Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

024

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-03-09 13:03:17

Description: 024

Search

Read the Text Version

๕. คนหนกั ในอามิส ๖. สตรี ๗. คนขเ้ี มา ๘. บัณเฑาะก ๙. เด็กเล็ก ๆ.\" ถ. \"เขามีโทษอะไร.\" ร. \"คนราคจริต ยอมเปด ความลบั ทหี่ ารือดวย ไมปดไว ดวยอาํ นาจ ราคะ, คนโทสจรติ ดว ยอํานาจโทสะ, คนโมหจรติ ดว ยอาํ นาจโมหะ, คนขลาด ดว ยอาํ นาจความกลวั , คนหนกั ในอามิส ดว ยเหตแุ หง อามิส, สตรี ดว ยความ เปนคนออนความคิด, คนขเ้ี มา ดวยความเปน คนโลเลในสรุ า, บณั เฑาะก ดว ยความเปนคนไมอ ยูใ นฝา ยอนั เดียว, เด็กเล็ก ๆ ดวยความเปน ผูมกั คลอน แคลน.\" พระราชาตรัสตอ ไปวา \"ปญ ญายอมแปรถงึ ความแกร อบดวยเหตแุ ปด ประการ, ดว ยเหตุแปดประการนน้ั เปนไฉน ? ๑. ดวยความแปรแหง วยั ๒. ดวยความแปรแหง ยศ ๓. ดว ยการไตถาม ๔. ดวยการอยใู นสถานทเ่ี ปน ทา คอื ทําเล ๕. ดว ยโยนโิ สมนสกิ าร คือ ความกระทาํ ในใจโดยอบุ ายท่ชี อบ ๖. ดว ยความสงั สนทนากนั ๗. ดว ยอาํ นาจความเขา ไปเสพ ๘. ดวยสามารถแหงความรกั ๙. ดวยความอยูใ นประเทศอันสมควร.\" พระราชาตรสั ตอ ไปวา \"ภมู ิภาคน้ี เวน แลว จากโทษแหง การหารือแปด ประการ, และขาพเจา กเ็ ปน ยอดสหายคูป รกึ ษาในโลก, และขา พเจา เปน คน รักษาความลบั ไวไดดวย ขา พเจาจกั มีชวี ิตอยเู พียงใด ขาพเจาจกั รักษาความ ลับไวเ พยี งนนั้ , และปญญาของขา พเจา ถงึ ความแปรมาดวยเหตแุ ปดประการ, เด๋ยี วนอี้ นั เตวาสกิ เชน ขา พเจาหาไดเ ปน อนั ยาก. อาจารยพ งึ ปฏบิ ัตชิ อบในอันเตวาสกิ ผปู ฏิบตั ชิ อบ ดว ยคณุ ของ อาจารยยีส่ บิ หา ประการ, คุณย่ีสบิ หาประการเปน ไฉน ? ๑. อาจารยพงึ เอาใจใสจ ัดความพิทกั ษรักษาอนั เตวาสกิ เปนนติ ย

๒. พงึ รคู วามภกั ดหี รือไมภกั ดขี องอนั เตวาสกิ ๓. พงึ รคู วามทอ่ี ันเตวาสิกเปน ผปู ระมาทหรอื ไมป ระมาท ๔. พงึ รูโอกาสเปน ทนี่ อนของอันเตวาสิก ๕. พึงรูความทอ่ี นั เตวาสิกเปน ผเู จบ็ ไข ๖. พงึ รโู ภชนาหารวา อนั เตวาสกิ ไดแลว หรอื ยงั ไมไดแ ลว ๗. พึงรูวเิ ศษ ๘. พงึ แบง ของอยใู นบาตรให ๙. พึงปลอบใหอุนใจวา อยา วติ กไปเลย ประโยชนของเจา กาํ ลังเดนิ ขึ้นอยู ๑๐. พงึ รูความเที่ยวของอนั เตวาสิกวา เทย่ี วอยูก บั บุคคลผนู ้ี ๆ ๑๑. พงึ รูค วามเที่ยวอยใู นบา น ๑๒. พึงรคู วามเทีย่ วอยใู นวหิ าร ๑๓. ไมพ งึ กระทําการเจรจากบั อันเตวาสกิ นัน้ พร่ําเพร่ือ ๑๔. เห็นชอ ง คือ การกระทาํ ผิดของอันเตวาสิกแลว พึงอดไว ๑๕. พงึ เปน ผกู ระทาํ อะไร ๆ โดยเอื้อเฟอ ๑๖. พึงเปน ผกู ระทําอะไร ๆ ไมใหขาด ๑๗. พงึ เปน ผกู ระทาํ อะไร ๆ ไมซอ นเรน ๑๘. พงึ เปน ผกู ระทาํ อะไร ๆ ใหห มดไมม ีเหลอื ๑๙. พงึ ตัง้ จิตวา เปน ชนก โดยอธบิ ายวา ตนยงั เขาใหเ กิดในศลิ ปทง้ั หลาย ๒๐. พึงตงั้ จติ คดิ หาความเจรญิ ใหวา ไฉนอันเตวาสกิ ผูนจ้ี ะไมพึงเสอื่ ม เลย ๒๑. พึงต้งั จติ ไวว า เราจะกระทาํ อนั เตวาสกิ ผนู ้ใี หแ ข็งแรงดวยกาํ ลงั ศึกษา ๒๒. พงึ ตงั้ เมตตาจิต ๒๓. ไมพ ึงละทิง้ เสยี ในเวลามีอันตราย ๒๔. ไมพ งึ ประมาทในกจิ ทจ่ี ะตอ งกระทํา ๒๕. เมอื่ อันเตวาสิกพลั้งพลาด พงึ ปลอบเอาใจโดยทางทถี่ กู เหลา นแี้ ล คณุ ของอาจารยย ส่ี ิบหา ประการ, ขอพระผเู ปน เจา จงปฏบิ ตั ชิ อบในขาพเจา ดว ยคณุ เหลา นเี้ ถิด. ความสงสยั เกิดขน้ึ แกข าพเจา , เมณฑกะปญหาทพี่ ระชนิ พุทธเจาทรงภาสิตไวมีอยู ในอนาคตกลางไกลจกั เกดิ ความเขา ใจผิดในเมฆฑ

กะปญ หานน้ั แลวเถียงกนั ข้นึ , และในอนาคตกาลไกลโนน ทา นผมู ปี ญ ญา เหมอื นพระผเู ปนเจา จักหาไดเ ปน อนั ยาก, ขอพระผูเปน เจา จงใหดวงจกั ษุใน ปญ หาเหลานน้ั แกขาพเจา สาํ หรบั ขมถอ ยคาํ ของผูอ่นื เสยี .\" พระเถรเจา รบั วา สาธุแลว ไดแ สดงองคคุณของอบุ าสกสบิ ประการวา \"ขอถวายพระพร นี้องคคณุ ของอบุ าสกสบิ ประการ, องคคณุ ของอุบาสกสิบ ประการนน้ั เปน ไฉน: องคคุณของอบุ าสกสบิ ประการนน้ั คือ ๑. อบุ าสกในพระศาสนานี้ เปน ผูรวมสขุ รว มทกุ ขก บั สงฆ ๒. เมื่อประพฤตอิ ะไร ยอ มถือธรรมเปนใหญ ๓. เปน ผยู นิ ดใี นการแบงปน ใหแกกนั ตามสมควรแกกาํ ลงั ๔. เหน็ ความเสอื่ มแหงพระพทุ ธศาสนาแลว ยอมพยายามเพอื่ ความ เจรญิ ยิ่ง ๆ ขนึ้ ไป ๕. เปนผูมีความเหน็ ชอบ ๖. ปราศจากการถือมงคลตนื่ ขา ว แมถ งึ กบั จะตอ งเสยี ชวี ติ ก็ไมถอื ทา นผอู น่ื เปน ศาสดา ๗. มกี ายกรรมและวจกี รรมอนั รกั ษาดีแลว ๘. เปน ผูมสี ามัคคีธรรมเปนทมี่ ายนิ ดี และยินดแี ลว ในสามคั คีธรรม ๙. เปนผูไมอ สิ สาตอผูอืน่ และไมประพฤตใิ นพระศาสนานี้ ดวย สามารถความลอลวงไมซอ่ื ตรง ๑๐. เปน ผถู งึ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ เปน สรณะ. ขอถวายพระ พร นแ้ี ลองคคุณของอบุ าสกสิบประการ, คุณเหลานี้มอี ยใู นสมเดจ็ บรมบพติ ร พระราชสมภารเจาครบทุกประการ, การทพ่ี ระองคท อดพระเนตรเหน็ ความ เส่ือมแหง พระพทุ ธศาสนาแลว มพี ระประสงคจ ะใหเ จรญิ ยิ่ง ๆ ขนึ้ ไปนนั้ เปน การควรแลว ชอบแลว เหมาะแลว สมแลว แกพระองค. อาตมภาพถวาย โอกาส พระองคจ งตรัสถามอาตมภาพตามพระราชอธั ยาศยั เถิด.\" เมณฑกปญหา วรรคทห่ี นง่ึ ๑. วชั ฌาวชั ฌปญหา ๑

ลาํ ดบั นนั้ พระเจามิลนิ ท คร้ังไดโ อกาสท่ีพระเถรเจา ถวายแลว ดงั นน้ั ทรงถวายนมสั การแทบบาทแหงพระอาจารยแ ลว ประฌมพระหัตถ ตรสั วา ดงั น้ี \"พระผเู ปนเจา เดยี รถยี เหลานพ้ี ูดอยูวา 'ถาพระพทุ ธเจา ทรงยินดีบชู าอยู ได ชื่อวา ไมปรนิ พิ พานแลว ยงั เกยี่ วขอ งดว ยโลกอยู ยงั เปน ผจู ะตองเวยี นอยใู น ภายในแหง พภิ พ เสมอสตั วโ ลกในโลก, เหตุนั้น การบชู าที่ทายกกระทาํ แลว แดพระพทุ ธเจา นน้ั ยอมเปน หมันไมม ผี ล, ถาพระองคเสด็จปรินิพพานแลว ไม เก่ยี วขอ งดวยโลก ออกไปจากภพทั้งปวงแลว การบูชาพระองคหาควรไม เพราะทา นผปู รินพิ พานแลว ยอมไมยนิ ดอี ะไร การบูชาทท่ี ายกกระทําแลว แก ทานผไู มย นิ ดอี ะไร ยอ มเปน หมนั ไมม ผี ลเหมือนกัน' ดังน.้ี นปี่ ญ หาสองเงื่อน ไมเ ปนวสิ ยั ของคนผไู มไ ดบ รรลุพระอรหัตต เปนวสิ ัยของทานผใู หญเทา นน้ั ขอ พระผเู ปน เจา จงทาํ ลายขาย คือ ทฏิ ฐเิ สยี ต้ังไวในสว นอนั เดียว, นปี่ ญหามา ถึงพระผเู ปน เจา เขาแลว ขอพระผูเปน เจา จงใหด วงจกั ษแุ กพ ทุ ธโอรสทง้ั หลาย อันมใี นอนาคตกาลไวส าํ หรบั ขม ถอ ยคําแหงผูอ นื่ .\" พระเถรเจา ถวายพระพรวา \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเสด็จ ปรินิพพานแลว และไมท รงยนิ ดบี ชู า, ความยินดพี ระตถาคตเจา ทรงละเสียได แลวที่ควงพระศรมี หาโพธ,ิ์ จักกลาวอะไรถงึ เมอื่ พระองคเ สด็จปรนิ พิ พานแลว ดวนอนปุ าทเิ สสนพิ พานธาตุเลา. ขอนี้มที อ่ี า งใหเ หน็ จริง คํานพ้ี ระธรรม เสนาบดสี ารีบตุ รเถรเจากลาววา \"พระพทุ ธเจา ทงั้ หลายนนั้ ทรงพระคณุ เสมอ ดวยพระพุทธเจาผไู มม ใี ครเสมอ หมมู นษุ ยพ รอ มทงั้ หมเู ทวดาพากนั บชู า พระ องคไมทรงยนิ ดีสักการบูชา, น่เี ปนธรรมดาของพระพทุ ธเจา ทงั้ หลาย ดังน.้ี \" ร. \"พระผูเปน เจา ธรรมดาบตุ รยอมกลา วยกคณุ บิดาบา ง บดิ ายอ ม กลาวยกคุณบตุ รบาง, ขอนี้ไมใชเ หตสุ าํ หรบั ขมวาทะผูอน่ื , ขอน้ชี อ่ื วาเปน เคร่อื งประกาศความเลอ่ื มใส, ขออาราธนาพระผูเปน เจา กลา วเหตุในขอ ปญหานน้ั ใหช อบ เพ่ือแกขาย คือ ทฏิ ฐอิ อกเสยี เพ่ือตง้ั วาทะของตนไว. \" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา เสดจ็ ปรินิพพานแลว และ พระองคม ไิ ดท รงยินดบี ชู า, เทวดามนษุ ยท ง้ั หลายกระทาํ รัตน คอื พระธาตุ ของพระตถาคตเจา ผูไมย นิ ดีโดยแทใหเปน ทีต่ งั้ แลว เสพสัมมาปฏบิ ัตดิ วย อารมณอ นั มงุ อยใู นรัตน คอื พระญาณของพระตถาคตเจา ยอมไดส มบตั ิสาม ประการ, เหมอื นอยางวา กองไฟใหญล ุกโพลงแลวจะดบั ไป, กองไฟนนั้ ยนิ ดี เช้อื คอื หญาและไมบา งหรือ ขอถวายพระพร.\"

ร. \"กองไฟใหญ ถงึ กาํ ลงั ลกุ อยู กย็ อมไมย นิ ดเี ชอ้ื คอื หญาและไม, ก็ กองไฟใหญนนั้ ดับสงบแลว หาเจตนามิได จักยนิ ดดี วยเหตุอะไรเลา พระผู เปน เจา ?\" ถ. \"กเ็ มอ่ื กองไฟนนั้ ดบั สงบแลว ไฟในโลกชอ่ื วา สูญหรือ ขอถวายพระ พร ?\" ร. \"หาเปน ดังน้นั ไม ไมเปน วตั ถเุ ปนเช้ือของไฟ. มนุษยจ าํ พวกไหน ตองการไฟ เขาสีไมด วยเร่ยี วแรงกาํ ลงั พยายาม ดวยความกระทาํ ของบรุ ุษ เฉพาะตวั ของเขาแลว ยงั ไฟใหเกดิ ขนึ้ แลว ยอมกระทาํ กจิ ที่จะตอ งกระทาํ ดว ย ไฟไดด วยไฟนน้ั .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยางน้ัน คําของพวกเดยี รถยี ว า 'การบูชาที่ ทายกกระทาํ แลว แกท า นผูไมย นิ ดีอะไร ยอมเปนหมนั ไมม ีผล' ดงั น้ี ยอมเปน ผิด. ขอถวายพระพร กองไฟใหญล ุกโพลงอยู ฉนั ใด, พระผมู พี ระภาคเจา ทรง รุง เรอื งอยใู นหมน่ื โลกธาตุดว ยพระพทุ ธสริ ิ ก็ฉันนนั้ ; กองไฟใหญน น้ั คร้นั ลุก โพลงแลว กด็ บั ไป ฉันใด, พระผมู พี ระภาคเจา ครนั้ ทรงรุง เรอื งในหมนื่ โลกธาตุ ดว ยพระพุทธสิรแิ ลว เสด็จปรนิ พิ พานดว ยอนุปาทเิ สสนพิ พานธาตุ กฉ็ นั นน้ั ; กองไฟที่ดบั แลว ไมยินดีเชื้อ คอื หญา และไม ฉนั ใด, การยินดเี กือ้ กูลของโลก พระองคล ะเสยี แลว สงบแลว กฉ็ นั นั้น; มนษุ ยท ้ังหลาย เมือ่ กองไฟดับแลว ไม มเี ชอ้ื สีไมดวยเร่ียวแรงกาํ ลงั พยายามดวยความกระทาํ ของบุรษุ เฉพาะตัว ของเขาแลว ยงั ไฟใหเกดิ ข้นึ แลว ยอ มกระทาํ กจิ ท่จี ะตอ งกระทาํ ดว ยไฟไดด วย ไฟนน้ั ฉนั ใด; เทวดามนษุ ยท ้งั หลาย กระทาํ รตั น คือ พระธาตุของพระตถาคต เจา ผูไมยนิ ดโี ดยแทใหเปน ทต่ี ้ังแลว เสพสมั มาปฏบิ ัติ ดว ยอารมณอ นั มุงอยูใ น รัตน คอื พระญาณ ของพระตถาคตเจา ยอ มไดสมบัตสิ ามประการ กฉ็ ันน้นั . ขอถวายพระพร แมเ พราะเหตุนี้ การบูชาท่ีทายกกระทาํ แลวแดพ ระตถาคต เจา ผเู สดจ็ ปรนิ พิ พานแลว ไมท รงยนิ ดอี ยูโ ดยแท จงึ ชือ่ วา มีผลไมเปน หมนั .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคทรงสดบั เหตุแมอ ่นื ยง่ิ ขน้ึ เปนเครือ่ งให เห็นวา การบชู าทที่ ายกกระทําแลวแดพ ระตถาคตเจาผูปรนิ พิ พานแลว ไมทรง ยนิ ดอี ยูโดยแท มผี ลไมเ ปน หมัน: เหมือนอยา งวา พายุใหญพัดแลว จะสงบไป, ลมทสี่ งบไปแลว นน้ั ยนิ ดกี ารใหเ กิดอีกบางหรือขอถวายพระ ?\" ร. \"หามไิ ด ความคาํ นงึ ก็ดี ความกระทาํ ในใจกด็ ี ของลมทส่ี งบไปแลว เพอื่ การกระทาํ ใหเ กิดอกี ไมม ,ี เหตอุ ะไรเลา เหตวุ า วาโยธาตนุ น้ั ไมมเี จตนา.\" ถ. \"เออก็ ช่อื ของลมทีส่ งบไปแลวนน้ั วา 'ลม' ดงั นี้ ยงั เปน ไปบา งหรอื

ขอถวายพระพร ?\" ร. \"หามไิ ด\" พดั ใบตาลและพดั โบกเปน ปจ จยั เพอื่ ความเกดิ ขนึ้ แหง ลม, มนษุ ยจาํ พวกไหน ตองรอ นเผาแลว ตอ งความกระวนกระวายบีบคน้ั แลว เขา ยังลมใหเกิดขนึ้ ดว ยพัดใบตาลหรอื ดวยพดั โบกตามกาํ ลงั เรีย่ วแรงพยายาม ตามความกระทําของบุรุษเฉพาะตวั ของเขาแลว ยังความรอนใหด ับ ยงั ความ กระวนกระวายใหส งบ ดวยลมน้ัน.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยา งนนั้ คาํ ของพวกเดยี รถยี ว า 'การบูชาที่ ทายกกระทาํ แลว แกทา นผไู มย นิ ดอี ะไร ยอ มเปนหมนั ไมม ีผล' ดังน้ี ยอ มเปน ผดิ . ขอถวายพระพร พายใุ หญพ ัดแลว ฉนั ใด, พระผมู พี ระภาคเจาทรงกระพอื ในหมน่ื โลกธาตุ ดวยลม คอื พระเมตตาอนั เย็นชนื่ ใจละเอยี ดสุขมุ แลว กฉ็ นั นัน้ ; พายุใหญค รน้ั พัดแลว สงบไปแลวฉันใด, พระผมู ีพระภาคเจา ครนั้ ทรง กระพอื ในหมนื่ โลกธาตุ ดว ยลม คือ พระเมตตาอันเยน็ ชน่ื ใจละเอยี ดสขุ มุ แลว เสด็จปรนิ ิพพานดวยอนุปาทเิ สสนพิ พานธาตุ กฉ็ นั นน้ั ; ลมอันสงบไปแลว ยอ มไมย นิ ดคี วามใหเกิดขน้ึ อีก ฉนั ใด การยินดีเกอ้ื กูลของโลก พระองคละเสยี แลว สงบแลว ก็ฉันน้ัน; มนษุ ยทัง้ หลายนัน้ ตอ งรอนเผาแลว ตองความกระวน กระวายบีบคน้ั แลว ฉนั ใด, เทวดามนษุ ยท ง้ั หลาย ตอ งความรอ นกระวน กระวายเหตุไฟสามประการบีบค้นั แลว กฉ็ นั นน้ั ;พัดใบตาลและพัดโบกเปน ปจจัย เพ่อื ความเกดิ แหง ลม ฉนั ใด, พระธาตแุ ละพระญาณรัตนของพระ ตถาคตเจา เปน ปจจยั เพอื่ ความไดส มบัตสิ ามประการ กฉ็ ันนนั้ ; มนุษยทัง้ หลาย ตอ งรอนเผาแลว ตอ งความกระวนกระวายบีบคนั้ แลว ยงั ลมใหเกดิ ขนึ้ ดว ยพัดใบตาลหรือดว ยพัดโบกแลว ยงั ความรอนใหดบั ยงั ความกระวน กระวายใหส งบดว ยลมนัน้ ฉนั ใด, เทวดามนุษยท ง้ั หลาย บูชาพระธาตแุ ละ พระญาณรตั นของพระตถาคตเจา ผูเสด็จปรนิ พิ พานแลว ไมทรงยนิ ดีโดยแท แลว ยงั กุศลใหเ กดิ ขน้ึ แลว ยังความรอ นความกระวนกระวายเหตุไฟสาม ประการใหด ับ ใหส งบดวยกศุ ลนัน้ ฉนั นน้ั . ขอถวายพระพร แมเพราะเหตนุ ี้ การบูชาที่ทายกกระทาํ แลว แดพระตถาคตเจา ผเู สดจ็ ปรนิ พิ พานแลว ไมท รง ยนิ ดีอยูโดยแท จงึ ชือ่ วา มีผลไมเปน หมัน.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคทรงสดับเหตุแมอ ื่นอกี ใหย ิง่ ขนึ้ ไป เพอ่ื ขมวาทะผูอ ื่นเสีย: เหมอื นอยา งวา บรุ ุษตกี ลอง ยังเสยี งใหเ กดิ ขนึ้ และเสียง กลองอันบรุ ษุ ใหเ กิดขึ้นนนั้ แลวก็อันตรธานหายไป, เออก็ เสยี งนั้น ยนิ ดีความ ใหเ กิดข้ึนอีกบา งหรือ ขอถวายพระพร.\"

ร. \"หามไิ ด เสยี งนนั้ อนั ตรธานไปแลว, ความคํานงึ ก็ดี ความกระทําใน ใจก็ดี ของเสยี งนน้ั เพ่ืออันเกดิ ข้นึ อีกมไิ ดมี, ครนั้ เม่ือเสียงกลองเกิดข้นึ คราว เดียวแลว อนั ตรธานไปแลว เสียงกลองนนั้ ก็ขาดสูญไป, สว นกลองเปน ปจ จยั เพ่ือความเกิดข้ึนแหง เสยี ง, คร้นั เมอื่ เปนอยา งนน้ั บรุ ุษเมือ่ ปจ จยั มีอยู ตกี ลอง ดว ยพยายามอนั เกิดแตตนแลว ยงั เสียงใหเกดิ ขึน้ ได. \" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา ทรงตั้งพระธาตุรตั นอันพระ องคอบรมแลวดวยศลี สมาธิ ปญ ญา วิมุตติ วมิ ตุ ตญิ าณ ทัสสนะ กับพระ ธรรมวินัยคาํ สอน ใหเ ปนตา งพระศาสดาแลว สวนพระองคเ สด็จปรินิพพาน ดวยอนุปาทเิ สสนพิ พานธาตุ คร้ันเม่อื พระผมู ีพระภาคเจา เสด็จปรนิ พิ พาน แลว ความไดส มบตั ขิ าดสญู ไปตามแลวก็หาไม, สตั วท งั้ หลายตองทกุ ขใ นภพ บีบคั้นแลว กระทาํ พระธาตรุ ตั นกบั พระธรรมวนิ ยั คําสอนใหเ ปน ปจ จยั แลว อยากไดสมบตั ิ กย็ อมไดฉ นั เดยี วกนั . ขอถวายพระพร แมเ พราะเหตนุ ี้ การ บูชาทที่ ายกกระทําแลว แดพ ระตถาคตเจา ผเู สดจ็ ปรินพิ พานแลว ไมท รงยนิ ดี อยโู ดยแท จึงชอ่ื วา มีผลไมเปน หมัน. ขอถวายพระพร ขอ นีพ้ ระผูม พี ระภาค เจา ทรงเหน็ และตรสั บอกลว งหนา ไวน านแลววา \"อานนท สักหนอยความวติ ก จะมีแกท า นทง้ั หลายวา 'พระศาสนามพี ระศาสดาลวงไปเสยี แลว พระศาสดา ของเราทงั้ หลายไมม'ี ดังน,้ี ขอนีท้ านทั้งหลายอยา เหน็ ไปอยา งนนั้ , ธรรม และวนยั อนั เราแสดงแลว และบัญญตั แิ ลว แกท านทงั้ หลายโดยกาลทล่ี ว งไป แลวแหง เรา จกั เปนศาสดาของทา นท้ังหลายแทน\" ดงั น.้ี คําของพวกเดยี รถยี  วา 'การบูชาทท่ี ายกกระทาํ แลว แดพระตถาคตผปู รนิ ิพพานแลว ไมท รงยนิ ดี อยู เปน หมนั ไมมีผล' ดงั นน้ี น้ั ผิด ไมจ รงิ เท็จ สับปลับ พริ ุธ วิปริต ใหทกุ ขเ ปน ผล มที กุ ขเ ปน วบิ าก ยงั ผพู ูดและผเู ชอ่ื ถอื ใหไปสอู บาย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคทรงสดบั เหตแุ มอ น่ื ใหย งิ่ ข้ึนไป เปน เคร่ืองใหเ หน็ วา 'การบชู าทที่ ายกกระทาํ แลว แดพระตถาคตเจา ผูเสดจ็ ปรินพิ พานแลว ไมทรงยนิ ดอี ยโู ดยแท มีผลไมเปนหมนั : มหาปฐพนี ี้ยนิ ดบี า ง หรอื หนอแลวา 'ขอสรรพพชื จงงอกขนึ้ บนเรา' ดงั น.้ี \" ร. \"หามิได. \" ถ. \"ขอถวายพระพร กเ็ หตไุ ฉนพชื ท้งั หลายเหลา นัน้ งอกข้นึ บนมหา ปฐพอี นั ไมย นิ ดอี ยูแ ลว ต้งั มนั่ ดวยรากอันรงึ รัดกันแนน แข็งแรงดวยแกนในลาํ ตนและกิง่ ทรงดอกออกผลเลา ?\" ร. \"มหาปฐพีแมไ มย นิ ดอี ยู กเ็ ปนวัตถทุ ่ีตั้งแหงพชื ทงั้ หลายเหลา นน้ั

ยอมใหปจจยั เพือ่ งอกขน้ึ , พชื ทงั้ หลายนน้ั อาศยั มหาปฐพีนน้ั เปน วัตถแุ ลว งอกข้นึ ดวยปจ จยั นนั้ แลว ต้งั มน่ั ดว ยรากอนั รึงรัดกันแนน แขง็ แรงดวยแกน ใน ลาํ ตนและกงิ่ ทรงดอกออกผลได.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยา งนัน้ พวกเดียรถึยฉ บิ หาย ตองถูกกําจัด เปนพิรธุ ในถอยคาํ ของตวั , ถาเขาขืนกลาววา 'การบชู าทท่ี ายกกระทําแลว แก ทานผูไ มยนิ ดี เปน หมันไมม ผี ล' ดังน.ี้ ขอถวายพระพร มหาปฐพีนี้ ฉนั ใด, พระ ตถาคตอรหันตสมั มาสมั พุทธเจา ก็ฉนั นนั้ ; มหาปฐพีไมยนิ ดอี ะไร ๆ ฉันใด, พระตถาคตเจา ไมทรงยินดีอะไร ๆ กฉ็ นั นน้ั ; พืชเหลา นนั้ อาศยั ปฐพี งอกข้ึน แลว ตง้ั มนั่ ดวยรากอันรงึ รดั กนั แนน แข็งแรงดวยแกน ในลาํ ตนและกงิ่ ทรงดอก ออกผลไดฉันใด, เทวดามนษุ ยท งั้ หลาย อาศยั พระธาตุและพระญาณรตั นข องพระตถาคตเจาผเู สดจ็ ปรนิ ิพพานแลว ไมท รงยนิ ดอี ยโู ดยแท ตั้งมัน่ ดว ย กุศลมูลอนั แนน หนาแลว แข็งแรงดว ยแกน คอื พระธรรม ในลาํ ตน คือ สมาธิ และกง่ิ คอื ศีล ทรงดอก คอื วิมตุ ติ ออกผล คือ สามัญผล กฉ็ ันนนั้ . ขอถวาย พระพร แมเพราะเหตนุ ้ี การบชู าทที่ ายกกระทําแลวแดพ ระตถาคตเจาผเู สด็จ ปรนิ พิ พานแลว ไมทรงยนิ ดอี ยโู ดยแท จึงชอื่ วา มีผลไมเปน หมนั แล.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดบั เหตุแมอ ่นื อกี ใหย่ิงขน้ึ ไป เปน เคร่อื งใหเปน วา การบชู าทท่ี ายกกระทาํ แลว แดพระตถาคตเจา ผเู สดจ็ ปรนิ พิ พานแลว ไมท รงยนิ ดอี ยูโดยแท มีผลไมเ ปนหมนั : สตั วท่เี ขาเลย้ี ง คือ อูฐ โค ลา แพะ และหมูมนษุ ยเ หลา นี้ ยนิ ดีใหห มหู นอนเกิดในทอ งบา งหรอื ขอถวายพระ.\" ร. \"หามิได.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ก็เหตุไฉน หนอนเหลาน้ันจงึ เกิดในทอ งของมนษุ ย และดริ ัจฉานเหลา น้นั ผูไมย นิ ดีอยูแ ลว มีลกู หลานเปน อนั มาก ถงึ ความ ไพบูลยข น้ั เลา ?\" ร. \"เพราะบาปกรรมมกี าํ ลงั ซิ พระผูเปน เจา ถงึ สัตวเ หลา นัน้ ไมย ินดอี ยู หมูหนอนเกดิ ข้ึนภายในทอ งแลว มลี ูกหลายมาก ถงึ ความไพบูลยข ้นึ .\" ถ. \"เพราะพระธาตุและพระญาณรัตนของพระตถาคตเจา ผูเสดจ็ ปรนิ ิพพานแลว ไมท รงยนิ ดอี ยโู ดยแทม กี าํ ลัง การบูชาทีท่ ายกกระทาํ แลว ใน พระตถาคตเจา จงึ มผี ลไมเปน หมนั ฉนั เดยี วกนั แล ขอถวายพระพร.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดับเหตุแมอ ื่นอีกใหยิ่งขนึ้ ไปอกี เปนเคร่อื งใหเ หน็ วา การบชู าทที่ ายกกระทําแลว แดพระตถาคตเจา ผูเสดจ็

ปรนิ พิ พานแลว ไมทรงยนิ ดอี ยโู ดยแท มผี ลไมเปนหมัน: หมมู นษุ ยเ หลา นยี้ นิ ดี อยูว า 'ขอโรคเกาสบิ แปดเหลาน้ี จงเกิดในกายเถดิ ' ดังนี้ บา งหรอื ขอถวาย พระพร.\" ร. \"หามิได.\" ถ. \"ขอถวายพระพร กเ็ หตุไฉน โรคเหลา นัน้ จึงเกิดในกายของหมู มนษุ ยผ ูไมย นิ ดอี ยเู ลา ?\" ร. \"ขอถวายพระ ถา วาอกศุ ลท่เี ขากระทาํ ไวในกาลกอนเปนกรรมทจี่ ะ ตองเสวยในภพน,้ี ถา อยา งน้ัน กุศลกรรมก็ดี อกุศลกรรมก็ดี ทเ่ี ขากระทําไว แลวในภพกอนกด็ ี ในภพนก้ี ็ดี ยอ มมผี ลไมเ ปนหมนั . ขอถวายพระพร แม เพราะเหตุน้ี การบูชาทท่ี ายกกระทาํ แลว แดพ ระตถาคตเจา ผเู สด็จ ปรินิพพานแลว ไมทรงยนิ ดอี ยโู ดยแท ยอมมีผลไมเ ปน หมนั . ขอถวายพระพร พระองคไดเ คยทรงสดับบา งหรือวานนั ทกยักษป ระทุษรา ยพระสารีบุตรเถรเจา แลว เขาไปสูแผน ดนิ แลว.\" ร. \"ขา พเจา เคยไดฟง เรือ่ งนป้ี รากฏแลวในโลก.\" ถ. \"เออก็ พระสารีบตุ รเถรเจา ยินดกี ารทม่ี หาปฐพกี ลนื นนั ทกยักษเขา ไปไวด วยหรอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"แมโลกนก้ี บั ทงั้ เทวโลกเพิกถอนไปอยู แมด วงจนั ทรและดวง อาทิตยตกลงมาทแี่ ผน ดนิ อยู แมพญาเขาสิเนรุบรรพตแตกกระจายอยู พระ สารบี ุตรเถรเจาก็ไมยนิ ดที กุ ขของผูอ่ืน, ขอน้ันเปน เพราะเหตอุ ะไร ? เปน เพราะเหตุเครอ่ื งทพี่ ระสารบี ตุ รเถรเจา จะโกรธก็ดี จะประทษุ รา ยกด็ ี ทา นถอน เสยี แลว ทา นตัดขาดเสยี แลว , เพราะทา นถอนเหตเุ สยี ไดแ ลว พระสารีบุตรเถร เจา ไมพ งึ กระทาํ ความโกรธ แมในผูจ ะผลาญชวี ิตของทา นเสยี .\" ถ. \"ถาวา พระสารบี ตุ รเถรเจา ไมย นิ ดกี ารทม่ี หาปฐพีกลนื นันทกยักษ เขา ไปไวแลว เหตไุ ฉน นนั ทกยกั ษจ งึ ไดเขาไปสูแผน ดนิ เลา ขอถวายพระพร ?\" ร. \"เพราะเหตอุ กศุ ลกรรมเปนโทษมกี าํ ลังนะซ.ิ \" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา หากนนั ทกยักษเขา ไปสแู ผนดินแลว เพราะ อกุศลกรรมเปน โทษแรง, ความผิดท่เี ขากระทาํ แลว ตอทา นผูไ มย นิ ดอี ยู ก็มผี ล ไมเปนหมนั , ถา อยา งนน้ั การบชู าทที่ ายกระทาํ แลว แกทา นผไู มยนิ ดีอยู ก็ ยอมมผี ลไมเ ปน หมนั เพราะกศุ ลกรรมเปนคณุ แรงกลา . ขอถวายพระพร แม เพราะเหตุน้ี การบูชาที่ทายกกระทําแลว แดพ ระตถาคตเจา ผูเสด็จปรนิ พิ พาน แลว ไมทรงยนิ ดีอยูโ ดยแท ยอมมีผลไมเปน หมนั . ขอถวายพระพร เด๋ยี วนี้

มนุษยผ ูเขาไปสแู ผน ดนิ มผี ลเทา ไรแลว, พระองคไ ดเคยสดับเรอื่ งน้บี า งหรือ ?\" ร. \"เคยไดฟง\" ถ. \"ขอถวายพระพร เชิญพระองคตรัสใหอ าตมภาพฟง .\" ร. \"ขา พเจา ไดฟ งวา มนษุ ยผเู ขา ไปสูแผน ดนิ แลว นห้ี า คน คือ : นาง จิญจมาณวกิ าหนงึ่ สปุ ปพทุ ธะสกั กะหนง่ึ เทวทัตตเถระหนง่ึ นนั ทกยกั ษหนง่ึ นนั ทมาณพหนึง่ .\" ถ. \"เขาผิดในใคร ขอถวายพระพร.\" ร. \"ในพระผมู พี ระภาคเจาบา ง ในพระสาวกบา ง.\" ถ. \"เออก็ พระผมู ีพระภาคเจา ก็ดี พระสาวกก็ดี ยนิ ดีการทีค่ นเหลา นี้ เขา ไปสูแ ผนดินแลวหรือ ขอถวายพระพร ?\" ร. \"หามไิ ด. \" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยางนนั้ การบชู าทที่ ายกกระทาํ แลว แดพ ระ ตถาคตเจา ผูเ สดจ็ ปรินพิ พานแลว ไมท รงยินดอี ยโู ดยแท ยอ มมีผลไมเ ปน หมัน.\" ร. \"พระผเู ปน เจาแกป ญ หาใหเ ขา ใจไดดแี ลว ขอ ท่ลี กึ กระทาํ ใหต ้ืนแลว ท่ีกําบงั พังเสยี แลว ขอดทําลายเสียแลว ชฏั กระทาํ ไมใหเ ปนชฏั แลว วาทะของ คนพวกอ่ืนฉบิ หายแลว ทฏิ ฐอิ นั นา ชังหกั เสยี ไดแลว พวกเดียรถียผนู า เกลียด มาจดพระผเู ปน เจาผปู ระเสริฐกวา คณาจารยท ปี่ ระเสรฐิ เขา แลว ยอมสนิ้ รศั มี.\" ๒. สพั พญั ภู าวปญหา ๒ ร. \"พระผเู ปน เจา นาคเสน พระพุทธเจาเปน สพั พญั ูหรอื ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจาเปน สพั พญั ,ู กแ็ ตพ ระ ญาณทีเ่ ปน เหตรุ ูเหน็ หาปรากฏแกพระผูมพี ระภาคเจาฉบั ไวทนั ทไี ม, พระสัพ พัญตุ ญาณของพระผมู พี ระภาคเจาเนื่องดว ยการนกึ พระองคท รงนกึ แลว ยอมรูไ ดต ามพระพทุ ธประสงค. \" ร. \"ถาอยา งนนั้ พระพทุ ธเจา กไ็ มใ ชส พั พญั ซู ิ, ถาพระสพั พญั ตุ ญาณของพระองคยอ มมไี ดด วยการคน หา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขา วเปลอื กรอ ยวาหะ กบั กง่ึ จฬุ า เจด็ อัมมณะ สองตุมพะ ขา วเปลอื กมีประมาณถงึ เพยี งนี้ คนมีจิตเปน ไปในขณะเพียงแต

อัจฉระ คอื ช่วั ดดี นวิ้ มอื คร้งั เดียว ยงั สามารถตงั้ เปนคะแนนนบั ใหถ ึงความสน้ิ ไปหมดไปได. นี้จิตเจด็ อยา งเปน ไปอยูใ นขณะช่วั อจั ฉระเดียวนนั้ : ขอถวาย พระพร คนจาํ พวกใด มีราคะ มโี ทสะ มโี มหะ มีกเิ ลส มีกายไมไดอ บรมแลว มี ศีลไมไดอบรมแลว มีจิตไมไ ดอบรมแลว มปี ญ ญาไมไ ดอ บรมแลว จติ ของเขา นั้นเกิดข้นึ ชา เปน ไปเนอื ย, ขอนม้ี ีอะไรเปนเหตุ ? เพราะจติ เปนสภาพไมไ ดอ บ รมแลว. ขอถวายพระพร มีอปุ มาวา ลาํ ไมไผอ ันสูงดวดลาํ อวบแขง็ แรง เก่ียว พนั กนั เปน สมุ ทมุ ดว ยเซิงก่งิ คนฉดุ ลากมา ก็คอยมาชา ๆ ขอ นี้มอี ะไรเปน เหตุ ? เพราะกง่ิ เปน ของเกยี่ วพนั กนั ฉนั ใด, คนจาํ พวกใด มีราคะ มโี ทสะ มโี มหะ มกี เิ ลส มีกายไมไดอบรมแลว มีศีลไมไ ดอบรมแลว มีจติ ไมไ ดอบรมแลว มี ปญญาไมไดอ บรมแลว จติ ของเขานน้ั เกดิ ขึน้ ชา เปน ไปเนอื ย, ขอน้มี ีอะไรเปน เหตุ ? เพราะจติ เปน สภาพอนั กิเลสท้ังหลายเกี่ยวพนั แลว ฉนั นน้ั . นจ้ี ิตท่หี นง่ึ .\" ในจติ เจ็ดอยางนน้ั จติ นี้ถงึ ความจาํ แนกเปน จิตทสี่ อง. คนจําพวกใด เปนพระโสดาบันผแู รกถึงกระแสพระนพิ พาน มีอบายอนั ละเสยี ไดแ ลว พรอม มูลแลวดว ยความเหน็ ชอบ มีคาํ สอนของพระศาสดาอนั รแู จง แลว จติ ของทา น นัน้ เกิดข้ึนไว เปนไปไว ในสามสถาน เกดิ ขน้ึ ชา เปน ไปเนอื ย ในภมู เิ บือ้ งบน ขอ น้มี ีอะไรเปน เหตุ ? เพราะจิตเปน สภาพบรสิ ทุ ธิใ์ นสามสถาน และเพราะ กเิ ลสทง้ั หลายในเบื้องบนเปน สภาพอนั ทา นยงั ละไมไดแลว. มีอปุ มาเหมอื น ลําไมไผโลงหมดจากการเกย่ี วพนั กนั เพียงสามปลอ ง แตข า งบนยังเปน สมุ ทมุ ดว ยเซงิ กิ่งคนฉุดลากมา ยอ มคลอ งเพยี งสามปลอ ง สงู ขนึ้ ไปจากนนั้ ยอ มขัด ขอ น้ีมีอะไรเปน เหตุ ? เพราะขา งลา งโลง หมด และเพราะขางบนยังเปน สุมทุม ดวยเซิงกิ่ง ฉะนนั้ . นี้จติ ทสี่ อง จติ น้ีถงึ ความจาํ แนกเปนจติ ทส่ี าม. คนจาํ พวกใด เปน พระสกทาคามี มรี าคะ โทสะ โมหะเบาบาง จติ ของทา นนน้ั เกดิ ขึน้ ไว เปน ไปไว ในทหี่ าสถาน เกดิ ขน้ึ ชา เปน ไปเนอื ย ในภมู เิ บือ้ งบน, ขอ นีม้ อี ะไรเปนเหตุ ? เพราะจติ เปน สภาพบรสิ ุทธใ์ิ นทหี่ าสถาน และเพราะกิเลสเบอื้ งบนเปนสภาพอนั ทา นยังละ ไมไดแ ลว . มอี ุปมาเหมือนลาํ ไมไผโ ลง หมดจากการเกยี่ วพนั กนั เพยี งหา ปลอง แตขา งบนยงั เปน สุมทมุ ดวยเซิงกงิ่ คนฉดุ ลากมา ยอมมาคลองเพยี งหา ปลอง สูงขนึ้ ไปจากนนั้ ยอมขดั , ขอนีม้ ีอะไรเปนเหตุ ? เพราะขา งลา งโลง หมด และ เพราะขา งบนยงั เปน สุมทุมดวยเซงิ ก่งิ ฉะนนั้ . นจ้ี ิตท่ีสาม. จิตนี้ถึงความจาํ แนกเปนจติ ที่ส.่ี คนจาํ พวกใด เปนพระอนาคามมี ี สังโยชนเ บ้ืองต่ําหา ประการละไดแลว จิตของทา นน้ัน เกิดขึ้นไว เปน ไปไว ใน

ทสี่ บิ สถาน เกดิ ขึน้ ชา เปน ไปเนอื ย ในภูมิเบอ้ื งบน, ขอ นม้ี ีอะไรเปน เหตุ ? เพราะจติ เปน สภาพบริสทุ ธใ์ิ นทส่ี บิ สถาน และเพราะกเิ ลสเบอ้ื งบนเปน สภาพ อันทา นยงั ละไมไดแ ลว . มอี ุปมาเหมอื นลาํ ไมไ ผโ ลงหมดจากการเก่ียวพนั กนั เพยี งสิบปลอ ง แตขางบนยังเปน สุมทมุ ดว ยเซงิ กง่ิ คนฉุดลากมา ยอ มมา คลองเพียงสิบปลอง สงู ขน้ึ ไปจากนน้ั ยอมขดั , ขอน้ีมีอะไรเปนเหตุ ? เพราะ ขางลางโลง หมด และเพราะขา งบนยงั เปน สุมทมุ ดวยเซิงกงิ่ ฉะนน้ั . นจี้ ิตท่สี .่ี จติ น้ถี งึ ความจาํ แนกเปน จติ ท่คี รบหา. คนจาํ พวกใด เปฯ พระอรหนั ต สิน้ อาสวะแลว ชําระมลทนิ หมดแลว ฟอกกเิ ลสแลว อยจู บพรหมจรรยแลว มี กจิ ทีจ่ ะตอ งทาํ อนั ไดท าํ เสรจ็ แลว ปลงภาระเสียไดแ ลว มีประโยชนต นไดบรรลุ ถึงแลว มีธรรมอนั จะประกอบไวใ นภพสน้ิ รอบแลว มพี ระปฏสิ ัมภทิ าไดบรรลุ แลว บริสุทธิ์แลว ในภูมแิ หง พระสาวก, จิตของทา นนนั้ เกิดข้นึ ไว เปน ไปไว ใน ธรรมเปนวสิ ยั ของพระสาวก เกดิ ขึน้ ชา เปน ไปเนือย ในภมู แิ หงพระปจ เจก พทุ ธะ และในภมู ิแหง พระสพั พัญพู ทุ ธะ, ขอนีม้ ีอะไรเปนเหตุ ? เพราะทา น บรสิ ทุ ธ์ิแลวเพยี งในภูมิแหง พระสาวก และเพราะไมบ รสิ ุทธิ์แลวในปจ เจกพทุ ธ ภมู แิ ละสพั พญั พู ุทธภูม.ิ มอี ปุ มาเหมือนลาํ ไมไ ผม ีปลอ งโลงหมดจากการ เก่ยี วพนั กนั ทกุ ปลอ ง คนฉดุ ลากมา กม็ าไดค ลอง ไมช า , ขอน้ีมอี ะไรเปน เหตุ ? เพราะไมไผน นั้ โลงหมดจากการเก่ียวพนั กนั ทกุ ปลอ ง และเพราะไมเ ปน สุมทุม ฉะนนั้ . นจ้ี ิตทคี่ รบหา. จติ นถ้ี ึงความจําแนกเปนจิตท่คี รบหก. คนจาํ พวกใด เปน พระปจ เจก พทุ ธะ คอื ตรัสรจู าํ เพาะตัว เปน พระสยัมภู คือ ผเู ปน เองในทางตรสั รู ไมมใี คร เปน อาจารย ประพฤตอิ ยแู ตผเู ดียว มอี าการควรกาํ หนดเปรยี บดว ยนอแรด มี จติ บรสิ ุทธป์ิ ราศจากมลทนิ ในธรรมเปนวสิ ยั ของทา น, จิตของทา นนน้ั เกิดขึ้น ไว เปน ไปไว ในธรรมเปนวิสยั ของทา น เกดิ ขึ้นชา เปน ไปเนือย ในภมู ขิ องพระ สพั พพัญพู ทุ ธะ, ขอนีม้ ีอะไรเปน เหตุ ? เพราะทา นบรสิ ทุ ธิ์แตในวิสยั ของ ทาน และเพราะพระสพั พัญูพทุ ธวิสยั เปน คุณอนั ใหญยิง่ , มีอมุ าเหมอื น บรุ ษุ ผูเคยไมพ งึ ครา ม จะลงลํานา้ํ นอ ยอนั เปนวิสยั ของตวั ในคนื กไ็ ด ในวนั ก็ ได ตามปรารถนา, คร้นั เหน็ มหาสมทุ รท้ังลึกหยง่ั ไมถงึ ทงั้ กวา งไมมฝี ง ในท่ี ตําบลอ่นื แลว จะกลวั ยอ ทอไมอาจลง, ขอนมี้ อี ะไรเปน เหตุ ? เพราะวสิ ยั ของ เขา ๆ ไดเคยประพฤติแลว และเพราะมหาสมุทรเปน ชลาลัยอันใหญ ฉะนัน้ . น้เี ปนจติ ท่คี รบหก. จิตน้ีถงึ ความจาํ แนกเปน จติ ทเ่ี จด็ . คนจําพวกใด เปน พระสมั มาสัม

พทุ ธคอื ตรัสรชู อบเอง เปน สพั พญั ูคอื รธู รรมทง้ั ปวง ทรงญาณอันเปน กาํ ลัง สิบประการ กลา หาญปราศจากครัน่ ครา ม เพราะเวสารัชชธรรมส่ปี ระการ พรอมมูลดว ยธรรมของพระพุทธบคุ คลสบิ แปดประการมชี ัยชนะหาที่สดุ มไิ ด มญี าณหาเครื่องขัดขวางมไิ ด, จติ ของทา นนนั้ เกดิ ข้ึนไว เปน ไปไว ในท่ที กุ สถาน, ขอ นีม้ อี ะไรเปน เหตุ ? เพราะทานบรสิ ุทธ์ิแลวในทท่ี ุกสถาน. ขอถวายพระพร พระแสงศรทีช่ ําระดแี ลว ปราศจากมลทินหาสนมิ มิได คมกรบิ ตรงแนว ไมค ด ไมง อ ไมโกง ขึ้นบนแลง อนั มนั่ แขง็ แรง แผลงใหตกลง เตม็ แรง ท่ีผา โขมพัสตรอันละเอียดก็ดี ทผี่ า กัปปาสกิ พสั ตรอ ันละเอียดก็ดี ที่ ผากัมพลอนั ละเอยี ดกด็ ี จะไปชาไมส ะดวกหรือตดิ ขัดมีบา งหรือ ?\" ร. \"หาเปน เชน น้ันไม, ขอ น้มี อี ะไรเปนเหตุ ? เพราะผา เปน ของละเอยี ด ศรก็ชําระดแี ลว และการแผลงใหต กกเ็ ตม็ แรง.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอ อปุ ไมยกฉ็ นั นนั้ คนจําพวกใด เปนพระสมั มา สัมพุทธะ ฯลฯ จติ ของทา นนนั้ เกิดขน้ึ ไว เปน ไปไว ในทท่ี กุ สถาน. นีจ้ ติ ที่เจ็ด. ขอถวายพระพร ในจิตเจด็ อยา งนน้ั จิตของพระสพั พัญพู ุทธะทงั้ หลายบรสิ ทุ ธแิ์ ละไวโดยคณุ ทีน่ ับไมได ลว งคณนาแหง จติ แมทัง้ หกอยา ง. ขอ ถวายพระพร เหตใุ ด จติ ของพระผมู พี ระภาคเจาบริสทุ ธแ์ิ ละไว เหตนุ น้ั พระ องคจงึ ทรงแสดงยมกปาฏหิ าริยได, ในยมกปาฏิหารยิ นน้ั พระองคพ งึ ทรง ทราบเถดิ วา 'จิตของพระผมู พี ระภาคเจา ทัง้ หลายเปนไปไวถึงอยา งนน้ั ,' อา ตมภาพไมสามารถกลา วเหตใุ นขอนัน้ ใหย ่ิงข้นึ ไปได. แมปาฏหิ ารยิ เหลา นนั้ เขา ไปเปรียบจติ ของพระสัพพญั พู ทุ ธะทงั้ หลายแลว ยอ มไมถงึ การคณานา นบั สักเสย้ี วกด็ ี สักสวนของเสี้ยวก็ดี พระสพั พัญตุ ญาณของพระผมู ีพระ ภาคเจาเน่อื งดวยการนกึ , พระองคท รงนกึ แลว กร็ ูไดต ามพระพทุ ธประสงค. ขอถวายพระพร เหมือนอยา งวา บุรษุ จะวางของส่ิงใดสิ่งหน่งึ ซึ่งวางอยูใ นมือ ขา งหนง่ึ ไวใ นมืออกี ขา งหนงึ่ กด็ ,ี จะอาปากข้นึ เปลง วาจากด็ ,ี จะกลืนโภชนะ ซง่ึ เขา ไปแลวในปากก็ด,ี ลืมอยแู ลวและจะหลับจักษุลง หรอื หลบั อยูแลวจะ ลืมจกั ษุขน้ึ ก็ด,ี จะเหยยี ดแขนทค่ี แู ลว ออกหรอื จะคแู ขนที่เหยยี ดแลว เชา กด็ ,ี กาลนนั้ ชา กวา , พระสัพพญั ตุ ญาณของพระผมู ีพระภาคเจาไวกวา, ความ นึกของพระองคไ วกวา , พระองคท รงนึกแลว ยอมรไู ดต ามพระพทุ ธประสงค, พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจาทง้ั หลายไดชื่อวา ไมใชส ัพพัญู ดว ยสกั วาความบก พรอง เพราะตอ งนกึ เพยี งเทา นนั้ กห็ ามไิ ด. \" ร. \"แมความนกึ กต็ อ งทาํ ดวยความเลอื กหา, ขออาราธนาพระผูเ ปน

เจา อธบิ ายใหข า พเจา เขาใจในขอนนั้ โดยเหตุเถิด.\" ถ. \"ขอถวายพระพร เหมอื นอยา งวา บุรุษผมู ่งั มี มที รพั ยม าก มสี มบัติ มาก มีทองเงนิ และเครอื่ งมอื อันเปน อปุ การแกท รพั ยมาก มีขา วเปลอื กไวเ ปน ทรพั ยมาก และขา วสาลี ขาวจา ว ขา วเหนยี ว ขา วสาร งา ถ่ัวเขยี ว ถว่ั ขาว บพุ พณั ณชาติและอปรณั ณชาติอืน่ ๆ เนยใส เนยขน นมสด นมสม นํา้ มนั นา้ํ ผง้ึ นํ้าตาล นา้ํ ออย ของเขากม็ พี รอ มอยูในไห ในหมอ ในกระถาง ในยงุ และใน ภาชนะอน่ื ๆ, และจะมแี ขกมาหาเขา ซึง่ ควรจะเล้ียงดู และตอ งการจะบริโภค อาหารอยดู ว ยล ก็แตโภชนะทีท่ าํ สุกแลว ในเรอื นของเขา หมดเสยี แลว เขาจงึ นาํ เอาขาวสารออกจากหมอ แลวและหุงใหเปน โภชนะ; บุรุษผูน นั้ จะไดชอื่ วา คนขดั สนไมมที รพั ย ดวยสกั วา ความบกพรอ งแหงโภชนะเพยี งเทา นน้ั ไดบ า ง หรอื ?\" ร. \"หาอยางนน้ั ไม แมใ นพระราชนิเวศนข องพระเจา จกั รพรรดค์ิ วาม บกพรองแหง โภชนะ ในสมยั ซึ่งมิใชเ วลากย็ ังม,ี เหตุอะไรในเรอื นของคฤหบดี จกั ไมม บี า งเลา .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขออปุ ไมยก็ฉนั นน้ั พระสัพพญั ุตญาณของพระ ตถาคตเจา บกพรอ งเพราะตอ งนกึ , แตค ร้ันทรงนกึ แลว กร็ ไู ดตามพระพุทธ ประสงค. ขอถวายพระพร อน่ึง เหมือนอยา งวา ตน ไมจะเผล็ดผล เตม็ ดว ย พวงผลอันหนกั ถว งหอยยอ ย, แตในทน่ี นั้ ไมมีผลอนั หลน แลวสักนอยหนง่ึ ; ตน ไมน ั้น จะควรไดชือ่ วาหาผลมิได ดว ยความบกพรองเพราะผลทย่ี ังไมห ลนแลว เพียงเทา นนั้ ไดบ า งหรอื ?\" ร. \"หาอยา งนนั้ ไม เพราะผลไมเหลา น้ันเนอื่ งดวยการหลน , เมือ่ หลน แลว คนกย็ อ มไดตามปรารถนา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอ อุปไมยก็ฉนั นนั้ , พระสัพพญั ุตญาณของพระ ตถาคตเจา บกพรองเพราะตองนกึ , แตค รั้นทรงนึกแลว ก็รไู ดตามพทุ ธ ประสงค.\" ร. \"พระผูเปน เจา พระพทุ ธเจา ทรงนกึ แลว ๆ รูไดต ามพระพทุ ธ ประสงคหรอื ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา ทรงนกึ แลว ๆ รูไดต ามพระ พทุ ธประสงค; เหมอื นอยา งวา พระเจา จกั รพรรดริ าชทรงระลึกถงึ จกั รรตั นขนึ้ เม่อื ใดวา 'จักรรัตนจงเขามาหาเรา' ดงั น้ี พอทรงนกึ ขน้ึ แลว จักรรัตนกเ็ ขา ไป ถงึ ขอน้ีฉนั ใด; พระตถาคตเจา ทรงนกึ แลว ๆ ก็รูไดต ามพระพทุ ธประสงค ฉัน

น้ัน.\" ร. \"เหตมุ นั่ พอแลว , พระพทุ ธเจา เปน สัพพญั ูแท, ขาพเจายอมรบั วา 'พระพทุ ธเจา เปนสัพพญั จู ริง.\" ๓. เทวทตั ตปพ พาชิตปญหา ๓ พระราชาตรสั ถามวา \"พระผเู ปนเจา พระเทวทตั อันใครบวชใหแลว .\" พระเถรเจา ถวายวิสชั นาวา \"ขอถวายพระพร ขตั ติยกุมารหกพระองค ทรงพระนามวา ภัททยิ กมุ ารหนง่ึ อนรุ ุทธกมุ ารหนึ่ง อานนั ทกุมารหนง่ึ ภคั คุ กมุ ารหนงึ่ กมิ พิลกมุ ารหน่งึ เทวทตั ตกุมารหนงึ่ นมี้ นี ายอบุ าลชิ าวภูษามาลา เปน ทเี่ จ็ด, ครั้นเม่ือสมเดจ็ พระบรมศาสดาเจา ตรัสรพู ระอภสิ ัมโพธิญาณแลว ยงั ความยนิ ดีใหบ งั เกิดแกศากยตระกลู ได, ตา งองคตางออกทรงผนวชตาม พระผมู ีพระภาคเจา ; พระผมู พี ระภาคเจา โปรดใหทรงผนวชแลว.\" ร. \"พระผูเปน เจา พระเทวทตั บวชแลวทาํ ลายสงฆแ ลว มใิ ชห รือ ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระเทวทัตบวชแลว ทาํ ลายสงฆแ ลว . คฤหสั ถ ทําลายสงฆมไิ ด ภิกษุณกี ็ทาํ ลายสงฆม ิได สกิ ขมานากท็ าํ ลายสงฆม ไิ ด สามเณรก็ทาํ ลายสงฆม ิได สามเณรีก็ทาํ ลายสงฆม ิได, ภิกษุมีตนเปน ปกติ รวมสังวาสเดยี วกนั รว มสีมาเดยี วกัน ยอมทาํ ลายสงฆได. \" ร. \"พระผูเปน เจา บุคคลผูทาํ ลายสงฆ ยอมตองกรรมอะไร ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร บุคคลผทู ําลายสงฆนน้ั ยอมตองกรรมอันจะให ตกนรกสนิ้ กัปปหนงึ่ .\" ร. \"พระผูเ ปน เจา พระพทุ ธเจาทรงทราบอยูหรือวา 'พระเทวทัตบวช แลวจกั ทาํ ลายสงฆ ครนั้ ทําลายสงฆแลว จกั ไหมอ ยใู นนรกสิน้ กปั ปห นงึ่ .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระตถาคตเจาทรงทราบอย.ู \" ร. \"พระผูเ ปน เจา ถา พระพทุ ธเจา ทรงทราบอยู เมอ่ื เปน อยา งนน้ั คําวา 'พระพทุ ธเจา ประกอบดว ยพระกรุณาเอน็ ดสู ัตว ทรงแสวงหาธรรมท่เี ปน ประโยชนเ ก้ือกลู สตั ว นําสงิ่ ซ่งึ มิใชป ระโยชนเสยี ตั้งสง่ิ ซง่ึ เปนประโยชนไ วแก สัตวทั้งหลายท้งั สน้ิ ' ดังน้ี ผดิ . ถาและพระองคไมท รงทราบเหตุอนั นนั้ แลว ให บวชเลา ไซร, เม่ือเปนอยา งนน้ั พระพทุ ธเจา ไมใ ชพระสพั พญั นู ะซ.ิ ปญ หา สองเง่ือนแมน ม้ี าถงึ ทา นแลว ขอทานจงสะสางเง่อื นอนั ยงุ ใหญน ้นั เสยี ขอ ทา นจงทาํ ลายปรบั ปปวาทเสยี , ในอนาคตกาลไกล ภกิ ษทุ ้งั หลายผมู ปี ญ ญา

เชนทา น จกั หาไดย าก, ขอทา นจงประกาศกําลังปญ ญาของทา นในปญ ญาขอ น.ี้ \" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผูมพี ระภาคเจา ประกอบดว ยพระกรุณา ทง้ั เปน พระสพั พญั ดู วย. ขอถวายพระพร เพราะความทพี่ ระองคท รงพระกรุณา พระองคทรงพจิ ารณาดคู ตขิ องพระเทวทตั ดวยพระสพั พญั ตุ ญาณ ทอด พระเนตรเหน็ พระเทวทัต ผจู ะสะสมกรรมอนั จะใหผ ลในภพสืบ ๆ ไปไมส ิน้ สดุ หลดุ จากนรกไปสนู รก หลุดจากวนิ บิ าตไปสวู นิ บิ าต สน้ิ เสนโกฏิแหง กปั ปเ ปน อันมาก, พระองคท รงทราบเหตุนนั้ แลวดว ยพระสพั พัญุตญาณ ทรงพระ ดาํ ริวา 'กรรมของเทวทัตผนู ี้ เจา ตวั ทาํ แลว หามที ี่สดุ ลงไม เมื่อเธอบวชแลว ใน ศาสนาแหงเรา จักทาํ ใหม ที ส่ี ดุ ลงได, เทยี บกรรมกอนเขา แลว ทกุ ขยงั จกั ทาํ ให มีท่ีสดุ ลงได, โมฆบุรษุ ผูน้ี ถา บวชแลว จกั สะสมกรรมอนั จะใหต กนรกส้ินกปั ป หนง่ึ ' ดงั นี้ จงึ โปรดใหพระเทวทตั บวชแลว ดว ยพระกรณุ า.\" ร. \"พระผเู ปน เจา ถา อยา งนนั้ พระตถาคตเจา ไดช ื่อวาทรงตีแลวทาให ดวยนาํ้ มนั , ทรงทําใหต กเหวแลวยน่ื พระหตั ถป ระทานให, ทรงฆาใหต ายแลว แสวงหาชวี ิตให, เพราะทรงกอ ทุกขใ หก อนแลว จงึ จดั สขุ ไวใหต อภายหลงั .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระตถาคตไดชอ่ื วาทรงตีบา ง ไดชือ่ วาทรงทาํ ให ตกเหวบา ง ไดช ่ือวาทรงฆา ใหตายบา ง ดว ยอาํ นาจทรงเหน็ แกป ระโยชนแหง สตั วทง้ั หลายอยางเดยี ว, อนงึ่ ไดช ือ่ วา ทรงตกี อ นบา ง ทรงทําใหตกเหวกอ น บาง ทรงฆา ใหต ายกอนบา ง แลว จงึ จดั ประโยชนใ หอยา งเดียว, เหมอื นมารดา บดิ าตกี อ นบา ง ใหลม กอนบา ง แลว จึงจัดประโยชนใหแกบ ตุ รท้งั หลายอยาง เดยี วฉะนนั้ . ความเจริญแหง คุณจะพึงมีแกส ัตวท้งั หลาย ดวยความประกอบ อยางใด ๆ, ยอมทรงจัดสง่ิ ซงึ่ เปนประโยชนไวแ กส ตั วท ั้งหลายทง้ั สนิ้ ดว ยนนั้ ๆ. ขอถวายพระพร ถา พระเทวทัตน้ีไมบวชแลว เปน คฤหัสถอ ยูจะกระทาํ บาปกรรมอนั ใหไปเกิดในนรกเปนอนั มาก แลวจะไปจากนรกสูน รก ไปจาก วินิบาตสวู นิ บิ าต เสวยทกุ ขเ ปนอนั มาก สนิ้ แสนโกฏแิ หง กัปปเ ปน อันมาก. พระผูมีพระภาคเจาทรงทราบเหตอุ นั น้ันอยู ดวยกําลงั พระกรุณา ทรงพระดาํ ริ เหน็ วา 'เม่อื พระเทวทัตบวชแลวในพระศาสนาของเรา ทกุ ขจกั เปนผลอันเจา ตัวกระทาํ ใหมที ่ีสุดลงได' ดังนแ้ี ลว ไดโ ปรดพระเทวทตั ใหบ วชแลว ไดท รง กระทําทกุ ขข องพระเทวทตั อนั หนักน้ันใหเบาลงไดแลว . ขอถวายพระพร เหมือนหนง่ึ บรุ ุษมกี าํ ลังทงั้ ทรัพยสมบตั ิอิสสรยิ ยศสิริ

และเครอื ญาติ รวู า ญาติหรือมติ รสหายของตนจะตองรับพระราชอาชญาอัน หนกั แลว ดว ยความทต่ี นเปน ผูสามารถ โดยความคนุ เคยกับคนเปน อนั มาก ไดกระทําโทษอันหนกั นั้นใหเ บาลงได ฉนั ใด, พระผูมีพระภาคเจา โปรดใหพ ระ เทวทตั ผูจ ะตอ งเสวยทกุ ขส นิ้ แสนโกฏิแหง กปั ปเปน อนั มากใหบ วชแลว ดว ย ความทพ่ี ระองคเปน ผูสามารถดว ยพระกาํ ลงั คือ ศีล สมาธิ ปญญา และ วมิ ตุ ติ ทรงกระทาํ ทุกขข องพระเทวทตั อนั หนกั นนั้ ใหเ บาได ฉันนน้ั . ขอถวายพระพร อนง่ึ เหมอื นหมอบาดแผล ยอ มกระทาํ พยาธอิ นั หนกั ใหเ ขาไดดวยอาํ นาจโอสถมกี าํ ลงั ฉันใด, พระผมู ีพระภาคเจา โปรดพระเทว ทัตผูจะตอ งเสวยทกุ ขส้ินแสนโกฏิแหง กัปปเ ปน อันมากใหบวชแลว ความท่ี พระองคทราบเหตเุ ครื่องประกอบแก แลวทรงกระทาํ ทกุ ขอันหนักใหเบาได ดวยกาํ ลงั โอสถคือธรรมอนั เขม แข็งดวยกาํ ลังพระกรณุ า ฉนั นนั้ แล. พระผูม ี พระภาคเจา ทรงกระทาํ พระเทวทตั ผจู ะตองเสวยทุกขม ากใหไ ดเสวยแตน อ ย จะตอ งอกศุ ลอะไร ๆ บา งหรอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"ไมต องเลย แมโ ดยท่ีสดุ สกั วา จะติเตยี นดว ยวาจา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคจงทรงรบั รองเหตุทพี่ ระผูมีพระภาคเจา โปรด พระเทวทัตใหบ วชนี้ โดยขอความเหลานี้แล. ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดับเหตอุ น่ื อกี ยง่ิ กวา น้ี ท่ีพระผมู พี ระภาคเจา โปรดพระเทวทตั ใหบ วช. เหมอื นหนง่ึ วา ราชบุรุษจับโจรผกู ระทาํ ความผิดไดแลว จะพึง กราบทูลแดพ ระเจา แผนดนิ วา 'โจรผนู กี้ ระทําความผิดอยางน้ี ๆ พระองคจงลงพระราช อาญาแกโ จรนน้ั ตามพระราชประสงค' ดังน,ี้ พระเจา แผน ดินจะพงึ รบั สง่ั ใหลงโทษโจรผู นน้ั วา 'ถา อยางนน้ั ออเจา ทง้ั หลายจงนําโจรนีอ้ อกไปนอกเมอื ง จงตดั ศรี ษะมนั เสยี ในท่ี ฆาโจร;' ราชบุรษุ เหลานน้ั จะพึงรบั ๆ สัง่ อยา งนน้ั แลว นาํ โจรนัน้ ออกนอกเมืองไปสทู ่ีฆา โจร, ยงั มบี ุรษุ ขา ราชการผหู น่ึง อันไดรบั พระราชทานพระไวแตราชสํานักแลว ไดร ับ พระราชทานฐานนั ดรยศ เงนิ ประจําตาํ แหนง และเครือ่ งอุปโภค เปนผมู วี าจาควรเชอื่ ถือ มีอาํ นาจทําไดตามปรารถนา, เขาจะพงึ ทาํ ความกรณุ าแกโ จรนน้ั แลวกลา วกะราชบรุ ุษ เหลาน้ันวา 'อยา เลยนาย, ประโยชนอะไรของทา นทง้ั หลายดว ยการตัดศรี ษะเขา, อยา กระนน้ั เลย ทา นจงตัดแตมือหรอื เทาของเขา รกั ษาชีวิตไวเถดิ , เราจักไปเฝา ทูลทัดทาน ดว ยเหตุโจรผนู เี้ อง' เขาจะพงึ ตดั แตมือหรือเทาของโจรและรักษาชวี ติ ไว ตามถอ ยคาํ ของราชบรุ ษุ ผมู ีอาํ นาจนัน้ ; บุรุษผกู ระทาํ อยา งนนี้ นั้ จะพึงชื่อวา กระทาํ กจิ การโดยเห็น แกโ จรนน้ั บา งหรอื ขอถวายพระ.\"

ร. \"บรุ ุษผนู น้ั ชื่อวา ใหช ีวติ แกเขานะ ซี เมอ่ื ใหช ีวิตแกเ ขาแลว มกี ิจการอะไรเลา ไดช อ่ื วา บุรุษนนั้ ไมไ ดก ระทําแลวโดยเหน็ แกเ ขา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ดว ยทุกขเวทนาในเพราะใหตดั มอื และเทาเขานน้ั ผบู งั คบั น้ันจะพงึ ตองอกุศลอะไรดว ยหรือ ?\" ร. \"โจรนัน้ ยอ มเสวยทกุ ขเวทนา ดวยกรรมอนั ตนกระทาํ แลว , สวนบุรษุ ผูใ หช วี ติ ไมควรตอ งอกศุ ลอะไรเลย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอนี้ฉนั ใด, พระผมู พี ระภาคเจาทรงพระกรณุ าโปรดเกลา พระเทวทัตใหบ วชแลว ดว ยทรงเหน็ วา 'เมอื่ พระเทวทัตบวชในศาสนาของเราแลว ทุกข จกั เปนผลอนั เจา ตัวกระทําใหมีท่ีสุดลงได' ฉนั นนั้ . ขอถวายพระพร ทกุ ขข องพระเทวทตั อันเจาตวั กระทาํ ใหมีทสี่ ดุ ลงไดแลว , พระ เทวทัต ในเวลาเม่ือจะตาย ไดเ ปลงวาจาถงึ พระผมู พี ระภาคเจาเปน สรณะตราบเทา สนิ้ ชวี ติ ดังนวี้ า 'ขา พเจา ทง้ั กระดกู ทง้ั ชีวิตทั้งหลายนี้ ขอถึงพระพทุ ธเจา ผเู ปน ยอดบุรุษ เปนเทวดาเลศิ ลวงเทวดา เปนผูฝก บุคคลควรฝก ทรงพระญาณจกั ษุรอบคอบ มพี ระ ลกั ษณะกาํ หนดดว ยบญุ รอ ยหนึง่ พระองคน้ัน เปน สรณะ.\" ขอถวายพระพร พระเทวทตั เมอ่ื ภทั ทกปั ปแ บงแลว เปน หกสวนสว นทลี่ วงไป แลว ไดท ําลายสงฆแลว จกั ไหมอยูในนรกสิน้ กาลประมาณหา สว น แลวจกั พน จากนรก นนั้ มาเปน พระปจเจกพุทธเจาทรงพระนามวา อัฏฐสิ สระ. กพ็ ระผมู พี ระภาคเจาทรง กระทําอยา งนี้ พงึ ชือ่ วา กระทํากจิ การโดยเหน็ แกพ ระเทวทัตบา งหรอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระตถาคตเจา ไดชอ่ื วา ประทานคุณอันเปน ที่ปรารถนาของเทวตามนษุ ยทงั้ ปวงแกพ ระเทวทัต, เพราะพระองคท รงกระทําพระเทวทตั ใหสําเรจ็ ความเปน เปน พระ ปจ เจกพทุ ธเจา ได, มอี ะไรไดชื่อวาพระองคไ มไ ดกระทาํ โดยเหน็ แกพระเทวทัตเลา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ดวยการทพี่ ระเทวทัตทาํ ลายสงฆ แลว เสวยทกุ ขเวทนาใน นรกนนั้ พระตถาคตเจา จะตองอกุศลอะไรบา งหรือ ?\" ร. \"ไมต อ งเลย พระเทวทัตไหมอ ยใู นนรกกปั ปเดียว เพราะกรรมอนั ตนเอง กระทาํ แลว , พระศาสดาผกู ระทาํ ใหถงึ ที่สดุ ทกุ ข จะพงึ ตองอกศุ ลอะไรหามิได.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงรับรองเหตทุ พี่ ระผมู พี ระภาคเจาโปรดพระ เทวทตั ใหบ วชแลว แมน ้ี ดว ยขอความนเี้ ถิด. ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดบั เหตแุ มอ ื่นอกี ยง่ิ กวา น้ี ที่พระผูมพี ระภาค เจา โปรดใหพ ระเทวทัตบวชแลว. เหมือนหนงึ่ หมอบาดแผล เมอ่ื จะรักษาแผลอนั เกดิ เพราะ ลม ดี เสมหะ แตล ะอยา งก็ดี เจือกนั ก็ดี ฤดูแปรกด็ ี รักษาอริ ิยาบถไมเ สมอกด็ ี เกดิ เพราะพยายามแหง ผูอนื่ (มตี องประหารเปน ตน) กด็ ี อากูลดว ยกล่ินเหม็น ดจุ กล่ิน

แหงศพกาํ ลงั เนา ใหปวดดุจแผลอันตอ งลกู ศร เขาไปติดอยขู าใน อนั นาํ้ เหลอื งนนั้ ชอน ไปใหเ ปน โพลง เตม็ ไปดวยบุพโพและโลหติ เขายอ มพอกปากแผลดว ยยากดั อนั แรงกลา แสบรอ น เพอ่ื จะบมแผลกอ น, พอแผลนว ม เขากเ็ ชือดดว ยศัสตราแลว นาบดว ยซเ่ี หล็ก, พอเนอื้ สกุ แลว กล็ า งดวยนา้ํ ดา งแลว พอกยา เพอ่ื ใหแ ผลงอกเนอ้ื ใหค นไขไ ดค วามสุข โดยลําดับ ดงั น;้ี จะวา หมอนนั้ คดิ รา ย พอกยา เชือดดวยศัสตรา นาบดวยซ่เี หล็ก ลา ง ดว ยนา้ํ ดา ง ไดบ า งหรอื ?\" ร. \"หามไิ ด หมอเขามีจิตคิดเก้ือกลู หวังใหหาย จงึ ทาํ เชน น้ัน.\" ถ. \"ขอถวายพระพร หมอนน้ั จะตอ งอกศุ ลอะไร เพราะทกุ ขเวทนาอนั เกิดขน้ึ แก คนไข ดวยเหตุทาํ การรกั ษาของเขาดว ยหรือ ?\" ร. \"หมอเขามจี ิตเกอ้ื กูลหวังจะใหหาย จงึ ทาํ เชน นน้ั , ไฉนจะตอ งอกศุ ลเพราะขอ น้นั เปน เหตุเลา , เขากลับจะไปสวรรคอีก.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอน้ฉี นั ใด, พระผูมีพระภาคเจา โปรดพระเทวทัตใหบ วช แลว เพ่ือปลดเปลื้องทกุ ขด ว ยกําลงั พระกรณุ า กฉ็ นั นนั้ แล. ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดบั เหตอุ นื่ อีกอนั ย่งิ กวานี้ ทพี่ ระผมู พี ระภาค เจา โปรดพระเทวทตั ใหบวชแลว . เหมอื นหนง่ึ บุรษุ ผูตอ งหนามเขาแลว , ทนี น้ั บุรษุ อน่ื มี จติ คิดเกือ้ กลู จะใหห าย จงึ เอาหนามแหลมหรอื ปลายมดี กรดี ตัดแผลโดยรอบแลว นาํ หนามนนั้ ออกดว ยทง้ั โลหิตไหล; ขอถวายพระพร บุรษุ ผนู น้ั ช่ือวาคดิ รายจึงนําหนามนนั้ ออกบา งหรือ ?\" ร. \"หามไิ ด เขามจี ิตคดิ เกื้อกลู หวงั จะใหหาย จึงนาํ หนามน้ันออก, ถาเขาไมช วย นําหนามน้นั ออก บางทผี ตู องหนามนนั้ กจ็ ะถึงความตายหรือไดทุกขป างตาย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอ นฉ้ี นั ใด, พระตถาคตเจาโปรดพระเทวทัตใหบวชแลว เพือ่ ปลดเปลอ้ื งทกุ ขด ว ยกาํ ลงั พระกรณุ า, ถาวา พระผมู พี ระภาคเจามไิ ดโ ปรดพระ เทวทัตใหบ วช เธอก็จกั ไหมอยูใ นนรกโดยลาํ ดบั ๆ ขมุ แมต ลอดแสนโกฏิแหง กปั ป ฉนั น้ัน.\" ร. \"พระผเู ปน เจา พระตถาคตเจา ไดช่ือวา ใหพระเทวทตั ผตู กไปตามกระแสขนึ้ สู ทที่ วนกระแสไดแลว , ใหพ ระเทวทัตผูเดินผดิ ทางขน้ึ ในทางไดแ ลว, ไดประทานวัตถุเปน ท่ียดึ เหนย่ี วแกพ ระเทวทตั ผูตกลงในเหวแลว, ใหพ ระเทวทัตผูเดนิ ในทางไมสม่ําเสมอข้ึน สูทางทส่ี มํา่ เสมอไดแลว. พระผูเปน เจา เหตกุ ารณอนั น้ี ผูอน่ื นอกจากผมู ปี ญ ญาเชน ทา น ไมอาจแสดงได. \" ๔. มหาภูมจิ าลนปาตภุ าวปญ หา ๔

พระเจา มิลนิ ท ตรสั วา \"พระผเู ปนเจา นาคเสน พระพทุ ธพจนน ี้ พระผมู ีพระภาค เจา แมตรัสแลว วา 'ภกิ ษุท้ังหลาย เหตุเพอื่ ความปรากฏของความไหวแหงแผน ดนิ ใหญ เหลา นแ้ี ปดอยาง ปจ จยั เพอ่ื ความปรากฏของความไหวแหงแผน ดนิ ใหญแ ปดอยา ง' ดงั น.้ี พระพทุ ธพจนนี้ กลา วเหตปุ จ จัยหาสว นเหลอื มิได พระพทุ ธพจนน ้ี กลา วเหตุ ปจ จัยไมมีสว นเหลอื , พระพทุ ธพจนน ้ี กลา วเหตุปจ จยั โดยตรง ไมมปี รยิ าย, เหตุเพ่อื ความปรากฏของความไหวแหงแผนดนิ ใหญเปนท่ีเกา อันอนื่ ไมม ;ี พระผูเ ปน เจา นาค เสน ถาเหตเุ พอื่ ความปรากฏของความไหวแหงแผน ดินใหญที่เกา อันอน่ื ยงั มไี ซร, พระผู มีพระภาคเจา พงึ ตรสั เหตแุ มน น้ั , กเ็ หตุเพ่ือความปรากฏของความไหวแหง แผน ดนิ ใหญ ที่เกา อนั อนื่ ยอ มไมมี เพราะเหตใุ ดแล, เพราะเหตนุ ้ัน พระผมู ีพระภาคเจา มไิ ดตรัสเหตุ น้ันแลว . ก็แตวา เหตเุ พือ่ ความปรากฏของความไหวของแผนดินใหญท เี่ กานี้ ยงั ปรากฏ อย,ู พระเวสสนั ดรมหากษตั รยิ ทรงบรจิ าคมหาทาน แผน ดนิ ใหญน้ีไหวแลว เจ็ดครั้งดวย เหตุไรเลา พระผูเ ปน เจา นาคเสน. ถาเหตุเพอ่ื ความปรากฏของความไหวแหง แผนดินใหญแปดอยา งเทา นนั้ ปจ จยั เพอ่ื ความปรากฏของความไหวแหง แผนดนิ ใหญ แปดอยา งเทา นัน้ ไซร, ถา อยา งน้นั คําอนั ใดทีว่ า 'เมอื่ พระเวสสนั ดรมหากษตั ริยท รง บริจาคมหาทาน แผนดินใหญน้ี ไหวเจ็ดครัง้ ' คําแมนั้นผดิ . ถาเมอื่ พระเวสสันดรมหา กษัตริยท รงบริจาคมหาทาน แผนดินใหญน ไ้ี หวเจ็ดครัง้ แลว ไซร, ถา อยา งน้ัน คาํ ทวี่ า 'เหตเุ พื่อความปรากฏของความไหวแหง แผน ดินแปดอยา งเทา นน้ั ปจจยั เพือ่ ความ ปรากฏของความไหวแหง แผน ดนิ แปดอยา งเทา นน้ั 'แมคํานน้ั ก็ผดิ . ปญหาแมน ีส้ อง เง่อื น เปน ปญหาละเอยี ด ใคร ๆ แกยาก ทาํ บคุ คลใหม ดื มนธด งั บคุ คลตาบอดดว ย ลกึ ดวย, ปญ หานน้ั มาถึงพระผูเปนเจาแลว , ปญหาน้นั ผอู นื่ ทม่ี ีปญ ญานอ ย นอกจาก บุคคลผมู คี วามรูเชน พระผเู ปน เจา ไมอาจเพื่อจะวิสชั นาได.\" พระเถรเจา ถวายพระพรวา \"ขอถวายพระพร พระพุทธพจนน พ้ี ระผมู พี ระภาค เจา แมไ ดต รสั แลววา 'ภิกษุท้งั หลาย เหตปุ จ จัยทงั้ หลายเพ่ือความปรากฏของความไหว แหงแผน ดนิ ใหญเหลา นี้ แปดอยา ง ๆ' ดังน.้ี แมเ มือ่ พระเวสสนั ดรมหากษัตริยท รง บรจิ าคมหาทานอยู แผน ในใหญนี้ ไหวแลว เจ็ดครง้ั . ก็แลการทแี่ ผน ดนิ ใหญไ หวนนั้ ไม เปนไปดินกาลทุกเมือ่ มีความเกิดขึน้ ในกาลบางคราว, พน แลวจากเหตทุ ้ังหลายแปด อยา ง, เพราะเหตุนน้ั ทานจึงไมนบั แลวโดยเหตุทง้ั หลายแปด. ขอถวายพระพร เมฆท้ังหลายสามอยา ง คือ: เมฆช่ือวัสสกิ ะหนึ่ง เมฆชอ่ื เหมนั ตกิ ะหนึ่ง เมฆชือ่ ปาวุสสกะหนง่ึ เทา นนั้ ทา นยอ มนบั วาเมฆ, ถาเมฆอนื่ พน จากเมฆ ทงั้ หลายท่ีสมมติแลว , เมฆนั้น ยอ มถงซง่ึ ความนบั วา อกาลเมฆเทา นน้ั ฉนั ใด; สมัยเม่อื

พระเวสสนั ดรมหากษตั ริยท รงบรจิ าคมหาทานอยู แผน ดนิ ใหญน ไ้ี หวแลว เจ็ดคร้งั ดว ย เหตอุ ันใดเหตนุ น้ั ไมม ีในกาลทุกเมือ่ มีความเกิดข้ึนในกาลบางคราว, พนจากเหตุ ทัง้ หลายแปดอยา ง, เหตุนน้ั ทา นจงึ ไมนับโดยเหตทุ ง้ั หลายแปดอยา ง ฉันนน้ั นนั่ เทยี ว. ขอถวายพระพร อีกนยั หนง่ึ เหมอื นแมน ้าํ หา รอ ย ไหลมาแตภูเขาชื่อหมิ วนั ต, แมนํ้าหารอ ยเหลา น้ัน แมน า้ํ ทงั้ สิบเทานน้ั ทา นยอ มนบั โดยอันนับวา แมนํ้า, แมน ํา้ ทงั้ สบิ นอี้ ยา งไร แมนํ้าทัง้ สิบน้ี คือ แมน้ําคงคาหนง่ึ แมน าํ้ ยมุนาหนึง่ แมนาํ้ อจริ วดีหนึ่ง แมนํ้าสรภหู นง่ึ แมน ํา้ มหหี นงึ่ แมน ํา้ สนิ ธหุ นึ่ง แมน า้ํ สรสั สดหี นง่ึ แมน ํา้ เวตรวดีหนงึ่ แมน าํ้ วีตังสาหนงึ่ แมน ้าํ จนั ทภาคาหนง่ึ แมน ํ้าทงั้ สิบเหลานี้ ทา นนับวา แมนา้ํ แท, แมนาํ้ ท้ังหลายเศษนอกนน้ั ทา นไมนบั โดยอนั นบั ในแมนา้ํ , ความนบั น้นั มีอะไรเปนเหต?ุ แมนํ้าทั้งหลายเทา นนั้ ไมเปน แดนเกดิ แหง น้าํ เพราะเหตนุ ัน้ ทา นจงึ นับโดยอนั นบั รวม ลงในแมน ้าํ ใหญ แมฉ นั ใด สมัยเม่ือพระเวสสนั ดรมหากษตั รยิ ทรงบาํ เพญ็ มหาทานอยู แผน ดนิ ใหญน ไ้ี หวแลว เจ็ดครง้ั ดว ยเหตใุ ด เหตนุ ้ัน ทา นไมน ับโดยเหตทุ ้ังหลายแปด อยา ง ฉันนน้ั . ขอถวายพระพร อกี อยา งหนงึ่ เหมือนอมาตยทง้ั หลายของมหากษัตริยมีอยู รอ ยหนง่ึ บาง สองรอยบา ง, อมาตยท งั้ หลายเหลา นัน้ ชนทั้งหลายหกคน ทา นยอมนบั โดยอันนับวา อมาตย, ชนทง้ั หลายหกคนนี้ อยา งไร ชนทัง้ หลายหกคนน้ี คือ เสนาบดี หนงึ่ ปโุ รหิตหนงึ่ อกั ขทสั สะ ผูพพิ ากษาหน่ึง ภณั ฑาคารกิ ะชาวพระคลงั หนงึ่ ฉตั ตคาห กะผเู ชญิ พระกลดหนงึ่ ขคั คคาหกะผเู ชญิ พระแสงหนงึ่ ชนหกคนเหลา นี้เทา นนั้ ทา นนับ โดยอันนบั วา อมาตยแท, ขอซึ่งนบั มอี ะไรเปนเหตเุ ลา ? ขอซึง่ นับนัน้ เพราะความท่ชี น ท้งั หกน้นั เปน ผปู ระกอบดวยคุณตอพระมหากษัตริย, ชนทง้ั หลายเหลอื นน้ั ทา นมไิ ดนบั แลว, ชนทัง้ หลายเหลา นนั้ ยอ มถงึ ซงึ่ ความกลา วรวมลงวา อมาตยท ั้งสนิ้ นน่ั เทยี ว ฉนั ใด, เมื่อพระเวสสนั ดรมหากษตั รยิ ทรงบาํ เพ็ญมหาทานอยู แผนดนิ ใหญน้ี ไหวแลวเจด็ ครง้ั ดวยเหตใุ ด เหตุนนั้ ไมม ีมใี นกาลทกุ เมือ่ มคี วามเกดิ ขึ้นในกาลบางคราว, พน จากเหตุ ท้ังหลายแปดอยา ง, เหตนุ นั้ ทา นจงึ ไมน ับโดยเหตแุ ปดอยา ง ฉันนน้ั นนั่ แหละ. ขอถวายพระพร กรรมเปน ท่ตี งั้ แหง ความเสวยสุขในทิฏฐธรรมเปนเหตุยิง่ อนั บคุ คลกระทาํ แลว ในศาสนา แหง พระพทุ ธเจาผูชนะมารท้ังปวงแลว ณ กาลน,ี้ อนึ่ง เกียรตศิ ัพทความสรรเสริญคณุ ของบุคคลท้งั หลายเหลาไร ฟงุ ทวั่ ไปในเทพดาและ มนุษยท ง้ั หลาย, บรมบพิตรไดทรงฟง บางหรือไม ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระผูเปน เจา ขาพเจา ไดย นิ อยู กรรมเปนที่ตงั้ แหง ความเสวยสุขในทฏิ ฐ ธรรม เปน เหตยุ ่งิ อันบุคคลกระทําแลว ในชนิ ศาสนา ณ กาลน,ี้ ท้ังเกยี รติศพั ทความ

สรรเสรญิ คุณของบุคคลทงั้ หลายเหลา ไรฟงุ ทั่วไปในเทพดาและมนษุ ยท ้งั หลาย, บคุ คล ทงั้ หลายเหลา นนั้ เจ็ดคนขาพเจาเคยไดย ินมา.\" ถ. \"ใครบาง ใครบา ง ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระผูเ ปน เจา บคุ คลทง้ั เจด็ คือ นายมาลาการช่ือสุมนะหนงึ่ พราหมณช่อื เอกสาฎก หนงึ่ ลกู จา งช่ือปณุ ณะ หน่ึง เทวีชื่อ มลั ลกิ า หนง่ึ เทวโี คปาลมารดา หนงึ่ อุบาสิกาช่อื สปุ ปยา หน่งึ นางทาสชี ือ่ ปณุ ณา หนึ่ง ชนเหลา นเ้ี ปน ผทู ีม่ กี ศุ ลเปน ทตี่ ง้ั แหง ความเสวยสขุ ในทิฏฐธรรม, อนึ่ง เกยี รตคิ วามสรรเสริญคุณของชนท้งั หลายเหลา นี้ ฟุง ท่วั ไปในเทพดาและมนษุ ยท ้ังหลาย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ชนทงั้ หลายแมอ่ืนอกี บรมบพติ รไดท รงฟง หรอื ไมว า ใน กาลลว งแลว ชนทงั้ หลายไปสพู ิภพชอ่ื ตรที ศทง้ั สรรี กายเปนของแหง มนุษยน นั่ เทยี ว.\" ร. \"ขา พเจา ไดยนิ อย.ู \" ถ. \"ใครบาง ใครบา ง ไปสูพภิ พชอ่ื ตรีทศทง้ั สรีรกายเปน ของแหงมนษุ ย ขอ ถวายพระพร.\" ร. \"ชนทงั้ หลายสี่ คือ คนธรรพราชนามวา คตุ ติลาหนงึ่ พระมหากษัตริยท รงพระ นามวา สาธนี ราช หนงึ่ พระมหากษัตรยิ ท รงพระนามวานมิ ิราชหนง่ึ พระมหากษตั รยิ  ทรงพระนามวา มนั ธาตรุ าชหน่งึ เหลา นขี้ า พเจา ไดยนิ มาวา 'ไปสพู ิภพชื่อตรีทศแลว ทั้ง สรีรกายเปน ของแหงมนษุ ยน ัน้ นน่ั เทยี ว,' พระผูเปน เจา กรรมอนั บคุ คลนั้นกระทาํ แลว ขาพเจา ไดฟ ง มาแมส น้ิ กาลนมนานวา 'เปน กรรมดี ไมใชก รรมชั่ว.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ก็บรมบพติ รเคยไดท รงฟง แลว หรือวา 'ในกาลยดื ยาวที่ลวง แลว หรือในกาลซ่งึ เปน ไปอยู ณ บัดน้ี ครนั้ เมื่อทานของบคุ คลผูมีชอ่ื อยางนี้ อนั บคุ คล น้นั ใหอยู แผน ดินใหญไหวแลวคราวหนง่ึ บา ง สองคราวบา ง สามคราวบาง.\" ร. \"ขา พเจา ไมเ คยไดฟงเลย พระผูเ ปน เจา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร นกิ ายเปน ทม่ี า และมรรคผล ปรยิ ตั ติ และการฟง และ กําลงั แหง ความศึกษา และความปรารถนาจะฟง และปรปิ จุ ฉา และความเขา ไปนง่ั ใกล อาจารยข องอาตมภาพมีอย,ู แมอ าตมภาพไมเ คยไดฟงวา 'คร้นั เม่ือทานของบุคคี ลผูมี ชอื่ อยางน้ี อนั บุคคลนั้นใหอ ยู แผนดนิ ใหญไหวแลว คราวหนงึ่ บา ง สองคราวบา ง สาม คราวบาง' ดงั น,ี้ ยกเวนทานอันประเสรฐิ ของพระเวสสันดรบรมกษัตรยิ เ สยี . ขอถวายพระพร โกฏแิ หง ปท ัง้ หลายเปนไปลวงแลว ซงึ่ คลองแหง การนบั ลวงไป แลวในระหวางแหงพระพทุ ธเจา สองพระองค คือ พระผมู ีพระภาคเจา ทรงพระนาม วา กัสสปหนึ่ง พระผมู พี ระภาคเจาทรงพระนามวา สกั ยมุนีหนง่ึ . การไดฟงของอาตม ภาพในโกฏิแหง ปท ั้งหลายนัน้ ไมมวี า 'ครั้นเม่ือทานของบุคคลผมู ีชอื่ อยางน้ี อนั บคุ คล

นั้นใหอ ยู แผน ดินใหญไ หวแลว คราวหน่งึ บา ง สองคราวบาง สามคราวบาง.' แผน ดินใหญซงึ่ จะหวนั่ ไหว ดว ยความเพยี รประมาณเทา น้นั ดว ยความบากบน่ั ประมาณเทา น้นั หามไิ ด. ขอถวายพระพร แผนดนิ ใหญเต็มแลว ดว ยภาระ คือ คณุ แหงความกระทําซงึ่ ความเปน ผูสะอาดโดยอาการทงั้ ปวง ไมอ าจเพอื่ จะทรงคณุ นัน้ ไวได ยอมเขยื้อน สะเทอื นหวน่ั ไหว. อุปมาเหมอื นเกวยี นทีเ่ ตม็ ดว ยภาระหนกั เกนิ ดุมและกงท้ังหลายของ เกวียนน้ันยอ มแยกเพลาของเกวยี นนนั้ ยอมแตก ฉันใด, แผนดินใหญเ ต็มแลว ดว ย ภาระ คอื คณุ แหง ความกระทําซง่ึ ความเปน ผูส ะอาดโดยท้ังปวง เม่อื ไมอ าจเพ่ือจะทรง ภาระ คือ คณุ นน้ั ไวไ ด ยอมเขยือ้ นสะเทือนหวนั่ ไหวมีอุปไมยฉนั นน้ั นนั่ เทียวแล. ขอถวายพระพร อกี นยั หนง่ึ อากาศดาดไปดว ยเร่ียวแรงแหง ลมและน้ํา เตม็ แลวดวยภาระ คือ นาํ้ หนาขน้ึ แลว ยอมบนั ลือลนั่ กระทาํ เสยี งครนื ครัน เพราะความท่ี อากาศน้นั เปน ของอันลมกลา ถูกตองแลว ฉนั ใด, แผน ดินใหญเ ตม็ ไปแลว ดวยภาระอนั หนาขึ้น ไพบลู ยคอื กําลงั แหง ทานของพระมหากษัตริยท รงพระนามวา เวสสันดร ไมอาจ เพ่ือจะทรงภาระน้นั ไวได ยอมเขยื้อนสะเทอื นหว่ันไหว ฉนั นน้ั นนั่ เทยี วแล. ก็จติ ของ พระมหากษัตรยิ ท รงพระนามวา เวสสนั ดร ยอมไมเปน ไปดว ยอาํ นาจแหง ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทฏิ ฐิ กิเลส และวิตกยอมไมเปน ไปดว ยอํานาจแหง อรต,ิ จติ นั้นยอ ม เปนไปโดยอํานาจแหงทานโดยแทแล; จิตนน้ั เปน ไปโดยอํานาจแหง ทานวา กะไร ? พระมหากษตั รยิ ทรงพระนามวาเวสสันดรนน้ั ทรงตัง้ พระหฤทัยไวใหเ ปน เจาแหง ทาน เนือง ๆ เปน ไปในกาลทุกเมอ่ื วา 'ยาจกทงั้ หลายทย่ี งั ไมม าแลว พงึ มาในสาํ นกั ของเรา สว นยากจกทง้ั หลายทมี่ าแลว พงึ ไดต ามความปรารถนา แลว มีใจยนิ ดีเตม็ ไปดวยปต,ิ ดงั นี้ พระมหากษัตริยท รงพระนามวา เวสสนั ดร ทรงตง้ั พระหฤทัยไวเนอื ง ๆ เปน ไปใน กาลทกุ เมื่อในทีท่ ง้ั หลายสิบ คอื : ในความทรมานหน่ึง ในความระงับหน่งึ ในความทน หนง่ึ ในความระวงั หนงึ่ ในความสาํ รวมหนง่ึ ในความสํารวมโดยไมเหลอื หนง่ึ ในความ ไมโกรธหนงึ่ ในความไมเบยี ดเบยี นหนง่ึ ในสัจจะหนง่ึ ในโสเจยยะความเปน ผสู ะอาด หนงึ่ . ความแสวงหากามอนั พระเวสสนั ดรมหากษัตรยิ ล ะแลว, ความแสวงหาภพของ พระองคส งบรามแลว, พระองคถ ึงแลวซงึ่ ความขวนขวายในการแสวงหาพรหมจรรย ถายเดียว. พระองคล ะความรกั ษาตน ถงึ แลวซ่ึงความขวนขวายเพอ่ื ความรกั ษาผอู น่ื ; พระองคถ งึ ซง่ึ ความขวนขวาย เพื่อความรกั ษาผูอน่ื วากระไร? ความขวนขวายในพระ หฤทยั ของพระองควา 'สตั วทัง้ หลายเหลา น้ี พงึ เปน ผพู รอ มเพรียงกนั เปนผไู มมีโรค เปน ผเู ปน ไปดว ยทรพั ย เปน ผมู อี ายยุ นื เถดิ ' ดงั น้ี ยอ มเปน ไปมากถา ยเดยี ว. พระเวสสนั ดร มหากษัตรยิ  กเ็ มอื่ ทรงบรจิ าคทานนน้ั บรจิ าคเพราะปรารถนาภวสมบตั กิ ห็ าไม, จะ

บรจิ าคเพราะเหตปุ รารถนาจะใหเ ขาใหต นบา ง และปรารถนาจะใหตอบแกเ ขา และ ปรารถนาจะเกลย้ี กลอมเขาก็หาไม, จะบรจิ าคเพราะเหตุปรารถนาอายุ พรรณ สขุ กําลงั ยศ และบตุ รและธิดาละอยา ง ๆ ก็หาไม, พระองคไ ดใ หแลว ซึง่ ทานนา เลือกสรร ทั้งหลายไมมที านอ่ืนเสมอ และเปนทานไพบลู ย ไมม ีทานอืน่ ยงิ่ กวาเหน็ ปานฉะน้ี เพราะเหตแุ หง สพั พญั ตุ ญาณ คือ เพราะเหตแุ หงรัตนะ คือ สัพพญั ตุ ญาณ. คร้นั พระองคบรรลคุ วามเปน พระสพั พญั ูแลว ไดทรงภาสิตพระคาถาน้ี มเี น้อื ความวา \"เรา เมือ่ สละบตุ รช่อื ชาลี และธดิ า ชื่อ กณั หาชนิ า และเทวชี อ่ื มัทรี มคี วามประพฤติดใี น ภสั ดา มไิ ดเสียดายแลว, เราคดิ แตเหตแุ หง ปญญาเครือ่ งตรัสรูถ า ยเดยี ว\" ดงั น.ี้ พระ เวสสันดร มหากษัตรยิ ท รงชนะบคุ คลผูโกรธ ดว ยความไมโ กรธ, ชนะบคุ คลผไู มย งั ประโยชนใหส าํ เร็จ ดว ยการกระทําประโยชนใหส าํ เรจ็ , ชนะบุคคลผตู ระหนี่ ดวยทาน การบริจาค, ชนะบุคคลกลา วคําเหลาะแหละ ดว ยคาํ จรงิ , ชนะอกุศลท้งั ปวง ดวยกศุ ล, เม่ือพระเวสสนั ดร นนั้ บรจิ าคอยอู ยา งนนั้ ไปตามธรรมแลว มธี รรมเปน ประธานดว ยนสิ สนั ทผลแหง ทาน และความเพียรมกี าํ ลัง และวหิ ารธรรมเครื่องอยไู พบลู ยข องพระองค, ลมใหญท ง้ั หลายในภายใตแ ผน ดนิ ยอมเขยอ้ื นกระจาย ๆ พัดไปนอ ย ๆ คราวหน่ึง ๆ นอมลงฟขู ้นึ นอ มไปตา ง ๆ, ตนไมทง้ั หลายมใี บสลดแลวลม ไป, วลาหกท้ังหลายเปน กลุม ๆ แลนไปในอากาศ, ลมทงั้ หลายเจือดว ยธุลเี ปน ของหยาบ, อากาศอันลม ทัง้ หลายเบยี ดเสยี ดแลว , ลมทงั้ หลายยอมพัดเปา ไป ๆ, เสยี งนา กลวั ใหญเปลง ออก, คร้ันเมอื่ ลมทง้ั หลายเหลา นน้ั กําเริบแลว นาํ้ กระเพ่อื มนอ ย ๆ, คร้ันเมื่อนา้ํ กระเพอื่ มแลว ปลาและเตา ทงั้ หลายยอมกาํ เริบ, คลืน่ ทง้ั หลายเปน คู ๆ กนั เกิดขน้ึ , สตั วทั้งหลายที่ สญั จรในนา้ํ ยอ มสะดงุ , ละลอกแหง นาํ้ เนอื่ งเปนคกู นั ไป, เสียงบนั ลือแหง ละลอกยอม เปนไป, ตอ มนาํ้ ทงั้ หลายอนั หยาบตง้ั ข้นึ , ระเบียบแหง ฟองทง้ั หลายยอมแลนไป, มหาสมทุ รยอ มขน้ึ , นาํ้ ยอ มไหลไปสทู ศิ และทศิ เฉียง, ธารแหง นา้ํ ทงั้ หลายมหี นา เฉพาะ ทวนกระแสไหลไป, อสูร ครุฑ นาค ยักษท ง้ั หลายสะดงุ หวาดดว ยคดิ วา 'สาครพลิกหรอื อยางไรหนอแล' มีจติ กลวั แลว แสวงหาทางไป, ครั้นเมอื่ ธารแหงนาํ้ กําเริบขนุ มัวแลว แผน ดินทงั้ ภูเขาทงั้ สาครหวั่นไหว, ภเู ขาสเิ นรมุ ยี อดและชะงอนเปน วกิ ารแหง ศิลาเปน ของนอ มไปตาง ๆ, คร้ันเม่ือแผน ดนิ ใหญห วน่ั ไหวอยู งูและพังพอนและแมวและสนุ ขั จ้งิ จอก สกุ ร มฤค และนกทง้ั หลายยอ มตกใจ, เหลายกั ษท ่ีมศี กั ดานอยรองไห, ยักษ ท้ังหลายท่มี ศี กั ดาใหญ ยอมหวั เราะ. มอี ปุ มาวา เม่ือกะทะใหญตง้ั อยูบนเตาแลว เตม็ แลว ดวยนาํ้ มขี า วสารอันบคุ คลรวบรวมลงแลว ไฟโพลงอยูข า งใต คราวแรกกระทาํ กะทะใหร อ นกอ น, กะทะรอ นแลวกระทาํ นา้ํ ใหร อน, น้าํ รอ นแลว กระทําขา วสารใหรอ น, ขาวสารรอนแลว ผดุ ขน้ึ และจมลง, มีตอมเกดิ ขนึ้ แลว, ระเบยี บแหง ฟองผุดขน้ึ ฉนั ใด;

พระมหากษัตรยิ ท รงพระนามวา เวสสันดร ส่ิงใดทีบ่ ุคคลสละโดยยากในโลก ทรงสละส่งิ น้นั , ครั้นเม่อื พระองคทรงสละของพระองคน ั้น ลมใหญท ัง้ หลายในภายใต ไมอาจเพอื่ จะทรงคณุ คอื ความสละนนั้ ไวไ ด กาํ เริบแลว, ครน้ั เม่อื ลมใหญทง้ั หลายกําเรบิ แลว นา้ํ ก็ไหว, ครั้นเมอื่ น้ําไหวแลว แผนดนิ ใหญก ไ็ หว ฉนั นน้ั นน่ั เทยี วแล. ของสามอยาง คอื ลมใหญดวย น้ําดวย แผน ดินดวยเหลานี้ เปน ของดุจมีใจเปนอนั เดยี วกัน แมในกาลนน้ั ดวยประการ ฉะน,้ี อานภุ าพแหงทานของบคุ คลอื่นซึง่ จะเหมือนอานภุ าพแหง มหาทาน ของพระเวสสนั ดรมหากษัตริย โดยนสิ สนั ทผลแหง มหาทาน โดยความเพยี รมกี าํ ลงั ไพบูลยเ ชน น้ี ไมม.ี อนึ่ง แกวท้ังหลายมากอยา งซ่งึ มใี นแผน ดนิ , แกวมากอยา งนี้อยา งไร แกวมาก อยางนี้ คอื แกว อนิ ทนิล แลว มหานลิ แกวโชตริ ส แกวไพฑรู ย แกว ดอกผกั ตบ แกว สี ดอกไมซ กึ แกว มโนหร แกว สรุ ิยกานต แกว จนั ทรกานต แกว วิเชยี ร แกว กโชปก กมกะ แก วปสุ ราค แกว ทับทมิ แกว ลาย, แกว จกั รวัตติ อนั โลกยอมกลา ววา เปน ยอด กา วลว งเสยี ซ่ึงแกว ทั้งปวงเหลาน,ี้ แกวจกั รวตั ติ ยงั ที่ใหสวา งลงตลอดโยชนห นง่ึ โดยรอบ ฉนั ใด; ทานอันใดอันหนงึ่ แมอสทิสทานเปน อยา งย่ิง มีอยใู นแผน ดิน, มหาทานของพระ เวสสันดรมหากษัตริย บัณฑติ ยอมกลาววา เปนยอดทาน กา วลว งทานทงั้ ปวงนนั้ เสยี ฉนั นนั้ นนั่ เทียวแล. ครัน้ เมือ่ มหาทานของพระเวสสนั ดรมหากษตั ริย อนั พระองคบ ริจาค อยู แผนดนิ ใหญไ หวแลวเจดครง้ั .\" ร. \"พระผูเปน เจา พระตถาคตเมอ่ื ยงั เปน พระโพธสิ ตั ว เปน ผูมขี ันติความอดทน อยางน้ี มีจิตอยางนี้ มีความนอมไปเพื่อคณุ อันยงิ่ อยา งน้ี มคี วามประสงคอยางนี้ ไมมี ใครเสมอทง้ั โลกดวยเหตใุ ด, เหตนุ น้ั ของพระพุทธเจาทั้งหลายนา อัศจรรย เหตนุ น้ั ของ พระพทุ ธเจา ทง้ั หลายนา พิศวง ไมเ คยเปน มาเปน แลว . พระผเู ปนเจา ความพยายาม กาวไปสคู ณุ ยงิ่ ของพระโพธสิ ตั วท ้ังหลาย พระผูเปนเจา ใหข า พเจาเหน็ แลว, อนง่ึ พระ บารมขี องพระพุทธเจาผูชนะแลว พระผเู ปน เจา ใหสวา งลงโดยยงิ่ แลว, ความทพี่ ระ ตถาคต แมเ มอ่ื ประพฤตจิ รยิ าเทา น้นั ยงั เปน ผูประเสริฐสดุ ในโลกกับทง้ั เทพดา พระผู เปนเจา มาแสดง โดยลาํ ดบั แลว; ดีละ พระผเู ปนเจา ศาสนาของพระพทุ ธเจา ผูชนะแลว พระผเู ปนเจาชมแลว, พระบารมขี องพระพทุ ธเจาผูช นะแลว พระผูเ ปน เจา ใหร ุงเรอื ง แลว, ขอดแหงวาทะของเดียรถยี ทง้ั หลาย พระผเู ปน เจา ตัดเสียแลว , หมอแหง ปรปั ปวา ทความติเตยี นทงั้ หลาย พระผเู ปนเจา ตอยเสียแลว , ปญ หาลึก พระผูเปน เจา มากระทาํ ใหต น้ื ไดแ ลว, ชฏั รกพระผเู ปน เจา มากระทาํ ไมใหเปน ชฏั ไดแลว , คําเครอ่ื งขยายออกอนั พระชนิ บตุ รทงั้ หลายไดแ ลว โดยชอบ, พระผเู ปนเจา ผูป ระเสรฐิ กวา คณาจารยท ป่ี ระเสรฐิ ขอ วสิ ัชนาของพระผเู ปน เจาน้ัน สมอยา งนน้ั , ขาพเจายอมรับอยา งนนั้ .\"

๕. สวิ ริ าชจกั ขทุ านปญหาที่ ๕ ร. \"พระผูเปน เจา ทานทงั้ หลายกลา วแลวอยา งนีว้ า 'จกั ษทุ ง้ั หลายอนั พระเจา สิ วริ าชไดพระราชทานแลวแกย าจก, ทพิ ยจกั ษทุ งั้ หลายเกดิ ขึ้นแลว ใหมแ กพระเจาสวิ ริ าช นัน้ เม่อื เปน บคุ คลบอด.' คาํ แมนัน้ กับทงั้ กากเปน ไปดว ยนคิ คหะ เปน ไปกับดวยโทษ. คาํ ทา นกลา วไวแ ลวในสตู รวา 'ความเกิดขน้ึ แหงทพิ ยจักษุ ไมมีในสงิ่ ทมี่ ใิ ชว ตั ถมุ เี หตอุ ัน ถอนขน้ึ มิไดม เี หต.ุ ' ถา จกั ษทุ ัง้ หลายอนั พระเจา สิวิราชไดพระราชทานแลวแกยาจก, ถา อยางนนั้ คําทว่ี า 'ทพิ ยจกั ษทุ งั้ หลายเกดิ ขนึ้ แลว ใหม' นน้ั ผดิ . ถา ทพิ ยจกั ษุทง้ั หลาย เกิดขึน้ แลว ไซร, ถา อยางนนั้ แมคําทว่ี า 'จกั ษทุ งั้ หลายอนั พระเจา สวิ ิราชพระราชทาน แลวแกยาจก' น้ันกผ็ ิด. ปญหาแมน ้ี มเี งือ่ นสอง มีขอดยง่ิ แมก วา ขอดโดยปกติ, มคี วาม ฟนเฝอ ยง่ิ แมก วาฟน เฝอโดยปกติ, เปนชัฏยงิ่ แมวา ชัฏโดยปกต,ิ ปญ หานนั้ มาถึงพระผู เปน เจา แลว , พระผูเปนเจา จงยงั ฉนั ทะใหเ กิดยิ่งในปญหาน้นั เพอื่ ความขยาย เพื่อ ความขม ปรัปปวาททง้ั หลายเสีย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร จกั ษุทง้ั หลายอนั พระเจาสวิ ริ าชพระราชทานแลวแกย าจก, พระองคอยา ยงั ความสงสัยใหเ กิดขนึ้ ในขอน้นั เลย; อน่ึง จกั ษทุ งั้ หลายเปน ทพิ ยเ กดิ ขึ้น แลวใหม, พระองคอยายงั ความสงสยั ใหเกดิ ในขอแมน้ัน.\" ร. \"เออก็ ความเกิดขึน้ แหง ทพิ ยจกั ษุ ในส่งิ ทม่ี เี หตอุ ันถอนข้ึนแลว ในสง่ิ ทไี่ มม ี เหตุ ไมม วี ัตถหุ รือ พระผเู ปน เจา .\" ถ. \"หามไิ ด ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระผูเ ปน เจา สง่ิ ไรเปนเหตุในเรอื่ งนีเ้ ลา ทิพยจักษจุ ะเกิดขน้ึ ในสงิ่ มเี หตุอนั ถอนขึน้ แลว ไมม เี หตุ ไมมีวตั ถุ ดวยเหตไุ รเลา ? พระผเู ปน เจาจงใหขาพเจาทราบชดั ใน เร่อื งนโ้ี ดยเหตกุ อ น.\" ถ. \"ขอถวายพระพร บคุ คลผกู ลา วคาํ จรงิ ทงั้ หลาย ยอ มกระทาํ สจั จกริ ยิ าดว ย คาํ สตั ยใ ด คําสตั ยน ัน้ มีอยใู นโลกหรือไม ขอถวายพระพร.\" ร. \"มีซิ พระผเู ปนเจา ธรรมดาคําสตั ยยอ มมีในโลก, ผกู ลา วคําสัตยท งั้ หลาย ทาํ สัจจกิริยาดวยคาํ สัตยใ หฝนตก ใหไฟดบั กําจัดยาพษิ ยอ มกระทาํ กจิ ท่จี ะพงึ กระทาํ ตา ง ๆ แมอยา งอ่ืนบาง.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยา งนน้ั คําทวี่ า 'ทพิ ยจกั ษทุ ง้ั หลายเกิดขน้ึ แลว แดพ ระ เจาสิวริ าชดวยกําลงั สัจจะ' น้ี ยอ มชอบ ยอ มสม, ทพิ ยจกั ษุยอมเกดิ ขึ้นในสง่ิ ไมมีวัตถุ

น้ัน ดว ยกาํ ลงั แหงสจั จะ, สัจจะนน่ั เทยี ว เปน วัตถุเพื่อความเกิดทพิ ยจกั ษุ ในสง่ิ ทไี่ มม ี วัตถนุ น้ั . ขอถวายพระพร ผูสําเร็จสัจจเหลา ใดเหลา หนง่ึ พร่ําขบั คาํ สัตวว า 'เมฆใหญจง ใหฝ นตก' ดังน,้ี เมฆใหญใหฝนตกพรอ มดว ยความพรํา่ ขบั คาํ สัตยข องผูสาํ เร็จสจั จะ เหลา นน้ั ; เออก็ มหาเมฆใหฝ นตกดวยเหตใุ ด เหตนุ น้ั เปนเหตแุ หงฝนสะสมอยแู ลว มี ในอากาศหรอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"หามิได สัจจะนน่ั เทยี วเปน เหตุ ณ อากาศนัน้ เพื่อความทม่ี หาเมฆจะกระทาํ ฝนใหตก พระผูเปน เจา .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอนนั้ ฉนั ใด, เหตโุ ดยปกตขิ องความทท่ี พิ ยจักษุจะเกดิ ขน้ึ นั้นไมม ,ี สัจจะนั่นเทยี ว เปน วตั ถุเพ่ือความท่ที พิ ยจกั ษเุ กิดขนึ้ ในสงิ่ ทีไ่ มมีวตั ถุ กฉ็ นั นนั้ น่นั เทยี วแล. ขอถวายพระพร อีกอยา งหนึ่ง ผสู ําเร็จสจั จะพวกใดพวกหนงึ่ พร่าํ ขบั คาํ สัตย ดวยต้งั ใจวา 'กองไฟใหญท่ีโพลงชัชวาลอยแู ลว จงกลับคนื ดับไป' ดงั น,้ี กองไฟใหญท ี่ โพลงชชั วาลแลว กลบั คนื ดบั ไปโดยขณะหนง่ึ พรอ มดว ยความพร่าํ ขบั คาํ สตั ยของ ผสู าํ เรจ็ สจั จะเหลานั้น, เออก็ กองไฟใหญท โี่ พลงชชั วาลแลวกลบั คืนดับไปโดย ขณะหนงึ่ โดยเหตุใด เหตนุ น้ั เปน เหตสุ ะสมอยูใ นกองไฟใหญท่โี พลงชชั วาลแลวนน้ั มี อยูหรอื ขอถวายพระ.\" ร. \"หามิได สจั จะนนั่ เทยี ว เปน วตั ถใุ นสง่ิ ทไี่ มมีวตั ถุ เพอ่ื ความท่ีกองไฟใหญ โพลงชชั วาลแลว นนั้ จะกลบั คืนดบั ไป.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอนน้ั ฉนั ใด, เหตโุ ดยปกตขิ องความท่ีทพิ ยจกั ษจุ ะเกดิ ขึน้ นน้ั ไมม,ี สจั จะน่ันเทย่ี วเปน วัตถุในทีไ่ มมวี ตั ถุ เพอ่ื ความที่ทพิ ยจกั ษจุ ะเกดิ ข้นึ ฉนั นนั้ น่ัน เท่ียวแล. ขอถวายพระพร อีกอยา งหน่ึง ผสู ําเร็จสัจจะเหลา ใดเหลา หน่ึง พราํ่ ขบั คาํ สัตย ดว ยตงั้ ใจวา 'พิษแรงกลา จงกลายเปน ยาไป,' พิษแรงกลา กลายเปน ยาไปโดยขณะหนง่ึ พรอมดว ยความพราํ่ ขับคาํ สัตยข องผสู ําเรจ็ สัจจะเหลา น้นั , เออก็ พิษอนั แรงกลา กลายเปน ยาไปโดยขณะหนงึ่ ดว ยเหตุอันใด เหตุนนั้ เปน เหตสุ ะสมในพษิ อันแรงกลา นั้น มอี ยหู รอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"หามไิ ด พระผูเปน เจา สจั จะนนั่ เทยี ว เปน เหตใุ นส่ิงที่ไมมีเหตนุ ั้น เพอื่ ความ กําจดั คนื พษิ แรงกลา โดยขณะ.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอ น้ีฉนั ใดล สัจจะนน่ั เทียว เวนเหตุโดยปกติ เปน วตั ถใุ น ขอน้ี เพื่อความทที่ พิ ยจกั ษจุ ะเกดิ ขนึ้ ฉนั นน้ั โดยแท.

ขอถวายพระพร วัตถุอนื่ เพอื่ ความแทงตลอดอรยิ สจั จะทง้ั หลาย แมส ไ่ี มม,ี การกบคุ คลทง้ั หลาย กระทาํ สัจจะใหเปนวตั ถุ แทงตลอดตรสั รอู รยิ สจั จะทงั้ หลายส่ี ประการ. ขอถวายพระพร มพี ระเจาจนี ราชอยูใ นจนี วสิ ัย พระองคใ ครจะทรงกระทาํ พลี กรรมในทะเลใหญ ทรงกระทาํ สัจจะกิริยาแลวเสด็จเขา ไปในภายในมหาสมุทรโยชน หนงึ่ โดยรถเทยี มแลวดวยราชสีหส ีเ่ ดือนเสด็จครัง้ หนง่ึ ๆ, หว งแหง นํา้ ใหญข า งหนา แหง ศรี ษะรถของพระเจา จนี ราชนน้ั เทอกลบั , เมือ่ พระองคเ สด็จออกแลว หว งแหง มหาวารี ทว มเตม็ ท่ีดงั เกา , เออก็ มหาสมทุ รนนั้ อันโลกแมกับทั้งเทพดาและมนษุ ยอาจใหเ ทอ กลับไดห รือ ขอถวายพระ.\" ร. \"นา้ํ ในสระนอ ย ๆ อนั โลกแมทั้งเทพดาและมนุษยไ มอ าจเพ่ือจะใหเทอ กลับ ได ดว ยกําลงั แหงกายปกตเิ ลย, จะปว ยกลา วอะไรถงึ ความกระทาํ นาํ้ ในมหาสมทุ รให เทอกลับเลา พระผูเ ปน เจา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร เพราะเหตุแมน้ี พระองคพ งึ ทรงทราบกําลงั ของสัจจะ, สถานใด ท่ีใคร ๆ จะพงึ ถงึ ดว ยสจั จะไมได สถานนนั้ ยอมไมมี ขอถวายพระพร. อนึ่ง พระเจา อโศกราชในเมอื งปาฏลิบตุ ร อนั ชาวนคิ มและชาวชนบท และ อมาตยนอยและราชภัฏหมพู ลและมหาอมาตยท ้ังหลาย แวดลอมเปน ราชบรวิ าร ทอดพระเนตรเห็นแมน ํ้าคงคาสมบรู ณดว ยนํ้าใหมเต็มเสมอขอบ เตม็ เปยมไหลไปอยู จงึ ตรสั กะอมาตยทง้ั หลายอยา งนวี้ า 'พนาย ผใู ดใคร ๆ ซงึ่ สามารถจะยงั คงคาใหญน ้ีให ไหลกลบั ทวนกระแสได มีหรอื ไม. ' อมาตยท งั้ หลายกราบทูลวา 'ขอเดชะปกเกลาปกกระหมอ ม ขอ ซึง่ จะกระทาํ คง คาใหญนใ้ี หไ หลกลบั ทวนกระแสนนั้ ยากทใ่ี คร ๆ จะกระทําได. นางคณกิ าชอ่ื วา พนิ ทุมดี ยนื อยรู มิ ฝง แมน ํา้ คงคานนั้ นนั่ เทยี่ ว ไดฟ ง แลว วา 'ได ยินวา พระมหากษตั ริยต รัสแลว อยางนวี้ า 'ใคร ๆ อาจเพอ่ื จะยงั แมนา้ํ คงคาใหญน ใ้ี ห ไหลกลบั ทวนกระแสไดห รือไม.' นางพนิ ทมุ ดีนนั้ กลาวอยางน้วี า 'ขาพเจา นน่ั เทยี ว เปน นางคณกิ า อาศยั ซ่งึ รปู เปน อยู มีการเลย้ี งชพี ดวยกรรมอนั เลว ในเมอื งปาฏลบิ ุตรนี้, พระมหากษัตริยจ งทอดพระเนตรสจั จกริ ิยาของขา พเจา กอ น.' พระมหากษตั ริยจ ง ทอดพระเนตรสจั จกิริยาของขา พเจา กอ น.' ลําดบั นนั้ นางพนิ ทมุ ดีนนั้ ไดกระทาํ สจั จกิริยาแลว. เมื่อประชมุ แหง ชนหมูใ หญเห็นอยู คงคาใหญนน้ั ปวนไหลกลบั ทวนกระแส โดยขณะพรอมดวยสัจจกริ ิยาของนางพนิ ทุมดีนนั้ .

ลาํ ดับนน้ั พระเจาอโศกราชไดท รงฟง เสยี งพลิ ึกกกึ กอง อนั กําลงั แหง คลนื่ ในวัง วนใหเ กิดแลวในคงคาใหญ จงึ มคี วามพิศวง เกิดอศั จรรยขนึ้ ในพระหฤทยั ตรสั ถาม อมาตยท งั้ หลายวา 'พนาย คงคาใหญน ไ้ี หลทวนกระแสไดเพราะเหตไุ ร?' อมาตยท งั้ หลายกราบทลู วา 'ขอเดชะปกเกลา ปกกระหมอ ม นางคณกิ าช่อื พนิ ทุมดี ไดฟง พระราชโองการของพระองคแลว ไดกระทําสัจจกิริยา, คงคาใหญไ หลข้ึน ไปในเบื้องบน ดวยสัจจกิรยิ าของนางพนิ ทมุ ดีน้นั .' ลาํ ดับนนั้ พระเจา อโศกราชสลดพระหฤทัย รบี เสด็จไปเอง แลว จึงตรสั ถามนาง คณิกานน้ั วา 'นางสาวใช ไดย ินวา แมน า้ํ คงคานเี้ จา ใหไหลทวนกระแสแลว ดว ยสัจ จกิริยาของเจา จริงหรือ? นางพนิ ทมุ ดีทลู วา 'พระพุทธเจา ขา คงคาใหญน้ีไหลทวนกระแสดวยสจั จกิริยา ของหมอมฉนั ' พระเจาอโศกราชตรสั ถามวา 'อะไรเปน กําลังของเจา ในสัจจกิริยานน้ั , หรอื ใคร ที่ไมใ ชบาจะเชอ่ื ถอื คําของเจา , เจา กระทาํ แมนา้ํ คงคาใหญนใ้ี หไหลทวนกระแสดว ย กาํ ลังอะไร?' นางพนิ ทมุ ดีทลู วา 'หมอ มฉนั กระทาํ คงคาใหญน้ใี หไหลทวนกระแสแลว ดว ย กําลังแหง สัจจะ พระพทุ ธเจา ขา .' พระเจาอโศกราชตรัสวา 'กําลงั แหงสจั จะอะไร จะมีแกเจา ผเู ปน โจร เปน หญงิ นกั เลง ไมมสี ติ มหี ิรอิ ันขาดแลว เปน หญงิ ลามกทาํ ลายแดนเสยี แลว ลว งเกนิ ปลน ชนตา บอด.' นางพนิ ทมุ ดกี ราบทลู วา 'ขอเดชะปกเกลา ปกกระหมอม หมอ มฉนั เปน หญงิ เชนนน้ั จรงิ , หมอ มฉนั จะปรารถนา พงึ เปลย่ี นโลกแมก ับท้งั เทพดา ดวยสัจจกิริยาอนั ใด, สจั จกริ ิยาน้นั ของหมอ มฉนั แมเชน นั้นมีอยู.' พระเจาอโศกราชตรสั ถามวา 'สจั จกิรยิ านนั้ เปน อยา งไรเลา ? เชิญเจาเลา ให เราฟง.' นางพนิ ทมุ ดีทลู วา 'ขอเดชะปกเกลา ปกกระหมอ ม บุรุษใด เปน กษัตริย หรือ เปนพราหมณ หรือเปน เวศย หรือเปน ศูทร หรือเปนบรุ ษุ อน่ื ใคร ๆ ใหท รพั ยแ กห มอมฉนั หมอมฉนั บํารงุ บุรษุ ทงั้ หลายเหลา นนั้ เสมอกนั เปน อยา งเดยี ว, ความแปลกวา กษัตริย ไมมี ความดหู มิน่ วา ศูทรไมม ,ี หมอมฉนั พน จากความเอน็ ดูและปฏิฆะ บําเรอบุรษุ ผูเปน เจาของแหง ทรัพย, หมอ มฉนั ทาํ คงคาใหญนใ้ี หไหลทวนกระแส แลว ดวยสัจจกริ ิยาใด, สัจจกริ ยิ าน้เี ปน สัจจะของหมอมฉนั ' ดังน.้ี

ขอถวายพระพร ชนทงั้ หลายผูตัง้ อยใู นสจั จะแลว ซงึ่ จะไมไดประโยชนห นอย หนงึ่ หามิได ดว ยประการฉะน.้ี พระเจา สวิ ิราชไดพระราชทานจกั ษทุ ง้ั หลายแกย าจก ดวย ทิพยจกั ษทุ ง้ั หลายเกดิ ขึน้ ดว ย, ก็แหละ ความทที่ พิ ยจักษเุ กดิ ขึ้นนนั้ เกิดขนึ้ เพราะ สัจจกิรยิ า. ก็คําอนั ใดทที่ า นกลา วไวใ นพระสตู รวา 'ครน้ั เมอื่ มังสจกั ษฉุ ิบหายแลว ความ ทที่ พิ ยจกั ษจุ ะเกดิ ขนึ้ ในสถานไมมีเหตุ ไมม ีวตั ถ'ุ ดังนี้ คาํ นน้ั ทา นหมายเอาจักษุสําเรจ็ แลวดวยภาวนากลา วแลว ขอถวายพระพร. บรมบพิตรจงทรงจาํ ไวซง่ึ ความขอ นี้ ดว ย ประการอยา งน\"้ี ดังน.้ี ร. \"ดลี ะ พระผเู ปน เจา ปญ หาพระผเู ปน เจา แกดแี ลว , นคิ คหธรรมพระผเู ปนเจา แสดงออกดแี ลว , ปรับปวาททง้ั หลาย พระผูเ ปน เจา ยาํ่ ยแี ลว , ขอ วสิ ชนาปญ หาของพระ ผูเปน เจา น้ี สมอยา งนน้ั , ขาพเจารับรองอยา งนน้ั .\" ๖ คพั ภาวัคกนั ติปญ หา ๖ ร. \"พระผเู ปน เจา นาคเสน พระพทุ ธพจนน อี้ ันพระผมู พี ระภาคเจาแมตรสั แลววา 'ภกิ ษทุ งั้ หลาย ความหยง่ั ลงสคู รรภยอมมี ก็เพราะความทีป่ จ จยั ท้ังสามประชุมพรอ ม กันแล : ในโลกน้ี มารดาบดิ าเปน ผปู ระชุมกันแลวดวย มารดาเปนหญงิ มีระดูดวย คนธรรพเปน สตั วเขา ไปต้งั อยเู ฉพาะหนา ดว ย; ภิกษุทัง้ หลาย ความหยงั่ ลงสูค รรภยอมมี เพราะความทปี่ จจัยทงั้ สามเหลา นี้ประชุมพรอมกนั แล.' พทุ ธพจนน ต้ี รสั ปจ จยั หาสว น เหลอื มไิ ด ฯลฯ ตรัสปจจัยไมม สี วนเหลอื ฯลฯ ตรัสปจ จยั ไมม ีสวนเหลอื ฯลฯ ตรสั ปจจยั ไมม ีปรยิ าย พระพุทธพจนน ต้ี รสั ปจจยั ไมมีขอล้ีลบั พระพุทธพจนน้อี นั พระผูมีพระภาค เจา เสดจ็ นงั่ ณ ทามกลางแหง บรษิ ทั กับทั้งเทพดาและมนษุ ยทงั้ หลาย ตรัสแลว. กแ็ ต วา ความหยง่ั ลงสคู รรภเพราะความทปี่ จ จัยทงั้ สองประชุมพรอ มกนั ยงั ปรากฏอยวู า 'พระดาบสช่อื ทุกุละลบู คลํานาภแี หง นางตาปสีชอ่ื ปารกิ า ดว ยน้วิ แมม อื เบอ้ื งขวา ใน กาลแหง นางตาปสีเปน หญิงมีระด,ู กมุ ารขอื่ สามะ เกิดแลว เพราะความท่พี ระดาบส น้ันลบู คลาํ นาภีนั้น. แมพ ระฤษีชอื่ มาตังคะ ลบู คลาํ นาภแี หง นางพราหมณกี นั ยาดว ย นวิ้ แมมือเบ้ืองขวา ในกาลทน่ี างเปน หญงิ มีระด,ู มาณพ ช่ือ มณั ฑพั ยะ เกิดข้นึ เพราะ ความทีฤ่ ษชี อ่ื มาตังคะ นน้ั ลบู คลาํ นาภนี ั้น.' พระผูเปนเจา ถา พระผมู ีพระภาคเจา ได ตรสั แลววา 'ภกิ ษทุ ง้ั หลายความหยงั่ ลงสูครรภ ยอ มมีกเ็ พราะความทปี่ จ จยั ทงั้ สาม ประชุมพรอ มกันโดยแท' ดังน,ี้ ถา อยางนนั้ คาํ ท่วี า 'สามกมุ ารดว ยมณั ฑัพยมาณพดว ย แมท้งั สองอยา งนน้ั เกิดแลว เพราะความลบู คลํานาภ'ี ดังนนี้ ัน้ ผิด. ถา พระตถาคตตรสั แลววา 'สามกมุ ารดว ยมณั ฑพั ยมาณพดว ย เกดิ แลวเพราะความลูบคลาํ นาภี.' ถาอยา ง

น้นั แมคาํ ทวี่ า 'ภิกษทุ งั้ หลาย ความหยง่ั ลงสูครรภยอมมี ก็เพราะความทป่ี จจัยทัง้ สาม ประชมุ พรอมกันโดยแท' ดังน้ี น้นั ผดิ . ปญหาแมน ีส้ องเงอื่ น ลึกดว ยดี ละเอียดดว ยดี เปน วสิ ยั ของบคุ คลผมู ปี ญญาเครื่องรูทง้ั หลาย, ปญ หานน้ั มาถงึ พระผเู ปน เจาแลว , พระ ผูเ ปนเจา จงตดั ทางแหง ความสงสยั จงชปู ระทีปอันโพลงทวั่ แลวคอื ญาณอันประเสริฐ.\" ถ. \"ขอถวายพระพร แมพ ระพุทธพจนน ี้ อนั พระผมู พี ระภาคเจาทรงภาสิตแลว วา 'ภกิ ษุทงั้ หลาย ความหยง่ั ลงสูค รรภย อ มมีก็เพราะความทป่ี จ จยั ทงั้ สามประชมุ พรอ ม กันแล : ในโลกนี้ มารดาและบดิ าเปน ผปู ระชุมกนั แลว ดว ย มารดาเปน หญงิ มีระดูดว ย คนธรรพเปน สตั วเ ขา ไปตง้ั อยเู ฉพาะหนา ดว ย, ความหยั่งลงสูครรภย อ มมีเพราะความที่ ปจจัยทง้ั สามประชมุ กนั อยา งน้นั .' อนึ่ง พระตถาคตเจา ไดต รัสแลว วา 'สามะกมุ ารดว ย มัณฑพั ยมาณพดวย เกิดแลว เพราะความลูบคลาํ นาภ.ี \" ร. \"ถา อยา งนน้ั ปญหาจะเปน ของอนั พระผเู ปนเจา ตดั สินดว ยดีแลว ดว ยเหตุใด ขอพระผเู ปนเจาจงยงั ขาพเจา ใหห มายรูด ว ยเหตุอันนัน้ .\" ถ. \"ขอถวายพระพร กบ็ รมบพิตรไดเคยทรงสดบั หรือวา 'กุมารชอ่ื สงั กจิ จะ ดว ย ดาบสชอื่ อสิ ิสงิ คะ ดว ย พระเถระช่ือ กมุ ารกัสสป ดว ย เหลานน้ั เกดิ แลว ดว ยเหตชุ อื่ น.ี้ \" ร. \"พระผูเ ปน เจา ขาพเจา ไดย นิ อย,ู ความเกิดของชนเหลา นนั้ เล่ืองลอื ไปวา แม เน้ือสองตวั มาสทู ่ีถา ยปสสาวะของดาบสสองรปู แลว จงึ ดื่มปสสาวะกบั ท้ังสัมภวะใน กาลแหง แมเ นอ้ื นัน้ มรี ะด,ู สังกจิ จกมุ ารดวย อิสิสิงคดาบสดวย เกดิ แลวดว ยสัมภวะเจือ ดว ยปส สาวะนั้นกอน เมื่อพระเถระชื่อ อทุ ายี เขา ไปสูส ํานกั ของนางภกิ ษณุ ี มจี ิต กาํ หนดั แลวเพง ดูองคก าํ เนิดของนางภกิ ษณุ ีอยู สมั ภวะเคลื่อนแลวในผา กาสาวะ; ครั้ง นน้ั แล พระอทุ ายีผมู ีอายุกลา วคาํ นีก้ ะนางภกิ ษณุ ีน้นั วา \"นองหญงิ ทา นจงไปนํานา้ํ มา เราจักซกั ผา อนั ตรวาสก.\" นางภิกษณุ กี ลา ววา \"อะไรพระผูเปนเจา ดฉิ นั จะซกั เอง.\" ลาํ ดับนน้ั นางภิกษณุ ี น้ัน ไดถ ือเอาสมั ภวะนนั้ สวนหน่ึงดว ยปาก, ใหสัมภวะสวนหนงึ่ เขาไปในองคก าํ เนดิ ของ ตน, พระเถระชอ่ื กุมารกสั สปเกิดแลวดวยเหตนุ น้ั ชนกลา วเหตนุ นั้ แลวอยา งน้ี ดว ย ประการฉะน.้ี \" ถ. \"ขอถวายพระพร เออก็ บรมบพติ รทรงเช่ือคํานน้ั หรือไม ?\" ร. \"พระผเู ปน เจา ขา พเจา ยอมเชื่อวา 'ชนเหลานั้นเกดิ แลว ดว ยเหตนุ '้ี ดงั น้ี ดวยเหตใุ ด, ขา พเจา ไดเหตมุ ีกําลงั นน้ั ในขอ นนั้ .\" ถ. \"อะไรเปน เหตใุ นขอนีเ้ ลา ขอถวายพระพร?\" ร. \"พืชตกลงแลว ในเทอื กอนั บุคคลกระทาํ ใหม ีบริกรรมดีแลว ยอมงอกงามเร็ว พลันหรอื ไม พระผเู ปน เจา ?\"

ถ. \"ขอถวายพระพร พืชนน้ั ยอ มงอกงามเรว็ พลนั .\" ร. \"นางภิกษณุ ีนนั้ เปน หญงิ มรี ะดู ครัน้ เมอ่ื กลละต้ังแลว เมือ่ ระดูขาดสายแลว เมื่อธาตตุ ้ังแลว ถอื เอาสัมภวะนนั้ เติมเขา ในกลละนน้ั แลว , ครรภของนางภิกษุณนี ั้นตง้ั แลว ดวยเหตนุ นั้ ฉนั นนั้ นนั่ เทยี วแล; ขา พเจา เช่อื เหตเุ พ่อื ความเกิดของชนเหลา น้นั ใน ขอ น้นั อยางน.้ี \" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอซึ่งบรมบพติ รตรัสนน้ั สมดงั ตรสั แลวอยางนนั้ อาตม ภาพรับรองอยา งน้ันวา 'ครรภย อ มเกิดพรอ มดวยอนั ยงั สัมภวะใหเ ขา ไปในปส สาวะ มรรค.' บรมบพิตรทรงรบั รองความหยั่งลงสคู รรภของพระกมุ ารกัสสปหรือเลา ขอถวาย พระ.\" ร. \"พระผเู ปน เจา ขา พเจา เชอ่ื อยางนัน้ .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ดลี ะ บรมบพติ รทรงกลบั มาสวู สิ ยั ของอาตมภาพแลว, บรม บพติ รตรสั ความหยงั่ ลงสคู รรภ จักเปนกาํ ลงั ของอาตภาพแมโ ดยสว นอันหนึง่ ; กอ็ ีก อยางหน่งึ แมเ นอ้ื ทงั้ สองนั้นดืม่ ปส สาวะแลวจงึ มคี รรภแลว บรมบพิตรทรงเชอ่ื ความ หยง่ั ลงสูครรภของแมเน้อื เหลา นนั้ หรอื ?\" ร. เชอ่ื สิ สิง่ ใดสงิ่ หนึ่งอนั บคุ คลบริโภคแลว ดืม่ แลว เคยี้ วแลว ล้ิมแลว สิง่ ทงั้ ปวงนน้ั ยอมประชุมลงสกู ลละ ถงึ ที่แลว ยอมถงึ ความเจรญิ , เหมอื นแมน ้าํ เหลาใดเหลา หนงึ่ แมน ํา้ ท้ังปวงเหลานนั้ ยอ มประชุมลงสูมหาสมุทร, ถงึ ท่ีแลว ยอมถงึ ความเจรญิ ฉนั ใด, สิง่ ใดส่งิ หน่งึ ทบ่ี คุ คลบริโภคและด่ืม เคีย้ ว ลิ้มแลว สงิ่ ทงั้ ปวงนน้ั ยอ มประชุมลงสู กลละ, ถึงท่แี ลว ยอมถึงความเจริญ ฉนั นน้ั นน่ั แล. เพราะเหตุนน้ั ขา พเจา เช่ือวา 'ความ หยงั่ ลงสูครรภ แมด วยสัมภวะเขา ไปแลว ทางปาก.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ดลี ะ บรมบพติ รยงิ่ เขา ไปสูวิสยั ของอาตมภาพหนกั เขา, สนั นบิ าตของชนทง้ั สองยอมมี แมดว ยอนั ด่ืมดวยปาก, บรมบพิตรทรงเช่ือความหยงั่ ลง สคู รรภข อง สังกจิ จกมุ าร และอสิ สิ ิงคดาบส และพระเถระชื่อ กมุ ารกัสสป หรอื ?\" ร. \"ขาพเจา เชอื่ สนั นบิ าตยอ มประชมุ ลง.\" ถ. \"ขอถวายพระพร แมส ามกุมาร แมม ัณฑพั ยมาณพ กเ็ ปนผหู ยง่ั ลงในภายใน สนั นิบาตทงั้ สามนนั้ มรี สเปน อันเดยี วกนั โดยนัยมใี นกอนทเี ดียว; อาตมภาพจักกลา ว เหตุในขอนนั้ ถวาย. ทุกลุ ดาบสและนางปาริกาตาปสี แมท้งั สองนั้นเปน ผูอ ยูในปา นอ ม ไปเฉพาะในวเิ วก แสวงหาประโยชนอ นั สูงสุด, ทําโลกเทา ถึงพรหมโลกใหเ รา รอนดวย เดชแหงตปธรรม. ในกาลนัน้ ทา วสกั กะผูเ ปนจอมของเทพดาทง้ั หลาย ยอ มมาสทู ีบ่ าํ รงุ ของทุกลุ ดาบสและนางปารกิ าตาปสีเหลานัน้ ทัง้ เชาทัง้ เยน็ . เปน ผูมีเมตตามาก ไดเหฯ็ ความเสอื่ มแหง จักษทุ ง้ั หลายของชนท้ังสองแมเ หลา นนั้ ในอนาคต, ครน้ั เหน็ จึงกลา วกะ

ชนทง้ั สองนนั้ วา \"ผเู จริญทง้ั หลาย ทา นทง้ั หลายจงกระทาํ ตามคําอนั หน่ึงของขา พเจา , ขอใหส าํ เร็จประโยชนเถิด, ทานทงั้ หลายพงึ ยงั บตุ รคนหนงึ่ ใหเ กดิ , บตุ รนัน้ จักเปน ผู บํารงุ และเปน ทย่ี ึดหนว งของทา นท้งั หลาย.\" ชนทงั้ หลายนนั้ หา มเสียวา \"อยาเลยทาวโกสีย, ทานอยา ไดว าอยา งน้เี ลย\" ดังนี้ ไมร บั คําของทา วสักกะน้ัน. ทาวเธอเปน ผเู อน็ ดผู ใู ครประโยชน กลา วอยางนน้ั กะชนท้งั สองนนั้ อีกสองครงั้ สามครง้ั .แมในครงั้ ทีส่ าม ชนทงั้ สองนนั้ กลา ววา \"อยา เลยทา ยโกสยี , ทา นอยา ยงั เราทง้ั หลายใหป ระกอบในความฉบิ หายไมเ ปน ประโยชนเ ลย, เมือ่ ไรกายนี้ จกั ไมส ลาย กายนม้ี คี วามสลายเปน ธรรมดา จงสลายไปเถิด, แมเ มือ่ ธรณีจะแตก แม เมือ่ ยอดเขาจะตก แมเม่อื อากาศจะแยก แมเ ม่ือพระจนั ทรและพระอาทติ ยจะตกลงมา เราทั้ง หลายจักไมเจอื ดวยโลกธรรมทง้ั หลายเลยทีเดียว, ทา นอยามาพบปะกบั เราอกี เลย, เม่ือ ทา นมาพบปะกนั เขา ความพบปะกนั นั้นกจ็ ะเปนความคนุ เคย; ชะรอยทา นจะเปน ผู ประพฤตคิ วามฉิบหายไมเปน ประโยชนแกเ ราทั้งหลาย.\" ลาํ ดบั นน้ั ทาวสักกะเม่ือไมไดความนบั ถอื แตชนทั้งสองนนั้ ถงึ ความเปนผู หนกั ใจ ประคองอัญชลีวิงวอนอีกวา \"ถา ทา นทง้ั หลายไมอาจกระทาํ ตามคําขอของ ขา พเจา ไซร, เมื่อใด นางตาปสีมีระดู มตี อมเลือด เมอื่ นนั้ ทา นพงึ ลูกคลาํ นาภีของนาง ตาปสีนนั้ ดว ยนว้ิ แมมอื เบื้องขวา, นางตาปสีนนั้ จกั ไดครรภด วยความลบู คลํานาภนี ัน้ , ความลบู คลาํ นาภีนน้ั เปน สนั นิบาตของความหยง่ั ลงสูค รรภ.\" ชนทงั้ สองนนั้ รบั วา \"ดกู รทาวโกสยี  เราอาจเพ่อื จะกระทําตามคํานน้ั ได, ตป ธรรมของเราทง้ั หลายยอมไมแตกดว ยความลูบคลํานาภีเทา นั้น ชา งเถดิ \" ดงั น.ี้ กแ็ หละ ในเวลานนั้ เทพบุตรผูมกี ศุ าลมูลอนั แรงกลาสน้ิ อายแุ ลว มีอยใู นพภิ พ ของเทพดา, เทพบุตรนน้ั ถงึ ความสน้ิ อายแุ ลว อาจเพือ่ จะหยง่ั ลงตามความปรารถนา, และอาจเพื่อจะหยง่ั ลงแมในตระกูลของพระเจาจกั รพรรดิ. ครง้ั น้นั ทา วสกั กะไปหาเทพบุตรนน้ั วงิ วอนวา \"แนะทานผนู ิรทุกข ทา นมาเถิด, วนั ของทานสวา งชัดแลว, ความสําเรจ็ ประโยชนม าถงึ แลว เรามาสูที่บาํ รุงของทา น เพอื่ ประโยชนอ ะไรเลา, การอยใู นโอกาสนา รื่นรมย จกั มแี กท า น, ปฏิสนธิในตระกลู สมควร จกั มแี กท า น ทา นจกั เปนผูอนั มารดาและบิดาทง้ั หลายท่ดี ี พงึ ใหเ จริญ, ทานจงมา ทา น จงกระทาํ ตามคาํ ของเรา.\" ทา วสกั กะวงิ วอนแลว ดงั น้ี ประคองอัญชลเี หนอื เศยี ร วงิ วอนถงึ สองครง้ั สามครัง้ แลว. ลําดับนนั้ เทพบตุ รนั้นตอบวา \"แนะทานผนู ริ ทกุ ข ทา นสรรเสริญความไปสู ตระกูลใดบอย ๆ ตระกูลนนั้ คอื ตระกูลไหน.\"

ทายสกั กะกลา ววา \"ตระกลู นนั้ คอื ทุกุลดาบสและนางปาริกาตาปส.ี \" เทพบุตรนั้น ฟง คําของทาวสกั กะนัน้ แลว ยนิ ดรี บั วา \"แนะ ทานผูนริ ทกุ ข ความ พอใจใดของทา น ความพอใจน้นั จงสาํ เรจ็ ประโยชนเ ถิด; เราพงึ จาํ นงเกดิ ในตระกูลท่ี ทานปรารถนาแลว , เราจะเกดิ ในตระกูลไหน คอื เปน อัณฑชะเกิดในฟองฝกหรอื หรอื เปน ชลาพชุ ะเกดิ ในครรภมารดา หรอื เปน สงั เสทชะเกิดในเถา ไคล หรือเปนโอปปาตกิ ะ เกิดผลดุ ข้นึ เลา .\" ทาวสักกะกลา ววา \"แนะทา นผูนริ ทกุ ข ทา นจงเกิดในกาํ เนดิ เปน ชลาพชุ ะ.\" ลําดับนน้ั ทาวสักกะกาํ หนดวนั เกิดแลว จงึ บอกแก ทุกลดาบสวา \"นางตาป สีจักมรี ะดู มตี อ มเลอื ด ในวนั ช่อื โนน , ทา นผูเจรญิ ทา นพงึ ลูบคลาํ นาภขี องนางตาปสี ดวยนน้ิ แมมอื เบ้อื งขวา ในกาลนนั้ .\" นางตาปสีเปนหญิงมรี ะดู มีตอมเลือดดว ย เทพบุตรผูจะเขาไปในทน่ี ้นั ไดไ ปปรากฏเฉพาะหนา แลว ดว ย ดาบสลบู คลํานาภีของ นางตาปสดี ว ยนิ้วแมม ือเบอ้ื งขวาดว ย ในวนั น้ัน ประชุมนนั้ ไดเ ปน สันนิบาตสามอยา ง ดว ยประการฉะน.้ี ความกาํ หนดั ของนางตาปสเี กดิ ขึน้ แลว ดว ยความลบู คลาํ นาภ;ี ก็แล ความกาํ หนดั ของนางตาปสนี ั้นอาศยั ความลบู คลาํ นาภีเกดิ ขึน้ แลว, บรมบพติ รอยา สาํ คัญวา อัธยาจารอยา งเดยี วเปน สนั นิบาต, แมค วามเขา ไปเพง ก็ชอื่ วาสนั นบิ าต, สันนบิ าตความประชุมพรอมยอมเกิดดวยความจบั ตอ ง เพ่อื ความเกดิ ราคะโดยความ เปน บรุ พภาค, ความหยงั่ ลงสคู รรภย อมมีเพราะสนั นบิ าต, เพราะฉะนนั้ ความหยงั่ ลงสู ครรภยอมมแี มในท่ไี มม อี ธั ยาจาร ดว ยการลบู คลํา เหมอื นไฟที่โพลงอยู ถงึ ใคร ๆ จะไม ลูบคลาํ กก็ ําจดั ความหนาวของบคุ คลผูเขาไปใกลแ ลว ไดฉันใด, ความหยงั่ ลงสูค รรภ ยอ มมีในทแี่ มไ มม ีอธั ยาจาร เพราะความลบู คลาํ ฉนั นนั้ โดยแท. ขอถวายพระพร ความหยง่ั ลงสคู รรภของสัตวท ้งั หลาย ยอมมีดว ยอาํ นาจแหง เหตสุ ่ปี ระการ คือ กรรมหน่งึ กําเนิดหนึ่ง ตระกูลหนึง่ ความออ นวอนหน่ึง; เออก็สัตว ทง้ั หลายแมทงั้ ปวง ลว นมกี รรมเปน แดนเกดิ มีกรรมเปน สมฏุ ฐานดวยกันทัง้ สนิ้ . ความหยง่ั ลงสคู รรภของสัตวทงั้ หลาย ยอมมดี ว ยอาํ นาจแหง กรรมอยา งไร? สัตวท ัง้ หลายทีม่ กี ศุ ลมูลแกก ลา ยอมเกดิ ไดต ามความปรารถนา, ปรารถนาจะเกิดใน ตระกลู กษัตริยมหาศาล หรอื ในตระกลู พราหมณมหาศาล คฤหบดมี หาศาลกด็ ี หรอื ใน เทพดาทง้ั หลายปรารถนาจะเกดิ ในกาํ เนดิ เปน อณั ฑชะ ชลาพชุ ะ สังเสทชะ โอปปาตกิ ะ ละอยา ง ๆ กด็ ี ยอมเกิดไดต ามความปรารถนา. เหมือนบรุ ุษม่งั ค่งั มที รพั ยโ ภคะเงนิ และ ทองมาก มีวตั ถเคร่อื งทาํ ความอดุ หนุนแกท รพั ยเคร่ืองปลมื้ มาก มที รพั ยแ ละขา วเปลอื ก มาก มฝี า ยญาติมาก จะใหท รพั ยสองเทา แมสามเทา ชว ยทาสีและทาส หรอื ซอ้ื นาและ สวน หรอื บานนิคมชนบท ละอยา ง ๆ กด็ ี ส่ิงใดส่งิ หนงึ่ ทต่ี นปรารถนายง่ิ แลว ดวยใจ ได

ตามปรารถนา ฉนั ใด, สตั วทงั้ หลายท่ีมีกุศลมลู แรงกลา ปรารถนาจะเกดิ ในตระกลู กษตั รยิ มหาศาล พราหมณมหาศาล คฤหบดีมหาศาลกด็ ี หรือปรารถนาจะเกดิ ในเทพ ดาทง้ั หลาย หรือปรารถนาจะเกดิ ในกาํ เนดิ เปนอณั ฑชะ ชลาพชุ ะ สังเสทชะ โอปปาติกะ ละอยาง ๆ กด็ ี ยอมเกิดไดตามความปรารถนา ฉันนั้น. ความหยั่งลงสคู รรภ ของสัตวทงั้ หลายยอ มเปน ไปดว ยอํานาจแหง กรรมอยางน.้ี ความหยง่ั ลงสคู รรภของสตั วทงั้ หลาย ยอมเปน ไปดวยอาํ นาจแหง กาํ เนดิ อยางไร? ความหยงั่ ลงสคู รรภของไกทงั้ หลาย ยอมมดี ว ยลม, ความหยง่ั ลงสูครรภของ นกยางทัง้ หลาย ยอ มมดี ว ยเสยี งเมฆ, เทพดาทง้ั หลายแมท ้ังปวง ไมใชส ตั วน อนใน ครรภน ั่นเทียว, ความหยัง่ ลงสคู รรภข องเทพดาทง้ั หลายเหลา น้นั ยอมเปน ไปโดยเพศ ตา ง ๆ ดังมนษุ ยท งั้ หลายเทย่ี วไปในแผนดนิ โดยเพศตา ง ๆ, มนษุ ยท ้ังหลายพวกหนง่ึ ปด ขางหนา พวกหนงึ่ ปดขางหลัง พวกหน่ึงเปลือยกาย พวกหน่งึ ศรี ษะโลน พวกหน่งึ นุงผา ขาว พวกหนง่ึ เกลาผมมวย พวกหนง่ึ ศรี ษะ โลน นงุ ผายอมนํ้าฝาด พวกหนึ่งนุงผา ยอม นํา้ ฝาดเกลา ผมมวย พวกหนึง่ มชี ฎาทรงกาบไมก รอง พวกหนงึ่ นงุ หนัง พวกหนง่ึ นงุ เชือก, มนษุ ยท ง้ั หลายแมทงั้ ปวง เท่ยี วอยใู นแผน ดินโดยเพศตา ง ๆ ฉนั ใด; เทพดา เหลา นั้นเปน สตั วเ หมือนกนั , ความหยงั่ ลงสูครรภข องเทพดาเหลานน้ั ยอ มเปนไปโดย เพศตา ง ๆ ฉนั น้ัน. ความหยง่ั ลงสูค รรภข องสัตวท ง้ั หลายยอ มเปน ไปโดยอํานาจแหง กําเนิด ดวยประการฉะน.้ี ความหยง่ั ลงสคู รรภข องสตั วทัง้ หลาย ยอ มเปน ไปดวยอาํ นาจแหงตระกลู อยา งไร? ชือ่ ตระกูลมีสี่ตระกลู คอื เปน อณั ฑชะ ชลาพชุ ะ สงั เสทชะ โอปปาติกะ; ใน ตระกูลทงั้ สนี่ นั้ ถา คนธรรพม าแตต ระกูลใดตระกูลหนงึ่ เกดิ ในตระกูลเปนอณั ฑชะ คนธรรพน น้ั เปน สตั วเกดิ ในฟองในตระกลู นนั้ , ถาเกิดในตระกูลเปนชลาพชุ ะ สงั เสทชะ โอปปาตกิ ะคนธรรพเปน ชลาพชุ ะ สังเสทชะ โอปปาตกิ ะ ละอยาง ๆ ในตระกูลนน้ั ๆ. สัตวท้งั หลายยอ มเกิดเปน สตั วเ ชนน้นั อยางเดียวกันในตระกลู นนั้ ๆ. อนึง่ เน้อื และนก ทง้ั หลายเหลา ใดเหลาหนง่ึ เขา ไปถงึ ภเู ขาสิเนรุในปา หมิ พานต เนื้อและนกทงั้ ปวง เหลา นั้น ยอ มละพรรณของตนเปน สัตวมพี รรณตางๆ ดงั พรรณแหง ทอง ฉันใด, คนธรรพผูใดผหู นง่ึ ซง่ึ มาแลว แตตระกลู ใดตระกลู หนงึ่ เขาไปถึงกาํ เนดิ เปน อณั ฑชะ แลว ละเพศโดยสภาวะเสยี เปน สัตวเกิดในฟอง เขาไปถึงกาํ เนดิ เปนชลาพชุ ะ สงั เสทชะ โอปปาติกะ แลวละเพศโดยสภาวะเสีย เปน ชลาพชุ ะ สงั เสทชะ โอปปาติกะ ละอยา ง ๆ ฉันนน้ั . ความหยั่งลงสูครรภข องสตั วทง้ั หลาย ยอ มเปน ไปโดยอาํ นาจแหงตระกลู ดว ย ประการ ฉะน.ี้

ความหยงั่ ลงสคู รรภของสตั วทง้ั หลาย ยอมเปน ไปดว ยอาํ นาจแหง ความออ น วอนอยา งไร? ในโลกนี้ตระกลู ไมม บี ุตร มีทรพั ยส มบตั ิมาก มศี รทั ธาเลอ่ื มใสแลว มีศลี มี ธรรมอันงาม อาศยั ตปคุณ, ก็เทพบตุ รมีกศุ ลมลู แรงกลา มีความจตุ ิเปน ธรรมดา, ครั้ง นนั้ ทา วสกั กะออนวอนเทพบตุ รน้นั เพื่อความเอน็ ดแู กตระกูลนน้ั วา \"ทา นจงปรารถนา พระครรภของพระมเหสีแหง ตระกลู โนน ,\" เทพบุตรนน้ั ปรารถนาตระกูลนัน้ เหตคุ วาม ออนวอนของทาวสักกะนน้ั . อปุ มาเหมือนมนุษยทง้ั หลายใครบุญ ออนวอนพระสมณะผู ยงั ใจใหเ จริญ แลวนาํ เขา ไปสเู รอื น ดว ยคดิ วา \"พระสมณะนเี้ ขา ไปสูเรือนแลว จักเปน ผนู ําความสุขมาแกตระกลู ทง้ั ปวง\" ฉันใด, ทาวสักกะออ นวอนเทพบตุ รนนั้ แลว นาํ เขา ไปสตู ระกลู นน้ั ฉนั นน้ั นั่นเทยี วแล. ความหยั่งลงสูครรภของสตั วท งั้ หลาย ยอมเปน ไป ดวยอาํ นาจแหงความออนวอน ดว ยประการฉะน.ี้ ขอถวายพระพร สามกมุ าร ทาวสกั กะผเู ปน จอมแหง เทพดาทงั้ หลาย ออ นวอน แลว หยัง่ ลงสคู รรภของนางตาปสีชื่อ ปารกิ า แลว . สามกุมารไดกอ สรา งบุญไวแ ลว , มารดาและบดิ าท้งั หลายเปน คนมีศลี มธี รรมอนั งาม, ผอู อ นวอนเปนคนสามารถแลว, สามกมุ ารเกิดแลว ตามความปรารถนาแหง ใจของชนทงั้ หลายสาม, เหมือนในโลกน้ี มี บรุ ษุ ผฉู ลาดในอุบายเครื่องนาํ ไป ปลกู พืชลงไวใ นไรนาใกลท่ไี ถดแี ลว , นั้นเวน อนั ตราย อันตรายอะไรจะพึงมแี กค วามเจริญของพชื เม่อื พชื นน้ั บา งหรอื ? ขอถวายพระพร.\" ร. \"หาไม พระผูเ ปน เจา พืชไมม อี นั ตรายเขา ไปกระทบกีดก้นั พงึ งอกงามเร็ว พลนั พระผเู ปน เจา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร สามกมุ ารพนแลว จากอนั ตรายเกิดขนึ้ แลว ทง้ั หลาย เกิด แลว ตามความปรารถนาแหง จติ ของชนทงั้ สาม ฉนั นนั้ นนั่ เทยี วแล. ขอถวายพระพร บรมบพิตรเคยไดทรงฟง แลวบางหรอื ชนบทใหญเจริญ แพรห ลายแลว กบั ทงั้ ประชมุ ชน ขาดสญู แลว ดว ยความประทษุ รา ยแหง ใจแหง ฤษี ทัง้ หลาย.\" ร. \"พระผูเ ปน เจา ขาพเจา ไดฟง อยู ปาช่อื ทณั ฑกะ ปา ช่ือเมชฌะ ปา ชื่อกาลิง คะ ปาชื่อมาตงั คะ ปา ทงั้ ปวงนนั้ เปน ปา แลว , ชนบททง้ั หลายแมท ง้ั ปวงเหลา นี้ ถงึ ความ สนิ้ ไปดว ยความประทษุ รา ยแหงใจของฤษที ั้งหลาย\" ถ. ขอถวายพระพร ถา ชนบททัง้ หลายที่เจรญิ แลวดว ยดี มาขาดสญู ไปดว ย ความประทุษรา ยแหงใจฤษที ้งั หลายเหลา นน้ั , อะไร ๆ พงึ เกิดขึน้ โดยความเลื่อมใสแหง จติ ของฤษที งั้ หลายเหลา นนั้ บางหรือไม. \" ร. \"พงึ เกดิ ขนึ้ ไดซ ิ พระผเู ปน เจา .\"

ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยา งน้นั สามกุมาร เปนอสิ นิ ริ มิตเปน เทพนมิ ติ เปน บุญ นริ มติ เกดิ แลว โดยความเลอ่ื มใสแหงจิตของชนผมู กี ําลงั ทั้งหลายสาม, เพราะเหตนุ นั้ บรมบพติ รจงทรงความขอ นไี้ วด ว ยประการฉะน.้ี ขอถวายพระพร เทพบตุ รทง้ั หลายสามเหลาน้ี เขา ถงึ แลว ซ่งึ ตระกลู ทที่ า วสกั กะ ผูเปน จอมของเทพดาทง้ั หลายไดออนวอนแลว , เทพบุตรทงั้ สาม คือ เทพบตุ รองคไ รบา ง เทพบุตรทั้งสามคือ สามกมุ ารหน่งึ มหาปนาทะ หนง่ึ กสุ ราชา หนง่ึ เทพบุตรแมท ้ังสาม เหลา น้ีเปน พระโพธสิ ตั ว. \" ร. \"พระผเู ปน เจา ความหยงั่ ลงสคู รรภ พระผูเ ปน เจา นาํ มาแสดงดวยดีแลว , เหตุพระผูเปน เจากลา วดวยดีแลว, มืดทําใหมีแสงสวา งแลวล ชฏั พระผเู ปน เจา สางแลว, ปรับปวาทพระผเู ปน เจา หา มกนั เสยี ไดแลว, เหตนุ ้นั สมดงั พระผเู ปน เจากลาวอยา งนัน้ , ขาพเจา ยอมรบั รองอยางนนั้ .\" ๗. สัทธมั มอนั ตรธานปญหา ๗ พระเจามลิ ินทต รัสถามวา \"พระผเู ปนเจา นาคเสน พระผมู พี ระภาคเจา ไดทรง ภาสิตพุทธพจนแ มน้ไี วแกพ ระอานนทเถระวา 'ดูกอ นอานนท สทั ธรรมจกั ตั้งอยูไ ดใน กาลตอ ไป เพยี งหา รอยปเ ทา นนั้ ' ดงั น.ี้ สวนในสมยั เปน ทปี่ รนิ พิ พาน สุภัททปริพพาชก ทลู ถามปรศิ นา พระผมู พี ระภาคเจาไดตรสั แลววา 'ดกู อนสภุ ัททะ ถา ภิกษทุ ง้ั หลาย เหลานี้พงึ ปฏบิ ตั อิ ยโู ดยชอบในกาลทง้ั ปวง, โลกพงึ เปน ของไมวา งเปลาจากพระอรหันต ท้งั หลาย' ดงั นอี้ ีก; พระพทุ ธพจนน ก้ี ลา วกาลหาสว นเหลอื มไิ ด ฯลฯ กลา วกาลไมม ีสว น เหลือ ฯลฯ กลา วกาลไมมีปรยิ าย. ถา พระตถาคตเจาไดต รสั แลว วา 'ดูกอ นอานนท ใน กาลตอไป พระสัทธรรมจกั ตง้ั อยไู ด เพยี งหา รอ ยปเทา นน้ั ' ดังน,ี้ ถาอยางนน้ั คาํ ทวี่ า 'โลกพงึ เปน ของไมว า งเปลา จากพระอรหนั ตทง้ั หลาย' ดงั นี้ นนั้ ผิด. ถาพระตถาคตเจา ไดตรสั แลววา 'โลกพงึ เปน ของไมวา งเปลา จากพระอรหันตท ง้ั หลาย' ดงั น,ี้ ถาอยา งนนั้ คาํ ท่ีวา 'ดูกอ นอานนท ในกาลตอ ไป พระสทั ธรรมจักตงั้ อยูไดเพยี งหารอยปเทา นนั้ ' ดังนนี้ ั้นเปน ผดิ . ปญหาแมน ีม้ ีเงอื่ นสอง เปน ชัฏยง่ิ แมก วา ชฏั โดยปกต,ิ มกี าํ ลังย่งิ แมกวา ปญหาทม่ี ีกาํ ลงั โดยปกต,ิ มขี อดยงิ่ แม กวาขอดโดยปกต,ิ ปญหานนั้ มาถงึ พระผูเ ปน เจา แลว , พระผเู ปนเจา จงเปนผดู งั มงั กรไป แลว ในภายในแหง สาคร แสดงความแผไ พศาลแหงกําลงั ญาณของพระผเู ปนเจา ใน ปญ หาน้นั .\"

พระนาคเสนเถระถวายพระพรวา \"ขอถวายพระพร พระผูมพี ระภาคเจา ไดทรง ภาสิตพระพทุ ธพจนแมน ้แี กพ ระอานนทเถระแลว วา 'ดกู อนอานนท ในกาลตอ ไป พระ สทั ธรรมจกั ตง้ั อยไู ด เพียงหา รอยปเ ทา นน้ั 'ดังน.ี้ สวนในสมยั เปนท่ปี รนิ พิ พาน ไดต รสั แลว แกสุภัททปริพพาชกวา 'ดกู อนสุภัททะ ถา ภิกษทุ งั้ หลายเหลานีพ้ งึ ปฏบิ ตั อิ ยโู ดย ชอบ ในกาลทง้ั ปวงไซร. โลกพึงเปน ของไมว า งเปลาจากพระอรหนั ตท ั้งหลาย' ดังน.ี้ ก็ แหละ พระพทุ ธพจนข องพระผมู พี ระภาคเจานน้ั เปน พระพุทธพจนมีเน้อื ความตางกนั ดวย มพี ยญั ชนะตางกนั ดวยแท. สว นทงั้ สอง คอื สว นพระพทุ ธพจนน ้ีกาํ หนดศาสนา พระวาจานแ้ี สดงความปฏิบตั เิ หลา นั้น เวน ไกลกนั และกนั . ขอถวายพระพร มอี ุปมาเหมือนฟา เวน ไกลแตแ ผน ดนิ นรกเวน ไกลแตส วรรค กศุ ลเวน ไกลแตอกุศล สุขเวน หา งไกลแตทกุ ข ฉนั ใด สว นพระพุทธภาสติ ท้ังหลายสอง เหลานัน้ เวนหา งไกลจากกนั และกนั มีอุปไมยฉันน้ันนน่ั เทยี วแล. เออก็ ปุจฉาของบรม บพิตรอยาเปน ของเปลา เลย, อาตมภาพจกั เปรียบเทียบโดยรสแสดงแกบรมบพิตร, พระผูมพี ระภาคเจา ตรัสพทุ ธพจนใ ดวา 'ดกู อ นอานนท ในกาลตอ ไป พระสทั ธรรมจกั ตง้ั อยไู ด เพยี งหา รอยปเ ทา นน้ั ' ดังน.้ี เม่ือพระองคต รสั พทุ ธพจนนนั้ ทรงแสดงกาลท่ีสน้ิ ไป ทรงกาํ หนดกาลที่เหลอื วา 'ดกู อนอานนท ถา นางภิกษณุ ที ั้งหลายไมพงึ บรรพชาไซร พระสทั ธรรมจกั พึงตง้ั อยูไ ดห นง่ึ พันป, ดกู อนอานนท กาลตอไปนี้ พระสทั ธรรมจักตัง้ อยู ได เพียงหา รอ ยปเทา นนั้ .' เออก็ เมอ่ื พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสอยางน้ี จะตรสั ตาม อันตรธานแหง พระสัทธรรมหรือ หรอื ทรงคดั คานอภสิ มัยความตรสั รู เปน ไฉน ? ขอ ถวายพระพร.\" ร. \"หามไิ ด พระผเู ปนเจา .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา ทรงระบุกาลทีฉ่ บิ หายไปแลว ทรง แสดงกาลทเ่ี หลืออยู ทรงกําหนดแลว. เหมอื นบุรุษมีของหาย หยบิ ภณั ฑะที่ เหลอื อยทู ้งั สน้ิ แสดงแกประชุมชนวา 'ภัณฑะเทา นข้ี องขาพเจา หายไปแลว ภัณฑะนเี้ หลืออย'ู ฉันใด, พระผูมพี ระภาคเจา ทรง แสดงกาลทฉ่ี บิ หายไปแลว ตรสั กาลที่เหลอื อยูแ กเ ทวดาและมนษุ ยท งั้ หลายวา 'ดูกอ น อานนท กาลตอไปนี้ พระสทั ธรรมจักต้ังอยไู ด เพียงหา รอ ยปเทา นน้ั ' ดังน.้ี ก็พระพทุ ธ พจนอ นั ใด ทพ่ี ระผมู พี ระภาคเจา ไดตรัสแลววา 'ดกู อนอานนท กาลตอไปน้ี พระ สทั ธรรมจักตั้งอยไู ด เพยี งหา รอยปเ ทา นน้ั ' ดังน,ี้ พระพทุ ธพจนน ก้ี าํ หนดศาสนกาล; สว นพระองคท รงระบสุ มณะทงั้ หลายตรัสพุทธพจนใด แกส ุภัททปรพิ พาชกวา 'ดกู อน สภุ ัททะ ถาภกิ ษุท้ังหลายเหลา น้ี พงึ ปฏบิ ัติอยูโดยชอบ ในกาลทง้ั ปวง, โลกพงึ เปนของ ไมว า งเปลา จากพระอรหนั ตท ง้ั หลาย'ดงั น,ี้ พระวาจานนั้ แสดงความปฏิบัต.ิ สว นบรม

พิตรมาทรงกระทาํ ความกาํ หนดนน้ั ดว ยพระวาจาเคร่ืองแสดงนน้ั ดว ย ใหเปฯ ของมรี ส เปน อันเดยี วกนั . ก็ถา วา เปน ความพอพระหฤทัยของบรมบพิตรอาตมภาพจกั กลา ว กระทาํ ใหมีรสเปนอันเดยี วกนั , บรมบพติ รจงเปน ผูมีพระหฤทยั ไมว ปิ รติ ทรงสดับกระทาํ ไวในพระหฤทยั ใหส าํ เร็จประโยชน. ขอถวายพระพร ถา ในทนี่ ้ี มีสระเต็มแลว ดวยนา้ํ ใหมใ สสะอาด นํา้ ขน้ึ เสมอ กําหนดเพยี งขอบ, เมื่อสระนนั้ ยงั ไมท นั แหง เมฆใหญเ น่ืองประพนั ธกนั ใหฝนตกเตมิ ซา้ํ ๆ ลงบนนาํ้ ในสระนน้ั , นา้ํ ในสระน้นั พึงถึงความสนิ้ ไปและแหง ไปหรอื เปน ไฉน?\" ร. \"หาไม พระผูเปน เจา .\" ถ. \"เพราะเหตไุ ร ขอถวายพระ?\" ร. \"เพราะความทเี่ มฆเปนของเนื่องประพนั ธก ันเปน เหตุ นา้ํ ในสระนนั้ จงึ ไมถึง ความสน้ิ ไปแหงไปซิ พระผูเปน เจา .\" ถ. \"ขอถวายพระพร สระ คือ พระสทั ธรรมในศาสนาอนั ประเสรฐิ ของ พระพทุ ธเจา ผชู นะมารทง้ั ปวง เต็มแลวดว ยดดี วยนาํ้ ใหมป ราศจากมลทิน คือ อาจาระ และศีลคณุ และวตั รปฏิบัติ นา้ํ ปราศจากมลทนิ น้ันขน้ึ ไปทว มทส่ี ุดแหง ภพตง้ั อยแู ลว ฉนั น้ันน่ันเทยี วแล. ถาพระพทุ ธโอรสท้ังหลาย ยงั ฝนแหงเมฆ คือ อาจาระและศีลคณุ และ วตั รปฏบิ ัติ ใหเ นือ่ งประพันธก ัน ใหต กเติมราํ่ ไปในสระ คอื พระสทั ธรรมนน้ั ไซร, สระ คอื พระสทั ธรรมในศาสนาอนั ประเสรฐิ ของพระชนิ พทุ ธเจา นี้ พงึ ตงั้ อยสู ิ้นกาลนานยืดยาว ได, อนงึ่ โลกพงึ เปน ของไมว า งเปลาจากพระอรหนั ตท งั้ หลาย ฉนั นน้ั , พระผูมพี ระภาค เจา ทรงหมายเน้ือความนี้ ภาสิตแลววา 'ดกู อนสุภัททะ ถา ภิกษทุ ง้ั หลายเหลา น้ี พงึ ปฏบิ ตั ิอยูโ ดยชอบในกาลทงั้ ปวง, โลกพงึ เปน ของไมวา งเปลา จากพระอรหนั ตทง้ั หลาย ดังน.้ี ขอถวายพระพร อนงึ่ ในทนี่ ม้ี ีกองแหง ไฟใหญ ๆ โพลงอย,ู ชนท้ังหลายพงึ นาํ หญา และไม และโคมยั แหง แลว ท้งั หลายเขาไปเติมซา้ํ ๆ ลงในกองไฟใหญนน้ั , กองไฟ นนั้ พงึ ดับไปหรือไฉน?\" ร. \"หาไม พระผูเปน เจา กองไฟนนั้ พงึ โพลงย่งิ ๆ ขนึ้ ไป พงึ สวางยงิ่ ๆ ข้นึ ไป. ขอถวายพระพร พระศาสนาอันประเสริฐของพระพทุ ธเจา ผูช นะแลว ยอ ม ชัชวาลอยใู นโลกธาตประมาณหม่ืนหน่งึ ทาํ โลกธาตใุ หสวา งทว่ั ดวยอาจาระ และศีล คณุ และวตั รปฏบิ ัติ. กถ็ า วา พระพทุ ธโอรสทั้งหลาย มาตามพรอมแลว ดว ยองคของ บคุ คลผตู ัง้ ความเพยี ร หา ประการ พึงเปน ผูไมประมาทแลว พากเพยี รเนอื ง ๆ, พึงเปน ผู มีฉันทะเกิดแลว ศึกษาอยูใ นสกิ ขาสาม, พงึ บาํ เพ็ญจารีตศลี และวารีตศีลใหบริบรู ณ ไม บกพรองยง่ิ กวา นนั้ ไซร, พระชินศาสนาอนั ประเสรฐิ นีพ้ งึ ตง้ั อยูส น้ิ กาลนานยดื ยาวไดย ิ่ง

ๆ ขน้ึ ไป, โลกพึงเปน ของไมว างเปลาจากพระอรหนั ตท ง้ั หลาย, พระผมู พี ระภาคเจา ทรง หมายเนอ้ื ความนี้ภาสติ แลววา 'ดกู อ นสภุ ทั ทะ ถา ภิกษทุ ั้งหลายเหลา น้ี พึงปฏบิ ัตอิ ยู โดยชอบ, โลกพงึ เปน ของไมว างเปลา จากพระอรหันตท ้งั หลาย' ดงั น.ี้ อน่งึ ในโลกนี้ ชน ทงั้ หลาย พงึ ขดั แวนปราศจากมลทนิ สนทิ เสมอ และขัดดแี ลว กระจา งดว ยดดี วยจุรณ แหงหรดาลอันละเอยี ดสขุ ุมเนอื ง ๆ, มลทนิ และเปอ กตมละอองธุลพี งึ เกดิ ขึน้ ในแวน นน้ั ไดห รอื ไม ขอถวายพระพร ?\" ร. \"หาไม พระผูเปนเจา แวน นั้นพึงปราศจากมลทิน ผองใสวเิ ศษหนักขนึ้ โดย แท.\" ถ. \"ขอถวายพระพร แวน นน้ั พึงปราศจากมลทินผอ งใสวิเศษหนักขน้ึ ฉนั ใด, ศาสนาอนั ประเสรฐิ ของพระพทุ ธเจา ไมม ีมลทนิ โดยปกตปิ ราศจากมลทินละอองธลุ ี คอื กเิ ลสแลว ; ถาพระพทุ ธบตุ รทัง้ หลายพงึ ขดู เกลาพระศาสนาอนั ประเสรฐิ ของ พระพทุ ธเจา นน้ั ดวยอาจาระและศลี คณุ และวตั รปฏบิ ัติ และสัลเลขธรรม และธุดงค คณุ , ศาสนาอนั ประเสริฐของพระชนิ พทุ ธเจา นี้ พงึ ตัง้ อยไู ดส ้นิ กาลนานยดื ยาว, อนง่ึ โลกพงึ เปน ของไมว า งเปลา จากพระอรหนั ตท ้ังหลาย ฉนั น้ันนนั่ เทยี ว. พระผูม พี ระภาค เจา ทรงมุงหมายเนอื้ ความนี้ ทรงภาสิตแลว วา 'ดูกอนสภุ ทั ทะ ถาภิกษทุ ้ังหลายเหลา น้ี พึงอยู คือ ปฏบิ ตั ดิ ปี ฏิบัตชิ อบอย,ู โลกพงึ เปนของไมวา งเปลา จากพระอรหันตทงั้ หลาย' ดงั น.ี้ พระศาสนาของพระบรมศาสดามีความปฏบิ ตั เิ ปน มูลราก มีความปฏิบตั ิเปนแกน สาร เมอ่ื ความปฏิบัตยิ ังไมอนั ตรธานแลว พระพทุ ธศาสนายอ มตัง้ อยไู ด.\" ร. \"พระผเู ปน เจา พระผูเ ปน เจากลาว 'สัทธรรมอันตรธาน' วา ดังนี้ สทั ธรรม อันตรธานนนั้ อยา งไร ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร ความเสอ่ื มแหงพระพทุ ธศาสนาเหลา น้ีมสี ามประการ, ความเสื่อมแหง พระพุทธศาสนาสามประการนีอ้ ยา งไร ? ความเสื่อมแหง พระพทุ ธศาสนาสามประการน้ี คอื : อธคิ มอนั ตรธานความเสื่อมมรรคและผลทบี่ คุ คล จะพงึ ไดพ ึงถงึ หนงึ่ ปฏปิ ตตอิ นั ตรธานความเสือ่ มปฏิบัติหนงึ่ ลงิ คอันตรธาน ความเสอื่ ม เพศนงุ ผากาสาวพสั ตรห นงึ่ . เมื่ออธคิ ม คือ มรรคและผลที่บุคคลจะพึงไดพ งึ ถงึ อันตรธานเสื่อมสูญแลว แมเมอ่ื บคุ คลปฏบิ ัตดิ ีแลว ไมมธี รรมาภิสมยั ความถงึ พรอม เฉพาะ คือ ความตรสั รูธรรม, เมื่อความปฏบิ ัติอันตรธานเสือ่ มสญู แลว สกิ ขาบทบญั ญัติ กอ็ ันตรธาน ยงั เหลอื อยแู ตเพศนุงเหลืองอยา งเดยี วเทา นนั้ , เมือ่ เพศนงุ เหลืออนั ตรธาน แลว กข็ าดประเพณ.ี อันตรธานสามประการดังพรรณานามานี้แลว ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระผูเปน เจานาคเสน ปญ หาลึกพระผเู ปน เจา มากระทาํ ใหต้นื ใหข าพเจา รู แจงดวยดแี ลว , ขอดพระผูเปน เจาทําลายเสยี แลวปรปั ปวาททง้ั หบายพระผเู ปน เจา หัก

รานใหฉิบหายแลว กระทําใหเสอื่ มรัศมแี ลว , ปรัปปวาททั้งหลายมากระทํา พระผเู ปน เจาผูประเสริฐกวาคณาจารยผูประเสรฐิ , พระผเู ปน เจา หกั ราน ปรัปปวาททง้ั หลายเหลา นน้ั ใหห ายเสอ่ื มสญู ไปไดแ ลว .\" ๘. สัพพัญตุ ปต ตปญหา ๘ พระเจามลิ ินทต รสั ถามวา \"พระผูเปน เจา นาคเสน พระตถาคตทรงละอกุศล ธรรมทง้ั ปวงแลว จงึ บรรลุความเปฯ พระสพั พญั หู รือวา ละอกุศลธรรมเปน สาวะเศษมี สว นเหลือ บรรลุความเปน พระสพั พัญ?ู \" พระนาคเสนเถระถวายพระพรวา \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา ทรงละ อกศุ ลท้ังปวงแลว จึงบรรลคุ วามเปน พระสพั พัญอู กศุ ลเปนสว นเหลอื ของพระผมู พี ระ ภาคเจามิไดม .ี \" ร. \"พระผูเปน เจา ทุกขเวทนาเคยเกิดขึน้ แลว ในพระกายของพระตถาคตหรือ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร เคยเกิดข้ึน พระบาทของพระผมู พี ระภาคเจาอันสะเกด็ ศิลากระทบแลว ท่เี มอื งราชคฤห ประชวรลงพระโลหิตเกดิ ข้ึนแลว เมอ่ื พระกายหนาขึน้ หนกั แลว หมอชีวกเชญิ ใหเสวยพระโอสถรนุ เมอ่ื ประชวรลมเกิดขน้ึ แลว พระเถระผู อุปฐากแสวงหานํา้ รอนถวาย.\" ร. \"พระผเู ปน เจา ถา พระตถาคตทรงละอกศุ ลทงั้ ปวงแลว จงึ บรรลคุ วามเปน พระสพั พัญ,ู ถา อยา งนน้ั คําท่ีวา 'พระบาทของพระผูมพี ระภาคเจาอนั สะเกด็ ศลิ า กระทบแลว ประชวรลงพระโลหติ เกดิ ข้นึ แลว' น้นั ผิด. ถา พระบาทของพระตถาตอนั สะเกด็ ศลิ ากระทบแลว ประชวรลงพระโลหติ เกดิ ขึ้นแลว ถาอยา งนนั้ คาํ ท่ีวา 'พระ ตถาคตทรงละอกศุ ลท้ังปวงแลว จึงบรรลคุ วามเปน พระสพั พัญญ' ดงั นี้ แมน นั้ กผ็ ดิ . ความเสวยเวทนาซ่ึงจะเวน แลว จากกรรมมไิ ดม,ี ความเสวยเวทนาท้ังปวงนนั้ มกี รรม เปน มูลที่ตง้ั , บคุ คลยอ มเสวยเวทนาเพราะกรรมนนั่ เทยี ว, ปญ หาแมน มี้ เี งือ่ นสอง มาถึง พระผูเ ปนเจา แลว , พระผูเปน เจา พึงขยายปญ หานน้ั ใหแ จม แจง.\" ถ. \"ขอถวายพระพร เวทนา ความเสวยอารมณทงั้ ปวงนน้ั จะมกี รรมเปน มูล เปนทีต่ ง้ั กห็ าไม. เวทนาความเสวยอารมณทั้งหลายยอมเกิดข้ึนดวยเหตแุ ปดประการ สัตวเปนอนั มากยอมเสวยเวทนาทง้ั หลายดวยเหตไุ รเลา . เวทนาทง้ั หลายเกดิ ขึ้นดว ย เหตทุ ง้ั หลายแปดเปน ไฉน? ในกายนี้ เวทนาทงั้ หลายบางเหลามลี มเปน สมฏุ ฐานเกิดขึ้น บาง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลา มีดเี ปนสมฏุ ฐานเกดิ ขนึ้ บา ง, เวทนาทงั้ หลายบางเหลา มี เสมหะเปน สมฏุ ฐานเกดิ ขน้ึ บา ง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลา มีสนั นบิ าตเปนเหตเุ กดิ ข้ึน

บาง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลาเกดิ แตค วามเปล่ยี นฤดูเกดิ ขน้ึ บา ง, เวทนาท้ังหลายบาง เหลา เกิดแตก ารบรหิ ารอริ ิยาบถไมเ สมอเกิดข้ึนบาง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลา มีความ เพยี รเปน เหตุเกดิ ข้ึนบาง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลาเปนกรรมวปิ ากชาเกิดขน้ึ บาง. สตั ว เปนอนั มากยอ มเสวยเวทนาทง้ั หลาย ดวยเหตุทงั้ หลายแปดประการเหลา นีแ้ ล. ในสัตว ท้ังหลายเหลา น้นั สตั วท ัง้ หลายเหลา ใดนนั้ อา งกรรม สัตวท งั้ หลายเหลา นน้ี นั้ ยอ มคา น เหตเุ สยี , คาํ นน้ั ของสัตวท ้งั หลายเหลา นนั้ ผดิ .\" ร. \"พระผูเปน เจานาคเสน เวทนาทม่ี ีลมเปน สมุฏฐานอันใดกด็ ี ท่มี ีเสมหะเปน สมฏุ ฐานอนั ใดก็ดี ที่มสี นั นบิ าตเปน เหตุอนั ใดกด็ ี ทม่ี สี ันนิบาตเปน เหตุอันใดกด็ ี ทเี่ กดิ แตความเปลี่ยนฤดอู นั ใดก็ดี ทเ่ี กิดแตการบรหิ ารไมเ สมออันใดก็ดี ทม่ี คี วามเพียรเปน เหตเุ หตอุ นั ใดกด็ ี, เวทนาทงั้ ปวงเหลานนั้ ลว นมกี รรมเปนสมฏุ ฐานทง้ั สนิ้ เวทนาทงั้ ปวง เหลา นน้ั ยอมเกิดเพราะกรรมอยางเดยี ว.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อาพาธทง้ั หลายเหลา นนั้ แมท งั้ ปวง พงึ เปนอาพาธมี กรรมเปนสมุฏฐานอยางเดียว, ลักษณะท้งั หลายของอาพาธเหลา นน้ั ไมพงึ มโี ดยสวน. ขอถวายพระพร ลมเมอ่ื กําเริบ ยอ มกาํ เรบิ ดวยเหตุสิบอยาง คอื ดวยหนาวหนกั หนงึ่ ดว ยรอนหนกั หนงึ่ ดว ยความอยากขา วหนง่ึ ดว ยความระหายน้าํ หนง่ึ ดว ยความ บริโภคมากหนึ่ง ดว ยความยืนนานนกั หนง่ึ ดว ยความเพียรเหลอื เกินหนง่ึ ดว ยความวง่ิ มากหนง่ึ ดว ยอุปก กมะความเพยี รของตนบา งของผูอนื่ บา งหนง่ึ ดว ยกรรมวิบากหนงึ่ ; ในอาพาธท้งั หลายเหลานั้น อาพาธเกา อยา งเหลา ใดนัน้ อาพาธเหลา นน้ั เกดิ ขน้ึ แลว ใน อดตี กห็ าไม จะเกิดขึ้นในอนาคนกห็ าไม ยอ มเกดิ ข้นึ ในภพปจจบุ นั , เพราะเหตนุ น้ั อาพาธทง้ั หลายเหลา นนั้ บณั ฑติ ไมพ งึ กลา ววา \"เวทยาท้ังหลายทง้ั ปวงมกี รรมเปนแดน เกิดพรอม.\" นาํ้ ดีเมอ่ื จะกาํ เรบิ ยอมกาํ เรบิ ดวยเหตสุ ามอยา ง คือ: ดว ยหนาวหนักหนงึ่ ดว ยรอ นหนักหนงึ่ ดวยบรโิ ภคไมเ สมอหนงึ่ . เสมหะเม่อื จะกาํ เรบิ ยอมกาํ เริบดวยเหตุ สามอยา ง คือ: ดว ยหนาหนักหนง่ึ รอ นหนักหนง่ึ ดว ยขา วและนา้ํ หนงึ่ . ลมอันใดก็ดี นาํ้ ดีอนั ใดก็ดี เสมหะอนั ใดกด็ ี สามอยา งนี้ กาํ เริบแลวดว ยปจจัยเคร่อื งกําเริบทง้ั หลาย เหลา นั้น ๆ เปน ของเจือกนั พาเวทนาของตน ๆ มา. เวทนาทเ่ี กิดแตค วามเปลีย่ นฤดู ยอ มเกดิ ขน้ึ ดว ยความเปลย่ี นฤดู, เวทนาที่เกิดแตความบรหิ ารไมเ สมอ ยอ มเกดิ ขนึ้ ดวย ความบริหารอริ ิยาบถไมเ สมอ, เวทนาทม่ี ีความเพยี รเปน ปจจยั เปน กิรยิ าก็มี เปน กรรมวบิ ากกม็ ,ี เวทนาทีเ่ กิดแตกรรมวิบากยอ มเกิดข้ึนเพราะกรรมทีต่ นกระทาํ แลว ใน กาลกอ น. เวทนาท่เี กดิ แตกรรมวิบากนอย เวทนานอกนนั้ มากกวา ดว ยประการฉะน.ี้ ชน พาลทัง้ หลายยอ มแลน ลวงไปในเวทนานนั้ วา 'เวทนาทง้ั ปวงเกิดแตกรรมวิบากอยาง เดยี ว,' กรรมนนั้ อันใคร ๆ ไมอ าจเพ่ือจะกระทาํ ความกําหนดเวนจากพทุ ธญาณ. ก็พระ

บาทของพระผมู ีพระภาคเจา อนั สะเก็ดศลิ ากระทบแลวดว ยเหตใุ ด ดวยเหตนุ น้ั เวทนา นั้นจะเปนเวทนามีลมเปนสมฏุ ฐานกไ็ มใ ช มดี ีเปน สมฏุ ฐานก็ไมใช มเี สมหะเปน สมฏุ ฐานก็ไมใ ช มสี นั นิบาตคือ ประชมุ ธาตุสีเ่ ปน ปจจยั กไ็ มใ ช จะเปน เวทนาเกิดแต ความเปลย่ี นฤดูกไ็ มใ ช จะเปน เวทนาเกิดแตการบรหิ ารอริ ยิ าบถไมเสมอกไ็ มใช จะเปน เวทนาเกิดแตก รรมวิบากก็ไมใ ช เวทนานนั้ เปน เวทนามอี ปุ กกมะความเพยี รของผอู ื่น เปนปจ จยั นนั่ เทยี ว. จริงอยู เทวทตั ผกู อาฆาตในพระตถาคตหลายแสนชาติแลว. เทวทัตนน้ั หยบิ ศิลาหนกั ใหญป ลอยแลวดว ยคดิ วา 'เราจักยิงศิลานี้ใหต กเหนือ กระหมอ ม' ดว ยอาฆาตนนั้ . คร้งั นน้ั ศลิ าสองกอ นอน่ื มารบั ศิลานน้ั เสียแตยังไมทนั ถงึ พระตถาคตเลย, กะเทาะศลิ าแตกเพราะกระทบท่ีศิลานนั้ แลว จงึ ตกลงทพ่ี ระบาทของ พระผูมีพระภาคเจา จึงกระทําพระโลหติ ใหหอ ขนึ้ แลว. เวทนาของพระผูม พี ระภาคเจา เกดิ แลว แตกรรมวบิ ากบา ง แตก ิริยาบาง, เวทนาอน่ื ยง่ิ ขน้ึ ไปกวา เวทนานน้ั ยอมไมม.ี เหมอื นพืชยอมไมเ กิดพรอ มเพราะความทนี่ าเปน ของอนั โทษประทษุ รายแลว บาง เพราะความทพ่ี ืชเปนของซึ่งอันตรายประทษุ รายแลว บา ง ฉนั ใด, เวทนานัน้ ของพระผมู ี พระภาคเจา จะเปน เวทนาเกดิ แลว แตกรรมวิบากบาง แตกิรยิ าบางฉนั นัน้ , เวทนาอน่ื ยิง่ ไปกวา เวทนานัน้ ยอมไมม แี ดพ ระตถาคตเลย. อกี นัยหนง่ึ โภชนะแปรไมเ สมอ เพราะความท่ลี ําไสเ ปน ของอนั โทษประทุษราย แลวบา ง เพราะความท่อี าหารเปน ของอนั โทษประทษุ รา ยแลว บา ง ฉนั ใด, เวทนานน้ั ของพระผมู พี ระภาคเจา เปนเวทนาเกดิ แลว แตกรรมวบิ ากบา ง แตก ริ ิยาบา ง ฉนั นน้ั , เวทนาอน่ื ยง่ิ ข้ึนไปกวา เวทนานนั้ ยอมไมม แี ดพ ระผมู ีพระภาคเจาเลยทเี ดยี ว. ขอถวายพระพร \"เออก็ เวทนาทเ่ี กิดแตก รรมวิบาก ยอ มไมม ีแดพ ระผูมีพระภาค เจา, เวทนาท่ีเกิดแตก ารบริหารไมเ สมอ ยอ มไมมแี ดพ ระผูมพี ระภาคเจา , เวทนายอ ม เกิดข้ึนแดพระผูมีพระภารเจา ดวยสมฏุ ฐานทงั้ หลายนอกนนั้ . กแ็ หละ เวทนานนั้ ไมอ าจ เพอ่ื จะปลงพระผมู ีพระภาคเจาจากพระชนมชีพได. เวทนาทง้ั หลายเปน ทพี่ งึ ใจและไม เปนทพี่ งึ ใจ งามและไมงาม ยอมตกลงในกายสาํ เรจ็ แลว ดว ยมหาภูตทั้งสน่ี .้ี ณ ทน่ี ม้ี ี กอนดนิ อนั ใคร ๆ โยนขน้ึ ไปในอากาศ ยอ มตกลงในแผน ดนิ ใหญ. กอ นดนิ นน้ั ยอมตกลง ในแผน ดินใหญ เพราะกระทํากรรมอนั ใดอนั หนงึ่ ไวแลว ในกาลกอนบา งหรือ ขอถวาย พระพร.\" ร. \"หาไม พระผเู ปน เจา มหาปฐวพี งึ เสวยวบิ ากเปน กุศลและอกุศลดวยเหตใุ ด เหตุนนั้ ยอมไมม ีแกแผน ดนิ ใหญ, พระผูเปนเจา กอนคนนน้ั ยอ มตกลงในแผนดนิ ใหญ ดวยเหตุเปน ปจ จบุ ันไมใชกรรม.\"

ถ. \"ขอถวายพระพร แผน ดนิ ใหญ อนั ใด พระตถาคตเจา บรมบพติ รพงึ ทรงเหน็ วาเหมือนแผน ดินใหญ ฉะนนั้ , กอนดนิ ตกลงในแผน ดนิ ใหญ โดยไมไดก ระทํากรรมไว แลว ในกาลกอน ฉนั ใด สะเกด็ นัน้ ตกลงแลวทพ่ี ระบาทของพระตถาคตเจา โดยไมได กระทํากรรมอันใดอนั หนง่ึ ไวแลวในกาลกอ น ฉนั นนั้ น่ันเทยี วแล. อน่งึ ในโลกน้ี มนษุ ยท ง้ั หลายยอมทาํ ลายแผนดินใหญดว ย ยอมขุด แผน ดนิ ใหญด ว ย; มนษุ ยท ้งั หลายเหลา นนั้ ยอ มทาํ ลายแผน ดินใหญดวย ยอ มขุด แผน ดนิ ใหญดว ย เพราะกรรมอันแผน ดนิ กระทําไวแลวในกาลกอ นบา งหรือเปน ไฉน?\" ร. \"หาไม พระผูเปนเจา .\" ถ.\"ขอถวายพระพร สะเก็ดใดนน้ั ท่ีตกลงแลว ทพี่ ระบาทของพระผมู พี ระภาค เจา สะเก็ดนนั้ จะไดตกลงแลวทพี่ ระบาทของพระผูมพี ระภาคเจา เพราะกรรมที่ไดท รง กระทาํ ไวแ ลว ในกาลกอนหามไิ ดฉ นั นน้ั นนั่ เทยี วแล. อาพาธมีความอาเจยี นโลหิตเปน ปจจยั แมใ ด ทเี่ กิดขน้ึ แลวแดพ ระผูมีพระภาคเจา อาพาธแมนั้น จะไดเกดิ ขึน้ แลว เพราะ กรรมทไ่ี ดท รงกระทาํ ไวแ ลว ในกาลกอ น หามิได, อาพาธนนั้ เกิดขึน้ แลวโดยอาพาธมี สันนบิ าตเปนปจจัยอยางเดยี ว. อาพาธทง้ั หลายเหลา ใดเหลาหนงึ่ ที่มใี นพระกายของ พระผมู พี ระภาคเจา เกิดขนึ้ แลวอาพาธทัง้ หลายเหลา นนั้ จะเกิดขน้ึ แลวเพราะกรรมหา มไิ ด, สมฏุ ฐานทง้ั หลายหกเหลาน้ี อาพาธท้ังหลายเหลา นั้นเกดิ ขึ้นแตส มฏุ ฐานอนั ใด อนั หนึง่ . พระผูมีพระภาคเจา เปนเทพดาลว งเทพดา แมไ ดทรงภาสติ พทุ ธพจนน ้ี ในเวย ยากรณช ือ่ โมลิยสวิ กา ดงั ดวงตราประทบั ไวในสังยตุ ตนกิ ายอนั ประเสรฐิ วา ดูกอนสวิ ก ในกายนี้ เวทนาทงั้ หลายบางเหลา แมมดี เี ปนสมฏุ ฐาน ยอมเกดิ ขึ้นแล; ดเู กิดขึน้ ดว ย ประการใด เวทนานน้ั ทานพงึ รูแจง แมเ องดว ยประการนน้ั , ดูกอนสิวก ในกายนเ้ี วทนา ทง้ั หลายบางเหลา แม้ดี ีเปนสมฏุ ฐาน ยอมเกิดข้ึนอยา งใดความรแู จง อยางนนั้ นน่ั เปน สจั จะสมมติแมของโลกแล. ดกู อนสิวก ในเวทนาทั้งหลายเหลา นน้ั สมณะและ พราหมณท ง้ั หลายเหลา ใดนน้ั มวี าทะอยา งนี้ มคี วามเหน็ อยางนว้ี า 'บรุ ุษบคุ คลน้ี ยอ ม เสวยเวทนาอนั ใดอนั หนงึ่ เปนสขุ หรอื เปน ทกุ ข หรือไมใ ชท ุกขไมใชสขุ เปนแตก ลาง ๆ เวทนาทง้ั ปวงนน้ั มกี รรมที่กระทําไวแ ลว ในกาลกอ นเปน เหต'ุ ดังน,้ี สมณะและ พราหมณทงั้ หลายเหลา นน้ั กส็ งิ่ ใดท่ตี นรแู ลวเอง ยอมแลน ลวงส่ิงน้ันดว ย, เพราะเหตุ นั้น เราผูตถาคตยอมกลา ววา 'ความเหน็ ของสมณะและพราหมณทง้ั หลายเหลา นน้ั ผิด.'ดกู อ นสวิ ก ในกายน้ี เวทนาทง้ั หลายบางเหลา แมม ีเสมหะเปน สมฏุ ฐานเกิดขนึ้ ฯลฯ แมม ีลมเปนสมฏุ ฐานเกดิ ขึน้ ฯลฯ แมมีสนั นบิ าตเปน ปจ จัยเกดิ ขนึ้ ฯลฯ แมเ ปน อตุ ุ ปริณามชาเกดิ ขึ้น ฯลฯ แมเปน วิสมปริหารชาเกดิ ข้ึน ฯลฯ แมเ ปน โอปก กมิกาเกดิ ขึ้น ฯลฯ เวทนาทั้งหลายบางเหลา แมเ ปน กมั มวิปากชาเกดิ ขน้ึ แล; ดูกอ นสวิ กในกายนี้

เวทนาท้งั หลายบางเหลา แมเปน กมั มวปิ ากชาเกดิ ข้นึ ดว ยประการใด เวทนานน้ั ทาน พงึ รูแ จง แมเองดว ยประการน้นั , ดกู อนสวิ กในกายนี้ เวทนาทงั้ หลายบางเหลา แมเปน กัมมวิปากชา ยอ มเกิดขน้ึ อยางใด ความรูอ ยางนนั้ นน่ั บณั ฑิตสมมตแิ ลววา เปน ของ จริงแมของโลกแล. ดูกอนสวิ ก ในเวทนาทง้ั หลายเหลานนั้ สมณะและพราหมณ ท้ังหลายเหลา ใดนนั้ มวี าทะอยา งนี้ มคี วามเหน็ อยา งน้ีวา 'บรุ ุษบุคคลยอ มเสวยเวทนา อันใดอนั หนง่ึ เปน สขุ หรือ หรือเปนทกุ ข หรือไมใชท ุกข ไมใชส ขุ เปน แตกลาง ๆ เวทนา ทัง้ ปวงเหลา นน้ั มกี รรมทกี่ ระทําไวแลว ในกาลกอ นเปน เหตุ' ดังน,ี้ ก็ส่งิ ใดท่ีตนรแู ลวเอง สมณะและพราหมณท ัง้ หลายเหลา นน้ั ยอมแลนลวงสง่ิ นน้ั เสยี ดว ย, กแ็ หละ สง่ิ ใดที่เขา สมมติแลว วา เปน ของจริงในโลก สมณะและพราหมณท ง้ั หลายเหลา นน้ั ยอมแลน ลว ง ส่งิ นน้ั เสียดว ย, เพราะเหตุนนั้ เราผตู ถาคตยอ มกลา ววา 'ความเหน็ ของสมณะและ พราหมณทง้ั หลายเหลานั้นผดิ ' ดงั น.้ี ขอถวายพระพร เวทนาทง้ั หลายทง้ั ปวง จะเปนของเกดิ แตก รรมวิบากทง้ั สนิ้ หา มไิ ด ดวยประการฉะน.ี้ บรมบพิตรจงทรงปญ หาขอ น้ีไวอ ยางน้ีวา 'พระผูมีพระภาคเจา ทรงละอกศุ ลทัง้ ปวงแลว จงึ บรรลคุ วามเปน พระสพั พญั ู' ขอถวายพระร.\" ร. ดีละ พระผเู ปน เจา ขอวสิ ชั นาปญ หานสี้ มอยางนนั้ , ขา พเจายอมรับรอง อยา งนนั้ .\" ๙. ตถาคตอุตตริกรณียาภาวปญ หา ๙ พระเจามิลินทต รัสวา \"พระผเู ปน เจา นาคเสน พระผูเปน เจา กลา วอยวู า 'กจิ ที่ จาํ ตองกระทาํ อันใดอันหนงึ่ กจิ ทง้ั ปวงเหลา นนั้ ของพระตถาคตเจา สาํ เร็จแลว ท่ีควง แหงไมโพธินน่ั เทียว, กิจที่จาํ ตอ งกระทาํ ยงิ่ ขนึ้ ไป หรือความตอ งกอสรา งเพมิ่ เตมิ กจิ ที่ พระองคทรงกระทําแลว ไมม แี ดพ ระตถาคต' ดงั น.ี้ ก็ความหลีกออกเรนอยูแตผูเดยี ว ตลอดสามเดือนน้ี ยงั ปรากฏอย.ู พระผูเ ปน เจานาคเสน ถา วากจิ ท่จี าํ ตองกระทาํ อนั ใด อนั หนึง่ กจิ ทงั้ ปวงนั้นของพระตถาคตสําเรจ็ แลวทค่ี วงแหง ไมโพธนิ นั่ เทยี ว, กิจที่จาํ ตอ ง กระทาํ ยิ่งขนึ้ ไป หรือความตอ งกอสรา งเพม่ิ เตมิ กจิ ท่ีพระองคท รงกระทาํ แลว ไมม แี ด พระตถาคตไซร; ถาอยางนนั้ คําท่ีวา 'พระตถาคตเสด็จหลกี ออกเรนอยูแตพ ระองคเ ดียว ตลอดสามเดือน' น้ันผิด. ถา วา พระตถาคตเสด็จหลีกออกเรนอยแู ตพระองคเ ดียวตลอด สามเดอื นไซร, ถาอยางนน้ั คําท่วี า 'กิจทจ่ี าํ ตอ งกระทําอนั ใดอนั หนง่ึ กจิ ทัง้ ปวงเหลา นัน้ ของพระตถาคตเจาสาํ เร็จแลว ที่ควงแหง ไมโ พธนิ นั่ เทยี ว, แมนน้ั กเ็ ปน ผดิ . ความหลกี ออกเรนอยูแ ตผ ูเ ดียว ยอ มไมม แี กบ คุ คลผทู ก่ี ระทาํ กจิ เสร็จแลว , ความเปน ผูหลกี ออก

เรน อยแู ตผูเดยี ว ยอมมแี กบ คุ คลยังมีกิจจาํ ตองกระทําถา ยเดยี ว. เหมอื นธรรมดาบคุ คล ท่มี พี ยาธิความเจบ็ ไขนั่นเทยี ว มีกิจจาํ ตอ งกระทาํ ดวยเภสัชคอื ตอ งรักษาดวยยา, บคุ คลไมมีพยาธิ จะมปี ระโยชนอ ะไรดว ยยา คือ ไมต อ งเยียวยาดว ยเภสชั , บุคคลผหู วิ นนั่ เทยี ว มีกจิ จาํ จะตอ งกระทาํ ดว ยโภชนะ คือ จะตองบรโิ ภคอาหาร บคุ คลผไู มหิว จะ ตองการอะไรดว ยโภชนะ ขอ น้ีฉนั ใด; ความหลกี ออกเรนอยแู ตผูเ ดียว ไมมแี ก บุคคลท่ี ไดกระทาํ กจิ เสร็จแลว , ความหลีกออกเรน อยแู ตผูเดียว ยอมมแี กบ ุคคลทีย่ งั มีกจิ จาํ ตอง กระทําถายเดยี ว ฉนั นนั้ นนั่ เทยี วแล. ปญหาแมน ้ีสองเงอ่ื น มาถงึ พระผเู ปนเจาแลว , ปญหานั้น พระผูเ ปน เจา พงึ ขยายคลายออกใหขาพเจาส้นิ สงสยั เถิด.\" ถ. \"ขอถวายพระพร บรรดากจิ ที่จาํ ตองกระทําอนั ใดอนั หนง่ึ กจิ ทง้ั ปวงนน้ั ของ พระตถาคตเจา สาํ เร็จแลว ทคี่ วงแหง ไมโพธนิ นั่ เทยี ว, กิจทจี่ าํ จะตองกระทํายง่ิ ขนึ้ ไป หรอื ความกอสรา งเพม่ิ เตมิ กิจทพ่ี ระองคไ ดทรงกระทําแลว ยอมไมม ีแดพ ระตถาคต อน่ึง พระผมู พี ระภาคเจาหลกี ออกเรนอยูแตพ ระองคเ ดียวแลว ตลอดสามเดอื น. ความ หลกี ออกเรน อยูแตผเู ดยี วแล เปน กจิ มีคุณมาก, พระตถาคตเจา ทง้ั หลายแมทงั้ ปวง เสด็จหลีกออกเรนอยแู ตพระองคเ ดียวแลว จึงบรรลคุ วามเปน พระสพั พญั ู, พระ ตถาคตเจา ทง้ั หลายนน่ั มาระลกึ ถงึ ความหลีกออกเรน อยูแตผ เู ดียวนนั้ วา มคี ุณได กระทําแลว ดี ยอมเสพความหลีกออกเรนอยแู ตผูเดยี วนนั้ . อุปมาเหมอื นบุรษุ ไดพ รแต สํานักของพระมหากษัตริยแ ลว รวยทรพั ยแ ละโภคะขน้ึ แลว มาระลึกถงึ พระมหากษตั รยิ นนั่ วา เปน ผูมคี ุณไดทรงกระทาํ ไวแกตนดว ยดีแลว หมั่นไปสูทีเ่ ปน ที่ บํารุงของพระมหากษัตรยิ เ นอื ง ๆ ฉนั ใด, พระตถาคตเจา ท้ังหลายแมท งั้ ปวง เสด็จหลกี ออกเรน อยูแ ตพ ระองคเดยี วแลว จึงบรรลคุ วามเปน พระสพั พญั ,ู พระองคม าทรง ระลกึ ถงึ ความหลกี ออกเรน อยแู ตผ เู ดยี วนน้ั วา มีคุณไดก ระทาํ ดีแลว ยอมเสพความ หลกี ออกเรน อยูแตผเู ดยี วนน้ั ฉนั น้ันนนั่ เทยี วแล. อีกอยางหน่ึง บรุ ษุ ทก่ี ระสบั กระสาย เสวยทกุ ขเวทนาเปน ไขหนกั เขา ไปเสพ หมอแลว จึงถงึ ความสวัสดี หายโรคหายไขแ ลว มาระลกึ ถึงหมอนัน้ วา เปน ผูม คี ุณ ได กระทาํ ดแี ลวแกตน หมนั่ เขาไปเสพหมอนนั้ เนอื ง ๆ ฉันใด, พระตถาคตเจา ทง้ั หลายแม ทง้ั ปวง เสดจ็ หลกี ออกเรน อยูแ ตพระองคเดยี วแลว จงึ ถงึ ความเปน พระสัพพญั ,ู พระองคมาระลึกถงึ ความหลีกออกเรน อยแู ตผเู ดียวนนั้ วา มีคณุ ไดก ระทําดีแลว แก พระองค จงึ ทรงเสพความหลีกออกเรน อยแู ตผ ูเดยี วนนั้ ฉนั นนั้ นน่ั เทยี วแล. ขอถวายพระพร คุณแหงความหลีกออกเรนอยูแ ตผ เู ดียวทงั้ หลายเหลา นี้ ย่สี ิบ แปดประการ พระตถาคตเจา ทงั้ หลายมาทรงเลง็ เหน็ คณุ ทง้ั หลายเหลา ไรเ ลา จงึ ทรง เสพความหลกี ออกเรน อยแู ตผเู ดยี ว, คุณยีส่ ิบแปดประการ เปน ไฉน? ในโลกนี้ ความ

หลกี ออกเรน อยูแตผ เู ดยี ว ยอ มรักษาบุคคลผูหลกี ออกเรน อยูแตผูเ ดยี วไวหนงึ่ , ยอมทาํ อายุของบคุ คลผหู ลกี ออกเรน อยูแตผูเ ดยี วน้นั ใหเ จรญิ ขึน้ หน่งึ , ยอมใหก ําลงั หนง่ึ , ยอ ม ปด โทษเสยี หนงึ่ , ยอ มนาํ ความเสื่อมยศออกเสยี หนงึ่ , ยอ มนํายศเขาไปใหห นง่ึ , ยอม บรรเทาอรตคิ วามไมย นิ ดีเสยี หน่งึ , เขาไปตง้ั ความยินดีไวหน่ึง, ยอมนาํ ความกลัวออก เสยี หนง่ึ , ยอ มกระทําความเปน คนกลา หาญไมค รนั่ ครา มหนง่ึ , ยอ มนาํ ความเปน คน เกียจครา นออกเสียหนง่ึ , ยอมยังความเพียรใหเกดิ ย่งิ ขนึ้ หนงึ่ , ยอมนาํ ราคะให ปราศจากสนั ดานหนง่ึ , ยอ มนําโทสะใหป ราศจากสนั ดานหนึง่ , ยอมนาํ โมหะให ปราศจากสนั ดานหนงึ่ , ยอมกาํ จดั มานะออกเสยี จากสนั ดานหนึ่ง, ยอ มละวิตกเสยี หนง่ึ , ยอมกระทาํ จติ ใหมีอารมณเ ปนอนั เดยี วหน่งึ , ยอ มกระทาํ ใจใหส นทิ หนงึ่ , ยอมยงั ความราเรงิ ใหเ กดิ หนงึ่ , ยอ มกระทําความเปนครหู นงึ่ , ยอมยงั ลาภใหเ กิดข้นึ หนง่ึ , ยอ ม กระทําผหู ลีกออกเรน อยูแตผ ูเดียวนน้ั ใหเ ปน ผูควรกราบไหวห นง่ึ , ยอมใหถงึ ปต คิ วาม อิม่ กายอมิ่ ใจหนง่ึ , ยอ มกระทาํ ความปราโมทยห นง่ึ , ยอมใหเ หน็ ความเปนเองของ สงั ขารทงั้ หลายหนึ่ง, ยอ มเลกิ ถอนปฏิสนธใิ นภพเสียหนง่ึ , ยอมใหผ ลเปน ของสมณะทง้ั ปวงหนง่ึ , คุณของปฏิสัลลานะ ความหลกี ออกเรนอยแู ตผเู ดยี วทง้ั หลายเหลา น้ีแล พระ ตถาคตเจา ทง้ั หลายทรงพิจารณาเนือง ๆ ดว ยดี เห็นคณุ ทง้ั หลายเหลา ไรเลา จงึ ทรง เสพปฏิสัลลานะความหลกี ออกเรน อยแู ตผ เู ดียว. เออกพ็ ระตถาคตเจา ทงั้ หลาย พระองคสดุ สนิ้ ความดํารแิ ลว พระองคใ ครเ พอ่ื จะเสวยความยินดใี นสมาบัติเปนสขุ อัน ละเอียด ยอมทรงเสพความหลกี ออกเรน อยแู ตผเู ดยี วแล. ขอถวายพระพร พระตถาคตเจา ทงั้ หลายทรงเสพความหลกี ออกเรน อยแู ตผู เดียว โดยเหตสุ ป่ี ระการ, พระตถาคตเจาทง้ั หลายทรงเสพความหลกี ออกเรน อยูแตผ ู เดยี ว โดยเหตสุ ่ีประการ เปน ไฉน? พระตถาคตเจา ทงั้ หลายทรงเสพความหลกี ออกเรน อยูแ ตผูเดยี ว โดยความทีพ่ ระองคเ ปน ผมู ีวหิ ารธรรม เครอ่ื งอยเู ปน สุขสาํ ราญบาง, โดย ความทพ่ี ระองคเ ปนผูมีคุณปราศจากโทษมากบาง, โดยความทีป่ ฏสิ ลั ลานะนนั้ เปน วถิ ี ของพระอรยิ เจา ไมมีสวนเหลือบาง, โดยความทปี่ ฏสิ ัลลานะนน้ั เปน คณุ ท่พี ระพทุ ธเจา ทั้งหลายทงั้ ปวงชมแลว ยกยองแลว พรรณนาแลว และสรรเสริญแลว บา ง, พระตถาคต เจาทง้ั หลายทรงเสพปฏสิ ัลลานะ ความหลกี ออกเรนอยูแตผ เู ดียว โดยเหตสุ ปี่ ระการ เหลา นแ้ี ล. พระตถาคตเจาทงั้ หลายทรงเสพปฏิสัลลานะ ดวยเหตุดงั พรรณนามา ฉะน,้ี จะทรงเสพโดยความทพี่ ระองคยงั เปน ผมู กี จิ จาํ ตองกระทํา หามไิ ด, หรอื จะทรงเสพเพอ่ื ความกอสรา งเพิม่ เติมกิจทพ่ี ระองคไ ดท รงกระทําแลว กห็ าไม, พระตถาคตเจาทง้ั หลาย ทรงเสพความหลกี ออกเรน อยแู ตผ ูเดียว โดยความทพ่ี ระองคเปนผทู รงพจิ ารณาเหน็ คุณ พเิ ศษโดยสว นเดียวแล.\"

ร. \"ดีละ พระผเู ปน เจา นาคเสน ขอ วสิ ัชนาของพระผเู ปน เจาสมอยา งนน้ั , ขาพเจา ยอมรบั รองอยา งนนั้ .\" ๑๐. อทิ ธิปาทพลทัสสนปญหา ๑๐ ร. \"พระผูเปน เจานาคเสน พระพุทธพจนน้ี อันพระผูมพี ระภาคเจา แมภ าสิตแลว วา 'ดกู อนอานนท อทิ ธิบาทสีป่ ระการ อนั พระตถาคตไดใ หเจริญแลว กระทําใหม าก แลว กระทาํ ใหเปน ประหน่งึ ยานเครอ่ื งไปแลว กระทําใหเปน วตั ถทุ ่ตี ้งั แลว ตงั้ ขึน้ เนอื ง ๆ แลวสงั่ สมแลวปรารภพรอ มดวยดแี ลวแล; ดกู อ นอานนท พระตถาคตเม่ือหวงั พงึ ดํารง พระชนมอ ยไู ดตลอดกัปปหนึ่งบา ง เลยกปั ปห นง่ึ บา ง' ดงั น.ี้ พระผูเ ปน เจา นาคเสน ถา พระผมู พี ระภาคตรสั แลว วา 'ดูกอนอานนท อทิ ธบิ าททั้งหลายส่ี อนั พระตถาคตไดเ จริญ แลว กระทําใหม ากแลว กระทําใหเปน ประหนงึ่ ยานเครอ่ื งไปแลว กระทาํ ใหเ ปน วัตถุ ที่ต้ังแลว ต้ังขน้ึ เนอื ง ๆ แลว สัง่ สมแลว ปรารภพรอ มดว ยดแี ลว แล; ดูกอ นอานนท พระ ตถาคตเมอื่ หวงั พึงดาํ รงพระชนมอ ยูไดตลอดกัปปหนง่ึ บา ง เลยกัปปห นง่ึ ข้นึ ไปบา ง' ดงั น้ี ถาอยา งน้นั ความกาํ หนดไตรมาสสามเดือนเปน ผิด ถา พระตถาคตไดตรสั แลววา 'พระตถาคตจกั ปรินิพพาน โดยกาลท่เี ดอื นทงั้ หลายสามแตว นั น้ลี ว งไปแลว' ดังน.้ี ถา อยา งนน้ั คาํ ทว่ี า 'ดูกอนอานนท อทิ ธิบาทสป่ี ระการอันพระตถาคตไดเจริญแลว กระทาํ ใหม ากแลว กระทาํ ใหเปนประหนงึ่ ยานเครอื่ งไปแลว กระทาํ ใหเ ปน วตั ถทุ ่ตี ้งั แลว ตัง้ ข้นึ เนือง ๆ แลว สงั่ สมแลว ปรารภพรอมดวยดีแลว แล; ดกู อ นอานนท พระตถาคตเม่อื หวัง พงึ ดํารงพระชนมอ ยไู ดตลอดกปั ปหน่ึงบา ง เลยกปั ปห นง่ึ ข้นึ ไปบา ง' ดงั น้ี แมนน้ั ก็เปน ผดิ ไป. ความบนั ลอื ในท่มี ิใชเ หตุ ยอมไมม ีแกพระตถาคตเจาทง้ั หลาย, พระผมู พี ระภาค เจา ผูตรสั รแู ลวทง้ั หลาย มพี ระพุทธพจนไ มเ ปลา มพี ระพุทธพจนเ ทย่ี งแท มีพระพทุ ธ พจนไ มเ ปน ไปโดยสว นสอง. ปญ หาแมน ีส้ องเง่อื น เปน ของลึกละเอยี ดนกั พงึ ยงั บุคคล ใหเหน็ โดยยากเกิดข้ึนแลว , ปญ หานั้นมาถงึ พระผเู ปน เจาแลว , พระผูเ ปนเจา จงทาํ ลาย รางขาย คือ ทฏิ ฐนิ ัน้ , ยังขาพเจา ใหตง้ั อยใู นสวนอนั เดียว, จงทําลายปรปั ปวาทเสยี .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระพทุ ธพจนน ี้ อันพระผมู ีพระภาคแมภาสติ แลววา 'ดูกอนอานนท อทิ ธบิ าทสปี่ ระการ อนั พระตถาคตไดใหเ จรญิ แลว กระทาํ ใหมากแลว กระทาํ ใหเ ปน ประหนง่ึ ยานเคร่ืองไปแลว กระทาํ ใหเปน วตั ถุทีต่ ัง้ แลว ตง้ั ขน้ึ เนือง ๆ แลว สงั่ สมแลว ปรารภพรอมดวยดีแลวแล; ดกู อ นอานนท พระตถาคตเมอื่ หวงั พงึ ตั้งอยไู ด ตลอดกปั ปหนงึ่ บา ง เลยกปั ปห นงึ่ ขน้ึ ไปบา ง' ดงั น.ี้ และความกาํ หนดไตรมาสพระองคก ็ ตรสั แลว. กแ็ หละกัปปนน้ั คอื อายุกปั ป กาลเปนที่กาํ หนดอายุ พระผมู ีพระภาคยอ ม

ตรัสวา กปั ป. พระผูมพี ระภาคจะทรงสรรเสรญิ กําลังของพระองคตรัสอยางน้ี หามไิ ด, ก็ แตวา พระองคทรงสรรเสรญิ กําลับแหง ฤทธ์ิ ตรัสอยา งน้วี า 'ดูกอนอานนท อทิ ธบิ าทส่ี ประการ อนั พระตถาคตไดใ หเ จรญิ แลว กระทําใหมากแลว กระทําใหเปน ประหนง่ึ ยาน เครื่องไปแลว กระทาํ ใหเปน วตั ถทุ ี่ตงั้ แลว ตัง้ ขึน้ เนือง ๆ แลว สง่ั สมแลว ปรารภพรอ ม ดวยดีแลว แล; ดูกอ นอานนทพ ระตถาคตเมื่อหวงั พึงตงั้ อยูไ ดต ลอดกัปปหนง่ึ บาง เลย กปั ปหนึ่งขน้ึ ไปบาง' ดงั น.ี้ ถาจะพงึ มีมาอาชาไนยของพระมหากษตั ริย มีฝเ ทาเรว็ เชาวไวดงั ลม. พระมหากษัตรยิ จะทรงอวดกาํ ลงั เชาวของมา อาชาไนยนนั้ พึงตรัสในทา นกลางแหงชน กบั ทง้ั ชาวนิคมและชาวชนบท และราชภัฏหมูพ ล และพราหมณคฤหบดี และอมาตย อยา งน้วี า 'แนะ พอเฮย มา ประเสรฐิ นีข้ องเรา เมื่อจาํ นง จะพงึ เทย่ี วไปตลอดแผนดนิ มี นา้ํ ในสาครเปน ท่ีสุดแลว จึงกลับมาในทน่ี โี้ ดยขณะหนง่ึ ได,' พระมหากษตั ริยน ้นั จะพงึ แสดงความไปวองไวน้ันในบรษิ ทั นน้ั กห็ าไม, กแ็ ตว า ความวอ งไวของมานน้ั มีอย,ู ดวย มาอาชาไนยนน้ั อาจเพ่ือจะเที่ยวไปตลอดแผนดินมนี ํา้ ในสาครเปน ที่สดุ ดวย ฉนั ใด; พระผูมีพระภาคเจาจะทรงสรรเสริญกาํ ลงั แหง ฤทธข์ิ องพระองค จงึ ตรสั แลวอยางน้ี ฉนั นน้ั , แมพ ระพทุ ธพจนน ัน้ พระองคเ สดจ็ นงั่ ณ ทา มกลางแหง บคุ คลมวี ชิ ชาสาม ทงั้ หลายดว ย แหง บุคคลมอี ภญิ ญาหกทง้ั หลายดว ย แหง พระอรหนั ตท ง้ั หลายดวย แหง พระขณี าสพผปู ราศจากมลทนิ ท้ังหลายแลวดวย แหง เทพดาและมนษุ ยทงั้ หลายดว ย ตรสั แลววา 'ดูกอนอานนท อทิ ธบิ าทส่ปี ระการ อนั พระตถาคตไดใ หเ จริญแลว กระทาํ ใหมากแลว กระทําใหเปน ประหนงึ่ ยานเครอ่ื งไปแลว กระทาํ ใหเ ปน วัตถุที่ตัง้ แลว ตง้ั ขน้ึ เนือง ๆ แลว สงั่ สมแลว ปรารภพรอมดวยดแี ลวแล; ดกู อนอานนท พระตถาคตเมือ่ หวัง พึงตัง้ อยไู ดตลอดกปั ปห นงึ่ บา ง เลยกปั ปห นึ่งขนึ้ ไปบา ง' ดังน;้ี กแ็ หละ กาํ ลงั แหงฤทธ์ิ ของพระผูมพี ระภาคเจานั้นมอี ยดู ว ย, พระผูมพี ระภาคเจา กเ็ ปน ผอู าจเพือ่ จะดาํ รงพระ ชนมายุไดต ลอดกปั ปหนง่ึ บา ง หรอื ตลอดกาลเลยกัปปห นงึ่ ขึ้นไปบาง, ดวยพระองคจะ ทรงแสดงกาํ ลงั แหง ฤทธิน์ น้ั ในบรษิ ัทนนั้ กห็ าไม. พระผมู พี ระภาคเจาไมม ีความตองการ ดวยภพทงั้ ปวง, อนง่ึ พระตถาคตเจา ทรงตเิ ตยี นภพท้ังปวงแลว. แมพระพทุ ธพจนน ี้ อนั พระผมู พี ระภาคไดท รงภาสติ แลว วา 'ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลายธรรมดาคถู แมมีประมาณ นอย กม็ ีกลนิ่ ชั่วเหมน็ รา ย แมฉันใด, ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย เราตถาคตไมพรรณนา สรรเสรญิ ภพแมมีประมาณนอ ย, โดยสว นสดุ แมเ พยี งหยบิ มอื เดยี ว เราตถาคตก็ไม สรรเสริญ ฉนั นน้ั โดยแท. ' พระผูมพี ระภาคเจา ทรงเหน็ ภพและคติและกําเนดิ ทง้ั ปวง เสมอดวยคูถแลว จะพงึ อาศยั กําลงั แหง ฤทธกิ์ ระทาํ ความยนิ ดีดว ยอาํ นาจความพอใจ ในภพทงั้ หลายบา งเทยี วหรอื ขอถวายพระพร.\"

ร. \"ขา แตพระผเู ปน เจา ผเู จรญิ พระผูมพี ระภาคเจาไดท รงเหน็ ภพและคตแิ ละ กาํ เนดิ ทงั้ ปวง เสมอดว ยคถู แลว ซง่ึ จะทรงอาศัยกาํ ลงั แหง ฤทธก์ิ ระทาํ ฉนั ทราคในภพหา ไมเลย.\" ถ. \"ขอถวายพระ ถาอยางนน้ั พระผมู พี ระภาคเจา เม่อื จะทรงสรรเสรญิ กําลัง แหง ฤทธิ์ ทรงบนั ลือสหี นาทของพระพทุ ธเจา เหน็ ปานนน้ั ย่งิ แลว .\" ร. \"พระผเู ปน เจานาคเสน ดลี ะ ขอวสิ ัชนาปญหานี้ สมอยางนน้ั , ขา พเจา ยอม รบั รองอยา งนนั้ .\" วรรคท่สี อง ๑. ขุททานุขทุ ทกปญ หา ๑๑ พระเจามลิ ินทต รัสวา \"พระผเู ปน เจา นาคเสน พระพทุ ธพจนน ้ี พระผมู พี ระภาค แมตรัสแลววา 'ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพือ่ ความตรสั รูยงิ่ มไิ ดแ สดง ธรรมเพอ่ื ความไมตรัสรยู ิ่ง ดังน.ี้ สว นวา ในวนิ ัยบญั ญัติ พระองคต รัสแลว อยางนอ้ี กี วา 'ดูกอ นอานนท พระสงฆเ มอื่ จาํ นง จงเลกิ ถอนสิกขาบททง้ั หลายนอยและนอ ยโดยลาํ ดบั โดยกาลที่เราตถาคตลวงไปแลว' ดงั น.้ี พระผเู ปนเจา นาคเสน สิกขาบททง้ั หลายนอย และนอ ยโดยลาํ ดับ โดยกาลท่ีพระองคล ว งไปแลว . พระผเู ปนเจา นาคเสน ถา วา พระผมู ี พระภาคเจา ตรสั แลววา 'ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพอื่ ความตรัสรูยงิ่ มไิ ดแ สดงธรรมเพ่อื ความไมต รัสรูยิ่ง' ดังน,้ี ถาอยา งนน้ั คําทวี่ า 'ดกู อนอานนทโดยกาล ที่เราผูตถาคตลว งไปแลว พระสงฆเมื่อจาํ นงจะเลิกถอนสกิ ขาบททัง้ หลายนอยและนอ ย โดยลาํ ดบั เสยี กเ็ ลกิ ถอนเถิด' ดังน้ี นนั้ ผิด. ถา พระตถาคตตรัสแลว ในวนิ ัยบญั ญตั อิ ยา ง น้ีวา 'ดกู อ นอานนท โดยกาลทีเ่ ราผูตถาคตลวงไปแลว พระสงฆเ มื่อจาํ นง จะเลกิ ถอน สิกขาบททัง้ หลายนอ ยและนอ ยโดยลาํ ดบั เสยี กจ็ งเลกิ ถอนเถดิ ' ดงั น,้ี ถา อยา งนัน้ คํา ทีว่ า 'ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพ่ือความตรัสรูย่งิ มไิ ดแ สดงธรรมเพอ่ื ความไมตรัสรูยงิ่ แลว' ดังนี้ แมนั้นเปน ผิด. ปญ หาแมนี้สองเงอ่ื น ละเอยี ดสขุ ุม ละเอยี ด ดวยดีแลว ลกึ ๆ ดว ยดแี ลว อันบัณฑิตพงึ ใหเหน็ โดยยาก มาถึงพระผเู ปนเจา แลว , พระ ผเู ปนเจา จงแสดงความแผไ พศาลแหง กาํ ลังญาณของพระผเู ปนเจา ในปญหานน้ั เถดิ .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระพุทธพจนน้ี อนั พระผมู พี ระภาคแมภาสติ แลว วา 'ดูกอ นภกิ ษทุ งั้ หลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพอ่ื ความตรสั รยู ่ิง มไิ ดแ สดงธรรมเพอ่ื ความ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook