4. คุณลักษณะผเู้ รยี น 4.1 คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ซ่ือสัตยส์ ุจรติ ม่งุ มั่นในการทำงาน มวี นิ ัย รกั ความเปน็ ไทย ใฝเ่ รียนรู้ มีจิตสาธารณะ 5. ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ความสามารถในการคดิ : นักเรียนสามารถอธิบายความร้อนกับการเปลย่ี นสถานะของสสารได้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : นกั เรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรูไ้ ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ ความร้อนมีผลต่อการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อให้ความร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมี พลังงานและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง ซึ่งของแข็งจะใช้ความร้อนในการเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกความร้อนที่ใช้ในการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการหลอมเหลว และ อุณหภูมขิ ณะเปล่ียนสถานะจะคงที่ เรยี กอณุ หภมู ินวี้ า่ จุดหลอมเหลว 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำ 1) นกั เรยี นดูสื่อวดี ิทศั น์ เร่ือง เจาะลึกทุกขนั้ ตอนก่อนจะเป็น...\"ทองคำ\" 2) นักเรยี นเข้ารว่ มตอบคำถามผ่าน quizizz.com โดยมีคำถาม วีดิทศั น์ เรื่อง เจาะลึก ทกุ ขนั้ ตอนก่อนจะเป็น...\"ทองคำ\" จำนวน 5 ข้อ ดงั น้ี - ทองคำทำจากเหล็กถูกตอ้ งหรือไม่ (แนวคำตอบ ไม่ถกู ตอ้ ง) - ทองคำทำเกดิ ขึน้ ตามธรรมชาติถูกตอ้ งหรอื ไม่ (แนวคำตอบ ถูกตอ้ ง) - การข้นึ รูปทองคำเก่ยี วข้องกับความรอ้ นถูกต้องหรอื ไม่ (แนวคำตอบ ถกู ต้อง) - การข้นึ รปู ทองคำตอ้ งนำทองคำมาทำให้เปน็ ของเหลวก่อนถูกต้องหรอื ไม่ (แนวคำตอบ ถกู ต้อง) - ทองคำเป็นเครือ่ งประดบั ทม่ี ีราคาสูงถูกต้องหรือไม่ (แนวคำตอบ ถกู ตอ้ ง) ข้นั สอน 3) นกั เรียนทำการทดลอง เรอื่ ง การเปล่ียนสถานะจากของแข็งเปน็ ของเหลวหรอื การเปล่ียนสถานะจากของเหลว เพือ่ ศกึ ษาเร่ืองกระบวนการเปล่ียนสถานะของสาร โดยให้นกั เรียน ออกแบบการทดลองดว้ ยตนเอง
4) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปผลการออกแบบการทดลอง เรื่อง การเปลี่ยนสถานะจาก ของแข็งเป็นของเหลวหรือการเปลยี่ นสถานะจากของเหลวเปน็ ของแข็ง หมายเหตุ ในขณะนกั เรยี นทำการทดลองนกั เรียนทุกคนเปดิ กลอ้ ง ขัน้ สรปุ 5) นักเรียนร่วมกนั สรุปผลการทดลองผ่าน mentimeter.com ในการสรุปผลการทดลอง ว่า การเปลี่ยนสถานะจากของแขง็ เปน็ ของเหลวและของเหลวเปน็ ของแขง็ ได้ เนื่องจากสาเหตุใด เพื่อให้ได้ ข้อสรุปว่า การเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลวต้องอาศัยความร้อน โดยต้องเพิ่มอุณหภูมิเข้าไป จนถึงจดุ หลอมเหลว ซง่ึ เปน็ กระบวนการดูดความร้อน การเปล่ยี นสถานะจากของแข็งเป็นของเหลว เรยี กว่า การหลอมเหลว ซง่ึ จะมีจุดหลอมเหลว และความรอ้ นแฝงของการหลอมเหลว มคี ่า 80 แคลอรีตอ่ กรมั และ การเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง ต้องลดอุณหภูมิจนถึงจุดเยือกแข็ง ซึ่งเป็นกระบวนการคาย ความรอ้ น 6) นักเรียนทำแบบทดสอบผ่าน Google form จำนวน 5 ขอ้ - การเปลย่ี นสถานะของสสารเกีย่ วข้องกับอะไร (แนวคำตอบ ปรมิ าณความร้อน) - การเปลี่ยนสถานะจากของแขง็ เปน็ ของเหลวเกิดกระบวนการอะไร (แนวคำตอบ การหลอมเหลว) - ความร้อนแฝงของการหลอมเหลวมีค่าเทา่ ใด (แนวคำตอบ 80 แคลอรตี อ่ กรมั ) - การเปลี่ยนสถานะจากของแขง็ เปน็ ของเหลวเปน็ กระบวนการใด (แนวคำตอบ กระบวนการดูดพลงั งาน) - การเปลย่ี นสถานะจากของเหลวเป็นของแข็งเป็นกระบวนการใด (แนวคำตอบ การแข็งตัว) 7) นักเรยี นและครูรว่ มกันแลกเปลยี่ นเรียนรู้เกย่ี วกับกระบวนการเปล่ยี นสถานะของสารจาก ของแขง็ เปน็ ของเหลวและจากของเหลวเปน็ ของแข็งโดยมีใจความสำคัญ ดงั นี้ - กระบวนการเปล่ียนสถานะของสารจากของแขง็ เปน็ ของเหลว เรียกวา่ การหลอมเหลว กระบวนการเปลย่ี นสถานะจากของเหลวเป็นของแขง็ เรยี กวา่ การแขง็ ตัว 8. ชนิ้ งาน / ภาระงาน - การออกแบบการทดลองเรอื่ งการเปล่ียนสถานะจากของแขง็ เปน็ ของเหลวหรอื การเปลยี่ นสถานะ จากของเหลวเป็นของแข็ง 9. สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science
Facebook Group : https://www.facebook.com/groups/306631377667327 สอ่ื วิดิทัศน์ เรื่อง เจาะลกึ ทุกขั้นตอนกอ่ นจะเป็น...\"ทองคำ\" จาก https://www.youtube.com/watch?v=-j7pwXPrTJw - ข้อคำถาม quizizz.com - ขอ้ คำถาม mentimeter.com - แบบทดสอบเร่ืองการเปลยี่ นสถานะจากของแข็งเป็นของเหลวและของเหลวเปน็ ของแขง็ 10. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วิธีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านพทุ ธิพิสยั (Cognitive domain) นกั เรียนสามารถอธิบาย ตอบคำถาม ข้อคำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้องร้อยละ 70 ความร้อนกับการเปล่ยี น ผ่าน Google form ทำการทดลองสสารเปลี่ยนสถานะ สถานะของสสารได้ จากของแข็งเปน็ ของเหลวและ ของเหลวเป็นของแข็งได้และ 2. ด้านทักษะพิสยั (Psychomotor domain) สามารถสรปุ ผลการทดลอง ไดผ้ ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 นักเรียนสามารถปฏบิ ัติ สอบปากเปลา่ ขอ้ คำถาม กจิ กรรมความรอ้ นทาํ ให้ ให้นักเรยี นอธิบาย ภาพถา่ ย มีส่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรู้ สสารเปล่ยี นสถานะจาก วธิ ีการดำเนนิ การ ผลการทดลอง ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ของแข็งเปน็ ของเหลว ทดลองและสรปุ ผล และของเหลวเป็น ของแขง็ ได้ การทดลอง 3. ดา้ นจติ พิสยั (Affective domain) นักเรยี นมสี ว่ นร่วม สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ในกิจกรรมการเรยี นรู้ อยู่ในระดบั ดี การเรยี น การเรยี น
แบบวเิ คราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วัตถปุ ระสงค์ การเรยี นรทู้ ต่ี ้องการวัด และความสอดคลอ้ งดา้ นพทุ ธิพิสัย ทักษะพิสยั และจติ พิสยั วัตถุประสงค์ พฤติกรรมการประเมิน เทคนิค ระดับพฤตกิ รรม (%) การ พทุ ธพิ สิ ยั ทักษะพิสัย จติ พิสัย ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นักเรยี น 20 40 40 100 1. สามารถอธบิ าย แบบทดสอบ ความรอ้ นกับการ - เลือกตอบ เปล่ียนสถานะของ สสารได้ 2. แบบ ประเมนิ การ ตอบคำถาม 2. นักเรียน 20 40 40 100 1. สามารถปฏบิ ตั ิ แบบทดสอบ กจิ กรรมความ - สอบปาก ร้อนทาํ ใหส้ สาร เปล่า เปลีย่ นสถานะจาก 2. แบบ ของแขง็ เปน็ ประเมินการ ของเหลวและ ปฏิบตั ิการ ของเหลวเปน็ ทดลองและ ของแขง็ ได้ สรปุ ผลการ ทดลอง 3. นกั เรยี นมี 20 40 20 แบบสงั เกต ส่วนร่วมใน พฤติกรรม กจิ กรรมการ 20 100 การเรียน เรยี นรู้ อยูใ่ นระดับดี รวม 20 40 40 100 20 40 40 100 20 40 20 20 100
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 3 = นำไปใช้ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 4 = วเิ คราะห์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = ประเมินคา่ 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = สรา้ งสรรค์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธิบายประกอบการประเมิน ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ การปฏิบัตกิ ารทดลองและสรปุ ผลการทดลอง คำชแ้ี จง : ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมนิ ปฏบิ ตั ิการทดลองและสรปุ ผลการทดลอง ลำดับ ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ ที่ ชือ่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไม่ผา่ น 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชือ่ .....................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วนั ท่ี.............เดือน.....................พ.ศ เกณฑ์การประเมนิ การปฏบิ ตั ิการทดลองและสรุปผลการทดลอง เกณฑ์การให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ประเด็น ระดับคะแนน ทป่ี ระเมนิ 5 4 32 1 0 ทำการทดลองสสาร 1. เตรียมอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ นกั เรียน เปลี่ยนสถานะจาก 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ ไมส่ ามารถ ของแข็งเป็นของเหลว การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง ปฏบิ ัติได้ และของเหลวเป็น 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง /นกั เรยี น ของแขง็ ได้และ 4. สรปุ ผล 4. สรุปผล 4. สรุปผล 4. สรปุ ผล 4. สรุปผล ไม่ปฏบิ ัติ สามารถสรุปผลการ การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง ทดลอง 5. อธบิ ายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ ท่เี กยี่ วข้อง ท่ีเก่ยี วขอ้ ง ท่เี กีย่ วข้อง ทเี่ กีย่ วข้อง ทเี่ ก่ียวข้อง นกั เรยี นปฏบิ ัตไิ ด้ นกั เรยี นปฏบิ ตั ไิ ด้ นักเรียนปฏบิ ตั ไิ ด้ นกั เรียนปฏบิ ัตไิ ด้ นกั เรียนปฏบิ ัติ 5 ขอ้ 4 ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ ได้ 1 ขอ้ เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ : นกั เรียนมีระดบั คะแนน 3 ข้ึนไป (คิดเป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป)
บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 กระบวนการเปลี่ยนสถานะของสาร 1. สรุปผลการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน..1..2..2..... .คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ....1..2..2........คน คิดเปน็ ร้อยละ.....1..0..0........... ไมผ่ ่านจุดประสงค์.......................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................... ได้แก.่ .......................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรุปผลตามรายจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ด้านพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) .........น...กั..เ..ร..ยี ..น..ส...า..ม..า..ร..ถ...อ..ธ..บิ...า..ย..ค..ว..า..ม...ร..อ้..น...ก..บั...ก..า..ร..เ..ป..ล...ี่ย..น..ส..ถ...า..น..ะ...ข..อ..ง..ส..ส...า..ร..ไ.ด...้ ................................................... ....................................................................................................................................................................... 2.2 ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) .........น..กั...เ.ร..ยี..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..อ...ก..แ..บ...บ...แ..ล...ะ..ป..ฏ...บิ...ตั ..กิ...ิจ..ก..ร..ร..ม...ค..ว..า..ม..ร..้อ...น..ท...ำ..ใ.ห...้ส..ส...า..ร..เ.ป...ล..ี่ย..น...ส..ถ...า..น..ะ..จ...า..ก..ข..อ...ง..แ..ข..็ง..เ.ป...น็ ....... ...ข...อ..ง..เ.ห...ล..ว..แ...ล..ะ..ข..อ...ง..เ.ห...ล..ว..เ.ป...น็ ..ข...อ..ง..แ..ข...็ง.ไ..ด..้อ...ย..่า..ง..ถ..ูก...ต..้อ..ง...................................................................................... 2.3 ดา้ นจิตพสิ ยั (Affective domain) .........น..ัก...เ.ร..ีย..น...ม..สี...ว่ ..น..ร..่ว...ม..ใ..น..ก..า..ร..จ...ัด..ก...า.ร..เ..ร..ีย..น...ร..ู้ .ป...ฏ..บิ...ตั..กิ...ิจ..ก..ร..ร..ม..ไ..ด..ใ้..น..ร..ะ...ด..บั...ด..ี..ม..ีค...ว..า..ม..ต..ัง้..ใ..จ..แ..ล...ะ..ม..ีค...ว..า..ม..ซ...่ือ..ส..ตั...ย..์.. ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลังการจัดการเรยี นรู้ .......ก..า..ร..อ..อ...ก..แ...บ..บ...ก..ิจ...ก..ร..ร..ม....ห..า..ก...ม..อ...บ..ห...ม..า..ย...ใ.ห...น้...กั ..เ.ร..ยี..น...อ..อ..ก...แ..บ...บ..แ...ล..ะ..ด...ำ..เ.น...ิน..ก...า..ร..ส..ง่..ก..่อ...น..จ..ะ...ท..ำ..ใ..ห..ก้...ิจ..ก..ร..ร..ม......... ...ท...ีน่...ัก..เ.ร..ยี...น..อ...อ..ก..แ...บ..บ...แ..ล...ะ..ล..ง..ม...ือ..ป...ฏ..ิบ...ัต..สิ...ม..บ...ูร..ณ...ม์...า..ก..ย..่ิง..ข..นึ้....เ.น...ื่อ..ง..จ..า..ก...ค..ร..ูอ...า..จ..ใ.ห...้ค..ำ..แ...น..ะ...น..ำ..ท...่เี .ป...็น..ป...ร..ะ..โ..ย..ช..น...์ ...... ...เ.พ...ม่ิ..เ..ต..ิม...ก..บั...น..ัก...เ.ร..ีย..น...ไ.ด...้ ................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จุลศักด)ิ์ ครผู ้สู อน
ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นร้หู น่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เร่ือง พลังงานความรอ้ น ในแผนการจัด การเรียนรู้ท่ี 7 เรื่อง กระบวนการเปลยี่ นสถานะของสารเรยี บร้อยแล้ว โดยมคี วามคิดเห็น ดงั นี้ 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชี้วดั สอดคล้อง ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ได้อย่างเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรยี นร้ทู เ่ี นน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั มาใช้ 4. การใชส้ ่อื การเรียนรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของผู้เรียน ไมส่ ง่ เสริมการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวดั และการประเมินผล สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชอ่ื ..................................................... (นางรชั นี หนนู ้อย) ตำแหน่ง หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วันที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ าร ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นรูห้ น่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 เร่อื ง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 เรอื่ ง กระบวนการเปล่ียนสถานะของสารเรยี บรอ้ ยแล้ว โดยมคี วามคดิ เห็น ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั สอดคลอ้ ง ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรียนร้ทู ่เี น้นผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรยี นรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นรู้ของผูเ้ รียน ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวดั และการประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวังจันทรว์ ิทยา กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรียนรู้แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 7 : สื่อวิดทิ ศั น์ สอ่ื วดิ ิทศั น์ เร่ือง เจาะลึกทุกขน้ั ตอนก่อนจะเป็น...\"ทองคำ\" จาก https://www.youtube.com/watch?v=-j7pwXPrTJw
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 7 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 7 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 8 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 1 คาบเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 พลังงานความร้อน เร่อื ง กระบวนการเปลย่ี นสถานะของสาร 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของ สสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี ตวั ชวี้ ัด ตัวชวี้ ดั ม.1/10 อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหวา่ งพลังงานความร้อนกับการเปลยี่ นสถานะของสสาร โดยใช้หลักฐานเชิงประจกั ษแ์ ละแบบจำลอง 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด สาระสําคญั ความร้อนมีผลต่อการเปลย่ี นสถานะของสสาร เม่ือใหค้ วามร้อนแก่ของแขง็ อนุภาคของของแข็ง จะมีพลังงานและอุณหภมู ิเพมิ่ ขน้ึ จนถึงระดบั หน่งึ ซ่ึงของแข็งจะใช้ความร้อนในการเปลย่ี นสถานะเป็น ของเหลว เรียกความรอ้ นที่ใช้ในการเปลย่ี นสถานะจากของแข็งเปน็ ของเหลววา่ ความร้อนแฝงของการ หลอมเหลว และอุณหภมู ขิ ณะเปล่ยี นสถานะจะคงท่ี เรยี กอุณหภูมนิ ว้ี า่ จดุ หลอมเหลว 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสสารได้ ด้านทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถปฏิบัติกจิ กรรมความรอ้ นทําใหส้ สารเปล่ียนสถานะจากของเหลวเป็นแก๊สได้ ด้านจติ พสิ ยั (Affective domain) นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรูอ้ ยู่ในระดับดี
4. คุณลักษณะผู้เรยี น 4.1 คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ซอื่ สัตย์สจุ รติ มุ่งมัน่ ในการทำงาน มวี นิ ัย รักความเป็นไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มจี ติ สาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการคิด : นักเรียนสามารถอธิบายความรอ้ นกบั การเปล่ียนสถานะของสสารได้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : นักเรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรูไ้ ด้ 6. สาระการเรียนรู้ ความร้อนมีผลต่อการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อให้ความร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมี พลังงานและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง ซึ่งของแข็งจะใช้ความร้อนในการเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกความร้อนที่ใช้ในการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการหลอมเหลว และ อุณหภมู ขิ ณะเปลยี่ นสถานะจะคงท่ี เรยี กอุณหภมู ินี้ว่า จุดหลอมเหลว 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1) นักเรียนและครูร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับการดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั การทำอาหาร การทำ ไอศกรีม เพอ่ื ชีใ้ ห้นักเรียนเห็นถงึ ความเชอื่ มโยงระหว่างกระบวนการเปลย่ี นสถานะของสาร กบั ชวี ติ ประจำวัน ข้นั สอน 2) นกั เรยี นทำการทดลอง เรอ่ื ง การเปล่ยี นสถานะจากของเหลวเป็นแกส๊ เพ่ือศกึ ษา เรื่องกระบวนการเปลย่ี นสถานะของสาร โดยให้นกั เรียนออกแบบการทดลองด้วยตนเอง 3) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปผลการออกแบบการทดลอง เรื่อง การเปลี่ยนสถานะ จากของเหลวเปน็ แก๊ส หมายเหตุ นกั เรียนจะออกแบบการทดลองและแจ้งให้ครูทราบก่อน ข้นั สรุป 4) นักเรียนร่วมกนั สรุปผลการทดลองผ่าน mentimeter.com ในการสรุปผลการทดลอง วา่ การเปล่ยี นสถานะจากของเหลวเป็นแกส๊ เนอ่ื งจากสาเหตใุ ด เพ่ือให้ไดข้ ้อสรุปวา่ การเปลีย่ นสถานะจาก เหลวเป็นแก๊สตอ้ งอาศยั ความร้อน โดยต้องเพิม่ อุณหภมู ิเข้าไป จนถึงจุดเดือด ซึ่งเป็นกระบวนการดดู ความ ร้อน การเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ และความร้อนแฝงของการ กลายเปน็ ไอ มคี า่ 540 แคลอรีต่อกรมั การเปลี่ยนสถานะจากแก๊สเปน็ ของเหลวเรียกว่าการควบแนน่ 5) นักเรยี นทำแบบทดสอบผ่าน Google form จำนวน 5 ขอ้ - การเปล่ียนสถานะของสสารเก่ียวข้องกับอะไร (แนวคำตอบ ปรมิ าณความร้อน)
- การเปลยี่ นสถานะจากของเหลวเป็นของเหลวเกดิ กระบวนการอะไร (แนวคำตอบ การกลายเป็นไอ) - ความร้อนแฝงของการหลอมเหลวมคี ่าเท่าใด (แนวคำตอบ 540 แคลอรีต่อกรมั ) - การเปลย่ี นสถานะจากของเหลวเป็นแกส๊ เป็นกระบวนการใด (แนวคำตอบ กระบวนการดูดพลงั งาน) - การเปล่ยี นสถานะจากแกส๊ เปน็ ของเหลวเปน็ กระบวนการใด (แนวคำตอบ การควบแน่น) 6) นกั เรยี นและครรู ่วมกนั แลกเปล่ยี นเรยี นรเู้ กย่ี วกบั กระบวนการเปลี่ยนสถานะของสาร จากของเหลวเป็นแก๊สและจากแก๊สเป็นของเหลวโดยมใี จความสำคัญ ดงั นี้ - กระบวนการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นแก๊ส เรยี กว่า การกลายเปน็ ไอ และ กระบวนการเปลีย่ นสถานะจากแกส๊ เป็นของเหลว เรียกว่า การควบแนน่ 8. ช้ินงาน / ภาระงาน - การออกแบบการทดลองเร่อื งการเปล่ยี นสถานะจากของเหลวเป็นแก๊ส 9. ส่ือการเรยี นรู้ / แหลง่ เรียนรู้ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/groups/306631377667327 - ข้อคำถาม mentimeter.com - แบบทดสอบเรื่องการเปล่ียนสถานะจากของเหลวเป็นแก๊สและจากแก๊สเปน็ ของเหลว
10. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วิธีการวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านพุทธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธิบาย ตอบคำถาม ข้อคำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้องรอ้ ยละ 70 ความร้อนกับการเปลย่ี น ผ่าน Google form ทำการทดลองสสารเปลี่ยนสถานะ สถานะของสสารได้ จากของเหลวเป็นแกส๊ ได้ สามารถสรุปผลการทดลอง 2. ด้านทักษะพิสยั (Psychomotor domain) ไดผ้ ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 นักเรียนสามารถปฏิบัติ สอบปากเปลา่ ข้อคำถาม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมความร้อนทาํ ให้ ใหน้ กั เรยี นอธิบาย ภาพถ่าย ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 สสารเปลยี่ นสถานะจาก วิธีการดำเนนิ การ ผลการทดลอง ของเหลวเป็นแก๊สได้ ทดลองและสรปุ ผล การทดลอง 3. ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นักเรยี นมสี ว่ นร่วม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ในกิจกรรมการเรยี นรู้ อยู่ในระดบั ดี การเรียน การเรียน
แบบวิเคราะหก์ ารประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วตั ถุประสงค์ การเรยี นรูท้ ่ีต้องการวดั และความสอดคล้องด้านพุทธิพสิ ัย ทกั ษะพิสยั และจติ พสิ ยั วตั ถปุ ระสงค์ พฤตกิ รรมการประเมนิ เทคนคิ ระดบั พฤตกิ รรม (%) การ พทุ ธพิ ิสยั ทักษะพสิ ยั จิตพิสัย ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นกั เรยี น 20 40 40 100 1. สามารถอธบิ าย แบบทดสอบ ความร้อนกบั การ - เลือกตอบ เปลย่ี นสถานะของ สสารได้ 2. แบบ ประเมินการ ตอบคำถาม 2. นักเรยี น 20 40 40 100 1. สามารถปฏบิ ตั ิ แบบทดสอบ กจิ กรรมความ - สอบปาก ร้อนทําให้สสาร เปล่า เปลีย่ นสถานะจาก 2. แบบ ของเหลวเป็นแก๊ส ประเมินการ ได้ ปฏิบตั ิการ ทดลองและ สรุปผลการ ทดลอง 3. นกั เรียนมี 20 40 20 แบบสังเกต สว่ นร่วมใน พฤติกรรม กจิ กรรมการ 20 100 การเรียน เรยี นรู้ อยใู่ นระดบั ดี รวม 20 40 40 100 20 40 40 100 20 40 20 20 100
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 3 = นำไปใช้ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 4 = วเิ คราะห์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = ประเมินคา่ 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = สรา้ งสรรค์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธิบายประกอบการประเมิน ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ การปฏิบัตกิ ารทดลองและสรปุ ผลการทดลอง คำชแ้ี จง : ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมนิ ปฏบิ ตั ิการทดลองและสรปุ ผลการทดลอง ลำดับ ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ ที่ ชือ่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไม่ผา่ น 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชือ่ .....................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วนั ท่ี.............เดือน.....................พ.ศ เกณฑ์การประเมนิ การปฏบิ ตั ิการทดลองและสรุปผลการทดลอง เกณฑ์การให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ประเด็น ระดับคะแนน ทป่ี ระเมนิ 5 4 32 1 0 ทำการทดลองสสาร 1. เตรียมอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ นกั เรียน เปลี่ยนสถานะจาก 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ ไมส่ ามารถ ของแข็งเป็นของเหลว การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง ปฏบิ ัติได้ และของเหลวเป็น 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง /นกั เรยี น ของแขง็ ได้และ 4. สรปุ ผล 4. สรุปผล 4. สรุปผล 4. สรปุ ผล 4. สรุปผล ไม่ปฏบิ ัติ สามารถสรุปผลการ การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง ทดลอง 5. อธบิ ายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ ท่เี กยี่ วข้อง ท่ีเก่ยี วขอ้ ง ท่เี กีย่ วข้อง ทเี่ กีย่ วข้อง ทเี่ ก่ียวข้อง นกั เรยี นปฏบิ ัตไิ ด้ นกั เรยี นปฏบิ ตั ไิ ด้ นักเรียนปฏบิ ตั ไิ ด้ นกั เรียนปฏบิ ัตไิ ด้ นกั เรียนปฏบิ ัติ 5 ขอ้ 4 ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ ได้ 1 ขอ้ เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ : นกั เรียนมีระดบั คะแนน 3 ข้ึนไป (คิดเป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป)
บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 กระบวนการเปลย่ี นสถานะของสาร 1. สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน..1..2...2.... .คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.....1..2...2........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.....1..0..0........... ไมผ่ ่านจุดประสงค์.......................คน คดิ เป็นร้อยละ.................... ได้แก.่ .......................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรปุ ผลตามรายจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ด้านพุทธิพสิ ยั (Cognitive domain) .........น..ัก...เ.ร..ยี ..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..ธ..บิ...า..ย..ค...ว..า..ม..ร..้อ...น..ก...ับ..ก...า..ร..เ.ป...ล..่ยี ..น...ส..ถ..า..น...ะ..ข..อ...ง..ส..ส..า..ร..ไ..ด..้อ...ย..่า..ง..ถ..ูก..ต...้อ..ง............................ ...... ....................................................................................................................................................................... 2.2 ดา้ นทักษะพสิ ยั (Psychomotor domain) ..........น...กั ..เ.ร..ีย..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..อ...อ..ก..แ...บ..บ...แ..ล...ะ..ป...ฏ..ิบ...ัต..ิก...จิ ..ก..ร..ร..ม...ค..ว..า..ม..ร..้อ...น..ท...ำ..ใ.ห...้ส..ส...า..ร..เ.ป...ล..ีย่..น...ส..ถ...า..น..ะ..จ...า..ก..ข..อ...ง..เ.ห..ล...ว.......... ....เ..ป..็น...แ..ก...๊ส..ไ..ด..้อ..ย...า่ ..ง..ถ..กู ..ต...้อ..ง................................................................................................................................. 2.3 ดา้ นจติ พิสยั (Affective domain) .........น..กั...เ.ร..ีย..น...ม..ีส...ว่ ..น..ร..ว่...ม..ใ..น..ก..า..ร..จ...ดั ..ก...า.ร..เ..ร..ยี ..น...ร..ู้ .ใ.ห...้ค...ว..า..ม..ร..ว่ ..ม..ม...ือ...แ...ล..ก...เ.ป..ล...ย่ี ..น...ค..ว..า..ม...ค..ิด...เ.ห..็น................................... ..ส..า..ม..า..ร..ถ...ป..ฏ...บิ...ตั ..กิ..ิจ...ก..ร..ร..ม...เ.ป..็น...ไ..ป..ด...ว้ ..ย..ค..ว...า..ม..เ.ร..ยี...บ..ร..้อ...ย......................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะหลังการจัดการเรยี นรู้ ......ห...า..ก..ม...เี .ว..ล..า..ใ..ห..้น...ัก..เ..ร..ยี ..น...แ..ต..่ล...ะ..ก..ล...ุ่ม..อ...อ..ก..ม...า..น..ำ..เ..ส..น...อ..ก..า..ร..ท...ด..ล..อ...ง..ข..อ..ง..ก..ล...ุ่ม..ต...น..เ..อ..ง...เ.พ...ื่อ...ใ.ห...้น..กั...เ.ร..ยี..น...เ.ก...ดิ ..แ..น...ว..ค..ดิ... .แ...ล..ะ..ม...ีก..า..ร..แ..ล...ก..เ.ป...ล..่ีย...น..ค...ว..า..ม..ค...ิด..เ.ห...น็...ข..อ..ง..น...กั ..เ.ร..ีย...น..ร..่ว..ม...ก..นั..ม...า..ก..ข...้ึน....................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) ครูผสู้ อน
ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นร้หู น่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เร่ือง พลังงานความรอ้ น ในแผนการจัด การเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง กระบวนการเปลยี่ นสถานะของสารเรยี บร้อยแล้ว โดยมคี วามคิดเห็น ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วดั สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ได้อย่างเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรยี นร้ทู เ่ี นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ 4. การใชส้ ่อื การเรียนรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผ้เู รียน ไมส่ ง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวดั และการประเมนิ ผล สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ ริง ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชอ่ื ..................................................... (นางรชั นี หนนู ้อย) ตำแหน่ง หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ าร ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นรูห้ น่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 เร่อื ง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 เรอื่ ง กระบวนการเปล่ียนสถานะของสารเรยี บรอ้ ยแล้ว โดยมคี วามคดิ เห็น ดังนี้ 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั สอดคลอ้ ง ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรียนร้ทู ่เี น้นผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรยี นรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นรู้ของผูเ้ รียน ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวดั และการประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวังจันทรว์ ิทยา กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9 กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว21102 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 พลังงานความร้อน เร่ือง กระบวนการเปล่ียนสถานะของสาร 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของ สสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี ตวั ช้ีวัด ตัวชี้วัด ม.1/10 อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างพลงั งานความร้อนกับการเปล่ยี นสถานะของสสาร โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์และแบบจำลอง 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระสาํ คัญ ความรอ้ นมผี ลต่อการเปล่ยี นสถานะของสสาร เมื่อให้ความรอ้ นแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมพี ลงั งานและอุณหภมู ิเพมิ่ ข้ึนจนถงึ ระดบั หนึ่ง ซ่งึ ของแข็งจะใช้ความร้อนในการเปลย่ี นสถานะเปน็ ของเหลว เรยี กความร้อนท่ีใช้ในการเปล่ยี นสถานะจากของแข็งเป็นของเหลวว่า ความรอ้ นแฝงของการ หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปล่ยี นสถานะจะคงท่ี เรยี กอณุ หภูมิน้วี า่ จุดหลอมเหลว 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านพุทธพิ ิสัย (Cognitive domain) นกั เรียนสามารถอธบิ ายความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสสารได้ ด้านทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) นกั เรยี นเขียนแผนภาพแสดงกระบวนการเปลี่ยนสถานะของสารได้ ด้านจติ พสิ ยั (Affective domain) นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนร้อู ยใู่ นระดับดี
4. คุณลกั ษณะผู้เรียน 4.1 คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพยี ง ซอื่ สัตยส์ จุ ริต มงุ่ ม่นั ในการทำงาน มีวนิ ยั รักความเป็นไทย ใฝเ่ รียนรู้ มจี ติ สาธารณะ 5. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคิด : นกั เรียนสามารถอธบิ ายความร้อนกบั การเปลีย่ นสถานะของสสารได้ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นกั เรยี นสามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนรไู้ ด้ 6. สาระการเรียนรู้ ความร้อนมีผลต่อการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อให้ความร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมี พลังงานและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง ซึ่งของแข็งจะใช้ความร้อนในการเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกความร้อนที่ใช้ในการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการหลอมเหลว และ อณุ หภูมิขณะเปล่ียนสถานะจะคงที่ เรยี กอณุ หภูมิน้วี ่า จดุ หลอมเหลว 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1) นักเรยี นเลา่ เหตุการณ์ / ประสบการณ์ของนกั เรยี นท่เี กี่ยวข้องกบั กระบวนการเปลี่ยน สถานะของสาร ข้นั สอน 2) นกั เรียนสบื ค้นข้อมลู เพิม่ เตมิ ในหัวข้อ “กระบวนการเปล่ียนแปลงของสาร” 3) นกั เรยี นและครูแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ อภิปรายและยกตวั อย่างรว่ มกนั ขัน้ สรุป 4) นกั เรียนเขยี นแผนภาพกระบวนการเปลีย่ นสถานะของสาร 8. ชิ้นงาน / ภาระงาน - แผนภาพกระบวนการเปลีย่ นสถานะของสาร 9. ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Infographic เรอื่ ง กระบวนการเปลย่ี นสถานะของสาร
10. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วธิ กี ารวัด เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน ข้อคำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องร้อยละ 70 1. ดา้ นพุทธพิ สิ ัย (Cognitive domain) ขอ้ คำถาม เขยี นแผนภาพไดถ้ ูกต้อง นักเรยี นสามารถอธบิ าย การตอบคำถาม ร้อยละ 70 ความรอ้ นกบั การเปลี่ยน ในชนั้ เรียน สถานะของสสารได้ 2. ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนเขียนแผนภาพ การเขยี นแผนภาพ แสดงกระบวนการ เปล่ยี นสถานะของสารได้ 3. ดา้ นจติ พิสยั (Affective domain) นกั เรียนมีสว่ นร่วม สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรียนรู้ ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ การเรียน การเรียน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 อยใู่ นระดับดี
แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถปุ ระสงค์ การเรียนรทู้ ต่ี ้องการวัด และความสอดคลอ้ งดา้ นพุทธิพิสยั ทักษะพสิ ัย และจิตพสิ ัย วัตถปุ ระสงค์ พฤตกิ รรมการประเมิน เทคนคิ ระดับพฤตกิ รรม (%) การ พทุ ธพิ สิ ัย ทกั ษะพิสัย จติ พิสยั ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นักเรียน 20 40 40 100 1. สามารถอธบิ าย แบบทดสอบ ความรอ้ นกับการ - เลอื กตอบ เปล่ยี นสถานะของ สสารได้ 2. แบบ ประเมินการ ตอบคำถาม 2. นกั เรยี นเขียน แบบประเมนิ แผนภาพแสดง การตอบ กระบวนการ คำถาม เปลี่ยนสถานะของ 20 40 40 100 สารได้ 3. นักเรียนมี 20 40 20 แบบสังเกต ส่วนรว่ มใน พฤติกรรม กิจกรรมการ เรียนรู้ 20 100 การเรยี น อยู่ในระดบั ดี 20 40 40 100 20 40 40 100 20 40 20 20 100 รวม
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 3 = นำไปใช้ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 4 = วเิ คราะห์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = ประเมินคา่ 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = สรา้ งสรรค์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธบิ ายประกอบการประเมิน ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ การตอบคำถามในแบบฝึกหัด คำช้แี จง : ใหผ้ ู้ประเมินทำการประเมนิ แบบประเมนิ การตอบคำถามในแบบฝึกหัด ลำดบั ชอ่ื - สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ ท่ี 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์)ิ วนั ท.ี่ ............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑ์การใหค้ ะแนน : พิจารณาดังตารางตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ท่ี ระดบั คะแนน ประเมนิ 5 43 2 1 0 คำตอบ คำตอบถูกตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบถกู ต้อง คำตอบ คำตอบ ถูกต้อง 5 ขอ้ ถูกต้อง ถูกต้อง 2 ข้อ ถูกตอ้ ง ไม่ถกู ต้อง 4 ขอ้ 3 ข้อ 1 ขอ้ เกณฑ์การผ่านการประเมนิ : นกั เรยี นมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 9 กระบวนการเปลีย่ นสถานะของสาร 1. สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรยี นจำนวน..1...2..2.....คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร้.ู .....1..2..2........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ......1..0..0.......... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค.์ ......................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................... ไดแ้ ก่........................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรปุ ผลตามรายจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ด้านพุทธพิ ิสยั (Cognitive domain) .........น..กั...เ.ร..ยี ..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..ธ..บิ...า..ย..ค...ว..า..ม..ร..อ้...น..ก...ับ..ก...า..ร..เ.ป...ล..ยี่ ..น...ส..ถ..า..น...ะ..ข..อ...ง..ส..ส..า..ร..ไ..ด..้อ...ย..่า..ง..ถ..ูก..ต...อ้ ..ง............................ ...... ....................................................................................................................................................................... 2.2 ด้านทักษะพิสยั (Psychomotor domain) .........น..ัก...เ.ร..ยี..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..เ.ข...ยี ..น...แ..ผ..น.ภ...า..พ...แ..ส..ด...ง.ก...ร..ะ..บ...ว..น..ก...า..ร..เ.ป..ล...่ยี ..น...ส..ถ...า.น...ะ..ข...อ..ง..ส..า..ร..ไ..ด..้อ...ย..่า..ง..ถ..ูก..ต...้อ..ง...ช...ัด..เ.จ..น............. ....................................................................................................................................................................... 2.3 ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) .........น..กั...เ.ร..ยี..น...ม..ีส...ว่ ..น..ร..ว่...ม..ใ..น..ก..า..ร..จ...ดั ..ก...า.ร..เ..ร..ีย..น...ร..ู้ .เ.ล...า่ ..ป..ร..ะ..ส..บ...ก..า..ร..ณ....์ .โ..ต..ต้..อ...บ..ก...ับ...ค..ร..ูต..ล...อ..ด...ก..า..ร..จ..ัด...ก..า..ร..เ.ร..ยี...น..ร..ู้ .......... ....................................................................................................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะหลังการจัดการเรยี นรู้ ..........ค..ร..คู...ว..ร..ใ.ห...ค้..ว...า..ม..ร..เู้.พ...ม่ิ..เ..ต..ิม...เ.ก..ย่ี...ว..ก..ับ...ค..ว..า..ม...น..า่..เ..ช..ื่อ..ถ...ือ..ข..อ..ง..แ...ห..ล..่ง..ข...อ้ ..ม...ูล...เ..พ..ือ่...ใ.ห...น้ ..ัก...เ.ร..ีย..น...เ.ล...อื ..ก..ใ..ช..้................... แ...ห..ล...่ง.ข...อ้ ..ม...ลู ..ท...เี่ .ห...ม..า..ะ..ส...ม.................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................................ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศกั ด)ิ์ ครผู สู้ อน
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นรูห้ น่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เรอื่ ง พลังงานความร้อน ในแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 เร่อื ง กระบวนการเปลี่ยนสถานะของสารเรียบรอ้ ยแล้ว โดยมคี วามคิดเห็น ดงั น้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำกระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม ไมไ่ ดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ทเี่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ 4. การใช้สื่อการเรยี นรู้ มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นร้ขู องผเู้ รยี น ไม่สง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผูเ้ รียน 5. การวดั และการประเมนิ ผล สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรียนรูไ้ ปใช้ นำไปใชไ้ ด้จริง ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................... .............................................................. ....................... ลงช่อื ..................................................... (นางรัชนี หนนู อ้ ย) ตำแหนง่ หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วันที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ าร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรู้หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่อื ง พลงั งานความร้อน ในแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 9 เร่อื ง กระบวนการเปลยี่ นสถานะของสารเรยี บรอ้ ยแลว้ โดยมคี วามคดิ เห็น ดังนี้ 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้วี ดั สอดคล้อง ไม่สอดคลอ้ ง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคญั มาใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม ไม่ได้นำกระบวนการเรียนรทู้ ีเ่ น้นผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใชส้ อ่ื การเรียนรู้ มีความเหมาะสมและสง่ เสริมการเรียนรูข้ องผู้เรียน ไม่ส่งเสริมการเรยี นรู้ของผเู้ รียน 5. การวดั และการประเมินผล สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ไม่สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรยี นรไู้ ปใช้ นำไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ลงช่ือ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวงั จันทรว์ ิทยา กลมุ่ บริหารงานวชิ าการ วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 9 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 9 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 9 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 9 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 10 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2565 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 พลังงานความร้อน เรอ่ื ง ทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลย่ี นแปลงของสาร 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสมั พันธ์ระหวา่ งสสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ิตประจําวัน ธรรมชาตขิ องคลนื่ ปรากฏการณท์ เี่ กย่ี วข้อง กบั เสียง แสง และคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ รวมทั้งนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตวั ช้วี ัด ตัวช้วี ดั ม.1/1 วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมลู และคำนวณปริมาณความร้อนที่ทำให้สสาร เปลีย่ นอุณหภูมิ และเปล่ียนสถานะ โดยใชส้ มการ Q = mc∆t และ Q = mL 2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด สาระสาํ คญั เม่ือสสารไดร้ บั หรือสูญเสยี ความรอ้ นอาจทำให้สสารเปล่ยี นอณุ หภูมิ เปลี่ยนสถานะ หรือเปล่ียน รปู รา่ งปริมาณความร้อนท่ีทำใหส้ สารเปลย่ี นอุณหภมู ขิ นึ้ กบั มวล ความรอ้ นจำเพาะ และอุณหภมู ิท่ี เปลี่ยนไป ความรอ้ นมผี ลต่อการเปลีย่ นสถานะของสสาร เมื่อให้ความรอ้ นแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมพี ลังงานและอุณหภูมิเพมิ่ ขึ้นจนถงึ ระดับหน่ึง ซง่ึ ของแข็งจะใชค้ วามร้อนในการเปลย่ี นสถานะเปน็ ของเหลว เรียกความรอ้ นท่ีใช้ในการเปลยี่ นสถานะจากของแขง็ เป็นของเหลววา่ ความร้อนแฝงของการ หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงท่ี เรยี กอณุ หภมู ิน้วี า่ จุดหลอมเหลว 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นพทุ ธพิ ิสยั (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเหตุการณ์ทีเ่ กีย่ วข้องกับปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงของสสาร ในชวี ิตประจำวนั ได้ ดา้ นทักษะพิสัย (Psychomotor domain) นกั เรยี นสามารถจำแนกเหตุการณ์ท่ีเกย่ี วข้องกับปริมาณความรอ้ นกับการเปลีย่ นแปลงของสสาร ในชีวติ ประจำวันได้
ดา้ นจติ พิสยั (Affective domain) นักเรยี นมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรียนรู้อยใู่ นระดบั ดี 4. คุณลักษณะผเู้ รียน 4.1 คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยอู่ ย่างพอเพียง ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต มุง่ มน่ั ในการทำงาน มีวนิ ยั รกั ความเป็นไทย ใฝเ่ รียนรู้ มจี ติ สาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ความสามารถในการคิด : นกั เรียนสามารถอธบิ ายเหตุการณ์ท่ีเกย่ี วข้องกับปริมาณความรอ้ น กบั การเปลี่ยนแปลงของสสารในชวี ิตประจำวนั ได้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : นกั เรยี นสามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนร้ไู ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ การเปลยี่ นสถานะของสารอาจเป็นการเปล่ยี นแปลงประเภทดูดพลังงานหรือคายพลังงาน ตวั อย่างการ เปลี่ยนแปลงสถานะของสารที่พบในชีวิตประจำวันได้แก่ น้ำแข็งหลอมเหลวกลายเป็นน้ำและนำ้ ได้รับความร้อน กลายเป็นไอเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูดความร้อน ในทางตรงกันข้ามเมื่อไอน้ำเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็น นำ้ และนำ้ แข็ง เปน็ การเปลยี่ นแปลงประเภทคายความร้อน การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปล่ยี นแปลงของสาร สามารถแยกพิจารณาได้ 2 กรณี ดังนี้ กรณที ่ี 1 การคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปล่ยี นแปลงอณุ หภูมิ คำนวณได้จาก สมการ Q = mc∆t เม่อื Q คือ ปรมิ าณความร้อนทสี่ ารได้รับ มหี น่วยเปน็ แคลอรี M คือ มวลของสาร มีหนว่ ยเปน็ กรมั c คอื ความร้อนจำเพาะของสาร มีหน่วยเป็น แคลอรีตอ่ กรมั ×องศาเซลเซยี ส ∆t คอื อณุ หภูมิของน้ำที่เปลีย่ นไป มีหน่วยเป็นองศาเซลเซียส กรณที ี่ 2 การคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีกับการเปลีย่ นสถานะ คำนวณได้จาก สมการ Q = mL เม่ือ Q คอื ปรมิ าณความรอ้ น มหี นว่ ยเปน็ แคลอรี M คือ มวลของสาร มหี น่วยเป็นกรัม L คือ ความร้อนแฝงจำเพาะของสาร มีหน่วยเป็นแคลอรตี อ่ กรัม น้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลว 80 แคลอรีต่อกรัม หมายความว่า ในการทำน้ำแข็ง 1 กรมั ให้หลอมเหลวเปน็ นำ้ ตอ้ งใชพ้ ลงั งานความรอ้ น 80 แคลอรี
น้ำมคี า่ ความร้อนแฝงจำเพาะของการกลายเป็นไอ 540 แคลอรีตอ่ กรมั หมายความวา่ ในการทำนำ้ 1 กรมั อณุ หภูมิ 100 องศาเซลเซียส ให้เปลี่ยนเป็นไอนำ้ 1 กรัม อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซียส ต้องใช้พลังงาน ความร้อน 540 แคลอรี 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ 1) นกั เรยี นและครสู นทนารว่ มกัน เกีย่ วกบั สิง่ ต่าง ๆ ที่อยรู่ อบๆ ตัวของนักเรยี น เพอื่ นำไปสนู่ ยิ ามของคำวา่ สสาร คือสงิ่ ท่ีอยู่รอบ ๆ ตวั ของนกั เรียน 2) นักเรียนดูตัวอย่างที่ครแู สดง ไดแ้ ก่ การเปล่ียนสถานะของนำ้ การเปลี่ยนสถานะของ ชอ็ กโกแลต เพื่อให้นักเรยี นเกิดการวเิ คราะห์วา่ ตัวอย่างที่ครูแสดง เกดิ ข้ึนเพราะอะไร 3) นักเรยี นและครูร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกบั คำตอบท่ีนักเรียนตอบ เพ่ือให้ได้ข้อสรปุ ว่า การเปลย่ี นอุณหภมู ิและสถานะน้ัน เกิดขึ้นจากปริมาณความร้อน ขั้นสอน 4) ครชู แ้ี จงการจัดการเรยี นการสอนในหนว่ ย การคำนวณปริมาณความร้อนกับ การเปล่ยี นแปลงของสาร โดยการจัดการเรยี นการสอนแบบหอ้ งเรยี นกลับด้าน 5) นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง การคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปลยี่ นแปลงของสาร ขน้ั สรุป 8 ) นักเรียนร่วมกันยกตัวอย่างและจำแนกเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับปริมาณความร้อน กบั การเปลยี่ นแปลงของสสารในชวี ิตประจำวนั 8. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - แบบทดสอบก่อนเรียน เรือ่ ง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลีย่ นแปลงของสาร 9. สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science
10. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ วิธีการวัด เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นกั เรียนสามารถอธบิ าย การตอบคำถาม ข้อคำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 เหตุการณ์ท่เี ก่ียวข้องกบั ในชั้นเรยี น ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องร้อยละ 70 ปริมาณความร้อนกับ มีส่วนรว่ มในกิจกรรมการเรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 การเปลี่ยนแปลงของ สสารในชวี ติ ประจำวันได้ 2. ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรยี นสามารถจำแนก การตอบคำถาม ขอ้ คำถาม เหตุการณ์ท่ีเกย่ี วข้องกับ ในชั้นเรียน ปริมาณความร้อนกับ การเปลีย่ นแปลงของ สสารในชีวิตประจำวันได้ 3. ด้านจติ พิสัย (Affective domain) นกั เรียนมสี ว่ นร่วม สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ในกิจกรรมการเรียนรู้ การเรียน การเรยี น อยู่ในระดับดี
แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์ การเรียนรทู้ ีต่ ้องการวัด และความสอดคลอ้ งดา้ นพุทธิพสิ ัย ทกั ษะพสิ ัย และจิตพิสยั วัตถุประสงค์ พฤติกรรมการประเมนิ เทคนคิ ระดบั พฤตกิ รรม (%) การ พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นกั เรยี น แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย การตอบ เหตกุ ารณ์ที่ คำถาม เก่ยี วขอ้ งกบั ปรมิ าณความรอ้ น 20 40 20 20 100 กับการ เปลี่ยนแปลงของ สสารใน ชวี ิตประจำวันได้ 2. นักเรยี นสามารถ แบบประเมิน จำแนกเหตุการณ์ที่ การตอบ เกี่ยวข้องกบั คำถาม ปริมาณความร้อน 40 30 30 100 กับการเปลยี่ นแปลง ของสสารใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ 3. นักเรียนมี 20 40 20 แบบสังเกต ส่วนร่วมใน พฤติกรรม กจิ กรรมการ เรียนรู้ 20 100 การเรียน อยู่ในระดบั ดี รวม 20 40 20 100 40 30 20 40 100 20 40 20 20 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 489
Pages: