61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71 ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล หอ้ งเรยี นอาเภองาว ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ๑. ขอ้ มลู ดา้ นนักเรยี น ๑.๑ ข้อมลู สว่ นตวั นกั เรยี น ชื่อ-นามสกุล (ด.ช/ด.ญ/นาย/น.ส) ชาลิด กันทิพย์ ชอื่ เลน่ โนต๊ ประเภทความพกิ าร บกพร่องทางรา่ งกายหรือการเคลอ่ื นไหวหรอื สุขภาพ เกดิ วนั ท่ี ๑๘ เดอื นสิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ อายุ ๑๐ ปี เชือ้ ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ เลขบัตรประจาตัวประชาชน ๑๕๒๙๔๐๐๐๓๙๙๘๔ หมโู่ ลหิต โอ การจดทะเบียนคนพิการ ไมต่ ้องการจดทะเบียน ยงั ไม่จดทะเบยี น จดทะเบียนแลว้ ทอ่ี ยปู่ จั จบุ ัน ๕๒/๒ หมู่ ๔ ต.แมต่ ีบ อ.งาว จ.ลาปาง รหสั ไปรษณยี ์ ๕๒๑๑๐ ๑.๒ ดา้ นสุขภาพ ๑) สุขภาพกาย มสี ุขภาพรา่ งกายสมบูรณ์แขง็ แรง เจบ็ ป่วยบ่อย (ระบุ)............................................................................ มีโรคประจาตัว (ระบุ)......................................................................... ป่วยเป็นโรคร้ายแรง/เรื้อรัง (วัณโรค โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง (หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเร้ือรัง โรคมะเร็ง ภาวะภูมิคุ้มกันต่า โรคเบาหวาน ภาวะบกพรอ่ งทางระบบประสาทอย่างรุนแรง ลมชัก ฯลฯ ระบโุ รค)............................................................... นา้ หนัก............๒๕..............กโิ ลกรมั ส่วนสูง................๑๒๕...............เซนตเิ มตร น้าหนกั ผดิ ปกตไิ มส่ ัมพนั ธ์กับสว่ นสงู หรอื อายุ นอนตดิ เตยี ง ๒) สุขภาพจติ /อารมณ/์ พฤตกิ รรม อารมณด์ ี ย้ิมง่าย มปี ฏสิ ัมพันธ์ทเี่ หมาะสมกับผู้อืน่ อารมณห์ งุดหงิดง่าย/โมโหงา่ ย ไมม่ ปี ฏสิ ัมพันธก์ ับผู้อื่น เชน่ เฉยเมย ไมส่ บตา ไมม่ ีการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ์ ซึมเศรา้ แยกตวั ออกจากกลุ่ม หวาดระแวง ไม่พบพฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์ พบพฤติกรรมท่ีไม่พงึ ประสงค์ท่สี ่งผลกระทบไมร่ นุ แรงต่อตนเอง/ผอู้ ่ืน/ส่งิ ของ พบพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบรนุ แรงต่อตนเอง/ผอู้ ่ืน/สิง่ ของ
72 ๑.๓ ดา้ นการเรยี นรู้ ๑) พฒั นาการ/ความสามารถ พัฒนาการ/ความสามารถเทียบเท่ากับอายุจริง พฒั นาการ/ความสามารถล่าชา้ กวา่ อายุจรงิ ๑ – ๓ ปี พัฒนาการ/ความสามารถล่าชา้ กว่าอายจุ รงิ ๓ ปี ขึ้นไป ๒) การชว่ ยเหลอื ตนเอง สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ สามารถชว่ ยเหลอื ตนเองไดบ้ ้าง ไมส่ ามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ ๑.๔ ดา้ นสิทธคิ นพกิ าร/สนบั สนนุ ชว่ ยเหลือจากองค์กรภาครฐั หรอื เอกชน ๑) เบย้ี ยงั ชพี คนพกิ าร ไดร้ บั จานวน............๑๐๐๐...........บาท/เดือน ไมไ่ ด้รับ เน่ืองจาก................................................................................................................ ๒) บรกิ ารฟนื้ ฟูทางการแพทย์ ได้รบั (ระบโุ รงพยาบาล).....โรงพยาบาลงาว........................................................................ ไม่ไดร้ ับ เนื่องจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี สอ่ื สง่ิ อานวยความสะดวก ไดร้ ับ (ระบุส่ิงที่ไดร้ บั ).........การใชง้ านคอมพวิ เตอร์........................................................... (ระบุหนว่ ยงานทีไ่ ดร้ ับ).......ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาหวัดลาปาง................................... ไม่ไดร้ ับ เน่ืองจาก............................................................................................................... ๔) ทนุ การศึกษา/เงนิ ชว่ ยเหลอื อนื่ ๆ ได้รบั (ระบชุ อื่ ทุนการศึกษา/เงินชว่ ยเหลืออื่น ๆ)................................................................ จานวน.............................................บาท/เดือน ไมไ่ ดร้ ับ เน่ืองจาก................................................................................................................ ๕) รับบริการสวสั ดกิ ารทางสงั คม ไดร้ ับ (สิง่ ทไ่ี ด้รบั เช่น บริการเคสเมเนเจอร์ บรกิ ารรบั ส่งไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบุ).......... (หนว่ ยงานทีไ่ ดร้ ับ เชน่ พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ ).................................................................. ไม่ไดร้ ับ เนื่องจาก...............................................................................................................
73 ๒. ขอ้ มลู ดา้ นครอบครวั ๒.๑ ข้อมลู บดิ า มีชวี ติ อยู่ ถึงแก่กรรม ไม่มีข้อมลู ช่ือ-นามสกลุ บิดา นายประดิษฐ์ กนั ทพิ ย์ อายุ ๓๑ ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ไม่มีงานทา มีงานทา อาชีพ รบั จา้ งท่ัวไป รายได้ ๓,๐๐๐ บาท/เดอื น ระดับการศกึ ษา ไมไ่ ด้รบั การศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษา/ปวช ปวส/อนุปริญญา ปริญญา ทอี่ ยปู่ จั จุบัน ท่ีอยู่เดยี วกบั นักเรียน ท่ีอยตู่ ่างจากนกั เรยี น (โปรดกรอกข้อมลู ) บา้ นเลขที่ ๕๒/๒ หม่ทู ่ี ๔ หมู่บา้ นงว้ิ งาม ตาบล แมต่ ีบ อาเภอ งาว จงั หวดั ลาปาง รหสั ไปรษณยี ์ ๕๒๑๑๐ ๒.๒ ขอ้ มลู มารดา มชี วี ิตอยู่ ถึงแก่กรรม ไม่มขี ้อมลู ชอ่ื -นามสกลุ มารดา นางสาวจุฑาวรรณ หลีแกว้ สาย อายุ ๒๗ ปี เชอื้ ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ไม่มงี านทา มีงานทา อาชีพ รับจา้ งท่ัวไป รายได้ ๓,๐๐๐ บาท/เดือน ระดับการศึกษา ไมไ่ ดร้ ับการศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษา/ปวช ปวส/อนปุ ริญญา ปรญิ ญา ท่ีอยู่ปัจจุบัน ท่อี ยเู่ ดียวกับนักเรยี น ท่อี ยู่ตา่ งจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมลู ) บ้านเลขที่ ๕๒/๒ หม่ทู ี่ ๔ หมบู่ า้ นง้วิ งาม ตาบล แม่ตบี อาเภอ งาว จงั หวดั ลาปาง รหัสไปรษณยี ์ ๕๒๑๑๐ โทรศัพท์ ๐๙๖๐๐๙๓๑๓๒ ๒.๓ ข้อมลู ผปู้ กครอง บิดา มารดา ผู้ปกครองไมใ่ ช่บดิ า/มารดา (โปรดกรอกข้อมูล) ช่อื -นามสกลุ มารดา นางสาวจุฑาวรรณ หลแี กว้ สาย อายุ ๒๗ ปี เช้ือชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ไม่มีงานทา มงี านทา อาชีพ รบั จา้ งทั่วไป รายได้ ๓,๐๐๐ บาท/เดือน ระดับการศกึ ษา ไมไ่ ดร้ บั การศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา/ปวช ปวส/อนุปรญิ ญา ปรญิ ญา ทีอ่ ยูป่ จั จุบนั ท่อี ย่เู ดียวกบั นักเรยี น ทอ่ี ยูต่ ่างจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมูล) บ้านเลขที่ ๕๒/๒ หมู่ที่ ๔ หมู่บ้านง้วิ งาม ตาบล แม่ตีบ อาเภอ งาว จงั หวดั ลาปาง รหัสไปรษณยี ์ ๕๒๑๑๐ โทรศพั ท์ ๐๙๖๐๐๙๓๑๓๒ รายไดค้ รอบครัว ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ปี ขึน้ ไป ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ปี ไม่เกิน 40,000 บาท/ปี สภาพความเป็นอยู่ในครอบครวั อย่รู ว่ มกับบดิ ามารดา อยู่กบั บดิ า อยู่กับมารดา อยูก่ ับผู้อื่น (ระบ)ุ ................................................................... สถานภาพของบดิ ามารดา อยู่ด้วยกัน หย่าร้าง แยกกันอยู่ บดิ าถงึ แก่กรรม มารดาถงึ แก่กรรม บิดา มารดาถงึ แก่กรรม
74 ครอบครัวของนักเรยี นมีสมาชิกท้งั หมด ๕ คน ประกอบด้วย ตา ยาย บดิ า มารดาและนักเรยี น บคุ คลในครอบครวั มีการใชส้ ารเสพติด มี ไมม่ ี เก่ยี วขอ้ งเป็น...............................กับนักเรยี น ประเภทสารเสพติดทีใ่ ชค้ ือ บุหรี่ สุรา ยาบา้ อ่ืนๆ ระบ.ุ ............................ ความถใี่ นการใชส้ ารเสพตดิ ของบุคคลในครอบครวั เป็นประจา บางครั้ง บคุ คลในครอบครัวเกย่ี วข้องกับการเลน่ การพนนั มี ไมม่ ี ความถี่ในการเลน่ การพนนั ของบุคคลในครอบครัว เป็นประจา บางครัง้ ภายในครอบครัวมีความขัดแยง้ และมีการใช้ความรุนแรง มี ไม่มี บุคคลในครอบครวั เจบ็ ปว่ ยด้วยโรครนุ แรง/เร้อื รงั มี ไมม่ ี อาชีพบิดา/มารดา/ผปู้ กครองเส่ียงต่อกฎหมาย มี ไมม่ ี ๒.๔ ดา้ นเศรษฐกจิ ครอบครวั มรี ายได้เพยี งพอสาหรบั เลยี้ งดูครอบครวั ได้อย่างดี มรี ายได้เพียงพอสาหรบั เล้ียงดูครอบครวั เฉพาะที่จาเป็น มหี นส้ี นิ มีรายได้เพียงเลก็ น้อย ไม่เพยี งพอสาหรับครอบครัว ไม่มีรายได้เลย ตอ้ งพง่ึ พาผูอ้ ื่นท้ังหมด และมหี นส้ี ิน ๒.๕ ดา้ นการคมุ้ ครองนักเรยี น ๑) การดแู ลเอาใจใส่นกั เรยี น สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวช่วยกนั ดูแลเอาใจใสน่ กั เรียนเป็นประจาสม่าเสมอ ขาดการดแู ลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนักเรยี นเป็นบางครงั้ ขาดการดูแลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนกั เรียน/ไมม่ ีผู้ดูแล นกั เรียนถกู ล่วงละเมิดทางเพศ นักเรียนถกู ทาร้ายทารุณ ๒) การชว่ ยเหลือในการพฒั นานักเรยี น สมาชิกทกุ คนในครอบครัวเข้าใจ/รว่ มมือในการชว่ ยเหลือในการพฒั นานกั เรยี นเป็นอยา่ งดี สมาชกิ ในครอบครวั บางคนไม่มีความเข้าใจ/ร่วมมอื ในการชว่ ยเหลอื ในการพฒั นานักเรยี น สมาชิกทุกคนในครอบครัวขาดความเข้าใจ/ร่วมมือในการชว่ ยเหลอื ในการพฒั นานักเรยี น ๒.๖ ดา้ นเจตคตติ ่อนกั เรยี น ครอบครัวมีความคาดหวังในการพฒั นานักเรยี น นกั เรียนสามารถพฒั นาได้และมีการแสวงหาความรู้ในการพฒั นานักเรยี นอยเู่ สมอ มคี วามคาดหวงั ในการพัฒนานกั เรยี นแต่ไมม่ ีการแสวงหาความร้เู พ่ือนามาพฒั นานักเรียน ไมม่ คี วามคาดหวังในการพัฒนานกั เรยี นและนกั เรยี นเป็นภาระของครอบครัว
75 ๒.๗ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ ทักษะของผปู้ กครองในการพฒั นานกั เรยี น ๑) ความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะของผปู้ กครองในการจดั กจิ กรรมเพือ่ พฒั นานกั เรยี น มีการจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนานักเรียนเปน็ ประจาทุกวัน มีการจัดกจิ กรรมเพ่ือพฒั นานกั เรยี นเป็นบางครั้ง ไมเ่ คยมีการจดั กจิ กรรมเพ่ือพฒั นานักเรียน ๒) ความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะของผปู้ กครองในการฝกึ ดว้ ยเทคนคิ /กจิ กรรม มกี ารฝกึ ดว้ ยเทคนิค/กจิ กรรมท่ีหลากหลายเป็นประจาทุกวัน มกี ารฝกึ ด้วยเทคนิค/กจิ กรรมเป็นบางครัง้ ไม่เคยฝึกด้วยเทคนิค/กิจกรรม ๓. ข้อมลู ดา้ นสภาพแวดล้อม ๓.๑ สภาพแวดลอ้ มภายในศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง/หนว่ ยบรกิ าร ๑) บรเิ วณภายในหอ้ งเรยี นอาคารเรยี น สภาพแวดล้อมในห้องเรียน/อาคารเรยี นมีความเหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ พิเศษของ นักเรยี นและปลอดภัยตอ่ การดารงชีวติ สภาพแวดล้อมในห้องเรียน/อาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความต้องการจาเป็น พเิ ศษของนกั เรียนแต่ยงั สามารถใช้ได้อยา่ งปลอดภยั ต่อการดารงชวี ิต สภาพแวดลอ้ มในห้องเรยี น/อาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความตอ้ งการจาเป็น พเิ ศษของนกั เรยี นและไม่ปลอดภัยตอ่ การดารงชีวิต สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรยี น/อาคารเรยี นทกุ อยา่ งไมม่ ีความเหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ พิเศษของนักเรียนและไมป่ ลอดภัยตอ่ การดารงชวี ติ ระบรุ ายละเอียดเพ่ิมเตมิ ........................................................................................................................................... ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรียนมีความเหมาะสมกบั ความต้องการจาเป็นพิเศษของนักเรียน และปลอดภัยต่อการดารงชวี ติ สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจาเป็นพเิ ศษ ของนักเรยี นแตย่ ังสามารถใช้ไดอ้ ย่างปลอดภัยต่อการดารงชีวติ สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรียนบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความต้องการจาเป็นพิเศษ ของนักเรียนและไม่ปลอดภยั ต่อการดารงชีวติ สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นทกุ อยา่ งไมม่ ีความเหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ พิเศษของ นักเรียนและไม่ปลอดภัยต่อการดารงชีวติ ระบรุ ายละเอียดเพมิ่ เตมิ ...........................................................................................................................................
76 ๓) ผ้เู กยี่ วขอ้ ง ครู/พเ่ี ล้ียงเดก็ พิการ/ผปู้ ฏบิ ัติงานใหร้ าชการ ทุกคนพร้อมให้การชว่ ยเหลือนกั เรยี น คร/ู พเ่ี ล้ยี งเดก็ พิการ/ผปู้ ฏบิ ัตงิ านให้ราชการ บางคนละเวน้ ไมใ่ ห้การชว่ ยเหลือนักเรียน ครู/พเี่ ลย้ี งเด็กพกิ าร/ผปู้ ฏิบัติงานให้ราชการ บางคนรังเกยี จนักเรยี น เพื่อนทุกคนยอมรับ/ใหเ้ ข้ากลุม่ ทากิจกรรม เพ่ือนบางคนไม่ยอมรับ/ไมใ่ หเ้ ขา้ กลมุ่ ทากจิ กรรม เพ่อื นทุกคนไมย่ อมรบั /ไม่ใหเ้ ขา้ กลมุ่ ทากจิ กรรม ๓.๒ สภาพแวดล้อมภายในบา้ น ๑) บรเิ วณภายในบา้ น สะอาดปลอดภยั เออ้ื ต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรยี น สะอาดปลอดภัยแตไ่ ม่เอ้ือต่อการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน ไมส่ ะอาดและไม่ปลอดภัย ๒) บรเิ วณภายนอกบา้ น สะอาดปลอดภยั เออ้ื ตอ่ การพัฒนาศักยภาพนักเรียน สะอาดปลอดภยั แตไ่ มเ่ อื้อตอ่ การพัฒนาศกั ยภาพนกั เรียน ไม่สะอาดและไมป่ ลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอ้ มภายในชมุ ชน ๑) เจตคตขิ องชมุ ชนทมี่ ตี ่อนกั เรยี นและครอบครวั เป็นภาระของสังคม พรอ้ มให้ความชว่ ยเหลือ ความเชอ่ื เรอ่ื งเวรกรรม มสี ทิ ธเิ ทา่ เทียมกบั คนทัว่ ไป น่ารงั เกยี จ คนพิการสามารถพัฒนาได้ ไมส่ นใจ ๒) ความสัมพนั ธข์ องนกั เรยี นกบั ชมุ ชน เป็นทร่ี จู้ ักในชุมชน มีสว่ นรว่ มในชุมชน เป็นทร่ี กั ของคนในชุมชน ชุมชนให้ความชว่ ยเหลอื ไมม่ คี นในชมุ ชนรู้จัก ไม่สนใจ สรา้ งความเดือดร้อนใหค้ นในชุมชน
77 แบบรวบรวมข้อมลู ผเู้ รยี น ตามกรอบคดิ แนวเชงิ นเิ วศ (Ecological System) และกรอบการประเมนิ ของฟานไดจค์ (The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities) ชอ่ื -นามสกลุ ผเู้ รยี น เด็กชายชาลดิ กันทิพย์ ชอ่ื เลน่ โน๊ต ระดบั ชั้น เตรยี มความพรอ้ ม ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทการรบั บรกิ าร หน่วยบริการ ชอ่ื สถานศกึ ษา ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง อาเภอ งาว จงั หวดั ลาปาง ขอ้ มลู ณ วันที่ ๒๗ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
78 รวบรวมขอ้ มูลผ้เู รยี น ขอ้ มลู ของผเู้ รยี น ๑. ขอ้ มลู ของผเู้ รยี น ชอ่ื -นามสกลุ ผเู้ รยี น เด็กชายชาลดิ กนั ทิพย์ ช่ือเลน่ โนต๊ อายุ ๙ ปี เพศ ชาย เชอื้ ชาติ ไทย ประเภทความพกิ าร บุคคลท่มี ีความบกพร่องทางร่างกายหรอื การเคล่ือนไหวหรือสุขภาพ โรคประจาตวั เนื้องอกในสมอง ลกั ษณะความพกิ าร นักเรยี นมีลักษณะกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงทัง้ สองขา้ ง สามารถควบคุมกลา้ มเนื้อได้ บ้าง สามารถพลิกตะแคงตัวได้ ลุกขึ้นน่ังทรงตัวได้เล็กน้อย นั่งทรงตัวได้เล็กน้อย สามารถลุกข้ึนยืน ทรงตัวได้โดยมีผู้ช่วยเหลือ และไม่สามารถเดินได้ด้วยตนเอง สามารถเอื้อมแขนและใช้ฝ่ามือหยิบ สิ่งของท่ีอยู่ด้านหน้าได้ สามารถรับประทานอาหารได้ กลืนอาหารได้เอง ควบคุมน้าลายได้ หยิบ อาหารเข้าปากได้เอง พูดคุยสื่อสารเข้าใจ ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้แต่สามารถบอกได้ สามารถทากิจวตั รประจาวนั ไดบ้ ้างแตต่ อ้ งมีผู้ชว่ ยเหลือ พฤตกิ รรมของผเู้ รยี น พฤตกิ รรมส่วนบคุ คล ผเู้ รยี นสนใจดโู ทรศพั ท์ โทรทัศน์ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ผู้เรียนสามารถสื่อสารด้วยภาษาท่ีมีความหมายได้ สามารถฟังและทาตามคาส่ังได้ สามารถ แสดงความต้องการของตนเอง โดยการเปล่งเสียงออกมา แสดงอารมณ์ด้วยการหัวเราะ ยิ้ม เม่ือดีใจ และสามารถใช้มือเอ้อื มจับวตั ถุโดยใชฝ้ า่ มือได้ รจู้ ักตวั เลข สี และวตั ถตุ ่างๆ นักเรียนควรได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการมอง การฟัง และการใช้ประสาทสัมผัส ต่างๆ โดยมีผู้ช่วยเหลือในการทากิจกรรมทุกขั้นตอน ด้วยการกระตุ้นเตือนทางวาจา และการกระตุ้น เตือนทางกาย การใช้เสริมแรงทางบวกด้วยการใช้สื่อ ส่ิงอานวยความสะดวกช่วยในการเรียนรู้ เช่น รถเข็น วดี ีโอเพลง เปน็ ต้น
79 ภาพผเู้ รยี น
80 รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรยี น ขอ้ มลู ความสามารถผ้เู รยี น ความสามารถพน้ื ฐานของผูเ้ รยี น ๑.๑ ความสามารถพน้ื ฐานทางด้านรา่ งกาย จดุ เดน่ จดุ อ่อน ๑. เมื่อให้ผู้เรียนเคล่ือนย้ายตนเองภายในบ้าน ๑. เมื่อให้ผู้เรียนเคลื่อนย้ายตนเองภายในบ้านได้ ผเู้ รยี นสามารถเคลือ่ นย้ายตวั ด้วยการคบื ในทา่ น่ัง แต่ต้องใช้เวลานานพอสมควร ๒. เมือ่ ใหผ้ ู้เรียนใช้มอื หยบิ วตั ถุ ผ้เู รียนสามารถใช้ ๒. เมื่อให้ผู้เรียนใช้มือหยิบหรือจับวัตถุมักจะหลุด ฝ่ามือในการเอื้อม หยบิ จบั กา นา ปล่อยวตั ถุได้ จากมือ ด้วยตนเอง ๑.๒ ความสามารถพน้ื ฐานทางดา้ นอารมณ์ จติ ใจ จดุ เดน่ จดุ อ่อน ๑. ผู้เรียนสามารถแสดงความตอ้ งการ โดยการพูด ๑. ผู้เรียนไม่สามารถพูดออกเสียงไดช้ ัด สือ่ สารเปน็ ประโยคกบั ผูอ้ นื่ ได้ ๒. ผู้เรยี นสามารถอยู่นิ่งเพอ่ื รอคอยได้ ๒. ผู้เรียนสามารถอยู่น่ิงเพ่ือรอคอยได้ และมักจะ ลม้ ตวั นอนกบั พืน้ ๑.๓ ความสามารถพน้ื ฐานทางด้านสงั คม จดุ เดน่ จดุ ออ่ น ๑. ผเู้ รียนสามารถรับประทานอาหาร โดยการหยบิ ๑. ผ้เู รียนไมส่ ามารถใชช้ อ้ นในการตักอาหารจาก อาหารเข้าปากได้เอง ถว้ ยแล้วนามาใส่ปากของตนเองโดยไม่หกเลอะ เทอะได้ ๒. ผูเ้ รียนสามารถทากจิ กรรมกลมุ่ ร่วมกับเพ่อื น ๒. ผเู้ รียนสามารถเลน่ ของเล่นร่วมกับเพ่ือนได้ แต่ หรือเล่นของเลน่ ร่วมกบั เพ่อื นได้ มักจะหยิบของเล่นของเพื่อน
81 รวบรวมขอ้ มลู ผเู้ รยี น ขอ้ มลู ความสามารถผ้เู รยี น ๑.๔ ความสามารถพนื้ ฐานทางด้านสตปิ ญั ญา จดุ เดน่ จดุ ออ่ น ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตามคาสั่งได้ รู้จักตัวเลข สี ผูเ้ รยี นไม่สามารถอ่านออกเสียง และจับดนิ สอ รปู ร่าง ขนาด รปู ทรงต่างๆ ได้ เขยี นหนังสอื ได้ ๑.๕ ความสามารถพน้ื ฐานทางด้านทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความพิการ จดุ เดน่ จดุ อ่อน ๑. ผูเ้ รียนสามารถนั่งรถเขน็ ได้ ๑. ผู้เรียนไม่สามารถเคลื่อนย้ายตนเองเข้า-ออก รถเขน็ น่ังได้ ๒. ผู้เรียนสามารถพลิกตะแคงซ้าย-ขวา ในท่า ๒. ผู้เรียนไม่สามารถอยู่ในท่านอนหงาย นอน นอนได้ ควา่ และนอนตะแคงได้ถูกตอ้ ง
82 รวบรวมขอ้ มลู ผูเ้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework การรวบรวมขอ้ มูลผู้เรียนตามกรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. การเขา้ ใกล-้ ถอนหนี (Approach-Withdrawal) การดปู ฏกิ ริ ยิ าของเด็กในการเผชญิ สง่ิ ใหม่ ประสบการณ์ บคุ คล/สถานที่ ส่งิ ของ ความคดิ ๑.๑ อะไรทีเ่ ป็นตัวชบ้ี อกว่าเด็กเขา้ ร่วม การให้ความร่วมมือในการทากิจกรรม ๑.๒ อะไรท่เี ปน็ ตวั ชบ้ี อกวา่ เด็กไมเ่ ขา้ รว่ ม ไมส่ นใจ เมนิ เฉย ขยบั ตวั หนี ๑.๓ มีอะไรทีส่ งั เกตเหน็ วา่ จงู ใจเด็กบา้ ง เมื่อมสี ่ิงทน่ี า่ สนใจ/เรา้ ใจ ๑.๔ อะไรท่ีสังเกตเหน็ วา่ เด็กไมส่ นใจ/หลีกหนี หันหน้ามองไปทางอ่นื บ้าง ๒. ชอ่ งทางการเรยี นรดู้ ้านประสาทการรับรู้ (Sensory Learning Channels) ๒.๑ เด็กรับขอ้ มูลได้โดยวิธใี ดบา้ ง ทางการมอง และการฟงั ๒.๒ เด็กตอบสนองต่อเสยี งอย่างไร หนั หาเสยี ง ตอบสนองด้วยการพดู ๒.๓ เดก็ ตอบสนองต่อสงิ่ เรา้ ทางสายตาอยา่ งไร สายตาจอ้ งมองสิ่งเร้านนั้ ๒.๔ เดก็ ตอบสนองต่อการสัมผัสอย่างไร ใชม้ อื สัมผัสส่ิงของนั้นด้วยการหยิบ จับ ๒.๕ เด็กใช้ประสาทสัมผสั มากกวา่ หนึ่งอย่างใน ใชป้ ระสาทสัมผัสมากกวา่ หนึ่งอย่างโดยใชต้ า เวลาเดยี วกันหรือไม่ ประสานกับมือ ๒.๖ เด็กแสดงตัวช้แี นะการร่วมหรอื ไมเ่ ข้าร่วมใน ใช่ การตอบสนองข้อมูลทางประสาทสัมผัสเฉพาะ หรือไม่
83 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๓. สถานะทางชวี พฤตกิ รรม (Biobehavioral State) ชดุ ของสภาพการณด์ า้ นชวี พฤติกรรมและกายภาพตง้ั แตก่ ารนอนหลบั จนถงึ การตนื่ นอนและการรอ้ ง ๓.๑ สภาพปจั จบุ นั ของเด็กคอื อะไร นงั่ บนพื้น พลกิ ตะแคงตัวได้เอง ลุกขึ้นนั่ง ยืนทรง ตัวได้โดยมีผู้ช่วยเหลือ เคล่ือนย้ายตนเองดว้ ยการ คืบคลาน แต่ต้องใช้เวลานาน ขับถ่ายโดยบอกผู้ ชว่ ยเหลือ ๓.๒ เด็กสามารถควบคมุ /เปลยี่ นสภาพของตนได้ ไดเ้ ป็นบางอยา่ ง เช่น สามารถพลิกตะแคงตวั ได้ หรอื ไม่ สามารถรบั ประทานอาหารชิ้นเล็กโดยใชม้ ือหยบิ เขา้ ปากได้ กลนื อาหารได้เอง ชว่ ยสวมเสอ้ื ผ้า อาบนา้ บอกผชู้ ่วยเหลอื เมือ่ ต้องการขับถ่าย ๓.๓ เดก็ ใชเ้ วลาในการต่ืนตัวมากน้อยแค่ไหน ทนั ที เม่ือสิ่งนนั้ เป็นส่ิงท่ีน่าสนใจ เช่น โทรศพั ท์ เป็นตน้ ๓.๔ มชี ่วงกวา้ งของแตล่ ะสภาพเทา่ ใดทเ่ี ด็กแสดง ผู้เรยี นจะมองก่อนท่ีจะมีการเปลีย่ นแปลงสภาพ ใหเ้ หน็ และมีแบบแผนการเปลย่ี นแปลงอะไร ระหว่างสภาพ ๓.๕ มตี วั แปรอะไรบ้างท่ีกระทบตอ่ สภาพเด็ก ไม่แน่ใจ ๔. การตอบสนองปฏิกริ ยิ าตอบสนองของรา่ งกายในสภาพแวดลอ้ ม (Orienting Response) ๔.๑ มีปัจจัยอะไรบา้ งท่ที าให้เดก็ การตอบสนอง เมื่อสงิ่ นน้ั เป็นสิง่ ทนี่ ่าสนใจ และโทรศพั ท์ ไปในทิศทางนัน้ ได้ชัดแจง้ ๔.๒ เด็กแสดงการตอบสนองต่อทิศทางออก หนั หาเสียง การพดู ตอบโต้ อย่างไร ๔.๓ ประสาทการรับรชู้ ่องทางใดทปี่ รากฏ การพดู การมอง การฟัง และการสมั ผัส เชอื่ มโยงกบั การตอบสนอง (ข้อมลู ประสาทการ รบั รู้ที่กระตนุ้ ใหม้ ีการตอบสนองและประสาทการ รบั รู้ทีใ่ ช้ประโยชน์)
84 รวบรวมขอ้ มลู ผเู้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๕. ความจา (Memory) ใช่ ๕.๑ เด็กใช้/คุ้นกบั ส่ิงเรา้ ท่ีคนุ้ ชินหรือไม่ ใชเ้ วลานาน ๕.๒ การนาเสนอสิง่ เร้าจาเป็นต้องใช้เวลานาน หรอื ก่คี รง้ั ก่อนทเ่ี ด็กจะคุน้ ชิน เข้ารว่ ม ๕.๓ เด็กเข้าร่วมอีกครัง้ ไหมเมื่อเปลย่ี นแปลง ลักษณะของสง่ิ เรา้ แตกตา่ ง กิจกรรมทีส่ นใจจะให้ความรว่ มมือใน ๕.๔ การตอบสองแตกตา่ งไปหรอื ไม่ การรว่ มกจิ กรรม กจิ กรรมทไี่ มส่ นใจจะเมินเฉย มองไปทางอน่ื ๕.๕ เด็กแสดงการตองสนองแตกต่างหรือไม่กบั ไมแ่ ตกต่าง บุคคลทค่ี ้ยุ เคยและไม่คุ้นเคย ๕.๕ เด็กแสดงการรับรู้หรอื ไม่วา่ สิง่ ของนั้นยงั อยู่ แสดงการรบั รู้ แม้จะไม่อยูใ่ นสายตาตอนน้นั ๕.๖ เด็กเชอ่ื มโยงเหตกุ ารณ์ที่กาลังเผชญิ กบั สิ่งท่ี สามารถเชอ่ื มโยงเหตุการณ์ได้ ตามมาไหม ๕.๗ เดก็ แสดงการคาดเดาต่อสิ่ง/เหตุการณท์ ่ี สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้ กาลงั เผชิญหรอื ไม่ ๕.๘ เดก็ แสดงอาการหรอื ไม่เม่อื สง่ิ ที่เกดิ ใหม่ไม่ สามารถแสดงอาการได้ ตรงกับความคาดหวัง ๕.๙ เดก็ สามารถเรียนรกู้ ิจวตั รงา่ ย ๆ ได้หรือไม่ ได้ เช่น การรบั ประทานอาหาร อาบนา้ ขับถา่ ย ๕.๑๐ กิจวัตรทใี่ ห้เด็กเรียนรจู้ าไดไ้ หม ได้ ๖. ปฏสิ มั พนั ธท์ างสงั คม (Social Interactions) ๖.๑ เด็กหนั ไปหาบุคคลหรือไม่ หัน ๖.๒ เด็กแสดงความผกู พนั วา่ มคี วามปลอดภยั กบั ใช่ จะขยับตวั หาบคุ คลในครอบครวั บุคคลสาคญั ในชวี ติ ของเขา/เธอหรือไม่ ๖.๓ เด็กมีสว่ นร่วมในการผลัดเปล่ยี นกันเมื่อเรม่ิ มี มี ปฏิสัมพนั ธห์ รอื ไม่ ๖.๔ เด็กมีสว่ นร่วมในการผลดั เปลี่ยนกันเมื่อคน มี อื่นเร่มิ ปฏิสัมพันธห์ รือไม่ ๖.๕ เดก็ ผลดั เปลย่ี นก่ีรอบก่อนท่จี ะไม่ร่วม ประมาณ ๒ คร้งั หรือเม่ือเร่มิ เบื่อหน่าย ๖.๖ เด็กเพม่ิ การผลัดเปลย่ี นการมีปฏสิ มั พันธม์ าก ใช่ ข้นึ เพ่อื ตอบสนองต่อปฏิสัมพันธ์ของคหู่ รือไม่
85 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๗. การสอื่ สาร (Communication) แสดงความตง้ั ใจในการส่ือสารทางดว้ ยการพดู ๗.๑ เด็กแสดงใหเ้ หน็ ความตง้ั ใจในการสื่อสาร สอดคล้องกัน ผ่านการใชง้ านของสญั ญาณ การเปลง่ เสียง ไมแ่ ตกตา่ งกัน เชน่ เมอื่ ปฏิเสธจะพดู ว่าไม่ และ ท่าทาง ฯลฯ หรอื ไม่ อธบิ ายการส่ือสารทีใ่ ช้ สา่ ยหนา้ เลือกดว้ ยตนเอง ๗.๒ เดก็ ใชส้ ญั ญาณอย่างสอดคลอ้ งกนั หรือไม่ ใช้ ๗.๓ เด็กใชก้ ารสอ่ื สารแตกต่างกันหรอื ไม่ อธบิ าย ไม่ใช้ การส่อื สารและความความหมายทีน่ า่ จะเป็น ใช่ แตม่ ักจะส่ือสารด้ายการพูด ๗.๔ เมอื่ นาเสนอตวั เลือกเดก็ ตดั สินใจเลือก หรอื ไม่ ไม่ เดก็ สามารถพูดได้ ๗.๕ เดก็ ใชท้ า่ ทางเหมือนบุคคลทวั่ ไปใช้หรือไม่ ๗.๖ เดก็ สามารถใช้ของหนงึ่ อย่างหรือสญั ลักษณ์ แทนกจิ กรรมหรือวตั ถหุ รือไม่ ๗.๗ เดก็ แสดงให้เหน็ ความเข้าใจในการส่ือสาร โดยใช้สัญลกั ษณ์หรอื ไม่ (การได้ยิน ภาพ หรอื การสัมผสั ) ๗.๘ เด็กใชก้ ารสอื่ สารทางสญั ลกั ษณห์ รือไม่ อธบิ าย ๘. การแกป้ ญั หา (Problem solving) แสดง ๘.๑ เด็กแสดงใหเ้ หน็ สาเหตแุ ละผลกระทบ หรอื ไม่ แสดง ๘.๒ เด็กแสดงความเข้าใจในวิธีการ/จดุ ส้นิ สดุ แสดง หรือการใช้ขัน้ ตอนกลางเพื่อแก้ปญั หาหรือไม่ ๘.๓ เด็กแสดงความเข้าใจในหนา้ ทีข่ องวัตถุทวั่ ไป ไม่แน่ใจ หรอื ไม่ ให้ความสนใจเม่ือดูโทรศัพท์อยา่ งตงั้ ใจ หรอื ไป เลน่ ดินทรายได้ตลอดทั้งวัน ๘.๔ เดก็ มวี ธิ ีการแกป้ ัญหาอย่างไร ๘.๕ เดก็ รกั ษาความสนใจและคงอยู่กับสิง่ นนั้ หรือไม่
86 รวบรวมขอ้ มูลผูเ้ รยี น กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๑ ดา้ นสภาพแวดลอ้ มของผเู้ รยี น (Microsystem) บคุ คลภายในครอบครวั ทผี่ เู้ รยี นไวว้ างใจ ยาย เป็นผู้ดูแลหลกั และเปน็ ผูท้ ี่นกั เรียนไวใ้ จมากท่ีสดุ เปน็ ผูเ้ คล่ือนย้ายนกั เรียนข้ึน- ลง บ้าน ดูแลกิจวัตรประจาวันทั้งหมดในทุกวันให้กับนักเรียน ได้แก่ การทาความสะอาด เปล่ียน เสื้อผ้า จัดเตรียมอาหาร แม่ เป็นคนที่นักเรียนไว้ใจมากท่ีสุดพอกับยาย ส่วนใหญ่จะสนใจทางาน มักจะดูแล ดูแลนักเรียนหลงั จากเลิกงานตอนเยน็ ตา เป็นคนท่นี ักเรียนไว้ใจมากท่สี ุดรองจากยายและแม่ จะเป็นผู้ดูแลนักเรียนเมื่อพ่อ กับแม่ไปทางาน และยายไม่วา่ ง ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั (หอ้ งอะไรบ้าง / ความสะอาด) บ้านไม้ช้ันเดียว ยกพ้ืนสูง มีบันไดสูงขึ้นไปบนบ้าน มีระเบียง ห้องโถงกว้างขนาด ๒ ตารางเมตร แยะเป็นห้องนอน ห้องครัว ห้องน้า ด้านล่างบ้านเป็นลานไว้สาหรับเก็บของ และที่จอด รถยนต์ ผู้เรียนมักจะนั่งบริเวณโถงช้ันบนเป็นเบาะนอน ซึง่ ผู้เรียนและครอบครัวจะใช้พ้ืนท่ีบรเิ วณโถง เป็นท่ีทากิจกรรมในครอบครัว บริเวณบ้านของผู้เรียนท้ังด้านในและด้านนอกมีความสะอาดเรียบร้อย ปานกลาง มอี ากาศถา่ ยเทไดด้ ี ลกั ษณะหอ้ งนา้ (ระบรุ ายละเอยี ด) ห้องน้าอยู่ในตัวบ้านมีพ้ืนราบสามารถใช้รถเข็นเข้าได้ พื้นปูด้วยปูซีเมนต์ ประกอบดว้ ยสุขภณั ฑเ์ ป็นโถส้วมสาหรับขบั ถ่าย มีฝักบวั มอี ่างน้าและขนั นา้ ลกั ษณะหอ้ งนอน (ระบุรายละเอียด) ห้องนอนอยู่ช้ันบนบ้าน มีหน้าต่างระบายอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการจัดวางของที่ ยังไมเ่ ป็นระเบยี บ พนื้ ทใ่ี นการฝกึ /ทากจิ กรรมกับผู้เรยี น (ระบรุ ายละเอียด) พ้ืนที่ในการทากิจกรรมของครอบครัวอยู่โถงด้านบนบ้าน มีมุมของเล่น มุมฝึกเดิน และโทรทัศน์ เพอ่ื ทากิจกรรมนันทนาการในครอบครัว
87 รวบรวมขอ้ มูลผู้เรยี น กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๒ ดา้ นความสมั พนั ธแ์ ละปฏสิ ัมพนั ธ์ระหวา่ งบคุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ งของผู้เรียน (Mesosystem) ลกั ษณะของครอบครวั และความสมั พนั ธข์ องบคุ คลในครอบครวั ผู้เรียนอยู่ร่วมกับพ่อ แม่ ตาและยายมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดี ซึ่งให้ความรักและ ความเข้าใจมปี ฏิสัมพันธ์ทด่ี ีกบั ผเู้ รียน มกั จะเลน่ ของเล่น และดูโทรทศั น์รว่ มกันเมอ่ื พ่อกับแม่กลับจาก การทางานตอนเย็นของทุกวัน ความสมั พนั ธก์ บั บคุ คลในหอ้ งเรยี น/โรงเรียน ผู้เรียนให้ความร่วมมือในการทากิจกรรมในห้องเรียน และทากิจกรรม ร่วมกับเพื่อนได้ดี แต่จะทาได้ช้าเนอ่ื งจากปัญหาดา้ นรา่ งกาย ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆ เช่น ญาติพี่น้อง เพื่อน เพ่ือนบ้าน คนใน ชมุ ชน เปน็ ต้น ญาตพิ ่ีนอ้ ง บา้ นใกลเ้ คยี ง และคนในชุมชนจะมาหาทบี่ ้านเพือ่ พูดคุยสนทนา โดยการเริ่มต้นบทสนทนาจะมาจากผู้อื่นเสมอ และผู้เรียนจะตอบสนองด้วยการพูด แสดงอาการ ท่าทาง ย้มิ หัวเราะ เม่อื ร้สู ึกพึงพอใจในการปฏสิ มั พนั ธ์ร่วมกบั ผู้อน่ื ๒.๓ ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มและสภาพสังคมที่มผี ลตอ่ ครอบครวั (Exosystem) สถานการณป์ จั จบุ นั ทีส่ ง่ ผลกระทบกบั ผ้เู รียน เน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (Covid 2019) ในปัจจบุ ันส่งผลให้ผู้เรียนไม่ได้มารบั บรกิ ารท่ีหน่วยบริการได้อย่างต่อเน่ือง ทาใหพ้ ัฒนาการด้านต่างๆ ของผู้เรยี นถดถอย สถานทที่ างานของพอ่ แม่/ผปู้ กครอง แม่ ทางานรับจ้างเฝา้ รา้ นคา้ ในหมบู่ า้ น พอ่ มีอาชีพรับจา้ งทาไรก่ ระเทียม ขา้ วโพด ขา้ ว ตาและยาย ไม่มีอาชีพ บางครั้งรบั จา้ งทว่ั ไป แต่มีหนา้ ท่ีหลักดูแลนกั เรียน สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพหรอื การจดั ส่ิงอานวยความสะดวกของชุมชนที่ ผเู้ รยี นอาศัยอยู่ ในชุมชนมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจาตาบลบ้านดอกคาใต้ ซ่ึงอยู่ ห่างจากบ้านนักเรียนประมาณ ๑๐ กิโลเมตร มีจุดบริการเพ่ืออานวยความสะดวกแก่คนพิการ ทาง ลาด ที่จอดรถคนพิการ ห้องนา้ คนพิการสาธารณะ ปา้ ยและสัญลกั ษณ์ และบริการขอ้ มูลข่าวสาร
88 รวบรวมขอ้ มูลผ้เู รยี น กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๔ ดา้ นวฒั นธรรม ประเพณี คา่ นิยมของสงั คม (Macrosystem) ครอบครัวของนักเรียนนับถือศาสนาพุทธ เชื่อในเร่ืองการทาความดี เช่ือเร่ืองเวร กรรม ครอบครัวมีการสืบทอดวัฒนธรรม ประเพณี และค่านิยมไปในแนวทางเดียวกันในชุมชนด้วย การเข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนา และประเพณีต่างๆ ในชมุ ชน ๒.๕ ด้านส่ิงต่างๆที่อาจกระทบต่อผู้เรียน เช่น กฎหมาย การได้รับสิทธิด้านต่างๆ เทคโนโลยี หรือแอพพลเิ คชนั่ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั ผู้เรยี นในชวี ิตประจาวัน (Chronosystem) ผู้เรียนได้รับเบี้ยพิการ เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท จากองค์การบริหารส่วนตาบลบ้าน แหง รับบริการทางการแพทย์ตามสวสั ดิการของรฐั โดยใชส้ ทิ ธิบัตรทองคนพิการ (ท74) รวมทัง้ การยืม อุปกรณอ์ านวยความสะดวกจากหน่วยงานต่างท่ีเกย่ี วข้อง ผู้เรียนได้รับบริการทางการศึกษาจากศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง หน่วยบริการงาว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาฯ มูลนิธิคุณพุ่ม ปีล่าสุด ปี การศึกษา ๒๕๖๕ เงินจานวน ๕,๐๐๐ บาท และจากสมัชชาการศึกษา จังหวดั ลาปาง จานวน ๓,๐๐๐ บาท อีกทั้งผู้เรียนสามารถเข้าถึงสื่อเทคโนโลยีผ่านทางโทรศัพท์ และโทรทัศน์โดยมีผู้ปกครองกากับ ดูแล
89 รวบรวมขอ้ มูลผู้เรยี น สรปุ เปา้ หมายในการพฒั นา ๓. ความคาดหวงั ของผปู้ กครองทม่ี ตี อ่ ตวั ผู้เรยี น ๑) ผู้ปกครองมีความคาดหวังให้ผู้เรียนตอบสนองต่อการฟื้นฟูทางการแพทย์ เพ่ือให้ผู้เรยี นมี สมรรถภาพที่คงที่ ไม่ถดถอยลงไป และมีชีวิตอยู่ต่อไปให้นานท่ีสุด และหากเป็นไปได้ต้องการให้ ผูเ้ รยี นสามารถเคลือ่ นยา้ ยตนเองได้ ๒) ผู้ปกครองมีความคาดหวังให้ผู้เรียนสามารถดารงชีวิตประจาวันของตนเองได้ ได้แก่ การ ชว่ ยทากจิ วตั รประจาวนั ๔. เปา้ หมายหลกั ทผ่ี เู้ รยี นควรไดร้ บั การพฒั นา/สง่ เสรมิ ๑) นักเรียนควรได้รับการพัฒนาศักยภาพทางกายเพื่อเพ่ิมสมรรถภาพของกล้ามเนื้อแขนขา ใหแ้ ขง็ แรงข้นึ ๒) นกั เรยี นสามารถทากจิ วัตรประจาวันได้ด้วยตนเองโดยมีผชู้ ่วยเหลอื น้อยทสี่ ดุ ๕. เปา้ หมายหลกั ทผ่ี เู้ รยี นควรไดร้ บั การปอ้ งกนั /แกไ้ ขปญั หา ๑) นักเรียนมีปัญหาด้านร่างกาย โดยมีกล้ามเนื้ออ่อนแรงของแขนขาท้ังสองข้าง จาเป็นต้อง ได้รับการบริหารกล้ามเนื้ออย่างสม่าเสมอเพ่ือป้องกันการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ และการยึดติดของข้อ ต่อ ครูผสู้ อนควรออกแบบกจิ กรรมเพอ่ื ส่งเสริมการบริหารกล้ามเนอื้ ของแขนขาท้ังสองข้างในแผนการ เรยี นรู้ ๒) ครูผู้สอนควรจดั กิจกรรมให้มีความเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียนเพ่อื ให้นักเรียน สามารถเรยี นรไู้ ด้อย่างเตม็ ตามศกั ยภาพ . ผ้บู ันทกึ ข้อมลู …………………………………………… (……น…า…งภ…ค…พ…ร..…ธจิ…ัน…ท…ร…์ ………) ตาแหน่ง……………ค…รู……………… วนั ท…ี่ ๒…๗…..เดอื น……กร…ก…ฎ…าค…ม……..พ.ศ…๒…๕…๖..๕
90 ประเมนิ คร้งั ที่ ๔ แบบคัดกรองบคุ คลทม่ี คี วามบกพร่องทางร่างกาย หรอื การเคล่อื นไหว หรือสขุ ภาพ ชอ่ื -นามสกลุ เด็กชายชาลิด กันทิพย์ วนั เดือน ปี เกดิ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ อายุ ๙ ปี ๙ เดือน ระดับชัน้ .....การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน........วนั เดอื น ปี ทป่ี ระเมนิ ……....๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕................... คาช้ีแจง ๑ แบบคัดกรองฉบบั นี้เปน็ แบบคัดกรองเพ่ือประโยชน์ในทางการจัดการศึกษาเท่าน้นั ๒ วิเคราะห์ลักษณะ/พฤติกรรม ของเด็กซ่ึงเป็นลักษณะหรือพฤติกรรม ที่เด็กแสดงออกบ่อย ๆ โดยให้ ทาเครอื่ งหมาย /ลงในชอ่ ง “ ใช่ ” หรือ “ไม่ใช่ ” ทตี่ รงกับลกั ษณะหรือพฤติกรรมน้ัน ๆ ของเดก็ ๓ ผู้ทาการคดั กรองเบ้ืองต้นต้องผา่ นการอบรมวธิ กี ารใช้ และการประเมนิ ตามแบบคัดกรองน้ี และควรสอบถาม ขอ้ มลู เพ่ิมเตมิ จากผ้ทู ี่อยู่ใกลช้ ดิ เดก็ มากท่ีสดุ เช่น ผู้ปกครองหรอื ครู เพ่อื ใหเ้ กิด ความชัดเจน ถูกตอ้ ง ๔ ผูค้ ดั กรองควรจะมีอยา่ งน้อย ๒ คนขน้ึ ไป ที่ ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไม่ใช่ ดา้ นรา่ งกาย ๑ มอี วัยวะไม่สมส่วน หรือแขน ขา ลีบ ๒ มีอวยั วะขาดหายไปและเปน็ อุปสรรคในการดารงชวี ติ ๓ มกี ารผิดรูปของกระดูกและข้อ ๔ มลี ักษณะกล้ามเนอ้ื แขนขาเกร็ง ๕ มีลกั ษณะกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ดา้ นการเคล่ือนไหว ๖ มีการเคล่ือนไหวท่ผี ดิ ปกติ ทิศทางการเคลอื่ นไหว และจังหวะการ เคลื่อนไหว เช่น กระตุก เกร็ง ๗ ไม่สามารถนง่ั ทรงตวั ได้ดว้ ยตนเอง ๘ ไมส่ ามารถลุกขน้ึ ยนื ได้ด้วยตนเอง ๙ ไม่สามารถยืนทรงตวั ได้ดว้ ยตนเอง ๑๐ ไม่สามารถเดนิ ได้ด้วยตนเอง
91 ท่ี ลกั ษณะ / พฤติกรรม ผลการวเิ คราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ดา้ นสุขภาพ ๑๑ มคี วามเจบ็ ปว่ ยท่ตี ้องไดร้ บั การรกั ษาเป็นระยะเวลานาน และเป็น อปุ สรรคต่อการศึกษา เชน่ ๑๑.๑ ประสบอบุ ัติเหตุ ผา่ ตดั เปน็ ต้น ๑๑.๒ เปน็ โรคเร้ือรังหรอื มีภาวะผดิ ปกตขิ องระบบต่าง ๆ ดงั ต่อไปน้รี ะบบโลหิต เชน่ ภาวะเลือดออกงา่ ยหยดุ ยาก ธาลสั ซเี มีย ไขกระดูกฝ่อระบบหวั ใจและหลอดเลือด เชน่ หวั ใจพกิ าร แตก่ าเนดิ โรคหวั ใจรูมาติกระบบไต เช่น โรคเนโฟรตกิ โรคไตเร้ือรัง ระบบประสาท เชน่ อมั พาต สมองพกิ ารลมชัก ระบบหายใจ เชน่ หอบหดื โรคปอดระบบภมู ิคุ้มกนั และภมู ิแพ้ เช่น ข้ออักเสบ–รมู าตอยด์ , SLE (เอส แอล อี)ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวาน แคระ หรือโตผิดปกติ ระบบผวิ หนัง เชน่ เด็กดกั แด้ เป็นตน้ เกณฑ์การพจิ ารณา ดา้ นร่างกายและด้านการเคลื่อนไหว ถ้าตอบว่าใช่ต้ังแต่ ๑ ข้อ ข้ึนไป แสดงว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรอื การเคลอื่ นไหว ให้จดั บรกิ ารชว่ ยเหลือทางการศึกษาพิเศษ และส่งตอ่ ให้แพทย์ตรวจวินจิ ฉัยต่อไป ด้านสขุ ภาพ ถ้าตอบว่าใช่ข้อใดข้อหน่ึง แสดงว่ามีแนวโน้มท่ีจะเป็นบุคคลท่ีมีความบกพร่องทางสุขภาพ ให้ จดั บรกิ ารช่วยเหลือทางการศกึ ษาพเิ ศษ และส่งต่อให้แพทย์ตรวจวินจิ ฉัยต่อไป ผลการคัดกรอง ไมพ่ บความบกพร่อง พบความบกพร่อง ความคดิ เหน็ เพม่ิ เติม เด็กชายชาลิด กนั ทพิ ย์ มแี นวโนม้ ท่จี ะเปน็ บคุ คลท่ีมีความบกพร่องทางสุขภาพ ให้จดั บริการชว่ ยเหลอื ทางการศึกษาพเิ ศษ และสง่ ตอ่ ใหแ้ พทย์ตรวจวินจิ ฉัยต่อไป ลงช่อื .................................................. ใบวฒุ บิ ตั ร เลขท่ี ชร.ศกศ.๐๐๘๖/๒๕๕๘ (ผคู้ ัดกรอง) (นางภคพร ธิจันทร์) ลงชื่อ .................................................. ใบวุฒบิ ตั ร เลขท่ี ลป.ศกศ.๐๐๒๓/๒๕๖๒ (ผูค้ ัดกรอง) (นางสาวขวญั ชนก หมนั่ งาน) ลงช่อื ............... ................................. ใบวุฒิบัตร เลขที่ ลป.ศกศ.๐๐๓๖/๒๕๖๔ (ผู้คดั กรอง) (นางสาวรินรดา ราศรี)
92 คายินยอมของผู้ปกครอง ขา้ พเจา้ นางสาวจุฑาวรรณ หลีแก้วใส เป็นผู้ปกครองของ เดก็ ชายชาลิด กนั ทพิ ย์ ยินยอม ไมย่ นิ ยอม ให้ดาเนินการคดั กรอง เด็กชายชาลดิ กันทิพย์ ตามแบบคัดกรองนี้ เม่ือพบว่ามแี นวโนม้ เปน็ ผทู้ ่ีมีความบกพร่องตามแบบคดั กรองขา้ งต้น ยนิ ดี ไม่ยนิ ดี ใหจ้ ดั บริการช่วยเหลือทางการศึกษาพเิ ศษต่อไป ลงชอ่ื ................................................. ผู้ปกครอง (นางสาวจุฑาวรรณ หลีแก้วใส)
93 แบบประเมิน หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน สาหรบั ผู้เรยี นพิการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระดับการศึกษาภาคบังคบั : ระดับชัน้ ประถมศกึ ษา (ปีที่ ๒) ช่อื -สกุล เด็กชายชาลดิ กันธิ อายุ ๙ ปี ๙ เดือน วนั ทปี่ ระเมิน ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คาชแี้ จง ๑. แบบประเมินตามหลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐานสาหรบั ผู้เรียนพกิ าร ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ใช้ประเมินสาหรบั เด็ก ที่อย่ใู นระดับการศึกษาภาคบังคับ ๒. แบบประเมนิ ฉบบั นี้สามารถใช้ไดก้ ับผ้รู ับการประเมินทุกประเภทความพกิ าร เกณฑ์การประเมนิ ผล ๑. ผลการประเมินกอ่ นการพัฒนา ระดบั ๔ หมายถงึ ไมต่ ้องชว่ ยเหลอื /ทาไดด้ ้วยตนเอง ระดับ ๓ หมายถงึ กระตุ้นเตือนดว้ ยวาจา ระดับ ๒ หมายถงึ กระตุ้นเตือนดว้ ยท่าทาง และวาจา ระดับ ๑ หมายถงึ กระตนุ้ เตือนทางกาย ท่าทาง และวาจา ระดับ ๐ หมายถึง ตอบสนองผดิ หรือไมม่ ีการตอบสนอง ๒. สรปุ ๒.๑ หนว่ ย ฯ หมายถงึ จัดการเรียนการสอนตามหน่วยการจัดการเรยี นรู้ ๒.๒ IEP / IFSP หมายถงึ จัดการเรยี นการสอนตามแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล หรอื แผนการใหบ้ ริการช่วยเหลอื เฉพาะครอบครวั
94 ๑. สาระการดารงชีวิตประจาวนั และการจดั การตนเอง คาชแ้ี จง ใหท้ าเคร่ืองหมาย ลงในช่องผลการประเมนิ ทตี่ รงตามสภาพความเป็นจริง ผลการประเมิน สรุป ที่ ตวั ช้วี ดั ก่อนการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ ดป ๑.๑/๓ ดแู ลความสะอาดสขุ อนามัยของตนเอง ๒ ดป ๑.๑/๔ ดูแลสขุ อนามัยได้อย่างเหมาะสมตามเพศของ ตนเอง ๓ ดป ๑.๑/๕ ปฏิบตั ิตนตามมาตรการการป้องกันโรค ๔ ดป ๑.๒/๔ เลอื กเครื่องแตง่ กายหรือเคร่ืองประดบั ตาม ความชอบส่วนตวั ๕ ดป ๑.๒/๕ เลอื กเครื่องแต่งกายได้เหมาะสมกับกาลเทศะ และโอกาส ๖ ดป ๑.๓/๒ บอกเลือกใช้อปุ กรณแ์ ละห้องน้าภายในบา้ น หอ้ งน้าสาธารณะได้อยา่ งถกู ต้อง ตรงตามเพศ ของตนเอง ๗ ดป ๑.๓/๓ ทาความสะอาดตนเองและห้องนา้ หลงั ใช้ หอ้ งน้าและแตง่ กายใหแ้ ล้วเสรจ็ ก่อนออกจาก ห้องนา้ ๘ ดป ๑.๖/๔ ข้ามถนนอย่างปลอดภยั ๙ ดป ๒.๑/๓ ออกกาลังกาย เล่นกีฬา หรือนันทนาการตาม ความถนดั และความสนใจ ๑๐ ดป ๓.๑/๒ บอกอารมณ์พนื้ ฐานของตนเอง
95 ผลการประเมนิ สรุป ที่ ตัวช้วี ัด กอ่ นการพฒั นา ๑๑ ดป ๓.๑/๕ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP แสดงสีหน้า อารมณ์และสนทนาตอบโต้ เม่อื ไดร้ บั คาชมเชย คาติชม หรอื คาเตือน จากผอู้ ื่น ๑๒ ดป ๓.๑/๖ มคี วามยืดหยนุ่ เม่ือมีการเปลีย่ นแปลงเวลา หรือจากสถานท่ีหนึง่ ไปอีกสถานทหี่ นงึ่ ๑๓ ดป ๓.๑/๗ ตคี วามหมายสหี นา้ ทา่ ทาง ภาษากาย และ น้าเสยี งของผู้อ่ืนและตอบสนองอารมณ์ของ ผอู้ ื่น ๒. สาระการเรียนรู้และความรูพ้ ้นื ฐาน คาชี้แจง ให้ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องผลการประเมินทีต่ รงตามสภาพความเปน็ จรงิ ที่ ตวั ชว้ี ัด ผลการประเมิน สรปุ กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ รพ ๑.๑/๓ ใชก้ ารฟงั การดู การสมั ผสั เพ่ือแสดงความสนใจ ต่อส่ือ บุคคลและมีสว่ นรว่ มในสถานการณต์ ่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั ๒ รพ ๑.๑/๔ เลียนแบบการแสดงออกในการสือ่ สารกบั บคุ คล อ่ืนทีค่ นุ้ เคยหรือไมค่ นุ้ เคยในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ ๓ รพ ๑.๑/๗ ใชก้ ระบวนการส่ือสารในการแสวงหาขอ้ มูล ข่าวสารในการติดตามความเคล่อื นไหวต่าง ๆ ในสงั คม สาหรับการดารงชวี ติ และการประกอบ อาชพี
96 ท่ี ตัวชีว้ ดั ผลการประเมนิ สรปุ กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ที่ ตัวชีว้ ัด ผลการประเมนิ สรปุ ก่อนการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ๔ รพ ๑.๒/๑ ใช้กระบวนการอ่านในการเลอื กภาพ คา ที่ออกเสียงเหมือนเสยี งพยญั ชนะต้นทเี่ ปน็ ช่อื ของตนเอง สิ่งของ บุคคลอน่ื ได้ ๕ รพ ๑.๒/๒ ระบุช่อื สง่ิ ของ บุคคลท่ีร้จู กั ในหนงั สือภาพ หรือสือ่ รปู แบบอน่ื ๆ ๖ รพ ๑.๓/๓ เขยี นพยัญชนะไทย สระ วรรณยกุ ต์ ได้ตาม ศกั ยภาพเขียนตวั อักษรภาษาองั กฤษดว้ ย วธิ กี ารต่าง ๆ ได้ตามศกั ยภาพ ๗ รพ ๓.๑/๑ บอกประวตั คิ วามเป็นมาของตนเอง และครอบครวั โดยใชร้ ปู แบบท่ีหลากหลาย ๘ รพ ๖.๑/๒ บอกประโยชน์ส่ิงของเคร่อื งใชท้ เ่ี ปน็ เทคโนโลยี ในชีวติ ประจาวัน โดยการบอก ช้ี หยบิ หรอื รปู แบบการส่อื สารอ่ืน ๆ
97 ๓. สาระสังคมและการเป็นพลเมืองทีเ่ ข้มแข็ง คาชี้แจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย ลงในช่องผลการประเมนิ ท่ีตรงตามสภาพความเป็นจริง ท่ี ตัวชี้วัด ผลการประเมิน สรุป กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ๑ สพ ๑.๑/๒ ปฏิบัติหนา้ ทขี่ องตนเองในการเป็นสมาชิกท่ดี ี ของครอบครัว ๒ สพ ๑.๑/๔ ปฏบิ ัติตนตามบทบาทหน้าทขี่ องตนเอง ในการเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องโรงเรยี น ๓ สพ ๑.๑/๖ ปฏบิ ัติตนตามบทบาทหน้าทข่ี องตนเอง ในการเป็นสมาชิกทีด่ ขี องชมุ ชนและสงั คม ๔ สพ ๓.๑/๒ ปฏบิ ัตติ าม ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตัญญูกตเวที ๕ สพ ๓.๒/๑ เข้าใจ ตระหนักถงึ ความสาคัญต่อศาสนพธิ ี พิธีกรรมและวันสาคัญทางศาสนาทตี่ นเอง นับถือ ๔. สาระการงานพน้ื ฐานอาชพี คาช้ีแจง ใหท้ าเครื่องหมาย ลงในช่องผลการประเมนิ ทีต่ รงตามสภาพความเป็นจริง ท่ี ตัวช้ีวดั ผลการประเมิน สรุป กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ๑ กอ ๑.๑/๓ เก็บของเลน่ – ของใชส้ ว่ นตัวหรือของสมาชิก ในครอบครัวจนเป็นนิสยั
98 ลงชื่อ.................................................ผูป้ ระเมิน ลงช่อื .................................................ผูป้ ระเมนิ (นางสาวรนิ รดา ราศ)ี (นางสาวขวัญชนก หมนั่ งาน) ตาแหน่ง ครูผูช้ ว่ ย ตาแหน่ง ครู ลงชอ่ื .................................................ผูป้ ระเมิน (นางภคพร ธจิ ันทร์) ตาแหนง่ ครู
99 แบบประเมนิ ความสามารถพนื้ ฐาน หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน สาหรบั ผเู้ รยี นพกิ าร ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งบกพรอ่ งทางร่างกาย หรอื การเคลอื่ นไหว หรอื สขุ ภาพ ชอื่ -สกลุ เด็กชายชาลดิ กันทิพย์ วนั ทีป่ ระเมนิ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๕ คาชแี้ จง ๑. แบบประเมินตามหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานสาหรับผู้เรียน พิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ใช้ประเมิน สาหรบั เดก็ ทอี่ ยูใ่ นระดับการศกึ ษาภาคบงั คบั ๒. แบบประเมนิ ฉบับนี้สามารถใชไ้ ด้กับผรู้ ับการประเมินทุกประเภทความพิการ เกณฑก์ ารประเมนิ ผลกอ่ นพฒั นา ระดบั ๔ หมายถึง ไมต่ ้องชว่ ยเหลอื /ทาได้ดว้ ยตนเอง ระดบั ๓ หมายถึง กระตุ้นเตือนด้วยวาจา ระดบั ๒ หมายถึง กระตนุ้ เตอื นดว้ ยทา่ ทาง และวาจา ระดับ ๑ หมายถงึ กระตุ้นเตอื นทางกาย ทา่ ทาง และวาจา ระดบั ๐ หมายถึง ตอบสนองผดิ หรอื ไม่มกี ารตอบสนอง
100 หมายเหตุ กระตุ้นเตือนทางกาย หมายถงึ ผูส้ อนจบั มอื ทา เมือ่ เดก็ ทาได้ลดการชว่ ยเหลือลงโดยให้ แตะข้อศอกของเดก็ และกระตุ้นโดยพดู ซา้ ใหเ้ ดก็ ทา กระตนุ้ เตือนด้วยทา่ ทาง หมายถงึ ผูส้ อนช้ใี ห้เด็กทา/ผงกศรี ษะเม่ือเด็กทาถกู ต้อง/ส่ายหนา้ เมอื่ เดก็ ทาไม่ถูกตอ้ ง กระตุ้นดว้ ยวาจา หมายถงึ ผูส้ อนพูดให้เด็กทราบในสง่ิ ทผี่ สู้ อนต้องการใหเ้ ดก็ ทา
101 สาระทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความพกิ าร มาตรฐานที่ ๕.๔ ทักษะจาเป็นเฉพาะความพิการบกพร่องทางร่างกายหรือการเคล่ือนไหว หรือสขุ ภาพ ตวั ชว้ี ดั ๕.๔.๑ ดแู ลสขุ อนามยั เพื่อป้องกนั ภาวะแทรกซอ้ น ขอ้ ท่ี ตวั ชวี้ ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ ก่อนการพฒั นา ๑ รส ๑.๑/๑ ป้องกนั ดูแลและรักษาความสะอาด ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP แผลกดทับได้** ๒ รส ๑.๑/๒ บรหิ ารกลา้ มเนื้อและขอ้ ต่อเพื่อคง สภาพได้* ๓ รส ๑.๑/๓ จดั ทา่ นอนในทา่ ทางทีถ่ ูกต้อง* ๔ รส ๑.๑/๔ จัดทา่ นง่ั ในทา่ ทางทีถ่ กู ต้อง* ๕ รส ๑.๑/๕ จดั ทา่ ยืนในทา่ ทางท่ีถูกต้อง ๖ รส ๑.๑/๖ จดั ท่าทากิจกรรมตา่ งๆ ในทา่ ทางท่ี ถกู ต้อง* ๗ รส ๑.๑/๗ ดูแลอุปกรณเ์ คร่ืองชว่ ยส่วนตวั ได้ *เชน่ สายสวนปสั สาวะ ถุงขบั ถ่ายบรเิ วณ หนา้ ท้องท่ออาหาร ฯลฯ ๘ รส ๑.๑/๘ ดูแลสายสวนปัสสาวะได้** ๙ รส ๑.๑/๙ ดแู ลชอ่ งขับถ่ายบรเิ วณหน้าท้องได้**
102 ตัวช้ีวัด ๕.๔.๒ สามารถใช้และดูแลรักษาอุปกรณ์เคร่ืองช่วยในการเคล่ือนย้ายตนเอง (Walker รถเข็น ไม้เทา้ ไม้ค้ายัน ฯลฯ) ขอ้ ที่ ตวั ชว้ี ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP การเขา้ ถึงอปุ กรณเ์ คร่ืองชว่ ยเดนิ ๑ รส ๑.๒.๑/๑ เคลื่อนย้ายตนเองในการใชอ้ ุปกรณ์ช่วย* ๒ รส ๑.๒.๑/๒ เคลือ่ นยา้ ยตวั จากทห่ี นง่ึ เข้าไปอยใู่ น Walker ได*้ * ๓ รส ๑.๒.๑/๓ เคลอื่ นยา้ ยตัวจากที่หนง่ึ เข้าไปอย่ใู น เก้าอ้ีรถเขน็ ได้** ๔ รส ๑.๒.๑/๔ เคลื่อนย้ายตัวจากท่หี นง่ึ เข้าไปอยู่ในไม้ ค้ายนั ได้** ๕ รส ๑.๒.๑/๕ เคลอ่ื นย้ายตวั จากที่หนง่ึ เข้าไปอยใู่ นไม้ เท้าได้** การทรงตวั อยใู่ นอปุ กรณเ์ ครื่องชว่ ยเดนิ ๑ รส ๑.๒.๒/๑ ทรงตวั อยู่ในอปุ กรณ์เคร่ืองชว่ ยในการ เคล่ือนย้ายตนเองได้* ๒ รส ๑.๒.๒/๒ ทรงตวั อย่ใู น Walker ได*้ * ๓ รส ๑.๒.๒/๓ ทรงตัวอยู่ในเกา้ อ้ีรถเขน็ ได้** ๔ รส ๑.๒.๒/๔ ทรงตวั อยู่ในไมค้ ้ายันได้** ๕ รส ๑.๒.๒/๕ ทรงตัวอยู่ในไมเ้ ท้าได้**
103 ข้อท่ี ตวั ชวี้ ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP การทรงตัวอยู่ในอุปกรณเ์ ครอ่ื งช่วยเดินได้เมอ่ื มีแรงต้าน ๑ รส ๑.๒.๓/๑ ทรงตวั อยูใ่ น Walker ได้เมือ่ มแี รง ตา้ น** ๒ รส ๑.๒.๓/๒ ทรงตัวอยู่ในเกา้ อี้รถเข็นไดเ้ มื่อมีแรง ต้าน** ๓ รส ๑.๒.๓/๓ ทรงตัวอยใู่ นไม้ค้ายันได้เมอ่ื มีแรงต้าน** ๔ รส ๑.๒/๔ ทรงตวั อยูใ่ นไม้เท้าไดเ้ ม่ือมีแรงต้าน** การทรงตวั อยใู่ นอุปกรณ์เครอื่ งช่วยเดนิ โดยมีการถ่ายเทน้าหนักไปในทศิ ทางตา่ งๆ ได้ ๑ รส ๑.๒.๔/๑ ทรงตวั อยูใ่ น Walker โดยมีการถ่ายเท น้าหนกั ไปในทิศทางตา่ งๆ ได้** ๒ รส ๑.๒.๔/๒ ทรงตวั อยใู่ นเก้าอี้รถเข็นโดยมีการถา่ ยเท นา้ หนักไปในทิศทางต่างๆ ได้** ๓ รส ๑.๒.๔/๓ ทรงตัวอยใู่ นไมค้ ้ายนั โดยมกี ารถา่ ยเท นา้ หนักไปในทิศทางต่างๆ ได้** ๔ รส ๑.๒.๔/๔ ทรงตวั อยู่ในไมเ้ ท้าโดยมกี ารถ่ายเท น้าหนกั ไปในทิศทางต่างๆ ได้** การเคล่อื นยา้ ยตัวเองด้วยอุปกรณเ์ ครือ่ งชว่ ยเดินบนทางราบและทางลาด ๑ รส ๑.๒.๕/๑ เคลอ่ื นย้ายตนเองด้วยอุปกรณ์ เครอ่ื งชว่ ยบนทางราบและทางลาดได้* ๒ รส ๑.๒.๕/๒ เคล่ือนย้ายตนเองไปด้านหนา้ โดยใช้ Walker บนทางราบและทางลาดได้**
104 ขอ้ ที่ ตวั ชวี้ ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๓ รส ๑.๒.๕/๓ เคลือ่ นยา้ ยตนเองไปดา้ นหนา้ โดยใช้เก้าอ้ี รถเขน็ บนทางราบและทางลาดได้** ๔ รส ๑.๒.๕/๔ เคลือ่ นย้ายตนเองไปดา้ นหนา้ โดยใช้ไม้คา้ ยันบนทางราบและทางลาดได้** ๕ รส ๑.๒.๕/๕ เคลอ่ื นยา้ ยตนเองไปดา้ นหน้าโดยใชไ้ ม้ เทา้ บนทางราบและทางลาดได้** ๖ รส ๑.๒.๕/๖ เก็บรักษาและดูแลอุปกรณ์เครอ่ื งชว่ ย ในการเคลื่อนย้ายตนเองได้* ตัวบ่งช้ี ๕.๔.๓ สามารถใช้และดูแลรักษากายอุปกรณ์เสริม กายอุปกรณ์เทียม อปุ กรณด์ ัดแปลง ข้อที่ ตวั ชวี้ ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ ก่อนการพฒั นา ๑ รส ๑.๓/๑ ถอดและใสก่ ายอปุ กรณเ์ สริม กาย ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP อปุ กรณ์เทียม อปุ กรณด์ ัดแปลง*/** ๒ รส ๑.๓/๒ ใชก้ ายอุปกรณ์เสริม กายอปุ กรณ์เทียม อปุ กรณ์ดดั แปลงในการทากิจกรรม* ๓ รส ๑.๓/๓ ยืนด้วยการอปุ กรณเ์ สรมิ ได้** ๔ รส ๑.๓/๔ เดินด้วยกายอุปกรณ์ได้** ๕ รส ๑.๓/๕ ใช้กายอุปกรณ์เทยี มในการทากจิ กรรม ตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวนั ได้**
105 ตวั ชวี้ ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ ข้อที่ กอ่ นการพฒั นา ๖ รส ๑.๓/๖ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ใช้อุปกรณ์ดดั แปลงในการชว่ ยเหลือ ตนเองในชีวิตประจาวันได้** ๗ รส ๑.๓/๗ เกบ็ รักษาและดูแลกายอุปกรณ์เสริม กายอปุ กรณเ์ ทยี ม อุปกรณด์ ดั แปลง* ตวั บง่ ชี้ ๕.๔.๔ สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ง่ิ อานวยความ สะดวก เครอ่ื งชว่ ยในการเรยี นรู้ ขอ้ ที่ ตวั ชว้ี ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ ก่อนการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ รส ๑.๔/๑ ใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในการสอ่ื สารทางเลือก */** ๒ รส ๑.๔/๒ ใชอ้ ปุ กรณช์ ว่ ยในการเข้าถงึ คอมพิวเตอร์ เพ่ือการเรียนรู้*/** ๓ รส ๑.๔/๒ ใช้โปรแกรมเสริมผ่านคอมพวิ เตอร์ เพ่ือ ชว่ ยในการเรียนรู้* ตวั บ่งชี้ ๕.๔.๕ ควบคมุ อวยั วะที่ใชใ้ นการพดู การเคย้ี ว และการกลนื ข้อท่ี ตวั ชว้ี ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ ก่อนการพฒั นา ๑ รส ๑.๕/๑ ควบคุมกลา้ มเนอื้ รอบปากได้* ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๒ รส ๑.๕/๒ ควบคมุ การใชล้ ้นิ ได้*
106 ขอ้ ที่ ตวั ชว้ี ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ ก่อนการพฒั นา ๓ รส ๑.๕/๓ เปา่ และดูดได้* ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๔ รส ๑.๕/๔ เคย้ี วและกลนื ได้* ๕ รส ๑.๕/๕ ควบคุมน้าลายได้* ที่มา * สานักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ. (๒๕๖๒). หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั สาหรบั เดก็ ** ทมี่ คี วามต้องการจาเปน็ พเิ ศษ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒. อัดสาเนา. สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ. (๒๕๕๘). (รา่ ง) แนวทางการจดั กจิ กรรมตาม หลกั สตู รสาหรบั เดก็ ทมี่ ีความตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษระยะแรกเริ่ม ของศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษ ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๘. อัดสาเนา ลงชือ่ .................................................ผปู้ ระเมิน ลงชือ่ .................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวรนิ รดา ราศ)ี (นางสาวขวญั ชนก หม่ันงาน) ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ตาแหน่ง ครู ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมิน (นางภคพร ธิจันทร์) ตาแหนง่ ครู
107 ชือ่ -สกุล วันท่ปี ระเมิน ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ แบบประเมินทางกจิ กรรมบำบัด ผ้ปู ระเมนิ นางสาวรินรดา ราศรี ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจงั หวดั ลำปาง 1. ลกั ษณะโดยทว่ั ไป (General appearance) เดก็ ผู้ชาย สามารถเคลื่อนยา้ ยตนเองไปยงั ที่ตา่ ง ๆ ได้ด้วยการคลาน สามารถพดู คุยสื่อสารทางวาจากับผ้อู ืน่ ได้ ฟังคำสัง่ เข้าใจและสามารถปฏบิ ัตติ ามคำส่ังได้ ๒-๓ ขั้นตอน 2. การประเมินความสามารถด้านการเคลอื่ นไหว (Motor Function) 2.1 ทักษะกล้ามเน้ือมัดใหญ่ (Gross Motor) ระดบั ความสามารถ (ระบอุ ายุทท่ี ำได)้ ระดับความสามารถ (ระบอุ ายทุ ่ีทำได้) รายการ ทำไดด้ ว้ ย ทำไดแ้ ต่ต้อง ทำไม่ได้ รายการประเมิน ทำได้ด้วย ทำได้แต่ต้อง ทำไมไ่ ด้ ประเมนิ ตนเอง ชว่ ยเหลือ ตนเอง ช่วยเหลอื ชนั คอ ✓ วิ่ง ✓ พลกิ ตะแคงตัว ✓ เดนิ ขึน้ -ลงบันได (เกาะราว) ✓ พลิกควำ่ หงาย ✓ กระโดด 2 ขา ✓ น่ังไดเ้ อง ✓ เดนิ ขน้ึ -ลงบนั ได (สลบั เท้า) ✓ คลาน ✓ ป่ันจักรยาน 3 ล้อ ✓ เกาะยนื ✓ ยนื ขาเดยี ว ✓ ยืน ✓ กระโดดขาเดยี ว ✓ เดิน ✓ 2.2 การขา้ มแนวกลางลำตวั (Crossing the Midline) • สามารถมองตามขา้ มแนวกลางลำตัว มี □ ไม่มี • สามารถนำมือท้งั สองข้างมาใช้ในแนวกลางลำตัว มี □ ไมม่ ี 2.3 ขา้ งทีถ่ นดั (Laterality) □ ซ้าย ขวา 2.4 การทำงานร่วมกันของร่างกายสองซีก (Bilateral integration) มี □ ไม่มี 2.5 การควบคุมการเคลื่อนไหว (Motor control) • สามารถเปลี่ยนรูปแบบการเคลอื่ นไหว มี □ ไมม่ ี • ความสามารถในการเคล่อื นไหว (Mobility) มี □ ไม่มี • รูปแบบการเคลื่อนไหวทผ่ี ิดปกติ □ มี □ อาการสน่ั (Tremor) □ การบิดหมนุ ของปลายมอื ปลายเท้าคลา้ ยการฟ้อนรำ (Chorea) □ การเคล่ือนไหวของแขนขาสะเปะสะปะ (Athetosis) □ ความตงึ ตัวของกลา้ มเนอื้ ไมแ่ น่นอน (Fluctuate) ไม่มี • มกี ารเดินสะเปะสะปะ เหมือนการทรงตัวไม่ดี (Ataxic Gait) □ มี ไมม่ ี • เดนิ ตอ่ ส้นเทา้ □ ทำได้ ทำไม่ได้ • ทดสอบ Finger to Nose Test □ ทำได้ ทำไม่ได้ □ มีการกะระยะไมถ่ ูก (Dysmetria) • ทดสอบการเคลื่อนไหวสลับแบบเรว็ (Diadochokinesia) □ ทำได้ ทำไม่ได้ 2.6 การวางแผนการเคลื่อนไหว (Praxis) *มีแบบทดสอบมาตรฐาน* - การเลยี นแบบทา่ ทาง □ ทำได้ ทำไม่ได้ - การเลียนแบบเคลื่อนไหว □ ทำได้ ทำไม่ได้ 2.7 การประสานงานของกลา้ มเน้ือมัดเลก็ (Fine coordination) ...................Normal.........................
108 แบบประเมินทกั ษะการเคลอ่ื นไหวของกลา้ มเนื้อมัดเลก็ ระดบั ความสามารถ รายการประเมิน ทำไดด้ ้วยตนเอง ทำได้แต่ต้องใหก้ ารช่วยเหลือ ทำไม่ได้ การสบตา (eye contact) ✓ การมองตาม (eye following) ✓ การใช้แขนและมือ ➢ การเอ้อื ม (Reach Out) ✓ ➢ การกำ (Grasp) 1. การกำ (Power grasp) •การกำแบบตะขอ (Hook) ✓ •การกำทรงกลม (Spherical grasp) ✓ •การกำทรงกระบอก (Cylindrical grasp) ✓ 2. การหยิบจบั (Precise grasp) ➢ การนำ (Carry /hold ) ✓ ➢ การปลอ่ ย (Release) ✓ การใชส้ องมอื การใชก้ รรไกร ✓ การใชอ้ ุปกรณเ์ คร่อื งใชใ้ นการรบั ประทานอาหาร ✓ การใชม้ ือในการเขยี น ✓ ความคลอ่ งแคลว่ ของการใชม้ ือ ✓ การประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมือกบั ตา ✓ (eye-hand coordination) การควบคมุ การเคลือ่ นไหวริมฝปี าก ➢ การปดิ ปาก (Lip Closure) ✓ ➢ การเคลอื่ นไหวล้ิน (Tongue) ✓ ➢ การควบคมุ ขากรรไกร (Jaw control) ✓ ➢ การดดู (Sucking) / การเปา่ ✓ ➢ การกลืน (Swallowing) ✓ ➢ การเคีย้ ว (Chewing) ✓ ความผิดปกติอวยั วะในชอ่ งปากทพ่ี บ 1. ภาวะลิ้นจุกปาก (Tongue thrust) □ พบ ไม่พบ 2. ภาวะกัดฟนั (Tooth Grinding) □ พบ 3. ภาวะน้ำลายไหลยดื (Drooling) ไม่พบ 4. ภาวะลิ้นไกส่ ้ัน พบ □ ไมพ่ บ 5. ภาวะเคลื่อนไหวลิ้นได้นอ้ ย □ พบ 6. ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ □ พบ ไมพ่ บ พบ ไม่พบ □ ไมพ่ บ หมายเหตุ (ข้อมลู เพ่มิ เติม)
109 การประเมินการรบั ความรู้สกึ 1. ตระหนักรถู้ ึงสิ่งเรา้ มี □ ไมม่ ี 2. การรบั ความรสู้ กึ (Sensation) ใส่ N=Normal (ปกต)ิ I=Impaired (บกพร่อง) L=Loss (สูญเสยี ) การรบั ความรสู้ ึกทางผวิ หนัง (Tactile) - การรับรถู้ งึ สมั ผสั แผว่ เบา (Light touch) : ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสีย - แรงกด (Pressure) : ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี - อุณหภมู ิ (Temperature) : ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสยี - ความเจ็บ (Pain) : ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสีย - แรงสัน่ สะเทอื น (Vibration) : ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสีย การรับความรูส้ ึกจากกลา้ มเนื้อ เอน็ และข้อ (Proprioceptive): ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี การรับความรสู้ ึกจากระบบการทรงตวั (Vestibular) : ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสีย การรับข้อมลู จากการมองเห็น (Visual) : ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสีย การรบั ข้อมลู จากการไดย้ นิ (Auditory) : ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสีย การรบั ข้อมลู จากตมุ่ รบั รส (Gustatory) : ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสยี 3. กระบวนการรับรู้ มี □ ไมม่ ี การรบั ร้โู ดยการคลำ (Stereognosis) มี □ ไมม่ ี การรับรู้การเคลอื่ นไหว (Kinesthesis) มี □ ไม่มี การตอบสนองต่อความเจ็บปวด (Pain Response) มี □ ไมม่ ี การรับร้สู ่วนตา่ งๆของร่างกาย (Body Scheme) มี □ ไมม่ ี การรับรซู้ ้าย-ขวา (Right-Left Discrimination) มี □ ไม่มี การรับรรู้ ปู ทรง (Form constancy) มี □ ไมม่ ี การรบั รู้ตำแหนง่ (Position in space) มี □ ไม่มี การรับรู้ภาพรวม (Visual-Closure) มี □ ไมม่ ี การรับรกู้ ารแยกภาพ (Figure Ground) มี □ ไมม่ ี การรบั รู้ความลกึ (Depth Perception) □ มี ไม่มี การรับรมู้ ติ สิ ัมพันธ์ (Spatial Relation)
110 แบบแจกแจงปญั หาและการตั้งเปา้ ประสงค์ ➢ สรปุ ปญั หาของนกั เรยี น ................................................................................................................................................................................ .....๑......ม...ขี..้อ...จ..ำ..ก..ัด...ใ.น...ด..า้..น...ท..ัก...ษ..ะ...ก..า..ร..ช..่ว..ย...เ.ห...ล..ือ....ต..น...เ.อ..ง..ใ..น..ช..ีว...ติ ..ป...ร..ะ..จ..ำ..ว..ัน....................................................................... .....๒......ม...ีค..ว..า..ม...ย..า..ก..ล...ำ..บ..า..ก...ใ.น...ก..า..ร..เ.ค...ล..่อื...น..ท...ห่ี ..ร..ือ...เ.ค...ล..ื่อ..น...ย..า้..ย..ต...น...เ.อ..ง..ไ..ป..ย..ัง..ส...ถ..า..น...ท..่ีต...า่ .ง..ๆ................................................... ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................... ................................. ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ➢ เป้าประสงค์ ๑. ทักษะการทำกิจวัตรประจำวัน (Activity of daily living: ADL) เช่น การรับประทานอาหาร (Eating/Feeding), การถอด-ใสเ่ ส้อื ผา้ (Dressing), การใช้รถเขน็ (Transition) เป็นตน้ ๒. ได้รับคำแนะนำการปรับส่ิงแวดล้อม และหรือการดัดแปลง และปรับสภาพบ้าน (home and Environment modification) เป็นต้น โดยอาศัยเทคนิค วิธีการ และกิจกรรมต่างๆที่เก่ียวข้องทาง กิจกรรมบำบัดมาเป็นสื่อการรักษา เพื่อให้เด็กช่วยเหลือตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพของตนเองมากที่สุด และพง่ึ พาผู้อ่ืนนอ้ ยทีส่ ุด ๓. สง่ เสริมผ่านกิจกรรมบูรณาการประสาทความรู้สกึ โดยเน้น ๓ ระบบหลัก ได้แก่ ระบบกายสัมผัส ระบบ กล้ามเน้ือ เอ็นและข้อต่อ และระบบเวสติบูลาร์ เพื่อลดพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่งของผู้เรียนให้สามารถน่ังทำ กิจกรรมในชั้นเรยี น และกจิ กรรมการดำเนนิ ชีวติ ตา่ ง ๆ ได้เหมาะสมตามวยั (ลงชอื่ ) ( นางสาวรินดา ราศรี ) นักกจิ กรรมบำบัด วนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400