Page 350 340 การฝงเข็ม-รมยา เลม 2 ในปจจุบันนั้น หินเปยนที่ใชกันในยุคนั้นจําแนกออกเปนสามประเภทคือ เปยนสือ (หินคม) ซานสือ (หินแหลม) และเจินสือ (เข็มหิน) มนุษยในยุคน้ันรักษาโรคโดยการใชมุมหรือคมของหินเหลานี้ กรีด สะกิด กด หรือแทงตรงจุดท่ีแนนอนบนรางกาย หินเหลานี้เปนเคร่ืองมือในการแทงเข็มที่บุพกาลท่ีสุด เม่ือการผลิตพัฒนาไป เคร่ืองมือเคร่ืองใชก็พัฒนายกระดับขึ้น มีการใชเข็มท่ีทําจากกระดูกและไมไผ แทนกอนหินที่ใชกันในระยะ แรกๆ เมื่อมีการทําเครื่องปนดินเผาขึ้นก็มีการประดิษฐ เข็มดินเผา ข้ึนใช เข็มชนิดน้ีใชสําหรับสะกิดผิวหนังตื้นๆ ตรงตําแหนงท่ีแนนอนบนรางกาย วิธีโบราณวิธีน้ียังคงใชกับใน บางสวนของประเทศจนกระท่ังทุกวันนี้ การนําไฟเขามาใชในการดํารงชีพของมนุษยไดอํานวยเงื่อนไขสําหรับการคิดคนวิธีการรักษา โรคดวยการรมยา กําเนิดของการรักษาโรคดวยการรมยานี้สามารถสืบยอนหลังไปถึงการคนพบของ บรรพบุรุษที่วา “อาการของโรคบางโรคอาจหายไปไดหลังจาก ผิงรอบๆ กองไฟ” หรือบทเรียนจาก อุบัติเหตุที่อาการของโรคหายไปไดเม่ือถูกไฟลวก เปนตน ปรากฏการณที่เกิดข้ึนเสมอๆ เหลาน้ีไดนํามาสู การรักษาโรคดวยวิธีการรมยา ในระยะแรกๆ วัตถุดิบท่ีใชในการรมยาก็คือใบไมหรือกิ่งไมแหงๆ แลว คอยๆ พัฒนามาใชถาน กํามะถันและโกฐจุฬาลําพา เปนตน จากประสบการณในการปฏิบัติเปนเวลาอัน ยาวนาน บรรพบุรุษของเราสรุปไดว าผงละเอียดจากใบแหงของตนโกฐจุฬาลําพาใหผลดีท่ีสุดและนิยมใช กันมากทีส่ ุดในการรมยา ในสมัยราชวงศซาง(1,057-557 ปกอนพุทธกาล) เปนระยะแรกท่ีมนุษยคนพบการผสมโลหะ ใน สมัยน้ีมนุษยรูจักใชโลหะมาประดิษฐเครื่องมือเคร่ืองใชในการผลิต นอกจากนั้นพวกเขายังไดทํา เข็ม ทองเหลือง ข้ึนใชแทนเข็มไมไผ เข็มกระดูก หรือเข็มดินเผาในอดีต เม่ือมนุษยมีบทเรียนในการแทงเข็ม มากข้ึน ความเรียกรองตองการท่ีจะใชเข็มท่ีเฉพาะออกไปก็มีมากขึ้น ทําใหมีการนําโลหะมาประดิษฐเปน เข็มเฉพาะตางๆ ขึ้น นําวิธีการรักษาโรคดวยการแทงเข็มเขาสูขอบเขตใหม ในสมัยนี้มีการประดิษฐ เข็ม ทั้งเกา สําหรับใชในเงื่อนไขแตกตางกัน เข็มท้ังเกาน้ีไดแก เข็มหัวลูกศร (ใชสําหรับแทงสะกิด ผิวหนังตื้นๆ ), เข็มกลม (ใชสําหรับนวดตรงจุด), เข็มท่ือ (ใชสําหรับเคาะหรือกดตรงจุด), เข็ม สามเหลี่ยม (ใชส ําหรับแทงสะกิดเลือด, เข็มดาบ (ใชสําหรับเขี่ยหนอง), เข็มกลมคม (ใชสําหรับแทงสะกิด อยา งรวดเรว็ ), เข็มแทง (เข็มลักษณะทใ่ี ชก นั ในปจ จบุ ัน), เข็มยาว (ใชส าํ หรับแทงกลามเน้อื ลึกๆ ), และเข็ม ใหญ (ใชสําหรับโรคขออักเสบหรืออาการปวดทั่วๆ ไป) เข็มทั้งเกาประเภทนี้ ในปจจุบันน้ีสวนใหญ เลกิ ใชแลว ท่ยี งั ใชก ันอยูท่วั ไปในปจจบุ นั ไดแก เข็มแทงและเขม็ สามเหลยี่ ม
Page 351 ภาคผนวกท่ี 1 341 ในสมัยนี้มนุษยนอกจากจะทําเข็มทองเหลืองข้ึนใชแลว ยังมีการทําเข็มเงินและเข็มทองขึ้นใช ดว ย ในสมัยราชวงศซางนี้นอกจากเครื่องมือในการแทงเข็มจะพัฒนายกระดับสูงขึ้นดังกลาว มาแลวยังมีการคนจุดตางๆ ท่ีเฉพาะลงไป และยังมีการคนพบระบบของเสนอีกดวย จากเดิมท่ีมีการบีบ นวด หรือเคาะตรงตําแหนง ที่เปนโรคหรอื เจบ็ ปวดในระยะแรกๆ พัฒนามาเปนการใชเขม็ แบบตางๆ แทง ลงไปตรงตําแหนงเหลานั้น หลังจากผานการปฏิบัติเปนเวลาอันยาวนานซํ้าแลวซํ้าอีก แพทยในสมัยนี้ ก็ไดสรุปกฎเกณฑเก่ียวกับจุดตางๆ เหลาน้ันทําใหเกิดจุดท่ีเฉพาะเจาะจงข้ึน พวกเขาต้ังช่ือจุดเหลาน้ันขึ้น เพ่ือสะดวกแกการจดจําและถายทอด เม่ือพวกเขาแทงเข็มและกระตุนเข็มตรงจุดหนึ่งๆ พวกเขามักจะ พบวาผูปวยมักจะเกิดความรูสึกที่แผขยายไปไดไกลๆ เสมอ นอกจากนั้นพวกเขามักจะเฝาสงสัยถึง ปรากฏการณท่ีจุดในตําแหนงที่ตางกันบนรางกายสามารถรักษาโรคหรืออาการบางอยางไดเหมือนกัน จากการสังเกต รวบรวมความรูและบทเรียนตางๆ พวกเขาเช่ือวานาจะมีความสัมพันธกันระหวางจุด ตางๆ ที่มีคุณสมบัติคลายคลึงกัน ระหวางกลุมจุดเหลานั้นกับโรคหรืออาการตางๆ เปนตน ซึ่งความรู เหลา น้เี ปนที่มาของ”ระบบจุด” และ “ทฤษฎีเกย่ี วกับเสน ”ในเวลาตอ มา ในระยะสงครามระหวางแควน (พ.ศ. 68 – 322) ระยะนี้เปนระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงอยาง ใหญหลวงในสังคมจีน ซ่ึงทําใหเกิดความสัมพันธใหมของการผลิตแบบศักดินาข้ึน การใชเครื่องมือท่ีทํา จากเหล็กทําใหเกษตรกรรมและงานฝมือพัฒนาไปอีกมากสรางคุณูปการใหแกความกาวหนาทาง วิทยาศาสตรและวัฒนธรรม ในสมัยนี้มีสิ่งใหมๆ เกิดขึ้นมากมาย เชน ดาราศาสตร ภูมิศาสตร คณติ ศาสตร และการทาํ ปฏทิ นิ นอกจากน้ันคนในยุคนยี้ งั สามารถเขาใจปรากฏการณตา งๆ ท่เี กิดข้ึนตาม ธรรมชาติมากย่ิงข้ึน ในทางการแพทยก็เชนเดียวกัน ไดมีการรวบรวมความรูตางๆ ที่บรรพบุรุษได ถายทอดไวเรียบเรียงไวเปนตํารา ชื่อ “หวงตี้เนยจิง Huang Di Nei Jing(หลักวิชาการแพทยบันทึก โดยกษัตริยหวง)” ตําราเลมน้ีแบงออกเปน 2 สวนคือ “ซูเวิ่น Su Wen คําถามงายๆ” และ “หลิงซู Ling Shu แกนมหัศจรรย” ซึ่งไดอธิบายวิธีการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยาไดอยางละเอียด โดยเฉพาะ “หลิงซู” ไดอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเสน จุด เข็มประเภทตางๆ วิธีการกระตุนเข็ม ขอบง ใชแ ละขอ หา มในการแทงเข็มรมยา คําอธิบายเก่ียวกับ “ทฤษฎีเก่ียวกับเสน” ไดปรากฏข้ึนครั้งแรก ในตําราเลมน้ี ในตําราเลมนี้ยังไดกลาวถึงคุณสมบัติทางการรักษาโรคของวิธีการแทงเข็มรมยาโดยเฉพาะ ในการแทงเขม็ ระงบั ปวด ในตําราเลมน้ีบันทึกไววาการแทงเข็มมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวด ปวด ฟน เจ็บคอ ปวดหู ปวดกระเพาะอาหารและบริเวณทอง และขออักเสบ ในบทที่วาดวยเสนและเอ็นของ
Page 352 342 การฝงเขม็ -รมยา เลม 2 “หลิงซู” ก็ไดย้ําถึง กฎเกณฑโบราณที่วา “แทงตรงจุดท่ีเจ็บ” เพื่อระงับและรักษาอาการปวด ตําราเลมน้ีก็ไดรับการขยายความและแกไขใหมในสมัยราชวงศฉินและฮั่น (พ.ศ. 322 – 763)และใน ตาํ ราเลมนไ้ี ดก ลายมาเปนคําอธิบายทีส่ าํ คัญของทฤษฏเี บือ้ งตนของวชิ าการแพทยแ ผนโบราณของจีน ในสมัยราชวงศฮ่ัน (พ.ศ. 337 – 763) วิธีการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยาพัฒนาไปอีกมาก จากหลักฐานท่ียังคงมีอยูที่เรียกวา “ส่ือจี้ (บันทึกประวัติศาสตร)” ซึ่งบันทึกโดยซือหมาเชียน-นักอักษร ศาสตรและนักประวัติศาสตรจีนแหงราชวงศฮั่นในเร่ือง “ชีวประวัติของเปยนเชว่ียและชางกง”ไดเลาถึง ความสําเร็จของแพทยที่มีชื่อเสียงในสมัยนี้ไดชวยผูปวยจากอาการโคมาดวยการแทงเข็ม หมอเปยน เชว่ียผูนี้มีช่ือวาฉินเยวี่ยเหริน เกิดท่ีมาวโจว อําเภอปอหาย ซึ่งปจจุบันอยูในอําเภอเหอเปย เขาไดสรุป และรวบรวมประสบการณทางการแพทยของบรรพบุรุษของเขาและไดสรุปเปนวิธีการตรวจและ วินิจฉัยโรค 4 วิธี ที่มีชื่อเสียงและปจจุบันก็ยังคงใชกันอยูทางการแพทยแผนโบราณจีน วิธีท้ังสี่น้ีไดแก 1. โดยการสังเกตอารมณ, สีหนา,การทรงตัวและลักษณะของลิ้น 2. โดยการฟงเสียงและดมกล่ินของ รางกาย 3. โดยการซักประวัติของผูปวย 4. โดยการคลํา เชน คลําชีพจรและตําแหนงท่ีไวตอความรูสึก ตางๆ ฉนิ เยวย่ี เหรินไดรบั การยกยองโดยท่วั ไปวามีความรูความเขาใจอยางลึกซ้ึงในการแพทยสาขาตางๆ เขามีความสามารถท้ังการใชยาสมุนไพรและการแทงเข็ม,ท้ังการนวดและการพอกยา ตลอดถึงวิธีการ รกั ษาแบบอ่ืนๆ เปย นเชว่ยี เปนช่ือของแพทยผ มู ีความสามรถท่ีปานเทพยดาในตํานานที่เลาสืบทอดกันมา ตั้งแตโบราณ. เน่ืองจากความสามรถที่ปานเทพยดาของฉินเยวี่ยเหริน เขาจึงไดรับการขนานนามวา “เปยนเชวี่ย” หมอเปยนเชวี่ยไดใชชีวิตในวัยกลางคนของเขาออกเดินทางตระเวนไปท่ัวประเทศทําการ รักษาโรคใหแกประชาชน ครั้งหนึ่งเม่ือเขาเดินทางไปถึงแควนกวอ (แควนโบราณในสมัย 557 ปกอน พุทธกาล, ปจจุบันคือมณฑลเหอหนานและสานซี) พรอมกับผูชวยของเขาทั้งสองชื่อ จูหยางและจูปาว พวกเขาไดทราบขาวการหมดความรูสึกอยางฉับพลันของเจาชายกวอในเชาวันหน่ึง พวกเขาไปที่วังเพื่อ ขอตรวจและรักษาเจาชายกวอในขณะที่ทางวังกําลังจัดเตรียมงานศพของเจาชายกวอ. หลังจากท่ีหมอ เปยนเชว่ียไดถามถึงอาการและตรวจรางกายอยางละเอียดแลว เขาไดยินเสียงหัวใจท่ียังคงเตนชาๆ อยางเบามากและพบวาดานในของขาออนยังอุนๆ อยู เขาสั่งใหจูหยางแทงเข็มทันที ไมนานนักเจาชาย กวอก็รูสึกตัว เขาจึงส่ังใหจูปาวพอกยาที่แขนท้ังสองขางของผูปวย หลังจากน้ันไมนานเจาชายกวอก็ สามารถลุกนั่งบนเตียงได หลังจากน้ันเขาก็ไดตมสมุนไพรใหดื่มอีก 20 วัน แลวเจาชายกวอก็หายเปน ปกติ เมอื่ ขา วความสามารถของเปยนเชวย่ี แพรไ ปในแควนประชาชนขนานนามวิธีการรักษาของเขาวาเปน “อํานาจเหนือธรรมชาติท่ีทําใหคนตายฟนได” เขาไดแตชี้แจงวาเขาเพียงแตทําใหคนท่ียังมีชีวิตกลับมี
Page 353 ภาคผนวกท่ี 1 343 ความรูสึกเทานั้น นี่เปนหมายเหตุทางประวัติศาสตรตัวอยางหนึ่งที่แสดงถึงความสําเร็จของวิธีการรักษา โรคดวยการแทงเข็มรมยาในอดีตกวาสองพันปก อ น นักประวัติศาสตรจีนอีกคนหน่ึงช่ือฟานเยี่ย(พ.ศ. 941 – 989) ไดบันทึกเร่ืองราวความสําเร็จ ของแพทยในสมัยราชวงศฮ่ันไวหลายตอนในงานเขียนของเขาชื่อ “ประวัติศาสตรสมัยราชวงศฮั่นตอน ปลาย”ในงานเขียนช้ินนี้ไดเลาถึงความสามารถของแพทยคนหน่ึงในสมัยราชวงศฮ่ันตะวันออก (ตอน ปลาย) ชื่อฝูอง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในวิธีการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยา เขาไดเผยแพรความรู เหลาน้ีไปในหมูประชาชนนอกจากน้ัน ในงานเขียนช้ินนี้ของฟานเยี่ยก็มีอีกสวนหนึ่งชื่อ “ชีวประวัติของ ฮัวถวอ( Hua Tuo)” ซึ่งไดเลาถึงการที่ฮัวถวอใชฝนเปนยาระงับความรูสึกในการผาตัดเปดชองทองเปน ครั้งแรก ตามชีวประวัติของฮัวถวอระบุวา นอกจากฮัวถวอจะมีความสามารถในการใชยาสมุนไพร และการผาตัดแลว เขายังมีความชํานาญเปนพิเศษในการแทงเข็มรมยาเชนกัน เขามักจะประสบ ความสําเร็จในการรกั ษาโรคดว ยการแทงเข็มตรงจดุ ทีเ่ ลอื กสรรแลวเปนอยางดี 1 – 2 จุด ชีวประวัตินี้ได เลาถึงการที่หมอฮัวถวอรักษาฉาวชาว(โจโฉ) ( พ.ศ. 698 – 763) ซ่ึงเปนแมทัพและกวีในสมัยสามกก (พ.ศ. 763 – 823) ที่ปวยดวยอาการปวดหัวเรื้อรัง ฉาวชาวรักษาดวยวิธีการอ่ืนๆ มากมายแตไมหาย แตหมอฮัวถวอสามารถรักษาใหหายขาดไดดวยการแทงเข็มรมยาเร่ืองราวเกี่ยวกับความสําเร็จในการ รักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยาของเปย นเชว่ีย, ฝูองและฮวั ถวอแหงราชวงศฮ นั่ ไดส รา งคุณปู การอันใหญ หลวงแกประชาชนจีนเรียกไดวาเปนเจาของการรักษาโรคดวยวิธีน้ี ในการปลดเปล้ืองความเจ็บปวดและ โรครายตางๆ ท้ังยังแสดงวาวิธีการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยาไดใหผลท่ีนาประทับใจและมี ความหมายสําคญั ยิ่งในหมปู ระชาชนจีนมาแตโบราณตัง้ แตสมัยราชวงศฉินตะวันตกและตะวันออก(พ.ศ. 808 – 963) ถึงราชวงศใตและเหนือ(พ.ศ. 963 – 1,132) วิชาแทงเข็มรมยาพัฒนาไปอีกมาก ไดมีการ รวบรวมความรูเ กยี่ วกับวิชานโ้ี ดยเฉพาะเขยี นเปน ตําราช่อื “เจินจิ่วเจ่ียอี่จิง (นิพนธวาดวยการแทงเข็มรม ยา)” เปนตําราเลมแรกท่ีอธิบายถึงวิชานี้อยางเปนระบบ ตําราเลมน้ีเรียบเรียงโดยหวงฝูมี่(พ.ศ. 758 – 825) ชาวอานเถิง(ตะวันตกเฉยี งใตข องหลิงถาย มณฑลกานซู ในปจจุบัน) ในสมัยน้ันสังคมจีนมีแตความ รุนแรงและยงุ ยากของการตอสูแยงชิงอํานาจกันในหมูชนชั้นศักดินาผูครองเมือง ทําใหเกิดการสังหารหมู ประชาชนที่โหดเหี้ยมทารุณจํานวนมากมาย สําหรับผูท่ียังคงรอดชีวิตอยูก็ตองพลัดท่ีอยูตกอยูในความ หิวโหยอดยากและโรคระบาดทรี่ า ยแรง ในสถานการณเชนนเี้ องที่วธิ ีการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยา ซ่ึงงายและประหยัดไดรับความนิยมอยางแพรหลายในหมูประชาชน หวงฝูม่ีไดเริ่มสนใจวิชาการแพทย และเร่ิมใชวิธีการรักษาแบบนี้เมื่อเขาพิสูจนไดวาการรักษาดวยวิธีนี้ไดผลจริงโดยรักษาโรคขออักเสบที่เขา
Page 354 344 การฝงเข็ม-รมยา เลม 2 เปนตั้งแตกลางคน ตําราเลมนี้ไดรวบรวมเน้ือหาที่สัมพันธกันของบทตางๆ ในตํารา “หวงตี้เนยจิง” ที่ กลาวมาแลวเขาดวยกันโดยสอดแทรกบทเรียนและสิ่งท่ีเขาคนพบในการปฏิบัติลงไปดวย ตําราเลมน้ี รวบรวมในป พ.ศ. 808 ไดแบงตําแหนงของจุดที่ศีรษะ หนา อก ทองและหลัง รวมทั้งแขนขา พรอมทั้ง แยกวิธีการรักษาโรคตางๆ ดวย ในตําราเลมน้ีไดระบุจุดไว 349 จุด ซ่ึงบางจุดยังไมเคยปรากฏในตํารา “หวงตเ้ี นย จิง” มากอนเลย ตําราเลมนไี้ ดก ลายมาเปน ตําราสาํ คัญทใ่ี ชเ ปนหลกั ในการศึกษาวชิ านีม้ าจนถึง พุทธศตวรรษท่ี 10 ในสมัยราชวงศสุย(พ.ศ. 1124 – 1161) ชนชั้นศักดินาไดกอต้ัง “วิทยาลัยแพทย จักรพรรดิ” ขึ้นเพื่อฝกหัดแพทยสําหรับทําการรักษาโรคเพื่อรับใชพวกเขา วิทยาลัยแพทยนี้เปน สถาบันการศึกษาแพทยท่ีเกาแกที่สุดในจีนและในโลก วิชาการแทงเข็มรมยากลายเปนแผนกเฉพาะใน วิทยาลัยแหงน้ี. จากหลักฐานทางประวัติศาสตรพบวาในสมัยนั้นแผนกแทงเข็มรมยาแหงวิทยาลัย แพทยจกั รพรรดนิ ี้มีศาสตราจารยทางวิชาแทงเขม็ รมยา 1 คนผูชวยศาสตราจารย 1 คน อาจารย 10 คน ชางทําเข็ม 20 คน และนักเรียน 20 คน ความรูที่สอนกันทั้งหมดอางอิงจากตํารา “ซูเว่ิน” “หลิงซู” และ “เจนิ จวิ่ เจ่ยี อจี่ งิ ” ในสมัยราชวงศถัง (พ.ศ. 1161 – 1450) วิชาแพทยศาสตรและเภสัชศาสตรของจีนกาวหนา และพัฒนาไปมาก ระบบเศรษฐกิจแบบศักดินาเจริญรุงเรืองมาก ทําใหการคาและแลกเปล่ียนทาง วัฒนธรรมกับประเทศอ่ืนมาก วิชาการแทงเข็มรมยาก็ไดรับการศึกษาคนควาเพ่ิมเติมใหละเอียดยิ่งข้ึน ในสมัยนี้รายละเอียดเกี่ยวกับทางผานของเสนและตําแหนงของจุดไดถูกบันทึกไวอยางละเอียดในตํารา แพทย ในสมัยน้ีไดมีการทําแผนภาพรางกายมนุษยแสดงทางผานของเสนและจุดแทงเข็มใชสําหรับ ประกอบการศกึ ษา ตลอดจนการเลือกและกําหนดจุดแทงเข็มในการรักษาโรค แพทยที่มีชื่อเสียงในสมัย ราชวงศถังนี้ชื่อ ซุนซือเหมี่ยว ไดเรียบเรียงตําราเลมหน่ึงช่ือ“เชียนจินเอี้ยวฟาง” (การรักษาโรคพันชนิด หรือ ตาํ รบั ยาพันเหรียญทอง)” หมอซุนซือเหมี่ยวนี้มีอายุอยูระหวางป พ.ศ.1161 – 1262 ในตําราเลมนี้ แผนภาพสีแสดงทางผานของเสนและจุดที่แทงเข็มบนรางกายทั้งดานหนา ดานขาง และดานหลังซึ่งทํา โดยซุนซือเหมี่ยวเอง ในสมัยราชวงศซงและคิน (พ.ศ. 1503 – 1822) ความกาวหนาท่ีมีชื่อเสียงมากในวงการนี้สอง อยางระหวางยุคน้ีไดแกการพิมพหนังสือเก่ียวกับวิชาแทงเข็มรมยาเผยแพรไปท่ัวประเทศ และการสราง หนุ ทองเหลอื งแสดงเสนและจุดแทงเข็มสองตัวแรกขึ้น ความจริงประชาชนจีนไดคนพบการพิมพหนังสือ กอ นราชวงศสุยและถงั เสียอีก แมว า จะไมม ีการพมิ พห นงั สือขนึ้ เผยแพรในสมยั นัน้ ก็ตามในสมัยน้ันตาํ รา สวนใหญมักจะเผยแพรไปในหมูประชาชนโดยการคัดลอกดวยมือ ดังนั้นยอมมีความคลาดเคล่ือนได
Page 355 ภาคผนวกท่ี 1 345 มาก ลวงมาถึงสมัยราชวงศซงนี้เทคนิคการพิมพไดรับการยกระดับและนํามาใชกันท่ัวประเทศ สําหรับ งานดานการแทงเข็มรมยาเมือ่ จะนํามาตพี มิ พก ็คอนขางยุงยากมากในการเรียงลําดับและแกไขความรับรู ที่ไดรับการถายทอดมาแตกตางกัน ดังนั้น หวางเหวยอี้แพทยผูเช่ียวชาญที่มีชีวิตอยูระหวางพุทธ ศตวรรษท่ี 16 ไดจัดระบบและเรียบเรียงเนื้อหาท้ังหมดของวิชาน้ีเทาที่มีถึงสมัยน้ัน เขาไดทําการพิสูจน ทฤษฎีตางๆ เก่ียวกับจุดอยางละเอียด ท้ังยังไดกําหนดตําแหนงของจุดและรวบรวมเสนตางๆ ทั้งหมดให เปนระบบโดยประสานกับวิชาความรูและประสบการณการทํางานสวนตัวของเขาเขาไปดวย เขาไดเรียบ เรียงความรูเหลาน้ีเปนหนังสือ (ซ่ึงตอมาใหช่ือวา “ถงเหรินซูเสียเจินจ่ิวถูจิง คูมือประกอบภาพเกี่ยวกับ จุดสําหรับแทงเข็มและรมยาบนหุนทองเหลือง”) ในป พ.ศ. 1569 หนังสือเลนนี้เปนตนฉบับที่ไดรับการ ตีพิมพเผยแพรไปทั่วประเทศ งานเขียนชิ้นน้ีไดใหความกระจางในตําแหนง หนาท่ี ความลึก วิธีการ กระตุน และผลของจุดแทงเข็มซ่ึงเขาไดพิสูจนแลว 354 จุด ทําใหวิทยาศาสตรการแพทยสาขาน้ีพัฒนา กาวหนาข้ึนอีกมากไมนานนักหลังจากหนังสือเลมนี้ไดรับการตีพิมพ เนื้อหาในหนังสือเลมน้ีก็ไดถูกจารึกไว บนแผนหิน 2 แผน แตละแผนสูง 2 เมตร กวาง 7 เมตร แผนหินจารึกนี้อยูท่ีเมืองหลวงของราชวงศซง ซึ่ง ปจจุบันคือเมืองคายเฟง มณฑลหูหนาน ปจจุบันก็ยังคงหาอานไดจากแผนหินจารึกนี้และฉบับคัดลอก ขณะท่ีหวางเหวยอี้เขียนตาํ ราเลมน้ี เขาไดจ า งชางหลอหุนทองเหลืองขนาดเทา คนจรงิ 2 ตวั ซึง่ สรา งเสรจ็ ในป 1570 บนหนุ ทองเหลือง 2 ตัวน้ีไดระบชุ ื่อและตําแหนงท่ีแนนอนของจุดแทงเข็ม โจวม่ีแหงราชวงศ ซง ไดบันทกึ ในงานเขียนของเขาชอื่ “เกรด็ ประวตั ศิ าสตรฉตี ุง” วา “ ......เพ่อื เปนการทดสอบนักศึกษา จะ ฉาบข้ีผึ้งบนหุนทองเหลือง ภายในใสนํา้ หากนักศกึ ษาแทงถูกจุด นํ้าก็จะไหลออกมา....” หุนทองเหลือง 2 ตัวนี้เปนสัญลักษณสําคัญท่ีแสดงความกาวหนาในวิทยาศาสตรวาดวยการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรม ยา เปนโบราณวตั ถุ ทางการแพทยท ่แี สดงใหเหน็ ความรงุ เรอื งและวฒั นธรรมของประชาชนจีนในตนพุทธ ศตวรรษที่ 17 สองรอยปตอมา เม่ือราชวงศหยวน(พ.ศ. 1803-1911) ไดสรางเมืองหลวงชื่อตาตู (คือ ปกกิ่งในปจจุบัน หุนทองเหลืองทั้ง 2 ตัว และแผนเหินจารึกทั้ง 2 แผน ก็ไดถูกยายไปที่เมืองหลวง ใหม ประดิษฐฐานไวท่ีวิหารสามจักรพรรดิในวิทยาลัยแพทยจักรพรรดิ ในสมัยนี้มีการสรางหุน ทองเหลืองและแผน จารึกเพิ่มข้นึ อีก (ในป พ.ศ. 2509 – 2514 มีการขุดพบแผนหินจารึก 4 ชิ้นในปกกิ่ง ทเี่ ดิมเขา ใจวา สูญหายไปตอนปลดปลอยปกกิ่ง ช้ินสวนที่แตกหักจากสวนใหญเหลานี้บางชิ้นรายละเอียด ตา งๆ ที่จารึกไวย ังคงชัดเจนมาก) ในสมัยราชวงศหมิง(พ.ศ. 1911 – 2187) มีแพทยท่ีมีช่ือเสียงอีกคนหนึ่งชื่อหยางจี้โจว ได รวบรวมความรูวิชาแทงเข็มรมยาตั้งแตสมัยโบราณเขียนเปนหนังสืออีกเลมหน่ึงชื่อ “เจินจิ่วตาเฉิง
Page 356 346 การฝงเขม็ -รมยา เลม 2 (สังเขปเกี่ยวกับการแทงเข็มรมยา)” หนังสือเลมนี้ตีพิมพในปพ.ศ. 2144 ไดรับความสนใจอยาง กวา งขวางทั้งในและนอกประเทศ ในสมัยราชวงศชิง (พ.ศ. 2187 – 2454) โดยเฉพาะตั้งแตสงครามฝน (พ.ศ. 2383 – 2385) จนถงึ สมยั การปกครองรฐั บาลปฏิกิรยิ าของพวกกก มนิ ต๋ัง วิธีการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยาตองพบ กบั มรสุมท่ซี ดั กระหนํา่ อยางรุนแรง ทาํ ใหเวชกรรมสาขานีแ้ ทบหายสาบสญู ไป ชนช้ันปกครองศักดินาแหงราชวงศชิงดูถูกเหยียดหยามการรักษาโรคดวยวิธีน้ี ดวยเหตุผลท่ี แสนโงงมท่ีวา การรักษาโรคแบบนี้ไมมีเหตุผลแบบการรักษาโรคดวยยาตะวันตก ท้ังยังงายและราคา ถูกเกินไป หากปลอยใหแพรหลายในหมูประชาชนจะเปนการ “ทําลายพระเกียรติ” ราชวงศชิงแหงจีนใน สายตาของตางประเทศไป จึงออกคําสั่งหามประชาชนทําการรักษาโรคดวยวิธีนี้ หามประชาชนศึกษา และคนควา ในป พ.ศ. 2365 รัฐบาลไดบัลลังกศักดินาไดตราพระราชกฤษฎีกาใหยกเลิกหลักสูตรวิชา แทงเข็มรมยาในวิทยาลัยแพทยจ ักรพรรดิ อยางไรก็ตาม ในหมูประชาชนผูใชแรงงานอันไพศาลของจีนก็ ยังคงเช่ือม่ันและยอมรับการรักษาโรคที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษน้ีอยู ศิลปะการแหงการรักษาโรค ดวยวิธีนี้จึงไมไดสาบสูญไปโดยสิ้นเชิง ตรงกันขามกลับถูกนําไปเผยแพรในตางประเทศ ในป พ.ศ. 2226 ดร.อี.แคมปเฟอร ชาวเยอรมัน ไดนําวิชาแทงเข็มรมยาไปเผยแพรในเยอรมัน และในป พ.ศ. 2406 ก็ไดมีการตีพิมพหนังสือช่ือ “เธอะ เมดิซีน ออฟ ไชนา (การแพทยจีน)” ในประเทศฝร่ังเศส ใน หนงั สอื เลม น้ีมรี ายละเอียดของวธิ กี ารแทงเขม็ รมยาดว ย ระหวางสงครามฝน ในป พ.ศ. 2382 พวกจักรพรรดินิยมไดเขา มากดข่ีขูดรีดประชาชนจนี อยาง โหดเห้ียม พวกมนั ไดเ ขาครอบงาํ มอมเมาทางวฒั นธรรมในจนี ปฏเิ สธและเหยียดหยามวัฒนธรรมประจําชาติ ของจีน รัฐบาลปฏิกิริยากกมินตั๋งสมุนจักรพรรดินิยมไดออกสืบทอดและพิทักษวัฒนธรรม อันเสื่อมโทรม เนาเฟะของผูรุกรานโดยออกคําประกาศของรัฐบาลหามประชาชนทําการรักษาโรคดวยวิธีการแทงเข็ม รมยาและวิธีแผนโบราณอื่นๆ ทั้งหมดในป 2472 พรอมๆ กับคําประกาศฉบับนี้การแทงเข็มรมยาก็ ไดรับการตอนรับอยางอบอุนในตางประเทศทั้งในเอเชีย ยุโรป อาฟริกา ฯลฯ โดยเฉพาะกลุมประเทศใน โลกท่ีสามท่ีกาํ ลังตอ สเู พอื่ ปลดแอกประชาชน ประธานเหมาเจอตุงและพรรคคอมมิวนิสตจีนไดใหความสําคัญอยางใหญหลวงตอวิชา แพทยศาสตรและเภสัชศาสตรของจีน กอนปลดปลอยทั่วประเทศในป พ.ศ. 2492 ในขณะที่สงคราม ปฏิวัติกําลังดําเนินไปอยางดุเดือดน้ัน วิธีการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยาไดมีบทบาทสําคัญยิ่งใน การปลดเปล้ืองโรคและความเจ็บปวดใหแกประชาชนผูทุกขยากและทหารแดงในฐานท่ีมั่น เขต
Page 357 ภาคผนวกที่ 1 347 ปลดปลอย และเขตจรยุทธทั่วประเทศ หลังจากการจัดต้ังกองทัพแดงกรรมกรชาวนาจีนและสรางฐานท่ี มั่นแหงแรกขึ้นที่จิ่งกังซานในป พ.ศ. 2471 ประธานเหมาเจอตุงไดชี้ให ประสานการรักษาแบบแผน โบราณและแผนปจจุบันรับใชทหารแดงและประชาชนในฐานท่ีมั่น ในบทประพันธอันรุงโรจนของทานชื่อ “การตอสูที่จิ่งกังซาน” ในระหวางสงครามปฏิวัติภายในประเทศคร้ังท่ี 1 และ 2 นั้น, เขตปลดปลอย อํานาจรัฐสีแดง ฐานที่ม่ันปฏิวัติ และเขตจรยุทธในที่ตางๆ มักจะถูกลอมปราบโดยพวกปฏิกิริยากก มินต๋ังเปนเวลานานๆ อยูเสมอๆ การแทงเข็มรมยาเปนสวนหน่ึงที่ไดสรางคุณูปการใหแกทหารแดงและ มวลชนที่ปฏวิ ตั ิในตานการลอ มปราบจนไดร บั ชัยชนะคร้งั แลว ครง้ั เลา ในการประชุมสัมมนาผูปฏิบัติงานทางวัฒนธรรมและการศึกษาของเขตแดนตอแดนสานซี-กาน ซู- หนงิ เซย่ี ซ่ึงจัดขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2487 ท่ีเยนอาน ประธานเหมาเจอตุงไดไดเรียกรองใหแพทย แผนโบราณและแพทยแผนปจจุบันทํางาน ศึกษาคนควารวมกัน พยายามรักษาและปองกันโรคท่ีสราง ความทุกขยากใหแกประชาชนและสัตวเลี้ยงในเขตแดนตอแดน ในการประชุมแพทยรวมกันทั้งแผน โบราณและแผนปจจุบันในเวลาตอมา แพทยแผนโบราณจีนผูสูงอายุหลายๆ คนไดแลกเปลี่ยนและ ถายทอดบทเรียนจากประสบการในการแทงเข็มรมยากวา 30 ป ของพวกเขากับแพทยแผนปจจุบันและ ผูปฏิบัติงานทางการแพทยท่ีเยนอาน ในเดือนพฤษภาคม ป พ.ศ. 2488 โรงพยาบาลสันติภาพแหงเยน อาน ไดเปดแผนกรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยาแกคนไขนอกขึ้น การรักษาโรคดวยวิธีน้ีไดเติบโตขึ้น อยางรวดเร็วและกวางขวาง คนไขเปนจํานวนมากไดใหการยอมรับและเชื่อม่ันตอการรักษาโรคดวยวิธีน้ี ซึ่ง “งา ย”, “ปลอดภยั ”,”ประหยัด” และ”ใหผ ลเร็ว” กวา ระหวางสงครามปลดแอก ไดมีการอบรมเทคนิคการรักษาโรคดวยการแทงเข็มรมยาครั้งแลว คร้ังเลาในเขตปลดปลอยและฐานที่มั่นปฏิวัติท่ัวประเทศ ซ่ึงไดบมเพาะผูปฏิบัติงานทางการแพทยของ กองทัพปลดแอกประชาชนเปนจํานวนมาก พวกเขาสามารถประยุกตการแทงเข็มรมยาในการรักษาโรค หลายๆ ประเภท เชน มาเลเรีย ลําไสอักเสบ อาหารไมยอย บิด ทางเดินหายใจติดเช้ือ ปวดฟน ขอ อักเสบ ปวดเม่ือย และโรคอ่ืนๆ อีกมากมาย การแทงเข็มรมยามีบทบาทไมนอยในการชวยนักรบแหง กองทัพแดงที่ปวยและบาดเจ็บจากการตอสูกับศัตรู ทําใหกองทัพแดงกาวสูชัยชนะคร้ังแลวคร้ังเลาจน สามารถปลดปลอยทั่วประเทศในท่ีสุดหลังจากปลดปลอยทั่วประเทศและไดสถาปนาประเทศจีนข้ึนใหม แลว ภายใตก ารนําท่ปี รีชาสามารถของประธานเหมาเจอตุงและพรรคคอมมิวนิสตจีนและภายใตแนวทาง นโยบายที่ถูกตอ งของพรรคฯ ตอวิชาแพทยแผนโบราณจีนทําใหวิทยาการเก่ียวกับการแทงเข็มรมยาท่ีได ถูกชนชั้นปกครองศักดินาและรัฐบาลปฏิกิริยากกมินต๋ังในอดีตประกาศหามศึกษาและปฏิบัตินั้นได
Page 358 348 การฝง เขม็ -รมยา เลม 2 รุงโรจนชัชวาลข้ึนอีกคร้ังหน่ึง ประดุจดังตนไมซึ่งโรยราไปเพ่ิงจะไดรับการดูแลเอาใจใสรดน้ําพรวนดิน จนเจริญเติบโตผลิดอกออกผลอยางไมหยุดย้ัง หนังสือพิมพเหรินหมืนรึเปา (ประชาชนรายวัน) ไดเร่ิม ตีพิมพขอเขียนเกี่ยวกับการรักษาโรคดวยวิธีนี้โดยแนะนําและสนับสนุนใหประชาชนศึกษา คนควาและ ทําการรักษาโรคดวยวิธีน้ี ในป พ.ศ. 2493 ที่ปกก่ิงตลอดถึงมณฑลและเขตปกครองตนเองตางๆ ทั่ว ประเทศไดจัดต้ังสถาบันวิจัยการแทงเข็มรมยาและแพทยแผนโบราณจีนข้ึน ในวิทยาลัยแพทยตางๆ ท่ัว ประเทศก็ไดก าํ หนดวชิ านี้เปนหลักสูตรสําคัญของนักศึกษาแพทย ในระหวางโครงการหาปครั้งที่ 1 ตํารา วารสาร ขอเขียน ฯลฯ เก่ียวกับวิชาน้ีไดรับการตีพิมพเผยแพรอยางกวางขวางมีการจัดอบรมบมเพาะ ผูปฏบิ ตั งิ านทางดา นนค้ี รงั้ แลวครัง้ เลา นักศกึ ษาจากตางประเทศคนแลวคนเลาก็ไดท ยอยกันเขามาศึกษา เทคนคิ การรักษาโรควิธนี ใ้ี นประเทศจนี ระหวางการกาวกระโดดคร้ังใหญในป พ.ศ. 2502 “การแทงเข็มใบหู” ในสมัยโบราณไดรับ การศึกษา ปฏิบตั ิและคนควาจนพัฒนาขนึ้ สูขอบเขตใหมจนเปนที่นิยมกันอยา งแพรห ลายในหมูประชาชน การแทงเข็มใบหูท้ังสองสามารถรักษาและปองกันโรคไดมากประเภท ใหผลเชนเดียวกับการแทงเข็มยาว ปจจบุ นั มีการคนพบจุดบนใบหทู ี่มปี ระสทิ ธิภาพแตกตา งกันกวา 200 จุดแลว ในบรรดาวธิ กี ารแทงเขม็ โบราณนนั้ ยงั มี “การแทงเข็มดวยน้ิวมือ” วิธีการคือ ใชน้ิวกดหรือเคาะ ตรงจุดแทนใชเข็มแทง หลกั ฐานท่ีแสดงประสทิ ธภิ าพของการแทงเขม็ แบบนี้เกาแกท่ีสุดไดแกตําราแพทย ในสมัยราชวงศฉิน (พ.ศ. 808 – 963) ซึ่งไดบันทึกวิธีการชวยผูปวยอาการโคมาโดยการกดจุดเหรินจง (DU-22) ที่ริมฝปากบน จากการศึกษาคนควาในปจจุบันวิธีนี้ใชไดผลและเปนท่ีนิยมกันแพรหลายมาก ในการปฐมพยาบาลผูปวยอาการโคมาหรือช็อค ในตําราแพทยโบราณยังไดบอกถึงการรักษาอาการเจ็บ คอโดยการกดตรงจดุ เหอกู (LI-4) ท่ีมอื ซ่ึงตอมาหลังจากท่ีไดศึกษาคนควาและปฏิบัติแลวพบวาการกด ตรงจุดนี้ยังสามารถใหผลดีในการรักษาอาการปวดหัว ไมเกรน (ปวดหัวขางเดียว) ปวดฟน ไขหวัดและ เยื่อจมกู อกั เสบดวย โดยการประสานการรักษาแบบโบราณของจีนและแบบแผนปจจุบันตามคําช้ีแนะของประธาน เหมาเจอตุง การรักษาโรคดวยการฉีดยาเขาจุด (เข็มน้ํา) ก็ไดพัฒนาข้ึนจากพื้นฐานวิชาแทงเข็ม วิธีน้ี รักษาโรคไดโดยประสานผลของการแทงเข็มและผลของยาท่ีฉีด วิธีน้ีรักษาโรคไดโดยการฉีดยาหรือน้ํา กล่ันในจํานวนนอยๆ ลงไปตรงจุดแทงเข็มหรือจุดกดเจ็บอาศัยการดูดซึมอยางคอยเปนคอยไปในการ กระตุนจุด วิธีน้ีมีขอดีหลายอยาง เชน สะดวก ประหยัดยาท่ีใช ใชเวลาในการรักษาสั้นกวาและมี ประสิทธภิ าพดีกวา
Page 359 ภาคผนวกท่ี 1 349 จากการศึกษารวมหมูอ ยางเรา รอนเอาการเอางานของผูปฏิบัติงานทางการแพทยท่ีปฏิวัติของจีน การแทงเข็มบนใบหนา, การแทงเข็มบนมือ, การแทงเข็มบนเทา, และ การใชเคร่ืองกระตุนไฟฟากระตุน เข็ม (เข็มไฟฟา) ไดพิสูจนใหเห็นคุณสมบัติท่ีเฉพาะแตกตางกันออกไป นอกจากน้ัน การใชเข็มดอก เหมย, การครอบกระปุก และ การใชเข็มสามเหลี่ยม ตลอดถึงเข็มประเภทตางๆ เปนตน ซึ่งเดิมที่เปนที่ นยิ มกันในทอ งถิ่นตา งๆ โดยเฉพาะกไ็ ดรบั การศึกษา ยกระดบั และเผยแพรไปทั่วประเทศ และในระหวางการกาวกระโดดครั้งใหญในป พ.ศ. 2502 นี้เอง ไดมีการคนพบ การแทงเข็ม ระงับความรูสึก ในการผาตัดระดับตางๆ การคนพบการแทงเข็มระงับความรูสึกนี้พัฒนามาจากการแทง เข็มระงับปวดในสมัยโบราณของบรรพบุรุษ ปจจุบันการแทงเข็มระงับความรูสึกไดถูกนํามาใชในการ ผาตัดระดับเล็กๆ ที่ไมยากลําบากนัก จนถึงการผาตัดท่ีระดับซับซอนและยากลําบากมากๆ จากการที่ ตอ งใชจ ํานวนเขม็ หลายๆ เลมในคร้งั หนึ่ง พฒั นาสกู ารใชเ ข็มเพียง 1 – 2 เลมที่ใหผลเหมือนกันและจาก การกระตุนดวยมือพัฒนาสูการใชเครื่องอีเลคโทรนิคสในการกระตุนเข็ม จนถึงบัดน้ีการแทงเข็มระงับ ความรูสึกในการผาตัดระดับตางๆ กวา 200 ประเภทแลว การแทงเข็มระงับความรูสึกนี้เปนการกาว กระโดดครัง้ ยง่ิ ใหญใ นวทิ ยาการดานการแทงเข็มรมยา ระหวางการปฏิวัติใหญทางวัฒนธรรมชนช้ันกรรมาชีพของจีน ผูปฏิบัติงานทางการแพทยที่ ปฏิวัติอันไพศาลของจีนไดใชปฏิบัติการท่ีเปนจริงในการคัดคานแนวทางลัทธิแกของหลิวซาวฉีดวยการ สรางผลงานใหมๆ และยกระดับเทคนิคการแทงเข็มน้ีขึ้นมาโดยการนําเอาทฤษฎีมาประสานกับการ ปฏิบัติและแพทยแผนโบราณและแพทยแผนปจจุบัน ผลงานเหลานี้ไดแก วิธีการแทงเข็มแบบใหม (ใช เข็มนอย-แทงใหลึก-แทงทะลุจุดใหมาก-เขาเข็มเบา-กระตุนเข็มแรงและไมคาเข็ม วิธีน้ีสามารถใชรักษา โรคในขอบเขตที่กวางขวางเชนเดียวกัน และท่ีสําคัญคือเปนวิธีการรักษาโรคที่สอดคลองกับเงื่อนไขของ การปฏิบตั ิประชาชาติประชาธปิ ไตยของประชาชนในประเทศโลกท่ีสาม), การฝงเอ็นรกั ษาโรค (เปน วธิ กี าร รักษาโรคแบบหน่ึงท่ีพัฒนาจากการแทงเข็มแบบโบราณ อาศัยการละลายของเอ็นละลายท่ีฝงลงไปในจุด กระตุนตรงจุดเปนระยะเวลาหน่ึง), การผาจุด (การกระตุนเสนประสาทที่อยูตรงจุดโดยตรง), กระตุนจุด โดยการฉายรงั สอี ุลตราไวโอเลตหรอื อนิ ฟราเรด, และ การทาํ อเี ลคโตรฟอริซสิ ครงจดุ เหลานเ้ี ปนตน โดยคําสอนของประธานเหมาเจอตุงท่ีให”รับใชประชาชนอยางสุดจิตสุดใจ” ผูปฏิบัติงานทาง การแพทยท ี่ปฏิวตั ิของจนี ไดเสริมจิตใจท่ีกลาตอสูกลาเสียสละทําการทดลองแทงเข็มลงบนจุดตางๆ ของ ตัวเองเพ่ือหักลาง “กฎสัมบูรณ” ที่ไมถูกตองเก่ียวกับจุดบางจุด และคิดคนจุดใหมๆท่ีใหผลทางการ
Page 360 350 การฝงเขม็ -รมยา เลม 2 รักษาท่ีแนนอนเฉพาะเจาะจง พวกเขายังยังไดทําลาย “ขอบเขตที่ตองหาม”, “จุดที่ตองหาม” และ “ความลกึ สูงสุด” เก่ยี วกบั การแทงเขม็ เขม็ รมยา พวกเขาไดค น พบจดุ ใหมๆ ทใี่ หผ ลเฉพาะจํานวนมาก ในป พ.ศ. 2511 หนวยเสนารักษของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน หนวยหนึ่งไดประสบ ความสําเร็จในการรักษาโรคหนวกใบใหกับนักเรียนคนหนวกใบที่เมืองเหลียวหยวน มณฑลคีริน ทหาร เสนารักษในหนวยน้ีเริ่มตนเตรียมการรักษาโดยการแทงเข็มบนจุดตางๆ ของตัวเองท่ีตองใชในการรักษา นับรอยๆ คร้ังเพื่อกุมสภาพความรูสึกที่ตองการ ในขณะทําการรักษาพวกเขาไดวิเคราะห และปรับปรุง วิธีการรักษาของพวกเขาอยูตลอดเวลา โดยเฉพาะการแทงท่ีจุดหยาเหมิน (DU-15) ของตัวเองเพ่ือหา ระดบั ความลกึ ของเข็มท่ใี หผลการรักษาท่ีดีท่ีสุด การแทงเข็มลงไปในขอบเขตท่ีตองหามของบรรพบุรุษน้ี ไดขยายบทบาทของจุดเหลานี้ในการรักษาโรคหนวกใบภายใตแนวทางการแพทยที่ปฏิวัติของประธาน เหมาเจอตุงและพรรคคอมมิวนิสตจีนท่ีใหเอาอดีตมารับใชปจจุบัน และ ประสานแพทยแผนโบราณเขา กับแผนปจจุบัน นั้นจะทําใหวิชาแทงเข็มรมยาพัฒนากาวหนาและยกระดับสูงขึ้นอยางไมหยุดย้ัง สราง คุณปู การอันใหญหลวงตอมวลมนษุ ยชาตใิ นอนาคต แปลเรยี บเรียงโดย : ธงชัย ทองปน หนงั สอื อางอิง 1. คารตัน กูดริดจ : เขียน ส. ศิวรักษ : แปล ; ประวัติศาสตรจีน สํานักพิมพ เคล็ดไทย บริษัท ศึกษิตสยาม จาํ กดั 2. เหมา เจอ ตุง : การตอสูท เี่ ขาจิ่งกงั ซาน ; สํานกั พมิ พภาษาตา งประเทศปกก่งิ 3. Fu Wei-Kang The Story of Chinese Acupuncture and Moxibution; Foreign Languages Press, Peking 1975 4. The Academy of Traditional Medicine; An Outline of Chinese Acupuncture; Foreign Languages Press, Peking 1975
Page 361 ภาคผนวกที่ 2 จดุ ฝง เข็มบนเสน มอื ไทอนิ ปอด (LU) The Lung Meridian of Hand-TaiYin Acupoints (手太阴肺经穴 Shǒu-Tài-Yīn-Fèi-Jīng-Xué) รหัสจดุ ชอ่ื ภาษาจนี พนิ อิน ภาษาไทย LU1 中府 Zhōng-Fǔ จงฝู LU2 云门 Yún-Mén ยฺหวินเหมนิ LU3 天府 Tiān-Fǔ เทยี นฝู LU4 侠白 Xiá-Bái เสยี ไป LU5 尺泽 Chǐ-Zé ฉื่อเจอ LU6 孔最 Kǒng-Zuì ขงจยุ LU7 列缺 Liè-Quē เล่ียเชวฺ ยี LU8 经渠 Jīng-Qú จิงฉฺวี LU9 太渊 Tài-Yuān ไทเยวฺ ียน LU10 鱼际 Yú-Jì ยฺหวจี ้ี LU11 少商 Shào-Shāng เสาซาง จุดบนเสน มอื หยางหมงิ ลําไสใหญ ( LI) The Large Intestine Meridian of Hand-YangMing Acupoints (手阳明大肠经穴 Shǒu-Yáng-Míng-Dà-Cháng-Jīng-Xué) LI1 商阳 Shāng-Yáng ซางหยาง LI2 二间 Èr-Jiān เออรเจยี น LI3 三间 Sān-Jiān ซานเจียน LI4 合谷 Hé-Gǔ เหอกู LI5 阳溪 Yáng-Xī หยางซี
Page 362 352 การฝงเข็ม-รมยา เลม 2 รหัสจดุ ชอื่ ภาษาจนี พนิ อิน ภาษาไทย LI6 偏历 Piān-Lì เพียนล่ี LI7 温溜 Wēn-Liū เวนิ ลวิ LI8 下廉 Xià-Lián เซ่ียเหลยี น LI9 上廉 Shàng-Lián ซางเหลียน LI10 手三里 Shǒu-Sān-Lǐ โสวซานหลี่ LI11 曲池 Qū-Chí ชฺวีฉอื LI12 肘髎 Zhǒu-Liáo โจวเหลียว LI13 手五里 Shǒu-Wǔ-Lǐ โสวอูหลี่ LI14 臂臑 Bì-Nào ปเ นา LI15 肩髃 Jiān-Yú เจยี นยฺหวี LI16 巨骨 Jù-Gǔ จฺวก้ี ู LI17 天鼎 Tiān-Dǐng เทยี นติ่ง LI18 扶突 Fú-Tū ฝทู ู LI19 口禾髎 Kǒu-Hé-Liáo โขว เหอเหลียว LI20 迎香 Yíng-Xiāng อ๋ิงเซียง จดุ บนเสน เทา หยางหมงิ กระเพาะอาหาร (ST) The Stomach Meridian of Foot-YangMing Acupoints (足阳明胃经穴 Zú-Yáng-Míng-Wèi-Jīng-Xué) ST1 承泣 Chéng-Qì เฉงิ ชี่ ST2 四白 Sì-Baí ซ่อื ไป ST3 巨髎 Jù-Liáo จฺว้ีเหลียว ST4 地仓 Dì-Cāng ตีช้ าง
Page 363 ภาคผนวก 2 353 รหัสจดุ ช่ือภาษาจนี พนิ อนิ ภาษาไทย ST5 大迎 Dà-Yíng ตา อิ๋ง ST6 颊车 Jiá-Chē เจี๋ยเชอ ST7 下关 Xià-Guān เซ่ยี กวาน ST8 头维 Tóu-Wéi โถวเหวย ST9 人迎 Rén-Yíng เหญินอ๋ิง ST10 水突 Shǔi-Tū สยุ ทู ST11 气舍 Qì-Shè ชเี่ ซอ ST12 缺盆 Quē-Pén เชวฺ ยี เผนิ ST13 气户 Qì-Hù ST14 库房 Kù-Fáng ชฮี่ ู ST15 屋翳 Wū-Yì คูฝาง ST16 鹰窗 Yīng-Chuāng อูอี้ ST17 乳中 Rǔ-Zhōng อิงชวฺ าง ST18 乳根 Rǔ-Gēn หจู ง ST19 不容 Bù-Róng หเู กิน ST20 承满 Chéng-Mǎn ปูหญง ST21 梁门 Liáng-Mén เฉงิ หมาน ST22 关门 Guān-Mén เหลียงเหมิน ST23 太乙 Tài-Yí(Tài-Yǐ) กวานเหมิน ST24 滑肉门 Huá-Ròu-Mèn ไทอ ี๋ (ไทอ ่ี) ST25 天枢 Tiān-Shū หวั โญวเหมิน ST26 外陵 Wài-Líng เทียนซู ไวห ลงิ
Page 364 354 ชื่อภาษาจนี พินอิน การฝงเขม็ -รมยา เลม 2 รหัสจดุ 大巨 Dà-Jù ภาษาไทย 水道 Shuǐ-Dào ตา จวฺ ้ี ST27 归来 Gūi-Lái สยุ เตา ST28 气冲 Qì-Chōng กยุ ไหล ST29 髀关 Bì-Guān ช่ีชง ST30 伏兔 ปก วน ST31 阴市 Fú-Tù ฝูทู ST32 梁丘 Yīn-Shì อนิ ซื่อ ST33 犊鼻 Liáng-Qiū เหลยี งชวิ ST34 足三里 Dú-Bí ตูป ST35 上巨虚 Zú-Sān-Lǐ จูซานหลี่ ST36 条口 Shàng-Jù-Xū ซา งจฺว้ซี วฺ ี ST37 下巨虚 Tiáo-Kǒu เถยี วโขว ST38 丰隆 Xià-Jù-Xū เซ่ยี จวฺ ซี้ วฺ ี ST39 解溪 Fēng-Lóng เฟง หลง ST40 冲阳 Jiě-Xī เจ่ยี ซี ST41 陷谷 Chōng-Yáng ชงหยาง ST42 内庭 Xiàn-Gǔ เซยี่ นกู ST43 厉兑 Nèi-Tíng เนย ถิง ST44 Lì-Duì ลี่ตยุ ST45
Page 365 ภาคผนวก 2 355 จุดบนเสนเทาไทอนิ มา ม (SP) The Spleen Meridian of Foot-TaiYin Acupoints (足太阴脾经穴 Zú-Tài-Yīn-Pí-Wèi-Jīng-Xué) SP1 隐白 Yǐn-Bái อิ่นไป SP2 大都 Dà-Dū ตาตู SP3 太白 Tài-Bái ไทไ ป SP4 公孙 Gōng-Sūn กงซุน SP5 商丘 Shāng-Qiū ซางชวิ SP6 三阴交 Sān-Yīn-Jiāo ซานอนิ เจียว SP7 漏谷 Lòu-Gǔ โลวกู SP8 地机 Dì-Jī ตี้จี SP9 阴陵泉 Yīn-Líng-Quán อนิ หลงิ เฉวฺ ียน SP10 血海 Xuè-Hǎi เซวฺ ี่ยไห SP11 箕门 Jī-Mén จีเหมิน SP12 冲门 Chōng-Mén ชงเหมนิ SP13 府舍 Fǔ-Shè ฝเู ซอ SP14 腹结 Fù-Jié ฝูเจีย๋ SP15 大横 Dà-Héng ตาเหิง SP16 腹哀 Fù-āi ฝูไอ SP17 食窦 Shí-Dòu สอื โตว SP18 天溪 Tiān-Xī เทียนซี SP19 胸乡 Xiōng-Xiāng ซงเซยี ง SP20 周荣 Zhōu-Róng โจวหญง
Page 366 356 การฝงเขม็ -รมยา เลม 2 รหัสจุด ช่อื ภาษาจนี พนิ อนิ ภาษาไทย SP21 大包 Dà-Bāo ตาเปา จุดบนเสนมือเสาอนิ หัวใจ (HT) The Heart Meridian of Hand-ShaoYin Acupoints (手少阴心经穴 Shǒu-Shǎo-Yīn-Xīn-Jīng-Xué) HT1 极泉 Jí-Quán จี๋เฉฺวยี น HT2 青灵 Qīng-Líng ชิงหลงิ HT3 少海 Shào-Hǎi เสาไห HT4 灵道 Líng-Dào หลงิ เตา HT5 通里 Tōng-Lǐ ทงหลี่ HT6 阴郗 Yīn-Xì อนิ ซี่ HT7 神门 Shén-Mén เสนิ เหมิน HT8 少府 Shào-Fǔ เสาฝู HT9 少冲 Shào-Chōng เสา ชง จุดบนเสน มอื ไทหยางลําไสเ ลก็ (SI) The Small Intestine Meridian of Hand - TaiYang Acupoints (手太阳小肠经穴 Shǒu-Tài-Yáng-Xiǎo-Cháng-Jīng-Xué) SI1 少泽 Shào-Zé เสาเจอ SI2 前谷 Qián-Gǔ เฉียนกู SI3 后溪 Hòu-Xī โฮว ซี SI4 腕骨 Wàn-Gǔ วานกู SI5 阳谷 Yáng-Gǔ หยางกู SI6 养老 Yǎng-Lǎo หยา งเหลา SI7 支正 Zhī-Zhèng จอื เจง้ิ
Page 367 ภาคผนวก 2 357 รหัสจุด ช่อื ภาษาจนี พินอนิ ภาษาไทย SI8 小海 Xiǎo-Hǎi เสยี วไห SI9 肩贞 Jiān-Zhēn เจียนเจิน SI10 臑俞 Nào-Shū เนาซู SI11 天宗 Tiān-Zōng เทียนจง SI12 秉风 Bǐng-Fēng ปง เฟง SI13 曲垣 Qū-Yuán ชฺวีเหยฺวยี น SI14 肩外俞 Jiān-Wài-Shū เจยี นไวซ ู SI15 肩中俞 Jiān-Zhōng-Shū เจยี นจงซู SI16 天窗 Tiān-Chuāng เทียนชฺวาง SI17 天容 Tiān-Róng เทียนหญง SI18 颧髎 Quán-Liáo เฉฺวยี นเหลียว SI19 听宫 Tīng-Gōng ทงิ กง จุดบนเสนเทาไทห ยางกระเพาะปส สาวะ (BL) The Bladder Meridian of FootTaiYang Acupoints (足太阳膀胱经穴 Zú-Tài-Yáng-Páng-Guāng-Jīng-Xué) BL1 睛明 Jīng-Míng จงิ หมิง BL2 Zǎn-Zhú จานจู 攒竹 (Cuán-Zhú) (ฉวฺ านจ)ู BL3 眉冲 Méi-Chōng เหมยชง BL4 曲差 Qū-Chā ชวฺ ชี า BL5 五处 Wǔ-Chù อูชู BL6 承光 Chéng-Guāng เฉิงกวาง BL7 通天 Tōng-Tiān ทงเทยี น
Page 368 358 ชอ่ื ภาษาจนี พินอนิ การฝงเข็ม-รมยา เลม 2 รหัสจดุ 络却 Luò-Què ภาษาไทย BL8 玉枕 Yù-Zhěn ลว่ั เชวฺ ่ีย BL9 天柱 Tiān-Zhù อวเ้ี จิ่น BL10 大杼 Dà-Zhù เทยี นจู BL11 风门 Fēng-Mén ตา จู BL12 肺俞 Fèi-Shū เฟง เหมิน BL13 厥阴俞 Jué-Yīn-Shū เฟยซู BL14 心俞 Xīn-Shū จเหวยี อนิ ซู BL15 督俞 Dū-Shū ซินซู BL16 膈俞 Gé-Shū BL17 肝俞 Gān-Shū ตูซู BL18 胆俞 Dǎn-Shū เกอ ซู BL19 脾俞 Pí-Shū กานซู BL20 胃俞 Wèi-Shū ตานซู BL21 三焦俞 Sān-Jiāo-Shū ผซี ู BL22 肾俞 Shèn-Shū เวยซู BL23 气海俞 Qì-Hǎi-Shū ซานเจยี วซู BL24 大肠俞 Dà-Cháng-Shū เซ่ินซู BL25 关元俞 Guān-Yuán-Shū ช่ีไหซ ู BL26 小肠俞 Xiǎo-Cháng-Shū ตา ฉางซู BL27 膀胱俞 Páng-Guāng-Shū กวานเหยฺวียนซู BL28 中膂俞 Zhōng-Lǔ-Shū เส่ียวฉางซู BL29 ผงั กวางซู จงหล่ีซู (จงลฺหวซี่ ู)
Page 369 ภาคผนวก 2 359 รหสั จุด ชื่อภาษาจนี พินอิน ภาษาไทย ไปห วนซู BL30 白环俞 Bái-Huán-Shū ซา งเหลยี ว BL31 上髎 Shàng-Liáo ช่ือเหลยี ว BL32 次髎 จงเหลียว BL33 中髎 Cì-Liáo เซยี่ เหลียว BL34 下髎 Zhōng-Liáo หยุ หยาง BL35 会阳 Xià-Liáo เฉิงฝู BL36 承扶 Huì-Yáng อนิ เหมนิ BL37 殷门 Chéng-Fú BL38 浮郗 ฝซู ่ี BL39 委阳 Yīn-Mén เหวย หยาง BL40 委中 Fú-Xì เหวย จง BL41 附分 Wěi-Yáng BL42 魄户 Wěi-Zhōng ฟูเฟน BL43 膏肓 Fù-Fēn พอ หู BL44 神堂 Pò-Hù เกาฮวาง BL45 譩譆 Gāo-Huāng เสนิ ถัง BL46 膈关 Shén-Táng อ้สี ่ี BL47 魂门 Yì-Xǐ เกอ กวาน BL48 阳纲 Gé-Guān หนุ เหมิน BL49 意舍 Hún-Mén หยางกงั BL50 胃仓 Yáng-Gāng อ้ีเซอ BL51 肓门 Yì-Shè เวยชาง Wèi-Cāng ฮฺวางเหมนิ Huāng-Mén
Page 370 360 การฝงเขม็ -รมยา เลม 2 รหสั จดุ ชอื่ ภาษาจนี พินอนิ ภาษาไทย BL52 BL53 志室 Zhì-Shì จ้อื ซือ่ BL54 BL55 胞肓 Bāo-Huāng เปาฮวฺ าง BL56 BL57 秩边 Zhì-Biān จือ้ เปยน BL58 BL59 合阳 Hé-Yáng เหอหยาง BL60 BL61 承筋 Chéng-Jīn เฉงิ จิน BL62 BL63 承山 Chéng-Shān เฉิงซาน BL64 BL65 飞扬 Fēi-Yáng เฟยหยาง BL66 BL67 跗阳 Fū-Yáng ฟหู ยาง KI1 昆仑 Kūn-Lún คุนหลนุ KI2 KI3 仆参 Pú-Cān(Pú-Shēn) ผูชาน (ผูเซนิ ) 申脉 Shēn-Mài เซินมา ย 金门 Jīn-Mén จนิ เหมิน 京骨 Jīng-Gǔ จงิ กู 束骨 Shù-Gǔ ซกู ู 足通谷 Zú-Tōng-Gǔ จทู งกู 至阴 Zhì-Yīn จือ้ อิน จดุ บนเสน เทาเสาอินไต (KI) The Kidney Meridian of Foot-ShaoYin Acupoints (足少阴肾经穴 Zú-Shǎo-Yīn-Shèn-Jīng-Xué) 涌泉 Yǒng-Quán หยงเฉฺวียน 然谷 Rán-Gǔ หญานกู 太溪 Tài-Xī ไทซ ี
Page 371 ภาคผนวก 2 361 รหสั จดุ ชอ่ื ภาษาจนี พินอิน ภาษาไทย ตา จง KI4 大钟 Dà-Zhōng KI5 水泉 Shuǐ-Quán สยุ เฉฺวียน KI6 照海 Zhào-Hǎi เจาไห KI7 复溜 ฟูล ิว KI8 交信 Fù-Liū เจยี วซ่ิน KI9 筑宾 Jiāo-Xìn จปู น KI10 阴谷 Zhù-Bīn อินกู KI11 横骨 Yīn-gǔ เหิงกู KI12 大赫 Héng-Gǔ ตาเฮอ KI13 气穴 ชี่เสฺวีย KI14 四满 Dà-Hè ซื่อหมา น KI15 中注 Qì-Xué จงจู KI16 肓俞 Sì-Mǎn ฮวฺ างซู KI17 商曲 Zhōng-Zhù ซางชวฺ ี KI18 石关 Huāng-Shū สือกวาน KI19 阴都 Shāng-Qū อนิ ตู KI20 腹通谷 Shí-Guān ฝูทงกู KI21 幽门 Yīn-Dū อิวเหมิน KI22 步廊 Fù-Tōng-Gǔ ปูห ลาง KI23 神封 Yōu-Mén เสินเฟง KI24 灵墟 Bù-Láng หลงิ ซฺวี KI25 神藏 Shén-Fēng เสินฉาง Líng-Xū Shén-Cáng
Page 372 362 การฝงเข็ม-รมยา เลม 2 รหสั จดุ ชอื่ ภาษาจนี พินอนิ ภาษาไทย KI26 彧中 Yù-Zhōng อวจ้ี ง KI27 俞府 Shū-Fǔ ซูฝู จุดบนเสนมอื จเฺ หวยี อินเยอื่ หุมหวั ใจ (PC) The Pericardium Meridian of Hand-JueYin Acupoints (手厥阴心包经穴 Shǒu-Jué-Yīn-Xīn-Bāo-Jīng-Xué) PC1 天池 Tiān-Chí เทยี นฉือ PC2 天泉 Tiān-Quán เทียนเฉวฺ ียน PC3 曲泽 Qū-Zé ชวฺ ีเจอ PC4 郗门 Xì-Mén ซเ่ี หมนิ PC5 间使 Jiān-Shǐ เจยี นส่ือ PC6 内关 Nèi-Guān เนยกวาน PC7 大陵 Dà-Líng ตาหลิง PC8 劳宫 Láo-Gōng เหลากง PC9 中冲 Zhōng-Chōng จงชง จุดบนเสน มือเสาหยางซานเจยี ว (TE) The Pericardium Meridian of Hand-JueYin Acupoints (手少阳三焦经穴 Shǒu-Jué-Yīn-Xīn-Bāo-Jīng-Xué) TE1 关冲 Guān-Chōng กวานชง TE2 液门 Yè-Mén เยเหมนิ TE3 中渚 Zhōng-Zhǔ จงจู TE4 阳池 Yáng-Chí หยางฉือ TE5 外关 Wài-Guān ไวก วาน TE6 支沟 Zhī-Gōu จอื โกว
Page 373 ภาคผนวก 2 363 รหัสจดุ ช่ือภาษาจนี พนิ อิน ภาษาไทย TE7 会宗 Huì-Zōng หยุ จง TE8 三阳络 Sān-Yáng-Luò ซานหยางล่ัว TE9 四渎 Sì-Dú ซอ่ื ตู TE10 天井 Tiān-Jǐng เทียนจ่ิง TE11 清冷渊 Qīng-Lěng-Yuān ชงิ เหลิง่ เยวฺ ียน TE12 消泺 Xiāo-Luò เซยี วลวั่ TE13 臑会 Nào-Huì เนาหยุ TE14 间髎 Jiān-Liáo เจยี นเหลยี ว TE15 天髎 Tiān-Liáo เทียนเหลียว TE16 天牖 Tiān-Yǒu เทยี นอว่ิ TE17 翳风 Yì-Fēng อ้ีเฟง TE18 瘛脉 Chì-Mài ช่ือมา ย TE19 颅息 Lú-Xī หลูซี TE20 角孙 Jiǎo-Sūn เจีย่ วซุน TE21 耳门 Ér-Mén เออ รเหมนิ TE22 耳禾髎 Ér-Hé-Liáo เออ รเหอเหลยี ว TE23 丝竹空 Sī-Zhú-Kōng ซอื จูคง จุดบนเสน เทา หยางถงุ นํ้าดี (GB) The Gall Bladder Meridian of Foot-ShaoYang Acupoints (足少阳胆经穴 Zú-Shǎo-Yáng-Dǎn-Jīng-Xué) GB1 瞳子髎 Tóng-Zǐ-Liáo ถงจอื่ เหลียว GB2 听会 Tīng-Huì ทงิ หยุ
Page 374 364 ชื่อภาษาจนี พนิ อิน การฝงเขม็ -รมยา เลม 2 รหสั จดุ 上关 Shàng-Guān ภาษาไทย 颔厌 Hàn-Yàn ซางกวาน GB3 悬颅 Xuán-Lú ฮั่นเอ้ยี น GB4 悬厘 Xuán-Lí เสฺวยี นหลู GB5 曲鬓 Qū-Bìn เสฺวยี นหลี GB6 率谷 Shuài-Gǔ ชฺวปี น GB7 天冲 ไซฺวก ู GB8 浮白 Tiān-Chōng เทยี นชง GB9 头窍阴 Fú-bái GB10 完骨 ฝูไป GB11 本神 Tóu-Qiào-Yīn โถวเช่ยี วอนิ GB12 阳白 Wán-Gǔ GB13 头临泣 Běn-Shén หวันกู GB14 目窗 Yáng-Bái เปนเสิน GB15 正营 หยางไป GB16 承灵 Tóu-Lín-Qì โถวหลินซี่ GB17 脑空 Mù-Chuāng มูชฺวาง GB18 风池 Zhèng-Yíng เจิ้งอ๋ิง GB19 肩井 Chéng-Líng เฉิงหลงิ GB20 渊液 Nǎo-Kōng เหนา คง GB21 辄筋 Fēng-Chí เฟงฉอื GB22 日月 Jiān-Jǐng เจยี นจิง่ GB23 Yuān-Yè เอวยี นเย GB24 Zhé-Jīn เจอ จิน ญ่ือเอวีย่ Rì-Yuè
Page 375 ภาคผนวก 2 365 รหัสจดุ ช่ือภาษาจนี พนิ อนิ ภาษาไทย GB25 京门 Jīng-Mén จงิ เหมนิ GB26 带脉 Dài-Mài ไตม า ย GB27 五枢 Wǔ-Shū อซู ู GB28 维道 Wéi-Dào เหวยเตา GB29 居髎 Jū-Liáo จวฺ ีเหลยี ว GB30 环跳 Huán-Tiào หวนเท่ียว GB31 风市 Fēng-shì เฟง ซอื่ GB32 中渎 Zhōng-Dú จงตู GB33 膝阳关 Xī-Yáng-Guān ซีหยางกวาน GB34 阳陵泉 Yáng-Líng-Quán หยางหลิงเฉวฺ ยี น GB35 阳交 Yáng-Jiāo หยางเจียว GB36 外丘 Wài-Qiū ไวช วิ GB37 光明 Guāng-Míng กวางหมงิ GB38 阳辅 Yáng-Fǔ หยางฝู GB39 悬钟 Xuán-Zhōng เสวฺ ยี นจง GB40 丘墟 Qiū-Xū ชวิ ซวฺ ี GB41 足临泣 Zú-Lín-Qì จหู ลินช่ี GB42 地五会 Dì-Wǔ-Huì ตอ้ี ฮู ุย GB43 侠溪 Xiá-Xī เสียซี GB44 足窍阴 Zú-Qiào-Yīn จเู ชยี่ วอนิ
Page 376 366 การฝงเข็ม-รมยา เลม 2 จุดบนเสน เทา จฺเหวียอินตบั (LR) The Liver Meridian of Foot-JueYin Acupoints (足厥阴肝经穴 Zú-Jué-Yīn-Xīn-Gān-Jīng-Xué) LR1 大敦 Dà-Dūn ตา ตุน LR2 行间 Xíng-Jiān สิงเจียน LR3 太冲 Tài-Chōng ไทชง LR4 中封 Zhōng-Fēng จงเฟง LR5 蠡沟 Lí-Gōu หลีโกว LR6 中都 Zhōng-Dū จงตู LR7 膝关 Xī-Guān ซกี วาน LR8 曲泉 Qū-Quán ชฺวเี ฉฺวียน LR9 阴包 Yīn-Bāo อินเปา LR10 足五里 Zú-Wǔ-Lǐ จอู ูห ลี่ LR11 阴廉 Yīn-Lián อินเหลียน LR12 急脉 Jí-Mài จีม๋ าย LR13 章门 Zhāng-Mén จางเหมิน LR14 期门 Qī-Mén ชีเหมนิ จดุ บนเสน ลมปราณเญน่ิ (CV) The Conception Vessel Acupoints (任脉穴 Rèn-Mài-Xué) CV1 会阴 Huì-Yīn หุยอนิ CV2 曲骨 Qū-Gǔ ชวฺ กี ู CV3 中极 Zhōng-Jí จงจี๋ CV4 关元 Guān-Yuán กวานเหยฺวยี น
Page 377 ภาคผนวก 2 367 รหสั จดุ ชื่อภาษาจนี พินอิน ภาษาไทย CV5 石门 Shí-Mén สือเหมิน CV6 气海 Qì-Hǎi ช่ไี ห CV7 阴交 Yīn-Jiāo อินเจยี ว CV8 神阙 Shén-Què CV9 水分 Shuǐ-Fēn เสนิ เชวฺ ีย่ CV10 下脘 Xià-Wǎn สยุ เฟน CV11 建里 Jiàn-Lǐ เซีย่ หวาน CV12 中脘 Zhōng-Wǎn เจ้ยี นหล่ี CV13 上脘 Shàng-Wǎn จงหวาน CV14 巨阙 Jù-Què ซางหวาน CV15 鸠尾 Jiū-Wěi จวฺ ีเ้ ชฺวย่ี CV16 中庭 Zhōng-Tíng จวิ เหวย Tán-Zhōng จงถิง CV17 膻中 (Dàn-Zhōng) ถันจง CV18 玉堂 (Shàn-Zhōng) (ตน้ั จง) CV19 紫宫 Yù-Táng (ซน่ั จง) CV20 华盖 Zǐ-Gōng อวีถ้ าง CV21 璇玑 Huá-Gài จือ่ กง CV22 天突 Xuán-Jī หัวกา ย CV23 廉泉 Tiān-Tū เสวฺ ยี นจี CV24 承浆 Lián-Quán เทยี นทู Chéng-Jiāng เหลียนเฉฺวยี น เฉิงเจียง
Page 378 368 จุดบนเสนลมปราณตู (GV) การฝงเข็ม-รมยา เลม 2 GV1 The Governor Vessel Acupoints ฉางเฉยี ง GV2 (督脉穴 Dū-Mài-Xué) เยาซู GV3 เยาหยางกวาน GV4 长强 Cháng-Qiáng มง่ิ เหมิน GV5 เสฺวียนซู GV6 腰俞 Yāo-Shū จี่จง GV7 จงซู GV8 腰阳关 Yāo-Yáng-Guān จนิ ซวั GV9 จื้อหยาง GV10 命门 Mìng-Mén หลงิ ไถ GV11 เสนิ เตา GV12 悬枢 Xuán-Shū เซนิ จู GV13 เถาเตา GV14 脊中 Jǐ-Zhōng ตา จยุ GV15 หยา เหมิน GV16 中枢 Zhōng-Shū เฟงฝู GV17 เหนา หู GV18 筋缩 Jīn-Suō เฉยี งเจยี น GV19 โหวตงิ่ GV20 至阳 Zhì-Yáng ไปห ยุ 灵台 Líng-Tái 神道 Shén-Dào 身柱 Shēn-Zhù 陶道 Táo-Dào 大椎 Dà-Zhuī 哑门 Yǎ-Mén 风府 Fēng-Fǔ 脑户 Nǎo-Hù 强间 Qiáng-Jiān 后顶 Hòu-Dǐng 百会 Bǎi-Huì
Page 379 ภาคผนวก 2 369 รหัสจุด ชื่อภาษาจนี พนิ อนิ ภาษาไทย GV21 เฉยี นตง่ิ GV22 前顶 Qián-Dǐng ซิ่นหุย GV23 囟会 Xìn-Huì ซางซิง GV24 上星 Shàng-Xīng เสินถิง GV25 ซเู หลยี ว GV26 神庭 Shén-Tíng สยุ โกว GV27 ตยุ ตฺวาน GV28 素髎 Sù-Liáo อนิ๋ เจียว 水沟 Shuǐ-Gōu EX-HN1 兑端 Duì-Duān ซือ่ เสนิ ชง EX-HN2 ตางหยาง EX-HN3 龈交 Yín-Jiāo อ้ินถงั EX-HN4 ยหฺ วเี ยา EX-HN5 จดุ พิเศษบน ศีรษะและคอ (EX-HN) ไทห ยาง EX-HN6 เออรเ จยี น EX-HN7 Head and Neck Extra-Acupoints ฉิวโหว EX-HN8 (头颈奇穴 : Tóu-Jǐng-Qí-Xué) ซางอ๋งิ เซยี ง EX-HN9 เนยอิง๋ เซยี ง EX-HN10 四神聪 Sì-Shén-Cōng จฺวเ้ี ฉฺวยี น EX-HN11 当阳 Dāng-Yáng ไหเฉวฺ ียน 印堂 Yìn-Táng 鱼腰 Yú-Yāo 太阳 Tài-Yáng 耳尖 Ér-Jiān 球后 Qiú-Hòu 上迎香 Shàng-Yíng-Xiāng 内迎香 Nèi-Yíng-Xiāng 聚泉 Jù-Quán 海泉 Hǎi-Quán
Page 380 370 การฝงเขม็ -รมยา เลม 2 รหสั จดุ ชอื่ ภาษาจนี พนิ อิน ภาษาไทย EX-HN12 EX-HN13 金津 Jīn-Jīn จินจนิ EX-HN14 อว้ีเย EX-HN15 玉液 Yù-Yè อ้หี มงิ EX-HN16 จ่งิ ไปเหลา EX-HN17 翳明 Yì-Míng ซางเหลยี นเฉฺวยี น EX-HN18 เจยี่ เฉิงเจียง EX-HN19 颈百劳 Jǐng-Bǎi-Láo เฉยี นเจงิ้ อนั เหมย่ี น EX-CA1 上廉泉 Shàng-Lián-Quán EX-CA2 EX-CA3 夹承浆 Jia-Chéng-Jiāng EX-CA4 EX-CA5 牵正 Qian-Zheng EX-CA6 安眠 An-Mián EX-B1 EX-B2 จดุ พิเศษบน หนา อกและทอ ง (EX-CA) EX-B3 Chest and Abdomen Extra-Acupoints (胸腹奇穴 : Xiōng-Fù-Qí-Xué) 子宫 Zǐ-Gōng จอ่ื กง เวยซา ง 胃上 Wèi-Shàng ซานเจย่ี วจิ่ว ล่เี น่ยี วเสวฺ ยี 三角灸 Sān-Jiǎo-Jiǔ ช่เี หมนิ ถที ัว 利尿穴 Lì-Niào-Xué 气门 Qì-Mén 提托 Tí-Tuō จุดพเิ ศษบน หลัง (EX-B) Back Extra-Acupoints (背奇穴 Bèi-Qí-Xué) 定喘 Dìng-chuǎn ต้งิ ฉฺวาน 夹脊 Jiá-jǐ เจีย๋ จ่ี 胃脘下俞 เวย หวานเซีย่ ซู Wèi-Wǎn-Xià-Shū
Page 381 ภาคผนวก 2 371 รหัสจดุ ชอ่ื ภาษาจนี พนิ อนิ ภาษาไทย EX-B4 痞根 Pǐ-Gēn ผเี่ กิน EX-B5 เซ่ยี จี๋ซู EX-B6 下极俞 Xià-Jí-Shū เยาอ๋ี EX-B7 เยาเอีย่ น EX-B8 腰宜 Yāo-Yí สือชจี ยุ EX-B9 เยาฉี EX-B10 腰眼 Yāo-Yǎn หวนจง EX-B11 เซฺวีย่ ยาเตย่ี น EX-B12 十七椎 Shí-Qī-Zhuī จวฺ เ้ี ชวฺ ยี่ ซู EX-UE1 腰奇 Yāo-Qí EX-UE2 EX-UE3 环中 Huán-Zhōng EX-UE4 EX-UE5 血压点 Xuè-Yā-Diǎn EX-UE6 EX-UE7 巨阙俞 Jù-Què-Shū EX-UE8 EX-UE9 จดุ พเิ ศษบน รยางคบ น (EX-UE) EX-UE10 Upper Extremities Extra-Acupoints (上肢奇穴 Shàng-Zhī-Qí-Xué) 肘尖 Zhǒu-Jiān โจวเจียน 二白 Èr-Bái เออรไ ป 中泉 จงเฉวฺ ยี น 中魁 Zhōng-Quán จงขยุ 大骨空 Zhōng-Kuí ตา กคู ง 小骨空 Dà-Gǔ-Kōng เสยี วกูค ง 腰痛点 Xiǎo-Gǔ-Kōng เยาทง เตยี่ น 外劳宫 Yāo-Tòng-Diǎn ไวเ หลากง 八邪 Wài-Láo-Gōng ปาเสยี 四缝 ซื่อเฝง Bā-Xié Sì-Fèng
Page 382 372 การฝงเข็ม-รมยา เลม 2 รหสั จุด ช่ือภาษาจนี พินอนิ ภาษาไทย EX-UE11 十宣 Shí-Xuān สอื เซวฺ ยี น EX-UE12 肩前 Jiān-Qián เจียนเฉยี น EX-UE13 (肩内陵) (Jiān-Nèi-Ling) (เจียนเนยหลงิ ) EX-LE1 EX-LE2 臂中 Bì-Zhōng ปจ ง EX-LE3 (收逆注) (Shou-Ni-Zhu) (โซวน่ีจ)ู EX-LE4 EX-LE5 จดุ พเิ ศษบน รยางคล า ง (EX-LE) EX-LE6 EX-LE7 Lower Extremities Extra-Acupoints EX-LE8 EX-LE9 (下肢奇穴 Qí-Xué-Xia-Zhi) EX-LE10 EX-LE11 髋骨 Kuān-Gǔ ควานกู EX-LE12 鹤顶 Hè-Dǐng เหอ ติง่ 膝内 Xī-Nèi ซีเนย 白虫窝 Bái-Chóng-Wō ไปฉ งวอ 内膝眼 Nèi-Xī-Yǎn เนย ซเี อยี่ น 膝眼 Xī-Yǎn ซีเอย่ี น 胆囊 Dǎn-Náng ตา นหนาง 阑尾 Lán-Wěi หลานเหวย 内踝尖 Nèi-Huái-Jiān เนย หวาฺ ยเจียน 外踝尖 Wài-Huái-Jiān ไวหวายเจียน 八风 Bā-Fēng ปาเฟง 独阴 Dú-Yīn ตอู นิ 气端 Qì-Duān ชี่ตวฺ าน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383