๕. คนหนกั ในอามิส ๖. สตรี ๗. คนขเ้ี มา ๘. บัณเฑาะก ๙. เด็กเล็ก ๆ.\" ถ. \"เขามีโทษอะไร.\" ร. \"คนราคจริต ยอมเปด ความลบั ทหี่ ารือดวย ไมปดไว ดวยอาํ นาจ ราคะ, คนโทสจรติ ดว ยอํานาจโทสะ, คนโมหจรติ ดว ยอาํ นาจโมหะ, คนขลาด ดว ยอาํ นาจความกลวั , คนหนกั ในอามิส ดว ยเหตแุ หง อามิส, สตรี ดว ยความ เปนคนออนความคิด, คนขเ้ี มา ดวยความเปน คนโลเลในสรุ า, บณั เฑาะก ดว ยความเปนคนไมอ ยูใ นฝา ยอนั เดียว, เด็กเล็ก ๆ ดวยความเปน ผูมกั คลอน แคลน.\" พระราชาตรัสตอ ไปวา \"ปญ ญายอมแปรถงึ ความแกร อบดวยเหตแุ ปด ประการ, ดว ยเหตุแปดประการนน้ั เปนไฉน ? ๑. ดวยความแปรแหง วยั ๒. ดวยความแปรแหง ยศ ๓. ดว ยการไตถาม ๔. ดวยการอยใู นสถานทเ่ี ปน ทา คอื ทําเล ๕. ดว ยโยนโิ สมนสกิ าร คือ ความกระทาํ ในใจโดยอบุ ายท่ชี อบ ๖. ดว ยความสงั สนทนากนั ๗. ดว ยอาํ นาจความเขา ไปเสพ ๘. ดวยสามารถแหงความรกั ๙. ดวยความอยูใ นประเทศอันสมควร.\" พระราชาตรสั ตอ ไปวา \"ภมู ิภาคน้ี เวน แลว จากโทษแหง การหารือแปด ประการ, และขาพเจา กเ็ ปน ยอดสหายคูป รกึ ษาในโลก, และขา พเจา เปน คน รักษาความลบั ไวไดดวย ขา พเจาจกั มีชวี ิตอยเู พียงใด ขาพเจาจกั รักษาความ ลับไวเ พยี งนนั้ , และปญญาของขา พเจา ถงึ ความแปรมาดวยเหตแุ ปดประการ, เด๋ยี วนอี้ นั เตวาสกิ เชน ขา พเจาหาไดเ ปน อนั ยาก. อาจารยพ งึ ปฏบิ ัตชิ อบในอันเตวาสกิ ผปู ฏิบตั ชิ อบ ดว ยคณุ ของ อาจารยยีส่ บิ หา ประการ, คุณย่ีสบิ หาประการเปน ไฉน ? ๑. อาจารยพงึ เอาใจใสจ ัดความพิทกั ษรักษาอนั เตวาสกิ เปนนติ ย
๒. พงึ รคู วามภกั ดหี รือไมภกั ดขี องอนั เตวาสกิ ๓. พงึ รคู วามทอ่ี ันเตวาสิกเปน ผปู ระมาทหรอื ไมป ระมาท ๔. พงึ รูโอกาสเปน ทนี่ อนของอันเตวาสิก ๕. พึงรูความทอ่ี นั เตวาสิกเปน ผเู จบ็ ไข ๖. พงึ รโู ภชนาหารวา อนั เตวาสกิ ไดแลว หรอื ยงั ไมไดแ ลว ๗. พึงรูวเิ ศษ ๘. พงึ แบง ของอยใู นบาตรให ๙. พึงปลอบใหอุนใจวา อยา วติ กไปเลย ประโยชนของเจา กาํ ลังเดนิ ขึ้นอยู ๑๐. พงึ รูความเที่ยวของอนั เตวาสิกวา เทย่ี วอยูก บั บุคคลผนู ้ี ๆ ๑๑. พงึ รูค วามเที่ยวอยใู นบา น ๑๒. พึงรคู วามเทีย่ วอยใู นวหิ าร ๑๓. ไมพ งึ กระทําการเจรจากบั อันเตวาสกิ นัน้ พร่ําเพร่ือ ๑๔. เห็นชอ ง คือ การกระทาํ ผิดของอันเตวาสิกแลว พึงอดไว ๑๕. พงึ เปน ผกู ระทาํ อะไร ๆ โดยเอื้อเฟอ ๑๖. พึงเปน ผกู ระทําอะไร ๆ ไมใหขาด ๑๗. พงึ เปน ผกู ระทาํ อะไร ๆ ไมซอ นเรน ๑๘. พงึ เปน ผกู ระทาํ อะไร ๆ ใหห มดไมม ีเหลอื ๑๙. พงึ ตัง้ จิตวา เปน ชนก โดยอธบิ ายวา ตนยงั เขาใหเ กิดในศลิ ปทง้ั หลาย ๒๐. พึงตงั้ จติ คดิ หาความเจรญิ ใหวา ไฉนอันเตวาสกิ ผูนจ้ี ะไมพึงเสอื่ ม เลย ๒๑. พึงต้งั จติ ไวว า เราจะกระทาํ อนั เตวาสกิ ผนู ้ใี หแ ข็งแรงดวยกาํ ลงั ศึกษา ๒๒. พงึ ตงั้ เมตตาจิต ๒๓. ไมพ ึงละทิง้ เสยี ในเวลามีอันตราย ๒๔. ไมพ งึ ประมาทในกจิ ทจ่ี ะตอ งกระทํา ๒๕. เมอื่ อันเตวาสิกพลั้งพลาด พงึ ปลอบเอาใจโดยทางทถี่ กู เหลา นแี้ ล คณุ ของอาจารยย ส่ี ิบหา ประการ, ขอพระผเู ปน เจา จงปฏบิ ตั ชิ อบในขาพเจา ดว ยคณุ เหลา นเี้ ถิด. ความสงสยั เกิดขน้ึ แกข าพเจา , เมณฑกะปญหาทพี่ ระชนิ พุทธเจาทรงภาสิตไวมีอยู ในอนาคตกลางไกลจกั เกดิ ความเขา ใจผิดในเมฆฑ
กะปญ หานน้ั แลวเถียงกนั ข้นึ , และในอนาคตกาลไกลโนน ทา นผมู ปี ญ ญา เหมอื นพระผเู ปนเจา จักหาไดเ ปน อนั ยาก, ขอพระผูเปน เจา จงใหดวงจกั ษุใน ปญ หาเหลานน้ั แกขาพเจา สาํ หรบั ขมถอ ยคาํ ของผูอ่นื เสยี .\" พระเถรเจา รบั วา สาธุแลว ไดแ สดงองคคุณของอบุ าสกสบิ ประการวา \"ขอถวายพระพร นี้องคคณุ ของอบุ าสกสบิ ประการ, องคคณุ ของอุบาสกสิบ ประการนน้ั เปน ไฉน: องคคุณของอบุ าสกสบิ ประการนน้ั คือ ๑. อบุ าสกในพระศาสนานี้ เปน ผูรวมสขุ รว มทกุ ขก บั สงฆ ๒. เมื่อประพฤตอิ ะไร ยอ มถือธรรมเปนใหญ ๓. เปน ผยู นิ ดใี นการแบงปน ใหแกกนั ตามสมควรแกกาํ ลงั ๔. เหน็ ความเสอื่ มแหงพระพทุ ธศาสนาแลว ยอมพยายามเพอื่ ความ เจรญิ ยิ่ง ๆ ขนึ้ ไป ๕. เปนผูมีความเหน็ ชอบ ๖. ปราศจากการถือมงคลตนื่ ขา ว แมถ งึ กบั จะตอ งเสยี ชวี ติ ก็ไมถอื ทา นผอู น่ื เปน ศาสดา ๗. มกี ายกรรมและวจกี รรมอนั รกั ษาดีแลว ๘. เปน ผูมสี ามัคคีธรรมเปนทมี่ ายนิ ดี และยินดแี ลว ในสามคั คีธรรม ๙. เปนผูไมอ สิ สาตอผูอืน่ และไมประพฤตใิ นพระศาสนานี้ ดวย สามารถความลอลวงไมซอ่ื ตรง ๑๐. เปน ผถู งึ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ เปน สรณะ. ขอถวายพระ พร นแ้ี ลองคคุณของอบุ าสกสิบประการ, คุณเหลานี้มอี ยใู นสมเดจ็ บรมบพติ ร พระราชสมภารเจาครบทุกประการ, การทพ่ี ระองคท อดพระเนตรเหน็ ความ เส่ือมแหง พระพทุ ธศาสนาแลว มพี ระประสงคจ ะใหเ จรญิ ยิ่ง ๆ ขนึ้ ไปนนั้ เปน การควรแลว ชอบแลว เหมาะแลว สมแลว แกพระองค. อาตมภาพถวาย โอกาส พระองคจ งตรัสถามอาตมภาพตามพระราชอธั ยาศยั เถิด.\" เมณฑกปญหา วรรคทห่ี นง่ึ ๑. วชั ฌาวชั ฌปญหา ๑
ลาํ ดบั นนั้ พระเจามิลนิ ท คร้ังไดโ อกาสท่ีพระเถรเจา ถวายแลว ดงั นน้ั ทรงถวายนมสั การแทบบาทแหงพระอาจารยแ ลว ประฌมพระหัตถ ตรสั วา ดงั น้ี \"พระผเู ปนเจา เดยี รถยี เหลานพ้ี ูดอยูวา 'ถาพระพทุ ธเจา ทรงยินดีบชู าอยู ได ชื่อวา ไมปรนิ พิ พานแลว ยงั เกยี่ วขอ งดว ยโลกอยู ยงั เปน ผจู ะตองเวยี นอยใู น ภายในแหง พภิ พ เสมอสตั วโ ลกในโลก, เหตุนั้น การบชู าที่ทายกกระทาํ แลว แดพระพทุ ธเจา นน้ั ยอมเปน หมันไมม ผี ล, ถาพระองคเสด็จปรินิพพานแลว ไม เก่ยี วขอ งดวยโลก ออกไปจากภพทั้งปวงแลว การบูชาพระองคหาควรไม เพราะทา นผปู รินพิ พานแลว ยอมไมยนิ ดอี ะไร การบูชาทท่ี ายกกระทําแลว แก ทานผไู มย นิ ดอี ะไร ยอ มเปน หมนั ไมม ผี ลเหมือนกัน' ดังน.้ี นปี่ ญ หาสองเงื่อน ไมเ ปนวสิ ยั ของคนผไู มไ ดบ รรลุพระอรหัตต เปนวสิ ัยของทานผใู หญเทา นน้ั ขอ พระผเู ปน เจา จงทาํ ลายขาย คือ ทฏิ ฐเิ สยี ต้ังไวในสว นอนั เดียว, นปี่ ญหามา ถึงพระผเู ปน เจา เขาแลว ขอพระผูเปน เจา จงใหด วงจกั ษแุ กพ ทุ ธโอรสทง้ั หลาย อันมใี นอนาคตกาลไวส าํ หรบั ขม ถอ ยคําแหงผูอ นื่ .\" พระเถรเจา ถวายพระพรวา \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเสด็จ ปรินิพพานแลว และไมท รงยนิ ดบี ชู า, ความยินดพี ระตถาคตเจา ทรงละเสียได แลวที่ควงพระศรมี หาโพธ,ิ์ จักกลาวอะไรถงึ เมอื่ พระองคเ สด็จปรนิ พิ พานแลว ดวนอนปุ าทเิ สสนพิ พานธาตุเลา. ขอนี้มที อ่ี า งใหเ หน็ จริง คํานพ้ี ระธรรม เสนาบดสี ารีบตุ รเถรเจากลาววา \"พระพทุ ธเจา ทงั้ หลายนนั้ ทรงพระคณุ เสมอ ดวยพระพุทธเจาผไู มม ใี ครเสมอ หมมู นษุ ยพ รอ มทงั้ หมเู ทวดาพากนั บชู า พระ องคไมทรงยนิ ดีสักการบูชา, น่เี ปนธรรมดาของพระพทุ ธเจา ทงั้ หลาย ดังน.้ี \" ร. \"พระผูเปน เจา ธรรมดาบตุ รยอมกลา วยกคณุ บิดาบา ง บดิ ายอ ม กลาวยกคุณบตุ รบาง, ขอนี้ไมใชเ หตสุ าํ หรบั ขมวาทะผูอน่ื , ขอน้ชี อ่ื วาเปน เคร่อื งประกาศความเลอ่ื มใส, ขออาราธนาพระผูเปน เจา กลา วเหตุในขอ ปญหานน้ั ใหช อบ เพ่ือแกขาย คือ ทฏิ ฐอิ อกเสยี เพ่ือตง้ั วาทะของตนไว. \" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา เสดจ็ ปรินิพพานแลว และ พระองคม ไิ ดท รงยินดบี ชู า, เทวดามนษุ ยท ง้ั หลายกระทาํ รัตน คอื พระธาตุ ของพระตถาคตเจา ผูไมย นิ ดีโดยแทใหเปน ทีต่ งั้ แลว เสพสัมมาปฏบิ ัตดิ วย อารมณอ นั มงุ อยใู นรัตน คอื พระญาณของพระตถาคตเจา ยอมไดส มบตั ิสาม ประการ, เหมอื นอยางวา กองไฟใหญล ุกโพลงแลวจะดบั ไป, กองไฟนนั้ ยนิ ดี เช้อื คอื หญาและไมบา งหรือ ขอถวายพระพร.\"
ร. \"กองไฟใหญ ถงึ กาํ ลงั ลกุ อยู กย็ อมไมย นิ ดเี ชอ้ื คอื หญาและไม, ก็ กองไฟใหญนนั้ ดับสงบแลว หาเจตนามิได จักยนิ ดดี วยเหตุอะไรเลา พระผู เปน เจา ?\" ถ. \"กเ็ มอ่ื กองไฟนนั้ ดบั สงบแลว ไฟในโลกชอ่ื วา สูญหรือ ขอถวายพระ พร ?\" ร. \"หาเปน ดังน้นั ไม ไมเปน วตั ถเุ ปนเช้ือของไฟ. มนุษยจ าํ พวกไหน ตองการไฟ เขาสีไมด วยเร่ยี วแรงกาํ ลงั พยายาม ดวยความกระทาํ ของบรุ ุษ เฉพาะตวั ของเขาแลว ยงั ไฟใหเกดิ ขนึ้ แลว ยอมกระทาํ กจิ ที่จะตอ งกระทาํ ดว ย ไฟไดด วยไฟนน้ั .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยางน้ัน คําของพวกเดยี รถยี ว า 'การบูชาที่ ทายกกระทาํ แลว แกท า นผูไมย นิ ดีอะไร ยอมเปนหมนั ไมม ีผล' ดงั น้ี ยอมเปน ผิด. ขอถวายพระพร กองไฟใหญล ุกโพลงอยู ฉนั ใด, พระผมู พี ระภาคเจา ทรง รุง เรอื งอยใู นหมน่ื โลกธาตุดว ยพระพทุ ธสริ ิ ก็ฉันนนั้ ; กองไฟใหญน น้ั คร้นั ลุก โพลงแลว กด็ บั ไป ฉันใด, พระผมู พี ระภาคเจา ครนั้ ทรงรุง เรอื งในหมนื่ โลกธาตุ ดว ยพระพุทธสิรแิ ลว เสด็จปรนิ พิ พานดว ยอนุปาทเิ สสนพิ พานธาตุ กฉ็ นั นน้ั ; กองไฟที่ดบั แลว ไมยินดีเชื้อ คอื หญา และไม ฉนั ใด, การยินดเี กือ้ กูลของโลก พระองคล ะเสยี แลว สงบแลว กฉ็ นั นั้น; มนษุ ยท ้ังหลาย เมือ่ กองไฟดับแลว ไม มเี ชอ้ื สีไมดวยเร่ียวแรงกาํ ลงั พยายามดวยความกระทาํ ของบุรษุ เฉพาะตัว ของเขาแลว ยงั ไฟใหเกดิ ข้นึ แลว ยอ มกระทาํ กจิ ท่จี ะตอ งกระทาํ ดว ยไฟไดด วย ไฟนน้ั ฉนั ใด; เทวดามนษุ ยท ้งั หลาย กระทาํ รตั น คือ พระธาตุของพระตถาคต เจา ผูไมยนิ ดโี ดยแทใหเปน ทต่ี ้ังแลว เสพสมั มาปฏบิ ัติ ดว ยอารมณอ นั มุงอยูใ น รัตน คอื พระญาณ ของพระตถาคตเจา ยอ มไดสมบัตสิ ามประการ กฉ็ ันน้นั . ขอถวายพระพร แมเ พราะเหตุนี้ การบูชาท่ีทายกกระทาํ แลวแดพ ระตถาคต เจา ผเู สดจ็ ปรนิ พิ พานแลว ไมท รงยนิ ดอี ยูโ ดยแท จงึ ชือ่ วา มีผลไมเปน หมนั .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคทรงสดบั เหตุแมอ ่นื ยง่ิ ขน้ึ เปนเครือ่ งให เห็นวา การบชู าทที่ ายกกระทําแลวแดพ ระตถาคตเจาผูปรนิ พิ พานแลว ไมทรง ยนิ ดอี ยูโดยแท มผี ลไมเ ปน หมัน: เหมือนอยา งวา พายุใหญพัดแลว จะสงบไป, ลมทสี่ งบไปแลว นน้ั ยนิ ดกี ารใหเ กิดอีกบางหรือขอถวายพระ ?\" ร. \"หามไิ ด ความคาํ นงึ ก็ดี ความกระทาํ ในใจกด็ ี ของลมทส่ี งบไปแลว เพอื่ การกระทาํ ใหเ กิดอกี ไมม ,ี เหตอุ ะไรเลา เหตวุ า วาโยธาตนุ น้ั ไมมเี จตนา.\" ถ. \"เออก็ ช่อื ของลมทีส่ งบไปแลวนน้ั วา 'ลม' ดงั นี้ ยงั เปน ไปบา งหรอื
ขอถวายพระพร ?\" ร. \"หามไิ ด\" พดั ใบตาลและพดั โบกเปน ปจ จยั เพอื่ ความเกดิ ขนึ้ แหง ลม, มนษุ ยจาํ พวกไหน ตองรอ นเผาแลว ตอ งความกระวนกระวายบีบคน้ั แลว เขา ยังลมใหเกิดขนึ้ ดว ยพัดใบตาลหรอื ดวยพดั โบกตามกาํ ลงั เรีย่ วแรงพยายาม ตามความกระทําของบุรุษเฉพาะตวั ของเขาแลว ยังความรอนใหด ับ ยงั ความ กระวนกระวายใหส งบ ดวยลมน้ัน.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยา งนนั้ คาํ ของพวกเดยี รถยี ว า 'การบูชาที่ ทายกกระทาํ แลว แกทา นผไู มย นิ ดอี ะไร ยอ มเปนหมนั ไมม ีผล' ดังน้ี ยอ มเปน ผดิ . ขอถวายพระพร พายใุ หญพ ัดแลว ฉนั ใด, พระผมู พี ระภาคเจาทรงกระพอื ในหมน่ื โลกธาตุ ดวยลม คอื พระเมตตาอนั เย็นชนื่ ใจละเอยี ดสุขมุ แลว กฉ็ นั นัน้ ; พายุใหญค รน้ั พัดแลว สงบไปแลวฉันใด, พระผมู ีพระภาคเจา ครนั้ ทรง กระพอื ในหมนื่ โลกธาตุ ดว ยลม คือ พระเมตตาอันเยน็ ชน่ื ใจละเอยี ดสขุ มุ แลว เสด็จปรนิ ิพพานดวยอนุปาทเิ สสนพิ พานธาตุ กฉ็ นั นน้ั ; ลมอันสงบไปแลว ยอ มไมย นิ ดคี วามใหเกิดขน้ึ อีก ฉนั ใด การยินดีเกอ้ื กูลของโลก พระองคละเสยี แลว สงบแลว ก็ฉันน้ัน; มนษุ ยทัง้ หลายนัน้ ตอ งรอนเผาแลว ตองความกระวน กระวายบีบคน้ั แลว ฉนั ใด, เทวดามนษุ ยท ง้ั หลาย ตอ งความรอ นกระวน กระวายเหตุไฟสามประการบีบค้นั แลว กฉ็ นั นน้ั ;พัดใบตาลและพัดโบกเปน ปจจัย เพ่อื ความเกดิ แหง ลม ฉนั ใด, พระธาตแุ ละพระญาณรัตนของพระ ตถาคตเจา เปน ปจจยั เพอื่ ความไดส มบัตสิ ามประการ กฉ็ ันนนั้ ; มนุษยทัง้ หลาย ตอ งรอนเผาแลว ตอ งความกระวนกระวายบีบคนั้ แลว ยงั ลมใหเกดิ ขนึ้ ดว ยพัดใบตาลหรือดว ยพัดโบกแลว ยงั ความรอนใหดบั ยงั ความกระวน กระวายใหส งบดว ยลมนัน้ ฉนั ใด, เทวดามนุษยท ง้ั หลาย บูชาพระธาตแุ ละ พระญาณรตั นของพระตถาคตเจา ผูเสด็จปรนิ พิ พานแลว ไมทรงยนิ ดีโดยแท แลว ยงั กุศลใหเ กดิ ขน้ึ แลว ยังความรอ นความกระวนกระวายเหตุไฟสาม ประการใหด ับ ใหส งบดวยกศุ ลนัน้ ฉนั นน้ั . ขอถวายพระพร แมเพราะเหตนุ ี้ การบูชาที่ทายกกระทาํ แลว แดพระตถาคตเจา ผเู สดจ็ ปรนิ พิ พานแลว ไมท รง ยนิ ดีอยูโดยแท จงึ ชือ่ วา มีผลไมเปน หมัน.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคทรงสดับเหตุแมอ ื่นอกี ใหย ิง่ ขนึ้ ไป เพอ่ื ขมวาทะผูอ ื่นเสีย: เหมอื นอยา งวา บรุ ุษตกี ลอง ยังเสยี งใหเ กดิ ขนึ้ และเสียง กลองอันบรุ ษุ ใหเ กิดขึ้นนนั้ แลวก็อันตรธานหายไป, เออก็ เสยี งนั้น ยนิ ดีความ ใหเ กิดข้ึนอีกบา งหรือ ขอถวายพระพร.\"
ร. \"หามไิ ด เสยี งนนั้ อนั ตรธานไปแลว, ความคํานงึ ก็ดี ความกระทําใน ใจก็ดี ของเสยี งนน้ั เพ่ืออันเกดิ ข้นึ อีกมไิ ดมี, ครนั้ เม่ือเสียงกลองเกิดข้นึ คราว เดียวแลว อนั ตรธานไปแลว เสียงกลองนนั้ ก็ขาดสูญไป, สว นกลองเปน ปจ จยั เพ่ือความเกิดข้ึนแหง เสยี ง, คร้นั เมอื่ เปนอยา งนน้ั บรุ ุษเมือ่ ปจ จยั มีอยู ตกี ลอง ดว ยพยายามอนั เกิดแตตนแลว ยงั เสียงใหเกดิ ขึน้ ได. \" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา ทรงตั้งพระธาตุรตั นอันพระ องคอบรมแลวดวยศลี สมาธิ ปญ ญา วิมุตติ วมิ ตุ ตญิ าณ ทัสสนะ กับพระ ธรรมวินัยคาํ สอน ใหเ ปนตา งพระศาสดาแลว สวนพระองคเ สด็จปรินิพพาน ดวยอนุปาทเิ สสนพิ พานธาตุ คร้ันเม่อื พระผมู ีพระภาคเจา เสด็จปรนิ พิ พาน แลว ความไดส มบตั ขิ าดสญู ไปตามแลวก็หาไม, สตั วท งั้ หลายตองทกุ ขใ นภพ บีบคั้นแลว กระทาํ พระธาตรุ ตั นกบั พระธรรมวนิ ยั คําสอนใหเ ปน ปจ จยั แลว อยากไดสมบตั ิ กย็ อมไดฉ นั เดยี วกนั . ขอถวายพระพร แมเ พราะเหตนุ ี้ การ บูชาทที่ ายกกระทําแลว แดพ ระตถาคตเจา ผเู สดจ็ ปรินพิ พานแลว ไมท รงยนิ ดี อยโู ดยแท จึงชอ่ื วา มีผลไมเปน หมัน. ขอถวายพระพร ขอ นีพ้ ระผูม พี ระภาค เจา ทรงเหน็ และตรสั บอกลว งหนา ไวน านแลววา \"อานนท สักหนอยความวติ ก จะมีแกท า นทง้ั หลายวา 'พระศาสนามพี ระศาสดาลวงไปเสยี แลว พระศาสดา ของเราทงั้ หลายไมม'ี ดังน,้ี ขอนีท้ านทั้งหลายอยา เหน็ ไปอยา งนนั้ , ธรรม และวนยั อนั เราแสดงแลว และบัญญตั แิ ลว แกท านทงั้ หลายโดยกาลทล่ี ว งไป แลวแหง เรา จกั เปนศาสดาของทา นท้ังหลายแทน\" ดงั น.้ี คําของพวกเดยี รถยี วา 'การบูชาทท่ี ายกกระทาํ แลว แดพระตถาคตผปู รนิ ิพพานแลว ไมท รงยนิ ดี อยู เปน หมนั ไมมีผล' ดงั นน้ี น้ั ผิด ไมจ รงิ เท็จ สับปลับ พริ ุธ วิปริต ใหทกุ ขเ ปน ผล มที กุ ขเ ปน วบิ าก ยงั ผพู ูดและผเู ชอ่ื ถอื ใหไปสอู บาย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคทรงสดบั เหตแุ มอ น่ื ใหย งิ่ ข้ึนไป เปน เคร่ืองใหเ หน็ วา 'การบชู าทที่ ายกกระทาํ แลว แดพระตถาคตเจา ผูเสดจ็ ปรินพิ พานแลว ไมทรงยนิ ดอี ยโู ดยแท มีผลไมเปนหมนั : มหาปฐพนี ี้ยนิ ดบี า ง หรอื หนอแลวา 'ขอสรรพพชื จงงอกขนึ้ บนเรา' ดงั น.้ี \" ร. \"หามิได. \" ถ. \"ขอถวายพระพร กเ็ หตไุ ฉนพชื ท้งั หลายเหลา นัน้ งอกข้นึ บนมหา ปฐพอี นั ไมย นิ ดอี ยูแ ลว ต้งั มนั่ ดวยรากอันรงึ รัดกันแนน แข็งแรงดวยแกนในลาํ ตนและกิง่ ทรงดอกออกผลเลา ?\" ร. \"มหาปฐพีแมไ มย นิ ดอี ยู กเ็ ปนวัตถทุ ่ีตั้งแหงพชื ทงั้ หลายเหลา นน้ั
ยอมใหปจจยั เพือ่ งอกขน้ึ , พชื ทงั้ หลายนน้ั อาศยั มหาปฐพีนน้ั เปน วัตถแุ ลว งอกข้นึ ดวยปจ จยั นนั้ แลว ต้งั มน่ั ดว ยรากอนั รึงรัดกันแนน แขง็ แรงดวยแกน ใน ลาํ ตนและกงิ่ ทรงดอกออกผลได.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยา งนัน้ พวกเดียรถึยฉ บิ หาย ตองถูกกําจัด เปนพิรธุ ในถอยคาํ ของตวั , ถาเขาขืนกลาววา 'การบชู าทท่ี ายกกระทําแลว แก ทานผูไ มยนิ ดี เปน หมันไมม ผี ล' ดังน.ี้ ขอถวายพระพร มหาปฐพีนี้ ฉนั ใด, พระ ตถาคตอรหันตสมั มาสมั พุทธเจา ก็ฉนั นนั้ ; มหาปฐพีไมยนิ ดอี ะไร ๆ ฉันใด, พระตถาคตเจา ไมทรงยินดีอะไร ๆ กฉ็ นั นน้ั ; พืชเหลา นนั้ อาศยั ปฐพี งอกข้ึน แลว ตง้ั มนั่ ดวยรากอันรงึ รดั กนั แนน แข็งแรงดวยแกน ในลาํ ตนและกงิ่ ทรงดอก ออกผลไดฉันใด, เทวดามนษุ ยท งั้ หลาย อาศยั พระธาตุและพระญาณรตั นข องพระตถาคตเจาผเู สดจ็ ปรนิ ิพพานแลว ไมท รงยนิ ดอี ยโู ดยแท ตั้งมัน่ ดว ย กุศลมูลอนั แนน หนาแลว แข็งแรงดว ยแกน คอื พระธรรม ในลาํ ตน คือ สมาธิ และกง่ิ คอื ศีล ทรงดอก คอื วิมตุ ติ ออกผล คือ สามัญผล กฉ็ ันนนั้ . ขอถวาย พระพร แมเพราะเหตนุ ้ี การบชู าทที่ ายกกระทําแลวแดพ ระตถาคตเจาผเู สด็จ ปรนิ พิ พานแลว ไมทรงยนิ ดอี ยโู ดยแท จึงชอื่ วา มีผลไมเปน หมนั แล.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดบั เหตุแมอ ่นื อกี ใหย่ิงขน้ึ ไป เปน เคร่อื งใหเปน วา การบชู าทท่ี ายกกระทาํ แลว แดพระตถาคตเจา ผเู สดจ็ ปรนิ พิ พานแลว ไมท รงยนิ ดอี ยูโดยแท มีผลไมเ ปนหมนั : สตั วท่เี ขาเลย้ี ง คือ อูฐ โค ลา แพะ และหมูมนษุ ยเ หลา นี้ ยนิ ดีใหห มหู นอนเกิดในทอ งบา งหรอื ขอถวายพระ.\" ร. \"หามิได.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ก็เหตุไฉน หนอนเหลาน้ันจงึ เกิดในทอ งของมนษุ ย และดริ ัจฉานเหลา น้นั ผูไมย นิ ดีอยูแ ลว มีลกู หลานเปน อนั มาก ถงึ ความ ไพบูลยข น้ั เลา ?\" ร. \"เพราะบาปกรรมมกี าํ ลงั ซิ พระผูเปน เจา ถงึ สัตวเ หลา นัน้ ไมย ินดอี ยู หมูหนอนเกดิ ข้ึนภายในทอ งแลว มลี ูกหลายมาก ถงึ ความไพบูลยข ้นึ .\" ถ. \"เพราะพระธาตุและพระญาณรัตนของพระตถาคตเจา ผูเสดจ็ ปรนิ ิพพานแลว ไมท รงยนิ ดอี ยโู ดยแทม กี าํ ลัง การบูชาทีท่ ายกกระทาํ แลว ใน พระตถาคตเจา จงึ มผี ลไมเปน หมนั ฉนั เดยี วกนั แล ขอถวายพระพร.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดับเหตุแมอ ื่นอีกใหยิ่งขนึ้ ไปอกี เปนเคร่อื งใหเ หน็ วา การบชู าทที่ ายกกระทําแลว แดพระตถาคตเจา ผูเสดจ็
ปรนิ พิ พานแลว ไมทรงยนิ ดอี ยโู ดยแท มผี ลไมเปนหมัน: หมมู นษุ ยเ หลา นยี้ นิ ดี อยูว า 'ขอโรคเกาสบิ แปดเหลาน้ี จงเกิดในกายเถดิ ' ดังนี้ บา งหรอื ขอถวาย พระพร.\" ร. \"หามิได.\" ถ. \"ขอถวายพระพร กเ็ หตุไฉน โรคเหลา นัน้ จึงเกิดในกายของหมู มนษุ ยผ ูไมย นิ ดอี ยเู ลา ?\" ร. \"ขอถวายพระ ถา วาอกศุ ลท่เี ขากระทาํ ไวในกาลกอนเปนกรรมทจี่ ะ ตองเสวยในภพน,้ี ถา อยา งน้ัน กุศลกรรมก็ดี อกุศลกรรมก็ดี ทเ่ี ขากระทําไว แลวในภพกอนกด็ ี ในภพนก้ี ็ดี ยอ มมผี ลไมเ ปนหมนั . ขอถวายพระพร แม เพราะเหตุน้ี การบูชาทท่ี ายกกระทาํ แลว แดพ ระตถาคตเจา ผเู สด็จ ปรินิพพานแลว ไมทรงยนิ ดอี ยโู ดยแท ยอมมีผลไมเ ปน หมนั . ขอถวายพระพร พระองคไดเ คยทรงสดับบา งหรือวานนั ทกยักษป ระทุษรา ยพระสารีบุตรเถรเจา แลว เขาไปสูแผน ดนิ แลว.\" ร. \"ขา พเจา เคยไดฟง เรือ่ งนป้ี รากฏแลวในโลก.\" ถ. \"เออก็ พระสารีบตุ รเถรเจา ยินดกี ารทม่ี หาปฐพกี ลนื นนั ทกยักษเขา ไปไวด วยหรอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"แมโลกนก้ี บั ทงั้ เทวโลกเพิกถอนไปอยู แมด วงจนั ทรและดวง อาทิตยตกลงมาทแี่ ผน ดนิ อยู แมพญาเขาสิเนรุบรรพตแตกกระจายอยู พระ สารบี ุตรเถรเจาก็ไมยนิ ดที กุ ขของผูอ่ืน, ขอน้ันเปน เพราะเหตอุ ะไร ? เปน เพราะเหตุเครอ่ื งทพี่ ระสารบี ตุ รเถรเจา จะโกรธก็ดี จะประทษุ รา ยกด็ ี ทา นถอน เสยี แลว ทา นตัดขาดเสยี แลว , เพราะทา นถอนเหตเุ สยี ไดแ ลว พระสารีบุตรเถร เจา ไมพ งึ กระทาํ ความโกรธ แมในผูจ ะผลาญชวี ิตของทา นเสยี .\" ถ. \"ถาวา พระสารบี ตุ รเถรเจา ไมย นิ ดกี ารทม่ี หาปฐพีกลนื นันทกยักษ เขา ไปไวแลว เหตไุ ฉน นนั ทกยกั ษจ งึ ไดเขาไปสูแผน ดนิ เลา ขอถวายพระพร ?\" ร. \"เพราะเหตอุ กศุ ลกรรมเปนโทษมกี าํ ลังนะซ.ิ \" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา หากนนั ทกยักษเขา ไปสแู ผนดินแลว เพราะ อกุศลกรรมเปน โทษแรง, ความผิดท่เี ขากระทาํ แลว ตอทา นผูไ มย นิ ดอี ยู ก็มผี ล ไมเปนหมนั , ถา อยา งนน้ั การบชู าทที่ ายกระทาํ แลว แกทา นผไู มยนิ ดีอยู ก็ ยอมมผี ลไมเ ปน หมนั เพราะกศุ ลกรรมเปนคณุ แรงกลา . ขอถวายพระพร แม เพราะเหตุน้ี การบูชาที่ทายกกระทําแลว แดพ ระตถาคตเจา ผูเสด็จปรนิ พิ พาน แลว ไมทรงยนิ ดีอยูโ ดยแท ยอมมีผลไมเปน หมนั . ขอถวายพระพร เด๋ยี วนี้
มนุษยผ ูเขาไปสแู ผน ดนิ มผี ลเทา ไรแลว, พระองคไ ดเคยสดับเรอื่ งน้บี า งหรือ ?\" ร. \"เคยไดฟง\" ถ. \"ขอถวายพระพร เชิญพระองคตรัสใหอ าตมภาพฟง .\" ร. \"ขา พเจา ไดฟ งวา มนษุ ยผเู ขา ไปสูแผน ดนิ แลว นห้ี า คน คือ : นาง จิญจมาณวกิ าหนงึ่ สปุ ปพทุ ธะสกั กะหนง่ึ เทวทัตตเถระหนง่ึ นนั ทกยกั ษหนง่ึ นนั ทมาณพหนึง่ .\" ถ. \"เขาผิดในใคร ขอถวายพระพร.\" ร. \"ในพระผมู พี ระภาคเจาบา ง ในพระสาวกบา ง.\" ถ. \"เออก็ พระผมู ีพระภาคเจา ก็ดี พระสาวกก็ดี ยนิ ดีการทีค่ นเหลา นี้ เขา ไปสูแ ผนดินแลวหรือ ขอถวายพระพร ?\" ร. \"หามไิ ด. \" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยางนนั้ การบชู าทที่ ายกกระทาํ แลว แดพ ระ ตถาคตเจา ผูเ สดจ็ ปรินพิ พานแลว ไมท รงยินดอี ยโู ดยแท ยอ มมีผลไมเ ปน หมัน.\" ร. \"พระผเู ปน เจาแกป ญ หาใหเ ขา ใจไดดแี ลว ขอ ท่ลี กึ กระทาํ ใหต ้ืนแลว ท่ีกําบงั พังเสยี แลว ขอดทําลายเสียแลว ชฏั กระทาํ ไมใหเ ปนชฏั แลว วาทะของ คนพวกอ่ืนฉบิ หายแลว ทฏิ ฐอิ นั นา ชังหกั เสยี ไดแลว พวกเดียรถียผนู า เกลียด มาจดพระผเู ปน เจาผปู ระเสริฐกวา คณาจารยท ปี่ ระเสรฐิ เขา แลว ยอมสนิ้ รศั มี.\" ๒. สพั พญั ภู าวปญหา ๒ ร. \"พระผเู ปน เจา นาคเสน พระพุทธเจาเปน สพั พญั ูหรอื ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจาเปน สพั พญั ,ู กแ็ ตพ ระ ญาณทีเ่ ปน เหตรุ ูเหน็ หาปรากฏแกพระผูมพี ระภาคเจาฉบั ไวทนั ทไี ม, พระสัพ พัญตุ ญาณของพระผมู พี ระภาคเจาเนื่องดว ยการนกึ พระองคท รงนกึ แลว ยอมรูไ ดต ามพระพทุ ธประสงค. \" ร. \"ถาอยา งนนั้ พระพทุ ธเจา กไ็ มใ ชส พั พญั ซู ิ, ถาพระสพั พญั ตุ ญาณของพระองคยอ มมไี ดด วยการคน หา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขา วเปลอื กรอ ยวาหะ กบั กง่ึ จฬุ า เจด็ อัมมณะ สองตุมพะ ขา วเปลอื กมีประมาณถงึ เพยี งนี้ คนมีจิตเปน ไปในขณะเพียงแต
อัจฉระ คอื ช่วั ดดี นวิ้ มอื คร้งั เดียว ยงั สามารถตงั้ เปนคะแนนนบั ใหถ ึงความสน้ิ ไปหมดไปได. นี้จิตเจด็ อยา งเปน ไปอยูใ นขณะช่วั อจั ฉระเดียวนนั้ : ขอถวาย พระพร คนจาํ พวกใด มีราคะ มโี ทสะ มโี มหะ มีกเิ ลส มีกายไมไดอ บรมแลว มี ศีลไมไดอบรมแลว มีจิตไมไ ดอบรมแลว มปี ญ ญาไมไ ดอ บรมแลว จติ ของเขา นั้นเกิดข้นึ ชา เปน ไปเนอื ย, ขอนม้ี ีอะไรเปนเหตุ ? เพราะจติ เปนสภาพไมไ ดอ บ รมแลว. ขอถวายพระพร มีอปุ มาวา ลาํ ไมไผอ ันสูงดวดลาํ อวบแขง็ แรง เก่ียว พนั กนั เปน สมุ ทมุ ดว ยเซิงก่งิ คนฉดุ ลากมา ก็คอยมาชา ๆ ขอ นี้มอี ะไรเปน เหตุ ? เพราะกง่ิ เปน ของเกยี่ วพนั กนั ฉนั ใด, คนจาํ พวกใด มีราคะ มโี ทสะ มโี มหะ มกี เิ ลส มีกายไมไดอบรมแลว มีศีลไมไ ดอบรมแลว มีจติ ไมไ ดอบรมแลว มี ปญญาไมไดอ บรมแลว จติ ของเขานน้ั เกดิ ขึน้ ชา เปน ไปเนอื ย, ขอน้มี ีอะไรเปน เหตุ ? เพราะจติ เปน สภาพอนั กิเลสท้ังหลายเกี่ยวพนั แลว ฉนั นน้ั . นจ้ี ิตท่หี นง่ึ .\" ในจติ เจ็ดอยางนน้ั จติ นี้ถงึ ความจาํ แนกเปน จิตทสี่ อง. คนจําพวกใด เปนพระโสดาบันผแู รกถึงกระแสพระนพิ พาน มีอบายอนั ละเสยี ไดแ ลว พรอม มูลแลวดว ยความเหน็ ชอบ มีคาํ สอนของพระศาสดาอนั รแู จง แลว จติ ของทา น นัน้ เกิดข้ึนไว เปนไปไว ในสามสถาน เกดิ ขน้ึ ชา เปน ไปเนอื ย ในภมู เิ บือ้ งบน ขอ น้มี ีอะไรเปน เหตุ ? เพราะจิตเปน สภาพบรสิ ทุ ธิใ์ นสามสถาน และเพราะ กเิ ลสทง้ั หลายในเบื้องบนเปน สภาพอนั ทา นยงั ละไมไดแลว. มีอปุ มาเหมอื น ลําไมไผโลงหมดจากการเกย่ี วพนั กนั เพียงสามปลอ ง แตข า งบนยังเปน สมุ ทมุ ดว ยเซงิ กิ่งคนฉุดลากมา ยอ มคลอ งเพยี งสามปลอ ง สงู ขนึ้ ไปจากนนั้ ยอ มขัด ขอ น้ีมีอะไรเปน เหตุ ? เพราะขา งลา งโลง หมด และเพราะขางบนยังเปน สุมทุม ดวยเซิงกิ่ง ฉะนนั้ . นี้จติ ทสี่ อง จติ น้ีถงึ ความจาํ แนกเปนจติ ทส่ี าม. คนจาํ พวกใด เปน พระสกทาคามี มรี าคะ โทสะ โมหะเบาบาง จติ ของทา นนน้ั เกดิ ขึน้ ไว เปน ไปไว ในทหี่ าสถาน เกดิ ขน้ึ ชา เปน ไปเนอื ย ในภมู เิ บือ้ งบน, ขอ นีม้ อี ะไรเปนเหตุ ? เพราะจติ เปน สภาพบรสิ ุทธใ์ิ นทหี่ าสถาน และเพราะกิเลสเบอื้ งบนเปนสภาพอนั ทา นยังละ ไมไดแ ลว . มอี ุปมาเหมือนลาํ ไมไผโ ลง หมดจากการเกยี่ วพนั กนั เพยี งหา ปลอง แตขา งบนยงั เปน สุมทมุ ดวยเซิงกงิ่ คนฉดุ ลากมา ยอมมาคลองเพยี งหา ปลอง สูงขนึ้ ไปจากนนั้ ยอมขดั , ขอนีม้ ีอะไรเปนเหตุ ? เพราะขา งลา งโลง หมด และ เพราะขา งบนยงั เปน สุมทุมดวยเซงิ ก่งิ ฉะนนั้ . นจ้ี ิตท่ีสาม. จิตนี้ถึงความจาํ แนกเปนจติ ที่ส.่ี คนจาํ พวกใด เปนพระอนาคามมี ี สังโยชนเ บ้ืองต่ําหา ประการละไดแลว จิตของทา นน้ัน เกิดขึ้นไว เปน ไปไว ใน
ทสี่ บิ สถาน เกดิ ขึน้ ชา เปน ไปเนอื ย ในภูมิเบอ้ื งบน, ขอ นม้ี ีอะไรเปน เหตุ ? เพราะจติ เปน สภาพบริสทุ ธใ์ิ นทส่ี บิ สถาน และเพราะกเิ ลสเบอ้ื งบนเปน สภาพ อันทา นยงั ละไมไดแ ลว . มอี ุปมาเหมอื นลาํ ไมไ ผโ ลงหมดจากการเก่ียวพนั กนั เพยี งสิบปลอ ง แตขางบนยังเปน สุมทมุ ดว ยเซงิ กง่ิ คนฉุดลากมา ยอ มมา คลองเพียงสิบปลอง สงู ขน้ึ ไปจากนน้ั ยอมขดั , ขอน้ีมีอะไรเปนเหตุ ? เพราะ ขางลางโลง หมด และเพราะขา งบนยงั เปน สุมทมุ ดวยเซิงกงิ่ ฉะนน้ั . นจี้ ิตท่สี .่ี จติ น้ถี งึ ความจาํ แนกเปน จติ ท่คี รบหา. คนจาํ พวกใด เปฯ พระอรหนั ต สิน้ อาสวะแลว ชําระมลทนิ หมดแลว ฟอกกเิ ลสแลว อยจู บพรหมจรรยแลว มี กจิ ทีจ่ ะตอ งทาํ อนั ไดท าํ เสรจ็ แลว ปลงภาระเสียไดแ ลว มีประโยชนต นไดบรรลุ ถึงแลว มีธรรมอนั จะประกอบไวใ นภพสน้ิ รอบแลว มพี ระปฏสิ ัมภทิ าไดบรรลุ แลว บริสุทธิ์แลว ในภูมแิ หง พระสาวก, จิตของทา นนนั้ เกิดข้นึ ไว เปน ไปไว ใน ธรรมเปนวสิ ยั ของพระสาวก เกดิ ขึน้ ชา เปน ไปเนือย ในภมู แิ หงพระปจ เจก พทุ ธะ และในภมู ิแหง พระสพั พัญพู ทุ ธะ, ขอนีม้ ีอะไรเปนเหตุ ? เพราะทา น บรสิ ทุ ธ์ิแลวเพยี งในภูมิแหง พระสาวก และเพราะไมบ รสิ ุทธิ์แลวในปจ เจกพทุ ธ ภมู แิ ละสพั พญั พู ุทธภูม.ิ มอี ปุ มาเหมือนลาํ ไมไ ผม ีปลอ งโลงหมดจากการ เก่ยี วพนั กนั ทกุ ปลอ ง คนฉดุ ลากมา กม็ าไดค ลอง ไมช า , ขอน้ีมอี ะไรเปน เหตุ ? เพราะไมไผน นั้ โลงหมดจากการเก่ียวพนั กนั ทกุ ปลอ ง และเพราะไมเ ปน สุมทุม ฉะนนั้ . นจ้ี ิตทคี่ รบหา. จติ นถ้ี ึงความจําแนกเปนจิตท่คี รบหก. คนจาํ พวกใด เปน พระปจ เจก พทุ ธะ คอื ตรัสรจู าํ เพาะตัว เปน พระสยัมภู คือ ผเู ปน เองในทางตรสั รู ไมมใี คร เปน อาจารย ประพฤตอิ ยแู ตผเู ดียว มอี าการควรกาํ หนดเปรยี บดว ยนอแรด มี จติ บรสิ ุทธป์ิ ราศจากมลทนิ ในธรรมเปนวสิ ยั ของทา น, จิตของทา นนน้ั เกิดขึ้น ไว เปน ไปไว ในธรรมเปนวิสยั ของทา น เกดิ ขึ้นชา เปน ไปเนือย ในภมู ขิ องพระ สพั พพัญพู ทุ ธะ, ขอนีม้ ีอะไรเปน เหตุ ? เพราะทา นบรสิ ทุ ธิ์แตในวิสยั ของ ทาน และเพราะพระสพั พัญูพทุ ธวิสยั เปน คุณอนั ใหญยิง่ , มีอมุ าเหมอื น บรุ ษุ ผูเคยไมพ งึ ครา ม จะลงลํานา้ํ นอ ยอนั เปนวิสยั ของตวั ในคนื กไ็ ด ในวนั ก็ ได ตามปรารถนา, คร้นั เหน็ มหาสมทุ รท้ังลึกหยง่ั ไมถงึ ทงั้ กวา งไมมฝี ง ในท่ี ตําบลอ่นื แลว จะกลวั ยอ ทอไมอาจลง, ขอนมี้ อี ะไรเปน เหตุ ? เพราะวสิ ยั ของ เขา ๆ ไดเคยประพฤติแลว และเพราะมหาสมุทรเปน ชลาลัยอันใหญ ฉะนัน้ . น้เี ปนจติ ท่คี รบหก. จิตน้ีถงึ ความจาํ แนกเปน จติ ทเ่ี จด็ . คนจําพวกใด เปน พระสมั มาสัม
พทุ ธคอื ตรัสรชู อบเอง เปน สพั พญั ูคอื รธู รรมทง้ั ปวง ทรงญาณอันเปน กาํ ลัง สิบประการ กลา หาญปราศจากครัน่ ครา ม เพราะเวสารัชชธรรมส่ปี ระการ พรอมมูลดว ยธรรมของพระพุทธบคุ คลสบิ แปดประการมชี ัยชนะหาที่สดุ มไิ ด มญี าณหาเครื่องขัดขวางมไิ ด, จติ ของทา นนนั้ เกดิ ข้ึนไว เปน ไปไว ในท่ที กุ สถาน, ขอ นีม้ อี ะไรเปน เหตุ ? เพราะทานบรสิ ุทธ์ิแลวในทท่ี ุกสถาน. ขอถวายพระพร พระแสงศรทีช่ ําระดแี ลว ปราศจากมลทินหาสนมิ มิได คมกรบิ ตรงแนว ไมค ด ไมง อ ไมโกง ขึ้นบนแลง อนั มนั่ แขง็ แรง แผลงใหตกลง เตม็ แรง ท่ีผา โขมพัสตรอันละเอียดก็ดี ทผี่ า กัปปาสกิ พสั ตรอ ันละเอียดก็ดี ที่ ผากัมพลอนั ละเอยี ดกด็ ี จะไปชาไมส ะดวกหรือตดิ ขัดมีบา งหรือ ?\" ร. \"หาเปน เชน น้ันไม, ขอ น้มี อี ะไรเปนเหตุ ? เพราะผา เปน ของละเอยี ด ศรก็ชําระดแี ลว และการแผลงใหต กกเ็ ตม็ แรง.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอ อปุ ไมยกฉ็ นั นนั้ คนจําพวกใด เปนพระสมั มา สัมพุทธะ ฯลฯ จติ ของทา นนนั้ เกิดขน้ึ ไว เปน ไปไว ในทท่ี กุ สถาน. นีจ้ ติ ที่เจ็ด. ขอถวายพระพร ในจิตเจด็ อยา งนน้ั จิตของพระสพั พัญพู ุทธะทงั้ หลายบรสิ ทุ ธแิ์ ละไวโดยคณุ ทีน่ ับไมได ลว งคณนาแหง จติ แมทัง้ หกอยา ง. ขอ ถวายพระพร เหตใุ ด จติ ของพระผมู พี ระภาคเจาบริสทุ ธแ์ิ ละไว เหตนุ น้ั พระ องคจงึ ทรงแสดงยมกปาฏหิ าริยได, ในยมกปาฏิหารยิ นน้ั พระองคพ งึ ทรง ทราบเถดิ วา 'จิตของพระผมู พี ระภาคเจา ทัง้ หลายเปนไปไวถึงอยา งนน้ั ,' อา ตมภาพไมสามารถกลา วเหตใุ นขอนัน้ ใหย ่ิงข้นึ ไปได. แมปาฏหิ ารยิ เหลา นนั้ เขา ไปเปรียบจติ ของพระสัพพญั พู ทุ ธะทงั้ หลายแลว ยอ มไมถงึ การคณานา นบั สักเสย้ี วกด็ ี สักสวนของเสี้ยวก็ดี พระสพั พัญตุ ญาณของพระผมู ีพระ ภาคเจาเน่อื งดวยการนกึ , พระองคท รงนกึ แลว กร็ ูไดต ามพระพทุ ธประสงค. ขอถวายพระพร เหมือนอยา งวา บุรษุ จะวางของส่ิงใดสิ่งหน่งึ ซึ่งวางอยูใ นมือ ขา งหนง่ึ ไวใ นมืออกี ขา งหนงึ่ กด็ ,ี จะอาปากข้นึ เปลง วาจากด็ ,ี จะกลืนโภชนะ ซง่ึ เขา ไปแลวในปากก็ด,ี ลืมอยแู ลวและจะหลับจักษุลง หรอื หลบั อยูแลวจะ ลืมจกั ษุขน้ึ ก็ด,ี จะเหยยี ดแขนทค่ี แู ลว ออกหรอื จะคแู ขนที่เหยยี ดแลว เชา กด็ ,ี กาลนนั้ ชา กวา , พระสัพพญั ตุ ญาณของพระผมู ีพระภาคเจาไวกวา, ความ นึกของพระองคไ วกวา , พระองคท รงนึกแลว ยอมรไู ดต ามพระพทุ ธประสงค, พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจาทง้ั หลายไดชื่อวา ไมใชส ัพพัญู ดว ยสกั วาความบก พรอง เพราะตอ งนกึ เพยี งเทา นนั้ กห็ ามไิ ด. \" ร. \"แมความนกึ กต็ อ งทาํ ดวยความเลอื กหา, ขออาราธนาพระผูเ ปน
เจา อธบิ ายใหข า พเจา เขาใจในขอนนั้ โดยเหตุเถิด.\" ถ. \"ขอถวายพระพร เหมอื นอยา งวา บุรุษผมู ่งั มี มที รพั ยม าก มสี มบัติ มาก มีทองเงนิ และเครอื่ งมอื อันเปน อปุ การแกท รพั ยมาก มีขา วเปลอื กไวเ ปน ทรพั ยมาก และขา วสาลี ขาวจา ว ขา วเหนยี ว ขา วสาร งา ถ่ัวเขยี ว ถว่ั ขาว บพุ พณั ณชาติและอปรณั ณชาติอืน่ ๆ เนยใส เนยขน นมสด นมสม นํา้ มนั นา้ํ ผง้ึ นํ้าตาล นา้ํ ออย ของเขากม็ พี รอ มอยูในไห ในหมอ ในกระถาง ในยงุ และใน ภาชนะอน่ื ๆ, และจะมแี ขกมาหาเขา ซึง่ ควรจะเล้ียงดู และตอ งการจะบริโภค อาหารอยดู ว ยล ก็แตโภชนะทีท่ าํ สุกแลว ในเรอื นของเขา หมดเสยี แลว เขาจงึ นาํ เอาขาวสารออกจากหมอ แลวและหุงใหเปน โภชนะ; บุรุษผูน นั้ จะไดชอื่ วา คนขดั สนไมมที รพั ย ดวยสกั วา ความบกพรอ งแหงโภชนะเพยี งเทา นน้ั ไดบ า ง หรอื ?\" ร. \"หาอยางนน้ั ไม แมใ นพระราชนิเวศนข องพระเจา จกั รพรรดค์ิ วาม บกพรองแหง โภชนะ ในสมยั ซึ่งมิใชเ วลากย็ ังม,ี เหตุอะไรในเรอื นของคฤหบดี จกั ไมม บี า งเลา .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขออปุ ไมยก็ฉนั นน้ั พระสัพพญั ุตญาณของพระ ตถาคตเจา บกพรอ งเพราะตอ งนกึ , แตค ร้ันทรงนกึ แลว กร็ ไู ดตามพระพุทธ ประสงค. ขอถวายพระพร อน่ึง เหมือนอยา งวา ตน ไมจะเผล็ดผล เตม็ ดว ย พวงผลอันหนกั ถว งหอยยอ ย, แตในทน่ี นั้ ไมมีผลอนั หลน แลวสักนอยหนง่ึ ; ตน ไมน ั้น จะควรไดชือ่ วาหาผลมิได ดว ยความบกพรองเพราะผลทย่ี ังไมห ลนแลว เพียงเทา นนั้ ไดบ า งหรอื ?\" ร. \"หาอยา งนนั้ ไม เพราะผลไมเหลา น้ันเนอื่ งดวยการหลน , เมือ่ หลน แลว คนกย็ อ มไดตามปรารถนา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอ อุปไมยก็ฉนั นนั้ , พระสัพพญั ุตญาณของพระ ตถาคตเจา บกพรองเพราะตองนกึ , แตค รั้นทรงนึกแลว ก็รไู ดตามพทุ ธ ประสงค.\" ร. \"พระผูเปน เจา พระพทุ ธเจา ทรงนกึ แลว ๆ รูไดต ามพระพทุ ธ ประสงคหรอื ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา ทรงนกึ แลว ๆ รูไดต ามพระ พทุ ธประสงค; เหมอื นอยา งวา พระเจา จกั รพรรดริ าชทรงระลึกถงึ จกั รรตั นขนึ้ เม่อื ใดวา 'จักรรัตนจงเขามาหาเรา' ดงั น้ี พอทรงนกึ ขน้ึ แลว จักรรัตนกเ็ ขา ไป ถงึ ขอน้ีฉนั ใด; พระตถาคตเจา ทรงนกึ แลว ๆ ก็รูไดต ามพระพทุ ธประสงค ฉัน
น้ัน.\" ร. \"เหตมุ นั่ พอแลว , พระพทุ ธเจา เปน สัพพญั ูแท, ขาพเจายอมรบั วา 'พระพทุ ธเจา เปนสัพพญั จู ริง.\" ๓. เทวทตั ตปพ พาชิตปญหา ๓ พระราชาตรสั ถามวา \"พระผเู ปนเจา พระเทวทตั อันใครบวชใหแลว .\" พระเถรเจา ถวายวิสชั นาวา \"ขอถวายพระพร ขตั ติยกุมารหกพระองค ทรงพระนามวา ภัททยิ กมุ ารหนง่ึ อนรุ ุทธกมุ ารหนึ่ง อานนั ทกุมารหนง่ึ ภคั คุ กมุ ารหนงึ่ กมิ พิลกมุ ารหน่งึ เทวทตั ตกุมารหนงึ่ นมี้ นี ายอบุ าลชิ าวภูษามาลา เปน ทเี่ จ็ด, ครั้นเม่ือสมเดจ็ พระบรมศาสดาเจา ตรัสรพู ระอภสิ ัมโพธิญาณแลว ยงั ความยนิ ดีใหบ งั เกิดแกศากยตระกลู ได, ตา งองคตางออกทรงผนวชตาม พระผมู ีพระภาคเจา ; พระผมู พี ระภาคเจา โปรดใหทรงผนวชแลว.\" ร. \"พระผูเปน เจา พระเทวทตั บวชแลวทาํ ลายสงฆแ ลว มใิ ชห รือ ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระเทวทัตบวชแลว ทาํ ลายสงฆแ ลว . คฤหสั ถ ทําลายสงฆมไิ ด ภิกษุณกี ็ทาํ ลายสงฆม ิได สกิ ขมานากท็ าํ ลายสงฆม ไิ ด สามเณรก็ทาํ ลายสงฆม ิได สามเณรีก็ทาํ ลายสงฆม ิได, ภิกษุมีตนเปน ปกติ รวมสังวาสเดยี วกนั รว มสีมาเดยี วกัน ยอมทาํ ลายสงฆได. \" ร. \"พระผูเปน เจา บุคคลผูทาํ ลายสงฆ ยอมตองกรรมอะไร ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร บุคคลผทู ําลายสงฆนน้ั ยอมตองกรรมอันจะให ตกนรกสนิ้ กัปปหนงึ่ .\" ร. \"พระผูเ ปน เจา พระพทุ ธเจาทรงทราบอยูหรือวา 'พระเทวทัตบวช แลวจกั ทาํ ลายสงฆ ครนั้ ทําลายสงฆแลว จกั ไหมอ ยใู นนรกสิน้ กปั ปห นงึ่ .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระตถาคตเจาทรงทราบอย.ู \" ร. \"พระผูเ ปน เจา ถา พระพทุ ธเจา ทรงทราบอยู เมอ่ื เปน อยา งนน้ั คําวา 'พระพทุ ธเจา ประกอบดว ยพระกรุณาเอน็ ดสู ัตว ทรงแสวงหาธรรมท่เี ปน ประโยชนเ ก้ือกลู สตั ว นําสงิ่ ซ่งึ มิใชป ระโยชนเสยี ตั้งสง่ิ ซง่ึ เปนประโยชนไ วแก สัตวทั้งหลายท้งั สน้ิ ' ดังน้ี ผดิ . ถาและพระองคไมท รงทราบเหตุอนั นนั้ แลว ให บวชเลา ไซร, เม่ือเปนอยา งนน้ั พระพทุ ธเจา ไมใ ชพระสพั พญั นู ะซ.ิ ปญ หา สองเง่ือนแมน ม้ี าถงึ ทา นแลว ขอทานจงสะสางเง่อื นอนั ยงุ ใหญน ้นั เสยี ขอ ทา นจงทาํ ลายปรบั ปปวาทเสยี , ในอนาคตกาลไกล ภกิ ษทุ ้งั หลายผมู ปี ญ ญา
เชนทา น จกั หาไดย าก, ขอทา นจงประกาศกําลังปญ ญาของทา นในปญ ญาขอ น.ี้ \" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผูมพี ระภาคเจา ประกอบดว ยพระกรุณา ทง้ั เปน พระสพั พญั ดู วย. ขอถวายพระพร เพราะความทพี่ ระองคท รงพระกรุณา พระองคทรงพจิ ารณาดคู ตขิ องพระเทวทตั ดวยพระสพั พญั ตุ ญาณ ทอด พระเนตรเหน็ พระเทวทัต ผจู ะสะสมกรรมอนั จะใหผ ลในภพสืบ ๆ ไปไมส ิน้ สดุ หลดุ จากนรกไปสนู รก หลุดจากวนิ บิ าตไปสวู นิ บิ าต สน้ิ เสนโกฏิแหง กปั ปเ ปน อันมาก, พระองคท รงทราบเหตุนนั้ แลวดว ยพระสพั พัญุตญาณ ทรงพระ ดาํ ริวา 'กรรมของเทวทัตผนู ี้ เจา ตวั ทาํ แลว หามที ี่สดุ ลงไม เมื่อเธอบวชแลว ใน ศาสนาแหงเรา จักทาํ ใหม ที ส่ี ดุ ลงได, เทยี บกรรมกอนเขา แลว ทกุ ขยงั จกั ทาํ ให มีท่ีสดุ ลงได, โมฆบุรษุ ผูน้ี ถา บวชแลว จกั สะสมกรรมอนั จะใหต กนรกส้ินกปั ป หนง่ึ ' ดงั นี้ จงึ โปรดใหพระเทวทตั บวชแลว ดว ยพระกรณุ า.\" ร. \"พระผเู ปน เจา ถา อยา งนนั้ พระตถาคตเจา ไดช ื่อวาทรงตีแลวทาให ดวยนาํ้ มนั , ทรงทําใหต กเหวแลวยน่ื พระหตั ถป ระทานให, ทรงฆาใหต ายแลว แสวงหาชวี ิตให, เพราะทรงกอ ทุกขใ หก อนแลว จงึ จดั สขุ ไวใหต อภายหลงั .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระตถาคตไดชอ่ื วาทรงตีบา ง ไดชือ่ วาทรงทาํ ให ตกเหวบา ง ไดช ่ือวาทรงฆา ใหตายบา ง ดว ยอาํ นาจทรงเหน็ แกป ระโยชนแหง สตั วทง้ั หลายอยางเดยี ว, อนงึ่ ไดช ือ่ วา ทรงตกี อ นบา ง ทรงทําใหตกเหวกอ น บาง ทรงฆา ใหต ายกอนบา ง แลว จงึ จดั ประโยชนใ หอยา งเดียว, เหมอื นมารดา บดิ าตกี อ นบา ง ใหลม กอนบา ง แลว จึงจัดประโยชนใหแกบ ตุ รท้งั หลายอยาง เดยี วฉะนนั้ . ความเจริญแหง คุณจะพึงมีแกส ัตวท้งั หลาย ดวยความประกอบ อยางใด ๆ, ยอมทรงจัดสง่ิ ซงึ่ เปนประโยชนไวแ กส ตั วท ั้งหลายทง้ั สนิ้ ดว ยนนั้ ๆ. ขอถวายพระพร ถา พระเทวทัตน้ีไมบวชแลว เปน คฤหัสถอ ยูจะกระทาํ บาปกรรมอนั ใหไปเกิดในนรกเปนอนั มาก แลวจะไปจากนรกสูน รก ไปจาก วินิบาตสวู นิ บิ าต เสวยทกุ ขเ ปนอนั มาก สนิ้ แสนโกฏแิ หง กัปปเ ปน อันมาก. พระผูมีพระภาคเจาทรงทราบเหตอุ นั น้ันอยู ดวยกําลงั พระกรุณา ทรงพระดาํ ริ เหน็ วา 'เม่อื พระเทวทัตบวชแลวในพระศาสนาของเรา ทกุ ขจกั เปนผลอันเจา ตัวกระทาํ ใหมที ่ีสุดลงได' ดังนแ้ี ลว ไดโ ปรดพระเทวทตั ใหบ วชแลว ไดท รง กระทําทกุ ขข องพระเทวทตั อนั หนักน้ันใหเบาลงไดแลว . ขอถวายพระพร เหมือนหนง่ึ บรุ ุษมกี าํ ลังทงั้ ทรัพยสมบตั ิอิสสรยิ ยศสิริ
และเครอื ญาติ รวู า ญาติหรือมติ รสหายของตนจะตองรับพระราชอาชญาอัน หนกั แลว ดว ยความทต่ี นเปน ผูสามารถ โดยความคนุ เคยกับคนเปน อนั มาก ไดกระทําโทษอันหนกั นั้นใหเ บาลงได ฉนั ใด, พระผูมีพระภาคเจา โปรดใหพ ระ เทวทตั ผูจ ะตอ งเสวยทกุ ขส นิ้ แสนโกฏิแหง กปั ปเปน อนั มากใหบ วชแลว ดว ย ความทพ่ี ระองคเปน ผูสามารถดว ยพระกาํ ลงั คือ ศีล สมาธิ ปญญา และ วมิ ตุ ติ ทรงกระทาํ ทุกขข องพระเทวทตั อนั หนกั นนั้ ใหเ บาได ฉันนน้ั . ขอถวายพระพร อนง่ึ เหมอื นหมอบาดแผล ยอ มกระทาํ พยาธอิ นั หนกั ใหเ ขาไดดวยอาํ นาจโอสถมกี าํ ลงั ฉันใด, พระผมู ีพระภาคเจา โปรดพระเทว ทัตผูจะตอ งเสวยทกุ ขส้ินแสนโกฏิแหง กัปปเ ปน อันมากใหบวชแลว ความท่ี พระองคทราบเหตเุ ครื่องประกอบแก แลวทรงกระทาํ ทกุ ขอันหนักใหเบาได ดวยกาํ ลงั โอสถคือธรรมอนั เขม แข็งดวยกาํ ลังพระกรณุ า ฉนั นนั้ แล. พระผูม ี พระภาคเจา ทรงกระทาํ พระเทวทตั ผจู ะตองเสวยทุกขม ากใหไ ดเสวยแตน อ ย จะตอ งอกศุ ลอะไร ๆ บา งหรอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"ไมต องเลย แมโ ดยท่ีสดุ สกั วา จะติเตยี นดว ยวาจา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคจงทรงรบั รองเหตุทพี่ ระผูมีพระภาคเจา โปรด พระเทวทัตใหบ วชนี้ โดยขอความเหลานี้แล. ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดับเหตอุ น่ื อกี ยง่ิ กวา น้ี ท่ีพระผมู พี ระภาคเจา โปรดพระเทวทตั ใหบ วช. เหมอื นหนง่ึ วา ราชบุรุษจับโจรผกู ระทาํ ความผิดไดแลว จะพึง กราบทูลแดพ ระเจา แผนดนิ วา 'โจรผนู กี้ ระทําความผิดอยางน้ี ๆ พระองคจงลงพระราช อาญาแกโ จรนน้ั ตามพระราชประสงค' ดังน,ี้ พระเจา แผน ดินจะพงึ รบั สง่ั ใหลงโทษโจรผู นน้ั วา 'ถา อยางนน้ั ออเจา ทง้ั หลายจงนําโจรนีอ้ อกไปนอกเมอื ง จงตดั ศรี ษะมนั เสยี ในท่ี ฆาโจร;' ราชบุรษุ เหลานน้ั จะพึงรบั ๆ สัง่ อยา งนน้ั แลว นาํ โจรนัน้ ออกนอกเมืองไปสทู ่ีฆา โจร, ยงั มบี ุรษุ ขา ราชการผหู น่ึง อันไดรบั พระราชทานพระไวแตราชสํานักแลว ไดร ับ พระราชทานฐานนั ดรยศ เงนิ ประจําตาํ แหนง และเครือ่ งอุปโภค เปนผมู วี าจาควรเชอื่ ถือ มีอาํ นาจทําไดตามปรารถนา, เขาจะพงึ ทาํ ความกรณุ าแกโ จรนน้ั แลวกลา วกะราชบรุ ุษ เหลาน้ันวา 'อยา เลยนาย, ประโยชนอะไรของทา นทง้ั หลายดว ยการตัดศรี ษะเขา, อยา กระนน้ั เลย ทา นจงตัดแตมือหรอื เทาของเขา รกั ษาชีวิตไวเถดิ , เราจักไปเฝา ทูลทัดทาน ดว ยเหตุโจรผนู เี้ อง' เขาจะพงึ ตดั แตมือหรือเทาของโจรและรักษาชวี ติ ไว ตามถอ ยคาํ ของราชบรุ ษุ ผมู ีอาํ นาจนัน้ ; บุรุษผกู ระทาํ อยา งนนี้ นั้ จะพึงชื่อวา กระทาํ กจิ การโดยเห็น แกโ จรนน้ั บา งหรอื ขอถวายพระ.\"
ร. \"บรุ ุษผนู น้ั ชื่อวา ใหช ีวติ แกเขานะ ซี เมอ่ื ใหช ีวิตแกเ ขาแลว มกี ิจการอะไรเลา ไดช อ่ื วา บุรุษนนั้ ไมไ ดก ระทําแลวโดยเหน็ แกเ ขา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ดว ยทุกขเวทนาในเพราะใหตดั มอื และเทาเขานน้ั ผบู งั คบั น้ันจะพงึ ตองอกุศลอะไรดว ยหรือ ?\" ร. \"โจรนัน้ ยอ มเสวยทกุ ขเวทนา ดวยกรรมอนั ตนกระทาํ แลว , สวนบุรษุ ผูใ หช วี ติ ไมควรตอ งอกศุ ลอะไรเลย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอนี้ฉนั ใด, พระผมู พี ระภาคเจาทรงพระกรณุ าโปรดเกลา พระเทวทัตใหบ วชแลว ดว ยทรงเหน็ วา 'เมอื่ พระเทวทัตบวชในศาสนาของเราแลว ทุกข จกั เปนผลอนั เจา ตัวกระทําใหมีท่ีสุดลงได' ฉนั นนั้ . ขอถวายพระพร ทกุ ขข องพระเทวทตั อันเจาตวั กระทาํ ใหมีทสี่ ดุ ลงไดแลว , พระ เทวทัต ในเวลาเม่ือจะตาย ไดเ ปลงวาจาถงึ พระผมู พี ระภาคเจาเปน สรณะตราบเทา สนิ้ ชวี ติ ดังนวี้ า 'ขา พเจา ทง้ั กระดกู ทง้ั ชีวิตทั้งหลายนี้ ขอถึงพระพทุ ธเจา ผเู ปน ยอดบุรุษ เปนเทวดาเลศิ ลวงเทวดา เปนผูฝก บุคคลควรฝก ทรงพระญาณจกั ษุรอบคอบ มพี ระ ลกั ษณะกาํ หนดดว ยบญุ รอ ยหนึง่ พระองคน้ัน เปน สรณะ.\" ขอถวายพระพร พระเทวทตั เมอ่ื ภทั ทกปั ปแ บงแลว เปน หกสวนสว นทลี่ วงไป แลว ไดท ําลายสงฆแลว จกั ไหมอยูในนรกสิน้ กาลประมาณหา สว น แลวจกั พน จากนรก นนั้ มาเปน พระปจเจกพุทธเจาทรงพระนามวา อัฏฐสิ สระ. กพ็ ระผมู พี ระภาคเจาทรง กระทําอยา งนี้ พงึ ชือ่ วา กระทํากจิ การโดยเหน็ แกพ ระเทวทัตบา งหรอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระตถาคตเจา ไดชอ่ื วา ประทานคุณอันเปน ที่ปรารถนาของเทวตามนษุ ยทงั้ ปวงแกพ ระเทวทัต, เพราะพระองคท รงกระทําพระเทวทตั ใหสําเรจ็ ความเปน เปน พระ ปจ เจกพทุ ธเจา ได, มอี ะไรไดชื่อวาพระองคไ มไ ดกระทาํ โดยเหน็ แกพระเทวทัตเลา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ดวยการทพี่ ระเทวทัตทาํ ลายสงฆ แลว เสวยทกุ ขเวทนาใน นรกนนั้ พระตถาคตเจา จะตองอกุศลอะไรบา งหรือ ?\" ร. \"ไมต อ งเลย พระเทวทัตไหมอ ยใู นนรกกปั ปเดียว เพราะกรรมอนั ตนเอง กระทาํ แลว , พระศาสดาผกู ระทาํ ใหถงึ ที่สดุ ทกุ ข จะพงึ ตองอกศุ ลอะไรหามิได.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงรับรองเหตทุ พี่ ระผมู พี ระภาคเจาโปรดพระ เทวทตั ใหบ วชแลว แมน ้ี ดว ยขอความนเี้ ถิด. ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดบั เหตแุ มอ ื่นอกี ยง่ิ กวา น้ี ที่พระผูมพี ระภาค เจา โปรดใหพ ระเทวทัตบวชแลว. เหมือนหนงึ่ หมอบาดแผล เมอ่ื จะรักษาแผลอนั เกดิ เพราะ ลม ดี เสมหะ แตล ะอยา งก็ดี เจือกนั ก็ดี ฤดูแปรกด็ ี รักษาอริ ิยาบถไมเ สมอกด็ ี เกดิ เพราะพยายามแหง ผูอนื่ (มตี องประหารเปน ตน) กด็ ี อากูลดว ยกล่ินเหม็น ดจุ กล่ิน
แหงศพกาํ ลงั เนา ใหปวดดุจแผลอันตอ งลกู ศร เขาไปติดอยขู าใน อนั นาํ้ เหลอื งนนั้ ชอน ไปใหเ ปน โพลง เตม็ ไปดวยบุพโพและโลหติ เขายอ มพอกปากแผลดว ยยากดั อนั แรงกลา แสบรอ น เพอ่ื จะบมแผลกอ น, พอแผลนว ม เขากเ็ ชือดดว ยศัสตราแลว นาบดว ยซเ่ี หล็ก, พอเนอื้ สกุ แลว กล็ า งดวยนา้ํ ดา งแลว พอกยา เพอ่ื ใหแ ผลงอกเนอ้ื ใหค นไขไ ดค วามสุข โดยลําดับ ดงั น;้ี จะวา หมอนนั้ คดิ รา ย พอกยา เชือดดวยศัสตรา นาบดวยซ่เี หล็ก ลา ง ดว ยนา้ํ ดา ง ไดบ า งหรอื ?\" ร. \"หามไิ ด หมอเขามีจิตคิดเก้ือกลู หวังใหหาย จงึ ทาํ เชน น้ัน.\" ถ. \"ขอถวายพระพร หมอนน้ั จะตอ งอกศุ ลอะไร เพราะทกุ ขเวทนาอนั เกิดขน้ึ แก คนไข ดวยเหตุทาํ การรกั ษาของเขาดว ยหรือ ?\" ร. \"หมอเขามจี ิตเกอ้ื กูลหวังจะใหหาย จงึ ทาํ เชน นน้ั , ไฉนจะตอ งอกศุ ลเพราะขอ น้นั เปน เหตุเลา , เขากลับจะไปสวรรคอีก.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอน้ฉี นั ใด, พระผูมีพระภาคเจา โปรดพระเทวทัตใหบ วช แลว เพ่ือปลดเปลื้องทกุ ขด ว ยกําลงั พระกรณุ า กฉ็ นั นนั้ แล. ขอถวายพระพร ขอพระองคท รงสดบั เหตอุ นื่ อีกอนั ย่งิ กวานี้ ทพี่ ระผมู พี ระภาค เจา โปรดพระเทวทตั ใหบวชแลว . เหมอื นหนง่ึ บุรษุ ผูตอ งหนามเขาแลว , ทนี น้ั บุรษุ อน่ื มี จติ คิดเกือ้ กลู จะใหห าย จงึ เอาหนามแหลมหรอื ปลายมดี กรดี ตัดแผลโดยรอบแลว นาํ หนามนนั้ ออกดว ยทง้ั โลหิตไหล; ขอถวายพระพร บุรษุ ผนู น้ั ช่ือวาคดิ รายจึงนําหนามนนั้ ออกบา งหรือ ?\" ร. \"หามไิ ด เขามจี ิตคดิ เกื้อกลู หวงั จะใหหาย จึงนาํ หนามน้ันออก, ถาเขาไมช วย นําหนามน้นั ออก บางทผี ตู องหนามนนั้ กจ็ ะถึงความตายหรือไดทุกขป างตาย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอ นฉ้ี นั ใด, พระตถาคตเจาโปรดพระเทวทัตใหบวชแลว เพือ่ ปลดเปลอ้ื งทกุ ขด ว ยกาํ ลงั พระกรณุ า, ถาวา พระผมู พี ระภาคเจามไิ ดโ ปรดพระ เทวทัตใหบ วช เธอก็จกั ไหมอยูใ นนรกโดยลาํ ดบั ๆ ขมุ แมต ลอดแสนโกฏิแหง กปั ป ฉนั น้ัน.\" ร. \"พระผเู ปน เจา พระตถาคตเจา ไดช่ือวา ใหพระเทวทตั ผตู กไปตามกระแสขนึ้ สู ทที่ วนกระแสไดแลว , ใหพ ระเทวทัตผูเดินผดิ ทางขน้ึ ในทางไดแ ลว, ไดประทานวัตถุเปน ท่ียดึ เหนย่ี วแกพ ระเทวทตั ผูตกลงในเหวแลว, ใหพ ระเทวทัตผูเดนิ ในทางไมสม่ําเสมอข้ึน สูทางทส่ี มํา่ เสมอไดแลว. พระผูเปน เจา เหตกุ ารณอนั น้ี ผูอน่ื นอกจากผมู ปี ญ ญาเชน ทา น ไมอาจแสดงได. \" ๔. มหาภูมจิ าลนปาตภุ าวปญ หา ๔
พระเจา มิลนิ ท ตรสั วา \"พระผเู ปนเจา นาคเสน พระพทุ ธพจนน ี้ พระผมู ีพระภาค เจา แมตรัสแลว วา 'ภกิ ษุท้ังหลาย เหตุเพอื่ ความปรากฏของความไหวแหงแผน ดนิ ใหญ เหลา นแ้ี ปดอยาง ปจ จยั เพอ่ื ความปรากฏของความไหวแหงแผน ดนิ ใหญแ ปดอยา ง' ดงั น.้ี พระพทุ ธพจนนี้ กลา วเหตปุ จ จัยหาสว นเหลอื มิได พระพทุ ธพจนน ้ี กลา วเหตุ ปจ จัยไมมีสว นเหลอื , พระพทุ ธพจนน ้ี กลา วเหตุปจ จยั โดยตรง ไมมปี รยิ าย, เหตุเพ่อื ความปรากฏของความไหวแหงแผนดนิ ใหญเปนท่ีเกา อันอนื่ ไมม ;ี พระผูเ ปน เจา นาค เสน ถาเหตเุ พอื่ ความปรากฏของความไหวแหงแผน ดินใหญที่เกา อันอน่ื ยงั มไี ซร, พระผู มีพระภาคเจา พงึ ตรสั เหตแุ มน น้ั , กเ็ หตุเพ่ือความปรากฏของความไหวแหง แผน ดนิ ใหญ ที่เกา อนั อนื่ ยอ มไมมี เพราะเหตใุ ดแล, เพราะเหตนุ ้ัน พระผมู ีพระภาคเจา มไิ ดตรัสเหตุ น้ันแลว . ก็แตวา เหตเุ พือ่ ความปรากฏของความไหวของแผนดินใหญท เี่ กานี้ ยงั ปรากฏ อย,ู พระเวสสนั ดรมหากษตั รยิ ทรงบรจิ าคมหาทาน แผน ดนิ ใหญน้ีไหวแลว เจ็ดครั้งดวย เหตุไรเลา พระผูเ ปน เจา นาคเสน. ถาเหตุเพอ่ื ความปรากฏของความไหวแหง แผนดินใหญแปดอยา งเทา นนั้ ปจ จยั เพอ่ื ความปรากฏของความไหวแหง แผนดนิ ใหญ แปดอยา งเทา นัน้ ไซร, ถา อยา งน้นั คําอนั ใดทีว่ า 'เมอื่ พระเวสสนั ดรมหากษตั ริยท รง บริจาคมหาทาน แผนดินใหญน้ี ไหวเจ็ดครัง้ ' คําแมนั้นผดิ . ถาเมอื่ พระเวสสันดรมหา กษัตริยท รงบริจาคมหาทาน แผนดินใหญน ไ้ี หวเจ็ดครัง้ แลว ไซร, ถา อยา งน้ัน คาํ ทวี่ า 'เหตเุ พื่อความปรากฏของความไหวแหง แผน ดินแปดอยา งเทา นน้ั ปจจยั เพือ่ ความ ปรากฏของความไหวแหง แผน ดนิ แปดอยา งเทา นน้ั 'แมคํานน้ั ก็ผดิ . ปญหาแมน ีส้ อง เง่อื น เปน ปญหาละเอยี ด ใคร ๆ แกยาก ทาํ บคุ คลใหม ดื มนธด งั บคุ คลตาบอดดว ย ลกึ ดวย, ปญ หานน้ั มาถึงพระผูเปนเจาแลว , ปญหาน้นั ผอู นื่ ทม่ี ีปญ ญานอ ย นอกจาก บุคคลผมู คี วามรูเชน พระผเู ปน เจา ไมอาจเพื่อจะวิสชั นาได.\" พระเถรเจา ถวายพระพรวา \"ขอถวายพระพร พระพุทธพจนน พ้ี ระผมู พี ระภาค เจา แมไ ดต รสั แลววา 'ภิกษุท้งั หลาย เหตปุ จ จัยทงั้ หลายเพ่ือความปรากฏของความไหว แหงแผน ดนิ ใหญเหลา นี้ แปดอยา ง ๆ' ดังน.้ี แมเ มือ่ พระเวสสนั ดรมหากษัตริยท รง บรจิ าคมหาทานอยู แผน ในใหญนี้ ไหวแลว เจ็ดครง้ั . ก็แลการทแี่ ผน ดนิ ใหญไ หวนนั้ ไม เปนไปดินกาลทุกเมือ่ มีความเกิดขึน้ ในกาลบางคราว, พน แลวจากเหตทุ ้ังหลายแปด อยา ง, เพราะเหตุนน้ั ทานจึงไมนบั แลวโดยเหตุทง้ั หลายแปด. ขอถวายพระพร เมฆท้ังหลายสามอยา ง คือ: เมฆช่ือวัสสกิ ะหนึ่ง เมฆชอ่ื เหมนั ตกิ ะหนึ่ง เมฆชือ่ ปาวุสสกะหนง่ึ เทา นนั้ ทา นยอ มนบั วาเมฆ, ถาเมฆอนื่ พน จากเมฆ ทงั้ หลายท่ีสมมติแลว , เมฆนั้น ยอ มถงซง่ึ ความนบั วา อกาลเมฆเทา นน้ั ฉนั ใด; สมัยเม่อื
พระเวสสนั ดรมหากษตั ริยท รงบรจิ าคมหาทานอยู แผน ดนิ ใหญน ไ้ี หวแลว เจ็ดคร้งั ดว ย เหตอุ ันใดเหตนุ น้ั ไมม ีในกาลทุกเมือ่ มีความเกิดข้ึนในกาลบางคราว, พนจากเหตุ ทัง้ หลายแปดอยา ง, เหตุนน้ั ทา นจงึ ไมนับโดยเหตทุ ง้ั หลายแปดอยา ง ฉันนน้ั นนั่ เทยี ว. ขอถวายพระพร อีกนยั หนง่ึ เหมอื นแมน ้าํ หา รอ ย ไหลมาแตภูเขาชื่อหมิ วนั ต, แมนํ้าหารอ ยเหลา น้ัน แมน า้ํ ทงั้ สิบเทานน้ั ทา นยอ มนบั โดยอันนับวา แมนํ้า, แมน ํา้ ทงั้ สบิ นอี้ ยา งไร แมนํ้าทัง้ สิบน้ี คือ แมน้ําคงคาหนง่ึ แมน าํ้ ยมุนาหนึง่ แมนาํ้ อจริ วดีหนึ่ง แมนํ้าสรภหู นง่ึ แมน ํา้ มหหี นงึ่ แมน ํา้ สนิ ธหุ นึ่ง แมน า้ํ สรสั สดหี นง่ึ แมน ํา้ เวตรวดีหนงึ่ แมน าํ้ วีตังสาหนงึ่ แมน ้าํ จนั ทภาคาหนง่ึ แมน ํ้าทงั้ สิบเหลานี้ ทา นนับวา แมนา้ํ แท, แมนาํ้ ท้ังหลายเศษนอกนน้ั ทา นไมนบั โดยอนั นบั ในแมนา้ํ , ความนบั น้นั มีอะไรเปนเหต?ุ แมนํ้าทั้งหลายเทา นนั้ ไมเปน แดนเกดิ แหง น้าํ เพราะเหตนุ ัน้ ทา นจงึ นับโดยอนั นบั รวม ลงในแมน ้าํ ใหญ แมฉ นั ใด สมัยเม่ือพระเวสสนั ดรมหากษตั รยิ ทรงบาํ เพญ็ มหาทานอยู แผน ดนิ ใหญน ไ้ี หวแลว เจ็ดครง้ั ดว ยเหตใุ ด เหตนุ ้ัน ทา นไมน ับโดยเหตทุ ้ังหลายแปด อยา ง ฉันนน้ั . ขอถวายพระพร อกี อยา งหนงึ่ เหมือนอมาตยทง้ั หลายของมหากษัตริยมีอยู รอ ยหนง่ึ บาง สองรอยบา ง, อมาตยท งั้ หลายเหลา นัน้ ชนทั้งหลายหกคน ทา นยอมนบั โดยอันนับวา อมาตย, ชนทง้ั หลายหกคนนี้ อยา งไร ชนทัง้ หลายหกคนน้ี คือ เสนาบดี หนงึ่ ปโุ รหิตหนงึ่ อกั ขทสั สะ ผูพพิ ากษาหน่ึง ภณั ฑาคารกิ ะชาวพระคลงั หนงึ่ ฉตั ตคาห กะผเู ชญิ พระกลดหนงึ่ ขคั คคาหกะผเู ชญิ พระแสงหนงึ่ ชนหกคนเหลา นี้เทา นนั้ ทา นนับ โดยอันนบั วา อมาตยแท, ขอซึ่งนบั มอี ะไรเปนเหตเุ ลา ? ขอซึง่ นับนัน้ เพราะความท่ชี น ท้งั หกน้นั เปน ผปู ระกอบดวยคุณตอพระมหากษัตริย, ชนทง้ั หลายเหลอื นน้ั ทา นมไิ ดนบั แลว, ชนทัง้ หลายเหลา นนั้ ยอ มถงึ ซงึ่ ความกลา วรวมลงวา อมาตยท ั้งสนิ้ นน่ั เทยี ว ฉนั ใด, เมื่อพระเวสสนั ดรมหากษตั รยิ ทรงบาํ เพ็ญมหาทานอยู แผนดนิ ใหญน้ี ไหวแลวเจด็ ครง้ั ดวยเหตใุ ด เหตุนนั้ ไมม ีมใี นกาลทกุ เมือ่ มคี วามเกดิ ขึ้นในกาลบางคราว, พน จากเหตุ ท้ังหลายแปดอยา ง, เหตนุ นั้ ทา นจงึ ไมน ับโดยเหตแุ ปดอยา ง ฉันนน้ั นนั่ แหละ. ขอถวายพระพร กรรมเปน ท่ตี งั้ แหง ความเสวยสุขในทิฏฐธรรมเปนเหตุยิง่ อนั บคุ คลกระทาํ แลว ในศาสนา แหง พระพทุ ธเจาผูชนะมารท้ังปวงแลว ณ กาลน,ี้ อนึ่ง เกียรตศิ ัพทความสรรเสริญคณุ ของบุคคลท้งั หลายเหลาไร ฟงุ ทวั่ ไปในเทพดาและ มนุษยท ง้ั หลาย, บรมบพิตรไดทรงฟง บางหรือไม ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระผูเปน เจา ขาพเจา ไดย นิ อยู กรรมเปนที่ตงั้ แหง ความเสวยสุขในทฏิ ฐ ธรรม เปน เหตยุ ่งิ อันบุคคลกระทําแลว ในชนิ ศาสนา ณ กาลน,ี้ ท้ังเกยี รติศพั ทความ
สรรเสรญิ คุณของบุคคลทงั้ หลายเหลา ไรฟงุ ทั่วไปในเทพดาและมนษุ ยท ้งั หลาย, บคุ คล ทงั้ หลายเหลา นนั้ เจ็ดคนขาพเจาเคยไดย ินมา.\" ถ. \"ใครบาง ใครบา ง ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระผูเ ปน เจา บคุ คลทง้ั เจด็ คือ นายมาลาการช่ือสุมนะหนงึ่ พราหมณช่อื เอกสาฎก หนงึ่ ลกู จา งช่ือปณุ ณะ หน่ึง เทวีชื่อ มลั ลกิ า หนง่ึ เทวโี คปาลมารดา หนงึ่ อุบาสิกาช่อื สปุ ปยา หน่งึ นางทาสชี ือ่ ปณุ ณา หนึ่ง ชนเหลา นเ้ี ปน ผทู ีม่ กี ศุ ลเปน ทตี่ ง้ั แหง ความเสวยสขุ ในทิฏฐธรรม, อนึ่ง เกยี รตคิ วามสรรเสริญคุณของชนท้งั หลายเหลา นี้ ฟุง ท่วั ไปในเทพดาและมนษุ ยท ้ังหลาย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ชนทงั้ หลายแมอ่ืนอกี บรมบพติ รไดท รงฟง หรอื ไมว า ใน กาลลว งแลว ชนทงั้ หลายไปสพู ิภพชอ่ื ตรที ศทง้ั สรรี กายเปนของแหง มนุษยน นั่ เทยี ว.\" ร. \"ขา พเจา ไดยนิ อย.ู \" ถ. \"ใครบาง ใครบา ง ไปสูพภิ พชอ่ื ตรีทศทง้ั สรีรกายเปน ของแหงมนษุ ย ขอ ถวายพระพร.\" ร. \"ชนทงั้ หลายสี่ คือ คนธรรพราชนามวา คตุ ติลาหนงึ่ พระมหากษัตริยท รงพระ นามวา สาธนี ราช หนงึ่ พระมหากษัตรยิ ท รงพระนามวานมิ ิราชหนง่ึ พระมหากษตั รยิ ทรงพระนามวา มนั ธาตรุ าชหน่งึ เหลา นขี้ า พเจา ไดยนิ มาวา 'ไปสพู ิภพชื่อตรีทศแลว ทั้ง สรีรกายเปน ของแหงมนษุ ยน ัน้ นน่ั เทยี ว,' พระผูเปน เจา กรรมอนั บคุ คลนั้นกระทาํ แลว ขาพเจา ไดฟ ง มาแมส น้ิ กาลนมนานวา 'เปน กรรมดี ไมใชก รรมชั่ว.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ก็บรมบพติ รเคยไดท รงฟง แลว หรือวา 'ในกาลยดื ยาวที่ลวง แลว หรือในกาลซ่งึ เปน ไปอยู ณ บัดน้ี ครนั้ เมื่อทานของบคุ คลผูมีชอ่ื อยางนี้ อนั บคุ คล น้นั ใหอยู แผน ดินใหญไหวแลวคราวหนง่ึ บา ง สองคราวบา ง สามคราวบาง.\" ร. \"ขา พเจา ไมเ คยไดฟงเลย พระผูเ ปน เจา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร นกิ ายเปน ทม่ี า และมรรคผล ปรยิ ตั ติ และการฟง และ กําลงั แหง ความศึกษา และความปรารถนาจะฟง และปรปิ จุ ฉา และความเขา ไปนง่ั ใกล อาจารยข องอาตมภาพมีอย,ู แมอ าตมภาพไมเ คยไดฟงวา 'คร้นั เม่ือทานของบุคคี ลผูมี ชอื่ อยางน้ี อนั บุคคลนั้นใหอ ยู แผนดนิ ใหญไหวแลว คราวหนงึ่ บา ง สองคราวบา ง สาม คราวบาง' ดงั น,ี้ ยกเวนทานอันประเสรฐิ ของพระเวสสันดรบรมกษัตรยิ เ สยี . ขอถวายพระพร โกฏแิ หง ปท ัง้ หลายเปนไปลวงแลว ซงึ่ คลองแหง การนบั ลวงไป แลวในระหวางแหงพระพทุ ธเจา สองพระองค คือ พระผมู ีพระภาคเจา ทรงพระนาม วา กัสสปหนึ่ง พระผมู พี ระภาคเจาทรงพระนามวา สกั ยมุนีหนง่ึ . การไดฟงของอาตม ภาพในโกฏิแหง ปท ั้งหลายนัน้ ไมมวี า 'ครั้นเม่ือทานของบุคคลผมู ีชอื่ อยางน้ี อนั บคุ คล
นั้นใหอ ยู แผน ดินใหญไ หวแลว คราวหน่งึ บา ง สองคราวบาง สามคราวบาง.' แผน ดินใหญซงึ่ จะหวนั่ ไหว ดว ยความเพยี รประมาณเทา น้นั ดว ยความบากบน่ั ประมาณเทา น้นั หามไิ ด. ขอถวายพระพร แผนดนิ ใหญเต็มแลว ดว ยภาระ คือ คณุ แหงความกระทําซงึ่ ความเปน ผูสะอาดโดยอาการทงั้ ปวง ไมอ าจเพอื่ จะทรงคณุ นัน้ ไวได ยอมเขยื้อน สะเทอื นหวน่ั ไหว. อุปมาเหมอื นเกวยี นทีเ่ ตม็ ดว ยภาระหนกั เกนิ ดุมและกงท้ังหลายของ เกวียนน้ันยอ มแยกเพลาของเกวยี นนนั้ ยอมแตก ฉันใด, แผนดินใหญเ ต็มแลว ดว ย ภาระ คอื คณุ แหง ความกระทําซง่ึ ความเปน ผูส ะอาดโดยท้ังปวง เม่อื ไมอ าจเพ่ือจะทรง ภาระ คือ คณุ นน้ั ไวไ ด ยอมเขยือ้ นสะเทือนหวนั่ ไหวมีอุปไมยฉนั นน้ั นนั่ เทียวแล. ขอถวายพระพร อกี นยั หนง่ึ อากาศดาดไปดว ยเร่ียวแรงแหง ลมและน้ํา เตม็ แลวดวยภาระ คือ นาํ้ หนาขน้ึ แลว ยอมบนั ลือลนั่ กระทาํ เสยี งครนื ครัน เพราะความท่ี อากาศน้นั เปน ของอันลมกลา ถูกตองแลว ฉนั ใด, แผน ดินใหญเ ตม็ ไปแลว ดวยภาระอนั หนาขึ้น ไพบลู ยคอื กําลงั แหง ทานของพระมหากษัตริยท รงพระนามวา เวสสันดร ไมอาจ เพ่ือจะทรงภาระน้นั ไวได ยอมเขยื้อนสะเทอื นหว่ันไหว ฉนั นน้ั นนั่ เทยี วแล. ก็จติ ของ พระมหากษัตรยิ ท รงพระนามวา เวสสนั ดร ยอมไมเปน ไปดว ยอาํ นาจแหง ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทฏิ ฐิ กิเลส และวิตกยอมไมเปน ไปดว ยอํานาจแหง อรต,ิ จติ นั้นยอ ม เปนไปโดยอํานาจแหงทานโดยแทแล; จิตนน้ั เปน ไปโดยอํานาจแหง ทานวา กะไร ? พระมหากษตั รยิ ทรงพระนามวาเวสสันดรนน้ั ทรงตัง้ พระหฤทัยไวใหเ ปน เจาแหง ทาน เนือง ๆ เปน ไปในกาลทุกเมอ่ื วา 'ยาจกทงั้ หลายทย่ี งั ไมม าแลว พงึ มาในสาํ นกั ของเรา สว นยากจกทง้ั หลายทมี่ าแลว พงึ ไดต ามความปรารถนา แลว มีใจยนิ ดีเตม็ ไปดวยปต,ิ ดงั นี้ พระมหากษัตริยท รงพระนามวา เวสสนั ดร ทรงตง้ั พระหฤทัยไวเนอื ง ๆ เปน ไปใน กาลทกุ เมื่อในทีท่ ง้ั หลายสิบ คอื : ในความทรมานหน่ึง ในความระงับหน่งึ ในความทน หนง่ึ ในความระวงั หนงึ่ ในความสาํ รวมหนง่ึ ในความสํารวมโดยไมเหลอื หนง่ึ ในความ ไมโกรธหนงึ่ ในความไมเบยี ดเบยี นหนง่ึ ในสัจจะหนง่ึ ในโสเจยยะความเปน ผสู ะอาด หนงึ่ . ความแสวงหากามอนั พระเวสสนั ดรมหากษัตรยิ ล ะแลว, ความแสวงหาภพของ พระองคส งบรามแลว, พระองคถ ึงแลวซงึ่ ความขวนขวายในการแสวงหาพรหมจรรย ถายเดียว. พระองคล ะความรกั ษาตน ถงึ แลวซ่ึงความขวนขวายเพอ่ื ความรกั ษาผอู น่ื ; พระองคถ งึ ซง่ึ ความขวนขวาย เพื่อความรกั ษาผูอน่ื วากระไร? ความขวนขวายในพระ หฤทยั ของพระองควา 'สตั วทัง้ หลายเหลา น้ี พงึ เปน ผพู รอ มเพรียงกนั เปนผไู มมีโรค เปน ผเู ปน ไปดว ยทรพั ย เปน ผมู อี ายยุ นื เถดิ ' ดงั น้ี ยอ มเปน ไปมากถา ยเดยี ว. พระเวสสนั ดร มหากษัตรยิ กเ็ มอื่ ทรงบรจิ าคทานนน้ั บรจิ าคเพราะปรารถนาภวสมบตั กิ ห็ าไม, จะ
บรจิ าคเพราะเหตปุ รารถนาจะใหเ ขาใหต นบา ง และปรารถนาจะใหตอบแกเ ขา และ ปรารถนาจะเกลย้ี กลอมเขาก็หาไม, จะบรจิ าคเพราะเหตุปรารถนาอายุ พรรณ สขุ กําลงั ยศ และบตุ รและธิดาละอยา ง ๆ ก็หาไม, พระองคไ ดใ หแลว ซึง่ ทานนา เลือกสรร ทั้งหลายไมมที านอ่ืนเสมอ และเปนทานไพบลู ย ไมม ีทานอืน่ ยงิ่ กวาเหน็ ปานฉะน้ี เพราะเหตแุ หง สพั พญั ตุ ญาณ คือ เพราะเหตแุ หงรัตนะ คือ สัพพญั ตุ ญาณ. คร้นั พระองคบรรลคุ วามเปน พระสพั พญั ูแลว ไดทรงภาสิตพระคาถาน้ี มเี น้อื ความวา \"เรา เมือ่ สละบตุ รช่อื ชาลี และธดิ า ชื่อ กณั หาชนิ า และเทวชี อ่ื มัทรี มคี วามประพฤติดใี น ภสั ดา มไิ ดเสียดายแลว, เราคดิ แตเหตแุ หง ปญญาเครือ่ งตรัสรูถ า ยเดยี ว\" ดงั น.ี้ พระ เวสสันดร มหากษัตรยิ ท รงชนะบคุ คลผูโกรธ ดว ยความไมโ กรธ, ชนะบคุ คลผไู มย งั ประโยชนใหส าํ เร็จ ดว ยการกระทําประโยชนใหส าํ เรจ็ , ชนะบุคคลผตู ระหนี่ ดวยทาน การบริจาค, ชนะบุคคลกลา วคําเหลาะแหละ ดว ยคาํ จรงิ , ชนะอกุศลท้งั ปวง ดวยกศุ ล, เม่ือพระเวสสนั ดร นนั้ บรจิ าคอยอู ยา งนนั้ ไปตามธรรมแลว มธี รรมเปน ประธานดว ยนสิ สนั ทผลแหง ทาน และความเพียรมกี าํ ลัง และวหิ ารธรรมเครื่องอยไู พบลู ยข องพระองค, ลมใหญท ง้ั หลายในภายใตแ ผน ดนิ ยอมเขยอ้ื นกระจาย ๆ พัดไปนอ ย ๆ คราวหน่ึง ๆ นอมลงฟขู ้นึ นอ มไปตา ง ๆ, ตนไมทง้ั หลายมใี บสลดแลวลม ไป, วลาหกท้ังหลายเปน กลุม ๆ แลนไปในอากาศ, ลมทงั้ หลายเจือดว ยธุลเี ปน ของหยาบ, อากาศอันลม ทัง้ หลายเบยี ดเสยี ดแลว , ลมทงั้ หลายยอมพัดเปา ไป ๆ, เสยี งนา กลวั ใหญเปลง ออก, คร้ันเมอื่ ลมทง้ั หลายเหลา นน้ั กําเริบแลว นาํ้ กระเพ่อื มนอ ย ๆ, คร้ันเมื่อนา้ํ กระเพอื่ มแลว ปลาและเตา ทงั้ หลายยอมกาํ เริบ, คลืน่ ทง้ั หลายเปน คู ๆ กนั เกิดขน้ึ , สตั วทั้งหลายที่ สญั จรในนา้ํ ยอ มสะดงุ , ละลอกแหง นาํ้ เนอื่ งเปนคกู นั ไป, เสียงบนั ลือแหง ละลอกยอม เปนไป, ตอ มนาํ้ ทงั้ หลายอนั หยาบตง้ั ข้นึ , ระเบียบแหง ฟองทง้ั หลายยอมแลนไป, มหาสมทุ รยอ มขน้ึ , นาํ้ ยอ มไหลไปสทู ศิ และทศิ เฉียง, ธารแหง นา้ํ ทงั้ หลายมหี นา เฉพาะ ทวนกระแสไหลไป, อสูร ครุฑ นาค ยักษท ง้ั หลายสะดงุ หวาดดว ยคดิ วา 'สาครพลิกหรอื อยางไรหนอแล' มีจติ กลวั แลว แสวงหาทางไป, ครั้นเมอื่ ธารแหงนาํ้ กําเริบขนุ มัวแลว แผน ดินทงั้ ภูเขาทงั้ สาครหวั่นไหว, ภเู ขาสเิ นรมุ ยี อดและชะงอนเปน วกิ ารแหง ศิลาเปน ของนอ มไปตาง ๆ, คร้ันเม่ือแผน ดนิ ใหญห วน่ั ไหวอยู งูและพังพอนและแมวและสนุ ขั จ้งิ จอก สกุ ร มฤค และนกทง้ั หลายยอ มตกใจ, เหลายกั ษท ่ีมศี กั ดานอยรองไห, ยักษ ท้ังหลายท่มี ศี กั ดาใหญ ยอมหวั เราะ. มอี ปุ มาวา เม่ือกะทะใหญตง้ั อยูบนเตาแลว เตม็ แลว ดวยนาํ้ มขี า วสารอันบคุ คลรวบรวมลงแลว ไฟโพลงอยูข า งใต คราวแรกกระทาํ กะทะใหร อ นกอ น, กะทะรอ นแลวกระทาํ นา้ํ ใหร อน, น้าํ รอ นแลว กระทําขา วสารใหรอ น, ขาวสารรอนแลว ผดุ ขน้ึ และจมลง, มีตอมเกดิ ขนึ้ แลว, ระเบยี บแหง ฟองผุดขน้ึ ฉนั ใด;
พระมหากษัตรยิ ท รงพระนามวา เวสสันดร ส่ิงใดทีบ่ ุคคลสละโดยยากในโลก ทรงสละส่งิ น้นั , ครั้นเม่อื พระองคทรงสละของพระองคน ั้น ลมใหญท ัง้ หลายในภายใต ไมอาจเพอื่ จะทรงคณุ คอื ความสละนนั้ ไวไ ด กาํ เริบแลว, ครน้ั เม่อื ลมใหญทง้ั หลายกําเรบิ แลว นา้ํ ก็ไหว, ครั้นเมอื่ น้ําไหวแลว แผนดนิ ใหญก ไ็ หว ฉนั นน้ั นน่ั เทยี วแล. ของสามอยาง คอื ลมใหญดวย น้ําดวย แผน ดินดวยเหลานี้ เปน ของดุจมีใจเปนอนั เดยี วกัน แมในกาลนน้ั ดวยประการ ฉะน,้ี อานภุ าพแหงทานของบคุ คลอื่นซึง่ จะเหมือนอานภุ าพแหง มหาทาน ของพระเวสสนั ดรมหากษัตริย โดยนสิ สนั ทผลแหง มหาทาน โดยความเพยี รมกี าํ ลงั ไพบูลยเ ชน น้ี ไมม.ี อนึ่ง แกวท้ังหลายมากอยา งซ่งึ มใี นแผน ดนิ , แกวมากอยา งนี้อยา งไร แกวมาก อยางนี้ คอื แกว อนิ ทนิล แลว มหานลิ แกวโชตริ ส แกวไพฑรู ย แกว ดอกผกั ตบ แกว สี ดอกไมซ กึ แกว มโนหร แกว สรุ ิยกานต แกว จนั ทรกานต แกว วิเชยี ร แกว กโชปก กมกะ แก วปสุ ราค แกว ทับทมิ แกว ลาย, แกว จกั รวัตติ อนั โลกยอมกลา ววา เปน ยอด กา วลว งเสยี ซ่ึงแกว ทั้งปวงเหลาน,ี้ แกวจกั รวตั ติ ยงั ที่ใหสวา งลงตลอดโยชนห นง่ึ โดยรอบ ฉนั ใด; ทานอันใดอันหนงึ่ แมอสทิสทานเปน อยา งย่ิง มีอยใู นแผน ดิน, มหาทานของพระ เวสสันดรมหากษัตริย บัณฑติ ยอมกลาววา เปนยอดทาน กา วลว งทานทงั้ ปวงนนั้ เสยี ฉนั นนั้ นนั่ เทียวแล. ครัน้ เมือ่ มหาทานของพระเวสสนั ดรมหากษตั ริย อนั พระองคบ ริจาค อยู แผนดนิ ใหญไ หวแลวเจดครง้ั .\" ร. \"พระผูเปน เจา พระตถาคตเมอ่ื ยงั เปน พระโพธสิ ตั ว เปน ผูมขี ันติความอดทน อยางน้ี มีจิตอยางนี้ มีความนอมไปเพื่อคณุ อันยงิ่ อยา งน้ี มคี วามประสงคอยางนี้ ไมมี ใครเสมอทง้ั โลกดวยเหตใุ ด, เหตนุ น้ั ของพระพุทธเจาทั้งหลายนา อัศจรรย เหตนุ น้ั ของ พระพทุ ธเจา ทง้ั หลายนา พิศวง ไมเ คยเปน มาเปน แลว . พระผเู ปนเจา ความพยายาม กาวไปสคู ณุ ยงิ่ ของพระโพธสิ ตั วท ้ังหลาย พระผูเปนเจา ใหข า พเจาเหน็ แลว, อนง่ึ พระ บารมขี องพระพุทธเจาผูชนะแลว พระผเู ปน เจา ใหสวา งลงโดยยงิ่ แลว, ความทพี่ ระ ตถาคต แมเ มอ่ื ประพฤตจิ รยิ าเทา น้นั ยงั เปน ผูประเสริฐสดุ ในโลกกับทง้ั เทพดา พระผู เปนเจา มาแสดง โดยลาํ ดบั แลว; ดีละ พระผเู ปนเจา ศาสนาของพระพทุ ธเจา ผูชนะแลว พระผเู ปนเจาชมแลว, พระบารมขี องพระพทุ ธเจาผูช นะแลว พระผูเ ปน เจา ใหร ุงเรอื ง แลว, ขอดแหงวาทะของเดียรถยี ทง้ั หลาย พระผเู ปน เจา ตัดเสียแลว , หมอแหง ปรปั ปวา ทความติเตยี นทงั้ หลาย พระผเู ปนเจา ตอยเสียแลว , ปญ หาลึก พระผูเปน เจา มากระทาํ ใหต น้ื ไดแ ลว, ชฏั รกพระผเู ปน เจา มากระทาํ ไมใหเปน ชฏั ไดแลว , คําเครอ่ื งขยายออกอนั พระชนิ บตุ รทงั้ หลายไดแ ลว โดยชอบ, พระผเู ปนเจา ผูป ระเสรฐิ กวา คณาจารยท ป่ี ระเสรฐิ ขอ วสิ ัชนาของพระผเู ปน เจาน้ัน สมอยา งนน้ั , ขาพเจายอมรับอยา งนนั้ .\"
๕. สวิ ริ าชจกั ขทุ านปญหาที่ ๕ ร. \"พระผูเปน เจา ทานทงั้ หลายกลา วแลวอยา งนีว้ า 'จกั ษทุ ง้ั หลายอนั พระเจา สิ วริ าชไดพระราชทานแลวแกย าจก, ทพิ ยจกั ษทุ งั้ หลายเกดิ ขึ้นแลว ใหมแ กพระเจาสวิ ริ าช นัน้ เม่อื เปน บคุ คลบอด.' คาํ แมนัน้ กับทงั้ กากเปน ไปดว ยนคิ คหะ เปน ไปกับดวยโทษ. คาํ ทา นกลา วไวแ ลวในสตู รวา 'ความเกิดขน้ึ แหงทพิ ยจักษุ ไมมีในสงิ่ ทมี่ ใิ ชว ตั ถมุ เี หตอุ ัน ถอนขน้ึ มิไดม เี หต.ุ ' ถา จกั ษทุ ัง้ หลายอนั พระเจา สิวิราชไดพระราชทานแลวแกยาจก, ถา อยางนนั้ คําทว่ี า 'ทพิ ยจกั ษทุ งั้ หลายเกดิ ขนึ้ แลว ใหม' นน้ั ผดิ . ถา ทพิ ยจกั ษุทง้ั หลาย เกิดขึน้ แลว ไซร, ถา อยางนนั้ แมคําทว่ี า 'จกั ษทุ งั้ หลายอนั พระเจา สวิ ิราชพระราชทาน แลวแกยาจก' น้ันกผ็ ิด. ปญหาแมน ้ี มเี งือ่ นสอง มีขอดยง่ิ แมก วา ขอดโดยปกติ, มคี วาม ฟนเฝอ ยง่ิ แมก วาฟน เฝอโดยปกติ, เปนชัฏยงิ่ แมวา ชัฏโดยปกต,ิ ปญ หานนั้ มาถึงพระผู เปน เจา แลว , พระผูเปนเจา จงยงั ฉนั ทะใหเ กิดยิ่งในปญหาน้นั เพอื่ ความขยาย เพื่อ ความขม ปรัปปวาททง้ั หลายเสีย.\" ถ. \"ขอถวายพระพร จกั ษุทง้ั หลายอนั พระเจาสวิ ริ าชพระราชทานแลวแกย าจก, พระองคอยา ยงั ความสงสัยใหเ กิดขนึ้ ในขอน้นั เลย; อน่ึง จกั ษทุ งั้ หลายเปน ทพิ ยเ กดิ ขึ้น แลวใหม, พระองคอยายงั ความสงสยั ใหเกดิ ในขอแมน้ัน.\" ร. \"เออก็ ความเกิดขึน้ แหง ทพิ ยจกั ษุ ในส่งิ ทม่ี เี หตอุ ันถอนข้ึนแลว ในสง่ิ ทไี่ มม ี เหตุ ไมม วี ัตถหุ รือ พระผเู ปน เจา .\" ถ. \"หามไิ ด ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระผูเ ปน เจา สง่ิ ไรเปนเหตุในเรอื่ งนีเ้ ลา ทิพยจักษจุ ะเกิดขน้ึ ในสงิ่ มเี หตุอนั ถอนขึน้ แลว ไมม เี หตุ ไมมีวตั ถุ ดวยเหตไุ รเลา ? พระผเู ปน เจาจงใหขาพเจาทราบชดั ใน เร่อื งนโ้ี ดยเหตกุ อ น.\" ถ. \"ขอถวายพระพร บคุ คลผกู ลา วคาํ จรงิ ทงั้ หลาย ยอ มกระทาํ สจั จกริ ยิ าดว ย คาํ สตั ยใ ด คําสตั ยน ัน้ มีอยใู นโลกหรือไม ขอถวายพระพร.\" ร. \"มีซิ พระผเู ปนเจา ธรรมดาคําสตั ยยอ มมีในโลก, ผกู ลา วคําสัตยท งั้ หลาย ทาํ สัจจกิริยาดวยคาํ สัตยใ หฝนตก ใหไฟดบั กําจัดยาพษิ ยอ มกระทาํ กจิ ท่จี ะพงึ กระทาํ ตา ง ๆ แมอยา งอ่ืนบาง.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยา งนน้ั คําทวี่ า 'ทพิ ยจกั ษทุ ง้ั หลายเกิดขน้ึ แลว แดพ ระ เจาสิวริ าชดวยกําลงั สัจจะ' น้ี ยอ มชอบ ยอ มสม, ทพิ ยจกั ษุยอมเกดิ ขึ้นในสง่ิ ไมมีวัตถุ
น้ัน ดว ยกาํ ลงั แหงสจั จะ, สัจจะนน่ั เทยี ว เปน วัตถุเพื่อความเกิดทพิ ยจกั ษุ ในสง่ิ ทไี่ มม ี วัตถนุ น้ั . ขอถวายพระพร ผูสําเร็จสัจจเหลา ใดเหลา หนง่ึ พร่ําขบั คาํ สัตวว า 'เมฆใหญจง ใหฝ นตก' ดังน,้ี เมฆใหญใหฝนตกพรอ มดว ยความพรํา่ ขบั คาํ สัตยข องผูสาํ เร็จสจั จะ เหลา นน้ั ; เออก็ มหาเมฆใหฝ นตกดวยเหตใุ ด เหตนุ น้ั เปนเหตแุ หงฝนสะสมอยแู ลว มี ในอากาศหรอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"หามิได สัจจะนน่ั เทยี วเปน เหตุ ณ อากาศนัน้ เพื่อความทม่ี หาเมฆจะกระทาํ ฝนใหตก พระผูเปน เจา .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอนนั้ ฉนั ใด, เหตโุ ดยปกตขิ องความทท่ี พิ ยจักษุจะเกดิ ขน้ึ นั้นไมม ,ี สัจจะนั่นเทยี ว เปน วตั ถุเพ่ือความท่ที พิ ยจกั ษเุ กิดขนึ้ ในสงิ่ ทีไ่ มมีวตั ถุ กฉ็ นั นนั้ น่นั เทยี วแล. ขอถวายพระพร อีกอยา งหนึ่ง ผสู ําเร็จสจั จะพวกใดพวกหนงึ่ พร่าํ ขบั คาํ สัตย ดวยต้งั ใจวา 'กองไฟใหญท่ีโพลงชัชวาลอยแู ลว จงกลับคนื ดับไป' ดงั น,้ี กองไฟใหญท ี่ โพลงชชั วาลแลว กลบั คนื ดบั ไปโดยขณะหนง่ึ พรอ มดว ยความพร่าํ ขบั คาํ สตั ยของ ผสู าํ เรจ็ สจั จะเหลานั้น, เออก็ กองไฟใหญท โี่ พลงชชั วาลแลวกลบั คืนดับไปโดย ขณะหนงึ่ โดยเหตุใด เหตนุ น้ั เปน เหตสุ ะสมอยูใ นกองไฟใหญท่โี พลงชชั วาลแลวนน้ั มี อยูหรอื ขอถวายพระ.\" ร. \"หามิได สจั จะนนั่ เทยี ว เปน วตั ถใุ นสง่ิ ทไี่ มมีวตั ถุ เพอ่ื ความท่ีกองไฟใหญ โพลงชชั วาลแลว นนั้ จะกลบั คืนดบั ไป.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอนน้ั ฉนั ใด, เหตโุ ดยปกตขิ องความท่ีทพิ ยจกั ษจุ ะเกดิ ขึน้ นน้ั ไมม,ี สจั จะน่ันเทย่ี วเปน วัตถุในทีไ่ มมวี ตั ถุ เพอ่ื ความที่ทพิ ยจกั ษจุ ะเกดิ ข้นึ ฉนั นนั้ น่ัน เท่ียวแล. ขอถวายพระพร อีกอยา งหน่ึง ผสู ําเร็จสัจจะเหลา ใดเหลา หน่ึง พราํ่ ขบั คาํ สัตย ดว ยตงั้ ใจวา 'พิษแรงกลา จงกลายเปน ยาไป,' พิษแรงกลา กลายเปน ยาไปโดยขณะหนง่ึ พรอมดว ยความพราํ่ ขับคาํ สัตยข องผสู ําเรจ็ สัจจะเหลา น้นั , เออก็ พิษอนั แรงกลา กลายเปน ยาไปโดยขณะหนงึ่ ดว ยเหตุอันใด เหตุนนั้ เปน เหตสุ ะสมในพษิ อันแรงกลา นั้น มอี ยหู รอื ขอถวายพระพร.\" ร. \"หามไิ ด พระผูเปน เจา สจั จะนนั่ เทยี ว เปน เหตใุ นส่ิงที่ไมมีเหตนุ ั้น เพอื่ ความ กําจดั คนื พษิ แรงกลา โดยขณะ.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอ น้ีฉนั ใดล สัจจะนน่ั เทียว เวนเหตุโดยปกติ เปน วตั ถใุ น ขอน้ี เพื่อความทที่ พิ ยจกั ษจุ ะเกดิ ขนึ้ ฉนั นน้ั โดยแท.
ขอถวายพระพร วัตถุอนื่ เพอื่ ความแทงตลอดอรยิ สจั จะทง้ั หลาย แมส ไ่ี มม,ี การกบคุ คลทง้ั หลาย กระทาํ สัจจะใหเปนวตั ถุ แทงตลอดตรสั รอู รยิ สจั จะทงั้ หลายส่ี ประการ. ขอถวายพระพร มพี ระเจาจนี ราชอยูใ นจนี วสิ ัย พระองคใ ครจะทรงกระทาํ พลี กรรมในทะเลใหญ ทรงกระทาํ สัจจะกิริยาแลวเสด็จเขา ไปในภายในมหาสมุทรโยชน หนงึ่ โดยรถเทยี มแลวดวยราชสีหส ีเ่ ดือนเสด็จครัง้ หนง่ึ ๆ, หว งแหง นํา้ ใหญข า งหนา แหง ศรี ษะรถของพระเจา จนี ราชนน้ั เทอกลบั , เมือ่ พระองคเ สด็จออกแลว หว งแหง มหาวารี ทว มเตม็ ท่ีดงั เกา , เออก็ มหาสมทุ รนนั้ อันโลกแมกับทั้งเทพดาและมนษุ ยอาจใหเ ทอ กลับไดห รือ ขอถวายพระ.\" ร. \"นา้ํ ในสระนอ ย ๆ อนั โลกแมทั้งเทพดาและมนุษยไ มอ าจเพ่ือจะใหเทอ กลับ ได ดว ยกําลงั แหงกายปกตเิ ลย, จะปว ยกลา วอะไรถงึ ความกระทาํ นาํ้ ในมหาสมทุ รให เทอกลับเลา พระผูเ ปน เจา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร เพราะเหตุแมน้ี พระองคพ งึ ทรงทราบกําลงั ของสัจจะ, สถานใด ท่ีใคร ๆ จะพงึ ถงึ ดว ยสจั จะไมได สถานนนั้ ยอมไมมี ขอถวายพระพร. อนึ่ง พระเจา อโศกราชในเมอื งปาฏลิบตุ ร อนั ชาวนคิ มและชาวชนบท และ อมาตยนอยและราชภัฏหมพู ลและมหาอมาตยท ้ังหลาย แวดลอมเปน ราชบรวิ าร ทอดพระเนตรเห็นแมน ํ้าคงคาสมบรู ณดว ยนํ้าใหมเต็มเสมอขอบ เตม็ เปยมไหลไปอยู จงึ ตรสั กะอมาตยทง้ั หลายอยา งนวี้ า 'พนาย ผใู ดใคร ๆ ซงึ่ สามารถจะยงั คงคาใหญน ้ีให ไหลกลบั ทวนกระแสได มีหรอื ไม. ' อมาตยท งั้ หลายกราบทูลวา 'ขอเดชะปกเกลาปกกระหมอ ม ขอ ซึง่ จะกระทาํ คง คาใหญนใ้ี หไ หลกลบั ทวนกระแสนนั้ ยากทใ่ี คร ๆ จะกระทําได. นางคณกิ าชอ่ื วา พนิ ทุมดี ยนื อยรู มิ ฝง แมน ํา้ คงคานนั้ นนั่ เทยี่ ว ไดฟ ง แลว วา 'ได ยินวา พระมหากษตั ริยต รัสแลว อยางนวี้ า 'ใคร ๆ อาจเพอ่ื จะยงั แมนา้ํ คงคาใหญน ใ้ี ห ไหลกลบั ทวนกระแสไดห รือไม.' นางพนิ ทมุ ดีนนั้ กลาวอยางน้วี า 'ขาพเจา นน่ั เทยี ว เปน นางคณกิ า อาศยั ซ่งึ รปู เปน อยู มีการเลย้ี งชพี ดวยกรรมอนั เลว ในเมอื งปาฏลบิ ุตรนี้, พระมหากษัตริยจ งทอดพระเนตรสจั จกริ ิยาของขา พเจา กอ น.' พระมหากษตั ริยจ ง ทอดพระเนตรสจั จกิริยาของขา พเจา กอ น.' ลําดบั นนั้ นางพนิ ทมุ ดีนนั้ ไดกระทาํ สจั จกิริยาแลว. เมื่อประชมุ แหง ชนหมูใ หญเห็นอยู คงคาใหญนน้ั ปวนไหลกลบั ทวนกระแส โดยขณะพรอมดวยสัจจกริ ิยาของนางพนิ ทุมดีนนั้ .
ลาํ ดับนน้ั พระเจาอโศกราชไดท รงฟง เสยี งพลิ ึกกกึ กอง อนั กําลงั แหง คลนื่ ในวัง วนใหเ กิดแลวในคงคาใหญ จงึ มคี วามพิศวง เกิดอศั จรรยขนึ้ ในพระหฤทยั ตรสั ถาม อมาตยท งั้ หลายวา 'พนาย คงคาใหญน ไ้ี หลทวนกระแสไดเพราะเหตไุ ร?' อมาตยท งั้ หลายกราบทลู วา 'ขอเดชะปกเกลา ปกกระหมอ ม นางคณกิ าช่อื พนิ ทุมดี ไดฟง พระราชโองการของพระองคแลว ไดกระทําสัจจกิริยา, คงคาใหญไ หลข้ึน ไปในเบื้องบน ดวยสัจจกิรยิ าของนางพนิ ทมุ ดีน้นั .' ลาํ ดับนนั้ พระเจา อโศกราชสลดพระหฤทัย รบี เสด็จไปเอง แลว จึงตรสั ถามนาง คณิกานน้ั วา 'นางสาวใช ไดย ินวา แมน า้ํ คงคานเี้ จา ใหไหลทวนกระแสแลว ดว ยสัจ จกิริยาของเจา จริงหรือ? นางพนิ ทมุ ดีทลู วา 'พระพุทธเจา ขา คงคาใหญน้ีไหลทวนกระแสดวยสจั จกิริยา ของหมอมฉนั ' พระเจาอโศกราชตรสั ถามวา 'อะไรเปน กําลังของเจา ในสัจจกิริยานน้ั , หรอื ใคร ที่ไมใ ชบาจะเชอ่ื ถอื คําของเจา , เจา กระทาํ แมนา้ํ คงคาใหญนใ้ี หไหลทวนกระแสดว ย กาํ ลังอะไร?' นางพนิ ทมุ ดีทลู วา 'หมอ มฉนั กระทาํ คงคาใหญน้ใี หไหลทวนกระแสแลว ดว ย กําลังแหง สัจจะ พระพทุ ธเจา ขา .' พระเจาอโศกราชตรัสวา 'กําลงั แหงสจั จะอะไร จะมีแกเจา ผเู ปน โจร เปน หญงิ นกั เลง ไมมสี ติ มหี ิรอิ ันขาดแลว เปน หญงิ ลามกทาํ ลายแดนเสยี แลว ลว งเกนิ ปลน ชนตา บอด.' นางพนิ ทมุ ดกี ราบทลู วา 'ขอเดชะปกเกลา ปกกระหมอม หมอ มฉนั เปน หญงิ เชนนน้ั จรงิ , หมอ มฉนั จะปรารถนา พงึ เปลย่ี นโลกแมก ับท้งั เทพดา ดวยสัจจกิริยาอนั ใด, สจั จกริ ิยาน้นั ของหมอ มฉนั แมเชน นั้นมีอยู.' พระเจาอโศกราชตรสั ถามวา 'สจั จกิรยิ านนั้ เปน อยา งไรเลา ? เชิญเจาเลา ให เราฟง.' นางพนิ ทมุ ดีทลู วา 'ขอเดชะปกเกลา ปกกระหมอ ม บุรุษใด เปน กษัตริย หรือ เปนพราหมณ หรือเปน เวศย หรือเปน ศูทร หรือเปนบรุ ษุ อน่ื ใคร ๆ ใหท รพั ยแ กห มอมฉนั หมอมฉนั บํารงุ บุรษุ ทงั้ หลายเหลา นนั้ เสมอกนั เปน อยา งเดยี ว, ความแปลกวา กษัตริย ไมมี ความดหู มิน่ วา ศูทรไมม ,ี หมอมฉนั พน จากความเอน็ ดูและปฏิฆะ บําเรอบุรษุ ผูเปน เจาของแหง ทรัพย, หมอ มฉนั ทาํ คงคาใหญนใ้ี หไหลทวนกระแส แลว ดวยสัจจกริ ิยาใด, สัจจกริ ยิ าน้เี ปน สัจจะของหมอมฉนั ' ดังน.้ี
ขอถวายพระพร ชนทงั้ หลายผูตัง้ อยใู นสจั จะแลว ซงึ่ จะไมไดประโยชนห นอย หนงึ่ หามิได ดว ยประการฉะน.้ี พระเจา สวิ ิราชไดพระราชทานจกั ษทุ ง้ั หลายแกย าจก ดวย ทิพยจกั ษทุ ง้ั หลายเกดิ ขึน้ ดว ย, ก็แหละ ความทที่ พิ ยจักษเุ กดิ ขึ้นนนั้ เกิดขนึ้ เพราะ สัจจกิรยิ า. ก็คําอนั ใดทที่ า นกลา วไวใ นพระสตู รวา 'ครน้ั เมอื่ มังสจกั ษฉุ ิบหายแลว ความ ทที่ พิ ยจกั ษจุ ะเกดิ ขนึ้ ในสถานไมมีเหตุ ไมม ีวตั ถ'ุ ดังนี้ คาํ นน้ั ทา นหมายเอาจักษุสําเรจ็ แลวดวยภาวนากลา วแลว ขอถวายพระพร. บรมบพิตรจงทรงจาํ ไวซง่ึ ความขอ นี้ ดว ย ประการอยา งน\"้ี ดังน.้ี ร. \"ดลี ะ พระผเู ปน เจา ปญ หาพระผเู ปน เจา แกดแี ลว , นคิ คหธรรมพระผเู ปนเจา แสดงออกดแี ลว , ปรับปวาททง้ั หลาย พระผูเ ปน เจา ยาํ่ ยแี ลว , ขอ วสิ ชนาปญ หาของพระ ผูเปน เจา น้ี สมอยา งนน้ั , ขาพเจารับรองอยา งนน้ั .\" ๖ คพั ภาวัคกนั ติปญ หา ๖ ร. \"พระผเู ปน เจา นาคเสน พระพทุ ธพจนน อี้ ันพระผมู พี ระภาคเจาแมตรสั แลววา 'ภกิ ษทุ งั้ หลาย ความหยง่ั ลงสคู รรภยอมมี ก็เพราะความทีป่ จ จยั ท้ังสามประชุมพรอ ม กันแล : ในโลกน้ี มารดาบดิ าเปน ผปู ระชุมกันแลวดวย มารดาเปนหญงิ มีระดูดวย คนธรรพเปน สตั วเขา ไปต้งั อยเู ฉพาะหนา ดว ย; ภิกษุทัง้ หลาย ความหยงั่ ลงสูค รรภยอมมี เพราะความทปี่ จจัยทงั้ สามเหลา นี้ประชุมพรอมกนั แล.' พทุ ธพจนน ต้ี รสั ปจ จยั หาสว น เหลอื มไิ ด ฯลฯ ตรัสปจจัยไมม สี วนเหลอื ฯลฯ ตรัสปจ จยั ไมม ีสวนเหลอื ฯลฯ ตรสั ปจจยั ไมม ีปรยิ าย พระพุทธพจนน ต้ี รสั ปจจยั ไมมีขอล้ีลบั พระพุทธพจนน้อี นั พระผูมีพระภาค เจา เสดจ็ นงั่ ณ ทามกลางแหง บรษิ ทั กับทั้งเทพดาและมนษุ ยทงั้ หลาย ตรัสแลว. กแ็ ต วา ความหยง่ั ลงสคู รรภเพราะความทปี่ จ จัยทงั้ สองประชุมพรอ มกนั ยงั ปรากฏอยวู า 'พระดาบสช่อื ทุกุละลบู คลํานาภแี หง นางตาปสีชอ่ื ปารกิ า ดว ยน้วิ แมม อื เบอ้ื งขวา ใน กาลแหง นางตาปสีเปน หญิงมีระด,ู กมุ ารขอื่ สามะ เกิดแลว เพราะความท่พี ระดาบส น้ันลบู คลาํ นาภีนั้น. แมพ ระฤษีชอื่ มาตังคะ ลบู คลาํ นาภแี หง นางพราหมณกี นั ยาดว ย นวิ้ แมมือเบ้ืองขวา ในกาลทน่ี างเปน หญงิ มีระด,ู มาณพ ช่ือ มณั ฑพั ยะ เกิดข้นึ เพราะ ความทีฤ่ ษชี อ่ื มาตังคะ นน้ั ลบู คลาํ นาภนี ั้น.' พระผูเปนเจา ถา พระผมู ีพระภาคเจา ได ตรสั แลววา 'ภกิ ษทุ ง้ั หลายความหยงั่ ลงสูครรภ ยอ มมีกเ็ พราะความทปี่ จ จยั ทงั้ สาม ประชุมพรอ มกันโดยแท' ดังน,ี้ ถา อยางนนั้ คาํ ท่วี า 'สามกมุ ารดว ยมณั ฑัพยมาณพดว ย แมท้งั สองอยา งนน้ั เกิดแลว เพราะความลบู คลํานาภ'ี ดังนนี้ ัน้ ผิด. ถา พระตถาคตตรสั แลววา 'สามกมุ ารดว ยมณั ฑพั ยมาณพดว ย เกดิ แลวเพราะความลูบคลาํ นาภี.' ถาอยา ง
น้นั แมคาํ ทวี่ า 'ภิกษทุ งั้ หลาย ความหยง่ั ลงสูครรภยอมมี ก็เพราะความทป่ี จจัยทัง้ สาม ประชมุ พรอมกันโดยแท' ดังน้ี น้นั ผดิ . ปญหาแมน ีส้ องเงอื่ น ลึกดว ยดี ละเอียดดว ยดี เปน วสิ ยั ของบคุ คลผมู ปี ญญาเครื่องรูทง้ั หลาย, ปญ หานน้ั มาถงึ พระผเู ปน เจาแลว , พระ ผูเ ปนเจา จงตดั ทางแหง ความสงสยั จงชปู ระทีปอันโพลงทวั่ แลวคอื ญาณอันประเสริฐ.\" ถ. \"ขอถวายพระพร แมพ ระพุทธพจนน ี้ อนั พระผมู พี ระภาคเจาทรงภาสิตแลว วา 'ภกิ ษุทงั้ หลาย ความหยง่ั ลงสูค รรภย อ มมีก็เพราะความทป่ี จ จยั ทงั้ สามประชมุ พรอ ม กันแล : ในโลกนี้ มารดาและบดิ าเปน ผปู ระชุมกนั แลว ดว ย มารดาเปน หญงิ มีระดูดว ย คนธรรพเปน สตั วเ ขา ไปตง้ั อยเู ฉพาะหนา ดว ย, ความหยั่งลงสูครรภย อ มมีเพราะความที่ ปจจัยทง้ั สามประชมุ กนั อยา งน้นั .' อนึ่ง พระตถาคตเจา ไดต รัสแลว วา 'สามะกมุ ารดว ย มัณฑพั ยมาณพดวย เกิดแลว เพราะความลูบคลาํ นาภ.ี \" ร. \"ถา อยา งนน้ั ปญหาจะเปน ของอนั พระผเู ปนเจา ตดั สินดว ยดีแลว ดว ยเหตุใด ขอพระผเู ปนเจาจงยงั ขาพเจา ใหห มายรูด ว ยเหตุอันนัน้ .\" ถ. \"ขอถวายพระพร กบ็ รมบพิตรไดเคยทรงสดบั หรือวา 'กุมารชอ่ื สงั กจิ จะ ดว ย ดาบสชอื่ อสิ ิสงิ คะ ดว ย พระเถระช่ือ กมุ ารกัสสป ดว ย เหลานน้ั เกดิ แลว ดว ยเหตชุ อื่ น.ี้ \" ร. \"พระผูเ ปน เจา ขาพเจา ไดย นิ อย,ู ความเกิดของชนเหลา นนั้ เล่ืองลอื ไปวา แม เน้ือสองตวั มาสทู ่ีถา ยปสสาวะของดาบสสองรปู แลว จงึ ดื่มปสสาวะกบั ท้ังสัมภวะใน กาลแหง แมเ นอ้ื นัน้ มรี ะด,ู สังกจิ จกมุ ารดวย อิสิสิงคดาบสดวย เกดิ แลวดว ยสัมภวะเจือ ดว ยปส สาวะนั้นกอน เมื่อพระเถระชื่อ อทุ ายี เขา ไปสูส ํานกั ของนางภกิ ษณุ ี มจี ิต กาํ หนดั แลวเพง ดูองคก าํ เนิดของนางภกิ ษณุ ีอยู สมั ภวะเคลื่อนแลวในผา กาสาวะ; ครั้ง นน้ั แล พระอทุ ายีผมู ีอายุกลา วคาํ นีก้ ะนางภกิ ษณุ ีน้นั วา \"นองหญงิ ทา นจงไปนํานา้ํ มา เราจักซกั ผา อนั ตรวาสก.\" นางภิกษณุ กี ลา ววา \"อะไรพระผูเปนเจา ดฉิ นั จะซกั เอง.\" ลาํ ดับนน้ั นางภิกษณุ ี น้ัน ไดถ ือเอาสมั ภวะนนั้ สวนหน่ึงดว ยปาก, ใหสัมภวะสวนหนงึ่ เขาไปในองคก าํ เนดิ ของ ตน, พระเถระชอ่ื กุมารกสั สปเกิดแลวดวยเหตนุ น้ั ชนกลา วเหตนุ นั้ แลวอยา งน้ี ดว ย ประการฉะน.้ี \" ถ. \"ขอถวายพระพร เออก็ บรมบพติ รทรงเช่ือคํานน้ั หรือไม ?\" ร. \"พระผเู ปน เจา ขา พเจา ยอมเชื่อวา 'ชนเหลานั้นเกดิ แลว ดว ยเหตนุ '้ี ดงั น้ี ดวยเหตใุ ด, ขา พเจา ไดเหตมุ ีกําลงั นน้ั ในขอ นนั้ .\" ถ. \"อะไรเปน เหตใุ นขอนีเ้ ลา ขอถวายพระพร?\" ร. \"พืชตกลงแลว ในเทอื กอนั บุคคลกระทาํ ใหม ีบริกรรมดีแลว ยอมงอกงามเร็ว พลันหรอื ไม พระผเู ปน เจา ?\"
ถ. \"ขอถวายพระพร พืชนน้ั ยอ มงอกงามเรว็ พลนั .\" ร. \"นางภิกษณุ ีนนั้ เปน หญงิ มรี ะดู ครัน้ เมอ่ื กลละต้ังแลว เมือ่ ระดูขาดสายแลว เมื่อธาตตุ ้ังแลว ถอื เอาสัมภวะนนั้ เติมเขา ในกลละนน้ั แลว , ครรภของนางภิกษุณนี ั้นตง้ั แลว ดวยเหตนุ นั้ ฉนั นนั้ นนั่ เทยี วแล; ขา พเจา เช่อื เหตเุ พ่อื ความเกิดของชนเหลา น้นั ใน ขอ น้นั อยางน.้ี \" ถ. \"ขอถวายพระพร ขอซึ่งบรมบพติ รตรัสนน้ั สมดงั ตรสั แลวอยางนนั้ อาตม ภาพรับรองอยา งน้ันวา 'ครรภย อ มเกิดพรอ มดวยอนั ยงั สัมภวะใหเ ขา ไปในปส สาวะ มรรค.' บรมบพิตรทรงรบั รองความหยั่งลงสคู รรภของพระกมุ ารกัสสปหรือเลา ขอถวาย พระ.\" ร. \"พระผเู ปน เจา ขา พเจา เชอ่ื อยางนัน้ .\" ถ. \"ขอถวายพระพร ดลี ะ บรมบพติ รทรงกลบั มาสวู สิ ยั ของอาตมภาพแลว, บรม บพติ รตรสั ความหยงั่ ลงสคู รรภ จักเปนกาํ ลงั ของอาตภาพแมโ ดยสว นอันหนึง่ ; กอ็ ีก อยางหน่งึ แมเ นอ้ื ทงั้ สองนั้นดืม่ ปส สาวะแลวจงึ มคี รรภแลว บรมบพิตรทรงเชอ่ื ความ หยง่ั ลงสูครรภของแมเน้อื เหลา นนั้ หรอื ?\" ร. เชอ่ื สิ สิง่ ใดสงิ่ หนึ่งอนั บคุ คลบริโภคแลว ดืม่ แลว เคยี้ วแลว ล้ิมแลว สิง่ ทงั้ ปวงนน้ั ยอมประชุมลงสกู ลละ ถงึ ที่แลว ยอมถงึ ความเจรญิ , เหมอื นแมน ้าํ เหลาใดเหลา หนงึ่ แมน ํา้ ท้ังปวงเหลานนั้ ยอ มประชุมลงสูมหาสมุทร, ถงึ ท่ีแลว ยอมถงึ ความเจรญิ ฉนั ใด, สิง่ ใดส่งิ หน่งึ ทบ่ี คุ คลบริโภคและด่ืม เคีย้ ว ลิ้มแลว สงิ่ ทงั้ ปวงนน้ั ยอ มประชุมลงสู กลละ, ถึงท่แี ลว ยอมถึงความเจริญ ฉนั นน้ั นน่ั แล. เพราะเหตุนน้ั ขา พเจา เช่ือวา 'ความ หยงั่ ลงสูครรภ แมด วยสัมภวะเขา ไปแลว ทางปาก.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ดลี ะ บรมบพติ รยงิ่ เขา ไปสูวิสยั ของอาตมภาพหนกั เขา, สนั นบิ าตของชนทง้ั สองยอมมี แมดว ยอนั ด่ืมดวยปาก, บรมบพิตรทรงเช่ือความหยงั่ ลง สคู รรภข อง สังกจิ จกมุ าร และอสิ สิ ิงคดาบส และพระเถระชื่อ กมุ ารกัสสป หรอื ?\" ร. \"ขาพเจา เชอื่ สนั นบิ าตยอ มประชมุ ลง.\" ถ. \"ขอถวายพระพร แมส ามกุมาร แมม ัณฑพั ยมาณพ กเ็ ปนผหู ยง่ั ลงในภายใน สนั นิบาตทงั้ สามนนั้ มรี สเปน อันเดยี วกนั โดยนัยมใี นกอนทเี ดียว; อาตมภาพจักกลา ว เหตุในขอนนั้ ถวาย. ทุกลุ ดาบสและนางปาริกาตาปสี แมท้งั สองนั้นเปน ผูอ ยูในปา นอ ม ไปเฉพาะในวเิ วก แสวงหาประโยชนอ นั สูงสุด, ทําโลกเทา ถึงพรหมโลกใหเ รา รอนดวย เดชแหงตปธรรม. ในกาลนัน้ ทา วสกั กะผูเ ปนจอมของเทพดาทง้ั หลาย ยอ มมาสทู ีบ่ าํ รงุ ของทุกลุ ดาบสและนางปารกิ าตาปสีเหลานัน้ ทัง้ เชาทัง้ เยน็ . เปน ผูมีเมตตามาก ไดเหฯ็ ความเสอื่ มแหง จักษทุ ง้ั หลายของชนท้ังสองแมเ หลา นนั้ ในอนาคต, ครน้ั เหน็ จึงกลา วกะ
ชนทง้ั สองนนั้ วา \"ผเู จริญทง้ั หลาย ทา นทง้ั หลายจงกระทาํ ตามคําอนั หน่ึงของขา พเจา , ขอใหส าํ เร็จประโยชนเถิด, ทานทงั้ หลายพงึ ยงั บตุ รคนหนงึ่ ใหเ กดิ , บตุ รนัน้ จักเปน ผู บํารงุ และเปน ทย่ี ึดหนว งของทา นท้งั หลาย.\" ชนทงั้ หลายนนั้ หา มเสียวา \"อยาเลยทาวโกสีย, ทานอยา ไดว าอยา งน้เี ลย\" ดังนี้ ไมร บั คําของทา วสักกะน้ัน. ทาวเธอเปน ผเู อน็ ดผู ใู ครประโยชน กลา วอยางนน้ั กะชนท้งั สองนนั้ อีกสองครงั้ สามครง้ั .แมในครงั้ ทีส่ าม ชนทงั้ สองนนั้ กลา ววา \"อยา เลยทา ยโกสยี , ทา นอยา ยงั เราทง้ั หลายใหป ระกอบในความฉบิ หายไมเ ปน ประโยชนเ ลย, เมือ่ ไรกายนี้ จกั ไมส ลาย กายนม้ี คี วามสลายเปน ธรรมดา จงสลายไปเถิด, แมเ มือ่ ธรณีจะแตก แม เมือ่ ยอดเขาจะตก แมเม่อื อากาศจะแยก แมเ ม่ือพระจนั ทรและพระอาทติ ยจะตกลงมา เราทั้ง หลายจักไมเจอื ดวยโลกธรรมทง้ั หลายเลยทีเดียว, ทา นอยามาพบปะกบั เราอกี เลย, เม่ือ ทา นมาพบปะกนั เขา ความพบปะกนั นั้นกจ็ ะเปนความคนุ เคย; ชะรอยทา นจะเปน ผู ประพฤตคิ วามฉิบหายไมเปน ประโยชนแกเ ราทั้งหลาย.\" ลาํ ดบั นน้ั ทาวสักกะเม่ือไมไดความนบั ถอื แตชนทั้งสองนนั้ ถงึ ความเปนผู หนกั ใจ ประคองอัญชลีวิงวอนอีกวา \"ถา ทา นทง้ั หลายไมอาจกระทาํ ตามคําขอของ ขา พเจา ไซร, เมื่อใด นางตาปสีมีระดู มตี อมเลือด เมอื่ นนั้ ทา นพงึ ลูกคลาํ นาภีของนาง ตาปสีนนั้ ดว ยนว้ิ แมมอื เบื้องขวา, นางตาปสีนนั้ จกั ไดครรภด วยความลบู คลํานาภนี ัน้ , ความลบู คลาํ นาภีนน้ั เปน สนั นิบาตของความหยง่ั ลงสูค รรภ.\" ชนทงั้ สองนนั้ รบั วา \"ดกู รทาวโกสยี เราอาจเพ่อื จะกระทําตามคํานน้ั ได, ตป ธรรมของเราทง้ั หลายยอมไมแตกดว ยความลูบคลํานาภีเทา นั้น ชา งเถดิ \" ดงั น.ี้ กแ็ หละ ในเวลานนั้ เทพบุตรผูมกี ศุ าลมูลอนั แรงกลาสน้ิ อายแุ ลว มีอยใู นพภิ พ ของเทพดา, เทพบุตรนน้ั ถงึ ความสน้ิ อายแุ ลว อาจเพือ่ จะหยง่ั ลงตามความปรารถนา, และอาจเพื่อจะหยง่ั ลงแมในตระกูลของพระเจาจกั รพรรดิ. ครง้ั น้นั ทา วสกั กะไปหาเทพบุตรนน้ั วงิ วอนวา \"แนะทานผนู ิรทุกข ทา นมาเถิด, วนั ของทานสวา งชัดแลว, ความสําเรจ็ ประโยชนม าถงึ แลว เรามาสูที่บาํ รุงของทา น เพอื่ ประโยชนอ ะไรเลา, การอยใู นโอกาสนา รื่นรมย จกั มแี กท า น, ปฏิสนธิในตระกลู สมควร จกั มแี กท า น ทา นจกั เปนผูอนั มารดาและบิดาทง้ั หลายท่ดี ี พงึ ใหเ จริญ, ทานจงมา ทา น จงกระทาํ ตามคาํ ของเรา.\" ทา วสกั กะวงิ วอนแลว ดงั น้ี ประคองอัญชลเี หนอื เศยี ร วงิ วอนถงึ สองครง้ั สามครัง้ แลว. ลําดับนนั้ เทพบตุ รนั้นตอบวา \"แนะทานผนู ริ ทกุ ข ทา นสรรเสริญความไปสู ตระกูลใดบอย ๆ ตระกูลนนั้ คอื ตระกูลไหน.\"
ทายสกั กะกลา ววา \"ตระกลู นนั้ คอื ทุกุลดาบสและนางปาริกาตาปส.ี \" เทพบุตรนั้น ฟง คําของทาวสกั กะนัน้ แลว ยนิ ดรี บั วา \"แนะ ทานผูนริ ทกุ ข ความ พอใจใดของทา น ความพอใจน้นั จงสาํ เรจ็ ประโยชนเ ถิด; เราพงึ จาํ นงเกดิ ในตระกูลท่ี ทานปรารถนาแลว , เราจะเกดิ ในตระกูลไหน คอื เปน อัณฑชะเกิดในฟองฝกหรอื หรอื เปน ชลาพชุ ะเกดิ ในครรภมารดา หรอื เปน สงั เสทชะเกิดในเถา ไคล หรือเปนโอปปาตกิ ะ เกิดผลดุ ข้นึ เลา .\" ทาวสักกะกลา ววา \"แนะทา นผูนริ ทกุ ข ทา นจงเกิดในกาํ เนดิ เปน ชลาพชุ ะ.\" ลําดับนน้ั ทาวสักกะกาํ หนดวนั เกิดแลว จงึ บอกแก ทุกลดาบสวา \"นางตาป สีจักมรี ะดู มตี อ มเลอื ด ในวนั ช่อื โนน , ทา นผูเจรญิ ทา นพงึ ลูบคลาํ นาภขี องนางตาปสี ดวยนน้ิ แมมอื เบ้อื งขวา ในกาลนนั้ .\" นางตาปสีเปนหญิงมรี ะดู มีตอมเลือดดว ย เทพบุตรผูจะเขาไปในทน่ี ้นั ไดไ ปปรากฏเฉพาะหนา แลว ดว ย ดาบสลบู คลํานาภีของ นางตาปสดี ว ยนิ้วแมม ือเบอ้ื งขวาดว ย ในวนั น้ัน ประชุมนนั้ ไดเ ปน สันนิบาตสามอยา ง ดว ยประการฉะน.้ี ความกาํ หนดั ของนางตาปสเี กดิ ขึน้ แลว ดว ยความลบู คลาํ นาภ;ี ก็แล ความกาํ หนดั ของนางตาปสนี ั้นอาศยั ความลบู คลาํ นาภีเกดิ ขึน้ แลว, บรมบพติ รอยา สาํ คัญวา อัธยาจารอยา งเดยี วเปน สนั นิบาต, แมค วามเขา ไปเพง ก็ชอื่ วาสนั นบิ าต, สันนบิ าตความประชุมพรอมยอมเกิดดวยความจบั ตอ ง เพ่อื ความเกดิ ราคะโดยความ เปน บรุ พภาค, ความหยงั่ ลงสคู รรภย อมมีเพราะสนั นบิ าต, เพราะฉะนนั้ ความหยงั่ ลงสู ครรภยอมมแี มในท่ไี มม อี ธั ยาจาร ดว ยการลบู คลํา เหมอื นไฟที่โพลงอยู ถงึ ใคร ๆ จะไม ลูบคลาํ กก็ ําจดั ความหนาวของบคุ คลผูเขาไปใกลแ ลว ไดฉันใด, ความหยงั่ ลงสูค รรภ ยอ มมีในทแี่ มไ มม ีอธั ยาจาร เพราะความลบู คลาํ ฉนั นนั้ โดยแท. ขอถวายพระพร ความหยง่ั ลงสคู รรภของสัตวท ้งั หลาย ยอมมีดว ยอาํ นาจแหง เหตสุ ่ปี ระการ คือ กรรมหน่งึ กําเนิดหนึ่ง ตระกูลหนึง่ ความออ นวอนหน่ึง; เออก็สัตว ทง้ั หลายแมทงั้ ปวง ลว นมกี รรมเปน แดนเกดิ มีกรรมเปน สมฏุ ฐานดวยกันทัง้ สนิ้ . ความหยง่ั ลงสคู รรภของสัตวทงั้ หลาย ยอมมดี ว ยอาํ นาจแหง กรรมอยา งไร? สัตวท ัง้ หลายทีม่ กี ศุ ลมูลแกก ลา ยอมเกดิ ไดต ามความปรารถนา, ปรารถนาจะเกิดใน ตระกลู กษัตริยมหาศาล หรอื ในตระกลู พราหมณมหาศาล คฤหบดมี หาศาลกด็ ี หรอื ใน เทพดาทง้ั หลายปรารถนาจะเกดิ ในกาํ เนดิ เปน อณั ฑชะ ชลาพชุ ะ สังเสทชะ โอปปาตกิ ะ ละอยา ง ๆ กด็ ี ยอมเกิดไดต ามความปรารถนา. เหมือนบรุ ุษม่งั ค่งั มที รพั ยโ ภคะเงนิ และ ทองมาก มีวตั ถเคร่อื งทาํ ความอดุ หนุนแกท รพั ยเคร่ืองปลมื้ มาก มที รพั ยแ ละขา วเปลอื ก มาก มฝี า ยญาติมาก จะใหท รพั ยสองเทา แมสามเทา ชว ยทาสีและทาส หรอื ซอ้ื นาและ สวน หรอื บานนิคมชนบท ละอยา ง ๆ กด็ ี ส่ิงใดส่งิ หนงึ่ ทต่ี นปรารถนายง่ิ แลว ดวยใจ ได
ตามปรารถนา ฉนั ใด, สตั วทงั้ หลายท่ีมีกุศลมลู แรงกลา ปรารถนาจะเกดิ ในตระกลู กษตั รยิ มหาศาล พราหมณมหาศาล คฤหบดีมหาศาลกด็ ี หรือปรารถนาจะเกดิ ในเทพ ดาทง้ั หลาย หรือปรารถนาจะเกดิ ในกาํ เนดิ เปนอณั ฑชะ ชลาพชุ ะ สังเสทชะ โอปปาติกะ ละอยาง ๆ กด็ ี ยอมเกิดไดตามความปรารถนา ฉันนั้น. ความหยั่งลงสคู รรภ ของสัตวทงั้ หลายยอ มเปน ไปดว ยอํานาจแหง กรรมอยางน.้ี ความหยง่ั ลงสคู รรภของสตั วทงั้ หลาย ยอมเปน ไปดวยอาํ นาจแหง กาํ เนดิ อยางไร? ความหยงั่ ลงสคู รรภของไกทงั้ หลาย ยอมมดี ว ยลม, ความหยง่ั ลงสูครรภของ นกยางทัง้ หลาย ยอ มมดี ว ยเสยี งเมฆ, เทพดาทง้ั หลายแมท ้ังปวง ไมใชส ตั วน อนใน ครรภน ั่นเทียว, ความหยัง่ ลงสคู รรภข องเทพดาทง้ั หลายเหลา น้นั ยอมเปน ไปโดยเพศ ตา ง ๆ ดังมนษุ ยท งั้ หลายเทย่ี วไปในแผนดนิ โดยเพศตา ง ๆ, มนษุ ยท ้ังหลายพวกหนง่ึ ปด ขางหนา พวกหนงึ่ ปดขางหลัง พวกหน่ึงเปลือยกาย พวกหน่งึ ศรี ษะโลน พวกหน่งึ นุงผา ขาว พวกหนง่ึ เกลาผมมวย พวกหนง่ึ ศรี ษะ โลน นงุ ผายอมนํ้าฝาด พวกหนึ่งนุงผา ยอม นํา้ ฝาดเกลา ผมมวย พวกหนึง่ มชี ฎาทรงกาบไมก รอง พวกหนงึ่ นงุ หนัง พวกหนง่ึ นงุ เชือก, มนษุ ยท ง้ั หลายแมทงั้ ปวง เท่ยี วอยใู นแผน ดินโดยเพศตา ง ๆ ฉนั ใด; เทพดา เหลา นั้นเปน สตั วเ หมือนกนั , ความหยงั่ ลงสูครรภข องเทพดาเหลานน้ั ยอ มเปนไปโดย เพศตา ง ๆ ฉนั น้ัน. ความหยง่ั ลงสูค รรภข องสัตวท ง้ั หลายยอ มเปน ไปโดยอํานาจแหง กําเนิด ดวยประการฉะน.้ี ความหยง่ั ลงสคู รรภข องสตั วทัง้ หลาย ยอ มเปน ไปดวยอาํ นาจแหงตระกลู อยา งไร? ชือ่ ตระกูลมีสี่ตระกลู คอื เปน อณั ฑชะ ชลาพชุ ะ สงั เสทชะ โอปปาติกะ; ใน ตระกูลทงั้ สนี่ นั้ ถา คนธรรพม าแตต ระกูลใดตระกูลหนงึ่ เกดิ ในตระกูลเปนอณั ฑชะ คนธรรพน น้ั เปน สตั วเกดิ ในฟองในตระกลู นนั้ , ถาเกิดในตระกูลเปนชลาพชุ ะ สงั เสทชะ โอปปาตกิ ะคนธรรพเปน ชลาพชุ ะ สังเสทชะ โอปปาตกิ ะ ละอยาง ๆ ในตระกูลนน้ั ๆ. สัตวท้งั หลายยอ มเกิดเปน สตั วเ ชนน้นั อยางเดียวกันในตระกลู นนั้ ๆ. อนึง่ เน้อื และนก ทง้ั หลายเหลา ใดเหลาหนง่ึ เขา ไปถงึ ภเู ขาสิเนรุในปา หมิ พานต เนื้อและนกทงั้ ปวง เหลา นั้น ยอ มละพรรณของตนเปน สัตวมพี รรณตางๆ ดงั พรรณแหง ทอง ฉันใด, คนธรรพผูใดผหู นง่ึ ซง่ึ มาแลว แตตระกลู ใดตระกลู หนงึ่ เขาไปถึงกาํ เนดิ เปน อณั ฑชะ แลว ละเพศโดยสภาวะเสยี เปน สัตวเกิดในฟอง เขาไปถึงกาํ เนดิ เปนชลาพชุ ะ สงั เสทชะ โอปปาติกะ แลวละเพศโดยสภาวะเสีย เปน ชลาพชุ ะ สงั เสทชะ โอปปาติกะ ละอยา ง ๆ ฉันนน้ั . ความหยั่งลงสูครรภข องสตั วทง้ั หลาย ยอ มเปน ไปโดยอาํ นาจแหงตระกลู ดว ย ประการ ฉะน.ี้
ความหยงั่ ลงสคู รรภของสตั วทง้ั หลาย ยอมเปน ไปดว ยอาํ นาจแหง ความออ น วอนอยา งไร? ในโลกนี้ตระกลู ไมม บี ุตร มีทรพั ยส มบตั ิมาก มศี รทั ธาเลอ่ื มใสแลว มีศลี มี ธรรมอันงาม อาศยั ตปคุณ, ก็เทพบตุ รมีกศุ ลมลู แรงกลา มีความจตุ ิเปน ธรรมดา, ครั้ง นนั้ ทา วสกั กะออนวอนเทพบตุ รน้นั เพื่อความเอน็ ดแู กตระกูลนน้ั วา \"ทา นจงปรารถนา พระครรภของพระมเหสีแหง ตระกลู โนน ,\" เทพบุตรนน้ั ปรารถนาตระกูลนัน้ เหตคุ วาม ออนวอนของทาวสักกะนน้ั . อปุ มาเหมือนมนุษยทง้ั หลายใครบุญ ออนวอนพระสมณะผู ยงั ใจใหเ จริญ แลวนาํ เขา ไปสเู รอื น ดว ยคดิ วา \"พระสมณะนเี้ ขา ไปสูเรือนแลว จักเปน ผนู ําความสุขมาแกตระกลู ทง้ั ปวง\" ฉันใด, ทาวสักกะออ นวอนเทพบตุ รนนั้ แลว นาํ เขา ไปสตู ระกลู นน้ั ฉนั นน้ั นั่นเทยี วแล. ความหยั่งลงสูครรภของสตั วท งั้ หลาย ยอมเปน ไป ดวยอาํ นาจแหงความออนวอน ดว ยประการฉะน.ี้ ขอถวายพระพร สามกมุ าร ทาวสกั กะผเู ปน จอมแหง เทพดาทงั้ หลาย ออ นวอน แลว หยัง่ ลงสคู รรภของนางตาปสีชื่อ ปารกิ า แลว . สามกุมารไดกอ สรา งบุญไวแ ลว , มารดาและบดิ าท้งั หลายเปน คนมีศลี มธี รรมอนั งาม, ผอู อ นวอนเปนคนสามารถแลว, สามกมุ ารเกิดแลว ตามความปรารถนาแหง ใจของชนทงั้ หลายสาม, เหมือนในโลกน้ี มี บรุ ษุ ผฉู ลาดในอุบายเครื่องนาํ ไป ปลกู พืชลงไวใ นไรนาใกลท่ไี ถดแี ลว , นั้นเวน อนั ตราย อันตรายอะไรจะพึงมแี กค วามเจริญของพชื เม่อื พชื นน้ั บา งหรอื ? ขอถวายพระพร.\" ร. \"หาไม พระผูเ ปน เจา พืชไมม อี นั ตรายเขา ไปกระทบกีดก้นั พงึ งอกงามเร็ว พลนั พระผเู ปน เจา.\" ถ. \"ขอถวายพระพร สามกมุ ารพนแลว จากอนั ตรายเกิดขนึ้ แลว ทง้ั หลาย เกิด แลว ตามความปรารถนาแหง จติ ของชนทงั้ สาม ฉนั นนั้ นนั่ เทยี วแล. ขอถวายพระพร บรมบพิตรเคยไดทรงฟง แลวบางหรอื ชนบทใหญเจริญ แพรห ลายแลว กบั ทงั้ ประชมุ ชน ขาดสญู แลว ดว ยความประทษุ รา ยแหง ใจแหง ฤษี ทัง้ หลาย.\" ร. \"พระผูเ ปน เจา ขาพเจา ไดฟง อยู ปาช่อื ทณั ฑกะ ปา ช่ือเมชฌะ ปา ชื่อกาลิง คะ ปาชื่อมาตงั คะ ปา ทงั้ ปวงนนั้ เปน ปา แลว , ชนบททง้ั หลายแมท ง้ั ปวงเหลา นี้ ถงึ ความ สนิ้ ไปดว ยความประทษุ รา ยแหงใจของฤษที ั้งหลาย\" ถ. ขอถวายพระพร ถา ชนบททัง้ หลายที่เจรญิ แลวดว ยดี มาขาดสญู ไปดว ย ความประทุษรา ยแหงใจฤษที ้งั หลายเหลา นน้ั , อะไร ๆ พงึ เกิดขึน้ โดยความเลื่อมใสแหง จติ ของฤษที งั้ หลายเหลา นนั้ บางหรือไม. \" ร. \"พงึ เกดิ ขนึ้ ไดซ ิ พระผเู ปน เจา .\"
ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อยา งน้นั สามกุมาร เปนอสิ นิ ริ มิตเปน เทพนมิ ติ เปน บุญ นริ มติ เกดิ แลว โดยความเลอ่ื มใสแหงจิตของชนผมู กี ําลงั ทั้งหลายสาม, เพราะเหตนุ นั้ บรมบพติ รจงทรงความขอ นไี้ วด ว ยประการฉะน.้ี ขอถวายพระพร เทพบตุ รทง้ั หลายสามเหลาน้ี เขา ถงึ แลว ซ่งึ ตระกลู ทที่ า วสกั กะ ผูเปน จอมของเทพดาทง้ั หลายไดออนวอนแลว , เทพบุตรทงั้ สาม คือ เทพบตุ รองคไ รบา ง เทพบุตรทั้งสามคือ สามกมุ ารหน่งึ มหาปนาทะ หนง่ึ กสุ ราชา หนง่ึ เทพบุตรแมท ้ังสาม เหลา น้ีเปน พระโพธสิ ตั ว. \" ร. \"พระผเู ปน เจา ความหยงั่ ลงสคู รรภ พระผูเ ปน เจา นาํ มาแสดงดวยดีแลว , เหตุพระผูเปน เจากลา วดวยดีแลว, มืดทําใหมีแสงสวา งแลวล ชฏั พระผเู ปน เจา สางแลว, ปรับปวาทพระผเู ปน เจา หา มกนั เสยี ไดแลว, เหตนุ ้นั สมดงั พระผเู ปน เจากลาวอยา งนัน้ , ขาพเจา ยอมรบั รองอยางนนั้ .\" ๗. สัทธมั มอนั ตรธานปญหา ๗ พระเจามลิ ินทต รัสถามวา \"พระผเู ปนเจา นาคเสน พระผมู พี ระภาคเจา ไดทรง ภาสิตพุทธพจนแ มน้ไี วแกพ ระอานนทเถระวา 'ดูกอ นอานนท สทั ธรรมจกั ตั้งอยูไ ดใน กาลตอ ไป เพยี งหา รอยปเ ทา นนั้ ' ดงั น.ี้ สวนในสมยั เปน ทปี่ รนิ พิ พาน สุภัททปริพพาชก ทลู ถามปรศิ นา พระผมู พี ระภาคเจาไดตรสั แลววา 'ดกู อนสภุ ัททะ ถา ภิกษทุ ง้ั หลาย เหลานี้พงึ ปฏบิ ตั อิ ยโู ดยชอบในกาลทง้ั ปวง, โลกพงึ เปน ของไมวา งเปลาจากพระอรหันต ท้งั หลาย' ดงั นอี้ ีก; พระพทุ ธพจนน ก้ี ลา วกาลหาสว นเหลอื มไิ ด ฯลฯ กลา วกาลไมม ีสว น เหลือ ฯลฯ กลา วกาลไมมีปรยิ าย. ถา พระตถาคตเจาไดต รสั แลว วา 'ดูกอ นอานนท ใน กาลตอไป พระสัทธรรมจกั ตง้ั อยไู ด เพยี งหา รอ ยปเทา นน้ั ' ดังน,ี้ ถาอยางนน้ั คาํ ทวี่ า 'โลกพงึ เปน ของไมว า งเปลา จากพระอรหนั ตทง้ั หลาย' ดงั นี้ นนั้ ผิด. ถาพระตถาคตเจา ไดตรสั แลววา 'โลกพงึ เปน ของไมวา งเปลา จากพระอรหันตท ง้ั หลาย' ดงั น,ี้ ถาอยา งนนั้ คาํ ท่ีวา 'ดูกอ นอานนท ในกาลตอ ไป พระสทั ธรรมจักตงั้ อยูไดเพยี งหารอยปเทา นนั้ ' ดังนนี้ ั้นเปน ผดิ . ปญหาแมน ีม้ ีเงอื่ นสอง เปน ชัฏยง่ิ แมก วา ชฏั โดยปกต,ิ มกี าํ ลังย่งิ แมกวา ปญหาทม่ี ีกาํ ลงั โดยปกต,ิ มขี อดยงิ่ แม กวาขอดโดยปกต,ิ ปญหานนั้ มาถงึ พระผูเ ปน เจา แลว , พระผเู ปนเจา จงเปนผดู งั มงั กรไป แลว ในภายในแหง สาคร แสดงความแผไ พศาลแหงกําลงั ญาณของพระผเู ปนเจา ใน ปญ หาน้นั .\"
พระนาคเสนเถระถวายพระพรวา \"ขอถวายพระพร พระผูมพี ระภาคเจา ไดทรง ภาสิตพระพทุ ธพจนแมน ้แี กพ ระอานนทเถระแลว วา 'ดกู อนอานนท ในกาลตอ ไป พระ สทั ธรรมจกั ตง้ั อยไู ด เพียงหา รอยปเ ทา นน้ั 'ดังน.ี้ สวนในสมยั เปนท่ปี รนิ พิ พาน ไดต รสั แลว แกสุภัททปริพพาชกวา 'ดกู อนสุภัททะ ถา ภิกษทุ งั้ หลายเหลานีพ้ งึ ปฏบิ ตั อิ ยโู ดย ชอบ ในกาลทง้ั ปวงไซร. โลกพึงเปน ของไมว า งเปลาจากพระอรหนั ตท ั้งหลาย' ดังน.ี้ ก็ แหละ พระพทุ ธพจนข องพระผมู พี ระภาคเจานน้ั เปน พระพุทธพจนมีเน้อื ความตางกนั ดวย มพี ยญั ชนะตางกนั ดวยแท. สว นทงั้ สอง คอื สว นพระพทุ ธพจนน ้ีกาํ หนดศาสนา พระวาจานแ้ี สดงความปฏิบตั เิ หลา นั้น เวน ไกลกนั และกนั . ขอถวายพระพร มอี ุปมาเหมือนฟา เวน ไกลแตแ ผน ดนิ นรกเวน ไกลแตส วรรค กศุ ลเวน ไกลแตอกุศล สุขเวน หา งไกลแตทกุ ข ฉนั ใด สว นพระพุทธภาสติ ท้ังหลายสอง เหลานัน้ เวนหา งไกลจากกนั และกนั มีอุปไมยฉันน้ันนน่ั เทยี วแล. เออก็ ปุจฉาของบรม บพิตรอยาเปน ของเปลา เลย, อาตมภาพจกั เปรียบเทียบโดยรสแสดงแกบรมบพิตร, พระผูมพี ระภาคเจา ตรัสพทุ ธพจนใ ดวา 'ดกู อ นอานนท ในกาลตอ ไป พระสทั ธรรมจกั ตง้ั อยไู ด เพยี งหา รอยปเ ทา นน้ั ' ดังน.้ี เม่ือพระองคต รสั พทุ ธพจนนนั้ ทรงแสดงกาลท่ีสน้ิ ไป ทรงกาํ หนดกาลที่เหลอื วา 'ดกู อนอานนท ถา นางภิกษณุ ที ั้งหลายไมพงึ บรรพชาไซร พระสทั ธรรมจกั พึงตง้ั อยูไ ดห นง่ึ พันป, ดกู อนอานนท กาลตอไปนี้ พระสทั ธรรมจักตัง้ อยู ได เพียงหา รอ ยปเทา นนั้ .' เออก็ เมอ่ื พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสอยางน้ี จะตรสั ตาม อันตรธานแหง พระสัทธรรมหรือ หรอื ทรงคดั คานอภสิ มัยความตรสั รู เปน ไฉน ? ขอ ถวายพระพร.\" ร. \"หามไิ ด พระผเู ปนเจา .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา ทรงระบุกาลทีฉ่ บิ หายไปแลว ทรง แสดงกาลทเ่ี หลืออยู ทรงกําหนดแลว. เหมอื นบุรุษมีของหาย หยบิ ภณั ฑะที่ เหลอื อยทู ้งั สน้ิ แสดงแกประชุมชนวา 'ภัณฑะเทา นข้ี องขาพเจา หายไปแลว ภัณฑะนเี้ หลืออย'ู ฉันใด, พระผูมพี ระภาคเจา ทรง แสดงกาลทฉ่ี บิ หายไปแลว ตรสั กาลที่เหลอื อยูแ กเ ทวดาและมนษุ ยท งั้ หลายวา 'ดูกอ น อานนท กาลตอไปนี้ พระสทั ธรรมจักต้ังอยไู ด เพียงหา รอ ยปเทา นน้ั ' ดังน.้ี ก็พระพทุ ธ พจนอ นั ใด ทพ่ี ระผมู พี ระภาคเจา ไดตรัสแลววา 'ดกู อนอานนท กาลตอไปน้ี พระ สทั ธรรมจักตั้งอยไู ด เพยี งหา รอยปเ ทา นน้ั ' ดังน,ี้ พระพทุ ธพจนน ก้ี าํ หนดศาสนกาล; สว นพระองคท รงระบสุ มณะทงั้ หลายตรัสพุทธพจนใด แกส ุภัททปรพิ พาชกวา 'ดกู อน สภุ ัททะ ถาภกิ ษุท้ังหลายเหลา น้ี พงึ ปฏบิ ัติอยูโดยชอบ ในกาลทง้ั ปวง, โลกพงึ เปนของ ไมว า งเปลา จากพระอรหนั ตท ง้ั หลาย'ดงั น,ี้ พระวาจานนั้ แสดงความปฏิบัต.ิ สว นบรม
พิตรมาทรงกระทาํ ความกาํ หนดนน้ั ดว ยพระวาจาเคร่ืองแสดงนน้ั ดว ย ใหเปฯ ของมรี ส เปน อันเดยี วกนั . ก็ถา วา เปน ความพอพระหฤทัยของบรมบพิตรอาตมภาพจกั กลา ว กระทาํ ใหมีรสเปนอันเดยี วกนั , บรมบพติ รจงเปน ผูมีพระหฤทยั ไมว ปิ รติ ทรงสดับกระทาํ ไวในพระหฤทยั ใหส าํ เร็จประโยชน. ขอถวายพระพร ถา ในทนี่ ้ี มีสระเต็มแลว ดวยนา้ํ ใหมใ สสะอาด นํา้ ขน้ึ เสมอ กําหนดเพยี งขอบ, เมื่อสระนนั้ ยงั ไมท นั แหง เมฆใหญเ น่ืองประพนั ธกนั ใหฝนตกเตมิ ซา้ํ ๆ ลงบนนาํ้ ในสระนน้ั , นา้ํ ในสระน้นั พึงถึงความสนิ้ ไปและแหง ไปหรอื เปน ไฉน?\" ร. \"หาไม พระผูเปน เจา .\" ถ. \"เพราะเหตไุ ร ขอถวายพระ?\" ร. \"เพราะความทเี่ มฆเปนของเนื่องประพนั ธก ันเปน เหตุ นา้ํ ในสระนนั้ จงึ ไมถึง ความสน้ิ ไปแหงไปซิ พระผูเปน เจา .\" ถ. \"ขอถวายพระพร สระ คือ พระสทั ธรรมในศาสนาอนั ประเสรฐิ ของ พระพทุ ธเจา ผชู นะมารทง้ั ปวง เต็มแลวดว ยดดี วยนาํ้ ใหมป ราศจากมลทิน คือ อาจาระ และศีลคณุ และวตั รปฏิบัติ นา้ํ ปราศจากมลทนิ น้ันขน้ึ ไปทว มทส่ี ุดแหง ภพตง้ั อยแู ลว ฉนั น้ันน่ันเทยี วแล. ถาพระพทุ ธโอรสท้ังหลาย ยงั ฝนแหงเมฆ คือ อาจาระและศีลคณุ และ วตั รปฏบิ ัติ ใหเ นือ่ งประพันธก ัน ใหต กเติมราํ่ ไปในสระ คอื พระสทั ธรรมนน้ั ไซร, สระ คอื พระสทั ธรรมในศาสนาอนั ประเสรฐิ ของพระชนิ พทุ ธเจา นี้ พงึ ตงั้ อยสู ิ้นกาลนานยืดยาว ได, อนงึ่ โลกพงึ เปน ของไมว า งเปลาจากพระอรหนั ตท งั้ หลาย ฉนั นน้ั , พระผูมพี ระภาค เจา ทรงหมายเน้ือความนี้ ภาสิตแลววา 'ดกู อนสุภัททะ ถา ภิกษทุ ง้ั หลายเหลา น้ี พงึ ปฏบิ ตั ิอยูโ ดยชอบในกาลทงั้ ปวง, โลกพงึ เปน ของไมวา งเปลา จากพระอรหนั ตทง้ั หลาย ดังน.้ี ขอถวายพระพร อนงึ่ ในทนี่ ม้ี ีกองแหง ไฟใหญ ๆ โพลงอย,ู ชนท้ังหลายพงึ นาํ หญา และไม และโคมยั แหง แลว ท้งั หลายเขาไปเติมซา้ํ ๆ ลงในกองไฟใหญนน้ั , กองไฟ นนั้ พงึ ดับไปหรือไฉน?\" ร. \"หาไม พระผูเปน เจา กองไฟนนั้ พงึ โพลงย่งิ ๆ ขนึ้ ไป พงึ สวางยงิ่ ๆ ข้นึ ไป. ขอถวายพระพร พระศาสนาอันประเสริฐของพระพทุ ธเจา ผูช นะแลว ยอ ม ชัชวาลอยใู นโลกธาตประมาณหม่ืนหน่งึ ทาํ โลกธาตใุ หสวา งทว่ั ดวยอาจาระ และศีล คณุ และวตั รปฏบิ ัติ. กถ็ า วา พระพทุ ธโอรสทั้งหลาย มาตามพรอมแลว ดว ยองคของ บคุ คลผตู ัง้ ความเพยี ร หา ประการ พึงเปน ผูไมประมาทแลว พากเพยี รเนอื ง ๆ, พึงเปน ผู มีฉันทะเกิดแลว ศึกษาอยูใ นสกิ ขาสาม, พงึ บาํ เพ็ญจารีตศลี และวารีตศีลใหบริบรู ณ ไม บกพรองยง่ิ กวา นนั้ ไซร, พระชินศาสนาอนั ประเสรฐิ นีพ้ งึ ตง้ั อยูส น้ิ กาลนานยดื ยาวไดย ิ่ง
ๆ ขน้ึ ไป, โลกพึงเปน ของไมว างเปลาจากพระอรหนั ตท ง้ั หลาย, พระผมู พี ระภาคเจา ทรง หมายเนอ้ื ความนี้ภาสติ แลววา 'ดกู อ นสภุ ทั ทะ ถา ภิกษทุ ั้งหลายเหลา น้ี พึงปฏบิ ัตอิ ยู โดยชอบ, โลกพงึ เปน ของไมว างเปลา จากพระอรหันตท ้งั หลาย' ดงั น.ี้ อน่งึ ในโลกนี้ ชน ทงั้ หลาย พงึ ขดั แวนปราศจากมลทนิ สนทิ เสมอ และขัดดแี ลว กระจา งดว ยดดี วยจุรณ แหงหรดาลอันละเอยี ดสขุ ุมเนอื ง ๆ, มลทนิ และเปอ กตมละอองธุลพี งึ เกดิ ขึน้ ในแวน นน้ั ไดห รอื ไม ขอถวายพระพร ?\" ร. \"หาไม พระผูเปนเจา แวน นั้นพึงปราศจากมลทิน ผองใสวเิ ศษหนักขนึ้ โดย แท.\" ถ. \"ขอถวายพระพร แวน นน้ั พึงปราศจากมลทินผอ งใสวิเศษหนักขน้ึ ฉนั ใด, ศาสนาอนั ประเสรฐิ ของพระพทุ ธเจา ไมม ีมลทนิ โดยปกตปิ ราศจากมลทินละอองธลุ ี คอื กเิ ลสแลว ; ถาพระพทุ ธบตุ รทัง้ หลายพงึ ขดู เกลาพระศาสนาอนั ประเสรฐิ ของ พระพทุ ธเจา นน้ั ดวยอาจาระและศลี คณุ และวตั รปฏบิ ัติ และสัลเลขธรรม และธุดงค คณุ , ศาสนาอนั ประเสริฐของพระชนิ พทุ ธเจา นี้ พงึ ตัง้ อยไู ดส ้นิ กาลนานยดื ยาว, อนง่ึ โลกพงึ เปน ของไมว า งเปลา จากพระอรหนั ตท ้ังหลาย ฉนั น้ันนนั่ เทยี ว. พระผูม พี ระภาค เจา ทรงมุงหมายเนอื้ ความนี้ ทรงภาสิตแลว วา 'ดูกอนสภุ ทั ทะ ถาภิกษทุ ้ังหลายเหลา น้ี พึงอยู คือ ปฏบิ ตั ดิ ปี ฏิบัตชิ อบอย,ู โลกพงึ เปนของไมวา งเปลา จากพระอรหันตทงั้ หลาย' ดงั น.ี้ พระศาสนาของพระบรมศาสดามีความปฏบิ ตั เิ ปน มูลราก มีความปฏิบตั ิเปนแกน สาร เมอ่ื ความปฏิบัตยิ ังไมอนั ตรธานแลว พระพทุ ธศาสนายอ มตัง้ อยไู ด.\" ร. \"พระผเู ปน เจา พระผูเ ปน เจากลาว 'สัทธรรมอันตรธาน' วา ดังนี้ สทั ธรรม อันตรธานนนั้ อยา งไร ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร ความเสอ่ื มแหงพระพทุ ธศาสนาเหลา น้ีมสี ามประการ, ความเสื่อมแหง พระพุทธศาสนาสามประการนีอ้ ยา งไร ? ความเสื่อมแหง พระพทุ ธศาสนาสามประการน้ี คอื : อธคิ มอนั ตรธานความเสื่อมมรรคและผลทบี่ คุ คล จะพงึ ไดพ ึงถงึ หนงึ่ ปฏปิ ตตอิ นั ตรธานความเสือ่ มปฏิบัติหนงึ่ ลงิ คอันตรธาน ความเสอื่ ม เพศนงุ ผากาสาวพสั ตรห นงึ่ . เมื่ออธคิ ม คือ มรรคและผลที่บุคคลจะพึงไดพ งึ ถงึ อันตรธานเสื่อมสูญแลว แมเมอ่ื บคุ คลปฏบิ ัตดิ ีแลว ไมมธี รรมาภิสมยั ความถงึ พรอม เฉพาะ คือ ความตรสั รูธรรม, เมื่อความปฏบิ ัติอันตรธานเสือ่ มสญู แลว สกิ ขาบทบญั ญัติ กอ็ ันตรธาน ยงั เหลอื อยแู ตเพศนุงเหลืองอยา งเดยี วเทา นนั้ , เมือ่ เพศนงุ เหลืออนั ตรธาน แลว กข็ าดประเพณ.ี อันตรธานสามประการดังพรรณานามานี้แลว ขอถวายพระพร.\" ร. \"พระผูเปน เจานาคเสน ปญ หาลึกพระผเู ปน เจา มากระทาํ ใหต้นื ใหข าพเจา รู แจงดวยดแี ลว , ขอดพระผูเปน เจาทําลายเสยี แลวปรปั ปวาททง้ั หบายพระผเู ปน เจา หัก
รานใหฉิบหายแลว กระทําใหเสอื่ มรัศมแี ลว , ปรัปปวาททั้งหลายมากระทํา พระผเู ปน เจาผูประเสริฐกวาคณาจารยผูประเสรฐิ , พระผเู ปน เจา หกั ราน ปรัปปวาททง้ั หลายเหลา นน้ั ใหห ายเสอ่ื มสญู ไปไดแ ลว .\" ๘. สัพพัญตุ ปต ตปญหา ๘ พระเจามลิ ินทต รสั ถามวา \"พระผูเปน เจา นาคเสน พระตถาคตทรงละอกุศล ธรรมทง้ั ปวงแลว จงึ บรรลุความเปฯ พระสพั พญั หู รือวา ละอกุศลธรรมเปน สาวะเศษมี สว นเหลือ บรรลุความเปน พระสพั พัญ?ู \" พระนาคเสนเถระถวายพระพรวา \"ขอถวายพระพร พระผมู พี ระภาคเจา ทรงละ อกศุ ลท้ังปวงแลว จึงบรรลคุ วามเปน พระสพั พัญอู กศุ ลเปนสว นเหลอื ของพระผมู พี ระ ภาคเจามิไดม .ี \" ร. \"พระผูเปน เจา ทุกขเวทนาเคยเกิดขึน้ แลว ในพระกายของพระตถาคตหรือ?\" ถ. \"ขอถวายพระพร เคยเกิดข้ึน พระบาทของพระผมู พี ระภาคเจาอันสะเกด็ ศิลากระทบแลว ท่เี มอื งราชคฤห ประชวรลงพระโลหิตเกดิ ข้ึนแลว เมอ่ื พระกายหนาขึน้ หนกั แลว หมอชีวกเชญิ ใหเสวยพระโอสถรนุ เมอ่ื ประชวรลมเกิดขน้ึ แลว พระเถระผู อุปฐากแสวงหานํา้ รอนถวาย.\" ร. \"พระผเู ปน เจา ถา พระตถาคตทรงละอกศุ ลทงั้ ปวงแลว จงึ บรรลคุ วามเปน พระสพั พัญ,ู ถา อยา งนน้ั คําท่ีวา 'พระบาทของพระผูมพี ระภาคเจาอนั สะเกด็ ศลิ า กระทบแลว ประชวรลงพระโลหติ เกดิ ข้นึ แลว' น้นั ผิด. ถา พระบาทของพระตถาตอนั สะเกด็ ศลิ ากระทบแลว ประชวรลงพระโลหติ เกดิ ขึ้นแลว ถาอยา งนนั้ คาํ ท่ีวา 'พระ ตถาคตทรงละอกศุ ลท้ังปวงแลว จึงบรรลคุ วามเปน พระสพั พัญญ' ดงั นี้ แมน นั้ กผ็ ดิ . ความเสวยเวทนาซ่ึงจะเวน แลว จากกรรมมไิ ดม,ี ความเสวยเวทนาท้ังปวงนนั้ มกี รรม เปน มูลที่ตง้ั , บคุ คลยอ มเสวยเวทนาเพราะกรรมนนั่ เทยี ว, ปญ หาแมน มี้ เี งือ่ นสอง มาถึง พระผูเ ปนเจา แลว , พระผูเปน เจา พึงขยายปญ หานน้ั ใหแ จม แจง.\" ถ. \"ขอถวายพระพร เวทนา ความเสวยอารมณทงั้ ปวงนน้ั จะมกี รรมเปน มูล เปนทีต่ ง้ั กห็ าไม. เวทนาความเสวยอารมณทั้งหลายยอมเกิดข้ึนดวยเหตแุ ปดประการ สัตวเปนอนั มากยอมเสวยเวทนาทง้ั หลายดวยเหตไุ รเลา . เวทนาทง้ั หลายเกดิ ขึ้นดว ย เหตทุ ง้ั หลายแปดเปน ไฉน? ในกายนี้ เวทนาทงั้ หลายบางเหลามลี มเปน สมฏุ ฐานเกิดขึ้น บาง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลา มีดเี ปนสมฏุ ฐานเกดิ ขนึ้ บา ง, เวทนาทงั้ หลายบางเหลา มี เสมหะเปน สมฏุ ฐานเกดิ ขน้ึ บา ง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลา มีสนั นบิ าตเปนเหตเุ กดิ ข้ึน
บาง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลาเกดิ แตค วามเปล่ยี นฤดูเกดิ ขน้ึ บา ง, เวทนาท้ังหลายบาง เหลา เกิดแตก ารบรหิ ารอริ ิยาบถไมเ สมอเกิดข้ึนบาง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลา มีความ เพยี รเปน เหตุเกดิ ข้ึนบาง, เวทนาทง้ั หลายบางเหลาเปนกรรมวปิ ากชาเกิดขน้ึ บาง. สตั ว เปนอนั มากยอ มเสวยเวทนาทง้ั หลาย ดวยเหตุทงั้ หลายแปดประการเหลา นีแ้ ล. ในสัตว ท้ังหลายเหลา น้นั สตั วท ัง้ หลายเหลา ใดนนั้ อา งกรรม สัตวท งั้ หลายเหลา นน้ี นั้ ยอ มคา น เหตเุ สยี , คาํ นน้ั ของสัตวท ้งั หลายเหลา นนั้ ผดิ .\" ร. \"พระผูเปน เจานาคเสน เวทนาทม่ี ีลมเปน สมุฏฐานอันใดกด็ ี ท่มี ีเสมหะเปน สมฏุ ฐานอนั ใดก็ดี ที่มสี นั นบิ าตเปน เหตุอนั ใดกด็ ี ทม่ี สี ันนิบาตเปน เหตุอันใดกด็ ี ทเี่ กดิ แตความเปลี่ยนฤดอู นั ใดก็ดี ทเ่ี กิดแตการบรหิ ารไมเ สมออันใดก็ดี ทม่ี คี วามเพียรเปน เหตเุ หตอุ นั ใดกด็ ี, เวทนาทงั้ ปวงเหลานนั้ ลว นมกี รรมเปนสมฏุ ฐานทง้ั สนิ้ เวทนาทงั้ ปวง เหลา นน้ั ยอมเกิดเพราะกรรมอยางเดยี ว.\" ถ. \"ขอถวายพระพร ถา อาพาธทง้ั หลายเหลา นนั้ แมท งั้ ปวง พงึ เปนอาพาธมี กรรมเปนสมุฏฐานอยางเดียว, ลักษณะท้งั หลายของอาพาธเหลา นน้ั ไมพงึ มโี ดยสวน. ขอถวายพระพร ลมเมอ่ื กําเริบ ยอ มกาํ เรบิ ดวยเหตุสิบอยาง คอื ดวยหนาวหนกั หนงึ่ ดว ยรอนหนกั หนงึ่ ดว ยความอยากขา วหนง่ึ ดว ยความระหายน้าํ หนง่ึ ดว ยความ บริโภคมากหนึ่ง ดว ยความยืนนานนกั หนง่ึ ดว ยความเพียรเหลอื เกินหนง่ึ ดว ยความวง่ิ มากหนง่ึ ดว ยอุปก กมะความเพยี รของตนบา งของผูอนื่ บา งหนง่ึ ดว ยกรรมวิบากหนงึ่ ; ในอาพาธท้งั หลายเหลานั้น อาพาธเกา อยา งเหลา ใดนัน้ อาพาธเหลา นน้ั เกดิ ขน้ึ แลว ใน อดตี กห็ าไม จะเกิดขึ้นในอนาคนกห็ าไม ยอ มเกดิ ข้นึ ในภพปจจบุ นั , เพราะเหตนุ น้ั อาพาธทง้ั หลายเหลา นนั้ บณั ฑติ ไมพ งึ กลา ววา \"เวทยาท้ังหลายทง้ั ปวงมกี รรมเปนแดน เกิดพรอม.\" นาํ้ ดีเมอ่ื จะกาํ เรบิ ยอมกาํ เรบิ ดวยเหตสุ ามอยา ง คือ: ดว ยหนาวหนักหนงึ่ ดว ยรอ นหนักหนงึ่ ดวยบรโิ ภคไมเ สมอหนงึ่ . เสมหะเม่อื จะกาํ เรบิ ยอมกาํ เริบดวยเหตุ สามอยา ง คือ: ดว ยหนาหนักหนง่ึ รอ นหนักหนง่ึ ดว ยขา วและนา้ํ หนงึ่ . ลมอันใดก็ดี นาํ้ ดีอนั ใดก็ดี เสมหะอนั ใดกด็ ี สามอยา งนี้ กาํ เริบแลวดว ยปจจัยเคร่อื งกําเริบทง้ั หลาย เหลา นั้น ๆ เปน ของเจือกนั พาเวทนาของตน ๆ มา. เวทนาทเ่ี กิดแตค วามเปลีย่ นฤดู ยอ มเกดิ ขน้ึ ดว ยความเปลย่ี นฤดู, เวทนาที่เกิดแตความบรหิ ารไมเ สมอ ยอ มเกดิ ขนึ้ ดวย ความบริหารอริ ิยาบถไมเ สมอ, เวทนาทม่ี ีความเพยี รเปน ปจจยั เปน กิรยิ าก็มี เปน กรรมวบิ ากกม็ ,ี เวทนาทีเ่ กิดแตกรรมวิบากยอ มเกิดข้ึนเพราะกรรมทีต่ นกระทาํ แลว ใน กาลกอ น. เวทนาท่เี กดิ แตกรรมวิบากนอย เวทนานอกนนั้ มากกวา ดว ยประการฉะน.ี้ ชน พาลทัง้ หลายยอ มแลน ลวงไปในเวทนานนั้ วา 'เวทนาทง้ั ปวงเกิดแตกรรมวิบากอยาง เดยี ว,' กรรมนนั้ อันใคร ๆ ไมอ าจเพ่ือจะกระทาํ ความกําหนดเวนจากพทุ ธญาณ. ก็พระ
บาทของพระผมู ีพระภาคเจา อนั สะเก็ดศลิ ากระทบแลวดว ยเหตใุ ด ดวยเหตนุ น้ั เวทนา นั้นจะเปนเวทนามีลมเปนสมฏุ ฐานกไ็ มใ ช มดี ีเปน สมฏุ ฐานก็ไมใช มเี สมหะเปน สมฏุ ฐานก็ไมใ ช มสี นั นิบาตคือ ประชมุ ธาตุสีเ่ ปน ปจจยั กไ็ มใ ช จะเปน เวทนาเกิดแต ความเปลย่ี นฤดูกไ็ มใ ช จะเปน เวทนาเกิดแตการบรหิ ารอริ ยิ าบถไมเสมอกไ็ มใช จะเปน เวทนาเกิดแตก รรมวิบากก็ไมใ ช เวทนานนั้ เปน เวทนามอี ปุ กกมะความเพยี รของผอู ื่น เปนปจ จยั นนั่ เทยี ว. จริงอยู เทวทตั ผกู อาฆาตในพระตถาคตหลายแสนชาติแลว. เทวทัตนน้ั หยบิ ศิลาหนกั ใหญป ลอยแลวดว ยคดิ วา 'เราจักยิงศิลานี้ใหต กเหนือ กระหมอ ม' ดว ยอาฆาตนนั้ . คร้งั นน้ั ศลิ าสองกอ นอน่ื มารบั ศิลานน้ั เสียแตยังไมทนั ถงึ พระตถาคตเลย, กะเทาะศลิ าแตกเพราะกระทบท่ีศิลานนั้ แลว จงึ ตกลงทพ่ี ระบาทของ พระผูมีพระภาคเจา จึงกระทําพระโลหติ ใหหอ ขนึ้ แลว. เวทนาของพระผูม พี ระภาคเจา เกดิ แลว แตกรรมวบิ ากบา ง แตก ิริยาบาง, เวทนาอน่ื ยง่ิ ขน้ึ ไปกวา เวทนานน้ั ยอมไมม.ี เหมอื นพืชยอมไมเ กิดพรอ มเพราะความทนี่ าเปน ของอนั โทษประทษุ รายแลว บาง เพราะความทพ่ี ืชเปนของซึ่งอันตรายประทษุ รายแลว บา ง ฉนั ใด, เวทนานัน้ ของพระผมู ี พระภาคเจา จะเปน เวทนาเกดิ แลว แตกรรมวิบากบาง แตกิรยิ าบางฉนั นัน้ , เวทนาอน่ื ยิง่ ไปกวา เวทนานัน้ ยอมไมม แี ดพ ระตถาคตเลย. อกี นัยหนง่ึ โภชนะแปรไมเ สมอ เพราะความท่ลี ําไสเ ปน ของอนั โทษประทุษราย แลวบา ง เพราะความท่อี าหารเปน ของอนั โทษประทษุ รา ยแลว บา ง ฉนั ใด, เวทนานน้ั ของพระผมู พี ระภาคเจา เปนเวทนาเกดิ แลว แตกรรมวบิ ากบา ง แตก ริ ิยาบา ง ฉนั นน้ั , เวทนาอน่ื ยง่ิ ข้ึนไปกวา เวทนานนั้ ยอมไมม แี ดพ ระผมู ีพระภาคเจาเลยทเี ดยี ว. ขอถวายพระพร \"เออก็ เวทนาทเ่ี กิดแตก รรมวิบาก ยอ มไมม ีแดพ ระผูมีพระภาค เจา, เวทนาท่ีเกิดแตก ารบริหารไมเ สมอ ยอ มไมมแี ดพ ระผูมพี ระภาคเจา , เวทนายอ ม เกิดข้ึนแดพระผูมีพระภารเจา ดวยสมฏุ ฐานทงั้ หลายนอกนนั้ . กแ็ หละ เวทนานนั้ ไมอ าจ เพอ่ื จะปลงพระผมู ีพระภาคเจาจากพระชนมชีพได. เวทนาทง้ั หลายเปน ทพี่ งึ ใจและไม เปนทพี่ งึ ใจ งามและไมงาม ยอมตกลงในกายสาํ เรจ็ แลว ดว ยมหาภูตทั้งสน่ี .้ี ณ ทน่ี ม้ี ี กอนดนิ อนั ใคร ๆ โยนขน้ึ ไปในอากาศ ยอ มตกลงในแผน ดนิ ใหญ. กอ นดนิ นน้ั ยอมตกลง ในแผน ดินใหญ เพราะกระทํากรรมอนั ใดอนั หนงึ่ ไวแลว ในกาลกอนบา งหรือ ขอถวาย พระพร.\" ร. \"หาไม พระผเู ปน เจา มหาปฐวพี งึ เสวยวบิ ากเปน กุศลและอกุศลดวยเหตใุ ด เหตุนนั้ ยอมไมม ีแกแผน ดนิ ใหญ, พระผูเปนเจา กอนคนนน้ั ยอ มตกลงในแผนดนิ ใหญ ดวยเหตุเปน ปจ จบุ ันไมใชกรรม.\"
ถ. \"ขอถวายพระพร แผน ดนิ ใหญ อนั ใด พระตถาคตเจา บรมบพติ รพงึ ทรงเหน็ วาเหมือนแผน ดินใหญ ฉะนนั้ , กอนดนิ ตกลงในแผน ดนิ ใหญ โดยไมไดก ระทํากรรมไว แลว ในกาลกอน ฉนั ใด สะเกด็ นัน้ ตกลงแลวทพ่ี ระบาทของพระตถาคตเจา โดยไมได กระทํากรรมอันใดอนั หนง่ึ ไวแลวในกาลกอ น ฉนั นนั้ น่ันเทยี วแล. อน่งึ ในโลกน้ี มนษุ ยท ง้ั หลายยอมทาํ ลายแผนดินใหญดว ย ยอมขุด แผน ดนิ ใหญด ว ย; มนษุ ยท ้งั หลายเหลา นนั้ ยอ มทาํ ลายแผน ดินใหญดวย ยอ มขุด แผน ดนิ ใหญดว ย เพราะกรรมอันแผน ดนิ กระทําไวแลวในกาลกอ นบา งหรือเปน ไฉน?\" ร. \"หาไม พระผูเปนเจา .\" ถ.\"ขอถวายพระพร สะเก็ดใดนน้ั ท่ีตกลงแลว ทพี่ ระบาทของพระผมู พี ระภาค เจา สะเก็ดนนั้ จะไดตกลงแลวทพี่ ระบาทของพระผูมพี ระภาคเจา เพราะกรรมที่ไดท รง กระทาํ ไวแ ลว ในกาลกอนหามไิ ดฉ นั นน้ั นนั่ เทยี วแล. อาพาธมีความอาเจยี นโลหิตเปน ปจจยั แมใ ด ทเี่ กิดขน้ึ แลวแดพ ระผูมีพระภาคเจา อาพาธแมนั้น จะไดเกดิ ขึน้ แลว เพราะ กรรมทไ่ี ดท รงกระทาํ ไวแ ลว ในกาลกอ น หามิได, อาพาธนนั้ เกิดขึน้ แลวโดยอาพาธมี สันนบิ าตเปนปจจัยอยางเดยี ว. อาพาธทง้ั หลายเหลา ใดเหลาหนงึ่ ที่มใี นพระกายของ พระผมู พี ระภาคเจา เกิดขนึ้ แลวอาพาธทัง้ หลายเหลา นนั้ จะเกิดขน้ึ แลวเพราะกรรมหา มไิ ด, สมฏุ ฐานทง้ั หลายหกเหลาน้ี อาพาธท้ังหลายเหลา นั้นเกดิ ขึ้นแตส มฏุ ฐานอนั ใด อนั หนึง่ . พระผูมีพระภาคเจา เปนเทพดาลว งเทพดา แมไ ดทรงภาสติ พทุ ธพจนน ้ี ในเวย ยากรณช ือ่ โมลิยสวิ กา ดงั ดวงตราประทบั ไวในสังยตุ ตนกิ ายอนั ประเสรฐิ วา ดูกอนสวิ ก ในกายนี้ เวทนาทงั้ หลายบางเหลา แมมดี เี ปนสมฏุ ฐาน ยอมเกดิ ขึ้นแล; ดเู กิดขึน้ ดว ย ประการใด เวทนานน้ั ทานพงึ รูแจง แมเ องดว ยประการนน้ั , ดูกอนสิวก ในกายนเ้ี วทนา ทง้ั หลายบางเหลา แม้ดี ีเปนสมฏุ ฐาน ยอมเกิดข้ึนอยา งใดความรแู จง อยางนนั้ นน่ั เปน สจั จะสมมติแมของโลกแล. ดกู อนสิวก ในเวทนาทั้งหลายเหลา นน้ั สมณะและ พราหมณท ง้ั หลายเหลา ใดนน้ั มวี าทะอยา งนี้ มคี วามเหน็ อยางนว้ี า 'บรุ ุษบคุ คลน้ี ยอ ม เสวยเวทนาอนั ใดอนั หนงึ่ เปนสขุ หรอื เปน ทกุ ข หรือไมใ ชท ุกขไมใชสขุ เปนแตก ลาง ๆ เวทนาทง้ั ปวงนน้ั มกี รรมที่กระทําไวแ ลว ในกาลกอ นเปน เหต'ุ ดังน,้ี สมณะและ พราหมณทงั้ หลายเหลา นน้ั กส็ งิ่ ใดท่ตี นรแู ลวเอง ยอมแลน ลวงส่ิงน้ันดว ย, เพราะเหตุ นั้น เราผูตถาคตยอมกลา ววา 'ความเหน็ ของสมณะและพราหมณทง้ั หลายเหลา นน้ั ผิด.'ดกู อ นสวิ ก ในกายน้ี เวทนาทง้ั หลายบางเหลา แมม ีเสมหะเปน สมฏุ ฐานเกิดขนึ้ ฯลฯ แมม ีลมเปนสมฏุ ฐานเกดิ ขึน้ ฯลฯ แมมีสนั นบิ าตเปน ปจ จัยเกดิ ขนึ้ ฯลฯ แมเ ปน อตุ ุ ปริณามชาเกดิ ขึ้น ฯลฯ แมเปน วิสมปริหารชาเกดิ ข้ึน ฯลฯ แมเ ปน โอปก กมิกาเกดิ ขึ้น ฯลฯ เวทนาทั้งหลายบางเหลา แมเ ปน กมั มวิปากชาเกดิ ขน้ึ แล; ดูกอ นสวิ กในกายนี้
เวทนาท้งั หลายบางเหลา แมเปน กมั มวปิ ากชาเกดิ ข้นึ ดว ยประการใด เวทนานน้ั ทาน พงึ รูแ จง แมเองดว ยประการน้นั , ดกู อนสวิ กในกายนี้ เวทนาทงั้ หลายบางเหลา แมเปน กัมมวิปากชา ยอ มเกิดขน้ึ อยางใด ความรูอ ยางนนั้ นน่ั บณั ฑิตสมมตแิ ลววา เปน ของ จริงแมของโลกแล. ดูกอนสวิ ก ในเวทนาทง้ั หลายเหลานนั้ สมณะและพราหมณ ท้ังหลายเหลา ใดนนั้ มวี าทะอยา งนี้ มคี วามเหน็ อยา งน้ีวา 'บรุ ุษบุคคลยอ มเสวยเวทนา อันใดอนั หนง่ึ เปน สขุ หรือ หรือเปนทกุ ข หรือไมใชท ุกข ไมใชส ขุ เปน แตกลาง ๆ เวทนา ทัง้ ปวงเหลา นน้ั มกี รรมทกี่ ระทําไวแลว ในกาลกอ นเปน เหตุ' ดังน,ี้ ก็ส่งิ ใดท่ีตนรแู ลวเอง สมณะและพราหมณท ัง้ หลายเหลา นน้ั ยอมแลนลวงสง่ิ นน้ั เสยี ดว ย, กแ็ หละ สง่ิ ใดที่เขา สมมติแลว วา เปน ของจริงในโลก สมณะและพราหมณท ง้ั หลายเหลา นน้ั ยอมแลน ลว ง ส่งิ นน้ั เสียดว ย, เพราะเหตุนนั้ เราผตู ถาคตยอ มกลา ววา 'ความเหน็ ของสมณะและ พราหมณทง้ั หลายเหลานั้นผดิ ' ดงั น.้ี ขอถวายพระพร เวทนาทง้ั หลายทง้ั ปวง จะเปนของเกดิ แตก รรมวิบากทง้ั สนิ้ หา มไิ ด ดวยประการฉะน.ี้ บรมบพิตรจงทรงปญ หาขอ น้ีไวอ ยางน้ีวา 'พระผูมีพระภาคเจา ทรงละอกศุ ลทัง้ ปวงแลว จงึ บรรลคุ วามเปน พระสพั พญั ู' ขอถวายพระร.\" ร. ดีละ พระผเู ปน เจา ขอวสิ ชั นาปญ หานสี้ มอยางนนั้ , ขา พเจายอมรับรอง อยา งนนั้ .\" ๙. ตถาคตอุตตริกรณียาภาวปญ หา ๙ พระเจามิลินทต รัสวา \"พระผเู ปน เจา นาคเสน พระผูเปน เจา กลา วอยวู า 'กจิ ที่ จาํ ตองกระทาํ อันใดอันหนงึ่ กจิ ทง้ั ปวงเหลา นนั้ ของพระตถาคตเจา สาํ เร็จแลว ท่ีควง แหงไมโพธินน่ั เทียว, กิจที่จาํ ตอ งกระทาํ ยงิ่ ขนึ้ ไป หรือความตอ งกอสรา งเพมิ่ เตมิ กจิ ที่ พระองคทรงกระทําแลว ไมม แี ดพ ระตถาคต' ดงั น.ี้ ก็ความหลีกออกเรนอยูแตผูเดยี ว ตลอดสามเดือนน้ี ยงั ปรากฏอย.ู พระผูเ ปน เจานาคเสน ถา วากจิ ท่จี าํ ตองกระทาํ อนั ใด อนั หนึง่ กจิ ทงั้ ปวงนั้นของพระตถาคตสําเรจ็ แลวทค่ี วงแหง ไมโพธนิ นั่ เทยี ว, กิจที่จาํ ตอ ง กระทาํ ยิ่งขนึ้ ไป หรือความตอ งกอสรา งเพม่ิ เตมิ กจิ ท่ีพระองคท รงกระทาํ แลว ไมม แี ด พระตถาคตไซร; ถาอยางนนั้ คําท่ีวา 'พระตถาคตเสด็จหลกี ออกเรนอยูแตพ ระองคเ ดียว ตลอดสามเดือน' น้ันผิด. ถา วา พระตถาคตเสด็จหลีกออกเรนอยแู ตพระองคเ ดียวตลอด สามเดอื นไซร, ถาอยางนน้ั คําท่วี า 'กิจทจ่ี าํ ตอ งกระทําอนั ใดอนั หนง่ึ กจิ ทัง้ ปวงเหลา นัน้ ของพระตถาคตเจาสาํ เร็จแลว ที่ควงแหง ไมโ พธนิ นั่ เทยี ว, แมนน้ั กเ็ ปน ผดิ . ความหลกี ออกเรนอยูแ ตผ ูเ ดียว ยอ มไมม แี กบ คุ คลผทู ก่ี ระทาํ กจิ เสร็จแลว , ความเปน ผูหลกี ออก
เรน อยแู ตผูเดยี ว ยอมมแี กบ คุ คลยังมีกิจจาํ ตองกระทําถา ยเดยี ว. เหมอื นธรรมดาบคุ คล ท่มี พี ยาธิความเจบ็ ไขนั่นเทยี ว มีกิจจาํ ตอ งกระทาํ ดวยเภสัชคอื ตอ งรักษาดวยยา, บคุ คลไมมีพยาธิ จะมปี ระโยชนอ ะไรดว ยยา คือ ไมต อ งเยียวยาดว ยเภสชั , บุคคลผหู วิ นนั่ เทยี ว มีกจิ จาํ จะตอ งกระทาํ ดว ยโภชนะ คือ จะตองบรโิ ภคอาหาร บคุ คลผไู มหิว จะ ตองการอะไรดว ยโภชนะ ขอ น้ีฉนั ใด; ความหลกี ออกเรนอยแู ตผูเ ดียว ไมมแี ก บุคคลท่ี ไดกระทาํ กจิ เสร็จแลว , ความหลีกออกเรน อยแู ตผูเดียว ยอมมแี กบ ุคคลทีย่ งั มีกจิ จาํ ตอง กระทําถายเดยี ว ฉนั นนั้ นนั่ เทยี วแล. ปญหาแมน ้ีสองเงอ่ื น มาถงึ พระผเู ปนเจาแลว , ปญหานั้น พระผูเ ปน เจา พงึ ขยายคลายออกใหขาพเจาส้นิ สงสยั เถิด.\" ถ. \"ขอถวายพระพร บรรดากจิ ที่จาํ ตองกระทําอนั ใดอนั หนง่ึ กจิ ทง้ั ปวงนน้ั ของ พระตถาคตเจา สาํ เร็จแลว ทคี่ วงแหง ไมโพธนิ นั่ เทยี ว, กิจทจี่ าํ จะตองกระทํายง่ิ ขนึ้ ไป หรอื ความกอสรา งเพม่ิ เตมิ กิจทพ่ี ระองคไ ดทรงกระทําแลว ยอมไมม ีแดพ ระตถาคต อน่ึง พระผมู พี ระภาคเจาหลกี ออกเรนอยูแตพ ระองคเ ดียวแลว ตลอดสามเดอื น. ความ หลกี ออกเรน อยูแตผเู ดยี วแล เปน กจิ มีคุณมาก, พระตถาคตเจา ทง้ั หลายแมทงั้ ปวง เสด็จหลีกออกเรนอยแู ตพระองคเ ดียวแลว จึงบรรลคุ วามเปน พระสพั พญั ู, พระ ตถาคตเจา ทง้ั หลายนน่ั มาระลกึ ถงึ ความหลีกออกเรน อยูแตผ เู ดียวนนั้ วา มคี ุณได กระทําแลว ดี ยอมเสพความหลีกออกเรนอยแู ตผูเดยี วนนั้ . อุปมาเหมอื นบุรษุ ไดพ รแต สํานักของพระมหากษัตริยแ ลว รวยทรพั ยแ ละโภคะขน้ึ แลว มาระลึกถงึ พระมหากษตั รยิ นนั่ วา เปน ผูมคี ุณไดทรงกระทาํ ไวแกตนดว ยดีแลว หมั่นไปสูทีเ่ ปน ที่ บํารุงของพระมหากษัตรยิ เ นอื ง ๆ ฉนั ใด, พระตถาคตเจา ท้ังหลายแมท งั้ ปวง เสด็จหลกี ออกเรน อยูแ ตพ ระองคเดยี วแลว จึงบรรลคุ วามเปน พระสพั พญั ,ู พระองคม าทรง ระลกึ ถงึ ความหลกี ออกเรน อยแู ตผ เู ดยี วนน้ั วา มีคุณไดก ระทาํ ดีแลว ยอมเสพความ หลกี ออกเรน อยูแตผเู ดยี วนน้ั ฉนั น้ันนนั่ เทยี วแล. อีกอยางหน่ึง บรุ ษุ ทก่ี ระสบั กระสาย เสวยทกุ ขเวทนาเปน ไขหนกั เขา ไปเสพ หมอแลว จึงถงึ ความสวัสดี หายโรคหายไขแ ลว มาระลกึ ถึงหมอนัน้ วา เปน ผูม คี ุณ ได กระทาํ ดแี ลวแกตน หมนั่ เขาไปเสพหมอนนั้ เนอื ง ๆ ฉันใด, พระตถาคตเจา ทง้ั หลายแม ทง้ั ปวง เสดจ็ หลกี ออกเรน อยูแ ตพระองคเดยี วแลว จงึ ถงึ ความเปน พระสัพพญั ,ู พระองคมาระลึกถงึ ความหลีกออกเรน อยแู ตผเู ดียวนนั้ วา มีคณุ ไดก ระทําดีแลว แก พระองค จงึ ทรงเสพความหลีกออกเรน อยแู ตผ ูเดยี วนนั้ ฉนั นนั้ นน่ั เทยี วแล. ขอถวายพระพร คุณแหงความหลีกออกเรนอยูแ ตผ เู ดียวทงั้ หลายเหลา นี้ ย่สี ิบ แปดประการ พระตถาคตเจา ทงั้ หลายมาทรงเลง็ เหน็ คณุ ทง้ั หลายเหลา ไรเ ลา จงึ ทรง เสพความหลกี ออกเรน อยแู ตผเู ดยี ว, คุณยีส่ ิบแปดประการ เปน ไฉน? ในโลกนี้ ความ
หลกี ออกเรน อยูแตผ เู ดยี ว ยอ มรักษาบุคคลผูหลกี ออกเรน อยูแตผูเ ดยี วไวหนงึ่ , ยอมทาํ อายุของบคุ คลผหู ลกี ออกเรน อยูแตผูเ ดยี วน้นั ใหเ จรญิ ขึน้ หน่งึ , ยอมใหก ําลงั หนง่ึ , ยอ ม ปด โทษเสยี หนงึ่ , ยอ มนาํ ความเสื่อมยศออกเสยี หนงึ่ , ยอ มนํายศเขาไปใหห นง่ึ , ยอม บรรเทาอรตคิ วามไมย นิ ดีเสยี หน่งึ , เขาไปตง้ั ความยินดีไวหน่ึง, ยอมนาํ ความกลัวออก เสยี หนง่ึ , ยอ มกระทําความเปน คนกลา หาญไมค รนั่ ครา มหนง่ึ , ยอ มนาํ ความเปน คน เกียจครา นออกเสียหนง่ึ , ยอมยังความเพียรใหเกดิ ย่งิ ขนึ้ หนงึ่ , ยอมนาํ ราคะให ปราศจากสนั ดานหนง่ึ , ยอ มนําโทสะใหป ราศจากสนั ดานหนึง่ , ยอมนาํ โมหะให ปราศจากสนั ดานหนงึ่ , ยอมกาํ จดั มานะออกเสยี จากสนั ดานหนึ่ง, ยอ มละวิตกเสยี หนง่ึ , ยอมกระทาํ จติ ใหมีอารมณเ ปนอนั เดยี วหน่งึ , ยอ มกระทาํ ใจใหส นทิ หนงึ่ , ยอมยงั ความราเรงิ ใหเ กดิ หนงึ่ , ยอ มกระทําความเปนครหู นงึ่ , ยอมยงั ลาภใหเ กิดข้นึ หนง่ึ , ยอ ม กระทําผหู ลีกออกเรน อยูแตผ ูเดียวนน้ั ใหเ ปน ผูควรกราบไหวห นง่ึ , ยอมใหถงึ ปต คิ วาม อิม่ กายอมิ่ ใจหนง่ึ , ยอ มกระทาํ ความปราโมทยห นง่ึ , ยอมใหเ หน็ ความเปนเองของ สงั ขารทงั้ หลายหนึ่ง, ยอ มเลกิ ถอนปฏิสนธใิ นภพเสียหนง่ึ , ยอมใหผ ลเปน ของสมณะทง้ั ปวงหนง่ึ , คุณของปฏิสัลลานะ ความหลกี ออกเรนอยแู ตผเู ดยี วทง้ั หลายเหลา น้ีแล พระ ตถาคตเจา ทง้ั หลายทรงพิจารณาเนือง ๆ ดว ยดี เห็นคณุ ทง้ั หลายเหลา ไรเลา จงึ ทรง เสพปฏิสัลลานะความหลกี ออกเรน อยแู ตผ เู ดียว. เออกพ็ ระตถาคตเจา ทงั้ หลาย พระองคสดุ สนิ้ ความดํารแิ ลว พระองคใ ครเ พอ่ื จะเสวยความยินดใี นสมาบัติเปนสขุ อัน ละเอียด ยอมทรงเสพความหลกี ออกเรน อยแู ตผเู ดยี วแล. ขอถวายพระพร พระตถาคตเจา ทงั้ หลายทรงเสพความหลกี ออกเรน อยแู ตผู เดียว โดยเหตสุ ป่ี ระการ, พระตถาคตเจาทง้ั หลายทรงเสพความหลกี ออกเรน อยูแตผ ู เดยี ว โดยเหตสุ ่ีประการ เปน ไฉน? พระตถาคตเจา ทงั้ หลายทรงเสพความหลกี ออกเรน อยูแ ตผูเดยี ว โดยความทีพ่ ระองคเ ปน ผมู ีวหิ ารธรรม เครอ่ื งอยเู ปน สุขสาํ ราญบาง, โดย ความทพ่ี ระองคเ ปนผูมีคุณปราศจากโทษมากบาง, โดยความทีป่ ฏสิ ลั ลานะนนั้ เปน วถิ ี ของพระอรยิ เจา ไมมีสวนเหลือบาง, โดยความทปี่ ฏสิ ัลลานะนน้ั เปน คณุ ท่พี ระพทุ ธเจา ทั้งหลายทงั้ ปวงชมแลว ยกยองแลว พรรณนาแลว และสรรเสริญแลว บา ง, พระตถาคต เจาทง้ั หลายทรงเสพปฏสิ ัลลานะ ความหลกี ออกเรนอยูแตผ เู ดียว โดยเหตสุ ปี่ ระการ เหลา นแ้ี ล. พระตถาคตเจาทงั้ หลายทรงเสพปฏิสัลลานะ ดวยเหตุดงั พรรณนามา ฉะน,้ี จะทรงเสพโดยความทพี่ ระองคยงั เปน ผมู กี จิ จาํ ตองกระทํา หามไิ ด, หรอื จะทรงเสพเพอ่ื ความกอสรา งเพิม่ เติมกิจทพ่ี ระองคไ ดท รงกระทําแลว กห็ าไม, พระตถาคตเจาทง้ั หลาย ทรงเสพความหลกี ออกเรน อยแู ตผ ูเดียว โดยความทพ่ี ระองคเปนผทู รงพจิ ารณาเหน็ คุณ พเิ ศษโดยสว นเดียวแล.\"
ร. \"ดีละ พระผเู ปน เจา นาคเสน ขอ วสิ ัชนาของพระผเู ปน เจาสมอยา งนน้ั , ขาพเจา ยอมรบั รองอยา งนนั้ .\" ๑๐. อทิ ธิปาทพลทัสสนปญหา ๑๐ ร. \"พระผูเปน เจานาคเสน พระพุทธพจนน้ี อันพระผูมพี ระภาคเจา แมภ าสิตแลว วา 'ดกู อนอานนท อทิ ธิบาทสีป่ ระการ อนั พระตถาคตไดใ หเจริญแลว กระทําใหม าก แลว กระทาํ ใหเปน ประหน่งึ ยานเครอ่ื งไปแลว กระทําใหเปน วตั ถทุ ่ตี ้งั แลว ตงั้ ขึน้ เนอื ง ๆ แลวสงั่ สมแลวปรารภพรอ มดวยดแี ลวแล; ดกู อ นอานนท พระตถาคตเม่ือหวงั พงึ ดํารง พระชนมอ ยไู ดตลอดกัปปหนึ่งบา ง เลยกปั ปห นง่ึ บา ง' ดงั น.ี้ พระผูเ ปน เจา นาคเสน ถา พระผมู พี ระภาคตรสั แลว วา 'ดูกอนอานนท อทิ ธบิ าททั้งหลายส่ี อนั พระตถาคตไดเ จริญ แลว กระทําใหม ากแลว กระทําใหเปน ประหนงึ่ ยานเครอ่ื งไปแลว กระทาํ ใหเ ปน วัตถุ ที่ต้ังแลว ต้ังขน้ึ เนอื ง ๆ แลว สัง่ สมแลว ปรารภพรอ มดว ยดแี ลว แล; ดูกอ นอานนท พระ ตถาคตเมอื่ หวงั พึงดาํ รงพระชนมอ ยูไดตลอดกัปปหนง่ึ บา ง เลยกัปปห นง่ึ ข้นึ ไปบา ง' ดงั น้ี ถาอยา งน้นั ความกาํ หนดไตรมาสสามเดือนเปน ผิด ถา พระตถาคตไดตรสั แลววา 'พระตถาคตจกั ปรินิพพาน โดยกาลท่เี ดอื นทงั้ หลายสามแตว นั น้ลี ว งไปแลว' ดังน.้ี ถา อยา งนน้ั คาํ ทว่ี า 'ดูกอนอานนท อทิ ธิบาทสป่ี ระการอันพระตถาคตไดเจริญแลว กระทาํ ใหม ากแลว กระทาํ ใหเปนประหนงึ่ ยานเครอื่ งไปแลว กระทาํ ใหเ ปน วตั ถทุ ่ตี ้งั แลว ตัง้ ข้นึ เนือง ๆ แลว สงั่ สมแลว ปรารภพรอมดวยดีแลว แล; ดกู อ นอานนท พระตถาคตเม่อื หวัง พงึ ดํารงพระชนมอ ยไู ดตลอดกปั ปหน่ึงบา ง เลยกปั ปห นง่ึ ข้นึ ไปบา ง' ดงั น้ี แมนน้ั ก็เปน ผดิ ไป. ความบนั ลอื ในท่มี ิใชเ หตุ ยอมไมม ีแกพระตถาคตเจาทง้ั หลาย, พระผมู พี ระภาค เจา ผูตรสั รแู ลวทง้ั หลาย มพี ระพุทธพจนไ มเ ปลา มพี ระพุทธพจนเ ทย่ี งแท มีพระพทุ ธ พจนไ มเ ปน ไปโดยสว นสอง. ปญ หาแมน ีส้ องเง่อื น เปน ของลึกละเอยี ดนกั พงึ ยงั บุคคล ใหเหน็ โดยยากเกิดข้ึนแลว , ปญ หานั้นมาถงึ พระผเู ปน เจาแลว , พระผูเ ปนเจา จงทาํ ลาย รางขาย คือ ทฏิ ฐนิ ัน้ , ยังขาพเจา ใหตง้ั อยใู นสวนอนั เดียว, จงทําลายปรปั ปวาทเสยี .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระพทุ ธพจนน ี้ อันพระผมู ีพระภาคแมภาสติ แลววา 'ดูกอนอานนท อทิ ธบิ าทสปี่ ระการ อนั พระตถาคตไดใหเ จรญิ แลว กระทาํ ใหมากแลว กระทาํ ใหเ ปน ประหนง่ึ ยานเคร่ืองไปแลว กระทาํ ใหเปน วตั ถุทีต่ ัง้ แลว ตง้ั ขน้ึ เนือง ๆ แลว สงั่ สมแลว ปรารภพรอมดวยดีแลวแล; ดกู อ นอานนท พระตถาคตเมอื่ หวงั พงึ ตั้งอยไู ด ตลอดกปั ปหนงึ่ บา ง เลยกปั ปห นงึ่ ขน้ึ ไปบา ง' ดงั น.ี้ และความกาํ หนดไตรมาสพระองคก ็ ตรสั แลว. กแ็ หละกัปปนน้ั คอื อายุกปั ป กาลเปนที่กาํ หนดอายุ พระผมู ีพระภาคยอ ม
ตรัสวา กปั ป. พระผูมพี ระภาคจะทรงสรรเสรญิ กําลังของพระองคตรัสอยางน้ี หามไิ ด, ก็ แตวา พระองคทรงสรรเสรญิ กําลับแหง ฤทธ์ิ ตรัสอยา งน้วี า 'ดูกอนอานนท อทิ ธบิ าทส่ี ประการ อนั พระตถาคตไดใ หเ จรญิ แลว กระทําใหมากแลว กระทําใหเปน ประหนง่ึ ยาน เครื่องไปแลว กระทาํ ใหเปน วตั ถทุ ี่ตงั้ แลว ตัง้ ขึน้ เนือง ๆ แลว สง่ั สมแลว ปรารภพรอ ม ดวยดีแลว แล; ดูกอ นอานนทพ ระตถาคตเมื่อหวงั พึงตงั้ อยูไ ดต ลอดกัปปหนง่ึ บาง เลย กปั ปหนึ่งขน้ึ ไปบาง' ดงั น.ี้ ถาจะพงึ มีมาอาชาไนยของพระมหากษตั ริย มีฝเ ทาเรว็ เชาวไวดงั ลม. พระมหากษัตรยิ จะทรงอวดกาํ ลงั เชาวของมา อาชาไนยนนั้ พึงตรัสในทา นกลางแหงชน กบั ทง้ั ชาวนิคมและชาวชนบท และราชภัฏหมูพ ล และพราหมณคฤหบดี และอมาตย อยา งน้วี า 'แนะ พอเฮย มา ประเสรฐิ นีข้ องเรา เมื่อจาํ นง จะพงึ เทย่ี วไปตลอดแผนดนิ มี นา้ํ ในสาครเปน ท่ีสุดแลว จึงกลับมาในทน่ี โี้ ดยขณะหนง่ึ ได,' พระมหากษตั ริยน ้นั จะพงึ แสดงความไปวองไวน้ันในบรษิ ทั นน้ั กห็ าไม, กแ็ ตว า ความวอ งไวของมานน้ั มีอย,ู ดวย มาอาชาไนยนน้ั อาจเพ่ือจะเที่ยวไปตลอดแผนดินมนี ํา้ ในสาครเปน ที่สดุ ดวย ฉนั ใด; พระผูมีพระภาคเจาจะทรงสรรเสริญกาํ ลงั แหง ฤทธข์ิ องพระองค จงึ ตรสั แลวอยางน้ี ฉนั นน้ั , แมพ ระพทุ ธพจนน ัน้ พระองคเ สดจ็ นงั่ ณ ทา มกลางแหง บคุ คลมวี ชิ ชาสาม ทงั้ หลายดว ย แหง บุคคลมอี ภญิ ญาหกทง้ั หลายดว ย แหง พระอรหนั ตท ง้ั หลายดวย แหง พระขณี าสพผปู ราศจากมลทนิ ท้ังหลายแลวดวย แหง เทพดาและมนษุ ยทงั้ หลายดว ย ตรสั แลววา 'ดูกอนอานนท อทิ ธบิ าทส่ปี ระการ อนั พระตถาคตไดใ หเ จริญแลว กระทาํ ใหมากแลว กระทําใหเปน ประหนงึ่ ยานเครอ่ื งไปแลว กระทาํ ใหเ ปน วัตถุที่ตัง้ แลว ตง้ั ขน้ึ เนือง ๆ แลว สงั่ สมแลว ปรารภพรอมดวยดแี ลวแล; ดกู อนอานนท พระตถาคตเมือ่ หวัง พึงตัง้ อยไู ดตลอดกปั ปห นงึ่ บา ง เลยกปั ปห นึ่งขนึ้ ไปบา ง' ดังน;้ี กแ็ หละ กาํ ลงั แหงฤทธ์ิ ของพระผูมพี ระภาคเจานั้นมอี ยดู ว ย, พระผูมพี ระภาคเจา กเ็ ปน ผอู าจเพือ่ จะดาํ รงพระ ชนมายุไดต ลอดกปั ปหนง่ึ บา ง หรอื ตลอดกาลเลยกัปปห นงึ่ ขึ้นไปบาง, ดวยพระองคจะ ทรงแสดงกาํ ลงั แหง ฤทธิน์ น้ั ในบรษิ ัทนนั้ กห็ าไม. พระผมู พี ระภาคเจาไมม ีความตองการ ดวยภพทงั้ ปวง, อนง่ึ พระตถาคตเจา ทรงตเิ ตยี นภพท้ังปวงแลว. แมพระพทุ ธพจนน ี้ อนั พระผมู พี ระภาคไดท รงภาสติ แลว วา 'ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลายธรรมดาคถู แมมีประมาณ นอย กม็ ีกลนิ่ ชั่วเหมน็ รา ย แมฉันใด, ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย เราตถาคตไมพรรณนา สรรเสรญิ ภพแมมีประมาณนอ ย, โดยสว นสดุ แมเ พยี งหยบิ มอื เดยี ว เราตถาคตก็ไม สรรเสริญ ฉนั นน้ั โดยแท. ' พระผูมพี ระภาคเจา ทรงเหน็ ภพและคติและกําเนดิ ทง้ั ปวง เสมอดวยคูถแลว จะพงึ อาศยั กําลงั แหง ฤทธกิ์ ระทาํ ความยนิ ดีดว ยอาํ นาจความพอใจ ในภพทงั้ หลายบา งเทยี วหรอื ขอถวายพระพร.\"
ร. \"ขา แตพระผเู ปน เจา ผเู จรญิ พระผูมพี ระภาคเจาไดท รงเหน็ ภพและคตแิ ละ กาํ เนดิ ทงั้ ปวง เสมอดว ยคถู แลว ซง่ึ จะทรงอาศัยกาํ ลงั แหง ฤทธก์ิ ระทาํ ฉนั ทราคในภพหา ไมเลย.\" ถ. \"ขอถวายพระ ถาอยางนน้ั พระผมู พี ระภาคเจา เม่อื จะทรงสรรเสรญิ กําลัง แหง ฤทธิ์ ทรงบนั ลือสหี นาทของพระพทุ ธเจา เหน็ ปานนน้ั ย่งิ แลว .\" ร. \"พระผเู ปน เจานาคเสน ดลี ะ ขอวสิ ัชนาปญหานี้ สมอยางนน้ั , ขา พเจา ยอม รบั รองอยา งนนั้ .\" วรรคท่สี อง ๑. ขุททานุขทุ ทกปญ หา ๑๑ พระเจามลิ ินทต รัสวา \"พระผเู ปน เจา นาคเสน พระพทุ ธพจนน ้ี พระผมู พี ระภาค แมตรัสแลววา 'ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพือ่ ความตรสั รูยงิ่ มไิ ดแ สดง ธรรมเพอ่ื ความไมตรัสรยู ิ่ง ดังน.ี้ สว นวา ในวนิ ัยบญั ญัติ พระองคต รัสแลว อยางนอ้ี กี วา 'ดูกอ นอานนท พระสงฆเ มอื่ จาํ นง จงเลกิ ถอนสิกขาบททง้ั หลายนอยและนอ ยโดยลาํ ดบั โดยกาลที่เราตถาคตลวงไปแลว' ดงั น.้ี พระผเู ปนเจา นาคเสน สิกขาบททง้ั หลายนอย และนอ ยโดยลาํ ดับ โดยกาลท่ีพระองคล ว งไปแลว . พระผเู ปนเจา นาคเสน ถา วา พระผมู ี พระภาคเจา ตรสั แลววา 'ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพอื่ ความตรัสรูยงิ่ มไิ ดแ สดงธรรมเพ่อื ความไมต รัสรูยิ่ง' ดังน,้ี ถาอยา งนน้ั คําทวี่ า 'ดกู อนอานนทโดยกาล ที่เราผูตถาคตลว งไปแลว พระสงฆเมื่อจาํ นงจะเลิกถอนสกิ ขาบททัง้ หลายนอยและนอ ย โดยลาํ ดบั เสยี กเ็ ลกิ ถอนเถิด' ดังน้ี นนั้ ผิด. ถา พระตถาคตตรัสแลว ในวนิ ัยบญั ญตั อิ ยา ง น้ีวา 'ดกู อ นอานนท โดยกาลทีเ่ ราผูตถาคตลวงไปแลว พระสงฆเ มื่อจาํ นง จะเลกิ ถอน สิกขาบททัง้ หลายนอ ยและนอ ยโดยลาํ ดบั เสยี กจ็ งเลกิ ถอนเถดิ ' ดงั น,้ี ถา อยา งนัน้ คํา ทีว่ า 'ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพ่ือความตรัสรูย่งิ มไิ ดแ สดงธรรมเพอ่ื ความไมตรัสรูยงิ่ แลว' ดังนี้ แมนั้นเปน ผิด. ปญ หาแมนี้สองเงอ่ื น ละเอยี ดสขุ ุม ละเอยี ด ดวยดีแลว ลกึ ๆ ดว ยดแี ลว อันบัณฑิตพงึ ใหเหน็ โดยยาก มาถึงพระผเู ปนเจา แลว , พระ ผเู ปนเจา จงแสดงความแผไ พศาลแหง กาํ ลังญาณของพระผเู ปนเจา ในปญหานน้ั เถดิ .\" ถ. \"ขอถวายพระพร พระพุทธพจนน้ี อนั พระผมู พี ระภาคแมภาสติ แลว วา 'ดูกอ นภกิ ษทุ งั้ หลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพอ่ื ความตรสั รยู ่ิง มไิ ดแ สดงธรรมเพอ่ื ความ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430