Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฤดูดาว

ฤดูดาว

Description: Aฤดูดาว

Search

Read the Text Version

ฤดูดาว พงศกร : เขียน ISBN ๙๗๘ - ๖๑๖-๗๗๓๕-๐๐-๙ พมิ พ์เป็นตอนๆ ในนติ ยสารสกุลไทย พ.ศ.๒๕๔๗ - ๒๕๔๘ พิมพค์ ร้ังท่ี ๑ : สำนักพมิ พเ์ พือ่ นดี กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๘ พิมพค์ รั้งท่ี ๒ : สำนกั พิมพ์เพอื่ นดี เมษายน พ.ศ.๒๕๔๙ พิมพค์ รง้ั ท่ี ๓ : สำนกั พิมพ์เพือ่ นดี กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๒ พิมพค์ รง้ั ท่ี ๔ : สำนกั พมิ พ์กรู๊ฟ พบั ลชิ ชิ่ง มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๕๕ พมิ พ์ครั้งที่ ๕ : สำนักพิมพ์กรู๊ฟ พบั ลชิ ชิง่ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๕๖ หมวด นวนยิ าย ลำดบั ท่ี ๙ บรษิ ทั กรฟู๊ พบั ลิชชิ่ง จำกัด เลขที่ ๒๙ / ๑๐๖ วสิ ตา้ อเวนวิ วัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรงุ เทพฯ ๑๐๒๒๐ โทรศพั ท์ ๐๘๕-๖๖๕-๕๔๒๒ โทรสาร ๐-๒๐๕๓-๐๕๐๐ อีเมล : [email protected]

3/763 เวบ็ ไซต์ : www.groovebooks.com, www.facebook.com/ groovepublishing บรรณาธกิ ารทีป่ รึกษา : อรรถรัตน์ จนั ทรวรินทร์ บรรณาธกิ ารสำนกั พิมพ์ : อรรถรตั น์ จันทรวรินทร์ การเงนิ : สลุ วณั มงคล พสิ ูจนอ์ ักษร : กฤษดา ศริ กิ จิ พาณชิ ยก์ ูล ออกแบบปก : [email protected] รูปเล่ม : Aim Graphic House ประสานงานการผลติ โดย เอมกราฟฟิกเฮ้าส์ โทรศัพท์ ๐๘๑-๖๒๖-๙๑๒๓ โทรสาร ๐-๒๘๘๓-๖๑๒๑ พิมพ์ท่ี บริษทั เอ.พี. กราฟิคดีไซนแ์ ละการพมิ พ์ จำกัด ๗๔๕ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โทรศพั ท์ ๐-๒๒๔๓-๙๐๔๐-๔ โทรสาร ๐-๒๒๔๑-๐๓๗๙ ราคา ๔๒๐ บาท

จดั จำหน่ายในรูปแบบหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์(eBook) โดย บริษทั ไอ.พี.เจ. อนิ เตอรเ์ นชัน่ แนล(1988) จำกดั 73 หมทู่ ่ี 5 ตำบลหลกั หก อำเภอเมืองปทมุ ธานี จงั หวัดปทมุ ธานี 12000 โทร. 0-2567-0759 โทรสาร 0-2567-5779 สั่งซ้ือ eBook ได้ที่ www.hytexts.com [email protected] Special Thanks for Opensource license JS Font CKeditor

คำนำสำนกั พมิ พ์ เมอื่ ทำการจดั ลำดับ เราพบว่า ‘ฤดดู าว’ น้ันเป็นนวนิยายเร่อื งหนึ่ง ของ ‘พงศกร’ ท่ีเราชอบเปน็ อันดับตน้ ๆ สว่ นหนึ่งเพราะช่ืนชอบในตำนาน ความรกั อันแสนเศร้าเคลา้ น้ำตาของนางอว้ั แสนเพ็งกบั แถนเมอื ง-แมน รวมทั้งเรื่องราวของความรกั ท่ามกลางความขดั แยง้ ของดรสาและดอกเตอร์ สินธพ ซ่งึ โรแมนติกไม่แพ้กนั อีกสว่ นหนึง่ ก็เพราะหลงใหลในวฒั นธรรมและวถิ ชี ีวติ ของชาวเยา้ ที่ อาศยั อยทู่ ่ามกลางผืนป่าและธรรมชาติอนั อดุ มสมบูรณ์ ซึง่ ‘พงศกร’ ถา่ ยทอดออกมาได้อยา่ งสวยสดงดงาม และส่วนสดุ ท้าย นวนิยายเร่ืองนเ้ี ตม็ ไปดว้ ยความมหัศจรรยพ์ ันลกึ อนั แสนลึกลับ ซึ่งเป็นแบบฉบับของคุณหมอนักเขียน ทท่ี ำให้ผอู้ า่ นต้องลนุ้ ระทกึ ไปต้งั แตต่ น้ จนจบเรื่อง รางวลั ชมเชยในการประกวดหนังสอื ดีเด่นประเภทนวนิยาย ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๙ และรางวัล ๑ ใน ๑๐๐ เล่ม หนังสอื ดวี ทิ ยาศาสตรป์ ระจำปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ถงึ พ.ศ. ๒๕๔๘ อาจจะสามารถการนั ตีในเรือ่ งคุณภาพแต่ เราอยากให้ทุกท่านไดล้ องอา่ น ‘ฤดดู าว’ ดว้ ยตวั เอง แลว้ จะเข้าใจว่าทำไม

6/763 นวนยิ ายเรือ่ งนี้ จงึ เป็นหนง่ึ ในนวนยิ ายของ ‘พงศกร’ ที่เราชอบเป็นอนั ดบั ตน้ ๆ Let’s Groove! GROOVE PUBLISHING www.groovebooks.com

คำนำผ้เู ขียน (คำนำฉบบั พมิ พ์คร้งั ท่ี ๔) ฤดดู าวเปน็ นวนิยายเร่อื งท่ี ๕ ในชีวติ การประพนั ธข์ องผม หากเป็น นวนยิ ายเร่ืองแรกทที่ ำใหผ้ มพบแนวทางของตนเองอยา่ งชัดเจน ด้วยเป็น นวนิยายทน่ี ำเอาตำนานและความเชอ่ื ในท้องถ่นิ มาจนิ ตนาการตอ่ ยอด ผสมผสานกับข้อมลู และขอ้ เทจ็ จริงต่างๆ จนเกิดเป็นงานเขียนในแนว ‘พงศกร’ ขึ้น นอกจากนี้ ฤดูดาวยงั เป็นความภาคภูมิใจอยา่ งย่ิงของผม เพราะ ระหวา่ งทนี่ วนิยายเร่ืองน้ีลงตพี มิ พ์ในนิตยสารสกลุ ไทยรายสัปดาห์ ได้รับ เสยี งตอบรบั จากผู้อ่านเปน็ อยา่ งดี มีผูอ้ า่ นบางท่านถึงกบั เขียนจดหมายมา ยังกองบรรณาธกิ ารเพื่อสอบถามว่าเวยี งแสนเพ็งมีจรงิ หรือไม่ และอยทู่ ี่ ตำแหน่งใดของจงั หวดั น่าน นอกจากนี้ ฤดูดาวยงั จดุ ประกายให้ผู้อ่านได้ตระหนักถึงแง่มมุ ทั้งใน ดา้ นดีและร้ายของสง่ิ มีชีวิตทมี่ ีการตัดตอ่ พันธุกรรม หรือทเี่ รยี กว่าGMOs อกี ดว้ ย ทส่ี ำคัญท่สี ดุ คือ ฤดูดาวได้บอกเล่าให้ผอู้ ่านทราบถึงแรงบันดาลใจ อนั เปน็ ทมี่ าของนวนยิ ายเร่ืองน้ี ซ่งึ ก็คอื ม.ร.ว สมานสนทิ สวสั ดวิ ัตนผ์ ู้

8/763 สละความสขุ สบายเพื่อไปทำงานอนรุ กั ษป์ ่าตน้ นำ้ นับเป็นชีวิตทเ่ี ป็น แบบอยา่ งอันทรงคุณค่าใหก้ ับคนรุ่นหลงั และเปน็ ต้นแบบให้ผมนำมาสร้าง เป็นตวั ละครคุณผาสุก มารดาของดรสา หากนวนิยายเรื่องนี้จะมคี ุณความดใี ดๆ ผมขอมอบใหก้ ับ ม.ร.ว. สมานสนิท สวัสดวิ ตั น์ ราชนกิ ูลผเู้ สยี สละ เพื่อตอ่ ลมหายใจให้กบั ธรรมชาติ ผนื ปา่ สเี ขยี ว และต้นน้ำลำธาร ‘พงศกร’ มิถนุ ายน ๒๕๕๕

๑ แสงจนั ทรก์ ระจา่ งฟ้าอาบไลผ้ วิ ออ่ นละมนุ ของเดก็ หญิงเสยี งจกั จ่นั แมลงไพรกบั เรไรร้องระงมเหมอื นดังดนตรีบรรเลงขับกล่อมพนา สายลม เยน็ เจอื เอากลนิ่ หอมของดอกไม้ป่ารวยรินมาด้วย พาให้ความเหนด็ เหนอื่ ย เม่ือยลา้ คอ่ ยคลายไปได้บ้าง ทางทหี่ ลอ่ นเดินนนั้ ดเู วง้ิ วา้ งไมม่ ีที่ส้นิ สดุ และทอดสงู ขน้ึ ไปเรอ่ื ยๆ ยิ่ง สูงมากเทา่ ใดความเหนบ็ หนาวของอากาศโดยรอบกม็ ากขึ้นเทา่ นนั้ ทกุ ทิศ ทุกทางรอบกายเตม็ ไปด้วยป่าหญา้ เหมือนกันไปหมด หากผนู้ ำหน้าไม่ ชำนาญทางแล้วไซร้ คงไดห้ ลงเดินวนเวยี นมริ ู้จบรูส้ ิน้ ดวงดาวนับพนั นบั หมนื่ กระจายตัวเกลือ่ นฟ้าเบือ้ งบนศรี ษะ กะพริบ วิบวาบแขง่ กับแสงจนั ทราทรงกลด ปกตแิ ลว้ ในคืนเดือนหงาย ดวงดาวมักจะหรบุ แสง ไม่กลา้ แขง่ กบั รศั มีดวงจันทร์...หากแตค่ นื คำ่ น้ี ทอ้ งฟา้ ใสกระจ่างจนกระทงั่ ดวงดาราอด ใจไมไ่ หว ต้องออกมาเริงแสงแขง่ ขันกัน ...ฤดดู าว... พอ่ บอกหลอ่ นวา่ อย่างนั้น

10/763 คนื นเี้ ปน็ คนื ฤดดู าว ฤดูทค่ี นภูเขาทกุ คนเฝา้ รอคอย เพราะเป็นฤดู ดาวนี่เองทท่ี ำให้หลอ่ นต้องตนื่ นอนขนึ้ มากลางดกึ นำ้ ค้างลงแรง เพือ่ ดั้น เดนิ ไปสูจ่ ดุ หมายปลายทางเบอื้ งหน้ากบั พ่อ อย่อู ยา่ งในขณะนี.้ .. ไมม่ ีทางใดท่หี ลอ่ นจะปฏิเสธพ่อได้ แมว้ า่ หนังตาจะหนักอึง้ แม้วา่ หล่อนจะหิวนอนสกั เพยี งใด เพราะฤดดู าวเวยี นมาถงึ แล้ว และหลอ่ นอาจ ไม่มีชีวติ อยูจ่ นได้เห็นฤดูดาวคร้ังหน้า... มเี ยา้ นอ้ ยคนมากท่ีจะมีชวี ิตอยู่จนสองฤดูดาว...ดงั น้นั พอ่ จึงลาก หล่อนออกมาจากทนี่ อนจนได้ พอ่ นง่ั รอหลอ่ นใชผ้ ้าแดงโพกศีรษะด้วยความอดทน ต่อจากผ้าแดง หล่อนใช้ผา้ แถบสีนำ้ เงินปนดำคาดทบั อกี ที เปน็ อนั เสร็จเรยี บร้อย จากนั้น สองพอ่ ลูกกเ็ ริม่ ต้นการเดนิ ทาง มดี อกไม้ปา่ กระจริ ิด สสี ันสดสวยเบ่งบานเลน่ แสงจันทร์อยสู่ องขา้ ง ทางทผ่ี า่ นไป หากเป็นยามกลางวัน เดก็ หญิงคงจะหยดุ แวะเพื่อเกบ็ ดอกไม้ สวยงามเหลา่ นนั้ มารอ้ ยเป็นพวงสวมใส่รอบคอ แทนหว่ งเงนิ ทเ่ี ดก็ สาวชาว เย้าทุกคนต้องสวม ช่อดอกสชี มพูอมมว่ งของเอ้อื งปา่ ท่ีชกู ้านยาว เพ่อื สง่ กลน่ิ หอมจรงุ โลก แลดูแปลกตาไปเมอื่ ต้องแสงจันทรน์ วล สขี องกลีบดอกออ่ นบางซ่ึง เคยสดสว่างในยามกลางวนั กลบั จางลง และเรื่อเรืองขึน้ มาเปน็ สีใหม่อนั ละมุนตา

11/763 หล่อนเรง่ ฝีเทา้ เพอื่ ตามหลังผูช้ ายวัยกลางคนรูปร่างลำ่ สนั ท่ีนำหน้า ให้ทนั เสยี งย่ำแหวกหญา้ คาที่สงู จนถึงเอวดงั ...สวบ...สวบ ขบั ไล่อสรพิษ รา้ ยท่ีออกเพน่ พ่านหากนิ ใหห้ ลกี ทางและหลบไป หล่อนไม่กลัวสตั วเ์ หล่านนั้ ...ไมม่ เี ย้าคนใดกลัวสตั วร์ ้ายในแดนไพร เย้ากับสตั วป์ า่ เปน็ เพื่อนกัน พ่อบอกว่ามีแตค่ นเมอื งเทา่ นนั้ ท่ีนา่ กลัวย่ิงกว่า และเด็กหญิงกเ็ ชื่อตามที่พอ่ สอน หล่อนไมเ่ คยเหน็ อสรพิษทำรา้ ยผใู้ ดกอ่ น อสรพษิ เขยี้ วขอเหล่านัน้ จะ ทำร้ายคน เมอ่ื คนทำร้ายมัน ไม่เหมอื นคนเมอื งท่ีพร้อมจะทำรา้ ยคนทกุ คน ไม่ว่าคนเหล่าน้นั จะทำรา้ ยพวกเขาก่อนหรือไม่ พระจนั ทรเ์ คล่อื นสูงขึน้ จนเกอื บถงึ ก่ึงกลางฟา้ ย่ิงจันทรส์ ูงเทา่ ใด พ่อ ของหล่อนกย็ ิ่งจ้ำเดินเรว็ ข้ึน กบั หนั มาเร่งหลอ่ นเปน็ ระยะไมใ่ ห้หลงระเริง ไปกบั มนตร์ราตรี พอ่ จะพาหล่อนไปใหถ้ ึงป่าโหง ก่อนพระจนั ทรจ์ ะขนึ้ ตรงหัว ไมม่ ีเยา้ คนไหนอยากกรายใกล้ปา่ โหง... ย่งิ อยู่ไกลไดเ้ ท่าใดก็ย่งิ ดี ก็ ใครเลยอยากเขา้ ใกล้ป่าอาถรรพ์แห่งน้นั ... ปา่ ทว่ี า่ กนั ว่า ไมเ่ คยมผี ู้ใด รอดชวี ติ กลบั ออกมาได้ มีแตค่ นตายแลว้ เทา่ น้นั ที่ดวงวญิ ญาณของมันจะ ไปยงั ป่าโหง

12/763 มเี สียงเลา่ ลือสืบตอ่ กนั มานมนานถงึ ตำนานอนั น่าหวาดกลัวของปา่ แหง่ นน้ั บา้ งกเ็ ป็นเร่ืองผีพราย บ้างกเ็ ป็นเรอ่ื งของผีดูดเลอื ด บ้างกเ็ ป็น เรื่องของบังบด... ใครๆ กก็ ลัวปา่ โหง แต่หล่อนไมเ่ คยกลวั พอ่ ของหลอ่ นก็ไมก่ ลัวปา่ โหง... ตระกลู ของหล่อนไม่มีใครกลัวป่า โหง... ตระกูลของหล่อนเปน็ ตระกูลซบิ เมี้ยนเมีย่ น...หมอผีแห่งหมูบ่ า้ น ดงั นัน้ ถา้ พวกของหล่อนกลัวปา่ โหงแล้วละก็ เผ่าของหลอ่ นก็จะอยไู่ มไ่ ด้ อีกต่อไป ทั้งทไ่ี ม่เคยมีใครในหมู่บ้านเคยเหน็ หน้าของหลอ่ น เพราะพอ่ ไม่เคย ให้หล่อนออกไปให้ผู้ใดได้เหน็ หากหลอ่ นรวู้ ่า ทุกคนในหมูบ่ ้านเลา่ ลือกนั วา่ หล่อนเป็นเดก็ ประหลาดทีไ่ มน่ กึ กลวั ปา่ โหงอยา่ งเด็กเยา้ คนอนื่ น่าตลก...หล่อนนึก...เด็กโงพ่ วกน้ันขข้ี ลาดตาขาว พอพดู ถงึ ป่าโหงทุก คนกจ็ ะอกสน่ั ขวัญหาย หน้าซดี หน้าเซียว เดก็ เยา้ ผู้ใดซุกซนไมเ่ ช่ือฟงั บดิ ามารดาของมนั กข็ จู่ ะเอาไปปลอ่ ยใน ปา่ โหง เม่อื ไดย้ ินคำวา่ ป่าโหง ตอ่ ให้ดอื้ แสนด้อื เพยี งใด เด็กคนนนั้ กจ็ ะ หยุดรอ้ งไห้ หยดุ เกเรลงในทันที หล่อนเห็นอยา่ งน้ันแลว้ ไดแ้ ต่หวั เราะขันในใจ พวกมนั กลัวป่าโหง ทัง้ ๆ ท่ีพวกมนั ไม่เคยมีใครเข้าไปในปา่ โหงสกั คร้ัง เดก็ หญงิ คิดว่า หาก

13/763 พวกมันผใู้ ดได้มีโอกาสไปเท่ียวเลน่ ในปา่ แหง่ นัน้ ตง้ั แต่เริ่มหดั เดินอยา่ ง หลอ่ นแลว้ ละก็ คงจะหายกลัวเปน็ แน่แท้ ไมเ่ คยมใี ครเขา้ ไปในปา่ โหง เพราะทกุ คนรู้ดวี า่ มภี ูตผแี ละวญิ ญาณ นับร้อยนบั หมนื่ อย่ทู ี่น่ัน... เมอื่ เย้าตายลง วิญญาณเยา้ ทุกดวงกจ็ ะเข้าไป สงิ สถิตอยใู่ นป่าโหง เพือ่ รอคอยการกลับมาเกิดใหม่ แมจ้ ะมภี ูตพรายมากมายในป่า หากภูตผีเหล่านนั้ กบั พวกหล่อนดูจะ เป็นมิตรทดี่ ีตอ่ กนั พวกมนั ไมเ่ คยทำร้ายหล่อน เพราะพวกมันรูว้ ่าหลอ่ น ไมเ่ คยคดิ ร้ายต่อวิญญาณปา่ เดก็ หญิงดน้ั เดนิ ตามหลงั ผู้เป็นบดิ าไป แม้หนงั ตาจะหนักอึ้งจนลมื แทบไมไ่ หวกต็ าม เดินจนกระทง่ั เหน็ พ่อของหลอ่ นหยดุ ยนื นงิ่ ลงตรงหนา้ สกั ทองทีย่ นื ต้นค่สู งู ตระหง่าน เปรยี บประหนึง่ เป็นปากทางเขา้ สู่ปา่ ใหญ่อัน มืดทะมึน พ่อท่องคาถาภาษาจีนโบราณขมบุ ขมิบในปากเปน็ เวลานาน เพือ่ สะกดวญิ ญาณร้าย และเพ่ือเบกิ ทางขอผขี ุนน้ำ๑ ผ่านลว่ งเขา้ ไป แมไ้ มไ่ ด้ยินทพี่ ่อท่อง แต่หลอ่ นกจ็ ำไดท้ ุกคำ เพราะพ่อสอนให้หลอ่ น หัดท่องคาถามาตัง้ แตห่ ล่อนเรมิ่ พูดได.้ ..ไม่เพยี งแตค่ าถาเบิกไพรเท่าน้ัน หล่อนยงั รูค้ าถาอีกมากมาย เพราะหล่อนต้องเตรียมตวั ใหพ้ รอ้ ม...

14/763 หลอ่ นเปน็ ลกู สาวคนเดียวของพอ่ ไมม่ พี ไี่ ม่มีน้อง แม่ตายหลังจาก คลอดหลอ่ นได้เพยี งไมก่ วี่ นั และพอ่ ก็ไม่ไดแ้ ตง่ งานใหม่ ดังน้นั ...หากพ่อ ตาย หลอ่ นกจ็ ะสบื ทอดเปน็ ซบิ เมย้ี นเมย่ี นคนต่อไป สายลมกระโชกมาอยา่ งรนุ แรงราวไพรไหวล่ัน ประหน่งึ ทวารแหง่ ป่า เปิดกวา้ งออกใหพ้ ่อลกู ชาวเยา้ ลว่ งผา่ นเขา้ ไป เดก็ หญงิ หลบั ตาป๋ี เกาะหลังเส้ือของพ่อเอาไว้จนแน่น แมไ้ ม่กลวั ภูต พรายในป่าโหง หากเสยี งแหลมเล็กทห่ี วดี หววิ อยรู่ อบกายชวนให้น่าอกส่นั ขวญั หายน้อยอยหู่ รือไร ดว้ ยเหตุนี้ หล่อนจึงไมก่ ลา้ ลืมตาขน้ึ มองสง่ิ ใด ด้วยรู้สึกวา่ มีดวงตามากมายหลายรอ้ ยค่อู ย่รู ายรอบและคอยจับจ้องอยู่ ทางเดนิ ทงั้ เลก็ และแคบลงกบั ทอดสงู ชันขนึ้ ไปเร่ือย พรอ้ มกับอากาศ ทเี่ ยน็ ลงทุกขณะ เดก็ หญงิ ไดย้ นิ เสยี งกรอบแกรบของคะน้งิ หรอื น้ำคา้ งแข็งทจี่ บั อยบู่ นยอดหญ้ายามทีห่ ล่อนยา่ งเหยยี บลงไป แจ้กกกกกก... เสียงนกราตรีทบ่ี ินโฉบศีรษะไป ทำเอาหลอ่ นถึงกบั สะดุง้ พอ่ ส่งเสียง หัวเราะขบขันมาจากเบ้อื งหนา้ ราวตลกทเี่ หน็ หลอ่ นตกใจ “ลมื ตาไดแ้ ลว้ เซียะ๒ เราล่วงผา่ นปา่ โหงมาไกลโข” พ่อบอกราวกบั มตี าขา้ งหลังสามารถมองเหน็ ได้วา่ หล่อนยงั คงหลบั ตา อยู่

15/763 “จะเปน็ ซิบเม้ยี นเม่ียน ทำกลัวอยา่ งนี้ไดอ้ ยา่ งไรกัน” พอ่ วา่ “ไม่มี อะไรนา่ กลวั สักนิด ป่าเขาเปน็ ของเยา้ ทุกคน วญิ ญาณปา่ ผไี พรกล็ ว้ นแต่ เป็นมติ รกบั เจ้า” “เยีย๓ไมเ่ ปน็ ก็ได้น่ี ซิบเม้ียนเมย่ี น” หลอ่ นเถยี งขา้ งๆ คูๆ หากพอ่ ยงั คงสง่ เสียงหัวเราะหึหอึ ยู่ภายในลำคอ ไม่ตอ่ ล้อตอ่ เถียงกับหล่อนเหมอื น อยา่ งเคย ทางเดินดินเล็กๆ ยงั คงทอดคดเคย้ี วไปภายใตเ้ งาจันทร์ และสงู ขึ้น ไปตามลาดเขา แมอ้ ย่ใู นความสลวั รางของราตรี หากเด็กทเี่ ตบิ โตมากับปา่ เขาอย่างหลอ่ นนั้นยอ่ มจำแนกแยกแยะตน้ ไมไ้ ด้เป็นอยา่ งดี เดก็ หญงิ จึง สังเกตวา่ พรรณไมโ้ ดยรอบข้างเรมิ่ เปลีย่ นแปลงไป... ทา่ มกลางแสงนวลสวา่ งของดวงศศิธรกลางฟา้ เด็กหญิงมองดูช่อ ดอกสขี าว สีแดงสดของคำขาวและคำแดง หรือที่เรียกกนั ว่ากหุ ลาบพนั ปี เพลดิ เพลนิ จนลมื เหนือ่ ย ดอกไมส้ องชนิดนี้จะขน้ึ อยู่ไดแ้ ต่เฉพาะบนภูสงู อากาศหนาวเยน็ เท่านั้น เมือ่ เหน็ คำขาวและคำแดง เด็กหญิงจึงบอกไดท้ นั ทีว่า บัดน้ี หล่อน และบิดาด้ันเดนิ มาจนเกอื บจะถึงจุดสูงสุดของยอดดอยแหง่ นแี้ ลว้ ... อีกเพียงไม่ก่ีอึดใจ หล่อนและพ่อกจ็ ะไปถงึ จุดหมาย ปลายทาง...เพียงแตไ่ ตห่ นา้ ผาตรงหนา้ ขึน้ ไปเทา่ น้นั หลอ่ นก็จะไดพ้ บ...

16/763 เมื่อมองจากระยะไกล หนา้ ผาที่ตง้ั ตระหงา่ นดุจดังเป็นปราการ ธรรมชาตดิ ูสูงและชนั เสียจนไม่น่าจะมผี ู้ใดปนี ขน้ึ ไปได้ หากเม่ือเดินใกล้ เข้ามาแลว้ เดก็ หญิงจึงเพง่ิ เห็นวา่ หน้าผานั้นมไิ ด้สงู ชนั อย่างทค่ี ดิ หนา้ ผาหนิ แมจ้ ะชันกว่าหนทางท่หี ล่อนเดินผา่ นมา หากมคี วามลาด เอยี งและโขดหนิ โผล่ออกมาพอให้มีทีจ่ บั และป่ายปีนขน้ึ ไป พอ่ ไต่นำหนา้ ขน้ึ ไปก่อน สว่ นหล่อนน้นั หลังจากขยบั ซา้ ยขยบั ขวาจน แน่ใจว่าเครอื่ งแตง่ กายนั้นทะมดั ทะแมงดพี อแล้ว หล่อนจึงไตต่ ามหลงั พ่อ ขนึ้ ไป “ระวงั กะนาแปะยอ้ งดว้ ย...” พอ่ รอ้ งบอกหล่อนมาจากข้างหนา้ เดก็ หญงิ สะด้งุ เฮอื กและรู้สึก หนาวเหนบ็ ขน้ึ มาทว่ั ทง้ั สรรพางคก์ าย... กะนาแปะย้อง...ไอเ้ ข้ยี วขาว... เด็กหญิงไม่เคยเห็นกะนาแปะยอ้ งตวั จริงมาก่อน กะนาแปะยอ้ งท่ี หล่อนเหน็ เปน็ เพียงซากทีป่ ู่ของหลอ่ นเก็บเอาไวท้ ี่บา้ น แตก่ ระนนั้ หลอ่ นก็ นกึ ภาพของมันไดเ้ ป็นอยา่ งดี... หลอ่ นอยากจะร้องกรดี ออกมาดว้ ยความขยะแขยง เมอื่ หลบั ตานึก ถงึ สตั วร์ ้ายท่ตี ัวไม่ใหญไ่ ปกวา่ หัวแมม่ ือของผ้ใู หญ่ หากเขยี้ วของมันคม วาว ดวงตาแดงก่ำ

17/763 หลอ่ นนกึ ร้ดู ีเชียวละว่า ยามทขี่ าทงั้ แปดของมันค่อยคืบคลานเข้ามา หาเหยื่ออยา่ งเงียบเชยี บ และฝงั คมเข้ยี วแหลมราวคมมดี พรอ้ มกับคายพษิ ออกมานนั้ นา่ หวาดกลัวมากเพยี งใด... พอ่ อาจจะเห็นตัวของมันแล้วก็เปน็ ได้ ถงึ ไดร้ อ้ งเตือนให้หล่อนระวัง แมจ้ ะทานำ้ มันเออื้ งหอมซ่ึงสามารถป้องกนั กะนาแปะยอ้ งไดก้ ็ตาม หากพ่อ วา่ ไมค่ วรประมาทเพราะคนื นเ้ี ป็นคืนฤดดู าว...คืนท่ีพวกมันจะมพี ลังอำนาจ อยา่ งเตม็ เปีย่ ม... “แต้๔...” เดก็ หญงิ ส่งเสยี งรอ้ งกรดี เมอ่ื มอื ของหลอ่ นคว้าเขา้ กับแทง่ อะไรบาง อย่างทแ่ี ลดูขาวโพลนทา่ มกลางแสงจนั ทร์ ดว้ ยแรกทเี ดียวนั้น หล่อนนึกวา่ มนั เปน็ แทง่ หินท่โี ผล่พ้นหลืบบนหนา้ ผาออกมา แทง่ เรยี วเลก็ ทห่ี ลอ่ นใชม้ ือยึดเอาไว้จนแนน่ นน้ั หลดุ ออกมาจากซอก หินหลน่ โครมลงไปยังพื้นเบ้อื งลา่ ง และเด็กหญิงเสียหลักถลาเกือบจะพลัด หลน่ ตามลงไป หากบดิ าของหล่อนหนั มาควา้ แขนของหลอ่ นเอาไว้ทนั “กรี๊ดดด...” หลอ่ นร้องดงั ล่นั เมื่อแลเหน็ ไดถ้ นดั ตาว่า สงิ่ ทหี่ ล่นจากหนา้ ผาลงไป น้นั เป็นโครงกระดกู ของใครคนหนึง่ ทมี่ ีรปู รา่ งใหญโ่ ต โครงกระดกู นั้นสวม เสื้อผา้ สีเขยี วเข้มแบบชุดทีค่ นเมืองชอบสวมเวลาเดินป่า

18/763 “ผี...” หลอ่ นทำท่าจะกรีดร้องตอ่ ไปอกี ผเู้ ปน็ บิดาจึงได้เอามอื ท่ีหยาบ กร้านดว้ ยกรำงานหนักมาปิดปากหลอ่ นเอาไว้ เพื่อไม่ใหส้ ง่ เสยี งดัง “ไม่ใชผ่ ี...เป็นอา้ ยผวิ เผือก” พอ่ แคน่ เสียงลอดไรฟันออกมาให้หล่อน ได้ยิน “อ้ายผิวเผือก...อ้ายคนโลภโมโทสนั ...มันไมใ่ ช่คนแรก และมใิ ช่คน สดุ ทา้ ย...เงยี บได้แลว้ เซียะ เจ้าจะร้องเรยี กหากะนาแปะยอ้ งหรืออย่างไร กัน” เด็กหญงิ หลับตาปี๋ ไม่กล้าเหลือบสายตาลงไปมองโครงกระดกู ของ อ้ายผวิ เผือกทีห่ ล่นลงไปกองอยกู่ ับพื้น หากต้ังใจไต่ตามพ่อขึน้ ไปทีละน้อย มเี สียงแกรกกรากอยู่ในซอกแตกของหิน และหล่อนคดิ ว่าแลเหน็ ประกายตาสแี ดงฉานราวสเี ลอื ด ของสตั วร์ า้ ยทล่ี กุ วาวจบั จ้องมองหลอ่ น ออกมาจากภายในนน้ั ... เดก็ หญิงรีบไตผ่ ่านซอกแตกของเพงิ ผาข้ึนไปอย่างรวดเร็ว เมอื่ พน้ หน้าผาสงู นนั้ ขึน้ มาได้ หลอ่ นก็คอ่ ยผอ่ นลมหายใจยาวนาน ร่างกายและ กล้ามเนอ้ื ทกุ สว่ นปวดรวดรา้ วดว้ ยความหวาดกลวั ผสมกับทต่ี อ้ งออกแรง ปนี หน้าผาขึน้ มา เมื่อเดก็ หญงิ เหนย่ี วตัวพน้ ขนึ้ มาจากแนวผา หล่อนก็เหน็ ผเู้ ป็นบดิ า หยุดยืนอยตู่ รงหน้า ท่าทางของพอ่ เปีย่ มไปด้วยความตืน่ ตะลึง สายตามอง ไปทางซากปรกั หักพงั ของศลิ าและก้อนแลงทซี่ ้อนสมุ กนั อยบู่ นทีร่ าบเหนือ หน้าผา...

19/763 เดก็ หญงิ รไู้ ดใ้ นทันที โดยท่ไี มต่ ้องรอให้บดิ าหันมาเลา่ ว่าที่แห่งนเี้ ป็น สถานท่ีใด... ...เวยี งแสนเพง็ ... นครในตำนานทีห่ ลอ่ นเคยได้ยนิ มาตัง้ แตเ่ ริ่มหัดพดู ...เมืองแห่ง ทองคำทล่ี ่มสลายไปนานนบั พันปี... ทุกคนในเผา่ ของหลอ่ นร้จู ักเวียงแสนเพง็ เปน็ อย่างดี หากนัน่ เป็น เพียงการร้จู ักจากตำนานและเร่อื งราวทเี่ ลา่ ขานสบื ตอ่ กันมา จะมีใครสกั ก่ี คนทมี่ โี อกาสได้มาเหน็ ซากเวียงของจริงอยตู่ รงหน้า เหมอื นอยา่ งกบั หล่อน... เด็กหญงิ จอ้ งมองเสาศิลาสองต้นท่ีสงู ตระหงา่ นท่ามกลางแสงสลัวราง ของดวงดาวนบั หมืน่ นับแสนทร่ี ะยิบระยับอย่บู นฟ้าเหนอื ศีรษะ ตรงดา้ น หน้าของซากเวียง ระหวา่ งซากเสาทง้ั สองมีแผน่ ศิลาโคง้ เชอ่ื มยอดเสาเข้า ดว้ ยกัน ประหนึง่ ดังซุ้มประตูเมอื ง มรี ปู สลกั แลเหน็ เปน็ เงาตะคุ่มอยทู่ ี่ เหนอื ซ้มุ ประตูนั้น... เงาของรปู สลักดูคลา้ ยกับนกตวั โต มีจะงอยปากขนาดใหญ่งุม้ ยาว ...ทดี่ วงตาของวหิ คศลิ าดูเหมอื นจะมีอญั มณบี างอย่างฝงั อยู่ และกำลัง เปล่งประกายสุกสว่างล้อแสงจันทรา... เย้าทุกคนในหมู่บ้าน มคี วามฝันว่าสักวันหนง่ึ จะไดม้ ีโอกาสมาเห็น เวียงโบราณทพี่ วกเขาถูกกัลปนาจากขนุ คำตี้ พอ่ เมืององคส์ ุดท้ายของเวยี ง

20/763 ให้ตง้ั หมบู่ า้ นอยทู่ ี่เชิงดอย เป็นข้าวดั ข้าเวียง คอยเฝ้าอารกั ขา ค้มุ กนั ปกป้องเวียงแสนเพง็ เอาไวจ้ ากความโลภของผู้คน... แมเ้ วยี งจะล่มสลายไปนานแสนนานแลว้ หากหนา้ ที่ซึง่ ได้รับ มอบหมายน้นั ดเู หมือนจะไม่มวี นั จบสน้ิ ...หนา้ ท่ีซง่ึ ได้รบั การสืบทอดจาก รนุ่ ทวด ทอดสู่รุ่นลกู หลานเหลน และรนุ่ ตอ่ ๆ ไป ดว้ ยเหตนุ ้ี หม่บู า้ นเยา้ ของพวกหล่อนจงึ ตัง้ มน่ั อยใู่ นท่แี หง่ นีต้ ลอดมา ไมเ่ คยอพยพยา้ ยหลกั แหล่งไปเหมือนกับเย้าเผา่ อ่นื ด้วยถูกกลั ปนาให้ คอยเฝา้ อารักขาช่ัวลกู ชัว่ หลาน ชั่วชีวติ หนา้ ที่น้ีจะต้องกระทำเรือ่ ยไป...จน กว่า... ความคดิ ของเด็กหญิงชะงักลงในทนั ใด เม่ือเกิดมีแสงสเี งินสุกสว่าง เหมือนกบั แสงดาวตก วาบข้ึนทขี่ อบฟ้าดา้ นหน่งึ ... แสงนัน้ เหมอื นกับดาวตก หากต่างกัน เพราะแสงสเี งินยวงสกุ สกาว นั้นมไิ ดพ้ งุ่ วาบลงมาอยา่ งรวดเรว็ หากทว่าคอ่ ยลอยเรย่ี ต่ำ ลดระดับลงมา ช้าๆ พร้อมกับเสยี งลมหายใจฟดื ฟาดของมา้ ฝงู ใหญด่ ังแหวกความเงียบ สงดั ของยามราตรกี าลมา “หมอบลง...” เสียงพ่อหนั มาบอกกับหล่อนอยา่ งเร่งรอ้ น พรอ้ มกนั น้นั ก็ดงึ มือให้หล่อนหมอบลงไปในพุม่ ไม้เตยี้ ๆ ท่ีอย่ขู ้างทาง “เซียะ...หมอบลง แลว้ อย่าส่งเสียงอะไร...ไมว่ ่าอะไรจะเกดิ ขน้ึ อยา่ สง่ เสยี งเด็ดขาด อย่าออกมาจากพุม่ ไม.้ ..”

21/763 เดก็ หญงิ นอนราบลงกบั พ้ืนหญา้ อ่อนนุ่ม ดว้ ยความตกใจกบั ทา่ ทาง ตน่ื ตระหนกของบิดามากกวา่ อยา่ งอน่ื ใด เม่ือหมอบลงกบั พน้ื หญา้ สายตาทท่ี อดมองไปในระดับเดยี วกบั ยอด หญา้ เด็กหญิงจึงเพ่งิ เหน็ วา่ หลอ่ นกำลงั อยทู่ า่ มกลางดงกลว้ ยไม้ดินท่ีชชู อ่ ระบดั กลบี สีม่วงออ่ น และส่งกล่นิ หอมหวานอยา่ งท่ีหลอ่ นไม่เคยได้สมั ผัส มากอ่ น.. “เอ้ืองแสนผา...” พ่อร้องด้วยความตระหนกอีกคร้ัง เมอ่ื เหน็ ดอก เออ้ื งนั้นถนัดตา “กล้นั ใจเอาไว้เซียะ อยา่ สดู กลิ่นเขา้ ไปเดด็ ขาด...” เสียงพอ่ ร้องสงั่ มา พร้อมกบั ปลดผา้ ท่ีโพกศีรษะของตนเองลงมาคลุมหนา้ ตา จมูกและปากเอา ไว้ ก่อนทจ่ี ะหันมาชว่ ยหลอ่ นปลดเอาผา้ สเี ข้มที่พอ่ ชบุ นำ้ ว่านมาแล้วต้ังแต่ กลางวนั จากรอบศรี ษะ เอามาใช้ปิดปากปดิ จมูก เพอ่ื ปอ้ งกนั ไม่ให้เด็ก หญิงสูดกลน่ิ ของเอื้องพษิ เขา้ ไป... เดก็ หญงิ เหลอื บมองไปทางทิศทีพ่ ่อของหล่อนกำลงั มงุ่ หนา้ เดิน ไป...บนกง่ึ กลางของกองศลิ า และซากปรกั หักพงั นั่นเองท่ีอะไรบางอยา่ ง กะพริบวิบวาวอยทู่ นี่ ่นั เดก็ หญิงต้องกะพริบตาถี่ๆ เม่ือประกายสที องของกลีบดอกไมท้ ่ี กึ่งกลางซากวหิ ารร้าง จับกับแสงจันทร์งามกระจา่ ง...

22/763 ดอกเอื้องสที องชูกา้ นระเหิดระหงราวกบั เจ้าหญิงสงู ศกั ดิ์ ทห่ี ยดั ยนื อยา่ งสง่างาม ท่ามกลางซากเมืองร้าง... “อ้วั แสนเพง็ ...” เดก็ หญงิ ครางอยา่ งลืมตวั ... อั้วแสนเพ็ง...ดอกเออ้ื งทองคำทที่ กุ คนในหมูบ่ า้ นเล่าขานถงึ ...ดอก เอื้องในตำนานเย้าของพวกหล่อน...ดอกเอ้ืองทไี่ ม่เคยมีใครเชื่อวา่ มีอยู่ จรงิ ...ดอกเอื้องที่จะบานเพียงครั้งเดยี วและคนื เดยี วเทา่ น้นั ในคนื วันเพ็ญ ของฤดดู าว... บดั น้ี อั้วแสนเพง็ กำลงั คลี่กลีบเบ่งบานต้อนรบั แสงจันทรอ์ ยตู่ รงหนา้ ของหล่อน... ลำแสงสเี งินยวงจากบนฟากฟ้าคอ่ ยลดต่ำลงมาเรื่อยๆ ทิศทางของ ลำแสงนน้ั ม่งุ ลงมาสู่ดอกกลว้ ยไม้ กลบี สที องสกุ สกาวท่ีดรู าวกบั เป็น ดอกไมป้ ระดษิ ฐ์มากกวา่ เปน็ ดอกไมซ้ ่งึ ธรรมชาตเิ ป็นผ้สู รรค์สรา้ ง... ยงิ่ ลำแสงสเี งนิ นน้ั ลดตำ่ ลงเทา่ ใด เดก็ หญิงกย็ ง่ิ ต่นื ตะลงึ เม่ือเห็น ถนัดตาว่าลำแสงสีเงินนั้นท่ีจรงิ แลว้ เป็นประกายจากดมุ ลอ้ ของรถมา้ คนั หนึ่ง... รถมา้ ทเ่ี คลื่อนลงมาจากฟากฟา้ เบื้องบน...รถม้าท่มี ารบั อวั้ แสนเพ็ง กลับเมอื งแถน...

23/763 “แต.้ ..” เดก็ หญิงชะเงอ้ มองภาพที่กำลังเกิดขนึ้ ตรงเบอื้ งหน้าด้วย ความอัศจรรยใ์ จเป็นทสี่ ุด ด้วยไมค่ ดิ ว่าในชวั่ ชวี ติ นห้ี ล่อนจะได้เห็นอะไร แบบนี้อีกแลว้ สายลมทพี่ ัดรำเพยมาอยา่ งแผ่วเบา เริ่มเปลีย่ นเป็นกระโชกแรงขน้ึ และแรงขึ้นทกุ ขณะ พรอ้ มกบั หอบเอาเมฆฝนมาดว้ ย พ่อของหลอ่ นร้องเสียงดงั ด้วยความตกใจ เพราะไม่คาดคิดมาก่อน วา่ เม็ดฝนจะกระหน่ำลงมา ท่ามกลางความกระจา่ งของยามราตร.ี .. รถมา้ คันนั้นหยุดชะงักลงในทนั ใดทเี่ สียงร้องของพอ่ ดังกอ้ งขนึ้ มา ท่ามกลางความเงียบสงดั ของราตรกี าล...จากนั้นก็เปลี่ยนทิศทางทล่ี อยลง ต่ำ เลย้ี วกลบั หลงั สูงข้นึ มุ่งหนา้ กลบั ไปทางดวงจนั ทร์ พรอ้ มทั้งเร่งความ เร็วพุ่งจากไป... เดก็ หญงิ แลเห็นช่อดอกของอ้วั แสนเพง็ สา่ ยไหวและสัน่ สะท้านอยา่ ง รนุ แรง ราวกบั ดอกไมช้ ่อน้ันผดิ หวงั และเจบ็ ปวด มเี สยี งร่ำไห้แผว่ เบาด้วย ความรวดรา้ วอาดูรของอิสตรสี อดแทรกประสานมากับสายฝนทแี่ รงหนัก เม็ดข้ึนทุกขณะ... หยาดน้ำฝนไหลผ่านหน้าและดวงตาของเดก็ หญิง ผสมปนกนั กับ หยาดเหงอ่ื และนำ้ มันเออ้ื งหอม ทพ่ี อ่ สงั่ ให้หลอ่ นชโลมทาท่วั ตัวจนร้สู กึ แสบตา

24/763 เด็กหญงิ จึงยกมือขา้ งหน่งึ ขึน้ ป้ายดวงตา เพ่อื ปาดเอาหยาดน้ำฝน ออกจากดวงตาคูส่ วยราวนิลน้ำเอกของหล่อน... และทนั ทีท่ีหล่อนลดมอื ลงนนั่ เอง...เดก็ หญิงกรดี ร้องออกมาจนดงั ล่ัน ดว้ ยความตกใจจนถึงที่สุด เมือ่ เหน็ อะไรบางอย่างที่ขาวกระจา่ งดจุ ปุยนนุ่ กำลังใชข้ าทง้ั แปดของมนั เคลือ่ นไหวอยบู่ นแขนของหล่อน... เห็นเพยี งแคแ่ วบเดียวก็เพียงพอที่เด็กหญงิ จะรแู้ ล้ววา่ มันคอื อะไร...ดังนั้น หลอ่ นจงึ กรดี ร้องเรียกพอ่ ดว้ ยเสยี งทงั้ หมดทม่ี .ี .. “แต้ แต้ แต.้ ..ช่วยเยยี ดว้ ย ชว่ ย-เยยี -ดว้ ย...กะนาแปะยอ้ ง...กะนา แปะย้อง...” “เซียะ...” พอ่ รีบวง่ิ กลบั มายังหลอ่ น หากไมท่ นั จะวงิ่ มาถงึ ดงดอกไม้ ทห่ี ล่อนซ่อนตวั อยู่ พอ่ ก็สง่ เสยี งรอ้ งโหยหวนดว้ ยความเจบ็ ปวดทรมาน ก่อนทีจ่ ะคอ่ ยทรดุ กายฟบุ ลงไปกับพ้ืน... กะนาแปะย้อง...ต้องเปน็ อ้ายเพชฌฆาตเข้ยี วขาวแน่ท่เี ลน่ งานพอ่ ของ หลอ่ น... สายฝนน่นั เองที่ชำระลา้ งเอาน้ำมนั เออ้ื งหอม ที่ใชป้ อ้ งกนั กะนา-แปะ ยอ้ งออกไปจากกายของพอ่ ... เดก็ หญิงเห็นร่างของบิดาสนั่ กระตุกอยา่ งรนุ แรง ดวงตาที่เหลอื กลาน ดว้ ยความเจ็บปวดหนั มาจบั จ้องหลอ่ นด้วยความเปน็ ห่วง

25/763 มุมปากของอาลี ซบิ เมีย้ นเมย่ี น...หมอผแี หง่ หมบู่ ้านไหวระรกิ ราว ตอ้ งการสงั่ ความกบั ลูกสาวคนเดียว หากไมส่ ามารถทำได้ดังใจนกึ เมอ่ื พษิ รา้ ยของกะนาแปะย้อง เพชฌฆาตเข้ยี วขาวพรากเอาลมหายใจสดุ ทา้ ยของ เขาไปพร้อมกบั หยาดฝนเม็ดสุดทา้ ยเสียแลว้ ... “แต้...แต้...แต้...” เด็กหญิงกรีดรอ้ งดว้ ยความตกใจถงึ ทสี่ ดุ หลอ่ นลกุ พรวดพราดจาก ที่ซึง่ ซอ่ นตัว เพ่ือจะวง่ิ ตรงไปยังร่างไรว้ ญิ ญาณของผ้เู ปน็ บิดา... หล่อนสลดั กะนาแปะยอ้ งตวั ท่เี กาะแขนกระเดน็ หวือไปในดงดอก เอือ้ ง แลว้ คว้าหวั ว่านที่พ่อให้พกเอาไวก้ ับตวั ข้นึ มาเค้ียวกินอยา่ งท่ีพ่อส่ังให้ ทำในยามคับขนั ... หยาดน้ำจากผ้าโพกศรี ษะไหลยอ้ ยลงมาเข้าดวงตาของเดก็ หญิง ผสมกบั หยาดนำ้ จากดวงตาค่งู ามทไ่ี หลรนิ ลงมา เดก็ หญิงยกมอื อกี ขา้ ง หนงึ่ ขึ้นปาดเอาหยาดนำ้ ทงิ้ ไป ขณะทขี่ าทง้ั สองก้าวไปหาบิดาดว้ ยความ รอ้ นใจ... หากทนั ทที ่ีหลงั มือข้างนัน้ สัมผสั เขา้ กับใบหนา้ ของตนนัน่ เอง เดก็ หญิงกร็ ู้สกึ ไดถ้ ึงคมเขีย้ วอนั คมปลาบราวกับคมมดี ของกะนาแปะย้องอีก สองตัว ท่ียังคงเกาะอยูบ่ นมอื ของหลอ่ นอย่างเงยี บเชยี บ...

26/763 คมเข้ียวขาวและโงง้ ยาวของกะนาแปะยอ้ งท้ังสองนนั้ ฝงั ลึกเขา้ ไปใน ดวงตาขา้ งซา้ ยและขวาของเดก็ หญิงทก่ี รีดรอ้ งโหยหวนด้วยความเจบ็ ปวด จนก้องดอย เด็กหญงิ กรีดรอ้ งซำ้ แลว้ ซ้ำเล่าดว้ ยความหวาดกลัว ผสานกบั ความ ทรมานอยา่ งแสนสาหัส เมอ่ื หยาดพิษแต่ละหยาดจากเขยี้ วอันแหลมคม ของเพชฌฆาตแปดขา คอ่ ยซาบซมึ เขา้ ไปในร่างกายของหล่อน... เด็กหญงิ ไมร่ ้เู ลยวา่ เสียงกรดี รอ้ งของหลอ่ นน้นั จะไดย้ ินไปถึง ที่ไหน...ไมร่ เู้ ลยวา่ อกี นานสกั เพียงใด ลมหายใจของหลอ่ นจึงจะส้นิ สุดลง และหล่อนจะพ้นไปจากความทกุ ข์ทรมานนีส้ กั ท.ี .. หลอ่ นรแู้ ตเ่ พยี งว่า ดวงตาท้ังสองข้างนั้นปวดรวดร้าว และลำแสงสี นวลกระจา่ งรอบกายของหล่อน หม่นมวั ลงอยา่ งรวดเร็วจนมองไม่เหน็ ส่ิง ใดอกี ทงิ้ เอาไว้เพียงความมืดมนอนธการ ท่ีดเู หมอื นจะไมม่ ที ส่ี ้นิ สดุ ... เดก็ หญิงพยายามยกมือขนึ้ ไขว่คว้าลำแสงสดุ ท้ายทว่ี าบผา่ นเขา้ มาใน คลองจกั ษุ กอ่ นทสี่ ติสัมปชัญญะสุดท้าย และแสงสว่างทงั้ มวลจะดับวูบลง ไป... ๑ หมายถึง บริเวณปา่ ทเี่ ป็นตน้ กำเนดิ ของแม่นำ้ ๒ เซียะ คอื คำเรียกลกู สาวของชาวเย้า ๓ เยยี เป็นคำเรียกแทนตนเองของชาวเย้า คล้ายกับสรรพนามแทนตนว่า หนู ผม หรอื ฉัน ๔ แต้ คำเรยี กพ่อของชาวเย้า

๒ ไอแซค ไดนเี สน เริม่ เรื่องเล่าของหล่อนในนวนิยายเรอื่ ง ‘พราก จากแสงตะวนั ’ หรอื Out Of Africa ด้วยประโยคว่า ‘ฉนั มไี ร่อยใู่ น อาฟริกา ตรงเชงิ เทือกเขาง็อง เสน้ ศูนยส์ ูตรพาดผ่านแผ่นดนิ สูงเหลา่ นี้ หนึ่งรอ้ ยไมลไ์ ปทางทศิ เหนือ และตวั ไร่นั้นอย่ใู นระดบั สงู กว่าหกพนั ฟุต’๑ หล่อนชอบ Out of Africa มาก ทั้งอา่ นหนังสอื ทั้งดภู าพยนตรท์ ี่ บนั ทึกเอาไว้ในรปู แบบของวดิ ีโอเทปมาไมร่ ู้กี่รอบ จนแทบจะจำได้หมดทุก ประโยคแล้ว และหากดรสาจะเรมิ่ เร่อื งเลา่ ของตวั หล่อนเองบ้าง หล่อนกค็ ง จะเริม่ ตน้ ด้วยประโยคท่ีคลา้ ยคลงึ กนั วา่ ‘ฉนั มีไรอ่ ยทู่ ่ผี าชา้ งรอ้ ง จงั หวัด นา่ น ตรงเชงิ เทือกเขาผปี ันนำ้ หลายพันกโิ ลเมตรขึ้นไปทางเหนอื จากเส้น ศูนยส์ ตู ร และตัวไรน่ ้ันอยใู่ นระดับสูงกว่าหนง่ึ พนั เมตร’ ตวั หนังสอื และภาพยนตรถ์ า่ ยทอดธรรมชาติทสี่ งบงามของอาฟ-รกิ า และทุ่งหญา้ ปา่ เขา ผา่ นผูห้ ญงิ คนหน่งึ ทเี่ ดนิ ทางมาไกลแสนไกล ตัวเอกในเรอ่ื งของไอแซค ไดนีเสน เป็นชาวเดนมารก์ และโชคชะตา พัดพาใหค้ าเรนไดม้ ามีไร่กาแฟอยู่ในอาฟริกา สว่ นหลอ่ นเปน็ ชาวกรงุ เทพฯ และสายลมแห่งโชคชะตาพาให้หล่อนมาดแู ลไร่สมุนไพรของแมท่ จี่ งั หวัด

28/763 นา่ น คาเรนมเี พื่อนบา้ นเป็นคนผวิ ดำ หนา้ หกั ฟันเหยิน ชาวมาไซ-ชนเผา่ พ้ืนเมืองของเคนยา ส่วนหล่อนกม็ ีเพื่อนชาวพื้นเมอื งเช่นกนั หากแต่เพอื่ น ของหล่อนเป็นชาวเขาเผ่าเย้า แมว้ า่ เร่อื งราวในชวี ิตของหลอ่ นกับคาเรน จะแตกต่างกนั มากมาย หากสง่ิ หน่ึงทดี่ รสาคิดว่าหลอ่ นกับคาเรนมคี วามร้สู ึกท่ีไม่แตกตา่ งกนั น่นั ก็ คอื ความรักซาบซ้งึ ในธรรมชาติและปา่ เขา คาเรนอยทู่ อี่ าฟริกามาต้ังแตธ่ รรมชาติยังบริสทุ ธิส์ ะอาด ป่าไม้และ สัตวป์ ่ายงั มีอยมู่ ากมาย... มากมายเสียจนผู้คนไมเ่ คยเหน็ คณุ ค่า สว่ น หลอ่ นนัน้ ร้จู กั ผาชา้ งร้องมาตง้ั แตค่ รั้งท่ยี ังเป็นเดก็ หญงิ ตวั นอ้ ย และไดเ้ หน็ การเปล่ยี นแปลงท่ีเกิดขึ้นกบั สภาพแวดล้อมท่ีน่มี าโดยตลอด แม่ของหลอ่ นเปน็ ชาวน่านโดยกำเนิด แม่สืบสายเลอื ดมาจากเจ้า หลวงผูค้ รองนครน่านองค์สดุ ท้าย แมม้ ิใช่ลกู หลานสายตรง หากแม่กม็ ี เลอื ดของคนนา่ นเต็มตัว รักและหวงแหนผนื ดนิ และสายน้ำ ราวกับผเู้ ป็น แม่รกั และห่วงใยลูกในอทุ ร พอ่ ของหลอ่ นเปน็ คนกรงุ เทพฯ และพ่อกเ็ ปน็ คนกรุงเทพฯ โดย สายเลอื ดเชน่ กนั พ่อเตบิ โตมากับป่าคอนกรตี ในขณะทแ่ี ม่เตบิ โตมากับ ขนุ เขาและสายน้ำ อาจจะเป็นด้วยสาเหตุนี้กไ็ ด้ พอ่ จึงไมเ่ ข้าใจแม่เอาเสยี เลยว่า เหตุใด แมจ่ งึ ต้องท่มุ เทชวี ติ และกายใจ เพื่อทำงานรณรงคอ์ นุรักษป์ ่าดงพงไพรถงึ เพยี งน้ี พ่อมีธุรกจิ ร้อยล้านใหต้ ้องดแู ล ในขณะท่ีแม่มปี า่ เขาลำเนาไพรให้

29/763 คอยรกั ษา พอ่ กับแมจ่ ึงแยกทางกนั เดนิ ในทสี่ ุด เม่ือดรสาอายุห้าขวบ และ ปารมีนอ้ งสาวของหล่อนอายุไดเ้ พยี งสามปี แมก่ ลบั ไปอยทู่ ีน่ า่ นและเอาหล่อนไปดว้ ย ส่วนนอ้ งอยกู่ บั พ่อ การเลกิ รากันของพอ่ และแมเ่ ป็นไปด้วยความเข้าใจกนั พ่อและแมจ่ ึง ยงั เป็นเพ่ือนทด่ี ตี ่อกนั เสมอมา แม้แมจ่ ะหอบเอาหลอ่ นไปอยดู่ ้วยที่น่าน และปารมจี ะอย่กู บั พอ่ ทก่ี รุงเทพฯ แตห่ ลอ่ นกับน้องก็ยงั ได้พบกันบอ่ ยๆ พอ่ มักจะรบั หล่อนไปอยู่ด้วยทกี่ รงุ เทพฯ ตอนปิดเทอมใหญ่ และส่ง ให้นอ้ งขึ้นมาอยกู่ ับหลอ่ นและแม่ตอนปิดเทอมเล็ก ดรสาและปารมจี งึ ไม่ รูส้ ึกขาดความรักเหมือนกับเดก็ บ้านอื่นท่ีพอ่ แม่แยกทางกัน กลับไปอยนู่ ่านได้ไม่นาน แมก่ พ็ าหลอ่ นอพยพไปอยทู่ ผ่ี าช้างร้องซง่ึ เป็นหมบู่ ้านเย้าขนาดเลก็ อย่บู นดอยสงู ทเ่ี ป็นส่วนหน่ึงของเทือกเขาผีปนั น้ำ ตอนที่แมไ่ ปถึงนั้น คนในหมูบ่ ้านยังมีไรฝ่ นิ่ กันอยเู่ ลย แมใ่ ช้เวลา นานพอดู กว่าคนท่นี นั่ จะยอมรับใหแ้ ม่เปน็ สว่ นหน่งึ ของหม่บู ้าน หลงั จาก นนั้ แม่เริม่ ลงมอื ชักชวนให้ชาวเย้าในหมู่บ้านเลิกปลกู ฝิ่น หันมาทำสวน สมนุ ไพรและไมเ้ มืองหนาวตามโครงการพระราชดำรแิ ทน ในเวลาเดียวกัน แม่ก็เรมิ่ รณรงค์ให้คนท่ีน่ันมคี วามเขา้ ใจเรือ่ งของปา่ และสิง่ แวดลอ้ มไป ดว้ ย ดรสาไม่ชอบกรงุ เทพฯ เพราะรู้สกึ ว่าเป็นเมืองที่ว่นุ วายสบั สน ใน ขณะทปี่ ารมีไมช่ อบผาชา้ งร้อง น้องบอกกับหลอ่ นวา่ นา่ นเป็นเมืองท่ีเงยี บ

30/763 เกินไป แมค้ วามนิยมชมชอบของหลอ่ นกับน้อง จะแตกต่างกนั อยา่ งสน้ิ เชงิ แต่กระน้ันหลอ่ นกับน้องก็ยงั รักใคร่กันดี เมือ่ จบชัน้ มธั ยมปลาย แม่สง่ ใหห้ ลอ่ นไปเรียนตอ่ ท่ีประเทศอังกฤษ ดรสาเลือกเรียนสาขาวิชานเิ วศวทิ ยา ท้ังๆ ท่ีไมร่ ู้ว่ากลับเมอื งไทยมาแลว้ จะ มีงานทำหรือไม่ เพราะเป็นวิชาทไ่ี มม่ ีคนนิยมเรยี นกัน พ่อออกความเห็นว่า เรียนอยา่ งนี้ หากไมไ่ ปเป็นครูก็ตอ้ งไปทำงาน อยใู่ นกรมปา่ ไม้ ไมเ่ หมือนกับวิชาบริหารการเงนิ ทป่ี ารมีเลือกเรยี น น้อง ของหล่อนมีงานรออยูแ่ ลว้ ตัง้ แต่ยังเรยี นไมจ่ บ แมเ่ ริ่มปว่ ยกระเสาะกระแสะตอนทดี่ รสาเรียนปสี ุดทา้ ย และเสียชีวติ ไปหลังจากทหี่ ล่อนเรยี นจบ และรับปริญญาไดเ้ พยี งไม่ก่เี ดอื น จัดการงานศพของแมเ่ รียบรอ้ ย ดรสากบ็ อกกบั พอ่ วา่ หลอ่ นจะกลับ ไปดูแลไรส่ มนุ ไพรเล็กๆ มรดกชิน้ เดียวท่ีแม่ทง้ิ เอาไว้ให้หลอ่ นที่ผาชา้ ง ร้อง...แมว้ า่ ทง้ั พ่อและน้องจะพยายามพดู เพื่อให้หล่อนอยกู่ รุงเทพฯ และ ทำงานกบั พอ่ หากไมป่ ระสบผลสำเร็จ ไม่มใี ครจะเปลย่ี นความตง้ั ใจของ หล่อนได้ “พบี่ ีจะไปอยู่ยงั ไงคนเดียว...” ปารมที ดั ทานอย่างเตม็ ท่ี “พี่บีจะไป ตา้ นทานอะไรกับพวกอิทธพิ ล พวกตัดไม้ พวกสวนส้มอยา่ งนน้ั อยกู่ รงุ เท พฯ กบั เบิรด์ กับพอ่ เถอะ” “แมย่ ังอยู่ได้ แล้วทำไมพ่จี ะอยไู่ มไ่ ด้” หลอ่ นบอกน้องอยา่ งเดด็ เด่ียว

31/763 “อยา่ ไปเลยนะพ่ีบี นะ...นะ” ปารมอี อ้ นวอน “ชา่ งมัน” หลอ่ นจำไดว้ า่ วันน้ัน น้ำเสยี งของพอ่ เกรี้ยวกราด บอกใหร้ ู้ วา่ กำลังอารมณเ์ สียอยา่ งมาก “ปล่อยมันไป ยายบีมนั ลกู แม่ ไมใ่ ชล่ ูกพ่อ อยากไปตกระกำลำบากทบี่ า้ นนอกโน่นก็ปล่อยมนั ไป เบริ ด์ อยา่ เสียเวลา เกลย้ี กลอ่ มเลยลกู อีกหน่อยอยูไ่ มไ่ หวก็ซมซานกลบั มาเองละ่ ” “หนูลาละ่ ค่ะพ่อ” หลอ่ นพดู กบั พ่อสั้นๆ เพียงเท่านน้ั ก่อนจะหนั ไป บอกกับนอ้ งว่า “พไี่ ปละเบิร์ด มีเวลาวา่ งข้ึนไปเท่ยี วไรข่ องแม่ ไปดสู ่งิ ที่แม่ ทำใหก้ บั ผ้คู นทนี่ นั่ บา้ งนะ แม่จะไดด้ ีใจ แล้วเบริ ด์ เองกจ็ ะไดภ้ าคภมู ใิ จที่ เกิดมาเปน็ ลูกของแม”่ แล้วหลอ่ นกเ็ ดนิ จากคฤหาสน์ของพอ่ มา โดยไมม่ ีความอาลัยอาวรณ์ แตอ่ ยา่ งใด ดรสาตั้งใจเอาไวอ้ ยา่ งแน่วแน่ว่า หากไม่มคี วามจำเป็นอย่าง มากมายแล้วละก็ หลอ่ นก็คงจะไมล่ งมากรุงเทพฯ อีก งานทแี่ ม่ทำดูเหมอื นง่าย แตด่ รสารดู้ เี ลยเชียวละวา่ งานของแม่ไม่ ง่ายอย่างทใี่ ครๆ คดิ เพราะการจะเปล่ยี นความคิดและทัศนคตขิ องคนนั้น เปน็ เรอ่ื งใหญเ่ หมอื นกบั การเขน็ ครกขน้ึ ภเู ขา คนเมอื งมักดถู ูกว่าชาวเขาน้ันโง่เขลาเบาปญั ญากว่าตน จึงพยายาม จะนำเอาเทคโนโลยีกบั ความรทู้ ี่คนเมืองมี เข้ามาให้ชาวเขาไดเ้ รียนรู้และถือ ปฏบิ ัตติ าม โดยหลงลืมความจรงิ วา่ ชาวเขาน้ันอยขู่ องเขามานานนมอย่างมี ความสุข มวี ถิ ีชีวิตและจารีตของตนมานานนักหนา แถมวิถีชีวิตของพวก เขาเหล่านัน้ ยังสอดผสานกลมกลนื ไปกับธรรมชาตริ อบดา้ นอยา่ งลงตวั เกนิ

32/763 กวา่ ที่พวกคนเมอื งจะเคยไดร้ ู้ ดงั น้ัน หลอ่ นจึงตั้งใจกลับมา...กลับมาเพือ่ สานงานของแมต่ ่อ ไม่วา่ มนั จะหนกั สำหรบั ผู้หญงิ ตวั เลก็ ๆ อยา่ งหลอ่ น มากมายสักเพียงใด ถ้าจะมใี ครสกั คนที่จะเดือดรอ้ นกับการตัดสนิ ใจของหล่อนท่ีสุด คนคนน้ันเห็นจะเป็นชัชชยั หลอ่ นพบกบั ชชั ชยั ทีล่ อนดอน และดรสาก็ร้วู า่ ฝ่ายน้นั หลงรกั หล่อน ตงั้ แตแ่ รกทไ่ี ด้พบ หากสำหรบั ตัวของหล่อนเองแล้ว ดรสาบอกไม่ถูกวา่ ความรสู้ กึ ทหี่ ล่อนมีต่อชายหนุ่มรูปร่างสูงสนั ทัด ใบหน้าคมสนั ท่วงทา่ ร่าเริงแจ่มใสคนน้นั เป็นความรกั หรือไม.่ ..อาจจะเพราะเปน็ ความใกลช้ ิด หรือความทคี่ ยุ กันถกู คอมากกว่า ทท่ี ำใหด้ รสามคี วามรู้สกึ ดกี ับเขา กระนั้น ดรสารู้ดวี ่าระหว่างเขากบั หลอ่ นยงั มีอะไรท่ีแตกตา่ งกนั อยอู่ กี มาก และนับวันความแตกต่างนนั้ กท็ ำให้สายสัมพนั ธข์ องหลอ่ นและเขา เริ่มมีชอ่ งวา่ งมากข้นึ ทกุ ขณะ ชัชชยั เปน็ ลกู ชายคนเดียวของนกั ธุรกจิ ส่งออกรายใหญข่ องประเทศ เมอ่ื แรกทไี่ ด้รวู้ ่าหลอ่ นเป็นลกู สาวของใคร พ่อแม่ของชัชชยั จงึ ดีใจเปน็ นักหนา แตห่ ลังจากสบื รู้ว่าครอบครวั ของหล่อนเปน็ เชน่ ไร คณุ ราณกี ็เร่ิมจะ ไม่ปลื้มหล่อนเหมือนเมอ่ื แรกเสียแล้ว

33/763 แมข่ องชัชชยั อยากใหเ้ ขาเปล่ยี นใจหันมาคบกับปารมีมากกวา่ เพราะ รู้มาวา่ มรดกท้ังหมดของพ่อ จะตกเปน็ ของปารมีในอนาคต ในขณะที่ หล่อนอาจจะไมไ่ ด้มีสว่ นอะไรในมรดกอนั มหาศาลนนั้ เลย ในเชา้ วันท่ดี รสาบอกเล่าถึงการตัดสนิ ใจของหลอ่ นใหเ้ ขาไดร้ ้ชู ัชชัย ถามดว้ ยคำถามเดยี วกนั กับปารมวี ่า “บจี ะไปอยทู่ ่ีนนั่ ไดอ้ ยา่ งไรคนเดียว” “จะเปน็ อะไรไปเล่าคะชัช” หลอ่ นทำหัวเราะเสียงใส “บีอยทู่ ่ผี าช้าง ร้องมาตัง้ แต่เดก็ ” “บีอยไู่ ด้อย่างไรกัน ที่นั่นไม่มอี ะไรเลยนะ ท้งั ไฟฟ้า ทั้งโทรศัพท์ แม้ แตม่ อื ถอื คณุ กว็ า่ ไมม่ ีสัญญาณไมใ่ ช่หรอื แล้วเราจะตดิ ต่อกันไดอ้ ย่างไร ไมม่ ีอะไรเลยสักอยา่ งเดียว...” ชชั ชยั ขมวดคิว้ เม่ือหลับตานกึ ไปถงึ หมู่บ้านเลก็ ๆ กลางเทือกเขาผี ปนั นำ้ ทด่ี รสาเคยเล่าใหฟ้ งั บอ่ ยๆ แมไ้ ม่เคยไปทนี่ น่ั แต่เขากห็ ลับตาวาด ภาพหม่บู ้านในชนบททห่ี ่างไกลได้เป็นอยา่ งดี “มสี ิคะ ชชั ” หล่อนเถียง “มเี ยอะแยะไปหมดเลย ลำธาร ภูเขา ป่าไม้ สตั ว์ป่า คนภเู ขา รบั รองว่าชัชจะไมเ่ บือ่ เลยละ แมไ้ มม่ ีไฟ แต่ที่ไร่ ผาสุกของเรากม็ เี คร่ืองปั่นไฟใชส้ ะดวกสบาย เร่อื งตดิ ตอ่ ส่อื สารกัน ถงึ จะ ไมม่ โี ทรศพั ท์ ไมม่ อี ีเมล แต่ชชั กเ็ ขยี นจดหมายหาบไี ด้นี่” ดรสายม้ิ และจอ้ งมองอีกฝา่ ยด้วยสายตาแน่วนิ่ง กอ่ นจะเอ่ยตอ่ ไปว่า

34/763 “ชชั เขียนจดหมายไปหาบี แลว้ บีกเ็ ขียนตอบชัชมา โรแมนติกดอี อก บชี อบการเขียนจดหมายมากกว่าโทรศพั ท์ หรืออเี มลเป็นไหนๆ การจะ เขยี นจดหมายแตล่ ะฉบับ คนเขียนตอ้ งมคี วามตัง้ ใจมากนะคะชชั ตง้ั ใจ ตัง้ แตเ่ ลอื กกระดาษที่จะเขียน เลือกหมึก เลอื กซอง เลอื กแสตมป์ที่จะ ตดิ ...สง่ จดหมายแลว้ ก็มานั่งรอว่าจดหมายท่เี ราเขียนจะถงึ คนรับหรอื ยัง...แล้วคนท่ไี ด้รับจะเขียนตอบเรามาแล้วหรอื ยงั ...รไู้ หมคะชชั ทกุ ครั้งทบ่ี ี ไดร้ ับจดหมายจากใครสกั คน บจี ะมีความสขุ มาก เพราะรู้เลยว่าคนนั้น ต้องคิดถงึ เราจริงๆ น่าเสยี ดายท่ีเดีย๋ วนี้ คนเราไม่ค่อยชอบเขยี นจดหมาย กันอีกแล้ว” “ไม่ไหว” ชายหนมุ่ สา่ ยหน้าไปมา “แค่นกึ กร็ ู้สึกแล้วว่าไม่เหมาะกบั ผม เสยี เวลาจะตายไป สูโ้ ทรศพั ท์หากันหรอื อีเมลไม่ได้ แป๊บเดยี วกร็ ้เู ร่ือง กนั แล้ว อกี อย่างท่ผี าชา้ งร้องนัน่ สนามกอลฟ์ สักสนามก็ไมม่ ”ี “ตายแลว้ ชชั ” ดรสาเบกิ ตากวา้ ง ทำให้ดวงตาสนี ้ำตาลเขม้ ทีก่ ลมโต บนวงหน้าใสกระจ่างทป่ี ราศจากเครือ่ งสำอางของดรสายิ่งกลมโตมากกวา่ เดิม “นักอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดล้อมนะ่ เกลยี ดสนามกอล์ฟทีส่ ดุ เลยละ ชัชรไู้ หม คะวา่ การสร้างสนามกอลฟ์ หน่ึงสนามน้ัน ส้ินเปลอื งทรัพยากร ธรรมชาติ อะไรบา้ ง ย่ิงไปสรา้ งอยู่ในบรเิ วณปา่ ไม้ ไม่รู้วา่ กว่าจะสรา้ งเสร็จ จะตอ้ งตัด ตน้ ไมไ้ ปต้งั เท่าไหร่ ยงั จะน้ำทต่ี อ้ งสบู มารดหญ้าอกี ” “บพี ดู เหมอื นกบั วา่ บีจะไปทำงานอนรุ กั ษต์ ่อจากแม่ของคณุ อย่างนัน้ ละ” ชชั ชัยมองหล่อนด้วยสายตาทเ่ี หมือนกับกำลังมองดูคนประหลาด

35/763 “แนน่ อนคะ่ ” ดรสายมิ้ อยา่ งอ่อนโยน ในใจร้สู กึ วา่ นบั วนั ช่องวา่ ง ระหว่างเขากบั หล่อนยิ่งหา่ งกันเสียเหลือเกิน “แมท่ ำอะไรเอาไว้ให้กับคนที่ นัน่ มาก และบีรู้ว่าแม่อยากใหบ้ ีสานงานของแมต่ อ่ ไป” “แล้วผมล่ะ” ชายหนุ่มร้องคราง ใบหน้าคมเข้มของเขาขมวดมนุ่ เหมือนกบั เดก็ ทเ่ี หน็ ของเลน่ ชนิ้ รกั กำลังหลดุ ลอยไป “บีจะทิง้ ใหผ้ มอยู่ท่ีน่ี คนเดยี วหรือ คณุ ไม่คิดถงึ ผม ไม่ห่วงผมบ้างเลยหรือบี?” “ชัชคะ” หล่อนจอ้ งมองเขาน่งิ นาน กอ่ นจะจากกับชชั ชัยในวนั นน้ั ดรสาบอกกับชายหนุม่ ท่ีร้จู กั และ คบหากันมานานปวี ่า “มคี นรักคุณ เปน็ ห่วงคุณตั้งมากมาย คุณแมค่ ณุ กค็ นหน่ึงละ อกี อย่าง...บกี ไ็ ม่ได้ทงิ้ คุณไปไหนเลย บยี ังอยู่ท่ีผาช้างร้อง และคุณก็รวู้ า่ ไร่ ผาสุก ยนิ ดีตอ้ นรับคณุ เสมอ ถา้ เพียงแตค่ ณุ จะข้นึ ไปท่ีน่ัน คณุ ก็จะพบกบั บีได้ทุกเมือ่ ...” วันแรกท่ีหลอ่ นกลับมาถงึ ผาชา้ งร้องน้นั ดรสาได้แต่ตกตะลงึ มอง ดูความเปลี่ยนแปลงดว้ ยความไม่เช่อื ในสายตาของตนเอง เพียงแคห่ ้าปที ี่ หลอ่ นไมไ่ ด้กลบั มาบา้ น สภาพแวดล้อมของผาชา้ งรอ้ งเปลย่ี นไปมากเกนิ กว่าท่หี ลอ่ นจะคิดไปถึง

36/763 ตอนท่ีหล่อนจากไปนน้ั ป่ายงั เขียวชอมุ่ สองขา้ งถนนลกู รังยงั มี ลำธารนำ้ สายเลก็ ไหลเย็น มาวนั น้ี ลำธารสายนน้ั หายไป ไม่มแี มแ้ ต่ ร่องรอยว่าในบรเิ วณนั้นเคยมธี ารน้ำอยู่ ป่าสเี ขียวสองข้างทางหายไปหมด มีแตด่ ินแดงแหง้ แลง้ จนฝนุ่ กระจาย เม่อื รถทีม่ ารับหลอ่ นจากสนามบินวง่ิ ผา่ นไป ก่อนจะเข้าหมบู่ า้ นซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นคนเยา้ ดรสาสงั เกตเหน็ มรี ีสอรต์ สองสามแห่งผุดขนึ้ มาปะปนอยกู่ ับไรส่ ม้ ท่กี วา้ งขวางสดุ ลูกหลู กู ตา ส้มสที องทหี่ ้อยระย้าดกดื่น สลบั กับพ่มุ ใบสีเขียดสด ดเู ปน็ ภาพที่ สวยงามไมน่ ้อย ดรสาหลับตานกึ ถึงส้มรสหวานหอมจากไร่ทีถ่ กู บรรจุ หบี ห่อและส่งออกไปขายทั่วประเทศ นบั เปน็ ธรุ กจิ ที่ทำรายไดใ้ หก้ บั เจา้ ของ สวนไมใ่ ช่นอ้ ย แตใ่ นอีกแงม่ มุ พชื เศรษฐกจิ เหล่านี้กเ็ ปน็ สาเหตุสำคัญสาเหตุหนง่ึ ที่ ทำใหจ้ ำนวนปา่ ไม้ของประเทศลดนอ้ ยลงไป เมือ่ เจา้ ของสวนต้องการขยาย พืน้ ท่ปี ลูกพชื ให้มากข้นึ ...มากขึ้น และมากขึน้ ย่งิ ป่าไมน้ ้อยลง ความแห้งแลง้ และฤดกู าลท่ีผิดเพยี้ นกด็ จู ะย่งิ ทวี ความรนุ แรงมากขึน้ เป็นเสมือนการลงโทษจากธรรมชาติตอ่ มนุษย์ผู้หาญ กลา้ ท้าทาย...ดรสานกึ สงสยั ว่าจะมวี ธิ ใี ดหรือไม่ ท่ีมนษุ ยแ์ ละธรรมชาตจิ ะ อยู่ร่วมกันอย่างมคี วามสุข ไม่เบยี ดเบียนกนั และกนั

37/763 เดือนทหี่ ล่อนกลบั มาเปน็ หนา้ หนาว แม้อากาศจะเยน็ สบายมากกว่า ตอนอยทู่ กี่ รงุ เทพฯ หากหญิงสาวรู้สกึ ว่าอากาศไมห่ นาวอยา่ งเมอื่ หลายปี ก่อน หล่อนเหลอื บมองส้มสีทองทอ่ี อกลกู พราวเต็มต้น ทร่ี ายเรียงอยสู่ อง ขา้ งถนนที่รถวิ่งผา่ นไป กอ่ นจะหันไปมองชายวยั กลางคนท่ขี บั รถให้หล่อน และเอย่ กบั เขาเสียงแผ่วเบาว่า “อาซอง ทำไมผาช้างรอ้ งเปลีย่ นไปมากขนาดนี้ แค่ไม่กีป่ เี องนะเนยี่ ” “โอย๊ อนี่ าย” ชายชาวเย้าท่ีทำงานกับแม่ของหล่อนมาตั้งแต่ยงั เป็น เด็กชาย พูดกบั หล่อนดว้ ยภาษากลางชดั ถ้อยชัดคำ “รอใหถ้ ึงไร่ก่อนเต๊อะ อี่นายจะต้องตกใจ” “เปน็ ยงั ไงเหรอ” ดรสาทำหน้าน่วิ ในใจร้สู กึ เป็นกงั วลขนึ้ มาทเี ดียว “กป็ ่ารอบไร่ ทอี่ ่ีนายชอบไปวงิ่ เลน่ และเก็บดอกเออ้ื งนนั่ นะ่ กลาย เปน็ สวนส้มไปหมดแลว้ ” อาซองเล่าดว้ ยน้ำเสยี งรันทด “ตายจรงิ ” ดรสารู้สึกตกใจ เพราะบริเวณทเี่ ป็นสวนปลกู สมุนไพร ของแมน่ ้นั อยลู่ กึ เขา้ ไปในหมู่บ้านเยา้ ไม่ได้อยตู่ ดิ กับถนนสายหลกั อยา่ ง สวนส้มเหล่านี้ บริเวณน้นั อุดมไปด้วยป่าและต้นไม้ ท่แี ม่กับกลุม่ ผูน้ ำหมบู่ า้ น พยายามเรียกร้องและดำเนนิ การใหท้ างราชการประกาศใหก้ ลายเป็นพ้ืนที่ ปา่ ชุมชน

38/763 แมพ่ ยายามมาหลายปีต้ังแต่ตอนที่ยงั มีชีวิตอยู่ แตด่ ้วยติดขดั ใน ขน้ั ตอนการทำงานของทางราชการ ดงั นั้น พ้ืนทปี่ ่าโดยรอบหมู่บา้ นจึงยงั ไม่ ไดร้ บั การประกาศให้เปน็ ปา่ ชมุ ชนสกั ที และน่ีเป็นอีกเรื่องหนึ่งทีห่ ลอ่ น ตง้ั ใจจะต้องสานตอ่ ให้เรียบรอ้ ย ดรสานึกรู้ได้ในทนั ใดว่า นายทนุ ที่มากวา้ นซ้อื ทีแ่ ละถางปา่ เพือ่ ทำ สวนส้มรายน้นั คงต้องฉวยโอกาสทำทุกอยา่ งใหเ้ สรจ็ กอ่ นท่ีพ้นื ทบี่ รเิ วณ น้ันจะได้รบั การประกาศใหเ้ ป็นปา่ ชมุ ชน เพราะหากไมร่ ีบทำเสยี กอ่ นใน ตอนน้ี ถงึ เวลาทท่ี างการประกาศพนื้ ท่ปี ่าอนุรักษอ์ อกมา เขาก็จะใช้พนื้ ทท่ี ำ สวนส้มไม่ได้ “เจา้ ของเป็นใคร” ดรสาถามเสยี งหว้ นด้วยความรสู้ ึกไม่พอใจ อาซองละมอื ข้างหนึ่งจากพวงมาลยั รถข้นึ มาเกาหัว “เป็นดอกเตอรม์ า จากในเมอื งโนน่ ละครบั แกไมช่ อบพวกเฮานกั ดอก พวกเฮาเองกไ็ ม่อยาก ไปยุ่งในไรข่ องแกดว้ ย คนงานไรข่ องแกกย็ งั ไมใ่ ช่คนเย้าเลยนะครบั ” “เป็นดอกเตอร์เหรอ” ดรสาทวนคำตอบของชายชาวเยา้ วัยกลางคน และรู้สกึ ฉงนข้ึนมาภายในใจ กับรูส้ กึ เกลียดขีห้ น้าตาดอกเตอรค์ นน้ันข้นึ มาทนั ที แมว้ ่ายงั ไม่เคยไดพ้ บกัน จะเปน็ ดอกเตอรส์ าขาไหนก็ช่าง แต่คนมีความรู้เป็นถึงดอกเตอร์ จะ ไมม่ คี วามรู้เร่อื งนิเวศวทิ ยาและสิ่งแวดลอ้ มเลยหรืออยา่ งไร ถึงได้หาญกล้า มาทำสวนส้มทับท่ีปา่ ของชมุ ชนผาชา้ งรอ้ งแบบน้ี

39/763 “แล้วพวกชาวบ้านว่าอยา่ งไรกนั บา้ งละ่ ” ดรสาถาม ใบหนา้ สวยงาม ของหล่อนขมวดม่นุ รู้สึกไมพ่ อใจกรุ่นขึ้นมา “เยียจะวา่ จะใดไดอ้ ่ีนาย” อาซองบ่นพึมพำ “บางคนกช็ อบ บางคนก็ ไมช่ อบ ต่างจิตต่างใจกนั ไป แตจ่ ะทำอย่างไร ดอกเตอรน์ ่ันเอากฎหมายมา อ้างว่ามีสิทธจ์ิ ะทำได้ เพราะทางการออกใบอนุญาตให้ พวกเฮากไ็ ดแ้ ต่มอง ดู ถงึ อ่นี ายกลับมาแลว้ ก็อาจจะทำอะไรไมไ่ ด้ เพราะดอกเตอรน์ น่ั ลงสม้ ไป หลายร้อยไร่ และทำมากวา่ สามปแี ลว้ ” หญิงสาวเหลอื บมองใบหนา้ ท่ีมรี อ่ งรอยออ่ นล้าของอาซอง กพ็ อจะ เดาได้ว่า ปญั หาท่ีเกิดข้นึ น่าจะมมี ากกวา่ ทเี่ ขาบอกหลอ่ นเปน็ แน่ แต่ดรสา ก็ไม่ไดถ้ ามอะไรเขาอกี นกึ แตเ่ พียงว่า อกี ประเดี๋ยวพอถงึ บ้านกร็ ู้เองละ นา่ ... พอมาถึงบริเวณไร่สมนุ ไพรแล้ว ดรสาถึงเพิง่ ตระหนักว่า ทอี่ าซอง เลา่ นั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเสยี แล้ว เมื่อหล่อนแลเห็นแนวร้วั ยาวสุดลกู หู ลูกตาของไร่สม้ ที่ล้อมประชดิ กบั ไร่ของหลอ่ น เบ้อื งหลังรั้วลวดหนามนนั้ ต้นสม้ สูงปลูกอยา่ งมรี ะเบียบรายเรยี งเป็น แถวยาว ดรสาเห็นมคี นงานแต่งกายดว้ ยเสอ้ื ผา้ มอ่ ฮอ่ มสีนำ้ เงนิ เดิน ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยของตน้ สม้ อยทู่ ่ัวไป แต่มองอย่างไรกไ็ มเ่ หน็ วา่ คนงานเหลา่ นั้นจะมีหนา้ ตาเหมอื นกบั คนเย้า ทห่ี ลอ่ นเคยคุ้นมาแตเ่ ล็ก แตน่ อ้ ย

40/763 “ดอกเตอรแ์ กจา้ งคนเมอื งทั้งหมดละขอรบั อนี่ าย” อาซองเลา่ ให้ หล่อนฟัง ขณะทเี่ ลีย้ วรถเข้าไปในบรเิ วณดงไมท้ ่ีรม่ คร้มึ ของไร่สมนุ ไพร ราวกับจะอา่ นสายตาที่เปีย่ มไปด้วยความสงสยั ของหลอ่ นออก “แกไม่ยอมเอาคนเย้า บอกวา่ คนเย้าหวั ดอ้ื ” “หัวดอื้ หรือ” ดรสาขมวดคว้ิ เปน็ ครัง้ ทนี่ บั ไม่ถ้วนของวนั น.้ี ..อตี า ดอกเตอรน์ ั่นกล้าดีอยา่ งไรมาว่าคนเย้าหวั ดอื้ ...นีเ่ ขามองวา่ คนท่มี ีความคิด อ่านเป็นของตัวเอง กลา้ พูด กลา้ แสดงออกว่าเป็นคนหัวดอ้ื อยา่ งนัน้ หรอื รถคนั ใหญ่ค่อยไตข่ น้ึ ไปตามทางที่ลาดขึ้นสงู ไร่ของแม่อยเู่ ชิงเขา เตยี้ ๆ ซงึ่ เป็นส่วนหนง่ึ ของเทือกผีปันนำ้ เหมอื นกับไรก่ าแฟของคาเรนท่อี ยู่ เชิงเทอื กเขาง็อง สองขา้ งทางลูกรงั คร้มึ ไปด้วยกง่ิ ก้านของไม้ใหญ่ แมไ่ ม่ยอมให้ใคร ตดั ต้นไมใ้ นไร่ถา้ ไมม่ คี วามจำเปน็ ดงั น้ันทางทต่ี ดั เขา้ ไปยงั ตวั บา้ นจึง คดเคย้ี วไปมา เพ่อื หลบหลีกตน้ ไม้เหล่านน้ั ดอกสชี มพูอ่อนใสของนางพญาเสอื โครง่ ทขี่ น้ึ เรียงรายเป็นแนวยาว ทงิ้ ตัวโปรยปรายลงมาพร้อมกับสายลมเย็นสบาย ขณะทอ่ี าซองขับรถผ่าน ไป ราวกับไรท่ ้ังผนื กำลงั ย้ิมตอ้ นรับการกลบั มาของดรสา นายหญิงคนใหม่ ของไร่ผาสุก... ดรสามองเหน็ สมุนไพรหลากหลายพันธทุ์ ่ปี ลูกแซม และอาศยั รม่ เงา อยใู่ ต้ตน้ ไม้ใหญเ่ หลา่ นน้ั ความชอุม่ งามของไม้เล็กตดิ ดนิ บอกให้เหน็ ถึง

41/763 การเอาใจใส่รดน้ำพรวนดนิ เป็นอยา่ งดเี ยย่ี มของคนงานชาวเยา้ ในไร่ แม่ พยายามแนะนำใหค้ นในหม่บู ้านปลกุ สมนุ ไพรแซมกันไปกบั ไมใ้ หญอ่ ื่น แทนท่ีจะหักรา้ งถางพง เพือ่ นำพืน้ ท่มี าเพาะปลูกพืชเศรษฐกจิ แมเ่ ลา่ ให้หลอ่ นฟังเสมอว่า การหักรา้ งถางพงเพื่อทำไร่ทำสวนนั้น หากอยใู่ นพ้ืนราบขา้ งลา่ ง ก็น่าจะทำได้โดยไม่มีปัญหาใด แต่บนภสู ูงทเี่ ปน็ บรเิ วณปา่ ตน้ น้ำอยา่ งที่ผาช้างร้องน้ี การตดั ต้นไม้สักตน้ ก็จะสง่ ผลกระทบ ต่อระบบนเิ วศทง้ั ป่า และส่งผลต่อเนื่องไปถึงคนพน้ื ราบท่ีอยถู่ ดั ลงไปเบอื้ ง ล่าง เม่อื ได้มาเรยี นนิเวศวิทยาแลว้ ดรสาจงึ ไดร้ วู้ า่ ส่ิงทีแ่ ม่พูดนน้ั เป็นจรงิ ทุกประการเลยทเี ดยี ว มคี นจากหมบู่ ้านทห่ี า่ งจากไร่ออกไปหลายกิโลเมตร และคนของแมท่ ่ี ทำงานในไรม่ ากมาย มารอรบั หลอ่ นอยทู่ ่ีหน้าบา้ น แมแ้ ต่ผู้เฒา่ ผู้แกก่ ็ กระย่องกระแย่งมารอหลอ่ นดว้ ย หลายคนนัน้ คนุ้ หนา้ ค้นุ ตากันดี เมือ่ ดรสากา้ วลงจากรถยนต์ขบั เคลือ่ นส่ลี อ้ คันใหญ่ ทุกคนกก็ รกู ัน เขา้ มาห้อมลอ้ มหลอ่ นด้วยความยินดี ทำเอาหญิงสาวนำ้ ตาซึม เพราะรวู้ า่ คนเหล่าน้มี ารอรบั หลอ่ นด้วยความตั้งใจจรงิ พวกเขารักแม่ และเลย เผ่อื แผค่ วามรักนน้ั มายังหล่อนด้วย หล่อนรมู้ าวา่ มีหลายคนรวบรวมเงนิ กนั เพ่อื จะจา้ งรถลงไปร่วมงาน ศพของแม่ แตแ่ สงดา พเ่ี ล้ียงที่เลีย้ งหลอ่ นมาตัง้ แตเ่ ล็ก หา้ มพวกเขาเอาไว้ แม่สง่ั เอาไว้ต้ังแต่ตอนทปี่ ่วยครัง้ สุดท้าย ว่าไมอ่ ยากใหใ้ ครไปงานศพ ของแม่ ด้วยอยู่ไกลถึงกรุงเทพฯ เพราะนนั่ จะทำให้พวกเขาต้องส้ินเปลอื ง

42/763 เงนิ ทองโดยไม่จำเปน็ อีกทง้ั แม่ไมอ่ ยากใหท้ ุกคนรสู้ ึกวา่ แม่จากผาชา้ งรอ้ ง ไปไหน แมอ่ ยากใหท้ กุ คนคิดวา่ แม่ลงไปกรุงเทพฯ แล้วยงั ไม่กลับมามาก กว่า “อี่นายสวยขึ้นเนอ้ ” แมเ่ ฒ่าชาวเย้าคนหนงึ่ เอย่ ขนึ้ พร้อมกบั ยมิ้ กวา้ ง จนเห็นฟันหลอ “อีน่ าย อี่นาย” เด็กชายชาวเย้าใบหนา้ กลมสองสามคนทต่ี ามแมข่ อง พวกเขามารบั หลอ่ นดว้ ย แข่งกันตะโกนเรียกดรสาด้วยใบหนา้ สดใส ผิวขาวผอ่ งเกลย้ี งเกลา ใบหนา้ ที่ดูออ่ นเยาวไ์ รไ้ ฝฝ้าของชาวเยา้ บ่ง บอกใหร้ วู้ า่ เย้าเป็นชาวเขาท่มี ีชาตติ ระกูลมาจากบรรพบุรุษชาวจนี เย้าส่วน ใหญจ่ ึงใช้ภาษาจีนเป็นภาษาหลัก ควบคู่กนั ไปกับภาษาไทยซ่งึ แตกต่างจาก ชาวเขาเผ่าอืน่ “คณุ บ”ี เสียงของสตรีวยั กลางคน ที่เพงิ่ โผล่หน้าขน้ึ มาบนระเบยี ง บา้ น เม่ือได้ยินเสียงรถที่เพงิ่ จอดลง ร้องเรียกหลอ่ นดว้ ยความยนิ ดี และ วิ่งลงบนั ไดมาอยา่ งรวดเรว็ “ปา้ ดา” ดรสาน้ำตารน้ื ขึ้นมา เม่ือเห็นแม่บ้านคนเก่าแกข่ องแม่ แสงดาเป็นคนนา่ นโดยกำเนิด ดรสาจำไดว้ า่ ญาตขิ า้ งพอ่ ของแสงดา ยังมเี ช้ือสายคนเยา้ ทีผ่ าช้างรอ้ งแห่งนด้ี ้วย พ่อและแม่ของแสงดาพาแสงดา ไปฝากเอาไว้กับคุณตาคุณยายของหลอ่ น ตั้งแต่แมข่ องหล่อนยงั เป็นเด็ก

43/763 หญิง ดังนั้นปา้ แสงดาจึงดูแลแม่มากอ่ น จนกระทง่ั หลอ่ นเกิด แสงดากอ็ ยู่ ช่วยแม่ดูแลหล่อนมาโดยตลอด แสงดากอดหลอ่ นเอาไว้จนแน่น และรอ้ งไห้โฮออกมาอยา่ งไมอ่ าย ใคร “เหมอื นเหลือเกิน...” คณุ แมบ่ ้านพึมพำ “ถอดกนั มาไม่มผี ดิ เพีย้ น เหมอื นคุณผาสุกกลับมาเลยเชียวนะคะคณุ บ”ี แสงดาไม่ได้ถามถงึ ปารมี หากดรสาไมน่ ึกสงสัย เพราะความที่ปารมี ใชเ้ วลาส่วนใหญ่อยู่กับพ่อทก่ี รุงเทพฯ นอ้ งจงึ ไม่สนทิ สนม หรอื ผกู พันกับ คนที่น่ีมากนัก “ข้ีแยไปไดน้ า่ ปา้ ดา” หล่อนแกลง้ ทำเสยี งดุ ทัง้ ทหี่ ลอ่ นเองกก็ ำลัง ร้องไห้อยู่เช่นกัน “ว่าแตว่ นั น้ีทำอะไรใหก้ ินบ้างคะ” “โอย๊ ...เยอะแยะไปหมดละค่ะ” แสงดายกมอื ข้ึนปาดนำ้ ตาแลว้ เชด็ กับผ้านุ่ง ก่อนจะคว้ามือของดรสาไปจับเอาไวจ้ นแน่น “ยำสมนุ ไพร แกง เลียง แกงโฮะ...คุณบีกินทอ้ งแตกแน่ อ้อ...” แสงดาเอย่ เหมือนนกึ อะไรขึ้นมาได้ แม่บ้านวยั กลางคนหันไปกวกั มอื เรียกเด็กสาวชาวเย้าคนหนง่ึ ทีย่ ืนแอบอยู่ข้างบนั ไดขน้ึ บา้ นให้เดินเขา้ มาหา “ไหว้อนี่ ายเสียสิ หมวยเจ็ง”

44/763 เดก็ สาววยั แรกรุ่นผูน้ น้ั เหลอื บมองดรสาดว้ ยดวงตากลมโต ก่อนจะ ยกมือขึน้ ทำความเคารพตามทแ่ี สงดาสง่ั หญงิ สาวรูส้ กึ ถูกชะตากบั หมวย เจง็ ทันทที ่ไี ดส้ บสายตาเฉลยี วฉลาดคู่นนั้ “นงั หมวยเจง็ ไงคะ คณุ บจี ำไดไ้ หม” ดรสายงั จำเดก็ หญิงรปู รา่ งผอมบางท่ีมีน้ำมูกยืด ผมเผา้ รกรงุ รัง แลดู เป็นเด็กทส่ี ุขอนามยั ไมด่ ี ท่ีชอบตามพอ่ และแมข่ องเจา้ หลอ่ นมาวง่ิ เล่นในไร่ ผาสกุ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ชวั่ ระยะเวลาห้าปีท่ีหลอ่ นจากไปเสยี ไกล หมวยเจ็งเปลี่ยนไปมาก จากเด็กหญงิ กะโปโลมาเป็นเดก็ สาววยั แรกรนุ่ ผิวขาวผอ่ ง แก้มสชี มพู อยา่ งผูม้ ีสุขภาพดี “จำไดส้ ิ ท่ีเป็นเหาเต็มหวั ตอนน้ันไง” หลอ่ นอมย้ิม หมวยเจง็ หวั เราะ คิก เมอื่ ไดย้ นิ คำท่นี ายหญงิ ว่า “คุณแมค่ ุณน่ะค่ะ เอามาปลกุ เอามาปนั้ จนได้เร่ืองได้ราวอย่างน้ี” ปา้ แสงดาเลา่ “นี่ยงั เรียนหนงั สอื ที่โรงเรยี นในหมูบ่ ้านดว้ ยนะคะ แมข่ องนัง หมวยมันสั่งกันเอาไว้ ใหม้ าคอยอยู่รบั ใชค้ ุณหนู จะเรยี กใชอ้ ะไรกไ็ ด้ตาม สบายเลย ปา้ จดั หอ้ งใหม้ ันพักอย่ทู เี่ รอื นเล็กหลงั บ้านนีล่ ะค่ะ” “ดสี ”ิ หญงิ สาวอมยิ้ม ทา่ ทางแม่หมวยเจง็ นซี่ ุกซนถกู ใจหลอ่ นไม่ น้อย พักใหห้ ายเหน่ือยอกี สกั สองสามวัน หลอ่ นคงไดแ้ ม่หมวยคนน้ีละ ที่ จะพาตระเวนดคู วามเปลีย่ นแปลงให้ท่วั ท้ังหมู่บ้าน

๓ อากาศยามเชา้ ในแดนขุนเขาน้ันเยน็ สบาย อวลดว้ ยละไอหมอก ลอยออ้ ยองิ่ อยู่ทวั่ ไป กลนิ่ หอมของเออ้ื งปา่ เจือมากับสายลมท่แี ผว่ รำเพย เสยี งนกป่าร้องกอ้ งไพร ผสานมากบั เสียงไก่ในหมูบ่ า้ นโก่งคอขนั แขง่ กนั ดรสาตนื่ นอนตั้งแตฟ่ า้ ยังไม่สาง หลอ่ นเปดิ ประตูห้องนอนเดนิ ออก มาสูดอากาศสดช่ืนท่รี ะเบียงหน้าบ้าน มองดคู นงานชาวเยา้ ที่ตืน่ เชา้ เสียยิ่ง กว่าหล่อน และเร่ิมลงมอื ทำงานในไรก่ นั ดว้ ยความขยันขันแขง็ มเี สยี งกกุ กกั ดังมาจากทางขา้ งหลงั หญงิ สาวจงึ หนั กลับไปดู และก็ พบวา่ เป็นหมวยเจง็ น่นั เอง ในมอื ของหล่อนมีเส้อื ผา้ ชดุ หนึ่งพบั มาอย่าง เรียบร้อย “ท่อี ่นี ายสง่ั เยยี เอาไวไ้ งคะ” หมวยเจ็งสง่ เสอื้ ผา้ ที่ซักรดี มาแล้วให้กบั นายสาว “หมวยเจ็งตอ้ งชว่ ยฉนั แลว้ ละ เคยเห็นแต่พวกเธอใส่ ไมเ่ คยลองใส่ เองสักครัง้ ฉันไมร่ ู้หรอกวา่ ใสอ่ ะไรตรงไหน ตอ้ งพันผา้ อย่างไร” ดรสา อมยิ้มเมื่อนกึ ว่าปา้ แสงดาจะทำหนา้ ตกใจแคไ่ หน ถา้ เหน็ หลอ่ นในชุดเย้า เข้า

46/763 หญงิ สาวต้งั ใจว่าจะออกสำรวจหมบู่ ้านกับหมวยเจง็ ในวันนหี้ ล่อน อยากทำตวั ใหก้ ลมกลนื ไปกบั ชาวบ้าน จงึ สง่ั ให้หมวยเจง็ หาชุดเย้ามาให้ใส่ เส้อื เยา้ ทห่ี มวยเจ็งนำมาให้ มลี ักษณะเป็นเสือ้ คลุมคอวี สนี ำ้ เงินเข้ม จนเกือบดำ ยาวจนถงึ ข้อเท้า ด้านหนา้ ผา่ ตลอด มไี หมพรมสแี ดงสดขลิบ รอบคอ ไล่เรอ่ื ยจากอกเส้อื ลงมาจนถงึ หน้าท้อง สองข้างของตวั เสื้อ จะผา่ ยาวตั้งแตร่ ะดบั เอวลงไป ทำให้ชายเส้ือส่วน ล่างแยกเป็นสามแฉก คือแฉกเลก็ ทางดา้ นหนา้ สองแฉก และดา้ นหลงั อกี หนึ่งแฉก หมวยเจง็ ช่วยหญงิ สาวเอาแฉกด้านหน้าท้ังสองไขวก้ นั และออ้ มเอว ไปผูกเปน็ เงือ่ นอยู่ทางดา้ นหลัง สว่ นแฉกใหญ่ขา้ งหลังปล่อยเอาไว้เฉยๆ เพอ่ื ใช้สำหรับเปน็ ทร่ี องกนั เปือ้ นเวลาที่จะน่งั ลง พอตลบชายผ้าไปผกู ท่ีดา้ นหลังแลว้ เด็กหญงิ ก็ชว่ ยดรสากลดั เส้ือ ดา้ นหนา้ เข้าดว้ ยกัน โดยใช้แผน่ กระดุมท่ีทำมาจากเงินเป็นรปู ส่ีเหล่ียมผืน ผ้าขนาดใหญ่ ประมาณแปดอันตดิ เป็นแนวยาวลงมาตามอกเส้อื จนถงึ เอว สว่ นกางเกงที่ดรสาสวม เปน็ กางเกงผ้าสีเดียวกนั กับเสื้อ เน้ือผา้ คอ่ น ข้างหยาบ หากสวมใส่สบาย ดา้ นหนา้ ท้งั สองของขากางเกงปกั ดว้ ยดา้ ยสี เป็นลวดลายรูปดอกไม้ปา่ ดอกเล็กๆ มองดูงามตา กางเกงตัวทหี่ มวยเจง็ เอามาให้หล่อนนนั้ มลี วดลายละเอียดถี่ยิบ ราวกับชะลอเอาดอกไมท้ ัง้ สวน มานัน่ เลยเชียว

47/763 สวมเสื้อและกางเกงเสร็จ เด็กหญิงชาวเยา้ ก็หยิบเอาผา้ ยาวสีน้ำเงนิ เขม้ อมดำสองผืนขนึ้ มา ทชี่ ายทั้งสองของผ้าสองผนื ปักลวดลายรปู ดอกไม้ เอาไวเ้ ชน่ เดยี วกนั หมวยเจ็งบอกหล่อนวา่ “มา๑ เย็บดอกผ้าผนื นี้เอาไวส้ ดุ ฝีมือเชียวนะคะอน่ี าย พอเยยี บอก มาว่าอี่นายอยากใสช่ ดุ เย้า มาตัง้ ใจเลือกเอาผ้าผืนดที ่สี ดุ ให้เยยี นำมาใหอ้ ่ี นายโพกเปน็ มะก้องเปว้ ๒ ทจ่ี ริงเยยี เยบ็ เองก็มนี ะคะ แต่มาว่า ขนื เอาผืนที่ เยยี เยบ็ ให้อนี่ ายโพกเดนิ ไปในหมู่บ้าน อ่ีนายอายเขาแย่” “ขอบใจจ้ะหมวยเจง็ ฝากไปขอบใจแม่ของเธอดว้ ย” ดรสายมิ้ ในบรรดาชาวเขาด้วยกันแลว้ เยา้ นับเปน็ เผ่าที่มฝี มี ือในด้านการชา่ ง มากทีส่ ุด เม่อื มเี วลาวา่ งจากการทำไรท่ ำสวน ผหู้ ญงิ เย้าทุกคนจะปกั ลวดลายลงบนผ้าหรือท่ีเรียกวา่ เย็บดอก ลงบนเส้อื ผา้ ท่ีสวมใส่ ลวดลายที่ ปักจะมีสีสนั งดงามเปน็ ลกั ษณะเฉพาะของเผ่าเย้า เด็กหญงิ ทกุ คนในเผา่ จะ ต้องเย็บดอกเปน็ เพราะถอื ว่าเป็นสง่ิ สำคัญของลูกผหู้ ญงิ ผู้ชายเยา้ จะเลอื ก เมยี กด็ ูเอาจากฝีมอื ปกั ผา้ นีเ่ อง ดรสาตลบผมดำขลบั ท่ยี าวจนถงึ กลางหลังของหลอ่ นขนึ้ เป็นมวย เพื่อใหห้ มวยเจง็ โพกด้วยผา้ สีแดง ก่อนท่ีจะใชผ้ า้ ผนื แรกพันไขวท้ บั ลงไป อกี ที แลว้ คาดดว้ ยสร้อยเงนิ ท่ีมกี ระพรวนอันเล็กๆ หอ้ ยอยู่ จากนั้นกใ็ ช้ ผา้ ผืนทส่ี องคาดเอว และผกู เงื่อนปลายสองขา้ งเขา้ ดว้ ยกนั ทางดา้ นหลัง

48/763 เป็นอันสน้ิ สุดข้ันตอนการแตง่ ตวั และหลอ่ นก็กลายมาเป็นสาวเยา้ ทดี่ ูไม่ แตกตา่ งจากเด็กหญิงทยี่ นื อยู่ตรงเบอื้ งหนา้ แต่อยา่ งใด หมบู่ า้ นผาชา้ งร้องตั้งอย่ทู ี่ลาดของไหล่เขา ซง่ึ เป็นสว่ นหนึง่ ของ เทอื กเขาผปี ันนำ้ มีพืน้ ทเี่ หมาะแก่การเพาะปลูกทำการเกษตร ถัดไปทาง ด้านหลังหมบู่ า้ นเปน็ ป่าดบิ ดงดำที่ชาวบ้านช่วยกันรกั ษาเอาไว้เป็นอย่างดี เนือ่ งจากเปน็ บริเวณของปา่ ตน้ น้ำและป่าศักดิส์ ทิ ธ์ิ ทชี่ าวบ้านเรยี กกนั วา่ บรเิ วณผีขุนนำ้ ทจ่ี ริงแล้วตัวหมบู่ า้ นผาช้างร้องกน็ บั เนอื่ งเปน็ สว่ นหนงึ่ ของปา่ เพราะ คำสอนทีม่ มี าแต่รุ่นปยู่ ่าตายายนนั้ หา้ มมิใหเ้ ยา้ ตดั ไม้ใหญโ่ ดยไมม่ ีความ จำเป็น ดังน้ัน เนินเขาอันเปน็ ทตี่ ง้ั ของหมู่บา้ น จึงยงั มีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ เปน็ ผนื เดียวต่อกันกบั ปา่ ทางดา้ นหลงั จะเร่ิมมีบริเวณที่แหว่งว่ินไปกต็ รง บริเวณท่ดี อกเตอร์คนเมืองคนนั้น ขนึ้ มาหักร้างถางปา่ เพ่อื ทำไร่สม้ นัน่ ละ ชาวเยา้ ส่วนมากแล้วชอบยา้ ยหลักแหล่งตั้งหมบู่ า้ นไปทุกสบิ ถงึ สบิ หา้ ปี แตห่ ลายสบิ ปหี ลงั มานี่ การอพยพเร่มิ ลดน้อยลง เน่อื งจากความเจริญท่ี เรมิ่ แผข่ ยายเข้ามานนั้ เป็นปจั จยั หนึ่งทที่ ำให้เกิดความสะดวกสบายจนเย้า ไม่ย้ายถิ่นอีกต่อไป ตลอดช่วงเชา้ ทเี่ ดินลดั เลาะไปตามหมู่บา้ น ดรสาสงั เกตเห็นว่า ผาชา้ ง รอ้ งท่ีหล่อนเคยคุน้ มาแตเ่ ล็กแต่นอ้ ยนนั้ เปลย่ี นแปลงไปมากในชว่ งเวลา เพียงแค่ห้าปที ่ีจากไป

49/763 บ้านหลายหลังของชาวบา้ นมรี ่องรอยวา่ ปลกู ขึน้ ใหม่ เป็นบ้านยกพ้นื ใตถ้ ุนสงู หลังคามุงดว้ ยกระเบื้อง ตา่ งจากบา้ นเยา้ ในสมัยก่อน ทเ่ี ป็นบา้ น สีเ่ หลี่ยมปลูกติดพืน้ ดิน ใชพ้ ้ืนดนิ เปน็ พื้นบ้าน และมุงหลังคาดว้ ยหญา้ คา บ้าง ใบหวายบา้ ง บา้ นรนุ่ ใหม่หลายหลัง มปี ระตูดา้ นหน้าเพยี งประตเู ดยี ว ไม่มปี ระตทู ่ี สองซ่ึงปดิ ตายตามประเพณเี ก่าหรอื ที่เรียกว่าประตผู ีอกี แลว้ ดรสายังจำได้ว่า ตอนทย่ี ้ายมาอยทู่ ี่ผาชา้ งร้องกบั แม่ใหม่ๆ หลอ่ น รูส้ ึกหวาดกลวั เมื่อแมช่ ีใ้ หด้ ปู ระตูผี ดว้ ยคดิ ไปว่า คนเยา้ เรยี กประตูบานท่ี สองวา่ ประตูผี เพราะวา่ บา้ นมีผดี ุ แตแ่ มเ่ ลา่ ให้ฟังว่า ประตูผีของบา้ นเยา้ นั้นคอื ประตูประเพณี โดย ปกตแิ ลว้ จะปิดตาย จะเปดิ ใชก้ ็ตอ่ เมื่อสง่ ตวั บุตรสาวออกไปแตง่ งานกบั ผ้ชู ายบา้ นอ่นื หรอื นำลกู สะใภ้เขา้ บ้าน และเปดิ ใชใ้ นเวลาทย่ี กเอาศพคน ตายออกจากบา้ น ถอื กันวา่ ผทู้ ี่ออกจากบา้ นไปทางประตูน้ี นับเปน็ ผทู้ ี่ขาด จากการนบั ถือผบี า้ นเรือนของบ้านน้นั แล้ว ดงั นัน้ จงึ เรียกประตูน้วี ่าประตูผี นี่ยงั ไม่นบั มอเตอรไ์ ซคห์ ลายคนั ท่ีคนในหมู่บ้านซอื้ มาจากตวั เมอื ง ขา้ งลา่ ง เพ่ือใชข้ บั ขี่สญั จรไปมาแทนม้าแกลบ แมว้ ่าในหน้าฝน ทางทเี่ ป็น ดินลูกรงั จะกลายเปน็ แอ่งโคลนจนไม่สามารถจะใชม้ อเตอร์ไซคไ์ ด้ก็ตาม และแทบทุกบา้ นท่ีดรสาผา่ นไป จะมีเสาอากาศอนั เล็กๆ สำหรับรับ สัญญาณโทรทัศน์ โผลข่ ้นึ มาเปน็ ส่งิ แปลกปลอมที่ดแู ลว้ ไม่ค่อยเข้ากันกบั

50/763 สภาพแวดล้อม แมย้ ังไมม่ ไี ฟฟ้าใชใ้ นหมู่บ้าน หากนัน่ ไม่ใชอ่ ปุ สรรค เพราะโทรทศั นเ์ หลา่ นน้ั กส็ ามารถต่อใช้กับแบตเตอรี่รถยนตไ์ ด้ ยังดที ี่ผาช้างร้องอยู่ไกลจากเมอื ง จนไมม่ สี ัญญาณโทรศพั ท์มอื ถอื ไมเ่ ชน่ นั้นแล้วเวลาทหี่ ล่อนเดินผา่ นไปในหม่บู ้านนั้น คงจะมเี สียงกริง๊ กร๊าง ของโทรศัพทด์ ังประสานกนั ให้หลอ่ นได้ยิม้ ขนั และนึกสงสัยวา่ นเี่ ราอยใู่ น ปา่ ดอยหรอื อยใู่ นเมอื งกันแน่ แตก่ ็คงอกี ไม่นานนกั หรอก เพราะหลอ่ นได้ยินมาว่า บรษิ ัทโทรศพั ท์ มือถอื แห่งหน่งึ กำลังโหมโฆษณาเป็นการใหญว่ า่ อกี ไม่นานจะมกี ารขยาย เครอื ขา่ ยสัญญาณโทรศัพท์ และเม่อื เวลาน้ันมาถึง ไมว่ า่ จะไกลแคไ่ หน อยดู่ อยสูงสักเพียงใด ก็ไมม่ ีอะไรจะขวางกัน้ ได้อีกต่อไป นอกจากสภาพหมู่บ้าน และความเปน็ อยขู่ องผูค้ นทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป จนหญงิ สาวรู้สกึ แปลกแยกแลว้ การแตง่ กายของชายหนุม่ สว่ นใหญใ่ น หมู่บา้ นทหี่ ลอ่ นสงั เกตเห็นนัน้ ก็เปล่ียนแปลงไปเชน่ กนั เดิมทีผู้ชายเย้าจะไวผ้ มเปน็ จุกตรงกลางกระหมอ่ ม สวมเส้อื ผา้ ทตี่ ดั เย็บจากผ้าชนิดเดยี วกนั กบั สาวๆ แตห่ นมุ่ ๆ ทห่ี ล่อนเห็นในวนั นน้ี น้ั สว่ น มากจะไว้ผมหนา้ ม้าส้นั และสวมเส้อื ผ้าแบบคนเมืองเปน็ ส่วนมาก บางคน ยังสวมเสือ้ ยดื กบั กางเกงยีน และรองเท้าผ้าใบเสียด้วยซำ้ ไป นี่ละ กระแสวฒั นธรรมทห่ี ล่ังไหลไปจนทั่ว ไมเ่ ว้นแม้แต่บา้ นปา่ ดง ดอย...ดรสานึกภาพไมอ่ อกเลยวา่ อีกสกั สบิ ปี ผาช้างร้องและคนเยา้ จะ เปลย่ี นไปมากอกี สักแคไ่ หน...


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook