โดยใหน้ กั เรียนเขยี นสงิ่ ท่โี จทยก์ ำหนดใหพ้ ร้อมหนว่ ย ด้านบทโจทย์ปญั หา ข้ันที่ 2 วางแผนแกป้ ญั หา นกั เรียนรว่ มกนั แก้โจทย์ปญั หาโดยให้นกั เรียนบอกขัน้ ตอน วธิ กี ารหา คำตอบว่าต้องทำอย่างไร - ตอ้ งใช้ปรมิ าณความรอ้ นเทา่ ใด หมายถงึ ให้หาค่า Q โดยทองแดงมวลมีมวล 50 กรัม โจทย์ กำหนดอุณหภมู ขิ องทองแดงมีค่า 1,083 องศาเซลเซียส แตเ่ มือ่ สารเปล่ยี นสถานะอณุ หภมู จิ ะคงที่ ดังน้นั จงึ ไม่ใช้ค่าอุณหภมู ิมาคำนวณ โจทยก์ ำหนดให้ความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลวของทองแดง มคี ่า 32 แคลอร/ี กรัม จากนั้นนำคา่ ไปแทนในสมการ เพ่ือหาคำตอบคา่ Q - นำคา่ ทีโ่ จทยก์ ำหนดให้แทนลงในสมการ Q = mL เพือ่ หาคำตอบของโจทย์ปญั หาข้อน้ี ขั้นท่ี 3 ปฏบิ ัติตามแผน นักเรยี นและครูลงมือปฏบิ ัตติ ามแผน โดยคิดคำนวณหาคำตอบและ แสดงวธิ ที ำ เพอื่ คำตอบของโจทย์ปัญหา ดังนี้ จากสมการ Q = mL แทนค่า ������ = 50 ������ 32 Q = 1,600 ดังน้นั ตอ้ งใช้ปริมาณความร้อน 1,600 แคลอรี ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ นกั เรยี นและครรู ว่ มกันพิจารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบท่ีได้ รวมถึงพจิ ารณาวิธีการแกป้ ัญหาอน่ื ๆ อีกหรือไม่ ผ่านการตง้ั คำถาม ดงั นี้ - จะมีวธิ กี ารใดในการแก้โจทยป์ ญั หาอืน่ ๆ อีกหรือไม่ อยา่ งไร - นักเรยี นมีวธิ ีการตรวจสอบผลลัพธ์ของตนเองว่าคำตอบถกู ตอ้ งหรอื ไม่ อย่างไร นกั เรียนและครูทำแบบฝึกหดั เรอื่ ง ความรอ้ นกบั การเปล่ียนแปลงอณุ หภมู ิของสาร หน้าที่ 3 ครถู ามนักเรียนเปน็ ระยะเพ่ือกระตุ้นและตรวจสอบความเข้าใจ แนะนำ ช่วยเหลอื นักเรียน และตรวจสอบ นกั เรียนและใหน้ ักเรยี นสง่ แบบฝกึ หดั เพ่ือนำมาตรวจสอบการทำงานของนักเรยี นอีกครง้ั หนึ่ง 8. ช้ินงาน / ภาระงาน - แบบฝึกหดั เรือ่ ง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลีย่ นสถานะของสาร 9. สือ่ การเรยี นรู้ / แหลง่ เรียนรู้ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science
10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 1. ดา้ นพุทธพิ ิสยั (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ความรเู้ กี่ยวกบั การ ในชัน้ เรียน คำนวณปรมิ าณความ รอ้ นกบั การเปล่ียน สถานะของสาร โดยใช้ สมการ Q = mL ได้ 2. ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ทักษะ การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั ปริมาณความร้อนกับ การเปลย่ี นแปลงของสาร ร้อยละ 70 การเปลี่ยนสถานะของ มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นรู้ สาร โดยใชส้ มการ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 Q = mL ได้ 3. ด้านจติ พสิ ยั (Affective domain) นกั เรยี นมีส่วนร่วม สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ในกจิ กรรมการเรียนรู้ การเรยี น การเรยี น อยใู่ นระดับดี
แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถปุ ระสงค์ การเรยี นรทู้ ่ีต้องการวัด และความสอดคล้องดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย วัตถุประสงค์ พฤติกรรมการประเมิน เทคนคิ ระดบั พฤติกรรม (%) การ พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพิสยั ประเมนิ 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นักเรียนสามารถ แบบประเมิน อธบิ ายความรู้ การตอบ เกย่ี วกบั การ คำถาม คำนวณปริมาณ 20 40 40 100 ความร้อนกับการ เปลีย่ นสถานะของ สารโดยใช้สมการ Q = mL 2. นกั เรยี น 20 40 40 100 แบบประเมนิ สามารถคำนวณ ทักษะการ ปริมาณความรอ้ น แก้ปัญหา กับการเปลย่ี น โจทยก์ าร สถานะของสาร คำนวณ ปรมิ าณความ โดยใช้สมการ ร้อนกับการ Q = mL ได้ เปลยี่ นสถานะ ของสาร 3. นักเรียนมี 20 40 20 แบบสงั เกต ส่วนร่วมใน พฤติกรรม กจิ กรรมการ 20 100 การเรยี น เรียนรู้ อยูใ่ นระดบั ดี รวม 20 40 40 100 20 40 40 100 20 40 20 20 100
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 3 = นำไปใช้ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 4 = วเิ คราะห์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = ประเมินคา่ 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = สรา้ งสรรค์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ชอื่ - สกลุ ระดับคะแนน 0 สรปุ การประเมนิ ที่ ผา่ น ไมผ่ ่าน 9- 7-8 5-6 3-4 1- 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ วนั ท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ
เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะการแก้ปัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลีย่ นแปลงของสาร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางต่อไปนี้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 1. ทำความเข้าใจปญั หา 2 - เขียนสงิ่ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสิง่ ทโี่ จทย์ถามไดถ้ กู ตอ้ งครบถว้ น 2 - เขียนสิ่งทโี่ จทยกำหนดให้ และสงิ่ ท่ีโจทย์ถามไดถ้ ูกตอ้ งไดบ้ างสว่ น 1 - เขียนสงิ่ ท่ีโจทย์กำหนดให้และสิง่ ท่ีโจทยถ์ ามไม่ถูกต้อง หรือไม่เขียน 0 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 2 - เขียนวธิ ีแก้ปญั หาไดถ้ กู ตอ้ ง 2 - เขยี นวิธีแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจจะนำไปสู่คำตอบท่ีถูกตอ้ ง แตย่ งั มีบางส่วนผดิ 1 - เขยี นวิธีแก้ปญั หาไมถ่ ูกต้อง หรือไม่เขยี น 0 3. ดำเนนิ การตามแผน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกต้องชัดเจนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถ้วน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ กู ต้องชดั เจนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 3 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ กู ตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน - เขียนแสดงการคำนวณได้ถกู ตอ้ งบางสว่ นและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรอื 1 ไมเ่ ขยี น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ ูกต้องหรอื ไม่เขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง 2 2 บางสว่ น 1 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ ูกต้องและหาคำตอบไมถ่ กู ต้องหรือไม่เขียน 0 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไดถ้ ูกตอ้ ง - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาได้ถูกตอ้ งบางส่วน - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปญั หาไมถ่ ูกตอ้ ง - ไมเ่ ขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นกั เรยี นมี 8 คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15 การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปล่ยี นสถานะของสาร 1. สรุปผลการเรียนการสอน 1. นกั เรยี นจำนวน...1..2...2....คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ....1..2...2........คน คิดเป็นร้อยละ......1..0..0.......... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค.์ ......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................... ไดแ้ ก.่ .......................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรปุ ผลตามรายจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ด้านพุทธิพสิ ัย (Cognitive domain) .........น..ัก...เ.ร..ีย..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..ธ..บิ...า..ย..ค...ว..า..ม..ร..ูเ้..ก..ี่ย..ว..ก...ับ. ก..า..ร..ค..ำ..น...ว..ณ...ป...ร..ิม..า..ณ....ค..ว..า..ม...ร..้อ..น...ก..ับ...ก..า..ร..เ.ป...ล..่ยี...น..ส...ถ..า..น...ะ..ข..อ...ง.ส...า..ร...... ...โ..ด..ย...ใ.ช..้ส...ม..ก...า..ร...Q....=......m...l...ไ.ด...้ ......................................................................................................................... 2.2 ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) .........น..ัก...เ.ร..ีย..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..ค..ำ..น...ว..ณ...เ..ก..ี่ย..ว...ก..บั...ก..า..ร..ค..ำ..น...ว..ณ...ป...ร..ิม..า..ณ...ค...ว..า..ม..ร..้อ...น..ก...บั ..ก...า..ร..เ.ป...ล..่ยี..น...ส..ถ..า..น...ะ..ข...อ..ง..ส..า..ร............... โ..ด..ย..ใ..ช..้ส...ม..ก..า..ร....Q....=.....m....l...ไ.ด...้ ............................................................................................................................ 2.3 ด้านจิตพสิ ยั (Affective domain) .........น..ัก...เ.ร..ีย..น...ม..ีส...่ว..น..ร..ว่...ม..ใ..น..ก..จิ...ก..ร..ร..ม...ก..า..ร..เ.ร..ยี...น..ร..ู้ .เ..ป..ดิ...ก..ล...้อ..ง...พ..ูด...ค..ยุ....โ.ต...ต้ ..อ...บ....ส..ม...่ำ.เ..ส..ม...อ.............................. .......... ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลังการจัดการเรียนการสอน .........ก..า..ร..จ..ด...จ..ำ..ค..ว...า.ม...ห...ม..า..ย..ข...อ..ง..ต..วั..แ...ป..ร..ใ..น...ส..ม..ก...า..ร...Q....=.....m....l...เ.ป..็น...ส..่ิง..ท...่สี..ำ..ค...ญั ...................................................... ....จ...งึ ..ค..ว..ร..เ.น...น้ ..ย...้ำ..ใ.ห...้น..ัก...เ.ร..ีย..น...เ.ข...า้ ..ใ.จ..แ...ล..ะ..จ...ด..จ..ำ..ใ..ห..ไ้..ด..้..อ..า..จ..ใ.ห...้น...ัก..เ.ร..ีย...น..ส...อ..บ...ป..า..ก...เ.ป...ล..่า..ร..า..ย..บ...ุค..ค...ล............................. ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................................ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศักด)์ิ ครูผูส้ อน
ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอ่ื ง พลังงานความรอ้ น ในแผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 15 เรอ่ื ง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลย่ี นสถานะของสาร เรยี บรอ้ ย แลว้ โดยมีความคดิ เห็น ดังน้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชีว้ ัด สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั มาใช้ 4. การใชส้ อื่ การเรยี นรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรขู้ องผเู้ รยี น ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรยี นรไู้ ปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ .............................................................. ........................................................................................ ................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ..................................................... (นางรัชนี หนนู ้อย) ตำแหนง่ หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหาร ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นรูห้ นว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร่อื ง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 เรอื่ ง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปล่ียนสถานะของสาร เรียบรอ้ ยแล้ว โดยมีความคิดเห็น ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวัด สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำกระบวนการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม ไมไ่ ดน้ ำกระบวนการเรยี นร้ทู เ่ี น้นผูเ้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้สอื่ การเรยี นรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรขู้ องผู้เรยี น ไม่สง่ เสริมการเรียนรู้ของผูเ้ รยี น 5. การวดั และการประเมินผล สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรยี นรู้ ไมส่ อดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรยี นรไู้ ปใช้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมชั ญา ผดุ ผ่อง) ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวังจันทร์วิทยา กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ วันที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 : ส่อื วดี ิทศั น์
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 15 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 15 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 15 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 15 : แบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 : แบบฝกึ หัด (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 : เฉลยแบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 15 : เฉลยแบบฝกึ หัด (ตอ่ )
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 16 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน เร่ือง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ียนสถานะของสาร 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชวี ิตประจําวัน ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณท์ เี่ กี่ยวข้อง กบั เสยี ง แสง และคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้ารวมทงั้ นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วัด ตวั ชีว้ ดั ม.1/1 วเิ คราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีทำให้สสาร เปลย่ี นอณุ หภมู ิ และเปลีย่ นสถานะ โดยใช้สมการ Q = mc∆t และ Q = mL 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สาระสําคญั ความรอ้ นมีผลต่อการเปล่ียนสถานะของสสาร เม่ือใหค้ วามร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมพี ลังงานและอุณหภูมเิ พ่ิมขึ้นจนถึงระดับหนงึ่ ซึง่ ของแข็งจะใชค้ วามร้อนในการเปล่ยี นสถานะเป็น ของเหลว เรียกความรอ้ นท่ีใช้ในการเปลยี่ นสถานะจากของแข็งเปน็ ของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการ หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงท่ี เรยี กอณุ หภมู ิน้ีวา่ จดุ หลอมเหลว 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความร้เู กีย่ วกับการคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของ สารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นกั เรียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรอู้ ยใู่ นระดับดี
4. คณุ ลักษณะผู้เรียน 4.1 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ซื่อสตั ยส์ ุจริต มุ่งมนั่ ในการทำงาน มีวินัย รกั ความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มจี ติ สาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร : นักเรียนสามารถอธิบายความรู้เกี่ยวกับการคำนวณปริมาณความ รอ้ นกบั การเปลยี่ นสถานะของสาร โดยใช้สมการ Q = mL ได้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : นักเรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรูไ้ ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ การเปลีย่ นสถานะของสารอาจเปน็ การเปลยี่ นแปลงประเภทดดู พลังงานหรือคายพลังงาน ตัวอย่างการ เปลีย่ นแปลงสถานะของสารที่พบในชวี ิตประจำวนั ได้แก่ นำ้ แข็งหลอมเหลวกลายเป็นน้ำและนำ้ ได้รับความร้อน กลายเป็นไอเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูดความร้อน ในทางตรงกันข้ามเมื่อไอน้ำเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็น น้ำและนำ้ แขง็ เป็นการเปลยี่ นแปลงประเภทคายความร้อน การคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปลย่ี นแปลงของสาร สามารถแยกพจิ ารณาได้ 2 กรณี ดังน้ี กรณที ่ี 1 การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลยี่ นแปลงอณุ หภมู ิ คำนวณได้จาก สมการ Q = mc∆t เมือ่ Q คอื ปรมิ าณความร้อนทส่ี ารไดร้ บั มีหนว่ ยเป็นแคลอรี m คอื มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรมั c คอื ความร้อนจำเพาะของสาร มีหน่วยเป็น แคลอรตี ่อกรัม×องศาเซลเซยี ส ∆t คือ อุณหภูมขิ องนำ้ ทเ่ี ปล่ียนไป มีหนว่ ยเปน็ องศาเซลเซยี ส กรณีท่ี 2 การคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีกบั การเปลย่ี นสถานะ คำนวณได้จาก สมการ Q = mL เมอ่ื Q คือ ปรมิ าณความรอ้ น มหี น่วยเปน็ แคลอรี m คือ มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรมั L คอื ความร้อนแฝงจำเพาะของสาร มหี น่วยเป็นแคลอรตี ่อกรมั น้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลว 80 แคลอรีต่อกรัม หมายความว่า ในการทำน้ำแข็ง 1 กรมั ใหห้ ลอมเหลวเป็นนำ้ ต้องใช้พลังงานความร้อน 80 แคลอรี น้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการกลายเปน็ ไอ 540 แคลอรตี อ่ กรมั หมายความว่า ในการทำนำ้ 1 กรัม อณุ หภูมิ 100 องศาเซลเซียส ให้เปล่ียนเปน็ ไอน้ำ 1 กรัม อุณหภมู ิ 100 องศาเซลเซียส ตอ้ งใช้พลังงาน ความรอ้ น 540 แคลอรี
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนร้แู บบห้องเรียนกลบั ดา้ น (Flipped Classroom) 7.1 ขั้นกำหนดยทุ ธวิธีเพม่ิ พูนประสบการณ์ (Experiential Engagement) (ในชน้ั เรยี น) นกั เรยี นทบทวนความรู้เดมิ เกี่ยวกบั ผลของความรอ้ นกับการเปลยี่ นสถานะของสาร ประเดน็ คำถามทค่ี รูตั้งขน้ึ จากคลิปวดิ โี อ “ธารนำ้ แข็ง ธรรมชาตทิ ี่กำลงั ละลายหายไปเพราะโลกร้อน - รอบโลก DAILY” - นักเรยี นคิดว่า เพราะเหตใุ ดธารนำ้ แขง็ ถึงมกี ารเปลีย่ นแปลง (แนวคำตอบ เพราะโลกของเรามีอากาศร้อนข้ึน) - นกั เรยี นคิดวา่ หากธารนำ้ แข็งมีการละลายมากขนึ้ ไปอกี หรือละลายจนหมดจะเกดิ อะไรขึน้ บ้าง เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ นำ้ อาจทว่ มโลกได้ เนื่องจากน้ำมีปริมาณเพมิ่ มากขึ้น จากการเปลีย่ นสถานะจากธาร นำ้ แข็ง ท่ีมสี ถานะเป็นของแข็ง กลายเป็นนำ้ ท่มี สี ถานะเป็นของเหลว) - นักเรยี นจะมีวิธอี ยา่ งไร ในการช่วยรักษาใหโ้ ลกของเราไม่ร้อนมากขนึ้ ไปอีก (พิจารณาจากความเหมาะสมของคำตอบ) 7.2 ขน้ั สืบค้นเพื่อใหเ้ กดิ มโนทศั นร์ วบยอด (Concept Exploration) (ศกึ ษานอกเวลาเรยี น) นักเรียนสืบค้นและศกึ ษาวิดีโอ 3 : การคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสาร เพื่อตอบคำถามในแบบฝึกหัดขอ้ ท่ี 2 เร่ืองการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นสถานะของสาร ดงั นี้ - สมการการคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสาร Q = mL เมอื่ Q คอื ปริมาณความร้อน มหี น่วยเปน็ แคลอรี m คอื มวลของสาร มีหน่วยเปน็ กรมั L คอื ความร้อนแฝงจำเพาะของสาร มีหน่วยเป็นแคลอรีตอ่ กรัม - ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงของสารตาม แนวคดิ ของ Polya (1957) 4 ขั้นตอน ไดแ้ ก่ 1. ทำความเข้าใจปัญหา 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 3. ดำเนนิ การตามแผน 4. ตรวจสอบผลลัพธ์ โดยให้นักเรียนศกึ ษาจากแหลง่ สบื ค้นข้อมูลทคี่ รูไดจ้ ัดเตรียมไวใ้ ห้ หรอื จากแหลง่ ข้อมลู อ่ืน ๆ
Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science นกั เรยี นสรปุ ความคดิ สำคญั เรื่อง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลยี่ นสถานะของสาร ลงในสมุด 7.3 ขน้ั สรา้ งองค์ความรูอ้ ย่างมคี วามหมาย (Meaning Making) (ศึกษานอกเวลาเรียน) นกั เรยี นสรา้ งองค์ความรู้ เรื่อง การคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสาร ลงใน สมุด และให้นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายขัน้ ตอนการแกโ้ จทย์การคำนวณของแบบฝึกหดั ข้อท่ี 2 ผ่านโพสต์ ใน Facebook Group จากโจทย์การคำนวณ ขอ้ ที่ 2 นำ้ 2 กรมั 0 องศาเซลเซยี ส เปล่ยี นเปน็ นำ้ แขง็ 2 กรมั 0 องศาเซลเซยี ส ต้องใช้ปริมาณ ความรอ้ นกแ่ี คลอรี นักเรยี นศึกษาและลงข้อสรปุ จากส่งิ ทน่ี ักเรยี นศกึ ษา ใหไ้ ด้ถงึ ขั้นตอนการคำนวณปรมิ าณความรอ้ น กับการเปลยี่ นสถานะของสาร การคำนวณ การหาคำตอบ และการตรวจคำตอบ 7.4 ขั้นสาธติ และประยุกตใ์ ช้ (Demonstration & Application) (ในชัน้ เรยี น) ครูสาธิตการแกโ้ จทยป์ ัญหาการคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลยี่ นแปลงอณุ หภูมิของสาร โดยกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้กระบวนการของ Polya โดยเริม่ จากการอธิบายกระบวนการการ แกโ้ จทยป์ ัญหาตามแนวคิดของ Polya วา่ ประกอบไปด้วย 4 ข้ันตอน ได้แก่ ขั้นท่ี 1 ทำความเข้าใจโจทย์ ปัญหา ข้ันที่ 2 วางแผนแก้โจทยป์ ัญหา ข้นั ที่ 3 ปฏบิ ตั ิตามแผน ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ พรอ้ มทง้ั อธิบาย รายละเอียดในแต่ละข้นั ตอน ดงั น้ี ขอ้ ที่ 2 นำ้ 2 กรัม 0 องศาเซลเซยี ส เปลี่ยนเปน็ นำ้ แขง็ 2 กรมั 0 องศาเซลเซยี ส ต้องใช้ปรมิ าณ ความรอ้ นกี่แคลอรี ขั้นที่ 1 ทำความเข้าใจโจทย์ปญั หา นักเรียนและครรู ่วมกนั วเิ คราะห์ทำความเข้าใจโจทย์ โดยให้ นกั เรียนรว่ มบอกรายละเอยี ดวา่ โจทย์ปัญหาว่าเปน็ เร่ืองราวเก่ยี วกับอะไร บอกสิง่ ที่โจทย์กำหนดให้ บอกสง่ิ ที่โจทยถ์ าม ผา่ นการต้ังคำถาม ดังน้ี - โจทย์ปญั หาข้อนเ้ี ป็นเรื่องราวเกย่ี วกบั อะไร - โจทย์กำหนดอะไรใหบ้ า้ ง - จากโจทย์กำหนดให้ สามารถวาดแผนภาพได้อยา่ งไร - โจทยถ์ ามอะไร โดยใหน้ ักเรียนเขยี นส่ิงทีโ่ จทยก์ ำหนดให้พร้อมหน่วย ดา้ นบทโจทย์ปญั หา
ข้ันที่ 2 วางแผนแกป้ ัญหา นักเรียนร่วมกนั แก้โจทยป์ ัญหาโดยใหน้ กั เรยี นบอกข้ันตอน วิธกี ารหา คำตอบว่าต้องทำอยา่ งไร - ต้องใชป้ ริมาณความรอ้ นเท่าใด หมายถึงให้หาคา่ Q โดยกำหนดให้ น้ำ 2 กรัม 0 องศาเซลเซียส เปลี่ยนเป็นน้ำแขง็ 2 กรัม 0 องศาเซลเซยี ส โดยนำ้ เปล่ยี นสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง ความร้อนแฝง มคี ่า 80 แคลอรี/กรัม จากนน้ั นำคา่ ไปแทนในสมการ เพ่ือหาคำตอบค่า Q - นำค่าท่ีโจทยก์ ำหนดให้แทนลงในสมการ Q = mL เพ่ือหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาขอ้ น้ี ขนั้ ท่ี 3 ปฏบิ ัติตามแผน นักเรยี นและครูลงมือปฏิบัตติ ามแผน โดยคดิ คำนวณหาคำตอบและ แสดงวธิ ที ำ เพอื่ คำตอบของโจทย์ปญั หา ดงั น้ี จากสมการ Q = mL แทนคา่ ������ = 2 ������ 80 Q = 160 ดังนน้ั ต้องใช้ปรมิ าณความร้อน 160 แคลอรี ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ นักเรียนและครูร่วมกนั พิจารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบท่ีได้ รวมถึงพิจารณาวธิ ีการแก้ปัญหาอืน่ ๆ อีกหรือไม่ ผ่านการต้ังคำถาม ดงั นี้ - จะมีวิธีการใดในการแก้โจทย์ปญั หาอื่น ๆ อีกหรอื ไม่ อยา่ งไร - นกั เรียนมีวิธกี ารตรวจสอบผลลัพธ์ของตนเองวา่ คำตอบถูกต้องหรือไม่ อย่างไร นกั เรียนและครทู ำแบบฝึกหดั เรอ่ื ง ความร้อนกบั การเปล่ยี นแปลงอุณหภูมิของสาร หนา้ ท่ี 2 (ข้อท่ี 3) ครูถามนักเรียนเป็นระยะเพื่อกระตนุ้ และตรวจสอบความเข้าใจ แนะนำ ชว่ ยเหลือนักเรยี น และ ตรวจสอบนกั เรียนและให้นักเรยี นส่งแบบฝึกหดั เพ่ือนำมาตรวจสอบการทำงานของนกั เรียนอกี คร้ังหน่ึง 8. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - แบบฝึกหัด เร่ือง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนสถานะของสาร 9. สอ่ื การเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science วิดที ัศน์ ธารนำ้ แขง็ ธรรมชาติท่ีกำลังละลายหายไปเพราะโลกรอ้ น - รอบโลก DAILY จาก https://www.youtube.com/watch?v=1kkvGUgbhbQ
10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 1. ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ความรเู้ กี่ยวกบั การ ในชัน้ เรียน คำนวณปรมิ าณความ รอ้ นกบั การเปล่ียน สถานะของสาร โดยใช้ สมการ Q = mL ได้ 2. ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ทักษะ การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั ปริมาณความร้อนกับ การเปลย่ี นแปลงของสาร ร้อยละ 70 การเปลี่ยนสถานะของ มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นรู้ สาร โดยใชส้ มการ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 Q = mL ได้ 3. ด้านจติ พิสยั (Affective domain) นกั เรยี นมีส่วนร่วม สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ในกจิ กรรมการเรียนรู้ การเรยี น การเรยี น อยใู่ นระดับดี
แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วตั ถุประสงค์ การเรยี นรู้ท่ีต้องการวัด และความสอดคลอ้ งด้านพทุ ธพิ สิ ยั ทกั ษะพสิ ยั และจติ พสิ ัย วัตถปุ ระสงค์ พฤตกิ รรมการประเมนิ เทคนคิ ระดับพฤตกิ รรม (%) การ พทุ ธิพิสัย ทกั ษะพิสยั จิตพิสัย ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นักเรยี นสามารถ แบบประเมิน อธิบายความรู้ การตอบ เกี่ยวกบั การ คำถาม คำนวณปริมาณ 20 80 100 ความรอ้ นกบั การ เปลยี่ นสถานะของ สารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ 2. นักเรยี น 20 20 20 40 100 แบบประเมิน สามารถคำนวณ ทักษะการ ปริมาณความร้อน แกป้ ัญหา กบั การเปลีย่ น โจทย์การ สถานะของสาร คำนวณ ปรมิ าณความ โดยใช้สมการ ร้อนกบั การ Q = mL ได้ เปลย่ี นสถานะ ของสาร 3. นักเรยี นมี 20 40 20 แบบสังเกต สว่ นร่วมใน พฤติกรรม กิจกรรมการ 20 100 การเรยี น เรยี นรู้ อยใู่ นระดับดี รวม 20 80 100 20 20 20 40 100 20 40 20 20 100
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 3 = นำไปใช้ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 4 = วเิ คราะห์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = ประเมินคา่ 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = สรา้ งสรรค์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ชอื่ - สกลุ ระดับคะแนน 0 สรปุ การประเมนิ ที่ ผา่ น ไมผ่ ่าน 9- 7-8 5-6 3-4 1- 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ วนั ท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ
เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะการแก้ปัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลีย่ นแปลงของสาร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางต่อไปนี้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 1. ทำความเข้าใจปญั หา 2 - เขียนสงิ่ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสิง่ ทโี่ จทย์ถามไดถ้ กู ตอ้ งครบถว้ น 2 - เขียนสิ่งทโี่ จทยกำหนดให้ และสงิ่ ท่ีโจทย์ถามไดถ้ ูกตอ้ งไดบ้ างส่วน 1 - เขียนสงิ่ ท่ีโจทย์กำหนดให้และสิง่ ท่ีโจทยถ์ ามไม่ถูกต้อง หรือไม่เขียน 0 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 2 - เขียนวธิ ีแก้ปญั หาไดถ้ กู ตอ้ ง 2 - เขยี นวิธีแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจจะนำไปสู่คำตอบท่ีถูกตอ้ ง แตย่ งั มีบางส่วนผดิ 1 - เขยี นวิธีแก้ปญั หาไมถ่ ูกต้อง หรือไม่เขยี น 0 3. ดำเนนิ การตามแผน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกต้องชัดเจนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถ้วน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ กู ต้องชดั เจนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 3 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ กู ตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน - เขียนแสดงการคำนวณได้ถกู ตอ้ งบางสว่ นและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรอื 1 ไมเ่ ขยี น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ ูกต้องหรอื ไม่เขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง 2 2 บางสว่ น 1 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ ูกต้องและหาคำตอบไมถ่ กู ต้องหรือไม่เขียน 0 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไดถ้ ูกตอ้ ง - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาได้ถูกตอ้ งบางส่วน - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปญั หาไมถ่ ูกตอ้ ง - ไมเ่ ขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นกั เรยี นมี 8 คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปล่ยี นสถานะของสาร 1. สรปุ ผลการเรียนการสอน 1. นักเรียนจำนวน...1..2...2....คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ....1...2..2........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ......1..0...0......... ไมผ่ ่านจุดประสงค์................... ....คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................... ได้แก่................................................................................... ........ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรปุ ผลตามรายจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ดา้ นพุทธพิ ิสยั (Cognitive domain) .......น...กั ..เ.ร..ยี...น..ส...า..ม..า..ร..ถ..อ...ธ..บิ ..า..ย...ค..ว..า..ม...ร..้เู .ก..ี่ย...ว..ก..ับ...ก..า..ร..ค...ำ..น..ว..ณ...ป...ร..ิม..า..ณ....ค..ว..า..ม...ร..อ้ ..น...ก..ับ...ก..า..ร..เ.ป...ล..ย่ี...น..ส...ถ..า..น...ะ..ข..อ..ง..ส...า..ร...... ..โ.ด...ย..ใ..ช..ส้ ..ม...ก..า..ร...Q.....=.....m....l..ไ..ด..้............................................................................................................................ 2.2 ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) .......น...ัก..เ.ร..ยี...น..ส...า..ม..า..ร..ถ..ค...ำ..น..ว..ณ....เ.ก..่ีย...ว..ก..ับ...ก..า..ร..ค..ำ..น...ว..ณ...ป...ร..ิม...า.ณ....ค..ว..า..ม...ร..อ้ ..น...ก..ับ...ก..า..ร..เ.ป...ล..ีย่...น..ส...ถ..า..น...ะ..ข..อ..ง..ส...า..ร................ โด..ย...ใ.ช...ส้ ..ม..ก...า..ร...Q....=......m...l...ไ..ด..้.............................................................................................................................. 2.3 ด้านจติ พิสัย (Affective domain) .......น...ัก..เ.ร..ีย...น..ม...ีส..่ว..น...ร..่ว..ม..ใ..น...ก..ิจ..ก...ร..ร..ม..ก..า..ร..เ..ร..ีย..น...ร..ู้ .ม..ปี...ฏ...สิ ..มั...พ..ัน..ธ..์ส...ม..่ำ..เ..ส..ม..อ............................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลงั การจัดการเรยี นการสอน ........ก...า..ร..ใ.ช..โ้..ป...ร..แ..ก..ร..ม...ใ.น...ก..า..ร..ส...ุม่ ..เ.ล...ข..ท...่ี .จ..ะ..ส...ง่ ..ผ..ล..ใ..ห...น้ ..กั...เ.ร..ีย..น..ต...่ืน..ต...ัว..อ..ย..ู่ต...ล..อ...ด..เ.ว..ล...า...จ..ะ...ท..ำ..ใ..ห..้น...กั..เ..ร..ีย..ต..้ัง..ใ..จ..เ.ร..ยี..น........ ..แ...ล..ะ..ต...ร..ะ..ห..น...ัก..ใ..น...ก..า..ร..ค..ดิ...ห..า..ค...ำ..ต..อ...บ..ม...า..ก..ย..่ิง..ข...นึ้ .................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................................ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด)ิ์ ครผู ู้สอน
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนรหู้ นว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง พลงั งานความร้อน ในแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 เร่ือง การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลย่ี นสถานะของสาร เรยี บรอ้ ยแลว้ โดยมีความคิดเหน็ ดังน้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั สอดคล้อง ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ทีเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรูท้ ่เี น้นผ้เู รียนเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรยี นรู้ มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรขู้ องผู้เรยี น ไมส่ ง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผเู้ รียน 5. การวัดและการประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรไู้ ปใช้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................... .............................................................. ....................... ลงช่ือ ..................................................... (นางรชั นี หนูน้อย) ตำแหนง่ หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วันท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหาร ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นร้หู น่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 เรอ่ื ง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 16 เรือ่ ง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลยี่ นสถานะของสาร เรียบร้อยแลว้ โดยมีความคดิ เหน็ ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ดั สอดคลอ้ ง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม ไม่ได้นำกระบวนการเรียนรู้ทเ่ี น้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญมาใช้ 4. การใชส้ ่อื การเรียนรู้ มีความเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผ้เู รียน ไม่สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผู้เรยี น 5. การวัดและการประเมนิ ผล สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมัชญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนวงั จันทร์วิทยา กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ วันที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16 : ส่อื วดี ิทศั น์
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 : สอื่ วิดีทัศน์ วดิ ีทศั น์ ธารน้ำแขง็ ธรรมชาติทก่ี ำลงั ละลายหายไปเพราะโลกรอ้ น - รอบโลก DAILY จาก https://www.youtube.com/watch?v=1kkvGUgbhbQ
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 16 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 16 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 16 : แบบฝกึ หดั
ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16 : เฉลยแบบฝกึ หดั
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 17 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน เร่ือง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ียนสถานะของสาร 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชวี ิตประจําวัน ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณท์ เี่ กี่ยวข้อง กบั เสยี ง แสง และคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้ารวมทงั้ นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วัด ตวั ชีว้ ดั ม.1/1 วเิ คราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีทำให้สสาร เปลย่ี นอณุ หภมู ิ และเปลีย่ นสถานะ โดยใช้สมการ Q = mc∆t และ Q = mL 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สาระสําคญั ความรอ้ นมีผลต่อการเปล่ียนสถานะของสสาร เม่ือใหค้ วามร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมพี ลังงานและอุณหภูมเิ พ่ิมขึ้นจนถึงระดับหนงึ่ ซึง่ ของแข็งจะใชค้ วามร้อนในการเปล่ยี นสถานะเป็น ของเหลว เรียกความรอ้ นท่ีใช้ในการเปลยี่ นสถานะจากของแข็งเปน็ ของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการ หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงท่ี เรยี กอณุ หภมู ิน้ีวา่ จดุ หลอมเหลว 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความร้เู กีย่ วกับการคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของ สารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นกั เรียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรอู้ ยใู่ นระดับดี
4. คณุ ลักษณะผเู้ รียน 4.1 คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ซือ่ สตั ย์สุจริต มุ่งมนั่ ในการทำงาน มวี ินัย รกั ความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มจี ติ สาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ความสามารถในการสอื่ สาร: นักเรยี นสามารถอธบิ ายความรเู้ กี่ยวกบั การคำนวณปริมาณความร้อน กบั การเปลย่ี นสถานะของสาร โดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : นกั เรียนสามารถใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ได้ 6. สาระการเรียนรู้ การเปล่ียนสถานะของสารอาจเปน็ การเปล่ยี นแปลงประเภทดูดพลังงานหรือคายพลังงาน ตัวอย่างการ เปลี่ยนแปลงสถานะของสารท่ีพบในชวี ิตประจำวนั ได้แก่ น้ำแขง็ หลอมเหลวกลายเป็นนำ้ และนำ้ ได้รับความร้อน กลายเป็นไอเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูดความร้อน ในทางตรงกันข้ามเมื่อไอน้ำเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็น น้ำและน้ำแข็ง เปน็ การเปล่ียนแปลงประเภทคายความร้อน การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลย่ี นแปลงของสาร สามารถแยกพิจารณาได้ 2 กรณี ดงั นี้ กรณีที่ 1 การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอุณหภูมิ คำนวณได้จาก สมการ Q = mc∆t เมอ่ื Q คอื ปริมาณความรอ้ นทีส่ ารได้รบั มีหนว่ ยเป็นแคลอรี m คอื มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรัม c คอื ความร้อนจำเพาะของสาร มีหน่วยเป็น แคลอรตี ่อกรมั ×องศาเซลเซียส ∆t คือ อุณหภมู ิของน้ำทีเ่ ปลี่ยนไป มหี นว่ ยเปน็ องศาเซลเซยี ส กรณีที่ 2 การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นท่ีกับการเปล่ยี นสถานะ คำนวณไดจ้ าก สมการ Q = mL เมอ่ื Q คอื ปรมิ าณความร้อน มีหน่วยเป็นแคลอรี m คือ มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรัม L คอื ความรอ้ นแฝงจำเพาะของสาร มีหนว่ ยเป็นแคลอรีต่อกรมั น้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลว 80 แคลอรีต่อกรัม หมายความว่า ในการทำน้ำแข็ง 1 กรมั ให้หลอมเหลวเป็นน้ำ ตอ้ งใชพ้ ลงั งานความรอ้ น 80 แคลอรี น้ำมคี า่ ความร้อนแฝงจำเพาะของการกลายเป็นไอ 540 แคลอรีต่อกรมั หมายความว่า ในการทำนำ้ 1 กรัม อณุ หภูมิ 100 องศาเซลเซยี ส ใหเ้ ปลีย่ นเปน็ ไอน้ำ 1 กรมั อณุ หภูมิ 100 องศาเซลเซียส ตอ้ งใช้พลังงาน ความรอ้ น 540 แคลอรี
7. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรูแ้ บบหอ้ งเรียนกลับดา้ น (Flipped Classroom) 7.1 ข้ันกำหนดยทุ ธวธิ เี พิ่มพูนประสบการณ์ (Experiential Engagement) (ในช้ันเรยี น) นกั เรยี นทบทวนความร้เู ดิมเก่ียวกับผลของความรอ้ นกบั การเปล่ียนสถานะของสาร ผ่านการต้ังคำถามของครู ดงั น้ี - นกั เรยี นคิดว่า การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปล่ยี นสถานะของสาร มีความแตกต่าง จากการคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลี่ยนอุณหภูมิของสารอยา่ งไร (แนวคำตอบ การเปล่ยี นสถานะของสาร อุณหภมู ิของสารจะไมเ่ ปล่ยี นแปลง) - คา่ ความร้อนแฝงของน้ำมีคา่ เทา่ ไร (แนวคำตอบ คา่ ความร้อนแฝงของการหลอมเหลวของน้ำ มคี ่า 80 แคลอรี/กรัม ค่าความร้อนแฝง ของการกลายเป็นไอของน้ำ มีค่า 540 แคลอรี/กรัม) - สมการการคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสาร คำนวณได้จากสมการใด (แนวคำตอบ สมการ Q = mL เมือ่ Q คือ ปรมิ าณความรอ้ น มีหน่วยเปน็ แคลอรี m คือ มวลของสาร มหี น่วยเปน็ กรมั L คอื ความร้อนแฝงจำเพาะของสาร มีหน่วยเปน็ แคลอรีตอ่ กรัม 7.2 ข้ันสบื คน้ เพื่อใหเ้ กดิ มโนทศั นร์ วบยอด (Concept Exploration) (ศึกษานอกเวลาเรียน) นักเรยี นสบื ค้นและศกึ ษาวดิ ีโอ 3 : การคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปลี่ยนสถานะของสาร เพ่อื ตอบคำถามในแบบฝกึ หัดข้อท่ี 3 และข้อท่ี 4 เรื่องการคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปลย่ี นสถานะ ของสาร ดังน้ี - สมการการคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกบั การเปล่ียนสถานะของสาร Q = mL เมื่อ Q คอื ปริมาณความร้อน มหี นว่ ยเป็นแคลอรี m คอื มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรมั L คอื ความรอ้ นแฝงจำเพาะของสาร มีหนว่ ยเปน็ แคลอรีตอ่ กรมั - ขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงของสารตาม แนวคดิ ของ Polya (1957) 4 ขั้นตอน ไดแ้ ก่ 1. ทำความเข้าใจปัญหา 2. วางแผนการแก้ปญั หา 3. ดำเนนิ การตามแผน
4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ โดยให้นกั เรียนศกึ ษาจากแหลง่ สืบค้นขอ้ มลู ทค่ี รูได้จัดเตรียมไว้ให้ หรือจากแหล่งข้อมูลอ่ืน ๆ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science นกั เรยี นสรุปความคิดสำคญั เร่ือง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลีย่ นสถานะของสาร ลงในสมดุ 7.3 ขัน้ สร้างองค์ความรอู้ ยา่ งมีความหมาย (Meaning Making) (ศึกษานอกเวลาเรียน) นักเรียนสรา้ งองคค์ วามรู้ เรื่อง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นสถานะของสาร ลงในสมุด และใหน้ ักเรียนรว่ มกนั อภิปรายขนั้ ตอนการแกโ้ จทย์การคำนวณของแบบฝึกหดั ข้อที่ 4 จากโจทยก์ ารคำนวณ ข้อท่ี 4 ให้ความร้อนปรมิ าณ 32,000 แคลอรี แก่ของแขง็ A มวล 500 กรัม ปรากฏว่าของแข็ง A มีอณุ หภมู ิคงที่ แต่เปลีย่ นสถานะจากของแข็งเป็นของเหลวทง้ั หมด ความร้อนแฝงจำเพาะของการ หลอมเหลวของสาร A มีค่าเท่าใด นักเรียนศึกษาและลงข้อสรปุ จากส่ิงที่นักเรยี นศึกษา ให้ได้ถงึ ข้ันตอนการคำนวณปรมิ าณความรอ้ น กับการเปลย่ี นสถานะของสาร การคำนวณ การหาคำตอบ และการตรวจคำตอบ 7.4 ขนั้ สาธิตและประยกุ ตใ์ ช้ (Demonstration & Application) (ในชั้นเรียน) ครสู าธิตการแก้โจทย์ปัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสาร โดยกระบวนการแกโ้ จทย์ปญั หาโดยใชก้ ระบวนการของ Polya โดยเริ่มจากการอธิบายกระบวนการการ แกโ้ จทยป์ ัญหาตามแนวคิดของ Polya ว่า ประกอบไปดว้ ย 4 ขั้นตอน ไดแ้ ก่ ขัน้ ที่ 1 ทำความเขา้ ใจโจทย์ ปัญหา ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแก้โจทยป์ ัญหา ขัน้ ที่ 3 ปฏบิ ัตติ ามแผน ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ พรอ้ มทัง้ อธบิ าย รายละเอยี ดในแตล่ ะขน้ั ตอน ดังนี้ ข้อท่ี 4 ให้ความร้อนปรมิ าณ 32,000 แคลอรี แก่ของแขง็ A มวล 500 กรัม ปรากฏว่าของแข็ง A มีอุณหภูมิคงที่ แต่เปล่ยี นสถานะจากของแขง็ เปน็ ของเหลวท้งั หมด ความร้อนแฝงจำเพาะของการ หลอมเหลวของสาร A มคี า่ เท่าใด ข้ันที่ 1 ทำความเขา้ ใจโจทย์ปญั หา นักเรียนและครรู ว่ มกันวิเคราะห์ทำความเข้าใจโจทย์ โดยให้ นักเรยี นร่วมบอกรายละเอียดวา่ โจทยป์ ัญหาวา่ เป็นเรื่องราวเกยี่ วกบั อะไร บอกสง่ิ ทีโ่ จทย์กำหนดให้ บอกสิ่ง ท่ีโจทย์ถาม ผา่ นการต้ังคำถาม ดงั น้ี - โจทย์ปัญหาข้อนี้เปน็ เรื่องราวเก่ยี วกบั อะไร
- โจทยก์ ำหนดอะไรให้บ้าง - จากโจทยก์ ำหนดให้ สามารถวาดแผนภาพได้อยา่ งไร - โจทย์ถามอะไร โดยให้นกั เรยี นเขยี นสง่ิ ทโี่ จทย์กำหนดใหพ้ ร้อมหน่วย ด้านบทโจทย์ปัญหา ข้นั ท่ี 2 วางแผนแกป้ ญั หา นกั เรยี นร่วมกันแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยใหน้ กั เรียนบอกข้นั ตอน วธิ ีการหา คำตอบวา่ ต้องทำอย่างไร - ปริมาณความร้อน 32,000 แคลอรี สามารถทำให้ของแข็ง A มวล 500 กรมั แต่เปลย่ี นสถานะ จากของแข็งเปน็ ของเหลว ซง่ึ การเปลีย่ นสถานะจะไม่เกยี่ วข้องกับอุณหภมู ิ ความร้อนแฝงของการ หลอมเหลวมคี ่าเท่าใด โจทยใ์ ห้หาค่า L จากน้ันนำค่าไปแทนในสมการ เพ่ือหาคำตอบคา่ L - นำคา่ ที่โจทยก์ ำหนดใหแ้ ทนลงในสมการ Q = mL เพ่อื หาคำตอบของโจทยป์ ัญหาข้อนี้ ขั้นท่ี 3 ปฏบิ ตั ิตามแผน นักเรยี นและครูลงมือปฏบิ ัตติ ามแผน โดยคิดคำนวณหาคำตอบ และแสดงวธิ ที ำ เพ่ือคำตอบของโจทย์ปัญหา ดงั น้ี จากสมการ Q = mL แทนค่า 32,000 = 500 ������ ������ L = 64 ดังนน้ั ความรอ้ นแฝงของการหลอมเหลวของสาร A มีค่า 64 แคลอรี/กรัม ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ นกั เรียนและครรู ว่ มกนั พจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบที่ได้ รวมถงึ พิจารณาวธิ กี ารแก้ปัญหาอ่ืน ๆ อีกหรือไม่ ผ่านการต้ังคำถาม ดงั น้ี - จะมีวิธกี ารใดในการแกโ้ จทย์ปญั หาอนื่ ๆ อีกหรอื ไม่ อย่างไร - นักเรียนมวี ิธีการตรวจสอบผลลัพธข์ องตนเองว่าคำตอบถกู ตอ้ งหรอื ไม่ อยา่ งไร นักเรียนและครูทำแบบฝึกหดั เรอ่ื ง ความร้อนกบั การเปลีย่ นแปลงอุณหภมู ิของสาร หน้าท่ี 2 (ขอ้ ท่ี 3) ครูถามนักเรยี นเปน็ ระยะเพ่ือกระตุ้นและตรวจสอบความเข้าใจ แนะนำ ช่วยเหลอื นักเรยี น และ ตรวจสอบนักเรยี นและให้นกั เรียนสง่ แบบฝกึ หัดเพ่ือนำมาตรวจสอบการทำงานของนกั เรียนอีกคร้ังหนง่ึ 8. ชนิ้ งาน / ภาระงาน - แบบฝึกหดั เร่อื ง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปล่ียนสถานะของสาร 9. สอ่ื การเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science
10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 1. ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ความรเู้ กี่ยวกบั การ ในชัน้ เรียน คำนวณปรมิ าณความ รอ้ นกบั การเปล่ียน สถานะของสาร โดยใช้ สมการ Q = mL ได้ 2. ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ทักษะ การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั ปริมาณความร้อนกับ การเปลย่ี นแปลงของสาร ร้อยละ 70 การเปลี่ยนสถานะของ มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นรู้ สาร โดยใชส้ มการ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 Q = mL ได้ 3. ด้านจติ พิสยั (Affective domain) นกั เรยี นมีส่วนร่วม สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ในกจิ กรรมการเรียนรู้ การเรยี น การเรยี น อยใู่ นระดับดี
แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วัตถุประสงค์ การเรยี นรู้ทต่ี ้องการวัด และความสอดคลอ้ งด้านพุทธพิ สิ ัย ทกั ษะพิสยั และจติ พิสยั วตั ถุประสงค์ พฤติกรรมการประเมิน เทคนิค ระดับพฤตกิ รรม (%) การ พุทธพิ ิสยั ทักษะพิสยั จติ พสิ ยั ประเมนิ 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นักเรียนสามารถ แบบประเมนิ อธบิ ายความรู้ การตอบ เกยี่ วกบั การ คำถาม คำนวณปริมาณ 20 80 100 ความร้อนกับการ เปลย่ี นสถานะของ สารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ 2. นกั เรียน 20 40 40 100 แบบประเมิน สามารถคำนวณ ทกั ษะการ ปริมาณความรอ้ น แกป้ ัญหา กบั การเปล่ยี น โจทยก์ าร สถานะของสาร คำนวณ ปริมาณความ โดยใช้สมการ รอ้ นกับการ Q = mL ได้ เปล่ียนสถานะ ของสาร 3. นักเรยี นมี 20 40 20 แบบสงั เกต ส่วนรว่ มใน พฤติกรรม กิจกรรมการ 20 100 การเรียน เรยี นรู้ อยใู่ นระดบั ดี รวม 20 80 100 20 40 40 100 20 40 20 20 100
**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 3 = นำไปใช้ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 4 = วเิ คราะห์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = ประเมินคา่ 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = สรา้ งสรรค์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่
คำอธบิ ายประกอบการประเมิน ด้านพุทธพิ สิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมินการตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรียน ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกตอ้ ง) ลำดับ ชอื่ - สกลุ ระดับคะแนน สรปุ การประเมิน ที่ 5 4 3 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชอื่ .....................................................ผู้ประเมิน (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศักด์)ิ วนั ที่.............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑ์การใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ที่ ระดับคะแนน ประเมิน 5 4 3 2 10 คำตอบ คำตอบ คำตอบ คำตอบ คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง ไมถ่ กู ตอ้ ง ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ ง ถูกต้อง 1 ขอ้ 5 ข้อ 4 ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นกั เรยี นมีระดบั คะแนน 3 ขึ้นไป
คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ชอื่ - สกลุ ระดบั คะแนน 0 สรุปการประเมนิ ที่ ผ่าน ไมผ่ า่ น 9- 7-8 5-6 3-4 1- 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักด)์ิ วนั ที.่ ............เดือน.....................พ.ศ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 489
Pages: