จิตวทิ ยาของการจดั ที่นงั่ การจดั ทน่ี ง่ั ใหน้ กั เรยี นมผี ลกระทบใหญห่ ลวงตอ่ แรงจงู ใจ พฤตกิ รรม และปฏสิ มั พนั ธ์ ของนักเรียนกับเพื่อนและกบั ครู เด็กเลก็ ท่ใี ชเ้ วลาส่วนใหญ่นง่ั บนพื้น เบาะ หรือเสื่อ ควรเห็นและได้ยินครกู ับผชู้ ่วยครูอย่างชดั เจน เมือ่ โตพอทจี่ ะใช้เวลาสว่ นใหญ่นง่ั บน เก้าอ้ี การจัดท่ีน่ังจะยิ่งส�ำคัญข้ึน รูปร่างและขนาดของห้องเรียนจะจ�ำกัดทางเลือก ของคุณ แต่ไม่ว่าจะเลือกจัดที่นั่งแบบไหน การมองเห็นกับการเข้าถึงเป็นปัจจัย งานให ่ญ... 2 ประการท่ีส�ำคัญยิ่ง นั่นคือ 1 นักเรียนทุกคนต้องมองเห็นกระดาน และจอท่ี ฉายภาพจากโทรทศั น์ หรอื อปุ กรณอ์ นื่ ๆ และนาฬกิ าไดช้ ดั เจน และ 2 ครตู อ้ งเขา้ ถงึ นักเรยี นทุกคนได้รวดเรว็ และงา่ ยดายตลอดเวลา โดยหา่ งจากนักเรียนที่ครูตอ้ งการ เขา้ ถึงไมเ่ กนิ 3 ช่วงโตะ๊ ถ้าท�ำแบบนไ้ี ด้ คณุ จะมีปญั หาด้านวนิ ัยน้อยลงมากทเี ดียว การสรา้ งทางเขา้ ถงึ นกั เรยี นเปน็ ปญั หาทา้ ทายส�ำหรบั หอ้ งขนาดเลก็ โดยเฉพาะ ในรถพว่ งแคบๆ ซงึ่ ใชเ้ ปน็ หอ้ งเรยี นเคลอ่ื นทใ่ี นหอ้ งเลก็ คณุ อาจจะตอ้ งแบง่ พนื้ ทแ่ี ยกกนั เป็น 3 ส่วน หรือมากกว่าน้ัน เพื่อต้ังโต๊ะเพียงแค่ 3 แถว ก่อนจัดห้องให้ลองร่างภาพ ออกมาสกั 2-3 แบบบนกระดาษ ในห้องเล็กอาจจะเอาโตะ๊ ครูออกกไ็ ด้ ถ้าเปน็ โตะ๊ ใหญ่ เทอะทะ และคุณมที เี่ ก็บของพอแลว้ การใชโ้ ตะ๊ คอมพวิ เตอรต์ วั เลก็ ทเี่ คล่อื นย้ายไดก้ ับ โตะ๊ ท�ำงานตัวเลก็ จะท�ำให้ใช้พ้นื ที่ได้อย่างมปี ระสทิ ธิผลข้ึน จิตวิทยามีบทบาทส�ำคัญในการจัดที่นั่ง โต๊ะกลมท�ำให้เห็นว่าทุกคนมีสถานะ เท่ากัน ในขณะท่ีโตะ๊ ส่ีเหลย่ี มผนื ผ้ามกั มเี กา้ อี้หัวโตะ๊ ส�ำหรบั ผู้น�ำ โตะ๊ ตวั ใหญก่ ับเก้าอท้ี ี่ ตงั้ ไวต้ รงขา้ มกนั จะเชญิ ชวนใหอ้ ยากสอื่ สารและแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ สว่ นทน่ี งั่ เรยี งยาว เป็นแถวตรงหน้าเวที (เหมือนเก้าอ้ีในโบสถ์หรือท่ีน่ังในโรงละคร) จะแบ่งผู้พูดกับผู้ฟัง เปน็ คนละฝา่ ยอย่างชดั เจน คุณใช้จิตวิทยาของการจัดท่ีนั่งเพื่อสื่อสารกับนักเรียนได้ ถ้าจัดที่นั่งเรียงยาว เป็นแถวตรง แสดงว่าห้องเรียนน้ีเป็นแบบด้ังเดิมที่ควบคุมด้วยกฎระเบียบปฏิบัติอัน เคร่งครัด ซงึ่ ตา่ งจากการจัดโต๊ะเปน็ วงกลมใหญ่หรอื คร่งึ วงกลม ทีแ่ สดงวา่ คุณคาดหวงั ให้นักเรยี นแลกเปลีย่ นความคิดเห็นหรอื แสดงความเห็นติชม การจัดโต๊ะเปน็ กลุ่มเลก็ ๆ ชว่ ยเตอื นใหน้ ักเรียนเตรียมตวั เข้าร่วมกจิ กรรมแบบไมเ่ ปน็ ทางการ กิจกรรมในกลุ่มย่อย หรือการท�ำงานเปน็ ทมี 101
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด ฉันใช้ประโยชน์จากจิตวิทยาของการจัดที่นั่งโดยจัดท่ีน่ังแบบแตกต่างกันไปใน แตล่ ะกิจกรรม และได้บทเรยี นมาอยา่ งยากล�ำบากตอนพยายามหลกี เลี่ยงการจัดทแ่ี บบ ให้นักเรียนน่ังประจันหน้ากันตรงๆ ในโรงเรียนแห่งหน่ึงท่ีกิจกรรมของแก๊งเป็นปัญหา รา้ ยแรง ถ้าจัดโตะ๊ ให้ขอบชนกันพอดี เด็กทน่ี ่งั ตรงข้ามกันจะตอ้ งจ้องหน้าหาเร่ืองกันได้ จึงต้องหาวธิ ีเล่ียงดว้ ยการจดั โต๊ะใหท้ �ำมุมกันเล็กนอ้ ยเพอื่ จะไดไ้ ม่ต้องเจอหนา้ กันตรงๆ ไมว่ า่ จะจดั แบบไหน พอจดั เสรจ็ แลว้ ทดสอบไดง้ า่ ยๆ วา่ ถกู ตอ้ งเหมาะสมหรอื ไม่ ดว้ ยการ ลองน่ังท่ีเก้าอ้ีของนักเรียนแถวแรก แล้วมองตรงไปข้างหน้า ถ้ามองไปเจอโต๊ะนักเรียน อกี ตวั หนง่ึ ซง่ึ ๆ หนา้ ใหข้ ยบั โตะ๊ ทค่ี ณุ นงั่ อยเู่ พอื่ วา่ เมอ่ื มองตรงไปแลว้ จะเจอโตะ๊ หลายตวั หรือเจอผนัง ฉนั จะตง้ั โตะ๊ เปน็ แถวตรงใหห้ นั หนา้ ไปทางเดยี วกนั กเ็ ฉพาะตอนสอบใหญเ่ ทา่ นน้ั นกั เรยี นจะเขา้ ใจทนั ทเี มอื่ เหน็ การจดั ทนี่ ง่ั เพอื่ สอบ และรวู้ า่ ควรเหลาดนิ สอ เกบ็ ขา้ วของ สว่ นตวั ใหเ้ รยี บรอ้ ย และเตรยี มตวั ท�ำงานอยา่ งเงยี บๆ ฉนั ไมช่ อบตง้ั โตะ๊ ยาวเปน็ แถวตรง แต่ต้องท�ำอย่างนั้นเวลาสอบ นักเรียนมีแนวโน้มจะประพฤติตัวไม่ดีหรือฝันกลางวัน เวลาน่งั ในแถวยาวท่มี โี ต๊ะเรยี งกนั 6 หรอื 7 ตวั เพราะไมว่ ่าฉนั จะยืนตรงไหน กจ็ ะห่าง จากนกั เรยี นมากเกนิ ไป ทแ่ี ยก่ วา่ นนั้ คอื นกั เรยี นจะไมไ่ ดย้ นิ หรอื มองเหน็ กนั ไมช่ ดั พวกนง่ั แถวหน้ากับหลังห้องจะไม่ได้ยินเวลาเพื่อนแสดงความคิดเห็น ต้ังค�ำถาม หรือตอบ ค�ำถามครู ทกุ คนจะไมค่ อ่ ยไดย้ นิ กนั เวลาอา่ นออกเสยี ง เพราะคนขา้ งหนา้ กอ็ า่ นใสบ่ รเิ วณ ท่ีว่างหน้าห้อง คนข้างหลังก็อ่านใส่ด้านหลังศีรษะของนักเรียนที่น่ังอยู่ข้างหน้า ฉะนั้น จึงไม่มีบรรยากาศทเี่ ชญิ ชวนใหเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมหรือแลกเปล่ียนความคดิ เห็น ส�ำหรับห้องเรียนที่มีการก�ำหนดผังหน้าห้องตายตัว (เพราะมีกระดานด�ำ หรือ ไวท์บอร์ด และจอฉายภาพติดไว้ถาวรบนผนังห้อง) วิธีจัดท่ีน่ังท่ีฉันชอบคือ ท�ำเป็นคร่ึง วงกลมหรอื รปู ตวั ยแู บบดัดแปลง (ภาพ 4.1) ท่ีท�ำใหท้ ุกคนเหน็ ได้ชดั เจน และฉันเข้าถึง นักเรียนทุกคนได้รวดเร็วและง่ายดาย หรือจัดแบบยืดหยุ่น (ภาพ 4.2) คือจัดให้มีโต๊ะ ท�ำงาน หรอื กลมุ่ โตะ๊ ไวด้ า้ นขา้ ง และมสี ว่ นทจ่ี ดั เปน็ รปู ครง่ึ วงกลมทมี่ บี รเิ วณใหค้ รยู นื สอน 102 อยู่ตรงกลาง
การจดั ที่นัง่ รูปตัวยแู บบดดั แปลง 4.1 กระดาน ฐาน ของครู งานให ่ญ... มมุสสตงิอบารมณ์ การจดั ท่นี ัง่ แบบยืดหยนุ่ 4.2 กระดาน การจัดที่น่ังแบบยืดหยุ่นสามารถปรับเปล่ียนให้เหมาะกับห้องเรียนท่ีมีรูปร่าง 103 และขนาดแตกต่างกัน เพื่ออ�ำนวยความสะดวกส�ำหรับการสอนในกลุ่มย่อยและการ ท�ำงานแบบเด่ียวหรือเป็นกลุ่มไปพร้อมกันได้ ซึ่งเหมาะที่สุดส�ำหรับครูที่ชอบสอน หลายๆ แบบ และมอบหมายงานหรือโครงการให้นักเรียนท�ำเป็นอิสระ โดยครูยืน ตรงกลางหอ้ งเพ่ือใหค้ �ำแนะน�ำได้โดยตรง ขณะทนี่ ักเรียนท�ำงานเป็นอสิ ระอยดู่ ้านขา้ ง
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ัยวให้นึก ฝึกใ ้หคิด ส�ำหรับกิจกรรมในกลมุ่ ยอ่ ย ฉันจะตง้ั โตะ๊ รวมกัน 3 หรือ 4 ตัว เป็นกลมุ่ ๆ และ กระดาน พยายามแยกแต่ละกลุ่มออกจากกัน จะได้อภิปรายเปน็ การสว่ นตัวในแต่ละกล่มุ ได้ และ กระดานฐานของค ูร ไม่ท�ำให้กลุ่มอื่นเสียสมาธิ ครูบางคนให้นักเรียนเป็นคนจัดโต๊ะส�ำหรับกิจกรรมกลุ่ม ซึ่ง ฐานของครู เปน็ ขอ้ ดอี กี อยา่ ง คอื นกั เรยี นไดอ้ อกก�ำลงั กายดว้ ยเลก็ นอ้ ย สว่ นครบู างคนเหน็ วา่ การให้ นักเรียนย้ายโต๊ะจะท�ำให้คุยกันมากเกินไป หรือเกิดความสับสน และเสียเวลาอันมีค่า ของการท�ำกจิ กรรมไป ไมว่ า่ จะเปน็ แบบไหน นเ่ี ปน็ โอกาสอนั ดเี ยย่ี มทจ่ี ะสอนใหน้ กั เรยี น ร้จู กั ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิที่คณุ อยากให้ท�ำเพื่อเตรยี มตวั ท�ำกิจกรรมกลุม่ ในหอ้ งเรยี นทจี่ ดั หนา้ ห้องไดส้ องดา้ น (โดยมกี ระดานกับจอฉายภาพอยบู่ นผนัง ตรงกนั ขา้ มกนั หรอื ทง้ั กระดานและจออยบู่ นผนงั เดยี วกนั ทง้ั สองดา้ น) ฉนั จะใชว้ ธิ ตี ง้ั โตะ๊ คร่งึ วงกลมเปน็ 2 กลมุ่ (ภาพ 4.3) เวลาเปลี่ยนจดุ สนใจจากฝ่งั หนง่ึ ไปอกี ฝั่งจะได้ไมบ่ งั การมองเห็นของนักเรยี น หรอื ต้องจดั ทน่ี ั่งใหม่ การจดั ท่นี ั่งแบบครง่ึ วงกลม 2 กลุ่ม 4.3 ถา้ ฉนั เปน็ ใหญใ่ นวงการศกึ ษาเมอื่ ไหร่ จะประกาศใหห้ อ้ งเรยี นเคลอ่ื นทเ่ี ปน็ สงิ่ ผดิ กฎหมายทันที แต่ตอนนี้ครูจ�ำนวนมากต้องสอนในรถพ่วงที่เป็นห้องเรียน นอกจากจะ ไม่สวยและไม่สะดวกสบายแล้ว ยังมีปัญหาเร่ืองการมองเห็นเวลาจัดท่ีน่ัง เพราะถ้า 104
กระดานกับจออยู่สุดปลายด้านหนึ่งของห้อง นักเรียนบางคนจะถูกบังคับให้น่ังตรงที่ ทมี่ องเหน็ ไมช่ ดั แต่ถา้ กระดานกบั จออยู่ดา้ นข้าง ฉันขอแนะน�ำใหบ้ อกแผนกซอ่ มบ�ำรงุ ไปหากระดานกบั จอเคลอื่ นทม่ี าไวใ้ นหอ้ ง โดยเฉพาะถา้ สอนคณติ ศาสตรห์ รอื วทิ ยาศาสตร์ เพราะถ้าพยายามจัดโต๊ะนักเรียนตามยาว ให้หันหน้าเข้าหากระดานบนผนังด้านข้าง นกั เรยี นทกุ คนจะตอ้ งมานงั่ อดั กนั แนน่ ในทแี่ คบๆ และคนทน่ี งั่ ปลายแถวจะมองกระดาน ไม่ชดั เลย หอ้ งเรียนเคลอื่ นท่ี 4.4 ขฐอางนครู กระดาน กระดาน งานให ่ญ... ขฐอางนค ูร วิธีการสอนในห้องรถพ่วงของฉันคือ แบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่ม อยู่คนละฝั่ง (ภาพ 4.4) ขณะที่นักเรียนกลุ่มหน่ึงท�ำงานเป็นอิสระในที่นั่งของตัวเอง ฉันก็ไปสอนอีกกลุ่มหน่ึงโดยใช้เครื่องโปรเจคเตอร์ กับกระดานไวท์บอร์ด (ย้ายจอกับ กระดานส�ำหรับแตล่ ะกลุ่ม เพือ่ ใหท้ ั้งกลุ่มมองเห็น) แม้จะต้องสอนบทเรยี นเดมิ สองครั้ง ก็ไม่เป็นผลเสียกับใคร แต่กลับช่วยให้พวกเรียนช้าได้ฟัง 2 ครั้ง พลางค่อยๆ ท�ำความ เขา้ ใจตามความจ�ำเป็น 105
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด มที างเลอื กอืน่ ๆ อกี มากมายท่ีจะจดั โต๊ะ ซ่งึ รวมทงั้ การเอาโต๊ะครึง่ หนึง่ ออกไป แล้วใช้โต๊ะประชุม จัดมุมท�ำงาน วางเบาะนั่งบนพื้น เก้าอ้ีท้าวแขน ท่ีนอน และอื่นๆ ท�ำนองเดียวกัน และแม้จะต้องติดอยู่กับการจัดที่นั่งในรูปแบบเฉพาะด้วยเหตุผล บางประการ คุณก็ยังเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย ฉันได้อ่านเร่ืองของครูคนหน่ึงท่ีมีปัญหา เวลาจะเปล่ียนกิจกรรม และหาทางออกด้วยการขอให้นักเรียนหมุนโต๊ะไป 90 หรือ 180 องศา เพอื่ จะไดห้ นั หนา้ ไปทางผนงั หอ้ งทต่ี า่ งกนั การเปลยี่ นการมองเหน็ งา่ ยๆ แบบน้ี ชว่ ยใหน้ ักเรยี นเปลย่ี นจุดสนใจไปทกี่ จิ กรรมใหมไ่ ด้ การจัดท่ีน่งั แบบเปิด หรอื แผนผงั ท่ีนัง่ ครูบางคนเชื่อว่าการใช้แผนผังที่น่ังดีที่สุด แต่นักเรียนบางคนสบถใส่ การจัดท่ีน่ัง เรยี งตามตวั อกั ษรเปน็ ทน่ี ยิ มเพราะชว่ ยใหง้ า่ ยขนึ้ ส�ำหรบั ครทู จี่ ะจ�ำชอ่ื นกั เรยี น ใชข้ านชอ่ื และประสานงานกิจกรรมท่ีต้องการให้นักเรียนเข้าแถวและย้ายท่ีเป็นกลุ่ม เรียกว่า เปน็ ประโยชนก์ บั ครู โดยเฉพาะเวลาท�ำงานกบั เดก็ ทเ่ี ลก็ มากๆ แตอ่ าจใหผ้ ลตรงขา้ ม กับท่ีต้ังใจไว้ ถ้าใช้กับนักเรียนท่ีโตกว่า นักเรียนบางคนหงุดหงิดหรือไม่ยินดียินร้าย ไปเลยหลงั จากถูกครูส่งั ให้อยู่หวั แถวหรือหางแถวหลายปี บางคนจ�ำต้องนัง่ กับคนท่ี เข้ากนั ไมไ่ ด้เลยทุกๆ ปี ตอนนักเรยี นอยู่ในช่วงเกรด 9-12 บุคลิกภาพที่ขัดแย้งกัน อาจท�ำใหเ้ กดิ ปัญหาพฤตกิ รรมรา้ ยแรงได้ ฉันจึงไมแ่ นะน�ำให้เร่มิ ต้นดว้ ยแผนผงั ที่นัง่ ถ้าสอนเด็กโต หรือนักเรียนท่คี ุณยังไม่ร้จู กั ตวั ตนและบคุ ลกิ ภาพของพวกเขา เพราะ การใชแ้ ผนผงั ทน่ี ง่ั แสดงวา่ คณุ ละทงิ้ “เครอ่ื งมอื แหง่ อ�ำนาจ” อนั ยอดเยย่ี ม แถมพลาด โอกาสทจี่ ะรจู้ ักนกั เรียนมากขึ้น พอนกั เรยี นเขา้ หอ้ งเปน็ ครงั้ แรก และครอู นญุ าตใหเ้ ลอื กทนี่ ง่ั เอง นกั เรยี นบางคน จะตรงดง่ิ ไปนั่งหลงั ห้องทนั ที บางคนชอบที่น่งั ตดิ ทางเดนิ เหมือนผูโ้ ดยสารบนเคร่ืองบิน สว่ นบางคนเลอื กน่ังใกล้โต๊ะครูที่สดุ ไม่ใชว่ า่ นกั เรยี นท่ีนงั่ หลงั หอ้ งทุกคนจะเปน็ ตวั ป่วน บางคนแค่ไม่มีสมาธิเวลามีคนมานั่งข้างหลัง เหมือนพวกนักเล่นไพ่โป๊กเกอร์ที่ชอบน่ัง หลงั พิงฝาหนั หน้าหาประตูนนั่ เอง นกั เรียนท่ีเลอื กน่งั รมิ หอ้ งอาจมชี วี ิตสว่ นตัวท่ีรู้สกึ วา่ 106 อยากหลบหนไี ปที่อื่น และจะไมม่ ีสมาธถิ า้ รูส้ กึ ว่าตัวเองติดกบั ดกั ส่วนพวกน่ังแถวหน้า
อาจจะมีปัญหาการได้ยินหรือการมองเห็น หรืออาจวิตกไม่อยากน่ังใกล้คนที่เคยรังแก หรือขม่ ข่ตู วั เองมากอ่ น ข้อมูลทัง้ หมดนจ้ี ะช่วยให้คุณเข้าใจนักเรยี นดขี น้ึ และตดั สนิ ใจ เลือกหนทางท่ีดีท่ีสุดเวลาออกแบบบทเรียนกับกิจกรรม และนักเรียนมีแนวโน้มที่จะ รว่ มมือมากขน้ึ ถ้าไดน้ ั่งในท่ีทีต่ ัวเองพอใจ ขอ้ ดอี กี ขอ้ ของการเรม่ิ ชนั้ เรยี นดว้ ยการจดั ทน่ี งั่ แบบเปดิ คอื ท�ำใหค้ ณุ มเี ครอ่ื งมอื แหง่ อ�ำนาจทดี่ อี ยใู่ นมอื ถา้ พฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสมหรอื การกอ่ กวนกลายเปน็ ปญั หารา้ ยแรง งานให ่ญ... คณุ กเ็ ตอื นนกั เรยี นไดว้ า่ ถา้ ไมป่ รบั ปรงุ ตวั ครจู ะใหน้ ง่ั ตามผงั ซง่ึ หมายความวา่ นกั เรยี น อาจจะไมไ่ ดน้ งั่ ใกลเ้ พอื่ นสนทิ หรอื ไมไ่ ดน้ ง่ั ตรงทที่ ตี่ วั เองชอบ นกั เรยี นจงึ ตอ้ งรบั ผดิ ชอบ ต่อพฤติกรรมของตัวเอง ซ่ึงก็ควรจะเป็นอย่างน้ัน และถ้ายังควบคุมตัวเองปรับปรุง พฤตกิ รรมไมไ่ ด้ การยา้ ยทนี่ ง่ั ชวั่ คราวอาจจะเปน็ ประโยชน์ แลว้ พอท�ำตวั ดขี นึ้ กอ็ นญุ าต ให้นักเรียนเลือกท่ีนั่งเองอีกคร้ังเพ่ือทดสอบ คุณอาจจะต้องลองท�ำแบบนี้สัก 2-3 คร้ัง แตก่ ารใชแ้ ผนผงั ทนี่ ง่ั เปน็ เครอ่ื งมอื ส�ำหรบั การเรยี นรไู้ มใ่ ชก่ ารลงโทษ จะชว่ ยใหน้ กั เรยี น พัฒนาการควบคุมและตรวจสอบตวั เองท่มี ีประสทิ ธผิ ล มีอยู่ปีหนึ่ง ฉันมีนักเรียนเกเรมาก จนต้องขู่ว่าจะใช้แผนผังที่น่ัง และในที่สุด กท็ �ำแบบนน้ั จรงิ ๆ แทนทจ่ี ะท�ำตามค�ำสง่ั ดๆี เหมอื นนกั เรยี นคนกอ่ นๆ เพราะถงึ อยา่ งไร กเ็ ลยี่ งไมไ่ ด้ นกั เรยี นกลมุ่ นกี้ ลบั บน่ ไมห่ ยดุ อยหู่ ลายวนั ฉนั หงดุ หงดิ มากจนพดู ออกมาวา่ “ก็ได!้ ไม่ชอบอยา่ งท่คี รูจดั ให้นง่ั ใช่มยั้ ถา้ ง้นั ก็จดั เองสิ แต่เอาแบบที่คุยกนั มากไม่ไดน้ ะ และไมใ่ หร้ บกวนคนทก่ี �ำลงั ท�ำงานดว้ ย” นกั เรยี นยนิ ดรี บั ค�ำทา้ ของฉนั แลว้ ชว่ ยกนั ท�ำงาน เปน็ กลมุ่ ไดด้ เี ปน็ ครงั้ แรกจนไดแ้ ผนผงั ออกมา ซง่ึ ตอนแรกกด็ ซู บั ซอ้ นนดิ หนอ่ ย แตก่ ด็ กี วา่ แผนผงั ทกุ อนั ของฉนั นค่ี อื แผนการจดั ทน่ี งั่ ของนกั เรยี นพรอ้ มเหตผุ ลประกอบในแตล่ ะขนั้ บางคนเบื่อการน่ังท่ีเดิมทุกวัน แต่บางคนชอบน่ังท่ีเดิมเพราะรู้สึกมั่นคงทาง อารมณ์ ฉะน้ัน พวกท่ีอยากนั่งท่ีเดิมจะได้นั่งที่เดิม และคนอื่นไปน่ังไม่ได้ แม้แต่วันท่ี เจา้ ของขาดเรียน บางคนที่ชอบน่ังหลังห้องมักสร้างปัญหาด้วยการโยนของหรือพูดอะไรท่ีครู ไม่ได้ยิน ฉะนั้น จึงไม่มีใครมีสิทธ์ิไปจับจองที่นั่งซึ่งไกลจากครูมากๆ หรือในแถวหลัง ยกเว้นพวกที่ได้คะแนนเกรด B หรือ A ส่วนคนท่ีได้เกรด D หรือต�่ำกว่านั้นต้องน่ังใกล้ โตะ๊ ครู แต่ถ้าท�ำคะแนนดขี ึน้ ก็มีสิทธไิ์ ปจับจองทน่ี ่งั ใหม่ได้ 107
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด สุดท้าย คนท่ีเบ่ือการนั่งที่เดิมๆ มีสิทธ์ิไปนั่งตรงท่ีเหลือ ซึ่งไม่มีใครเลือกแล้ว ไดท้ ุกวัน ทกุ ๆ ภาคการศกึ ษา พวกเราจะท�ำแผนผงั ใหมท่ งั้ หมดเพอื่ ใหค้ นทไ่ี มไ่ ดน้ งั่ ตรงที่ ท่อี ยากได้ มโี อกาสอีกคร้งั การใชแ้ ผนผงั ทน่ี กั เรยี นออกแบบไดผ้ ลดมี าก ฉนั จงึ ก�ำหนดใหเ้ ปน็ อยา่ งนน้ั ตลอด และเรมิ่ ท�ำตงั้ แตต่ อนเปดิ เทอมหรอื ตน้ ปกี ารศกึ ษา และอธบิ ายวา่ ถา้ มปี ญั หาเรอ่ื งระเบยี บ วนิ ยั ในตวั เอง ครจู ะตกั เตอื นครงั้ หนง่ึ กอ่ น ถา้ ท�ำงานเปน็ กลมุ่ ไมด่ ี ครจู ะท�ำแผนผงั ทนี่ ง่ั เอง และใชไ้ ปจนจบเทอม ซึ่งทผี่ า่ นมาฉันแทบจะไม่ตอ้ งสรา้ งแผนผงั ใหม่เลย หากคณุ ตดั สนิ ใจจะใชแ้ ผนผงั ทน่ี งั่ ตงั้ แตต่ น้ ปกี ารศกึ ษาหรอื ตอนเปดิ เทอมจรงิ ๆ ฉนั แนะน�ำใหเ้ อาเทปกาวตดิ ปา้ ยชอ่ื ไวบ้ นโตะ๊ ตง้ั แตต่ อนแรกทนี่ กั เรยี นนงั่ ท�ำใหเ้ ปลยี่ นที่ ไมไ่ ด้ แตท่ ดี่ กี วา่ นน้ั คอื ใหย้ นื ตรงทางเขา้ เพอื่ ทกั ทายนกั เรยี นตอนเดนิ เขา้ มา แลว้ ชใี้ หไ้ ป น่ังตรงท่ีท่ีครูก�ำหนดไว้ ถ้าไม่ต้องย้ายที่อีก พวกนักเรียนโดยเฉพาะวัยรุ่นจะยอมรับ การนั่งตามที่ครูจัดไว้มากขึ้น การเปลี่ยนที่นั่งอาจสร้างความสับสน เกลียดชัง และไม่ เปน็ มติ รระหว่างคณุ กับนกั วิชาการน้อยๆ พวกนี้ ก่อนนักเรียนจะบ่น ให้รีบอธิบายว่า ครูท�ำผังท่ีนั่งข้ึนมาเพื่อช่วยให้นักเรียน ประสบความส�ำเร็จ ไม่ใช่เพราะสนุกกับการได้ก�ำหนดที่น่ัง ครูคิดถี่ถ้วนแล้วกว่าจะได้ แผนผงั นมี้ า และเชอ่ื วา่ จะชว่ ยใหน้ กั เรยี นประสบความส�ำเรจ็ ได้ ถา้ มใี ครบน่ กข็ อใหม้ าคยุ กบั คณุ หลงั โรงเรยี นเลกิ ไมใ่ ชห่ ลงั จบคาบ ถา้ นกั เรยี นยอมอยถู่ งึ หลงั เลกิ เรยี น คณุ กน็ า่ จะ ยอมเปลี่ยนท่ีน่ังให้ ส่วนมากนักเรียนมักขอนั่งที่ใหม่ เพราะถูกรังแก หรือไม่อยากนั่ง ใกล้เพอื่ นเก่า บางคนไมอ่ ยากน่งั ใกล้เพ่อื นสนทิ เพราะร้วู ่าจะไมม่ สี มาธิ และอดใจไมไ่ ด้ ตอ้ งกระซิบคุยกันหรอื สง่ จดหมายนอ้ ยใหก้ นั ไปมาขณะท่คี วรตั้งใจเรยี น ก�ำ หนดเขตส่วนตัว ตามปกตใิ นหอ้ งเรยี นเดก็ อนบุ าลกบั ประถมจะมกี ลอ่ งเลก็ ๆ หรอื ชนั้ วางของหลายๆ อนั ถา้ เอารปู ภาพหรอื รปู ถา่ ยมาตดิ ไวเ้ พอ่ื บอกวา่ ใหเ้ อาอะไรไปเกบ็ ไวท้ ไ่ี หน เดก็ ๆ มกั จะ 108 ดีใจที่ได้เอาหนังสือกับอุปกรณ์การเรียนออกมา และช่วยครูเอาของไปเก็บท่ีเดิม
ในหอ้ งเรยี นเดก็ เลก็ มกั มสี ถานงี านหรอื ศนู ยก์ จิ กรรมแทนโตะ๊ นกั เรยี น จะจดั หอ้ งเรยี น งานให ่ญ... แบบไหนข้ึนอยู่กับว่า คุณต้องใช้ห้องร่วมกับครูคนอ่ืนหรือไม่ ในห้องมีเฟอร์นิเจอร์ อะไรบ้างแล้ว หรือมีเฟอร์นิเจอร์อะไรบ้างในห้องเก็บของของโรงเรียน มาตรฐาน การปฏบิ ัตขิ องโรงเรียน (เชน่ สัดสว่ นของจ�ำนวนที่น่ังตอ่ โครงการกลุ่ม) และรปู แบบ การสอนของตัวเอง แต่คุณต้องก�ำหนดให้โต๊ะและทรัพย์สินส่วนตัวของครูเป็นส่วน ทตี่ อ้ งหา้ มส�ำหรับนักเรียน ให้เลือกต�ำแหน่งท่ีจะต้ังเป็นฐานของครู ซึ่งเป็นท่ีพักของคุณก่อนเริ่มสอน ตอนสอนเสร็จ และตอนพักระหว่างท�ำกิจกรรม คุณอาจจะเลือกต้ังโต๊ะครูที่ฐาน หรือ ยา้ ยไปทีอ่ ืน่ แล้วเอาแท่นยนื พดู ซ่ึงเป็นท่ีเกบ็ สอื่ การเรียนการสอนประจ�ำวันมาวางแทน แตถ่ า้ ตง้ั โตะ๊ ครไู วท้ ฐ่ี าน กต็ อ้ งเตรยี มพรอ้ ม เพราะถา้ ไมก่ �ำหนดขอบเขตและหา้ มนกั เรยี น เข้าฐานอย่างเด็ดขาด พวกเขาจะโฉบเขา้ มา เพราะยังเปน็ เด็ก (แมแ้ ตว่ ัยรนุ่ กอ็ าจท�ำตัว เหมือนเด็ก) ท่ีอยากรู้อยากเห็นทุกสิ่งทุกอย่างท้ังในโต๊ะ บนโต๊ะ รอบโต๊ะ ใต้โต๊ะ และ หลังโต๊ะ เด็กๆ จะน่ังบนเก้าอ้ี แล้วหมุนหรือโยกเก้าอ้ีไปมา จะเปิดดูลิ้นชัก จะเขย่า พวงกุญแจ และแอบดใู นกระเปา๋ ถือหรอื กระเปา๋ เอกสารของครู ความอยากรูอ้ ยากเห็น ของนักเรียนเป็นเหตุผลส�ำคัญท่ีท�ำให้ครูต้องก�ำหนดโต๊ะครูเป็นบริเวณห้ามเข้า โดยใน ชวั่ โมงเรยี นครจู ะนงั่ ทโี่ ตะ๊ ท�ำงานของนกั เรยี น หรอื ทโี่ ตะ๊ ตวั เลก็ ระหวา่ งท�ำกจิ กรรมตา่ งๆ ซ่งึ หา่ งไกลจากโต๊ะครูและสง่ิ ล่อใจทง้ั หลาย ครูบางคนชอบต้ังโต๊ะครูไว้ตรงมุมห้องที่ไกลจากประตูท่ีสุด บางคนชอบต้ังตู้ เอกสารกบั ชน้ั วางของตรงมมุ หอ้ ง แตเ่ อาโตะ๊ ไวใ้ กลป้ ระตู เพอ่ื จะเฝา้ สงั เกตกจิ กรรมของ นกั เรยี นไดง้ า่ ย ไมว่ า่ จะจดั หอ้ งเรยี นแบบไหน คณุ ตอ้ งมที เี่ กบ็ แฟม้ ความลบั คะแนนของ นักเรียน ข้อสอบ กบั โครงร่างบทเรียน และก�ำหนดใหเ้ ปน็ บรเิ วณหา้ มเขา้ อย่างเด็ดขาด ถ้าจ�ำเป็น ให้แขวนป้ายห้ามนักเรียนแตะต้องของในบริเวณนี้ ถ้าไม่เช่ือก็ต้องท�ำอะไร บางอย่างอย่างรวดเร็วและจริงจัง น่ีเป็นเวลาเดียวท่ีคุณคงต้องติเตียนนักเรียนในที่ สาธารณะ อย่าลงโทษ แต่ต้องท�ำให้เหน็ วา่ การละเมดิ ขอ้ ห้ามเป็นเร่อื งใหญ่ ไมอ่ ย่างนนั้ นักเรียนจะคิดว่าครูไม่เอาจริงกับการสอดรู้สอดเห็นและสอดแนม แม้ว่าโต๊ะครูจะอยู่ ในบรเิ วณห้ามเขา้ ก็ควรล็อกไว้ (ถ้ามีกุญแจหรอื ระบบล็อกทใ่ี ชก้ ารได้จริงๆ) ทุกอยา่ งท่ี นกั เรยี นจะขวา้ งปา ถม่ นำ�้ ลายใส่ ทมุ่ ลงพน้ื หรอื ดดี ใส่ หรอื เสยี บตดิ นกั เรยี นคนอน่ื ได้ เชน่ 109
คลปิ หนบี กระดาษ ยางยดื เทปกาว และหมดุ ปกั ใหร้ ะวงั ปากกาเขยี นบอรด์ สดี �ำเปน็ พเิ ศษ เพราะเดก็ ๆ มกั ห้ามใจไมอ่ ยู่ และเปน็ ของท่หี ายไปเร็วกวา่ อุปกรณก์ ารเรยี นอน่ื ๆ ถ้าไม่ ล็อกโต๊ะ หรือไมอ่ ยากเป็นกังวลกับกุญแจ ก็ซ้ือถงั พลาสติกที่ใส่สลักไดแ้ น่นหนา ไวเ้ ก็บ อปุ กรณส์ �ำรองอยา่ งลวดเยบ็ กระดาษ คลปิ หนบี กระดาษ ยางยดื ปากกาเขยี นบอรด์ ฯลฯ ฉันได้ใช้ทั้งสองแบบมาแล้ว คือ แบบแรกที่ใช้โต๊ะเป็นฐานและก�ำหนดให้เป็น พ้นื ที่สว่ นตัว กับแบบท่สี องที่ใช้แทน่ ยืนพูดเวลาสอนนักเรียน ซ่งึ แบบหลังใช้ได้ผลดกี ว่า ฉนั ไมไ่ ดย้ นื สอนทแ่ี ทน่ ตลอดเวลา แตเ่ ดนิ ไปทว่ั หอ้ ง การใชแ้ ท่นท�ำให้เหลอื พ้ืนที่สว่ นตัว จ�ำกดั จงึ จ�ำเปน็ ตอ้ งเปน็ คนมรี ะเบยี บไปในตวั และท�ำใหย้ า้ ยจากกจิ กรรมหนงึ่ ไปอกี อนั หนง่ึ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ทกุ เช้า ฉนั จะเอาแผนการสอนกบั สอ่ื การเรยี นการสอนที่จ�ำเป็นวางไว้ บนแทน่ และช่วงคนั่ ระหว่างกิจกรรมกบั คาบเรียน ฉนั อาจจะแวะไปทโี่ ต๊ะครูไดโ้ ดยเร็ว แตถ่ า้ นกั เรยี นอยใู่ นหอ้ ง ฉนั จะยนื ทแี่ ทน่ เผอื่ นกั เรยี นมคี �ำถามหรอื ขอความชว่ ยเหลอื ได้ ก�ำหนดเขตสว่ นตัว ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด 4.5 ขอกองาุปนรกเักรรเียรณนีย์ น ขฐอางนครู แฟ้ม โต๊ะครู ที่เก็บของ 110
โต๊ะครูเป็นบริเวณห้ามเข้าเด็ดขาด ฉันตั้งโต๊ะตามแนวทแยงมุมตรงมุมห้อง งานให ่ญ... มีตเู้ อกสารอยหู่ ลังเก้าอเ้ี พ่ือเกบ็ บันทกึ ของนกั เรยี น ข้อสอบ และเอกสารความลบั อื่นๆ (ภาพ 4.5) มุมโต๊ะข้างหน่ึงชนผนังห้อง จึงปิดกั้นไม่ให้นักเรียนผ่านเข้ามาทางน้ันได้ ฉนั วางเกา้ อที้ ใี่ หแ้ ขกนง่ั ขา้ งโตะ๊ และเปดิ ใหม้ ที างเขา้ กวา้ งแคพ่ อใหต้ วั เองเดนิ ผา่ นเกา้ อไ้ี ด้ เท่านั้น ฉันวางคอมพิวเตอร์ตรงจุดที่น่ังท�ำงาน ตู้เอกสารอีกหน่ึงอัน หรือชั้นหนังสือ ตดิ กบั โตะ๊ เพื่อท�ำเปน็ ทางเข้าแคบๆ ไปส่พู ื้นท่สี ว่ นตัว การจดั วางแบบน้ชี ว่ ยตอกยำ�้ กฎ ห้ามเข้าพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยสร้างส่ิงกีดขวางระหว่างอาณาเขตส่วนตัวของฉันกับ สว่ นทีเ่ หลอื ของห้อง อุปกรณก์ ารเรยี นและท่ีเกบ็ ของ หลงั จากตง้ั โตะ๊ กบั ทเ่ี กบ็ ของแลว้ ใหห้ าชน้ั วางของเลก็ ๆ หรอื โตะ๊ วางอปุ กรณก์ ารเรยี น ของนักเรยี น มาตัง้ ไวใ้ กลฐ้ านของครู เพอื่ จะได้เฝ้าสังเกตเวลานักเรียนมาใช้ และถา้ ของหมด กเ็ อาไปเตมิ อปุ กรณ์การเรียนจะแตกตา่ งกนั ไปตามอายขุ องนกั เรยี นและ วชิ าทคี่ ณุ สอน แตฉ่ ันขอแนะน�ำอปุ กรณ์ 2-3 อยา่ งทใี่ ชไ้ ด้ทกุ ชั้น เช่น กระดาษทิชชู นำ้� ยาลา้ งมอื กระจกบานเลก็ (ไวส้ อ่ งดู เวลามอี ะไรเขา้ ตาเดก็ ) และพลาสเตอรป์ ดิ แผล ถา้ ไม่คดิ จะมนี ำ�้ ยาล้างมอื ไวใ้ หใ้ ชต้ ลอดปี ขอแนะน�ำให้มีไวต้ อนพวกไข้หวัดระบาด และบอกนักเรียนให้ใช้น�้ำยาล้างมือหลังจากจาม หรือใช้กระดาษทิชชูส่ังน�้ำมูก โดยเฉพาะคนทกี่ �ำลงั เปน็ หวดั คณุ ตอ้ งใชน้ ำ้� ยาลา้ งมอื เวลาเปลยี่ นชน้ั เรยี น โดยเฉพาะ หลงั จากตรวจรายงานของนกั เรยี น ซ่งึ จะชว่ ยใหค้ ุณกับนกั เรียนลดการเจบ็ ปว่ ยและ ต้องขาดงานขาดเรียนไปได้ นอกจากนนั้ ฉนั ยงั มกี ระดาษกบั ดนิ สอใหน้ กั เรยี นดว้ ย แมค้ รบู างคนจะยนื กรานวา่ พ่อแมห่ รือเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาควรจา่ ยค่ากระดาษกับดินสอท้ังหมด บางครง้ั ครพู วกนก้ี ็ ท�ำเรอื่ งเลก็ ใหเ้ ปน็ เรอ่ื งใหญเ่ วลานกั เรยี นลมื เอาดนิ สอมา ฉนั เชอื่ วา่ พวกเราควรประหยดั พลังเพื่อเอาไปท�ำศึกที่ใหญ่กว่าน้ีจะดีกว่า ให้เก็บห่อกระดาษสมุดแบบมีเส้นไว้ใกล้มือ พร้อมดินสอท่ีมีเอกลักษณ์สัก 10 แท่ง (แบบเป็นเกล็ดเพชรระยิบระยับ แบบลายจุด 111
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด แบบมลี ายแกะสลกั ฯลฯ) ส�ำหรบั เดก็ โตฉนั เตรยี มปากกาทมี่ เี อกลกั ษณแ์ ละหาเจองา่ ยไว้ 10 ดา้ ม แลว้ เอาดนิ สอกบั ปากกาใสข่ วดโหลทตี่ ดิ ปา้ ยวา่ “อปุ กรณก์ ารเขยี นส�ำหรบั ใหย้ มื ” และมอบหมายใหน้ กั เรยี นหนง่ึ คนในแตล่ ะหอ้ งหรอื แตล่ ะคาบเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบเคานเ์ ตอร์ ดินสอ มีหน้าท่ีดูแลให้ดินสอท้ัง 10 แท่ง กับปากกาทั้ง 10 ด้าม อยู่ครบในขวดโหล ก่อนนักเรียนออกจากห้อง การท�ำแบบนี้อาจดูเป็นเรื่องปลีกย่อย แต่ถ้าไม่ก�ำหนดคน รบั ผดิ ชอบ ดนิ สอกบั ปากกาจะหายไป เพราะนกั เรยี นมกั จะลมื เอามาคนื หลงั จากยมื ไปใช้ แต่พวกเขาจะรู้สึกขอบคุณที่มีของให้ยืม เวลาตัวเองลืมเอามา เมื่อเสียเวลาน้อยลง นกั เรียนก็เร่มิ ท�ำงานไดเ้ ร็วขน้ึ ถา้ คณุ ยนื ยนั วา่ นกั เรยี นตอ้ งเอาอปุ กรณก์ ารเรยี นมาเอง และมนั่ ใจวา่ ครอบครวั ของนักเรยี นมเี งินซ้อื ของได้ ก็ขายกระดาษให้นักเรียน หรอื ใหเ้ ชา่ อุปกรณ์การเขียนก็ได้ แลว้ เอาเงนิ นน้ั ไปซอื้ ของมาเตมิ แตฉ่ นั จะคดิ ใหร้ อบคอบกอ่ นวา่ การท�ำแบบนน้ั จะท�ำให้ เสียเวลาและพลงั ถกเถียงกับเดก็ ๆ เร่ืองดนิ สอ ปากกา และกระดาษหรือเปลา่ นกั เรียน จ�ำนวนมาก “ลืม” ดินสอทุกวัน เพียงเพราะอยากจะผัดวันประกันพรุ่งไม่ยอมท�ำงาน และเรามีโอกาสอนื่ ๆ อีกมากมายในแต่ละวนั ทจ่ี ะสอนใหน้ ักเรียนรู้จกั รับผดิ ชอบ ต่อไป ก็ให้เตมิ ของในตู้ใสอ่ ปุ กรณ์การเรยี นให้เต็ม (หรือซอ้ื ถงั พลาสตกิ ใบใหญ)่ กับถุงใส่ขยะ พลาสเตอร์ปิดแผล ครีมนีโอสปอรินไว้ทาแผลฆ่าเชื้อ ถุงมือท่ีใช้แล้วท้ิง น้�ำยาฆ่าเชื้อส�ำหรับท�ำความสะอาด ผ้าเช็ดมือฆ่าแบคทีเรียท่ีใช้แล้วท้ิง กระดาษทิชชู มว้ นใหญ่ ไมก้ วาด และทโี่ กยผง เวลาเดก็ ๆ ท�ำหอ้ งสกปรก ถา้ ไมใ่ ชเ่ ดก็ เลก็ มากๆ อยา่ ท�ำ ความสะอาดแทนเด็ก แตใ่ หน้ ักเรียนใส่ถุงมอื แลว้ เก็บกวาดเอง (ฉนั รวู้ ่าโรงเรยี นควรจดั ของพวกนีใ้ ห้ แตถ่ ้าไม่มีให้ เรากต็ อ้ งหามาเอง) ต้ังถังขยะไว้ใกล้กล่องทิชชูบนโต๊ะอุปกรณ์ของนักเรียน อีกใบหน่ึงตั้งไว้ใกล้ ประตหู ้อง (ถา้ จ�ำเป็น ก็ตอ้ งซอ้ื เพ่มิ แล้วห้องจะสะอาดข้นึ กวา่ เดมิ มากๆ) เพราะถ้าหา ถังขยะง่าย คนจะอยากทิ้งขยะลงถงั 112
ติดแผนงานของคณุ ไวใ้ ห้นักเรียนเห็น งานให ่ญ... คุณอาจจะฝึกให้นักเรียนตรวจสอบข้อมูลตรงมุมประจ�ำทุกครั้งที่เข้าห้อง เช่น ตรงมมุ ขวาบนของกระดานด�ำหรือไวท์บอรด์ ท่ีเผอ่ื ไวส้ �ำหรบั ตดิ แผนงานประจ�ำวัน ต้องมั่นใจว่าได้ติดประกาศแล้วก่อนนักเรียนเข้าห้องในแต่ละวัน พวกที่มาเรียน แต่เช้าจะได้ไม่ต้องมาเฝ้าถามว่า “วันน้ีเราจะท�ำอะไรบ้าง” ตอนครูก�ำลังเตรียม การสอน พอนักเรียนเข้าห้องแล้วถามว่าจะท�ำอะไร ให้ชี้ไปท่ีบอร์ดแล้วยิ้ม ไม่ช้า พวกเขาจะเรียนรวู้ ่าต้องไปดเู องโดยไมต่ ้องถาม ตอ้ งมนั่ ใจวา่ คณุ ตดิ แผนงานไวต้ รงทที่ ท่ี กุ คนเหน็ ได้ ถา้ คณุ ท�ำงานเปน็ ระเบยี บมาก กอ็ าจจะใช้วธิ เี ขียนรายการทลี่ งรายละเอียดและเวลาส�ำหรับกิจกรรมเฉพาะ แต่ฉันชอบ ให้แผนงานยืดหยุ่น เผ่ือมีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดข้ึน เพราะบางคร้ังฉันให้การบ้านยากๆ แต่นักเรียนกลับท�ำเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งก็งมอยู่นานกับโจทย์ท่ีฉันคิดว่า คอ่ นขา้ งงา่ ย ดงั นนั้ ฉนั จงึ ท�ำรายการกจิ กรรมทวั่ ไปแบบงา่ ยๆ เชน่ แผนงานของวนั จนั ทร์ อาจจะเปน็ แบบน้ี การอ่านแบบอิสระ การสอบสะกดค�ำ ทบทวนค�ำศัพท์ การเขียนบนั ทกึ ประจ�ำวนั หรอื ทบทวนการบ้าน ใบงานคณติ ศาสตร์ งานกลมุ่ ตามปกติฉันจะติดแผนงานของวันถัดไปไว้ก่อนออกจากห้องตอนค่�ำ เพื่อ เตรยี มพรอ้ มส�ำหรบั นกั เรยี นทม่ี าถงึ แตเ่ ชา้ บางโรงเรยี นสงั่ ภารโรงใหท้ �ำความสะอาดบอรด์ ทกุ อัน ฉะนน้ั หากติดแผนงานไว้ อยา่ ลืมบอกวา่ ได้เตือนภารโรงวา่ อย่าเอาออก อีกทางเลอื กหนึ่งคอื ซอื้ ไวทบ์ อรด์ ท่ลี บได้และเคล่อื นย้ายได้ แลว้ เขียนแผนงาน ด้วยปากกาเขียนบอร์ด และตง้ั ไว้เหนอื โตะ๊ อปุ กรณ์การเรียน ถ้าบอรด์ ใหญ่พอ ก็อาจจะ 113
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด เขยี นรายการของแผนงานส�ำหรบั วนั นี้ พรอ้ มเคา้ โครงสน้ั ๆ ของแผนงานเมอ่ื วานส�ำหรบั นักเรยี นทขี่ าดเรียน กับแผนงานวนั ถดั ไปส�ำหรบั คนชอบวางแผนล่วงหนา้ การเหน็ แผนงานประจ�ำวันช่วยใหน้ ักเรียนมจี ุดเนน้ แตบ่ างคนจ�ำเป็นต้องเหน็ ภาพรวมดว้ ย เอาบอรด์ ติดโปสเตอร์หรือกระดาษสแี ผ่นใหญ่มาสร้างปฏทิ นิ ของชั้นเรียน โดยให้ใหญ่พอจนคนท่ียืนอีกฝั่งหน่ึงของห้องอ่านออก และแขวนให้สูงพอจนนักเรียน เห็นชัดเวลาน่ังที่โต๊ะ ฉันท�ำเคร่ืองหมายไว้ที่วันหยุด วันท่ีก�ำหนดให้ทบทวนบทเรียน สอบย่อย สอบใหญ่ และเหตกุ ารณ์พิเศษ โดยเคร่ืองหมายส�ำหรบั การสอบยอ่ ยใช้หมึกสี น�้ำเงิน การสอบใหญ่ใช้หมึกสีแดง (ส�ำหรับการสอบย่อยหรือสอบใหญ่แต่ละครั้ง ฉันจะ นบั ยอ้ นหลงั ไป 3 วนั ของวนั ทม่ี าเรยี น แลว้ ตดิ ค�ำเตอื นไวท้ วี่ นั นน้ั ใหน้ กั เรยี นไปอา่ นหนงั สอื และทบทวน) ฉันท�ำเครื่องหมายส�ำหรับเหตุการณ์พิเศษ อย่างเช่น วันจบการศึกษา วันถ่ายรปู ลงหนังสอื รนุ่ และวันคนื สเู่ หย้า ด้วยหมกึ สมี ่วง ปฏทิ ินของช้นั เรยี นจะท�ำใหน้ ักเรียนบ่นหรืออ้างวา่ ไม่รู้วันสอบไมไ่ ด้ (ไม่วา่ คุณ จะประกาศไปก่ีคร้ัง บางคนก็จะลืมทุกครั้ง) และเป็นการบันทึกความก้าวหน้าให้เห็น เป็นภาพส�ำหรับนักเรียนที่รู้สึกว่า มีกิจกรรมมากมายจนจ�ำไม่หมดตลอดปีการศึกษา ทยี่ าวนาน นอกจากนนั้ ปฏทิ นิ ยงั เปน็ เครอ่ื งมอื สรา้ งแรงจงู ใจทดี่ อี กี ดว้ ย เทคนคิ อนั หนงึ่ ทฉ่ี นั ใชไ้ ดผ้ ลคอื วาดรปู ดาวลงในปฏทิ นิ ส�ำหรบั วนั ทฉี่ นั ไมต่ อ้ งขอใหน้ กั เรยี นหยดุ กอ่ กวน ชน้ั เรยี น พอไดด้ าวครบ 15 ดวง นกั เรยี นจะไดร้ างวลั เชน่ ใหเ้ วลาวา่ ง 15 นาที เพอื่ เลน่ เกมการศึกษา หรือให้เวลานักเรียนท้ังชั้นไปห้องสมุดสัก 30 นาที เพ่ือไปอ่านหนังสือ คร่าวๆ สกั พัก ขอ้ เสียเพียงอย่างเดียวของการใช้ดาวจงู ใจกค็ อื ถา้ สอนหลายช้นั กต็ ้องมี ปฏทิ นิ ส�ำหรบั แตล่ ะชน้ั แตก่ ารมปี ฏทิ นิ เฉพาะชนั้ กเ็ ปน็ แรงบนั ดาลใจใหน้ กั เรยี นในแตล่ ะชนั้ ท�ำงานหนักข้ึน จะได้ไมแ่ พ้ชั้นอนื่ แมฉ้ นั ไมช่ อบยุใหน้ ักเรียนแขง่ ขนั กันอย่างเชอื ดเฉอื น แต่ก็พยายามใช้แรงกดดันจากเพื่อนๆ ในเชิงบวก ตราบใดที่นักเรียนไม่ท�ำเร่ืองนี้ให้ กลายเปน็ การสรา้ งความอบั อายขายหนา้ ใหค้ นอนื่ ซงึ่ ตรงน้ี คณุ ตอ้ งใชว้ จิ ารณญาณของครู ตดั สนิ ใจวา่ จะท�ำอย่างไร แผนงานประจ�ำวนั ควรเรม่ิ ดว้ ย “กจิ กรรมทต่ี อ้ งท�ำตอนน”ี้ หรอื จะเรยี กชอื่ อะไร กไ็ ด้ ซง่ึ เปน็ งานทใ่ี หน้ กั เรยี นท�ำทนั ทเี มอ่ื เขา้ หอ้ ง ถา้ ยงั ไมไ่ ดเ้ ตรยี มอยา่ งอน่ื ไวแ้ ลว้ ฉนั แนะน�ำ 114 ใหค้ ดิ กจิ กรรมและงานทน่ี า่ สนใจ สนกุ หรอื ทา้ ทาย ใหน้ กั เรยี นเรม่ิ ท�ำเปน็ สง่ิ แรกในตอนเชา้
หรือทันทีที่เสียงออดเร่ิมชั้นเรียนดังขึ้น ถ้าเริ่มวันแรกด้วย “กิจกรรมท่ีต้องท�ำตอนนี้” งานให ่ญ... และท�ำซ�้ำอย่างเดิมในวันท่ี 2 , 3 และ 4 คุณจะพบว่า พอถึงวันที่ 5 นักเรียนจะชิน กับการเริ่มท�ำงานโดยไมบ่ น่ หรอื สร้างความวุ่นวาย โปรดดูบทที่ 5 “เรมิ่ ด้วยรอยยิ้ม” ส�ำหรบั การอภิปรายและข้อแนะน�ำฉบับเต็ม ส�ำหรับ “กิจกรรมท่ีต้องท�ำตอนน้”ี และยทุ ธวิธตี ่างๆ กฎขอ้ บงั คับ บางทีคุณอาจจะก�ำลังคิดว่า น่าจะท�ำรายการของกฎข้อบังคับมาติดไว้บนผนังห้อง ในท่ีที่ทุกคนเห็นได้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่าควรท�ำตัวอย่างไร แต่ขอแนะน�ำว่า อยา่ ท�ำอยา่ งนน้ั ถา้ ไมไ่ ดส้ อนเดก็ อนบุ าลหรอื เดก็ เกรด 1 เพราะเดก็ เกรด 2 ขน้ึ ไปรแู้ ลว้ ว่าต้องประพฤตติ ัวให้ดี เพราะไมว่ ่าจะไปเรยี นทไี่ หน ครูทกุ คนกม็ กี ฎอย่างน้อยทีส่ ดุ 1 ขอ้ และครสู ว่ นใหญม่ กี ฎเปน็ รายการเลย ซง่ึ บางรายการกย็ าวจนเหลอื เชอื่ ฉนั คดิ วา่ การก�ำหนดแนวปฏบิ ตั สิ �ำหรบั พฤตกิ รรมหรอื รายการกฎ แลว้ ปฏบิ ตั ติ ามนน้ั เปน็ ความคดิ ทดี่ ี แตไ่ มจ่ �ำเปน็ ตอ้ งเอาไปแขวนไวบ้ นผนงั หอ้ งเพอื่ เตอื นใหน้ กั เรยี นคดิ ถงึ วธิ ปี ระพฤตติ วั ไม่ดี แทนท่จี ะท�ำอยา่ งนน้ั ให้โอกาสนกั เรยี นแสดงให้ครูเหน็ ว่าพวกเขาจะท�ำตัวไดด้ ี แค่ไหนจะดีกว่า เวลาคุณต้อนรับนักเรียนเข้าสู่ห้องเรียนและดึงให้เข้าร่วมกิจกรรม ที่น่าสนใจหรือท้าทายในทันที ถ้าทุกคนร่วมมือท�ำตาม ก็เก็บกฎระเบียบเข้าลิ้นชัก ไว้ก่อน แลว้ ค่อยเอาออกมาหลังจากคุณผกู สัมพนั ธ์กบั นกั เรียนไดด้ แี ลว้ ถา้ มตี วั ปว่ นคนสองคนในหอ้ ง ตอ้ งรบี บอกทนั ทวี า่ คณุ อยากใหน้ กั เรยี นท�ำอะไร ไม่ใชบ่ อกวา่ ไมอ่ ยากใหท้ �ำอะไร เชน่ แทนที่จะพดู วา่ “อยา่ คยุ เวลาครูก�ำลังพดู ” แต่ให้ พดู วา่ “ตอนนถี้ งึ ตาครพู ดู นกั เรยี นตอ้ งเงยี บกอ่ นจนกวา่ ครจู ะพดู จบ” จากนน้ั ใหข้ อบคณุ ทเ่ี งยี บทนั ที ถา้ มหี ลายคนตงั้ หนา้ ตงั้ ตากอ่ กวนแผนงานทคี่ ณุ อตุ สา่ หเ์ ตรยี มไวด้ บิ ดสี �ำหรบั วันแรก ก็ให้เดินหน้าติดโปสเตอร์ว่าด้วยกฎหรือแนวปฏิบัติตนไปเลย แต่ต้องมั่นใจว่า ทกุ คนเขา้ ใจความคาดหวงั ของคุณท่มี ีกับนกั เรียนตรงเป๊ะตามทเี่ ขยี นไว้ ผบู้ รหิ ารบางคนสง่ั ใหค้ รใู ชเ้ วลา 2-3 นาที ในทกุ ชน้ั เรยี นทบทวนกฎและระเบยี บ ปฏิบัติ ฉันขอเชิญชวนว่าอย่าเชื่อฟังค�ำสั่งน้ัน (ฉันรับราชการทหารมา 9 ปี จึงรู้ความ 115
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด ส�ำคัญของการท�ำตามค�ำส่ังเป็นอย่างดี) แต่ขอย้�ำตรงน้ีอีกคร้ัง ฉันขอเชิญชวนให้ระงับ การท�ำตามค�ำสั่งที่ให้เอากฎระเบียบเป็นหัวข้อสนทนาแรกกับนักเรียนในช้ันใหม่ไว้ ฉันไม่ได้แนะน�ำให้คุณยับยั้งกฎด้วยความเจ้าอารมณ์หรือท�ำตามอ�ำเภอใจ แต่เพราะมี เหตผุ ล หลานสาวของฉนั ชือ่ ไลลาจะอธบิ ายเร่อื งน้ีไดด้ ีกวา่ ฉนั มากๆ เธอต่ืนเตน้ กับการ ไปโรงเรยี นมธั ยมวนั แรกและสารภาพวา่ นอนไมห่ ลบั ตง้ั 2 คนื กอ่ นเรม่ิ เรยี น และแทบจะ รอไมไ่ หวทจ่ี ะไดเ้ ปน็ นกั เรยี นเกรด 9 ฉนั โทรหาไลลาหลงั เธอไปโรงเรยี นวนั แรกและถามวา่ ชอบการเปน็ “เดก็ โต” แค่ไหน เธอแกลง้ ถอนหายใจยาวๆ แบบวยั รุน่ แล้วตอบวา่ “น่าเบือ่ สุดๆ...” ไลลาตอบ “พวกเราไมไ่ ดท้ �ำอะไรเลย นอกจากฟังกฎชุดใหญ่ 6 รอบ ตดิ ตอ่ กนั ในหอ้ งเรยี น 6 วชิ า ยงั กะเดก็ อนบุ าล หนคู ดิ วา่ โรงเรยี นมธั ยมจะไมเ่ หมอื น โรงเรียนประถมซะอีก ตอนน้หี นูไม่อยากไปโรงเรียนพร่งุ นีเ้ ลย” ไลลาพูดไดต้ รงประเด็นดี พอฟงั เร่อื งซำ�้ ซากทไ่ี มจ่ �ำเปน็ เพียงครู่เดยี ว นกั เรียน ทไ่ี มใ่ ชเ่ ดก็ เลก็ ๆ กเ็ บอ่ื แลว้ นอกจากท�ำใหน้ กั เรยี นเบอื่ และรสู้ กึ แปลกแยกแลว้ ครทู อ่ี า่ น กฎระเบยี บในวนั แรกยงั อาจสรา้ งปญั หาอน่ื ๆ ตามมาอีก เพราะพอมีนกั เรียนใหมเ่ ข้ามา ในชั้น ก็ต้องอ่านกฎพวกนั้นซ�้ำอีกคร้ังเพื่อประโยชน์ของนักเรียน ท�ำให้เด็กคนอื่นๆ ท่ี ได้ยินกฎมาแล้ว 50 ล้านข้อ ต้องเบ่ือหน่ายซ�้ำซาก หรือคุณอาจจะแจกส�ำเนาของกฎ ท่ีพิมพ์ไว้ ซึ่งนักเรียนก็อาจจะช�ำเลืองดูสักหน่อยก่อนโยนลงถังขยะ หรือยัดไว้ในเป้ คณุ อาจจะขอใหน้ กั เรยี นใหมอ่ ยตู่ อ่ หลงั เลกิ เรยี น ซง่ึ พวกเขากจ็ ะร�ำคาญ เพราะมอี ยา่ งอน่ื ที่น่าท�ำกว่า และเคยได้ยินกฎพวกน้ีมาแล้วต้ังแต่เมื่อวานจากครูคนอื่นๆ ก่อนจะ เปลย่ี นห้อง หรือคณุ อาจจะแอบอธษิ ฐานว่าขอให้นกั เรยี นประพฤตติ ัวดี ถ้าชอบอ่านงานวิจัยมากกว่าฟังเร่ืองเล่า คุณจะได้เหตุผลดีๆ อีกข้อหนึ่ง ทสี่ นบั สนนุ ใหช้ ะลอการพดู คยุ เรอื่ งกฎกบั นกั เรยี นไวก้ อ่ น วารสาร Scientific American Mind ฉบับประจ�ำเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ปี 2007 ได้รายงานผลการศึกษาของ นกั จติ วทิ ยาสงั คมจากมหาวทิ ยาลยั ฮารว์ ารด์ กบั มหาวทิ ยาลยั แคลฟิ อรเ์ นยี ทใ่ี หผ้ เู้ ขา้ รว่ ม การวิจัยดูคลิปวิดีโอการสอนของพวกอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่ละคลิปยาว 2 วินาที แลว้ ใหค้ ะแนนการสอน คะแนนทพี่ วกเขาใหท้ �ำนายผลการประเมนิ ทพี่ วกนกั ศกึ ษาตวั จรงิ ในวชิ านนั้ จะให้คะแนนอาจารยผ์ ้สู อนตอนปลายภาคได้อยา่ งแมน่ ย�ำ นักวิจัยรายงานว่า 116 คนเราใชเ้ วลาไมเ่ กนิ 6 วนิ าที ก็สมั ผสั ไดถ้ ึงพลงั หรือความอบอ่นุ ของคนอน่ื ส่วนนกั วจิ ยั
อกี คนหนง่ึ ท�ำการศกึ ษาเปน็ เวลา 20 ปี โดยเอาภาพของใบหนา้ และวตั ถใุ หค้ นดอู ยา่ งรวดเรว็ งานให ่ญ... แค่ 1 ใน 5 ของวินาทีต่อภาพ และผู้คนใช้เวลา 1 ใน 4 ของวินาทีก็ประเมินผลใบหน้า และภาพออกมาได้ เน่อื งจากเสน้ ทางท่ีเชือ่ มระหวา่ งตากบั ศูนย์ควบคุมการตอบสนอง ทางอารมณ์อย่างรวดเร็วในสมองอ้อมผ่านเปลือกสมองซ่ึงเป็นบริเวณท่ีการคิดเกิดข้ึน จึงเห็นได้ชัดว่ามนุษย์จะรู้สึกก่อนที่จะวิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้รับเสียอีก เพราะเวลาเจอ คนแปลกหน้า บรรพบุรษุ ของเราต้องตัดสนิ ใจเลือกว่าจะท�ำอะไรทนั ทีในเรอื่ งทคี่ อขาด บาดตาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ดูเหมือนเรามี “ลางสังหรณ์” ว่าจะมีอะไร บางอย่างเกิดข้ึนเวลาเจอคนหน้าใหม่ ถ้าตั้งเป้าหมายว่า เราจะเคารพและไว้ใจกัน เหมือนท่ีอยากให้ครูกับนักเรียนเป็นอย่างน้ัน การที่ครูซึ่งเป็นคนแปลกหน้ามาเริ่ม การสนทนาโดยบอกวา่ นกั เรียนจะท�ำอะไรได้หรือไมไ่ ด้ จึงอาจไม่ใช่ทางเลือกท่ีดที ี่สดุ คุณคงเคยได้ยนิ ค�ำพดู ท่ีว่า วันแรกของชั้นเรียนจะก�ำหนดจังหวะก้าวของเวลา ทเ่ี หลอื ทงั้ ปี ฉนั ไดย้ นิ พวกครทู ม่ี ปี ระสบการณพ์ ดู (และฉนั เหน็ ดว้ ย) วา่ เปน็ ไปไดท้ ว่ี นั แรก กับวันสุดท้ายของช้ันเรียนจะวุ่นวายไร้ระเบียบพอๆ กัน ฉะนั้น ในวันแรก ให้เน้นที่ยึด ความสนใจของนักเรียนไว้ให้ได้ในขณะที่สมองของพวกเขาก�ำลังกระตือรือร้นท�ำงาน เกินขีด ยึดให้ดีๆ แล้วมุ่งเน้นการสร้างห้องเรียนให้มีพฤติกรรมท่ีดีเป็นบรรทัดฐาน เพราะคุณจะมีเวลาคุยเร่ืองกฎอีกมากมายในภายหลัง ในบทท่ี 6 เราจะพิจารณา โดยละเอยี ดถงึ เรอื่ งการสรา้ งกฎทใี่ ชก้ ารไดแ้ ละแนวทางปฏบิ ตั ขิ องระเบยี บวนิ ยั แตเ่ รอื่ ง พวกนั้นยังไม่เร่งด่วนในตอนน้ี จึงขอท้ิงไว้ก่อน อันดับแรก เราต้องการแผนส�ำหรับจัด ระเบียบงานเอกสารท่ีกองท่วมหัวในห้องเรียนทุกห้อง แม้แต่ในสังคมของเราที่อ้างว่า ก�ำลังมุ่งหน้าไปสู่สภาพ “ไรก้ ระดาษ” เตรยี มงานเอกสาร ตอนนหี้ อ้ งเรยี นดดู ี มกี ลน่ิ หอม อปุ กรณก์ ารเรยี นเกบ็ เขา้ ทปี่ ลอดภยั โตะ๊ นกั เรยี นจดั ไว้ 117 เป็นระเบียบดีให้คุณเข้าถึงเด็กๆ ท่ีน่ารักแต่ละคน ซ่ึงในไม่ช้าจะเข้ามาน่ังตรงนั้น พวกเขาจะมองหาความรกู้ ับแรงบนั ดาลใจจากคุณ และตอนน้ี กถ็ ึงเวลาจดั ระเบยี บ งานเอกสารกับเตรียมการต้อนรับนกั เรียน
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด ปัญหาเร่อื งงานเอกสารท่ที ว่ มท้นอาจท�ำใหค้ รูท่ไี ร้ระเบียบรูส้ ึกเหมอื นคนก�ำลัง จมน�้ำ แต่ถ้าออกแบบระบบแฟ้มให้ดี ก็จะป้องกันปัญหาได้ แถมยังช่วยปรับปรุง ประสทิ ธภิ าพและประหยดั เวลาไดห้ ลายชวั่ โมง สถานการณเ์ ฉพาะแตล่ ะอยา่ งจะชแี้ นวทาง ให้คุณ และฉันขอเสนอเทคนิคที่ตวั เองใชไ้ ดผ้ ลมาแล้ว ถาดใส่เอกสารขนาดใหญ่ วางถาดใสเ่ อกสารทใี่ หญพ่ อจะใส่กระดาษไดอ้ ย่างน้อยที่สดุ 100 แผน่ หรือรายงาน ของนักเรียน 30 ชุด หรือแฟ้มข้อมูล 30 อัน แล้วบอกนักเรียนให้วางของทุกอย่าง ทสี่ ง่ ครลู งในถาด ไมใ่ ชว่ างบนโตะ๊ บนเกา้ อี้ หรอื บนตใู้ สเ่ อกสาร (และถา้ มขี องชน้ิ ใหญ่ เกนิ ไปจนใสล่ งถาดไมไ่ ด้ ใหเ้ อามาสง่ ครดู ว้ ยตวั เอง) คณุ ตอ้ งบงั คบั ใชน้ โยบายนอ้ี ยา่ ง เข้มงวด ถ้านักเรยี นยา้ ยของจากถาด รวมทง้ั งานเอกสารหรือแฟม้ ข้อมูลของตวั เอง จะถือเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎของห้อง ถ้าจะเอาของบางอย่างออกจากถาด ต้องขอให้ครูช่วย เพ่ือคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของนักเรียนคนอื่น และหลีกเล่ียง การวางของผิดที่ ซึ่งจะท�ำให้ข้าวของกระจัดกระจายไร้ระเบียบ หรือท�ำให้เอกสาร หายไป ตอนทา้ ยของแต่ละชัว่ โมงหรอื คาบใหร้ วบรวมรายงานทุกช้ินจากถาดน�ำไป เกบ็ ในแฟม้ ทแี่ ยกประเภทตามรหสั สตี า่ งๆ ใหถ้ กู ตอ้ ง จนกวา่ คณุ จะมโี อกาสจดั รายงาน ใหเ้ ปน็ ระเบียบหรือตรวจใหค้ ะแนน แฟม้ บทเรยี นประจ�ำ วนั ใชแ้ ฟ้มสสี นั สดใสหนง่ึ อนั ส�ำหรับแต่ละช่วั โมงหรอื แตล่ ะวชิ า ในแฟ้มมีแผนการสอน ประจ�ำวัน การบา้ นที่ตอ้ งใหค้ ะแนน รายงานท่ีใหค้ ะแนนไปแล้ว และโนต้ ส่วนตัวให้ นกั เรียน ถ้าตอ้ งเอางานกลับไปตรวจทบี่ า้ น ใหใ้ สไ่ ว้ในแฟ้มน้ี (ถา้ สอนหลายชน้ั หรอื หลายวิชา ใหเ้ อาแฟม้ ทั้งหมดใสใ่ นแฟม้ สันห่วงทใี่ ช้เพือ่ การนโ้ี ดยเฉพาะ) พอตรวจ งานเสรจ็ แลว้ ใหเ้ อากลบั ไปใสแ่ ฟม้ แลว้ เตมิ แผนการสอนหรอื ประเดน็ ส�ำคญั ๆ ส�ำหรบั 118 วนั ถดั ไปใสล่ งในแฟม้ เพยี งเทา่ นค้ี ณุ กม็ ที กุ อยา่ งรวมไวใ้ นทเ่ี ดยี วกนั ท�ำใหห้ ยบิ ใชง้ า่ ย
แผนฉกุ เฉนิ งานให ่ญ... อุบัติเหตุและความเจ็บป่วยเกิดข้ึนได้เสมอ เช่นเดียวกับไฟไหม้ แผ่นดินไหว และ ภยั อนั ตรายอน่ื ๆ โรงเรยี นจะมขี นั้ ตอนการปฏบิ ตั แิ ละค�ำสงั่ ส�ำหรบั เหตฉุ กุ เฉนิ ทท่ี กุ คน ตอ้ งท�ำตามเวลา มกี ารซ้อมรบั เหตฉุ ุกเฉนิ หรือการอพยพคนออกจากโรงเรยี น ให้เอา ข้อมลู พวกน้ใี สใ่ นแฟม้ 3 หว่ ง ทม่ี ีซองเอกสารอยู่ด้านข้าง และมที เ่ี หนบ็ ปากกาหรือ ดินสอ ใสใ่ บรายชอ่ื นกั เรยี นพรอ้ มขอ้ มลู เมอ่ื ต้องการติดต่อคุณ (ท่ีอยู่ เบอรโ์ ทรศพั ท์ และชอื่ กบั เบอรโ์ ทรศพั ท์ของญาติหรอื เพื่อนคุณ) ไวใ้ นแฟ้มดว้ ย พอเกดิ เหตุฉุกเฉนิ หรอื มปี ระกาศใหไ้ ปฝกึ ซอ้ ม กฉ็ วยแฟม้ นไี้ ปพรอ้ มกบั น�ำนกั เรยี นไปอยใู่ นทที่ ปี่ ลอดภยั และในกรณีทคี่ ณุ ถกู เรียกตวั ไปท่ีอน่ื โดยไม่มกี ารแจ้งลว่ งหน้า หวั หน้าของคณุ จะหา ข้อมูลเพอ่ื ติดต่อกบั ครอบครวั หรอื เพ่อื นๆ ของคุณไดอ้ ย่างง่ายดาย หรอื เอาแฟ้มนั้น ให้ครทู ม่ี าสอนแทน แฟ้มขอ้ มูลยอ่ ย แฟ้มข้อมูลย่อยจะเอาไว้ใช้เวลาคุณต้องขาดงานกะทันหัน ให้ท�ำแฟ้มข้อมูลท่ีมี ใบรายชอื่ นกั เรยี นกบั แผนการสอนฉบบั เตม็ ส�ำหรบั 3 วนั ทเี่ นน้ วชิ าของคณุ และบทสรปุ เรื่องทักษะกับข้อมูลส�ำคัญๆ เพ่ือไม่ให้การเรียนรู้ของนักเรียนหยุดชะงัก ถ้ารู้ตัว ล่วงหน้าว่าจะลา คุณอาจจะเลือกแผนการสอนต่อจากบทท่ีก�ำลังสอนอยู่ พร้อม กจิ กรรมประกอบบทเรยี น แตข่ อใหร้ ะวงั ว่า ไมใ่ ชว่ ่าครสู อนแทนทกุ คนจะมคี ุณภาพ เท่ากัน บางคนจะท�ำตามค�ำสั่งของคณุ ตามตัวอกั ษรเป๊ะๆ แตบ่ างคนไม่ท�ำอะไรเลย หรือที่แยไ่ ปกว่าน้นั คอื ท�ำแผนการสอนของตวั เองขน้ึ มา คร้ังหนึ่งที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ฉันเข้ามาที่โรงเรียนในเย็นวันหนึ่ง เพ่ือเขียน รายละเอยี ดในแผนการสอนวชิ าภาษาองั กฤษส�ำหรบั นกั เรยี นเกรด 9 ทม่ี ปี ญั หาการอา่ น ซ่ึงก�ำลังอ่านเรื่องโรเมโอกับจูเลียต พวกที่ไม่เต็มใจอ่านยอมอ่านเร่ืองน้ีเพียงเพราะฉัน สัญญาว่า พออา่ นจบแล้วจะให้ชมภาพยนตรต์ อ่ จากนน้ั ฉันกส็ ง่ งานให้ครทู ม่ี าสอนแทน ท�ำตอ่ โดยบอกวา่ ตอ้ งใหน้ กั เรยี นอา่ นหนา้ ไหนบา้ ง ใหท้ งั้ ใบงาน งานเขยี นบนั ทกึ ประจ�ำวนั 119
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด และใบทบทวนงาน ฉันเจาะจงว่า อยา่ ใหน้ ักเรียนชมภาพยนตร์จนกว่าจะอา่ นละครจบ ทง้ั เรอ่ื ง พอกลบั มาหลงั จากหยดุ ไป 3 วนั กพ็ บวา่ ครสู อนแทนไมใ่ สใ่ จแผนการสอนของฉนั แถมให้นักเรียนชมภาพยนตรต์ ้งั แตว่ ันแรกที่มาสอน แล้วสองวันตอ่ มากจ็ ดั การอภปิ ราย และไม่ใช้ใบงาน ไมใ่ หน้ ักเรียนเขยี นบนั ทึกประจ�ำวนั พอฉนั บ่นเร่อื งน้ี เธอกต็ ่อต้านโดย บอกวา่ ฉนั “ควบคมุ นกั เรยี นมากเกนิ ไป” และเธอควรมสี ทิ ธอิ์ อกแบบบทเรยี นเองเวลา มาสอนแทนถึงแม้จะไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู และเอกทางวิทยาศาสตร์มา ไม่ใช่ทาง ภาษา ตอ่ มา ฉนั จงึ ท�ำชดุ บทเรยี นอสิ ระทใี่ หน้ กั เรยี นฝกึ ทกั ษะส�ำคญั ๆ ได้ โดยไมจ่ �ำเปน็ ต้องท�ำไปพร้อมกับบทเรียนท่ีก�ำลังสอนอยู่ เวลามีครูมาสอนแทนซึ่งฉันไม่คุ้นเคย หรือ ฉันถูกเรยี กตัวไปกะทันหนั นักเรยี นจะได้ไมอ่ อกนอกลู่นอกทาง หรอื เบ่อื หนา่ ยกับงานที่ ไร้ประโยชน์ พดู ถงึ เรอื่ งครสู อนแทน ขอใหร้ วู้ า่ มบี างโรงเรยี นอนญุ าตใหค้ รรู ะบชุ อื่ ครสู อนแทน ไดเ้ ลย ฉะนน้ั ถา้ เจอครสู อนแทนดๆี ใหข้ อเบอรโ์ ทรศพั ทเ์ อาไว้ เผอ่ื จะไดต้ ดิ ตอ่ ใหม้ าแทน ตอนท่รี ู้วา่ ตวั เองจะตอ้ งลา การมคี รูสอนแทนสกั คนสองคนทีม่ าเปน็ ประจ�ำได้ จะเปน็ ประโยชนม์ ากจรงิ ๆ เพราะนกั เรยี นจะสนกุ กบั การเจอคนทต่ี วั เองคนุ้ เคย และมกั จะท�ำตวั ดขี นึ้ กบั คนทตี่ วั เองชอบและไวใ้ จ สว่ นคณุ เองกส็ บายใจได้ เมอื่ รวู้ า่ นกั เรยี นจะไมเ่ สยี เวลา ตอนตัวเองไม่อยู่ ขอใหต้ ระหนักว่า ถ้าสอนนักเรียนทีไ่ มม่ ่นั คงทางอารมณ์ พวกเขาอาจจะท�ำตวั ไมด่ เี วลาคณุ ไมอ่ ยู่ แมจ้ ะมคี รสู อนแทนทย่ี อดเยย่ี ม และแมต้ ามปกตพิ วกเขาจะประพฤติ ตัวดี แทนทจ่ี ะลงโทษนักเรยี นพวกน้ันอยา่ งรุนแรงเวลาคุณกลับมา คณุ อาจจะพจิ ารณา จัดการอภิปราย โดยขอให้บรรยายความรู้สึกและความคดิ ของตวั เองว่า ท�ำไมจงึ ท�ำตัว ไมด่ เี วลาคุณไม่อยู่ และตกั เตอื นวา่ ความประพฤติของนักเรียนจะสะท้อนว่าคณุ เปน็ ครู แบบไหน และคุณภูมใิ จมากเวลานกั เรยี นท�ำตัวดๆี กับครูสอนแทน ให้แนะน�ำทางเลือก ส�ำหรบั พฤตกิ รรมเชงิ บวกทนี่ กั เรยี นจะท�ำไดห้ ากเครยี ดหรอื หงดุ หงดิ ทค่ี ณุ ไมอ่ ยู่ โดยอาจจะ ขอไปพบครูทป่ี รกึ ษา โคช้ เลขา ครู หรือผ้บู ริหารท่ีตวั เองคุ้นเคย สกั ช่วั ครู่ (คุณอาจจะ อยากพดู เรอื่ งนกี้ บั เจา้ หนา้ ทเี่ กย่ี วขอ้ งซงึ่ เปน็ ผใู้ หญ่ เพอ่ื ใหพ้ วกเขาเตรยี มตวั รบั สถานการณ)์ อาจใหน้ ักเรยี นเขยี นโน้ตถงึ คณุ หรือเขยี นลงในบันทกึ ประจ�ำวนั ของตวั เองก็ได้ นักเรียน 120 อาจจะเสนอตวั ช่วยครสู อนแทน เช่น ช่วยเชค็ ช่ือคนเข้าเรียน ลบกระดาน หรือชว่ ยแจก
รายงาน แนน่ อน ถา้ นกั เรยี นบางคนยงั ไมเ่ คารพครสู อนแทนอยดู่ หี ลงั จากคยุ กบั คณุ แลว้ งานให ่ญ... ก็ต้องถูกลงโทษ แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรม เช่น ไม่ใช่แค่ลงโทษอย่างเดียว แต่ตอ้ งเขียนจดหมายขอโทษครูสอนแทนด้วย แฟม้ บทเรยี นสนุกๆ ใหค้ น้ ควา้ หาตวั อยา่ งบทเรยี นสน้ั ๆ ทส่ี นกุ ใหค้ วามบนั เทงิ ทา้ ทาย เชน่ การทดสอบ ความรรู้ อบตวั เกมลบั สมอง ทายปญั หาอะไรเอย่ เกมค�ำศพั ท์ และการทดสอบไอควิ ซ่ึงเปน็ กจิ กรรมยอดนิยมส�ำหรับนักเรยี นทกุ วยั วนั ไหน นักเรยี นเรียนได้เร็วเกินคาด ท�ำตวั ดเี ยย่ี ม หรอื ท�ำใหค้ ณุ ภมู ใิ จ กข็ อใหใ้ ชเ้ วลาไมก่ น่ี าทตี อนทา้ ยชวั่ โมงหรอื ทา้ ยวนั ให้รางวัลนักเรียนด้วยการเรียนสนุกๆ ร้านหนังสือทุกแห่งมีแผนกหนังสือเกมหรือ ปริศนาประเทืองปัญญา คุณอาจจะคิดขึ้นมาเองก็ได้ หรือไปหาข้อแนะน�ำใน อนิ เทอร์เน็ตหรอื ดูภาคผนวกของหนังสือเล่มน้ี แฟ้มงานชดเชย ซ้ือแฟม้ ทมี่ ีใบคั่นเรยี งตามตวั อักษร แล้วเขียนค�ำว่า “แฟม้ งานชดเชย” ด้วยตวั หนา ขนาดใหญไ่ วท้ งั้ สองดา้ น ถา้ สอนมากกวา่ หนง่ึ กลมุ่ ตอ้ งแยกแฟม้ ของแตล่ ะชนั้ เวลา แจกงานเอกสารหรอื การบ้านทุกคร้งั ใหใ้ ชด้ นิ สอเขียนช่ือของเดก็ ที่ขาดเรียนในวันที่ ใหง้ านนนั้ แลว้ ใสไ่ วใ้ นแฟม้ ตามตวั อกั ษร พอสอนครบตามเนอ้ื หาในต�ำราของวนั นนั้ ให้เขียนบันทึกส้ันๆ ว่าสอนอะไรไปบ้าง และท�ำส�ำเนาบันทึกให้คนที่ขาดเรียน พอนกั เรยี นกลบั มา กม็ งี านทตี่ วั เองยงั ไมไ่ ดท้ �ำรออยแู่ ลว้ ท�ำใหค้ ณุ ประหยดั เวลา ไมต่ อ้ ง เสียเวลาไปค้นส�ำเนาและอธิบายซ้�ำว่า คนท่ีขาดเรียนต้องไปอ่านอะไรบ้างเพ่ือตาม เพ่ือนใหท้ นั พวกนักเรียนช้ันประถมอาจจะต้องการให้ชว่ ยเตือนวา่ ต้องไปรบั รายงาน และ ต้องการความช่วยเหลือเวลาท�ำการบ้าน แต่น่าจะคาดหวังได้ว่า พวกนักเรียนโตๆ จะ มาเอาการบ้านเองและท�ำจนเสร็จ บอกนักเรยี นใหช้ ดั เจนว่า ต้องรบั ผดิ ชอบท�ำงานของ ชว่ งทขี่ าดเรยี นไป แมค้ ณุ จะยนิ ดตี อบค�ำถามหรอื แนะน�ำแหลง่ ขอ้ มลู หรอื ความชว่ ยเหลอื 121
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด บตั รอนญุ าตท่ีกรอกขอ้ ความลว่ งหนา้ ให้กรอกข้อมูลพื้นฐาน (หมายเลขห้อง จุดหมาย และค�ำสั่งเฉพาะ) ในบัตรอนุญาต ไปห้องสมดุ ไปนอกหอ้ ง และไปห้องน้ำ� แต่อยา่ เพ่ิงเซน็ ชื่อในบัตรอนญุ าต และต้อง แน่ใจว่าได้นับจ�ำนวนไว้แล้ว เพ่ือไม่ให้นักเรียนขโมยไปใช้ พอเสร็จแล้วก็เก็บบัตร อนุญาตไว้ หรอื ลอ็ กไวใ้ นแฟม้ พร้อมกบั แบบฟอร์มนับจ�ำนวนที่แสดงวา่ คณุ ใหบ้ ตั ร นักเรียนไปก่ีใบแล้ว เวลาจ�ำเป็นตอ้ งสง่ นกั เรียนออกจากหอ้ ง จะได้ไมเ่ สยี เวลาไปกับ การกรอกบตั รอนญุ าต ฉนั มกั จะใหน้ กั เรยี นกรอกชอ่ื กบั วนั ที่ แลว้ ฉนั จะเซน็ ชอื่ ในบตั ร ถ้าใช้ระบบน้ี คุณจะไม่ต้องหยุดสอน ไปหาบัตร แล้วให้ทุกคนคอยตอนคุณกรอก ข้อความกับเซ็นช่ือ สำ�เนาใบรายช่อื นักเรียน ทันทีท่ีได้ตัวจริงมา ให้ท�ำส�ำเนาใบรายช่ือนักเรียนเผ่ือไว้สัก 3-4 ชุด เพื่อเอามาท�ำ บนั ทกึ เวลาใหร้ างวลั เชค็ ชอ่ื เขา้ เรยี น ท�ำแผนผงั ทน่ี งั่ จดั ทมี ส�ำหรบั โครงการกลมุ่ วนั เกดิ ทัศนศึกษา ซอ้ มรบั เหตุไฟไหม้ และเวลาอื่นๆ ทต่ี อ้ งใชบ้ ัญชีรายชือ่ นกั เรียน ฉันเอา ส�ำเนาใบรายชอื่ นกั เรยี นกลับบ้านด้วยเวลาท�ำบทเรยี น เชน่ ท�ำใบงานค�ำศพั ท์ หรอื ออกข้อสอบย่อย จะได้เอาชื่อนักเรียนไปใส่ในประโยค นักเรียนจะเงยหน้าและย้ิม เวลาอ่านประโยคที่มีช่ือตัวเองหรือชื่อเพื่อน (อย่าลืมขีดช่ือที่ใช้แล้วออก และใช้ช่ือ ทกุ คนอยา่ งนอ้ ยทสี่ ดุ หนง่ึ ครงั้ เพอ่ื ไมใ่ หน้ กั เรยี นเสยี ใจ หรอื คดิ วา่ ครมู นี กั เรยี นคนโปรด) ลังใสแ่ ฟม้ ข้อมูลนกั เรยี น ลงั ใสแ่ ฟม้ เปน็ ตวั ชว่ ยประหยดั เวลาและจดั ระเบยี บเอกสารทเี่ ปน็ ของโปรดตลอดกาล ของฉนั ฉนั ซอื้ ลงั พลาสตกิ หลายสไี วใ้ สแ่ ฟม้ ส�ำหรบั แตล่ ะชนั้ และตดิ ปา้ ยแฟม้ ส�ำหรบั นกั เรยี นแตล่ ะคนแยกตามชนั้ เรยี น ฉนั ใชแ้ ฟม้ สตี า่ งกนั ส�ำหรบั แตล่ ะชน้ั หรอื เปน็ แฟม้ 122 ทตี่ ดั ตรงมมุ บนแลว้ มสี ว่ นยน่ื ขน้ึ มาไวต้ ดิ ปา้ ยชอ่ื แฟม้ ซงึ่ เปน็ แบบเดยี วกนั เชน่ ตดั ตรง
มุมซ้ายบน 1 ใน 3 สว่ นของความยาวแฟ้ม จะไดห้ าง่ายและจบั คู่แฟม้ ให้ถูกต้องกับ งานให ่ญ... ลังใส่แฟ้ม ถ้าหาแฟ้มสีไม่ได้และต้องใช้แฟ้มมะนิลาทั้งหมด ฉันจะใช้ปากกาเมจิก ระบายสตี รงทตี่ ดิ ปา้ ยชอ่ื แฟม้ เชน่ สแี ดงส�ำหรบั คาบหนงึ่ และสนี ำ้� เงนิ ส�ำหรบั อกี คาบ ฯลฯ (หมายเหต:ุ ตอนเรมิ่ ตน้ ปกี ารศกึ ษา แฟม้ จะบาง ฉะนน้ั คณุ อาจจะเลอื กเกบ็ แฟม้ ของนกั เรยี น 2-3 กลมุ่ ในลงั เดียวกนั กไ็ ด้ แลว้ พอแฟม้ หนาข้นึ กค็ อ่ ยถา่ ยออกไปใส่ ลังใหม่) ฉันเอาชื่อจากใบรายชอื่ นกั เรียน มาเขยี นดว้ ยดินสอเบาๆ บนป้ายช่อื แฟ้ม และ เก็บแฟ้มเปลา่ ไว้ 2-3 อนั เผื่อจะมีนักเรยี นใหม่ยา้ ยเข้ามาภายหลงั ในช่วงวนั แรกๆ ของ ทกุ เทอม ฉนั จะแจกแฟม้ ใหน้ กั เรยี นเมอ่ื เขา้ นงั่ ประจ�ำทแ่ี ลว้ เรม่ิ ท�ำกจิ กรรมแรกของวนั นนั้ ฉนั จะดคู รา่ วๆ วา่ ใครขาดเรยี นบา้ ง แลว้ เอาแฟม้ ของคนทไ่ี มม่ าไปวางไวบ้ นแทน่ ยนื สอน จะไดส้ อดส�ำเนาของเอกสารประกอบบทเรยี น หรอื งานทใ่ี หน้ กั เรยี นไปอา่ นส�ำหรบั คาบนนั้ ใส่ในแฟ้มข้อมูลส่วนตัว ซ่ึงจะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้วิธีจัดระเบียบงานของตัวเอง และ หาของทตี่ อ้ งอา่ นกอ่ นสอบไดง้ า่ ยขนึ้ เพราะแฟม้ นเี้ ปน็ ของสว่ นตวั นกั เรยี นจงึ ชอบตกแตง่ ใหส้ วยงาม ฉนั อนญุ าตใหว้ าดภาพหรอื เขยี นอะไรกไ็ ดท้ ช่ี อบบนปกแฟม้ ค�ำและสญั ลกั ษณ์ ทห่ี ยาบคาย อนาจาร แสดงความเกลียดชัง หรอื เก่ยี วกบั แกง๊ แต่ครูบางคนห้ามตกแต่ง แฟม้ อยา่ งเด็ดขาด เพราะอยากใหด้ เู ป็นทางการ ตอนเริ่มสอนในแต่ละห้อง ฉันจะแจกแฟ้มท่ีใช้ในวันนั้น จึงรู้ได้ทันทีว่าใคร ขาดเรยี นบา้ ง และระหวา่ งที่สอน ฉนั ก็เอาใบงานหรอื การบ้านใสเ่ ข้าไปในแฟ้มของพวก ทขี่ าดเรยี น พอนกั เรียนกลับมา ก็มงี านทุกชน้ิ คอยอยูใ่ นแฟม้ ตัวเองแล้ว พอฉนั สง่ การบา้ นหรอื งานคนื ไป นกั เรยี นกม็ ที างเลอื กวา่ จะเอางานทไี่ ดค้ ะแนนแลว้ ไปใหพ้ อ่ แมด่ ู หรอื จะเกบ็ ไวใ้ นแฟม้ ของตวั เองกไ็ ด้ ฉนั มกั แนะน�ำใหน้ กั เรยี นเกบ็ การบา้ น ส�ำคัญๆ ข้อสอบย่อยและข้อสอบใหญ่ไว้ในแฟ้มข้อมูลเสมอ เพ่ือเป็นหลักฐานอ้างอิง ในอนาคตและเปน็ บนั ทกึ เผอื่ มคี �ำถามเกยี่ วกบั บตั รรายงานผลการเรยี น นกั เรยี นบางคน เอางานเอกสารกลับบ้าน และจดบันทึกของตัวเองไว้ แต่หลายคน (และพ่อแม่) ไม่มี ระเบียบ จึงท�ำของทุกอยา่ งท่ีครใู หห้ ายไปหมด 123
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด แฟม้ ข้อมูลพฤตกิ รรมไม่เหมาะสมในกรณีฉุกเฉนิ ตามปกติ นกั เรยี นจะคอยจนผา่ นไปหลายวนั กวา่ จะกลายเปน็ ตวั ปว่ นจรงิ ๆ แตบ่ างครงั้ คุณจะมีพวกทีท่ �ำอะไรไดด้ ีเกนิ กว่าระดับสติปญั ญาของตวั เองท่ตี ัดสินใจวา่ ช่วง 2-3 วนั แรกของการเปิดเทอมเปน็ เวลาทีเ่ หมาะทจี่ ะท�ำตวั บา้ ฉันหมายถงึ ในกรณรี า้ ยแรง ที่ไมอ่ าจจัดการไดด้ ว้ ยการพาออกไปคุยเป็นการสว่ นตวั ตรงทางเดนิ หนา้ หอ้ ง เพราะ นักเรียนท�ำร้ายหรือขู่จะท�ำร้ายครูหรือนักเรียนคนอื่นจริงๆ คุณจึงต้องย้ายนักเรียน ที่คุมไม่อยู่ออกไป โดยให้สูญเสียเวลาอันมีค่าของช้ันเรียนให้น้อยท่ีสุด และส่ือสาร อย่างชัดเจนกับนักเรียนคนอื่นๆ ว่าคุณจะไม่ทนกับพฤติกรรมก้าวร้าวแม้เพียง หน่งึ นาทีในห้องเรียน ถ้าคุณเตรียมแฟ้มพฤติกรรมไม่เหมาะสมในกรณีฉุกเฉินไว้ ตง้ั แตก่ ่อนเปดิ เทอมแลว้ ใหก้ รอกขอ้ ความทกุ อยา่ งทกี่ รอกลว่ งหนา้ ได้ ลงในแบบฟอรม์ การสง่ ตอ่ กรณมี ี ปัญหาด้านระเบียบวินัยไว้สัก 1-2 ใบ ยกเว้นช่องวันที่กับชื่อนักเรียน ในส่วนบรรยาย เหตกุ ารณใ์ หเ้ ขยี นวา่ “นกั เรยี นกอ่ กวนชนั้ เรยี น ขดั จงั หวะการสอนของครู และท�ำใหค้ นอนื่ เรยี นไมไ่ ด้ แลว้ รายละเอยี ดทงั้ หมดจะสง่ ตามมาใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ เทา่ ทจี่ ะท�ำได้ ตอนนขี้ อประชมุ ตัวนักเรียนกับครูใหญ่และครู ก่อนจะให้นักเรยี นกลบั ไปเรียนได้” ใส่แบบฟอร์มที่กรอกข้อมูลบางส่วนแล้วไว้ในแฟ้มท่ีติดป้าย “พฤติกรรมไม่ เหมาะสม” เพื่อจะหยิบมาใช้ได้ทันทีท่ีเห็นสัญญาณอันแรกว่าก�ำลังจะเกิดการก่อกวน ทรี่ า้ ยแรง ครง้ั แรกทด่ี งึ แฟม้ นนั้ ออกมา ใหห้ ยบิ แบบฟอรม์ ขนึ้ มา แลว้ บอกนกั เรยี นทที่ �ำตวั นา่ รงั เกยี จใหเ้ กบ็ ของ นกั เรยี นคนอน่ื ๆ จะเขา้ ใจทนั ทวี า่ คณุ เตรยี มตวั มาดแี ละถอื การสอน เป็นเรอ่ื งจรงิ จงั ครูใหญจ่ ะตอ้ งการรายละเอยี ดเฉพาะ และคุณจะต้องติดตามเหตุการณ์ ท่ีเกิดขึ้น แต่ถ้ามีแบบฟอร์มที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะย้าย นักเรียนท่ีก่อปัญหาออกจากห้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาท่ี รุนแรงมากข้ึน และคุณควบคุมชั้นเรียนได้โดยไม่เสียเวลาหรือเสียหน้า เพราะไม่ต้อง เข้าไปยุง่ กับการโตเ้ ถียงทีย่ ืดยาว 124
งานส�ำ หรบั คนไม่สุภาพ ถ้าคุณสอนนักเรียนที่โตพอจะไปห้องสมุดของโรงเรียนได้เองโดยไม่ต้องมีคนน�ำไป ใหต้ ดิ ปา้ ยชอื่ แฟม้ วา่ “งานส�ำหรบั คนไมส่ ภุ าพ” แลว้ ใสบ่ ทเรยี นไวใ้ นแฟม้ สกั 5-6 บท ท่ีท้าทายและเป็นเนื้อหาในวิชาของคุณ จากนั้นให้ไปพบบรรณารักษ์และแจ้งว่า บางครงั้ คณุ อาจจะสง่ นกั เรยี นมาท�ำงานอสิ ระ แตไ่ มไ่ ดค้ าดหวงั วา่ บรรณารกั ษจ์ ะตอ้ ง ทนกบั พฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม แลว้ กรอกบตั รอนญุ าตเขา้ หอ้ งสมดุ ทกุ ชอ่ ง ยกเวน้ วนั ที่ งานให ่ญ... กับช่ือนกั เรยี น และเขยี นวา่ “เวลาเรียนของคนไมส่ ุภาพ” บนบตั รอนุญาต เอาแฟ้ม ไปเก็บไว้ และหวงั ว่าจะไมต่ อ้ งใช้ แตถ่ า้ วนั นนั้ มาถงึ เมอื่ มนี กั เรยี นคนหนงึ่ ประพฤตติ วั ไมด่ ซี ำ�้ ซากเพอื่ ใหค้ ณุ ฉนุ จดั จนฟวิ สข์ าด หรอื มนี กั เรยี นขโ้ี กงทช่ี อบยแุ หยใ่ หค้ นอน่ื ท�ำตวั ไมด่ ี เปน็ คนทพ่ี อ่ แมพ่ ยายาม สั่งสอนให้ท�ำตัวน่านับถือในห้อง แต่สอนเท่าไหร่ก็ไม่จ�ำ หรือมีนักเรียนท่ีจะท�ำตัวให้ สุภาพก็ได้ แต่จงใจเมินเฉยกับค�ำขอของคุณ แสดงว่าคุณมีนักเรียนที่หยาบคายอยู่ใน หอ้ งแล้ว อย่าเถียงหรือเตือนนักเรียนท่ีหยาบคายพวกน้ี แค่เลือกบทเรียนท่ีเหมาะสม ในแฟ้ม และเอางานอื่นๆ ออก สง่ แฟม้ ทเี่ ขียนวา่ “งานส�ำหรับคนไม่สภุ าพ” ให้ แม้เขา จะแกล้งท�ำเป็นว่าป้ายช่ือแฟ้มเป็นเร่ืองตลก ก็ปล่อยไป เอาบัตรอนุญาตเข้าห้องสมุด ใหแ้ ละบอกวา่ นกั เรยี นตอ้ งเอาบตั รอนญุ าตมาคนื พรอ้ มงานทที่ �ำเสรจ็ แลว้ กอ่ นหมดคาบ ของวิชานั้นประมาณ 1 นาที และอธบิ ายวา่ ถ้าไม่กลับมาตอนหมดคาบ ครูมีหน้าท่ีจะ ต้องรายงานว่า นักเรียนขาดเรียนในคาบน้ัน และจะต้องถูกลงโทษตามที่ก�ำหนดไว้ใน ระเบยี บวนิ ยั ของโรงเรยี นตอ่ ไป จากนน้ั ใหพ้ านกั เรยี นไปสง่ ทป่ี ระตหู อ้ ง โบกมอื ลา แลว้ ปดิ ประตอู ย่างหนักแนน่ พอนกั เรยี นกลบั มาพรอ้ มงานทที่ �ำเสรจ็ แลว้ ใหก้ ลา่ วขอบใจและบอกวา่ ครหู วงั วา่ นักเรียนจะตัดสินใจควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง เพ่ือจะได้อยู่ในห้องต่อไปในอนาคต นักเรียนส่วนใหญ่จะเลิกพฤติกรรมก่อกวนถ้าไม่มีคนสนใจดูหรือฟัง เพราะตามปกติ พวกเขาท�ำงานเองไมไ่ ด้ แตถ่ า้ มเี ดก็ เกง่ ๆ ทที่ �ำงานไดค้ ะแนนสงู ๆ ดว้ ยตวั เอง และไมแ่ คร์ ทจ่ี ะถกู สง่ ตวั ไปท�ำงานคนเดยี ว คณุ กจ็ ะรวู้ า่ ทนี่ กั เรยี นท�ำตวั ไมเ่ หมาะสมกเ็ พราะเบอื่ หนา่ ย และคุณก็ตอ้ งสรา้ งบทเรียนที่ท้าทายใหก้ บั นักเรียนทขี่ ้ีเบื่อ 125
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด หมายเหตุ: ถ้านักเรียนไม่ยอมไปห้องสมุด หรือไม่ยอมรับแฟ้ม “งานส�ำหรับ คนไมส่ ภุ าพ” ให้เอาแฟม้ กลบั ไปไว้ในตเู้ อกสาร แล้วเอาแฟม้ “พฤติกรรมไม่เหมาะสม” ออกมา กรอกชื่อนักเรียนลงในแบบฟอร์มการส่งต่อ และโทรไปที่แผนกรักษาความ ปลอดภยั หรอื เดนิ ไปหอ้ งเรยี นทอ่ี ยตู่ ดิ กนั เพอื่ แจง้ เตอื นครใู นหอ้ งวา่ คณุ จะออกจากหอ้ ง ชวั่ ครู่ แลว้ พานกั เรยี นไปทแ่ี ผนกรกั ษาความปลอดภยั จากนน้ั ใหก้ ลบั ไปทหี่ อ้ งอยา่ งรวดเรว็ โดยไมข่ ดั จงั หวะหรอื คยุ เรอ่ื งนก้ี บั นกั เรยี นอนื่ ๆ ในหอ้ ง ถา้ ดเู หมอื นวา่ มใี ครก�ำลงั จะท�ำให้ ห้องปั่นป่วน ให้มองไปรอบห้องช้าๆ และพูดว่า “มีใครอยากออกไปจากห้องอีกบ้าง” ฉนั เดาวา่ ไมม่ ใี ครอยาก แตถ่ า้ มี กท็ �ำตามขน้ั ตอนเดมิ อกี ครง้ั (ดบู ทท่ี 6 เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั เทคนคิ การสรา้ งวนิ ยั และการสรา้ งสภาพแวดลอ้ มทไ่ี มเ่ ปดิ โอกาสใหพ้ ฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสมนกั ) สมดุ คะแนน สรา้ งระบบส�ำหรับสมุดคะแนน (เกบ็ สมดุ คะแนนไว้เป็นขอ้ มลู ส�ำรอง แมจ้ ะใชร้ ะบบ การใหค้ ะแนนดว้ ยคอมพวิ เตอร์ เพราะระบบล่มได้ และนกั เรียนบางคนเป็นนักเจาะ ระบบที่เก่งกาจ) อย่าเขียนอะไรลงในสมุดคะแนนในช่วง 2-3 วันแรก (หรือ 2-3 สปั ดาหแ์ รก ถา้ ท�ำงานในโรงเรยี นทไ่ี รร้ ะเบยี บ) ใหท้ �ำส�ำเนาหนา้ แรกของสมดุ คะแนน และใชส้ �ำเนาแผน่ นน้ั ตดิ ตามความกา้ วหนา้ ของนกั เรยี น จนกวา่ ฝา่ ยบรหิ ารจะจดั การ เรอ่ื งหอ้ งเรยี นเสรจ็ และไมม่ กี ารยา้ ยนกั เรยี นไปหอ้ งอน่ื อกี แลว้ สกั 2-3 สปั ดาห์ จากนน้ั กรอกช่ือนกั เรียนลงในสมดุ คะแนนเรยี งตามตวั อกั ษร และเรยี งชอื่ ตามนน้ั ลงในสมุด คะแนนในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เพื่อให้นักเรียนหมายเลข 1 และ 15 ตรงกันในสมุด ทั้งสองเลม่ ซงึ่ จะชว่ ยประหยดั เวลาได้ในภายหลงั ถ้าใชค้ วามคิดสรา้ งสรรคห์ นอ่ ย คณุ จะออกแบบระบบใหส้ มุดคะแนนท�ำหน้าที่ เปน็ บนั ทึกการเขา้ เรยี น การมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม และความพยายามพเิ ศษ รวมทั้งเปน็ บันทึกของงานที่ครูจะให้คะแนนได้ เช่น ถ้านักเรียนขาดเรียน ก็อาจจะท�ำเครื่องหมาย ดว้ ยหมกึ สแี ดงในชอ่ งงานเฉพาะทค่ี รจู ะใหค้ ะแนน เพอื่ ใหด้ ปู ราดเดยี วกร็ วู้ า่ ใครขาดเรยี น ในวนั ทใ่ี หง้ านนน้ั (นกั เรยี นบางคนจะอา้ งวา่ ขาดเรยี น ถา้ ไมท่ �ำเครอื่ งหมายในสมดุ คะแนน คณุ จะตอ้ งไปไลด่ ใู นใบเชค็ ชอื่ เขา้ เรยี น และเปรยี บเทยี บกบั ในสมดุ คะแนน ซงึ่ คณุ ไมม่ เี วลา 126 ท�ำเร่ืองโง่ๆ พวกน)้ี
พอคนทข่ี าดเรยี นท�ำงานเสรจ็ กใ็ สค่ ะแนนให้ และคณุ ยงั มบี นั ทกึ การขาดเรยี นดว้ ย งานให ่ญ... ถา้ นกั เรยี นไมส่ ง่ งานตามก�ำหนด กเ็ ขยี นเลขศนู ยส์ แี ดงลงไป เพอื่ เตอื นตวั เองกบั นกั เรยี นวา่ งานไมเ่ สรจ็ ตามก�ำหนด ถา้ เพมิ่ ชอ่ งแนวตงั้ อกี 1 ชอ่ ง ส�ำหรบั คะแนนพเิ ศษ และอกี 1 ชอ่ ง ส�ำหรับคะแนนลบ คุณจะเพิ่มคะแนนให้นักเรียนที่ท�ำงานพิเศษ หรือหักคะแนนคนที่ สร้างปัญหาและความเครยี ดขณะท่คี รูพยายามสอนได้ น่เี ป็นวิธีใหร้ างวลั นักเรียนท่ีไมใ่ ช่ อัจฉริยะแต่ให้ความร่วมมือและท�ำงานหนัก พวกน้ีจะได้คะแนนทุกๆ วัน ที่พยายาม อย่างจริงจังและท�ำตัวเป็นคนดี เช่นเดียวกัน พวกเด็กเก่งแต่ปากดีและชอบก่อกวน จะถูกหักคะแนน จึงไม่ได้เกรดเอในวิชาของคุณ แม้จะเป็นคนฉลาด เพราะท�ำให้ห้อง ปั่นป่วนวุ่นวาย แล้วน่ังหัวเราะชอบใจ ขณะที่เพ่ือนๆ พยายามเรียนรู้ (ตามปกติฉันจะ เขียนคะแนนลบด้วยดินสอ ถ้าพวกตัวป่วนจะคิดได้และหยุดสร้างปัญหา ก็ยังมีโอกาส ทจี่ ะได้คะแนนเต็มส�ำหรบั ความฉลาด) ฉันตระหนักดีวา่ บางคนตอ่ ตา้ นการให้คะแนน ตามความคดิ เหน็ สว่ นตวั แบบนนั้ แตฉ่ นั คดิ วา่ ครทู กุ คนกใ็ ชค้ วามคดิ เหน็ สว่ นตวั กนั ทงั้ นนั้ ไมม่ ากกน็ ้อย แต่อย่างนอ้ ยที่สุดวธิ ีนกี้ ็ซอื่ สตั ยแ์ ละโปรง่ ใส ครูบางคนก�ำหนดเลขประจ�ำตัวให้นักเรียนแต่ละคนในสมุดคะแนน (ถ้าสอน มากกว่าหนง่ึ ชัน้ ก็เป็นความคดิ ท่ีดี ทจ่ี ะใชท้ ้ังตวั อกั ษรและเลขประจ�ำตวั เพอ่ื หลีกเลย่ี ง การสลับรายงานของนักเรียนท่ีอยู่คนละช้ัน) บอกนักเรียนให้เขียนเลขประจ�ำตัวตรง มุมบนด้านซ้ายหรือขวาของรายงานทุกฉบับท่ีส่ง แล้วตอนรวบรวมรายงาน ให้เรียงไว้ ตามล�ำดับ และดูว่าหมายเลขไหนขาดไปทันที แล้วอ่านหมายเลขท่ีขาดไป เพ่ือเตือน ให้นกั เรียนรวู้ า่ ครยู งั ไม่ไดร้ ายงาน แลว้ เอารายงานทกุ ฉบับใสใ่ นแฟ้ม เขยี นวนั ทีก่ บั เลข ประจ�ำตวั ทขี่ าดไปตรงปกในของแฟม้ ถา้ นกั เรยี นสง่ งานชา้ ใหท้ �ำเครอ่ื งหมาย และเขยี น วันที่ด้วย ท�ำบันทึกของงานทุกชิ้นท่ีขาดไปหรือส่งช้า วิธีน้ีจะป้องกันไม่ให้รายงานหาย หลกี เลย่ี งการโตเ้ ถยี งกบั นกั เรยี นวา่ สง่ งานหรอื ยงั และท�ำใหก้ ารกรอกคะแนนหรอื บนั ทกึ หมายเหตสุ �ำหรับงานทข่ี าดไปลงในสมดุ คะแนนงา่ ยข้นึ ถ้ามีกลมุ่ นกั เรียนที่ชอบโตเ้ ถยี ง กอ็ าจจะเยบ็ งานทั้งหมดเขา้ ดว้ ยกนั เพื่อเป็นข้อพิสจู นว์ า่ คุณได้รับงานพวกนนั้ ตรงตาม เวลาท่ีก�ำหนดไว้ 127
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด การใหค้ ะแนนดว้ ยคอมพวิ เตอรท์ �ำใหค้ ณุ ไมต่ อ้ งปวดหวั แมจ้ ะตอ้ งซอ้ื ซอฟตแ์ วรเ์ อง และยมื คอมพวิ เตอร์ ใหห้ าวธิ ใี ชค้ อมพวิ เตอรม์ าใหค้ ะแนน การลงทนุ นจ้ี ะชว่ ยใหป้ ระหยดั เวลากับพลงั งาน และไมต่ ้องหงดุ หงดิ การใส่ขอ้ มูลของนักเรียนตอนเร่ิมตน้ อาจจะเสยี เวลาสกั หนอ่ ย แตพ่ อมขี อ้ มลู ในโปรแกรมแลว้ คณุ จะควบคมุ เพอื่ เปลยี่ นการถว่ งนำ้� หนกั คะแนนส�ำหรบั งานและการสอบเฉพาะบางครงั้ ได้ โดยแจง้ ใหน้ กั เรยี นทราบผลเปน็ ระยะๆ และเตรียมพร้อมจะพิมพบ์ ัตรรายงานผลการเรยี นออกมาอย่างรวดเร็วและแมน่ ย�ำ การใชเ้ ครอ่ื งคอมพวิ เตอรบ์ นั ทกึ คะแนนยงั มขี อ้ ดอี กี อยา่ งหนง่ึ นนั่ คอื คณุ จะพมิ พ์ รายงานของนักเรียนท้ังชั้นหรือเฉพาะคนก็ได้ และดูได้อย่างรวดเร็วว่า นักเรียนท�ำได้ดี แคไ่ หนในรปู ของกลมุ่ คณุ จะปรบั การสอน ทบทวนปญั หาเฉพาะ หรอื ใหน้ กั เรยี นท�ำงาน เพมิ่ ไดต้ ามความจ�ำเปน็ นอกจากนนั้ ยงั แสดงใหน้ กั เรยี นเหน็ ความกา้ วหนา้ ของตวั เองได้ คนทไี่ ม่ยอมส่งงานมักจะรสู้ ึกชอ็ กเม่อื เห็นวา่ คะแนนเพยี งหนงึ่ คะแนนจะชว่ ยเพ่ิมหรือ ลดเกรดเฉลย่ี ของตวั เองไดม้ ากขนาดไหน เช่น ถ้าไมส่ ง่ งาน 2 ช้ินทม่ี คี า่ ถ่วงนำ้� หนักมาก เขาจะเหน็ ว่า ถา้ ท�ำงานน้อยท่ีสดุ แล้วได้เกรดซีในงานช้ินหน่ึง จะเกดิ อะไรกับเกรดเฉล่ีย ของตัวเอง นอกจากน้นั ยังพมิ พ์รายงานความกา้ วหนา้ ระหวา่ งเทอม เพือ่ เตือนนักเรียน ทอี่ าจจะไดค้ ะแนนไมด่ ใี หร้ ตู้ วั และเปน็ แรงจงู ใจใหน้ กั เรยี นทกี่ �ำลงั ท�ำงานหนกั ไดเ้ หน็ เกรด ของตวั เองในรายงานทพ่ี มิ พอ์ อกมาจะเปน็ ตวั กระตนุ้ ทที่ รงพลงั ส�ำหรบั นกั เรยี นสว่ นใหญ่ ร่างแผนการสอนแม่บท โรงเรยี นจ�ำนวนมากก�ำหนดใหค้ รสู ง่ แผนการสอนเปน็ รายสปั ดาหห์ รอื รายเดอื น แมบ้ าง โรงเรียนไมต่ ้องการแผนการสอน แต่พวกครเู ก่งๆ มักท�ำรา่ งแผนการสอนทง้ั ไตรมาส ทั้งเทอมและท้ังปี ถ้าคุณสอนโรงเรยี นมัธยมและมีเวลาเตรียมการมาก การท�ำแผน การสอนทงั้ ปจี ะยง่ิ ส�ำคญั เพราะตอ้ งวางแผนมากขน้ึ ใหเ้ สรจ็ ในชว่ งเวลาอนั มคี า่ ของ การเตรียมการสอน การท�ำงานตามตารางเวลาแมบ่ ทจะท�ำให้ครปู รับแผนการสอน ประจ�ำวนั ไดต้ ามความจ�ำเปน็ เผอื่ มคี วามเปลย่ี นแปลงในความกา้ วหนา้ ของนกั เรยี น อยา่ งเชน่ การเปลย่ี นแปลงในหลกั สตู รทกี่ �ำหนดไว้ การทดสอบมาตรฐาน เหตฉุ กุ เฉนิ จากดนิ ฟา้ อากาศ ฯลฯ และถา้ ไมต่ อ้ งกงั วลกบั งานทจ่ี ะตอ้ งท�ำในเชา้ วนั รงุ่ ขน้ึ คณุ จะ 128 นอนหลบั ง่ายข้ึนมากทเี ดียว
วิธที ่ฉี นั ชอบคอื ท�ำส�ำเนาของแม่แบบปฏทิ ินรายเดือน เพอื่ จะได้มหี นง่ึ หนา้ ต่อ งานให ่ญ... หน่ึงเดือน แล้วดูปฏิทินโรงเรียนเพ่ือท�ำเคร่ืองหมายสีแดงในทุกๆ วัน ที่ไม่มีการสอน เชน่ วนั หยดุ การฝกึ อบรมครรู ะหวา่ งปฏบิ ตั งิ าน วนั สอบกลางภาคและสอบไล่ งานเปดิ บา้ น และวนั ถา่ ยภาพลงหนงั สอื รนุ่ ฉนั ใชห้ มกึ สแี ดงลอ็ กวนั ทน่ี กั เรยี นจ�ำนวนมากจะขาดเรยี น หรือหมกมุ่นกับกิจกรรมสังคมที่ส�ำคัญ เช่น งานคืนสู่เหย้า งานเต้นร�ำประจ�ำปี พิธีรับ ประกาศนียบัตร การเดินสายแข่งกีฬา งานพบศิษย์เก่าดีเด่น ทัศนศึกษาท่ีก�ำหนดไว้ ล่วงหน้าแลว้ ฯลฯ ส�ำหรับวันท่ีมีกิจกรรมทางสังคม ฉันจะมีแผนการสอนแบบยดื หย่นุ ที่ให้คะแนนพวกที่เข้าเรียน แต่จะไม่สอนเรื่องส�ำคัญๆ ที่คนขาดเรียนจ�ำเป็นต้องรู้ เพอื่ ท�ำงานทคี่ รจู ะใหใ้ นอนาคตหรอื เพอ่ื การสอบ และถา้ ขาดเรยี นแบบมเี หตผุ ลสมควร ฉันจะไมบ่ งั คับใหน้ กั เรยี นท�ำงานชดเชยท่ีไม่ได้ท�ำในวันน้นั แคใ่ สเ่ ครอ่ื งหมายกากบาท ลงไปวา่ งานเสรจ็ แลว้ แตจ่ ะไมไ่ ดแ้ ละไมเ่ สยี คะแนนส�ำหรบั งานชน้ิ นนั้ พวกเขาไดเ้ ครอื่ งหมาย กากบาททไ่ี มม่ คี ณุ คา่ (แตฉ่ นั ไมบ่ อกใหน้ กั เรยี นรแู้ ผนน้ี เพราะไมอ่ ยากใหน้ กั เรยี นโดดเรยี น หากรู้ลว่ งหน้าว่าจะไมถ่ กู ลงโทษทไ่ี ม่สง่ งาน) ถัดไป ฉนั ใชป้ ากกาทที่ �ำไฮไลต์สเี ขียวมาเนน้ วันสอบประจ�ำภาค และวันสอบไล่ ปลายปี แลว้ ช่วยนักเรียนทบทวนเนอื้ หาเป็นเวลา 1-2 วนั ภายในหน่ึงสปั ดาห์ก่อนการ สอบใหญแ่ ตล่ ะครงั้ จากนนั้ จะก�ำหนดวนั ทไี่ มใ่ หก้ ารบา้ นไว้ 2 วนั หลงั สอบเสรจ็ เพอื่ จะได้ มีเวลาตรวจและคืนข้อสอบให้นักเรียนอย่างรวดเร็ว แล้วฉันก็จะเห็นคร่าวๆ แล้วว่า เหลือวันทตี่ อ้ งสอนเนื้อหาตามหลักสตู รอยกู่ ่วี ัน พอถงึ ตอนนี้ กต็ อ้ งวางปากกา และเรม่ิ ใชด้ นิ สอเขยี นลงในกระดาษอกี แผน่ หนง่ึ เพ่ือจะเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง ฉันท�ำรายการทุกอย่างที่ต้ังใจจะสอนในระหว่างปี เพราะฉันสอนภาษาองั กฤษ รายการท่ตี ้องท�ำจงึ ได้แก่ การเขยี นบันทกึ ประจ�ำวัน เขยี น เรียงความแบบไม่เป็นทางการ รายงาน รายงานการวิจัย บทกวี เรื่องส้ัน ละคร นิยาย การวิเคราะห์วรรณกรรม ไวยากรณ์ ส่วนต่างๆ ของประโยค การสะกดค�ำ ค�ำศัพท์ การอุปมา ฯลฯ ฉนั แบ่งรายการแมบ่ ทให้ละเอียดมากข้ึน โดยก�ำหนดหมายเลขเฉพาะ ใหแ้ ต่ละกิจกรรมในแต่ละหนว่ ย เพอ่ื จะครอบคลมุ เนื้อหาในแตล่ ะเทอม 129
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด ตอนนฉ้ี นั มเี คา้ โครงครา่ วๆ ของหนว่ ยการสอนหลายหนว่ ย และกะวา่ จะใชเ้ วลา มากแค่ไหนกับทักษะเฉพาะอย่างในแต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์ และจะต้องสอบย่อย รายสปั ดาหห์ รอื รายเดือนก่คี รงั้ จึงจะเหมาะสม เพราะบางโรงเรยี นก�ำหนดเลยว่า ครูจะ ต้องใหง้ านที่มคี ะแนนก่ีช้ินภายในเวลาที่ก�ำหนดไว้ ฉนั จงึ ตรวจทานไดอ้ ยา่ งงา่ ยดายวา่ มี งานครบหรอื ยัง คุณก�ำหนดเองเลยว่าจะแบง่ เวลาอยา่ งไร แต่ตามประสบการณ์ของฉัน นักเรียนทุกวัยและทุกระดับความสามารถจะท�ำได้ดีข้ึน ถ้าฝึกท�ำแบบฝึกหัดและมีการ ทดสอบสม�่ำเสมอ เช่น ท�ำแบบฝึกหัดค�ำศัพท์ทุกๆ เช้าวันอังคาร และสอบทุกวันศุกร์ กจิ กรรมตามตารางปกตยิ งั ชว่ ยใหค้ ณุ สรา้ งแผนการสอนไดใ้ นเวลาทไี่ มส่ บาย มงี านทว่ มหวั เครียด หรือหมดแรง ฉันท�ำแผนการสอนประจ�ำวันและรายสัปดาห์ให้เป็นเร่ืองท่ัวไป และยืดหยุ่นมาก มีกิจกรรมและแบบฝึกหัดทางเลือกท่ีจะเพิ่มเติมหรือเอาออกได้ตาม เวลาทมี่ อี ยู่ ถา้ เปน็ ชน้ั ทใี่ หค้ วามรว่ มมอื ดมี าก บางครงั้ ฉนั จะลดแผนการสอนลงเหลอื เปน็ ค�ำพดู เพียงไม่กค่ี �ำเท่านนั้ ต�ำราด้านการศึกษาจ�ำนวนมากแนะน�ำให้ครูมือใหม่เขียนแผนการสอนที่ลง รายละเอียด จะได้ใช้เวลาแต่ละนาทีของช้ันให้เป็นประโยชน์ แต่แนวคิดแบบนั้นดูดี แคบ่ นกระดาษ ตอนเรมิ่ สอนครง้ั แรก ฉนั วางแผนส�ำหรบั แตล่ ะชน้ั ละเอยี ดจนถงึ ทกุ วนิ าที และกงั วลมากจนไมแ่ นใ่ จวา่ จะนกึ เรอ่ื งทอ่ี ยากสอนตอนนนั้ ๆ ออกหรอื เปลา่ ฉนั จนิ ตนาการ วา่ ตัวเองเจอนกั เรยี น แล้วคิดถ้อยค�ำทีเ่ ขา้ ทา่ ทจ่ี ะพูดออกมาไม่ไดเ้ ลยสกั ค�ำเดียว ก็เลย วางแผนและเขียนเค้าโครง กับท�ำปฏิทินออกมาเป็นรายช่ัวโมง รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส และรายภาค แผนทุกอันเต็มไปด้วยรายละเอียดท่ีประณีตและสมบูรณ์ ไปจนถึงข้อสอบสะกดค�ำข้อสุดท้าย นอกจากน้ันยังแบ่งแต่ละช่ัวโมงออกเป็นช่วงละ 5 หรือ 10 หรือ 20 นาทดี ว้ ย ฉันเตรยี มพร้อมจะเดนิ เขา้ ห้องเรยี นและเป็นยอดคุณครู เพราะมัน่ ใจว่าตวั เองท�ำได้ น่าเสียดายท่ีฉันไม่ได้เผ่ือเวลาไว้ส�ำหรับการประกาศประจ�ำวัน ฝ่ายบริหาร เรยี กตวั ไปพบ รถเมลม์ าชา้ เพราะรถตดิ เสยี งตามสายทป่ี ระกาศเสยี งดงั นกั เรยี นไมส่ บาย หรือบางครั้งมีแมงมุมแกว่งไปมาบังแสงเคร่ืองโปรเจคเตอร์ แล้วท�ำให้ท้ังห้องโกลาหล ไปชั่วขณะ แถมยังไม่ได้เตรียมตัวเผ่ือไว้ส�ำหรับเรื่องซึ่งไม่มีใครเตรียมได้ นั่นคือ ความ 130 สามารถและพฤตกิ รรมของนกั เรยี นทแ่ี ตกตา่ งกนั ไปซงึ่ มผี ลอยา่ งมากวา่ นกั เรยี นจะเขา้ ใจ
แนวคดิ ใหม่ ฝกึ ทกั ษะใหมไ่ ด้คล่องแคลว่ หรอื ท�ำงานเสร็จได้เรว็ แคไ่ หน เชน่ ฉนั ต้งั ใจให้ เวลา 30 นาที แต่นักเรียนท�ำแบบฝกึ หัดเสร็จภายใน 10 นาที จงึ เหลอื เวลาอกี 20 นาที หรอื บางครั้งนักเรียนใช้เวลาจนหมดคาบกับงานที่ฉันคดิ วา่ เป็นกจิ กรรมงา่ ยๆ ทนี่ ่าจะใช้ เวลาแค่ 10 นาที ตอนแรกฉันใช้เวลาหลายช่ัวโมงทบทวนแผนการสอนที่ลงรายละเอียด แต่มี สงิ่ ทไี่ มค่ าดคดิ เกดิ ขนึ้ เสมอ และท�ำใหต้ ารางเวลาผดิ ไปจากทกี่ �ำหนดไว้ ในทส่ี ดุ จงึ รตู้ วั วา่ ฉันคงจะเสียสติไปก่อนท่ีจะวางแผนการสอนท่ีไม่ต้องเปล่ียนแปลงหรือปรับบ่อยๆ ได้ งานให ่ญ... ตอนน้ีจึงท�ำตารางเวลาแบบคร่าวๆ ส�ำหรับเร่ืองที่อยากสอนในกรอบเวลาที่ก�ำหนดไว้ และเปล่ยี นแผนให้เหมาะกบั ความต้องการของนักเรยี น โรงเรียนบางแห่งมแี มแ่ บบ และบงั คบั ใหค้ รูใชแ้ มแ่ บบเพอ่ื เตรยี มแผนการสอน ถา้ โรงเรยี นของคณุ เปน็ แบบนนั้ อยา่ เพง่ิ สน้ิ หวงั ใหก้ รอกขอ้ มลู ลงในแมแ่ บบ แตถ่ า้ ท�ำตาม แม่แบบนั้นไม่ได้ในทุกวินาทีของทุกวัน ก็อย่าท�ำให้ตัวเองสับสน ถ้าคุณไม่ได้ตกอยู่ใน สถานการณ์ที่พิสดารมากๆ รับรองว่าจะไม่มีคนมายืนตรงประตูเพ่ือตรวจดูให้แน่ใจว่า คณุ ใหน้ กั เรยี นทดสอบการสะกดค�ำตอนเวลา 9:15 ตรงเปะ๊ ในเชา้ วนั พฤหสั บดี หรอื ถา้ มี คนมาเยยี่ มหอ้ งเรยี น และคณุ ไม่ได้ท�ำตามแผนทีว่ างไว้ ก็ใหอ้ ธิบายวา่ คณุ รูว้ ่านกั เรยี น ต้องการเวลาเพิ่มอีกนิดหน่อยเพื่อท�ำอะไรก็ตามที่ก�ำลังท�ำอยู่ตอนน้ัน แล้วเสนอว่า ถ้าผู้สังเกตการณ์กลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งน้ี คุณจะท�ำกิจกรรมตามแผนการสอนที่ได้ เตรียมไว้แล้ว โดยปกติพวกเขาจะไม่กลับมาอีก แต่ถ้ามาจริงๆ คุณก็สอนบทเรียนน้ัน และถือว่าตัวเองได้รับค�ำเตือนก็แล้วกัน ฉันคิดว่าเร่ืองแบบนี้เป็นไปได้น้อยมาก แต่ที่ จะมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่า คือ จะต้องมีใครท่ีต้องรับหน้าท่ีเก็บรวบรวม (และอาจจะ ทบทวน) แผนการสอน เพือ่ ท�ำตามค�ำสงั่ เบ้ืองบนเท่าน้นั ถ้านักเรียนประพฤตติ ัวดี และ คณุ แทบจะไมต่ อ้ งสง่ พวกเขาไปพบฝา่ ยปกครองเลย คะแนนการสอบมาตรฐานกบั คะแนน ในบตั รรายงานผลการเรยี นดพี อสมควร จะไมม่ ใี ครมาสนใจนกั วา่ คณุ ท�ำตามแผนการสอน ทีเ่ ขียนไว้ทกุ ตัวอกั ษรหรือเปล่า แน่นอน ฉันรวมเนื้อหาที่หลักสูตรบังคับไว้ในแผนด้วย แต่ฉันพบว่า ถ้าเน้น การสอนให้นักเรียนคิดและวิเคราะห์ข้อมูล แทนท่ีจะรีบๆ ผ่านเน้ือหาไปเพียงเพ่ือจะ บอกว่าได้สอนจนครบตามหลักสูตรแล้ว ฉันจะสอนได้ดีข้ึน และนักเรียนจะเรียนรู้ ไดม้ ากขึน้ ทเี ดยี ว (และย่ิงดีขนึ้ ในปตี อ่ ไป กับครูคนถัดไป) 131
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด บางคร้ัง พวกเราสอนทุกสิ่งทุกอย่างครบตามแผนการสอนได้ แต่บางคร้ังก็ท�ำ ไม่ได้ ฉันเคยหงุดหงิดมากเวลาสอนไม่ครบตามท่ีต้ังใจไว้ หลังจากน้ัน ฉันจะบังคับให้ ตวั เองนงั่ ลง แลว้ พจิ ารณาสงิ่ ทอี่ ยากใหน้ กั เรยี นเรยี นรอู้ ยา่ งจรงิ ใจ และประเมนิ วา่ พวกเขา ก�ำลงั เรยี นรสู้ งิ่ นน้ั หรอื ไม่ นกั เรยี นไมม่ เี คา้ โครงหลกั สตู รของฉนั แตฉ่ นั ตดิ แผนงานเอาไว้ ทกุ วนั พวกเขาจงึ รู้ว่าฉันอยากสอนอะไรบ้าง แตถ่ งึ จะสอนไม่ครบ นักเรียนก็ไมร่ สู้ กึ วา่ ถูกโกง พวกเขาคดิ วา่ การแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นเพ่มิ เติม หรือกิจกรรมทข่ี ยายออกไป มคี ณุ คา่ มาก ถา้ นกั เรยี นยงั มแี รงจงู ใจและเขา้ รว่ มกจิ กรรม ยงั เรยี นรู้ ท�ำผลงานไดด้ ี และ สอบผ่าน ก็ไม่ส�ำคัญเลยว่า พวกเราไม่ได้ท�ำตามแผนการสอนที่เขียนมาเป็นอย่างดี ขนาดเดยี๋ วน้ี บางครง้ั ฉนั ยงั ตอ้ งเตอื นตวั เองวา่ แผนการสอนกเ็ ปน็ แคแ่ ผน ไมใ่ ชก่ ารชน้ี �ำ หรือค�ำสัง่ อยา่ งเป็นทางการ ฉนั ขอแนะน�ำครมู อื ใหมใ่ หว้ างแผนการสอนงา่ ยๆ และยดื หยนุ่ ทส่ี ดุ เทา่ ทจี่ ะท�ำได้ ถา้ จ�ำเปน็ ตอ้ งควบคมุ ทกุ นาทใี น 2-3 เดอื นแรก (หรอื ปแี รก) กท็ �ำไป แตพ่ อมปี ระสบการณ์ และม่ันใจมากขึ้น ให้เปลี่ยนจุดเน้นจากการวางแผนไปที่การสอน และเอาสมรรถภาพ ของนักเรียนไม่ใช่ปฏิทนิ มาเปน็ แนวทาง ใบตอ้ นรับนกั เรียน ถา้ สอนเดก็ ๆ ทย่ี งั อา่ นไมไ่ ด้ คณุ อาจจะเขยี นจดหมายสนั้ ๆ สง่ ใหพ้ อ่ แมแ่ ละผปู้ กครอง เพื่อแนะน�ำตวั และใหเ้ บอร์โทรศพั ท์กบั บญั ชีอเี มลของคุณ พร้อมขอ้ มูลพืน้ ฐานของ ห้องเรียน การร่างจดหมายตอ้ นรบั ใช้เวลาไมน่ าน และเปน็ เคร่ืองมอื ประชาสัมพนั ธ์ ตวั เองท่ดี ีดว้ ย คณุ จะไดไ้ มด่ เู หมือนคนแปลกหน้า การท�ำอย่างนี้เป็นที่พสิ ูจน์แลว้ ว่า มปี ระโยชน์เมอื่ เวลาผา่ นไป และเวลาท่ีจ�ำเป็นต้องตดิ ต่อครอบครัวของนกั เรียน ถา้ นกั เรยี นโตพอจะอา่ นไดแ้ ลว้ ใหอ้ อกแบบจดหมายหนงึ่ หนา้ และเขยี นหวั ขอ้ วา่ ยินดีต้อนรับสู่ช้ันเรียน โดยใส่เค้าโครงหลักสูตรสั้นๆ ข้อมูลท่ีส�ำคัญจริงๆ เคล็ดลับสู่ ความส�ำเร็จในห้องเรียนสัก 2-3 อย่าง และบทสรุปเร่ืองกฎและข้ันตอนการปฏิบัติท่ี ส�ำคญั ทสี่ ดุ ของคณุ ไวใ้ นนนั้ ถา้ ไมช่ อบหวั ขอ้ ทฉี่ นั แนะน�ำ กล็ องใชช้ อ่ื อน่ื ทเี่ ปน็ ทางการกวา่ 132 เช่น “เค้าโครงหลกั สูตรและวัตถุประสงค”์ (หมายเหตุ: กรณุ าอย่าใชห้ วั ข้อว่า “กฎและ
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิของห้องเรยี น” ถา้ ท�ำแบบนน้ั แสดงวา่ คุณจะสรา้ งสภาพพลวัตทค่ี รู งานให ่ญ... ต้องเปรียบมวยกับนักเรียนตั้งแต่เร่ิมต้น เพราะนักเรียนมักจะต่อต้านกฎทุกอย่าง) นกั เรยี นจ�ำนวนมากอยากไดอ้ ะไรทเี่ ป็นรูปธรรมจับตอ้ งได้ และเอากลับไปอา่ นทบทวน ท่บี ้านได้ (และอาจจะแบ่งปันกับพ่อแมด่ ว้ ย!) คนที่เรยี นร้ไู ด้ดีด้วยการเห็นและนักเรียนท่ีก�ำลงั จะขึ้นชน้ั มัธยมตน้ หรือพวกท่ี มคี รหู ลายๆ คนเป็นคร้ังแรกจะซาบซ้งึ จรงิ ๆ กับการมเี อกสารอธิบายเน้ือหาของหลายๆ วชิ า เพราะชว่ ยใหแ้ ยกเนอ้ื หาของแตล่ ะวชิ าได้ เรอ่ื งหนงึ่ ทน่ี กั เรยี นเกรด 7-9 กลวั กนั มาก คอื การลมื วา่ ตอ้ งไปเรยี นทหี่ อ้ งไหน เอกสารทค่ี รใู หจ้ ะท�ำใหก้ ลวั นอ้ ยลง และจะชว่ ยเตอื น ให้คิดถึงบุคลิกภาพของครูท่ีแตกต่างกัน ครูบางคนเข้มงวดกับการเขียนให้อ่านออก บางคนไมย่ อมให้นกั เรียนขาดส่งการบา้ นเด็ดขาด การมีข้อมลู เป็นลายลักษณอ์ ักษรจึง เปน็ ประโยชนส์ �ำหรบั นักเรยี น เพราะใช้เป็นหลักฐานอ้างองิ ได้ จนกว่าจะจ�ำตารางสอน และความคาดหวังของครไู ด้ ส�ำหรับตัวอย่าง ให้ดูใบต้อนรับท่ีฉันใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมท่ีเรียนวิชาภาษา อังกฤษในเอกสารประกอบท่ี 4.1 และใบต้อนรับส�ำหรับนักเรียนเกรด 3 ในเอกสาร ประกอบที่ 4.2 เตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ ม พอเตรียมห้องเรียนกับเอกสารเรียบร้อยแล้ว แถมปรัชญาการสอนก็ก�ำลังสดใหม่ อยใู่ นใจ ตอนนใ้ี หม้ งุ่ ความสนใจไปทก่ี ารเตรยี มตวั ทง้ั กายและใจ เพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจ ของนกั เรยี นตอนเดนิ เขา้ หอ้ ง ถา้ คณุ กงั วลใจ กอ็ ยา่ วติ ก เพราะครเู กอื บทกุ คนจะกงั วลใจ ก่อนเปดิ เทอมหรอื ตอนเริม่ ต้นปีการศึกษา แม้แต่ครทู ่ีมีประสบการณ์ (ซง่ึ บางครงั้ กังวลใจกว่าครูมือใหม่ด้วยซ�้ำ เพราะรู้แน่ชัดว่าจะต้องไปเจออะไรบ้าง!) อย่าต่ืน ตระหนก เพราะถ้ารู้ว่าคุณคาดหวังอะไรจากพวกเขาอย่างแท้จริงแล้ว ส่วนใหญ่ นักเรียนจะให้ความร่วมมือ ฉะนั้น คุณจึงต้องรู้อย่างแน่นอนว่า ตัวเองคาดหวังให้ นักเรียนท�ำอะไร 133
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด วางแผนขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ ถา้ คุณไมพ่ ร้อมและจ�ำเป็นตอ้ งสรา้ งข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิไปพร้อมๆ กบั ขณะทีท่ �ำงาน นักเรียนจะเอาเป็นตัวอย่างและสร้างข้ันตอนของตัวเองข้ึนมา ฉะนั้น ขอให้ระดม ความคดิ เกยี่ วกบั กจิ กรรมทกุ อยา่ งทท่ี �ำเปน็ ประจ�ำ และทจี่ ะเกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น แลว้ ก�ำหนดขั้นตอนการปฏิบัติของกิจกรรมนั้นๆ (ให้นั่งคิดในห้องเรียนเพ่ือจะได้เตือน ตวั เองวา่ ในหอ้ งมอี ะไรเกะกะขวางทางหรอื มขี อ้ จ�ำกดั เรอื่ งทวี่ า่ งอยา่ งไรบา้ ง) คณุ อยาก ให้นักเรียนขออนุญาตหรือท�ำอย่างไร เช่น เม่ือต้องไปเข้าห้องน�้ำ ตั้งค�ำถามหรือ ตอบค�ำถามขณะท่ีครกู �ำลงั สอน ขอความช่วยเหลือระหว่างท�ำกจิ กรรมในหอ้ งเรียน ส่งการบ้านช้า เข้าแถวเวลาท่ีทุกคนอยากออกจากห้องไปพร้อมๆ กัน หรือการ ประพฤตติ วั เวลาอยตู่ ามโถงทางเดนิ หนา้ หอ้ ง ฯลฯ ใหจ้ ดประเดน็ ส�ำคญั ๆ สน้ั ๆ หรอื ใชบ้ ตั รดชั นเี พอื่ เตอื นตวั เองในแตล่ ะขน้ั จะไดส้ อนนกั เรยี นไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ (คณุ อาจจะ ต้องท�ำขน้ั ตอนบางอย่างซำ้� ๆ หลายคร้ังจนกว่านกั เรยี นจะเข้าใจการเขียนค�ำแนะน�ำ เปน็ ลายลักษณอ์ กั ษรไว้เพอื่ ช่วยให้คณุ ท�ำตวั สม่�ำเสมอกด็ ีเหมอื นกัน) เอกสารประกอบที่ 4.1 ใบต้อนรบั นกั เรียนของครูเจ ยินดตี อ้ นรบั สู่ช้นั เรียนภาษาองั กฤษของครเู จ! แผนทางการ ช้ันเรียนนี้ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงทักษะการสื่อสารของนักเรียน ดว้ ยการอา่ น การเขียน ค�ำศัพท์ และแบบฝึกหดั ไวยากรณ์ งานกลมุ่ และโครงงานเดี่ยว เราจะอ่านวรรณกรรมหลากหลายแบบ การบ้านจะมีท้ังการตอบแบบจับเวลา บันทึก ประจ�ำวนั เรยี งความ รายงานการวจิ ัย และการวจิ ารณ์วรรณกรรม กฎ จงเคารพตัวเองและผู้อ่ืน เราจะไม่ทนคนท่ีดูหมิ่นผู้อื่นเพราะภูมิหลังทางชาติพันธุ์ สผี วิ ภาษาแม่ เพศภาวะ รสนยิ มทางเพศ ศาสนา รปู รา่ ง หรอื ขนาดของรา่ งกาย ไมย่ ตุ ธิ รรม ทจี่ ะไปลบใบหน้าของใครท�ำให้เขาไมม่ ตี วั ตน พวกเราทกุ คนมสี ทิ ธ์จิ ะได้รับการปฏิบัติ ด้วยความเคารพ 134
ท�ำงานตามล�ำดับความส�ำคญั ทกุ วนั นกั เรยี นต้องไปดูบนบอรด์ วา่ วันน้มี งี านอะไรบา้ ง งานให ่ญ... ครหู วงั วา่ พอเสยี งออดเขา้ หอ้ งดงั ขนึ้ ทกุ คนจะนงั่ และท�ำงานตามล�ำดบั ความส�ำคญั ของ วันน้ันทนั ที ไมใ่ ช่รออกี 5 วนิ าที หรอื 1 นาที หลงั จากไดย้ ินเสยี งออด โปรดอย่าท�ำตัว งเ่ี ง่า มาเรยี นเถอะ ไมอ่ ยา่ งน้ันจะไมท่ นั คนอน่ื ครมู หี น้าที่ท�ำใหช้ ้นั เรยี นสนกุ และให้ความรู้ ครจู ะไมจ่ งใจท�ำใหเ้ ธออบั อาย หนา้ ทขี่ องนกั เรยี นคอื มาเรยี น ถา้ ไมม่ า เธอจะไมท่ นั คนอน่ื เขา้ เรยี นใหต้ รงเวลา เธอเกลยี ดทต่ี อ้ งคอยคนอนื่ ใชไ่ หม ครกู เ็ หมอื นกนั ฉะนน้ั อยา่ ท�ำตวั ไมส่ ุภาพ และใหต้ รงตอ่ เวลา เตรียมตัวให้พร้อม ลองจินตนาการดูสิว่าตัวเองจะรู้สึกอย่างไร ถ้านัดเอารถที่ไปซ่อม แล้วพอไปถึงอู่ ช่างเครื่องพูดว่า “โอ๊ะ วันน้ีผมลืมเอาเคร่ืองมือมา ขอโทษนะ” ไม่เข้า ท่าเลยทท่ี �ำอยา่ งน้นั ฉะนนั้ เอาเคร่ืองมอื การเรียนรมู้ าโรงเรียนด้วย การบา้ น พวกเราจะไมม่ กี ารบา้ นทกุ คนื แตถ่ า้ ครใู หก้ ารบา้ น นกั เรยี นตอ้ งท�ำเองดว้ ยสมอง ของตวั เอง (แตไ่ มเ่ ปน็ ไรถา้ จะหาคนมาชว่ ยหรอื แบง่ ปันความคิดกบั เพอ่ื นๆ) ถา้ มปี ญั หา หรอื ค�ำถาม ให้โทรหาครทู เ่ี บอร์ 555-1212 งานชดเชย พอกลับมาโรงเรียนหลังจากขาดเรียน นักเรียนต้องรับผดิ ชอบไปดูแฟม้ งาน ชดเชยบนโต๊ะครู ครใู หเ้ วลาท�ำงาน 3 วนั แต่ถา้ อยากได้เวลาเพ่ิม ใหม้ าคุยกบั ครู กรุณาประพฤติตัวให้ดี ครูอยากคุยกับนักเรียนโดยตรงมากกว่าโทรไปคุยกับพ่อแม่ เธอตอ้ งรบั ผดิ ชอบตอ่ พฤตกิ รรมของตวั เอง ถา้ นกั เรยี นท�ำตวั ดี ครกู จ็ ะท�ำตวั ดเี หมอื นกนั ความสนุก พวกเราจะสนุกทสี่ ุดเท่าที่กฎหมายอนญุ าตให้เราท�ำได้ กรณุ าเอาอารมณข์ นั เขา้ มาในห้องด้วย แต่ถ้าเธอลมื เอามา ครูยนิ ดจี ะแบง่ ให้ 135
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด เอกสารประกอบท่ี 4.2 ยินดตี อ้ นรบั นกั เรยี นเกรด 3 ยินดตี ้อนรบั สหู่ ้องเกรด 3 ท่ีสุดเรด่ิ ของครูบอ็ บ! สวัสด!ี สวัสดี! ครชู ่ือ ครบู ็อบ วิตเทอรส์ ปูน ยนิ ดีตอ้ นรบั ส่หู ้องเกรด 3 ทส่ี ดุ เริ่ด ครูเช่ือว่านักเรียนทุกคน (เธอนน่ั แหละ) สุดเริด่ ในแบบทไ่ี ม่เหมือนใคร นค่ี อื ตกุ๊ ตาน�ำโชคของชนั้ นี้ เจา้ ด๊กิ บี สนุ ัขเต้นระบ�ำ ปีนเ้ี ราจะท�ำอะไรกนั บา้ ง มเี ร่อื งใหท้ �ำเปน็ สบิ ๆ อยา่ ง รวมทัง้ เรื่องตอ่ ไปนี้ ใชส้ มองท่ีเก่งกาจเหลอื เช่ือของพวกเรามาสรา้ งโครงการที่น่าตื่นเตน้ และสนกุ สนาน ปรับปรุงทักษะการสะกดค�ำ (พวกเราจะสะกดค�ำว่า supercalifragilisticexpeali docious! ดว้ ยล่ะ) ขดั เกลาทักษะการเขียนดว้ ยการเขยี นหนังสือของตัวเอง!!! ท�ำให้การอา่ นเป็นเรือ่ งนา่ สนใจและสนุกจริงๆ จริงๆ จรงิ ๆ จริงๆ (ครูสญั ญา) ชมภาพยนตร์นา่ ทึ่ง ซ่ึงเปน็ เหตกุ ารณต์ ่างๆ ทกี่ �ำลังเกดิ ข้นึ ในโลกอนั กวา้ งใหญใ่ บนี้ เรยี นรขู้ อ้ เทจ็ จรงิ ทน่ี า่ สนใจเกย่ี วกบั ผคู้ น สถานที่ เรอ่ื งราว บคุ คล สตั ว์ หนอนผเี สอื้ ฯลฯ สนกุ สดุ ๆ! หนา้ ที่ของครูคือ สอนให้ดที ่สี ุดทุกวัน เปน็ คนดที สี่ ุดทกุ วัน รับประกนั วา่ นกั เรยี นจะปลอดภยั ในห้องเรียนของครู รบั ประกันวา่ ทุกคนในห้องสดุ เริ่ดของเราจะไดร้ บั การนับถอื สอนเรอื่ งท่นี กั เรียนตอ้ งรเู้ พ่ือจะไดเ้ ป็นคนเกง่ สดุ ๆ เวลาขนึ้ ไปเรยี นเกรด 4 หน้าทขี่ องนกั เรียนคอื เปน็ คนดีทส่ี ุดทกุ วัน ท�ำงานทกุ อย่างทค่ี รูให้อย่างดีทีส่ ดุ นับถือตัวเอง นับถือครู และนับถอื เพ่อื นรว่ มช้ัน เอาสมองมาเรยี นรทู้ ่โี รงเรียนทุกวนั 136 พร้อมหรือยงั เตรียมตวั เร่มิ ได้!!!!!!!!!!
ให้ตัดสินใจว่าจะสอนขั้นตอนการปฏิบัติของคุณอย่างไร และเมื่อไหร่ (ดูราย งานให ่ญ... ละเอียดในหวั ขอ้ “สรา้ งกิจวตั รและพธิ กี รรม” ในบทที่ 5) ครูบางคนชอบสอนข้ันตอน ทง้ั หมดไปทลี ะนดิ ตอนตน้ ปี แลว้ กระตนุ้ เตอื นสนั้ ๆ เพมิ่ เตมิ เมอ่ื ถงึ เวลาใชข้ นั้ ตอนเฉพาะ แตล่ ะขนั้ ตอน ถา้ สอนขน้ั ตอนการเดนิ ไปหอ้ งสมดุ เปน็ กลมุ่ แตก่ ลบั รอจนเปดิ เทอมไปได้ 3 สัปดาห์ แล้วค่อยพาไปห้องสมุด หลายคนจะลืมข้ันตอนที่ควรท�ำ เพราะบางคน แคบ่ อกปบุ๊ กล็ มื ปบ๊ั ฉะนนั้ จงึ ควรเขยี นขน้ั ตอนตา่ งๆ และท�ำส�ำเนาบตั รขน้ั ตอนแตล่ ะอยา่ ง หรือท�ำทั้งหมดก็ได้ เพ่ือแจกให้นักเรียนเอาไปเก็บในแฟ้มของตัวเองไว้เตือนความจ�ำ หรอื อาจจะฝกึ จนกวา่ นกั เรยี นจะคนุ้ เคยกบั ขนั้ ตอน ไมว่ า่ จะท�ำแบบไหน กต็ อ้ งเตรยี มพรอ้ ม ทจ่ี ะทวนค�ำสง่ั ซำ้� ๆ หลายครงั้ อยา่ งอดทน โดยเฉพาะกบั นกั เรยี นทม่ี คี รหู ลายคน นกั เรยี น มัธยมบางห้องมีครูถึง 5 คน ท่ีมีข้อก�ำหนดแตกต่างกันว่าจะให้ท�ำอย่างไรเมื่อต้องการ ตัง้ ค�ำถามหรือขออนญุ าตไปเขา้ ห้องน้ำ� ออกแบบขอ้ พงึ ปฏิบัตดิ า้ นระเบยี บวินยั ใหเ้ ขยี นขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ดิ า้ นระเบยี บวนิ ยั ออกมา ถา้ ยาวหรอื ซบั ซอ้ นเกนิ ไปจนไมเ่ หมาะ จะเขียนบนบัตรดัชนี แสดงว่า การสื่อสารเรื่องน้ีกับนักเรียนจะท�ำได้ยาก และการ บงั คบั ใชจ้ ะยง่ิ ยากขน้ึ ตอนเรมิ่ สอนครงั้ แรก ฉนั ตงั้ กฎเอง บางครงั้ กใ็ หน้ กั เรยี นชว่ ยตงั้ แตท่ กุ ครง้ั ทใ่ี ชร้ ายการกฎ ฉนั ตอ้ งท�ำรายการผลทจ่ี ะเกดิ ตามมา และรายการการลงโทษ ทเ่ี พม่ิ ข้ึนส�ำหรับนกั เรยี นที่ละเมดิ กฎ ฉนั ต้องคิดระบบตดิ ตามการละเมดิ กฎ ผลที่จะ เกดิ ขน้ึ การประชมุ ตดิ ตามผล และการสง่ นกั เรยี นตอ่ ไปทฝ่ี า่ ยปกครอง ฉนั มกั ผอ่ นปรน กฎเนือ่ งจากมสี ถานการณพ์ ิเศษ เชน่ เดก็ ชายคนหนงึ่ ขาดเรยี นเพ่ือไปงานศพคณุ ตา ท�ำใหต้ อ้ งละเมดิ กฎทบ่ี อกวา่ จะไมย่ อมรบั การบา้ นทส่ี ง่ ชา้ อยา่ งเดด็ ขาด แลว้ อนญุ าต ให้เขาสง่ โครงงานหลังเพ่ือน 2 วัน นักเรียนคนอืน่ ๆ จงึ มาขอต่อเวลาบ้างตาม “เหตุ ฉกุ เฉนิ ” ของตวั เอง ซงึ่ ฉกุ เฉนิ จรงิ ๆ ตามความคดิ ของนกั เรยี น เชน่ พส่ี าวหรอื นอ้ งสาว ไปเข้าโรงพยาบาล ห้องน้�ำตันท�ำให้น�้ำล้น หนูแฮมสเตอร์ตาย เป็นต้น ข้อเรียกร้อง เหล่านี้ท�ำใหฉ้ นั ต้องตดั สนิ ใจว่า เหตฉุ ุกเฉนิ อะไรท่ีส�ำคญั และอะไรท่ีไมส่ �ำคัญ ท�ำให้ ทุกคนหงดุ หงดิ และไม่มคี วามสขุ รวมท้ังตวั ฉนั ดว้ ย 137
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด หลงั จากเหตุการณ์นัน้ ฉนั จึงอา่ นหนงั สอื เก่ียวกับการจัดการห้องเรียนมากขนึ้ แตย่ ังหาแผนการจัดการระเบยี บวินัยทีด่ เี ลิศไม่ได้ จงึ ขยายไปอ่านหนังสอื ดา้ นจติ วทิ ยา ศิลปะการขายสินค้า ภาวะผู้น�ำ และศิลปะการจูงใจ ฉันลองใช้วิธีการหลากหลายกับ กลมุ่ ทแ่ี ตกตา่ งกนั จนในทสี่ ดุ กม็ าลงตวั กบั วธิ ที ใ่ี ชก้ นั ทว่ั ไปและไดผ้ ลดกี บั นกั เรยี นทกุ กลมุ่ ของฉนั ตง้ั แตน่ กั เรยี นเกรด 9 ในกลมุ่ เสยี่ ง ไปจนถงึ พวกนกั ศกึ ษาปรญิ ญาโทหรอื ปรญิ ญาเอก หลงั จากวนั แรกๆ ของการตอ้ นรบั สหู่ อ้ งเรยี นและท�ำความคนุ้ เคยกนั แลว้ ฉนั บอกนกั เรยี นวา่ เรามกี ติกาพนื้ ฐานอะไรบ้างทน่ี กั เรยี นต้องปฏบิ ตั ิในห้องเรยี น โดยพดู แบบนี้ นักเรียนแต่ละคนเป็นปัจเจกบุคคลท่ีมีชีวิตกับความต้องการของตัวเอง และ ชวี ติ มเี รอื่ งใหเ้ ราประหลาดใจ เราทกุ คนมอี ปุ สรรค ดงั นนั้ ครจู ะไมต่ งั้ กฎทเ่ี ขม้ งวด ตายตัว แล้วมาโต้เถียงกับพวกเธอทีหลังเวลาบังคับใช้กฎ ครูขอสงวนสิทธิ์ การตัดสินใจตามความจ�ำเป็นในห้องเรียนนี้ แต่มีกฎหนึ่งข้อที่จะใช้กับทุกคน รวมทั้งตวั ครูด้วย และเป็นกฎทหี่ า้ มฝา่ ฝืนอย่างเดด็ ขาด กฎขอ้ นคี้ อื ทกุ คนตอ้ งเคารพตวั เองและทกุ คนในหอ้ งนี้ หา้ มดหู มน่ิ ผอู้ น่ื เรื่องเช้ือชาติ ศาสนา ภูมิหลังทางชาติพันธุ์ สีผิว ภาษาแม่ เพศภาวะ รสนิยม ทางเพศ ความฉลาด รูปรา่ ง หรอื ขนาดของร่างกาย เพราะเราเลอื คุณลกั ษณะ พวกนน้ั ไม่ได้ เราเกดิ มาเปน็ แบบนั้นเอง จริงอยู่ พวกเธออาจเปลย่ี นศาสนาได้ ตอนเปน็ ผใู้ หญ่ แตเ่ ดก็ ๆ สว่ นใหญต่ อ้ งนบั ถอื ศาสนาตามพอ่ แม่ การวจิ ารณค์ นอนื่ ที่เคารพพ่อแม่ตัวเองเป็นความผิด การวิจารณ์หรือดูหม่ินผู้คนในสิ่งท่ีพวกเขา ควบคุมไม่ได้ถือว่าไม่ยุติธรรมและไม่เคารพผู้อื่น ซ่ึงครูจะไม่ยอมให้เกิดข้ึนใน ห้องน้ี นักเรยี นอาจจะแสดงความเหน็ เก่ียวกบั พฤตกิ รรมของคนอน่ื ได้ แต่ต้อง ท�ำดว้ ยความเคารพ ถา้ นกั เรยี นเชอ่ื วา่ มบี างคนทโ่ี หดรา้ ยหรอื ไมใ่ สใ่ จความรสู้ กึ ของคนอนื่ กอ็ าจจะพดู วา่ “ฉนั คดิ วา่ พฤตกิ รรมของเธอโหดรา้ ย” หรอื “เธอก�ำลงั ท�ำตัวหยาบคายจริงๆ” แต่ต้องไม่ด่าคนอื่นว่า โง่บัดซบ หรือต�ำหนิพฤติกรรม ไม่ดวี า่ เป็นเพราะเพศภาวะ หรอื สผี วิ ซงึ่ น�ำมาสเู่ ร่อื งของอคติ ในโลกนี้มีอคติมากมายหลายแบบ พวกเราส่วนใหญ่มีความเห็นและ ความคดิ ของตวั เองเกย่ี วกบั โลก นกั เรยี นมสี ทิ ธจ์ิ ะเชอ่ื และคดิ อะไรกไ็ ด้ แตไ่ มม่ สี ทิ ธิ์ 138 แสดงความเหน็ ทอ่ี าจจะดหู มน่ิ ลดคณุ คา่ ท�ำใหค้ นอนื่ อบั อาย เจบ็ ปวด หรอื ขายหนา้
ฉันจะถามเสมอว่า มีใครคิดว่ากฎของครูไร้เหตุผลหรือไม่ แต่ไม่เคยมีใครคิด งานให ่ญ... อย่างน้ัน และเป็นเพราะฉันเร่ิมใช้นโยบายกฎข้อเดียว โดยไม่มีรายการเฉพาะของการ ละเมิดกฎและผลที่จะตามมา ท�ำให้มีปัญหาด้านวินัยน้อยลงมากทีเดียว นี่เป็นอีกครั้ง ที่พสิ ูจนไ์ ดว้ า่ ความคาดหวงั กบั ความเป็นจริงเชื่อมโยงกันจรงิ ๆ ฉนั คาดหวงั ใหน้ กั เรียน รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตัวเอง และขัดขวางข้อยกเว้นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ซ่ึงเกิดข้ึน บางโอกาส แล้วนกั เรียนก็ท�ำตามความคาดหวังของฉนั เราจะคยุ กันเรื่องวินยั อยา่ งละเอยี ดในบทที่ 6 แตต่ อนน้ี ถ้าคณุ กล่ันกรองแผน ส�ำหรบั ระเบยี บวนิ ยั หรอื ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ดิ า้ นพฤตกิ รรมออกมาเปน็ ค�ำพดู ไดส้ กั 1-2 ประโยค ที่จะท�ำให้คุณส่ือสารกับนักเรียนในอนาคตของคุณได้ชัดเจน ก็มีโอกาสมากที่นักเรียน จะท�ำตามความคาดหวงั ของคุณ ซ้อมค�ำ พดู ท่จี ะใช้เตอื นนักเรียน ฉันหวังว่า คุณจะไม่ต้องเสียเวลาท�ำแบบฝึกหัดนี้ และคุณจะไม่ต้องเตือนนักเรียน ให้เลิกท�ำตัวไม่ดี แต่เผื่อว่าจะต้องท�ำจริงๆ ก็เป็นความคิดที่ดีมากที่ต้องรู้ว่าตัวเอง วางแผนจะพดู อะไร ถา้ หาอาสาสมคั รทีเ่ ตม็ ใจได้ จะเปน็ ประโยชนม์ ากทจ่ี ะซอ้ มพดู เพอื่ เตอื นนกั เรยี นทเ่ี ปน็ ตวั ปว่ นนิดหนอ่ ย หรอื พวกชอบทา้ ทาย (ในเกรด 5 หรอื สงู กวา่ น้ัน) ที่คุณอาจจะตอ้ งส่งตวั ไปน่งั ท่มี มุ หอ้ งอยา่ งรวดเรว็ หรอื ตอ้ งพาออกไปคุย ตรงทางเดินหน้าหอ้ งอยา่ งสั้นๆ แบบครพู ดู คนเดียว ห้ามนักเรียนโต้ตอบอะไรท้ังส้ิน คณุ จะพดู เปน็ ท�ำนองวา่ “พฤตกิ รรมของเธอเปน็ สงิ่ ทยี่ อมรบั ไมไ่ ดใ้ นหอ้ งเรยี นของครู เธอมีสิทธิ์ท�ำให้ชน้ั เรยี นลม้ เหลวได้ ถา้ อยากท�ำจริงๆ แตไ่ มม่ สี ิทธขิ์ ดั จงั หวะการสอน ของครูหรือการเรียนรู้ของคนอืน่ และไมม่ สี ิทธทิ์ �ำให้ครูเสยี เวลาสอนเพ่อื มาโตเ้ ถยี ง เรอ่ื งพฤติกรรมของเธอ เธอฉลาด และครรู ู้วา่ เธอร้วู ธิ ที �ำตัวใหด้ ี ฉะนน้ั ขอใหใ้ ชเ้ วลา อยตู่ รงนส้ี กั พกั เพอื่ คดิ ถงึ ทางเลอื กของตวั เอง ถา้ พรอ้ มแลว้ คอ่ ยกลบั ไปนงั่ ที่ ขอบใจนะ” (ครบู างคนชอบใหน้ กั เรยี นกลบั เขา้ หอ้ งเมอื่ พรอ้ มแลว้ แตบ่ างคนกย็ นื กรานใหน้ กั เรยี น ยนื อยขู่ า้ งนอกหรอื ตรงทท่ี ค่ี รคู ยุ กนั เปน็ การสว่ นตวั จนกวา่ ครจู ะสงั่ ใหก้ ลบั เขา้ หอ้ งได)้ 139
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด นักเรียนเล็กๆ ไม่เกินเกรด 4 (คุณจะต้องมุ่งมั่นท�ำเรื่องน้ี ตามระดับสติปัญญา และวุฒิภาวะทางอารมณ์ของนักเรียน) อาจจะควบคุมตัวเองเพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรม ของตวั เองไดแ้ ค่ 2-3 นาที หลงั จากคยุ กบั คณุ สนั้ ๆ ฉะนน้ั คณุ ตอ้ งมคี �ำพดู ตดิ หทู ใ่ี ชเ้ ตอื น เดก็ เล็กๆ ว่า คุณคาดหวังอะไรจากเขา ถ้าเคยอธิบายตั้งแต่แรกแลว้ ว่า อยากใหท้ ุกคน ในหอ้ งตดั สนิ ใจเลอื กอยา่ งถกู ตอ้ ง คณุ อาจจะถามวา่ “ตอนนห้ี นตู ดั สนิ ใจเลอื กอยา่ งถกู ตอ้ ง หรอื ยงั ” ค�ำถามแบบน้เี หมาะกบั พฤติกรรมหลายแบบ และใหน้ กั เรียนมที างเลือกทีจ่ ะ คยุ ถงึ พฤตกิ รรมของตวั เอง ตอ่ จากนนั้ ใหก้ ลบั เขา้ เรอ่ื งโดยไมท่ �ำใหน้ กั เรยี นผลลพั ธท์ างลบ ต่างๆ ก�ำ หนดค�ำ พูดสำ�หรบั ตอบโตก้ นั การใชค้ �ำพดู ตอบโตก้ นั เปน็ จงั หวะเปน็ กจิ กรรมยอดนยิ มส�ำหรบั นกั เรยี นทกุ วยั ในวนั แรก ของการเปิดเรียนให้สอนนกั เรียนว่า จะให้ตอบโตก้ บั คณุ ครอู ยา่ งไร เช่น ถ้าเป็นเดก็ เลก็ ๆ ใหส้ อนวา่ เวลาครพู ดู “หนง่ึ สอง” ใหน้ กั เรยี นตอบวา่ “มองคร”ู ครพู ดู ตอ่ วา่ “สาม สี่’ ให้นักเรียนตอบว่า “เลิกคุยทันที” ฯลฯ ถ้าคุณสอนเด็กโต ให้ลองใช้ “W-W-W-dot” และใหน้ กั เรยี นตอบวา่ “zip-those-lips-dot-com” (เหมอื นเลน่ บอกชอื่ เวบ็ ไซต์ ซงึ่ ในกรณนี ี้ การทนี่ กั เรยี นตอบโตพ้ ดู ตอ่ วา่ zip those lips ซงึ่ แปล ไดว้ า่ รดู ซปิ ปาก กห็ มายความวา่ นกั เรยี นรบั ทราบสญั ญาณวา่ ครบู อกใหเ้ งยี บนนั่ เอง) หรอื อาจจะใชก้ ารตอบโตก้ นั แบบไมต่ อ้ งพดู กไ็ ด้ เชน่ ครตู บมอื 2 ครงั้ นกั เรยี นตอบกลบั โดยตบมอื 3 คร้งั คุณเรม่ิ ตบมือกอ่ น แลว้ หยุดตอนทนี่ กั เรียนก�ำลังใสใ่ จ ฉนั เคยเหน็ วธิ นี ไี้ ดผ้ ลอยา่ งรวดเร็วในโรงอาหารทน่ี ักเรยี นส่งเสียงหนวกหูอยู่ ถ้าสังเกตเห็นว่านักเรียนชักจะออกไปนอกร่องนอกรอย ให้เริ่มใช้การตอบโต้ ที่ว่าน้ีเพื่อขัดจังหวะวงจรพฤติกรรม แล้วชมเชยนักเรียนทุกคนที่ตอบโต้อย่างรวดเร็ว และท�ำตวั ดี ใหเ้ ฝา้ ระวงั คนทเี่ รมิ่ จะกอ่ กวน ถา้ นกั เรยี นท�ำตวั ดี ใหเ้ ดนิ ไปทโี่ ตะ๊ และชมเชย เงียบๆ ท่ีประพฤติตวั ดี การสง่ เสรมิ เชงิ บวกแบบนจี้ ะไดผ้ ลมากกวา่ การเตือนแต่ละคน 140 หรอื เป็นกลุม่ ซำ้� ๆ
ส�ำ รวจตู้เสอ้ื ผา้ งานให ่ญ... ต้องม่ันใจว่าคุณมีเส้ือผ้าอย่างน้อยที่สุด 2-3 ชุด ท่ีใส่สบาย ซักง่าย และดึงดูดใจ เพราะนักเรียนต้องมองคุณตลอดวันทุกวันท่ีมาเรียน หลายต่อหลายครั้งเวลาถาม นกั เรยี นวา่ อะไรท�ำใหค้ รมู ปี ระสทิ ธผิ ล พวกเขาจะแนะน�ำใหค้ รใู สใ่ จกบั เครอื่ งแตง่ กาย มากข้ึน แต่ไม่ถึงกับจะต้องวิ่งตามแฟช่ัน เหมือนท่ีนักเรียนคนหน่ึงพูดถึงครูท่ีเขา ไม่ชอบว่า “น่าเบ่ือจะตายที่ต้องมองคนท่ีดูเหมือนเอาเสื้อผ้าทุกชุดกองไว้บนพื้น” พอฉนั บอกวา่ ได้คุยกับพวกครมู ือใหม่เสมอ เขากพ็ ูดว่า “ชว่ ยบอกพวกครูวา่ อย่าใส่ เสอ้ื ผา้ ชดุ เดมิ ทกุ วนั จนั ทร์ เพราะเหมอื นการใสก่ างเกงในเหย่ ๆ ทพี่ มิ พช์ อื่ วนั แตล่ ะวนั ไว้บนกางเกงในแต่ละตัว โรงเรียนน่าเบื่อพอแล้ว โดยไม่ต้องมองเส้ือเชิ้ตตัวเดิม ทกุ วนั จนั ทร”์ นนั่ เปน็ ความเหน็ ของชายหนมุ่ คนหนงึ่ ซง่ึ คงมปี ระโยชนก์ บั คณุ อยบู่ า้ ง นอกจากนน้ั ขอแนะน�ำใหค้ รหู ารองเทา้ ทใี่ สส่ บายไวด้ ว้ ย เรอ่ื งรองเทา้ นส้ี �ำคญั มาก ถา้ คณุ อายุ 21 ปี และยงั แขง็ แรงสดุ ๆ ตอนนก้ี อ็ าจจะยงั ไมม่ ปี ญั หาเรอื่ งเทา้ แตค่ รสู ว่ นใหญ่ ยินดตี ้อนรับรองเทา้ ทใ่ี สส่ บาย เพราะสน้ เทา้ ทเ่ี หนือ่ ยลา้ และเจ็บปวดท�ำใหห้ มดสนกุ ได้ หาเพ่ือน ใหส้ ัญญากบั เพ่อื นครูที่สอนห้องติดกนั วา่ จะชว่ ยกนั ท�ำให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ (ถา้ หาครู ทเ่ี ปน็ มติ รไมไ่ ด้ ใหเ้ ปลย่ี นเปน็ ผบู้ รหิ าร ครทู ป่ี รกึ ษา หรอื เลขา แตค่ ณุ ตอ้ งหาใครใหไ้ ด้ สักคน) บางคร้ังบางคราว คุณจะมีนักเรียนที่พฤติกรรมไม่แย่ถึงขนาดต้องส่งไปหา ฝา่ ยปกครอง หรอื ตอ้ งตกั เตอื นอยา่ งเปน็ ทางการ แตก่ วนประสาทจนคณุ นอ็ ตหลดุ ได้ และโชครา้ ย ที่บางคร้งั คณุ จะรตู้ วั เลยวา่ วนั น้สี อนไม่ดเี ลย ขอใหต้ กลงกบั เพือ่ นครู ทว่ี า่ นว้ี า่ คงตอ้ งสง่ นกั เรยี นไปนงั่ หลงั หอ้ งของเพอ่ื นสกั พกั (10 ถงึ 15 นาท)ี เพอื่ ให้ คุณกับนักเรียนห่างกันสักพัก และถ้ารู้ตัวว่า ใกล้จะหลุดแล้ว ให้ขอแลกห้องกับ เพ่อื นครูสักครูห่ นึง่ แต่ถา้ ไม่ใชเ่ พือ่ นครูด้วยกัน กข็ อให้คนท่ีเปน็ เพือ่ นคณุ ได้มาช่วย คุมห้องสัก 2-3 นาที แล้วเดินออกไปสงบสติอารมณ์ คุณอาจจะไม่ต้องท�ำ 141
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด แบบนน้ั เลยกไ็ ด้ แตถ่ า้ จ�ำเปน็ ตอ้ งท�ำสกั 2-3 นาที เวลาพกั แบบนนั้ จะท�ำใหค้ ณุ ไมต่ อ้ ง เสียเวลาไปกบั ความว่นุ วายและการท�ำงานเอกสารสง่ ตัวนักเรียนไปหาฝ่ายปกครอง ไปพบเจ้าหนา้ ท่ีฝ่ายบริหารและฝา่ ยสนบั สนนุ ถ้ายังไม่เคยคุยกับครูใหญ่และผ้ชู ่วยครใู หญ่ ลองหาเวลาคยุ สกั ครัง้ เพ่ือดูว่าพวกเขา รบั มอื กบั ปญั หาดา้ นวนิ ยั อยา่ งไร ขอขอ้ มลู เกย่ี วกบั ชมุ ชนและผลกระทบของการเมอื ง ทอ้ งถน่ิ ท่มี ตี ่อโรงเรียน แจง้ ครใู หญ่ว่า คุณวางแผนจะส่งนักเรยี นไปพบฝา่ ยปกครอง กต็ ่อเมือ่ ตวั เองท�ำอะไรไมไ่ ด้อกี แล้ว และถามวา่ ถา้ จ�ำเป็นจะขอการสนบั สนุนได้ไหม ในวันแรกๆ ของการเปิดเรียน คร้ังหน่ึงครูใหญ่ที่ตัวใหญ่มากเสนอว่า จะมาท่ีห้อง เพื่อขู่ให้นักเรียนชายจอมป่วนในเกรด 9 กลัว และวิธีน้ีได้ผลจริงๆ เด็กชายคนนั้น กอ่ ปญั หาทกุ เชา้ ฉนั กบั ครใู หญก่ เ็ ลยวางแผนกนั ลว่ งหนา้ ใหค้ รใู หญแ่ วะมาทหี่ อ้ งเรยี น สกั วนั หนง่ึ พอเดก็ คนนนั้ เรมิ่ กอ่ กวน ฉนั จงึ โทรไปตาม ครใู หญโ่ ผลพ่ รวดเขา้ มาในหอ้ ง และถามวา่ “มใี ครตอ้ งไปกบั ครบู า้ ง” ฉนั ชไ้ี ปทเี่ ดก็ คนนน้ั ครใู หญจ่ อ้ งหนา้ เขา แลว้ มอง ไปรอบๆ ห้องและตะโกนว่า “มีใครอยากไปอีกบ้าง” แต่ไม่มีใครตอบ ตั้งแต่นั้นมา เด็กชายคนนั้นกเ็ พลาๆ ลง เพราะรู้วา่ ฉนั กบั ครใู หญ่อยขู่ า้ งเดียวกัน อย่าลืมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน ไปแนะน�ำตัวเองให้พวกเขารู้จัก ทั้งเจ้าหน้าที่ ฝา่ ยซอ่ มบ�ำรงุ พวกกรู ดู า้ นคอมพวิ เตอรก์ บั ฝา่ ยโสตทศั นปู กรณ์ ฝา่ ยตดิ ตามการเขา้ เรยี น ผปู้ ระสานงานการกกั ตวั นกั เรยี นหลงั เลกิ เรยี น ภารโรงทท่ี �ำความสะอาดหอ้ งเรยี นของคณุ แลว้ ไปคยุ สนั้ ๆ กบั บรรณารกั ษ์ ผชู้ ว่ ยครู และเลขาทกุ คนทที่ �ำใหโ้ รงเรยี นด�ำเนนิ งานไปได้ ขอใหร้ ะลึกถงึ คุณค่าของคนพวกนีท้ ่ที �ำให้งานของคณุ ง่ายขนึ้ ไปถามวา่ พวกเขาอยากได้ อะไรเป็นการเฉพาะจากคุณ หรือคุณจะท�ำอะไรได้บ้าง เพื่อช่วยให้เขาตอบสนองความ ต้องการของคุณง่ายขึ้น การรู้จักภารโรงท่ีท�ำความสะอาดห้องเรียนและปฏิบัติต่อเขา อย่างเคารพเป็นส่ิงที่ควรจะท�ำ และในระหว่างปีการศึกษาคุณยังจะได้ค�ำแนะน�ำ และ ความช่วยเหลืออย่างกับปาฏิหารย์เลยทีเดียว ในบางครัง้ คณุ จะเห็นความแตกต่างอย่าง เหลือเช่ือระหว่างการเดินเข้าไปในอาคารโรงเรียนแล้วรู้สึกเครียดๆ กับการเดินเข้าไป 142 แล้วมีเจา้ หนา้ ท่ีย้มิ แย้มทกั ทายให้ก�ำลังใจ
เอกสารประกอบท่ี 4.3 รายการสิ่งท่ตี ้องตรวจทาน 3 อยา่ ง งานให ่ญ... ห้องเรยี น 143 รายละเอียดเก่ยี วกบั ประสาทสัมผัส การจดั ทน่ี งั่ อปุ กรณก์ ารเรียนและทีเ่ ก็บของ ฐานของครู แฟ้มส่วนตัว โต๊ะครู อปุ กรณก์ ารเรยี นของนักเรียน ข้อมลู นักเรยี น ถาดใสเ่ อกสาร แผนงาน ปฏทิ ิน โต๊ะวางอุปกรณ์การเรียนของนกั เรยี น งานเอกสาร วางถาดใส่เอกสาร ท�ำแฟ้มบทเรยี นประจ�ำวัน วางแผนฉกุ เฉินส่วนตวั เตรยี มแฟม้ ข้อมูลย่อย ใสบ่ ทเรียนสนกุ ๆ ลงในแฟม้ ข้อมูล ท�ำแฟม้ งานชดเชยส�ำหรับเดก็ ทข่ี าดเรียน กรอกบตั รอนุญาตไปหอ้ งสมุด ออกนอกห้อง และไปห้องน้�ำ ท�ำส�ำเนาใบรายชอื่ นกั เรยี น ซือ้ ลังพลาสตกิ ใสแ่ ฟม้ ของนกั เรียน เตรยี มแฟ้มข้อมลู พฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม เตรียมการบา้ นส�ำหรบั นักเรยี นที่หยาบคาย
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด ท�ำส�ำเนาหนา้ วา่ งจากสมุดคะแนน ร่างแผนการสอนแม่บท ออกแบบใบต้อนรับนักเรยี นและท�ำส�ำเนา ตัวคุณเอง วางแผนขั้นตอนการปฏิบัติ ออกแบบข้อพงึ ปฏิบัตดิ า้ นระเบยี บวินัย ซกั ซ้อมค�ำพดู ท่ีใช้ตกั เตอื นนักเรยี น ส�ำรวจเสอื้ ผา้ หาคหู่ เู ชน่ เพ่ือนครดู ว้ ยกนั ที่ช่วยใหค้ ณุ ใจเยน็ ลงได้ ไปพบเจา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยบริหารและฝา่ ยสนับสนนุ ตรวจห้องเรยี น พัก ตรวจห้องเรยี น นงั่ ทโี่ ตะ๊ ครู แลว้ มองใหด้ ๆี หลบั ตาแลว้ ดมกลน่ิ เพอ่ื รบั ประกนั วา่ ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งเรยี บรอ้ ยดี ส�ำหรับวันแรกของการเปิดเรียน ทบทวนรายการท่ีต้องตรวจทาน และบัตรดัชนีท่ีมี ขั้นตอนการปฏิบัติกับข้อพึงปฏิบัติด้านระเบียบวินัย ตรวจอุปกรณ์การเรียนและแฟ้ม นกั เรียนเปน็ ครั้งสุดทา้ ย แล้วพกั สมอง กลับบ้าน และพยายามเป็นคนธรรมดาๆ พัก หาเวลาพกั ใหไ้ ด้ แมจ้ ะแคไ่ มก่ ชี่ ว่ั โมงในคนื กอ่ นเปดิ เรยี น ออกไปกนิ อาหารเยน็ นอกบา้ น ดหู นงั อาบนำ�้ อนุ่ นานๆ ท�ำอะไรกไ็ ดท้ ไี่ มเ่ กย่ี วกบั การสอน คณุ อาจจะอยากอยทู่ โ่ี รงเรยี น ใหน้ านที่สุดเทา่ ทเี่ จ้าหน้าทร่ี กั ษาความปลอดภยั อนุญาต แต่ถ้าไดใ้ ชเ้ วลาหลายสัปดาห์ ก่อนเปิดเรียนวางแผนและเตรียมตัว 2-3 วัน ก่อนเปิดเรียนเพ่ือจัดห้อง จัดใบรายช่ือ นักเรียน สมุดคะแนน เค้าโครงหลักสูตร ต�ำรา และแฟ้มต่างๆ ให้เข้าท่ีแล้ว อย่างน้อย ที่สุดคุณต้องมีเวลาได้พักสั้นๆ บ้าง ถ้าหวังว่าตัวเองจะได้ทักทายนักเรียนด้วยรอยย้ิม ทจี่ รงิ ใจในวนั แรกของการเปิดเรยี น คุณสมควรไดพ้ ัก และนักเรยี นสมควรได้รบั รอยย้ิม เอกสารประกอบที่ 4.3 เปน็ ตวั อยา่ งสนั้ ๆ ของรายการทต่ี อ้ งตรวจทาน 3 อยา่ ง 144 ท่จี ะช่วยให้คณุ พรอ้ ม
งานให ่ญ... ประเด็นสำ�หรบั การอภปิ ราย 1. ถ้าคณุ เปน็ เดก็ จะชอบการจัดทน่ี ่ังแบบไหน และตัวเด็กเอง น่าจะชอบแบบไหน 2. ส�ำหรับคนทีไ่ ม่อ่านหนังสือ ครจู ะท�ำอะไรมาแทนใบต้อนรับ นักเรยี นไดบ้ า้ ง 3. ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิในห้องเรยี นอันไหนทีส่ �ำคญั ท่สี ุด ซึ่งตอ้ ง สอนในวันแรกๆ ของการเปดิ เรียน 4. ครูมอื ใหม่จะท�ำอะไรดี ถ้ามบี คุ ลกิ ภาพไม่แขง็ ไม่อ่อน แต่ อยากท�ำใหต้ วั เองดูมีอ�ำนาจ 5. ครทู �ำอะไรได้บ้างเพ่อื จัดการกบั ความเครยี ดทางอารมณ์และ ทางกายที่มาพร้อมกับการสอน 145
5 เร่มิ ด้วยรอยยม้ิ พวกเราทุกคนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันแรกของการเปิดเรียน ครขู านชอ่ื นกั เรยี น อธบิ ายกตกิ าพน้ื ฐาน และเรม่ิ สอน เขตพน้ื ท่ี การศึกษาของคุณอาจทำ�งานได้เป็นระเบียบเรียบร้อยและมี ประสทิ ธภิ าพ เร่ืองสภาพอากาศและการจราจรในชัว่ โมงด่วน ไม่มีปญั หา ทุกอยา่ งเปน็ ไปตามแผนท่ีวางไวอ้ ยา่ งรอบคอบ
แตส่ �ำ หรบั ครจู �ำ นวนมาก สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ ๆ ในวนั นน้ั นา่ จะเปน็ ท�ำ นองนม้ี ากกวา่ เ ่ิรม ้ดวย... นน่ั คอื พอเสยี งออดดงั ขน้ึ นกั เรยี นกย็ งั ออ้ ยอง่ิ ตอ่ ไป บางคนมาสายเพราะพอ่ แม่ มปี ญั หากบั รถยนตห์ รอื รถตดิ หรอื เพราะลกู ๆ ทเ่ี ปน็ นกั เรยี นชน้ั ประถมตดั สนิ ใจวา่ จะไม่ไปโรงเรียน แม่กับพ่อจึงต้องอุ้มลูกเข้าห้องเรียน และใช้เวลาอีก 5 นาที แกะลูกท่ีกอดแน่นออกจากตัว นักเรียนช้ันเรียนมัธยม 2-3 คน หลงทางอยู่ ตามทางเดนิ หนา้ หอ้ งทวี่ กวนเปน็ เขาวงกต หรอื ใชเ้ วลา 10 นาที คน้ หาตารางสอน ในเป้ นกั เรยี นมธั ยมตน้ บางคนบอกวา่ ขอโทษ แตไ่ มไ่ หวจรงิ ๆ ตอ้ งไปเขา้ หอ้ งนำ้� เดี๋ยวนั้น เพราะด่ืมน้�ำอัดลมมาเป็นอาหารเช้า และในโรงเรียนประถมมีเด็ก ตัวกระจ๊ิดริดคนหน่ึง อาเจียนอยู่ตรงมุมห้อง แล้วร้องไห้เพราะอายเพ่ือน และ เพราะวา่ โรงเรยี นก็น่ากลวั จรงิ ๆ พวกครถู ูกฝกึ ใหด้ �ำเนินงานเผชญิ ความท้าทายตอ่ ไป ในที่สดุ คณุ กท็ �ำให้ทุกคน น่ังลงและพร้อมจะฟังได้แล้ว แต่ขณะคุณพูดคุยให้ค�ำแนะน�ำนักเรียน เสียงตามสาย กลบั ดังขน้ึ มาขัดจังหวะหลายครัง้ เพ่อื ประกาศเปล่ียนตารางเวลารถนักเรียน และแจง้ วา่ มีบัตรทานอาหารกลางวนั ฟรี นักเรยี นเลกิ กลัวและเรม่ิ อยูไ่ ม่สุข คุณรีบอธบิ ายกฎและ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ขิ องหอ้ งเรยี น แตพ่ อไปไดแ้ คค่ รง่ึ ทางของกฎขอ้ 1 กม็ คี นมาเคาะประตู บอกวา่ มนี กั เรยี น 2 คนเขา้ หอ้ งผดิ พวกเขาควรไปท่หี ้อง B103 ไม่ใช่ C103 คณุ ปลอ่ ย นกั เรยี นออกไปและเร่มิ อธบิ ายอกี ครั้ง พอก�ำลงั พดู กฎข้อ 2 อยดู่ ีๆ กม็ ีคนมาเคาะประตู ขดั จงั หวะอกี พอเปดิ ประตอู อกไป กเ็ หน็ เดก็ หญงิ ทา่ ทางตนื่ ตระหนก หนา้ แดง พดู ตะกกุ ตะกกั 147
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด ว่า มีคน เอ้อ บอกว่า หนูควรจะมาเรียนท่ีห้องน้ี คุณรีบเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อดึง รายช่ือนักเรยี นออกมาดู คณุ พบวา่ มชี ือ่ เธออยู่ในนน้ั จริงๆ จงึ พาไปตรงท่ีที่ยังไม่มคี นน่งั แล้วเรียกความสนใจ จากพวกนักเรียนท่ีไม่ค่อยเต็มใจฟังเท่าไหร่ จากน้ันก็อธิบายกฎ ตอ่ ไป แตม่ คี นมาเคาะประตอู กี คราวนเ้ี ปน็ เดก็ ชายกบั เดก็ หญงิ ทไี่ มอ่ ายหนา้ แดง แตก่ ลบั จ้องหน้าคุณ แล้วย่ืนตารางสอนใส่หน้า ราวกับเป็นความผิดของคุณท่ีคอมพิวเตอร์ ผิดพลาด ท�ำให้ไม่ไดเ้ รยี นคาบแรกกับเพ่ือนสนทิ ซงึ่ ได้ไปเรยี นห้องอน่ื คุณตรวจรายช่ือ นักเรียนอีกคร้ัง และหวังว่าจะไม่พบช่ือนักเรียนใหม่ 2 คนนี้ แต่ก็มีชื่อท้ังสองอยู่ และ เรอื่ งต่างๆ กเ็ ป็นไปแบบน้ี เริม่ วันแรกดว้ ยรอยย้มิ คุณจะทักทายนักเรียนแบบไหนก็ได้ แต่ต้องจ�ำใส่ใจว่า โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ มแี นวโนม้ จะตอบสนองตอ่ รอยยม้ิ ทจี่ รงิ ใจดว้ ยการยมิ้ กลบั ฉนั ขอบอกวา่ อยา่ ไปสนใจ ที่พวกครแู ก่ๆ เชยๆ เคยเตือนวา่ อย่ายมิ้ จนกวา่ จะถงึ คริสตม์ าส การเปน็ คนใจดกี ับ คนอ่อนแอแตกตา่ งกนั มาก และนกั เรยี นรู้ขอ้ นดี้ ี เพราะเปน็ ไปได้ทคี่ รูจะเป็นมติ รกับ นักเรยี น แต่ยังมีอ�ำนาจเหมือนเดิม และนกั เรยี นก็ยงั เคารพครูอยู่ ให้จ�ำไว้ว่า ระยะห่างมีบทบาทส�ำคัญในปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ถ้ายืนอยู่ หลงั โตะ๊ หรอื แทน่ ยืนพูด กเ็ ท่ากับว่าคณุ ตง้ั สง่ิ กีดขวางทางกายและทางจิตวทิ ยาระหวา่ ง ครกู บั นกั เรยี นตง้ั แตเ่ รม่ิ ตน้ การแบง่ แยกระหวา่ งครกู บั ผเู้ รยี นใหช้ ดั เจนเปน็ เรอื่ งดี แตไ่ มด่ ี ถา้ อยากจะผกู สมั พนั ธโ์ ดยเรว็ หรอื ถา้ อยากจะสรา้ งสภาพแวดลอ้ มทท่ี งั้ สองฝา่ ยไวใ้ จและ เคารพกนั ฉนั แนะน�ำใหค้ ณุ ยนื ใกลท้ างเขา้ ประตตู อนนกั เรยี นเดนิ เขา้ หอ้ ง ถา้ มองหาหนทาง สถาปนาอ�ำนาจ การยืนนอกประตูจะแสดงให้เห็นต�ำแหน่งของอ�ำนาจมากกว่า แต่ถ้า ขยบั มายนื ในหอ้ ง จะสอ่ื ถงึ การยนิ ดตี อ้ นรบั มากขน้ึ แตย่ งั แสดงอ�ำนาจออกมาดว้ ย ขอใหย้ มิ้ ต้อนรับนักเรียนแต่ละคนเข้ามาในห้องเรียน และบอกให้น่ังลง (ต้องเจาะจงว่า จะให้ 148 นกั เรียนเลือกทีน่ งั่ เอง หรือจะใหไ้ ปนัง่ ตรงทีท่ ี่มีแฟ้มหรอื ชอื่ ของตัวเองอย)ู่
การยืนใกล้ประตูมีข้อดีหลายประการ ข้อแรก เป็นการสื่อสารว่า ถ้าข้ามเส้น เ ่ิรม ้ดวย... ขอบประตูเขา้ มา แสดงว่านักเรยี นก�ำลังเข้ามาในดนิ แดนของครู ข้อสอง เปน็ การส่งสาร ท่ีชัดเจนว่า ครูเป็นผู้รับผิดชอบดินแดนนี้และอนุญาตให้นักเรียนเข้ามาได้ พวกเขาจะ เขา้ ใจวา่ การเขา้ ไปในหอ้ งเรยี นไมใ่ ชส่ ทิ ธิ แตเ่ ปน็ สทิ ธพิ เิ ศษ ขอ้ สาม การทคี่ รยู นื อยตู่ รงนน้ั นักเรียนจ�ำเปน็ จะต้องเดินช้าลง และตอ้ งเขา้ หอ้ งทลี ะคน จึงคยุ กันน้อยลง และมสี มาธิ มากขน้ึ มคี รคู นหน่งึ ทีต่ วั คอ่ นขา้ งเลก็ และผอมเล่าว่า เขาไปยืนทป่ี ระตู จับมอื นักเรยี น แตล่ ะคนทเี่ ขา้ หอ้ ง แนะน�ำตวั โดยบอกชอ่ื เขาและกลา่ วตอ้ นรบั นกั เรยี นเขา้ หอ้ ง “นกั เรยี น รู้ได้ทันทีว่าผมเป็นเจ้านาย และน่ีเป็นห้องเรียนของผม แต่พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าถูกข่มขู่ นะครับ” ถา้ พอใจทจี่ ะจบั มอื นกั เรยี น กจ็ บั ไปกบั แตล่ ะคนตอนเดนิ เขา้ หอ้ ง ซงึ่ จะชว่ ยสรา้ ง ความเช่อื มโยงระหวา่ งครูกบั นกั เรียนไดแ้ นน่ อน และคณุ จะได้เรยี นรอู้ ะไรมากมายจาก วิธที ่ีนักเรยี นจบั มือคณุ ถ้านักเรยี นมีเหงื่อออกทีฝ่ า่ มอื แสดงวา่ กงั วลใจเกี่ยวกับโรงเรียน หรอื เปน็ เพราะตอ้ งวง่ิ มาเขา้ ชั้นเรยี นใหต้ รงเวลา ถ้าฝ่ามือสาก แสดงว่านักเรยี นอาจจะ เปน็ คนท�ำสวน ศิลปิน หรือผูใ้ ช้แรงงาน คนที่จบั มือแบบหลวมๆ อาจเปน็ คนขอ้ี าย หรอื ไม่คุ้นกับการจับมือ หรืออึดอัดที่ต้องถูกตัวครู แต่ถ้าจับมือแน่น อาจจะเป็นเพราะ นกั เรียนเป็นนกั กีฬา มน่ั ใจในตัวเอง เป็นผ้นู �ำ หรืออยากลองดกี ับครู ฯลฯ นอกจากน้ัน คุณยังรู้จักนักเรียนได้ โดยดูว่าเขาสบตาคุณหรือไม่ตอนเข้าห้อง พวกท่ีไม่สบตาอาจถูกสอนมาว่าอย่ามองหน้าผู้ใหญ่ตรงๆ เพื่อแสดงความเคารพ หรือ นักเรียนอาจจะขี้อาย กังวลใจ หรือไม่สนใจโรงเรียน ให้ใส่ใจกับนักเรียนที่สบตาคุณ และดวู ่าสบตาอยูน่ านแค่ไหน ในไม่ช้าคุณจะเรยี นรู้และบอกได้วา่ คณุ เห็นสัญญาณของ อะไร ความสนใจ ความฉลาด พลังงาน อารมณ์ขัน ความอยากรู้อยากเห็น ความกลัว ความไม่ไว้ใจ ความก้าวร้าว และอารมณ์ความรู้สึกทั้งหลายแหล่ท่ีนักเรียนมีมาด้วย พร้อมกับหนงั สอื เม่อื มาโรงเรียน เลอื กกิจกรรมเปดิ ตัวที่น่าสนใจ คณุ ท�ำอะไรๆ ไดม้ ากมายเพอื่ รบั ประกนั วา่ วนั แรกของคณุ จะไปไดด้ ี ไมว่ า่ จะมอี บุ ตั เิ หตุ ความลา่ ชา้ และการขดั จงั หวะใดๆ กต็ าม โดยมงุ่ ความสนใจไปทน่ี กั เรยี น ไมใ่ ชท่ ต่ี วั คณุ 149
ครูประณีตคิดนอกกรอบ: ่ยัวใ ้หนึก ฝึกให้ ิคด แทนที่จะเริ่มด้วยกับกิจกรรมที่ครูเป็นศูนย์กลาง ซึ่งบังคับให้นักเรียนทุกคน ตอ้ งนง่ั และฟงั คณุ ควรเลอื กท�ำกจิ กรรมทนี่ กั เรยี นเปน็ ศนู ยก์ ลางเปน็ อนั ดบั แรกในแผนงาน เลือกกจิ กรรมเปิดตวั ง่ายๆ ทีน่ ่าสนใจ เชน่ เอาบตั รดัชนีอันใหญแ่ ละปากกาเขยี นบอร์ด ใหน้ กั เรยี นท�ำปา้ ยชอ่ื แลว้ พบั ครง่ึ เปน็ รปู เตน็ ทต์ ง้ั ไวบ้ นโตะ๊ ของตวั เอง กจิ กรรมนดี้ สี �ำหรบั พวกนกั เรยี นดอื้ ๆ หรอื พดู มาก คณุ จะเรยี นรมู้ ากมายเกย่ี วกบั ตวั นกั เรยี นจากวธิ ที พ่ี วกเขา เขยี นชอ่ื ตวั เองในบัตร ตามปกติคนท่ใี ชต้ วั อกั ษรใหญ่และทบึ แสดงวา่ เป็นพวกเรยี กร้อง ความสนใจ มน่ั ใจในตวั เอง หรอื อยากเปน็ แบบนนั้ สว่ นพวกทใี่ ชต้ วั อกั ษรเลก็ ๆ อาจเปน็ คนขีอ้ ายหรือไม่คอ่ ยมน่ั ใจในตนเอง คุณมีทางเลอื กนับร้อยๆ ทจ่ี ะใช้กจิ กรรมเปดิ ตวั ได้ เชน่ กอ่ นนกั เรยี นมาถงึ ใหว้ างปา้ ยชอื่ หรอื แฟม้ ทต่ี ดิ ชอื่ แตล่ ะคนไวบ้ นโตะ๊ พรอ้ มวาง ปากกาเขียนบอรด์ หรอื สีเทียนแบบสุ่มๆ ไว้บนโต๊ะบางตวั ใหน้ ักเรียนไปหาช่อื ตัวเองแลว้ นั่งลง และตกแตง่ ปา้ ยช่อื หรือแฟ้ม การแบง่ กนั ใชป้ ากกาเขยี นบอร์ดหรือสเี ทียนจะชว่ ย สรา้ งความสมั พนั ธโ์ ดยไมร่ สู้ กึ วา่ เปน็ การคกุ คาม (คณุ มโี อกาสเตอื นนกั เรยี นดว้ ย เรอื่ งให้ พดู วา่ “โปรด” และ”ขอบคณุ ” ถ้าจ�ำเปน็ ตอ้ งเตือน) แจกแบบสอบถามให้นกั เรยี นกรอก และมดี นิ สอไวใ้ หใ้ ช้ดว้ ย ออกแบบเกมท�ำนองเดียวกันกับเกมบิงโก โดยให้นักเรียนไปหาชื่อเพื่อนๆ มา จบั คกู่ ับขอ้ ความในชอ่ งบนบัตร (เชน่ ใครมีลกู หมา ใครเต้นแท็ปได้ ใครชอบขนมเยลลีสี เขียว) แจกอุปกรณ์ศิลปะให้นักเรียนสร้างตุ๊กตา “ฉันเอง” ท่ีสะท้อนบุคลิกภาพของ ตัวเอง (แล้วเอาไปติดบนผนังหอ้ งและชนื่ ชมต๊กุ ตาเหลา่ นน้ั ) เลน่ เกม “ล่าสมบตั ิ” ที่นักเรยี นท�ำเสรจ็ ไดภ้ ายในหอ้ งเรยี น ให้ตัวอย่างบทกวี “ฉันเป็นคนท่ี…” (ติดไว้บนบอร์ดหรือแจกเอกสาร) แล้วให้ นักเรียนแต่งบทกวีของตัวเอง จากน้ันให้เลือกว่าจะอ่านให้เพ่ือนฟัง ติดไว้บนผนังห้อง หรอื ทงิ้ ไว้บนโต๊ะ แล้วใหน้ กั เรียนเดนิ ไปรอบหอ้ งเพื่ออา่ นบทกวีของเพ่ือนๆ แบ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพอ่ื ท�ำกิจกรรมสนกุ ๆ สัน้ ๆ เชน่ สรา้ ง โมเดล ตอ่ ภาพจ๊กิ ซอว์ จบั คู่รปู ภาพกับค�ำ หรือเอาถอ้ ยค�ำที่อยู่ในบตั รค�ำมาตอ่ กันเปน็ 150 ประโยคตลกๆ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400