Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาศาสตร์เบื้องต้น

ภาษาศาสตร์เบื้องต้น

Description: ศึกษาความหมายของภาษาและภาษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาศาสตร์ ลักษณะทั่วไปของภาษา ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสัทศาสตร์ (phonetics)
สรศาสตร์ (phonemics) สัทอักษรสากล สัทอักษรไทย และหลักวิเคราะห์ภาษาไทยตามแนวภาษาศาสตร์ศึกษา

Keywords: ภาษาศาสตร์,(phonetics),(phonemics)

Search

Read the Text Version

วิชาภาษาศาสตร์ คม วข้องกับสังคมในฐานะทภี่ าษา ฒนธรรมและสังคมเปน็ การศกึ ษา งการนาภาษาทแี่ ตกต่างกันน้ไี ป าษาแตกตา่ งกัน โดยศึกษา ะการเกี่ยวข้องกนั อย่างไร ไร และมีอิทธิพลตอ่ กนั และกัน

๒.๒ สาขาของว ๓) ภาษาศาสตร์เชงิ คณ การศึกษาภาษาศาส เขา้ มาเกี่ยวข้องกับภ นาเอาสถิติมาใช้การ ถา้ เรารู้ว่าตัวอกั ษรใด พมิ พด์ ดี ทีจ่ ดั อกั ษรท สมั ผัสไดส้ ะดวกที่สุด สัญลกั ษณ์

วิชาภาษาศาสตร์ ณติ ศาสตร์ สตรใ์ นสาขาน้ี จะตอ้ งนาเอาเลข ภาษา ซึ่งนกั ภาษาศาสตร์ได้ รหาปรมิ าณความถี่ของคา เช่น ดเราใช้มากที่สุด ก็สามารถสรา้ ง ทใี่ ช้มากทสี่ ุดบนแปน้ น้วิ มือ ท่จี ะ ดหรือการนาเอาตัวอกั ษรใชแ้ ทน

๒.๒ สาขาของว ๔) ภาษาศาสตรเ์ พ่ือกา การนาภาษาศาสตร์ไ ในการจัดการเรยี นก ปฏบิ ัติ เชน่ การสอน ภาษาตา่ งประเทศ ท ชวี ติ ประจาวัน ภาษา วเิ คราะห์เปรยี บเทยี บ ภาษาเดมิ และภาษาใ

วชิ าภาษาศาสตร์ ารศกึ ษา ไปประยุกตใ์ ช้กบั สาขาวิชาต่างๆ การสอน อันก่อให้เกิดผลทาง นภาษาใดภาษาหนง่ึ เปน็ ท่ไี มใ่ ชก่ ารสอ่ื สารใน าศาสตรจ์ ะช่วยในด้านการ บโครงสรา้ งภาษาทง้ั สอง คือ ใหม่

๒.๒ สาขาของว ๕) ภาษาศาสตรเ์ ชิงมา เปน็ การศกึ ษาความส ขนบธรรมเนียม และ สัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษ จะต้องอาศยั การรวบ พิจารณาจากหลกั ฐา

วิชาภาษาศาสตร์ านษุ ยวิทยาหรอื เชงิ ชาติพันธุ์ สมั พนั ธข์ องภาษา วัฒนธรรม ะประเพณี การศึกษาความ ษาและเชอ้ื ชาติ การศึกษาแนวน้ี บรวมขอ้ มูลด้วยการสังเกตและ านต่างๆ

๒.๒ สาขาของว ๖) ภาษาศาสตรเ์ ชงิ คอ เริ่มมบี ทบาทตงั้ แต่ส ตน้ ตอมาจากสหรัฐอ เกีย่ วกบั การแปลดว้ ย ระหว่างม.ยอรจ์ ทาว มหาวทิ ยาลัยอืน่ ๆใน

วชิ าภาษาศาสตร์ อมพิวเตอร์ สมัยสงครามโลก พ.ศ.๒๔๙๗ มี อเมรกิ า และรสั เซีย มีการทดลอง ยเครอื่ งอันเป็นการรว่ มมือ วน์ กับ บ.IBM หลงั จากนน้ั ก็มี นสหรฐั อเมริกาเรม่ิ ให้ความสนใจ

แผนภูมสิ าขาภ ❑ภาษาศาสตร์ เกีย่ วก สมเหตุสมผลในการใช้ภ ❑ภาษาศาสตร์เชงิ สงั ค ภาษา การวางแผนในก ภาษาของชนกล่มุ นอ้ ย ท่ยี ืมมาจากภาษาอ่ืนมา ตนและอิทธผิ ลของภาษ

ภาษาศาสตร์ ๑ กับองค์ความรู้ทางภาษา ความ ภาษาและการรับเอาภาษา คม สัมพนั ธ์กับกลุ่มคนท่ีพดู ได้ ๒ การใชภ้ าษา ความแตกตา่ งของ ภาษากบั กลุ่มคนในสังคม ภาษา าใช้ในกรณไี มม่ ีคาในภาษาของ ษาที่มตี ่อสงั คม

แผนภูมิสาขาภ ❑ภาษาศาสตร์เชิงมาน การใชภ้ าษาให้สมั พันธ สงั คม ❑ภาษาศาสตร์เชิงคณ ของภาษาในแง่ของคณ สาขาวชิ าเลขาคณติ คอ

ภาษาศาสตร์ ๑ นษุ ยวิทยา ว่าด้วยความตา่ งและ ธ์กบั ความเช่อื ของกลุ่มคนใน ณิตศาสตร์ เปน็ การศกึ ษาทลี่ งตัว ณติ ศาสตร์ โดยการใชแ้ นวคิดทาง อมพวิ เตอรแ์ ละวชิ าสถติ

แผนภมู สิ าขาภ ❑ภาษาศาสตรเ์ ชงิ ประ กับการแปลความและก ภาษาถิ่น ความหมายข ความจา ❑ภาษาศาสตร์ เชิงเป ขอ้ ผิดพลาดทางภาษา ทเ่ี กยี่ วเนอ่ื งกันทางภาษ

ภาษาศาสตร์ ๑ ะวตั แิ ละเปรยี บเทยี บ เกี่ยวข้อง การตีความทางภาษา การเรยี นรู้ ของคาวลแี ละประโยค ระบบ ปรียบตา่ ง กล่าวคอื การวิเคราะห์ การวเิ คราะห์สานวนกบั ถว้ ยคา ษา

๒.๓ ทฤษฎที า ๒.๓.๑ ทฤษฎโี ครงการ ไวยากรณ์โครงสรา้ ง เป ภาษาศาสตร์ ได้แก่ กา เริ่มแรกเกิดในยุคของ เ วา่ ภาษามโี ครงสร้างสิ่ง เปน็ ส่วนประกอบโครงส

างภาษาศาสตร์ ร (structural School) ปน็ ไวยากรณท์ ี่วเิ คราะหต์ ามแนว ารศกึ ษาภาษาศาสตรป์ ัจจุบนั เฟอรด์ นิ านด์ เดอ โซซรู ์ ไดก้ ล่าว งทีอ่ ย่ใู นภาษา เช่น เสียง คา วลี สร้าง

๒.๓ ทฤษฎที า ๒.๓.๒ ทฤษฎปี รวิ รรต ผนู้ าทางทฤษฎี คือ นอ สาขาคณติ ศาสตร์ ปรชั ประยุกต์วิชาท้ังสามนี้เข ก.ส่วนทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ข.ส่วนที่เกย่ี วขอ้ ง ค.ส่วนทเ่ี กี่ยวกบั

างภาษาศาสตร์ (Transformation Theory) อม ฌอมสก้ี ซง่ึ เปน็ ผู้เช่ียวชาญใน ชญาและภาษาศาสตร์ ได้ ข้าด้วยกนั งกับเรือ่ งเสยี ง งกบั เรื่องความหมาย บประโยค

๒.๓ ทฤษฎที า ๒.๓.๓ ทฤษฎไี วยากรณ เกิดจากความคดิ เปน็ ไวยากรณป์ ร ลึกและโครงสร้าง นักไวยากรณ์การ นักไวยากรณป์ ริว

างภาษาศาสตร์ ณก์ ารก (Case Grammar) ดริเร่มิ ของ ซารล์ ส์ เจ ฟลิ มอร์ ริวรรตแบบหน่ึง คือ มโี ครงสร้าง งผวิ การศึกษาภาษาศาสตร์กลุ่ม รก ไดแ้ นวความคดิ มาจากกลมุ่ วรรต มคี วามเหน็ ทีส่ อดคล้องกัน

๒.๓ ทฤษฎที า ๑.หน่วยนามบอกผู้ทา ๑.น้าเซาะตลง่ิ ๒.ครูสอนเลขนักเรยี น ๓.แม่วางจานบนโต๊ะ ๔.คนงานลา้ งจาน ๕.ติ่งชนตอ้ ย

างภาษาศาสตร์ น ะกนิ ขา้ ว

๒.๓ ทฤษฎีทา ๒.หนว่ ยนามบอกผ้ถู กู ๑.พีร่ ดี เสอ้ื ๒.จอ้ ยโยนกอ้ นหิน ๓.น้อยซื้อหนงั สอื จา ๔.จอ้ ยผลักนอ้ ย

างภาษาศาสตร์ ากเพือ่ น

๒.๓ ทฤษฎีทา ๓.หน่วยนามบอกผู้ประ ๑.ฉนั หิวน้าจัง ๒.คุณเหน็ รถคนั นั้นไม ๓.เขาคงจะเสียใจมา ๔.คุณแม่รู้จกั คุณป้าข ๕.ฉันไมเ่ ขา้ ใจเขาเลย

างภาษาศาสตร์ ะสบ ม าก ของคณุ ดี ย

๒.๓ ทฤษฎที า ๔.หน่วยนามบอกผ้มู สี ภ ๑.งานขนดนิ ของพ่อ ๒.น้าในการ้อน ๓.คณุ เคยอยทู่ ่ีน่หี รือ ๔.ละครเร่อื งน้สี นกุ ม ๕.จานแตก ๒ ใบ แล

างภาษาศาสตร์ ภาพ อเสร็จแล้ว อ มาก ลว้ วันนี้

๒.๓ ทฤษฎที า ๕.หนว่ ยนามบอกผู้เสริม ความหมายของหนว่ ยก ๑.น้องคงหวิ ขา้ ว ๒.อาจารย์พดู เรอ่ื งธร ๓.ฉนั ได้ยินเสียงกริง่ โ

างภาษาศาสตร์ ม คือ ส่งิ ท่ีมาชว่ ยเสริม กรยิ า รรมะ โทรศัพท์

๒.๓ ทฤษฎีทา ๖.หนว่ ยนามบอกสถาน ๑.น้องคงหิวขา้ ว ๒.อาจารย์พูดเรอื่ งธร ๓.ฉนั ไดย้ นิ เสยี งกร่งิ โ

างภาษาศาสตร์ นท่ี คอื สถานทเี่ กดิ เหตกุ ารณ์ รรมะ โทรศัพท์

๒.๓ ทฤษฎที า ๗.หนว่ ยนามบอกเวลา ๑.ไมส่ บายตลอดอาท ๒.เมื่อวานน้ี จบั นกได ๓.โทรศัพท์เขา้ มาตอ ๔.อาทิตย์หนา้ ไปเที่ย

างภาษาศาสตร์ คอื เวลาท่ีเกิดเหตุการณข์ ้นึ ทติ ย์ ด้ตวั หนึ่ง อนสาย ยวกัน

๒.๓ ทฤษฎที า ๘.หน่วยนามบอกเวลา ๑.พ่อซื้อรถจากนายธ ๒.นอ้ งๆออกจากบ้าน ๓.เขาพลัดตกบันได ๔.อาทติ ย์หนา้ ไปเท่ยี

างภาษาศาสตร์ คอื ก่อนจะมกี ารเปลี่ยนแปลง ธนาคารคนหน่ึง นแตเ่ ชา้ ยวกัน

๒.๓ ทฤษฎที า ๙.หน่วยนามบอกทีห่ มา ๑. ขายผลไม้ใหล้ กู ค ๒. เด็กๆไปทีห่ อนาฬ ๓. ลกู ธนูแลน่ สเู่ ป้า ๔. ลกู ๆไปโรงเรยี นก

างภาษาศาสตร์ าย ค้า ฬิกา กนั แลว้

๒.๓ ทฤษฎที า ๑๐.หน่วยนามบอกเคร กรยิ า ๑. คนร้ายตีเจา้ ทรัพย ๒. เขาตัดเชื่อด้วยมีด ๓. เขยี นหนังสอื ดว้ ย ๔. ไดย้ ินเรื่องนก้ี ับหู

างภาษาศาสตร์ รือ่ งหมาย คือ เคร่อื งมือที่ใชท้ า ย์ด้วยท่อนเหลก็ ด ยมือซา้ ย

๒.๓ ทฤษฎที า ๑๑.หนว่ ยนามบอกเหต ๑. เขาพูดดว้ ยความ ๒. เขาต้องตายเพรา ๓. กลบั ตัวได้เพราะค ๔. จายอมเป็นคนร้าย

างภาษาศาสตร์ ตุ มอิจฉา าะเรา ความดงี าม ยด้วยความจาเปน็

๒.๓ ทฤษฎที า ๑๒.หน่วยนามบอกผูร้ บั ๑. พ่อแมท่ างานหนกั ๒. ซอื้ ขนมเผอ่ื คณุ ดว้ ๓. ชว่ ยหากระดาษให ๔. จัดอาหารไว้สาหร

างภาษาศาสตร์ บประโยชน์ กเพอ่ื ลกู วย ห้ฉันหนอ่ ย รับเพื่อนๆ

๒.๓ ทฤษฎที า ๑๓.หนว่ ยนามบอกลักษ ๑. สารวมอยา่ งสงบ ๒. ดว้ ยความพิศวง ๓. ดว้ ยความตง้ั ใจ ๔. ลกุ ขึน้ โดยดี

างภาษาศาสตร์ ษณะ

๒.๓ ทฤษฎีทา ๑๔.หนว่ ยนามบอกผล ๑. พอ่ สร้างบา้ น ๒. คนงานขุดหลุม ๓. เขาแตง่ เรอ่ื งนเี้ มื่อ ๔. เดก็ ๆก่อเจดียท์ รา

างภาษาศาสตร์ อปีท่ีแล้ว าย

๒.๓ ทฤษฎที า ๒.๓.๔ ทฤษฎแี ทกมิมคิ ทฤษฎีได้แตกแขน โครงสรา้ ง ดว้ ยจ ระหว่างหนา้ ทีข่ อ ๑.วิเคราะหห์ าส่วนปร ๒.วิเคราะห์หาความสมั