คำนำ แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์ 2 (ว21102) หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 พลงั งานความร้อน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับนี้ จัดทำข้ึนโดยมจี ดุ มุง่ หมายหลกั เพือ่ ใช้เป็นแนวทาง ในการจดั การเรยี นรู้ในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ท่ีเนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั มกี ระบวนการ จัดการเรยี นการจัดการเรยี นรู้แบบ Active Learning กระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบห้องเรียนกลบั ด้าน (Flipped Classroom) โดยมีการจดั การเรียนรู้ใหเ้ หมาะสมภายใต้สถานการณ์การจัดการเรยี นการสอนใน รูปแบบออนไลน์ ซ่งึ แผนการจัดการเรยี นร้ฉู บบั นี้ไดใ้ ชจ้ ริงกบั นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/1 , 1/3 , 1/7 และ 1/9 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 โรงเรียนวงั จนั ทร์วิทยา จังหวัดระยอง แผนการจัดการเรยี นรู้ฉบบั นี้สำเรจ็ สมบรู ณ์ลงได้ ด้วยความเอาใจใส่ดูแลให้คำปรึกษามาโดยตลอด ทุกขั้นตอน ใหค้ ำแนะนำ ใหข้ ้อคิดเหน็ และแก้ไขขอ้ บกพร่องตา่ ง ๆ อยา่ งดยี ่ิงจาก รองสมัชญา ผุดผ่อง รองผู้อำนวยการฝา่ ยวชิ าการ อาจารย์รัชนี หนนู อ้ ย หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมท้ังได้รับความอนเุ คราะห์และแก้ไขข้อบกพร่อง ตลอดจนแนะนำแผนการจัดการเรียนรใู้ นส่วนตา่ ง ๆ อยา่ งดียิ่งจากคณะครูกล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนวังจันทร์วิทยา ผู้จัดทำขอขอบพระคณุ เป็นอยา่ งสงู ณ โอกาสนี้ ธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ดิ์
คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ว21102 ช่ือวิชา วิทยาศาสตรพ์ ื้นฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ (1.5 หน่วยกิต) ******************************************************************************* ศกึ ษา วเิ คราะห์ อธิบาย เปรียบเทยี บ คำนวณ แปลความหมาย ตระหนักถึงประโยชน์ และคุณค่าของ ข้อมลู ที่เกย่ี วกับพลังงานความรอ้ น พลังงานความร้อนกับการเปลีย่ นแปลงของสสาร พลงั งานความร้อนกับการ ขยายตวั หรอื หดตัวและการขยายตวั หรือหดตวั ของสสาร เนอื่ งจากไดร้ บั หรือสญู เสียพลงั งานความรอ้ น ประโยชน์ของความรู้ของการหดและขยายตวั ของสสาร การถ่ายโอนพลังงานความร้อนในชีวติ ประจำวัน สมดลุ ความร้อน ลมฟา้ อากาศรอบตัว ช้ันบรรยากาศ ประโยชนข์ องบรรยากาศ อุณภมู ิของอากาศ ความชนื้ ของ อากาศ เมฆและฝนความกดอากาศและลม การพยากรณอ์ ากาศ และมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศ โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Science process skills) ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 (21th Century skills) กระบวนการสืบเสาะหาความรู้การสบื คน้ ข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลอง อภิปราย อธบิ าย และการสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีความสามารถใน การตัดสินใจ ส่ือสารสง่ิ ทเ่ี รียนรูแ้ ละนำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ของตนเอง มจี ติ วิทยาศาสตรจ์ ริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มอย่างมีคุณธรรมต่อสงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม ตัวชว้ี ดั ว 2.1 ม.1/9 ม.1/10 ว 2.2 ม.1/1 ว 2.3 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ว 3.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 รวมท้งั หมด 17 ตวั ชี้วดั
โครงสร้างหลกั สูตรโรงเรียนวงั จนั ทร์วทิ ยา กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ฉบับปรบั ปรุงพุทธศกั ราช 2560) ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 (ภาคเรียนที่ 2) รหัสวิชา รายวิชา วชิ า วชิ า จำนวน จำนวน สาระ มาตรฐาน ตวั ช้ีวัด พฐ. พต. นก. ชม. ว 21102 วิทยาศาสตร์ ✓ - 1.5 60 1. พลงั งานความร้อน ว 2.1 ม.1/9 – 1/10 2 ว 2.2 ม.1/1 ว 2.3 ม. 1/1 – 1/7 2. กระบวนการ ว 2.3 ม. 1/1 – 1/7 เปล่ียนแปลงลมฟา้ อากาศ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว21102 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 1 คาบเรียน ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 พลังงานความรอ้ น เรอื่ ง ความหมายของอุณหภูมิ 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี ตวั ช้วี ดั ตวั ชว้ี ัด ม.1/10 อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างพลงั งานความร้อนกบั การเปล่ยี นสถานะของสสาร โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจกั ษแ์ ละแบบจำลอง 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระสาํ คัญ อณุ หภูมิ คือการวัดค่าเฉล่ยี ของพลังงานจลน์ของอนภุ าคในสสารใดๆ ซึ่งสอดคล้องกบั ความรอ้ น หรอื เย็นของสสารน้นั โดยใช้หน่วยและการแปลงหน่วยอุณหภูมิเพือ่ ใชใ้ นการศึกษาอุณหภูมิ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธพิ ิสัย (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของอุณหภมู ิได้ ดา้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรยี นสามารถระบุหนว่ ยการวดั อุณหภูมิได้ ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นกั เรียนมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้อยูใ่ นระดบั ดี 4. คณุ ลักษณะผู้เรยี น 4.1 คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ย่างพอเพียง ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มุ่งม่นั ในการทำงาน ใฝเ่ รียนรู้ มีจติ สาธารณะ มวี นิ ัย รักความเป็นไทย
5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ความสามารถในการคิด : นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของอุณหภูมไิ ด้ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นกั เรยี นสามารถใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรูไ้ ด้ 6. สาระการเรียนรู้ องศาเซลเซียส ใช้สัญลักษณ์เป็น ํC ระบบนี้กำหนดให้จุดเดือดของน้ำหรือจุดหลอมเหลวของน้ำแข็ง อยูท่ ี่ 0 องศา ขณะทีจ่ ุดเยอื กแขง็ ของน้ำอยทู่ ่ี 100 องศา องศาฟาเรนไฮต์ ใช้สัญลักษณ์เป็น ํF โดยกำหนดให้จุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ที่ 32 องศา และจุดเดือด อยทู่ ี่ 212 องศา ระหว่างจุดเดอื ดกบั จดุ เยือกแข็งจึงสามารถแบง่ ได้เป็น 180 หน่วยหรือ 180 ชอ่ ง เคลวิน ใชส้ ัญลักษณ์เปน็ K โดยเปน็ หนว่ ยในระบบ SI ใชใ้ นการคำนวณ เนือ่ งจากเปน็ หน่วยวดั ทเี่ ริม่ ต้น จากจุดศูนย์สัมบูรณ์ (absolute zero temperature) และอุณหภูมิที่ 373 หรือ 373.16 เคลวินจะตรงกับ 100 องศาเซลเซียส สว่ นจุดเยอื กแข็งอยู่ทค่ี ่า 273 หรอื 273.16 เคลวนิ ซึ่งตรงกบั 0 องศาเซลเซยี ส ดังนน้ั จาก 273 จนถึง 373 จึงสามารถแบง่ สดั ส่วนเปน็ 100 หน่วยหรอื 100 ช่อง องศาโรเมอร์ ใช้สัญลักษณ์เป็น oR โดยกำหนดให้จุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ที่ 0 องศา และจุดเดือดอยู่ที่ 80องศา ระหวา่ งจุดเดือดกบั จดุ เยอื กแขง็ จงึ สามารถแบ่งได้เป็น 80 หน่วยหรอื 80 ชอ่ ง 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) นกั เรียนและครูรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั การดำเนินชวี ิตในชว่ งสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้ือ ไวรสั โคโรนา โดยมฝี จความสำคัญ ดงั น้ี“เมื่อนักเรยี นจะไปซอื้ ของที่ 7-11 สาขาตลาดชมุ แสง จะต้องวัด อุณหภมู ทิ เ่ี ครื่องวดั อุณหภมู ิ กอ่ นเขา้ ไปเดินเลือกซอ้ื ของให้ 7-11 และถามคำถามนักเรยี น ดงั นี้ - นักเรียนคิดว่า เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งวดั อุณหภมู กิ ่อนเข้า 7-11 (พิจารณาตามความเหมาะสมของคำตอบ) ขั้นท่ี 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) นักเรียนรว่ มกันศกึ ษาคน้ ควา้ ในหัวข้อ “อุณหภูมคิ อื อะไร” ขัน้ ที่ 3 ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายในหัวข้อ “อุณหภูมิคืออะไร” ตามที่นักเรียนแตล่ ะคนได้ศึกษาค้นควา้ มา เพือ่ ให้ได้ข้อสรุปว่า อุณหภมู เิ ป็นการวัดคา่ เฉลี่ยของพลังงานจลนข์ องอนภุ าคในสสารใด ๆ ซ่ึงสอดคล้องกับ ความรอ้ นหรือเย็นของสารนน้ั อุปกรณ์ที่ใช้วัดอุณหภูมิ คือ เทอร์โมมิเตอร์ ซึ่งมีหลายชนิด และอุณหภูมิสามารถวัดออกมาได้หลาย หน่วยขึ้นอยู่กับเทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้ ซึ่งส่วนมากเราจะเห็นหน่วยของอุณหภูมิ เป็น องศาเซลเซียสและ องศาฟาเรนไฮตใ์ นเทอร์โมมเิ ตอร์
ข้นั ท่ี 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) นกั เรยี นและครสู นทนารว่ มกันเกี่ยวกบั ไวรสั โคโรนาในชวี ติ ประจำวนั กบั การวัดอณุ หภมู ิ ขัน้ ท่ี 5 ข้ันประเมิน (Evaluation) นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดเรือ่ งการเปลยี่ นหน่วยอณุ หภูมิ หน้าที่ 1 8. ช้นิ งาน / ภาระงาน - แบบฝึกหัด เร่ือง การเปลย่ี นหน่วยอุณหภมู ิ 9. สอ่ื การเรียนรู้ / แหลง่ เรียนรู้ แบบฝึกหดั เรอื่ งการเปลย่ี นหนว่ ยอุณหภูมิ 10. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านพุทธิพิสยั (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ขอ้ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้องรอ้ ยละ 70 ความหมายของอุณหภมู ิ ในช้ันเรยี น ได้ 2. ด้านทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบฝึกหดั ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 นักเรียนสามารถระบุ การตอบคำถามใน หน่วยการวดั อณุ หภูมไิ ด้ แบบฝึกหดั 3. ดา้ นจติ พิสัย (Affective domain) นักเรยี นมสี ว่ นร่วม สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรยี นรู้ ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ การเรยี น การเรยี น ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 อยู่ในระดับดี
แบบวเิ คราะหก์ ารประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์ การเรียนรูท้ ีต่ ้องการวัด และความสอดคล้องดา้ นพทุ ธพิ ิสัย ทักษะพสิ ัย และจิตพสิ ัย วัตถุประสงค์ พฤติกรรมการประเมนิ เทคนิค ระดับพฤติกรรม (%) การ พุทธิพิสัย ทักษะพิสยั จติ พิสยั ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นกั เรียน แบบ ประเมนิ การ สามารถอธบิ าย ตอบคำถาม ความหมายของ อณุ หภมู แิ ละนำ 20 30 30 20 100 หน่วยอณุ หภูมไิ ป ใชใ้ น ชวี ติ ประจำวนั ได้ 2. นกั เรียนสามารถ แบบ ระบหุ นว่ ยการวัด ประเมินการ อุณหภมู ิได้ ตอบคำถาม 30 30 40 100 3. นกั เรยี นมี 20 40 20 แบบสังเกต ส่วนรว่ มใน พฤติกรรม กจิ กรรมการ เรยี นรู้ 20 100 การเรียน อยใู่ นระดับดี 20 30 30 20 100 30 30 40 100 20 40 20 20 100 รวม
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมินการตอบคำถามในแบบฝกึ หัด คำชี้แจง : ให้ผูป้ ระเมินทำการประเมินแบบประเมินการตอบคำถามในแบบฝึกหัด ลำดับ ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ ท่ี 5 4 3 2 1 0 ผา่ น ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 ลงชอ่ื .....................................................ผ้ปู ระเมิน (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด)ิ์ วันท่.ี ............เดือน.....................พ.ศ เกณฑก์ ารประเมนิ การตอบคำถาม เกณฑก์ ารให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ประเด็นท่ี 5 ระดับคะแนน 1 0 ประเมิน 432 คำตอบ คำตอบ คำตอบ คำตอบถูกต้อง คำตอบ คำตอบ คำตอบถูกต้อง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ต้อง ถกู ต้อง 5 ข้อ ถูกตอ้ ง ถูกต้อง 2 ขอ้ 1 ข้อ 4 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผ่านการประเมิน : นักเรียนมีระดับคะแนน 3 ขึ้นไป
บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ความหมายของอุณหภูมิ 1. สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน...1..2..2.....คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู .1...2..2....คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.....1...0..0.......... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค.์ ......................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................... ได้แก.่ .......................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรุปผลตามรายจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ด้านพุทธพิ ิสัย (Cognitive domain) .........น...กั..เ..ร..ยี ..น..ม...ีค..ว..า..ม...ร..ู้.เ.ข...า้ ..ใ.จ...ค..ว..า..ม...ห..ม...า..ย..ข..อ...ง..อ..ุณ...ห...ภ...มู ..ิ .ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..ธ..บิ...า..ย..ค...ว..า..ม..ห...ม..า..ย...ข..อ..ง..อ...ุณ...ห...ภ..มู...ไิ.ด...้ .............. ..อ..ย...่า..ง..ถ..ูก..ต...้อ..ง................................................................................................................................................... 2.2 ด้านทักษะพิสยั (Psychomotor domain) .........น..ัก...เ.ร..ีย..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..ร..ะ..บ...ุห..น...ว่..ย...ก..า..ร..ว..ัด..อ...ุณ...ห...ภ..มู...ิไ.ด...้อ..ย...่า.ง..ถ..ูก...ต..้อ..ง....จ..า..ก..ก...า..ร..ส..ัง..เ.ก..ต...จ..า..ก...ส..่อื ..ก...า..ร..เ.ร..ีย..น...ร..ู้ ............... ...ใ.น...ก..า..ร..จ..ัด...ก..า..ร..เ.ร..ีย...น..ร..ู้ใ..น...ร..ปู ..แ..บ...บ...อ..อ...น..ไ..ล..น...์ ...................................................................................................... 2.3 ดา้ นจิตพสิ ัย (Affective domain) .........น...กั..เ..ร..ยี ..น...ม..ีป...ฏ..ิส...มั ..พ...ัน...ธ..์ .ม..ีส...ว่ ..น...ร..่ว..ม..ใ..น..ก...า.ร..เ..ร..ีย..น...ร..ู้ .ร..ว่..ม..แ...ส..ด..ง..ค...ว..า..ม..ค...ดิ ..เ.ห...็น..อ...ย..ใู่..น..ร..ะ..ด...ับ...ด..ี............................. ....................................................................................................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะหลงั การจัดการเรียนรู้ .......ก...ำ..ช..บั...ใ.ห...้น...ัก..เ.ร..ีย...น..เ.ข...า้ ..เ.ร..ยี..น...ใ.ห...ต้..ร..ง..เ.ว...ล..า...เ..พ..ือ่...ใ.ห...้เ.ก..ิด...ป..ร..ะ..โ..ย..ช..น...ส์..ูง..ส...ดุ ..ใ..น..ก...า.ร..จ...ัด..ก...า..ร.เ..ร..ยี ..น..ร..ู้............................ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................................ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จุลศกั ด)์ิ ครผู ู้สอน
ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจัดการเรียนรูห้ น่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่อื ง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจัดการ เรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง ความหมายของอุณหภมู ิเรียบรอ้ ยแลว้ โดยมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชว้ี ัด สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม ไมไ่ ดน้ ำกระบวนการเรียนรทู้ เี่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใชส้ ่อื การเรยี นรู้ มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรูข้ องผู้เรียน ไม่สง่ เสริมการเรียนรู้ของผเู้ รียน 5. การวดั และการประเมนิ ผล สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ .............................................................. ........................................................................................ ................... ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชื่อ ..................................................... (นางรัชนี หนูนอ้ ย) ตำแหนง่ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วันที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนร้หู น่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 เรื่อง พลังงานความรอ้ น ในแผนการจัดการ เรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง ความหมายของอุณหภมู ิเรยี บรอ้ ยแลว้ โดยมคี วามคิดเห็น ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชี้วดั สอดคลอ้ ง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำกระบวนการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ทีเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใชส้ ือ่ การเรียนรู้ มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น ไม่ส่งเสริมการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมนิ ผล สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรยี นรไู้ ปใช้ นำไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมัชญา ผุดผ่อง) ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนวังจนั ทรว์ ทิ ยา กลุม่ บริหารงานวชิ าการ วนั ที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 : แบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 : เฉลยแบบฝกึ หดั
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว21102 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 พลังงานความรอ้ น เร่อื ง หนว่ ยวดั อุณหภูมิ 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสรา้ งและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ เกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี ตัวชว้ี ัด ตัวช้ีวดั ม.1/10 อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหว่างพลงั งานความร้อนกบั การเปล่ยี นสถานะของสสาร โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์และแบบจำลอง 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สาระสําคญั อณุ หภูมิ คือการวัดค่าเฉลย่ี ของพลังงานจลน์ของอนภุ าคในสสารใดๆ ซึ่งสอดคล้องกับความรอ้ น หรอื เย็นของสสารนนั้ โดยใช้หนว่ ยและการแปลงหน่วยอุณหภูมิเพือ่ ใชใ้ นการศึกษาอุณหภมู ิ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธบิ ายความหมายของอุณหภมู ิได้ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถระบุหนว่ ยการวดั อุณหภูมิได้ ด้านจติ พสิ ัย (Affective domain) นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมการเรยี นรู้อยูใ่ นระดบั ดี 4. คณุ ลกั ษณะผ้เู รยี น 4.1 คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ย่างพอเพียง ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มุ่งม่นั ในการทำงาน ใฝเ่ รียนรู้ มีจิตสาธารณะ มีวินัย รักความเป็นไทย
5. ด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน ความสามารถในการคดิ : นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของอุณหภูมไิ ด้ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นักเรยี นสามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ได้ 6. สาระการเรียนรู้ องศาเซลเซยี ส ใชส้ ญั ลกั ษณเ์ ปน็ ํC ระบบนีก้ ำหนดใหจ้ ดุ เดือดของน้ำหรือจุดหลอมเหลวของน้ำแข็งอยู่ ที่ 0 องศา ขณะท่จี ดุ เยอื กแขง็ ของน้ำอยทู่ ่ี 100 องศา องศาฟาเรนไฮต์ ใช้สญั ลักษณเ์ ป็น ํF โดยกำหนดให้จดุ เยือกแข็งของน้ำอยู่ท่ี 32 องศา และจุดเดือดอยู่ ท่ี 212 องศา ระหว่างจดุ เดือดกบั จดุ เยอื กแขง็ จงึ สามารถแบง่ ได้เปน็ 180 หนว่ ยหรือ 180 ช่อง เคลวนิ ใชส้ ัญลกั ษณ์เป็น K โดยเป็นหนว่ ยในระบบ SI ใชใ้ นการคำนวณ เน่อื งจากเป็นหน่วยวดั ทเี่ ร่ิมต้น จากจุดศูนย์สัมบูรณ์ (absolute zero temperature) และอุณหภูมิที่ 373 หรือ 373.16 เคลวินจะตรงกับ 100 องศาเซลเซียส ส่วนจดุ เยอื กแขง็ อย่ทู ่คี า่ 273 หรอื 273.16 เคลวิน ซง่ึ ตรงกบั 0 องศาเซลเซียส ดงั น้ัน จาก 273 จนถงึ 373 จึงสามารถแบ่งสัดส่วนเป็น 100 หน่วยหรอื 100 ชอ่ ง โรเมอร์ ใช้สัญลักษณ์เป็น oR โดยกำหนดให้จุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ที่ 0 องศา และจุดเดือดอยู่ที่ 80 องศา ระหวา่ งจดุ เดอื ดกับจุดเยอื กแข็งจึงสามารถแบ่งได้เป็น 80 หน่วยหรือ 80 ชอ่ ง 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) นกั เรียนและครูรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับการวดั อณุ หภมู ิในแต่ละภมู ภิ าคของโลก โดยให้นักเรยี นดู หนว่ ยการวัดอุณหภูมิจากแอพลิเคชนั่ โทรศพั ทข์ องนักเรยี น เพื่อให้ไดข้ ้อสรปุ ว่า ในแตล่ ะภูมภิ าคมีการใช้ หน่วยการวดั อณุ หภูมิที่แตกต่างกนั ออกไป จากนน้ั นักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถาม ดงั น้ี - ประเภททางทวปี ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลยี อเมรกิ า เพราะเหตใุ ดถึงใชห้ นว่ ยวัดอุณหภูมิ ไม่เหมือนกัน (พจิ ารณาตามความเหมาะสมของคำตอบ) ข้ันท่ี 2 ขัน้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) นักเรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้าหนว่ ยวัดอณุ หภมู ิ และสญั ลักษณ์ ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) นักเรยี นและครูรว่ มกันอภิปรายในหัวข้อ “หนว่ ยวดั อุณหภูมิ และสัญลักษณ์” ตามท่ีนักเรียนแต่ละคน ไดศ้ ึกษาค้นควา้ มา เพ่ือใหไ้ ด้ข้อสรุปว่า องศาเซลเซียส ใช้สญั ลกั ษณเ์ ป็น ํC องศาฟาเรนไฮต์ ใชส้ ัญลกั ษณเ์ ปน็ ํF เคลวิน ใช้สัญลกั ษณเ์ ปน็ K โรเมอร์ ใช้สญั ลักษณเ์ ป็น oR ขน้ั ที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) นักเรียนและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับ “เครื่องวัดอุณหภูมิทางการแพทย์” กับการตรวจคัดกรอง ผ้ปู ่วยโควิด – 19
ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดเรอื่ งการเปลย่ี นหน่วยอุณหภมู ิ หนา้ ที่ 1 8. ช้นิ งาน / ภาระงาน - แบบฝกึ หดั เรื่อง การเปลยี่ นหนว่ ยอณุ หภูมิ 9. สื่อการเรยี นรู้ / แหลง่ เรียนรู้ แบบฝกึ หดั เรอ่ื ง การเปล่ยี นหนว่ ยอุณหภูมิ 10. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ ข้อคำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้องร้อยละ 70 1. ดา้ นพุทธิพิสัย (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ าย การตอบคำถาม ความหมายของอณุ หภูมิ ในชน้ั เรยี น ได้ 2. ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบฝกึ หดั ตอบคำถามได้ถูกต้องรอ้ ยละ 70 นักเรยี นสามารถระบุ การตอบคำถามใน หนว่ ยการวดั อุณหภูมไิ ด้ แบบฝึกหดั 3. ด้านจิตพสิ ยั (Affective domain) นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ ม สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม มสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรู้ ในกิจกรรมการเรยี นรู้ การเรียน การเรยี น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 อยูใ่ นระดบั ดี
แบบวิเคราะหก์ ารประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์ การเรยี นรู้ที่ต้องการวัด และความสอดคลอ้ งดา้ นพทุ ธพิ ิสัย ทักษะพิสยั และจิตพสิ ัย วัตถปุ ระสงค์ พฤตกิ รรมการประเมนิ เทคนิค ระดบั พฤตกิ รรม (%) การ พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะพิสัย จติ พิสยั ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นักเรยี น แบบ ประเมนิ การ สามารถอธบิ าย ตอบคำถาม ความหมายของ อุณหภูมแิ ละนำ 20 30 30 20 100 หน่วยอุณหภมู ิไป ใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ 2. นักเรียนสามารถ แบบ ระบหุ นว่ ยการวัด ประเมินการ อุณหภูมไิ ด้ ตอบคำถาม 30 30 40 100 3. นักเรียนมี 20 40 20 แบบสังเกต ส่วนรว่ มใน พฤติกรรม กิจกรรมการ เรียนรู้ 20 100 การเรียน อยูใ่ นระดับดี 20 30 30 20 100 30 30 40 100 20 40 20 20 100 รวม
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมินการตอบคำถามในแบบฝกึ หัด คำชี้แจง : ให้ผูป้ ระเมินทำการประเมินแบบประเมินการตอบคำถามในแบบฝึกหัด ลำดับ ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ ท่ี 5 4 3 2 1 0 ผา่ น ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 ลงชอ่ื .....................................................ผ้ปู ระเมิน (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด)ิ์ วันท่.ี ............เดือน.....................พ.ศ เกณฑก์ ารประเมนิ การตอบคำถาม เกณฑก์ ารให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ประเด็นท่ี 5 ระดับคะแนน 1 0 ประเมิน 432 คำตอบ คำตอบ คำตอบ คำตอบถูกต้อง คำตอบ คำตอบ คำตอบถูกต้อง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ต้อง ถกู ต้อง 5 ข้อ ถูกตอ้ ง ถูกต้อง 2 ขอ้ 1 ข้อ 4 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผ่านการประเมิน : นักเรียนมีระดับคะแนน 3 ขึ้นไป
บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 พลังงานความร้อน...... ... ... แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 หนว่ ยวัดอณุ หภูมิ 1. สรปุ ผลการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..1..2...2.....คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้..1..2..2.....คน คิดเป็นร้อยละ....1...0..0........... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค.์ ......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................... ได้แก.่ .......................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรุปผลตามรายจุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 ด้านพุทธพิ สิ ัย (Cognitive domain) ........น...ัก..เ..ร..ยี ..น...ม..คี...ว..า..ม..ร..ู้.เ..ข..้า..ใ.จ...ค..ว..า..ม...ห..ม...า..ย..ข..อ...ง..อ..ณุ...ห...ภ...ูม..ิ.ส..า..ม...า..ร..ถ..อ...ธ..บิ ..า..ย...ค..ว..า..ม..ห...ม...า..ย..ข..อ...ง.อ...ุณ...ห...ภ...มู ..ิไ..ด..้............... .อ...ย..า่ ..ง..ถ..ูก..ต...้อ..ง.................................................................. ...................................................................... ............ 2.2 ด้านทกั ษะพิสยั (Psychomotor domain) ...........น...กั ..เ..ร..ยี ..น..ส...า..ม..า..ร..ถ...ร..ะ..บ..ุห...น...่ว..ย..ก..า..ร..ว..ดั...อ..ณุ....ห..ภ...มู..ิ..ส..ัญ...ล..กั...ษ..ณ....์ข..อ...ง.ห...น...่ว..ย..ก..า..ร..ว..ดั...อ..ุณ....ห..ภ...ูม..ิ..ไ.ด...้อ..ย..่า..ง..ถ..กู...ต..้อ..ง........ ........................................................................................................................................................................ 2.3 ด้านจติ พิสยั (Affective domain) ...........น..กั...เ.ร..ีย..น...ม..ีป...ฏ...ิส..ัม...พ..ัน...ธ..์.ส...า..ม..า..ร..ถ..พ...ูด...ค..ยุ....โ.ต...ต้ ..อ..บ....ใ..ห..้ค...ว..า..ม..ร..่ว..ม...ม..อื...ใ.น...ก..า..ร..เ.ร..ีย...น..ด...ี ....................................... ....................................................................................................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะหลังการจัดการเรียนรู้ ............ใ.น...ข..ณ...ะ..ท...ำ..ก..ิจ...ก..ร..ร..ม....ค..ร..ใู..ห...้ค..ว..า..ม..ร..เู้..ร..่ิม..เ.ต...ิม..ก...ับ..น...กั..เ.ร..ีย...น..เ.ก...่ีย..ว..ก...บั ..ก...า..ร..ค..้น...ค..ว..า้..ข..อ้...ม..ูล...จ..า..ก..แ...ห..ล...ง่ ..ข..อ้ ..ม...ูล........... ท...ีน่...า่ ..เ.ช..ื่อ...ถ..ือ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศักด์ิ) ครผู สู้ อน
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดต้ รวจแผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจัด การเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง หนว่ ยวัดอณุ หภมู ิเรียบร้อยแล้ว โดยมคี วามคดิ เหน็ ดังน้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชวี้ ัด สอดคลอ้ ง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ทเ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรทู้ ่เี น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ 4. การใชส้ อ่ื การเรยี นรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นรู้ของผู้เรยี น ไม่ส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผู้เรยี น 5. การวัดและการประเมนิ ผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรยี นร้ไู ปใช้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชือ่ ..................................................... (นางรัชนี หนูน้อย) ตำแหนง่ หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วันที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของผู้บริหาร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรหู้ นว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง พลังงานความรอ้ น ในแผนการจัด การเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ือง หน่วยวดั อณุ หภมู ิเรยี บร้อยแล้ว โดยมคี วามคิดเห็น ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั สอดคล้อง ไม่สอดคลอ้ ง 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำกระบวนการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญมาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรทู้ ่เี น้นผู้เรียนเปน็ สำคัญมาใช้ 4. การใช้ส่อื การเรียนรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรขู้ องผเู้ รียน ไมส่ ่งเสรมิ การเรียนรู้ของผู้เรยี น 5. การวดั และการประเมนิ ผล สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรไู้ ปใช้ นำไปใชไ้ ด้จรงิ ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการโรงเรียนวงั จนั ทร์วิทยา กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ วนั ที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2 : เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 : แบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 : เฉลยแบบฝกึ หดั
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว21102 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน เรอ่ื ง การเปล่ยี นหน่วยอุณหภมู ิ 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ตวั ชี้วดั ตัวชี้วดั ม.1/10 อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างพลังงานความร้อนกบั การเปล่ยี นสถานะของสสาร โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษแ์ ละแบบจำลอง 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด สาระสําคัญ อุณหภมู ิ คือการวดั ค่าเฉลี่ยของพลงั งานจลน์ของอนุภาคในสสารใดๆ ซึง่ สอดคล้องกับความรอ้ น หรอื เย็นของสสารน้ัน โดยใช้หน่วยและการแปลงหนว่ ยอุณหภมู ิเพือ่ ใชใ้ นการศึกษาอณุ หภูมิ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพุทธิพสิ ัย (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธิบายความหมายของอุณหภูมิและนำหน่วยอุณหภูมิไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรยี นสามารถคำนวณการเปลี่ยนหน่วยการวัดอุณหภมู ไิ ด้ ดา้ นจิตพิสยั (Affective domain) นกั เรียนมีสว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นร้อู ยู่ในระดบั ดี 4. คณุ ลกั ษณะผเู้ รยี น 4.1 คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ซอ่ื สัตย์สจุ รติ มุ่งม่ันในการทำงาน ใฝเ่ รียนรู้ มจี ิตสาธารณะ มวี ินัย รกั ความเป็นไทย
5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการคดิ : นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายของอณุ หภูมแิ ละนำหนว่ ย อุณหภมู ไิ ปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : นกั เรียนสามารถใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรไู้ ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ องศาเซลเซยี ส ใชส้ ัญลกั ษณเ์ ป็น ํC ระบบนก้ี ำหนดให้จดุ เดือดของนำ้ หรือจดุ หลอมเหลวของน้ำแข็งอยู่ ที่ 0 องศา ขณะทีจ่ ุดเยอื กแขง็ ของนำ้ อยูท่ ่ี 100 องศา องศาฟาเรนไฮต์ ใชส้ ัญลักษณ์เปน็ ํF โดยกำหนดให้จุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ที่ 32 องศา และจุดเดือดอยู่ ท่ี 212 องศา ระหว่างจดุ เดอื ดกับจดุ เยอื กแข็งจงึ สามารถแบง่ ได้เป็น 180 หน่วยหรอื 180 ชอ่ ง เคลวนิ ใช้สัญลักษณเ์ ป็น K โดยเป็นหนว่ ยในระบบ SI ใช้ในการคำนวณ เนอื่ งจากเป็นหน่วยวดั ท่ีเรมิ่ ต้น จากจุดศูนย์สัมบูรณ์ (absolute zero temperature) และอุณหภูมิที่ 373 หรือ 373.16 เคลวินจะตรงกับ 100 องศาเซลเซยี ส สว่ นจุดเยือกแขง็ อยู่ท่ีค่า 273 หรอื 273.16 เคลวนิ ซึง่ ตรงกับ 0 องศาเซลเซยี ส ดงั นนั้ จาก 273 จนถึง 373 จงึ สามารถแบง่ สัดสว่ นเป็น 100 หนว่ ยหรือ 100 ช่อง โรเมอร์ ใช้สัญลักษณ์เป็น oR โดยกำหนดให้จุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ที่ 0 องศา และจุดเดือดอยู่ที่ 80 องศา ระหว่างจุดเดอื ดกับจุดเยอื กแขง็ จึงสามารถแบ่งได้เป็น 80 หน่วยหรอื 80 ช่อง 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สังเกตเทอรโ์ มมเิ ตอร์ และตอบคำถาม ดังนี้ - นกั เรยี นสังเกตเหน็ อะไรจากเทอร์โมมิเตอร์ (แนวคำตอบ เทอรโ์ มมเิ ตอร์ทำจากแก้ว มสี เกลตวั เลขบอกอณุ หภูมิ ในหน่วยองศาเซลเซียส และองศาฟาเรนไฮต์ ภายในมีของเหลวสแี ดง ซึ่งทำมาจากแอลกอฮอร์) - ถ้าครูนำเทอร์โมมิเตอรไ์ ปจุ่มในน้ำรอ้ น และนำ้ เย็น นกั เรียนจะเห็นการเปล่ียนแปลงตา่ งกัน หรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ ต่างกัน หากนำเทอรโ์ มมเิ ตอรจ์ มุ่ ลงไปในน้ำร้อน ของเหลวสแี ดงจะข้ึนไปสูง หากนำ เทอรโ์ มมิเตอร์จุม่ ในนำ้ เยน็ ของเหลวสีแดงจะขึ้นต่ำกว่า) - ค่าตัวอุณหภูมใิ นหน่วยองศาเซลเซยี สและองศาฟาเรนไฮต์ที่ปรากฏบนเทอรโ์ มมิเตอร์ตา่ งกนั หรือไม่ (แนวคำตอบ ตา่ งกัน) ขนั้ ท่ี 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) นกั เรียนรว่ มกันสังเกตภาพเทอรโ์ มมิเตอร์และให้รว่ มกนั ศึกษาและอภิปรายวา่ หน่วยวัดอณุ หภูมิ แต่ละหน่วย มีจดุ เดือด จุดเยือกแขง็ ต่างกันหรอื ไม่ อย่างไร
ข้นั ที่ 3 ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรปุ ดงั น้ี องศาเซลเซียส ใชส้ ญั ลักษณเ์ ป็น ํC ระบบนก้ี ำหนดใหจ้ ดุ เดือดของน้ำหรือจดุ หลอมเหลวของน้ำแข็งอยู่ ท่ี 0 องศา ขณะท่ีจดุ เยือกแข็งของน้ำอยทู่ ี่ 100 องศา องศาฟาเรนไฮต์ ใช้สัญลกั ษณ์เปน็ ํF โดยกำหนดใหจ้ ุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ท่ี 32 องศา และจุดเดือดอยู่ ท่ี 212 องศา ระหว่างจดุ เดอื ดกบั จุดเยอื กแข็งจงึ สามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ 180 หน่วยหรือ 180 ชอ่ ง เคลวิน ใช้สัญลักษณเ์ ปน็ K โดยเป็นหน่วยในระบบ SI ใช้ในการคำนวณ เนือ่ งจากเปน็ หน่วยวัดท่เี ร่มิ ต้น จากจุดศูนย์สัมบูรณ์ (absolute zero temperature) และอุณหภูมิที่ 373 หรือ 373.16 เคลวินจะตรงกับ 100 องศาเซลเซยี ส สว่ นจุดเยือกแขง็ อยู่ทคี่ า่ 273 หรอื 273.16 เคลวิน ซงึ่ ตรงกบั 0 องศาเซลเซยี ส ดงั นน้ั จาก 273 จนถงึ 373 จึงสามารถแบ่งสัดส่วนเปน็ 100 หนว่ ยหรอื 100 ชอ่ ง โรเมอร์ ใช้สัญลักษณ์เป็น oR โดยกำหนดให้จุดเยือกแข็งของน้ำอยู่ที่ 0 องศา และจุดเดือดอยู่ที่ 80 องศา ระหวา่ งจุดเดอื ดกับจดุ เยอื กแขง็ จึงสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 80 หนว่ ยหรอื 80 ชอ่ ง ขั้นที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) ครใู ห้ความรเู้ พิ่มเติม เกย่ี วกบั การเปลยี่ นหน่วยอณุ หภูมิ โดยมีสาระสำคญั ดังนี้ หน่วยอุณหภูมิสามารถเปลยี่ นกลบั ไปมาได้ โดยใช้สมการท่ีตดั ทอนแล้ว ดังนี้ ������ ������ ������ − 32 ������ − 273 5= 4= 9 = 5 จากน้นั ยกตัวอยา่ งการคำนวณการเปลยี่ นหนว่ ยอุณหภูมิ ดงั น้ี ทอ่ี ณุ หภมู ิ 41 องศาฟาเรนไฮต์ เทา่ กับกอ่ี งศาเซลเซียส วิธที ำ จากสมการ F−32 = C โจทย์กำหนดให้ 5 9 41 F= ให้หา C แทนค่า 41−32 C = 5 ������ 9 5 9= C 9 1x5 = ดังนั้น อณุ หภูมิ 41 องศาฟาเรนไฮต์ เทา่ กับ 5 องศาเซลเซียส ข้ันที่ 5 ข้นั ประเมนิ (Evaluation) นักเรียนทำแบบฝกึ หดั เร่อื งการเปลยี่ นหน่วยอุณหภมู ิ หน้าที่ 1 และหน้าท่ี 2 ขอ้ ท่ี 1
8. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - แบบฝกึ หัด เร่ือง การเปลี่ยนหน่วยอุณหภมู ิ 9. ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science 10. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัด เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน ขอ้ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้องรอ้ ยละ 70 1. ดา้ นพุทธพิ สิ ยั (Cognitive domain) แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์การประเมินทักษะ นกั เรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม การเปลย่ี นหนว่ ยอณุ หภูมิ ความหมายของอณุ หภูมิ ในช้ันเรยี น รอ้ ยละ 70 และนำหนว่ ยอณุ หภูมิไป มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 2. ด้านทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณ การทดสอบ การเปลยี่ นหน่วยการวดั อณุ หภูมิได้ 3. ด้านจิตพสิ ัย (Affective domain) นักเรยี นมสี ่วนร่วม สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม การเรียน ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ การเรยี น อย่ใู นระดับดี
แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ การเรยี นร้ทู ต่ี ้องการวดั และความสอดคลอ้ งดา้ นพุทธพิ ิสัย ทักษะพิสยั และจิตพิสยั วัตถปุ ระสงค์ พฤติกรรมการประเมนิ เทคนิค ระดับพฤตกิ รรม (%) การ พทุ ธิพสิ ยั ทักษะพสิ ัย จิตพสิ ยั ประเมนิ 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นกั เรียน แบบ สามารถอธบิ าย ประเมินการ ความหมายของ ตอบคำถาม อณุ หภูมแิ ละนำ 20 30 50 100 หนว่ ยอณุ หภูมไิ ป ใชใ้ น ชีวติ ประจำวันได้ 2. นักเรียนสามารถ 20 30 30 20 100 แบบ คำนวณการเปลย่ี น ประเมิน หนว่ ยการวดั ทกั ษะ อุณหภมู ไิ ด้ การเปลีย่ น หนว่ ย อุณหภูมิ 3. นกั เรียนมี 20 40 20 แบบสังเกต ส่วนรว่ มใน พฤติกรรม กจิ กรรมการ เรียนรู้ 20 100 การเรียน อยใู่ นระดบั ดี 20 30 50 100 20 30 30 20 100 20 40 20 20 100 รวม
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธิบายประกอบการประเมิน ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมินทักษะการเปล่ียนหน่วยอุณหภมู ิ คำชีแ้ จง : ใหผ้ ้ปู ระเมินทำการประเมินแบบประเมินทักษะการเปลี่ยนหนว่ ยอุณหภมู ิ ลำดับ ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ ชือ่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไม่ผา่ น 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงช่ือ.....................................................ผูป้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จุลศักดิ์) วนั ท่.ี ............เดือน.....................พ.ศ
เกณฑก์ ารประเมนิ ทกั ษะการเปลีย่ นหนว่ ยอณุ หภูมิ คะแนน 2 เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาดงั ตารางตอ่ ไปนี้ 2 1 เกณฑ์การให้คะแนน 0 1. ทำความเข้าใจปัญหา 2 - เขยี นสิ่งท่โี จทยกำหนดให้ และสงิ่ ท่ีโจทยถ์ ามได้ถูกต้องครบถ้วน 2 - เขยี นส่งิ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสิ่งท่ีโจทย์ถามไดถ้ ูกตอ้ งได้บางส่วน 1 - เขียนสิ่งทโ่ี จทยก์ ำหนดใหแ้ ละสิ่งที่โจทยถ์ ามไมถ่ กู ต้อง หรือไม่เขยี น 0 2. วางแผนการแกป้ ัญหา 4 - เขียนวธิ แี กป้ ญั หาได้ถูกต้อง 4 - เขยี นวธิ ีแกป้ ญั หา ซึ่งอาจจะนำไปสู่คำตอบทีถ่ ูกต้อง แตย่ ังมบี างสว่ นผิด 3 - เขียนวิธแี ก้ปัญหาไม่ถกู ตอ้ ง หรือไมเ่ ขียน 3. ดำเนินการตามแผน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน 1 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องบางสว่ น - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถว้ น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องบางส่วน 2 - เขยี นแสดงการคำนวณได้ถกู ต้องบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรือ 2 1 ไม่เขียน 0 - เขยี นแสดงการคำนวณไม่ถกู ตอ้ งหรอื ไมเ่ ขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง บางส่วน - เขยี นแสดงการคำนวณไมถ่ ูกตอ้ งและหาคำตอบไมถ่ กู ตอ้ งหรือไม่เขยี น 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไดถ้ ูกตอ้ ง - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไดถ้ ูกต้องบางส่วน - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไม่ถูกตอ้ ง - ไมเ่ ขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑ์การผ่านการประเมิน : นักเรียนมี 8 คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 พลังงานความร้อน...... ... ... แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 การเปลี่ยนหน่วยอุณหภมู ิ 1. สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรยี นจำนวน...1..2...2....คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ...1...2..2.........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.....1...2..2.......... ไม่ผา่ นจุดประสงค.์ ......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................... ได้แก่.................................................................................... ....... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรปุ ผลตามรายจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านพทุ ธิพสิ ยั (Cognitive domain) ...........น...ัก..เ.ร..ีย...น..ม...คี ..ว..า..ม...เ.ข..้า..ใ..จ..เ.ก...ย่ี ..ว..ก...บั ..ห...น...่ว..ย..ว..ดั..อ...ุณ...ห...ภ..มู...ิท..ี่ใ..ช..ใ้..น..ช...วี ..ติ ..ป...ร..ะ..จ..ำ..ว..นั................................................... ....................................................................................................................................................................... 2.2 ดา้ นทกั ษะพสิ ยั (Psychomotor domain) .........น...ัก..เ.ร..ีย...น..ส...า..ม..า..ร..ถ..ค...ำ..น..ว..ณ....ก..า..ร..เ..ป..ล...ย่ี ..น..ห...น...ว่ ..ย..ก..า..ร..ว...ดั ..อ..ณุ...ห...ภ..ู.ม..ไิ..ด..้อ..ย...่า..ง..ถ..ูก..ต...้อ..ง.............................................. ....................................................................................................................................................................... 2.3 ดา้ นจิตพิสยั (Affective domain) ........น...กั..เ..ร..ีย..น...ม..ีส..ว่..น...ร..ว่..ม...ใ.น...ก..า..ร..จ..ดั...ก..า..ร..เ.ร..ยี...น..ร..ู้..ส..า..ม..า..ร..ถ...โ.ต..ต้...อ..บ...ไ.ด...้ .ใ.ห...ค้..ว...า..ม..ร..่ว..ม...ม..ือ..ใ..น...ก..า..ร..เ.ร..ีย..น...ร..ใู้..น..ร..ะ..ด...บั ..ด..ี....... ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลงั การจัดการเรียนรู้ ........ก...า.ร..เ..ป..ล...ยี่ ..น...ห..น...ว่..ย..อ...ุณ...ห...ภ..มู...ิ .ม...คี ..ว..า..ม...เ.ก..ี่ย...ว..ข..้อ..ง..ก...บั ..ว..ิช..า..ค...ณ...ติ..ศ...า..ส..ต...ร..์ .ด..ัง..น...ั้น....ค..ว..ร..ท...บ...ท..ว..น...น...กั ..เ.ร..ีย...น..เ.ก...ยี่ ..ว..ก..บั...... ก...า..ร..ค..ำ..น...ว..ณ...ก...อ่ ..น...จ..ะ..ส..ง่..ผ...ล..ใ.ห...ก้...า.ร..จ...ัด..ก...า..ร..เ.ร..ยี ..น...ร..้จู ..ะ..ด...ำ..เ.น..ิน...ไ.ป...ไ.ด...อ้ ..ย..า่..ง..ร..ว..ด...เ.ร..ว็..ม...า.ก...ย..ิ่ง..ข..้นึ....................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จุลศกั ดิ)์ ครูผสู้ อน
ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดต้ รวจแผนการจัดการเรียนรหู้ น่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรื่อง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง การเปล่ียนหนว่ ยอณุ หภมู ิเรียบรอ้ ยแลว้ โดยมีความคิดเหน็ ดงั น้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชว้ี ดั สอดคลอ้ ง ไม่สอดคลอ้ ง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นร้ทู ี่เน้นผ้เู รียนเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใชส้ ือ่ การเรยี นรู้ มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ไม่สง่ เสริมการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวดั และการประเมนิ ผล สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรยี นร้ไู ปใช้ นำไปใช้ได้จรงิ ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ..................................................................................................................... .................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชื่อ ..................................................... (นางรัชนี หนนู ้อย) ตำแหนง่ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ าร ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรหู้ นว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง พลังงานความรอ้ น ในแผนการจัด การเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การเปลี่ยนหนว่ ยอุณหภูมิเรยี บร้อยแลว้ โดยมีความคิดเห็น ดังน้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม ไมไ่ ดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้สื่อการเรยี นรู้ มคี วามเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผู้เรียน ไม่ส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผู้เรยี น 5. การวัดและการประเมินผล สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้ นำไปใชไ้ ด้จริง ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมัชญา ผดุ ผ่อง) ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนวังจนั ทรว์ ทิ ยา กลุ่มบริหารงานวชิ าการ วันท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3 : แบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 : แบบฝกึ หัด (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 : เฉลยแบบฝกึ หดั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 489
Pages: