรียน 2. ประเมนิ การเรียนร้จู ากคาตอบของนกั เรียนระหวา่ งการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบันทึกกิจกรรม 3. ประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรียน การประเมนิ จากการทากจิ กรรมท่ี 1 ลกั ษณะการมองเหน็ ตา่ งกันอย่างไรเมอ่ื มีวตั ถมุ าก้นั แสง ระดับคะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ รหัส ส่งิ ท่ีประเมิน ระดบั คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S4 การจาแนกประเภท S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเห็นจากข้อมูล ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C4 การสอ่ื สาร C5 ความรว่ มมือ รวมคะแนน  สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน 308 ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามระดับความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดงั นี ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) S1 การสังเกต การบรรยายลักษณะ สามารถใชป้ ระสาทสัมผสั สามารถใช้ประสาทสัมผัส ไม่สามารถใชป้ ระสาท การมองเห็นเปลว เก็บรายละเอียดและ เกบ็ รายละเอยี ดและ สมั ผสั เก็บรายละเอยี ด เทยี นไขผ่านวตั ถุกัน บรรยายสิ่งทีส่ ังเกตจาก บรรยายสง่ิ ทส่ี งั เกตจาก และบรรยายส่งิ ที่สังเกต แสงชนดิ ต่างๆ การมองเห็นเปลวเทียนไข การมองเห็นเปลวเทยี นไข จากการมองเห็นเปลว ผา่ นวัตถุกนั แสงชนดิ ตา่ งๆ ผ่านวตั ถกุ ันแสงชนิดตา่ งๆ เทียนไขผ่านวตั ถุกนั ไดด้ ว้ ยตนเอง โดยไม่ ได้ จากการชีแนะของครู แสงชนิดตา่ ง ๆ ได้ เพิ่มเติมความคิดเหน็ หรือผูอ้ ่นื หรือมีการ แมว้ ่าจะไดร้ ับคาชแี นะ เพ่ิมเติมความคิดเห็น จากครหู รอื ผู้อืน่ S4 การจาแนก การจดั กลุม่ วตั ถุที่ สามารถจาแนกประเภท สามารถจาแนกประเภท ไมส่ ามารถจาแนก ประเภท นามากนั แสงตาม วตั ถุท่นี ามากนั แสงไดต้ าม วัตถทุ ่นี ามากนั แสงได้ตาม ประเภทวตั ถุทน่ี ามากัน เกณฑ์ลักษณะการ เกณฑ์ท่กี าหนด ไดด้ ้วย เกณฑ์ท่ีกาหนด จากการ แสงตามเกณฑ์ที่ มองเห็นแหลง่ กาเนดิ ตนเอง ชแี นะของครูหรือผู้อื่น กาหนดได้ แมว้ ่าจะได้ แสงเมื่อมองผ่านวัตถุ รบั คาชีแนะจากครหู รือ กันแสงนัน ๆ ผอู้ ่ืน S7 การพยากรณ์ การคาดการณ์ถงึ ผล สามารถคาดการณล์ ักษณะ สามารถคาดการณ์ ไม่สามารถคาดการณ์ ทจี่ ะเกิดขึนเมื่อนา การมองเหน็ เปลวเทียนไข ลกั ษณะการมองเห็นเปลว ลักษณะการมองเหน็ วัตถกุ นั แสงชนดิ ต่าง เม่อื มองผ่านวตั ถุกันแสง เทียนไขเม่อื มองผ่านวัตถุ เปลวเทยี นไขเมื่อมอง ๆ มากันแสงจาก ชนิดตา่ ง ๆ ได้ด้วยตนเอง กันแสงชนิดตา่ ง ๆ ได้ ผา่ นวตั ถุกันแสงชนิด เปลวเทยี นไข ต่างๆ ได้ แมว้ า่ จะได้ จากการชีแนะของครหู รือ รบั คาชีแนะจากครูหรือ ผ้อู ่นื ผอู้ ่นื ไม่สามารถลงความ S8 การลงความเหน็ การลงความเหน็ จาก สามารถลงความคิดเห็น สามารถลงความคดิ เห็น คิดเห็นเกย่ี วกับข้อมูลที่ มีอยูไ่ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง มี จากขอ้ มูล ข้อมลู วา่ วตั ถุใดเปน็ เกย่ี วกับข้อมลู ที่มีอยู่ได้ เกี่ยวกบั ข้อมูลท่ีมอี ยู่ได้ เหตุผลได้ แมว้ า่ จะได้ รบั คาชแี นะจากครูหรอื ตัวกลางโปรง่ ใส อยา่ งถูกต้อง มีเหตผุ ล จาก อยา่ งถูกต้อง มเี หตุผล ผู้อนื่ ตัวกลางโปร่งแสง ความรูห้ รือประสบการณ์ จากความรู้หรอื หรือวตั ถทุ ึบแสง เดิมไดด้ ้วยตนเอง ประสบการณเ์ ดิม จาก การชแี นะจากครูหรือผู้อนื่ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

309 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงาน ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมนิ ดงั นี ทักษะแห่ง รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) C4 การสอ่ื สาร การนาเสนอขอ้ มลู จากการอภิปราย สามารถนาเสนอข้อมลู สามารถนาเสนอขอ้ มูลจาก ไม่สามารถนาเสนอข้อมลู เกยี่ วกับวัตถุทเ่ี ป็น ตัวกลางของแสง จากการอภปิ รายเก่ียวกับ การอภิปรายเกีย่ วกบั วัตถุท่ี จากการอภปิ รายเกี่ยวกับ และวตั ถทุ บึ แสง วตั ถทุ ่ีเปน็ ตัวกลางของ เป็นตัวกลางของแสงและ วัตถทุ ่ีเป็นตวั กลางของ แสงและวตั ถุทึบแสง วัตถุทึบแสงเพ่อื ใหผ้ ู้อ่นื แสงและวัตถุทึบแสง เพ่ือใหผ้ ู้อ่ืนเข้าใจได้ดว้ ย เขา้ ใจได้โดยอาศัยการชีแนะ เพ่ือใหผ้ ูอ้ นื่ เขา้ ใจได้ ตนเอง จากครูหรือผู้อ่ืน แม้ว่าจะได้รับคาชแี นะ จากครูหรือผู้อืน่ C5 ความ การทางานร่วมกบั สามารถทางานรว่ มกับ สามารถทางานร่วมกับผู้อื่น ไมม่ สี ว่ นร่วมในการทา ร่วมมอื ผู้อืน่ ในการทา กจิ กรรม และการ ผู้อ่ืนในการทากิจกรรม ในการทากจิ กรรมและการ กิจกรรมและการ อภปิ รายเก่ยี วกับ วตั ถุท่เี ปน็ ตวั กลาง และการอภปิ ราย ร่วมกันอภปิ รายเป็นครัง อภิปรายเก่ยี วกับวัตถุท่ี ของแสงและวัตถุ ทบึ แสง รวมทัง เกย่ี วกับวัตถุที่เปน็ คราวเก่ียวกบั วัตถุที่เปน็ เป็นตวั กลางของแสงและ ยอมรับความ คดิ เห็นของผูอ้ ่ืน ตวั กลางของแสงและวตั ถุ ตวั กลางของแสงและวตั ถุ วัตถุทึบแสง ตลอดเวลา ทึบแสง รวมทังยอมรบั ทบึ แสง รวมทงั ยอมรบั ที่ทากจิ กรรม ความคิดเห็นของผู้อ่นื ความคดิ เห็นของผู้อ่นื บาง ตังแตเ่ ริ่มต้นจนสาเรจ็ ช่วง เวลาทท่ี ากิจกรรม  สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลงั งาน 310 กจิ กรรมทา้ ยบทท่ี 2 ตวั กลางของแสง (2 ช่วั โมง) 1. ครูให้นักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้จากบทนี ในแบบ บนั ทกึ กจิ กรรม หน้า 116 2. นักเรยี นตรวจสอบการสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ของตนเองโดยเปรียบเทียบ กบั แผนภาพในหัวข้อรู้อะไรในบทนี้ ในหนงั สือเรียน หนา้ 132 3. นักเรียนไปตรวจสอบคาตอบของตนเองในสารวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า 110 อีกครัง ถ้าคาตอบของนักเรียนไม่ ถูกต้องให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่านัน แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจ แก้ไขคาตอบด้วยปากกาท่ีมีสีต่างจากเดิม นอกจากนีครูอาจนา สถานการณ์หรือคาถามจากรูปในหนังสือเรียนหน้า 124 มาร่วมกัน อภิปรายคาตอบอกี ครัง 4. นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 2 ตัวกลางของแสงในแบบบันทึก กิจกรรมหน้า 117-118 จากนันให้นักเรียนนาเสนอคาตอบหน้าชัน เรียน ถ้าคาตอบยังไม่ถูกต้อง ครูอาจนาอภิปรายหรือให้สถานการณ์ เพ่ิมเตมิ เพื่อแก้ไขแนวคดิ คลาดเคลอ่ื นให้ถูกต้อง 5. ครอู าจชักชวนใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายและตอบคาถามในชวนคิด ในแบบบนั ทึกกิจกรรมหน้า 119 โดยให้นกั เรียนสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม จากแหล่งเรยี นรู้เพอื่ หาคาตอบ 6. นักเรียนร่วมกันทากิจกรรมร่วมคิด ร่วมทา ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 119 โดยรว่ มกันอภิปรายเพือ่ นาความรู้จากบทเรียนนันมาใช้ใน กา ร เ ลื อ กวั ส ดุ ส า ห รั บ ป ร ะ กอ บ ห น้ า ต่ า ง ห้ อง เ รี ย น เ พ่ื อใ ห้ ภ า ย ใ น หอ้ งเรยี นมีแสงสว่างเพยี งพอ 7. นักเรียนอ่านและอภิปรายเนือเร่ืองในหัวข้อวิทย์ใกล้ตัว ในหนังสือ เรียน หน้า 135 โดยครูกระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสาคัญของความรู้ จ า ก ส่ิ ง ท่ี ไ ด้ เ รี ย น รู้ ใ น ห น่ ว ย นี ว่ า ส า ม า ร ถ น า ไ ป ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ใ น ชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างไรบา้ ง ดังนี 7.1 เพราะเหตใุ ดจึงเลอื กใช้กระจกฝา้ ทาท่ีกันอาบนาแทนกระจกใส (เพราะต้องการให้แสงผ่านได้ คนภายนอกสามารถมองเห็นได้ แตไ่ มช่ ดั เจน ซ่ึงจะมีประโยชน์หากคนท่ีอยู่ภายในเกิดอุบัติเหตุ หกลม้ คนภายนอกจะสามารถสงั เกตและช่วยเหลือได้) 7.2 นอกจากการใช้กระจกฝ้ามาทาท่ีกันอาบนาแล้ว ยังมีส่ิงของ ตา่ ง ๆ รอบตัวนักเรยี นใดอีกบ้างที่นาหลักการเก่ียวกับตัวกลาง สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

311 ค่มู ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงาน ของแสงมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจของตนเอง เช่น การตดิ ฟิล์มท่กี ระจกรถยนต)์ 7.3 แว่นตากันแดดท่ีเราใช้ป้องกันสายตาจากแสงแดดจ้าเป็น ตวั กลางของแสงหรือไม่ ถ้าใช่ แว่นตากันแดดเป็นตัวกลางของ แสงชนิดใด เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ ตนเอง เช่น แว่นกันแดดเป็นตัวกลางของแสงประเภทตัวกลาง โปร่งแสง เพราะเมื่อมองผ่านแว่นตากันแดดแล้วสามารถเห็น สงิ่ ต่าง ๆ ไดช้ ัดเจน) 8. นักเรียนทาแบบทดสอบท้ายเล่ม ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 120 เพื่อเป็นการประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนตลอดภาคเรียน หาก นักเรียนยงั มีแนวคดิ คลาดเคลอื่ น ครูและนกั เรยี นอาจร่วมกันอภิปราย คาตอบเพือ่ ชว่ ยใหน้ กั เรียนมแี นวคดิ ท่ถี ูกต้อง  สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน 312 สรปุ ผลการเรยี นร้ขู องตนเอง วาดรูปหรอื เขยี นข้อความสรปุ สิ่งที่ไดเ้ รยี นรจู้ ากบทเรียนนีต้ าม ความเขา้ ใจของนกั เรยี น สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

313 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงาน แนวคาตอบในแบบฝกึ หัดทา้ ยบท ถุงพลาสตกิ ทใ่ี ช้ใสข่ องร้อนอาจมีลกั ษณะเปน็ ถุงใสหรือถุงขนุ่ จัดเปน็ ตัวกลางของ แสงเพราะแสงสามารถผ่านได้ ถา้ เปน็ ถงุ พลาสตกิ ใส จะเป็นตัวกลางโปรง่ ใส เพราะ เราสามารถมองเห็นสิ่งตา่ ง ๆ ท่อี ยู่ในถุงพลาสติกไดช้ ดั เจน แตถ่ ้าเปน็ ถุงพลาสตกิ ขนุ่ จะเป็นตวั กลางโปร่งแสง เพราะเราสามารถมองเห็นสิ่งตา่ ง ๆ ทอี่ ย่ใู น ถงุ พลาสตกิ ไดไ้ ม่ชดั เจน กระจกที่ใชส้ ่องหนา้ ไม่เปน็ ตวั กลางของแสง แตเ่ ป็นวตั ถุทบึ แสง เพราะแสงไม่สามารถผา่ นกระจกได้  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 314 วัตถุทบึ แสง ไมส่ ามารถมองเหน็ ส่ิงท่ีอยดู่ ้านหลังวตั ถุ A ได้ ตวั กลางโปรง่ แสง สามารถมองเห็นสงิ่ ท่อี ยดู่ า้ นหลงั วัตถุ B ได้ แต่ไม่ชดั เจน ตวั กลางโปร่งใส สามารถมองเห็นสงิ่ ท่อี ยดู่ ้านหลงั วัตถุ C ไดช้ ดั เจน วตั ถุที่ใช้ทาเปน็ ตัวกลางโปร่งใส เพราะเม่อื มอง จากภายนอกแบบจาลองพบวา่ เราสามารถ มองเหน็ ดา้ นในของแบบจาลองไดช้ ดั เจน สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

315 คูม่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน กระจกหน้าตา่ งทีเ่ กดิ เปน็ ฝา้ ขาวเปน็ ตัวกลางโปร่งแสง เพราะทาให้มองเหน็ ส่งิ ตา่ ง ๆ ขา้ งนอกไม่ชัดเจน คาตอบข้นึ อยู่กบั แนวคดิ และเหตผุ ลประกอบของนักเรยี น เชน่ วสั ดุท่ี นามาทาเปน็ หนา้ ตา่ งหอ้ งเรียนควรเปน็ ตวั กลางโปรง่ ใส เพราะแสงสวา่ ง ผ่านเขา้ มาได้ โดยไม่ตอ้ งเปดิ หลอดไฟฟา้ และทาให้มองเหน็ สงิ่ ตา่ ง ๆ ภายนอกได้ชัดเจน  สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบท้ายเล่ม 316 แนวคาตอบในทดสอบท้ายเล่ม สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

317 คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม  สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม 318 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

319 คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม  สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม 320 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

321 คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม  สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม 322 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

323 คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม  สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม 324 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

325 คมู่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | บรรณานุกรม บรรณานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน. (2557). ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21. สบื ค้น 30 เมษายน 2560, จาก http://www.royin.go.th สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. กระทรวงศึกษาธิการ.(2561). ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้ แกนกลาง กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. โรงพมิ พ์ชมุ ชนสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั . สานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ. (11 มนี าคม 2558). การรู้ดจิ ิทัล (Digital literacy). สบื คน้ เม่ือ 30 เมษายน 2561, จาก https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/142-knowledges/2632. Barman C., C M. Stein, S. McNair, and N.S. Barman. 2006. Students’ ideas about plants and plant growth. The American Biology Teacher: 68 (2):73-79. Cardak, O. (2009). Science students’ misconceptions about birds: Scientific Research and Essay, 4 (12), 1518-1522. Gonen, S. (2008). A study on student teachers’ misconceptions and scientifically acceptable conceptions about mass and gravity. Journal of Science Education and Technology. 17, 70-81. Missouri Department of Elementary and Secondary Education. (2005). Alerts to Student Difficulties and Misconceptions in Science, Jefferson City, Missouri, USA. Nas, A., & Nasreen, A. (2013). An exploration of students’ misconceptions about the concept ‘classification of animals’ at secondary level and effectiveness of inquiry method for conceptual change. Ankara University, Journal of Faculty of Educational Sciences, 46(2), 195-214. New York Science Teacher. (2017). Physics misconceptions. Retrieved from http://newyorkscience teacher.com/ sci/pages/miscon/phy.php Sacit Köse. 2008. Diagnosing Student Misconceptions: Using Drawings as a Research Method. World Appl. Sci. J.:3 (2): 283-293 Stamenkovski, S., & Zajkov, O. (2014). Seventh grade students’ qualitative understanding of the concepts of mass influenced by real experiments and virtual experiments. European Journal of Physics Education,7. 20-30.  สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

326 คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | คณะทางาน คูม่ ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เลม่ ๑ คณะท่ปี รึกษา ผู้อานวยการสถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปจิ านงค์ รักษาการผชู้ ่วยผ้อู านวยการสถาบนั สง่ เสรมิ การสอน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดร. กศุ ลิน มสุ กิ ลุ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คณะผู้จดั ทาคู่มือครู สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดร. กศุ ลนิ มุสิกุล สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางชตุ ิมา เตมียสถิต สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางกิ่งแกว้ คอู มรพฒั นะ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาวดวงกมล เหมะรตั สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาววราภรณ์ ถริ สิริ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาวลดั ดาวลั ย์ แสงสาลี สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร. เทพกญั ญา พรหมขัติแก้ว สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร. เบ็ญจวรรณ หาญพพิ ฒั น์ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร. พจนา ดอกตาลยงค์ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดร. วนั ชยั น้อยวงค์ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร. ณฐั ธิดา พรหมยอด สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดร. เสาวลกั ษณ์ บวั อิน สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาวรตพร หลนิ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาวภคมน เนตรไสว สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาวลักษมี เปรมชยั พร นางสาวจรี นันท์ เพชรแกว้ ข้าราชการบานาญ นางสาวกมลลกั ษณ์ ถนัดกจิ ขา้ ราชการบานาญ ข้าราชการบานาญ คณะบรรณาธกิ าร ผชู้ ่วยศาสตราจารย์รชั ดา สตุ รา นางณฐั สรวง ทิพานกุ ะ หมอ่ มหลวงพิณทอง ทองแถม

สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.) The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST) www.ipst.ac.th


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook