Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาศาสตร์เบื้องต้น

ภาษาศาสตร์เบื้องต้น

Description: ศึกษาความหมายของภาษาและภาษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาศาสตร์ ลักษณะทั่วไปของภาษา ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสัทศาสตร์ (phonetics)
สรศาสตร์ (phonemics) สัทอักษรสากล สัทอักษรไทย และหลักวิเคราะห์ภาษาไทยตามแนวภาษาศาสตร์ศึกษา

Keywords: ภาษาศาสตร์,(phonetics),(phonemics)

Search

Read the Text Version

มนา งๆโดยการเขยี นหรือบนั ทึก ระสบปญั หา เช่น จานวน างๆ ไม่เท่ากัน อักษรท่ใี ช้ ทาให้สาเนยี งหรอื การเลยี น จงึ หันไปใชส้ ัญลักษณ์หรอื ทอักษรสากล” เพอ่ื ถา่ ยทอด างๆในโลกโดยใช้อกั ษรโรมนั ๆประกอบ

๔.๑ ความ • ภาษาไทย ถูกจัดในกลุม่ ชิโน ทางประวตั ิศาสตร์ ในช่วงปร รามคาแหง ไดป้ ระดษิ ฐอ์ ักษ จารกึ เร่ืองราวและหลกั ธรรม ศลิ าจารึกหลักที่ ๑ โดยพฒั น คฤนถ์หรืออกั ษรปัลลวะของ

มนา น-ทเิ บตัน จากหลักฐานสาคัญ ระมาณศตวรรษท่ี ๑๘ พอ่ ขุน ษรไทยหรอื ลายสอื ไทยขึ้น เพ่อื มทางพระพุทธศาสนา ดังเช่น นาลายสอื ไทยมาจากอักษร งอนิ เดยี ใต้

พฒั นาการภา • ภาษาไทยมพี ฒั นาการและถ และเป็นภาษาทางราชการ พ ข้อสงั เกตว่า ภาษาไทยน้มี รี ะ คาหรือพยางคอ์ ยู่ ๓ เสยี ง ค • ๑.เสยี งแท้ คือ เสยี งท่เี ปล่งอ ตอ้ งใชล้ ิ้นหรือริมฝีปากดดั แป เดก็ อ่อน หรือสัตวร์ ้องออกม อีกอย่างหนึ่ง “เสียงสระ”

าษาไทย ถกู ใชเ้ ป็นภาษาประจาชาติ พระยาอปุ กติ ศลิ ปสาร ได้ให้ ะบบโครงสร้างทางเสียงของ คอื ออกมาจากลาคอตรงๆ ซึ่งไม่ ปรงให้ปรวนแปรไป เชน่ เสยี ง มา เช่น ออ อา ออื เออ เรยี ก

พัฒนาการภา • ๒.เสียงแปร คอื เสยี งแทท้ ี่เป กระทบ คอ เพดาน ฟัน หรือ ปรวนแปรเปน็ เสยี งต่างๆ เช “เสยี งพยญั ชนะ” • ๓.เสียงดนตรี คอื เสียงแทห้ ร เป็นเสยี งสูงๆ ตา่ ๆ เหมอื นอ กอ๋ เปน็ ตน้ เรยี กวา่ “ เสียงว

าษาไทย ปล่งออกมาแลว้ กระดิกลนิ้ ให้ อ รมิ ฝีปาก ทาใหเ้ กดิ เสยี งและ ชน่ กอ คอ เป็นต้น เรียกว่า รอื เสียงแปร ซ่ึงผูเ้ ปล่งทาให้ อยา่ งดนตรี เชน่ กอ กอ่ ก้อ ก๊อ วรรณยุกต์”

กรอบแนวคดิ ใ

ในเนื้อหา

๔.๒ พยญั ชนะภ ภาษาไทยมหี นว่ ยเสยี งพยัญช ๑.พยญั ชนะตน้ คา /p/ = ป, เชน่ /pon/ ปน /t/ = ต, เชน่ /ta:/ ตา /k/ = ก, เชน่ /ka`y/ ไก /?/ = อ, เช่น /?a`:n/ ง /ph/ = ผ พ ภ เชน่ / ph

ภาษาไทย ชนะอยู่ทง้ั หมด ๒๑ หนว่ ยเสยี ง น า ก่ งา่ ย h a:/ ผ้า

๔.๒ พยัญชนะภ ภาษาไทยมีหนว่ ยเสียงพยญั ช ๑.พยัญชนะต้นคา /th/ = ท ธ ฒ (ฑ) “ / /kh/ = ค ฆ ข\" /kh /b/ = บ \" /bâ /d/ = ด(ฑ) \" /da /c/ = จ \" /co

ภาษาไทย ชนะอยทู่ ั้งหมด ๒๑ หน่วยเสยี ง /thûӘy/ \" ถว้ ย hă:w/ \" ขาว â:n/ \" บา้ น aw/ \" เตา om/ \" จม

๔.๒ พยัญชนะภ ภาษาไทยมีหนว่ ยเสียงพยญั ช ๑.พยัญชนะต้นคา /ch/ = ช ฉ ฌ \" /m/ = ม \" /n/ = น ณ \" /ŋ/ = ง \" /f/ = ฝ ฟ \"

ภาษาไทย ชนะอย่ทู ัง้ หมด ๒๑ หน่วยเสยี ง /cha:y/ \" ชาย /ma:/ \" มา /nay/ \" ใน /ŋâ:y/ \" งา่ ย /fá:/ \" ฟ้า

๔.๒ พยญั ชนะภ ข.เขยี นพยญั ชนะท้ายคา (ตัวส /-k/ สาหรับเขียนแมก่ ก เชน่ /-t/ สาหรับเขียนแม่กด \" /-p/ สาหรบั เขยี นแมก่ บ \" /-ŋ/ สาหรับเขียนแมก่ ง \" /-n/ สาหรบั เขียนแมก่ น \" /-m/ สาหรบั เขียนแมก่ ม \"

ภาษาไทย สะกด) นก น /nόk/ อา่ นวา่ มด รปู /mόt/ \" เสยี ง /rû:p/ \" เรียน /sĭӘŋ/ “ กลม /riӘn/ \" /klom/ \"

๔.๒ พยัญชนะภ ข.เขียนพยัญชนะท้ายคา (ตัวส /-y/ สาหรับเขียนแมเ่ กอย\" \" /-w/ สาหรับเขยี นแมเ่ กอว \" /-?/ สาหรบั เขียนเปน็ ตวั สะก

ภาษาไทย สะกด) \" ไก่ /kày/ \" เลย /lӘ:y/ \" เขยี ว \" เกา่ /khĭӘw/ \" กะ \" /kàw/ กด \" /ká?/

๔.๒ พยัญชนะภ ข.เขยี นพยญั ชนะท้ายคา (ตัวส กบั คาทีม่ สี าหรับเขียนสระเสียง \" /tì?/ \" \" /ná?/ \" /-h/ สาหรบั เขยี นกบั คาทม่ี ีกา \" /náh/ \"

ภาษาไทย สะกด) งสั้นกกั เสียง ติ ณ ารปล่อยเสยี ง นะ

๕.๒ สัทอกั ษ ๕.๒.๒. สัทอักษรสระภาษาไทย หน่วยเสียงสระภาษาไทยมหี หนว่ ยเสยี งไดแ้ ก่ /i i:, ɨɨ,: u u ɔ:/ และหน่วยเสียงสระประสม ɨ:Ә u:Ә / ดังน้ี สัทอักษรใช้เขยี นแทนหน่วยเสีย /i/ = อิ เชน่ /kh /i:/ = อี \" /di

ษรไทย ย (Thai vowels) หนว่ ยเสียงสระเด่ียว ๑๘ u:, Ә Ә:, ε ε:, a a:, ɔ ม ๓ หนว่ ยเสยี ง ได้แก่ /i:Ә ยงสระไทย สระเดี่ยว hít/ อา่ นวา่ คิด i:/ \" ดี

๕.๒ สัทอกั ษ ข.เขยี นสระประสมภาษาไทย /i:Ә/ = เอยี เช่น /ɨ:Ә/ = เออื \" /u:Ә/= อัว \" /m

ษรไทย น /khĭ:Әn/อา่ นวา่ เขียน /lɨ:Әk/ \" เลอื ก mù:Әk/ \" หมวก

๕.๒ สทั อกั ษ ๕.๒.๓ สัญลกั ษณ์แทนหน่วยเส สญั ลักษณ์ท่ีใชเ้ ขยี นแทน ภาษาไทยทัง้ หมด ๕ หนว่ ยเสีย ๑.เสยี งสามญั ไม่มีสญั ลัก • เสยี งสามัญ (Mid tone) ไม /ma:/ ‘มา’ /nɔ:n/ ‘น

ษรไทย สียงวรรณยุกต์(หน่วยเสยี ง) นเสยี งวรรณยุกต์ของ ยงมี ๔ สญั ลกั ษณ์ กษณ์แทนเสยี ง ม่มสี ัญลกั ษณ์แทนเสียง นอน’

๕.๒ สทั อักษ ๒.เสียงเอก สัญลักษณ์/ เสียงเอก (Low tone) ใชส้ ัญล /?à:n/ ‘อ่าน’ ๓.เสยี งโท สัญลกั ษณ์ / เสียงโท (Falling tone) ใช้สัญ /mây/ ‘ไม่, ไหม

ษรไทย ̀/ ลักษณ์ / ̀ / /wà:n/ ‘หวา่ น’ ˆ/ ญลกั ษณ์ /ˆ/ ม้’ /mâ:k/ ‘มาก’

๕.๒ สทั อักษ ๔.เสียงตรี สญั ลักษณ์/ เสยี งตรี (High tone) ใช้สญั ล /ná:/ ‘น้า’ /rá ๕.เสียงจตั วา สัญลกั ษณ เสยี งจัตวา (Rising tone) ใช้ส /mă:y/ ‘หมาย’

ษรไทย ́/ ลักษณ์ / ́/ á:nkhá:/ ‘ร้านคา้ ’ ณ์ /ˇ/ สัญลักษณ์ /ˇ/ /khă:y/ ‘ยาย’

๕.๓ โครงสรา้ งสทั สัทอักษรไทย มรี ะบบโครงส ๑.ระบบเสียงพยัญชน ๒.ระบบเสียงสระ ๓.ระบบเสียงวรรณยุก

ทอกั ษรไทย สร้างทางเสียง ๓ ระบบ นะ กต์

๔.๓.๑ จานวนหน่วยเส • ๑. หน่วยเสยี งพยญั ชนะ ภาษาไทยมีหน่วยเสยี งพยญั มหี นว่ ยเสียงพยญั ชนะท่ีเป็น ๒.หนว่ ยเสียงสระ ภาษาไทยมหี นว่ ยเสียงสระเ แบ่งเปน็ สระเสยี งสนั้ ๙ หน หน่วยเสยี งสระประสม ๓ ห

สียงในภาษาไทย ญชนะแท้ ๑๙ หน่วยเสยี ง นอฒั สระ ๒ หนว่ ยเสียง เดย่ี ว ๑๘ เสียง น่วย หน่วย

๔.๓.๑ จานวนหนว่ ยเส • ๓. หนว่ ยเสียงวรรณยกุ ต์ หนว่ ยเสยี งวรรณยุกต์ ในภา ๑.เสียงกลาง หรือสามัญ ๒.เสยี งต่า หรอื เสียงเอก ๓.เสียงตก หรอื เสยี งโท ๔.เสยี งสูง หรอื เสยี งตรี ๕.เสียงข้ึน หรอื เสียงจัตวา

สยี งในภาษาไทย าษาไทย มี ๕ หนว่ ย

๔.๔ วิธีหาหน่วยเสียงและวิเคราะ • หน่วยเสียง หมายถงึ เสียงท ของภาษา คอื มหี นา้ ทแ่ี ยกค หมายถงึ เสยี งสาคญั ในภาษา เสียงสาคญั ที่ทาใหค้ ามีความ • เสียงในภาษาไทยมีหลายปร เสยี งแตกตา่ งกันหลายแบบ ความสาคัญกต็ ่อเมื่อความแต ของคาตา่ งกันหรอื เป็นความ

ะหห์ น่วยเสยี งในภาษาไทย ทท่ี าหนา้ ท่ีสาคญั ในระบบเสยี ง ความหมายของคา หรอื าทใี่ ชส้ ื่อความหมายไดห้ รอื มหมายตา่ งกัน ระเภท และมีลกั ษณะการออก ความแตกต่างของเสียงจะมี ตกต่างน้ันทาใหค้ วามหมาย มแตกต่าง

๔.๔ วิธหี าหนว่ ยเสยี งและวเิ คราะ • เสยี งยอ่ ย หมายถึงการออก อาจออกเสียงได้เสียงเดียว ห ตาแหน่งของเสียง เช่น เกดิ ต ทา้ ยคาหรือเปน็ เสียงสะกดเส • ๔.๔.๑ คาค่เู ทยี บเสยี ง ๑.คาค่เู ทียบพยญั ชนะ เ ๒.คาคเู่ ทียบสระ เช่น ร ๓.คาค่เู ทยี บเสียงวรรณย

ะห์หนว่ ยเสยี งในภาษาไทย กเสียง เสยี งใดเสียงหน่งึ ซงึ่ หรือหลายอย่างโดยเปล่ยี น ต้นคาออกเสยี งอย่างหน่ึง เกดิ สียงอกี เสยี งหน่งึ เช่น บ้าน กา้ น นา้ ชา้ เปน็ ตน้ รา้ น รอ้ น หมา หมอ เป็นต้น ยกุ ต์ เชน่ กาง กา้ ง เปน็ ต้น

๔.๔ วิธหี าหน่วยเสียงและวิเคราะ • ๔.๔.๒ สัญลกั ษณ์แทนหน ๑.หนว่ ยเสยี งทปี่ ระกอบ ใชส้ ทั อกั ษรนนั้ เป็นหน่วยเสยี ๒.หนว่ ยเสยี งทีป่ ระกอบ วา่ จะเปน็ เสยี งย่อยแบบแปร แจกแจงแบบสบั หลกี กเ็ ลอื ก ตวั แทนของหนว่ ยเสียง

ะหห์ นว่ ยเสียงในภาษาไทย นว่ ยเสียง บด้วยเสยี งเพียงเสยี งเดียว ก็ ยง บดว้ ยเสยี งยอ่ ยหลายเสียง ไม่ รอิสระ หรือเป็นเสยี งย่อยซึ่ง กเสยี งยอ่ ยหนึ่งขึ้นมาเป็น

๔.๕ หน่วยเสยี งพยญั ช • เสยี งพยญั ชนะในภาษาไทย • ๑.พยญั ชนะตน้ ประกอบดว้ พยญั ชนะตน้ ควบกลา้ • ๒.พยญั ชนะสะกด เชน่ สบั • พยญั ชนะตน้ หมายถึง เสียง หรอื ตน้ คา หรอื เสยี งพยญั ชน • ๑.พยญั ชนะต้นเด่ียว เช่น ป • ๒.พยญั ชนะควบกล้า เช่น แ

ชนะในอกั ษรไทย ประกอบด้วย วยพยญั ชนะต้นเด่ยี วและ กาง กาล เป็นตน้ งพยัญชนะท่ปี รากฏต้นพยางค์ นะที่ปรากฏหนา้ เสยี งสระ ปาน กาล เป็นตน้ แปร ปรงุ เป็นต้น

๔.๖ หน่วยเสยี งส • เสยี งสระประกอบดว้ ยเสียงส ๓ เสยี ง • ๔.๗ หน่วยเสียงวรรณย • เสียงวรรณยกุ ตม์ ี ๕ เสียง • ๔.๘ การเปล่ยี นเสยี งวร

สระอักษรไทย สระเดียว ๑๘ เสยี งสระประสม ยกุ ต์ รรณยุกต์

สรุปท การนาเอาสัทอกั ษรไปใชเ้ ขียนหรือ หน่ึง ถือวา่ เป็นการถ่ายทอดเสียงโด ตามแบบอกั ขรวธิ ี การศึกษาสทั อกั เสียงภาษาโดยเฉพาะแต่ละหน่วยวา่ สงั เกตจากการพดู หรือการออกเสีย ใดบา้ ง เป็นสญั ลกั ษณ์ในการเขียนแ I.P.A ๑.การบนั ทึกเสียงแบบละเอียด ๒.การบนั ทึกเสียงแบบคร่าวๆ

ท้ายบท อบนั ทึกเสียงภาษา ในภาษาใดภาษา ดยใชก้ ารเขียนหรือบนั ทึกตวั อกั ษร กษรน้นั ตอ้ งคานึงถึงลกั ษณะของ า มีลกั ษณะการเสียงอยา่ งไร โดย ยงในภาษาน้นั ควรใชส้ ทั อกั ษรตวั แทนเสียงน้นั ๆ ตามหลกั การของ

Your Topic Goes Here • Your subtopic goes here